ค่มู ือการจดั กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยไี ทย” หนา้ | ก
ปการอนมุ ัติค่มู อื การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม
ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564
ศนู ย์วทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษาพระนครศรอี ยธุ ยา
เพื่อให้การจัดการศึกษาบรรลุประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนด สถานศึกษาได้จัดทำคู่มือ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดา
แห่งเทคโนโลยีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวน 2 เร่ือง ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง โครงการแก้มลิง 2) แผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สร้างเมฆตามรอยพ่อ ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาได้พิจารณาคู่มือการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดา
แห่งเทคโนโลยีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
พระนครศรีอยุธยาแล้ว เห็นชอบคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ดังกลา่ ว
ลงชอ่ื ผ้เู ห็นชอบ
(นายธนา คล่องณรงค)์
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา
ลงชื่อ ผูอ้ นุมตั ิ
(นางอัญชรา หวังวีระ)
ครู รักษาการในตำแหน่ง
ผอู้ ำนวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาพระนครศรอี ยธุ ยา
คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | ข
คำนำ
คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้
“พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ฉบับน้ี จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย”
ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา ซึ่งประกอบด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ 1) โครงการแก้มลิง และ 2) สร้างเมฆตามรอยพ่อ รายละเอียดของคู่มือการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดา
แห่งเทคโนโลยีไทย”นั้น ประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 2 แผน ซึ่งแผนการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาขึ้นโดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE 2IC
ACTIVITY MODEL) ที่เน้นการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ ความคิดสร้างสรรค์
และคำนงึ ถึงผูร้ บั บรกิ ารเป็นสำคัญ
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการ
จัดทำค่มู ือการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดา
แห่งเทคโนโลยีไทย” และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นอกจากประโยชน์ ของผู้ปฏิบัติงาน
ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยาโดยตรงแล้ว จะเป็นประโยขน์ ต่อผู้ที่สนใจ
ให้เกิดความรู้ความเข้าใจกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้
“พระบิดาแหง่ เทคโนโลยีไทย” และศาสตร์ที่เก่ียวขอ้ งเปน็ อย่างดี
(นางอญั ชรา หวังวีระ)
ครู รกั ษาการในตำแหน่ง
ผ้อู ำนวยการศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษาพระนครศรอี ยธุ ยา
สงิ หาคม 2564
ค่มู ือการจัดกิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | ค
สารบญั
เร่ือง หนา้
การอนมุ ตั คิ มู่ ือการจดั กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดลอ้ ม ก
ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยีไทย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
ศนู ย์วิทยาศาสตรเ์ พื่อการศกึ ษาพระนครศรีอยธุ ยา
คำนำ ข
สารบัญ ค
คำชี้แจงการใช้คมู่ ือการจดั กิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม จ
ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย”
โครงสรา้ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม ช
ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยไี ทย”
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง โครงการแก้มลิง 1
- แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง “โครงการแกม้ ลงิ ” 10
- ใบความรสู้ ำหรับผู้รบั บริการ เร่ือง “โครงการแกม้ ลงิ ” 11
- ใบความรสู้ ำหรบั ผู้จดั กิจกรรม เรอื่ ง “โครงการแกม้ ลงิ ” 14
- ใบกิจกรรมสำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมือง 17
จำลองแก้มลิง”
- ใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมือง 20
จำลองแก้มลิง”
- แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง “โครงการแก้มลงิ ” 23
- PowerPoint สำหรบั ผ้จู ัดกิจกรรม 24
เรื่อง การสรุปผลการเรียนรู้ โครงการแก้มลิง
- บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรับผ้จู ัดกิจกรรม 27
เรอ่ื ง การสรปุ ผลการเรยี นรู้ โครงการแกม้ ลงิ
- แบบประเมินความพงึ พอใจของผูร้ ับบรกิ ารในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 29
เรอื่ ง“โครงการแกม้ ลิง”
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 2 เรื่อง สร้างเมฆตามรอยพ่อ 31
- แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง “สรา้ งเมฆตามรอยพ่อ” 40
- ใบความรสู้ ำหรบั ผรู้ บั บรกิ าร เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” 41
- ใบความร้สู ำหรบั ผู้จัดกิจกรรม เรือ่ ง “สรา้ งเมฆตามรอยพ่อ” 46
- ใบกิจกรรมสำหรบั ผ้จู ดั กจิ กรรม เร่ือง “การทดลองการสรา้ งเมฆ” 51
- ใบกจิ กรรมสำหรับผ้รู บั บริการ เรอ่ื ง “การทดลองการสรา้ งเมฆ” 55
- แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” 58
- PowerPoint สำหรบั ผู้จดั กิจกรรม 59
เรอ่ื ง การสรปุ ผลการเรยี นรู้ สร้างเมฆตามรอยพ่อ
ค่มู อื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | ง
สารบญั (ตอ่ )
- บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรับผ้จู ัดกิจกรรม 61
เรอ่ื ง การสรุปผลการเรียนรู้ สร้างเมฆตามรอยพ่อ
65
- แบบประเมินความพึงพอใจของผูร้ ับบริการในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
เรื่อง“สร้างเมฆตามรอยพ่อ” 68
บรรณานุกรม 70
คณะผจู้ ดั ทำ
ค่มู ือการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หนา้ | จ
คำชีแ้ จง
การใช้คมู่ อื การจดั กิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม
ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย”
คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้
“พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย”
ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยาประกอบด้วยการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ได้แก่
1) โครงการแกม้ ลงิ และ 2) สร้างเมฆตามรอยพ่อ
รายละเอยี ดของการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดล้อม ฐานการ
เรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 2 แผน
ไดแ้ ก่
1) โครงการแกม้ ลงิ
2) สร้างเมฆตามรอยพ่อ
ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE 2IC ACTIVITY MODEL)
ซง่ึ ประกอบดว้ ย 3 ขั้นตอน ได้แก่
ขนั้ ตอนท่ี 1 กิจกรรมการเรยี นรู้ประสบการณท์ างวิทยาศาสตร์ (I : Inspiration)
ขนั้ ตอนที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรท์ ีท่ ้าทาย (I : Implementation Activity)
ขนั้ ตอนที่ 3 กิจกรรมการสรุปผลการนำวิทยาศาสตรไ์ ปใช้ในชีวติ ประจำวนั (C : Conclusion
Activity)
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู ป็นส่วนท่ีกำหนดสิง่ ต่อไปนี้
1. แนวคดิ
2. วัตถุประสงค์
3. เนือ้ หา
4. ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
5. ส่อื วสั ดุอปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้
6. การวดั และประเมินผล
7. บนั ทกึ ผลหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
คู่มอื การจัดกิจกรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย” หน้า | ฉ
บทบาทของผู้จัดกิจกรรมตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE 2IC
ACTIVITY MODEL)
ผู้จัดกิจกรรมจะตอ้ งดำเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยเป็นผู้อำนวยความสะดวก กระตุ้น
ชี้แนะ และให้คำปรึกษากับผู้รับบริการให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมีส่วนร่วม สร้างสรรค์
และเน้นความรับผิดชอบของผรู้ บั บริการ
เมื่อผูจ้ ดั กิจกรรมได้จัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามรปู แบบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
กศน. (ONIE 2IC ACTIVITY MODEL) เสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ผ้จู ัดกิจกรรมต้องบันทึกผลการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้หลังเสร็จกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่แนบมาท้ายแผนการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ของทุก ๆ แผน
การวัดและประเมินผล
ในการวัดและประเมินผล กำหนดให้มกี ารทำข้อสอบก่อนและหลงั เรียนของแต่ละแผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเป็นการวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ของผู้รับบริการที่สอดคล้องกับ
วตั ถุประสงค์ทกี่ ำหนด
คำจำกดั ความ
ผ้จู ดั กิจกรรม หมายถงึ ครู/ผสู้ อน ของศนู ย์วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื การศึกษาพระนครศรอี ยุธยา
ผรู้ ับบรกิ าร หมายถงึ นักเรยี น นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป
ฐานการเรียนรู้พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย หมายถึง ฐานการเรียนรู้ของศูนย์วิทยาศาสตร์
เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา ใช้เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับพระบิดาแห่งเทคโนโลยี
ไทย ที่ต้องใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นในการทำการทดลอง วิจัย หรืองานที่มีลักษณะ
ทางวิทยาศาสตร์ หรอื ทางเทคนคิ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ฐานการเรียนรู้พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย หมายถึง กิจกรรม
การเรยี นรใู้ นฐานการเรยี นรู้ จำนวน 2 เร่อื ง ไดแ้ ก่ 1) โครงการแก้มลิง และ 2) ฝนหลวง
สิ่งที่ผู้จัดกจิ กรรมต้องเตรยี มก่อนการจัดกิจกรรม
1. ศกึ ษาเนื้อหาและแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรอู้ ย่างละเอยี ด
2. ตอ้ งเตรยี ม สอื่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นร้ทู ่ีเกย่ี วข้อง
รูปแบบการจัดกจิ กรรมของศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา
รูปแบบที่ 1 การเรียนรู้ผ่านนทิ รรศการ
รูปแบบที่ 2 ค่ายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีแบบ 1 วัน (ไป - กลับ), 2 วัน
(ไป-กลบั ), 2 วนั 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน
รูปแบบที่ 3 กิจกรรมการศึกษา ได้แก่การอบรมให้ความรู้ มีทั้งแบบเคลื่อนที่ และภายใน
ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือ่ การศกึ ษาพระนครศรีอยธุ ยา
รูปแบบที่ 4 การเรียนรู้ผ่านบริการวิชาการ ได้แก่เอกสาร วารสาร เฟซบุ๊ค เว็บไซต์
ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรอี ยธุ ยา
คมู่ ือการจัดกิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | ช
โครงสร้างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดล้อม
ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย”
บทนำ
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ให้ความสำคัญในเรื่อง
ของการพัฒนา การเผยแพร่ และการส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา
และประชาชนอย่างมาก ด้วยการจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้ท่ี
ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดให้เป็นแหล่งบริการความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้เข้าไปศึกษาหา
ความรู้ จัดบริการลากหลายรปู แบบ เพื่อให้ประชาชนมคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำความรู้ไป
ประยุกต์ใช้ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา
เป็นสถานศึกษาขึ้นตรง สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร มบี ทบาทหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบในการพัฒนาการศึกษา คุณภาพ
ทรัพยากรมนุษย์ และรับผิดชอบในการส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ที่อยู่ทั้งในและนอกระบบโรงเรียน ซึ่งถือเป็น
การสนองนโยบายของรฐั บาลในการพัฒนาทรัพยากรมนุษยใ์ ห้เป็นศูนยก์ ลางของการพัฒนา รวมทง้ั ยัง
เป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาของคนไทยทั้งชาติอีกด้วย นอกจากนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์
เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา มีหน้าที่ในการจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการ เรียนรู้
ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนของการเรียนการสอนตามหลักสูตร
และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยจัดกิจกรรม 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การเรียนรู้ผ่าน
