The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

WeCitizens เสียงหัวหิน : <br>หนังสือรวบรวมความคิด ประสบการณ์ และการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ จากคณะวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน” ดำเนินการโดย ดร.ศิวัช บุญเกิด สังกัด เทศบาลเมืองหัวหิน เป็นหัวหน้าชุดโครงการวิจัย โดยได้รับความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และเทศบาลเมืองหัวหิน <br><br>WeCitizens เสียงหัวหิน ดำเนินการจัดทำโดย โครงการการขับเคลื่อนผลงานวิจัยผ่านการสื่อสารสาธารณะ เพื่อพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ (WeCitizens) สนับสนุนโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by WeCitizens, 2023-01-13 03:00:28

WeCitizens : เสียงหัวหิน

WeCitizens เสียงหัวหิน : <br>หนังสือรวบรวมความคิด ประสบการณ์ และการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ จากคณะวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน” ดำเนินการโดย ดร.ศิวัช บุญเกิด สังกัด เทศบาลเมืองหัวหิน เป็นหัวหน้าชุดโครงการวิจัย โดยได้รับความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และเทศบาลเมืองหัวหิน <br><br>WeCitizens เสียงหัวหิน ดำเนินการจัดทำโดย โครงการการขับเคลื่อนผลงานวิจัยผ่านการสื่อสารสาธารณะ เพื่อพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ (WeCitizens) สนับสนุนโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

WeCitizensเสียงหัวหิน ด� ว ย ค ว า ม สุข ขับเคลื่อน เมืองแห่ ง การเรียนรู้


2


3


4


5


6


7


8


9


10


11 อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมืองท่ องเที่ยวตากอากาศระดับโลก เป็ นเมืองสําคัญของประเทศที่มีความพร้ อมหลายด้ านด้ วยต้ นทุนสังคม ต้ นทุนทาง วัฒนธรรม แหล่ งเรียนรู ้ หลากหลายและมีเอกลักษณ์ผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาด ไวรสั โคโรนา่ 2019 และวิกฤติเศรษฐกจจาิกการทอ่งเที่ยว สงผล่ตอ่เศรษฐกจิการดําเนิน ชีวิตและการเรียนรูขอ้ งประชาชนใหต้อ้ งปรับตัวเขาสู้ ่ โลกยคุชีวิตวิถีใหม่ ซึ่งจะตอ้งพัฒนา ทักษะในศตวรรษที 21 ่โดยเฉพาะทักษะการเรียนรู ้ อันเป็ นทักษะสําคัญตอ่การดําเนินชีวิต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพบุคคล ขับเคลื่อน เมืองแหงก่ารเรียนรู ้ด้ วยความสุข


12


13 เทศบาลเมืองหัวหิน หน่วยงานท้องถิ�นท ่�ม่พื�นท่�รวม 86.36 ตารางกิโลเมตร คำนึงถึงวิสัยทัศน์เมืองว่า “หัวหินเมืองแห่งความสุข” เล็งเห็นว่า การพัฒนาเมืองแห่งการเร่ยนร้้ เพื�อประชาชน จะเป็นเครื�องมือสำคัญใน การพัฒนาคุณภาพการเร่ยนร้้และคุณภาพช่วิตของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ พัฒนาท้องถิ�นท ่� สร้างการม่ส่วนร่วมส้่เมืองแห่งการเร่ยนร้้ผ่านการส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเท่�ยว โครงสร้าง พื�นฐาน เศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม นันทนาการ สาธารณสุขและสิ�งแวดล้อม สวัสดิการ สังคม ชุมชน คุณภาพช่วิต การบริหารงานและบริการ เพื�อมุ่งส่งเสริมการเร่ยนร้้ตลอดช่วิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั�งยืน จึงเสริมส่งสภาพแวดล้อมให้เอื�อต่อการเร่ยนร้้ ตอบสนองการเปล่�ยนแปลงในศตวรรษท ่�21 สร้างโอกาสและ ความเสมอภาคของคนในสังคม เพื�อลดความเหลื�อมล�ำ กระจายศ้นย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคมและ เทคโนโลย่ เพิ�มข่ดความสามารถของคนในชุมชนท้องถิ�นในการพัฒนาการพึ�งพาตนเองโดยการจัดการตนเองและ สมาชิกในกลุ่ม ผ่านกลไกขับเคลื�อนสำคัญชุดหนึ�งคือโครงการวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินส้่เมืองแห่ง การเร่ยนร้้ เพื�อส่งเสริมการเร่ยนร้้ตลอดช่วิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั�งยืน” ท่�อาศัยพื�นท่�นำร่องคือ ชุมชนพ้ลสุขซึ�งเป็นชุมชนดั�งเดิมก่อร่างขึ�นจากชื�อของ ป้�พ้ล ย่าสุข ตระก้ลบุคคลสำคัญท ่�ม่คุณ้ปการต่อเมืองหัวหิน ตั�งแต่อด่ต ม่สถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนแบบดั�งเดิมผสมผสานสไตล์ยุโรปและร่วมสมัย ม่ภ้มิปัญญาท้องถิ�น และม่พื�นท่�เชื�อมโยงกับชายหาดหัวหินท ่� สวยงาม เพื�อต่อยอดส้่พื�นท ่� อันเป็นโอกาสในเชิงสาธารณะ และนวัตกรรม การเร่ยนร้้ท่� สอดคล้องกับวิถ่ช่วิตของคนในชุมชนเทศบาลเมืองหัวหิน


14


15 ชุดโครงการวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินส้่เมืองแห่งการเร่ยนร้้ เพื�อส่งเสริม การเร่ยนร้้ตลอดช่วิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั�งยืน” เข้าไปวิเคราะห์สภาพ ปัญหา อุปสรรค ความต้องการจำเป็นและปัจจัยสนับสนุนการจัดการเร่ยนร้้ของประชาชนในชุมชน พ้ลสุขเทศบาลเมืองหัวหิน รวมทั�งสร้างภาค่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ร่วมใจพัฒนาเมืองหัวหิน โดย นำผลการวิจัยมาร่วมออกแบบและพัฒนาหลักส้ตร พื�นท ่� การเร่ยนร้้และนวัตกรรมการเร่ยนร้้ ผ่านกระบวนการศึกษาท้องถิ�นและความต้องการพัฒนาทักษะการเร่ยนร้้และศึกษาทุนสังคม และศักยภาพชุมชนพ้ลสุข อันได้มาซึ�งหลักส้ตรการเร่ยนร้้ ได้แก่ หลักส้ตรพัฒนาทักษะใหม่ ประกอบด้วยหลักส้ตรท้องถิ�นหัวหินศึกษา หลักส้ตรการใช้เครื�องมือออนไลน์เพื�อการสื�อสาร สำหรับวัยทำงานและวัยผ้้ส้งอายุ หลักส้ตรอาช่พ ประกอบด้วยหลักส้ตรการขายออนไลน์ หลักส้ตรสร้างอาช่พจากภ้มิปัญญาท้องถิ�น เช่น เปลือกหอยหัวหิน พัดใบตาลหัวหิน และ เรือประมงพื�นบ้านจำลอง รวมถึงม่กิจกรรมเดินทอดน่อง ท่องหัวหินถิ�นมนต์ขลัง และกิจกรรม ปั�นทอดน่อง ท่องหัวหิน เพื�อเข้าถึงพื�นท ่� การเร่ยนร้้เมืองหัวหิน ซึ�งผลการดำเนินงานวิจัย สร้างผลกระทบเชิงนโยบายต่อเทศบาลเมืองหัวหิน ท่�ได้นำผลการวิจัยท่�เกิดขึ�นไปกำหนดเป็น นโยบายและพัฒนาความเป็นเมืองแห่งการเร่ยนร้้ครอบครัวชุมชนต่างๆในพื�นท่�ของเทศบาล เมืองหัวหิน ส้่เป้าหมายต่อไปในการเป็นภาค่เมืองแห่งการเร่ยนร้้ของย้เนสโก และนำพาหัวหิน บรรลุวิสัยทัศน์“เมืองแห่งความสุข”


16


17


18 ทะเลใกล้ เมืองสําหรับคนกรุง ใช้ เวลาขับรถไม่ เกิน 3 ชั่ วโมง สัมผัสได้ ถึงบรรยากาศของการพักผ่ อน อาหารทะเลสดใหม่ ไม่ แพง และที่พักหน้ าหาดมีให้ เลือกหลากหลายราคา ตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจคงไม่ พ้ น “หัวหิน” เมืองชายทะเลที่มีภาพประทับในความทรงจํา ของคนทุกยุคทุกสมัย แม้ ความแปรเปลี่ยนจากกระแสขึ้นลงของธุรกิจท่ องเที่ยว ปั ญหาการจัดการเมือง และผลกระทบจากโควิด-19 ที่เพิ่งผ่ านพ้ น เมืองแหงนี้ก็ยังคงไว ่ ้ ซึ่งเสน่ ห์และตัวตนของ “ผู้ คน” และสถานที่ ที่สะท้ อนภาพวิถีชีวิตกับวัฒนธรรมอันเปี่ ยมไปด้ วยรายละเอียด และเรื่องราวที่ยังน่ าค้ นหา รอใหหลายคนได ้ ้ สัมผัส ...และน่�คือประเด็นสำคัญท่� โครงการหัวหินเมืองแหง การเรียนรู เลือกเฟ้นมาศึกษาวิจัยและยกช้ขึ�นเพื�อ เชื�อเชิญให้ “คนใน” (เมืองหัวหิน) หันกลับมาฟ้�นฟ้และฟ้มฟัก ต่อยอดคุณค่าอัตลักษณ์ของตนเอง ให้ม่ม้ลค่ามากขึ�น และ สร้างโอกาสให้ได้บอกกล่าวกับ “คนนอก” ได้ร่วมซาบซึ�ง ใช้เวลากับสิ�งละอันพันละน้อยท่�ประกอบขึ�นจากความตั�งอก ตั�งใจของคนหัวหิน และต้นทุนทรัพยากรท่�ม่อย้่มากมาย เพื�อเพิ�มพ้นความสุข และความทรงจำท่�ด่ ณ เมืองหัวหิน ในทุกครั�งท่�มาเยือน งานวิจัยโครงการหัวหินเมืองแห่งการเร่ยนร้้ ม่ชื�อชุด โครงการว่า “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสูเมือง แหงการเรียนรู เพื่อสงเสริมการเรียนรูตลอดชีวิตและ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอยางยั่งยืน” ดำเนินการโดย ดร.ศิวัช บุญเกิด สังกัด เทศบาลเมืองหัวหิน เป็นหัวหน้า ชุดโครงการวิจัย โดยได้รับความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัย ราชภัฏสุราษฎร์ธาน่ และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินการโครงการย่อย ได้แก่ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมพื้นที่การเรียนรู เพื่อสรางเสริมทักษะแหงศตวรรษที่ 21 ที่สอดคลองกับวิถีชีวิต ของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน โดยมี อาจารย อภินันท สิริรัตนจิตต สังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เปนหัวหนาโครงการวิจัย การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสูเมืองแหงการเรียนรู เพื่อสงเสริมการเรียนรูตลอดชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อยางยั่งยืน โดยการมีสวนรวมของภาคีเครือขาย โดยมี ผูชวยศาสตราจารยปญจา ชูชวย สังกัด มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธานี เปนหัวหนาโครงการวิจัย


19 วัตถุประสงค์ ของโครงการหัวหินเมืองแหงการเรียนรู ่ ้ 1) เพื�อศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหา ความแตกต่าง อุปสรรค ความ ต้องการพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษท่� 21 และปัจจัยสนับสนุนการเป็นชุมชน เมืองแห่งการเร่ยนร้้ของประชาชนชุมชนพ้ลสุข ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ตามกรอบการดำเนินงานในการเป็นเมืองแห่งการเร่ยนร้้ของย้เนสโก 2) เพื�อสร้างร้ปแบบการขับเคลื�อนกลไกการจัดการเร่ยนร้้ของประชาชน ชุมชน พ้ลสุข ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน โดยการม่ส่วนร่วมของภาค่เครือข่าย ท่�เหมาะสมกับวิถ่ช่วิตของประชาชนชุมชนพ้ลสุข ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน 3) เพื�อออกแบบและพัฒนาพื�นท่�การเร่ยนร้้ เครื�องมือ นวัตกรรม และท่� สอดคล้องกับวิถ่ช่วิตของประชาชนชุมชนพ้ลสุข ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน 4) เพื�อพัฒนาทักษะการเร่ยนร้้แห่งศตวรรษท่� 21 ของประชาชนชุมชน พ้ลสุข ในเขตเทศบาลเมืองหัวหินท่�นำไปส้่การส่งเสริมการเร่ยนร้้ตลอดช่วิต และยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผลลัพธ์ ที่เกิดขึ้น จากงานวิจัยของชุดโครงการและโครงการย่ อย จากการศึกษาท้องถิ�น (Local Study) ผ่านการค้นคว้าของม้ล การสำรวจ ความคิดเห็นในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยม่กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชน 3 ช่วงวัยในเทศบาลเมืองหัวหิน ได้แก่ วัยเร่ยน วัยทำงานและวัยส้งอายุ ในชุมชนพ้ลสุข โครงการวิจัยพบว่าเมืองหัวหิน ยังคงขาดโครงการและกิจกรรม ท่�พัฒนาการเร่ยนร้้ในเรื�องอัตลักษณ์ท้องถิ�น และม่ความต้องการจากคนใน พื�นท่� ทั�งในมิติของการเร่ยนร้้เพื�อสร้างความเข้าอกเข้าใจท้องถิ�นของตนเอง โดย เฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ท่�ม่ความร้้ความเข้าใจในเรื�องราวของหัวหิน ค่อนข้างน้อย และไม่ได้เข้ามาม่ส่วนร่วมกับกิจกรรมของชุมชน ในเรื�องการเร่ยนร้้เพื�อพัฒนาทักษะหรือยกระดับอาช่พท่�ม่ต้นทุน จากทรัพยากรในพื�นท่� เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การส่งเสริมอาช่พเสริม ฯลฯ ความต้องการของคนหัวหินสะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างของการพัฒนาเมือง และพัฒนาคนท่�ต้องการเติมเต็มและหนุนเสริมจากนโยบาย งบประมาณ และ การดำเนินการของรัฐ และองค์การท่�เก่�ยวข้อง โครงการวิจัยร่วมกับคณะกรรมการเมืองแห่งการเร่ยนร้้ซึ�งจัดตั�ง ขึ�นขับเคลื�อนในระดับเมือง ได้ดำเนินงานใน 4 ขั�นตอนสำคัญ 1) การวางแผน 2) การดำเนินงาน การเก็บข้อม้ลและสังเกตการณ์ 3) การติดตามประเมินผล 4) การสร้างภาค่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ร่วมใจ พัฒนาเมืองหัวหิน โดยได้ผลลัพธ์ใน 3 กลุ่มท่� ช่วยเสริมสร้างหัวหินเมืองแห่งการเร่ยนร้้ หลักสูตรการเรียนรูได 2 หลักสูตร ได้แก่ 1) หลักส้ตร พัฒนาทักษะใหม่ ประกอบด้วยหลักส้ตรท้องถิ�นหัวหินศึกษา หลักส้ตรการใช้เครื�องมือออนไลน์เพื�อการสื�อสารสำหรับ วัยทำงานและวัยผ้้ส้งอายุ และ 2) หลักส้ตรอาช่พ ประกอบ ด้วยหลักส้ตรการขายออนไลน์ หลักส้ตรสร้างอาช่พจากภ้มิปัญญาท้องถิ�น เช่น เปลือกหอยหัวหิน พัดใบตาลหัวหิน และเรือประมงพื�นบ้านหัวหิน การออกแบบและพัฒนาพื้นที่การเรียนรูในศูนย การเรียนรูชุมชนพูลสุข ม่พื�นท่�การเร่ยนร้้ 7 พื�นท่�สำคัญ ภายในพื�นท่�เมือง ได้แก่ 1.สถาน่รถไฟหัวหิน 2.ศ้นย์โอทอป หัวหิน 3.ชุมชนพ้ลสุขและวัดหัวหิน 4.ศาลเจ้าแม่ทับทิม 5.หาดหัวหิน 6.บ้านแนบเคหาสน์ 7.ตลาดฉัตร์ไชย พื�นท่�เร่ยนร้้ทั�ง 7 แห่ง เป็นตัวแทนพื�นท่�ท่�ได้รับการคัดเลือกว่าม่ความพร้อมของเนื�อหาการเร่ยนร้้เรื�อง ประวัติศาสตร์เมืองหัวหิน คุณค่าด้านทรัพยากรทางวัฒนธรรม และธรรมชาติ รวมไปถึงการเร่ยนร้้วิถ่ช่วิตและคุณค่าอัตลักษณ์ของคนหัวหิน ทั�งน่�ยังม่พื�นท่�เร่ยนร้้ท่�ม่ศักยภาพและผลสำรวจความคิดเห็นคนหัวหินได้ ระบุถึงความต้องการพัฒนากิจกรรมการเร่ยนร้้ในพื�นท่�ดังกล่าวอ่กหลากแห่ง อาทิ สวนสาธารณะโผนกิ�งเพชร, บ้านโผนกิ�งเพชร, บ้านเรือนไทยโบราณ 100 ปี เพื�อให้เป็นแหล่งเร่ยนร้้ประวัติศาสตร์ในชุมชนพ้ลสุข, ห้าแยกหมา ชะงัก จุดเช็คอินสำหรับการมาท่องเท่�ยว, โรงแรมเซ็นทาราหัวหิน แกรนด์ บ่ชร่สอร์ทแอนวิลล่าหัวหิน, ถนนในชุมชนพ้ลสุข เพื�อสร้างเส้นทางถนนศิลปะ (street Art), ลานชุมชนวัดหัวหิน และวัดหัวหิน เป็นแหล่งเร่ยนร้้ศิลปวัฒนธรรมชุมชนจากการเล่าเรื�อง ผ่านการแสดงทางนาฏศิลป์ การรำไทย, ศ้นย์หัตกรรมภ้มิปัญญาท้องถิ�นอนุรักษ์การต่อเรือจิ�ว, หม้่บ้านศิลปิน, งานฝีมือทำพัดใบลาน, การประดิษฐ์ชิ�นงานตุ๊กตาและของตกแต่งด้วย เปลือกหอย การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู เป็นการพัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์เพื�อเป็นต้นแบบของ การสร้างกิจกรรมเร่ยนร้้เชื�อมโยงพื�นท่�การเร่ยนร้้เมืองหัวหิน โดยม่กิจกรรมต้นแบบ 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมเดิน ทอดนอง ทองหัวหินถิ่นมนตขลัง และกิจกรรมปนทอดนองทองหัวหิน รวมทั�งส่งเสริมการเข้าถึงพื�นท่�การเร่ยนร้้ แพลตฟอร์มออนไลน์ เพจหัวหิน เมืองแห่งการเร่ยนร้้ หัวหิน เมืองแหงการเรียนรู https://www.facebook.com/Huahinlearningcity ติดตามความเคลื�อนไหวการพัฒนาหัวหินเมืองแห่งการเร่ยนร้้ได้ท่�


