The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2022-05-26 10:28:22

ประว้ติศาสตร์ 1

ส21103

เฉลยใบงานที่ 3.3
การสรา้ งสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาของมนุษย์กอ่ นประวัติศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย

คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

1. ปจั จัยใดบ้างท่มี ีอิทธิพลตอ่ การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของมนุษยก์ อ่ นประวตั ศิ าสตร์ในดินแดนประเทศไทย

1) ความต้องการความมั่นคงในการดำรงชีวติ ประจำวัน

2) สภาพภมู ศิ าสตรแ์ ละส่งิ แวดล้อม
3) คตคิ วามเชอ่ื

2. ภูมิปัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตั ิศาสตรใ์ นดินแดนประเทศไทยมกั เก่ยี วขอ้ งกับเรื่องใด

ภูภมู ิปญั ญาเพอื่ ความมน่ั คงในการดำรงชวี ติ ประจำวัน เชน่ การทำเกษตรเพอ่ื การบริโภค เป็นตน้ ปัญญาเพอ่ื

ความม่นั คงในการดำรงชวี ิตประจำวนั เช่น การทำเกษตรเพือ่ การบรโิ ภค เปน็ ต้น

3. ภูมิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทย สามารถเรยี งลำดบั ได้อยา่ งไร

เครือ่ งมอื หิน  การสร้างท่ีพักพิง  การปลูกข้าว  เคร่ืองมือเครื่องใช้สำรดิ 
เครือ่ งมอื เคร่ืองใชเ้ หลก็

4. ตัวอย่างพัฒนาการภมู ิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวัตศิ าสตรใ์ นดินแดนประเทศไทยในด้านตา่ งๆ ได้แก่อะไรบ้าง

1) พฒั นาการด้านเกษตรกรรม เช่น การทำไรเ่ ล่ือนลอย การทำเครื่องมือเกษตร เครื่องทุน่ แรง การทดนำ้
2) พฒั นาการดา้ นโลหกรรม เชน่ การทำเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยเหลก็ และสำริด
3) พัฒนาการดา้ นหัตถกรรม เช่น การทอผ้าจากเสน้ ใยพืช ป่าน กัญชา เส้นใยจากสตั ว์ ไหม การย้อมสี
ดว้ ยเปลือกไม้

4) พฒั นาการด้านการสรา้ งทีอ่ ยู่อาศัย เชน่ อาศยั ถำ้ หรือเพงิ ผาป้องกนั อนั ตรายจากธรรมชาติ
5) พฒั นาการดา้ นการรักษาโรค เชน่ การเจาะกะโหลกมนุษย์เพื่อรกั ษาโรคหรอื ปลดปล่อยผรี า้ ย
5. ตวั อย่างภมู ปิ ัญญาของมนุษย์ก่อนประวตั ิศาสตร์ในดินแดนประเทศไทยทยี่ ังคงมีอยู่ในปัจจบุ ัน ได้แก่สิ่งใดบ้าง

1) พัฒนาการด้านเกษตรกรรม เช่น การทำเครื่องมอื เกษตร การสร้างอา่ งเกบ็ นำ้
2) พัฒนาการดา้ นโลหกรรม เชน่ การทำเคร่ืองมือจากเหล็กท่ีไม่เป็นสนมิ
3) พัฒนาการดา้ นหัตถกรรม เช่น การยอ้ มสจี ากสิ่งท่ีไดจ้ ากธรรมชาติ การทำเครอื่ งปน้ั ดนิ เผา
4) พัฒนาการด้านการสร้างที่อยู่อาศยั เช่น การสรา้ งบ้านใตถ้ ุนสูงป้องกนั นำ้ ท่วม
5) พัฒนาการด้านการรักษาโรค เช่น การใช้สมนุ ไพร การแพทย์แผนไทย

แผนการจัดการเรยี นรู้

รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ รหสั วชิ า ส 21103 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1
โรงเรียนพนมศึกษา
กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 10 ชว่ั โมง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เร่ือง สมยั ก่อนสโุ ขทัยในดนิ แดนไทย จำนวน 1 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 เรอื่ ง พฒั นาการจากชมุ ชนมาสรู่ ฐั โบราณ

ผสู้ อน นางสาวสดุ ารัตน์ ทองคำ

ใชส้ อนช้ัน ช่วั โมง วนั ที่ เดือน พ.ศ. เวลา

1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทยวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรกั ความภมู ิใจและธำรง

ความเปน็ ไทย

2. สาระสำคัญ
การพัฒนาจากชุมชนมาสูร่ ฐั โบราณนั้นเปน็ ไปตามลำดับจากชุมชน เปน็ บา้ นเมอื ง แคว้นหรอื รัฐ และอาณาจกั ร

3. ตัวชีว้ ัด
3.1 ตัวชีว้ ัด ม.1/1 อธิบายเร่อื งราวทางประวตั ศิ าสตรส์ มยั ก่อนสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสงั เขป
3.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
อธิบายพัฒนาการของชมุ ชนโบราณในด้านตา่ งๆ จนกลายเปน็ อาณาจักรได้

4. สาระการเรยี นรู้
สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ในดนิ แดนไทยโดยสงั เขป

5. สมรรถนะสำคญั
5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.2.1 ทกั ษะการสำรวจค้นหา
5.2.2 ทักษะการวิเคราะห์
5.2.3 ทักษะการตคี วาม
5.2.4 ทักษะการสรุปลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 มีวินัย
6.2 ใฝ่เรียนรู้
6.3 มุ่งม่นั ในการทำงาน

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
วธิ สี อนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)

ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
ครูใหน้ กั เรียนดูภาพตัวอย่างหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับตัวอย่าง

หลักฐานดงั กลา่ ว

ขัน้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)
นักเรียนกลมุ่ เดิมจับคู่กันเปน็ 2 คู่ ให้แต่ละค่รู ว่ มกันศึกษาความร้เู รอ่ื ง พฒั นาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณจาก

หนงั สือเรยี น

ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. นกั เรยี นแตล่ ะครู่ วมกลุ่มเดิม (4 คน) ผลดั กนั นำความรทู้ ่ีได้จากการศึกษามาอธบิ ายให้เพอื่ นอีกคหู่ น่ึงภายใน

กลุ่มฟัง ผลัดกันซกั ถามข้อสงสัยและอธิบายจนทุกคนมีความเขา้ ใจตรงกนั
2. ครอู ธบิ ายความรู้เกย่ี วกับพัฒนาการของชุมชนโบราณในด้านตา่ งๆ ให้นักเรยี นฟงั เพิ่มเติม เพ่ือให้นักเรยี นมี

ความรคู้ วามเข้าใจ

ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกันทำใบงานท่ี 3.4 เรื่อง พฒั นาการจากชมุ ชนมาสูร่ ฐั โบราณ เม่ือทำเสรจ็ แล้วให้ชว่ ยกนั

ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเติมเต็มคำตอบใหส้ มบรู ณ์

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบในใบงานท่ี 3.4
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรูเ้ ร่ือง พฒั นาการจากชมุ ชนโบราณมาสรู่ ัฐโบราณ

8. สื่ออปุ กรณแ์ ละแหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น ประวัติศาสตร์ ม.1
2) ใบงานที่ 3.4 เร่อื ง พฒั นาการจากชมุ ชนมาสู่รัฐโบราณ
3) บตั รภาพ
8.2 แหล่งการเรียนรู้
-

