The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Somyote Wongdee, 2020-12-23 01:37:02

รวมระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ประจำปี 2563

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๘





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ

พ.ศ. ๒๕๔๔



อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗(๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร

ื่
พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบเพอก ำหนดมำตรฐำนกำรศึกษำ
อบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำ

อบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ พ.ศ. ๒๕๔๔”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ข้อ ๓ ระเบียบนี้มิให้ใช้บังคับแก่ผู้ช่วยผู้พพำกษำที่เข้ำรับกำรอบรมตำมระเบียบกระ
ทรวงยุติธรรมว่ำด้วยกำรอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ พ.ศ. ๒๕๓๙ ก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ ๔ ให้ประธำนศำลฎีกำรักษำกำรตำมระเบียบนี้


หมวด ๑

บททั่วไป

ข้อ ๕ กำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำมี ๓ ประเภท คือ
(๑) กำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศ

(๒) กำรศึกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดี

(๓) กำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร


ข้อ ๖ ผู้ช่วยผู้พิพำกษำที่ได้รับกำรบรรจุใหม่ ให้เข้ำรับกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศ
ตำมหลักสูตรกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศท้ำยระเบียบนี้



ข้อ ๗ เมื่อผู้ช่วยผู้พพำกษำได้รับกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศแลว ให้ไปรับกำรศึกษำอบรม
กำรพิจำรณำพิพำกษำคดีในศำลตำมที่คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมก ำหนด โดยกำรศึกษำอบรม



ให้กระท ำเป็น ๒ รอบ เมื่อเข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีในรอบแรกแล้ว
ให้เข้ำรับกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำรก่อนแล้วจึงไปเข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดี








๑ หลักสูตรกำรศกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำปรับปรุงใหม่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศกษำอบรม
ผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๙




ในรอบที่ ๒ ต่อไป เว้นแต่มีเหตุจ ำเป็นอำจให้เข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีทั้ง ๒ รอบ

ติดต่อกันไปก่อนก็ได้


ข้อ ๘ กำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร ให้เป็นไปตำมหลักสูตรกำรศึกษำอบรม
ภำควิทยำกำรท้ำยระเบียบนี้


ข้อ ๙ ระยะเวลำในกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำตำมข้อ ๖ ข้อ ๗ และข้อ ๘


ให้เป็นไปตำมที่ประธำนศำลฎีกำก ำหนดโดยควำมเห็นชอบของ ก.ต.

กำรด ำเนินกำรศึกษำอบรมตำมหลักสูตรแนบท้ำยระเบียบในข้อ ๖ และข้อ ๘ ให้เป็นไป
ตำมวัตถุประสงค์และประเด็นส ำคัญของแต่ละวิชำที่ก ำหนด




ข้อ ๐ ผู้ช่วยผู้พพำกษำมีหน้ำที่เข้ำรับกำรศึกษำอบรมทุกวันเวลำรำชกำร
เมื่อผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมหรือคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมเห็นสมควรให้มีกำรศึกษำอบรม

ในเวลำอื่นหรือในวันหยุดรำชกำรเมื่อใด ผู้ช่วยผู้พิพำกษำก็มีหน้ำที่เข้ำรับกำรศึกษำอบรมตำมนั้น


หมวด ๒
คณะกรรมกำร

ส่วนที่ ๑

ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมและผู้ให้กำรศึกษำอบรม




ข้อ ๑๑ ให้เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้อ ำนวยกำร
ศึกษำอบรม โดยให้มีอ ำนำจดังต่อไปนี้
(๑) ดูแลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย

ิ่
(๒) เพมเติม งด หรือเปลี่ยนแปลงหัวข้อวิชำกำรศึกษำอบรม ระยะเวลำในหัวข้อวิชำ
และวิทยำกรได้ตำมควำมจ ำเป็น แล้วเสนอให้คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมทรำบ

(๓) อนุญำตกำรขอไม่เข้ำรับกำรศึกษำอบรมของผู้ช่วยผู้พพำกษำเป็นรำยชั่วโมง

ซึ่งไม่ถึงกับเป็นกำรลำรำชกำรในระหว่ำงเข้ำรับกำรศึกษำอบรมที่สถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร

ศำลยุติธรรม
(๔) ตรวจ ให้ค ำแนะน ำ และด ำเนินกำรให้มีกำรแก้ไขกำรบันทึกค ำบรรยำยกำรศึกษำ

อบรมที่ผู้ช่วยผู้พิพำกษำจัดท ำขึ้นก่อนเสนอต่อคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรม
(๕) อนุญำตในกำรขอออกนอกสถำนที่หลังจำกเสร็จสิ้นกำรศึกษำอบรมของ


ผู้ช่วยผู้พิพำกษำในวันที่ต้องพักอยู่ที่สถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม


๑ ข้อ ๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๒ ข้อ ๑๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐

๘๔๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






(๖) ดูแลและให้ค ำแนะน ำหรือตักเตือนในกำรประพฤติปฏิบัติของผู้ช่วยผู้พพำกษำ
ทั้งในและนอกเวลำกำรศึกษำอบรม หรือเสนอต่อคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมเพอตัดคะแนน
ื่

กำรศึกษำอบรม
(๗) รำยงำนผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร

ในรำยงำนประจ ำตัวตำมแบบรำยงำนผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร


ของผู้ช่วยผู้พิพำกษำท้ำยระเบียบนี้
(๘) ด ำเนินกำรใด ๆ เกี่ยวกับกำรศึกษำอบรมที่ไม่ได้ก ำหนดไว้ในระเบียบหรือหลักเกณฑ ์


กำรปฏิบัติ ทั้งนี้เมื่อได้รับควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรม
ตลอดระยะเวลำระหว่ำงกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร



หรือกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีในกรณีจ ำเป็น ให้เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำร

ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมปฏิบัติหน้ำที่ในฐำนะผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรม
ในกรณีที่ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมไม่สำมำรถอยู่ปฏิบัติหน้ำที่ได้ ให้รองเลขำธิกำรสถำบัน



พฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมท ำกำรแทน หำกรองเลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำร
ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมไม่สำมำรถอยู่ปฏิบัติหน้ำที่ได้ ให้กรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมที่คณะกรรมกำร

อ ำนวยกำรศึกษำอบรมมอบหมำยท ำกำรแทน




ข้อ ๑๒ ในระหว่ำงที่ผู้ช่วยผู้พพำกษำเข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดี


ในศำลใด ให้อธิบดีผู้พพำกษำหรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำลนั้น มีอ ำนำจตำมข้อ ๑๑(๑) (๖) (๗) และ (๘)
โดยอนุโลม
ข้อ ๑๓ ผู้ให้กำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีแก่ผู้ช่วยผู้พพำกษำในศำลใด



ได้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้ คือ
(๑) อธิบดีผู้พิพำกษำ

(๒) รองอธิบดีผู้พิพำกษำ
(๓) ผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำล

(๔) ผู้พิพำกษำในศำลนั้นที่ได้รับกำรคัดเลือกตำมข้อ ๑๔




ข้อ ๑๔ กำรพจำรณำคัดเลือกผู้พพำกษำผู้ให้กำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดี


ตำมข้อ ๑๓ (๔) ให้เป็นหน้ำที่ของคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรม โดยให้ค ำนึงถึงควำมรู้
ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำน ควำมประพฤติ ควำมสำมำรถในกำรให้กำรศึกษำอบรม และควำมสมัคร
ใจที่จะเป็นผู้ให้กำรศึกษำอบรมเป็นส ำคัญยิ่งกว่ำล ำดับอำวุโส และให้น ำควำมเห็นของอธิบดีผู้พพำกษำ




๓ แบบรำยงำนผลกำรศกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีปรับปรุงใหม่ตำมท้ำยระเบียบนี้ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๔๑





หรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำลมำประกอบกำรพจำรณำด้วย ส่วนคุณสมบัติประกำรอื่นและหน้ำที่ของ

ผู้ที่ได้รับกำรคัดเลือกให้เป็นผู้ให้กำรศึกษำอบรม ให้เป็นไปตำมคู่มือผู้ให้กำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ
ที่ ก.บ.ศ. ก ำหนด


ข้อ ๑๕ ให้ผู้ให้กำรศึกษำอบรมบันทึกรำยละเอียดเกี่ยวกับควำมรู้ควำมสำมำรถ อุปนิสัย
ควำมประพฤติ จรรยำมำรยำท และบุคลิกลักษณะของผู้ช่วยผู้พิพำกษำเป็นรำยบุคคล ตำมแบบรำยงำน



ผลกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีท้ำยระเบียบนี้ และรำยงำนให้คณะกรรมกำรอ ำนวยกำร
ศึกษำอบรมทรำบทุกระยะเวลำ ๓ เดือน หรือระยะเวลำน้อยกว่ำนั้นเท่ำที่ผู้ช่วยผู้พพำกษำรับกำรศึกษำ


อบรมอยู่กับตน โดยจัดส่งร่ำงค ำพพำกษำที่ให้ผู้ช่วยผู้พพำกษำเขียน โดยเจ้ำของส ำนวนกับองค์คณะ

ลงนำมแล้วให้คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมพิจำรณำตำมเงื่อนไขกำรศึกษำอบรมท้ำยระเบียบนี้ด้วย




ข้อ ๑๖ ผู้ช่วยผู้พพำกษำย่อมนั่งพจำรณำคดีร่วมกับผู้พพำกษำผู้ให้กำรศึกษำอบรมได้


แต่จะลงชื่อในค ำพพำกษำหรือค ำสั่งไม่ได้ และในกำรเดินเผชิญสืบผู้ช่วยผู้พพำกษำย่อมร่วมไปกับ
ผู้พิพำกษำผู้ให้กำรศึกษำอบรมได้
ในกำรขึ้นบัลลังก์พจำรณำคดี ผู้ช่วยผู้พพำกษำสวมครุยตุลำกำรศำลยุติธรรมได้ตำม


ระเบียบว่ำด้วยกำรนั้น


ส่วนที่ ๒

คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรม

๕ ข้อ ๑๗ ในกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำแต่ละรุ่น ให้มีคณะกรรมกำรอ ำนวยกำร

ศึกษำอบรม ประกอบด้วยข้ำรำชกำรตุลำกำรที่คัดเลือกโดยประธำนศำลฎีกำ ๑ คน ประธำนศำลอุทธรณ์

๑ คน และ ก.บ.ศ. คัดเลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรอีกไม่น้อยกว่ำ ๕ คน แต่ไม่เกิน ๑๐ คน ซึ่งปฏิบัติ
หน้ำที่ในศำลฎีกำ ศำลชั้นอุทธรณ์และศำลชั้นต้นที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหำนครและปริมณฑล เป็นกรรมกำร

โดยให้ผู้มีอำวุโสสูงสุดในขณะแต่งตั้งเป็นประธำนกรรมกำร ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมเป็นกรรมกำร

รองเลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร

ผู้อ ำนวยกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมและผู้อ ำนวยกำรวิทยำลัยข้ำรำชกำร

ตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร แล้วเสนอประธำนศำลฎีกำเพื่อแต่งตั้ง










๔ แบบรำยงำนผลกำรศกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีปรับปรุงใหม่ตำมท้ำยระเบียบนี้ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐
๕ ข้อ ๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๓

๘๔๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






ข้อ ๑๘ คุณสมบัติของกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมมีดังนี้
(๑) มีชื่อเสียงเกียรติคุณทั้งในด้ำนกำรด ำรงตน กำรปฏิบัติงำนและด้ำนวิชำกำร

(๒) มีควำมสำมำรถในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ทั้งด้ำนวิชำกำรและประสบกำรณ์
(๓) มีประสบกำรณ์กำรท ำงำนในหน้ำที่ทำงตุลำกำรมำแล้วไม่น้อยกว่ำสิบห้ำปีหรือ


เคยด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำลหรือต ำแหน่งที่เทียบเท่ำมำแล้ว

(๔) มีคุณสมบัติอื่นตำมที่ ก.บ.ศ. ก ำหนด
(๕) ต้องไม่เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม กรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม หรือ

อนุกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม
๗ (๖) ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่ำงถูกด ำเนินกำรทำงวินัยหรือเคยถูกลงโทษทำงวินัยมำก่อน


ข้อ ๑๙ ให้คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมมีอ ำนำจหน้ำที่ดังต่อไปนี้

(๑) ก ำหนดวิทยำกรในกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร

ก ำหนดศำลและคัดเลือกผู้ให้กำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีตำมข้อ ๑๔ หรือเปลี่ยนแปลง


รอบกำรศึกษำอบรมในกรณีมีเหตุจ ำเป็นตำมข้อ ๗
(๒) ก ำหนดให้มีกำรศึกษำอบรมในเวลำอื่นหรือในวันหยุดรำชกำรตำมข้อ ๑๐

(๓) ให้ค ำปรึกษำและให้ควำมเห็นชอบแก่ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมเกี่ยวกับกำรศึกษำ

อบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ


(๔) ดูแลและให้ค ำแนะน ำหรือว่ำกล่ำวตักเตือนในกำรประพฤติปฏิบัติของผู้ช่วยผู้พพำกษำ
ตลอดระยะเวลำกำรศึกษำอบรมทั้งในและนอกสถำนที่รำชกำร
(๕) พจำรณำและมีมติตัดคะแนนกำรศึกษำอบรมของผู้ช่วยผู้พพำกษำตำมที่ผู้อ ำนวยกำร


ศึกษำอบรมเสนอหรือตำมที่คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมเห็นสมควร

(๖) เสนอควำมเห็นต่อเลขำนุกำร ก.ต. โดยได้รับควำมเห็นชอบจำก ก.บ.ศ. ในกรณี

ที่มีเหตุตำมมำตรำ ๑๕ วรรคสอง แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๔๓ เกิดขึ้นในระหว่ำงกำรศึกษำอบรม เพอเสนอต่อประธำนศำลฎีกำโดยควำมเห็นชอบ
ื่

ของ ก.ต. เพอสั่งให้ผู้ช่วยผู้พพำกษำออกจำกรำชกำรหรือด ำเนินกำรเพอให้มีกำรโอนเป็นข้ำรำชกำร
ื่
ื่
ศำลยุติธรรม
(๗) ให้ควำมเห็นในรำยงำนผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและกำรศึกษำอบรม

ภำควิทยำกำรผู้ช่วยผู้พพำกษำตำมแบบรำยงำนผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและแบบรำยงำนผล

กำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร





๖ ข้อ ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗ ข้อ ๑๘ (๖) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๔๓





(๘) ประมวลผลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำ รวบรวมข้อมูลประจ ำตัวผู้ช่วยผู้พพำกษำ

แต่ละคนทั้งจำกสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมและศำลที่ผู้ช่วยผู้พพำกษำเข้ำรับ




กำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดี และพจำรณำเสนอควำมเห็นต่อคณะกรรมกำรประเมินผล

กำรศึกษำอบรมภำยใน ๑๕ วัน นับแต่วันสิ้นสุดกำรศึกษำอบรม ควำมเห็นดังกล่ำวให้ระบุรำยละเอียด
เกี่ยวกับสภำพร่ำงกำยและจิตใจของผู้ช่วยผู้พิพำกษำเป็นรำยบุคคลด้วย ทั้งนี้ในกรณีจ ำเป็นอำจให้แพทย์
ตรวจสภำพร่ำงกำยและสภำพจิตใจเป็นกำรเฉพำะรำยก็ได้

(๙) จัดท ำหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทั้งหมดหรือแต่บำงส่วนซึ่งคู่มือผู้ให้กำรศึกษำอบรม

ผู้ช่วยผู้พพำกษำ หลักสูตรกำรศึกษำอบรม และรำยงำนประจ ำตัวท้ำยระเบียบนี้โดยควำมเห็นชอบ

ของ ก.บ.ศ.

(๑๐) แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อด ำเนินกำรใดๆ ตำมแต่จะมอบหมำย

ข้อ ๒๐ คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมอำจพจำรณำตัดคะแนนผู้ช่วยผู้พิพำกษำ

ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(๑) ไม่เคำรพอำวุโส

(๒) ท ำตนผิดนิติประเพณี
(๓) ละเลยไม่ปฏิบัติตำมกฎ ระเบียบ ของรำชกำรศำลยุติธรรม

(๔) ท ำให้แตกควำมสำมัคคีในหมู่คณะ

(๕) ประพฤติตนไม่เหมำะสม

(๖) ถือประโยชน์ส่วนตนมำกกว่ำประโยชน์ส่วนรวม

(๗) ท ำงำนหรือเข้ำสังคมกับคนอื่นไม่ได้
(๘) ไม่ตรงต่อเวลำ มำสำยโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

(๙) แต่งกำยหรือใช้กิริยำวำจำไม่เหมำะสม

(๑๐) ขำดควำมรับผิดชอบในกำรศึกษำอบรมหรือในงำน

(๑๑) เหตุอื่น ๆ ที่คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมเห็นสมควร

กำรตัดคะแนนและจ ำนวนคะแนนที่ตัดให้พจำรณำตำมควำมร้ำยแรงแห่งกำรกระท ำ

และเมื่อตัดคะแนนแล้วให้ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมแจ้งมติให้ผู้ช่วยผู้พิพำกษำนั้นทรำบ

ในกรณีที่คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมเห็นว่ำมีเหตุอันควรสงสัยในควำม

ซื่อสัตย์สุจริตของผู้ช่วยผู้พพำกษำผู้ใดก็ให้ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรมรำยงำนต่อเลขำธิกำรส ำนักงำน
ศำลยุติธรรม เพื่อด ำเนินกำรต่อไป

๘๔๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ส่วนที่ ๓
คณะกรรมกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรม


๘ ข้อ ๒๑ ให้มีคณะกรรมกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรมคณะหนึ่ง ประกอบด้วย

(๑) ผู้อ ำนวยกำรศึกษำอบรม
(๒) กรรมกำรซึ่งคัดเลือกกันเองจำกคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรม จ ำนวน ๓ คน

(๓) ข้ำรำชกำรตุลำกำรที่ไม่ได้เป็นกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมซึ่งได้รับกำรคัดเลือก

จำก ก.บ.ศ. จ ำนวน ๘ คน

(๔) รองเลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นกรรมกำร

และเลขำนุกำร
โดยให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรผู้มีอำวุโสสูงสุดในขณะแต่งตั้งเป็นประธำนกรรมกำร



ให้ผู้อ ำนวยกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมและผู้อ ำนวยกำรวิทยำลัยข้ำรำชกำร
ตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร


ข้อ ๒๒ กำรแต่งตั้งและคุณสมบัติของกรรมกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรมให้น ำควำม

ในข้อ ๑๗ และข้อ ๑๘ มำใช้บังคับโดยอนุโลม


ข้อ ๒๓ ให้คณะกรรมกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรมมีอ ำนำจหน้ำที่ดังต่อไปนี้


(๑) ด ำเนินกำรทดสอบคุณธรรม จริยธรรม สภำพร่ำงกำยและจิตใจของผู้ช่วยผู้พพำกษำ
รวมทั้งควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติรำชกำร เช่น กำรตรวจรับค ำคู่ควำม กำรชี้สองสถำน


กำรสั่งค ำร้องค ำขอ กำรเตรียมคดี กำรบันทึกค ำพยำน กำรเขียนค ำพพำกษำและค ำสั่งกำรใช้ดุลพนิจ

และอื่น ๆ ตำมที่เห็นสมควร


(๒) ประเมินผลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำ ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรใน (๑)
ให้สอดคล้องกับแบบรำยงำนประจ ำตัวผู้ช่วยผู้พพำกษำท้ำยระเบียบนี้ ทั้งนี้ กำรประเมินผลให้ค ำนึงถึง


ควำมรู้ควำมสำมำรถ อุปนิสัย ควำมประพฤติ จรรยำมำรยำทและบุคลิกลักษณะของผู้ช่วยผู้พพำกษำ
เป็นรำยบุคคลตลอดจนกำรถูกตัดคะแนนกำรเข้ำรับกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศ กำรเข้ำรับกำรศึกษำ

อบรมภำควิทยำกำรและกำรเข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีประกอบด้วย
๙ (๓)เสนอผลกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำต่อเลขำนุกำร ก.ต.


เพอเสนอ ก.ต. มีมติ ทั้งนี้ ภำยใน ๑ เดือน นับแต่วันที่ได้รับควำมเห็นจำกคณะกรรมกำรอ ำนวย
ื่
กำรศึกษำอบรมตำมข้อ ๑๙(๘) โดยให้มีอ ำนำจเสนอควำมเห็นตำมควำมเหมำะสม





๘ ข้อ ๒๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐
๙ ข้อ ๒๓ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๔๕




ื่

(๔) เรียกให้บุคคลใดมำให้ถ้อยค ำหรือส่งเอกสำรเพอประกอบกำรพจำรณำได้ตำมที่
เห็นสมควร
ื่

(๕) เสนอควำมเห็นต่อ ก.บ.ศ. เพอปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑที่เกี่ยวข้อง
กับกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ
(๖) แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อด ำเนินกำรใดๆ ตำมแต่จะมอบหมำย


หมวด ๓
กำรประเมินผลกำรศึกษำอบรม


ข้อ ๒๔ ผู้ช่วยผู้พพำกษำที่จะผ่ำนกำรศึกษำอบรมผลกำรศึกษำอบรมต้องเป็นไปตำม

มำตรฐำนของคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมว่ำเป็นผู้มีควำมซื่อสัตย์สุจริต ควำมรู้ควำมสำมำรถ
ควำมรับผิดชอบ และควำมประพฤติเหมำะสมที่จะเป็นผู้พพำกษำ โดยต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ ์

ต่อไปนี้

(๑) คะแนนกำรศึกษำอบรมตำมข้อ ๒๐ นอกเหนือจำกคะแนนกำรศึกษำอบรมตำม (๓)

มี ๑๐๐ คะแนน ผู้ช่วยผู้พิพำกษำต้องไม่ถูกตัดคะแนนเกินกว่ำ ๒๐ คะแนน

(๒) ผู้ช่วยผู้พพำกษำต้องเข้ำรับกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศ และกำรศึกษำอบรมภำค

วิทยำกำรเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๘๕ ของระยะเวลำกำรศึกษำอบรมแต่ละประเภท และ

ผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศและผลกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำรเป็นที่พอใจของคณะกรรมกำร

ประเมินผลกำรศึกษำอบรม


กำรเปลี่ยนแปลงระยะเวลำกำรศึกษำอบรมของผู้ช่วยผู้พพำกษำผู้ใดให้เหลือน้อยกว่ำ
เกณฑผ่ำนกำรศึกษำอบรมที่ก ำหนดไว้ข้ำงต้น ให้อยู่ในดุลพนิจของคณะกรรมกำรประเมินผลกำรศึกษำ



อบรมโดยค ำนึงถึงเหตุจ ำเป็นอันสมควรของผู้ช่วยผู้พพำกษำผู้นั้นเป็นส ำคัญ และหำกจะเปลี่ยนแปลง
ระยะเวลำกำรศึกษำอบรมของผู้ช่วยผู้พิพำกษำผู้ใดให้เหลือน้อยกว่ำร้อยละ ๗๐ ของระยะเวลำกำรศึกษำ

อบรมแต่ละประเภทต้องได้รับควำมเห็นชอบจำก ก.บ.ศ ก่อน

(๓) ในกำรเข้ำรับกำรศึกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีแพ่งและคดีอำญำ

ของผู้ช่วยผู้พพำกษำ ผู้ให้กำรศึกษำอบรมต้องประเมินผลกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำตำมแบบ



รำยงำนผลกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีที่แบ่งเป็น ๒ ตอน คือประเมินกำรปฏิบัติงำน

และประเมินกำรปฏิบัติตน ผู้ช่วยผู้พพำกษำต้องได้รับคะแนนจำกกำรประเมินผลกำรศึกษำอบรม

แต่ละตอนไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๖๐


ในกรณีผู้ช่วยผู้พพำกษำคนหนึ่งได้รับกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดี


จำกผู้ให้กำรศึกษำอบรมหลำยคน ให้ผู้ให้กำรศึกษำอบรมแต่ละคนประเมินผลกำรศึกษำอบรมของ

๘๔๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม







ผู้ช่วยผู้พพำกษำผู้นั้นแล้วน ำคะแนนของผู้ให้กำรศึกษำอบรมแก่ผู้ช่วยผู้พพำกษำทุกคนรวมกันหำรด้วย
จ ำนวนผู้ให้กำรศึกษำอบรมแล้วจึงคิดเป็นคะแนนร้อยละของแต่ละตอนตำมแบบรำยงำน ท้ำยระเบียบนี้
๑๐
(๔) กำรด ำเนินกำรทดสอบควำมรู้ควำมสำมำรถตำมข้อ ๒๓ (๑) ผู้ช่วยผู้พิพำกษำต้องได้

คะแนนจำกกำรทดสอบควำมรู้ไม่น้อยกว่ำร้อยละ ๖๐

ข้อ ๒๕ เมื่อผู้ช่วยผู้พพำกษำได้รับกำรศึกษำอบรมครบก ำหนดแล้ว ให้คณะกรรมกำร

ประเมินผลกำรศึกษำอบรมพจำรณำผลกำรศึกษำอบรมปฐมนิเทศ ผลกำรศึกษำอบรมภำควิทยำกำร


และผลกำรศึกษำอบรมกำรพจำรณำพพำกษำคดีเป็นรำยบุคคล หำกผลกำรศึกษำอบรมของ



ผู้ช่วยผู้พพำกษำคนใดเป็นไปตำมมำตรฐำนของ ก.บ.ศ. ให้เสนอขอแต่งตั้งเป็นผู้พพำกษำประจ ำศำล
ตำมหลักเกณฑ์ในข้อ ๒๓ (๒) (๓) และข้อ ๒๔ แต่ถ้ำผู้ช่วยผู้พิพำกษำผู้ใดไม่เหมำะสมที่จะด ำรงต ำแหน่ง

