แผนการจัดการเรียนรู้ อ.หญิง

59

4. การฟงั ความเขา้ ใจ การจับ การรู้ รวม
แบบบนั ทึกการประเมินการฟัง 6 ใจความ ความหมาย คะแนน

ประเด็น/คะแนน สำคัญ คำศัพท์

เลขท่ี ช่อื - สกลุ 8 6 20

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

ลงชอ่ื .........................................................ผ้ปู ระเมิน
(................................................................)

วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. .................

60

เกณฑก์ ารให้คะแนนการฟงั

ระดบั 4 เกณฑ์การให้คะแนน นำ้ หนกั / คะแนน
คะแนน 32 1 ความสำคัญ รวม

ประเดน็ การ
ประเมนิ

ความเขา้ ใจ สามารถตอบ สามารถตอบ สามารถตอบ ตอบคำถาม
คำถาม คำถาม คำถาม หลังจากทีฟ่ ัง
ได้น้อยมาก
หลังจากท่ฟี ัง หลังจากที่ฟัง หลงั จากท่ฟี ัง
ได้ทง้ั หมด ไดเ้ ปน็ สว่ น ได้เลก็ น้อย 2 6
2 8
ใหญ่

การจับ จบั ใจความ จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ
ใจความ สำคญั ของ สำคัญของ สำคญั ของ สำคญั ของ
สำคญั เนือ้ หาได้ เนอ้ื หาไดเ้ กือบ เน้ือหาได้ เนื้อหาได้น้อย
ท้งั หมด ท้ังหมด เลก็ นอ้ ย
มาก

การรู้ รู้ความหมาย รู้ความหมาย รูค้ วามหมาย รคู้ วามหมาย 1 6
ความหมาย คำศัพท์ คำศัพท์โดย คำศัพท์ คำศัพท์ 5 20
คำศัพท์ ทัง้ หมด สว่ นใหญ่และ ทง้ั หมด
เล็กนอ้ ยและ
ชัดเจน ไมช่ ดั เจน

รวม

61

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เพือ่ การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชื่อนักเรียน........................................................... ช้นั .................ภาคเรียนที.่ ........ปกี ารศึกษา...............
คำช้แี จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ข้ึนจรงิ

1.ใฝ่เรยี นรู้
ระดบั การปฏิบตั ิ

เป็น บางคร้ัง นอ้ ย ไมท่ ำเลย/ไม่
ท่ี พฤติกรรม ประจำ คร้ัง ชัดเจน (๐)

(๒)
(๓) (๑)

๑ ตงั้ ใจเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๒ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
๓ ศกึ ษาค้นควา้ หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร

ส่งิ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ท้ังภายใน
และภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ ่อื ได้อยา่ ง
เหมาะสม
๔ สามารถบนั ทึกสรุปความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมลู จากสง่ิ ท่ี
เรยี นรสู้ รปุ เป็น องค์ความรู้
๕ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ด้วย วธิ ีการตา่ ง ๆ และ นำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ผปู้ ระเมนิ ครู พอ่ แม/่ ผู้ปกครอง ตนเอง เพื่อน

ลงชือ่ ................................................ ผูป้ ระเมนิ
(.................................................)

62

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำกวา่ ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่งึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๕-๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๔ คะแนน

63

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพอ่ื การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ช่อื นักเรยี น........................................................... ชั้น.................ภาคเรยี นท.ี่ ........ปีการศกึ ษา...............
คำชแี้ จง การบนั ทึกให้กาเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมท่ีเกดิ ข้นึ จริงคำชี้แจง
2. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

ระดับการปฏบิ ตั ิ

ที่ พฤตกิ รรม เป็น บางคร้งั (๒) น้อย ไมท่ ำเลย/ ไม่
ชัดเจน (๐)
ประ (๓) ครั้ง (๑)

๑ มคี วามรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน

๒ ต้ังใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ทที่ ่ี
ได้รับมอบหมาย

๓ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม

๔ รู้จกั แก้ปัญหาในการทำงานเม่ือมี
อปุ สรรค

๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย

๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานใหด้ ีข้นึ
ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
()

64

เกณฑ์การประเมิน

ระดบั เกณฑ์การตดั สนิ
คณุ ภาพ

ดีเยย่ี ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดขอ้ หนึ่งตำ่
กวา่ ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่ำ
กวา่ ๐ คะแนน

ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อใดข้อหน่งึ ต่ำ
กวา่ ๐ คะแนน

ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน

65

Work Sheet 1: My favorite place

Direction: Listen to the conversation and fill in the blanks with the correct words.

Pim: Hi Mike.
Mike: Hi Pim.
____: Did you have a nice weekend?
Pim: It’s was OK. __________________?
Mike: I had a great _________!
_____: ___ ____ like to go out on the __________?
Pim: No, I don’t. I _____ ___ _____ _________.
___: Do you like to go out on the weekends?
Mike: Yes, I do. I go to _____________.
____: I watch movies ______________?
Mike: I go ____ animals ___ ______ _________.
Mike: I go __________ ___ ____ _______________.
___: Where’s your favorite place?
Mike: My _______ place is __________.
____: I love ______ in the ocean. I like marking sand castles.
____: Where’s _______________?
___: My ______ place is the museum. You can learn _______________!

66

Work Sheet 2: My Holiday

Direction: Choose one of your favorite places to draw a picture and complete a sentence.

a beach a mountain a museum an aquarium a zoo a department a water
store fall

Conversation
Adam: Good morning, Amanda.
Amanda: Good morning, Adam.
Adam: Did you have a nice weekend?
Amanda: ________________________. How about you?
Adam: I had a great! Where’s your favorite place?
Amanda: My ___________________.
Adam: Ok. Have a nice day, Amanda.
Amanda: Have a nice day, Adam. Good bye.

