The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือใบสำคัญจ่ายเงิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by toy123_9, 2021-10-03 23:32:07

คู่มือใบสำคัญจ่ายเงิน

คู่มือใบสำคัญจ่ายเงิน

ลาดับท่ี สารบญั หนา้

1 รายการ 1-9
2 10 - 11
3 คา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ 12 - 16
4 หลกั เกณฑก์ ารจ่ายเงินค่าลว่ งเวลา และคา่ ทางานในวันหยุด 17 - 18
5 ภาษีมูลค่าเพ่ิม 19 - 21
6 ยานพาหนะและนามัน 22 - 23
7 24
8 รกั ษาการแทนและปฏิบัตงิ านแทน 25
9 การจดั เวรและการจ่ายเงนิ คา่ อย่เู วรแก้ไฟฟ้าขัดข้อง 26
10 เงนิ ชดเชยการใช้ยานพาหนะส่วนตวั เดนิ ทางไปปฏิบตั งิ าน 27
11 เงนิ ชว่ ยเหลอื ค่าเคร่ืองแบบและค่ารองเท้าให้แก่พนกั งานบางหน้าที่ 28
12 เงินช่วยเหลือคา่ เครื่องแบบและค่ารองเทา้ ให้แก่ลกู จ้างชา่ ง 29
เงินค่าตอบแทนสาหรับพนักงานและลกู จ้างที่ขับรถยนตเ์ พ่ิมจากหนา้ ท่ี
13 การจ่ายเงนิ เพมิ่ พิเศษใหแ้ ก่พนกั งานผปู้ ฏิบัติงานฮอทไลน์ 30
คา่ จัดซือกระเชา้ ดอกไม้ แจกันดอกไม้ หรอื ของเยี่ยมในนาม กฟภ.
14 ให้กบั พนักงานผู้ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยเน่อื งจากการปฏบิ ัตงิ านในหน้าที่ 31
15 ค่าพวงหรดี หรือดอกไม้เคารพศพพนกั งาน หรือบุพการี โดยตรงของพนักงาน 32
16 หรอื ลูกจ้าง หรอื หวั หนา้ หนว่ ยราชการในต่างจงั หวัด หรือบุคคลอ่นื ทเี่ สยี ชวี ติ
17 จากการป้องกันรักษาความม่ันคงในนาม การไฟฟ้าสว่ นภูมิภาค 41
18 หลกั เกณฑ์การเปน็ เจ้าภาพจัดพธิ ีทางศาสนาใหก้ ับพนักงาน กฟภ. กรณีเสยี ชวี ติ 42

19 ค่าพวงมาลาหรือพานพุ่มของ กฟฟ.ต่าง ๆ ในส่วนภูมภิ าค
20 การฝกึ อบรมและสัมมนา
21 หลักเกณฑก์ ารประชุมชีแจง
22 การจ่ายสินบนและเงนิ รางวลั ให้แก่ผู้นาจับหรือผ้จู ับผกู้ ระทาผิดลกั อปุ กรณ์

23 ระบบไฟฟ้า
การจา่ ยเงนิ รางวัล ให้แก่ผแู้ จ้งและผู้ตรวจสอบการละเมดิ การใช้ไฟฟา้
24 การละเมดิ ทรัพย์สนิ ระบบไฟฟา้
มอบอานาจอนุมัตกิ ารผอ่ นชาระค่าเสยี หาย (พนักงาน)
25
การจา่ ยเงินสวัสดิการสาหรับการปฏิบัตงิ านประจาสานกั งานในพนื ท่ีพิเศษของ
การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค
การจ่ายคา่ เบียเลียงพเิ ศษ ให้แกเ่ จ้าพนักงานที่ร่วมปฏบิ ัติงาน
ใหก้ ารไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค

การจ่ายเบยี เลยี งพิเศษใหแ้ ก่เจา้ พนกั งานที่เขา้ ร่วมตรวจสอบมเิ ตอร์
บรรจุหีบหอ่ /เก็บหลกั ฐาน หรือเป็นพยาน เม่อื มกี ารละเมดิ การใชไ้ ฟฟา้
หรือร่วมกบั พนกั งานการไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าคปฏิบัตงิ านตรวจการใช้ไฟฟา้

หลกั เกณฑ์ ขันตอนการเบิกจ่าย และการขออนุมตั ิค่าใชจ้ ่ายของสถานีไฟฟ้า
และโรงจกั รพลังนา

1

26 การจ้างพาหนะจากบุคคลภายนอก
27 วธิ ปี ฏิบตั ิในการควบคุมการปฏบิ ัตงิ านของผู้ทาหนา้ ที่ขับรถยนตข์ องบริษัท (พขร.(บ))

2

คาสั่งการไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค
ที่ ส.7 เร่อื ง คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปปฏบิ ัตงิ านภายในประเทศ

ทั่วไป

1. พนักงานท่มี สี ิทธเิ บิกค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางตามคาส่ังนี
1.1 พนกั งานซึง่ ไดม้ ีคาสงั่ บรรจุและแต่งตงั ใหด้ ารงตาแหน่งหนา้ ท่ีประจา
1.2 พนักงานทดลองงาน ใหม้ สี ทิ ธเิ บิกคา่ ใช้จ่ายได้เฉพาะคา่ เชา่ ท่ีพกั และค่าพาหนะเดินทาง (หากมกี ารไป
ปฏิบัติงานหลังจากครบกาหนดทดลองงานแล้ว ให้เบิกจ่ายค่าเช่าที่พักและค่าพาหนะเดินทางไปก่อน
เม่ือได้รบั คาสัง่ บรรจแุ ล้ว จงึ นามาเบกิ จ่ายย้อนหลงั อีกครังหนงึ่ )

2. ผู้มีอานาจอนมุ ัตหิ รือสั่งการใหพ้ นกั งานเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ (กสร.(ปร)210/55 ลว.9 มี.ค.
55) (ภาคผนวก 1)

3. การไปปฏบิ ัติงานในเขตอาเภอเดยี วกนั กบั ท่ีตังสานักงานท่ีพนักงานผูน้ ันสังกดั และปฏบิ ัตงิ านตามปกติ ไม่
มีสทิ ธิเบิกค่าเบียเลยี งเดนิ ทาง และคา่ เชา่ ท่ีพักในการเดนิ ทาง เว้นแตจ่ ะได้รับอนมุ ตั จิ าก ผชก.(น1) (อนุมตั ิ
ผวก. ลว.11 พ.ค.2553 อนมุ ตั หิ ลักการให้ ผชก.(น1) มอี านาจอนมุ ัตแิ ทน ผวก.)

4. คา่ ใช้จา่ ยอ่นื ในการเดนิ ทางไปปฏิบตั ิงาน
4.1 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ค่าใช้จ่ายเท่าที่จาเป็นที่ต้องจ่ายเพ่ือประโยชน์ในกิจการงานหรือการ
เดินทาง เช่น ค่าเครื่องเขียน ค่าใช้จ่ายในการส่ือสาร ค่าซ่อมแซมย่อยสาหรับยานพาหนะในการ
เดินทางเท่าท่ีจาเป็น และเพอื่ ความปลอดภัย
4.2 ค่านามันกรณียานพาหนะ กฟภ. คันนันไม่มี Fleet Card หรือมีความจาเป็นต้องเติมนามันกรณีไม่มี
สถานีบริการนามนั ในพืนที่
4.3 ทังข้อ 4.1 และ 4.2 เม่ือเดินทางกลับถึงตน้ สังกัดให้จัดทารายงานขอความเห็นชอบ ตาม พ.ร.บ. การ
จัดซือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 (กค.(กวจ)0405.2/ว.119 ลว.7 มี.ค.61) โดย
แยกเบิกตา่ งหากจากการเบกิ จา่ ยคา่ เบียเลียง - ที่พกั

ค่าเบย้ี เลี้ยงเดนิ ทางและค่าเช่าทพี่ ัก
5. ค่าเบียเลียงเดินทางให้มีสิทธิเบิกได้ในลักษณะเหมาจ่าย สาหรับค่าเช่าที่พักให้มีสิทธิเบิกได้ในลักษณะ

เหมาจา่ ยหรือแบบจา่ ยตามจรงิ ตามบญั ชแี นบท้ายคาสั่ง เว้นแต่ ผ้วู า่ การ รองผ้วู า่ การ ผูช้ ว่ ยผวู้ า่ การ หรือ
เทียบเท่า ให้เบิกค่าเบียเลียงได้เท่าท่ีจ่ายจริงหรือเหมาจ่าย สาหรับค่าเช่าที่พักให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริง
(ส.7/2557 ฉบบั ท่ี 13 และ ส.7/2559 ฉบับที่ 14) (ภาคผนวก 2)
6. กรณเี บิกคา่ เบียเลยี งตามที่จา่ ยจรงิ ของ (ผชก.) (ฝกง.77/2559 ลว.16 ม.ี ค.2559)
6.1 ตอ้ งมีใบเสรจ็ รับเงนิ ประกอบการเบกิ จา่ ยทุกครัง
6.2 เบกิ คา่ เบียเลยี งได้ไม่เกนิ วนั ละ 2,000.- บาทตอ่ วนั เท่านัน
6.3 จานวนเงนิ ท่เี หลือจา่ ยในวนั ใดจะนามาสมทบเบิก เพื่อเฉล่ียใหค้ รบ 2,000.- บาท ในวนั ถดั ไปไมไ่ ด้
6.4 ใบเสร็จรบั เงนิ ของโรงแรม หรือภตั ตาคาร หรอื รา้ นอาหารท่ผี ูเ้ ดนิ ทางเข้าไปบรโิ ภค ใบเสร็จรบั เงนิ ต้อง

มรี ายละเอียด ดังนี
6.4.1 ชื่อ – ทอี่ ยูข่ องผู้ประกอบการ
6.4.2 ช่อื – ที่อยู่ของ กฟภ.
6.4.3 รายละเอียดค่าใชจ้ า่ ย

3

6.4.4 ลงนามผู้รบั เงิน

6.5 ให้แนบตน้ ฉบับใบกากับภาษี กรณสี ถานประกอบการอยใู่ นระบบภาษีมูลคา่ เพ่มิ

6.6 การเบิกเบียเลียงแบบเหมาจ่ายหรือจ่ายตามจริง ให้เลือกเบิกอย่างใดอย่างหน่ึงแต่เพียงอย่างเดียว

ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ดังนนั กรณีเลือกเบกิ แบบจ่ายจริง หากวันใดไมส่ ามารถหาใบเสร็จรับเงิน

ได้ จะไมส่ ามารถเลอื กเบิกแบบเหมาจา่ ยได้

7. การเบิกค่าเช่าที่พัก แบบเหมาจ่ายหรือจ่ายตามจริง ให้เลือกเบิกอย่างใดอย่างหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว

ตลอดระยะเวลาการเดนิ ทางนนั ตามตัวอยา่ ง เดินทางไปปฏบิ ัตงิ านที่ กฟภ. วันที่ 1 – 4 ก.พ.64

เดนิ ทางไปวนั ท่ี 1 ก.พ.64 พักผ่านที่ จ.นครสวรรค์ ไม่ไดข้ อใบเสร็จรับเงนิ

กทม. พักที่ กทม. ขอใบเสร็จรับเงิน

เดินทางกลับวันที่ 3 ก.พ.64 พกั ผา่ นที่ จ.นครสวรรค์ ไม่ไดข้ อใบเสรจ็ รับเงิน

เดินทางถึงต้นสังกดั วนั ที่ 4 ก.พ.64

สามารถเบิกจา่ ยค่าทีพ่ ักได้ 2 ลกั ษณะคอื

• เบิกจ่ายแบบเหมาจ่ายจานวน 3 คนื (ไม่ต้องแนบใบเสรจ็ รับเงิน/ใบกากบั ภาษี) หรอื

• เบิกจา่ ยแบบจา่ ยจรงิ จานวน 1 คนื (แนบใบเสรจ็ รับเงนิ คา่ ทีพ่ กั ที่ กทม.)

8. ใบเสร็จรับเงิน/ใบกากับภาษี ค่าเบียเลียง และค่าท่ีพัก ให้ระบุ ช่ือ ที่อยู่ของผู้ซือ/ผู้รับบริการในนามของ

กฟข. หรือ กฟฟ. ที่เป็นผู้จ่ายเงิน (ชื่อสถานประกอบการและท่ีอยู่ตามที่ระบุในทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม)

จานวนวันที่ใช้บริการค่าที่พัก หากใบเสร็จรับเงิน/ใบกากับภาษี ขาดสาระสาคัญที่ต้องระบุไว้ในใบกากับ

ภาษีแบบเต็มรูป เปน็ ผลให้ กฟภ.เสียประโยชน์ ไม่สามารถนาใบกากบั ภาษีนันมาเครดิตภาษีได้ เน่ืองจาก

เป็นภาษีซือต้องห้าม ผู้เบิกจะต้องเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มเอง โดยจะเบิกได้เฉพาะเงินค่าที่พักท่ีไม่

รวมภาษีมูลคา่ เพม่ิ (ภษ.(ภม.)222/2549 ลว.8 ม.ี ค.2549)

9. การนับเวลาไปปฏิบัติงานเพ่ือคานวณค่าเบียเลียงเดินทาง ให้เริ่มนับเวลาตังแต่ออกจากสถานที่อยู่ หรือ

สถานท่ีทางานจนถึงเวลาทก่ี ลบั มาถงึ สถานท่อี ยูห่ รอื สถานที่ทางาน ดงั นี

9.1 ปฏิบัติงานติดต่อกันถึงย่ีสิบส่ีช่ัวโมงให้นับเป็นหนึ่งวัน เศษของวันถ้าเกินสิบสองช่ัวโมงให้นับเป็นอีก

หน่งึ วนั

ตวั อย่างท่ี 1

ออกจากที่พกั วนั ที่ 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. กลบั ถึงที่พกั วนั ที่ 2 ก.พ.64 เวลา 20.00 น.

วิธีนบั วันที่ 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วนั ที่ 2 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. = 1 วัน

วนั ท่ี 2 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วนั ที่ 2 ก.พ.64 เวลา 20.00 น. = 12.00 ชม.

มสี ทิ ธิเบิกเบียเลยี งจานวน 1 วนั เนอ่ื งจากเศษของวนั ไม่เกนิ 12 ชม.

ตวั อย่างที่ 2

ออกจากทพี่ ัก วนั ท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. กลับถึงที่พักวันท่ี 2 ก.พ.64 เวลา 20.30 น.

วธิ ีนบั วันท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วนั ท่ี 2 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. = 1 วัน

วันท่ี 2 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วนั ท่ี 2 ก.พ.64 เวลา 20.30 น. = 12.30 ชม. = 1 วัน

มีสทิ ธิเบกิ เบยี เลียงจานวน 2 วนั เนื่องจากเศษของวนั เกิน 12 ชม.

9.2 ปฏิบัตงิ านติดต่อกันไม่ถงึ ยส่ี บิ สชี่ ว่ั โมงแตเ่ กนิ กว่าสบิ สองชั่วโมง ให้นับเป็นหน่ึงวัน

ตัวอยา่ งท่ี 1

ออกจากท่ีพัก วันท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. กลับถงึ ทพ่ี ักวนั ท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 20.00 น.

วิธีนับ วนั ท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วันท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 20.00 น. = 12.00 ชม.

ไม่มสี ิทธิเบกิ เบยี เลียง เน่ืองจาก ไม่เกิน 12 ชม.

ตัวอยา่ งท่ี 2

4

ออกจากท่พี ัก วันท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. กลบั ถึงท่พี กั วนั ท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 20.30 น.

วิธีนบั วันท่ี 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วันที่ 1 ก.พ.64 เวลา 20.30 น. = 12.30 ชม. = 1 วนั

มสี ทิ ธิเบกิ เบียเลยี งจานวน 1 วนั เน่อื งจาก เกนิ 12 ชม.

10. การเบิกจ่ายเบียเลียง - ที่พัก กรณีหน่วยงานเหมาจ่ายเบียเลียง - ที่พัก ให้นับเวลาปฏิบัติงานเพื่อเบิกเบยี

เลียง - ท่ีพัก ตังแต่วันเวลาท่ีออกจากสถานท่ีทางานหรือบ้านพักจนถึงกลับ โดยนาจานวนวันเวลาท่ี

หนว่ ยงานเหมาจา่ ยไปหักออก แลว้ นาจานวนวันเวลาทีเ่ หลือมาเบิกค่าเบยี เลียง – ท่พี ัก (กอร.6/2539 ลว.

20 ธ.ค. 2539)

ตวั อยา่ ง

เดินทางไปปฏิบัติงานวันที่ 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วันที่ 5 ก.พ.64 เวลา 21.00 น. และหน่วยงานจดั

อบรมจัดอาหารให้ดังนี

อาหารเชา้ วนั ที่ 2-5 ก.พ.64 (อาหารเช้าจากโรงแรมทีจ่ ดั ให้พกั )

อาหารกลางวนั วนั ท่ี 2-4 ก.พ.64

อาหารเย็น วนั ที่ 1-4 ก.พ.64

การนบั เวลาปฏบิ ัตงิ าน วันที่ 1 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วนั ท่ี 5 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. = 4 วนั

วันท่ี 5 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. - วันท่ี 5 ก.พ.64 เวลา 21.00 น. = 13 ชว่ั โมง

มสี ทิ ธิเบิกตามปกติ = 5 วัน

หนว่ ยงานจดั อาหารให้ = อาหารเช้า 4 มอื , อาหารกลางวนั 3 มอื , อาหารเย็น 4 มือ = 11 มอื

= อาหาร 3 มือ = เบียเลยี ง 1 วัน

= รวมจดั อาหารให้ 3 วนั 2 มือ

มีสิทธเิ บกิ เพ่ิมเติมจากหนว่ ยงานจดั ให้ = 1 วนั 1 มอื (5 วัน – 3 วัน 2 มือ)

11. กรณีพนักงานมาขึนรถยนต์ท่ีสานักงาน กฟภ. หากอยู่ปฏิบัติงานไม่เกิน 1 ชั่วโมง ให้นับเวลาตังแต่ออก

จากบา้ น หากอยปู่ ฏิบัติงานเกิน 1 ชั่วโมง ใหเ้ ร่มิ นบั เวลาตังแตอ่ อกจากสานักงาน กฟภ.

12. การเบิกค่าเบียเลยี งเดินทางและคา่ เช่าท่ีพกั แต่ละงาน ให้เบกิ ตดิ ตอ่ กันไดเ้ ปน็ เวลาไมเ่ กินคราวละเก้าสิบวัน

หากมีความจาเป็นต้องเบิกเกินกว่ากาหนดนี จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

สาหรับการปฏบิ ัตงิ านสว่ นท่ีเกนิ เก้าสบิ วนั เสยี ก่อน จึงจะมสี ทิ ธเิ บิกได้

13. พนักงานผู้ซ่ึงได้รับคาสั่งให้ไปรักษาการในตาแหน่ง เพ่ือที่จะดารงตาแหน่งนัน ไม่มีสิทธิท่ีจะเบิกค่าเบีย

เลียงระหว่างท่ีได้ปฏิบัติงานอยู่ ณ สถานที่นัน คงมีสิทธิเบิกได้เฉพาะค่าเบียเลียงและค่าเช่าที่พักใน

ระหว่างเดนิ ทางเท่านนั เวน้ แตพ่ นักงานผู้ซ่ึงไดร้ ับคาสั่งให้ไปชว่ ยปฏิบัติงานหรือรักษาการแทนช่ัวคราว ณ

สถานทใ่ี ดตามคาส่ังดังกลา่ วไม่ว่าระยะเวลาปฏิบัติงานจะตดิ ต่อกนั หรือไม่ก็ตาม ใหเ้ บิกไดต้ ามขอ้ 5

14. พนกั งานผไู้ ปปฏิบัตงิ านไมม่ สี ิทธิเบกิ ค่าเชา่ ที่พักในกรณีดังนี

14.1 ทางสานักงานแหง่ นนั จดั ทพ่ี กั ให้

14.2 กรณีเดินทางขา้ มคืนโดยยานพาหนะทเ่ี สียค่าโดยสาร หรือยานพาหนะสว่ นตัว หรือยานพาหนะของ

กฟภ. (การเดนิ ทางขา้ มคนื ใหถ้ ือวา่ การเชื่อมตอ่ ระหวา่ งวันต่อวันคือเวลา 24.00 น. เปน็ เกณฑ)์

14.3 กรณีเดินทางไปปฏิบัติงานในท้องท่ีท่ีตนเองหรือคู่สมรสมีเคหสถานของตนเอง หรือคู่สมรสได้รับ

สิทธิเบกิ ค่าเช่าบา้ น หรอื ไดร้ บั การจดั ทพ่ี กั จากนายจ้าง หรอื หนว่ ยงานเจ้าสงั กัดทจ่ี ะอยอู่ าศัยได้

14.4 ในกรณีเบิกค่าเบียเลียงตาม 9.2 ยกเว้นในกรณีที่เดินทางข้ามคืน ถึงแม้ว่าปฏิบัติงานไม่ถึง 24

ชว่ั โมง ก็ให้เบกิ ค่าเชา่ ทพี่ กั ได้

14.5 กรณีผู้ปฏิบัติงานต้องพักรักษาตัวในสถานพยาบาล และได้ใช้สิทธิเบกิ ค่าห้องในสถานพยาบาลแลว้

ตามระเบยี บกองทุนสงเคราะห์วา่ ดว้ ยการรกั ษาพยาบาล

14.6 กรณีมีเคหะสถานของตนเองในท้องท่ีที่ตนเดินทางไปปฏิบัติงาน ถึงแม้จะนาเคหะสถานนันให้ผู้อน่ื

เชา่ แลว้ ก็ไม่มสี ทิ ธิเบกิ ค่าเชา่ ท่ีพกั ได้

5

15. “ท้องท่ี” ตามข้อ 14.3 ให้ใช้คานิยามคาว่า “ท้องท่ี” เช่นเดียวกับในคาสั่ง กฟภ. ที่ ส.18/2528 เรื่องค่า

เช่าซือ หรือค่าผ่อนชาระเงินกู้เพ่ือชาระราคาบ้าน บ้านพร้อมที่ดิน หรืออาคารชุด (ปัจจุบันเป็นระเบียบฯ

พ.ศ.2562) หมายความว่า ทุกเขตในกรุงเทพมหานคร อาเภอ กิ่งอาเภอ หรือบริเวณที่กระทรวงการคลัง

ประกาศกาหนดให้เป็นท้องที่เดียวกัน หรือบริเวณต่างท้องท่ีท่ีมีระยะทางไม่เกิน 30 กิโลเมตร จากที่ตัง

สานักงานการไฟฟ้าที่พนักงานผนู้ ันประจาอยู่ ใหถ้ อื วา่ เปน็ ท้องทีเ่ ดยี วกนั เชน่ พนกั งานสงั กัด กฟจ.พะเยา

เดินทางมาประชุมที่ กฟน.1 และมีเคหะสถานของตนเองอยู่ท่ี อ.แม่ริม ซ่ึงอยู่ห่างจาก กฟน.1 ประมาณ

20 กิโลเมตร ถือว่าระยะทางจากเคหะสถานถึงสถานท่ีปฏิบัติงานมีระยะทางไม่เกิน 30 กิโลเมตร จึงเป็น

ท้องที่เดียวกันตามข้อ 14.3 จงึ ไม่มีสิทธเิ บิกค่าทพี่ กั ในการมาประชุมท่ี กฟน.1

16. กรณีท่ีเดินทางโดยรถไฟไปถึงสถานีรถไฟปลายทาง ของผู้ปฏิบัติงานหรือเพ่ือเดินทางต่อไปยังสถานท่ี

ปฏิบตั ิงาน ก่อนเวลา 06.00 น. ของวันรงุ่ ขนึ ถึงแม้ว่าจะพักแรมในยานพาหนะทเี่ สียค่าโดยสารตาม 14.2

นนั แล้วก็ตาม กใ็ ห้มีสทิ ธเิ บิกค่าเช่าทพี่ ักสาหรบั คนื นนั ได้

17. ในกรณีเดินทางในเวลากลางคืน เพื่อไปปฏิบัติงานเร่งด่วนถึงปลายทางในวันรุ่งขึน และจะต้องเดินทาง

กลับในวันเดยี วกัน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานจาเป็นต้องเข้าท่ีพักแรมช่ัวคราวเพื่อปฏิบตั ิภารกิจสว่ นตัว ให้มีสิทธิเบกิ

