The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Somyote Wongdee, 2020-12-23 01:37:02

รวมระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ประจำปี 2563

๗๘๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยงำนธุรกำรเกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำร

พ.ศ. ๒๕๕๗




โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยงำนธุรกำร

ื่
เกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำร เพอประโยชน์ในกำรปฏิบัติเกี่ยวกับส ำนวนควำมของศำล
ให้เป็นแนวทำงเดียวกัน

อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยงำนธุรกำร

เกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำร พ.ศ. ๒๕๕๗”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ บรรดำระเบียบ ข้อบังคับ หรือค ำสั่งอื่นใดในส่วนที่ก ำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้

หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน


ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ ถ้ำข้อควำมมิได้แสดงให้เห็นเป็นอย่ำงอื่น

๑๙๑ “ศำล” หมำยควำมว่ำ ศำลฎีกำ ศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค ศำลอุทธรณ์
คดีช ำนัญพิเศษ ศำลชั้นต้น และให้หมำยควำมรวมถึงส ำนักงำนอธิบดีผู้พิพำกษำภำค

๒๐๒ “หัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรม” หมำยควำมว่ำ ประธำนศำลฎีกำ ประธำนศำลอุทธรณ์

ประธำนศำลอุทธรณ์ภำค ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช ำนัญพเศษ อธิบดีผู้พพำกษำศำลชั้นต้น


อธิบดีผู้พิพำกษำภำค และผู้พิพำกษำหัวหน้ำศำล

“เจ้ำหน้ำที่” หมำยควำมว่ำ ข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมตำมกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบ
ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม และให้หมำยควำมรวมถึงลูกจ้ำง ตลอดจนพนักงำนรำชกำร

ศำลยุติธรรม

“ผู้อ ำนวยกำร” หมำยควำมว่ำ ผู้อ ำนวยกำรในสังกัดส ำนักงำนศำลยุติธรรม







๑๑๙ ข้อ ๔ บทนิยำมคำว่ำ“ศำล”แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยงำนธุรกำรเกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำร

(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙
๒๐

๒ ข้อ ๔ บทนิยำมคำว่ำ“หัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรม”แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยงำนธุรกำร
ส ำนวนควำมและเอกสำร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๘๙





ข้อ ๕ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมเป็นผู้รักษำกำร และมีอ ำนำจตีควำม
และวินิจฉัยปัญหำที่เกี่ยวกับกำรปฏิบัติตำมระเบียบนี้



หมวด ๑
กำรจัดท ำส ำนวนควำม


ข้อ ๖ ให้แยกส ำนวนควำมตำมประเภทคดี โดยใช้อักษรย่อน ำหน้ำหมำยเลขคดี

กำรใช้อักษรย่อน ำหน้ำหมำยเลขคดี ให้เป็นไปตำมประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ในกรณีที่ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรมยังไม่ได้ก ำหนดอักษรย่อของคดีประเภทใดไว้
ให้หัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรมก ำหนดอักษรย่อของคดีประเภทนั้นใช้ไปพลำงก่อน




แล้วแจ้งเลขำธกำรส ำนกงำนศำลยุตธรรม เพอพจำรณำด ำเนินกำรออกประกำศตำมวรรคสองต่อไป

ื่
ข้อ ๗ กำรจัดท ำส ำนวนควำมให้จัดเรียงตำมล ำดับเวลำ วัน เดือน และปีที่เข้ำสู่ส ำนวน
ควำม โดยให้มีปกหน้ำส ำนวนและปิดท้ำยด้วยปกหลังส ำนวน


หมวด ๒
กำรเก็บส ำนวนควำมและเอกสำร


ข้อ ๘ เว้นแต่หัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรมจะมีค ำสั่งเป็นอย่ำงอื่น กำรเก็บรักษำ

ส ำนวนควำมให้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) ให้เก็บส ำนวนควำมที่ห้องเก็บส ำนวน ส ำนวนควำมที่ปฏิบัติงำนเสร็จแล้ว ให้ส่งคืน
ห้องเก็บส ำนวนทุกครั้ง กรณีที่ต้องมีกำรปฏิบัติงำนต่อ ให้ส่งส ำนวนควำมไปยังงำนที่ต้องปฏิบัติงำนต่อ

โดยให้มีหลักฐำนกำรรับส่งหรือยืมส ำนวน

(๒) ในกำรควบคุมและเก็บรักษำส ำนวนควำม ให้จัดท ำบัญชีรับส่งหรือยืมส ำนวน

โดยอย่ำงน้อยมีช่องรำยกำร เลขคดี ชื่อคู่ควำม วันเดือนปีที่รับส่ง งำนที่รับส ำนวนควำม และรำยกำร

ส ำหรับผู้รับและผู้ส่งลงลำยมือชื่อ
(๓) ให้จัดเก็บส ำนวนควำมในชั้นเก็บหรือตู้เก็บส ำนวน โดยแยกส ำนวน

เรียงตำมล ำดับเลขคดี และปี พ.ศ. หรือเรียงตำมวันนัด จัดท ำบันทึกกำรควบคุมส ำนวน โดยลงวันที่จัดเก็บ

ในสมุดคุมส ำนวนหรือคอมพวเตอร์ และบันทึกกำรควบคุมส ำนวน ติดด้ำนหลังปกหลังส ำนวน

ก่อนจัดเก็บ

(๔) ให้งำนที่ครอบครองส ำนวนควำมระมัดระวังรักษำส ำนวนควำมและเอกสำร
ให้อยู่ในสภำพเรียบร้อย หำกช ำรุดหรือฉีกขำดให้ซ่อมแซมให้อยู่ในสภำพเรียบร้อยก่อนจัดเก็บ

หรือส่งมอบให้งำนอื่นปฏิบัติต่อไป

๗๙๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๙ กำรเก็บรักษำเอกสำรและพยำนวัตถุที่มีกำรแยกเก็บ ให้เจ้ำหน้ำที่งำนเก็บเอกสำร
หรือเจ้ำหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำยปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) ให้จัดท ำทะเบียนหรือบันทึกกำรควบคุมส ำนวน กำรรับและส่งเอกสำรและ

พยำนวัตถุ โดยบันทึกรำยกำรเอกสำรและพยำนวัตถุ เลขเก็บที่ ปีที่ หมำยเลขคดีด ำ คดีแดง ชื่อคู่ควำม

วันที่ลงทะเบียนรับเอกสำรในสมุดทะเบียนหรือบันทึกกำรควบคุมส ำนวน
(๒) ให้ตรวจสอบเอกสำรและพยำนวัตถุที่ศำลสั่งแยกเก็บให้ถูกต้องครบถ้วน

แล้วจัดเรียงตำมล ำดับแยกเป็นเอกสำรโจทก์ โจทก์ร่วม จ ำเลย จ ำเลยร่วม ผู้ร้อง ผู้คัดค้ำน และจัดท ำ

สำรบำญ (แบบ ๓) โดยบันทึกรำยกำรเอกสำรและพยำนวัตถุ เช่น หมำย จ. และ หมำย ล. ให้ถูกต้อง

ตรงตำมค ำสั่งศำล บันทึกเลขอันดับ จ ำนวนแผ่น ให้ถูกต้องตรงกับเอกสำรในส ำนวน บันทึกหมำยเลข

ก ำกับแต่ละปึก บันทึกหมำยเลขคดีด ำ คดีแดง ลงบนหัวกระดำษแบบสำรบำญ ประทับตรำยำงวันที่
จัดเก็บไว้ท้ำยรำยกำรเอกสำรในสำรบำญทุกครั้งที่จัดเก็บ พร้อมทั้งบันทึกเลขเก็บที่ ปีที่ จ ำนวนแผ่น


ปึกที่จัดเก็บ วันที่จัดเก็บ และลงลำยมือชื่อผู้จัดเก็บไว้ท้ำยรำยงำนกระบวนพจำรณำค ำร้อง ค ำแถลง
ท้ำยหนังสือน ำส่ง แล้วแต่กรณี ให้เรียบร้อย

(๓) ให้จัดท ำซองหรืออุปกรณ์ใส่เอกสำรหรือพยำนวัตถุ โดยบันทึกรำยกำรเลขเก็บที่

ปีที่ หมำยเลขคดีด ำ คดีแดง ชื่อโจทก์ จ ำเลย และจ ำนวนเอกสำรไว้ที่หน้ำซองหรืออุปกรณ์เก็บเอกสำร
ให้ถูกต้องครบถ้วน จัดเก็บเอกสำรแยกเก็บใส่ซองหรืออุปกรณ์ หรือน ำเอกสำรกับพยำนวัตถุเข้ำเก็บ

ในห้องเก็บเอกสำร โดยเรียงเข้ำชั้นหรือตู้เก็บตำมล ำดับหมำยเลขที่จัดเก็บของแต่ละปีจำกน้อยไปหำมำก

หำกเอกสำรหรือพยำนวัตถุนั้นไม่อำจจัดเก็บในซองหรืออุปกรณ์หรือเก็บรวม เข้ำชั้นหรือตู้เก็บ

ตำมปกติได้ ให้แยกเก็บไว้ต่ำงหำก โดยหมำยเหตุในทะเบียนหรือบันทึกกำรควบคุมส ำนวนว่ำ ได้แยกเก็บ

ไว้ที่ใด จ ำนวนเท่ำใด และลงลำยมือชื่อผู้จัดเก็บ
(๔) เอกสำรที่เป็นหลักประกัน เช่น สมุดเงินฝำก โฉนดที่ดิน น.ส. ๓ พันธบัตร กรมธรรม์

ประกันอิสรภำพ ให้จัดท ำทะเบียนคุม บันทึกเลขเก็บหลักประกัน วันที่ลงทะเบียนรับหลักประกัน

หมำยเลขคดีค ำ คดีแดง ชื่อคู่ควำม ประเภทและจ ำนวนหลักประกัน ไว้ที่หน้ำซองเก็บหลักประกัน

ให้ถูกต้องครบถ้วนและลงลำยมือชื่อผู้จัดเก็บ แล้วน ำซองหลักประกันเข้ำเก็บในตู้เก็บหลักประกัน
เรียงตำมหมำยเลขที่จัดเก็บของแต่ละปีจำกน้อยไปหำมำก

(๕) เอกสำรและพยำนวัตถุที่ส่งมำจำกหน่วยงำนหรือบุคคลอื่น ซึ่งศำลยังไม่ได้หมำย

ให้บันทึกรำยกำรเอกสำรและพยำนวัตถุ หน่วยงำนหรือบุคคลที่ส่ง เลขทะเบียน วันที่ส่ง และจ ำนวนแผ่น

ของเอกสำรที่ส่ง แล้วให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับกำรจัดเก็บเอกสำรและพยำนวัตถุข้ำงต้น
(๖) ให้จัดท ำบัญชีรับส่ง หรือยืมเอกสำร หรือพยำนวัตถุ โดยอย่ำงน้อยมีช่องรำยกำร

เลขคดี ชื่อคู่ควำม วันเดือนปีที่รับส่ง งำนที่รับเอกสำรหรือพยำนวัตถุ และรำยกำรส ำหรับผู้รับ

และผู้ส่งลงลำยมือชื่อ

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๙๑





(๗) ให้ตรวจสอบควำมมีอยู่และควำมสมบูรณ์ของเอกสำรและพยำนวัตถุ
หำกพบควำมไม่สมบูรณ์ของเอกสำรหรือพยำนวัตถุ ให้รำยงำนตำมล ำดับชั้นถึงหัวหน้ำส่วนรำชกำร

ศำลยุติธรรมทรำบโดยทันที


หมวด ๓

กำรรับส่งส ำนวนควำมและเอกสำร



ข้อ ๐ กำรรับส่งส ำนวนควำมและเอกสำรระหว่ำงศำลโดยทำงไปรษณีย์
ให้ใช้ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับและให้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) เมื่อศำลชั้นต้นจะส่งส ำนวนควำมและเอกสำรไปยังศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค

หรือศำลฎีกำ ให้ท ำใบส่งส ำนวน (แบบ ก) และใบรับส ำนวน (แบบ ข) ตำมแบบท้ำยระเบียบนี้ประจ ำ

ทุกส ำนวน แล้วส่งส ำนวนโดยใส่ถุงส ำนวน และประทับตรำครั่งหรือวัตถุอื่นในลักษณะเดียวกัน

เมื่อศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ ได้ตรวจรับส ำนวนถูกต้องแล้วให้เก็บใบส่งส ำนวน

(แบบ ก) ไว้เป็นหลักฐำน และส่งคืนใบรับส ำนวน (แบบ ข) ไปยังศำลเดิม
(๒) เมื่อศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ จะส่งส ำนวนควำม

ไปยังศำลชั้นต้น ให้น ำควำมใน (๑) มำใช้บังคับโดยอนุโลม

(๓) กำรเปิดถุงส ำนวนและกำรลงชื่อเป็นผู้รับในใบรับส ำนวน (แบบ ข) ส ำหรับ

ศำลชั้นต้น ศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ ให้อยู่ในควำมรับผิดชอบของผู้อ ำนวยกำร
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมำย

(๔) กำรส่งใบรับส ำนวน (แบบ ข) คืนศำลเดิม ให้ผู้อ ำนวยกำรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมำย

ให้รับส ำนวนมีหน้ำที่ส่งคืนทันที เพื่อศำลที่ส่งส ำนวนจะได้ทรำบว่ำส ำนวนดังกล่ำวถึงผู้รับแล้ว

หำกศำลที่ส่งส ำนวนไม่ได้รับใบรับส ำนวน (แบบ ข) คืนภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่
ส่งส ำนวน ให้ทวงถำมไปยังศำลที่รับส ำนวนทันที


ข้อ ๑๑ กำรส่งส ำนวนควำมและเอกสำรระหว่ำงศำลโดยเจ้ำหน้ำที่ ให้น ำควำม

ในข้อ ๑๐ มำใช้บังคับโดยอนุโลม และให้ศำลที่ส่งส ำนวนควำมจัดท ำบัญชีส่งส ำนวน ให้เจ้ำหน้ำที่

รับส ำนวนลงลำยมือชื่อ วงเล็บชื่อและชื่อสกุลก ำกับไว้ พร้อมวันเดือนปีที่รับส ำนวน ในบัญชีส่งส ำนวน
นั้นด้วย


ข้อ ๑๒ ให้จัดท ำบัญชีคุมกำรรับส่งส ำนวนควำม โดยอย่ำงน้อยมีรำยกำรชื่อศำล

ที่รับหรือศำลที่ส่งส ำนวนควำม เลขที่หนังสือรับหรือส่ง หมำยเลขคดี ชื่อคู่ควำม วันเดือนปีที่รับ

หรือส่งเลขเอกสำรแยกเก็บลงลำยมือชื่อของผู้รับ และให้ผู้อ ำนวยกำรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมำย
ประสำนงำนและตรวจสอบว่ำได้มีกำรรับส่งส ำนวนควำมโดยถูกต้องและรวดเร็ว และเมื่อรับส ำนวนควำม

แล้ว ให้เสนอหัวหน้ำส่วนรำชกำรเพื่อด ำเนินกำรต่อไป

๗๙๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๑๓ ก่อนส่งส ำนวนควำมและเอกสำรไปยังศำลอื่นหรือเมื่อได้รับส ำนวนควำม
และเอกสำรจำกศำลอื่น ให้ผู้อ ำนวยกำรหรือผู้ได้รับมอบหมำยตรวจสอบส ำนวนควำมและเอกสำร

ให้ถูกต้องครบถ้วน


ข้อ ๑๔ ให้ศำลชั้นต้นจัดท ำบัญชีคดีค้ำงอยู่ที่ศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ

ส่งไปให้ศำลดังกล่ำวตรวจสอบ ภำยในเดือนกุมภำพนธ์ของทุกปี เมื่อศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค
หรือศำลฎีกำตรวจสอบแล้ว ให้แจ้งให้ศำลชั้นต้นทรำบภำยในหนึ่งเดือน นับแต่วันที่ได้รับบัญชีคดีค้ำง

จำกศำลชั้นต้น


ข้อ ๑๕ กำรรับส่งส ำนวนควำมระหว่ำงศำล นอกเหนือจำก ข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑
ให้น ำควำมในข้อ ๑๐ ถึง ข้อ ๑๒ มำใช้บังคับโดยอนุโลม


ข้อ ๑๖ กำรรับส่งส ำนวนควำมระหว่ำงศำลกับหน่วยงำนอื่น ให้ปฏิบัติตำมระเบียบ

ของทำงรำชกำรและระเบียบนี้โดยอนุโลม


หมวด ๔

กำรเก็บรักษำซองค ำพิพำกษำหรือค ำสั่ง

ข้อ ๑ ๗ เมื่อศำลชั้นต้นได้รับส ำนวนควำมพร้อมซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง

จำกศำลอุทธรณ์ ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ ให้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้


(๑) ให้ตรวจดูควำมถูกต้องและควำมสมบูรณ์ของซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง
รวมทั้งตรวจดูเลขที่ค ำพิพำกษำหรือค ำสั่ง ให้ตรงกับหนังสือน ำส่ง

(๒) ให้จัดท ำทะเบียนแยกเก็บซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง โดยอย่ำงน้อยมีรำยกำร

ชื่อศำลที่ส่ง เลขที่หนังสือรับหรือส่ง หมำยเลขคดี เลขซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง วันเดือนปีที่รับหรือส่ง
และลงลำยมือชื่อผู้รับและส่ง

(๓) ให้บันทึกหมำยเลขคดี ชื่อคู่ควำมที่หน้ำซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง และน ำซอง

ดังกล่ำวมอบให้ผู้อ ำนวยกำรหรือเจ้ำหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำยเก็บรักษำในตู้นิรภัยของศำลทันที
(๔) กรณีที่มีกำรเลื่อนกำรอ่ำนค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง ให้ส่งซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง


คืนผู้อ ำนวยกำรหรือเจ้ำหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำยทันที โดยให้มีหลักฐำนกำรรับส่งไว้ เว้นแต่

หัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรมจะมีค ำสั่งเป็นอย่ำงอื่น

(๕) ให้ผู้อ ำนวยกำรหรือเจ้ำหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำยตรวจสอบทะเบียน

และซองค ำพิพำกษำหรือค ำสั่ง ถ้ำมีกำรเลื่อนกำรอ่ำนตั้งแต่ครั้งที่สองเป็นต้นไป หรือค้ำงอ่ำนเกินก ำหนด
สำมเดือนนับแต่วันรับ ให้รำยงำนหัวหน้ำส่วนรำชกำรศำลยุติธรรมทรำบ เพอแจ้งให้ศำลอุทธรณ์
ื่
ศำลอุทธรณ์ภำค หรือศำลฎีกำ แล้วแต่กรณี ทรำบ

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๙๓






ข้อ ๑ ๘ เมื่อศำลชั้นต้นได้รับส ำนวนควำมพร้อมซองค ำพพำกษำหรือค ำสั่ง
จำกศำลชั้นต้นอื่น เพื่อให้อ่ำนแทน ให้น ำควำมในข้อ ๑๗ มำใช้บังคับโดยอนุโลม



หมวด ๕
กำรด ำเนินกำรด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์


ข้อ ๑๙ กำรด ำเนินกำรเกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำรตำมระเบียบนี้ จะกระท ำ

ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนก็ได้ ทั้งนี้ ตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตำมควำมในวรรคหนึ่ง ต้องสำมำรถเก็บรักษำข้อมูล
ให้อยู่ในสภำพพร้อมที่จะสืบค้นและน ำกลับมำใช้ได้โดยควำมหมำยไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งต้องมีควำม

ปลอดภัยในกำรเก็บรักษำอยู่ในเกณฑ์มำตรฐำนด้วย


ประกำศ ณ วันที่ ๑ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๕๗



(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันท์

(นำยดิเรก อิงคนินันท์)

ประธำนศำลฎีกำ

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

๗๙๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





แบบ ก.

ใบส่งส านวน


ศำล/ส ำนักงำน..............................................
วันที่........เดือน..............................พ.ศ. ..........


ได้ส่งส ำนวนมำยังศำล/ส ำนักงำน................................................................................ตำมรำยกำรดังนี้


หมำยเลขคดีแดง โจทก์ จ ำเลย เรื่อง หมำยเหตุ














(ลงชื่อ)..................................................ผู้อ ำนวยกำร/ผู้แทน (ผู้ส่ง)

(.................................................)


.....................................................................................................................................................
แบบ ข.

ใบรับส านวน
เรียน ผู้อ ำนวยกำร


ศำล/ส ำนักงำน..........................................................ได้รับ......................................................

คดีหมำยเลขแดงที่..................................ตำมหนังสือที่.............................ลงวันที่.................................
ไว้แล้วตั้งแต่วันที่....................................................................................




(ลงชื่อ)...............................................ผู้อ ำนวยกำร/ผแทน (ผู้รับ)
ู้
(................................................)

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๙๕





ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม
เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อของส ำนวนควำมในศำล

พ.ศ. ๒๕๖๑


__________________
โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อ
ส ำนวนควำมในศำล ให้เหมำะสม


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในข้อ ๖ วรรคสอง แห่งระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยงำนธุรกำรเกี่ยวกับส ำนวนควำมและเอกสำร พ.ศ. ๒๕๕๗ ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

จึงออกประกำศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกำศนี้ เรียกว่ำ “ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อ

ของส ำนวนควำมในศำล พ.ศ. ๒๕๖๑”


ข้อ ๒ ประกำศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิก

(๑) ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อส ำนวนควำมในศำล

ลงวันที่ ๑ เมษำยน ๒๕๕๗
(๒) ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อส ำนวนควำมในศำล

(ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๒ มิถุนำยน ๒๕๕๗

(๓) ประกำศส ำนักงำนศำลยุติธรรม เรื่อง กำรก ำหนดอักษรย่อส ำนวนควำมในศำล

(ฉบับที่ ๓) ลงวันที่ ๒๔ ธันวำคม ๒๕๕๗

ข้อ ๔ ส ำนวนควำมในศำล ให้ใช้อักษรย่อน ำหน้ำหมำยเลขคดีด ำ ดังต่อไปนี้

(ก) ควำมอำญำ

(๑) คดีอำญำ อักษรย่อ อ

(๒) คดีขอหมำยค้น อักษรย่อ ค
(๓) คดีขอออกหมำยจับ อักษรย่อ จ

(๔) คดีผัดฟ้อง อักษรย่อ ผ

(๕) คดีฝำกขัง (คดีอำญำทั่วไป) อักษรย่อ ฝ

(๖) คดีรื้อฟื้นคดีอำญำขึ้นพิจำรณำใหม่ อักษรย่อ รฟ

(๗) คดีส่งผู้ร้ำยข้ำมแดน อักษรย่อ ผด
(๘) คดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพ อักษรย่อ ช

(๙) คดียำเสพติด อักษรย่อ ย

๗๙๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๑๐) คดีฝำกขัง (คดียำเสพติด) อักษรย่อ ยฝ
(๑๑) คดีฟื้นฟูสมรรถภำพ (คดียำเสพติด) อักษรย่อ ยฟ

(๑๒) คดีมำตรกำรในกำรปรำบปรำม อักษรย่อ มร

ผู้กระท ำควำมผิดเกี่ยวกับ

ยำเสพติดให้โทษ (ริบทรัพย์)
(๑๓) คดีอำญำต่ำงจังหวัด อักษรย่อ อต

(๑๔) คดีค้ำมนุษย์ อักษรย่อ คม

(๑๕) คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ อักษรย่อ อท

(อำญำ)

(๑๖) คดีอำญำ ตำม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ อักษรย่อ คดอ
พ.ศ. ๒๕๔๖

(๑๗) คดีอำญำ ตำม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระท ำ อักษรย่อ ครค

ด้วยควำมรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐

(๑๘) คดีคุ้มครองสวัสดิภำพ อักษรย่อ คส

(๑๙) คดีตรวจสอบกำรจับ อักษรย่อ ตจ
(๒๐) คดีขอให้ศำลออกหมำยควบคุม อักษรย่อ มต

(มอบตัว)

(2๑) คดีศูนย์ให้ค าปรึกษาแนะน าและ อักษรย่อ ศป
ประสำนกำรประชุม

(๒๒) คดีมำตรกำรพิเศษแทน อักษรย่อ มอ

กำรด ำเนินคดีอำญำ (มำตรำ ๙๐)


(๒๓) คดีมำตรกำรพิเศษแทนกำรพพำกษำคดี อักษรย่อ มพ
(มำตรำ ๑๓๒)
(๒๔) คดีคุ้มครองสิทธิและเสรีภำพ อักษรย่อ คสส

(๒๕) คดีตำม พ.ร.บ. กำรรักษำควำมมั่นคง อักษรย่อ รม

ในรำชอำณำจักร พ.ศ. ๒๕๕๑

(ข) ควำมแพ่ง
(๑) คดีแพ่ง อักษรย่อ พ

(๒) คดีครอบครัวและมรดกควำม อักษรย่อ คอ

ตำมกฎหมำยอิสลำม

(๓) คดีผู้บริโภค อักษรย่อ ผบ

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๙๗





(๔) คดีพำณิชย์ อักษรย่อ พณ
(๕) คดีมโนสำเร่ อักษรย่อ ม

(๖) คดีไม่มีข้อยุ่งยำก อักษรย่อ มย

(๗) คดีร้องขอแสดงสิทธิในที่ดิน อักษรย่อ รส

(๘) คดีฟอกเงิน อักษรย่อ ฟ
(๙) คดีกักเรือ อักษรย่อ กร

(๑๐) คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ อักษรย่อ พท

(แพ่ง)

(๑๑) คดีตำม พ.ร.บ. ควำมร่วมมือ อักษรย่อ คพม

ระหว่ำงประเทศทำงแพ่งเกี่ยวกับ
กำรละเมิดสิทธิควบคุมดูแลเด็ก

พ.ศ. ๒๕๕๕

(๑๒) คดีตำม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ อักษรย่อ คดพ

(ค) ควำมอื่น ๆ

(๑) คดีอำญำของผู้ด ำรงต ำแหน่งทำงกำรเมือง อักษรย่อ อม
(๒) คดีกำรค้ำระหว่ำงประเทศ อักษรย่อ กค

(๓) คดีทรัพย์สินทำงปัญญำ อักษรย่อ ทป

(๔) คดีภำษี อักษรย่อ ภ

(๕) คดีเยำวชนและครอบครัว อักษรย่อ ยช

(๖) คดีเยำวชนและครอบครัว (แพ่ง) อักษรย่อ ยชพ
(๗) คดีเยำวชนและครอบครัว (อำญำ) อักษรย่อ ยชอ

(๘) คดีแรงงำน อักษรย่อ ร

(๙) คดีล้มละลำย อักษรย่อ ล

(๑๐) คดีล้มละลำย (ฟื้นฟูกิจกำร) อักษรย่อ ลฟ

(๑๑) คดีฟื้นฟูกิจกำรของลูกหนี้ที่เป็น อักษรย่อ ฟว
วิสำหกิจขนำดกลำงและขนำดย่อม

(๑๒) คดีเลือกตั้ง อักษรย่อ ลต

(๑๓) คดีสิ่งแวดล้อม อักษรย่อ สว

(๑๔) คดีสิ่งแวดล้อม (แพ่ง) อักษรย่อ สวพ
(๑๕) คดีสิ่งแวดล้อม (อำญำ) อักษรย่อ สวอ

(๑๖) คดีนักท่องเที่ยว อักษรย่อ ท

๗๙๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๑๗) คดีวินิจฉัยชี้ขำดอ ำนำจหน้ำที่ อักษรย่อ วศ
ระหว่ำงศำล

(ง) คดีสำขำ

(๑) ชั้นสืบพยำนก่อนฟ้อง อักษรย่อ สฟ

(๒) ชั้นสืบพยำนประเด็น อักษรย่อ สป
(๓) ชั้นสืบพยำนโดยระบบกำรประชุม อักษรย่อ ปภ

ทำงจอภำพ

(๔) ชั้นไกล่เกลี่ยชั้นต้น อักษรย่อ กก

(๕) ชั้นไกล่เกลี่ยชั้นอุทธรณ์ อักษรย่อ กธ

(๖) ชั้นไกล่เกลี่ยชั้นฎีกำ อักษรย่อ กฎ
(๗) ชั้นวิธีกำรชั่วครำว อักษรย่อ วช

(๘) ชั้นบังคับคดี (ขับไล่) อักษรย่อ บล

(๙) ชั้นบังคับคดีแทน อักษรย่อ บท

(๑๐) ชั้นร้องขอออกค ำบังคับ อักษรย่อ บ

(มำตรำ ๓๓๔)
(๑๑) ชั้นบังคับคดีนำยประกัน อักษรย่อ บป

(๑๒) คดีประเภทบังคับนำยประกันแทนศำลอื่น อักษรย่อ บปท

(๑๓) ชั้นร้องขอกันส่วน อักษรย่อ ก

(๑๔) ชั้นร้องขอขัดทรัพย ์ อักษรย่อ ข

(๑๕) ชั้นร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ อักษรย่อ ฉ
(๑๖) ชั้นร้องขอเพิกถอนกำรขำยทอดตลำด อักษรย่อ ถ

(๑๗) ชั้นร้องขอรับช ำระหนี้จ ำนองหรือ อักษรย่อ ขช

คดีร้องขอรับช ำระหนี้บุริมสิทธิ

(๑๘) ชั้นร้องขอสวมสิทธิ อักษรย่อ ส
(๑๙) ชั้นละเมิดอ ำนำจศำล อักษรย่อ ลศ

(๒๐) ชั้นร้องขอริบทรัพย์ อักษรย่อ ขร

(๒๑) ชั้นขอคืนของกลำง อักษรย่อ ขก

ิ่
ให้เพมอักษรย่อควำมแต่ละประเภทตำม (ก) (ข) และ (ค) ไว้หน้ำอักษรย่อคดีสำขำ
แล้วแต่กรณี

ข้อ ๕ คดีอื่นใดนอกจำกข้อ ๔ ซึ่งมิได้ก ำหนดอักษรย่อไว้ หัวหน้ำส่วนรำชกำร

ศำลยุติธรรมอำจก ำหนดอักษรย่อของประเภทคดี เพื่อใช้ไปพลำงก่อน ตำมหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๗๙๙





(๑) ให้ใช้พยัญชนะต้นของพยำงค์แรกของค ำเป็นตัวย่อ โดยถ้ำเป็นค ำเดียว
ให้ใช้ตัวย่อตัวเดียว แม้ว่ำค ำนั้นจะมีหลำยพยำงค์ ถ้ำใช้ตัวย่อตัวเดียวแล้วท ำให้สับสนอำจใช้พยัญชนะต้น

ของพยำงค์ถัดไปเป็นตัวย่อประกอบด้วย

(๒) กรณีชื่อเรื่องหรือชื่อข้อหำฐำนควำมผิดหรือชื่อกฎหมำยที่ใช้ในกำรก ำหนด

อักษรย่อประกอบด้วยค ำหลำยค ำ มีควำมยำวมำก อำจเลือกเฉพำะพยัญชนะต้นของค ำที่เป็นใจควำมส ำคัญ
(๓) ค ำที่พยัญชนะต้นเป็นอักษรควบกล้ ำหรืออักษรน ำ ให้ใช้อักษรตัวหน้ำ

(๔) พยำงค์ที่มี ห เป็นอักษรน ำ ให้ใช้พยัญชนะตัวที่ออกเสียงเป็นตัวย่อ

(๕) กำรก ำหนดอักษรย่อขึ้นใหม่ ต้องไม่ซ้ ำกับอักษรย่อตำมที่ก ำหนดไว้ในประกำศนี้

(๖) กำรก ำหนดอักษรย่อต้องไม่เกิน ๔ ตัวอักษร

ข้อ ๖ บรรดำคดีที่ยื่นฟ้องไว้ก่อนวันที่ประกำศนี้มีผลใช้บังคับ ให้คงอักษรย่อไว้ตำมเดิม



ประกำศ ณ วันที่ ๒ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๖๑

(ลงชื่อ) สรำวุธ เบญจกุล

(นำยสรำวุธ เบญจกุล)


เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม

๘๐๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยแบบพิมพ์ศำล

พ.ศ. ๒๕๕๗




โดยที่ได้มีกำรแก้ไขกฎหมำยวิธีพจำรณำควำมและกฎหมำยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ

กำรด ำเนินกระบวนพจำรณำของศำล ประกอบกับแบบพมพ์ศำลที่ใช้อยู่มิได้มีกำรปรับปรุงให้สอดคล้อง




กับแนวปฏิบัติเป็นระยะเวลำนำนแล้ว จึงสมควรปรับปรุงแบบพมพศำลให้ทันสมัย และสอดคล้อง
กับบทบัญญัติแห่งกฎหมำย

อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ.๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ“ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยแบบพิมพ์ศำล
พ.ศ. ๒๕๕๗”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ บรรดำกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกำศ และค ำสั่งใด ๆ เกี่ยวกับแบบพมพศำล


