The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

PLC วงรอบ 3 สมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rnchayxinrangumm, 2022-09-09 09:43:41

PLC วงรอบ 3

PLC วงรอบ 3 สมบูรณ์

PLC วงรอบ 3 186
นายรณชยั อินรงั

PLC วงรอบ 3 187
นายรณชยั อินรงั

แบบบนั ทกึ ผลการวเิ คราะห์นกั เรยี น

ช่ือ-สกลุ นายรณชัย อนิ รงั โรงเรยี นสรอยเสรวี ิทยา

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 จานวน 13 คน

1. ลักษณะของนกั เรยี นในชัน้ เรยี นของท่านตามเอกลกั ษณ์ของสาระการเรยี นรู้ท่ีต้องการพัฒนา
ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสรอยเสรีวิทยา ตาบลสรอย อาเภอวังช้ิน จังหวัดแพร่ สัง กัด
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาแพร่ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน
ระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 สาระเพ่ิมเติม เคมี มาตรฐานท่ี 2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณ
สัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลในปฏิกิริยา สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส
ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซแ์ ละเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้งั การนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์

โดยกาหนดให้เป็นสาระการเรียนรู้เรื่อง ไฟฟ้าเคมี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 และผู้ท่ีศึกษาได้นาสาระการ
เรียนรู้ดังกล่าวมาสร้างส่ือ นวัตกรรมประกอบการจัดการเรียนการสอนนักเรียนโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา
นักเรียนซ่ึงได้กาหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่จะพัฒนาให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถในรายวิชาจาแนกออกเป็น
3 กลมุ่ ดงั นี้

กลุ่มเก่ง นักเรียนสามารถเขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็กด้วย
สังกะสีได้ บอกหลักการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้าได้ และเขียนสมการแยกโลหะให้บริสุทธ์ิด้วย
กระแสไฟฟ้าได้ ด้านทักษะและกระบวนการ มีทักษะด้านทาการทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วย
สังกะสไี ดส้ รุปผลการทดลอง อภิปรายผลการทดลองจนนาไปสู่การทาแบบฝึกหัดโจทย์เสริมได้ถูกต้อง เม่ือทา
แบบทดสอบสามารถทาคะแนนได้ร้อยละ 80 ข้ึนไป

กลุม่ ปานกลาง นกั เรยี นสามารถเขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็ก
ด้วยสงั กะสไี ด้ บอกหลักการแยกโลหะใหบ้ ริสุทธิ์ดว้ ยกระแสไฟฟ้าได้ และเขยี นสมการแยกโลหะให้บริสุทธ์ิด้วย
กระแสไฟฟ้าได้ ด้านทักษะและกระบวนการ มีทักษะด้านทาการทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วย
สังกะสีได้สรปุ ผลการทดลอง อภิปรายผลการทดลองจนนาไปสู่การทาแบบฝึกหัดโจทย์เสริมได้ถูกต้อง เมื่อทา
แบบทดสอบสามารถทาคะแนนได้รอ้ ยละ 50-79 ข้ึนไป

กลุ่มอ่อน นักเรียนสามารถเขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็กด้วย
สังกะสีได้ บอกหลักการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้าได้ และเขียนสมการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วย
กระแสไฟฟ้าได้ ด้านทักษะและกระบวนการ มีทักษะด้านทาการทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วย
สังกะสไี ดส้ รปุ ผลการทดลอง อภิปรายผลการทดลองจนนาไปสู่การทาแบบฝึกหัดโจทย์เสริมได้ถูกต้อง เมื่อทา
แบบทดสอบสามารถทาคะแนนไดร้ ้อยละตา่ กวา่ 50

ซ่ึงผลจากการวิเคราะห์ผู้เรียนตามแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นของนักเรียน สามารถจาแนก
นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ปที ี่ 5/1 ได้ดงั ต่อไปนี้

PLC วงรอบ 3 188
นายรณชัย อินรัง

กลุ่มเกง่
1. นางสาวชญานศิ เจอื้ จิว๋
2. นางสาวปวณี า อดุ แบน
3. นางสาวปองขวัญ ยนั ระหา

กลุ่มปานกลาง
1. นางสาวนภัส ตาธิกา
2. นางสาวชนาพร ไทยใหม่
3. นางสาวภัทรภร นอ้ ยเช่ือม
4. นางสาววรรณนรินทร์ คงธนัทกาญจน์
5. นางสาวกมลศริ ิ สุปินะวงค์
6. นางสาวธญั ชนก ตบิ๊ แสน

กลมุ่ ออ่ น
1. นางสาวศิรินทพิ ย์ เพช็ รนลิ
2. นางสาวไพลนิ เทศอ่อน
3. นางสาวสุธศิ า ปวนกนั ทา
4. นางสาวสุมนิ ตรา กองสขุ

2. ความสามารถ (จุดเด่น) ของนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ตามทักษะยอ่ ย
2.1 ความสามารถของนกั เรียนกลุม่ เกง่ ดงั นี้

ดา้ นความรู้
1. เขยี นสมการของปฏกิ ริ ยิ าเคมีท่แี อโนดและแคโทด จากการชบุ เหล็กดว้ ยสงั กะสไี ด้ถกู ต้องร้อยละ

80 ข้ึนไป จานวน 3 คน
2. บอกหลักการแยกโลหะให้บรสิ ุทธิ์ดว้ ยกระแสไฟฟ้าได้ถกู ตอ้ งรอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป จานวน 3 คน
3. เขยี นสมการแยกโลหะให้บรสิ ทุ ธิ์ดว้ ยกระแสไฟฟ้าได้ถูกต้องรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป จานวน 3 คน

ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหลก็ ด้วยสังกะสีได้ถูกต้องร้อยละ 80 ขน้ึ ไป จานวน 3 คน

2.2 ความสามารถของนักเรยี นกลุม่ ปานกลางดังนี้
ด้านความรู้

1. เขยี นสมการของปฏิกริ ยิ าเคมที แ่ี อโนดและแคโทด จากการชบุ เหลก็ ด้วยสงั กะสไี ด้ถกู ต้องรอ้ ยละ
50-79 ขึ้นไป จานวน 6 คน

2. บอกหลักการแยกโลหะใหบ้ ริสุทธ์ิด้วยกระแสไฟฟา้ ได้ถูกต้องร้อยละ 50-79 ขึน้ ไป จานวน 6 คน
3. เขยี นสมการแยกโลหะใหบ้ ริสุทธ์ิด้วยกระแสไฟฟ้าได้ถูกตอ้ งร้อยละ 50-79 ขึ้นไป จานวน 6 คน

PLC วงรอบ 3 189
นายรณชยั อนิ รงั

ดา้ นทักษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสีได้ถูกต้องร้อยละ 50-79 ขึ้นไป จานวน 6

คน

ด้านความรู้
1. บอกหลกั การและสว่ นประกอบของเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ถกู ต้องร้อยละ 50-79 ขึน้ ไป จานวน

6 คน
2. อธบิ ายการแยกสารละลายอเิ ล็กโทรไลตด์ ว้ ยกระแสไฟฟ้าไดถ้ ูกต้องร้อยละ 50-79 ข้นึ ไป

จานวน 6 คน
3. เขยี นสมการของปฏกิ ิริยาที่เกดิ ขนึ้ ทแ่ี คโทดและแอโนดไดร้ ้อยละ 50-79 ขน้ึ ไป จานวน 6 คน

ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองแยกสารละลายไอออนิกด้วยไฟฟ้าโดยใช้หลักการเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ถูกต้อง

รอ้ ยละ 50-79 ขนึ้ ไป จานวน 6 คน

2.3 ความสามารถของนักเรยี นกลุ่มออ่ นดังนี้
ด้านความรู้

1. บอกหลักการและสว่ นประกอบของเซลลอ์ ิเล็กโทรไลตไ์ ด้ถูกต้องตา่ กว่ารอ้ ยละ 50 จานวน
4 คน

2. อธิบายการแยกสารละลายอเิ ล็กโทรไลต์ดว้ ยกระแสไฟฟ้าได้ถูกต้องตา่ กวา่ ร้อยละ 50 จานวน
4 คน

3. เขยี นสมการของปฏกิ ริ ิยาทเี่ กิดขน้ึ ทแ่ี คโทดและแอโนดได้ถูกต้องต่ากว่ารอ้ ยละ 50 จานวน
4 คน

ดา้ นทักษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองแยกสารละลายไอออนกิ ด้วยไฟฟา้ โดยใช้หลกั การเซลลอ์ เิ ลก็ โทรไลต์ได้ถูกต้อง

ตา่ กว่าร้อยละ 50 จานวน 4 คน

PLC วงรอบ 3 190
นายรณชัย อนิ รงั

เอกสารหมายเลข 1 แบบรายงานการแกป้ ญั หาการเรยี นรู้ของนกั เรยี น
1. ชอ่ื /นามสกุล Model Teacher

นายรณชยั อินรงั
2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3. ชอื่ โรงเรยี น

โรงเรียนสรอยเสรี อาเภอวังชน้ิ จังหวัดแพร่
4. วงรอบของการแกป้ ัญหา

วงรอบที่ 3 ระหว่างวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565
5. เกยี่ วขอ้ งกบั สาระ
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เขา้ ใจการเขียนและการดลุ สมการเคมี ปรมิ าณสมั พันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกิรยิ า สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้ังการนาความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบ
โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะใหบ้ รสิ ุทธ์ิ และการป้องกันการกัดกรอ่ นของโลหะ

6. นกั เรยี นระดบั ชั้น
นักเรียนระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ห้อง 1 จานวน 13 คน ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

7. สรปุ ปญั หาการเรยี นของผเู้ รียน
ทฤษฎีของตัวเนื้อหามีความซับซ้อนเข้าใจยาก ต้องอาศัยหลักการจินตนาการให้เกิดมโนภาพเพื่อ

นาไปสู่กระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แล้วนาไปสู่การลงมือปฏิบัติฝึกทาโจทย์หรือแบบฝึกท่ีหลากหลาย จะ
ทาให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจในตัวของทฤษฎีเนื้อหาวิชามากข้ึน โดยทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ท่ีสาคัญ
ประการหน่ึงที่กระตุ้นความคิดของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี คือ ทักษะการทดลอง โดยการได้ลงมือปัญหาเพ่ือ
ค้นพบคาตอบด้วยการลงมือทาเพื่อกระตุ้นให้เกิดภาพจา เชื่อมโยงสู่การวิเคราะห์ อภิปรายผล และ สรุปผล
การทดลอง แล้วเช่ือมโยงเพ่อื การพสิ ูจนก์ บั ทฤษฎีเน้อื หารายวชิ า

PLC วงรอบ 3 191
นายรณชัย อินรงั

8. ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จการแก้ปัญหา
ดา้ นความรู้

1. เขียนสมการของปฏกิ ริ ิยาเคมีทแ่ี อโนดและแคโทด จากการชบุ เหลก็ ดว้ ยสังกะสไี ด้
2. บอกหลักการแยกโลหะให้บรสิ ทุ ธดิ์ ว้ ยกระแสไฟฟ้าได้
3. เขยี นสมการแยกโลหะให้บรสิ ุทธิด์ ว้ ยกระแสไฟฟ้าได้
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองและอธบิ ายการชุบตะปเู หล็กดว้ ยสงั กะสีได้

9. วิธกี ารวดั ความสาเร็จของการแกป้ ญั หา
ดา้ นความรู้

1. นักเรยี นสามารถเขียนสมการของปฏกิ ริ ยิ าเคมที ่ีแอโนดและแคโทด จากการชบุ เหลก็ ด้วยสังกะสไี ด้
2. นักเรียนสามารถบอกหลกั การแยกโลหะให้บรสิ ุทธดิ์ ้วยกระแสไฟฟา้ ได้
3. นกั เรยี นสามารถเขียนสมการแยกโลหะให้บรสิ ทุ ธด์ิ ้วยกระแสไฟฟ้าได้
ด้านทักษะและกระบวนการ
1. นกั เรียนสามารถทาการทดลองและอธบิ ายการชุบตะปูเหล็กด้วยสงั กะสไี ด้

10. โปรดระบุวิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนท่ที ่านเลือก
จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามวัฎจักรการสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยเน้นการ

พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบใช้โครงงานเป็นฐาน (PBL)
ฝึกทกั ษะกระบวนการลงมือปฏิบัติการทดลองร่วมกับชุดแบบฝึกกิจกรรมแบบส่ือผสม ในรายวิชา เคมีเพ่ิมเติม
4 สอดแทรกกลวิธีการเรียนเชิงรุก (Active Learning) ดงั น้ี

1. กจิ กรรมการใช้เกมแข่งขนั เพ่ือนาเข้าส่บู ทเรยี น (Games-based Learning)
2. กจิ กรรมระดมความคิดรว่ มกนั ภายในกล่มุ (Brainstorming)
3. กจิ กรรมสะท้อนความคิดของแต่ละกลุ่ม (Student’s Reflection)
4. กจิ กรรมเรียนรแู้ บบเพอื่ นคูค่ ดิ (Think Pair Share)
5. กจิ กรรมเรยี นร้แู บบหอ้ งเรยี นสอนคิด (Thinking tools)
6. กจิ กรรมแบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน (PBL)

1. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการนาเข้าสู่บทเรียนด้วยเร่ืองท่ีสนใจทั้งจากตัว
นักเรียนหรือการอภิปรายในห้องโดยการใช้การแข่งขัน เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนสร้างประเด็นให้กับนักเรียน
รว่ มกนั หาคาตอบ

2. ข้ันสารวจและค้นหา (Exploration) เม่ือทาความเข้าใจในประเด็นหรือคาถามท่ีสนใจจะศึกษา
อยา่ งถอ่ งแทแ้ ล้ว มีการระดมความคิดร่วมกันภายในกลุ่มสะท้อนความคิดของแต่ละกลุ่มอธิบายเรื่องต่าง ๆ ได้
ซึ่งจะช่วยใหเ้ ชอ่ื มโยงกบั เร่อื งตา่ ง ๆ และทาให้เกิดความรู้กว้างขวางข้ึนสาหรับการตรวจสอบด้วยการศึกษาหา
ข้อมูลจากแหลง่ ข้อมูลที่ใหแ้ ละการใช้คอมพวิ เตอร์ เพือ่ ให้ได้มาซึ่งขอ้ มลู อย่างเพียงพอท่ีจะใชใ้ นขั้นต่อไป

