The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร จ 20201

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2022-05-22 00:39:03

ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร จ 20201

ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร จ 20201

51

แผนการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา จ 20201
รายวชิ า ภาษาจนี เพื่อการสอื่ สาร 1
เวลา 10 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง 自我介绍 เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียรู้ท่ี 2

1. ผลการเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอ่าน เขยี นและออกเสียงสทั อกั ษรได้
2. ใช้คำศพั ทภ์ าษาจีนเบอ้ื งต้นในการฟงั พูด อ่านเขยี นได้
3. ร้แู ละเขา้ ใจความแตกต่างและเหมือนวฒั นธรรมไทย จีน

2. สาระสำคญั
การเรยี นภาษาจนี จำเป็นต้องรูค้ ำศัพท์ละประโยคพืน้ ฐานการแนะนำตวั เอง ใหข้ อ้ มลู งา่ ยๆเก่ียวตัวเอง

เช่น การบอกช่ือ ประเทศท่ีอยูอ่ าศยั อายุ งานอดิเรก และสามารถถามประโยคงา่ ยๆ กบั บคุ คลท่ีเราให้ความ
สนใจและอยากเรือ่ งข้อมลู ได้ จึงจำเป็นตอ้ งรจู้ กั คำศพั ท์และประโยค จากเน้ือหาในบทเรยี นและนำไปปรับใช้
ในชีวิตประจำวนั
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. นกั เรียนจำคำศพั ทแ์ ละความหมายของตัวเลข 11-100 เปน็ ภาษาจนี (K)

2. นกั เรยี นร้จู ักวันสำคัญในโลกเป็นภาษาจนี (K)

3. นักเรียนรู้จกั สัญลกั ษณ์วรรณยุกต์ และแยกโทนเสียงวรรณยุกต์ได้ (K)

4. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสียงบทความภาษาจีนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (P)

5. นักเรยี นเขยี นเลข 1-100 เป็นอักษรจนี ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง (P)

6. นักเรียนตงั้ ใจทำกจิ กรรม แนะนำตัวเอง สมาชิก ชื่อกลุ่ม และประเทศได้อยา่ งถูกตอ้ ง (A)

7. นกั เรียนมคี วามตัง้ ใจ และมุ่งมน่ั ในการเรยี นภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

4. รักความเป็นไทย
5. มีจติ สาธารณะ

52

5. สาระการเรียนรู้
1. คำศัพทบ์ ทเรยี น 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet
2. วรรณยุกต์ภาษาจนี

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 ข้นั นำเข้าส่บู ทเรียน

1. ครูบอก (上课 shàngkè เข้าเรียน) หัวหน้าห้องบอก (起立 qǐlì ยืนขึ้น) นักเรียนทุกคน
ยืนขึ้นพูดพร้อมกันว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคุณครู) ครูบอก (同学们好,请坐。
Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดีนักเรียนทุกคน เชิญนง่ั ) นักเรยี นทกุ คนพดู พร้อมกันว่า(谢谢老
师 xièxièlǎoshī ขอบคุณคณุ ครู) และนัง่ ลง2. ครูเชค็ ชอ่ื นกั เรยี น โดยการเรยี กเลขที่ เร่มิ จากเลขท่ี 1
นักเรียนทีม่ าใหข้ านรับว่า (到 dào มา) พรอ้ มพูดช่ือภาษาจนี ของตัวเอง

3. ครูให้นักเรียนทบทวนตัวเลขภาษาจีน 1-10 ด้วยการอ่านออกเสียง โดยใช้มือเขียนกลางอากาศ
ทัง้ พนิ อนิ และอกั ษรจีน
ข้ันท่ี 2 ขั้นสอน

4. ครเู ปดิ สื่อ VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 |
Kids Song in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:
ลิง้ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M ให้นกั เรยี นเหน็ ภาพ และสนุกกบั การเรยี น
มากข้นึ โดยเปดิ ให้นักเรยี นดู 1 รอบ

5. ครูเปิดส่อื การสอน PPT 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet ครูพูดภาษาจีนกบั
นักเรยี นว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十页 fāndào dì èrshí yè
กรณุ าเปดิ หนงั สอื ไปหนา้ ท่ี 20) ครูพดู วา่ (跟我读 gēnwǒdú อ่านตามฉัน) ครูสอนนกั เรยี นอา่ นคำศัพท์
และสอนวธิ กี ารนบั เลขภาษาจีนงา่ ยๆ 1-100

6. ครูใหน้ ักเรียนทกุ คนอา่ นคำศพั ทต์ ัวเลขภาษาจีน 1-100 พรอ้ มกนั อีกครง้ั ครูสุ่มนักเรียนออกมาชี้
ตัวเลขอกั ษรจนี ทค่ี รูพูด และพร้อมทงั้ สมุ่ นกั เรียนเขียนตัวเลขอกั ษรจีน

7. ครูสอนนักเรยี นเก่ยี วกบั ประเทศเปน็ ภาษาจีน 10 ประเทศ และพานักเรียนทำกิจกรรมภาษาจีน 1
โดยแบ่งกล่มุ นักเรียน กล่มุ ละ 5-6 คน แสดงบทบาทสมมตุ ิวา่ เราและเพ่ือนร่วมช้นั อยูใ่ นงานแสดง
ความสามารถระดบั นานาชาติ โดยสมาชิกแตล่ ะกลุ่ม ผลักกันออกมา แนะนำสมาชิกในกลุม่ ชื่อวงดนตรี
และมาจากประเทศไหนให้ผู้ตัดสินฟัง ครูให้นักเรยี นค้นหาในอินเตอร์เนต็ เก่ียวกบั วนั สำคญั ในโลก ที่
สมาชิกในกลุ่มอยากไปเขา้ รว่ มกจิ กรรม เช่น (春节 chūnjié ตรษุ จนี ) ครูอธบิ ายความเปน็ มาของวนั

53

(春节 chūnjié ตรุษจนี ) การจดั กจิ กรรมทบ่ี ้าน และที่โรงเรียนเปน็ อยา่ งไรบา้ ง
8. ครูสอนการอ่านออกเสยี งวรรณยุกตท์ ถี่ กู ตอ้ ง พร้อมเปรียบเทียบกบั วรรณยกุ ตภ์ าษาไทย และ

เปรียบเทียบรปู ประโยคภาษาจนี กับรปู ประโยคภาษาไทย เมอื่ สอนแล้ว ครทู ำการทดสอบความรู้ความ
เขา้ ใจนกั เรียน โดยการแบ่งนกั เรียนเปน็ 4 กลมุ่ ให้แต่ละกลุ่มท่องจำวรรณยกุ ต์ ทง้ั 4 เสยี ง ในภาษาจนี
ฝึกฝนตัวเอง และชว่ ยเหลอื การออกเสยี งของสมาชิกในกลุ่ม ภายในเวลา 2 นาที ครูยกตัวอยา่ งประโยคให้
นักเรยี นอา่ น เชน่ (我今年十三岁。Wǒjīnnián shísānsuì.) มีวรรณยุกตอ์ ะไรบา้ ง และ
แปลความหมายภาษาไทย จากนั้นครูอ่านออกเสียงประโยคให้ฟังอกี ครงั้

ข้ันที่ 3 ขน้ั สรุป
9. ครใู หน้ ักเรียนทุกคนอ่านคำศัพทเ์ รอื่ ง ตวั เลข และประเทศพรอ้ มกันอีกครัง้
10. ครมู อบหมายภาระงานให้นักเรยี น 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet
11. ครูพูดภาษาจีนกับนักเรียน (下课 xiàkè เลิกเรียน) หัวหน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืนขึ้น )

นกั เรยี นทกุ คนพดู พรอ้ มกนั ว่า (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī zài
jiàn.ขอบคุณครับ/คะ่ คุณครู แลว้ พบกนั ใหม่)
ภาระงาน

- แบบฝึกหดั รายวิชาเพม่ิ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2 หน้า 15-16

54

7.การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรือ่ ง การแนะนำตนเอง
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นักเรียนสามารถแบง่ กลุม่ เพยี งพอต่อการรว่ มกนั ทำงาน
เป็นกลุ่ม
พอประมาณกบั สถานท่ี ห้องเรียนภาษาจนี มโี ต๊ะเกา้ อเ้ี พียงพอกับจำนวนนกั เรียน

หลักมเี หตุผล ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถทำแบบฝึกหดั จากเรอ่ื ง การแนะนำ
ตนเอง

หลักการสร้าง การจดั การเรยี นสอนแต่ละครงั้ นกั เรียนเกดิ ความเข้าใจในการเรียน เน้อื หา ไดเ้ ปน็
ภูมคิ ุม้ กนั ในตวั ท่ีดี อยา่ งดที ุกคนมีสว่ นรว่ มในการเรยี นการสอนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เงอื่ นไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเร่อื ง การแนะนำตนเองไดเ้ ปน็ อย่างดี

เงือ่ นไขคุณธรรม รจู้ ักการทำงานร่วมกลุ่ม ซือ่ สตั ย์ มีความรบั ผิดชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เง่อื นไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มีภมู ิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ี

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดล้อม วฒั นธรรม

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี น 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2

2. ส่อื การสอน PowerPoint 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

3. แบบฝกึ หัด รายวชิ าเพ่มิ เตมิ 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2

4. สอื่ การสอน VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 |

Kids Song in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:
ล้ิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M

55

9.การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารผ่าน
การประเมนิ ผล - แบบบันทึกการ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
- สังเกตการพูดภาษาจนี ประเมนิ การอ่าน ข้นึ ไป
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) จากการทำกจิ กรรมกลมุ่
- สงั เกตการอา่ นออก - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60
ทักษะกระบวนการ (P) เสยี งวรรณยกุ ต์ และ สำคัญของผ้เู รียน ขนึ้ ไป
เจตคต/ิ คณุ ลักษณะ (A) ประโยคภาษาจีน
- สังเกตการทำงาน

- สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบบันทกึ การสงั เกต ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
การเรียนรู้ และประเมินผล ข้ึนไป
พฤติกรรมการเรยี นรู้
- แบบประเมิน
คุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์

56

บันทกึ หลงั สอนแผนการสอนท่ี ............

1. ผลการสอนระดับชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก ..........................................................................

2. ผลทเ่ี กดิ กับผเู้ รยี น
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรยี น โดยใช…้ ……………แบบทดสอบหลังเรยี น............พบว่านักเรยี นผา่ นการประเมนิ คิดเป็นร้อยละ

................……..…. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ั้นต่ำท่กี ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขที่...............................................
2.) การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช…้ ………………………………..………...............พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมินคดิ เปน็

รอ้ ยละ....................……. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ขัน้ ตำ่ ท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ ร้อยละ........................................................................................................................
ได้แก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมินดา้ นคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ เรยี น โดยใช้………..…แบบสงั เกตพฤติกรรม.....................................................................
พบว่านกั เรยี นผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้นั ต่ำทีก่ ำหนดไวค้ ิดเปน็ รอ้ ยละ.......................................................................
ไดแ้ ก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนทไี่ ม่สนใจเรยี น
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรอื่ ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นทไี่ ม่ผา่ นการประเมิน .......................................................................................................................................
 ไมม่ ขี อ้ เสนอแนะ

ลงช่ือ ผสู้ อน
( นางสาวกติ ติมา สขุ ศิริ )

วนั ที…่ …..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กล่มุ สาระฯ ความคดิ เห็นของหัวหนา้ งานวิชาการ
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ
2.การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง  ท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกบั ศักยภาพท่ีแตกตา่ งกนั ของผู้เรียน เหมาะสมกับศกั ยภาพทีแ่ ตกตา่ งกนั ของผู้เรยี น
 ที่ยงั ไมเ่ น้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป  ท่ียงั ไม่เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป
3.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ 3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้  นำไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ……………………………………………………………… 4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ …………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื ....................................................... ลงชื่อ.......................................................
( นางองั คณา แก้วเมอื ง ) ( นางสาวณฐั ิญา คาโส )

57

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รหสั วชิ า จ 20201
รายวิชา ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร 1
เวลา 10 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง 自我介绍 เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียรูท้ ่ี 3

1. ผลการเรยี นรู้

1. นักเรียนสามารถอ่าน เขียนและออกเสยี งสทั อกั ษรได้
2. ใชค้ ำศัพทภ์ าษาจนี เบ้อื งตน้ ในการฟงั พดู อา่ นเขียนได้
3. รู้และเข้าใจความแตกตา่ งและเหมือนวัฒนธรรมไทย จีน
2. สาระสำคญั
การเรียนภาษาจีนจำเป็นต้องรู้สัทอักษรของภาษาจีน และสามารถอ่านสัทอักษรภาษาจีนได้
จำเป็นต้องรู้จักพยัญชนะในภาษาจีนซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่นักเรียนควรทราบ จากบทเรียนนี้ ได้ให้นักเรียน
แยกแยะ พยญั ชนะพินอิน b p และรปู แบบอกั ษรจีน เพอ่ื นำไปศึกษาต่อในระดับที่สูงข้ึน และนำไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นมคี วามรู้ เรือ่ ง พยญั ชนะพินอนิ b p แยกแยะได้อย่างถกู ตอ้ ง (K)