ข้ำรำชกำรตุลำกำร หรือเป็นผู้ช่วยผู้พพำกษำมำเป็นเวลำเกินกว่ำระยะเวลำที่ก ำหนดตำมข้อ ๖ ข้อ ๗
และข้อ ๘ ถึงหนึ่งปีแล้ว และผลของกำรศึกษำอบรมยังไม่เป็นไปตำมมำตรฐำนของ ก.บ.ศ. ให้เสนอ

ควำมเห็นต่อเลขำนุกำร ก.ต. โดยได้รับควำมเห็นชอบจำก ก.บ.ศ. เพอด ำเนินกำรตำมพระรำชบัญญัติ
ื่
ระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ มำตรำ ๑๕ วรรคสองต่อไป


ประกำศ ณ วันที่ ๖ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๔๔


(ลงชื่อ) ธวัชชัย พิทักษ์พล

(นำยธวัชชัย พิทักษ์พล)

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






















๑๐ แบบรำยงำนผลกำรศกษำอบรมกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีปรับปรุงใหม่ตำมท้ำยระเบียบนี้ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พิพำกษำ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๔๗





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๔๖



ื่
โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบเพอก ำหนดแนวทำงและวิธีกำรบริหำรหลักสูตร
และอ ำนวยกำรอบรมข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยอย่ำงมีประสิทธิภำพ


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรม

และพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๖”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป


ข้อ ๓ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมด ำเนินกำรจัดกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำร
ศำลยุติธรรมตำมหลักสูตรท้ำยระเบียบนี้ ๑

๒ ข้อ ๔ ในกำรบริหำรหลักสูตรท้ำยระเบียบนี้ให้มีคณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและ

แผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมท ำหน้ำที่ดูแลบริหำรหลักสูตรต่ำง ๆ และ

ให้มีคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม ท ำหน้ำที่ดูแลบริหำร


หลักสูตรผู้พพำกษำประจ ำศำลและหลักสูตรผู้พพำกษำหัวหน้ำศำลท้ำยระเบียบนี้ ตำมอ ำนำจหน้ำที่

ที่ก ำหนดไว้

๓ ข้อ ๕ คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

ประกอบด้วย

(๑) ประธำนศำลอุทธรณ์ เป็นประธำนกรรมกำร








๑ หลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำประจ ำศำลและหลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำผู้บริหำรศำลชั้นต้นปรับปรุงใหม่ตำมท้ำยระเบียบ และแก้ไขเพิ่มเติม
โดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๗) และ (ฉบับที่ ๘)
พ.ศ. ๒๕๖๐
๒ ข้อ ๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๖๐
๓ ข้อ ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๕)
พ.ศ. ๒๕๕๙

๘๔๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






(๒) กรรมกำรโดยต ำแหน่ง ได้แก่ รองประธำนศำลฎีกำคนที่สอง อธิบดีผู้พพำกษำ





ศำลแพง อธิบดีผู้พพำกษำศำลอำญำ อธิบดีผู้พพำกษำศำลช ำนัญพเศษหรือศำลพเศษที่มีอำวุโสสูงสุด
และอธิบดีผู้พิพำกษำภำค ๑
(๓) เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมหรือผู้แทน เป็นกรรมกำร
(๔) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิจ ำนวนไม่เกิน ๕ คน ซึ่งคัดเลือกและแต่งตั้งโดย ก.บ.ศ.
จำกข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งด ำรงต ำแหน่งในศำลฎีกำและศำลอุทธรณ์ศำลละ ๒ คน และบุคคล


ที่มีควำมเชี่ยวชำญทำงด้ำนกำรบริหำรงำนบุคคล กำรพฒนำองค์กร กำรบริหำรและกำรจัดกำร หรือ
ด้ำนอื่นใดที่ ก.บ.ศ. เห็นสมควรอีกจ ำนวน ๑ คน


(๕) เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำรและ
เลขำนุกำร
เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมอำจแต่งตั้งข้ำรำชกำร

ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำรและผู้ช่วยเลขำนุกำร ได้ตำมที่เห็นสมควร


ข้อ ๖ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมข้อ ๕ (๔) อำจเป็นหรือไม่เป็นข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร

ศำลยุติธรรมก็ได้ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระอยู่ในต ำแหน่งครำวละสองปี ในกรณีที่กรรมกำร
ผู้ทรงคุณวุฒิพนจำกต ำแหน่งก่อนครบวำระให้ผู้ได้รับกำรแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งแทนอยู่ในต ำแหน่ง

เท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว

กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจำกต ำแหน่งตำมวำระอำจได้รับแต่งตั้งอีกได้


ข้อ ๗ นอกจำกพนจำกต ำแหน่งตำมวำระตำมข้อ ๖ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ

พ้นจำกต ำแหน่งเมื่อ

(๑) ตำย

(๒) ลำออก

(๓) เป็นบุคคลล้มละลำย
(๔) เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ


(๕) ได้รับโทษจ ำคุกโดยค ำพพำกษำถึงที่สุดให้จ ำคุก เว้นแต่เป็นโทษส ำหรับควำมผิด
ที่ได้กระท ำโดยประมำท หรือควำมผิดลหุโทษ

ข้อ ๘ คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

มีอ ำนำจและหน้ำที่ควบคุมดูแลให้กำรอบรมหลักสูตรต่ำง ๆ ท้ำยระเบียบนี้ ด ำเนินไปด้วยควำมเรียบร้อย


ตรงตำมวัตถุประสงค์ รวมทั้งมีอ ำนำจในกำรเสนอแนวนโยบำยต่อ ก.บ.ศ. เพอกำรพฒนำหลักสูตร
ื่
กำรอบรมและพัฒนำกระบวนกำรฝึกอบรมให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๔๙





๔ ข้อ ๙ คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม
หลักสูตรผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำลท้ำยระเบียบนี้ มีจ ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๕ คน แต่ไม่เกิน ๑๐ คน โดย ก.บ.ศ.

คัดเลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมซึ่งปฏิบัติหน้ำที่ในศำลฎีกำและศำลชั้นอุทธรณ์ที่ตั้งอยู่

ในกรุงเทพมหำนคร โดยมีวำระกำรด ำรงต ำแหน่งตั้งแต่วันที่ ก.บ.ศ. มีค ำสั่งแต่งตั้งจนถึงวันที่เสร็จสิ้น

กำรท ำหน้ำที่ตำมข้อ ๑๐ (๓) ให้กรรมกำรผู้มีอำวุโสสูงสุดเป็นประธำนกรรมกำร เลขำธิกำรสถำบันพัฒนำ

ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นกรรมกำร รองเลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร
ศำลยุติธรรมเป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร และเลขำนุกำรคณะกรรมกำรอำจเลือกข้ำรำชกำร

ศำลยุติธรรม สังกัดสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นผู้ช่วยเลขำนุกำรได้ตำมจ ำนวน

ที่เห็นสมควร ส ำหรับคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรศึกษำอบรมหลักสูตรกำรศึกษำอบรมผู้ช่วยผู้พพำกษำ


ให้เป็นคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมหลักสูตรกำรอบรม
ผู้พิพำกษำประจ ำศำลต่อเนื่องอีกหลักสูตรหนึ่ง


๕ ข้อ ๙/๑ กรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

จะต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่ำงถูกด ำเนินกำรทำงวินัยหรือเคยถูกลงโทษทำงวินัยมำก่อน


๖ ข้อ ๙/๒ กรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม
เลขำธิกำรสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม หรือรองเลขำธิกำรสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำร

ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมต้องไม่เป็นกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

หรืออนุกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล


ข้อ ๑๐ ให้คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม
หลักสูตรต่ำง ๆ ท้ำยระเบียบนี้ มีอ ำนำจหน้ำที่ดังต่อไปนี้


(๑) ดูแลกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมให้ด ำเนินไป
อย่ำงมีประสิทธิภำพ

(๒) ก ำหนดวิทยำกรในหลักสูตรที่รับผิดชอบ รวมทั้งเพมเติม งดหรือเปลี่ยนแปลง
ิ่
หัวข้อวิชำกำรอบรม ระยะเวลำในหัวข้อวิชำ ได้ตำมควำมจ ำเป็น










๔ ข้อ ๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๙)
พ.ศ. ๒๕๖๓
๕ ข้อ ๙/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๖๐
๖ ข้อ ๙/๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๖๐

๘๕๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






(๓) ประเมินผลกำรอบรมตำมเงื่อนไขกำรอบรมและพฒนำแต่ละหลักสูตรแล้วสรุปผล
ื่
กำรอบรมและรำยงำนพร้อมแจ้งควำมเห็นไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม เพอน ำเสนอ ก.บ.ศ.
และ ก.ต. พิจำรณำต่อไป


ข้อ ๑๑ กำรประชุมคณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำร
ศำลยุติธรรม หรือคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมต้องมีกรรมกำร

มำประชุมไม่น้อยกว่ำกึ่งหนึ่งของจ ำนวนกรรมกำรทั้งหมดจึงจะครบองค์ประชุม

ในกำรประชุมของคณะกรรมกำร หำกประธำนไม่มำหรือไม่อำจปฏิบัติหน้ำที่ได้ให้ที่ประชุม

เลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนที่ประชุม

กำรวินิจฉัยชี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก
กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกันให้ประธำน

ออกเสียงเพิ่มขึ้นหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขำด


ข้อ ๑๒ ในกำรประชุมคณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและกำรพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำร

ศำลยุติธรรมอำจเชิญประธำนกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมหลักสูตรใดหรือ
ผู้แทนเข้ำร่วมประชุมเพื่อให้ควำมเห็นต่อที่ประชุมได้ตำมที่เห็นสมควร


๗ ข้อ ๑๓ ให้คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำร
ศำลยุติธรรมและคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมได้รับเบี้ยประชุม

ตำมบัญชี ๓ แนบท้ำยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมว่ำด้วยเบี้ยประชุมกรรมกำร อนุกรรมกำร

และค่ำตอบแทนบุคคลหรือคณะบุคคล

ข้อ ๑๔ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรักษำกำรตำมระเบียบนี้


ประกำศ ณ วันที่ ๓ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๔๖



(ลงชื่อ) อรรถนิติ ดิษฐอ ำนำจ

(นำยอรรถนิติ ดิษฐอ ำนำจ)

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม










๗ ข้อ ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๗

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๕๑




ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

(ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ ลว. ๒๗ มีนำคม ๒๕๖๐


ข้อ ๗ ให้ยกเลิกหลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำประจ ำศำลและหลักสูตรกำรอบรม

ผู้พพำกษำผู้บริหำรในศำลชั้นต้นท้ำยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและ


พฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำประจ ำศำล
และหลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำลท้ำยระเบียบนี้แทน

ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

(ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐ ลว. ๒๘ ธันวำคม ๒๕๖๐

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกหลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำศำลชั้นต้น หลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำ


ศำลอุทธรณ์และศำลอุทธรณ์ภำค หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำหัวหน้ำคณะในศำลอุทธรณ์
และศำลอุทธรณ์ภำค และหลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำศำลฎีกำท้ำยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร


ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้

หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำศำลชั้นต้น (ชั้น ๓) หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำหัวหน้ำคณะชั้นต้น

หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำศำลชั้นอุทธรณ์ หลักสูตรกำรอบรมผู้พพำกษำหัวหน้ำคณะในศำลชั้น


อุทธรณ์ และหลักสูตรกำรอบรมผู้พิพำกษำศำลฎีกำท้ำยระเบียบนี้แทน

๘๕๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยคณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๔๙




โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบเพอก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำร

ื่
ศำลยุติธรรม และอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมให้เป็นไปตำมเป้ำหมำย

อย่ำงมีประสิทธิภำพ

อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วย

คณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๙”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมด ำเนินกำรจัดกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำร

ศำลยุติธรรมตำมที่คณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมก ำหนด


ข้อ ๔ คณะกรรมกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม หมำยถึง คณะกรรมกำร

ซึ่งมีหน้ำที่ก ำกับดูแลบริหำรหลักสูตรต่ำง ๆ ท้ำยระเบียบนี้ ได้แก่ คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตร
และแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม และคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำร


ศำลยุติธรรมประจ ำหลักสูตร



๑ ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม
๑ ชุด ประกอบด้วย
(๑) ประธำนศำลอุทธรณ์ เป็นประธำนกรรมกำร

(๒) เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมหรือผู้แทน เป็นกรรมกำร

(๓) เลขำธิกำรสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำร

(๔) กรรมกำร จ ำนวน ๓ คน คัดเลือกและแต่งตั้งโดย ก.ศ. จำกข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม

ซึ่งด ำรงต ำแหน่งในส ำนักอ ำนวยกำรประจ ำศำลฎีกำหรือส ำนักอ ำนวยกำรประจ ำศำลชั้นอุทธรณ์



๑ ข้อ ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยคณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๙
๒ ข้อ ๕ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยคณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๕)
พ.ศ. ๒๕๖๒

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๕๓




จ ำนวน ๑ คน ส ำนักอ ำนวยกำรหรือส ำนักงำนประจ ำศำลชั้นต้น หรือส ำนักศำลยุติธรรมประจ ำภำค

จ ำนวน ๑ คน และส ำนักอ ำนวยกำรประจ ำศำลช ำนัญพเศษหรือส ำนักอ ำนวยกำรหรือส ำนักงำน
ประจ ำศำลพิเศษอื่น จ ำนวน ๑ คน

(๕) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ จ ำนวน ๔ คน ซึ่งคัดเลือกและแต่งตั้งโดย ก.บ.ศ.

