จดหมายฝากของ
ท่านยากอบ
ทาํ ความเขา้ ใจพระคมั ภีร์
(อธิบายขอ้ พระคมั ภีร์แบบแบ๊พติสอิสระ)
โดย ดร. เดวิด เอช. ซอเรนสนั
นอร์ธสตาร์ มินิสตรีส์
(พนั ธกิจของคริสตจกั รแบพ๊ ติสนอร์ธสตาร์)
1820 ถ. เวสต์ มอร์แกน
ดิวลธั , มินเนโซตา้ 55811
218-726-0209
ปรับปรุงครังทีสอง
สงวนลิขสิทธิ 2007
นอร์ธสตาร์ มินิสตรีส์
1820 ถ. เวสต์ มอร์แกน
ดิวลธั , มินเนโซตา้ 55811
มิชชนั นารีชาวอเมริกนั ควรติดต่อ ดร. เดวดิ ซอเรนสนั
เพือขออนุญาตก่อนใชเ้ นือหาอธิบายขอ้ พระคมั ภีร์นี
[email protected]
จดหมายฝากของ
ท่านยากอบ
บทนําสู่ยากอบ: ชือทางการของหนังสือเล่มนีคือ “จดหมายฝากทัวไปของยากอบ” ถกู
เรียกเช่นนนั เพราะว่าไม่ได้ถกู เขียนถึงคริสตจักรแห่งใดแห่งหนึง (หรือคริสตจักรหลายแห่ง)
และไม่ได้ถกู เขียนถึงบคุ คลใดคนหนึงด้วย ด้วยเหตุนีมนั จึงเป็นจดหมายฝากทัวไป มีหลายคนที
มีชือว่ายากอบในพระคัมภีร์ ใหม่ เราเชือว่าผ้แู ต่งจดหมายฝากฉบบั นีคือ น้องชายร่วมมารดาของ
พระเยซูและต่ อมาได้ เป็ นศิษยาภิบาลของคริ สตจักรทีกรุงเยรูซาเลม็
จดหมายฝากฉบบั นีถกู เขียนถึง “พงศ์พนั ธ์ุสิบสองตระกลู ทีกระจัดกระจายอย่นู ัน” คน
เหล่านีน่าจะเป็นผ้เู ชือชาวยิวทีกระจัดกระจายไปทัวโลก ประเพณียคุ ต้นเชือว่ายากอบเสียชีวิต
อย่างผ้พู ลีชีพในปี ค.ศ.62 และจดหมายฝากฉบบั นีถกู เขียนขึนไม่กีปี ก่อนหน้านนั ดเู หมือน
จดหมายฝากฉบบั นีได้รับอิทธิพลน้อยมากจากใจความหลกั ของเปาโล เช่น พระคุณ หรือเรืองค
ริสตจักร แต่ยากอบเน้นเรือง ‘ธรรมศาลาของพวกทีเชือเรืองพระเมสสิยาห์’ ขณะทีคริสตจักรที
เพิงเกิดได้ไม่นานเติบโตขึนผ่านทางพวกยิวทีกระจัดกระจายไป ทีประชุมของพวกผ้เู ชือชาวยิว
จึงยงั เรียกทีประชุมของตนว่า ‘ธรรมศาลา’ อยู่ โดยเฉพาะทางตะวนั ออกของปาเลสไตน์ น่า
สนใจทีคาํ ทีแปลว่า “ทีประชุม” ในยากอบ 2:2 จริงๆแล้วคือ ‘ซูนาโกเก’ หรือ ‘ธรรมศาลา’
นนั เอง จดหมายฝากฉบบั นีจึงมีลกั ษณะเป็นแบบยิว ในด้านเนือหาแล้ว เป็นหนึงในจดหมายฝาก
ฉบบั แรกๆของพระคัมภีร์ใหม่ ย่อมมาก่อนพฒั นาการของหลักคาํ สอนทีเป็นลายลกั ษณ์อักษร
เรืองพระคุณโดยเปาโลหลงั จากนันไม่นาน
จดหมายฝากฉบบั นีเน้นเรืองปฏิบตั ิ มนั เริมต้นด้วยเหตุผลทีว่าทาํ ไมถึงต้องมีการทดสอบ
ความเชือ จากนนั ท่านกพ็ ดู ถึงการเลือกทีรักมกั ทีชังในคริสตจักร, อันตรายของลิน, การรักโลก,
อันตรายของความรํารวย, การเตรียมตวั ให้พร้อมสาํ หรับการเสดจ็ กลบั มาขององค์พระผ้เู ป็นเจ้า
และสุดท้ายคือ คาํ อธิษฐานทีเกิดผล
****
ภาพรวมของยากอบ 1: บทแรกของจดหมายฝากฉบับนีมีเนือหาเกียวกับ (1) จุดประสงค์
ของความทุกข์ยากต่างๆในชีวิตคริสเตียน (2) การทดลองให้กระทาํ บาปไม่เคยมาจากพระเจ้า
เลย, (3) การเตือนสติให้ประพฤติตามพระวจนะจริงๆ และ (4) แก่นแท้ของศาสนาทีแท้จริง
ยก 1:1 ผเู้ ขียนเริมตน้ จดหมายฝากฉบบั นีดว้ ยการระบุตวั ตนของตน ยากอบ ผู้รับ
ใช้ของพระเจ้าและของพระเยซูคริสต์เจ้า ตามทีไดก้ ล่าวไปแลว้ ในบทนาํ ดา้ นบน ผแู้ ต่งทีไดร้ ับ
การดลใจ ยากอบ น่าจะเป็นนอ้ งชายร่วมมารดาของพระเยซู คาํ กรีกทีแปลเช่นนนั (ยาโคบอส)
จริงๆแลว้ เป็นรูปแบบกรีกของชือฮีบรู ยาโคบ ถึงแมว้ า่ ผเู้ ขียนจะเรียกตวั เองวา่ เป็น ‘นอ้ งชายของ
พระเยซู’ กไ็ ด้ แต่ท่านกข็ อเรียกตวั เองอยา่ งถ่อมตนวา่ “ผรู้ ับใชข้ องพระเจา้ และของพระเยซู
คริสตเ์ จา้ ” ดีกวา่
จดหมายฝากฉบบั นีถกู เขียนถึง พงศ์พนั ธ์ุสิบสองตระกูลทกี ระจดั กระจายอยู่นัน คาํ ที
แปลวา่ ทกี ระจดั กระจายอยู่ (ดิอาสโพรา) เป็นคาํ ทพี วกยวิ จนถึงทุกวนั นีใชเ้ รียกการกระจดั
กระจายของตนไปทวั โลกของคนต่างชาติ จริงแลว้ มนั แปลวา่ ‘ถกู ทาํ ใหก้ ระจดั กระจาย’ อยา่ งไร
กต็ าม ในกรณีนียากอบไม่ไดก้ าํ ลงั เขียนถึงพวกยวิ โดยทวั ไป แต่จดหมายฝากฉบบั นีจะแสดงให้
เห็นอยา่ งชดั เจนวา่ ผอู้ ่านกค็ ือ ทีประชุมของผเู้ ชือทงั หลาย ซึงน่าจะเป็นชาวยวิ เพราะเหตุทีเปาโล
เป็นอคั รสาวกไปยงั พวกคนต่างชาติและนาํ ข่าวประเสริฐไปยงั ทิศตะวนั ตก อาจเป็นไปไดว้ า่ ยาก
อบ เช่นเดียวกบั เปโตร เป็นอัครสาวกไปยงั พวกยวิ ทีไปตงั รกรากอยทู่ างทิศตะวนั ออกซึงเป็นทีๆ
จกั รวรรดิบาบิโลนเคยตงั อยู่ เราไม่ควรลืมวา่ พวกยวิ ส่วนนอ้ ยมากๆทีถูกกวาดตอ้ นไปยงั ทีนนั
โดยคนบาบิโลนไดก้ ลบั มาในสมยั ของเอสราและเนหะมีย์ ทีนนั ยงั มีชุมชนชาวยวิ อยเู่ ป็นจาํ นวน
มากตลอดสมยั ศตวรรษทียสี ิบ ยากอบคาํ นับมายงั คนเหล่านีนนั เอง คาํ ทีแปลเช่นนนั (ไคโร) มี
ความหมายตรงตวั วา่ ‘ชืนชมยนิ ดี’ และเป็นสาํ นวนทีใชท้ กั ทายกนั ในสมยั นนั
ยก 1:2-3 ยากอบจึงไม่เสียเวลาเลยในการเขา้ สู่หวั ขอ้ แรกของการอภิปราย พนี ้อง
ของข้าพเจ้า เมอื ท่านทงั หลายตกอยู่ในการทดลองต่างๆกจ็ งถือว่าเป็ นเรืองน่ายนิ ดีทงั สิน นีสือวา่
ผอู้ ่านของท่านซึงเป็นผเู้ ชือกาํ ลงั ประสบกบั ความทุกขย์ ากอยใู่ นการดาํ เนินชีวติ คริสเตียน ดูเผนิ ๆ
แลว้ ปัญหาและความทุกขย์ ากต่างๆไม่เคยเป็นเรืองน่าชืนใจเลย อยา่ งไรกต็ ามยากอบซึงมีสติ
ปัญญาของความเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณกแ็ นะนาํ ใหพ้ วกเขายนิ ดีในยามทเี จอกบั การทดลอง
ต่างๆ 3 เพราะท่านทงั หลายรู้ว่า การทดลองความเชือของท่านนัน ทาํ ให้เกดิ ความเพยี ร ท่านพดู
ถึงความเชือเป็นครังแรกในสิบสองครังในจดหมายฝากฉบบั นี ขอ้ เทจ็ จริงกค็ ือวา่ การทดลองดู
ความเชือของเรานนั ก่อใหเ้ กิดความเพยี ร คาํ ทีแปลเช่นนนั (ฮูพอมอเน) สือความหมายถึง ‘ความ
ทรหดอดทน’, ‘ความหนกั แน่น’ และ ‘ความพากเพยี ร’ ดงั นนั พระเจา้ จึงทรงอนุญาตใหค้ วาม
ทุกขย์ ากต่างๆเกิดขึนกบั เราเพือพฒั นาความพากเพียรฝ่ ายวญิ ญาณ มนั เป็นเครืองหมายทีบ่งบอก
ถึงความเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณ ดงั นนั เมือความทุกขย์ ากต่างๆเกิดขึนในชีวติ คริสเตียน เราควร
ชืนชมยนิ ดีในความทุกขย์ ากเหล่านนั มากกวา่ ทีจะทอ้ ใจ ความทุกขย์ ากดงั กล่าวจะก่อใหเ้ กิด
ความเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณมากยงิ ขึน พระเจา้ ทรงทราบเกียวกบั เรืองนี พระองคจ์ ึงทรงยอมให้
มีการทดสอบดงั กล่าว คาํ สอนตรงนีสอดคลอ้ งกบั โรม 5:1-3
ยก 1:4 ท่านจึงแนะนาํ วา่ และจงให้ความเพยี รนันกระทาํ การจนสําเร็จ เพอื ท่าน
ทงั หลายจะสมบูรณ์ครบถ้วนไม่ขาดสิงใดเลย ในฐานะคนของพระเจา้ เราถูกกาํ ชบั (คาํ วา่ ให้ (เอ
ะโค) เป็นคาํ สงั ) ใหย้ อมใหค้ วามเพียรเติบโตเตม็ ทีผา่ นทางการถูกทดสอบ มิฉะนนั เรากต็ อ้ งยอม
แพ้ เป้ าหมายกค็ ือ เพือทีเราจะได้ (1) สมบูรณ์ คาํ ทีแปลเช่นนนั (เทะเละอิออส) มีความหมาย
อยา่ งหนึงวา่ ‘โตเป็นผใู้ หญ่’ ในกรณีนี ความหมายกค็ ือ การเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณ จากนนั ความ
เพยี รนนั ดีเพอื ทีเราจะได้ (2) ครบถ้วน คาํ ทีแปลเช่นนนั (ฮอลอคเลรอส) มีความหมายวา่
‘สมบูรณ์พร้อม’ สุดทา้ ย จุดประสงคอ์ ีกประการของการทดสอบกค็ ือ (3) เพอื ทีวา่ เราจะไดไ้ ม่
ขาดสิงใดเลยในเรืองฝ่ ายวญิ ญาณ
ปัญหายอ่ มเขา้ มาในชีวติ คริสเตียนอยแู่ ลว้ บางครังมนั กเ็ กิดขึนเพราะความโง่เขลาของเรา
หรือการขาดสติปัญญาของเรา อยา่ งไรกต็ ามพระเจา้ ทรงยอมใหป้ ัญหาเขา้ มาในชีวติ ของเราบาง
ครังกเ็ พอื พฒั นาความเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณของเราและความเพยี รในนนั ดงั นนั เราจึงถกู กาํ ชบั
ใหช้ ืนชมยนิ ดีแทนทีจะซึมเศร้าหรือบ่น
ยก 1:5 ยากอบจึงเปลียนไปพดู ถึงอีกเรืองซึงเกียวขอ้ งกนั ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาด
สตปิ ัญญา กใ็ ห้ผู้นันทูลขอจากพระเจ้า ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทงั ปวงอย่างเหลอื ล้นและ
มไิ ด้ทรงตาํ หนิ และจะทรงประทานให้แก่ผู้นัน คาํ ทีแปลวา่ ขาด (เละอิโพ) เป็นคาํ เดียวกบั ทีแปล
วา่ ขาด ในขอ้ ก่อนหนา้ อาจเป็นไดว้ า่ สิงทีขาดในขอ้ 4 กค็ ือ สติปัญญาทีถูกเอ่ยถึงในทีนี หาก
เป็นเช่นนนั กม็ คี วามเชือมโยงระหวา่ งความทุกขย์ ากในชีวติ คริสเตียนกบั พฒั นาการของสติ
ปัญญาทีเป็ นตามทางของพระเจา้
ผเู้ ขียนกาํ ชบั ต่อไปวา่ เมือเราตอ้ งการสติปัญญา ใหเ้ ราขอจากพระเจา้ โดยตรง ดงั นนั การ
อธิษฐานจึงเป็นพาหนะสาํ หรับการรับสติปัญญา การอธิษฐานดงั กล่าวคือ ความเชือทีออกมา
เป็นการกระทาํ ดงั ทีจะถูกบรรยายเพมิ เติมในขอ้ ต่อไป น่าสนใจตรงทีวา่ ยากอบกล่าววา่ พระเจา้
ทรงเตม็ พระทยั ทีจะประทานใหแ้ ก่ประชากรของพระองคโ์ ดยเฉพาะในเรืองของสติปัญญา
แน่นอนทีนีคือการอธิษฐานตามนาํ พระทยั ของพระองค์ ดู 1 ยอห์น 5:14 และสุภาษิต 4:5,7 ใน
กรณีดงั กล่าวพระองคจ์ ะทรงประทานใหอ้ ย่างเหลอื ล้น คาํ ทีแปลเช่นนนั (ฮัพโลส) ในบริบทนี
หมายถึง ‘ไม่หวงไว’้ นอกจากนีเมอื เราเขา้ หาพระเจา้ เพือขอสติปัญญาจากพระองคใ์ นเรืองใด
พระองคก์ ไ็ ม่ทรงตาํ หนิ คาํ ทีแปลเช่นนนั (โอเนะอิดิโซ) ในบริบทนีหมายถึง ‘ปฏิเสธ’ ความ
หมายตรงตวั กค็ ือ ‘ดุด่า’, ‘วา่ กล่าว’ หรือ ‘ทาํ โทษ’ อยา่ งไรกต็ าม เมือเราเขา้ หาพระเจา้ เพือทลู ขอ
สติปัญญา พระองคจ์ ะไม่เพียงประทานมนั ใหแ้ ก่เราโดยไม่ทรงหวงเท่านนั แต่พระองคจ์ ะไม่
ทรงติเตียนเราทีขอเช่นนนั อีกดว้ ย นีเป็นพระสัญญาอนั ประเสริฐในเรืองสติปัญญาเมือใดกต็ ามที
เราตอ้ งการ มนั เหมือนกบั การโทรขอแลว้ ไดเ้ ลย
ยก 1:6 อยา่ งไรกต็ าม ท่านกฝ็ ากคาํ เตือนไวด้ ว้ ย แต่จงให้ผู้นันทูลขอด้วยความ
เชือ อย่าหวนั ไหวเลย คาํ กาํ ชบั กค็ อื ใหข้ อดว้ ยความเชือและไม่หวนั ไหวเลย คาํ ทีแปลเช่นนนั (ดิ
อาคริโน) มีความหมายวา่ ‘ความลงั เล’ หรือ ‘ความสงสัย’ ความสงสัยเป็นสิงทีตรงขา้ มกบั ความ
เชือ ความสงสยั จะระบายแอ่งเกบ็ นาํ แห่งความเชือออกจนเกลียงหากเราปล่อยใหม้ นั เกิดขึน เมือ
เรามีความเชือ พระเจา้ กจ็ ะทรงกระทาํ กิจ แต่ความสงสัยจะทาํ ใหพ้ ระเจา้ ไม่ฟังคาํ อธิษฐานของ
เรา และทาํ ใหค้ าํ อธิษฐานของเราขาดฤทธิเดช ในทางกลบั กนั ความเชือกค็ ือ การเชือคาํ ตรัสของ
พระเจา้ ไม่มีปัญหาใดทีใหญ่เกินกวา่ ทีพระเจา้ จะทรงประทานสติปัญญาใหเ้ ราแกไ้ ขมนั ได้
ความผดิ พลาดของเรากค็ ือ การทีเราคดิ วา่ ปัญหาต่างๆของเรานนั หนกั หนาเกินกวา่ ทีแมแ้ ต่
พระเจา้ จะทรงแกไ้ ขได้ ดว้ ยเหตุนี ความสงสัยจึงทาํ ใหเ้ ราไม่แสวงหาความช่วยเหลือของพระเจา้
ตงั แต่แรก หรือหากเราอธิษฐานขอต่อพระเจา้ จริงๆ ความสงสัยกท็ าํ ใหค้ าํ อธิษฐานของเรา
ลดั วงจรและไปไม่ถึงพระเจา้
ความสงสยั เปรียบเหมือนกบั ความไม่มนั คงของทะเล เพราะว่าผู้ทหี วนั ไหวกเ็ ป็ นเหมือน
คลนื ในทะเลซึงถูกลมพดั ซัดไปมา อีกครังทีคาํ ทีแปลวา่ หวนั ไหว (ดิอาคริโน) หมายถึง ความ
สงสัย เมือเราสงสยั วา่ พระเจา้ จะทรงแกไ้ ขปัญหาของเราไดไ้ หมหรือเคลือนภูเขาของเราไดไ้ หม
เรากส็ าํ แดงใหเ้ ห็นถึงความไม่มนั คงฝ่ ายวญิ ญาณของเราเหมือนคลืนในทะเล นาํ ไม่วา่ จะอยใู่ น
แอ่งใหญ่หรือเลก็ กถ็ ูกลมพดั ใหส้ นั ไหวเป็นประจาํ อยแู่ ลว้ คลืนทีซดั ไปมาในทะเลกแ็ สดงให้
เห็นถึงความไม่มนั คงของมนั คนทีสงสัยวา่ พระเจา้ จะทรงสามารถประทานสติปัญญาเพอื แก้
ปัญหาทีรบกวนพวกเขาไดห้ รือไม่กเ็ ป็นเช่นนนั
ยก 1:7 ยากอบจงึ เตือนต่อไปวา่ ผู้นันจงอย่าคดิ ว่าจะได้รับสิงใดจากองค์พระผู้
เป็ นเจ้าเลย การอธิษฐานในนาทีสุดทา้ ยซึงเจอื ปนดว้ ยความสงสัยกข็ าดพลงั คาํ อธิษฐานเช่นนนั
ไม่มีวนั ทาํ ใหพ้ ระเจา้ ทรงกระทาํ กิจอะไรเลย ผเู้ ขียนอรรถาธิบายสงั เกตเห็นวา่ พวกคริสเตียนที
อ่อนแอมาขอใหพ้ ระเจา้ ช่วยเป็นทีพึงสุดทา้ ยดว้ ยความคิดทีวา่ ถึงอยา่ งไรพระองคก์ ท็ รงช่วยอะไร
ไม่ไดอ้ ยแู่ ลว้ พระเจา้ จึงทรงทาํ ตามอยา่ งทีพวกเขาคิดจริงๆ
ยก 1:8 ก่อนทีจะไปพดู ถึงเรืองต่อไป ยากอบปิ ดทา้ ยเนือหาตอนนีโดยกล่าววา่
คนสองใจเป็ นคนไม่มนั คงในบรรดาทางทงั หลายทตี นประพฤตนิ ัน คาํ ทีแปลวา่ สองใจ (ดิซู
คอส) มีความหมายเพมิ เติมวา่ ‘หวนั ไหว’, ‘ไม่แน่นอน’ หรือ ‘สงสัย’ มนั สือถึงความสนใจที
แบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่ าย นีหมายถึงคริสเตียน หรือคนทีอา้ งตวั วา่ เป็นผเู้ ชือ แต่ขณะเดียวกนั
กส็ งสยั วา่ พระเจา้ จะทรงช่วยเขาจากปัญหาทีเขาเผชิญอยไู่ ดห้ รือไม่ คาํ ทีแปลวา่ ไม่มนั คง (อาคา
ทาสตาทอส) มีความหมายดว้ ยวา่ ‘ไม่ตกลงปลงใจเดด็ ขาด’ ความหมายกค็ อื ‘การขาดรากฐานที
มนั คง’ จริงๆแลว้ เรามีรากฐานทีมนั คงแลว้ ในพระคริสต์ ผทู้ รงเป็นพระศลิ าของเรา อยา่ งไร
กต็ ามความสงสยั สามารถทาํ ใหเ้ ราหลงไปจากรากฐานนนั สู่คลืนทีฟฟู ่ องแห่งความคลอนแคลน
ฝ่ ายวญิ ญาณได้ ตราบใดทีเราปล่อยใหต้ วั เองถูกซดั ไปมาดว้ ยคลืนแห่งความสงสยั ความช่วย
เหลือจากพระเจา้ กจ็ ะยงั ไม่มีมาใหเ้ ห็น
ยก 1:9-11 นอ้ งชายขององคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ ของเราจึงเปลียนไปพดู ถึงอีกเรืองซึง
เกียวขอ้ งกนั ตลอดทุกยคุ สมยั มีคริสเตียนทียากจนในทางวตั ถุอยเู่ สมอ ยากอบจึงเตือนสติวา่ ให้
พนี ้องทตี ําต้อยชืนชมยนิ ดใี นการทที รงเชิดชูเขา หนึงในความทุกขย์ ากของชีวติ กค็ ือ ความยาก
ลาํ บากทีเกิดจากการเป็นคนยากจน นีน่าจะหมายสิงทียากอบเรียกวา่ “พนี อ้ งทีตาํ ตอ้ ย” อยา่ งไร
กต็ ามผเู้ ขียนท่านนีกห็ นุนใจคนทีเป็นแบบนนั ใหช้ ืนชมยนิ ดีในการทีทรงเชิดชูเขา คาํ ทีแปลเช่น
นนั (ฮูพซอส) มีความหมายวา่ การมี ‘ยศตาํ แหน่งสูง’ ถึงแมว้ า่ เราอาจมีฐานะตาํ ตอ้ ยในทางการ
เงินในสายตาของชาวโลก แต่ความจริงกค็ ือวา่ จริงๆแลว้ เรามียศตาํ แหน่งสูงในพระคริสต์ เราจะ
ยงั ไม่ไดย้ ศตาํ แหน่งนนั โดยสมบรู ณ์จนกวา่ พระคริสตจ์ ะเสดจ็ มา แต่ถึงอยา่ งไรแลว้ มนั กจ็ ะเป็น
จริงแน่ๆ
ในทางกลบั กนั ยากอบกล่าวต่อไปวา่ 10 และคนมงั มกี จ็ งชืนชมยนิ ดเี มอื ถูกทาํ ให้ตาํ ลง
เพราะว่าเขาจะต้องล่วงลบั ไปดุจดอกหญ้า ทงั ในตอนนนั และตอนนีมีพนี อ้ งหลายคนในคริสต
จกั รต่างๆทีมีฐานะมงั คงั ยากอบแนะนาํ ใหพ้ วกเขาชืนชมยนิ ดีเมือถูกทาํ ใหต้ าํ ลง ความมงั มีเป็น
