คำนิยม
ในปัจจุบันประชาชนทั่วไปมีการบริโภคมากเกินความต้องการของ
ร่างกาย ออกกำลังกายน้อย จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรม
สุขภาพของคนไทย ในปี 2560 – 2564 จากระบบข้อมูล Health for
you ของกรมอนามัย พบคนไทยเกินครึ่ง กินผักไม่เพียงพอ ส่วนการ
กินน้ำตาลและไขมันมีแนวโน้มสูงขึ้น อาหารคือยารักษาที่ดีที่สุดของชีวิต
การทานอาหารที่ดีจึงเท่ากับว่าเป็นการเสริมสร้างสุขภาพตัวเองแข็งแรง
ไม่แพ้โรคร้ายนั่นเอง ยิ่งเรารักษาสุขภาพด้วยการกินดี พักผ่อนดี
ออกกำลังกายดี ชีวิตก็จะดีได้ไม่ยาก แน่นอนว่าการกินที่ไม่ดีย่อมหมาย
ถึงการได้ร่างกายที่ไม่ดีย้อนกลับคืนมา
กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบาย “อาหารเป็นยา”
เป็นการบูรณาการ และขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์
ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมอนามัย และสำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็น
รูปธรรมและครบวงจร
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญ
จึงได้จัดทำโครงการ “ อาหารเป็นยา วิถีชุมชน เพื่อคนสระบุรี ”
เน้นสรรพคุณสมุนไพรไทยพื้นบ้าน ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและ
มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สร้างความเข้าใจต่อประชาชน โดยจัดทำคลัง
ความรู้ เพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้ มีความเชื่อมั่น นำไปสู่การบริโภค
อาหารเป็นยา ผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก
นายแพทย์กฤษณ์ สกุลแพทย์
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี
อาหารไทยมีองค์ประกอบเป็นสมุนไพรไทยพื้นบ้าน
หลากหลาย มีรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการ
และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
จังหวัดสระบุรี เป็นจังหวัดซึ่งมีหลากหลาย
ทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชุมชน
โดยสมุนไพรซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น
มาประกอบอาหาร
"อาหารเป็นยา วิถีชุมชน เพื่อคนสระบุรี"
เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ผู้คนตระหนักถึง
การมีสุขภาพที่ดี และอนุรักษ์สืบทอดองค์ความรู้
สมุนไพรในท้องถิ่นสระบุรี
Content
1 กินอาหารตามธาตุเจ้าเรือน
2 ประเพณี วัฒนธรรม
ด้านอาหาร คนสระบุรี
3 13 อำเภอสมุนไพร
วิถีชุมชน
4 อาหารเด็ด รสดี
เมนูชูสุขภาพ
สาเหตุที่ทำให้ธาตุไฟกำเริบ
เพราะรับประทานอาหารรสจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
เค็มจัด โมโห ดื่มแอลกอฮอล์ แสงแดด สิ่งเหล่านี้
ทำให้ธาตุไฟกำเริบ เมื่อธาตุไฟกำเริบอาการที่พบ
ได้บ่อยคือ ท้องเสีย ท้องผูก แผลร้อนภายในปาก
กรดไหลย้อน และมักเป็นผื่นคันบ่อยๆ
ลักษณะทั่วไปของผู้ที่อยู่ในธาตุไฟ อาหารที่ควรกินเพื่อปรับสมดุลธาตุ
คนธาตุไฟส่วนใหญ่จะมีรูปร่างสมส่วน ผิวขาวเหลือง อาหารที่เหมาะกับธาตุคือ
ผมหงอกเร็ว ผิวพรรณไม่สดใส นิสัยที่เด่นชัดคือ พูด อาหารรสขม หวาน เย็น จืด
เสียงดังฟังชัด ขี้หงุดหงิด โกรธง่ายหายเร็ว คล่องตัว โดยเฉพาะเมนูที่มีสมุนไพรรสเย็นจะช่วยลด
มั่นใจในตัวเองสูง และเนื่องจากร่างกายมีธาตุไฟเป็น ความร้อนในร่างกาย เช่น แตงไทย แตงกวา
เห็ดหูหนู สายบัว ขี้เหล็ก มะระ หัวไชเถ้า
ส่วนประกอบมากทำให้ขี้ร้อน ทนร้อนไม่ค่อยได้ มะเขือม่วง กะหล่ำปลี ตำลึง