2. นกั เรียนรู้ เขา้ ใจ และจดจำเส้นขดี อกั ษรจีน และสว่ นประกอบของอักษรจนี ได้ (K)

2. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสยี ง และฟงั เสียงคำศัพท์ภาษาจนี ได้อยา่ งถกู ต้อง (P)

3. นกั เรียนมีความตั้งใจ และกล้าแสดงออกในการเรยี นภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
1. แยกแยะความแตกตา่ งพนิ อิน

2. รปู แบบอักษรจีน

58

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครบู อก (上课 shàngkè เข้าเรียน) หวั หน้าห้องบอก (起立 qǐlì ยนื ขึ้น) นกั เรยี นทุกคน

ยนื ข้ึนพูดพร้อมกนั วา่ (老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคุณคร)ู ครบู อก (同学们好,请坐。

Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวสั ดนี กั เรียนทกุ คน เชญิ น่งั ) นักเรียนทกุ คนพูดพรอ้ มกนั วา่ (谢谢

老师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คณุ คร)ู และนั่งลง

2. ครูพูดภาษาจีนกบั นกั เรียนว่า (点名 diǎnmíng เชค็ ชอ่ื ) ครูเช็คชื่อโดยให้นักเรียนตงั้ แต่

เลขท่ี 1 จนถงึ คนสดุ ทา้ ย พดู เลขที่ ช่ือ มา เปน็ ภาษาจีน เช่น

เลขท่ี ชอื่ มาครบั /มาค่ะ

一 yī 天天 tiāntiān 到 dào

二èr 美美měiměi 到dào

3. ครูเปดิ สอ่ื VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 |

Kids Song in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:
ลง้ิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M ใหน้ ักเรียนเห็นภาพ พนิ อิน อักษรจนี

และสนกุ กบั การนับเลขไปพร้อมกบั VDO

ขั้นที่ 2 ขนั้ สอน

4. ครูสอนพยัญชนะพนิ อนิ โดยเน้นอธิบาย b p เพื่อให้นกั เรียนแยกแยะการออกเสยี งแตล่ ะตวั ให้
ถกู ต้อง

5. ครูทดสอบนักเรยี น โดยการทำกจิ กรรม b ซ้าย p ขวา เมื่อครพู ดู พนิ อินตวั ไหน ให้นักเรียนยก

แขนขา้ งที่ถูกตอ้ ง ครั้งท่ี 2 ใหน้ ักเรียนทุกคนหลับตา ครูส่มุ พดู พนิ อิน b p เพื่อใหน้ กั เรียนจดจำได้ถกู ตอ้ ง

6. ครูเปดิ สอื่ การสอน PPT 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet ครูพดู
ภาษาจนี กบั นกั เรียนว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十三页 fāndào
dìèrshísān

yè. กรุณาเปดิ หนงั สอื ไปหนา้ ที่ 23) ครูพูดภาษาจนี วา่ (拼音练习。Pīnyīnliànxí
ฝกึ ฝนพนิ อนิ 听录音,tīnglùyīn ฟงั ไฟลเ์ สยี ง 填声母。tiánshēngmǔ เตมิ

59

พยญั ชนะพนิ อนิ ) ครเู ปิดไฟลเ์ สยี ง 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2 (2.05) ให้นกั เรียนฟงั แล้ว
เตมิ พยญั ชนะพินอนิ ให้ถกู ต้อง เมื่อหมดเวลา นกั เรียนเปลย่ี นกนั ตรวจ ครหู าอาสาสมคั ร 5 คนออกมาเฉลย
คนละ 1 ข้อ

7. ครูสอนเสน้ ขีดอักษรจีน จากคำศัพท์งา่ ยๆ เชน่ 人,大 นักเรียนจดจำเสน้ ขีดอกั ษรจีน 撇,
捺 ตอ่ ด้วยสอนส่วนประกอบของอักษรจีน

8. ครูพูดภาษาจีนกบั นกั เรียนว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十四
页。
fāndàodì èrshísìyè.กรณุ าเปิดหนงั สือไปหน้า 24) ครเู ปดิ ไฟล์เสยี ง 春晖(Chūnhuī
Book 1) บทที่ 2 (2.06) ให้นักเรยี นฟงั นักเรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง

9. ครูให้นกั เรียนจบั กล่มุ กลมุ่ ละ 5 คน ปรกึ ษาและชว่ ยกนั หาคำตอบ แบบฝกึ หัดหนา้ 17 เมอ่ื ทำเสรจ็
แลว้ ครูและนักเรียนชว่ ยกนั เฉลยแบบฝึกหัด
ขั้นที่ 3 ขนั้ สรปุ

10. ครใู หน้ ักเรียนทกุ คนทอ่ งพินอิน 1 คร้งั พร้อมกัน
11. ครูมอบหมายภาระงานใหน้ กั เรยี น 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet
12. ครพู ดู ภาษาจีนกบั นักเรยี น (下课 xiàkè เลิกเรยี น) หวั หน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืน
ขนึ้ ) นักเรยี นทกุ คนพดู พรอ้ มกนั ว่า (谢谢老师,老师再见!
xièxièlǎoshī,lǎoshī
zàijiàn.ขอบคณุ ครบั /คะ่ คุณครู แล้วพบกันใหม่)

60

7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลักความ พอประมาณกับเวลา นกั เรยี นสามารถเรยี นรู้ เรอื่ ง การแนะนำตนเอง
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นกั เรียนสามารถแบ่งกลมุ่ เพียงพอตอ่ การรว่ มกันทำงาน
เป็นกลุ่ม
พอประมาณกบั สถานที่ หอ้ งเรียนภาษาจนี มโี ต๊ะเกา้ อ้เี พยี งพอกบั จำนวนนักเรียน

หลกั มีเหตุผล ในการจดั การเรียนการสอน นักเรียนสามารถทำแบบฝกึ หดั จากเร่ือง การแนะนำ
ตนเอง

หลักการสรา้ ง การจดั การเรยี นสอนแตล่ ะคร้งั นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนอ้ื หา ได้เป็น
ภูมคิ มุ้ กันในตวั ที่ดี อย่างดที ุกคนมีสว่ นร่วมในการเรยี นการสอนได้เปน็ อย่างดี

เงอ่ื นไขความรู้ นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจเรอื่ ง การแนะนำตนเองไดเ้ ปน็ อย่างดี

เงือ่ นไขคุณธรรม รู้จกั การทำงานร่วมกลมุ่ ซ่อื สัตย์ มีความรับผดิ ชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ห่วง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เงื่อนไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มีภูมคิ ุม้ กันในตวั ทด่ี ี

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2

2. ส่ือการสอน PowerPoint 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

3. แบบฝึกหัด รายวิชาเพมิ่ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2

4. ไฟล์เสียงจากหนังสือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2

5. ส่ือ VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 |

Kids Song in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:

ล้ิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M

61

9.การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เครอื่ งมอื วดั การประเมินผล
การประเมนิ ผล
- สังเกตการอ่านออก - แบบบันทกึ การ ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ความรู้ความเข้าใจ (K) เสยี งคำศัพท์ ประเมินการอา่ น ขนึ้ ไป

ทกั ษะกระบวนการ (P) - สงั เกตการทำงาน - แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม สำคญั ของผู้เรยี น ขน้ึ ไป
การเรียนรู้
- แบบบันทึกการสงั เกต ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
และประเมนิ ผล ข้ึนไป
พฤติกรรมการเรยี นรู้
- แบบประเมนิ
คุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์

62

บันทึกหลงั สอนแผนการสอนท่ี ............

1. ผลการสอนระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลทเ่ี กดิ กับผเู้ รยี น
1.) การประเมินผลความรหู้ ลังการเรียน โดยใช…้ ……………แบบทดสอบหลังเรยี น............พบวา่ นักเรยี นผา่ นการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ

................……..…. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่ีกำหนดไวค้ ดิ เปน็ ร้อยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขที่...............................................
2.) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………………………..………...............พบวา่ นักเรยี นผา่ นการประเมนิ คดิ เป็น

รอ้ ยละ....................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ข้นั ตำ่ ท่กี ำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ........................................................................................................................
ได้แก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมินด้านคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ เรยี น โดยใช้………..…แบบสังเกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบว่านกั เรยี นผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ ่านเกณฑข์ น้ั ตำ่ ทีก่ ำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................................................................
ไดแ้ ก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา
 มนี กั เรียนท่ีไม่สนใจเรียน
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เร่อื ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ไี มผ่ ่านการประเมนิ .......................................................................................................................................
 ไมม่ ขี อ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื ผสู้ อน
( นางสาวกติ ตมิ า สขุ ศริ ิ )

วนั ท…่ี …..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ งานวชิ าการ
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1.เปน็ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่าง  ท่เี น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกบั ศักยภาพทแี่ ตกตา่ งกนั ของผเู้ รยี น เหมาะสมกบั ศักยภาพทแี่ ตกต่างกันของผู้เรยี น
 ทย่ี งั ไมเ่ น้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป  ท่ียงั ไมเ่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ 3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้
 นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้  นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ……………………………………………………………… 4.ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ …………………………………………………………………………….

ลงชอ่ื ....................................................... ลงชื่อ.......................................................
( นางองั คณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณัฐญิ า คาโส )

63

แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า จ 20201
รายวชิ า ภาษาจนี เพอ่ื การสื่อสาร 1
เวลา 10 ชัว่ โมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง 自我介绍 เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียรู้ท่ี 4

1. ผลการเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอ่าน เขยี นและออกเสียงสัทอกั ษรได้
2. ใช้คำศัพทภ์ าษาจนี เบื้องตน้ ในการฟงั พูด อ่านเขยี นได้
3. รูแ้ ละเขา้ ใจความแตกต่างและเหมือนวัฒนธรรมไทย จีน

2. สาระสำคญั
การเรียนภาษาจีนจำเปน็ ต้องร้คู ำศพั ท์ละประโยคพื้นฐานการแนะนำตัวเอง ให้ข้อมูลงา่ ยๆเกี่ยวตัวเอง

เชน่ การบอกช่ือ ประเทศทอี่ ย่อู าศยั อายุ งานอดเิ รก และสามารถถามประโยคงา่ ยๆ กับบุคคลทเ่ี ราใหค้ วาม
สนใจและอยากเรือ่ งข้อมลู ได้ จงึ จำเปน็ ตอ้ งรจู้ กั คำศพั ทแ์ ละประโยค จากเนื้อหาในบทเรยี นและนำไปปรับใช้
ในในการเรียน และพูดในชวี ติ ประจำวนั
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นักเรยี นรคู้ ำศัพทแ์ ละความหมายภาษาจีน 第二课 dìèrkè ได้ (K)

2. นักเรียนร้คู วามหมายบทสนทนา 第二课 dìèrkè ได้ (K)

3. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสียงคำศัพท์ภาษาจนี ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง (P)

4. นกั เรียนมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการเรียนภาษาจนี (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ยั รับผิดชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
1. คำศัพท์บทเรยี น 第二课
2. บทสนทนาภาษาจนี

64

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นท่ี 1 ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น

1. ครูบอก (上课 shàngkè เข้าเรยี น) หวั หนา้ หอ้ งบอก (起立 qǐlì ยืนขึ้น) นกั เรียนทกุ คน

ยนื ขึ้นพูดพรอ้ มกนั ว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคุณคร)ู ครูบอก (同学们好,请坐。

Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดนี กั เรียนทุกคน เชิญน่ัง) นกั เรยี นทกุ คนพดู พรอ้ มกนั วา่ (谢谢

老师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คณุ คร)ู และน่ังลง

2. ครูพูดภาษาจนี กับนักเรียนว่า (点名 diǎnmíng เช็คชือ่ ) ครูเช็คช่ือโดยให้นักเรยี นต้งั แต่เลขที่

1 จนถึงคนสดุ ทา้ ย พูด เลขท่ี ช่อื มาเรยี น เปน็ ภาษาจนี ท้ังหมด ดว้ ยตัวเอง เชน่

เลขที่ ชอื่ มาครบั /มาค่ะ

一 yī 天天 tiāntiān 到 dào

二èr 美美měiměi 到dào

3. ครเู ปิดสื่อ VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 |

Kids Song in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:

ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M ใหน้ ักเรยี นเห็นภาพ พินอิน อักษรจนี

และสนกุ กบั การนับเลขไปพร้อมกับ VDO
ข้นั ท่ี 2 ข้ันสอน

4. ครูพูดภาษาจีนกบั นักเรียนว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十六页

fāndào dì èrshíliù yè กรุณาเปดิ หนังสอื ไปหนา้ ที่ 26) พูดวา่ (跟我读 gēnwǒdú

อ่านตามฉัน) ครูสอนนักเรยี นอ่านคำศพั ท์ 5 ครั้ง และใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านพรอ้ มกัน 5 ครั้ง ครูสงั เกต