นิทรรศการ คา่ ยวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม กจิ กรรมการศกึ ษา และการบรกิ ารวิชาการ
ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่มีคุณค่ายิ่ง การเรียนรู้ผ่าน
นิทรรศการ เป็นการจัดแสดงความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ผ่านนิทรรศการสื่อ
ประสม ที่ทันสมัย น่าสนใจ ทั้งสื่อแสงสีเสียง ของเล่น เกม ฯลฯที่ผู้ชมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม
ในการลองเล่น ลองฝึกปฏิบัติลองหาคำตอบจากการเล่นเกมต่าง ๆ ค่ายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
และส่งิ แวดลอ้ ม เปน็ กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกรปู แบบหน่ึงที่มีคุณค่า
ยง่ิ เป็นกจิ กรรมที่จดั ให้ผ้รู ับบริการ มาพักแรมอยู่ร่วมกัน ได้ทั้งความรแู้ ละความสนุกสนาน พร้อมกับ
ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกจัดไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนตลอดระยะเวลาการอยู่ค่าย กิจกรรม
การศึกษา เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อใหบ้ รกิ ารการเรียนรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
และอื่น ๆ แก่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
และกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช
2542 ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเสริมสร้างทักษะกระบวนการและกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจ
ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดลักษณะการเรียนรู้ทั้งลักษณะการเรียนรู้นอกระบบและการเรียน รู้
ตามอัธยาศัย บริการวิชาการ เป็นการให้ความรู้เชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และสิ่งแวดล้อม ในลักษณะการบริการข้อมูลข่าวสาร ทั้งในส่วนของข่าวสารข้อมูลการจัดกิจกรรม
คูม่ ือการจดั กจิ กรรมการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | ซ
การเรียนรู้และข้อมูลด้านวิชาการวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ โลกของการศึกษาได้มีการเปลี่ยนแปลงไป
อย่างมาก ในศตวรรษท่ี 21 เครื่องมือเพื่อแสวงหาความรู้มีความสำคัญมากกว่าเนื้อหาความรู้
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารทำให้ผู้เรียนสามารถค้นหาความรู้ได้ด้วยตนเองจาก
แหล่งต่าง ๆ มากมายและตลอดเวลาที่ต้องการ ส่งผลให้กระบวนทัศน์ทางการศึกษาเปลี่ยนแปลงไป
การจัดการศึกษาทุกระดับเน้นให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง เน้น การคิดสร้างสรรค์
การคิดแก้ปัญหา การคิดแบบวิจารณญาณ ฯลฯ รวมทั้งการพัฒนาทักษะ การสื่อสาร
การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้และการมีทักษะทางสังคม แนวโน้มการจัดการศึกษา
จึงจำเป็นต้องบูรณาการทั้งด้านศาสตร์ต่าง ๆ และบูรณาการการเรียนในห้องเรียนและชีวิตจริง
ทำให้การเรียนนั้นมีความหมายต่อผู้เรียน ซึ่งผู้เรียนจะเห็นประโยชน์ คุณค่าของการเรียน
และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเป็นการเตรียมผู้เรียนในการเรียนต่อไป
ในระดับชั้นที่สูงขึ้น เกิดการเพิ่มโอกาสการทำงานในอนาคต การเพิ่มมูลค่าและการสร้าง
ความแข็งแกร่งให้กับประเทศด้านเศรษฐกิจ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)
กำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ที่มุ่งเน้นการสร้าง
สมดุลระหวา่ งการพฒั นาความม่นั คง เศรษฐกจิ สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม โดยการมีสว่ นรว่ มของทุกภาค
สว่ นในรปู แบบ “ประชารฐั ” โดยประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ คอื 1) ยทุ ธศาสตร์ชาติด้านความม่ันคง
2) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนา
และเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาค
ทางสังคม 5) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และ 6) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ทั้งนี้
ตามยุทธศาสตร์ที่ 3 เรื่องการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์นั้น มีเป้าหมายสำคัญ
คือ การพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัย ให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ คนไทยมีความพร้อมทั้ง
กาย ใจ สตปิ ญั ญา มพี ัฒนาการท่ดี ีรอบดา้ นและมีสขุ ภาวะท่ีดใี นทุกชว่ งวยั
วตั ถุประสงค์
เพื่อให้ผู้จัดกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติที่ดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย”จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่
1. โครงการแกม้ ลงิ
2. สร้างเมฆตามรอยพ่อ
ขอบข่ายเนอ้ื หา
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดา
แหง่ เทคโนโลยไี ทย” ประกอบดว้ ยกจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน 2 เรื่อง ไดแ้ ก่
1. โครงการแก้มลิง
2. สร้างเมฆตามรอยพ่อ
คมู่ อื การจดั กิจกรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | ฌ
ข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE 2IC ACTIVITY MODEL)
ซึ่งประกอบดว้ ย 3 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่
ขนั้ ตอนท่ี 1 กิจกรรมการเรยี นรูป้ ระสบการณท์ างวิทยาศาสตร์ (I : Inspiration)
1. ผจู้ ัดกจิ กรรมทักทายและแนะนำตนเองแกผ่ ้รู บั บริการ รวมทง้ั แนะนำฐานการเรียนรู้ ชี้แจง
วัตถุประสงค์ของฐานการเรียนรู้กิจกรรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้
“พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” และการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะเรียนรู้
จากประสบการณ์เดิมสปู่ ระสบการณ์การเรยี นรู้ใหม่
2. ผู้จัดกจิ กรรมใหผ้ ู้รับบรกิ ารทำแบบทดสอบก่อนเรียน
3. ผ้จู ัดกิจกรรมซักถามประสบการณ์เดมิ ของผู้รับบรกิ ารเกีย่ วกับเร่ืองท่ีจะเรยี นรู้
4. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบรกิ ารแลกเปลย่ี นความคิดเห็นและสรปุ ผลการเรียนรู้ร่วมกนั
5. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของผู้รับบริการกับเนื้อหาการเรียนรู้ โดยการบรรยาย
หรืออภิปราย หรือใช้วิธีการต่าง ๆ ที่กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน หลังจากนั้นผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยง
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม ท่สี อดคลอ้ งกับเน้อื หาทีจ่ ะเรียนรู้
6. ผู้จดั กิจกรรมแจกใบความรู้สำหรบั ผู้รบั บริการ ให้ผรู้ บั บริการไดร้ วบรวมและศึกษาเป็นขอ้ มูล
รวมทั้งแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ ประกอบการออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้น ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และสรุปผล
การเรียนรู้รว่ มกนั
ขั้นตอนที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ท้าทาย (C : Challenge Learning
Activity)
1. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเนื้อหาในขั้นตอนที่ 1 โดยใช้สื่อต่าง ๆ อาทิ คลิปวิดีโอ หลังจากนั้นผู้จัด
กิจกรรมเสนอสถานการณ์ในชีวิตจริงทีเ่ ก่ียวข้อง โดยใหผ้ ู้รับบริการได้รว่ มแลกเปลย่ี นเรียนรู้ หลังจาก
น้ันผู้จดั กจิ กรรมอธิบายและสาธิต พรอ้ มทัง้ ให้ผ้รู บั บริการร่วมปฏบิ ัติในการสาธิตของผจู้ ัดกิจกรรมดว้ ย
2. ให้ผ้รู บั บริการต้งั ประเด็นข้อสงสัยหรือสิ่งท่ีอยากรู้ในกระบวนการหรือหลักการที่เกี่ยวข้อง
จากการสาธิตของผจู้ ัดกิจกรรม รวมไปถงึ การนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จริง
3. ผจู้ ัดกิจกรรมและผูร้ บั บริการแลกเปลยี่ นความคิดเห็นและสรปุ ผลการเรียนรู้รว่ มกนั
ขั้นตอนที่ 3 กิจกรรมการสรุปผลการนำวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน (I :
Implementation Conclusion Activity)
1. แบ่งผู้รับบริการออกเป็นกลุ่ม ๆ ให้ออกแบบและปฏิบัติการ โ ดยการวางแผน
และดำเนินการเกี่ยวกับการออกแบบและปฏิบัติการ ทดลอง ลงมือปฏิบัติ กิจกรรมการ เรียนรู้
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ทั้งน้ี
ผจู้ ัดกจิ กรรมเตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ให้กบั ผ้รู ับบริการในการออกแบบและปฏิบัตกิ าร ทดลอง ลงมอื ปฏบิ ตั ิ
2. ผู้รับบรกิ ารนำเสนอผลงานการออกแบบและปฏบิ ตั ิการทดลอง
3. ใหผ้ รู้ ับบรกิ ารตอบคำถามจากประสบการณ์ทีไ่ ดเ้ รียนรผู้ า่ นกจิ กรรมครง้ั น้ี
ประเด็นท่ี 1 ในการปฏบิ ตั ิการ ทดลอง ลงมอื ปฏบิ ตั ิ ส่ิงท่ีศกึ ษามีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร
ประเด็นท่ี 2 สิ่งท่ีศึกษามีลักษณะอย่างไร
ค่มู ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | ญ
ประเด็นที่ 3 ได้รับความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ในกิจกรรมบ้าง
หรอื ไม่ อยา่ งไร
4. ให้ผู้รับบริการตอบคำถาม ตามความสมัครใจของผู้รับบริการ ให้ตอบคำถามในประเด็น
“ท่านจะนำความรู้ เรือ่ ง ท่ีศึกษา ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการแกป้ ญั หาหรือใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ย่างไร”
5. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน
โดยใชส้ อื่ อาทิ คลิปวิดีโอ สอื่ ของจริง PowerPoint
6. ให้ผู้รับบริการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
7. ใหผ้ ู้รับบริการทำแบบประเมินความพึงพอใจท่ีมีต่อกิจกรรมการเรียนรู้
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรียน
2. ใบความรู้สำหรบั ผรู้ บั บรกิ าร
3. คลิปวีดีโอ
4. ตัวอยา่ งสอื่ ของจรงิ
5. ใบความร้สู ำหรบั ผูจ้ ดั กจิ กรรม
6. ใบกิจกรรมสำหรับผ้จู ดั กจิ กรรม
7. ใบกิจกรรมของผ้รู บั บรกิ าร
8. วัสดุ อุปกรณใ์ นการทดลอง
9. PowerPoint
10. แบบทดสอบหลังเรียน
11. แบบประเมนิ ความพึงพอใจท่ีมตี อ่ กจิ กรรมการเรียนรู้
การวัดและประเมนิ ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ่วนรว่ ม ความตง้ั ใจ และความสนใจของผรู้ บั บรกิ าร
2. ผลการทดสอบกอ่ นและหลงั เรียน
3. ผลการออกแบบและสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมและสิ่งทีต่ ้องการพฒั นา/ชิ้นงาน/ผลงาน
4. ผลการประเมนิ ความพึงพอใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
รปู แบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยีไทย” ในรูปแบบ ดงั น้ี
รูปแบบที่ 1 ฐานการการเรยี นรู้นทิ รรศการ
รูปแบบที่ 2 คา่ ย ซึ่งมแี บบ 1 วัน (ไป - กลบั ), 2 วัน 1 คนื , 3 วนั 2 คืน
รูปแบบที่ 3 กิจกรรมการศึกษา ได้แก่การอบรมให้ความรู้ มีทั้งแบบเคลื่อนที่ และภายใน
ศนู ย์วทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื การศกึ ษาพระนครศรีอยุธยา
คูม่ อื การจดั กจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | ฎ
รูปแบบที่ 4 การเรียนรู้ผ่านบริการวิชาการ ได้แก่เอกสาร วารสาร เฟสบุ๊ค เว็บไซต์ศูนย์
วิทยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา
กลมุ่ เป้าหมาย
ผูร้ บั บรกิ าร ไดแ้ ก่ นักเรียน นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชนทวั่ ไป
ระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรม
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้
“พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” จำนวน 4 ชวั่ โมง ไดแ้ ก่
1. โครงการแก้มลงิ จำนวน 2 ช่ัวโมง
2. สร้างเมฆตามรอยพ่อ จำนวน 2 ช่วั โมง
คมู่ ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 1
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ี่ 1
เร่อื ง โครงการแกม้ ลิง
เวลา 2 ชว่ั โมง
แนวคดิ
โครงการแก้มลิง เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของ
โลกและการสูบน้ำที่เหมาะสมเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์
ในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม อุปโภคและบริโภค ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)
ทรงบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อุทกภัย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ลดความเดือดร้อนของประชาชน
และสามารถกกั เกบ็ น้ำจืดไว้ใชป้ ระโยชน์ในดา้ นต่าง ๆ นอกจากนผ้ี ้รู ับบริการไดฝ้ ึกปฏิบตั ิการออกแบบ
และประดิษฐเ์ มืองจำลองแก้มลิง ดงั นัน้ กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ รือ่ ง โครงการแกม้ ลงิ ผ้รู บั บริการสามารถ
นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ของตน รวมท้ัง
ออกแบบและประดษิ ฐเ์ มอื งจำลองแก้มลงิ ได้
วัตถปุ ระสงค์
1. อธบิ ายความเปน็ มา ความสำคญั ของโครงการแก้มลงิ
2. ลกั ษณะ และประโยชน์ของโครงการแกม้ ลิง
3. อธบิ ายและสาธิตการออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลงิ
4. ปฏิบตั กิ ารออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง
เนอื้ หา
1. ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการแกม้ ลิง
1.1 ความเป็นมาของโครงการแกม้ ลิง
1.2 ความสำคญั ของโครงการแกม้ ลงิ
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
2.1 ลกั ษณะของโครงการแก้มลิง
2.2 ประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
3. การออกแบบและประดิษฐเ์ มืองจำลองแก้มลิง