ค่าเชา่ ท่ีพกั ได้ 1 คนื โดยต้องแจ้งชอ่ื โรงแรมท่ีพักด้วย

18. การเดินทางไปปฏบิ ตั งิ าน ณ กฟฟ.ท่ีไม่ต้องพักแรม

18.1 เดินทางไปปฏิบัติงานตามรายละเอียดจุดกาหนดไม่ต้องพักแรม ตามหนังสือ กฟน.1 เลขที่ น.1-

18/-19777 ลว. 1 ต.ค.2536 และ น.1-บ (คก) 2482 ลว. 17 ก.ค.2544 (ภาคผนวก 3) จะไม่มี

สิทธเิ บกิ จา่ ยคา่ ท่พี กั (เบกิ จา่ ยค่าเบียเลียงได้หากปฏบิ ัติงานไป-กลบั เกิน 12 ชั่วโมง ในแตล่ ะวัน)

18.2 หากมีความจาเป็นต้องพักแรม ให้ขออนุมัติพักแรมหน้างาน โดยผู้มีอานาจอนุมัติหรือส่ังการให้

พนักงานเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ ตามข้อ 2 อนุมัติตามแบบฟอร์มขออนุมัติพักแรม

หน้างาน การขอพักแรมหน้างานจึงต้องมีอนุมัติแนบ 2 ฉบับ จึงจะเบิกจ่ายค่าที่พักในการไป

ปฏิบตั งิ าน ณ กฟฟ.ทไ่ี ม่ต้องพกั แรม คือ

18.2.1 หนังสือขออนุมัตใิ หพ้ นกั งานเดินทางไปปฏบิ ัตงิ าน

(รบ.19-ป.57) ผู้อนมุ ัตคิ อื คนเดยี วกัน

18.2.2 แบบฟอรม์ ขออนุมตั พิ ักแรมหนา้ งาน

ค่าพาหนะ
19. การเบิกค่าพาหนะ

19.1 ใหเ้ บกิ เท่าทจ่ี ่ายจรงิ และต้องใช้ยานพาหนะประจาทาง
19.2 ค่าพาหนะจากที่พักหรือสถานท่ีทางานจนถึงจุดที่เปล่ียนยานพาหนะประจาทาง หรือยานพาหนะ

ของ กฟภ. และจากจุดที่เปลี่ยนยานพาหนะประจาทาง หรือยานพาหนะของ กฟภ. ถึงท่ีพักหรือ
สถานที่ทางานให้เบิกได้ตามท่ีจ่ายจรงิ เช่น คา่ รถแท็กซ่ี ค่ารถสามลอ้ เคร่อื ง ค่ารถสามลอ้
19.3 ค่าพาหนะเดินทางระหว่างที่พักถึงท่ีทางานและระหว่างท่ีทางานถึงที่พัก ซ่ึงถือว่าเป็นการปฏิบัติ

งานตามปกติ จะขอเบิกไมไ่ ด้

19.4 ค่าพาหนะกรณีท่ีไปปฏิบัติงานท่ีอ่ืนที่มิใช่สานักงาน กฟภ. ตามคาสั่งที่ ส.7 เช่น ไปปฏิบัติงานที่
โรงแรม, มหาวิทยาลัย จะเบิกค่าพาหนะจากที่พักไปโรงแรม หรือ มหาวิทยาลัย ได้ในอัตราค่ารถ
ประจาทาง แต่ถ้าจะเบิกเป็นค่ารถแท็กซ่ีจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาก่อน โดยผู้เดินทาง
จะต้องชีแจงเหตุผลและความจาเป็นนัน ๆ ส่วนผู้บังคับบัญชาก็จะตอ้ งวินจิ ฉัยวา่ เป็นกรณีท่ีมคี วาม

6

จาเป็นจริง ๆ หรือไม่ จึงจะอนุมัติได้ เช่น วันเปิดและวันปิดสัมมนาท่ีอาจจะต้องใส่สูทหรือมี
สัมภาระ (กอร.6 ลว. 16 มิ.ย. 2541)
20. ยานพาหนะประจาทาง หมายถึง รถไฟ รถโดยสารประจาทางตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ,
ยานพาหนะอ่ืนใดที่ให้บริการในการขนส่งแก่บุคคลทั่วไปเป็นประจาโดยมีเส้นทางท่ีแน่นอน มีอัตราค่า
โดยสารและค่าระวางทแ่ี นน่ อน
21. อัตราคา่ รถโดยสาร (ภาคผนวก 4)
22. กรณีท่ีไม่มียานพาหนะประจาทาง หรือมีแต่ไม่สะดวกหรือต้องการความรวดเร็วเพ่ือประโยชน์ในการ
ปฏิบัติงาน หากล่าช้าจะเกิดความเสยี หาย ให้ใช้ยานพาหนะอื่นหรือยานพาหนะส่วนตัวก็ได้ แต่ต้องได้รับ
อนุมัติจากผบู้ ังคบั บญั ชา จงึ จะเบิกเงินได้ดงั นี (คาสง่ั ที่ ส.7/2549 ฉบับท่ี 10 ลว.26 ม.ค. 2549)
22.1 สานักงานเขต ให้ผ้บู งั คับบัญชาตังแต่ระดับหัวหน้ากองขนึ ไปเปน็ ผอู้ นุมัติ
22.2 การไฟฟา้ ชนั 1-3 และการไฟฟา้ ในสังกดั ใหผ้ จู้ ดั การการไฟฟ้าชนั 1-3 เปน็ ผ้อู นุมัติ
โดยใหม้ สี ิทธิเบกิ เสมอื นวา่ ได้เดินทางดว้ ยยานพาหนะดังกลา่ วจริง ดงั นี
22.3 ค่าพาหนะได้ตามสิทธิของค่าใช้จ่ายสาหรับรถยนต์โดยสารประจาทาง/ประจาทางปรับอากาศใน
ระยะเดยี วกนั
22.4 คา่ รถแท็กซี่ ค่ารถสามล้อเครือ่ ง ค่ารถสามล้อ ฯลฯ ไป-กลบั ระหว่างที่พักกับสถานีขนส่ง
23. การเบกิ คา่ พาหนะกรณเี ดนิ ทางโดยยานพาหนะส่วนตวั คันเดียวกัน ใหพ้ นกั งานท่ีเดนิ ทางไปปฏบิ ัตงิ านโดย

ยานพาหนะสว่ นตัวร่วมกับผ้เู ป็นเจา้ ของพาหนะ มสี ิทธิเบิกค่าพาหนะไดต้ ามสิทธิเช่นเดียวกบั ผูค้ รอบครอง

รถ ตัวอย่างเช่น พนักงานระดับ 7 จานวน 3 คนเดินทางไป กฟภ. โดยยานพาหนะส่วนตัวของพนักงาน

รายที่ 1 เมือ่ พนกั งานรายที่ 1 เบิกจ่ายคา่ พาหนะตามข้อ 22.3 และ 22.4 แล้ว พนกั งานรายท่ี 2 และ 3 ก็

มีสิทธเิ บกิ เช่นเดียวกับพนกั งานรายที่ 1 ท่ีเป็นเจา้ ของพาหนะ

24. การเดินทางโดยรถประจาทาง ให้เบิกค่าพาหนะได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการควบคุมการ
ขนสง่ ทางบกกลางกาหนด ดังนี (ส.7/2560 ฉบับท่ี 15)
24.1 พนักงานระดับ 1 – 6 มีสิทธิเดินทางโดยรถโดยสารประจาทางชันสูงสุดไม่เกินรถโดยสารประจา
ทางลกั ษณะรถมาตรฐาน 1 (ข) พเิ ศษ (ไม่เกนิ 32 ที่นงั่ )
24.2 พนักงานระดับ 7 หรือเทียบเท่าขึนไป มีสิทธิเดินทางโดยรถโดยสารประจาทางลักษณะรถ
มาตรฐาน 1 (ก) (ไม่เกนิ 24 ท่นี ง่ั )
24.3 พนักงานผู้ที่เดินทางไปปฏิบัติงาน หากประสงค์จะเดินทางในประเภทของรถท่ีเกินกว่าสิทธิ ก็ให้
เดนิ ทางได้ แตม่ ีสทิ ธเิ บิกคา่ พาหนะไดต้ ามสทิ ธเิ ท่านัน

25. กรณีเดินทางโดยรถโดยสารประจาทางปรับอากาศท่ีไม่มีต๋ัวขายเป็นระยะ ๆ แต่ขายราคาเดียวตลอด
เส้นทาง ให้พนักงานมีสิทธิเบิกค่าโดยสารได้ตามราคาตั๋วตลอดเส้นทางที่พนักงานจ่ายเงินจริง โดยมี
หลักฐานประกอบการเบิกจา่ ย

26. การเดนิ ทางโดยรถไฟ ใหเ้ บิกคา่ โดยสารตลอดจนค่ารถนอน และค่าธรรมเนยี มต่าง ๆ ไดเ้ ท่าที่จา่ ยจริง แต่
ไม่เกินสทิ ธิตามหลกั เกณฑ์ ดังนี (ส.7/2560 ฉบบั ที่ 15)
26.1 พนักงานระดับ 1-3 มีสิทธิโดยสารรถนั่งชัน 2, รถน่ังชัน 2 ปรับอากาศ หรือรถนอนชัน 2 ปรับ
อากาศ
26.2 พนักงานระดับ 4-7 หรือเทียบเท่า มีสิทธิโดยสารรถนั่งชัน 1 ปรับอากาศ หรือรถนอนชัน 2 ปรับ
อากาศ
26.3 พนักงานระดับ 8 หรือเทียบเท่าขึนไป มีสิทธิโดยสารรถนั่งชัน 1 ปรับอากาศ และรถนอนชัน 1
ปรบั อากาศ

7

26.4 พนักงานผู้เดินทางไปปฏิบัติงาน และต้องอยู่ในรถไฟไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงระหว่างเวลา 21.00 น.
ถึง 7.00 น. ของวันใหม่ จึงจะมีสิทธเิ ดนิ ทางโดยรถนอนได้

26.5 พนกั งานผู้ทเี่ ดนิ ทางไปปฏบิ ัติงาน หากประสงคจ์ ะโดยสารในชนั ที่เกนิ สิทธิก็ให้เดินทางได้ แต่มสี ิทธิ
เบกิ ค่าโดยสารได้ตามสทิ ธเิ ทา่ นัน

27. พนกั งานทด่ี ารงตาแหน่งระดับ 8 ขนึ ไป มสี ทิ ธเิ ดินทางโดยเครือ่ งบนิ ตามหลกั เกณฑด์ งั นี
(ส.7/2541 ฉบับท่ี 6)
27.1 ชันหนงึ่ สาหรบั ผ้วู า่ การ และรองผู้วา่ การ
27.2 ชันระหวา่ งชนั หน่งึ กบั ชันตา่ สุด สาหรับผู้ช่วยผู้วา่ การ และผ้อู านวยการฝา่ ยหรอื เทยี บเทา่
27.3 ชันตา่ สดุ สาหรับผ้อู านวยการกองหรือเทยี บเท่าลงมา
27.4 ในกรณีเครื่องบินไม่มีชันระหว่างชันหนึ่งกับชันต่าสุด ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ และผู้อานวยการฝ่ายหรือ
เทียบเทา่ เดินทางโดยชนั หน่งึ

28. พนักงานนอกเหนือจากข้อ 27 ถ้ามีความจาเป็นจะต้องเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อประโยชน์ในการ

ปฏิบัติงาน หากล่าช้าจะเกิดความเสียหายแก่การงาน ให้เดินทางโดยเคร่ืองบินได้ ตามข้อ 27.3 โดยต้อง

ได้รับอนุมตั ิจากผ้วู ่าการการไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค จงึ จะเบิกเงินได้

29. พนักงานที่ไม่มีสิทธิเดินทางโดยเคร่ืองบิน หากเดินทางโดยเครื่องบิน ให้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายเพียงเท่ากับ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางภาคพืนดินในระยะเดียวกัน ตามสิทธิซ่ึงผู้เดินทางพึงเบิกได้ตามระเบียบนี และ
ต้องแจ้งอัตราค่าเดินทางภาคพืนดิน พร้อมทังแนบตั๋วโดยสารเคร่ืองบิน เพ่ือประกอบการเบิกจ่าย
(ส.7/2541 ฉบบั ที่ 7)

30. พนักงานตังแต่ระดับ 7 ลงมา ที่สังกัดประจา กฟน.1, กฟฟ.ชัน 1-3, กฟส., กฟย. (ไม่รวมพนักงานใน
สงั กดั อืน่ ) มีสทิ ธเิ ดินทางไปปฏิบัติงานโดยเคร่ืองบินระหว่าง จ.เชยี งใหม่-จ.แม่ฮ่องสอน และเบกิ ค่าใช้จ่าย
ในการเดินทางทังหมดได้ โดยอานาจส่ังการตามแบบฟอร์ม “ขออนุมัติให้พนักงานเดินทางไปปฏิบัติงาน
(รบ.19-ป.57)” เปน็ อานาจของ ผชก.น.1 (อนุมัติ ผวก. ลว.4 ก.พ. 2541 และ กรบ.(พท.)1382/2562 ลว.
31 ต.ค.2562)

31. แนวทางปฏิบัติในการแนบเอกสารเบิกจ่ายค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ (กตจ.(ตง.)
2249/2562 ลว.11 ก.ค.2562) (ภาคผนวก 5)

32. การใช้บริการตวั๋ เครอื่ งบินและการจองที่พัก (กรบ.(พท.) 212/2561 ลว.6 ก.พ.2561)
32.1 กรณีจัดซือบัตรโดยสารเคร่ืองบิน ให้ใช้ใบเสร็จรับเงิน/ใบกากับภาษีของบริษัทสายการบิน หรือ
ตัวแทนจาหน่าย หรือผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว หรือใบรับเงินท่ีพิมพ์ออกจากระบบอิเล็กทรอนิกส์
เป็นหลักฐาน/ประกอบการเบิกจ่ายได้ โดยต้องแสดงรายละเอียดการเดินทาง ซึ่งระบุชื่อสายการ
บนิ วัน-เวลาท่อี อกเดนิ ทาง ช่อื -สกลุ ผู้เดินทาง ตน้ ทาง-ปลายทาง เลขทีเ่ ทยี่ วบิน จานวนคา่ โดยสาร
และวธิ ีการชาระเงิน
32.2 การเบิกคา่ เชา่ ทพี่ กั ให้ใชใ้ บเสรจ็ รับเงนิ /ใบกากบั ภาษขี องตวั แทนจาหน่ายหรือผปู้ ระกอบการธุรกิจ
นาเทย่ี ว ท่พี ิมพ์ออกจากระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ เปน็ หลักฐานประกอบการเบกิ ค่าเชา่ ทีพ่ กั ได้

33. การใช้บริการต๋ัวเคร่ืองบิน ท่ีมีค่าบริการอื่น ๆ ให้เบิกได้ตามใบเสร็จรับเงิน ดังนี (ผชช.11(ม)7/2556 ลว.
24 ม.ค.56)
33.1 คา่ สมั ภาระ 15 กิโลกรมั แรก
33.2 ค่าจองเกา้ อี
33.3 ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนต๋ัว กรณีมีความจาเป็นต้องเปล่ียนต๋ัว อันเน่ืองมาจากภารกิจอันเกี่ยวกับ
การปฏิบัตงิ าน เช่น ตอ้ งเขา้ ประชุมด่วน หรอื มีงานเรง่ ดว่ น โดยใหผ้ ู้เบกิ ทาคารบั รองสาเหตขุ องการ

8

เปล่ียนตั๋วประกอบการเบิก ยกเว้น รองผู้ว่าการและผู้ช่วยผู้ว่าการไม่ต้องทาคารับรองสาเหตุของ
การเปลีย่ นตวั๋
33.4 ค่าธรรมเนยี มการจองตัว๋ ผา่ น Call Center ของสายการบนิ
33.5 ค่าธรรมเนียมการใช้บตั รเครดติ จา่ ยค่าตวั๋ และค่าบรกิ าร
34. กรณีพนักงานซือบริการอ่ืนนอกจากท่ีกาหนดให้ในข้อ 33 พนักงานจะต้องรับภาระภาษีในส่วนที่เครดิต
ไมไ่ ด้ทังหมด ตัวอย่างเชน่

• ค่าโดยสารและค่าบริการอื่นตามข้อ 33 เป็นเงิน 934.58 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มจานวน 65.42 บาท
รวมเปน็ เงินทังสนิ 1,000.- บาท

• มีการซือค่าสัมภาระเพิ่มอีก 300.- บาท ใบเสร็จรับเงินจึงมีจานวนเงินรวมทังสิน 1,300.- บาท
(ภาษมี ลู ค่าเพิ่มจานวน 85.05 บาท)

• เมื่อนามาเบิกจ่ายกับ กฟภ. จะไม่สามารถแยกภาษีมูลค่าเพ่ิมออกจากจานวนเงินตามสิทธิ 1,000.-
บาทได้ เนื่องจากมีใบเสร็จรับเงิน/ใบกากับภาษีเพียงฉบับเดียว ดังนันพนักงานจึงไม่สามารถเบิกจ่าย
ค่าซือสัมภาระเพ่ิมจานวน 300.- บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มจานวน 85.05 บาทได้ จึงเบิกจ่ายได้เพียง
934.58 บาทเท่านัน

35. พนักงานที่ไม่มีสิทธิเดินทางโดยเครื่องบิน หากเดินทางโดยเคร่ืองบิน การกรอกแบบฟอร์มขออนุมัติ
เดินทางให้ระบุเดินทางโดยเคร่ืองบิน และแบบฟอร์มใบสาคัญจ่ายเงินให้ระบุเดินทางไป-กลับระหว่าง
กฟฟ.หรือที่พักไปยังสนามบิน ตามลักษณะการเดินทางจริง และให้ถือว่าการเดินทางไป-กลับระหว่าง
กฟฟ.หรือท่ีพักไปยังสนามบิน เป็นการเดินทางเพื่อท่ีจะไปปฏิบัติงานให้กับ กฟภ. (กรบ.(พท) 281/2560
ลว.9 มี.ค.60)

36. การเบิกค่าพาหนะหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามข้อ 24, 26, 27 ในกรณีท่ียานพาหนะนันออก
ใบเสร็จรับเงินหรือต๋ัวโดยสารให้แนบใบเสร็จรับเงินหรือต๋ัวโดยสารเพื่อประกอบการเบิกจ่ายเงินด้วย (ไม่
อนุโลมให้ใชอ้ ัตราค่าโดยสารขันต่าโดยไม่ตอ้ งแนบต๋วั โดยสาร)

37. การเบิกเงินค่าบริการจอดรถในการติดต่อราชการ ให้เบิกจ่ายได้ดังนี (กรบ.(พท)1235/2560 ลว.25 ก.ย.
2560)
37.1 กรณีพนักงานเดินทางไปปฏิบัติงาน/ติดต่อราชการ โดยรถยนต์ของ กฟภ. หากมีภารกิจหรือความ
จาเป็นจะต้องเดินทางต่อโดยเครื่องบิน ให้นารถยนต์ของ กฟภ. ไปจอดเก็บที่สานักงาน กฟภ. ที่
เหมาะสม ทอี่ ย่ใู กล้เคยี งสนามบนิ (หากเปน็ กรณีสนามบินสวุ รรณภูมหิ รอื สนามบินดอนเมือง ใหน้ า
รถยนตจ์ อดเก็บท่สี านักงานใหญ่ กฟภ.) แลว้ ใหพ้ นักงานเดนิ ทางต่อไปยังสนามบินด้วยยานพาหนะ
รับจา้ ง โดยให้เบิกค่าใชจ้ า่ ยพาหนะรับจ้างไดต้ ามคาสง่ั กฟภ. ท่ี ส.7
37.2 หากเดนิ ทางไปปฏิบัติงานต่างท้องทโ่ี ดยรถยนต์ของ กฟภ. หรือรถยนตส์ ่วนตวั ไม่มสี ทิ ธิเบกิ คา่ จอด
รถคา้ งคนื ในทกุ กรณี
37.3 กรณพี นักงานเดินทางโดยรถยนตข์ อง กฟภ. เพื่อตดิ ต่อราชการกับสว่ นราชการหรือหนว่ ยงานอื่น ๆ
หากมีความจาเป็นต้องจอดรถเป็นการชั่วคราว ณ สถานที่จอดรถที่มีการเรียกเก็บค่าบริการหรือ
คา่ ธรรมเนียมการจอดรถ ให้ปฏบิ ัตดิ งั นี
37.3.1 กรณีเป็นการเดินทางไปปฏิบัติงานตามคาส่ัง กฟภ. ท่ี ส.7 ก็ให้นาหลักฐานใบเสร็จรับเงิน
คา่ จอดรถมาเบิกกับ กฟภ. ได้ โดยถือเปน็ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตลด็ ตามคาส่งั ท่ี ส.7
37.3.2 กรณีเป็นการเดินทางไปติดต่อราชการที่นอกเหนือจากข้อ 37.3.1 ก็ให้นาหลักฐาน
ใบเสร็จรับเงนิ ค่าจอดรถมาเบิกกับ กฟภ. ได้ โดยให้ถือเป็นค่าใช้จา่ ยในการดาเนินงานเบิก
จากเงนิ หมุนเวยี นหน่วยงานหรือเงนิ หมุนเวยี นเขตหรอื จากเงินรายได้ของการไฟฟ้านนั ๆ

9

เงนิ ยืมทดรองจา่ ยและรายงานเบกิ คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง

38. พนักงานผู้ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติงาน มีความประสงค์ขอยืมเงินทดรองจ่ายต้องไม่มีเงินยืมครังก่อนค้างอยู่

จงึ จะมสี ทิ ธิยืมเงินทดรองจา่ ยได้

39. พนกั งานผซู้ ่ึงได้รับเงินยมื ทดรองจา่ ยเพือ่ เดินทางไปปฏิบตั งิ าน ใหป้ ฏบิ ัติดังนี
39.1 ในการยืมเงินทดรองจา่ ยแต่ละครงั ใหผ้ ูบ้ ังคับบญั ชาของผู้ที่จะยืมเงนิ พจิ ารณาจานวนวัน และ
คา่ ใชจ้ า่ ยทพี่ นักงานจะต้องเดินทางไปปฏบิ ัตงิ านกบั จานวนเงินที่ยืมให้เหมาะสมกนั
39.2 พนกั งานท่ีจะยืมเงินทดรองจา่ ยเพ่ือเดนิ ทางไปปฏิบัติงาน จะตอ้ งหกั ล้างเงินยืมทดรองจ่ายครงั ก่อน
ให้ครบถ้วนเสียก่อน หากหลักฐานท่ีส่งมาหักล้างมีไม่ครบตามจานวนเงินที่ยืมไป และมิได้นาเงินท่ี
เหลือมาสง่ ใช้ใหค้ รบ จะตอ้ งให้หกั เงินในใบยมื ครงั ใหม่จึงจะรบั เงินยืมใหมน่ ันได้
39.3 ให้ออกเดินทางภายในกาหนด 5 วนั นบั ตงั แตว่ นั ทไี่ ดร้ ับเงินยืมทดรองจ่าย
39.4 หากมีความจาเป็นไม่สามารถเดินทางภายในกาหนดเวลา ตาม 39.3 ได้ จะต้องได้รับอนุมัติจาก
ผู้บงั คับบัญชาเสียก่อน แตท่ งั นีต้องไมเ่ กิน 15 วนั นับตงั แต่วันทไ่ี ดร้ ับเงินยมื ทดรองจ่าย
39.5 ถ้าไม่ได้เดินทางภายในกาหนดเวลาตาม 39.3 และ 39.4 ให้ส่งคืนเงินยืมทดรองจ่ายทันที ถ้าไม่
นาส่งให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งให้ผู้จ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างหักเงินเดือนหรือค่าจ้างตามจานวนเงินท่ี
พนกั งานผูน้ ันได้ยมื ไป

40. การสง่ รายงานเดินทางและคา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทาง ให้ปฏบิ ัติดังนี
40.1 พนักงานซ่ึงได้รับเงินยืมทดรองจ่าย ให้ทารายงานส่งใบสาคัญเบิกค่าใช้จ่ายเพื่อหักล้างเงินยืมทด
รองจา่ ยภายใน 7 วนั นับตังแต่วันทไี่ ด้เดินทางกลบั มาถงึ
40.2 พนักงานซึง่ ไมไ่ ดย้ ืมเงินทดรองจ่าย ใหท้ ารายงานสง่ ใบสาคัญเบิกค่าใช้จา่ ยเพ่ือหกั ล้างเงินยืมทดรอง
จา่ ยภายใน 15 วัน นับตังแต่วนั ทีไ่ ดเ้ ดนิ ทางกลับมาถงึ
40.3 ถ้าไม่ได้ทารายงานส่งใบสาคัญเบิกค่าใช้จ่ายภายในกาหนดเวลา ตามข้อ 40.1 และ 40.2 หาก
ประสงคจ์ ะสง่ ใบสาคัญเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยตอ้ งไดร้ ับอนุมัติจาก ผชก.น.1

41. การใชร้ ถยนตเ์ พอ่ื ไปปฏบิ ตั งิ านตามคาสงั่ กฟภ. ที่ ส.7

ระเบยี บ กฟภ. วา่ ดว้ ยยานพาหนะและนา้ มัน พ.ศ. 2546

กฟฟ.ทยี่ านพาหนะสงั กัด ไปปฏบิ ัติงานที่ ผูอ้ นุมตั ิ

1 กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.1) กฟฟ.ชนั 1 หรือ 2 หรอื 3 ต้นสังกัด ผจก.กฟส., กฟย.

