The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Janpen Koong Sungaim, 2022-08-27 04:23:28

หลักสูตรโรงเรียนแก้วอินทร์สุธาอุทิศ

หลักสูตร

Keywords: หลักสูตรโรงเรียนแก้วอินทร์สุธาอุทิศ

47

รำยวชิ ำพ้ืนฐำน คำอธบิ ำยรำยวิชำสงั คมศกึ ษำ
รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ
ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม
รหัสวิชำ ส 13101
เวลำ 80 ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
สังเกต ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมลู อภปิ ราย แสดงความคิดเหน็ สรุปใจความสาคัญความหมาย

ความสาคญั องคป์ ระกอบของศาสนา ประโยชน์ ประวัตศิ าสดาของศาสนา ภาษา ท่ีใช้ในคัมภรี ์ของศาสนา
ท่ีตนนับถือ หลักจริยธรรมในการพัฒนาตน การบาเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน วิธีปฏิบัติ
เกีย่ วกบั ศาสนพธิ ี พธิ ีกรรมในวนั สาคญั ของศาสนา การบรหิ ารจติ การเจรญิ ปัญญา สติ สัมปชญั ญะ ความ
ราลึกได้ ความรูต้ วั ชืน่ ชมการทาความดีของบุคคลในครอบครวั และโรงเรียน ศลี ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม
ท่ีดีงาม การเป็นพลเมืองดีในสังคม ประชาธิปไตย การเคารพสิทธิและหน้าท่ีของ ตนเอง บทบาทสิท ธิ
เสรภี าพ หนา้ ที่ สถานภาพ สทิ ธิของบคุ คลท่ีพึงไดร้ ับการคุ้มครอง การขัดเกลาของสังคม คา่ นยิ ม ความเชอ่ื
ประเพณี การอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถ่ิน การสร้างความดี การแก้ปัญหาความขัดแย้ง
กฎ กติกา ระเบียบในชุมชน ความสาคัญของกฎหมายรัฐธรรมนูญ รายรับ–รายจ่าย ผลประโยชน์ท่ี
ผู้บริโภคได้รับการตัดสินใจเลือกอย่างเหมาะสม ระบบเศรษฐกิจพอเพียง อาชีพในชุมชนการ
แลกเปลี่ยน สนิ ค้าและบริการความสาคัญของธนาคาร ภาษีที่เกีย่ วขอ้ งในชวี ติ ประจาวัน องค์ประกอบทาง
กายภาพ ลักษณะ ความเก่ียวข้องแผนผัง แผนที่ ตาแหน่ง ระยะทิศทาง เครื่ องมือทางภูมิศาสตร์
ทรัพยากรธรรมชาติ การพึ่งพาอาศยั กนั ส่ิงแวดล้อมทางสงั คม การอนรุ กั ษ์ การใช้พลังงาน การดูแลรักษา
สิง่ แวดลอ้ ม การรู้จักสังเกตสง่ิ ต่างๆรอบตวั
โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์
และแกป้ ัญหา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สัตย์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ รักความเปน็ ไทย
มีจิตสาธารณะ สามารถดาเนนิ ชีวิตอยา่ งสนั ติสุขในสังคมไทย และสงั คมโลก สามารถนาความร้ไู ปใช้
ใหเ้ กดิ ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กับชีวติ ประจาวันได้
อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม
มำตรฐำน/ตัวช้ีวัด

ส ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ส ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ส ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖
รวม ๘ มำตรฐำน ๓๑ ตวั ชี้วดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบับปรับปรุงโรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ุธาอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

48

รำยวิชำพืน้ ฐำน คำอธบิ ำยรำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำ
ชื่อรำยวชิ ำสงั คมศกึ ษำ
ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม
รหสั วิชำ ส 14101
เวลำ 80 ชั่วโมง /ปี

ศึกษาความสาคัญของพระพุทธศาสนาและศาสนาในกลุ่มอาเซียน ในฐานะเป็นเคร่ืองยึด
เหน่ียวจิตใจ เป็นศูนย์รวมการ ทาความดีและพัฒนาจิตใจ เป็นท่ีประกอบศาสนพิธี เป็นแหล่งทากิจกรรม
ทางสังคม พุทธประวัติตั้งแต่บรรลุธรรมจนถึง ประกาศธรรม ประวัติสาวก ชาดก และศาสนิกชนตัวอย่าง
พระรัตนตรัย ไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 พุทธศาสน สุภาษิต ตัวอย่างการกระทาความดีของตนเอง
และบุคคลในครอบครัว โรงเรียนและชุมชน การสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญ คุณพระรัตนตรัย และแผ่
เมตตา วิธีบริหารจิตและเจริญปัญญา หลักธรรมเพื่อความสมานฉันท์ ประวัติโดยสังเขปของศาสดา ของ
ศาสนาอ่ืน ความรู้เบื้องต้นและความสาคัญของศาสนสถาน การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน และการ
บารงุ รักษาศาสนสถาน มรรยาทของศาสนิกชน การปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี

การเป็นพลเมอื งดีตามวิถีประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกของ ชมุ ชน การเปน็ ผู้นาและผูต้ ามที่ดี สิทธิ
เด็ก ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ของกลุ่มคนในประเทศกลุ่มอาเซียนและในท้องถ่ิน การอยู่ร่วมกันอย่าง
สันติสุข อานาจอธิปไตย ความสาคญั ของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย บทบาทหนา้ ทีข่ องพลเมือง
ในกระบวนการเลือกตั้ง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย หน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการเลือกต้ัง
การนาสินค้าประจาท้องถ่ินมาศึกษาดูความแตกต่างด้านราคาและคุณภาพของ สินค้าที่มีหลากหลายใน
ตลาด เช่น เครื่องปั้นดินเผำของชุมชนเกำะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและ
บริการ สิทธิพื้นฐาน ของผู้บริโภค เคร่ืองหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ หลักการและวิธีการเลือก
บรโิ ภค หลกั การเศรษฐกจิ พอเพียงและ การนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั อาชีพ สินค้าและบรกิ ารต่างๆ ในกลุ่ม
อาเซียนและ ท่ีผลิตในชุมชน การพ่ึงพาอาศัยกันภายใน ชุมชนทางด้านเศรษฐกิจ ชุมชนเกำะเกร็ดป้ัน
เคร่อื งปนั้ ดินเผำ การสร้างความเข้มแข็งให้ชมุ ชนดว้ ยการใช้สิง่ ของที่ผลติ ในชุมชน ความหมายและประเภท
ของเงิน หน้าที่เบื้องต้นของเงินในระบบเศรษฐกิจ สกุลเงินสาคัญท่ีใช้ในการซื้อขายแลกเปล่ียนระหว่าง
ประเทศ การใช้แผนท่ี ภาพถ่าย ลักษณะสาคัญทางกายภาพของประเทศในกลุ่มอาเซียนจังหวัด ตาแหน่ง
ระยะทาง และทศิ ของทรัพยากรและสงิ่ ต่างๆ ใน จังหวดั แหลง่ ทรพั ยากรสาคัญ แผนท่ีแสดงความสัมพันธ์
ของสิ่งต่างๆ ทม่ี ีในทอ้ งถิ่น สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ ส่งผลต่อการดาเนินชวี ิตของคนในทอ้ งถิน่ การตั้ง
ถ่ินฐาน การย้ายถิ่น และการอนุรักษ์สิ่งแวดลอ้ มในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยการฝึกสมาธิและเจริญปัญญา
การมีส่วนร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา ใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล สังเกต บันทึก จัดกลุ่ม
ข้อมูล และการอภิปราย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของจังหวัด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถนาเสนอส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็น คุณค่าของการนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีความภาคภูมิใจในท้องถ่ินของตนเอง มีความรู้ความเข้าใจในการดารงชีวิต
ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม ตระหนักถึงความสาคัญของสิ่งแวดล้อม มีความอดทนอดกล้ัน มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม เขา้ ใจผอู้ ืน่ เปน็ สมาชิกทดี่ ขี องทอ้ งถน่ิ และจังหวัดของตนเอง
รหสั ตัวช้ีวดั

ส 1.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5 ป.4/6 ป.4/7 ป.4/8
ส 1.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบับปรบั ปรุงโรงเรียนแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปกี ารศึกษา 2564

49

ส 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 ป.4/5
ส 2.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ส 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ส 3.2 ป.4/1 ป.4/2
ส 5.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
ส 5.2 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3
รวม 30 ตวั ชี้วัด

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบบั ปรบั ปรุงโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

50

รำยวิชำพ้นื ฐำน คำอธิบำยรำยวชิ ำสังคมศึกษำ
ชื่อรำยวิชำ สงั คมศกึ ษำ
ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม
รหัสวิชำ ส 15101
เวลำ 80 ชวั่ โมง

ศึกษา วิเคราะห์เร่ืองความสาคัญของศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และ

เป็นหลักในการพัฒนาชาติไทย ประวัติศาสนาและศาสดาของพระพุทธศาสนา และพิธีกรรมของ

พระพุทธศาสนา สถานภาพของบคุ คลในสงั คม สิทธิเด็ก การปฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดีตามวิถีประชาธปิ ไตย

คุณลักษณะของพลเมืองดี วัฒนธรรมไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่น การปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจัยการผลิต

เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าและบริการ พฤติกรรมของผู้บริโภค สินค้าและบริการในชุมชน หัตถกรรม

ท้องถ่ินเครื่องปั้นดินเผา เกาะเกร็ด เศรษฐกิจพอเพียง สหกรณ์ ธนาคารและบทบาทหน้าท่ี ดอกเบี้ย การ

ฝากเงิน และการถอนเงิน การกู้ยืมเงิน ลักษณะทางกายภาพของภูมิภาคตนเอง สถานที่สาคัญของภาค

ต่างๆ ความสมั พันธ์ของลักษณะทางกายภาพ และลกั ษณะสังคมในภูมภิ าค สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่มี

อิทธิพลตอ่ การตั้งถนิ่ ฐาน และการย้ายถ่ินฐานของประชากร อทิ ธิพลของสิง่ แวดล้อมทางธรรมชาติ ผลท่เี กิด

จากการทาลายสภาพแวดล้อม แนวทางอนุรักษ์ และรักษาสภาพแวดลอ้ มในภูมิภาคโดยใช้กระบวนการคดิ

กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ

แก้ปัญหาเพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีหลักธรรมในการดาเนินชีวิต รักความ

เป็นไทย มีจติ สาธารณะ และสามารถดาเนนิ ชีวิตในสงั คมได้อย่างสนั ตสิ ขุ

ตัวชีว้ ัด
ส 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7
ส 1.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ส 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ส 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ส 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ส 3.2 ป.5/1, ป.5/2
ส 5.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
ส 5.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
รวม 28 ตวั ชว้ี ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรุงโรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ุธาอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

51

รำยวชิ ำพ้นื ฐำน คำอธบิ ำยรำยวิชำสังคมศกึ ษำ
รำยวิชำ สังคมศกึ ษำ
ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
รหัสวิชำ ส 16101
เวลำ 80 ช่ัวโมง

ศกึ ษา เรยี นรู้ เกีย่ วกับความสาคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทีต่ นนบั ถือ พุทธประวัติ พทุ ธ
สาวก พุทธสาวิกา ชาดก ศาสนิกชนตัวอย่าง พระรัตนตรัย ไตรสิกขาหลักธรรมโอวาท 3 พุทธศาสน
สุภาษิตตัวอย่าง การทาความดีของบุคคลในประเทศตามหลักศาสนา การมีสติสวดมนต์แผ่เมตตา การ
บริหารจิต เจริญปัญญา มีสติท่ีเป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจิตตามแนวของศาสนา
ที่ตนนับถือ การปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพ่ือแก้ปัญหาอบายมุขและส่ิงเสพติด
หลักธรรมและความสาคัญของศาสนาอื่น ๆ ลักษณะสาคัญของศาสนพิธี พิธีกรรมของศาสนาอ่ืน ๆ และ
การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมเม่ือต้องเข้าร่วมพิธี ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ภายในศาสนสถาน
และการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม การมีมารยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดี ประโยชน์ของการเข้าร่วม
พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสาคัญทางศาสนา และการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ
หรือการแสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทต่ี นนบั ถอื และในทอ้ งถ่นิ

ศึกษา เรียนรู้ และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันของครอบครัวและ
ชุมชน การเปล่ียนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม การแสดงออกถึง
มารยาทไทยท่ีเหมาะสมถูกกาลเทศะ คณุ คา่ ทางวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกนั ระหว่างกลมุ่ คนในสังคมไทย แนว
ทางการรกั ษาวฒั นธรรม ข้อมลู ข่าวสาร เหตุการณต์ า่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั ในท้องถนิ่ และประโยชน์จาก
การติดตามข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน การเลือกรับและใช้ข้อมูลข่าวสารในการ
เรยี นรทู้ เ่ี หมาะสม บทบาทหนา้ ที่ขององค์กรการปกครองสว่ นท้องถิน่ และรฐั บาล การมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีส่งเสริมประชาธิปไตยในท้องถิ่น และประเทศ บทบาทความสาคัญในการใช้สิทธิออก
เสยี งเลือกต้งั ตามระบอบประชาธปิ ไตย

ศึกษาเรียนรู้บทบาทของผู้ผลิตท่ีมีความรับผิดชอบ มีคุณภำพคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม กำรผลิต
เครื่องป้ันดินเผำของกลุ่มหัตถกรรมเคร่ืองป้ันดินเผำเกำะเกร็ด มีทัศนคติในการใช้ทรัพยากรอย่างมี
ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล บทบาทของผู้บริโภคท่ีดี ผู้บริโภคท่ีบกพร่อง คุณค่าและประโยชน์ของ
ผู้บริโภคท่ีรู้เท่าทัน ท่ีมีต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม ประโยชน์ของการใช้ทรัพยากรท่ียั่งยืน ความหมาย
และความจาเป็นของทรัพยากร หลักการและวิธีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด วิธีการสร้าง
จิตสานึกให้คนในท้องถิ่นและในประเทศชาติ รู้คุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัด การวางแผนการใช้
ทรพั ยากรโดยประยกุ ต์ เทคนคิ และวธิ กี ารใหม่ ๆ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสังคม ทอ้ งถ่ิน ความสัมพนั ธ์ระหว่าง
ผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และรัฐบาลที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ แผนผังแสดงความสัมพันธ์ของหน่วยเศรษฐกจิ
ภาษี และหน่วยงานที่จัดเก็บภาษี สิทธิของผู้บริโภค สิทธิของผู้ใช้แรงงานในจังหวัดและประเทศ การหา
รายได้ รายจ่าย การออก การลงทุน ซ่ึงแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภคและรัฐบาล กำร
รวมกลุ่มทำงเศรษฐกิจภำยในท้องถ่ิน กลุ่มหัตถกรรมเคร่ืองป้ันดินเผำเกำะเกร็ด อำเภอปำกเกร็ด
จังหวดั นนทบุรี

ศึกษา เรียนรู้ การใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ที่แสดงลักษณะทางกายภาพของประเทศ

ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของประเทศ ภูมิลักษณ์ท่ีมีต่อภูมิ

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบับปรบั ปรงุ โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปีการศึกษา 2564

52

สังคมของท้องถิ่นและประเทศไทย ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมทางสังคมในท้องถ่ินและ
ประเทศ ความสัมพันธ์ ผลกระทบ และผลที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนและผลท่ีเกิดขึ้น ด้านประชากร
เศรษฐกิจ สงั คม อาชีพและวฒั นธรรม แนวทางการใช้ทรพั ยากรของคนในชมุ ชน

โดยใช้กระบวนการเรยี นรแู้ ละเทคโนโลยีในการสืบเสาะหาความรู้ สบื คน้ ขอ้ มลู รวบรวบขอ้ มูล
สังเกตจาแนก เปรียบเทียบวิเคราะห์ บนั ทึก อธิบาย อภิปราย สรุป นาเสนอ ยกตวั อย่าง เลอื กใช้
เคร่ืองมือ เข้าร่วมกิจกรรม แสดงความเคารพ และฝึกปฏิบตั ิ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถนาเสนอสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้

ช่ืนชมการทาความดีของบุคคล เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิต แบบอย่างการดาเนินชีวิตที่
ดี คุณค่าของวัฒนธรรมไทย การนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตสาธารณะท่ีมุ่งทา
ประโยชนแ์ ละสร้างส่ิงท่ดี งี ามในสงั คมและทอ้ งถ่นิ มคี ุณธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม
รหัสตัวชี้วดั

1.1 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3 ป. 6/4 ป. 6/5 ป. 6/6 ป. 6/7 ป. 6/8 ป. 6/9
ส 1.2 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3 ป. 6/4
ส 2.1 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3 ป. 6/4 ป. 6/5
ส 2.2 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3
ส 3.1 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3
ส 3.2 ป. 6/1 ป. 6/2
ส 5.1 ป. 6/1 ป. 6/2
ส 5.2 ป. 6/1 ป. 6/2 ป. 6/3
รวม 31 ตวั ชี้วดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรงุ โรงเรียนแกว้ อินทรส์ ุธาอทุ ิศ ปกี ารศึกษา 2564

53

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

พ ๑๑๑๐๕ สขุ ศึกษำและพลศึกษำ๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ
ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

ศึกษาเกี่ยวกับ ตาแหน่ง ลักษณะ หน้าท่ี และการดูแลรักษาอวัยวะภายนอก สมาชิกในครอบครัว
ความรกั และความผกู พนั ในครอบครวั ความภาคภูมใิ จในตนเองและความแตกต่างทางเพศ การเคล่ือนไหว
รา่ งกายข้ันพ้ืนฐาน สนุกกับเกมเบ็ดเตล็ด การปฏิบัตติ นตามหลกั สุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ การปฏิบตั ิตนเม่อื มอี าการ
เจบ็ ปว่ ย และการปอ้ งกนั อันตรายท่บี า้ นและโรงเรียน

โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนเข้าร่วมกลุ่ม ได้แสดงความคิดเห็น และสนทนาเพื่อ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการแสดงบทบาทสมมุติหน้าช้ันเรียน เล่าประสบการณ์ การวาดภาพ รู้จักการ
ประเมินตนเอง ประเมินเพื่อนในช้ันเรียน เปิดกว้างให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น และมีการบูรณาการกับ
กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นได้รบั ความรทู้ ห่ี ลากหลาย

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถอธิบายความรู้เก่ียวกับสุขภาพได้ และรู้จักเคล่ือนไหว
เพ่ือออกกาลังได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการเคลื่อนไหวและความมีน้าใจ
นักกีฬา สนุกสนานในการเล่นเกม เห็นความสาคัญของการดูแลสุขภาพ เพื่อนาไปเป็นแนวทางการปฏิบัติตนใน
ชีวิตประจาวันได้
รหัสตวั ชวี้ ดั

พ 1.1 ป.1/1, ป.1/2
พ 2.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
พ 3.1 ป.1/1, ป.1/2
พ 3.2 ป.1/1, ป.1/2
พ 4.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
พ 5.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
รวมท้ังหมด 15 ตวั ช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรุงโรงเรียนแก้วอินทรส์ ุธาอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

54

พ ๑๒๑๐๕ สุขศึกษำและพลศกึ ษำ๒ คำอธิบำยรำยวชิ ำ
ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๒ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ
เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

ศึกษาเก่ียวกับอวัยวะภายในร่างกายที่สาคัญ ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ บทบาทหน้าที่ของสมาชิกใน
ครอบครัว พฤติกรรมทางเพศ การเคลื่อนไหวร่างกายเบ้ืองต้นและกิจกรรมทางกาย การออกกาลังกายและ
กิจกรรมประกอบจังหวะ สนุกกับการเล่นเกมเบ็ดเตล็ด การสร้างเสริมสุขภาพที่ดี การดูแลตนเองเบื้องต้นเม่ือ
เจ็บป่วย และบาดเจ็บ ยาสามัญประจาบ้าน สารเสพติดและสารอันตรายใกล้ตัว การป้องกันอุบัติเหตุและ
อัคคีภยั

โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ทากิจกรรมกลุ่ม ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น
และสนทนาเพ่ือแลกเปล่ียนความคิดเห็น มีการแสดงบทบาทสมมุติหน้าชั้นเรียน เล่าประสบการณ์ การ
วิเคราะห์สถานการณ์ การวาดภาพ การปฏิบัติกิจกรรมทางกายทั้งเด่ียวและกลุ่ม รู้จักการประเมินตนเอง
และประเมินเพ่ือนในช้ันเรียน เปิดกว้างให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น และรู้จักสรุปความรู้เป็นแผนภาพ
ความคิด และมีการบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่ เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนได้รับความร้ทู ีห่ ลากหลาย

เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ สามารถ
อธิบายความรู้เก่ียวกับสุขภาพได้ และรู้จักเคลื่อนไหวเพื่อออกกาลังกายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เห็น
คุณค่าและประโยชน์ของการเคลื่อนไหว การเล่นเกมและการออกกาลังกาย มีน้าใจนักกีฬาและมีความ
สนุกสนานในการเล่นเกม และปฏิบัติกิจกรรมประกอบจังหวะ เห็นความสาคัญของการดูแลสุขภาพเพ่ือ
นาไปเปน็ แนวทางการปฏิบตั ติ นในชวี ติ ประจาวันได้

รหัสตัวช้วี ดั
พ 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
พ 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
พ 3.1 ป.2/1, ป.2/2
พ 3.2 ป.2/1, ป.2/2
พ 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
พ 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
รวมทง้ั หมด 21 ตวั ช้วี ัด

หลักสตู รสถานศึกษาฉบับปรับปรงุ โรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ ปีการศึกษา 2564

55

คำอธิบำยรำยวิชำ

พ ๑๓๑๐๕ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ๓ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู ขุ ศึกษำและพลศึกษำ
ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๓ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

ศึกษาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ คุณค่าของครอบครัวและเพื่อน การถูกล่วง
ละเมดิ ทางเพศ การเคลื่อนไหวร่างกายข้ันพ้ืนฐาน เล่นเกมสนุกสร้างสุขทางใจ การออกกาลังกาย การสร้างเสริม
และทดสอบสมรรถภาพทางกาย การป้องกันโรคตดิ ต่อ อาหารหลัก 5 หมู่ และธงโภชนาการ ทนั ตสขุ ภาพ ความ
ปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตุในบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง และการปฐมพยาบาลเม่ือบาดเจ็บจากการเล่น

โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็น การรวมกลุ่มเพ่ือสนทนา
แลกเปล่ียนความคิดเห็น และศกึ ษาข้อมูลเพื่อจัดทาเป็นรายงานนาเสนอต่อชั้นเรียน มีการวิเคราะห์สถานการณ์
และผลท่เี กิดข้ึนได้อย่างมีระบบ มกี ารแสดงบทบาทสมมุติเพื่อให้ผู้เรียนได้ทดลองปฏบิ ตั ิจริง การปฏิบตั กิ ิจกรรม
ทางกาย เล่นเกม สร้างเสริมและทดสอบสมรรถภาพทางกาย รู้จักการประเมินตนเองและประเมินเพื่อนในช้ัน
เรียน เปิดกว้างให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ มกี ารบรู ณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นเพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ท่ี
หลากหลาย

เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ สุขภาพของ
ตนเองและครอบครัวที่มีความสัมพันธ์กัน เห็นคุณค่าของการเคล่ือนไหวในการออกกาลังกายเพื่อสร้างเสริม
สุขภาพ แสดงความมีน้าใจนักกีฬา และเห็นคุณค่าของการดูแลรักษาและสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ด้วยการ
ทดสอบสมรรถภาพทางกายท่ีเหมาะสมกับวัย เพ่ือให้ผู้เรียนนาไปใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตประจาวัน
และเผยแพร่ข้อมูลความรู้ใหก้ ับครอบครวั และชมุ ชน

รหสั ตัวชว้ี ดั
พ 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
พ 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
พ 3.1 ป.3/1, ป.3/2
พ 3.2 ป.3/1, ป.3/2
พ 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5
พ 5.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
รวมทงั้ หมด 18 ตัวชวี้ ดั

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบบั ปรับปรงุ โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

56

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

พ ๑๔๑๐๕ สุขศึกษำและพลศึกษำ๔ กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ
ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำ ๘๐ ชวั่ โมง

ศึกษาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการท่ีเหมาะสมตามวัย ระบบอวัยวะที่มีผลต่อการ
เจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย คุณค่าของครอบครัวและเพื่อน พฤติกรรมทางเพศ การเคล่ือนไหว
ร่างกายในชีวิตประจาวัน กายบริหารประกอบจังหวะ การเล่นเกมและกิจกรรมทางกาย การเล่นกีฬา
พื้นฐาน การสร้าง-เสริมและทดสอบสมรรถภาพทางกาย ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสุขภาพ
สภาวะทางอารมณ์ท่ีส่งผลต่อสุขภาพ ฉลากอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาและสารเสพติดให้โทษ และ
การปฐมพยาบาล

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับความรู้ความ
เข้าใจของตนเองเกี่ยวกับ สุขภาพ ครอบครัว สารวจ ตรวจสอบ การปฏิบัติ การสาธิต การคิดวิเคราะห์ผลท่ีเกิดขึ้น
ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ การบันทึกผลลงในตาราง และร้จู กั สรุปผล เพ่อื ใหไ้ ด้องค์ความรู้ มกี ารแสดงบทบาทสมมุตเิ พื่อให้
ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบตั จิ ริง และการนาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น การจดั บรรยากาศเชิงบวกเพื่อให้ผู้เรยี นมีอสิ ระใน
การแสดงความคิดเหน็ และมกี ารบูรณาการกบั กลุม่ สาระการเรียนร้อู ื่นเพือ่ ใหผ้ เู้ รียนได้รับความรทู้ ีห่ ลากหลาย

เพื่อให้ผู้เรียนอธิบายความรู้ ความเขา้ ใจของตนเองเก่ียวกบั สุขภาพได้ และสามารถปฏบิ ัติกจิ กรรม
ในการเคลื่อนไหวร่างกาย การสร้างเสริมและทดสอบสมรรถภาพทางกายท่ีถูกต้อง และแสดงน้าใจนักกีฬา
ในการเล่นเกมและกีฬาต่างๆ ผู้เรียนเห็นคุณค่าของการดูแลรักษา สร้างเสริมสุขภาพของตนเอง บุคคลใน
ครอบครัว ชุมชน และสังคม รวมถึงการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อม เพ่ือเป็นแนวทางในการนาไปปฏิบัติใน
ชวี ติ ประจาวัน

รหัสตัวชวี้ ดั
พ 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
พ 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
พ 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
พ 3.2 ป.4/1, ป.4/2
พ 4.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
พ 5.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
รวมทงั้ หมด 19 ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฉบับปรบั ปรงุ โรงเรยี นแก้วอินทรส์ ุธาอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

57

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

พ ๑๕๑๐๕ สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ๕ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศึกษำและพลศึกษำ
ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๕ เวลำ ๘๐ ช่วั โมง

ศึกษาเก่ียวกับระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ครอบครัวท่ีอบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย
การเปลี่ยนแปลงทางเพศ และสุขอนามัยทางเพศ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวและกลุ่มเพอื่ น
การพัฒนาทักษะการเคล่ือนไหวรา่ งกาย การออกกาลังกาย การเล่นเกม และกิจกรรมนันทนาการ การเลน่
กีฬาเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ การทดสอบและปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย การปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติ
แห่งชาติ ข้อมูลข่าวสารเพ่ือการสร้างเสริมสุขภาพ การเลือกซ้ืออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ การปฏิบัติตนเพ่ือ
ปอ้ งกันโรค ยาและสารเสพติดใหโ้ ทษ และอทิ ธิพลของส่ือท่ีมีต่อพฤติกรรมสขุ ภาพ

การจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ วิเคราะห์ภาพข่าว บทความ หรือ
สถานการณ์เพื่อหาคาตอบ โดยเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ท้ังแบบกลุ่มเพ่ือฝึกทักษะทางสังคม
และเป็นโอกาสให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียน การฝึกปฏิบัติจริงในกิจกรรมพลศึกษาการร่วมกัน
อภิปรายแสดงความคิดเห็น

เพื่อให้นักเรยี นเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถอธบิ าย และให้เหตผุ ลเกีย่ วกับการดแู ลสุขภาพของ
ตนเองและครอบครัว การสังเคราะห์เรื่องราว เปรียบเทียบสถานการณ์ และสรุปความรู้ท่ีเป็นสาระสาคัญ
ของเร่ืองที่ได้ศึกษา ให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการทางานเป็นกลุ่ม ออกกาลังกาย และเล่นเกมอย่างผู้มีน้าใจ
นกั กีฬา และปฏบิ ัติกจิ กรรมนนั ทนาการเพ่ือเช่ือมโยงความรู้ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ต่อไป

รหัสตัวช้วี ดั
พ 1.1 ป.5/1, ป.5/2
พ 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3
พ 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6
พ 3.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
พ 4.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
พ 5.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
รวมท้ังหมด 25 ตัวชีว้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรุงโรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ุธาอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

58

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

พ ๑๖๑๐๕ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ๖ กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศึกษำและพลศึกษำ
ชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๖ เวลำ ๘๐ ชวั่ โมง

ศึกษาเกี่ยวกับความสาคัญ ของระบบภายในร่างกาย การสร้างและรักษา สัมพันธภาพกับผู้อื่ น
เพศศึกษา หลกั การเคลื่อนไหวร่างกาย กจิ กรรมทางกายและการเคล่ือนไหวประกอบเพลง กิจกรรมนันทนาการ
การออกกาลังกายโดยการเล่นกีฬา การสร้างเสริมและทดสอบสมรรถภาพทางกาย ส่ิงแวดล้อมกับสุขภาพ
โรคติดต่อท่สี าคัญในประเทศไทย ภยั ธรรมชาติและสารเสพตดิ ใหโ้ ทษ

โดยการจัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น สนทนา แลกเปล่ียนความคิด
สังเกตภาพ ตามหัวข้อเรื่องท่ีกาหนด เพ่ือวิเคราะห์ผลดี ผลเสียที่เกิดขึ้นต่อตนเองและผู้อ่ืน วิเคราะห์
สถานการณ์เพ่ืออธิบาย สาเหตุของปัญหา ผลท่ีเกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์
จากนน้ั จงึ เขียนสรปุ ความร้เู ป็นแผนภาพรปู แบบต่างๆ การฝึกปฏิบตั ิ กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกมและกีฬา

เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถอธิบายความรู้จากประสบการณ์เดิม สามารถวิเคราะห์ผลดี ผลเสียท่ีเกิดขึ้น
จากปัญหาต่างๆ นาแนวทางแก้ไขปัญหาไปใช้หรือนาไปปฏิบัติในชีวิตประจาวันได้ ผู้เรียนเกิดจิตสานึกท่ีดี
ในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและครอบครัวด้วยการออกกาลังกายเป็นประจา รับประทานอาหารทม่ี ี
ประโยชน์ และสามารถนาข้อมูลความรู้ไปเผยแพรใ่ ห้บุคคลในครอบครัว และในชุมชนของตนเองได้ถูกตอ้ ง
เหมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด
พ 1.1 ป.6/1, ป.6/2
พ 2.1 ป.6/1, ป.6/2
พ 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5
พ 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
พ 4.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
พ 5.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
รวมทั้งหมด 22 ตัวชว้ี ดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรบั ปรงุ โรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ าอุทศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

59

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

รหสั วิชำ ศ ๑๑๑๐๑ กลุม่ สำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ
ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๑ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษา วเิ คราะห์ อธิบาย รูปร่าง ลักษณะ และขนาดของส่งิ ต่างๆ รอบตัวในธรรมชาตแิ ละส่ิงท่ี
มนษุ ยส์ รา้ งขึ้น การใชว้ สั ดุ อปุ กรณส์ รา้ งงานทัศนศลิ ป์ การทดลองใชส้ ีด้วยเทคนิคง่ายๆ ความรูส้ กึ ท่ี
มตี อ่ ธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมที่อยูร่ อบๆ ตวั การวาดภาพระบายสภี าพธรรมชาตติ ามความร้สู ึกของตนเอง
งานทัศนศิลป์ในชีวิตประจาวนั

ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย ฝึกปฏิบัติ ส่ิงต่างๆ ก่อกาเนิดเสียงที่แตกต่างกัน ลักษณะของเสียง
ดัง-เบา และความช้า-เร็วของจังหวะ การท่องบทกลอนและร้องเพลงง่ายๆ การมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ดนตรีอย่างสนุกสนาน ความเกี่ยวข้องของเพลงที่ใช้ในชีวิตประจาวัน เพลงในท้องถ่ิน ส่ิงท่ีชื่นชอบใน
ดนตรที อ้ งถ่ิน

ศกึ ษา วเิ คราะห์ อภิปราย ฝกึ ปฏบิ ัติ การเลยี นแบบการเคลือ่ นไหว การแสดงทา่ ทางงา่ ยๆ เพ่อื
ส่ือความหมายแทนคาพูด การละเล่นของเด็กไทย สิ่งท่ีตนเองชอบจากการดูหรือร่วมการแสดง และ
การแสดงนาฏศลิ ป์

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน
ทัศนศลิ ป์ การเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ท่เี หมาะสมกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง การแสดงออกทางดนตรีและนาฏศลิ ป์
อยา่ งสรา้ งสรรค์ การวเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์คุณคา่ งานงานทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ เพือ่ ใหเ้ หน็
คณุ คา่ งานทศั นศลิ ปด์ นตรี และนาฏศลิ ป์ ทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและ
สากลสอู่ าเซียน และเข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างทศั นศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตรแ์ ละ
วัฒนธรรม และการนาความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน มจี ริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม 12
ประการท่ีเหมาะสม

รหัสตัวช้ีวดั
ศ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑ / ๕
ศ ๑.๒ ป.๑/๑
ศ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ศ ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ศ ๓.๑ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ , ป ๑/๓
ศ ๓.๒ ป ๑/๑ , ป ๑/๒

รวมจำนวน ๑๘ ตัวชว้ี ดั

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบับปรบั ปรุงโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

60

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

รหัสวชิ ำ ศ ๑๒๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ

ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๒ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษา วเิ คราะห์ อภปิ ราย บรรยาย รปู รา่ ง รูปทรงทีพ่ บในธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ทัศนธาตุ

ท่อี ยใู่ นส่งิ แวดล้อมโดยเนน้ เร่ือง เส้น สี รปู รา่ ง และรปู ทรง การสร้างงานทัศนศลิ ป์โดยใช้ทัศนธาตทุ ่เี น้น

เส้น รูปร่าง การวาดภาพเพื่อถ่ายทอดเรอื่ งราวเก่ียวกับครอบครวั ของตนเองและเพื่อนบ้าน การบรรยาย

ถึงสิ่งท่ีมองเห็น เนื้อหาเรื่องราวจากงานทัศนศิลป์ที่เลือก การใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างงานทัศนศิลป์ 3 มิติ

การสรา้ งภาพปะติดโดยการตัดหรือฉีกกระดาษ การสร้างสรรค์งานโครงสรา้ งเคลื่อนไหว ความสาคัญของ

งานทศั นศิลปท์ ่ีพบเห็นในชวี ติ ประจาวัน วิธีการสรา้ งงานและวัสดุอปุ กรณ์ท่ใี ช้ในงานทศั นศิลป์ท้องถ่นิ