จำกข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งด ำรงต ำแหน่งในแต่ละชั้นศำล ชั้นศำลละ ๑ คน และบุคคลที่มีควำมเชี่ยวชำญ
ทำงด้ำนกำรบริหำรงำนบุคคล กำรพฒนำองค์กร กำรบริหำรและกำรจัดกำร หรือด้ำนอื่นใดที่ ก.บ.ศ.

เห็นสมควร ซึ่งอำจเป็นหรือไม่เป็นข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมก็ได้ จ ำนวน ๑ คน


(๖) ผู้อ ำนวยกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำร
และเลขำนุกำร


เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมอำจแต่งตั้งข้ำรำชกำร
ศำลยุติธรรมในสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำรได้ตำมจ ำนวน

ที่เห็นสมควร


ข้อ ๖ กรรมกำรตำมข้อ ๕ (๔) และกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมข้อ ๕ (๕)

มีวำระอยู่ในต ำแหน่งครำวละสองปี แต่ถ้ำกรรมกำรที่ระบุพนจำกต ำแหน่งก่อนครบวำระ และวำระ

กำรอยู่ในต ำแหน่งที่ว่ำงลงนั้นเหลือตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป ให้ด ำเนินกำรคัดเลือกและแต่งตั้งกรรมกำรแทน

ต ำแหน่งที่ว่ำง และให้ผู้ได้รับกำรแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งแทนอยู่ในต ำแหน่งเท่ำกับวำระที่เหลืออยู่

ของกรรมกำรซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว

ในกรณีที่วำระกำรอยู่ในต ำแหน่งที่ว่ำงลงนั้นเหลือน้อยกว่ำหกเดือนจะไม่คัดเลือก

และแต่งตั้งกรรมกำรแทนต ำแหน่งที่ว่ำงก็ได้

กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพนจำกต ำแหน่งตำมวรรคหนึ่ง อำจได้รับแต่งตั้งอีกได้
ทั้งนี้กรรมกำรดังกล่ำวจะได้รับกำรแต่งตั้งสองครำวติดต่อกันไม่ได้



ข้อ ๗ นอกจำกพนจำกต ำแหน่งตำมวำระตำมข้อ ๖ กรรมกำรตำมข้อ ๕ (๔)
และกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมข้อ ๕ (๕) พ้นจำกต ำแหน่งเมื่อ

(๑) ตำย

(๒) ลำออก

(๓) เป็นบุคคลล้มละลำย
(๔) เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ หรือเสมือนไร้ควำมสำมำรถ

(๕) ได้รับโทษจ ำคุกโดยค ำพิพำกษำถึงที่สุด เว้นแต่เป็นโทษส ำหรับควำมผิดที่ได้กระท ำ

โดยประมำทหรือควำมผิดลหุโทษ

(๖) มิได้ด ำรงต ำแหน่งตำมที่ระบุในข้อ ๕ (๔) และ (๕) หลังจำกได้รับกำรคัดเลือกและแต่งตั้ง

๘๕๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






ข้อ ๘ คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม

มีอ ำนำจและหน้ำที่พฒนำหลักสูตรและแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมให้สอดคล้องกับ

แผนยุทธศำสตร์ศำลยุติธรรม ควบคุมดูแลให้กำรอบรมหลักสูตรต่ำง ๆ ท้ำยระเบียบนี้ด ำเนินไป

ด้วยควำมเรียบร้อยตรงตำมวัตถุประสงค์ ประเมินผลกำรอบรมในภำพรวม รวมทั้งเสนอแนวทำง



ต่อ ก.บ.ศ. เพอกำรพฒนำหลักสูตรกำรอบรมและกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมให้มีประสิทธิภำพ
ื่
และเป็นประโยชน์กับงำนสนับสนุนภำรกิจของศำลยุติธรรมมำกยิ่งขึ้น
ข้อ ๙ ให้มีคณะกรรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม

ประจ ำหลักสูตรตำมที่เห็นสมควร ประกอบด้วยกรรมกำรไม่น้อยกว่ำ ๓ คน แต่ไม่เกิน ๕ คน ซึ่ง ก.บ.ศ.

คัดเลือกและแต่งตั้งจำกข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม โดยมีวำระกำรด ำรงต ำแหน่ง จนเสร็จสิ้น
กำรปฏิบัติหน้ำที่ตำมข้อ ๑๐ (๓) ให้กรรมกำรผู้มีอำวุโสสูงสุดเป็นประธำนกรรมกำร และกรรมกำร

ผู้มีอำวุโสน้อยสุดเป็นเลขำนุกำร และเลขำนุกำรคณะกรรมกำรอำจเลือกข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมในสังกัด

สถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำรได้ตำมจ ำนวนที่เห็นสมควร


ข้อ ๑๐ คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมมีอ ำนำจ

หน้ำที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ดูแลกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมให้ด ำเนินไปตำมเป้ำหมำย

อย่ำงมีประสิทธิภำพ

(๒) ก ำหนดวิทยำกรส ำหรับกำรอบรมและพฒนำตำมหลักสูตรท้ำยระเบียบ

ิ่
รวมทั้งเพมเติม งด หรือเปลี่ยนแปลงหัวข้อวิชำกำรอบรม ระยะเวลำในหัวข้อวิชำได้ตำมควำมจ ำเป็น
แล้วรำยงำนให้คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและแผนกำรพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมทรำบ

(๓) ประเมินผลกำรอบรมหลักสูตร เสนอแนะต่อคณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตรและ

แผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมเพอกำรพฒนำแต่ละหลักสูตร สรุปผลกำรอบรมและรำยงำน


ื่
พร้อมแจ้งควำมเห็นไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม เพื่อน ำเสนอ ก.บ.ศ. และ ก.ศ. พิจำรณำต่อไป
๓ ข้อ ๑๑ หลักสูตรที่ไม่มีคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำร


ศำลยุติธรรมประจ ำหลักสูตร ให้เลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม มีอ ำนำจ
หน้ำที่ตำมข้อ ๑๐ เพื่ออ ำนวยกำรอบรมหลักสูตรดังกล่ำว


ข้อ ๑ ๒ กำรประชุมคณะกรรมกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม
ต้องมีกรรมกำรมำประชุมไม่น้อยกว่ำกึ่งหนึ่งของจ ำนวนกรรมกำรทั้งหมด จึงจะครบองค์ประชุม




๓ ข้อ ๑๑ แก้ไขเพิ่มเตมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยคณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔)

พ.ศ. ๒๕๕๙

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๕๕




ในกำรประชุมของคณะกรรมกำร หำกประธำนไม่มำหรือไม่อำจปฏิบัติหน้ำที่ได้
ให้ที่ประชุมเลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนที่ประชุม

กำรวินิจฉัยขี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก

กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกัน ให้ประธำน

ออกเสียงเพิ่มขึ้นหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขำด

ื่
ข้อ ๑๓ เพอประโยชน์ในกำรอบรมและพฒนำหลักสูตร คณะกรรมกำรก ำกับหลักสูตร



และแผนกำรพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมอำจเชิญคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมและพฒนำ
ข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมเข้ำร่วมประชุมได้ตำมที่เห็นสมควร


๔ ข้อ ๑๔ ให้คณะกรรมกำรอบรมและพฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมได้รับเบี้ยประชุม
ตำมบัญชี ๓ แนบท้ำยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยเบี้ยประชุมกรรมกำร

อนุกรรมกำร และค่ำตอบแทนบุคคลหรือคณะบุคคล


ข้อ ๑๕ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรักษำกำรตำมระเบียบนี้


ประกำศ ณ วันที่ ๑๖ พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๔๙


(ลงชื่อ) ปัญญำ ถนอมรอด


(นำยปัญญำ ถนอมรอด)
ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม























๔ ข้อ ๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยคณะกรรมกำรอบรมและพัฒนำข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๙

๘๕๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๕๗




โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมว่ำด้วยหลักเกณฑ ์

กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

เพื่อให้กำรใช้งบประมำณเป็นประโยชน์แก่รำชกำร

อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จึงออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ ์
กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๗”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ บรรดำระเบียบ ข้อบังคับ หรือค ำสั่งอื่นใดในส่วนที่มีก ำหนดไว้ในระเบียบนี้

หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน


ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ปี” หมำยควำมว่ำ ปีงบประมำณ

“ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม” หมำยควำมว่ำ ข้ำรำชกำรตุลำกำรและข้ำรำชกำร

ศำลยุติธรรม ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ซึ่งเลขำธิกำรส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมมีอ ำนำจอนุมัติให้เดินทำงไปรำชกำรต่ำงประเทศ

ิ่

“ดูงำน” หมำยควำมว่ำ กำรเพมพนควำมรู้หรือประสบกำรณ์ด้วยกำรสังเกตกำรณ์
และกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นในต่ำงประเทศ โดยงบประมำณส ำนักงำนศำลยุติธรรมทั้งหมดหรือ
บำงส่วน กำรเดินทำงไปดูงำนโดยหลักสูตรที่ก ำกับดูแลโดยส ำนักงำนศำลยุติธรรม และกำรเดินทำง

ไปดูงำนที่ได้รับกำรสนับสนุนงบประมำณจำกภำยนอก


ิ่
“ฝึกอบรม” หมำยควำมว่ำ กำรเพมพนควำมรู้ ควำมช ำนำญ หรือประสบกำรณ์
ด้วยกำรเรียนตำมหลักสูตรของกำรฝึกอบรมที่จัดขึ้นในต่ำงประเทศ โดยงบประมำณส ำนักงำน
ศำลยุติธรรม และกำรเดินทำงไปฝึกอบรมที่ได้รับกำรสนับสนุนงบประมำณจำกภำยนอก


ข้อ ๕ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรักษำกำรตำมระเบียบนี้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๕๗




หมวด ๑
กำรดูงำน ณ ต่ำงประเทศ


ข้อ ๖ กำรพิจำรณำก ำหนดกำรดูงำน ณ ต่ำงประเทศ ให้ค ำนึงถึงหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(๑) ควำมสอดคล้องกับแผนยุทธศำสตร์ในกำรพฒนำศำลยุติธรรม และนโยบำย

ประธำนศำลฎีกำ และเป็นประโยชน์ต่อรำชกำรมำกที่สุดเป็นล ำดับแรก

(๒) สถำนที่ที่ไปดูงำนในต่ำงประเทศไม่ควรซ้ ำกับสถำนที่ที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

เคยส่งบุคคลหรือคณะบุคคลไปดูงำนมำแล้วในปีงบประมำณที่ผ่ำนมำ

(๓) กำรประสำนสถำนที่ดูงำน ณ ต่ำงประเทศ ให้หน่วยงำนแจ้งควำมประสงค์

มำยังส ำนักงำนศำลยุติธรรม ไม่น้อยกว่ำ ๖ สัปดำห์ ก่อนวันเดินทำง เพอขอควำมอนุเครำะห์
ื่
จำกกระทรวงกำรต่ำงประเทศในกำรติดต่อสถำนที่ดูงำน หรือเป็นไปตำมที่กระทรวงกำรต่ำงประเทศ

ก ำหนด


หมวด ๒

กำรฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

ข้อ ๗ ข้ำรำชกำรตุลำกำรผู้ใดไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรตั้งแต่ต ำแหน่งผู้พิพำกษำศำลชั้นต้นขึ้นไป

(๒) ไม่อยู่ระหว่ำงกำรรับทุนไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศจำกแหล่งทุนอื่นใด

๑ (๓) กรณีเคยได้รับทุนไปศึกษำ และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ รวมถึงกรณีที่ได้รับ
กำรคัดเลือกให้ไปฝึกอบรมในระบบโควตำ จะต้องกลับมำปฏิบัติรำชกำรแล้วไม่น้อยกว่ำ ๑ ปี นับถึง

วันปิดรับสมัคร เว้นแต่กำรได้รับทุนไปศึกษำ และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ที่มีระยะเวลำไม่เกิน

๑ สัปดำห์ หรือประธำนศำลฎีกำเห็นว่ำ กรณีมีเหตุจ ำเป็นอย่ำงยิ่งเพื่อประโยชน์ของรำชกำรศำลยุติธรรม


(๔) เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่ำงถูกตั้งกรรมกำรสอบสวนทำงวินัย หรือถูกฟองคดีอำญำ

เว้นแต่กรณีถูกฟองคดีอำญำในควำมผิดที่ไม่อยู่ในข่ำยต้องรอกำรเลื่อนเงินเดือนตำมระเบียบ ก.ต.
ว่ำด้วยกำรเลื่อนเงินเดือน

(๕) เป็นผู้ที่มีสุขภำพอนำมัยดีพอที่จะไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศได้

(๖) กรณีอื่น ๆ ให้เป็นไปตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด







๑ ข้อ ๗ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ
ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๑