PLC วงรอบ 3 192
นายรณชยั อนิ รงั

3. ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) เม่ือได้รับข้อมลู อย่างเพยี งพอจากการสารวจตรวจสอบ
แล้ว จึงนาข้อมูลข้อสารสนเทศท่ีได้วิเคราะห์ แปลผล สรุปผล แลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด ช่วยให้
นกั เรยี นแลกเปลย่ี นเรียนรู้ความคิดเห็นกับเพือ่ นรว่ มหอ้ งและฝึกทักษะสือ่ สารการพูด ซ่ึงการค้นพบในช้ันน้ีอาจ
เป็นไปไดห้ ลายทาง แตผ่ ลทไี่ ด้จะอยูใ่ นรูปใดกส็ ามารถสร้างความรู้และชว่ ยใหเ้ กิดการเรยี นรู้ได้

4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ในข้ันนี้นักเรียนได้รับความรู้เพ่ิมเติมจากการลงมือทา
แบบฝกึ หดั ดว้ ยตนเอง พรอ้ มครูอธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเน้อื หามากข้ึน

5. ข้ันประเมินผล (Evaluation) เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ว่านักเรียนมี
ความรู้อะไรบา้ ง อยา่ งไร และมากน้อยเพียงใด จากข้ันน้ีจะนาไปสกู่ ารนาความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในเร่ืองอืน่ ๆ

11. สรปุ ลาดับขนั้ ตอนการออกแบบการจัดการเรยี นการสอน เขียนเปน็ ขนั้ ตอน เปน็ ข้อ ๆ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 26-28 เรื่อง การชบุ โลหะและการทาโลหะให้บริสุทธิ์ (ทดลอง, ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์,
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด, กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล, การนาเสนอและและอภิปรายข้อมูล,
กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ 5 Es)
ขั้นที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement;5 นาที)

1.1 ครูนาอภิปรายประเด็นการชุบโครเมียมนวัตกรรมในรถยนต์สมัยใหม่ ก่อนตั้งคาถาม ถาม
นักเรียนเพอื่ นาเข้าสู่บทเรียน

- ประโยชน์ของการนาโครเมียมมาชุบช้ินส่วนรถยนต์เพ่ืออะไร ? [แนวทางคาตอบ; เพ่ือเพิ่มความ
มนั วาวเป็นประกายให้รถยนต์, ปอ้ งกันการกัดกรอ่ นและการเกดิ สนิมของช้ินส่วนรถยนต์]

- ในความคิดของนักเรียน คาว่าชุบโครเมียม มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ? [แนวทางคาตอบ; ข้ึนอยู่กับ
คาตอบนกั เรยี น]

นวัตกรรมใหม่ ของการชบุ โลหะที่ทันสมัยและคงทนต่ออายุการใช้งานของชิ้นงาน คือการประยุกต์นา
หลักการไฟฟา้ เคมี แบบเซลล์อเิ ล็กโทรไลตเ์ ข้าไปใช้ประโยชน์ ดังนั้นการชุบโครเมียมท่ีนักเรียนคุ้นเคยก็คือการ
ชุบด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า หลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติกสามารถนาไปในการทาให้โลหะชนิดหน่ึงเคลือบ
อยู่บนผิวของโลหะอีกชนิดหนึ่งได้ซ่ึงเรียกว่า การชุบด้วยไฟฟ้า (Electroplating) เราจะมาศึกษากลไกการ
เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าพรอ้ มกนั กบั กจิ กรรมการทดลองต่อไปนี้

1.2 ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรกู้ ่อนนาเขา้ สูเ่ นอ้ื หา

ข้นั ที่ 2 สารวจและคน้ หา (Exploration;55 นาที)
2.1 ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยคละความสามารถของนักเรียนและให้กาหนดหนา้ ที่

ของสมาชิกแต่ละคนให้ชัดเจน
2.2 นักเรียนรับใบกิจกรรม การทดลองท่ี 4 เรื่อง การชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสี (ดังแนบใน

ภาคผนวก) ศึกษาพร้อมกันและเขียนลาดับขั้นตอนของการทดลองในรูปของ flow chat ลงในสมุดเป็น

รายบุคคล

Pre – Lab
ครชู ีแ้ จงชื่อและจดุ ประสงค์ กิจกรรมการทดลอง พรอ้ มแนะนาอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลอง

PLC วงรอบ 3 193
นายรณชัย อนิ รงั

จดุ ประสงคข์ องการทดลอง(Objective)

1. เพอื่ ศึกษาปฏกิ ริ ยิ าของการชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้า

เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์การทดลอง (Materials)

1. แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง 4. ตะปูขนาดยาวประมาณ 3 ซม.

2. บีกเกอร์ 5. แผ่นสงั กะสีบรสิ ทุ ธ์ิ

3. กระดาษทราย 6. แทง่ แกว้ คนสาร

สารเคมี (Chemicals)
1. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (HCl) ความเข้มขน้ 1.0 mol/dm3
2. สารละลายซงิ ค์(II)ซลั เฟต (ZnSO4) ความเขม้ ขน้ 0.1 mol/dm3

วิธีการทดลอง (Procedure)
1. ใช้กระดาษทราบขัดตะปูเหล็กขนาดยาวประมาณ 3 ซม. แล้วนาไปแช่ใน
สารละลายกรด HCl 1.O mol/dm3 2นาที นาออกมาล้างน้าให้สะอาดและเช็ด
ผวิ ให้แห้ง
2. เติมสารละลาย ZnSO4 0.1 mol/dm3 70 cm3 ลงในบีกเกอร์ขนาด 100
cm3
3. ต่อแผ่นสังกะสีเขา้ กบั ข้ัวบวกและต่อตะปูเหล็กเข้ากับข้ัวลบของแบตเตอร่ี ใช้
ศักย์ไฟฟ้าประมาณ 3 โวลต์ ดังแสดงในรูปตัวอย่างภาพท่ี 6.1 สังเกตการณ์
เปลี่ยนแปลงท่เี กดิ ขึน้ เม่อื เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที

ภาพที่ 6.1 การชบุ ตะปูดว้ ยสังกะสี

Lab
นักเรยี นลงมอื ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองที่ 4 เรือ่ ง การชุบตะปเู หลก็ ดว้ ยสงั กะสีโดยต้องลงมอื

ปฏิบัตกิ ารทดลองครบทุกตอน

Post – Lab
1) ครูส่มุ ให้ตวั แทนของนักเรียนบางกลุ่มออกมาบนั ทึกผลการทดลองบนกระดาน
2) นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายผลการทดลองพร้อมทั้งสรุปผลการทดลอง

คาถามทา้ ยการทดลอง (Observe)
1. ข้วั โลหะสังกะสีและตะปูเหล็กมีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร ?
2. จงเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาทีข่ ัว้ แคโทดและแอโนด ?
3. ความเขม้ ขน้ ของอเิ ล็กโทรไลตเ์ ปล่ียนแปลงหรอื ไม่อย่างไร ?
4. จงสรปุ หลักการชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้าเกี่ยวกับโลหะที่ใชท้ าข้วั ไฟฟา้ สารละลายอิเล็กโทรไลตแ์ ละวตั ถทุ ี่
นามาชบุ ?

PLC วงรอบ 3 194
นายรณชยั อินรัง

ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation;30 นาที)
แนวทางการอภิปรายผลการทดลองและตารางบนั ทึกผลการทดลอง

ครรู ว่ มอภปิ รายผลการทดลองรว่ มกับนกั เรยี นไดแ้ นวสรุปออกมาดังน้ี

ตารางที่ 6.1 ผลการเปลย่ี นแปลงของการชุบตะปูเหล็กด้วยกระแสไฟฟา้

ผลการสงั เกต

ข้ัวแคโทด ขวั้ แอโนด

ตะปมู ีตะกอนสีเงินของสังกะสี แผ่นสงั กะสเี กดิ การผกุ ร่อน

เกาะอยู่

แนวทางการอภปิ รายการตอบคาถามทา้ ยการทดลอง
1. ขวั้ โลหะสังกะสีและตะปเู หลก็ มีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งไร ? [แนวทางคาตอบ; โลหะสงั กะสีผุกรอ่ น ส่วน
ตะปเู หล็กมตี ะกอนสเี งนิ ของสงั กะสีเกาะ]
2. จงเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาทข่ี ้ัวแคโทดและแอโนด ?
[แนวทางคาตอบ;ข้ัวแคโทด ; Zn2+(aq) + 2 e Zn(s), ขว้ั แอโนด ; Zn(s) Zn2+(aq) + 2 e ]
3. ความเข้มขน้ ของอเิ ล็กโทรไลต์เปล่ยี นแปลงหรอื ไมอ่ ยา่ งไร ? [แนวทางคาตอบ; คงที่เน่อื งจากไดไ้ อออน
จากแผน่ สงั กะสีทนแทนทเ่ี สียไป]
4. จงสรปุ หลักการชุบโลหะดว้ ยกระแสไฟฟ้าเกี่ยวกับโลหะที่ใช้ทาข้ัวไฟฟ้า สารละลายอิเล็กโทรไลต์และวัตถุที่
นามาชุบ ? [แนวคาตอบ ; นาวัตถุท่ีต้องการชุบไปต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอร่ีหรือเป็นข้ัวแคโทด ส่วน
โลหะท่ีใช้ชุบให้ต่อเข้ากับข้ัวบวกของแบตเตอร่ีหรือเป็นข้ัวแอโนด สารละลายอิเล็กโทรไลต์ท่ีใช้ต้องมี
ไอออนของโลหะชนิดเดยี วกบั โลหะทเ่ี ปน็ ข้วั แอโนดหรือโลหะท่ีใช้ชุบ ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงเพ่ือไม่ให้เกิดการ
สลบั ข้ัว และปฏกิ ริ ิยาดาเนนิ ไปในทศิ ทางเดียวกนั ]

แนวทางการอภิปรายการสรุปผลการทดลอง
ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาแนวทางการสรุปผลการทดลองจากคาถามท้ายการทดลองเพ่ือเป็นแนวทาง

[แนวทางสรุปผลการทดลอง; เม่ือผ่านกระแสไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปในเซลล์ไอออนของโลหะ
Zn2+(aq) ในสารละลายที่มีความสามารถในการรับอิเล็กตรอนได้ดีกว่าน้า ไอออนของโลหะจะรับ
อิเลก็ ตรอนจากวัตถุทตี่ อ่ อยกู่ ับข้ัวลบของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงหรือขั้วแคโทด เกิดเป็นอะตอมของ
โลหะเคลือบติดบนผิวของตะปู ขณะเดียวกันสังกะสีท่ีขั้วบวกเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันให้ไอออนของโลหะ
ในสารละลายอิเล็กโทรไลตเ์ พอ่ื ชดเชยไอออนทเี่ ปลี่ยนแปลงขณะชบุ ทาให้สงั กะสีทีแ่ อโนดเกิดการสึกกร่อน
ส่วนขวั้ แคโทดมีโลหะเกาะเพม่ิ ขึน้ ]

PLC วงรอบ 3 195
นายรณชัย อนิ รงั

ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration;60 นาที)
4.1 ครูขยายความรทู้ บทวนเกีย่ วกบั หลักการชบุ โลหะดว้ ยไฟฟา้ ดังนี้

ภาพท่ี 6.2 หลกั การชบุ ตะปูดว้ ยไฟฟา้

4.2 ครูเพมิ่ เติมหลกั การทาโลหะให้บรสิ ทุ ธ์ิโดยใชเ้ ซลล์อเิ ล็กโทรไลติก โดยการใช้ ส่ือวดี ีทศั น์
ประกอบการบรรยาย เรือ่ ง การทาทองแดงใหบ้ ริสุทธิ์

ภาพท่ี 6.3 การทาทองแดงใหบ้ รสิ ุทธิ์
4.3 ครใู ห้นักเรียนทาใบงานท่ี 6.1 เรอื่ ง การชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสทุ ธ์ิ (ดังแนบใน
ภาคผนวก) เพ่ือทบทวนและตรวจสอบความเขา้ ใจในเนื้อหาใหก้ ับนักเรียน

ขั้นที่ 5 ประเมนิ (evaluation;30 นาที)
5.1 ครอู ภปิ รายแนวทางคาตอบจาก ใบงานที่ 6.1 เรอ่ื ง เรอื่ ง การชุบโลหะและการทาโลหะให้

บรสิ ทุ ธิ์ (ดังแนบในภาคผนวก) ท่ไี ด้มอบหมายใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมไป
5.2 ครปู ระเมนิ การเรยี นรู้ของนกั เรียน ดังนี้ การตอบคาถามในชั้นเรียน การร่วมกิจกรรมกล่มุ และ

ประเมินการจดบนั ทึกในสมุดของนักเรยี น

PLC วงรอบ 3 196
นายรณชัย อนิ รงั

เอกสารหมายเลข 2 แบบรายงานการวพิ ากษ์แผนการจดั การเรยี นการสอน
1. ชอ่ื /นามสกุล Model Teacher

นายรณชยั อนิ รัง
2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้

วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
3. ชอ่ื โรงเรยี น

โรงเรยี นสรอยเสรี อาเภอวังช้ิน จงั หวดั แพร่
4. วงรอบของการแกป้ ัญหา

วงรอบที่ 3 ระหวา่ งวันที่ 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565
5. เกยี่ วข้องกบั สาระ
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เข้าใจการเขียนและการดลุ สมการเคมี ปรมิ าณสมั พนั ธใ์ นปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดลุ ในปฏกิ ิริยา สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนาความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้
31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบโลหะ การ
แยกสารเคมดี ้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บรสิ ุทธิ์ และการป้องกนั การกดั กร่อนของโลหะ
6. นกั เรยี นระดบั ชั้น

นักเรียนระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 หอ้ ง 1 จานวน 13 คน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
7. แผนการจัดการเรยี นการสอน (เอกสารแนบ)

8. บนั ทึกเพิ่มเติมเก่ียวกับแผนการจัดการเรยี นการสอน

แผนการสอนมีมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชีว้ ัดตรงตามหลักสูตร มีสาระสาคัญการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ มี

สาระการเรียนรู้ท่ีครอบคลมุ เน้อื หา ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ มีการใชก้ จิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ีหลากหลาย

เน้นการฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารทดลอง เลอื กรปู แบบการจดั การเรียนรู้ทีเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ โดยใชร้ ูปแบบการสอน

ตามวฎั จกั รการสืบเสาะหาความรู้ (5E) สอดแทรกกลวธิ กี ารสอนเชงิ รกุ (Active Learning) ดงั น้ี

