รายงานผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 (Practicum 1) นางสาวญาณินี สมพงษ์ รหัสนักศึกษา 65111562045 ชั้นปีที่ 1 ห้อง 2 สาขาวิชา การศึกษาปฐมวัย ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2565 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
คำนำ รายงานผลการฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 (Practicum 1) ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของ รายวิชาฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1 (1001803) จัดทำขึ้นเพื่อรายงานผลการฝึก ปฏิบัติงานในสถานศึกษาตลอดระยะเวลา 15 วัน ณ โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีซึ่ง รายงานฉบับนี้ประกอบไปด้วยข้อมูลสถานศึกษาข้อมูลหลักสูตรสถานศึกษาผลการศึกษา สังเกตงานในหน้าที่ครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษา งานในหน้าที่ครูผู้สอน การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้การศึกษาพฤติกรรมนักเรียนรายกรณีและบันทึกรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทำการบันทึกผล การปฏิบัติหน้าที่ครูประจำชั้นครูผู้สอนรวมไปถึงผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อรายงานให้ อาจารย์ผู้สอนรับทราบต่อไป นายสาวญาณินี สมพงษ์ (นักศึกษาฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน 1)
สารบัญ หน้า ตอนที่ 1 ข้อมูลหลักสูตรสถานศึกษา.................................................................................................... -แบบสังเกตและมีส่วนร่วมการบริหารจดัการในสถานศึกษา -แบบสังเกตงานการประกนัคุณภาพภายในสถานศึกษา ตอนที่ 2 ศึกษาสังเกตบริบทสถานศึกษาและความสัมพันธ์กับชุมชน................................................ -ขอ้มูลเกี่ยวกับสถานศึกษา -ขอ้มูลความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ตอนที่ 3 ศึกษางานในหน้าที่ครู.......................................................................................................... -รายงานการปฏิบัติงานประจำวัน -การสังเกต การปฏิบัติหน้าที่ครู -การสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู -แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน -แบบสังเกตการจัดบรรยากาศชั้นเรียน -แบบรายงานผลการศึกษารายกรณี -การศึกษาผู้เรียน ตอนที่ 4 ผลการประเมิน................................................................................................................. .... -แบบประเมินคุณลักษณะและการปฏิบัติตนของนักศึกษา (บส.1) ผู้บริหารสถานศึกษา -แบบประเมินการศึกษารายกรณี (บส.2) ผู้บริหารสถานศึกษา -แบบประเมินคุณลักษณะและการปฏิบัติตนของนักศึกษา (บส.1)ครูพี่เลี้ยง -แบบประเมินการศึกษารายกรณี (บส.2)ครูพี่เลี้ยง ภาคผนวก......................................................................................................... .................................. -บัญชีลงเวลาการปฏิบัติงาน -ภาพถ่ายกิจกรรม
ตอนที่ 1 ข้อมูลสถานศึกษา 1.ชื่อโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 ถนน พรพิบูรย์อุทิศ ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี รหัสไปรษณีย์ 61000 โทรศัพท์ 0-5651-1589 E-mail: [email protected] 2. ชื่อผู้อำนวยการ นายสมเกียรติ มาแก้ว ฝ่ายวิชาการ นายปัญญา อินทสินธิ์ ฝ่ายธุรการ นางสาวศศิกานต์ ทวีทา ฝ่ายทั่วไป นายอนุกูล สุขนันท์ ฝ่ายบุคคลนางกนกพร กรเอี่ยม 3. รายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษา 1. นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา 2. พระมหาโกมล นิรมโล ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ 3. พระมหาธีรเมธี ธีรวํโส ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ 4. นายจักรกริศน์ ทิพย์รังษี ผู้แทนองค์การท้องถิ่น 5. นางพิณรัตน์ ผูกใจเพื่อน ผู้แทนศิษย์เก่า 6. นางสุธานันท์ จตุรภัทร ผู้แทนองค์กรชุมชน 7. นางตถาพร สิทธิสมาน ผู้ทรงคุณวุฒิ 8. นายสำราญ แถมพยัค ผู้ทรงคุณวุฒิ 9. นายมนต์ชัย เพ็งคล้าย ผู้ทรงคุณวุฒิ 10. นางเยาวลักษณ์ ชำนิเขตกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิ 11. นางอรสา พุฒอินทา ผู้ทรงคุณวุฒิ 12. ดร.เชน หมั่นเขตรกิจ กรรมการและเลขานุการ 4. ปรัชญาของโรงเรียน วิริเยนะ ทุกขมะเจติ แปลว่า คนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
5. วิสัยทัศน์ของโรงเรียน มุ่งการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพทุกด้านสู่มาตรฐานสากลบนพื้นฐานของ ความเป็นไทย ใช้แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษา มีคุณธรรมนำความรู้ นำปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 6. พันธกิจของโรงเรียน 1. จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2. พัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะของเป้าหมายโรงเรียนมาตรฐานสากล (ล้ำเลิศวิชาการ สื่อสาร สองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ รับผิดชอบต่อสังคมโลก 3. พัฒนาศักยภาพนักเรียนให้มีสมรรถนะตามหลักสูตร คุณลักษณะพี่พึงประสงค์ และคุณลักษณะ ในศตวรรษที่ 21 4. สร้างโอกาส ให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง อย่างมีคุณภาพ 5. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. พัฒนาระบบการบริหารจัดการสถานศึกษา มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษา 7. ยุทธศาสตร์ของโรงเรียน 1. จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง 2. พัฒนาคุณภาพนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ 3. พัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 4. สร้างโอกาสในการเข้าถึงการบริหารการศึกษาที่มีคุณภาพ 5. จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. พัฒนาระบบการบริหารจัดการสถานศึกษา 8. อัตลักษณ์ของโรงเรียน จัดการศึกษาได้มาตรฐาน สืบสานวัฒนธรรม 9.คำขวัญของโรงเรียน เรียนเด่น สุขภาพดี มีวินัย ใฝ่จริยธรรม 10.สัญลักษณ์ และตราประจำโรงเรียน