2 กฟฟ.ชัน 1 หรือ 2 หรอื 3 กฟน.1 ผจก.กฟฟ. ชนั 1 หรอื 2

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.2) หรอื 3

3 กฟน.1, กฟฟ.ชัน 1 หรือ 2 หรอื 3 , กฟฟ.ในเขต กฟน.1 ทังหมด และ ผชก.(น1)

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.3) หรอื กฟฟ.ในเขตอน่ื

4 กฟน.1, กฟฟ.ชนั 1 หรือ 2 หรอื 3 , เพื่อรบั สง่ พสั ดุอุปกรณ์ไฟฟา้ ในภาค ผชก.(น1) (มีอานาจอนุมตั ิ

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.4) เดยี วกนั หรอื ส่ังการพนักงาน)

10

ตัวอยา่ ง การใชร้ ถยนต์เพ่ือไปปฏิบตั ิงานตามคาสั่ง กฟภ. ที่ ส.7

กฟภ. หรือ ผชก.(น1) มีอนุมตั ิสั่งการให้พนักงานของ กฟส.อ.ห้างฉตั ร ไปประชุมที่ กฟจ.เชียงราย ผู้มี

อานาจอนุมัตใิ ห้เดินทางโดยยานพาหนะประเภทตา่ ง ๆ

เดินทางโดยพาหนะ

รถประจาทาง รถยนต์ส่วนตวั รถยนต์ กฟภ.

ผู้อนมุ ัตใิ นแบบฟอร์ม “ขอ ผจก.กฟส.อ. ผจก.กฟอ.เกาะคา ผชก.(น1)

อนมุ ตั ิให้พนักงานเดินทางไป ห้างฉตั ร

ปฏบิ ัตงิ าน (รบ.19-ป.57)”

ตาม ส.7/2549 เรื่อง ค่าใชจ้ า่ ย ตาม ระเบยี บ กฟภ. วา่

ในการเดนิ ทางไปปฏบิ ัตงิ าน ด้วยยานพาหนะและนามนั

ภายในประเทศ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2546 ข้อ 11.2.5.3

การปฏิบัตหิ นา้ ที่ในท้องที่อ่ืนภายในประเทศของลูกจ้าง

42. ลูกจ้างมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายได้ตามระเบียบหรือคาส่ังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ไปปฏิบัติงานภายในประเทศ รวมถึงอนุมัติผู้ว่าการหรือหลักเกณฑ์ท่ีออกตามระเบียบหรือคาสั่งดังกล่าว
โดยอนุโลมเชน่ เดียวกับพนกั งาน

43. การเบิกค่าเบียเลียง และค่าเช่าที่พัก ในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 42 ให้เบิกได้ในอัตราต่าสุด
ของพนกั งาน

11

คาสงั่ การไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาค
ที่ ส.6/2529

เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายเงินค่าลว่ งเวลา และค่าทางานในวนั หยดุ

1. พนักงาน หมายถึง พนักงานซึ่งได้มีคาสั่งบรรจุหรือจ้างให้ดารงตาแหน่งหน้าท่ีทังรายเดือน รายวันประจา
หรอื พนกั งานซงึ่ ได้มีคาสั่งให้ทดลองปฏิบัติงาน ทังนไี ม่รวมถงึ ลูกจ้างรายวันชวั่ คราวอื่น ๆ

2. อานาจในการอนุมตั ิให้พนักงานในส่วนภูมิภาคทางานลว่ งเวลาและทางานในวนั หยดุ (พ.(ม)1/2549 สั่ง ณ
วันท่ี 27 ม.ค.2549)
2.1 ในสานักงานเขต ใหผ้ ้ชู ว่ ยผู้วา่ การ หรือผูร้ กั ษาการแทน เป็นผ้อู นุมตั ิ
2.2 ในการไฟฟ้าชัน 1-3 และการไฟฟ้าในสังกัด ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 หรือผู้รักษาการแทน เป็น
ผ้อู นมุ ตั ิ

3. วนั ทางานและเวลาทางานของพนักงาน
3.1 วันทางาน ได้แก่ ทุกวนั ของสปั ดาห์ เว้นวนั หยุดงานประจาสปั ดาห์ และวนั หยดุ งานตามประเพณี
3.1.1 วนั หยดุ งานประจาสัปดาห์ ได้แก่ วนั เสาร์ และวนั อาทิตย์
3.1.2 วนั หยดุ งานตามประเพณี ไดแ้ ก่ วนั ท่ีการไฟฟา้ ส่วนภมู ภิ าคประกาศให้เปน็ วันหยุดงาน
ประจาปี
3.2 เวลาทางาน ได้แก่ ระยะเวลาระหวา่ ง 08.30 น. ถงึ 16.30 น. ระยะเวลาระหว่าง 12.00 น. ถงึ 13.00
น. เปน็ เวลาพักผ่อนประจาวนั ซึ่งไม่นับรวมเป็นเวลาทางาน
3.3 พนกั งานที่ปฏิบัติงานเป็นกะหรือเปน็ ผลดั ให้มีวนั ทางาน เวลาทางานและวันหยุดเป็นไปตามระเบียบ
คาส่ังหรืออนมุ ัตผิ ูว้ ่าการท่ีกาหนดเกี่ยวกบั งานนัน ๆ ไว้

4. สิทธิการได้รับเงินค่าล่วงเวลาหรือคา่ ทางานในวนั หยุด
4.1 วันทางานปกติ เวลา 16.30 น. – 08.30 น. ไดร้ ับในอัตรา 1.5 เท่า
4.2 วันหยุดงาน เวลา 08.30 น. – 16.30 น. ได้รบั ในอัตรา 1 เท่า
4.3 วันหยดุ งาน เวลา 16.30 น. – 08.30 น. ไดร้ ับในอตั รา 3 เทา่
4.4 วนั หยุดชดเชย เบกิ ไดใ้ นอตั ราตามข้อ 4.2 และ 4.3 แล้วแต่กรณี

5. ลักษณะงานท่ีขออนุมัติปฏิบัติงานล่วงเวลา ต้องเป็นงานท่ีปฏิบัติเป็นครังคราว เพ่ือมิให้เกิดความเสียหาย
แก่กิจการงานหรือผู้ใช้ไฟฟ้า และจะต้องเป็นการปฏิบัติงานในขอบเขตหรือสถานท่ีที่พนักงานปฏิบัติ
ตามปกติ และต้องเปน็ ลักษณะงานในกรณีหนึง่ กรณใี ด ดงั นี
5.1 เร่งด่วนฉกุ เฉนิ หรือไมอ่ าจเลื่อนวนั เวลา ได้
5.2 เพอ่ื บริการหรอื ติดตอ่ กบั ประชาชนเกย่ี วกับกจิ การงาน
5.3 เพ่อื ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกับพนกั งานของ กฟภ. ทีม่ าจากหน่วยอ่ืน
5.4 เพ่ือปฏิบัติงานพิเศษชัว่ คราว
5.5 งานทีผ่ ูบ้ งั คับบัญชาเจา้ สังกัดวนิ ิจฉัยแลว้ เหน็ สมควรใหท้ างานล่วงเวลาหรือทางานในวนั หยดุ ได้

6. รายละเอียดประกอบการขออนุมัติ
6.1 เหตุผลทจี่ ะต้องปฏบิ ตั ิงานลว่ งเวลาหรอื ทางานในวนั หยุด

12

6.2 จานวนวันที่จะต้องปฏิบัติงานล่วงเวลาหรือทางานในวันหยุด รวมทังระยะเวลาตังแต่ช่วงไหนถึงช่วง
ไหน

6.3 รายช่ือพนักงานที่จะตอ้ งปฏบิ ัติงาน
6.4 ค่าใชจ้ า่ ยที่จะต้องจ่ายโดยประมาณ

กรณีเร่งด่วน หากล่าช้าจะเกิดความเสียหายขึน ให้ปฏิบัติงานไปก่อนได้เท่าที่จาเป็น แล้วรีบรายงาน
เหตผุ ล เพอ่ื เสนอขออนมุ ัติต่อไป
7. พนกั งานทไี่ มม่ ีสิทธิได้รบั เงนิ คา่ ลว่ งเวลาและค่าทางานในวนั หยุด
7.1 พนกั งานผมู้ ีหน้าทป่ี ฏบิ ัตงิ านประจาใหแ้ ล้วเสร็จเป็นประจาวนั หรอื ประจาเดือน
7.2 พนกั งานผูซ้ ง่ึ ปฏิบัติงานในระหว่างอยู่เวรตามหน้าที่
7.3 พนกั งานผซู้ ่ึงมีสทิ ธิได้รับคา่ เบียเลียงอยู่แล้ว
8. การคานวณช่ัวโมงการทางานและค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้างใหค้ านวณตามความ
เป็นจรงิ ไมม่ กี ารปดั เศษช่ัวโมงและปดั เศษสตางค์
9. ให้พนักงานที่ปฏิบัติงานล่วงเวลาตามอนุมัติ ส่งเรื่องขอเบิกเงิน โดยการนาแบบฟอร์มการลงเวลา
ปฏิบัติงานล่วงเวลาที่ทาทังหมด ท่ีผู้ควบคุมงานลงนามกากับแล้ว นาส่งเจ้าหน้าที่ ที่ทาการบันทึกเข้า
ระบบ SAP เพือ่ จ่ายผ่านบัญชีธนาคารเดือนละ 1 ครัง
10. ยกเลิกการขออนุมัติสั่งจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติงานล่วงเวลา ยกเว้นค่าใช้จ่ายท่ีเกิดขึนจริงมากกว่า
วงเงินท่ีประมาณ จะต้องขออนมุ ตั จิ า่ ยเพ่มิ เติม
(ข้อ 8-10 ตาม กรบ.(รบ.)116 ลว.26 เม.ย. 2549) **ยกเลิกแบบฟอรม์ ขออนุมัติทาล่วงเวลาปี 49 ใช้
ของปี 50
11. กรณีพนักงานจาก กฟฟ. หน่ึงไปปฏิบัติงานล่วงเวลาหรือทางานในวันหยุด ณ อีก กฟฟ. หน่ึง ในสังกัด
กฟข.พนักงานสามารถเบิกเป็นค่าล่วงเวลาและค่าทางานในวันหยุดได้ ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการมีอานาจอนุมัติ
แทน ผวก. (ผวก.(ป2) 1087/2542 ลว.19 ก.ค.2542)

13

ภาษมี ูลคา่ เพมิ่

1. รปู แบบใบกากบั ภาษี

1.1 ใบกากบั ภาษที ่ตี ีพิมพจ์ ากโรงพิมพ์ ตอ้ งมีข้อความทีจ่ ัดทาขึนโดยตีพิมพ์ ดังนี

1) ใบกากับภาษี

2) ชอ่ื ท่ีอยู่ เลขประจาตวั ผเู้ สียภาษอี ากรของผปู้ ระกอบการจดทะเบียน

3) เอกสารออกเป็นชุด

สาหรับขอ้ ความอื่น ๆ ตามท่ีกฎหมายกาหนด จะตพี มิ พ์ จัดทาขึนด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ ประทบั

ดว้ ยตรายาง เขยี นดว้ ยหมกึ พมิ พ์ดีด หรอื ทาใหป้ รากฏขึนดว้ ยวิธีอ่นื ใดก็ได้

1.2 ใบกากับภาษีท่ีพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ ต้องมีข้อความรายการใดรายการหน่ึงที่พิมพ์จากคอมพิวเตอร์

ดังนี

1) ใบกากับภาษี

2) ช่อื ท่อี ยู่ เลขประจาตัวผู้เสยี ภาษอี ากรของผู้ประกอบการจดทะเบียน

3) เอกสารออกเปน็ ชุด

สาหรับขอ้ ความอ่นื ๆ ตามท่ีกฎหมายกาหนด จะต้องจัดทาขึนดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์ทงั หมด

2. ข้อความที่ต้องปรากฏในใบกากับภาษี

สาระสาคญั คาอธบิ าย

2.1 คาวา่ “ใบกากับภาษี”

2.2 ช่ือ ทอี่ ยู่ และเลขประจาตวั ผู้ 1) ช่ือ หมายถึง ชื่อผู้ประกอบการตามที่ได้จดทะเบียน

เสยี ภาษอี ากรของ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรอื ชอ่ื สถานประกอบการ หรือชื่อการค้าของ

ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนทข่ี าย สถานประกอบการตามท่ไี ดจ้ ดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่มิ

สนิ คา้ หรือใหบ้ ริการ 2) ที่อยู่ หมายถึง ที่ตังสถานประกอบการตามท่ีได้จดทะเบียน

ภาษีมูลค่าเพ่ิม กรณีระบุท่ีอยู่ไม่ครบถ้วนตามท่ีจดทะเบียนฯ
แต่รายการท่ีอยู่ท่ีระบุไว้ถูกต้อง และสามารถบอกตาแหน่ง
ท่ีตังท่ีชัดเจนได้ ให้ถือว่าได้ระบุที่อยู่ครบถ้วนแล้ว (คาสั่ง
กรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 ขอ้ 4)

2.3 ชอ่ื ทอี่ ยขู่ องสานักงานการไฟฟ้า 1) ชื่อ หมายถึง ชื่อผู้ประกอบการตามที่ได้จดทะเบียนภาษี
ตามทจ่ี ดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพ่ิม มูลค่าเพ่ิม หรือชื่อสถานประกอบการ หรือชื่อการค้าของ
สถานประกอบการตามทีไ่ ดจ้ ดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพิ่ม

2) หากมีการระบุชื่อของ กฟภ. ตามท่ีได้จดทะเบียนภาษี

มูลค่าเพ่ิม (ภ.พ.20) ว่า “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” แล้วระบุ
รายละเอียดเพิ่มเติม ใบกากับภาษีฉบับดังกล่าวสามารถใช้

เครดติ ภาษีซอื ได้ เชน่
2.1 การไฟฟ้าสว่ นภูมภิ าค กองพฒั นาระบบไฟฟ้า
2.2 กองผลิตภัณฑค์ อนกรีต การไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาค

2.3 การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (งามวงศว์ าน)
2.4 การไฟฟ้าสว่ นภูมิภาค 7934
2.5 การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (ชื่อพนกั งาน)

14

2.6 การไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าค (0-13-961-3)
(ตจ. (ภษ.) 750/2546 ลว.17 ม.ี ค.2546)
3. กรณีระบุช่ือ โดยตัวสะกด สระ วรรณยุกต์ การันต์ ผิดพลาด
แตเ่ ป็นท่ีเหน็ ได้อยา่ งชัดเจนไมท่ าให้เกิดความเขา้ ใจผิดว่าเป็น
ผูป้ ระกอบการรายอ่นื ให้ถอื วา่ ไดร้ ะบชุ ื่อครบถ้วนแลว้
4. ท่ีอยู่ หมายถึง ท่ีตังสถานประกอบการตามท่ีได้จดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีระบุที่อยู่ไม่ครบถ้วนตามที่จดทะเบียนฯ
แต่รายการที่อยู่ท่ีระบุไว้ถูกต้อง และสามารถบอกตาแหน่ง
ทต่ี ังทช่ี ัดเจนได้ ให้ถือวา่ ไดร้ ะบทุ ีอ่ ยู่ครบถว้ นแลว้
(คาสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 ข้อ 4)
2.4 เลขทใี่ บกากบั ภาษี และเลม่ ที่
(ถ้ามี)
2.5 ชือ่ ชนิด ประเภท ปรมิ าณ และ
มลู คา่ ของสินค้าหรือบรกิ าร
2.6 จานวนภาษมี ูลคา่ เพิ่มทค่ี านวณ 1) เศษของภาษีมูลค่าเพ่ิม จานวนเงินตัวทส่ี ามหลังจุดทศนิยม มี
จากมลู ค่าของสนิ ค้าหรอื บริการ ค่าไม่ถึง 5 ให้ปัดเศษนันทิง เช่น 6.542 บาท ภาษีมูลค่าเพ่ิม
โดยใหแ้ ยกออกจากมลู ค่าของ ทแี่ สดงในใบกากบั ภาษีคือ 6.54
สนิ คา้ หรือคา่ บริการใหช้ ัดเจน 2) เศษของภาษมี ูลค่าเพ่ิม จานวนเงนิ ตวั ที่สามหลังจุดทศนิยม มี
ค่ า ตั ง แ ต่ 5 ขึ น ไ ป ใ ห้ ปั ด เ ศ ษ ขึ น เ ช่ น 6.778 บ า ท
ภาษีมลู คา่ เพม่ิ ที่แสดงในใบกากับภาษคี ือ 6.78 บาท
2.7 วนั เดอื น ปี ทีอ่ อกใบกากับภาษี
2.8 ขอ้ ความอ่นื ท่ีอธบิ ดีกาหนด (2.8.1 – 2.8.5)
ได้แก่
2.8.1 ผูข้ าย หรอื ผใู้ หบ้ ริการ ออก หากใบกากับภาษีไม่ได้เป็นเอกสารฉบับแรก ใบกากับภาษีต้องมี
ใบกากับภาษรี วมกับใบเสรจ็ รับ ข้อความวา่ “เอกสารออกเป็นชดุ ”
เงนิ ใบสง่ ของ ใบแจง้ หนี
2.8.2 ผขู้ าย หรือผูใ้ ห้บรกิ ารมีสถาน จะตอ้ งมีขอ้ ความว่า “สาขาทอ่ี อกใบกากบั ภาษคี ือ..................”
ประกอบการหลายแห่ง ใช้
ใบกากับภาษซี ึ่งระบทุ ่ีอยขู่ อง
สานักงานใหญ่
2.8.3 คา่ นามนั ค่าสินคา้ คา่ บริการท่ี ต้องระบุหมายเลขทะเบียนรถยนต์ให้ปรากฏในใบกากับภาษี
ใช้กับรถยนต์ ซ่งึ ผ้ขู าย หรือผู้ และระบุใหค้ รบถ้วนทังตวั เลขและตัวอักษร เช่น กท 2547 ชม
ใหบ้ ริการเป็นสถานีบริการ
นามนั
2.8.4 ระบุเลขประจาตัวผ้เู สียภาษี 1) สานักงานใหญ่ ใช้ข้อความวา่ “สานกั งานใหญ่” หรอื “สนญ”
อากรของผู้ซือสนิ คา้ ผู้รับบรกิ าร “HO” “HQ” หรือระบเุ ลขศนู ยจ์ านวนหา้ หลกั (00000)
และสถานประกอบการวา่ เป็น 2) สาขา ใช้ขอ้ ความว่า “สาขาที.่ ..” หรอื Branch No…”
“สานกั งานใหญ่” หรือ “สาขา “br. No..” หรอื ระบุเลขจานวนห้าหลกั เช่น 00001
ท่ี...”

15

2.8.5 ระบสุ ถานประกอบการของผู้ ระบเุ ช่นเดียวกบั ข้อ 2.8.4
ออกใบกากบั ภาษวี า่ เปน็
“สานกั งานใหญ่” หรอื “สาขา ข้อความตามข้อ 2.8.2 – 2.8.5 จะตีพิมพ์ จัดทาขึนด้วยระบบ
ท่ี...” คอมพิวเตอร์ ประทับด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึก พิมพ์ดีด หรือ
ทาใหป้ รากฏขนึ ด้วยวิธีอ่ืนใดกไ็ ด้

3. การระบุข้อความในใบกากับภาษีของ กฟย. (ฝกง.86/2558 ลว.23 มี.ค.2558 ตามประกาศอธิบดี
กรมสรรพากร (ฉบบั ท่ี 199-202)
3.1 ค่าใช้จ่าย ในการจัดซือ-จัดจ้าง ของ กฟย. ท่ีมีภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ใช้เลขประจาตัวผู้เสียภาษีอากรของ
กฟภ. สาหรับชื่อ-ท่ีอยู่ และเลขที่สาขา ให้ใช้ของหน่วยงานต้นสังกัดตามที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ภ.พ.20)
3.2 ค่าสาธารณูปโภค และมีภาษีมูลค่าเพ่ิม เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่านาประปา ท่ีผู้ออกระบุช่ือผู้ชาระเงนิ เป็น
กฟย. ให้ดาเนินการแจ้งหน่วยงานสาธารณูปโภคทาการเปลี่ยนประวัตชิ ื่อผู้ชาระเงินและเลขท่ีสาขาผู้
ชาระเงนิ ใหเ้ ป็นของ กฟฟ.ตน้ สงั กดั
3.3 กรณีเปลี่ยนประวัติตามข้อ 3.2 ไม่ได้ ให้แจ้งหน่วยงานผู้ออกเพิ่มข้อความต่อท้ายช่ือผู้ชาระเงิน ว่า
“ชาระเงินโดย การไฟฟา้ ..(ต้นสงั กัด)... และต้องมีรูปแบบสอดคลอ้ งกบั การออกใบกากบั ภาษี ดังนี
1) กรณีใบกากับภาษีท่ีพิมพ์จากโรงพิมพ์ ตามข้อ 1.1 การเพิ่มชื่อ กฟฟ. ต้นสังกัด สามารถตีพิมพ์
ประทับด้วยตรายาง เขยี นดว้ ยหมึก พิมพด์ ีด หรอื จดั ทาขนึ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ก็ได้
2) กรณีใบกากับภาษีที่จัดทาขึนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตามข้อ 1.2 การเพิ่มชื่อ กฟฟ. ต้นสังกัด
ตอ้ งจดั ทาดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์เท่านัน

4. ส่วนราชการประกาศเปล่ยี นแปลงขอ้ มลู ทะเบียนราษฎร์ / กรมสรรพากรไดแ้ จ้งเปล่ียนแปลงเลขประจาตัว
ผู้เสียภาษีอากรให้ใหม่ ผู้ประกอบการที่ออกใบกากับภาษีสามารถแก้ไขที่อยู่และลงชื่อกากับ หรือ
ประทับตรายางที่อยู่ท่ีถูกต้อง/ประทับตรายางเลขประจาตัวผเู้ สียภาษีอากรท่ีถูกต้อง เฉพาะใบกากับภาษี
ท่ไี ด้ออกในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันท่มี กี ารเปลีย่ นแปลง (คาสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.72/2541
ลว. 11 ม.ิ ย. 2541 และป.147/2557 ลว. 21 เม.ย. 2557)

5. ภาษซี อื ต้องหา้ ม
หากหน่วยงานได้รับใบกากับภาษีซือ ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี ถือเป็นภาษีซือต้องห้ามตามกฎหมาย

ไม่ให้นามาเครดติ ภาษซี อื
5.1 ไม่ได้ระบุชือ่ หนว่ ยงานเปน็ ผู้ซอื สินค้า ใช้บริการ (ใชช้ อ่ื พนกั งาน)
5.2 ขอ้ ความส่วนทีเ่ ป็นสาระสาคัญไม่ถกู ตอ้ ง ไม่ครบถ้วน ตามท่ีกฎหมายกาหนด
5.3 ใบกากับภาษอี ย่างย่อ
5.4 ใบกากบั ภาษที ีม่ ิได้ตพี ิมพ์ หรือจดั ทาด้วยระบบคอมพิวเตอรท์ ังฉบับ ตามทกี่ ฎหมายกาหนด
5.5 ภาษีซอื ท่ไี ม่เกย่ี วข้องโดยตรงกับกจิ การ

1) การซอื สินคา้ ทมี่ วี ัตถปุ ระสงค์เพอื่ การบรจิ าค

16

2) การซือสนิ ค้า ใช้บริการ ที่หนว่ ยงานรบั ผิดชอบชาระเงินไม่เต็มจานวนตามใบกากบั ภาษี (พนักงาน
รับผิดชอบบางส่วน) เช่น พนักงานมีสิทธิเบิกค่าท่ีพักเป็นเงิน 1,300.- บาท แต่มีใบกากับภาษี
1,500 บาท ใบกากับภาษีฉบับน้ี ไม่สามารถบันทึกรายการเป็นภาษีซื้อได้ เน่ืองจากค่าที่พัก
ส่วนทเี่ กินสทิ ธิที่พนกั งานรับผิดชอบ 200.- บาท ไมใ่ ชค่ ่าใชจ้ า่ ยของ กฟภ.