ซึ่งมีอยู่ก่อนระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน




ข้อ ๔ เอกสำรที่เกี่ยวกับกำรด ำเนินกระบวนพิจำรณำคดีของศำล ต้องท ำตำมแบบพมพศำล
ที่มีสัญลักษณ์ ขนำด รูปแบบ และข้อควำม รวมทั้งสี ขนำด และรูปแบบตัวอักษรตำมที่ก ำหนดไว้ท้ำย
ระเบียบนี้


ข้อ ๕ แบบพมพ์ศำลที่เจ้ำพนักงำน คู่ควำม หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดท ำ ซึ่งมีสัญลักษณ์


ขนำด รูปแบบ และข้อควำม รวมทั้งสี ขนำด และรูปแบบตัวอักษรตรงกันหรือแตกต่ำงเพยงเล็กน้อย
จำกแบบพิมพ์ที่ก ำหนดไว้ท้ำยระเบียบนี้ ให้ใช้ได้โดยอนุโลม




ข้อ ๖ ให้ใช้แบบพิมพศำลที่ก ำหนดไว้ท้ำยระเบียบนี้ในศำล เว้นแต่แบบพมพ์อื่นที่ใช้นั้น
ได้ออกโดยอำศัยอ ำนำจตำมกฎหมำย




ข้อ ๗ ส ำหรับศำลที่มีแบบพมพเดิมเหลืออยู่ในวันที่ประกำศใช้ระเบียบนี้ ให้ใช้แบบพมพ ์
ดังกล่ำวได้ต่อไปจนกว่ำจะหมด ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ประกำศใช้ระเบียบนี้
ข้อ ๘ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมเป็นผู้รักษำกำรตำมระเบียบนี้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๐๑





ประกำศ ณ วันที่ ๑ เมษำยน พ.ศ. ๒๕๕๗



(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันท์
(นำยดิเรก อิงคนินันท์)
ประธำนศำลฎีกำ

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

๘๐๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





สารบัญแบบพิมพ์ศาล


แบบ ๑ ปกหน้ำส ำนวน

แบบ ๒ หน้ำส ำนวน

แบบ ๓ สำรบำญ
แบบ ๔ ค ำฟ้อง

แบบ ๕ ค ำขอท้ำยค ำฟ้องแพ่ง

แบบ ๖ ค ำขอท้ำยค ำฟ้องอำญำ

แบบ ๗ ค ำร้อง/ค ำแถลง/ค ำขอ
แบบ ๘ บัญชีทรัพย ์

แบบ ๙ ใบแต่งทนำยควำม

แบบ ๑๐ ใบมอบฉันทะ

แบบ ๑๑ ค ำให้กำรจ ำเลย

แบบ ๑๒ หมำยเรียกคดีมโนสำเร่หรือคดีไม่มีข้อยุ่งยำก
แบบ ๑๓ หมำยเรียกคดีแพ่งสำมัญ

แบบ ๑๔ หมำยเรียกคดีอำญำ

แบบ ๑๕ บัญชีพยำน

แบบ ๑๕ ทวิ บัญชีพยำน

แบบ ๑๖ หมำยเรียกพยำนบุคคล
แบบ ๑๗ หมำยเรียกพยำนเอกสำรหรือพยำนวัตถุ (คดีอำญำ)

แบบ ๑๘ ค ำสั่งเรียกพยำนเอกสำรหรือพยำนวัตถุ (คดีแพ่ง)

แบบ ๑๙ หมำยนัด

แบบ ๑๙ ทวิ ค ำสั่งเรียกตัวควำม

แบบ ๑๙ ตรี หมำยนัดไต่สวนมูลฟ้อง
แบบ ๑๙ จัตวำ หมำยเรียกลูกหนี้ตำมค ำพิพำกษำ

แบบ ๒๐ บันทึกเจ้ำหน้ำที่เรื่องให้พยำนทรำบก ำหนดนัด

แบบ ๒๐ ทวิ ใบรับบันทึกเจ้ำหน้ำที่เรื่องให้พยำนทรำบก ำหนดนัด

แบบ ๒๑ ค ำเบิกควำมพยำน
แบบ ๒๑ ทวิ บันทึกถ้อยค ำแทนกำรซักถำมพยำน

แบบ ๒๒ รำยงำนกระบวนพิจำรณำ

แบบ ๒๓ รำยงำนเจ้ำหน้ำที่

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๐๓





- ๒ -


แบบ ๒๔ หมำยยึดทรัพย์ชั่วครำว

แบบ ๒๕ หมำยอำยัดชั่วครำว (ถึงลูกหนี้ของจ ำเลย)

แบบ ๒๖ หมำยอำยัดชั่วครำว (ถึงจ ำเลย)
แบบ ๒๗ หมำยอำยัดชั่วครำว (ถึงเจ้ำพนักงำนบังคับคดี)

แบบ ๒๘ หมำยห้ำมชั่วครำว


แบบ ๒๙ สัญญำประนีประนอมยอมควำม

แบบ ๓๐ ค ำพิพำกษำตำมยอม
แบบ ๓๑ ค ำพิพำกษำ

แบบ ๓๑ พ.

แบบ ๓๒ อุทธรณ์

แบบ ๓๓ ท้ำยอุทธรณ์

แบบ ๓๔ ค ำแก้อุทธรณ์
แบบ ๓๕ ท้ำยค ำแก้อุทธรณ์

แบบ ๓๖ ฎีกำ

แบบ ๓๗ ท้ำยฎีกำ

แบบ ๓๘ ค ำแก้ฎีกำ

แบบ ๓๙ ท้ำยค ำแก้ฎีกำ
แบบ ๔๐

แบบ ๔๐ ก.

แบบ ๔๐ พ.

แบบ ๔๑ ค ำบังคับ
แบบ ๔๒ หมำยบังคับคดี

แบบ ๔๔ หนังสือขอแรงทนำย

แบบ ๔๕ หนังสือส่งส ำนวน

แบบ ๔๖ หนังสือส่งส ำนวนคืน
แบบ ๔๗ หมำยจับระหว่ำงพิจำรณำ

แบบ ๔๗ ทวิ หมำยจับ

แบบ ๔๘ หมำยค้นระหว่ำงพิจำรณำ

แบบ ๔๘ ทวิ หมำยค้น

๘๐๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





- ๓ –


แบบ ๔๙ หมำยขังระหว่ำงสอบสวน

แบบ ๕๐ หมำยขังระหว่ำงไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจำรณำ

แบบ ๕๑ หมำยจ ำคุกและกักขังระหว่ำงอุทธรณ์ฎีกำ
แบบ ๕๑ ทวิ หมำยกักขังระหว่ำงอุทธรณ์ฎีกำ

แบบ ๕๑ ตรี หมำยจ ำคุกระหว่ำงอุทธรณ์ฎีกำ

แบบ ๕๒ หมำยจ ำคุกและกักขังเมื่อคดีถึงที่สุด

แบบ ๕๒ ทวิ หมำยกักขังเมื่อคดีถึงที่สุด

แบบ ๕๒ ตรี หมำยจ ำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด
แบบ ๕๓ หมำยปล่อย

แบบ ๕๔ หมำยเรียกผู้คุมขัง (ตำมมำตรำ ๙๐ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ )


แบบ ๕๕ หนังสือส่งตัวเด็กไปไว้โรงเรียนหรือสถำนที่ฝึกและอบรม

แบบ ๕๖ ค ำสั่งเบิกตัวผู้ต้องขัง
แบบ ๕๖ ทวิ ค ำสั่งยกเลิกค ำสั่งเบิกตัวผู้ต้องขัง

แบบ ๕๗ ค ำร้องขอให้ปล่อยชั่วครำว

แบบ ๕๘ สัญญำประกัน

แบบ ๕๙ ทัณฑ์บน (ตำมมำตรำ ๔๖ แห่งประมวลกฎหมำยอำญำ)

แบบ ๖๐ สัญญำประกัน (ตำมมำตรำ ๔๖ แห่งประมวลกฎหมำยอำญำ)
แบบ ๖๑ สัญญำวำงข้อก ำหนดให้ระวังเด็ก (ตำมมำตรำ ๗๔ (๒) แห่งประมวลกฎหมำยอำญำ )

แบบ ๖๒ ใบรับหนังสือหรือหมำย

แบบ ๖๓ ใบรับของกลำง

แบบ ๖๕ ใบรับเอกสำรและหลักฐำน
แบบ ๖๖ ใบรับสิ่งของ

แบบ ๖๘ คดีแพ่ง-อำญำ รำยงำนควำมประจ ำวัน

แบบ ๖๘ ทวิ คดีแพ่ง รำยงำนควำมประจ ำวัน

แบบ ๖๘ ตรี คดีอำญำ รำยงำนควำมประจ ำวัน


๑ แบบ ๗๒ ยกเลิกโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยแบบพมพศำล (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘


แบบ ๗๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยแบบพิมพ์ศำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘


ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๐๕





แบบ ๗๕ บัญชีค่ำฤชำธรรมเนียม
แบบ ๗๖ ปกหลังส ำนวน

แบบ ข.๑ บันทึกฟ้องด้วยวำจำ

แบบ ข.๒ บันทึกค ำให้กำรจ ำเลยด้วยวำจำ

แบบ ข.๓ บันทึกค ำเบิกควำมของพยำน
แบบ ข.๔ บันทึกค ำฟ้อง ค ำรับสำรภำพ ค ำพิพำกษำตำม พ.ร.บ.จัดตั้งศำลแขวงฯ มำตรำ ๒๐

แบบ ข.๕ ค ำสั่งให้คืนตัวผู้ต้องหำตำม พ.ร.บ.จัดตั้งศำลแขวงฯ มำตรำ ๒๐

แบบ ค.ป.๑ หนังสือให้สืบเสำะและพินิจ

แบบ ค.ป.๒ หนังสือให้สืบเสำะและพินิจ (เพิ่มเติม)

แบบ ค.ป.๓ ค ำสั่งอนุญำตให้เข้ำไปในสถำนที่ในเวลำกลำงคืน
แบบ ค.ป.๔ หนังสือแจ้งค ำพิพำกษำ

แบบ ค.ป.๕ หนังสือแจ้งกำรเปลี่ยนแปลงค ำพิพำกษำหรือค ำสั่ง

แบบ ค.ป.๖ หนังสือแจ้งงดกำรสืบเสำะและพินิจ



หมายเหตุ สำมำรถดำวน์โหลดแบบพิมพ์ศำลได้ที่ www.coj.go.th/home/formcoj.html

๘๐๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๔





โดยที่เป็นกำรสมควรให้มีระเบียบว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำร
ศำลยุติธรรม


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร
ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จึงวำงระเบียบไว้ ดังนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์

และวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๔”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล” หมำยควำมว่ำ กรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ตำมมำตรำ ๑๐ (๒) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๔๓

“กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ” หมำยควำมว่ำ กรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ตำมมำตรำ ๑๐ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๓

“กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม” หมำยควำมว่ำ กำรเลือกตำมวำระหรือ

กำรเลือกซ่อม แล้วแต่กรณี

“กำรเลือกตำมวำระ” หมำยควำมว่ำ กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

เพื่อให้ด ำรงต ำแหน่งตำมวำระ
“กำรเลือกซ่อม” หมำยควำมว่ำ กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเพอให้ด ำรง
ื่
ต ำแหน่งแทนต ำแหน่งที่ว่ำงลงก่อนครบวำระ และวำระกำรอยู่ในต ำแหน่งที่ว่ำงลงนั้นเหลือไม่น้อยกว่ำ

เก้ำสิบวัน

๑ “ระบบอิเล็กทรอนิกส์” หมำยควำมว่ำ ระบบกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ประจ ำชั้นศำลที่ด ำเนินกำรผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด




๑ ข้อ ๓ บทนิยำมคำว่ำ “ระบบอิเล็กทรอนิกส์” เพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือก

กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๐๗





หมวดที่ ๑
กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล


ข้อ ๔ เมื่อมีต ำแหน่งกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลว่ำงลง ไม่ว่ำเพรำะเหตุใด

ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมด ำเนินกำรจัดให้มีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
แทนต ำแหน่งที่ว่ำงลง ตำมวิธีกำรที่ก ำหนดในระเบียบนี้


ข้อ ๕ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมจัดท ำบัญชีรำยชื่อและหมำยเลขบุคคล

ผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม โดยแยกเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรในแต่ละชั้นศำล

ตำมมำตรำ ๑๐ (๒) (ก) (ข) และ (ค) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓

ข้อ ๖ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมจัดส่งบัญชีรำยชื่อและหมำยเลขบุคคล

ผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมตำมข้อ ๕ และบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

พร้อมทั้งแจ้งก ำหนดวันสุดท้ำยที่จะต้องส่งบัตรเลือกกลับให้ถึงส ำนักงำนศำลยุติธรรม รวมตลอดถึง

ก ำหนดวัน เวลำ และสถำนที่ที่จะท ำกำรตรวจนับคะแนนไปยังผู้มีสิทธิเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ทั้งนี้ ต้องด ำเนินกำรให้แล้วเสร็จก่อนก ำหนดวันสุดท้ำยที่จะต้องส่งบัตรเลือกให้ถึงส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวัน และกำรส่งบัญชีรำยชื่อและหมำยเลขบุคคลผู้มีสิทธิรับเลือกนั้น ถ้ำจะส่ง

ทำงไปรษณีย์ให้ส่งโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ

ในกรณีเลือกซ่อม ให้แจ้งชั้นศำลและจ ำนวนต ำแหน่งกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ที่ว่ำงไปด้วย

ก่อนก ำหนดวันสุดท้ำยที่จะต้องส่งบัตรเลือกให้ถึงส ำนักงำนศำลยุติธรรมเจ็ดวัน

ถ้ำผู้มีสิทธิเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ใดยังไม่ได้รับบัญชีรำยชื่อและหมำยเลขบุคคลผู้มีสิทธิรับ

เลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมพร้อมด้วยบัตรเลือก ให้ผู้นั้นรำยงำนเลขำธิกำรส ำนักงำน
ศำลยุติธรรมเพอด ำเนินกำรให้ตนมีโอกำสใช้สิทธิเลือกภำยในก ำหนดวันสุดท้ำยที่จะต้องส่งบัตรเลือก
ื่
ให้ถึงส ำนักงำนศำลยุติธรรม

๒ ข้อ ๗ บัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมให้เป็นไปตำมแบบท้ำยระเบียบนี้

และบัตรทุกบัตรต้องมีลำยมือชื่อของข้ำรำชกำรตุลำกำรคนหนึ่งซึ่งไม่เป็นบุคคลผู้มีสิทธิรับเลือก

เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมแต่งตั้ง โดยควำมยินยอม
ของข้ำรำชกำรตุลำกำรผู้นั้น และรองเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมคนหนึ่งก ำกับไว้เป็นหลักฐำน










๒ ข้อ ๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๗

๘๐๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๘ ให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งมีสิทธิเลือกและประสงค์จะลงคะแนนกรอกบัตรเลือก
โดยเขียนหมำยเลขผู้ซึ่งตนเลือกด้วยตนเอง แล้วใส่ซองบรรจุบัตรเลือกที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม

จัดส่งไปให้ปิดผนึกส่งไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม ถ้ำจะส่งทำงไปรษณีย์ให้ส่งโดยลงทะเบียน

ให้คณะกรรมกำรรับและเก็บรักษำบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมแต่งตั้ง

เจ้ำหน้ำที่ซึ่งสังกัดส ำนักงำนศำลยุติธรรมจ ำนวนไม่น้อยกว่ำสองคน ให้มีหน้ำที่รับซองบัตรเลือก
และจดเลขที่ของซองบัตรเลือกที่ได้รับ เพื่อเป็นหลักฐำนแสดงว่ำได้รับบัตรเลือกแล้ว


ข้อ ๙ ให้มีคณะกรรมกำรรับและเก็บรักษำบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

คณะหนึ่งซึ่งประธำนศำลฎีกำเป็นผู้แต่งตั้ง ประกอบด้วยข้ำรำชกำรตุลำกำรผู้ไม่มีสิทธิรับเลือก

เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมจ ำนวนสำมคนเป็นกรรมกำรโดยให้ผู้มีอำวุโสสูงสุด
เป็นประธำนกรรมกำร

คณะกรรมกำรรับและเก็บรักษำบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมมีหน้ำที่ตรวจรับ

และรวบรวมบัตรเลือกที่ส่งมำยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม รวมทั้งจัดท ำบัญชีจ ำนวนบัตรเลือก

ที่ได้รับมำในแต่ละวัน โดยในแต่ละวันให้น ำบัตรเลือกที่ได้รับนั้นใส่รวมกันไว้ในซองใหญ่