๙. การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (๓ หว่ ง ๒ เง่ือนไข ๔ มิติ)

หลักความพอประมาณ - วเิ คราะหส์ มรรถนะและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ทส่ี อดคล้องกนั
หลกั มีเหตุผล - ออกแบบกิจกรรมที่สอดคลอ้ งกับตัวช้ีวัด
- ใช้เคร่อื งมือวธิ ีประเมินทหี่ ลากหลายเหมาะสมกบั ตัวชว้ี ดั
หลักสรา้ งภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี
- จดั กระบวนการเรยี นรูท้ ี่คำนกึ ถงึ ความรคู้ วามสามารถของผ้เู รยี น
เง่ือนไขความรู้
เงอ่ื นไขคณุ ธรรม - ศกึ ษาเน้ือหาสาระรปู แบบกิจกรรมให้บรรลุตามตัวช้ีวัด
- จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน

การสอนและสามารถนำไปใช้ไดใ้ นกรณขี าดแคลนครูสอน

- อธิบายพัฒนาการของชุมชนโบราณในด้านต่างๆ จนกลายเป็ น
อาณาจกั รได้

- มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ การทำงาน

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ๔ มิติ

เศรษฐกจิ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม

10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
วธิ กี าร

ตรวจใบงานที่ 3.4 ใบงานที่ 3.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบบันทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ัน
ในการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

บตั รภาพ



ภาพลูกปดั หินคาร์นเี ลียน พบที่ อ. อ่ทู อง จ. สุพรรณบรุ ี ภาพตราประทับดนิ เผา พบท่ี อ. ตาคลี จ. นครสวรรค์

ภาพปนู ปั้นรูปหน้าคนตา่ งชาติ พบท่ีเมืองคบู วั จ. ราชบรุ ี ภาพเหรยี ญเงนิ พบท่ัวไปตามเมืองทา่ ชายฝัง่ ทะเล

ภาพโครงกระดูกมนษุ ย์ พบทีบ่ ้านโนนวดั จ. นครราชสีมา ภาพปรางคแ์ ขก อ. เมือง จ. ลพบรุ ี

ทมี่ า : ณรงค์ พว่ งพศิ และวุฒชิ ยั มลู ศลิ ป์. 2552. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ประวัติศาสตร์ ม.1. พมิ พค์ รงั้ ที่ 9.
กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทัศน์.

ใบงานท่ี 3.4
พัฒนาการจากชมุ ชนมาสู่รัฐโบราณ

คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ปัจจยั ใดท่ที ำให้ชุมชนสามารถพัฒนามาเปน็ บา้ นเมืองได้

2. ปจั จัยใดท่ที ำให้บ้านเมืองสามารถพฒั นาเป็นแควน้ หรอื รัฐได้

3. สภาพสังคมของแคว้นประกอบดว้ ยชนชั้นใดบา้ ง

4. ปัจจัยใดบา้ งที่ส่งผลใหก้ ารพัฒนาจากแคว้นหรอื รฐั ข้ึนเปน็ อาณาจักรในแตล่ ะแหง่ มีความแตกตา่ งกัน

5. รฐั โบราณมคี วามสำคญั ต่อรัฐไทยในเวลาต่อมาอยา่ งไรบ้าง

เฉลยใบงานที่ 3.4
พฒั นาการจากชมุ ชนมาสู่รัฐโบราณ

คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ปจั จัยใดที่ทำใหช้ ุมชนสามารถพฒั นามาเป็นบา้ นเมืองได้

1) การเลือกตั้งชมุ ชนในภูมปิ ระเทศทีเ่ หมาะสม
2) การติดต่อกับชุมชนภายนอก

2. ปจั จัยใดที่ทำให้บ้านเมืองสามารถพัฒนาเปน็ แคว้นหรือรัฐได้

1) การรวมตัวอยูใ่ นอาณาเขตท่แี น่นอนชดั เจน
2) การมผี ้คู นจำนวนมากพอและมีผู้นำหรือผ้ปู กครอง
3) ผู้ปกครองจัดการปกครองใหเ้ ป็นระเบียบและเกดิ ความสงบสขุ ในสังคม
3. สภาพสงั คมของแคว้นประกอบดว้ ยชนชั้นใดบา้ ง

ชนช้นั ปกครอง คือ กษัตรยิ แ์ ละขนุ นาง และชนช้นั ทถ่ี กู ปกครอง คือ ราษฏรท่ัวไป โดยมีพระสงฆ์ นักบวช
พราหมณ์ทำหน้าท่ีประกอบพิธกี รรมทางศาสนา

4. ปจั จยั ใดบา้ งที่ส่งผลใหก้ ารพัฒนาจากแควน้ หรือรฐั ข้ึนเป็นอาณาจักรในแตล่ ะแห่งมีความแตกตา่ งกนั
1) สภาพท่ีตง้ั ทางภมู ิศาสตร์
2) ความพร้อมทางเศรษฐกิจ
3) ความเขม้ แข็งทางทหาร
4) ความศกั ด์ิสทิ ธ์ิของผ้ปู กครอง

5. รัฐโบราณมีความสำคญั ต่อรัฐไทยในเวลาตอ่ มาอย่างไรบ้าง

เป็นรากฐานสำคญั ของอารยธรรมไทย

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 21103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
โรงเรียนพนมศึกษา
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จำนวน 10 ชว่ั โมง

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง สมัยก่อนสโุ ขทัยในดินแดนไทย จำนวน 2 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 เรือ่ ง รัฐโบราณและรฐั ไทยในดินแดนไทย

ผ้สู อน นางสาวสุดารัตน์ ทองคำ

ใชส้ อนชน้ั ชวั่ โมง วันท่ี เดือน พ.ศ. เวลา

1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทยวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจและธำรง

ความเป็นไทย

2. สาระสำคญั
พัฒนาการของรฐั โบราณและรฐั ไทยในดนิ แดนไทยมีหลักฐานแสดงถึงอาณาจักรโบราณในทุกภาคของไทย

3. ตวั ช้วี ัด
3.1 ตัวชว้ี ดั ม.1/1 อธิบายเรอื่ งราวทางประวตั ิศาสตรส์ มัยก่อนสโุ ขทยั ในดนิ แดนไทยโดยสงั เขป
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.2.1 อธิบายพฒั นาการของรัฐโบราณในดนิ แดนไทยได้
3.2.2 อธิบายพฒั นาการของรัฐไทยในดนิ แดนไทยได้

4. สาระการเรียนรู้
1) รฐั โบราณในดนิ แดนไทย เช่น ศรวี ชิ ยั ตามพรลงิ ค์ ทวารวดี
2) รฐั ไทยในดินแดนไทย เช่น ล้านนา นครศรธี รรมราช สพุ รรณภูมิ

5. สมรรถนะสำคัญ
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.2.1 ทักษะการสำรวจค้นหา
5.2.2 ทักษะการวเิ คราะห์
5.2.3 ทกั ษะการตีความ
5.2.4 ทักษะการสรุปลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 มวี ินัย
6.2 ใฝเ่ รียนรู้
6.3 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธีสอนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)

ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมาจับสลากบัตรคำเก่ียวกับพัฒนาการของชมุ ชนมาสรู่ ฐั โบราณในดินแดน
ไทย
2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันอภิปรายความรเู้ กี่ยวกบั บตั รคำทจ่ี ับสลากได้วา่ มีลักษณะและมีความสำคญั
อยา่ งไร
3. ครูส่มุ นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มให้บอกลักษณะและความสำคัญของบตั รคำทจี่ บั สลากได้

ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore)
1. นักเรียนกลมุ่ เดิมกำหนดหมายเลขประจำตวั ใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุม่ เปน็ หมายเลข 1-4 ตามลำดับ เรียก
กลุ่มน้ีว่า กลุม่ บ้าน แล้วให้นักเรยี นทีม่ ีหมายเลขเดียวกนั มารวมกันเป็นกลมุ่ ใหม่ เรียกกลุ่มน้วี ่า กลมุ่ ผู้เชี่ยวชาญ
2. นกั เรียนกลมุ่ ผู้เช่ยี วชาญรว่ มกันศึกษาความรู้เร่ือง รัฐโบราณและรฐั ไทยในดนิ แดนไทย จากหนังสอื เรียน
ในหัวข้อ ทกี่ ำหนดให้ ดังนี้
- กลมุ่ หมายเลข 1 ศึกษาความรเู้ รือ่ ง พัฒนาการของอาณาจักรโบราณในภาคกลาง
- กลมุ่ หมายเลข 2 ศึกษาความร้เู รอ่ื ง พัฒนาการของอาณาจักรโบราณในภาคเหนือ
- กลุ่มหมายเลข 3 ศึกษาความรู้เร่อื ง พฒั นาการของอาณาจักรโบราณในภาคใต้
- กลมุ่ หมายเลข 4 ศึกษาความรูเ้ ร่ือง พฒั นาการของอาณาจักรโบราณในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. นกั เรยี นกลุม่ ผ้เู ชยี่ วชาญกลับเขา้ สกู่ ลุม่ เดมิ หรือกลุ่มบา้ น ผลัดกนั นำความรู้ท่ีได้จากการศกึ ษามาอธบิ ายให้
เพอื่ น
ในกล่มุ ฟงั เรยี งตามลำดับหมายเลข 1-4 ผลดั กันซกั ถามขอ้ สงสัยและอธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชดั เจน
ตรงกัน
2. ครอู ธิบายความรู้เกย่ี วกบั พฒั นาการของอาณาจกั รโบราณในดนิ แดนไทย ให้นักเรยี นฟงั เพิ่มเตมิ

ข้นั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)
นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นำความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษามาเป็นพ้ืนฐานในการทำใบงานที่ 3.5 เร่อื ง พัฒนาการของ
อาณาจกั รโบราณในดนิ แดนไทย เม่ือทำเสรจ็ แล้วชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง หากมีข้อบกพร่องให้ชว่ ยกนั
แกไ้ ขและเตมิ เต็มคำตอบใหส้ มบรู ณ์

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 3.5 หน้าชนั้ เรียน ครแู ละเพ่ือนกลุ่มอนื่ รว่ มกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและให้ขอ้ เสนอแนะ
2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ รือ่ ง รฐั โบราณและรัฐไทยในดนิ แดนไทย

8. สอ่ื อปุ กรณ์และแหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน ประวตั ิศาสตร์ ม.1
2) ใบงานที่ 3.5 เร่ือง พัฒนาการของอาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทย
3) บตั รคำ
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/05
- http://www.aksorn.com/LC/Hist/M1/06
- http://www.aksorn.com/LC/HIst/M1/07

๙. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข ๔ มิต)ิ

- วิเคราะหส์ มรรถนะและคณุ ลักษณะอันพึงประสงคท์ ่สี อดคล้องกนั

หลกั ความพอประมาณ - ออกแบบกิจกรรมทส่ี อดคล้องกับตัวช้ีวัด

- ใชเ้ คร่ืองมือวธิ ปี ระเมนิ ท่ีหลากหลายเหมาะสมกบั ตัวชวี้ ดั

หลักมีเหตุผล - จัดกระบวนการเรียนรทู้ ่ีคำนึกถึงความรู้ความสามารถของผู้เรยี น

- ศึกษาเนอ้ื หาสาระรปู แบบกิจกรรมให้บรรลตุ ามตัวช้ีวดั

หลักสร้างภูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ดี ี - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน

การสอนและสามารถนำไปใชไ้ ด้ในกรณขี าดแคลนครสู อน

เง่อื นไขความรู้ - อธบิ ายพัฒนาการของรัฐโบราณในดนิ แดนไทยได้
- อธิบายพฒั นาการของรฐั ไทยในดนิ แดนไทยได้

เงื่อนไขคณุ ธรรม - มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ การทำงาน

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ๔ มติ ิ

เศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม

10. การวัดผลและประเมนิ ผล เคร่ืองมอื เกณฑ์
วิธีการ

ตรวจใบงานท่ี 3.5 ใบงานท่ี 3.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตความมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ในการทำงาน

ใบงานที่ 3.5

พฒั นาการของอาณาจกั รโบราณในดินแดนไทย

ตอนท่ี 1
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1. ในแต่ละภูมภิ าคของไทยมีร่องรอยของอาณาจักรโบราณอาณาจักรใดบ้าง
- ภาคกลาง เชน่ อาณาจักรทวารวดี อาณาจักรละโว้
- ภาคเหนือ เชน่ อาณาจักรโยนกเชยี งแสน อาณาจกั รหรภิ ญุ ชยั อาณาจกั รลา้ นนา
- ภาคใต้ เชน่ อาณาจักรลงั กาสุกะ อาณาจักรตามพรลงิ ค์ อาณาจักรศรวี ชิ ัย
- ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เช่น อาณาจกั รโคตรบรู ณ์ อาณาจกั รอศิ านปุระ

2. หลักฐานใดบ้างท่ีแสดงถงึ ความเปน็ อาณาจกั รโบราณของอาณาจักรตา่ งๆ ในดินแดนไทย
หลกั ฐานทางโบราณคดีต่างๆ เชน่ เหรยี ญโบราณ ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมทางศาสนา และ

หลกั ฐานท่ีเปน็ ลายลักษณ์อักษรต่างๆ เช่น จารกึ โบราณ บันทกึ ของชาวตา่ งชาติ และตำนานพ้ืนบ้าน เปน็ ต้น

3. นักเรียนคดิ ว่า ความเจรญิ ในท้องถ่ินที่นกั เรียนอาศัยอยมู่ ีความเกย่ี วขอ้ งกับอาณาจักรโบราณอาณาจักรใดมา
ก่อน อธิบายเหตผุ ลพรอ้ มยกตัวอยา่ งประกอบใหช้ ดั เจน

(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู ้สู อน)

ตอนท่ี 2
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นสรปุ ความเจรญิ ของอาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทย ตามประเดน็ ที่กำหนด

1. อาณาจักรทวารวดี
1) หลักฐานทปี่ รากฏเรอ่ื งราวของอาณาจักร เชน่ บันทึกการเดินทางของหลวงจีนอจ้ี ิง บนั ทึกของหลวงจีนฉวฉัง
จารกึ หลกั ท่ี 30 เป็นต้น
2) พัฒนาการความเจรญิ ของอาณาจักร สนั นิษฐานวา่ เปน็ ชาวมอญ ต้งั อาณาจกั รอยบู่ รเิ วณทร่ี าบลุ่มแม่นำ้