1) สถานีรถไฟหัวหิน 2) พลับพลาพระมงกุฎเกลา้ 3) ตนจามจุ้รียักษ์ 4) ลานสวนสาธารณะโผน กงเพชริ่ 5) ชุมชนพูลสุข และวัดหัวหิน 6) ศูนยหัตถกรรมชุมชนพ ์ูลสุข 7) โรงเรียนเทศบาลบานหัวหิน ้ 8) ศูนย์OTOP หัวหิน หัวหินเมืองนาเที่ยว ่ หาดสวย สิงอํานวยความสะดวก ่ครบครัน กับวันพักผอนสบายๆ ่ ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวหัวหิน รับรองว่ าตองไม ้ พลาดมาเดินเท ่ี่ยวหาด หรือหาทีพั ่ กใจกลางเมือง ใกลสถานีรถไฟหรือติดร ้ิมหาด ณ ที่ตรงนนคือ ั้ ชุมชนพูลสุข ชุมชนดงเดิมที่ยังคงมีวิถีชีวิต ั้การคาขาย ้ อาหารอรอย่ และแหลงเรียนร ู่มากมาย ้ ให้ ได ้ว ้าว... ลองตามรอยจุดที่นาสนใ ่ จ และแหลงเรียนร ู่ที่จะพาไป ้ พบประสบการณใหม ์ ๆ่ ไดตามนี้เลย ้ หัวหิ น หาด หัวหิน พลับพลา ระมงกฎเกล้า สถานีรถไฟ หั วหิน เ พ่ ิม พูน สุข เที่ยว ของฝากจากชุมชนพู ลสุขเทศบาลเมืองหัวหิน สะพาน ปลา 4 3 6 7 9 10 12 ถ น น เ พ ช ร เ ก ษ ม 4 ซ. แน บเคหาส น์ 4 ลานสวน สาธารณะ โผน กิงเพชร ่ 9) รานข้ าวเหนียวป ้ ้ าเจือ 10) ศาลเจาแม้ ทับทิม ่ 11) Street Art หัวหิน 12) บานแนบเคหาสน้ ์ 13) รานตะโก ้ ้ เสวย 14) ตลาดฉัตรไชย 15) หาดหัวหิน ดําเนินการโดยความรวมมือของชุมชนพ ู่ลสุข เทศบาลเมืองหัวหิน และโครงการหัวหินเมืองแหงการเรียนร ู่ ้โดยความรวมมือจาก ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธานี ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ์ โรงเรียนเทศบาลบานหัวหิน ้ มหาวิทยาลัยศิลปกร ททท. และสมาคมธุรกิจการทองเที่ยวหัวหินชะอํา ่ แผนทีพื่ ้ี่ี ้ ี่ ิ ของฝาก จากชุมชนพูลสุขเทศบาลเมืองหัวหนิ 11 13 14 ซ. หัว หิน 5 5 ซ. หัว หิน 6 1 ซ. หัว หิน 5 9 ซ. บิณ ฑ บ า ต ร ซ. เ ส ล ะ ค ร า ม ซ. เ ด ช า นุซิต ซ. หัว หิน 7 4 / 2 ซ. หัว หิน 7 4 ซ. หัว หิน 7 6 ถ. พ ระป กเก ล้า ถ. ส ระส ร ง ป ระจ ว บ คีรีขัน ธ์ เ มืองเพชร บุรี เจก๊ เปี๊ยะ โรงแรมรถไฟ (เซ็นทาราแกรนดบี ์ช รีสอรทและวิล ์ลาหัวหิน ่ ) แผนที ่ พื ้ นที ่ เรียนรู้ เที ่ ยว + กิน โผน ก 2 11 3 พระมงกุฎ ซิต ตดิตามการขับเคลือ่นหัวหินเมอืงแหง่การเรียนรู้ ไดที ้่ Huahinlearningcity รสอรี ทและวิล ์ลาห่วหันิ ) สถานีรถไฟหัวหิ น เดิมเป็นอาคารไมจั ้ดสรางขึ้นเ ้ พื่อการจดงานั ‘สยามรัฐ พิพิธภัณฑ’ (The Siamese Kingdom Exhibition) ์ ณ สวนลุมพินีในปีพ.ศ. 2468 ตามพระราชดํารของิ รัชกาลที 6 ่งานสยามรัฐพิพิธภัณฑเป์ ็ นนิทรรศการ ระดับนานาชาติคลายงาน้ International Expo ถือว่ าเป็นงานใหญของประเทศ ่ แตด่วยพระองค้ เสด็จสวรรคต ์ กอนการจ่ดงานั งานสยามรัฐ พิพิธภัณฑจึ์ งถูกยกเลิก และ อาคารไม้ ไดถูกนํามาประกอบขึ้นใหม ้ ่ เพื่อใช้ เป็นอาคารสถานีรถไฟหัวหิน พลับพลาพระมงกุฎเกล้า เดิมมีชื่อว่ า ‘พลับพลาสนามจนทรั ’ ์ ใช้ เป็นสถานีรถไฟ หลวงสนามจนทรั ์จงหวัดนครปฐม ัตอมาการรถไ ่ ฟ ไดรื้อ้อาคารพลับพลาและเก็บรักษาไว้จนถึงปีพ.ศ. 2511 การรถไฟแหงประเทศไทยไ ่ดนําพลับพลากลับมาประกอบ ้ ใหม่และยายมาต้ งที่สถานีหัวหิน ั้เพื่อใช้ เป็นพลับพลา ที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จทางรถไฟ 2 1 2 1 ของฝากจา แผ หัวหิ น สถานที่ สําคั ญ ฟ 511 กอบ พ 2 ถ. พูนสุข ถ. นเร ศ ดํ า ริ ห์ 20


1) สถานีรถไฟหัวหิน 2) พลับพลาพระมงกุฎเกลา้ 3) ตนจามจุ้รียักษ์ 4) ลานสวนสาธารณะโผน กงเพชริ่ 5) ชุมชนพูลสุข และวัดหัวหิน 6) ศูนยหัตถกรรมชุมชนพ ์ูลสุข 7) โรงเรียนเทศบาลบานหัวหิน ้ 8) ศูนย์OTOP หัวหิน หัวหินเมืองนาเที่ยว ่ หาดสวย สิงอํานวยความสะดวก ่ครบครัน กับวันพักผอนสบายๆ ่ ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวหัวหิน รับรองว่ าตองไม ้ พลาดมาเดินเท ่ี่ยวหาด หรือหาทีพั ่ กใจกลางเมือง ใกลสถานีรถไฟหรือติด ้ริมหาด ณ ที่ตรงนนคือ ั้ ชุมชนพูลสุข ชุมชนดงเดิมที่ยังคงมีวิถีชีวิต ั้การคาขาย ้ อาหารอรอย่ และแหลงเรียนร ู่มากมาย ้ ให้ ได ้ว ้าว... ลองตามรอยจุดที่นาสนใ ่ จ และแหลงเรียนร ู่ที่จะพาไป ้ พบประสบการณใหม ์ ๆ่ ไดตามนี้เลย ้ หัวหิ น หาด หัวหิน พลับพลา ระมงกฎเกล้า สถานีรถไฟ หั วหิน เ พ่ ิม พูน สุข เที่ยว ของฝากจากชุมชนพู ลสุขเทศบาลเมืองหัวหิน สะพาน ปลา 4 3 6 7 9 10 12 ถ น น เ พ ช ร เ ก ษ ม 4 ซ. แน บเคหาส น์ 4 ลานสวน สาธารณะ โผน กิงเพชร ่ 9) รานข้ าวเหนียวป ้ ้ าเจือ 10) ศาลเจาแม้ ทับทิม ่ 11) Street Art หัวหิน 12) บานแนบเคหาสน้ ์ 13) รานตะโก ้ ้ เสวย 14) ตลาดฉัตรไชย 15) หาดหัวหิน ดําเนินการโดยความรวมมือของชุมชนพ ู่ลสุข เทศบาลเมืองหัวหิน และโครงการหัวหินเมืองแหงการเรียนร ู่ ้โดยความรวมมือจาก ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎรธานี ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ์ โรงเรียนเทศบาลบานหัวหิน ้ มหาวิทยาลัยศิลปกร ททท. และสมาคมธุรกิจการทองเที่ยวหัวหินชะอํา ่ แผนทีพื่ ้ี่ี ้ ี่ ิ ของฝาก จากชุมชนพูลสุขเทศบาลเมืองหัวหนิ 11 13 14 ซ. หัว หิน 5 5 ซ. หัว หิน 6 1 ซ. หัว หิน 5 9 ซ. บิณ ฑ บ า ต ร ซ. เ ส ล ะ ค ร า ม ซ. เ ด ช า นุซิต ซ. หัว หิน 7 4 / 2 ซ. หัว หิน 7 4 ซ. หัว หิน 7 6 ถ. พ ระป กเก ล้า ถ. ส ระส ร ง ป ระจ ว บ คีรีขัน ธ์ เ มืองเพชร บุรี เจก๊ เปี๊ยะ โรงแรมรถไฟ (เซ็นทาราแกรนดบี ์ช รีสอรทและวิล ์ลาหัวหิน ่ ) แผนที ่ พื ้ นที ่ เรียนรู้ เที ่ ยว + กิน โผน ก 2 11 3 พระมงกุฎ ซิต ตดิตามการขับเคลือ่นหัวหินเมอืงแหง่การเรียนรู้ ไดที ้่ Huahinlearningcity รสอรี ทและวิล ์ลาห่วหันิ ) สถานีรถไฟหัวหิ น เดิมเป็นอาคารไมจั ้ดสรางขึ้นเ ้ พื่อการจดงานั ‘สยามรัฐ พิพิธภัณฑ’ (The Siamese Kingdom Exhibition) ์ ณ สวนลุมพินีในปีพ.ศ. 2468 ตามพระราชดํารของิ รัชกาลที 6 ่งานสยามรัฐพิพิธภัณฑเป์ ็ นนิทรรศการ ระดับนานาชาติคลายงาน้ International Expo ถือว่ าเป็นงานใหญของประเทศ ่ แตด่วยพระองค้ เสด็จสวรรคต ์ กอนการจ่ดงานั งานสยามรัฐ พิพิธภัณฑจึ์ งถูกยกเลิก และ อาคารไม้ ไดถูกนํามาประกอบขึ้นใหม ้ ่ เพื่อใช้ เป็นอาคารสถานีรถไฟหัวหิน พลับพลาพระมงกุฎเกล้า เดิมมีชื่อว่ า ‘พลับพลาสนามจนทรั ’ ์ ใช้ เป็นสถานีรถไฟ หลวงสนามจนทรั ์จงหวัดนครปฐม ัตอมาการรถไ ่ ฟ ไดรื้อ้อาคารพลับพลาและเก็บรักษาไว้จนถึงปีพ.ศ. 2511 การรถไฟแหงประเทศไทยไ ่ดนําพลับพลากลับมาประกอบ ้ ใหม่และยายมาต้ งที่สถานีหัวหิน ั้เพื่อใช้ เป็นพลับพลา ที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จทางรถไฟ 2 1 2 1 ของฝากจา แผ หัวหิ น สถานที่ สําคั ญ ฟ 511 กอบ พ 2 ถ. พูนสุข ถ. นเร ศ ดํ า ริ ห์ 21


22 ดร.ศิวัช บุญเกิด อภินันท์สิริรัตนจิตต์ ดร.ธีรัตน์โสดารัตน์ นพพร วุฒิกุล กิตติเฟื่ องฟู ภัทราวดีมีชูธน มนตรีคงยนตร์ ทิพวรรณ สุทัศน์ พรชัย หนูสิทธิ์ รัมภา จําลองราช อนิสา สมหวัง สมพงษ์กล่ากล่ อมจิตร เจริญพร ศรีตระการ ชูจิต อรุณรัตน์ อนันทชัย แจงเหตุ้ ธีระพันธ์จัดพล พระอรัญ รัตนญาโณ จรรญา พรมหอม ศิราสิทธิ์เติมพงศ์ ธานิน ภาณุมณีวัฒนกุล ธนเดช บุญนุ่ มผ่ อง จริยา เบญจพงศ์ ศิริพงศ์โพธิรัชต์ นิพนธ์วรรณศรีเพ็ชร มานะ ปิ่นทอง


24 30 32 36 40 42 44 48 50 46 58 52 56 62 66 68 64 70 72 76 78 80 82 84 86 23


Interview 24 ดร.ศิวัช บุญเกิด หัวหน้ าชุดโครงการวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหนิสู่ เมืองแหงการเ่รียนรู้ เพื่อส่ งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต และยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่งยืน”


25 บุคลิก ของหัวหิน คือเมืองราชินี ตากอากาศ ซึ่ง ดร.ศิวัช บุญเกิด หัวหน้ าชุดโครงการวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหิน สู่ เมืองแหงการเรียนรู ่ ้เพื่อส่ งเสริม การเรียนรู้ ตลอดชีวิตและยกระดับ เศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่ งยืน” จํากัดความ “หัวหิน” เป็ นเมืองตากอากาศ ไม่ ใช่ เมือง ชายทะเล นัยว่ าถอดคํามาจากดีเอ็นเอของเมืองที่ เป็ นวัง เจา้หาด ตากอากาศ เป็ นการชวนคืนสู่ รากเหงา้ คืนสู่ กิจกรรมที่เกิดขึ้นจากดีเอ็นเอที่ส่ งใหบุคลิกเมืองมี ้ ความผู้ ดีสงบนิ่ ง มาพักผ่ อนสบายใจ รู้ สึกปลอดภัย อยู่ ในสังคมที่อารยะ Interview เรียนรู� เรียนรู� เป็ นต ้ นไม้ แปลงต ้ นทุน แหงการ ่


26 ปั จจัยสําคัญในกระบวนการศึกษาและพัฒนาท้ องถิ่ นคืออะไร ? องค์กรปกครองส่วนท้องถิ�น หรือคนท่�เป็นเจ้าของ ต้องเข้าใจศักยภาพ ของตัวเอง สำหรับผมคือ 5 ทุนสำคัญ ทุนมนุษย์ ทุนวัฒนธรรม ทุนสิ�งแวดล้อม ทุนสังคม และทุนเศรษฐกิจ ท่�ต้องไปสืบไปพบ ซึ�งทุนมนุษย์อย่างปราชญ์ ชาวบ้าน เจ้าของภ้มิปัญญา รายละเอ่ยดต่างๆ เช่น ความสามารถในการ ตัดต่อกิ�งไม้ ทำขนม คร้ทางดนตร่ คร้ร่ายรำ คร้ร้องเพลง ท่�หัวหินม่เยอะมาก อย่างท่�ศ้นย์นาฏศิลป์หัวหิน คร้คณิตศาสตร์ท่�ชอบรำ เขาม่ความจงรักภักด่ต่อ ในหลวงรัชกาลท่� 9 จากรวมกลุ่มกันไปรำถวายสักการะหน้าวังไกลกังวล ตอนน่�ใหญ่โตม่เครือข่าย 4-500 คนทั�วประจวบค่ร่ขันธ์ บางปีม่คนไปรำท่� อุทยานราชภักดิ� 4-500 คน บางปีเป็นพันคน แล้วได้รางวัลของกระทรวง วัฒนธรรมเยอะแยะ ออกสื�อหลายช่อง สิ�งน่�เกิดจากเราเข้าใจทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม แล้วเรานำคนเหล่าน่�มาทำกิจกรรม ซึ�งก็คือทุนวัฒนธรรม เป็น soft power ท่�เพิ�มคุณค่าต่อได้ การท่�คนชอบนาฏศิลป์มารวมกัน เรา ไม่ปล่อยให้นาฏศิลป์เป็นแค่นาฏศิลป์ นางรำของศ้นย์นาฏศิลป์หัวหินเป็น นางรำไร้ถัง เขารำไปรำมาท่�บ้านถังขยะหาย เพราะเราใส่เรื�องสิ�งแวดล้อม การคัดแยกขยะเข้าไป และใส่เรื�องความเกื�อก้ล มันลดความเหลื�อมล�ำ ในฐานะรองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน (ปั จจุบัน ดํารงตําแหน่ งรองปลัดเมืองพัทยา) ผู้ สวมหมวก หัวหน้ าชุดโครงการวิจัยฯ ที่มุ่ งเน้ นพัฒนาท้ องถิ่ น และชุมชนสู่ เมืองแหงการเรียนรู ่ ้ดร .ศิวัชนําทีมนัก วิจัยและข้ าราชการเทศบาลเมืองหัวหินดึงศักยภาพ สําคัญของเมืองตากอากาศหัวหินมาเป็ นกลไกขับ เคลื่อนสังคมด้ วย 5 ทุนคือ ทุนมนุษย์ทุนวัฒนธรรม ทุนสิ่ งแวดล้ อม ทุนสังคม และทุนเศรษฐกิจ อันนํา มาซึ่งหลักสูตรท้ องถิ่ นส่ งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต และยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่งยืน และการฉีด วัคซีนทางสังคมที่ทําใหหัวหินล ้ ้ มแล้ วลุกไว


27 แต่ ก็มีคนบอกว่ าหัวหินหาทางเดินลงชายหาดยาก เหตุผลก็คือ ในเชิงนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติเวลาใช้ต้องรอเวลาฟ้�นตัว ป�าไม้ไม่ได้แปลว่าต้นไม้นะ แปลว่าสัตว์ป�า แม่น�ำ ลำธาร ฯลฯ ฉะนั�นการรักษา ชายหาดคืออย่าปล่อยให้ชายหาดถ้กเหย่ยบย�ำมาก ไม่ใช่หาดหัวหินเพื�อคน ทั�งโลกนะ เข้าถึงได้ยากหน่อย ระบบนิเวศก็เซฟตัวมันเอง บางป�าไม้ปิด เพื�อปล่อยให้เวลาฟ้�นตัว อันน่�คือหลักการทั�วไปท่�เป็นสากล เพราะฉะนั�น เราก็ใช้ระบบกลไกในมือท่�มองไม่เห็นระบบเศรษฐกิจเหล่าน่�พยุงไว้ แต่พอ ท้ายท่�สุดห้องตามโรงแรมก็เต็ม เราเอาเงินท่�เกิดจากส่วนต่างในความสามารถ ในการรักษาในการค้าขายของเขามาเติมส่วนอื�นๆ ของสังคมท่�เสื�อมทรุด เราจัดพื�นท่�สาธารณะโดยใช้กฎหมายเข้าไปกำกับ โรงแรมด้แลส่วนหน้าหาด ของเขาให้สะอาด แต่เขาจะไปตั�งอะไรไม่ได้นะ หน้ามรสุมเขาก็จัดท่มลงไป ทำความสะอาด ท่�พัทยากับท่�หัวหิน แถวตะวันออกกับตะวันตก เด่�ยวตุลาคม จะกวาดรากไม้เศษไม้มาทิ�งไว้ท่�น่� แต่ช่วงสิงหาคมจะกวาดไปทางโน้น มันขึ�น อย้่กับการไหลเว่ยนของน�ำ มรสุม ซึ�งเรื�องแบบน่�ทำให้เป็นอื�นไม่ได้ เหตุผลของ ความสกปรกน่�มันหล่อเล่�ยงช่วิตในระบบธรรมชาติ ล้กกุ้ง ล้กหอย ล้กปลา ไลเคน เป็นระบบนิเวศท่�เกื�อก้ลกัน สัตว์น�ำมาเติบโตตรงน่� ม่อาหาร ถ้าเราไป ทำมันสะอาดมาก ระบบนิเวศชุดอื�นจะไป เราให้นักวาริชมาศึกษา มาด้ นิเวศชายฝั�ง ทำงานกับมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลย่ การเกษตร เราเข้าใจว่าต่อไปสิ�งสำคัญท่�สุดท่�หัวหินต้องรักษาคือภาพของ ชายหาด เป็นต้นทุนท่�เราม่อย้่แล้ว แค่รักษาไว้ ไม่ต้องลงทุนอะไร ไม่ว่าเมือง พัฒนาไปขนาดไหน ต้นทุนยังอย้่ การพัฒนาคือการอย้่เฉยๆ ไม่ต้องพัฒนา แหละคือพัฒนาแล้ว เรามักมองการพัฒนาว่าตัวเราหรือสังคมไปทำอะไรให้ เกิดการเปล่�ยนแปลง การพัฒนาแบบน่�ใช้คนเป็นศ้นย์กลาง แต่หัวหินไปไกล ถึงขั�นว่าเราเอาระบบนิเวศเป็นศ้นย์กลาง โดยวิธ่คิดท่�เราเกิดการเร่ยนร้้ พบคุณค่าท่�แตกต่าง พอไปทำงานกับหน่วยงานระดับโลกอย่าง GECOM ไปทำงานกับโครงการก๊าซเรือนกระจก เราก็มุ่งไปส้่ Low Carbon City อย่างน้อยเราต้องม่ส่วนในการรับผิดชอบต่อสังคม ได้ด่ด้วย อันน่�สำคัญมาก ม่ตั�งแต่คนขับรถสองแถว แม่ค้าส้มตำ คนขายสลัด เจ้าของธุรกิจร้อยล้านพันล้าน ไปรำกันอย้่ พวกท่�ม่เยอะก็บริจาคเยอะ ม่น้อยก็ ใส่น้อย มันลงตัวมาก ไปเห็นแล้ว โอ้โห ภ้มิใจ มันเป็นการเปิดพื�นท่�ทางสังคม เปิดโอกาส เปิดความเข้าใจ ผมทำโมเดลน่�ตอนจบปริญญาเอกไทยศึกษา มานุษยวิทยาการเมือง เลยเข้าใจโครงสร้าง วิธ่คิด ท่�ก่อร้ปก่อร่างขึ�นมาได้ หลายศ้นย์เร่ยนร้้เลยครับ เราพบว่าทุนมนุษย์ ทุนธรรมชาติ ทุนเศรษฐกิจ ทุนทางสังคม เช่น อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหม้่บ้าน) อาสาสมัคร สิ�งแวดล้อม ม่คนท่�เก่ง คนท่�เส่ยสละอย้่นะ แต่เวลาเรามองในเชิงสังคม มองไม่เห็นเขา มองเห็นแต่อสม. แต่มองไม่เห็นรายละเอ่ยดของอสม. เวลา เราลงพื�นท่�เครื�องมือน่�ไปสร้างการเร่ยนร้้ระหว่างคนในกลุ่มเอง เร่ยนร้้กันเอง แล้วก็เอาคนในกลุ่มไปเร่ยนร้้กับกลุ่มอื�น ก็เกิดทักษะท่�จะอย้่ร่วมกัน เห็นอก เห็นใจกัน อันน่�ผมถอดบทเร่ยนมาจากประเพณ่ลอยกระทง ประเพณ่ไม่ใช่แค่ ไปเดินเว่ยนแล้วกลับมาลอยกระทงท่�บ้านนะ ไม่ใช่แค่การจัดงาน แต่จิตวิญญาณอย้่ท่�การจัดคนให้เข้าใกล้ธรรมชาติ ตัดผม ตัดเล็บ เอาเงินใส่ กระทงนิดหน่อย ไปขอขมาแม่น�ำเจ้าแม่คงคา ท่�จริงแล้วเราเอาคนไปดมแม่น�ำ สายช่วิตของตัวเองท่�มันเน่ามันเส่ยให้ร้้ว่า แม่น�ำสายช่วิตของเรามาจากอะไร แล้วเอาไปปรับปรุงตัวเองท่�บ้าน ซึ�งก็คือกำลังคืนช่วิตสายน�ำผ่านกลไกทาง วัฒนธรรมท่�ทำหน้าท่�กลไกกำกับทางสังคม ซึ�งผมถอดเอามาใช้กับ ศ้นย์นาฏศิลป์อย่างละเอ่ยดละมุน หัวหินเองมีต้ นทุนทางธรรมชาติที่ดีมากอยู่ แล้ วด้ วย หาดทรายหัวหิน ด้ก็เหมือนกับท่�อื�น แต่แตกต่างกับท่�อื�น คุณลอง ไปเดินด้ ทรายละเอ่ยดมาก ขาวมาก ท่�เห็นเงาวับๆ คือเกล็ดกำมะถันกับเกล็ด ฟอสฟอรัส ซึ�งม่คุณลักษณะ ถ้าเราถอดรองเท้าเดิน มันไปกระตุ้นต่อมประสาท ทำให้ระบบส้บฉ่ด ท่�เราเห็น มันไม่ใช่แค่หาดทราย สัมพันธ์กับช่วิต ความเป็นอย้่ท่�ด่ เรากำลังคืนตรงน่�ให้กับชุมชน กำลังทำ Learning Space คุณไปเร่ยนร้้กับทรายท่�น่�ก็ได้ แล้วคุณไปนั�งท่�ชายหาดหัวหิน ไม่เหน่ยวตัว เหตุผลก็คือ ท่�หัวหินเป็นการปะทะพอด่ระหว่างลมทะเลกับลมบกประมาณ หนึ�งกิโลเมตร ลมบกพัดเข้ามา ลมทะเลพัดไปอ่กทาง เหมือนหน้าจั�วเรือนไทย ฉะนั�นตัวไม่เหน่ยว ถึงบอกว่าเป็นเมืองราชิน่ตากอากาศ