๘๕๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






ข้อ ๘ ข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมผู้ใดไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(๑) เป็นข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมซึ่งมีระยะเวลำรับรำชกำรไม่น้อยกว่ำ ๒ ปี

(๒) ไม่อยู่ในระหว่ำงกำรรับทุนไปศึกษำหรือฝึกอบรมต่อต่ำงประเทศจำกแหล่งทุนอื่นใด


(๓) กรณีเคยได้รับทุนไปศึกษำ และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ จะต้องกลับมำ
ปฏิบัติรำชกำรแล้วไม่น้อยกว่ำ ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร เว้นแต่กำรได้รับทุนไปศึกษำ และฝึกอบรม ณ

ต่ำงประเทศ ที่มีระยะเวลำไม่เกิน ๑ สัปดำห์ หรือประธำนศำลฎีกำเห็นว่ำ กรณีมีเหตุจ ำเป็น

อย่ำงยิ่งเพื่อประโยชน์ของรำชกำรศำลยุติธรรม

(๔) เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่ำงถูกตั้งกรรมกำรสอบสวนทำงวินัย หรือถูกฟองคดีอำญำ


เว้นแต่กรณีถูกฟองคดีอำญำในควำมผิดที่ไม่อยู่ในข่ำยต้องรอกำรเลื่อนเงินเดือนตำมกฎ ก.พ.
ว่ำด้วยกำรเลื่อนเงินเดือน

(๕) เป็นผู้ที่มีสุขภำพอนำมัยดีพอที่จะไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศได้

(๖) กรณีอื่น ๆ ให้เป็นไปตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด


ข้อ ๙ ให้ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมซึ่งเป็นผู้รับทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรม
ท ำสัญญำหรือข้อตกลงให้ข้ำรำชกำรที่ไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ดังต่อไปนี้

(๑) ผู้มีสิทธิรับทุนต้องส่งแบบรำยงำนตัวไปยังกองกำรต่ำงประเทศ ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

เพื่อยืนยันกำรรับทุนภำยในระยะเวลำที่ก ำหนด ซึ่งจะได้แจ้งในประกำศรำยชื่อผู้ที่มีสิทธิรับทุน มิฉะนั้น

จะถือว่ำสละสิทธิ์กำรรับทุน แต่หำกมีกำรยืนยันกำรรับทุนแล้วสละสิทธิ์ภำยหลัง ผู้ที่สละสิทธิ์

จะต้องรับผิดชอบค่ำใช้จ่ำยที่เกิดขึ้นจำกเหตุดังกล่ำว
(๒) ผู้ได้รับทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรมไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ เมื่อเสร็จสิ้น


กำรฝึกอบรมแล้ว ผู้ได้รับทุนต้องจัดท ำบทควำมเชิงวิชำกำร หรือรำยงำนตำมหลักเกณฑ รูปแบบ


และภำยในระยะเวลำที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด ซึ่งมีคุณภำพสำมำรถตีพมพได้ เสนอส ำนักงำน
ศำลยุติธรรม รวมทั้งจัดท ำแบบรำยงำนติดตำมผลกำรน ำควำมรู้ที่ได้มำประยุกต์ใช้หรือพฒนำงำน

ศำลยุติธรรมตำมรูปแบบที่ก ำหนด เสนอต่อส ำนักงำนศำลยุติธรรม ภำยในระยะเวลำ ๑ ปี มิฉะนั้น

จะถือว่ำขำดคุณสมบัติในกำรสมัครสอบคัดเลือกเพื่อรับทุนของส ำนักงำนศำลยุติธรรม

(๓) ผู้ได้รับทุนต้องท ำสัญญำหรือข้อตกลงตำมแบบที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด







๒ ข้อ ๘ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ
ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๑

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๕๙




ข้อ ๑๐ ภำยใต้บังคับของข้อ ๙ กำรเพกถอนกำรให้ทุนไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

แก่ผู้ได้รับทุน หำกเข้ำกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(๑) หลีกเลี่ยง ละเลยกำรรำยงำนตัว กำรท ำสัญญำหรือข้อตกลงตำมที่ส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมก ำหนด

(๒) เป็นผู้มีควำมประพฤติเสื่อมเสีย หรือเป็นผู้ไม่มีควำมเหมำะสมที่จะได้รับทุน
โดยค ำนึงถึงประโยชน์ของทำงรำชกำรศำลยุติธรรมและส ำนักงำนศำลยุติธรรมเป็นส ำคัญ

(๓) ไม่ปฏิบัติตำมเงื่อนไขหรือก ำหนดกำรเดินทำงไปฝึกอบรมตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ก ำหนด

(๔) หำกตรวจสอบในภำยหลัง พบว่ำขำดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง จะถูกตัดสิทธิ

ในกำรรับทุนครั้งนี้ทันที
(๕) ในกรณีมีกำรเพิกถอนทุนให้เป็นไปตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด



หมวด ๓

หลักเกณฑ์กำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

ข้อ ๑๑ ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมจะได้รับอนุมัติให้เดินทำงไปดูงำน

และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ได้เพียงไม่เกินปีละ ๒ ครั้ง เว้นแต่กรณีมีเหตุจ ำเป็นอย่ำงยิ่งเพื่อประโยชน์

ของรำชกำรศำลยุติธรรม โดยได้รับอนุมัติจำกคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมด้วยคะแนนเสียง
ไม่น้อยกว่ำ ๒ ใน ๓ ของผู้มำประชุม ทั้งนี้ ไม่นับรวมกำรเดินทำงไปดูงำน ณ ต่ำงประเทศของข้ำรำชกำร

ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้เข้ำรับกำรอบรมหลักสูตรของหน่วยงำนภำยนอก


หมวด ๔

บทเฉพำะกำล


ข้อ ๑๒ ระเบียบนี้ให้มีผลใช้บังคับกับกำรเดินทำงไปดูงำน และฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

ของข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ในปีงบประมำณ พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เว้นแต่กรณีเดินทำงไป
เกินกว่ำหลักเกณฑตำมข้อ ๑๑ และกำรสมัครรับทุนฝึกอบรมของส ำนักงำนศำลยุติธรรมที่ได้ประกำศ

รับสมัครก่อนประกำศนี้บังคับใช้


ประกำศ ณ วันที่ ๒๗ มิถุนำยน พ.ศ. ๒๕๕๗

(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันน์


(นำยดิเรก อิงคนินันท์)
ประธำนศำลฎีกำ

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

๘๖๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่ง

ของผู้พิพำกษำประจ ำศำล

พ.ศ. ๒๕๔๕




อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และมำตรำ ๑๖ แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบเพอก ำหนดหลักเกณฑ ์
ื่
และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำลไว้ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์

และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล พ.ศ. ๒๕๔๕”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป


ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“คณะกรรมกำร” หมำยถึง คณะกรรมกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรง

ต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล

“กรรมกำร” หมำยถึง กรรมกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่ง

ของผู้พิพำกษำประจ ำศำล

ข้อ ๔ ให้ประธำนศำลฎีกำรักษำกำรตำมระเบียบนี้



หมวด ๑

บททั่วไป

ข้อ ๕ กำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล

มี ๒ ลักษณะ คือ

(๑) ประเมินกำรปฏิบัติงำน จริยธรรม และคุณลักษณะส่วนบุคคลของผู้พพำกษำ


ประจ ำศำล โดยรองประธำนศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์ รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค

รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพิเศษ ที่ได้รับมอบหมำย อธิบดีผู้พิพำกษำ หรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำล

แห่งศำลที่ผู้พพำกษำประจ ำศำลปฏิบัติหน้ำที่ในขณะนั้น หรือผู้พพำกษำที่ได้รับมอบหมำยจำกบุคคล

ดังกล่ำว


๑ ข้อ ๕ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๖๑




(๒) ประเมินกำรปฏิบัติงำนจำกกำรตรวจส ำนวนคดีที่อยู่ในควำมรับผิดชอบของ


ผู้พพำกษำประจ ำศำลตำมจ ำนวนที่คณะกรรมกำรเห็นสมควร โดยผู้พพำกษำที่ไดรับมอบหมำย
จำกคณะกรรมกำรซึ่งมิใช่กรรมกำรและบุคคลตำม (๑)



๒ ข้อ ๖ ผู้พพำกษำประจ ำศำลจะต้องได้รับกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล ปีละ ๒ ครั้ง


ื่

๓ ส ำหรับกำรประเมินครั้งแรกให้กระท ำเพอแก้ไข ปรับปรุง และพฒนำผู้พพำกษำ
ประจ ำศำลโดยมิต้องด ำเนินกำรตำมข้อ ๘ (๕)

๔ ส ำหรับผู้พพำกษำประจ ำศำลที่ปฏิบัติรำชกำรในศำลฎีกำ ศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค

หรือศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพเศษ ให้ใช้แบบประเมินของศำลฎีกำ ศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค
หรือศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพิเศษ ท้ำยระเบียบนี้



หมวด ๒

คณะกรรมกำรประเมินควำมเหมำะสม
ในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล


ข้อ ๗ ให้มีคณะกรรมกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่ง

ของผู้พพำกษำประจ ำศำลแต่ละรุ่นคณะหนึ่ง จ ำนวนไม่น้อยกว่ำ ๗ คน แต่ไม่เกิน ๑๕ คน โดย ก.บ.ศ.

คัดเลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรที่มีประสบกำรณ์กำรท ำงำนในหน้ำที่ทำงตุลำกำรมำแล้ว

ไม่น้อยกว่ำสิบห้ำปี

ห้ำมมิให้แต่งตั้งกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม กรรมกำรตุลำกำร และอนุกรรมกำร

ตุลำกำรประจ ำชั้นศำลเป็นกรรมกำร
ให้มีประธำนคณะกรรมกำร ๑ คน โดยให้กรรมกำรคัดเลือกกันเอง และให้ผู้อ ำนวยกำร

ส ำนักคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นเลขำนุกำร

ให้ผู้อ ำนวยกำรส ำนักคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมแต่งตั้งข้ำรำชกำร

ในส ำนักคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร จ ำนวนไม่เกิน ๒ คน







๒ ข้อ ๖ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗
๓ ข้อ ๖ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗
๔ ข้อ ๖ วรรคสำม แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐

๘๖๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๘ คณะกรรมกำรมีอ ำนำจหน้ำที่ดังต่อไปนี้

(๑) ประเมินผู้พพำกษำประจ ำศำลว่ำมีควำมเหมำะสมที่จะด ำรงต ำแหน่งต่อไปหรือไม่
โดยให้พิจำรณำจำก

๕ (ก) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำน จริยธรรม และคุณลักษณะส่วนบุคคล

ตำม ข้อ ๕ (๑) ควำมเห็นของผู้ประเมิน ควำมเห็นของรองประธำนศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์

รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพเศษ ที่ได้รับมอบหมำย ควำมเห็นของ


รองอธิบดีผู้พพำกษำและอธิบดีผู้พพำกษำ หรือควำมเห็นของผู้พพำกษำหัวหน้ำศำลและอธิบดี

ผู้พิพำกษำภำค
(ข) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำนจำกกำรตรวจส ำนวนคดีตำมข้อ ๕ (๒)

และควำมเห็นของผู้ประเมิน
(ค) ข้อเท็จจริงที่ปรำกฏแก่คณะกรรมกำรโดยทำงอื่น

ให้คณะกรรมกำรสรุปผลกำรประเมินและท ำควำมเห็นในแบบสรุปผลกำรประเมิน

และควำมเห็นของคณะกรรมกำรท้ำยระเบียบนี้


ื่
(๒) เรียกบุคคลใดมำให้ถ้อยค ำหรือส่งเอกสำรเพอประกอบกำรพจำรณำ
ได้ตำมควำมเหมำะสม
(๓) จัดให้มีกำรทดสอบ สัมภำษณ์ หรือด ำเนินกำรใด ๆ เพื่อประโยชน์ในกำรประเมิน

(๔) แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อด ำเนินกำรใด ๆ ตำมแต่จะมอบหมำย

(๕) เสนอผลกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พพำกษำ

ื่
ประจ ำศำลต่อเลขำนุกำร ก.บ.ศ. เพอเสนอ ก.บ.ศ. ด ำเนินกำรต่อไปโดยเร็ว โดยให้มีอ ำนำจ
เสนอควำมเห็นในกำรจัดล ำดับอำวุโสเสียใหม่ตำมควำมเหมำะสม

ื่
(๖) เสนอควำมเห็นต่อเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมเพอจัดให้มีกำรพฒนำควำมรู้
ทักษะ และทัศนคติของผู้พิพำกษำประจ ำศำลเพิ่มเติมในเรื่องที่คณะกรรมกำรเห็นสมควร

ื่
(๗) เสนอควำมเห็นต่อ ก.บ.ศ. เพอปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ ์
ที่เกี่ยวข้อง กับกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล













๕ ข้อ ๘ (๑)(ก) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๖๓




หมวด ๓
หลักเกณฑ์กำรประเมินควำมเหมำะสม

ในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล


ข้อ ๙ เมื่อคณะกรรมกำรเห็นสมควรให้ด ำเนินกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งของผู้พิพำกษำประจ ำศำล ให้คณะกรรมกำรด ำเนินกำรดังนี้