3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจกั ร เช่น พระพทุ ธรปู ศิลาขาว วัดพระปฐมเจดีย์ จงั หวัดนครปฐม ธรรมจกั ร
และกวางหมอบ จารกึ มอญ เปน็ ตน้

2. อาณาจักรละโว้
1) หลักฐานทป่ี รากฏเรอื่ งราวของอาณาจักร เชน่ จดหมายเหตจุ ีนเรียกละโวว้ ่า “หลอหู่” จารกึ หลักที่ 18
ที่ศาลพระกาฬชนิ กาลมาลีปกรณ์
2) พัฒนาการความเจริญของอาณาจักร สนั นิษฐานว่าเปน็ ชาวมอญ ต้ังอาณาจกั รอย่บู รเิ วณแม่น้ำ 3 สาย คอื

3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ พระปรางคส์ ามยอด ปรางคแ์ ขก จังหวดั ลพบุรี เปน็ ต้น
3. อาณาจักรโยนกเชียงแสน

1) หลักฐานที่ปรากฏเรอ่ื งราวของอาณาจักร เช่น ตำนานสงิ หนวตั ิกุมารและตำนานลวจงั กราช
2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจักร เจา้ ชายจากมณฑลยูนานไดอ้ พยพผ้คู นมาตังเมืองทเ่ี ชยี งแสน

ขอมเข้ายดึ ครอง จงึ มีการอพยพสรา้ งเมืองใหมห่ ลายครง้ั ต่อมาอพยพจากเชยี งแสนมายงั เวยี งไชยปราการ
และอพยพมายงั กำแพงเพชร จนในทีส่ ดุ ตกเป็นสว่ นหนึง่ ของอาณาจักรลา้ นนา
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจกั ร เชน่ เจดียว์ ดั ปา่ สัก จังหวัดเชยี งราย เปน็ ต้น
4. อาณาจักรหริภญุ ชัย
1) หลักฐานทป่ี รากฏเรื่องราวของอาณาจักร เช่น ตำนานจามเทวีวงศ์ หรือตำนานเมืองหรภิ ุญชยั
2) พัฒนาการความเจรญิ ของอาณาจกั ร สนั นษิ ฐานว่าเป็นชาวมอญท่ีอพยพมาจากละโว้ จนเมอ่ื พระเจา้ อาทติ ย

3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจกั ร เช่น พระธาตุหรภิ ญุ ชัย จงั หวดั ลำพูน เป็นตน้
5. อาณาจักรล้านนา

1) หลักฐานทปี่ รากฏเรื่องราวของอาณาจักร เชน่ ตำนานพ้ืนเมืองเชียงใหม่ พงศาวดารโยนก ตำนานมลู ศาสนา
เปน็ ตน้

2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจกั ร ผ้กู ่อตั้งอาณาจักรลา้ นนา คือ พระยามังรายมหาราช

3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจักร เชน่ กฎหมายมังรายศาสตร์ สถาปัตยกรรมเวยี งกุมกาม วดั เจดีย์หลวง
อกั ษรธรรมลา้ นนา เป็นตน้

6. อาณาจักรลังกาสุกะ
1) หลักฐานท่ปี รากฏเรอื่ งราวของอาณาจักร เชน่ จดหมายเหตุหลวงจนี อีจ้ ิง
2) พฒั นาการความเจรญิ ของอาณาจักร มกี ษัตริย์ปกครอง เป็นเมืองท่าคา้ ขายกบั จีน-อินเดีย นับถอื ศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดู และพระพทุ ธศาสนานิกายมหายาน ต่อมาภายหลงั อยใู่ ต้อิทธพิ ลอาณาจักรศรีวิชัย
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ เมืองโบราณยะรัง จงั หวัดปตั ตานี เป็นตน้

7. อาณาจักรตามพรลงิ ค์
1) หลกั ฐานที่ปรากฏเรื่องราวของอาณาจักร เชน่ เอกสารอินเดียเรยี ก “ตมลิง” เอกสารจีนเรยี ก “ถ่ามเหล่ง/
ตา่ นหมา่ ลิ่ง”
2) พัฒนาการความเจริญของอาณาจักร มกี ษตั ริย์ปกครอง เป็นเมอื งทา่ คา้ ขายกบั พ่อค้าอนิ เดยี -จนี มคี วาม

3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจักร เชน่ เจดยี พ์ ระบรมธาตุในวัดพระมหาธาตวุ รวหิ าร จงั หวัดในครศรธี รรม
ราช เปน็ ตน้

8. อาณาจักรศรวี ชิ ัย
1) หลักฐานทปี่ รากฏเรื่องราวของอาณาจักร เชน่ บนั ทกึ ของหลวงจนี อ้ีจงิ หนังสือจฟู านฉีของเกาจูกวั
นายด่านศลุ กากรของจีน บนั ทกึ สุไลมาน พ่อคา้ ชาวอาหรบั จารกึ หลกั ท่ี 23 จารึกหลกั ท่ี 25 ทีไ่ ชยา เป็น
ตน้
2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจักร เป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลระหว่างจนี -อนิ เดยี นบั ถอื ศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดู พระพุทธศาสนานกิ ายเถรวาท และพระพุทธศาสนานกิ ายลังกาวงศ์
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ เจดยี ์พระบรมธาตุไชยา พระพุทธรปู างนาคปรกสำรดิ ที่วดั หวั เวียง
อำเภอไชยา จังหวัดสรุ าษฏร์ธานี เปน็ ตน้

9. อาณาจักรโคตรบรู ณ์
1) หลักฐานท่ีปรากฏเร่อื งราวของอาณาจักร เชน่ ตำนานอุรงั คธาตุ พงศาวดารเหนอื เอกสารจีน
2) พัฒนาการความเจรญิ ของอาณาจักร มกี ษตั ริย์ปกครอง ได้รับอทิ ธิพลของอินเดีย มีการนับถือพระพทุ ธศาส
นิกายเถรวาท มีความเช่ือพ้นื เมืองเรื่องการนับถือสิง่ ศกั ดสิ์ ิทธิ์ และการบูชาพญานาค ภายหลงั ต่อมาตกเปน็
เมืองข้นึ
ของอาณาจักรลา้ นชา้ ง
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นต้น

10. อาณาจักรอิศานปุระ
1) หลกั ฐานทป่ี รากฏเรื่องราวของอาณาจักร เช่น จดหมายเหตุจีน บันทกึ ของราชทูตจีนโจว ตา้ กวน
2) พัฒนาการความเจริญของอาณาจกั ร เป็นอาณาจักรขอมตั้งอยูร่ ะหว่างอาณาจกั รทวารวดแี ละอาณาจักรจาม
ปา
ได้แก่ บรเิ วณทเี่ ป็นประเทศกัมพูชาในปัจจุบนั ปกครองในระบอบสมบูรณาญสิทธิราชย์ มีขุนนาง ใชร้ ะบบ
จุตสดมภ์
ใชก้ ฎหมายพระธรรมศาสตร์ นบั ถือศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู พระพทุ ธศาสนานิกายมหายาน
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจักร เช่น ปราสาทหนิ ขนาดใหญ่ เช่น ปราสาทหินพมิ าย ปราสาทหินพนมรุ้ง
ปราสาทเมอื งตำ่ ปราสาทศขี รภูมิ เปน็ ตน้