ส่วนระบบเผาผลาญอาหารดีจึงรู้สึกหิวบ่อย ไม่ควรกินอาหารหวานจัดหรือมันเกินไป
กินเก่ง และกินเยอะ
เครื่องดื่มแนะนำ เมนูอาหารแนะนำ
➤ น้ำเก๊กฮวย ➤ ยำเห็ดหูหนู หรือเห็ดหูหนูผัดไข่
สรรพคุณบำรุงโลหิต บำรุงสายตา แก้ร้อนใน สรรพคุณป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน มีไฟเบอร์
มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ที่ช่วยในการระบายและขับของเสียในลำไส้
➤ น้ำกระเจี๊ยบ ➤ ต้มจืด
สรรพคุณละลายไขมันในเส้นเลือด มีสารต้านอนุมูล สรรพคุณช่วยดับพิษร้อน แก้ไข้ตัวร้อน ขับสารพิษใน
อิสระช่วยชะลอวัย ลำไส้ และช่วยบำรุงผิวพรรณ
➤ น้ำมะระผสมดอกอัญชัน ➤ แกงขี้เหล็ก
สรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด มีฤทธิ์เย็น ช่วยขับพิษ สรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค เจริญธาตุไฟ
และลดความดันโลหิตสูง
สาเหตุที่ทำให้ธาตุลมกำเริบ
คนธาตุลมมักมีอาการวิตกกังวลและนอนไม่หลับ
บ่อยๆ ทำให้อดนอน นอนไม่พอ หน้ามืด วิงเวียน
ธาตุลมจึงกำเริบ อีกทั้งเป็นคนรูปร่างผอมกิน
เท่าไรก็ไม่อ้วน จึงควรระมัดระวังเรื่องการกินเป็น
พิเศษ เพราะอาจเสี่ยงเป็นไขมันในเลือดสูง
ลักษณะทั่วไปของผู้ที่อยู่ในธาตุลม อาหารที่ควรกินเพื่อปรับสมดุลธาตุ
คนธาตุลมส่วนใหญ่จะมีรูปร่างผอมบาง สูงโปร่ง คนธาตุลมมีลมอยู่ในร่างกายค่อนข้างมาก
ผมบาง ผิวพรรณแห้งไม่ค่อยละเอียด นิสัยที่เด่นชัดคือ ต้องกินอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน
ช่างพูดช่างเจรจา มีไหวพริบดี แต่จะอารมณ์แปรปรวน
เพื่อช่วยขับลม เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ พริกไทย
มักวิตกกังวล และเนื่องจากในร่างกายมีลมอยู่มาก โหระพา ยี่หร่า กระเทียม เป็นต้น
จึงทำให้มีอาการ ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดศีรษะ หลีกเลี่ยงอาหารมันและหวาน
นอนไม่หลับ อยู่บ่อยๆ
เครื่องดื่มแนะนำ เมนูอาหารแนะนำ
➤ น้ำตะไคร้ ➤ หมูผัดพริกขิง
สรรพคุณบรรเทาอาการหวัด อาการไอ ขับลม สรรพคุณลดอาการปวดไม่เกรน ลดอาการจุกเสียด
บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยบรรเทาภูมิแพ้
➤ น้ำเตยหอม ➤ ไก่ย่างพริกไทยดำ
สรรพคุณบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น แก้อาการ สรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ บรรเทาอาการนอนไม่หลับ
อ่อนเพลีย ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ
➤ น้ำขิง ➤ ต้มยำกุ้ง
สรรพคุณแก้คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ สมุนไพรในเมนูต้มยำกุ้งมีสรรพคุณช่วยแก้อาการ
ช่วยกระตุ้นการดูดซึมอาหาร ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการอาหาร
เป็นพิษ ช่วยย่อยและทำให้เจริญอาหารเป็นอย่างดี
ลักษณะทั่วไปของผู้ที่อยู่ในธาตุน้ำ สาเหตุที่ทำให้ธาตุน้ำกำเริบ
คนธาตุน้ำลักษณะทั่วไปรูปร่างอวบ สมบูรณ์ ผิวขาว อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล
ผิวพรรณสดใสเต่งตึง ตาหวาน น้ำในตามาก ผมดกดำ กับธาตุ หรือนิสัยที่ชอบนอนนานเกินไปทำให้
ธาตุน้ำกำเริบ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
งาม นิสัยที่เด่นชัดคือ ใจเย็น เคลื่อนไหวช้า ชอบนอน และการนอนให้เหมาะสม หากมีเวลาแนะนำให้อบ
เป็นคนนิ่ง และเยือกเย็นดั่งสายน้ำ และเนื่องจากใน หรือประคบสมุนไพร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ร่างกายมีน้ำอยู่มากทำให้ทนความหิว หรือทนอากาศ จะช่วยให้ร่างกายกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล
ร้อนเย็นได้ดี อาหารที่ควรกินเพื่อปรับสมดุลธาตุ
ควรรับประทานผลไม้ที่มีรสร้อน ขม และเปรี้ยว
เช่น ตะลิงปลิง มะขามป้อม มะยมจิ้มพริกเกลือ
หรือพืชผักอื่นๆ เช่น ดอกแค มะเขือเทศ มะกรูด
ใบมะขามอ่อน มะระ
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำจากนมเนย และรสเค็ม
เพราะจะดูดเกลือแร่ออกจากร่างกาย
เครื่องดื่มแนะนำ เมนูอาหารแนะนำ
➤ น้ำมะเขือเทศ ➤ แกงส้มดอกแค
สรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความสดชื่น สรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ ลดอาการท้องผูก ช่วยย่อย
ให้แก่ร่างกาย และบำรุงสายตา อาหารและขับลมในกระเพาะ
➤ น้ำตะลิงปลิง ➤ ห่อหมกใบยอ
สรรพคุณช่วยฟอกโลหิต ช่วยทำให้เจริญอาหาร สรรพคุณ แก้ท้องร่วง ลดไข้ แก้ไอ ขับเสมหะ บำรุงหัวใจ
➤ น้ำส้มคั้น และหลอดเลือด
ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ➤ ยำผลไม้
ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก มีวิตามินซีสูง บำรุงผิวพรรณ ช่วยลดความรุนแรงของ
โรคหวัดในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลได้
สาเหตุที่ทำให้ธาตุดินกำเริบ
คนธาตุดินกินอาหารง่าย สามารถกินอาหาร
ได้ทุกประเภท เพราะระบบการดูดซึมอาหาร
และแร่ธาตุของร่างกายทำงานได้ดี
แต่ระบบเผาผลาญอาจไม่ดีเท่าไร
จึงเป็นเหตุให้ธาตุดินกำเริบ
ลักษณะทั่วไปของผู้ที่อยู่ในธาตุดิน อาหารที่ควรกินเพื่อปรับสมดุลธาตุ
คนธาตุดินจะรูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักตัวมาก ร่างกาย ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่
สมบูรณ์ ผิวค่อนข้างคล้ำ ผมดกดำ นิสัยที่เด่นชัดคือ เลือกกินอาหารที่มีรสฝาด หวาน มัน เค็ม
เป็นคนหนักแน่น มั่นคง มีความสุขุมรอบคอบ คนธาตุ เช่น ผักกูด มังคุด ฝรั่งดิบ ฟักทอง เผือก
ดินมีลักษณะกระดูกใหญ่แข็งแรงแต่จะอ้วนง่ายกว่า
ถั่วต่างๆ เงาะ น้ำนม อ้อย เกลือ
ธาตุอื่นๆ จึงต้องดูแลสุขภาพตนเองให้ดี หลีกเลี่ยงอาหารมันที่ดูดซึมหรือเผาผลาญได้ยาก
เครื่องดื่มแนะนำ เมนูอาหารแนะนำ
➤ น้ำอ้อย ➤ ยำผักกูด
สรรพคุณแก้กระหาย ช่วยให้ชุ่มคอ แก้เสมหะ สรรพคุณบำรุงโลหิต บำรุงสายตา ลดความดันโลหิตสูง
ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ➤ ฟักทองผัดไข่
➤ น้ำมะพร้าว สรรพคุณบำรุงและรักษาสายตา ช่วยให้ระบบขับถ่าย
สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร และลดอาการ ทำงานอย่างเป็นปกติ จากกากใยอาหารที่มีอยู่สูง
กรดไหลย้อน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ➤ ข้าวอบธัญพืช
และอิลาสตินให้กับผิว ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและไขมันในเส้นเลือด
➤ น้ำฝรั่ง ช่วยควบคุมน้ำหนัก และเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย
สรรพคุณลดไขมันในเลือด บำรุงเหงือกและฟัน
ช่วยควบคุมน้ำหนักได้
ยามเมื่อฤดูกาลเข้าพรรษาเวียนมาถึง
ดอกไม้ชนิดหนึ่ง ก็เริ่มผลิดอกบานสะพรั่ง
ผู้คนต่างพากันเก็บมาถวายพระจนเกิดเป็น
ประเพณี“ตักบาตรดอกไม้”ซึ่งเป็นประเพณี
เก่าแก่ดั้งเดิมของชาวอำเภอพระพุทธบาท
จังหวัดสระบุรี
ดอกไม้ที่นำมาใช้ตักบาตรในประเพณีนี้
จึงเรียกขานกันว่า ดอกเข้าพรรษา หรือ
ดอกหงส์เหิน เพราะลักษณะของดอกและ
เกสรประดุจดังตัวหงส์ ที่กำลังเหินบินด้วย
ท่วงท่าลีลาอันสง่างามนั่นเอง
“ดอกเข้าพรรษา”
เป็นพืชวงศ์ขิง ZINGIBERACEAE สกุลหงส์เหิน (Globba spp.)
ถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย และกระจายพันธุ์ได้ดีบริเวณเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ พบได้มากกว่า 100 ชนิด และในประเทศไทยสามารถพบได้
มากกว่า 40 ชนิด ส่วนใหญ่จะมีลักษณะของดอกขนาดเล็ก คล้ายนก
หรือหงส์ที่กำลังเต้นรำ จึงมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “หงส์เหิน”
และบางชนิดมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า "Dancing ladies ginger"
ลักษณะทางพฤกศาสตร์
ส่วนของลำต้นเหนือดิน เป็นหัวประเภทเหง้า เป็นกุ่มกอ กาบใบเรียง
ตัวกันแน่นทำหน้าที่เป็น ต้นเทียมดิน มีรากสะสมอาหาร คล้ายกระชาย
สูงประมาณ 30-70 ซม. ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับ ซ้ายขวา
เป็นสองแถว ส่วนดอกออกเป็นช่อซึ่งแทงออกมาจากยอดของลำต้น
เทียม ช่อดอกมีลักษณะอ่อนช้อย สวยงาม ออกดอกเพียงปีละหนึ่งครั้ง
ยาวประมาณ 10-20 ซม. ก้านดอกย้อยเรียงอยู่โดยรอบ ประกอบด้วย
ดอกจริง 1-3 ดอก มีสีเหลืองคล้ายรูปตัวหงส์กำลังเหินบิน มีกลีบ
ประดับขนาดใหญ่ตามช่อโดยรอบจากโคนถึง ปลาย สีของกลีบมีหลาย
สี เช่น ขาว ม่วง เขียว และแดง
สรรพคุณสมุนไพร
เหง้าของหงส์เหินชนิด G. clarkei ใช้รักษาอาการไอ เหง้าของ
G. multiflora ใช้ทาแผลเพื่อบรรเทาอาการปวดและใช้เพื่อลดไข้ แต่
ยังไม่มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของพืชสกุลหงส์
เหินมากพอ มีเพียงบางข้อมูลระบุว่า G. winitii C.H. Wright มีฤทธิ์
ต้านอนุมูลอิสระ และ G. malaccensis มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในเซลล์
ขนมดอกเข้าพรรษา
เบตาแคโรทีน คือสารพฤกษเคมี หรือ ไฟโตนิวเทรียนท์
(Phytonutrients) ชนิดหนึ่งที่เราคุ้นเคยกันมานาน ถือเป็นโปรวิตามิน
เอชนิดที่แม้จะไม่สามารถดูดซึมได้ดีเหมือนวิตามินเอของแท้ แต่ก็เป็น
สารที่ร่างกายสามารถแปลงให้กลายเป็นวิตามินเอได้ ทั้งยังเป็นสาร
ต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพ
– ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
– สามารถป้องกันโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร
– ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
– ลดความเสี่ยงของภาวะจอประสาทตาเสื่อม
– ชะลอความเสื่อมของสมองและความจำ
ง า น ป ร ะ เ พ ณีตัก บ า ต ร ข้ า ว ต้ ม ลู ก โ ย น
ณ วัด พ ร ะ พุท ธ ฉ า ย เ ป็ น ป ร ะ เ พ ณี ที่ สื บ ท อ ด กั น ม า
เ ป็ น เ ว ล า น า น จัด ขึ้ น ใ น วั น แ ร ม ๑ คํ่ า เดื อ น ๑ ๑ ข อ ง ทุ ก ปี
กิ จ ก ร ร ม ภ า ย ใ น ง า น มี ก า ร จำ ล อ ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ เมื่ อ ค รั้ ง
พ ร ะ พุท ธ เ จ้า เ ส ด็จ ล ง จ า ก ส ว ร ร ค์ ชั้ น ด า ว ดึ ง ส์ แ ล ะ ก า ร
แ ส ด ง “ รำ ว ง ส ร ะ บุ รี ” ภ า ย ใ น บ ริ เ ว ณ วั ด พ ร ะ พุ ท ธ ฉ า ย
มี ช า ว บ้า น แ ล ะ ชุม ช น ใ ก ล้ เ คี ย ง ไ ด้ จั ด เต รี ย ม
ข้ า ว ต้ม ลูก โ ย น ไ ว้จำ ห น่ า ย แ ก่ พุ ท ธ ศ า ส นิ ก ช น
ที่ ม า ร่ว ม ง า น ด้ว ย
กล้วย
ผลสุก รสหวาน ใช้เป็นยาระบายสำหรับผู้ที่เป็นโรคริดสีดวง
ทวาร หรือผู้ที่มีอุจจาระแข็ง บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย รักษาแผล
ในกระเพาะอาหาร
ถั่วแดง สารอาหารโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, วิตามินเอ บี ซี
ช่วยบำรุงหัวใจ ประเภทอาการใจสั่น บำรุงระบบประสาท
ลดอาการบวมน้ำ ขับถ่ายได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก
และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดภาวะ
เส้นเลือดในสมองแตก
ป้องกันและลดอาการเหน็บชา
ชาวไทยพวน
ตำบลบ้านกลับ อำเภอหนองโดน
ประเพณีกำฟ้า