1. กิจกรรมการใช้เกมแขง่ ขันเพอ่ื นาเข้าสบู่ ทเรียน (Games-based Learning)
2. กิจกรรมระดมความคดิ รว่ มกนั ภายในกล่มุ (Brainstorming)
3. กจิ กรรมสะท้อนความคดิ ของแต่ละกลุ่ม (Student’s Reflection)
4. กิจกรรมเรียนร้แู บบเพอื่ นค่คู ดิ (Think Pair Share)
5. กิจกรรมเรยี นรแู้ บบหอ้ งเรยี นสอนคิด (Thinking tools)
6. กจิ กรรมเรียนรูแ้ บบโครงงานเป็นฐาน (PBL)
โดยมีการบูรณาการ ความคิด ทักษะ กระบวนการและการปฏิบัติเพื่อมุ่งให้นักเรียนมีองค์ความรู้ด้วย
ตัวเอง มกี ารเลือกใช้ส่ือ นวัตกรรม รวมถึงแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ตามรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี
ไว้วางใจ มกี ารวัดและประเมนิ ผลท่ีชดั เจน สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ และ
เปน็ ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รียน

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 PLC วงรอบ 3 197
นายรณชัย อินรงั
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ วิชาเคมเี พ่มิ เติม 4 ว32224
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
สาระเคมี จานวน 1.5 นก. เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1
เวลาเรียน 29 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ไฟฟา้ เคมี เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 การชบุ โลหะและการทาโลหะให้บริสุทธ์ิ

แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสุทธิ์ เป็นหน่วยหนึ่งในวิชาเคมีเพ่ิมเติม 4

(ว 33224) ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 แผนการจัดการเรียนรู้ จัดทาข้ึนตามกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น

สาคญั ซ่ึงประกอบไปดว้ ยรายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้

หัวเร่อื ง เทคนคิ การเรยี นรเู้วลา(ชั่วโมง)

1.การชบุ โลหะด้วทยดไลฟอฟง้า 3

2.การทาโลหะให้บริสุทธด์ิ ้วยไฟฟา้ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด

กระบวนการวเิ คราะหข์ ้อมูล

นาเสนอและอภปิ รายข้อมูล

กระบวนการจดั การเรียนการสอนแบบ 5Es

รวม 3

วิชาเคมเี พ่ิมเติม 4

สาระเคมี

มาตรฐาน 2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสมั พันธใ์ นปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

สมดุลในปฏกิ ริ ยิ า สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้ังการนาความรู้

ไปใช้ประโยชน์

ผลการเรียนรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบโลหะ การ

แยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บริสทุ ธ์ิ และการปอ้ งกันการกดั กร่อนของโลหะ

สาระสาคญั
การชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟา้ (Electroplating) เปน็ การนาหลกั การของเซลล์อิเลก็ โทรไลตไ์ ปใช้ใน

การทาใหโ้ ลหะที่ขั้วแอโนดไปเคลือบบนผวิ ของโลหะอีกชนดิ หนึ่งที่ข้ัวแคโทด เพอื่ ให้เกิดความสวยงามหรือเป็น
การปอ้ งกันการเกิดสนิม

การทาโลหะให้บรสิ ทุ ธด์ิ ว้ ยกระแสไฟฟ้า กอ้ นแรใ่ นธรรมชาติประกอบด้วยโลหะหลายชนิดปนกันอยู่
ดว้ ยกนั ถา้ ต้องการแยกโลหะชนิดหนงึ่ ออกจากก้อนแร่ เพื่อให้ได้โลหะบรสิ ุทธิด์ ว้ ยกระแสไฟฟา้ สามารถทาได้
โดยการนาแร่ท่ตี ้องการแยกไปตอ่ กบั ข้วั บวกของแบตเตอร(ี่ ขว้ั แอโนด) นาโลหะบริสุทธิท์ ่ีต้องการแยกออกจาก
แรต่ ่อกบั ขั้วลบของแบตเตอรี่

PLC วงรอบ 3 198
นายรณชัย อินรัง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้
1. เขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชบุ เหล็กด้วยสงั กะสีได้
2. บอกหลักการแยกโลหะให้บริสทุ ธด์ิ ้วยกระแสไฟฟ้าได้
3. เขยี นสมการแยกโลหะให้บริสุทธิด์ ้วยกระแสไฟฟ้าได้

ด้านทักษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองและอธบิ ายการชุบตะปูเหลก็ ดว้ ยสังกะสีได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
4. มจี ิตสาธารณะ
5. มีจติ วิทยาศาสตร์

ด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

สาระการเรยี นรู้
1. การชบุ โลหะดว้ ยกระแสไฟฟา้
2. การทาโลหะใหบ้ ริสทุ ธด์ิ ว้ ยกระแสไฟฟ้า

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ชวั่ โมงที่ 26-28 เรื่อง การชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสุทธิ์ (ทดลอง, ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์,
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด, กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล, การนาเสนอและและอภิปรายข้อมูล,
กระบวนการจัดการเรยี นการสอนแบบ 5 Es)
ขัน้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement;5 นาที)

1.1 ครูนาอภิปรายประเด็นการชุบโครเมียมนวัตกรรมในรถยนต์สมัยใหม่ ก่อนตั้งคาถาม ถาม
นกั เรียนเพ่อื นาเขา้ ส่บู ทเรยี น

- ประโยชน์ของการนาโครเมียมมาชุบชิ้นส่วนรถยนต์เพ่ืออะไร ? [แนวทางคาตอบ; เพื่อเพิ่มความ
มันวาวเปน็ ประกายใหร้ ถยนต์, ปอ้ งกันการกัดกรอ่ นและการเกดิ สนมิ ของช้ินสว่ นรถยนต]์

- ในความคิดของนักเรียน คาว่าชุบโครเมียม มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ? [แนวทางคาตอบ; ขึ้นอยู่กับ
คาตอบนักเรยี น]

นวัตกรรมใหม่ ของการชุบโลหะที่ทันสมัยและคงทนต่ออายุการใช้งานของชิ้นงาน คือการประยุกต์นา
หลักการไฟฟา้ เคมี แบบเซลลอ์ ิเลก็ โทรไลต์เขา้ ไปใชป้ ระโยชน์ ดังน้ันการชุบโครเมียมที่นักเรียนคุ้นเคยก็คือการ
ชุบด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า หลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติกสามารถนาไปในการทาให้โลหะชนิดหนึ่งเคลือบ

PLC วงรอบ 3 199
นายรณชยั อินรัง

อยู่บนผิวของโลหะอีกชนิดหน่ึงได้ซึ่งเรียกว่า การชุบด้วยไฟฟ้า (Electroplating) เราจะมาศึกษากลไกการ
เกดิ ปฏิกิรยิ าพรอ้ มกนั กับกจิ กรรมการทดลองต่อไปนี้

1.2 ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ก่อนนาเข้าส่เู นอ้ื หา

ขนั้ ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (Exploration;55 นาที)
2.1 ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ กลุม่ ละ 4-5 คน โดยคละความสามารถของนักเรยี นและให้กาหนดหน้าที่

ของสมาชิกแต่ละคนให้ชดั เจน
2.2 นักเรียนรับใบกิจกรรม การทดลองที่ 4 เร่ือง การชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสี (ดังแนบใน

ภาคผนวก) ศึกษาพร้อมกันและเขียนลาดับข้ันตอนของการทดลองในรูปของ flow chat ลงในสมุดเป็น

รายบคุ คล

Pre – Lab

ครูชแ้ี จงชอื่ และจดุ ประสงค์ กิจกรรมการทดลอง พร้อมแนะนาอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการทดลอง

จุดประสงคข์ องการทดลอง(Objective)

2. เพ่ือศกึ ษาปฏกิ ริ ยิ าของการชบุ โลหะดว้ ยกระแสไฟฟา้

เคร่ืองมือและอปุ กรณ์การทดลอง (Materials)

1. แหลง่ กาเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง 4. ตะปูขนาดยาวประมาณ 3 ซม.

2. บีกเกอร์ 5. แผน่ สังกะสบี ริสุทธิ์

3. กระดาษทราย 6. แทง่ แกว้ คนสาร

สารเคมี (Chemicals)
1. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (HCl) ความเข้มขน้ 1.0 mol/dm3
2. สารละลายซงิ ค(์ II)ซัลเฟต (ZnSO4) ความเขม้ ขน้ 0.1 mol/dm3

วธิ กี ารทดลอง (Procedure)
1. ใช้กระดาษทราบขัดตะปูเหล็กขนาดยาวประมาณ 3 ซม. แล้วนาไปแช่ใน
สารละลายกรด HCl 1.O mol/dm3 2นาที นาออกมาล้างน้าให้สะอาดและเช็ด
ผิวให้แห้ง
2. เติมสารละลาย ZnSO4 0.1 mol/dm3 70 cm3 ลงในบีกเกอร์ขนาด 100
cm3
3. ตอ่ แผน่ สงั กะสีเขา้ กบั ข้ัวบวกและต่อตะปูเหล็กเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ ใช้
ศักย์ไฟฟ้าประมาณ 3 โวลต์ ดังแสดงในรูปตัวอย่างภาพท่ี 6.1 สังเกตการณ์
เปลยี่ นแปลงที่เกดิ ขนึ้ เม่อื เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที

ภาพที่ 6.1 การชุบตะปูด้วยสงั กะสี

PLC วงรอบ 3 200
นายรณชัย อนิ รงั

Lab
นกั เรียนลงมอื ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลองท่ี 4 เร่อื ง การชุบตะปูเหล็กดว้ ยสังกะสีโดยต้องลงมอื

ปฏิบตั ิการทดลองครบทุกตอน

Post – Lab
1) ครูสมุ่ ให้ตวั แทนของนักเรยี นบางกลุ่มออกมาบนั ทึกผลการทดลองบนกระดาน
2) นกั เรียนและครรู ว่ มกันอภิปรายผลการทดลองพรอ้ มทั้งสรปุ ผลการทดลอง

คาถามท้ายการทดลอง (Observe)
1. ขัว้ โลหะสงั กะสีและตะปูเหล็กมกี ารเปลีย่ นแปลงอยา่ งไร ?
2. จงเขยี นสมการแสดงปฏิกิริยาทขี่ วั้ แคโทดและแอโนด ?
3. ความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลตเ์ ปล่ียนแปลงหรอื ไมอ่ ยา่ งไร ?
4. จงสรุปหลกั การชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้าเกี่ยวกับโลหะท่ใี ชท้ าข้ัวไฟฟ้า สารละลายอิเล็กโทรไลตแ์ ละวตั ถุท่ี
นามาชุบ ?

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation;30 นาที)
แนวทางการอภปิ รายผลการทดลองและตารางบันทกึ ผลการทดลอง

ครรู ว่ มอภปิ รายผลการทดลองรว่ มกบั นักเรียนได้แนวสรุปออกมาดังนี้

ตารางท่ี 6.1 ผลการเปลี่ยนแปลงของการชบุ ตะปูเหล็กด้วยกระแสไฟฟ้า

ผลการสังเกต

ขว้ั แคโทด ขัว้ แอโนด

ตะปมู ตี ะกอนสแีเผงนิ่ ขสองั กงสะสังกเี กะดิ สกี ารผกุ ร่อน

เกาะอยู่

แนวทางการอภปิ รายการตอบคาถามท้ายการทดลอง
1. ขว้ั โลหะสงั กะสีและตะปูเหล็กมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ? [แนวทางคาตอบ; โลหะสังกะสีผกุ ร่อน ส่วน
ตะปเู หล็กมีตะกอนสีเงนิ ของสงั กะสเี กาะ]
2. จงเขียนสมการแสดงปฏิกริ ิยาท่ีขว้ั แคโทดและแอโนด ?
[แนวทางคาตอบ;ขั้วแคโทด ; Zn2+(aq) + 2 e Zn(s), ขั้วแอโนด ; Zn(s) Zn2+(aq) + 2 e ]
3. ความเขม้ ขน้ ของอิเล็กโทรไลต์เปลี่ยนแปลงหรือไมอ่ ยา่ งไร ? [แนวทางคาตอบ; คงทเี่ นอ่ื งจากไดไ้ อออน
จากแผ่นสังกะสที นแทนท่เี สียไป]
4. จงสรุปหลกั การชบุ โลหะดว้ ยกระแสไฟฟ้าเก่ียวกับโลหะที่ใช้ทาขั้วไฟฟ้า สารละลายอิเล็กโทรไลต์และวัตถุที่
นามาชุบ ? [แนวคาตอบ ; นาวัตถุท่ีต้องการชุบไปต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอร่ีหรือเป็นขั้วแคโทด ส่วน
โลหะที่ใช้ชุบให้ต่อเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่หรือเป็นข้ัวแอโนด สารละลายอิเล็กโทรไลต์ท่ีใช้ต้องมี
ไอออนของโลหะชนดิ เดยี วกับโลหะท่เี ปน็ ขัว้ แอโนดหรือโลหะที่ใช้ชุบ ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงเพ่ือไม่ให้เกิดการ
สลบั ข้ัว และปฏกิ ริ ิยาดาเนินไปในทิศทางเดยี วกัน]

PLC วงรอบ 3 201
นายรณชยั อินรงั
แนวทางการอภิปรายการสรุปผลการทดลอง
ครูใหน้ ักเรยี นศกึ ษาแนวทางการสรุปผลการทดลองจากคาถามท้ายการทดลองเพื่อเป็นแนวทาง
[แนวทางสรุปผลการทดลอง; เม่ือผ่านกระแสไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปในเซลล์ไอออนของโลหะ
Zn2+(aq) ในสารละลายที่มีความสามารถในการรับอิเล็กตรอนได้ดีกว่าน้า ไอออนของโลหะจะรับ
อเิ ล็กตรอนจากวตั ถุที่ตอ่ อยกู่ บั ขั้วลบของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรงหรือข้ัวแคโทด เกิดเป็นอะตอมของ
โลหะเคลือบติดบนผิวของตะปู ขณะเดียวกันสังกะสีท่ีขั้วบวกเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันให้ไอออนของโลหะ
ในสารละลายอิเล็กโทรไลต์เพือ่ ชดเชยไอออนท่ีเปลยี่ นแปลงขณะชุบ ทาใหส้ งั กะสีทีแ่ อโนดเกดิ การสึกกร่อน
สว่ นข้วั แคโทดมโี ลหะเกาะเพม่ิ ขนึ้ ]
ขนั้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration;60 นาที)
4.1 ครขู ยายความรู้ทบทวนเก่ยี วกับหลกั การชบุ โลหะดว้ ยไฟฟ้า ดงั น้ี

ภาพที่ 6.2 หลกั การชุบตะปูด้วยไฟฟา้
4.2 ครูเพิม่ เติมหลักการทาโลหะให้บรสิ ทุ ธิโ์ ดยใช้เซลล์อิเล็กโทรไลตกิ โดยการใช้ส่ือวีดที ัศน์
ประกอบการบรรยาย เรอื่ ง การทาทองแดงให้บริสุทธ์ิ