เฉลยใบงานท่ี 3.5

พัฒนาการของอาณาจักรโบราณในดินแดนไทย

ตอนที่ 1
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี

1. ในแตล่ ะภูมิภาคของไทยมีรอ่ งรอยของอาณาจักรโบราณอาณาจกั รใดบา้ ง
- ภาคกลาง เชน่ อาณาจักรทวารวดี อาณาจกั รละโว้
- ภาคเหนอื เช่น อาณาจักรโยนกเชยี งแสน อาณาจกั รหรภิ ญุ ชยั อาณาจักรล้านนา
- ภาคใต้ เชน่ อาณาจักรลังกาสุกะ อาณาจักรตามพรลงิ ค์ อาณาจักรศรวี ิชยั
- ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เช่น อาณาจักรโคตรบูรณ์ อาณาจกั รอิศานปุระ

2. หลกั ฐานใดบา้ งท่ีแสดงถงึ ความเป็นอาณาจกั รโบราณของอาณาจกั รต่างๆ ในดนิ แดนไทย
หลักฐานทางโบราณคดีตา่ งๆ เชน่ เหรยี ญโบราณ ประติมากรรม และสถาปตั ยกรรมทางศาสนา และ

หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรต่างๆ เชน่ จารึกโบราณ บันทึกของชาวตา่ งชาติ และตำนานพนื้ บ้าน เปน็ ต้น
3. นักเรยี นคดิ ว่า ความเจริญในท้องถ่นิ ท่นี กั เรยี นอาศยั อยู่มีความเก่ียวข้องกับอาณาจักรโบราณอาณาจกั รใดมา

ก่อน อธบิ ายเหตผุ ลพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบใหช้ ดั เจน
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)

ตอนที่ 2
คำช้แี จง ให้นกั เรียนสรปุ ความเจรญิ ของอาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทย ตามประเดน็ ท่ีกำหนด

1. อาณาจักรทวารวดี
1) หลกั ฐานท่ีปรากฏเรือ่ งราวของอาณาจักร เชน่ บันทกึ การเดนิ ทางของหลวงจีนอ้ีจิง บันทกึ ของหลวงจีนฉวน
ฉังจารึกหลักท่ี 30 เป็นต้น
2) พฒั นาการความเจรญิ ของอาณาจักร สนั นิษฐานวา่ เปน็ ชาวมอญ ตัง้ อาณาจกั รอยู่บริเวณท่ีราบลมุ่ แม่นำ้
เจ้าพระยา ปกครองโดยกษตั ริย์ มเี จา้ นายปกครองด้วย แต่มีความสัมพนั ธใ์ นลักษณะเครือญาติ มีการแบ่ง
ชนช้นั นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู และพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ พระพทุ ธรูปศลิ าขาว วัดพระปฐมเจดีย์ จงั หวัดนครปฐม ธรรมจักร
และกวางหมอบ จารกึ มอญ เปน็ ตน้

2. อาณาจักรละโว้
1) หลกั ฐานที่ปรากฏเรือ่ งราวของอาณาจักร เช่น จดหมายเหตจุ ีนเรยี กละโวว้ ่า “หลอหู่” จารกึ หลักที่ 18
ท่ีศาลพระกาฬชนิ กาลมาลปี กรณ์
2) พฒั นาการความเจรญิ ของอาณาจักร สนั นษิ ฐานว่าเป็นชาวมอญ ตั้งอาณาจกั รอย่บู ริเวณแม่นำ้ 3 สาย คอื
เจ้าพระยา ป่าสัก และลพบุรี ปกครองโดยกษตั รยิ ์ มกี ารนบั ถือพระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท นิกาย
มหายาน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และความเช่ือพ้นื เมอื ง เช่น การบชู าบรรพบุรษุ มีการแบง่ ชนชน้ั เศรษฐกจิ
ขนึ้ กบั การเกษตร มกี ารติดตอ่ ค้าขายกับจีนและอนิ เดยี
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจักร เชน่ พระปรางค์สามยอด ปรางคแ์ ขก จังหวดั ลพบุรี เปน็ ตน้

3. อาณาจักรโยนกเชียงแสน
1) หลกั ฐานท่ีปรากฏเรื่องราวของอาณาจักร เชน่ ตำนานสิงหนวตั ิกมุ ารและตำนานลวจังกราช
2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจักร เจ้าชายจากมณฑลยูนานไดอ้ พยพผู้คนมาต้ังเมืองทเ่ี ชียงแสน
ขอมเขา้ ยดึ ครอง จงึ มีการอพยพสร้างเมืองใหม่หลายคร้ัง ต่อมาอพยพจากเชยี งแสนมายังเวียงไชยปราการ
และอพยพมายงั กำแพงเพชร จนในทส่ี ุดตกเปน็ สว่ นหน่งึ ของอาณาจักรลา้ นนา
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจกั ร เช่น เจดยี ว์ ัดปา่ สกั จังหวัดเชยี งราย เปน็ ตน้

4. อาณาจักรหรภิ ุญชยั
1) หลกั ฐานทป่ี รากฏเรื่องราวของอาณาจักร เช่น ตำนานจามเทววี งศ์ หรือตำนานเมืองหริภุญชยั
2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจกั ร สนั นิษฐานวา่ เปน็ ชาวมอญท่ีอพยพมาจากละโว้ จนเม่อื พระเจ้าอาทติ ย
ราชไดเ้ ข้ามาปกครอง ไดท้ รงสรา้ งความเจริญรงุ่ เรือง โดยเฉพาะการทำนุบำรงุ พระพุทธศาสนา ตอ่ มา
ภายหลังได้ตกเปน็ สว่ นหน่งึ ของอาณาจกั รล้านนา
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจกั ร เช่น พระธาตุหรภิ ญุ ชยั จงั หวัดลำพูน เป็นต้น

5. อาณาจักรล้านนา
1) หลกั ฐานทป่ี รากฏเร่อื งราวของอาณาจักร เช่น ตำนานพ้ืนเมืองเชียงใหม่ พงศาวดารโยนก ตำนานมลู ศาสน
เปน็ ต้น
2) พัฒนาการความเจรญิ ของอาณาจักร ผูก้ ่อตงั้ อาณาจักรล้านนา คอื พระยามังรายมหาราช
ปกครองแบบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ ใช้กฎหมายมังรายศาสตร์ นบั ถอื พระพุทธศาสนาลัทธิลงั กาวงศ์ มี
ตัวอกั ษร เปน็ ของตนเอง เป็นไมตรีกับสโุ ขทยั ภายหลงั อ่อนแอ ทำให้อยุธยาและพม่าผลัดกนั เขา้ ไปปกครอง
ในฐานะเมืองประเทศราชจนถึงสมยั รชั กาลที่ 5 จงึ ตกเป็นส่วนหนง่ึ ของไทย
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจักร เช่น กฎหมายมงั รายศาสตร์ สถาปัตยกรรมเวียงกุมกาม วัดเจดยี ์หลวง
อักษรธรรมลา้ นนา เปน็ ตน้

6. อาณาจักรลังกาสุกะ
1) หลกั ฐานท่ปี รากฏเร่ืองราวของอาณาจักร เช่น จดหมายเหตุหลวงจนี อจ้ี งิ
2) พัฒนาการความเจริญของอาณาจักร มกี ษัตรยิ ป์ กครอง เป็นเมืองทา่ คา้ ขายกบั จนี -อนิ เดีย นับถือศาสนา
พราหมณ-์ ฮินดู และพระพุทธศาสนานกิ ายมหายาน ตอ่ มาภายหลงั อยใู่ ตอ้ ิทธพิ ลอาณาจักรศรีวชิ ัย
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจกั ร เช่น เมืองโบราณยะรัง จังหวัดปัตตานี เป็นต้น