28 หัวหินคือบ้ านของพ่ อด้ วย ในหลวงรัชกาลท่� 9 ม่ผลต่อคนหัวหินมาก เราเอาศาสตร์ พระราชามาใช้ เริ�มต้นจากสิ�งเล็กๆ เช่นเราจัดการขยะท่�วิธ่คิด ของคน แบบแผนในการบริโภค แบบแผนในการผลิต แบบแผน ในการบริการ สามเรื�องน่�เป็นท่�มาของขยะ เราก็ลงไปคุยท่ละคน บอกว่า คุณจะผลิตยังไงให้ลดขยะ คุณจะบริการยังไงให้ไม่ม่ขยะ คุณจะบริโภคยังไงให้ไม่ม่ขยะ อย่างเช่นนางรำไร้ถัง ขยะเมืองก็ลด เริ�มจะไม่ม่ถัง มันค่อยๆ เป็นผล จากนั�นเราเอาปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพ่ยงเข้าไปส้่วิถ่ช่วิต แต่ว่าเราคุยละเอ่ยดกับประชาชน พอเพ่ยงเท่ากับว่าม่เหตุม่ผล ม่ภ้มิคุ้มกัน พอประมาณ เราร้้ ศักยภาพ ร้้ตัวเรา ร้้ทรัพยากรเรา ทำให้คนม่สติ แล้วก็ละมุนใน การตัดสินใจ ในการเลือกหรือไม่เลือกโดยเหตุผลอะไร แล้ว ความขัดแย้งหลายเรื�องลดลง ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื�อเรื�อง พอเพ่ยง หลอกให้เราหน่จากระบบทุนนิยมแล้วไปแอบกินกัน หรือเปล่า แต่พอเอาเข้าจริง มันลึกซึ�งมาก เราม่สติทุกครั�งใน การตัดสินใจผ่านเกณฑ์สามเรื�องม่เหตุม่ผล ม่ภ้มิคุ้มกัน พอประมาณ อ่กสิ�งหนึ�ง ปล้กป�าในใจคน คืออย่างเช่นเรื�องจัดการขยะ เราไปคุยอธิบาย ให้เขาเข้าใจ เหมือนเราจะรักษาต้นไม้ เราต้องทำให้คนรักป�า ทำให้คนเข้าใจ ว่าป�าสัมพันธ์กับช่วิตเขายังไง สัมพันธ์กับภาวะโลกร้อนยังไง ป�านำมาซึ�งช่วิต ความเป็นอย้่ท่�ด่ยังไง เรื�องขยะเราก็ทำแบบน่� ขยะสร้างปัญหาให้เรายังไง ไปสัมพันธ์กับนักท่องเท่�ยวยังไง สัมพันธ์กับช่วิตความเป็นอย้่ ระบบเศรษฐกิจ ยังไง เราค่อยๆ ทยอยคุยในโรงเร่ยน ท่�นั�นท่�น่� ไม่ได้ทำใหญ่เลย แต่ได้ผล ทำท่�หน่วยย่อยท่�สุดของเมืองคือคน หน่วยย่อยบวกหน่วยย่อยก็กลายเป็น ชุมชน ชุมชนบวกชุมชนก็กลายเป็นเมือง ท้ายท่�สุดคือสอนให้คนพึ�งตนเอง สถานการณ์ โควิด-19 ส่ งผลอย่ างไร? ในฐานะท่�ผมเป็นนักวิชาการด้วย เราคุยเป็นเมืองแรก อาจจะเป็นท่�แรก ของโลกก็ว่าได้ ผมไปร่วิวงานท่�เก่�ยวกับเรื�องระบาดวิทยา เรื�องวัคซ่น ไปพบ งานชิ�นหนึ�งท่�เป็นการปะทะสังสรรค์ระหว่างสองนักเคม่ชาวฝรั�งเศส อองตวน เบชองป์ (Antoine Béchamp, 1816-1908) กับหลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur, 1822-1895) คนคิดวัคซ่นท่�เป็นเชื�อเป็นเชื�อตายขึ�นมาเพื�อ ทำให้เซลล์เข้าไปเร่ยนร้้แล้วจัดการ แต่อองตวน เบชองป์ บอกว่ามันชั�วครั�ง ชั�วคราว ไม่ถาวร ท่�จริงแล้ว ร่างกายของเราเป็นเรือนของโรค เพราะฉะนั�นเรา ต้องทำร่างกายของเราให้แข็งแรง แล้วร่างกายจะไปจัดการกับโรคเอง เราก็ หัวหินดึงศักยภาพสําคัญ ของเมืองตากอากาศ มาเป็ นกลไกขับเคลื่อนสังคม ด้ วย 5 ทุนคือ ทุนมนุษย์ ทุนวัฒนธรรม ทุนสิ่ งแวดล้ อม ทุนสังคม และทุนเศรษฐกิจ


29 หลักส้ตรท่�สองคือ หลักส้ตร HDC เราเตร่ยมพร้อมให้สังคม เพื�อรองรับ การเปล่�ยนแปลง ทำให้เขาร้้เท่าทัน อย้่ในโลกใบใหม่ท่�มันถ้ก disrupt อย้่ อย่างลงตัว ไม่เส่ยเปร่ยบอะไรมากนัก ตัวท่�สามคือ หลักส้ตรของ ศ้นย์ภ้มิปัญญาท้องถิ�นนาฏศิลป์ไทย ซึ�งเราใช้หลักส้ตรนาฏศิลป์เป็นเครื�องมือ จัดการระบบสุขภาพ คุณจะได้เห็นคนอายุแปดสิบกว่าท่�แข็งแรง ทะมัดทะแมง มาก เพราะกว่าจะรำออกไปแต่ละชุดน่� ทั�งมัดกล้ามเนื�อ ระบบประสาท เราส่ง นักวิทยาศาสตร์การก่ฬา มหิดล มาประกบกับพวกศิลปวัฒนธรรมเหล่าน่� มาอธิบายเรื�องพลังงาน การส่งต่อของระบบประสาท น่�คือการทำงานในเชิง สหวิทยาการ เอาเรื�องบางเรื�องท่�บางท่ไม่สัมพันธ์กันมาร้อยรัดเข้าด้วยกัน ผลที่ได้ รับจากชุดโครงการวิจัยชิ้ นนี้? ชุมชนพ้ลสุขในฐานะท่�เป็นชุมชนต้นแบบการเร่ยนร้้ เห็นผลสัมฤทธิ�มาก เกิดพื�นท่�สาธารณะ Public Sphere ไม่ได้แปลว่าพื�นท่�ท่�เป็นถนนนะครับ แต่พื�นท่�ท่�เป็นโอกาสในเชิงสาธารณะ จะย้ายไปประชุมท่�ไหนก็ตามแต่ มันม่ ต้นเชื�อท่�เป็นพื�นท่�สาธารณะเกิดขึ�นท่�ชุมชนพ้ลสุข คนม่โอกาสสร้างตัวตน ผ่านเวท่สาธารณะเหล่าน่�เพื�อพร่เซนต์ว่าตัวเองม่อะไร ม่ประสบการณ์เรื�อง อะไร ตัวทุกข์อะไรยังไงอย้่ คือทำให้วิถ่ช่วิตท่�หลากหลายถ้กยกขึ�นมาอ่กครั�ง เพื�อให้เห็นความหลากหลายของหัวหิน หัวหินไม่ใช่เมืองเชิงเด่�ยว หัวหินม่ ความหลากหลายทั�งวัฒนธรรม อาหารการกิน การดำรงอย้่ ระบบเศรษฐกิจ มันซ้อนทับกันอย้่ เรากำลังบอกว่า การท่�ทำให้เขาม่ท่�ยืน ม่ตัวตน ทำให้คน เข้าใจกัน ฉะนั�นเราหมั�นท่�จะสร้าง Public Sphere เรื�อยๆ ถ้าเราคิดในเชิง ขมวดรวมว่าต้องไปสร้างก็จบเลย แต่เราคิดว่าเรื�องท่�เราทำจะไปเป็นองค์ ประกอบซึ�งกันและกันอย่างไรบ้าง ก่อร้ปออกมาเป็นวิธ่การปฏิบัติชุดใหม่ก็ได้ แบบเดิมก็ได้ เราทำให้นักวิจัยเคารพความหลากหลาย มองจากคนข้างใน ออกมาข้างนอก ไปนั�งไปยืนเค่ยงข้างกับเขา เวลาเราตั�งใจฟัง ฟังให้ได้ยินเส่ยง เร่ยกร้องความต้องการ ความร้้สึกนั�นต้องมาจากความไว้เนื�อเชื�อใจ มาจาก การเคารพความหลากหลายของเราอย่างเพ่ยงพอ เราฟังแบบไม่ตัดสินได้หรือ เปล่า อันน่�สำคัญ สติ ฟังเชิงลึก เป็นสกิลของนักวิจัยท่�เราได้จากงานครั�งน่� ผมคิดว่างานวิจัยครั�งน่�คุ้ม มันสร้างตัวตนของผมใหม่ด้วยซ�ำ จากการถือด่กร่ กับการถือปัญญา มันคนละเรื�องกันนะ ม่ความร้้ไม่ใช่ม่ปัญญา แยกกันชัดเลย เอาหลักน่�มาทำเป็นหลักส้ตร HDC Hygiene Distancing Clean การเร่ยนร้้ สุขลักษณะในการใช้ช่วิตท่�ด่ และเอาหลักส้ตรน่�เข้าโรงเร่ยนประถม มัธยมของ เราเลย เราเร่ยกว่า วัคซ่นทางสังคม ไม่ได้ฉ่ดเข้ากล้ามเนื�อ แต่ฉ่ดเข้าไปในหัว ไปตรงวิธ่คิด โรคอุบัติใหม่จะเกิดขึ�นก่�ครั�งก็ตามแต่ วัคซ่นทางสังคมจะอย้่ในหัว ไม่อย้่ในร่างกาย เป็น Social Vaccine Hua Hin Resurrection หัวหิน ล้มแล้วลุกไว เชื�อมั�ยว่านายกเทศมนตร่ประกาศไปว่าขอให้คนร้้จักป้องกันตัว ให้เข้าใจว่าโรคเปล่�ยนยังไง ระบาดยังไง หลังจากนั�นหกสัปดาห์นายกรัฐมนตร่ สิงคโปร์ออกมาคุยแบบเด่ยวกัน อ่กสองเดือนนายกรัฐมนตร่อังกฤษออกมา คุย เราก็ร้้ว่าวิธ่คิดเราได้ สำนักนายกรัฐมนตร่เอาวิธ่คิดชุดน่�ส่งย้เอ็นให้ไปถอด โมเดลเป็นวัคซ่นทางสังคมใช้ได้ทั�งโลก อันน่�เกิดจากการเร่ยนร้้ในเชิงพื�นท่� ทั�งนั�น เพราะท้ายท่�สุด เราทำ Learning Space ให้เกิดการเร่ยนร้้ ทั�งเร่ยนร้้ ในส่วนข้อม้ล เร่ยกว่า Information Literacy เห็นคุณค่าของข้อม้ล เข้าใจ การนำใช้ข้อม้ล ร้้ว่าควรจะอย้่ตรงไหน ยังไง เอาไปใช้กับอะไร ข้อม้ลต่อไปน่� เราอยากได้อะไร มันหลั�งไหลมาจากชาวบ้านท่�เข้าใจ ท่�เขาจัดหมวดหม้่มาให้ เราเป็นเมน้นโยบายเลย โครงการวิจัยนี้ทําให้ เกิดหลักสูตรการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพ พลเมืองในท้ องถิ่ น และเห็นผลเป็ นรูปธรรมอย่ างไร? เรายกเป็น Local Study ได้ 3 เรื�อง ท่�เกิดพื�นท่�ให้ชาวบ้านเร่ยนร้้ เราก็ เร่ยนร้้ หนึ�ง เราฟ้�นฟ้การละเล่นพื�นบ้าน “ผ่พุ่งไต้” (ผ้้เล่นจับมือกันตั�งแถว คนหัวแถวกับคนปลายแถวถือไต้จุดไฟไว้คนละอัน หัวหน้าคนหัวแถวร้อง เพลงนำ ล้กแถวร้องรับและวิ�งตามกันเป็นแถวยาว โดยเล่นกันในช่วงค�ำของ เทศกาลสงกรานต์ ถือว่าเป็นการขับไล่ผ่สางความชั�วต่างๆ ให้หมดไปพร้อม กับปีเก่า ให้ปีใหม่ม่แต่สิ�งด่ๆ) เพิ�มม้ลค่าเป็นแคมเปญใหญ่ด้านการท่องเท่�ยว แล้วทำยังไง เราก็เอาผ่พุ่งไต้ไปพัฒนาเป็นหลักส้ตรท้องถิ�น ให้เด็กนักเร่ยนใน สังกัดเทศบาลฯ 7 โรงเร่ยนได้เร่ยน แล้วงานสงกรานต์ก็เอาเด็กมาเล่นผ่พุ่งไต้ ปีแรกเอามาโรงเร่ยนละ 30 คน 210 คน ปีต่อไป 100 คน ก็ 700 คน พอเพิ�ม ขึ�นเรื�อยๆ เราก็ผลิตคนเหล่าน่�ไปฝากไว้ในสังคม ต่อไป เด็กเหล่าน่�จะไปเป็น ชุมชน เป็นผ้้ใหญ่ในสังคม แล้วเราเอาเรื�องหัวหินเมืองบ้านพ่อท่�เขาร้้กันอย้่แล้ว ใส่เสื�อเหลืองมาวิ�งผ่พุ่งไต้ชายหาด สิ�งน่�เป็นกระบวนการสร้างการม่ส่วนร่วม ในเชิงเอาวัฒนธรรมเป็นฐาน ต่อไปนักท่องเท่�ยวก็สามารถมาวิ�งได้ คุณอยาก วิ�งผ่พุ่งไต้สักครั�งหนึ�ง คุณมาเลยหัวหิน ท่านนายกฯ วางไว้เป็นกิมมิกหนึ�งของ Hua Hin Festival เพราะเราม่รากทางวัฒนธรรม ม่การละเล่น ม่วัฒนธรรมกับ ชายหาด มันชัดมากเลย


30 พอเขามีเวทีมาเจอกัน มันกลายเป็ นเครือข่ ายใหม่ คือเวทีของ Learning City สิ่ งที่ไม่ เคยออกมาก็ออกมา