การออกเสยี งของนักเรียน แก้ไขทนั ทีเม่ือไดย้ ินนกั เรยี นออกเสยี งผิด

5. ครูนำบตั รคำศัพท์ท้งั หมดจากบทเรยี น 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet ทำ

กจิ กรรมทดสอบความรู้ความจำนกั เรยี น โดยครูแบง่ นักเรยี น 4-5 กลมุ่ เข้าแถวเปน็ กลมุ่ สง่ ตัวแทนนกั เรยี น

คนสดุ ท้ายของกลุ่มทีละคน มาเลอื กคำศพั ท์ พรอ้ มอา่ นออกเสยี งดงั ฟังชดั ให้เพอ่ื นคนทอ่ี ย่หู ัวแถวได้ยิน

และวง่ิ ไปหาคำศพั ทท์ ไ่ี ดย้ ินให้ถกู ต้องและเรว็ ท่สี ุด

6. ครูทบทวนคำศัพท์ให้นักเรียนอกี ครั้ง และพูดภาษาจีนกับนักเรยี นว่า (听写 tīngxiě เขียน

ตามคำบอก) โดยนกั เรียนจะเขยี น 1-10 เป็นอักษรจีน บรรทดั ละหนงึ่ ตวั อกั ษรจีน เพือ่ เขยี นตามคำบอกครู

บอกครบ 10 คำ ใหเ้ วลาตรวจความเรยี บรอ้ ย 1 นาที สลับสมุดกบั เพ่อื น ครูสุ่มเรียกนักเรยี นออกมาเขยี น

เฉลยบนกระดานดำ สง่ สมดุ คืนเพ่อื น ครบู นั ทกึ คะแนน

7. ครูพูดภาษาจีนกบั นกั เรยี นว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十五页

65

fāndào dì èrshí wǔ yè กรณุ าเปดิ หนงั สือไปหนา้ ที่ 25) (一起读 yìqǐdú อา่ นพร้อมกนั )
ครูสอนอ่านบทสนทนาอกี ครงั้ พรอ้ มใหน้ กั เรยี นทุกคนชว่ ยกนั แปลความหมาย นักเรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ
4 คน แสดงบทบาทสมมตุ ิ โดยแก้ไขบทสนทนาเป็นขอ้ มลู ของนกั เรยี นเอง

ข้ันท่ี 3 ขนั้ สรุป

8. ครใู หน้ ักเรียนทุกคนอ่านคำศัพท์ จากบัตรคำ ที่ครูไดส้ อนไปแล้วอกี คร้งั

9. ครมู อบหมายภาระงานให้นกั เรียน 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

10. ครูพดู ภาษาจีนกบั นกั เรียน (下课 xiàkè เลิกเรยี น) หวั หน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืนข้ึน )

นักเรียนทุกคนพดู พรอ้ มกนั ว่า (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī

zàijiàn.ขอบคุณครบั /ค่ะคุณครู แลว้ พบกันใหม่)
ภาระงาน

- แบบฝึกหดั รายวิชาเพ่ิมเติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2 หนา้ 18

7.การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นกั เรยี นสามารถเรียนรู้ เรอื่ ง การแนะนำตนเอง
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชิก นกั เรยี นสามารถแบ่งกลมุ่ เพียงพอต่อการรว่ มกันทำงาน
เปน็ กลุ่ม
หลักมีเหตุผล พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรยี นภาษาจีนมีโตะ๊ เกา้ อเ้ี พยี งพอกบั จำนวนนักเรียน
ในการจัดการเรียนการสอน นกั เรียนสามารถทำแบบฝึกหดั จากเรื่อง การแนะนำ
ตนเอง

หลักการสรา้ ง การจัดการเรยี นสอนแต่ละครง้ั นกั เรยี นเกิดความเข้าใจในการเรยี น เนอื้ หา ได้เปน็
ภูมคิ มุ้ กนั ในตัวทดี่ ี อยา่ งดที ุกคนมีส่วนรว่ มในการเรยี นการสอนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เง่ือนไขความรู้ นกั เรียนมีความรคู้ วามเข้าใจเรอ่ื ง การแนะนำตนเองได้เปน็ อยา่ งดี

เงอ่ื นไขคณุ ธรรม รจู้ กั การทำงานรว่ มกลุ่ม ซื่อสตั ย์ มคี วามรบั ผิดชอบ

66

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 ห่วง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เง่ือนไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม

8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี น 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 2

2. สอื่ การสอน PowerPoint 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

3. แบบฝึกหัด รายวิชาเพิม่ เตมิ 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2

4. สือ่ VDO youtube 从一数到百 | Counting Numbers in Chinese 1 to 100 | Kids Song

in Chinese | 儿歌童谣 | 卡通动画 | 朱妮托尼童话音乐剧:

ลง้ิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=vXCRnXmjr5M

9.การวดั และประเมินผล

การประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมือวดั เกณฑ์การผา่ น

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) - สงั เกตการอ่านออก - แบบบนั ทึกการ ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ทักษะกระบวนการ (P) เสยี งคำศัพท์ภาษาจนี ประเมนิ การอ่าน ขนึ้ ไป
- สังเกตการพดู บท
สนทนาภาษาจีน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60
- สังเกตการทำงาน

สำคัญของผเู้ รียน ขนึ้ ไป

เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบบนั ทึกการสงั เกต ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมินผล ขึน้ ไป
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้
- แบบประเมิน
คุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์

67

บันทกึ หลังสอนแผนการสอนที่ ............

1. ผลการสอนระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนื่องจาก ..........................................................................

2. ผลที่เกดิ กับผเู้ รียน
1.) การประเมนิ ผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………แบบทดสอบหลงั เรียน............พบว่านกั เรยี นผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ

................……..…. ไม่ผา่ นเกณฑข์ น้ั ต่ำที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นรอ้ ยละ.............................ไดแ้ ก่ ....................................เลขที่...............................................
2.) การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………………………..………...............พบวา่ นักเรียนผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็

รอ้ ยละ....................……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ นั้ ต่ำท่ีกำหนดไว้คดิ เป็นรอ้ ยละ........................................................................................................................
ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ เรียน โดยใช้………..…แบบสังเกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบว่านกั เรียนผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขนั้ ตำ่ ท่ีกำหนดไวค้ ดิ เปน็ รอ้ ยละ.......................................................................
ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มีนักเรียนทไี่ มส่ นใจเรียน
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรือ่ ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นทีไ่ ม่ผ่านการประเมิน .......................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ

ลงชื่อ ผสู้ อน
( นางสาวกติ ติมา สขุ ศริ ิ )

วันท…ี่ …..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ งานวิชาการ
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง
2.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ท่เี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง  ทเี่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่าง

เหมาะสมกับศกั ยภาพที่แตกตา่ งกันของผ้เู รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพทแ่ี ตกตา่ งกันของผ้เู รยี น
 ท่ียงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป  ทย่ี งั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ 3.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้
 นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้  นำไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ……………………………………………………………… 4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ …………………………………………………………………………….

ลงช่อื ....................................................... ลงชื่อ.......................................................
( นางองั คณา แกว้ เมือง ) ( นางสาวณฐั ญิ า คาโส )

68

แผนการจัดการเรียนรู้ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวชิ า จ 20201
รายวิชา ภาษาจนี เพ่อื การส่ือสาร 1
เวลา 10 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง 自我介绍 เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรียรู้ท่ี 5

1. ผลการเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขยี นและออกเสียงสทั อกั ษรได้
2. ใช้คำศัพท์ภาษาจีนเบื้องตน้ ในการฟัง พดู อ่านเขียนได้
3. รู้และเขา้ ใจความแตกต่างและเหมอื นวฒั นธรรมไทย จีน

2. สาระสำคญั
การเรียนภาษาจนี ส่ิงท่ีควรรู้ คอื วิธกี ารเรม่ิ เรยี นภาษาจนี ผู้เรยี นจำเปน็ ต้องร้คู ำศัพท์และประโยค

พนื้ ฐานการแนะนำตัวเอง ใหข้ อ้ มูลงา่ ยๆเกย่ี วตวั เอง เช่น การบอกชอ่ื ประเทศทอี่ ยอู่ าศัย อายุ งานอดิเรก และ
สามารถถามประโยคง่ายๆ กบั บคุ คลทเ่ี ราให้ความสนใจและอยากเร่ืองข้อมูลได้ จงึ จำเปน็ ต้องรูจ้ ักคำศพั ทแ์ ละ
ประโยค จากเนือ้ หาในบทเรียนและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวนั
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. นักเรยี นมีความรู้ และจำคำศพั ทใ์ นบทเรียนได้ (K)

2. นกั เรยี นเข้าใจการทำกิจกรรมหาคำศัพท์ โดยใชภ้ าษาจีนได้อยา่ งถกู ต้อง (K)

3. นักเรียนสามารถอา่ นออกเสียง และฟงั เสยี งคำศัพท์ภาษาจีนไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (P)

4. นักเรยี นแปลความหมาย จากการอา่ นประโยคภาษาจนี ได้อย่างถกู ต้อง (P)

5. นกั เรียนมคี วามตั้งใจ และกล้าแสดงออกในการเรยี นภาษาจนี (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินัย รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
1. กจิ กรรมภาษาจีน

2. การอ่านภาษาจีน

69

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครบู อก (上课 shàngkè เขา้ เรยี น) หวั หน้าห้องบอก (起立 qǐlì ยนื ขึ้น) นักเรียนทุกคน

ยืนขึ้นพดู พร้อมกนั ว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดคี ุณคร)ู ครบู อก (同学们好,请坐。
Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวสั ดีนกั เรียนทกุ คน เชิญน่งั ) นกั เรยี นทุกคนพดู พรอ้ มกนั วา่ (谢谢老
师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คุณครู) และน่งั ลง

2. ครใู หห้ ัวหน้าห้องใช้บตั รคำศัพทภ์ าษาจนี ทบทวนเพ่อื นในห้อง 2 รอบ และสุ่มถามเพ่อื นๆ
ข้ันท่ี 2 ขั้นสอน

3. ครูสอนโดยเร่มิ ทำกิจกรรม ช่ือ ( 记忆游戏 jìyìyóuxì เกมความจำ ) ครแู จง้ รายละเอียด
การเลน่ เกม - นกั เรียนแบ่งกลุ่มละ 5 คน

- ครูแจกกระดาษกล่มุ ละ 4-5 แผ่น คำศพั ทแ์ ต่ละแผ่นมคี ำศัพทอ์ ย่หู น่งึ คำ
ตามรายการด้านลา่ ง

- แต่ละกลุ่มมีเวลา 1 นาที ในการคน้ หาคำท่ีกำหนดให้ โดยสามารถเปิดค้นหาในหนงั สอื
เรียนได้
- นักเรยี นทุกกลุ่มผลัดกันแสดงคำศพั ท์และอ่านทีละคน หลังจากนนั้ ทกุ กลมุ่ นำคำศพั ท์ลงใต้
โต๊ะ
- ครสู ่มุ ให้นักเรยี นกลมุ่ หนึง่ พูดคำศพั ท์ เชน่ (“爸爸”bàba พ่อ 在那儿!
zàinàr อยูไ่ หน)
- หลังจาก 5 วนิ าที กลมุ่ ท่ีถูกเลือกคำศัพท์แลว้ จะต้องตอบพรอ้ มกัน เช่น (“爸爸”
bàba พ่อ 在那儿!zàinàr อยู่ไหน) พรอ้ มช้ีไปทก่ี ลุ่มทมี่ ีคำว่า (“爸爸”bàba
พ่อ )
- ตอบถกู ได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ไมไ่ ดค้ ะแนน ทำซ้ำจนกว่าจะเดาคำศพั ท์ท้ังหมดถกู ต้อง
4. ครูพูดภาษาจีนกับนักเรียนว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第二十九页
fāndào dì èrshíjiǔ yè กรุณาเปิดหนังสอื ไปหนา้ ท่ี 29) (一起读 yìqǐdú อา่ นพรอ้ มกนั
เม่อื นักเรยี นอ่านพรอ้ มกันเสร็จแลว้ ครูสอนนกั เรยี นอ่านอีกครง้ั หลังจากนัน้ ครูสุ่มนกั เรียนอ่านเป็นรายบคุ คล
5. ครูพูดภาษาจีนกับนกั เรยี นวา่ (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第三十页 fān

70

dào dì sānshíyè กรุณาเปิดหนงั สอื ไปหน้าที่ 30) ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ช่วยกนั เติมคำตอบใหถ้ ูกต้อง
ครูและนกั เรียนเฉลยคำตอบพร้อมกัน