4. การปฏบิ ัตกิ ารออกแบบและประดษิ ฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลิง
คมู่ ือการจัดกิจกรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หน้า | 2
ขั้นตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันตอนท่ี 1 จดุ ประกายการเรียนรู้ (Inspiration : I)
1. ผู้จัดกิจกรรมทักทายผู้รับบริการ พร้อมทั้งแนะนำตนเอง และฐานการเรียนรู้
เรือ่ ง “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ซึ่งกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ี่ผู้รับบริการจะต้องเรยี นรู้ร่วมกันในครั้งน้ี
คือ กิจกรรมการเรยี นรู้ เร่อื ง “โครงการแกม้ ลิง”
2. ผู้จัดกิจกรรมชี้แจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง “โครงการแก้มลิง”
จำนวน 4 ขอ้ ดังนี้
(1) อธบิ ายความเปน็ มา ความสำคัญของโครงการแกม้ ลงิ
(2) ลกั ษณะ และประโยชน์ของโครงการแก้มลงิ
(3) อธิบายและสาธิตการออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง
(4) ปฏบิ ตั ิการออกแบบและประดษิ ฐเ์ มอื งจำลองแก้มลงิ
3. ให้ผู้รับบริการทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรียน เรื่อง “โครงการแก้มลิง” จำนวน 10 ข้อ
โดยใช้เวลา 10 นาที
4. ผู้จัดกิจกรรมแจกใบความรู้สำหรับผู้รับบริการ เรื่อง “โครงการแก้มลิง” เพื่อใช้สำหรับ
ประกอบการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง “โครงการแกม้ ลิง”
5. ผู้จัดกิจกรรมชวนคิดชวนคุยเกี่ยวกับประสบการณ์เดิมของผู้รับบริการในเรื่องที่จะเรียนรู้
ตามกิจกรรมการเรียนรู้นี้ โดยผู้จัดกิจกรรมสุ่มผู้รับบริการตามความสมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน
ใหต้ อบคำถาม จำนวน 2 ประเด็น ดงั นี้
ประเด็นที่ 1 “ท่านทราบหรือไม่ว่า โครงการแก้มลิง มีความเป็นมา และความสำคัญ
อยา่ งไร”
แนวคำตอบ แกม้ ลงิ เปน็ หนึ่งในโครงการพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อลดความเดือดร้อนทุกข์ยากของ
ประชาชน โดย“แก้มลิง” เป็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อุทกภัย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ให้สามารถระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว ลดความเดือดร้อนของประชาชน
และสามารถกักเกบ็ น้ำจดื ไวใ้ ช้ประโยชน์ในดา้ นการเกษตร อตุ สาหกรรม และอุปโภคบรโิ ภค
ประเด็นที่ 2 “ท่านทราบหรอื ไมว่ ่า โครงการแก้มลิง มีลักษณะอยา่ งไร”
แนวคำตอบ ลักษณะของโครงการแก้มลิงเป็นการระบายน้ำออกจากพ้ืนท่ีตอนบน เพ่ือให้น้ำ
ไหลลงคลองพักน้ำที่ชายทะเล จากนั้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงจนต่ำกว่าน้ำในคลอง
น้ำจะไหลลงสูท่ ะเลตามธรรมชาติ ต่อจากนั้นจะเริม่ สูบน้ำออกจากคลองทีท่ ำหน้าที่แก้มลิง เพื่อทำให้
น้ำตอนบนค่อย ๆ ไหลมาเอง จงึ ทำใหเ้ กดิ น้ำท่วมพืน้ ทลี่ ดน้อยลง จนในทีส่ ดุ เม่อื ระดับน้ำทะเลสูงกว่า
ระดับในคลอง จึงปิดประตูระบายน้ำ โดยให้น้ำไหลลงทางเดียว (One Way Flow) โครงการแก้มลงิ
มี 3 ขนาด คือ 1) แก้มลิงขนาดใหญ่ คือ สระน้ำหรือบึงขนาดใหญ่ ที่รวบรวมน้ำฝนจากพื้นที่บริเวณ
นนั้ ๆ โดยจะกกั เกบ็ ไวเ้ ปน็ ระยะเวลาหน่ึงก่อนทีจ่ ะระบายลงสูล่ ำนำ้ พ้ืนท่ีเก็บกกั นำ้ เหล่านไ้ี ดแ้ ก่ เขื่อน
อา่ งเก็บนำ้ ฝาย ทงุ่ เกษตรกรรม เป็นตน้ ลกั ษณะสิง่ ก่อสรา้ งเหล่านีจ้ ะมวี ัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย
เช่น เพื่อการชลประทาน เพื่อการประมง เป็นต้น 2) แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาด
เลก็ กว่า ก่อสรา้ งในระดับลุ่มน้ำ มกั เป็นพนื้ ทธี่ รรมชาติ เช่น หนอง บงึ คลอง เป็นตน้ 3) แก้มลิงขนาด
คู่มือการจัดกิจกรรมการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 3
เลก็ คือแก้มลงิ ท่ีมีขนาดเลก็ กว่า อาจเปน็ พื้นที่สาธารณะ สนามเดก็ เล่น ลานจอดรถ หรอื สนามในบา้ น
ซึ่งต่อเข้ากบั ระบบระบายน้ำหรอื คลอง
ประเด็นท่ี 3 “ทา่ นทราบหรอื ไม่วา่ โครงการแกม้ ลงิ มปี ระโยชนห์ รือไม่ อย่างไร”
แนวคำตอบ มีประโยชน์ ช่วยระบายน้ำท่วมขังในที่ลุม่ ทิ้งลงทะเล ช่วยลดระยะเวลาน้ำท่วม
ขังให้สั้นลง ลดปัญหาความตึงเครียดทางด้านจิตใจของราษฎรในพื้นที่น้ำท่วม ลดความสูญเสีย
ทางด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ลดค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อมแซมสาธารณูปโภคต่าง ๆ
นอกจากนี้โครงการแก้มลิงยังช่วยป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้ง ไม่ให้น้ำเค็มจากทะเล
ไหลเขา้ สู่แม่น้ำลำคลองและพื้นที่การเกษตร รวมท้ังแก้มลงิ ยังสามารถเก็บกักนำ้ จืดไว้ด้านเหนือประตู
ระบายน้ำ ประชาชนจึงสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรกรรมอุตสาหกรรม
และการอุปโภคบริโภค ที่สำคัญโครงการแก้มลิงยังมีส่วนสำคัญในการช่วยอนรุ ักษ์น้ำและสิ่งแวดลอ้ ม
เนื่องจากน้ำที่ถูกกักเก็บไว้ในแก้มลิงต่าง ๆ เมื่อถูกระบายสู่คู คลอง จะไปช่วยบำบัดน้ำเน่าเสีย
ให้เจือจางลง กระทัง่ ผลกั ดันใหน้ ำ้ เน่าเสยี เดมิ ทมี่ อี ยู่ ถกู ระบายออกไปได้ในท่ีสดุ
หลงั จากนน้ั ผู้จัดกิจกรรมเปิดคลิปวีดโิ อใหผ้ รู้ บั บริการชม เร่อื ง “หวั ใจแห่งราชา : ในหลวง รัชกาลที่ ๙
ผู้ริเริ่มโครงการแก้มลิง มูลนิธิชัยพัฒนา” https://www.youtube.com/watch?v=K7tsP9zaWRQ
เวลา 5.52 นาที โดยผู้จดั กิจกรรมสุ่มผรู้ ับบริการตามความสมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน ให้ตอบคำถาม
จำนวน 3 ประเด็น ดงั นี้
ประเด็นท่ี 1 “ทา่ นได้เรยี นรูอ้ ะไรบา้ ง จากคลปิ วีดโิ อน้ี “
แนวคำตอบ จากเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อปีพุทธศักราช 2538 ภัยพิบัติ
ในครั้งนั้นทำให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก พระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) พระองค์ทรงตระหนัก
ถึงความรุนแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้น พระองค์ท่านจึงมีพระราชดำริ “โครงการแก้มลิง”
ขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนพุทธศักราช 2538 โดยให้จัดหาสถานที่กักเก็บน้ำตามจุดต่าง ๆ
ในกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับนำ้ ฝนไว้ชวั่ คราว เมอ่ื ถึงเวลาทค่ี ลองพอจะระบายนำ้ ได้ จงึ ค่อยระบาย
น้ำจากส่วนที่กักเก็บไว้ออกไปจึงสามารถลดปัญหาน้ำท่วมได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้เล่าถึงที่ไปที่มาของแก้มลิง “เพราะว่า
น้ำที่ลงมานี่ มันลงไม่ได้ ก็ต้องเคี้ยว ๆ เก็บเอาไว้ในแก้ม โดยตอนบนต้องมีคลอง 2 คลองอย่างน้อย
คลองหนึ่งชื่อคลองสำลี และอีกคลองชื่อโรงภาษี เวลาน้ำขึ้นมา ก็จะไหลเข้าไปยังคลองพักน้ำ
คลองบางกอกน้อยแต่เราทำทางที่จะให้ลงมาตรงคลองสนามชัยหรือคลองบางมด คลองสนามชัย
อันนี้เพิ่งทำได้จะเป็นถนนคลอง ถนนก็ได้อยู่ข้างบน ถนนข้างล่างเป็นคลอง” โครงการแก้มลิงนั้น
จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ โครงการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะใช้คลอง
ที่ตั้งอยู่ชายทะเลด้านจังหวัดสมุทรปราการทำหน้าที่เป็นทางเดินน้ำส่วนที่ 2 คือคลองในพื้นที่ฝั่ง
ตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งจะใช้คลองมหาชัย- คลองสนามชัยและแม่น้ำท่าจีนทำหน้าที่
เป็นรองรับนำ้ และระบายลงสู่ทะเลด้านจังหวดั สมุทรสาครนอกจากนี้ยงั มโี ครงการแก้มลิงแม่น้ำท่าจีน
ตอนลา่ งเพื่อชว่ ยระบายน้ำที่ท่วมใหเ้ ร็วข้นึ โดยใช้หลักการควบคุมนำ้ ในแม่น้ำท่าจีนคือเปิดการระบาย
น้ำจำนวนมากลงสูอ่ ่าวไทยเมื่อระดับน้ำทะเลต่ำซ่ึงโครงการนีจ้ ะประกอบไปด้วย 3 โครงการในระบบ
คือ โครงการแกม้ ลงิ แมน่ ้ำท่าจนี ตอนลา่ ง โครงการแก้มลงิ คลองมหาชัย- คลองสนามชัย และโครงการ
คู่มือการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 4
แก้มลิงคลองสุนัขหอน พระปรีชาญาณและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร
ของพระองค์ โครงการแก้มลิงเกิดขึ้น และช่วยบรรเทาวิกฤตและความเดือดร้อนของน้ำท่วมรอบ
กรงุ เทพฯ และปริมณฑลใหเ้ บาลงได้ โดยอาศัยเพียงวธิ กี ารทางธรรมชาติเทา่ นนั้ เอง พระบรมราโชวาท
“การทำงานด้วยน้ำใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญ แม้จะไม่มีใครรู้ใครเห็น ก็ไม่น่าวิตก
เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นประจักษ์พยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้เหมือนกับซ้อนให้ปิดทองหลังพระ
การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทอง
หลังพระกันนักเพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลัง
พระเลย พระจะเปน็ พระทีง่ ามบริบรู ณ์ไม่ได”้
ประเด็นที่ 2 “ท่านคดิ วา่ การทน่ี ำ้ ท่วมกรงุ เทพ มสี าเหตุมาจากอะไรบา้ ง”
แนวคำตอบ มีฝนตกปริมาณมาก น้ำจากทางเหนือไหลลงมาปริมาณมาก น้ำทะเลหนุนสูง
การวางผังเมืองที่ไม่เป็นระบบ ช่องระบายน้ำท่ีไม่เพียงพอ การจัดการขยะไม่ดีทำให้อุดตันช่องทาง
ระบายน้ำ การรกุ ล้ำคลองทเี่ ป็นเสน้ ทางไหลของน้ำ
ประเด็นที่ 3 “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร รัชกาลท่ี 9 ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริ โครงการแกม้ ลิง วา่ อยา่ งไรบา้ ง”
แนวคำตอบ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร รชั กาลที่ 9 ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริ โครงการแกม้ ลิง ไว้วา่ “...ตามปกติเวลา
เราให้กล้วยกับลิง ลิงจะเคี้ยว เคี้ยว เคี้ยวแล้วเก็บไว้ในแก้มลิง แต่ฝูงลิงที่ลพบุรี ท่านผู้ว่าฯ ลพบุรี
คงทราบว่าไม่รับประทานกล้วย เพราะฝูงลิงที่ลพบุรีนั้นเขารับประทานแต่โต๊ะจีน แต่อย่างไรก็ตาม
นิสัยของลิงก็ยังคงเป็นลิง เพราะว่า เราจำได้เมื่ออายุ 5 ขวบ มีลิง เอากล้วยไปให้ มันก็เคี้ยว เคี้ยว
เค้ยี ว แลว้ ใสใ่ น แก้มลิง…”
5. ผู้จัดกิจกรรมนำชมตัวอย่างโมเดลแก้มลิง ซึ่งเป็นโมเดลจำลองนิทรรศการ
และให้ผรู้ บั บรกิ ารศึกษาโครงสร้าง และลักษณะการทำงานของโมเดลแกม้ ลิง
6. ผูจ้ ดั กิจกรรมและผู้รับบรกิ ารอภปิ รายและสรุปผลการเรียนร้รู ว่ มกนั
ขัน้ ตอนท่ี 2 การปฏิบตั แิ ละประยุกตใ์ ช้ (Implementation : I)
1. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้ในขั้นตอนที่ 1 ในการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ
และประยกุ ต์ใช้ผ่านคลิปวิดโี อ โดยผจู้ ดั กิจกรรมเปิดคลิปวีดโิ อ เรือ่ ง “โครงการพระราชดำริ แก้มลิง”
จาก https://www.youtube.com/watch?v=ayfa4S8A00w เวลา 2.17 นาที
หลงั จากนั้น ผู้จัดกิจกรรมดำเนนิ การ ดังนี้
(1) ผู้จัดกิจกรรมบรรยายเนื้อหาตามใบความรู้สำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “โครงการ
แกม้ ลิง” เพือ่ ใช้สำหรบั ประกอบกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง “โครงการแก้มลงิ ”
ในส่วนของผู้รับบริการให้ศึกษาใบความรู้สำหรับผู้รับบริการ ประกอบการบรรยายของผู้จัด
กจิ กรรมตามใบความรูส้ ำหรบั ผู้รับบรกิ าร เร่อื ง “โครงการแกม้ ลิง”
(2) ผู้จัดกิจกรรมอธิบายและสาธิตการออกแบบและประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบ
และประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “การออกแบบ
คมู่ ือการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หน้า | 5
และประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” พร้อมทั้งให้ผู้รับบริการร่วมปฏิบัติในการสาธิตของผู้จัดกิจกรรม
ด้วย ทั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยให้ผู้รับบริการตั้งประเด็นข้อสงสัย
หรือสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ในกระบวนการของการสาธิต และเชื่อมโยงสู่การนำไปใช้ในชีวิตจริง
ของผู้รบั บริการตอ่ ไป
2. แบ่งผู้รับบริการออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 – 6 คน ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติจริง
โดยผู้รับบริการแต่ละกลุ่มวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบ
และประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ เรื่อง “การออกแบบ
และประดษิ ฐ์เมืองจำลองแกม้ ลงิ ”
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้กับผู้รับบริการในการออกแบบและประดิษฐ์ เรื่อง
“การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง
“การออกแบบและประดิษฐเ์ มอื งจำลองแกม้ ลงิ ”
3. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มตามข้อ 2 ปฏิบัติกิจกรรมตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ
เรอ่ื ง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแกม้ ลิง”
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมจะต้องกำกับการปฏิบัติกิจกรรมของผู้รับบริการจนกิจกรรมแล้วเสร็จ
ตามใบกจิ กรรมสำหรบั ผจู้ ดั กิจกรรม เรือ่ ง “การออกแบบและประดษิ ฐ์เมืองจำลองแก้มลิง”
4. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานการออกแบบการประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบ
และประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมของผู้รับบริการ เรื่อง “การนำเสนอผลการออกแบบ
และประดิษฐเ์ มอื งจำลองแกม้ ลิง”
5. ผู้จดั กจิ กรรมและผู้รบั บริการอภปิ รายและสรุปผลการเรียนรู้รว่ มกนั
ข้ันตอนที่ 3 การสรุปผลกิจกรรมการเรยี นรู้ (Conclusion : C)