11.ข้อมูลบุคลากร 1) ผู้บริหารและรองผู้บริหาร จำนวน 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน 2) ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 82 คน ชาย 21 คน หญิง 61 คน แยกตามวุฒิการศึกษา ดังนี้ ปริญญาเอก จำนวน 2 คน ปริญญาโท จำนวน 17 คน ปริญญาตรี จำนวน 62 คน อื่นๆ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ ลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 5 คน 12. ข้อมูลนักเรียน นักเรียนทั้งหมด จำนวน 1,427 คน ชาย 708 คน หญิง 719 คน ชั้น อนุบาล1 จำนวน 50 คน ชั้น อนุบาล2 จำนวน 138 คน ชั้น อนุบาล3 จำนวน 117 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่1 จำนวน 200 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่2 จำนวน 189 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่3 จำนวน 198 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่4 จำนวน 176 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่5 จำนวน 199 คน ชั้น ประถมศึกษาปีที่6 จำนวน 160 คน 13. ประวัติโรงเรียน (โดยสังเขป) โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี เป็นโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต ๑ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ก่อตั้งขึ้นจากการรวมโรงเรียนเข้าด้วยกันคือ โรงเรียนอนุบาลอุทัยธานี(อนุบาล ประจำจังหวัด) กับโรงเรียนเมืองอุทัยธานี (โรงเรียนประจำอำเภอ) ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการ การประถมศึกษาแห่งชาติ ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2527 โดยเปิดทำการสอนครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2528 มีจำนวนนักเรียน 1,086 คน ข้าราชการครู จำนวน 54 คน ลูกจ้างประจำ 7 คน ลูกจ้างชั่วคราว (คนครัว) 8 คน โดยมีผู้บริหารตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ คือ นางยุพี กาญจนชม และมีนายเมธี อนุดิษย์ เป็นผู้ช่วย อาจารย์ใหญ่ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน 2 หลัง (อาคารเรียนแบบ 414 จำนวน 14 ห้องเรียน 2 ห้องพักครู, อาคารเรียน 416 แบบ 3 ชั้น 24 ห้องเรียนใต้ ถุนโล่ง), อาคารอเนกประสงค์1 หลัง ห้องส้วม 4 ที่นั่ง
แบบสังเกตและมีส่วนร่วมการบริหารจัดการในสถานศึกษา โรงเรียน อนุบาลเมืองอุทัยธานี สังเกตเมื่อวันที่8 เดือน กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 12:30 ผู้สังเกต นางสาวญาณินี สมพงษ์วิชาเอก การศึกษาปฐมวัย ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ 1 งานด้านวิชาการ งานพัฒนาและส่งเสริมวิชาการ - จัดทำเอกสารปฏิทินการปฏิบัติงาน กลุ่มบริหารวิชาการคู่มือครูและ นักเรียนำเนินการปฏิบัติตาม แผนงานวิชาการ - ประเมินผลการดำเนินงานวิชาการ นำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนา งาน ของกลุ่มวิชาการ ได้เรียนรู้วิธีการทำงานของฝ่าย วิชาการ การจัดทำเอกสารต่างๆ 2 งานด้านบุคคล - วางแผนอัตรากำลังความดี ความชอบ และขวัญกำลังใจ - จัดการงานบุคลากร งานวินัย กฎหมายงานยุวกาชาด งานกีฬา นักเรียน งาน ประชาธิปไตย โรงเรียน - กิจกรรมแสดงความยินดีและ ประกาศเกียรติคุณบุคลากรดีเด่น พิธีกร ประชุมครู ได้เรียนรู้ว่างานด้านบุคคลเป็นงาน สำคัญงานหนึ่ง ที่จะทำให้โรงเรียน ประสบความสำเร็จ 3 งานด้านงบประมาณ -งานจัดทำแผนงบประมาณและคำ ขอตั้งงบประมาณเพื่อเสนอต่อ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ -งานจดัทำแผนปฏิบัติการใช้จ่ายเงิน ตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้น งานด้านงบประมาณการ ปฏิบัติงาน ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ความถูกต้องสามารถตรวจสอบ ได้มีการวางแผนในการทำงาน
พื้นฐานโดยตรง -งานอนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณที่ ได้รับจัดสรร -งานขอโอนและการขอ เปลี่ยนแปลงงบประมาณ -งานรายงานผลการเบิกจ่าย งบประมาณ -งานตรวจสอบติดตามและรายงาน ใช้ผลิตงบประมาณ -งานวางแผนพัสดุและงานกำหนด รูปแบบรายการ และคุณลักษณะ เฉพาะของครุภัณฑ์ 4 งานด้านบริหารงาน ทั่วไป-งานพัฒนาระบบและเครือข่าย ข้อมูลสารสนเทศ -งานประสานและพัฒนาเครือข่าย การศึกษา -งานวางแผนการบริหารงาน การศึกษา -งานวิจัยเพื่อพัฒนานโยบายและ แผน -งานจัดระบบการบริหารและพัฒนา องค์กร -งานดำเนินธุรการ -งานดูแลอาคารสถานที่ -งานกิจการนักเรียนและงานปรับ ควบคุมพฤติกรรม งานด้านบริหารงานทั่วไปให้ คำปรึกษาแนะนำถ่ายทอดความรู้ การบริหารงานทั่วไป ให้แก่ บุคลากรในกลุ่มงานเพื่อให้มี ความเข้าใจและสามารถ ปฏิบัติงานไดอ้ย่างถูกต้อง ลงชื่อ................................................ (นางสาวญาณินี สมพงษ์) นักศึกษา
แบบสังเกตงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียน อนุบาลเมืองอุทัยธานี สังเกตเมื่อวันที่23 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ถึง วันที่10 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ผู้สังเกต นางสาวญาณินี สมพงษ์ วิชาเอก การศึกษาปฐมวัย ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ 1 คุณภาพการศึกษา ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก นักเรียน ตั้งใจเรียน โรงเรียนได้คำนึงถึง ความสำคัญในการจัดคุณภาพ ในการศึกษา 2 การประกันคุณภาพ การศึกษา ทางโรงเรียนมีการดำเนินการ ประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อ ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา อย่างเป็นระบบมีผลการประเมิน คุณภาพในระดับคุณภาพดีและ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนมีความพึงพอใจใน การยกระดับคุณภาพทางการศึกษา ของโรงเรียน ได้รับความรู้ว่าทุกโรงเรียนจะต้อง มีการประกันคุณภาพการศึกษา เพราะจะทำให้ผู้ปกครองและ นักเรียนเชื่อถือเรื่องการเรียนที่ดี ทำให้นักเรียนสนใจเรียนมากขึ้น 3 จุดเน้น จุดเด่น ที่ส่งผล สะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของ สถานศึกษา ส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมด้านความสามารถพิเศษของ นักเรียน การส่งเสริมให้นักเรียนมี ระเบียบวินัย ประพฤติปฏิบัติตนให้ อยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียน การใส่ใจในตัวนักเรียน และให้ ความสนับสนุนในสิ่งที่เด็กถนัด หรือชอบในทางที่ดี 4 เกียรติยศ ชื่อเสียง และ ผลงาน/โครงการดีเด่นของ สถานศึกษา การส่งเสริมดา้นความสามารถพิเศษ ของนักเรียน คือด้านกีฬาและการ เล่นแข่งวิชาการ ครูในโรงเรียนนั้นให้ความสำคัญ ใน การสร้างชื่อเสียงให้กับ โรงเรียน ลงชื่อ................................................ (นางสาวญาณินี สมพงษ์) นักศึกษา
ตอนที่ 2 ศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษา และความสัมพันธ์กับชุมชน วัตถุประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษา และชุมชน ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเด็น ดังนี้ 1. ทำเล ที่ตั้งของสถานศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน 2. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอื่นๆ 3. ห้องเรียน และเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องเรียน 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรือนพยาบาล 5. โรงอาหาร / ที่รับประทานอาหาร 6. โรงประชุม / หอประชุม 7. ห้องพักครู 8. ห้องสมุด / หอสมุด 9. ห้องปฏิบัติการต่างๆ (วิทยาศาสตร์ฯลฯ) 10. น้ำดื่ม / น้ำใช้ 11. ห้องน้ำ / ห้องส้วม / ที่ปัสสาวะ 12. สนามกีฬา / สนามเด็กเล่นต่างๆ 13. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 14. แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า / อ้างอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลี้ยง / นักเรียน
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา 1. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอื่นๆ อาคารเรียนหลังที่ 1 อาคารสมาธิเป็นอาคารเรียนตึกสูง 3 ชั้น มีห้องต่างๆดังนี้ ห้องผู้อำนวยการ, ห้องรองผู้อำนวยการ, ห้องธุรการ, ห้องการเงิน-พัสดุ, ห้องวิชาการ, ห้องสมุด, ห้องปฏิบัติการคณิตศาสตร์, ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์, ห้องนาฏศิลป์, ห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษ, ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง, ห้องปฏิบัติการภาษาไทย, ห้องสืบค้น ICT, ห้องปฏิบัติการสังคมศึกษา, ห้องพระพุทธศาสนา, ห้องพักครู, ห้องปฐมพยาบาล,ห้องเรียนสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 – 6 อาคารเรียนหลังที่ 2 อาคารปัญญา เป็นอาคารเรียนตึกสูง 2 ชั้น มีห้องต่างๆดังนี้ ห้องเรียนอนุบาล1 4 ห้อง ห้องเรียนอนุบาล2 4 ห้อง ห้องเรียนอนุบาล3 4 ห้อง ห้องเรียนประถมศึกษาปีที่1 6 ห้อง ศูนย์สื่อปฐมวัย ห้องศูนย์สื่อห้องเรียนสองภาษา ห้องปฏิบัติการปฐมวัย
อาคารเรียนหลังที่ 3 อาคารศีล อาคารเรียน แบบ สปช.105/29 สร้างเมื่อ พ.ศ. 2543 อาคารหลังที่ 3 เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ประกอบด้วย ห้องเรียนระดับชั้น อนุบาลปีที่ 2-3 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 -6 ห้องพักครูชาวต่างชาติและสำนักงานโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เป็นภาษาอังกฤษ อาคารเรียนหลังที่ 4 อาคารไทยเศรษฐ์อาคารเรียน สร้างเมื่อ 2556 เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบด้วย ห้องธุรการ ห้องเรียน 2 ภาษา ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่1 – ประถมศึกษาปีที่ 6 อาคาร 318 ล/55-ก อาคารเรียน สร้างเมื่อ 2561 เป็นอาคาร 4 ชั้น 2.ทำเลที่ตั้ง
2. ห้องเรียน และเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องเรียน ห้องเรียนระดับชั้นอนุบาล ห้องเรียนจะมีความแตกต่างกัน เพราะโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี จัดการ เรียนการสอนเป็น 2 ระดับ คือ ระดับปฐมวัยและระดับประถมศึกษา ซึ่งเปิดทำการสอนห้องเรียนปกติและ ห้องเรียนพิเศษ (Mini English Program : MEP) ดังนั้นห้องเรียนจึงมีความแตกต่างกัน ของระดับอนุบาล ห้องปกติจะเป็นห้องที่เป็นพัดลม เครื่องใช้ในห้องเรียนก็จะมี ตู้กดน้ำสำหรับครูและเด็ก ตู้เย็น โทรทัศน์ โน๊ตบุ๊ค เครื่องปริ้นเตอร์ โต๊ะทำงานของครู กระดานไวท์บอร์ด ที่แขวนกระเป๋าอุปกรณ์แปรงฟัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนและระบายสี ชั้นที่ใส่ผลงานนักเรียน ตู้วางกระเป๋าของนักเรียน ตู้ที่ใส่ที่นอนรักเรียน ตู้ใส่ที่นำไว้ใส่เอกสารของครู ส่วนอื่น ๆ ก็มีสื่อการสอน ป้ายนิเทศ ตัวเลข พยัญชนะไทย พยัญชนะอังกฤษ สัปดาห์ เดือน และคำอ่านภาษาอังกฤษ ตารางสี หนังสือนิทาน สื่อเกี่ยวกับการบวกเลข ผลไม้ สื่อรูปภาพสัตว์ ตัวต่อ อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกายนอกห้องเรียนลูกบอล ตระกล้า กรวย และตอนนี้อยู่ในมาตรการโควิด ในแต่ละห้องนั้นจะมี แอลกอฮอล์อยู่หน้าอยู่ในห้อง และจะมีป้ายนิเทศตามมาตรการของโรงเรียน คือ การล้างมือ และการป้องกัน การใส่แมส ส่วนห้อง MEP อุปกรณ์ของครูและในห้องก็จะคล้ายกันแต่จะมี สิ่งที่แตกต่าง คือ จะเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะสำหรับเด็กอยู่หน้าห้องเรียน ในส่วนของห้องปกติจะไม่มีเรียนกับพื้น แต่มีการเว้นระยะห่าง และห้อง MEP จะมีตู้ล็อคเกอร์ของเด็กแต่ละคนเพื่อนำไว้ใส่ผลงานของแต่ละคน ในส่วนของสื่อการเรียนการสอน ป้ายนิเทศ จะคล้ายกัน ห้องเรียนระดับชั้นประถม มีการจัดการเรียนการสอน 2 ระดับเช่นเดียวกับระดับอนุบาล และห้องเรียน ทั้ง ระดับก็คล้ายกับอนุบาลคือมีทั้งห้องแอร์และพัดลมที่แตกต่างกันคือภายในห้องเรียนนั้นจะมีโต๊ะสำหรับไว้ให้เด็ กเรียนส่วนสื่อการสอนก็จะมีที่เกี่ยวกับห้องเรียนแต่ละวิชานั้น ๆ แต่ละห้องนั้น