31 ขณะเด่ยวกัน การให้ข้อม้ลกับชาวบ้าน ในความเป็นเมืองหัวหินค่อนข้าง จำกัด เพราะคนท่�น่�ถ้าเขาไม่สนิท ไม่ไว้ใจ เขาก็ไม่ค่อยให้ข้อม้ล แต่เพราะเรา ลงพื�นท่� ไปคุยกับเขาบ่อยๆ ทำความร้้จักกับชาวบ้าน ทำให้เขาไว้ใจ เขารับร้้ว่า เรามาทำอะไร เขาก็จะบอกว่าตรงน่�ม่อันนั�น ตรงนั�นม่อันน่� ไปหาคนนั�นคนน่� เราก็ได้ข้อม้ลเชื�อมโยงมากขึ�น และชาวบ้านได้เห็นท่มวิจัยลงพื�นท่�เพื�อช่วยแก้ ปัญหาในหลายๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นหลักส้ตรฝึกอาช่พ ท่�เราพบว่าเขาก็อยากเอา ภ้มิปัญญาบางอย่างออกเผยแพร่และเพิ�มม้ลค่า เช่น พัดใบตาล ท่�ม่คนเด่ยว ทั�งเมือง เอาภ้มิปัญญาเดิมจากปราณบุร่มาทำ ปกติพัดพวกน่�จะขึ�นรา เราก็เพิ�ม ม้ลค่าทางเศรษฐกิจให้เขา เช่น ลงแล็กเกอร์ได้ แล้วก็ส่งเสริมการขาย สอน ชาวบ้านท่�เป็นผ้้ส้งอายุ คนว่างงานใช้หลักส้ตรเทคโนโลย่ด้านการสื�อสาร ด้านการขายออนไลน์ ให้เขาไลก์เป็น ร้้จักขายเป็น เขาก็ม่สกิลใหม่ คนหัวหินอย้่ด้วยการท่องเท่�ยว เขาไม่ได้ม่อาช่พอื�นรองรับ แต่พอโควิดมา ต้องคิดแล้วว่าถ้าเขาอย้่แบบเดิม อย้่ไม่ได้ เพราะฉะนั�นการเร่ยนร้้ก็จะเกิดขึ�น บางคนอยากได้อาช่พใหม่ ก็เอาความร้้ใหม่ให้เขา สิ�งท่�เราพบว่าเป็นเสน่ห์ เป็นรากเหง้าของคนหัวหิน คือทุกบ้านม่ร้ปของพ่อหลวง สิ�งท่�เขาพยายามบอก นักวิจัยคือทุกคนม่ความจงรักภักด่ แล้วเขาอยากเผยแพร่ความร้้ท้องถิ�น เรื�องประวัติศาสตร์เมือง ภ้มิปัญญา วิถ่ช่วิต ให้กลายเป็นข้อม้ลของการพัฒนา เราจัดเวท่ให้เขามาร่วมวางแผนพัฒนาสิ�งท่�เขาม่ เช่น เส้นทางท่องเท่�ยวในพื�นท่� ชุมชนพ้ลสุข เราตั�งจุดการเร่ยนร้้ทั�งหมด 7 จุดหลักๆ สถาน่รถไฟหัวหิน ศ้นย์โอทอปหัวหิน ชุมชนพ้ลสุข ชายหาดหัวหิน ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตลาดหัวหินตลาดฉัตรไชย บ้านแนบเคหาสน์ แล้วนักวิจัยก็ลงไปเจาะ เก็บข้อม้ล ถอดมาท่ละ จุดว่าตรงน่�ม่เรื�องราวอะไร นำขึ�นมาทำอะไรได้บ้าง อันน่�คือไฮไลต์ของเมือง เราก็มาทำหลักส้ตรท้องถิ�นหัวหินศึกษา เอาสำนักการศึกษาของเทศบาลฯ มาเป็น เจ้าภาพในการทำหลักส้ตรท้องถิ�น รวบรวมภ้มิปัญญา ชาวบ้านมาแบ่งปัน ความร้้กัน คนน่�เป็นภ้มิปัญญาเปลือกหอย เขาก็สอนคนท่�เป็นพัดใบตาล ตอนแรกเขาทำได้อย่างเด่ยว ตอนน่�เขาทำได้หลายอย่าง คือพอเขาม่เวท่มา เจอกัน มันกลายเป็นเครือข่ายใหม่ แล้วเขาร้้สึกว่าท่�บ้านเขาม่ของด่หลายอย่าง คือเวท่ของ Learning City เฉพาะภ้มิปัญญานะ คือ สิ�งท่�ไม่เคยออกมาก็ออกมา เราได้หลักส้ตรท้องถิ�นทั�งพวกอาหารพื�นบ้าน ปิ�งงบ หอยเส่ยบมะละกอ พวกการละเล่นพื�นบ้าน ประเพณ่ผ่พุ่งไต้ ตรงน่�เป็น soft power ส่งเสริมการ ท่องเท่�ยว นายกเทศมนตร่เมืองหัวหินก็เอาไปเป็นนโยบายส่งเสริมการท่องเท่�ยว จัดเวท่ให้การละเล่นพวกน่�ไปอย้่บนชายหาดในช่วงสงกรานต์ท่�ผ่านมา นักท่องเท่�ยวท่�มาก็ร้้สึกว่าหัวหินยังม่อ่กหลายอย่างท่�เขาไม่เคยเห็น แล้วภ้มิปัญญาพวกน่�บรรจุเข้าไปเป็นกิจกรรมเสริมหลักส้ตร 7 โรงเร่ยนใน เทศบาลเมืองหัวหินได้เร่ยน กลายเป็นการผลิตสื�อถ่ายทอดองค์ความร้้ เด็กทั�ง 7 โรงเร่ยนสามารถเล่นการละเล่นพื�นบ้านท่�ชายหาดได้สามพันคนเลย ทุกคนม่ ความร้้เรื�องน่� เล่นได้ สาธิตได้ จัดแสดงได้ ก็ทำให้เขาภ้มิใจในความเป็นเมือง ของเขา เทศบาลฯ ก็ใช้หลักส้ตรท้องถิ�นหัวหินศึกษา เรื�องประวัติศาสตร์เมือง การละเล่น ภ้มิปัญญา อาหาร ขนม มาขับเคลื�อนพัฒนาอัตลักษณ์ของเมือง ความยั�งยืนท่�เกิดขึ�นคือ หนึ�ง การเร่ยนร้้บ้านของตัวเอง สองคือ มารันเศรษฐกิจ พวกภ้มิปัญญาถ้กส่งเสริมขึ�นมา เส้นทางท่องเท่�ยวในชุมชนท่�ไม่เคยม่ ซึ�งปกติมัน ม่อย้่แล้ว เรามาสร้างเส้นทางขึ�นใหม่ บางท่คนมาท่องเท่�ยวเขาอยากด้ว่าวิถ่ช่วิต เป็นยังไง อยากร้้สตอร่�ตรงน่�ว่าเป็นยังไง เหมือนท่�เราเดินมาร้านตะโก้เสวย เราเห็นแต่ป้าย กินแล้วอร่อย แต่ไม่ร้้เรื�องราวเป็นยังไง แม้กระทั�งร้านปิ�งงบ มะละกอเส่ยบไม้ ชื�อซอยในเมือง ซอยแนบเคหาสน์ท่�วงเล็บว่าซอยรวมเผ่า หรือซอยแพร่พันธุ์ ชื�อถนนนเรศดำริห์ แนบเคหาสน์ ท่�ไม่ใช่ศัพท์แสงชาวบ้าน พวกน่�ม่ประวัติศาสตร์หมด แล้วเขาอยากถ่ายทอดต่อ อยากสืบสานต่อ อ่กอย่าง คือคนหัวหินม่ภาษาพ้ดท่�ไม่เหมือนคนอื�น สำเน่ยงเขาจะเหน่อ และม่คำสร้อย ลงท้าย เช่น คำว่า “ดุ๊” “กินข้าวดุ๊” มันไม่ได้ม่ความหมายอะไร แต่เป็นภาษา เป็นท่�มาของความเป็นเมืองท่�ม่เสน่ห์อ่กอย่างหนึ�ง โครงการวิจัยน่�เราเลือกชุมชนพ้ลสุข เพราะมองเห็นศักยภาพ ม่ข้อม้ล ประวัติศาสตร์เป็นตัวตั�ง ถ้าเป็นชุมชนอื�นมันไม่ชัด เพราะชื�อหัวหิน บ้านแถบหิน หรือชื�ออะไรก็แล้วแต่ ฐานมาจากตรงชุมชนพ้ลสุขน่� มันม่ท่�มา ต่อยอดได้ เช่น สภาอุตสาหกรรมการท่องเท่�ยว พอเขาได้เส้นทางท่องเท่�ยวก็เอาไปเข้าแผนการ พัฒนาการท่องเท่�ยวของจังหวัด เราก็ให้เครือข่ายรถตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซค์ เครือข่าย ม้าชายหาด มาเอาไปทำเส้นทางท่องเท่�ยวใหม่ท่�สอดคล้องกับวิธ่คิดแนวทาง ของเขา แล้วเราพัฒนาเขาให้ม่ความร้้ในการเล่าเรื�อง ทำไกด์ท้องถิ�นขึ�นมา ก็สร้าง อาช่พให้กับคน นักท่องเท่�ยวก็ได้เร่ยนร้้การท่องเท่�ยววิถ่ใหม่ เท่�ยวแบบคนท่�ม่ ความร้้ ม่คุณค่าในการท่องเท่�ยว คนในชุมชนก็จะลุกขึ�นมาว่าเราควรต้องม่ ความร้้เรื�องบ้านของตัวเอง ต้องนำผลิตภัณฑ์ออกแบบเรื�องราวขนม อาหาร ใหม่ ให้สอดคล้องกับวิถ่ช่วิต พอทุกคนได้เร่ยนร้้ การร้้สึกหลงรักเมืองหรืออยากม่ ส่วนร่วม อันน่�คือหัวใจ เวลาเรามาเท่�ยว เราม่ความทรงจำท่�ด่ ร้้สึกเมืองม่เสน่ห์ เราอยากมาอ่ก งานวิจัยน่�เป็นข้อม้ลท่�เร่ยนร้้ด้วยกัน เทศบาลฯ ได้ข้อม้ลก็เอาไปใช้ประโยชน์ ในการขับเคลื�อนนโยบาย ทำแผน ทำโครงการ ทำกิจกรรม ตั�งงบประมาณในการ พัฒนาได้ ตัวภาคธุรกิจเองต้องมองออกว่า ท่�เท่�ยวม่เยอะแล้ว แต่อัตลักษณ์ท่� จะเอาไปขายคืออะไร แม้กระทั�งโรงแรมใหญ่ๆ ของชุมชนโรจนเสถ่ยร ก็มาร่วม กับโครงการวิจัย ช่วยกันคิดว่า soft power เหล่าน่�คือข้อม้ลท่�เป็นเสน่ห์ของเมือง แต่ยังไม่ถ้กยกระดับ ไม่ได้ถ้กร้อยเร่ยงเพื�อเล่าเรื�อง ท่น่�ทุกภาคส่วนต้องร้้วิธ่นำใช้ ข้อม้ล สิ�งท่�เป็นจุดอ่อนของท้องถิ�นก็คือว่า เวลาทำงานพัฒนาเมือง เขาไม่ม่ นักวิชาการท่�ทำข้อม้ล ไม่ม่องค์ความร้้ท่�ถอดเป็นกระบวนการ ซึ�งเราพบว่าถ้าทำ อย่างน่� เมืองจะเข้มแข็งเรื�องดาต้า เพราะถ้าไม่ม่ข้อม้ล เขาจะคุยอะไรกัน มันนึกเอาเองไม่ได้ หัวหินม่เทศบาลฯ เป็นเจ้าของเรื�อง ช่�เป้าหมายให้เห็นตรงกัน ชัดเจนตรงท่�ม่โมเดลก่อนว่าเราจะทำอะไรบ้าง วิสัยทัศน์เมืองคือเมืองแห่ง ความสุข Learning City คือ beat โมเดลคือกระบวนการ พอเราม่ตัวน่� เราก็วาง เลยว่าเราจะไปเก็บทุนอะไรท่�จะเอามาพัฒนาเมือง ทุนเศรษฐกิจ ทุนกายภาพ ทุนประวัติศาสตร์ ทุนธรรมชาติ ทุนสังคม เราก็เอาทุนน่�มานำใช้สร้างกลไก การเร่ยนร้้ กลไกเศรษฐกิจ ซึ�งโมเดลท่�เราทำมันชัด เอาไปถอดบทเร่ยนได้เลย เทศบาลเมืองหัวหินก็นำไปใส่ในยุทธศาสตร์เมืองแล้ว โครงการย่ อยชุด “การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม พื้นที่การเรียนรู้เพื่อสร้ างเสริมทักษะแหงศตวรรษที่ ่ 21 ที่สอดคล้ องกับวิถีชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน” เข้ าไปศึกษาและเก็บข้ อมูลท้ องถิ่ นในพื้นที่วิจัย ประสานงานกับท้ องถิ่ นในภาคีที่เกี่ยวข้ อง คือภาครัฐ ตัวเทศบาลเมืองหัวหินเองที่เป็ นเจาภาพทุนวิจัย ้ ภาคประชาชน ภาควิชาการคือมหาวิทยาลัยที่ เป็ นพันธมิตรกันคือมหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ ธานีมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่ วงที่เข้ ามาทํางานวิจัยเป็ นช่ วงสถานการณ์ โควิด เมืองได้ รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเต็มร้ อย ชุมชนพูลสุขที่เราเลือกไปทําวิจัย พวกร้ านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจการท่ องเที่ยวโรงแรม คือปิ ดทําการทั้งหมด จนกระทั่งร้ าง ก็มีปั ญหาในการเรียนรู้ เรื่องความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน นักวิจัยก็ทํางานกันยากพอสมควร อาจารย์อภินันท์สิริรัตนจิตต์ หัวหน้ าโครงการวิจัยย่ อย การออกแบบและพัฒนานวัตกรรม พื้นที่การเรียนรู้เพื่อสร้ างเสริมทักษะแหงศตวรรษที่ ่ 21 ที่สอดคล้ องกับวิถีชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย


32 หน้จวบคือตัวตนของชุมชนพ้ลสุข ตัวร้านหน้จวบคือท ่� ศ้นย์โอทอปหัวหิน ข้อด่คือทำเล อย้่ริมถนนใหญ่เพชรเกษม แต่ร้านหน้จวบเองถ้าไม่ได้นายกฯ ม่วิสัยทัศน์ หรือเทศบาลฯ ให้ความสำคัญ ติดเส้นทางท่องเท่�ยวไว้ มันก็เกิดขึ�น ไม่ได้ ศ้นย์โอทอปหน้จวบคือร้านค้าชุมชน ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันทำเป็น เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนตามศาสตร์พระราชา ตอนน่�ม่สมาชิกเครือข่ายฯ 190 คน คือแต่ก่อนทุกคนกระจัดกระจาย บางคนเป็นเกษตรกรอย้่ตำบล ห้วยสัตว์ใหญ่ บางคนทำสับปะรดช่สเชค บางคนอย้่เกาะหลักทำปลาจิ�งจ๊าง ตอนน่�ทุกคนเป็นเพื�อนกันหมด แล้วม่ความโดดเด่นตรงท ่� หนึ�ง เราอย้่เมือง ท่องเท่�ยว ความได้เปร่ยบคือเป็นร้านค้าโอทอปท ่�ม่มาตรฐาน กรมการค้า ภายใน กระทรวงพาณิชย์เห็นว่าร้านเราอย้่ในทำเลด่ ชุมชนม่ความเข้มแข็ง เขาก็เลือกเราเป็น ClusterFarm Outlet เอางบมาจัดบ้ทให้ฟร่ เขาคัดเลือก จากทั�วประเทศม่แค่4 ร้าน เราเป็น The Bestของชุมชนคนตัวเล็ก เป็น ตัวแทนของภาคกลาง คือจังหวัดประจวบค่ร่ขันธ์ภาคเหนือคือจังหวัดน่าน ภาคใต้คือจังหวัดสงขลา ภาคอ่สานคือจังหวัดสกลนคร สอง เราได้โค้ชท ่�ม่ ความเช่�ยวชาญระดับประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ มาสอนชุมชนเรา สาม เขามาจัดร้านให้ฟร่ แล้วเขาก็ต้องพัฒนา ต่อยอดเราไปส้่ระดับสากล ม่การปรับแพ็กเกจจิง มาตรฐานต่างๆ ก็ขยายไป แล้วกรมพัฒนาชุมชนก็ มองเห็น ให้เราเป็นต้นแบบร้านค้าชุมชนท ่�ม่การบริหารจัดการทั�งออฟไลน์และ ออนไลน์ ท้ายสุด กระทรวงเกษตรก็เห็นว่าน่าสนใจ ก็ตั�งเป็น Fisherman Shop หมายความว่าเราได้รับความร่วมมือจากสามกระทรวง พาณิชย์ มหาดไทย เกษตร ก็เหมือนกับเราโตมากขึ�น ในแง่นักวิจัย เราต้องใช้ความอดทน ตอนแรกคนในชุมชนก็คิดว่าเป็นไป ได้เหรอ ทำไมต้องทำ เขาสะท้อนมาคำพ้ดหนึ�งว่า “คนท ่� น ่� หาเงินง่าย” แต่ออนไลน์น ่� มันเหมือนไม่ง่ายนะ บางคนอาจไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้ คือไม่สามารถวัดได้ว่าจะประสบความสำเร็จเมื�อไหร่แต่พอม่คนท ่� ทำแล้วสำเร็จเขาก็เออ มันม่รายได้แล้วตอนท ่� นักวิจัยทำงานเป็นช่วงท ่� ปิดเมืองช่วงโควิดพอด่ มันไปไหนไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเป็นออนไลน์แล้วข้อด่ ของประเทศไทยคือระบบขนส่งโลจิสติกส์ไม่เป็นสองรองใคร ดังนั�นมันก็ไม่ได้ ปิดเขา ต่อให้ม่โควิด เขาก็ยังม่อ่คอมเมิร์ซ ยังม่อาช่พใหม่แล้วแอปพลิเคชัน หน้จวบไม่จำเป็นต้องทำใหญ่ ทำให้ชุมชนเราอย้่รอด สมมติขายข้าวกล่องนึง โดนกินหมด เขาก็ไม่ม่กำลังใจจะทำ เราส้้ขายให้พอเพ่ยงด่กว่า เพราะคนท ่� น ่� บ้านของพ่ออะนะ ทุกคนร้้อย้่แล้วว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพ่ยงคือทำยังไงให้ ไม่ม่ความทุกข์เขาก็เลือกใช้ในสิ�งท่�เขาม่อย้่ แล้วเราก็ต่อยอดทำโครงการ หน้จวบช่วยน้อง ทุกรายได้ท่�ขาย 100 บาท เราแบ่ง2 บาทให้กับนักเร่ยนท ่� ไม่ม่รองเท้าซึ�งเมื�อวันก่อนก็เอาเงินไปให้โรงเร่ยนวิทยาลัยการอาช่พปราณบุร่ เด็ก 1 คนจะได้รับ 2,000 บาท ซึ�งเขาสามารถเอาไปใช้อะไรได้เยอะ เงินไม่ เยอะแต่เกิดจากชุมชนช่วยกัน ทุกคนก็ม่ความสุข ปัญหาท่�เจอคือเจเนอเรชันท่�เป็นปราชญ์ชาวบ้านกับคนรุ่นใหม่ ม่คนท่�เขา รักในสิ�งท่�เขาทำ และเขาก็เพ่ยงพอกับรายได้อย่างป้าอ้น ทำพัดใบตาล 60 บาท กว่าจะวาดพัดมาแต่ละตัวขายหอยตัวละ2 บาท ซึ�งคนรุ่นใหม่มอง ว่าฉันหาเงินได้ง่ายกว่า ฉันไปทำงานเซเว่นด่กว่า ฉันอย้่ห้องแอร์ทำไมต้องมา นั�งทำหอย มานั�งเข่ยนพัด มาทำขนมท ่� มันยาก แต่เขาไม่ร้้ว่าถ้าเกิดคุณทำ สักอย่างหนึ�ง แล้วคุณม่แนวคิดจะเป็นเวิลด์คลาสจริงๆ มันไปได้ ถ้าลองด้ โอ้กะจ้� ท่�เช่ยงใหม่เขาก็ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพ่ยงเหมือนกัน ห้างใหญ่ๆ ทุกคนร้้จักโอ้กะจ้�หมด คือก็ม่คนท ่� คิดแบบนั�น กลุ่มท่�เราโฟกัสว่าเป็นปราชญ์ ชาวบ้าน เขาประสบความสำเร็จในแง่ความสุขซึ�งก็ตอบโจทย์ว่า ถ้าเรายื�น องค์การย้เนสโกในเรื�องเมืองแห่งความสุข ย้เนสโกต้องมาถามคนในชุมชน ซึ�งถ้ามา30 วัน มาถามป้าอ้น 30 วัน ป้าอ้นก็จะบอกว่าเขาม่ความสุข ไม่ได้ม่การจัดฉาก ผมเป็นหนึ่งในคณะนักวิจัยโครงการการออกแบบและพัฒนานวัตกรรม พื้นที่การเรียนรู้เพื่อสร้ างเสริมทักษะแหงศตวรรษ่ ที่ 21 ที่สอดคล้ องกับวิถีชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหนิบทบาทผมคือพัฒนาเทคโนโลยีดิจทิัลใหก้ ับชุมชนที่เป็นพื้นที่วิจัย อบรมพัฒนาความรู้ พื้นฐานใหบ้ ุคลากรในชุมชนสามารถเป็นคนที่นําเรื่องราว สินค้ า หรือบริการ มาเล่ า เพื่อให้ เกิดมูลค่ า พอเขามีความรู้ แล้ ว เราก็อยากเป็นต้ นแบบของชุมชนที่ใช้ แพลตฟอร์ มของตัวเอง คือชุมชนอาจจะขายผ่ านลาซาด้ า เดลิเวอรีช้ อปปี้ หรือสื่อต่ างๆ ที่ต้ องเสียค่ าธรรมเนียมค่ อนข้ างสูง ซึ่งเขาก็บ่ นว่ าไม่ เหลืออะไร เราเลยเขียนขอทุนหน่ วยงานภาครัฐ ไปที่กองทุนพัฒนาดิจทิัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม กระทรวงดิจทิัลฯ และที่ DEPA (สํานักงานส่ งเสริมเศรษฐกิจดิจทิัล) ได้ รับทุนมาสร้ างแอปพลิเคชัน “หนูจวบ” เป็นแพลตฟอร์ มของชุมชน ซึ่งก็เป็นเครื่องมือรองรับการเป็น Smart City ด้ วย คือในชุดของผมนอกจากเป็นคณะวิจัยแล้ ว ท่ านนายกฯ (นพพร วุฒกิุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหนิ ) ก็ตั้งเป็นคณะทํางานด้ านการขับเคลื่อนหัวหนิ เมืองแหงการเ่รียนรู้ ตามนโยบายให้ เมืองหัวหนกิ ้ าวไปสู่ เวิลด์ คลาส โครงการนี้ก็บอกว่ าประชาชนในพื้นที่เขาพร้ อม ถึงแม้ ว่ าเขาจะไม่ รู้ เรื่องโทรศัพท์ มือถือ เทคโนโลยี แต่ เขาพร้ อมเป็นคนเล่ าเรื่อง เขาสามารถใช้ ชีวิตแบบ Next Normal ด้ วยซ้า ไม่ ใช่ New Normal คือก้ าวไปอีกขั้น แล้ วพอทุกคนเรียนรู้ สิ่ งที่เกิดขึ้นไปไกลกว่ านั้นคือ ชุมชนตรงนี้แวดล้ อมไปด้ วยชาวต่ างชาติทั่วโลก เขาสามารถคุยออนไลน์ ได้ ทั่วทั้งโลกเลย แล้ วตอนนี้เขาหยิบอะไรก็ได้ไม่ เฉพาะแค่ ของชุมชนเขา เอาไปขาย หยิบสินค้ าจากทั่วประเทศ แต่ ถามว่ าแพลตฟอร์ มหนูจวบไปสู้ กับรายใหญ่ มันคงสู้ ไม่ ได้สิ่ งที่เราได้ คือคนมาดูงาน อบต.จากทั่วประเทศ พออบต.มาหนึ่งคันรถบัส มันคือกําลังใจ เป็นการขับเคลื่อนชุมชนที่อยู่ ตามเส้ นทาง เขามาดูงานอย่ างน้ อยก็ต้ องกิน ต้ องใช้ต้ องช้ อปของในชุมชน ก็เกิดความยั่งยืน


33 ดร.ธีรัตน์โสดารัตน์ ทีมวิจัย ถ้ าเรายื่นองค์ การยูเนสโก ในเรื่องเมืองแหงความสุข่ ถ้ ายูเนสโกมาถามป้ าอ้ น 30 วัน ป้ าอ้ นก็จะบอกว่ าเขามีความสุข ไม่ ได้ มีการจัดฉาก


34


35


36 นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน หัวหินเมืองแหงความสุข่ ทุกคนต้ องมีความสุข


37 ชุดโครงการวิจัย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสู่ เมืองแหงการเรียนรู ่ ้เพื่อส่ งเสริม การเรียนรู้ ตลอดชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่งยืน” โดยหัวหน้ าชุดโครงการ ดร.ศิวัช บุญเกิด มีผู้ ช่ วยศาสตราจารย์ ปั ญจา ชูช่ วย เป็ นหัวหน้ าโครงการย่ อย “การพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสู่ เมืองแหงการเรียนรู ่ ้ เพื่อส่ งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต และยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่งยืน โดยการมีส่ วนร่ วมของภาคีเครือข่ าย” และอาจารย์ อภินันท์สิริรัตนจิตต์หัวหน้ าโครงการย่ อย “การออกแบบและพัฒนา นวัตกรรม พื้นที่การเรียนรู้เพื่อสร้ างเสริมทักษะแหงศตวรรษที่ ่ 21 ที่สอดคล้ อง กับวิถีชีวิตของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน” คือหนึ่งในเครื่องมือและ กระบวนการสําคัญในการพัฒนาเทศบาลเมืองหัวหินสู่ เมืองแหงการเรียนรู ่ ้ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่ างยั่งยืน โดยอาศัยความร่ วมมือ ของทุกภาคส่ วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา หน่ วยงานต่ างๆ ภาคีเครือข่ าย และชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน โดยเฉพาะ ชุมชนต้ นแบบพูลสุขที่นําทุนในมิติต่ างๆ มาเชื่อมโยงเพื่อ สร้ างพื้นที่และนวัตกรรมส่ งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน โดยมีเจาภาพหลักของ ้ โครงการวิจัยฯ คือเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่ง นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นพพร วุฒิกุล มาบอกเล่ าถึงการนําพาหัวหิน เมืองแหงการเรียนรู ่ ้บรรลุวิสัยทัศน์ “หัวหินเมืองแหงความสุข่ ” ความสุข ความสุข การเรียนรู้ เมืองแหง ่ สู ่ เมืองแหง ่ People