3) ค่ารับรอง ค่าใช้จ่ายในลักษณะเดียวกัน เช่น กระเช้าของขวัญ ค่าท่ีพัก ค่าอาหาร ค่าเคร่ืองด่ืม
ค่าใช้จา่ ยเพ่ือสันทนาการ เปน็ ต้น

5.6 ใบกากับภาษีจากการซือ เช่าซือ เช่า รับโอนรถยนต์ การซือสินค้า หรือการใช้บริการ ที่เก่ียวข้องกับ
รถยนตน์ ง่ั หรือรถยนตโ์ ดยสารทีม่ ีทน่ี ่งั ไม่เกิน 10 คน (เปน็ ภาษซี อื ตอ้ งหา้ มตามมาตรา 82/5 (6))

5.7 ใบกากบั ภาษซี ึง่ ออกโดยผู้ท่ไี ม่มสี ิทธอิ อก (ไม่ใชผ่ ปู้ ระกอบการจดทะเบียน) ผตู้ รวจสอบใบสาคญั จา่ ย
ตอ้ งนาเลขประจาตัวผู้เสียภาษี 13 หลกั ทรี่ ะบุในใบกากับภาษที ไ่ี ดร้ ับจากผู้ประกอบการ ไปค้นหาวา่
เป็นผูป้ ระกอบการทจ่ี ดทะเบียนหรอื ไม่จากเว็บไซต์
http://download.rd.go.th/publish/313.0.html

6. ใบกากับภาษีตามข้อ 5.1 – 5.4 ผู้ชาระเงินสามารถนาไปให้ผู้ออกใบกากับภาษีทาการยกเลิกฉบับเดิม
และออกฉบับใหม่ใหถ้ กู ตอ้ ง หากไม่ดาเนินการผู้ชาระเงนิ ตอ้ งรบั ภาระคา่ ภาษีมลู ค่าเพิ่ม

7. ใบกากับภาษีตามข้อ 5.5 – 5.6 ท่ีระบุชื่อ ที่อยู่ ถูกต้อง ครบถ้วนตามใบกากับภาษีมูลค่าเพ่ิม ให้เบิกจ่าย
ได้ไม่ตดั จา่ ยค่าภาษีมลู ค่าเพิ่ม

8. หน่วยงานได้รับใบเพ่มิ หนี ใบลดหนี ใหด้ าเนนิ การเช่นเดยี วกบั การได้รบั ใบกากบั ภาษี
9. ใบแทนใบกากับภาษี (ประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เก่ียวกบั ภาษมี ลู คา่ เพิม่ (ฉบับที่ 76)

9.1 หน่วยงานที่ต้นฉบบั ใบกากับภาษี ใบเพิ่มหนี ใบลดหนี สญู หาย ถกู ทาลาย หรือชารดุ ในสาระสาคัญ
ต้องขอใบแทนใบกากับภาษี ใบแทนใบเพิ่มหนี ใบแทนใบลดหนี โดยถือเป็นภาษีซือได้ภายใน 6
เดือนนับถัดจากเดือนที่ออกใบกากับภาษี เช่นใบกากับภาษีออกในวันท่ี 25 มกราคม 2563
สามารถนามาเครดติ ภาษซี อื ไดภ้ ายในเดือนกรกฎาคม 2563

9.2 หน่วยงานต้องได้รับภาพถ่ายสาเนาใบกากับภาษี สาเนาใบเพิ่มหนี หรือสาเนาใบลดหนี ที่ผู้ออก
ใบกากับภาษบี นั ทึกรายการดงั นี ลงในภาพถา่ ยหรือดา้ นหลงั ของภาพถ่าย
1) ใบแทนออกให้ครังท่ี...
2) วัน เดอื น ปี ท่ีออกใบแทน
3) คาอธบิ ายย่อ ๆ ถงึ สาเหตทุ ่อี อกใบแทน
4) ลงลายมอื ชอื่ ของผอู้ อกใบแทน

10. ใบกากบั ภาษที ย่ี กเลกิ ฉบบั เดิม แล้วออกใหม่
10.1 หน่วยงานท่ีได้รับใบกากับภาษีท่มี ีรายการในส่วนท่ีเป็นสาระสาคัญไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้ร้องขอให้
ผู้ออกใบกากับภาษียกเลิกใบกากบั ภาษีฉบบั เดิม และจัดทาใบกากบั ภาษีฉบบั ใหม่ท่ีถูกต้อง
10.2 หน่วยงานต้องได้รับต้นฉบับใบกากับภาษีฉบับใหม่ซ่ึงเป็นเลขที่ใหม่ แต่จะต้องลงวัน เดือน ปี ให้
ตรงกบั วนั เดอื น ปี ตามใบกากับภาษฉี บบั เดิม
10.3 ใบกากับภาษีฉบับใหม่ต้องมีหมายเหตุ “เป็นการยกเลิกและออกใบกากับภาษีฉบับใหม่แทนฉบับ
เดิมเลขท.ี่ ..เลม่ ท.่ี ..

17

10.4 หน่วยงานต้องถา่ ยเอกสารใบกากับภาษฉี บบั เดมิ (ฉบบั ท่ขี อยกเลิก) ตดิ เร่ืองไว้ และส่งมอบใบกากับ
ภาษฉี บับทขี่ อยกเลกิ คืนใหผ้ อู้ อกใบกากบั ภาษี

11. การบนั ทึกบัญชีภาษี
11.1 หน่วยงานท่ีได้รับใบกากับภาษี ต้องตรวจสอบสาระสาคัญให้ถูกต้องครบถ้วน ไม่เป็นภาษีซือ
ตอ้ งห้าม และต้องไมเ่ กนิ 6 เดือนนับถัดจากเดือนทอ่ี อกใบกากบั ภาษี
11.2 หน่วยงานท่ีบันทึกบัญชีภาษี ตรวจสอบใบกากับภาษี บันทึกบัญชีภาษีภายใน 3 วันทาการนับถัด
จากวันท่ีไดร้ ับใบกากับภาษี
11.3 กรณีเดือนที่บันทึกบัญชีภาษีไม่ตรงกับเดือนที่มีการออกใบกากับภาษี ผู้บันทึกบัญชีภาษีต้องระบุ
ข้อความว่า “ถือเป็นภาษีซือในเดือนภาษี...........” ไว้ในใบกากับภาษี โดยประทับด้วยตรายาง
เขยี นดว้ ยหมึก พมิ พด์ ีด หรือใหป้ รากฏขึนด้วยวิธีการอืน่ ใดในลกั ษณะเดียวกันก็ได้

12. ใบกากับภาษีมากกว่า 1 แผ่น โดยแต่ละแผ่นต้องมีรายการถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 86/4 (1) – (5)
และ 7 แห่งประมวลรัษฎากร และใบกากับภาษีที่ไม่ใช่แผ่นสุดท้ายจะต้องมีข้อความที่แสดงว่ามีใบกากับ
ภาษีแผ่นตอ่ ไปไว้ด้วย ซ่งึ ข้อความดังกล่าวจะเปน็ ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ สาหรบั รายการรวมของ
สินค้าหรือของบริการและจานวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คานวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการทังหมด จะ
ปรากฏในใบกากบั ภาษแี ผน่ สุดท้ายเทา่ นนั

13. กรณีระบุรหัสไปรษณีย์ผิด หรือไม่ระบุรหัสไปรษณีย์ ในใบกากับภาษี สามารถใช้เป็นใบกากับภาษีซือได้
เนื่องจากรหัสไปรษณยี ์ไมใ่ ช่รายการตามมาตรา 86/4

14. ภาษีซือคา่ รกั ษาพยาบาล เปน็ คา่ ใช้จา่ ยอนั เก่ียวเนอ่ื งกับสวัสดิการที่หน่วยงานให้แก่พนกั งานทุกคนโดยไม่
เลอื กปฏิบัติ และมีการกาหนดไว้อย่างชัดเจน ยอ่ มเปน็ ค่าใช้จ่ายเกย่ี วเน่ืองโดยตรงกับการประกอบกิจการ
สามารถนามาเครดิตภาษซี อื ได้

15. ใบกากบั ภาษีซือค่าท่ีพัก ถ้าไม่ไดร้ ะบุจานวนห้อง และจานวนวันท่ีใช้บริการไว้ จะเปน็ ภาษีซือต้องหา้ ม ไม่
สามารถนาใบกากบั ภาษีมาเครดติ ภาษไี ด้

16. ใบกากับภาษีค่าเบียเลียง / ที่พัก ต้องระบุช่ือผู้ซือ/ผู้รับบริการในนามของ กฟข. หรือ กฟฟ. ท่ีเป็นผู้
จ่ายเงนิ (การเพ่มิ ช่ือ-นามสกุลของผเู้ บกิ อยใู่ นวงเลบ็ ต่อท้ายจะมหี รือไม่มีก็ได้ไมต่ ้องห้ามตามกฎหมาย)

18

ระเบียบการไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าค
ว่าด้วยยานพาหนะและนา้ มัน พ.ศ. 2546

1. “ยานพาหนะ” หมายความถึง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ เครอ่ื งจักรกลอนื่ ๆ ทจ่ี ดทะเบียนกบั กรมการ
ขนส่งหรือกรมเจ้าท่าที่ใช้ในกิจการของ กฟภ. แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะของพนักงานท่ีนามาใช้ในกิจการ
ของ กฟภ.

2. ระเบียบ กฟภ. ว่าด้วยยานพาหนะและนามนั (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2550 แก้ไขคาวา่ “นามันและนามัน
เชอื เพลงิ ” เป็นคาวา่ “เชอื เพลงิ ” และคาวา่ “นามนั หลอ่ ลื่น” เปน็ คาว่า “สารหลอ่ ล่ืน”

3. เครื่องตัดหญ้า เครื่องป้ัมลม เลื่อยยนต์ เครื่องกาเนิดไฟฟ้า ท่ีไม่ได้จดทะเบียนกับกรมการขนส่ง ไม่เป็น
ยานพาหนะตามระเบียบนี (ไม่ต้องใช้ ยพ.1 ในการส่ังจ่ายน้ามัน ให้ดาเนินการขออนุมัติจัดซื้อตาม
พรบ.การจดั ซอื้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560)

4. การเบกิ จา่ ยเชือเพลิงและค่าบารุงรกั ษาสาหรบั ยานพาหนะส่วนตวั
4.1 พนักงานที่มีสิทธิเบิกจ่ายเชือเพลิงและค่าบารุงรักษา ให้หมายถึงพนักงานท่ีมีคาสั่งบรรจุและแต่งตัง
เป็นพนักงานประจา ท่ีนายานพาหนะส่วนตัวมาใช้เพื่อกิจการของ กฟภ. และต้องเป็นพนักงานซ่ึงทา
หนา้ ทดี่ ังตอ่ ไปนี
4.1.1 เก็บเงนิ
4.1.2 จดหน่วย, ส่มุ หนว่ ย
4.1.3 ตัดมิเตอร์, ตดิ มิเตอร์, ตรวจมเิ ตอร์
4.1.4 สารวจคารอ้ งเพอื่ ขยายเขตหรือขอใช้ไฟฟ้า
4.1.5 ส่งหนงั สือประจา
4.1.6 เร่งรดั ตดิ ตามหนี
4.1.7 สบื ราคาจัดซือ จัดจา้ ง

5. พนักงานตามข้อ 4.1 จะต้องมีหน้าที่หรือได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ออก
ปฏบิ ตั งิ าน หรือตดิ ตอ่ กบั หนว่ ยงาน หรอื บุคคลภายนอกเป็นประจาไมน่ ้อยกว่าเดือนละ 10 วันทาการ

6. สิทธิในการเบิกจ่ายเชือเพลิงให้เบิกได้เท่าท่ีใช้จริง ตามชนิดของเชือเพลิงที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้
ยานพาหนะนัน ในกรณีที่ไม่มีคู่มือการใช้ยานพาหนะมาแสดง ให้เบิกได้เฉพาะเชือเพลิงเบนซินออคเทน
91 แต่ไมเ่ กนิ อตั ราท่กี าหนดไวด้ งั ต่อไปนี
6.1 ยานพาหนะที่มีขนาดความจุกระบอกสบู ไม่เกนิ 50 ซีซ.ี จา่ ยเดือนละ 20 ลติ ร
6.2 ยานพาหนะที่มขี นาดความจุกระบอกสบู เกนิ 50 ซซี ี. แต่ไม่เกิน 75 ซซี ี. จา่ ยเดือนละ 30 ลิตร
6.3 ยานพาหนะท่มี ีขนาดความจุกระบอกสบู เกิน 75 ซีซ.ี แต่ไม่เกนิ 100 ซีซ.ี จ่ายเดอื นละ 40 ลิตร
6.4 ยานพาหนะท่ีมีขนาดความจุกระบอกสูบเกิน 100 ซซี ี. แตไ่ มเ่ กนิ 500 ซีซี. จ่ายเดือนละ 60 ลิตร
6.5 ยานพาหนะท่ีมีขนาดความจุกระบอกสบู เกนิ 500 ซีซี. ขึนไป จ่ายเดือนละ 80 ลิตร

7. ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ ผู้อานวยการกอง ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 หรือผู้รักษาการแทน เป็นผู้มีอานาจอนุมัติ
โดยใหเ้ สนอเหตผุ ลและขอ้ มลู ท่จี าเป็นตามแบบฟอร์ม สร.16-ป.46

19

8. สิทธิในการเบิกค่าบารุงรักษายานพาหนะทุกขนาด ให้เบิกได้เดือนละ 150 บาท หากเดือนใดพนักงานไม่
ใชส้ ิทธิในการเบิกจ่ายค่าเชือเพลงิ ก็ให้หมดสทิ ธใิ นการเบิกค่าบารุงรกั ษาเดอื นนนั ด้วย

9. ผู้มีอานาจลงนามในใบส่ังจ่ายเชือเพลิงเพ่ือใช้กับยานพาหนะ (ย.พ.1) ได้แก่ ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซือตาม
คาสั่ง กฟภ. ท่ี พ.(ม)69/2562 เร่ืองมอบอานาจอนุมัติส่ังซือ สั่งจ้าง และส่ังเช่า และพนักงานผู้ซึ่งดารง
ตาแหน่ง หรือรกั ษาการแทน ดังต่อไปนี
9.1 รองผอู้ านวยการกอง
9.2 ผชู้ ่วยผอู้ านวยการกอง
9.3 ผ้ชู ว่ ยผู้จัดการ
9.4 หัวหน้าแผนกบญั ชแี ละประมวลผล
9.5 หัวหน้าแผนกบัญชแี ละการเงนิ
9.6 หวั หน้าแผนกกอ่ สร้าง
9.7 หวั หน้าแผนกกอ่ สรา้ งและปฏิบัตกิ าร
9.8 หวั หนา้ แผนกทไี่ ดร้ ับมอบหมายให้ควบคุมยานพาหนะ นัน ๆ
9.9 หวั หน้าแผนกโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีต
9.10 ผจก.การไฟฟ้าสาขายอ่ ย

10. ตามข้อ 9 มอี านาจลงนามในใบ ย.พ.1 สาหรับยานพาหนะดงั นี
10.1 ยานพาหนะของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และยานพาหนะส่วนตัวของพนักงานที่ได้รับอนุมัติให้
นามาใชง้ านและเบกิ จา่ ยเชือเพลงิ ซง่ึ ยานพาหนะดงั กลา่ วใช้งานประจาอยทู่ ห่ี น่วยงานนัน ๆ
10.2 ยานพาหนะซ่ึงได้จัดส่งไปปฏิบัติงานในท้องที่รับผิดชอบของหน่วยงานนันเป็นครังคราว โดยท่ีงาน
นันมปี ระมาณการคา่ ใช้จา่ ยและงบเงิน ซ่ึงมอี นุมัตแิ ละกาหนดให้จ่ายเงินที่หนว่ ยงานนัน ๆ ได้
10.3 กรณีหน่วยงานอื่นมาปฏิบัติงานในพืนที่ เช่น กฟจ.เชียงราย นายานพาหนะมาปฏิบัติงานในพืนท่ี
กฟจ.ลาปาง เป็นการชั่วคราว แต่ไม่มีงบเงินหรืออนุมัติกาหนดให้จ่ายเงินของงานที่มาปฏิบัติงานที่
กฟจ.ลาปาง ผู้สั่งจ่ายนามันของ กฟจ.ลาปาง ไม่สามารถลงนามสั่งจ่ายนามันในใบ ย.พ.1 ให้แก่
กฟจ.เชียงราย ที่มาปฏบิ ัตงิ านได้

11. การใชย้ านพาหนะเพือ่ ตดิ ต่องาน หรือปฏบิ ตั ิงานท่ีเกยี่ วกบั กจิ การของ กฟภ.

กฟฟ.ทีย่ านพาหนะสงั กัด ไปปฏบิ ตั ิงานที่ ผอู้ นุมตั ิ

1 กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.1) กฟฟ.ชนั 1 หรือ 2 หรือ 3 ต้นสงั กัด ผจก.กฟส., กฟย.

2 กฟฟ.ชัน 1 หรอื 2 หรอื 3 กฟน.1 ผจก.กฟฟ. ชัน 1 หรอื 2

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.2) หรอื 3

3 กฟน.1, กฟฟ.ชนั 1 หรือ 2 หรือ 3 , กฟฟ.ในเขต กฟน.1 ทงั หมด และ ผชก.(น1)

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.3) หรือ กฟฟ.ในเขตอน่ื

4 กฟน.1, กฟฟ.ชัน 1 หรอื 2 หรือ 3 , เพ่อื รับสง่ พัสดอุ ุปกรณ์ไฟฟ้าในภาค ผชก.(น1) (มีอานาจอนุมัติ

กฟส., กฟย. (ข้อ 11.2.5.4) เดยี วกนั หรอื สงั่ การพนักงาน)

20

รกั ษาการแทนและปฏิบัตงิ านแทน

1. รกั ษาการแทน (สกม.173/2557 ลว.11 เม.ย.2557)
หมายความวา่ ปฏิบัตหิ น้าท่ีแทนช่วั คราว
1.1 ตามข้อ 9 วรรคแรก แหง่ ขอ้ บงั คับ กฟภ. ว่าด้วยระเบียบพนกั งาน พ.ศ. 2517 กาหนดว่า
“เม่ือตาแหนง่ พนกั งานใดวา่ งลงและผูว้ ่าการยังมิไดแ้ ตง่ ตังพนักงานผใู้ ดใหด้ ารงตาแหนง่ หรือรักษาการ
ในตาแหน่ง หรือพนักงานตาแหน่งใดไม่อาจปฏิบัติงานได้ ให้พนักงานตาแหน่งรองหรือผู้ช่วยตาแหน่ง
นันแล้วแต่กรณี เป็นผู้รักษาการแทน ถ้าไม่มีตาแหน่งรองหรือผู้ช่วย หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติงานได้ ให้
ผู้บังคับบัญชาชันเหนือตาแหน่งท่ีวา่ งหรือที่ไม่อาจปฏบิ ัติงานไดน้ ัน แต่งตังพนักงานท่ีเห็นสมควรเป็นผู้
รกั ษาการแทน”
1.2 ตามข้อ 10 วรรคแรก แห่ง ข้อบงั คับ กฟภ. วา่ ด้วยระเบียบพนักงาน พ.ศ. 2517 กาหนดว่า

“ใหผ้ ้รู กั ษาการแทนตามข้อ 9 วรรคแรก มีอานาจหน้าที่เช่นเดียวกับผ้ซู ึ่งตนแทน”
ความหมายของ “รักษาการแทน” แยกองค์ประกอบได้ดงั นี้.-

กรณที ี่มตี าแหน่ง รอง หรือ ผู้ชว่ ย ข้อบังคบั ใหเ้ ป็นผ้รู ักษาการแทน (อตั โนมตั ิ)

1 ตาแหน่งพนักงานคนใด ว่างลง และยังไม่มี ให้พนักงานตาแหนง่ (เรยี งตามลาดับ)

การแตง่ ตงั พนกั งานผู้ใดใหด้ ารงตาแหน่ง 1) รอง ตาแหนง่ นัน หรอื

2) ผ้ชู ว่ ย ตาแหน่งนนั

2 พนักงานตาแหน่งใด ไมอ่ าจปฏบิ ตั ิงานได้

(เช่นไปราชการ หรือ ลา)

ตวั อยา่ ง 1

กรณีท่ีมตี าแหนง่ รอง หรือ ผชู้ ่วย ข้อบังคบั ให้เปน็ ผู้รักษาการแทน (อตั โนมตั ิ)

1 ผจก.กฟจ.เชยี งใหม่ ให้ รจก./ชจก. กฟจ.เชยี งใหม่ เป็นผรู้ กั ษาการแทน โดย

จาเป็นต้องแต่งตังเป็นหนังสือโดยเรียงลาดับรักษาการ

แทน เพราะอาจอยูแ่ ละสามารถปฏบิ ัตงิ านได้ทงั สองคน

2 หผ.บห.กฟจ.เชียงใหม่ ให้ ชผ.บห. กฟจ.เชียงใหม่ เป็นผู้รักษาการแทน โดยไม่

ต้องแต่งตังเป็นคาสงั่

ผู้รักษาการแทนตาแหน่งดังกลา่ วให้ถือว่ามีอานาจหน้าทเ่ี ช่นเดยี วกับ ผจก.กฟจ.เชยี งใหม่ หรอื

หผ.บห.กฟจ.เชยี งใหม่

21

กรณที ่ีไม่มตี าแหน่ง รอง หรือ ผ้ชู ่วย หรือ ข้อบังคบั

มแี ตไ่ ม่อาจปฏบิ ตั ิงานได้

1 ตาแหน่งพนักงานคนใด ว่างลง และยังไม่มี ให้ผู้บังคับบัญชาชันเหนือตาแหน่งท่ีว่างหรือที่

การแตง่ ตงั พนักงานผู้ใดใหด้ ารงตาแหนง่ ไม่อาจปฏิบัติงานได้นัน แต่งตังพนักงานท่ี

เห็นสมควรเป็นผูร้ ักษาการแทน

2 พนักงานตาแหนง่ ใด ไมอ่ าจปฏิบตั ิงานได้

(เช่นไปราชการ หรือ ลา)

ตัวอย่าง 2

กรณีท่ีไม่มตี าแหนง่ รอง หรอื ผชู้ ่วย หรือ ขอ้ บังคับ

มีแต่ไมอ่ าจปฏบิ ัติงานได้

1 ผจก.กฟจ.เชยี งใหม่ ผชก.(น1) เป็นผู้แต่งตังพนักงานท่ีเห็นสมควร

เปน็ ผู้รกั ษาการแทน ผจก.กฟจ.เชยี งใหม่

2 หผ.บห.กฟจ.เชียงใหม่ ผจก. กฟจ.เชียงใหม่ เป็นผู้แต่งตังพนักงานที่

เห็นสมควรเป็นผู้รักษาการแทน หผ.บห.กฟจ.