ภาพที่ 6.3 การทาทองแดงให้บริสทุ ธ์ิ
4.3 ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 6.1 เรือ่ ง การชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสุทธิ์ (ดังแนบใน
ภาคผนวก) เพื่อทบทวนและตรวจสอบความเข้าใจในเน้อื หาให้กบั นกั เรียน

PLC วงรอบ 3 202
นายรณชยั อินรงั

ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (evaluation;30 นาที)
5.1 ครอู ภิปรายแนวทางคาตอบจาก ใบงานที่ 6.1 เรือ่ ง เรื่อง การชบุ โลหะและการทาโลหะให้

บรสิ ุทธ์ิ (ดังแนบในภาคผนวก) ที่ได้มอบหมายให้นักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรมไป
5.2 ครูประเมนิ การเรยี นร้ขู องนักเรยี น ดงั น้ี การตอบคาถามในชน้ั เรยี น การร่วมกจิ กรรมกลุม่ และ

ประเมนิ การจดบันทึกในสมุดของนักเรียน
สือ่ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้

1. สอื่ และอปุ กรณ์
1) แบบประเมนิ ที่ 1 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
2) แบบประเมนิ ที่ 2 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
3) แบบประเมนิ ท่ี 3 การทดลอง
4) หนงั สอื ประกอบการเรียนวชิ าเคมีเพมิ่ เติม 4 (สสวท.)
5) ใบงานท่ี 6.1 เรอ่ื ง การชุบโลหะและการทาโลหะใหบ้ ริสุทธิ์
6) บทปฏิบัติการทดลองท่ี 4 เรอ่ื ง การชบุ ตะปูเหล็กดว้ ยสังกะสี
7) สื่อวีดที ัศนก์ ารทดลอง เรอ่ื ง การทาทองแดงใหบ้ ริสทุ ธ์ิ
8) อปุ กรณก์ ารทดลองทางวิทยาศาสตร์และสารเคมี

2. แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) อินเตอร์เนต
3) ห้องปฏบิ ัติการทดลองวทิ ยาศาสตร์

PLC วงรอบ 3 203
นายรณชัย อินรัง

3. การวดั และประเมินผล การวดั และการประเมินผล
ผลการเรียนรู้
วิธีการ วิธีการวดั เครอื่ งมอื เกณฑ์การผ่าน
ประเมนิ
31. ทดลองชุบโลหะ ด้านความรู้ (K)
คะแนนร้อยละ 70
แ ย ก ส า ร เ ค มี ด้ ว ย -ใบงาน เร่ือง การชุบโลหะ -ตรวจใบงาน -ใบงาน ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น
ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ และการทาโลหะให้บริสุทธ์ิ -แบบประเมนิ
-รายงานบทปฏบิ ตั กิ ารผลการ -ตรวจรายงาน คะแนนร้อยละ 70
อธิบายหลักการทาง ทดลอง เร่ือง การชุบตะปู ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน
เคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการ เหลก็ ด้วยสังกะสี
ได้ระดบั คณุ ภาพ
ชุบโล หะ ก ารแย ก 2ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ น

ส า ร เ ค มี ด้ ว ย ไดร้ ะดับคณุ ภาพ
2ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่าน
กระแสไฟฟ้า การทา ด้านทกั ษะและกระบวนการ
โลหะให้บริสุทธิ์ และ นาเสนอ (P)
-ทาการทดลองเรื่อง การชุบ -สังเกตการทดลอง -แบบประเมิน
ก า ร ป้ อ ง กั น ก า ร กั ด ตะปูเหลก็ ดว้ ยสังกะสี
กร่อนของโลหะ

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์ (A) -สังเกตการร่วม -แบบประเมิน
1. มวี ินัย -แบบประเมิน
กิจกรรมในชนั้
2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน เรียน

4. มจี ติ สาธารณะ

5. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของ

ผูเ้ รยี น (C) -สงั เกตการร่วม

1.ความสามารถในการสื่อสาร กจิ กรรมในชั้น

2.ความสามารถในการคิด เรยี น

3.ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

PLC วงรอบ 3 204
นายรณชยั อินรงั

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 การชุบโลหะและการทาโลหะใหบ้ ริสทุ ธ์ิ
ผลการจดั การเรียนรู้

1. ด้านความรู้
กระบวนการประเมนิ ด้านความรู้ของผเู้ รียนเพ่ือบรรลตุ ามวัตถุประสงค์ คือหลักสน้ิ สดุ การจัดกจิ กรรม

การเรียนรูต้ ามรปู แบบ 5E ผเู้ รียนไดท้ าใบงาน เร่ือง การชุบโลหะและการทาโลหะใหบ้ รสิ ุทธิ์และมีการ
ตรวจสอบหลักฐานด้านความรูเ้ มอื่ ลงมือปฏิบตั กิ ารทดลอง ดว้ ยการจัดกระทาข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์
ขอ้ มลู นาไปสู่การสรุปผลการทดลอง ดว้ ยการตรวจสอบจากรายงานบทปฏิบตั ิการผลการทดลอง เรอ่ื ง การชุบ
โลหะด้วยไฟฟ้า ผลการประเมินดา้ นความรู้ (K) ไดผ้ ลการประเมนิ ดังนี้

นกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จานวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…………..

นักเรยี นทีไ่ ม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…………..

2. ด้านทักษะกระบวนการ

กระบวนการประเมินด้านทักษะกระบวนการของผเู้ รยี นเพ่ือบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของแผนการจัดการ

เรยี นรู้ คอื การลงมือปฏิบตั กิ ารทดลองเพือ่ ศึกษาการชุบโลหะด้วยไฟฟา้ เมอ่ื ใช้แบบประเมินเกณฑก์ ารทดลอง

และการจดั ทารายงานบทปฏิบัติการทดลอง ผลการประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ได้ผลการประเมินดังน้ี

นักเรยี นที่ไดร้ ะดบั คณุ ภาพดี จานวน 13 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100

นกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน…………… ..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…………..

3. ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

กระบวนการประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี นเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ของแผนการ

จัดการเรยี นรู้ โดยใช้หลกั เกณฑใ์ นการวัดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ เี่ กย่ี วข้องในการจัดการเรียนรใู้ นคร้งั นี้

ไดแ้ ก่ ดา้ นการวินยั ด้านใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มัน่ ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ และ จิตวทิ ยาศาสตร์ตามคุณลักษณะอัน

พึงประสงคใ์ นดา้ นการเรยี นรู้วิทยาศาสตรข์ องผ้เู รยี น ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ไดผ้ ล

การประเมนิ ดงั นี้

ระดับคณุ ภาพดี จานวน 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100

ระดับคุณภาพพอใช้ จานวน………...คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..

ระดบั คุณภาพปรับปรุง จานวน………...คน คดิ เป็นร้อยละ………..

ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน………...คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..

PLC วงรอบ 3 205
นายรณชัย อินรงั

4. ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

กระบวนการประเมินดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นเพ่อื บรรลวุ ตั ถุประสงค์ของ

แผนการจดั การเรยี นรู้ โดยใชห้ ลกั เกณฑใ์ นการวัดสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นท่ีเกี่ยวข้องในการจดั การ

เรยี นรใู้ นครั้งน้ีไดแ้ ก่ ดา้ นการสอื่ สาร ดา้ นการคิด และ ด้านการใช้เทคโนโลยตี ามสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

ผลการประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น (C) ได้ผลการประเมนิ ดงั น้ี

ระดับคณุ ภาพดี จานวน 13 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100

ระดับคุณภาพพอใช้ จานวน………...คน คิดเป็นร้อยละ………..

ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรุง จานวน………...คน คิดเป็นร้อยละ………..

ผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน………...คน คิดเป็นรอ้ ยละ………..

บันทกึ ผลการสอน

ผลการเรียนรูข้ องนกั เรียนโดยภาพรวม
นักเรียนสามารถเขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีที่แอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็กด้วยสังกะสีได้

บอกหลักการแยกโลหะใหบ้ ริสุทธ์ิด้วยกระแสไฟฟ้าได้ และ เขียนสมการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้า
ได้เม่ือทาแบบทดสอบสามารถทาคะแนนได้ร้อยละ 80 ข้ึนไป จานวน 4 คน และ ร้อยละ 50-79 ขึ้นไป
จานวน 5 คน และต่ากวา่ รอ้ ยละ 50 จานวน 4 คน

ผลการสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นโดยภาพรวม

แต่งกายให้ถูกระเบียบ เข้าเรียนตรงเวลา ทางานตามท่ีได้รับมอบหมายสาเร็จและถูกต้องมีการแบ่ง
หน้าทกี่ นั ในการปฏิบัตงิ าน กลุม่ และทางานอย่างเป็นระบบ มีความตั้งใจทางานและการปฏิบัติกิจกรรม เก็บทา
ความสะอาดหอ้ งและอปุ กรณท์ างวทิ ยาศาสตร์ในภาพรวมอยู่ในระดับดี

ผลการปฏิบัตงิ านท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (ใบงาน/กจิ กรรม/ชิ้นงาน/การนาเสนอผลงาน)
นักเรียนในภาพรวมสามารถปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมาย ได้แก่ใบงานเขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ี

แอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็กด้วยสังกะสีได้บอกหลักการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้าได้ และ
เขียนสมการแยกโลหะใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิดว้ ยกระแสไฟฟ้ารายงานบทปฏิบัติการผลการทดลอง เร่ือง การชุบโลหะด้วย
ไฟฟ้า ถูกต้องและส่งตรงเวลากาหนดในภาพรวมอยู่ในระดับดีแต่ยังมีนักเรียนบางกลุ่มที่ยังต้องอาศัยการ
อธิบายเพิม่ เติม

ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคโ์ ดยภาพรวม
ดา้ นการวินัย ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีจิตสาธารณะ และ จิตวิทยาศาสตร์ อยู่ในภาพรวม

ในระดบั ดี

PLC วงรอบ 3 206
นายรณชัย อนิ รงั

ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นโดยภาพรวม
ด้านการสือ่ สาร ด้านการคิด และ ด้านการใชเ้ ทคโนโลยี อยู่ในภาพรวมในระดับดี

ปัญหาและอุปสรรค
จากประสบการณ์สอนวิชาเคมี ในเน้ือหาเก่ียวกับไฟฟ้าเคมี พบว่า ทฤษฎีของตัวเนื้อหามีความ

ซับซ้อนเข้าใจยาก ต้องอาศัยหลักการจินตนาการให้เกิดมโนภาพเพ่ือนาไปสู่กระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์
แล้วนาไปสู่การลงมือปฏิบัติฝึกทาโจทย์หรือแบบฝึกที่หลากหลาย จะทาให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจในตัวของ
ทฤษฎีเนอื้ หาวชิ ามากข้นึ

ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนโดยการจดั กระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยทักษะกระบวนการลงมือ
ปฏิบัตกิ ารทดลองรว่ มกับชุดแบบฝึกกจิ กรรมแบบสอื่ ผสม ในรายวิชา เคมีเพ่มิ เติม 4 ระดบั ชัน้
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/1

ลงช่ือ

(นายรณชยั อนิ รงั )
ครผู ู้สอนรายวิชาเคมี

PLC วงรอบ 3 207
นายรณชัย อินรัง

คณุ ลักษณะด้าน ตังบง่ ช/้ี พฤตกิ รรม เกณฑก์ ารประเมิน

1.มวี ินัย 1. แตง่ กายให้ถูกระเบียบ 4 หมายถึง แสดงพฤติกรรมได้ 4 – 5
2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. เคารพกฎจราจร ตวั บง่ ช้ี
3. สง่ งานตามทกี่ าหนด 3 หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมได้ 3 ตัวบ่งชี้
3. มุ่งม่นั ในการ 4. เขา้ รว่ มกจิ กรรมตามเวลา 2 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมได้ 2 ตวั บ่งชี้
ทางาน 5. ไม่หยิบของ ของผอู้ น่ื โดยไมข่ ออนุญาต 1 หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมได้ 1 ตวั บง่ ช้ี
4. มีจติ สาธารณะ
1. เขา้ เรียนตรงเวลา ระดับคณุ ภาพ
5.มีจติ วิทยาศาสตร์ 2. ทางานถูกต้องส่งงานครบ
3. ทางานท่ีได้รบั มอบหมายสาเรจ็ ครบถ้วนถูกตอ้ ง คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
4. เขา้ ร่วมทัศนศึกษา
5. เข้าร่วม / รว่ มจัด / นิทรรศการใน / นอก นอ้ ยกวา่ 12 1
โรงเรยี น
12-13 2
1. ทางานตามท่ีได้รบั มอบหมายสาเร็จและถูกต้อง
2. ตดิ ตามผลการทางานของตนเอง 14-15 3
3. รับผดิ ชอบงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย
4. มกี ารปรับปรุงผลงานของตนเอง 16 คะแนนข้ึนไป 4
5. มกี ารพฒั นางานของตนเอง
ความหมายระดับคุณภาพ
1. เต็มใจช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และ ครูทางาน ระดบั 1 ปรบั ปรุง
2. อาสาทางาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทาด้วยความสมัคร ระดบั 2 พอใช้
ใจ ระดบั 3 ดี
3. เปน็ ท่ปี รกึ ษาและแนะนาแนวทางท่ีดีให้กบั ผอู้ นื่ ระดบั 4 ดีมาก
4. บริจาคทรัพย์สิน / สิงของเพอื่ ช่วยเหลือผูอ้ นื่
5. เขา้ ร่วมกิจกรรมเพื่อแกป้ ัญหา หรอื สรา้ ง เกณฑก์ ารผ่าน ผา่ นระดับพอใช้
ความสขุ เพ่ือผอู้ ืน่ เช่น รณรงคต์ อ่ ต้านยาเสพเปน็
ตน้

1. มกี ารแบ่งหน้าที่กันในการปฏิบัตงิ าน กลุ่มและ
ทางานอย่างเป็นระบบ
2. มีความต้งั ใจทางานและการปฏบิ ัติกจิ กรรม
3. กล้าแสดงความคดิ เห็น
4. กล้ายอมรบั ความคดิ เหน็ ของคนอ่นื
5. เกบ็ ทาความสะอาดห้องและอปุ กรณ์ทาง
วิทยาศาสตร์

แบบประเมนิ ที่ 1 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผ้เู รียน PLC วงรอบ 3 208
ระดับคุณภาพคุณลกั ษณะฯท่ีได้ นายรณชยั อนิ รัง

สรุป

เลขท่ีชอ่ื -สกลุ
ีม ิวนัย
ใ ่ฝเรียนรู้
ุ่มง ั่มนในการทางาน
ิม ิจตสาธารณะ
ีม ิจตวิทยาศาสตร์
ระ ัดบคุณภาพ

