คู่มือการคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นกั เรียน
ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
โรงเรยี นบา้ นเขาลูกโล่
สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต ๒
คำนำ
คู่มือการคุ้มครองและชว่ ยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่สงั กดั สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาอุทัยธานี เขต ๒ เล่มนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาของสถานศึกษา สามารถใช้เป็นคู่มือปฏิบัติงานในการดูแลช่วยเหลือคุ้มครองและเยียวยานักเรียน
สามารถเข้าถงึ สถานการณร์ นุ แรงของปัญหาไดอ้ ย่างทนั ทว่ งทีและมีประสิทธภิ าพ
โรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะ
นำไปใช้เป็นแนวทางขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติที่มีผลให้นักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลือคุ้มครองและเยียวยาได้
อยา่ งเหมาะสมตามสถานการณ์รุนแรงของปญั หา
โรงเรียนบา้ นเขาลกู โล่
สารบัญ หนา้
เรื่อง 1
2
คำนำ 3
สารบัญ 4
บทที่ 1 บทนำ 4
บทที่ 2 การคุม้ ครองและช่วยเหลือนกั เรยี น 5
5
● คำนยิ ามเก่ยี วกับการค้มุ ครองและชว่ ยเหลือนักเรียน 6
6
● กระบวนการและบทบาทคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน 6
แผนผังกระบวนการดำเนนิ งานค้มุ ครองและช่วยเหลอื นักเรียน 6
กระบวนการดำเนนิ งานคุ้มครองและช่วยเหลือนกั เรยี น 8
8
● กรณเี รง่ ดว่ นของการรายงาน 1๑
1๕
● บทบาทการคุ้มครองช่วยเหลอื นกั เรียน ๑๗
บทบาทครู ๑๙
บทบาทสถานศึกษา 2๑
2๒
● แนวทางการช่วยเหลือนักเรียนและกรณีศกึ ษา 2๘
บทท่ี 3 แนวทางการค้มุ ครองช่วยเหลือเด็กนักเรยี น 3๑
3๓
3.1 กรณีถูกล่วงละเมดิ ทางเพศ 3๖
3.2 กรณคี วามรุนแรง 3๘
3.3 กรณไี ม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการศึกษา 4๐
3.4 กรณีอื่น ๆ 4๒
4๔
(1) ต้งั ครรภใ์ นวัยเรยี น 4๖
(2) ภาวะจิตเวช
(3) เดก็ นักเรียนติดเกม/อนิ เทอรเ์ นต็ /เล่นพนนั
(4) เด็กนกั เรียนถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง
(5) ยาเสพตดิ
(6) อปุ ทานหมู่
(7) โรคตดิ ตอ่ ในสถานศึกษา
(8) อุบตั เิ หตนุ อกสถานศึกษา
(9) อุบตั ิเหตุในสถานศึกษา
(10) การจมน้ำ
(11) เด็กนกั เรยี นเสียชีวิตในสถานศกึ ษา
(12) ภัยพิบตั ิ
สารบญั (ตอ่ ) 4๘
๕๐
(13) การกลัน่ แกลง้ รงั แก (Bully) ๕๒
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก
๑
บทที่ 1
บทนำ
ด้วยสภาพสังคมโลกในยุคโลกาภิวัตน์ นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา จึงจำเป็นต้องปรับตวั
เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การศึกษาจึงเป็นกลไกสำคัญในการ
พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และมีผลต่อพฤติกรรมของนักเรียนและเยาวชนในสังคมไทย เด็กและ
เยาวชนในปัจจบุ ันมีความซับซ้อนมากขึ้น ปัญหาและสภาพแวดล้อมบรบิ ทต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย
เสี่ยงจากสภาพครอบครัวที่เป็นครอบครัวแตกแยก นิยมใช้ความรุนแรง ปล่อยปละ ละเลย ปัจจัยเสี่ยงจาก
ชุมชนและสังคมที่อ่อนแอ การละเลยต่อปัญหาของเด็กและเยาวชน ส่งผลต่อพฤติกรรมและความปลอดภัย
ของเด็กและเยาวชน การถูกล่วงละเมิด ยาเสพติด ปัญหาความเครียดหรือวิตกกังวล ปัญหาจิตเวช ปัญหา
ความรัก ปัญหาซึมเศร้า ปัญหาครอบครัว และปัญหาอื่น ๆ ตามมา ที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
หรอื เหตุการณท์ เี่ ป็นอนั ตราย
ในการน้ี โรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ จึงได้จัดให้มีการพัฒนาคู่มือการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนของ
สถานศึกษาขึ้น เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ โดยอธิบายขั้นตอนการปฏบิ ัตใิ ห้ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา
และผู้ปฏิบัติแต่ละระดับปฏิบัติได้จริง มีผลให้นักเรียนได้รับโอกาสและประโยชน์สูงสุดจากการคุ้มครองและ
ช่วยเหลอื นกั เรยี นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
๒
บทที่ 2
การค้มุ ครองและช่วยเหลอื นักเรียน
สถานศึกษาเป็นสถานที่ที่นักเรียนมีความใกล้ชิดมากที่สุด รองลงมาจากครอบครัว ผู้ปกครองให้การ
ยอมรับ และคาดหวังว่าจะได้รับความรู้ การอบรมสั่งสอน การดูแลด้วยการเอาใจใส่ สถานศึกษาจะต้อง
คำนึงถึงผลประโยชน์ สูงสุดของนักเรียนเป็นหลัก ให้นักเรียนได้อยู่ในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่มีความ
ปลอดภัย การจัดการเรียนการสอนต้องครอบคลุม ทั้งด้านความรู้ ทักษะ สมรรถนะ และคุณลั กษณะอันพึง
ประสงค์ รวมทงั้ สอนทักษะชีวิต ท่จี ำเป็นสำหรับการใชช้ ีวิตทป่ี ลอดภัยและมีคุณภาพ ตรงตามจุดมุ่งหมายของ
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คอื มุ่งพัฒนาผู้เรียน
ให้เป็นคนดี มปี ัญญา มคี วามร้คู ูค่ ุณธรรม มศี ักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ น่นั คือ นกั เรียนได้รับ
การพฒั นาใหเ้ ปน็ “คนดี เกง่ และมคี วามสขุ ”
นอกจากนี้ ครูต้องบูรณาการเนื้อหาความรู้และพัฒนาคุณภาพนกั เรียนให้มคี วามพรอ้ มอย่างเป็นองค์
รวม โดยการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตนักเรียน และแก้วิกฤติทางสังคม สถานศึกษาต้องจัดระบบงานกิจกรรมที่
ส่งเสริมความประพฤติให้เหมาะสม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภยั ให้กับนักเรยี น นำระบบการ
ดูแลช่วยเหลือนักเรียน พัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน โดยโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ ใช้รูปแบบการบริหารงาน
ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน METHODS ASSIST OUR PUPILS Model นักเรียนจะได้รับการพิทักษ์
ปกป้อง คุ้มครอง และดูแล โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาเป็น
แบบอย่างทด่ี ีในการดำเนินชวี ติ
การสรา้ งความปลอดภัยให้กับนกั เรยี น เปน็ บทบาทหนา้ ทีท่ สี่ ำคญั ทส่ี ดุ ท่ีสถานศกึ ษาจะต้องดำเนินการ
โดยต้องจัดใหเ้ หมาะสมกับบรบิ ทของสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศกึ ษา และครูเป็นผู้มีความสำคัญที่สุดในการ
ขับเคลื่อน เพื่อคุ้มครองดูแลนักเรียน สถานศึกษาเป็นสถานที่ที่มีความใกล้ชิดกับนักเรียน ดังนั้นในการสร้าง
ความปลอดภยั ใหก้ บั นักเรยี นจะต้องอาศัยความรว่ มมือจากหลาย ๆ ฝ่าย เพ่อื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั กบั นักเรียน
อย่างแท้จริง สถานศึกษาต้องส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียนเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการสร้างความ
ปลอดภัยในชีวิตของนักเรียน รวมทั้งการปกป้อง คุ้มครอง และช่วยเหลือนักเรียนจากอันตรายต่าง ๆ ท้ัง
ทางด้านร่างกายและจิตใจ การสร้างความปลอดภัยให้กับนกั เรียนย่อมส่งผลต่อคุณภาพการเรียนของนักเรียน
สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคม ได้อย่างเป็นสุข ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการ
พัฒนาประเทศต่อไป
๓
คำนิยามเกี่ยวกบั การคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นักเรียน
การคุ้มครอง หมายถึง การดูแลช่วยเหลือนักเรียนท่ีเส่ียง หรือต้องสงสัยว่าถูกกระทำรนุ แรง หรือล่วง
ละเมิด นักเรียนที่ถูกกระทำรุนแรง หรือถูกล่วงละเมิด และนักเรียนที่กระทำรุนแรง หรือล่วงละเมิดต่อบุคคล
อื่น โดยมีระบบและขั้นตอนการปฏิบัติที่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่เกิดขึ้นกับนักเรียน เป็นหลักสอดคล้องกับ
หลักปฏบิ ตั ติ าม กฎหมาย และหลกั ปฏบิ ัตทิ ่ีมีมาตรฐาน
การช่วยเหลือ หมายถึง การส่งเสริม พัฒนา การป้องกัน และแก้ไขปัญหา เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนา
เต็มตาม ศักยภาพ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่เข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีทักษะการ
ดำรงชวี ิตและรอดพ้นจากวกิ ฤตทัง้ ปวง
เด็ก หมายถึง บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ของโรงเรยี นบ้านเขาลูกโล่
นักเรียน หมายถึง ผู้ซึ่งกำลังรับการศึกษาที่อยู่ในความดูแลของโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ สำนักงานเขต
พื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต ๒ สงั กดั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน
บิดามารดา หมายถึง บิดามารดาของนกั เรียนโรงเรยี นบา้ นเขาลกู โล่ไมว่ า่ จะสมรสกันหรอื ไม่
ผู้ปกครองนักเรียน หมายถึง บิดา มารดา ผู้อนุบาล ผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้ปกครอง ตามประมวล
กฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ และให้หมายความรวมถึง พ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ผู้ปกครองสวัสดิภาพ นายจ้าง
ตลอดจนบุคคลอืน่ ซึ่งรับนักเรียนโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ไว้ในความอุปการะเลี้ยงดูหรือซ่ึงเด็กนักเรียนโรงเรยี น
บ้านเขาลูกโล่อาศัยอย่ดู ้วย
ผู้บริหารสถานศึกษา หมายถึง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาอุทยั ธานี เขต ๒ สงั กัดสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
ผู้บริหารระดับจังหวัดสังกัด สพฐ. หมายถึง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา/
ผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา/ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวดั /ผู้อำนวยการ
สำนกั งาน ส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวัด
ฉก.ชน.สพฐ. หมายถึง ศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ หมายถึง ศูนย์เฉพาะกจิ คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สำนักงานเขตพืน้ ที่
การศึกษาประถมศึกษาอุทยั ธานี เขต ๒
สถานศึกษา หมายถึง โรงเรียนบ้านเขาลูกโล่ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอทุ ัยธานี เขต
๒ สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน
ทีมสหวิชาชีพ หมายถึง กลุ่มบุคคลที่ทำงานประสานความร่วมมือจากหลายสาขาวิชาชีพ เพื่อมุ่ง
แก้ปัญหาอย่างมีระบบ เปน็ กระบวนการอยู่บนพื้นฐานท่มี ีจดุ ประสงค์ และเปา้ หมายเดียวกนั ในการปฏิบัติงาน
โดยมกี ารตดิ ตอ่ ส่อื สารระหว่างกันอยา่ งต่อเน่ือง เพ่อื การประเมินสภาพการณข์ องปญั หาและมีความรับผิดชอบ
ร่วมกันทั้งกระบวนการ เช่น ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) มูลนิธิต่าง ๆ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์
แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าท่ีสาธารณสขุ เจา้ พนกั งานส่วนทอ้ งถิ่น พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีตำรวจ องค์กรเพื่อการกุศล
บา้ นพักเดก็ และ ครอบครัว สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ย์ เปน็ ต้น
๔
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) หมายถึง ศูนย์ช่วยเหลือสังคมภายใต้ชื่อ OSCC (One Stop Crisis
Center) เป็นศูนย์บริการประชาชน ผู้ประสบปัญหาที่มีลักษณะบูรณาการและครบวงจร โดยมีหน้าที่รับแจ้ง
เหตุ เบาะแส ประสาน ส่งต่อ และติดตามการใช้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์
การใชแ้ รงงานเด็ก การกระทำความรุนแรงตอ่ เดก็ สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ
กระบวนการและบทบาทการคุม้ ครองชว่ ยเหลอื นักเรียน
การคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สถานศึกษาและครูต้องมีความตระหนักและเห็นความสำคัญใน
การปกป้องคมุ้ ครองและช่วยเหลือนักเรียน เพือ่ นักเรยี นจะได้รับการส่งเสรมิ และพัฒนาให้นักเรยี นเติบโตอย่าง
มศี ักยภาพ ทง้ั ทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา สามารถดำรงชีวติ อยู่ได้อย่างมีความสุข ดังนั้น
ครแู ละสถานศึกษาจะตอ้ งมีกระบวนการดำเนินงานคมุ้ ครองและช่วยเหลือนกั เรยี น ดังนี้
แผนผงั กระบวนการดำเนินงานคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน
ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาไดร้ บั แจง้ เหตหุ รอื ประสบ กรณตี ้องการพนกั งาน
เหตุ เจ้าหน้าท่ี
บนั ทกึ แบบรายงาน ฉก.01 รายงานเหตุการณ์และแจ้งเหตุ ให้แจ้งขอรบั การชว่ ยเหลอื
ผู้ทีไ่ ด้รบั แจง้ เหตุดำเนินการช่วยเหลอื และประเมินสถานการณ์เบื้องตน้
ใหก้ ารดูแลช่วยเหลือ/ค้มุ ครอง กรณพี ึงได้รับการสงเคราะห์
กรณมี ีความเสีย่ งต้องไดร้ ับการคุม้ ครอง เจา้ หน้าทสี่ ง่ ต่อไปรบั บริการสงเคราะห์
ตามระเบียบกระทรวงวา่ ดว้ ยการ
เจา้ หนา้ ทีใ่ ห้ความคุ้มครองชัน้ ตน้ กรณเี ร่งด่วนใหร้ ายงาน สงเคราะห์เด็ก
ทนั ที
ประสาน/จัดเก็บข้อมูล ตรวจสอบ และรายงานไปยัง สพป./สพฐ.
และหนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ ง
ตดิ ตามและรายงานสถานการณ์ต่อ ฉก.ชน.สพฐ.