67

รายวิชาภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน แผนการจัดการเรยี นรู้
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
เร่ือง Asking for places หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ชือ่ Places and Travel
จำนวน 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรทู้ ่ี ต.1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดง

ความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล
มาตรฐานการเรยี นรูท้ ี่ ต.4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชมุ ชน และ

สังคม

ตวั ช้ีวดั
ต.1.1 ป. 6/1 ปฏิบตั ติ ามคำสง่ั คำขอรอ้ ง และคำแนะนำท่ีฟังและอ่าน
ต.1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
ต.1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบปุ ระโยคหรอื ข้อความส้นั ๆตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายท่อี ่าน
ต.4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณต์ ่างๆ ทเี่ กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสำคญั
การจดั การเรยี นรนู้ ้ีมจี ุดมุ่งหมายให้นักเรียนรู้คำศัพทแ์ ละทบทวนคำศัพท์เก่ียวกบั สถานท่ีต่างๆทีเ่ รยี น

มารวมไปถึงสามารถระบุได้วา่ สถานท่ีไหนควรทำกิจกรรมใด และสามารถแยก Action verb ใหต้ รงกับ
สถานการณ์ หรือสาถานท่ีต่างๆได้อย่างถูกต้อง เพื่อเปน็ การสร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผเู้ รยี นได้นำไปพฒั นา
ทักษะและสามารถนำส่ิงทีไ่ ดเ้ รียนรู้ไปประยุกต์ใช้ และสามารถระบุ เขยี น หรือพูดเพื่อให้ผูอ้ ืน่ ทราบ รวมไปถึง
สามารถสือ่ สารให้ผู้อน่ื รบั รู้ และเข้าใจในความหมายทีต่ นเองสอื่ สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถอ่านออกเสยี งคำศัพทเ์ กี่ยวกับสถานท่ีต่างๆได้อยา่ งถูกต้อง
2. นักเรียนสามารถเขยี นประโยคโดยใช้ Action Verbได้อย่างถกู ต้อง
3. นักเรียนมีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรียนภาษาองั กฤษ

68

4. สาระการเรียนรู/้ เน้ือหา
Vocabulary: school, restaurant, cinema, book store, hospital, a department store, pharmacy

Question: do I/you/we/they Infinitive
Where does He/she/It verb

Answer:
I/you/we/they Infinitive

verb at...(place)…
He/she/It Verb

เติม s,
es

Action Verb: study, have dinner, see the movie, read a book, see a doctor, go to shopping,
buy medicine

5. สมรรถนะการเรียนรู้
1. มคี วามสามารถในการสื่อสาร
2. มีความสามารถในการคดิ
3. มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามมุ่งม่ันในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำ (Warm Up)
1. ครถู ามนักเรยี นวา่ Where do you have a breakfast? แล้วสุม่ นักเรยี น 3-4 คนเพ่ือ
ตอบคำถามนี้ เปน็ การสำรวจวา่ นกั เรียนมพี ื้นฐานเก่ียวกบั เรือ่ งนี้มากนอ้ ยเพียงใด 1และ
สอบถามนักเรียนว่ารู้จกั Action Verb หรอื ไม่ เพ่อื วัดความรูน้ กั เรยี น

69

ขน้ั นำเสนอ (Presentation)
2. ครูนำเสนอคำศพั ทเ์ ปน็ ภาษาองั กฤษเกีย่ วกบั สถานทต่ี ่างๆ ใหก้ บั นกั เรียน โดยนำเสนอ

คำศัพทพ์ ร้อมรปู ภาพประกอบผา่ น Power Point
3. หลงั จากนนั้ ครูทำการสอนประโยคถาม-ตอบงา่ ยๆที่ใชส้ ำหรบั บอกให้ผู้อื่นรับรู้ว่าเราทำ

อะไร ท่ไี หน เชน่ Where do you have dinner? แลว้ สอนให้นักเรยี นใช้ Action Verb ในการตอบ
คำถามดว้ ย เชน่ I always have dinner at restaurant.
ขนั้ ฝกึ (Practice)

4. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงคำศัพท์และตวั อย่างบทสนทนาในใบความรู้พรอ้ มกัน
5. ครใู ห้นักเรยี นจับคู่ และช่วยกนั คิดบทสนทนา ลงในใบงานท่ี 9 เรือ่ ง Where do you…?
6. หลังจากนั้นขออาสาสมคั ร 2 ค่อู อกมาพูดบทสนทนาในใบงานที่9 ใหเ้ พ่อื นฟงั
ขัน้ นำไปใช้ (Production)
7. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 10 เรือ่ ง Asking for places โดยใหนกั เรยี นเติมคำให้
สอดคล้องและถกู ต้อง พร้อมทัง้ แตง่ ประโยคโดยใช้ Action Verb
ขั้นสรปุ บทเรยี น (Wrap Up)
8. ครสู อบถามนักเรียนวา่ วนั นี้เรยี นเรอ่ื งอะไร ใชย้ งั ไง เพ่ือเป็นการทบทวนความรขู้ อง
นักเรยี น

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
- Power Point สอนคำศัพทเ์ กี่ยวกบั สถานที่ต่างๆ และคำศัพท์ Action Verb
- Power Point นำเสนอประโยคถาม ตอบเกี่ยวกับสถานที่
- ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง Asking for places
- ใบงานท่ี 9 เรื่อง Where do you…?
- ใบงานที่ 10 เร่อื ง Asking for places

70

9. การวัดและประเมนิ ผล

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารวดั
1. นักเรยี นสามารถอ่าน การสงั เกตการอ่าน แบบประเมนิ การอา่ น นักเรียนผา่ นเกณฑโ์ ดย
ออกเสียงคำศพั ท์ อา่ นออกเสยี ง และบอก
เก่ียวกับสถานท่ีตา่ งๆได้ ใบงานเร่อื ง Where do ความหมายได้ อย่าง
อยา่ งถูกต้อง you…? ถกู ต้อง ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
2. นักเรียน การประเมนิ นักเรียนเขยี นประโยค
สามารถเขยี นประโยค ความสามารถในการ ไดถ้ ูกต้อง
โดยใช้ Action Verbได้ เขียน ผา่ นเกณฑ์
อย่างถูกต้อง ร้อยละ 70 ข้นึ ไป

3. นักเรียนมเี จตคติทดี่ ี การสังเกตจาก แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์โดย
ตอ่ การเรียน ใหค้ วามรว่ มมือและมี
ภาษาอังกฤษ พฤติกรรมการตอบรบั ใน นกั เรยี น พฤติกรรมในการตอบรับ
- สนกุ สนาน ทด่ี ผี ่านเกณฑ์
- ใหค้ วามรว่ มมอื การเรียน รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป

71

10. แบบประเมิน

1.การอา่ น เครอ่ื งมือและเกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะทางภาษา

แบบบันทึกการประเมินการอ่าน

ชอื่ - สกลุ การตคี วาม การรู้ รวม
จากประโยค ความหมาย คะแนน
ความเข้าใจ
ทอี่ า่ น ของ
เลขท่ี คำศัพท์

8 8 4 20

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงชอ่ื .........................................................ผปู้ ระเมิน
()

วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. .................