สิงทีเปราะบางจริงๆ เหตุการณทีไม่มีใครคาดคิดมาก่อนสามารถทาํ ลายความมงั คงั ของคนๆหนึง
ไดเ้ พยี งชวั ขา้ มคืน หากและเมือมนั เกิดขึน ท่านกข็ อใหผ้ อู้ ่านทีมงั มีชืนชมยนิ ดี ยากอบจึงวกกลบั
ไปจุดทีท่านไดเ้ ริมไวใ้ นการทีท่านขอพีนอ้ งของท่านวา่ “เมอื ท่านตกอยใู่ นการทดลองต่างๆกจ็ ง
ถือวา่ เป็นเรืองน่ายนิ ดีทงั สิน” การทดสอบบางอยา่ งในชีวติ อาจมาในรูปของความพลิกผนั
ทางการเงิน อยา่ งไรกต็ ามพระเจา้ ทรงสามารถเลียงดูเราไดแ้ ละอาจถึงกบั ยอมใหม้ นั เกิดขึนเพือ
พฒั นาความเป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณ ดงั นนั ไม่วา่ คนๆหนึงจะยากจนหรือราํ รวย จงชืนชมยนิ ดีใน
องคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ และวางใจพระองคไ์ ม่วา่ จะเกิดอะไรขึนกต็ าม
ยากอบใชภ้ าพประกอบจากธรรมชาติเกียวกบั ความมงั คงั “เพราะวา่ เขาจะตอ้ งล่วงลบั ไป
ดุจดอกหญา้ ” เงินซึงใหค้ วามรูส้ ึกหลอกๆวา่ เป็นสิงสาํ คญั ถูกเปรียบวา่ เป็นเหมือนกบั ดอกหญา้
มนั ปรากฏอยเู่ พยี งชวั คราว จากนนั มนั กล็ ่วงลบั ไป 11 เพราะทนั ทที ตี ะวนั ขนึ พร้อมด้วยความ
ร้อนอนั แรงกล้า มนั กก็ ระทาํ ให้หญ้าเหยี วแห้งไป และดอกหญ้ากร็ ่วงลง และความงามของมนั
สูญสินไป คนมงั มจี ะเสือมสูญไปตามทางทงั หลายของเขาเช่นนันด้วย ผอู้ ่านทีเป็นชาว
ตะวนั ออกกลางคุน้ เคยดีกบั อาํ นาจของดวงอาทิตย์ เมือฤดูร้อนใกลเ้ ขา้ มา ดวงอาทิตยย์ ามเทียงวนั
กม็ กั แผดเผาจนดอกไมแ้ ห่งฤดูใบไมผ้ ลิเหียวแหง้ ไป ความงามของดอกไมก้ จ็ างหายและความ
เบ่งบานของมนั กส็ ูญสินไป คนราํ รวยกจ็ ะประสบกบั ชะตากรรมเดียวกนั หากพวกเขาไม่สูญเสีย
ความมงั คงั ของตนไป พวกเขากจ็ ะสูญเสียสุขภาพและความกระชุ่มกระชวยเมือพวกเขามีอายุ
มากขึน ชุมชนคนเกษียณต่างๆสมยั นีเตม็ ไปดว้ ยคนทีมฐี านะดีซึงเป็นดอกไมท้ ีเหียวแหง้ ไปจาก
ความเบ่งบานทีพวกเขาเคยมี
ประเดน็ สาํ คญั ตรงนีกค็ ือวา่ คริสเตียนทียากจนควรชืนชมยนิ ดีในพระเจา้ และการทีพวก
เขาจะไดร้ ับการยกชูขึนเมือพระคริสตเ์ สดจ็ กลบั มา คริสเตียนทงั หลายทีราํ รวยควรมีใจจดจ่อที
องคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ และชืนชมยนิ ดีในพระองค์ ความมงั คงั บนโลกนีของพวกเขาเป็นสิงไม่จีรังอยู่
แลว้
ยก 1:12 ไม่วา่ จะยงั ไง ความสุขย่อมมแี ก่คนนันทสี ู้ทนการทดลอง เพราะเมอื
ปรากฏว่าผู้นันทนได้แล้ว เขาจะได้รับมงกฎุ แห่งชีวติ ซึงองค์พระผู้เป็ นเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แก่
คนทงั หลายทรี ักพระองค์ พระพรจึงถูกสัญญาแก่คนเหล่านนั ทีสูท้ นช่วงเวลาแห่งการทดสอบ
คาํ ทีแปลวา่ การทดลอง (เพะอิราสมอส) ในบริบทนีหมายถึง การ ‘ถูกลองใจ’ หรือ ‘ถูกทดสอบ’
ทีน่าสนใจอีกคือคาํ ทีแปลวา่ สู้ทน (ฮูพอเมะโน) มนั เป็นคาํ กริยาของคาํ ทีแปลวา่ ความเพยี ร (ฮู
พอมอเน) ในขอ้ 3 และ 4 ยากอบไดว้ นมาครบรอบแลว้ ท่านเริมโดยการกาํ ชบั ผอู้ ่านของท่านให้
ชืนชมยนิ ดีในการทดสอบต่างๆ คราวนีท่านกล่าวถึงพระพรของการสู้ทนการทดสอบดงั กล่าว
คาํ ทีแปลวา่ ทนได้แล้ว (ดอคิมอส) ในบริบทนีหมายถึง การ ‘ถูกทดสอบแลว้ ’
ในบริบทดงั กล่าวสิงทีทรงสัญญาไวก้ ค็ ือ “มงกฎุ แห่งชีวติ ” สาํ หรับการสูท้ นช่วงเวลา
แห่งการทดสอบต่างๆในชีวติ คริสเตียน นีอาจเป็นส่วนหนึงของสิงทีท่านกาํ ลงั พดู ถึงในเรืองที
ใหพ้ นี อ้ งทีตาํ ตอ้ ยชืนชมยนิ ดี เมือคริสเตียนเผชิญกบั ความทุกขย์ ากต่างๆในชีวติ และพากเพยี ร
อยา่ งอดทนในความทุกขย์ ากนนั ๆ พระเจา้ กท็ รงสัญญาวา่ จะประทานมงกฎุ แห่งชีวติ ให้ คาํ ที
แปลเช่นนนั (สเตะฟานอส) หมายถึง พวงมาลยั สวมศรี ษะของผชู้ นะทีถกู มอบใหใ้ นการแข่งขนั
กีฬาของชาวกรีก เปาโลพดู ถึงการประทานบาํ เหนจ็ แบบเดียวกนั นีใน 1 โครินธ์ 9:25 นีน่าจะเป็น
หนึงในมงกฎุ หลายอนั ซึงจะถกู ประทานใหท้ ีบลั ลงั กพ์ พิ ากษาของพระคริสต์ ดู 2 โครินธ์ 5:10
ยากอบกล่าวต่อไปวา่ พระเจา้ ทรงสญั ญาวา่ จะทรงประทานมงกฎุ นีใหแ้ ก่ “คนทงั หลาย
ทีรักพระองค”์ นีสือชดั เจนวา่ ความรักทีมีต่อพระคริสตเ์ ป็นแรงจูงใจหลกั ทีช่วยใหผ้ คู้ นของ
พระเจา้ สตั ยซ์ ือต่อไปในช่วงเวลาแห่งการทดสอบ ในววิ รณ์ 2:10 พระเยซูคริสตเ์ องกท็ รงสญั ญา
วา่ จะประทานมงกฎุ แห่งชีวติ ใหแ้ ก่ผทู้ ีมคี วามสัตยซ์ ือในยามทีถูกข่มเหง
ยก 1:13 คราวนียากอบเปลียนไปพดู ถึงอีกแง่มุมหนึงของการทดลอง นนั คือ การ
ล่อลวงใหก้ ระทาํ ผดิ ท่านจึงเตือนวา่ เมอื ผู้ใดถูกล่อลวงให้หลง อย่าให้ผู้นันพดู ว่า "พระเจ้าทรง
ล่อลวงข้าพเจ้าให้หลง" เพราะว่าความชัวจะมาล่อลวงพระเจ้าให้หลงไม่ได้ และพระองค์เองกไ็ ม่
ทรงล่อลวงผู้ใดให้หลงเลย คาํ ทีแปลวา่ ล่อลวง (เพะอิราโซ) เป็นคาํ กริยาของคาํ ทีแปลวา่ การ
ทดลอง ในขอ้ 12 (เพะอิราสมอส) ในทีนีคาํ นีถูกใชใ้ นแง่ลบ นนั คือ การล่อลวงใหก้ ระทาํ บาป
ยากอบจงึ เตือนใหร้ ะวงั การกล่าวหาวา่ การทดลองดงั กล่าวมาจากพระเจา้ ท่านจึงนาํ เสนอความ
จริงสองประการ (1) พระเจา้ ไม่ทรงถูกทดลองใหก้ ระทาํ ชวั เราเห็นถึงความบริสุทธิอนั ไร้ขีด
จาํ กดั ของพระเจา้ นอกจากนี (2) เพราะวา่ พระเจา้ ทรงเป็นผบู้ ริสุทธิ พระองคจ์ ึงไม่เคยและจะ
ไม่มีวนั ทดลองใหผ้ ใู้ ดกระทาํ ผดิ เดด็ ขาด การกล่าวคาํ หมนิ ประมาทอยา่ งโง่ๆดงั กล่าว (คือ กล่าว
หาวา่ พระเจา้ ทรงทดลองใหก้ ระทาํ ชวั ) จึงไม่สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะประจาํ ตวั ของพระเจา้
ยก 1:14-15 แต่ว่าทุกคนกถ็ ูกล่อลวง เมอื ตัณหาของตนเองชักนําให้กระทาํ ผดิ
แล้วตวั กก็ ระทาํ ตาม คาํ ทีแปลวา่ ชักนํา (เอก็ เซ็ลโค) มคี วามหมายวา่ ‘ถูกล่อออกไปขา้ งหนา้ ’
เหมือนกบั ปลาทีถกู ล่อใหก้ ินเหยอื ทีตะขอ มนุษยถ์ กู ล่อใหต้ ิดกบั โดยตณั หาของตวั เอง มนั เป็น
สิงทีติดตวั เรามาอยแู่ ลว้ ถึงแมว้ า่ บางครังพญามารถกู เอ่ยถึงวา่ เป็นผทู้ ดลอง แต่ในทีนียากอบก็
โทษอยา่ งยตุ ิธรรมวา่ เป็นความผดิ ของตณั หาของมนุษยเ์ อง คาํ ทีแปลเช่นนนั (เอะพิธูเมีย) มคี วาม
หมายตรงตวั วา่ ‘ความปรารถนาต่างๆ’ ไม่วา่ จะมีลกั ษณะเฉพาะตวั แบบใดกต็ าม ทีน่าสนใจคือ
คาํ ทีแปลวา่ กระทาํ ตาม (เดะเละอาโซ) มนั มคี วามหมายตรงตวั วา่ ‘ใชเ้ หยอื ล่อ’ หรือ ‘จบั โดยใช้
เหยอื ล่อ’ ความหมายหลกั กค็ ือวา่ เราถกู ล่อใหต้ ิดกบั โดยตณั หาของเราเองและถกู จบั เหมือนปลา
ทีหลงกินเหยอื ล่อ ความผดิ จึงอยทู่ ีตวั เราเอง พระเจา้ ไม่ไดม้ ีส่วนล่อลวงเราเลย เราอา้ งไม่ไดด้ ว้ ย
วา่ ‘พญามารบงั คบั ใหฉ้ นั ทาํ ’ การทดลองต่างๆเกิดมาจากภายในตวั เรา พญามารอาจฉวยโอกาส
จากขอ้ เทจ็ จริงดงั กล่าวซึงมนั กท็ าํ แบบนนั บ่อยๆ แต่การทดลองมีบ่อเกิดมาจากความปรารถนา
ต่างๆทไี ม่บริสุทธิภายในตวั เรา
จากนนั ยากอบเปลียนไปใชภ้ าพเปรียบของการปฏิสนธิและการใหก้ าํ เนิดบุตร (ความ
บาปในเรืองเพศกเ็ ป็นตณั หาแบบหนึง) 15 ครันตณั หาเกดิ ขนึ แล้ว กท็ าํ ให้เกดิ บาป และเมอื บาป
โตเตม็ ทแี ล้ว กน็ ําไปสู่ความตาย เช่นเดียวกบั ทีการมีเพศสัมพนั ธ์อาจก่อใหเ้ กิดการปฏิสนธิซึงนาํ
ไปสู่การใหก้ าํ เนิดบุตร ตณั หากก็ ่อใหเ้ กิดความบาปเช่นกนั ถึงแมว้ า่ นีเป็นภาพประกอบเกียวกบั
การปฏิสนธิและการใหก้ าํ เนิดบุตร แต่การประยกุ ตใ์ ชก้ ไ็ ม่ใช่แค่เรืองความบาปทางเพศเท่านนั
ประเดน็ สาํ คญั กค็ ือวา่ ตณั หาจะก่อตวั ขึนภายในซึงนาํ ไปสู่ความบาปไม่วา่ จะเป็นความบาปแบบ
ใดกต็ าม อยา่ งไรกต็ าม ความจริงอนั น่าขมขนื กค็ อื วา่ ความบาปทีถกู ปฏิสนธิขนึ มาสุดทา้ ยแลว้ ก็
นาํ ไปสู่ความตาย ในสวนเอเดน เอวาไม่ไดเ้ ชือพระเจา้ จริงๆเมือพระองคท์ รงเตือนนางวา่ ในวนั
ใดทีเจา้ กินผลไมน้ นั “เจา้ จะตอ้ งตายเป็นแน่” (ปฐมกาล 2:17) ความไม่เชือฟังของนางนาํ ไปสู่
ความตายฝ่ ายวญิ ญาณทนั ทีซึงในทีสุดแลว้ กน็ าํ มาซึงความตายฝ่ ายร่างกาย ดงั นนั วถิ แี ห่งความ
บาปจึงถูกบรรยายวา่ เป็นเหมือนการใหก้ าํ เนิดบุตร ความปรารถนาอนั เปี ยมดว้ ยบาปคือการ
ปฏิสนธิ การกระทาํ บาปคือการใหก้ าํ เนิดบุตร ความตายฝ่ ายวญิ ญาณชวั นิรันดร์จึงเป็นผลลพั ธใ์ น
ทา้ ยทีสุด
ยก 1:16 ในบริบทดงั กล่าว ยากอบเตือนวา่ พนี ้องทรี ักของข้าพเจ้า อย่าหลงผดิ เลย
คาํ ทีแปลวา่ หลงผดิ (พลานาโอ) มีความหมายวา่ ‘ถูกหลอกลวง’ ท่านจึงเตือนพีนอ้ งทีรักของ
ท่านใหร้ ะวงั การหลอกลวงดงั กล่าว (1) ทีวา่ พระเจา้ ทรงเป็นแหล่งทีมาของการทดลอง และ (2)
ทรงเป็นทีมาของความบาปเองดว้ ย
ยก 1:17 ผเู้ ขียนทไี ดร้ ับการดลใจท่านนีเปลียนไปพดู ถึงหวั ขอ้ ใหม่ซึงแตกต่างจาก
เรืองทีเพิงกล่าวไปแลว้ แทนทีพระเจา้ จะทรงเป็นแหล่งทีมาของการทดลอง ในทางตรงกนั ขา้ ม
ของประทานอนั ดีทุกอย่าง และของประทานอนั เลศิ ทุกอย่างย่อมมาจากเบืองบน และส่งลงมา
จากพระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระบดิ าไม่มีการแปรปรวน หรือไม่มเี งาอนั เนืองจากการ
เปลยี นแปลง
คาํ เทศนาอนั เปี ยมดว้ ยคาํ สอนนีถกู สรุปยอ่ ในขอ้ พระคมั ภีร์ขอ้ นีขอ้ เดียว พระเจา้ ทรงถูก
นาํ เสนอวา่ เป็นแหล่งทีมาแห่งของประทานต่างๆแก่มนุษยชาติ ความจริงกค็ ือ ของประทานอนั ดี
และเลิศทุกอยา่ งยอ่ มมาจากเบืองบน (คอื มาจากพระองค)์ นีสือชดั เจนถึงพระคุณของพระองค์
ในการทีทรงประทานของประทานต่างๆแก่มนุษยชาติ นอกจากนีของประทานของพระองคก์ ท็ งั
ดีและเลิศ คาํ ทีแปลวา่ ดี (อากาธอส) บ่งบอกถึง ประโยชนอ์ นั ดีงามสูงสุดในทางศีลธรรม คาํ ที
แปลวา่ เลศิ (เทะเละอิออส) มีความหมายดว้ ยวา่ ‘ไม่ขาดสิงใดเลย’ สิงทีพระเจา้ ทรงประทานให้
นนั ประเสริฐสุดแลว้ มนั สมบรู ณ์แบบและไม่ขาดสิงใดเลย ความดีของพระองคถ์ ูกสาํ แดงให้
เห็นในการทีพระองคท์ รงประทานของประทานอนั ดีงามของพระองคแ์ ก่มนุษยชาติอยา่ งเหลือ
ลน้ และอุดม
ยากอบกล่าวต่อไปโดยบรรยายถึงพระเจา้ วา่ ทรงเป็น “พระบิดาแห่งบรรดาดวงสวา่ ง ใน
พระบิดาไม่มีการแปรปรวน หรือไม่มีเงาอนั เนืองจากการเปลียนแปลง” พระเจา้ ทรงเป็นความ
สวา่ งและเป็นทีมาของความสวา่ ง พระองคจ์ ึงทรงเป็นผใู้ หก้ าํ เนิดความสวา่ งทงั ปวง ยอห์นเขียน
ไวว้ า่ “และไม่มีความมืดอยใู่ นพระองคเ์ ลย” (1 ยอห์น 1:5) นอกจากนีในพระเจา้ ไม่มีการ
แปรปรวนดว้ ย คาํ ทีแปลเช่นนนั (พาราลลาเก) มคี วามหมายวา่ ‘การเปลียนแปลง’ หรือ ‘ความ
ผนั แปร’ เราเห็นถงึ ความไม่เปลียนแปลงของพระเจา้ พระองคไ์ ม่เคยเปลียนแปลง พระองคท์ รง
เป็นเหมือนเดิมเสมอ ความจริงของพระองคไ์ ม่เคยเปลียนแปลง พระวจนะของพระองคไ์ ม่เคย
เปลียนแปลง พระลกั ษณะอนั บริสุทธิของพระองคไ์ ม่เคยเปลียนแปลง ยากอบใชภ้ าพประกอบ
เพิมเติมของเงาทีเคลือนไหว สาํ หรับพระเจา้ แลว้ ไม่มีการรวนเรไปมา พระองคไ์ ม่มีวนั
เปลียนแปลง ดู สดุดี 90:2 และมาลาคี 3:6 ในทางกลบั กนั พระเจา้ ทรงเป็นผอู้ ุปถมั ภเ์ ราอยา่ งมาก
ของประทานต่างๆของพระองคล์ ว้ นดีและสมบูรณ์แบบ นอกจากนีพระองคไ์ ม่มีวนั เปลียนแปลง
ยก 1:18 ยอหน์ กล่าวต่อไปถึงความจริงอีกเรืองทีเกียวขอ้ งกนั พระองค์ได้ทรงให้
เราทงั หลายบงั เกดิ โดยพระวจนะแห่งความจริงตามนําพระทยั ของพระองค์ ความดีงามของ
พระเจา้ ถูกพบอีกในการทีพระองคท์ รงประทานการบงั เกิดฝ่ ายวญิ ญาณผา่ นทางพระวจนะของ
พระเจา้ คาํ ทีแปลวา่ ให้..บงั เกดิ (อาพอคูเอะโอ) หมายถงึ ‘การใหก้ าํ เนิด’ อยา่ งไรกต็ าม ขอ้ เทจ็
จริงทีวา่ การบงั เกิดนีเป็นมาโดย “พระวจนะแห่งความจริง” กช็ ีชดั วา่ นีเป็นการบงั เกิดฝ่ าย
วญิ ญาณ ท่านกาํ ลงั หมายถึงการบงั เกิดใหม่ ดู 1 เปโตร 1:23 การสร้างใหม่ฝ่ ายวญิ ญาณส่วนหนึง
เกิดขึนไดโ้ ดยทางพระวจนะของพระเจา้
วลีสุดทา้ ย เพอื เราทงั หลายจะได้เป็ นอย่างผลแรกแห่งสรรพสิงซึงพระองค์ทรงสร้างนัน
อาจแปลใหม่ไดว้ า่ ‘เพอื เราทงั หลายจะไดเ้ ป็นส่วนหนึงของผลแรกแห่งสรรพสิงซึงพระองคท์ รง
สร้างนนั ’ ยากอบอาจกาํ ลงั หมายถึงคนรุ่นแรกทีมีความเชือแบบคริสเตียน จริงๆแลว้ พวกเขาเป็น
ผลแรกของกลุ่มผเู้ ชือทีจะทวจี าํ นวนเพิมขึนมาตลอดทุกยคุ สมยั ผลแรกเป็นแนวคิดทีพวกยวิ คุน้
เคยดี มนั เป็นส่วนแรกของผลการเกบ็ เกียวทีสงวนไวส้ าํ หรับพระเจา้ ดู อพยพ 23:19, 34:36 ฯลฯ
ยก 1:19 เพราะขอ้ เทจ็ จริงทีวา่ (1) การลองดูความเชือของเราก่อใหเ้ กิดความ
อดทนและ (2) พระเจา้ ไม่ทรงทดลองใครใหก้ ระทาํ บาป และ (3) ของประทานทีดีทุกอยา่ งมา
จากเบืองบน ยากอบจึงใหค้ าํ แนะนาํ วา่ ดงั นัน พนี ้องทรี ักของข้าพเจ้า จงให้ทุกคนไวในการฟัง
ช้าในการพดู ช้าในการโกรธ มีสติปัญญาในคาํ แนะนาํ นี ปัญหามากมายในชีวติ คงไม่เกิดขึนหาก
ผคู้ นของพระเจา้ นาํ คาํ แนะนาํ ง่ายๆนีไปปฏิบตั ิโดยทวั กนั ยากอบกาํ ลงั พดู ถึงเรืองของอารมณ์
โกรธและการควบคุมอารมณ์ไม่อยซู่ ึงท่านจะพดู ถงึ อีกทีในบทนี
ยก 1:20 ความคดิ ทีสอดคลอ้ งกนั อยตู่ รงนี เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ได้
กระทาํ ให้เกดิ ความชอบธรรมอย่างพระเจ้า คาํ ทีแปลวา่ กระทาํ ให้เกดิ (คาเตะรกาซอไม) มีความ
หมายวา่ ‘ทาํ ใหส้ าํ เร็จ’ หรือ ‘บรรลุ’ มีสิงทีเรียกกนั วา่ ความโกรธอนั ชอบธรรม อยา่ งไรกต็ าม
พวกเรามกั ไม่ค่อยมีปัญหากบั ความโกรธประเภทนี ในทางกลบั กนั ความโกรธส่วนใหญ่ของเรา
เกิดมาจากเนือหนงั และเป็นการงานของเนือหนงั ความโกรธของมนุษยไ์ ม่ค่อยทาํ ใหค้ วามชอบ
ธรรมของพระเจา้ สาํ เร็จแต่อยา่ งใด หรือกล่าวอีกนยั หนึงกค็ ือวา่ ความโกรธทีถกู แสดงออกมาไม่
ค่อยเป็นสิงทชี อบธรรมเลย
ยก 1:21 ยากอบจึงมาถึงขอ้ สรุปตามหลกั เหตุผลอีกประการเกียวกบั เรืองนี เหตุ
ฉะนัน จงถอดทงิ การโสโครกทุกอย่าง และการชัวร้ายอนั ดาษดืน คาํ ทีแปลวา่ การโสโครก (รู
พาเรีย) มคี วามหมายดว้ ยวา่ ‘การทาํ ใหม้ ลทิน’ และนียอ่ มหมายถึงความโกรธของมนุษยซ์ ึงถกู
พดู ถึงไปแลว้ ดา้ นบน การควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยมู่ กั นาํ ไปสู่ความบาป วลี “การชวั ร้ายอนั
ดาษดืน” มีความหมายตรงตวั วา่ ‘ความบริบูรณ์ของความประสงคร์ ้าย’ (หรือ การคิดรา้ ย) นีเป็น