ขน้ั ที่ 3 ข้ันสรปุ

6. ครใู ห้นกั เรยี นทุกคนอ่านคำศัพท์เร่ือง ตัวเลข และประเทศพรอ้ มกนั อกี ครงั้

7. ครูมอบหมายภาระงานให้นกั เรียน 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

8. ครพู ูดภาษาจีนกบั นกั เรียน (下课 xiàkè เลิกเรียน) หัวหน้าหอ้ งพดู (起立 qǐlì ยนื ขน้ึ )

นักเรยี นทกุ คนพดู พรอ้ มกนั ว่า (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī

zàijiàn.ขอบคณุ ครบั /คะ่ คุณครู แล้วพบกันใหม่)

7.การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นกั เรียนสามารถเรียนรู้ เรอ่ื ง การแนะนำตนเอง
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชิก นักเรยี นสามารถแบง่ กลุม่ เพียงพอตอ่ การร่วมกนั ทำงาน
เป็นกลุ่ม
หลกั มีเหตุผล พอประมาณกบั สถานที่ ห้องเรียนภาษาจีนมีโตะ๊ เกา้ อเี้ พียงพอกับจำนวนนักเรียน
ในการจัดการเรียนการสอน นกั เรียนสามารถทำแบบฝึกหัด จากเรอื่ ง การแนะนำ
ตนเอง

หลักการสรา้ ง การจดั การเรยี นสอนแต่ละคร้งั นกั เรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เน้ือหา ได้เป็น
ภมู ิคุ้มกันในตัวทด่ี ี อยา่ งดีทกุ คนมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นการสอนไดเ้ ปน็ อย่างดี

เง่อื นไขความรู้ นักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเรอ่ื ง การแนะนำตนเองได้เปน็ อย่างดี

เงอื่ นไขคุณธรรม รจู้ ักการทำงานร่วมกลุ่ม ซื่อสัตย์ มคี วามรับผิดชอบ

71

การบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เง่ือนไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มภี ูมคิ ้มุ กนั ในตัวทด่ี ี

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 4 มติ ิ

เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

8. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้

1. หนังสอื เรยี น 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2

2. สื่อการสอน PowerPoint 第二课 dìèrkè 我叫 wǒjiào Juliet

3. แบบฝึกหดั รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 2
4. ใบงานกจิ กรรมภาษาจนี
9.การวัดและประเมนิ ผล

การประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารผา่ น
ความรคู้ วามเข้าใจ (K)
- สงั เกตการพูดจากการ - แบบบนั ทกึ การ ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ทกั ษะกระบวนการ (P) ทำกจิ กรรมภาษาจนี ประเมินการอ่าน ขน้ึ ไป
- สังเกตการอ่านออก
เสียงคำศพั ท์ภาษาจนี - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60
- สังเกตการทำงาน

สำคัญของผู้เรียน ขึน้ ไป

เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบบันทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมนิ ผล ขึ้นไป
พฤติกรรมการเรียนรู้
- แบบประเมนิ
คุณลักษณะอันพึง
ประสงค์

72

บนั ทึกหลงั สอนแผนการสอนท่ี ............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 1
 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ เนือ่ งจาก ..........................................................................

2. ผลทีเ่ กดิ กับผู้เรยี น
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช…้ ……………แบบทดสอบหลังเรียน............พบว่านักเรยี นผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ

................……..…. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้นั ตำ่ ทก่ี ำหนดไว้คดิ เป็นรอ้ ยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขท่ี...............................................
2.) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………………………..………...............พบวา่ นกั เรียนผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็

รอ้ ยละ....................……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขนั้ ต่ำทกี่ ำหนดไวค้ ิดเปน็ ร้อยละ........................................................................................................................
ได้แก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมินดา้ นคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เรยี น โดยใช…้ ……..…แบบสงั เกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมินคดิ เป็นรอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้ันต่ำท่กี ำหนดไวค้ ดิ เป็นรอ้ ยละ.......................................................................
ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มีนักเรยี นทไี่ มส่ นใจเรียน
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรอื่ ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ .......................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงชอื่ ผสู้ อน
( นางสาวกิตติมา สขุ ศริ ิ )

วนั ท…่ี …..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ 2.การจัดกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง  ทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกบั ศักยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผเู้ รยี น เหมาะสมกับศักยภาพทีแ่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น
 ท่ยี งั ไม่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป  ทีย่ งั ไม่เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้
 นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้  นำไปใช้ได้จรงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงชือ่ .......................................................
( นางอังคณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณัฐิญา คาโส )

73

แผนการจัดการเรียนรู้ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา จ 20201
รายวชิ า ภาษาจนี เพ่อื การสอื่ สาร 1
เวลา 10 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง 谁喜欢吃苹果 เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี รทู้ ่ี 1

1. ผลการเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขยี นและออกเสยี งสทั อกั ษรได้
2. ใช้คำศัพท์ภาษาจีนเบื้องต้นในการฟัง พดู อ่านเขียนได้
3. รแู้ ละเขา้ ใจความแตกต่างและเหมือนวฒั นธรรมไทย จนี

2. สาระสำคญั
ภาษาจีนนนั้ มคี วามสำคัญเป็นอย่างมากในการตดิ ต่อสอ่ื สาร รวมไปถึงการสนทนา การพูดคุยเกย่ี วกับ

เร่ือง การกนิ ซึ่งเปน็ เหตกุ ารณท์ ่สี ามารถพบเจอได้ และสามารถนำไปใช้ในการสนทนา การพดู คุยกับชาวจนี

ในชีวติ ประจำวันได้ ฉะนั้นการเรียนรู้คำศพั ท์ บทสนทนาและรปู ประโยคภาษาจนี จะสามารถทำให้ผ้เู รียนมี

ทักษะพ้ืนฐานทางด้านภาษาจนี และสามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรียนจำคำศพั ท์ และประโยคภาษาจีนได้ (K)

2. นักเรียนร้คู วามหมายของคำศพั ท์ และประโยคภาษาจีนไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง (K)

3. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสียงคำศัพท์ และประโยคภาษาจนี ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (P)

4. นักเรยี นมีความสนใจในการเรยี นคำศพั ท์ และประโยคภาษาจนี (A)

5. นักเรียนมคี วามตัง้ ใจ และมุ่งมนั่ ในการเรียนภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3. มุง่ มั่นในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
1. คำศัพท์บทเรยี น 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

2. ประโยคภาษาจนี

74

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครบู อก (上课 shàngkè เข้าเรยี น) หวั หน้าหอ้ งบอก (起立 qǐlì ยนื ขึ้น) นกั เรียนทุก

คนยืนข้ึนพูดพรอ้ มกันวา่ (老师好 lǎoshīhǎo สวสั ดีคณุ ครู) ครบู อก (同学们好,请坐。
Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดีนักเรียนทุกคน เชิญนั่ง) นักเรียนทุกคนพูดพรอ้ มกันว่า(谢
谢老师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คณุ คร)ู และน่งั ลง

2. ครูให้นกั เรยี นทบทวนคำศพั ทบ์ ทที่ 1 และบทท่ี 2 จากบตั รคำศพั ท์ภาษาจีน
ข้นั ท่ี 2 ขัน้ สอน

3. ค รู เ ป ิ ด ส ื ่ อ ก า ร ส อ น PPT 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?
shuíxǐhuanchīpíngguǒ? (ใครชอบทานผลไม้) ครูพูดภาษาจีนกับนักเรียนว่า (请打开
书 qǐngdǎkāishū,翻到第三十三页。fāndào dì sānshísān yè.
กรุณาเปิดหนังสือไปหน้าที่ 33) ครูพูดว่า (跟我读 gēnwǒdú อ่านตามฉัน) ครูสอนนักเรียนอ่าน
คำศัพท์ 5 ครั้ง และให้นักเรียนทุกคนตั้งใจอ่านพร้อมกัน 5 ครั้ง ครูสังเกตการออกเสียงของนักเรียน แก้ไข
ทันทีเมื่อได้ยินนักเรยี นออกเสยี งผิด

4. ครูพูดภาษาจีนกบั นักเรยี นวา่ (合上书 héshàngshū. ปิดหนังสือ) ครูพูดคำศพั ทภ์ าษาจนี
นกั เรยี นแปลภาษาไทย และครูพดู คำศพั ท์ภาษาไทย นกั เรียนแปลภาษาจีน

5. ครใู หน้ ักเรียนหยบิ สมดุ แบบฝึกหัด 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 3 หน้า 21-22 ใหน้ กั เรยี น
เขียนลำดบั ขีดตามตัวอยา่ ง คำละ 2 ตวั อกั ษรจีน ครเู ดินตรวจสอบการเขยี นที่ถูกต้องของนกั เรียน

6. ครูอธิบายคำศพั ท์ (不 bù ไม่) และการเปลีย่ นเสียงวรรณยุกต์ เช่น
(不多 bùduō ไม่เยอะ ) / (不来 bùlái ไม่มา) / (不好 bùhǎo ไมด่ ี)
(不对 búduì ไมถ่ ูก) / (不怕 búpà ไมก่ ลวั )
(对不起 duìbuqǐ ขอโทษ) / (会不会 huìbúhuì ทำได้ไหม)

75

ครอู า่ นออกเสียงใหน้ กั เรียนฟงั นกั เรียนทุกคนอา่ นตาม ครใู หเ้ วลาฝึกอ่าน 3 นาที ครูสมุ่ นกั เรียนอา่ น

โดยสมุ่ จบั ฉลากเลขท่ี ประมาณ 8-10 คน นักเรยี นทกุ คนชว่ ยกนั ฟงั การออกเสียงของเพื่อน และชว่ ยกนั

แก้ไขเมื่อเจอเพอ่ื นอา่ นออกเสียงผิด

7. ครสู อนนกั เรียนอ่านเนอ้ื หาภาษาจีน หนา้ 32 นกั เรยี นตง้ั ใจอ่านออกเสียงตามครู และช่วยกนั

แปลความหมายเพื่อทำความเขา้ ใจกบั บทเรยี น ครูแบง่ นกั เรยี นกลมุ่ ละ 5 คน เพ่ือออกมาแสดงบทบาทสมมุต

ตามเนื้อหาท่ไี ด้เรยี น ครใู หเ้ วลาฝกึ ซ้อมบทและแบ่งหน้าท่ี 5 นาที ทุกกลุ่มผลดั กันออกมาแสดง

8. ครูถามนักเรียนวา่ วนั นสี้ งสยั อะไรในเนอื้ หาท่ีครูสอนไหม ครสู มุ่ ถามคำศพั ทน์ ักเรยี นรายบุคคล

ข้ันท่ี 3 ขั้นสรปุ

9. ครูแจ้งนักเรียนถึงการเรียนในครั้งหน้าให้นักเรียนทบทวนคำศัพท์ และมอบหมายภาระงานให้

นักเรียน

10. ครูพูดภาษาจีนกับนักเรียน (下课 xiàkè เลิกเรียน) หัวหน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืนขึ้น )

นกั เรยี นทกุ คนพดู พรอ้ มกันว่า (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī

zàijiàn.ขอบคุณครบั /คะ่ คณุ ครู แล้วพบกันใหม่)

ภาระงาน

- แบบฝึกหดั รายวิชาเพม่ิ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3 หน้า 21-22

7.การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นักเรยี นสามารถเรียนรู้ เร่อื ง ใครชอบกนิ แอปเปิ้ล
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชกิ นักเรยี นสามารถแบ่งกลมุ่ เพียงพอต่อการรว่ มกันทำงาน
เปน็ กลมุ่
หลกั มเี หตุผล พอประมาณกบั สถานท่ี ห้องเรยี นภาษาจีนมโี ตะ๊ เกา้ อ้ีเพียงพอกับจำนวนนกั เรยี น
ในการจดั การเรยี นการสอน นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด จากเรือ่ ง ใครชอบกิน
แอปเปล้ิ

หลักการสร้าง การจดั การเรียนสอนแต่ละครัง้ นกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจในการเรยี น เน้ือหา ไดเ้ ป็น
ภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดี อย่างดีทุกคนมีส่วนรว่ มในการเรยี นการสอนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจเรือ่ ง ใครชอบกินแอปเปิล้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

เงอ่ื นไขคุณธรรม รู้จกั การทำงานร่วมกลมุ่ ซอื่ สตั ย์ มีความรบั ผิดชอบ

76

การบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เง่อื นไข

พอประมาณ ความรู้

มีเหตุผล คุณธรรม

มภี มู ิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 3

2. ส่อื การสอน PowerPoint 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม้)

3. แบบฝึกหัด รายวิชาเพ่ิมเตมิ 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 3

4. บตั รคำศพั ท์ภาษาจีน

9.การวัดและประเมินผล

การประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารผา่ น

ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) - สังเกตการอา่ นออก - แบบบันทกึ การ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
เสยี งคำศัพท์ภาษาจีน ประเมนิ การอา่ น ข้ึนไป
- สงั เกตการอ่านออก
เสยี งประโยคภาษาจนี