๕
กระบวนการดำเนินงานคุ้มครองและช่วยเหลือนกั เรยี น
การดำเนินการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนเป็นกระบวนการที่มีขั้นตอน วิธีการปฏิบัติงานและ
เคร่ืองมอื โดยมผี ู้บริหารสถานศกึ ษา ครูเปน็ บคุ ลากรหลกั ในการดำเนินงาน และบุคลากรทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องทั้ง
ในและนอกสถานศึกษา ได้แก่ ผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษามีส่วนร่วมในการคุ้มครองและ
ชว่ ยเหลอื นักเรยี น ซง่ึ มีกระบวนการ ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ครทู ี่ได้รับแจง้ เหตุ หรือประสบเหตุ
2. บันทกึ ข้อมูลตามแบบรายงาน ฉก.01 รายงานเหตกุ ารณ์ และแจง้ ไปยังศนู ยเ์ ฉพาะกิจคมุ้ ครองและ
ช่วยเหลือนกั เรยี น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หากกรณีต้องการพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้แจ้ง
ตามสภาพ ปัญหาที่ต้องการช่วยเหลือ เช่น ผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพนักเรยี นตามพระราชบัญญตั ิคุ้มครอง
เด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 24 ตำรวจ พนกั งานฝ่ายปกครอง โรงพยาบาล เป็นต้น
3. ผู้ที่ได้รับแจ้งเหตุดำเนินการช่วยเหลือด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมประเมินสถานการณ์เบื้องต้น
โดยทันที
4. ใหก้ ารคมุ้ ครองและช่วยเหลือนกั เรียน โดยคำนึงถึงความปลอดภยั ของนกั เรยี น
5. กรณนี กั เรยี นมีความเสย่ี งต้องได้รับการคุ้มครอง ให้จัดเจา้ หน้าที่ให้ความคมุ้ ครองขั้นต้นกับนักเรียน
ผู้ประสบเหตุ ซึ่งจะต้องคำนึงถึงผลความปลอดภัยของนักเรียน พร้อมดำเนินการหาข้อมูล ข้อเท็จจริง และ
กรณี เรง่ ด่วนให้รายงานหนว่ ยงานต้นสังกัดทันที
6. กรณนี กั เรยี นพึงไดร้ บั การสงเคราะห์ ให้เจ้าหน้าทสี่ ง่ ตอ่ ไปรับบริการสงเคราะห์
7. ประสานข้อมลู จดั ทำ/จัดเก็บข้อมูลสถานศึกษา และรายงานไปยงั สพป.อน.เขต ๒ และผู้เกย่ี วข้อง
ทราบ
8. รายงานและประสานความร่วมมอื เพอ่ื สง่ ตอ่ ความรบั ผดิ ชอบด้านข้อมูลแกผ่ ้เู ก่ียวขอ้ ง
9. ติดตามสถานการณ์ ทบทวนการดำเนินงาน และรายงานสถานการณ์ต่อศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครอง
และชว่ ยเหลือนักเรียน
กรณีเรง่ ดว่ นของการรายงาน
1. กรณีเป็นข่าว สื่อมวลชนเข้าติดตามสถานการณ์ให้สถานศึกษา ประมวลสถานการณ์แล้วรายงาน
ต่อต้นสังกัด ทันทีตามช่องทางการสื่อสาร เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ โทรสาร
และหนังสอื ราชการ
2. กรณีฉุกเฉิน/รุนแรงให้รายงานต่อต้นสังกัดทราบทันที หรือภายใน 24 ชั่วโมง ตามแบบรายงาน
ฉก.01 โดยติดตามผลพรอ้ มรายงานเป็นระยะ
3. กรณเี รือ่ งยุตแิ ล้ว ให้รายงานการดำเนินงานตามแบบสรุปผลการดำเนินงานคุ้มครองและช่วยเหลือ
เด็ก นักเรียนตามลำดับขั้น เพื่อให้การรายงานมีประสิทธิภาพ สถานศึกษาควรติดตาม ตรวจสอบผลการ
รายงานอกี ครั้ง พรอ้ มทัง้ จัดเกบ็ ขอ้ มลู อย่างเป็นระบบ เพื่อใชใ้ นการดำเนนิ งานตอ่ ไป
๖
บทบาทการคมุ้ ครองช่วยเหลือนักเรยี น
บทบาทของครู
1. ให้การศกึ ษาแกน่ กั เรยี น โดยมุ่งพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญา และมคี วามรู้
2. จัดระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 5 ขั้นตอน และให้คำปรกึ ษากบั นกั เรียน
3. จดั สง่ิ แวดล้อมและเฝา้ ระวังปจั จัย/พนื้ ทีเ่ ส่ียงด้านสังคมรอบ ๆ ตวั นักเรยี น
4. จัดกิจกรรมสง่ เสริมสนับสนนุ ทง้ั ในและนอกชนั้ เรยี น
5. ดูแลสขุ ภาพนกั เรยี นขณะอยู่ในสถานศึกษา
6. สง่ เสริมให้พอ่ แม่ และผปู้ กครองมีส่วนรว่ มในการดำเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา
7. ครูและผ้ปู กครองมสี ว่ นร่วมในการดูแลนกั เรียน
8. สร้างเครอื ข่าย/ประสานความรว่ มมอื ในการคุ้มครองและช่วยเหลือนกั เรยี น
9. มีเครื่องมือในการตดิ ตามสภาวะนักเรียน
10. ใหค้ วามชว่ ยเหลือนกั เรียนเบือ้ งตน้ ในกรณที ี่เกิดเหตกุ ารณ์ผิดปกตกิ ับนักเรยี น
11. รายงานตอ่ สพป.อน.เขต ๒ เมื่อพบเหตุความผดิ ปกติ
บทบาทสถานศกึ ษา
1. ผู้บริหารสถานศึกษาตระหนักและให้ความสำคัญในการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนทั้งในและ
นอก สถานศึกษา
2. สถานศึกษาจัดระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเข้มแข็ง โดยจัดระบบคัดกรอง ระบบการ
เข้าถงึ สภาวะ ปญั หาของนักเรียน ระบบการประเมนิ สภาวะปญั หา และระบบการใหค้ ำปรึกษา
3. ป้องกันและเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้นักเรียนเสี่ยงต่อภัยอันตราย ป้องกันให้นักเรียนปลอดภัยจาก
สิ่งแวดล้อมทางกายภาพและบุคคล โดยสถานศึกษาจะต้องหามาตรการป้องกัน แก้ไขบริเวณเสี่ยงอันตราย
และมรี ะบบ กฎเกณฑ์ความปลอดภัยท่เี หมาะสม
4. จดั ระบบงานและกจิ กรรมใหก้ บั นกั เรยี นและผมู้ สี ่วนรว่ ม
5. ผู้บรหิ ารสถานศึกษาจะตอ้ งแจ้งเหตุ พร้อมทงั้ รายงาน สพป.อน.เขต ๒ ทราบ
แนวทางการชว่ ยเหลอื นักเรยี นและกรณีศกึ ษา
1. กรณีถูกลว่ งละเมิดทางเพศ
2. กรณคี วามรนุ แรง
3. กรณีไม่ไดร้ บั ความเปน็ ธรรมจากระบบการศกึ ษา
4. กรณีอ่นื ๆ
4.1 ต้ังครรภใ์ นวัยเรียน
4.2 ภาวะจติ เวช
4.3 นักเรยี นตดิ เกม/สอื่ ออนไลนท์ ่ไี มพ่ งึ ประสงค์ในระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต/เลน่ พนัน
4.4 นกั เรียนถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดทิ้ง
4.5 ยาเสพติด
๗
4.6 อุปทานหมู่
4.7 โรคตดิ ต่อในสถานศกึ ษา
4.8 อบุ ตั เิ หตุนอกสถานศกึ ษา
4.9 อบุ ตั เิ หตุในสถานศึกษา
4.10 การจมน้ำ
4.11 นกั เรยี นเสียชีวิตในสถานศกึ ษา
4.12 ภยั พิบตั ิ
๔.๑๓ การกล่นั แกล้งรงั แก (Bully)
๘
บทที่ 3
แนวทางการคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
สถานการณ์นักเรียนในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น ตามการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันในยุค
โลกาภิวัตน์รอบด้าน ส่งผลต่อพฤติกรรมและความปลอดภัยของนักเรียน ดังนั้นจึงได้จัดทำแนวทางการ
คมุ้ ครองและช่วยเหลือนกั เรียนในกรณีต่าง ๆ ดังน้ี
ขั้นตอนการคุม้ ครองและชว่ ยเหลือนักเรียน
กรณีล่วงละเมดิ ทางเพศ
ผู้บริหารสถานศกึ ษาไดร้ ับแจง้ เหตุหรอื ประสบเหตุนักเรียนถูกลว่ งละเมิดทางเพศ
ตรวจสอบขอ้ มลู เบื้องตน้ ประเมินปัญหา สถานการณ์ ทำความเข้าใจกับส่ือมวลชน
บนั ทกึ ข้อมลู แบบรายงาน ฉก.01 และแจง้ มายงั หน่วยงานที่ดแู ลนกั เรียน แจง้ ผู้ปกครอง/ผดู้ ูแล
ดำเนนิ การช่วยเหลือดา้ นรา่ งกาย จิตใจ ใหค้ ำปรึกษาแก่นักเรยี น พรอ้ มประเมนิ สถานการณ์
แจ้งทมี ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒ แจง้ /ประสานการสง่ ตอ่ ทีมสหวิชาชีพ
ใหก้ ารดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน/คุ้มครอง/ตดิ ตามเย่ยี ม โดยคำนงึ ถึงความปลอดภัยของนักเรยี น
กรณนี กั เรยี นมคี วามเสีย่ งต้องไดร้ ับการคมุ้ ครอง กรณนี ักเรียนต้องได้รับการสงเคราะห์
ให้ความคุ้มครองนกั เรยี นขนั้ ต้นทนั ที
ใหเ้ จา้ หน้าทสี่ ่งต่อไปรับบริการสงเคราะห์
ตามระเบยี บกระทรวงว่าดว้ ยการสงเคราะห์นักเรยี น
จดั ทำ/จดั เก็บขอ้ มลู การดำเนินงานของสถานศึกษา สรปุ ผลการทำงานและ
รายงานไปยัง สพป./สพฐ.และผูเ้ ก่ียวข้องทราบตามกรณี
๙
กรณลี ่วงละเมดิ ทางเพศ
การล่วงละเมิดทางเพศ เป็นปัญหาที่เกิดข้ึนเสมอ ๆ ในสังคม ทั้งการล่วงละเมิดด้วยคำพูด การสัมผสั
การแอบดู รวมถึงการกระทำรุนแรงทางเพศ นักเรียนจึงควรรู้วิธีป้องกันและหาทางออกเมื่อต้องเผชิญกับ
เหตกุ ารณ์ รวมทง้ั การขอความชว่ ยเหลอื จากบุคคลหรอื หนว่ ยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง
การล่วงละเมิดทางเพศ หมายถึง การกระทำที่มีผลทำให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเสียหายเกี่ยวข้องกับ
เร่ืองเพศ ไดแ้ ก่ กระทำชำเรา อนาจาร เป็นตน้ ผูท้ ถี่ กู ลว่ งละเมิดทางเพศจะได้รบั ผลกระทบทั้งทางร่างกายและ
จติ ใจ
มาตรการปอ้ งกนั
1. ใหค้ วามรคู้ วามเข้าใจ และความตระหนักแกค่ รู นักเรียน และผปู้ กครอง ในการป้องกนั หาทางออก
เมื่อตอ้ งเผชิญกับเหตุการณ์การล่วงละเมิดและสรา้ งกลไกการป้องกนั นักเรยี นจากการถูกละเมิด
2. ใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูที่ปรึกษา เอาใจใส่นักเรียนอย่างใกล้ชิดและ
ตอ้ งทำงานเป็นทีม
3. ให้สถานศกึ ษาดูแลพิทักษ์ ปกป้อง และคมุ้ ครองนักเรียน ไมใ่ หถ้ กู ลว่ งละเมดิ ทางเพศจากบุคคลทั้ง
ที่อยู่ภายในและภายนอกสถานศึกษา
4. จัดสถานท่ีภายในสถานศึกษาให้เหมาะสม เช่น มกี ล้องวงจรปดิ มีการจัดตัง้ เวรยามตรวจตราพื้นที่
จุดเส่ยี งเพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ การลว่ งละเมิดระหว่างครกู ับนักเรียน นักเรียนกบั นักเรยี น และจากบุคคลอื่น
5. สถานศึกษาสอนเรื่องเพศศึกษาในกลุม่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยเฉพาะการดูแล
ป้องกนั ตนเองของนักเรยี นใหป้ ลอดภยั จากการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ
6. กำหนดโทษและมาตรการทีเ่ ข้มแขง็ ต่อผ้กู ระทำผิดรุนแรง
แนวทางการช่วยเหลือ
1. ผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตรวจสอบข้อเท็จจริง และปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องใน
สถานศกึ ษา สพป.อน.เขต ๒/สพฐ. ทันที
2. ตรวจสอบข้อมูลประวัตินักเรียนโดยใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การบันทึก
ขอ้ มลู และการจดั เกบ็ ข้อมูลตามแบบรายงาน ฉก.01
๓. ประสานทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สพป.อน เขต ๒ สำนักงานพัฒนาสังคม
และความมน่ั คงของมนุษย์ บา้ นพักเดก็ และครอบครัว สถานีตำรวจ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นท้องถิ่น และผู้มีหน้าที่
คุ้มครองสวสั ดภิ าพเดก็ ตามพระราชบัญญตั ิคมุ้ ครอง พ.ศ. 2546 เปน็ ตน้
4. เชิญผู้ปกครองนักเรียนทั้งสองฝ่าย/หรือผู้ที่นักเรียนไว้วางใจ/หรือผู้ที่นักเรียนร้องขอมาพูดคุย/
รับทราบเหตุการณ์และใหค้ ำปรกึ ษา
5. ประสานศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) สถานพยาบาลในพื้นที่ เพื่อนำนักเรียนเข้ารับการตรวจ
รักษาด้านร่างกายและจิตใจภายใน 24 ช่ัวโมง
6. แจ้งผูป้ กครองนกั เรียนหาแนวทาง และวิธีการร่วมกันในการปรับพฤตกิ รรมนกั เรยี น
7. ดำเนนิ การโดยเกบ็ ขอ้ มลู เปน็ ความลบั พิทกั ษ์สิทธิผ้ถู กู กระทำและผูก้ ระทำ
๑๐
8. กรณีนักเรียนกับครูหรือบุคลากรทางการศึกษา ตรวจสอบประวัติครู ให้เชิญคณะกรรมการ
สถานศึกษา มาปรึกษา สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในสถานศึกษา และรายงาน
ผู้บงั คับบญั ชาทราบทันที
9. กรณีข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาท่ีกระทำการละเมิด ให้ดำเนนิ การทางวนิ ยั สรุปและ
จัดทำรายงานเสนอผูบ้ รหิ ารสานศกึ ษาทราบ
10. ตดิ ตามผล/เย่ียมบ้านนกั เรียนเป็นระยะ ใหค้ ำปรึกษา/ให้กำลังใจ
11. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการปกป้อง คุ้มครอง และดูแลช่วยเหลือ
นกั เรียนต่อไป
มาตรการการดำเนินงานของสำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุทัยธานี เขต 2
1. ผบู้ ริหารสำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา รายงานเหตุให้เลขาธกิ าร กพฐ. ทราบทนั ที กรณีเรง่ ด่วน
2. ทีมผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประสานงานกับทีมสหวิชาชีพเข้าชว่ ยเหลือนักเรียนเมื่อ
ทราบและตรวจรา่ ยกายภายใน 24 ชวั่ โมง
3. รายงานข้อมลู รายละเอียดอยา่ งเปน็ ทางการเบอื้ งตน้ ภายใน 24 ช่วั โมง
4. กรณีมีสื่อมวลชนเข้าติดตามสถานการณ์ ให้ผู้บริหารสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา รายงาน
เลขาธิการ กพฐ. ทราบทันที และทำความเข้าใจกับสือ่ มวลชน
5. รายงานสถานการณ์ให้ผูบ้ ังคบั บัญชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนการชว่ ยเหลอื เสรจ็ สิ้นกระบวนการ
6. ครูล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนไดร้ บั ผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจอย่างแสนสาหัส มีข้อร้องเรียน
และ มีการเผยแพร่ผา่ นสอ่ื สาธารณะ ให้ผู้อำนวยการเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา หรอื ผทู้ ่มี ีอำนาจสงั่ ให้ครมู าปฏิบัติงาน
ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยไม่ชักช้าภายใน 24 ชั่วโมงนับจากผู้บริหารสถานศึกษารับทราบและเร่ง
ดำเนนิ การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการใหไ้ ด้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว
7. สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน ประชุมวางแผน กำหนดแนว
ปฏิบตั ิ ตดิ ตาม และประเมนิ ผล
8. สถานศึกษาต้องดำเนินการหรือประสานตำรวจในพื้นที่ระงับเหตุภยันตรายจากบุคคลภายนอกที่
เกยี่ วข้องกับการถกู ล่วงละเมิดทางเพศ
9. เมื่อปรากฏว่า มีนักเรียนถูกล่วงละเมิดทางเพศให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที และให้เสร็จ
สิ้นโดยเร็ว ให้ทราบผลอย่างช้าภายใน 10 วัน และถ้าเห็นว่ากระทำผิดทางวินัยให้ดำเนินการทางวินัยทันที
พรอ้ มกับให้พกั ราชการหรอื ใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อน
10. ห้ามชว่ ยเหลือผู้กระทำผดิ ใหไ้ มต่ อ้ งรบั โทษหรอื เขา้ ไปไกลเ่ กล่ยี ประนีประนอมความกับผเู้ สียหาย
11. ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองพานกั เรียนผู้เสียหายไปใหแ้ พทย์ตรวจร่างกายโดยเร็ว อย่างช้าภายใน
72 ชม. นบั แตเ่ กิดเหตเุ พื่อเปน็ หลกั ฐานในคดี
12. กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางศึกษา ถูกร้องเรียนกล่าวหา หรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญา
กรณีมีพฤติการณ์ล่วงละเมิดสิทธิทางเพศนักเรียน ให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานการ
ดำเนินการใหส้ ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานทราบโดยดว่ น
13. กรณีปรากฏพยานหลักฐานเบื้องต้นและมีเหตุอันน่าเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยให้
ผู้บังคับบัญชา ย้ายผู้ถูกล่าวหาออกจากสถานศึกษา เพื่อให้ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ชัดเจน หรือเพื่อ
ประโยชน์ในการสอบสวน ปอ้ งกนั การข่มขผู่ ูเ้ สยี หายหรอื พยาน และไมใ่ ห้เกิดผลกระทบต่อนกั เรียน
14. เมื่อปรากฏมูลกรณีอันเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือถูก
ฟ้องคดีอาญา หรือต้องหาว่ากระทำผิดอาญา ว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่าหากผู้นั้นคงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิด
๑๑
ความเสียหาย หรือผู้นั้น มีพฤติการณ์ที่แสดงว่าถ้าคงอยู่ในหน้าที่ราชการ จะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน
พิจารณาหรอื จะกอ่ ความไมส่ งบ ก็ใหผ้ ูบ้ ังคบั บญั ชาส่ังพกั ราชการ หรอื สงั่ ใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อน เพ่ือรอฟัง
ผลการสอบสวน
แหลง่ ชว่ ยเหลอื
1. สถานพยาบาล
2. บา้ นพกั เดก็ และครอบครัว
3. สำนักงานพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ย์
4. ศนู ย์ช่วยเหลอื สงั คม (OSCC) โทร. 1300
5. สถานตี ำรวจ
6. สถานพนิ จิ และคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน
7. นักจติ วทิ ยา
8. ศาลเยาวชนและครอบครวั
ข้ันตอนการค้มุ ครองและชว่ ยเหลอื นักเรียน
กรณคี วามรุนแรง
รับแจ้ง/ประสบเหตุนักเรียนเก่ยี วข้องกับความรนุ แรงต่าง ๆ
ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจกับส่ือมวลชน
ประเมินเบ้ืองตน้ /สง่ ต่อ ทีมสหวิชาชีพ
ไม่ถูกดำเนนิ คดี ถูกดำเนนิ คดี เขา้ สกู่ ระบวนการยตุ ธิ รรม
สร้างภมู ิ/ให้คำปรึกษา ผูป้ กครอง ผู้บริหาร ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
สถานศกึ ษา ออกหนงั สอื รับรอง
การเป็นนักเรียน
ผอ.สพป.อน.เขต ๒
เลขาธกิ าร กพฐ.