อีกครังทียากอบพดู ถงึ สิงทีเป็นปัญหาในตวั ผอู้ ่านของท่านอยา่ งชดั เจน นนั คือ การมีอารมณ์เสีย
ง่าย ควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยู่ และการคิดร้าย ท่านกาํ ชบั พวกเขา (และเราดว้ ย) ใหถ้ อดทิงการ
ดงั กล่าวเสีย
ท่านกลบั กาํ ชบั เราวา่ และจงน้อมใจรับพระวจนะทที รงปลูกฝังไว้แล้วนัน ซึงสามารถ
ช่วยจติ วญิ ญาณของท่านทงั หลายให้รอดได้ คาํ ทีแปลวา่ น้อมใจ (พราอูเทส) มีความหมายวา่ การ
มีวนิ ยั ในดา้ นอารมณ์ มนั ก่อใหเ้ กิดการรู้จกั ควบคุมอารมณ์ของตนเอง ดงั นนั เราจงึ ถูกกาํ ชบั ให้
รับ “พระวจนะทีทรงปลูกฝังไวแ้ ลว้ นนั ” ดว้ ยท่าทีดงั กล่าว คาํ ทีแปลวา่ ถูกปลูกฝังไว้แล้ว (เอม็ ฟู
ทอส) มีความหมายวา่ ‘ฝังไวข้ า้ งใน’ กล่าวอีกนยั หนึง ยากอบหนุนใจผอู้ ่านของท่านใหร้ ับพระ
วจนะของพระเจา้ และฝังมนั ไวใ้ นใจของพวกเขา นอกจากนีพระวจนะดงั กล่าว “สามารถช่วยจิต
วญิ ญาณของท่านทงั หลายใหร้ อดได”้ ดว้ ย
ยก 1:22 ในส่วนของพระวจนะทีถูกปลูกฝังไวแ้ ลว้ นนั ยากอบเริมพดู ถึงประเดน็ ที
สาํ คญั กวา่ แต่ท่านทงั หลายจงเป็ นคนทปี ระพฤติตามพระวจนะนัน ไม่ใช่เป็ นแต่เพยี งผู้ฟัง
เท่านัน ซึงเป็ นการล่อลวงตนเอง อีกเดียวท่านจะขยายความเกียวกบั เรืองนีมากขึน อยา่ งไรกต็ าม
หนา้ ทีของเรานนั กเ็ รียบง่ายพอๆกบั ทีมนั ลกึ ซึง พระเจา้ ไดท้ รงเรียกเราใหป้ ระพฤติตามพระ
วจนะของพระองคแ์ ละไม่ใช่แค่ฟังมนั เท่านนั การฟังเป็นเพียงช่องทางทีนาํ ไปสู่การประพฤติ
ตามพระวจนะนนั ซึงเป็นเรืองทีสาํ คญั กวา่ การเป็นแต่เพยี งผฟู้ ังกเ็ ท่ากบั เป็นการล่อลวงตวั เอง คาํ
ทีแปลเช่นนนั (พาราลอกิซอไม) มีความหมายดว้ ยวา่ ‘หลอกลวง’ มคี ริสเตียนมากมายขนาด
ไหนในปัจจุบนั ทีมานงั ฟังคาํ เทศนา กลบั บา้ นไปและไม่เคยทาํ ตามคาํ เทศนาเลย พวกเขาอาจคิด
วา่ ตวั เองเป็นคริสเตียนทีดี อยา่ งไรกต็ ามยากอบบอกวา่ พวกเขาหลอกตวั เอง ตามทีจะถกู พดู ถึง
ในขอ้ 26 สิงทีถูกปิ ดบงั อยกู่ ค็ ือ การควบคุมอารมณ์ไม่อยแู่ ละปากพล่อยๆ เห็นไดช้ ดั วา่ นีเป็น
บริบททียากอบกาํ ชบั ใหผ้ อู้ ่านของท่านเป็นคนทีประพฤติตามพระวจนะนนั บริบททีมาก่อน
หนา้ (ขอ้ 19-21) กพ็ ดู ถึงเรืองเดียวกนั
ยก 1:23-24 ในทาํ นองเดียวกนั ยากอบกล่าวต่อไปวา่ เพราะว่าถ้าผู้ใดฟังพระ
วจนะ และไม่ได้ประพฤตติ าม ผู้นันกเ็ ป็ นเหมอื นคนทดี ูหน้าของตวั ในกระจกเงา ท่านเปรียบคน
ทีไดย้ นิ พระวจนะแต่กไ็ ม่สนใจมนั วา่ เป็นเหมือนคนทีตืนนอนในตอนเชา้ และส่องกระจก คาํ ที
แปลวา่ กระจกเงา (เอะซอพตรอน) หมายถึงกระจกของคนสมยั โบราณซึงปกติแลว้ เป็นแกว้ หรือ
โลหะทีขดั จนขนึ เงา
24 ด้วยว่าคนนันแลดูตัวเองแล้วไปเสีย แล้วในทันใดนันกล็ มื ว่าตวั เป็ นอย่างไร ภาพ
เปรียบนีไม่มีอะไรซบั ซอ้ น เราส่องดูตวั เองในกระจกในตอนเชา้ จากนนั เรากไ็ ปทาํ กิจธุระประจาํ
วนั ของเราต่อไป คนเรามกั ไม่ค่อยนึกยอ้ นกลบั ไปวา่ เมือเชา้ หนา้ ตาเป็นอยา่ งไร พวกเขามวั แต่ยงุ่
กบั กิจวตั รประจาํ วนั และลืมไปวา่ หนา้ ตาเป็นอยา่ งไร คนทีแค่ฟังพระวจนะและไม่รับมนั ปลกู ฝัง
ไวใ้ นใจจนถึงขนั ประพฤติตามกเ็ ป็นเช่นนนั จนกวา่ เขาจะประพฤติตาม มนั กเ็ ป็นเหมือนกบั
เมลด็ พชื ทีวางอยบู่ นพืนดินเท่านนั เมือใดทีมนั ถูกปลูกฝังไวม้ นั จึงจะเริมทาํ งาน บทเรียนทีสาํ คญั
กวา่ กค็ ือ การนาํ พระวจนะของพระเจา้ ไปปฏิบตั ิในชีวติ ของเรา พระเยซูทรงกาํ ชบั ในพระมหา
บญั ชาใหส้ อนเขา “ใหถ้ ือรกั ษาสิงสารพดั ซึงเราไดส้ งั พวกท่านไว”้ พระเยโฮวาหท์ รงกาํ ชบั โยชู
วาใหใ้ คร่ครวญในพระวจนะของพระองคท์ งั กลางวนั และกลางคืนเพอื ทีเขาจะได้ “ระวงั ทีจะ
กระทาํ ตามขอ้ ความทีเขียนไวน้ นั ทุกประการ” การเนน้ ยาํ ทวั พระวจนะของพระเจา้ กค็ ือการกระ
ทาํ ตามพระวจนะนนั การไดย้ นิ เป็นเพียงจุดเริมตน้ เท่านนั แน่นอนทีมนั ไม่ใช่จุดจบ
ยก 1:25 ยากอบจงึ สงั เกตวา่ ฝ่ ายผู้ใดทพี จิ ารณาดูในพระราชบัญญตั แิ ห่งเสรีภาพ
อนั ดีเลศิ และดาํ รงอยู่ในพระราชบญั ญัตนิ ัน ผู้นันไม่ได้เป็ นผู้ฟังแล้วหลงลมื แต่เป็ นคนประพฤติ
ตาม คนนันจะได้ความสุขในการของตน
ความจริงอนั ยงิ ใหญ่อยตู่ รงนีแลว้ ยากอบบรรยายถึงผทู้ ี (1) พจิ ารณาดูในพระวจนะของ
พระเจา้ คาํ ทีแปลเช่นนนั (พาราคุพโต) มคี วามหมายวา่ ‘หยดุ พกั , กม้ ดู และตรวจตราอยา่ งใกล้
ชิด’ มนั สือถึงการศึกษาอยา่ งตงั ใจและ/หรือการซึมซบั สิงใดสิงหนึง ท่านบรรยายถึงเขาวา่ (2)
ดํารงอยู่ในพระวจนะนนั คาํ ทีแปลเช่นนนั (พาราเมะโน) มีความหมายเพมิ เติมวา่ ตงั มนั คงอยใู่ น
พระวจนะของพระเจา้ นีเป็นยงิ กวา่ การซึมซบั แบบสบายๆหรือความรู้แบบผา่ นๆ ยากอบพดู ถึง
คนทใี ชเ้ วลาในการศึกษาพระวจนะและทาํ เช่นนนั ต่อไป คนนีจึงเป็นคนทีกลายเป็น (3) “คน
ประพฤติตาม” คนเหล่านนั ทีจะซึมซบั พระวจนะของพระเจา้ อยา่ งตงั ใจในระยะยาวจะพฒั นาจน
กลายเป็นผทู้ ีกระทาํ งานของพระเจา้ จริงๆ
ผลลพั ธ์กค็ ือวา่ (4) “คนนนั จะไดค้ วามสุขในการของตน” พระเจา้ จะทรงอวยพรการทีคน
แบบนนั กระทาํ ดงั นนั จึงมสี ูตรง่ายๆแต่ลึกซึงเพอื ทีพระเจา้ จะทรงอวยพรกิจการของเรา มนั คือ
การซึมซบั พระวจนะของพระเจา้ อยา่ งต่อเนืองจนถึงจุดทีเราประพฤติตามพระวจนะนนั
นอกจากนีมนั ยงั นาํ ไปสู่การทาํ งานของพระเจา้ ใหส้ าํ เร็จดว้ ยในเวลาเดียวกนั ผลลพั ธ์กค็ ือพระพร
ของพระเจา้ คาํ สอนตรงนีสอดคลอ้ งกบั ความจริงในสดุดี 1:2-3 และโยชูวา 1:8 การศกึ ษาพระ
วจนะของพระเจา้ อยา่ งต่อเนืองจนถึงจุดทีเราประพฤติตามมนั จริงๆนาํ ไปสู่พระพร (การทาํ ให้
เจริญ) ของพระเจา้ ต่อสิงทีเรากระทาํ
ยากอบแนะนาํ ใหเ้ รารู้จกั คาํ เรียกพระวจนะของพระเจา้ ซึงเป็นเอกลกั ษณ์ ท่านเรียกมนั วา่
“พระราชบญั ญตั ิแห่งเสรีภาพ” ท่านจะเอ่ยถึงมนั อีกใน 2:12 ดูเผนิ ๆ อาจดูเหมือนมีความขดั แยง้
กนั ในเรืองของความหมาย แน่นอนทีพระวจนะของพระเจา้ ดีเลศิ คาํ ทีแปลเช่นนนั (เทะเละอิ
ออส) ไม่เพียงหมายถึงความสมบรู ณ์แบบเท่านนั แต่หมายถึงความครบบริบูรณ์ดว้ ย พระวจนะ
ของพระเจา้ เป็นทงั สองอยา่ ง ถึงแมว้ า่ มนั มีพระราชบญั ญตั ิของพระเจา้ อยู่ แต่มนั กเ็ ป็นแหล่งทีมา
ของเสรีภาพดว้ ย ข่าวประเสริฐปลดปล่อยมนุษยใ์ หเ้ ป็นอิสระจากความบาปของพวกเขา อาํ นาจ
ของบาปและบทลงโทษของบาปดว้ ย อยา่ งไรกต็ ามมนั มีพระราชบญั ญตั ิของพระเจา้ อยู่ ในพระ
คมั ภีร์เดิม มีพระราชบญั ญตั ิของพระเจา้ ในทางจรรยาบรรณและศีลธรรมอยใู่ นพระราชบญั ญตั ิ
ของโมเสส ส่วนในพระคมั ภีร์ใหม่มีพระราชบญั ญตั ิของพระคริสตอ์ ยู่ พระราชบญั ญตั ิของพระ
คริสตใ์ นพระคมั ภีร์ใหม่นนั มีความสมบรู ณ์แบบและปลดปล่อยใหเ้ ป็นไท
ยก 1:26 หลงั จากไดพ้ ดู ถึงเรืองทีสูงส่งไปแลว้ ยากอบกก็ ลบั มาพดู ถึงเรืองทวั ๆไป
ในการดาํ เนินชีวติ ของคริสเตียนแต่ละวนั บา้ ง ท่านจึงเขียนวา่ ถ้าผู้ใดในพวกท่านดูเหมอื นว่า
เคร่งครัดในความเชือ และมไิ ด้เหนียวรังลนิ ของตนไว้ แต่ล่อลวงใจของตนเอง การเคร่งครัดใน
ความเชือของผู้นันกไ็ ร้ประโยชน์
น่าสนใจคือคาํ ทีแปลวา่ เคร่งครัดในความเชือ (ธเรสคอส) มนั หมายถงึ คนทีอยา่ งนอ้ ยก็
นมสั การพระเจา้ แต่เพยี งภายนอก มนั สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความเลือมใสศรัทธาแบบภายนอก
อยา่ งไรกต็ ามสาํ หรับคนเช่นนนั ยากอบเตือนวา่ หากเขาเหนียวรังลินของตนไวไ้ ม่ได้ “การ
เคร่งครัดในความเชือของผนู้ นั กไ็ ร้ประโยชน”์ มีการใชค้ าํ ทีแตกต่างไปเลก็ นอ้ ยสาํ หรับคาํ ทีแปล
วา่ การเคร่งครัดในความเชือ (ธเรสเคะเอีย) นีหมายถึงการนมสั การหรือพธิ ีกรรมแบบภายนอก
ยากอบยอ้ นกลบั มาพดู ถึงคาํ เตือนในเรืองการควบคุมอารมณ์โกรธไม่อยู่ มนั ยอ่ มแสดงออกมาใน
รูปของการไม่เหนียวรังลินของตน คนๆหนึงอาจอา้ งตวั วา่ เป็นคนทีน่าเลือมใสและเคร่งศาสนา
อยา่ งไรกต็ าม ลินทีไม่ถูกเหนียวรังไวก้ เ็ ป็นขอ้ พิสูจน์ทีชดั เจนแลว้ ถึงสิงทีตรงกนั ขา้ ม ‘การ
เคร่งครัดในความเชือ’ ดงั กล่าวกไ็ ร้ประโยชน์ ความหมายของคาํ ๆนีคือ ‘ไม่มีประโยชน’์ แล
ะ ‘ปราศจากความจริง’
นอกจากนียากอบกล่าววา่ จริงๆแลว้ คนแบบนนั ก็ “ล่อลวงใจของตนเอง” คาํ ทีแปลวา่
ล่อลวง (อาปาตาโอ) ถึงแมว้ า่ แตกต่างจากคาํ ในขอ้ 22 (พาราลอกิซอไม) แต่กม็ ีความหมาย
เหมอื นกนั ยากอบเวยี นมาครบรอบแลว้ คนเหล่านนั ทีทาํ ตวั เป็นคนเคร่งศาสนาแต่ไม่ยอมเหนียว
รังลินของตนไม่เพยี งหลอกลวงตนเองเท่านนั แต่ยงั ไม่เป็นผปู้ ระพฤติตามพระวจนะนนั อยา่ ง
เห็นไดช้ ดั ดว้ ย แน่นอนทีคนแบบนนั ไม่ไดท้ าํ ใหค้ วามชอบธรรมของพระเจา้ สาํ เร็จ
ยก 1:27 ในทางตรงกนั ขา้ ม การเคร่งครัดในความเชืออย่างบริสุทธิไร้มลทนิ ต่อ
พระพกั ตร์พระเจ้าและพระบดิ านัน คอื การเยยี มเยยี นเดก็ กาํ พร้าพ่อและหญิงม่ายทมี คี วามทุกข์
ร้อน และการรักษาตัวให้พ้นจากราคขี องโลก
ตามทียากอบไดก้ ล่าวไว้ การเคร่งครัดในความเชือแบบทีบริสุทธิและไร้มลทินมีลกั ษณะ
สองประการ (1) มนั คือการ “การเยยี มเยยี นเด็กกาํ พร้าพอ่ และหญิงม่ายทีมีความทุกขร์ ้อน” คาํ ที
แปลวา่ เยยี มเยยี น (เอะพิสเคพ็ ทอไม) มคี วามหมายดว้ ยวา่ ‘ดูแล’ ความหมายทีสาํ คญั กวา่ ใน
บริบทนีกค็ ือการดูแลหรือการใหค้ วามช่วยเหลือทีจาํ เป็น เห็นไดช้ ดั วา่ คาํ ทีแปลวา่ เดก็ กาํ พร้าพ่อ
(ออรฟานอส) เป็นทีมาของคาํ ภาษาองั กฤษ orphan ดงั นนั การเคร่งครัดในความเชือแบบแทจ้ ริง
กเ็ ชือมโยงกบั การช่วยเหลือคนเหล่านนั ทีขดั สนจริงๆ โดยเฉพาะเมือความยากจนของพวกเขาไม่
ไดเ้ กิดจากความโง่เขลาของพวกเขาเอง ในสมยั โบราณ ไม่มีองคก์ รของรัฐบาลหรือหน่วยงาน
เพอื สงั คมเพอื ช่วยเหลือคนยากไร้แบบทีพบเห็นกนั ในปัจจุบนั แต่พวกเดก็ กาํ พร้าหรือพวกแม่
ม่ายมกั ตอ้ งพึงตวั เองและมกั ปราศจากความหวงั ยากอบสงั ใหด้ ูแลคนเหล่านี โดยเฉพาะหาก
พวกเขามีความเกียวขอ้ งกบั คริสตจกั ร
(2) อีกแง่มุมหนึงของการเคร่งครัดในความเชือแบบทีแทจ้ ริงคือความบริสุทธิของชีวติ
“การรักษาตวั ใหพ้ น้ จากราคขี องโลก” น่าสงั เกตวา่ ความสกปรกนนั เชือมโยงกบั โลกโดยตรง
นนั จึงเป็นเหตุวา่ ทาํ ไมพระวจนะของพระเจา้ จึงกาํ ชบั อยา่ งแขง็ ขนั มิใหเ้ ราทาํ ตามอยา่ งชาวโลกนี
ไม่เป็นมิตรกบั โลกและไม่รักโลก โลกจะทาํ ใหผ้ ใู้ ดกต็ ามทีมาติดต่อกบั มนั เป็นมลทนิ ไป
*****
ภาพรวมของยากอบ 2: ผ้เู ขียนทีได้รับการดลใจท่านนีพูดถึงใจความหลกั ในทางปฏิบตั ิ
หลายประการเกียวกบั การเลือกรักคนรวยและชังคนจน จากนนั ท่านกเ็ ผชิญหน้ากับทัศนคติที
เย่อหยิงของสมาชิกบางคนในคริสตจักรยคุ ต้น โดยกาํ ชับให้พวกเขารักพีน้องทีด้อยโอกาสกว่า
ของพวกเขา จากนนั ท่านกพ็ ดู ถึงปัญหาเรืองการเมินเฉยต่อความจาํ เป็นฝ่ ายร่างกายของคนอืน
จากนันยากอบกเ็ ปลียนไปพดู ถึงหลกั การของเรืองนี ความเชือทีแท้จริงจะก่อให้เกิด
การกระทาํ ทีชอบธรรมและเปี ยมด้วยความกรุณา สิงเหล่านีเป็นผลลพั ธ์ทีต้องมีของความเชือแท้
ท่านปิ ดท้ายเรืองนีโดยยกตัวอย่างประกอบหลกั การนีจากชีวิตของอับราฮัมและราหับด้วย
ยก 2:1 ผแู้ ต่งท่านนีเผชิญหนา้ กบั ปัญหาหนึงในทีประชุมของพวกยวิ บางแห่ง พี
น้องทงั หลายของข้าพเจ้า การเชือในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็ นเจ้าของเรา ผู้ทรงสง่าราศีนัน
อย่าให้เป็ นด้วยการเลอื กหน้าคน คาํ ทีแปลวา่ การเลอื กหน้าคน (พรอโซพอเลพเซีย) หมายถงึ
‘ความลาํ เอียงแบบโง่ๆ’ มนั หมายถึงการเห็นแก่หนา้ คนโดยอิงตามฐานะทางชนชนั ของเขา
มากกวา่ ทีจะคาํ นึงถึงอุปนิสยั ของเขา ยากอบจึงตาํ หนิพีนอ้ งของท่านทีมที ศั นคติแบบแบ่งแยก
เช่นนนั พวกเขาอา้ งวา่ มีความเชือในพระคริสตแ์ ต่กย็ งั เลือกทีรักมกั ทีชงั กนั ในคริสตจกั ร
ยก 2:2-4 เราตอ้ งไม่ลืมวา่ ยากอบกาํ ลงั เขียนถึงพวกผเู้ ชือชาวยวิ ทีกระจดั กระจายไป
ทวั โลก เราตอ้ งไม่ลืมวา่ พวกผเู้ ชือยคุ ตน้ ทีมารวมตวั กนั นียงั เรียกตวั เองวา่ ธรรมศาลาอยู่ เช่นเดียว
กบั ในสมยั นี พวกยวิ มากมายในตอนนนั มฐี านะดี พระเจา้ ไดท้ รงอวยพรพวกเขาในอบั ราฮมั
อยา่ งไรกต็ าม พระพรทีเห็นไดช้ ดั ดงั กล่าวกลบั กลายเป็นปัญหาหนึงในคริสตจกั รยคุ ตน้ บางแห่ง
ของชาวยวิ
ยากอบจึงนาํ เสนอปัญหาทีอาจเกิดขึนไดแ้ ต่กพ็ บเห็นเป็นปกติ เพราะว่าถ้ามคี นหนึงสวม
แหวนทองคาํ และแต่งตวั ด้วยเครืองแต่งกายอย่างดีเข้ามาในทปี ระชุมของท่าน และมคี นจนคน
หนงึ แต่งตวั ด้วยเสือผ้าซอมซ่อเข้ามาด้วย น่าสนใจคือคาํ ทีแปลวา่ ทปี ระชุม (ซูนาโกเก) มนั คือ
คาํ ทีหมายถึง ‘ธรรมศาลา’ เห็นไดช้ ดั วา่ คริสตจกั รของคนยวิ ทีเชือเรืองพระเมสสิยาหท์ างตะวนั
ออกบางแห่งยงั เรียกตวั เองดว้ ยคาํ ทีพวกเขาคุน้ เคย คือ ธรรมศาลา ยากอบจึงยกตวั อยา่ ง
สถานการณ์หนึงซึงมคี นสองคนเขา้ มาในทีประชุมนมสั การ คนหนึงเป็นคนรวยอยา่ งเห็นไดช้ ดั
ซึงประดบั กายดว้ ยเครืองเพชรและเสือผา้ ราคาแพง อีกคนกจ็ นอยา่ งเห็นไดช้ ดั โดยแต่งตวั ดว้ ย
เสือผา้ เก่าๆสกปรก (คาํ ทีแปลวา่ ซอมซ่อ (รูพารอส) จริงๆแลว้ หมายถึง สกปรก)
เราเห็นไดช้ ดั ถึงการตอบรับทีแตกต่างกนั ซึงมีต่อผมู้ าเยอื นสองคนนี 3 และท่านสนใจคน
ทสี วมใส่เครืองแต่งกายอย่างดี และกล่าวแก่เขาว่า "เชิญท่านนังทนี ีในทอี นั ดีเถิด" และท่านกพ็ ูด
กบั คนจนนันว่า "แกจงยนื อยู่ทนี ัน" หรือ "จงนังแทบทรี องเท้าของเราเถดิ " คาํ ทีแปลวา่ อย่างดี
(ลัมพรอส) ในบริบทนีหมายถึง ‘งดงาม’ หรือ ‘ทีมีราคาแพง’ คาํ ทีแปลวา่ สนใจ (เอะพิบเละโพ)
มคี วามหมายตรงตวั วา่ ‘ใหค้ วามนบั ถือ’ หรือ ‘มีความเคารพนบั ถือต่อ’ มนั สือถึงความลาํ เอียง
ดว้ ยเหตุนียากอบจึงยกตวั อยา่ งวา่ จริงๆแลว้ พวกเขาใหท้ ีนงั ทีดีทีสุดในบา้ นแก่คนทีราํ รวย วลที ี
พดู ถึงคนยากจนทีตอ้ งนงั แทบทีวางเทา้ กเ็ ป็นภาพเปรียบทีสมยั นีเทียบไดก้ บั การนงั แถวหลงั
กล่าวอีกนยั หนึง มนั เป็นทีๆคนชอบนงั นอ้ ยทีสุด
ยากอบจึงสรุปวา่ 4 พวกท่านเองมไิ ด้ลาํ เอยี ง และกลายเป็ นผู้วนิ ิจฉัยด้วยใจชัวหรือ คาํ ที
แปลวา่ ลาํ เอยี ง (ดิอาคริโน) ในบริบทนีหมายถึงการแบ่งแยกในความหมายทีตาํ ชา้ วลีทีท่าน