ทกั ษะกระบวนการ (P) - สังเกตการทำงาน - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60

สำคัญของผู้เรียน ข้ึนไป

เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบบันทึกการสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมนิ ผล ขน้ึ ไป
พฤติกรรมการเรียนรู้
- แบบประเมิน
คณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์

77

บันทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลทีเ่ กดิ กับผู้เรยี น
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช…้ ……………แบบทดสอบหลงั เรยี น............พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ

................……..…. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้นั ตำ่ ทก่ี ำหนดไวค้ ดิ เปน็ ร้อยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขท่ี...............................................
2.) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………………………..………...............พบวา่ นักเรยี นผา่ นการประเมินคิดเปน็

รอ้ ยละ....................……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขนั้ ต่ำทกี่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ........................................................................................................................
ได้แก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ เรยี น โดยใช…้ ……..…แบบสงั เกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมินคดิ เป็นรอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขั้นตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นรอ้ ยละ.......................................................................
ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี ักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 มีนักเรยี นทไี่ มส่ นใจเรียน
 อ่นื ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เรือ่ ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรยี นทไี่ ม่ผา่ นการประเมนิ .......................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่ือ ผสู้ อน
( นางสาวกิตตมิ า สุขศริ ิ )

วนั ท่ี……..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ งานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง  ทีเ่ น้นผูเ้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง

เหมาะสมกบั ศักยภาพทแี่ ตกตา่ งกนั ของผเู้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน
 ท่ยี งั ไม่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป  ทย่ี งั ไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ 3.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้
 นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้  นำไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… 4.ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงชอื่ .......................................................
( นางอังคณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณฐั ิญา คาโส )

78

แผนการจดั การเรยี นรู้ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวชิ า จ 20201
รายวิชา ภาษาจนี เพอื่ การส่ือสาร 1
เวลา 10 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เร่ือง 谁喜欢吃苹果 เวลา 2 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรยี รู้ที่ 2

1. ผลการเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถอ่าน เขียนและออกเสียงสัทอักษรได้
2. ใช้คำศัพท์ภาษาจนี เบ้อื งต้นในการฟงั พดู อ่านเขียนได้
3. รแู้ ละเข้าใจความแตกตา่ งและเหมือนวฒั นธรรมไทย จนี

2. สาระสำคญั
ภาษาจนี นนั้ มคี วามสำคัญเปน็ อย่างมากในการติดตอ่ สอื่ สาร รวมไปถึงการสนทนา การพูดคยุ เก่ียวกบั

เรอื่ ง การกนิ ซึ่งเปน็ เหตุการณ์ทส่ี ามารถพบเจอได้ และสามารถนำไปใช้ในการสนทนา การพดู คยุ กับชาวจีน

ในชวี ิตประจำวนั ได้ ฉะนนั้ การเรยี นรคู้ ำศัพท์ บทสนทนาและรปู ประโยคภาษาจีนจะสามารถทำให้ผ้เู รียนมี

ทกั ษะพื้นฐานทางด้านภาษาจนี และสามารถนำไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นรแู้ ละเขา้ ใจ การผนั เสียงวรรณยุกต์ภาษาจนี ไดถ้ ูกต้อง (K)

2. นักเรยี นรู้และแยกแยะพยญั ชนะพนิ อินภาษาจนี d t ได้ (K)

3. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงคำศัพทท์ ี่มพี ยัญชนะพนิ อนิ d t ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

4. นกั เรียนสามารถอ่านผนั เสียงวรรณยุกตภ์ าษาจีนไดถ้ กู ต้อง (P)

5. นักเรียนเลน่ กิจกรรมเกมภาษาจนี อยา่ งเขา้ ใจ เล่นถกู วธิ ี และสนกุ กบั ภาษาจนี (A)

6. นักเรยี นมคี วามกระตือรอื รน้ ในการเรียนวชิ าภาษาจนี (A)

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

79

5. สาระการเรยี นรู้
1. พินอนิ วรรณยุกต์ 第三课 dìsānkè

2. พนิ อิน พยัญชนะ 第三课
6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นที่ 1 ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน

1. ครบู อก (上课 shàngkè เข้าเรยี น) หวั หนา้ หอ้ งบอก (起立 qǐlì ยืนขน้ึ ) นกั เรยี นทุก

คนยืนขน้ึ พดู พรอ้ มกนั วา่ (老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคณุ คร)ู ครบู อก (同学们好,请

坐。Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดนี ักเรียนทกุ คน เชิญนั่ง) นกั เรยี นทกุ คนพูดพรอ้ มกนั

ว่า(谢谢老师 xièxièlǎoshī ขอบคุณคุณคร)ู และน่ังลง

2. ครูมอบหมายใหห้ ัวหน้าหอ้ ง ทำการเชค็ ชอื่ เพ่ือนที่มาเรียน โดยหวั หนา้ หอ้ งพดู ภาษาจีนว่า (点

名 Diǎnmíng เชค็ ชือ่ ) นักเรียนเลขท่ี 1 ถงึ เลขที่สดุ ท้าย พูด เลขที่ ชอ่ื มาครับ/คะ่ เป็นภาษาจีน เชน่

เลขท่ี ชื่อ มาครับ/มาค่ะ

一 yī 天天 tiāntiān 到 dào

二èr 美美měiměi 到dào

หวั หน้าหอ้ งเชค็ ช่อื เพอ่ื นท่ีมาเรยี น พร้อมแจง้ ครูเป็นภาษาจนี ว่า มาก่ีคน เช่น มา 30 คน พดู ภาษาจีนกบั ครวู ่า

(来三十个人。Láisānshígèrén.)

ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ สอน

3. ครูทบทวนคำศพั ท์ให้นักเรยี นอกี ครั้ง และอธิบายกิจกรรมเกมใหน้ ักเรยี นทำความเข้าใจในการเล่น
ผู้เล่นเกมนี้จะมี 2 คน ผู้เล่นคนที่ 1 ใช้สัญลักษณ์ วงกลม ๐ ผู้เล่นคนที่ 2 ใช้สัญลักษณ์ กากบาท X ก่อน

วงกลม ๐ หรือกากบาท X ผู้เล่นต้องถามเปน็ ภาษาจีนว่า (这是谁 zhèshìshuí) หรือ (这是

什么?zhèshìshénme?) เมื่อผเู้ ล่นคนที่ 1 เลอื ก ท้งั 2 คนตอ้ งตอบคำถามน้นั และถ้าผู้เล่นถาม
คำถามท่ไี ม่ถูกตอ้ ง จะต้องหยุดเลน่ ในรอบถัดไป จะเลน่ ได้อีกคร้งั กต็ ่อเม่ือผู้เล่นอีกฝ่ายให้คำตอบท่ีคำตอบ แม้
จะถามคำถามทไี่ มถ่ กู ตอ้ งกต็ าม หากผู้เล่นทัง้ 2 ถามคำถามท่ีถูกตอ้ ง ทง้ั 2 คนตอบคำถาม ให้ถกู ต้องตามภาพ
ทช่ี ี้ มฉิ ะนั้นจะเสยี คะแนนใหอ้ ีกฝา่ ย เมอื่ นกั เรยี นเข้าใจวิธกี ารเล่นแลว้ ครแู จกกระดาษให้นกั เรยี นคู่แรกทดลอง
เล่นให้เพ่อื นดเู ปน็ ตวั อยา่ ง เพ่ือให้เข้าใจในการทำกจิ กรรมมากขนึ้ เล่นเสร็จแล้วครใู ห้นักเรียนจบั คูเ่ ลน่ เกม โดย
ครูแจกกระดาษให้นกั เรยี นคู่ละ 1 แผน่ เล่น 2 รอบ

80

4. ค รู เ ปิ ด สื่ อ ก า ร ส อ น PPT( 第 三 课 dìsānkè 谁 喜 欢 吃 苹 果 ?
shuíxǐhuanchīpíngguǒ? ใครชอบกินแอป๊ เป้ิล) ครูทบทวนวรรณยกุ ต์ 4 เสยี ง 4 รปู ให้นกั เรียน
1 คร้ัง ครแู บง่ นกั เรยี นเป็น 4 กลุม่ กำหนดใหแ้ ต่ละกล่มุ จำโทนเสียง 1 ใน 4 โทนเสียง โดยมี 2 กลมุ่ ที่ไม่มีโทน
เสียง แตล่ ะกลมุ่ ใชเ้ วลา 2 นาทใี นการฝกึ การออกเสียง เมอื่ ถึงเวลาครูอ่านประโยค เชน่

我不喜欢吃苹果。Wǒ bù xǐhuan chīpíngguǒ.ฉนั ไมช่ อบกนิ แอ๊ปเปิ้ล
ครูอ่านประโยคอกี ครั้ง ทีละคำ และกลุ่มที่ไดร้ ับมอบหมายใหท้ ่องจำเสียงของคำ และต้องทำซำ้ โทน
เสยี งน้ัน โดย ครูพดู 我 wǒ กลุ่มทเ่ี ลอื กวรรณยกุ ต์ ที่ 3 ต้องพูด ǎ ครูพูด 不 bù กล่มุ ท่เี ลือกวรรณยุกต์
ที่ 4 ตอ้ งพดู àทำซำ้ จนกว่าทกุ กลุม่ จะไดโ้ ทนเสียงวรรณยุกต์ทถ่ี กู ต้องตามที่ไดร้ ับมอบหมายทง้ั ห้อง อา่ นออก
เสยี งวรรณยกุ ตพ์ รอ้ มกัน โดยการแทนที่คำดว้ ย a ทำซำ้ ทัง้ ประโยคและการออกเสียงท่เี หมาะสม
5. ครูสอนนักเรียน แยกแยะ d t เมื่อนักเรยี นเข้าใจแลว้ ครูพูดภาษาจีนกบั นกั เรยี นว่า (请打开
书 qǐngdǎkāishū,翻到第三十七页。fāndào dì èr sānshí qī yè.
กรุณาเปิดหนังสือไปหน้าที่ 37) ครูพูดว่า (拼音练习 pīnyīnliànxí ฝึกพินอิน) ครูให้นักเรยี น
อา่ นคำศพั ท์พนิ อนิ หนา้ 37 ด้วยตัวเอง 1 นาที ครบู อกนักเรียนแยกแยะเสยี งพยญั ชนะพนิ อิน d t ภาษาจนี ให้
ดี ถ้าเสียงที่ได้ยินตรงกับคำในข้อนั้นให้เขียนเครื่องหมายถูก√ แต่ถ้าไม่ตรงให้กากบาท X ครูเปิดไฟล์เสียง
CH1 - 3.05 ให้นักเรยี นฟัง พรอ้ มเลือกคำตอบทถ่ี ูกต้อง ครเู รยี กนกั เรียนออกมาเขียนคำที่ไดย้ นิ จากไฟล์เสียง
นกั เรียนทำความเข้าใจเพือ่ แยกแยะพยญั ชนะพินอนิ ไดด้ ยี ง่ิ ขึ้น
6. ครูให้นักเรียนหยบิ สมดุ เลม่ แบบฝึกหดั ข้นึ มาเขียนอักษรจนี อยา่ งละ 2 ตวั อักษรจีน ครูเดนิ ตรวจวิธี
การเขียนอักษรจีนตามลำดับขีดที่ถูกตอ้ งของนักเรยี นทุกคน ทีเ่ หลือมอบหมายภาระงานทำตอ่ ท่ีบา้ น
ขน้ั ที่ 3 ข้นั สรุป
7. ครถู ามนกั เรยี นมีใครสงสยั อะไรในเนอ้ื หาการเรียนวนั น้ีหรอื ไม่
8. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนเนอื้ หาทไี่ ดเ้ รยี นไปแลว้ และมอบหมายภาระงานใหน้ กั เรียน 第三课
dìsānkè 谁喜欢吃苹果?shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม)้
9. ครูพูดภาษาจนี กบั นกั เรยี น (下课 xiàkè เลิกเรยี น) หัวหน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืน
ข้ึน ) นักเรยี นทุกคนพดู พร้อมกันวา่ (谢谢老师,老师再见!
xièxièlǎoshī,lǎoshī
zàijiàn.ขอบคณุ ครับ/คะ่ คุณครู แลว้ พบกันใหม่)

81

ภาระงาน

- แบบฝึกหดั รายวิชาเพิม่ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3 หน้า 23-25

7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรอื่ ง ใครชอบกินแอปเป้ิล
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชกิ นักเรียนสามารถแบง่ กล่มุ เพยี งพอตอ่ การรว่ มกนั ทำงาน
เปน็ กลุม่
หลักมเี หตุผล พอประมาณกับสถานท่ี ห้องเรียนภาษาจนี มีโต๊ะเกา้ อเ้ี พยี งพอกบั จำนวนนักเรยี น
ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรียนสามารถทำแบบฝกึ หดั จากเร่อื ง ใครชอบกิน
แอปเป้ลิ

หลักการสร้าง การจัดการเรยี นสอนแตล่ ะคร้งั นักเรยี นเกิดความเข้าใจในการเรยี น เนอ้ื หา ได้เป็น
ภูมคิ ุ้มกันในตัวที่ดี อยา่ งดีทกุ คนมสี ่วนร่วมในการเรียนการสอนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจเร่ือง ใครชอบกินแอปเปล้ิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

เงือ่ นไขคณุ ธรรม รู้จักการทำงานร่วมกล่มุ ซอื่ สตั ย์ มคี วามรับผิดชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข

พอประมาณ ความรู้

มีเหตุผล คุณธรรม

มภี ูมคิ ้มุ กนั ในตวั ทด่ี ี

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 4 มิติ

เศรษฐกจิ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม
8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3

2. ส่อื การสอน PowerPoint 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม้)

3. แบบฝึกหดั รายวชิ าเพิม่ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1)

4. ไฟลเ์ สยี งจากหนังสอื เรียน 春晖(Chūnhuī Book 1)

82

9.การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารผ่าน
การประเมนิ ผล
- สังเกตการถาม ตอบ - แบบบันทกึ การ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ความรู้ความเข้าใจ (K) ภาษาจนี ประเมนิ การอ่าน ขน้ึ ไป
- สังเกตการอ่านออก
ทักษะกระบวนการ (P) เสยี งคำศพั ท์ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60
- สงั เกตการทำงาน

สำคญั ของผ้เู รียน ข้นึ ไป

เจตคต/ิ คณุ ลักษณะ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบบันทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมินผล ข้ึนไป
พฤติกรรมการเรียนรู้
- แบบประเมนิ
คุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์

83

บันทกึ หลังสอนแผนการสอนที่ ............

1. ผลการสอนระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
 สอนได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ..........................................................................

2. ผลที่เกดิ กับผเู้ รียน
1.) การประเมินผลความร้หู ลังการเรียน โดยใช้………………แบบทดสอบหลงั เรียน............พบว่านักเรยี นผา่ นการประเมนิ คดิ เป็นร้อยละ

................……..…. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................ไดแ้ ก่ ....................................เลขที่...............................................
2.) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………………………..………...............พบวา่ นกั เรียนผา่ นการประเมนิ คิดเปน็

รอ้ ยละ....................……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ข้ันตำ่ ทก่ี ำหนดไว้คดิ เป็นรอ้ ยละ........................................................................................................................
ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ เรียน โดยใช้………..…แบบสงั เกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบว่านกั เรียนผ่านการประเมนิ คิดเป็นร้อยละ..…....……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ข้นั ตำ่ ท่ีกำหนดไว้คดิ เปน็ รอ้ ยละ.......................................................................
ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอปุ สรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรยี น
 อ่ืน ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรบั ปรุง เรื่อง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน .......................................................................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ

ลงชือ่ ผสู้ อน
( นางสาวกติ ติมา สขุ ศริ ิ )

วนั ที่……..../................../................

ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวชิ าการ
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง
2.การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจดั กจิ กรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง  ที่เน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผู้เรียน เหมาะสมกับศักยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผ้เู รยี น
 ท่ียงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป  ท่ียงั ไม่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้
 นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้  นำไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… 4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ …………………………………………………………………………….

ลงช่อื ....................................................... ลงช่ือ.......................................................
( นางองั คณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณฐั ิญา คาโส )

84

แผนการจัดการเรียนรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รหัสวิชา จ 20201
รายวิชา ภาษาจีนเพื่อการส่อื สาร 1
เวลา 10 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง 谁喜欢吃苹果 เวลา 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียรทู้ ี่ 3

1. ผลการเรยี นรู้

1. นักเรยี นสามารถอ่าน เขยี นและออกเสยี งสทั อักษรได้
2. ใช้คำศพั ทภ์ าษาจนี เบื้องต้นในการฟงั พูด อ่านเขยี นได้
3. รู้และเข้าใจความแตกต่างและเหมือนวฒั นธรรมไทย จีน
2. สาระสำคัญ
ภาษาจีนน้นั มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการติดตอ่ ส่ือสาร รวมไปถงึ การสนทนา การพดู คุย และยัง

ไดใ้ ห้ความสำคัญกับสว่ นประกอบของอักษรจนี และฝกึ การฟังประโยคภาษาจีนจากคำศัพท์ทน่ี กั เรียนได้เรียน

ไปแล้ว และสามารถนำไปใช้ในการสนทนา การพูดคุยกับชาวจีน ในชีวิตประจำวันได้ การเรียนรู้อักษรจีน

คำศพั ท์ บทสนทนา และรูปประโยคภาษาจีนจะสามารถทำให้ผูเ้ รียนมีทักษะพ้นื ฐานทางด้านภาษาจนี ท่ีดี และ

สามารถนำไปปรบั ใช้ในการเรยี นวิชาเอกภาษาจีนไดด้ ีย่งิ ขนึ้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรียนจำคำศัพท์ ประโยค และรู้ความหมายของภาษาจีน (K)

2. นักเรียนรจู้ ักและจำลำดับขดี และสว่ นประกอบอักษรจนี ไดอ้ ย่างถูกต้อง

3. นกั เรียนสามารถอ่านออกเสียง และฟังเสียงคำศัพท์ภาษาจีนได้อยา่ งถูกต้อง (P)

4. นกั เรียนมีแรงจงู ใจ และกล้าแสดงออกในการเรียนวชิ าภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

5. สาระการเรียนรู้
1. ส่วนประกอบอกั ษรจนี

2. การฟังภาษาจนี

85

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้ันที่ 1 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน

1. ครูบอก (上课 shàngkè เข้าเรียน) หัวหนา้ หอ้ งบอก (起立 qǐlì ยนื ขึน้ ) นกั เรียนทกุ

คนยนื ข้ึนพดู พรอ้ มกนั ว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคณุ คร)ู ครบู อก (同学们好,请

坐。Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวสั ดนี ักเรยี นทกุ คน เชญิ น่ัง) นักเรียนทกุ คนพดู พรอ้ มกนั

ว่า(谢谢老师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คุณครู) และน่ังลง

2. ครูมอบหมายให้หัวหนา้ หอ้ ง ทำการเช็คช่ือเพ่ือนทีม่ าเรียน โดยหัวหนา้ หอ้ งพูดภาษาจนี ว่า (点

名 Diǎnmíng เชค็ ชื่อ) นกั เรยี นเลขท่ี 1 ถึงเลขท่ีสุดท้าย พดู เลขท่ี ช่ือ มาครบั /คะ่ เปน็ ภาษาจนี เชน่

เลขท่ี ชอ่ื มาครบั /มาคะ่

一 yī 天天 tiāntiān 到 dào

二èr 美美měiměi 到dào

หัวหน้าห้องเชค็ ชือ่ เพือ่ นทีม่ าเรียน พรอ้ มแจง้ ครเู ป็นภาษาจีนว่า มาก่คี น เชน่ มา 30 คน พูดภาษาจีนกบั ครูวา่

(来三十个人。Láisānshígèrén.)
ข้ันที่ 2 ข้นั สอน

3. ครเู ปดิ สือ่ VDO youtube เรอื่ ง《常用偏旁》汉字基本偏旁|华

文基础知识|偏旁部首意义|小一预备课程|
ลิ้งค์https://www.youtube.com/watch?v=tANKlAhp6dw ใหน้ ักเรยี นดูสว่ นประกอบของอักษรจนี

4. ครูพดู ภาษาจีนกับนักเรยี นวา่ (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第三十八页

fāndào dì sānshíbā yè กรุณาเปดิ หนังสือไปหน้าที่ 38) นกั เรยี นดหู นังสอื หนา้ 38 ครถู ามนกั เรียน
วา่ จากทคี่ รูเปดิ VDO youtube ใหด้ ู ในหนงั สือเรยี นมีตวั ไหนบา้ งท่ไี ดด้ ไู ปแลว้ อา่ นวา่ อะไร ตัวอย่าง ที่เห็น
มาจากรูปอะไร เมอ่ื นกั เรียนรแู้ ละจำได้แลว้ ครเู ปิดสอ่ื VDO youtube ให้ดูอกี ครัง้

5. ครูทดสอบนักเรียน โดยการทำกิจกรรม แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม ครูให้นักเรียน ทำการทบทวน
เนอ้ื หา 2 นาที ครูจะพดู ส่วนประกอบของอักษรจีน นักเรยี นในกลุ่มสามารถช่วยกันเปิดหาในหนังสือเรียนได้

86

โดยมีเวลาจำกัด 30 วินาทีต่อครั้ง ตัวอย่าง ครูพูดว่า 走之旁 zǒuzhīpáng นักเรียนหาได้ เช่น 这
zhè ครเู ดนิ ตรวจคำตอบ และเปลย่ี นตัวถดั ไป สรุปคะแนนแต่ละกลุ่ม กลุ่มที่ได้คะแนนน้อยสุด อา่ นคำศัพท์
ในบทเรียน

6. นักเรียนเปดิ หนงั สือหนา้ ถัดไป ครูพดู ภาษาจีนว่า (听力 tīnglì การฟงั ) นักเรียนต้ังใจฟังไฟล์
เสียง ประโยคภาษาจนี ท่ีได้ยนิ ตรงกับรูปภาพใด ให้เอาภาษาอังกฤษมาเติมให้ถูกต้อง หลงั จากน้ันครูเปิดไฟล์
เสียง 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3 (3.06) ให้นักเรียนฟัง เมื่อฟังจบ ครูให้นักเรียนตรวจทาน
คำตอบอีกครั้ง ครูเฉลยโดยการพิมพ์ประโยคแต่ละข้อให้นักเรียนดูบน PPT พร้อมช่วยกันแปลความหมาย
ภาษาไทย นกั เรยี นสรุปคะแนนที่ตวั เองได้

7. ครูเปิดสื่อการสอน PPT 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?shuíxǐhuanchī
píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม้) ครูสอนนักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาจีน โดยครูอ่านออกเสียงนำ
นักเรยี นอา่ นตาม 5 รอบ และนกั เรียนช่วยกันแปลความหมาย และแกไ้ ขการอ่านออกเสียงของนักเรียนท่ียัง
ออกเสียงไม่ถูกต้อง

- ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาชีค้ ำศัพท์ เพอื่ นๆอา่ นออกเสียงตัวทเี่ พ่ือนชี้
- ครูหาอาสาสมคั รออกมาอ่านคำศัพทใ์ ห้เพอ่ื นฟงั และเพื่อนๆท่ีน่งั
ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนคำศัพทบ์ ทท่ี 3 5 นาที ครูเลือกคำศัพท์จากบทที่ 3 มา 10 คำ ครพู ดู ภาษาจีน
นกั เรยี นแปลเป็นภาษาไทยให้ถูกตอ้ ง เปล่ียนกนั ตรวจ ครูสุ่มนกั เรยี นออกมาเขียนเฉลย 10 คน
8. ครูให้นักเรียนเปิดสมุดแบบฝึกหัดหน้า 20 พร้อมอธิบายการแยกส่วนประกอบตัวอักษรจีน ให้
นักเรียนลองทำข้อที่ 1 ให้ดู เมื่อนักเรียนเข้าใจแล้ว ครูให้นักเรียนเปิดแบบฝึกหัดไปหน้าที่ 25-26 พร้อม
อธิบายวิธีการตอบโยงรูปภาพ อักษรจนี และพนิ อินใหถ้ กู ต้อง
ขนั้ ท่ี 3 ข้นั สรปุ
9. ครูให้นกั เรยี นทกุ คนทอ่ งคำศัพทบ์ ทที่ 1,2 และ 3 1 ครัง้ พรอ้ มกนั
10. ครูมอบหมายภาระงานให้นักเรียน 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?
shuíxǐhuanchīpíngguǒ? (ใครชอบทานผลไม)้
11. ครูพูดภาษาจีนกับนักเรียน (下课 xiàkè เลิกเรียน) หัวหน้าห้องพูด (起立 qǐlì ยืนขึ้น )
นักเรียนทกุ คนพดู พร้อมกนั วา่ (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī
zàijiàn.ขอบคุณครบั /คะ่ คณุ ครู แลว้ พบกันใหม่)

87

7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรอ่ื ง ใครชอบกนิ แอปเป้ิล
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชิก นกั เรียนสามารถแบง่ กลุ่ม เพยี งพอต่อการรว่ มกนั ทำงาน
เปน็ กลุ่ม
พอประมาณกับสถานท่ี หอ้ งเรยี นภาษาจีนมโี ตะ๊ เกา้ อเี้ พยี งพอกับจำนวนนกั เรยี น

หลักมีเหตผุ ล ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถทำแบบฝึกหดั จากเรื่อง ใครชอบกิน
แอปเป้ิล

หลกั การสรา้ ง การจดั การเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจในการเรยี น เนอื้ หา ไดเ้ ป็น
ภมู ิค้มุ กนั ในตวั ทด่ี ี อยา่ งดที กุ คนมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอนได้เป็นอยา่ งดี

เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเรื่อง ใครชอบกนิ แอปเป้ิลได้เป็นอย่างดี

เง่ือนไขคณุ ธรรม รู้จักการทำงานรว่ มกลมุ่ ซ่ือสัตย์ มคี วามรับผิดชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่ือนไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มภี มู คิ ุ้มกันในตัวที่ดี

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3

2. สอื่ การสอน PowerPoint 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม)้

3. แบบฝึกหดั รายวิชาเพ่มิ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1)

4. ไฟลเ์ สยี งจากหนังสอื เรยี น 春晖(Chūnhuī Book 1)

88

9.การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารผ่าน
การประเมินผล - สงั เกตการอ่านออก
เสยี งคำศัพท์ภาษาจีน - แบบบนั ทกึ การ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมินการอ่าน ข้ึนไป
- สงั เกตการทำงาน
ทกั ษะกระบวนการ (P) - แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60

สำคัญของผูเ้ รียน ขึ้นไป

เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบบนั ทกึ การสังเกต ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมินผล ขึ้นไป
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้
- แบบประเมนิ
คุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์

89

บันทึกหลงั สอนแผนการสอนท่ี ............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ่ี 1
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลทีเ่ กดิ กบั ผูเ้ รยี น
1.) การประเมินผลความรหู้ ลังการเรยี น โดยใช้………………แบบทดสอบหลงั เรยี น............พบวา่ นักเรียนผา่ นการประเมนิ คิดเปน็ รอ้ ยละ

................……..…. ไมผ่ ่านเกณฑข์ ้ันต่ำที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขท่ี...............................................
2.) การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช…้ ………………………………..………...............พบวา่ นักเรียนผ่านการประเมนิ คิดเปน็

ร้อยละ....................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้ันต่ำทกี่ ำหนดไวค้ ิดเปน็ ร้อยละ.........................................................................................................................
ไดแ้ ก่ ..............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……..…แบบสงั เกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบว่านักเรียนผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ข้ันต่ำทก่ี ำหนดไวค้ ิดเป็นรอ้ ยละ........................................................................
ไดแ้ ก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มนี ักเรยี นทไี่ ม่สนใจเรียน
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไี่ มผ่ ่านการประเมิน ........................................................................................................................................
 ไม่มีข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ ผสู้ อน
( นางสาวกติ ติมา สุขศริ ิ )

วนั ท…่ี …..../................../................

ความคิดเหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ งานวชิ าการ
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ทเี่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อย่าง  ที่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่าง

เหมาะสมกับศกั ยภาพที่แตกต่างกันของผูเ้ รียน เหมาะสมกับศกั ยภาพทีแ่ ตกต่างกันของผเู้ รียน
 ทย่ี งั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป  ทยี่ งั ไม่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
 นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้  นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ …………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ....................................................... ลงชื่อ.......................................................
( นางอังคณา แก้วเมอื ง ) ( นางสาวณฐั ญิ า คาโส )

90

แผนการจดั การเรยี นรู้ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1
กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รหัสวชิ า จ 20201
รายวิชา ภาษาจนี เพือ่ การส่อื สาร 1
เวลา 10 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง 谁喜欢吃苹果 เวลา 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียรู้ที่ 4

1. ผลการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขยี นและออกเสยี งสทั อกั ษรได้
2. ใช้คำศพั ทภ์ าษาจีนเบื้องต้นในการฟงั พูด อ่านเขยี นได้
3. รู้และเขา้ ใจความแตกต่างและเหมือนวฒั นธรรมไทย จนี

2. สาระสำคัญ

การพูดคุยเกีย่ วกบั เรอื่ ง อาหาร ซง่ึ เปน็ เหตุการณท์ ่สี ามารถพบเจอได้ และสามารถนำไปใชใ้ นการสนทนา การพดู คุย

กับชาวจีน ในชีวติ ประจำวันได้ ฉะน้ันการเรียนรูค้ ำศัพท์ บทสนทนาและรูปประโยคภาษาจีนจะสามารถทำให้ผู้เรียนมีทกั ษะ

พ้ืนฐานทางด้านภาษาจีนและสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นรูแ้ ละจำประโยคสนทนาภาษาจนี ได้ (K)

2. นักเรียนรู้ความหมายของประโยคสนทนาภาษาจีน (K)

3. นกั เรียนเข้าใจวฒั นธรรมการขอโทษ และการตอบรบั ประเทศไทยกบั ประเทศจนี (K)

4. นกั เรียนเขา้ ใจและสามารถใช้ภาษาจนี ในการขอโทษ และการตอบกลับได้ (K)

5. นกั เรยี นสามารถแปลความหมายจากประโยคภาษาจนี ทีอ่ ่านได้อยา่ งถกู ต้อง (P)

6. นกั เรยี นเข้าใจบทสนทนา และพูดออกเสียงภาษาจีนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (P)

6. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสียงประโยคภาษาจีนไดอ้ ย่างถกู ต้อง (P)

7. นักเรียนมีความสนใจและให้ความรว่ มมือในการเรยี นภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

91

5. สาระการเรียนรู้
1. บทสนทนาภาษาจีน

2. ความรแู้ ละวฒั นธรรมทางภาษาจนี

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั ท่ี 1 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน

1. ครบู อก (上课 shàngkè เข้าเรยี น) หวั หนา้ หอ้ งบอก (起立 qǐlì ยืนขึ้น) นกั เรียนทุก

คนยืนข้นึ พดู พรอ้ มกนั ว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคณุ คร)ู ครบู อก (同学们好,请坐。

Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดีนักเรียนทุกคน เชิญนั่ง) นักเรียนทุกคนพูดพร้อมกันว่า(谢

谢老师 xièxièlǎoshī ขอบคุณคณุ คร)ู และน่งั ลง

2. ครูมอบหมายใหห้ วั หนา้ ห้อง ทำการเชค็ ช่ือเพือ่ นท่ีมาเรียน โดยหวั หน้าห้องพูดภาษาจนี วา่ (点

名 Diǎnmíng เช็คช่ือ) นกั เรยี นเลขท่ี 1 ถงึ เลขที่สดุ ท้าย พดู เลขที่ ช่อื มาครับ/คะ่ เปน็ ภาษาจนี เช่น

เลขที่ ชอื่ มาครบั /มาคะ่

一 yī 天天 tiāntiān 到 dào

二èr 美美měiměi 到dào

หวั หน้าห้องเช็คช่ือเพ่ือนที่มาเรียน พรอ้ มแจง้ ครเู ป็นภาษาจีนวา่ มากี่คน เชน่ มา 30 คน พูดภาษาจนี กบั ครูวา่

(来三十个人。Láisānshígèrén.)
3. ครใู ห้นกั เรยี นทบทวนคำศพั ท์

ข้ันที่ 2 ข้ันสอน

4. ครูพดู ภาษาจนี กับนกั เรียนว่า (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第四十页

fāndào dì sìshí yè.กรุณาเปิดหนังสือไปหน้าที่ 40) ครูพูดว่า (自己读 zìjǐdú อ่าน

ด้วยตัวเอง) ครูให้เวลานักเรียนฝึกอ่านและแปลความหมายด้วยตัวเอง 5 นาที ครบ 5 นาที ครูสุ่มเรียก

นักเรียน อ่านและแปลตรงทีค่ รูกำหนดให้ ครูสอนนักเรยี นอา่ นอกี คร้ัง พร้อมแปลความหมาย ครูเปดิ ไฟล์เสียง

จากหนังสือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3 (3.07) ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ ครูแบ่งนักเรียน

กลุม่ ละ 6 คนแสดงบทบาทสมมุติตามบทสนทนาท่ีเรียน ครูให้เวลาเตรียมตวั 3 นาที นักเรียนทุกกลุ่มผลัดกัน

ออกมาแสดงบทบาทสมมุติ ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกนั โหวตคะแนนกลมุ่ ทแ่ี สดงได้ดีทส่ี ดุ

ครูใหน้ กั เรียนทกุ คนพูดชมเชยเพอ่ื นกลมุ่ ทแ่ี สดงไดด้ ี

เป็นภาษาจีนวา่ (你们真棒!nǐmenzhēnbàng!พวกคณุ เย่ยี มจริงๆ)

92

5. ครูใหน้ กั เรียนเปดิ หนังสือเรยี นไปหนา้ 43 ครูสอนนกั เรียนเก่ยี วกบั ตำแหน่งทศิ ทาง

เช่น (桌子上 zhuōzishàng บนโต๊ะ)

(桌子下 zhuōzixià ใตโ้ ต๊ะ)

(书包里 shūbāolǐ ในกระเปา๋ )

พรอ้ มทำท่าทางประกอบ ครูพูดประโยคภาษาจีน 3 ประโยคนี้ และใหน้ กเรยี นทำทา่ ทางประกอบ

สลบั กนั ครูทำท่าทาง นกั เรียนพดู ประโยคภาษาจีน

6. ครูสอนนักเรียนเกี่ยวกบั วัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมจนี ในการตอบกลับคนท่ีพูด “ขอบคุณ”กบั

เรา วัฒนธรรมไทย A: ขอบคุณครับ/คะ่

B: ไมเ่ ปน็ ไรครบั /คะ่ ไม่ต้องเกรงใจครับ/คะ่ ยินดคี รบั /ค่ะ

วัฒนธรรมจนี A: 谢谢 xièxiè

B: 不谢 búxiè / 不客气 búkèqì / 没事 méishì
สรปุ ได้ว่า วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมจีนมคี วามคลา้ ยกัน
7. นกั เรียนเปดิ สมุดแบบฝึกหดั ภาษาจนี หน้า 27 ครูให้นกั เรยี นจับคู่ และหาคำตอบท่ีถกู ต้อง ครสู มุ่
เรยี ก
นักเรยี นออกมาเฉลย พรอ้ มอธิบายการเลือกคำตอบทีถ่ กู ต้อง ครสู อนทำความเขา้ ใจใหก้ ับนกั เรียนอกี
ครั้ง
ขนั้ ที่ 3 ขน้ั สรุป
8. ครูใหน้ กั เรยี นทกุ คนอา่ นบทสนทนาภาษาจีนบทที่ 3 พร้อมกนั อกี คร้ัง

9. ครมู อบหมายภาระงานใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัดภาษาจีน 春晖(Chūnhuī Book 1) บท
ที่ 3 หนา้ 28-29

10. ครพู ดู ภาษาจนี กับนกั เรียน (下课 xiàkè เลกิ เรยี น) หัวหนา้ หอ้ งพูด (起立 qǐlì ยืน

ข้ึน ) นักเรียนทุกคนพูดพร้อมกนั วา่ (谢谢老师,老师再见!

xièxièlǎoshī,lǎoshī zàijiàn.ขอบคณุ ครับ/คะ่ คุณครู แล้วพบกันใหม่)

93

7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสามารถเรียนรู้ เรอ่ื ง ใครชอบกนิ แอปเป้ิล
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชิก นกั เรียนสามารถแบง่ กลุ่ม เพยี งพอต่อการรว่ มกนั ทำงาน
เปน็ กลุ่ม
พอประมาณกับสถานท่ี หอ้ งเรยี นภาษาจีนมโี ตะ๊ เกา้ อเี้ พยี งพอกับจำนวนนกั เรยี น

หลักมีเหตผุ ล ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถทำแบบฝึกหดั จากเรื่อง ใครชอบกิน
แอปเป้ิล

หลกั การสรา้ ง การจดั การเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจในการเรยี น เนอื้ หา ไดเ้ ป็น
ภมู ิค้มุ กนั ในตวั ทด่ี ี อยา่ งดที กุ คนมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอนได้เป็นอยา่ งดี

เงื่อนไขความรู้ นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเรื่อง ใครชอบกนิ แอปเป้ิลได้เป็นอย่างดี

เงอ่ื นไขคณุ ธรรม รู้จักการทำงานรว่ มกลมุ่ ซ่ือสัตย์ มคี วามรับผิดชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่ือนไข

พอประมาณ ความรู้

มเี หตุผล คุณธรรม

มภี มู คิ ุ้มกันในตัวที่ดี

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3

2. สอื่ การสอน PowerPoint 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม)้

3. แบบฝึกหดั รายวิชาเพ่มิ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1)

4. ไฟลเ์ สยี งจากหนังสอื เรยี น 春晖(Chūnhuī Book 1)

94

9.การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารผ่าน
การประเมนิ ผล - สงั เกตการพดู สนทนา
ภาษาจีน - แบบบันทกึ การ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ความรู้ความเข้าใจ (K) - สังเกตการอา่ นออก ประเมินการอา่ น ขนึ้ ไป
เสียงคำศัพท์ - แบบบนั ทกึ การ
ทักษะกระบวนการ (P) - สงั เกตการทำงาน ประเมนิ การพูด
เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A)
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60
การเรยี นรู้
สำคัญของผู้เรียน ข้ึนไป

- แบบบันทึกการสังเกต ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
และประเมนิ ผล ขน้ึ ไป
พฤตกิ รรมการเรียนรู้
- แบบประเมิน
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์

95

บนั ทึกหลงั สอนแผนการสอนท่ี ............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่ืองจาก ..........................................................................