72

เกณฑ์การให้คะแนนการอา่ น

ระดบั 4 เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 นำ้ หนกั / คะแนนรวม
คะแนน 32 ความสำ 8
ตอบคำถาม ตอบคำถาม
ประเด็นการประเมิน หลังจากที่ ตอบคำถาม ตอบคำถาม หลงั จากทอ่ี ่านได้ คญั
ความเขา้ ใจ อา่ นได้ หลงั จากที่ หลงั จากท่ี
ทงั้ หมด อ่านไดเ้ กือบ อ่านได้ น้อยมาก 2
ทั้งหมด เลก็ น้อย

การรคู้ วามหมาย เม่อื อา่ น เมื่ออ่าน เมอื่ อ่าน เมอื่ อ่านคำศัพท์ 2 8
คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ สามารถบอก 1 4
สามารถ สามารถ สามารถ ความหมายของ
การตคี วามหมายของ บอก บอก บอก คำศัพทไ์ ด้น้อย 5 20
ประโยคที่อา่ น ความหมาย ความหมาย ความหมาย
ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ มาก
ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้เล็กน้อย
ท้งั หมด เกอื บ เมอ่ื อ่านประโยค
ทัง้ หมด เมอ่ื อ่าน สามารถตคี วาม
เมื่ออ่าน เม่ืออ่าน ประโยค
ประโยค ประโยค สามารถ หมายของ
สามารถ สามารถ ตีความ ประโยคไดน้ ้อย
ตีความ ตีความ หมายของ
หมายของ หมายของ ประโยคได้ มาก
ประโยคได้ ประโยคได้ เลก็ นอ้ ย
ถกู ต้อง เกือบ
ท้ังหมด ท้ังหมด

รวม

73

2. การพูด
แบบบนั ทกึ การประเมนิ การพูด

ประเด็น/คะแนน การแสดงท่าทาง/

ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคลว่ รวมคะแนน

นำ้ เสียงประกอบการพูด

เลขท่ี ชอ่ื - สกุล

8 8 4 20

1
2

3

4
5
6
7
8
9

10

ลงชื่อ.........................................................ผปู้ ระเมนิ
(................................................................)

วันที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................

74

เกณฑ์การให้คะแนนการพูด

ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 นำ้ หนกั / คะแนน
ประเดน็ การ 32 ความสำคญั รวม

ประเมนิ 4

ความถูกต้อง ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสียงคำ/ 2 8
คำศัพท์และ คำศัพท์และ คำศัพทแ์ ละ ประโยคผดิ 2 8
ประโยคได้ ประโยคได้ ประโยคได้ หลกั การออก
ถูกต้องตาม ถกู ต้องตาม ถกู ต้องเป็น เสยี งทำให้
หลกั การออก หลกั การออก ส่วนใหญ่ สื่อสารไม่ได้
เสียงออก เสียงมีเสยี ง ขาดการ
เสียงเน้นหนกั เนน้ หนกั ในคำ/ ออกเสยี ง
ในคำ/ ประโยคเป็น เน้นหนกั
ประโยคอย่าง ส่วนใหญ่
สมบรู ณ์

ความ พูดตอ่ เนอื่ งไม่ พูดตะกุกตะกัก พดู เปน็ คำ ๆ พูดไดบ้ างคำ
คล่องแคลว่ ทำใหส้ อื่
ติดขดั พูด บ้าง แตย่ งั พอ หยดุ เป็น ความหมาย
ไม่ได้
ชดั เจนทำให้ สอ่ื สารได้ ช่วงๆเพอื่ ทำ

ส่อื สารได้ ใหส้ ่อื สารได้

ไม่ชัดเจน

การแสดง แสดงทา่ ทาง พดู ดว้ ยน้ำเสียง พูดเหมือน พดู ไดน้ ้อย
ท่าทาง/ และพดู ดว้ ย เหมาะสมกับ อ่านไม่เปน็ มาก
นำ้ เสียง บทบรรยายแต่ ธรรมชาติ
ประกอบการ นำ้ เสยี ง ไม่มีท่าทาง ขาดความ 1 4
เหมาะสมกับ ประกอบ น่าสนใจ
พดู บทบรรยาย

รวม 5 20

75

3.การเขียน การใชภ้ าษา เนือ้ หา รวมคะแนน
แบบบนั ทกึ การประเมินการเขียน

ประเดน็ /คะแนน

เลขที่ 12 8 20
ชอื่ - สกลุ

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงชื่อ.........................................................ผปู้ ระเมิน

(................................................................)

วันที่..........เดอื น.................................พ.ศ. .................

76

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการเขยี น

ระดับ 4 เกณฑก์ ารให้คะแนน นำ้ หนกั / คะแนน
คะแนน 32 1 ความสำคญั รวม
ประเด็น
การ
ประเมิน

การใช้ การสะกด การสะกด สะกดคำผดิ สะกดคำ ผิด

ภาษา คำศัพทถ์ ูก คำศัพทผ์ ิด มาก แต่พอเดา มากเขียนรูป

ตอ้ งการ เลก็ น้อย พอ ความหมายได้ ประโยคไม่

เลอื กใช้คำตรง เดาวามหมาย รปู ประโยค ถูกต้อง ไม่มี

กบั เนอ้ื หา ไดเ้ ขียนรปู ผิดพลาดมาก เครอื่ งหมาย

ประโยคถกู ต้อง ประโยคผดิ เครื่องหมาย วรรคตอน 3 12
2 8
มีเครอื่ งหมาย หลักไวยากรณ์ วรรคตอนไม่

วรรคตอนที่ เลก็ นอ้ ย ครบหรือไม่

ถูกต้อง ถูกต้อง
เครือ่ งหมาย

วรรคตอนผดิ

เล็กน้อย

เนอ้ื หา มรี ายละเอยี ด รายละเอยี ด มรี ายละเอยี ด มีรายละเอียด

เน้ือหาตรงกับ ของเน้ือหามาก ของเนื้อหาน้อย ของเน้ือหา

ลกั ษณะท่ี แต่ยงั ไม่ น้อยมาก

กำหนดมาก ครอบคลุม

ที่สุด ทัง้ หมด

รวม 5 20

77

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เพือ่ การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชื่อนักเรียน........................................................... ช้นั .................ภาคเรียนที.่ ........ปกี ารศึกษา...............
คำช้แี จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ข้ึนจรงิ