พร้อมกับปิดผนึก ลงวันที่และลงลำยมือชื่อคณะกรรมกำรรับและเก็บรักษำบัตรเลือกกรรมกำรบริหำร
ศำลยุติธรรมก ำกับรอยปิดผนึกแล้วเก็บรักษำเป็นเรื่องลับมำกไว้ที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม และส่งมอบ

ให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนในวันตรวจนับคะแนน


ข้อ ๑๐ ให้มีคณะกรรมกำรด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมคณะหนึ่ง



ประกอบด้วยเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมเป็นประธำนกรรมกำร ผู้พพำกษำศำลฎีกำ ผู้พพำกษำ
ศำลอุทธรณ์ และผู้พพำกษำศำลชั้นต้น ชั้นศำลละสองคน ซึ่งประธำนศำลฎีกำเป็นผู้คัดเลือก

เป็นกรรมกำร โดยให้มีอ ำนำจและหน้ำที่วินิจฉัยชี้ขำดปัญหำ และอ ำนวยกำรในกำรด ำเนินกำร

เลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และให้แต่งตั้ง

คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนน เพื่อช่วยด ำเนินกำรตรวจนับคะแนน
๓ คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนน ประกอบด้วยข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งไม่เป็นบุคคล

ผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมจ ำนวนไม่น้อยกว่ำสิบเอ็ดคนเป็นอนุกรรมกำร


๔ ให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนผู้มีอำวุโสสูงสุดเป็นประธำน ถ้ำประธำนไม่อยู่
หรือไม่อำจปฏิบัติหน้ำที่ได้ ให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนเลือกอนุกรรมตรวจนับคะแนนคนหนึ่ง

ท ำหน้ำที่เป็นประธำนแทน




๓ ข้อ ๑๐ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐
๔ ข้อ ๑๐ วรรคสำม แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๐๙





๕ ในกำรปฏิบัติหน้ำที่ต้องมีอนุกรรมกำรอยู่พร้อมกันไม่น้อยกว่ำสี่คน

ข้อ ๑๑ คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนมีอ ำนำจและหน้ำที่ ดังต่อไปนี้

(๑) รักษำควำมสงบเรียบร้อยในสถำนที่ตรวจนับคะแนน

(๒) ตรวจสอบบัญชีรำยชื่อและหมำยเลขบุคคลผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำร
ศำลยุติธรรมและบัญชีรำยชื่อข้ำรำชกำรตุลำกำรผู้มีสิทธิเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

(๓) ตรวจสอบบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม และกำรอื่นใดอันเกี่ยวกับ

ื่
กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม เพอให้กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเป็นไปด้วย
ควำมเรียบร้อย บริสุทธิ์ และยุติธรรม

(๔) ด ำเนินกำรเกี่ยวกับกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ตรวจนับคะแนน
และประกำศผลกำรตรวจนับคะแนนตำมที่ก ำหนดในระเบียบนี้


ข้อ ๑๒ ในกำรตรวจนับคะแนน ให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนเปิดซองบัตรเลือก

และวินิจฉัยว่ำบัตรเลือกนั้นเป็นบัตรดี บัตรเสียบำงส่วนหรือบัตรเสีย แล้วด ำเนินกำรนับคะแนน

ส ำหรับบัตรดีและบัตรเสียบำงส่วนเฉพำะส่วนที่ไม่เสีย
บัตรเสียบำงส่วนหรือบัตรเสีย ให้อนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนสลักหลังว่ำ “เสียบำงส่วน”

หรือ “เสีย” แล้วแต่กรณี แล้วให้อนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนไม่น้อยกว่ำสี่คนลงลำยมือชื่อก ำกับไว้

เมื่อกำรตรวจนับคะแนนสิ้นสุดลงแล้ว ให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนเก็บ

ื่
บัตรเลือกที่ใช้นับคะแนนโดยแยกบัตรเสียบำงส่วนและบัตรเสียบรรจุซองหรือห่อไว้ต่ำงหำก เพอมิให้
ปะปนกับบัตรเลือกอื่นและเก็บบัตรเลือกที่ใช้นับคะแนนทั้งหมดไว้ด้วยกันในหีบโดยปิดหีบใส่กุญแจ
ประจ ำครั่งทับรูกุญแจไว้ หำกเป็นหีบบัตรเลือกที่มีช่อง ให้เอำกระดำษปิดทับช่องไว้โดยลงลำยมือชื่อ

คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนไว้บนกระดำษนั้นด้วย และเก็บรักษำไว้ที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

เพื่อส่งมอบให้คณะกรรมกำรท ำลำยบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมด ำเนินกำรต่อไปตำมข้อ ๑๗

กำรด ำเนินกำรตำมวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสำม ให้กระท ำในวัน เวลำ
และสถำนที่ที่ก ำหนดในข้อ ๖ วรรคหนึ่ง และต้องกระท ำโดยเปิดเผยให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้ำร่วม

สังเกตกำรณ์ได้และให้กระท ำจนเสร็จในครำวเดียว













๕ ข้อ ๑๐ วรรคสี่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐

๘๑๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๑๓ บัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมต่อไปนี้ ให้ถือเป็นบัตรเสีย และไม่ให้
นับคะแนน

(๑) ในกรณีกำรเลือกตำมวำระ

๖ (ก) บัตรที่ไม่ใช่บัตรที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมส่งไปให้ หรือบัตรที่ไม่มี

ลำยมือชื่อตำมข้อ ๗ ก ำกับเป็นหลักฐำน

(ข) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

เกินจ ำนวนที่กฎหมำยก ำหนดทั้งสำมชั้นศำล

(ค) บัตรที่มิได้เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

(ง) บัตรที่เขียนหมำยเลขอื่นที่ไม่มีในบัญชีรำยชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำร
บริหำรศำลยุติธรรมทั้งหมด

(จ) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ซึ่งเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรในแต่ละชั้นศำลตำมมำตรำ ๑๐ (๒) (ก) (ข) และ (ค) แห่งพระรำชบัญญัติ

ระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ สลับช่องทั้งหมด

(ฉ) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมทั้งหมด
เลอะเลือนหรือไม่ชัดเจน จนไม่สำมำรถทรำบเจตนำอันแท้จริงของผู้เลือกได้ว่ำลงคะแนนให้แก่ผู้มีสิทธิ

รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมหมำยเลขใด


(ช) บัตรที่ไปถึงส ำนักงำนศำลยุติธรรมพนก ำหนดวันสุดท้ำยที่เลขำธิกำรส ำนักงำน
ศำลยุติธรรมก ำหนดให้ส่งตำมข้อ ๖ วรรคหนึ่ง

(๒) ในกรณีกำรเลือกซ่อม
(ก) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

เกินจ ำนวนต ำแหน่งที่ว่ำง

(ข) บัตรที่มีกรณีตำม (๑) (ก) (ค) (ง) (จ) (ฉ) หรือ (ช)

ข้อ ๑๔ บัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมต่อไปนี้ ให้ถือเป็นบัตรเสียบำงส่วน

ซึ่งไม่ให้นับคะแนนส่วนที่เสียและให้นับคะแนนส่วนที่ไม่เสียเท่ำนั้น

(๑) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

เฉพำะในบำงชั้นศำลเกินจ ำนวนที่กฎหมำยก ำหนด
(๒) บัตรที่เขียนหมำยเลขอื่นที่ไม่มีในบัญชีรำยชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ปนกับหมำยเลขที่มีในบัญชีรำยชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





๖ ข้อ ๑๓ (๑) (ก) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๑๑





(๓) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ซึ่งเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรในแต่ละชั้นศำลตำมมำตรำ ๑๐ (๒) (ก) (ข) และ (ค) แห่งพระรำชบัญญัติ

ระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ สลับช่องบำงคน

(๔) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ซ้ ำกับหมำยเลขที่เขียนไว้ก่อนแล้ว
(๕) บัตรที่เขียนหมำยเลขผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมบำงหมำยเลข

เลอะเลือนหรือไม่ชัดเจนจนไม่สำมำรถทรำบเจตนำอันแท้จริงของผู้เลือกได้ว่ำลงคะแนนให้แก่ผู้มีสิทธิ

รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมหมำยเลขใด


ข้อ ๑๕ ในกำรเลือกตำมวำระนั้น ให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรในแต่ละชั้นศำลตำมมำตรำ ๑๐
(๒) (ก) (ข) และ (ค) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งได้คะแนน

มำกตำมล ำดับลงมำตำมจ ำนวนที่ก ำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งมำตรำดังกล่ำวเป็นผู้ได้รับเลือก

เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมในแต่ละชั้นศำล

ในกรณีที่ผู้มีสิทธิรับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมหลำยคนได้คะแนนเท่ำกัน

จนเป็นเหตุให้ไม่สำมำรถเรียงล ำดับผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมตำมจ ำนวน
กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมที่จะมีได้ ให้ท ำกำรจับสลำก เพื่อให้ได้ผู้ได้รับเลือกครบตำมที่จะพึงมีได้

กำรจับสลำก ให้ประธำนกรรมกำรด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

เป็นผู้จับโดยเปิดเผยและต่อหน้ำอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนไม่น้อยกว่ำกึ่งหนึ่ง

เมื่อทรำบผลผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมแล้ว ให้ประธำนอนุกรรมกำร

ตรวจนับคะแนนประกำศชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมต่อหน้ำผู้ซึ่งอยู่ ณ สถำนที่
ที่ท ำกำรตรวจนับคะแนนแล้วปิดประกำศรำยชื่อบุคคลดังกล่ำวไว้ ณ สถำนที่นั้นด้วย

และให้คณะอนุกรรมกำรตรวจนับคะแนนรีบรำยงำนผลกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ต่อคณะกรรมกำรด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม พร้อมทั้งส่งประกำศรำยชื่อผู้ได้รับเลือก

เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมภำยในวันนั้นหรือวันถัดจำก
วันทรำบผลนั้นเป็นอย่ำงช้ำ

ในกรณีที่เป็นกำรเลือกซ่อม ให้น ำควำมในวรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสำมและวรรคสี่

มำใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๑๖ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรำยงำนผลกำรเลือกกรรมกำรบริหำร

ื่
ศำลยุติธรรมต่อประธำนศำลฎีกำเพอด ำเนินกำรประกำศชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำร
ศำลยุติธรรมตำมมำตรำ ๑๐ (๒) (ก) (ข) และ (ค) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ ต่อไป

๘๑๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๑๗ ให้มีคณะกรรมกำรท ำลำยบัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมคณะหนึ่ง
ซึ่งประธำนศำลฎีกำเป็นผู้แต่งตั้ง ประกอบด้วยข้ำรำชกำรตุลำกำรจ ำนวนสำมคนเป็นกรรมกำร

ื่
โดยให้ผู้มีอำวุโสสูงสุดเป็นประธำนกรรมกำร เพอด ำเนินกำรท ำลำยบัตรเลือกกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรมด้วยเครื่องท ำลำยเอกสำร เมื่อพนก ำหนดเก้ำสิบวันนับแต่วันที่ประธำนศำลฎีกำ
ประกำศชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม


หมวดที่ ๒

กำรเลือกคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ

ข้อ ๑๘ เมื่อมีต ำแหน่งกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิว่ำงลงไม่ว่ำเพรำะเหตุใด

ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมจัดให้มีกำรประชุมระหว่ำงประธำนศำลฎีกำและกรรมกำร

ื่

บริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล ภำยในเวลำที่ประธำนศำลฎีกำก ำหนด เพอพจำรณำด ำเนินกำร
เลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิแทนต ำแหน่งที่ว่ำงลง

ประธำนศำลฎีกำและกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลแต่ละคน มีสิทธิ
เสนอชื่อและประวัติผู้สมควรเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินจ ำนวนต ำแหน่งที่ว่ำง

ในกรณีที่มีปัญหำเกี่ยวด้วยคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับกำรเสนอชื่อคนใด ที่ประชุม

อำจมอบหมำยให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมตรวจสอบคุณสมบัติผู้นั้นเสนอต่อที่ประชุมก็ได้

หำกที่ประชุมเห็นว่ำผู้ที่ได้รับกำรเสนอชื่อคนใดขำดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ำมให้เลขำธิกำร
ส ำนักงำนศำลยุติธรรมคัดชื่อผู้นั้นออก


ข้อ ๑๙ ในกำรออกเสียงลงมติเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ

ให้กรรมกำรลงคะแนนเลือกผู้ที่ได้รับกำรเสนอชื่อตำมข้อ ๑๘ ทีละคน โดยวิธีกำรยกมือ และให้ผู้ที่ได้รับ
คะแนนถึงกึ่งหนึ่งของกรรมกำรที่มีอยู่ทั้งหมดเป็นผู้มีสิทธิได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ผู้ทรงคุณวุฒิและให้คัดผู้ที่ได้รับคะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของกรรมกำรที่มีอยู่ทั้งหมดออก

ให้กรรมกำรแต่ละคนมีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้มีสิทธิได้รับเลือกตำมวรรคหนึ่งได้ไม่เกิน

จ ำนวนต ำแหน่งที่ว่ำง โดยวิธีกำรเขียนชื่อบุคคลที่ตนเลือกในบัตรลงคะแนนที่จัดไว้หรือวิธีกำรอื่นใด

ที่ที่ประชุมก ำหนด และให้ผู้ซึ่งได้คะแนนมำกตำมล ำดับลงมำตำมจ ำนวนต ำแหน่งที่ว่ำงเป็นผู้ได้รับเลือก
เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ

ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิตำมวรรคสอง

ได้คะแนนเท่ำกันจนเป็นเหตุให้ไม่สำมำรถเรียงล ำดับผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ื่
ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ประธำนศำลฎีกำจับสลำกเพอให้ได้กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ
ครบตำมต ำแหน่งที่ว่ำง

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๑๓





ให้ประธำนศำลฎีกำด ำเนินกำรประกำศรำยชื่อกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ผู้ทรงคุณวุฒิโดยเร็ว



๗ หมวดที่ ๓
กำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล

ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๒๐ ภำยใต้บังคับข้อ ๔ เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมอำจจัดให้มีกำรเลือก

กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้


ข้อ ๒๑ นอกจำกหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำล
ที่ก ำหนดไว้เป็นกำรเฉพำะในหมวดนี้ ให้น ำหลักเกณฑและวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ประจ ำชั้นศำล ที่ก ำหนดในหมวดที่ ๑ มำใช้บังคับโดยอนุโลม


ข้อ ๒๒ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในกำรเลือก ต้องมีคุณสมบัติอย่ำงน้อยดังต่อไปนี้
(๑) มีระบบรักษำควำมปลอดภัยที่น่ำเชื่อถือ

(๒) คะแนนที่ได้รับระหว่ำงด ำเนินกำรเลือกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นควำมลับ

ไม่มีผู้ใดรู้ผลคะแนนล่วงหน้ำ

(๓) ต้องไม่สำมำรถทรำบได้ว่ำข้ำรำชกำรตุลำกำรคนใดลงคะแนนเลือกผู้ใด
(๔) รำยงำนผลกำรตรวจนับคะแนนได้ทันทีเมื่อสิ้นสุดระยะเวลำด ำเนินกำรเลือก


ข้อ ๒๓ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมประกำศให้มีกำรเลือกกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งก ำหนดระยะเวลำตรวจสอบรำยชื่อ
ผู้มีสิทธิเลือกและระยะเวลำกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลด้วย


ข้อ ๒๔ ให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งมีสิทธิเลือกและประสงค์จะลงคะแนน ตรวจสอบ

รำยชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลผ่ำนระบบอิเล็กทรอนิกส์ หำกพบว่ำไม่มีรำยชื่อหรือข้อมูลส่วนบุคคล

ิ่
ื่
ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ให้ผู้นั้นแจ้งเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมเพอด ำเนินกำรให้เพมรำยชื่อ
หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ครบถ้วนหรือถูกต้องภำยในระยะเวลำที่ก ำหนดตำมข้อ ๒๓ ตำมหลักเกณฑ ์
และวิธีกำรที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด











๗ หมวดที่ ๓ ตั้งแต่ข้อ ๒๐ ถึงข้อ ๒๗ เพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือกกรรมกำรบริหำร
ศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒

๘๑๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๒๕ ให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรซึ่งมีสิทธิเลือกและประสงค์จะลงคะแนน เข้ำระบบ
ื่
อิเล็กทรอนิกส์เพอด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมประจ ำชั้นศำลภำยในระยะเวลำ
ที่ก ำหนดตำมข้อ ๒๓ ตำมหลักเกณฑและวิธีกำรที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด ทั้งนี้ ให้ถือ

ตำมเวลำของระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๒๖ ให้คณะกรรมกำรด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเข้ำระบบ

ื่
อิเล็กทรอนิกส์เพอด ำเนินกำรให้มีกำรประมวลผลคะแนนกำรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ประจ ำชั้นศำล ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด


ข้อ ๒๗ กำรด ำเนินกำรตำมข้อ ๒๖ ให้กระท ำโดยเปิดเผยและเมื่อทรำบผลผู้ได้รับเลือก
เป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมแล้ว ให้ประธำนคณะกรรมกำรด ำเนินกำรเลือกกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรมประกำศชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมต่อหน้ำผู้ซึ่งอยู่ ณ สถำนที่ที่ท ำกำร

ประมวลผลแล้วปิดประกำศรำยชื่อบุคคลดังกล่ำวไว้ ณ สถำนที่นั้นด้วย พร้อมทั้งส่งประกำศรำยชื่อ

ผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมไปยังเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมภำยในวันนั้น

หรือวันถัดจำกวันทรำบผลนั้นเป็นอย่ำงช้ำ


ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๔๔


(ลงชื่อ) ธวัชชัย พิทักษ์พล


(นำยธวัชชัย พิทักษ์พล)
ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๑๕







(สีเหลืองอ่อน)








๘ บัตรเลือกกรรมการบริหารศาลยุติธรรม

.................................................................. ..................................................................
ข้ำรำชกำรตุลำกำร รองเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม
วันที่ .......... เดือน .................. พ.ศ. ........ วันที่ ........ เดือน ................ พ.ศ. .........