๖ (๑) แจ้งรองประธำนศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์ รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค

รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพิเศษ ที่ได้รับมอบหมำย อธิบดีผู้พิพำกษำ หรือผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำล


แห่งศำลที่ผู้พพำกษำประจ ำศำลปฏิบัติหน้ำที่ในขณะนั้น เพอให้เป็นผู้ประเมินกำรปฏิบัติงำน จริยธรรม
ื่

และคุณลักษณะส่วนบุคคลของผู้พพำกษำประจ ำศำล หรือมอบหมำยให้ผู้พพำกษำในศำลนั้น


เป็นผู้ประเมินแทน


(๒) ก ำหนดจ ำนวนส ำนวนคดีที่จะพงตรวจและมอบหมำยให้ผู้พพำกษำ

คนใดคนหนึ่งหรือหลำยคนเป็นผู้ประเมินกำรปฏิบัติงำนจำกกำรตรวจสำนวนคดีที่อยู่ในควำมรับผิดชอบ
ของผู้พิพำกษำประจ ำศำล


ผู้พพำกษำที่ได้รับมอบหมำยตำม (๑) ต้องมีประสบกำรณ์กำรท ำงำนในหน้ำที่ทำงตุลำกำร
มำแล้วไม่น้อยกว่ำแปดปี และตำม (๒) ต้องมีประสบกำรณ์กำรท ำงำนในหน้ำที่ทำงตุลำกำรมำแล้ว

ไม่น้อยกว่ำสิบปี


ข้อ ๑๐ ให้ผู้ประเมินตำมข้อ ๙ (๑) ด ำเนินกำรประเมินกำรปฏิบัติงำน จริยธรรม

และคุณลักษณะส่วนบุคคลของผู้พพำกษำประจ ำศำล กรอกแบบประเมิน และท ำควำมเห็น

ในแบบประเมินภำยในเวลำที่คณะกรรมกำรก ำหนด

๗ เมื่อผู้ประเมินด ำเนินกำรตำมวรรคหนึ่งแล้ว ให้เสนอแบบประเมินต่อรองประธำน

ศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์ รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญ



พเศษ ที่ได้รับมอบหมำย รองอธิบดีผู้พพำกษำและอธิบดีผู้พพำกษำ หรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำล


ื่
และอธิบดีผู้พพำกษำภำคตำมล ำดับแล้วแต่กรณี เพอท ำควำมเห็นในแบบประเมินต่อไป เว้นแต่ในกรณี

ที่ข้ำรำชกำรตุลำกำรต ำแหน่งดังกล่ำวข้ำงต้นเป็นผู้ประเมินเอง ไม่ต้องท ำควำมเห็นในข้อ ๔.๒
ในแบบประเมินซ้ ำอีก









๖ ข้อ ๙(๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรง
ต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐
๗ ข้อ ๑๐ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง

กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐

๘๖๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





๘ เมื่อรองประธำนศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์ รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค
รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพิเศษ ที่ได้รับมอบหมำย อธิบดีผู้พิพำกษำ หรืออธิบดีผู้พิพำกษำภำค

ท ำควำมเห็นแล้ว ให้ส่งแบบประเมินคืนคณะกรรมกำรภำยในเวลำที่คณะกรรมกำรก ำหนด


ข้อ ๑๑ ให้ผู้ประเมินตำมข้อ ๙ (๒) ด ำเนินกำรตรวจส ำนวนคดี กรอกแบบประเมิน
และท ำควำมเห็นในแบบประเมินจำกกำรตรวจส ำนวนคดี แล้วส่งคืนคณะกรรมกำรภำยในเวลำ

ที่คณะกรรมกำรก ำหนด

ิ่
กำรด ำเนินกำรตำมวรรคก่อน ให้ผู้ประเมินมีอ ำนำจสอบถำมข้อเท็จจริงเพมเติม
จำกผู้พิพำกษำประจ ำศำลผู้รับกำรประเมินหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ข้อ ๑๒ กำรประเมินตำมแบบประเมินแต่ละตอน ให้ประเมินโดยกำรให้คะแนน

เป็น ๕ ระดับ คือ

ดีมำก ๕ คะแนน

ดี ๔ คะแนน

ปกติ ๓ คะแนน
ควรปรับปรุง ๒ คะแนน

ต้องปรับปรุง ๑ คะแนน

ผลกำรประเมินให้ค ำนวณเป็นคะแนนเฉลี่ยโดยใช้จ ำนวนรวมของคะแนน

ที่ได้แต่ละตอนเป็นตัวตั้ง แล้วหำรด้วยจ ำนวนข้อกำรประเมินของแต่ละตอน


๙ ข้อ ๑๓ ผู้พพำกษำประจ ำศำลที่ผ่ำนกำรประเมินควำมเหมำะสมต้องประกอบด้วย
หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(๑) กำรประเมินกำรปฏิบัติงำน จริยธรรม และคุณลักษณะส่วนบุคคล ตำมข้อ ๕ (๑)
และกำรประเมินกำรปฏิบัติงำนจำกกำรตรวจส ำนวนคดีตำมข้อ ๕ (๒) ต้องได้คะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ ๓.๐

ขึ้นไป

(๒) ควำมเห็นของผู้ประเมิน ควำมเห็นของรองประธำนศำลฎีกำ รองประธำน


ศำลอุทธรณ์ รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพเศษ ที่ได้รับมอบหมำย

ควำมเห็นของรองอธิบดีผู้พพำกษำและอธิบดีผู้พพำกษำ หรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำลและอธิบดี


ผู้พิพำกษำภำค และข้อเท็จจริงที่ปรำกฏแก่คณะกรรมกำรโดยทำงอื่นไม่มีข้อเสียหำย


๘ ข้อ ๑๐ วรรคสำม แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำง
กำรด ำรงต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐
๙ ข้อ ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรง
ต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๖๕






ในกรณีที่ผลกำรประเมินของผู้พพำกษำประจ ำศำลคนใดไม่เป็นไปตำมหลักเกณฑ
ิ่

กำรประเมินตำมวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมกำรมีอ ำนำจตรวจสอบข้อเท็จจริงเพมเติม และให้เป็นดุลพนิจ
ของคณะกรรมกำรที่จะพจำรณำว่ำผู้พพำกษำประจ ำศำลผู้นั้นสมควรผ่ำนกำรประเมินหรือไม่


หำกเห็นสมควรให้ผ่ำนกำรประเมิน ให้แสดงเหตุผลโดยละเอียดในแบบสรุปผลกำรประเมิน
และควำมเห็นของคณะกรรมกำรประเมินในช่องควำมเห็นเพิ่มเติม
ให้คณะกรรมกำรแจ้งผลกำรประเมินให้รองประธำนศำลฎีกำ รองประธำนศำลอุทธรณ์


รองประธำนศำลอุทธรณ์ภำค รองประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพเศษ ที่ได้รับมอบหมำย



อธิบดีผู้พพำกษำ อธิบดีผู้พพำกษำภำค หรือผู้พพำกษำหัวหน้ำศำล และผู้พพำกษำประจ ำศำลทรำบ

เป็นรำยบุคคลทุกครั้ง
ข้อ ๑๔ ให้คณะกรรมกำรเสนอควำมเห็นต่อ ก.บ.ศ. พร้อมข้อมูลที่ได้จำกกำรประเมิน

ทั้งหมด หำกปรำกฏว่ำผู้พิพำกษำประจ ำศำลผ่ำนกำรประเมินตำมหลักเกณฑ์ในข้อ ๑๓ ให้คณะกรรมกำร

เสนอควำมเห็นต่อ ก.บ.ศ. ว่ำผู้พิพำกษำประจ ำศำลนั้นมีควำมเหมำะสมที่จะด ำรงต ำแหน่งต่อไปในล ำดับ


อำวุโสเดิมหรือล ำดับอำวุโสใหม่ แต่หำกผู้พิพำกษำประจ ำศำลไม่ผ่ำนกำรประเมินตำมหลักเกณฑดังกล่ำว
ให้คณะกรรมกำรเสนอควำมเห็นต่อ ก.บ.ศ. เพอให้ ก.บ.ศ. ด ำเนินกำรตำมพระรำชบัญญัติระเบียบ
ื่
ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ มำตรำ ๑๖ วรรคสอง ต่อไป



๑๐ ข้อ ๑๕ กรณีที่ ก.บ.ศ. มีมติให้ผู้พพำกษำประจ ำศำลคนใดไม่สมควรผ่ำนกำรประเมิน
โดยผู้พิพำกษำประจ ำศำลดังกล่ำวนั้นมิใช่เป็นบุคคลที่ไม่เหมำะสมจะด ำรงต ำแหน่งผู้พพำกษำประจ ำศำล

ต่อไป ก็ให้ด ำเนินกำรตำมข้อ ๖ อีกครั้งหนึ่ง กำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรงต ำแหน่ง
ผู้พิพำกษำประจ ำศำลครั้งนี้ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และระยะเวลำที่ ก.บ.ศ. ก ำหนดแต่ไม่เกิน ๖ เดือน


ประกำศ ณ วันที่ ๑๑ กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๔๕



(ลงชื่อ) สันติ ทักรำล

(นำยสันติ ทักรำล)

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม










๑๐ ข้อ ๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรประเมินควำมเหมำะสมในระหว่ำงกำรด ำรง
ต ำแหน่งผู้พิพำกษำประจ ำศำล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗

๘๖๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน
พ.ศ. ๒๕๕๐




โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พพำกษำ


สมทบในศำลแรงงำน


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๔/๒ แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำน

และวิธีพจำรณำคดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพมเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำน
ิ่

และวิธีพจำรณำคดีแรงงำน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.)
ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ ์
และวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน พ.ศ. ๒๕๕๐”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

37 ข้อ ๓ ให้ศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำคด ำเนินกำรจัดอบรมให้ควำมรู้

แก่ผู้พพำกษำสมทบที่จะเข้ำรับต ำแหน่งในศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำคนั้น แล้วแต่กรณี

ตำมหลักสูตรที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนดโดยควำมเห็นชอบของประธำนศำลฎีกำ


ข้อ ๔ ให้มีคณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมควำมรู้ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำนกลำง
และศำลแรงงำนภำค ประกอบด้วย

(๑) อธิบดีผู้พพำกษำศำลแรงงำนกลำงหรืออธิบดีผู้พพำกษำศำลแรงงำนภำค


ที่ผู้พิพำกษำสมทบจะเข้ำสังกัด เป็นประธำนกรรมกำร

(๒) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสำมคน ซึ่งคัดเลือกและแต่งตั้งโดยอธิบดีผู้พพำกษำ

ศำลแรงงำนกลำงหรืออธิบดีผู้พิพำกษำศำลแรงงำนภำคในภำคที่ผู้พิพำกษำสมทบจะเข้ำรับต ำแหน่ง


(๓) เลขำนุกำรศำลแรงงำนกลำงหรือเลขำนุกำรศำลแรงงำนภำคในภำคที่ผู้พพำกษำ
สมทบจะเข้ำรับต ำแหน่ง เป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร

(๔) ผู้อ ำนวยกำรส ำนักอ ำนวยกำรประจ ำศำลแรงงำนกลำงหรือผู้อ ำนวยกำรส ำนักงำน

ประจ ำศำลแรงงำนภำคในภำคที่ผู้พิพำกษำสมทบจะเข้ำรับต ำแหน่ง เป็นกรรมกำรและผู้ช่วยเลขำนุกำร




37 ข้อ ๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๖๗





ข้อ ๕ คณะกรรมกำรอ ำนวยกำรอบรมควำมรู้ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำนกลำง
และศำลแรงงำนภำคมีอ ำนำจหน้ำที่ ดังต่อไปนี้


(๑) ควบคุมดูแลกำรอบรมหลักสูตรผู้พพำกษำสมทบให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย
และมีประสิทธิภำพ

(๒) ก ำหนดวัน เวลำ สถำนที่อบรม และก ำหนดวิทยำกรในกำรอบรมควำมรู้
(๓) แก้ไข เพมเติม หรือเปลี่ยนแปลงหัวข้อวิชำกำรอบรมหรือเวลำในหัวข้อวิชำกำร
ิ่
อบรมได้ตำมควำมจ ำเป็น

(๔) ประเมินผลกำรอบรมตำมเงื่อนไขกำรอบรมในหลักสูตร แล้วสรุปผลกำรอบรม
38
และรำยงำนพร้อมแจ้งควำมเห็นไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม เพอน ำเสนอคณะกรรมกำร
ื่
บริหำรศำลยุติธรรมและคณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรมทรำบต่อไป
(๕) แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อด ำเนินกำรใด ๆ ตำมแต่จะมอบหมำย


ข้อ ๖ กำรเข้ำรับกำรอบรมต้องมีเวลำเข้ำรับกำรอบรมครบตำมหลักสูตร


เว้นแต่ อธิบดีผู้พพำกษำศำลแรงงำนกลำงหรืออธิบดีผู้พพำกษำศำลแรงงำนภำคที่ผู้พพำกษำสมทบ