่ผาน
ไ ่ม ่ผาน

1 นางสาวชญานศิ เจ้อื จิ๋ว 4 4 4 4 44 √

2 นางสาวชนาพร ไทยใหม่ 4 4 3 4 33 √

3 นางสาวธัญชนก ติ๊บแสน 4 3 3 3 33 √

4 นางสาวปวณี า อดุ แบน 4 4 4 4 44 √

5 นางสาวปองขวัญ ยนั ระหา 4 4 4 4 44 √

6 นางสาวนภสั ตาธกิ า 4 3 3 3 44 √

7 นางสาวศิรนิ ทิพย์ เพ็ชรนลิ 4 3 3 3 33 √

8 นางสาวกมลศริ ิ สุปนิ ะวงค์ 4 3 3 3 33 √

9 นางสาวไพลนิ เทศออ่ น 4 3 3 3 33 √

10 นางสาวภัทรภร นอ้ ยเชื่อม 4 3 3 3 33 √

11 นางสาววรรณนรินทร์ คงธนัทกาญจน์ 4 3 3 3 3 3 √

12 นางสาวสุธิศา ปวนกนั ทา 4 3 3 3 33 √

13 นางสาวสุมนิ ตรา กองสขุ 4 3 3 3 33 √

PLC วงรอบ 3 209
นายรณชัย อินรงั

สมรรถนะดา้ น ตังบ่งช้ี / พฤติกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ

1.ความสามารถ 1. มคี วามสามารถในการรบั -ส่งสาร 4 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมได้
ในการสือ่ สาร
2. มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความ 4 – 5 ตวั บง่ ช้ี
2.ความสามารถ
ในการคดิ เข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมได้

3.ความสามารถ 3. ใชว้ ธิ กี ารสอื่ สารที่เหมาะสม มีประสทิ ธิภาพ 3 ตัวบง่ ช้ี
ในการใช้
เทคโนโลยี 4. เจรจาต่อรองเพอ่ื ขจดั และลดปญั หาความขัดแย้ง 2 หมายถึง แสดงพฤติกรรมได้
ต่าง ๆ ได้ 2 ตวั บง่ ช้ี
5. เลอื กรบั และไม่รับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยเหตผุ ลและ 1 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมได้
ถกู ต้อง 1 ตัวบ่งชี้

1. มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ระดับคุณภาพ ระดับ
2. มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ คะแนน
3. สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ คุณภาพ 1
4. มีความสามารถในการสรา้ งองค์ความรู้ น้อยกว่า 4 2
5. ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาเกย่ี วกับตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 5-8 3
9-10 4
1. เลอื กและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวยั 12 คะแนนขนึ้ ไป
2. มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
3. สามารถนาเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนาตนเอง

4. ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ความหมายระดับคุณภาพ
5. มีคุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี ระดบั 1 ปรับปรุง

ระดบั 2 พอใช้
ระดับ 3 ดี
ระดบั 4 ดมี าก

เกณฑก์ ารผ่าน ผา่ นระดับพอใช้

แบบประเมนิ ท่ี 2 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน PLC วงรอบ 3 210
นายรณชยั อนิ รัง
ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะ สรุป

สาคญั ของผเู้ รยี น

เลขท่ี ช่ือ-สกลุ ด้านการ ื่สอสาร
ด้านการคิด
้ดานการใ ้ชเทคโนโล ีย

รวม
ผ่าน
ไ ่ม ่ผาน

1 นางสาวชญานศิ เจ้ือจิ๋ว 43 4 4 √

2 นางสาวชนาพร ไทยใหม่ 43 4 4 √

3 นางสาวธัญชนก ตบ๊ิ แสน 33 4 3 √

4 นางสาวปวีณา อดุ แบน 43 4 4 √

5 นางสาวปองขวญั ยันระหา 43 4 4 √

6 นางสาวนภสั ตาธกิ า 33 4 3 √

7 นางสาวศริ ินทิพย์ เพช็ รนิล 33 4 3 √

8 นางสาวกมลศริ ิ สุปนิ ะวงค์ 33 4 3 √

9 นางสาวไพลิน เทศอ่อน 33 4 3 √

10 นางสาวภัทรภร น้อยเช่ือม 33 4 3 √

11 นางสาววรรณนรนิ ทร์ คงธนัทกาญจน์ 3 3 4 3 √

12 นางสาวสุธิศา ปวนกนั ทา 33 4 3 √

13 นางสาวสมุ นิ ตรา กองสขุ 33 4 3 √

PLC วงรอบ 3 211
นายรณชัย อินรงั

เกณฑ์การทดลองและการจดั ทารายงานบทปฏบิ ัติการทดลอง
การวางแผนและการออกแบบการทดลอง

ชอ่ื เรอ่ื ง
ใหร้ ะดับ 4 เมอ่ื ตง้ั ช่อื เร่ืองได้สอดคลอ้ งกับปัญหาและชดั เจน
ใหร้ ะดบั 3 เมอ่ื ตั้งช่ือเรื่องได้สอดคลอ้ งกบั ปัญหาแต่ไมช่ ัดเจน
ใหร้ ะดบั 2 เมอ่ื ตงั้ ชอ่ื เร่ืองไดไ้ มส่ อดคลอ้ งกับปัญหาแต่มีความชดั เจน
ให้ระดบั 1 เมอ่ื ตง้ั ชอ่ื เร่ืองได้ไมส่ อดคล้องกับปัญหาและไม่ชดั เจน
การตง้ั สมมตฐิ าน
ใหร้ ะดับ 4 เมอ่ื ตง้ั สมมุตฐิ านได้สอดคล้องกบั ปญั หาและชดั เจน
ให้ระดบั 3 เมอ่ื ต้ังสมมุติฐานไดส้ อดคลอ้ งกบั ปญั หาแต่ไม่ชดั เจน
ใหร้ ะดบั 2 เมื่อตง้ั สมมุติฐานได้ไม่สอดคล้องกับปญั หาแต่มีความชัดเจน
ให้ระดับ 1 เมอ่ื ต้งั สมมุตฐิ านไม่สอดคลอ้ งกับปญั หาและไมช่ ดั เจน
ตวั แปรการทดลอง ประกอบด้วยตัวแปรตน้ ตวั แปรตาม และตวั แปรควบคุม
ใหร้ ะดบั 4 เม่อื มีตวั แปรต่าง ๆ ถูกตอ้ งทกุ ตัวแปร
ให้ระดับ 3 เมอ่ื มีตัวแปรต่าง ๆ ถกู ตอ้ ง 2 ตัวแปร
ให้ระดับ 2 เมอ่ื มีตัวแปรตา่ ง ๆ ถกู ต้อง 1 ตวั แปร
ให้ระดับ 1 เมื่อมีตวั แปรต่าง ๆ แต่ไมถ่ ูกต้อง
วธิ ีการทดลอง
อุปกรณ์การทดลอง
ใหร้ ะดับ 4 เมอ่ื กาหนดอปุ กรณก์ ารทดลองครบถ้วนเหมาะสม
ใหร้ ะดับ 3 เมื่อกาหนดอปุ กรณ์การทดลองครบถว้ นไม่ค่อยเหมาะสม
ให้ระดับ 2 เม่อื กาหนดอุปกรณก์ ารทดลองไมค่ รบถว้ นขาดอปุ กรณ์ทีไ่ ม่สาคญั
ให้ระดบั 1 เมอื่ กาหนดอปุ กรณ์การทดลองขาดมาก ไม่เหมาะสม
การออกแบบการทดลอง
ให้ระดบั 4 เมื่อมขี ั้นตอนครบถว้ นและถูกต้อง
ให้ระดบั 3 เมือ่ มีข้นั ตอนครบถว้ นและมีบางขั้นตอนสลับกนั บา้ ง
ใหร้ ะดบั 2 เมอื่ มขี ั้นตอนครบถ้วน ไมส่ มบรู ณ์
ใหร้ ะดบั 1 เมอื่ ขั้นตอนการทดลองไม่เหมาะสม

PLC วงรอบ 3 212
นายรณชยั อนิ รัง

การดาเนินการทดลอง
การทดลอง และการใช้อุปกรณ์
ให้ระดบั 4 เมอ่ื ดาเนนิ การทดลองตามแผนทกุ ขน้ั ตอน
ให้ระดบั 3 เมอ่ื ดาเนนิ การทดลองตามแผนทกุ ขั้นตอนและใช้อุปกรณผ์ ดิ บ้างเลก็ น้อย
ใหร้ ะดับ 2 เมื่อมีการปรับแผนการทดลองบ้าง และใชอ้ ปุ กรณไ์ ม่ค่อยถูกวิธี
ให้ระดับ 1 เมอ่ื ดาเนนิ การทดลองโดยไม่คานงึ ถึงแผนเลยหรอื ใชอ้ ุปกรณ์ไมถ่ ูกวธิ ีเปน็ สว่ นใหญ่
การเกบ็ รักษาอปุ กรณ์
ใหร้ ะดับ 4 เม่อื ทาความสะอาดอุปกรณเ์ ชด็ ให้แหง้ เก็บรักษาเปน็ ระเบยี บ
อปุ กรณอ์ ย่ใู นสภาพดี
ใหร้ ะดบั 3 เมอ่ื ทาความสะอาดอุปกรณ์เก็บรักษาไม่เปน็ ระเบียบอุปกรณ์อย่ใู นสภาพดี
ใหร้ ะดบั 2 เมื่อเก็บรักษาโดยไม่ไดด้ ูความเรยี บร้อยของอุปกรณ์
ให้ระดบั 1 เมื่อตอ้ งเตือนให้เกบ็ รกั ษาอุปกรณ์ หรอื ทาอุปกรณช์ ารดุ โดยประมาท

ผลการทดลองและสรุปผล
ความถูกตอ้ งของข้อมูล
ใหร้ ะดบั 4 เมอ่ื บันทึกขอ้ มูลครบถว้ น และถูกต้อง
ใหร้ ะดบั 3 เมอ่ื บันทึกขอ้ มูลครบถ้วน มีผิดพลาดเล็กน้อย
ใหร้ ะดบั 2 เมื่อบันทึกข้อมูลไมค่ รบถว้ น และมีผดิ พลาด
ให้ระดบั 1 เมื่อบันทกึ ข้อมูลผดิ พลาดมากต้องคอยบอกให้แก้ไข
การจดั กระทาขอ้ มลู
ใหร้ ะดับ 4 เมื่อนาเสนอข้อมูลโดยใชต้ ารางทเี่ หมาะสมหรอื มีขัน้ ตอนทีเ่ ขา้ ใจง่าย
ใหร้ ะดับ 3 เมื่อนาเสนอข้อมูลโดยใชต้ าราง หรือมขี ั้นตอนท่ไี ม่ค่อยชัดเจน
ใหร้ ะดบั 2 เมือ่ นาเสนอข้อมูลท่ไี ม่เป็นระบบเขา้ ใจยาก
ใหร้ ะดบั 1 เมอ่ื นาเสนอข้อมูลทีไ่ มค่ รบถ้วน
การแปลความหมายและสรุปผลการทดลอง
ให้ระดบั 4 เมื่อสรปุ ผลการทดลองสอดคล้องกับจดุ ประสงค์ครบถ้วน แปร
ความหมายถกู ตอ้ ง
ใหร้ ะดับ 3 เม่อื สรปุ ผลการทดลองสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ครบถว้ น แต่แปร
ความหมายผิดบ้าง
ใหร้ ะดับ 2 เมื่อสรปุ ผลการทดลองสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคไ์ ม่ครบถ้วน หรือ
แปลความหมายผิด
ใหร้ ะดับ 1 เมอ่ื สรปุ ผลการทดลองไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์

PLC วงรอบ 3 213
นายรณชยั อนิ รัง

แบบประเมินที่ 3 การทดลองและการจดั ทารายงานบทปฏบิ ตั กิ ารทดลอง
การวางแผนและการ ทาการ ผลการ
ออกแบบการทดลอง ทดลอง ทดลองและ
การสรุปผล

วิ ธี ก า ร
ทดลอง

ชอื่ – สกลุ
ก ุ่ลมที่/เลขท่ี

ช่ือเร่ือง
การตั้งสมมติฐาน
ตัวแปรการทดลอง
ุอปกรณ์กาทดลอง
การออกแบบการทดลอง
การทดลองและการใช้ ุอปกรณ์
การเ ็กบ ัรกษา ุอปกรณ์
ความถูกต้องขอข้อมูล
การ ัจดกระทาข้อมูล
การแปรความหมายและการสรุปผล

รวม

1 นางสาวชญานิศ เจือ้ จิ๋ว 4 4 4 4 4 4 4 4 4 4 40
3 3 3 3 3 3 3 4 3 3 31
นางสาวชนาพร ไทยใหม่
นางสาวปองขวญั ยันระหา 3 3 3 3 3 3 3 3 2 2 28

2 นางสาวปวณี า อดุ แบน 3 3 3 3 3 3 3 2 2 2 26

นางสาวสธุ ิศา ปวนกันทา 3 3 3 3 3 3 3 3 2 2 27
นางสาวนภัส ตาธิกา

3 นางสาวธัญชนก ตบ๊ิ แสน

นางสาวศิรินทิพย์ เพ็ชรนลิ
นางสาวไพลิน เทศอ่อน

4 นางสาวภทั รภร น้อยเช่ือม

นางสาววรรณนรนิ ทร์ คงธนัทกาญจน์
นางสาวกมลศริ ิ สปุ นิ ะวงค์
นางสาวสุมินตรา กองสุข

PLC วงรอบ 3 214
นายรณชัย อนิ รงั

เอกสารหมายเลข 3 แบบรายงานการวิพากษ์แผนการจัดการเรยี นการสอน
1. ชือ่ /นามสกุล Model Teacher

นายรณชยั อนิ รงั

2. กล่มุ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

3. ชอื่ โรงเรยี น
สรอยเสรีวิทยา ตาบลสรอย อาเภอวงั ช้นิ จังหวัดแพร่

4. รอบของการแกไ้ ขปัญหา
รอบที่ 3 ช่วงเวลา ระหวา่ งวันที่ 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

5. เก่ียวข้องกบั สาระ/มาตรฐาน/ผลการเรียนรู้
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสมั พันธใ์ นปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดุลในปฏิกริ ยิ า สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนาความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรยี นรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบ
โลหะ การแยกสารเคมดี ้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บรสิ ุทธิ์ และการป้องกนั การกดั กร่อนของโลหะ

6. กลุ่มนกั เรียนเป้าหมาย
นักเรยี นระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 หอ้ ง 1 จานวน 13 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

7. วัน เดอื น ปี ที่ดาเนนิ การ PLC
ระหวา่ งวนั ที่ 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