7. อาณาจักรตามพรลิงค์
1) หลักฐานทป่ี รากฏเร่อื งราวของอาณาจักร เช่น เอกสารอินเดยี เรยี ก “ตมลงิ ” เอกสารจีนเรยี ก “ถา่ มเหล่ง/
ตา่ นหมา่ ลิ่ง”
2) พัฒนาการความเจรญิ ของอาณาจกั ร มกี ษัตริย์ปกครอง เป็นเมอื งท่าคา้ ขายกับพ่อคา้ อนิ เดีย-จีน มีความ
ใกลช้ ิดกับพระราชวงศ์พระร่วงแห่งสโุ ขทัย นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระพุทธศาสนานิกายมหายาน
พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท ลัทธลิ ังกาวงศ์
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เชน่ เจดีย์พระบรมธาตุในวัดพระมหาธาตุวรวิหาร จงั หวดั
นครศรีธรรมราช เป็นต้น

8. อาณาจักรศรวี ชิ ัย
1) หลักฐานท่ีปรากฏเรอื่ งราวของอาณาจักร เช่น บนั ทกึ ของหลวงจนี อจี้ งิ หนังสือจฟู านฉีของเกาจูกัว
นายดา่ นศลุ กากรของจีน บนั ทกึ สไุ ลมาน พ่อค้าชาวอาหรบั จารกึ หลักท่ี 23 จารกึ หลักที่ 25 ท่ไี ชยา
เปน็ ตน้
2) พฒั นาการความเจรญิ ของอาณาจักร เป็นศนู ย์กลางการค้าทางทะเลระหว่างจีน-อินเดีย นบั ถือศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดู พระพุทธศาสนานกิ ายเถรวาท และพระพุทธศาสนานกิ ายลังกาวงศ์
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจกั ร เชน่ เจดีย์พระบรมธาตุไชยา พระพุทธรูปางนาคปรกสำรดิ ท่ีวดั หัวเวียง
อำเภอไชยา จงั หวดั สรุ าษฏรธ์ านี เปน็ ต้น

9. อาณาจักรโคตรบูรณ์
1) หลักฐานท่ปี รากฏเร่ืองราวของอาณาจักร เชน่ ตำนานอุรงั คธาตุ พงศาวดารเหนอื เอกสารจนี
2) พฒั นาการความเจริญของอาณาจักร มีกษัตรยิ ป์ กครอง ได้รบั อทิ ธพิ ลของอนิ เดยี มีการนับถือ
พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท มีความเชอื่ พ้ืนเมืองเร่อื งการนบั ถอื สิ่งศักดิส์ ิทธิ์ และการบูชาพญานาค
ภายหลังต่อมาตกเป็นเมืองขน้ึ ของอาณาจักรล้านช้าง
3) มรดกทางวฒั นธรรมของอาณาจกั ร เชน่ พระธาตุพนม จงั หวดั นครพนม เปน็ ตน้

10. อาณาจักรอิศานปรุ ะ
1) หลักฐานทีป่ รากฏเรอ่ื งราวของอาณาจักร เช่น จดหมายเหตจุ ีน บันทึกของราชทตู จนี โจว ตา้ กวน
2) พฒั นาการความเจรญิ ของอาณาจักร เป็นอาณาจักรขอมต้ังอยู่ระหว่างอาณาจักรทวารวดีและอาณาจกั ร
จามปา ได้แก่ บรเิ วณท่เี ปน็ ประเทศกัมพูชาในปัจจบุ นั ปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าชย์ มขี นุ นาง
ใชร้ ะบบจตุ สดมภ์ ใชก้ ฎหมายพระธรรมศาสตร์ นบั ถอื ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระพุทธศาสนานกิ าย
มหายาน
3) มรดกทางวัฒนธรรมของอาณาจักร เช่น ปราสาทหนิ ขนาดใหญ่ เชน่ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุง้
ปราสาทเมืองตำ่ ปราสาทศีขรภูมิ เป็นตน้

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ รหัสวชิ า ส 21103 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
โรงเรียนพนมศึกษา
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม จำนวน 10 ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง สมยั กอ่ นสโุ ขทยั ในดนิ แดนไทย จำนวน 2 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 16 เรอ่ื ง การสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญาของอาณาจักรโบราณ
ก่อนสมยั สุโขทัย

ผู้สอน นางสาวสดุ ารัตน์ ทองคำ

ใชส้ อนชัน้ ชว่ั โมง วันที่ เดือน พ.ศ. เวลา

1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทยวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จและธำรง

ความเป็นไทย

2. สาระสำคญั
การสร้างสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทยั นนั้ มีปัจจัยเกอื้ หนุนทีส่ ำคัญหลายประการซ่งึ ภูมิ

ปัญญาดงั กล่าวมผี ลดตี ่อวถิ ีการดำเนนิ ชีวติ ของชาวไทย

3. ตัวชว้ี ดั
3.1 ตวั ชวี้ ดั ม.1/1 อธบิ ายเรอื่ งราวทางประวัติศาสตร์สมัยกอ่ นสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขป
3.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.2.1 อธิบายภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณกอ่ นสมัยสุโขทัยได้
3.2.2 บอกปจั จัยสำคัญที่มอี ทิ ธิพลตอ่ การสรา้ งสรรคภ์ ูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมยั สุโขทยั ได้

4. สาระการเรียนรู้
การสร้างสรรค์ภมู ิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย

5. สมรรถนะสำคัญ
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.2.1 ทักษะการสำรวจค้นหา
5.2.2 ทกั ษะการวิเคราะห์
5.2.3 ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 มีวินยั
6.2 ใฝเ่ รยี นรู้
6.3 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรมการเรียนรู้
วิธสี อนแบบ กระบวนการกลมุ่ สมั พันธ์

ขัน้ ที่ 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
ครูและนกั เรียนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกบั ภมู ปิ ัญญาของคนในอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสโุ ขทัยว่ามีความสำคัญ

ต่อการศึกษาประวตั ิศาสตรส์ ุโขทยั และประวัตศิ าสตร์ไทยอย่างไร

ขน้ั ท่ี 2 จดั การเรียนรู้
1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การสร้างสรรคภ์ ูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสโุ ขทัย

จากหนังสือเรยี น ในหวั ข้อท่ีกำหนด จากน้นั ร่วมกนั สรุปสาระสำคญั
2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 3.6 เรือ่ ง ภมู ปิ ญั ญาของอาณาจกั รโบราณกอ่ นสมัยสโุ ขทัย

แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน หากมีข้อบกพร่องให้ชว่ ยกันแก้ไขและเติมเต็มคำตอบใหส้ มบรู ณ์
3. ตัวแทนของแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานในใบงานท่ี 3.6 หนา้ ชั้นเรียน ครูและเพ่อื นกลุ่มอื่นรว่ มกนั

ตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ

ขัน้ ท่ี 3 สรุปและนำหลกั การไปประยุกต์ใช้
1. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรปุ ความร้เู ร่ือง การสรา้ งสรรค์ภูมปิ ัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย
2. นักเรียนแต่ละกล่มุ นำความรทู้ ไี่ ด้จากการศึกษาไปประยุกตใ์ ช้ในการศกึ ษาภมู ปิ ัญญาของอาณาจกั รโบราณ

