The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สัญญาใจ พ้นจากวัฎฎะ๒๔๔

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pilaiporn Sanchompoo, 2024-04-15 01:41:38

สัญญาใจ พ้นจากวัฎฎะ

สัญญาใจ พ้นจากวัฎฎะ๒๔๔

สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 101 ตน เก็บทุกข์ผสมเล็กผสมน้อย กระจายไปทั่วร่าง จนฉันทนอะไรไม่ได้ แล้ว เหมือนมะเร็งในกระแสเลือด กระจายแผ่ซ่านออกไป โยมลูกมาฟัง จริตกิเลสความทุกข์เขา เขามีกิเลสหนา แล้วปกปิ ด พอกพูน จนเป็ น หินปูนเกาะ เคาะประตูเขาไม่เปิ ด จมทุกข์ ถ้าโยนก้อนทุกข์ไม่เครียด ขนาดนี้ กดฝังดิน กดปม กดดันตัวเองจนก้อนแตกทิ้ งเชื้ อไว้ในตัว เหมือนคนโดนสะเก็ดระเบิด ซึมเข้าไปในความคิด โลกเป็ นสีเทา พลังงานสีเทา พอตื่นออกจากทุกข์ เขาพยายามดีด เหมือนดีดก้อนหิน ปู่ว่าโยมลูกไม่รู้วิธีรับทุกข์จากเขาเลยปวดหัว เหมือนโดนเขาปาหินใส่ ไม่ได้ตั้งรับเลยปวดหัว เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสอนคนอื่น เราเกิดมาเพื่อ ปฏิบัติเป็ นแบบอย่างให้คนท าตาม ใครจับจิตได้เดินตาม คนอยาก ท าบุญอยากปฏิบัติก็ท าตาม ปู่ บอกเขาเอาปมมาร้อยเป็ นพวงมาลัย ผิด ผีปู่ย่า คิดเป็ นปมทุกวัน ปมเยอะผูกปมจนลืม พอจะย้อนกลับมาคลาย หาปมไม่เจอ ปมปัญหาคือเชื้ อโรค บางคนสะสมทุกข์ในกระปุมออมสิน เครียดค าพูดคนนั้น เครียดเรื่องเงิน เครียดเรื่องยอดขาย ก็หยอดมันลง ไปในกระปุก เหรียญก็คือปมในใจ ถ้ามีปมถึง ๕ ข้อ ก็เดินต่อไปไม่ได้ ไปวัดก็จริงแต่ไม่มีวิธีปลดล็อด เก็บไว้จนกลัว กลัวไม่มีจะกิน ส่วนคน ธรรมดาจะสะสมความสุข สะสมความดี แต่คนนี้ สะสมทุกข์ จนฉีดเข้า เส้นตนเอง ปู่ บอกว่าจมทุกข์ เหมือนระเบิดนิวเคลียร์เหมือนภูเขาไฟ ระเบิด ลาวาไหล ทุกคนดูลาวาไหลก็รู้สึกไม่ร้อน ส่วนตัวเขาร้อนผิว พุพองไปทั่วตัว เพราะกิเลสมันเผาตัวเอง พุ่งมาจากหัวสมอง ระเบิดจิต ออก ฉีดยาเข้าเส้นตัวเองมา ๑๘ ปี ทุกข์กับปัญหาตามแก้มาตลอด เหมือนโรคหลอกตัวเอง อดีต ปัจจุบัน อนาคตเอามาปนกันหมด มา ใหม่เรื่อยๆ ความรู้สึกเสียศูนย์เพราะจิตใจบอบช ้ามาก ให้ล้างจิตเอา


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 102 ความเครียดออกไป ที่จริงมันมีที่ปล่อย ให้ปฏิบัติจิตสร้างฐานจิตให้แน่น ถ้าสติมาปัญญาเกิด ตีโจทย์อะไรก็ได้ บางคนเหมือนมีพลังงานนิวเคลียร์รอบตัว ความลังเลสังสัย เป็ น กรรมสะสม ความเครียดเหมือนสัญญาณเปรตส่งสารพิษมาให้ อย่า สะสมขยะ ให้ตัวเราเปลี่ยนแปลงมวลสาร เป็ นเหมือนเครื่องกรองกาก เราปั่นผลไม้ แยกออกว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ เอาออกจากชีวิต กรองแล้วถ่ายออก บางคนไม่กรองรวมไว้ทั้งก้อน กระจายจิตไปรับเอา เข้ามาอีก เลยท าให้จิตหนัก ให้ปิ ดคลื่นพลังงานลบอะไรไม่ดีมันเป็ นพิษ อย่าไปดู อย่าไปฟัง ให้สวดมนต์นั่งสมาธิ รักษาสมดุลพลังงานของ ตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับภาระความรู้สึกของคนอื่นมากจนเกินไป ปรับจิตให้จิตได้มีที่อยู่จิตจะไม่ได้ส่งออก จิตจะไม่กระจาย นั่งสมาธิจิต สงบจิตก็จะมีพลังสติมาปัญญาเกิด อะไรก็ตามที่เราหนีไม่พ้นเราต้อง เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้ เราจะได้ไม่ทุกข์ ปู่ บอกโยมลูกมีตัวกรองพลังงานกันการโกหก คนที่โกหกเก่ง เหมือนเขาเป็ นจิตกรชอบวาดรูป ไปด้วย เป็ นนักตกแต่งเรื่อง คนฟัง อยากดูรูปอะไร ก็วาดไป อยากเห็นอะไรก็วาดให้ดู แต่งสีให้ฉูดฉาด การ แต่งสีก็เหมือนการใส่อารมณ์เข้าไป ส่วนคนที่ไม่มีจริตแบบนี้ ให้วาดรูป ก็วาดไม่เป็น วาดไม่ได้ กระดาษเปล่าไม่มีเรื่องให้แต่งเติม จิตเราขาวไป แล้ว แต่งอะไร พูดกี่รอบก็เหมือนเดิม ความจริงก็คือความจริง ภาพวาด ตามใจคนดูคนฟังตอบโจทย์กิเลสตัวเอง ตอบโจทย์ซึ่งกันและกัน พวก เขาตอบโจทย์กิเลสซึ่งกันและกัน เราสีขาวเราไม่มีอะไรจะเขียน คิด อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น กระจกสะท้อนจิตข้างใน จิตเขาเหมือนปลาดุกถูก ทุบหัว ดิ้ นพล่านๆ กิเลสนิวรณ์หนามาก การท าความดีต้องเป็ นเกลือรักษาความเค็มไม่มีน ้าตาลปน เพราะถ้ามีน ้าตาลปนรสมันจะปะแล่มๆ เหมือนพริกกับเกลือ ต้องใส่


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 103 เกลือลงไปเท่าไหร่จึงจะเค็ม ท าดีเป็ นเกลือ คนที่จิตตกต ่ามักจ้องจับผิด เห็นจุดผิดนิดเดียวจ้องจะถล่มให้จมดิน ขุดมาว่า พวกนี้ เป็ นหมาเห่า ใบตองแห้ง กระจกมันแตก มันมองไม่เห็นเงาตัวเอง เขาวิเคราะห์คนอื่น ได้หมด แต่ไม่กล้าวิเคราะห์ตัวเอง คนแบบนี้ จะขี้ จะอ้วกไม่เลือกสถานที่ เขาจะพูดจากจินตนาการของตัวเองไม่ได้พูดจากภูมิความรู้ เหมือน หมาวิ่งกัดหางตัวเองสุดท้ายนั่งอกแตกตาย เราก็ให้นั่งกินไอศกรีม ดู หมาไล่กัดหางตัวเอง


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 104 บทที่ ๑๑ ส่งแม่ไปสวรรค์ ค าอธิษฐาน เวลาท าบุญที่ถูกต้อง ให้เกิดกับพ่อแม่ที่มีสัมมาทิฐิ ท าบุญรักษาศีล เจริญภาวนา ถ้าเกิดมาแล้วจะได้จูงเราไปในทางที่ดี ถ้าเกิดในชาติภพใด ขอให้ได้พบ พระพุทธศาสนา อย่าได้พบลัทธิศาสนามิจฉาทิฏฐิ ปรารถนาสูงสุด ใหพ้น้ทุกข์เขา้สู่นิพพาน ตวัน้ีดีที่สุด โอวาทธรรมหลวงปู่ เปลี่ยน ปญฺ ญาปทีโป สวดบทสวดมนต์จุลลไชยปกรณ์ ให้แม่พิงหลัง แล้วจับมือแม่ พนมมือไหว้สวดมนต์ให้แม่ฟัง ท าแบบนี้ทุกคืน ข้าพเจ้ากราบเท้าขอขมา กรรม เอาเท้าแม่วางพาดบนหัว น้อมกราบพระคุณแม่ ผู้หญิงคนนี้ที่ เลี้ ยงลูกมาอย่างยากล าบาก แม่เป็ นผู้หญิงที่แกร่งมาก บุญกุศลใดๆ ที่ ลูกคนนี้ ได้ท าในอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ ขอให้บุญที่ลูกได้ท ามาเป็ น ทางสายบุญ เป็นแสงสว่างน าทางให้แม่ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ข้าพเจ้าเฝ้าดูแม่ หายใจตลอดเวลา จนแม่สิ้ นลมไปอย่างสงบ มนุษย์เราก็เป็ นแบบนี้ มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก่อนแม่สิ้ นใจ พิจารณาลมหายใจแม่แผ่วเบามาก และ สะดุดนิดหน่อย มีเสียงก็อก แล้วลมหายใจก็หมดไป เหมือนคนนอน หลับ แต่เป็ นการนอนหลับที่เป็ นการหลับไปตลอดกาล เหลือไว้แต่คุณ ความดีที่ลูกหลานน้อมระลึกถึงเสมอ “ส่งแม่ไปสวรรค์” ค าที่กัลยาณมิตรที่เขาเห็นในมโนจิตของเขา เขาบอกไว้ตั้งแต่ ๒ ปีก่อน เขาเห็นนาคสีเงินยวงมารับและไปส่งแม่ กัลยาณมิตรเพิ่งมาบอก


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 105 หลังจากงานศพของแม่แล้ว เขาบอกว่าก่อนที่ข้าพเจ้าจะกลับบ้าน เขา เห็นข้าพเจ้าใส่ชุดสีขาวสวย เดินน าขบวน แล้วมีคนใส่ชุดด าเดิน ตามหลัง วันที่แม่เสียตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๖ ย่างเข้าวันจันทร์ที่ ๗ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เวลาตี ๐๓ : ๓๓ นาฬิกา กัลยาณมิตรว่าแม่ไปสบายแล้ว มีกลิ่นหอม มีดอกบัวสีชมพู เต็ม ไปหมด แม่บอกว่ากลับบ้านไม่ถูกแล้วนะ นางฟ้าพาไปเที่ยว แม่คุณท่าน พูดตลกว่า ถ้ารู้ว่าตายแล้วสบายอย่างนี้ ตายไปนานแล้ว ท่านบอกว่า ไม่ให้พากันร้องไห้ ร้องท าไม และไม่ต้องอธิษฐานขอเกิดเป็ นแม่ลูกกัน นะ ท่านบอกว่า ท่านเหนื่อยมากแล้ว และแม่ขอบคุณ คุณที่กระซิบข้างหู ท่านตลอดเวลา ข้าพเจ้าว่าไม่ได้กระซิบ แต่สวดมนต์ให้แม่ฟังทุกคืน กัลยาณมิตรบอกว่า แม่คุณท่านสอนว่า มนุษย์ก็เหมือนต้นไม้ เมื่อเติบโตขึ้ น ก็ให้ดอก ให้ผล ประโยชน์ของต้นไม้ คือผล หลังจากนั้นก็เหี่ยวเฉาตาย บางต้นก็ยืนต้นตาย หมดสภาพความเป็นต้นไม้ มนุษย์ก็เหมือนกัน พอแก่แล้วก็ตาย หมดสภาพความเป็นมนุษย์ ช่วงนี้ ยังรู้สึกเศร้าอยู่ เพราะทุกเย็นๆ จะโทรคุยกับแม่ตลอด แต่ วันนี้ กิจวัตรนี้ ขาดหายไป ท าไม่ได้อีกแล้ว ทั้งๆ ที่รู้แล้วว่า มนุษย์เรา มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย เราเกิดมาแล้ว ก็มาตัวเปล่า เวลาตายไปก็ไปตัวเปล่า ไม่มีสมบัติเงินทอง อะไรๆ ติดตัวไป นอกจากบุญกับบาป แต่พอถึงวันนี้ จริงๆ ก็ต้องใช้เวลาที่จะยอมรับได้ ปู่ สอนว่าการพลัดพรากด้วยการตาย


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 106 จาก เหมือนเราถูกตัดมันใช้เวลารักษาสภาพจิตใจไม่นาน แต่ถ้าเราเป็ น ฝ่ ายตัดมันจะทุกข์ทรมานมากกว่า ข้าดูอยู่ จะสู้อยู่เคียงข้าง อยู่อย่างไร ใจข้านั้น ไม่จืดจาง อย่าอ้างว้าง เลยหนา ข้าเศร้าใจ จิตและใจ ของเจ้า ใครเขารู้ ข้าดูอยู่ ทุกเวลา หาใครไม่ เจ้าคงเป็น สุดที่รัก ทุกชาติไป อยากบอกให้ เจ้ารับรู้ ทุกเวลา หลังจากที่แม่เสียไปไม่นาน ฝันตอนตี ๕ ข้าพเจ้าฝันว่าได้นั่งไป ในเรือล าใหญ่ ซีกหนึ่งมีหลังคา อีกซีกหนึ่งเปิ ดโล่งไม่มีหลังคา นั่งเรือไป ฝันนั้นเป็ นช่วงเช้ามืด บรรยากาศยังมืดสลัว ในฝันความรู้สึกตอนนั้น รู้สึกกลัวนิดหน่อย ก็เลยก าหนดจิตที่ลมหายใจเข้า-ออก ว่า พุท-โธ สักพักก็มีพวงมาลัยพุ่งขึ้ นมาจากใต้น ้า เหมือนปลากระโดดขึ้ นมาบนเรือ ตกตรงหน้าพอดี เลยหยิบขึ้ นมาถือไว้ เป็นพวงมาลัยมะลิมีพวงอุบะ มอง ไปที่ขอบเรือมองเห็นตัวเลข ๒๐๖ ในจิตคิดว่า ถ้าซื้ อหวยแล้วถูกคง อัศจรรย์น่าดู ตอนเช้าพอตื่นมารู้สึกอิ่มใจ หลังเลิกงานก็ไปแวะซื้ อผัก ลองซื้ อลอตเตอรี่ดูเห็นเลข ๒๐๖ พอดีเลยซื้ อ ปรากฏว่าถูก พอดีเลข ท้ายสามตัวตรง ๒ ใบ ได้ตั้ง ๘๐๐๐ บาท คิดว่าแม่คงอยากร่วมท าบุญ เพราะก่อนที่แม่ยังไม่จากไป ได้บอกว่า มีชื่อแม่เป็ นเจ้าภาพผ้าป่ า เป็ น ประธาน แม่เลยมาร่วมอนุโมทนาบุญ วันเสาร์ที่ ๒๓ และ วันอาทิตย์ที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ ๒๕๖๔ ทาง ครอบครัวได้เป็ นเจ้าภาพกฐินสามัคคี ท าให้ได้เห็นความรักสามัคคีกัน