PLC วงรอบ 3 215
นายรณชัย อินรงั

8. ประเด็นท่ี Model Teacher วางแผนไดด้ ี
8.1 นายจักรกฤษณ์ สมภรณว์ รพล ครผู ู้สอนรายวิชาเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๖

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ใหค้ วามเหน็ เกยี่ วกบั แผนการจัดการเรียนรู้ ดงั น้ี
แผนการจัดการเรียนรู้ มีการออกแบบกิจกรรมซึ่งสามารถครอบคลุมมาตรฐานและตัวชี้วัดของ

ระดบั ชัน้ ตรงตามหลักสูตร มีการกาหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพ
ของผ้เู รียน มีการบูรณาการ เนน้ การคดิ (ทักษะการคดิ ลกั ษณะการคิด และกระบวนการคิด ) ซ่ึงการฝึกทักษะ
การปฏบิ ัตจิ ริง จะสามารถพัฒนาการเรยี นรู้และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

8.2 นางสาวรัตติภรณ์ ชานาญ ครูผสู้ อนรายวชิ าชีววิทยา ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖
กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ใหค้ วามเหน็ เก่ียวกับแผนการจัดการเรียนรู้ ดงั น้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องสัมพันธ์กันกับหลักสูตร และมาตรฐาน
ตัวช้ีวัดในหน่วยการเรียนรู้ และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และมีการวิเคราะห์ผู้เรียน โดยการจัด
กลุ่มผู้เรียนแบบคละความสามารถ ฝึกทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอย่างแท้จริง ฝึกความ
รับผิดชอบ การเป็นผู้นา การเป็นผู้ตาม และฝึกทักษะทางสังคม และจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กาหนดไว้ แล้ว
นาไปเขียนแผนการจดั การเรยี นรตู้ ามศกั ยภาพของผู้เรยี นเพอื่ เน้นผู้เรียนเป็นสาคญั

9. ประเดน็ ที่ Model Teacher ควรเพม่ิ เติม/ปรบั ปรุงแก้ไข
9.1 นายจักรกฤษณ์ สมภรณ์วรพล ครผู ู้สอนรายวิชาเทคโนโลยี ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1-6

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ใหค้ วามเห็นเกย่ี วกับสงิ่ ที่ควรเพ่ิมเติม/ปรบั ปรุงแก้ไข
แผนการจัดการเรียนรู้ ดงั น้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ในขั้นขยายความรู้ ครูควรอธิบายรายละเอียดข้ันตอนการนาเสนอผลงาน
ในรูปแบบนาผลงานจัดแสดงเป็นนิทรรศการ เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการนาเสนอมากข้ึน หรือ เปล่ียน
วิธีการนาเสนอโดยให้นักเรียนได้ออกแบบการนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้แผนภาพ อินโฟกราฟฟิก
เปน็ ต้น

9.2 นางสาวรตั ตภิ รณ์ ชานาญ ครผู สู้ อนรายวิชาชวี วิทยา ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ให้ความเหน็ เกี่ยวกับส่งิ ที่ควรเพม่ิ เติม/ปรับปรุงแก้ไข
แผนการจัดการเรยี นรู้ ดงั น้ี

แผนการจัดการเรียนรู้ขั้นขยายความรู้ ครูควรจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ เช่น ต้ังประเด็นเพื่อให้
นักเรียนชี้แจงหรือร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซักถามให้นักเรียนชัดเจนหรือ
กระจ่างในความรูท้ ่ไี ด้หรือเช่ือมโยงความรู้ที่ได้กับความรู้เดิม เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ลึกซ้ึงข้ึนหรือขยายกรอบ
ความคิดกว้างขึ้นหรือเชือ่ มโยงความรเู้ ดิมสู่ความรใู้ หมห่ รือนาไปสู่การศึกษาค้นควา้ ทดลอง เพิ่มข้ึน

PLC วงรอบ 3 216
นายรณชัย อินรงั

10. โปรดระบุ ชอ่ื สกลุ ผู้วิพากษ์
10.1 นายจกั รกฤษณ์ สมภรณ์วรพล ครผู ู้สอนรายวิชาเทคโนโลยี ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1-6

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
10.2 นางสาวรตั ตภิ รณ์ ชานาญ ครูผสู้ อนรายวิชาชวี วิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

11. เกย่ี วข้องกับสาระ / งาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

12. โรงเรียนผูว้ พิ ากษ์
โรงเรียนสรอยเสรวี ิทยา ตาบลสรอย อาเภอวงั ช้นิ จังหวัดแพร่

13. หนว่ ยงานผู้วิพากษ์
สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่

ลงชื่อ………………………………………… ผู้วิพากษ์ ลงชอื่ ………………………………………… ผวู้ ิพากษ์
(นายจกั รกฤษณ์ สมภรณว์ รพล) (นางสาวรตั ตภิ รณ์ ชานาญ)

PLC วงรอบ 3 217
นายรณชัย อินรัง

เอกสารหมายเลข 4 แบบรายงานการสงั เคราะห์การวพิ ากษแ์ ผนการจดั การเรยี นการสอน

ประเด็นท่ี Model Teacher วางแผนไดด้ ี
1. แผนการจัดการเรียนรู้ มีการออกแบบกิจกรรมซ่ึงสามารถครอบคลุมมาตรฐานและตัวช้ีวัดของ

ระดบั ช้นั ตรงตามหลกั สตู ร มีการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ท่หี ลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพ
ของผู้เรียน มีการบรู ณาการ เนน้ การคิด (ทักษะการคดิ ลกั ษณะการคดิ และกระบวนการคิด ) ซ่ึงการฝึกทักษะ
การปฏบิ ัติจรงิ จะสามารถพัฒนาการเรยี นรู้และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

2. แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องสัมพันธ์กันกับหลักสูตร และมาตรฐาน
ตัวช้ีวัดในหน่วยการเรียนรู้ และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และมีการวิเคราะห์ผู้เรียน โดยการจัด
กลุ่มผู้เรียนตามความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความถนัด แล้วนาไปเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตาม
ศกั ยภาพของผเู้ รยี นเพื่อเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ

ประเดน็ ที่ Model Teacher ควรเพ่มิ เตมิ /ปรับปรงุ แกไ้ ข
แผนการจัดการเรียนรู้ในขั้นขยายความรู้ ครูควรอธิบายรายละเอียดขั้นตอนการนาเสนอผลงาน

ในรูปแบบนาผลงานจัดแสดงเป็นนิทรรศการ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการนาเสนอมากขึ้น หรือ เปล่ียน
วิธีการนาเสนอโดยให้นักเรียนได้ออกแบบการนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้แผนภาพ อินโฟกราฟฟิก
เปน็ ตน้ ครูควรจดั กจิ กรรมหรือสถานการณ์ เช่น ต้ังประเด็นเพื่อให้นักเรียนชี้แจงหรือร่วมอภิปรายแสดงความ
คิดเห็นเพม่ิ เติมให้ชดั เจนยิง่ ขน้ึ ซักถามใหน้ กั เรียนชัดเจนหรอื กระจ่างในความรูท้ ไี่ ด้หรือเช่ือมโยงความรู้ท่ีได้กับ
ความรูเ้ ดมิ เพื่อใหน้ กั เรียนมคี วามรู้ลกึ ซ้ึงขนึ้ หรือขยายกรอบความคิดกว้างขึ้นหรือเชื่อมโยงความรู้เดิมสู่ความรู้
ใหมห่ รือนาไปสกู่ ารศึกษาคน้ ควา้ ทดลอง เพ่ิมข้นึ

PLC วงรอบ 3 218
นายรณชยั อินรัง

เอกสารหมายเลข 5 แบบรายงานการสง่ ภาพบันการเรยี นการสอนและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ PLC

1. ชอื่ /นามสกลุ Model Teacher
นายรณชัย อินรัง

2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

3. ชื่อโรงเรยี น
สรอยเสรวี ทิ ยา ตาบลสรอย อาเภอวังชิน้ จังหวัดแพร่

4. รอบของการแก้ไขปญั หา
รอบท่ี 3 ช่วงเวลา ระหว่างวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

5. เกยี่ วข้องกบั สาระ/มาตรฐาน/ผลการเรียนรู้
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เข้าใจการเขียนและการดลุ สมการเคมี ปริมาณสมั พันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดลุ ในปฏกิ ริ ิยา สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้ังการนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบ
โลหะ การแยกสารเคมดี ้วยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะใหบ้ รสิ ุทธิ์ และการป้องกันการกดั กรอ่ นของโลหะ

6. กลุ่มนักเรียนเปา้ หมาย
นักเรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 หอ้ ง 1 จานวน 13 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564

7. วนั เดอื น ปี ทด่ี าเนนิ การ PLC
ระหวา่ งวันท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

PLC วงรอบ 3 219
นายรณชัย อินรัง

8. บันทกึ เพิ่มเตมิ เก่ียวกับภาพการสร้างสงั คมแห่งการเรยี นรู้ PLC

PLC วงรอบ 3 220
นายรณชัย อินรัง

9. บนั ทกึ เพมิ่ เตมิ เก่ียวกับภาพการจัดการเรยี นการสอน

PLC วงรอบ 3 221
นายรณชยั อินรงั

PLC วงรอบ 3 222
นายรณชยั อินรงั

PLC วงรอบ 3 223
นายรณชยั อินรงั

PLC วงรอบ 3 224
นายรณชัย อนิ รงั

เอกสารหมายเลข 6 แบบรายงานการวพิ ากษ์การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน

1. ชอ่ื /นามสกลุ Model Teacher
นายรณชยั อนิ รงั

2. กลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

3. ช่ือโรงเรียน
สรอยเสรีวิทยา ตาบลสรอย อาเภอวงั ช้นิ จงั หวัดแพร่

4. รอบของการแกไ้ ขปญั หา
รอบท่ี 3 ระหว่างวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

5. เก่ียวขอ้ งกบั สาระ/มาตรฐาน/ผลการเรียนรู้
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เขา้ ใจการเขียนและการดลุ สมการเคมี ปรมิ าณสมั พันธใ์ นปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดลุ ในปฏิกิริยา สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการชุบ
โลหะ การแยกสารเคมดี ว้ ยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้บรสิ ทุ ธ์ิ และการป้องกันการกดั กรอ่ นของโลหะ

6. กลุ่มนักเรียนเป้าหมาย
นกั เรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 หอ้ ง 1 จานวน 13 คน ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

7. วัน เดอื น ปี ท่ีดาเนนิ การ PLC
ระหว่างวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

8. วตั ถุประสงค์หรือเปา้ หมายตามแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนชัดเจนหรือไม่ อยา่ งไร
โปรดอธิบาย

การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีวัตถุประสงค์ให้ด้านความรู้ให้นักเรียน เขียนสมการของปฏิกิริยา
เคมที ่ีแอโนดและแคโทด จากการชบุ เหลก็ ดว้ ยสงั กะสีได้ บอกหลกั การแยกโลหะให้บริสุทธดิ์ ว้ ยกระแสไฟฟ้าได้
เขียนสมการแยกโลหะใหบ้ ริสทุ ธดิ์ ว้ ยกระแสไฟฟ้าได้

ด้านทักษะและกระบวนการ ทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสีได้ ทาให้นักเรียน
สามารถเรียนรู้ได้ ตามเป้าหมายของการจัดการเรียนการสอนท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ผลการ
เรียนรู้ ของหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศึกษา ตลอดจนสาระและหลักสูตรแกนกลางข้ัน
พ้นื ฐาน

PLC วงรอบ 3 225
นายรณชยั อนิ รงั

9. การวัดและประเมินผลชัดเจนหรอื ไม่ อย่างไร โปรดอธิบาย
มีการวัดและประเมินผลในด้านความรู้ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)

และสมรรถนะทางการเรยี น (C) ครบตามผลการเรียนรูแ้ ละวตั ถุประสงค์ทต่ี ้งั ไว้ในแผนการจดั การเรยี นรู้

10. มกี ารสง่ เสริม/ต่อยอดนักเรยี นทเี่ รยี นร้ไู ด้ดีหรือไม่ อย่างไร โปรดอธบิ าย
นกั เรยี นกลุ่มเก่งสามารถอธิบาย เขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็ก

ด้วยสังกะสีได้ บอกหลักการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้าได้เขียนสมการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วย
กระแสไฟฟ้าได้ ทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสีได้ เข้าใจเนื้อหาที่ครูสอน คิด วิเคราะห์ ทา
ความเข้าใจไดด้ ว้ ยตนเองจบั ประเด็นสาคญั ขยายความ ยกตัวอย่าง เปรียบเทียบได้ถูกต้อง ครูจึงมีการส่งเสริม
นักเรียนกลุ่มเก่งนี้ โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้จากส่ือออนไลน์เพิ่มเติม ค้นคว้าและใช้เทคโนโลยีในการประยุกต์
กบั กิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรยี นเกิดความเขา้ ใจและความชานาญยง่ิ ข้ึน

10. มกี ารชว่ ยเหลือนักเรียนท่ีเรียนรูไ้ ด้ไม่ดีหรือไม่ อยา่ งไร โปรดอธิบาย
นักเรียนกลุ่มอ่อน อธิบาย เขียนสมการของปฏิกิริยาเคมีท่ีแอโนดและแคโทด จากการชุบเหล็กด้วย

สังกะสีได้ บอกหลักการแยกโลหะให้บริสุทธ์ิด้วยกระแสไฟฟ้าได้เขียนสมการแยกโลหะให้บริสุทธิ์ด้วย
กระแสไฟฟ้าได้ ทดลองและอธิบายการชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสีได้ แต่เข้าใจเน้ือหาท่ีครูสอนในบางเร่ือง แต่
คิด วิเคราะห์ ทาความเขา้ ใจไมไ่ ด้ด้วยตนเอง ขยายความหรือยกตัวอย่างไม่ได้ ครูจึงช่วยเหลือโดยให้ความดูแล
เอาใจใส่และชว่ ยเหลืออย่างใกลช้ ดิ คอยตดิ ตามและสังเกตในขณะทร่ี ่วมกจิ กรรม

ในขณะท่ีนักเรียนพูดครูผู้สอนจะไม่กดดันนักเรียน และมีการสอนเสริมในรูปแบบออนไลน์เพ่ือขยาย
และติดตามผลการเรียน ตลอดจนรับฟังนักเรียนอย่างตั้งใจ และให้ผู้เรียนเสนอความคิดแสดงท่าทีหรือ
แสดงออกอย่างเต็มท่ี และในขณะดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอน ครูมีการจูงใจและให้กาลังใจ ให้การช่ืน
ชมท่ีผ้เู รยี นแสดงออกอยา่ งสร้างสรรคก์ ระตุน้ สร้างความม่ันใจให้แก่ผู้เรียน ท่ีจะกล้าเผชิญกับปัญหา อุปสรรค
ในการเรียน ให้กาลังใจผู้เรียน ไม่พูดแทรกหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ จนกว่าผู้เรียนจะพูดจบโดยไม่ใช้การ
ตาหนิหรือแสดงตัวเหนอื ผ้เู รยี น ใหข้ อ้ มลู เชงิ สร้างสรรค์ทส่ี ามารถพฒั นาผเู้ รยี นได้