1.ใฝ่เรยี นรู้
ระดบั การปฏิบตั ิ

เป็น บางคร้ัง นอ้ ย ไมท่ ำเลย/ไม่
ท่ี พฤติกรรม ประจำ คร้ัง ชัดเจน (๐)

(๒)
(๓) (๑)

๑ ตงั้ ใจเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๒ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
๓ ศกึ ษาค้นควา้ หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร

ส่งิ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ท้ังภายใน
และภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ ่อื ได้อยา่ ง
เหมาะสม
๔ สามารถบนั ทึกสรุปความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมลู จากสง่ิ ท่ี
เรยี นรสู้ รปุ เป็น องค์ความรู้
๕ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ด้วย วธิ ีการตา่ ง ๆ และ นำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ผปู้ ระเมนิ ครู พอ่ แม/่ ผู้ปกครอง ตนเอง เพื่อน

ลงชือ่ ................................................ ผูป้ ระเมนิ
(.................................................)

78

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำกวา่ ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่งึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๕-๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๔ คะแนน

79

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพอ่ื การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ช่อื นักเรยี น........................................................... ชั้น.................ภาคเรยี นท.ี่ ........ปีการศกึ ษา...............
คำชแี้ จง การบนั ทึกให้กาเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมท่ีเกดิ ข้นึ จริงคำชี้แจง
2. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

ระดับการปฏบิ ตั ิ

ที่ พฤตกิ รรม เป็น บางคร้งั (๒) น้อย ไมท่ ำเลย/ ไม่
ชัดเจน (๐)
ประ (๓) ครั้ง (๑)

๑ มคี วามรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน

๒ ต้ังใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ทที่ ่ี
ได้รับมอบหมาย

๓ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม

๔ รู้จกั แก้ปัญหาในการทำงานเม่ือมี
อปุ สรรค

๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย

๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานใหด้ ีข้นึ
ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
()

80

เกณฑ์การประเมนิ

ระดบั เกณฑก์ ารตดั สิน
คณุ ภาพ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่ำ
กว่า ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตำ่
กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำ
กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

81

Knowledge sheet 1: Asking for places

Conversation: Asking for places

ในการถามและขอข้อมูลเกยี่ วกบั สถานท่ตี ่างๆ ท่ีมีความเกีย่ วข้องกับชวี ติ ประจำวนั ของ แต่ละคนนน้ั
เราสามารถใช้โครงสรา้ งของ Present simple tense ในการสอบถามขอ้ มูลนัน้ ๆได้ ดังน้ี

Question

Where do I/you/we/they Infinitive
does He/she/It verb

Answer

I/you/we/they Infinitive
verb at...(place)…

He/she/It Verb
เตมิ s,
es

โดยท้ังนี้อาจมีการใชค้ ำกรยิ าวิเศษณ์บอกความถ่ี (Adverb of frequency) เช่น always, usually,
sometimes, often, rarely และ never เพ่ือบง่ บอกความถี่ของการกระทำน้ัน และเพ่ือการใหข้ ้อมูลที่ชดั เจน
ยงิ่ ขึน้ ควรระบุ Action Verb ลงไปด้วยเพื่อความเข้าใขมากขึน้
Action Verb คือ คำกริยาหลกั ของประโยคท่ี “บอกการกระทำ” ของประทานประโยค หรือ สถานะของการ
กระทำหลัก ในประโยคนน้ั ๆ เช่น study, have dinner, see the movie, read a book, see a doctor, go

to shopping, buy medicine

Where do you see a movie?

I sometime see a movie at the cinema.

82

Work sheet 1: Where do you…?

Direction: Choose the words that are given to fill in the blanks correctly.
school restaurant cinema read a book see a doctor go to shopping buy

medicine

1. Where did you study?
I study at _________.

2. Where do you have a dinner?
I have a dinner at _____________.

3. Where do you see a movie?
I see a movie at ___________.

4. Where do you___________?
I ____________ at department store.

5. Where do you___________?
I ___________ at a pharmacy.

6. Where do you___________?
I _____________ at the library.

Match the action verb with the picture correctly.

buy medicine

Read a book

See a doctor

83

Work sheet 2: Asking for places

Direction: Make conversations from the given words.

Action Verb Sentences
See a doctor
Go to shopping A:
Read a book
See a movie B:
A:
have breakfast
B:
A:

B:
A:

B:
A:

B:

Direction: Make sentences from a picture.

1. ____________________________________________.

2. ____________________________________________.

84

รายวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
เรอ่ื ง Proposition of Place หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ชื่อ Places and Travel
จำนวน 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานการเรียนรูท้ ่ี ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดง

ความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลขา่ วสาร แสดง

ความรสู้ กึ และความคิดเหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
มาตรฐานการเรยี นรู้ที่ ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และน

าไปใช้ ได้อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐานการเรียนรทู้ ี่ ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และ

สงั คม

ตัวช้วี ดั
ต.1.1 ป. 6/1 ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำท่ีฟงั และอา่ น
ต.1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบปุ ระโยคหรือขอ้ ความสัน้ ๆตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายทอี่ ่าน
ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล
ต 2.1 ป.6/1 ใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียงและกิรยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต.4.1 ป. 6/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณต์ า่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสำคญั
การจัดการเรียนรู้นีม้ ีจุดม่งุ หมายให้นักเรยี นรู้คำศพั ท์เก่ียวกับสถานท่ตี ่างๆและสามารถบอก

ความหมายได้ รวมไปถึงสามารถระบุหรอื พดู บอกทศิ ทางต่างๆของสถานท่ีได้อยา่ งถูกต้อง เพือ่ เป็นการสร้าง
ความรู้ ความเขา้ ใจให้ผเู้ รยี นได้นำไปพัฒนาทกั ษะและสามารถนำสิ่งที่ได้เรยี นรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ และสามารถระบุ
เขยี นโดยใช้ Proposition of Place หรือพูดเพือ่ ให้ผู้อน่ื ทราบ รวมไปถงึ สามารถส่ือสารใหผ้ อู้ น่ื รับรู้ และ
เข้าใจในความหมายท่ีตนเองส่ือสารได้อย่างถูกต้อง