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ อธิบาย แหล่งกาเนิดของเสียงท่ีได้ยิน คุณสมบัติของเสียงสูง-ต่า

ดัง-เบา ยาว-ส้ัน ของดนตรี การเคาะจังหวะหรือเคลื่อนไหวร่างกายให้สอดคล้องกับเน้ือหาของเพลง

การร้องเพลงง่ายๆ ที่เหมาะสมกับวัย ความหมายและความสาคัญของเพลงปลุกใจและเพลงสอนใจ

ความสัมพันธ์ของเสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรีในเพลงท้องถ่ิน การแสดงและเข้าร่วมกิจกรรมทางดนตรี

ทอ้ งถ่นิ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ฝึกปฏิบตั ิ อธิบาย การเคลอ่ื นไหวขณะอยู่กบั ท่แี ละเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวท่ี

สะท้อนอารมณ์ของตนเองอย่างอิสระ การแสดงท่าทางเพื่อสื่อความหมายแทนคาพูด การแสดงท่าทาง

ประกอบจังหวะอย่างสร้างสรรค์ มารยาทในการชมการแสดง การละเล่นพ้ืนบ้าน สิ่งที่พบเห็นใน

การละเลน่ พ้ืนบ้านในการดารงชีวติ ของคนไทย ส่งิ ที่ชื่นชอบและภาคภูมิใจในการละเล่นพนื้ บา้ น

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน

ทศั นศิลป์ การเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณท์ ่ีเหมาะสมกับเศรษฐกิจพอเพยี ง การแสดงออกทางดนตรแี ละนาฏศิลป์

อย่างสรา้ งสรรค์ การวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณค์ ุณคา่ งานงานทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ เพื่อใหเ้ ห็น

คณุ คา่ งานทัศนศิลป์ดนตรี และนาฏศิลป์ ทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและ

สากลสู่อาเซียน และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตร์และ

วัฒนธรรม และการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม 12

ประการที่เหมาะสม

รหัสตัวชี้วดั

ศ ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘

ศ ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒

ศ ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕

ศ ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒

ศ ๓.๑ ป ๒/๑ , ป ๒/๒ , ป ๒/๓ , ป ๒/๔ , ป ๒/๕

ศ ๓.๒ ป ๒/๑ , ป ๒/๒ , ป ๒/๓

รวมจำนวน ๒๕ ตวั ชีว้ ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรุงโรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปีการศึกษา 2564

61

คำอธิบำยรำยวิชำ

รหัสวิชำ ศ ๑๓๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ

ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๓ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย อธิบาย จาแนก รูปร่าง รูปทรงในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ

งานทัศนศิลป์ ทัศนธาตุของส่ิงต่างๆ ในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ โดยเน้นเร่ือง เส้น สี

รูปร่าง รูปทรง และพ้ืนผิว การจัดกลุ่มทัศนธาตุท่ีเน้นในงานทัศนศิลป์นั้นๆ ลักษณะรูปร่าง รูปทรงใน

งานการออกแบบสิ่งต่างๆ ที่มีในบ้านและโรงเรียน วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้สร้างงานทัศนศิลป์ประเภทงานวาด

งานปั้น งานพิมพ์ภาพ การวาดภาพระบายสีส่ิงของรอบตัว การวาดภาพถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก

จากเหตุการณ์ชีวิตจริง สิ่งที่ช่ืนชมและส่ิงท่ีควรปรับปรุงในงานทัศนศิลปข์ องตนเอง การใช้วัสดุ อุปกรณ์

สร้างสรรค์งานปั้น เหตุผลและวิธีการในการสร้างงานทัศนศิลป์โดยเน้นเทคนิค และวัสดุ อุปกรณ์ ที่มา

ของงานทศั นศิลป์ในทอ้ งถนิ่ การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการสรา้ งงานทัศนศลิ ปใ์ นทอ้ งถ่นิ

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ อธิบาย รูปร่าง ลักษณะของเคร่ืองดนตรีที่เห็นและได้ยินใน

ชีวิตประจาวัน การใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์แทนจังหวะเคาะ บทบาทหน้าที่ของเพลงที่ได้ยิน การนา

ดนตรีไปใช้ในชวี ิตประจาวนั การขบั ร้องและบรรเลงดนตรงี ่ายๆ การแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เสียงดนตรี

เสียงขับร้องของตนเองและผู้อื่น การเคล่ือนไหวท่าทางสอดคล้องกับอารมณ์เพลงที่ฟัง ลักษณะเด่นและ

เอกลักษณข์ องดนตรีทอ้ งถนิ่ ความสาคญั และประโยชน์ของดนตรตี อ่ การดาเนนิ ชวี ิต

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏบิ ตั ิ อธบิ าย การเคลอ่ื นไหวในรูปแบบตา่ งๆ ในสถานการณ์สัน้ ๆ การแสดง

ท่าทางประกอบเพลงตามรูปแบบนาฏศิลป์ บทบาทหน้าที่ของผู้แสดงและผู้ชม การมีส่วนร่วมในกิจกรรม

การแสดงท่ีเหมาะสมกับวัย ประโยชน์ของการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจาวัน การแสดงนาฏศิลป์ที่เคย

เห็นในท้องถิ่น ส่งิ ท่เี ป็นลกั ษณะเด่นและเอกลักษณข์ องการแสดงนาฏศิลป์ ความสาคญั ของการแสดงนาฏศิลป์

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน

ทศั นศลิ ป์ การเลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ที่เหมาะสมกับเศรษฐกจิ พอเพยี ง การแสดงออกทางดนตรแี ละนาฏศิลป์

อย่างสร้างสรรค์ การวเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์คณุ ค่างานงานทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เพอ่ื ใหเ้ ห็น

คุณคา่ งานทัศนศิลป์ดนตรี และนาฏศิลป์ ท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ภมู ปิ ัญญาไทยและ

สากลสู่อาเซียน และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตร์และ

วัฒนธรรม และการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม 12

ประการทเี่ หมาะสม

รหัสตัวช้ีวัด
ศ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘ , ป.๓/๙, ป.๓/๑๐
ศ ๑.๒ ป.๓/๑, ป. ๓/๒
ศ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗
ศ ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรบั ปรงุ โรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

62

ศ ๓.๑ ป ๓/๑ , ป ๓/๒ , ป ๓/๓ , ป ๓/๔ , ป ๓/๕
ศ ๓.๒ ป ๓/๑ , ป ๓/๒ , ป ๓/๓
รวมจำนวน ๒๙ ตัวชีว้ ัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรบั ปรงุ โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปีการศกึ ษา 2564

63

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

รหสั วชิ ำ ศ ๑๔๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ

ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง/ปี

**********************

ศึกษา วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อภิปราย จาแนก บรรยาย รูปลักษณะของรูปร่าง รูปทรงใน

ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ ทัศนธาตุของส่ิงต่างๆ ในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และงาน

ทัศนศิลป์ โดยเน้นเรื่องเส้น สี รูปร่าง รูปทรง พ้ืนผิว และพื้นที่ว่าง อิทธิพลของสีวรรณะอุ่น และสี

วรรณะเย็นที่มีต่ออารมณ์ของมนุษย์ การวาดภาพระบายสีโดยใช้สีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็น ถ่ายทอด

ความรู้สึกและจินตนาการ การใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพและงานวาดภาพระบายสี

ลักษณะภาพที่เน้นการจัดระยะ ความลึก น้าหนัก และแสงเงา การถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกผ่าน

งานทัศนศิลป์ของตนเองและผู้อื่น งานทัศนศิลป์ในเหตุการณ์และงานเฉลิมฉลองของวัฒนธรรมท้องถิ่น

งานทศั นศิลป์ที่มาจากวฒั นธรรมตา่ งๆ

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกปฏิบัติ อธิบาย ประโยคเพลงอย่างง่าย ทิศทางการเคลื่อนท่ีข้ึน-ลงง่ายๆ

ของทานอง รูปแบบจงั หวะ และความเรว็ ของจงั หวะในเพลงที่ฟัง ประเภทของเครอ่ื งดนตรที ีใ่ นเพลงท่ีฟัง

การใช้และเก็บเครื่องดนตรีอย่างถูกต้องและปลอดภัย การอ่าน เขียนโน้ตไทยและสากล การร้องเพลง

โดยใช้ช่วงเสียงท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง การใช้สอื่ เร่ืองราวของดนตรี แหลง่ ทมี่ าและความสมั พันธข์ องวิถีชีวิต

ไทยท่สี ะท้อนในดนตรแี ละเพลงท้องถนิ่

ศกึ ษา วิเคราะห์ ฝึกปฏบิ ัติ อธบิ าย ทักษะพืน้ ฐานทางนาฏศิลป์และการละครท่ีใช้ส่อื ความหมาย

และอารมณ์ การใช้ภาษาท่าและนาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครง่ายๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราว การ

แสดงการเคลื่อนไหวในจงั หวะต่างๆ ตามความคดิ ของตน การแสดงนาฏศิลปเ์ ป็นคแู่ ละหมู่ ส่ิงทช่ี ื่นชอบใน

การแสดงโดยเน้นจุดสาคัญของเรื่องและลักษณะเด่นของตัวละคร ประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์หรือ

ชุดการแสดงอย่างง่ายๆ ความสาคัญของการแสดงความเคารพในการเรียนและการแสดงนาฏศิลป์ การ

แสดงนาฏศลิ ปก์ บั การแสดงท่มี าจากวัฒนธรรมอื่น เหตผุ ลท่ีควรรักษาและสืบทอดการแสดงนาฏศลิ ป์

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน

ทศั นศลิ ป์ การเลอื กใชว้ ัสดุ อุปกรณท์ ่ีเหมาะสมกับเศรษฐกิจพอเพยี ง การแสดงออกทางดนตรีและนาฏศิลป์

อย่างสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานงานทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เพ่ือให้เห็น

คณุ คา่ งานทัศนศิลป์ดนตรี และนาฏศลิ ป์ ทีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ภมู ิปญั ญาไทยและ

สากลสู่อาเซียน และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตร์และ

วฒั นธรรม และการนาความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มจี รยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยม12 ประการท่ีเหมาะสม

รหัสตวั ช้ีวัด

ศ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔,ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙

ศ ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒

ศ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรงุ โรงเรยี นแก้วอินทรส์ ุธาอทุ ศิ ปีการศึกษา 2564

64

ศ ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ศ ๓.๑ ป ๔/๑ , ป ๔/๒ , ป ๔/๓ , ป ๔/๔ , ป ๔/๕
ศ ๓.๒ ป ๔/๑ , ป ๔/๒ , ป ๔/๓ , ป ๔/๔
รวมจำนวน ๒๙ ตัวชว้ี ัด

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบับปรบั ปรงุ โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ุธาอทุ ศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

65

คำอธิบำยรำยวิชำ

รหสั วิชำ ศ ๑๕๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ศู ิลปะ

ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ ๕ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง/ปี

**********************

ศกึ ษา วิเคราะห์ อธิบาย เก่ียวกับจังหวะ ตาแหนง่ ของสงิ่ ต่างๆ ทีป่ รากฏในสง่ิ แวดล้อมและงาน

ทัศนศิลป์ ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ท่ีสร้างสรรค์ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการท่ีต่า งกัน

ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม การวาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงา

น้าหนัก และวรรณะสี งานปั้นจากดินน้ามันหรือดินเหนียว การพิมพ์ภาพโดยเน้นการจัดวาง ปัญหาใน

การจัดองค์ประกอบศิลป์ การสือ่ ความหมายในงานทศั นศลิ ป์ วธิ กี ารปรับปรุงงานใหด้ ีข้นึ ลกั ษณะรปู แบบ

ของงานทัศนศลิ ป์ในแหล่งเรียนรู้หรอื นทิ รรศการศิลปะ งานทัศนศิลปท์ สี่ ะท้อนวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาใน

ท้องถ่ิน

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย บรรยาย เปรยี บเทยี บ ฝกึ ปฏิบัติ องคป์ ระกอบดนตรีในเพลงท่ีใชใ้ นการ

สื่ออารมณ์ ลักษณะของเสียงขับร้องและเคร่ืองดนตรีท่ีอยู่ในวงดนตรีประเภทต่างๆ การอ่านเขียนโน้ต

ดนตรีไทยและสากล 5 ระดับเสียง การใช้เครื่องดนตรีบรรเลงจังหวะและทานอง การร้องเพลงไทยหรือ

เพลงสากล หรือเพลงไทยสากลท่ีเหมาะสมกับวัย การด้นสดง่ายๆ โดยใช้ประโยคเพลงแบบถาม -ตอบ

การใช้ดนตรีร่วมกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการ ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีใน

วัฒนธรรมตา่ งๆ คณุ ค่าของดนตรีท่มี าจากวฒั นธรรมท่ตี า่ งกัน

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ ฝึกปฏิบัติ องค์ประกอบนาฏศิลป์ การแสดง

ท่าทางประกอบเพลงหรือเรื่องราวตามความคิดของตน การแสดงนาฏศิลป์โดยเน้นการใช้ภาษาท่าในการ

สอ่ื ความหมายและการแสดงออก การแสดงนาฏศิลป์ชุดต่างๆ การมีสว่ นรว่ มในกลุ่มกับการเขยี นเค้าโครง

เร่ืองหรือบทละครส้ันๆ ประโยชน์ที่ได้รับจากการชมการแสดง การแสดงประเภทต่างๆ ของไทยในแต่ละ

ท้องถน่ิ นาฏศลิ ปพ์ ้ืนบา้ นทส่ี ะทอ้ นถึงวัฒนธรรมและประเพณี

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน

ทัศนศลิ ป์ การเลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณท์ ี่เหมาะสมกับเศรษฐกิจพอเพียง การแสดงออกทางดนตรแี ละนาฏศิลป์

อย่างสร้างสรรค์ การวเิ คราะห์ วิพากษ์วจิ ารณ์คณุ คา่ งานงานทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ เพือ่ ใหเ้ ห็น

คณุ คา่ งานทัศนศิลป์ดนตรี และนาฏศลิ ป์ ทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ิปญั ญาไทยและ

สากลสู่อาเซียน และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตร์และ

วัฒนธรรม และการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยม 12

ประการท่เี หมาะสม

รหสั ตวั ชี้วดั

ศ ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔,ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗

ศ ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒

ศ ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบบั ปรบั ปรงุ โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปีการศึกษา 2564

66

ศ ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ศ ๓.๑ ป ๕/๑ , ป ๕/๒ , ป ๕/๓ , ป ๕/๔ , ป ๕/๕ , ป ๕/๖
ศ ๓.๒ ป ๕/๑ , ป ๕/๒
รวมจำนวน ๒๖ ตัวชีว้ ัด

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบบั ปรับปรงุ โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ุธาอทุ ศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

67

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

รหสั วิชำ ศ ๑๖๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ิลปะ

ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๖ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง/ปี

**********************

ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย อธิบาย หลักการจัดขนาด สัดส่วน ความสมดุลในการสร้างงาน

ทัศนศิลป์ การสร้างงานทัศนศิลป์โดยใช้หลักการของรูปและพ้ืนท่ีว่าง การใช้สีคู่ตรงข้ามในการถ่ายทอด

ความคิดและอารมณ์ การสร้างงานทัศนศิลป์โดยใช้สีคู่ตรงข้าม หลักการจัดขนาด สัดส่วน และความ

สมดุล การสร้างงานทัศนศิลป์รูปแบบ ๒ มิติ และ ๓ มิติ โดยใช้หลักการของแสงเงาและน้าหนัก การ

สร้างสรรค์งานป้ันโดยใช้หลักการลดและเพิ่ม การสร้างงานทัศนศิลป์เป็นแผนภาพ แผนผัง และ

ภาพประกอบ บทบาทของงานทัศนศิลป์ในชวี ติ ประจาวนั และสังคม อิทธิพลของศาสนาและวฒั นธรรมท่ีมี

ต่องานทัศนศลิ ปใ์ นท้องถนิ่

ศึกษา วิเคราะห์ บรรยาย อธิบาย ฝึกปฏิบัติ เพลงท่ีฟังโดยอาศัยองค์ประกอบดนตรีและศัพท์

สังคีต ความรู้สึกท่ีมีต่อดนตรี ทานอง จังหวะ การประสานเสียง และคุณภาพเสียงของเพลงท่ีฟัง

ประเภทและบทบาทหน้าท่ีเครอ่ื งดนตรีไทยและเคร่ืองดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมต่างๆ การอ่าน เขียนโนต้

ไทยและโน้ตสากลทานองง่ายๆ การใช้เคร่ืองดนตรีประกอบการร้องเพลง ด้นสด ที่มีจังหวะและทานอง

งา่ ยๆ เรื่องราวของดนตรีไทยในประวตั ิศาสตร์ ดนตรที ี่มาจากยคุ สมัยท่ีต่างกัน อทิ ธิพลของวฒั นธรรมต่อ

ดนตรใี นทอ้ งถน่ิ

ศึกษา วิเคราะห์ บรรยาย อธิบาย ฝึกปฏิบัติ การสร้างสรรค์การเคล่ือนไหวและการแสดง

โดยเน้นการถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ การออกแบบเคร่ืองแต่งกายหรืออุปกรณ์ประกอบการแสดงอย่าง

ง่ายๆ การแสดงนาฏศิลป์และละครง่ายๆ ความรู้สึกของตนเองที่มีต่องานนาฏศิลป์และการละครอย่าง

สร้างสรรค์ ความคิดเห็นในการชมการแสดง ความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งท่ีประสบ

ในชีวิตประจาวัน ส่ิงท่ีมีความสาคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์และละคร ประโยชน์ที่ได้รับจากการแสดงหรือ

ชมการแสดงนาฏศลิ ป์และละคร

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ ในการสร้างและนาเสนอผลงาน

ทัศนศิลป์ การเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณท์ ีเ่ หมาะสมกับเศรษฐกิจพอเพยี ง การแสดงออกทางดนตรแี ละนาฏศิลป์