11. สะท้อนความคดิ ประเด็นอน่ื ๆ
การจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนเดินชมแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือเทคนิค GALLERY WALK เป็นกลวิธี

ท่ใี ห้ผ้เู รยี นนาเสนอผลงานของกลุ่มทศี่ กึ ษาเรือ่ งเดยี วกนั ซึง่ ภายหลังจบบทเรียนให้แต่ละกลุ่มมาชมแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ผลงานจนครบทุกกลุ่ม และแสดงความคิดเห็นและอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม โดยผู้เรียนทุกคนมีส่วน
ร่วมในการนาเสนอผลงาน ประโยชน์ของกลวธิ กี ารเดินชมแลกเปลยี่ นเรียนร้หู รือเทคนิค GALLERY WALK ผู้เรียน
ได้รับความรู้ ช่วยฝึกทักษะการคิด การสื่อสารและการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน กิจกรรมการเรียน
การสอนมีความสนุกสนานและได้นาความรู้ท่ีมีมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในช้ันเรียนภายในเวลาอันสั้น (สถาบัน
ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, 2555)

PLC วงรอบ 3 226
นายรณชยั อนิ รงั

13. ประเดน็ ที่ Model Teacher วางแผนไดด้ ี
13.1 นายจกั รกฤษณ์ สมภรณ์วรพล ครูผสู้ อนรายวชิ าเทคโนโลยี ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-6

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดใ้ หค้ วามเห็นเกยี่ วกบั แผนการจัดการเรียนรู้ ดังน้ี
ครูมีการจัดการเรียนรู้ท่ีมีความสนุกสนานซ่ึงกลวิธีการสอนเดินชมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียน

มสี ่วนรว่ มในการสร้างและประเมนิ เป็นผปู้ ฏบิ ัติกิจกรรมตา่ ง ๆ มโี อกาสซกั ถาม แสดงความคิดเห็นอย่าง อิสระ
มคี วามใคร่รู้ในการค้นหาความรู้ รวบรวมข้อมูล แสดงความคิดเห็นและให้เหตุผลอย่างเหมาะสม ผู้เรียนได้รับ
ความรู้ ช่วยฝึกทักษะการคิด การสื่อสารและการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน และสามารถนาความรู้ท่ีได้
ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้

13.2 นางสาวรัตติภรณ์ ชานาญ ครูผู้สอนรายวชิ าชีววิทยา ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ให้ความเห็นเกีย่ วกบั แผนการจัดการเรียนรู้ ดังน้ี

ครูมีการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจ หลากหลายรูปแบบ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพทางสมอง ในการการคิด วิเคราะห์
การต้ังคาถาม การแก้ปัญหา ทาให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงทาให้ผู้เรียนมีโอกาสร่วม
อภิปรายเพ่ือฝึกทักษะการส่ือสาร และการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไปด้วย รวมทั้งมีการใช้คาถามหลัง
การเรียนรู้ ทาให้ครูผู้สอนทราบส่ิงท่ีเข้าใจและสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างแท้จริง จึงทาให้ครูผู้สอน
สามารถนามาวเิ คราะหแ์ ละประเมินผลการเรียนร้ขู องผู้เรยี นได้

14. ประเด็นที่ Model Teacher ควรเพ่ิมเติม/ปรับปรุงแกไ้ ข
14.1 นายจักรกฤษณ์ สมภรณ์วรพล ครูผู้สอนรายวชิ าเทคโนโลยี ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1-6

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ไดใ้ ห้ความเห็นเกี่ยวกบั สิ่งที่ควรเพมิ่ เติม/ปรบั ปรงุ แก้ไข
แผนการจัดการเรียนรู้ ดังนี้

ในการจัดกิจกรรมการสอน ครูผู้สอนควรจัดเตรียมเอกสารประกอบการค้นคว้าและวัสดุอุปกรณ์
ตา่ ง ๆ เพอ่ื อานวยความ สะดวกแกผ่ ู้เรียน และคอยแนะนาเม่ือผู้เรียนมีปัญหา เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้องและทัน
ตามเวลาที่กาหนด เน่ืองจากกิจกรรมต้องใช้เวลามาก ควรกาหนดระยะในการติดผลงานให้ห่างกันพอสมควร
เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากกลุ่มอื่น และเจ้าของผลงานจะได้ไม่กังวลกับข้อความที่ไม่เห็นด้วยในประเด็น
ท่ีศึกษาของกลมุ่ อน่ื

14.2 นางสาวรตั ตภิ รณ์ ชานาญ ครผู สู้ อนรายวชิ าชีววิทยา ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดใ้ หค้ วามเห็นเกย่ี วกับสิง่ ที่ควรเพิม่ เติม/ปรับปรงุ แก้ไข
แผนการจดั การเรียนรู้ ดังนี้

การจัดการเรยี นการสอน ในข้ันสร้างความสนใจ นอกเหนือจากการใช้สอ่ื การสอนแบบจาลอง
โครงสร้างของสารประกอบแล้ว ครูผู้สอนควรมีการใช้วธิ ีการเลน่ เกม การดูคลปิ วดิ โิ อ เพื่อกระตุ้นความสนใจ
ของผเู้ รียนให้มีความอยากเรยี นรเู้ พิม่ ข้ึน

PLC วงรอบ 3 227
นายรณชัย อินรงั

15. โปรดระบุ ชอ่ื สกลุ ผู้วิพากษ์
15.1 นายจักรกฤษณ์ สมภรณ์วรพล ครผู ู้สอนรายวิชาเทคโนโลยี ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1-6

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
15.2 นางสาวรัตตภิ รณ์ ชานาญ ครูผสู้ อนรายวิชาชวี วิทยา ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

16. เกย่ี วข้องกับสาระ / งาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

17. โรงเรียนผูว้ พิ ากษ์
โรงเรียนสรอยเสรีวิทยา ตาบลสรอย อาเภอวงั ช้นิ จังหวัดแพร่

18. หนว่ ยงานผู้วิพากษ์
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่

ลงชื่อ………………………………………… ผวู้ ิพากษ์ ลงชอื่ ………………………………………… ผวู้ ิพากษ์
(นายจกั รกฤษณ์ สมภรณว์ รพล) (นางสาวรตั ตภิ รณ์ ชานาญ)

PLC วงรอบ 3 228
นายรณชัย อินรงั

เอกสารหมายเลข 7 แบบรายงานการสรปุ ผลการดาเนนิ งานของรอบท่ีผา่ นมา

1. ชอ่ื /นามสกุล Model Teacher
นายรณชยั อนิ รัง

2. กลุม่ สาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

3. ช่ือโรงเรียน
สรอยเสรวี ทิ ยา ตาบลสรอย อาเภอวงั ชนิ้ จังหวดั แพร่

4. รอบของการแก้ไขปัญหา
รอบท่ี 3 ระหวา่ งวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

5. เกย่ี วขอ้ งกับสาระ/มาตรฐาน/ผลการเรียนรู้
สาระเคมี
มาตรฐาน 2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสมั พันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
สมดลุ ในปฏิกริ ยิ า สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมทั้งการนาความรู้
ไปใช้ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้

31. ทดลองชุบโลหะแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้าและอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบ
โลหะ การแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ และการปอ้ งกันการกัดกรอ่ นของโลหะ

6. กลุม่ นักเรียนเปา้ หมาย
นกั เรยี นระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 1 จานวน 13 คน ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

7. วัน เดอื น ปี ท่ดี าเนินการ PLC
ระหว่างวนั ท่ี 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

PLC วงรอบ 3 229
นายรณชยั อนิ รงั

8. วตั ถปุ ระสงค์หรอื เปา้ หมาย

ด้านความรู้
1. เขียนสมการของปฏกิ ิริยาเคมีทีแ่ อโนดและแคโทด จากการชบุ เหลก็ ดว้ ยสงั กะสไี ด้
2. บอกหลักการแยกโลหะให้บรสิ ทุ ธิ์ด้วยกระแสไฟฟ้าได้
3. เขียนสมการแยกโลหะให้บรสิ ทุ ธ์ดิ ว้ ยกระแสไฟฟ้าได้

ดา้ นทักษะและกระบวนการ
1. ทาการทดลองและอธบิ ายการชุบตะปูเหลก็ ดว้ ยสงั กะสีได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ มนั่ ในการทางาน
4. มจี ิตสาธารณะ
5. มจี ิตวทิ ยาศาสตร์

ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

PLC วงรอบ 3 230
นายรณชัย อินรัง

9. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และการประเมนิ ผล

ผลการเรียนรู้ วิธกี าร วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การผ่าน
ประเมนิ
31. ทดลองชุบโลหะ ด้านความรู้ (K)
คะแนนร้อยละ 70
แ ย ก ส า ร เ ค มี ด้ ว ย -ใบงาน เร่ือง การชุบโลหะ -ตรวจใบงาน -ใบงาน ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น
ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ และการทาโลหะให้บริสทุ ธ์ิ -แบบประเมิน
-รายงานบทปฏบิ ตั กิ ารผลการ -ตรวจรายงาน คะแนนร้อยละ 70
อธิบายหลักการทาง ทดลอง เร่ือง การชุบตะปู ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน
เคมีไฟฟ้าที่ใช้ในการ เหล็กด้วยสังกะสี
ได้ระดบั คณุ ภาพ
ชุบโล หะ ก ารแย ก 2ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ น

ส า ร เ ค มี ด้ ว ย ไดร้ ะดับคณุ ภาพ
2ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่าน
กระแสไฟฟ้า การทา ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
โลหะให้บริสุทธิ์ และ นาเสนอ (P)
-ทาการทดลองเร่ือง การชุบ -สงั เกตการทดลอง -แบบประเมิน
ก า ร ป้ อ ง กั น ก า ร กั ด ตะปเู หลก็ ดว้ ยสังกะสี
กรอ่ นของโลหะ

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึง

ประสงค์ (A) -สงั เกตการรว่ ม -แบบประเมิน
1. มีวินัย -แบบประเมิน
กจิ กรรมในชัน้
2. ใฝเ่ รียนรู้

3. มุ่งม่ันในการทางาน เรยี น

4. มจี ติ สาธารณะ

5. มีจิตวิทยาศาสตร์

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของ

ผเู้ รยี น (C) -สงั เกตการร่วม

1.ความสามารถในการสือ่ สาร กิจกรรมในชัน้

2.ความสามารถในการคิด เรียน

3.ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

PLC วงรอบ 3 231
นายรณชยั อนิ รัง

10. การส่งเสรมิ / ต่อยอด
นักเรยี นกลุ่มเกง่ สามารถคดิ วิเคราะห์ ทาความเข้าใจเนอ้ื หาได้ดว้ ยตนเอง มีการจบั ประเด็นสาคัญได้

รวมทัง้ สามารถทดลองและสรุปผลการทดลองได้ถูกต้อง ครูจงึ สง่ เสริมใหน้ ักเรียนไดค้ ้นคว้าจากแหล่งเรยี นอื่น
เพิ่มเติม เชน่ การสืบค้นความรู้เพ่มิ เติมจาก internet ศกึ ษาจากสอ่ื ICT เปน็ ต้น เพราะการสง่ เสรมิ นีก้ เ็ พ่ือให้
เกิดความความรู้ ความเขา้ ใจ และความชานาญในการอธิบายเน้อื หาทเี่ รยี นได้ชัดเจนมากขึน้ รวมท้งั ส่งเสริมให้
นกั เรยี นกลมุ่ เกง่ ได้ช่วยเหลอื เพอื่ นในขณะทากจิ กรรมเพื่อส่งเสรมิ ทกั ษะการอยู่รว่ มกันในสังคมและการยอมรับ
ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื

11. การชว่ ยเหลือ
นกั เรยี นกลุ่มออ่ นสามารถอธิบายการแยกโลหะให้บริสุทธ์ิอย่างไม่เป็นระบบ เข้าใจเนื้อหาท่ีครูสอนใน

บางเรอื่ ง แต่คดิ วเิ คราะห์ ทาความเขา้ ใจไมไ่ ด้ดว้ ยตนเอง รวมท้ังใช้อุปกรณ์และ/หรือเคร่ืองมือไม่ถูกต้อง ครูจึง
ให้ความดูแลเอาใจใส่และช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด คอยติดตามและสังเกตนักเรียนกลุ่มอ่อน ในขณะท่ีร่วม
กจิ กรรม ในขณะที่นักเรียนทากิจกรรมการนาเสนอ

คอยส่งเสริมให้นักเรียนทางานร่วมกันในการสารวจตรวจสอบ สังเกต และฟังการโต้ตอบกันระหว่าง
นักเรียนกับนักเรียน ซักถามเพื่อนาไปสู่การสารวจตรวจสอบของนักเรียน ให้เวลานักเรียนในการคิดข้อสงสัย
ตลอดจนปัญหาต่างๆให้คาปรึกษาแก่นักเรียนกลุ่มอ่อน ร วมทั้งให้กาลังใจ ให้การชื่นชมท่ีผู้เรียน
ในขณะทากิจกรรมการทดลอง เพ่ือกระตุ้นและสร้างความม่ันใจให้แก่ผู้เรียน ที่จะกล้าลงมือทาและเผชิญ
กบั ปญั หา

12. ประเดน็ อ่ืน ๆ
ด้านแผนการจดั การเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบ 5E เป็นกลยทุ ธก์ ารสอนท่ชี ่วยให้นักเรียนเข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้ได้ด้วยตนเองสร้าง

ทั้งความสนใจ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ และปูทางให้กับการพัฒนาทักษะโดยใช้การต้ังคาถาม (inquiry)
เป็นพ้ืนฐานในการให้ผู้เรียนได้นาประสบการณ์ท่ีเรียนรู้หรือฝึกฝน มาทดลองปฏิบัติหรือแสวงหาคาตอบ
เกิดเปน็ การเรยี นร้จู ากความเขา้ ใจทผ่ี เู้ รยี นค่อยๆ สร้างสมขึ้นมา โดยผู้สอนจะเป็นผู้ช่วยแนะนาแก้ไขและเสริม
ต่อในส่วนที่จาเปน็ ตา่ งจากการสอนแบบเดมิ ท่ีใช้การป้อนความรูจ้ ากผสู้ อนเปน็ หลัก