กล่าววา่ “ผวู้ นิ ิจฉยั ดว้ ยใจชวั ” หมายถึง ‘ผพู้ พิ ากษาทีมีเจตนาชวั ร้าย’ ประเดน็ ทีสาํ คญั กวา่ กค็ ือวา่
พวกเขากาํ ลงั นงั ตดั สินคนอืนดว้ ยวธิ ีทีชวั ร้ายและไม่ยตุ ิธรรม หลกั เกณฑใ์ นการตดั สินของพวก
เขากค็ ือ ความแตกต่างทีเห็นไดช้ ดั ระหวา่ งคนทงั สองในเรืองของความมงั คงั และชนชนั ยากอบ
อาจยกสถานการณ์แบบสมมตินีแบบเกินจริงไปหน่อย แต่ประเดน็ ของท่านกย็ งั เหมือนเดิม ไม่
ควรมีการแบ่งแยกชนชนั เกิดขึนในคริสตจกั รเลย เปาโลกล่าวชดั เจนวา่ ในพระคริสตแ์ ละในค
ริสตจกั รดว้ ยไม่มีทงั คนทีเป็นทาสหรือเป็นไท ดู กาลาเทีย 3:28 และโคโลสี 3:11
ยก 2:5 ท่านจึงใหค้ าํ ตดั สินทีถกู พิจารณามาแลว้ พนี ้องทรี ักของข้าพเจ้า จงฟัง
เถดิ พระเจ้าทรงเลอื กคนยากจนในโลกนีให้เป็ นคนมงั มใี นความเชือ และให้เป็ นทายาทแห่ง
อาณาจกั ร ซึงพระองค์ทรงสัญญาไว้แก่ผู้ทรี ักพระองค์มใิ ช่หรือ ขอ้ เทจ็ จริงของเรืองนีกค็ ือวา่
เห็นไดช้ ดั วา่ พระเจา้ ไดท้ รงเลือกคนยากจนของโลกนีใหม้ งั มีในความเชือ อบั ราฮมั ลินคอลน์ เคย
กล่าวไวว้ า่ ‘พระเจา้ คงรักคนจนแน่ๆเลย เพราะพระองคท์ รงสร้างพวกเขามาเยอะเหลือเกิน’ พระ
เยซูทรงสอนไวว้ า่ ใหอ้ ูฐลอดรูเขม็ กง็ ่ายกวา่ ทีคนรวยจะเขา้ ในอาณาจกั รสวรรค์ คนรวยกร็ ับความ
รอดไดจ้ ริงๆ แต่ผคู้ นของพระเจา้ มากมายส่วนใหญ่แลว้ เป็นคนทีฐานะยากจน นีไม่ใช่เรือง
บงั เอิญ คนทียากจนยอ่ มเรียนรู้ทีจะวางใจพระเจา้ และดาํ เนินชีวติ โดยความเชือมากกวา่ คนที
ราํ รวยเยอะ คนกลุ่มแรกกลายเป็นทายาทแห่งอาณาจกั รนนั นนั คือพวกเขาจะมสี ่วนแบ่งกอ้ นโต
ในมรดกในอาณาจกั รนนั สกั วนั หนึงขณะทีบรรดาผเู้ ชือทีราํ รวยจะไม่ไดร้ ับ ในวนั นนั คนสุดทา้ ย
จะกลายเป็นคนตน้ และคนตน้ จะกลายเป็นคนสุดทา้ ยจริงๆ มรดกนนั ในสง่าราศีถูกสัญญาแก่คน
เหล่านนั ทีรักพระองค์ ดูวลีสุดทา้ ยของยากอบ 1:12 ในขอ้ นนั มีคาํ ทรงสัญญาวา่ จะประทาน
มงกฎุ แห่งชีวติ ใหแ้ ก่คนเหล่านนั ทีรักพระองค์ บริบทตรงนนั เกียวขอ้ งกบั การเพยี รพยายามเมือ
เผชิญกบั ความทุกขย์ ากในชีวติ คริสเตียน มนั สอดคลอ้ งกบั ววิ รณ์ 2:10 ในเรืองของการเป็นคน
สตั ยซ์ ือจนถึงวนั ตาย ความเพยี รพยายามแบบสตั ยซ์ ือดงั กล่าวจะนาํ ไปสู่มรดกและบาํ เหนจ็ อนั
บริบูรณ์ในสง่าราศีสกั วนั หนึง ผเู้ ชือทีราํ รวยทุกวนั นีเสียงกบั การไม่ไดร้ ับสิงนนั เมือถึงวนั นนั
ยก 2:6-7 ยากอบจึงตาํ หนิผอู้ ่านของท่านในเรืองความใจแคบฝ่ ายวญิ ญาณของพวก
เขา แต่ท่านทงั หลายได้ดูถูกคนจน คาํ ทีแปลวา่ ดูถูก (อาติมาโซ) หมายถึง ‘การปฏิบตั ิอยา่ งไม่ให้
เกียรติ’ หรืออยา่ งเหยยี ดหยาม การทาํ เช่นนีเป็นสิงชวั ร้ายตามทีท่านไดก้ ล่าวไวแ้ ลว้ ในขอ้ 4
จากนนั ท่านกเ็ ตือนความจาํ พวกเขาวา่ ไม่ใช่คนมงั มหี รือทกี ดขที ่านและลากตัวท่านไป
ขนึ ศาล คนรวยสมยั นนั ปฏิบตั ิต่อคนทีมีฐานะดอ้ ยกวา่ อยา่ งโหดร้ายทารุณ นอกจากนีพวกเขายงั
ไม่อายดว้ ยกบั การฟ้ องร้องคนอืนเพือเรียกเอาเงินทีคนอืนติดคา้ งตน นอกจากนียากอบถามวา่
7 ไม่ใช่เขาเหล่านันหรือทสี บประมาทพระนามอนั ประเสริฐซึงใช้เรียกท่าน ท่านถามวา่ ไม่ใช่
คนรวยพวกนีหรือทีพวกเขาพยายามทีจะเอาใจในทีประชุมนมสั การทีจริงๆแลว้ เป็นคนหมิน
ประมาท มีคนมากมายในคนกล่มุ นีทีไดช้ ือวา่ หมินประมาทพระนามของพระคริสต์ ถึงแมไ้ ม่มี
กล่าวไว้ แต่ยากอบกเ็ หมอื นบอกเป็นนยั วา่ ทาํ ไมพวกท่านตอ้ งคอยประจบเอาใจคนพวกนีดว้ ย
ยก 2:8 คาํ แนะนาํ ของท่านไม่ซบั ซอ้ นอะไร ถ้าท่านทงั หลายกระทาํ ให้สําเร็จ
ตามพระราชบัญญัติแห่งพระมหากษตั ริย์ตามพระคมั ภีร์ทวี ่า `จงรักเพอื นบ้านเหมอื นรักตนเอง'
แล้ว ท่านทงั หลายกป็ ระพฤตดิ ีอยู่ คาํ ทีแปลวา่ แห่งพระมหากษตั ริย์ (บาสิลิคอส) มาจากคาํ กรีก
ทีแปลวา่ ‘กษตั ริย’์ (บาสิเละอุส) วลีทีพดู ถึงพระราชบญั ญตั ิแห่งพระมหากษตั ริยข์ องพระคมั ภีร์
น่าจะหมายถึง ‘บญั ญตั ิทีเป็นจอมกษตั ริยแ์ ห่งบญั ญตั ิทงั หลาย’ เพราะพระเยซูไดต้ รัสวา่ พระราช
บญั ญตั ิและคมั ภีร์ของพวกศาสดาพยากรณ์ขึนอยกู่ บั บญั ญตั ิแห่งความรัก (มทั ธิว 22:40) จริงแท้
ทีเดียวทีคาํ บญั ชาทีวา่ “จงรักเพือนบา้ นของเจา้ เหมือนรักตนเอง” เป็นหนึงในบญั ญตั ิทียงิ ใหญ่
ทีสุด หากคริสตจกั รทุกวนั นีจะปฏิบตั ิตามหลกั การทีเรียบง่ายแต่ลึกซึงนี เรากจ็ ะประพฤติดีอยู่
จริงๆ
เห็นไดช้ ดั วา่ การประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การนีมีไวเ้ พอื แกไ้ ขทศั นคติทีชอบแบ่งแยกซึงมีอยใู่ นค
ริสตจกั รหลายแห่งทียากอบเขียนถึง การแบ่งแยกเลือกรักคนรวยมากกวา่ คนจนสาํ แดงใหเ้ ห็นถึง
การขาดซึงความรักทีพวกเขาควรมใี หแ้ ก่พนี อ้ งทีดอ้ ยโอกาสกวา่ ของพวกเขา
ยก 2:9 ท่านขยายความเพมิ เติมอกี แต่ถ้าท่านทงั หลายเลอื กหน้าคน ท่านกก็ ระทาํ
บาป และตามพระราชบัญญตั ิ ท่านกเ็ ป็ นผู้ละเมดิ แล้ว การมีทศั นคติแบ่งแยกเช่นนนั จริงๆแลว้ ก็
เป็นความบาป นอกจากนีพวกเขายงั ถกู ตดั สินโดยพระราชบญั ญตั ิแห่งพระมหากษตั ริยว์ า่ มีความ
ผดิ ดว้ ย พระราชบญั ญตั ิดงั กล่าวมีอยใู่ นทงั พระคมั ภีร์เดิมและพระคมั ภีร์ใหม่ ดู เลวนี ิติ 19:8 และ
กาลาเทีย 5:14 ไม่วา่ จะยงั ไงพวกเขากม็ ีความผดิ อยดู่ ี
ยก 2:10 เมอื พิจารณาถึงบริบทนี ยากอบจึงกล่าววา่ เพราะว่าผู้ใดรักษาพระราช
บญั ญัตไิ ด้ทงั หมด แต่ผดิ อยู่ข้อเดยี ว ผู้นันกเ็ ป็ นผู้ผดิ พระราชบญั ญัติทงั หมด เห็นไดช้ ดั วา่
ยากอบกาํ ลงั เขียนถงึ ผอู้ ่านทีเป็นยวิ แต่ประเดน็ นีกใ็ ชไ้ ดก้ บั คนต่างชาติดว้ ย การฝ่ าฝื นพระราช
บญั ญตั ิขอ้ ใดกต็ ามจะทาํ ใหค้ นๆนนั เป็นคนทาํ ผดิ พระราชบญั ญตั ิ เขาจึงมีความผดิ จบ ในกรณีนี
การละเมิดพระราชบญั ญตั ิกค็ ือ ทศั นคติทีแบ่งแยกทีผเู้ ชือชาวยวิ บางคนมีในการเลือกรักคนรวย
มากกวา่ คนจน
ตรงนีน่าจะมีการตาํ หนิเรืองการคิดวา่ ตนชอบธรรมดว้ ย คนเหล่านนั ทีคิดวา่ ตวั เองเป็น
คนชอบธรรมโดยการประพฤติตามความชอบธรรมแต่เพียงภายนอกจริงๆแลว้ กม็ ีความผดิ ใน
ฐานะเป็นผกู้ ระทาํ ผดิ พระราชบญั ญตั ิ และมีความผดิ เพราะทศั นคติทีชอบแบ่งแยกของตนดว้ ย
ยก 2:11 ท่านจึงยกตวั อยา่ งเพมิ เติมเกียวกบั พระราชบญั ญตั ิและผทู้ รงประทานมนั
ด้วยว่าพระองค์ผู้ได้ตรัสว่า `อย่าล่วงประเวณผี วั เมยี เขา' กไ็ ด้ตรัสไว้ด้วยว่า `อย่าฆ่าคน' แม้ท่าน
ไม่ได้ล่วงประเวณผี วั เมยี เขาแต่ได้ฆ่าคน ท่านกเ็ ป็ นผู้ละเมดิ พระราชบัญญัติ ยากอบยกตวั อยา่ ง
ความบาปสองประการ พระเจา้ ผไู้ ดต้ รสั วา่ อยา่ ล่วงประเวณีผวั เมียเขา กต็ รัสดว้ ยวา่ อยา่ ฆ่าคน
หากคนๆหนึงมีความผดิ ในความบาปอนั หนึงและไม่ผดิ อีกอนั เขากม็ ีความผดิ โทษฐานละเมิด
พระราชบญั ญตั ิอยดู่ ี นีสือดว้ ยว่าการทีพวกเขาทาํ ผดิ บญั ญตั ิทีใหร้ ักเพือนบา้ นของตนเหมือนรัก
ตวั เองโดยไม่สาํ คญั วา่ เพอื นบา้ นจะมีฐานะอนั ใด พวกเขากม็ คี วามผดิ ต่อเบืองพระพกั ตร์พระเจา้
จบ! มนั เป็นความบาป มนั คือการละเมดิ ทงั พระราชบญั ญตั ิของพระคมั ภีร์เดิมและพระราช
บญั ญตั ิของพระคริสตใ์ นพระคมั ภีร์ใหม่
ยก 2:12 ยากอบจึงเตือนสติพวกเขาวา่ ท่านทงั หลายจงพดู และจงกระทาํ เช่นผู้ทจี ะ
ได้รับการพพิ ากษาด้วยพระราชบญั ญตั แิ ห่งเสรีภาพ สกั วนั หนึงเราจะถกู พิพากษาโดยพระวจนะ
ของพระเจา้ ซึงเป็นพระราชบญั ญตั ิแห่งเสรีภาพอนั สมบูรณ์แบบ เราจึงควรดาํ เนินชีวติ โดยระลึก
ถึงเรืองนีไวเ้ สมอเป็นการดีทีสุด มนั ควรซึมซบั เขา้ ไปยงั ทีๆเราอยแู่ ละในสิงทีเราพดู และกระทาํ
นีสือถึงทศั นคติทีชอบแบ่งแยกซึงถกู พดู ถึงไปแลว้ ดา้ นบน เราถูกกาํ ชบั ใหด้ าํ เนินชีวติ โดย
ปราศจากใจทีสกปรกดงั กล่าวเพราะจริงๆแลว้ เราจะถูกพพิ ากษาโดยพระราชบญั ญตั ิแห่งพระ
มหากษตั ริยข์ องพระคมั ภีร์ นนั คอื พระราชบญั ญตั ิแห่งเสรีภาพอนั สมบูรณ์แบบ
ยก 2:13 ยากอบปิ ดทา้ ยเนือหาตอนนีดว้ ยคาํ เตือนสุดทา้ ย เพราะว่าผู้ทไี ม่แสดง
ความเมตตาย่อมจะได้รับการพพิ ากษาโดยปราศจากความเมตตา แต่ความเมตตาย่อมก่อให้เกดิ
ความชืนชมยนิ ดมี ากกว่าการพพิ ากษา สาํ หรับคนเหล่านนั ทีไม่ไดส้ าํ แดงความเมตตา พวกเขาจะ
หวงั วา่ จะไดร้ ับความเมตตาในการถูกพพิ ากษาสกั วนั หนึงไม่ไดเ้ ช่นกนั เพราะวา่ จดหมายฝาก
ฉบบั นีถกู เขียนถึงผเู้ ชือทงั หลาย เราจึงทึกทกั ไดว้ า่ ยากอบกาํ ลงั หมายถึงบลั ลงั กพ์ พิ ากษาของพระ
คริสต์
ในทางกลบั กนั สาํ หรับคนเหล่านนั ทีเปี ยมดว้ ยความเมตตา ในวนั นนั พวกเขาจะชืนชม
ยนิ ดี เพราะวา่ ความเมตตาจะชืนชมยนิ ดีในวนั นนั เหนือการพพิ ากษา การสาํ แดงความเมตตาใน
ตอนนีและมีชยั ชนะเหนือการพพิ ากษาดว้ ยความเมตตาทีบลั ลงั กพ์ พิ ากษาในตอนนนั ยอ่ มดีกวา่ ที
จะใหก้ ารพพิ ากษามีอาํ นาจเหนือกวา่ ความเมตตาในตอนนนั นียอ้ นกลบั มาเรืองการมีใจลาํ เอียง
ในการรักคนรวยมากกวา่ คนจนอีกแลว้ จะดีกวา่ เยอะหากเราจะสาํ แดงความเมตตาแก่คนยากจน
และไดพ้ บกบั พระเมตตาของพระเจา้ ในวนั นนั
ยก 2:14 คราวนียากอบเริมขยายความเกียวกบั หลกั การเรืองความเชือทีแทจ้ ริง
อยา่ งละเอียดมากขึน มนั จะสาํ แดงตวั ออกมาในการกระทาํ ซึงเป็นผลลพั ธข์ องความเชือดงั กล่าว
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ยากอบกล่าวถงึ เรือง ‘การเคร่งครัดในความเชือทีบริสุทธิ’ ต่อไป คนทีรอด
แลว้ จริงๆจะมีทศั นคติทีชอบธรรมต่อคนเหล่านนั ทีดอ้ ยโอกาสกวา่ เขา ดงั นนั ท่านจึงเขียนวา่ พี
น้องของข้าพเจ้า แม้ผู้ใดจะว่าตนมคี วามเชือ แต่ไม่ประพฤตติ าม จะได้ประโยชน์อะไร ความเชือ
จะช่วยผู้นันให้รอดได้หรือ ท่านยกตวั อยา่ งเหตุการณ์สมมติ คนๆหนึงอา้ งวา่ มคี วามเชือทีช่วยให้
รอดได้ แต่ชีวติ ของเขาไม่ไดส้ าํ แดงถึงหลกั ฐานของความเชือดงั กล่าวเลย ไม่มีการกระทาํ ที
สอดคลอ้ งกบั คาํ กล่าวแสดงความเชือของเขา วลีทีวา่ “ความเชือจะช่วยผนู้ นั ใหร้ อดไดห้ รือ” อาจ
แปลไดด้ ว้ ยวา่ ‘ความเชือไดช้ ่วยเขาใหร้ อดแลว้ จริงหรือ’ กล่าวอีกนยั หนึง ยากอบสงสยั วา่ คนๆ
นนั บงั เกิดใหม่แลว้ จริงๆหรือ เปาโลเขียนวา่ “หากผใู้ ดอยใู่ นพระคริสต์ เขากเ็ ป็นคนทีถกู สร้าง
ใหม่แลว้ ” คนทีบงั เกิดใหม่แลว้ จริงๆจะแสดงหลกั ฐานถึงการบงั เกิดใหม่แลว้ ของตนออกมาผา่ น
ทางการกระทาํ ของตน
ยก 2:15-16 ผเู้ ขียนทไี ดร้ ับการดลใจท่านนียกตวั อยา่ งเหตุการณ์สมมติอีก
เหตุการณ์ ถ้าพนี ้องชายหญงิ คนใดเปลอื ยเปล่าและขาดแคลนอาหารประจาํ วนั ยากอบยก
ตวั อยา่ งสถานการณ์ทีพนี อ้ งคริสเตียนชายหรือหญิงคนหนึงขดั สนจริงๆ คาํ ทีแปลวา่ เปลอื ยเปล่า
(กุมนอส) ในบริบทนีหมายถึง ‘ขาดเครืองนุ่งห่มทีจาํ เป็น’ ยงิ ไปกวา่ นนั เขายงั ไม่มีอาหารรับ
ประทานเพียงพอดว้ ย ในบริบทนนั 16 และมคี นใดในพวกท่านกล่าวแก่เขาว่า "เชิญไปเป็ นสุข
เถิด ขอให้อบอ่นุ และอมิ เถดิ " นีคือสิงทียากอบตอ้ งการจะสือ นนั คอื คาํ กล่าวยอมรับวา่ ตนมี
ความเชือแบบเปล่าๆโดยไม่มคี วามกรุณาต่อคนเหล่านนั ทีขดั สนจริงๆเลย ท่านจึงถามวา่ และไม่
ได้ให้สิงซึงจําเป็ นต่อร่างกายแก่เขา จะเป็ นประโยชน์อะไรเล่า ความเชือทีวา่ งเปล่าเช่นนนั จะมี
ประโยชนอ์ ะไร ขอ้ เทจ็ จริงกค็ ือ มนั ไม่ใช่ความเชือทีแทจ้ ริง แต่เป็นเพยี งแค่เปลือกนอกของ
ความเชือเท่านนั คาํ ทีแปลวา่ ประโยชน์ (ออเฝะลอส) มีความหมายดว้ ยวา่ ‘ขอ้ ดี’ ความเชือทีวา่ ง
เปล่าเช่นนนั ไม่มขี อ้ ดีอะไรเลย
ยก 2:17 ยากอบจงึ นาํ เสนอขอ้ สรุปเบืองตน้ ของท่านเกียวกบั เรืองนี ความเชือกเ็ ช่น
เดยี วกนั ถ้าปราศจากการประพฤติ กต็ ายโดยลาํ พงั แล้ว ความเชือทีเป็นคาํ กล่าวอา้ งซึงไม่ไดก้ ่อ
ใหเ้ กิดความเปลียนแปลงอนั ใดในชีวติ เลยกต็ ายเสียแลว้ ความเชือทีช่วยใหร้ อดซึงก่อใหเ้ กิดการ
บงั เกิดใหม่จะนาํ มาซึงความเปลียนแปลงในชีวติ และการกระทาํ คริสเตียนทีบงั เกิดใหม่แลว้ อาจ
ไม่ไดท้ าํ สิงทีเขาควรทาํ เสมอไปและไม่ไดเ้ ป็นคนแบบทีเขาควรเป็นเสมอไป แต่หากเขาไดร้ ับ
ความรอดแลว้ จริงๆ จะมีความแตกต่าง หากผใู้ ดอยใู่ นพระคริสต์ เขากเ็ ป็นคนทีถูกสร้างใหม่
แลว้ ! ชีวติ ของเขาจะเปลียนแปลงจากภายในสู่ภายนอก
ยก 2:18 ดงั นนั ยากอบจึงกล่าวต่อไปวา่ แต่คงมผี ู้ค้านว่า "ท่านมคี วามเชือ และ
ข้าพเจ้ามกี ารประพฤติ" จงแสดงความเชือของท่านทปี ราศจากการประพฤตใิ ห้ข้าพเจ้าเหน็ และ
ข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเหน็ ความเชือของข้าพเจ้าโดยการประพฤติของข้าพเจ้า ความจริงทีเรียบ
ง่ายกค็ ือวา่ ความเชือยอ่ มแสดงออกเป็นการกระทาํ คนทีอา้ งวา่ มคี วามเชือ (คอื เพอื ทีจะไดร้ ับ
ความรอด) แต่กไ็ ม่มีชีวติ ทีถูกเปลียนแปลงซึงมาพร้อมกบั ความรอดดว้ ยกก็ าํ ลงั หลอกตวั เองอยู่
ในทางกลบั กนั ยากอบเสนอวา่ ความเชือ (ทีช่วยใหร้ อดได)้ ทีแทจ้ ริงจะแสดงการกระทาํ ออกมา
เป็นหลกั ฐานใหเ้ ห็น ขอ้ พสิ ูจน์จะฟันธงวา่ ความเชือนนั แทห้ รือไม่
ยก 2:19 ยากอบจึงเสนอภาพประกอบทีแทงใจดาํ เพอื สนบั สนุนประเดน็ ของท่าน
ท่านเชือว่ามพี ระเจ้าองค์เดยี ว นันกด็ ีอยู่แล้ว แม้พวกปิ ศาจกเ็ ชือเช่นกนั และกลวั จนตวั สัน คน
มากมายออกปากยอมรับวา่ ตนเชือในพระเจา้ แต่สาํ หรับคนส่วนใหญ่แลว้ ‘ความเชือ’ ของพวก
เขาเป็นเพียงเรืองทางวชิ าการเท่านนั พวกเขามคี วามเชือทีหวั สมอง ความเชือของพวกเขาใน
พระเจา้ กเ็ หมือนกบั สิงอืนๆทีถกู เกบ็ ไวใ้ นความคิดของพวกเขา คนนบั ไม่ถว้ นเชือในพระเจา้
แบบเดียวกบั ทีพวกเขาเชือในอบั ราฮมั ลินคอลน์ ในทงั สองกรณีพวกเขายอมรับเรืองการมีอยู่
จริงตามประวตั ิศาสตร์ของทงั พระเจา้ และอบั ราฮมั ลินคอลน์ อยา่ งไรกต็ าม เป็นเรืองน่าเศร้าที
มนุษยชาติส่วนใหญ่แลว้ มีความเชือในพระเจา้ ในระดบั ขอ้ เทจ็ จริงทางประวตั ิศาสตร์และ
วชิ าการเท่านนั
นีเกือบเป็นคาํ พดู เสียดสีประชดประชนั นีเท่ากบั ยากอบกล่าววา่ ‘ท่านเชือวา่ มีพระเจา้
องคเ์ ดียวหรือ เยยี มไปเลย! อยา่ งไรกต็ าม แมแ้ ต่พวกปี ศาจกเ็ ชือและกลวั จนตวั สนั ’ พญามารและ