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 107 ในญาติพี่น้องเป็ นสิ่งที่ส าคัญที่สุด ที่ลูกหลานทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน พี่ชายคนโตท าเตียงด้วยไม้สักถวายวัด พี่ชายคนรองน ามะพร้าวจากสวน และชาวบ้านมาร่วมงาน และลูกๆ หลานๆ ช่วยกันด้วยความรักและ ศรัทธา พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วคงได้เห็นและท าให้พ่อแม่มีความสุข ญาติ พี่น้องมีความสุข พ่อเคยสอนว่าถ้า มีปัญหาเล็กๆ แล้วกลายเป็ นเรื่อง ลุกลามใหญ่โตเหมือน น ้าผึ้ งหยดเดียว ก็ไม่ควรมีเสียดีกว่า แต่ถ้ามี ปัญหาก็โทษใครไม่ได้ คนเราปลูกต้นอะไรก็ได้ผลเช่นนั้น ความโลภไม่ เข้าใครออกใคร สร้างขึ้ นมาแล้วมันเป็ นผลในอนาคต ถ้ามีประโยชน์มัน คงไม่เป็ นปัญหา แต่พอมีปัญหามันก็กระทบไปทุกๆ ด้าน บางครั้ง เอ็นดูเขามาก ก็ไม่ดี การกระท าของเรา ความจริงจังกับชีวิต ขอให้ตัว เราภูมิใจ คนที่ล าบากมาก่อนอนาคตจะสวยหรูแน่นอน ในการท างานก็เช่นเดียวกัน ถ้าองค์ประกอบมันมีปัญหา งาน สังคม ญาติ มีกระทบกันธรรมดา ให้คิดว่าเป็ นลมเพลมพัด มันมี เรื่องราวกระทบกระทั่งกันบ้าง ใครที่ท าผลประโยชน์ให้เขาดีหมด เมื่อ เขายังได้อยู่ เขาไม่ทิ้ งหรอก เหตุอะไร เกิดขึ้ น เมื่อเกิดจากจิตก่อน ไม่มี ใครหรอกที่เห็นขนตาของตนเอง หูคุณยังไม่เห็นเลย หูก็คือกระจกที่มี การสะท้อนตัวเองจากการบอกเล่าจากคนอื่น พระท่านพิจารณาตนเอง วันนี้ ฉันท าอะไรบ้าง จูน ความคิดของตนเองเข้ากับข้อมูล เราต้องศึกษา ตัวเราก่อน เราห้ามใครคิดไม่ดีกับเราไม่ได้ เราต้องรู้ต้นตอของสาเหตุ ต้นตอมันคืออะไร คุณท างานทางโลก คุณต้องรู้ตัวตน และยอมรับ ตัวตนของตนเอง แล้วเอาความรู้ กลั่นกรองตะกอนที่ตกผนึกก็คือใจ ตัวเองก็จะมองเห็นความแตกต่าง ยอมอ่อนข้อละอัตตา ละตัวละตน และเดินสายกลาง การแผ่เมตตาให้คนที่คิดไม่ดีกับเรา เราแผ่เมตตาไปเขาก็ไม่รับ เพราะข้างในมีแต่น ้าเต็ม ใส่อะไรลงไปไม่ได้แล้ว เขาหันหลังให้นั่งเก็บ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 108 ดอกไม้เหมือนเขานั่งอยู่ในขวดโหลแก้ว เขาสร้างโลกเขาขึ้ นมาใหม่เป็ น โลกสีแดง เขาสะสมพลุระเบิด ไฟลุกออกมาให้ดีดออก ดีกว่าเก็บไว้ในใจ จิตเขาครอบแก้วเอาไว้ เหมือนขวดโหลยาดองเอาไม้จุกปิ ดฝาไว้ ของดี อยู่นอกโหล การอยู่ในมลภาวะไม่เปิ ดตาคือทัศนคติปิ ด ตามันเชื่อ รับรู้และ คิดได้ แล้วมองด้วยตา รับไม่ได้นี้ คือมนุษย์ คนเคยมีเงินเดือนเยอะ วัน หนึ่งลาออกมาเก็บตัวอยู่บ้าน ทนไหวเครียดสะสม พออยู่บ้านก็รับไม่ได้ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแคบ จิตสร้างก าแพงสี่เหลี่ยม มันมีอากาศน้อย ไม่มีพื้ นที่ หายใจ จิตเหมือนอยู่ในกล่อง แต่ก็ยังไม่เลือกที่จะออกไป จินตนาสร้าง โลกของตนเองขึ้ นมาใหม่อยู่คนเดียวในโลกส่วนตัว ที่ตัวเองสร้างขึ้ นมา นั้นท าให้ทัศนคติปิ ด เปิ ดให้เฉพาะคนที่ไว้ใจเท่านั้น มีก าแพงสี่ด้านไม่ พอ ยังสร้างก าแพงขึ้ นมาเพิ่มเป็ น ๖ ด้าน มันเป็ นสภาวะกรรมหรือการ กระท าที่ปิ ดกั้นไม่ให้สิ่งไม่ดีได้เข้ามา แต่สิ่งดีๆ มันก็เข้ามาข้างในไม่ได้ เช่นกัน คนที่ท าตัวแบบนี้ เป็ นเหมือนกิ้ งกือห่อตัว หรือเต่าที่หดหัวอยู่ใน กระดอง เมื่อเจอสิ่งที่คิดว่าเป็ นอันตรายต่อตัวเอง บุคคลแบบนี้ ไม่รับรู้ ปัญหาอะไร เก็บตัวเอง กักตัวเอง ดีดตัวออกจากปัญหา การท าแบบนี้ มันเป็ นเพียงการแก้ปัญหาเบื้ องต้น คือดีดออก เอาตัวเองออกจาก ปัญหาเพราะรับไม่ได้ คนแบบต้องเยียวยาตนเอง ปู่ บอกว่าคนนี้ รู้ปัญหาของตนเอง แต่ก็เลือกที่จะอยู่ในกล่อง พอ โผล่ออกมานิดหน่อยก็โดนกดดัน จนจิตเตลิด เปรียบเหมือนคนเจอผี แล้ว จิตหลุด ขวัญหนีขวัญกระเจิงจนต้องเรียกหมอมาท าขวัญ เพราะเขา ไม่ได้เตรียมใจให้พร้อมส าหรับความผิดหวัง สภาพใจเหมือนคนขอทาน ท าร้ายตัวเอง กดดันตัวเอง รับไม่ได้พาลไปโทษคนนั้นคนนี้ กรรมคือขี้ ตา ต้องแกะออก ชอบอยู่กับความคุ้นเคย ปู่ บอกแค่เปิ ดใจเรียนรู้ปัญหา เป็นกระจกสะท้อนตัวเอง เขามีชีวิตเหมือนจิตกร เขาสร้างโลกขึ้ นมาใหม่


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 109 สร้างโลกขึ้ นมาเอง แต่งภาพขึ้ นมา ถ้าตัวเองมีหลักยึดตาสว่างรับได้ ไม่ คาดเดา เหมือนสูตรการท างาน ลงล็อคตามวางแผน สมองมันก็เงียบไม่ วุ่นวาย หลักยึดคือบุญกุศล ตาสว่างมีปัญญาตื่นรู้ มีสติก ากับเจอ ทางออกในชีวิต หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนท่านสอนว่าบุญบาปไม่เคย ล าเอียง แม้จะจ าได้จ าไม่ได้ อ านาจกรรมดีกรรมชั่วอยู่ในจิต จิตต้องมี ธรรมเป็นเครื่องก ากับ กิเลสสูงต ่าเป็ นตามอ านาจแห่งกรรม มีธรรมเข้า คัดค้าน ธรรมจึงกู้โลกกู้สงสารต้านทานกับกิเลส กิเลสผลักไปตามภูมิ ตามนิสัย ตามวัย พาเกิด พาตาย ตัวผู้รู้เป็ นเครื่องรับผิดชอบ ธรรมเข้า แทรกด้วยทานศีล ภาวนามีที่เกาะที่ยึด ตกในห้วงแห่งมหาสมุทร ต่าง คนต่างดิ้ น ใครมีจุดหมายปลายทางไม่มีที่เกาะที่ยึด ธรรมมาดึงออก ลากออก มีเรือเกาะมีบุญบารมีที่สร้างมา อ านาจบุญกุศลทาน แม่น ้า ไหลมารวมที่จิตตะภาวนา อ านาจบุญกุศลไม่ต้องไปถามติดอยู่กับใจ ตลอดเวลา บุญกุศลให้รักศีล รักภาวนา รวมก าลังเข้าให้จดจ่อมาหาจิต บังคับด้วยจิตภาวนา ดีดออกปัดออกด้วยพุทโธ เกิดปัญญา เห็นความ ทุกข์กรรมมองไม่เห็น จิตกว้างขวางไปไหนไม่อด กรรมของท่านเองดล บันดาลเอง เสียสละท าบุญให้ทานถึงความบ าเพ็ญก็ผ่านไปได้ ความ ตระหนี่ถี่เหนียวมันไปอยู่ภายในคับแคบในหัวใจ อ านาจของกรรมไม่มี ใจมองเห็น แต่เป็ นเจ้าของที่ท าอาศัยบุญบารมี จิตดวงนี้ ไม่ตายไปสร้าง ภพใหม่ เราอย่าเห็นแก่วัตถุ ภาวนาสู้กิเลส จิตเป็ นสมาธิอยู่ไหนก็ได้ หมด ไม่สนใจอาหารการกิน อาหารของใจพอ รู้ที่ใจ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 110 บทที่ ๑๒ สะพานบุญสืบสานในทางธรรม ถึงกิเลส ตวัตณัหา น้ันพาทุกข์ จิตวุ่นวก มีแต่ทุกข์ สนุกไฉน ข้ามอุปกิเลส กองทุกข์ ให้พ้นไป หนีให้ไกล อ านาจทุกข์ จะสุขเอย สุขแบบไหน ถึงว่าสุข ข้ามกองทุกข์ หนีให้พ้น ภพท้งัสาม จะรื่นเริง สมดงั่หมาย น้นัคลายตาม สู่แดน พระนิพพาน ตามกาลเอย คนเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญสร้างบารมีเพื่อเป็นเสบียงบุญในการ เดินทางในวัฏสงสาร การเดินทางข้ามภพก็ใช้บุญกุศลฉะนั้นเราต้อง สะสมบุญไว้ ภพภูมิปัจจุบันสิ่งที่ประเสริฐอย่างยิ่งที่ได้เรียนรู้ค าสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วน ามาฝึกฝนจิตทวนกระแสโลก เข้ามาศึกษา ข้างในของตนเอง ปู่ บอก จริยวัตรทางธรรมเป็ นหน้าที่ที่พึงประพฤติ ปฏิบัติ ท าให้เกิดอานิสงค์ทางพุทธศาสนา สืบสานที่เราเคยรับปากไว้ ว่าจะสืบสานท านุบ ารุงพุทธศาสนา ต้องเขียนให้เห็นบาปบุญคุณโทษ นารีทิพย์ปฏิบัติจนหลุดจากภพภูมินาค มาสืบสาน สืบค้นพินิ จ พิเคราะห์ที่ปราศจากเงื่อนไข มนุษย์มีแกนสมองอย่างหนึ่งที่เอาไว้ แยกแยะ แยกด าแยกขาว แยกดีแยกชั่ว รู้ว่าชีวิตจะเดินไปยังไง รับรู้ ถ่ายทอดส่งต่อ นารีทิพย์ แยกจิตเป็น สามกาย ออกมาแล้ว คนที่ปฏิบัติ จิตมาดี แม้ดวงดาวย้ายชะตาราศี ก็ไม่หวั่นไหวไม่กระทบจิต จิตที่ถือ ครองวิหารธรรมก็เหมือนมีก าแพงแก้ว ๗ ชั้นกั้นไว้ ปล่อยให้โลก


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 111 หมุนรอบตัวเรา เพราะอานิสงค์ผลบุญที่ได้ท ามา ดวงดาวหมุนรอบตัว เรา ดวงชะตาวิ่งรอบตัวเรา เขาท าร้ายเราไม่ได้ มันไม่มีผลกระทบเป็ น แค่แสงสีที่วิ่งวนกระจายรอบตัวเรา เดิน นั่ง นอนก็ก าหนดอยู่กับลม หายใจ จิตมีที่อยู่อาศัยก็ไม่ส่งจิตออกนอก อยู่ทางโลก เห็นโลกเห็น ธรรมได้ปัญญาพินิจพิเคราะห์เจริญสติพิจารณา กาย วาจา และใจ บางคนที่คนที่จิตตก จิตดิ่ง เขาจ าทุกอย่างได้หมดเกินความเป็ น มนุษย์ คนแบบนี้ เขาไม่มีวิบากกรรม มีแต่แบกจิตล้วนๆ ช่วยคนอื่นมา เยอะ ท่านเปรียบมีมือทองค าหรือทางโลกเป็ นนักปั้นมือทอง มือขวาเขา เป็นทองค า ท าให้คนรวยมาแล้ว ช่วยธุรกิจคนอื่นให้ประสบความส าเร็จ มาเยอะ เคยเก่งมาก่อน อยู่ในจุดสูงสุดมาก่อน อีโก้เหนือมนุษย์ เอา กิเลสน าทาง กระตือรือร้นเกินไป กิเลสแรง นิวรณ์มีกี่อย่างเหมาหมด แต่พอจะมาเริ่มธุรกิจของตัวเองหรือเรื่องของตัวเอง ไม่กล้าเริ่มต้น กลัว ความล้มเหลว กลัวอุปสรรคปัญหา เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ เหมือนชีวิตอยู่ใน กรอบตลอด พอออกนอกกรอบไปก็ท าอะไรไม่เป็ น งง จิตตก เปไปเป มาไม่มีสติแยกแยะ ชอบตั้งความหวังมากไป พวกที่กิเลสหนามากจึงหวัง มาก พอผิดหวังแล้ว ตัวเองก็ไปไม่เป็ น จิตตั้งมั่นแบบนี้ เป็ นภัยกับตัวเอง จิตแข็งมากเพราะครอบง าด้วยกิเลสหนา จิตเพ่งจนจมแต่ยังฝืน จิตที่ดี ต้องเบาสบาย อย่าไปยึด เพราะเป็ นตัวกรรม จิตหนักเป็นก้อนหิน ในใจ จิตเขาเศร้ามาก ปากสวดมนต์ อัญเชิญพระมาสวดใส่ผ้าเหลือง ผ้าเหลืองบังหมด คนได้บุญแค่รูปลักษณ์เพราะการปฏิบัติเข้าไม่ถึงจิต ดวงจิตอัญเชิญ กายสังขารไม่ไหว ท าเหมือนตัวเองเป็ นพระ จิตหนัก เหมือนก้อนหินกดทับไว้ข้างใน ท าเหมือนตัวเองมีความสุข แต่กดทับ ความทุกข์เอาไว้ จิตควบแน่นเข้าไปอีก การควบแน่นเกิดขึ้ นเมื่อวางขวดน ้าเย็นจัดไว้ ไอน ้าที่มีอยู่ใน อากาศเจอกับความเย็นที่ผิวข้างขวด คือไอน ้าเปลี่ยนสถานะเป็นน ้า โดย


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 112 ถ่ายเทพลังงานภายในออกมาในรูปของการคายความร้อนแฝง ท าให้ เปลี่ยนสถานะจากแก๊สกลายมาเป็ นของเหลว จึงท าให้เห็นหยดน ้าที่ เกาะอยู่ข้างขวด แกะออกไม่ได้มันก็เกาะอยู่อย่างนั้น จิตควบแน่นเปรียบ เหมือนเวลาบวชมีชื่อในการบวชแต่การปฏิบัติแต่ผิวเผินเหมือนหยดน ้า เกาะข้างขวด ต้องระเบิดข้างในออกมาก่อน คนแบบนี้ ล้างนิวรณ์ของเก่า ไม่ออก ของใหม่ก็เข้าไปไม่ได้ การปฏิบัติจิตที่แท้จริงปฏิบัติแล้วต้องเบา เหมือนการไปหาจิตแพทย์เล่าให้ฟังคือการถ่ายออก คนไข้ก็เบาใจเพราะ ได้ระบายทุกข์ออกมา ถ้าไม่มีการกระจายทุกข์ อาจเป็ นโรคไมเกรน หรือถึงขั้นเป็ นโรคซึมเศร้า การกระจายทุกข์คือการระบายความอัดอั้น ตันใจออกมา ให้คนที่เราไว้ใจฟัง ทุกข์มันจะค่อยๆ ระบาย ใจเราก็เบา ขึ้ นแต่ก็เบาชั่วคราว การด าเนินชีวิตในช่วงวิกฤติภัยธรรมชาติแบบนี้ เหมือนเดินข้าม ภูเขา ชี้ เฉพาะ หรือคาดเดาไม่ได้ เปรียบเหมือนแมวสีทอง กับแมวสีด า ออกลูกเป็นสีอะไร เราตอบไม่ได้ขึ้ นอยู่กับเหตุและปัจจัย เราคาดเดา ไม่ได้ ภูมิต้านทานทางจิตน้อยแค่หกล้ม ขาถลอกก็ตีโพยตีพายเป็ น เรื่องราวใหญ่โต ทั้งๆ ที่ขาไม่ได้ขาดสักหน่อย เพราะจิตปรุงคือแค่ชิมรส แต่มโนสร้างภาพ เกินจริง จริตแบบนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย ให้คอย สังเกตเวลาใจคิดเพ่งโทษตัวเอง วนไปวนมาและให้หันมาเมตตาตัวเอง บ้าง สร้างเสียงหัวเราะให้ตัวเอง หางานอดิเรกท า นอกเหนือจากงาน ประจ า คุยกับคนที่ไว้ใจได้ ให้ความส าคัญกับสิ่งที่ท าได้ ไม่ใช่กับสิ่งที่ท า ไม่ได้ ไม่ตีกรอบให้ตัวเองว่า “ต้องอย่างงั้นต้องอย่างนี้ เท่านั้น” แต่หัน มาคิดใหม่ว่า “ได้เท่านี้ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว” เวลาเข้าที่คับขันจริงๆ ขอให้ใจ อยู่ในธรรม ไม่ส่งออกนอกกายนอกใจ อะไรที่มันไม่ดีก็หันหลังให้ เพราะถ้าเปิดประตูเอาเชื้ อโรคเข้ามาในบ้าน เอาปัญหาของคนอื่นเข้ามา