จะเข้ำสังกัด แล้วแต่กรณี อำจพจำรณำอนุญำตให้ผู้พิพำกษำสมทบลำกำรอบรมควำมรู้ได้ตำมควำมจ ำเป็น
โดยก ำหนดเงื่อนไขใด ๆ เพื่อทดสอบควำมรู้ผู้พิพำกษำสมทบตำมที่เห็นสมควรด้วยก็ได้

ข้อ ๗ ในระหว่ำงที่ศำลแรงงำนภำคภำคใดยังไม่มีเลขำนุกำรศำลแรงงำนภำค

ให้เลขำนุกำรศำลยุติธรรมประจ ำภำคในภำคที่ผู้พพำกษำสมทบจะเข้ำรับต ำแหน่งปฏิบัติหน้ำที่

ตำมระเบียบนี้แทน

ข้อ ๘ ให้ประธำนศำลฎีกำรักษำกำรตำมระเบียบนี้


ประกำศ ณ วันที่ ๒๖ พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๕๐



(ลงชื่อ) วิรัช ลิ้มวิชัย

(นำยวิรัช ลิ้มวิชัย)


ประธำนศำลฎีกำ
ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม








38 ข้อ ๕ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗

๘๖๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





หลักสูตรการอบรม
ผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงาน



๑. หลักการและเหตุผล


โดยที่พระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำนและวิธีพจำรณำคดีแรงงำน พ.ศ. ๒๕๒๒

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลแรงงำนและวิธีพจำรณำคดีแรงงำน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐

มำตรำ ๑๔/๒ ก ำหนดให้ผู้ที่ได้รับกำรคัดเลือกเป็นผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำนจะต้องได้รับกำรอบรม

ควำมรู้ก่อนเข้ำรับต ำแหน่ง ในเรื่องเกี่ยวกับศำลแรงงำน อ ำนำจหน้ำที่ของผู้พพำกษำสมทบ


และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกำรด ำรงตนในฐำนะเป็นผู้พพำกษำสมทบตำมหลักเกณฑและ

วิธีกำรที่คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมตำมกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม
ก ำหนด และข้อ ๓ ของระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรอบรม

ควำมรู้ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรอบรมควำมรู้ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน (ฉบับที่ ๓)


พ.ศ. ๒๕๖๒ ก ำหนดให้ศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำคด ำเนินกำรจัดอบรมให้ควำมรู้แก่
ผู้พพำกษำสมทบที่จะเข้ำรับต ำแหน่งในศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำคนั้น แล้วแต่กรณี

ตำมหลักสูตรที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนดโดยควำมเห็นชอบของประธำนศำลฎีกำ

ื่

เพอให้ผู้ได้รับกำรคัดเลือกเป็นผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำนได้เข้ำรับกำรอบรม
ตำมที่กฎหมำยก ำหนด ตลอดจนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับศำลแรงงำน อ ำนำจหน้ำที่ ระเบียบ

ที่เกี่ยวข้อง และตระหนักถึงกำรด ำรงตนในฐำนะที่เป็นผู้พพำกษำสมทบอันจะน ำไปสู่กำรปฏิบัติหน้ำที่

ด้วยควำมเที่ยงธรรม ถูกต้อง สุจริต และมีประสิทธิภำพ จึงได้จัดหลักสูตรกำรอบรม “ผู้พิพำกษำสมทบ

ในศำลแรงงำน” ขึ้น



๒. วัตถุประสงค์
หลักสูตรกำรอบรม “ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน” มีวัตถุประสงค์ส ำคัญ ดังนี้

๑) เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมได้รับกำรอบรมก่อนเข้ำรับต ำแหน่งตำมที่กฎหมำยก ำหนด

ื่
๒) เพอให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับควำมมุ่งหมำย เจตนำรมณ์
ในกำรจัดตั้งศำลแรงงำน นโยบำย ภำรกิจ และวัฒนธรรมองค์กรหรือลักษณะพเศษของศำลแรงงำน

ที่มีข้อสำระส ำคัญแตกต่ำงจำกศำลอื่นทั่วไป
๓) เพอให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกฎหมำยแรงงำนและกฎหมำยอื่น
ื่
ที่เกี่ยวข้องกับกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีแรงงำน

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๖๙




๔) เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในระเบียบ ข้อก ำหนด และแนวปฏิบัติ
ของศำลแรงงำนที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติหน้ำที่

๕) เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในบทบำท อ ำนำจหน้ำที่และตระหนัก

ถึงควำมรับผิดชอบ จริยธรรม และกำรด ำรงตนที่ถูกต้องเหมำะสม


๓. ผู้เข้ารับการอบรมตามหลักสูตร


ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำค ซึ่งจะเข้ำรับต ำแหน่งตำม
จ ำนวนที่คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมก ำหนด


๔. วิธีด าเนินการ

กำรบรรยำย กำรศึกษำวิเครำะห์จำกกรณีศึกษำที่เกิดขึ้นจริง กำรอภิปรำย และ

แลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ ควำมคิดเห็น หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม


๕. ขอบเขตและเนื้อหาของหลักสูตร
กำรบรรยำย ประกอบด้วย ๓ หมวด ดังนี้

๑) ควำมรู้ทั่วไปเกี่ยวกับศำลแรงงำนและคดีแรงงำน

๒) กฎหมำยแรงงำนและกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำนคดีแรงงำน

๓) กำรปฏิบัติหน้ำที่และกำรด ำรงตนในต ำแหน่งผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำน


หมายเหตุ : รำยวิชำและรำยละเอียดหลักสูตรตำมเอกสำรแนบท้ำย

๖. ระยะเวลาในการอบรม

ระยะเวลำกำรอบรมตำมหลักสูตร ไม่เกินกว่ำ ๒๔ ชั่วโมง

๗. สถานที่จัดการอบรม

พิจำรณำตำมควำมเหมำะสมในกำรจัดกำรอบรมตำมหลักสูตรแต่ละครั้ง

๘. วิทยากร

ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก


๙. งบประมาณในการด าเนินงาน

งบประมำณของส ำนักงำนศำลยุติธรรม

๑๐. การประเมินผล

๑๐.๑ กำรประเมินผลเพื่อพิจำรณำว่ำเป็นผู้ผ่ำนกำรอบรมตำมหลักสูตรมีเงื่อนไข ดังนี้

๑) ต้องมีเวลำเข้ำรับกำรอบรมครบตำมหลักสูตร

๘๗๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





๒) มีควำมสนใจ ให้ควำมร่วมมือ ซักถำม และแสดงควำมคิดเห็นในระหว่ำงกำรอบรม
๓) ผ่ำนกำรทดสอบควำมรู้หลังกำรอบรม

๑๐.๒ กำรประเมินผลเพื่อพิจำรณำควำมส ำเร็จในกำรจัดกำรอบรมตำมหลักสูตร

๑) โดยกำรสังเกตจำกควำมสนใจ ควำมร่วมมือ กำรซักถำม แสดงควำมคิดเห็น

และพฤติกรรมของผู้เข้ำรับกำรอบรม

๒) โดยกำรใช้แบบสอบถำมเป็นเครื่องมือวัดควำมส ำเร็จและควำมพงพอใจ
ภำยหลังเสร็จสิ้นกำรอบรม หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม




๑๑. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ สำมำรถปฏิบัติหน้ำที่ และด ำรงตนในต ำแหน่ง

ผู้พิพำกษำสมทบในศำลแรงงำนได้อย่ำงถูกต้อง เหมำะสม และมีประสิทธิภำพ


๑๒. ผู้รับผิดชอบโครงการ


ศำลแรงงำนกลำงหรือศำลแรงงำนภำคที่ผู้พพำกษำสมทบจะเข้ำรับต ำแหน่ง แล้วแต่กรณี

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๗๑




รายละเอียด
หลักสูตรการอบรม

“ผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงาน”




หลักสูตรกำรอบรม “ผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน” เป็นกำรบรรยำย ไม่เกินกว่ำ
จ ำนวน ๒๔ ชั่วโมง มีรำยละเอียด ดังนี้

วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ำรับกำรอบรมมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจถึงเจตนำรมณ์ในกำรจัดตั้ง

ศำลแรงงำน นโยบำย ควำมส ำคัญในกำรปฏิบัติงำนคดีแรงงำน คุณลักษณะพเศษของคดีแรงงำน

ที่มีควำมแตกต่ำงจำกคดีประเภทอื่น ควำมรู้เกี่ยวกับกฎหมำยแรงงำน กฎหมำยวิธีพจำรณำคดีแรงงำน

กฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้องและจ ำเป็นต่อกำรด ำเนินคดีแรงงำน หลักกำรส ำคัญในกำรไกล่เกลี่ยและ

ประนีประนอมข้อพพำทแรงงำน สถำนกำรณ์และปัญหำแรงงำนในปัจจุบัน ตลอดจนบทบำท อ ำนำจ
หน้ำที่ ควำมตระหนัก และควำมรับผิดชอบในกำรปฏิบัติรำชกำรในต ำแหน่งผู้พพำกษำสมทบ

ในศำลแรงงำน อันจะน ำไปสู่กำรปฏิบัติหน้ำที่และด ำรงตนในต ำแหน่งผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน

ได้อย่ำงถูกต้อง เหมำะสมและมีประสิทธิภำพ


หมวดที่ ๑ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับศาลแรงงาน และคดีแรงงาน

(รวมระยะเวลำ ไม่เกิน ๓ ชั่วโมง)


๑) ระบบศาลไทย การจัดตั้งศาลแรงงาน และวัฒนธรรมองค์กรของศาลแรงงาน

เนื้อหา ควำมรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบกำรศำลในประเทศไทย เจตนำรมณ์ในกำรจัดตั้ง

ศำลแรงงำน เขตอ ำนำจของศำลแรงงำน คุณลักษณะพเศษของศำล ตลอดจน

ปรัชญำกำรท ำงำนของบุคลำกรในศำลแรงงำน

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง


๒) นโยบาย ภารกิจ โครงสร้างศาลแรงงาน สถานการณ์แรงงานและปัญหาแรงงานในปัจจุบัน

เนอหา นโยบำยกำรบริหำรคดีแรงงำน โครงสร้ำงและหน่วยงำนภำยในศำลแรงงำน
ื้

ที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติหน้ำที่ของผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน สถำนกำรณ์
แรงงำนและปัญหำแรงงำนในปัจจุบัน แนวควำมคิดเกี่ยวกับโครงสร้ำงกำรจ้ำงงำน
สภำพกำรท ำงำน ข้อขัดแย้งระหว่ำงนำยจ้ำงกับลูกจ้ำงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และ

๘๗๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม






แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนำคต แนวทำงกำรพฒนำแนวควำมคิด และหลักกำร
ส ำคัญของกฎหมำยแรงงำนในประเทศไทย

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง

หมวดที่ ๒ กฎหมายแรงงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานคดีแรงงาน

(รวมระยะเวลำ ไม่เกิน ๑๘ ชั่วโมง)



๑) กฎหมายคุ้มครองแรงงาน
เนื้อหา หลักกำรส ำคัญ แนวควำมคิด ขั้นตอน และกระบวนกำรระงับข้อพิพำทแรงงำนตำม


กฎหมำยคุ้มครองแรงงำน ประเด็นข้อพพำทส ำคัญตำมกฎหมำยคุ้มครองแรงงำน

ที่มำสู่ศำล เช่น กำรฟองเรียกร้องค่ำจ้ำงค้ำงจ่ำย ค่ำล่วงเวลำ สินจ้ำงแทนกำร
บอกกล่ำวล่วงหน้ำ ค่ำชดเชย ค่ำเสียหำยจำกกำรเลิกจ้ำงไม่เป็นธรรม ฯลฯ รวมถึง

ข้อสังเกตและประเด็นปัญหำในกำรพิจำรณำคดีดังกล่ำว

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม
วิทยากร วิทยำกรภำยใน

เวลาบรรยาย ๓ ชั่วโมง


๒) กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ และแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
เนื้อหา หลักกำรส ำคัญ แนวควำมคิด ขั้นตอน และกระบวนกำรระงับข้อพิพำทแรงงำนตำม


กฎหมำยแรงงำนสัมพนธ์และแรงงำนรัฐวิสำหกิจสัมพนธ์ ประเด็นข้อพพำทส ำคัญ




ตำมกฎหมำยแรงงำนสัมพนธ์และแรงงำนรัฐวิสำหกิจสัมพนธ์ที่มำสู่ศำล เช่น



กำรฟองขอให้เพกถอนค ำสั่งของคณะกรรมกำรแรงงำนสัมพนธ์ ฯลฯ รวมถึง
ข้อสังเกตและประเด็นปัญหำในกำรพิจำรณำคดีดังกล่ำว
วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม
วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง


๓) กฎหมายเงินทดแทน และกฎหมายประกันสังคม

เนื้อหา หลักกำรส ำคัญ แนวควำมคิด หน้ำที่ของนำยจ้ำง สิทธิประโยชน์ทดแทนตำม


กฎหมำยเงินทดแทนและกฎหมำยประกันสังคม ประเด็นข้อพพำทส ำคัญตำม

กฎหมำยเงินทดแทน และกฎหมำยประกันสังคมที่มำสู่ศำล เช่น กำรฟองขอให้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๗๓