1. ผู้จัดกิจกรรมสนทนากับผู้รับบริการเกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้ในฐานการเรียนรู้น้ี
โดยผู้จัดกิจกรรมสุ่มผู้รับบริการ ตามความสมัครใจ จำนวน 2 - 3 คน ให้ตอบคำถามในประเด็น
ต่อไปนี้
ประเด็น “ท่านจะนำความรู้เรื่อง โครงการแก้มลิง ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา
หรือใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตจรงิ ไดอ้ ยา่ งไร”
แนวคำตอบ ผู้รับบริการ สามารถนำไปประยุกต์ในพื้นที่กักเก็บน้ำของตนเอง
โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ คือ แรงโน้มถ่วงของโลกน้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เพื่อกักเก็บ
น้ำไว้ใช้ในการเกษตรกรรมอุตสาหกรรม การอุปโภคบริโภค ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
และช่วยบำบัดน้ำเน่าเสียให้เจือจางลงก่อนถูกระบายออกไปสู่แหล่งน้ำภายนอก เป็นการอนุรักษ์น้ำ
และสง่ิ แวดล้อมในบริเวณพ้นื ที่โดยรอบ
2. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการอภิปรายและสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกันตาม PowerPoint
สำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง การสรุปผลการเรียนรู้ โครงการแก้มลิง เพื่อเป็นการสรุปภาพรวม
ของกิจกรรมการเรยี นรู้ ซง่ึ จะทำใหผ้ ู้รับบรกิ ารเกดิ ความเข้าใจในกจิ กรรมการเรยี นรู้มากยิง่ ขึน้
3. ให้ผู้รับบริการทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง “โครงการแก้มลิง” จำนวน 10 ข้อ
โดยใช้เวลา 10 นาที
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยีไทย” หนา้ | 6
4. ให้ผู้รับบริการทำแบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้รับบริการในการจัดกิจกรรม
การเรยี นรู้ เรอ่ื ง “โครงการแกม้ ลิง”
ส่อื วัสดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้
1. แบบทดสอบความรกู้ อ่ นเรียน เรอ่ื ง “โครงการแก้มลิง”
2. ใบความรสู้ ำหรบั ผรู้ ับบรกิ าร เรือ่ ง “โครงการแก้มลิง”
3. คลิปวีดิโอให้ เรื่อง “หัวใจแห่งราชา : ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ผู้ริเริ่มโครงการแก้มลิง มูลนิธิชัย
พัฒนา” จาก https://www.youtube.com/watch?v=K7tsP9zaWRQ เวลา 5.52 นาที
4. ตัวอย่างโมเดลแกม้ ลงิ
5. คลิปวดี ิโอให้ เรอื่ ง “โครงการพระราชดำริ แก้มลิง”
จาก https://www.youtube.com/watch?v=ayfa4S8A00w เวลา 2.17 นาที
6. ใบความรู้สำหรับผู้จดั กจิ กรรม เรือ่ ง “โครงการแก้มลงิ ”
7. ใบกิจกรรมสำหรับผู้จดั กิจกรรม เรื่อง “การออกแบบและประดษิ ฐ์เมืองจำลองแก้มลงิ
8. ใบกจิ กรรมสำหรับผู้รบั บรกิ าร เรอ่ื ง “การออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแก้มลิง”
9. วสั ดุ อุปกรณใ์ นการทดลองเรือ่ ง “การออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแก้มลิง”
10 PowerPoint สำหรบั ผู้จดั กิจกรรม เรอ่ื ง การสรุปผลการเรยี นรู้ “โครงการแก้มลงิ ”
11 บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง การสรุปผลการเรียนรู้
“โครงการแก้มลงิ ”
12 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง “โครงการแก้มลิง”
13 แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้รับบริการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
เร่ือง “โครงการแกม้ ลิง”
การวดั และประเมินผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นร่วม ความตง้ั ใจ และสนใจของผู้รับบริการ
2. ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน
3. ผลการออกแบบและสร้างสรรคน์ วัตกรรมและสง่ิ ทต่ี อ้ งการพัฒนา/ช้นิ งาน/ผลงาน
4. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผรู้ บั บรกิ าร
คู่มือการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยไี ทย” หน้า | 7
บันทึกผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ผลการใชแ้ ผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. จำนวนเนื้อหากบั จำนวนเวลา
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเรยี งลำดบั เนือ้ หากับความเข้าใจของผูร้ บั บรกิ าร
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การนำเขา้ ส่บู ทเรยี นกับเนอื้ หาแต่ละหัวขอ้
เหมาะสม
ไม่เหมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้กับเน้อื หาในแต่ละขอ้
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ค่มู อื การจดั กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หน้า | 8
5. การประเมินผลกบั วตั ถุประสงคใ์ นแต่ละเนือ้ หา
เหมาะสม
ไม่เหมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คมู่ ือการจดั กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 9
รายละเอียดสอื่ วัสดอุ ปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้
1. แบบทดสอบความรู้กอ่ นเรยี น เรอื่ ง “โครงการแกม้ ลงิ ”
2. ใบความรูส้ ำหรับผู้รับบริการ เรือ่ ง “โครงการแกม้ ลงิ ”
3. คลิปวีดิโอให้ เรื่อง “หัวใจแห่งราชา : ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ผู้ริเริ่มโครงการแก้มลิง มูลนิธิ
ชยั พฒั นา” จาก https://www.youtube.com/watch?v=K7tsP9zaWRQ เวลา 5.52 นาที
4. ตวั อยา่ งโมเดลแก้มลงิ
5. คลิปวดี ิโอให้ เรื่อง “โครงการพระราชดำริ แกม้ ลิง”
จาก https://www.youtube.com/watch?v=ayfa4S8A00w เวลา 2.17 นาที
6. ใบความรสู้ ำหรับผูจ้ ดั กิจกรรม เรือ่ ง “โครงการแก้มลิง”
7. ใบกจิ กรรมสำหรับผู้จดั กจิ กรรม เรือ่ ง “การออกแบบและประดษิ ฐ์เมืองจำลองแก้มลงิ
8. ใบกิจกรรมสำหรบั ผรู้ ับบรกิ าร เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลิง”
9. วัสดุ อุปกรณใ์ นการทดลองเร่อื ง “การออกแบบและประดษิ ฐเ์ มอื งจำลองแก้มลงิ ”
10 PowerPoint สำหรับผู้จดั กิจกรรม เรื่อง การสรุปผลการเรียนรู้ “โครงการแกม้ ลงิ ”
11 บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง การสรุปผลการเรียนรู้
“โครงการแกม้ ลงิ ”
12 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง “โครงการแกม้ ลงิ ”
13 แบบประเมนิ ความพึงพอใจสำหรับผรู้ ับบรกิ ารในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
เร่อื ง “โครงการแกม้ ลิง”
ค่มู ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 10
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง โครงการแกม้ ลงิ
คำช้แี จง แบบทดสอบกอ่ นเรียน เป็นแบบเลอื กตอบถูกผิด มีจำนวนทัง้ หมด 10 ข้อ
_________________________________________________________________________
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายถูก () หน้าข้อทถ่ี กู และทำเครื่องหมายผิด (X) หน้าข้อทีผ่ ิด
............. 1. โครงการที่แกป้ ญั หาเรอื่ งน้ำท่วม คอื โครงการแกม้ ลงิ
............ 2. สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโครงการแก้มลิงขึ้น คือ เกิดสภาวะน้ำท่วมหนัก ซึ่งเกิดขึ้นที่
กรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล
............. 3. One Way Flow คือ ลักษณะการไหลของน้ำทางเดียว
............. 4. โครงการแก้มลงิ มี 3 ขนาด คือ แก้มลงิ ขนาดใหญ่ แก้มลิงขนาดกลาง แกม้ ลงิ ขนาดเล็ก
............. 5. แก้มลิงขนาดใหญ่ อาจมพี ื้นท่เี ปน็ หนอง บงึ คลอง เป็นต้น
............. 6. แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาดเล็ก ก่อสร้างในระดับลุ่มน้ำ เป็นพื้นที่
ธรรมชาติ
............. 7. แก้มลิงขนาดเลก็ เป็นพื้นท่เี กบ็ กักน้ำเหล่านีไ้ ด้แก่ เข่ือน อา่ งเก็บน้ำ ฝาย เป็นต้น
............. 8. เมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นกว่านำ้ ในคลอง น้ำในคลองจะไหลลงส่ทู ะเล
............. 9. โครงการแก้มลงิ สามารถอธบิ ายตามหลกั ทฤษฎแี รงโน้มถว่ งของโลกได้
............. 10. รัชกาลที่ 9 ทรงเปรียบเทียบโครงการแก้มลงิ กับ การกนิ อาหารของลิงที่เกบ็ ไว้ในแกม้
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
1. 2. 3. 4. 5. X 6. 7. X 8. X 9. 10.
คมู่ ือการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสง่ิ แวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 11
ใบความร้สู ำหรับผู้รับบริการ เรือ่ ง โครงการแกม้ ลิง
การเรื่องรู้ เรื่อง โครงการแก้มลิง เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมาและความสำคัญของ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อุทกภัย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ลดความเดือดร้อนของประชาชน และสามารถกักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ โดยมี
รายละเอยี ดดังน้ี
1. ความเปน็ มาและความสำคญั ของโครงการแก้มลิง
1.1 ความเป็นมาของโครงการแก้มลงิ
1.2 ความสำคัญของโครงการแกม้ ลิง
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
2.1 ลักษณะของโครงการแก้มลงิ
2.2 ประโยชน์ของโครงการแก้มลงิ
1. ความเปน็ มาและความสำคญั ของโครงการแกม้ ลิง
1.1 ความเปน็ มาของโครงการแกม้ ลงิ
โครงการแก้มลงิ เป็นโครงการอเนกประสงคส์ ำคัญย่ิง เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาอุทกภัย
ให้กับพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยระบายน้ำเหนือลงสู่อ่าวไทยตามจังหวะ
การขึ้นลงของระดับน้ำทะเล โดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกและการสูบน้ำที่เหมาะสม
เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำตามคูคลองธรรมชาติในช่วงฤดูฝนแล้ว ยังช่วยป้องกันการรุกล้ำ
ของน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้ง ไม่ให้น้ำเค็มจากทะเลไหลเข้าสู่แม่น้ำลำคลองและพื้นที่การเกษตร รวมท้ัง
สามารถเก็บกักน้ำจืดไว้ด้านเหนือประตูระบายน้ำ ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร
อุตสาหกรรม และอุปโภค บริโภคได้อีกดว้ ย
รูปภาพ รัชกาลท่ี 9 ทรงพระราชดำริ โครงการแก้มลิง
แหล่งที่มา : https://mgronline.com/south/detail/9590000104604
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 12
รปู ภาพ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชดำริ โครงการแก้มลงิ ณ กรุงเทพมหานครฯ
แหลง่ ที่มา : https://tinyurl.com/yzoo4fta
1.2 ความสำคัญของโครงการแกม้ ลงิ
ตามที่ได้เกิดสภาวะน้ำท่วมหนักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อ พ.ศ. 2538 อันสืบเนื่องมาจากฝนตกหนกั
ในลุม่ นำ้ ตอนบน ทำใหป้ รมิ าณนำ้ จำนวนมากไหลหลากท่วมพน้ื ที่อย่างรนุ แรงในลมุ่ แมน่ ้ำยม และแม่น้ำ
น่านเสริมกับปริมาณน้ำล้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิต์ิ ไปหลากท่วมพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำอย่าง หนั ก
และส่งผลกระทบต่อสภาวะน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างซึ่งรวมถึงเขตกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน โครงการแก้มลิง จึงเป็นส่วนหนึง่ ของโครงการแก้ไขปัญหา
น้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเปรียบเทียบการกินอาหาร
ของลิงหลังจากที่ลิง เคี้ยวกล้วยแล้ว จะยังไม่กลืน แต่จะเก็บไว้ภายในแก้มทั้งสองข้างแล้วค่อย ๆ
ตุนกลว้ ยมากนิ ในภายหลงั เช่นเดียวกบั กรณกี ารผนั น้ำ
จากแมน่ ้ำเจ้าพระยารวมท้ังน้ำที่ข้ึนมาตามซอยต่าง ๆ เมือ่ นำ้ ทะเลหนนุ ให้ไปเก็บไว้ท่ีบึงใหญ่
ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ชายทะเล และมีประตูน้ำขนาดใหญ่สำหรับปิดกั้นน้ำบริเวณแก้มลิง
สำหรับฝั่งตะวันตกจะอยู่ที่คลองชายทะเลด้านฝั่งตะวันออกบริเวณแก้มลิงจะอยู่ที่คลองสรรพสามิต
เมอ่ื เวลานำ้ ทะเลลดลงใหเ้ ปิดประตรู ะบายนำ้ ออกไป บึงจะสามารถรับนำ้ ชดุ ใหมต่ อ่ ไป
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
2.1 ลกั ษณะของโครงการแก้มลิง
ลักษณะของโครงการแก้มลิงจะดำเนินการระบายน้ำออก
จากพื้นที่ตอนบน เพื่อให้น้ำไหลลงคลองพักน้ำที่ชายทะเล จากนั้น
เมื่อระดับน้ำทะเลลดลงจนต่ำกว่าน้ำในคลอง น้ำในคลองจะไหลลง
สู่ทะเลตามธรรมชาติ ต่อจากนั้นจะเริ่มสูบน้ำออกจากคลอง
ที่ทำหน้าท่ีแก้มลิง เพื่อทำให้น้ำตอนบนค่อย ๆ ไหลมาเอง
จึงทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลดน้อยลง จนในที่สุดเมื่อระดับน้ำทะเล
สูงกว่าระดับในคลอง จึงปิดประตูระบายน้ำ โดยให้น้ำไหลลง
ทางเดียว (One Way Flow)
รปู ภาพ ลักษณะและวธิ กี ารของโครงการ “แกม้ ลงิ ”
แหล่งทมี่ า : https://hilight.kapook.com/view/162898
คูม่ อื การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 13
โครงการแก้มลงิ มี 3 ขนาด คือ
แก้มลิงขนาดใหญ่ คือ สระน้ำหรือบึงขนาดใหญ่ ที่รวบรวมน้ำฝนจากพื้นที่บริเวณนั้น ๆ
โดยจะกักเก็บไว้เป็นระยะเวลาหนึง่ ก่อนทีจ่ ะระบายลงสู่ลำน้ำ พื้นที่เก็บกักน้ำเหล่านี้ได้แก่ เขื่อน อ่าง
เก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลักษณะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะมีวัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย
เชน่ เพ่ือการชลประทาน เพ่ือการประมง เป็นต้น
แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า ก่อสร้างในระดับลุ่มน้ำ มักเป็นพื้นท่ี
ธรรมชาติ เช่น หนอง บงึ คลอง เป็นต้น
แก้มลิงขนาดเล็ก คือแก้มลิงที่มีขนาดเล็กกว่า อาจเป็นพื้นที่สาธารณะ สนามเด็กเล่น