อย่างสรา้ งสรรค์ การวเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณค์ ุณค่างานงานทัศนศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศลิ ป์ เพอื่ ให้เห็น

คุณคา่ งานทัศนศิลป์ดนตรี และนาฏศิลป์ ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปญั ญาไทยและ

สากลสู่อาเซียน และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์ กับประวัติศาสตร์และ

วัฒนธรรม และการนาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน มจี ริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยม12 ประการทีเ่ หมาะสม

รหัสตัวช้ีวดั

ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗

ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓

ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

หลักสตู รสถานศกึ ษาฉบบั ปรับปรงุ โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ ปีการศกึ ษา 2564

68

ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ศ ๓.๑ ป ๖/๑ , ป ๖/๒ , ป ๖/๓ , ป ๖/๔ , ป ๖/๕ , ป ๖/๖
ศ ๓.๒ ป ๖/๑ , ป ๖/๒
รวมจำนวน ๒๗ ตวั ช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศึกษาฉบับปรับปรงุ โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอุทศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

๖๙

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รายวิชาการงานอาชีพ รหัสวิชา ง๑๑๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาวิธีการทางานเพ่ือช่วยเหลือตนเองในเรื่องการแต่งกาย การเก็บของใช้ การหยิบจับและใช้ชอง
ใช้ส่วนตัว การจัดโต๊ะ ตู้ ช้ัน รู้จักใช้วัสดุอุปกรณ์เคร่ืองมือง่ายๆ ในการทางานอย่างปลอดภัย เช่น การทา
ความคุ้นเคยกับการใช้เคร่ืองมือ การรดน้าต้นไม้ การถอนและเก็บวัชพืช การพับกระดาษเป็นของเล่น
ศึกษาข้อมูลสิ่งที่สนใจเกี่ยวกับบุคคล สัตว์ ส่ิงของ เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ศึกษาแหล่งข้อมูลที่อยู่ใกล้
ตวั ชมุ ชนและท้องถิ่นที่ตนอาศัย เชน่ รจู้ ักมะม่วงยายกล่าซ่ึงเป็นมะม่วงหายากของอาเภอบางใหญ่ มีการทักษะ
วิธีการช่วยเหลือตนเองและทักษะกระบวนการทางานร่วมกัน ฝึกใช้วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆในการ
ทางานอย่างปลอดภัย บอกขอ้ มูลของสิง่ ที่สนใจและแหล่งข้อมูลท่ีอยใู่ กลต้ ัว มคี วามกระตือรือร้นและ ความ
ตรงต่อเวลาเป็นลกั ษณะนสิ ัยในการทางาน

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด
ง ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวชว้ี ัด

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ ปีการศึกษา 2564

๗๐

คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน

รายวชิ าการงานอาชีพ รหสั วชิ า ง๑๒๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาวิธีการทางานเพอ่ื ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครวั บทบาทและหน้าที่ของสมาชิกในบ้าน
การจัดวาง เก็บเส้ือผ้า รองเท้า การช่วยครอบครัวเตรียม ประกอบอาหาร การกวาดบ้าน การล้างจาน
การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมอื ให้เหมาะสมกบั งานช่วยใหป้ ระหยัดและปลอดภยั การเพาะเมล็ด
การดูแลแปลงเพาะกล้า การทาของเล่น การประดิษฐ์ของใช้ส่วนตัว ประโยชน์ของสิ่งของเคร่ืองใช้ใน
ชีวิตประจาวัน การสร้างของเล่น ของใช้อย่างง่าย และบอกอาชีพหลักในท้องถิ่นของตนเช่น การปลูกมะม่วง
ยายกล่าขายเป็นอาชีพของคนในชุมชน อาเภอบางใหญ่ และของกลุ่มประเทศอาเซียนได้ เช่น เวียดนาม
มาเลเซีย สิงคโปร์

เพ่ือให้เหน็ คุณค่าของการนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน มีคุณธรรม มจี ติ สานึก มีค่านยิ ม
ทเ่ี หมาะสมต่อชวี ติ และ ส่ิงแวดล้อม เพ่อื การดารงชีวติ และครอบครัวของตนเอง

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด
ง ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓

รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ ปีการศึกษา 2564

รายวชิ าการงานอาชพี คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ๗๑
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ รหัสวชิ า ง๑๓๑๐๑
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
เวลา ๒๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาความสาคญั ของการทางานเพอื่ ช่วยเหลอื ตนเอง ครอบครวั และสว่ นรวมกระบวนการทางานเพ่ือช่วยเหลอื
การจดั เตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี น และการทาความสะอาดกระเป๋านกั เรยี นตนเอง ครอบครัวและสว่ นรวมการทาความสะอาด
รองเท้านกั เรยี น การปดั กวาด เช็ด ถู บา้ นเรอื นการกรอกน้าใส่ขวด

การทาความสะอาดห้องเรียน การเลอื กใชเ้ สื้อผา้ ความหมาย ประโยชนข์ องการซ่อมแซมเสอื้ ผา้ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ที่ใช้ใน
การซอ่ มแซมเส้อื ผา้ อย่างง่าย การเนาผา้ การปลูกผักสวนครวั การดแู ลรกั ษาผกั สวนครวั ประโยชน์ของการปลกู ผกั สวนครวั
และการปลกู มะม่วงยายกลา่ ซึง่ เปน็ การอนรุ ักษพ์ ันธุ์มะม่วงไว้ในชุมชน การประดษิ ฐข์ องใชใ้ นโอกาสต่างๆโดยใชว้ สั ดใุ นทอ้ งถิ่น
หลกั การเลอื กใช้สิ่งของเครอ่ื งใชใ้ นชีวติ ประจาวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ การจัดการส่งิ ของเครื่องใชด้ ว้ ยการนากลับมาใช้ซา้
ประโยชนข์ องการนาสิง่ ของเคร่อื งใชก้ ลับมาใชซ้ ้า

สามารถบอกอาชีพหลกั ในทอ้ งถ่นิ ของกลมุ่ ประเทศอาเซีย ทาให้เกดิ ความคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์ในการทางาน ดแู ล
รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มในท้องถน่ิ ของตนเองและดารงชวี ติ อยูใ่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสุข

เพื่อใหเ้ ห็นคุณคา่ ของการนาความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน มีคณุ ธรรม มีจติ สานึก มคี ่านยิ ม

ท่ีเหมาะสมต่อชวี ติ และ สิง่ แวดลอ้ ม เพ่อื การดารงชีวติ และครอบครัวของตนเอง

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด
ง ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓

รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแก้วอินทร์สุธาอทุ ิศ ปกี ารศึกษา 2564

๗๒

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รายวชิ าการงานอาชีพ รหสั วิชา ง๑๔๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาวิธีการทางานให้บรรลุตามเป้าหมายเป็นการทางานตามลาดบั อย่างเปน็ ข้ันตอนตาม
กระบวนการทางาน ในเรื่องการดูแลรักษาของใชส้ ว่ นตวั การจัดตเู้ สอ้ื ผ้า โต๊ะเขียนหนงั สือ และกระเป๋า
นกั เรียน การปลกู ไม้ดอกหรือไม้ประดบั ประจาชาติอาเซียน และการดแู ลรักษาและขยายพันธ์มุ ะม่วงยายกล่า
การซ่อมแซมอุปกรณเ์ ครื่องมือและเครื่องใช้ การประดษิ ฐ์ของใช้ของตกแต่งจากใบตองและกระดาษ การ
จัดเกบ็ เอกสารส่วนตวั มารยาทในการปฏิบัติตน เช่น การต้อนรับบิดามารดาหรือผ้ปู กครองในโอกาสต่างๆ
การรับประทานอาหาร การใช้หอ้ งเรยี น หอ้ งนา้ และห้องสว้ ม การใชพ้ ลงั งานและทรัพยากรอย่างประหยัด
และคมุ้ ค่า

โดยอธบิ ายเหตุผลในการทางานใหบ้ รรลุเป้าหมาย บอกคุณธรรมในการทางานได้ปฏิบตั ติ น

อยา่ งมีมารยาทในโอกาสต่างๆ ใช้พลังงานและทรพั ยากรในการทางานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ความสาคัญ
ของอาชีพ

เพื่อให้นกั เรียนมวี นิ ยั มคี วามซือ่ สัตยส์ จุ รติ มีนสิ ัยใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มน่ั ในการทางานและอยู่อยา่ งพอเพยี ง

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด
ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔ /๔

ง ๒.๑ ป.๔/๑

รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแกว้ อินทร์สธุ าอุทศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

๗๓

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รายวชิ าการงานอาชีพ รหสั วิชา ง๑๕๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาข้นั ตอนการทางานตามลาดบั ขน้ั ตอน ซึ่งเปน็ สว่ นหนึ่งของการปฏิบัติงานตามกระบวนการ ในเรือ่ งการ
ซ่อมแซม ซัก ตาก เก็บ รีด และพับเสื้อผ้า การแต่งกายของแต่ละชาติในกลุ่มอาเซยี น การปลูกพืช และการจดั
จาหน่ายมะม่วงยายกล่า การทาบญั ชีครัวเรือน จดั การระบบงานและระบบคนเพื่อให้ทางานสาเรจ็ ตามเป้าหมายอย่าง
มีประสิทธภิ าพ ในเรื่องการจดั โตะ๊ อาหาร ตเู้ ย็น หอ้ งครัว การทาความสะอาดห้องนา้ ห้องสว้ ม การซอ่ มแซมอุปกรณ์
ของใช้ ภายในบ้าน การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุเหลือใช้ท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน การจัดเอกสารสาคัญ การ
ดแู ลรกั ษาและชองใช้ส่วนตัว มารยาทในการทางานกบั สมาชกิ ในครอบครัว ศึกษาอาชีพต่างๆในชมุ ชน เช่น คา้ ขาย
เกษตรกรรม รับจ้าง ข้าราชการ พนักงานของรัฐ และอาชีพอิสระ ศึกษาความแตกต่างของอาชีพในเร่ือง รายได้
ลกั ษณะงาน ประเภทกิจการ การทางานไมเ่ ป็นเวลา การยอมรับนับถอื จากสังคม ตลอดจนความเสย่ี งต่อชีวติ

เพื่อให้เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน
ทรพั ยากรอยา่ งประหยัด และคุ้มคา่ มกี ารแปรรูปและนากลับมาใชใ้ หม่ เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรคต์ ่อชีวิตและ
สงั คม

มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด
ง ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕ /๔

ง ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒

รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตวั ชวี้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแก้วอินทรส์ ุธาอุทิศ ปกี ารศึกษา 2564

๗๔

คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน

รายวิชาการงานอาชีพ รหัสวิชา ง๑๖๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

ศกึ ษาแนวทางในการทางานและปรับปรุงงานการทางานแตล่ ะข้ันตอนตามลาดบั ทว่ี างแผนไว้ คอื ก่อนการ
ทางาน ขณะทางานและเม่ือทางานเสร็จแลว้ ในเรอื่ งการดูแลรักษาของใช้ภายในบ้าน การปลกู ไมด้ อกหรอื ไม้ประดบั
ปลกู ผกั การแปรรูปมะมว่ งยายกลา่ หรอื เล้ยี งปลาสวยงาม การบนั ทึกรายรับ-รายจ่าย การจัดเก็บเอกสารการเงนิ การ
จดั การในการทางาน
ในเรอ่ื งการเตรียมประกอบจดั อาหาร และอาหารประชาติของของสมาชิกกลมุ่ อาเซียน การติดต้ังประกอบ
ของใช้ในบา้ น การประดิษฐข์ องใชข้ องตกแต่งใหส้ มาชิกในครอบครวั หรอื เพ่อื นๆ ในโอกาส

เพอ่ื มมี ารยาทในการทางานกบั ครอบครวั ส่วนรวม ทางานในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งมีจิตสานกึ รับผดิ ชอบ และ
มีคณุ ธรรมการประกอบอาชีพ

มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด
ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ง ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒

รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแก้วอินทรส์ ุธาอทุ ศิ ปกี ารศึกษา 2564

๗๕

คำอธิบำยรำยวิชำ

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

รำยวิชำภำษำอังกฤษ 1 รหัสวชิ ำ อ 11101

ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ 1 จำนวน 160 ชั่วโมง / ปี

พูด และปฏิบัติตามคาสั่งง่าย ๆ ที่ใช้ในห้องเรียน ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย สะกดคาง่ายๆ ถูกต้อง อ่านออกเสยี งถูกตอ้ งตามหลกั การออกเสียง เลือกภาพตรงความหมายของ
คาและกลุ่มคาที่ฟงั เกย่ี วกบั ตนเองครอบครวั โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว อาหาร เคร่อื งดมื่ และนันทนาการ ตอบ
คาถามง่ายๆ จากการฟังเร่ืองใกล้ตัวหรือนิทานที่มีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ัน ๆ ง่ายๆ ในการสนทนา
ทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ และพูดแนะนาตัวเอง บุคคลใกล้ตัว เร่ืองใกล้ตัวในการบอกชื่อ อายุ รูปร่าง
ส่วนสูง ความต้องการ จานวนเลข 1-20 สี ขนาด และตาแหน่งของส่ิงของ พูด ทาท่าประกอบและใช้สีหน้า
ท่าทางประกอบการพูด ตามวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ในการพดู แนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมือ การ
แสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ บอกชือ่ และคาศัพทเ์ ก่ียวกับเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษาและเข้ารว่ มกิจกรรม
ทางภาษาท่ีเหมาะกับวัย เช่น เล่นเกม ร้องเพลง เล่านิทานประกอบท่าทางในวันคริสต์มาส วันขึ้นปีใหม่ วันวา
เลนไทน์ บอกคาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและรวบรวมคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องใกล้ตัวจากส่ือต่างๆ
เพ่ือให้นักเรียนรู้ เข้าใจและปฏิบัติตามคาส่ังง่ายๆที่ใช้ในห้องเรียน พูดโต้ตอบด้วยคาสั่งส้ันๆง่ายๆในการสื่อสาร
พูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง และบุคคลใกล้ตัว พูดและทาท่าประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
บอกชื่อและคาศัพทง์ ่ายๆทเี่ ก่ยี วข้องกับเทศกาลสาคัญของเจา้ ของภาษา เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
ท่ีเหมาะสมกับวัย บอกคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ใช้ภาษาต่างประเทศเพ่ือรวมรวมคาศัพท์ที่
เกยี่ วข้องใกลต้ ัว

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4
ต 1.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4
ต 1.3 ป.1/1
ต 2.1 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3
ต 2.2 ป.1/1
ต 3.1 ป.1/1
ต 4.1 ป.1/1
ต 4.2 ป.1/1

รวม 16 ตัวชี้วัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแก้วอินทรส์ ุธาอุทิศ ปีการศึกษา 2564

๗๖

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวชิ ำภำษำองั กฤษ 2 รหัสวิชำ อ 10201

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 2 จำนวน 160 ชั่วโมง / ปี

พูด และปฏิบัติตามคาส่ังและคาขอร้องง่าย ๆ ท่ีใช้ในห้องเรียน ระบุตัวอักษรและเสียงตัวอักษรของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย อ่านออกเสียง สะกดคา และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ออกเสียง เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น
สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครื่องดื่มและนันทนาการ ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรือ
นิทานง่ายๆที่มีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ันๆ ง่าย ๆ ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ให้
ข้อมูลงา่ ยๆ เกย่ี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั ในการบอกชือ่ อายุ รปู รา่ ง ส่วนสูง ความต้องการ ส่งิ ตา่ ง ๆ สี
จานวนเลข 1-30 ขนาดและตาแหน่งของส่ิงของ พูดและทาท่าประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ใน
การใช้สีหน้าท่าทางประกอบการพูดขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมือ การโบกมือ การแสดงอาการตอบรับ
หรือปฏิเสธ บอกช่ือและคาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัย เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทางในวันคริสต์มาส วัน
ขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน์ บอกคาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนและรวบรวมคาศัพท์ที่เก่ียวข้อง
ใกล้ตัวจากส่ือต่างๆ เพื่อให้นักเรียนรู้ เข้าใจและปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร้องง่ายๆท่ีใช้ในห้องเรียน อ่านออก
เสียงสะกดคา และอ่านประโยคง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการออกเสียง เลือกภาพตรงตามความหมายของคา
กลุ่มคาและประโยค ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรือ นิทานง่าย ๆ พูดโต้ตอบด้วยคาสั้น ๆ
ง่าย ๆ และบอกความตอ้ งการง่าย ๆ ของตนเอง

ตวั ช้วี ัด

ต 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
ต 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
ต 1.3 ป.2/1
ต 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป. 2/3
ต 2.2 ป.2/1
ต 3.1 ป.2/1
ต 4.1 ป.2/1
ต 4.2 ป.2/1

รวม 16 ตัวชีว้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ุธาอุทิศ ปีการศกึ ษา 2564