38 อัตลักษณ์ ความเป็น หัวหนคิ ืออะไร? หัวหินเป็นเมืองตาก อากาศท ่�ม่ชื�อเส่ยงมานานแล้ว ในอด่ตเราเป็นเมืองท่องเท่�ยวทาง ทะเลแห่งท ่� สองของประเทศไทย ท่�แรกคือ เกาะส่ชัง การเดินทางไปเกาะส่ชังก็ต้องนั�งเรือไป หัวหินเริ�มบ้มตอนท่�รถไฟมาถึง เห็นภาพการเคลื�อน ย้ายคน เคลื�อนย้ายสิ�งของซึ�งสะดวกกว่าการไปเกาะ เท่�ยวทะเล ประกอบกับในสมัยก่อน รัชกาลท ่�7 ทรงโปรด หัวหินมาก ทรงสร้างวังไกลกังวลเป็นท่�ประทับฤด้ร้อน ทำให้ ข้าราชบริพารท่�ตามเสด็จก็มาซื�อท ่� กัน คนม่ฐานะก็มาซื�อท ่� ดินติดหาด ซึ�งผมว่าเป็นความโชคด่ของหัวหินท ่�ม่ความเจริญเข้ามาก่อนจะม่การจัด ผังเมือง ทำให้หัวหินไม่ม่ถนนเล่ยบหาด น ่� คือความคลาสสิก ถ้าม่ถนน เล่ยบหาด ก็เป็นหาดทั�วๆไป ซึ�งหลายคนอาจมองว่าการม่ถนนเล่ยบหาดด่ แต่ผมมองว่าไม่ม่ด่กว่าจะเห็นว่าการพัฒนาม่สองด้าน หนึ�งคืออะไรท่�คง อย้่ต้องคงอย้่ อนุรักษ์ไว้เช่นชายหาดหัวหินเราได้ชื�อว่า ราชิน่แห่งความสงบ เหมือนเป็นเมืองทะเลท่�อย้่ในเมืองแต่ม่ความสงบแบบอย้่ในเกาะ ท่านลองไปด้ ท่านมาวันน่� ถ้ากลับมาอ่กเมื�อไหร่ก็จะได้บรรยากาศเก่าๆ ซึ�งน ่� คือเสน่ห์ของ หัวหิน ท ่�ม่การถ่ายทอดส้่รุ่นล้กรุ่นหลาน อัตลักษณ์ก็คือชายหาดสำคัญท ่� สุด จะม่ห้าง ม่สวนน�ำ ม่สิ�งอำนวยความสะดวก ม่สกายวอล์ก หรืออะไรก็แล้วแต่ คนบางท่มาหัวหิน ไม่ได้ลงหาดหรอก แต่ถ้าข่าวออกไปว่าหาดหัวหินเน่า คนก็ไม่มา ต้องเข้าใจประเด็นน่�ก่อน อย่างผมเอง บางท่ก็ไม่เคยลงหาดเลย ผมก็เชื�อว่าคนท ่� มาหัวหินหลายๆ คนก็ไม่ได้ลงหาด แต่ถ้าหาดเน่า ทำไมเขาถึง ไม่มา คือมันเป็นเรื�องของจิตใจ ความละเอ่ยดอ่อน อัตลักษณ์ท่�เพิ�มเติมจากชายหาดคือสถาปัตยกรรม ถ้าลงมาจากสถาน่ รถไฟก็จะเห็นแล้ว พลับพลาท่�ประทับ อาคารสถาน่รถไฟ ม่โรงแรมรถไฟ (ปัจจุบันคือเซ็นทารา แกรนด์ บ่ช ร่สอร์ทและวิลลา หัวหิน) ป้ายสถาน่รถไฟ ตลาดฉัตรไชยท ่�ม่หลังคาโค้งครึ�งวงกลมต่อเนื�องกัน 7โค้ง เป็นสัญลักษณ์ว่า สร้างขึ�นในรัชสมัยของรัชกาลท ่�7 ตอนน่�เราม่แผนทำสกายวอล์กชมวิวเมือง ชมทะเลตรงเขาหินเหล็กไฟ กำลังศึกษาออกแบบโดยกรมโยธาธิการ เพราะฉะนั�นการพัฒนาต้องมองถึงสิ�งท ่� ต้องรักษาไว้กับสิ�งท ่� ต้องทำเพิ�มเติม ผมเองก็เพิ�งนึกคำพ้ดออก ในอด่ตใช้คำว่า “หัวหินไม่ไกลจากกรุงเทพฯ” แต่ใช้คำว่า “ไม่ไกล” ไม่ได้นะ ใช้คำว่า “ไม่ใกล้และไม่ไกล” สะท้อนสถานท ่�ตั�ง อย้่ในจุดท่�เหมาะสม คือระยะทางประมาณ 180-250 กิโลเมตร เอากรุงเทพฯ เป็นศ้นย์กลางนะ เอาหัวหินเสาร์อาทิตย์เป็นตัวตั�ง คือคนเดินทางประมาณ 3-4 ชั�วโมงแล้วแต่รถติดไม่ติด ทำให้เป็นระยะทางท ่�ม่เสน่ห์ไม่ใกล้ไม่ไกล ใกล้เกินไปก็ขาดเสน่ห์เออ ถึงละ ไกลเกินไปก็เดินทางไม่ไหว พอมาแล้วก็เห็น จุดแข็งทางธรรมชาติ น�ำทะเลท่�ใส หาดทรายท่�ขาวละเอ่ยด ม่ท่�ออกกำลังกาย ตามธรรมชาติตลอดแนวความยาวของเรา22 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วก็เรื�องของอากาศ เมื�อม่ความกว้างไม่เยอะ ทะเลของเราอย้่ ตลอดแนวเทศบาลฯ แคบๆเหมือนเป็นห้องๆ หนึ�งท ่�ม่หน้าต่างทั�งสองด้าน อิทธิพลลมบกลมทะเล อากาศถ่ายเทในเขตเทศบาลฯ ด่มากๆ หัวหนมิ ีต้ นทุนในภาคเอกชนที่เข้ มแข็งมาก ใช่ครับ สถานประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สวนน�ำ ตลาดในหัวหินม่ตลาดสดฉัตรไชย ตลาดโต้รุ่งท่�เป็นของเทศบาลฯ ตลาดซิเคด้า ตลาดแทมมาร่น ตลาดบ้านคุณพ่อ ตลาดตาลเด่�ยว ตลาดแพไม้แค่ตลาดก็ม่ หลากหลายมาก ตั�งแต่บ่ายถึงค�ำ เท่�ยววันเด่ยวไม่หมด ตลาดนัดก็ม่แทบ ทุกวัน กระจายตามเขตเทศบาลฯ ม่โรงพยาบาล คุณไม่สบายไม่ต้องกลัวว่า จะไม่ม่หมอด่ๆ รักษา ม่สนามกอล์ฟ เราได้รางวัล Golf Destinationของ ทว่ปเอเช่ย-ออสเตรเล่ยรวมกัน ประจำปี2014 น ่� คือสิ�งท่�หัวหินเป็น เมืองแห่งความพร้อม เทศบาลเมืองหัวหนทิ ําโครงการเมืองแหงการเ่รียนรู้ อย่ างไร? เราศึกษาชุมชนพ้ลสุข มองสิ�งท ่�ม่อย้่แล้วในชุมชน ทำให้เขาเห็นว่าเขาม่ ของด่อย้่ ให้เขาเกิดความรักในตัวเอง รักในท้องถิ�นตัวเอง เกิดความร่วมไม้ ร่วมมือกันในชุมชน ทำให้เขาเกิดการตื�นร้้ และความภาคภ้มิใจ ชุมชนพ้ลสุข เน่�ยถ้าเดินทางจากสถาน่รถไฟมาท่�ชายหาดหัวหิน เท่�ยวไปในชุมชนพ้ลสุขท ่� ม่เรื�องของภ้มิปัญญาท้องถิ�น ปราชญ์ชาวบ้าน ม่คนท่�ทำพัดใบตาล ทำอาหาร การกิน ตะโก้เสวย ม่ศ้นย์การเร่ยนร้้หัวหินถิ�นมนต์ขลังซึ�งเป็นกลุ่มคนเก่าๆ ท ่� ทำเรื�องประเพณ่การทำบุญทางทะเล การละเล่นพื�นบ้านอย่างผ่อึ�งอ่าง ผ่พุ่งไต้ ซึ�งประวัติการละเล่นผ่พุ่งไต้คืออย้่ในช่วงตรุษสงกรานต์ ตั�งแต่ในอด่ตท ่� ยังเป็น ถนนดิน ถนนล้กรัง ไฟฟ้าก็ไม่ม่ การท่�คนมารวมตัวกัน เล่นสงกรานต์กัน มาเล่นการละเล่น เช่น ผ่พุ่งไต้ ผ่อึ�งอ่าง มอญซ่อนผ้า พอถึงเวลาเย็นจะกลับ บ้าน ก็อันตราย บางคนเป็นผ้้หญิง บ้านห่างกัน ก็เกิดการเดินไปส่งกัน ท่น่� การเดินไปส่งกันก็ต้องม่ไฟ สมัยก่อนไฟฟ้าคือไต้ ก็จุดไต้ถือเดินกันไป เวลาเล่น คือเดินจับมือกันเป็นมัดข้าวต้ม แล้วก็ม่คนอย้่หัวกับคนอย้่ท้ายถือไต้เดินไป เดินมาก็หนุ่มจ่บสาวสาวจ่บหนุ่ม ร้องเพลงเก่�ยวกัน ก็เป็นท ่� มาของผ่พุ่งไต้ท่�เล่น กันมานาน แล้วก็หายไป บางท่กลับมาฟ้�นฟ้ก็ไม่ยั�งยืน ถึงยุคน่�ผมต้องการฟ้�นฟ้ ผ่พุ่งไต้ให้เป็นเรื�องเป็นราว แล้วก็ตั�งความหวังไว้ค่อนข้างส้งว่าอยากให้คนมา วิ�งผ่พุ่งไต้กันทั�งเมือง เราเป็นเมืองแห่งบ้านของพ่อ ก็อยากให้คนใส่เสื�อเหลือง มาวิ�งกัน จากชุมชน เราเข้าไปสถานศึกษา เป็นหลักส้ตรท้องถิ�นหัวหินศึกษา ให้แก่นักเร่ยน เพื�อให้เขาสืบทอด สร้างความยั�งยืน ตอนน่�เรานำร่องนักเร่ยน โรงเร่ยนละ30 คน 7โรงเร่ยนสังกัดเทศบาลฯ แต่ละปีก็มาร่วมกิจกรรมวิ�ง ผ่พุ่งไต้กันในวันสงกรานต์จากโรงเร่ยน ส้่ชุมชน จากชุมชน ส้่นักท่องเท่�ยว จากคนท่�เริ�มมาเท่�ยว ปีน่�เห็นวิ�งกัน พอปีหน้ามาก็อาจจะมาวิ�งได้ซึ�งเราก็เห็น ว่าเขาใส่เสื�อส่เหลืองวิ�งกันละจะร้องเพลงได้ไม่ได้ไม่เป็นไร คุณเข้าไปร่วมวิ�ง ได้เป็นอ่กหนึ�งวันท่�ทำให้คนมาเท่�ยวหัวหินมาวิ�งผ่พุ่งไต้กันทั�งเมือง เทศบาลเมืองหัวหินเป็นหน่วยงานท้องถิ�น ต้องเข้าหาประชาชน เพราะเป็น หน่วยงานท ่� ร้้ปัญหามากท ่� สุด แล้วก็เป็นหน่วยงานท ่�ม่งบประมาณน้อยท ่� สุด ด้วยเช่นกัน แล้วท้องถิ�นเองไม่ด้เรื�องโครงสร้างพื�นฐานอย่างเด่ยว ต้องด้ว่า ทำยังไงให้คนม่เงินในกระเป๋าด้วย ซึ�งเป็นโจทย์ใหญ่ท ่� ต้องทำร่วมกัน เช่นเด่ยวกับเครื�องมือขับเคลื�อนหัวหินส้่เมืองแห่งการเร่ยนร้้ ต้องทำทุกอย่าง ประกอบกัน ขับเคลื�อนพลเมือง ให้คนเกิดความภาคภ้มิใจเอาจุดแข็งของเขา ออกมาเป็นพลังให้ได้ ส่วนของข้าราชการ ก็ต้องทำให้คนในเทศบาลฯ สามารถ ปรับตัว แอ็กท่ฟขึ�น ขับเคลื�อนเมืองให้เป็นเมืองแห่งการเร่ยนร้้ตามนโยบาย ของผมเอง เครือข่ายต้องไปด้วยกันหมด ร่วมรับร้้ รับประโยชน์ รับผิดชอบ ทำให้เมืองเราเดินต่อไปได้อย่างเราทำงานสงกรานต์ ทุกฝ�ายร่วมกัน ม่ศ้นย์การเร่ยนร้้นาฏศิลป์หัวหิน ศ้นย์การเร่ยนร้้หัวหินถิ�นมนต์ขลังเข้ามาร่วม ทำให้เกิดการสร้างประเพณ่เก่าๆ ท ่� ท ่�อื�นไม่เหมือนเรา การละเล่นต่างๆ มาลง ส้่ชายหาด คนท ่� มาได้เท่�ยวชมธรรมชาติเล่นน�ำสงกรานต์ได้สืบสานประเพณ่ ก่อพระเจด่ย์ทรายท่�ชายหาด เราต้องสร้างอัตลักษณ์การละเล่นของหัวหิน ให้คนได้เห็นว่าท ่�อื�นไม่เหมือนเรา ถ้าอยากมาเท่�ยวสไตล์น่�ต้องมาท่�หัวหิน


39 หัวหนผิ ่ านสถานการณ์ โควิด-19 อย่ างไร? เดือนมกราคม 2563 ต้องเร่ยนว่าตอนนั�นไม่ม่ใครร้้จักโควิด-19 แมสก์ ก็ขาด แอลกอฮอล์ก็ขาด เราผ่านจุดนั�นมาได้ยังไง ก็ต้องชมดร.ศิวัช บุญเกิด เขายังอย้่ในเหตุการณ์เป็นรองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน (ปัจจุบันดำรง ตำแหน่งรองปลัดเมืองพัทยา) ทำงานกัน 4 วัน ได้ชุดความร้้เพื�ออย้่ค้่กับ โรคโควิด-19 คือนวัตกรรมวัคซ่นทางสังคม HDC Hygiene Distancing Clean เราคุยกันในท่มเทศบาลฯ เชิญกรมอนามัยท้องถิ�น สาธารณสุขจังหวัด ประจวบฯ ว่าโรคโควิด-19 คืออะไร เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ ม่คนเป็น พาหะ ทำยังไงให้คนอย้่ค้่กันได้ หนึ�ง ต้องม่เครื�องป้องกัน ม่วัคซ่นทางสังคม สวมแมสก์เว้นระยะห่าง ม่แอลกอฮอล์เจลไว้สำหรับล้างมือ แมสก์ก็ทำเอง แอลกอฮอล์เจลก็ทำเอง ทำให้เราหยุดการแพร่ระบาดได้ ถ้าไม่ได้ความ เข้มแข็งจากการม่ส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน โดยเรา ตั�งชุดความร้้ให้ ม่การจัดอบรม 4 ชุด ชุดละ100 คน ท่�โรงพยาบาลหัวหิน เทศบาลฯ จัดให้กับภาคประชาชน ภาคราชการ ภาคสถานประกอบการ มาสร้างชุดนวัตกรรม เอาชุดความร้้มาป้อนให้เขาม่ส่วนร่วมในการปกป้อง บ้านเมืองเป็นพลเมืองร่วมกัน น ่� คือการต่อยอดในการทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ต่อยอดทำในสิ�งอื�นๆ ท่�อาจจะเกิดขึ�นในอนาคตเราไม่ร้้หรอก แต่เราม่เครือข่าย ท ่� พร้อมจะต่อส้้ไปกับเรา พร้อมจะโชว์ของด่ของบ้านเมืองเราให้คนท ่�อื�นได้เห็น น ่� คือสิ�งท่�เรากำลังสร้างให้กับเมือง เป็นเมืองแห่งการเร่ยนร้้ท่�ยั�งยืน เทศบาลฯ มีส่ วนในการเยียวยาและฟื้นฟูคนในเมืองอย่ างไร? หัวหินเป็นท่�แรกของประเทศไทยท ่� นักท่องเท่�ยวจากจ่นมาในพื�นท่�เรา ติดโควิด แล้วตรวจพบเจอท ่� น ่� หัวหินเป็นจุดเริ�มต้นท่�จะด้แลตั�งแต่เกิดเหตุ ตอนนั�นเรารวบรวมเงินของเทศบาลฯ ผมก็นำร่องเข้าไป ได้เงินมาก้อนแรก แปดหมื�นกว่าบาท มาทำอาหารแจกให้คนท่�ได้รับผลกระทบ แล้วก็แจกไป ได้ตลอดเพราะม่คนเติมเข้ามาเรื�อยๆโดยไม่ได้ใช้เงินงบประมาณเทศบาลฯ บุคลากรของเทศบาลฯ ก็มาช่วยกันทำอาหาร ไม่ได้จ้าง ก็ด้แลคนมาได้ ยาวนานหลายเดือน แล้วตอนนั�นวัคซ่นก็ขาด เราทำไง ต้องเปิดเมือง1 ตุลาคม สุดท้ายเราก็ช่วยขับเคลื�อน จัดวัคซ่นท้องถิ�น 50 ล้านบาท มาถึง ณ ปัจจุบัน ผมเชื�อว่า การทำให้คนขับเคลื�อนไปข้างหน้าร่วมกันได้ให้เขาเข้าใจ สถานการณ์จริงๆ ว่าตอนน่�เป็นยังไง ลดช่องว่าง สร้างความร้้ให้เข้าใจ ในทิศทางเด่ยวกัน เกิดการยอมรับ เพื�อให้ก้าวต่อไปในสภาพท ่� มันจะไม่ เหมือนเดิมอ่กแล้ว แต่เราต้องอย้่ของเราให้ได้ ถ้าเรายอมแพ้ ท้อแท้จะอย้่กับ มันไม่ได้ ทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้ละมือเชื�อว่าถ้าเราร่วมมือกัน สิ�งยากๆ จะผ่านไปได้แล้วเราจะได้คนท ่�ม่ความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง เข้าใจ ร่วมเดินทาง ไปได้คนสำคัญท ่� สุดนะ มองอนาคตหัวหนิ ไว้ อย่ างไร? คือจริงๆ แล้ว หัวหินม่จุดแข็ง ม่ทุนต่างๆอย้่ อยากให้มองเมืองใน ประเทศไทย 77 จังหวัด มองแต่ละเมืองให้ออกเป็นประเภทของเมือง ให้ได้ก่อน เช่นท่มฟุตบอลม่กองหน้า กองกลาง กองหลัง หัวหิน ถือว่าเป็นเมืองกองหน้า ม่บุคลิกพร้อมจะทำประต้ได้ใน ทุกสภาพ เพราะเราม่ท่�ตั�งด่ อากาศด่ ธรรมชาติสวยงาม ม่ประวัติความเป็นมา ม่สถาปัตยกรรม อาหารทะเล อาหารพื�นถิ�นท่�ชาวบ้านทำกินกัน เช่น แกงส้ม พริกนก แกงคั�วมะละกอไข่แมงดา ห่อหมก ปิ�งงบ หอยเส่ยบมะละกอ แล้วก็อาหาร เสวย เพราะเราเป็นเมืองท่�อย้่กับ ในหลวงมาตลอดตั�งแต่รัชกาล ท ่�7-9 ก็จะม่อาหารท ่� ขึ�นโต๊ะเสวยหลากหลาย ม่ทั�งผัดไทย หม้ปิ�ง ลอดช่องลุงดำ ตะโก้เสวย ข้าวเหน่ยวมะม่วงป้าเจือเราม่สถานพยาบาล สนามกอล์ฟ เลนจักรยาน สปาระดับโลก ม่โรงแรมตั�งแต่ห้าหกดาว เราม่ความพร้อมเป็นเมืองศ้นย์หน้า ทำให้ผมเกิดแนวคิดว่า หลังจากท่�เกิดโควิด ม่การปิดบ้านปิดเมือง หยุดการเคลื�อนไหวของคน ทำยังไงให้หัวหินจะเจอโรคอะไรก็แล้วแต่ ให้คนหัวหินอย้่ได้เพราะฉะนั�นต้องทำให้หัวหินเป็นห้องทำงานของชาวโลก เพราะตอนน่�ทำงานท่�ไหนก็ได้ในโลกใบน่�ระบบการสื�อสารสะดวกรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์แล้วนับวันการสื�อสารยิ�งสะดวกรวดเร็วมากขึ�น เมืองศ้นย์หน้าอย่างหัวหินตอบโจทย์ให้คนมาอย้่แล้วร้้สึกถึงความสะดวก สบาย ปลอดภัยทั�งสุขภาพ ช่วิต และทรัพย์สิน ตอบโจทย์เรื�องสิ�งแวดล้อม เป็นมิตรกับสิ�งแวดล้อม ต้อนรับทุกคนทุกเพศทุกวัย เมืองอารยสถาปัตย์ แล้วก็เป็นเมืองท ่� ทันสมัย เพราะฉะนั�นอย่างถนนแนบเคหาสน์ทำโครงการ ถนนว้าว ผิวจราจรต้องด่ เส้นจราจรชัดเจน ไฟแสงสว่างน ่� กำลังติดไฟแอลอ่ด่ อย้่ กล้องวงจรปิดต้องม่ ถังขยะหายไป สุนัขจรจัดต้องไม่ม่ ตอนน่�กำลังไล่จับ สุนัขจรจัด ซึ�งเราม่ศ้นย์รักษ์สุนัขหัวหิน โครงการในพระราชดำริของในหลวง รัชกาลท ่�9 น ่� คือการทำให้หัวหินเป็นเมืองศ้นย์หน้าท ่�ม่ความพร้อม เกิดการม่ ส่วนร่วมของคน และรองรับโครงการของภาครัฐ ทั�งทางบก น�ำ เรืออากาศ รถไฟทางค้่ก็จะเสร็จปีหน้า เรือเฟอร์ร่�หัวหิน-พัทยาท ่� หยุดไปเพราะม่โควิด สนามบินก็ม่โครงการขยาย มอเตอร์เวย์ก็ม่โครงการของภาครัฐอย้่ โครงการพวกน่�มาทำให้หัวหินเจริญ ทางเราก็ต้องทำยังไงจะรองรับให้ได้ โดยไม่เส่ยเมือง ทำให้หัวหินเป็นห้องทำงานโลกซึ�งสุดท้ายก็จะเข้ามาส้่ มอตโต้ หัวหนิ เมืองแหงควา่มสุข ทุกคนต้ องมีความสุข


40 ปัจจัยท ่� สองคืออายุและสภาพร่างกายของกลุ่มตัวอย่างคนในชุมชนท่�เป็น ค่ย์แมนจริงๆเขาเป็นผ้้ส้งอายุเรื�องการให้สัมภาษณ์ การให้ข้อม้ล บางท่ก็ม่หลง ม่ลืมบ้างตามวัย เราต้องไปแบบไปคุยไปพ้ดจา วิธ่การก็ต้องปรับเปล่�ยนจาก การวิจัยทั�วไป คือจะให้มานั�งตอบเป็นโมเดลไม่ได้ ต้องให้เขาค่อยๆ คิด วันน่� อาจจะนึกไม่ได้ พอไปเจออ่กวันนึงเขาบอกวันนั�นท ่� ถามเน่�ยนึกออกละ เขานึกได้ก็ มาบอก อุปสรรคอ่กอย่างคือชุมชนพ้ลสุขเป็นชุมชนท่�เน้นงานประดิษฐ์ ทั�งเปลือกหอย ใบตาล วัตถุดิบท ่� ลุงๆ ป้าๆจะหามาผลิตบางส่วนก็ค่อนข้าง หายาก ใบตาลก็ต้องสั�งเข้ามาจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด ก็ม่ขั�นตอนท ่� มากขึ�น แต่ก่อนเป็นวัตถุดิบท ่�ม่อย้่ในพื�นท ่� แต่ด้วยสภาพบริบทเมืองท่�เปล่�ยนแปลง พื�นท ่�ป�าสนนารายณ์ ต้นตาล ใบตาล หายไป เปลือกหอยยังพอม่แต่ก็หายากขึ�น ส่วนหนึ�งก็มาจากกฎหมายสิ�งแวดล้อม ส่วนหนึ�งคนท่�ทำเปลือกหอยก็เส่ยช่วิตไป แต่จริงๆ แล้วในหัวหินก็ยังม่หลายชุมชนท่�ทำเปลือกหอยอย้่ ชุมชนตะเก่ยบก็ยัง ม่คนทำ หรือพัดใบตาลท่�ขายตรงบริเวณหน้าชุมชนพ้ลสุขซึ�งป้าอ้น คนท่�ทำก็ อายุ80 กว่าจะ90เดินไม่ค่อยไหวละ ลุงก็90 กว่าละ คือลุงกับป้าอ้นก็ยินด่ท่�จะ ถ่ายทอดให้กับเยาวชน คนรุ่นหลังไปประกอบอาช่พ เราก็ไปถอดบทเร่ยนเป็น ค้่มือเร่ยนร้้วิธ่การทำไว้ ปัญหาคือคนในชุมชนพ้ลสุขเป็นผ้้ใหญ่ค่อนข้างมาก ผ้้ท่�เป็นค่ย์แมนก็อายุ 60-70 ปีขึ�นทั�งนั�น ทำให้ประชากรวัยแรงงานท่�จะมารับช่วงต่อน้อย ม่ข้อจำกัดใน การประกอบอาช่พท่�บรรพบุรุษทำเป็นอาช่พหลักอาจจะไม่ตอบโจทย์นัก อันน่�ก็ทำ เป็นอาช่พเสริมไป อ่กส่วนหนึ�งคือในอด่ตท่�ผ่านมา การขายงานฝีมืออาจจะขาด การประชาสัมพันธ์บางสิ�งเราเข้าไปก็เพิ�งพบเห็นว่าตรงน่�ม่อย่างน่�ด้วย เช่น ตอนแรกเราร้้ว่าพัดก็คือพัด แต่เราไม่ร้้วิธ่การ เปลือกหอยชนิดน่�ควรทำวิธ่แบบน่� เราไม่ทราบมาก่อน แล้วเรื�องบางเรื�อง การไปถามคน เขาก็จะบอกว่าเรื�องน่�ต้อง ไปถามคนน่�ๆเรื�องประวัติหัวหินต้องถามคนน่�เราก็ได้ค่ย์แมนเพิ�ม ขยายวงไป มากขึ�น ปัญหาด้านอื�นคือหลังจากท่�เราทำโครงการวิจัยน่�แล้ว เราอยากทำต่อ อยากขยายไปท ่� ชุมชนอื�นๆเคยม่ความคิดท่�จะเอาหลักส้ตรท่�เราวิจัยเข้าไปอย้่ใน หลักส้ตรของการศึกษาในโรงเร่ยนสังกัดเทศบาลฯ แต่เราก็กังวลในเรื�องของ ความผิดพลาดเชิงตรรกะ เพราะงานวิจัยเป็นลักษณะของชุมชนเฉพาะ แต่เรา เอาไปให้นักเร่ยนทุกชุมชนเร่ยนก็อาจจะไม่ตรงประเด็นนัก แล้วก็ม่ผลจาก การโยกย้ายส่วนราชการ เช่น ดร.ศิวัช หัวหน้าโครงการท ่� ย้ายไป โครงการก็อาจจะ สะดุด คือม่การสานต่อในเรื�องนโยบาย แต่การปฏิบัติอาจจะทำได้ในมาตรฐานท ่� ไม่เท่ากัน ตอนน่�เราก็พยายามหาวิธ่การอื�น เชิญศาสตราจารย์ดร. อุดม ทุมโฆสิต ศาสตราจารย์คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นิด้า มาศึกษาวิจัยเรื�องศักยภาพเมือง ก็จะลงไปทุกๆ ชุมชนว่าแต่ละชุมชนม่ศักยภาพ อะไร ผลออกมาก็จะเป็นภาพรวมของเมืองหัวหิน วัตถุประสงค์คือต้องการ ยกระดับให้หัวหินเป็นเมืองการท่องเท่�ยวเวิลด์คลาส เป็นเขตปกครองพิเศษ ด้านการท่องเท่�ยว เราร้้อัตโนมัติแล้วว่าหัวหินอากาศด่ พื�นท ่�ด่ ชายหาดด่ แต่จุดแข็ง ของหัวหินคือเป็นเมืองท ่� สร้าง Product Activity ได้ด่มาก ผมมองว่าเราขายแต่ วัตถุดิบอย่างเด่ยวไม่ได้ละ เราม่ทรัพยากร สามารถเพิ�มข่ดจำกัดไปได้ สร้าง ม้ลค่าเพิ�มได้ ก็พยายามดึงศักยภาพจุดน่�ออกมา เช่น กิจกรรมม้าชายหาดขึ�น ส้่เส้นทางท่องเท่�ยว หัวหินเป็นเมืองท ่�ม่ผ้้ติดตามพระมหากษัตริย์มาซื�อบ้านไว้ เส้นทางก็จะม่บ้านเก่า เมืองเก่า ไปด้บ้านของสมเด็จพระราชาดำรงราชานุภาพ (วังตากอากาศของราชสกุลดิศกุล) ก็เปล่�ยนมิติไป ทำให้ระบบเศรษฐกิจขยายตัว จากแต่ก่อนอย้่ท่�ชายหาด ก็ขยายไปอย้่ท่� ถนน ต่อไปก็จะขยายไปตามชานเมือง แล้วเราตั�งใจเชื�อมโยงต้องการให้เมืองเราเป็นเมืองคาร์บอนต�ำ ลดการใช้รถยนต์ ส่วนตัว หรือแต่ก่อนเราขายหมึก ได้หมึกกิโลนึง สองร้อยกว่าบาท ปัจจุบันเราขาย ทริปขายทัวร์เรือไปตกหมึก หมึกก็ได้ได้สามพันห้าร้อยบาท ทำกิจกรรมได้ โจทย์คือมอบประสบการณ์ให้นักท่องเท่�ยว ให้เขาได้กินหมึกสดๆจากเรือเราม่ กลุ่มประมงเรือเล็กท่�ทำอย้่ ท่� ท่าเรือตะเก่ยบ ท่าเรือหัวดอน แล้วเราก็ให้วิธ่คิดกับ ชาวประมงเรื�องการทำประชาสัมพันธ์ ม่เฟซบุ๊ก ม่ไลน์ ช่องทางโซเช่ยลม่เด่ยจะ ช่วยได้มาก ปัจจุบันเขายืนได้ด้วยตัวเอง ทำให้เกิดความยั�งยืนได้ อ่กส่วนก็ เรื�องธนาคารป้ ก็จะมาเพิ�มกิจกรรมการเล่�ยงป้ ปล่อยป้ ให้เขาร้้จักวิธ่การ ขั�นตอน กว่าจะได้ป้ ทำให้แต่ก่อนป้กิโลนึงอาจจะ350 บาท ตอนน่�กิโลละ500-600 บาท แต่เดิมนายกฯ ให้ตั�งธนาคารป้ม้า เพราะม่ช่วงนึงป้หายาก แล้วป้ไม่ได้ม่ตลอด ทั�งปี ต้องมาหน้าท ่�ม่ป้ แต่ปัจจุบันมาหัวหินม่ป้ทุกวันทุกหน้า สมมติว่าเรือท ่� น ่�ม่ 10 ลำ เราทำข้อตกลงร่วมกัน 10 ลำ ถ้าได้ป้ท่�ตรงตามวัตถุประสงค์ของเรา ให้เอามาส่งท ่� ส่วนกลางท่�ธนาคารป้ แล้วเราก็จะขอพวกน่�มาเคาะ เข่�ย ไข่ป้ แล้วมาเพาะพันธุ์ป้เอง ก็เป็นข้อตกลงท่�เราคิดให้ทำกันในกลุ่มประมงเรือเล็ก แล้วเขาเกิดความตระหนักร่วมว่าถ้าวันหนึ�งไม่ม่ป้ เขาเองจะเดือดร้อน ผลท่�ได้รับจากงานวิจัยหลายอย่างคือได้มิติด้านสังคมท่�เราลงได้ลึกมากขึ�น ก่อนหน้าน่�อาจจะติดขัดเรื�องสื�อสารกันน้อย ไม่ม่โอกาสมานั�งพ้ดคุยกันลักษณะน่� พอการสื�อสารเกิดขึ�น เกิดความไว้ใจ ก็ทำให้เทศบาลฯ ทำงานได้ง่ายขึ�นด้วย เทศบาลฯ เองก็ไม่ได้เปล่�ยนแปลงในทางวิธ่การทำงานอย่างเด่ยว แต่ส่วนท ่� เปล่�ยนคือเรื�อง mindsetของพนักงาน เช่น เราอาจจะเห็นเจ้าหน้าท่�บางคน รับราชการมานาน ยังติดกรอบการทำงานแบบเดิม คือวิธ่การทำงานของผมกับ ดร.ศิวัชคล้ายกัน คือเราทำ1อย่าง เราต้องได้2-3-4-5ไม่ใช่แค่ทำ1ได้1 แบบ วิธ่คิดเดิม เราก็เข้ามาส้้กับระบบพอสมควร ส่วนร้ปธรรมท่�ได้เรื�องLearning City หนึ�งคือม่การต่อยอด ทั�งงานวิจัย การต่อยอดทางวัฒนธรรม เช่น การจัดประเพณ่ สงกรานต์แบบท่�เราไม่เคยจัดมาก่อน นำวัฒนธรรมท่�เกิดจากงานวิจัยใส่เข้าไป เช่น ผ่พุ่งไต้ การก่อเจด่ย์ทราย การละเล่นต่างๆ แล้วก็เชิญกลุ่มท่�เขาปฏิบัติอย้่มา เป็นส่วนสำคัญของงาน อ่กส่วนคือการจัดตั�งกลุ่มการเร่ยนร้้ต่างๆไม่ว่าจะเป็น กลุ่มการเร่ยนร้้นาฏศิลป์หัวหิน กลุ่มการเร่ยนร้้หัวหินถิ�นมนต์ขลัง เขาม่กิจกรรม Learning City เป็นโครงการที่เทศบาลเมืองหัวหนิ ใหควา้มสําคัญเรื่องการเรียนรู้ ตลอดชีวิตทุกช่ วงวัย เพราะเราต้ องการสร้ างหัวหนิ เป็น Learning Community เป็นสังคมแหงการตระ่หนักรู้รู้ เท่ าทัน ไม่ ว่ าจะเกิดเหตุการณ์ อะไร เราใช้ โมเดลนี้ในการแก้ ปัญหาได้ทีนี้การที่เราไปตั้งต้ นที่พูลสุขเพราะเป็นชุมชนในเขตเทศบาลฯ ที่มีความเก่ าแก่ มีจุดเด่ นเรื่องวัฒนธรรม ความเป็นท้ องถิ่ น เพราะเป็นคนดั้งเดิมของหัวหนิแล้ วประธานชุมชนตอนนั้นอายุน่ าจะ 90 ปี ปัญหาอุปสรรคที่ดําเนินโครงการ คืออายุของผู้ ที่เราไปสัมภาษณ์หลายท่ านก็เสียชีวิตหลังจากโครงการเสร็จ ด้ วยชราภาพ กับปัญหาที่พบเจอเบื้องต้ นคือปัจจัยทางการเมือง คือจากสัดส่ วนผลการเลือกตั้งที่ออกมาเราได้ เปอร์เซ็นต์ จากชุมชนพูลสุขไม่ มากนัก มีส่ วนที่เลือกและไม่ เลือกเราเป็นผู้ แทน ส่ วนที่ไม่ เลือกมีมากกว่ า ก็เป็นข้ อเท็จจริงในการทํางาน แต่ ไม่ ใช่ ประเด็นที่เราจะไปตัดออก เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่ อน แต่ เราก็ไม่ ท้ อ เราต้ องการได้ ความรู้ จริงๆ อยากให้ ได้ ผลสัมฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ จริงๆ เราก็หาวิธีการกันว่ าถ้ าเทศบาลฯ ไปดําเนินการเอง อาจจะเป็นไปด้ วยความยาก ถ้ าเป็นข้ าราชการกับทีมผู้ วิจัยเข้ าไปจะได้ ข้ อมูลที่เป็นประโยชน์ กับงานวิจัยมากกว่ า ซึ่งงานวิจัยออกมาอยู่ ในเกณฑ์ ที่เราพอใจมาก เพราะหลังจากวิจัย Learning City เกิดขึ้น ทุกคนเกิดความเข้ าใจ รู้ สึกว่ าเราไม่ ได้ หาง่จากเขาอย่ างที่คิด ลดช่ องว่ าง


41 กิตติเฟื่องฟู เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กันจนปัจจุบันสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง สองคือการนำทุน ท่�เราศึกษาวิจัยมาสร้างการม่ส่วนร่วม ทำให้เกิดระบบ การทำงานในพื�นท่� ทั�งในส่วนราชการ ส่วนชุมชนเอง ขยายผลได้ง่ายขึ�น เราได้พลเมืองท่�ม่ความตระหนักร่วม พร้อมจะเร่ยนร้้และถ่ายทอดไปกับเรา สามคือเกิดกลไกใน การต่อยอดการม่ส่วนร่วมยังไงในชุมชนต่อๆ ไป ส่�คือการต่อยอดจากภาคภาค่เครือข่าย ทำให้โครงการม่ ความยั�งยืนมากขึ�น นำภาคพื�นท่� ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม จังหวัด ภาคเอกชนในพื�นท่� สมาคมธุรกิจการท่องเท่�ยว ภาคพลเมืองของชุมชนท่�อื�น เมื�อเขาเห็นความสำเร็จของ ชุมชนๆ หนึ�งแล้ว ความร่วมมือก็จะม่มากขึ�น ห้าคือ การนำทุนทางวัฒนธรรมมาเป็นเครื�องกระตุ้นเศรษฐกิจ จ้างผ้้ประกอบการด้านวัฒนธรรม สร้างอาช่พโดยใช้ วัฒนธรรม อัตลักษณ์ ความเป็นหัวหิน มาสร้างเรื�องราว ในการขาย และเพิ�มม้ลค่าของสินค้าและบริการ Learning City เป็ นโครงการที่เทศบาลเมืองหัวหิน ใหความสําคัญเรื่องการเรียนรู ้ ้ ตลอดชีวิตทุกช่ วงวัย


42 วิชาการเราก็มองอ่กมุม ว่าทำไมต้องเร่ยนหนังสือเราบอกนักเร่ยนว่า ถ้าหน้ อ่านออกเข่ยนได้ หน้ตั�งใจฟัง ใครพ้ดอะไร หรือใครจะโกงอะไรหน้ ตั�งใจฟังหน้จะ ร้้เลย มันจะ “เอ๊ะ” ละ ท่�เราม่ความ “เอ๊ะ” เพราะเราตาด้ห้ฟัง มองลึกเข้าไป แต่ถ้า หน้ไม่ตั�งใจฟัง ไม่ค่อยใส่ใจ ทุจริตอะไรจะเกิดขึ�นกับหน้ง่ายมาก แต่การสอบ เลื�อนชั�นของเราก็ม่ตามระดับเด็ก ถ้าเด็กท่�เขาไปไหวเราส้งกว่าสแตนดาร์ด เยอะเลย ท ่� น ่� สอบโอเน็ตได้ร้อยเต็มร้อยเยอะมากค่ะ แต่เราไม่บอกใคร เราจะบอก หน้ คนท่�ได้ร้อยเต็มร้อยมันไม่ปกตินะ คนเราต้องม่ผิดบ้าง คร้เคยม่เพื�อนท ่� สอบ ได้A พอได้B ปั�บ ฆ่าตัวตาย แล้วคร้บอกว่าจะม่ประโยชน์อะไรถ้าเธอฉลาด เฉล่ยวแล้วไม่สามารถรักษาช่วิตเธอได้เพราะฉะนั�นถ้าเธอร้อยเต็มร้อยคร้ไม่ว่า อะไรนะ แต่วันหลังเอาซัก 90 ก็พอ60 ชั�นก็แฮปปี�แล้ว เราจะบอกเด็กเสมอว่า ในช่วิต คือในการสอบ หน้ท่องตำราได้ สมัยน่�ข้อสอบหลายอย่างไม่ม่ท่องแล้ว ต้องใช้ไหวพริบ เอาตัวรอด ทำไมต้องเร่ยนเลขเพราะเราจะคิดเร็วและ คิดถ้ก ทำไมต้องเร่ยนภาษาเพราะเราจะต้องอ่าน เราเสิร์ชภาษาไทยภาษาอังกฤษ เราอยากทำอะไรอยากทำกับข้าวซักอันไม่ร้้จะทำยังไงก็เปิดด้ เด่�ยวน่�ง่ายจะตาย เพ่ยงแต่ต้องร้้ว่าเสิร์ชท่�ไหน หรือม่คอนเน็กชันว่าจะต้องไปหาใคร เรารับสมัครนักเร่ยน ใครเข้ามาก็ได้ใช้ระบบ destiny พรหมลิขิต ถ้าเขามา ถึงท ่� น ่� บอกว่าชอบ เรามองเขา คุยกับเขาแล้วเรามองว่าท่าจะไหว แต่บางท่มอง แล้วไม่ไหว ทั�งพ่อทั�งแม่ทั�งล้ก พ่อแม่บังคับมา ไม่ได้ ล้กต้องมาด้วยใจ แต่บางท่ มาแล้วเราไม่ไหว เราจะไม่บอกว่า หน้ไม่เก่ง หน้โง่เราจะบอกว่าเราไม่เก่ง เพราะเรายังไม่ร้้จะสอนหน้ยังไง เพราะฉะนั�นเขาก็ไม่ feel bad แต่มันก็จริงนะ ถ้าเราเก่งเราเอาอย้่หมด แต่ถ้าไม่เก่ง เราหาวิธ่ไม่ได้บางท่คร้ก็จะไปเร่ยน จิตวิทยา เร่ยน art therapy คือพอม่ปัญหาเราก็ไปเร่ยน เราก็จะบอกเด็กว่า เห็นมั�ยพอเจอปัญหาคร้ก็ไปเร่ยนเพื�อท่�จะร้้ว่าจะแก้ปัญหายังไงจะช่วยเขายังไง เราเร่ยนหนังสือไป หาความร้้ไป เพื�อจะช่วยคนอื�นนะ เพราะฉะนั�น หน้ส่งการบ้าน คร้ตรวจแล้ว หน้ผิดหมดเลย แต่คร้จะม่ความสุขว่าหน้ยังชอบ แล้วคร้ก็จะร้้ว่า คร้สอนไม่ได้เรื�องเลย หน้ผิดหมด ไม่ใช่หน้ไม่เก่งนะ คร้สอนยังไงเน่�ย อ้าว คิดใหม่ ก็ทำให้คร้ม่สติปัญญาเพิ�มขึ�น คร้ก็เร่ยนร้้ไปด้วย การสอนเราจะด่ขึ�น เด็กก็จะได้ กำลังใจ ร้้ว่าไม่ม่ใครในโลกท่�เพอร์เฟกต์เด็กจะม่ยกมือ คร้ขา สะกดผิด เราก็ อ้าว มาเสิร์ช อ่า สะกดผิด ก็มาแชร์ความร้้กันไง เด็กได้ความร้้ เราก็ได้ความร้้ ไม่ม่อ่โก้กัน คร้ต้องไม่ม่อ่โก้ ถ้าคร้ม่อ่โก้ใช้อำนาจเด็กก็จะม่อ่โก้ใช้อำนาจ โรงเร่ยนเป็นเด็กประจำ ท ่� น่�เร่ยนถึงบ่ายส่�โมงครึ�ง ห้าโมงเล่นก่ฬา หกโมง กินข้าว เด็กก็ยังไม่หลับ เราก็ม่กิจกรรมเยอะชมรมร้องเพลง วาดเข่ยน ตอนน่�ม่ โรงเรียนภัทราวดีหัวหนสิอนวิธีคิดใหม่ เราใหม้องต่ างมุม เก่ าเขาสอนมาใหม้องมุมนี้แล้ วเด็กก็เริ่ มเบื่อ เพราะสื่อเยอะ ความรู้ เขาเยอะ เขารู้ สึกว่ าจะมาหลอกเขาทําไม อย่ างเจอศาลพระภูมิต้ อง ยกมือไหว้ไหว้ ทําไม แต่ ถ้ าเราอธิบายได้จริงๆ ไม่ ได้ ไหว้ อิฐไหว้ ปูน แต่ คือ respect คนเขาเหน็ เราไหว้ สวย รู้ จักเคารพ ทีนี้คนไทยสอน ใหท้ ํา แต่ ไม่ สอนว่ าทําไม เช่ น เราไม่ เดินข้ ามหนังสือ ไม่ เดินข้ ามชฎา แต่ ถ้ ารู้ ว่ าทําไม มันไม่ ใช่ แค่ ชฎา หรือดินสอ กบลบ เป็นของมีค่ าทั้งนั้น ฝรั่งสอนเรื่องทุกอย่ างมีค่ า แต่ เราสอนเฉพาะอย่ าง ไม่ มีเหตุไม่ มีผล เราเลยเอาคอนเซปต์ สองโลกมารวมกัน ทุกคัลเจอร์ มันดีทั้งนั้นแต่ คนเลิก respect แล้ วก็ไม่ สอนกันเพราะรู้ สึกมันเชย แต่ ถ้ ามองลึกๆ ก็อย่ าไปสอนแค่ นั้นสิสอนให้ เยอะขึ้น เพราะโลกเดี๋ยวนี้กว้ าง แต่ ก่ อน ผู้ ใหญ่ บอกตุ๊ กแกกินตับ ก็คือไม่ ใหออกไ ้ ปซนข้ างนอก แค่ นั้นเอง ถ้ าพูดถึงเหตุและผลว่ าทําไมไม่ ใหออกไ ้ ป หรือไปเที่ยวกลางคืน ไปกินเหล้ าเมา คือถ้ าหนูดื่มแก้ วนึง ไม่ เป็นไรนะลูก แต่ ถ้ าหนูเมา ก็จะ ถูกลวนลามมั่ง เด็กของเราก็มีขี่มอเตอร์ ไซค์ชนเปรี้ยง จากที่ ชาญฉลาดกลายเป็นเด็กเอ๋ อ มันก็มีตัวอย่ าง ซึ่งเราบอกว่ าทําใหสนุ้ก ยังไงได้ โดยไม่ ต้ องไปเสี่ยงกับความเป็นความตาย เพราะที่ฝันจะทําโน่ น เป็นนี่ก็ทําไม่ ได้ก็คือทําร้ ายตัวเอง พอไม่ ทําร้ ายตัวเองปั๊บ ทุกอย่ างที่ ไม่ ทุจริตทั้งหลาย ก็จะไม่ ทํา ชมรมไลฟ์สตร่มมิ�ง เราต้องลงทุน เพราะหนึ�งเราไม่ร้้ไง เราจะได้ร้้ แล้วเด็กก็จะ ได้ร้้ ไลฟ์สตร่มมิ�งเป็นเรื�องอนาคต ท่แรกเรานึกว่าไลฟ์ใช้มือถือก็ได้ มันไม่ใช่ มันคือสถาน่โทรทัศน์เลย เราทำละครหนึ�งเรื�องได้เลย แล้วเด็กๆ ก็สามารถ ไลฟ์ทุกวัน กับพ่อแม่เด็กได้ฝึก เป็นพิธ่กร ผ้้อ่านข่าว ทำอะไรได้เยอะมาก แล้วล้กศิษย์เราไปมหัศจรรย์เยอะมาก อย่างผักอบกรอบท่�คร้ถือในไลฟ์เป็นของ ล้กศิษย์ทำ ตอนท่�เขามา แม่พ้ดเล่นว่าให้จบป.6 ก็พอ แต่น่�ไปไกล จบเก่ยรตินิยม มหาวิทยาลัยเช่ยงใหม่แล้วมันเกิดขึ�นได้ยังไง เพราะอย้่ท่� น ่� ก็ซน ก็เล่น พรุ่งน่�จะ โอเน็ตแล้วยังเล่นละครกันอย้่เลย เราก็ไม่สน ไม่ต้องท่องหนังสือเราร้้ว่ายังไง เด็กก็ไม่ท่องอะไรอย้่ในหัวแล้วก็อย้่ ถ้าไม่อย้่คือไม่อย้่ เราเคยไปฝึกสอนชาวเขาท่�แม่ฟ้าหลวง เอาภาษาอังกฤษเข้าไปร้องรำทำเพลง เอาภาษาไทยไปสอนให้พ้ดชัด เพราะเล่นละครต้องพ้ดชัด ให้เล่านิทาน เด็กก็ สนุก เด็กท่�ไม่เร่ยนหนังสือ พ้ดไม่ร้้เรื�อง ชั�วโมงเด่ยว ตอบได้แล้วพ้ดชัด ก็เอาเด็ก ชาวเขามาคนนึง มาเร่ยนจบท ่� น ่� ตอนนั�น คร้ม่กล้องตัวส่ชมพ้ เขาเห็นคร้ถ่ายร้ป บอกหน้อยากถ่ายร้ป คร้ก็บอกให้ยืม จริงๆ ก็ให้แหละ เขาก็ไปถ่าย ถ่ายสวย ตอนหลังเราไปเปิดเฟซบุ๊ก เขาทำเพจท่องเท่�ยวเทรกกิ�งขึ�นเขา ม่คนตามเป็นพัน เพราะเป็นชาวเขาไง ก็พาคนขึ�นเขา แล้วก็ขอบริษัททัวร์ไปด้วย ถ่ายร้ปให้ฟร่ ร้ปก็ ขายได้ ทุกคนก็ให้ถ่ายร้ป ได้เท่�ยวฟร่ ขึ�นเขาปีนเขาทั�วโลกเลย ตอนน่�ทำทัวร์ไป ขึ�นเขาต่างประเทศ ขายอุปกรณ์เทรกกิ�งขายร้ป เจริญรุ่งเรืองมาก จากเด็ก ชาวเขาท่�ไม่ม่ตังค์เลย คร้ให้ทุนมาเร่ยนท ่� น ่� กับท่�รามคำแหง ภาษาอังกฤษไม่ได้ เรื�องเลยนะ เด่�ยวน่�พ้ดจ�อยเลย แล้วชาวเขาม่ภาษาจ่น ภาษาไทยก็พ้ดชัดเป๊ะ คร้ฝึกสามวันบนเขา เลยว่าเทคนิคของเรามันเวิร์กมาก คร้ก็แนะนำทุกคนว่า เขาเป็นชาวเขา แล้วเขาก็ภ้มิใจว่าเขาเป็นชาวเขา คือเราก็เป็นตัวอย่างให้เด่�ยวน่�ล้กศิษย์หลายคนก็เริ�มไปเปิดโรงเร่ยนของ ตัวเอง เป็นสายพันธุ์ เช่น กั�ก วรรณศักดิ� ศิริหล้า ก็ไปเปิดตามศักยภาพท ่�ม่ เล้ง ราชนิกรก็สอนกายกรรม วิธ่คิด นิสัย บุคลิก เรื�องนิสัยสอนในศิลปศาสตร์ ถ้านิสัยด่ ทุจริตศึกษาก็ไม่ต้องม่แล้ว มันทำไม่เป็น ทุจริตศึกษาเป็นหลักส้ตร ประเทศไทย แต่ท ่� น่�เราใช้ละคร ใช้พ้ดคุย ใช้วรรณคด่ เราก็ใช้วิธ่ในการสอน เรื�องศาสนาอย่าเอะอะไป เราไม่ใช้คำว่าพุทธศาสนา เด็กสมัยน่�ถ้าพ้ดคำว่า พระพุทธเจ้าหน่หน้า เราก็สอนหลักการทุกอย่างของท่าน แต่เราไม่ใช้คำท่�แสลงห้ แต่ปรัชญาไม่ได้แสลงห้ พอเขาเริ�มเข้าใจ พ้ดร้้เรื�อง เราค่อยบอกว่าสิ�งนั�นมา จากไหน ก็เคารพท ่� มานิดนึง หลักส้ตรเหมือนเดิม อย้่ท่� วิธ่การ ทำให้เด็กสนุก แล้วคืออย่างง่� ถ้าเราเป็นคนเก่ง เราจะไม่เข้าใจคนโง่ ดิฉันเป็นคนโง่เร่ยนอะไรก็ เต้นช้าท ่� สุดในคลาส กว่าจะจำท่าได้ ทุกคนก็เต้นแล้ว ตัวเองยังเงอะๆงะๆ ค่อยๆ เข้าใจแล้วเริ�มทำได้เท่านั�นแหละ เราก็เลยสอนอะไรท่�ชาวบ้านเขาไม่สอน ก็สนุกสนานไป โรงเร่ยนเราไม่ม่อะไรล็อกเลย เครื�องดนตร่ก็วางไว้ใครอยากต่ก็ต่ อยากเล่น ก็เล่น หาสิ�งท่�ชอบทำ เราสอนเขาก่อน แล้วเขาจะร้้ เราก็อย่างน่�มาสิบปีละ ทุกอย่างเราม่คร้ให้ ม่งานเกษตร วาด ปั�น กำแพงข้างหน้าโรงเร่ยนก็เด็กวาด กันเอง ผนังกำแพงไม่ม่ท่� ว่าง เด็กจะเข่ยนตรงไหนก็ได้ ม่คร้มาด้ ซื�อส่ให้ ถ้าไม่ชอบก็ลบ ทาส่ขาวใหม่ โปสเตอร์ละครเด็กก็ทำกับคร้ โรงละครเป็นเอาต์ดอร์ เป็นห้องเร่ยนด้วย ระดับมืออาช่พหมด ไฟ ซาวนด์ ตั�งไมโครโฟน ทำคอสต้ม เด็กก็ทำเองกับคร้ จนเด่�ยวน่�คร้ไม่ต้องมาแล้ว เพราะตอนท่�เราทำละครออนไลน์ เรื�องเสน่ห์รอยรั�ว เด็กทำหมด ม่หัวหน้าคนเด่ยว เราไม่พลาดเลยซักคิวนะ เด็กท ่� น่�จะม่อารมณ์ศิลปิน วันจันทร์เราไม่เร่ยนหนังสือเราต่กลองร้องเพลง เด็กปล้กต้นไม้กันเยอะ แต่ก่อนหัวหินไม่ม่ต้นไม้เลย ม่แต่ทราย ในหลวงสอนให้ เอาใบไม้ขยะ มาทับถม เอาแทรกเตอร์มาปั�น ให้เป็นดิน ทุกต้นในโรงเร่ยน ปล้กใหม่หมดนะ ไม่ม่ต้นเดิม ม่เก็บแคกตัสท่�อย้่ท่� น่�ไว้ต้นนึง แล้วก็ม่ต้นไม้ต้นนึง ต้นละแปดหมื�น มันถ้กขุดมาแล้วตัด มันเลยไม่ม่ราก จึงต้องม่ท่�ค�ำ แล้วก็โตอย้่ เท่าน่�10 ปีแล้ว แต่พวกท ่� ถมเม็ด แล้วก็ขึ�นเองตามธรรมชาติ ด้สิเราใช้ต้นน่� สอนเด็ก หน้ไม่ม่ราก น่�ไง เป็นภาระ ไม่โต แต่พวกท ่�ม่รากลึก เห็นมั�ย มันเป็น ร่มเงา ม่ล้ก ขยายไป บอกว่าหน้ไม่เร่ยนประวัติศาสตร์ไม่เร่ยนคัลเจอร์ได้ไง หน้ก็จะไม่ม่ราก


43 ภัทราวดีมีชูธน (ครูเล็ก) ศิลปิ นแหงชาติ ่ สาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและภาพยนตร์ ) พุทธศักราช 2557 ครูสอนภาษาอังกฤษ วรรณคดีพุทธศาสนา และประธานคณะกรรมการบริหาร โรงเรียนภัทราวดีหัวหิน เรารับสมัครนักเรียน ใครเข้ ามาก็ได้ ใช้ ระบบ destiny พรหมลิขิต


44 ผมเห็นพ่ อออกเรือได้ ปลาอินทรีย์ ปลาอะไรเยอะแยะ มันมีความดีใจ มีความชอบทะเล ก็หนีเรียน ถอดเสื้อ โยนกระเป๋ า ไปลงเรือเลย


45 พ่ อผมเป็ นคนสมุทรสงคราม เป็ นทหารเรือเก่ าอยู่ สถานีเรือกรุงเทพ แล้ วก็ย้ ายมาอยู่ อป. (องค์ การประมงทหารเรือ) ที่หัวหินนี่ ทีนี้ทหารเรือ มันมีเรือเล็ก พ่ อก็เอาเรือออกไปหาปลาได้ มาเลี้ยงทั้งกองทัพสบาย สมัยนั้นหองเย็นไม ้ ่ มีก็กินสด แล้ วก็ทําปลาเค็มตาก นายก็เอาไปใหคนที่ ้ กรุงเทพฯ พ่ อก็ว่ าไม่ ต้ องทําแล้ วพลทหาร ทําทะเล หาเรือใหลูก้ ซักลํานึง พี่น้ องผม 15-16 คนนะ ผมเห็นพ่ อออกเรือได้ ปลาอินทรีย์ ปลาอะไรเยอะแยะ มันมีความดีใจ มีความชอบทะเล ก็หนีเรียน ถอดเสื้อ โยนกระเป๋ า ไปลงเรือเลย ในเรือจะมีฝาหอง้ เราก็ลงไปแอบก่ อน พอได้ ยินเสียงเรือออกเราก็ออกมา ผู้ ใหญ่ ก็ฮั่นแน่ ! ขึ้นมาอีกแล้ ว! เขาจะถามว่ าพรุ่ งนี้วันอะไร วันอังคารวันพุธ กลับบ้ านก่ อน ศุกร์เสาร์ อาทิตย์ ไปได้อยู่ ทั้งคืนได้เขาให้ เรียนใหจบก้ ่ อน พอรับประกาศนียบัตร ป.4 โรงเรียนเทศบาลบ้ านหัวหิน ก็ดีใจ ได้ ออกเรือตามที่ชอบแล้ ว เมื�อก่อนปลามากมาย มันไม่ได้คิดอะไร เจริญเพลิดเพลิน ม่กิน พ่อก็ทำ เราได้ออกเรือกับพ่�ชาย จนม่เรือ 5 วา 3 ศอก เครื�อง 150 แรงม้า มันสนุก ออกเรือไดหมึกไปปั�นปลาหมึกก็สนุกนะ เดือนหนึ�งออกไปปั�นสองครั�ง ข้างขึ�น ข้างแรม อย่างเร็วเลย 3 ค�ำ หมึกม่หรือไม่ม่ต้องออกเรือไปก่อน ไปเฝ้าท่� เพราะหมึกมันอย้่เป็นท่� ไม่ใช่วิ�งไปจอดตรงไหนก็ได้ จุดท่�เราเคยเจอหมึกเยอะ เรือม่ gps เราก็จดไว้เลย ไปหามุมท่�จอดเรือได้ ด้ทิศทางลม ทิศทางน�ำ โยนสมอรอเลย แล้วหมึกน่�แปลก ถ้าม่ขึ�นไฟมานะแป๊บเด่ยวได้เป็นหมื�น เป็นแสน ผมเคยเจอ มาตอน 9 ค�ำ พอสิ�นแสงตะวัน หมึกลอยขึ�นมาหน้าแห เป็นสิบๆ กิโล ครอบหมึกจนสว่าง พระอาทิตย์ขึ�นได้เป็นสองร้อยกิโล กองเต็มพื�นเรือเลย ท่น่� ทะเลมันเปล่�ยนแปลง จากเคยได้สามส่�ห้าพันบาท สองพันห้ายังไม่ได้ ได้พันกว่าบาท ค่าน�ำมันคืนละร้อยลิตร ล้กจ้างอ่กสองคนวันละสามร้อยบาท ออกเรือไป ไม่ม่เงินเข้าเลย ม่แต่ออก ไม่ใช่ลำเราลำเด่ยวนะ เป็นทั�งอ่าวเลย ข้างใต้ทะเลปลาน้อย เรือจากระยอง ตราดมา เช้าๆ สะพานปลาหัวหินคับคั�ง เรือแน่นมาก หลังๆ น่� เขาไม่ได้อะไร ก็ทยอยกลับ ไม่ไหว ผมเองก็เลิกจากเรือ อวนลากเป็นเรือปั�นไดนาโมมา 10 ปีได้แล้ว บอกขายเรือก็ยาก ต้องใช้เวลา จนเรือขายได้ ซึ�งก็โชคด่ เหมือนจะไหวตัวทัน เพราะตอนยุคคสช.ท่�ลงมาตรวจ สอบการทำประมงผิดกฎหมาย สั�งให้เรือจอดนิ�ง ตอนนั�นผมม่ใบประกอบการ ประมงใช้เครื�องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ก็จะโดนบล็อก แต่ผมเลิกไปก่อน มาขึ�นบก เปล่�ยนอาช่พ ทำสวนตัดต้นไม้ ทำงานรปภ.แต่ก็ไม่ใช่งานประจำ เขาเร่ยกเราถึงได้ไปทำ แล้วก็ช่วยพ่�ชายทำปลาเค็มมั�ง ส่งปลามั�ง เวลาม่ เรือเข้าก็ไปเอามาจากเรือ ถ้าไม่ม่เรือเข้าอย่างปลาท้แขกเอามาจากห้องเย็น จากทะเลใหญ่ลำนึง แต่ใจยังอยากลงเรืออย้่ ความท่�ใจเราชอบในเอกลักษณ์ของเรือ แล้วเห็นพ่�ชายคนโตทำเรือจำลอง เราชอบก็เลยทำตาม ช่วงเรือออกไม่ได้ ฤด้มรสุมเข้า เจอไม้ก็เอาไม้มา เริ�มแรกก็ไม้นุ่นก่อนเพราะมันนิ�ม แกะง่าย ใช้ไม้เนื�ออ่อนพวกไม้กระถิน หางนกย้งเนื�อสวยมาก เอามาแบ่งเส้นผ่านศ้นย์กลาง เปิดหน้าไม้แล้วก็ ดัดลวดโค้งๆ ใช้เครื�องมือสว่านบ้าง เครื�องมือไฟฟ้าบ้าง แล้วแต่จังหวะงาน ส่วนแรกก็ฝานก่อน พอม่ศ้นย์กลางเราก็นึกภาพเห็นละว่าจะไปแบบไหน ก็ค่อยๆ แกะไม้ทั�งท่อนไปเรื�อยๆ เราทำเรือตังเก เรือประมงจำลอง เรือสินค้า บรรทุกคอนเทนเนอร์แบบเรือนอกก็ทำได้ แต่เรือตังเกม่ส่สัน เป็นเอกลักษณ์ ผมชอบทำ เราเล่าเรื�องได้ เป็นเรือจับปลาฝ้ง ปลาท้ ปลาหลังเข่ยว ปลาโอท่� ฝรั�งเขาเร่ยกปลาท้น่า ลำแรกท่�ทำจำไม่ได้เมื�อไหร่ ตอนนั�นยังไม่ม่สื�อโทรศัพท์ แบบน่� เด็กแถวบ้านเห็นก็บอก ลุงทำให้ผมมั�ง ก็ทำเล่นหลากหลายไป จาก ทำเรือเล่นก็ขยายมาม่เครื�องมือเครื�องไม้ เรือจำลองผมแล่นได้จริงนะ ตอนแรกผมลองใส่ถ่านด้ก่อน พอได้แล้วก็ขยับ สั�งซื�อชุดร่โมท ชุดมอเตอร์ มาติดตั�ง เด่�ยวน่�สั�งซื�ออุปกรณ์จากลาซาด้ามาง่าย หาได้หมด อย่างใบพัด สั�งมาจากจ่น ญ่�ปุ�น น้องชายผมทำงานบริษัทอย้่กรุงเทพฯ เขาเก่ง เขาก็ สั�งซื�อให้ ผมก็มาติดตั�ง ลำหนึ�งถ้าใช้เวลาทำทุกวัน 20-25 วันเสร็จแน่นอน ช่วงระหว่างโควิดเมื�อจะสิ�นปี 2564 นายกหนุ่ย (นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตร่เมืองหัวหิน) มาเย่�ยมชุมชน เขามาเห็นผมทำเรือจำลอง ก็ ถามว่า ขายมั�ย ผมก็บอก ขายครับ แต่ไม่ใช่แค่น่�นะ เด่�ยวผมทำให้วิ�งได้ด้วย ติดตั�งเสร็จแล้วผมก็ไปให้เขาท่�ทำงาน ถ้าเรือเปล่าๆ ไม่ม่วิ�งด้วย ก็เฉยๆ นะ ท่�มาขายได้คือนายกหนุ่ยซื�อเป็นล้กค้าคนแรก แล้วม่สื�อมาทำรายการ เทศบาลฯ ช่วยประชาสัมพันธ์ ก็สั�งตามเว็บ ผมไม่ได้ไปวางขาย ก็ขายด่ เดือนหนึ�งได้ 7-8 ลำ แล้วก็ดรอปไป ถ้าขายได้เดือนละลำสองลำก็โอเค ลำท่�วิ�ง ได้ผมขายหมื�นห้า ช่วงโควิดก็ทำก๊อกๆ แก็กๆ ไป สถานการณ์การเป็นอย้่ มันยากอย้่แล้ว พอม่โควิดก็ยิ�งยากขึ�น อย่างน้องทำงานโรงแรมก็ต้องออก มาทำสเต็กขาย ผมอายุ 59 แล้ว การศึกษาป.4 ทำงานเป็นยามประจำไม่ได้ เพราะวุฒิไม่ถึง ผมก็ทำเรือจำลองด่กว่า มนตรีคงยนตร์ ตัวแทนชุมชนศาลเจาพ้ ่ อเสือ ภูมิปั ญญาเรือประมงพื้นบ้ านจําลองหัวหิน


46 ชมรมนาฏศิลป์หัวหนิเริ่ มต้ นจากกิจกรรม “รําฟ้ อนหน้ าบ้ านพ่ อ” ตอนในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เทศบาลเมืองหัวหนิ ประชาสัมพันธ์ ใหป้ระชาชนมาร่ วมจุดเทียนรําถวายหน้ าวังไกลกังวล ช่ วงนั้นครูยังสอนคณิตศาสตร์ อยู่ โรงเรียนหัวหนิเทศบาลฯ มอบหมาย ใหค้รูเป็นคนสอนรําใหช้าวบ้ านที่มาร่ วมรําประมาณ 1,500 คน เราเลย คิดว่ าทํายังไงจะได้ ประสานความสัมพันธ์ นี้ต่ อเนื่องไป 50 วัน 100 วัน จนถวายพระเพลิง อยากใหว้ ัฒนธรรมไทยนี้ยั่งยืนเลยจัดตั้งเป็นชมรม และวิสาหกิจชุมชนศูนย์ นาฏศิลป์เมืองหัวหนิตอนนี้มีสมาชิกคงที่อยู่ ประมาณ 500 คน นางรําที่อายุมากสุด 85 ปีรองลงมา 83 ปีนอกนั้น ก็ 60 ปี ขึ้น น้ อยกว่ า 60 ที่ยังทํางานอยู่ ก็มีแล้ วมีนางรําต่ างชาติด้ วย คร้อยากสานต่อกิจกรรม “รำฟ้อนหน้าบ้านพ่อ” เลยจัดรำถวายสักการะท ่� อุทยานราชภักดิ�ซึ�งเป็นจุดเด่นของอำเภอหัวหิน เราก็ทำเพลงใหม่ คิดท่ารำใหม่ กับพ ่� สองคน เพลงท ่� คิดใหม่คือดุษฎ่บ้ชาสัตตะบ้รพกษัตราธิราชเจ้า การรำเพลงน่� ม่ 3องก์องก์ท ่�1 กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของสมเด็จพระบ้รพกษัตริย์แห่ง สยาม 7 พระองค์องก์ท ่�2 กล่าวถึงการต่อส้้เพื�อบ้านเมืององก์ท ่�3เทิดท้น พระองค์ท่าน ได้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบ้รพาแต่งเพลงและเร่ยบเร่ยง ส่งโน้ต เพลงให้นักศึกษาซ้อม คร้ก็ซ้อมรำ แล้ววันท ่�3-4-5 ธันวาคม ก็ไปรำถวายสักการะ ท ่� อุทยานราชภักดิ�ซึ�งเราทำมาทุกปีจะเข้าปีน่�ปีท ่�6 ทางเทศบาลฯ ก็ม่บทบาทและ ส่วนร่วมในการสร้างเวท่ให้ ปีท่�แล้วเราได้เป็นตัวแทนจังหวัดประจวบฯ ไปแสดงท ่� กระทรวงวัฒนธรรม และได้รับคะแนนโหวตเป็นอันดับหนึ�ง ทางกระทรวงฯ ก็ บอกว่าท่�หัวหินยังไม่ม่วัฒนธรรมท้องถิ�นของอำเภอเลยปรึกษานายกเทศมนตร่ เมืองหัวหิน ซึ�งท่านก็ให้กิจกรรมรำถวายสักการะเข้าไปอย้่ในหลักส้ตร คือนางรำ ของศ้นย์นาฏศิลป์ส่วนใหญ่เป็นผ้้ส้งอายุ ซักวันนึงเมื�อเราคืนส้่ธรรมชาติ ก็จะไม่ม่ คนสานต่อเราเส่ยดายสิ�งท่�ทำมาแล้ว คร้ก็ทำเนื�อหาเป็นหลักส้ตรให้คร้นาฏศิลป์ ในแต่ละโรงเร่ยนของเทศบาลฯ สอนให้นักเร่ยนในชั�วโมงกิจกรรมเสริมหลักส้ตร ซึ�งนักเร่ยนจะมาร่วมรำถวายสักการะได้เหมือนมาปฏิบัติจริง มันก็จะยั�งยืน นักเร่ยนจะร้้ละว่าบ้านเราม่นาฏศิลป์ท้องถิ�นของหัวหิน คร้จัดตั�งชมรมนาฏศิลป์หัวหินมาได้สามปี ฝึกรำกันอย้่ท่� น ่� แต่หัวหินมันก็ กว้างนะ คนก็ไม่ร้้ ทางดร.ศิวัช บุญเกิด รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหินในตอนนั�น อยากให้ชุมชนเข้ามาม่ส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง เขาได้มาเห็นว่าเราทำกิจกรรม อะไรบ้างตั�งแต่เริ�มต้นจนถึงปัจจุบัน เขาเลยมายกระดับให้เป็นศ้นย์การเร่ยนร้้ ภ้มิปัญญาท้องถิ�นนาฏศิลป์ไทย ให้คนเข้ามาเจาะลึกเลย เพราะแค่ฟังจะไม่ร้้ แต่เข้ามาด้แล้วจะร้้เลยว่าทำอะไร ซ้อมจริง ทำจริงซึ�งนอกจากศ้นย์ฯ ท่�หัวหิน ก็ม่เครือข่ายท่�ปราณบุร่ด้วย ตอนแรกเขามาร่วมรำกับเรา แต่มากันเยอะมาก เกือบร้อยคน คร้เลยให้เขาจัดตั�งเป็นชมรม แต่เขาไม่ม่คร้สอน คร้ก็จะวิ�งไปสอน เร่ยกว่า นาฏศิลป์สัญจรชมรมของเราบางครั�งเร่ยกว่าชมรมนาฏศิลป์เมือง หัวหิน-ปราณบุร่ ตอนหลังก็เป็นศ้นย์การเร่ยนร้้ภ้มิปัญญาท้องถิ�นหัวหิน-ปราณบุร่ สิ�งท่�นางรำมาทำตรงน่� คือเขาใจรัก แล้วคนอายุรุ่นน่�ต้องการความสุขทางใจ เขาไม่อยากอย้่นิ�ง พอได้มารวมกลุ่ม เขาอย้่ได้เขาก็อย้่ เขามาแล้วม่ความสุข อ่กอย่างคือการรำคือการออกกำลังกายทุกอวัยวะได้ด่ท่� สุด ได้ทุกส่วน เริ�มตั�งแต่ ฟังเพลง สมองต้องคิดตามว่าแข้งขาไปทางไหน เขามาเร่ยนร้้ท่านาฏศิลป์ พื�นฐาน แต่บางท่า เช่น ยกขา ถามว่าคนรุ่นน่�ยกนานไม่ได้เด่�ยวล้ม คร้ก็จะ


47 ปรับให้ แทนท่�จะยกก็โน้มตัว อย่างท่าเพลงรำอวยพร จะนั�งรำแล้วค่อยๆ ลุกขึ�น บางคนนั�งไม่ได้ บางคนขาไม่ธรรมดานะ ขาเหล็กนะ คร้ปรับท่าให้ เขาทำก็เกิด ความศรัทธาว่าเขารำได้ นอกจากน่� เรายังเป็น “นางรำไร้ถัง” ทางเทศบาลฯ ให้คนม่ความร้้เรื�องการ จัดการสิ�งแวดล้อมเข้ามาอธิบายให้เราเข้าใจ สอนว่าทำยังไง สมัยก่อน ขยะเรา รวมกันหมดเลยทั�งแก้ว เศษอาหาร ตอนน่�เราคัดแยกขยะจนเป็นศ้นย์ฯ ตัวอย่าง การคัดแยกขยะ นางรำก็เอาไปใช้ท่�บ้าน กองสาธารณสุขก็เข้ามา ทำหลักส้ตร โครงการ “นางรำไร้ถัง” นอกจากรำแล้วยังออกกำลัง และคัดแยกขยะด้วย บุคลิกของนาฏศิลป์ท้องถิ�น จุดเด่นของการรำท่�เราสร้างขึ�นมาคือเรารำถวาย ให้พระเจ้าอย้่หัว 7 พระองค์ ซึ�งคร้บอกสมาชิกว่า ในประเทศไทย อำเภอหัวหิน เป็นอำเภอท่�พร้อม พระมหากษัตริย์มารวมกันอย้่ตรงน่� 7 พระองค์ อย่างไปด้ จังหวัดอื�น ม่พระบรมราชานุสาวร่ย์พระมหากษัตริย์ แต่ไม่อย้่รวมกัน บางจังหวัด ม่องค์เด่ยว น่�คือจุดเด่นของหัวหิน ปล้กฝังให้เขามองเห็นคุณค่า ได้ร้้ว่าบรรพบุรุษ พระมหากษัตริย์กอบก้้เอกราชมายังไงบ้าง อุดมการณ์ของเราคือเป็นจิตอาสา ทำความด่ด้วยหัวใจ เพื�อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสังคม เราไม่เร่ยก ร้องจากใคร ทำด้วยใจกันจริงๆ ทุกคนอยากมาร่วม เสื�อผ้าท่�ใส่รำทุกคนซัพพอร์ต ตัวเอง จุดมุ่งหมายใหญ่ของเราคือซักวันนึง เราอยากจะรำให้เต็มพื�นท่�ธงชาติ บริเวณหญ้าส่เข่ยวของอุทยานราชภักดิ� ก็ขยับคนเพิ�มขึ�นมาทุกปี ถ้าบวกปราณบุร่ กับประจวบฯ ก็ได้คนเยอะ บางท่�ท่�เขารำคือสามส่�หมื�นคนผ้้ใหญ่ต้อง มาเกณฑ์ แต่ของเราท่�มารำ เพราะใจรักจริงๆ การรําคือ การออกกําลังกายทุกอวัยวะได้ ดีที่สุด ได้ ทุกส่ วน ทิพวรรณ สุทัศน์ (ครูติ๋ว) ประธานศูนย์ การเรียนรู้ ภูมิปั ญญาท้ องถิ่ นนาฏศิลป์ไทย เทศบาลเมืองหัวหิน วิสาหกิจชุมชนศูนย์ นาฏศิลป์เมืองหัวหิน


48 พรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน สมัยก่ อน การคมนาคมอาศัยเส้ นทางทางราง เป็ นหลัก รถยนต์ ก็ไม่ ค่ อยมีรถไฟเป็ นการส่ งสินค้ า รับส่ งผู้ โดยสารสะดวกที่สุด เหมือนเป็ นเส้ นเลือดใหญ่ สถานีรถไฟหัวหินเองเป็ นแลนด์ มาร์ กของเมือง และเป็ น ประวัติศาสตร์ ประเทศด้ วย อาคารสถานีเป็ นอาคารไม้ ซึ่งพลเอกพระเจาบรมวงศ้ ์เธอพระองค์เจาบุรฉัตรไชยากร ้ กรมพระกําแพงเพชรอัครโยธิน ผู้ บัญชาการกรมรถไฟหลวง ณ ขณะนั้น ทรงใหยกอาคารไม ้ ้ ที่ใช้ สร้ างศาลาในงานสยามรัฐ พิพิธภัณฑ์ซึ่งจะจัดที่สวนลุมพินีเมื่อปลายปีพ.ศ. 2468 แต่ รัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคตเสียก่ อน รัชกาลที่ 7 ทรงรับสั่งใหงด้ กิจกรรมทั้งหมด ศาลาหลังนี้จึงถูกถอดลงแล้ วนํามาประกอบใหม่ เป็ นอาคารสถานีรถไฟหัวหินใช้ สืบเนื่องมาถึงปั จจุบัน อ่กเอกลักษณ์หนึ�งของสถาน่รถไฟหัวหินคือ พลับพลาจตุรมุข สร้างขึ�นสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอย้่หัว รัชกาลท่� 6 เพื�อให้ พระองค์เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป�าและล้กเสือทั�วประเทศ ฝึกซ้อมยุทธวิธ่เป็นประจำทุกปี เดิมเร่ยกว่า พลับพลาสนามจันทร์ เพราะ ตั�งอย้่ท่�พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พอสิ�นรัชสมัย การรถไฟฯ รื�อถอนมาเก็บไว้ จนในปี พ.ศ. 2511 สมัยพันเอกแสง จุละจาริตต์ เป็น ผ้้ว่าการรถไฟฯ นำเครื�องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลาสนามจันทร์มา ปล้กสร้างขึ�นใหม่ท่�สถาน่รถไฟหัวหิน เพื�อเป็นท่�ประทับขึ�นและลงรถไฟ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภ้มิพลอดุลยเดช โดย สมเด็จพระเจ้าภคิน่เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวด่ เป็นองค์ประธานในพิธ่เปิดพลับพลา ซึ�งตั�งชื�อใหม่ว่า พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เมื�อวันเสาร์ท่� 6 เมษายน 2517 ด้านหน้าสถาน่ ม่ต้นจามจุร่ท่�อายุเป็นร้อยปีเกือบเท่ากับสถาน่ เพราะ ปล้กควบค้่กันมา และม่ห้องสมุดการรถไฟฯ หัวหิน กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ มาทรงเปิด เพื�อให้ประชาชนได้มาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มาศึกษาข้อม้ลต่างๆ ดัดแปลงต้้รถไฟเก่า 2 คันท่�คัดเลือกจากโรงงาน มักกะสัน มาปรับปรุงภายในเพื�อการใช้สอยตามวัตถุประสงค์ ไม่เพ่ยง แต่เป็นห้องสมุด ม่ห้องประชุมด้วย แต่ตอนน่�อย้่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง ให้ม่ส่สันสวยงาม น่าใช้ ก็เป็นส่วนหนึ�งของโครงการบ้รณาการ สถาน่รถไฟท่�อย้่ในระหว่างการเปล่�ยนถ่ายเป็นระบบ รางค้่ตามโครงการก่อสร้างรถไฟทางค้่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร (ช่วงหนองปลาไหล - หัวหิน) คือเราสร้างอาคารสถาน่ ใหม่ และบ้รณะสถาน่เก่าไปพร้อมกัน ทางกรมศิลปากรจะเข้ามา พัฒนาด้แลอาคารเดิมเพื�อปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ต่อไป ส่วนของ อาคารใหม่เป็นอาคารยกระดับ ทางเป็นทางค้่ยกระดับด้วย เพื�อ แก้ปัญหาการจราจรในท้องท่� ระบบทางค้่ไม่ต้องรอหล่ก แต่ยังม่การ สับรางอย้่ ยังเปล่�ยนเส้นทางได้โดยการวางประแจตามจุดท่�กำหนดไว้ แยกเดินทางขึ�นและทางล่อง คือรถยนต์ไม่ต้องหยุด สะดวก ถนนก็ คล่องตัวขึ�น ส่วนอาคารท่�ทำการอย้่ด้านล่าง ผ้้โดยสารอย้่ข้างบนหมดเลย เมื�อขบวนรถเข้า นายสถาน่ก็จะขึ�นไปรอรับขบวนรถท่�ชั�นสอง อาคารใหม่ก็ ขยับห่างจากอาคารเดิมไม่เกิน 200 เมตร ส่วนรางเดิมยังใช้งานอย้่ แต่ใช้เป็นขบวนรถสินค้า ขบวนรถอื�นๆ พื�นท่�รอบสถาน่ต่อไปก็จะเปล่�ยน ด้านหลังสถาน่จะเป็นถนนวันเวย์ เพราะรถมากขึ�น นักท่องเท่�ยวก็ มาจากทุกท่� ต้องม่การจัดการพัฒนาให้บ้รณาการขึ�น ส่วนตัวผมเองเป็นคนพื�นท่�เลย เกิดในค่ายทหารท่�สวนสนประดิพัทธ์ คุณพ่อเป็นทหารชั�นผ้้น้อย ก็อย้่กับหัวหินมาโดยตลอด ผมเริ�มทำงาน การรถไฟแห่งประเทศไทยตั�งแต่ปี 2535 จนปัจจุบัน ตอนน่�ก็ 30 ปีแล้ว คือ เหมือนเราอย้่กับทหารมานาน จนชิน เราอยากเปล่�ยนแนวทาง เปล่�ยนโลเกชัน แต่ต้นทุนเรื�องวินัยได้มาจากทหาร ผมบรรจุงานตอนแรก เริ�มทำหน้าท่�เสม่ยนจำหน่ายตั�วอย้่ท่�เพชรบุร่ แล้วก็ย้ายไปตามอาวุโสหรือ ความเหมาะสม จนมาเป็นผ้้ช่วยนายสถาน่นครปฐม ก็เป็นสถาน่ใหญ่ สถาน่จังหวัดชั�น 1 แล้วมันก็เป็นสเต็ปแหละครับ จากผ้้ช่วยนายสถาน่ ชั�น 1 ก็มาเป็นนายสถาน่ชั�น 1 ท่�หัวหิน พอด่นายสถาน่ท่านเดิมเกษ่ยณ ราชการท่�น่� ผมก็ได้รับพิจารณาแต่งตั�งมาประจำเป็นนายสถาน่ได้ 3 ปีแล้ว ความร้้สึกผ้กพันก็ม่แน่นอนครับ ผมเกิดและเติบโตท่�น่� เร่ยนหนังสืออย้่ใน พื�นท่� โรงเร่ยนประจำอำเภอ ม่การใช้บริการรถไฟมาแต่ก่อน พ้ดง่ายๆ ผมเห็นสวนสนและรถไฟมาตั�งแต่เกิด ตรงน่�ต้องชื�นชมไปถึง ผ้้บริหารประเทศเลยว่าม่วิสัยทัศน์ มองการณ์ไกลว่ารถไฟจะต้องพัฒนา ไปในแนวทางไหน ก็ด่ใจท่�ม่การเปล่�ยนแปลงตามท่�เราคาดหวังไว้ ในทางเจริญรุ่งเรืองขึ�น ม่การปรับปรุงอาคารให้สวยงามแต่ยังคงม่ อัตลักษณ์อย้่ เป็นความใหม่แต่เก่า


49 ผมเห็นสวนสน และรถไฟมาตั้ งแต่ เกิด


50 รัมภา จําลองราช ผู้ อํานวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองหัวหิน คนในชุมชนพูลสุขนี่ปะทะกับ นักท่ องเที่ยวร้ อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็ นย่ านการค้ า การบริการ


Click to View FlipBook Version