ลานจอดรถ หรือสนามในบา้ น ซึ่งต่อเขา้ กับระบบระบายน้ำหรอื คลอง
รูปภาพ โครงการแกม้ ลงิ มี 3 ขนาด
แหลง่ ท่ีมา : https://www.ay-sci.go.th/aynew/640528-6/
2.2 ประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
(1) ช่วยระบายน้ำทว่ มขงั ในท่ลี ุม่ ท้ิงลงทะเล
(2) ช่วยลดระยะเวลานำ้ ทว่ มขังใหส้ น้ั ลง
(3) ลดปัญหาความตึงเครยี ดทางด้านจิตใจของราษฎรในพ้ืนท่ีนำ้ ทว่ ม
(4) ลดความสญู เสยี ทางดา้ นเศรษฐกจิ ในพนื้ ที่ท่ีถูกน้ำทว่ ม
(5) ลดค่าใช้จา่ ยในการบูรณะซอ่ มแซมสาธารณปู โภคตา่ ง ๆ
(6) การชดั น้ำจดื จากแม่นำ้ ทา่ จีนเพอื่ นำมาช่วยไลน่ ้ำเสยี
(7) ช่วยใหม้ ีการชดั นำ้ จืดจากแมน่ ้ำท่าจีนเพ่ือนำมาชว่ ยไลน่ ำ้ เสีย
คู่มือการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | 14
ใบความร้สู ำหรับผจู้ ดั กจิ กรรม เรอ่ื ง โครงการแกม้ ลงิ
การเรื่องรู้ เรื่อง โครงการแก้มลิง เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมาและความสำคัญของ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อุทกภัย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ลดความเดือดร้อนของประชาชน และสามารถกักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ โดยมี
รายละเอยี ดดังนี้
1. ความเปน็ มาและความสำคญั ของโครงการแกม้ ลิง
1.1 ความเปน็ มาของโครงการแก้มลิง
1.2 ความสำคัญของโครงการแก้มลงิ
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
2.1 ลกั ษณะของโครงการแก้มลงิ
2.2 ประโยชน์ของโครงการแกม้ ลงิ
1. ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการแก้มลิง
1.1 ความเปน็ มาของโครงการแก้มลงิ
โครงการแก้มลิง เป็นโครงการอเนกประสงค์สำคัญยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาอทุ กภัย
ให้กับพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยระบายน้ำเหนือลงสู่ อ่าวไทยตามจังหวะ
การขึ้นลงของระดับน้ำทะเล โดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกและการสูบน้ำที่เหมาะสม
เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำตามคูคลองธรรมชาติในช่วงฤดูฝนแล้ว ยังช่วยป้องกันการรุกล้ำ
ของน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้ง ไม่ให้น้ำเค็มจากทะเลไหลเข้าสู่แม่น้ำลำคลองและพื้นที่การเกษตร รวมท้ัง
สามารถเก็บกักน้ำจืดไว้ด้านเหนือประตูระบายน้ำ ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร
อุตสาหกรรม และอุปโภค บรโิ ภคไดอ้ ีกด้วย
รูปภาพ รชั กาลที่ 9 ทรงพระราชดำริ โครงการแก้มลิง
แหลง่ ท่ีมา : https://mgronline.com/south/detail/9590000104604
คมู่ อื การจัดกจิ กรรมการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | 15
รูปภาพ รชั กาลท่ี 9 ทรงพระราชดำริ โครงการแก้มลงิ ณ กรงุ เทพมหานครฯ
แหล่งท่มี า : https://tinyurl.com/yzoo4fta
1.2 ความสำคญั ของโครงการแก้มลิง
ตามที่ได้เกิดสภาวะน้ำท่วมหนักในลุ่มแม่น้ำเจา้ พระยาเมื่อ พ.ศ. 2538 อันสืบเนื่องมาจากฝนตกหนัก
ในลุม่ นำ้ ตอนบน ทำให้ปริมาณนำ้ จำนวนมากไหลหลากทว่ มพื้นท่อี ย่างรนุ แรงในลุม่ แมน่ ้ำยม และแม่น้ำ
น่านเสริมกับปริมาณน้ำล้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ไปหลากท่วมพื้นที่ทางด้านท้ ายน้ำอย่างหนัก
และส่งผลกระทบต่อสภาวะน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างซึ่งรวมถึงเขตกรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน โครงการแก้มลิง จึงเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้ไขปัญหา
น้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระ บรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเปรียบเทียบการกินอาหาร
ของลิงหลังจากที่ลิง เคี้ยวกล้วยแล้ว จะยังไม่กลืน แต่จะเก็บไว้ภายในแก้มทั้งสองข้างแล้วค่อย ๆ
ตุนกลว้ ยมากนิ ในภายหลัง เชน่ เดียวกับกรณกี ารผันนำ้
จากแมน่ ้ำเจ้าพระยารวมทั้งน้ำที่ข้ึนมาตามซอยต่าง ๆ เมือ่ น้ำทะเลหนุนให้ไปเก็บไว้ท่ีบึงใหญ่
ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ชายทะเล และมีประตูน้ำขนาดใหญ่สำหรับปิดกั้นน้ำบริเวณแก้มลิง
สำหรับฝั่งตะวันตกจะอยู่ที่คลองชายทะเลด้านฝั่งตะวันออกบริเวณแก้มลิงจะอยู่ที่คลองสรรพสามิต
เมอ่ื เวลานำ้ ทะเลลดลงให้เปิดประตูระบายน้ำออกไป บึงจะสามารถรบั นำ้ ชดุ ใหม่ตอ่ ไป
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแก้มลงิ
2.1 ลักษณะของโครงการแก้มลิง
ลักษณะของโครงการแก้มลิงจะดำเนินการระบายน้ำออก
จากพื้นที่ตอนบน เพื่อให้น้ำไหลลงคลองพักน้ำที่ชายทะเล จากน้ัน
เม่ือระดับน้ำทะเลลดลงจนต่ำกว่าน้ำในคลอง น้ำในคลองจะไหลลง
สู่ทะเลตามธรรมชาติ ต่อจากนั้นจะเริ่มสูบน้ำออกจากคลอง
ที่ทำหน้าที่แก้มลิง เพื่อทำให้น้ำตอนบนค่อย ๆ ไหลมาเอง
จึงทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลดน้อยลง จนในที่สุดเมื่อระดับน้ำทะเล
สูงกว่าระดับในคลอง จึงปิดประตูระบายน้ำ โดยให้น้ำไหลลง
ทางเดยี ว (One Way Flow)
รปู ภาพ ลักษณะและวธิ กี ารของโครงการ “แกม้ ลงิ ”
แหล่งทมี่ า : https://hilight.kapook.com/view/162898
คูม่ อื การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หน้า | 16
โครงการแก้มลงิ มี 3 ขนาด คอื
แก้มลิงขนาดใหญ่ คือ สระน้ำหรือบึงขนาดใหญ่ ที่รวบรวมน้ำฝนจากพื้นที่บริเวณนั้น ๆ
โดยจะกักเก็บไว้เป็นระยะเวลาหนึง่ ก่อนท่ีจะระบายลงสู่ลำนำ้ พื้นที่เก็บกักน้ำเหล่าน้ีได้แก่ เขื่อน อ่าง
เก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลักษณะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะมีวัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย
เชน่ เพ่ือการชลประทาน เพ่ือการประมง เป็นตน้
แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า ก่อสร้างในระดับลุ่มน้ำ มักเป็นพื้นท่ี
ธรรมชาติ เช่น หนอง บงึ คลอง เป็นตน้
แก้มลิงขนาดเล็ก คือแก้มลิงที่มีขนาดเล็กกว่า อาจเป็นพื้นที่สาธารณะ สนามเด็กเล่น
ลานจอดรถ หรือสนามในบา้ น ซงึ่ ต่อเขา้ กบั ระบบระบายน้ำหรอื คลอง
รูปภาพ โครงการแกม้ ลงิ มี 3 ขนาด
แหลง่ ท่ีมา : https://www.ay-sci.go.th/aynew/640528-6/
2.2 ประโยชนข์ องโครงการแกม้ ลิง
(1) ช่วยระบายน้ำท่วมขังในท่ลี มุ่ ท้ิงลงทะเล
(2) ช่วยลดระยะเวลานำ้ ท่วมขังใหส้ น้ั ลง
(3) ลดปัญหาความตึงเครียดทางด้านจิตใจของราษฎรในพืน้ ทน่ี ำ้ ทว่ ม
(4) ลดความสญู เสยี ทางด้านเศรษฐกจิ ในพนื้ ทท่ี ีถ่ ูกน้ำทว่ ม
(5) ลดค่าใช้จา่ ยในการบูรณะซอ่ มแซมสาธารณปู โภคต่าง ๆ
(6) การชดั น้ำจดื จากแมน่ ้ำทา่ จีนเพอื่ นำมาช่วยไลน่ ้ำเสีย
(7) ช่วยใหม้ ีการชดั นำ้ จดื จากแมน่ ้ำท่าจีนเพอ่ื นำมาชว่ ยไลน่ ำ้ เสีย
คู่มือการจัดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 17
ใบกจิ กรรมสำหรับผจู้ ดั กิจกรรม
เรอื่ ง การออกแบบและประดษิ ฐ์เมืองจำลองแกม้ ลงิ
คำชี้แจง
ใหผ้ ู้จัดกจิ กรรมดำเนนิ การ ดังน้ี
1. อธิบายและสาธิตการประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง”
ตามใบกจิ กรรมสำหรบั ผู้จดั กิจกรรม เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” พร้อมท้ัง
ให้ผู้รับบริการร่วมปฏิบัติในการสาธิตของผู้จัดกิจกรรมด้วย ทั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้
แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยให้ผู้รับบริการตั้งประเด็นข้อสงสัย หรือสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ในกระบวนการ
ของการสาธติ และเชื่อมโยงสกู่ ารนำไปใชใ้ นชวี ิตจริงของผูร้ ับบริการต่อไป
2. แบ่งผู้รับบริการออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 – 6 คน ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มลงมือ
ปฏิบัติจริง โดยผู้รับบริการแต่ละกลุ่มวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบ
และประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์
เมืองจำลองแก้มลิง” ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้กับผู้รับบริการในการออกแบบ
และประดิษฐ์เรื่อง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้จัด
กิจกรรม เรอ่ื ง “การออกแบบและประดิษฐเ์ มืองจำลองแก้มลงิ ”
3. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มตามข้อ 2 ปฏิบัติกิจกรรมตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ
เร่ือง “การออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลงิ ”
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมจะต้องกำกับการปฏิบัติกิจกรรมของผู้รับบริการจนกิจกรรม
แล้วเสร็จ ตามใบกิจกรรมสำหรบั ผจู้ ดั กจิ กรรม เร่อื ง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลงิ ”
4. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มนำเสนอผลผลงานการออกแบบการประดิษฐ์ เรื่อง
“การออกแบบและประดิษฐเ์ มืองจำลองแกม้ ลิง” ตามใบกจิ กรรมของผู้รับบรกิ าร เรอ่ื ง “การออกแบบ
และประดษิ ฐ์เมอื งจำลองแก้มลิง”
5. ผจู้ ดั กิจกรรมและผรู้ บั บริการอภิปรายและสรุปผลการเรยี นรู้ร่วมกัน
คู่มอื การจัดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หนา้ | 18
การออกแบบและการประดษิ ฐ์
เร่อื ง การออกแบบและประดษิ ฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลิง
คำชี้แจง ให้ผู้รับบริการออกแบบและการประดิษฐ์ บันทึกผลการออกแบบ และสรุปผล
การออกแบบตามทกี่ ำหนด ดังรายการต่อไปน้ี
วัสดุอุปกรณ์ จำนวน 1 แผน่
จำนวน 2 แผน่
(1) แผน่ ฟวิ เจอรบ์ อรด์ จำนวน 1 กล่อง
ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 20 เซนตเิ มตร จำนวน 4 กอ้ น
จำนวน 2 อนั
(2) กระดาษ A4 จำนวน 2 อนั
(3) กลอ่ งสไี ม้ 24 สี จำนวน 3 สี
(4) ถา่ นไฟฉาย AA
(5) ขัว้ ถา่ นไฟฉาย
(6) หลอดไฟโมเดล
(7) แป้งโด
ขัน้ ตอนการออกแบบและประดษิ ฐเ์ มอื งจำลองแกม้ ลิง
(1) ออกแบบโครงสร้างเมืองจำลองโดยใช้สีไม้จากกล่องสีไม้ 24 สี วาดลงบนแผ่นกระดาษ
A4 และระบายสตี กแตง่ ให้สวยงาม
(2) ใช้แป้งโดปั้นเป็นตึก อาคาร บ้าน สถานที่ หรือ สายไฟฟ้า บนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด
ขนาดกวา้ ง 30 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร
(3) นำถา่ นไฟฉาย AA ตอ่ กบั ข้ัวถ่านไฟฉาย จากน้นั ตอ่ เข้ากบั แปง้ โดที่ป้นั เป็นสายไฟฟา้
(4) นำหลอดไฟโมเดลมาตดิ ท่ีแปง้ โดทป่ี น้ั เป็นตึก อาคาร บา้ น หรอื สถานที่
รูปภาพ การออกแบบและประดิษฐ์ “เมืองจำลองในฝัน”
คมู่ ือการจัดกิจกรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 19
1. จดุ ประสงคใ์ นการออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแกม้ ลิง
แนวคำตอบ วางแผนการออกแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีอยูใ่ ห้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งได้รบั
ความรู้ความเข้าใจทางกระบวนวิทยาศาสตร์ในการออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลิง
มีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบตามจนิ ตนาการ
2. ร่างผลการออกแบบ และประดิษฐ์เมอื งจำลองแก้มลิง
3. สรุปปัญหา/อปุ สรรค ในการออกแบบและประดษิ ฐเ์ มืองจำลองแก้มลิง
แนวคำตอบ ชิ้นงานไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ การออกแบบและประดิษฐ์ไม่ทันตามเวลาท่ี
กำหนดเกดิ การแตกรา้ วของช้นิ งาน เกิดความเสยี หายและเสยี เวลาในการสรา้ งชิ้นงานข้นึ ใหม่
คู่มอื การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 20
ใบกิจกรรมสำหรับผ้รู บั บรกิ าร
เร่อื ง การออกแบบและประดิษฐเ์ มอื งจำลองแก้มลิง
คำชี้แจง ให้ผรู้ ับบริการดำเนนิ การ ดังนี้
1. ผรู้ บั บริการร่วมปฏิบัติในการสาธติ ของผู้จัดกิจกรรมด้วย ทง้ั นเี้ ปดิ โอกาสให้ผู้รับบริการ
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยให้ผู้รับบริการตั้งประเด็นข้อสงสัย หรือสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ในกระบวนการ
ของการสาธิต และเชื่อมโยงสูก่ ารนำไปใชใ้ นชีวติ จริงของผรู้ บั บริการตอ่ ไป
2. แบ่งผู้รับบริการออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 – 6 คน ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติ
จริงโดยผู้รับบริการแต่ละกลุ่มวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการประดิษฐ์ เรื่อง “การออกแบบ
และประดษิ ฐ์เมอื งจำลองแก้มลงิ ”
3. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มตามข้อ 2 ปฏิบัติกิจกรรมตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รับบริการ
เร่อื ง “การออกแบบและประดิษฐ์เมืองจำลองแก้มลงิ ”
4. ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มนำเสนอผลผลงานการออกแบบการประดิษฐ์
เรอื่ ง “การออกแบบและประดษิ ฐ์เมืองจำลองแกม้ ลงิ
5. ผจู้ ัดกจิ กรรมและผ้รู ับบริการอภปิ รายและสรปุ ผลการเรยี นรู้รว่ มกนั
ค่มู อื การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หน้า | 21
การนำเสนอผลการออกแบบและประดษิ ฐ์
เรอื่ ง การออกแบบและประดิษฐเ์ มอื งจำลองแก้มลงิ
ช่อื กลมุ่ ...............................................................
โรงเรียน/สถานศกึ ษา/หนว่ ยงาน...........................................................จงั หวดั ...............................