สมุนของมนั รู้วา่ มีพระเจา้ อยอู่ งคห์ นึง พวกมนั จึงมีความเชือในระดบั ทีตาํ ทีสุด คือ ความเชือ
แบบวชิ าการ อยา่ งไรกต็ าม ความเชือในระดบั นนั ของพวกมนั กย็ งั ถือวา่ ยงิ ใหญ่กวา่ ความเชือของ
คนทีไดช้ ือวา่ เป็นผเู้ ชือ พญามารรู้ดว้ ยตวั เองและจากประสบการณ์ส่วนตวั ของมนั วา่ มีพระเจา้ อยู่
องคห์ นึง มนั และพวกปี ศาจของมนั จึงตวั สนั เมือคิดถึงเรืองนนั ขนาดคนทีออกปากวา่ เป็นผเู้ ชือ
บางคนกย็ งั ทาํ ไดไ้ ม่เท่าพวกมนั เลย
ความเห็นของยากอบเกียวกบั “พระเจา้ องคเ์ ดียว” ชีใหเ้ ห็นชดั เจนถึงผอู้ ่านของท่านทีเป็น
ยวิ ถึงแมว้ า่ ตามประวตั ิศาสตร์พวกยวิ หลงไปไหวร้ ูปเคารพและพระอนื ๆ แต่พวกเขากไ็ ดเ้ รียนรู้
บทเรียนอยา่ งดีแลว้ จากการตกไปเป็นเชลยทีกรุงบาบิโลน แต่ประเดน็ กย็ งั เหมอื นเดิม สาํ หรับคน
พวกนีหลายคน แมแ้ ต่คนทีอา้ งวา่ รับเชือพระคริสตแ์ ลว้ กต็ าม พวกเขามคี วามเชือทีวา่ งเปล่าซึง
ไม่ไดเ้ ปลียนแปลงชีวติ ของพวกเขาจนถึงจุดทีช่วยเหลือผอู้ ืนเลย
ยก 2:20 ท่านจึงนาํ เสนอขอ้ สรุปของเรืองนี โอ คนไร้ค่า ท่านอยากจะรู้หรือว่า
ความเชือทปี ราศจากการประพฤตกิ ต็ ายแล้ว ยากอบไม่ไดก้ าํ ลงั หลบเลียงความจริงพนื ฐานเรือง
การเป็นคนชอบธรรมโดยความเชือ ท่านกาํ ลงั พดู ถึงปัญหาหนึงซึงเกิดขึนในคริสตจกั รยคุ ตน้
บางแห่ง มีคนทีอา้ งวา่ มคี วามเชือในพระคริสตซ์ ึง (1) ไม่ไดก้ ลบั ใจรับเชือจริงๆ หรือ (2) ยงั ไม่
เติบโตฝ่ ายวิญญาณ ประเดน็ สาํ คญั ของท่านกค็ ือวา่ ความเชือแทจ้ ะก่อใหเ้ กิดความเปลียนแปลง
ในชีวติ ของคนๆนนั การออกปากยอมรับวา่ เป็นคริสเตียนทีบงั เกิดใหม่แลว้ และไม่มีความเมตตา
กรุณาต่อพีนอ้ งคนอืนทีขดั สนอยา่ งเห็นไดช้ ดั กแ็ สดงใหเ้ ห็นวา่ คนๆนนั มีความเชือทีกลวงโบ๋ มนั
คอื ความเชือแบบทีตายแลว้ ความเชือแบบทีกล่าวอา้ งเช่นนนั ไม่เคยถูกสร้างใหม่โดยพระ
วญิ ญาณบริสุทธิเลย มนั เป็นความเชือเทจ็ ทีวา่ งเปล่าและตายแลว้ เหมือนกบั รังนกคา้ งปี
เมือเราไดร้ ับความรอดแลว้ เรากถ็ กู สร้างในพระเยซูคริสตเ์ พอื ใหป้ ระกอบการดีซึง
พระเจา้ ไดท้ รงกาํ หนดไวล้ ่วงหนา้ ใหเ้ ราดาํ เนินในการเหล่านนั (เอเฟซสั 2:10) พระเยซูตรัสวา่
“ท่านจะรู้จกั เขาไดเ้ พราะผลของเขา” (มทั ธิว 7:20) คริสเตียนทีบงั เกิดใหม่แลว้ จริงๆอาจไม่ไดท้ าํ
ทุกสิงทีเขาควรกระทาํ และไม่ไดเ้ ป็นคนแบบทีเขาควรจะเป็นทุกกระเบียดนิว แต่หากเขาบงั เกิด
ใหม่แลว้ จริงๆ จะมีการเปลียนแปลงในชีวติ ซึงจะสาํ แดงตวั ออกมาใหเ้ ห็นภายนอก เมอื พจิ ารณา
ถึงเรืองนียากอบกก็ ล่าวชดั เจนวา่ เรืองนีกเ็ กียวขอ้ งกบั การมีความเมตตากรุณาต่อพีนอ้ งคริสเตียน
คนอนื ดว้ ยทีขดั สนจริงๆ
ยก 2:21 คราวนียากอบยกภาพประกอบหลายเรืองจากพระคมั ภีร์เดิม ซึงผอู้ ่านที
เป็นยวิ ของท่านรู้จกั ดี เมอื อบั ราฮัมบดิ าของเราได้ถวายอสิ อคั บุตรชายของท่านบนแท่นบูชา จงึ
ได้ความชอบธรรมโดยการประพฤตไิ ม่ใช่หรือ การอ่านแบบเผนิ ๆอาจดูเหมือนเสนอวา่ ยากอบ
กาํ ลงั สนบั สนุนวธิ ีการเป็นคนชอบธรรมโดยการประพฤติดี ในทางกลบั กนั ท่านกาํ ลงั ใช้
เหตุการณ์ทีสาํ คญั เหตุการณ์หนึงในชีวติ ของอบั ราฮมั เพอื สนบั สนุนประเดน็ ทีท่านไดเ้ สนอไป
แลว้ สาระสาํ คญั ทีท่านตอ้ งการเสนอกค็ ือวา่ ความเชือของอบั ราฮมั ถูกรับรองโดยสิงทีท่านได้
กระทาํ คาํ ทีแปลวา่ ได้ความชอบธรรม (ดิไคออโอ) มีความหมายเพมิ เติมดว้ ยวา่ ‘แสดงออก’
หรือ ‘มีหลกั ฐานสนบั สนุน’ ภาพประกอบง่ายๆนีกค็ ือวา่ ความเชือของอบั ราฮมั ถูกสนบั สนุน
(หรือ ถกู แสดงออก) โดยการกระทาํ ของท่าน
ประวตั ิศาสตร์และลาํ ดบั เหตุการณ์ของอบั ราฮมั และอิสอคั กส็ อนอะไรเราเพิมเติม ใน
ปฐมกาล 15:6 มีเขียนไวว้ า่ “ท่านเชือในพระเยโฮวาห์ และพระองคท์ รงนบั วา่ เป็นความชอบ
ธรรมแก่ท่าน” อยา่ งไรกต็ ามเหตุการณ์ทีเกียวขอ้ งกบั อิสอคั บนภเู ขาโมรียาหก์ เ็ กิดขึนในอีกหลาย
สิบปี ต่อมา อบั ราฮมั ถกู ทาํ ใหเ้ ป็นคนชอบธรรมโดยความเชือในปฐมกาล 15:6 อีกหลายปี ต่อมา
ท่านกส็ าํ แดงความเชือนนั ออกมาในการเชือฟังพระเจา้ แบบสุดใจในการถูกทดสอบใหถ้ วายอิส
อคั เป็นเครืองบชู า ความเชือของท่านจึงไดร้ ับการสนบั สนุนในการทีท่านเตม็ ใจเชือฟังพระเจา้
ท่านเชือวา่ พระเจา้ จะทรงจดั เตรียมตวั แทนเป็นเครืองบชู า นอกจากนีท่านเชือดว้ ยวา่ หากจาํ เป็น
พระเจา้ จะทรงชุบชีวติ บุตรชายของท่านใหเ้ ป็นขึน ดู ปฐมกาล 22:5-8 ความเชือทีท่านมีในพระผู้
ช่วยใหร้ อดของท่านถูกแสดงออกมาในสิงทีท่านไดก้ ระทาํ บนภูเขาโมรียาห์
ยก 2:22 ยากอบจึงนาํ เสนอประเดน็ ของท่านอีกครัง ท่านทงั หลายคงเหน็ แล้วว่า
ความเชือได้กระทาํ กจิ ร่วมกบั การประพฤตขิ องท่าน และความเชือกส็ มบูรณ์ได้โดยการประพฤติ
ความเชือของอบั ราฮมั เป็นสิงทีผลกั ดนั ใหท้ ่านทาํ สิงทีท่านไดก้ ระทาํ ในการเชือฟังพระเจา้ แบบ
สุดใจ นอกจากนีความเชือฟังของท่านในการถวายอิสอคั กท็ าํ ใหค้ วามเชือของท่านสมบรู ณ์ขึน
หรือโตเป็นผใู้ หญ่มากขึนดว้ ย คาํ ทีแปลว่า สมบูรณ์ (เทะเละอิออโอ) อยใู่ นรูปประธานถกู กระทาํ
ความหมายทีสาํ คญั กวา่ กค็ ือวา่ ความเชือของอบั ราฮมั ถูกทาํ ใหส้ มบูรณ์ผา่ นทางการทดสอบที
ท่านเผชิญในเรืองทีเกียวกบั การถวายอิสอคั เป็นเครืองบูชา
ใจความหลกั รองอยตู่ รงนี ทีวา่ พระเจา้ จะทรงยอมใหค้ วามทุกขย์ ากเกิดขึนเพอื พฒั นา
ความเชือในตวั เราใหม้ ากขึน นอกจากนีเห็นไดช้ ดั วา่ ยากอบไม่ไดก้ าํ ลงั พดู ถึงความเชือทีช่วยให้
รอดอยตู่ รงนี แต่พดู ถึงการดาํ เนินชีวติ โดยความเชือต่างหาก อบั ราฮมั ผชู้ อบธรรมทาํ สิงทีท่านได้
กระทาํ บนภเู ขาโมรียาห์โดยความเชือ ตอนนนั พระเจา้ กาํ ลงั สอนท่านเพมิ เติมใหด้ าํ เนินชีวติ โดย
ความเชือ
ยก 2:23 ดงั นนั และพระคมั ภรี ์กส็ ําเร็จทวี ่า `อบั ราฮัมได้เชือพระเจ้า และพระองค์
ทรงนับว่าเป็ นความชอบธรรมแก่ท่าน' พระสญั ญาของปฐมกาล 15:6 ทีถูกยกตรงนีจึงสาํ เร็จ
(หรือ ถกู แสดงออก) ในการทีอบั ราฮมั ถวายอิสอคั ประเดน็ รวมๆทียากอบกาํ ลงั นาํ เสนอกค็ ือวา่
ความเชือแทย้ อ่ มมีการกระทาํ มนั จะสาํ แดงตวั ออกมาในรูปของการกระทาํ ดี
ท่านจึงออกความเห็นเพมิ เติมวา่ และท่านได้ชือว่า เป็ น `สหายของพระเจ้า' นีเป็นขอ้
อา้ งอิงถึงอิสยาห์ 41:8 และ 2 พงศาวดาร 20:7 ซึงทงั สองขอ้ นีอา้ งอิงถงึ อบั ราฮมั เราสังเกตเห็นวา่
ความสัมพนั ธ์ของอบั ราฮมั กบั พระเจา้ ในฐานะเป็นสหายกนั ถูกนาํ เสนอในบริบทโดยตรงของ
ความเชือในพระเจา้ ทีถูกแสดงออกของอบั ราฮมั ดู ฮีบรู 11:6 ดว้ ย
ยก 2:24 ยากอบจึงขยายความประเดน็ ของท่านเพิมเติม ท่านทงั หลายกเ็ หน็ แล้วว่า
ผู้ใดจะเป็ นคนชอบธรรมได้ กเ็ นืองด้วยการประพฤติ และมใิ ช่ด้วยความเชือเพยี งอย่างเดยี ว เมือ
ตคี วามนอกบริบท สิงทียากอบไดเ้ ขียนตรงนีดูเหมือนจะขดั แยง้ กบั องคร์ วมของความจริงใน
พระคมั ภีร์ใหม่เกียวกบั การเป็นคนชอบธรรมโดยความเชือ (ดว้ ยเหตุนี ลูเธอร์จึงถือวา่ พระธรรม
ยากอบเป็นจดหมายฝากทีไม่มีนาํ หนกั และไม่ยอมรับมนั ในสารบบพระคมั ภีร์) อยา่ งไรกต็ าม
บริบททีอยตู่ ิดกนั ไม่ไดก้ าํ ลงั พดู ถึงการเป็นคนชอบธรรมทีเกียวขอ้ งกบั ความรอด แต่ยากอบ
กาํ ลงั ขยายความประเดน็ ทีวา่ ความเชือแทจ้ ะถกู สนบั สนุน (คือ ถูกแสดงออก) ในการกระทาํ ที
ออกมาจากความเชือนนั ความหมายกค็ ือ ‘ท่านทงั หลายจึงเห็นแลว้ วา่ ความเชือของคนๆหนึงถูก
สนบั สนุนโดยการกระทาํ และไม่ใช่แค่โดยคาํ กล่าวอา้ งวา่ ตนเชือเท่านนั ’ เรืองของอบั ราฮมั
สนบั สนุนประเดน็ นี ประเดน็ หลกั ของท่านกย็ งั เหมอื นเดิม ความเชือแทท้ ีช่วยใหร้ อดจะก่อให้
เกิดความเปลียนแปลงภายในซึงจะสาํ แดงตวั ออกมาใหป้ รากฏภายนอกเป็นสิงทีเรากระทาํ จริงๆ
มนั จะพฒั นาเป็นการดาํ เนินชีวติ โดยความเชือซึงถกู สนบั สนุนใหเ้ ห็นเป็นหลกั ฐานชดั เจนใน
การกระทาํ ต่างๆของเรา
ยก 2:25 ยากอบยกพระคมั ภีร์เดิมสาํ หรับภาพประกอบอีกเรืองทีพดู ถึงประเดน็
เดียวกนั เช่นเดยี วกนั ราหบั หญิงแพศยากไ็ ด้ความชอบธรรมเนืองด้วยการประพฤตดิ ้วยมใิ ช่หรือ
เมอื นางได้รับรองผู้ส่งข่าวเหล่านัน และส่งเขาไปเสียทางอนื อีกครังทีประเดน็ ทีสาํ คญั กวา่ กค็ ือ
วา่ ความเชือของราหบั หญิงแพศยาไดค้ วามชอบธรรม (คอื ไดร้ ับการรับรอง) โดยการกระทาํ
ของนาง โยชูวา 2:9,11 กล่าวชดั เจนวา่ ราหบั ไดก้ ลบั ใจมาหาพระเยโฮวาหพ์ ระเจา้ ดว้ ยความเชือ
การทีนางใหค้ วามช่วยเหลือพวกสอดแนมจึงแสดงใหเ้ ห็นถึงความเชือของนางในพระเจา้ มนั
สนบั สนุนความเชือของนาง เราตอ้ งไม่ลืมวา่ คาํ ทีแปลวา่ ได้ความชอบธรรม (ดิไคออโอ) กม็ ี
ความหมายดว้ ยวา่ ‘แสดงหลกั ฐาน’, ‘แสดงออก’ หรือ ‘สาธิตใหเ้ ห็น’ ความเชือของนางถูก
สาธิตออกมาโดยสิงทีนางไดก้ ระทาํ นีแหละคือประเดน็ ทงั หมดของยากอบ
ยก 2:26 ท่านปิ ดทา้ ยเนือหาส่วนนีโดยกล่าววา่ เพราะกายทปี ราศจากจติ วญิ ญาณ
นันตายแล้วฉันใด ความเชือทปี ราศจากการประพฤติตามกต็ ายแล้วฉันนันเช่นเดียวกนั เพือยก
ภาพประกอบเสริมประเดน็ ของท่าน ยากอบกล่าวคาํ พดู ทีน่าสนใจ ท่านนิยามวา่ ความตายคือ
การไม่มีอยขู่ องจิตวญิ ญาณมนุษย์ ร่างกายทีปราศจากจิตวญิ ญาณกต็ ายแลว้ ในแบบเดียวกนั
ความเชือทีอา้ งวา่ มีโดยไม่มีการกระทาํ ตามมาดว้ ยกต็ ายแลว้ เหมอื นกนั ความเชือแทจ้ ะแสดงตวั
ออกมาในสิงทีมนั กระทาํ
สิงทีบทนีตอ้ งการจะสือกค็ ือวา่ ยากอบกาํ ลงั บอกเป็นนยั วา่ บางคนในคริสตจกั รเหล่านนั
ทีท่านกาํ ลงั เขียนถึงนนั ไม่ไดก้ ลบั ใจใหม่จริงๆ เห็นไดช้ ดั วา่ คนเหล่านีเป็นคนรวยซึงถกู พดู ถึงไป
ก่อนหนา้ นนั ในบทนี การออกปากยอมรับพระคริสตเ์ ป็นเรืองหนึง แต่การมพี ระคริสตก์ เ็ ป็นอีก
เรือง ความเชือทีช่วยใหร้ อดและการบงั เกิดใหม่ทีเป็นผลตามมาจะสาํ แดงตวั ออกมาในการ
ดาํ เนินชีวติ ของเราหลงั จากนนั หากไม่มีหลกั ฐานยนื ยนั ความเชือดงั กล่าว ยากอบกฟ็ ันธงวา่ ไม่
เคยมีความเชืออยเู่ ลยตงั แต่แรกแลว้ ความเชือแทจ้ ะสาํ แดงตวั ออกมาในการกระทาํ ต่างๆทีเป็น
ตามทางของพระเจา้ หลงั จากนนั
*****
ภาพรวมของยากอบ 3: ยากอบเปลียนไปพดู ถึงปัญหาใหม่ นนั คือการใช้ลินโดยไม่
ระมดั ระวงั ยากอบ 3 มีเนือหาคล้ายกบั หนึงในสามของพระธรรมสุภาษิตทีพดู ถึงลินและการใช้
มนั อย่างผิดๆ บทนีเป็นการขยายความ ยากอบ 1:19
ยก 3:1 บทนีขึนตน้ ดว้ ยคาํ สอนทีคลา้ ยกบั 1:19 ทีวา่ พนี ้องทงั หลายของข้าพเจ้า
อย่าเป็ นอาจารย์กนั มากมากหลายคนนักเลย เพราะท่านกร็ ู้ว่าเราทงั หลายจะได้รับการพพิ ากษาที
เข้มงวดกว่าผู้อนื คาํ ทีแปลวา่ อาจารย์ (ดิดาสคาลอส) มคี วามหมายวา่ ‘ครู’ คาํ แนะนาํ ของ
ยากอบไม่มีอะไรซบั ซอ้ น แทนทีจะยกตวั เป็นอาจารยส์ อน เราควรเตม็ ใจทีจะฟังมากกวา่ บ่อย
ครังเหลือเกินทีเราถูกลองใจใหย้ กตวั เป็นผนู้ าํ ทงั ๆทีความเป็นจริงแลว้ เราไม่รู้จริงๆวา่ ตวั เอง
กาํ ลงั พดู ถึงอะไรอยู่ ในหลายกรณีงานของพระเจา้ จะรุดหนา้ ไปไดด้ ีขนึ หากเราไวในการฟังและ
ชา้ ในการพดู สิงทียากอบตอ้ งการจะสือกค็ ือ เรืองความเยอ่ หยงิ ในชีวติ นอกจากนีผทู้ ีอยากยกชู
ตวั เอง ซึงในกรณีนีคือ เพอื ทีจะเป็นอาจารย์ (ผนู้ าํ ฝ่ ายวญิ ญาณ) ควรระลึกไวว้ า่ ผใู้ ดไดร้ ับฝากไว้
มากกจ็ ะถูกเรียกเอาจากเขามากเช่นกนั คนเหล่านีจะถูกถือวา่ มีมาตรฐานทีสูงกวา่ ทงั โดยคนอืน
และโดยพระเจา้ ดว้ ย บทเรียนทีสาํ คญั กวา่ กค็ อื การรู้จกั สงบปากสงบคาํ ก่อนทจี ะเปิ ดปากของเรา
เพอื เผยแพร่สิงทีเราคิดวา่ เป็นสติปัญญา คนทีชอบสอนคนอืนจะเจอกบั การวพิ ากษว์ จิ ารณ์ทีหนกั
กวา่ คนทรี ู้จกั สงบปากสงบคาํ มากกวา่ บทนีจะขยายความต่อไปวา่ คนทีเรียกตวั เองวา่ เป็น ‘อาจาร
ย’์ พวกนีจริงๆแลว้ เป็นคนทีอยากจะเป็นผนู้ าํ
ยก 3:2 ดว้ ยเหตุนีในทาํ นองเดียวกนั ยากอบกล่าวต่อไปวา่ เพราะเราทุกคนทาํ ผดิ
พลาดกนั ไปหลายๆอย่าง ถ้าผู้ใดมไิ ด้ทาํ ผดิ ทางวาจา ผู้นันกเ็ ป็ นคนดีรอบคอบแล้ว และสามารถ
บงั คบั ทงั ตวั ไว้ได้ด้วย คาํ สาํ คญั ตรงนีกค็ ือ คาํ ทแี ปลวา่ ทาํ ผดิ (พไทโอ) จริงๆแลว้ มนั หมายถึง
‘ทาํ ผดิ พลาด’ หรือ ‘ก่อใหเ้ กิดความผดิ พลาด’ คาํ ทีแปลวา่ ดรี อบคอบ (เทะเละอิออส) ในบริบท
นีจริงๆแลว้ หมายถึง ความเป็นผใู้ หญ่ ยากอบจึงนาํ เสนอหลกั การทีลึกซึง ขอ้ นีจึงอาจแปลแบบ
ถอดความไดว้ า่ ‘เพราะวา่ เราทาํ ผดิ พลาดในหลายๆเรือง อยา่ งไรกต็ าม ถา้ ผใู้ ดพดู แลว้ มิไดท้ าํ ผดิ
ต่อผอู้ ืน ผนู้ นั กเ็ ป็นผใู้ หญ่แลว้ และสามารถบงั คบั ทงั ตวั ไวไ้ ดด้ ว้ ย’
คาํ สอนตรงนียงั อยใู่ นบริบทของขอ้ 3:1 และ 1:19 ประเดน็ หลกั ทียากอบกาํ ลงั พดู ถึงอยกู่ ็
คือวา่ เราควรระมดั ระวงั เวลาทีจะเปิ ดปากพดู อะไร วธิ ีทีง่ายทีสุดวธิ ีหนึงทีจะหาเรืองใส่ตวั กค็ ือ
โดยคาํ พดู ของเรา นอกจากนี เมือเรามาถึงจุดทีเราสามารถพดู โดยทีไม่ทาํ ผดิ ต่อผอู้ ืน เรากบ็ รรลุ
ถึงความเป็นผใู้ หญ่ระดบั หนึงในชีวติ แลว้ สิงทีถูกสือเพมิ เติมกค็ ือวา่ หากเราสามารถควบคุมลิน
ของเราได้ เรากจ็ ะสามารถควบคุมร่างกายส่วนทีเหลอื ของเราไดด้ ว้ ย ตามทีขอ้ ต่อๆไปจะแสดง
ใหเ้ ห็น ลินของเรามีศกั ยภาพทีจะสรา้ งปัญหาใหก้ บั เรามากกวา่ อกี ไม่กีสิงในชีวติ เราจึงมีหนา้ ที
ในการบงั คบั มนั ไว้ คาํ ทีแปลวา่ บงั คบั (คาลินาโกเกะโอ) มีความหมายตามนนั พร้อมกบั การ
‘เชค็ นิสัยเก่า’ หรือ ‘ยบั ยงั ’ นนั เป็นคาํ แนะนาํ ทีดีสาํ หรับเรืองลินของเรา
ยก 3:3-4 ผเู้ ขียนทไี ดร้ ับการดลใจท่านนียกภาพประกอบง่ายๆสองเรืองจากชีวติ
ประจาํ วนั เกียวกบั เรืองนี ดูเถดิ เราเอาเหลก็ บังเหยี นใส่ปากม้าเพอื ให้มนั เชือฟังเรา เรากบ็ งั คบั มนั
ให้ไปไหนๆได้ทงั ตวั เหลก็ บงั เหียนถือวา่ เป็นอปุ กรณ์ชินเลก็ จริงๆ เหลก็ บงั เหียนโดยทวั ไปแลว้
อาจมีนาํ หนกั ไม่เกินหนึงปอนด์ กระนนั จากเหลก็ บงั เหียนดงั กล่าว คนขีมา้ กส็ ามารถควบคุม
และหนั มา้ ทีหนกั ถึงหนึงพนั ปอนดไ์ ด้ เหลก็ บงั เหียนจึงมีขนาดเลก็ แต่ทรงพลงั จริงๆ
ในแบบเดียวกนั 4 จงดูเรือด้วยเช่นกนั ถงึ แม้ว่าเป็ นเรือใหญ่ และถูกลมแรงพดั แล่นไป