85

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงและบอกความหมายของสถานทตี่ ่างๆได้อย่างถูกต้อง
2. นกั เรียนสามารถเขียนประโยคโดยใช้ Proposition of Place ได้อย่างถูกตอ้ ง
3. นกั เรยี นให้ความรว่ มมือในการเรียนภาษาอังกฤษ

4. สาระการเรยี นร/ู้ เนอ้ื หา
Vocabulary: Church, Fruit shop, Water Park, Bakery shop, Coffee shop, Bus stop, Fire Station,
Train Station, Temple, Ice cream shop

Question: Excuse me. Where is the…….?
Answer: It + (verb to be) + (preposition)

Preposition of Place: in, on, next to, around, in front of, behind, between, opposite, across
1. บอกความหมายของ Proposition of Place
2. อธิบายหลกั การใช้ Proposition of Place

5. สมรรถนะการเรยี นรู้
1. มีความสามารถในการสื่อสาร
2. มีความสามารถในการคิด
3. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มคี วามมุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ (Warm Up)
1.ครพู ูดคยุ กบั นักเรียนวา่ รู้จัก Proposition of Place หรอื ไม่ มนั คืออะไร ใชแ้ บบไหน เพ่อื
เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และวัดความรู้พ้ืนฐานของนักเรยี นก่อนเร่ิมสอน
ขนั้ นำเสนอ (Presentation)

86

2. ครูนำเสนอคำศพั ท์เป็นภาษาองั กฤษเกีย่ วกับสถานทต่ี า่ งๆ ใหก้ ับนักเรยี น โดยนำเสนอ
คำศัพท์พร้อมรปู ภาพประกอบผา่ น Power Point

3. หลงั จากนนั้ ครูทำการสอน Preposition of Place โดยการบอกความหมายของ
Proposition of Place แตล่ ะคำ และอธิบายหลกั การใช้ พร้อมทั้งยกตวั อย่างให้ชดั เจน
ข้นั ฝึก (Practice)

4. ครแู จกใบความรูท้ ่ี 2 ใหก้ ับนักเรยี น และใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 11 เร่ือง Preposition of
Place

5. หลังจากนน้ั ครูส่มุ นักเรยี น2-3 คู่ มาสนทนาเก่ียวกับการถามทิศทางโดยดรู ปู ภาพจาก
แบบฝกึ หดั ท่ี 11 ทีท่ ำข้างต้น เชน่

A: Excuse me. Where is the…….?
B: It + (verb to be) + (preposition)
ข้ันนำไปใช้ (Production)
7. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดท่ี 12 เร่ือง Where is the…….? โดยใหนกั เรยี นดรู ูปภาพในใบ
งานและเขียนบรรยายว่าสถานท่ไี หนอยู่ตำแหน่งอะไรบ้าง
ขัน้ สรุปบทเรยี น (Wrap Up)
8. ครใู ห้นกั เรยี นนำใบงานท่ี 12 ออกมาวางโชวห์ น้าชน้ั เรียน และใหน้ กั เรียนพูดคยุ
แลกเปลีย่ นเรียนร้ซู ึง่ กันและกัน

8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
- Power Point สอนคำศพั ทเ์ กย่ี วกับสถานที่ต่างๆ และคำศัพท์ Preposition of Place
- Power Point นำเสนอการบอกความหมายและหลกั การใช้ Preposition of Place
- ใบความรู้ท่ี 2 เร่อื ง Preposition of Place
- ใบงานที่ 11 เรอ่ื ง Preposition of Place
- ใบงานท่ี 12 เรอื่ ง Where is the…….?

87

9. การวดั และประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารวดั
1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การสังเกตการอา่ น แบบประเมินการอา่ น นกั เรยี นผ่านเกณฑโ์ ดย
ออกเสียงและบอก อ่านออกเสยี ง และบอก
ความหมายของสถานที่ ความหมายได้ อย่าง
ต่างๆได้อยา่ งถูกต้อง ถกู ต้อง ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป
2. นักเรยี นสามารถเขยี น การประเมนิ ใบงานเรอ่ื ง นักเรยี นเขียนประโยค
ได้ถูกตอ้ ง
ประโยคโดยใช้ ความสามารถในการ Proposition of Place ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 70 ขึ้นไป
Proposition of Place เขยี น นักเรยี นผา่ นเกณฑโ์ ดย
ให้ความร่วมมือและมี
ได้อย่างถกู ต้อง พฤติกรรมในการตอบรับ
ทดี่ ีผ่านเกณฑ์
3. นกั เรียนใหค้ วาม การสังเกตจาก แบบสงั เกตพฤติกรรม ร้อยละ 70 ข้ึนไป

ร่วมมือในการเรียน พฤติกรรมการตอบรับใน นักเรียน

ภาษาอังกฤษ การเรยี น

- ให้ความร่วมมอื

88

10. แบบประเมิน

1.การอา่ น เครอ่ื งมือและเกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะทางภาษา

แบบบันทึกการประเมินการอ่าน

ชอื่ - สกลุ การตคี วาม การรู้ รวม
จากประโยค ความหมาย คะแนน
ความเข้าใจ
ทอี่ า่ น ของ
เลขท่ี คำศัพท์

8 8 4 20

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงชอ่ื .........................................................ผปู้ ระเมิน

()
วนั ท.ี่ .........เดือน.................................พ.ศ. .................

89

เกณฑ์การใหค้ ะแนนการอา่ น

ระดบั 4 เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 นำ้ หนกั / คะแนนรวม
คะแนน 32 ความสำ 8
ตอบคำถาม ตอบคำถาม
ประเดน็ การประเมนิ หลงั จากที่ ตอบคำถาม ตอบคำถาม หลังจากท่ีอ่านได้ คัญ
ความเข้าใจ อ่านได้ หลงั จากท่ี หลงั จากท่ี
ท้งั หมด อา่ นไดเ้ กือบ อ่านได้ นอ้ ยมาก 2
ท้งั หมด เลก็ น้อย

การรคู้ วามหมาย เม่ืออา่ น เมอ่ื อ่าน เมื่ออ่าน เม่อื อา่ นคำศัพท์ 2 8
คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ สามารถบอก 1 4
สามารถ สามารถ สามารถ ความหมายของ
การตีความหมายของ บอก บอก บอก คำศัพทไ์ ดน้ ้อย
ประโยคที่อ่าน ความหมาย ความหมาย ความหมาย
ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ มาก
ไดถ้ ูกต้อง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดเ้ ลก็ น้อย
ทง้ั หมด เกือบ เม่ืออา่ นประโยค
ทงั้ หมด เมอ่ื อา่ น สามารถตีความ
เม่ืออา่ น เมือ่ อ่าน ประโยค
ประโยค ประโยค สามารถ หมายของ
สามารถ สามารถ ตคี วาม ประโยคไดน้ ้อย
ตีความ ตคี วาม หมายของ
หมายของ หมายของ ประโยคได้ มาก
ประโยคได้ ประโยคได้ เลก็ น้อย
ถูกต้อง เกอื บ
ทั้งหมด ทัง้ หมด

90

รวม 5 20

2.การเขียน การใชภ้ าษา เนอ้ื หา รวมคะแนน
แบบบนั ทกึ การประเมินการเขียน

ประเดน็ /คะแนน

เลขที่ 12 8 20
ชอื่ - สกลุ

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงชือ่ .........................................................ผูป้ ระเมิน

(................................................................)