๗๗

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ

รำยวิชำภำษำอังกฤษ 3 รหสั วิชำ อ 10301

ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 จำนวน 160 ช่วั โมง / ปี

ฟัง พูด อ่าน และปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร้องท่ีใช้ในห้องเรียน บอกความแตกต่างการใช้
พจนานุกรมของเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย อ่านออกเสียง
สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยค และบทพูดเข้าจังหวะง่าย ๆถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุภาพ และ
สัญลกั ษณ์ทีม่ คี วามหมายตรงกับคาศัพท์ทีเ่ ก่ียวข้องกับตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ส่งิ แวดล้อมใกลต้ ัว อาหาร
เครื่องดื่ม และนันทนาการ จานวนศัพท์สะสม 350-450 คา ตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านบทสนทนา
หรือนิทานที่มีภาพประกอบ พูดโต้ตอบในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษและให้ข้อมูลง่าย ๆ
เกี่ยวกับตนเองและเพื่อนในการบอกชื่อ อายุ รูปร่าง ส่วนสูง ส่ิงต่างๆ จานวนเลข1-50 สี ขนาด และ
ตาแหน่งของสิ่งของ ความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งต่างๆหรือกิจกรรมต่างๆ จัดหมวดหมู่ตามประเภทของคน สัตว์
ส่ิงของ พูดและใช้สีหน้าท่าทางประกอบในการขอบคุณ ขอโทษ ตอบรับหรือปฎิเสธ บอกช่ือคาศัพท์ง่าย ๆ
เกี่ยวกับเทศกาล/งานฉลอง ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เครื่องแต่งกาย อาหาร เครื่องดื่ม ร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม บอกคาศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และรวบรวมคาศัพท์ท่ี
เกี่ยวข้องใกล้ตัวจากสื่อต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนรู้ เข้าใจ และปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง ที่ใช้ในห้องเรียน อ่าน
ออกเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคง่าย ๆ และบทพูดเข้าจังหวะง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุภาพ
และสญั ลกั ษณ์ท่ีมีความหมายตรงกับคาศัพทเ์ กี่ยวข้องกับตนเอง โรงเรยี น สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตวั อาหาร เครือ่ งดื่ม
และนันทนาการ ตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านที่มีภาพประกอบ พดู ขอบคุณ
ขอโทษและให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเองและเพ่ือน ความรู้สึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับเรอื่ งหรือ
กิจกรรมต่าง ๆ จัดหมวดหมู่ตามประเภทของคน สัตว์ ส่ิงของ พูดและใช้สีหน้าท่าทางประกอบในการขอ
โทษ ใชป้ ระโยคคาเดียวและประโยคเดยี่ วในการสนทนาโต้ตอบความสถานการณ์ในชีวิตประจาวัน
ตวั ช้วี ดั
ต 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4
ต 1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5
ต 1.3 ป.3.1 ป. 3/2
ต 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3
ต 2.2 ป.3/1
ต 3.1 ป.3/1
ต 4.1 ป.3/1
ต 4.2 ป.3/1
รวม 18 ตัวชวี้ ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปีการศึกษา 2564

๗๘

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำอังกฤษ 4 รหสั วชิ ำ อ 14101

ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 4 จำนวน 80 ช่วั โมง / ปี

ปฏิบัติตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา และคาขออนุญาตง่าย ๆ อ่านออกเสียง คา สะกดคา
กลมุ่ คา ประโยค ข้อความสนั้ ๆ บทพูดเขา้ จงั หวะ บทสนทนา และนทิ านงา่ ย ๆ ได้ถกู ต้องตามหลกั การ
อ่านออกเสียง พูดสนทนาสื่อสาร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว แสดงความต้องการ
ขอความช่วยเหลือ แสดงความรู้สึกและความสัมพันธ์ เกี่ยวกับส่ิงต่าง ๆ ใกล้ตัวตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆท่ี
เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา โดยใช้ทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียน และวัฒนธรรมของเจ้า
ภาษา และวฒั นธรรมไทยเก่ยี วกับเรื่อง มารยาท เทศกาล วันสาคญั งานฉลอง ชวี ติ ความเป็นอยู่ เสียง
ตัวอักษร คา กลุ่มคา และประโยคและข้อความ เข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและนาไปใช้ตาม
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาไทยได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ค้นคว้าความสัมพันธ์ของคาศัพท์
ภาษาอังกฤษที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน สามารถนาภาษาอังกฤษไปใช้ในการสืบคน้ ค้นคว้าข้อมูล
ต่าง ๆ ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การส่ือสาร การฝึกปฏิบัติตามสถานการณ์ต่าง
ๆ เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป 4/1 , ป 4/2 , ป 4/3 , ป 4/4 ,
ต 1.2 ป 4/1 , ป 4/2 , ป 4/3 , ป 4/4 , ป 4/5
ต 1.3 ป 4/1 , ป 4/2 , ป 4/3 ,
ต 2.1 ป 4/1 , ป 4/2 , ป 4/3
ต 2.2 ป 4/1 , ป 4/2 ,
ต 3.1 ป 4/1,
ต 4.1 ป 4/1 ,
ต 4.2 ป 4/1

รวม 20 ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ ปีการศึกษา 2564

๗๙

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ

รำยวิชำ ภำษำองั กฤษ 5 รหัสวชิ ำ อ 15101

ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 5 จำนวน 80 ช่วั โมง / ปี

ใชภ้ าษาสอ่ื สารด้วยถอ้ ยคา นา้ เสียงและกริยาทา่ ทางสภุ าพเหมาะสมตามมารยาท สังคม วัฒนธรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าของภาษาในการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติตามประโยคคาสั่ง คาขอร้อง
คาแนะนา การบอกใจความสาคัญและคาตอบจากบทสนทนา นิทานส้ัน ๆ การเขียนภาพ สัญลักษณ์
แผนผัง แผนภมู ิ เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายเก่ยี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร
เคร่ืองด่ืม เวลาว่าง นนั ทนาการ สุขภาพ สวัสดกิ าร การซ้อื - ขาย และลมฟ้าอากาศ โดยใชท้ ักษะการฟัง
และการอ่านที่ถูกต้องตามหลักการอ่านเพื่อใช้สอ่ื สารในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา
มีทักษะการพูดและการเขยี นโต้ตอบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล การแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ
การตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การแสดงความรู้สึกของตนเองพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว การตอบคาถามบอกความสาคัญของ
เทศกาล วันสาคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ง่าย ๆของเจ้าของภาษา บอกความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดับตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ใช้กระบวนการทักษะทางภาษาในการสืบค้น ค้นคว้าและรวบรวม
คาศพั ท์ให้สามารถนาเสนอข้อมลู ทเ่ี รยี นรู้ มเี จตคตแิ ละวฒั นธรรมในการใช้ภาษาตา่ งประเทศให้เหมาะสมตาม
สถานการณ์ตา่ งๆ

ตัวชว้ี ดั

ต 1.1 ป 5/1 , ป 5/2 , ป 5/3 , ป 5/4 ,
ต 1.2 ป 5/1 , ป 5/2 , ป 5/3 , ป 5/4 , ป 5/5
ต 1.3 ป 5/1 , ป 5/2 , ป 5/3 ,
ต 2.1 ป 5/1 , ป 5/2 , ป 5/3
ต 2.2 ป 5/1 , ป 5/2 ,
ต 3.1 ป 5/1,
ต 4.1 ป 5/1 ,
ต 4.2 ป 5/1

รวม 20 ตัวช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแก้วอนิ ทร์สุธาอทุ ศิ ปกี ารศึกษา 2564

๘๐

คำอธิบำยรำยวิชำ

กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ

รำยวชิ ำ ภำษำองั กฤษ 6 รหสั วชิ ำ อ 16101

ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 6 จำนวน 80 ช่วั โมง / ปี

ใช้ภาษาส่ือสารด้วยถ้อยคา น้าเสียงและกริยาท่าทางสุภาพเหมาะสมตามมารยาททางสังคม และ

วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าของภาษาในการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติตามประโยคคาสั่ง

คาขอร้อง คาแนะนาในการเล่นเกม การวาดภาพ การทาอาหาร เครือ่ งดืม่ และการประดิษฐ์ บทสนทนา

ข้อความ นิทาน บทกลอนสั้น ๆ การบอกใจความสาคัญและตอบคาถาม ระบุประโยค ข้อความส้ัน ๆ

ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ แผนผัง แผนภูมิ เคร่ืองหมายตรงตามความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว

โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งดืม่ เวลาว่าง นันทนาการ สุขภาพ สวัสดิการ การซ้อื - ขาย และลม

ฟ้าอากาศ โดยใช้ทักษะการฟังและการอ่านท่ีถูกต้องตามหลักการอ่านเพื่อใช้ส่ือสารในสถานการณ์ต่างๆท่ี

เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา มีทักษะการพูดและการเขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล การ

แสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ การตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การขอและให้ข้อมูล

เกีย่ วกับตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเรื่องใกล้ตัว แสดงความรู้สกึ ของตนเองพรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตผุ ลสนั้ ๆ การ

ตอบคาถามบอกความสาคญั ของเทศกาล วันสาคัญ งานฉลองและชีวติ ความเปน็ อยู่งา่ ย ๆของเจ้าของภาษา

บอกความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการ

ลาดับตามโครงสร้างประโยคโดยใช้ประโยคเดยี่ วและประโยคผสม ส่ือความหมายใหเ้ หมาะสมตามสถานการณ์

ต่างๆของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การเปรียบเทียบความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่างเทศกาล

งานฉลองและประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย โดยใช้กระบวนการทักษะทางภาษาในการสืบค้น

ค้นคว้าและรวบรวมคาศัพท์ใหส้ ามารถนาเสนอข้อมูลที่เรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษเห็นคุณค่าของการ

ใช้ภาษาอังกฤษมีนิสัยรักการอ่าน และสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันและเป็นพื้นฐานในการเรียน

ระดบั สูงข้นึ

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4

ต 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5

ต 1.3 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3

ต 2.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3

ต 2.2 ป.6/1 ป.6/2

ต 3.1 ป.6/1

ต 4.1 ป.6/1

ต 4.2 ป.6/1

รวม 20 ตัวชวี้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ ปีการศกึ ษา 2564

๘๑

กิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี นโรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ ำอุทศิ

1. ควำมสำคญั ของกิจกรรมพฒั นำผูเ้ รียน
แนวการจดั การศึกษา โดยยดึ หลกั ว่าผู้เรียนทกุ คนมีความสามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองได้ และถอื

ว่าผูเ้ รียนมคี วามสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องสง่ เสริมให้ผู้เรยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละ
เต็มตามศกั ยภาพ โดยจดั เนอื้ หาสาระและกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจและความถนดั ของผูเ้ รียน
คานึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝกึ ทักษะกระบวนการคิด การจดั การ การเผชิญสถานการณ์ ประกอบ
กับมีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ของสังคมและเทคโนโลยี กอ่ ใหเ้ กดิ ทงั้ ผลดแี ละผลเสยี ต่อการดาเนนิ ชวี ิตใน
ปจั จุบันของบุคคล ทาใหเ้ กิดความยุ่งยากซับซ้อนมากยง่ิ ขน้ึ จาเปน็ ต้องปรบั เปลี่ยนวิถีการดาเนินชีวิตให้
สามารถดารงชวี ิตอยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี ุณค่า มศี ักดศ์ิ รี มีความสุขบนพ้ืนฐานของเศรษฐกิจพอเพียงและยง่ั ยืน
จากจดุ หมายของหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน มุ่งพฒั นาคนไทยใหเ้ ปน็ มนุษย์ที่สมบูรณ์ เปน็ คนดี คนเก่ง
และอยูร่ ว่ มในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ บนพน้ื ฐานของความเป็นไทยน้ัน นอกจากการพัฒนาผเู้ รยี นทุกคนให้มี
ความรทู้ ี่เป็นพ้ืนฐานสาคัญซงึ่ ไดก้ าหนดไว้ในโครงสรา้ ง กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มแล้ว หลักสูตรยงั ได้
กาหนดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนไวใ้ นโครงสร้างด้วย โดยมุ่งสง่ เสริมการพัฒนาผเู้ รียนเพม่ิ เติมจากกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ 8 กลุ่ม ใหผ้ ู้เรยี นรจู้ ักตนเอง ค้นพบความสามารถ ความถนดั ของตนเอง เพ่ือการพฒั นาให้เต็ม
ศักยภาพ เห็นคุณค่าในการประกอบสัมมาชีพ ใหเ้ ปน็ ผู้มีระเบียบวินยั ศลี ธรรม จรยิ ธรรม รูจ้ ักบทบาทหน้าท่ี
ความรบั ผดิ ชอบ การบาเพ็ญประโยชน์ให้ชมุ ชน สังคม ประเทศชาติ และดารงชวี ติ ได้อย่างมีความสขุ ซ่งึ
จาเป็นต้องอาศัยความรว่ มมือจากทกุ สว่ นในสังคมท้ังพ่อแม่ ผู้ปกครอง ชมุ ชน และภูมิปญั ญาท้องถิ่น ดว้ ย
เหตผุ ลดังกลา่ วข้างต้นการจัดกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นจะต้องมกี ารพฒั นาและปรบั ปรุงใหเ้ หมาะสมโดยมุ่งเนน้ ให้
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียนของสถานศกึ ษาเปน็ กจิ กรรมท่ใี หผ้ ้เู รียนเปน็ ผู้ปฏิบัติจรงิ โดยการศกึ ษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ตั ิตามแผน การทางานเป็นกลุ่ม และประเมนิ ผลเพือ่ ปรบั ปรุงพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่องตามลักษณะ
ความพร้อม ความต้องการ และความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา และมีการกากับดูแล
อย่างจรงิ จงั

2. ควำมหมำยของกจิ กรรมพัฒนำผเู้ รยี น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นระบบประกอบด้วยรูปแบบกระบวนการวิธีการที่

หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง มีความหมายและมีคุณค่าในการพัฒนา
ผูเ้ รียนท้ังดา้ นร่างกาย จติ ใจ สติปญั ญา อารมณ์ และสงั คม มุ่งสรา้ งเสรมิ เจตคติ คณุ ภาพชวี ติ ปลูกฝัง
คุณธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสานึกในธรรมชาติ
และส่ิงแวดล้อมปรับตัวและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ และดารงชีวิตได้อย่างมี
ความสขุ
3. จดุ มงุ่ หมำยของกจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน

กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนมีจดุ มุ่งหมายเพ่ือใหผ้ ้เู รยี นได้รบั การพฒั นา ดังน้ี
3.1 พัฒนาองค์รวมของความเป็นมนษุ ยใ์ หค้ รบทกุ ด้าน ทั้งรา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสงั คม
3.2 พฒั นาความสามารถของตนเองตามศกั ยภาพโดยมงุ่ เนน้ เพิ่มเติมจากกิจกรรมทไ่ี ด้จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้

ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ทัง้ 8 กลุม่
3.3 เข้าร่วมและปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทีเ่ ลือกตามความถนัดและความสนใจของตนเอง
4. หลักกำรจัดกจิ กรรมพัฒนำผู้เรียน

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนแก้วอินทร์สุธาอทุ ศิ ปกี ารศึกษา 2564

๘๒

กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียนมีหลกั การ มีการกาหนดวัตถุประสงคแ์ ละแนวปฏิบัตทิ ่ีชัดเจนเป็นรปู ธรรมจัด
ใหเ้ หมาะสมกบั วัย วฒุ ภิ าวะ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของผ้เู รียนและวัฒนธรรมที่ดีงาม

4.1 บูรณการวิชาการกับชวี ิตจริง ให้ผู้เรียนได้ตระหนกั ถึงความสาคญั ของการเรียนรูต้ ลอด
ชวี ิต และรสู้ ึกสนกุ กบั การใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น

4.2 ใช้กระบวนการกลมุ่ ในการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ฝกึ ให้คดิ วิเคราะห์สรา้ งสรรค์
จินตนาการ ทเ่ี ป็นประโยชน์และสัมพันธ์กบั ชีวติ ในแต่ละช่วงวัยอย่างตอ่ เน่ือง

4.3 จานวนสมาชกิ มีความเหมาะสมกับลกั ษณะของกิจกรรม
4.4 มกี ารกาหนดเวลาในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม สอดคล้องกบั วิสยั ทัศนแ์ ละเป้าหมาย

ของสถานศกึ ษา
4.5 ผเู้ รียนเป็นผดู้ าเนินการ มีครเู ปน็ ทป่ี รกึ ษา ถอื เป็นหนา้ ท่ีและงานประจาโดยคานึงถึง

ความปลอดภัย
4.6 ยดึ หลักการมสี ่วนรว่ ม โดยเปิดโอกาสใหค้ รู พ่อแม่ ผ้ปู กครอง ชุมชน องคก์ รท้ังภาครัฐ

และเอกชน มสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรม
4.7 มกี ารประเมินผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยวธิ กี ารที่หลากหลายและสอดคลอ้ งกับกิจกรรม

อยา่ งเป็นระบบและต่อเนื่อง

5. ขอบข่ำยของกิจกรรมพัฒนำผู้เรยี น
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนประกอบด้วยกจิ กรรมแนะแนวและกิจกรรมนักเรียนและกิจกรรมสาธารณะ

ประโยชน์
ซง่ึ สามารถจดั แยกหรอื บูรณาการไว้ดว้ ยกนั ก็ได้และสามารถจดั ได้หลากหลายรูปแบบและวธิ กี ารโดยมี

ขอบเขต
ดังน้ี
5.1 เป็นกิจกรรมท่ีเกื้อกูล ส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุม่ สาระการเรียนรูใ้ หก้ วา้ งขวางลกึ ซงึ้
ย่ิงขึ้น ในรปู แบบของการปฏบิ ัติตามโครงการ/ โครงงาน ในลักษณะเปน็ กระบวนการ
เชงิ บูรณาการ โดยยึดหลกั คุณธรรม จรยิ ธรรม เป็นพ้นื ฐาน
5.2 เปน็ กิจกรรมท่ีสนองความสนใจ ความถนดั ความต้องการของผเู้ รียน ตามความ
แตกตา่ งระหว่างบคุ คลในลักษณะชมรม ชุมนมุ กลุ่มสนใจ เน้นการให้ผู้เรยี นเหน็ คณุ ค่า
ของวิชาความรู้ อาชพี และการดาเนนิ ชีวิตทดี่ งี าม ตลอดจนเห็นชอ่ งทางในการ
ประกอบอาชีพ
5.3 เป็นกจิ กรรมที่ปลูกฝังและสรา้ งจติ สานกึ ในการทากจิ กรรมท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ สังคมใน
ลกั ษณะต่าง ๆ ใหส้ ามารถจดั การกับชวี ติ และสังคมได้ มคี ุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ รกั
และเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผู้อนื่ มีค่านยิ มในความดงี าม มีวนิ ัยในตนเอง มีคณุ ธรรม
และจรยิ ธรรม ตลอดจนอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
5.4 เป็นกิจกรรมทฝี่ ึกการทางานและการใหบ้ ริการดา้ นตา่ ง ๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง
ส่วนรวม เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความมีน้าใจ เอ้ืออาทร ความเป็นพลเมอื งดี และรบั ผิดชอบ
ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