ดา้ นการจดั การเรียนการสอน
การจัดการเรียนรู้ด้วยกลวิธีการสอนเดินชมแลกเปล่ียนเรียนรู้หรือเทคนิค Gallery Walk เป็นกลวิธี
ทใ่ี หผ้ ูเ้ รยี นนาเสนอผลงานของกลุ่มที่ศึกษาเรื่องเดยี วกนั ซ่ึงภายหลังจบบทเรยี นให้แต่ละกลุ่มมาชมแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ผลงานจนครบทุกกลุ่ม และแสดงความคิดเห็นและอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม โดยผู้เรียนทุกคนมีส่วน
รว่ มในการนาเสนอผลงาน ประโยชน์ของกลวธิ ีการเดินชมแลกเปล่ียนเรียนรู้หรือเทคนคิ Gallery Walk ผู้เรียน
ได้รับความรู้ ช่วยฝึกทักษะการคิด การส่ือสารและการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน กิจกรรมการเรียน
การสอนมีความสนุกสนานและได้นาความรู้ท่ีมีมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในช้ันเรียนภายในเวลาอันสั้น (สถาบัน
ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2555)

PLC วงรอบ 3 232
นายรณชัย อนิ รัง

13. ประเดน็ ท่ี Model Teacher ปฏิบตั ิได้ดี
ดา้ นวัตถุประสงคห์ รอื เปา้ หมายของการเรยี นรู้
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีวัตถุประสงค์ให้นักเรียนสามารถอธิบายการชุบโลหะและการทาโลหะ

ให้บริสุทธิ์ด้วยเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ สามารถทาการทดลองและสรุปผลการทดลองเก่ียวกับการชุบโลหะและการทา
โลหะให้บริสุทธ์ิด้วยเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ ได้และมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ทาให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตาม
เปา้ หมายของ การจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกบั หลกั สตู รสถานศกึ ษา

ด้านแผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ มีการออกแบบกิจกรรมซ่ึงสามารถครอบคลุมมาตรฐานและตัวช้ีวัดของ
ระดับชนั้ ตรงตามหลกั สตู ร มีการกาหนดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพ
ของผเู้ รยี น มกี ารบูรณาการ เน้นการคิด (ทักษะการคดิ ลกั ษณะการคดิ และกระบวนการคิด ) ซ่ึงการฝึกทักษะ
การปฏบิ ตั ิจรงิ จะสามารถพัฒนาการเรียนรู้และการสรา้ งองค์ความรดู้ ้วยตนเอง
แผนการจัดการเรียนรู้ มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องสัมพันธ์กันกับหลักสูตร และมาตรฐานผล

การเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ และสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และมีการวิเคราะห์ผู้เรียน โดยการ

จัดกลุ่มผู้เรียนแบบคละความสามารถ ฝึกทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอย่างแท้จริง ฝึกความ

รับผิดชอบ การเป็นผู้นา การเป็นผู้ตาม และฝึกทักษะทางสังคม และจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ีกาหนดไว้

แลว้ นาไปเขยี นแผนการจดั การเรยี นรูต้ ามศกั ยภาพของผ้เู รียนเพือ่ เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคัญ

ด้านกจิ กรรมการเรียนการสอน
ครูมีการจัดการเรียนรู้ท่ีมีความสนุกสนานซึ่งกลวิธีการสอนเดินชมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียน
มีส่วนร่วมในการสร้างและประเมิน เป็นผ้ปู ฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ ง ๆ มีโอกาสซักถาม แสดงความคิดเห็นอย่าง อิสระ
มคี วามใคร่รู้ในการค้นหาความรู้ รวบรวมข้อมูล แสดงความคิดเห็นและให้เหตุผลอย่างเหมาะสม ผู้เรียนได้รับ
ความรู้ ช่วยฝึกทักษะการคิด การส่ือสารและการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน และสามารถนาความรู้ที่ได้
ไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้
ครูมีการจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจ หลากหลายรูปแบบ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ให้ผู้เรียนได้
เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นการส่งเสริม พัฒนาศักยภาพทางสมอง ในการการคิด วิเคราะห์
การตั้งคาถาม การแก้ปัญหา ทาให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงทาให้ผู้เรียนมีโอกาส
ร่วมอภิปรายเพ่ือฝึกทักษะการส่ือสาร และการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไปด้วย รวมทั้งมีการใช้คาถาม
หลังการเรียนรู้ ทาให้ครูผู้สอนทราบสิ่งท่ีเข้าใจและส่ิงที่ได้รับการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างแท้จริง จึงทาให้
ครผู สู้ อนสามารถนามาวิเคราะหแ์ ละประเมินผลการเรยี นรู้ของผ้เู รยี นได้

ดา้ นการวดั และประเมินผล
การวัดและการประเมินผลมีความครอบคลุมทุกด้าน คือ ด้านความรู้ (K) ประเมินนักเรียนเก่ียวกับ
การอธิบายการชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสุทธ์ิด้วยเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ ด้านทักษะ (P) ประเมิน
ความสามารถนักเรียนในการทาการทดลองและสรุปผลการทดลองเก่ียวกับการชุบโลหะและการทาโลหะให้
บริสุทธ์ิด้วยเซลล์อิเล็กโทรไลต์ได้ และด้านเจตคติ (A) ประเมินนักเรียนในเร่ืองมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ในการ
สืบคน้ ขอ้ มลู และลงมือปฏบิ ตั ิการทดลอง

PLC วงรอบ 3 233
นายรณชัย อินรัง

13. ประเดน็ ท่ี Model Teacher ควรเพ่ิมเติม/ปรบั ปรงุ แกไ้ ข

ดา้ นแผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ในข้ันขยายความรู้ ครูควรอธิบายรายละเอียดขั้นตอนการนาเสนอผลงาน
ในรูปแบบนาผลงานจัดแสดงเป็นนิทรรศการ เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการนาเสนอมากขึ้น หรือ เปล่ียน
วิธีการนาเสนอโดยให้นักเรียนได้ออกแบบการนาเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้แผนภาพ อินโฟกราฟฟิก
เปน็ ตน้
แผนการจัดการเรียนรู้ข้ันขยายความรู้ ครูควรจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ เช่น ตั้งประเด็นเพื่อให้
นักเรียนช้ีแจงหรือร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมให้ชัดเจนย่ิงข้ึน ซักถามให้นักเรียนชัดเจนหรือ
กระจา่ งในความร้ทู ่ีไดห้ รอื เชอื่ มโยงความรู้ที่ได้กับความรู้เดิม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ลึกซ้ืงขึ้นหรือขยายกรอบ
ความคิดกวา้ งขึ้นหรือเช่ือมโยงความรูเ้ ดิมสคู่ วามรู้ใหมห่ รือนาไปส่กู ารศกึ ษาค้นควา้ ทดลอง เพิ่มขน้ึ

ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน
ในการจัดกิจกรรมการสอน ครูผู้สอนควรจัดเตรียมเอกสารประกอบการค้นคว้าและวัสดุอุปกรณ์
ตา่ ง ๆ เพ่ืออานวยความ สะดวกแก่ผ้เู รียน และคอยแนะนาเม่ือผู้เรียนมีปัญหา เพื่อการปฏิบัติท่ีถูกต้องและทัน
ตามเวลาท่ีกาหนด เน่ืองจากกิจกรรมต้องใช้เวลามาก ควรกาหนดระยะในการติดผลงานให้ห่างกันพอสมควร
เพ่ือหลีกเล่ียงเสียงรบกวนจากกลุ่มอ่ืน และเจ้าของผลงานจะได้ไม่กังวลกับข้อความท่ีไม่เห็นด้วยในประเด็น
ท่ีศกึ ษาของกลมุ่ อ่นื
การจัดการเรียนการสอน ในข้ันสร้างความสนใจ นอกเหนือจากการใช้สื่อการสอนแบบจาลอง
โครงสร้างของสารประกอบแล้ว ครูผู้สอนควรมีการใช้วิธีการเล่นเกม การดูคลิปวิดิโอ เพื่อกระตุ้นความสนใจ
ของผเู้ รียนใหม้ คี วามอยากเรยี นรูเ้ พิ่มข้นึ

PLC วงรอบ 3 234
นายรณชยั อินรัง

แบบสรปุ การดาเนนิ งานการมสี ว่ นรว่ มในชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ
(Professional Learning Community PLC) ปกี ารศึกษา 2564
โดย นายรณชยั อินรงั ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชานาญการ

โรงเรียนสรอยเสรีวิทยา อาเภอวังช้นิ สังกดั สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาแพร่
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วงรอบที่ 3 ระหวา่ งวันที่ 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565

รอบการแก้ปญั หา 3
ชอ่ื กลุ่มกจิ กรรม Science Saroy
จานวนสมาชิกทเ่ี ข้าร่วม 3
กจิ กรรม
ชอื่ กิจกรรม แก้ปญั หาการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าเคมเี พ่ิมเติม 4 (ว32224)
วัน/เดือน/ปี เร่ือง การชุบและการแยกโลหะใหบ้ ริสุทธิ์
ภาคเรียนท่ี ระหวา่ งวนั ที่ 4 มกราคม – 7 มกราคม 2565
ปีการศึกษา 2
จานวนชวั่ โมง 2564
บทบาท 3 ช่วั โมง
Model Teacher
ประเดน็ จากประสบการณ์สอนวิชาเคมี ในเนื้อหาเก่ียวกับไฟฟ้าเคมี พบว่า ทฤษฎีของตัว
เน้ือหามีความซับซ้อนเข้าใจยาก ต้องอาศัยหลักการจินตนาการให้เกิดมโนภาพ
สาเหตุ เพ่ือนาไปสู่กระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แล้วนาไปสู่การลงมือปฏิบัติฝึกทา
โจทยห์ รอื แบบฝกึ ทห่ี ลากหลาย จะทาให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจในตัวของทฤษฎี
ความรู้/หลกั การที่ เน้ือหาวิชามากข้ึน โดยทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ท่ีสาคัญประการหนึ่งที่
นามาใช้ กระตุ้นความคิดของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี คือ ทักษะการทดลอง โดยการได้ลงมือ
กจิ กรรมท่ที า ปัญหาเพื่อค้นพบคาตอบด้วยการลงมือทาเพ่ือกระตุ้นให้เกิดภาพจา เชื่อมโยงสู่
การวิเคราะห์ อภิปรายผล และ สรุปผลการทดลอง แล้วเชื่อมโยงเพ่ือการพิสูจน์
กบั ทฤษฎีเน้ือหารายวิชา
นักเรียนไม่สามารถลงขอ้ สรปุ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ข้อมูลจากการทดลอง โดย
ขาดการนาข้อมลู จากเน้ือหาในทฤษฎีมาเชื่อมโยง
การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยทักษะ
กระบวนการลงมือปฏิบัติการทดลองร่วมกับชุดแบบฝึกกิจกรรมแบบส่ือผสม ใน
รายวชิ า เคมีเพม่ิ เตมิ 4 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5/1 โรงเรยี นสรอยเสรวี ิทยา

PLC วงรอบ 3 235
นายรณชัย อนิ รงั

ช่ัวโมงท่ี 26-28 เรือ่ ง การชุบโลหะและการทาโลหะให้บริสุทธิ์ (ทดลอง, ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์,
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด, กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล, การนาเสนอและและอภิปรายข้อมูล,
กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ 5 Es)
ข้นั ที่ 1 สร้างความสนใจ (Engagement;5 นาที)

1.1 ครูนาอภิปรายประเด็นการชุบโครเมียมนวัตกรรมในรถยนต์สมัยใหม่ ก่อนต้ังคาถาม ถาม
นกั เรยี นเพื่อนาเขา้ ส่บู ทเรยี น

- ประโยชน์ของการนาโครเมียมมาชุบช้ินส่วนรถยนต์เพ่ืออะไร ? [แนวทางคาตอบ; เพื่อเพ่ิมความ
มนั วาวเป็นประกายใหร้ ถยนต์, ป้องกนั การกดั กร่อนและการเกิดสนมิ ของชิ้นส่วนรถยนต์]

- ในความคิดของนักเรียน คาว่าชุบโครเมียม มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ? [แนวทางคาตอบ; ขึ้นอยู่กับ
คาตอบนกั เรยี น]

นวตั กรรมใหม่ ของการชุบโลหะท่ีทันสมัยและคงทนต่ออายุการใช้งานของชิ้นงาน คือการประยุกต์นา
หลกั การไฟฟ้าเคมี แบบเซลลอ์ ิเลก็ โทรไลต์เขา้ ไปใช้ประโยชน์ ดังนั้นการชุบโครเมียมท่ีนักเรียนคุ้นเคยก็คือการ
ชุบด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า หลักการของเซลล์อิเล็กโทรไลติกสามารถนาไปในการทาให้โลหะชนิดหนึ่งเคลือบ
อยู่บนผิวของโลหะอีกชนิดหนึ่งได้ซ่ึงเรียกว่า การชุบด้วยไฟฟ้า (Electroplating) เราจะมาศึกษากลไกการ
เกิดปฏิกิรยิ าพรอ้ มกนั กับกจิ กรรมการทดลองต่อไปนี้

1.2 ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรกู้ อ่ นนาเขา้ สู่เน้ือหา

ขนั้ ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (Exploration;55 นาที)
2.1 ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 4-5 คน โดยคละความสามารถของนักเรยี นและให้กาหนดหนา้ ท่ี

ของสมาชิกแตล่ ะคนให้ชัดเจน
2.2 นักเรียนรับใบกิจกรรม การทดลองที่ 4 เร่ือง การชุบตะปูเหล็กด้วยสังกะสี (ดังแนบใน

ภาคผนวก) ศึกษาพร้อมกันและเขียนลาดับขั้นตอนของการทดลองในรูปของ flow chat ลงในสมุดเป็น

รายบุคคล

Pre – Lab

ครชู ้แี จงชื่อและจุดประสงค์ กิจกรรมการทดลอง พร้อมแนะนาอุปกรณท์ ่ใี ชใ้ นการทดลอง

จดุ ประสงค์ของการทดลอง(Objective)

1. เพอื่ ศึกษาปฏิกิริยาของการชบุ โลหะดว้ ยกระแสไฟฟา้

เคร่อื งมอื และอุปกรณ์การทดลอง (Materials)

1. แหล่งกาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง 4. ตะปูขนาดยาวประมาณ 3 ซม.

2. บกี เกอร์ 5. แผ่นสงั กะสีบริสุทธ์ิ

3. กระดาษทราย 6. แท่งแก้วคนสาร

สารเคมี (Chemicals)
1. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ (HCl) ความเข้มขน้ 1.0 mol/dm3
2. สารละลายซิงค(์ II)ซัลเฟต (ZnSO4) ความเขม้ ขน้ 0.1 mol/dm3


Click to View FlipBook Version