ข้าพเจ้าเลือกกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ตามมาตรา ๑๐(๒) แห่งพระราชบัญญติระเบียบบริหาร
ราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ ดังต่อไปน ี้


(ก) ศำลฎีกำ
๑. หมำยเลข ......................

๒. หมำยเลข ......................
๓. หมำยเลข ......................
๔. หมำยเลข ......................


(ข) ศำลอุทธรณ์

๑. หมำยเลข ......................
๒. หมำยเลข ......................
๓. หมำยเลข ......................

๔. หมำยเลข ......................


(ค) ศำลชั้นต้น
๑. หมำยเลข ......................

๒. หมำยเลข ......................
๓. หมำยเลข ......................
๔. หมำยเลข ......................


(สีเหลืองอ่อน)



๘ บัตรเลือกกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรเลือก
กรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗

กลุ่มที่ ๕





การศึกษา ฝึกอบรม ประเมินผล

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๑๗





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรแต่งตั้งที่ปรึกษำ อำจำรย์พิเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญ

ประจ ำสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

พ.ศ. ๒๕๔๖





โดยที่เป็นกำรสมควรก ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีกำรในกำรแต่งตั้งที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ

หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม อำศัยอ ำนำจ
ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ มำตรำ ๑๗ (๑) คณะกรรมกำร
บริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วย



กำรแต่งตั้งที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร
ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๖”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบัน

พัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณและควำมประพฤติเป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไป

(๒) มีควำมรู้ควำมเชี่ยวชำญทำงนิติศำสตร์ เศรษฐศำสตร์ รัฐศำสตร์ กำรเงินกำรคลัง

จิตวิทยำ สังคมวิทยำ ภำษำต่ำงประเทศ เทคโนโลยีสำรสนเทศ หรือด้ำนอื่น ตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม
เห็นสมควร

(๓) มีสุขภำพร่ำงกำยและจิตใจเหมำะสมที่จะปฏิบัติหน้ำที่ได้


ข้อ ๔ ที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบันพฒนำข้ำรำชกำร


ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ได้รับค่ำตอบแทนจำกงบประมำณของส ำนักงำนศำลยุติธรรม
ในอัตรำเดือนละ ๘,๐๐๐ – ๓๕,๐๐๐ บำท


กำรก ำหนดอัตรำค่ำตอบแทนให้พจำรณำจำกขอบเขตหน้ำที่ของต ำแหน่งที่จะแต่งตั้ง
ประกอบคุณวุฒิกำรศึกษำ ควำมรู้ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ในกำรปฏิบัติงำน


ข้อ ๕ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมเสนอควำมจ ำเป็นในกำรจ้ำง และจ ำนวนของที่ปรึกษำ
อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม


ต่อคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม เพื่อให้ควำมเห็นชอบในหลักกำร

๘๑๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมด ำเนินกำรคัดสรรบุคคลเข้ำด ำรงต ำแหน่ง
และเสนอรำยชื่อ พร้อมทั้งระยะเวลำในกำรด ำรงต ำแหน่ง อัตรำค่ำตอบแทน ขอบเขตหน้ำที่

และรำยละเอียดอื่นตำมที่คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมก ำหนด ต่อคณะกรรมกำรบริหำร


ื่
ศำลยุติธรรม เพอให้ควำมเห็นชอบก่อนมีค ำสั่งแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญ
ประจ ำสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

ข้อ ๖ ในกำรแต่งตั้งบุคคลตำมข้อ ๓ ให้ก ำหนดระยะเวลำในกำรด ำรงต ำแหน่ง

อัตรำค่ำตอบแทน และขอบเขตหน้ำที่ของที่ปรึกษำ อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบัน


พฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมไว้ในค ำสั่งแต่งตั้งด้วย ทั้งนี้ระยะเวลำในกำรด ำรงต ำแหน่ง
แต่ละครั้งต้องไม่เกินหนึ่งปี และผู้ที่ได้รับกำรแต่งตั้งจะเริ่มปฏิบัติงำนได้ต่อเมื่อได้ท ำสัญญำ
กับส ำนักงำนศำลยุติธรรมแล้ว


ข้อ ๗ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมจัดท ำรำยงำนผลกำรปฏิบัติหน้ำที่ของที่ปรึกษำ



อำจำรย์พเศษ หรือผู้เชี่ยวชำญประจ ำสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม
เสนอต่อคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ทุก ๖ เดือน

ข้อ ๘ กรณีมีควำมจ ำเป็นที่จะต้องแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ หรือในอัตรำค่ำตอบแทน

ที่แตกต่ำงไปจำกที่ระบุไว้ในข้อ ๓ และข้อ ๔ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมเสนอขอควำมเห็นชอบ

ต่อคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมเป็นรำยกรณีไป

ข้อ ๙ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรักษำกำรตำมระเบียบนี้


ประกำศ ณ วันที่ ๑๓ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๔๖



(ลงชื่อ) อรรถนิติ ดิษฐอ ำนำจ

(นำยอรรถนิติ ดิษฐอ ำนำจ)

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๑๙





ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง

พ.ศ. ๒๕๕๓




โดยที่เป็นกำรสมควรปรับปรุงระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำร

บริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้มีควำมเหมำะสมยิ่งขึ้น


อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) และ (๗) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำร
รำชกำรศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ออกระเบียบไว้

ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำร

หลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง พ.ศ. ๒๕๕๓”

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ยกเลิก

(๑) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำร

กระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง พ.ศ. ๒๕๔๔

(๒) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำร

กระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗
(๓) ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำร

กระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗


ข้อ ๔ ในระเบียบนี้

“วิทยำลัย” หมำยควำมว่ำ วิทยำลัยกำรยุติธรรม สังกัดสถำบันพฒนำข้ำรำชกำร

ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

“คณะกรรมกำร” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำร

ยุติธรรมระดับสูง

ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง

คณะหนึ่ง ประกอบด้วย

(๑) ประธำนศำลฎีกำ เป็นประธำนกรรมกำร



(๒) กรรมกำรโดยต ำแหน่ง ได้แก่ ประธำนศำลอุทธรณ์ อธิบดีผู้พพำกษำศำลแพง
และอธิบดีผู้พิพำกษำศำลอำญำ

๘๒๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๓) เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำร
(๔) กรรมกำรซึ่งเป็นผู้แทนของคณะกรรมกำรโดยต้องมำจำกผู้เป็นกรรมกำร

และผู้แทนศำลในศำลยุติธรรมหน่วยงำนละหนึ่งคน ได้แก่

(ก) คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

(ข) คณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม
(ค) คณะกรรมกำรข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม

๑ (ง) อธิบดีผู้พิพำกษำศำลช ำนัญพิเศษ ซึ่งคัดเลือกและแต่งตั้งโดยคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม


(๕)กรรมกำรซึ่งเป็นผู้แทนของหน่วยงำนต่ำง ๆ หน่วยงำนละหนึ่งคน ได้แก่
(ก) ปลัดกระทรวงยุติธรรม หรือรองปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ได้รับมอบหมำย
(ข) อัยกำรสูงสุด หรือรองอัยกำรสูงสุดที่ได้รับมอบหมำย

(ค) ผู้บัญชำกำรต ำรวจแห่งชำติ หรือรองผู้บัญชำกำรต ำรวจแห่งชำติที่ได้รับมอบหมำย

(ง) ผู้อ ำนวยกำรส ำนักงบประมำณ หรือรองผู้อ ำนวยกำรส ำนักงบประมำณที่ได้รับ

มอบหมำย

(จ) ปลัดกระทรวงกำรต่ำงประเทศ หรือรองปลัดกระทรวงกำรต่ำงประเทศที่ได้รับ
มอบหมำย

(ฉ) นำยกสภำทนำยควำม หรืออุปนำยกสภำทนำยควำมที่ได้รับมอบหมำย

(๖) กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิด้ำนกำรเมืองกำรปกครอง ด้ำนเศรษฐกิจด้ำนกฎหมำย

ด้ำนกำรบริหำรและกำรจัดกำร จ ำนวนไม่เกิน ๔ คน ซึ่งคัดเลือกและแต่งตั้งโดยคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรมจำกบุคคลซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรหรือข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม
๒ (๗) ผู้อ ำนวยกำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง เป็นกรรมกำร


๓ (๘) รองเลขำธิกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม เป็นกรรมกำร

และเลขำนุกำร และให้ผู้อ ำนวยกำรสถำบันพฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมและผู้อ ำนวยกำร
วิทยำลัยกำรยุติธรรม เป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร









๑ ข้อ ๕ (๔) (ง) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑
๒ ข้อ ๕ (๗) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑
ข้อ ๕ (๘) แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง
๓ ๓
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๒๑




๔ ข้อ ๕/๑ ให้เลขำธิกำรสถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมเป็นผู้อ ำนวยกำร
หลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง


ข้อ ๖ คณะกรรมกำรมีอ ำนำจและหน้ำที่ควบคุมดูแลให้กำรอบรมหลักสูตรผู้บริหำร

กระบวนกำรยุติธรรมระดับสูงเป็นไปโดยเรียบร้อย และโดยเฉพำะให้มีอ ำนำจหน้ำที่ดังนี้
(๑) ก ำหนดนโยบำยและควบคุมดูแลกำรด ำเนินงำนของวิทยำลัยกำรยุติธรรมอันเกี่ยวเนื่อง

กับกำรอบรม

(๒) อนุมัติโครงกำรและหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง

(๓) อนุมัติจ ำนวนและรำยนำมบุคคลผู้มีสิทธิเข้ำรับกำรอบรมหลักสูตรผู้บริหำรกระบวน

กำรยุติธรรมระดับสูง
(๔) อนุมัติให้วุฒิบัตรแก่ผู้ส ำเร็จกำรอบรม

(๕) อนุมัติให้เข็มวิทยฐำนะแก่ผู้ส ำเร็จกำรอบรมและบุคคลผู้ท ำคุณประโยชน์อย่ำงยิ่ง

แก่ศำลยุติธรรม ส ำนักงำนศำลยุติธรรม และกระบวนกำรยุติธรรมของประเทศ


(๖)แต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลเพื่อด ำเนินกิจกำรใด ๆ ตำมแต่ที่จะได้รับมอบหมำย
(๗) พิจำรณำควำมเห็นอื่น ๆ เกี่ยวกับกำรบริหำรหลักสูตร

ข้อ ๗ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระอยู่ในต ำแหน่งครำวละสองปี


ในกรณีที่กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิพนจำกต ำแหน่งก่อนครบวำระให้ผู้ได้รับกำรแต่งตั้ง
ด ำรงต ำแหน่งแทนอยู่ในต ำแหน่งเท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้ง

ไว้แล้ว กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจำกต ำแหน่งตำมวำระอำจได้รับกำรแต่งตั้งอีก ๑ วำระ



ข้อ ๘ นอกจำกพนจำกต ำแหน่งตำมวำระตำมข้อ ๗ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ พนจำก
ต ำแหน่งเมื่อ
(๑) ตำย

(๒) ลำออก

(๓) เป็นบุคคลล้มละลำย

(๔) เป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ

(๕) ได้รับโทษจ ำคุกโดยค ำพพำกษำถึงที่สุดให้จ ำคุก เว้นแต่เป็นโทษส ำหรับควำมผิด

ที่ได้กระท ำโดยประมำท หรือควำมผิดลหุโทษ








๔ ข้อ ๕/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรบริหำรหลักสูตรผู้บริหำรกระบวนกำรยุติธรรมระดับสูง
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑

๘๒๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๙ กำรประชุมคณะกรรมกำรต้องมีกรรมกำรมำประชุมไม่น้อยกว่ำกึ่งหนึ่ง
ของจ ำนวนกรรมกำรทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม

ในกำรประชุมคณะกรรมกำร ถ้ำประธำนไม่มำหรือไม่อำจปฏิบัติหน้ำที่ได้ ให้ที่ประชุม

เลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนในที่ประชุม

กำรวินิจฉัยชี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก
กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในกำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสียงเท่ำกัน ให้ประธำน

ออกเสียงเพิ่มขึ้นหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขำด

ให้คณะกรรมกำรได้รับเบี้ยประชุมตำมบัญชี ๔ แนบท้ำยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำร

ศำลยุติธรรม ว่ำด้วยเบี้ยประชุมกรรมกำร อนุกรรมกำร และค่ำตอบแทนบุคคลหรือคณะบุคคล

(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓

ข้อ ๑๐ เข็มวิทยฐำนะตำมข้อ ๖ (๕) ให้เป็นไปตำมแบบที่คณะกรรมกำรก ำหนด

โดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม


ข้อ ๑๑ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรักษำกำรตำมระเบียบนี้


ประกำศ ณ วันที่ ๑๒ พฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๕๓


(ลงชื่อ) สบโชค สุขำรมณ์


(นำยสบโชค สุขำรมณ์)
ประธำนศำลฎีกำ

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๒๓




ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม
ว่ำด้วยกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย และดูงำน ณ ต่ำงประเทศ

พ.ศ. ๒๕๔๙




โดยที่เป็นกำรสมควรวำงระเบียบว่ำด้วยกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย และดูงำน

ณ ต่ำงประเทศ อำศัยอ ำนำจตำมควำมในมำตรำ ๑๗ (๑) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำร

ศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ คณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) จึงออกระเบียบว่ำด้วย

กำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย และดูงำน ณ ต่ำงประเทศ ไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่ำ “ระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วย

กำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย และดูงำน ณ ต่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๙”


ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกำศเป็นต้นไป

ข้อ ๓ บรรดำระเบียบในส่วนที่มีก ำหนดไว้แล้วหรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้

ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
กำรใดมิได้ก ำหนดไว้ในระเบียบนี้ให้เป็นไปตำมที่ก ำหนดไว้ในระเบียบส ำนักนำยกรัฐมนตรี

ว่ำด้วยกำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย และดูงำน ณ ต่ำงประเทศ โดยอนุโลม

เว้นแต่ ก.บ.ศ. จะมีมติเป็นอย่ำงอื่น


ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ข้ำรำชกำร” หมำยควำมว่ำ ข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรมตำมพระรำชบัญญัติ

ระเบียบข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

“คณะอนุกรรมกำร” หมำยควำมว่ำ คณะอนุกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมด้ำนกิจกำร

ต่ำงประเทศที่ก ำหนดไว้ในระเบียบนี้

ิ่
“ศึกษำ” หมำยควำมว่ำ กำรเพมพนควำมรู้ด้วยกำรเรียนหรือกำรวิจัยตำมหลักสูตร

ของสถำบันกำรศึกษำหรือสถำบันวิชำชีพ เพอให้ได้มำซึ่งปริญญำหรือประกำศนียบัตรวิชำชีพ
ื่
ที่คณะกรรมกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม (ก.ต.) หรือ ก.พ. รับรอง และหมำยควำมรวมตลอดถึง

กำรฝึกฝนภำษำและกำรรับค ำแนะน ำก่อนเข้ำศึกษำและกำรฝึกอบรม หรือกำรดูงำนที่เป็นส่วนหนึ่ง