“กำฟ้า” เป็นประเพณีของชาวไทยพวน
อาศัยอยู่ได้ยึดถือปฏิบัติต่อกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ “กำ” ในภาษาไทยพวน
หมายถึง การนับถือและสักการะบูชา ดังนั้น กำฟ้า จึงหมายถึงประเพณีนับถือ
สักการะบูชาฟ้า เนื่องจากชาวพวนเป็นกลุ่มชน
ที่ประกอบอาชีพทางการเกษตร โดยเฉพาะการทำนา
ในสมัยดั้งเดิมการทำนาต้องอาศัยน้ำฝนจากธรรมชาติ
ชาวนาในสมัยนั้นจึงมีการเกรงกลัวฟ้ามาก
ถ้าฟ้าพิโรธย่อมหมายถึง ความแห้งแล้ง อดยาก หรือฟ้าอาจผ่าคนตาย
จึงมีการเซ่นสรวง สักการะบูชาผีฟ้า ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเอาใจ มิให้ฟ้าพิโรธ
หรืออีกนัยหนึ่ง ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรมนั้น
รู้สึกสำนึกในบุญคุณของผีฟ้าที่ได้ให้น้ำฝน อันหมายถึงความชุ่มชื้น
ความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตของคน สัตว์ และพืชพรรณต่างๆ
จึงได้เกิดประเพณีกำฟ้าขึ้น เพื่อเป็นการประจบผีฟ้าไม่ให้พิโรธ
และเป็นการแสดงความขอบคุณต่อเทพยาดาแห่งท้องฟ้าหรือผีฟ้า
"โอมะเผ็ด"
อาหารพื้นบ้านไทพวนบ้านกลับ
เอกลักษณ์อาหารของคนไทพวน ตำบลบ้านกลับ
จังหวัดสระบุรี ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดที่โดดเด่นจาก
"พริกพวน"
ที่นอกจากจะเผ็ดร้อนแล้ว ยังหอมและมีรสชาติหวาน
สัมผัสความเผ็ดในสำรับโบราณ
วิธีทำ
- เริ่มจากเตรียมไส้ สันคอหมูสับละเอียด
- สับเนื้อปลาร้า (ปลาตะเพียานเนื้อเยอะ) รวมกับกระชายสับ
ผิวมะกรูด หอมแดง กระเทียมจีน และตระไคร้ ให้ละเอียดเข้ากัน
ตามด้วย พริกแห้ง ข่า ใบมะกรูด จากนั้นใส่ไข่ไก่ตามด้วยหมูบด
ลงในครกแล้วโขลกให้ละเอียดเข้ากันจนเหนียว จึงนำมาผัดกับ
น้ำมันให้พอสุก หอม
- เตรียมมะเผ็ดมาผ่าเอาไส้ออก เอาหมูที่ผัดมายัดไส้ เสียบไม้แล้ว
นำมาย่างให้สุกราว 10นาที
ขนมโบราณ "หนาบสาลี"
ที่สะท้อนวิถีชาวไร่
การรักษาอาชีพเกษตรกรรมของชาวไทยพวน
ทำให้อาหารจากท้องไร่ท้องนายังเป็นสำรับคู่ชุมชน
ซึ่งเป็นเมนูที่หากินยาก เพราะมีขายเฉพาะพื้นที่
โดยจะนำข้าวโพดมาบดให้ละเอียด ผสมกับข้าวเหนียว
ที่บดให้ละเอียด ก่อนนำมาผสมกับกะทิ น้ำตาลทราย และ
เกลือ ห่อด้วยกาบข้าวโพดก่อนนำไปนึ่ง ซึ่งทำให้ขนม
ข้าวโพดนั้นหอมหวานมาก
ข้าวโพด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Zea mays var. rugosa
ชื่อสามัญ Sweet corn
วงศ์ Poaceae
ช่วยบำรุงสายตา
มีสารเบต้าแคโรทีน ร่างกายจะนำไปสร้างสาร
โรดอปซิน ช่วยลดอัตราเสื่อมของลูกตา
ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร
เส้นใยอาหารจะช่วยได้ดีสำหรับผู้ที่
เป็นริดสีดวงทวาร หรือช่วยอาการท้องผูก
ป้องกันโรคหัวใจ
มีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
ช่วยลดคลอเจสเตอจอลในร่างกาย
อุคมไปด้วยโฟเลต
ต้านมะเร็ง
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด
ตลาดหัวปลี...เป็นตลาดสไตล์บ้าน ๆ
ท่ามกลางสวนกล้วยและสวนไผ่อันร่มรื่น
ตั้งอยู่ด้านในศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ พุแค
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
แหล่งรวมของกินของฝาก และเป็นสถานที่ชุมชน
ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีต้นแบบ บ้านพุแค
ลาบหัวปลี
สรรพคุ ณทางสมุ นไพร : ฝาดรสมั น
สำหรั บหญิ งให้ นมบุ ตร
จะมี คุ ณสมบั ติ ช่ วยขั บน้ำนม บำรุ งน้ำนม ป้ องกั น
โรคลำไส้ ลดน้ำตาลในเลื อด
คุ ณค่ าทางโภชนาการของหั วปลี 100 g
พลั งงาน 30 g น้ำ 93 g
โปรตี น 2 g ไขมั น 0.2 g
คาร์ โบไฮเดรต 5 g ใยอาหาร 1 g
แคลเซี ยม 40 mg ฟอสฟอรั ส 50 mg
เหล็ ก 2 mg โพแทสเซี ยม 601 mg
วิ ตามิ นเอ 290 I.U. เบตา-แคโรที น 193 Ug
วิ ตามิ นซี 28 mg วิ ตามิ นซี 28 mg
ผัดหมี่ไทยวน