เชยี งใหม่

ผูร้ กั ษาการแทนตาแหน่งดังกลา่ วให้ถือว่ามีอานาจหน้าทีเ่ ช่นเดยี วกบั ผจก.กฟจ.เชียงใหม่ หรอื

หผ.บห.กฟจ.เชียงใหม่

1.3 การแต่งตงั ให้รักษาการแทน หากไม่ได้รบั การแต่งตังทถี่ ูกต้อง นิติกรรมหรือคาส่งั ที่ได้กระทาไปแล้ว
ไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย (นก.(บห.)122/2549 ลว.24 ม.ค.2549)

1.4 กรณี กฟฟ. มี รจก. 2 คน และต้องการแต่งตังเรียงลาดับผรู้ ักษาการแทน เป็นอานาจแต่งตังของ
ผชก.น.1

2. ปฏิบัตงิ านแทน
2.1 ตามข้อ 9 วรรคสอง แหง่ ขอ้ บังคับ กฟภ. ว่าดว้ ยระเบียบพนกั งาน พ.ศ. 2517 กาหนดว่า
“อานาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ หรือการปฏิบัติงาน ที่ผู้ดารงตาแหน่งใดจะพึงปฏิบัติหรือ
ดาเนินการตามคาส่ัง ระเบียบ หรือข้อบังคับในเรื่องใด ถ้าคาส่ัง ระเบียบ หรือข้อบังคับในเร่ืองนันมิได้

กาหนดเรื่องการมอบอานาจไว้เป็นอย่างอื่น จะมอบอานาจโดยทาเป็นหนังสือให้ผู้ดารงตาแหน่งรอง

หรือผู้ช่วยแล้วแต่กรณีปฏิบัติงานแทน หรือถ้าไม่มีตาแหน่งรองหรือผู้ช่วย หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติงาน
ได้ จะมอบอานาจโดยทาเป็นหนังสอื ใหพ้ นักงานทเ่ี หน็ สมควรปฏบิ ัตงิ านแทนก็ได้”
2.2 ตามข้อ 10 วรรคสอง แห่ง ข้อบังคับ กฟภ. วา่ ด้วยระเบยี บพนักงาน พ.ศ. 2517 กาหนดว่า
“ในกรณีท่ีผูด้ ารงตาแหน่งใดหรือผู้รักษาการแทนผู้ดารงตาแหนง่ นนั มอบอานาจให้ผู้ดารงตาแหน่งอื่น
ปฏิบัติงานแทน ให้ผู้ปฏิบัติงานแทนมีอานาจหน้าท่ีในกิจการเท่าท่ีได้รับมอบหมายเช่นเดียวกับผู้ซึ่ง

มอบอานาจ”

22

ความหมายของ “ปฏิบัติงานแทน” แยกองค์ประกอบได้ดงั นี้.-

กรณีทอานาจในการส่ัง อนุญาต อนุมัติ หรือการปฏิบัติงานของผู้ดารงตาแหน่งใด ถ้ามิได้กาหนดเรื่องการ

มอบอานาจให้ผู้อ่ืนปฏบิ ัตงิ านแทนไวเ้ ป็นอยา่ งอืน่ (กรณีไมห่ ้าม) ผู้นน้ั ย่อมมอบอานาจได้ ดงั น.ี้ -

1 มตี าแหน่ง รอง หรอื ผชู้ ่วย มอบอานาจโดยทาเป็นหนังสือใหผ้ ดู้ ารงตาแหนง่ รอง หรือ
ผู้ชว่ ยแล้วแตก่ รณีปฏิบตั ิงานแทน (เรยี งลาดับก่อนหลงั )
2 ไมม่ ีตาแหนง่ รอง หรือ ผู้ชว่ ย
หรือมีแต่ไม่อาจปฏบิ ตั งิ านได้ มอบอานาจโดยทาเป็นหนงั สือให้พนักงานทเ่ี ห็นสมควร
ปฏบิ ตั งิ านแทนก็ได้

ตัวอย่าง เรอ่ื งทีม่ อบอานาจให้ปฏิบัตงิ านแทน “ไมไ่ ด้” และ ปฏิบตั ิงานแทน “ได”้
ปฏบิ ตั ิงานแทน “ไม่ได้”

1 การอนุมัติเกี่ยวกบั การซือ / จ้าง / เชา่
2 อานาจอนุมตั ิสั่งจา่ ยเงนิ ตามระเบียบ กฟภ. วา่ ด้วยการเงิน เป็นอานาจเฉพาะตาแหน่ง

ปฏบิ ัติงานแทน “ได้”
1 อนญุ าตเกีย่ วกับการลาประเภทต่าง ๆ ของพนักงานแผนก.........................
2 กากับ ควบคุม ดแู ล และบรหิ ารงานท่ีอยู่ในความรับผดิ ชอบของแผนก................

23

ระเบียบการไฟฟา้ ส่วนภมู ิภาค
ว่าด้วยการจัดเวรและการจา่ ยเงินค่าอย่เู วรแก้ไฟฟา้ ขัดขอ้ ง พ.ศ. 2560

1. ผ้มู ีสทิ ธิอยเู่ วรแก้ไฟฟ้าขดั ขอ้ ง จะต้องไดร้ ับคาส่ังหรอื อนุมัติเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร ไดแ้ ก่
1.1 พนักงาน หมายถึง พนักงานซึ่งได้มีคาสั่งบรรจุและแต่งตังให้เป็นพนักงาน หรือพนักงานซ่ึงได้มีคาส่ัง
ใหท้ ดลองปฏิบัตงิ าน ทงั นไี ม่รวมถึงคนงานรายวนั ชั่วคราว
1.2 ลูกจ้างรายเดือน (อนุมัติ ผวก. ลว.8 พ.ค.2549 ต่อท้ายหนังสือท่ี รบ.(พส)414/2549 ลว.27 เม.ย.
2549)

2. อานาจอนุมัตใิ ห้อยเู่ วรแก้ไฟฟ้าขัดข้อง ได้แก่ ผู้จดั การการไฟฟา้ หรือผดู้ ารงตาแหน่งสงู กวา่ แลว้ แตก่ รณี
3. วนั ทางานและเวลาทางาน

3.1 วันทางาน ไดแ้ ก่ ทกุ วันของสปั ดาห์ เว้นวันหยดุ งานประจาสัปดาห์ และวนั หยุดงานตามประเพณี
3.1.1 วันหยดุ งานประจาสปั ดาห์ ได้แก่ วนั เสาร์และวนั อาทิตย์
3.1.2 วันหยุดงานตามประเพณี ได้แก่ วันที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประกาศให้เป็นวันหยุดงาน
ประจาปี

3.2 เวลาทางาน ได้แก่ ระยะเวลาระหว่าง 08.30 – 16.30 น. ซ่ึงระยะเวลาระหว่าง 12.00 – 13.00 น.
เป็นเวลาพกั ผ่อนประจาวนั ซ่ึงไมน่ ับรวมเปน็ เวลาทางาน

4. การจัดให้อยู่เวรแกไ้ ฟฟา้ ขัดข้องนอกเวลาปฏบิ ตั งิ าน
4.1 วันทางานปกติใหจ้ ดั เวรระหวา่ งเวลา 16.30 – 08.30 น. ของวนั รุง่ ขึน
4.2 วันหยุดงานให้จัดเวรระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. และระหว่างเวลา 16.30 – 08.30 น. ของ
วันรุ่งขนึ

5. หวั หนา้ เวรแก้ไฟฟ้าขัดข้องและพนักงานท่ีอยูเ่ วรแก้ไฟฟา้ ขัดข้องมีสทิ ธกิ ารรับเงนิ ดงั นี
5.1 วันทางานปกติ เวรระหว่างเวลา 16.30 – 08.30 น. ของวันรุ่งขึน ให้หัวหน้าเวรฯ มีสิทธิได้รับเงินค่า
อยเู่ วรคนละ 180 บาท และพนักงานที่อยเู่ วรฯ มีสทิ ธิไดร้ ับเงนิ คา่ อยเู่ วรคนละ 150 บาท
5.2 วันหยดุ งาน
5.2.1 เวรระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ใหห้ ัวหน้าเวรฯ มสี ทิ ธิได้รับเงินค่าอยูเ่ วรคนละ 205 บาท
และพนักงานที่อยเู่ วรฯ มีสทิ ธิไดร้ ับเงินค่าอยู่เวรคนละ 175 บาท
5.2.2 เวรระหว่างเวลา 16.30 – 08.30 น. ของวันรุง่ ขึนให้มีสทิ ธเิ ชน่ เดยี วกบั ข้อ 5.1
5.3 การไฟฟ้าสาขาย่อย ท่ีมีการจัดเวร 1 คน กรณีมีความจาเป็นเร่งด่วนหรือฉุกเฉินต้องไปปฏิบัติงาน
นอกสถานท่ี ให้เลือกเบิกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างค่าล่วงเวลา/ค่าทางานในวันหยุด ตามเวลาท่ี
ปฏิบัติงานจริง หรือค่าอยู่เวรในอัตราหัวหน้าเวรแก้ไฟฟ้าขัดข้องท่ีกาหนดให้ (รบ.(รบ)254 ลว.20
ก.ย.2547)

6. สทิ ธกิ ารรบั เงินคา่ ลว่ งเวลาและคา่ ทางานในวนั หยุด ในชว่ งเวลาทอี่ อกปฏบิ ัติงานนอกสถานท่ี
6.1 ปฏบิ ตั ิงานนอกสถานที่ในเวลาตามข้อ 5.1 มสี ทิ ธไิ ดร้ บั เงินคา่ ล่วงเวลาในอัตรา 1.5 เทา่ ของเงินเดือน
หรือคา่ จ้าง ซึ่งคานวณเป็นรายชั่วโมง ตามจานวนชัว่ โมงทปี่ ฏบิ ตั งิ าน
6.2 ปฏิบัติงานนอกสถานท่ีในเวลาตามข้อ 5.2.1 มีสทิ ธิได้รับเงินค่าลว่ งเวลาในอัตรา 1 เทา่ ของเงินเดือน

หรือคา่ จ้าง ซ่งึ คานวณเปน็ รายชัว่ โมง ตามจานวนช่วั โมงทป่ี ฏิบัตงิ าน

6.3 ปฏิบัตงิ านนอกสถานท่ีในเวลาตามข้อ 5.2.2 มีสิทธิได้รบั เงินค่าล่วงเวลาในอตั รา 3 เทา่ ของเงินเดือน

หรอื ค่าจ้าง ซึ่งคานวณเปน็ รายช่วั โมง ตามจานวนชัว่ โมงทีป่ ฏบิ ัตงิ าน

24

6.4 กรณีที่มีวันหยุดชดเชย เนื่องจากวันหยุดงานตามประเพณีตรงกับวันหยุดงานประจาสัปดาห์

พนักงานท่ีมาปฏิบัติงานในวันหยุดชดเชยมีสิทธิเบิกค่าล่วงเวลาและค่าทางานในวันหยุดได้ตาม 6.2

หรอื 6.3 แล้วแตก่ รณี

7. การคานวณจ่ายเงนิ คา่ ลว่ งเวลาและคา่ ทางานในวนั หยดุ ของพนักงานรายเดือนใหค้ านวณดงั นี

อัตรา 1 เทา่ ต่อชั่วโมง = เงินเดือน + คา่ ครองชีพ

จานวนชั่วโมงทางานในหน่งึ เดือน (210 ชั่วโมง)

อัตรา 1.5 เทา่ ต่อชั่วโมง = อตั รา 1 เทา่ ต่อชวั่ โมง x 1.5

อัตรา 3 เทา่ ต่อชั่วโมง = อัตรา 1 เทา่ ต่อช่วั โมง x 3

8. การคานวณค่าล่วงเวลาและค่าทางานในวันหยุดของพนักงาน ทังในวันปฏิบัติงานตามปกติ วันหยุดงาน

ประจาสัปดาห์ วันหยุดงานตามประเพณี และวันหยุดชดเชย ให้คานวณช่ัวโมงการทางาน และ

คา่ ตอบแทนการปฏบิ ตั งิ าน ให้คานวณตามความเป็นจริง ไมม่ กี ารปัดเศษช่ัวโมง และปดั เศษสตางค์

9. ให้ ผจก.กฟฟ.ชัน 1-3 เป็นผู้อนุมัติส่ังจ่ายเงินค่าล่วงเวลา และค่าทางานในวันหยุด (หนังสือมอบหมายท่ี

น.1 พ.4/2564 ลว.15 ม.ค.2564 ทงั นีตงั แตว่ นั ที่ 15 ม.ค. – 30 ก.ย. 2564)

10. กรณีนาเครื่องกาเนิดไฟฟ้าสารองไปติดตังและเตรียมความพร้อม ณ จุดที่ต้องรับเสด็จฯ หรือต้อนรับ

บุคคลสาคัญ หรือบริเวณจัดงาน ให้ กฟฟ.นัน ๆ จัดพนักงานอยู่เวรขึนอีกชุดหน่ึง โดยให้มีสิทธิเบิกเป็น
ค่าล่วงเวลาและค่าทางานในวันหยุดสาหรับการปฏิบัติงานท่ีไม่เกิน 5 วัน หากต้องปฏิบัติงานเกิน 5 วัน
และอยใู่ นท้องทเี่ ดยี วกันให้จัดชุดปฏบิ ัตงิ านแก้ไฟฟา้ ขดั ข้องเปน็ กะ แต่หากต้องเดนิ ทางไปปฏบิ ตั งิ านต่าง

ท้องท่ีให้เบิกเป็นค่าเบียเลียงท่ีพัก เนื่องจากถือว่าไม่ได้เป็นการนอนเวรตามปกติ แต่พนักงานต้อง
ปฏบิ ัติงานดแู ลเคร่อื งและเตรียมพรอ้ มเสมอ
11. กรณีต้องไปปฏิบัติงาน ณ พระตาหนกั ท่ีประทับ ให้เบิกจ่ายเงินไดต้ ามกรณีดังนี

11.1 กรณีต้องอยู่ประจาท่ีพระตาหนักตลอดเวลาช่วงที่เสด็จประทับหากพระตาหนักอยู่ในท้องที่
เดียวกันกับท่ีพนักงานสังกัด ให้จัดพนักงานปฏิบัติงานแก้ไฟฟ้าขัดข้องเป็นกะขึนอีกชุดหนึ่งไป
ประจา ณ พระตาหนัก โดยให้มีสิทธิเบิกค่าพาหนะเป็นกรณีพิเศษ แต่หากพระตาหนักอยู่ต่าง

ท้องท่ี ให้ กฟฟ.จดั พนกั งานไปปฏบิ ตั ิงานโดยให้เบกิ เปน็ คา่ เบยี เลียง-ทพ่ี กั ไดต้ ามสทิ ธิ
11.2 กรณีไม่ต้องอยู่ประจาที่พระตาหนักให้ใช้เวรประจาตามปกติอยู่เวรประจาท่ีสานักงานโดย ให้

เบิกจา่ ยคา่ อยเู่ วรตามขอ้ 5 และหากตอ้ งไปปฏิบัตงิ านแก้ไฟฟ้าขดั ข้องท่ีพระตาหนกั ให้เบิกเป็นค่า

ลว่ งเวลา
12. พนักงานท่ีอยู่เวรแก้ไฟฟ้าขัดข้องเป็นกะ ตามข้อ 10 และ 11 ให้มีสิทธิได้รับเงินเพ่ิมพิเศษสาหรับการ

ปฏบิ ัตงิ านกะดว้ ย

*** (ข้อ 10 – 12 ตามอนมุ ตั ิ ผวก.ลว. 7 พ.ย. 2543 ท้ายหนงั สอื ท่ี กอร.8/2543 ลว. 9 พ.ย.2543)
13. หากพนักงานอยู่เวรแก้กระแสไฟฟ้าขัดข้องปฏิบัติงานนอกเวลาทางาน (12.00 น. – 13.00 น.) ใน

วันหยุดประจาสัปดาห์หรือวันหยุดงานตามประเพณี ให้มีสิทธิได้รับเงินค่าล่วงเวลาได้ตามข้อ 6.3 (3

เทา่ ) (ตบ.2754 ปี 2527)
14. จัดที่นอนให้พนักงานอยู่เวรแก้กระแสไฟฟ้าขัดข้องเป็นสัดส่วน มีของใช้ท่ีจาเป็น เช่น เครื่องนอน

ครบถ้วน พร้อมทังจัดจ้างให้มีการซักผ้าปูท่ีนอน ปลอกหมอน ทุกครังที่มีการเปลี่ยนเวร จัดให้มีห้อง
อาบนา ห้องสุขภัณฑ์ และที่เก็บของ (ล๊อคเกอร์) ให้แก่พนักงานตามความเหมาะสมและถูกสุขลักษณะ
(สร.(ปร.)148/2541 ลว.3 ส.ค.2541)

25

ระเบียบการไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค
วา่ ดว้ ยเงนิ ชดเชยการใช้ยานพาหนะส่วนตวั เดินทางไปปฏิบตั งิ าน พ.ศ. 2560

1. เงินชดเชย หมายความว่า เงินค่าพาหนะที่เหมาจ่ายให้เป็นค่าใช้จ่ายสาหรับการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
เดนิ ทางไปปฏิบัติงานให้กบั การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค

2. ยานพาหนะส่วนตัว หมายความว่า รถยนต์ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ มี 3 ชนดิ
ดังนี
2.1 รถยนต์ที่มีทีน่ ั่งไม่เกิน 7 ท่ีนั่ง (รถเก๋ง)
2.2 รถยนต์ทม่ี ีที่นั่งไมเ่ กนิ 12 ท่ีน่ัง (รถตู้)
2.3 รถยนต์ทีม่ ีนาหนักไมเ่ กิน 1,600 กิโลกรัม (รวมรถบรรทุกขนาดเล็ก)
ทังนี ไม่ว่ารถยนต์ดังกลา่ วจะเป็นกรรมสทิ ธ์ิของผู้เดินทางไปปฏบิ ัติงานหรือไม่ก็ตาม แต่ไม่รวมถึง
รถยนต์ของการไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค หรอื รถยนต์ท่กี ารไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าคเช่าหรือจ้างเหมาไวใ้ ช้ในกจิ การ

3. พนักงานที่จะใช้สิทธิเบิกเงินชดเชย จะต้องขออนุมัติใช้ยานพาหนะส่วนตัวตามแบบแนบท้ายระเบียบต่อ
ผู้บังคับบัญชาตามสายงานก่อนไปปฏิบัติงาน ได้แก่ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ผู้อานวยการฝ่าย ผู้อานวยการกอง
ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา และผู้ดารงตาแหน่งบังคับบัญชา
เทียบเทา่ ท่ีเรยี กช่ืออย่างอน่ื หรือผรู้ ักษาการแทนตาแหน่งดงั กลา่ วเปน็ ผู้อนุมัติ

4. พนักงานท่ีมีสิทธิเบิกเงินชดเชยตามข้อ 1 คือพนักงานท่ีได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาตามที่กาหนดไว้ใน
ข้อ 3

5. ผูม้ อี านาจอนุมัตจิ ่ายเงนิ ชดเชย ไดแ้ ก่ผ้บู งั คับบญั ชาตามขอ้ 3
6. การเบิกเงินชดเชยต้องเบิกหลังจากปฏบิ ัติงานแล้วเสรจ็ แต่ละครัง สามารถเบิกได้รวมระยะทาง (ไป-กลบั )

แตล่ ะครังไม่เกนิ 400 กโิ ลเมตร และใหเ้ บกิ ในอตั รากิโลเมตรละ 5.- บาท
7. การจ่ายเงินชดเชยในการใช้ยานพาหนะส่วนตัวในการเดินทางไปราชการ ให้บันทึกข้อมูลเงินได้ส่วนท่ีถือ

เป็นประโยชน์เพ่ิม กิโลเมตรละ 1 บาท เพื่อนาไปคานวณหักภาษีเงินได้ ณ ท่ีจ่าย (ภษ.(ภง.)1384/2551
ลว.19 ธ.ค.2551)
8. พนักงานท่ีใช้ยานพาหนะส่วนตัวไปปฏิบัติงานให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามระเบียบนี จะขอหรือ
เรียกร้องให้การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคชดใช้ค่าเสยี หาย หรอื จา่ ยเงนิ อ่ืนใดใหแ้ กต่ นนอกเหนือจากระเบยี บ หรอื
ขอ้ บังคบั ท่มี อี ยู่เดิม และเงินชดเชยตามข้อ 6 อกี ไม่ได้ ไมว่ า่ กรณใี ด ๆ ทงั สนิ

ในกรณที ี่มีคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้การไฟฟ้าสว่ นภูมิภาคต้องรับผิด หรือร่วมรบั ผิดชดใช้ค่าเสยี หาย
อย่างใด ๆ ให้แก่บุคคลใด อันเนื่องจากการใช้ยานพาหนะส่วนตัวเพื่อปฏิบัติงานให้กับการไฟฟ้าส่วน
ภูมิภาค พนักงานซึ่งเป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถ หรือผู้ขับขี่แล้วแต่กรณีจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ชดใช้คืนแกก่ ารไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าคทงั สิน

26

คาส่ังการไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค
ที่ ส.12/2554

เร่ือง หลกั เกณฑใ์ นการจ่ายเงินชว่ ยเหลอื ค่าเครือ่ งแบบและคา่ รองเทา้
ใหแ้ กพ่ นักงานบางหน้าท่ี

1. พนกั งานในสว่ นภมู ภิ าคทีม่ สี ิทธไิ ด้รบั เงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบและคา่ รองเทา้ ไดแ้ ก่
1.1 พนักงานช่างที่สงั กัดฝ่ายบริการ, ฝ่ายปฏิบตั ิการเครอื ขา่ ย, และตอ้ งออกไปปฏบิ ตั ิงานนอกสถานท่ี
เพ่อื ตดิ ต่อกับประชาชนเป็นประจา ยกเวน้ พนักงานช่างท่ีทาหนา้ ทป่ี ระจาสถานีไฟฟ้า
1.2 พนักงานช่างในการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา และการไฟฟ้าส่วน
ภูมภิ าคสาขายอ่ ย
1.3 พนักงานเก็บเงิน, พนักงานขับรถยนต์, พนักงานขับเรือ, พนักงานภารโรง, พนักงานคนสวน และ
พนักงานคนงาน

2. พนกั งานทีม่ สี ทิ ธไิ ดร้ ับเงินช่วยเหลอื ค่าเครือ่ งแบบและรองเทา้ จะต้องเป็นพนักงานที่การไฟฟา้ สว่ นภูมิภาค
ได้มีคาส่ังบรรจุหรือแต่งตังให้ดารงตาแหน่งหน้าท่ีตามข้อ 1 และได้รับอัตราเงินเดือนต่ากว่าเดือนละ
15,000.- บาท

3. การจ่ายเงินชว่ ยเหลอื ค่าเครือ่ งแบบจะจ่ายให้คนละ 1,200.- บาทต่อปี ค่ารองเท้าคนละ 300.- บาทต่อปี
4. ปตี ามคาสงั่ นี ให้ถือปีงบประมาณเปน็ เกณฑ์
5. ในปีแรกท่ีพนักงานมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบ และค่ารองเท้า ถ้านับระยะเวลาตังแต่วันที่มี

สิทธจิ นถงึ วันสินปแี ล้วไม่ครบปี ให้ถอื เกณฑ์การจา่ ยเงนิ ช่วยเหลอื ดังนี
5.1 นับระยะเวลาตังแต่วันที่มีสิทธิจนถึงวันสินปีครบ 6 เดือน จ่ายเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบให้
1,200.- บาท คา่ รองเท้า 300.- บาท
5.2 นับระยะเวลาตังแต่วันท่ีมีสิทธิจนถึงวันสินปีไม่ครบ 6 เดือน ไม่จ่ายเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบ

และคา่ รองเทา้ ให้

6. การเบิกจ่ายเงินชว่ ยเหลอื ค่าเคร่อื งแบบและคา่ รองเท้าใหป้ ฏบิ ตั ิ ดังนี
6.1 พนกั งานที่สงั กัดการไฟฟา้ เขต ใหผ้ ชู้ ่วยผู้วา่ การ เป็นผ้มู ีอานาจอนมุ ัตเิ บิกจ่ายเงิน ตามจานวนเงิน
ทีต่ อ้ งจา่ ยจริง โดยใหห้ วั หนา้ หน่วยงานระดับกองในการไฟฟ้าเขต เป็นผจู้ ัดทารายชื่อพนักงานใน
สังกัดที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ และให้บุคลากรเขตตรวจสอบความถูกต้องของสิทธิก่อนเบิก
จา่ ยเงิน
6.2 พนักงานในสังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา และการไฟฟ้าส่วน

ภูมิภาคสาขาย่อย ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเป็นผู้มี

อานาจอนุมัตเิ บิกจา่ ยเงินชว่ ยเหลอื ตามจานวนเงนิ ทีต่ ้องจ่ายจรงิ โดยให้หัวหนา้ แผนกบริหารงาน