ของประเทศในกลุ่มอาเซยี น แลว้ นำผลการศกึ ษามาเล่าสู่กันฟัง (นอกเวลาเรียน)

ข้นั ที่ 4 วัดและประเมนิ ผล
ครวู ดั และประเมินผลนกั เรียนจากการทำใบงานท่ี 3.6

ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันทำหนังสือเล่มเลก็ เร่ือง พฒั นาการของอาณาจกั รโบราณ
กอ่ นสมัยสุโขทัย โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามท่กี ำหนด ดงั นี้

1) การอธบิ ายพัฒนาการของชมุ ชนโบราณในภาคต่างๆ ของไทย
2) การอธบิ ายการสรา้ งสรรค์ภมู ิปญั ญาของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนไทย
3) การอธบิ ายพัฒนาการของอาณาจักรโบราณก่อนสมยั สุโขทัย
4) การอธบิ ายการสรา้ งสรรค์ภมู ปิ ัญญาของอาณาจักรโบราณกอ่ นสมยั สโุ ขทยั

นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3

8. สอ่ื อปุ กรณแ์ ละแหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน ประวตั ศิ าสตร์ ม.1
2) ใบงานที่ 3.6 เร่อื ง ภูมปิ ญั ญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย
8.2 แหล่งการเรยี นรู้
-

๙. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (๓ หว่ ง ๒ เงือ่ นไข ๔ มิติ)

หลกั ความพอประมาณ - วเิ คราะห์สมรรถนะและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ทสี่ อดคล้องกนั
- ออกแบบกิจกรรมที่สอดคลอ้ งกับตวั ช้วี ัด
หลกั มเี หตุผล - ใช้เครอื่ งมอื วธิ ีประเมินที่หลากหลายเหมาะสมกบั ตวั ช้วี ัด

หลักสรา้ งภูมิคุ้มกนั ในตัวทีด่ ี - จดั กระบวนการเรยี นรู้ท่คี ำนึกถงึ ความร้คู วามสามารถของผู้เรียน

เงือ่ นไขความรู้ - ศึกษาเนอ้ื หาสาระรปู แบบกจิ กรรมใหบ้ รรลตุ ามตัวชว้ี ดั
เงอ่ื นไขคณุ ธรรม - จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างละเอียดสามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียน

การสอนและสามารถนำไปใช้ได้ในกรณีขาดแคลนครสู อน

- อธบิ ายภมู ิปญั ญาของอาณาจักรโบราณกอ่ นสมัยสโุ ขทยั ได้

- มีความรับผดิ ชอบต่อการทำงาน

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ๔ มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม

10. การวดั ผลและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 3.6 ใบงานที่ 3.6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบบันทึกการอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่น แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ในการทำงาน
ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 3
ตรวจหนังสอื เล่มเลก็ เร่อื ง พัฒนาการของ แบบประเมนิ หนังสอื เลม่ เล็ก เรือ่ ง ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
อาณาจักรโบราณก่อนสมยั สโุ ขทยั พัฒนาการของอาณาจักรโบราณก่อนสมยั
สุโขทัย

ใบงานท่ี 3.6
ภูมิปัญญาของอาณาจกั รโบราณกอ่ นสมยั สุโขทยั

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ปัจจัยใดท่เี ปน็ ตัวกำหนดใหม้ นุษย์สรา้ งสรรค์ภูมิปญั ญาต่างๆ
ปัจจยั ทางภูมศิ าตร์และสง่ิ แวดล้อม

2. ลกั ษณะทางวัฒนธรรมใดท่คี นในอาณาจกั รโบราณมเี หมอื นกัน
ปัจจัยทางภมู ิศาตร์และสิง่ แวดลอ้ ม

3. ปัจจยั ภายนอกปจั จัยใดมีผลตอ่ ภูมิปญั ญาของคนในอาณาจักรโบราณ

4. ภมู ปิ ัญญาของคนในอาณาจกั รโบราณมคี วามเกี่ยวข้องกบั เรือ่ งใดบา้ ง
ตดิ ตอ่ กับ
อาณาจักรอ่ืนๆ เป็นตน้
กลายเปน็ ภาษามอญ เปน็ ต้น
4) แสดงความศรัทธาในศาสนา เชน่ การสร้างงานสถาปัตยกรรม วดั ปราสาทหนิ และงานประตมิ ากรรม
พระพุทธรูป พระโพธสิ ตั ว์ เปน็ ต้น

5. ภมู ิปัญญาดา้ นใดของคนในอาณาจกั รโบราณทน่ี ักเรยี นชื่นชอบหรือสนใจ อธบิ ายเหตผุ ล

เฉลยใบงานท่ี 3.6
ภูมปิ ญั ญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมยั สุโขทยั

คำช้แี จง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ปัจจยั ใดทเ่ี ป็นตวั กำหนดให้มนษุ ยส์ รา้ งสรรค์ภูมิปัญญาตา่ งๆ
ปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละสิ่งแวดล้อม

2. ลกั ษณะทางวัฒนธรรมใดทค่ี นในอาณาจักรโบราณมเี หมือนกัน
วฒั นธรรมการกนิ ข้าว

3. ปัจจยั ภายนอกปัจจัยใดมีผลต่อภูมปิ ัญญาของคนในอาณาจักรโบราณ
ความเชือ่ ศาสนา และภาษา

4. ภูมปิ ัญญาของคนในอาณาจักรโบราณมคี วามเกีย่ วข้องกับเรื่องใดบ้าง
1) การพฒั นาอาชีพเกษตรกรรม เชน่ การพฒั นาพนั ธข์ุ ้าว การใชว้ วั ไถนาแทนคน เป็นตน้
2) การเลอื กทำเลท่ตี ั้งบ้านเมืองใหเ้ หมาะสมกับการประกอบอาชพี การปกครอง การคา้ ขาย และการ

ตดิ ตอ่ กับอาณาจักรอน่ื ๆ เป็นต้น
3) การประดิษฐ์ตัวอักษรขึน้ ใช้ เชน่ ดัดแปลงภาษาบาลี-สนั สกฤตท่ีรับมาจากอนิ เดยี ผสมกับภาษา

พน้ื เมืองกลายเปน็ ภาษามอญ เป็นต้น
4) แสดงความศรัทธาในศาสนา เชน่ การสรา้ งงานสถาปตั ยกรรม วัด ปราสาทหิน และงานประตมิ ากรรม

พระพทุ ธรูป พระโพธสิ ตั ว์ เปน็ ต้น
5. ภูมิปญั ญาด้านใดของคนในอาณาจักรโบราณที่นักเรียนช่ืนชอบหรอื สนใจ อธิบายเหตุผล

(พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. จากบนั ทึกของจีนทเี่ รยี กอาณาจักรหนงึ่ ว่า “โถ-โล-โป- 6.อาณาจักรใดที่มหี ลกั ฐานและบันทกึ อันแนน่ อนท่ี