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 113 ในบ้านตนเอง เชื้ อโรคของเขาเอาเข้ามากับชีวิต ฟังมาแล้วเอามาผูกเป็ น ปม บางคนยึดติดกับเรื่องราวในอดีต ฝั่งจิตฝั่งใจเป็ นปมในใจ แล้ว ปล่อยให้ตัวเองทุกข์ทั้งๆ ที่ย้อนกลับไปแก้อดีตไม่ได้ บางคนก็เอาอดีต มาตัดสินปัจจุบัน ท าไมพ่อท าอย่างนี้ แม่ท าอย่างนี้ เอาปมปัญหาใน อดีตมาผูกปมใหม่ให้ตัวเอง ปู่ ท่านสอนว่า ให้ปล่อย ถ้าทุกข์ก็ปล่อย ไม่ ว่าพ่อแม่ไม่รัก คนรอบข้างไม่เข้าใจเรา มันเป็ นสภาวะจิตของคนที่ อ่อนแอ เอาจิตไปจับรอบด้าน ดูด้วยสายตาไม่เชื่อ เอาความรู้สึกส่วนตัว จับทุกอารมณ์เพราะจิตอ่อนแอ ยึดมั่นถือมั่น รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ ไม่ใช่เก็บ แล้วลืม เหมือนเอาใบไม้ปิ ดทับไว้ พอลมพัดทีก็เปิ ดออก เกิดขึ้ นมาใหม่ เหมือนเดิม ปัญหาของเขามันก็เป็ นกิเลสของเขา ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ ปล่อยให้กิเลสตัวตัณหาราคะน าทาง ชีวิตครอบครัวก็ไม่มีความสงบสุข การผิดศีลข้อสามของมนุษย์ก็เหมือนการเอาไฟมาเผาบ้านเรือนของตน วิธีแก้คือให้ละตัณหาราคะลง พิจารณาอสุภะสังขารมันไม่เที่ยง เนื้ อหนัง ห่อหุ้มข้างนอกสวยงามเพราะได้มีการบ ารุงรักษา แต่ถ้าพิจารณาลึกเข้า ไปมีแต่น ้าเลือดน ้าหนองหาความสวยงามใดๆ ไม่มีเลย ปัญหาของแต่ละครอบครัวก็มีปัญหาต่างกัน ปู่ บอกว่ามนุษย์มี บันไดลิงให้ปี นขึ้ น เจอปมก็แก้ทีละปม ความอยากมี อยากได้ อยากรู้ อยากเห็น ท่านให้คนที่เจอปัญหาแบบนี้ พักผ่อนร่างกายก่อน นอนไป เถอะพักผ่อนไปเถอะ ที่ผ่านมานอนบนเตารีดมานานแล้ว อยู่กับของ ร้อนคือกิเลส รัก โลภ หลง บางคนเครียดจนนอนไม่หลับ เขาบอกว่า สองคืนที่ผ่านมา เขาหลับสบาย พอรู้จักปล่อยวางก็หลับลึกไม่ฝันอะไร เลย ปู่ บอกเหมือนต้นไม้มันแห้งตาย แต่พอได้น ้าฝนมันก็แตกกิ่งขึ้ นมีใบ งอกบนตอไม้อีกครั้ง ชีวิตคู่ให้เราถือไฟฉายส่องไปข้างหน้า คือธรรมะ ส่องทางใจ ใจเราก็จะไม่มืดบอดด้วยกิเลสตัณหาต่างๆ จะมีคนแวะลง


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 114 กลางทางเพราะทนไม่ไหว เขาอยากลงก็ให้เขาลง หรือนั่งเรือไปด้วยกัน เขาอยากกระโดดลงไปก็ให้กระโดดน ้าไป เราถือไฟฉายคือ แสงสว่าง ทางธรรมน าพาชีวิต ปู่ ท่านเปรียบเปรยกระดาษเหมือนสมอง เราเขียนความทุกข์ลง ไปในกระดาษ บันทึกแต่ความทุกข์ มีพื้ นที่ส าหรับความทุกข์ที่ไหนจะมี ที่ว่างส าหรับความสุข ยึดติดรัก ยึดตัวตน กิเลสตัวตัณหาราคะเกาะบัง ตา เขาปักหมุดไปแล้ว ว่าเป็นอย่างงั้น อย่างนี้ ไม่พอใจก็แสวงหาสุดโต่ง เด็กสะท้อนให้เห็นภาพ คือเงาสะท้อนพ่อแม่ที่แสดงออกมาสุดโต่ง เพราะเด็กปรับตัวไม่ทัน จะหมกหมุ่นอยู่กับตัวเขาเอง สร้างกรอบชีวิต มาตีกรอบให้ตัวเองอึดอัด สามีเหมือนโคบาลถือเส้นบางๆ เส้นมันยาว มาก เพราะความเคยชิน จริงๆ แล้ว เราตัดออกก็ได้ แต่ก็รักที่จะไม่ตัด ท าให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน บางคนเป็ นช่วงเวลาที่ส านึกผิด ต้องให้อภัย ตัวเอง แล้วต่อไปให้เดินหน้า แต่ไม่ต้องคาดหวัง เพราะที่ผ่านมา คาดหวังมาก พอไม่ได้ดังหวัง ก็เปไปเปมา ย้อนอดีตไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ให้ยอมรับสภาพ ไปไหวไม่ไหว รับสภาพความเป็ นจริงดึงจิตรักษาตัว ปลดปล่อยตัวเองได้แล้ว จงมีความสุข ทุกอย่างมีระยะทางการเดินทาง ของมัน ชีวิตมันง่าย กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน อยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ ไม่อยาก ตื่นก็ไม่ต้องตื่น กินให้อิ่ม นอนให้หลับ ลุกมาท าอะไรให้ถูกจริต ยึดมั่น ถือมั่นไปก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายก็อยู่คนเดียว ความจริงที่แสดงตามธรรมดาของกฎธรรมชาติ ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา บางคนจิตต ่าตมก็ยังต ่าตมเหมือนเดิม ไม่เคยสร้างฐาน จดจ าค าด่า เพราะเราไม่ปลดปล่อย ค าด่าคนอื่นเหมือนของเสียในบ้าน เขา เรายังเก็บไว้ใส่ตัว ให้กวาดออกทิ้ งอย่าใส่ใจ การบ่มเพาะความ อิจฉาริษยา ทุกข์เศร้าจนกลายเป็นโรคประสาทอ่อนๆ กลัวคนไม่รัก ถูก บ่มจนกลัว จนหงอ ชอบคิดว่าตนเองมีปมด้อย เพราะจิตน าทางอารมณ์


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 115 กิเลสชอบฟังคนพูดเพราะ พอไม่ได้ดั่งใจก็อาระวาด คนจะไป ถึงจะดึงไว้ ก็จะไป ให้จดจ าสิ่งดีๆ กรรมดีให้กับตัวเอง ภายในเรารู้ ความพอใจ ความไม่พอใจ ความอยากไม่อยากเป็ นการดึงเข้ามาหาตัว แต่ความ โกรธผลักออกไป ท่านแนะอุบายให้สอนตัวเอง ให้เราสงบใจรวมก าลัง สติให้พร้อม ยึดที่หมายให้แน่นคือการปักหมุด ระมัดระวังคือการส ารวม กาย วาจา ใจ กายเนื้ อไม่ระเบิดจริตก็ยังหยาบ คนที่ขัดเกลามาก อัตตา ตัวตนลดลง จะอ่อนน้อมถ่อมตัวเข้าใจโลก เพราะมีความทุกข์มาก่อนท า ให้เข้าใจโลกหันมารับสภาพ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 116 บทที่ ๑๓ กลิ่นแห่งทิพย์ กลิ่นทิพย์ นั้นหอมหนักหนา ท่านว่ากลิ่นกายนี้ พี่เคยได้สัมผัส ทั้งรังรัด ฝากเอาไว้ ในใจพี่ กลิ่นตัวน้อง ได้ดมดอม หอมชื่นชีวี กลิ่นกายนี้ พี่ขอมอบ ให้น้องชอบตลอดไป เทวดา บนฟากฟ้า หอบน้อมกลิ่น ฝากอาจิณ สุดใต้หล้า ไม่พาเลือนหาย เหมือนกลิ่นกายน้อง แนบแอบชื่นหทัย สุขภิรมณ์ สุขสมหมาย ดั่งใจปอง พญานาคที่บ าเพ็ญเพียรภาวนาจนมีบุญบารมีเต็ม หรือ พญานาคชั้นสูง จะมีกลิ่นหอมสดชื่น เหมือนกลิ่นดอกไม้น ้าอบ น ้าปรุง หรือก ายาน เป็นกลิ่นเทพเทวดา สิ่งศักด์ิสิทธ์ิมีพลังที่ดีมาก เรียกว่า กลิ่นทิพย์ กลิ่นของชาวโลกทิพย์รูปแบบกลิ่นของชาวโลกทิพย์ มีหลาย คนที่สัมผัสได้กลิ่น ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นมองหาแล้วไม่มีสิ่งที่ส่งกลิ่น แต่มี กลิ่นหอม คล้ายดอกไม้ เช้านี้ ได้กลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วห้อง กลิ่นคล้ายกลิ่นดอกไม้หอม เดินหาต้นตอของกลิ่น แต่ก็หาไม่เจอ หรือน ้ายาปรับผ้านุ่มแต่ก็มิใช่กลิ่น นี้ ท่านว่าเป็ นกลิ่นแห่งทิพย์ กลิ่นทิพย์ คือ ทางจิตวิญญาณของเราจะ ได้รับกลิ่นต่างๆ กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นอะไร กลิ่นนั้นมีความหมายว่าอย่างไร เราสามารถแปลรหัสออกหรือไม่ กลิ่นต่างๆ นี้ ก็ไม่เหมือนกัน บางครั้ง เราไม่รู้ แต่ถ้าเป็นปัญญาแห่งจมูก เราก็จะรู้ว่ากลิ่นนี้ เป็นกลิ่นอะไร กลิ่น นี้ แปลว่าอะไร กลิ่นนี้ เป็ น กลิ่นเทวดา กลิ่นกายทิพย์ กลิ่นแบบนี้ ท่าน


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 117 ต้องการสื่ออะไร เราก็จะรับรู้ได้ ทางโลกในชีวิตประจ าวันของเรา ถ้าเรา ได้ได้กลิ่นอาหารอะไรโชยมาเราก็รู้จักและบอกได้ว่าเป็ นกลิ่นอะไร ฉัน ใดก็ฉันนั้น “ต่อไปถ้ามีลมพัดผ่านหน้าและมีกลิ่นหอมแสดงว่าเป็ นแม่ของ คุณ ท่านมาหาคุณ วันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน เป็ นวันครบรอบ ๔๙ วันที่แม่คุณเสียพอดี และวันนี้ ภพภูมิที่แม่อยู่ก็ก าลังมีพิธีตักบาตรดอกไม้ หอม คุณถึงได้กลิ่น” ท าไมบางคนได้กลิ่นแล้วทราบได้ว่ากลิ่นนี้ เป็ นกลิ่นอะไร มาจาก ไหน กลิ่นสายไหน สิ่งที่เราแปลสัญญาณรหัสออกว่า นี่เป็ นกลิ่นอะไร เรียกว่า ปัญญาแห่งจมูก หรือ จมูกทิพย์ กลิ่นทิพย์ ปัญญาเกิดขึ้ นทาง จมูก ถ้าเราไม่มีปัญญาทางจมูก เราดมก็ไม่รู้ว่ากลิ่นนี้ แปลว่ากลิ่นอะไร ทั้งๆ ก็รู้ว่าหอม แต่ไม่รู้ว่าหอมเป็ นอย่างไร คือ องค์เทพองค์ไหน เป็ น ปัญญาทางสายจมูก สามารถแยกแยะออกจากการรับรู้กลิ่น ท่านบอกว่า ถ้าได้กลิ่นหอม กลิ่นน ้าปรุง โชยมา แล้วเรามีความปลื้ มปิ ติแสดงว่ามี สิ่งศกัด์ิสิทธ์ิเทพเทวดาที่เรามีบุญสมัพนัธก์บัท่าน ท่านอยู่ใกล้ๆ เรา ให้ ปฏิบัติดี น้อมรับพลังที่ดีจากท่าน ขอพรจากท่าน เพราะมนุษย์ ไม่ได้อยู่ เพียงล าพัง ยังมีชาวโลกทิพย์ ที่อยู่ร่วมในอีกมิติหนึ่งแต่ซ้อนทับกันกับ ภพภูมิมนุษย์ “การประทับญาณร่างกายสังขาร” องค์ปู่ ท่านบอกว่า เวลาท่านมาช่วยคนช่วยร่าง หรือประทับ ญาณ การประทับญาณร่างกายสังขาร ท่านบอกว่ามีจ านวนน้อยมาก เพราะท่านต้องเลือกร่างหรือคนที่มีบุญบารมีแก่กล้า และมีบุญสัมพันธ์ กันมาในอดีต ภพภูมิพญานาคต้องใช้เวลานาน ในการบ าเพ็ญเพียรล้าง ร่างตนใหบ้ริสุทธ์ิลา้งกลิ่นคาวในร่างสงัขารแห่งตน ดว้ยการสวดมนต์ และบ าเพ็ญภาวนา เมื่อกลิ่นคาวหมดแล้ว บุญบารมีเต็ม พญานาคราช


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 118 องค์นั้น จะเปลี่ยนสีจากสีต่างๆ กลายเป็ นสีขาว สีเงินยวง หรือสีทอง เกล็ด กาย แสงสี เกิดจากการบ าเพ็ญบุญญาบารมี และตามฐานบุญ บารมีที่เคยสะสมไว้มาด้วย เวลาปรากฏกายในแต่ละครั้ง ถ้าปรากฏกาย สังขารเป็ นมนุษย์จะเป็นมนุษย์ใส่ชุดขาว หรือถ้าเป็ นนาคกษัตริย์จะแต่ง องค์ทรงเครื่องทองทั้งองค์ “เวลาท าบุญกรวดน ้า มักได้กลิ่นธูป หรือกลิ่นหอมดอกไม้ เสมอ” องค์ท่านรอถ่ายทอดพลังให้ถึงกัน พลังคือน ้า ส่งต่อมือ ส่งทอด พลังงาน ปู่ส่งพลังงานหยาบผ่านกัลยาณมิตร ถึงนารีทิพย์เป็นพลังงาน ละเอียดเพราะผ่านการปฏิบัติจิตมา มีพลังสติปัญญาแยกแยะองค์ ความรู้ที่ท่านส่งมา ว่าเป็ นเพชร จิตมโนแยกแยะออกตามจริต ตามตอบ โจทย์ มาแยกแยะและกลั่นกรอง กัลยาณมิตรรับพลังงานร้อยแปดพัน เก้า เหมือนสินค้าส่งมาให้ เขาไม่รู้เขารับไว้ทุกอย่าง รู้เยอะ พูดเยอะ พญามารจะมาหา พญามารก็คือกิเลสในใจเราจะมา คนที่มีจิตสัมผัส พญามารชอบ แม่ย่า คนที่ตายแล้วมีพลังงานเยอะ กัลยาณมิตรเหมือน มีตัวดูดวิญญาณ เทพเข้ามาในจิตของเราได้ ความคิดเปิ ด-ปิ ด ไม่ ปะติดปะต่อ มีคนแทรกเข้ามา จ าได้จ าไม่ได้ มีอะไรผ่านเข้าออก มีการ ทดสอบ โดนทดสอบ ความคิดหมกหมุ่นวุ่นวายใจ ผลพวงก็มาจากกิเลส ถูกครอบง าด้วยกิเลส เนื่องจากฐานจิตไม่แน่นเลยถูกกิเลสจูงไปได้ง่าย เปรียบเหมือนคนผ่านเข้ามาผ่านออกไป แต่ถ้ากายสังขารร่างมีพระคือ ครองในศีลในธรรมจะควบคุมจิตได้ “ใบโพธ์ิลอยลงมา กับนกยูง” ใบโพธ์ิเป็ นสัญลักษณ์แห่ง พุทธะ เพราะเป็ นดั่งเครื่องหมายที่ บ่งบอกถึง การรู้ตื่นและเบิกบาน เหนือกาลเวลา ส่วนนกยูงสื่อถึงความ จงรักภักดีการตื่นรู้การน าทาง การปกปักษ์รักษา และความสง่างาม