ท่วั ไป หรือหัวหนา้ แผนกบัญชแี ละการเงิน ตรวจสอบความถกู ต้องของสิทธกิ ่อนนาเสนอขออนุมัติ

จา่ ยเงิน

7. การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือตามคาส่ังนีห้ามเบิกข้ามปี ถ้าสินสุดปีท่ีพนักงานมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว

ยงั ไม่มีการขออนมุ ตั เิ บิกจา่ ย ให้ถอื ว่าพนกั งานสละสทิ ธิทจ่ี ะได้รบั เงนิ ช่วยเหลอื นี

27

คาสงั่ การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค
ท่ี พ.(ท) 1/2558

เรือ่ ง หลักเกณฑใ์ นการจ่ายเงนิ ช่วยเหลอื ค่าเคร่ืองแบบและคา่ รองเท้าให้แกล่ กู จ้างชา่ ง

1. ลกู จ้างชา่ งท่ีมีสิทธิไดร้ บั เงินช่วยเหลอื ค่าเคร่ืองแบบและค่ารองเท้า ได้แก่
1.1 ลกู จา้ งช่างทีอ่ อกปฏิบตั ิงานนอกสานกั งานเกี่ยวกบั ระบบไฟฟา้
1.2 ลกู จ้างชา่ งท่ีทาหน้าท่ี ควบคมุ ซอ่ ม ปรับ เครื่องจกั ร และอุปกรณเ์ กย่ี วกบั ระบบไฟฟ้า
1.3 ลูกจา้ งชา่ งแผนกโรงงานผลติ ภณั ฑ์คอนกรีต

2. ลกู จ้างชา่ งท่มี สี ทิ ธิไดร้ บั เงนิ ช่วยเหลือค่าเคร่ืองแบบและรองเท้า จะต้องเปน็ ลกู จ้างช่างที่การไฟฟ้าสว่ น
ภูมภิ าคได้มสี ัญญาจ้าง และได้รบั คา่ จ้างต่ากวา่ เดอื นละ 15,000.- บาท

3. การจา่ ยเงินช่วยเหลอื คา่ เคร่อื งแบบจะจ่ายให้คนละ 1,200.- บาทตอ่ ปี ค่ารองเท้าคนละ 300.- บาทตอ่ ปี
4. ปีตามคาส่ังนี ให้ถอื ปีงบประมาณเปน็ เกณฑ์
5. ในปีแรกทลี่ ูกจ้างชา่ งมีสิทธิได้รบั เงินช่วยเหลือคา่ เคร่ืองแบบ และค่ารองเทา้ ถา้ นบั ระยะเวลาตงั แต่วนั เร่ิม

สัญญาจ้างจนถงึ วนั สินปแี ลว้ ไม่ครบปี ใหถ้ ือเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลอื ดังนี
5.1 นับระยะเวลาครบ 6 เดือนขึนไป จ่ายเงินช่วยเหลือค่าเครื่องแบบให้ 1,200.- บาท ค่ารองเท้า 300.-

บาท
5.2 นับระยะเวลาไม่ครบ 6 เดือน ไม่จ่ายเงินช่วยเหลอื ค่าเครือ่ งแบบ และคา่ รองเท้าให้
6. การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเคร่ืองแบบและค่ารองเท้าใหป้ ฏิบตั ิ ดงั นี
6.1 ลูกจ้างช่างที่สังกัดการไฟฟ้าเขต ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ เป็นผู้มีอานาจอนุมัติเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ตาม

จานวนเงินท่ีต้องจ่ายจริง โดยให้หัวหน้าหน่วยงานระดับกองในการไฟฟ้าเขต เป็นผู้จัดทารายชื่อ
ลูกจ้างช่างในสังกัดท่ีมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ และให้บุคลากรเขตตรวจสอบความถูกต้องของสิทธิ
กอ่ นเบิกจ่ายเงนิ
6.2 ลูกจ้างช่างในสังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา และการไฟฟ้าส่วน
ภูมิภาคสาขาย่อย ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3 และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา เป็นผู้มี
อานาจอนุมัติเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ตามจานวนเงินท่ีต้องจ่ายจริง โดยให้หัวหน้าแผนกบริหารงาน
ทั่วไป หรือหัวหน้าแผนกบัญชีและการเงิน ตรวจสอบความถูกต้องของสิทธิก่อนนาเสนอขออนุมัติ
จ่ายเงนิ
7. การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลอื ตามคาสง่ั นีห้ามเบิกข้ามปี ถ้าสินสุดปีท่ีลูกจ้างช่างมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือแลว้
ยงั ไมม่ ีการขออนมุ ตั ิเบกิ จ่าย ให้ถือวา่ ลกู จา้ งชา่ งสละสทิ ธทิ จ่ี ะได้รบั เงินช่วยเหลอื นี

28

ระเบียบการไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค
วา่ ด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนสาหรับพนักงานและลูกจ้างทข่ี ับรถยนต์

เพ่มิ จากหนา้ ทีป่ ระจา พ.ศ. 2560

1. “พนักงาน” หมายความว่า พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตาแหน่ง พนักงานช่าง หัวหน้าหมวด หรือ
ตาแหน่งบังคับบัญชาอ่ืนท่ีเทียบเท่า ท่ีปฏิบัติงานด้านช่าง หรือ พนักงานในตาแหน่งอื่นซ่ึงได้รับอนุมัติให้
ขับรถยนตเ์ พิม่ จากหนา้ ทีป่ ระจา

2. “ลูกจ้างรายเดือน” หมายความว่า ผู้ซึ่งตกลงทางานให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามสัญญาจ้างแรงงาน
เพ่ือรบั ค่าจ้างเป็นรายเดอื น แต่ไม่รวมถงึ ผรู้ บั จา้ งตามสญั ญาจา้ งทาของ และผูป้ ฏบิ ัติงานของผูร้ ับจ้าง

3. “รถยนต์” หมายความวา่ รถยนต์บรรทุก 2 ตัน ถึง 10 ตัน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
4. “ค่าตอบแทน” หมายความว่า เงินค่าตอบแทนการขับรถยนต์บรรทุก 2 ตัน ถึง 10 ตัน ของพนักงาน

ตาแหน่งอ่นื นอกเหนอื จากพนักงานขบั รถยนต์
5. “วัน” หมายความว่า วันทางาน วันทางานกะ วันหยุดประจาสัปดาห์ และวันหยุดประจาปีของการไฟฟ้า

สว่ นภมู ภิ าค
6. “เวลา” หมายความว่า เวลาทางานปกติ และทางานเป็นกะ แต่ไม่รวมถึงระยะเวลาที่อยู่เวรแก้ไฟฟ้า

ขดั ขอ้ ง
7. พนักงานและลูกจ้าง ที่จะขับรถยนต์ ต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตขับข่ีรถยนต์ชนิดที่ 2 ของกรมการขนส่งทาง

บก
8. พนักงานและลูกจา้ ง ท่ีจะทาหนา้ ทข่ี ับรถยนต์เพิม่ จากหนา้ ทีป่ ระจา ต้องได้รับอนมุ ตั จิ าก ผชก.น.1
9. ใหร้ ับเงนิ คา่ ตอบแทนเฉพาะวนั เวลาทข่ี ับรถยนต์ออกปฏิบตั งิ านในอตั รา ดงั นี

9.1 ขับรถยนตบ์ รรทกุ 2 ตนั เต็มวนั ไดร้ บั เงนิ คา่ ตอบแทนวันละ 75.- บาท
9.2 ขบั รถยนต์บรรทกุ เกนิ 2 ถึง 10 ตนั เตม็ วนั ไดร้ บั เงินคา่ ตอบแทนวันละ 100.- บาท
9.3 ขับรถยนตไ์ ม่เต็มวัน ได้รบั เงนิ ค่าตอบแทนเฉล่ียตามสว่ นเวลาทขี่ ับรถยนต์
9.4 กรณีมีพนักงานและลูกจ้าง หลายคนทาหน้าที่ขับรถยนต์คันใดคันหนึ่งในวันเดียวกัน ให้ทุกคนมีสิทธิ

ไดร้ บั เงนิ ค่าตอบแทนเฉล่ยี ตามสว่ นเวลาท่ขี บั รถยนต์
9.5 การคานวณจ่ายเงินค่าตอบแทน ถ้ามีเศษเกิน 50 สตางค์ให้ปัดเป็น 1 บาท ถ้ามีเศษต่ากว่า 50

สตางค์ ใหป้ ัดเป็น 50 สตางค์
9.6 การคานวณเงินกรณขี ับรถไม่เตม็ วนั ใหเ้ ปน็ ช่ัวโมง ใชอ้ ตั ราค่าตอบแทนหารด้วย 7
10. ใหเ้ บกิ เงินค่าตอบแทนเดือนละครัง
11. ผู้มีอานาจอนุมัติจ่ายเงินค่าตอบแทน ได้แก่ ผู้จัดการการไฟฟ้า หรือหัวหน้าหน่วยงานระดับกองขึนไปที่
พนกั งานสงั กดั เป็นผูอ้ นุมัติ
12. กรณีเปน็ งานกอ่ สรา้ งขยายเขต ให้คดิ จากงบค่าแรงงาน

29

ระเบยี บการไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าค
ว่าด้วยการจา่ ยเงนิ เพิ่มพิเศษให้แก่พนักงานผปู้ ฏบิ ตั งิ านฮอทไลน์ พ.ศ. 2556

1. พนักงานหมายถงึ
1.1 พนกั งานช่าง (ฮอทไลน์) หมายถงึ พนักงานซง่ึ ไดร้ ับการบรรจแุ ละแตง่ ตังเป็นพนักงานชา่ ง ปฏิบัติงาน
ฮอนไลน์ หรือไดร้ ับอนุมัติใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิงานฮอทไลน์ และปัจจุบนั ยงั คงปฏบิ ัตงิ านดา้ นฮอทไลน์
1.2 หัวหน้าชุดฮอทไลน์ หรือหัวหน้าชุดฮอทไลน์รถกระเช้า หมายถึง พนักงานช่าง (ฮอทไลน์) ที่มี
ประสบการณ์เกี่ยวกับงานฮอทไลน์ มีหน้าท่ีควบคุมและปฏิบัติงานฮอทไลน์เกี่ยวกับระบบจาหน่าย
และสายสง่
1.3 หัวหน้าหมวดฮอทไลน์ หมายถึง พนักงานซ่ึงได้รับการแต่งตังให้ดารงตาแหน่งหรือรักษาการใน
ตาแหนง่ หวั หน้าหมวดฮอทไลน์
1.4 พนกั งานชุดเช่ือมสายแรงสูง หมายถงึ พนกั งานช่างทีผ่ ่านการอบรมหลกั สูตรการปฏิบัติงานเชอ่ื มสาย
แรงสูงหรอื หลกั สูตรที่คลา้ ยกัน และมีอนุมัติผู้วา่ การให้ปฏบิ ัติงานเช่ือมสายแรงสูงได้ รวมถงึ พนักงาน
ช่าง (ฮอทไลน์) ทย่ี ้ายไปเปน็ พนักงานช่างและได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีเชอื่ มสายแรงสูงด้วย

2. การปฏบิ ตั งิ านฮอทไลน์ หมายถงึ การปฏิบัตงิ านกบั สายหรืออปุ กรณท์ ี่มีแรงดันสูงโดยไม่ดับไฟฟ้า
3. เงนิ เพิ่มพเิ ศษ หมายถึง เงินค่าตอบแทนทจี่ า่ ยให้แกผ่ ู้ปฏบิ ัติงานฮอทไลนเ์ ปน็ กรณีพิเศษ
4. พนกั งานที่มีสทิ ธไิ ด้รบั เงินเพ่ิมพิเศษ ได้แก่ พนกั งานตามข้อ 1 ท่ปี ฏิบตั ิงานฮอทไลน์ และจะหมดสทิ ธิได้รับ

เงินเพ่ิมพิเศษเมือ่ เปล่ยี นตาแหน่ง หรือไปปฏิบตั ิหน้าทอ่ี นื่
5. ผู้ปฏิบัติงานฮอทไลน์ได้รับเงินเพิ่มพิเศษเป็นรายวันเฉพาะวันท่ีปฏิบัติงานฮอทไลน์ ในอัตราวันละ 150

บาท ในการปฏิบตั ิงานทกุ พืนท่ี
6. ให้ผู้บังคับบัญชาชันต้นของพนักงานผู้ปฏิบัตงิ านฮอทไลน์ บันทึกการปฏิบัติงานแต่ละวันและรวบรวมเปน็

รายงานสรปุ การปฏิบัตงิ านฮอทไลน์ เพ่ือใชใ้ นการเบกิ เงินเพมิ่ พิเศษในแต่ละเดือน เดอื นละครัง
7. ผู้มีอานาจอนุมัติจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ ได้แก่ ผู้ช่วยผู้ว่าการ หรือหน่วยงานระดับกองท่ีรับผิดชอบการ

ปฏบิ ัติงานฮอทไลน์ หรือผู้จดั การการไฟฟ้าแล้วแตก่ รณี
8. กรณมี ีการปฏิบตั ิงานฮอทไลน์นอกเวลาทางาน (ลว่ งเวลา) ให้มสี ทิ ธไิ ด้รับเงนิ เพิ่มพิเศษและคา่ ล่วงเวลา

30

ค่าจัดซ้ือกระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้ หรือของเยยี่ มในนาม กฟภ.
ให้กับพนักงานผปู้ ระสบอบุ ตั เิ หตุ หรือเจบ็ ปว่ ยเนอื่ งจากการปฏิบตั ิงานในหน้าท่ี

(กสก.(สป.)1851/2559 ลว.23 ม.ิ ย. 2559)

1. ให้จัดซือกระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้ หรือของเย่ียมในนาม กฟภ. ให้กับพนักงานผู้ประสบอุบัติเหตุ หรือ
เจ็บป่วยเน่ืองจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2,000.- บาท (สองพันบาทถ้วน) โดย
ใหเ้ บกิ ไดร้ ายละ 1 ครัง

2. พนักงานที่ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยเน่ืองจากการปฏิบัติงานในหน้าท่ี ที่เข้ารับการรักษาพยาบาลใน
สถานพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ให้ กสก. เป็นผู้ดาเนินการอนุมัติจัดซือ
และสัง่ จ่ายเงนิ จากงบทาการเงนิ หมนุ เวยี นกอง

3. พนักงานท่ีประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยเน่ืองจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ ท่ีเข้ารับการรักษาพยาบาลใน
ส่วนภูมิภาค (ยกเว้นในเขตจังหวัดนนทบุรี, สมุทรปราการ) ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต้นสังกัดของ
พนักงานผู้ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการปฏิบัติงานในหน้าท่ี เป็นผู้ดาเนินการอนุมัติจัดซือ
และสงั่ จา่ ยเงินจากงบทาการจากเงินรายได้ของหนว่ ยงานนัน

31

คา่ พวงหรดี หรือดอกไม้เคารพศพพนักงาน หรือบพุ การี โดยตรงของพนักงาน หรือลูกจา้ ง
หรอื หัวหน้าหน่วยราชการในตา่ งจังหวดั หรอื บุคคลอ่ืนทเ่ี สยี ชวี ติ จากการปอ้ งกนั รักษาความมน่ั คง

ในนาม การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค

1. คา่ พวงหรีดหรือดอกไม้เคารพศพ ให้จา่ ยได้เท่าท่ีจา่ ยจริงแต่ไม่เกินรายละ 1,500.- บาท โดยเบกิ จ่ายจาก

งบทาการของหนว่ ยงาน (กสก.(สป.)375/2564 ลว.24 ก.พ.2564)
2. หน่วยงานในสงั กดั การไฟฟา้ เขต ใหผ้ ู้ชว่ ยผู้วา่ การ, ผู้อานวยการฝา่ ย, ผู้อานวยการกอง, ผจู้ ดั การการไฟฟ้า

ส่วนภูมิภาคชัน 1-3 และผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา เป็นผู้มีอานาจอนุมัติเบิกจ่าย ค่าพวงหรีด
หรือดอกไม้เคารพศพพนักงาน หรือบุพการี โดยตรงของพนักงาน หรือหัวหน้าหน่วยราชการใน
ต่างจังหวัด หรือบุคคลอ่ืนที่เสียชีวิตจากการป้องกันรักษาความมั่นคงในนาม กฟภ. โดยเบิกจ่ายจากเงิน
รายได้ของการไฟฟ้านัน ๆ
3. กรณีหนว่ ยงานมีลูกจ้าง กฟภ. เสยี ชีวติ ให้จัดพวงหรีดหรือดอกไมเ้ คารพศพในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ภายในวงเงินเท่าท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกินรายละ 1,500.- บาท จากงบทาการ โดยหน่วยงานในสังกัดการไฟฟา้
เขต ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ, ผู้อานวยการฝ่าย, ผู้อานวยการกอง, ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัน 1-3 และ
ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขา เป็นผู้มีอานาจอนุมัติเบิกจ่าย จากเงินรายได้การไฟฟ้านัน ๆ (กสก.
(สป.)947/2564 ลว.29 เม.ย.2564)
4. ใหเ้ บิกจา่ ยไดเ้ ฉพาะการไฟฟ้าทเี่ ปน็ หน่วยงานตน้ สังกัดของพนกั งาน/ลูกจ้างเท่านนั
5. กรณผี ูเ้ สยี ชวี ติ สงั กดั การไฟฟา้ จดุ รวมงานทีม่ ที ี่ตงั ในจงั หวดั เดยี วกบั สานักงานเขต ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ เปน็ ผู้
เบกิ จา่ ย
6. กรณมี บี ุตรปฏบิ ัตงิ านอยู่ กฟภ. มากกว่า 1 คน ให้มีผู้ใชส้ ทิ ธิในการเบิกได้เพยี งคนเดยี ว
7. กรณพี นักงานเสียชวี ติ และมีบตุ รปฏิบัติงานท่ี กฟภ. ให้เบิกจากต้นสงั กัดของพนักงานท่ีเสยี ชีวติ
8. แบบฟอรม์ (ภาคผนวก 6) (กสก.(สป.)857/2564 ลว.9 เม.ย.2564)

32

หลักเกณฑก์ ารเป็นเจ้าภาพจดั พธิ ีทางศาสนาใหก้ บั พนักงาน กฟภ. กรณเี สียชีวิต
(สร.(ปร.)668/2543 ลว.6 พ.ย. 2543)

1. ให้ทุกหน่วยงาน ตังแต่ระดับการไฟฟ้าชัน 1-3 หรือระดับกองขึนไป ตามแต่กรณี เป็นเจ้าภาพจัดพิธีทาง
ศาสนาให้แกพ่ นกั งานในสังกัดท่ีเสยี ชีวิต ดังนี
1.1 เป็นเจ้าภาพจัดพิธีทางศาสนาในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยเบิกจ่ายจากงบทาการ เป็นค่าใช้จา่ ย
รายละ 5,000.- บาท
1.2 จัดพวงหรีดหรือดอกไม้เคารพศพในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยเบิกจ่ายจากงบทาการ เป็น
คา่ ใช้จา่ ยรายละไมเ่ กิน 500.- บาท

2. การอนุมตั ิให้ยืมเงินทดรองจา่ ยและอนุมัติเบิกจ่าย ในส่วนภูมภิ าค ให้ผชู้ ่วยผวู้ ่าการ ผ้อู านวยการกอง และ
ผจู้ ดั การการไฟฟ้าชนั 1-3 เป็นผู้อนมุ ัติตามขอ้ 1 โดยเบกิ จา่ ยจากเงนิ รายได้การไฟฟ้านนั ๆ

3. การเปน็ เจ้าภาพใหแ้ ก่พนักงานทเ่ี สียชวี ติ จะต้องดาเนินการดงั นี
3.1 ให้หน่วยงานต้นสังกัดของพนักงานผู้เสียชีวิต แจ้งผู้มีอานาจอนุมัติ ตามข้อ 2 โดยเร็ว (ภายในช่วง
กาหนดพธิ ีการทางศาสนา)
3.2 กรณไี ม่มที ายาทหรือผู้จดั การศพ ให้ผบู้ ังคบั บญั ชาหน่วยงานเปน็ ผ้จู ัดการศพแทน
3.3 ให้ทายาทหรือผู้จัดการศพของพนักงานผู้เสียชีวิตลงช่อื ผู้รับเงินในใบสาคัญจ่ายเงินพร้อมแนบสาเนา
ใบมรณบตั ร เพือ่ ใชเ้ ปน็ เอกสารในการเบกิ – จา่ ยเงิน

4. กรณีที่หน่วยงานต้นสังกัดไม่สามารถเป็นเจ้าภาพพิธีทางศาสนาแก่พนักงานที่เสียชีวิต ให้เสนอขออนุมัติ
ผู้ช่วยผวู้ า่ การ เป็นราย ๆ ไป

5. กรณดี ังตอ่ ไปนี ห้ามเปน็ เจ้าภาพในงานพิธีทางศาสนา
5.1 ตายระหว่างถูกสั่งพักงาน
5.2 ตายระหวา่ งละทงิ หนา้ ทก่ี ารงาน

6. แบบฟอรม์ (ภาคผนวก 7)

33

ค่าพวงมาลาหรอื พานพุ่มของ กฟฟ.ตา่ ง ๆ ในสว่ นภูมภิ าค
(ตภ.1390 ลว.10 ก.ค.2539)

1. ให้ผู้ช่วยผู้ว่าการ หรือ ผู้จัดการของ กฟฟ.ในท้องถ่ินนัน มีอานาจอนุมัติให้เบิกจ่ายค่าพวงมาลาหรือพาน
พ่มุ ประดบั ดอกไมเ้ พ่ือใช้ในงานพิธีตา่ ง ๆ ในจานวนเงินเทา่ ที่จา่ ยจริงครงั ละไม่เกนิ 2,000.- บาท

2. ใหเ้ บิกจา่ ยจากเงนิ หมนุ เวียนเขต หรอื จากเงนิ รายได้ของ กฟฟ.ตน้ สงั กัด เพยี งแหง่ เดยี วในนาม กฟภ.