ของกำรศึกษำหรือต่อจำกกำรศึกษำนั้นด้วย

“ฝึกอบรม” หมำยควำมว่ำ กำรเพมพนควำมรู้ ควำมช ำนำญ หรือประสบกำรณ์

ิ่
ด้วยกำรเรียน หรือกำรวิจัยตำมหลักสูตรของกำรฝึกอบรม หรือกำรสัมมนำอบรมเชิงปฏิบัติกำร
กำรด ำเนินงำนตำมโครงกำรแลกเปลี่ยนกับต่ำงประเทศ กำรไปเสนอผลงำนทำงวิชำกำรและกำรประชุม

๘๒๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ื่
เชิงปฏิบัติกำร ทั้งนี้ โดยมิได้มีวัตถุประสงค์เพอให้ได้มำซึ่งปริญญำหรือประกำศนียบัตรวิชำชีพที่ ก.ต.
หรือ ก.พ. รับรอง และหมำยควำมตลอดถึงกำรฝึกฝนภำษำ และกำรรับค ำแนะน ำก่อนเข้ำฝึกอบรม

หรือกำรดูงำนที่เป็นส่วนหนึ่งของกำรฝึกอบรมหรือต่อจำกกำรฝึกอบรมนั้นด้วย

ื่
“ปฏิบัติกำรวิจัย” หมำยควำมว่ำ กำรท ำงำนวิจัยเพอน ำผลที่ได้รับมำใช้ประโยชน์
ของศำลยุติธรรมโดยตรง ซึ่งไม่รวมถึงกำรวิจัยตำมลักษณะของกำรศึกษำหรือฝึกอบรม โดยต้องอยู่
ภำยใต้หลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้



(๑) ผู้วิจัยจะต้องเป็นนักวิจัยที่มีผลงำนวิจัยที่เป็นประโยชน์ และได้ตีพมพเผยแพร่
ในระดับนำนำชำติมำแล้วอย่ำงน้อยสองผลงำน

(๒) เป็นกำรวิจัยที่สอดคล้องกับยุทธศำสตร์ศำลยุติธรรม โครงกำรหรือแผนงำน

ที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมด ำเนินงำนอยู่หรือเตรียมที่จะด ำเนินงำน และหัวข้อวิจัยเป็นส่วนหนึ่ง
ของแผนงำนวิจัยของส ำนักงำนศำลยุติธรรม ซึ่งก ำหนดผู้รับผิดชอบและมีงบประมำณรองรับชัดเจน

หรือหำกเตรียมที่จะด ำเนินกำรจะต้องมีแผนงำนรองรับที่ชัดเจนที่จะให้ข้ำรำชกำรกลับมำด ำเนินกำรวิจัย

ต่อไป และหัวข้อวิจัยเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยตรง

(๓) เป็นกำรปฏิบัติกำรวิจัยที่หัวข้อกำรวิจัยอยู่ในโครงกำรควำมร่วมมือระหว่ำง

ศำลยุติธรรมไทยกับศำลต่ำงประเทศ รัฐบำลต่ำงประเทศ องค์กำรระหว่ำงประเทศ องค์กำรต่ำงประเทศ
หรือนิติบุคคลต่ำงประเทศ โดยเป็นกำรปฏิบัติกำรวิจัยซึ่งเจ้ำของทุนให้แก่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมโดยตรง

(๔) ค่ำใช้จ่ำยในกำรปฏิบัติกำรวิจัยและค่ำครองชีพส ำหรับข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติ

ให้ไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ ตลอดจนค่ำพำหนะเดินทำงไปกลับ จะต้องไม่เบิกจ่ำย

จำกเงินงบประมำณ และจะต้องไม่เป็นไปในลักษณะว่ำจ้ำง

(๕) เป็นกำรปฏิบัติกำรวิจัยตำมโครงกำรและแผนปฏิบัติงำนที่ได้รับควำมเห็นชอบ
จำกส ำนักงำนศำลยุติธรรมแล้ว

“ดูงำน” หมำยควำมว่ำ กำรเพมพนควำมรู้หรือประสบกำรณ์ด้วยกำรสังเกตกำรณ์
ิ่

และกำรแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น และต้องเป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

หรือต่อจำกกำรศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ อันถือเป็นกำรศึกษำหรือฝึกอบรมด้วย
ื่
“ทุน” หมำยควำมว่ำ เงินค่ำใช้จ่ำยเพอกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน
และเพอกำรครองชีพระหว่ำงศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน และหมำยควำมรวมตลอดถึง
ื่
เงินค่ำพำหนะเดินทำงเพื่อกำรนี้ด้วย แต่ไม่รวมถึงเงินที่ได้รับเป็นค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงไปรำชกำร

“ทุนประเภท ๑” หมำยควำมว่ำ ทุนดังต่อไปนี้
(ก) ทุนที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมเป็นผู้ให้ ทั้งนี้ ไม่ว่ำทุนนั้นจะจ่ำยจำกงบประมำณ

รำยจ่ำย หรือจำกเงินอื่นใดของทำงรำชกำร

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๒๕




(ข) ทุนที่รัฐบำลต่ำงประเทศ องค์กำรระหว่ำงประเทศ องค์กำรต่ำงประเทศ
ื่
หรือนิติบุคคลต่ำงประเทศ มอบให้รัฐบำลไทยเพอส่งข้ำรำชกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย

หรือดูงำน ณ ต่ำงประเทศ และรัฐบำลไทยตกลงรับทุนนั้น ตำมที่ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพื่อกำรพฒนำ
ระหว่ำงประเทศจะได้ประกำศให้ทรำบ ทั้งนี้ ไม่ว่ำทุนนั้นจะจ่ำยผ่ำนส ำนักงำนศำลยุติธรรม

หรือจ่ำยให้ผู้รับทุนโดยตรง หรือจ่ำยโดยวิธีกำรอื่นใด
(ค) ทุนที่นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดำในประเทศมอบให้แก่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ื่
เพอส่งข้ำรำชกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน ณ ต่ำงประเทศ โดย ก.บ.ศ.
หรือผู้ที่ ก.บ.ศ. พิจำรณำมอบหมำย พิจำรณำเห็นชอบ

“ทุนประเภท ๒” หมำยควำมว่ำ ทุนอื่นที่มิใช่ทุนประเภท ๑

ข้อ ๕ ให้ประธำน ก.บ.ศ. รักษำกำรตำมระเบียบนี้ โดยให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ด ำเนินกำรเกี่ยวกับปัญหำในทำงปฏิบัติตำมระเบียบนี้ หำกไม่ได้ข้อยุติ ให้น ำเสนอคณะอนุกรรมกำร

เป็นผู้พิจำรณำวินิจฉัย


หมวด ๑
คณะอนุกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมด้ำนกิจกำรต่ำงประเทศ


ข้อ ๖ ให้มีคณะอนุกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรมด้ำนกิจกำรต่ำงประเทศคณะหนึ่ง

ประกอบด้วย

(๑) รองประธำนศำลฎีกำที่ประธำนศำลฎีกำมอบหมำย เป็นประธำนอนุกรรมกำร
(๒) อนุกรรมกำรที่ ก.บ.ศ. เป็นผู้เลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรในแต่ละชั้นศำล

ซึ่งต้องเป็นผู้ที่ได้รับปริญญำทำงกฎหมำยจำกต่ำงประเทศและมีผลกำรปฏิบัติรำชกำร ด้ำนงำนวิชำกำร

ต่ำงประเทศของศำลยุติธรรม และเป็นไปตำมหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(ก) ศำลฎีกำ ให้เลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรที่ด ำรงต ำแหน่งในศำลฎีกำในต ำแหน่ง

ที่ไม่ต่ ำกว่ำผู้พิพำกษำศำลฎีกำ จ ำนวน ๑ คน
(ข) ศำลอุทธรณ์ ให้เลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรที่ด ำรงต ำแหน่งในศำลอุทธรณ์



และศำลอุทธรณ์ภำคในต ำแหน่งที่ไม่ต่ ำกว่ำผู้พพำกษำศำลอุทธรณ์หรือผู้พพำกษำศำลอุทธรณ์ภำค
จ ำนวน ๑ คน และ

(ค) ศำลชั้นต้น ให้เลือกจำกข้ำรำชกำรตุลำกำรที่ด ำรงต ำแหน่งในศำลชั้นต้น

ซึ่งมีชั้นเงินเดือนและเงินประจ ำต ำแหน่งไม่ต่ ำกว่ำชั้น ๓ ขั้นสูงสุด จ ำนวน ๑ คน
(๓) ข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมผู้ด ำรงต ำแหน่งระดับ ๘ ขึ้นไป ซึ่งได้รับเลือกจำก ก.บ.ศ.

จ ำนวน ๑ คน

๘๒๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๔) ผู้ทรงคุณวุฒิด้ำนกำรต่ำงประเทศ ซึ่ง ก.บ.ศ. เป็นผู้เลือกจำกบุคคล ซึ่งไม่เป็น
หรือเคยเป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรหรือข้ำรำชกำรศำลยุติธรรม จ ำนวน ๒ คน โดยให้เป็นผู้แทน

จำกสถำบันกำรศึกษำ อย่ำงน้อย ๑ คน

(๕) เลขำธิกำร ก.พ. หรือผู้ที่เลขำธิกำร ก.พ. มอบหมำย และ

(๖) เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม หรือผู้ที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมมอบหมำย
ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมแต่งตั้งข้ำรำชกำรตุลำกำรศำลยุติธรรม

เป็นอนุกรรมกำรและเลขำนุกำร และผู้อ ำนวยกำรกองกำรต่ำงประเทศ เป็นอนุกรรมกำรและผู้ช่วยเลขำนุกำร

และข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมอีก ๑ คน เป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร

อนุกรรมกำรมีวำระอยู่ในต ำแหน่งครำวละ ๒ ปี ส ำหรับอนุกรรมกำรตำม (๒) ซึ่งต่อมำ

ได้รับกำรแต่งตั้งให้ด ำรงต ำแหน่งข้ำรำชกำรตุลำกำรในชั้นศำลอื่น ให้คงปฏิบัติหน้ำที่อนุกรรมกำรต่อไป
จนครบวำระ


ข้อ ๗ ให้คณะอนุกรรมกำรมีอ ำนำจหน้ำที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ก ำหนดโครงกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย ดูงำน และประชุมหรือสัมมนำ

ณ ต่ำงประเทศ ส ำหรับข้ำรำชกำร และโครงกำรทุนกำรศึกษำ ณ ต่ำงประเทศส ำหรับบุคคลภำยนอก
(๒) สนับสนุนให้ข้ำรำชกำรเข้ำร่วมในโครงกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย ดูงำน

และประชุมหรือสัมมนำ ณ ต่ำงประเทศ ที่ได้ก ำหนดไว้

(๓) ติดตำมและประเมินผลกำรด ำเนินกำรตำมแผนและโครงกำรใน (๑) และวำงแผน

กำรปรับปรุงพัฒนำงำนดังกล่ำว

(๔) ให้ควำมเห็นชอบแผนและโครงกำรจัดท ำควำมร่วมมือระหว่ำงประเทศ
ทำงด้ำนกฎหมำย กำรศำล และกำรบริหำรงำนศำลยุติธรรม

(๕) แต่งตั้งคณะท ำงำนเพื่อสนับสนุนกำรด ำเนินงำนหรือปฏิบัติงำนตำมที่คณะอนุกรรมกำร

มอบหมำย

(๖) พิจำรณำและวินิจฉัยปัญหำในกำรปฏิบัติตำมระเบียบนี้
(๗) ออกระเบียบ ประกำศ หรือค ำสั่งเพื่อปฏิบัติตำมระเบียบนี้

(๘) ปฏิบัติกำรอื่นใดที่จ ำเป็นหรือเกี่ยวเนื่องเพื่อให้เป็นไปตำมระเบียบนี้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๒๗




หมวด ๒
กำรศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ


ข้อ ๘ กำรให้ข้ำรำชกำรผู้ใดไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ให้พจำรณำ

ถึงหลักกำร ดังต่อไปนี้
(๑) ควำมจ ำเป็นและควำมต้องกำรของทำงรำชกำรที่จะได้ผู้ที่มีควำมรู้ควำมช ำนำญ

ในสำขำวิชำและระดับควำมรู้ที่เหมำะสมแก่หน้ำที่ที่ก ำหนด ซึ่งต้องก ำหนดโครงกำรศึกษำ หรือฝึกอบรม

และแผนงำนหรือโครงกำรที่จะให้ข้ำรำชกำรผู้นั้นกลับมำปฏิบัติงำนไว้ล่วงหน้ำเป็นกำรแน่นอน

(๒) สำขำวิชำและระดับควำมรู้ที่จะให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศนั้น

ต้องเป็นสำขำและระดับที่ทำงรำชกำรต้องกำรมำก ซึ่งไม่มีกำรศึกษำในประเทศ หรือมีแต่ยังไม่เพยงพอ

หรือไม่สูงพอ ซึ่งโดยปกติจะให้ไปศึกษำได้เฉพำะในระดับที่สูงกว่ำปริญญำตรี และไม่สูงกว่ำระดับ

ปริญญำโท

ถ้ำส ำนักงำนศำลยุติธรรมมีควำมจ ำเป็นอย่ำงยิ่งที่จะต้องใช้ผู้ส ำเร็จกำรศึกษำระดับ

ปริญญำตรีจำกต่ำงประเทศในสำขำวิชำที่ส ำคัญมำก และจะให้ข้ำรำชกำรศึกษำในระดับนั้นก็ดี

หรือต้องกำรจะใช้ผู้มีควำมรู้ระดับปริญญำเอกเป็นพเศษ และจะให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำในระดับนั้นก็ดี


ให้คณะอนุกรรมกำรพจำรณำอนุมัติเป็นพิเศษตำมควรแก่กรณีเป็นรำย ๆ ไป แต่ส ำหรับกำรอนุมัติให้ไป
ศึกษำในระดับปริญญำเอก โดยปกติจะอนุมัติให้เฉพำะผู้ที่จะกลับมำท ำงำนที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ยืนยันเหตุผลควำมจ ำเป็นที่ชัดเจนว่ำต้องใช้ผู้มีคุณวุฒิในระดับปริญญำเอก หรือกลับมำท ำกำรวิจัย

หรือผู้ที่มีผลกำรศึกษำดีเด่นเป็นพิเศษ หรืออำจพิจำรณำให้ตำมเหตุผลควำมจ ำเป็นเฉพำะกรณีก็ได้

ข้อ ๙ กำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ส ำนักงำนศำลยุติธรรม



ต้องพจำรณำถึงอัตรำก ำลังที่มีอยู่ โดยให้มีผู้อยู่ปฏิบัติงำนเพยงพอ ไม่ให้เสียรำชกำรและ
ไม่ต้องตั้งอัตรำก ำลังเพิ่ม

ข้อ ๑๐ ข้ำรำชกำรที่จะไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

(๑) เป็นผู้ที่เมื่อศึกษำหรือฝึกอบรมเสร็จแล้ว จะต้องมีเวลำกลับมำปฏิบัติรำชกำร

ชดใช้ได้ครบก่อนเกษียณอำยุรำชกำร กำรชดใช้เวลำรำชกำรนี้ให้รวมถึงกำรปฏิบัติรำชกำรชดใช้

กำรลำศึกษำ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำนเดิมที่ค้ำงอยู่ด้วย
(๒) เป็นผู้ที่ได้รับกำรบรรจุและมีวันรับรำชกำรเป็นข้ำรำชกำรในศำลยุติธรรม

หรือหน่วยงำนในสังกัดส ำนักงำนศำลยุติธรรมมำแล้วเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำ ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร

ของแหล่งทุน หรือวันที่ยื่นขออนุมัติไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศด้วยทุนส่วนตัว

เว้นแต่มีควำมจ ำเป็นอย่ำงยิ่งที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมจะยกเว้นคุณสมบัติข้อนี้

ให้เป็นกรณีพิเศษเฉพำะรำย

๘๒๘ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๓) เป็นผู้มีควำมรู้ภำษำต่ำงประเทศที่จะใช้ในกำรศึกษำหรือฝึกอบรมนั้นได้
ซึ่งต้องมีควำมรู้ภำษำนั้น ๆ ในระดับที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด ยกเว้นทุนประเภท ๑ (ข) ให้เป็นไป

ตำมที่ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพื่อกำรพัฒนำระหว่ำงประเทศก ำหนดด้วย

(๔) เป็นผู้มีร่ำงกำยสมบูรณ์และมีสุขภำพอนำมัยดีพอที่จะไปศึกษำหรือฝึกอบรม

ณ ต่ำงประเทศได้ โดยผ่ำนกำรตรวจรับรองจำกแพทย์ประจ ำสถำนพยำบำลที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม
ก ำหนด ส ำหรับผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรม ด้วยทุนประเภท ๑ (ข) จะให้แพทย์อื่นที่ทำงกำรของประเทศ