๑๒
กรณคี วามรุนแรง
ความรุนแรงต่อนักเรียนเกิดข้นึ บ่อยคร้ังทวั่ ทุกพ้นื ที่ของสังคม ไมว่ า่ จะเป็นสถานศึกษาในระดับอนุบาล
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าในสถานศึกษาขนาดเล็ก ขนาดกลาง
หรือขนาดใหญ่ ไม่ว่าสถานศึกษาจะอยู่ในภาคไหนในประเทศไทยในบรบิ ทสังคม อย่างไรก็ตามความรุนแรงต่อ
นักเรียนที่เกิดขึ้นหลายแห่ง อาจมีรูปแบบคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันบ้างตามสถานการณ์ ส่วนสาเหตุบ่มเพาะ
และเอื้อต่อการเกิดความรุนแรงเหล่านั้น มีทั้งเหมือนและแตกต่างกันออกไป ความรุนแรงเป็นพฤติกรรมหรือ
การกระทำใด ๆ ก็ตามที่ละเมิดสิทธิส่วนบคุ คลทั้งทางร่างกาย วาจา จิตใจหรือ ทางเพศ และนำมาซึ่งอันตราย
หรือความทกุ ข์ทรมานต่อผู้ถกู กระทำท้ังด้านร่างกายและจิตใจ ในที่นี้ได้แบ่งความรนุ แรง ออกเป็น 3 ประเภท
ได้แก่
1. ความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การทุบตีทำร้ายร่างกาย ตบ เตะ ต่อย การใช้อาวุธ และการ
ลงโทษ นกั เรยี นที่เกินกว่าเหตุในสถานศึกษาและครอบครวั เป็นต้น
2. ความรุนแรงทางด้านจิตใจ เช่น การใช้คำพูด กิริยา หรือการกระทำที่เป็นการดูถูกดูหมิ่น เหยียด
หยาม ด่าว่าให้อับอาย การกลั่นแกล้ง ทรมานให้เจ็บช้ำนำ้ ใจ การบังคับ ข่มขู่ กักขัง ควบคุม ไม่ให้แสดงความ
คิดเห็น การหึงหวง การเลือกปฏิบัติการเอารัดเอาเปรียบ การตักตวงผลประโยชน์การถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการ
เอาใจใสเ่ ล้ยี งดู เปน็ ต้น
3. ความรุนแรงทางเพศ เชน่ การถูกละเมิดทางเพศ การพดู เร่ืองลามกอนาจาร การแอบดู การจับต้อง
ของสงวน การบังคบั ใหเ้ ปล้อื งผ้า การบังคับให้มเี พศสมั พนั ธ์ เป็นต้น ดงั น้นั เพอ่ื ลดปญั หาความรุนแรง ส่วนหนึง่
จึงต้องมุ่งที่การปรับเปลี่ยนเจตคติหรือความเชื่อเดิม เพื่อให้ทุกคนเกิดความตระหนักว่า ความรุนแรงสามารถ
เกิดขน้ึ ได้และมีผลกระทบมาก ยอมรบั ว่าปญั หาความรนุ แรงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวท่ีต้องอับอายหรือปกปิด แต่ต้อง
แสวงหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องหาทางแก้ไข ตลอดจนแสวงหาข้อมูล แนวทางการ
ป้องกนั การแก้ไขปัญหาและแหล่งช่วยเหลือตา่ ง ๆ
มาตรการปอ้ งกัน
การป้องกันการใช้ความรุนแรงในนักเรียนนั้น ไม่ควรทำเพียงเพื่อเพราะต้องการเร่งหาทางออกแบบ
ชั่วคราว ในเวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น จากนั้นก็เงียบหายไป ซึ่งจะไม่สามารถป้องกันแก้ไข ปัญหา
พฤติกรรมกา้ วรา้ ว และรุนแรงในระยะยาวได้อย่างแทจ้ ริง ดงั นนั้ การคุม้ ครองและชว่ ยเหลือนักเรียนจึงเป็นการ
ป้องกัน และปกป้องนักเรียนจากความรุนแรง การแสวงหาประโยชน์ การละเลยทอดทิ้ง หรือรูปแบบการ
กระทำต่าง ๆ ท่อี าจกอ่ ให้เกิดผลกระทบด้านลบตอ่ ร่างกาย จิตใจ พฒั นาการ และศกั ดศ์ิ รีของนกั เรียน ดังน้ี
1. สพฐ./สพป.อน.เขต ๒ กำหนดเป็นนโยบายให้ทุกสถานศึกษาจัดทำโครงการ เพื่อเสนอแนว
ทางแก้ไขและป้องกันอย่างชัดเจนและเป็นขั้นตอน จัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะสั้นและพัฒนาครูให้เป็น
แบบอย่าง สามารถแก้ไขความรุนแรงที่เกิดขึน้ จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้นกั เรยี นเห็นคุณค่าศกั ยภาพของ
ตัวเอง โดยสอดแทรกค่านิยม รแู้ พ้ รู้ชนะ รู้อภัย เนน้ การใชเ้ หตุผลมากกวา่ อารมณ์
2. หน่วยงานที่เกีย่ วขอ้ งมีบทบาทสำคัญ คือ การแก้ไขและป้องกันการใช้ความรุนแรงให้เป็นไปอย่าง
ต่อเนือ่ งตลอดจนกระตนุ้ ใหส้ ่อื ต่าง ๆ นำเสนอเนื้อหาและผลงานทส่ี ร้างสรรค์
3. จัดให้มีช่องทางการส่ือสารระหวา่ งสถานศึกษา ผู้ปกครอง ภาคีเครือขา่ ย และหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง
เพ่อื สามารถแกไ้ ขปัญหาความรุนแรงทเ่ี กิดกับนักเรยี นได้ทันต่อสถานการณ์ เชน่ สายด่วน Facebook Twitter
Instagram LINE และเวบ็ ไซต์ แจ้งข่าวกรณนี ักเรยี นขาดเรยี น/กิจกรรมของสถานศกึ ษา เป็นต้น
๑๓
4. ครูจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการคุณธรรมจริยธรรม สร้างความตระหนักในคุณค่าแห่งตน
การมุง่ อนาคตและความสำเรจ็ การคิดวิเคราะห์ การยับยงั้ ชง่ั ใจ ทกั ษะการควบคมุ อารมณ์ เป็นตน้
5. ครูเวรประจำวัน คณะกรรมการนักเรียน สารวัตรนักเรียน ยามรักษาความปลอดภัย ดูแลรักษา
ความปลอดภัยแก่นักเรยี น ทุกอาคาร บริเวณจุดอับ และจุดเส่ียง ตลอดจนดูภาพจากกล้องวงจรปดิ ทีต่ ิดไวท้ ัว่
บริเวณสถานศึกษา หากมีสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดความรุนแรง ให้เร่งรีบดำเนินการแจ้งผู้เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา
ทนั ที เช่น มีคนแปลกหนา้ มาบรเิ วณหน้าสถานศกึ ษา พกพาอาวุธ ขบั ข่ีจักรยานยนต์ เปน็ ต้น
6. พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือคนในครอบครัวเป็นผู้ใกล้ชิด และมีบทบาทสำคัญในการลดแรงกระตุ้น
พฤติกรรมก้าวร้าว และความรุนแรงในนักเรียน โดยการขัดเกลาพฤติกรรมลูกตั้งแต่ปฐมวัย เช่น การเป็น
แบบอย่างที่ดีแก่ลูก ให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ ไม่ปล่อยปละ ละเลยลูก ในการรับสื่อหรือการคบเพื่อน และ
เอาใจใส่ในเรื่องต่าง ๆ เมื่อ พบเห็นลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่ควรเพิกเฉย แต่ควรเรียกมาพูดคุยสื่อสารกับลูก
ด้วยความรัก และมีเหตุมีผลเป็นหลักว่าสิ่งใดทำได้สิ่งใดทำไม่ได้ เพราะเหตุใด และผลที่จะเกิดตามมานั้นคือ
อะไร
7. ครูลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ นักเรียนได้รับผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง มีข้อ
ร้องเรียน และเผยแพร่ผา่ นส่ือสาธารณะ ใหผ้ อู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาหรือผู้ที่มีอำนาจ สง่ั ให้ครู
มาปฏิบัติงานที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยไม่ชักช้า และเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการให้ได้
ขอ้ เท็จจริงโดยเร็ว
8. นักเรียนถูกกระทำด้วยอาวุธปืน มีด และของมีคมอื่นใด ถูกแขวนคอ ถูกกรอกยาพิษ ถูกกักขัง
บริเวณ จากนักเรียนด้วยกันเองหรือจากบุคลากรทางการศึกษา ที่ส่งผลให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือ
สูญเสียชีวิตในสถานศึกษา อันเนื่องจากผู้อำนวยการสถานศึกษาปล่อยปละ ละเลย ในการกำกับ ดูแล ตรวจ
ตรา มีข้อร้องเรียนและมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสาธารณะอย่างกว้างขวาง ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาหรอื ผู้ท่ีมอี ำนาจ ส่ังให้ครูมาปฏบิ ัติงานท่ีสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาโดยไม่ชักช้า และเร่งดำเนินการ
แตง่ ตง้ั คณะกรรมการใหไ้ ด้ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยเรว็
9. สถานศึกษาตอ้ งดำเนนิ การเลอื กต้ัง ระงบั เหตุภยันตรายจากบุคคลภายนอกจากการใช้ความรนุ แรง
10. หากมีการลงโทษนักเรียนที่รุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม จะถือว่าผู้อำนวยการ
โรงเรยี น ขาดความเอาใจใส่ในการปฏิบตั หิ น้าทีแ่ ละอาจถกู ดำเนินการทางวินัยตามสมควร
11. กรณีครูลงโทษนักเรียนด้วยวิธกี ารที่ไม่เหมาะสม ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเข้าไปตรวจดู รายงาน
ต้นสังกัดตามลำดับ และใหค้ วามคมุ้ ครองช่วยเหลอื เยียวยาแกน่ ักเรียนตามสมควร
แนวทางการช่วยเหลอื
1. กรณีเกิดเหตุความรนุ แรงในสถานศึกษาหรอื บริเวณใกลเ้ คยี ง ครผู ูป้ ระสบเหตพุ ิจารณาว่าเหตุการณ์
นั้น ๆ รุนแรงเพียงใด สามารถหยุดพฤตกิ รรมของนักเรียนได้ดว้ ยตนเองหรือไม่เพียงใด หากเกินกำลงั ให้หาคน
ช่วยเหลือในการระงับเหตุ แลว้ แจง้ ใหค้ รทู ี่ปรึกษา ผเู้ กย่ี วข้อง และผบู้ ริหารสถานศกึ ษาทราบทันที
2. ครทู ปี่ รกึ ษา/ครผู ู้ประสบเหตุ พดู คุย ใหก้ ำลังใจ สรา้ งความไว้วางใจแกน่ กั เรยี น รอจนนักเรียนผ่อน
คลายลง ประสานเชิญผู้ปกครองมาพบนักเรียนที่สถานศึกษา เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงจากคำบอกเล่าของ
นักเรียนด้วยตนเอง แล้วร่วมกันแสวงหาแนวทางช่วยเหลอื นักเรียนไม่ให้กลับไปกระทำพฤตกิ รรมความรุนแรง
ขึ้นอกี
3. หากคู่กรณีอยู่ในสถานศึกษาเดียวกันให้หลกี เลีย่ งการเผชิญหน้ากัน และเมื่อความขัดแย้งลดลงครู
ฝา่ ยปกครองจงึ จัดใหท้ ้ังสองฝ่ายไดพ้ บ เพื่อปรับความเข้าใจและสรา้ งความรกั ความสามัคคีกัน
๑๔
4. หากคู่กรณีเปน็ บคุ คลภายนอกสถานศึกษา ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษามอบหมายบุคลากรท่เี หมาะสมเป็น
ผู้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหา
5. จัดให้มีนักเรียนเพื่อนทีป่ รึกษาสำหรบั นักเรียนที่อยู่ระหวา่ งปรับพฤติกรรม คอยช่วยเหลอื แนะนำ
และให้คำปรึกษา
6. ประสานทีมสหวชิ าชพี ในกรณตี อ้ งส่งตอ่ ภายนอก
7. กรณีเหตุการณ์รุนแรง ให้รายงานข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นอย่างเป็นทางการภายใน 24 ชั่วโมง
ถึง ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒
8. เมื่อนักเรียนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว หรือมอบตัว ทางสถานศึกษาต้องออกหนังสือรับรอง
การเปน็ นักเรยี นให้
9. กรณีต้องการประกนั ตัวนักเรียน สามารถใช้ตำแหนง่ หน้าท่ีของขา้ ราชการในการประกนั ตัวได้
มาตรการการดำเนินงานของสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอทุ ัยธานี เขต 2
1. กรณีนักเรียนถูกดำเนินคดี ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษารายงานให้ เลขาธิการ กพฐ.
ทราบทนั ที
2. มอบหมายทีมผูบ้ รหิ ารเขา้ ประสานชว่ ยเหลือกับสถานศึกษาทนั ที
3. รายงานขอ้ มลู รายละเอยี ดอยา่ งเป็นทางการเบื้องตน้ ภายใน 24 ชวั่ โมง
4. กรณีมีสื่อมวลชนเข้าติดตามสถานการณ์ ให้ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รายงาน
เลขาธิการ กพฐ. ทราบทนั ที และทำความเข้าใจกบั สอื่ มวลชน
5. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามอบเป็นนโยบาย และสั่งการแก่สถานศึกษาในสังกัด
เพ่ือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
แหลง่ ช่วยเหลือ
1. ศูนย์ชว่ ยเหลือสังคม (OSCC) โทร. 1300
2. ศนู ยฉ์ กุ เฉนิ โทร. 1669
3. สถานพยาบาล
4. ศูนยฉ์ ุกเฉนิ โทร.1669
5. สถานีตำรวจ
6. สถานพนิ จิ และคุ้มครองเดก็ และเยาวชน
7. นักจิตวิทยา
8. ศาลเยาวชนและครอบครวั
๑๕
ขนั้ ตอนการคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
กรณไี มไ่ ด้รบั ความเปน็ ธรรมจากระบบการศกึ ษา
โรงเรยี นเรียกเก็บค่าใชจ้ า่ ยสว่ นต่างเกินกว่าที่กระทรวงศกึ ษาฯ กำหนด
ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา/ครูรับเร่ือง
และตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ เบื้องตน้
แตง่ ตงั้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเทจ็ จริงเบ้ืองต้น
เชิญผ้ทู มี่ ีสว่ นได้ส่วนเสียเข้าส่กู ระบวนการเจรจา/
สรา้ งความเข้าใจ
ยุตเิ รือ่ ง ไม่ยุติเรื่อง
รายงานผบู้ งั คบั บญั ชาขน้ั ต้น
ตดิ ตาม/กำหนดมาตรการปอ้ งกัน
กรณไี มไ่ ด้รับความเป็นธรรมจากระบบศกึ ษา
การไม่ได้รับความเป็นธรรม หมายถึง การท่ีนักเรียน บิดา มารดา หรือผู้ปกครองไม่ได้รับสิทธิตามที่
กฎหมายกำหนดให้ได้รับการปฏิบัติอยา่ งเทา่ เทยี มกัน โดยได้รับการปฏบิ ัตหิ รือถูกละเวน้ จากสถานศึกษาอย่าง
ไมเ่ ปน็ ธรรม ขาดความเสมอภาค ซง่ึ เปน็ ผลใหเ้ สยี โอกาสในการเขา้ ถึงการศกึ ษาทีม่ คี ุณภาพ
มาตรการปอ้ งกนั
1. สถานศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2562 กฎกระทรวงศึกษาธิการ และนโยบายของ สพฐ.