6. เปำ้ หมำยของกจิ กรรมพัฒนำผ้เู รียน
กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียนได้กาหนดเปา้ หมายเพื่อการพฒั นาผ้เู รยี น ดังน้ี

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปีการศึกษา 2564

๘๓

6.1 ไดร้ บั ประสบการณท์ ห่ี ลากหลาย เกิดความรู้ ความชานาญ ดา้ นวชิ าการวิชาชพี และ
เทคโนโลยี

6.2 เห็นคุณคา่ ขององค์ความรตู้ ่าง ๆ และสามารถนาความรู้และประสบการณ์ใช้ในการ
พฒั นาตนเองและประกอบอาชพี สจุ รติ

6.3 รจู้ ักและเหน็ คุณคา่ ในตนเองและผ้อู น่ื มวี ฒุ ภิ าวะทางอารมณ์ มีกระบวนการคิด มี
ทกั ษะในการดาเนนิ ชีวิตอย่างเหมาะสมและมีความสุข

6.4 คน้ พบและพฒั นาศกั ยภาพของตนเอง มองเห็นช่องทางในการสร้างงาน อาชีพในอนาคต
ไดเ้ หมาะสมกับตนเอง

6.5 พฒั นาบคุ ลิกภาพ เจตคติ คา่ นิยมที่ดีในการดาเนินชีวติ เสริมสร้างคุณธรรมและ
จรยิ ธรรม

6.6 มจี ติ สานึกในความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว สงั คมและประเทศชาติตลอดจน
ความเป็นระเบียบ วนิ ัย คุณธรรม และจริยธรรม

7. แนวทำงกำรจัดทำหลักสูตรสถำนศึกษำเก่ียวกบั กิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี นโรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ ำอุทศิ

กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นเปน็ ส่วนหน่งึ ของหลักสูตรสถานศึกษาท่ีคณะกรรมการสถานศึกษา

จะต้องจัดทาข้ึน เพ่ือเป็นแนวทางใหส้ ถานศึกษาและบุคลากรทเ่ี กี่ยวข้องใชว้ างแผนในการจดั กิจกรรมพฒั นา

ผู้เรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับความพรอ้ มของชมุ ชน ตามสภาพปัญหาและความต้องการของผเู้ รียนตลอดจน

วิสยั ทัศน์ของสถานศึกษา โดยมกี ระบวนการจัดทาหลกั สูตร หลกั สูตรสถานศกึ ษาเก่ียวกบั กจิ กรรมพัฒนา

ผู้เรยี น ดงั น้ี

7.1 ศกึ ษาวิสัยทัศน์ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โครงสร้างหลักสตู รของสถานศึกษาท่ี

เก่ยี วข้องกบั การพัฒนาผู้เรยี น เพ่ือเป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนให้

สอดคลอ้ งกับบริบทของสถานศกึ ษา

7.2 ศกึ ษาข้อมลู สารสนเทศ เชน่ สภาพความพร้อมของโรงเรยี น สภาพของ

ชุมชนทอ้ งถ่ินสภาพปญั หาและความต้องการของผเู้ รยี น เพ่อื เป็นข้อมลู ในการจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นให้

สอดคล้องกับบรบิ ทของสถานศึกษา

7.3 วางแผนและจัดแผนการจัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน โดยกาหนดวัตถปุ ระสงค์

กระบวนการ วธิ ดี าเนินการ ส่อื /อปุ กรณ์ และการประเมินผลการจดั กจิ กรรมพัฒนา

ผ้เู รยี นอย่างแทจ้ ริง

7.4 กาหนดบทบาทของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา หวั หน้ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ครทู ี่ปรกึ ษา

กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ผเู้ รียน ผปู้ กครอง และชมุ ชน เพ่ือให้มีส่วนรว่ มในการจัด

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

7.5 กาหนดการประเมนิ และเกณฑก์ ารประเมนิ การผา่ นกจิ กรรมแต่ละภาคเรียนชัน้ ปี และ

ช่วงช้นั ให้เป็นไปตามสถานศึกษากาหนด

เพ่อื ให้การจัดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นประสบผลสาเร็จ บรรลุผลตามเจตนารมณข์ องหลักสตู ร

ผเู้ กี่ยวขอ้ งทุกฝ่ายจะต้องใหค้ วามสาคญั กบั การจดั กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนใหม้ ากข้นึ นอกจากจะต้องมีการ

พฒั นาหลักสูตรสถานศึกษากิจกรรมพฒั นาผู้เรียนแล้ว สถานศกึ ษาจะต้องมีการกาหนดครผู ูร้ บั ผิดชอบ มีการ

นเิ ทศ ติดตามผล และประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนอย่างจรงิ จัง

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแก้วอินทรส์ ุธาอุทศิ ปีการศกึ ษา 2564

๘๔

8. กรอบควำมคิดกจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน
กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ประกอบด้วยกจิ กรรมแนะแนวและกิจกรรมนักเรยี น โดยมีผลลพั ธ์ของ

การจดั กิจกรรมทม่ี ุ่งพัฒนาผูเ้ รยี นใหเ้ กดิ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 12 ประการ โดยสามารถนาเสนอกรอบ
ความคิดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนไดด้ ังน้ี

กิจกรรม

กจิ กรรม แนะแนวด้านการงานและอาชีพ กิจกรรม
แนะแนวด้าน
การศกึ ษา กิจกรรมแนะแนว แนะแนวด้านชีวติ
และสงั คม
กิจกรรมตาม กิจกรรมพัฒนำ
ความถนดั ผูเ้ รียน
ความสนใจ
กจิ กรรมนกั เรียน กจิ กรรมอื่นๆ
กิจกรรม
ลกู เสือ กจิ กรรม
รักษา
ดนิ แดน

กิจกรรม กิจกรรมผ้บู าเพญ็

คยณุ วุ กลากั ชษาณดะท่ีพงึ ประสงค์ ประโยชน์

คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์

1.รักและเห็นคุณค่าในตนเอง 2.มีวินยั 3.ประหยัด 4.ซอื่ สตั ย์สจุ ริต 5.พึ่งตนเอง อุสาหะ รักการ
ทางาน 6.อดทน อดกลั้น 7.กตญั ญกู ตเวท8ี .กระตือรือรน้ ใฝ่รู้มีความคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ 9.
เสียสละเห็นประโยชนส์ ว่ นรวม 10.มคี วามเปน็ ประชาธิปไตย 11.รกั สามคั คีรกั ชาติศาสน์กษัตริย์
12.มพี ลานามยั สมบรู ณ์ท้ังร่างกายจติ ใจ

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นแกว้ อินทร์สธุ าอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

๘๕

กิจกรรมแนะแนวโรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ ำอุทศิ
กิจกรรมแนะแนวมุ่งส่งเสริม พัฒนาผู้เรียนให้พัฒนาตนเองอย่างเต็มตามศักยภาพ รักและเห็น
คุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน พึง่ ตนเอง มีทกั ษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การงานและอาชพี ชีวติ และสังคม
มีสุขภาพจิตที่ดี มีจติ สานึกในการทาประโยชน์ต่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติ โดยมสี าระสาคญั ดงั น้ี

1. วัตถุประสงคข์ องกจิ กรรมแนะแนว
การจดั กจิ กรรมแนะแนวมีวตั ถปุ ระสงค์ทส่ี าคญั ดงั น้ี
1.1 เพ่ือให้ผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็น
คุณคา่ ในตนเองและผู้อน่ื
1.2 เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักการแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ท้ังด้าน
การศึกษา อาชีพ ส่วนตัว สังคม เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผนเลือกแนวทางการศึกษา
อาชพี ไดเ้ หมาะสม สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของตนเอง
1.3 เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนไดพ้ ฒั นาบคุ ลกิ ภาพและปรบั ตัวอยู่ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ
1.4 เพื่อให้ผเู้ รยี น มคี วามรู้ มีทกั ษะ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ในงานอาชีพและมีเจตคติท่ีดีต่อ
อาชีพสุจริต
1.5 เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมท่ีดีงามในการดาเนินชีวิต เสริมสร้างวินัย คุณธรร มและ
จรยิ ธรรม แกผ่ ู้เรยี น
1.6 เพือ่ ให้ผูเ้ รียนมจี ิตสานกึ ในการรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สงั คมและประเทศชาติ

2. หลักกำรจัดกจิ กรรมแนะแนว
การจัดกิจกรรมแนะแนวมหี ลกั การดังนี้
2.1 จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจและธรรมชาติ
ของผู้เรียน
2.2 จดั กิจกรรมให้สอดคลอ้ งกับวสิ ัยทศั น์ของสถานศึกษา
2.3 จัดกิจกรรมเพ่ือผู้เรียนทุกคนโดยครอบคลุมด้านการศึกษา การงานและอาชีพชีวิตและ
สงั คม
2.4 จดั กจิ กรรมท่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั โดยผู้เรียนมอี สิ ระในการคิดและตดั สนิ ใจ
2.5 จดั กจิ กรรมท่ีเน้นให้ผเู้ รียน เรียนร้ดู ว้ ยตนเองใหม้ ากที่สุด ดว้ ยการปฏิบัตจิ นเกิดทักษะ
หรือการเรยี นรู้
2.6 ให้ครูทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม โดยครูแนะแนวทาหน้าท่ีเป็นพี่เล้ียงและ
ประสานงาน

3. ขอบข่ำยของกำรจัดกิจกรรมแนะแนว
ในการจัดกจิ กรรมแนะแนวใหเ้ ป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ข้างต้น จงึ ควรจดั ใหค้ รอบคลุมขอบขา่ ยดงั น้ี
3.1 การจัดกิจกรรมแนะแนวด้านการศึกษา มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียน
อย่างเต็มตามศักยภาพ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียน
การศกึ ษาต่อไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มเี ทคนคิ วิธกี ารและทกั ษะการเรียนรู้ มีนสิ ัยใฝ่รู้
ใฝ่เรยี นและสามารถวางแผนการเรยี น การศกึ ษาต่อไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับตนเอง

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ าอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

๘๖

3.2 การจัดกิจกรรมแนะแนวด้านการงานและอาชีพ มุง่ ให้ผ้เู รียนได้รจู้ ักตนเองในทุกด้าน รู้
โลกของงานอาชีพอย่างหลากหลาย มเี จตคติที่ดีและทักษะพื้นฐานทจ่ี าเป็นในอาชีพ มี
การเตรยี มตวั สอู่ าชพี ตลอดจนมีการพัฒนางานอาชพี ตามท่ีตนเองถนัดและสนใจ

3.3 การจัดกิจกรรมด้านชีวิตและสังคม มุ่งให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็น
คุณคา่ ในตนเองและผู้อืน่ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การมชี วี ิตทีด่ มี ีคุณภาพ
มีทักษะในการดาเนนิ ชวี ติ และสามารถปรบั ตัวใหด้ ารงชีวติ อยใู่ นสังคมได้อย่างมคี วามสุข

4. ลักษณะของกจิ กรรมแนะแนว
กจิ กรรมแนะแนวเป็นกจิ กรรมทม่ี ลี กั ษณะสาคัญ ดงั ต่อไปนี้
4.1 เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นได้ค้นพบความถนดั ความสามารถและความสนใจของผูเ้ รยี น
4.2 สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รบั ข้อมูลข่าวสารด้านการศึกษา การงานอาชีพ ชีวิตและ
สังคม เพอื่ ใชใ้ นการวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชพี ท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง
4.3 เสริมสร้างทักษะต่าง ๆ ให้ผู้เรียนพัฒนาบุคลิกภาพและปรับตัวเข้ากับส่ิงแวดล้อม
สามารถดาเนินชวี ิตได้อยา่ งมคี วามสขุ
4.4 เสรมิ สรา้ งค่านยิ มท่ีดี วินยั คุณธรรม และจริยธรรม
4.5 เพ่ิมพูนประสบการณ์เพ่ือเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ และทักษะในวิชาการต่าง ๆ มี
ความคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ อาชีพ มีนิสัยรกั การทางานและสามารถเลือก
อาชีพได้เหมาะสมกับตนเอง
4.6 จัดกล่มุ ผู้เรียนเพอื่ ทากิจกรรมหรือครเู ปน็ ผรู้ ิเรมิ่ เปน็ ทปี่ รึกษา โดยอยบู่ นพน้ื ฐานความ
ต้องการของผู้เรียน เพื่อทากิจกรรมท่ีจะช่วยให้ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาการด้าน
ตา่ ง ๆ และแก้ปัญหาผู้เรียนได้
4.7 จัดกิจกรรมเพอ่ื แกป้ ญั หา ส่งเสรมิ พฒั นาการเรียนรู้ของผ้เู รียน
4.8 เปน็ กิจกรรมที่ไม่เนน้ เนอ้ื หาวชิ าการแต่เนน้ การสร้างคุณลักษณะท่ีพึงประสงคแ์ ละบูรณา
การใหส้ อดคลอ้ งกบั ชีวติ จริง
4.9 วัดและประเมนิ ผลในแตล่ ะกจิ กรรม โดยมีการประเมินผลจากเวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม
การผา่ นจุดประสงค์ของกจิ กรรมที่แสดงถึงการพฒั นาของผู้เรียนเพ่ือนาไปใช้ในการผ่านช่วง
ชัน้
4.10 สรุปการประเมินผลพัฒนาการของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนดและ
นาเสนอผู้ที่เกี่ยวขอ้ ง

5. กระบวนกำรจดั กิจกรรมแนะแนว
5.1 สารวจสภาพปัญหา ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ
กาหนดแนวทางและแผนการจดั กิจกรรมแนะแนว
5.2 ศึกษาวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เรียนท่ีได้จากการสารวจ เพื่อ
ทราบปัญหา ความต้องการและความสนใจ นาไปกาหนดสาระและรายละเอียดของ
กจิ กรรมแนะแนว
5.3กาหนดสัดส่วนสาระของกิจกรรมในแต่ละด้าน ครอบคลุมด้านการศึกษา การงานและ
อาชีพ ชีวิตและสังคม ให้ได้สัดส่วนท่ีเหมาะสม โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ ปีการศกึ ษา 2564

๘๗

และความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติและผู้เรียนเป็นหลกั ทั้งนี้ครูและผู้เรียนมีส่วนรว่ มใน
การจัดสาระของกิจกรรม
5.4กาหนดแผนการจัดกิจกรรมแนะแนว เมือ่ กาหนดสดั ส่วนสาระของกิจกรรมในแตล่ ะด้าน
แล้วว่าแต่ละภาคเรียนจะต้องจัดกิจกรรมแนะแนวในสาระด้านใด จานวนกี่ชั่วโมง
ต่อมาจะต้องกาหนดรายละเอียดของแต่ละด้านไว้ให้ชัดเจนว่าควรมีเรื่องอะไรบ้าง เพื่อ
จะไดจ้ ัดทาเป็นรายละเอยี ดของแตล่ ะกิจกรรมย่อยตอ่ ไป
5.5การจัดทารายละเอียดของแต่ละกิจกรรม เร่ิมต้ังแต่กาหนดชื่อกิจกรรม จุดประสงค์
เวลาเนอื้ หา/สาระ วธิ ีดาเนนิ กิจกรรม สือ่ /อุปกรณ์ และประเมินผล
5.6ปฏิบตั ติ ามแผน วดั ประเมนิ ผล สรปุ รายงาน

6. ตวั ชว้ี ัดควำมสำเรจ็ ในกำรจดั กิจกรรมแนะแนว
สถานศึกษาอาจจัดทาตัวชว้ี ัดความสาเร็จในการจัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อตรวจสอบความสาเร็จตามความ

เหมาะสมของสภาพแตล่ ะสถานศกึ ษา ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี
6.1 ด้านผลผลติ
6.1.1 ผเู้ รยี นร้คู วามสนใจ ความถนดั ความสามารถของตนเอง
6.1.2 ผู้เรยี นรักและเหน็ คุณค่า ภมู ใิ จในตนเอง ผู้อน่ื
6.1.3 ผู้เรียนรู้จักแสวงหาข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาตนเองด้านการศึกษา การ
งานและอาชีพชีวิตและสังคม
6.1.4 ผู้เรียนใช้ข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาตนเองด้านการศึกษา การงานและ
อาชพี ชีวิตและสังคม
6.1.5 ผู้เรียนมีเป้าหมายชีวิต รู้จักวางแผนชีวิตด้านการศึกษาการงานและอาชีพได้
อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกับศักยภาพของตนเองได้
6.1.6 ผเู้ รียนสามารถตัดสนิ ใจและแก้ปัญหาของตนเอง
6.1.7 ผู้เรยี นรจู้ กั หลกี เล่ียงจากอบายมุขทุกประเภทหรอื สิง่ ทีเ่ ปน็ ภัยต่อชีวติ
6.1.8 ผู้เรียนมีวฒุ ภิ าวะทางอารมณ์
6.1.9 ผเู้ รียนสามารถปรับตัวเขา้ กับสภาพแวดลอ้ ม
6.1.10 ผ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครัว สังคม และ
ประเทศชาติ
6.2 ด้านกระบวนการ
6.2.1 มีการดาเนินการสารวจข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียนและจัดทาข้อมูลอย่างเป็น
ระบบทันสมัยอยู่เสมอ
6.2.2 มีการจัดโปรแกรมชุดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนด้านต่าง ๆที่สอดคล้องกับสภาพ
ปัญหาและความต้องการความสนใจของผู้เรียน เช่น ชุดกิจกรรมการรักและ
เห็นคุณค่าในตนเอง ชุดกิจกรรมการสร้างประสิทธิภาพการเรียน ชุด
กิจกรรมพัฒนาบุคลิกภาพ ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะการดาเนินชีวิต ชุด
กิจกรรมพฒั นาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจริยธรรม

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

๘๘

6.2.3 มีการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดกิจกรรมและเสนอแนะวิธีการ
จัดกิจกรรมที่จะช่วยผู้เรียนสนุกสนาน แปลกใหม่และน่าสนใจ นาไปสู่การ
พัฒนาการด้านตา่ ง ๆ และสามารถแก้ไขปญั หาผเู้ รียนได้

6.2.4 มีการให้ข้อมูลสารสนเทศท่ีทันสมัยเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนด้วยวิธีการท่ี
หลากหลาย

6.2.5 มีการประสานสัมพันธ์กับผู้ปกครองอย่างสม่าเสมอ ต่อเน่ืองและหลากหลาย
รูปแบบ เน้นการร่วมกันพฒั นาผเู้ รยี น

6.2.6 มีการจัดโครงการ/กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลายตามสภาพปัญหา
และความตอ้ งการความสนใจของผเู้ รยี น

6.2.7 มีการจัดกิจกรรมที่อาศัยกระบวนกลุ่มทางจิตวิทยาและการแนะแนวในการ
พฒั นาผ้เู รยี น

6.2.8 มีการจัดกจิ กรรมท้ังในและนอกเวลาเรียน ใหค้ รแู ละผู้เรียนได้ค้นุ เคย ใกลช้ ิด
กัน เช่น กจิ กรรมวันพบพอ่ ครูแมค่ รู ฯลฯ

6.3 ด้านปจั จัย
6.3.1 ผ้บู รหิ ารมีภาวะผ้นู าและเหน็ ความสาคัญของการจัดกิจกรรมแนะแนว
6.3.2 ครูทุกคนตระหนักเห็นความสาคัญของการจัดกิจกรรมแนะแนวและมีความรู้
ความเข้าใจพน้ื ฐานดา้ นจิตวิทยาและการแนะแนว
6.3.3 ครูทกุ คนมบี ทบาทในการดาเนนิ การจดั กจิ กรรมแนะแนว
6.3.4 ผู้ปกครองรับรแู้ ละมสี ว่ นร่วมให้การสนับสนนุ ในการจัดกจิ กรรมแนะแนว
6.3.5 มีคณะทางานทร่ี บั ผดิ ชอบการจดั กิจกรรมแนะแนวโดยตรง
6.3.6 มีแผนการดาเนนิ การจดั กิจกรรมแนะแนวทช่ี ดั เจนเป็นรปู ธรรม
6.3.7 มีโครงการ/กิจกรรมแนะแนวท่ีสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ
ความสนใจ และของผเู้ รียนทกุ กล่มุ เปา้ หมายและชุมชน
6.3.8 มแี นวปฏิบัติในการจัดกิจกรรมแนะแนวและมีการปฏิบตั อิ ยา่ งจรงิ จัง
6.3.9 มีเครือ่ งมือการรจู้ กั และเข้าใจผู้เรียนท่ีหลากหลายที่จะนาไปใชก้ ับผเู้ รยี น

7. กำรประเมินผลกำรจดั กิจกรรมแนะแนว
ในการประเมินผลการจัดกิจกรรมแนะแนว ครูผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมแนะแนวผู้เรียนและ

ผู้ปกครองมภี ารกิจท่ีต้องรับผดิ ชอบร่วมกนั ดังน้ี
7.1 ครผู ู้จดั กจิ กรรมแนะแนว
7.1.1 ต้องจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดคุณลักษณะตามวัตถุประสงค์และ
สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ท่ีสถานศึกษากาหนดและตามสภาพความต้องการ
ปัญหาของผู้เรยี น
7.1.2 ต้องรายงาน เวลาและพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
7.1.3 ต้องศึกษา ตดิ ตาม และพฒั นาผเู้ รียน ในกรณีทผี่ ู้เรียนไม่เขา้ ร่วมกิจกรรม
7.1.4 ต้องประเมินผลผู้เรียนโดยดูการพัฒนาการของผู้เรียนเป็นสาคัญ ในกรณีท่ีผล
การประเมินยงั ไม่ผ่าน ให้ครูผ้จู ดั กจิ กรรมดาเนินการให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ ปีการศึกษา 2564

๘๙

ซ้ า ห รื อ เ พิ่ ม เ ติ ม จ น ก ร ะ ทั่ ง ผู้ เ รี ย น เ กิ ด คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ต า ม วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ที่
สถานศึกษากาหนด
7.1.5 บนั ทกึ ผลการตดิ ตามและประเมินผลผู้เรียนไวเ้ ปน็ หลักฐาน
7.2 ผ้เู รยี น
7.2.1 ต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนวตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนดโดยมี
หลักฐานแสดงเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม
7.2.2 ต้องปฏิบัตกิ ิจกรรมเพิม่ เติมตามท่ีครูผู้รับผิดชอบการจดั กิจกรรมมอบหมายถ้า
ไมเ่ กิดคุณลกั ษณะตามวัตถุประสงคท์ ีส่ ถานศึกษากาหนด
7.3 ผู้ปกครอง
ผู้ปกครองควรมีส่วนร่วมในการประเมินผลพัฒนาการของผู้เรียน มีการบันทึกสรุป
พัฒนาการและการปฏิบตั กิ จิ กรรมของผู้เรยี น

8. วิธีกำรประเมินผลกำรจดั กิจกรรมแนะแนว
ครูผู้จัดกิจกรรมแนะแนว สามารถเลือกใช้วิธีการประเมินผลหลากหลายวิธีการตามความเหมาะสม

ดงั ตอ่ ไปนี้
8.1 แฟ้มสะสมผลงาน
8.2 การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
8.3 การประเมินตนเอง/โดยกล่มุ /เพื่อน
8.4 การสงั เกต
8.5 การสมั ภาษณ์
8.6 การเขียนรายงาน
8.7 หลกั ฐานการเข้าร่วมกิจกรรม
8.8 และอ่นื ๆ
ท้งั นี้ การประเมนิ ผลกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนของผู้เรยี นแต่ละคนต้องสรปุ จากผล

การประเมินกจิ กรรมแนะแนวและกจิ กรรมนักเรียน
9. กำรวดั ประเมินผล

การประเมินผลจากการจัดกิจกรรมแนะแนว เปน็ เง่อื นไขสาคัญประการหนึ่งสาหรับการผ่าน
ช้ันหรือจบหลักสูตร ผู้เรียนต้องเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมตลอดจนผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่กาหนด
ดังนี้

เกณฑ์กำรผำ่ นกิจกรรม
1. ผู้เรยี นเขา้ ร่วมกิจกรรมแนะแนว อยา่ งน้อย 80%
2. ผเู้ รยี นผ่านจุดประสงคท์ ีส่ าคัญของแต่ละกจิ กรรม
(กรณไี มผ่ ่านใหผ้ ู้เรียนเข้ารบั การซ่อมเสริมหรือเลือกกิจกรรมใหมจ่ นผา่ น)

กำรประเมินผลกจิ กรรมแนะแนว
1. การประเมินผลระหวา่ งดาเนนิ การ ซึ่งทาได้ทุกระยะของการปฏิบัตงิ านด้วยการ

ประชุมนิเทศ กากับติดตาม ในบรรยากาศการร่วมคิด ร่วมทา ร่วมแก้ไขปัญหา อุปสรรคท่ีเกิดขึ้นระหว่าง
ดาเนินงาน โดยใช้แบบบันทึก แบบประเมนิ

2. การประเมินผลรวบยอด ภาคเรยี นละครัง้ เปน็ การประเมนิ เมอ่ื ไดด้ าเนินการสน้ิ สุด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

๙๐

10. กรอบควำมคดิ กจิ กรรมแนะแนว
การจัดกิจกรรมแนะแนวมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามท่ี

สถานศึกษากาหนด ดังนั้นสถานศกึ ษาควรจัดกจิ กรรมให้ครอบคลุมขอบขา่ ยการจัดกจิ กรรม
แนะแนวทั้งดา้ นการศกึ ษา ด้านการงานและอาชพี ดา้ นชวี ิตและสงั คม โดยมีกรอบความคดิ กิจกรรมแนะแนว
ดังน้ี

การมีประสิทธิภาพ การวางแผน การมีเจตคติ
ทางการเรียนรู้ การศกึ ษา ท่ีดีตอ่ การมีชีวติ
และอาชพี

การมเี จต กิจกรรมการแนะ
คติท่ีดีตอ่ แนวด้านการศกึ ษา

การเรียนรู้ กจิ กรรม กิจกรรม การมีทกั ษะ
พัฒนำผู้เรียน แนะแนว การดาเนิน
การมเี จตคตทิ ี่ กิจกรรม ด้านชวี ติ ชีวติ

ดตี อ่ การงาน การแนะแนว คณุ ลกั ษณะ และสงั คม
และ การมีวฒุ ิ
ด้านการงานแลที่พะงึอปารชะีพสงค์
การเตรียม ภาวะ
ตวั สอู่ าชีพ
ทางอารมณ์
การวางแผนการ การมีคณุ ธรรม ศีลธรรมและ
ตดั สนิ ใจเลอื ก จริยธรรมใน

งานและอาชีพ อาชีพ

1. รกั และเหน็ คุณค่าในตนเองแลผอู้ นื่
2. รจู้ ักแสวงหาและใช้ขอ้ มูลสารสนเทศ
3. สามารถพฒั นาบคุ ลกิ ภาพและปรับตวั ใหอ้ ยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
4. มีเจตคตทิ ีด่ ีต่ออาชีพสจุ รติ
5. มคี า่ นิยมทีด่ ี มวี นิ ัย มคี ุณธรรม จริยธรรม
6. มีจติ สานึกรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศชาติ

11. ผลกำรเรียนรู้ทค่ี ำดหวงั กิจกรรมแนะแนว
1. นักเรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและ
ผู้อื่น
2. นักเรียนรู้จักการแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษาอาชีพ ส่วนตัว
สงั คม เพือ่ นาไปใช้ในการวางแผนเลือกแนวทางการศกึ ษา อาชีพไดเ้ หมาะสมต่ออาชีพสจุ รติ
3. นกั เรียนได้พฒั นาบุคลกิ ภาพและปรบั ตัวอยู่ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สุธาอุทศิ ปีการศกึ ษา 2564

๙๑

4. นักเรยี น มคี วามรู้ มที ักษะ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมเี จตคติทีด่ ตี ่ออาชีพสจุ รติ
5. นักเรยี นมีค่านิยมท่ีดีงามในการดาเนินชวี ติ เสริมสรา้ งวนิ ยั คุณธรรม และจรยิ ธรรมแก่ผู้เรียน
6. นักเรยี นมจี ิตสานกึ ในการรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ

12. เนือ้ หำกจิ กรรมแนะแนวกำรศึกษำ
หมวดที่ 1. การรู้จักตนเอง แบ่งเป็น 3 หนว่ ย ประกอบด้วย

หมวดท่ี 1. การรจู้ ักตนเองด้านความรคู้ วามสามารถทางการเรยี น
หมวดท่ี 2. การรูจ้ ักตนเองด้านความถนัดทางการเรียน
หมวดที่ 3. การรู้จกั ตนเองด้านนสิ ยั ทางการเรยี น
หมวดท่ี 2. โลกกว้างทางการศึกษา แบง่ เป็น 2 หน่วย ประกอบด้วย
หมวดที่ 1. การจดั การศึกษาในโรงเรียน
หมวดท่ี 2. การจดั การศึกษาในระดับที่สูงขนึ้
หมวดท่ี 3. การวางแผนและการพัฒนาทักษะทางการเรียนแบ่งเปน็ 3 หนว่ ย ประกอบดว้ ย
หมวดท่ี 1. การวางแผนการเรียน
หมวดท่ี 2. การวางแผนการศึกษาตอ่
หมวดที่ 3. การพฒั นาทกั ษะทางการเรียน

หมวดยอ่ ยที่ 1. ความจา/สมาธิ
หมวดย่อยท่ี 2. การกลา้ แสดงออก
หมวดยอ่ ยที่ 3. นิสัยรักการอา่ น
หมวดย่อยที่ 4. การจดบันทึก
หมวดย่อยท่ี 5. การคิดอยา่ งมีเหตุผล
หมวดย่อยท่ี 6. การใช้เวลาว่าง

13. เนือ้ หำกจิ กรรมแนะแนวอำชีพ
หมวดท่ี 1. การรู้จกั ตนเอง แบง่ เปน็ 3 หนว่ ย ประกอบดว้ ย

หมวดที่ 1. ความชอบ ความสนใจ
หมวดท่ี 2. ความถนัด ความสามารถ
หมวดท่ี 3. ค่านิยมตอ่ อาชพี

หมวดที่ 2. โลกกว้างทางอาชีพ แบ่งเปน็ 4 หนว่ ย ประกอบด้วย
หมวดท่ี 1. รจู้ กั อาชพี
หมวดที่ 2. ภาวะตลอดอาชีพ
หมวดท่ี 3. ความก้าวหนา้ ในการประกอบอาชพี
หมวดท่ี 4. แหล่งอาชีพ

หมวดท่ี 3. เตรียมตวั เขา้ สู่อาชีพ แบง่ เปน็ 6 หนว่ ย ประกอบดว้ ย
หมวดที่ 1. กฎหมายที่ควรรู้จักเกีย่ วกบั อาชพี
หมวดท่ี 2. เทคนิคการหางานทา
หมวดท่ี 3. วางแผนตดั สินใจเลอื กอาชพี

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564

๙๒

หมวดที่ 4. เสรมิ สร้างค่านิยมและเจตคตติ ่ออาชพี
หมวดที่ 5. มลพษิ จากอาชีพ
หมวดที่ 6. ประสบการณใ์ นอาชพี
14. เนื้อหำกิจกรรมแนะแนวบุคลิกภำพ
หมวดที่ 1. การรูจ้ ัก การยอมรับ และการปรับบคุ ลิกภาพของตนเอง แบง่ เปน็ 5 หนว่ ย ประกอบดว้ ย
หมวดที่ 1. การคิดและทาอย่างมีเหตผุ ล
หมวดท่ี 2. การมอี ารมณม์ นั่ คง
หมวดท่ี 3. การมองโลกในแงด่ ี
หมวดท่ี 4. การรู้จักพึง่ ตนเอง
หมวดท่ี 5. การเห็นคุณค่าของตน
หมวดที่ 2. การรจู้ ักสง่ิ แวดล้อมท่ีมีอิทธพิ ลตอ่ บุคลิกภาพ แบ่งเป็น 2 หนว่ ย ประกอบดว้ ย
หมวดที่ 1. การเข้าใจสภาพเปลีย่ นแปลงของส่งิ แวดล้อม
หมวดที่ 2. การปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั สงิ่ แวดล้อม
หมวดที่ 3. ความกา้ วหน้าในการประกอบอาชีพ
หมวดท่ี 4. แหลง่ อาชพี
หมวดท่ี 3. การเสรมิ สร้างทกั ษะทางสงั คมเพือ่ อยู่อยา่ งมีความสขุ แบง่ เปน็ 5 หนว่ ย ประกอบด้วย
หมวดที่ 1. การมีมนุษย์สมั พันธ์
หมวดที่ 2. การมีระเบียบวินยั
หมวดที่ 3. การทางานรว่ มกัน
หมวดที่ 4. การมจี ติ ใจโอบอ้อมอารชี ว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื
หมวดที่ 5. การรู้จกั และปฏบิ ัตติ ามวฒั นธรรมไทย

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอทุ ศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

๙๓

กิจกรรมนกั เรยี นโรงเรยี นแก้วอินทรส์ ธุ ำอทุ ศิ

1 กจิ กรรมลูกเสอื – เนตรนารี โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ิศ
2 กจิ กรรมตามความถนัดและความสนใจของผูเ้ รยี นโรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอุทิศ
3 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ

กจิ กรรมลูกเสอื – เนตรนำรี โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ ำอทุ ิศ
การลูกเสือเป็นขบวนการอาสาสมัคร ทใี่ ห้การศึกษาแก่เยาวชนโดยถว้ นหนา้ ไมม่ กี ารแบ่งแยก
และกดี กันในเรื่องเช้อื ชาติ ผิวพรรณ วรรณะ ตลอดจนลัทธิทางศาสนาใด ๆ ทง้ั สน้ิ ไมอ่ ยู่ภายใต้อิทธิพลของ
การเมืองและยึดมนั่ ปฏิบัตติ ามอดุ มการณ์ของผใู้ หก้ าเนิดลูกเสือโลกคือ (ลอรด์ เบเดน โพเอลล)์ (Lord
Baden – Powell) อยา่ งแน่วแนแ่ ละมั่นคง วงการศกึ ษาทัว่ โลกถอื วา่ การลูกเสือเปน็ ขบวนการที่ให้
การศกึ ษาแก่เดก็ และเยาวชนในรปู แบบนอกระบบ (non–formal education movement)องค์การลกู เสือโลก
ปจั จุบนั มีประเทศสมาชกิ จานวน 154 ประเทศ (พ.ศ. 2545) กจิ การลกู เสือท่ัวโลกสามารถดารงอยู่ได้
ดว้ ยความมีเอกภาพ (Unity) ซ่ึงเป็นแกนกลางให้ประเทศสมาชิกทว่ั โลกได้พฒั นากจิ การลูกเสอื ของตนให้มี
ความก้าวหน้าไปในแนวทางเดยี วกนั ดังน้นั การสง่ เสริมใหเ้ ยาวชนของชาตเิ ป็นพลเมอื งดี ทม่ี ีความ
รบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและประเทศชาติ ตอ้ งอาศยั สาระสาคัญของการลูกเสือ