ที่จะไปศึกษำรับรองตรวจรับรองก็ได้ แต่หำกประเทศที่จะไปศึกษำหรือฝึกอบรมมิได้ก ำหนด

ให้ต้องตรวจร่ำงกำย ต้องผ่ำนกำรตรวจรับรองจำกแพทย์ประจ ำสถำนพยำบำลที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรม

ก ำหนด


(๕) เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่ำงถูกตั้งกรรมกำรสอบสวนทำงวินัย หรือถูกฟองคดีอำญำ

เว้นแต่กรณีถูกฟองคดีอำญำในควำมผิดที่ไม่อยู่ในข่ำยต้องรอกำรเลื่อนขั้นเงินเดือนตำมระเบียบ
ก.ต. หรือกฎ ก.พ. ว่ำด้วยกำรเลื่อนขั้นเงินเดือน แล้วแต่กรณี

(๖) เป็นผู้มีควำมอุตสำหะเอำใจใส่อุทิศเวลำให้แก่งำนในหน้ำที่


ข้อ ๑๑ ข้ำรำชกำรที่จะไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท ๑
ที่เป็นทุนของส ำนักงำนศำลยุติธรรมจัดสรรให้แก่ข้ำรำชกำร หรือเป็นทุนที่แหล่งทุนหรือส ำนักงำน


ื่

ควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศขอให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมพจำรณำเสนอชื่อข้ำรำชกำร
ื่
เพอให้แหล่งทุนหรือส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศคัดเลือกผู้สมัครรับทุน
ื่

กำรศึกษำหรือฝึกอบรม ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) มีคุณสมบัติตำมที่แหล่งทุนก ำหนด
(๒) เป็นข้ำรำชกำรตุลำกำรตั้งแต่ต ำแหน่งผู้พพำกษำศำลชั้นต้นขึ้นไป หรือข้ำรำชกำร

ศำลยุติธรรมตั้งแต่ระดับ ๓ ขึ้นไป หรือเทียบเท่ำ

(๓) ไม่อยู่ในระหว่ำงกำรรับทุนจำกแหล่งทุนอื่นใด

(๔) กรณีเคยได้รับทุนไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ จะต้องกลับมำปฏิบัติงำนแล้ว ไม่ต่ ำกว่ำ
๒ ปี และในกรณีที่เคยได้รับทุนไปฝึกอบรม หรือปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน ณ ต่ำงประเทศที่มีระยะเวลำ

เกินกว่ำ ๑ เดือน จะต้องกลับมำปฏิบัติงำนแล้วไม่ต่ ำกว่ำ ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัครของแหล่งทุน

(๕) กรณีเคยสละสิทธิ์กำรสมัครรับทุนกำรศึกษำหรือฝึกอบรม จะต้องสละสิทธิ์มำแล้ว

ไม่ต่ ำกว่ำ ๑ ปี นับแต่วันที่กำรสละสิทธิ์มีผลถึงวันปิดรับสมัครของแหล่งทุน
(๖) กรณีที่เคยได้รับทุนและได้ยุติกำรรับทุนก่อนที่จะส ำเร็จกำรศึกษำหรือเสร็จสิ้น

กำรฝึกอบรมตำมหลักสูตรนั้น ๆ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่ได้รับอนุญำตจำกแหล่งทุนหรือ

ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศ จะไม่มีสิทธิสมัครรับทุนใด ๆ เป็นเวลำ ๒ ปี
ื่

นับแต่วันที่ผู้รับทุนได้ยุติกำรรับทุนถึงวันปิดรับสมัครของแหล่งทุน

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๒๙




ข้อ ๑๒ กำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท ๑ (ก)
ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติ


ข้อ ๑๓ กำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท ๑ (ข)

ื่
ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมท ำควำมตกลงกับส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศก่อน

เมื่อรัฐบำลต่ำงประเทศ องค์กำรระหว่ำงประเทศ องค์กำรต่ำงประเทศ หรือนิติบุคคลต่ำงประเทศ
ื่
ได้อนุมัติให้ทุนส ำหรับข้ำรำชกำรผู้นั้นแล้ว และส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศ

แจ้งไปยังส ำนักงำนศำลยุติธรรมเพื่อเสนอเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำ เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว

ข้ำรำชกำรผู้นั้นจึงจะออกเดินทำงไปต่ำงประเทศได้ แล้วให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมแจ้งกำรอนุมัติ


ให้ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศทรำบภำยใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่เลขำธิกำร
ื่
ส ำนักงำนศำลยุติธรรมสั่งอนุมัติ

ข้อ ๑๔ กำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท ๑ (ค)

และทุนประเภท ๒ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพจำรณำอนุมัติ โดยให้ข้ำรำชกำรที่จะไปศึกษำ

หรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศด้วยทุนประเภทดังกล่ำว ส่งเอกสำรหลักฐำนดังต่อไปนี้ไปยังส ำนักงำน
ศำลยุติธรรม เพื่อให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติ

(๑) หลักฐำนกำรได้รับทุน ซึ่งระบุลักษณะทุน จ ำนวนทุน และระยะเวลำให้ทุน

(๒) โครงกำรหรือแนวกำรศึกษำหรือฝึกอบรม

(๓) บันทึกแสดงเหตุผลควำมจ ำเป็น และควำมต้องกำรในกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม

ณ ต่ำงประเทศ ตลอดจนแผนงำนหรือโครงกำรที่จะกลับมำปฏิบัติรำชกำร
(๔) หลักฐำนกำรตอบรับจำกสถำนศึกษำหรือสถำนฝึกอบรม ซึ่งระบุรำยละเอียดชัดเจน

ว่ำรับเข้ำศึกษำระดับใด หรือฝึกอบรมสำขำวิชำใด เมื่อใ ด มีเงื่อนไขหรือไม่ประกำรใด

(๕) ผลกำรตรวจรับรองจำกแพทย์ประจ ำสถำนพยำบำลที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด

(๖) หลักฐำนจ ำเป็นอื่นตำมที่คณะอนุกรรมกำรก ำหนด
ข้อ ๑๕ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมด้วยทุนใด ๆ หำกประสงค์

จะอยู่ศึกษำหรือฝึกอบรมต่อด้วยทุนเดิมนั้นหรือด้วยทุนประเภทอื่น หลังจำกครบก ำหนดเวลำที่ได้รับ

อนุมัติแล้ว ให้ยื่นค ำขอพร้อมด้วยหลักฐำนดังต่อไปนี้ต่อส ำนักงำนศำลยุติธรรม ไม่น้อยกว่ำ ๖๐ วัน

ก่อนครบก ำหนดเวลำที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม เพื่อเสนอให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติ
เมื่อเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมอนุมัติแล้วเป็นเวลำเท่ำใด จึงจะอยู่ศึกษำหรือฝึกอบรมต่อได้

ตำมระยะเวลำที่ได้รับอนุมัตินั้น

(๑) หลักฐำนกำรอนุมัติให้ทุนเพื่ออยู่ศึกษำหรือฝึกอบรมต่อ เว้นแต่เป็นทุนประเภท ๑ (ก)

(๒) หลักฐำนเกี่ยวกับผลกำรศึกษำหรือฝึกอบรมที่ผ่ำนมำแล้ว

๘๓๐ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๓) ค ำชี้แจงเหตุผลควำมจ ำเป็นที่จะต้องอยู่ศึกษำหรือฝึกอบรมต่อ โดยระบุก ำหนด
เวลำที่คำดว่ำจะส ำเร็จกำรศึกษำหรือฝึกอบรมได้

(๔) หนังสือรับรองของอำจำรย์ที่ปรึกษำแสดงเหตุจ ำเป็นที่จะต้องอยู่ศึกษำหรือ

ฝึกอบรมต่อ และในกรณีที่สถำนศึกษำตอบรับให้เข้ำศึกษำให้แสดงหลักฐำนกำรตอบรับ

(๕) หลักฐำนจ ำเป็นอื่นตำมที่คณะอนุกรรมกำรก ำหนด
ส ำหรับข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท


๑ (ข) ต้องได้รับอนุมัติจำกส ำนักงำนควำมร่วมมือเพื่อกำรพฒนำระหว่ำงประเทศ แล้วจึงจะด ำเนินกำร
ตำมควำมในวรรคก่อนได้


ข้อ ๑๖ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำด้วยทุนใด ๆ หำกประสงค์จะอยู่ฝึกงำน
ื่

ิ่
ต่อหลังจำกส ำเร็จกำรศึกษำแล้ว เพอเพมพนควำมรู้และประสบกำรณ์ในสำขำวิชำที่ศึกษำต่อ
ให้ยื่นค ำขอพร้อมด้วยหลักฐำนดังต่อไปนี้ต่อส ำนักงำนศำลยุติธรรม ไม่น้อยกว่ำ ๖๐ วัน ก่อนส ำเร็จ

ื่
กำรศึกษำ เพอเสนอให้คณะอนุกรรมกำรพจำรณำอนุมัติ เมื่อคณะอนุกรรมกำรอนุมัติแล้ว จึงจะอยู่
ฝึกงำนตำมระยะเวลำที่ได้รับอนุมัติ

(๑) หลักฐำนเกี่ยวกับผลกำรศึกษำที่ผ่ำนมำแล้ว
(๒) ค ำชี้แจงเหตุผลควำมจ ำเป็นที่จะต้องอยู่ฝึกงำนต่อ โดยระบุก ำหนดเวลำ

ของกำรฝึกงำนไว้ด้วย

(๓) หนังสือตอบรับให้เข้ำฝึกงำนจำกหน่วยงำนในต่ำงประเทศ


ข้อ ๑๗ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศจะเปลี่ยนแปลง
ก ำหนดระยะเวลำ สถำนศึกษำหรือสถำนฝึกอบรม หรือแนวกำรศึกษำหรือฝึกอบรมให้ผิดไปจำกที่ได้รับ


อนุมัติไว้มิได้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจำกเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมตำมหลักเกณฑและวิธีกำร
ที่คณะอนุกรรมกำรก ำหนด

ส ำหรับกรณีผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมด้วยทุนประเภท ๑ (ข) จะต้องได้รับควำมเห็นชอบ
จำกส ำนักงำนควำมร่วมมือเพื่อกำรพัฒนำระหว่ำงประเทศด้วย



ข้อ ๑๘ กำรให้ข้ำรำชกำรตุลำกำรที่ด ำรงต ำแหน่งผู้ช่วยผู้พพำกษำหรือผู้พพำกษำ

ประจ ำศำล หรือข้ำรำชกำรศำลยุติธรรมที่อยู่ระหว่ำงทดลองปฏิบัติหน้ำที่รำชกำรไปศึกษำหรือฝึกอบรม
ณ ต่ำงประเทศ จะกระท ำมิได้


ข้อ ๑๙ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมท ำสัญญำผูกมัดให้ข้ำรำชกำรที่ไปศึกษำหรือฝึกอบรม

ณ ต่ำงประเทศ กลับมำรับรำชกำรตำมแผนงำนหรือโครงกำร และในส่วนรำชกำรที่ก ำหนด

เป็นระยะเวลำเท่ำกับระยะเวลำที่ศึกษำหรือฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๑




ข้ำรำชกำรผู้ใดไม่ได้รับรำชกำรตำมสัญญำ ต้องชดใช้เงินแก่ทำงรำชกำร ดังนี้
(๑) ส ำหรับผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมด้วยทุนประเภท ๑ (ก) หรือทุนประเภท ๑ (ค)

ให้ชดใช้ทุน เงินเดือน และเงินประจ ำต ำแหน่งที่ได้รับระหว่ำงกำรศึกษำหรือฝึกอบรม และเงิน

ที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือ กับให้ใช้เงินอีกจ ำนวนหนึ่งเท่ำของจ ำนวนทุน เงินเดือน เงินประจ ำต ำแหน่ง

และเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือดังกล่ำวให้เป็นเบี้ยปรับแก่ทำงรำชกำรอีกด้วย
(๒) ส ำหรับผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมด้วยทุนประเภท ๑ (ข) ให้ชดใช้เงินเดือนและ

เงินประจ ำต ำแหน่งที่ได้รับระหว่ำงศึกษำหรือฝึกอบรม และเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือกับให้ใช้เงิน

อีกจ ำนวนหนึ่งเท่ำของจ ำนวนเงินเดือน เงินประจ ำต ำแหน่ง และเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือดังกล่ำว

ให้เป็นเบี้ยปรับแก่ทำงรำชกำรอีกด้วย

ส ำหรับส่วนที่เป็นเงินทุนที่ได้รับ ให้ชดใช้เป็นเบี้ยปรับรำยเดือนตำมจ ำนวน
ื่
ที่กระทรวงกำรคลังและส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศก ำหนดขึ้น โดยใช้ฐำน

อัตรำค่ำใช้จ่ำยที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนดส ำหรับผู้ไปศึกษำ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติกำรวิจัย

ณ ต่ำงประเทศเป็นเกณฑ์

(๓) ส ำหรับผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมด้วยทุนประเภท ๒ ให้ชดใช้เงินเดือนและเงินประจ ำ

ต ำแหน่งที่ได้รับระหว่ำงกำรศึกษำหรือฝึกอบรม และเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือ กับให้ใช้เงิน
อีกจ ำนวนหนึ่งเท่ำของจ ำนวนเงินเดือน เงินประจ ำต ำแหน่ง และเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือดังกล่ำว

ให้เป็นเบี้ยปรับแก่ทำงรำชกำรอีกด้วย

ในกรณีที่ผู้ไปศึกษำหรือฝึกอบรมกลับมำแล้วรับรำชกำรไม่ครบก ำหนดเวลำตำมสัญญำ

ให้ลดเงินที่จะต้องชดใช้และเบี้ยปรับตำม (๑) (๒) หรือ (๓) ลงตำมส่วน

กำรท ำสัญญำตำมข้อนี้ ให้เป็นไปตำมแบบและวิธีกำรที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด

หมวด ๓

กำรปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ


ข้อ ๒๐ กำรให้ข้ำรำชกำรไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ ส ำนักงำนศำลยุติธรรม


ต้องพจำรณำถึงอัตรำก ำลังที่มีอยู่โดยให้มีผู้อยู่ปฏิบัติงำนเพยงพอ ไม่ให้เสียรำชกำร และไม่ต้อง
ตั้งอัตรำก ำลังเพิ่ม โดยข้ำรำชกำรที่จะไปปฏิบัติกำรวิจัยจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นผู้มีคุณวุฒิไม่ต่ ำกว่ำปริญญำตรีหรือเทียบเท่ำ

(๒) เป็นผู้มีวันรับรำชกำรเป็นข้ำรำชกำรติดต่อกันมำแล้วเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำหนึ่งปี

แต่ถ้ำมีควำมจ ำเป็นอย่ำงยิ่ง จะให้ข้ำรำชกำรที่มีวันรับรำชกำรไม่ครบหนึ่งปีไปปฏิบัติกำรวิจัย
ณ ต่ำงประเทศก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่พ้นกำรทดลองปฏิบัติหน้ำที่รำชกำรแล้ว

๘๓๒ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๓) เป็นผู้ที่สำมำรถกลับมำรับรำชกำรชดใช้ครบตำมสัญญำภำยในก ำหนดเวลำ
ก่อนเกษียณอำยุรำชกำร

(๔) เป็นผู้ที่มีประสบกำรณ์ในด้ำนกำรวิจัยหรืองำนสอน หรือปฏิบัติงำนรับผิดชอบ

ในเรื่องที่จะท ำกำรวิจัยมำแล้วไม่น้อยกว่ำสองปี และมีควำมเหมำะสมในกำรปฏิบัติกำรวิจัย

(๕) ส ำหรับผู้ที่เคยได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม หรือปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ
มำแล้ว จะต้องกลับมำปฏิบัติรำชกำรเป็นเวลำไม่น้อยกว่ำระยะเวลำที่คณะอนุกรรมกำรก ำหนด

จึงจะได้รับกำรพิจำรณำให้ไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศได้


ข้อ ๒๑ กำรให้ข้ำรำชกำรไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ ให้เลขำธิกำรส ำนักงำน


ิ่

ศำลยุติธรรมพจำรณำอนุมัติตำมหลักเกณฑที่ก ำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือที่ก ำหนดเพมเติม
โดยให้ข้ำรำชกำรที่จะไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศดังกล่ำว ส่งเอกสำรหลักฐำนดังต่อไปนี้
ไปยังส ำนักงำนศำลยุติธรรม เพื่อให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติ

(๑) โครงกำรพร้อมทั้งแผนปฏิบัติกำรวิจัยโดยสมบูรณ์ ซึ่งต้องแสดงก ำหนดระยะเวลำ

และขั้นตอนกำรปฏิบัติกำรวิจัยโดยละเอียด

(๒) บันทึกแสดงเหตุผลควำมจ ำเป็นที่จะต้องไปปฏิบัติกำรวิจัย ควำมสอดคล้อง
ของนโยบำยรัฐบำล โครงกำรวิจัยกับแผนงำนของหน่วยงำน และโครงกำรวิจัยที่ระบุรำยละเอียด

ที่ชัดเจนและงบประมำณ รวมทั้งประโยชน์ที่ทำงรำชกำรจะได้รับ

(๓) รำยละเอียดข้อตกลงเกี่ยวกับกำรไปปฏิบัติกำรวิจัย

(๔) รำยละเอียดอัตรำก ำลังที่ข้ำรำชกำรผู้นั้นสังกัดอยู่

(๕) ผลงำนวิจัยของข้ำรำชกำรที่ได้รับกำรเผยแพร่ในระดับนำนำชำติ
เมื่อเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมอนุมัติแล้ว ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมรำยงำน

กำรอนุมัติให้คณะอนุกรรมกำรทรำบภำยในเจ็ดวันนับแต่วันที่อนุมัติ


ข้อ ๒๒ ข้ำรำชกำรที่ไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ ต้องปฏิบัติดังนี้
(๑) จะขยำยก ำหนดระยะเวลำหรือเปลี่ยนแปลงโครงกำรวิจัยจำกที่ได้รับอนุมัติไว้ได้

ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจำกเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรม เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว จึงจะปฏิบัติกำรวิจัยต่อไปได้

และให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมรำยงำนให้คณะอนุกรรมกำรทรำบภำยในสิบห้ำวัน

นับจำกวันที่อนุมัติ แต่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมจะอนุมัติให้ข้ำรำชกำรอยู่ปฏิบัติกำรวิจัย
ณ ต่ำงประเทศได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันที่เริ่มไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ

(๒) จะอยู่ศึกษำ ฝึกอบรม หรือดูงำนต่อมิได้

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๓




(๓) รำยงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรปฏิบัติกำรวิจัยให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมทรำบ
ทุกหกเดือน และจะต้องส่งรำยงำนผลกำรปฏิบัติกำรวิจัยฉบับสมบูรณ์จ ำนวนสองฉบับไปยังส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมภำยในสี่สิบห้ำวันนับแต่วันสิ้นสุดโครงกำรปฏิบัติกำรวิจัย

ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปปฏิบัติกำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศ เมื่อได้กลับเข้ำปฏิบัติ

หน้ำที่รำชกำรแล้ว ให้รำยงำนให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมทรำบ ส ำหรับผู้ที่ไปปฏิบัติกำรวิจัย
ด้วยทุนประเภท ๑ (ข) ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมรำยงำนให้ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำ
ื่

ระหว่ำงประเทศทรำบด้วย โดยให้รำยงำนภำยในก ำหนดสิบห้ำวันนับแต่วันกลับเข้ำปฏิบัติรำชกำร


ข้อ ๒๓ ให้น ำควำมในข้อ ๑๘ และข้อ ๑๙ มำใช้บังคับกับกำรให้ข้ำรำชกำรไปปฏิบัติ

กำรวิจัย ณ ต่ำงประเทศโดยอนุโลม


หมวด ๔

กำรดูงำน ณ ต่ำงประเทศ

ข้อ ๒๔ กำรดูงำน ณ ต่ำงประเทศ ให้กระท ำได้ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรดังต่อไปนี้

(๑) กำรให้ข้ำรำชกำรดูงำนโดยเป็นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำหรือฝึกอบรม หรือต่อจำก

กำรศึกษำหรือฝึกอบรมอันถือเป็นกำรศึกษำหรือฝึกอบรมด้วย ต้องด ำเนินกำรตำมที่ก ำหนดไว้ส ำหรับ

กรณีศึกษำหรือฝึกอบรม
(๒) กำรให้ข้ำรำชกำรดูงำนด้วยทุนประเภท ๑ (ก) ทุนประเภท ๑ (ค) หรือทุนประเภท ๒

ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติได้ตำมที่เห็นสมควร

(๓) กำรให้ข้ำรำชกำรดูงำนด้วยทุนประเภท ๑ (ข) ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมและ

ื่
ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศท ำควำมตกลงกัน แล้วเสนอเลขำธิกำรส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติ
(๔) เป็นกำรดูงำนที่มีระยะเวลำไม่เกินสิบห้ำวันตำมหลักสูตรหรือโครงกำรหรือแผนกำร

ดูงำนต่ำงประเทศ หำกมีระยะเวลำเกินก ำหนดให้ด ำเนินกำรเป็นกำรฝึกอบรม


ข้อ ๒๕ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปดูงำน ณ ต่ำงประเทศ จะเปลี่ยนแปลงก ำหนด
ระยะเวลำ สถำนที่ หรือแนวกำรดูงำนให้ผิดไปจำกที่ได้รับอนุมัติไว้ไม่ได้ ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติ

จำกผู้มีอ ำนำจตำมข้อ ๒๔ แต่ถ้ำมีควำมจ ำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระยะเวลำ สถำนที่ หรือแนวกำรดูงำน

โดยกะทันหัน ซึ่งไม่อำจรอรับกำรอนุมัติได้ ก็ให้รีบรำยงำนให้ผู้มีอ ำนำจดังกล่ำวทรำบ พร้อมทั้งชี้แจง

เหตุผลควำมจ ำเป็นด้วย ทั้งนี้ หำกระยะเวลำในกำรดูงำนครั้งก่อนนี้รวมกำรขยำยเวลำในครั้งนี้

เกินสิบห้ำวัน ให้ด ำเนินกำรขยำยเวลำครั้งนี้เป็นกำรฝึกอบรม

๘๓๔ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





ข้อ ๒๖ ให้น ำควำมในข้อ ๑๘ มำใช้บังคับกับกำรให้ข้ำรำชกำรไปดูงำน ณ ต่ำงประเทศ
โดยอนุโลม



หมวด ๕
กำรให้ทุนกำรศึกษำ ณ ต่ำงประเทศแก่บุคคลภำยนอก


ื่
ข้อ ๒๗ กำรจัดสรรทุนประเภท ๑ (ก) ให้แก่บุคคลภำยนอกเพอไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ
ให้เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมพิจำรณำอนุมัติตำมหลักกำร ดังต่อไปนี้

(๑) ควำมจ ำเป็นและควำมต้องกำรของทำงรำชกำรที่จะได้ผู้ที่มีควำมรู้ ควำมช ำนำญ
ในสำขำวิชำ และระดับควำมรู้ที่เหมำะสมแก่หน้ำที่ที่ก ำหนด ซึ่งต้องก ำหนดต ำแหน่งหน้ำที่

ที่จะให้กลับมำรับรำชกำร ตลอดจนโครงกำรศึกษำและแผนงำนหรือโครงกำรที่จะให้ผู้ได้รับทุนกลับมำ

ปฏิบัติงำนไว้เป็นกำรล่วงหน้ำแน่นอน

(๒) สำขำวิชำและระดับควำมรู้ที่จะให้ผู้รับทุนไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ ต้องเป็นสำขำ

และระดับที่ทำงรำชกำรต้องกำรมำก ซึ่งไม่มีกำรศึกษำในประเทศหรือมีแต่ยังไม่เพยงพอหรือไม่สูงพอ

ซึ่งโดยปกติจะให้ไปศึกษำได้เฉพำะในระดับที่สูงกว่ำปริญญำตรีและไม่สูงกว่ำปริญญำโท เว้นแต่ส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมเห็นว่ำมีควำมจ ำเป็นอย่ำงยิ่งที่จะต้องใช้ผู้ส ำเร็จกำรศึกษำระดับปริญญำตรีจำกต่ำงประเทศ

ในสำขำวิชำที่ส ำคัญ หรือต้องกำรจะใช้ผู้มีควำมรู้ระดับปริญญำเอกจำกต่ำงประเทศเป็นพเศษให้เสนอ

คณะอนุกรรมกำรพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ

ข้อ ๒๘ บุคคลภำยนอกที่จะรับทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรมไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ

ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นผู้มีคุณสมบัติตำมที่ก ำหนดไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยกำรบรรจุเป็นข้ำรำชกำร
ฝ่ำยตุลำกำรศำลยุติธรรม

(๒) เป็นผู้สอบไล่ได้ในระดับและสำขำวิชำที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด และมีควำมรู้

ภำษำต่ำงประเทศที่จะใช้ในกำรศึกษำต่อนั้นได้ในระดับที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด

(๓) เป็นผู้มีร่ำงกำยสมบูรณ์และมีสุขภำพอนำมัยดีพอที่จะไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศได้

โดยผ่ำนกำรตรวจรับรองจำกแพทย์ประจ ำสถำนพยำบำลที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด
(๔) มีคุณสมบัติอื่นตำมที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด


ข้อ ๒๙ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมท ำสัญญำผูกมัดให้บุคคลภำยนอกที่ได้รับทุนส ำนักงำน

ศำลยุติธรรมไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ กลับมำรับรำชกำรในต ำแหน่งและในส่วนรำชกำรตำมแผนงำน

หรือโครงกำรที่ก ำหนด เป็นระยะเวลำไม่น้อยกว่ำสองเท่ำของระยะเวลำที่ผู้นั้นได้ไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๕




หำกผู้รับทุนผู้ใดไม่กลับมำรับรำชกำรตำมสัญญำ ต้องชดใช้ทุนและเงินที่ทำงรำชกำร
จ่ำยช่วยเหลือ กับให้ใช้เงินอีกจ ำนวนสองเท่ำของจ ำนวนทุนและเงินที่ทำงรำชกำรจ่ำยช่วยเหลือดังกล่ำว

ให้เป็นเบี้ยปรับแก่ทำงรำชกำรด้วย

ในกรณีที่ผู้รับทุนไปศึกษำกลับมำแล้วรับรำชกำรไม่ครบก ำหนดเวลำตำมสัญญำให้ลดเงิน

ที่จะต้องชดใช้และเบี้ยปรับตำมวรรคสองลงตำมส่วน
กำรท ำสัญญำตำมข้อนี้ให้เป็นไปตำมแบบและวิธีกำรที่ส ำนักงำนศำลยุติธรรมก ำหนด


ข้อ ๓๐ ให้น ำควำมในข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๗ มำใช้บังคับกับกำรให้ทุนกำรศึกษำ

ณ ต่ำงประเทศแก่บุคคลภำยนอกโดยอนุโลม


หมวด ๖

กำรก ำกับดูแลข้ำรำชกำรและบุคคลภำยนอกผู้รับทุน


ข้อ ๓๑ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน
ณ ต่ำงประเทศ และบุคคลภำยนอกผู้รับทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรมไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ ต้องอยู่ใน

ควำมดูแลของผู้ที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมมอบหมำยให้เป็นผู้ดูแลในต่ำงประเทศ ปฏิบัติตำม

ระเบียบ ข้อบังคับ ค ำสั่ง หรือค ำแนะน ำของผู้ที่เลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมมอบหมำยให้เป็นผู้ดูแล

ในต่ำงประเทศโดยเคร่งครัด และต้องรำยงำนควำมก้ำวหน้ำในกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย
หรือดูงำน แล้วแต่กรณี รวมทั้งกำรเปลี่ยนแปลงต่ำง ๆ ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรมและผู้ดูแลในต่ำงประเทศ

เพื่อทรำบด้วย

ส ำหรับข้ำรำชกำรที่ไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน ณ ต่ำงประเทศ

ด้วยทุนประเภท ๑ (ข) นอกจำกต้องปฏิบัติตำมวรรคหนึ่งแล้ว ต้องอยู่ในควำมดูแลของเจ้ำหน้ำที่
ซึ่งได้รับมอบหมำยจำกรัฐบำลต่ำงประเทศ องค์กำรระหว่ำงประเทศ องค์กำรต่ำงประเทศ หรือนิติบุคคล

ต่ำงประเทศ ที่ให้ทุนแก่ข้ำรำชกำรผู้นั้นอีกด้วย


ข้อ ๓๒ ข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน

ณ ต่ำงประเทศ และบุคคลภำยนอกผู้รับทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรมไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ เมื่อครบ
ก ำหนดเวลำที่ได้รับอนุมัติ หรือเสร็จจำกกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำนก่อนครบ

ก ำหนดเวลำที่ได้รับอนุมัติ ต้องรีบเดินทำงกลับให้ถึงประเทศไทย และรำยงำนตัวกลับเข้ำปฏิบัติหน้ำที่

รำชกำร หรือรำยงำนตัวเข้ำรับรำชกำร แล้วแต่กรณี ภำยในระยะเวลำที่ก ำหนด ดังนี้

(๑) ภำยในระยะเวลำไม่เกิน ๒๐ วัน ส ำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม

หรือปฏิบัติกำรวิจัย เกิน ๑ ปี
(๒) ภำยในระยะเวลำไม่เกิน ๑๐ วัน ส ำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม

หรือปฏิบัติกำรวิจัย เกิน ๖ เดือน

๘๓๖ ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม





(๓) ภำยในระยะเวลำไม่เกิน ๕ วัน ส ำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม
หรือปฏิบัติกำรวิจัย ไม่เกิน ๖ เดือน

(๔) ภำยในระยะเวลำไม่เกิน ๒ วัน ส ำหรับผู้ได้รับอนุมัติให้ไปดูงำน

เมื่อได้รำยงำนตัวตำมวรรคหนึ่งแล้ว ให้รำยงำนผลกำรศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย

หรือดูงำนต่อผู้บังคับบัญชำและเลขำธิกำรส ำนักงำนศำลยุติธรรมโดยด่วนต่อไป

ข้อ ๓๓ เมื่อข้ำรำชกำรที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน

ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนประเภท ๑ (ข) กลับเข้ำปฏิบัติหน้ำที่รำชกำรแล้วเมื่อใด ให้ส ำนักงำนศำลยุติธรรม


แจ้งให้ส ำนักงำนควำมร่วมมือเพอกำรพฒนำระหว่ำงประเทศทรำบด้วย ทั้งนี้ภำยในก ำหนด ๑๕ วัน
ื่
นับแต่วันกลับเข้ำปฏิบัติหน้ำที่รำชกำร


๑ หมวด ๗

กำรเบิกจ่ำยเงิน

ข้อ ๓๔ ให้น ำข้อบังคับ ก.พ. ว่ำด้วยกำรจัดกำรกำรศึกษำ ควบคุมดูแล และกำรให้

ควำมช่วยเหลือบุคลำกรภำครัฐและนักเรียนที่อยู่ในควำมดูแลของ ก.พ. ในต่ำงประเทศ และคู่มือ

กำรเบิกเงินค่ำใช้จ่ำยต่ำง ๆ ของนักเรียนทุนรัฐบำลที่ศึกษำในต่ำงประเทศของส ำนักงำน ก.พ. มำใช้

ในกำรเบิกจ่ำยของข้ำรำชกำรผู้ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรม
โดยอนุโลม เว้นแต่ ก.บ.ศ. จะมีมติเป็นอย่ำงอื่น


ข้อ ๓๕ ให้น ำระเบียบกระทรวงกำรคลัง ว่ำด้วยค่ำใช้จ่ำยในกำรฝึกอบรม กำรจัดงำน

และกำรประชุมระหว่ำงประเทศ ของกระทรวงกำรคลัง มำใช้ในกำรเบิกจ่ำยของข้ำรำชกำรผู้ได้รับอนุมัติ
ให้ไปฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ ด้วยทุนส ำนักงำนศำลยุติธรรม โดยอนุโลม เว้นแต่ ก.บ.ศ. จะมีมติ

เป็นอย่ำงอื่น



บทเฉพำะกำล

ข้อ ๓๖ ข้ำรำชกำรผู้ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน

ณ ต่ำงประเทศ ตำมระเบียบว่ำด้วยกำรให้ข้ำรำชกำรไปศึกษำ ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำน

ณ ต่ำงประเทศ อยู่ในวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่ำข้ำรำชกำรผู้นั้นได้รับอนุมัติให้ไปศึกษำ
ฝึกอบรม ปฏิบัติกำรวิจัย หรือดูงำนตำมระเบียบนี้







๑ หมวด ๗ กำรเบิกจ่ำยเงิน แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ว่ำด้วยกำรไปศกษำ ฝึกอบรม ณ ต่ำงประเทศ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓

ส ำนักคณะกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม ๘๓๗




ประกำศ ณ วันที่ ๒๙ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๔๙


(ลงชื่อ) ชำญชัย ลิขิตจิตถะ

(นำยชำญชัย ลิขิตจิตถะ)

ประธำนกรรมกำรบริหำรศำลยุติธรรม


Click to View FlipBook Version