“ผัดหมี่ไทยวน” เส้นหมี่ผัดสีเหลืองอ่อน โรยหน้าด้วยต้นหอม
ถั่วงอก และไข่เจียวหั่นฝอย รสชาติจะเน้นรสชาติจัดจ้าน ด้วย
ส่วนผสมของหอมแดงและพริกแห้ง ทำให้ได้รสเผ็ดปลายลิ้น
สรรพคุณทางยา
ต้นหอม บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล
ถั่วงอก มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินอี เสริมภูมิคุ้มกันป้องกัน
หวัดได้ ดูแลระบบประสาทและสมอง(เลซิติน) ป้องกันกระดูกพรุน
ได้เพราะมีแคลเซียมสูง
เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุม
น้ำหนักเป็นพิเศษ เนื่องจากถั่วงอก
มีน้ำตาลน้อย
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอเสาไห้
ข้าวเจ๊กเชย ได้รับการขึ้นทะเบียน GI
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Oryza sativa (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์)
วงศ์ : POACEAE
ข้าวเจ๊กเชยเป็นข้าวพื้นเมือง เป็นข้าว
ที่มีอมิโลสสูง และถือได้ว่าดีที่สุดใน
ข้าวพันธุ์เสาไห้
สรรพคุณยาไทย : มีอมิโลส ร้อยละ 27-28
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาโรคเบาหวาน ควบคุมโรคมะเร็ง
โรคอ้วน พิษสุราเรื้อรัง เหน็บชา มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และช่วย
ลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด
เมนูแนะนำ :
โจ๊กข้าวเจ๊กเชย
ข้าวผัดข้าวเจ๊กเชย
ข้าวต้มข้าวเจ๊กเชย
ข้าวแช่เจ๊กเชย
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
ตาล หรือตาลโตนด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Borassus flabellifer Linn.
วงศ์ : POACEAE
สรรพคุณยาไทย :
ใบ แก้อาการ กระสับกระส่าย หลังคลอดคั่วให้เหลืองแล้วบด
เป็นผงใช้ สูบหรือเป่า ลดความดันโลหิต
ราก ใช้แก้ไข้ ร้อนในกระหายน้ำ แก้ทอนซิลอักเสบ
ช่วยขับพยาธิ แก้ซางเด็กและชูกำลัง
ก้านใบสด หรือกราบ ตั้งไฟแล้วบีบเอาแต่น้ำอมแก้ปากเปื่อย
และแก้ท้องเสียท้องร่วงได้
ลูก ช่วยละลายเสมหะในลำคอ บรรเทาอาการไอ ไอเรื้อรัง
แก้กระหายน้ำ และช่วยแก้ไข ลดความร้อนในร่างกาย
คุณค่าทางอาหารลูกตาล 100 กรัม
ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
โปรตีน 0.6 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 5.6 กรัม
แคลเซียม 14 มิลลิกรัม
เส้นใย 0.3 กรัม
เหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 18 มิลลิกรัม
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอบ้านหมอ
ผักหวานป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melientha suavis Pierre
วงศ์ : OPILIACEAE
นิยมใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกอ่อน และผลอ่อนมารับประทานเป็นผัก
โดยอาจนำมาลวกให้สุกแล้วใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ลาบ ใช้เป็นเครื่องเคียง
หรืออาจนำไปผัดน้ำมัน หรือนำมาใช้ประกอบอาหารในเมนูต่าง ๆ
สรรพคุณยาไทย :
ผักหวานป่าเป็นอาหารและยาประจำฤดูร้อนที่ช่วยแก้อาการ
ของธาตุไฟได้ตามหลักแพทย์แผนไทย
ใบและราก มีสรรพคุณแก้อาการปวดศีรษะ และช่วยแก้
อาการปวดท้อง แก่นของต้นผักหวานนามาต้มกับนารับประทานเป็น
ยาแก้อาการปวดตามข้อ แก้ร้อนใน ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำนมของแม่ที่
ไม่มีน้ำนมให้บุตร
เมนูแนะนำ :
ยำผักหวานป่าหมูสับ
แกงไข่มดแดงใส่ผักหวาน
ไอติมผักหวาน
คุกกี้ผักหวาน
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
เผือกหอม
ชื่อสามัญ Taro
ชื่อวิทยาศาสตร์ Colocasia esculenta (L.) Schott
วงศ์ : ARACEAE
สรรพคุณยาไทย :
หัวเผือก : ช่วยบำรุงลำไส้และแก้อาการท้องเสีย ช่วยบำรุงธาตุ
ในร่างกาย
ข้อควรระวังในการรับประทานเผือก ได้รับการขึ้นทะเบียน GI