34

ระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค
ว่าด้วยการฝึกอบรมและสมั มนา พ.ศ. 2560

1. ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม/สมั มนา ประกอบด้วย
1.1 ค่าใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั การใชแ้ ละการตกแตง่ สถานท่ฝี กึ อบรม/สัมมนา
1.2 คา่ ใชจ้ ่ายในพธิ เี ปิด - ปิดการฝึกอบรม/สมั มนา
1.3 คา่ วัสดเุ ครอ่ื งเขยี นและอุปกรณ์
1.4 คา่ ประกาศนยี บตั ร
1.5 ค่าถา่ ยเอกสาร ค่าพิมพ์เอกสารและสิง่ พิมพ์
1.6 คา่ หนังสือสาหรบั ผู้เขา้ รบั การฝึกอบรม/สัมมนา
1.7 ค่าใช้จา่ ยในการติดต่อสื่อสาร
1.8 ค่าเชา่ อปุ กรณ์ต่าง ๆ ในการฝึกอบรม/สัมมนา
1.9 คา่ กระเป๋าหรอื ส่ิงทใ่ี ช้บรรจุเอกสารสาหรบั ผ้เู ขา้ รบั การฝึกอบรม/สมั มนา
1.10 คา่ ของทรี่ ะลึกให้แกว่ ทิ ยากร/หน่วยงานภายนอกในการศึกษาดงู าน
1.11 ค่าสมนาคุณวิทยากรและผู้ช่วยวิทยากร/ค่าจ้างหน่วยงานภายนอกจัดฝึกอบรม/สัมมนา
ค่าตอบแทนวทิ ยากรภายในและผู้ชว่ ยวิทยากร
1.12 คา่ อาหารวา่ งและเคร่ืองด่ืม
1.13 คา่ อาหารและเครื่องดื่ม/ค่าเบียเลียง
1.14 คา่ เช่าที่พัก
1.15 ค่าพาหนะ
1.16 คา่ ใช้จ่ายอืน่ ทจ่ี าเปน็ ในการฝึกอบรม/สัมมนา

2. คา่ ใชจ้ ่ายตามข้อ 1.1 – 1.9 และ 1.16 ใหเ้ บิกจ่ายได้เท่าทจ่ี า่ ยจริงตามความจาเป็นเหมาะสมและประหยัด
3. ค่าใช้จ่ายตามข้อ 1.10 ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกินท่ีประกาศคณะกรรมการป้องกันและ

ปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาตกิ าหนดไวส้ าหรบั ค่าของทีร่ ะลึก
4. ค่าใช้จ่ายตามข้อ 1.11 – 1.15 ให้เบิกจ่ายตามอัตราท่ีกาหนดไว้ในระเบียบนี ซึ่งบุคคลที่จะเบิกค่าใช้จ่าย

ได้ ประกอบดว้ ย ประธานในพิธีเปดิ -ปดิ แขกผู้มเี กียรติ วทิ ยากรและผู้ช่วยวทิ ยากร ผูจ้ ัดฝกึ อบรม/สัมมนา
เจ้าหนา้ ที่ และผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม/สมั มนา
5. ใหผ้ ู้ชว่ ยผ้วู า่ การ มีอานาจอนุมัตดิ ังนี
5.1 อนมุ ัติใหใ้ ช้งบฝึกอบรมนอกแผนท่ีทุกหน่วยงานได้รบั จัดสรรประจาปี เพอ่ื การจัดฝึกอบรม/สัมมนา ที่

หน่วยงานเป็นผู้ดาเนินการจัดเอง เพ่ือเพ่ิมพูนความรู้ ทักษะความสามารถ ประสบการณ์และ
สมรรถนะท่ีจาเป็นและเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานนอกเหนือจากหลักสูตรที่ฝ่ายพัฒนาทรัพยากร
บคุ คลเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบดาเนนิ การ สาหรับหนว่ ยงานในสงั กัด

35

5.2 อนุมัติให้พนักงานในสังกัดไปฝึกอบรม/สัมมนากับหน่วยงานภายนอก นอกเหนือจากบัญชีแนบท้าย
(ภาคผนวก 8) จากงบฝึกอบรมนอกแผนท่ีได้รับจัดสรร โดยมีค่าลงทะเบียนภายในวงเงินไม่เกิน
30,000.- บาท

6. กรณีค่าใช้จ่ายซ่ึงอาจเกิดขึนจากการดาเนินการตามข้อ 5.1 เช่นเงินค่ามัดจาล่วงหน้า ค่าปรับ เป็นต้น
สาหรับค่าใช้จ่ายเพ่ิมเติมซ่ึงเกินวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติไว้เดิมให้อยู่ในอานาจผู้ช่วยผู้ว่าการ ทังนี
ใหอ้ ย่ภู ายในวงเงนิ ที่ไดร้ บั จัดสรร

7. ค่าสมนาคุณ/ค่าตอบแทนวิทยากรและผู้ช่วยวิทยากร หรือค่าจ้างหน่วยงานภายนอกจัดการฝึกอบรมและ
สัมมนา แบง่ เปน็
7.1 ค่าสมนาคุณ/คา่ ตอบแทนวิทยากรและผู้ชว่ ยวทิ ยากร
7.1.1 วทิ ยากรภายนอก วทิ ยากรภายนอกพิเศษ การคดิ ค่าสมนาคณุ มดี ังนี
ก) ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรม/สมั มนาระดับตา่ กวา่ ผู้อานายการฝา่ ยหรือเทยี บเท่า
(1) วิทยากรภายนอก ชวั่ โมงละไม่เกิน 1,600.- บาทตอ่ คน
(2) วิทยากรภายนอกพิเศษ ช่ัวโมงละไมเ่ กนิ 2,500.- บาทต่อคน
ข) ผู้เขา้ รับการฝึกอบรม/สมั มนา ตงั แตร่ ะดับผูอ้ านวยการฝา่ ยหรือเทยี บเท่าขึนไป
(1) วิทยากรภายนอก ช่วั โมงละไมเ่ กิน 2,500.- บาทต่อคน
(2) วิทยากรภายนอกพิเศษ ชว่ั โมงละไม่เกิน 10,000.- บาทตอ่ คน
กรณีท่ีผู้เข้ารับการฝึกอบรม/สัมมนาท่ีมีทังผู้บริหารท่ีต่ากว่าระดับผู้อานวยการฝ่ายหรือเทียบเท่าและ

ตังแต่ระดับผู้อานวยการฝ่ายขึนไปในหลักสูตรเดียวกัน ให้ถือตามจานวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม/สัมมนาส่วน
ใหญเ่ ปน็ เกณฑ์

7.1.2 ผู้ช่วยวิทยากรภายนอกและผู้ช่วยวิทยากรภายนอกพิเศษ คิดตามความจาเป็นและเหมาะสม
ดงั นี
ก) ผู้ชว่ ยวิทยากรภายนอก ให้เหมาจ่ายไมเ่ กนิ วันละ 1,200.- บาทต่อคน
ข) ผชู้ ว่ ยวิทยากรภายนอกพิเศษ ให้เหมาจา่ ยไมเ่ กนิ วันละ 3,600.- บาทต่อคน

7.1.3 วทิ ยากรภายใน แยกเป็น
ก) วิทยากรภายในสาหรับการบรรยายภาษาไทยในหลักสูตรท่ีจัดให้กับพนักงานและลูกจ้าง
หรือหน่วยงานอนื่ ภายในประเทศภาคทฤษฎี ชั่วโมงละ 500.- บาทต่อคน และภาคปฏิบัติ
ชั่วโมงละ 150.- บาทตอ่ คน
ข) วิทยากรภายในสาหรับหลักสูตรท่ีใช้ภาษาต่างประเทศในการบรรยายชั่วโมงละ 1,000.-
บาทตอ่ คน
ค) วทิ ยากรภายในกรณีฝึกปฏิบัติภาคสนามสาหรับหลักสูตรการปฏิบัติงานฮอทไลน์และเชื่อม
สายแรงสงู แบบไม่มกี ระแสไฟฟ้าวันละ 150.- บาทต่อคน
ง) ค่าตอบแทนวิทยากร ข้อ 7.1.3 หากช่วงเวลาใดที่มีวิทยากรมากกว่า 1 คน ให้คิด
คา่ ตอบแทนวิทยากรของแตล่ ะคนตามเวลาท่ีบรรยายในอตั ราทก่ี าหนด

7.1.4 ผู้ช่วยวิทยากรภายในสาหรับหลักสูตรที่มีการจัดทา Workshop หรือภาคปฏิบัติ การคิด
ค่าตอบแทนแยกเป็น

36

ก) ผู้ชว่ ยวทิ ยากรภายใน ชัว่ โมงละ 100.- บาทตอ่ คน

ข) ผู้ชว่ ยวิทยากรภายในพเิ ศษ ชว่ั โมงละ 300.- บาทต่อคน

7.1.5 การฝึกอบรม/สัมมนาท่ีมีลักษณะการอภิปรายหรือสัมมนาเป็นคณะจ่ายค่าสมนาคุณได้ตาม

เวลาตลอดชว่ งการอภปิ รายหรอื สัมมนา ในอัตราทกี่ าหนด

7.1.6 ผู้ช่วยวิทยากรตามข้อ 7.1.2 และ 7.1.4 กาหนดให้มีเฉพาะการฝึกอบรม/สัมมนา ที่มีลักษณะ

แบ่งกลุ่มฝึกภาคปฏิบัติกลุ่มอภิปรายหรือสัมมนาหรือกลุ่มทากิจกรรม ซ่ึงได้กาหนดไว้ใน

หลักสตู รโดยให้มไี ดไ้ ม่เกนิ 3 คนต่อหลกั สตู ร

8. ค่าอาหารว่างและเครอ่ื งดื่ม

8.1 สานักงานการไฟฟา้ ส่วนภมู ิภาค มือละไมเ่ กนิ 25.- บาทตอ่ คน

8.2 สถานท่รี าชการ มือละไม่เกิน 35.- บาทต่อคน

8.3 สถานทเี่ อกชน มือละไมเ่ กนิ 80.- บาทตอ่ คน

9. ค่าพาหนะ

9.1 ผ้เู ข้ารับการฝกึ อบรม/สัมมนา

9.1.1 กรณีผู้จัดการฝึกอบรม/สัมมนาไม่จัดพาหนะให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม/สัมมนา เบิกตามสิทธิ

ตามคาสงั่ กฟภ.ที่ ส.7

9.1.2 กรณีที่ผู้จัดการฝึกอบรม/สัมมนาจัดพาหนะให้ แต่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม/สัมมนาไม่ประสงค์ที่

จะร่วมเดินทาง ให้ทาหนังสือแจ้งผู้จัดการฝึกอบรม/สัมมนาทราบ พร้อมขอความเห็นชอบ

หวั หน้าหน่วยงานต้นสังกัด เพ่ือพิจารณาดาเนินการตามความจาเป็นและเหมาะสม

9.1.3 กรณีท่ีจัดฝึกอบรม/สัมมนาเป็นหมู่คณะหรือจัดให้ศึกษาดูงานหน่วยงานภายนอกให้ผู้จัดการ

ฝึกอบรม/สมั มนา พิจารณาเชา่ พาหนะตามความจาเป็นและเหมาะสม

9.2 วทิ ยากรภายนอกและวทิ ยากรภายนอกพเิ ศษ

9.2.1 กรณีเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ระยะทางไป – กลับ จากสถานที่ทางานของวิทยากรถึง

สถานที่จัดฝึกอบรม/สัมมนา รวมไม่เกิน 100 กิโลเมตร เหมาจ่ายคนละ 500.- บาทต่อครัง

หากเกินกว่า 100 กิโลเมตรให้เหมาจ่ายไม่เกินคนละ 1,500.- บาทต่อครัง โดยให้เบิกจ่าย

อยา่ งประหยดั ตามความจาเป็นและเหมาะสม

9.2.2 กรณีเดินทางโดยยานพาหนะประจาทาง (ได้แก่ รถโดยสารประจาทาง รถไฟ เคร่ืองบินและ

พาหนะสาธารณะอ่นื ๆ) ให้เบิกไดเ้ ท่าท่ีจา่ ยจรงิ ตามความจาเป็นและเหมาะสม

9.3 วทิ ยากรภายในใหเ้ บกิ ตามสทิ ธิตามคาสั่ง กฟภ. ท่ี ส.7

37

หลักเกณฑก์ ารประชุมชแี้ จง พ.ศ. 2560

1. “การประชุมชีแจง” หมายความว่า การประชุมท่ีผู้รับผิดชอบของหน่วยงานเชิญบุคคลท่ีเกี่ยวข้องมา
ปรึกษาหารอื ใหข้ อ้ คดิ เหน็ ข้อเสนอแนะ รับทราบขอ้ เทจ็ จริง และแนวทางการปฏิบัติ ทังนใี หร้ วมถึงกรณี
ท่ีเชญิ วทิ ยากรภายนอกมาใหข้ ้อมลู ท่เี ก่ียวเน่อื งกับการประชมุ เพมิ่ เตมิ

2. ค่าใช้จ่ายในการประชุมชแี จง ประกอบดว้ ย
2.1 คา่ ใช้จ่ายเกยี่ วกบั การใช้และการตกแต่งสถานทีป่ ระชุมชีแจง
2.2 ค่าใช้จ่ายในพธิ เี ปดิ – ปิดการประชมุ ชแี จง
2.3 คา่ เอกสารประกอบการประชุม
2.4 ค่าของทร่ี ะลึก
2.5 ค่าสมนาคุณวิทยากรภายนอก กรณีทม่ี ีความจาเป็นต้องเชิญวิทยากร
2.6 คา่ เครื่องดืม่ – ของว่าง
2.7 คา่ ใชจ้ ่ายอืน่ ทจ่ี าเป็นในการประชมุ ชแี จง

3. คา่ ใชจ้ ่ายตามข้อ 2.1 – 2.3 และ 2.7 ให้เบกิ จ่ายได้เท่าที่จ่ายจรงิ ตามความจาเปน็ เหมาะสมและประหยดั
4. ค่าใช้จ่ายตามข้อ 2.4 ให้เบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริงแต่ไม่เกินที่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและ

ปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติกาหนดไวส้ าหรับค่าของทีร่ ะลึก
5. ค่าใชจ้ า่ ยตามข้อ 2.5 – 2.6 ใหเ้ บิกจ่ายตามอตั ราทกี่ าหนด ในขอ้ 7 และ 8 ของระเบยี บ กฟภ. ว่าด้วยการ

ฝึกอบรมและสมั มนา พ.ศ. 2560
6. คา่ ใช้จา่ ยในการเดินทางของผ้รู ว่ มประชมุ เบิกไดต้ ามสิทธติ ามคาสงั่ ที่ ส.7
7. ผมู้ ีอานาจลงนามเชญิ ประชมุ

7.1 กรณีการประชุมชแี จงภายในสานักงานของ กฟภ. ให้หวั หน้าหน่วยงานทเ่ี ปน็ ผู้จัดประชุมเปน็ ผลู้ งนาม
เชิญประชมุ

7.2 กรณกี ารประชุมชีแจงภายนอกสานักงานของ กฟภ. ใหผ้ ู้ชว่ ยผู้ว่าการเปน็ ผมู้ อี านาจอนมุ ัติ

38

ระเบียบการไฟฟ้าสว่ นภูมิภาค
ว่าดว้ ยการจ่ายสนิ บนและเงินรางวัล ใหแ้ กผ่ นู้ าจบั
หรือผ้จู ับผู้กระทาผิดลักอปุ กรณ์ระบบไฟฟ้า พ.ศ. 2546

1. ในระเบียบนี

1.1 “เงนิ สนิ บน” หมายความว่า เงนิ ท่จี ่ายใหแ้ ก่บคุ คลผนู้ าจบั

1.2 “เงนิ รางวัล” หมายความวา่ เงนิ ท่ีจ่ายให้แก่บุคคลผูซ้ ึ่งจับกุมผูก้ ระทาผิด

1.3 “ผูน้ าจบั ” หมายความวา่ บุคคลที่นาความมาแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีให้ทาการ

จบั กมุ ผ้กู ระทาผิดลกั อปุ กรณร์ ะบบไฟฟ้า

1.4 “ผจู้ ับ” หมายความว่า พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตารวจ หรือบุคคลที่มีอานาจจับ

ตามกฏหมาย เปน็ ผู้จบั กมุ ผู้กระทาผดิ

1.5 “พนักงานเจ้าหนา้ ที่” หมายความวา่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตารวจหรือพนักงานของการ

ไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าค

1.6 “อุปกรณ์ระบบไฟฟ้า” หมายความว่า อุปกรณ์ของระบบไฟฟ้าท่ีติดตังไว้แล้ว อันประกอบด้วย เสา

สายไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟา้ มเิ ตอร์ และสว่ นประกอบอนื่ ๆ

2. การจ่ายเงินสินบนแก่ผู้นาจับ และเงินรางวัลแก่ผู้จับผู้กระทาผิดลักอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าแต่ละครัง จะจ่าย

ให้เมื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ถูกจับกระทาผิดจริง และได้มีการย่ืนฟ้องบุคคลดังกล่าว

ตอ่ ศาลแลว้

3. เงินสนิ บนและเงินรางวัล

3.1 ผู้นาจับ จา่ ยเงินสนิ บนให้ 2,000.- บาท

3.2 ผจู้ ับ จ่ายเงนิ รางวัลให้ 2,000.- บาท

4. การจับผู้กระทาผิดแต่ละครัง ถ้ามีผู้นาจับหลายคนจะพิจารณาจ่ายเงินสินบนให้แก่ผู้นาจับคนแรกเท่านัน

ถา้ มผี นู้ าจับหลายคนพร้อมกนั จะพิจารณาแบง่ จา่ ยเงินสนิ บนตามส่วน

5. ในการจบั ผ้กู ระทาผิดแตล่ ะครัง ถา้ มผี จู้ ับหลายคนจะพจิ ารณาแบง่ จ่ายเงินรางวลั ตามส่วน

6. อานาจอนุมัติสั่งจ่ายเงินสินบนหรือเงินรางวัล เป็นอานาจของผู้ช่วยผู้ว่าการ ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1 -3

หรือผู้รกั ษาการแทนตาแหนง่ ดังกล่าว

39

ระเบยี บการไฟฟา้ ส่วนภมู ิภาค
วา่ ดว้ ยการจ่ายเงนิ รางวลั ให้แก่ผู้แจ้ง
และผู้ตรวจสอบการละเมิดการใชไ้ ฟฟ้า พ.ศ. 2546

1. ในระเบียบนี

1.1 “เงนิ รางวัล” หมายความว่า เงินท่จี า่ ยใหแ้ ก่ผูแ้ จ้งหรือผตู้ รวจสอบการละเมดิ การใช้ไฟฟา้

1.2 “ผแู้ จง้ ” หมายความว่า บคุ คลที่บอกกลา่ วใหท้ ราบว่ามกี ารละเมดิ การใชไ้ ฟฟา้

1.3 “ผู้ตรวจสอบ” หมายความว่า พนักงานการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค ผตู้ รวจสอบการละเมดิ การใชไ้ ฟฟา้

1.4 “การละเมิดการใช้ไฟฟ้า” หมายความว่า การกระทาใด ๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่ออุปกรณ์ระบบ

ไฟฟ้า และหรือมิเตอร์ และหรอื อุปกรณ์ประกอบมิเตอร์ และหรือเคร่ืองหมายหรือตราของการไฟฟ้า

ส่วนภมู ภิ าค และหรอื การตอ่ ไฟตรงโดยไม่ผา่ นมเิ ตอร์

2. วธิ ปี ฏิบตั ิเกีย่ วกบั การแจ้ง

2.1 แจง้ ดว้ ยการสง่ หนังสือ ผ้แู จง้ จะตอ้ งทาเป็นหนังสือลงวนั เดือน ปี ท่ีเขยี นพร้อมท่ีอยู่ของผแู้ จง้ และลง

ชอื่ ชื่อสกลุ ทชี่ ดั เจน กากบั ไวเ้ ป็นหลักฐานสง่ ถงึ สานกั งานการไฟฟ้าสว่ นภมู ิภาคในพนื ที่ โดยระบทุ ี่อยู่

หรือหมายเลขผ้ใู ช้ไฟฟ้าของผู้กระทาการละเมิดการใชไ้ ฟฟ้า หรอื ผู้ไดร้ บั ประโยชน์จากการละเมดิ การ

ใช้ไฟฟา้

2.2 แจง้ ดว้ ยตนเอง ผแู้ จ้งจะตอ้ งตดิ ตอ่ กับพนักงานของการไฟฟ้าสว่ นภูมิภาคด้วยตนเอง ณ สานกั งานการ

ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพืนที่ ซึ่งพนักงานจะได้บันทึกข้อความท่ีแจ้ง และลงวัน เดือน ปี พร้อมทังท่ีอยู่

ของผแู้ จ้ง และผกู้ ระทาการละเมิดการใช้ไฟฟ้าหรือผู้ได้รับประโยชนจ์ ากการละเมิดการใช้ไฟฟ้า และ

ใหผ้ ้แู จ้งลงลายมือชอื่ ไวเ้ ป็นสาคญั

2.3 แจ้งด้วยวาจา ผู้แจ้งจะต้องติดต่อโดยตรงกับผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ หรือผู้จัดการการ

ไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค

3. จ่ายเงินรางวลั ใหแ้ กผ่ แู้ จง้ ตามขนาดมิเตอร์ ดังนี

3.1 มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ ขนาดไม่เกิน 30 แอมปแ์ ปร์ 1 เฟส จ่ายให้ 500.- บาท

3.2 มเิ ตอร์ไฟฟ้าขนาดเกนิ กวา่ 30 แอมป์แปร์ 1 เฟส จา่ ยให้ 1,000.- บาท

3.3 มเิ ตอร์ไฟฟา้ ชนดิ 3 เฟส จ่ายให้ 1,000.- บาท

3.4 มิเตอร์ไฟฟ้าชนิดมคี ่าความต้องการพลงั ไฟฟา้ จ่ายให้ 2,000.- บาท

4. จ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้ตรวจสอบตามขนาดมเิ ตอร์ ดังนี

4.1 มเิ ตอรไ์ ฟฟ้าขนาดไม่เกิน 30 แอมป์แปร์ 1 เฟส จ่ายให้ 100.- บาท

4.2 มเิ ตอรไ์ ฟฟา้ ขนาดเกนิ กว่า 30 แอมป์แปร์ 1 เฟส จ่ายให้ 200.- บาท

4.3 มเิ ตอร์ไฟฟ้าชนิด 3 เฟส จา่ ยให้ 200.- บาท

4.4 มิเตอร์ไฟฟ้าชนดิ มีค่าความต้องการพลังไฟฟ้า จ่ายให้ 400.- บาท

5. การจ่ายเงินรางวัลตามข้อ 3 และ 4 กรณีละเมิดการใช้ไฟฟ้าด้วยการต่อไฟตรงโดยไม่ผ่านมิเตอร์ การ

จ่ายเงนิ รางวลั ให้จ่ายตามขนาดมเิ ตอร์ทกี่ ารไฟฟ้าสว่ นภูมิภาคประเมินเรียกคา่ เบยี ปรับ

40

6. การจ่ายเงินรางวัลตามข้อ 3 – 5 จะจ่ายให้ภายหลังจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับเงินค่าเบียปรับจาก
ผู้กระทาการละเมดิ การใช้ไฟฟ้า หรือผไู้ ด้รบั ประโยชน์จากการละเมิดการใช้ไฟฟา้ แลว้ แต่กรณี และพิสจู น์
เปน็ ทแ่ี นช่ ัดแล้ววา่ ผูค้ วรได้รับเงนิ รางวัลเปน็ ผ้แู จ้งหรอื ผ้ตู รวจสอบตามระเบียบนีจริง

7. กรณีผู้กระทาการละเมิดการใช้ไฟฟ้า หรอื ผู้ไดร้ ับประโยชนจ์ ากการละเมิดการใช้ไฟฟ้าไม่ยินยอมชดใช้เงิน
ค่าเบียปรับ และการไฟฟา้ สว่ นภูมิภาคได้ดาเนินคดี จนศาลมคี าพิพากษาถึงท่ีสุดให้ลงโทษผู้นันแล้ว จึงจะ
จา่ ยเงนิ รางวลั ให้

8. กรณีท่ีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ติดตามจับกุมผู้รับจ้างกระทาการละเมิดการใช้ไฟฟ้าพร้อมด้วยหลักฐานจน
สามารถดาเนินคดี และศาลมีคาพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้นันแล้ว จึงจะจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้แจ้ง เป็น
จานวนเงนิ 5,000.- บาท

9. กรณีที่มีผู้แจ้งหรือผู้ตรวจสอบหลายคนเก่ียวกับการกระทาการละเมิดการใช้ไฟฟ้ารายเดียวกัน จะ
พิจารณาจ่ายเงินรางวัลให้แก่ผู้แจ้งหรือผู้ตรวจสอบคนแรกก่อนเท่านัน ถ้ามีผู้แจ้งหรือผู้ตรวจสอบในเวลา
เดียวพรอ้ มกนั หลายคน ผแู้ จ้งหรือผ้ตู รวจสอบแต่ละคนมสี ิทธไิ ดร้ ับเงินรางวลั ตามส่วน

10. อานาจอนุมัติส่ังจ่ายเงินรางวัล เป็นอานาจของผู้ช่วยผู้วา่ การ ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 หรือผู้รักษาการ
แทนตาแหน่งดงั กล่าว

41

ระเบียบการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค
วา่ ดว้ ยการละเมิดทรัพย์สินระบบไฟฟา้ พ.ศ. 2563

1. ในระเบียบนี
1.1 “การละเมิดทรัพย์สินระบบไฟฟ้า” หมายความว่า การกระทาใด ๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมายต่อ
ทรพั ยส์ ินระบบไฟฟา้
1.2 “ทรัพย์สินระบบไฟฟ้า” หมายความว่า ระบบจาหน่ายไฟฟ้า ระบบสายส่งรวมถึงอุปกรณ์ประกอบ
มิเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ หม้อแปลงและอุปกรณ์ประกอบ สถานีไฟฟ้า และระบบผลิต
กระแสไฟฟ้า ซงึ่ ทังหมดเปน็ ทรพั ย์สินของการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค
1.3 “ทรัพย์สินอ่ืน” หมายความว่า ทรัพย์สินอื่นใดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนอกจากทรัพย์สินระบบ
ไฟฟ้า อาคารและสิง่ ปลูกสรา้ ง ทรพั ย์สินหรืออุปกรณ์ในระบบส่ือสาร