ตี”้ หมายถึงอาณาจกั รใด แสดงถึงการตัง้ อาณาจักรในแผน่ ดินไทย

ก. ลังกาสกุ ะ ข. ละโว้ ก. ละโว้ ข. อีศานปุระ

ค. ทวารวดี ง. โยนกเชยี งแสน ค. ทวารวดี ง. โยนกเชียงแสน

2. อาณาจักรตามพรลิงค์มีศนู ยก์ ลางอย่ทู ่ใี ด 7.ชมุ ชนโบราณของไทยแห่งใดท่ีได้รบั การประกาศให้

ก. เมืองปาเล็มบงั ประเทศอนิ โดนีเซยี เปน็ “มรดกโลก”

ข. นครศรีธรรมราช ก. บา้ นเก่า จังหวดั กาญจนบุรี

ค. สุราษฎรธ์ านี ข. บา้ นเชียง จังหวดั อุดรธานี

ง. ปตั ตานี ค. ถำ้ ผี จงั หวดั แมฮ่ ่องสอน

3. เรอ่ื งราวของอาณาจักรหริภุญชยั สว่ นใหญ่เกี่ยวข้องกบั ง. คลองท่อม จังหวัดกระบี่

ใคร 8. ส่ิงทใ่ี ชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการแบง่ ยุคสมัยเป็นยคุ กอ่ นและ

ก. พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย์ หลงั ประวตั ศิ าสตร์ คือสง่ิ ใด

ข. พระเจ้าชยั วรมันท่ี 7 ก. การเร่มิ รบั วัฒนธรรมจากอนิ เดยี

ค. พระนางจามเทวี ข. อายุของโครงกระดูกท่ีพบ

ง. ฤๅษวี าสเุ ทพ ค. การประดิษฐต์ วั อกั ษร

4. จากจดหมายเหตุจีน “เมืองหลอห”ู คืออาณาจักรใด ง. เครอ่ื งมือเคร่ืองใช้

ก. โยนกเชยี งแสน ข. ทวารวดี 9. เครอ่ื งมอื หินกะเทาะ เป็นเครื่องมือของมนุษยย์ ุคใด

ค. โคตรบูรณ์ ง. ละโว้ ก. ยุคสำริด ข. ยุคหนิ ใหม่

5. หลักฐานสำคญั ท่ีแสดงว่า อาณาจักรโบราณในดนิ แดน ค. ยคุ หนิ เกา่ ง. ยุคหินกลาง

ภาคใต้ของประเทศไทยนับถือพระพทุ ธศาสนานิกาย 10. คำวา่ “สุวรรณภูม”ิ หมายถึงดินแดนใด

มหายาน คือสิ่งใด ก. ดนิ แดนที่มีความอุดมสมบรู ณ์

ก. พระโพธสิ ตั ว์อวโลกเิ ตศวร ข. ดนิ แดนทมี่ ปี ระชากรมาก

ข. ปราสาทหิน ค. ดนิ แดนทีม่ ีความสงบ

ค. ธรรมจกั ร ง. ดินแดนที่รำ่ รวย

ง. เสมาหนิ

ภาคผนวก

ชื่อหนังสอื แบบบันทึกการอ่าน นามปากกา……………………
สำนกั พมิ พ์ ปีทีพ่ มิ พ์………………
จำนวนหนา้ ราคา ชอ่ื ผูแ้ ตง่
พ.ศ. เวลา…………………
1. สาระสำคัญของเร่ือง สถานท่ีพิมพ์

บาทอา่ นวนั ที่ เดือน

2. วเิ คราะหข์ ้อคิด/ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากเรอ่ื งที่อ่าน

3. สิ่งท่ีสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั

4. ขอ้ เสนอแนะของครู

ลงชือ่ นักเรียน ลงชื่อ ผปู้ กครอง

( )( )

ลงชอ่ื ครผู ูส้ อน
()

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ผลงานมีความสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีขอ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน

ผลงานมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓
ลงในช่องทีต่ รงกับระดบั คะแนน

ลำดบั ช่อื -สกลุ ความมวี ินยั ความมนี ้ำใจ การรบั ฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม
ท่ี ของผู้รับการประเมิน เออ้ื เฟ้ือ ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น เวลา 20
เสยี สละ

คะแนน

43214321432143214321

ลงช่ือ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ำกวา่ 10 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คำช้แี จ: ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งทต่ี รงกับ
ระดบั คะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 4321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมอ่ื ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมายของ
เพลงชาติ
กษตั ริย์
1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิและหน้าท่ีของนกั เรียน
2. ซอื่ สัตย์ สจุ รติ 1.3 ให้ความรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทำงานกับสมาชิกในช้ันเรยี น
1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ ่อ
3. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ
4. ใฝเ่ รียนรู้ โรงเรียนและชุมชน
5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลักของศาสนา
1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น

และชุมชนจดั ขน้ึ
2.1 ใหข้ ้อมูลทถี่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ
2.2 ปฏิบตั ิในส่งิ ทถ่ี ูกต้อง ละอาย และเกรงกลวั ท่ีจะทำความผดิ ทำตามสญั ญาที่

ตนใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พอ่ แมห่ รอื ผู้ปกครอง และครู
2.3 ปฏิบตั ติ ่อผู้อ่นื ด้วยความซ่ือตรง
3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั

และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน
4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.2 มีการจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ
4.3 สรุปความรไู้ ด้อย่างมเี หตผุ ล
5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่
และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม
5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอย่างดี
5.3 ปฏบิ ัตติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล
5.4 ไมเ่ อาเปรียบผู้อื่น และไม่ทำใหผ้ ู้อน่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้อภยั เมอื่ ผูอ้ น่ื กระทำ
ผิดพลาด
5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใชช้ วี ิตประจำวันบนพ้นื ฐานของ
ความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสาร
5.6 ร้เู ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับตวั
อยู่รว่ มกบั ผูอ้ นื่ ได้อยา่ งมคี วามสุข

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ดา้ น 4321
6. มงุ่ มนั่ ในการ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสำเรจ็
ทำงาน 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7. รักความเปน็ ไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย
8.1 ร้จู ักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8. มีจติ สาธารณะ 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ช่วยทำ และแบง่ ปันส่งิ ของใหผ้ อู้ ืน่
8.3 รูจ้ กั ดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรียน ชมุ ชน
8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น

ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ ให้ 2 คะแนน 191 - 108 ดีมาก
ให้ 1 คะแนน
73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช้

ตำ่ กวา่ 54 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน ประเมินการนำเสนอผลงานของนกั เรียนตามรายการทีก่ ำหนดแลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง
ที่ตรงกับระดบั คะแนน

ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
4321

1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน
2 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา
3 ภาษาทใ่ี ช้เข้าใจง่าย
4 ประโยชนท์ ไี่ ดจ้ ากการนำเสนอ
5 วิธกี ารนำเสนอผลงาน

รวม

ลงชือ่ .................................................... ผปู้ ระเมิน
................ /................ /................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 4 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน
10 - 13 พอใช้

ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

ชอ่ื กลุ่ม ชัน้

คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง

ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321

1 การแบง่ หน้าท่ีกันอย่างเหมาะสม
2 ความร่วมมือกนั ทำงาน
3 การแสดงความคิดเหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมีนำ้ ใจช่วยเหลอื กัน

รวม

ลงช่อื .................................................... ผู้ประเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน 18 - 20 ดีมาก
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
10 - 13 พอใช้

ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง

บนั ทึกหลงั สอน

ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ดา้ นอ่ืนๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤติกรรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข

ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ ( )
ตำแหนง่


Click to View FlipBook Version