๑๖
ตามลำดับสถานศึกษากำหนดระเบียบ แนวปฏิบัติ ตลอดจนมาตรการในการป้องกันการไม่ได้รับความเป็น
ธรรมจากระบบการศึกษา
2. แต่งตัง้ คณะกรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ
3. สถานศึกษาให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิทธิ ระเบียบ แนวปฏิบัติ ตลอดจนกฎหมายที่
เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาแก่นักเรียน ครู บิดา มารดา ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และผู้เก่ียวขอ้ ง
๔. ผู้บริหารสถานศึกษาตดิ ตาม และตรวจสอบการปฏบิ ัตงิ านของบคุ ลากรในสถานศกึ ษา
๕. สถานศกึ ษาเปิดช่องทางการส่ือสารระหวา่ งบิดา มารดา ผู้ปกครอง และนกั เรยี น เพื่อมีส่วนร่วมใน
การแสดงความคดิ เห็น
6. ตามนโยบายของ สพฐ. ปีงบประมาณ 2563 นโยบายที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสในการเข้าถึง
บรกิ ารทางการศึกษาทีม่ คี ุณภาพ มีมาตรฐาน และลดการเหลื่อมลา้ ทางการศึกษา แบง่ เปน็
6.1 สร้างความร่วมมือกบั องค์กรปกครองระดับท้องถิ่น ภาคเอกชน หนว่ ยงานที่เก่ียวข้องใน
การจดั การศกึ ษาใหส้ อดคล้องกบั บริบทกบั พนื้ ที่
6.2 การยกระดับสถานศึกษาในสังกัดทุกระดับและทุกประเภท ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน
ตามบริบทของพื้นที่
6.3 จัดสรรงบประมาณสนบั สนุนผู้เรียนทุกกลุ่ม และสถานศึกษาทุกประเภทอย่างเหมาะสม
และเพยี งพอ
6.4 การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั เปน็ เครอื่ งมือในการพฒั นาคุณภาพของผู้เรียน
แนวทางการช่วยเหลอื
แนวทางการช่วยเหลอื การเรียกเก็บเงนิ จากนกั เรียนตามระเบียบกฎหมายท่เี กย่ี วข้อง
1. ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาและครผู ูส้ อนรับเร่ืองร้องเรยี นและตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงเบอ้ื งตน้
2. เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าสู่กระบวนการเจรจาและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน เพื่อให้ได้ข้อยุติ
โดยเรว็
3. หากการดำเนินการยังไมไ่ ดข้ ้อยตุ ใิ ห้รายงานผู้บังคบั บญั ชาตามลำดบั ช้นั
4. สถานศึกษาติดตามความคบื หน้าเพ่ือหาทางกำหนดมาตรการในการป้องกันและให้ความช่วยเหลือ
ตอ่ ไป
๑๗
ขนั้ ตอนการคมุ้ ครองและชว่ ยเหลอื นกั เรียน
กรณไี ม่ได้รับความเปน็ ธรรมจากระบบการศกึ ษา
นกั เรียนออกกลางคัน
สำรวจนักเรียน
ทม่ี แี นวโน้มออกกลางคนั /ออกกลางคนั
วิเคราะห์สาเหตแุ ละวางแผนแก้ไขปัญหา
ประสานเครือขา่ ยเพ่อื ช่วยเหลือนักเรียน
ติดตามและสรุปผล
นกั เรยี นออกกลางคัน
การออกเรียนกลางคัน หมายถึง การที่นักเรียนหายไปจากระบบสถานศึกษา ขาดการติดต่อกับครูที่
ปรึกษา หรือครูผู้สอน จนพ้นสภาพการเป็นนักเรียนก่อนเรียนจบหลักสูตรที่กำหนดไว้ โดยมีสาเหตุมาจากตัว
นกั เรยี น ครอบครวั สถานศกึ ษา หลกั สูตร สภาพแวดล้อมและสงั คม
มาตรการปอ้ งกัน
1. สถานศกึ ษาปฏบิ ตั ติ ามนโยบายของ สพฐ. และกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2. สถานศึกษากำหนดระเบียบ แนวปฏิบตั ิ ตลอดจนมาตรการในการปอ้ งกันนักเรียนออกกลางคัน
3. สถานศึกษาให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาและ
ผูเ้ กีย่ วข้อง เกย่ี วกับพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบงั คับ พ.ศ. 2545 และแนวทางดำเนินการในการ
ชว่ ยเหลือและติดตามนกั เรยี นมาเรยี น
4. สถานศึกษาดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและเครือข่ายผู้ปกครอง เพื่อหาทาง
ชว่ ยเหลอื นักเรียนทปี่ ระสบปัญหาและอาจออกเรียนกลางคนั
5. สถานศึกษาตดิ ตาม ผลการดำเนินงานช่วยเหลอื นักเรียนทอี่ อกเรียนกลางคัน
๑๘
แนวทางการช่วยเหลือ
1. สำรวจขอ้ มูลนักเรยี นทม่ี ีแนวโนม้ ออกเรยี นกลางคัน และนักเรยี นทอ่ี อกเรยี นกลางคัน
2. สังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแยกปัญหาและร่วมหาทางช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาแต่ละ
ดา้ น
3. ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามสภาพปญั หา และประสานเครือขา่ ย ผู้นำชุมชน เพ่ือติดตามนกั เรียนให้กลับ
เข้าสู่ระบบการศึกษา
4. ตติ ตามและสรุปผลการช่วยเหลอื นักเรียนออกเรียนกลางคัน
ขน้ั ตอนการคุ้มครองและชว่ ยเหลือนกั เรยี น
กรณไี มไ่ ด้รับความเป็นธรรมจากระบบการศึกษา
นักเรยี นติด 0 ร และ มส.
สำรวจ/จัดทำขอ้ มูลนักเรียนท่ีติด 0 ร และ มส.
แจง้ ผลการเรียนใหผ้ ู้ปกครอง
ประชมุ วเิ คราะห์สาเหตุและวางแผนเพื่อแกป้ ัญหา
ดำเนนิ การแกป้ ัญหา
กำกบั ติดตาม ดูแลชว่ ยเหลือ
นักเรยี นติด 0 ร และ มส.
มาตรการป้องกนั
1. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนศึกษาระเบียบ แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการวัดและประเมินผล
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 (แก้ไข เพม่ิ เตมิ ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545
๑๙
2. ประชุมครูผู้สอนเพื่อชี้แจงซักซ้อมความเข้าใจให้ทราบถึงแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการวัดและประเมินผล
การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
3. ครูผู้สอนแจง้ ระเบยี บแนวปฏิบัติเกย่ี วกับการวัดและประเมนิ ผลการศึกษาข้นั พน้ื ฐานใหน้ ักเรยี นทราบ
4. จดั ใหม้ ีการสอนปรับพ้ืนฐานความรู้สอนซ่อมเสรมิ และสอบซ่อมให้กับนักเรียนกลุ่มเสีย่ ง
แนวทางการช่วยเหลือ
1. ครฝู ่ายทะเบียนวัดผล สำรวจจดั ทำข้อมลู นักเรียนท่ีตดิ 0 ร และ มส. และแจง้ ผู้ปกครองใหร้ ับทราบ ผลการ
เรยี นของนักเรียน
2. ประชุมวิเคราะหห์ าสาเหตแุ ละวางแผนหาแนวทางการแกป้ ัญหานกั เรยี นตดิ 0 ร และ มส.
3. ดำเนินการแก้ปัญหานักเรียนติด 0 ร และ มส. ตามระเบียบว่าด้วยการวัดผลและประเมินผลตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551
4. กำกับ ติดตาม ดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนติด 0 ร และ มส.
ขั้นตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลอื นักเรยี นกรณอี ่ืน ๆ
ตง้ั ครรภ์ในวยั เรยี น
ผู้บริหารสถานศกึ ษา/ครรู บั แจง้ เหตหุ รอื ประสบเหตุ
ตรวจสอบขอ้ มูล ประเมนิ ปัญหา
ให้การปรึกษาเบือ้ งต้น และบันทกึ ข้อมลู ตามแบบรายงาน ฉก.01
ต้งั ครรภ์ในวยั เรียน ไมแ่ น่ใจ ส่งตรวจรา่ งกายสถานพยาบาล
ครูใหค้ ำปรึกษา/ช่วยเหลือ ใช่ ใหค้ ำปรกึ ษาแก่ผู้ปกครอง/ครอบครัว
จดั การศึกษาทางเลือกสำหรับ
สง่ พบแพทย์
เดก็ ก้าวพลาด หรือสง่ ตอ่ หน่วยงานทเี่ กย่ี วข้อง
จดั ทำ/จดั เก็บขอ้ มลู การดำเนินการ
สรปุ /ตดิ ตามผลการทำงาน
รายงานใหผ้ ู้บรหิ ารและผู้เก่ียวข้องทราบ
๒๐
ตัง้ ครรภใ์ นวยั เรยี น
ต้ังครรภใ์ นวัยเรยี น หมายถงึ นกั เรยี นท่ตี ง้ั ครรภห์ รอื สงสัยวา่ ตง้ั ครรภไ์ ม่ไดม้ กี ารวางแผนจะให้เกดิ โดย
มี สาเหตุจากการไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคุมกำเนิด การถูกข่มขืนจน
ตั้งครรภ์ ตลอดจนความไม่พร้อมในด้านภาวะต่าง ๆ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การไม่รับผิดชอบของบิดาเด็กใน
ครรภ์ เป็นต้น
มาตรการป้องกนั
1. ใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูที่ปรึกษา ครูผู้สอน และผู้ปกครอง เอาใจใส่
นกั เรียนอย่างใกล้ชิดและต้องทำงานเป็นทีม
2. สถานศึกษาสร้างความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจแก่ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกคนถึงแนว
ปฏบิ ัติของสถานศึกษาในการป้องกนั แก้ไขใหค้ วามชว่ ยเหลือนักเรียนที่มีเพศสัมพันธ์เบื้องต้นและตัง้ ครรภ์ในวัย
เรียน
3. จัดทำฐานข้อมูลนักเรียนทุกคนตามกระบวนการคัดกรองระบบการดแู ลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้ง
มีรายชื่อนักเรียนที่มีแนวโน้มว่าจะออกกลางคันหรืออยู่ในภาวะเสี่ยงด้านต่าง ๆ โดยแจ้งผู้ปกครอง และ
ผู้เกี่ยวข้องให้ทราบและเฝ้าระวังช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา โดยการจัดการศึกษาด้วยรูปแบบและวิธีการที่
เหมาะสม หากไมส่ ามารถให้ความชว่ ยเหลอื ไดใ้ หส้ ง่ ต่อจะเปน็ ภายในหรือภายนอกแลว้ แต่กรณี
4. จดั กิจกรรมส่งเสริมความรูใ้ หก้ บั นักเรียนเร่ืองเพศศึกษาตามความเหมาะสมกับช่วงวยั ของนักเรียน
5. ให้สถานศึกษากำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังนักเรียนหญิงและนักเรียนชายกลุ่มเสี่ยง ที่อาจจะ
มเี พศสมั พันธ์กอ่ นวัยอนั ควร โดยเนน้ การให้ความร้เู ร่ืองเพศศกึ ษาเชงิ ลึกและวิธีการท่ีหลากหลายทันสมัย
แนวทางการช่วยเหลอื
1. ตรวจสอบขอ้ มลู นักเรียนโดยใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น
2. ครูให้การแนะนำและช่วยเหลือนักเรียนในเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายและบันทึกข้อมูลตามแบบรายงาน
ฉก.01
3. พานักเรียนตรวจร่างกาย
4. เชิญผู้ปกครองของคู่กรณีหรือผู้ท่ีนักเรยี นไว้วางใจ ผู้ที่นักเรียนร้องขอมาพูดคุยรับทราบเหตุการณ์
และใหค้ ำปรึกษา
5. จัดผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมายดำเนินการเกี่ยวขอ้ งกับนักเรยี นตง้ั แต่ตน้ จนจบกระบวนการ
6. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนการช่วยเหลือและทีมสหวิชาชีพ เช่น สพท. สำนักงาน
พัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์ บ้านพกั เด็กและครอบครวั โรงพยาบาล เปน็ ตน้
7. ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ให้กำลังใจ หรือจัดการศึกษาทางเลอื กหรือแนวทางในการประกอบอาชพี
สำหรับเดก็ กา้ วพลาด
8. สถานศึกษาต้องไม่ผลักดันให้นักเรียนออกจากสถานศึกษา หาทางช่วยเหลือนักเรียนตามความ
เหมาะสม รวดเรว็ และปลอดภยั ท้ังประสานทีมสหวิชาชีพในการชว่ ยเหลือ/สง่ ตอ่
9. สรุปรายงานผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
แนวทางการดำเนนิ งานของสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอุทยั ธานี เขต ๒
1. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาฯ รายงานเหตใุ หเ้ ลขาธกิ าร กพฐ. ทราบทันที
2. มอบทีม ฉก.ชน.สพป.อน เขต ๒ เขา้ ประสานชว่ ยเหลือกบั สถานศกึ ษาทันที
๒๑
3. รายงานข้อมูลรายละเอียดอยา่ งเปน็ ทางการเบ้ืองต้นภายใน 24 ช่ัวโมง
4. กรณีส่อื มวลชนเขา้ ติดตามสถานการณ์ให้รายงานผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ทนั ที
5. รายงานสถานการณใ์ ห้ผูบ้ งั คบั บญั ชาทราบเป็นระยะ ๆ จนการช่วยเหลือเสร็จสนิ้ กระบวนการ
แหล่งช่วยเหลือ
1. สถานพยาบาล
2. บ้านพักเดก็ และครอบครัว
3. แนวทางการจัดการศกึ ษาทางเลอื กเพอื่ เด็กก้าวพลาด ของ ฉก.ชน.สพฐ.
4. แนวทางการดแู ลทอ้ งไม่พรอ้ ม กระทรวงสาธารณสุข
ขน้ั ตอนการคุ้มครองและช่วยเหลือนกั เรยี นกรณอี ื่น ๆ
ภาวะจิตเวช
ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา/ครู ได้รับแจง้ เหตุหรือประสบเหตุ
นกั เรียนมีปัญหาสขุ ภาพจติ /จิตเวช/ฆ่าตัวตาย
ตรวจสอบข้อมลู ประเมนิ ปัญหาและประเมนิ ปญั หาสุขภาพจิต/ แจง้ ทีม ฉก.ชน.สพป.
จติ เวช/ฆ่าตัวตาย และบันทึกข้อมลู ตามแบบรายงาน ฉก.01
พบปัญหาสุขภาพจติ / ไม่ ติดตามเฝ้าระวัง
จิตเวช/ฆ่าตวั ตาย ประสานพ่อแม/่ ผ้ปู กครอง
ใช่
เร่งดว่ น สง่ พบแพทย์ ไม่เรง่ ดว่ น สังเกตอาการช่วยเหลือด้านร่างกาย
และจิตใจ กรณปี ระเมินพบมีความรุนแรงเพ่ิมข้นึ
หรอื เสยี่ งไดร้ บั อนั ตราย
ประสานการชว่ ยเหลอื ส่งต่อทีมสหวิชาชพี
จัดทำ/จดั เกบ็ ข้อมูล การดำเนินการของสถานศึกษา
สรปุ ผลการทำงาน
รายงาน สพป.อน.เขต ๒/สพฐ.และผู้ท่ีเกี่ยวข้องตามกรณี
๒๒
ภาวะจิตเวช
ปัญหาสุขภาพจิต จิตเวช ฆ่าตัวตาย ส่งผลกระทบต่อสังคม และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะ
เศรษฐกิจ สังคมที่เปลี่ยนไป รวมถึงภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ ทั้งต่อตนเอง
ครอบครัว และสังคม ถ้าขาดการจัดการดูแลท่ีไม่เหมาะสม อาจเกิดการเจ็บป่วย การฆ่าตัวตาย ทำให้เกิดการ
สูญเสยี ทรพั ยากรของประเทศ
ภาวะทางจติ เวช หมายถงึ ผูท้ ่มี กี ารแสดงออกที่เปลยี่ นแปลงไปในด้านอารมณ์ความคิดหรือพฤติกรรม
ซง่ึ ผู้น้นั ตอ้ งได้รับการช่วยเหลือ เพราะถ้าปลอ่ ยไว้อาจเกดิ อันตรายต่อตนเองและผอู้ ืน่ ได้
มาตรการป้องกัน
1. ใช้กระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้ครูที่ปรึกษาดูแลเอาใจใส่นักเรียนอยา่ งใกลช้ ิด
จะทำใหม้ โี อกาสรบั รปู้ ญั หา
2. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษาย้ำให้ครทู ีป่ รกึ ษา/ครผู ูส้ อนประเมินและสังเกตนักเรียนในทุกครัง้ ก่อนการสอน
หรือทำกิจกรรม
3. จดั กิจกรรมทกั ษะชีวิตในสถานศกึ ษา
4. พฒั นาครทู ี่ปรกึ ษาให้เป็นครูแนะแนวและนักจิตวทิ ยาประจำชนั้ เรยี น
5. การใช้เครื่องมือประเมิน/วัดสุขภาพจิตของนักเรียนอย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง หรือตามความ
เหมาะสม
แนวทางการชว่ ยเหลอื
1. ครตู รวจสอบขอ้ มลู ประวัตินักเรียนโดยใชก้ ระบวนการระบบการดูแลช่วยเหลอื นักเรียน การบันทึก
ขอ้ มูลและการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ตามแบบรายงาน ฉก.01
2. รายงานผู้บงั คบั บัญชา ร่วมปรึกษาหารอื กับผู้เกยี่ วข้องในสถานศึกษา
3. ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมายดำเนินการเกย่ี วข้องกับนักเรยี นตัง้ แต่ตน้ จนจบกระบวนการ
4. เชิญผูป้ กครอง/หรอื ผู้ท่ีนักเรยี นไวว้ างใจ นักเรียนร้องขอมาพดู คุยและใหค้ ำปรึกษา
5. กรณีนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพจิต จิตเวช ก้าวร้าว ความรุนแรง เสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่น ทำร้าย
ตนเองหรอื ไดร้ ับอนั ตราย ประสานทมี สหวชิ าชพี เพอ่ื ช่วยเหลือ/ส่งต่อนกั เรียน
6. สรปุ รายงานผลการดำเนนิ การแกผ่ ู้บริหาร
7. บันทึกในสมดุ หมายเหตุประจำวันของสถานศึกษา
8. จดั ทำเป็นกรณีศึกษาเพ่ือเปน็ ข้อมลู และแนวทางในการปกป้อง คุม้ ครอง ช่วยเหลือนักเรียนตอ่ ไป
ขอ้ สงั เกต
ในการประเมิน ถ้าพบอาการที่อาจเกิดอันตรายแก่ตัวนักเรียนหรือผู้อื่นได้ จะต้องให้การดูแลอย่าง
ใกลช้ ิดและเร่งด่วนใหป้ ระสานการสง่ ต่อ คือ
1. ระดับความรูส้ กึ ตวั สบั สน งนุ งง ไม่คอ่ ยร้สู ึกตวั หรอื ไมร่ ูส้ ึกตวั
2. ลักษณะที่ปรากฏมีพฤติกรรมรุนแรง เช่น เอะอะ ก้าวร้าว หรือไม่เป็นมิตร พกอาวุธ แสดงท่าทาง
ตอ่ สู้หรือมีการเคล่ือนไหวตลอดเวลา หรือเกอื บตลอดเวลา ระมดั ระวังตัวมาก หวาดระแวง หรอื หวาดกลวั
3. มีอารมณ์ซึมเศร้าอย่างรุนแรง (โดยจะร่วมกับความคิดหรือความพยายามฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ตาม)
อารมณ์โกรธ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธท่ีนักเรยี นควบคุมไมไ่ ด้
๒๓
4. ความคิด มีความคิดจะฆ่าตนเองหรือฆ่าผู้อื่น หวาดระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย ความรู้สึกผิด
ความคิดว่าตนเองไร้คา่ หมดหวัง ขาดทพี่ ึง่ และโดดเดย่ี ว
5. การรับร(ู้ perception) มีประสาทหลอนทางหเู ปน็ เสียง ตำหนเิ สยี งด่า เสียงสาปแชง่ เสยี งข่จู ะ
ทำร้ายหรือเสียงสั่งให้กระทำพฤติกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะให้ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น เห็นภาพหลอน เช่น ภาพ
ปีศาจมาหลอกหลอน หรือภาพคนถืออาวุธจะทำร้าย รวมทั้งการแปลสิ่งเร้าผิด เช่น เห็นกิ่งไม้ใกล้ๆ ตัวเป็นงู
พษิ กำลงั จะกัดตน เปน็ ตน้
แนวทางการดำเนินงานของสำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาอุทยั ธานี เขต ๒
1. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ รายงานเหตุให้เลขาธิการ กพฐ. ทราบทันที กรณี
เรง่ ด่วน
2. มอบทมี ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ เข้าประสานทีมสหวิชาชพี ชว่ ยเหลอื กับสถานศึกษาทันที
3. รายงานข้อมูลรายละเอียดอยา่ งเปน็ ทางการเบอ้ื งต้น ภายใน 24 ชว่ั โมง
4. กรณีสื่อมวลชนเข้าตดิ ตามสถานการณ์ให้รายงานผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาฯ และ
เลขาธิการ กพฐ. ทันที
5. รายงานสถานการณใ์ ห้ผบู้ ังคับบญั ชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนการชว่ ยเหลอื เสรจ็ ส้นิ กระบวนการ
แหลง่ ชว่ ยเหลอื
1. สถานพยาบาล
2. ศนู ยฉ์ กุ เฉิน โทร. 1669
3. สถานตี ำรวจในพน้ื ที่
4. โรงพยาบาลจติ เวชในพน้ื ท่ี
5. องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ในพน้ื ท่ี
6. นกั จติ วทิ ยาประจำสำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา
๗. องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ในพืน้ ที่
๒๔
ข้ันตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลือนักเรียนกรณอี ื่น ๆ
นกั เรียนตดิ เกม/อนิ เทอร์เนต็
รบั แจ้ง/ประสบเหตุนักเรียนติดเกม/อินเตอรเ์ น็ต
ครทู ่ีปรึกษา/ครผู ้สู อน ให้คำแนะนำปรึกษา
เชญิ ผ้ปู กครอง/เย่ียมบ้าน
สบื เสาะขอ้ เท็จจรงิ หาแนวทางแกไ้ ข
ครทู ป่ี รึกษา/ครูผ้สู อน ผ้ปู กครอง
จดั กจิ กรรมสรา้ งแรงจงู ใจ/เสรมิ แรง ปรับพฤติกรรม
ดขี น้ึ ติดตาม ประเมินผล เป็นระยะ ไมด่ ขี ึน้
ทีมสหวชิ าชีพ
เลขาธิการ กพฐ. ผอ.สพป.อน.เขต ๒
ทีม ฉก.ชน.สพป.
ตดิ ตามผล
๒๕
ข้ันตอนการคุ้มครองและช่วยเหลอื นักเรียนกรณีอนื่ ๆ
นกั เรียนเลน่ พนัน
รับแจ้ง/ประสบเหตุนักเรยี นเล่นการพนัน
ตรวจสอบขอ้ เท็จจริง ทมี สหวิชาชีพ
ประเมินเบ้ืองตน้ /ส่งต่อ
ไม่ถูกดำเนนิ คดี ถกู ดำเนินคดี เข้าสกู่ ระบวนการยตุ ิธรรม
สรา้ งภมู ิ/ให้คำปรกึ ษา ผปู้ กครอง ผ้บู ริหารสถานศึกษา
ตดิ ตาม/ประเมินผล ผอ.สพป.อน.เขต ๒
ทีม ฉก.ชน.สพป.
ดแู ล/ช่วยเหลอื ติดตามผล
๒๖
นักเรยี นติดเกม/อินเทอร์เนต็ สือ่ ออนไลน์ที่ไมพ่ ึงประสงคใ์ นระบบเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต/เล่นพนัน
นักเรียนติดเกม (สื่อออนไลน์ที่ไม่พึงประสงค์ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต) หมายถึง นักเรียน ที่
หมกมุ่นกับการเล่นเกม/หมกมุ่นในการใช้สื่อลามกอนาจาร ภาพยนตร์ที่ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักรหรือ
หมกมุ่นในกิจกรรมคาราโอเกะผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จนไม่สามารถควบคุมตนเองในเวลาที่กำหนด
ถ้าไมไ่ ดเ้ ล่นจะกระวนกระวายใจมาก บางคนเล่นข้ามวนั ข้ามคนื จนส่งผลกระทบต่อตวั นักเรยี นทั้งด้านสุขภาพ
กาย สุขภาพจติ ด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ด้านคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ และส่งผลกระทบตอ่ คุณภาพชีวิต
ของพลเมอื งในสังคม (ดรู ายละเอยี ดในภาคผนวก กฎกระทรวงประกอบพระราชบัญญัตภิ าพยนตร์และวีดีทัศน์
พ.ศ. 2551)
นกั เรียนเลน่ พนนั หมายถงึ นักเรียนทีม่ ีพฤติกรรมเล่นการพนัน จัดใหม้ ีการเลน่ การพนัน หรือมั่วสุมใน
วงการพนัน ประพฤติตนไม่สมควรกับสภาพการเป็นนักเรียนมีพฤติกรรมการเล่นเอาเงินและสิ่งของมีค่าด้วย
การเสี่ยงโชคหรือใช้ความสามารถโดยคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความชำนาญ เล่ห์เหลี่ยม ไหวพริบ
และ ฝีมือ รวมทั้งเสี่ยงโชค ถ้านักเรียนมีพฤติกรรมเล่นการพนนั จนติดเป็นนิสยั จะส่งผลให้นักเรียนขาดความ
ซ่อื สัตย์ ขาดความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครวั และสังคม
มาตรการป้องกัน
1. สถานศกึ ษากำหนดมาตรการป้องกนั โดยจดั ทำระเบียบสถานศึกษา ว่าด้วยความประพฤตินักเรียน
เพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงทีก่ ำหนดความประพฤติของนักเรียนและนกั ศึกษา พ.ศ. 2548
2. สถานศึกษากำหนดมาตรการสร้างภูมิคุ้มกนั เพื่อป้องกันกลุม่ เสี่ยง ให้ความรู้ ความเข้าใจ ทราบถึง
ประโยชน์และโทษของการเล่นเกม การใชส้ ่ือออนไลนท์ ่ไี ม่พึงประสงคใ์ นเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ โดยส่งเสริมการ
จัดอบรม จัดกิจกรรมเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์และสังคม จัดค่ายกิจกรรม จัดโครงการหยุดการพนัน
เปิดโอกาสให้นักเรยี นไดค้ ้นพบ และแสดงศกั ยภาพเชิงบวก กจิ กรรมจิตอาสา สร้างพ้ืนทสี่ ร้างสรรค์ ใหน้ กั เรียน
ได้ทากิจกรรมตามความถนัด และความสนใจสนใจ เป็นการป้องกันมิให้เกิดนักพนันหน้าใหม่ และส่งเสริมให้
กจิ กรรมต่าง ๆ เป็นตัวสร้างให้นักเรยี นหา่ งไกลการพนนั ห่างไกลการตดิ เกม เปน็ ตน้
3. สถานศกึ ษากำหนดมาตรการสร้างภูมิคุม้ กนั โดยการสรา้ งความเข้มแขง็ ให้ระบบการดแู ลช่วยเหลือ
นักเรยี น กำหนดบทบาทหน้าทข่ี องบุคลากรที่เก่ียวข้องในระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น พร้อมเร่งรัดพัฒนา
ครูประจำชั้น ให้สามารถทำหน้าท่ีไดท้ ั้งครูปกครองและครูแนะแนว เพื่อช่วยเหลือ สร้างเจตคติที่ดีในการปรับ
พฤติกรรมของนักเรียนในการใช้เครือข่ายอินเตอร์เพื่อการสืบค้นข้อมลู ทางด้านวิชาการ อาจมอบหมายงานให้
นักเรียนได้ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ท่ีท้าทาย เสรมิ สร้างความรู้สึกมี
คุณค่าในตนเอง รวมถงึ การสร้างสัมพนั ธภาพทีด่ ีในโรงเรียน
4. สถานศึกษากำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองช่วยดูแลนักเรียนเรื่องการ
เล่นเกม/สื่อออนไลน์ที่ไม่พึงประสงค์/เล่นพนัน สร้างความร่วมมือกับผู้ปกครองในการกำกับ ดูแล ติดตาม
พฤติกรรมของนักเรียนขณะใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านในการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อการสืบค้นข้อมูลทางด้าน
วชิ าการ
5. มาตรการเฝ้าระวังโดยสถานศึกษาสร้างภาคีเครือข่ายในรูปแบบสหวิชาชีพในระดับสถานศึกษา
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีตำรวจ โรงพยาบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการร่วมกันเฝ้า
ระวัง และขอความร่วมมอื จากภาคีเครือข่ายช่วยดแู ลนักเรียนในดา้ นการพฒั นาทกั ษะชวี ติ วิชาชีพ การสืบคน้
๒๗
ข้อมูลในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการดูกีฬาผ่านเครือข่ายออนไลน์ เพื่อป้องกันการเล่นการพนันใน
ระบบกฬี า เป็นตน้
แนวทางการช่วยเหลอื
1. เร่งรัดพัฒนานักจิตวิทยาประจำสถานศึกษา ให้ความรู้ครูที่ปรึกษา/ครูแนะแนว ในการเป็นผู้ให้
คำแนะนำ คำปรึกษาวิธีการใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ในด้านการศึกษาหาแหล่งเรียนรู้ โดยให้สืบค้นข้อมูลจาก
อนิ เทอรเ์ นต็ มานำเสนอเพ่อื ใหน้ กั เรียนมีความรู้ความสนใจดา้ นอ่นื ๆ จะไดไ้ ม่มุ่งเล่นเกมเพียงอยา่ งเดยี ว
2. เน้นการประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง พบปะพูดคุย เพื่อร่วมมือแก้ไขปญั หา หรือใช้วิธีการเยี่ยมบา้ น
เพื่อสืบเสาะหาข้อเท็จจริง หาแนวทางการแก้ไข เพื่อสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างนักเรียน ผู้ปกครอง และ
สถานศึกษาปรับพฤติกรรม ส่งเสริมการจัดกิจกรรมสร้างแรงจูงใจ และการเสริมแรงอย่างเหมาะสมและ
ตอ่ เน่อื ง
3. กำหนดรูปแบบและวิธีการในระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา โดยเน้นการปรับ
พฤติกรรมแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างสม่ำเสมอ และมีการติดตามประเมินผลพฤติกรรมเป็นระยะ หากพบว่า
นักเรียนยังมีพฤติกรรมติดเกม/ติดสื่อออนไลน์ที่ไม่พึงประสงค์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต/เล่นพนัน ให้
สถานศกึ ษาประสานความรว่ มมือกับทมี สหวชิ าชพี ให้ความชว่ ยเหลือตอ่ ไป
4. สถานศึกษาจดั ทำระเบียบสถานศกึ ษาวา่ ดว้ ยความประพฤตินักเรยี นเพ่ือใหเ้ ป็นไปตามกฎกระทรวง
ทีก่ ำหนดความประพฤตขิ องนักเรยี นและนักศึกษา พ.ศ. 2548 เพือ่ การเนน้ ภารกิจ เช่น หากพบวา่ นักเรียนยัง
ไม่ปรับพฤติกรรมติดเกม/ติดสื่อออนไลน์ที่ไม่พึงประสงค์/เล่นพนัน ให้สถานศึกษาประสานทีมสหวิชาชีพให้
ความช่วยเหลือต่อไป
5. เร่งรัดจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนระดับสถานศึกษา โดยผู้อำนวยการ
สถานศึกษา กำหนดนโยบาย ประสาน ส่งเสริม และสนับสนุนให้มีกรอบทิศทางการดำเนินงานเป็นแนวทาง
เดยี วกัน
ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนดนโยบาย
ประสาน ส่งเสรมิ และสนับสนุนให้มีกรอบทิศทางการดาเนินงานเปน็ แนวทางเดียวกนั
ระดับ สพฐ.และระดับกระทรวง จัดต้ังศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนและนักศึกษาที่ถูกล่วง
ละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกำกับ ดูแล การถูกล่วงละเมิดทางเพศอันอาจเกิดจาก
การเล่นพนนั / สอ่ื ลามกอนาจาร เป็นต้น
๒๘
ขนั้ ตอนการคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นักเรียนกรณอี ่ืน ๆ
นกั เรยี นถกู ปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดทิง้
รับแจ้ง/ประสบเหตนุ ักเรียนถูกปลอ่ ยปละ ละเลย ทอดทงิ้
สอบถามนักเรยี น พูดคุย แต่งตง้ั คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจรงิ
บนั ทึกแบบการรบั แจง้ เหตุ เยีย่ มบ้าน/สอบถามบุคคล
บันทึกสมดุ หมายเหตรุ ายวัน ให้ความชว่ ยเหลือเบ้อื งต้น
รายงานเบื้องต้นให้ สพป.อน.เขต ๒ ทราบทันที
ระดบั สพป. รับแจ้งเหตุ
ประสานทมี สหวชิ าชีพ
ลงพนื้ ทเี่ ก็บขอ้ มลู รายงานเบ้ืองตน้ ไปยงั สพฐ.