เรือกย็ งั หันไปมาด้วยหางเสือเลก็ ๆตามใจนายท้ายทจี ะให้ไปทางไหน ยากอบบรรยายเกียวกบั เรือ
ทีมีขนาดใหญ่ ถึงแมล้ มแรงและคลนื โหมกระหนาํ แต่เรือพวกนีกถ็ ูกบงั คบั ใหห้ นั ไปมาไดโ้ ดย
หางเสือเลก็ ๆตามความประสงคข์ องนายทา้ ย คาํ ทีแปลวา่ หางเสือ (เพดาลิออน) กค็ ือ หางเสือ
ของเรือมากกวา่ ทีจะเป็นพวงมาลยั บงั คบั ทิศทาง ประเดน็ กย็ งั คงเหมือนเดิม เรือทีมีขนาดใหญ่
โตถกู บงั คบั ทิศทางและควบคุมโดยอุปกรณ์ชินเลก็ ๆทีเรียกวา่ หางเสือ การประยกุ ตใ์ ชข้ อง
ประเดน็ นีอยใู่ นขอ้ ต่อไป
ยก 3:5 ดงั นนั ในทาํ นองเดียวกบั ทีไดถ้ ูกยกภาพประกอบไวด้ า้ นบน เช่นนัน
แหละลนิ กเ็ ป็ นอวยั วะเลก็ ๆด้วย และพดู โอ้อวดอ้างการใหญ่ ลินมนุษยเ์ ป็นอวยั วะขนาดเลก็ ของ
ร่างกายมนุษย์ อยา่ งไรกต็ ามมนั อวดอา้ งสิงใหญ่โต ลินเป็นยานพาหนะหลกั ในการนาํ พาความ
เยอ่ หยงิ เช่นเดียวกบั ทีเหลก็ บงั เหียนครอบปากมา้ หรือหางเสือของเรือใหญ่สามารถเปลียนวถิ ี
การกระทาํ ของสิงใหญ่ๆกวา่ ได้ ลินกท็ าํ แบบนนั เหมือนกนั
คราวนียากอบเสริมภาพเปรียบอีกเรืองเขา้ ไปกบั ประเดน็ ทีท่านกาํ ลงั เสนอ จงดูเถิด ไฟ
นดิ เดยี วอาจเผาไหม้มากเท่าใด ไมข้ ีดไฟเลก็ ๆกา้ นเดียวสามารถก่อใหเ้ กิดเพลิงไหมใ้ หญ่โตได้
ผลกระทบของลินกค็ ลา้ ยกนั อยา่ งเห็นไดช้ ดั
ยก 3:6 ในทาํ นองเดียวกนั ยากอบกล่าวต่อไปวา่ และลนิ นันกเ็ ป็ นไฟ เป็ นโลก
แห่งการชัวช้าซึงตงั อยู่ในบรรดาอวยั วะของเรา เป็ นเหตุให้ทงั กายเป็ นมลทนิ ไป ทาํ ให้วถิ แี ห่ง
ธรรมชาตเิ ผาไหม้ และมนั เองกต็ ดิ ไฟจากนรก คาํ ทีแปลวา่ การชัวช้า (อาดิเคีย) มีความหมายตรง
ตวั วา่ ‘ความไม่ชอบธรรม’ และเป็นความจริงทีลินเป็นโลกทงั ใบของความไม่ชอบธรรมใน
ร่างกายของเรา วลี “วถิ ีแห่งธรรมชาติ” (ถึงแมว้ า่ ตรงตวั แลว้ มีความหมายวา่ ‘วฏั จกั รแห่งชีวติ ’)
มคี วามหมายเชิงปฏิบตั ิวา่ ‘วถิ ีแห่งชีวติ ’ เช่นเดียวกบั ทีไมข้ ดี ไฟกา้ นเดียวสามารถทาํ ใหเ้ กิดไฟ
ไหมท้ งั ป่ าได้ ลินกส็ ามารถจุดไฟแห่งความยงุ่ ยากเพือกลืนกินไดห้ ลายชีวติ เลยทีเดียว นอกจากนี
แหล่งทีมาของการพดู แบบไม่ระมดั ระวงั สุดทา้ ยแลว้ กม็ าจากนรกเอง ประเดน็ สาํ คญั กวา่ กค็ อื วา่
พญามารใชก้ ารไม่ระมดั ระวงั คาํ พดู เพอื จุดประกายใหเ้ กิดความยงุ่ ยากทุกรูปแบบ ดงั นนั ลินทีถกู
ใชแ้ บบไม่ระมดั ระวงั กก็ ลายเป็นเครืองมือของพญามาร
ยก 3:7-8 ยากอบยกภาพเปรียบต่อไป เพราะสัตว์เดยี รัจฉานทุกชนิด ทงั นก งู และ
สัตว์ในทะเลกเ็ ลยี งให้เชืองได้ และมนุษย์กไ็ ด้เลยี งให้เชืองแล้ว สัตวป์ ่ า นก และสตั วน์ าํ ทุกชนิด
ถูกทาํ ใหเ้ ชือง ถูกฝึ ก และถูกนาํ มาเลียงแลว้ โดยมนุษย์ 8 แต่ลนิ นันไม่มมี นุษย์คนใดสามารถ
ทาํ ให้เชืองได้ ลนิ เป็ นสิงชัวซึงยบั ยงั ไม่ได้ และเต็มไปด้วยพษิ ร้ายถงึ ตาย ถึงแมว้ า่ มนุษยส์ ามารถ
ทาํ สตั วป์ ่ าเชืองไดแ้ ลว้ แต่พวกเขากย็ งั ไม่เคยทาํ ใหล้ ินของตวั เองเชืองเลย นอกจากนี ยากอบสอน
วา่ ลินของมนุษยโ์ ดยปกติเป็นสิงทีทาํ ใหเ้ ชืองไม่ไดเ้ ลย มนั เป็น “สิงชวั ซึงยบั ยงั ไม่ได”้ คาํ ทีแปล
วา่ ซึงยบั ยงั ไม่ได้ (อาคาทาสเขะทอส) มีความหมายวา่ ‘ไม่สามารถถูกเหนียวรังได’้ นอกจากนี
มนั ยงั ชวั ร้ายโดยตวั มนั เองดว้ ย และลินยงั เตม็ ไปดว้ ยพิษร้ายถึงตาย อวยั วะทีอยใู่ นปากเราจึงมี
พลงั น่ากลวั จริงๆ
ยก 3:9-10 เรืองทีขดั แยง้ กนั เองกค็ ือวา่ เราทงั หลายสรรเสริญพระเจ้าคอื พระบดิ า
ด้วยลนิ นัน และด้วยลนิ นันเรากแ็ ช่งด่ามนุษย์ ซึงถูกสร้างขนึ ตามพระฉายาของพระเจ้า ดว้ ยลิน
เดียวกนั นีทีเราใชเ้ ปล่งคาํ สรรเสริญแด่พระเจา้ เรากใ็ ชม้ นั เพอื กล่าวร้ายต่อคนอืนดว้ ย นอกจากนี
เรืองทีขดั แยง้ กนั เองกค็ ือวา่ คนเหล่านนั ทีเราจะแช่งด่ากถ็ กู สร้างขึนตามพระฉายาของพระเจา้
(ยากอบจึงอา้ งอิงแบบผา่ นๆถึงปฐมกาล 1:26-27 เกียวกบั การทีพระเจา้ ไดท้ รงสร้างมนุษยข์ นึ
ตามแบบพระฉายาของพระองคแ์ ละตามพระลกั ษณะของพระองค)์
เรืองตลกร้ายอีกอยา่ งกค็ ือวา่ 10 คาํ สรรเสริญและคาํ แช่งด่ากอ็ อกมาจากปากอนั เดยี วกนั
นีไม่เพยี งเป็นเรืองทไี ม่สอดคลอ้ งกนั และขดั แยง้ กนั เองเท่านนั แต่มนั ยงั เป็นการกระทาํ ทีชวั ร้าย
อีกดว้ ย ท่านจึงมีคาํ แนะนาํ ง่ายๆ พนี ้องทงั หลายของข้าพเจ้า ไม่ควรให้เป็ นเช่นนันเลย นีเป็น
เพยี งคาํ ตาํ หนิแบบเบาๆเท่านนั
ยก 3:11-12 ยากอบจงึ นาํ เสนอภาพเปรียบอีกหลายเรืองจากธรรมชาติเพือประณาม
ความไม่เสมอตน้ เสมอปลายของลิน ท่านจึงถามแบบไม่ตอ้ งการคาํ ตอบวา่ บ่อนําพจุ ะมนี ําจืด
และนํากร่อยพ่งุ ออกมาจากช่องเดยี วกนั ได้หรือ คาํ ทีแปลวา่ บ่อนําพุ (เพเก) หมายถงึ บ่อนาํ ทีมี
นาํ พุออกมา ในภาพเปรียบแบบสมยั ใหม่กวา่ มนั กอ็ าจหมายถึงตูก้ ดนาํ ดืม คาํ ถามของท่านกค็ ือ
วา่ ตูก้ ดนาํ ดืมจะใหน้ าํ จืดและนาํ เคม็ ออกมาพร้อมกนั ไดห้ รือ คาํ ตอบนนั ชดั เจนอยแู่ ลว้ มนั ตอ้ ง
เป็นนาํ แบบใดแบบหนึงเท่านนั
ในทาํ นองเดียวกนั ท่านถามวา่ 12 พนี ้องทงั หลายของข้าพเจ้า ต้นมะเดือจะออกผลเป็ น
มะกอกเทศได้หรือ หรือเถาองุ่นจะออกผลเป็ นมะเดอื ได้หรือ ความรู้ทวั ไป (ยงั ไม่เอ่ยถึงเรือง
พนั ธุศาสตร์ดว้ ยซาํ ) กท็ าํ ใหเ้ ราเขา้ ใจวา่ ตน้ มะเดือไม่ออกผลเป็นมะกอกเทศ เถาองุ่นกไ็ ม่ออกผล
เป็นมะเดือเช่นกนั ดงั นนั เช่นเดยี วกนั มบี ่อนําพใุ ดจะให้ทงั นําเคม็ และนําจดื ได้ การประยกุ ตใ์ ชท้ ี
ชดั เจนกค็ ือวา่ ลินของเราไม่ควรเอ่ยสิงทีทงั ถกู ตอ้ งและชวั ร้าย
ยก 3:13 บทสรุปของเรืองนีทงั หมดตงั แต่ 1:19-21 จนถึงบทที 3 อยตู่ รงนีแลว้ ดงั
นนั เมือพิจารณาถึงเรืองนีทงั หมด ยากอบจึงถามวา่ ในพวกท่าน ผู้ใดมสี ตปิ ัญญาและประกอบ
ด้วยความรู้ ความหมายกค็ ือ คนทีมีสติปัญญาและมีความรู้ดี ดงั นนั กใ็ ห้ผู้นันแสดงการประพฤติ
ของตนด้วยกริยาอนั ดี มใี จอ่อนสุภาพประกอบด้วยปัญญา นียอ่ มอา้ งยอ้ นกลบั ไปยงั ขอ้ 1 ของ
บทนี ซึงเป็นการอา้ งอิงถึงคนเหล่านนั ทียกตวั เป็นอาจารย์ (ทีมีปัญญา) หากพวกเขาถือวา่ ตวั เอง
เป็นแบบนนั ยากอบกแ็ นะนาํ ใหพ้ วกเขาแสดงสติปัญญาทีตวั เองอา้ งวา่ มีผา่ นออกมาทางชีวติ
ของพวกเขาก่อน
คาํ ทีแปลวา่ การประพฤติ (อานาสตรอเฟ) หมายถึง ลกั ษณะการดาํ เนินชีวติ ของคนๆ
หนึง กล่าวอีกนยั หนึง หากคนใดอา้ งวา่ ตวั มีสติปัญญาพอทีจะเป็นผนู้ าํ คนอืนได้ กใ็ หเ้ ขาแสดง
สติปัญญานนั ออกมาผา่ นทางวธิ ีการดาํ เนินชีวติ ของเขาก่อน ยากอบยงั ออกขอ้ กาํ หนดเพิมเติม
ดว้ ยวา่ “มีใจอ่อนสุภาพประกอบดว้ ยปัญญา” วลีนีอาจแปลไดว้ า่ ‘ความอ่อนสุภาพของสติ
ปัญญา’ คาํ ทีแปลวา่ ใจอ่อนสุภาพ (พราอูเทส) หมายถึง การมีสภาพจิตใจปกติ รู้จกั ควบคุม
อารมณ์ของตน และมีใจทีอ่อนโยน มนั เป็นสิงทีตรงขา้ มกบั การเป็นคนขีโมโห (โกรธง่าย) นีสือ
ชดั เจนวา่ สติปัญญาทีแทจ้ ริงจะสาํ แดงตวั ออกมาผา่ นทางการมีวนิ ยั ทางอารมณ์ โดยเฉพาะอา
รมณ์แยๆ่ เช่น อารมณ์โกรธ การบนั ดาลโทสะ และการเป็นคนปากร้าย คนทีมสี ติปัญญาทีเป็น
ตามทางของพระเจา้ จนถึงระดบั ทีเป็นผนู้ าํ ฝ่ ายวญิ ญาณไดน้ นั จะตอ้ งไม่เพยี งควบคุมลินของตน
ไดเ้ ท่านนั แต่ตอ้ งควบคุมอารมณ์และสภาพจิตใจของตนไดด้ ว้ ย
ยก 3:14-15 ยากอบบรรยายใหเ้ ห็นชดั เจนวา่ บางคนประพฤติตวั อยา่ งไรอยใู่ นตอนนนั
แต่ถ้าท่านทงั หลายมใี จอจิ ฉาอนั ขมขนื และอาการแก่งแย่งกนั ในใจของท่าน อย่าอวดเลยและอย่า
พูดมุสาต่อความจริง ใจอิจฉาอนั ขมขืนและอาการแก่งแยง่ ไม่ไดส้ ะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงสติปัญญา
หรือใจอ่อนสุภาพตามทีมีนิยามไวด้ า้ นบนแต่อยา่ งใด บางคนทีอยากเป็นผนู้ าํ อาจมีใจอิจฉาและ
แก่งแยง่ กนั อยกู่ ไ็ ด้ ยากอบจึงเตือนสติพวกเขามิใหย้ กชูตวั เองและมุสาต่อความจริงทีตนอา้ งวา่
สอน การดาํ เนินชีวติ ฝ่ ายวญิ ญาณตามเนือหนงั แบบนนั ซึงเป็นผใู้ หญ่เลยกเ็ ท่ากบั เป็นการทาํ ให้
ความจริงทีจะถกู สอนตอ้ งเสือมเสีย เหมือนคาํ กล่าวสมยั โบราณทีวา่ ‘การกระทาํ เสียงดงั กวา่ คาํ
พดู ’ ความขมขืนและการแก่งแยง่ ขดั แยง้ และทรยศต่อสติปัญญาทีอา้ งว่ามีในการเป็นผนู้ าํ
นอกจากนี 15 ปัญญาเช่นนีไม่ได้มาจากเบอื งบน แต่เป็ นปัญญาอย่างโลก และเป็ น
เดยี รัจฉานตณั หา และเป็ นเช่นปิ ศาจ สติปัญญาทีถูกอา้ งวา่ มี (ในตวั นกั เทศนห์ รือผนู้ าํ ) ซึงสาํ แดง
ตวั ออกมาเป็นลินทีร้ายกาจ ใจขมขืน และทศั นคติขีอิจฉากเ็ ป็นสิงทีขดั แยง้ กนั เอง สติปัญญา
แบบนนั ไม่ไดม้ าจากพระเจา้ เราจาํ ไดว้ า่ ยากอบขึนตน้ พระธรรมเล่มนีโดยกล่าววา่ สติปัญญา
ทีแทจ้ ริงยอ่ มมาจากพระเจา้ เสมอ (1:5) แต่ปัญญาของปลอมทีคนทียกตวั เป็นผนู้ าํ ฝ่ ายวญิ ญาณ
อา้ งวา่ มกี ็ “เป็นปัญญาอยา่ งโลก และเป็นเดียรัจฉานตณั หา และเป็นเช่นปิ ศาจ” คาํ ทีแปลวา่ อย่าง
โลก (เอะพิเกะอิออส) ถึงแมม้ ีความหมายตรงตวั ว่า เกียวกบั ภาคพืนดิน แต่ในบริบทนีมนั กม็ ี
ความหมายวา่ ‘แบบชาวโลก’ คาํ ทีแปลวา่ เดยี รัจฉานตณั หา (ซูคิคอส) มีความหมายดว้ ยวา่
‘แบบธรรมชาติ’ จริงๆแลว้ มนั จึงมีความหมายวา่ ‘แบบเนือหนงั ’ จากนนั คาํ ทีแปลวา่ เช่นปิ ศาจ
(ไดมอนิโอเดส) หมายถึง การเป็นแบบปิ ศาจ กล่าวโดยสรุปกค็ ือวา่ ยากอบบรรยายถึงพฤติกรรม
ตามอยา่ งดา้ นบนวา่ เป็นของโลก เนือหนงั และพญามาร ไตรภาคีชวั ร้ายดงั กล่าวจึงเป็นแก่นแท้
ของวฒั นธรรมทีปราศจากพระเจา้ รอบตวั เรา มนั เป็นแบบอยา่ งของศตั รูของพระเจา้ ตามทีมีกล่าว
ไวใ้ น 4:4
ยก 3:16 เพราะว่าทใี ดมคี วามอจิ ฉาและการแก่งแย่งกนั ทนี ันกว็ ุ่นวายและมกี ารก
ระทาํ ชัวช้าเลวทรามทุกอย่าง ดงั ทีมกี ล่าวไวใ้ นขอ้ 14 คนเหล่านีทีอา้ งตวั วา่ เป็นผนู้ าํ ฝ่ ายวญิ ญาณ
มแี ละก่อใหเ้ กิดความอิจฉาและการแก่งแยง่ กนั ยากอบชีใหเ้ ห็นวา่ ความไม่เป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายเนือ
หนงั เช่นนนั กน็ าํ ไปสู่ความเสือมทรามทุกรูปแบบ วลีสุดทา้ ย “ทีนนั กว็ นุ่ วายและมกี ารกระทาํ ชวั
ชา้ เลวทรามทุกอยา่ ง” กส็ อนอะไรเราหลายอยา่ งทีเดียว คาํ ทีแปลวา่ วุ่นวาย (อาคาทาสทาเซีย) มี
ความหมายวา่ ‘ความไม่เสถียร’, ‘สภาพของความไร้ระเบียบ’, ‘สิงรบกวน’ หรือ ‘ความสับสน’
คุณสมบตั ิทีชวั ร้ายของ “ความอิจฉาและการแก่งแยง่ กนั ” นาํ ไปสู่ความสบั สนวนุ่ วายทุกรูปแบบ
จริงแทท้ ีเดียวทีพระเจา้ ไม่ทรงเป็นผกู้ ่อใหเ้ กิดความวนุ่ วาย
ความอิจฉาและใจขมขนื ทิงแต่ความโกลาหลและความสับสนวนุ่ วายไวเ้ บืองหลงั
นอกจากนีคาํ ทีแปลวา่ ชัวช้าเลวทราม (ฟาอูลอส) หมายถึง สิงทีชวั รา้ ยในทางศลี ธรรม สุดทา้ ย
คาํ ทีแปลวา่ การกระทาํ (พรักมา) เป็นทีมาของคาํ ภาษาองั กฤษ pragmatic หรือ pragmatism มนั
สือถึงการทาํ บางสิงสาํ เร็จโดยปราศจากหลกั การ มีแต่เรืองแยๆ่ ตามหลงั ความอิจฉาและใจขมขนื
มนั ยอ่ มก่อใหเ้ กิดการกระทาํ ต่างๆทีชวั ชา้ เลวทรามและปราศจากหลกั การ นนั คือบทสรุปของลิน
ทีไม่ถกู ทาํ ใหเ้ ชืองและอารมณ์รุนแรง
ยก 3:17 ตรงขา้ มกบั บ่อเกิดแห่งความเลวทรามเหล่านนั แต่ปัญญาจากเบืองบนนัน
บริสุทธิเป็ นประการแรก แล้วจงึ เป็ นความสงบสุข สุภาพและว่าง่าย เปี ยมด้วยความเมตตาและ
ผลอนั ดี ไม่มคี วามลาํ เอยี ง ไม่หน้าซือใจคด
ยากอบบรรยายสันๆถงึ แก่นแทข้ องสติปัญญาตามทางของพระเจา้ ในเจด็ รูปแบบ (1)
ประการแรกคือ บริสุทธิ ตรงขา้ มกบั ความเสือมทรามทีมบี อกไวใ้ นขอ้ ก่อนหนา้ ปัญญาตามทาง
ของพระเจา้ กบ็ ริสุทธิจริงๆ คาํ ทีแปลเช่นนนั (ฮักนอส) กม็ ีความหมายตามนนั เลยและมที ีมาจาก
คาํ วา่ ความบริสุทธิ (ฮากิออส) ปัญญาตามทางของพระเจา้ ไม่มีการสือความหมายแบบสองแง่
สองง่ามหรือความไม่บริสุทธิทางศีลธรรมอืนๆ (2) เป็นความสงบสุข ตรงขา้ มกบั การแก่งแยง่ ชิง
ดีซึงเกิดจากปัญญาแบบโลกตามเนือหนงั ทีมีบรรยายไวด้ า้ นบน ปัญญาตามแบบของพระเจา้ นนั
เปี ยมดว้ ยสันติสุขและนาํ มาซึงสันติสุข (3) สุภาพ คาํ ทีแปลเช่นนนั (เอะพิเอะอิเคส) ไม่เพยี ง
หมายความวา่ เหมาะสม เท่านนั แต่ยงั หมายถึง ซือตรงและยตุ ิธรรมดว้ ย มนั จึงสุภาพเป็นผลที
ตามมา (4) ว่าง่าย คาํ ทีแปลเช่นนนั (เอะอูเพะอิเธส) มีความหมายตรงตวั วา่ ‘เชือฟังง่าย’ และมี
ความหมายดว้ ยวา่ ยอมรับโดยง่าย ปัญญาตามแบบของพระเจา้ จึงไม่ยอมรับโดยยาก (5) “เปี ยม
ดว้ ยความเมตตาและผลอนั ดี” ปัญญาตามแบบของพระเจา้ เปี ยมดว้ ยความเมตตาและก่อใหเ้ กิด
ผลอนั ดีต่างๆ กล่าวอกี นยั หนึง มนั มีใจกรุณาและดีงาม
(6) ปัญญาตามแบบของพระเจา้ กไ็ ม่มคี วามลาํ เอยี งดว้ ย ถึงแมว้ า่ ฉบบั แปลองั กฤษสือ
ความหมายในเชิงไม่เลือกหนา้ คนในการตดั สิน แต่คาํ ทีแปลเช่นนนั (อาดิอาคริทอส) มีความ
หมายตรงตวั วา่ ‘ปราศจากความสงสัยหรือความไม่แน่ใจ’ นีอาจแปลวา่ ปัญญาตามแบบของ
พระเจา้ ไม่ก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจผดิ สุดทา้ ย (7) ปัญญาตามแบบของพระเจา้ ไม่หน้าซือใจคด คาํ ที
แปลเช่นนนั (อานูพอคริทอส) มีความหมายวา่ ‘แทจ้ ริง’ หรือ ‘จริงใจ’ ปัญญาตามแบบของ
พระเจา้ ไม่เคยทาํ ตวั หนา้ ไหวห้ ลงั หลอกและไม่เสแสร้ง
ยก 3:18 ยากอบสรุปเนือหาตอนนีทงั หมดดว้ ยคาํ พดู ต่อไปนี และผลแห่งความ
ชอบธรรมกห็ ว่านลงในสันตสิ ุขของคนเหล่านันทกี ่อให้เกดิ สันตสิ ุข “ผลแห่งความชอบธรรม”
คอื ปัญญา ในสุภาษติ 8 ปัญญาและความชอบธรรมกเ็ ทียบเท่ากบั ปัญญาทีเป็นผลของความชอบ
ธรรมนนั เอง ดู สุภาษติ 8:1, 6, 8, 20 ปัญญาตามแบบของพระเจา้ เกิดมาจากความชอบธรรม มนั
คือความชอบธรรมทีออกมาเป็นรูปธรรมนนั เอง ดงั นนั ปัญญาตามแบบของพระเจา้ ซึงถูก
บรรยายไวด้ า้ นบนจึงถกู “หวา่ นลงในสนั ติสุข” ปัญญาดงั กล่าวถูกแสดงออกในแบบทีก่อใหเ้ กิด
สนั ติสุขและเกิดผลโดย “คนเหล่านนั ทีก่อใหเ้ กิดสนั ติสุข”
ช่างเป็นภาพทีตรงกนั ขา้ มกบั ปัญญาของโลกตามเนือหนงั ทีมีบรรยายไวก้ ่อนหนา้ นนั ใน
บทนี มนั ก่อใหเ้ กิดการแก่งแยง่ ความขมขืน ความวนุ่ วาย และความชวั ร้ายทุกรูปแบบ ปัญญา
ตามแบบของพระเจา้ ถกู หวา่ นลงในสันติสุขและเกิดผลเป็นสนั ติสุข