91

วนั ที่..........เดือน.................................พ.ศ. .................

เกณฑ์การให้คะแนนการเขยี น

ระดับ 4 เกณฑก์ ารให้คะแนน นำ้ หนกั / คะแนน
คะแนน 32 1 ความสำคญั รวม
ประเด็น
การ
ประเมิน

การใช้ การสะกด การสะกด สะกดคำผิด สะกดคำ ผิด

ภาษา คำศัพทถ์ ูก คำศัพท์ผิด มาก แต่พอเดา มากเขียนรูป

ตอ้ งการ เล็กนอ้ ย พอ ความหมายได้ ประโยคไม่

เลือกใช้คำตรง เดาวามหมาย รูปประโยค ถูกต้อง ไม่มี

กับเน้อื หา ได้เขยี นรูป ผิดพลาดมาก เคร่ืองหมาย

ประโยคถูกต้อง ประโยคผดิ เครื่องหมาย วรรคตอน 3 12
มีเครือ่ งหมาย หลักไวยากรณ์ วรรคตอนไม่

วรรคตอนท่ี เลก็ น้อย ครบหรือไม่

ถูกต้อง ถกู ต้อง
เคร่อื งหมาย

วรรคตอนผดิ

เล็กน้อย

เน้ือหา มรี ายละเอียด รายละเอยี ด มรี ายละเอยี ด มีรายละเอยี ด

เนอื้ หาตรงกับ ของเน้ือหามาก ของเน้ือหาน้อย ของเนื้อหา

ลกั ษณะที่ แตย่ งั ไม่ น้อยมาก 2 8

กำหนดมาก ครอบคลุม

ทส่ี ดุ ทง้ั หมด

รวม 5 20

92

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เพือ่ การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ชื่อนักเรียน........................................................... ช้นั .................ภาคเรียนที.่ ........ปกี ารศึกษา...............
คำช้แี จง การบันทึกให้กาเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ข้ึนจรงิ

1.ใฝ่เรยี นรู้
ระดบั การปฏิบตั ิ

เป็น บางคร้ัง นอ้ ย ไมท่ ำเลย/ไม่
ท่ี พฤติกรรม ประจำ คร้ัง ชัดเจน (๐)

(๒)
(๓) (๑)

๑ ตงั้ ใจเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๒ สนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
๓ ศกึ ษาค้นควา้ หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร

ส่งิ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ท้ังภายใน
และภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ ่อื ได้อยา่ ง
เหมาะสม
๔ สามารถบนั ทึกสรุปความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมลู จากสง่ิ ท่ี
เรยี นรสู้ รปุ เป็น องค์ความรู้
๕ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ด้วย วธิ ีการตา่ ง ๆ และ นำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั

รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ

ผปู้ ระเมนิ ครู พอ่ แม/่ ผู้ปกครอง ตนเอง เพื่อน

ลงชือ่ ................................................ ผูป้ ระเมนิ
(.................................................)

93

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตดั สนิ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำกวา่ ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหน่งึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๕-๘ คะแนน และไมม่ ผี ลการประเมินขอ้ ใดข้อหนง่ึ ตำ่ กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๔ คะแนน

94

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี น เพอ่ื การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ช่อื นักเรยี น........................................................... ชั้น.................ภาคเรยี นท.ี่ ........ปีการศกึ ษา...............
คำชแี้ จง การบนั ทึกให้กาเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมท่ีเกดิ ข้นึ จริงคำชี้แจง
2. ม่งุ ม่ันในการทำงาน

ระดับการปฏบิ ตั ิ

ที่ พฤตกิ รรม เป็น บางคร้งั (๒) น้อย ไมท่ ำเลย/ ไม่
ชัดเจน (๐)
ประ (๓) ครั้ง (๑)

๑ มคี วามรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน

๒ ต้ังใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบัตหิ นา้ ทที่ ่ี
ได้รับมอบหมาย

๓ ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม

๔ รู้จกั แก้ปัญหาในการทำงานเม่ือมี
อปุ สรรค

๕ อดทนเพ่อื ใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย

๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานใหด้ ีข้นึ
ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
()

95

เกณฑ์การประเมนิ

ระดบั เกณฑก์ ารตดั สิน
คณุ ภาพ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งต่ำ
กว่า ๒ คะแนน

ดี ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหนึ่งตำ่
กวา่ ๐ คะแนน

ผา่ น ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำ
กวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

96

Knowledge Sheet2:
Preposition of place

Preposition of place หรือคำบุพบทท่ใี ชบ้ อกหรือระบตุ ำแหนง่ สถานทโ่ี ดยมี โครงสรา้ งในการ
นำไปใช้ดังนี้

Question: Where is สถานท?่ี

Answer: It + Verb to be + preposition.

on in next to in front of

behind between opposite
Across
Excuse me. Where is the hospital?
It is next to the post office.

97

Work sheet 1: Preposition of Place

Direction: Look at the map and use the words given to complete the sentences.

in on next to in front of behind between opposite

1. The hospital is __________H road.
2. The toys shop is _____________ the train station.
3. The school is ______________ the park and the bank.
4. The bus stop is _______________ the temple.
5. The shopping mall is ______________ the cinema.

98

Work sheet 2: Where is the….?

Direction: Look at the picture and write a sentence.