เพิกถอนค ำสั่งส ำนักงำนประกันสังคม หรือคณะกรรมกำรกองทุนเงินทดแทน ฯลฯ
รวมถึงข้อสังเกตและประเด็นปัญหำในกำรพิจำรณำคดีดังกล่ำว

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๓ ชั่วโมง

๔) สัญญาจ้างแรงงาน การกระท าละเมิดระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างและระหว่างลูกจ้างกับลูกจ้าง

ที่เกิดจากการท างานในทางการที่จ้าง

เนื้อหา หลักกำรส ำคัญ แนวควำมคิด และสำระส ำคัญของสัญญำจ้ำงแรงงำนเปรียบเทียบกับ
สัญญำประเภทอื่นที่ใกล้เคียง เช่น สัญญำจ้ำงท ำของตัวแทน กำรรับงำนไปท ำที่บ้ำน

กำรท ำงำนในโรงเรียนเอกชนหรือสถำบันอุดมศึกษำเอกชน สิทธิและหน้ำที่ระหว่ำง


นำยจ้ำงและลูกจ้ำง ตำมที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมำยแพงและพำณิชย์
กำรกระท ำละเมิดระหว่ำงนำยจ้ำงกับลูกจ้ำง และควำมรับผิดของนำยจ้ำงและ

ลูกจ้ำง กำรกระท ำละเมิดระหว่ำงลูกจ้ำงกับลูกจ้ำงที่เกิดจำกกำรท ำงำนในทำงกำร

ที่จ้ำง ประเด็นข้อพพำทส ำคัญตำมสัญญำจ้ำงแรงงำนที่มำสู่ศำล เช่น กำรฟอง

เรียกร้องค่ำนำยหน้ำ เงินโบนัส ใบส ำคัญแสดงกำรท ำงำน ฯลฯ รวมถึงข้อสังเกตและ

ประเด็นปัญหำในกำรพิจำรณำคดีดังกล่ำว

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก
เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง


๕) วิธีพิจารณาคดีแรงงาน

เนื้อหา หลักกำรส ำคัญ แนวควำมคิด ขั้นตอน และกระบวนกำรพจำรณำคดีแรงงำน

เปรียบเทียบข้อเหมือน ข้อแตกต่ำงระหว่ำงกำรด ำเนินคดีแรงงำนกับคดี

ประเภทอื่น รวมตลอดถึงข้อสังเกตส ำคัญในกำรด ำเนินคดีแรงงำนตำมกฎหมำย

และข้อก ำหนดของศำลแรงงำน

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก
เวลาบรรยาย ๓ ชั่วโมง

๘๗๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





๖) การรับฟังข้อเท็จจริงและการชั่งน้ าหนักพยานหลักฐานในคดีแรงงาน


เนื้อหา ควำมหมำย และประเภทของพยำนหลักฐำน หลักเกณฑกำรรับฟงพยำนหลักฐำน

กำรพจำรณำหรือกำรใช้เหตุผลในกำรชั่งน้ ำหนักพยำนหลักฐำน รวมถึงกำรน ำ
ประสบกำรณ์ที่มีมำปรับใช้ร่วมกับกำรพจำรณำพยำนหลักฐำนในคดีแรงงำน

เพื่อประโยชน์ในกำรร่วมพิจำรณำคดีกับผู้พิพำกษำศำลแรงงำน
วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๓ ชั่วโมง



๗) หลักการส าคัญ และข้อสังเกตในการไกล่เกลี่ยและการประนีประนอมข้อพิพาทแรงงาน
เนื้อหา หลักกำร แนวควำมคิด และวิธีกำรเกี่ยวกับกำรยุติข้อพพำทแรงงำนด้วยกำร

ไกล่เกลี่ยหรือกำรประนีประนอมยอมควำม ประสบกำรณ์หรือข้อเท็จจริง

ที่เกิดขึ้นในกำรน ำวิธีกำรไกล่เกลี่ยหรือประนีประนอมมำใช้ในคดีแรงงำน

ข้อสังเกตหรือข้อควรระวังในกำรไกล่เกลี่ย

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำหรือคดีแรงงำนที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม
วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๓ ชั่วโมง



หมวดที่ ๓ การปฏิบัติหน้าที่ และการด ารงตนในต าแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงาน

(รวมระยะเวลำ ไม่เกิน ๓ ชั่วโมง)



๑) บทบาท อ านาจหนาที่ และความรับผิดช อ บ ในการปฏิบัติงานของผู้พพากษาสมทบ

ในศาลแรงงาน ข้อสังเกตเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงาน
เนื้อหา เน้นให้ตระหนักถึงควำมส ำคัญในบทบำท อ ำนำจหน้ำที่ และควำมรับผิดชอบในกำร

ื่

ปฏิบัติงำนในต ำแหน่งผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน เพอให้สำมำรถปฏิบัติงำน
ในหน้ำที่ และด ำรงตนได้อย่ำงถูกต้องและเหมำะสม ข้อสังเกตที่เกิดขึ้นจำกกำร

ปฏิบัติงำนของผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำน ทั้งในส่วนงำนคดีและงำนด้ำนอื่น

ทั่วไป

วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๗๕




๒) จริยธรรมในการด ารงตน การร่วมพิจารณาและปรึกษาคดี และการวางตนของผู้พิพากษาสมทบ
ในศาลแรงงาน


เนื้อหา ประมวลจริยธรรมข้ำรำชกำรตุลำกำร กำรร่วมนั่งพจำรณำคดีในลักษณะที่ถูกต้อง

และหลักกำรส ำคัญในกำรปรึกษำคดีระหว่ำงองค์คณะ ข้อสังเกตและข้อพงระวัง

ในกำรร่วมพจำรณำและปรึกษำคดี ลักษณะกำรด ำรงตนที่ดีงำมและเหมำะสม

ของผู้พพำกษำสมทบในศำลแรงงำนทั้งในเวลำรำชกำรและนอกเวลำรำชกำร
วิธีการ บรรยำย ตัวอย่ำงกรณีศึกษำที่เกิดขึ้นจริง หรือวิธีกำรอื่นที่เหมำะสม

วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจำกภำยในศำลยุติธรรมและภำยนอก

เวลาบรรยาย ๑.๓๐ ชั่วโมง

กลุ่มที่ ๖





ทั่วไป

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๗๗





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
เรื่อง ยกเลิกระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมที่เกี่ยวกับกำรไกล่เกลี่ย

พ.ศ. ๒๕๖๐




โดยที่คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเห็นเป็นกำรสมควรให้มีกำรยกเลิกระเบียบ

ื่

คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมบำงฉบับที่เกี่ยวกับกำรไกล่เกลี่ยข้อพพำท เพอมิให้เกิดควำมซ ำซ้อน
และกำรขัดกันในกำรใช้บังคับกฎหมำยล ำดับรอง

อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี


ข้อ ๑ ระเบียบนี เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม เรื่อง ยกเลิก

ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมที่เกี่ยวกับกำรไกล่เกลี่ย พ.ศ. ๒๕๖๐”

ข้อ ๒ ระเบียบนี ให้ใช้บังคับตั งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิก

(๑) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ยเพื่อระงับข้อพิพำท

ทำงกำรเงิน พ.ศ. ๒๕๔๔

(๒) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำท พ.ศ. ๒๕๔๔


(๓) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ยข้อพพำท (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๗


(๔) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ยข้อพพำท (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๕๙


ประกำศ ณ วันที่ ๒๒ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๐



(ลงชื่อ) วีระพล ตั งสุวรรณ

(นำยวีระพล ตั งสุวรรณ)

ประธำนศำลฎีกำ

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

๘๗๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทในคดีอำญำ

พ.ศ. ๒๕๖๐






โดยที่กำรไกล่เกลี่ยข้อพพำทเป็นกระบวนกำรระงับข้อพพำททำงเลือกที่ศำลยุติธรรม

น ำมำใช้ในกำรระงับข้อพพำท หำกมีกำรส่งเสริมให้น ำวิธีกำรไกล่เกลี่ยข้อพพำทไปใช้กับคดีอำญำ

บำงประเภท จะเป็นกำรอ ำนวยควำมยุติธรรมโดยผู้เสียหำยมีส่วนร่วม ดังนั น เพอให้กำรไกล่เกลี่ย
ื่

ข้อพพำทในคดีอำญำเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพและเป็นมำตรฐำนเดียวกัน ควรก ำหนดประเภทคดี
หลักเกณฑ์ และวิธีกำรไกล่เกลี่ยข้อพิพำทในคดีอำญำ จึงจ ำเป็นต้องออกระเบียบนี


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี

ข้อ ๑ ระเบียบนี เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ย

ข้อพิพำทในคดีอำญำ พ.ศ. ๒๕๖๐”

ข้อ ๒ ระเบียบนี ให้ใช้บังคับตั งแต่วันประกำศเป็นต้นไป


ข้อ ๓ ในกรณีที่ระเบียบนี มิได้ก ำหนดไว้โดยเฉพำะ ให้น ำข้อก ำหนดของประธำนศำลฎีกำ

ว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ย มำใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๔ คดีอำญำที่อำจไกล่เกลี่ยได้ตำมระเบียบนี ได้แก่

(๑) คดีควำมผิดอันยอมควำมได้

(๒) คดีควำมผิดที่รำษฎรเป็นโจทก์ฟ้องกันเอง


ข้อ ๕ ก่อนเริ่มกำรไกล่เกลี่ย ให้ศำลแจ้งให้จ ำเลยทรำบว่ำหำกกำรไกล่เกลี่ยมิได้ท ำให้
สิทธิน ำคดีอำญำมำฟองระงับ ผลของกำรไกล่เกลี่ยไม่เป็นบทบังคับศำลที่จะต้องพพำกษำคดีให้เป็น


ประโยชน์แก่จ ำเลย


ข้อ ๖ ในกำรไกล่เกลี่ยคดีอำญำ ผู้เสียหำยมีสิทธิเข้ำร่วมในกระบวนกำรไกล่เกลี่ยได้
ตำมระเบียบนี


ข้อ ๗ ในคดีควำมผิดที่อำจไกล่เกลี่ยได้และไม่อำจไกล่เกลี่ยได้รวมกัน หำกผู้เสียหำย


และจ ำเลยมีควำมประสงค์จะให้ไกล่เกลี่ยเพอบรรเทำควำมเสียหำย ศำลอำจพจำรณำให้ด ำเนินกำร
ื่
ไกล่เกลี่ยเฉพำะควำมผิดที่อำจไกล่เกลี่ยได้ตำมข้อ ๔

ข้อ ๘ ในกรณีดังต่อไปนี ให้กระบวนกำรไกล่เกลี่ยสนสุดลง


ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๗๙





(๑) คดีระงับไปด้วยกำรถอนค ำร้องทุกข์ ถอนฟองหรือยอมควำมกันโดยถูกต้อง

ตำมกฎหมำย

(๒) คู่ควำมฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งไม่ประสงค์ให้ท ำกำรไกล่เกลี่ยอีกต่อไป



(๓) คู่ควำมไม่สำมำรถไกล่เกลี่ยกันได้ภำยในระยะเวลำที่ศำลก ำหนด
(๔) ผู้ประนีประนอมเห็นว่ำกำรไกล่เกลี่ยต่อไปจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี

(๕) ผู้รับผิดชอบรำชกำรศำลหรือองค์คณะผู้พพำกษำที่แต่งตั งเห็นว่ำคดีไม่อำจยุติได้

ด้วยวิธีกำรไกล่เกลี่ย หรือกำรไกล่เกลี่ยต่อไปจะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีหรือจะเกิดควำมไม่เป็นธรรม


ข้อ ๙ ผู้ประนีประนอมตำมระเบียบนี ที่ขึ นทะเบียนกับส ำนักงำนศำลยุติธรรม
ตำมข้อก ำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ย มีสิทธิได้รับค่ำป่วยกำรและค่ำใช้จ่ำย

ค่ำป่วยกำรและค่ำใช้จ่ำยของผู้ประนีประนอมตำมระเบียบนี ให้เป็นไปตำมประกำศ


ส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง หลักเกณฑและวิธีกำรจ่ำยค่ำป่วยกำรและค่ำใช้จ่ำยของผู้ประนีประนอม
ที่ออกตำมควำมในข้อก ำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำด้วยกำรไกล่เกลี่ย โดยอนุโลม

บรรดำคดีที่กำรไกล่เกลี่ยยังไม่สิ นสุดลงในวันที่ระเบียบนี ใช้บังคับ ให้เบิกจ่ำยตำมควำม
ในวรรคสอง


ข้อ ๑๐ ให้ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเป็นผู้รักษำกำรตำมระเบียบนี

และให้มีอ ำนำจตีควำมและวินิจฉัยปัญหำที่เกิดขึ นเนื่องจำกกำรใช้บังคับระเบียบนี


ประกำศ ณ วันที่ ๒๒ สิงหำคม พ.ศ. ๒๕๖๐


(ลงชื่อ) วีระพล ตั งสุวรรณ


(นำยวีระพล ตั งสุวรรณ)

ประธำนศำลฎีกำ
ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

๘๘๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๘๑

๘๘๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๘๓

๘๘๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๘๕

๘๘๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๘๗


Click to View FlipBook Version