ยากอบจึงสรุปรวมเนือหาหลกั ของจดหมายฝากฉบบั นีเขา้ ดว้ ยกนั นนั คือ ปัญญาตาม
แบบของพระเจา้ ซึงตรงขา้ มกบั ปัญญาทีพวกผนู้ าํ ฝ่ ายวญิ ญาณทีทะเยอทะยานและไม่รู้จกั โตอา้ ง
วา่ มี คนเหล่านีสาํ แดงการทาํ ตามเนือหนงั และความไม่เป็นผใู้ หญ่ของตนออกมาผา่ นทางอาการขี
โมโห การไม่ระวงั คาํ พดู ใจขมขืน และความวนุ่ วายทีถกู ทิงไวต้ ามทาง แต่ปัญญาตามแบบของ
พระเจา้ เกิดผลอนั หอมหวานแห่งสันติสุขพร้อมกบั ผลลพั ธต์ ่างๆอนั เปี ยมดว้ ยสันติสุข
*****
ภาพรวมของยากอบ 4: มีการพดู ถึงหลายหัวข้อไล่ตังแต่ความแตกแยกไปจนถึงการทาํ
ตามเนือหนงั ไปจนถึงการรักโลก ไปจนถึงการต่อสู้พญามาร ไปจนถึงการนบนอบต่อพระเจ้า
บทนีปิ ดท้ายด้วยการพูดถึงการแสวงหาการทรงนาํ ของพระเจ้าสาํ หรับการตดั สินใจทุกเรืองใน
ชีวิต
ยก 4:1 ยากอบกล่าววา่ อะไรเป็ นสาเหตุของสงครามและการทะเลาะววิ าทกนั ใน
พวกท่าน ถึงแมค้ าํ ทีแปลวา่ สงคราม (โพเละมอส) และ การทะเลาะวิวาทกนั (มาเค) อาจมคี วาม
หมายตามนนั ได้ แต่ทงั สองคาํ กม็ ีความหมายแบบทวั ๆไปมากกวา่ ดว้ ย คาํ วา่ โพเลมอส เป็นทีมา
ของคาํ ภาษาองั กฤษ polemics มนั อาจมีความหมายเพียง ‘การโตเ้ ถียงกนั ’ คาํ วา่ มาเค เป็นทีมา
ของคาํ ภาษาองั กฤษ machinations มคี วามหมายแบบทวั ๆไปดว้ ยวา่ ‘การทะเลาะกนั ’ หรือ ‘การ
ววิ าท’ ยากอบน่าจะกาํ ลงั พดู ถึงการทะเลาะเบาะแวง้ ทีมีปกติทุกวนั ในชีวติ ดงั นนั คาํ ถามของท่าน
จริงๆแลว้ กค็ ือ ‘การโตเ้ ถียงและการทะเลาะเบาะแวง้ ทีเกิดขึนท่ามกลางพวกเราเกิดขึนมาจาก
ไหน’
ท่านตอบคาํ ถามของตวั เอง มใิ ช่ตณั หาของท่านหรือทตี ่อสู้กนั ในอวยั วะของท่าน คาํ อีกคาํ
ถูกแปลวา่ ต่อสู้กนั (สตราเตะอูออไม) ตรงนี มีความหมายตามนีดว้ ยนอกจาก ‘ทาํ สงครามกนั ’
คาํ ทีแปลวา่ ตณั หา (เฮดอเน) ไม่ใช่คาํ ทีเราพบบ่อยในพระคมั ภีร์ใหม่เพอื สือความหมายนี มนั
เป็นทีมาของคาํ ภาษาองั กฤษ hedonism ในทีนีสือถึง ‘ความปรารถนาทีเห็นแก่ตวั ’ หรือ ‘ความ
สนุกสนานอนั เห็นแก่ตวั ’ คาํ ทีแปลวา่ อวยั วะ (เมะลอส) อาจหมายถึงส่วนต่างๆของร่างกาย
มนุษย์ อยา่ งไรกต็ าม ในทีนีอาจหมายถึงสมาชิกของคริสตจกั รหนึงๆ
ความหมายตรงนีจึงน่าจะเป็นดงั นี ‘การโตเ้ ถียงและการทะเลาะเบาะแวง้ ท่ามกลางพวก
เรานนั มาจากไหน มนั ไม่ไดม้ าจากความปรารถนาทีเห็นแก่ตวั ของเราหรอกหรือทีก่อใหเ้ กิดการ
ต่อสูท้ ่ามกลางพวกเรา’ ความเห็นแก่ตวั และความดือรันเป็นรากเหงา้ แห่งการทะเลาะเบาะแวง้
ส่วนใหญ่อยแู่ ลว้
ยก 4:2 ยากอบขยายความเพมิ เติม ท่านทงั หลายอยากได้ แต่ไม่ได้ ท่านกฆ็ ่ากนั
ท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านกท็ ะเลาะและทาํ สงครามกนั ทที ่านไม่มเี พราะท่านไม่ได้ขอ คาํ ทีเราพบ
บ่อยกวา่ ในพระคมั ภีร์ใหม่ทีหมายถึง อยากได้ (เอะพิธูเมะโอ) หรือ มี ‘ตณั หา’ ถูกใชต้ รงนี มนั มี
ความหมายง่ายๆวา่ ‘ปรารถนา’ หรือ ‘โลภ’ คาํ ทีแปลวา่ ฆ่า (โฟเนะอูโอ) ถึงแมว้ า่ มีความหมาย
ตรงตวั เช่นนนั แต่มนั อาจมีความหมายแฝงดว้ ยวา่ ‘อิจฉา’ หรือ ‘เกลียดชงั ’ ซึงมกั มาก่อนการฆ่า
กนั คาํ ทีแปลวา่ ทะเลาะ และ ทาํ สงครามกัน เป็นคาํ เดียวกบั ในขอ้ 1 ความหมายรวมๆจึงน่าจะ
เป็นดงั นี ‘ท่านโลภแลว้ กไ็ ม่มี ท่านอิจฉาและปรารถนาทีจะมี แต่ท่านกไ็ ม่ไดร้ ับ นอกจากนี ท่าน
ไม่มีเพราะท่านไม่ไดข้ อ’
ยากอบอาจกาํ ลงั เสนอแนะวา่ แทนทีจะทะเลาะกนั ตามเนือหนงั โลภ และอิจฉา พวกเขา
ควรขอพระเจา้ ใหท้ รงประทานใหม้ ากกวา่ กระนนั คริสเตียนเนือหนงั เหล่านีกไ็ ม่เคยคิดถึงเรือง
นนั เลย
ยก 4:3 ในขณะเดียวกนั มีบางคนทีอธิษฐานขอแบบเห็นแก่ตวั ต่อพระเจา้ อีกดว้ ย
อยา่ งไรกต็ าม ยากอบกล่าวต่อไปวา่ ท่านขอและไม่ได้รับ เพราะท่านขอผดิ หวงั ได้ไปเพอื สนอง
ราคะตณั หาของท่าน คาํ ทีแปลวา่ ผดิ (คาโคส) หมายความวา่ ‘อยา่ งไม่เหมาะสม’ หรือ ‘ในแบบ
ทีชวั ร้าย’ คาํ ทีแปลวา่ สนอง (ดาพานาโอ) มคี วามหมายเพมิ เติมวา่ ‘ใชส้ ุรุ่ยสุร่าย’ หรือ ‘ใชส้ ิน
เปลือง’
ดงั นนั ยากอบพดู ถึงสาเหตุทีวา่ ทาํ ไมพระเจา้ ไม่ทรงตอบคาํ อธิษฐานทีเห็นแก่ตวั เมือเรา
อธิษฐานโดยมีแรงจูงใจทีเห็นแก่ตวั ลว้ นๆ โดยขอใหพ้ ระเจา้ ทรงประทานสิงทีเราอยากไดซ้ ึง
แตกต่างจากสิงทีเราจาํ เป็นตอ้ งมี พระองคก์ ไ็ ม่น่าทีจะทรงตอบคาํ อธิษฐานดงั กล่าว อีกครังทีคาํ ที
แปลวา่ ตัณหา (เฮดอเน) มีความหมายวา่ ‘ความปรารถนาทีเห็นแก่ตวั ’ หรือ ‘ความสนุกสนาน
อนั เห็นแก่ตวั ’
ยก 4:4 จากนนั ยากอบกเ็ ปลียนมาใหค้ าํ ประเมินทีแทงใจดาํ มากๆ ท่านทงั หลายผู้
ล่วงประเวณชี ายหญงิ เอ๋ย ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็ นมติ รกบั โลกนันคือการเป็ นศัตรูกบั พระเจ้า ผู้
เขียนทีไดร้ ับการดลใจท่านนีกาํ ลงั พดู ถึงการทีผคู้ นของพระเจา้ ทาํ ตามและร่วมสามคั คีธรรมกบั
ชาวโลก ตลอดสมยั ของผพู้ ยากรณ์ต่างๆในพระคมั ภีร์เดิมทีชนชาติอสิ ราเอลมวั กบั การไหวร้ ูป
เคารพ พระเจา้ กท็ รงเปรียบพวกเขาวา่ เป็นเหมือนกบั หญิงล่วงประเวณีฝ่ ายวญิ ญาณ (ดู อิสยาห์
57:3, เยเรมีย์ 3:8, เอเสเคียล 16:32) นนั คือความหมายตรงนี การทีคริสเตียนสมยั พระคมั ภีร์ใหม่
ปะปนร่วมวงกบั ชาวโลกกเ็ ป็นการล่วงประเวณีฝ่ ายวญิ ญาณ เปาโลเขียนใน 2 โครินธ์ 11:2 วา่
ท่านไดห้ มนั คริสตจกั รนนั ไวก้ บั สามีผเู้ ดียวแลว้ คือ พระเยซูคริสต์ การไปเทียวหวา่ นเสน่ห์และ
ปล่อยตวั ไปกบั โลกกเ็ ป็นเหมือนกบั ภรรยาทีไปมีสัมพนั ธส์ วาทกบั ชายอีกคน มนั เป็นการเล่นชู้
ฝ่ ายวญิ ญาณ ดู โรม 12:2, 1 ยอห์น 2:15-17 และ 2 โครินธ์ 6:17-18 ดว้ ย
ยากอบสรุปดว้ ยคาํ พดู ทีเป็นลาง เหตุฉะนันผู้ใดใคร่เป็ นมติ รกบั โลก ผู้นันกเ็ ป็ นศัตรูของ
พระเจ้า ไม่มีความหมายทีแฝงอยเู่ ลย นีเป็นคาํ พดู ทีตรงไปตรงมาทีสุดแลว้ คริสเตียนทีเป็นมติ ร
กบั โลกกท็ าํ ใหต้ วั เองเป็นศตั รูของพระเจา้ นีเป็นคาํ เตือนทีเราควรตงั ใจฟัง เราจึงควรเวน้ ระยะ
ห่างระหวา่ งตวั เราเองกบั โลกใหม้ ากทีสุดเท่าทีจะทาํ ไดใ้ นแง่ของมนุษย์
ยก 4:5 ผเู้ ขียนทีพระเจา้ ทรงเลือกท่านนีจึงแทรกคาํ พดู ทีเป็นปริศนาไว้ ท่านคดิ ว่า
พระคมั ภรี ์กล่าวไว้อย่างเปล่าประโยชน์หรือทวี ่า `พระวญิ ญาณทีสถิตอยู่ในเราทงั หลายมคี วาม
รู้สึกหงึ หวง' ดูเหมอื นวา่ นีจะไม่ใช่คาํ พดู ทียกมาโดยตรงจากพระคมั ภีร์เดิมใดๆเลย บางคนเสนอ
วา่ นีอาจเป็นการสรุปความของพระราชบญั ญตั ิ 32, ปฐมกาล 6:3-5 หรืออาจ อพยพ 20:5 ดว้ ย
บางคนกเ็ สนอวา่ มนั อาจเป็นการเกรินบทนาํ เขา้ สู่เนือหาทีจะมาในยากอบ 4:6 ความหมายตรงนี
อาจเป็น ‘พระวญิ ญาณทีพระเจา้ ไดท้ รงใส่ไวภ้ ายในตวั เราทรงปรารถนาเราอยา่ งหึงหวง’ ใน
บริบททีอยตู่ ิดกนั ยากอบน่าจะกาํ ลงั พดู วา่ พระเจา้ (ในฐานะเป็นสามีฝ่ ายวญิ ญาณผยู้ งิ ใหญ่ของ
เรา) ทรงหึงหวงเพือทีเราจะไม่ไปยงุ่ เกียวกบั โลก พระองคท์ รงหึงหวงเราเหมือนค่สู มรสทีหึง
หวงคนรักของตน
ยก 4:6 ยากอบเสริมปิ ดทา้ ยวา่ แต่พระองค์ได้ทรงประทานพระคุณเพมิ ขนึ อกี นี
อาจหมายความวา่ พระเจา้ ทรงประทานพระคุณมากขึนแก่ประชากรของพระองคเ์ พือเอาชนะ
การทดลองต่างๆของโลก
นีอาจชวนใหเ้ รานึกถึงเนือหาตอนตน้ ของบทนีและสิงทีเป็นใจความหลกั ในจดหมาย
ฝากตลอดทงั ฉบบั ดว้ ย นนั คือ การถ่อมใจแทนทีจะทะเลาะกนั อยา่ งไร้สาระ ดงั นนั ยากอบจึงยก
คาํ พดู จากสุภาษติ 3:34 เหตุฉะนันพระองค์จงึ ตรัสว่า `พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ทีหยงิ จองหอง แต่ทรง
ประทานพระคุณแก่คนทใี จถ่อม' แทนทีจะทะเลาะกนั และดุด่าวา่ กล่าวกนั ยากอบแนะนาํ วา่
พระเจา้ ทรงประทานพระคุณแก่คนทีจะยอมถ่อมตวั ลง
ยก 4:7 ยากอบจึงพดู ถึงตวั กลางแห่งความชวั ร้ายและความขดั แยง้ เช่นเดียวกบั ที
พระเยซูทรงกระทาํ ยามถูกทดลอง ยากอบกาํ ชบั วา่ เหตุฉะนัน ท่านทงั หลายจงยอมน้อมกายต่อ
พระเจ้า จงต่อสู้กบั พญามาร และมนั จะหนีไปจากท่าน นีสือชดั เจนวา่ การนอ้ มกายต่อพระเจา้
(นาํ พระทยั ของพระองคแ์ ละวธิ ีการของพระองค)์ กเ็ ปิ ดช่องสาํ หรับพระคุณของพระองค์ การ
นบนอบเชือฟังพระเจา้ กเ็ ป็นวธิ ีหนึงในการถ่อมตวั ลงต่อเบืองพระพกั ตร์พระองค์ พระองคก์ จ็ ะ
ทรงประทานพระคุณทีเราตอ้ งการเพอื ทีจะต่อสู้กบั โลกและพญามาร
หลกั การทีสาํ คญั อนั หนึงเกียวกบั การรับมือกบั การทดลองของซาตานไดถ้ ูกนาํ เสนอ
ยากอบแนะนาํ ง่ายๆวา่ จงต่อสู้กบั พญามาร และมนั จะหนีไปจากท่าน คาํ ทีแปลวา่ ต่อสู้ (อันธิส
เตมิ) แปลไดด้ ว้ ยวา่ ‘ทดั ทาน’ ความหมายกค็ ือวา่ เมือเราต่อตา้ นอบุ ายต่างๆของพญามาร มนั กจ็ ะ
หนีไปแสวงหาเหยอื ทีง่ายกวา่ ซาตานคอยมองหาชยั ชนะแบบง่ายๆ หากผใู้ ดต่อสู้กบั การทดลอง
ของมนั มนั กจ็ ะไปทีอนื ดงั นนั เมือเรานบนอบต่อพระเจา้ และขดั ขืนต่อพญามาร พระเจา้ กท็ รง
ประทานพระคุณเพมิ เพอื ทีเราจะทดั ทานต่อไปได้
ยก 4:8 ดว้ ยเหตุนี ยากอบจึงกาํ ชบั วา่ จงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะสถติ อยู่
ใกล้ท่าน เมือเราขวนขวายทีจะเขา้ ใกลพ้ ระเจา้ พระองคก์ จ็ ะทรงเขา้ มาใกลเ้ รา ช่างเป็นพระ
สญั ญาทีแสนวเิ ศษ พระเจา้ ทรงยนิ ดีเสมอทีจะเขา้ มาใกลเ้ ราเมือเราแสวงหาพระองคก์ ่อน อยา่ งไร
กต็ าม พระองคท์ รงกาํ หนดใหเ้ ราเป็นฝ่ ายเขา้ หาพระองคก์ ่อน มนั เรียกวา่ การกลบั ใจใหม่ นนั เอง
ดงั นนั ยากอบจึงเสนอขอ้ กาํ หนดต่างๆในการเขา้ ใกลพ้ ระเจา้ ท่านจึงเสริมวา่ คนบาปทงั
หลายเอ๋ย จงชําระมอื ให้สะอาด และคนสองใจเอ๋ย จงชําระใจของตนให้บริสุทธิ ความหมายกค็ ือ
การชาํ ระตวั เราใหพ้ น้ จากความบาปฝ่ ายร่างกายและความบาปฝ่ ายวญิ ญาณ (ความบาปของใจ)
คาํ ทีแปลวา่ สองใจ (ดิพซูคอส) ในบริบทนีน่าจะหมายถงึ การเป็นคน ‘สองหนา้ ’ หรือ ‘หนา้ ซือ
ใจคด’ นีน่าจะหมายถึงคนเหล่านนั ทีดา้ นหนึงแสวงหาการมีสามคั คีธรรมกบั พระเจา้ ขณะทีใน
เวลาเดียวกนั กก็ าํ ลงั เล่นสนุกกบั โลกและกลวกเกลือกบั ความบาปอยดู่ ว้ ย หากผใู้ ดตอ้ งการเขา้
ใกลพ้ ระเจา้ เขากต็ อ้ งชาํ ระตวั เองใหพ้ น้ จากความหนา้ ซือใจคดดงั กล่าวเสียก่อน
ยก 4:9 ยากอบกาํ ชบั เราวา่ จงเป็ นทุกข์โศกเศร้าและครําครวญ จงให้การหวั เราะ
ของตนกลบั กลายเป็ นการครําครวญ และความปี ตยิ นิ ดขี องตนกลบั กลายเป็ นความเศร้าสลด นี
หมายถึงความเสียใจตามแบบของพระเจา้ เพราะความบาปในชีวติ ของเรา มนั คือความเสียใจแบบ
ทีชอบพระทยั พระเจา้ ซึงนาํ ไปสู่การกลบั ใจใหม่ทีแทจ้ ริง ดู 2 โครินธ์ 7:10-11 พระเจา้ กาํ ลงั
แสวงหาคริสเตียนทีจะโศกเศร้าเสียใจเพราะความบาปของตนแทนทีจะสนุกสนานความโง่เขลา
และความบนั เทิงทีวา่ งเปล่า
ยก 4:10 ดงั นนั ยากอบจงึ ปิ ดทา้ ยเนือหาส่วนนีดว้ ยคาํ สงั ง่ายๆ ท่านทงั หลายจง
ถ่อมตัวในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็ นเจ้า และพระองค์จะทรงยกชูท่านขนึ พระเจา้ จะยงั ไม่
ยกชูเราจนกวา่ เราจะเตม็ ใจถ่อมตวั ลงต่อเบืองพระพกั ตร์พระเจา้ ดว้ ยความเสียใจตามแบบของ
พระเจา้ เพราะความบาป ดูมทั ธิว 23:12 และ 1 เปโตร 5:6 พระเจา้ ทรงต่อสู้กบั คนทีหยงิ จองหอง
และทรงประทานพระคุณแก่คนทีใจถ่อม
ยก 4:11 คราวนียากอบเปลียนมาพดู ถึงเรืองทีอยใู่ นตอนตน้ ของบทนี ซึงสอด
แทรกอยใู่ นจดหมายฝากฉบบั นีทงั ฉบบั นนั คือ ความเดือดร้อนทีเกิดขึนจากการใชล้ ิน พนี ้องทงั
หลาย อย่าใส่ร้ายซึงกนั และกนั นีเป็นคาํ กาํ ชบั ใหเ้ ราหยดุ วพิ ากษว์ จิ ารณ์กนั และกนั ผู้ใดทพี ดู ใส่
ร้ายพนี ้องและตดั สินพนี ้องของตน ผู้นันกก็ ล่าวร้ายต่อพระราชบัญญัติ และตดั สินพระราช
บญั ญตั ิ แต่ถ้าท่านตัดสินพระราชบัญญตั ิ ท่านกไ็ ม่ใช่ผู้ทปี ระพฤติตามพระราชบัญญตั ิ แต่เป็ นผู้
ตดั สิน ความหมายกค็ ือวา่ ผทู้ ีกาํ ลงั วจิ ารณ์และปรับโทษพีนอ้ งจริงๆแลว้ กก็ าํ ลงั วจิ ารณ์พระราช
บญั ญตั ิอยู่ บางคนเสนอวา่ พระราชบญั ญตั ิในทีนีคือ พระราชบญั ญตั ิของพระมหากษตั ริยท์ ีถูก
พดู ถึงในยากอบ 2:8 มนั น่าจะหมายถึงเลวนี ิติ 19:16 มากกวา่ ทีพระเจา้ ทรงหา้ มมิใหป้ ระชากร
ของพระองคซ์ ุบซิบนินทาหรือวา่ ร้ายลบั หลงั คนอืน การวจิ ารณค์ นอนื กเ็ ป็นการนงั ตดั สินพระ
ราชบญั ญตั ิของพระเจา้ เราจึงเปลียนจากการเป็นผปู้ ระพฤติตามพระวจนะ (ยากอบ 1:22-23) มา
เป็นแค่ผตู้ ดั สินพระวจนะนนั แทน
ยก 4:12 ยากอบจึงสรุปเนือหาส่วนนีโดยกล่าววา่ มผี ู้ทรงตงั พระราชบญั ญตั ิแต่
เพยี งองค์เดียว คอื พระองค์ผู้ทรงสามารถช่วยให้รอดได้ และทรงสามารถทาํ ลายเสียได้ แต่ท่าน
เป็ นผู้ใดเล่า ท่านจงึ ตดั สินผู้อนื หลกั เหตุผลของท่านนนั กง็ ่ายๆ ผทู้ รงตงั พระราชบญั ญตั ิแต่ผู้
เดียวคือพระเจา้ พระองคท์ รงเป็นผพู้ พิ ากษาในทา้ ยทีสุดดว้ ย เราเป็นใครเล่าทีจะนงั ตดั สินคนอืน
ความหมายตรงนีสอดคลอ้ งกบั สิงทีองคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ ของเราไดท้ รงสอนในมทั ธิว 7:1 ยากอบจึง
กาํ ลงั พดู ถึงปัญหาทีกาํ ลงั เกิดขึนอยใู่ นคริสตจกั รหลายแห่งทีท่านเขียนถึง ปัญหานนั กค็ อื การโต้
เถียง ทะเลาะววิ าท ใชล้ ินในทางทีผดิ และชอบวจิ ารณ์คนอนื ทงั หมดนีสือถึงการทาํ ตามเนือ
หนงั และความไม่เป็นผใู้ หญ่ฝ่ ายวญิ ญาณในตวั ผอู้ ่านจดหมายฝากฉบบั นี
ยก 4:13 คราวนีท่านเปลียนมาพดู ถึงอีกเรืองทีน่ากงั วล นนั คือการตดั สินใจเรือง
สาํ คญั ๆในชีวติ โดยไม่แสวงหานาํ พระทยั ของพระเจา้ ในเรืองดงั กล่าว ยากอบจึงตาํ หนิคนพวกนี
ดูเถดิ ท่านทพี ดู ว่า "วนั นีหรือพรุ่งนีเราจะเข้าไปในเมอื งนันเมอื งนี และจะอยู่ทนี ันปี หนงึ และจะ
ค้าขายได้กาํ ไร" คาํ ทีแปลวา่ ดูเถิด (อาเกะ) มีความหมายวา่ ‘มาเถิด’ ในสองขอ้ ก่อนหนา้ นนั การ
ด่วนตดั สินคนอืนไดถ้ กู พดู ถึงไปแลว้ คราวนียากอบเปลียนมาพดู ถึงเรืองการด่วนตดั สินใจบา้ ง
ยากอบเขียนเกียวกบั คริสเตียนหลายท่านทีรับรู้ไดถ้ ึงโอกาสในการหาเงินไดม้ ากขึนใน
อีกเมืองหนึง พวกเขาจึงตดั สินใจโดยไม่สนนาํ พระทยั ของพระเจา้ ในเรืองดงั กล่าวเลยและยา้ ยไป
อยทู่ ีนนั เพอื ทีจะแสวงหารายไดท้ ีเพมิ ขึน การหาผลกาํ ไรในการทาํ ธุรกิจไม่ใช่เรืองผดิ อะไร การ