3. ห้องพักครู ห้องปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่ ห้องพักครูที่ได้สังเกตคือครูระดับชั้นอนุบาลจะพักอยู่ที่ห้องที่เป็นครูประจำชั้นเพราะเด็กนักเรียนระดับอนุบาล จำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยตลอดเวลาครูละดับชั้นประถมศึกษาจะมีครูประจำชั้นแต่ละระดับชั้นก็พักอยู่ที่ห้องที่ตน เองเป็นครูประจำชั้นส่วนครูที่ไม่ได้เป็นครูประจำชั้นและครูชาวต่างชาติจะมีห้องพักครูที่เป็นส่วนหนึ่งของ อาคารศีล ห้องปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่ ห้องปฏิบัติงานจะเป็นห้องปฏิบัติงานสำหรับครูอย่างชัดเจนแต่ละวิชาครูแต่ละคนจะมีห้องปฏิบัติงานของตนเอ งอยู่ส่วนห้องของเจ้าหน้าที่จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาของมีการจัดเรียนเป็นระเบียบซึ่งอยู่ระหว่างอาคารสมา ธิกับอาคารปัญญา 4. ห้องปฏิบัติการต่างๆ (วิทยาศาสตร์,คอมพิวเตอร์,ศูนย์ภาษา ฯลฯ) ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ใช้ในการทดลองมีอุปกรณ์ในการทดลองที่ค่อนข้างครบถ้วนอุปกรณ์มีการเก็บอย่าง เป็นระเบียบห้องวิทยาการคำนวณห้องคอมพิวเตอร์มีคอมพิวเตอร์และต่ออินเตอร์เน็ตเพียงพอสำหรับใช้ในการ เรียนการสอนการเดินสายไฟปลอดภัยกับใช้งาน มีศูนย์ภาษาที่ให้ความรู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับภาษา ภายในห้องมีหนังสือ และสื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับภาษา 5. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ/สนามเด็กเล่น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของโรงเรียนนั้นมีเยอะมาก ๆ ที่เห็นได้ชัดเจน คือทางโรงเรียนจะมีศาลาแต่ละศาลานั้นจะมีชื่อ คือ ศาลาเมตตา ศาลามุทิตา ศาลากรุณา และจะมีศาลาตามจุดต่าง ๆ อีกและจะมีชุดโต๊ะไม้อยู่ด้านหลังของอาคารอเนกประสงค์ และจะมีโต๊ะหิน ที่เป็นลักษณะของสัตว์และผลไม้ต่างๆที่จัดตามอาคารและอยู่ตรงอาคารอเนกประสงค์ที่สำหรับให้ผู้ปกครองได้ นั่งรอเด็ก ในส่วนของสนามกีฬานั้นเป็นสนามที่มีขนาดใหญ่ใช้จัดกิจกรรมใช้เข้าแถวเสาธงในบางโอกาสและใช้ทำกิจกรร ม การเล่นกีฬา สนามเด็กเล่นนั้นจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่พอเล่นสำหรับเด็ก จะจัดให้อยู่ด้านหลังของอาคารอเนกประสงค์จะเล่นในช่วงเย็นช่วงที่รอผู้ปกครองมารับ
ข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน 1. ศึกษาบริบทของชุมชนที่สถานศึกษาตั้งอยู่ ดังนี้ - ประวัติพื้นที่ตั้งอยู่ เลขที่ 1 ถนน พรพิบูลย์อุทิศ ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี 61000 เบอร์โทร 056511589 - ขนาดพื้นที่ มีเนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา - ลักษณะภูมิอากาศ – ตำบลสะแกกรัง มีอากาศไม่ค่อยแห้งแล้ง ฤดูในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศา ดูร้อน อากาศร้อนจัด วัดอุณหภูมิเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส ฤดูฝน ฝนเริ่มตกในช่วงเดือนเมษายน – พฤศจิกายน มักเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงใน เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปริมาณน้ำ ฝนตลอดปี 825-950 มิลลิเมตร - ลักษณะภูมิ– เป็นพื้นที่ลาบลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง ทางทิศตะวันตกของโรงเรียนมีภูเขาสะแกกรัง บริเวณเวณ ทิศ เหนือ มีแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่าน - อาณาเขตติดต่อ - ทิศเหนือ ติดต่อ เกาะเทโพ ทิศใต้ ติดต่อ ตำบลดอนขวาง ทิศตะวันออก ติดต่อ ตำบลหาดทะนง ทิศตะวันตก ติดต่อ อุทัยใหม่ - จำนวนประชากร 329,433 คน - ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นในตำบลสะแกกรัง ประชากรส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม ประมงพื้นบ้าน ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ดังนี้ • กิจกรรมชุมชนโรงเรียนสัมพันธ์ โรงเรียนมีการส่งตัวแทนนักเรียนจิตอาสาไปช่วยงานต่างๆ ของทางวัดเนินตูม เช่น งานบวช งานศพ งานทด กฐิน ผ้าป่าสามัคคี และไปช่วยทำความสะอาดในชุมชนตามโอกาส • วิธีสร้างความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชน โรงเรียนมีการให้ความร่วมมือกับชุมชนเมื่อชุมชนขอความ ช่วยเหลือ หรือขอแรงงานช่วยกิจกรรมต่างๆใน ชุมชน • ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชนรของชุมชน และเพื่อได้รับความร่วมมือสนับสนุนจาก ชุมชนในกิจกรรมสร้างสรรค์พัฒนาต่างๆ อันนประโยชน์ต่อทั้งโรงเรียนอุทัยวิทยาคมและชุมชนใกล้เคียงอย่าง ยั่งยืน • การสร้างความคุ้นเคยของโรงเรียนกับสมาชิกของชุมชน การให้ควาร่วมมือกับชุมชนในการเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆที่ชุมชนจัดขึ้น และดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ
ให้กับชุมชนให้ยืมข้าวของเครื่องใช้ 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ดังนี้ - กิจกรรมชุมชนโรงเรียนสัมพันธ์ กิจกรรมปลอดยาเสพติดและอบายมุข และกิจกรรมโครงการภูมิปัญญาท้องถิ่น - วิธีสร้างความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชน การให้โรงเรียนให้ความรู้คนในชุมชน และช่วยกันจัดการปัญหาเรื่องยาเสพติดและอบายมุข เพื่อช่วยกันดูแลและคนในชุมชน และการจัดโครงการที่ให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อให้คนที่มีความรู้เรื่องภูมิปัญหาต่าง ๆ เข้ามาให้ความรู้กับเด็กและครูในโรงเรียน - ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชน
ตอนที่ 3 ศึกษางานในหน้าที่ครู คำชี้แจง ให้นักศึกษาบันทึกกิจกรรมในการปฏิบัติงานประจำวัน และงานในหน้าที่ครูลงในแบบรายงาน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1. รายงานการปฏิบัติงานประจำวัน ให้นักศึกษาบันทึกประจำวันตามสภาพจริงทุกวันเพื่อแสดงว่านักศึกษาได้ใช้เวลาในแต่ละวัน ปฏิบัติงานในหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายโดยให้ครูพี่เลี้ยงหรือบุคคลที่ผู้บริหารโรงเรียนมอบหมายลงนามทุก วัน 2. รายงานการศึกษางานในหน้าที่ครู ให้นักศึกษาบันทึกผลการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ รายการดังนี้ 1. สังเกตการณ์จัดการเรียนรู้ของครู 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน 3. สังเกตบรรยากาศชั้นเรียน 4. การศึกษารายกรณี
รายงานการปฏิบัติงานประจำวัน 1 วัน / 1 แผ่น จำนวน 15 วัน
การสังเกต และการปฏิบัติหน้าที่ครู สาระสำคัญ ครูผู้สอนมีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏิบัติตาม บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้นได้อย่างเหมาะสม วัตถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีจิตวิญญาณความเป็นครู 2. ระบุบทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้นในการช่วยเหลือและพัฒนาผู้เรียน เนื้อหาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู 2. จรรยาบรรณและวินัยครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ดีของครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู 3. กำหนดหัวข้อสำหรับการศึกษาสังเกตและสรุปลงในแบบบันทึก 4. นำผลการศึกษาสังเกตมานำเสนอเพื่ออภิปรายในชั้นเรียน สื่อการเรียนรู้ 1. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ครู 2. เอกสารประกอบการศึกษาด้วยตนเอง การวัดประเมินผล 1. ตรวจแบบบันทึกการสังเกต 2. สังเกตพฤติกรรมการให้ความร่วมมือในชั้นเรียน
1.ครูผู้สอนและครูประจำชันแสดงออกซึ่งความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูอย่างไร ครูผู้สอนและครูประจำชั้น แสดงออกถึงความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูอย่างยิ่ง ใจดีพูดจาไพเราะ เป็นกันเอง มารยาทดีบุคลิกภาพดีต่อผู้ร่วมงานและนักเรียนปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครูได้อย่าง เหมาะสมเป็นผู้รอบรู้ทันสมัยรักและเอ็นดูเด็ก ให้อภัยและช่วยเหลือเด็กอยู่เสมอ รักการสอนและมีการ เตรียมการสอนที่ดี มีเทคนิคและมีวิธีการสอนที่หลากหลายให้นักเรียนมีความรู้และมีความเข้าใจในเนื้อหาวิชา อย่างชัดเจน 2. ครูผู้สอนและครูประชั้นปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 2.1 จรรยาบรรณต่อตนเอง ครูผู้สอนมีจรรยาบรรณต่อตนเองที่เหมาะสม โดยการมาโรงเรียนและมาสอนตรงเวลา มีบุคลิกภาพที่ดี มีมารยาทพูดจาไพเราะเป็นกันเองกับนักเรียน 2.2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ครูผู้สอนมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพที่เหมาะสม โดยการมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย และปฏิบัติการสอนอย่างตั้งใจมีประสิทธิภาพ 2.3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ครูผู้สอนและครูประจำชั้นมีจรรยาบรรณต่อผู้รับบริการที่เหมาะสม โดยให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วมใน ทุกๆ กิจกรรม ไม่เลือกสอนเด็กคนใดคนหนึ่งให้ความรู้กับเด็กทุกคน เท่าๆ กัน ช่วยเหลือเด็กเสมอ 2.4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ ครูผู้สอนและครู ประจำชั้นมีจรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพที่เหมาะสม โดยการ ช่วยเหลือและแบ่งปันกันกับเพื่อนร่วมงาน พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองที่ดีมีความเคารพซึ่งกันและกัน 2.5 จรรยาบรรณต่อสังคม ครูผู้สอนและครูประจำชั้นมีจรรยาบรรณต่อสังสมที่เหมาะสม โดยมีปลูกฝังเรื่อง พระมหากษัตริย์ ให้รู้จักไหว้พระ รู้จักการช่วยเหลือคนในสังคม และการมีจิตสาธารณะ 3. บทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้น 3.1 การแต่งกายเหมาะสมถูกระเบียบ ครูผู้สอนและครูประจำชั้นแต่งกายถูกระเบียบตามที่วันและเวลาที่สถานศึกษากำหนด 3.2 การเอาใจใส่ ส่งเสริมผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ครูผู้สอนและครูประจำชั้นเอาใจใส่และไม่แบ่งแยกเด็กหรือเลือกสอนคนใดคนหนึ่ง แต่เป็น การสอนให้เข้าใจชัดเจนทุกคน ส่วนเด็กคนใดที่ไม่เข้าใจหรือมีพัฒนาการล้าช้าครูจะมีการเข้าไป สอนและให้คำแนะนำรายบุคคล 3.3 การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ครูผู้สอนและครูประจำชั้นไม่พูดคำหยาบต่อหน้านักเรียน มีมารยาท บุคลิกภาพดีและทักทายกัน 3.4 การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน ครูผู้สอนและครูประจำชั้นให้ความสำคัญกับความพยายามของเด็กมากกว่า
การสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน เพื่อให้นักศึกษานำสิ่งที่ได้จากการสังเกต การควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ของ ตนเอง 3. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตและฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเด็น ดังนี้ 1. สังเกตเทคนิคการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. สังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน 3. นำสิ่งที่ได้จากการสังเกตการควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาประยุกต์ใช้ใน การจัดการเรียนรู้ 4. สังเกตปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน และเทคนิคแนวทางในการแก้ไขปัญหา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลี้ยง / นักเรียน หมายเหตุสังเกต 9 ครั้ง
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่1 วันที่24 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 วิชา สุขศึกษา เวลา 13:40-14:30 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 38 คน ชาย 20 คน หญิง 18 คน นักเรียนที่มาเรียน 7 คน ชาย 2 คน หญิง 5 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 31 คน ชาย 18 คน หญิง 13 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ลาป่วย 5 คน ขาดเรียนไม่ทราบสาเหตุ 26 คน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนที่มาเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน 2.2 นักเรียนทุกคนมีส่วนรวมกับงานหรือกิจกรรมทุกคน 2.3 นักเรียนส่วนมากส่งงานตรงต่อเวลา 2.4 นักเรียนตั้งใจทำงานส่งไม่รีบเร่งงานจนเกินไป 2.5 ส่วนใหญ่แต่งตัวเรียบร้อย สะอาด 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้เรียนรู้การตามเด็กนักเรียนมาเรียน 3.2 การทำงานของคุณครู 3.3 วิธีการสอนและการสั่งงานของครู 3.4 การทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียน 3.5 ความพร้อมของนักเรียน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมาเรียน 4.2 คนที่มาเรียนส่วนมากตั้งใจเรียน 4.3 การแต่งกายของนักเรียนเรียบร้อย
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 2 วันที่26 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 0 คน ชาย 0 คน หญิง 0 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนเข้าเรียนตรงเวลา 2.2 นักเรียนไม่ส่งเสียงดัง ตั้งใจเรียน 2.3 นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมในห้องเรียน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เวลาที่ครูสอนจะถามนักเรียนให้ช่วยตอบ 3.2 ครูจะให้นักเรียนทำงานส่ง 3.3 ครูจะเช็คชื่อเข้าเรียนของนักเรียนหลังเรียนเสร็จ 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียน และตอบคำถามครูได้ 4.2 ครูสอนนักเรียนเข้าใจง่ายและนักเรียนสนุกกับการเรียน
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่3 วันที่26 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 20 คน ชาย 9 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 2 คน ชาย 2 คน หญิง 0 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ลาป่วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนเข้าเรียนไม่ตรงเวลา 2.2 ตั้งใจเรียนเป็นบางคน บางคนก็ไม่ตั้งใจเรียน 2.3 นักเรียนบางคนส่งเสียงดังเวลาครูสอน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ถ้านักเรียนไม่เข้าใจที่ครูสอนให้ยกมือขึ้นครูจะอธิบายซ้ำ อีกรอบ 3.2 และถ้ามีเวลาเหลือครูจะให้นักเรียนเล่นของเล่น 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียน 4.2 ช่วยกันตอบคำถาม
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่4 วันที่30 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:20–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 21 คน ชาย 10 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 1 คน ชาย 1 คน หญิง 0 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ลาป่วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกจิกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนมาเรียนสาย 2.2 นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน ส่งเสียดัง 2.3 นักเรียนทำงานไม่เสร็จ 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ครูจะสอนนักเรียนและมีอุปกรณ์ในการสอนให้นักเรียนได้เห็นภาพจริง 3.2 ครูจะให้นักเรียนปฏิบัติบ่อยๆ 4.สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน 4.2 ครูเตรียมการเรียนการสอนพร้อมที่จะสอนนักเรียน
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่5 วันที่1 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 0 คน ชาย 0 คน หญิง 0 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน 2.2 นักเรียนทุกคนมีส่วนรวมกับงานหรือกิจกรรมทุกคน 2.3 แต่นักเรียนตั้งใจทำงานส่งไม่รีบเร่งงานจนเกินไป 2.4 ส่วนใหญ่แต่งตัวเรียบร้อย 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 นักเรียนมาเรียนสาย 3.2 การทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียน 3.3 ความพร้อมของนักเรียน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมาเรียน 4.2 คนที่มาเรียนส่วนมากตั้งใจเรียน 4.3 การแต่งกายของนักเรียนเรียบร้อยดี
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่6 วันที่2 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 19 คน ชาย 10 คน หญิง 9 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ลาป่วย2คนกับลากิจ1คน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนมาเรียนสาย 2.2 นักเรียนส่วนน้อยที่จะไม่ตั้งใจเรียน 2.3 นักเรียนชอบคุยกันในขณะที่ทำงาน 2.4 ส่วนใหญ่แต่งตัวเรียบร้อย สะอาด 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้เรียนรู้การตามเด็กทำงาน 3.2 ครูพูดคุยกับนักเรียนก่อนที่จะทำการเรียนการสอน 3.3 วิธีการสอนและการสั่งงานของครู 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนส่วนน้อยทำงานช้าต้องคอยจี้ 4.2 ครูจะมีวิธีที่จะทำให้นักเรียนฟังและทำงานที่สั่งไว้