1. ชอ่ื - นามสกุล……………………………………………………………………………………………………………….
2. ช่ือ - นามสกลุ ……………………………………………………………………………………………………………….
3. ชอ่ื - นามสกุล……………………………………………………………………………………………………………….
4. ช่อื - นามสกุล……………………………………………………………………………………………………………….
5. ชื่อ - นามสกุล……………………………………………………………………………………………………………….
6. ชือ่ - นามสกลุ ……………………………………………………………………………………………………………….
วัสดอุ ปุ กรณ์ จำนวน 1 แผน่
จำนวน 2 แผ่น
(1) แผ่นฟวิ เจอรบ์ อรด์ จำนวน 1 กลอ่ ง
ขนาดกว้าง 30 เซนตเิ มตร ยาว 20 เซนติเมตร จำนวน 4 ก้อน
จำนวน 2 อนั
(2) กระดาษ A4 จำนวน 2 อัน
(3) กลอ่ งสีไม้ 24 สี จำนวน 3 สี
(4) ถ่านไฟฉาย AA
(5) ข้วั ถา่ นไฟฉาย
(6) หลอดไฟโมเดล
(7) แป้งโด
ขน้ั ตอนการออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแก้มลิง
(1) ออกแบบโครงสร้างเมืองจำลองโดยใช้สีไม้จากกล่องสีไม้ 24 สี วาดลงบนแผ่นกระดาษ
A4 และระบายสตี กแตง่ ใหส้ วยงาม
(2) ใช้แป้งโดปั้นเป็นตึก อาคาร บ้าน สถานที่ หรือ สายไฟฟ้า บนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด
ขนาดกว้าง 30 เซนตเิ มตร ยาว 20 เซนติเมตร
(3) นำถ่านไฟฉาย AA ตอ่ กบั ข้วั ถ่านไฟฉาย จากน้นั ตอ่ เข้ากบั แปง้ โดทป่ี ั้นเป็นสายไฟฟ้า
(4) นำหลอดไฟโมเดลมาตดิ ที่แป้งโดท่ปี น้ั เป็นตึก อาคาร บา้ น หรือสถานท่ี
รปู ภาพ การออกแบบและประดษิ ฐ์ “เมืองจำลองในฝัน”
คู่มือการจดั กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 22
1. จุดประสงคใ์ นการออกแบบและประดษิ ฐเ์ มอื งจำลองแกม้ ลงิ
2. ร่างผลการออกแบบ และประดิษฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลงิ
3. สรปุ ปญั หา/อุปสรรค ในการออกแบบและประดิษฐ์เมอื งจำลองแกม้ ลงิ
คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย” หน้า | 23
แบบทดสอบหลงั เรียน
เรอ่ื ง โครงการแกม้ ลงิ
คำชีแ้ จง แบบทดสอบก่อนเรยี น เป็นแบบเลือกตอบถกู ผิด มีจำนวนท้ังหมด 10 ขอ้
_________________________________________________________________________
คำสง่ั จงทำเครือ่ งหมายถกู () หนา้ ขอ้ ทถ่ี กู และทำเครอ่ื งหมายผิด (X) หน้าขอ้ ทผี่ ดิ
............. 1. รัชกาลที่ 9 ทรงทอดพระเนตรเห็น การกินอาหารของลิงท่ีเก็บไว้ในแกม้ ใช้เป็นแนวทาง
ในการริเริ่มทำ โครงการแกม้ ลิง ขึน้ มา
............ 2. การเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก ที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นสาเหตุสำคัญ
ท่ที ำใหเ้ กิดโครงการแกม้ ลงิ ขนึ้
............. 3. ลกั ษณะการไหลของนำ้ ทางเดยี ว เรยี กว่า One Way Flow
............. 4. แก้มลงิ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก เป็นลักษณะขนาดของโครงการแก้มลิง
............. 5. หนอง บึง คลอง คือ ลักษณะขนาดของแก้มลงิ ขนาดใหญ่
............. 6. พ้นื ท่ชี ะลอนำ้ ทม่ี ขี นาดเล็ก ก่อสร้างในระดบั ลุ่มนำ้ เปน็ พน้ื ท่ธี รรมชาติ คือ แก้มลงิ ขนาดกลาง
............. 7. พืน้ ที่เกบ็ กักนำ้ เหลา่ นไี้ ด้แก่ เขื่อน อา่ งเกบ็ นำ้ ฝาย คือ แก้มลิงขนาดเล็ก
............. 8. เมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นกว่านำ้ ในคลอง น้ำในคลองจะไหลลงส่ทู ะเล
............. 9. ทฤษฎีแรงโนม้ ถ่วงของโลก เป็นทฤษฎีหลกั ทใ่ี ช้ในโครงการแกม้ ลิง
............. 10. โครงการแกม้ ลงิ สามารถชว่ ยบำบัดนำ้ เน่าเสยี กอ่ นปล่อยลงสทู่ ะเล
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
1. 2. 3. 4. 5. X 6. 7. X 8. X 9. 10.
ค่มู ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 24
PowerPoint สำหรับผจู้ ดั กจิ กรรม
เรื่อง การสรุปผลการเรยี นรู้ “โครงการแก้มลงิ ”
ค่มู ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 25
PowerPoint สำหรับผจู้ ดั กจิ กรรม
เรื่อง การสรุปผลการเรยี นรู้ “โครงการแก้มลงิ ”
ค่มู ือการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดล้อม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 26
PowerPoint สำหรับผจู้ ดั กจิ กรรม
เรื่อง การสรุปผลการเรยี นรู้ “โครงการแก้มลงิ ”
คูม่ อื การจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 27
บทสรุปประกอบ PowerPoint สำหรับผู้จดั กจิ กรรม
เรอ่ื ง การสรุปผลการเรยี นรู้ “โครงการแกม้ ลงิ ”
จากวตั ถปุ ระสงค์ท่ีกำหนดตามแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน 4 ข้อ สรปุ ได้ดังนี
1. ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการแก้มลิง
1.1 ความเป็นมาของโครงการแก้มลิง
สืบเนื่องจากปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร (รัชกาลท่ี 9) ทอดพระเนตรเหน็ ว่า ปัญหาน้ำ
ท่วม ทเี่ กดิ ข้นึ น้นั เร้ือรังกวา่ 2 เดือน ในวันที่ 14 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2538 จึงมพี ระราชดำริ โครงการ
แก้มลิง ขึ้นครั้งแรก เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย พร้อมทั้งช่วยอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมแนวคิดโครงการ
แก้มลิงเกิดจากการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำรัสถึงลิงที่อมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มได้
คราวละมาก ๆ โดยมีพระราชกระแสอธิบายว่า " ลิงโดยทั่วไปถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก
เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม
จากน้นั จะคอ่ ย ๆ นำออกมาเค้ียวและกลืนกินภายหลงั ”
1.2 ความสำคญั ของโครงการแกม้ ลงิ
ตามที่ได้เกิดสภาวะน้ำท่วมหนักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระย าเมื่อ พ.ศ. 2538
อันสืบเนื่องมาจากฝนตกหนักในลุ่มน้ำตอนบน ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลหลากท่วมพื้นที่อย่าง
รุนแรงในลุ่มแม่น้ำยม และแม่น้ำน่านเสริมกับปริมาณน้ำล้นอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ไปหลากท่วมพื้นท่ี
ทางด้านท้ายน้ำอย่างหนัก และส่งผลกระทบต่อสภาวะน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างซึ่งรวมถึง
เขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน โครงการแก้มลิง จึงเป็นส่วนหน่ึง
ของโครงการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตามแนวพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงเปรียบเทียบ
การกินอาหาร ของลิงหลังจากที่ลิง เคี้ยวกล้วยแล้ว จะยังไม่กลืน แต่จะเก็บไว้ภายในแก้มทั้งสองข้าง
แลว้ ค่อย ๆ ตุนกล้วยมากินในภายหลัง เชน่ เดยี วกับกรณกี ารผันน้ำ
2. ลักษณะ และประโยชนข์ องโครงการแก้มลิง
2.1 ลักษณะของโครงการแกม้ ลิง
ลักษณะของโครงการแกม้ ลงิ จะดำเนินการระบายน้ำออกจากพ้นื ท่ีตอนบน เพ่ือให้น้ำ
ไหลลงคลองพักน้ำที่ชายทะเล จากนั้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงจนต่ำกว่าน้ำในคลอง น้ำในคลองจะ
ไหลลงสู่ทะเลตามธรรมชาติ ต่อจากนั้นจะเริ่มสูบน้ำออกจากคลองที่ทำหน้าที่แก้มลิง เพื่อทำให้น้ำ
ตอนบนค่อย ๆ ไหลมาเอง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลดน้อยลง จนในที่สุดเมื่อระดับน้ำทะเลสูงกว่า
ระดับในคลอง จงึ ปิดประตรู ะบายน้ำ โดยใหน้ ำ้ ไหลลงทางเดยี ว (One Way Flow)
2.2 ประโยชนข์ องโครงการแก้มลงิ
(1) ช่วยระบายน้ำทว่ มขังในทลี่ ุม่ ทง้ิ ลงทะเล
(2) ช่วยลดระยะเวลาน้ำทว่ มขังใหส้ ั้นลง
(3) ลดปัญหาความตงึ เครียดทางด้านจิตใจของราษฎรในพ้นื ท่นี ้ำทว่ ม
ค่มู อื การจัดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยีไทย” หนา้ | 28
(4) ลดความสญู เสียทางด้านเศรษฐกจิ ในพืน้ ทที่ ี่ถูกน้ำท่วม
(5) ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการบรู ณะซอ่ มแซมสาธารณูปโภคต่าง ๆ
(6) การชัดน้ำจืดจากแมน่ ้ำท่าจนี เพอื่ นำมาช่วยไล่นำ้ เสยี
(7) ชว่ ยใหม้ กี ารชัดน้ำจืดจากแมน่ ำ้ ทา่ จนี เพือ่ นำมาช่วยไลน่ ำ้ เสีย
3. การออกแบบและประดิษฐเ์ มืองจำลองแกม้ ลิง
3.1 ออกแบบโครงสร้างเมืองจำลองโดยใช้สีไม้จากกล่องสีไม้ 24 สี วาดลงบนแผ่นกระดาษ
A4 และระบายสตี กแต่งให้สวยงาม
3.2 ใช้แป้งโดปั้นเป็นตึก อาคาร บ้าน สถานที่ หรือ สายไฟฟ้า บนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด
ขนาดกว้าง 30 เซนตเิ มตร ยาว 20 เซนตเิ มตร
3.3 นำถ่านไฟฉาย AA ตอ่ กับ ขว้ั ถา่ นไฟฉาย จากน้ันตอ่ เข้ากบั แป้งโดทป่ี ้นั เปน็ สายไฟฟ้า
3.4 นำหลอดไฟโมเดลมาติดท่แี ปง้ โดท่ปี นั้ เปน็ ตึก อาคาร บ้าน หรือสถานที่
4. การปฏิบตั กิ ารออกแบบและประดิษฐเ์ มืองจำลองแก้มลงิ
จากการออกแบบและประดิษฐ์พบวา่ การวางแผนเมืองท่ีดีจะควบคู่ไปกบั ลักษณะของแก้มลิง
ทัง้ 3 ขนาด คือ แกม้ ขนาดใหญ่ คือ สระน้ำหรอื บึงขนาดใหญ่ ทีร่ วบรวมน้ำฝนจากพน้ื ท่ีบริเวณนั้น ๆ
โดยจะกักเก็บไวเ้ ป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะระบายลงสู่ลำน้ำ พื้นที่เก็บกักน้ำเหล่าน้ีได้แก่ เขื่อน อ่าง
เก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลักษณะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ จะมีวัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย
เช่น เพื่อการชลประทาน เพื่อการประมง แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า
ก่อสรา้ งในระดับลุ่มน้ำ มักเปน็ พ้ืนที่ธรรมชาติ เชน่ หนอง บึง คลอง เปน็ ต้น แกม้ ลิงขนาดเล็ก คือแก้ม
ลิงที่มีขนาดเล็กกว่า อาจเป็นพื้นที่สาธารณะ สนามเด็กเล่น ลานจอดรถ หรือสนามในบ้าน ซึ่งต่อเข้า
กบั ระบบระบายน้ำ ตามความคิดสร้างสรรค์ของผูร้ บั บริการ
คู่มือการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 29
แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผรู้ บั บรกิ ารในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ฐานการเรยี นรู้ พระบิดาแหง่ เทคโนโลยีไทย เรอ่ื ง “โครงการแก้มลิง”
คำชี้แจง กรุณาตอบแบบสอบถามโดยทำเครื่องหมายถูก () หรือเติมข้อความ ในช่องว่างตาม
ความเป็นจริง เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลในการพฒั นาและปรับปรงุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป
1. เพศ ชาย หญิง
2. อายุ ตำ่ กว่า 11 ปี 11 – 20 ปี 21 - 30 ปี
31 – 40 ปี 41 – 50 ปี 51 ปี ขนึ้ ไป
3. ประเภทผู้รบั บรกิ าร
นกั เรียน/นักศกึ ษาในระบบ ประชาชนทั่วไป
นกั เรยี น/นักศกึ ษานอกระบบ อนื่ ๆ ระบ.ุ ............................
4. ระดับการศึกษา
ประถมศกึ ษา อาชีวศึกษา
มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ปรญิ ญาตรี
มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สูงกว่าปริญญาตรี
ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจต่อกจิ กรรมการเรยี นรู้และการให้บรกิ าร
ระดบั ความพึงพอใจ
รายการ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยทีส่ ดุ
(5) (4) (3) (2) (1)
ดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ
1. ความรคู้ วามเขา้ ใจในเรือ่ งนี้ ก่อน การจัดกจิ กรรม
2. ความรูค้ วามเข้าใจในเรือ่ งนี้ หลัง การจัดกจิ กรรม
ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. รูปแบบ/กระบวนการจัดกิจกรรม
2. กจิ กรรมทจ่ี ดั เหมาะสมกับผู้รับบริการ
3. สาระความรทู้ ่ีได้รับ
4. สื่อการเรยี นรู/้ แหล่งเรียนรู้
5. การมสี ่วนร่วมของผรู้ ับบรกิ าร
6. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรม
7. สามารถนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
8. การจัดบรรยากาศเออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ………..…………………………………………………………………………….………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอขอบคุณสำหรับความรว่ มมือในการตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
ศนู ยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา
คมู่ ือการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | 30
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรขู้ องผู้รับบรกิ าร
ชอ่ื โครงการ/กิจกรรม........................................................................................................................