มรี ายไดเ้ พมิ กไ็ ม่ไดผ้ ดิ อะไรดว้ ย อยา่ งไรกต็ าม การตดั สินใจเรืองสาํ คญั ๆโดยไม่สนนาํ พระทยั
ของพระเจา้ เช่น การยา้ ยไปอยทู่ ีอืนเพือทีจะหาเงินไดเ้ ยอะขึน กเ็ ป็นสิงทีผดิ สาํ หรับคริสเตียน
ยก 4:14 ยากอบจึงเตือนวา่ แต่ว่าท่านทงั หลายไม่รู้ว่าจะมเี หตุอะไรเกดิ ขนึ ในวนั
พรุ่งนี ชีวติ ของท่านเป็ นอะไรเล่า กเ็ ป็ นเหมอื นหมอกทปี รากฏอยู่แต่ประเดยี วหนึงแล้วกห็ ายไป
จริงแทท้ ีเดียวทีเราไม่รู้วา่ จะเกิดอะไรขึนในวนั พรุ่งนี นอกจากนีชีวติ เรากเ็ ปราะบางและอยเู่ พียง
ชวั คราวเท่านนั เช่นเดียวกบั หมอกยามเชา้ เมือเปรียบเทียบกบั นิรันดร์กาล เราอยทู่ ีนีเพยี งชวั เวลา
สนั ๆ จากนนั เรากจ็ ากโลกนีไป ชีวติ นนั แสนสนั นิรันดร์กาลสิยาวนาน จะเป็นการดีทีสุดทีเราจะ
ตดั สินใจเรืองต่างๆในชีวติ โดยมีพนื ฐานอยบู่ นนาํ พระทยั ของพระเจา้
ยก 4:15 นีแหละคือประเดน็ ทียากอบตอ้ งการจะสือ ท่านทงั หลายควรจะพูดว่า
"ถ้าองค์พระผู้เป็ นเจ้าทรงโปรด เราจะมชี ีวติ อยู่ และจะกระทาํ สิงนีหรือสิงนัน" วธิ ีทีเหมาะสมก็
คอื การแสวงหานาํ พระทยั ของพระเจา้ ไม่วา่ จะตดั สินใจเรืองอะไรในชีวติ หากเป็นนาํ พระทยั
ของพระเจา้ อยา่ งชดั เจนทีจะใหเ้ รายา้ ยไปอยทู่ ีอนื กจ็ งกระทาํ ตามนนั แต่การตดั สินใจทีจะทาํ เช่น
นนั โดยคิดถึงแต่เรืองผลกาํ ไรทีเพมิ ขึนหรือรายไดท้ ีดีกวา่ กเ็ ป็นเรืองทีผดิ ส่วนใหญ่แลว้ มนั ไม่น่า
จะใช่นาํ พระทยั ของพระเจา้
ยก 4:16 ประเดน็ ตรงนีอยใู่ นบริบทก่อนหนา้ แต่เดยี วนีท่านทงั หลายยนิ ดใี นการ
โอ้อวดของตน ความยนิ ดีอย่างนีเป็ นความชัวทงั สิน นีหมายถึงคริสเตียนทีอวดเรืองทีจะยา้ ยไป
อยทู่ ีอนื เพือทีจะหาเงินไดม้ ากขนึ สาํ หรับผคู้ นของพระเจา้ แลว้ การโออ้ วดดงั กล่าวเป็นความชวั
ยก 4:17 ยากอบจงึ พดู ถึงความบาปของการละเวน้ การกระทาํ เหตุฉะนัน คนใดที
รู้จักกระทาํ การดี และไม่ได้กระทาํ บาปจงึ มแี ก่คนนัน ถึงแมว้ า่ ตามหลกั การแลว้ การไม่ทาํ สิงที
เราควรกระทาํ กเ็ ป็นความบาป แต่บริบททีอยตู่ ิดกนั กก็ าํ ลงั ถกู พดู ถึงอยตู่ รงนี การไม่ยอมแสวงหา
นาํ พระทยั ของพระเจา้ สาํ หรับการตดั สินใจเรืองต่างๆในชีวติ กเ็ ป็นการรู้จกั กระทาํ การดี และไม่
ไดก้ ระทาํ การไม่แสวงหานาํ พระทยั ของพระเจา้ สาํ หรับการตดั สินใจทีจะมีกเ็ ป็นความบาป
*****
ภาพรวมของยากอบ 5: ในบทสุดท้ายนียากอบพูดถึงความเย่อหยิงและความบาปของพี
น้องทีรํารวย ท่านจึงหนนุ ใจผ้อู ่านของท่านให้อดทนรอคอยจนกว่าองค์พระผ้เู ป็นเจ้าจะเสดจ็ มา
ท่านปิ ดท้ายบทนีด้วยหนึงใจบทเรียนทีสอนใจเรามากทีสุดเกียวกบั การอธิษฐานในพระคัมภีร์
ใหม่
ยก 5:1 ผเู้ ขียนท่านนีขึนตน้ บทสุดทา้ ยนีโดยการพดู ถึงทศั นคติของพวกคนรวย
ดูเถดิ ท่านผู้มงั มี จงร้องไห้โอดครวญเพราะความวบิ ัตซิ ึงจะเกดิ ขนึ กบั ท่าน เช่นเดียวกบั ใน 4:13
ยากอบใชว้ ลีทีวา่ “ดูเถิด” ซึงมีความหมายวา่ ‘มาเถิด’
ในการพดู ถึงคนรวยนนั คาํ ถามกม็ ีอยวู่ า่ คนแบบไหนทีท่านหมายถึง ผมู้ งั มี ท่านกาํ ลงั
หมายถึงชาวโลกทีราํ รวย หรือพวกคนรวยในทีประชุมของพวกยวิ การพดู ถึงคนรวยทีเป็นชาว
โลกดูเหมือนจะไม่สอดคลอ้ งกบั จดหมายฝากของพระคมั ภีร์ใหม่ คนเหล่านนั ไม่ค่อยสนใจฟัง
พระวจนะของพระเจา้ ไม่วา่ จะในกรณีใดๆทงั สิน เห็นไดช้ ดั วา่ จดหมายฝากฉบบั นีถกู เขียนถึง
“พงศพ์ นั ธุส์ ิบสองตระกลู ทีกระจดั กระจายอยนู่ นั ” และถึงพวกพีนอ้ งชาวยวิ ทีเชือซึง
กระจดั กระจายอยนู่ นั ดูเหมือนวา่ ยากอบกาํ ลงั ตาํ หนิพวกผเู้ ชือชาวยวิ ทีราํ รวยในคริสตจกั รยคุ
ตน้ ทางตะวนั ออกหลายแห่ง ท่านไดพ้ ดู ถึงปัญหาต่างๆทีเกิดจากความราํ รวยในคริสตจกั รต่างๆ
ไปแลว้ ใน 1:10-11 และ 2:2-6 อยา่ งไรกต็ าม อาจเป็นไดว้ า่ ท่านกาํ ลงั พดู ถึงความอยตุ ิธรรมต่างๆ
ทีเกิดจากพวกคนรวยโดยทวั ไปอยกู่ ไ็ ด้
คาํ กาํ ชบั ของท่านทีใหค้ นเหล่านี “รอ้ งไหโ้ อดครวญ” เพราะความวบิ ตั ิซึงจะเกิดขึนกบั
พวกเขากค็ ลา้ ยคลงึ กบั คาํ สงั ของท่านใน 4:9 ทีใหพ้ วกเขา “เป็นทุกขโ์ ศกเศร้าและคราํ ครวญ” ใน
ขอ้ หลงั นี ความหมายกเ็ กียวขอ้ งกบั การกลบั ใจใหม่ นนั น่าจะใช่ความหมายตรงนีดว้ ย ยากอบไม่
ไดก้ าํ ลงั ตาํ หนิความมงั คงั อยา่ งทีมนั เป็น แต่ท่านกาํ ลงั พดู ถึงทศั นคติทีชวั ร้ายของพนี อ้ งทีมงั มีใน
คริสตจกั รยคุ ตน้ ต่างหาก บางคนไดเ้ สนอวา่ วิบตั ิทีจะเกิดขึนกบั พวกเขาคือ การพพิ ากษาทีจะมา
ของพระเจา้ อยา่ งไรกต็ ามไม่มีทีอืนเลยในพระคมั ภีร์ทพี ระเจา้ จะทรงพิพากษาเพราะความมงั คงั
เพยี งเท่านนั หากพจิ ารณาบริบทของสมยั นนั ยากอบน่าจะกาํ ลงั เตือนพวกเขาเกียวกบั การข่มเหง
ทีกาํ ลงั ทวคี วามรุนแรงมากขึนเรือยๆ คนเหล่านีทีเป็นผเู้ ชือทีมงั คงั มีปัญหาเกียวกบั ทศั นคติอยา่ ง
รา้ ยแรง เห็นไดช้ ดั วา่ พวกเขาเป็นคนเยอ่ หยงิ และบางครังกอ็ าจไดค้ วามมงั คงั ของตนมาโดยวิธีที
อาจไม่ชอบธรรมเท่าใดนกั
ยก 5:2-3 ดว้ ยเหตุนียากอบจึงเผชิญหนา้ พวกเขาดว้ ยคาํ พดู ต่อไปนี ทรัพย์สมบัติ
ของท่านกผ็ พุ งั ไป และมอดกก็ ดั กนิ เสือผ้าของท่าน 3 ทองและเงนิ ของท่านกเ็ กดิ สนิม และสนิม
นันจะเป็ นพยานหลกั ฐานต่อท่าน และจะกนิ เนือท่านดุจไฟ ท่านได้สําสมสมบัตไิ ว้แล้วสําหรับ
วนั สุดท้าย
รูปกาลของคาํ กริยา ผพุ งั กดั กิน และ เกิดสนิม คือ กาลสมบรู ณ์ซึงสือใหเ้ ห็นถึงการกระ
ทาํ ทีเสร็จสินไปแลว้ เรียบร้อย กระนนั บริบทกพ็ ดู ถึงความทุกขย์ ากทีกาํ ลงั จะมาอยา่ งชดั เจน เห็น
ไดช้ ดั วา่ ยากอบมองความเจริญรุ่งเรืองของพวกเขาวา่ ถกู พพิ ากษาไปแลว้ เรียบร้อย ความหมาย
ของคาํ พดู ตรงนีจึงน่าจะเป็นดงั ต่อไปนี ‘ทรัพยส์ มบตั ิของท่านกเ็ หมือนผพุ งั ไปแลว้ เรียบร้อย
และมอดกเ็ หมือนกดั กินเสือผา้ ของท่านไปแลว้ ทองและเงินของท่านกเ็ หมือนเกิดสนิมไปแลว้
และสนิมนนั จะเป็นพยานปรักปราํ ท่าน ซึงจะกินเนือหนงั ของท่านดุจไฟ’ เห็นไดช้ ดั วา่ ยากอบ
กาํ ลงั เตือนพวกพีนอ้ งทีมงั มีเกียวกบั สถานะอนั ไม่มนั คงของทรัพยส์ มบตั ิของพวกเขา เท่าที
ยากอบเห็น ทรัพยส์ มบตั ิเหล่านนั กถ็ ูกกาํ หนดใหพ้ นิ าศไปแลว้ เรียบร้อย มนั แค่ยงั ไม่เกิดขึนจริงๆ
เท่านนั
จากนนั ท่านเสริมดว้ ยคาํ พดู ทีวา่ “ท่านไดส้ าํ สมสมบตั ิไวแ้ ลว้ สาํ หรับวนั สุดทา้ ย” ความ
หมายตรงตวั ของคาํ พดู นีกค็ ือ ‘ท่านไดส้ ะสมทรัพยส์ มบตั ิไวใ้ นยคุ สุดทา้ ย’ มนั เป็นเรืองทีขดั แยง้
กนั เอง ทรัพยส์ มบตั ิทงั หมดทีพีนอ้ งทีมงั คงั เหล่านีสะสมไวอ้ ยใู่ นยคุ สุดทา้ ยแลว้ นีสือชดั เจนวา่
พวกเขาจะสูญเสียทรัพยส์ มบตั ิเหล่านีไปทงั หมดในไม่ชา้ ไม่ตอ้ งสงสัยเลยวา่ พวกเขาสูญเสียมนั
ไปจริงๆเมือการข่มเหงทวคี วามรุนแรงขนึ การพดู ถึงยคุ สุดทา้ ยไม่น่าจะเกียวขอ้ งกบั อวสานกาล
เป็นหลกั ถึงแมว้ า่ มนั อาจถูกสือดว้ ยกต็ าม แต่บริบททีตามมาดูเหมือนจะเนน้ เรืองความเดือดร้อน
ทีจะมาเมอื การข่มเหงทวคี วามรุนแรงยงิ ขึน
ยก 5:4 คราวนียากอบพดู ถึงวิธีการอนั ไม่เหมาะสมของการทีพีนอ้ งทีมงั มีบางคน
สาํ สมทรัพยส์ มบตั ิของตนไว้ ดูเถดิ ค่าจ้างของคนงานทไี ด้เกยี วข้าวในนาของท่าน ซึงท่านได้
ฉ้อโกงไว้นัน กร็ ําร้องขนึ และเสียงร้องของคนทเี กยี วข้าวนัน ได้ทราบถงึ พระกรรณขององค์
พระผู้เป็ นเจ้าแห่งจอมโยธาแล้ว เห็นไดช้ ดั วา่ บางคนไดฉ้ อ้ โกงคนงานทีตนจา้ งมาทาํ งานและเกบ็
เกียวพชื ผลในไร่นาของตน พนี อ้ งทีราํ รวยเหล่านีบางคนไดท้ าํ นาบนหลงั คนทีมาทาํ งานใหพ้ วก
เขา เห็นไดช้ ดั วา่ พวกเขาอาจจงใจใหค้ ่าแรงตาํ กวา่ ทีควรหรือไม่กใ็ ชว้ ธิ ีทีแยบยลกวา่ นนั นีสือวา่
พวกผจู้ ดั การของผดู้ ีเหล่านีไดท้ าํ สัญญาจา้ งกบั คนงานในไร่ของตนเพอื แลกกบั ร้อยละของผล
เกบ็ เกียว นียงั สืออีกวา่ พวกนกั ธุรกิจทีราํ รวยเหล่านีไดฉ้ อ้ โกงพวกคนงานโดยอา้ งวา่ ไดผ้ ลเกบ็
เกียวนอ้ ยกวา่ ทีเกบ็ เกียวไดจ้ ริงๆ พดู ง่ายๆกค็ ือ สิงทีพวกเขาทาํ มนั ไม่ซือสตั ย์ พวกเขาไดฉ้ อ้ โกง
คนงานของตนจากค่าตอบแทนทียตุ ิธรรมตามทีไดต้ กลงไวแ้ ลว้
ยากอบจึงเตือนวา่ ความคบั แคน้ ใจของพวกคนงานทีโดนโกงไดข้ ึนไปถึงพระกรรณของ
องคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ แลว้ กล่าวสันๆกค็ ือวา่ การปฏิบตั ิแบบฉอ้ โกงของพนี อ้ งทีราํ รวยทีเชือเหล่านี
ยอ่ มเป็นทีสงั เกตเห็นโดยพระเจา้ อยา่ งแน่นอน นีสือชดั เจนวา่ ในเวลาอนั เหมาะสมของพระ
องคๆ์ จะทรงจดั การกบั พวกเขา นีอาจเป็นส่วนหนึงของความเดือดร้อนทีจะมา และบางส่วนจะ
เป็ นการตีสอนโดยพระเจา้
ยก 5:5 ทีแยย่ งิ ไปกวา่ นนั กค็ ือ ผเู้ ชือชาวยวิ ทางตะวนั ออกทีเยอ่ หยงิ เหล่านีมชี ีวติ
อยู่ในโลกอย่างฟ่ ุมเฟื อยและสนุกสนาน ท่านได้บํารุงเลยี งจติ ใจของท่านเหมอื นอย่างในวนั
ประหาร นอกจากจะกดขีลูกจา้ งของตนแลว้ คนเหล่านียงั ใชช้ ีวติ อยา่ งหรูหราและสุขสาํ ราญอีก
ดว้ ย วลีสุดทา้ ย “ท่านไดบ้ าํ รุงเลียงจติ ใจของท่านเหมือนอยา่ งในวนั ประหาร” อาจหมายถึงเรือง
นี พวกเขาใชช้ ีวติ แบบมงั คงั ต่อไปราวกบั อยใู่ นวนั จดั งานเลียงรืนเริง ในงานเลยี งนีกจ็ ะมีการฆ่า
สตั วเ์ พมิ เป็นพิเศษเพือถวายเป็นเครืองบูชา และพวกยวิ กจ็ ะรับประทานอยา่ งอิมหมีพมี นั มากกวา่
ปกติ ความหมายตรงนีกค็ ือวา่ พนี อ้ งทีมงั มีเหล่านีอิมหนาํ สาํ ราญเป็นประจาํ ขณะทีลูกจา้ งของ
พวกเขากข็ ดั สนเพราะความไม่ซือสตั ยข์ องพวกเขา
ยก 5:6 เห็นไดช้ ดั วา่ ยากอบเผชิญหนา้ กบั พนี อ้ งทีตืนเขินและบาปหนาเหล่านีใน
คริสตจกั รยคุ ตน้ ท่านได้ตดั สินลงโทษ และได้ฆ่าคนชอบธรรม เขากไ็ ม่ได้ต่อสู้ท่าน ยากอบน่าจะ
หมายถึงการทีพวกนกั ธุรกิจชาวยวิ ทีราํ รวยบางคนฉุดลากคนทีติดเงินเขาไปหาผพู้ พิ ากษาอยา่ ง
ใจจืดใจดาํ ศาลกต็ ดั สินใหค้ นชอบธรรมเหล่านีมีความผดิ และยดึ ทรพั ยข์ องพวกเขาไป ซึงทาํ ให้
พวกเขาตอ้ งยากจนจนถึงกบั ไม่สามารถเลียงดูครอบครวั ของตนไดอ้ ีกต่อไป ไม่ตอ้ งสงสยั เลยวา่
บางคนกถ็ ึงกบั ตอ้ งจบชีวติ เลยดว้ ยซาํ
ยากอบกาํ ลงั ประณามทศั นคติทีเยอ่ หยงิ โหดร้าย และใจจืดใจดาํ ในตวั พีนอ้ งชาวยวิ บาง
คน ท่านปิ ดทา้ ยเนือหาส่วนนีดว้ ยคาํ พดู ทีคลุมเครือเและเป็นลางบอกเหตุ เขากไ็ ม่ได้ต่อสู้ท่าน ถึง
แมว้ า่ บางคนไดเ้ สนอวา่ นีหมายถึงการทีคนชอบธรรมไม่ตอบโตพ้ วกคนรวยทีเยอ่ หยงิ แต่มนั น่า
จะเป็นลางบอกเหตุมากกวา่ นนั ความหมายตรงนีกค็ อื วา่ ถึงแมค้ นพวกนีจะปฏิบตั ิอยา่ งชวั ร้าย
แต่พระเจา้ กย็ งั ไม่ทรงต่อสูพ้ วกเขา นีสือวา่ การพพิ ากษากาํ ลงั จะมาถึงในไม่ชา้
หลกั การทีสาํ คญั กวา่ ในเรืองทงั หมดนีกค็ ือ การพพิ ากษาทีจะมาของพระเจา้ เพอื ปรับโทษ
ความเยอ่ หยงิ และการปฏิบตั ิทีไม่เหมาะสมของพวกนกั ธุรกิจทีราํ รวยทีมีต่อคนทีดอ้ ยโอกาสกวา่
ถึงแมว้ า่ ยากอบอาจกาํ ลงั พดู ถึงความเกินพอดีของพวกคนรวยโดยทวั ไปอยู่ แต่บริบททีใหญ่กวา่
ของพระธรรมเล่มนีดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางความบาปของพีนอ้ งคริสเตียนทีมงั มีบางคนในค
ริสตจกั รยคุ ตน้ หลายแห่งของชาวยวิ มากกวา่ ดงั นนั ยากอบจึงพดู ถึงความอยตุ ิธรรมทางสงั คมที
เกิดขึนท่ามกลางพีนอ้ งคริสเตียนดว้ ยกนั
ยก 5:7 คราวนียากอบเปลียนไปพดู ถึงคนอีกฝังบา้ ง ซึงกค็ ือ พนี อ้ งคริสเตียนโดย
ทวั ไป บางคนอาจเป็นฝ่ ายทีไดร้ ับความยตุ ิธรรมและความเยอ่ หยงิ ของพวกคนรวยตามทีมี
บรรยายไปแลว้ ขา้ งบน ท่านจึงเตือนสติพวกเขาวา่ เหตุฉะนันพนี ้องทงั หลาย จงอดทนจนกว่า
องค์พระผู้เป็ นเจ้าจะเสด็จมา คาํ ทีแปลวา่ อดทน (มาครอธูเมะโอ) มคี วามหมายวา่ ‘เพียรพยายาม
อยา่ งอดทน’ หรือ ‘ยอมทนความเดือดร้อนต่างๆอยา่ งอดทน’ ตามทีบริบทจะแสดงใหเ้ ห็นอยา่ ง
ชดั เจน การเสดจ็ กลบั มาขององคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ นนั กใ็ กลเ้ ขา้ มาแลว้ ดงั นนั จงพากเพยี รต่อไปใน
ขณะนีแมต้ อ้ งเจอกบั ความอยตุ ิธรรมต่างๆและความทุกขย์ ากในชีวติ คริสเตียนกต็ าม
คราวนีดูเหมือนยากอบจะตอบโตก้ ลบั บา้ ง ถึงแมไ้ ม่ไดใ้ ชค้ าํ วา่ ชาวนา เพอื ประณามพวก
เจา้ ของทีดินทีราํ รวยดา้ นบนกต็ าม แต่เห็นไดช้ ดั วา่ พวกเขากเ็ ป็นแบบนนั จริงๆ คราวนีท่านเรียก
องคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ วา่ เป็นชาวนาคนหนึง ดูเถดิ ชาวนารอคอยผลอนั ลาํ ค่าทจี ะได้จากแผ่นดิน และ
เพยี รคอยจนกระทงั มฝี นต้นฤดูและฝนปลายฤดู ถึงแมว้ า่ จะใชภ้ าพเปรียบของชาวนา แต่จริงๆ
แลว้ นีกห็ มายถึงพระคริสต์ อยา่ งไรกต็ าม ชาวนาคนหนึงกจ็ ะอดทนรอคอยผลเกบ็ เกียวอนั ลาํ ค่า
จนกวา่ มนั จะไดร้ ับทงั ฝนตน้ ฤดูและฝนปลายฤดู
ในดินแดนตะวนั ออกกลางพืชผลมกั ถกู ปลกู ในเดือนพฤศจิกายนหลงั ฝนฤดูใบไมร้ ่วง
(ฝนตน้ ฤดู) จากนนั หลงั จากฝนในฤดูใบไมผ้ ลิ (ฝนปลายฤดู) พชื ผลกจ็ ะโตเตม็ ทแี ละพร้อมทีจะ
ถกู เกบ็ เกียว ภาพเปรียบทียากอบกาํ ลงั ใชอ้ ยกู่ ค็ ือวา่ พวกชาวนาในแถบตะวนั ออกกลางโดย
ทวั ไปกอ็ ดทนรอคอยฝนตน้ ฤดูและฝนปลายฤดูเพือทีจะทาํ ใหพ้ ืชผลอนั ลาํ ค่าของพวกเขาพร้อม
สาํ หรับการเกบ็ เกียว องคพ์ ระผเู้ ป็นเจา้ กจ็ ะทรงทาํ แบบเดียวกนั ในเวลาอนั สมบูรณ์แบบของ
พระองค์ พระองคก์ จ็ ะเสดจ็ กลบั มาเพอื เกบ็ เกียวประชากรของพระองค์
(กระแสของพวกเพน็ เทคอสตแ์ ละพวกคาริสมาติกสมยั ใหม่พยายามทีจะประยกุ ตใ์ ช้
แนวคิด ‘ฝนปลายฤดู’ กบั การเทพระวญิ ญาณบริสุทธิลงมาในยคุ สุดทา้ ยตามทีพวกเขากล่าวอา้ ง
พวกเขาอา้ งวา่ ฝนห่าแรกของฝนปลายฤดูทีวา่ นีกค็ ือ การฟื นฟูบนถนนอาซูร่าในตอนตน้ ของ
ศตวรรษทียสี ิบ จากนนั การฟื นฟขู องพวกคาริสมาติกในเวลาต่อมาในช่วงทศวรรษ 1960 และ
‘การฟื นฟู’ ระลอกทีสามในช่วงปลายศตวรรษทียสี ิบกถ็ ูกอา้ งวา่ เป็นฝนปลายฤดูห่าสุดทา้ ยของ
พระวญิ ญาณของพระเจา้ ก่อนการเสดจ็ กลบั มาของพระคริสต์ ปัญหาของการตีความแบบนีกค็ ือ
วา่ ไม่มีหลกั ฐานในดา้ นบริบทใดเลยทีสนบั สนุนคาํ กล่าวอา้ งเหล่านีหรือกระแสของพวกคาริ
สมาติกและพวกเพน็ เทคอสตส์ มยั ใหม่ทีเป็นของปลอม)