2. อานาจอนุมตั เิ รียกเกบ็ ค่าเสยี หาย
2.1 ผ้จู ัดการการไฟฟา้ สว่ นภูมภิ าคสาขา หรอื ผูร้ กั ษาการแทน วงเงนิ ไมเ่ กนิ 50,000.- บาท
2.2 ผู้จัดการการไฟฟา้ ส่วนภมู ภิ าคชนั 2 และ 3, ผ้อู านวยการกองในสังกดั การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาคเขต หรือ
ผรู้ ักษาการแทน วงเวนิ ไมเ่ กนิ 500,000.- บาท
2.3 ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชัน 1 ผู้อานวยการฝ่ายบัญชีและพลังงานไฟฟ้าหรือผู้รักษาการแทน
วงเวนิ ไม่เกนิ 1,800,000.- บาท
2.4 ผชู้ ว่ ยผูว้ า่ การ หรือผู้รกั ษาการแทน วงเงินเกนิ กวา่ 1,800,000.- บาท

3. อานาจการผ่อนชาระ
3.1 กรณีผู้กระทาละเมิดขอผ่อนผันการชาระเงินโดยวิธีผ่อนชาระเงินเป็นงวด ๆ ให้ผู้มีอานาจตามข้อ 2
เป็นผมู้ ีอานาจในการพิจารณาผ่อนผนั การชาระเงนิ
3.2 ผู้จดั การการไฟฟ้าสว่ นภูมภิ าคสาขา หรอื ผู้รักษาการแทน ใหผ้ ่อนชาระได้ไม่เกิน 6 เดือน
3.3 ผจู้ ัดการการไฟฟา้ ส่วนภมู ภิ าคชัน 2 และ 3, ผู้อานวยการกองในสงั กดั การไฟฟา้ ส่วนภมู ิภาคเขต หรือ
ผู้รักษาการแทน ใหผ้ ่อนชาระไดไ้ มเ่ กนิ 12 เดือน
3.4 ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชัน 1 ผู้อานวยการฝ่ายบัญชีและพลังงานไฟฟ้าหรือผู้รักษาการแทน
ให้ผอ่ นชาระไดไ้ มเ่ กิน 18 เดือน
3.5 ผู้ชว่ ยผวู้ ่าการ หรอื ผู้รกั ษาการแทน ใหผ้ อ่ นชาระได้ไมเ่ กนิ 24 เดือน
3.6 รองผู้ว่าการการไฟฟ้าภาค 1-4 ให้ผ่อนชาระได้เกิน 24 เดือน และหรือไม่เป็นไปตามที่กาหนดใน
ระเบียบนี
3.7 วิธีการผ่อนชาระค่าเสียหาย ให้ทาหนังสือขอผ่อนผันชาระค่าเสียหาย โดยต้องกาหนดระยะเวลาท่ี
ผ่อนชาระท่ีแน่นอน และในกรณีค่าเสียหายเกินกว่า 300,000.- บาท ให้มีหลักประกันในการผ่อน
ชาระ เช่น ผู้คาประกัน (บุคคล) , หนังสือสัญญาคาประกันของธนาคารในวงเงินที่ขอผ่อนชาระ หรือ
หลกั ทรัพย์อนื่ ๆ

42

4. การคืนเงิน
หากปรากฏว่าวงเงินค่าเสียหายที่ผู้กระทาละเมิด ได้ชาระล่วงหน้าสูงกว่าวงเงินท่ีอนุมัติก็ให้ผู้มีอานาจ
อนุมัติเรียกเก็บค่าเสียหายตามข้อ 2 หรือสานักกฎหมาย เป็นผู้มีอานาจอนุมัติคืนเงินส่วนที่เกินให้กับ
ผู้กระทาละเมิดได้ โดยให้ทาหลักฐานเปน็ หนงั สือไว้ด้วย

43

คาสงั่ การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค
ท่ี พ.(ม)79/2558

เรอ่ื ง มอบอานาจอนุมัติการผอ่ นชาระค่าเสียหาย

กรณีพนักงานผู้ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ขอผ่อนชาระค่าเสียหายต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงมอบ
อานาจให้ผู้บังคับบัญชาทุกสายงานตามลาดับชันของผู้ต้องรับผิดชดใช้ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการผ่อนชาระ
ค่าเสยี หายเปน็ งวด ๆ แทนผวู้ ่าการได้ และตอ้ งมีหลักเกณฑด์ ังนีคือ จัดใหม้ ีผคู้ าประกนั ในการผ่อนชาระ และ
การขอผ่อนชาระตอ้ งไม่น้อยกวา่ ร้อยละสิบของเงนิ เดือน หากการผ่อนชาระไมเ่ สร็จสินภายใน 1 ปี ก็ใหน้ าเงนิ
โบนัสอีกรอ้ ยละย่สี บิ ห้ามาผ่อนชาระดว้ ย และในการผ่อนชาระทังหมดต้องชาระให้ครบถว้ นก่อนวันพ้นสภาพ
การเป็นพนกั งานภายในในวงเงินคา่ เสียหาย ดงั ตอ่ ไปนี

1. ผู้อานวยการกอง ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือหัวหน้าหน่วยงานท่ีเทียบเท่าระดับกอง หรือผู้
รักษาการแทน วงเงนิ คา่ เสยี หายไมเ่ กิน 100,000.- บาท

2. ผอู้ านวยการฝ่าย หรอื ผูร้ ักษาการแทน วงเงนิ ค่าเสียหายไม่เกิน 200,000.- บาท
3. ผชู้ ว่ ยผู้วา่ การ หรือผูร้ กั ษาการแทน วงเงนิ ค่าเสียหายไม่เกิน 500,000.- บาท
4. รองผูว้ ่าการ หรือผ้รู ักษาการแทน วงเงินคา่ เสยี หายไมเ่ กนิ 1,000,000.- บาท
5. ผ้วู ่าการ หรอื ผู้ทผี่ ู้ว่าการมอบหมาย วงเงนิ คา่ เสียหายเกนิ 1,000,000.- บาท
6. หากการขอผ่อนชาระค่าเสียหายรายใดไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การผ่อนชาระดังกล่าวข้างต้น และ

วงเงินค่าเสียหายไม่เกิน 1,000,000.- บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ให้รองผู้ว่าการ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา
ตามสายงานของพนักงานผู้ขอผ่อนชาระค่าเสียหายเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ ถ้าวงเงินค่าเสียหายเกิน
1,000,000.- บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ให้เสนอผู้ว่าการ หรือผู้ที่ผู้ว่าการมอบหมาย เป็นผู้พิจารณา
อนุมัติ เมื่อผู้มีอานาจดังกล่าวข้างต้นได้พิจารณาอนุมัติการผ่อนชาระแล้ว ให้รายงานผู้ว่าการ ทราบ
ดว้ ย

44

หลักเกณฑแ์ ละวิธปี ฏิบัติในการปรบั ปรุงคา่ ไฟฟ้า กรณีมิเตอรอ์ า่ นคา่ คลาดเคลอ่ื น
และหรอื อปุ กรณป์ ระกอบมิเตอรช์ ารุด หรอื กรณีอืน่ ๆ พ.ศ. 2559

1. การคดิ ดอกเบยี หรือไมค่ ดิ ดอกเบียเงนิ ผอ่ นชาระ
1.1 กรณผี ใู้ ชไ้ ฟฟ้ากระทาการละเมดิ การใชไ้ ฟฟ้า หรือสาเหตุเกิดจากการกระทาของผใู้ ช้ไฟฟ้า ให้คดิ
ดอกเบียเงินผอ่ นชาระร้อยละ 15 ต่อปี ทังนี ใหจ้ ดั ทาหนังสือรบั สภาพหนีตามแบบฟอร์มที่ กฟภ.
กาหนด (ศฟ.4/2559-ป.59 กรณีละเมิดการใช้ไฟฟ้า ตามภาคผนวก ค)
1.2 กรณคี ่าไฟฟา้ คลาดเคลื่อนจากสาเหตอุ ื่น ๆ เชน่ มเิ ตอรช์ ารุด ใชต้ วั คณู ผิด คดิ คา่ ไฟฟ้าผิด ฯลฯ ซึ่ง
มิใชค่ วามผดิ ของผูใ้ ชไ้ ฟฟ้าไม่คดิ ดอกเบยี ในการผ่อนชาระ ทังนี ให้จัดทาหนงั สือรับสภาพหนีตาม
แบบฟอรม์ ท่ี กฟภ. กาหนด (ศฟ.3/2559-ป.59 ตามภาคผนวก ค) เวน้ แต่ การผ่อนชาระไม่เป็นไป
ตามเงือ่ นไขในหนงั สอื รบั สภาพหนี

2. อานาจ วงเงนิ ระยะเวลา ในการผ่อนชาระ
2.1 ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขา หรือผู้รักษาการแทน วงเงนิ ไมเ่ กิน 50,000.- บาท ให้ผอ่ นชาระไดไ้ มเ่ กิน 12
เดอื น
2.2 ผ้จู ดั การการไฟฟา้ ชัน 2,3 หรือผู้รักษาการแทน วงเงนิ ไมเ่ กิน 500,000.- บาท ใหผ้ ่อนชาระได้ไม่เกนิ
18 เดือน
2.3 ผจู้ ัดการการไฟฟ้าชัน 1 หรอื ผูอ้ านวจการฝ่ายบัญชแี ละพลังงานไฟฟา้ หรือผู้รกั ษาการแทน วงเงินไม่
เกนิ 3,000,000.- บาท ใหผ้ ่อนชาระได้ไม่เกนิ 24 เดือน
2.4 ผูช้ ่วยผู้วา่ การ หรือผู้รกั ษาการแทน วงเงนิ ไมเ่ กนิ 5,000,000.- บาท ให้ผอ่ นชาระได้ไม่เกิน 36 เดอื น
2.5 กรณีนอกเหนือจากข้อ 2.1 – 2.4 ใหร้ องผ้วู ่าการจาหนา่ ยและบรกิ าร (ภาค 1 – 4 ) หรือผูร้ กั ษาการ
แทนมีอานาจอนุมตั ิ

45

ระเบียบการไฟฟ้าสว่ นภมู ภิ าค
วา่ ดว้ ยการจ่ายเงินสวัสดิการสาหรบั การปฏิบัตงิ าน
ประจาสานกั งานในพ้ืนทพ่ี เิ ศษของการไฟฟ้าสว่ นภูมิภาค พ.ศ. 2563

1. ในระเบียบนี
1.1 “เงินสวัสดิการสาหรับการปฏิบัติงานประจาสานักงานในพืนท่ีพิเศษของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค”
หมายถงึ เงินที่จา่ ยช่วยเหลือพนักงาน เน่ืองจากปฏิบัติงานประจาสานกั งานในพืนทพ่ี ิเศษ
1.2 “พนักงาน” หมายถึง พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซึ่งได้มีคาสั่งบรรจุ และแต่งตังให้ดารงตาแหน่ง
หน้าท่ีเป็นพนักงานประจา รวมทังพนักงานทดลองปฏิบัติงานและได้ปฏิบัติงานประจาสานักงานใน
พนื ท่พี ิเศษ
1.3 “สานักงานในพืนท่ีพิเศษของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” หมายถึง สานักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ซง่ึ ตงั อยใู่ นพนื ทพ่ี เิ ศษ ตามบญั ชรี ายชอ่ื การไฟฟา้ แนบทา้ ยระเบยี บนี

2. ให้พนกั งานได้รบั เงินสวสั ดกิ ารฯ จานวนสองพนั บาท ต่อคนตอ่ เดือน
3. พนักงานซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการฯ หากได้รับคาส่ังให้ไปช่วยปฏิบัติงาน หรือไปรักษาการแทน หรือ

ได้รับอนุญาตไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงานนอกสานักงานในพืนที่พิเศษเกินกว่าสิบห้าวันขึนไป ไม่มีสิทธิได้รับ
เงินสวสั ดิการฯ สาหรบั ระยะเวลาท่เี กนิ สิบหา้ วนั นนั
4. พนักงานซึ่งได้มีคาสั่งจ้าง หรือบรรจุและแต่งตังให้ปฏิบัติงานในครังแรกหรือหยุดปฏิบัติงานโดยไม่ได้รับ
เงินเดือน หรือค่าจ้างในเดือนใดแล้วแต่กรณี ถ้าระยะเวลาการปฏิบัติงานของแต่ละกรณีในเดือนนันน้อย
กว่าสิบห้าวัน ไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสาหรับการปฏิบัติงานประจาสานักงานในพืนท่ีพิเศษของการ
ไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค
5. ใหเ้ บิกและจา่ ยเงินสวสั ดกิ ารฯ พร้อมกับการจ่ายเงินเดือนหรอื ค่าจ้าง
6. ให้ผู้ช่วยผวู้ ่าการเปน็ ผู้มีอานาจส่งั จ่ายเงนิ ตามระเบียบนี
7. หากรายช่ือสานักงานในพืนท่ีพิเศษของตนได้ถูกยกเลิกไป ให้หมดสิทธิท่ีจะได้รับเงินนีตังแต่เดือนที่ถูก
ยกเลิกรายชื่อเปน็ ต้นไป (ภาคผนวก 8)

46

คาสงั่ การไฟฟ้าส่วนภมู ภิ าค
ที่ พ.(ท)7/2562 เรอื่ งการจา่ ยค่าเบี้ยเลีย้ งพิเศษ ให้แก่เจ้าพนักงาน

ทร่ี ่วมปฏิบตั ิงานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

1. เจ้าพนกั งานหมายถึง เจ้าหน้าทตี ารวจ ทหาร หรอื เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง
2. ค่าเบียเลียงตามคาส่ังนีถือว่าเป็นเงินท่ีจ่ายให้กรณีพิเศษนอกเหนือจากค่าเบียเลียงที่จ่ายให้แก่พนักงาน

การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค และจ่ายให้แก่
2.1 เจ้าพนักงานท่ีไปร่วมตรวจสอบระบบสายส่งหรือระบบจาหน่ายหรือกรณีไปร่วมงดจ่ายกระแสไฟฟ้า

เฉพาะสถานท่ีที่ไมม่ ีความปลอดภยั เพียงพอเท่านัน
2.2 เจ้าพนักงานที่ร่วมปฏิบัติงานอานวยความสะดวกด้านการจราจรในการก่อสร้างหรืองานซ่อมแซม

ระบบสายส่งหรอื ระบบจาหน่าย โดยผปู้ ฏบิ ัตไิ ดด้ าเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัยแลว้ ยงั มี
ความจาเป็นต้องขอให้เจ้าพนักงานมาอานวยความสะดวกด้านการจราจร เฉพาะแห่งท่ีมีการจราจร
คบั คัง่
3. การร้องขอให้เจ้าพนกั งานร่วมปฏิบตั ิงาน ใหท้ าหลกั ฐานเปน็ หนังสือทกุ ครัง
4. คา่ เบียเลยี งพิเศษให้จา่ ยวนั ละ 500.- บาทต่อคน
5. ใหผ้ จู้ ัดการการไฟฟา้ มอี านาจอนุมตั ิสั่งจ่ายเงนิ

47

ระเบยี บการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
วา่ ดว้ ยการตรวจสอบมเิ ตอร์และมาตรการปอ้ งกนั การละเมิดการใชไ้ ฟฟา้ พ.ศ.2559

1. เจา้ พนักงานหมายถึง เจ้าหน้าที่ตารวจ/พนกั งานฝ่ายปกครอง/ผ้ตู รวจสอบ
2. จ่ายเบียเลียงพิเศษให้แก่เจ้าพนักงานท่ีร่วมปฏิบัติงานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เจ้าพนักงานที่เข้าร่วม

ตรวจสอบมิเตอร์ บรรจุหีบห่อ/เก็บหลักฐาน หรือเป็นพยาน เม่ือมีการละเมิดการใช้ไฟฟ้าหรือร่วมกับ
พนักงานการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาคปฏบิ ัติงานตรวจการใชไ้ ฟฟ้า ไม่ว่าจะพบการละเมิดการใช้ไฟฟ้าหรือไม่
ก็ตาม
3. คา่ เบียเลียงพเิ ศษในการรว่ มตรวจสอบครงั ละ 500.- บาทตอ่ คน
4. กรณีต้องนาส่งวัตถุพยานท่ีเกี่ยวข้องกับการกระทาละเมิดการใช้ไฟฟ้าให้สานักงานพิสูจน์หลักฐานตารวจ
กฟภ. จะสนบั สนนุ คา่ ใช้จา่ ยในการนาสง่ วัตถพุ ยานดังกล่าว ให้กับเจ้าหนา้ ทตี่ ารวจตามความเป็นจรงิ แต่ไม่
เกิน 3,000.- บาท
5. ให้ผู้จัดการการไฟฟา้ มีอานาจอนมุ ัติและสง่ั จา่ ยเงิน
6. เอกสารประกอบการเบิกจ่ายเบอื งตน้
6.1 สาเนาบัตรประจาตัวเจ้าหนา้ ทตี่ ารวจหรือเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองท่ีร่วมเปน็ พยานในการตรวจสอบ

มเิ ตอร์
6.2 สาเนาบันทกึ การตรวจสอบมเิ ตอร์
6.3 บนั ทึกขออนุมตั ิเบิกเบียเลียงกรณเี จา้ หน้าทีต่ ารวจ/พนักงานฝา่ ยปกครอง ร่วมปฏิบตั ิงานใหก้ าร

ไฟฟา้ สว่ นภมู ิภาค

48

คาสั่งการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค
ที่ พ.(ท)3/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ ข้ันตอนการเบิกจา่ ย และการขออนมุ ตั คิ ่าใช้จา่ ย

ของสถานีไฟฟา้ และโรงจักรพลังนา้

1. ให้ผจู้ ัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 และ กฟส. ทกุ แห่งหรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ซ่ึงมสี ถานีไฟฟา้ และโรงจักรพลัง
นาตงั อย่ใู นพืนท่ีรับผิดชอบ สามารถดาเนินการแทนผอู้ านวยการฝา่ ยปฏบิ ตั กิ ารเครือข่าย

2. ค่าใช้จ่ายที่เก่ียวกับสวัสดิการของพนักงานและบุคคลในครอบครัว ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล และค่าเล่า
เรยี นบตุ ร
2.1 พนักงานประจาสถานีไฟฟ้าหรือโรงจกั รพลงั นาจัดทาใบสาคญั จา่ ยเงิน ถงึ ฝ่ายปฏบิ ตั ิการเครอื ข่ายเพ่ือ
ตรวจสอบสิทธิ เนอื่ งจากเป็นสายงานบงั คบั บัญชาของพนักงานประจาสถานีไฟฟ้าหรอื โรงจักรพลังนา
ซ่ึงมี Username และ Password และให้ผู้อานวยการฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายหรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมาย อนมุ ตั ิสัง่ จ่ายเงินในใบสาคญั จา่ ยเงินทพี่ ิมพ์ออกจากระบบ SAP
2.2 ใหผ้ ู้จดั การการไฟฟา้ ชัน 1-3 และ กฟส. อนมุ ัตจิ ่ายเงินตามใบสาคัญจ่ายเงินข้อ 2.1 ท่ีผ่านการอนุมัติ
สัง่ จ่ายเงินจากฝ่ายปฏบิ ัติการเครอื ข่ายแล้ว
2.3 การออกหนังสือส่งตวั เขา้ รบั การรกั ษาพยาบาลใหห้ นว่ ยงานต้นสังกัดคือฝ่ายปฏิบตั ิการเครือข่ายหรือผู้
ท่ีไดร้ บั มอบหมาย เปน็ ผู้ออกหนังสือสง่ ตัวเข้ารบั การรักษาพยาบาล

3. คา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนนิ งานจดั ซือ/จัดจา้ ง/เช่า ทุกประเภท
3.1 พนักงานประจาสถานีไฟฟา้ หรอื โรงจักรพลังนาจัดทา อนุมตั หิ ลกั การ, การขอซอื /ขอจ้าง/ขอเชา่ และ
การพิจารณาผลการอนุมัติสั่งซือ/สั่งจ้าง/ส่งั เชา่ ให้ผู้อานวยการฝา่ ยปฏิบัติการเครือข่ายหรอื ผู้ที่ไดร้ ับ
มอบหมาย อนมุ ตั ิ
3.2 พนักงานประจาสถานไี ฟฟ้าหรอื โรงจกั รพลงั นาจัดทาใบสาคัญจ่ายเงินเสนอขอเบกิ ค่าใช้จ่ายจาก การ
ไฟฟา้ ชนั 1-3 หรอื กฟส. เพ่อื ตรวจสอบความถูกต้องของใบสาคัญจ่ายเงินก่อนอนุมตั สิ ัง่ จ่ายเงิน
3.3 ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 และ กฟส. อนุมัติสั่งจ่ายเงินในใบสาคัญจ่ายเงินที่พิมพ์ออกจากระบบ
SAP

4. ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค หรือค่าใช้จ่ายในการดาเนินการรายเดือน เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟฟ้า ค่า
ไปรษณยี ์ ค่าเกบ็ ขยะ คา่ นาประปา เปน็ ตน้
4.1 พนักงานประจาสถานีไฟฟ้าหรือโรงจักรพลังนาจัดทาใบสาคัญจ่ายเงินพร้อมเอกสารประกอบ เสนอ
ขออนุมัติเบิกค่าใช้จ่ายจาก การไฟฟ้าชัน 1-3 หรือ กฟส. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของใบสาคัญ
จา่ ยเงินก่อนอนมุ ัติสงั่ จ่ายเงนิ
4.2 ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 และ กฟส. อนุมัติส่ังจ่ายเงินในใบสาคัญจ่ายเงินท่ีพิมพ์ออกจากระบบ
SAP

5. ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน เช่น ค่าเบียเลียง ที่พัก ยานพาหนะเดินทาง เงินยืมสารองจ่ายและค่าชดเชย
การใช้ยานพาหนะ
5.1 พนักงานประจาสถานีไฟฟ้าหรือโรงจักรพลังนาจัดทาเอกสารเสนอขออนุมัติให้เดินทางไปปฏิบัติงาน
ใหผ้ ู้อานวยการฝ่ายปฏิบัตกิ ารเครือข่ายหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย อนมุ ัติ

49

5.2 พนักงานประจาสถานไี ฟฟ้าหรอื โรงจักรพลงั นาจัดทาใบสาคัญจา่ ยเงินเสนอขอเบกิ ค่าใชจ้ ่ายจาก การ
ไฟฟ้าชัน 1-3 หรือ กฟส. เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของใบสาคัญจ่ายเงินก่อนอนุมัติส่ังจ่ายเงิน (ไม่
ตอ้ งลงนามผบู้ งั คับบัญชาหนว่ ยงานในด้านหลังแบบฟอร์มใบสาคญั จ่ายเงินค่าใชจ้ ่ายในการเดินทางไป
ปฏิบตั ิงานและรายงานการเดินทาง)

5.3 ให้ผู้จัดการการไฟฟ้าชัน 1-3 และ กฟส. อนุมัติสั่งจ่ายเงินในใบสาคัญจ่ายเงินที่พิมพ์ออกจากระบบ
SAP

6. คา่ ภาษโี รงเรือน
6.1 ให้การไฟฟ้าชัน 1-3 หรือ กฟส. แจ้งฝ่ายปฏิบัติการเครือข่ายพร้อมเอกสารประกอบเพ่ือตรวจสอบ
เอกสาร พร้อมทังกรอกแบบฟอร์มเสียภาษี
6.2 การไฟฟา้ ชนั 1-3 หรือ กฟส. จดั ทาใบสาคัญจ่ายเงินพร้อมเอกสารประกอบ
6.3 ผู้จดั การการไฟฟ้าชัน 1-3 และ กฟส. อนุมัตสิ งั่ จ่ายเงนิ ในใบสาคญั จ่ายเงนิ ท่ีพมิ พอ์ อกจากระบบ SAP
***ใครอนุมตั ิสง่ั จ่ายเงนิ

7. ตามข้อ 2 – 6 หากวงเงนิ อนุมตั ิเกินอานาจให้นาเสนอต่อการไฟฟา้ ชัน 1-3 ต้นสงั กดั ของ กฟส. แหง่ นนั
หรอื การไฟฟา้ เขตในพนื ท่ีทฝี่ ่ายปฏิบตั กิ ารเครอื ขา่ ยนนั ตังอยู่


Click to View FlipBook Version