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 119 นกยูงเปรียบเหมือนภพภูมิพญานาคมีจิตศรัทธาที่มั่นคงต่อพระพุทธ องค์ ลูกหลานสายพญานาคขึ้ นมาเพื่อปกป้องสืบสานบ ารุงพุทธศาสนา เอาศรัทธาน าทางเพื่อให้ตื่นรู้ เกิดแสงสว่างน าทางชีวิตเพื่อหลุดพ้น จากวัฎฎะ ภพภูมินาคผูกพันกับคู่ของตนมาก หากอีกคนหนึ่งที่ละสังขาร แล้วมาเกิดในภพภูมิมนุษย์คู่ก็จะตามมาปกป้อง คุ้มครอง น าทางให้ จดจ าสัญญาเก่าร่วมสานต่อบุญกุศลไปด้วยกัน สาธุในทุกการเดินทาง ในทางธรรมของปู่ จะพลัดช่วงเวลากันบ้าง แต่เทพนาคาทุกตนมีหน้าที่ ดูแลปกปักพุทธศาสนา พร้อมสร้างกุศลบารมีเข้าสู่จิตวิญญานัง อีกทั้ง ยังมีภาระหน้าที่บ าเพ็ญบารมีต่อเพื่อส าเร็จธรรม หรือบารมีเสมอกัน รูปปั้นท่านศรีนคราปาวาฬนะนาคราช ประดิษฐานอยู่บริเวณแผ่นหิน บนเขา ท่านดีใจได้ที่สัปปายะ ชอบธรรมชาติ ตรงแท่นฐานปั้นปูนเป็ นสี ธรรมชาติ ครูบารูปหนึ่งท่านได้เมตตาท าพิธีเบิกเนตร หลังเสร็จพิธีเบิก เนตรองค์เทพนาคา ฝนก็โปรยลงมาปรอยๆ ที่ที่ท่านอยู่ มองเห็นทั่วทั้ง หุบเขา มองเห็นโลกล้วนแต่เป็นโลกสมมติ ช่วงนี้ มีวันหยุดยาวตั้งใจจะกลับไปบวชถือศีล ๘ ที่บ้านสวน กลับ บ้าน เย็นวันอาทิตย์ คิดว่าจะบวชกี่วันดี กลัวกายสังขารเราจะไม่ไหว เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ปู่ ท่านบอกว่าบวชกี่วันก็ได้แล้วแต่นารี ทิพย์จิตจะเป็ นกุศล ตอนนี้ หมดวาระกรรมแล้ว ต่อไปนี้ มีแต่สร้างบุญ บารมี วันที่บวชก็ให้ถวายน ้ามะพร้าว ถวายเป็ นพระพุทธบูชา พระธรรม บูชา และพระสงฆ์บูชา หลังจากลาแล้วให้น ามาดื่มเป็นน ้าทิพย์ ท่านห่วง หาอาทรอยู่เสมอ แวะเวียนมาดูแล ปู่ ท่านจะมาสื่อเสมอทุกครั้งที่คุยกับ กัลยาณมิตรคนนี้ และกัลยาณมิตรยังบอกอีกว่าองค์พญานาคที่ มาตามหานางอันเป็นที่รัก ก็ตามหาดวงจิตกันเจอแล้ว


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 120 ส าเริง ส าราญ เบิกบานพระหฤทัย แวกว่ายไปมา ด าผุดด าโผล่ โอ้โหหอมหวาน สุดจะพรรณากาล โอ้สุดแสนจะหวาน เหลือจะบรรยาย ทรงน้ าบริสุทธ์ิน ้าทิพย์จากสวรรค์ ในการล้างบาป ให้หายคลายคิดถึง ถึงน้องนาง อนงค์เนตรนารี นางหนึ่ง พี่คิดถึง ปริ่มว่า จะขาดใจ ได้ลงลิ้ ม ชิมรส น ้ามะพร้าวหอม พี่เฝ้าดอม อยากชื่นชม ภิรมณ์หมาย สองหากได้ เชยชิด สนิทกาย พี่เฝ้าหมาย ได้พิทักษ์ เกยตักนาง หากว่าในชาตินี้ พี่บุญน้อย พี่จักค่อย คอยคุ้มครองรัก พิทักษ์รักษา เกยกกไว้ ในใจ ไม่ซางเซา จักพิทักษ์ รักษาเจ้า ตลอดไป “ท่านรับรู้หมดผลาบุญแห่งอานิสงค์ที่ได้ท ากับเหล่าพระอริยะ สงฆ์ทุกรูปที่เจ้าได้ท ามานั้น ท่านได้รับหมด เพราะเจ้ากล่าวถึงนามท่าน มาโดยตลอด เปล่งพลังบุญแว้บเข้ามาถึงจิตทิพย์ของท่านทันที เปล่ง ด้วยมหาพลังอ านาจแห่งบุญบารมีอยู่เนืองๆๆ มหาเมตตาพรหมวิหารสี่ ของเจ้าเยอะมาก” “อิสะรัง การันนิ สรัมมะ อินาตริ ตรัมตินินารีทิพย์เยอ ... นารี ทิพย์ท าความดีเป็นนิจ” “เยอจ้านเยอตร้า ดีที่สุด”


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 121 “ปิติอีติย้าเย๊อ ยาเย๊อสะน่ะ ปิติดีใจมากมายเหลือเกินแล้ว” “มนุ ษย์สะอ้านส่ะ ลีซ่ะประน้านน่ะอิ สะอาดทั้งใจทั้งกาย เรียบร้อยเจ้าระเบียบการตลอด” “สะพรัมมะ ตะเอ่ะน่ะ เมืองทิพย์ส่ะเด่ะอินาลิซ่ะประน้านน่ะอิ ว่า อยู่เมืองทิพย์ก็เป็นแบบนี้ เจ้าคนนายคน เจ้าระเบียบเช่นเคย” “ชื้ นซ่ะเด๊ะ ชื่นชมๆ” จิตสงบ ใจสบาย กายก็ดี หามีที่เปรียบได้ในสังขาร ถ้าจิตเรา มีธรรม น าชื่นใจ หาที่อื่น นั้นมีไม่ ใจมีธรรม จ าไว้เถิด เชื่อไว้เถิด ในธรรมนั้น น้อมปฏิบัติ มั่นในบุญ ไม่ศูนย์กุศล น้อมนบน า ในทั่วจักรวาลดล ขอเยินยลนบในธรรม ตามค าสอนพระศาสดา ความทุกข์เป็ นสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตมนุษย์การแก้ไขหรือขจัดทุกข์ ต้องหาสาเหตุแห่งทุกข์หรือสมุทัยพิจารณาเหตุแห่งทุกข์ บางคนทุกข์ เพราะความจน ความเจ็บป่ วย ความไม่รู้สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เหตุแห่งทุกข์ที่ แท้จริง พระพุทธองค์ทรงแสดงว่า ตัณหาเป็ นเหตุเกิดทุกข์ และท าให้ กลับมาเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ตัณหาได้ชื่อว่าเป็นเหตุแห่งทุกข์ก าหนัด ยินดี ปรารถนา รักใคร่ ตัณหา หรือความทะยานอยากนี้ ไม่มีที่สิ้ นสุด ไม่ อาจตอบสนองให้เต็มอิ่มได้เหมือนมหาสมุทรที่ไม่อิ่มน ้า เติมน ้าลงไป เท่าไรก็ไม่เต็ม ตัณหาท าให้จิตใจเพลิดเพลินหลงยินดีในอารมณ์ต่างๆ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 122 ลุ่มหลงในรูป ได้ยินเสียง ลิ้ มรส การสูดดม จับต้อง ดิ้ นรนแสวงหามา ครอบครอง จากสิ่งที่มีแล้วได้แล้ว ไปสู่สิ่งที่ยังไม่มีไม่ได้ไม่จบไม่สิ้ น เมื่อ เพลิดเพลินลุ่มหลงมากๆ ก็ติดใจ กลายเป็ นความยึดมั่นถือมั่นว่า เรา ต้องได้ ต้องเป็ นของเรา จะพรากจากเราไม่ได้ท าให้เกิดความทุกข์ ตามมา พระพุทธองค์ท่านจึงเปรียบเหมือนดังลูกศรเสียบแทงใจ ไม่ สามารถดึงออกได้ง่ายต้องทนเจ็บ อาการปางตายทุกคน ธรรมะของ พระพุทธองค์สอนให้เข้าใจสัจจะความจริง ท าให้เกิดปัญญาตื่นรู้ในจิตใจ ถอนตัณหาออกจากจิตใจ พระไตรปิฏกเปรียบตัณหาเป็นดังข่ายปกคลุม สัตว์โลกไม่ให้ล่วงพ้นอบายไป “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงตัณหาเช่นดังข่าย ท่องเที่ยวไป แผ่ซ่านไป เกาะเกี่ยวอยู่ในอารมณ์ต่างๆ เป็ นเครื่องปกคลุมหุ้มห่อสัตว์ โลกนี้ เหมือนนุงเหมือนกลุ่มด้ายอันยุ่งเหยิง ขอดเป็ นปมเป็ นเหมือน หญ้ามุงกระต่ายและหญ้าปล้องไม่ให้ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาตและ สงสารไปได้” กามตัณหา คือความกระหาย ดิ้ นรน ทะยานอยาก เพลิดเพลิน ในกามคุณอยากได้สัตว์ บุคคล สิ่งของต่างๆ มาสนองความต้องการ ทางตา หู จมูก ลิ้ น กาย อยากเห็นรูปงาม ๆ อยากได้ยินเสียงเพราะๆ อยากได้กลิ่นหอม อยากลิ้ มรสอร่อย อยากสัมผัสสิ่งอ่อนนุ่ม คืออยาก ได้สิ่งนั้นมาสนองความต้องการของประสาทสัมผัสทั้ง ๕ โดยก าหนดรู้ว่า รูปสวย กลิ่นหอม เสียงไพเราะ เป็ นความน่ารักใคร่ น่าพอใจ น่า ปรารถนา จิตสงบ ใจสบาย กายก็ดี หามีที่เปรียบได้ ในสังขาร ถ้าจิตเรา มีธรรม น าชื่นใจ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 123 หาที่อื่น นั้นมีไม่ ใจมีธรรม จิตมีธรรม น้อมนบน า ท าแต่บุญ ไม่หมกมุ่น ครุ่นคิด ชนิดไหน จิตอิ่มบุญ เกิดปิติ ทุกทีไป บุญ-ทาน นั้นไซส์ น้อมนบน า แต่ท าบุญ “ท่านมาประสิทธ์ิคอยดูแลและช้ีทาง” พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า นักบวช ฤาษีหรือ ที่ปฏิบัติได้ ฌานในระดับหนึ่งแล้วมรณภาพไป โดยที่ยังไม่หลุดพ้น ฌานนั้นจะติด มาในภพปัจจุบัน “นารีทิพยก์ ็มีเยอะ แต่ไม่เอาอิทธิฤทธ์ิเอาบุญฤทธ์ิ” ปู่ บอกว่าผูม้ ีจิตบริสุทธ์ิในธรรม ฝันเป็ นปริศนาธรรม เวลานอน หลับ จิตจะออกไปท่องเที่ยวตามวาระบุญ หรือบาปของตน คิดดี พูดดี ท าดี จิตมีแต่พรหมวิหารสี่ตลอดเวลา ไม่เบียดเบียนผู้ใด จิตไม่ปรุงแต่ง ตามอุปกิเลสของความชั่ว จิตเกิดเบิกบาน เกิดปิ ติ ส านึกในคุณความดี ทุกประการ ก็จักเป็ นแบบนี้ แหละ แม่ชี พระภิกษุ นั่นคือผู้บ าเพ็ญ และ ละแล้วแห่งการครองเรือน ละโลภ โกรธ หลง ละทางโลก หันเข้าทาง ธรรม เพื่อความหลุดพ้น ฝันแบบนี้ ดี ไม่ต้องสงสัยเลย ทุกอย่างมี ความหมายหมด ถึงกิเลส ตัวตัณหา นั้นพาทุกข์ จิตวุ่นวก มีแต่ทุกข์ สนุกไฉน ข้ามอุปกิเลส กองทุกข์ ให้พ้นไป หนีให้ไกล อ านาจทุกข์ จะสุขเอย สุขแบบไหน ถึงว่าสุข


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 124 ข้ามกองทุกข์ หนีให้พ้น ภพทั้งสาม จะรื่นเริง สมดั่งหมาย นั้นคลายตาม สู่แดน พระนิพพาน ตามกาลเอย บางคนทุกข์เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง ปู่ ให้เริ่มต้นใหม่เปลี่ยน สถานะใหม่ จากเจ้าของกิจการ เป็ นพนักงานหรือเปลี่ยนอาชีพ สามี ภรรยาบางคู่ ถ้าไปกันไม่ได้ก็เปลี่ยนสถานะเป็ นเพื่อนเป็ นพี่เป็ นน้อง ทางเดินเก่ามันตันก็เปลี่ยนเส้นทางใหม่ ไม่มีใครตายเพราะโควิคแล้ว ตายตามกันไม่มีแล้ว ฝึกจิตเอาไว้ให้มีตบะความอดทนต่อทุกข์เจอบท ทดสอบ ใหม่ๆ ตลอดเวลา ให้เอาจิตไปคิดบริกรรมพุท-โธ ไปยึดมั่นถือ มั่นท าไม บางคนไม่ถอนหรือไม่ละไม่วางยังไม่พอ ปักไปใหม่อีก ให้ ปรับตัว ถ้ามันเลวร้ายก็ให้บังคับถอน ให้กินแต่พออิ่ม ทุกข์แต่พอดีแต่ บางคนกินจนอ้วก หมายถึงทุกข์จนทนไม่ไหว เพราะทุกข์จนเกิดอนุสัย ความเคยชิน บางคนชินกับการพูดโดยไม่คิด ท่านให้บวชจิตแล้วปิ ด วาจา ยิ่งพูดยิ่งก่อวิบาก เอาธรรมะเข้าข่มไฟก็เย็นลง พอไฟเย็นก็รู้เหตุรู้ ผลแล้ว บางคนจิตมโนสร้างโลกอีกใบ สร้างตุ๊กตาขึ้ นมาตัวหนึ่ง มีสามี ภรรยา หรือแฟนให้อยู่กับเรา ให้รู้สึกมีความสุข ท าไมใช้ชีวิตเหมือน ตุ๊กตา อยู่แบบสุขปนทุกข์ท าไม แค่หาปมปัญหาให้เจอ แล้วแก้ปมคือให้ ปัญหาได้รับการแก้ปัญหา เจ้าของปัญหาต้องยอมรับสภาพความเป็ น จริง ร้อน เย็นไม่โต้ตอบ บางคนติดอยู่ความสุขชั่วคราว ไม่ฝึกจิต จึง ได้รับความเดือดร้อน ส่งแต่ใจปล่อยจิตตัวเองไปตามยถากรรม สุดแต่ กิเลสจะจูงไป ไม่เคยได้อดทนต่อทุกขเวทนา ไม่อดกลั้น ปล่อยใจไป ทุกข์ก็ยิ่งติดตาม ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เพราะหลงสุขเวทนา ส่งใจไปฟากฟ้า แดนดินใดก็มีทุกข์ติดตามไป ให้เผชิญหน้ากับทุกข์ ให้รู้เท่าทุกข์ ทุกข์ ตรงไหนเพ่งมันลงไปจิตรับรู้


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 125 “รอยพับบนกระดาษ” การพับกระดาษตามยาว รอยพับก็ยาว พับซ้อนกันหลายๆ พับ เส้นรอยพับมันก็สั้น เส้นรอยพับยาวเปรียบระยะทางห่างไกลเป็ นโยชน์ จิตมนุษย์คิดว่าไกล เพราะใช้จิตท างาน คนโบราณไม่ได้วางแผน ใช้เงา สะท้อนพระอาทิตย์บอกเวลา วันนี้ มีแรงก็ท าไป จิตก็จดจ่อปักหมุดอยู่ใน สิ่งที่ก าลังท าอยู่ สุดท้ายมันก็เสร็จเอง ปัจจุบันแกนโลกมันเอียง คนดี เป็ นคนเลว คนสร้างภาพเป็ นคนดี การท าความดีเหมือนรอยพับ กระดาษที่เป็ นเส้นยาวใช้เวลานานเห็นผลช้า แต่คนสมัยนี้ ท าอะไรมัก อยากเห็นผลเร็ว โดยไม่เลือกวิธีเหมือนรอยพับหลายพับซ้อนทับกันไป มาเส้นมันก็สั้น รอยพับคือกิเลส ยิ่งซ้อนทับกันมากเข้า รอยพับก็ยิ่งสั้น กิเลสก็ยิ่งเยอะ เพราะเอาความอยากน า สมัยโบราณตัวกรรมตัวใหญ่ มาก คนก็กลัวกรรม ถ้าจิตตกให้นั่งสมาธิหรือคิดกุศโลบายสอนตัวเอง ว่า เราเดินอยู่ในวงกลม นั่งบนดอกบัว คิดแค่รัศมีแสงส่องในครอบแก้ว กระจายเป็ นวงกว้าง ใช้ชีวิตคิดเหมือนจิตครอบแก้ว ถ้าจิตส่งออกมาก พลังงานชีวิตเหนื่อยจิตจะตายดับ จิตครอบแก้ว คือตัวเราอยู่กับวงกลม ถ้ามองไปไกลจิตจะเพ้อเจ้อ มองที่จุดสปอร์ตไลท์ส่องอยู่ แค่เดินให้รู้ เจอ ดอกไม้ก็เก็บดอกไม้ คิดแต่พอดี ไม่คิดเผื่อ กินเผื่อ ขี้ เผื่อ คือคิดใน วงกลมอยู่กับปัจจุบัน ถ้าฝึกจิตให้มีก าลัง จิตจะควบคุมร่างกายกับความคิดน าได้ จิตก็ ส่งออกยาก ให้ฝึกฝนต่อไป ชีวิตต้องด าเนินต่อไปเดินไปข้างหน้า การ หลงทางก็เปรียบเหมือนการใช้ชีวิต จิตหลงอยู่กับความไม่รู้เมื่อใจ อ่อนแอ ก็แพ้กิเลส การภาวนาท าให้จิตมีก าลังเข้มแข็งเพราะมันสงบอยู่ นาน คนเราได้พักผ่อนเพียงพอ ร่างกายก็แข็งแรงท างานอะไรก็ได้จิตใจ ของเราก็เช่นกันได้พักก็มีก าลังเข้มแข็งขึ้ น พอใจเข้มแข็งก็เผชิญหน้ากับ กิเลส ความวิบัติแปรปรวนต่างๆ อย่างมีสติและเข้าใจ ถ้าจิตไม่เข้มแข็งก็


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 126 ติดความสุขชั่วคราว ส่งแต่ใจปล่อยจิตตัวเองไปตามยถากรรม สุดแต่ กิเลสจะจูงไป ไม่เคยได้อดทนต่อทุกขเวทนา เพราะแต่ติดสุขเวทนา ไม่ อดกลั้น ปล่อยใจไป ทุกข์ก็ยิ่งติดตาม ทุกข์ตรงไหนเพ่งมันลงไป จิตรับรู้ สัมผัสอารมณ์ในความพอใจ ไม่พอใจ เตือนตัวเองไม่ให้อ่อนไปตาม อารมณ์ ใจกับจิตอันเดียว ใจน้อมจิตก็ปรุง ตาเห็นรูปเกิดวิตก ก็เกิดขึ้ น ในใจ พอจิตเราได้พิจารณา เห็นความไม่เที่ยง จิตก็ไม่ปรุง ให้พิจารณา ชีวิตที่มีข้อแม้เยอะ เพราะเอาความคิดน า กิเลสเกาะหนา เพราะไม่ ปฏิบัติจิต จิตกับความคิดแยกไม่ออก บางคนก็ส าคัญตัวผิด เพราะเอา ความคิดน าทาง เอาจิตเอาใจส่งออก เสียใจเกิดจากกิเลสโมหะ โทสะ อยู่ท่ามกลางไฟสองกอง ความสัมพันธ์เกิดการล ้าเส้น แล้วได้สติ ท าให้ ไม่มีตัวตนซะ คือละตัวตน เราก็จะเย็นลงใจสงบลง “ท่านหาช่องจูนกับเราได้ เจอคลื่นความถี่ปรับจูนหาคลื่น” ท่านบอกว่างานไหว้เทวสถานบวงสรวงพญานาคถึงแล้ว เข้า บ าเพ็ญเพียรแล้ว ถึงล่วงหน้าก่อนภพภูมิมนุ ษย์๗ หรือ ๑๐ วัน ช่วงเวลาเข้าพรรษาถึงเร็วกว่า เทศกาลก าหนดก่อน มนุษย์ปฏิบัติ ตามหลัง วันของภพภูมิท่านคลาดเคลื่อนไม่เหมือนภพภูมิมนุษย์จะ ก าหนดตามดอกบัว ตามพระจันทร์ ปู่ เป็นคนก าหนดระบุวัน


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 127 บทที่๑๔ กฐินสามคัคีเป็นการตอ่บุญเป็นเหมือนสายน้า ไหล จิตสงบ ใจสบาย กายก็ดี หามีที่เปรียบได้ในสังขาร ถ้าจิตเรา มีธรรม น าชื่นใจ หาที่อื่น น้ันมีไม่ใจมีธรรม จา ไวเ้ถิด เชื่อไวเ้ถิด ในธรรมน้ัน น้อมปฏิบัติ มั ่นในบุญ ไม่ศูนย์กุศล น้อมนบน า ในทั ่วจักรวาลดล ขอเยินยลนบในธรรม ตามค าสอนพระศาสดา การฝึกจิตให้เป็ นบุญกุศล เพื่อใหเ้ขา้ถึง ความบริสุทธ์ิแห่งองค์ ความรู้ บุญ หมายถึง ความผ่องแผ้วแห่งสิ่งที่เรียกว่าจิต ที่เกิดขึ้ น ตั้งขึ้ น แต่ละดวง ก่อนที่มันจะดับลง หรือความสะอาด ความสุข กุศลเกิดจาก ความฉลาดในการท าบุญ บรมครูสอนว่า บุญคือความดี ความสบายใจ บุญเป็ นธาตุวิเศษอย่างหนึ่งซึ่งเมื่อเกิดขึ้ นเเล้วจะท าให้ใจตัวเองสะอาด บริสุทธ์ิเเละผ่องใส เมื่อใจของเราสะอาด บริสุทธ์ิผ่องใสด้วยอ านาจ ของบุญ จะมีพลังในการดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามา เหมือนเเม่เหล็ก คนที่มีบุญ ก็เช่นกันย่อมมีอานุภาพไปดูดเอาสิ่งดีๆ เข้ามา ถ้าฐานบุญแน่นมีบุญ เก่าเยอะ พอมาเกิดก็จะถูกดูดให้ไปอยู่กับพ่อเเม่ที่ดีอยู่ในศีลในธรรม เป็นคนดีญาติพี่น้องดี สิ่งเเวดล้อมดี เเละเกิดในยุคสมัยที่ดีแล้วแต่บุญ กรรมที่ท ามา บุญกรรม หมายถึง การท าบุญ การกระท าอันเป็ นไปเพื่อ ความดี บุญนั้นเกิดจากการท าดีสามอย่างคือ ทาน ศีล ภาวนา


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 128 บุญจากการทอดกฐิน ถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มากเป็นอย่าง ยิ่ง เพราะเป็ นบุญที่ท าได้ยากและมีข้อจ ากัดหลายประการ การท าบุญ ทอดกฐินนั้น เป็ นการท าบุญตามพุทธประสงค์ คือ ท าบุญอย่างผู้รู้ ที่ เข้าใจคุณค่า และ ความหมายของบุญที่กระท า บุคคลใดตั้งใจทอดกฐิน แล้วในชีวิตหนึ่ง การท าบุญ จะเป็ นเงินก็ตาม จะเป็ นของก็ตาม ถือว่า ทุกอย่างเป็ น อานิสงส์กฐิน ในฐานะที่เป็ นเจ้าภาพกฐินก็ดี หรือ เป็ น บริวารกฐินก็ดี แต่ถ้าเป็ นกฐินสามัคคี หมายความว่า ทุกคนจะเป็ น เจ้าภาพเหมือนกันหมด จะท าบุญน้อย จะท าบุญมาก มีอานิสงส์เสมอ กัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน การท าบุญถวายผ้ากฐินหรือที่เรียกกันติดปากว่า ทอดกฐิน ก็คือ การทอดหรือวางผ้าลงไปแล้วกล่าวค าถวายในท่ามกลางสงฆ์ และต้อง ท าในเวลาที่ก าหนด ๑ เดือน ถ้าท าก่อนหรือหลังไม่ถือว่าเป็นกฐิน กฐิน คือชื่อของผ้า ที่ถวายแก่สงฆ์เพื่อท าจีวรตามแบบหรือกรอบไม้ บุญกิริยา และสังฆกรรม การท าบุญถวายผ้ากฐินเพื่อให้สงฆ์ท าเป็ นจีวร ซึ่งต้อง เป็ นพระสงฆ์ผู้จ าพรรษาอยู่ในวัดใดวัดหนึ่งครบ ๓ เดือน ทั้งนี้ เพื่อ สงเคราะห์ผู้ประพฤติชอบให้มีผ้านุ่งหรือผ้าใหม่ผลัดเปลี่ยนของเก่าที่จะ ขาดหรือช ารุด การบอกบุญ เป็นการต่อบุญเหมือนชาชัก โยมลูกมีน ้ามีแหล่งน ้า มีมือสองมือ ต่อมือไปทอดๆ ปลายทางคืออะไร การตื่นรู้และหลุดพ้น วัฏสงสาร น ้าคือองค์ความรู้ ปลายทางทุกคนมีน ้าในมือ ถ่ายทอดและ เติมไปเรื่อย ๆ องค์ความรู้ที่หลั่งไหลให้มนุษย์ไม่มีที่สิ้ นสุด หมุนเวียนไป เรื่อยๆ พระท่านที่หลุดพ้นท่านก าหนดจิตนิ่งแล้ว จิตหลุดจากวงโคจร หรือวัฏสงสาร ทุกข์จากวัฏฏะของเรา เราต้องดับทุกข์ด้วยสติ ตื่นรู้แล้ว ปล่อยทุกอย่างให้เป็นอัตโนมัติ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ฐานจิตต้องแน่น จริตการภาวนาของข้าพเจ้าคือ การสวดมนต์ปู่ บอกว่าการสวดมนต์นั้น


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 129 ถือได้ว่าเป็ นการท าสมาธิแบบเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง และสมาธิจากการ สวดมนต์นี้ ก็จะเป็ นพื้ นฐานในการท าสมาธิแบบอื่น ๆ และในขั้นสูง ต่อไป จนไปถึงขั้นสูงสุดของการภาวนาคือการเจริญปัญญา หรือ วิปัสสนาภาวนาต่อไป การสวดมนต์ภาวนา ท าสมาธิ พิจารณาธรรม จะ ท าให้จิตมีพลัง มีสติ มีปัญญาที่ถูกต้อง รู้เท่าทันต่อปัญหาที่เกิดขึ้ น พร้อมที่จะจัดการดูแลแก้ไขชีวิตของตนได้อย่างเรียบร้อย อันจะน าไปสู่ ความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต การมักน้อย เพราะต้องการให้กิเลสน้อยบางลง มักน้อยในปัจจัย เครื่องแต่งองค์ ประหยัด ประมาณการใช้ ให้เหมาะกับฐานะ รายได้ จ าเป็นจึงใช้ มันจะท าให้ตัณหาเบาบาง สันโดษ รู้จักยินดีพอใช้กับสมบัติ ที่แสวงหามาได้ ไม่น้อยเนื้ อต ่าใจมีเท่าไรก็พอใจ ถือสันโดษ มีสันโดษ ความอยากที่เกินขอบเขตจะเบาบางลง “เกิดภพไหน ชาติไหนเจ้าก็ฉลาดแบบนี้ ” ฉลาดทางจิตยกระดับจิต น้อมน าค าสอนของพระพุทธองค์ เดิน ตามพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีกุศโลบายในการเดินจิต เดินใจ กระแส จิตเราไปสายไหน กระแสจิตไปทางสายกรรมฐานก็ดึงกระแสธรรมที่ เป็ นกระแสเดียวกัน ปู่ บอกว่ากระแสเดียวกันเชื่อมจิตสอนกันได้ง่าย แต่ ต้องมีบุญเก่าของเราด้วย ให้มุ่งมั่นและศรัทธา ศรัทธาท าให้เกิด ปาฏิหาริย์ มีตรรกะมากไปในชีวิตก็ใช้ชีวิตล าบาก พญานาคนอกจากจะ สร้างอาณาจักรสร้างอาณาเขตของตนเอง แล้วยังชอบสร้างบุญบารมี ชอบคนสวดมนต์นั่งสมาธิภาวนาอีกด้วย คนที่รวยจากพญานาคต้องมี บุญของตนเองมาก่อนจึงจะเบิกทรัพย์พญานาคได้ สิ่งส าคัญที่สุดต้องมี สัจจะวาจา การมีบุญของเราต้องมาสร้างบารมีมาสร้างบุญมาก่อน เหมือนเราเก็บเงินไว้ในธนาคารบุญ งานที่คุณท าใช้บุญเก่าหรือเปล่า หรือสร้างวิบากกรรมเพิ่มขึ้ นมาใหม่ หรือสิ่งที่ท ามาท าลายบุญเก่า ท่าน


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 130 ให้มีสัมมาอาชีวะเลี้ ยงชีวิตด้วยการไม่เบียดเบียนใคร และเป็นการท ามา หาเลี้ ยงชีพที่สร้างบุญบารมีก็สามารถพลิกฟ้าพลิกดินได้ บางคนที่บุญ เก่าก็ไม่มีบุญใหม่ก็ไม่เติมบุญตนเองไม่พอเบิกของเก่ามาใช้จนเกลี้ ยง ขอได้แต่ต้องชดใช้หนี้ กรรม ได้เงินมาเป็ นปัญหา พญานาคสายสีขาว สายโพธิสัตว์ ขอแล้วได้ท่านช่วยทุกคนแต่ไม่ล่วงกรรม สีทองเตรียม ปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นสร้างบารมีทนุบ ารุงศาสนา สายสีด าสายถ ้าเฝ้า สมบัติขอแล้วให้ง่าย สายสีเขียวแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์พญานาค ใช้เวลาบ าเพ็ญเพียรนานกว่าจะสร้างบารมีให้เต็ม แต่คนเอาไปท าชั่ว ไม่ ท าตามสัจจะวาจา จะส่งผลสะท้อนกลับต่อผู้นั้นเองเพราะกรรมคือการ กระท า การสร้างบุญสร้างกุศลทะนุบ ารุงพุทธศาสนา สร้างวัด สร้าง โบสถ์ สร้างวิหารต่างๆ สร้างไปเลย สร้างแล้วปล่อย อย่าไปยึด ความดี เรามีอยู่จิต สร้างความดีอะไรก็ไหลเข้าสู่จิต เรามาสร้างบารมี เงินก็วิ่ง ตามเราเอง การยึดมั่นถือมั่นก่อให้เกิดราคะ โทสะ โมหะ ไม่ยึดไม่มีเชื้ อ ถ้าจิตไม่มีเชื้ อเหล่านี้ จิตก็ว่าง เพ่งเพื่อความหลุดพ้น ปล่อยวาง ภูมิจิต ภูมิธรรมพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสูงมาก ปริศนาธรรมที่ท่านสอนลึกซึ้ ง เกินสติปัญญาของปุถุชนที่ยังมีกิเลสหนาอยู่จะเข้าใจ “พัดลมถูกไฟไหม้ครึ่งหนึ่ง โชคดีมากที่ถอดปลั๊กออกทัน ไม่ให้ มันลามไปไหม้ถึงพื้นข้างล่าง” วัดเปรียบเหมือนพัดลม ไฟ คือกิเลสมนุษย์ที่รุ่มร้อน พัดให้เย็น ลง เมื่อเราได้มาอยู่ในวัด เรารู้สึกเย็นกายเย็นใจ แต่กิเลสของคนก็ลาม มาถึงวัดวาอารามไม่กลัวบาปกลัวกรรม ปู่ ท่านสอนเป็ นปริศนาธรรม พัดลมเอาลมมาพัดความร้อนให้เย็นลง ท่านให้มองกิเลสมนุษย์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย พัดลมหมุนไปด้านเดียวเหมือนวัฏจักร ห้ามไม่ได้ฝืนไม่ได้ ต้องถอดปลั๊กทิ้ งเท่านั้ นจึงจะหยุดมันได้ ไฟไหม้เกิดจากการ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 131 เปลี่ยนแปลงที่เกินก าลัง เกินธรรมชาติ เกินการควบคุม โครงสร้างมัน เพี้ ยน เกิด แก่ เจ็บ ตาย มีคนมาท าลาย ถอดปลั๊กหยุดสร้างความ ฟุ่ มเฟื อย ถ้าปล่อยไว้ไหม้หมด กฐินในปัจจุบันท าตามประเพณี เป็ นวง โคจร ได้กฐินมาก็บ ารุงวัดวาอาราม บ ารุงศาสนา เหนือธรรมชาติมีการ สมโภชมีมหรสพต่างๆ เผาสถานที่คือการท าลายความสงบของวัด ไฟ ลามคือความผิดธรรมชาติ เขตวัดเป็ นเขตอภัยทาน หรือเป็ นที่สงวนไว้ เข้ามาท าอะไร เอากิเลสเผาได้ครั้งเดียว เห็นแล้วผิดปกติ ถอดปลั๊กคือ หยุด ต้นกฐิน คือต้นบุญที่งอกเงยออกมา สมัยก่อนเอาผ้ายาวไปผูกไว้ ที่ต้นไม้ เป็ นผ้ายาวๆ ต้นกฐินคือต้นไม้ที่มีผ้าผืนยาว เมื่อเราเอามือไป จับ ได้พลังบุญจากต้นถ่ายทอดมาถึงเรา ต้นไม้ที่แห้งแล้ง เราเอาผ้าไป ผูกพยุงต้นให้งอกงาม ต้นไม้ที่แห้งแล้งเปรียบวัดที่ขาดแคลนไม่ค่อยมี ปัจจัยทางโลก พอเราเอาผ้าไปผูกส่งต่อพลังก็ได้ปัจจัยมาบ ารุงวัด บ ารุง ศาสนาพยุงให้ต้นไม้นั้นเจริญขึ้ นมาอีกครั้ง การสานต่อบุญกุศลเป็ นสิ่งที่ ดี บางครั้งมนุษย์เราสร้างโบสถ์วิหารท าคนเดียวไม่ได้จึงต้องสานบุญ ต่อๆ กันไป แต่ถ้าบุคคลผู้นั้นมีบุญเก่าติดตามมามาก มีความพร้อม เกิดมามีชาติตระกูลดี ฐานะดี สติปัญญาดี รูปร่างหน้าตาดีมีโอกาสท า ความดีได้ง่ายกว่าคนอื่น อีกทั้งได้ท าความดีเพิ่มอีกในภพชาติปัจจุบัน เป็นการต่อแต้มบุญ แต่คนที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์มีบุญเก่าไม่เท่ากัน เรา ก็บอกบุญให้พวกเขาได้มีโอกาสสานบุญไปด้วยกัน การสานบุญก็เหมือน การจุดเทียนให้ความสว่าง เรามีเทียนอยู่เล่มหนึ่ง คนอื่นมาจุดเทียนต่อ จากเทียนเรา เทียนหลายๆ เล่ม ท าให้ก็ความสว่างมากขึ้ น “ฝอยขัดหม้อสีเขียว ตกลงไปในหม้อแกง” ฝอยขัดหม้อเป็นอุปกรณ์ส าคัญอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในการขจัดคราบ สิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนภาชนะถ้วยชาม อุปกรณ์เครื่องครัวต่าง ๆ ให้


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 132 สามารถขจัดคราบเปื้ อนนั้นได้ง่ายขึ้ น เนื่องจากคราบสกปรกบางอย่าง ไม่สามารถล้างได้ด้วยมือเปล่าๆ กิเลสของมนุษย์เราก็เช่นเดียวกัน ต้อง ขัดถูและล้างทุกๆ วัน เพราะถ้ากิเลสเกาะหนาเป็ นหินจะล้างออกยาก ต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างมาก ต้องขัดต้องเกลา “ฝอยขัดหม้อ สีเขียว ตกลงไปในแกง” ปู่ สอนว่าจิตศรัทธามีอุปสรรค สติปัญญาเรา กรองได้ว่า กินได้หรือ กินไม่ได้ เจตนาตั้งต้นดีเป็ นบุญเป็ นกุศล เจตนา ตั้งต้นไม่ดีของไม่มีประโยชน์ดูภายนอกเราไม่รู้หรอกว่าข้างในจิตผ่อง แผ้วแค่ไหน ในย่ามหรือกระเป๋ ามีอะไรอยู่ เราไม่รู้ เปรียบเหมือน กอง ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจคนเข้าเมือง คนที่ผ่านเข้ามาในประเทศ แต่งตัวดี ดูดีก็ให้ผ่านเข้าไป ทุกอย่างมีขั้นมีตอน ตรวจสอบแยกแยะ ความละเอียดความหยาบ คนเดียวที่รู้คือตัวเราเอง พิสูจน์ได้ที่จิต ผลผลิต คือแกง จิตคือตัวรู้ เป็ นการชิมรสชาติถ้าเจอคนจริตหยาบ ไม่ ต้องไปอธิบาย เราไม่มีหน้าที่เดินไปสอนเขา ถ้าคนที่จริตตรงกันกับเรา เขาจะเดินเข้ามาหาเราเอง แกงหนึ่งหม้อ คือ กฐิน เม็ดเงินหรือปัจจัยทางโลกก็มาจาก ศรัทธาของแต่ละคนที่ร่วมบุญ แต่ละคนมีศรัทธาและเจตนาไม่เท่ากัน ถ้าการกระท าหรือค าพูดของเขา ที่เขาไม่ได้เจตนาเราก็หยิบออกไม่ต้อง เอาไปคิด ไม่ต้องใส่ใจ พื้ นฐานธรรมะของพระพุทธองค์คือ อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ท าบุญแล้วทุกข์อย่าท า โยมลูกขยันขัดแต่ต้องดู หม้อด้วย ดูที่เจตนา เจตนาดีคือ กฐินที่เราตั้งใจท าแกงถวายพระ พระ ท่านฉันได้ หม้อที่มีแกง แล้วบังเอิญฝอยขัดหม้อตกลงไป คนนี้ จิตตั้งต้น ไม่ผ่านจริตหยาบ คนแบบนี้ ยิ่งกว่าบัวใต้ตม ไม่ได้ควักอะไรเลยแต่อยาก ได้ ท่านให้เลือกท า เต็มใจท า เราไม่เดือดร้อน ปกติขัดหม้อไม่มีแกงเป็น หม้อเปล่าหม้อด าๆ ผิดตรงที่มีแกงอยู่ในหม้อ ขัดไม่ได้ขัดให้ตายก็ขัดไม่ ออก ถ้าขัดแล้วมันเลอะก็วาง ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา บางคนเจตนาดี แต่


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 133 พฤติกรรมการแสดงออกไม่ดี ก็ให้อภัย แต่ถ้าเราได้ตั้งใจพร้อมการ ปฏิบัติไปด้วย เราขัดหม้อสะอาดแล้วก็จบ ยุคนี้ เป็ นยุคกรองคนเทกระจาด คัดกรองคน ทรายละเอียด ทรายหยาบ ทรายละเอียดไม่คิดมาก รอด ตกตะกอนทางจิตแยกดีแยก ชั่วได้เราอยู่กับโลกที่วุ่นวายต้องได้เจอทุกข์บ้างเป็ นธรรมดา แต่ถ้าผู้มี ธรรมในใจย่อมไม่บอบช ้ามาก บุญบาปอยู่ที่จิต ทรายหยาบก็ถูกคัด ออกไปเททิ้ ง เราไม่ขัดเกลาให้คนอื่น ใครจะเดินกับเราก็ยืนมือมาแตะ พิสูจน์ศรัทธาอยู่ที่ปาฏิหาริย์ ท่านให้จิตมุ่งมั่น เดินทางสายธรรม “แม่ลูกนั่งข้างๆ กองฟืนที่สุมไฟร้อน” ไฟคือกิเลส โลภะ โมหะ โทสะ เขาก็ยังย่างใจตัวเองอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันร้อน แต่ก็ไม่ลุกไปไหน อยู่กับทุกข์จนชิน ปู่ บอกว่าทางที่ มันตันให้เปลี่ยนเส้นทางเดินใหม่ บางครั้งเราไปในทางที่มันไม่คุ้ยเคย บ้าง หินมันกระเด็นมาใส่ เราก็ให้จดจ าไว้ เพราะถ้าเดินบนเส้นทางเดิม นานๆ เป็ นสิบๆ ปี ศัตรูรู้ทันมันก็ดักท าร้าย หรือเจ้ากรรมนายเวรตาม เจอ เขาเดินเส้นทางเดิมมานาน โดนลอบยิงก็หลบไม่ทันต้องบาดเจ็บ คนเรามีเส้นทางให้เลือกเดินหลายทาง ต้องปรับเวลา ปรับสภาพ ถ้ายัง มีลมหายใจอยู่ ปากยงัสามารถทา ความดีไดอ้ยู่สิ่งศกัด์ิท่านไม่ปล่อยให้ ตายง่ายหรอก ท่านผ่านปากให้ไปสอนคนอื่น ตอนนี้กัลยาณมิตรบอกว่า ได้กลิ่นหอม รู้สึกเบาสบาย คนที่จริตจิตมันล็อค จิตข้างในมันขึ้ นสนิม เหมือนมีหีบหนึ่งใบ เอากุญแจมาไข เอาอะไรมาแงะออก ฟันมันยังไงก็ไม่ออก มันเปิ ดไม่ได้ ท่านให้ยกหีบออกไปเลย อย่ามัวแต่ไปยึดติด เก็บหีบเก่าเอาไว้จนด า จน มันขึ้ นสนิม ข้างในหีบใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้มันหนัก แบกไว้ไม่ไหว อยากไปหาคนมาช่วยเปิ ดท าไม ยกมันออกไปมันก็ง่าย เหมือนช้างตัว เล็กๆ มีโซ่ล่ามไว้ก็กลัวโซ่ ไม่กล้าไปไหน แต่พอช้างตัวโตมีก าลังเยอะ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 134 แค่กระชากโซ่ทิ้ งก็เป็ นอิสระได้ เหมือนจิตที่มีพลังก้าวออกมาจากความ กลัวได้การเดินทางธรรมชาติคนที่เดินไปในทางเดิมๆ เจ้ากรรมนาย เวรก็ตามมาเจอ ให้เดินเส้นทางใหม่บ้าง เหมือนภูมิเจ้าที่อยู่บ้านหลังนี้ เป็ นสิบๆ ปี ได้กินแต่ซาลาเปาก็เบื่อซาลาเปา ย้ายที่อยู่ไปหาที่อยู่ใหม่ ฉันใดก็ฉันนั้น วันนี้ เรามีฝุ่ นผง เราก็ปัดก็ถู ขัดถูปัดกวาดทุกวันมันก็ สะอาดเอง


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 135 บทที่ ๑๕ จิตร่มเย็นเมื่อมีวิหารจิตวิหารใจ อนัโรคภยัท้งัไทย นานาชาติ จักอุบาทเกิดเปลี่ยนเวียนในคน ให้ทุกผู้ทุกนามสร้างกุศล เกิดมงคลจักอยู่รอดและปลอดภัย มนุษย์ที่เกิดมามีชีวิตในโลกย่อมบาดเจ็บล้มตาย มันก็ย่อม เป็ นไปในทางโลก ในช่วงนี้ เหมือนโลกมนุษย์ถูกลูกอุกาบาตชน หรือ เหมือนถูกขวานจาม ย่อมมีคนรอดหรือไม่รอด รอดคือรอดจากอุปสรรค ปัญหาในปัจจุบัน หรือถ้าไม่รอดก็แล้วแต่ว่าคนจะมอง บางคนก็ปรับตัว ได้ การบาดเจ็บย่อมมีกันทุกคน ขึ้ นอยู่ว่าบาดเจ็บมากหรือบาดเจ็บน้อย บางคนก็เดินต่อไปได้เพราะบาดแผลหายไว บางคนก็เดินต่อไปไม่ไหว เพราะพลังเยียวยาหมดไป คือหมดใจที่จะไปต่อ ช่วงโรคระบาดมนุษย์เหมือนถูกคลื่นสึนามิพัด ธุรกิจต่างๆ ก็ เหมือนกัน เปรียบเหมือนเราขึ้ นเรือส าเภา ไปในกลางทะเล ธุรกิจใหม่ที่ ก าลังท าอยู่เหมือนเรือกระดาษ มันยังไม่มั่นคง ให้ล้างใจ หยุดคิดถึง อดีต ปล่อยวางอนาคต อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ พอเรามีสติจะเห็น ปัญหา และจะเห็นทางออก ใช้สติปัญญาแก้ปัญหา ขอให้เชื่อมั่นศรัทธา ในตัวเอง ท าให้เต็มที่แบบไม่คาดหวัง เพราะถ้าเราคาดหวังแล้วไม่ได้ อย่างที่หวังก็เป็ นทุกข์ท าให้หมดใจ คิดว่าตนเองเจอทางตัน แต่ถ้าเราท า เต็มที่โดยไม่คาดหวัง ท าจนสุดใจแล้ว ผลที่ได้จะเป็ นยังไงก็ช่างเพราะ เราท าสุดๆ แล้ว ใจเราก็โล่ง โปร่ง เบาสบาย ใจใส ก็เหมือนน ้าใส สามารถมองเห็นอะไรที่อยู่ใต้น ้า พอใจเราเบาสบาย เราก็มองเห็น


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 136 ปัญหา และแก้ไขได้ตรงจุด เพราะพลังศรัทธาบ าเพ็ญเพียรหรือความ อดทนแบบไม่มีเงื่อนไข ก็จะได้รับสิ่งตอบแทนแบบไม่มีเงื่อนไข เช่นเดียวกัน ต้องเข้าใจสัจธรรมของโลก เพราะทุกอย่างล้วนเกิดขึ้ น ตั้งอยู่แล้วดับไป มีฟ้ามืดฉันใด ย่อมมีฟ้าสว่างฉันนั้น การเกิดขึ้ นไม่ยาก แต่การประคับประคองไม่ให้ตายนั้นยาก “คนตกหลุมขี้ โคลน เห็นแต่ลูกกะตา” การตกในหลุมแห่งความทุกข์ปล่อยให้กิเลสห่อหุ้ม บุญน้อย ใจ ไม่ดีไม่หนักแน่น ลอยไปตามกระแสโลกที่มากระทบ เพราะจิตไม่หนัก แน่น จึงไหลไปตามกิเลส ฝึกจิตให้เข้มแข็ง ตั้งมั่น เอาปัญญาน า เห็นก็ สักแต่เห็น ดีไม่ยึด ไม่ยึดถือดีทางโลก เกิดแล้วยึดถือไว้ให้เป็นทุกข์ท าไม กดทับความทุกข์เอาไว้ ต้องระเบิดออกมา เพราะถ้าจิตตก ก็เปไปเปมา ไม่มีสติปัญญาแยกแยะ บางคนทุกข์แล้วบวช ผ้าเหลืองบังหมด เขาได้ บุญในรูปลักษณ์เป็ นพระ สวดมนต์ก็อัญเชิญพระมาสวด ตัวเองแค่ห่ม ผ้าเหลือง การบวชพระนั้นเวลาบวชมีชื่อใหม่ ในการบวชเหมือนได้เป็ น คนใหม่ ได้เกิดใหม่ในร่มกาสาวพัสตร์แต่จิตมีอัตตาหรืออีโก้เหนือ มนุษย์ แกะออกไม่ได้ แถมยังควบแน่นเข้าไปอีก บางคนเคยเก่ง อยู่ใน จุดสูงสุดมาก่อน เอากิเลสน าทางกระตือรือร้นเกินไป ห่มผ้าเหลืองแต่ กิเลสยังไม่ลด กิเลสแรงนิวรณ์มีกี่อย่างเหมาหมด ปฏิบัติแล้วต้องเบา แบบนี้ บวชก็ช่วยไม่ได้ต้องไปหาจิตแพทย์เล่าให้ฟังคือการถ่ายออก คนที่มีทุกข์แล้วกระจายทุกข์ เจ็บปวดก็ประกาศให้คนอื่นรู้ ความ เจ็บปวด ตีโพยตีพายในสิ่งที่คุณเป็ นท าให้คนอื่นเห็น ถ้าเรานิ่งอยู่คน เดียวคนอื่นไม่รู้ ท าให้คนอื่นทุกข์ตามเรา เหมือนคนลงเรือล าเดียวกัน เวลาทุกข์ก็ต้องทุกข์ด้วยกันเวลาสุขก็สุขด้วยกัน การส่งออกความทุกข์แต่ ไม่หายทุกข์กลับท าให้อีกคนทุกข์ด้วย การเล่าให้คนอื่นฟังเป็ นการโยน ทุกข์ เช่น เรากินอะไรอร่อยติดปาก ตักให้คนอื่นกินด้วย คนอื่นก็อร่อย


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 137 ด้วย เพราะเราจ ารสชาติได้ติดปาก ทุกข์สามต่อให้สามคนทุกข์ เช่น เรา มีทุกข์แล้วดีดออกไปให้เพื่อน แต่เพื่อนดีดกลับ เราดีดไปมือขวาเขาดีด กลับมามือซ้าย ก็เหมือนการย ้าทุกข์ก็ทุกข์เพิ่มอีกสองเท่า กระจายทุกข์ได้แต่อย่าดราม่าหรือมากเกินงาม การโมโหถึงขีด สุด ก็กระจายทุกข์โมโหคนที่ท าให้เราไม่พอใจ ก็หาเพื่อนมาร่วมเป็ น พรรคเป็ นพวก หรือแนวร่วม แต่ไม่มองความเป็ นจริง มีทุกข์ก็ต่อทุกข์ พอถูกดีดกลับมาทุกข์หนักกว่าเดิม การไม่ดราม่าคือ เจอน ้าท่วมใช้ชีวิต ล าบาก ต้องการกระจายทุกข์ให้ออกมาให้ชาวโลกรับรู้ ถ้าเก็บเอาไว้คน เดียวก็เป็ นโรคซึมเศร้า ระบายได้แต่อย่าดราม่าเพราะเป็ นทุกข์สองกอง หนักแล้วยังย ้าทุกข์เข้าไปอีก จิตมนุษย์ชอบย ้าคิดย ้าท า พูดไปหนึ่งครั้งก็ วงกลมไว้ พูดอีกก็วงกลมอีก พูดอีกก็วงกลมอีก จนวงกลมขยายใหญ่เท่า ลูกปิ งปองแล้วใครเป็ นคนแบก ก็เรานั่นแหละเป็ นคนแบก เหมือนการ กระจายบุญก็คล้ายกันแต่มันเบาสบาย เราอาศัยโลกได้แต่ต้องไม่ติดใน โลก “คนเดินคอตก” ช่วงวิกฤติโรคระบาดธุรกิจต่างๆ เปรียบเหมือนเรือส าเภาลอยไป ในทะเล เจอคลื่นความแปรปรวน ธุรกิจขนาดใหญ่เหมือนเรือล าใหญ่ ไม่มีโอกาสล่ม แต่ธุรกิจขนาดเล็กเหมือนเรือล าเล็ก ต้องช่วยกัน ประคับประคอง มันก็ผ่านไปได้หลายธุรกิจต้องประคองตัวให้ธุรกิจอยู่ รอด มีการปลดพนักงานออก แต่ก็ยังให้เงินชดเชยแก่พนักงาน นั่นเป็ น เสมือนห่วงยางที่ช่วยพยุงพนักงานเหล่านั้นประคองตน และครอบครัว ของพวกเขาให้รอดกลางทะเล แต่บางธุรกิจให้คนออกโดยไม่บอก ล่วงหน้าแถมยังไม่ให้เงินชดเชย พอมาสถานการณ์ที่ค่อยๆ ดีขึ้ น หลายๆ ธุรกิจกลับฟื้ นตัวขึ้ นมาใหม่ ก็เรียกพนักงานกลับมาท างาน เหมือนเดิม ต่างคนต่างตอบแทนต่างช่วยเหลือกัน เราช่วยเขา พอถึง


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 138 เวลาเราล าบากเขาก็กลับมาช่วยเรา แต่คนบางพวกที่จิตตก ขาดสติตื่น ตระหนกท าอะไรโดยขาดสติ คิดอะไรง่ายๆ ไม่มองการณ์ไกล ตอนนี้ พวกเขาทั้งหลายได้รับผลแห่งการกระท านั้น ท่านจะเปิดให้เห็นทุกอย่าง ผลการกระท าคือสอบตก เพราะไม่อ่านหนังสือสอบ ต้องแก้ปัญหา กันเอง ปล่อยเขา เราอยู่ได้สบาย การรู้สึกความละอายใจและเกรงกลัว บาป เพราะเกิดหิริโอตตัปปะ เขาจะมีกรอบมากขึ้ นคือได้สติพวกเขา เดินก้มหน้าดูแต่ทางเดิน เดินคอตก แถมคิดถึงอนาคตไม่ออก พะวงแต่ กับตัวเลข คิดแต่จะลดค่าใช้จ่าย องค์กรอยู่ได้เพราะพนักงาน พนักงาน ที่ภักดีต่อองค์กรเป็นตะปูยึด ตะปูอันเดียวแต่สามารถแขวนภาพไว้ไม่ให้ หล่นลงได้ แม้มันจะแกว่งไปบ้าง แต่คนที่เอาอารมณ์น า กิเลสหนา จะ มองว่าต้องตอกตะปูไว้สี่มุม เพราะเขามองต ่า แต่โยมลูกมองสูง ตะปูอัน ใหญ่แค่อันเดียวก็พอแล้ว ถ้ามีลูกค้าหลักลูกค้ารายใหญ่ การคิดถึงแต่ ก าไรเหมือนตอกตะปูสี่มุม ถอยคนละก้าว ภาพเดียวมีตะปูอันเดียว แขวนไว้ แม้มันจะแกว่งไปบ้าง แต่มันยังไม่ล้ม คนท าบัญชี นักลงทุนจะ มองแต่ตัวเลข โฟกัสแต่ค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ***** “บางคนสงสัยว่าพญานาคมีจริงหรือไม่มีจริง” ปู่ สอนว่าบางเรื่องแค่จิตรับรู้ก็พอ มิจ าเป็ นต้องบอกด้วยค าพูดก็ ได้ หากบุญสัมพันธ์กันก็จะได้พบเจออะไรอีกหลายอย่าง เรื่องบางเรื่อง ไม่จ าเป็ นต้องค้นหา เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เอง เหล่าพระอริยสงฆ์ทั้งหลายที่ แก่กล้าในฌานสมาบัติ ส าเร็จอภิญญาสามารถสัมผัสกับสิ่งลี้ ลับได้ด้วย จิตที่ละเอียดอย่างหลวงปู่ ชอบ ฐานสโม ท่านเป็นผูท้รงศีลบริสุทธ์ิและ บ าเพ็ญธรรมจนได้ญานวิสุทธ์ิแต่บุคคลที่สัมผัสกับพญานาคหรือ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 139 สามารถมองเห็นพญานาคได้ในลักษณะที่เป็ นคนธรรมดาไม่มีฌาณ สมาบัติ มาจากพญานาคตนนั้น ตั้งใจเนรมิตให้เห็น หรือเพราะมีความ เกี่ยวข้องกันในด้านบุญสัมพันธ์ หรือกรรมสัมพันธ์กันในอดีตชาติ เรื่อง โลกทิพย์เป็ นโลกที่ไปรู้เป็ นเห็นได้เฉพาะตน เป็ นเรื่องเฉพาะบุคคล ให้ ตั้งใจปฏิบัติตามค าสอนของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติศีล ภาวนา นั่งสมาธิ ให้ ท าอย่างจริงจัง แล้วความเป็ นทิพย์จะเกิดแก่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเอง พญานาค ปาฏิหาริย์ต่างๆ จะเกิดขึ้ นให้เห็นเองเหนือสิ่งอื่นใด เรา ประพฤติและปฏิบัติให้เข้าถึงหลักธรรม ตามค าสอนของพระพุทธองค์ “หน้าปกต้องมีบทขอขมาพระรัตนตรัย และบทคาถาพญานาค” ปู่ บอกว่าเราต้องอัญเชิญ องค์ความรู้ที่ครูบาอาจารย์ท่านมา ประสิทธ์ิไม่ใช่เรื่องที่เราแต่งขึ้ นเอง ท่านมาโปรดมาไหว้วานให้ท า ความ ดี ค าพูดล่วงกรรมของเราต่อคนอื่น เราเจตนาเพื่อให้เขาพ้นทุกข์เราได้ เห็น ในสิ่งที่ท่านให้เห็นมีรูปท่านศรีนคราปาวาฬนะนาคราช เหมือนเข้า ตามตรอกออกทางประตูเชื่อมจิตเพื่อด าดิ่งลงไป ข้างล่าง พูดด้วยตา เนื้ อมโนจิตต้องแข็งแรงมาก บรรยากาศเปิดให้เห็น อัญเชิญบรมครูทุกๆ พระองค์ มีบทสวดก ากับอัญเชิญครูบาอาจารย์มาสถิตในหน้าปก ท่าน สอนในโลกธรรมที่เห็นชัดที่เกิดขึ้ น ตั้งอยู่แล้วดับไป มันเป็ นสิ่งไม่เที่ยง เจอแบบทดสอบ เจอปัญหาต้องตีโจทย์เราค้นพบมีเหตุให้ดับทุกข์ ธรรมะเหมือนฝนมาโปรยเป็ นน ้าทิพย์ให้เรา ธรรมทานสอดแทรก มี ทุกข์มาก อ่านแล้วหายเลย จิตติดลบจมแบบคนที่ทุกข์หนัก อ่านแล้ว ค่อยๆ คิดตาม เป็ นความหวังเล็กๆ ให้เขาพ้นทุกข์ดีกว่านั่งจมปรักไม่ ท าอะไรเลย พลังงานเหนือมนุษย์ ส่งพลังงานมา เหมือนเราได้ช่วยคนที่ เขาทุกข์ใจ เจอสิ่งไม่ดีเป็นพิษเป็นภัยต่อจิตใจ เหมือนได้ช่วยคนติดยาให้ เลิกยาได้ ท าดีแล้วไม่คาดหวัง ทุกอย่างที่เราท าด้วยใจ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 140 ปู่ สอนให้มาดูตัวเอง ปรับโลกให้สดใส อะไรที่มันเป็ นพิษ ไม่ว่า บรรยากาศ หรือสิ่งแวดล้อมที่เป็ นอยู่ เรารู้สึกเจ็บปวด เมื่อจิตพิจารณา จิตเขาไม่ได้ปวดกับเราพิจารณาทุกอย่างให้เป็นธรรม “ลูกเมิ่นพ่อเมิ่นแม่ มีแต่นารีทิพย์คนเดียวที่แตกเหล่าแตกกอ กว่าเขา (ต่างจากคนอื่นเขา)” บารมีคน แต่ละคนบารมีสร้างมาไม่เหมือนกัน เราเกิดมาภพ ไหนชาติไหนเราก็ชอบสร้างแต่บุญสร้างกุศล มันก็เป็ นอ านาจวาสนา พอเป็ นอ านาจวาสนา มันก็กลายเป็ นบารมี แล้วก็จะก้าวพ้นภพทั้งสาม อย่างเจ้านางก็เหมือนกันเป็ นคนที่ชอบสะสมบุญ บารมีมิใช่ว่าจะสร้าง กันง่ายๆ การที่คน คนหนึ่งที่มีบารมีก็ต้องผ่านการ สร้างทาน ศีล สมาธิ ภาวนา คนมีบารมี จะเป็ นบุคคลที่มีเมตตาธรรมสูง ความมี เมตตาจะท าให้เราเข้าใจผู้คนมากขึ้ น เพราะเรามีพรหมวิหารสี่ เขาพูด ไม่ถูกหู เราก็เข้าใจ เขาท าไม่ถูกใจเรา เขามีความคิดแตกต่างจากเรา เราก็เข้าใจ เพราะเขาก็คือมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีทั้งความผิด ถูก ฉลาด โง่ ตัวเราเป็นคนที่เข้าใจเมตตาพรมหวิหาร “เจ้านางก็เป็ นเช่นนั้น เมตตาตัวเองจะได้อานิสงส์มาก เมตตา คนอื่นก็เช่นเดียวกัน ค าว่า เมตตาท าให้เราละตัวตนได้ เห็นใจผู้อื่นมาก ขึ้ น มอบความเมตตานี้ ให้กับผู้กับคนและให้กับตัวเองด้วย” เรายึดหลักธรรมค าสั่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านไม่มีอัตตาและตัวตน ท่านละไป การท าบุญท าทาน ความมีเมตตา ของเรา เราเท่านั้นที่จะให้เราข้ามพ้น ภพทั้งสาม ให้ละให้วางให้อภัย เรื่องของเขา อย่าให้มันรกใจเรา ไม่ต้องไปแช่งใครให้ปาบปากเราเป็ น การก่อวจีกรรม ต้นเหตุเกิดจากอะไร แก้ให้ถูก กรรมถ่ายทอดได้ ความ เชื่อความศรัทธาไม่เท่ากัน บางคนเขาไม่ได้ถูกหล่อหลอมมาในทางสิ่งที่ ควร กุศลคือความดีงามท าแล้วสบายใจ โล่ง โปร่งสบาย การท าบุญแบบ


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 141 หว่านแห่ ใครบอกอะไรก็ท า ท าบุญแบบโฟกัสตั้งใจเจาะจง พอเราก็ได้ ท าบุญแล้วแผ่ออกไป เราแผ่เมตตาปรารถนาให้มีความสุขทุกๆ ดวงจิต แผ่ความสุขความสว่างออกไปนอกตัว ***** พญานาคจะนอนเยอะ การนอนคือการจ าศีลหรือบ าเพ็ญเพียร บางตนนอนหลับเป็ นไปปีองค์ปู่ บางตนหลับยาว พอตื่นมาอีกที่ก็ร้อยปี แล้ว นารีทิพย์นั่งบ าเพ็ญเพียรให้ครบองค์สาม อดีต ปัจจุบัน มโนจิต นารีทิพย์จะช่วยกายสังขาร พลังบารมีเขาเยอะ เพราะเกิดมาก็ปฏิบัติ ในโลกธรรม ๘ มีแต่ความไม่เที่ยง จิตยุ่งทางโลกมากไปก็ทุกข์ปล่อยจิต ให้อยู่กับสมาธิให้จิตมีวิหารมีที่อยู่ คู่ธาตุจะได้เกิด ตามไปปฏิบัติทุกที่ ด ารงตนมีสัมมาทิฐิเราแค่ไม่อยากได้ของคนอื่น มนุษย์ต้องใช้ปัจจัยใน การครองชีพ ย่อมอยากได้เงินเป็ นธรรมดา ท างานต้องได้เงินเป็ น ค่าตอบแทน อย่าคิดผิดจุด คนที่ชอบเอากิเลสเอาอารมณ์น าทาง ธาตุ ไฟเข้าแทรกเพราะเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งมันก็ร้อน ยึดติดกับวัตถุไม่อยาก เสียแต่อยากได้ ไม่อยากลงทุนแต่อยากได้ก าไร ทั้งยังท าให้คนอื่นเขา ล าบากเดือดร้อน การคิดแต่สิ่งลบก่อน อะไรดีๆ มันก็ไม่มา กายสังขารญาณทิพย์บางคนสื่อสารภาษาแปลกๆ ที่เราไม่เข้าใจ ปู่ ให้เราใช้ปัญญาพินิจพิเคราะห์ เขาพูดภาษาอะไรเราไม่เข้าใจ มัน พิสูจน์ไม่ได้ ถ้าท าเสร็จแล้ว เราได้ เราสบายใจ บารมีเทพทุกพระองค์ มาช่วย แล้วแต่พลังญาณบารมี ญาณกับฌาน ญาณคือกระแสจิตที่ท่าน ส่งมา ฌานคือเราบ าเพ็ญกับท่าน แผ่เมตตาออกไป พญานาคชอบ ท าบุญกับพระอริยสงฆ์และอยากบวชในพุทธศาสนา สมัยในพุทธกาลมี นาคที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากได้แปลงกายแล้วมาบวช พอเวลา


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 142 นอนหลับได้กลายร่างเป็ นนาค เมื่อเพื่อนพระภิกษุเห็นจึงเกิดความกลัว จึงได้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าได้เรียกมาสอบถามพอรู้ ว่าเป็ นพญานาค ก็ขอให้สึกไปก่อน เพราะว่านาคนั้นบรรลุธรรมไม่ได้ ดังนั้นพระพุทธองค์ทรงเทศนาว่า กิจโฉ มนุสสะปฏิลาโภ กิจฉัง มัจจานะ ชีวิตัง กิจจัง สัทธัมมัสสวนัง กิจโฉ พุทธานมุปปาโท ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้ นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นการยาก พุทธภาษิตน้อมไปคิด ท าบุญท ากุศล น าสุขมาให้ วิธีสะสมบุญ กุศล ทานจะมีผลมาก ต้องประกอบดว้ยองค์๓ ใหท้านมีศีลบริสุทธ์ิมา ก่อน ไทยทาน แสวงหาไทยทานบริสุทธ์ิไม่หลอกลวงใครมา หาของไม่ มีโทษ ผูร้ับทานบริสุทธ์ิดว้ยศีล คุณธรรมอันสูงชาวพุทธ พระสงฆ์ที่ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็ นเนื้ อนาบุญ ท าบุญให้ยกไทยทานจบที่ศีรษะ น้อมอุทิศพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วอธิษฐานบูชาโลกุตระ พระ อริยสงฆ์ ธรรมในใจ พระคุณในใจ บางคนจริตการท าบุญด้วยเจตนาที่ ไม่บริสุทธ์ินัน่ ก็เป็นกรรมของเขา บางคนตั้งกองทุนธูปเทียน พูดไม่จริง ท าไม่ครบ ลดสเปกในการท าบุญ ปู่ให้คิดเสียว่า ถ้าเราเป็ นหมาก็ เหมือนมีเห็บ หมัดมาเกาะ เราก็สลัดออกจากตัวก็จบ คิดว่าเขาเป็ น บันไดให้เราเดินในทางสร้างบุญบารมี “ท่านมีนิสัยเงียบ ไม่ค่อยพูด แต่ที่สื่อให้รู้เพราะอยากสื่อสารกับ นารีทิพย์ตอนนี้ มีการบ าเพ็ญเพียรเหมือนจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้ น


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 143 เพราะมีการตรึงก าลังบรมครูทุกสายสวดมนต์ แม่ใส่ชุดขาว สวยมาก มี ความสุขมากนั่งพับดอกบัวถวายพระ พ่อก็ใส่ชุดขาวนั่งพับเพียบเย็บชุด เสื้อผ้าปักเป็นริ้ วๆ นั่งบนก้อนเมฆทั้งคู่” ท่านให้เห็นภาพเหมือนการฉายเป็ นภาพโดยไม่ต้องผ่านแกน สมอง ท าให้เอาไปตีโจทย์ให้แตก มนุษย์แบกบาปมาเกิด อนาคต ข้างหน้ามนุษย์จะตัวเล็กลงเพราะสร้างบาปมากขึ้ น เมื่ออยู่ใต้กรรม และผลของกรรมแล้ว ผู้ที่เชื่อกรรม และผลของกรรม ลงได้สนิทแล้ว เรียกว่าได้ทรัพย์ขุมต้น คือ ขุมศรัทธา เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ เชื่อว่า ท าดีได้ดี ท าชั่วได้ชั่ว และก็ จะรู้จักเลือกเฟ้น สิ่งที่ควรหรือไม่ควร เพราะได้ดวงตา ดวงปัญญาดวงธรรมแล้ว ขุมทรัพย์ภายในอื่นๆ ก็เปิดประตูรับไปในตัว “ถวายผลไม้” ท่านว่าถวายอะไรก็ได้พืชผักผลไม้ทุกชนิด อะไรที่กินได้ปลูกเอง ได้ไหว้ได้หมด คนโบราณยังเอาถั่วฝักยาวมาไหว้ ดอกแค มะเขือผัก ต่างๆ พริก มะขามเทศ ส้มโอ คนโบราณมีฟักห้อยอยู่เป็ นเรื่องปกติ อีก อย่างการท าความสะอาดบ้าน ขัดเตา ขัดห้องน ้า ก็เป็นการฝึกสมาธิ ขัด เกลากิเลสจิตเราจะว่าง จิตมนุษย์อยู่กับการด าเนินชีวิต เปิ ดจิตได้ด้วย ตาเนื้ อ ท าให้ผ่อนคลาย “การเลี้ ยงลูกของแม่ไก่” การเลี้ ยงลูกของคนสมัยนี้ มีคนบางคนเลี้ ยงลูกแบบไม่ฉลาด แม่สอนให้ท าตัวเป็ นแม่ไก่โอบอุ้มลูกไก่ ให้เลี้ ยงดูอยู่ตามธรรมชาติ ติด ดิน กินง่าย อยู่ง่าย อยากให้เลี้ ยงดูแลลูกเอง ลูกเต้าจะได้รู้ว่าแม่เป็ นอยู่


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 144 อย่างนี้สอนธรรมะแบบกายกรรมท าให้ลูกเห็น เด็กที่เห็นพ่อแม่ล าบาก เด็กเขาจะรู้สึกสัมผัสได้เอง เขาจะตั้งใจพัฒนาตัวเองหวังให้พ่อแม่มี ความสุขความสบายขึ้ น ช่วยงานพ่อแม่ทุกอย่างเท่าที่เขาท าได้ พอพวก เขาโตขึ้ นจะกลับมาตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ คนที่เป็ นพ่อแม่จะตายไปวัน ไหนยังไม่รู้เลย พ่อแม่ต้องเป็ นหลักให้ลูก คนอื่นที่เขาเลี้ ยงแทนหรือช่วย เลี้ ยงก็เป็ นเหมือนพระ เขาเลี้ ยงเขาก็สร้างบุญไป เป็ นบุญกุศลของเขา แต่ลูกเป็ นลูกตัวเองจะทุกข์ยากล าบากแค่ไหนลูกก็อยู่กับพ่อแม่ มิฉะนั้น จะล าบากเพราะสายใยไม่มี ความคิดของตนหม่นหมองวุ่นวาย ไม่วก ไม่วน แสนสุดสุขใจ เราเขานิ่งไว้ จะกลับกลายเป็นดี แสนสุดโศกเศร้า ตัวเราตัวเขา มัวหม่น หมองศรี ชักชั่ว อัปรีย์กาลีใจตน การคิดแต่เรื่องทุกข์ ความยึดมั่นถือมั่น โมหะ โทสะท าให้จิต หนัก จริตแบบนี้ท าให้จิตหนัก พอหนักมากมันก็ดิ่ง ให้เข้าใจกฎอนิจจัง คือความไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่มั่นคง ไม่แน่นอน เมื่อเข้าใจ เราก็เย็น ความสงบเกิดขึ้ นในใจ คนที่คิดถึงอดีต อนาคต คิดเยอะ คิดไกล จะ ระแวงไปหมด จนไม่กล้าท าอะไร ปู่ ให้คิดว่าท าดีได้ดี ท าชั่วได้ชั่ว มันดีด ออกเป็ นแรงกระตุ้น กรอบความดีเป็ นก าแพงดีดกลับไป เป็ นเหตุจับได้ แล้ว เราดักทางได้ ปัจจัยอยู่กับปัจจุบัน ให้เรามีหน้าที่กวาดบ้าน ปิ ดจิต ไป เราตื่นรู้แล้ว จุดเดินหรือจุดดับ ถ้าเดินต่อไปครูบาอาจารย์ก็จะช่วย น าทาง หาทางเลือกให้ตนเองหลายๆ ทาง อย่าจมอยู่กับปัญหา การหา เพื่อนร่วมแก้ มันจะยิ่งเป็นตัวปัญหา ท าปัญหาใหม่เพิ่ม ความเชื่อที่ขาด


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 145 ปัญญาน าจะท าให้งมงาย เพราะหลงในจิตที่เอากิเลสน าหน้า เชื่อในสิ่งที่ ตาเห็น จะยึดมั่นอะไร ยึดมั่นท าไม ถ้ามันเป็นของ ของเรายังไงมันก็เป็น ของเรา ท่านสอนให้ดูตัวเอง ไม่ให้เล่นเกมจิต ทุกวันนี้ คนบอบช ้า หากิน หนีตายกันทุกคน ให้เข้าใจกมลสันดานในจิตตนเองได้ชัด บางคนใช้ชีวิต ทางโลก เรียนรู้ทุกข์ และเรื่องโลกจนเบื่อ เจอวิบากกรรม สัมผัสวิบาก กรรม ถ้าจิตยังไม่เข็ดเรื่องทุกข์ กับสมุทัยก็กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก คนดีเบียดเบียนตนเอง ท าให้ตนเองทุกข์ การท าให้ใจตนเอง ทุกข์ เหตุเพราะเรายึดไปว่าเป็ นฉันคนดี เสียสละ ยอมเอาตัวเองเหน็ด เหนื่อย รู้สึกว่าไม่ได้รับยุติธรรม ท าทุกอย่างด้วยใจเป็นทุกข์ คิดว่าท าดี ไม่ได้ดี ท าไปเพราะความหวัง จะเป็ นทุกข์ตลอดเวลา เก็บกดเอาไว้ใน ใจ ภายนอกดูมีความสุข แต่ข้างในใจอมทุกข์มันกัดกร่อนใจตนเอง อดทนไม่กล้าที่จะแสดงออกมา หรือระบายออก เก็บกดเอาไว้ บังคับใจ ข่มไม่มีทางออกมันก็บวม พอมากเข้ามันก็ระเบิดออกมาเป็ นบ้าไปก็มีปู่ ท่านให้ระบายทุกข์ออกมาให้คนรอบข้างได้รับรู้มันจะได้เบา เรื่องของ ใจต้องจัดการด้วยตัวเอง การเบียดเบียนตนเองแก้ยาก ตนเองผูกปม ปัญหา แล้วหาปมไม่เจอ เบียดเบียนตนเอง ท าร้ายใจตนเอง ต้นเหตุ ของทุกข์ คือ ราคะ โทสะ โมหะ เก็บในใจยึดมั่นในตัว ยึดมั่นในอัตตา ตัวตนว่ามีฉัน ถ้าเราละตัวตนไม่มีฉัน เราก็วาง การอุปทานยึดมั่น คอย ดู คอยหวัง คอยดูว่ามีอะไรตอบแทน จิตก็ระทมทุกข์ คาดหวังหนึ่งอย่าง ถ้าไม่วางก็เหมือนปักเข็มทิ่มแทงใจตัวเองเข้าทุกวัน ท่านให้หยุด ปล่อย ว่าง ท าทุกอย่างให้ดี ท าเต็มที่เต็มความสามารถ เรื่องเหตุปัจจัย ท าเหตุ ถูกต้อง ปัจจัยถูกต้อง ชี้ วัดผลลัพธ์ถูกต้อง คนเราท าอะไรด้วยความ อยาก ถ้าอยากด้วยสติปัญญาคืออยากในทางที่ถูกต้อง ตัวเองก็ไม่ทุกข์ เพราะไม่ต้องคาดหวัง เราท าเต็มที่ เราก็สบายใจผลจะออกมาเป็ นยังไง ช่างมัน


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 146 ในการด าเนินชีวิตและการท างาน ให้ใช้จาคะกับหลักธรรมอิทธิ บาทสี่น าทาง คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ถ้าเรามีจาคะอยู่ในใจ จาคะ ให้ทานล้างสิ่งสกปรก กวาดขยะออกด้วย ถ้าขยะพลาสติกเป็ น กิเลสที่พอกหนามากก็สิ้ นหวังเพราะมันก าจัดยาก เราก็ใช้ความวิริยะ พากเพียร ว่าเราได้ท าเต็มที่หรือยัง จิตตะก็ปักหมุดมุ่งมั่นในสิ่งที่ท า หลังจากนั้นก็มีวิมังสา โดยการใคร่ครวญ หาเหตุ ฉันทะฝึกจิตท าให้ดี ยิ่งๆ ขึ้ นไป สิ่งเหล่านี้ จะเป็ นฐานหรือหนทางสู่ความสุขความส าเร็จใน ชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม ถ้าเราสะสมโกรธ ละไม่ได้ก็ติดตามมาชาตินี้ บุญน ามาเกิด กิเลสตามมาก็มีนิสัยขี้ โกรธ ให้ฝึกละความโกรธ ฝึกกาย วาจาใจ ให้อยู่ ในศีล บังคับใจ สงบในสมาธิ เอาชนะกิเลสที่สะสมมา เจริญปัญญาให้ เกิด หาอุบายสอนจิต เห็นโทษของการเกิดโทสะ ที่ก่อให้เกิดทุกข์ เบื่อ หน่ายความโกรธ มันร้อน ไม่มีสาระมีแต่โทษ คลายความยึดมั่นถือมั่น ความโกรธก็เบาบางลง แผ่วลง แก้ปมไป เอาชนะตัณหาเอาชนะตัวตน ตัณหาเกิดขึ้ นร้อนด้วยไฟตัณหา สิ่งใดร้อน ทิ้ งไว้ก็เย็น ถ้าร้อนให้ มองข้ามตัวตนละอัตตา “ปริศนาจะถูกเปิ ด และจะดังอย่างยิ่งใหญ่ ในเวลาอันใกล้นี้ หลายฝ่ าย หลายคนรวมเป็ นหนึ่ง ด้วยความเคารพและศรัทธาด้วยใจ จักส าเร็จไปเอง พลังเทพ พลังธรรมคอยเกื้ อกูลอยู่” ครูบาอาจารย์ท่านสอนเสมอ เรื่องจิต ก็เอาจิตไปเกี่ยวข้องกับ ทางโลกมากเกินไป ในบางครั้งก็ลืมตัวไป โดยความประมาทและขาดสติ หละหลวม ควรประคองตัวประคองจิตให้อยู่ในคลื่นกรรมฐาน คลื่นพุทธ มนต์ช่วยให้เราห่างจากโลก เราจะได้อยู่ในทางโลกและทางธรรมอย่าง สมดุล “นุ่งขาวห่มขาวถือดอกบัวเดินตามกันไปเป็นแถว”


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 147 ปู่ บอกให้ปฏิบัติจริยวัตรทางธรรม ท าให้เกิดอานิสงค์ทางพุทธ ศาสนา สืบสานท านุบ ารุงพุทธศาสนา ที่เราเคยรับปากไว้ จริยวัตร คือ ความประพฤติ ท่วงทีวาจา และกิริยามารยาท จริยวัตรทางธรรม การ แสดงตนอย่างเหมาะสม ตามแบบอย่างพระจริยวัตรของสาวก การ บ าเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานจัดพิธีกรรม และปฏิบัติตนในศาสนพิธี ต่าง ๆ ตามหลักศาสนาได้ถูกต้อง ต้องเขียนให้เห็นบาปบุญคุณโทษ นารีทิพย์ปฏิบัติจนหลุดจากภพภูมินาค มาสืบสาน สืบค้น พินิ จ พิเคราะห์ปราศจากเงื่อนไข มนุษย์มีแกนสมองอย่างหนึ่งที่เอาไว้ แยกแยะ แยกด าแยกขาว หรืออะไรดีอะไรชั่ว รู้ว่าชีวิตจะเดินไปยังไง รับรู้แล้วถ่ายทอดส่งต่อ ธรรมะอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ ให้เราได้ศึกษาไม่ ว่าจะเป็ นบุคคลสิ่งของ ธรรมะของพระพุทธองค์เป็ นกาลิโก พระธรรม ค าสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติโดยไม่จ ากัดกาลเวลา ไม่ ขึ้ นกับกาลเวลา ให้ผลทุกเมื่อทุกโอกาส ให้ผลตามล าดับแห่งการปฏิบัติ คือได้บรรลุเมื่อใดก็ได้รับผลเมื่อนั้น ได้บรรลุถึงระดับไหนก็ให้ผลใน ระดับเมื่อนั้น ทั้งความจริงความแท้แห่งพระธรรมนี้ ไม่มีก าหนดอายุกาล จริงแท้อยู่ตลอดกาล ม่วงประกาย สายใยแห่งรัก แสนชมภู ชอบนัก ขอยึด รักตลอดไป รักอมตะ รักไม่โรยรา รักไม่รู้เสื่อมคลาย รักเป็นนิจนิรันดร นคราปาวาฬนะนาคราช


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 148 พบกับธรรมะทิพย์ ทิพย์แห่งธรรม และปาฏิหาริย์แห่งธรรม ในเล่มที่ ๒ ธรรมะจากภพทิพย์ปาฏิหาริย์ของธรรมะ การเข้าใจ ธรรมะ ธรรมชาติ ช่วยดึงเราออกมาจากความลุ่มหลงเนื่องด้วย กิเลส การฝึ กจิตสมาธิภาวนาเพื่อรักษาใจของตนเองให้เป็ นปกติ กลับมาดูตัวเองเห็นนิสัยสันดานเดิมแล้วละอัตตา ละตัวตน การใช้ ชีวิตก็ง่ายข้ึน มีอะไรมากระทบก็ไม่แส่ไม่ส่าย เปลี่ยนแปลงชีวิต จากคนที่มีทุกข์ให้เป็ นคนมีสุข ธรรมาปาฏิหาริย์ช่วยน าผู้คนเข้าถึง หลักธรรมค าสอนถอยออกจากทุกข์ เมื่อคุณเข้าถึงสภาวธรรมดุจมี ปาฏิหาริย์ที่ดับทุกข์


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 149 บทสวดจุลลไชยยปกรณ์ สุโข พุทธานัง อุปปาโท สุขา สัทธัมมะ เทสะนา สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สามัคคานัง ตะโป สุโข ทิวา ตะปะติ อาทิจโจรัตติง อาภาติ จันทิมา สันนัทโธขัตติโย ตะปะติฌายี ตะปะติพ๎ราห๎มะโณ อะถะ สัพพะมะโหรัตติง พุทโธตะปะติ เตชะสา หิริโอตตัปปะ สัมปันนา สุกกา ธัมมา สะมาหิตา สันโต สัปปุริสา โลเก เทวาธัมมาติ วุจจะเร สันติปักขา อะปัตตะนา สันติปาทา อะวัญจะนา มาตาปิตา จะ นิกขันตา ชาตะ เวทะ ปะติกกะมะ สุวัณณะภูมิง คันต๎วานะ โสนุตตะรา มะหิทธิกา ปิสาเจ นิททะมิต๎วานะ พ๎รัห๎มะชาลัง อาเทเสยยุง เอเต สัพเพ ยักขา ปะลายันตุ, อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เ ทวะนาคา มะหิทธิกา ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ, จิรัง รักขันตุ สาสะนัง อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวะนาคา มะหิทธิกา ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ, จิรัง รักขันตุ ปาณิโน อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวะนาคา มะหิทธิกา ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ, จิรัง รักขันตุ โนสะทา อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวะนาคา มะหิทธิกา ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ , โสตถิง คัจฉันตุ เทวะตาคะตา ฯ พระคาถา นะ โม เม นะโม เม พุทธะเตชะสา ระตะนัตตะยะธัมมิกา


สวนธรรม สวนบุญ สวนประกอบบุญ 150 เตชะปะสิทธิปะสีเทวา นารายะ ปะระเมศะวะรา สิทธิพ๎รห๎มา จะ อินทา จะ จะตุโลกาภิรักขะกา สะมุททา ภูตะคังคา จะ สัพพะชัยยะปะสิทธิ ภะวันตุ เต, ชัยยะ ชัยยะ ธอระณิ ธอระณี อุทะธิ อุทะธี นะทิ นะที, ชัยยะ ชัยยะ คัคคะนะตะละนิสะยะ นิละยะ เสยยะเสละ สุเมรุราชะ พะนะระชี, ชัยยะ ชัยยะ คัมภีระโสพภี นาเคนทะนาคี ปีสา จะ ภูตะกาลี, ชัยยะ ชัยยะ ทุนนิมิตตะโรคี, ชัยยะ ชัยยะ สิงคีสุตทา ฆานะมุขะชา, ชัยยะ ชัยยะ รุณณะมุขะสาตรา, ชัยยะ ชัยยะ จัมปาทินาคะกุระคัณฐะกัง , ชัยยะ ชัยยะ คะชะคะณะตุรังคะณะ สุกะระภูชังคะ สีหะพะยัคฆะทีปา, ชัยยะ ชัยยะ รุณณะมุขะยาต๎รา ชินะ เสนาริปู ปุณะสุตทิระตี, ชัยยะ ชัยยะ สุขา สุขา ชีวี, ชัยยะ ชัยยะ ธอระณีตะเล สะทา สุชัยยะ, ชัยยะ ชัยยะ ธอระณี สานะติ สะทา, ชัยยะ ชัยยะ มังกะระละยา ภะวัคเค, ชัยยะ ชัยยะ วะรุณะ ยักเข, ชัยยะ ชัยยะ รักขะเสสุ ระภูชะเตชา, ชัยยะ ชัยยะ พ๎รห๎มเมนทะคะณา, ชัยยะ ชัยยะ ราชาธิราชะ ชะยัง, ชัยยะ ชัยยะ ปะฐะวิง สัพพัง, ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตัง ปัจเจกะพุทธะสาวะกัง, ชัยยะ ชัยยะ มะเหสุรังคะ หะโรหะรินทะเทวา, ชัยยะ ชัยยะ พ๎รห๎มาสุรักโข, ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬหะโก วิรูปักโข จันทิมา ระวิอินโท จะ เวนัตตัยโย จะ กุเวโร วะรุโณปิ จะ อัคคีวาโย จะ ปาชุณ๎โห กุมาโรธะตะรัฏฐะโก อัฏฐาระสะ มะหาเทวา สิทธิตาปะสะ อาทะโย เอสิโน สาวะกา สัพเพ ชัยยะ ราโม ภะวันตุ โน ชัยยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะปาโล จะ ชัยยะกัง


Click to View FlipBook Version