หัวและทั้งต้นมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์)
(Calcium oxalate) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้คัน จึงไม่
ควรรับประทานแบบดิบ ๆ ต้องนำมาผ่านการ เนื้อเผือกสวย มีสีขาวอมม่วงและสาย
ต้มหรือหมักก่อนถึงจะรับประทาน เส้นสีม่วง เมื่อนำมานึ่งสุกจะมีกลิ่น
หอมเฉพาะตัว
เมนูแนะนำ :
แกงบวดเผือก ข้าวอบเผือก ข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือก
บัวลอยเผือก กุยช่ายไส้เผือก เผือกทิพย์ พายหม้อแกง
คุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกดิบ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 112 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 26.46 กรัม น้ำตาล 0.40 กรัม
เส้นใยอาหาร 4.1 กรัม ไขมัน 0.20 กรัม
โปรตีน 1.5 กรัม น้ำ 70.64 กรัม
วิตามิน A B C E K ธาตุแคลเซียม 43 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 0.55 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 33 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 0.383 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 84 มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 591 มิลลิกรัม ธาตุโซเดียม 11 มิลลิกรัม
ธาตุสังกะสี 0.23 มิลลิกรัม ธาตุทองแดง 0.172 มิลลิกรัม
ธาตุซีลีเนียม 0.7 ไมโครกรัม
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอมวกเหล็ก
องุ่น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vitis vinifera L.
วงศ์ : VITACEAE
นิยมใช้ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอกอ่อน และผลอ่อนมารับประทานเป็นผัก
โดยอาจนำมาลวกให้สุกแล้วใช้เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ลาบ ใช้เป็นเครื่องเคียง
หรืออาจนำไปผัดน้ำมัน หรือนำมาใช้ประกอบอาหารในเมนูต่าง ๆ
สรรพคุณยาไทย :
ผลมีรสหวาน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอ ม้าม ไต
ใช้เป็นบำรุงโลหิต ช่วยลดความดันโลหิตสูง มีสรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง
เป็นยาแก้โลหิตจาง
เมนูแนะนำ :
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
คุณค่าทางโภชนาการขององุ่น ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 66 กิโลแคลอรี
ไขมันทั้งหมด 0.4 g
ไขมันอิ่มตัว 0.1 g วิตามินซี 4 mg
คอเลสเตอรอล 0 mg แคลเซียม 14 mg
โซเดียม 2 mg เหล็ก 0.3 mg
โพแทสเซียม 191 mg วิตามินดี 0 IU
คาร์โบไฮเดรต 17 g วิตามินบี6 0.1 mg
เส้นใยอาหาร 0.9 g วิตามินบี12 0 µg
แมกนีเซียม 5 mg
น้ำตาล 16 g
โปรตีน 0.6 g
แหล่งข้อมูลประกอบ: USDA
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
นมโค
Fresh milk
อำเภอมวกเหล็กเป็นแหล่งผลิตน้ำนมดิบ หนึ่งในอาชีพพระราชทาน
ของรัชกาลที่ 9 ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชน
ประโยชน์
นมสดอุดมด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซม
เซลล์ที่สึกหรอ วิตามินบี 1,2 ที่ช่วยให้เซลล์ผิวหนังนั้นทำงานได้ดี รวมถึง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย ลดการเกิดอาการท้องผูก
มีสารอาหารอื่นๆ มากมาย เช่น แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันการ
เกิดโรคกระดูกพรุน มีวิตามินดี ที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
คุณค่าทางโภชนาการ
นมสด 1 ส่วน มีปริมาตร 240 มล.
ให้พลังงาน 150 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม
โปรตีน 8 กรัม
ไขมัน 8 กรัม
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอเมืองสระบุรี
บัวสาย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nymphaea pubescens Willd..
วงศ์ : NYMPHAEACEAE
สรรพคุณยาไทย :
ดอก บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มชื้น แก้ร้อนในได้
หัว บำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์
สายบัว บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีเบตาแคโรทีน
ซึ่งช่วยป้องกันและต้านโรคมะเร็งในลำไส้
ก้านใบกินเป็นผัก โดยการลอกผิวที่หุ้มออก จะนำมาผัดกับเนื้อสัตว์
แกงกะทิหรือแม้แต่กินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกก็ได้ ไหลบัว นำมาทำแกงส้มได้
เมนูแนะนำ :
ต้มกะทิสายบัว ยำสายบัว
คุณค่าทางอาหารสายบัว 100 กรัม
ให้พลังงาน 12 กิโลแคลอรี่ (Kcal)
แคลเซียม 8 มิลลิกรัม (mg)
เส้นใย 7 กรัม (g)
โปรตีน 3 กรัม (g)
ไขมัน 1 กรัม (g)
เบต้าแคโรทีน 44 ไมโครกรัม (µg)
Vitamin C 9 มิลลิกรัม (mg)
Vitamin A 7 ไมโครกรัม (µg)
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
หม่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Morus alba Linn.
ชื่อสามัญ Mullberry tree ,White Mulberry.
วงศ์ MORACEAE
สรรพคุณ
ใบหม่อน (ต้มน้ำหรือใบแห้งชงเป็นชาดื่ม) ช่วยในการผ่อนคลาย, แก้ร้อนใน
กระหายน้ำ, ช่วยลดไข้หวัด และอาการปวดหัว, ช่วยแก้อาการวิงเวียน
ศรีษะ, แก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้คอแห้ง, ต้านอนุมูลอิสระ ลดการ เสื่อมสภาพของ
เซลล์, ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และช่วยทุเลาอาการจากโรคเบาหวาน, ลดระ
ดับคลอเลสเตอรอล ในเลือด, ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด, ช่วยลด
ความดันเลือด และต้านแบคทีเรีย ช่วยแก้อาการท้องเสีย
เมนูแนะนำ
ข้าวตังใบหม่อน ต้มจืดใบหม่อน
ใบหม่อนชุบแป้งทอด
ต้มไก่ใบหม่อน แกงไก่ใบหม่อน
แกงเขียวหวานใบหม่อน
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอดอนพุด
รางจืด
ชื่อวิทยาศาสตร์ Thunbergia laurifolia Lindl.
ชื่อวงศ์ ACANTHACEAE
สมุนไพรล้างพิษ แก้พิษ
สรรพคุณ
ใบ คั้นน้ำกินแก้ไข้ และถอนพิษ "รางจืดหรือรางเย็น รสเย็น ใช้
ปรุงเป็นยาเขียว รับประทานเป็นยาถอนพิษ ทำให้ลดความ
ร้อนในร่างกาย แก้ไข้แก้พิษ กระทุ้งพิษไข้หัว
เถาและราก รับประทานเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษร้อนทั้งปวง
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอพระพุทธบาท
มะพร้าวน้ำหอม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cocos nucifera L. var. nucifera
ชื่อสามัญ : Coconut
วงศ์ : Palmae
สรรพคุณ
เนื้อมะพร้าว - รสชุ่ม สขุ ุม ไม่มีพิษ รับประทานบำรุงกำลัง
น้ำมะพร้าว - รสชุ่ม หวานสุขุม ไม่มีพิษ แก้กระหาย ทำให้จิตใจชุ่ม
ชื่น แก้พิษ อาเจียนเป็นเลือด ท้องเสีย บวมน้ำ ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว
เมนูแนะนำ
ห่อหมกกะทิสด แกงไก่ใส่กะทิยอด
มะพร้าวอ่อน แกงเขียวหวานกะทิ
คุณค่าทางอาหารเนื้อมะพร้าว 100 กรัม
ให้พลังงาน 354 กิโลแคลอรี่
ไขมัน 33 กรัม คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
ไฟเบอร์ 9 กรัม โปรตีน 3 กรัม
แมงกานีส 75% ทองแดง 22%
ซีลีเนียม 14% เหล็ก 13%
ฟอสฟอรัส 11% โพแทสเซียม 10%
แมกนีเซียม 8%
13 อำเภอสมุนไพร วิถีชุมชน
อำเภอวิหารแดง
สะเดา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Azadirachta indica A. Juss.
ชื่อสามัญ Neem,Margosa,Neem tree, Indian margosa
วงศ์ MELIACEAE
สรรพคุณ
ดอก ยอดออ่ น - แก้พิษโลหิต กำเดา แก้ริดสีดวงในลำคอ บำรุงธาตุ ขับลม
เปลือกต้น - แก้ไข้ เจริญอาหาร แก้ท้องเดิน บิดมูกเลือด
ก้านใบ - แก้ไข้ ทำยารักษาไข้มาลาเรีย
ยาง - ดับพิษร้อน
ใบ,ผล - ใช้เป็นยาฆ่าแมลง บำรุงธาตุ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ และยาระบาย
แก้โรคหัวใจเดินผิดปกติ
น้ำมันจากเมล็ด - ใช้รักษาโรคผิวหนัง และยาฆ่าแมลง
เมนูแนะนำ
ยำดอกสะเดา , ยำสะเดากุ้งสด , กุ้งผัดนาปลาหวานสะเดา , สะเดานาพริกปลาหวาน