ประเมินผล วิเคราะห์สถานการณ์ ตรวจสอบ ข้อเท็จจรงิ
ประสานพนกั งาน ใหค้ วามชว่ ยเหลือ
เจา้ หน้าท่ตี าม พ.ร.บ.
ตดิ ตามประเมนิ สถานการณ์
คุ้มครองนกั เรยี น
ดำเนินการสงเคราะห์ สรปุ เรือ่ ง/รายงานข้อมูล สพฐ.
และคุม้ ครอง
ส่งตอ่ /ประสานงานสถานศึกษา ตดิ ตามประเมนิ ผลสำเร็จ
ท่ีเข้าศกึ ษาต่อ/สถานสงเคราะห/์
สถานพฒั นาฟ้นื ฟู
คมุ้ ครองและชว่ ยเหลอื ได้ ยังมปี ญั หา/ไมส่ ามารถคุ้มครองได้
ยตุ ิเรอ่ื ง
ดำเนินการแกไ้ ข/ปรับเปล่ยี น
วธิ ีการใหค้ วามคมุ้ ครอง ช่วยเหลือ
๒๙
นกั เรียนถกู ปล่อยปละ ละเลย ทอดท้งิ
จากสภาพสังคมเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเลี้ยงดูบุตร และท่ามกลาง
กระแส เศรษฐกิจสังคมที่มุ่งพัฒนาบ้านเมือง ทำให้ขาดการดูแลส่งผลกระทบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว
และสังคม ทำให้ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน นักเรียนถูกทอดทิ้งหรือปล่อยปละละเลย ปล่อยให้คนแก่
หรือเครือญาติคอยดูแล รวมไปถึงนักเรียนที่ถูกปล่อยทิ้งให้มีชีวิตอยู่ตามลำพังหรือบุคคลอื่น โดยไม่ได้รับการ
ดูแลเอาใจใส่ ไม่ให้ความสำคัญ เพิกเฉย ไม่สนใจ ก่อให้เกิดปัญหากับนักเรียน ปัญหาของสังคม นักเรียนมี
สภาพชีวติ อยู่ท่ามกลางความสับสน กลายเป็นการทารุณกรรมทนี่ ำไปสู่การทารุณในรูปแบบอน่ื ได้อีก เช่น การ
ลกั พาตวั เด็ก การใช้แรงงานเดก็ การคา้ ประเวณี เป็นต้น
ดังนั้น ในการพัฒนาคุณภาพชวี ิตนักเรียนจำเป็นต้องมผี ู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เช่น ผปู้ กครองและชุมชน
เขา้ มามีสว่ นรว่ มดูแลและช่วยเหลือ ครูรูจ้ กั นกั เรยี นเปน็ รายบุคคล โดยการเยีย่ มบา้ น การคดั กรอง การป้องกัน
การแก้ปัญหา การให้คำปรึกษา และการส่งเสริมพัฒนานักเรียนด้านความสามารถและทักษะ ตลอดจน
คุณลักษณะ ที่จะช่วยเสริมสร้างให้นักเรียนมีคุณภาพและมีภูมิคุ้มกัน การดำเนินชีวิตของนักเรียนจะต้องมี
ความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมทางสังคม การเปลี่ยนแปลง การตัดสินใจที่เหมาะสม และ
สามารถอยใู่ นสังคมอย่างปลอดภัย รวมท้งั หนว่ ยงานของรัฐให้ความสำคัญของปัญหา และรว่ มมือกันแก้ปัญหา
อยา่ งจรงิ จงั
มาตรการปอ้ งกนั
1. ครรู ู้จักนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล โดยการเยยี่ มบ้าน การคดั กรอง การป้องกนั การแก้ปญั หา และการ
ให้ คำปรกึ ษา
2. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษานเิ ทศ กำกับ และตดิ ตาม ใหค้ รทู ป่ี รึกษา ครูผ้สู อน หมั่นสังเกตพฤติกรรม และ
สภาพ ร่างกายนกั เรยี นทุกครั้งกอ่ นทำการสอน
3. การส่งเสริมพัฒนานักเรียนด้านความสามารถตามความถนัด ความสนใจ และความต้องการของ
เด็ก นักเรียน ตลอดจนคุณลักษณะที่จะช่วยเสริมสร้างให้นักเรียนมีคุณภาพ มีภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิต มี
ความสามารถในการปรบั ตวั ต่อสภาพแวดล้อมทางสังคมท่เี ปล่ียนแปลง มกี ารตัดสนิ ใจท่ีเหมาะสม และสามารถ
อย่ใู นสงั คมอยา่ งปลอดภัย
4. หน่วยงานของรัฐให้ความสำคญั กบั ปญั หาและร่วมมอื กนั แก้ปัญหาอย่างจรงิ จงั
แนวทางการช่วยเหลอื
1. ผู้บริหารสถานศึกษารับแจ้งเหตุหรือประสบเหตุ นำนักเรียนมาบันทึกข้อเท็จจริง สอบถาม
ขอ้ เทจ็ จริง และบนั ทกึ ขอ้ มูลโดยละเอยี ด
2. จัดทำบันทึกรบั แจ้งเหตุ พรอ้ มประวัตแิ ละภาพถ่ายนักเรยี น
3. แต่งตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจรงิ โดยไปเยี่ยมบ้านนักเรยี น สอบถามบุคคลแวดลอ้ ม
เช่น เพ่อื นบ้าน ญาติพน่ี ้องของนักเรียน หรือกำนัน ผูใ้ หญบ่ ้านในพน้ื ที่
4. รายงาน ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ ทีมสหวิชาชีพ และเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติ
คุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546
5. ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้แก่ เงินทุนการศึกษา ปัจจัย พื้นฐานในการดำรงชีวิต ฟื้นฟูสภาพ
จิตใจ เปน็ ตน้
๓๐
6. เมอื่ สถานการณน์ ักเรยี นดีข้ึน สถานศกึ ษาตอ้ งดำเนนิ การ ป้องกัน และพฒั นาในสภาพปัญหาต่อไป
เชน่ การกำหนดบริเวณปลอดภัย การเสรมิ ทกั ษะการดูแลนักเรยี น ทกั ษะการจดั การกับปัญหา และทักษะทาง
สังคมให้กับผู้ปกครองหรือผูท้ ี่เก่ียวขอ้ ง สร้างเครือข่ายชุมชนในการช่วยเหลือ หรือแจ้งเบาะแสเบื้องต้นในการ
รว่ มกันปอ้ งกันปัญหา
แนวทางการดำเนินงานของสำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุทยั ธานี เขต ๒
1. รับแจ้งเหตจุ ากสถานศึกษาและบคุ คลอ่นื ๆ
2. ประสานหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และทมี สหวิชาชีพ เพื่อใหค้ วามชว่ ยเหลือนักเรยี น
3. ทีมเจา้ หน้าท่ี ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒ ลงพื้นท่ีเกบ็ ขอ้ มูล เยย่ี มบ้าน สอบถามบคุ คลแวดลอ้ มร่วมกับ
ทีม สหวชิ าชีพ ผู้บริหารสถานศกึ ษา และครูท่ไี ด้รับมอบหมาย
4. ประเมินผล วเิ คราะห์สถานการณ์ และตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ
5. ประชมุ ผู้ปกครอง ผู้เกี่ยวขอ้ ง และทมี สหวชิ าชพี รว่ มปรกึ ษาเพื่อวางแผนการให้ความชว่ ยเหลอื ให้
คำปรึกษาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เพ่ือ
ดำเนนิ การสงเคราะห์คมุ้ ครองสวสั ดิภาพนักเรียนต่อไป
6. ตดิ ตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ
7. การตดิ ตามประเมนิ ผลในการส่งตอ่ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ 2 วธิ ี คอื
7.1 กรณยี ตุ เิ ร่อื ง ดำเนินการเม่อื นกั เรียนคนดงั กลา่ วไดร้ บั การคมุ้ ครองชว่ ยเหลือ
7.2 กรณีปรบั เปลี่ยนวิธกี ารให้ความคุม้ ครองและชว่ ยเหลือ นกั เรียน หลงั จากพบว่านักเรียน
ยังมีปัญหา ไม่สามารถคุ้มครอง และช่วยเหลือนักเรียนได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการแก้ไข
ปรับเปลี่ยน วิธีการในการคุม้ ครองและช่วยเหลอื นกั เรยี นตอ่ ไป
แหลง่ ชว่ ยเหลอื
1. ศนู ยช์ ว่ ยเหลอื สงั คม (OSCC) โทร. 1300
2. สถานพยาบาล
3. สถานตี ำรวจ
4. องคก์ รเพือ่ การกศุ ล
5. บ้านพักเด็กและครอบครัว เพิ่มโครงการมอบบา้ นให้กับนกั เรียนตามโครงการจิตอาสาเราทำดีด้วย
หวั ใจของ สพฐ.
6. สำนกั งานพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์
7. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
8. ศกึ ษาสงเคราะห์
9. ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ
ขั้นตอนการคมุ้ ครองและชว่ ยเหลอื นกั เรยี นกรณีอนื่ ๆ ๓๑
ยาเสพตดิ
ทีมสหวชิ าชพี
รับแจ้ง/ประสบเหตุนักเรยี นเก่ียวข้องกบั ยาเสพตดิ
ประเมนิ เบ้ืองตน้ และสง่ ต่อ
กลุ่มเส่ียง กลุม่ เสพ/ตดิ กลมุ่ ตดิ
สร้างภมู ิคุ้มกัน
ไม่รนุ แรง รนุ แรง สอบถามนักเรียน พูดคยุ
ใหค้ ำปรึกษา บำบดั โรงพยาบาล
ถกู ควบคุมตวั ผอ.สพป.อน.เขต ๒ เลขาธิการ กพฐ.
ทีม ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒
ดูแล/ตดิ ตามผล
๓๒
ยาเสพตดิ
ยาเสพตดิ หมายถึง สารใดกต็ ามท่ีเกิดข้นึ ตามธรรมชาติ หรือสารท่ีสงั เคราะห์ขึ้น หรอื วัตถุใด เมื่อเสพ
เข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยวิธกี ารใด ๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจ
ในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มขนาดการเสพขึ้นเปน็ ลำดับ มีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพทง้ั
ร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงอย่ตู ลอดเวลา และสุขภาพโดยทวั่ ไปจะทรุดโทรมลง
มาตรการปอ้ งกนั
1. เสริมสรา้ งภูมิคมุ้ กนั และทกั ษะชวี ิตให้นกั เรียน
2. จัดกิจกรรมการปอ้ งกนั เฝา้ ระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศกึ ษา
3. พฒั นาระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี นให้เขม้ แข็ง
4. การดำเนินงานในการป้องกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ในสถานศึกษา ควรให้นักเรยี นเข้ามามีส่วน
รว่ ม ในการดำเนินงาน โดยมีครเู ป็นผ้คู อยใหก้ ารสนบั สนุน ใหค้ ำแนะนำและดแู ล
5. สถานศึกษาต้องดำเนินการตามโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข ของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และนโยบายของ สพฐ.
6. สร้างเครือข่ายภายนอกในการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหา เช่น โครงการครู DEAR, โครงการ 1
โรงเรียน 1 ตำรวจ และโครงการตาสับปะรด เป็นตน้
7. จัดตง้ั ชมรมศนู ย์เพอ่ื นใจวัยรุ่น TO BE NUMBER ONE และเพ่อื นช่วยเพ่อื น
8. ศูนยพ์ ิทักษ์สทิ ธเิ ดก็
๙. จัดตงั้ ครเู วรประจำวันเดินตรวจพนื้ ทีเ่ ส่ียงภายในบรเิ วณโรงเรยี น
แนวทางการชว่ ยเหลือ
1. ครูที่ปรึกษาคัดกรองนักเรียนเป็นรายบุคคล การเยี่ยมบ้าน และการคัดกรองนักเรียน ออกมา 4
กลุม่ ไดแ้ ก่ กล่มุ ปกติ กล่มุ เสี่ยง กลมุ่ เสพ และกลุ่มค้า
2. หากครูที่ปรึกษาพบนักเรียนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเสพ และมียาเสพติดไว้ในครอบครองให้ดำเนินการ
ดงั นี้
2.1 ติดตอ่ กบั ผูป้ กครองเพ่อื หาแนวทางป้องกันและแกไ้ ขปญั หาร่วมกัน
2.2 ดำเนินการตามแนวทางการดูแลช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มเสพ โดยเข้าสู่กระบวนการ
บำบัดรักษา
2.3 ติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลการดำเนินการให้ผู้บริหาร
สถานศกึ ษารบั ทราบ
2.4 สถานศึกษารายงาน สพป.อน. เขต ๒
3. กรณพี บวา่ นักเรยี นเป็นผูค้ า้ ให้เจ้าหน้าที่ผู้มอี ำนาจดำเนนิ การตามกฎหมาย
4. กรณีนักเรียนถูกควบคุมตัวหรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้สถานศึกษาดำเนินการออกหนังสือ
รบั รองการเป็นนักเรยี นเพอ่ื เป็นหลักฐานประกอบ
แหลง่ ช่วยเหลือ
1. ศนู ยช์ ่วยเหลือสงั คม (OSCC) โทร. 1300
2. ศนู ยฉ์ ุกเฉิน โทร. 1669
3. สถานพยาบาล
4. สถานีตำรวจ
๓๓
5. องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน
6. ปปส.
ขนั้ ตอนการค้มุ ครองและช่วยเหลือนกั เรียนกรณอี ่นื ๆ
อปุ ทานหมู่
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา/ครู ได้รับแจง้ เหตหุ รอื ประสบเหตุ
เด็กอปุ ทานหมู่
คดั กรองนกั เรยี น
ตรวจสอบข้อมูล ประเมินปัญหา สถานการณ์ แจง้ ผบู้ ริหารสถานศึกษา
และบันทึกตามแบบรายงาน ฉก.01 แจง้ ผูป้ กครอง
และพนักงานเจา้ หน้าที่
ตามสภาพ
พบปัญหาอุปทานหมู่ ไม่ แยกนกั เรียนปกติออกจาก
ใช่ กลุม่ ท่ีเกิดอปุ ทานหมู่
แยกนกั เรยี นคนแรกทเ่ี กิดอาการออกมาจากกลุ่ม แยกนักเรยี นคนแรกที่เกดิ อาการออกจากเด็ก
สงั เกตอาการ ปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น นกั เรยี นท่มี ีอาการ สังเกตอาการ ให้การชว่ ยเหลือ
ให้การชว่ ยเหลอื ด้านร่างกาย จติ ใจ ให้คำปรึกษา ดา้ นร่างกาย จติ ใจ ให้คำปรึกษา
ส่งต่อสถานพยาบาล อาการไมด่ ีขนึ้ นำนกั เรยี นเขา้ สรู่ ะบบดูแลลช่วยเหลือนกั เรยี น
จัดทำ/จัดเกบ็ ข้อมูล การดำเนินการของสถานศกึ ษา
สรุปผลการทำงาน
รายงาน สพป./สพฐ. และผ้เู ก่ียวขอ้ งตามกรณี
๓๔
อปุ ทานหมู่
อุปทานหมู่ เป็นปรากฏการณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปที่มีความเชื่อร่วมกัน และมีการ
แสดงออกอาการทางร่างกายกลุ่มนักเรียนที่มักพบอาการ มักพบในนักเรยี นเพศหญงิ มากกว่านกั เรียนเพศชาย
มกั เกดิ กับบคุ คลทม่ี สี ภาพจติ ใจไมม่ น่ั คง เกดิ การคลอ้ ยตามได้งา่ ย
สาเหตุการเกิดอาการ อาการอุปทานหมู่ มักมีสาเหตุเกิดจากความรู้สึกคิดภายในจิตใจ เป็นการ
แสดงออกทางภาวะความเครียด อาจเกิดจากผลกระทบจากภมู ิหลัง สภาพครอบครัว อาการหวาดกลัวบางส่ิง
วติ กกังวล รู้สึกตื่นเต้นต่อเหตุการณห์ รือเรื่องราวทีไ่ ดเ้ ห็น ได้ยนิ และไดฟ้ งั ที่มตี ่อสภาพแวดล้อมนัน้ ๆ
ลักษณะอาการ ปวดศีรษะ มึนงงศีรษะ คลื่นไส้ ปวดท้อง เกร็งท้อง อ่อนเพลีย ง่วง เจ็บปวดในคอ
หายใจลาบาก หรือหายใจหอบเร็ว (Hyperventilation or Difficulty Breathing) ชกั เกร็งตัว เปน็ ลม หมดสติ
อาการเหล่าน้ีคงอย่เู พียงชัว่ คราว มกี ารแพรก่ ระจายอาการไปสู่คนอนื่ ๆ ที่มลี ักษณะใกล้เคยี งกนั และมีการฟื้น
ตัวเรว็ กลบั มาเปน็ ปกตซิ ่งึ เมอ่ื ตรวจทางการแพทยแ์ ลว้ ไม่พบว่ามสี าเหตมุ าจากโรคทางกาย
วิธดี ูแลเบอ้ื งต้น คือ แยกนกั เรียนคนแรกทแ่ี สดงอาการอุปทานหมู่ออกจากกล่มุ และควรแยกนกั เรยี น
ที่มีอาการทุกคนออกจากกัน โดยการจัดให้นักเรียนอยู่ในห้องที่สงบ เพื่อระงับอาการที่เกิดจากสติอารมณ์ วิธี
ดแู ลตามอาการนกั เรียน แบ่งเปน็ 2 กลมุ่ ดังน้ี
กลุ่มที่ 1 กลุ่มอาการไม่ร้ายแรง ครูประเมินอาการนักเรียนเบื้องต้น รักษาตามอาการ โดยทำให้
รา่ งกายผอ่ นคลาย ไดพ้ ักผ่อนสกั พกั ให้อาการจะดขี ึน้ ตามลำดบั
กลุ่มที่ 2 กลุ่มอาการร้ายแรง หากพบว่า นักเรียนได้รับบาดเจ็บ มีการทำร้ายร่างกาย ให้ครูทำการ
ปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น แลว้ รีบนาสง่ แพทยท์ นั ที
ขอ้ พึงสงั เกต หากสงั เกตว่า นักเรียนมอี าการหายใจเร็วผดิ ปกติ ให้ครูรักษาด้วยการใช้ถุงกระดาษครบ
หน้า เพื่อให้นักเรยี นหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซต์เข้าไป จะชว่ ยทุเลาอาการลงไดต้ ามลำดบั
วธิ ดี ูแลหลังอาการยุติ ในการปฐมพยาบาลและประเมินอาการ เม่ือนกั เรยี นมีอาการดีข้ึนจนเป็นปกติ
หากแต่เข้ากลุ่มอาจเกิดอาการซ้ำได้อีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อยังคงมีอยู่ ดังนั้นการประเมินสภาพจิตใจ
ร่วมกับสภาพแวดล้อม หรือพูดคุยโดยการใช้กระบวนการให้คำปรึกษาเปน็ รายบุคคลหรอื รายกลุ่ม (การรักษา
ดว้ ยจติ บำบดั ) จะช่วยคลายความกงั วลหรือความรู้สึกท่ีอย่ภู ายในจิตใจ เพอื่ ป้องกันไม่ให้เกดิ อาการซ้ำ อาจทำ
ได้โดยให้นักเรียนหยุดเรียนชั่วคราว โดยเฉพาะนักเรียนที่แสดงอาการคนแรก ซึ่งมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและ
แสดงอาการรว่ มตอ่ ผู้อน่ื
มาตรการปอ้ งกัน
1. ครทู ี่ปรึกษา/ครปู ระจาวชิ า/ครูผู้ดูแลนักเรยี น ศกึ ษาข้อมูลนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล ดว้ ยเครื่องมือคัด
กรองนักเรียน เช่น แบบประเมิน SDQ แบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) แบบสำรวจความเครียด แบบ
สงั เกตพฤติกรรม เปน็ ต้น ประกอบกบั ทำงานรว่ มกับงานระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน โดยทำการเยีย่ มบ้าน
นักเรียน เพื่อประเมินพฤติกรรม ศึกษาภูมิหลังนักเรียน และร่วมพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อร่วมดูแลนักเรียน
อย่างใกล้ชิด
2. บทบาทครูแนะแนว ให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียน ด้วยกระบวนการการให้คำปรึกษาเป็น
รายบุคคลและรายกลุ่ม เพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจเบื้องต้นของนักเรียน และเร่งรัดให้ความรู้ครูในโรงเรียน
เก่ียวกับวธิ ีดูแลสุขภาวะทางจติ เบ้ืองตน้ ให้เป็นนกั จิตวิทยาโรงเรยี นทด่ี ี
๓๕
3. ครแู นะแนวนำกระบวนการรูปแบบ YC เพ่ือนทปี่ รึกษา ในการเขา้ ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น รว่ มพดู คุยกับ
นักเรยี นกลมุ่ เส่ียงอยา่ งใกล้ชดิ
4. สถานศกึ ษาเผยแพร่ ใหค้ วามรเู้ พ่มิ เติมแก่นกั เรียน ชุมชน ผูป้ กครอง โดยจากจัดโครงการ/กิจกรรม
ตามความเหมาะสม ทำงานรว่ มกับสหวิชาชีพ เชน่ นักจิตวทิ ยาคลนี คิ ปราชญ์ชาวบา้ น ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน เพ่ือ
มีส่วนร่วมในการสร้างความเชื่อที่ถูกต้อง การอุปทานหมู่ให้นักเรียนมีเจตคติที่ดี เสริมสร้างเจตคติที่ดี ให้
นกั เรยี นมีการตระหนกั รู้ ยอมรบั นบั ถอื ตนเอง และเห็นคุณค่าในตนเอง
5. ผู้บริหารสถานศึกษาควรยำ้ ให้ครูประจำวิชา ครูที่ปรึกษา หมั่นสังเกตสภาพร่างกายและจิตใจของ
นกั เรียนในทุกครั้ง ก่อนการสอนหรอื ทำกิจกรรม
แนวทางการชว่ ยเหลอื
1. ครูตรวจสอบข้อมูลประวัตินักเรียนโดยใช้กระบวนการช่วยเหลือนักเรียน การบันทึกข้อมูล การ
จดั เก็บข้อมลู ตามแบบรายงาน ฉก.01
2. แยกนกั เรียนคนแรกทเี่ กดิ อาการออกจากกลุ่ม
3. ปฐมพยาบาลนักเรียนทกุ คนทเี่ กิดอาการ และประเมินอาการ
4. ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมายดำเนนิ การเก่ียวข้องกับนกั เรียนตั้งแต่ตน้ จนจบกระบวนการ
5. เพือ่ ประสานการสง่ ต่อช่วยเหลือแก่นักเรยี น
6. สรุปรายงานผลการดำเนินการแกผ่ ูบ้ ริหารสถานศึกษา
7. ในรายท่ีเร่งด่วนประสานหน่วยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง เชน่ โรงพยาบาล สพป./สพม. เปน็ ตน้
8. จัดทำเป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการปกป้องคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน
ต่อไป
แนวทางการดำเนนิ งานของสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอทุ ัยธานี เขต ๒
1. ผอ.สพป.อน. เขต ๒ รายงานเหตุใหเ้ ลขาธกิ าร กพฐ. ทราบทันที
2. มอบทมี ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒ เข้าประสานชว่ ยเหลือกบั สถานศึกษาทนั ที
3. รายงานสถานการณใ์ ห้ผูบ้ งั คบั บญั ชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนการชว่ ยเหลือเสร็จส้ินกระบวนการ
4. กรณีส่ือมวลชนเขา้ ตดิ ตามสถานการณ์ให้รายงาน ผอ.สพป.อน.เขต ๒ ทันที
แหล่งช่วยเหลอื
1. สถานพยาบาล
2. ศูนยฉ์ ุกเฉนิ โทร. 1669
3. ศนู ย์ปอ้ งกันการฆา่ ตวั ตายระดบั ชาติ
4. มูลนธิ ิแพททเู ฮลท์
5. สถาบนั สขุ ภาพจิตเดก็ และวัยรุ่นราชนครินทร์
6. กรมสขุ ภาพจติ
ข้ันตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลอื นกั เรียนกรณีอ่ืน ๆ ๓๖
โรคตดิ ตอ่ ในสถานศกึ ษา
Big cleaning
คัดกรอง ติดตามการป้องกนั
การแพรร่ ะบาด
คัดกรอง คดั กรอง รายงานผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
เฝา้ ระวัง
เฝ้าระวงั สถานพยาบาล พิจารณาปิดสถานศึกษา การแพรร่ ะบาด
การแพรร่ ะบาด ใกลเ้ คยี ง รายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒
ดแู ลชว่ ยเหลือ
ทมี ฉก.ชน. เลขาธกิ าร กพฐ.
โรคตดิ ตอ่ ในสถานศกึ ษา
โรคติดต่อ คอื โรคท่ีสามารถถ่ายทอดติดต่อกันได้ระหวา่ งบุคคล โดยมีเชอ้ื จุลินทรยี ์ต่าง ๆ เป็นสาเหตุ
ของโรคและถงึ แมว้ า่ เช้ือโรคจะเป็นตวั ก่อเหตุ แตพ่ ฤติกรรมที่ไมเ่ หมาะสมของมนุษย์ก็เป็นปัจจยั รว่ ม ท่ีสำคัญท่ี
จะทำให้เกิดโรคติดต่อนั้น ๆ กรมอนามัยได้รวบรวมนิยามของโรคติดต่อ จากพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.
2558 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.
2563 หมายถงึ โรคซึง่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็นโรคติดต่อ สำหรบั ท่ัวประเทศหรือ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเฉพาะในเขตของตนประกาศให้เป็นโรคติดต่อในกรณีที่ตรวจพบหรือมีเหตุสงสัยว่าโรคใด
โรคหนง่ึ เปน็ โรคซงึ่ อาจตดิ ตอ่ แพร่ระบาดเปน็ อันตรายแก่ประชาชนได้
โรคตดิ ต่ออันตราย หมายความวา่ โรคติดต่อทร่ี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศ (รายละเอยี ดคมู่ ือ
แนวทางปฏิบตั ิและมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ของสถานศกึ ษาฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2556 หน้า 108 -
121)
มาตรการปอ้ งกนั
การตรวจร่างกายนักเรยี นก่อนรับเข้าเรยี น ซึง่ นักเรียนทกุ คนแนบผลเอกสารการตรวจสขุ ภาพ
(ระเบียนสขุ ภาพ) จากโรงเรยี นเกา่
๓๗
1. ควรได้รับการตรวจสุขภาพอย่างน้อยปลี ะครั้ง นักเรียนท่ีมโี รคประจำตวั ควรได้รับการดแู ลจาก
แพทย์อย่างใกล้ชดิ และควรมีสมุดบันทกึ ประวตั ิการตรวจสุขภาพประจำตวั ทุกคน
2. ครู บคุ ลากรและเจา้ หน้าที่ทกุ ภาคส่วนในสถานศกึ ษา ผูป้ ระกอบการอาหารผขู้ ายอาหาร ฯลฯ ควร
ไดร้ ับการตรวจสุขภาพจากแพทยอ์ ย่างน้อยปีละ ๒ ครั้ง
3. สถานศึกษาต้องมีการจัดการสขุ าภบิ าลสขุ อนามัยและสิ่งแวดลอ้ มให้ถูกสุขลักษณะ โดยปฏิบัตติ าม
หลกั สขุ าภิบาลสถานศึกษา (รายละเอยี ดคู่มือแนวทางปฏิบัตแิ ละมาตรการรักษาความปลอดภยั ของ
สถานศกึ ษา ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2556 หน้า 99 - 107)
4. สถานศึกษามีการให้ความรูแ้ ก่ ครู บคุ ลากร และนักเรยี น ในการเฝ้าระวงั ป้องกนั และควบคุม
โรคตดิ ต่อโดยตรง รวมถึงการขอความรว่ มมอื จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในท้องถนิ่ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพ
มาเป็นวิทยากรให้กบั นกั เรยี นตามโอกาสทเ่ี หมาะสม
แนวทางการชว่ ยเหลือ
1. คดั กรองนักเรียน แยกนักเรียนที่ปว่ ยออก
2. ส่งต่อสถานพยาบาลใกล้เคียง หรอื โทรศพั ทแ์ จ้งศนู ยฉ์ กุ เฉิน โทร. 1669
3. รายงานผ้บู งั คบั บญั ชา โดยใชช้ อ่ งทางการส่อื สารที่รวดเร็วท่ีสุด
4. แจ้งบดิ า มารดา ญาติ และผู้ปกครองทราบ
5. กรณเี ปน็ โรคตดิ ตอ่ ใหผ้ บู้ ริหารสถานศกึ ษาพิจารณา ปิดสถานศึกษา โดยคำแนะนำจาก
สถานพยาบาลในพน้ื ที่
6. ทำความสะอาด ฆา่ เช้ือโรค โดยประสานกบั สาธารณสุข และองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ในพ้ืนที่
7. ติดตามผล เฝา้ ระวงั การระบาดของโรคตดิ ต่อ และป้องกันการแพร่ระบาด
8. ดำเนนิ การตามนโยบายมาตรการสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ในสถานศึกษา
แนวทางการดำเนนิ งานของ สพฐ.
1. รายงานให้เลขาธกิ าร กพฐ. ทราบโดยทนั ที
2. มอบหมายทีม ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒ ประสานใหค้ วามชว่ ยเหลอื กับสถานศึกษาทนั ที
3. รายงานขอ้ มลู รายละเอยี ดอยา่ งเป็นทางการ ภายใน 24 ชั่วโมง
4. กรณมี สี อื่ มวลชนเข้าติดตามขา่ วสถานการณ์รายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทันที
5. รายงานผู้บังคับบญั ชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนกวา่ สถานการณด์ ีขึน้ และกลับส่ภู าวะปกติ
แหลง่ ช่วยเหลือ
1. สถานพยาบาลใกล้เคยี ง
2. ศนู ย์ฉกุ เฉนิ โทร. 1669
๓. ทีว่ ่าการอำเภอ
๔. องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน
๓๘
ข้นั ตอนการคมุ้ ครองและชว่ ยเหลอื นักเรยี นกรณอี น่ื ๆ
อบุ ตั ิเหตุนอกสถานศกึ ษา
ผปู้ ระสบเหตุ ศูนยฉ์ ุกเฉนิ โทร.1669 สถานพยาบาลใกลเ้ คียง
ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา
บดิ า มารดา ผ้ปู กครอง
ผอ.สพป.อน.เขต ๒ ผ้ปู ระสานงานสถานศึกษา
เลขาธกิ าร กพฐ.
ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒
ฉก.ชน.สพฐ. ทเ่ี กดิ เหตุ
จัดทำ/จัดเกบ็ ขอ้ มลู ดำเนินการ
บาดเจ็บ เสยี ชีวติ เยยี วยา/
ประกนั ภัย
ดูแลช่วยเหลอื /สง่ ต่อ
สถานศกึ ษาทำรายงาน
สรปุ สาเหตุ/ขอ้ เสนอแนะ
ในการปอ้ งกนั แก้ไข
๓๙
อุบตั เิ หตนุ อกสถานศกึ ษา
อุบัติเหตุนอกสถานศึกษา หมายถึง ภาวะที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เกิดความ
กระทบกระเทือนต่อสุขภาพชีวิตและทรัพย์สินของนักเรียน หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อสถานศึกษา
เช่น อุบตั ิเหตุกบั รถนักเรียน รถทัศนศกึ ษา รถทศั นาจร รถรับสง่ นักเรียน รถโรงเรียนรถส่วนบุคคลของครูท่ีพา
นักเรียน ไปทำกิจกรรม (รายละเอียดคู่มือแนวทางการปฏิบัติมาตรการการรักษาความปลอดภัย ของ
สถานศึกษาฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2556 หนา้ 39 - 51)
มาตรการปอ้ งกัน
ปฏิบัติตามประกาศระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอก
สถานศกึ ษา พ.ศ. 2562
แนวทางการช่วยเหลอื
1. แจง้ ศนู ย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 และเจา้ หน้าทตี่ ำรวจ
2. แจง้ ผู้บริหารสถานศึกษา ผปู้ กครอง หรือผู้อนญุ าตให้นกั เรยี นไปนอกสถานศกึ ษาทราบ
3. แจง้ สพป.อน. เขต ๒ /สพฐ. ทราบเปน็ การเบือ้ งตน้ ทนั ที
4. แจ้งทะเบียนรถประเภทรถที่ประสบอุบัติเหตุ เพื่อสถานพยาบาลจะได้ดำเนินการค่าใช้จ่ายในการ
รกั ษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. ค้มุ ครองผูป้ ระสบภัยจากรถ โดยผปู้ กครองนักเรียนไม่ตอ้ งสำรองจ่าย
5. จัดหาผู้ดแู ลประสานงานติดตามอาการของนกั เรียน และตดิ ตามเรอ่ื งการประกันภยั
6. แจ้งความลงบนั ทกึ ประจำวันตอ่ เจ้าพนักงานไวเ้ ปน็ หลกั ฐานในการเรียกร้องสินไหมทดแทน
7. กรณีที่นักเรียนทำประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย ให้ดำเนินการเรียกค่าเสียหายและค่า
สินไหมทดแทน หากมีปัญหาให้ติดต่อประสาน กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบ
ธรุ กจิ ประกันภัย (คปภ.)
8. กรณีนกั เรียนเสียชีวิตใหต้ ดิ ตอ่ ขอรบั ใบรับรองของการเสียชวี ติ จากสถานพยาบาลในพืน้ ที่
แนวทางการดำเนนิ งานของสำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต ๒
1. ผอ.สพป.อน. เขต ๒ รายงานเหตุให้เลขาธกิ าร กพฐ. ทราบโดยทนั ที
2. มอบหมายให้ทีม ฉก.ชน. เข้าช่วยเหลือโดยทันทีกรณี เกิดเหตุในพืน้ ท่ีไหนให้ ทีม ฉก.ชน.สพฐ. ให้
ดำเนินการเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมประสานงานกับทีม ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒ ต้นทาง และ ฉก.
ชน.สพฐ.
3. รายงานข้อมูลรายละเอียดอยา่ งเปน็ ทางการเบอื้ งตน้ ภายใน 24 ชัว่ โมง
4. กรณีสอื่ มวลชนเข้าตดิ ตามสถานการณใ์ ห้รายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทนั ที
5. รายงานสถานการณ์ให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รบั การช่วยเหลือ
จนเสรจ็ สิน้ กระบวนการ
แหล่งชว่ ยเหลือ
1. ศูนย์ฉกุ เฉิน โทร. 1669
2. สถานพยาบาล
3. เจา้ หนา้ ทต่ี ำรวจ
4. สำนักงานคณะกรรมการกำกบั และสง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ ประกนั ภัย (คปภ.)
๔๐
ขน้ั ตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลอื นกั เรียนกรณีอื่น ๆ
อุบัติเหตุในสถานศึกษา
เกิดอุบตั ิเหตุในสถานศึกษา
การช่วยเหลอื การรายงานแจ้งทนั ที
เจา้ หนา้ ท/ี่ ครูผ้ปู ระสบเหตุ เจ้าหนา้ ท/่ี ครูผูป้ ระสบเหตุ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
สง่ ตอ่ สถานพยาบาล ผอ.สพป.อน.เขต ๒
ตดิ ตามช่วยเหลือเยยี วยา ไม่รุนแรง รนุ แรง/เสยี ชีวติ
นักจิตวทิ ยาเขต/รร.
ทมี สหวชิ าชพี /หนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง
ศูนยค์ ุ้มครองและชว่ ยเหลอื นักเรียน
ตดิ ตาม/รวบรวมข้อมูล/รายงานผล เลขาธิการ กพฐ.
๔๑
อุบตั เิ หตใุ นสถานการณ์
อบุ ัตเิ หตใุ นสถานศึกษา หมายถึง อันตรายท่ีเกดิ ขึ้นในสถานศึกษาโดยฉับพลันซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนอัน
เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรอื การกระทำของมนุษย์ สง่ ผลใหเ้ กดิ ความเสียหาย ทง้ั รา่ งกาย และทรัพยส์ นิ โดยมี
สถานการณเ์ สีย่ งจากสภาพแวดลอ้ ม ขาดความระมัดระวัง หรอื การเรียนการสอน
มาตรการปอ้ งกนั
1. สร้างความตระหนกั และให้ความรขู้ า้ ราชการครูบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน
2. ตรวจสอบสภาพความพรอ้ มใชง้ านของอาคารสถานท่แี ละอปุ กรณก์ ารเรยี นการสอนอย่างสม่ำเสมอ
3. สำรวจจุดเส่ยี งภายในและรอบบรเิ วณสถานศกึ ษา
4. จดั ระบบการเฝา้ ระวงั เช่น ตดิ ต้ังกล้องวงจรปดิ ในบรเิ วณจดุ เสย่ี ง เป็นต้น
5. เตรียมบุคลากรและอุปกรณเ์ ครือ่ งมือการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้
6. จัดให้มีการทำประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาใน
สถานศกึ ษา
7. จัดระบบการรายงานเหตไุ ปยังสถานพยาบาลใกล้เคยี ง หรอื ศูนยฉ์ กุ เฉิน โทร. 1669
แนวทางการชว่ ยเหลอื
1. ปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น
2. ประสานศนู ย์ฉุกเฉนิ โทร. 1669 และนำส่งสถานพยาบาลใกลเ้ คยี ง
3. แจ้งเหตุต่อผู้บรหิ ารสถานศึกษา แจ้งบิดา มารดา/ผู้ปกครอง/ญาติ
4. รายงานผบู้ งั คบั บัญชาทราบตามลำดับช้นั พรอ้ มบันทกึ ตามแบบรายงาน ฉก.01
5. ตดิ ตามการช่วยเหลอื ในส่วนทเ่ี กยี่ วข้อง
แนวทางการดำเนินงานของสำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2
1. ผอ.สพป.อน. เขต ๒ รายงานเหตใุ หเ้ ลขาธกิ าร กพฐ. ทราบทันที
2. มอบทีม ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ เขา้ ประสานช่วยเหลือกบั สถานศกึ ษาทนั ที
3. รายงานข้อมลู รายละเอียดอยา่ งเป็นทางการเบอ้ื งต้น ภายใน 24 ชัว่ โมง
4. กรณสี ่ือมวลชนเข้าติดตามสถานการณใ์ ห้รายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทันที
5. รายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับบญั ชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนการชว่ ยเหลือเสร็จสิน้ กระบวนการ
แหล่งช่วยเหลอื
1. สถานพยาบาลใกล้เคยี ง
2. ศูนยฉ์ ุกเฉนิ โทร. 1669
3. สถานีตำรวจในพนื้ ท่เี กดิ เหตุ
ขน้ั ตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลอื นักเรยี นกรณอี น่ื ๆ ๔๒
การจมน้ำ
เลขาธิการ กพฐ.
นักเรยี นจมน้ำ
ผูป้ ระสบเหตุ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ผอ.สพป.อน. เขต ๒
ผ้ปู กครอง ทมี ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒
ไมเ่ สียชวี ติ เสยี ชวี ิต
ปฐมพยาบาล สินไหมจากการประกนั ภยั
สถานพยาบาล เจา้ พนักงานปกครอง/ตำรวจ
สินไหมจากการประกันภัย
สง่ ต่อโรงพยาบาลประจำ
อำเภอ/จงั หวัด
ปฐมพยาบาล
๔๓
การจมน้ำ
การจมน้ำ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนักเรียนประเภทหนึ่ง อุบัติเหตุการจมน้ำ พบว่า เกิดจากการ
รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกิดจากความประมาท ความคึกคะนอง มองข้ามความปลอดภัย ไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กหรือ
ผู้ใหญ่ ควรได้รับความรู้ และฝึกทักษะชวี ิตเบ้ืองตน้ เพ่อื รองรบั ปัญหาที่อาจเกิดข้นึ ให้สามารถช่วยเหลือตนเอง
และผ้อู นื่ ไดอ้ ยา่ งถูกวิธีหรอื สามารถถ่ายทอดความรใู้ ห้กบั ผอู้ นื่ ได้
มาตรการปอ้ งกนั
1. สถานศึกษามีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุทางน้ำ ให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ
เกย่ี วกับเรือ่ งของการเอาตัวรอด เมอ่ื ต้องประสบอบุ ตั ิเหตทุ างน้ำ เชน่ รู้จกั หลกั ของการตะโกน การโยน การยน่ื
รวมถึงการลอยตัว ในน้ำแบบวิธีต่าง ๆ และที่สำคัญคือ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลคนที่จมน้ำ
เบื้องต้นที่ถูกต้อง นอกจากนั้นสถานศึกษาควรจะให้ความรู้เรื่องของการปฏิบัติตนเมื่อต้องทำภารกิจเกี่ยวกับ
กจิ กรรมทางนำ้ ด้วย
2. สำรวจจุดเสย่ี งต่อการจมน้ำของนกั เรียนในสถานศึกษา และบริเวณรอบ ๆ สถานศึกษา
3. แจ้งเตอื นจดุ เสย่ี งให้นักเรยี นทราบและติดป้ายแจ้งเตือน หรอื ลอ้ มรวั้ ให้มคี วามปลอดภยั สูง
4. กรณีที่สถานศึกษามีสระว่ายน้ำ หรือกิจกรรมทางน้ำ ให้จัดตั้งอุปกรณ์ชูชีพ เพื่อให้เกิดความ
ปลอดภัยและมีครูควบคุมดแู ลอย่างใกลช้ ิด
5. สถานศึกษาจัดใหม้ กี ารสอนว่ายน้ำ เพ่ือป้องกนั การจมน้ำเปน็ ไปตามบรบิ ททเ่ี อื้อของแต่ละพ้ืนท่ี
แนวทางการชว่ ยเหลอื
กรณีไม่เสยี ชีวิต
1. ปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ด้วยวิธีทถ่ี ูกต้อง
2. แจ้งเหตุต่อผู้บริหารสถานศึกษาสถานพยาบาลใกล้เคียง ศูนย์ฉุกเฉิน โทร. 1669 และแจ้งบิดา
มารดา ผูป้ กครอง ญาติ
3. รายงานผู้บงั คบั บัญชาทราบตามลำดับขนั้ พร้อมรายงาน ตามแบบรายงาน ฉก.01
4. กรณีท่ีนักเรียนทำประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย ให้ดำเนินการเรียกค่าเสียหาย และค่า
สินไหมทดแทน หากมีปัญหาให้ติดต่อประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบ
ธุรกจิ ประกันภัย (คปภ.)
กรณีเสียชวี ิต
1. แจง้ ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาเจ้าพนักงานปกครองเจ้าหน้าที่ตำรวจ
2. กันพนื้ ทีเ่ กิดเหตุ และอำนวยความสะดวกเจ้าพนักงาน
3. รายงานผ้บู ังคบั บัญชาตามลำดับชั้นทราบและแจ้ง บดิ ามารดา ผู้ปกครอง ญาติ
4. กรณีทน่ี ักเรียนทำประกันอุบตั เิ หตุกบั บริษทั ประกันภัยให้ดำเนินการเรียกคา่ เสยี หายและค่าสินไหม
ทดแทน หากมีปัญหาให้ติดต่อประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
ประกันภัย (คปภ.)
แนวทางการดำเนนิ งานของสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอทุ ัยธานี เขต ๒
1. กรณีเสียชวี ิตต้องรายงานใหเ้ ลขาธกิ าร กพฐ. ทราบโดยทันที
2. มอบหมายทีม ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ เข้าประสานชว่ ยเหลอื ทนั ที
๔๔
3. รายงานข้อมูลรายละเอียดอย่างเป็นทางการเบอื้ งต้น ภายใน 24 ชัว่ โมง
4. กรณีมีสื่อมวลชนเขา้ ตดิ ตามข่าวใหร้ ายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทันที
5. รายงานผูบ้ ังคบั บัญชาทราบเปน็ ระยะ ๆ จนการช่วยเหลือเสรจ็ สนิ้ กระบวนการ
แหล่งช่วยเหลือ
1. สถานพยาบาลใกลเ้ คยี ง
2. ศูนยฉ์ กุ เฉิน โทร. 1669
3. สถานตี ำรวจพืน้ ที่เกดิ เหตุ (กรณเี สียชวี ิต)
ขน้ั ตอนการคมุ้ ครองและช่วยเหลือนักเรียนกรณีอนื่ ๆ
นกั เรยี นเสยี ชวี ิตในสถานศกึ ษา
นักเรียนเสยี ชวี ติ ผปู้ ระสบเหตุ ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา - กระบวนการสบื หา
ผอ.สพป.อน.เขต ๒ ขอ้ เทจ็ จริง
จัดทีม ฉก.ชน.สพป.อน.เขต ๒
เลขาธิการ กพฐ. - แจง้ เจ้าพนักงาน
ร่วมบำเพญ็ กุศลศพ ตำรวจในพนื้ ท่ี
- กันบรเิ วณที่เกิดเหตุ
- แจง้ บิดามารดา/
ผปู้ กครอง
- อำนวยความสะดวก
พนักงาน/เจ้าหนา้ ท่ี
ทเ่ี ก่ียวข้อง
ประกนั อบุ ตั เิ หตุ
๔๕
นักเรยี นเสยี ชวี ิตในสถานศึกษา
นักเรียนเสียชีวิตในสถานศึกษา หมายถึง นักเรียนที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสถานศึกษาได้
เสียชีวิตด้วยเหตตุ ายตามธรรมชาติ ตายผิดธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุ ซึ่งผู้ประสบเหตุ ได้พบนักเรียนในสภาพท่ี
เสียชวี ติ แลว้ ไม่สามารถชว่ ยเหลือเบอื้ งต้นได้
มาตรการป้องกัน
1. จดั ระบบข้อมูลนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล และมกี ารส่งต่อแต่ละระดบั เมอ่ื จบปีการศกึ ษา
2. จัดอาคารสถานท่ี สภาพแวดลอ้ มให้มคี วามปลอดภยั
3. จัดให้มีมาตรการเพื่อความปลอดภัย สอดส่อง ตรวจตราในพ้ืนท่ีบรเิ วณสถานศึกษา เชน่ การติดตั้ง
กลอ้ งวงจรปิด จัดเวรยามรักษาการณ์ คณะกรรมการนักเรยี น และสภานกั เรียน
4. จดั ให้มรี ะบบหรือซกั ซอ้ มใหม้ กี ารแจง้ เตอื นเหตตุ า่ ง ๆ ในสถานศึกษา
แนวทางการชว่ ยเหลือ
1. รับแจ้งเหตุกรณีนักเรียนเสียชีวิต ให้ตรวจสอบว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่ และกันบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ
ไม่ใหบ้ คุ คลที่ไม่เกี่ยวข้องเขา้ ไปในทเี่ กิดเหตุ
2. แจ้งผู้บริหารสถานศึกษา เจ้าพนักงานปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้บริหารสถานศึกษาทราบ
ทนั ที และอำนวยความสะดวกเจา้ หน้าท่ีตำรวจหรือผเู้ ก่ยี วข้อง
3. แจง้ บดิ ามารดาหรอื ผู้ปกครองของนกั เรียนท่ีเสียชวี ติ
4. รายงานผบู้ ังคับบญั ชาทราบตามลำดบั
5. ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษารว่ มงานบำเพ็ญกุศลศพ
แนวทางการดำเนินงานของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาอทุ ยั ธานี เขต ๒
1. ผอ.สพป.อน. เขต ๒ รายงานเหตุใหเ้ ลขาธิการ กพฐ. ทราบทันที
2. มอบทีม ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒ เข้าประสานชว่ ยเหลอื กบั สถานศกึ ษาทันที
3. รายงานข้อมูลรายละเอยี ดอยา่ งเปน็ ทางการเบอื้ งตน้ ภายใน 24 ช่ัวโมง
4. กรณีสื่อมวลชนเข้าตดิ ตามสถานการณ์ใหร้ ายงาน ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทันที
5. รายงานสถานการณใ์ ห้ผู้บังคบั บญั ชาทราบเป็นระยะ ๆ จนการช่วยเหลือเสรจ็ สิ้นกระบวนการ
แหล่งชว่ ยเหลือ
1. เจา้ หน้าท่ีปกครอง
2. สถานตี ำรวจในพื้นท่ีเกดิ เหตุ
3. สถานพยาบาลใกล้เคียงในพนื้ ท่ี
๔๖
ขนั้ ตอนการคุ้มครองและชว่ ยเหลอื นักเรียนกรณีอนื่ ๆ
ภัยพิบตั ิ
ภยั พบิ ัติ
ผู้บริหารสถานศกึ ษา ปฏบิ ตั ิตามแผน
แจง้ เหตุเรง่ ด่วน
โทรศพั ท์ หรอื โทร. 1669, 1860,
191
ผอ.สพป.อน. เขต ๒ ทีม ฉก.ชน.สพป.อน. เขต ๒
เลขาธิการ กพฐ. ติดตามชว่ ยเหลือ
ภัยพิบตั ิ
ภัยพิบัติ หมายถึง ภัยที่รุนแรงหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือเกิดจากความประมาทของ
บุคคลส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือต่อผู้คนเป็นจำนวนมาก เกิดจากสถานการณ์เสี่ยง เช่น อัคคีภัย แผ่นดินไหว
วาตภยั และอุทกภัย เป็นต้น ซ่ึงมคี วามสูญเสียทัง้ ทรัพย์สิน ส่งิ ของ และผู้คนบาดเจ็บเสยี ชวี ิต หรอื ไร้ที่อยู่
มาตรการป้องกนั
1. จัดการเรยี นการสอนเรือ่ งเกี่ยวกับภัยพิบัติทเ่ี กี่ยวข้อง
2. ศึกษาแผนปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ของแตล่ ะพ้นื ท่ี
3. จัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉินของสถานศึกษา ซ้อมแผนให้สอดคล้องกับแผน
ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย ระดับตำบล/อำเภอ/จังหวัด ของกระทรวงมหาดไทย