1. สำระสำคญั ของลูกเสอื
สาระสาคัญของลูกเสอื ประกอบดว้ ย หลกั การวตั ถปุ ระสงค์ และวิธกี ารโดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้

หลักกำร (principle) ไดแ้ ก่
1. มีศาสนาเป็นหลักยดึ ทางจิตใจจงรักภักดีต่อศาสนาที่ตนเคารพนบั ถือและพึงปฏบิ ัติ

ศาสนกิจ
2. จงรักภกั ดีตอ่ พระมหากษตั ริยแ์ ละประเทศชาติของตน พรอ้ มดว้ ยการส่งเสรมิ และ

สนบั สนุนสนั ตสิ ขุ สนั ติภาพ ความเข้าใจท่ีดีซงึ่ กันและกัน ความร่วมมือซ่งึ กนั และกนั นับแตร่ ะดบั
ทอ้ งถิน่ ระดับชาติ และระดับนานาชาติ

3. เข้ารว่ มในการพฒั นาสังคม ยอมรบั และใหค้ วามเคารพในเกียรติและศกั ด์ิศรีของผู้อน่ื
และเพื่อนมนุษยท์ ุก

คน รวมทั้งการยอมรับและใหค้ วามเคารพในความถกู ต้องและความเป็นธรรมต่อธรรมชาติ
4. มีความรบั ผดิ ชอบต่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง
5. ลกู เสอื ทุกคนต้องยึดมนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสือซ่ึงบัญญัติไว้ในภาษาของแตล่ ะ

ประเทศ ตาม
ความเหมาะสมกบั วัฒนธรรมของตน โดยยึดถอื ใจความสาคญั ที่ ลอรด์ เบเดน โพเอลล์ ผู้ให้

กาเนดิ ลกู เสือโลกได้
กาหนดไว้ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสอื นน้ั ต้องได้รบั การอนมุ ตั ิจากองค์การลกู เสอื โลกก่อน จงึ จะ

ถอื วา่ เป็นคา
ปฏิญาณและกฎทถ่ี ูกต้อง

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สธุ าอุทศิ ปกี ารศกึ ษา 2564

๙๔

วัตถุประสงค์ (purpose)
1. วตั ถปุ ระสงค์ของการลูกเสือ คือการช่วยใหเ้ ยาวชนได้รับการพฒั นาศักยภาพทางร่างกาย
สติปญั ญา จิตใจและสงั คมให้สมบรู ณ์อย่างเตม็ ที่ เพอื่ ให้เป็นพลเมืองดี ทีม่ ีความ
รับผิดชอบและเปน็ สมาชิกทด่ี ีของทอ้ งถน่ิ ของชาติและของชมุ ชนระหว่างประเทศ
ตามท่ีธรรมนูญลูกเสือโลกได้บัญญตั ิไว้

วธิ ีกำร (method)
2. วิธกี ารของการลูกเสอื คือระบบการศึกษาดว้ ยตนเองให้เกิดความก้าวหนา้ ตามลาดับข้นั
โดยอาศยั
2.1คาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ
2.2การเรยี นรดู้ ว้ ยการกระทา
2.3ระบบหมหู่ รอื กลุ่มย่อย โดยมีผู้ใหญ่เป็นผู้แนะนา ส่ังสอน ฝึกอบรมให้มคี วาม
รับผิดชอบทลี ะน้อยแล้วเพ่ิมความรบั ผิดชอบให้มากขน้ึ ตามลาดับอายุ ฝึกใหร้ ูจ้ กั
ปกครองตนเอง จนเปน็ ลักษณะนิสัยประจาตวั เพ่ือให้มีความสามารถพ่ึงตนเองได้
เปน็ ผ้นู าและเป็นผู้ใหค้ วามร่วมมือ
2.4การทดสอบความกา้ วหน้าตามลาดบั ข้ัน ปรบั ระดบั ของการฝึกอบรมลกู เสือให้สงู ขน้ึ
ตามระดับอายุ
2.5ระบบเคร่ืองหมายวิชาพเิ ศษ (Proficiency Badge System)
2.6การจัดทาหลกั สูตรของการฝึกอบรมเด็กและวิชาทีเ่ รยี น ให้จดั ตามความสนใจของ
ผูเ้ รยี นเป็นหลัก เพื่อพัฒนาให้ผูเ้ รยี นเกิดความก้าวหนา้ เป็นรายบุคคล
2.7 การใช้เพลง การเล่น การเลา่ นทิ านฯลฯ ประกอบในการฝกึ อบรมลูกเสอื
2.8พธิ ีการตา่ ง ๆ ในการฝึกอบรมลกู เสือ รวมทั้งเคร่ืองแบบลูกเสือตามแบบฉบับที่คณะ
ลกู เสอื แห่งชาติกาหนด
2.9เน้นเรอ่ื งการใชช้ วี ติ กลางแจง้ ธรรมชาติศึกษา และการชมุ นมุ รอบกองไฟซ่งึ ถือเป็น
หัวใจของกจิ กรรมลกู เสือทุกประเภท
2.10 ประเด็นสาคัญสุดยอดของการฝกึ อบรมลกู เสือ คือ เนน้ การฝกึ ทักษะท่ี
เปน็ ประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชีวติ เพอื่ ให้การบริการต่อชุมชน และฝกึ ใหเ้ ยาวชนนิยม
ใชช้ ีวิตกลางแจ้งให้สัมผสั กบั ธรรมชาติ โดยใชก้ จิ กรรมกลางแจ้งเปน็ สว่ นใหญ่
เนื่องจากคณะลูกเสือแห่งชาติ (The National Scout Organization of Thailand :

NSOT) ได้จดทะเบียนเปน็ สมาชิกขององคก์ ารลกู เสือโลก เม่อื พ.ศ. 2465 ดังนนั้ ในฐานะท่ีเปน็
สมาชกิ ขององคก์ ารลูกเสือโลกจะต้องปฏิบตั ิตามหลกั การ วัตถปุ ระสงค์ และวิธกี ารของลูกเสือตามที่
องค์การลูกเสอื โลกได้กาหนดอย่างเคร่งครดั นอกจากน้ี การจดั กจิ กรรมลูกเสือในสถานศึกษาต้องยดึ
มั่นในวัตถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัตลิ กู เสือ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2528
(มาตรา 7) และปฏิบตั ิตามข้อบงั คับคณะลกู เสือแหง่ ชาติ วา่ ด้วยการปกครอง หลักสูตร และวิชา
พิเศษลูกเสือ พ.ศ. 2509 ดงั น้ีคณะลูกเสือแห่งชาติ มวี ตั ถุประสงคเ์ พือ่ พฒั นาลูกเสือทั้งทางกาย
สตปิ ัญญา จิตใจและศลี ธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มคี วามรับผิดชอบ ช่วยสร้างสรรค์สังคมใหม้ ีความ
เจรญิ กา้ วหนา้ เพื่อความสงบสุขและความมนั่ คงของประเทศชาติ ตามแนวทางดังตอ่ ไปนี้

1) ให้มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจา เช่ือฟงั และพึง่ ตนเอง

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ ปีการศกึ ษา 2564

๙๕

2) ใหซ้ ือ่ สตั ย์สุจริต มรี ะเบยี บวินยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ื่น
3) ใหร้ จู้ กั บาเพ็ญตน เพ่ือสาธารณประโยชน์
4) ใหร้ ูจ้ ักทาการฝมี อื และฝึกฝนใหท้ ากจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
5) ใหร้ จู้ กั รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศชาติ

ทัง้ นโ้ี ดยไม่เกยี่ วขอ้ งกับลทั ธิการเมืองใด ๆ

2. ประเภทของลกู เสอื
ลูกเสือ (Scout) ได้แกเ่ ยาวชนชายและหญิง อายุระหวา่ ง 8-23 ปี ทร่ี บั การฝกึ อบรมตาม

หลักสตู รวิชาลูกเสือ โดยยึดมน่ั ในหลกั การ (principle) วธิ กี าร (method) และวตั ถปุ ระสงค์ (purpose)
และวิธีการของการลูกเสอื (scouting) โดยอดุ มการณข์ องลกู เสอื อยทู่ ี่การปฏบิ ัตติ ามคาปฏญิ าณและกฎของ
ลูกเสือเพ่ือความสะดวกในการฝึกอบรมและการจดั กจิ กรรมของลูกเสือใหบ้ รรลุตามหลักการวิธีการและ
วัตถุประสงค์ของการลกู เสือ คณะลูกเสือแห่งชาติจึงได้แบ่งประเภทของลกู เสือออกเป็น 4 ประเภท โดยยดึ
ระดบั อายุของเดก็ เปน็ เกณฑ์ และคานึงถึงพฒั นาการทางร่างกายและจติ ใจของเด็กเป็นพน้ื ฐานในการจดั
หลกั สูตรและกิจกรรมในการฝกึ อบรม เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของเด็กโดยธรรมชาติ คอื
2.1 ลกู เสอื สารอง (Cub Scout) มอี ายุตัง้ แต่ 8-11 ปี การฝกึ อบรมและกิจกรรมลกู เสอื สารองจะจัดให้
เหมาะสมกบั วัยของเด็ก โดยคานงึ ถึงพฒั นาการทางร่างกาย และจิตใจเปน็ พืน้ ฐาน ไม่ว่าเด็กน้ันกาลงั เรยี น
อยชู่ ้นั ใด ระดับใดก็ตาม จะเปน็ นักเรียนอยู่ในโรงเรยี น หรอื ไมเ่ ป็นนกั เรยี นก็ตาม
2.2 ลกู เสือสามญั (Boy Scout) มีอายตุ ั้งแต่ 8-15 ปี ลูกเสือสามัญเริ่มได้รับการฝกึ อบรมใหม้ ีความ
รบั ผิดชอบมากย่ิงขน้ึ เริม่ ใช้ชีวิตกลางแจ้งและการผจญภัย เน้นระบบหมแู่ ละการเปน็ ผู้นา รวมทง้ั การ
บาเพญ็ ประโยชน์โดยทั่วไป
2.3 ลูกเสอื สามญั รุน่ ใหญ่ (Senior Scout) มอี ายตุ ั้งแต่ 15-18 ปี ลูกเสอื สามัญรุน่ ใหญ่น้ีมี
ความรับผดิ ชอบสูง การฝึกอบรมและกิจกรรมเนน้ เรื่องระบบหมแู่ ละการเปน็ ผนู้ าในระบอบประชาธปิ ไตยท่ีมี
พระมหากษัตริยเ์ ปน็ ประมุข ฝึกการใชช้ วี ิตกลางแจ้ง การผจญภยั และทกั ษะวิชาลูกเสอื ฝึกอบรมความรู้
พ้ืนฐานทางวชิ าชีพตามที่ถนดั รวมทง้ั การบาเพ็ญประโยชน์ตอ่ ผ้อู ืน่ มากขน้ึ

2.4 ลูกเสือวสิ ามัญ (Rover Scout) มอี ายตุ ง้ั แต่ 17-23 ปี ลกู เสือวสิ ามญั เป็นวยั ของคนหนุม่ สาว
ดังนั้น การฝกึ อบรมลกู เสือวิสามญั จงึ ม่งุ ทีจ่ ะเตรยี มใหค้ นหนุม่ สาวเหล่านี้ พร้อมท่จี ะใชช้ ีวติ ผู้ใหญอ่ ย่าง
ถกู ต้องและสมบรู ณ์แบบ ให้เปน็ พลเมืองดี มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ไป การฝึกอบรมเน้นการเปน็ ผู้นาในระบอบ
ประชาธปิ ไตยที่มีพระมหากษัตรยิ เ์ ป็นประมุข การวางแผนโครงการ และการปฏบิ ัติงานตามโครงการ ฝกึ ให้
นิยมชวี ติ กลางแจ้ง การใหบ้ ริการแกผ่ ู้อ่ืนและสงั คมเป็นชีวิตจติ ใจตามพระราชบญั ญัตลิ ูกเสอื (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ.
2528 มาตรา 35 ระบุวา่ ลกู เสอื ท่เี ป็น
หญิงอาจใชช้ ือ่ เรียกวา่ เนตรนารี หรอื ช่อื อื่น ซึ่งไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารลกู เสือ
แหง่ ชาติ และบรรดาคาว่าลกู เสอื ในพระราชบญั ญัติน้ี ให้หมายความถึงลกู เสือท่ีเปน็ หญงิ ดว้ ย

3. กำรดำเนินกำรจัดกิจกรรมลูกเสือโรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ุธำอทุ ศิ
การจัดกิจกรรมลกู เสอื จะตอ้ งดาเนินการตามข้อบังคบั คณะลกู เสอื แห่งชาติ วา่ ด้วยการปกครอง

หลกั สตู รและวิชาพเิ ศษ พ.ศ. 2509 ดงั นี้
3.1 หนว่ ยลูกเสือ การจดั หน่วยลูกเสอื โดยปกตจิ ดั เป็นลาดับ ดังน้ี
3.1.1 กล่มุ ลูกเสอื

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ุธาอุทศิ ปกี ารศึกษา 2564

๙๖

3.1.2 กองลกู เสอื
3.1.3 หมู่ลกู เสอื
3.2 การเรยี กชอ่ื กลมุ่ ลกู เสือและกองลกู เสือการเรียกชือ่ กลุม่ ลูกเสอื เรียกชื่อตามชอ่ื โรงเรยี น
หรอื สถานทีท่ ี่ตง้ั กลมุ่ ลูกเสือ เชน่ ตั้งโรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลยั เรยี กวา่ “กลมุ่
ลกู เสอื โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวทิ ยาลัย” ถา้ มีหลายกลุ่มก็ให้เลอื กกลุ่มท่ี 1,2,3 ฯลฯ
ของโรงเรยี นน้นั ๆ ตามลาดับการเรียกชือ่ กองลูกเสือ ถา้ มีจานวนลูกเสอื น้อย จะตั้งได้
เพียงกองลูกเสือ กใ็ หเ้ รยี กตามประเภทและหมายเลขประจากอง เรยี งต้ังแต่หมายเลข
1,2,3 ฯลฯ ตามลาดับ เชน่
“กองลูกเสือสารองที่ 1 โรงเรียนอนุบาลปฐมวัย” เปน็ ต้น
3.3 การเรยี กชื่อหมูล่ กู เสือ
3.3.1 หมลู่ ูกเสือสารอง เรียกตามสีของหมู่
3.3.2 หม่ลู ูกเสอื สามญั เรียกตามช่ือสัตว์ตามทกี่ ล่าวไว้ในหนังสือ การลูกเสือสาหรบั
เดก็ ชาย
3.3.3 หมูล่ ูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ เรียกตามทบี่ ัญญัติไวใ้ นหนงั สอื กฎกระทรวงว่าด้วย

เคร่อื งแบบลกู เสือ
3.4 กลุ่มลูกเสอื กลมุ่ ลกู เสือ ประกอบด้วยกองลกู เสือ 4 ประเภท คือ กองลูกเสือสารอง

กอง
ลกู เสอื สามญั กองลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ และกองลกู เสือวสิ ามญั รวมกันประเภทละ 1 กองเป็นอย่างน้อย
หรือประกอบด้วยลูกเสือประเภทเดียวตั้งแต่ 4 กองขึ้นไป หรือถา้ มลี ูกเสือ 2-3 ประเภท ตอ้ งมีประเภทละ
2 กองขึน้ ไป

3.5 รหัสของลกู เสือ
รหสั ของลกู เสือเป็นเคร่ืองหมายเฉพาะในวงการลูกเสือ ซงึ่ ลกู เสอื รบั รู้และเข้าใจความหมาย
ซงึ่ กันและกัน วัตถุประสงค์ของการแสดงรหัสลกู เสอื กเ็ พื่อจะให้ลูกเสอื รแู้ ละเข้าใจวา่ “เราเปน็ พวก
เดยี วกนั ”วิธีแสดง ยกข้อศอกงอขึน้ ชิดลาตวั หันฝา่ มือข้างหน้าสงู เสมอไหล่ ใหน้ ว้ิ หัวแมม่ อื กับ
น้ิวก้อยรวบจนติดกนั น้วิ หัวแม่มือทับนว้ิ ก้อย อกี สามนว้ิ ทเ่ี หลอื เหยยี ดขน้ึ ไปตรง ๆ และติดกันนว้ิ ทั้ง
สามมีความหมายถึงคาปฏิญาณของลกู เสอื 3 ขอ้ คอื
ข้อ 1 ขา้ จะจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
ข้อ 2 ข้าจะชว่ ยเหลือผู้อ่ืนทุกเม่ือ

ข้อ 3 ขา้ จะปฏบิ ัติตามกฎของลกู เสือโอกาสแสดงรหัส
3.5.1 เมอ่ื ลกู เสอื กล่าวคาปฏญิ าณในพธิ ปี ฏิญาณตน
3.5.2 เมื่อพบกบั ลูกเสือในประเทศหรือตา่ งประเทศเป็นการรับร้วู ่าเป็นพวกเดียวกัน
3.6 การสัมผัสการสมั ผัสมือด้วยมือซา้ ยและปฏบิ ตั ิต่อกันเชน่ นใี้ นหม่ลู กู เสอื ท่ัวไปวธิ แี สดงยน่ื
มอื ซา้ ยออกไป แลว้ สมั ผัสกบั มือซา้ ยของอีกฝ่ายหนง่ึ สัมผัสกันเหมือนกบั การสมั ผัสมือ
ขวาตามธรรมดา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ิศ ปกี ารศกึ ษา 2564


Click to View FlipBook Version