1. Bob: Excuse me. Where is the _______?
Sara: It is ______________.

2. Anna: Excuse me. _______________?
San: It is ______________.

3. Merry: _____________________________?
Christ: _______________________.

99

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชาภาษาองั กฤษพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ชอ่ื Places and Travel

เรอ่ื ง Asking and Giving Direction จำนวน 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องท่ีฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดง

ความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล
มาตรฐานการเรยี นรู้ที่ ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดง

ความรูส้ ึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานการเรยี นรู้ที่ ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และน

าไปใช้ ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ี ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และ

สังคม

ตวั ช้ีวดั
ต.1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ิตามคำสงั่ คำขอร้อง และคำแนะนำท่ีฟังและอ่าน
ต.1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคหรือขอ้ ความสนั้ ๆตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายท่อี ่าน
ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการสือ่ สารระหว่างบุคคล
ต 2.1 ป.6/1 ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสียงและกิรยิ าท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต.4.1 ป. 6/1 ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณต์ ่างๆ ทเี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสำคัญ
การจดั การเรยี นรูน้ ้มี ีจุดม่งุ หมายให้นักเรียนรู้เกี่ยวประโยค รูปแบบการถาม ตอบเพ่ือทีจ่ ะขอทราบ

ทิศทาง รวมไปถงึ สามารถระบหุ รอื พูดบอกทศิ ทางต่างๆของสถานทไ่ี ด้อยา่ งถกู ต้อง เพ่อื เปน็ การสร้างความรู้
ความเข้าใจให้ผเู้ รยี นไดน้ ำไปพัฒนาทกั ษะและสามารถนำส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ และสามารถระบุ เขียน
โครงสรา้ งประโยคทใ่ี ชใ้ นการบอกทิศทาง ตอบคำถามหรือปฏิเสธการชว่ ยเหลอื ได้อยา่ งถูกต้อง

100

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสยี งประโยคท่กี ำหนดได้อย่างถกู ต้อง
2. นกั เรียนสามารถเขยี นประโยคเพอ่ื บอกทศิ ทาง ไดอ้ ย่างถูกต้อง
3. นักเรียนมเี จตคติทดี่ ีในการเรียนภาษาองั กฤษ

4. สาระการเรียนรู้/เนอื้ หา
การถามทาง (Asking Direction)
How do I get to ……...?
Excuse me. + How can I get to ……….?
Can you tell me the way to ………., please?
Could you please tell me the way to ……….?
คำท่ใี ช้บอกเสน้ ทาง:
Go along, Go straight, Turn right at, Turn left at

การบอกทาง (Giving direction)
การตอบรับความช่วยเหลอื
Yes, of course, Sure, Certainly, absolutely.
ปฏเิ สธเม่อื ไมส่ ามารถให้ความชว่ ยเหลอื ได้
I’m sorry. I don’t know.
I’m afraid. I can’t.
I’m sorry. I’m not around here.

5. สมรรถนะการเรยี นรู้
1. มีความสามารถในการส่ือสาร
2. มีความสามารถในการคิด
3. มคี วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มคี วามมุ่งมัน่ ในการทำงาน

101

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นำ (Warm Up)
1. ครผู สู้ อนและผ้เู รยี นสนทนากนั เรือ่ งการถามทาง โดยพดู คยุ กันว่าหากเราเป็นผ้เู ดนิ ทาง
และต้องการ สอบทางเส้นทางไปทใ่ี หนสักแห่งกบั คนท้องถิ่นท่ีเราไมร่ ้จู ักคำแรกที่สำคญั มากก็คือการ
ขอรบกวนหรือขอร้องเขาก่อน ถ้าเป็นภาษาไทยเรามักจะเร่ิมต้นด้วยคำว่า ขอโทษนะครับ หรือขอโทษ
นะคะ เปน็ ต้น
2. ครูและผู้เรียนช่วยกันยกตัวอย่างการเรมิ่ ต้นในการถามทาง เชน่ Excuse me หรอื
Pardon me.
ขั้นนำเสนอ (Presentation)
3. ครสู อนอ่านและเขยี นประโยคท่สี ภุ าพเกี่ยวกบั ในการใชส้ อบถามเส้นทาง เชน่
How do I get to ……...?
Excuse me. + How can I get to ……….?
4. หลงั จากน้นั ครูทำการสอนคำทีใ่ ชใ้ นการบอกเส้นทางต่างๆ รวมไปถงึ การตอบรับและ
ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือ เชน่ Go along, Go straight
Yes, of course
I’m sorry. I’m not around here.
ขั้นฝึก (Practice)
5. ครสู มุ่ นักเรยี นออกมา 1 คน และเปิดรปู ภาพสถานที่บน Power Point แล้วให้นกั เรียนตอบ
คำถามใหถ้ กู ตอ้ ง เช่น
Teacher: Excuse me. How can I get to the train station?
Student: First, you can go straight and turn left. Second go straight again.
Finally, it is over there.
6. หลงั จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 13 เรอ่ื ง Direction โดยดรู ูปภาพทศิ ทางต่างๆและ
ตอบคำถามให้ถูกต้อง
ขน้ั นำไปใช้ (Production)
7. หลงั จากน้ันครใู ห้นักเรียนทำใบงานท่ี 14 เรอื่ ง How do I get to ……...? โดยจบั ค่แู ละทำ
รว่ มกนั กับเพ่ือน พร้อมทงั้ ออกมาสนทนาหน้าชัน้ เรยี นทลี ะคู่
ข้ันสรุปบทเรียน (Wrap Up)
8. ครสู อบถามนักเรียนว่าเรียนเร่ืองอะไรไป ใชอ้ ย่างไรเพ่ือทบทวนความรูท้ ี่นักเรียนไดรับ

102

8. สื่อ /แหล่งการเรียนรู้
- Power Point สอนคำศัพท์เกยี่ วกับการบอกทศิ ทาง
- Power Point นำเสนอโครงสรา้ งประโยคตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั การถามทาง
- Power Point นำเสนอรูปภาพสถานที่ตา่ งๆ
- ใบความร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง Asking and Giving Direction
- ใบงานที่ 13 เรอื่ ง Direction
- ใบงานที่ 14 เร่ือง How do I get to ……...?

9. การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์การวัด
1. นกั เรยี นสามารถอา่ น การสงั เกตการอ่าน แบบประเมนิ การอ่าน นกั เรยี นผ่านเกณฑโ์ ดย
ออกเสยี งประโยคท่ี อ่านออกเสยี ง และบอก
กำหนดได้อยา่ งถูกต้อง ใบงานเรอ่ื ง How do I ความหมายได้ อย่าง
get to ……...? ถกู ต้อง ผ่านเกณฑ์
2. นกั เรยี น การประเมิน ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป
สามารถเขียนประโยค ความสามารถในการ นกั เรยี นเขียนประโยค
เพ่ือบอกทิศทาง ไดอ้ ยา่ ง เขียน ไดถ้ ูกต้อง
ถกู ต้อง ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป

3. นกั เรียนมเี จตคติทด่ี ี การสังเกตจาก แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์โดย
ในการเรยี น ให้ความร่วมมือและมี
ภาษาอังกฤษ พฤติกรรมการตอบรับใน นักเรยี น พฤติกรรมในการตอบรับ
ท่ดี ีผ่านเกณฑ์
การเรยี น ร้อยละ 70 ขึ้นไป

103

10. แบบประเมิน

1.การอ่าน เครอ่ื งมือและเกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะทางภาษา

แบบบันทกึ การประเมินการอ่าน

ชอื่ - สกลุ การตคี วาม การรู้ รวม
จากประโยค ความหมาย คะแนน
ความเขา้ ใจ
ทอ่ี า่ น ของ
เลขท่ี คำศพั ท์

8 8 4 20

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

ลงช่ือ.........................................................ผู้ประเมนิ
()

วนั ท.่ี .........เดือน.................................พ.ศ. .................

104

เกณฑก์ ารให้คะแนนการอ่าน

ระดบั 4 เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 นำ้ หนัก/ คะแนนรวม
คะแนน 32 ความสำ 8
ตอบคำถาม ตอบคำถาม
ประเดน็ การประเมิน หลังจากท่ี ตอบคำถาม ตอบคำถาม หลงั จากทอี่ ่านได้ คัญ
ความเข้าใจ อา่ นได้ หลังจากที่ หลงั จากท่ี
ทงั้ หมด อ่านได้เกือบ อ่านได้ น้อยมาก 2
ท้งั หมด เลก็ น้อย

การรู้ความหมาย เมอ่ื อ่าน เมอื่ อา่ น เมื่ออา่ น เมื่ออา่ นคำศัพท์ 2 8
คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ สามารถบอก 1 4
สามารถ สามารถ สามารถ ความหมายของ
การตีความหมายของ บอก บอก บอก คำศัพทไ์ ด้น้อย 5 20
ประโยคที่อา่ น ความหมาย ความหมาย ความหมาย
ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ ของคำศัพท์ มาก
ไดถ้ ูกต้อง ไดถ้ ูกต้อง ไดเ้ ลก็ น้อย
ทงั้ หมด เกือบ เมื่ออ่านประโยค
ทงั้ หมด เม่ืออา่ น สามารถตีความ
เมือ่ อา่ น เมอ่ื อ่าน ประโยค
ประโยค ประโยค สามารถ หมายของ
สามารถ สามารถ ตีความ ประโยคไดน้ ้อย
ตีความ ตีความ หมายของ
หมายของ หมายของ ประโยคได้ มาก
ประโยคได้ ประโยคได้ เลก็ นอ้ ย
ถกู ต้อง เกอื บ
ทัง้ หมด ทง้ั หมด

รวม

105

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น เพือ่ การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

ชื่อนกั เรยี น........................................................... ชัน้ .................ภาคเรียนท่.ี ........ปีการศึกษา...............
คำช้แี จง การบันทึกให้กาเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤติกรรมทเ่ี กดิ ขึ้นจรงิ

1.ใฝเ่ รยี นรู้
ระดับการปฏิบตั ิ

เป็น บางครั้ง นอ้ ย ไม่ทำเลย/ไม่
ท่ี พฤติกรรม ประจำ ครั้ง ชดั เจน (๐)

(๒)
(๓) (๑)

๑ ตง้ั ใจเอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรยี นรู้
๒ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ
๓ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร

สิง่ พิมพ์ ส่อื เทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ัง้ ภายใน
และภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้ส่ือได้อยา่ ง
เหมาะสม
๔ สามารถบันทึกสรปุ ความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมูลจากสิ่งท่ี
เรยี นรูส้ รุปเปน็ องค์ความรู้
๕ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ดว้ ย วิธกี ารตา่ ง ๆ และ นำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั

รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ

ผู้ประเมิน ครู พ่อแม่/ผปู้ กครอง ตนเอง เพื่อน

ลงชอื่ ................................................ ผปู้ ระเมนิ
(.................................................)

106

เกณฑ์การประเมนิ

ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การตดั สิน

ดีเยย่ี ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๓-๑๕ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ข้อใดขอ้ หนง่ึ ต่ำกว่า ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๙-๑๒ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดขอ้ หน่งึ ต่ำกว่า ๐ คะแนน

ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๕-๘ คะแนน และไม่มผี ลการประเมินข้อใดข้อหนึง่ ต่ำกวา่ ๐ คะแนน

ไมผ่ า่ น ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๔ คะแนน

107

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น เพือ่ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ชอื่ นกั เรยี น........................................................... ช้นั .................ภาคเรยี นท.ี่ ........ปีการศกึ ษา...............
คำชีแ้ จง การบันทึกให้กาเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องทตี่ รงกับพฤติกรรมทเ่ี กิดข้นึ จรงิ คำช้ีแจง
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

ระดับการปฏบิ ตั ิ

ท่ี พฤตกิ รรม เปน็ บางครง้ั (๒) น้อย ไม่ทำเลย/ ไม่
ชดั เจน (๐)
ประ (๓) ครง้ั (๑)

๑ มีความรับผดิ ชอบในหน้าที่การงาน

๒ ตงั้ ใจและเอาใจใส่ต่อการปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ่ี
ได้รบั มอบหมาย

๓ ทำงานด้วยความเพยี รพยายาม

๔ รู้จักแก้ปัญหาในการทำงานเม่ือมี
อุปสรรค

๕ อดทนเพื่อใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย

๖ ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น
ดว้ ยตนเอง

รวมคะแนน/ระดบั คุณภาพ

ลงช่อื .................................................... ผูป้ ระเมนิ
()

108

เกณฑก์ ารประเมิน

ระดบั เกณฑก์ ารตดั สิน
คณุ ภาพ

ดเี ยีย่ ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไมม่ ีผลการประเมินข้อใดขอ้ หน่ึงตำ่
กวา่ ๒ คะแนน

ดี ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหน่ึงตำ่
กว่า ๐ คะแนน

ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินขอ้ ใดข้อหนึง่ ตำ่
กว่า ๐ คะแนน

ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน