The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี สป ทส 2565 ฉบับสมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานประจำปี สป ทส 2565 ฉบับสมบูรณ์

รายงานประจำปี สป ทส 2565 ฉบับสมบูรณ์

รายงานประจ าปี2565 144 | P a g e (หน่วย:บาท) รายได้แผ่นดิน-นอกจากภาษี 9,168,151.59 9,678,714.17 9,168,151.59 9,678,714.17 หัก รายได้แผ่นดินถอนคืนจากคลัง (3,050.00) - 9,165,101.59 9,678,714.17 รายได้จากการถอนคืนรายได้จากรัฐบาล 3,050.00 รายได้แผ่นดินนำส่งคลัง (9,166,060.40) (9,762,772.03) 2,091.19 (84,057.86) ปรับ รายได้แผ่นดินรอนำส่งคลัง - ปี 2563 81,494.80 รายได้แผ่นดินรอนำส่งคลัง - ปี 2564 2,563.06 รายได้แผ่นดินรอนำส่งคลัง - ปี 2565 (2,091.19) - - รายได้จากการขายสินค้าและบริการ 472,485.00 864,888.00 รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 10,454.55 7,340.85 รายได้อื่น 8,685,212.04 8,806,485.32 9,168,151.59 9,678,714.17 รายงานการเงินยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน


รายงานประจ าปี 2565 146 | P a g e กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร ดำเนินการปรับปรุง โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 1. การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ ของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการปรับโครงสร้างภายใน โดยไม่มีการเพิ่มจำนวนกอง อัตรากำลัง กล่าวคือ เป็นการปรับการบริหารจัดการภายในกระทรวง เป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ของส่วนราชการในสังกัดกลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม ให้ดีขึ้น ตลอดจนการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่จะสามารถ แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ความเดือดร้อน ของประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ การเตรียมความพร้อม ในการรองรับการขยายการทำงานในบริบทใหม่ ภายใต้กฎหมายและข้อตกลงใหม่ ประกอบด้วย ประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1) การตัดโอนหน่วยงานและเปลี่ยนชื่อ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 – 16 จากสำนักงาน ปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 – 16 กรมควบคุมมลพิษ 2) การตัดโอนภารกิจระหว่างกรมในกระทรวง ดังนี้ (1) ตัดโอนงานการบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ และการดำเนินงานด้านอนุสัญญาพื้นที่ชุ่มน้ำ จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ไปเป็นของกรมทรัพยากรน้ำ (2) ตัดโอนงานความร่วมมืออาเซียน ด้านสิ่งแวดล้อมเมืองที่ยั่งยืน จากสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็นของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของหน่วยงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2565 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2565 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 139 ตอนที่ 45 ก เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565


รายงานประจ าปี 2565 147 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 148 | P a g e การปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้อง กับแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแผนยุทธศาสตร์ชาติที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการพัฒนาฐานข้อมูล (data base) เพื่อนำไปสู่การวางแผนและประเมินผล ในอนาคตต่อไป ดังนี้ 1) จัดตั้ง สถาบันการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 2) ยุบ กองการบิน 3) ปรับปรุงหน้าที่และอำนาจ และเปลี่ยนชื่อ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็น ศูนย์เทคโนโลยี ดิจิทัลและอากาศยาน 4) ปรับปรุงหน้าที่และอำนาจ ของกองกฎหมาย กองกลาง และสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพัฒนาระบบบราชการ มีมติรับทราบการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....


รายงานประจ าปี 2565 149 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 150 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 151 | P a g e กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งที่ 191/2565 ลงวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2565 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรมเพื่อรองรับ ภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิรูปภารกิจ และพิจารณาความเหมาะสมในการปรับปรุง และพัฒนาโครงสร้างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ โดยมีการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ/ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และได้จัดประชุม คณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรมฯ จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ 1. การประชุมคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรม เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน 2. การประชุมคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรม เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 เพื่อพิจารณาร่างโครงสร้างและภารกิจของกรมที่จัดตั้ง เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ 3. การประชุมคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกรม เพื่อรองรับภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 เพื่อร่วมกันพิจารณา (ร่าง) สาระสำคัญคำชี้แจง ประกอบการขอปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วน ราชการ และ Roadmap การดำเนินงานด้านกฎหมาย ผลการศึกษาของคณะทำงานศึกษาฯ เพื่อให้ การดำเนินภารกิจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีประสิทธิภาพ จึงยกระดับกรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่งแวดล้อม และเปลี่ยนชื่อเป็นกรมการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Department of climate change and environment) รวมทั้งเห็นชอบ ร่างโครงสร้างกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งแวดล้อม โดยตัดโอนกองประสานการจัดการ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังกัดสำนักงาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปสังกัดกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการ โอนภารกิจ อัตรากำลัง และงบประมาณ ระหว่าง ส่วนราชการ ทั้งนี้ จะดำเนินการเสนอ (ร่าง) คำชี้แจง ประกอบการขอปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อคณะทำงาน แบ่งส่วนราชการภายในกรมต่อไป


รายงานประจ าปี 2565 152 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 153 | P a g e นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก นายพงศ์ไท ไทโยธิน ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน นางรวิวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ 1) ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 2) นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข ผู้อำนวยการมูลนิธิ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน


รายงานประจ าปี 2565 154 | P a g e ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเครือข่าย สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ นายนที สิทธิประศาสน์ ประธานคณะทำงานย่อย คณะกรรมการร่วม ภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) Sustainability ด้าน Climate Change อาจารย์ศุภกร ชินวรรโณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ดร.อังคณา เฉลิมพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการการดำเนินงาน ด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมัน GIZ Thailand


รายงานประจ าปี 2565 155 | P a g e หมวด 1 การนำองค์การ หมวด 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ หมวด หมวด 3การให้ความสำคัญ กับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นการประเมินระบบการบริหารของส่วนราชการ ในเชิงบูรณาการ เพื่อเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของส่วนราชการ กับเป้าหมาย และทิศทางการพัฒนาของประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางให้ส่วนราชการ พัฒนาไปสู่ระบบราชการ 4.0 เพื่อประเมินความสามารถ ในการบริหารจัดการภายในหน่วยงานและความพยายาม ของส่วนราชการในการขับเคลื่อนงานให้บรรลุเป้าหมาย อย่างยั่งยืน โดยพิจารณาจากผลการประเมินสถานะ การเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) จากสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งเป็นคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมทั้ง 7 หมวด ประกอบด้วย หมวดที่ 1 การนำองค์การ หมวดที่ 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ หมวดที่ 3 การให้ความสำคัญกับผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หมวดที่ 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการ ความรู้ หมวดที่ 5 การมุ่งเน้นบุคลากร หมวดที่ 6 การมุ่งเน้นระบบปฏิบัติการ หมวดที่ 7 ผลลัพธ์การดำเนินการ “เกณฑ์การประเมินจะพิจารณาจากความสามารถ ในการพัฒนาการดำเนินงานเพื่อยกระดับ หน่วยงาน ในการเป ็ นระบบราช การ 4. 0 (PMQA 4. 0) โดยจะเปรียบเทียบคะแนนผลการประเมินระหว่าง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนดในแต่ละกลุ่ม ส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแว ดล้อม มีผลการประเมินส ถ า น ะ ของหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เท่ากับ 422.10 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (416.63 คะแนน) รายละเอียดปรากฎ ดังกราฟด้านล่าง


รายงานประจ าปี 2565 156 | P a g e หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ หมวด 5 การมุ่งเน้นบุคลากร หมวด 6 การมุ่งเน้นระบบปฏิบัติการ หมวด 7 ผลลัพธ์การดำเนินการ


รายงานประจ าปี 2565 157 | P a g e สำนักงาน ก.พ.ร. มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 1222/1382 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2563 คณะรัฐมนตรี มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เห็นชอบให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานที่รับ รายงานผลการออกใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ แทน และขอให้ สำนักงานปลัดกระทรวงจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ การออกใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรอง มาตรฐานต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัดเป็นรายไตรมาส และรายงานผลการออกใบอนุญาตฯ ผ่านระบบ ออนไลน์ของสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีหนังสือที่ ทส 0210/ว 3358 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ขอให้ส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานผล การออกใบอนุญาต การตรวจสอบและการรับรอง มาตรฐานต่าง ๆ มายังกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เป็นรายไตรมาสตามแบบฟอร์มที่กำหนด ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป (เดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม) เพื่อจักได้รวบรวมและรายงานผล การออกใบอนุญาตฯ ทส. ผ่านระบบออนไลน์ ของสำนักงาน ก.พ.ร. โดยมีการออกใบอนุญาตฯ ทส. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ปรากฎตามกราฟ และตารางด้านล่าง)


รายงานประจ าปี 2565 158 | P a g e 86416 53788 82,475 72,981 0 20000 40000 60000 80000 100000 ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 แผนภูมิแสดงการขอใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรอง มาตฐานต่างๆ ทุกกรมในแต่ละไตรมาส พ.ศ. 2565 ปี งบประมาณ 65 จำนวนใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรองมาตรฐาน พ.ศ. 2565 ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 กรมทรัพยากรธรณี 0 0 0 0 กรมทรัพยากรน้ำ 0 2 1 5 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 5,366 5,899 2,065 4,661 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 66,728 31,517 65,339 51,773 กรมป่าไม้ 14,173 16,245 14,945 16,417 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 149 127 116 125 รวม 86,416 53,788 82,475 72,981


รายงานประจ าปี 2565 159 | P a g e สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้รวบรวมระบบงานและระบบ ฐานข้อมูลของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบ Metadata นำมาปรับมาตรฐานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับจัดทำระบบ Big Data Platform เพื่อใช้จัดเก็บ ประมวลผลและบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ จากแหล่งและฐานข้อมูลภายในและภายนอกกระทรวง และแหล่งข้อมูลภูมิสารสนเทศของกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีความพร้อม เพื่อนำมา วิเคราะห์โจทย์ของผู้บริหารที่นำไปใช้ประโยชน์ ในการกำหนดนโยบาย วางแผน และการแก้ไขปัญหา โดยพิจารณาข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ 1) ทรัพยากรทางบก 2) สิ่งแวดล้อม 3) ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4) ทรัพยากรน้ำ และ 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ การพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังข้อมูล ภูมิสารสนเทศกลางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (GIS Web Portal) เป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุน ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี Cloud Computing และปรับปรุงระบบบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Management System) เดิมที่พั ฒ น า ในปี พ.ศ. 2562 ให้เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล และรองรับการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถ เข้าใช้งานระบบฯ ผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1. เว็บไซต์ https://naturebi.mnre.go.th/ เป็นระบบเชื่อมโยงและแสดงข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริการข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ 1) ทรัพยากรทางบก 2) สิ่งแวดล้อม 3) ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4) ทรัพยากรน้ำ และ 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ 2. โมบายแอปพลิเคชัน NatureBi บริการข้อมูล ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสำหรับ ประชาชน อาทิ การท่องเที่ยวในอุทยาน ทรัพยากรน้ำ และสถานะของสถานีวัดปริมาณน้ำฝนและสถานีวัด ระดับน้ำ เป็นต้น (สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งอุปกรณ์ ระบบ Android และ iOS)


รายงานประจ าปี 2565 160 | P a g e 1. แผ่นประชาสัมพันธ์ระบบเชื่อมโยงและแสดงข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ https://naturebi.mnre.go.th/ ระบบเชื่อมโยงและแสดงข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริการข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ 1) ทรัพยากรทางบก 2) สิ่งแวดล้อม 3) ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4) ทรัพยากรน้ำ และ 5) ความหลากหลายทางชีวภาพ (หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 15 กันยายน 2565)


รายงานประจ าปี 2565 161 | P a g e 3. ตัวอย่างหน้าโมบายแอปพลิเคชัน NatureBi บริการข้อมูลด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับประชาชน (สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งอุปกรณ์ระบบ Android และ iOS)


รายงานประจ าปี 2565 162 | P a g e การดำเนินการตามตัวชี้วัดการพัฒนาระบบ ข้อมูลให้เป็นดิจิตอล (Digitize Data) ทั้งข้อมูลที่ใช้ ภายในหน่วยงานและข้อมูลที่จะเปิดเผยสู่หน่วยงาน/ ภายนอกสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูล ภาครัฐ (Open Data) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของสำนักงาน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ส่วนกลาง) ได้นำขึ้น ชุดข้อมูล Metadata และระบุแหล่งข้อมูล จำนวน 9 ชุดข้อมูล บนระบบ 2 ระบบ คือ 1. ร ะ บ บ บ ั ญ ช ี ข ้ อ ม ู ล ข อ งส ำ น ั ก ง า น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (gdcatalog/CKAN) ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยได้ดำเนินการขอใช้บริการระบบบัญชีข้อมูล หน่วยงานไปยังสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://mnre.gdcatalog.go.th 2. ระบบ data.go.th ของ สำนักงานพัฒนา รัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) โดยได้ขอเพิ่มบัญชี ผู้ใช้และกำหนดสิทธิ์การนำเข้าข้อมูลของหน่วยงาน ในสังกัดของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 11 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยสามารถเข้าไปดู ได้ที่ https://data.go.th และได้จัดทำกา รใช้ ประโยชน์ข้อมูล จำนวน 9 ชุดข้อมูล ซึ่งตอบโจทย์ ตามประเด็นภายใต้ของ Focus Areas คือ ด้านที่ 9 ด้านการบริหารจัดการภาครัฐ


ลำดับ รหัสชุดข้อมูล ชุดข้อมูล หน่วยงาน 1. Mnre_112_01 การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล กองยุทธศาสตร์และแผนงาน 2. Mnre_33_01 การติดตามการดำเนินงานที่สอดคล้องกับข้อมติ ของสมัชชาสิ่งแวดล้อมเเห่งสหประชาชาติ กองการต่างประเทศ 3. Mnre_43_01 มติคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร กองกลาง (ศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเดิม)** 4. Mnre_62_01 การออกใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร 5. Mnre_103_01 ผลการตรวจสอบพื้นที่จากการบิน ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน (กองการบินเดิม)** 6. Mnre_71_01 บัญชีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็น การตรวจราชการ กองตรวจราชการ 7. Mnre_71_02 บัญชีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็น การตรวจสอบด้าน Financial & Compliance กลุ่มตรวจสอบภายใน 8. Mnre_82_02 ข้อมูลผู้ได้รับรางวัลคนดีศรี สป. ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต 9. Mnre_83_01 ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ สถาบันการพัฒนาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (สถาบันพัฒนาบุคลากรทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดิม)** **หมายเหตุ: เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้มีการ เปลี่ยนชื่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล 163 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 164 | P a g e 1. ตัวอย่างชุดข้อมูลในระบบบัญชีข้อมูลของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (gdcatalog/CKAN) ของสำนักงานสถิติแห่งชาติโดยได้ดำเนินการขอใช้บริการระบบบัญชีข้อมูลหน่วยงาน ไปยังสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://mnre.gdcatalog.go.th 2. ตัวอย่างชุดข้อมูลในระบบ data.go.th ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) โดยได้ขอเพิ่ม บัญชีผู้ใช้และกำหนดสิทธิ์การนำเข้าข้อมูลของหน่วยงานในสังกัดของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจำนวน 11 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://data.go.th


รายงานประจ าปี 2565 165 | P a g e ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน โดยส่วนพัฒนาระบบบริหารจัดการสำนักงาน ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การใช้ระบบงานสารบรรณ อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่” ประจำปี พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ผ่านระบบ Video Conference ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ในกระบวนการทำงานของระบบงานสารบรรณ อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ รวมทั้งแนวปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้การทำงานด้านสารบรรณ ของหน่วยงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อหน่วยงานมากยิ่งขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เข้าร่วมทั้งสิ้น จำนวน 210 คน ระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ สามารถช่วยลดขั้นตอนในการทำงานให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยผลการดำเนินงาน ผู้เข้ารับการอบรมฯ สามารถ นำความรู้เกี่ยวกับระบบงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ และความเข้าใจในระเบียบงานสารบรรณไปเป็นมาตรฐาน ในการทำงานด้านสารบรรณของหน่วยงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ อีกทั้ง การดำเนินกิจกรรมนี้ยังมีส่วนช่วย ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ ทำให้ผู้อบรมตระหนักถึงการลดการใช้ทรัพยากร กระดาษ ลดการพิมพ์เอกสารที่ต้องใช้ทั้งกระดาษ และหมึกพิมพ์ที่ก่อให้เกิดมลพิษ เพราะในระบบ สารบรรณอิเล็กทรอนิกส์มีฟังก์ชันที่สามารถแนบเอกสาร และสามารถส่งเอกสารในลักษณะไฟล์ดิจิทัล ภายใน หน่วยงานเดียวกันหรือหน่วยงานอื่นได้


รายงานประจ าปี 2565 166 | P a g e ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ศูนย์เทคโนโลยี ดิจิทัลและอากาศยาน ได้เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและระบบอินเตอร์เน็ต ไร้สายให้บริการแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้งานในบริเวณสำนักงานชั้น 9 และชั้น 10 ของอาคารกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และบริเวณพื้นที่สำนักงาน ชั้น 1, 4, 14 – 20 ของอาคารกรมควบคุมมลพิษ รวมถึงห้องประชุมชั้น 4 ชั้น 17 และชั้น 20 เพื่อสนับสนุนการประชุมผ่านระบบ ว ีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference System) และการใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป อีกทั้ง ได้มีการ เชื่อมโยงระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตระหว่างหน่วยงาน โดยจัดให้มีบริการวงจรสื่อสัญญาณความเร็วสูง มีความเร็วในการเชื่อมโยงระบบอินเตอร์เน็ตแบบองค์กร ที่มีความเร็วในประเทศ 1,000 เมกะบิตต่อวินาที และระหว่างประเทศ 1,000 เมกะบิตต่อวินาที และวงจรเครือข่ายระยะไกล (Wide Area Network) เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานในสังกัดสำนักงาน ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งมีอัตราการรับส่งข้อมูล ไม่น้อยกว่า 30 เมกะบิตต่อวินาที เพื่อใช้ในการติดต่อ ประสานงานและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ได้อย่างรวดเร็ว การให้บริการระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายดังกล่าว ส่งผลหน่วยงาน ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถใช้งานระบบ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อสนับสนุนงานในการปฏิบัติราชการ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานของบุคลากร และสามารถรองรับ การปฏิบัติงานทั้งในด้านระบบงานต่าง ๆ ที่ทำงาน ผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


รายงานประจ าปี 2565 167 | P a g e วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 13.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายอะห์มัด อะลี อัศศอยิฆ (H.E. Ahmed Al Sayegh) รัฐมนตรีแห่งรัฐสหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในประเด็น UAE ขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 ในปี พ.ศ. 2566 โดย UAE ได้แสดงถึงความพร้อมในศักยภาพ ด้านต่างๆ ทั้งด้านสาธารณูปโภค โลจิสติกส์ ที่รองรับการเดินทาง และให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริม ให้โลกของเราก้าวไปสู่ความยั่งยืน และรองรับการเป็นเจ้าภาพ UNFCCC COP 28 รวมถึงได้เชิญชวนเข้าร่วมงาน Expo 2020 ที่จัดขึ้น ณ นครดูไบ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565


รายงานประจ าปี 2565 168 | P a g e วันที่ 7 ตุลาคม 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อม ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของโครงการสิ่งแวดล้อม แห่งสหประช าช าติ (Forum of Ministers and Environment Authorities of Asia Pacific: AP Forum) สมัยที่ 4 ระหว่างวันที่ 6 - 7 ตุลาคม 2564 ณ เมืองซูวอน สาธารณรัฐเกาหลี และผ่านระบบ การประชุมทางไกล เพื่อหารือถึงความท้าทายที่สำคัญ ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะ เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ขยะพลาสติก การลดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการมหาสมุทรอย่างยั่งยืน การบริโภค และการผลิตที่ยั่งยืน ตลอดจนเตรียมการเฉลิมฉลอง วาระครบรอบ 50 ปี ของโครงการสิ่งแวดล้อม แห่งสหประชาชาติ (UNEP@50 Celebration) ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการประชุมเป็นการสะท้อนถึงมุมมอง เชิงนโยบายและความมุ่งมั่นของประเทศในภูมิภาค เอเชียและแปซิฟิกในการร่วมกันผลักดันข้อมติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อม แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 ในปี พ.ศ. 2565 โดยเฉพาะการเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินการ ต่างๆ เพื่อให้ธรรมชาติเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำถึง ปัญหาที่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกกำลังเผชิญ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากสถานการณ์ แพร่ระบาดของ COVID - 19 โดยประเทศไทย ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ อย่างยั่งยืน คำนึงถึงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีการขับเคลื่อน BCG Model (Bio-Circular-Green economic) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งดำเนินการฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์ COVID - 19


วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้หารือผ่านระบบ การประชุมทางไกลกับ นางฮัน จ็อง-แอ (Han Jeoung-ae) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐเกาหลี โดยประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลี มีความร่วมมือ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน และมีการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิด มาโดยตลอด ซึ่งในการหารือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่าย ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในประเด็น ต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายความเป็นกลาง ทางคาร์บอน ( Carbon neutrality) เทคโนโลยี การจัดการอุทกภัย การจัดการขยะพลาสติกทั้งบนบก และในทะเล และเศรษฐกิจหมุนเวียน 16 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 170 | P a g e วันที่ 21 ตุลาคม 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนกระทรวง การต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 16 (16th AMME) เพื่อแลกเปลี่ยนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน ผ่านระบบการประชุม ทางไกล ซึ่งจัดขึ้นโดยสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้เรียกร้องให้สมาชิกดำเนินนโยบายเชิงรุก เพื่อเร่งฟื้นฟูอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โดยประเทศไทยได้ดำเนินนโยบาย BCG ซึ่งเป็น “วาระแห่งชาติ” ในการฟื้นฟูที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความเข้มแข็ง ในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการพัฒนา กรอบนโยบาย อาทิ พรบ. ป่าไม้ พรบ. ความหลากหลาย ทางชีวภาพ และ พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับ การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้ดำเนินงานตาม NDCs เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การลดการปล่อยก๊าซ GHG ลง ร้อยละ 20 รวมทั้ง พัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Long-Term Low GHG Development Strategy) และยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียน เร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยการ ต่อต้านขยะทะเล โดยเสนอให้จัดตั้ง Ad-hoc task force ตลอดจนส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกก้าวไปสู่ การเป็นภูมิภาคอาเซียนปลอดหมอกควัน ซึ่งประเทศไทย จะร่วมมือกับภูมิภาคต่อไป นอกจากนี้ รัฐมนตรี อาเซียนยังได้ร่วมหารือร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน ว ่ า ด ้ ว ย ก า ร เ ป ล ี ่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภ ู ม ิ อ า ก า ศ เพื่อเป็นผลลัพธ์สำหรับให้ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และนำเสนอต่อที่ประชุม COP UNFCCC 26 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และได้รับรองเมืองที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับรางวัล อาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมเมืองที่ยั่งยืน ครั้งที่ 5 โดยประเทศไทยมีเทศบาลเมืองยะลาได้รับรางวัล ดังกล่าว ขณะที่เทศบาลเมืองหาดใหญ่ เทศบาลเมืองกระบี่ และเทศบาลเมืองทุ่งสง ได้รับรางวัลฯ ประเภทแข่งขัน ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2564


รายงานประจ าปี 2565 171 | P a g e วันที่ 29 ตุลาคม 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (EU) ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิก EU จำนวน 17 ประเทศ ในโอกาสเข้าพบหารือแนวทาง ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศไทย และสหภาพยุโรป พร้อมทั้งนำเสนอเป้าหมายการลด ก๊าซเรือนกระจกของ EU ณ ห้องประชุม ชั้น 20 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการหารือดังกล่าว ประเทศในสหภาพยุโรปมุ่งหวัง ให้ประเทศไทยเพิ่มความท้าทายของเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี ค.ศ. 2050 ซึ่ง EU ได้แสดงจุดยืนที่จะสนับสนุนการดำเนินงาน กับประเทศไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายความตกลงปารีส ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส อีกทั้ง EU ยังเห็นว่านโยบาย EU Green deal มีความสอดคล้อง กับนโยบาย BCG ของไทย จึงเห็นว่าการดำเนินความร่วมมือ ระหว่างกันจะเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินงาน อย่างยั่งยืน อาทิ Circular Economy การดำเนินงาน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การจัดการขยะ และของเสีย และการจัดการขยะทะเล เป็นต้น ตลอดจนเห็นถึงความสำคัญของไทยในฐานะประเทศ ที่มีบทบาทนำในอาเซียน


รายงานประจ าปี 2565 172 | P a g e กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้แทนหลัก (Council Member) ของกลุ่มประเทศ East Asia Constituency ของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility: GEF) ทำหน้าที่ประธ าน การประชุม GEF East Asia Virtual Constituency Meeting เ ม ื ่ อ ว ั น ท ี ่ 3 0 พ ฤ ศ จ ิ ก า ย น 2 5 6 4 เวลา 19.00 – 21.00 น. (เวลาประเทศไทย) ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ เพื่อร่วมหารือกับ ประเทศสมาชิกภายในกลุ่มรวม 7 ประเทศ ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศมองโกเลีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประเทศไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในการกำหนด ท่าทีต่อการประชุม GEF Council Meeting ครั้งที่ 61 ระหว่างวันที่ 6 - 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งประเทศไทย เข้าร่วมในฐานะผู้แทนหลักของกลุ่มประเทศ นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยกำลังจะหมดวาระ การทำหน้าที่ผู้แทนหลักของกลุ่มประเทศ East Asia Constituency ในเดือนธันวาคม 2565 ที่ประชุม ได้มีมติรับรองให้สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นผู้แทนหลักของกลุ่มประเทศ และราชอาณาจักรกัมพูชาทำหน้าที่เป็นผู้แทนสำรอง ของกลุ่มประเทศ ในรอบปี พ.ศ. 2565 - 2566


การประชุมคณะมนตรีกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก ครั้งที่ 61 (61st GEF Council Meeting) เมื่อวันที่ 6 - 10 ธันวาคม 2564 เวลา 19.00 – 23.00 น. (เวลาประเทศไทย) ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ เพื่อร่วมหารือกับ Council Memberและผู้แทนสำรอง (Alternate Council Member) ของกลุ่มประเทศ สมาชิกกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Constituency) รวม 32 กลุ่มประเทศ ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณา ใ ห ้ ค ว า ม เ ห ็ น ต ่ อ น โ ย บ า ย ต ่ า ง ๆ ข อ ง GEF และให้ข้อเสนอแนะต่อการประเมินผลการดำเนินงาน ของ GEF ในรอบที่ 7 รวมถึงอนุมัติแผนงานโครงการ (Work Program) ที่แต่ละประเทศเสนอขอรับ การสนับสนุนจาก GEF รวมจำนวน 190.7 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย 25 โครงการ และ 1 โปรแกรม โดยมีโครงการที่ประเทศไทยเสนอ และได้รับการอนุมัติ จำนวน 2 โครงการ คือ 1) โครงการ Enhancing Environmental Security andTransboundary Cooperation in the Golok/Kolok River Basin (GEF ID 10794) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างไทย และมาเลเซีย โดยมีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ และ 2) โครงการ Effectively Managing Networks of Marine Protected Areas in Large Marine Ecosystems in the ASEAN Region (ASEAN ENMAPS) (GEF ID 10873) เป็นโครงการระดับภูมิภาค (Regional Project) มี 3 ประเทศ ร่วมดำเนินโครงการ ได้แก่ สาธารณรัฐ ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และประเทศไทย โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติอนุมัติงบประมาณสำหรับ จัดการประชุม 7 th GEF Assembly ซึ่งจะมีการพิจารณา รับรองกรอบการสนับสนุนของ GEF ในรอบที่ 8 (GEF-8: พ.ศ. 2565 - 2569) 173 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 174 | P a g e การประชุม GEF East and West Asia Constituency เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 เวลา 18.00 – 20.30 น. (เวลาประเทศไทย) ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ เพื่อร่วมหารือและให้ความเห็นต่อร่างกรอบ การสนับสนุนของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก ในรอบที่ 8 (GEF - 8: กรกฎาคม 2565 - มิถุนายน 2569) ซึ่งประกอบด้วยกรอบการสนับสนุนในแต่ละสาขาหลัก (Focal Areas) กรอบโ ครงการเช ิงบูรณาการ ( Integrated Programs) จำนว น 11 โ ปรแก ร ม และโครงการขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนชุมชน (GEF Small Grant Program) รวมถึงเกณฑ์การจัดสรร วงเงินให้ประเทศสมาชิกภายใต้กรอบการจัดสรรเงิน อย่างโปร่งใส (System for Transparent Allocation of Resources: STAR) ซึ่งจะมีการเสนอให้คณะมนตรี กองทุนสิ่งแวดล้อมโลกพิจารณาให้การรองรับในการ ประชุม GEF Council Meeting ครั้งที่ 62ระหว่างวันที่ 21 - 23 มิถุนายน 2565 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซีประเทศ สหรัฐอเมริกา ก่อนประกาศให้ประเทศสมาชิกกองทุน สิ่งแวดล้อมโลกเตรียมการเกี่ยวกับการเสนอโครงการ เพื่อขอรับการสนับสนุนจาก GEF - 8 ต่อไป ทั้งนี้ ผู้แทนจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และราชอาณาจักรกัมพูชาจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนหลัก และผู้สำรองของกลุ่มประเทศ GEF East and West Asia Constituency เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว


รายงานประจ าปี 2565 175 | P a g e วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลา 14.15 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นาย Deniel Kritenbrink, U.S. Department of State Assistant Secretary for East Asian and Pacific Affairs ในโอกาสเป็นผู้แทนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เยือนประเทศไทย โดยในการเข้าพบครั้งนี้ ได้แจ้งให้ทราบ ถึงการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางเดือนธันวาคม และได้แสดงความชื่นชมไทย ที่มุ่งมั่นต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการประกาศเป้าหมาย ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วงการประชุม UNFCCC COP26 ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุนประเทศไทย ในการดำเนินงานดังกล่าว


รายงานประจ าปี 2565 176 | P a g e วันที่ 24 มีนาคม 2565 เวลา 12.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “the government’s policies and the Ministry’s strategies to achieve the goals on environmental protection and greenhouse gas reduction, especially COP 26 commitments” ในการประชุมประจำปีหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom) ณ ห้องประชุม ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงการดำเนินนโยบายที่สำคัญของประเทศ ในการวางนโยบาย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) เพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืนของประเทศ สนับสนุนการสร้างความสมดุล ควบคู่กับการใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณค่า พัฒนาเศรษฐกิจ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการฟื้นฟูภายหลัง สถานการณ์โควิด - 19 อีกทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็น ในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกเผชิญและท้าทาย ในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และปัญหามลพิษ รวมทั้งขยะพลาสติก


รายงานประจ าปี 2565 177 | P a g e วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 08.30 น. นายตีแยรี มาตู เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส ประจำประเทศไทยได้เข้าพบหารือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ เพื่อหารือความร่วมมือไทย - ฝรั่งเศส พร้อมทั้งเชิญ ประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือและข้อริเริ่ม ที่ฝรั่งเศสในฐานะประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ผลักดัน ได้แก่ กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อธรรมชาติ กลุ่มแนวร่วมระหว่างประเทศเพื่อการ อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ ทางทะเล ข้อมติเพื่อการจัดการมลพิษจากพลาสติก และขยะทะเล และคำมั่นระดับโลกเพื่อการใช้พลาสติก หมุนเวียน นอกจากนี้ ได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุม One Ocean Summit ระหว่างวันที่ 9 - 11 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เมืองแบรสต์ (Brest) สาธารณรัฐฝรั่งเศส


รายงานประจ าปี 2565 178 | P a g e วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อม แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 5 ช่วงที่ 2 (UNEA 5.2) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2565 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ภายใต้หัวข้อหลัก “Strengthening Actions for Nature to Achieve the Sustainable Development Goals” ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยเน้นย้ำถึงปัญหา สิ่งแวดล้อมและผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ COVID - 19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลาย ทางชีวภาพ และด้านมลพิษ ซึ่งประเทศไทยได้ใช้ แนวทาง Bio-Circular-Green Economic Model (BCG) ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำหรับ การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยประเทศไทย ได้วางเป้าหมาย การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emission) ภายใน ปี ค.ศ. 2065 ตลอดจนการแก้ไขปัญหา ขยะพลาสติก ซึ่งประเทศไทยมีแผนปฏิบัติการ ด้านการจัดการขยะพลาสติก โดยกำหนดเป้าหมาย การนำขยะพลาสติกเข้ากระบวนการรีไซเคิลให้ได้ ร้อยละ 100 ตามแนวทาง Circular Economy ภายในปี ค.ศ. 2027


รายงานประจ าปี 2565 179 | P a g e การประชุม Stockholm+50 จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง วาระครบรอบ 50 ปี ของการประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ (UN Conference on the Human Environment) และการนำเสนอแนวทางแก้ไข ปัญหาการพัฒนานโยบายและความเป็นหุ้นส่วนต่างๆ ในการบรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระหว่างวันที่ 2 - 3 มิถุนายน 2565 ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน และผ่านระบบ การประชุมทางไกล โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ร่วมกล่าวถ้อยแถลงผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ โดยแสดงความยินดีกับวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อม ของมนุษย์ ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเร่งการดำเนินงาน ให้บรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และช่วยแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติ และมลพิษ ซึ่งประเทศไทยได้พัฒนากฎหมาย ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การบังคับใช้ พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อมฉบับแรกในปี ค.ศ. 1975 เพียงสามปีหลังจากการประชุมสตอกโฮล์ม รวมทั้ง ได้ดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อย่างก้าวหน้า โดยอาศัยการบูรณาการข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนภูมิปัญญาและความรู้ดั้งเดิม ในฐานะ ประธานเอเปค ในปีนี้ประเทศไทยพยายามที่จะ ส่งเสริม BCG Model เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจภายหลังจากการระบาดของ COVID - 19 และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใน ปี ค.ศ. 2030 นอกจากนี้ ประเทศไทยยังตั้งเป้าหมาย ในการบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนภายใน ปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ภายใน ปี ค.ศ. 2065 ซึ่งจำเป็นต้องมีการสนับสนุนระหว่าง ประเทศในด้านการเงิน เทคโนโลยี และการเสริมสร้าง ศักยภาพอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ มีความมุ่งมั่นใหม่ รวมทั้งการดำเนินการทันที ในทุกระดับ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการส่งมอบ ความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์โดยมุ่งเน้นที่ความต้องการ ของมนุษยชาติต่อไป


รายงานประจ าปี 2565 180 | P a g e วันที่ 31 มีนาคม 2565 เวลา 15.45 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นาย Achim Steiner, Under Secretary General of the United Nations and Administrator of the UNDP และผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อรับทราบนโยบาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ของประเทศไทย โดยได้เน้นย้ำว่าประเทศไทยเผชิญกับ สถานการณ์โควิด - 19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับ ภาวะขาดแคลนทรัพยากรวัตถุดิบและพลังงานเชื้อเพลิง ในปัจจุบัน จึงได้หันกลับมาเสริมสร้างความเข้มแข็ง ภายในประเทศด้วยการส่งเสริม Green Economy และ Green Recovery เพื่อนำไปสู่ Absolute decoupling ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งดำเนินการอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุความเป็นกลาง ทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยเฉพาะในสาขาพลังงานและสาขาเกษตร ที่ยังคง มีความท้าทายอย่างมาก ในโอกาสนี้ นาย Achim Steiner ผู้แทน UNDP ได้ชื่นชมการดำเนินงานของประเทศไทย และการขับเคลื่อน ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการดำเนิน นโยบายตาม BCG Model และมีความเห็นว่า Climate Finance รวมถึงการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (adaptation) และความเชื่อมโยงระหว่างการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับความหลากหลาย ทางชีวภาพเป็นสิ่งสำคัญโดย UNDP พร้อมที่จะร่วมผลักดัน และสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศไทยต่อไป


รายงานประจ าปี 2565 181 | P a g e วันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกล่าว ปาฐกถาพิเศษในงาน Bangkok Post Conference 2022 ภายใต้หัวข้อ The Future of Food forum ผ่านระบบ VDO Conference ซึ่งเป็นเวทีให้ผู้เข้าร่วมประชุม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร การปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การขาดแคลน อาหาร และการจัดการระบบอาหารอย่างยั่งยืน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงบทบาทของประเทศไทย ในฐานะครัวของโลก ผลกระทบของสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 สถานการณ์ ยูเครน - รัสเซีย รวมถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมของโลก ที่กำลังเผชิญ ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ จากสารเคมีและขยะพลาสติก ซึ่งล้วนมีผลกระทบ ต่อความมั่นคงทางอาหาร ในขณะเดียวกัน การจัดการ ระบบอาหารที่ยังไม่มีประสิทธิภาพก็ยังก่อให้เกิด การสูญเสียอาหาร (Food Loss) และการเกิดขยะอาหาร (Food waste) ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร รวมถึง ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน และได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็น ปัจจัยพื้นฐานของความมั่นคงทางอาหาร โดยชูนโยบาย BCG Model เพื่อสร้างสมดุลของความหลากหลาย ทางชีวภาพ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญของอาหาร ยา และสมุนไพรต่างๆ การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ การนำเทคโนโลยีที่เหมาะสม และใช้องค์ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดทำ แผนการจัดการขยะอาหาร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลด ขยะอาหารให้ได้ 50% ภายในปี ค.ศ. 2030 นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้เผยแพร่ผลงานของกระทรวงฯ ให้ผู้เข้าร่วมการประชุมทราบถึงการดำเนินโครงการ จัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ Nan Sandbox โครงการ Rice NAMA และการร่วมมือกับภาคเอกชนในการลด การใช้พลาสติกในร้านกาแฟ เพื่อลดขยะอาหาร และการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง พร้อมเน้นย้ำถึง ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ลงทุนในแนวคิด และนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านอาหารอีกด้วย


รายงานประจ าปี 2565 182 | P a g e วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้แทน จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง และองค์การบริหารจัดการ ก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้ร่วมหารือ ผ่านระบบการประชุมทางไกลกับนายยามากูชิ ไมเคิล สึโยชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม แห่งประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึง ความร่วมมือและการดำเนินงานในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบรรลุ เป้าหมายตามที่ประเทศไทยได้ประกาศความเป็นกลาง ทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) ภายใต้เงื่อนไขการสนับสนุนทางการเงิน และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่และเท่าเทียม


รายงานประจ าปี 2565 183 | P a g e วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 18.30 น. ขอเชิญ ร่วมรับฟัง "นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถ้อยแถลงในงาน “A Healthy Planet for the Prosperity of All: Innovation for Sustainability” ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ เพื่อเชื่อมโยงกับการประชุม Stockholm+50 ในวันที่ 2 – 3 มิถุนายน 2565 และสร้างความตระหนักถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ในมิติและภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงสร้างการส่งเสริม และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการ กระชับความร่วมมือกับสวีเดนในด้านสิ่งแวดล้อม โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม


รายงานประจ าปี 2565 184 | P a g e สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม จัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “A Healthy Planet for the Prosperity of All: Innovation for Sustainability” เพื่อเชื่อมโยงกับการประชุม Stockholm+50 รวมถึง เป็นโ อกาสกระช ับความร่ว มมือกับสวีเดน ในด้านสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดยมีหลากหลายภาคส่วน อาทิ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการทั้งของไทยและสวีเดน เข้าร่วม ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถ้อยแถลง ในช่วงพิธีเปิดว่าจากการประชุมสตอกโฮล์ม เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งประชาคมโลกได้ให้ความสำคัญ กับปัญหาสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการใช้ประโยชน์ จากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างไร้ขีดจำกัด และจำเป็นต้องได้รับการแก้ปัญหา สำหรับประเทศไทย ได้มุ่งมั่นการดำเนินงานโดยเน้นความสมดุลในทุกมิติ โดยใช้ BCG Model เป็นแนวทางในการฟื้นฟูความแข็งแกร่ง ของประเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และประเทศไทย ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มากที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ หนึ่งในสิบอันดับแรกของโลก ด้วยจุดแข็งนี้ ประเทศไทย จึงได้รับการยอมรับว่าเป็น “ครัวของโลก” อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติทางการเกษตร แบบเดิมต่อไปได้ จึงต้องหันมาปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ โดยใช้เทคโนโลยีการเกษตร นวัตกรรมบนพื้นฐาน ของภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ ประกาศเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยต้องได้รับ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและการเงิน ตลอดจน การสร้างขีดความสามารถจากพันธมิตรระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยจำเป็นต้องเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ ในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาจัดการกับวิกฤต สภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ร่วมดำเนินงาน กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการบูรณาการเป้าหมาย ไว้ในยุทธศาสตร์ นโยบาย และแผนระดับชาติ และจากการบังคับใช้ข้อตกลงปารีส ถือเป็นโอกาส อันดีที่จะสร้างให้เกิดคาร์บอนเครดิต หรือ Green Gold ทั้งในภาคพลังงาน ภาคอุตสาหกรรม และภาคป่าไม้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากยุค Black Gold ไปสู่ Green Gold และเน้นย้ำว่า การเข้าสู่ยุค Green Gold จำเป็นต้องมี Green coin ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีบล็อกเชน และสกุลเงินดิจิทัล จะสามารถสร้างรายได้ให้กับ คนในท้องถิ่นควบคู่กับการปกป้องสิ่งแวดล้อมโลก


รายงานประจ าปี 2565 185 | P a g e วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าว Bloomberg เกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติก ในประเทศไทย มีความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมของประชาชน ให้มีการลด ละ เลิก การใช้พลาสติก ซึ่งถือได้ว่า เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ การดำเนินนโยบายภาครัฐประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงปัญหาการลักลอบนำเข้า ขยะพลาสติกผิดกฎ หมายจากต่างประเท ศ ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษได้ติดตามเรื่องดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการตรวจสอบ ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ และมีมาตรการลดการนำเข้า เศษพลาสติก โดยนำเข้าเฉพาะเศษพลาสติกบางชนิด ที่ประเทศไทยมีไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นวัตถุดิบ ในกระบวนการผลิตเท่านั้น และจะใช้เศษพลาสติก ภายในประเทศมารีไซเคิลให้ได้ ร้อยละ 100 ภายใน ปี พ.ศ. 2570 ซึ่งเป็นไปตาม Roadmap การจัดการ ขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2570 ทั้งนี้ จะต้องเป็นไป ตามหลักการที่ว่า ผู้ใด หรือประเทศใดก่อให้เกิดขยะ ก็จะต้องเป็นผู้จัดการกับขยะเหล่านั้น


รายงานประจ าปี 2565 186 | P a g e วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.30 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายการต่างประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้หน่วยงาน จัดทำปฏิทินการประชุมระหว่างประเทศในระดับต่าง ๆ โดยมีการจัดลำดับความสำคัญ เพื่อสามารถวางแผน การเดินทางและงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่งเสริมให้ประเทศไทยริเริ่มบทบาทนำด้านตลาด คาร์บอนเครดิตในภูมิภาคอาเซียน ที่มีประเทศคู่เจรจา อาเซียนเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อม และศึกษาวิเคราะห์ในการกำหนดท่าทีต่อข้อผลักดัน ของต่างชาติ มีการเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วม ประชุม COP CBD สมัยที่ 15 ที่แคนาดา เป้าหมาย ความหลากหลายทางชีวภาพของโลก ภายหลัง ปี ค.ศ. 2020 เป้าหมายปกป้องคุ้มครองพื้นที่บนบก และทะเลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของพื้นที่โลก ภายในปี ค.ศ. 2030 และมีการอนุวัติในประเทศร่วมด้วย ทั้งพระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. .... การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การปรับปรุงมาตรฐาน การค้าไม้อย่างมีธรรมาภิบาล การออกกฎหมายลูก ของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ให้เป็นไปตามอนุสัญญาไซเตส รวมถึงการ ดูแลสวัสดิภาพสัตว์และการส่งออกสัตว์ไปต่างประเทศ


รายงานประจ าปี 2565 187 | P a g e การประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) หรือ TCAC จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 6 สิงหาคม 2565 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “อนาคตไทย อนาคตโลก: โอกาส และความรับผิดชอบ (Our Future: Our Responsibility, Our Opportunity)” นับเป็นการประชุมที่จำลองรูปแบบ การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) มาจัดในระดับประเทศ เป็นครั้งแรกของโลก เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของประเทศไทย ที่เน้นการมีส่วนร่วมจากหลากหลาย ภาคส่วน โดยเฉพาะภาคท้องถิ่น ตลอดจนเพื่อให้ ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายเกิดความตระหนักรู้ และตื่นตัวให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนประเทศ ไปสู่เป้าหมาย Net Zero ร่วมกัน ซึ่งการจัดประชุม ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณให้กับทั่วโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญและเดินหน้าขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และพร้อมที่จะมีความร่วมมือ กับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศของไทยและของโลก


รายงานประจ าปี 2565 188 | P a g e


รายงานประจ าปี 2565 189 | P a g e 1. ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แบ่งปันประสบการณ์ นำไปสู่การขับเคลื่อนการดำเนินงานภายในประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงความสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่โครงการ ที่ได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศ สู่การขับเคลื่อนงาน ในเชิงพื้นที่ 2.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย เพื่อต่อยอด และผลักดันไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการบรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายใน ปี ค.ศ. 2065 ต่อไป


รายงานประจ าปี 2565 190 | P a g e เมื่อวันที่ 29สิงหาคม 2565 ณ ห้องอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับมูลนิธิ แม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการจัดการ คาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระหว่าง กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การ บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อผลักดันกลไกนำป่าชุมชน และพื้นที่ป่าอื่น ๆ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ขึ้นทะเบียนภายใต้โครงการลด ก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐาน ของประเทศไทย (T-VER) สู่การปฏิบัติจริง พร้อมเชื่อมพลัง ไตรภาคี รัฐ เอกชน และชุมชนช่วยกันดูแลผืนป่าไทย ให้อุดมสมบูรณ์ สร้างรายได้กลับคืนให้ชุมชนจากการ ขายคาร์บอนเครดิต ความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ คาดว่า จะเกิดความร่วมกับทุกภาคส่วนในการส่งเสริม ให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อเป็นแหล่ง ดูดซับก๊าซเรือนกระจกกว่า 1,000,000 ไร่ จากพื้นที่ป่า ที่อยู่ในการดูแลของทั้ง 3 กรม ส่งผลให้มีประชาชน ได้รับประโยชน์อีกกว่า 1,100 ชุมชน และมีปริมาณ คาร์บอนเครดิตรวม 300,000 - 500,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี บรรลุเป้าหมาย ของโครงการฯ ที่จะเข้าไปพัฒนาทั้งการเพิ่มพื้นที่ป่า และสร้างสังคมให้คนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกับป่า และมีอาชีพได้อย่างยั่งยืน


รายงานประจ าปี 2565 191 | P a g e วันที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 16.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารจากสำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การ บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้ร่วมหารือกับนายเดวิด เติร์ก (Mr. David Turk) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งประสงค์จะหารือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานประสานการดำเนินงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ในประเด็นความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศในภาคพลังงาน เพื่อให้ประเทศไทย สามารถบรรลุตามเป้าหมายความเป็นกลาง ทางคาร์บอน ภายใน ค.ศ. 2050 และการปล่อย คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065


รายงานประจ าปี 2565 192 | P a g e วันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 16.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ รายการ Newsline รายการข่าวภาคภาษาอังกฤษ เพื่อออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 (NBT) ในประเด็นผลการประชุมรัฐมนตรี เอเปคด้านป่าไม้ ครั้ง 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry หรือ MMRF5) ณ ห้องรับรอง ชั้น 20 อาคารกระทรวงฯ โดยมี คุณแซนดรา หาญอุตสาหะ เป็นผู้ดำเนินการสัมภาษณ์ โดยนายวราวุธ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการประชุม ครั้งนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อระหว่าง วันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ ในโอกาสที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ เขตเศรษฐกิจเอเชีย - แปซิฟิก หรือเอเปค 2022 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 การประชุม MMRF5 เป็นการพบปะกันครั้งแรกของผู้แทนทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ภายหลังจากเกิดวิกฤตการณ์โควิด - 19 และภายหลัง จากที่สมาชิกเอเปคได้ร่วมกันดำเนินงานด้านป่าไม้ จนสามารถบรรลุเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ของภูมิภาคได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2563 โดยในการประชุม ประเทศไทยยังได้ผลักดัน แนวนโยบาย Bio Circular Green Economy (BCG Economy) ต่อที่ประชุมเพื่อดำเนินการบูรณาการ ทั้งการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ การป้องกันการค้าไม้ผิดกฎหมาย และส่งเสริมการค้าไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ที่ถูกกฎหมาย


รายงานประจ าปี 2565 193 | P a g e วันที่ 29 กันยายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ Ms. Inger Andersen รองเลขาธิการสหประชาชาติและผู้อำนวยการบริหาร โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) และผู้แทน UNEP ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อรับทราบนโยบาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ของประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากกรมทรัพยากร ท า ง ท ะ เ ล แ ล ะ ช า ย ฝ ั ่ ง ก ร ม ค ว บ ค ุ ม ม ล พิ ษ และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม ณ ห้องประชุม ชั้น 20 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม Ms. Inger Andersen ได้ชื่นชมบทบาทของประเทศไทย ในการประชุม UNEA 5.2 ในการเจรจาข้อมติ ด้านพลาสติก และด้านของเสียและสารเคมี รวมทั้ง การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม OEWG on Science-Policy Panel to contribute further to the sound management of chemicals and waste and to prevent pollution ครั้งที่ 1 ในช่วงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ 2566 และชื่นชมการดำเนินงาน ด้านสิ่งแวดล้อมของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา ขยะพลาสติก การจัดตั้งตลาดคาร์บอน และขอบคุณ ที่ประเทศไทยสนับสนุนและเป็นที่ตั้งของสำนัก เลขาธิการ COBSEA (Coordinating Body on the Seas of East Asia) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตอบเน้นย้ำว่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการจัดการพลาสติก ผ่านการผลักดัน มาตรการต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการแก้ไขปัญหา อาทิ การห้ามใช้ถุงพลาสติกใช้ครั้งเดียว การสร้างมาตรฐาน การผลิตพลาสติก การส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยี การรีไซเคิล (Recycle) และอัพไซเคิล (Upcycle) และสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ มีการผลักดันการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอื่น ๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุ เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การผลักดัน และสนับสนุนการจัดตั้งตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ ภายในประเทศ ทั้งนี้ UNEP พร้อมที่จะสนับสนุน ด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสนับสนุน การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ของประเทศไทย ต่อไป


Click to View FlipBook Version