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่7 วันที่6 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 0 คน ชาย 0 คน หญิง 0 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนที่มาเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน 2.2 นักเรียนบางคนแอบเล่น 2.3 นักเรียนส่วนมากมาเรียนตรงต่อเวลา 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้เรียนรู้การตามเด็กนักเรียนมาเรียน 3.2 ได้ดูการเรียนรู้ของเด็กจากครั้งก่อนๆ 3.3 ความพร้อมของนักเรียน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนชอบคุยกันในเวลาเรียน 4.2 คนที่มาเรียนส่วนมากตั้งใจเรียน
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่8 วันที่9 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 20 คน ชาย 11 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 1 คน ชาย 0 คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ย่ามาส่งแล้วตัวร้อนกลับบ้าน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนที่มาเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน 2.2 นักเรียนส่วนมากส่งงานตรงต่อเวลา 2.3 นักเรียนทุกคนมีส่วนรวมกับงานหรือกิจกรรมทุกคน 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้เรียนรู้การตามเด็กนักเรียนมาเรียน 3.2 การทำงานของคุณครู 3.3 ความพร้อมของนักเรียน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา 4.2 คนที่มาเรียนส่วนมากตั้งใจเรียน
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่9 วันที่9 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นางนภศร มิตรกิจการค้า ชั้น อ.3/3 เวลา 08:30–10:20 น. 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 22 คน ชาย 11 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่มาเรียน 20 คน ชาย 0 คน หญิง 1 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 1 คน ชาย 0 คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ลาป่วย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนเข้าเรียนตรงเวลา 2.2 นักเรียนทุกคนมีส่วนรวมกับงานหรือกิจกรรมทุกคน 2.3 ส่วนใหญ่แต่งตัวเรียบร้อย สะอาด 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 ได้เรียนรู้การตามเด็กนักเรียนมาเรียน 3.2 การทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียน 3.3 ความพร้อมของนักเรียน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา 4.2 คนที่มาเรียนส่วนมากตั้งใจเรียน
แบบสังเกตการจัดบรรยากาศชั้นเรียน ห้องเรียนที่สังเกต อ.3 ครูประจำชั้น นางนภศร มิตรกิจการค้า สังเกตเมื่อวันที่1 เดือน กุมภาพันธ์พ.ศ. 2566 เวลา 08:30–10:20 น. ผู้สังเกต นางสาวญาณินี สมพงษ์วิชา เอกปฐมวัย ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ 1 การจัดโต๊ะเรียน มีจุดสัญลักษณ์ของเด็กแต่ละคน เพื่อให้เด็กได้ผ่อนคลายและสนุก ไปกับการเรียนการสอนเพราะเด็กใ นวัยนี้จะต้องมีการกระตุ้นพัฒนาก ารทางได้ร่างกายและสติปัญญา 2 การจัดโต๊ะครู การจัดโต๊ะของครูนั้นจะอยู่ตรงกลางด้าน หลังห้องจะอยู่ตรงประตูพอดีมีความสูงที่พอ ดีกับตัวเด็กมีหนังสือและคอมพิวเตอร์เครื่อง ปริ้นเตอร์จะแยกอยู่อีกโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน การจัดโต๊ะที่มีความสูงเท่ากับตัว เด็กเพื่อให้คุณครูสามารถเห็น ปฏิกิริยาของเด็กในการฟังสิ่งที่ครูส อน 3 แสงสว่าง มีแสงสว่างที่เพียงพอ แสงสว่างจะผ่านทางหน้าต่างมีผนังด้านซ้ายที่ เป็นหน้าต่างจะมีแสงผ่านเข้าทางประตูทั้งสอ งด้านมีหลอดไฟที่ให้แสงสว่างจำนวน 6 ดวง เพื่อให้มีแสงสว่างมากพอที่จะกระ ตุ้นให้เด็กกระตือรือร้นในการเรียน 4 ป้ายนิเทศ ป้ายนิเทศจะอยู่ส่วนหน้าของห้องเรียน ซึ้งจะแสดงในส่วนของตัวเลข พยัญชนะภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วันจันทร์ –วันอาทิตย์ ตัวเลขภาษาอังกฤษ 1-10 ป้ายนิเทศต่างๆที่อยู่หน้าห้องไม่ว่า จะเป็นพยัญชนะไทย ภาษาอังกฤษ ตัวเลขไทย หรืออังกฤษ ซึ่งเป็นสื่อการสอนขั้นพื้นฐานของ เด็กปฐมวัย 5 การจัดตกแต่งห้อง การตกแต่งห้อง เป็นห้องที่กว้างเป็นการเว้นที่ตรงกลางไว้ด้าน หน้าจะเป็นพื้นที่ของสื่อ กระดาน และป้ายนิเทศที่ให้ความรู้พื้นฐานและจะมีโท รทัศน์อยู่ด้านหน้าเพื่อเป็นพื้นการสอนด้านข้ างทั้งสองจะมีตู้ที่เป็นบล็อก 3 การตกแต่งห้องที่เว้นตรงกลางห้อง ไว้เพื่อใช้สำหรับทำกิจกรรมที่เสริม พัฒนาการทั้ง 5ส่วนของเด็ก ซึ่งจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเพื่อให้ เด็กๆได้ทำกิจกรรมได้เต็มที่ โดยมีอุปกรณ์ และสื่อการเรียนต่าง ไว้รอบห้องและจัดเป็นสัดส่วนเพื่อ
ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ ซึ่งใช้สำหรับใส่ที่นอน เก็บผลงาน สื่อการเรียนการสอนและของเล่นที่ใช้เสริมพั ฒนาการทั้ง 5 ส่วนของเด็ก ส่วนหลังห้องจะมีตู้ใส่นิทานและหนังสือโดย เฉพาะ ให้เด็ก ๆ ได้การหยิบจับสิ่งของ หรือสื่อต่าง ๆ ได้สะดวกสบาย 6 มุมผลงานนักเรียน ผลงานนักเรียนจะมีการเก็บผลงานของเด็กใส่ ล็อกเกอร์และผลงานอีกส่วนหนึ่งจะนำไปติด หน้าห้อง ผลงานที่ติดหน้าห้องจะติดทุกวันติดทุดงาน เมื่อทำเสร็จจะนำไปติดเลย การนำผลงานของนักเรียนใส่ใน ล็อกเกอร์ของเด็ก ๆ ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนนัดเจอทำให้ครู สามารถเห็นพัฒนาการของเด็กแต่ ละคนได้ชัดเจน 7 มุมวิชาการ จะมีมุมเกี่ยวกับหนังสือที่เป็นนิทานที่สอดแท รกความรู้ต่าง ๆ ไปด้วย เช่น หนังสือที่สอดแทรกคุณค่าของข้าว มุมหนังสือนิทานที่สอดแทรกเรื่อง ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์เด็กในวัยนี้ จะสอดแทรกสาระการเรียนรู้ผ่านห นังสือนิทานรูปภาพ 8 อื่นๆ ในช่วงโรคระบาดโควิด จะมีป้ายทีให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคโ ควิด การระวัง และสิ่งที่เด็กต้องปฏิบัติ อย่างเช่น การล้างมือ การใส่แมส และมรการจัดน้ำดื่มสำหรับกดไว้ในห้อง การมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับโรคระ บาดเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับกา รป้องกันตัวเอง จากโรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบัน ลงชื่อ................................................ (นายสาวญาณินี สมพงษ์) นักศึกษา
แบบรายงานผลการศึกษารายกรณี 1. ชื่อผู้รับการศึกษา เด็กชายณธัชพงษ์ จีนเมือง น้อง โอโซน 2. สาเหตุที่ศึกษา นักเรียนมีพฤติกรรมที่ซุกซน ขาดสมาธิในการเรียน 3. วันและเวลาที่ศึกษา วันที่23 มกราคม พ.ศ.2566 4. ลักษณะของปัญหาหรืออาการที่สำคัญ ขาดสมาธิในการทำงาน ทำงานช้า อ่านไม่ออก เขียนไม่ค่อยได้ 5. ข้อมูลจากผู้รับการศึกษา ได้แก่ 5.1 ประวัติส่วนตัวและครอบครัว 5.1.1 ลักษณะทั่วไป รูปร่างผอม แต่งกายเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด 5.1.2 ประวัติส่วนตัว เด็กชายณธัชพงษ์ จีนเมือง เกิดวันที่ 8 สิงหาคม 2559 อายุ 6 ขวบ เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย บ้านเลขที่289/6 ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง ถนนวงศาโรจน์ จังหวัดอุทัยธานี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น อนุบาล 3 5.1.3 ประวัติครอบครัว เช่น - ชื่อบิดา ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ชัย จีนเมือง อายุ37 อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว - ชื่อมารดา นางกานต์พิชชา จีนเมือง อายุ37 -มีน้องสาว 1 คน 5.2 ประวัติด้านการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านร่างกาย: ดี ด้านอารมณ์: ดี ด้านสังคม: พอใช้ ด้านสติปัญญา: ปรับปรุง -วิชาที่ชอบ กิจกรรมระบายสี กิจกรรมนันทนาการ -วิชาที่ไม่ชอบ ด้านการเขียนตามแบบหรือบวกลบไม่เกิน 20 5.3 ประวัติด้านสุขภาพ เช่น ส่วนสูง 112 เซนติเมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัม 5.4 ประวัติด้านสังคม เข้ากับคนยาก ถ้ามีความคุ้นเคยจะพูดเก่ง 5.5 การใช้เวลาว่างหรืองานอดิเรก เล่นของเล่น เล่นโทรศัพท์ 5.6 ความใฝ่ฝันในอนาคต อยากเป็นทหาร 6. เทคนิคที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล/เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา สอบถามข้อมูลโดยครูพี่เลี้ยงตัวนักเรียนและจดบันทึก 7. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล เด็กมีอาการวอกแวกง่าย ใช้เวลานานในการคิดวิเคราะห์ 8. การวินิจฉัยปัญหา เด็กมีพัฒนาการช้า ปฏิบัติตามคำสั่งได้ช้า และสมาธิสั้น สมาธิสั้นคืออาการที่ประกอบด้วยการขาดสมาธิ ควบคุมตนเองต่ำ วอกแวกและอยู่ไม่นิ่ง อาการเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนอายุ 7 ขวบ ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน การปรับตัวเข้าสังคม อาการของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันไป
9. การช่วยเหลือหรือแก้ไข -ให้เด็กนั่งหน้าหรือนั่งใกล้คุณครู -จัดให้เด็กนั่งห่างประตูหรือหน้าต่างเพื่อป้องกันการวอกแวก -ตรวจสมุดจดงานของเด็กเพื่อให้แน่ใจว่าจดครบ -คอยดู คอยเตือนการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ขาดสมาธิ 10. การติดตามผล เด็กรู้จักการฟังคำสั่งแบบง่ายๆ และเข้าใจง่ายขึ้น เมื่อเด็กสงสัยครูผู้สอนก็ให้การอธิบายทันที มีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นส่วนตัวระหว่างครูกับเด็ก 11. ข้อเสนอแนะ ไม่มี 12. ชื่อผู้ศึกษาและตำแหน่ง นางสาวญาณินีสมพงษ์ นักศึกษาครุศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย ชั้นปีที่ 1
การศึกษาผู้เรียน 1. การศึกษาสังเกตพฤติกรรมนักเรียน (1) ด้านสุขภาพอนามัย 1.1 ความสะอาดของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สภาพจริง เด็กๆส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย มีการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน Covid -19 ความคิดเห็น เด็กนักเรียนแต่งกายเหมาะสมตามที่สถานศึกษาอนุญาต มีความเรียบร้อยเหมาะสม 1.2 การรักษาสุขภาพอนามัย สภาพจริง หลังจากเข้าแถวตอนเช้าและ ก่อน-หลัง ทำกิจกรรมเด็กๆจะล้างแอลกอฮอร์ ก่อนรับประทาน อาหารกลางวันจะมีการล้างมือทุกครั้ง ความคิดเห็น คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเพื่อปลูกฝังเด็กและเพราะในช่วงนี้เป็นช่วงของโรคระบาด ซึ่งถือว่าเป็นการรักษา ความสะอาด และความปลอดภัยต่อเด็กๆ 1.3 การรักษาความสะอาดร่างกาย สภาพจริง รักษาความสะอาดดีล้างมือก่อนหลังท ากิจกรรม แต่งกายสะอาดเสื้อผ้าไม่เปรอะเปื้อน ร่างกาย สะอาดตรวจสุขภาพทุกเช้า ความคิดเห็น เป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักความสะอาดของตนเอง ไปไหนมาไหนทำกิจกรรม เสร็จทุกครั้งล้างมือให้สะอาด ควรดูแลเสื้อผ้า (2) ด้านสังคม 2.1 การปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน สภาพจริง ในช่วงเช้าเด็ก ๆ ทุกคนรู้จัก หน้าที่และรับผิดชอบ นั่งตามจุดตัวเอง การแต่งกายเหมาะสมถูก ระเบียบ ปฏิบัติตามกฎโรงเรียนได้ดี. ความคิดเห็น สร้างความมีความรับผิดชอบต่อตัวเด็กได้อย่างดี เพราะเด็กจะรู้หน้าที่ของตนเองในแต่ละวัน มี ความช่วยเหลือกัน