ชื่อโรงเรยี น/สถานศกึ ษา ……………………………………………………………………………………………………..
ชื่อหัวหน้าโครงการ/กจิ กรรม.............................................................................................................
คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินทำเครื่องหมายถูก () ลงในช่องระดับพฤติกรรมของผู้รับบริการ โดยมี
เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพการประเมนิ ดังน้ี
5 มีพฤติกรรมการเรยี นรู้ มากท่ีสุด
4 มีพฤติกรรมการเรยี นรู้ มาก
3 มีพฤติกรรมการเรียนรู้ ปานกลาง
2 มีพฤติกรรมการเรยี นรู้ น้อย
1 มีพฤติกรรมการเรียนรู้ นอ้ ยทสี่ ุด
เกณฑก์ ารพิจารณาระดับคุณภาพ
คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 0 - 50 ระดับคณุ ภาพ ปรบั ปรงุ
พอใช้
คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 51 - 69 ระดับคณุ ภาพ ดี
ดมี าก
คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 71 - 79 ระดับคณุ ภาพ ดเี ยย่ี ม
คะแนนเฉล่ียร้อยละ 80 - 89 ระดับคณุ ภาพ
คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 90 - 100 ระดบั คุณภาพ
พฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั พฤติกรรม
54321
1. ความต้ังใจในการทำงาน
2. ความรบั ผิดชอบ
3. ความกระตอื รอื ร้น
4. การตรงต่อเวลา
5. ผลสำเร็จของงาน
6. การทำงานร่วมกับผอู้ ่ืน
7. มีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์
8. มกี ารวางแผนในการทำงาน
9. การมีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ในกลุม่
10. การมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหาในกลุ่ม
ลงช่ือ......................................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.............................../.....................
ค่มู ือการจดั กิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่งิ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยีไทย” หนา้ | 31
แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 2
เร่อื ง สร้างเมฆตามรอยพอ่
เวลา 2 ชว่ั โมง
แนวคิด
สร้างเมฆตามรอยพ่อ เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการเกิดเมฆและฝน ซึ่งเป็นหน่ึง
ในกระบวนการทำฝนหลวง ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฝนหลวง ของพระบาทสมเด็จ
พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงใช้ความเป็น
นักวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งของพสกนิกร ด้วยการดัดแปลงสภาพอากาศโดยใช้สารเคมี
ก่อกวนเมฆให้เกิดฝน ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดฝนเร็วขึ้น เริ่มจาก ก่อกวนให้เกิด
เมฆ เลี้ยงเมฆให้อ้วน โจมตีให้เกิดฝน นอกจากนี้ผู้รับบริการได้ฝึกปฏิบัติการทดลองการสร้างเมฆ
ดังนั้น กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สร้างเมฆตามรอยพ่อ ผู้รับบริการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ เก่ียวกบั ความเขา้ ใจหลักการเกิดเมฆตามแนวฝนหลวง พรอ้ มท้ังสามารถนำความรู้
ไปบรู ณาการและต่อยอดกับศาสตร์วิชาแขนงอืน่ ๆ ท่ีเกี่ยวข้องต่อไป
วตั ถปุ ระสงค์
1. อธิบายความเป็นมาและความสำคญั ของโครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ เรือ่ ง “ฝนหลวง”
2. อธบิ ายขั้นตอน และประโยชนก์ ารทำฝนหลวง
3. อธิบายและสาธิตการทดลองการสรา้ งเมฆ
4. ปฏิบัติการทดลองการสร้างเมฆ
เนอื้ หา
1. ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ เร่ือง “ฝนหลวง”
1.1 ความเปน็ มาของโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ เรื่อง “ฝนหลวง”
1.2 ความสำคัญของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เรอื่ ง “ฝนหลวง”
2. ขัน้ ตอน และประโยชน์การทำฝนหลวง
2.1 ขน้ั ตอนของการทำฝนหลวง
2.2 ประโยชนก์ ารทำฝนหลวง
3. สาธิตการทดลองการสร้างเมฆ
4. การปฏบิ ตั กิ ารทดลองการสร้างเมฆ
คมู่ ือการจดั กิจกรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยีไทย” หน้า | 32
ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั ตอนที่ 1 จุดประกายการเรียนรู้ (Inspiration : I)
1. ผู้จัดกิจกรรมทักทายผู้รับบริการ พร้อมทั้งแนะนำตนเอง และฐานการเรียนรู้ เรื่อง
“พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้รับบริการจะต้องเรียนรู้ร่วมกันในครั้งน้ี
คอื กิจกรรมการเรียนรู้ เรอ่ื ง “สรา้ งเมฆตามรอยพอ่ ”
2. ผู้จัดกิจกรรมชี้แจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ”
จำนวน 4 ข้อ ดังน้ี
(1) อธิบายความเป็นมาและความสำคัญของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เรื่อง
“ฝนหลวง”
(2) อธบิ ายประโยชน์ และข้นั ตอนการทำฝนหลวง
(3) อธิบายและสาธติ การทดลองการสร้างเมฆ
(4) ปฏบิ ตั กิ ารทดลองการสรา้ งเมฆ
3. ให้ผู้รับบริการทำแบบทดสอบความรู้ก่อนเรียน เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” จำนวน 10
ขอ้ โดยใชเ้ วลา 10 นาที
4. ผู้จัดกิจกรรมแจกใบความรู้สำหรับผู้รับบริการ เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” เพื่อใช้สำหรับ
ประกอบการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เรือ่ ง “สรา้ งเมฆตามรอยพอ่ ”
5. ผู้จัดกิจกรรมชวนคิดชวนคุยเกี่ยวกับประสบการณ์เดิมของผู้รับบริการในเรื่องที่จะเรียนรู้
ตามกิจกรรมการเรียนรู้นี้ โดยผู้จัดกิจกรรมสุ่มผู้รับบริการตามความสมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน
ใหต้ อบคำถาม จำนวน 2 ประเด็น ดงั น้ี
ประเดน็ ท่ี 1 “ท่านทราบหรือไมว่ ่า ฝนหลวงมคี วามเป็นมา และความสำคัญอย่างไร”
แนวคำตอบ ฝนหลวง เปน็ หน่ึงในโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อลดความเดือดร้อนทุกข์ยาก
ของพสกนิกรในพื้นที่ทุรกันดาร ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โดย “ฝนหลวง” เป็นวิธีการดัดแปลง
สภาพอากาศ โดยเน้นการทำฝน เพอื่ เพิม่ ปริมาณฝนตก หรือ ใหฝ้ นตกกระจายอยา่ งสม่ำเสมอ สำหรบั
บรรเทาภาวะแห้งแล้งทเ่ี กิดจากฝนแล้งหรอื ฝนท้ิงชว่ ง
ประเด็นท่ี 2 “ทา่ นทราบหรอื ไม่วา่ กระบวนการทำฝนหลวงมกี ่ีขน้ั ตอน อะไรบา้ ง”
แนวคำตอบ ฝนหลวงมขี น้ั ตอนการทำ 3 ขน้ั ตอน ได้แก่
ขั้นตอนที่หนึ่ง “ก่อกวน” เป็นการดัดแปลงสภาพอากาศโดยการก่อกวนสมดุล
ผ่านการโปรยสารเคมีประเภทคายความรอ้ น ได้แก่ แคลเซียมคลอไรด์ (Calcium Chloride, CaCl2)
แคลเซียมคาร์ไบด์ (Calcium Carbide, CaC2) และแคลเซียมออกไซด์ (Calcium Oxide, CaO)
เพอื่ ทำให้มวลอากาศในบริเวณทโ่ี ปรยสารเคมีน้ีมีอุณหภมู ิสูงข้ึน และเกิดการลอยตัวขึ้นมาเป็นเมฆท่ีมี
ปรมิ าณมากกว่าทเ่ี กดิ ข้นึ ตามเองธรรมชาติ
ขั้นตอนที่สอง “เลี้ยงให้อ้วน” เป็นการดัดแปลงสภาพอากาศและก้อนเมฆ
โดยการกระตุ้นให้ก้อนเมฆที่ก่อตัวแล้วมีขนาดใหญ่และหนาแน่นมากขึ้น ผ่านการโปรยสารเคมี
ประเภทดูดกลืนความร้อน เช่น ยูเรีย (Urea; Co (NH2)2) แอมโมเนียไนเทรต (Ammonium
nitrate; NH4NO3) น้ำแขง็ แห้ง (Dry ice; CO2(s)) ซ่ึงอาจใชแ้ คลเซยี มคลอไรด์ (Calcium Chloride,
คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยีไทย” หน้า | 33
CaCl) รว่ มดว้ ย เพ่ือให้ประสทิ ธภิ าพในการกล่นั ตัวเปน็ หยดน้ำสงู ขึ้น และทำใหก้ ารเจริญของเม็ดน้ำใน
ก้อนเมฆมีขนาดใหญ่เร็วขน้ึ จนกลายเปน็ ฝนตกลงมา
ขั้นตอนที่สาม “โจมตี” คือ เป็นการดัดแปลงสภาพอากาศในก้อนเมฆโดยตรง เพื่อชักนำให้
เมฆฝนท่ีตกอยู่แลว้ เคล่ือนเข้าสู่พนื้ ท่ีทีต่ ้องการ โดยจะใชเ้ คร่ืองบินโปรยสารเคมีประเภทดูดความร้อน
เช่น ยเู รยี นำ้ แข็งแห้ง เขา้ ไปโดยตรงที่ฐานเมฆ และโปรยสารเคมปี ระเภทดดู ซบั ความชื้นอยา่ งโซเดียม
คลอไรด์ที่ยอดเมฆ ซึ่งเป็นการโจมตแี บบเมฆอุ่น เพื่อเหนี่ยวนำให้ฝนทีก่ ำลังตกอยู่เคลือ่ นเข้าสูบ่ ริเวณ
ทตี่ ้องการ
หลังจากนั้นผู้จัดกิจกรรมเปิดคลิปวีดิโอให้ผู้รับบริการชม เรื่อง “โครงการพระราชดำริ ฝน
หลวง” https://www.youtube.com/watch?v=maiszY0bWLc เวลา 2.28 นาที โดยผ้จู ดั กจิ กรรม
ส่มุ ผรู้ ับบริการตามความสมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน ใหต้ อบคำถาม จำนวน 2 ประเด็น ดงั นี้
ประเดน็ ที่ 1 “ทา่ นไดเ้ รียนรู้อะไรบา้ ง จากคลิปวีดโิ อนี้”
แนวคำตอบ ฝนหลวง คือ หนง่ึ ในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ
เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง ของ
พสกนกิ ร เพอ่ื ใช้ในการอปุ โภคบริโภค อันเนอ่ื งมาจากสภาวะแห้งแล้งตามความผนั แปรของธรรมชาติ
ประเดน็ ที่ 2 “จากคลิปวีดิโอ ท่านคิดวา่ อะไรคือปจั จัยที่ก่อใหเ้ กิดฝน”
แนวคำตอบ ข้นึ อยู่กับปัจจัยหลายอยา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ทอ้ งฟา้ โปรง่ ใสที่มีความช้ืนสัมพัทธ์ไม่น้อย
กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ การโปรยสารเคมีผงละเอียดของเกลือโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ที่ระดับความสูง
7,000 ฟุต การเพิ่มความร้อนโดยใส่แคลเซียมคลอไรด์ เพื่อให้เมฆใหญ่ขึ้น ยอดเมฆยกตัวถึงความสูง
15,000 ฟุต ภายในเมฆเกิดการกลน่ั ตัวของไอน้ำและการรวมตัวกันของเม็ดน้ำ การเติมน้ำแข็งแห้งใต้
ฐานเมฆ เร่งให้ฝนตก
6. ผู้จัดกิจกรรมใหผ้ ู้รับบริการดูตัวอยา่ งโมเดลฝนหลวง ทบี่ อกถงึ กระบวนการขั้นตอนการทำ
ฝนหลวง 3 ขน้ั ตอน
(1) ก่อกวนให้เกิดเมฆ เปน็ การกระตุน้ ให้ความช้นื หรือไอน้ำรวมตวั เป็นกลุ่มแกน เพื่อใช้เป็น
แกนกลางในการสรา้ งกลุ่มเมฆฝน ในระยะตอ่ มาวธิ ีการคอื โปรยสารเคมีทีก่ ่อให้เกิดกระบวนการกลั่น
ตัวของไอน้ำในอากาศ ได้แก่ เกลือแกง ที่ความสูงประมาณ 7,000 ฟุต ความชื้นหรือไอน้ำ
จะดูดซับเข้าไปเกาะรอบแกนเกลือ แล้วรวมตัวกันเกิดเป็นเมฆที่จะพัฒนาเจริญข้ึนเป็นเมฆก้อนใหญ่
ทอี่ าจสูงถงึ 10,000 ฟุต
(2) เลี้ยงเมฆให้อ้วน เป็นการเพิ่มแกนเม็ดไอน้ำให้กลุ่มเมฆฝนมีความหนาแน่นมากขึ้น
ใช้สารเคมีผงแคลซียมคลอไรด์โปรยเข้าไปที่กลุ่มเมฆที่มีความสูงประมาณ 8,000 ฟุต หรือสูงกว่า
ฐานเมฆประมาณ 1,000 ฟุต ขน้ั ตอนนี้สามารถเรง่ กจิ กรรมการกลน่ั ตัว
(3) โจมตี เป็นการเร่งหรือบังคับให้เกิดฝน ขณะที่เมฆเจริญเติบโตขึ้นจนเริ่มแก่ตัวจัดจน
ฐานเมฆลดระดับต่ำลงประมาณ 1,000 ฟุต และเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายจึงปฏิบัติการ
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวพระราชทานขน้ั ตอนการโจมตีไว้ ดงั น้ี
- แบบ Sandwich เป็นเทคนิคปฏิบัติการที่ความสูงไม่เกิน 10,000 ฟุต (เมฆอุ่น) ใช้ผง
โซเดียมคลอไรดโ์ ปรยทับยอดเมฆด้านเหนือลม เพราะผงยูเรียโปรยท่รี ะดับฐานเมฆด้านใต้ลมในเวลา
เดียวกัน โดยให้แนวโปรยทั้ง 2 ทำมุมเยื้องกัน 45 องศา ด้วยปฏิบัติการนี้เมฆจะทวีความ
คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยไี ทย” หน้า | 34
หนาแน่นของเม็ดน้ำขนาดใหญ่ขึ้นและปริมาณมากขึ้นจนตกลงมารวมตัวกันที่ฐานเมฆ
ทำให้ใกล้จะเกิดฝน วิธีการนี้จะต้องเสริมการโจมตีด้วยการโปรยสารเคมีสูตรเย็นจัดคือ น้ำแข็งแห้ง
ท่ีใตฐ้ านเมฆ 1,000 ฟุต เพ่อื เรง่ ให้กลุม่ ฝนกตลงเร็วขึน้
- แบบเมฆเย็น เป็นกรณีที่ยอดเมฆสูงมาจนถึงระดับเมฆเย็นหรือประมาณ 20,000 ฟุต
ดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วไว้แลว้ ิธกี ารคอื ใชส้ ารซลิ เวอรไ์ อโอไดดย์ ิงจากเครื่องบนิ ทีร่ ะดบั ความสูงประมาณ 21,500
ฟุต ทำให้ไอน้ำระเหยจากเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวดมาเกาะตัวรอบแกนของสารเคมีที่ยิง กลายเป็นผลึก
น้ำแข็งจนกระท่ังตกลงมา และละลายเป็นเมด็ น้ำเม่ือเข้าสูร่ ะดับเมฆอุ่น ทำใหไ้ อนำ้ และเม็ดน้ำในเมฆ
อุน่ เข้ามาเกาะรวมตวั เป็นเม็ดใหญ่ขึน้ ทะลุฐานเมฆเป็นฝนตกลงสู่พน้ื ดิน
- แบบ Super Sandwich เป็นเทคนิคใหม่ที่ทรงคิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2542 ด้วยน้ำ
พระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพสกนิกร และพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ในช่วงสถานการณ์ภัยแล้ง
อย่างกว้างขวางสืบเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จากปรากฏการณ์ “เอล นิโน” ปฏิบัติการน้ี
ใช้วธิ ีการแบบ Sandwich และแบบเมฆเยน็ ควบค่กู ันในเวลาเดยี วกัน จะทำใหฝ้ นตกหนักและต่อเนื่อง
ยาวนาน ให้ปริมาณน้ำฝนสูงยิ่งข้ึน เนื่องจากเป็นประสานประสิทธิภาพของการโจมตีเมฆอุ่นและเมฆ
เยน็ ในเวลาเดียวกนั
หลังจากนั้น ผู้จัดดกิจกรรมสุ่มผู้รับบริการตามความสมัครใจ จำนวน 2 – 3 คน ให้ตอบ
คำถาม จำนวน 2 ประเด็น
ประเด็นที่ 1 “ทา่ นทราบหรือไมว่ า่ ฝนเกดิ ขึ้นไดอ้ ยา่ งไร”
แนวคำตอบ ฝนเกิดจากอนุภาคของไอน้ำขนาดต่าง ๆ ลอยตัวอยู่ในก้อนเมฆ เมื่อถูก
ความร้อนของแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ระเหยกลายเป็นไอนำ้ ลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อไอน้ำมากขึ้น
จะรวมตัวกันเป็นละอองน้ำเล็กๆ ปริมาณของละอองน้ำยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมตัวกันเป็นเมฆฝน
พอมากเข้าอากาศไมส่ ามารถพยงุ ละอองน้ำได้ น้ำตกลงมายงั ผนื โลกเรยี กกันว่า “วัฏจกั รของน้ำ”
ประเด็นที่ 2 “ทา่ นทราบหรอื ไมว่ า่ เมฆ คอื อะไร เกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไร”
แนวคำตอบ เมฆ (Cloud) คือไอน้ำที่กลั่นตัวรวมกันเข้าเป็นกลุ่มก้อน อาจมีสภาพ
เป็นอนุภาคเล็ก ๆ ของน้ำหรือน้ำแข็งหรือทั้งสองอย่างปนกันลอยอยู่ในอากาศ สามารถมองเห็น
ได้ด้วยตาเปล่า ในกลุ่มของผสมนี้อาจมีอนุภาคใหญ่ ๆ ของน้ำแข็งปนอยู่ด้วย หรืออาจมีอนุภาค
ที่ไม่มีน้ำหรืออนุภาคที่เป็นของแข็งตัวอยา่ ง เช่น ก๊าซ ผงฝุ่น หรือควัน ฯลฯ เมฆเกิดจากอากาศร้อน
ซึ่งสามารถดูดรับเอาไอน้ำไว้ได้มาก ซึ่งมักจะเรียกว่าอากาศชื้นลอยตัวขึ้นและเย็นลงไอน้ำในอากาศ
กลัน่ ตวั กลายเปน็ เมฆเราสามารถมองเห็นได้
7. ผ้จู ดั กิจกรรมและผู้รับบริการอภปิ รายและสรุปผลการเรียนรู้รว่ มกัน
ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบตั ิและประยกุ ตใ์ ช้ (Implementation : I)
1. ผู้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้ในขั้นตอนที่ 1 ในการนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติ
และประยุกต์ใช้ผ่านคลิปวิดีโอ โดยผู้จัดกิจกรรมเปิดคลิปวิดีโอ เรื่อง “[Clip] DeScience
[by Mahidol] ส ร ้ า ง เ ม ฆ แ อ ล ก อ ฮ อ ล ์ ฉ บ ั บ DIY ก ั บ ด ร . บ ั ญ ช า ธ น บ ุ ญ ส ม บ ั ติ ” จ า ก
https://www.youtube.com/watch?v=XZ7ZXfp8AJY เวลา 2.33 นาที
หลงั จากน้ัน ผูจ้ ัดกจิ กรรมดำเนนิ การ ดงั น้ี
คูม่ อื การจดั กิจกรรมการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิง่ แวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแห่งเทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 35
(1) ผู้จัดกิจกรรมบรรยายเนื้อหาตามใบความรู้สำหรบั ผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “สร้างเมฆตามรอย
พ่อ” เพื่อใชส้ ำหรับประกอบกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื ง “สรา้ งเมฆตามรอยพ่อ”
ในส่วนของผู้รับบริการให้ศึกษาใบความรู้สำหรับผู้รับบริการ ประกอบการบรรยายของผู้จัด
กจิ กรรมตามใบความรู้สำหรบั ผ้รู ับบริการ เร่อื ง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ”
(2) ผู้จัดกิจกรรมอธิบายและสาธิตขั้นตอนการปฏิบัติ เรื่อง “การทดลองการสร้างเมฆ”
ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “การทดลองการสร้างเมฆ” พร้อมทั้งให้ผู้รับบริการร่วม
ปฏิบัติในการสาธิตของผู้จัดกิจกรรมด้วย ทั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
โดยให้ผู้รับบริการตั้งประเด็นข้อสงสัย หรือสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ในกระบวนการของการสาธิต
และเชื่อมโยงสูก่ ารนำไปใชใ้ นชวี ิตจริงของผรู้ ับบรกิ ารตอ่ ไป
2. แบ่งผู้รับบริการออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 – 6 คน ให้ผู้รับบริการแต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติจริง
โดยผู้รับบริการแต่ละกลุ่มวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติ เรื่อง “การทดลองการสร้าง
เมฆ” ตามใบกิจกรรมสำหรับผู้รบั บริการ เร่อื ง “ การทดลองการสร้างเมฆ” ทงั้ น้ี ผจู้ ดั กิจกรรมเตรยี ม
วัสดุ อุปกรณ์ให้กับผู้รับบริการในการปฏิบัติ เรื่อง “การทดลองการทำเมฆ” ตามใบกิจกรรมสำหรับ
ผจู้ ัดกิจกรรม เรอ่ื ง “การทดลองการสร้างเมฆ”
3. ให้ผู้รบั บริการแตล่ ะกล่มุ ตามข้อ 2 ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามใบกจิ กรรมสำหรับผ้รู ับบริการ เร่ือง
“การทดลองการสรา้ งเมฆ”
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมจะต้องกำกับการปฏิบัติกิจกรรมของผู้รับบริการจนกิจกรรมแล้วเสร็จ
ตามใบกิจกรรมสำหรบั ผจู้ ดั กจิ กรรม เร่อื ง “การทดลองการสรา้ งเมฆ”
4. ให้ผู้รับบรกิ ารแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง เรื่อง “การทดลองการสร้างเมฆ” ตามใบ
กิจกรรมของผรู้ บั บริการ เร่ือง “การทดลองการสรา้ งเมฆ”
5. ผู้จดั กจิ กรรมและผรู้ ับบรกิ ารอภปิ รายและสรุปผลการเรยี นรู้รว่ มกัน
ข้ันตอนที่ 3 การสรุปผลการเรียนรู้ (Conclusion : C)
1. ผู้จัดกิจกรรมสนทนากับผู้รับบริการเกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้ในฐานการเรียนรู้นี้ โดยผู้จัด
กจิ กรรมสุ่มผรู้ บั บรกิ าร ตามความสมัครใจ จำนวน 2 - 3 คน ให้ตอบคำถามในประเด็น ต่อไปนี้
ประเด็น “ท่านจะนำความรู้เร่ือง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา
หรือใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตจริงได้อย่างไร”
แนวคำตอบ ผูร้ บั บริการสามารถนำความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ในขั้นตอนการทำฝนหลวงตั้งแต่ขั้นก่อกวนเมฆ เลี้ยงเมฆให้อ้วน และโจมตีเมฆด้วย สารเคมีประเภท
ต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดฝนดว้ ยการวางแผนการปฏบิ ัติการมีผลท่ีแน่นอน เพื่อช่วยแก้ปญั หาการขาดแคลน
นำ้ ในพืน้ ท่ีแห้งแลง้ รวมถึงการอนรุ กั ษ์ธรรมชาตสิ ิง่ แวดล้อม พรอ้ มทัง้ สามารถนำความรู้และประโยชน์
ท่ีได้ไปบรู ณาการและตอ่ ยอดกบั ศาสตร์วชิ าแขนงอื่น ๆ ทีเ่ กี่ยวข้องตอ่ ไปได้
2. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการอภิปรายและสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกันตาม PowerPoint
สำหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่อง “การสรุปผลการเรียนรู้ สร้างเมฆตามรอยพ่อ” เพื่อเป็นการสรุปภาพรวม
ของกิจกรรมการเรยี นรู้ ซึ่งจะทำใหผ้ ้รู ับบรกิ ารเกิดความเข้าใจในกจิ กรรมการเรียนรู้มากยิง่ ข้นึ
คู่มอื การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดลอ้ ม ฐานการเรียนรู้ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” หน้า | 36
3. ให้ผู้รับบริการทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ” จำนวน 10 ข้อ
โดยใช้เวลา 10 นาที
4. ให้ผู้รับบริการทำแบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้รับบริการในการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้ เร่ือง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ”
สือ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง “สร้างเมฆตามรอยพอ่ ”
2. ใบความร้สู ำหรับผู้รบั บริการ เรอ่ื ง “สรา้ งเมฆตามรอยพอ่ ”
3. คลิปวีดโิ อให้ เรื่อง “ภัยแล้ง” จาก https://www.youtube.com/watch?v=br-
6f_bxXM8 เวลา 3.30 นาที
4.คลปิ วีดโิ อให้ เรอื่ ง “ฝนเทียม” จาก
https://www.youtube.com/watch?v=6EbCTFr6_ic เวลาเรม่ิ ต้นท่ี 0.24 ถงึ 1.31 นาที
5. ตวั อยา่ งโมเดลฝนหลวง
6. คลิปวดี ิโอให้ เรอื่ ง “โครงการพระราชดำริ ฝนหลวง” จาก
https://www.youtube.com/watch?v=maiszY0bWLc เวลา 2.28 นาที
7. คลปิ วดี ิโอ เรอ่ื ง “[Clip] DeScience [by Mahidol] สร้างเมฆแอลกอฮอล์ฉบับ DIY
กับ ดร.บญั ชา ธนบญุ สมบตั ิ” จาก https://www.youtube.com/watch?v=XZ7ZXfp8AJY เวลา
2.33 นาที
8. ใบความรสู้ ำหรับผ้จู ัดกิจกรรม เรอื่ ง “สรา้ งเมฆตามรอยพ่อ”
9. ใบกิจกรรมสำหรบั ผู้จดั กิจกรรม เรื่อง “การทดลองการสรา้ งเมฆ”
10. ใบกจิ กรรมสำหรบั ผ้รู ับบรกิ าร เรอื่ ง “การทดลองการสร้างเมฆ”
11. วสั ดุ อุปกรณ์ในการทดลองเรอื่ ง “การทดลองการสร้างเมฆ”
12. PowerPoint สำหรับผจู้ ดั กิจกรรม เร่ือง การสรุปผลการเรียนรู้ “สร้างเมฆตามรอยพ่อ”
13. บทสรปุ ประกอบ PowerPoint สำหรับผจู้ ดั กจิ กรรม เร่ือง การสรปุ ผลการเรียนรู้ “สร้าง
เมฆตามรอยพ่อ”
14. แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง “สร้างเมฆตามรอยพ่อ”
15. แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้รับบริการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
เรือ่ ง “สร้างเมฆตามรอยพอ่ ”
การวัดและประเมินผล
1. สงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วม ความตง้ั ใจ และสนใจของผู้รบั บรกิ าร
2. ผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น
3. ผลการออกแบบและสรา้ งสรรคน์ วัตกรรมและสิง่ ท่ีต้องการพัฒนา/ช้นิ งาน/ผลงาน
4. ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผ้รู ับบริการ
ค่มู อื การจดั กจิ กรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสงิ่ แวดลอ้ ม ฐานการเรยี นรู้ “พระบิดาแหง่ เทคโนโลยีไทย” หนา้ | 37
บันทึกผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ผลการใช้แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. จำนวนเน้อื หากับจำนวนเวลา
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
……………………………………………………………………………………………………………………….........
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเรียงลำดบั เนือ้ หากบั ความเขา้ ใจของผูร้ บั บริการ
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การนำเขา้ สบู่ ทเรยี นกบั เน้อื หาแต่ละหวั ขอ้
เหมาะสม
ไมเ่ หมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นร้กู บั เนื้อหาในแตล่ ะขอ้
เหมาะสม
ไม่เหมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คู่มือการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ฐานการเรียนรู้ “พระบดิ าแหง่ เทคโนโลยไี ทย” หนา้ | 38
5. การประเมินผลกับวตั ถปุ ระสงคใ์ นแตล่ ะเนอ้ื หา
เหมาะสม
ไม่เหมาะสม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ผลการเรยี นรขู้ องผรู้ ับบริการ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ของผ้จู ัดกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………