2. ผลทีเ่ กดิ กบั ผูเ้ รียน
1.) การประเมินผลความร้หู ลังการเรยี น โดยใช้………………แบบทดสอบหลังเรียน............พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมนิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ

................……..…. ไมผ่ ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทกี่ ำหนดไวค้ ดิ เปน็ รอ้ ยละ.............................ได้แก่ ....................................เลขท.่ี ..............................................
2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช…้ ………………………………..………...............พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคดิ เป็น

ร้อยละ....................……. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขัน้ ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ิดเปน็ ร้อยละ.........................................................................................................................
ไดแ้ ก่ ..............................................................................................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ เรยี น โดยใช…้ ……..…แบบสังเกตพฤตกิ รรม.....................................................................
พบว่านักเรียนผา่ นการประเมินคดิ เปน็ รอ้ ยละ..…....……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้นั ต่ำทก่ี ำหนดไว้คดิ เปน็ ร้อยละ........................................................................
ไดแ้ ก่ .............................................................................................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกับเวลา
 มนี กั เรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
 มนี ักเรยี นทีไ่ มส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ ...................................................................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอื่ ง ............................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ ........................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื ผสู้ อน
( นางสาวกิตติมา สขุ ศิริ )

วันที่……..../................../................

ความคิดเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ งานวิชาการ
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง
2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้นำเอากระบวนการเรียนรู้ 2.การจดั กิจกรรมการเรยี นร้ไู ด้นำเอากระบวนการเรียนรู้
ทเี่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง  ที่เน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อย่าง

เหมาะสมกับศักยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผเู้ รยี น เหมาะสมกบั ศักยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผ้เู รียน
 ท่ียงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป  ท่ียงั ไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้
 นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้  นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… 4.ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ …………………………………………………………………………….

ลงชือ่ ....................................................... ลงช่ือ.......................................................
( นางอังคณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณัฐญิ า คาโส )

96

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รหัสวิชา จ 20201
รายวชิ า ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร 1
เวลา 10 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรอ่ื ง 谁喜欢吃苹果 เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียรู้ที่ 5

1. ผลการเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอา่ น เขยี นและออกเสียงสทั อักษรได้
2. ใช้คำศพั ทภ์ าษาจนี เบือ้ งตน้ ในการฟงั พูด อา่ นเขียนได้
3. รู้และเข้าใจความแตกตา่ งและเหมอื นวัฒนธรรมไทย จีน

2. สาระสำคัญ
การเรียนภาษาจีน นักเรียนเรียนการอ่านออกเสียงคำศัพท์พินอิน อักษรจีน ประโยคภาษาจีน ใน

บทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ไดม้ าทำกิจกรรมในห้องเรยี น การอ่านบทความ และการตอบคำถาม

จากเรื่องที่เรียน ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานในการศึกษาต่างเฉพาะด้านวิชาภาษาจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ

ปรับใชใ้ นชีวิตประจำวันไดเ้ ป็นอย่างดี

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรยี นมีความรู้ และเขา้ ใจในการทำกิจกรรมภาษาจนี ได้อย่างถูกตอ้ ง (K)

2. นักเรยี นจำคำศพั ท์ ประโยค และการอ่านออกเสยี งภาษาจีนได้ (K)

3. นักเรยี นสามารถอ่านออกเสียงบทความภาษาจีนไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (P)

4. นกั เรียนมีความตงั้ ใจ และให้ความรว่ มมอื มุ่งมน่ั ในการเรียนภาษาจีน (A)

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

5. สาระการเรยี นรู้
1. กิจกรรมภาษาจนี

2. บทความภาษาจีน

97

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั ที่ 1 ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรียน

1. ครูบอก (上课 shàngkè เข้าเรียน) หัวหน้าห้องบอก (起立 qǐlì ยืนขึ้น) นักเรียนทุกคน

ยืนขึ้นพูดพร้อมกันว่า(老师好 lǎoshīhǎo สวัสดีคุณครู) ครูบอก (同学们好,请坐。

Tóngxuémenhǎo,qǐngzuò. สวัสดนี กั เรียนทกุ คน เชญิ น่ัง) นกั เรียนทุกคนพดู พรอ้ มกันว่า (谢谢

老师 xièxièlǎoshī ขอบคณุ คณุ ครู) และน่งั ลง

2. ครูใหน้ ักเรียนทบทวนคำศพั ท์ในบทเรียน 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?shuí

Xǐhuan chīpíngguǒ? (ใครชอบกินแอป๊ เป้ิล) และทบทวนเรื่องตวั เลข

3. คร ู ถาม น ั ก เ ร ี ย น ว ั น น ี ้ ว ั น อ ะ ไ ร พ ร ้ อ ม แปลเป ็ น ภ า ษ า จ ี น 今天是星期几?
jīntiānshìxīngqījǐ? ครูเปิดสื่อ VDO youtube What Day Is It Today? (今天星期几?) |
Learning Songs 1 | Chinese song | By Little Fox :ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=Iw-
W9uALPY8 ให้นักเรยี นฟัง 2 รอบ รอบท่ี 3 นักเรียนออกเสยี งตามเพลง
ขัน้ ท่ี 2 ขนั้ สอน

4. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนคำศัพท์จากบัตรคำศพั ท์ที่แจกใหน้ ักเรยี นอา่ น และแต่งประโยคจากคำศัพทท่ี
ไดเ้ พ่อื พานกั เรียนทำกจิ กรรม ช่ือว่า (我们一起坐苹果炒饭。Wǒmenyìqǐzuòpíngguǒ
chǎofàn.พวกเรามาทำข้าวผัดแอ๊ปเปล้ิ ดว้ ยกันเถอะ) การทำกิจกรรม

- นักเรยี นทกุ คนเลอื กวาดภาพ (米饭 mǐfàn ข้าวสวย ) (苹果 píngguǒแอป๊ เปล้ิ )
(鸡蛋 jīdàn ไข่ไก่ ) มา 1 รูปภาพ แลว้ เขยี นอักษรจนี ไวใ้ ตร้ ูปภาพ

- ครูแบ่งนักเรียนเปน็ 4 กลุม่
- นกั เรยี นจบั กลมุ่ กนั เอง โดยสำรวจสมาชิกในการเข้ากลุ่มทม่ี ี วัตถดุ บิ ที่แตกตา่ งกัน
โดยถามเพื่อนเป็นภาษาจีนว่า 你有 nǐyǒu.. (米饭 mǐfàn)/(苹果 píngguǒ)/(鸡蛋

jīdàn) ..吗?ma?

- ตอบคำถาม มี (有 yǒu) ไม่มี (没有 méiyǒu)
- นกั เรยี นทถี่ ามเพ่ือน และหาวตั ถุดิบครบ 3 อยา่ ง จบั กล่มุ ใหม่ 3 คน
- นักเรียนใน 4 กลุ่ม ใครยังไม่มีกลุ่มให้เดินไปหาเพื่อนกลุ่มอื่นที่ยังไม่ได้เข้ากลุ่มเหมือนกัน
และถาม ตอบเปน็ ภาษาจีนเหมอื นเดิม
- ใครทีย่ ังหากล่มุ ไมไ่ ด้ รอ้ งเพลงพรอ้ มกนั
5. ครูพูดภาษาจนี กับนกั เรยี นวา่ (请打开书 qǐngdǎkāishū,翻到第四十五页

fāndàodì sìshíwǔ yè กรณุ าเปิดหนงั สอื ไปหนา้ ที่ 45) ครูใหน้ ักเรียนกลมุ่ เดิม และคนทไี่ ม่มกี ล่มุ อยู่

98

กลุ่มเดียวกัน ช่วยกันอ่านบทความหน้า 45 พร้อมชว่ ยกันแปลความหมาย 10 นาที ครูให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ
ผลดั กนั ออกมาอา่ นบทความภาษาจีนและแปลความหมายภาษาไทย

6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเปิดหนังสือเรียน หน้า 46 ช่วยกันตอบคำถามข้อ 1-6 จากบทความ
ภาษาจีนหน้า 45 เมื่อหมดเวลา ครูเรียกนักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเฉลย กลุ่มละ 1 ข้อ ครูถาม
นักเรยี นวา่ ทเี่ พ่ือนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาเฉลยบนกระดาษดำถูกตอ้ งหรือไม่ ครแู ละนกั เรยี นแก้ไขคำตอบขอ้ ผิด

7. ครูให้นักเรียนกลับมานั่งที่ตัวเอง และลงมือทำ ข้อ 7-10 โดยการแปลความหมาย คำ กลุ่มคำให้
ถูกต้องนกั เรยี นเฉลยพรอ้ มกัน
ข้นั ท่ี 3 ข้นั สรปุ

8. ครูให้นักเรียนอ่านบทความภาษาจนี อีกคร้ัง และสมุ่ ถามความหมายนักเรียนบา้ งคน โดยครูอ่าน
ประโยคไหนให้นกั เรยี นแปลความหมายบทน้ัน
9. ครูมอบหมายภาระงานใหน้ กั เรยี น ฝกึ เขียนบทความภาษาจนี เปน็ ของตวั เอง โดยดตู ัวอย่างจาก
หน้า 45 พร้อมพูดอัดคลปิ เสยี ง สง่ ไฟล์เสยี งนักเรียน มาให้ครู
10. ครพู ูดภาษาจนี กับนักเรียน (下课 xiàkè เลกิ เรียน) หวั หนา้ หอ้ งพดู (起立 qǐlì ยนื ขึน้ )
นักเรียนทกุ คนพดู พรอ้ มกนั วา่ (谢谢老师,老师再见!xièxièlǎoshī,lǎoshī
zàijiàn.ขอบคณุ ครับ/คะ่ คุณครู แลว้ พบกันใหม่)
ภาระงาน
- เขียนบทความภาษาจีน พรอ้ มพูดอดั คลิปเสียง สง่ ครู

99

7.การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หลักความ พอประมาณกบั เวลา นักเรยี นสามารถเรียนรู้ เรื่อง ใครชอบกนิ แอปเป้ิล
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชิก นกั เรยี นสามารถแบง่ กลมุ่ เพียงพอตอ่ การร่วมกนั ทำงาน
เปน็ กลุม่
พอประมาณกับสถานท่ี หอ้ งเรยี นภาษาจีนมโี ต๊ะเกา้ อีเ้ พียงพอกับจำนวนนักเรียน

หลกั มีเหตผุ ล ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถทำแบบฝกึ หัด จากเร่อื ง ใครชอบกิน
แอปเปิล้

หลกั การสรา้ ง การจัดการเรียนสอนแตล่ ะครงั้ นกั เรียนเกิดความเขา้ ใจในการเรยี น เน้อื หา ได้เปน็
ภูมคิ ้มุ กนั ในตวั ท่ีดี อยา่ งดีทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนไดเ้ ปน็ อย่างดี

เงื่อนไขความรู้ นกั เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจเรือ่ ง ใครชอบกินแอปเปิล้ ไดเ้ ป็นอย่างดี

เง่อื นไขคณุ ธรรม รู้จักการทำงานรว่ มกล่มุ ซื่อสตั ย์ มีความรบั ผิดชอบ

การบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงอื่ นไข

พอประมาณ ความรู้

มีเหตุผล คุณธรรม

มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน 春晖(Chūnhuī Book 1) บทที่ 3

2. สื่อการสอน PowerPoint 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

shuíxǐhuanchī píngguǒ? (ใครชอบทานผลไม้)

3. แบบฝึกหดั รายวชิ าเพ่มิ เติม 春晖(Chūnhuī Book 1) บทท่ี 3

4. บัตรคำศัพท์ภาษาจีน 第三课 dìsānkè 谁喜欢吃苹果?

5. ส่อื VDO youtube What Day Is It Today? (今天星期几?) | Learning Songs 1 |

Chinese song | By Little Fox :ลง้ิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Iw- W9uALPY8

100

9.การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การผา่ น
การประเมินผล
- สังเกตการถาม ตอบ - แบบบันทึกการ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) ภาษาจีน ประเมนิ การอา่ น ขึ้นไป
- สังเกตการอา่ นออก - แบบบนั ทกึ การ
ทักษะกระบวนการ (P) เสยี งคำศพั ท์ ประเมนิ การพูด
- สังเกตการทำงาน
- แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60

สำคญั ของผ้เู รยี น ขึ้นไป

เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบบันทึกการสงั เกต ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60
การเรยี นรู้ และประเมนิ ผล ขน้ึ ไป
พฤตกิ รรมการเรียนรู้
- แบบประเมนิ
คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์


Click to View FlipBook Version