กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษา
และพลศึกษา
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4
แผนกประถมศึกษา
โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา
โครงสร้างการสอน วชิ า สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา ......... เวลา 20 ช่วั โมง
หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคญั เวลา(ชม.) น้ำหนัก
ท่ี เรยี นรู้/เรื่อง /สปั ดาห์ คะแนน
1 การเจริญเติบโต มาตรฐาน พ 1.1 - การเจรญิ เติบโตและ 2 10
แลและพฒั นาการ เข้าใจธรรมชาติของการ พฒั นาการของรา่ งกาย (ส.1-2)
ของมนษุ ย์ เจรญิ เติบโตและ และจติ ใจตามวยั (ในช่วง
-การเจรญิ เตบิ โต พัฒนาการของมนษุ ย์ อายุ 9-12 ป)ี
และพฒั นาการ ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 4/1
ตามวยั อธบิ ายการเจรญิ เติบโต
-การทำงานและ และพฒั นาการของรา่ งกาย
หน้าทข่ี อง และจติ ใจตามวัย
กลา้ มเน้อื
- การดูแลรกั ษา ตัวชวี้ ัดที่ ป. 4/2 - ความสำคัญของ 3 10
ระบบกล้ามเน้อื อธิบายความสำคญั ของ กลา้ มเนือ้ กระดูกและข้อ (ส.3-5)
กลา้ มเนอื้ กระดูกและข้อที่ ทีม่ ผี ลตอ่ สุขภาพการ
มีผลตอ่ สขุ ภาพการ เจริญเติบโตและ
เจรญิ เตบิ โตและ พัฒนาการ
พัฒนาการ
ตัวช้วี ัดที่ ป. 4/3 -วิธดี ูแลกล้ามเนื้อ
อธบิ ายวิธดี แู ลกลา้ มเนอ้ื กระดูกและข้อให้ทำงาน
กระดกู และข้อใหท้ ำงาน อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ลำดับท่ี ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
เรียนรู้ ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
2 ชวี ติ และ มาตรฐาน พ 2.1 - คุณลกั ษณะของ 2 10
(ส.6-7)
ครอบครัว เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ความเป็นเพื่อนและ
-ความสำคัญของ ครอบครัว เพศศกึ ษา และมี สมาชกิ ท่ีดีของ
การเป็นเพอ่ื น ทกั ษะในการดำเนนิ ชีวิต ครอบครวั
และสมาชิก ตัวชวี้ ัดท่ี ป. 4/1
ครอบครัวท่ีดี - อธอิ บายคุณลักษณะของ
ความเปน็ เพ่ือนและสมาชกิ ทดี่ ี
ของครอบครวั
- ความหมาย ตวั ชีว้ ัดท่ี ป. 4/2 - พฤติกรรมที่ 2 10
และความสำคญั (ส.8-9)
ของพฤติกรรม แสดงพฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมกับ เหมาะสมกบั เพศของ
ทางเพศท่ี
เหมาะสมตาม เพศของตนตามวฒั นธรรมไทย ตนตามวฒั นธรรมไทย
วัฒนธรรมไทย
-การปฏิเสธใน
สถานการณต์ า่ ง
ๆ:
สอบกลางภาคเรยี นที่ 1(ส.10)............................คะแนน หมายเหตุ ไม่สอบกลางภาค
3 การเคล่ือนไหว มาตรฐาน พ 3.1 -การช่วยคนตกน้ำ 1 5
การออกกำลังกาย เข้าใจ มีทักษะในการ (ส.11)
การเลน่ เกม กีฬา เคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย
ไทย และกีฬา การเล่นเกม และกฬี า
สากล ตัวชีว้ ัดที่ ป. 4/1 -การจับโฟมยาวเตะ (ส.12-13) 10
-การสรา้ ง ควบคมุ ตนเองเมื่อใชท้ กั ษะการ ขา
ความคุ้นเคยกับ เคล่อื นไหวรา่ งกายขณะอยู่กบั
อปุ กรณ์ ท่ี เคลอื่ นที่ และใช้อปุ กรณ์
ประกอบ
มาตรฐาน พ 3.1
เขา้ ใจ มีทกั ษะในการ
เคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย
การเล่นเกม และกฬี า
ตวั ชวี้ ัดที่ ป. 4/1 -การทำทา่ จรวด 2 15
(ส.14-15)
ควบคุมตนเองเมื่อใชท้ กั ษะการ
เคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับ
ท่ี เคลื่อนที่ และใชอ้ ปุ กรณ์
ประกอบ
ลำดบั ท่ี ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
เรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด (ช่ัวโมง) คะแนน
3 การเคล่ือนไหว มาตรฐาน พ 3.2 2 15
(ส.16-17)
การออกกำลังกาย รักการออกกำลังกาย การ
การเลน่ เกม กฬี า เลน่ เกม และการเลน่ กฬี า
ไทย และกฬี า ปฏบิ ัติเป็นประจำอยา่ ง
สากล สมำ่ เสมอ มวี ินัย เคารพ
-การสรา้ ง สทิ ธิ กฎ กติกา มีนำ้ ใจ
ความคนุ้ เคยกับ นักกฬี า มีจติ วิญญาณ ในการ
อปุ กรณ์ แขง่ ขนั และช่ืนชมใน
สนุ ทรยี ภาพของการกีฬา
ตวั ชี้วัดที่ ป. 4/1 -การจบั โฟมบิดหนา้
ออกกำลังกาย เล่นเกม
และกีฬา ที่ตนเองชอบและ
มีความสามารถในการ
วิเคราะห์ผลพัฒนาการ
ของตนเองตามตวั อย่างและ
แบบปฏบิ ตั ิของผู้อื่น
3 การเคลอื่ นไหว มาตรฐาน พ 3.1
การออกกำลงั กาย เขา้ ใจ มที กั ษะในการ
การเล่นเกม กฬี า เคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย
ไทย และกีฬา การเลน่ เกม และกฬี า
สากล ตัวชีว้ ัดท่ี ป. 4/1 -การจับโฟมหมนุ 2 15
(ส.18-19)
-การสรา้ ง ควบคุมตนเองเมื่อใช้ทักษะ แขน
ความคุน้ เคยกับ การเคล่ือนไหวในลักษณะ
อปุ กรณ์ ผสมผสานได้ ท้ังแบบอยู่กับที่
เคลือ่ นที่ และใชอ้ ุปกรณ์
ประกอบ
สัปดาห์ที่ 1
โรงเรยี นขจรเกยี ติพัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ 1 / ………. ช่ือผูส้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชั้น ประถมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรยี นร้ตู วั เรา เรอื่ ง การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการตามวยั
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป. 4/1อธบิ ายการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของรา่ งกายและจติ ใจตามวยั
2. สาระสำคัญ
การเจริญเติบโต หมายถงึ การเปลีย่ นแปลงทางดา้ นขนาดรปู รา่ งและปริมาณ ส่วนพัฒนาการ หมายถึง
กระบวนการเจรญิ เตบิ โตในดา้ นต่าง ๆ อย่างเป็นข้ันเป็นตอนอย่างต่อเนื่องกนั ตลอดชวี ติ เราจึงต้องดแู ลตนเองให้มี
การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการตามวยั
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายและความสำคญั ของการเจริญเติบโตและพฒั นาการอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K)
2. ตระหนักถงึ ความสำคัญของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการตามวยั (A)
3. สามารถส่อื สารเพอ่ื อธิบายความหมายและความสำคญั ของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการตามวัยอยา่ ง
ถูกต้องได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
1.การเจริญเติบโตของร่างกาย พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศึกษา
- การเปล่ยี นแปลงของรา่ งกายวยั เด็ก
- ความสำคัญของการเปล่ียนแปลงของร่างกาย
- อาหารท่ีเหมาะสมกับวยั
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 1
ขน้ั เตรยี มกอ่ นนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูและนักเรยี นรว่ มทำความรจู้ กั และสรา้ งความค้นุ เคยระหวา่ งกัน
2. ครแู นะนำเกี่ยวกบั ระเบยี บและมารยาทในการปฏิบัตกิ จิ กรรมร่วมกับผู้อน่ื ให้นกั เรยี นทราบ
3. นักเรยี นทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรยี นรู้ตวั เรา รว่ มกัน โดยครูอา่ น
คำช้ีแจงใหน้ กั เรียนฟัง เพ่ือเปน็ การประเมินพื้นความรู้
ขน้ั ท่ี 1: นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
• นักเรยี นดูภาพการเจรญิ เติบโตของบคุ คลในวัยเดก็ มาสูว่ ัยรนุ่ และวยั ผูใ้ หญ่ และนกั เรยี น
ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ท่ีมตี อ่ ภาพในประเด็นท่ีวา่ “จากภาพมีความเปลย่ี นแปลงอย่างไรบ้าง”
ขัน้ ที่ 2: กิจกรรมการเรียนรู้
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3–5 คน ร่วมกนั พูดคุยถึงความหมายและความสำคัญของการเจริญเตบิ โต และ
เขียนสรปุ เปน็ แผนทคี่ วามคดิ
2. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอแผนท่คี วามคดิ ที่หนา้ ชนั้ เรียน โดยครใู ห้ความรแู้ ละ
ข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
ขั้นที่ 3: ฝึกฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรียนเขยี นสรุปความหมายและความสำคญั ของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการลงในสมดุ บนั ทึก
ขัน้ ท่ี 4: การนำไปใช้
• มอบหมายให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมเล่าเรอื่ งเจรญิ เตบิ โตของตนเอง ดังรายละเอียดในหนงั สอ่ื เรยี นฯ/หรอื สือ่
การเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ป. 4 นอกเวลาเรียน โดยขอคำแนะนำจากครูประจำช้นั หรือ
ผู้ปกครอง และนำผลการปฏิบัติกจิ กรรมมาเสนอในคาบเรียนต่อไป
ขนั้ ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปความหมายและความสำคญั ของการเจริญเติบโตและพฒั นาการโดย บันทกึ สรปุ
ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมดุ บนั ทกึ
6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล
การวดั และประเมินผลจุดประสงค์ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า
-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ
ความร้คู วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤติกรรม การ - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ทำงานรายบคุ คล/กลุม่ ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสขุ ประเมนิ
คุณลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมี ศึกษาและพลศกึ ษา
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานท่สี ่ัง 1. แบบสังเกต 80% ขนึ้ ไป ถอื วา่
และส่งงานได้ทันตามท่ี พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การ
กำหนด ประเมนิ
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มน่ั ใน
การทำงาน
7. สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. ภาพการเจริญเติบโตของบุคคลตั้งแตว่ ยั เดก็ วยั รุ่นและวยั ผใู้ หญ่
2. ภาพถ่ายในวยั เดก็ และวยั ปจั จุบนั ของนกั เรียน
3. หนงั สอื เรียนสาระการเรียนรพู้ ้นื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ัท สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช
จำกดั
4. สือ่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบรู ณ์แบบ ป. 4 บรษิ ทั สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกดั
5. แบบฝึกหัด สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บรษิ ทั สำนกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จำกดั
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สัปดาห์ท่ี 2
โรงเรยี นขจรเกยี ตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรียนที่ 1 / ………. ชอื่ ผสู้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรียนร้ตู วั เรา เรอื่ ง การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการตามวัย
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน พ 1.1เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
1 ตวั ชว้ี ัดท่ี ป. 4/1อธบิ ายการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของร่างกายและจิตใจตามวัย
2. สาระสำคญั
การเจรญิ เติบโต หมายถงึ การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นขนาดรปู ร่างและปรมิ าณ ส่วนพัฒนาการ หมายถึง
กระบวนการเจริญเตบิ โตในดา้ นตา่ ง ๆ อย่างเป็นขน้ั เป็นตอนอย่างต่อเนือ่ งกันตลอดชวี ติ เราจงึ ตอ้ งดูแลตนเองให้มี
การเจริญเติบโตและพัฒนาการตามวัย
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและความสำคัญของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการอย่างถกู ต้องได้ (K)
2. ตระหนกั ถึงความสำคัญของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการตามวัย (A)
3. สามารถสอ่ื สารเพอ่ื อธบิ ายความหมายและความสำคัญของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการตามวัยอย่าง
ถกู ตอ้ งได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
1.การเจรญิ เติบโตของร่างกาย พจิ ารณาตามหลกั สตู รขอองสถานศึกษา
- การเปลี่ยนแปลงของร่างกายวัยเด็ก
- ความสำคัญของการเปล่ียนแปลงของรา่ งกาย
- อาหารทีเ่ หมาะสมกบั วัย
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 2
ขน้ั เตรยี มกอ่ นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มทำความร้จู ักและสรา้ งความค้นุ เคยระหว่างกนั
2. ครแู นะนำเก่ยี วกับระเบียบและมารยาทในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมรว่ มกับผู้อนื่ ให้นกั เรยี นทราบ
3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบความรกู้ ่อนการเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรียนรูต้ วั เรา รว่ มกนั โดยครูอา่ น
คำช้ีแจงใหน้ ักเรยี นฟัง เพอื่ เปน็ การประเมนิ พ้ืนความรู้
ขน้ั ท่ี 1: นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
• นักเรยี นดูภาพการเจริญเติบโตของบคุ คลในวยั เดก็ มาสวู่ ยั รุ่น และวยั ผู้ใหญ่ และนกั เรยี น
ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นทม่ี ีตอ่ ภาพในประเด็นทว่ี ่า “จากภาพมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง”
ขัน้ ที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน รว่ มกันพูดคุยถึงความหมายและความสำคญั ของการเจรญิ เตบิ โต และ
เขียนสรปุ เปน็ แผนที่ความคดิ
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผนทค่ี วามคิดท่ีหนา้ ชน้ั เรยี น โดยครูให้ความรแู้ ละ
ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
ขั้นที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
• นกั เรียนเขยี นสรุปความหมายและความสำคญั ของการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการลงในสมุดบนั ทึก
ขัน้ ท่ี 4: การนำไปใช้
• มอบหมายให้นักเรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเล่าเรอ่ื งเจริญเตบิ โตของตนเอง ดงั รายละเอยี ดในหนงั สอื่ เรยี นฯ/หรอื สือ่
การเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณ์แบบ ป. 4 นอกเวลาเรยี น โดยขอคำแนะนำจากครูประจำช้นั หรือ
ผู้ปกครอง และนำผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมมาเสนอในคาบเรียนต่อไป
ขนั้ ท่ี 5: สรุปความรู้
• ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความหมายและความสำคัญของการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการโดย บันทกึ สรปุ
ความรโู้ ดยสังเขปลงในสมดุ บันทกึ
6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล
การวดั และประเมินผลจดุ ประสงค์ - ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ 80% ข้นึ ไป ถอื ว่า
-ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สังเกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมนิ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ทำงานรายบุคคล/กลมุ่ ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสขุ ประเมนิ
คุณลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมี ศกึ ษาและพลศกึ ษา
ความรบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ่ัง 1. แบบสังเกต 80% ข้ึนไป ถือวา่
และส่งงานได้ทันตามท่ี พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑก์ าร
กำหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการม่งุ มั่นใน
การทำงาน
7. สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. ภาพการเจริญเติบโตของบคุ คลตั้งแตว่ ยั เด็ก วัยรุน่ และวยั ผใู้ หญ่
2. ภาพถ่ายในวยั เดก็ และวัยปจั จบุ นั ของนกั เรยี น
3. หนงั สอื เรียนสาระการเรยี นรู้พ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษัท สำนักพิมพ์วฒั นาพานิช
จำกัด
4. สือ่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา สมบูรณแ์ บบ ป. 4 บรษิ ทั สำนกั พมิ พ์วัฒนาพานิช จำกดั
5. แบบฝึกหัด สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บริษทั สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สปั ดาห์ที่ 3
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1 / …….. ช่อื ผ้สู อน นายซุลกิฟลี ดือราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรยี นรตู้ ัวเรา เรอื่ ง การทำงานและหนา้ ทข่ี องกล้ามเนื้อ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
ตวั ช้วี ัดท่ี ป 4/2อธิบายความสำคญั ของกลา้ มเนื้อกระดกู และข้อท่ีมีผลตอ่ สุขภาพการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ
2. สาระสำคญั
กล้ามเน้ือเปน็ อวยั วะท่ีช่วยใหก้ ระดูกหรอื โครงรา่ งของรา่ งกายเคลอื่ นไหวได้ มกี ารทำงานโดยหดตัวและ
กลบั คืนสปู่ กติหลังจากทีห่ ดตวั เพอ่ื ชว่ ยในการเคล่ือนไหว
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายลักษณะการทำงานและหน้าทีข่ องกลา้ มเนอ้ื อย่างถูกตอ้ งได้ (K)
2. รว่ มปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรูเ้ ก่ยี วกับเร่ืองการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเนอื้ กบั ผู้อื่นด้วยความ
สนใจ (A)
3. แสดงทักษะการถา่ ยทอดความร้เู ร่อื งการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเน้อื แกผ่ ้อู น่ื อยา่ งถกู ต้องได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่ิน
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศึกษา
1.การทำงานและหน้าทีก่ ล้ามเนอื้
- การทำงานของกลา้ มเน้ือลาย กลา้ มเนือ้ เรยี บ
กล้ามเนื้อหัวใจ
- ความสำคัญของกล้ามเนอ้ื
- การดูแลกล้ามเนอื้
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 3
ขัน้ ท่ี 1: นำเข้าส่บู ทเรยี น
• นักเรยี นดูภาพโครงสรา้ งรา่ งกายของมนษุ ย์ ทีป่ ระกอบไปด้วยมัดกลา้ มเน้อื ทวั่ ร่างกาย และนักเรยี น
ร่วมกันแสดงความรู้สกึ ที่มตี ่อภาพ
ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 3–4 คน ร่วมกันศึกษาเนอื้ หาในหวั ข้อเรือ่ ง การทำงานและหนา้ ที่ของ
กลา้ มเน้อื ดงั รายละเอียดในหนังสือเรยี นฯ/หรอื สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ
ป. 4
2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษา โดยสรา้ งเป็นแผนท่คี วามคดิ และส่งตัวแทน
กลมุ่ ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรยี น
3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
ข้ันท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรยี นร่วมกันเขยี นคำถามและข้อสงสัยเก่ียวกบั การทำงานและหนา้ ทข่ี องกลา้ มเน้ือ และคำตอบ แลว้
บนั ทกึ ลงในสมุดบนั ทกึ
ข้ันที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นนำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไปเล่าใหผ้ ูป้ กครองฟงั โดยให้ผูป้ กครอง
ตอบรบั ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนักเรยี นกลบั มาท่คี รู
ข้นั ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ เรอื่ ง การทำงานและหนา้ ท่ีของระบบกล้ามเนอื้
6. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ าร
การวดั และประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
- ตรวจกิจกรรมฝกึ ทักษะ -กิจกรรมฝึกทกั ษะ 80% ขนึ้ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนิสัย (A)
ประเมนิ
-สงั เกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถือว่า
ทำงานรายบุคคล/กล่มุ ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสขุ ประเมนิ
ศกึ ษาและพลศึกษา
1. สงั เกตจากการเรียนมี 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ความรับผิดชอบต่องานทีส่ ั่ง พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การ
และส่งงานได้ทนั ตามที่ ประเมิน
กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มั่นใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. ภาพโครงสร้างร่างกายของมนษุ ย์ท่ีประกอบไปดว้ ยมัดกล้ามเน้ือ
2. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จำกดั
3. ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบรู ณแ์ บบ ชัน้ ป. 4 บริษัท สำนกั พิมพว์ ัฒนาพานิช จำกัด
4. แบบฝึกหดั สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ป. 4 บริษัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝา่ ยวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สัปดาห์ที่ 4
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1 / …….. ช่อื ผ้สู อน นายซุลกิฟลี ดอื ราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรยี นรตู้ ัวเรา เรอื่ ง การทำงานและหนา้ ท่ขี องกล้ามเนื้อ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
ตวั ช้วี ัดท่ี ป 4/2อธิบายความสำคญั ของกลา้ มเนื้อกระดกู และข้อท่ีมีผลตอ่ สุขภาพการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการ
2. สาระสำคญั
กล้ามเน้ือเปน็ อวยั วะท่ีช่วยใหก้ ระดูกหรอื โครงรา่ งของรา่ งกายเคลอื่ นไหวได้ มีการทำงานโดยหดตวั และ
กลบั คืนสปู่ กติหลังจากทีห่ ดตวั เพอ่ื ชว่ ยในการเคล่ือนไหว
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายลักษณะการทำงานและหน้าทีข่ องกลา้ มเนอ้ื อย่างถูกตอ้ งได้ (K)
2. รว่ มปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรูเ้ ก่ยี วกับเร่ืองการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเนือ้ กบั ผ้อู ื่นดว้ ยความ
สนใจ (A)
3. แสดงทักษะการถา่ ยทอดความร้เู ร่อื งการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเน้อื แกผ่ อู้ น่ื อยา่ งถูกต้องได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศึกษา
1.การทำงานและหน้าทีก่ ล้ามเนอื้
- การทำงานของกลา้ มเน้ือลาย กลา้ มเนือ้ เรยี บ
กล้ามเนื้อหัวใจ
- ความสำคัญของกล้ามเนอ้ื
- การดูแลกล้ามเนอื้
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 4
ขัน้ ท่ี 1: นำเข้าส่บู ทเรยี น
• นักเรยี นดูภาพโครงสรา้ งรา่ งกายของมนษุ ย์ ทีป่ ระกอบไปด้วยมัดกลา้ มเน้อื ทวั่ ร่างกาย และนักเรยี น
ร่วมกันแสดงความรู้สกึ ท่มี ตี ่อภาพ
ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้
2. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 3–4 คน ร่วมกันศึกษาเนอื้ หาในหวั ข้อเรือ่ ง การทำงานและหนา้ ที่ของ
กลา้ มเน้อื ดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรยี นฯ/หรอื สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ
ป. 4
2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษา โดยสรา้ งเป็นแผนท่คี วามคดิ และส่งตัวแทน
กลมุ่ ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียน
3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
ข้ันท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรยี นร่วมกันเขยี นคำถามและข้อสงสัยเก่ียวกบั การทำงานและหนา้ ทข่ี องกลา้ มเน้ือ และคำตอบ แลว้
บนั ทกึ ลงในสมุดบนั ทกึ
ข้ันที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นนำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไปเล่าใหผ้ ูป้ กครองฟัง โดยให้ผูป้ กครอง
ตอบรบั ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนกั เรียนกลับมาท่คี รู
ข้นั ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปเรอ่ื ง การทำงานและหนา้ ท่ีของระบบกล้ามเนอื้
6. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ าร
การวดั และประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนิสัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ขึน้ ไป ถือว่า
ทำงานรายบุคคล/กล่มุ ทักษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสขุ ประเมิน
ศกึ ษาและพลศกึ ษา
1. สงั เกตจากการเรียนมี 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ความรับผิดชอบต่องานทสี่ ั่ง พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ
และส่งงานไดท้ นั ตามที่ ประเมนิ
กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งมั่นใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1. ภาพโครงสร้างร่างกายของมนษุ ย์ท่ีประกอบไปดว้ ยมัดกลา้ มเน้ือ
2. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จำกดั
3. ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ชัน้ ป. 4 บรษิ ัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
4. แบบฝึกหดั สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สปั ดาหท์ ี่ 5
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1 / …….. ช่อื ผ้สู อน นายซุลกิฟลี ดอื ราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรยี นรตู้ ัวเรา เรอื่ ง การทำงานและหนา้ ท่ขี องกล้ามเนื้อ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ 1.1เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
ตวั ช้วี ัดท่ี ป 4/2อธิบายความสำคญั ของกลา้ มเนื้อกระดกู และข้อท่ีมีผลตอ่ สุขภาพการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ
2. สาระสำคญั
กล้ามเน้ือเปน็ อวยั วะท่ีช่วยใหก้ ระดูกหรอื โครงรา่ งของรา่ งกายเคลอื่ นไหวได้ มีการทำงานโดยหดตัวและ
กลบั คืนสปู่ กติหลังจากทีห่ ดตวั เพอ่ื ชว่ ยในการเคล่ือนไหว
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายลักษณะการทำงานและหน้าทีข่ องกลา้ มเนอ้ื อย่างถูกตอ้ งได้ (K)
2. รว่ มปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรูเ้ ก่ยี วกับเร่ืองการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเนือ้ กบั ผ้อู ื่นด้วยความ
สนใจ (A)
3. แสดงทักษะการถา่ ยทอดความร้เู ร่อื งการทำงานและหนา้ ท่ีของกลา้ มเน้อื แกผ่ อู้ น่ื อยา่ งถกู ต้องได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศึกษา
1.การทำงานและหน้าทีก่ ล้ามเนอื้
- การทำงานของกลา้ มเน้ือลาย กลา้ มเนือ้ เรยี บ
กล้ามเนื้อหัวใจ
- ความสำคัญของกล้ามเนอ้ื
- การดูแลกล้ามเนอื้
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 5
ขัน้ ท่ี 1: นำเข้าส่บู ทเรยี น
• นักเรยี นดูภาพโครงสรา้ งรา่ งกายของมนษุ ย์ ทีป่ ระกอบไปด้วยมัดกลา้ มเน้อื ทวั่ ร่างกาย และนักเรยี น
ร่วมกันแสดงความรู้สกึ ท่มี ตี ่อภาพ
ข้ันที่ 2: กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 3–4 คน ร่วมกันศึกษาเนอื้ หาในหวั ข้อเรือ่ ง การทำงานและหนา้ ที่ของ
กลา้ มเน้อื ดงั รายละเอยี ดในหนังสือเรยี นฯ/หรอื สอื่ การเรยี นรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณแ์ บบ
ป. 4
2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันสรุปความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษา โดยสรา้ งเป็นแผนท่คี วามคดิ และส่งตัวแทน
กลมุ่ ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียน
3. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั และให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
ข้ันท่ี 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• นกั เรยี นร่วมกันเขยี นคำถามและข้อสงสัยเก่ียวกบั การทำงานและหนา้ ทข่ี องกลา้ มเน้ือ และคำตอบ แลว้
บนั ทกึ ลงในสมุดบนั ทกึ
ข้ันที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นนำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมไปเล่าใหผ้ ูป้ กครองฟัง โดยให้ผูป้ กครอง
ตอบรบั ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนกั เรียนกลับมาท่คี รู
ข้นั ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปเรอ่ื ง การทำงานและหนา้ ท่ีของระบบกล้ามเนอื้
6. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ าร
การวดั และประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนิสัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ขึน้ ไป ถือว่า
ทำงานรายบุคคล/กล่มุ ทักษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสขุ ประเมิน
ศกึ ษาและพลศกึ ษา
1. สงั เกตจากการเรียนมี 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ความรับผิดชอบต่องานทสี่ ั่ง พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ
และส่งงานไดท้ นั ตามที่ ประเมนิ
กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งมั่นใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1. ภาพโครงสร้างร่างกายของมนษุ ย์ท่ีประกอบไปดว้ ยมัดกลา้ มเน้ือ
2. หนังสอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ นื้ ฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จำกดั
3. ส่อื การเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ชัน้ ป. 4 บรษิ ัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
4. แบบฝึกหดั สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั ป. 4 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงช่อื ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สปั ดาหท์ ่ี 6
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 / ……. ชอื่ ผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชวี ติ และครอบครวั เรอื่ ง ความสำคญั ของการเป็นเพื่อนและสมาชกิ ครอบครวั ท่ดี ี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน พ 2.1เขา้ ใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวติ
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 4/1อธอิ บายคุณลักษณะของความเป็นเพือ่ นและสมาชิกทดี่ ีของครอบครวั
2. สาระสำคญั
ในชวี ิตของเราจะตอ้ งอยู่ร่วมกบั สมาชกิ ในครอบครัว ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง และบคุ คลอน่ื ๆ ในโรงเรียน
ได้แก่ เพอ่ื นการเรียนรูว้ ธิ กี ารปรับตัวเพ่ือใช้ชวี ิตรว่ มกับบุคคลอื่นให้เกดิ ความราบร่นื จงึ มคี วามสำคญั และทำให้ชวี ติ มี
ความสขุ โดยเราจะตอ้ งปฏิบัตติ นเปน็ เพ่อื นและสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสำคญั ของการเปน็ เพอ่ื นและสมาชิกทด่ี ขี องครอบครวั อยา่ งถกู ต้องได้ (K)
2. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการเปน็ เพ่อื นและสมาชกิ ที่ดขี องครอบครวั (A)
3. สามารถส่ือสารเพอ่ื อธบิ ายความสำคญั ของการเปน็ เพอื่ นและสมาชิกทีด่ ขี องครอบครัว
อยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
1.การเปน็ และสมาชิกครอบครัวท่ดี ี
- การปฏิบตั ิตนของเปน็ เพื่อนและสมาชิก
ครอบครวั
- ความสำคัญของเพื่อนและครอบครวั
- การดูแลครอบครัว
5. สาระการเรยี นรู้
คาบท่ี 6
ข้ันเตรียมก่อนนำเข้าสู่บทเรยี น
• นกั เรียนทำแบบทดสอบความรู้ก่อนการเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ชวี ติ และครอบครัว โดยครูอา่ น
คำช้ีแจงใหน้ ักเรยี นฟัง เพ่อื เปน็ การประเมินพน้ื ฐานความรู้
ขน้ั ที่ 1: นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. สุ่มตวั แทนนักเรยี นออกมาเล่าเร่ืองเพื่อนท่ีประทับใจ และเลา่ ถงึ ความสัมพนั ธ์ทม่ี ีตอ่ เพือ่ น
2. ครถู ามคำถามนำเขา้ สบู่ ทเรียน “นกั เรยี นอยรู่ ว่ มกบั เพื่อนและสมาชกิ ในครอบครวั ได้อย่างมีความสุข
หรือไม่ อย่างไร”
ขน้ั ที่ 2: กิจกรรมการเรยี นรู้
1. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3–5 คน ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความสำคญั ของการเป็นเพื่อน
และสมาชิกทีด่ ขี องครอบครวั
2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สรุปผลการแสดงความคดิ เห็นและสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมารายงานผลหนา้ ช้ัน
เรียน
3. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัยและใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม
ขน้ั ที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
• นกั เรียนเขยี นเรียงความเร่อื ง ความสำคัญของการเป็นเพอ่ื นและสมาชิกทีด่ ขี องครอบครัว และนำมา
ผลดั กันอ่านกับเพื่อน ๆ ในชน้ั เรยี น
ขนั้ ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรียนนำความรู้ท่ไี ด้จากการศกึ ษาและการปฏิบตั ิกิจกรรมไปเลา่ ใหผ้ ปู้ กครองฟัง และให้ผูป้ กครอง
ตอบรับการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลบั มาทีค่ รู
ขนั้ ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• นกั เรียนสรุปสาระสำคัญทไ่ี ดจ้ ากการปฏิบัติกิจกรรมและบนั ทกึ ความรโู้ ดยสงั เขปในสมดุ
บันทึก
6. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ าร
การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรู้ความเข้าใจ (K)
- ตรวจกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ -กจิ กรรมฝกึ ทักษะ 80% ข้ึนไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝกึ หดั -แบบฝกึ หัด ผา่ นเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤติกรรม การ - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถอื ว่า
ทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทกั ษะและ ผ่านเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสุข ประเมิน
ศกึ ษาและพลศกึ ษา
1. สงั เกตจากการเรยี นมี 1. แบบสังเกต 80% ขึน้ ไป ถือวา่
ความรับผดิ ชอบต่องานทส่ี ัง่ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑก์ าร
และสง่ งานไดท้ นั ตามที่ ประเมนิ
กำหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ ม่นั ใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนรพู้ ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 4 บริษัท สำนกั พมิ พว์ ัฒนาพานิช จำกดั
2. ส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สมบูรณ์แบบ ป. 4 บรษิ ัท สำนักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกัด
3. แบบฝกึ หดั สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 4 บริษทั สำนักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกัด
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สัปดาหท์ ่ี 7
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 / ……. ชอื่ ผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชวี ติ และครอบครวั เรอื่ ง ความสำคญั ของการเป็นเพื่อนและสมาชิกครอบครวั ท่ดี ี
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน พ 2.1เขา้ ใจและเห็นคณุ คา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวิต
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 4/1อธอิ บายคุณลักษณะของความเป็นเพอ่ื นและสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั
2. สาระสำคญั
ในชวี ิตของเราจะตอ้ งอยู่ร่วมกบั สมาชกิ ในครอบครัว ไดแ้ ก่ พ่อ แม่ พ่ี น้อง และบุคคลอน่ื ๆ ในโรงเรยี น
ได้แก่ เพอ่ื นการเรียนรูว้ ธิ กี ารปรับตัวเพ่ือใชช้ วี ิตรว่ มกับบุคคลอน่ื ให้เกดิ ความราบรน่ื จงึ มีความสำคญั และทำให้ชวี ติ มี
ความสขุ โดยเราจะตอ้ งปฏิบัตติ นเปน็ เพ่อื นและสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครัว
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสำคญั ของการเปน็ เพื่อนและสมาชิกทดี่ ขี องครอบครวั อยา่ งถกู ตอ้ งได้ (K)
2. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการเปน็ เพ่อื นและสมาชกิ ทีด่ ขี องครอบครัว (A)
3. สามารถส่ือสารเพอ่ื อธบิ ายความสำคญั ของการเปน็ เพอ่ื นและสมาชกิ ท่ีดีของครอบครัว
อยา่ งถูกตอ้ งได้ (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลักสูตรขอองสถานศึกษา
1.การเปน็ และสมาชิกครอบครัวท่ดี ี
- การปฏิบตั ิตนของเปน็ เพื่อนและสมาชิก
ครอบครวั
- ความสำคัญของเพื่อนและครอบครัว
- การดูแลครอบครัว
5. สาระการเรยี นรู้
คาบท่ี 7
ข้ันเตรียมก่อนนำเข้าสู่บทเรยี น
• นกั เรียนทำแบบทดสอบความร้กู ่อนการเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ชวี ติ และครอบครัว โดยครูอ่าน
คำช้ีแจงใหน้ ักเรยี นฟัง เพ่ือเปน็ การประเมินพ้นื ฐานความรู้
ขน้ั ที่ 1: นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. สุ่มตวั แทนนักเรยี นออกมาเล่าเร่ืองเพ่ือนท่ีประทับใจ และเลา่ ถงึ ความสัมพนั ธ์ทีม่ ีตอ่ เพ่อื น
2. ครถู ามคำถามนำเข้าสู่บทเรยี น “นกั เรยี นอยรู่ ว่ มกบั เพื่อนและสมาชกิ ในครอบครัวได้อยา่ งมีความสุข
หรือไม่ อย่างไร”
ขน้ั ที่ 2: กิจกรรมการเรียนรู้
2. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน ร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ความสำคัญของการเปน็ เพ่ือน
และสมาชิกทีด่ ขี องครอบครวั
2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสรุปผลการแสดงความคดิ เหน็ และสง่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมารายงานผลหนา้ ชน้ั
เรียน
3. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัยและใหข้ อ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ
ขน้ั ที่ 3: ฝึกฝนทกั ษะและประสบการณ์
• นกั เรียนเขยี นเรียงความเรอ่ื ง ความสำคัญของการเป็นเพอ่ื นและสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครัว และนำมา
ผลดั กันอ่านกับเพ่อื น ๆ ในชน้ั เรยี น
ขนั้ ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรียนนำความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาและการปฏิบัติกิจกรรมไปเลา่ ให้ผู้ปกครองฟัง และให้ผ้ปู กครอง
ตอบรับการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกลบั มาทีค่ รู
ขนั้ ท่ี 5: สรปุ ความรู้
• นกั เรียนสรุปสาระสำคัญท่ีไดจ้ ากการปฏิบัติกิจกรรมและบนั ทกึ ความรูโ้ ดยสงั เขปในสมดุ
บันทึก
6. การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ าร
การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรู้ความเข้าใจ (K)
- ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กิจกรรมฝึกทักษะ 80% ขึน้ ไป ถือว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทกั ษะและ ผ่านเกณฑ์การ
กระบวนการทางสุข ประเมนิ
ศกึ ษาและพลศึกษา
1. สงั เกตจากการเรียนมี 1. แบบสังเกต 80% ขึน้ ไป ถอื วา่
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานทส่ี ัง่ พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์การ
และสง่ งานได้ทันตามท่ี ประเมนิ
กำหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มน่ั ใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน สุขศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกดั
2. ส่ือการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา สมบรู ณแ์ บบ ป. 4 บรษิ ัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด
3. แบบฝกึ หดั สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป. 4 บริษทั สำนักพิมพ์วัฒนาพานชิ จำกัด
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สัปดาห์ท่ี 8
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 / …….. ช่ือผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดือราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ชวี ิตและครอบครวั เรอื่ ง ความหมายและความสำคัญของพฤตกิ รรม
ทางเพศทเี่ หมาะสมตามวฒั นธรรมไทย
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน พ 2.1เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชวี ิต
ตวั ช้ีวัดท่ี ป. 4/2แสดงพฤตกิ รรมที่เหมาะสมกบั เพศของตนตามวัฒนธรรมไทย
2. สาระสำคญั
พฤติกรรมทางเพศ หมายถงึ ความคดิ และการแสดงออกของบคุ คลเกี่ยวกับเร่ืองเพศ ซึ่งมผี ลตอ่ การดำรงชวี ิต
เราทุกคนจงึ ต้องเรยี นรูม้ ารยาทและวิธกี ารปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมาะสมกับเพศตามวัฒนธรรมไทยเพอื่ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม
อย่างมคี วามสขุ มีสขุ ภาพและบุคลกิ ภาพทดี่ ี
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและความสำคญั ของพฤติกรรมทางเพศอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K)
2. ศกึ ษาเร่ืองท่เี กยี่ วข้องกับพฤติกรรมทางเพศดว้ ยความสนใจ (A)
3. สามารถแสดงพฤตกิ รรมทางเพศอย่างเหมาะสมได้ (P)
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่
1.พฤตกิ รรมทางเพศทเ่ี หมาะสมตามวัฒนธรรม พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศกึ ษา
ไทย
- การปฏิบัติตนทางเพศทีเ่ หมาะสม
- ความสำคัญของพฤติกรรมทางเพศ
- การแนะนำพฤติกรรมทางเพศตามวัฒนธรรม
ไทย
5.กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 8
ข้ันท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรยี น
• ครูแสดงภาพเพศหญิงและเพศชาย และตัง้ คำถามทบทวนความรู้เรอ่ื ง ความแตกตา่ งระหว่าง
เพศหญงิ และเพศชาย เชน่ เพศหญงิ และเพศชายมคี วามเหมือนและแตกตา่ งกันอย่างไร มีการ
กระทำอะไรบ้างทบี่ ่งบอกถึงพฤติกรรมทางเพศ
(ครูอาจถามด้วยคำถามอ่ืน ๆ ท่เี หมาะสมกบั สภาพการจัดการเรียนการสอนได้เพื่อท่ีจะได้ใชเ้ ชอ่ื มโยง
เข้าสบู่ ทเรียน)
ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครูนำเสนอถงึ ความหมายและความสำคญั ของพฤตกิ รรมทางเพศท่เี หมาะสมตามวฒั นธรรมไทย
2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3–4 คน ร่วมกนั อภิปรายถึงความหมายและความสำคัญของพฤตกิ รรม
ทางเพศทเ่ี หมาะสมตามวฒั นธรรมไทยและบนั ทึกผลการอภปิ ราย
3. แตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนรายงานผลการอภิปรายหนา้ ชนั้ เรียน
4. ใหค้ วามรู้เกีย่ วกับวัฒนธรรมการแต่งกายของประเทศเพอ่ื นบ้านในกลมุ่ ประเทศสมาชิก
อาเซยี นเชน่ ชดุ ประจำชาตขิ องประเทศลาว ผู้หญงิ นุ่งผ้าซน่ิ (ผ้าถงุ ) สวมเสอื้ แขนยาว
ทรงกระบอกคลา้ ยกนั กบั การแตง่ กายทางภาคอสี านของไทย ผู้ชายจะแตง่ กายแบบ
สากลหรือนงุ่ โจงกระเบน สวมเสื้อชนั้ นอกกระดมุ เจ็ดเม็ดคล้ายกันกับเสอื้ พระราชทาน
ของไทย
ขั้นที่ 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• นักเรยี นผลัดกันถามและตอบคำถามเกยี่ วกับความหมายและความสำคญั ของพฤติกรรมทางเพศท่ี
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทยและจดบนั ทึกลงในสมุดบันทึก
ขน้ั ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นนำความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาและการปฏิบัตกิ ิจกรรมไปเลา่ ให้ผ้ปู กครองฟัง และให้ผ้ปู กครอง
ตอบรบั ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมนักเรยี นกลับมาท่ีครู
ขน้ั ที่ 5: สรุปความรู้
• นกั เรียนสรุปสาระสำคญั ที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมและบนั ทึกความรู้โดยสงั เขปลงในสมุด
บนั ทึก
6. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ าร
การวดั และประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรู้ความเขา้ ใจ (K)
- ตรวจกจิ กรรมฝกึ ทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ 80% ข้นึ ไป ถือว่า
ทักษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A)
ประเมิน
-สังเกตพฤติกรรม การ - แบบประเมนิ 80% ขึ้นไป ถอื ว่า
ทำงานรายบคุ คล/กลุ่ม ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสขุ ประเมิน
ศกึ ษาและพลศึกษา
1. สังเกตจากการเรียนมี 1. แบบสงั เกต 80% ข้นึ ไป ถือว่า
ความรบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ ัง่ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑก์ าร
และสง่ งานไดท้ นั ตามท่ี ประเมิน
กำหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่
เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมนั่ ใน
การทำงาน
7. สื่อ/อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1. ภาพเพศหญงิ และเพศชาย
2. หนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกัด
3. สอื่ การเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ป. 4 บรษิ ทั สำนกั พมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
4. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป. 4 บริษทั สำนักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกัด
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สัปดาห์ท่ี 9
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 / …….. ช่ือผูส้ อน นายซลุ กิฟลี ดือราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ชวี ิตและครอบครวั เรอื่ ง ความหมายและความสำคัญของพฤตกิ รรม
ทางเพศทเี่ หมาะสมตามวฒั นธรรมไทย
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน พ 2.1เข้าใจและเห็นคณุ คา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชวี ิต
ตวั ช้วี ัดท่ี ป. 4/2แสดงพฤตกิ รรมที่เหมาะสมกบั เพศของตนตามวัฒนธรรมไทย
2. สาระสำคญั
พฤติกรรมทางเพศ หมายถงึ ความคดิ และการแสดงออกของบคุ คลเกี่ยวกับเร่ืองเพศ ซึ่งมผี ลตอ่ การดำรงชวี ิต
เราทุกคนจงึ ต้องเรยี นรูม้ ารยาทและวิธกี ารปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมาะสมกับเพศตามวัฒนธรรมไทยเพอื่ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม
อย่างมคี วามสขุ มีสขุ ภาพและบุคลกิ ภาพทดี่ ี
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความหมายและความสำคญั ของพฤติกรรมทางเพศอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K)
2. ศกึ ษาเร่ืองท่เี กยี่ วข้องกับพฤติกรรมทางเพศดว้ ยความสนใจ (A)
3. สามารถแสดงพฤตกิ รรมทางเพศอย่างเหมาะสมได้ (P)
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่
1.พฤตกิ รรมทางเพศทเ่ี หมาะสมตามวัฒนธรรม พิจารณาตามหลักสูตรขอองสถานศกึ ษา
ไทย
- การปฏิบัติตนทางเพศทีเ่ หมาะสม
- ความสำคัญของพฤติกรรมทางเพศ
- การแนะนำพฤติกรรมทางเพศตามวัฒนธรรม
ไทย
5.กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่ 9
ข้ันท่ี 1: นำเข้าสู่บทเรยี น
• ครูแสดงภาพเพศหญิงและเพศชาย และตัง้ คำถามทบทวนความรู้เรอ่ื ง ความแตกตา่ งระหว่าง
เพศหญงิ และเพศชาย เชน่ เพศหญงิ และเพศชายมคี วามเหมอื นและแตกตา่ งกันอย่างไร มีการ
กระทำอะไรบ้างทบี่ ่งบอกถึงพฤติกรรมทางเพศ
(ครูอาจถามด้วยคำถามอ่ืน ๆ ท่เี หมาะสมกบั สภาพการจัดการเรียนการสอนได้เพื่อทจ่ี ะได้ใชเ้ ชื่อมโยง
เข้าสบู่ ทเรียน)
ข้นั ท่ี 2: กจิ กรรมการเรียนรู้
2. ครูนำเสนอถึงความหมายและความสำคัญของพฤติกรรมทางเพศท่เี หมาะสมตามวัฒนธรรมไทย
2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3–4 คน ร่วมกันอภิปรายถึงความหมายและความสำคัญของพฤติกรรม
ทางเพศทเ่ี หมาะสมตามวฒั นธรรมไทยและบนั ทึกผลการอภิปราย
3. แตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนรายงานผลการอภิปรายหนา้ ชนั้ เรียน
4. ใหค้ วามรู้เกีย่ วกับวัฒนธรรมการแต่งกายของประเทศเพือ่ นบ้านในกลมุ่ ประเทศสมาชิก
อาเซยี นเชน่ ชดุ ประจำชาตขิ องประเทศลาว ผู้หญงิ นุ่งผา้ ซนิ่ (ผ้าถงุ ) สวมเสอื้ แขนยาว
ทรงกระบอกคลา้ ยกนั กบั การแตง่ กายทางภาคอสี านของไทย ผู้ชายจะแตง่ กายแบบ
สากลหรือนงุ่ โจงกระเบน สวมเสื้อชั้นนอกกระดมุ เจ็ดเมด็ คล้ายกันกับเสอื้ พระราชทาน
ของไทย
ขั้นที่ 3: ฝกึ ฝนทักษะและประสบการณ์
• นักเรยี นผลัดกันถามและตอบคำถามเกยี่ วกับความหมายและความสำคญั ของพฤติกรรมทางเพศที่
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทยและจดบนั ทึกลงในสมุดบันทึก
ขน้ั ที่ 4: การนำไปใช้
• นักเรยี นนำความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษาและการปฏิบัตกิ ิจกรรมไปเลา่ ให้ผ้ปู กครองฟัง และใหผ้ ้ปู กครอง
ตอบรบั ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมนักเรยี นกลับมาท่ีครู
ขน้ั ที่ 5: สรุปความรู้
• นกั เรียนสรุปสาระสำคญั ที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมและบนั ทึกความรู้โดยสังเขปลงในสมุด
บนั ทึก
6. การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑก์ าร
การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ ประเมินผล
ความรู้ความเข้าใจ (K)
- ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทักษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑก์ าร
คณุ ลักษณะนิสัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ข้นึ ไป ถือว่า
ทำงานรายบุคคล/กลุ่ม ทกั ษะและ ผา่ นเกณฑ์การ
กระบวนการทางสุข ประเมนิ
ศกึ ษาและพลศกึ ษา
1. สงั เกตจากการเรียนมี 1. แบบสงั เกต 80% ข้ึนไป ถอื ว่า
ความรับผิดชอบต่องานที่ส่ัง พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑก์ าร
และส่งงานได้ทันตามท่ี ประเมิน
กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุง่ มนั่ ใน
การทำงาน
7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. ภาพเพศหญงิ และเพศชาย
2. หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป. 4 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกัด
3. ส่ือการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา สมบูรณ์แบบ ป. 4 บริษัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จำกัด
4. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ป. 4 บริษัท สำนักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกดั
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝ่ายวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงชอื่ ...........................................ผอู้ ำนวยการ
(.................................................................)
สปั ดาหท์ ี่ 11
โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นที่ 1 / ……. ชื่อผสู้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ
กลมุ่ สาระ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เพ่ิมพูนทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอ่ื ง การชว่ ยชีวติ คนตกน้ำ
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน พ 3.1เข้าใจ มีทักษะในการเคล่อื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
ตวั ชวี้ ดั ที่ ป. 4/1ควบคมุ ตนเองเมอื่ ใชท้ กั ษะการเคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสานได้ทง้ั แบบอยกู่ ับที่
เคลื่อนท่ี และใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบัตเิ ป็นประจำอยา่ งสมำ่ เสมอ
มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนำ้ ใจนักกีฬา มีจติ วิญญาณ ในการแข่งขนั และชื่นชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา
ตัวชว้ี ดั ที่ ป. 4/1ออกกำลงั กาย เลน่ เกม และกีฬา ทีต่ นเองชอบและมคี วามสามารถในการวิเคราะห์
ผลพฒั นาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏบิ ตั ิของผอู้ น่ื
2. สาระสำคญั
การช่วยชวี ติ คนตกน้ำ เปน็ ทกั ษะการฝกึ ข้ันพนื้ ฐานของการเลน่ กีฬาวา่ ยน้ำ เพราะเปน็ การฝกึ ท่เี นน้ วธิ กี าร
ชว่ ยชวี ติ ท่ีเกิดอุบตั เิ หตุทางน้ำ เพอื่ ใหเ้ กิดทักษะการชว่ ยคนตกน้ำและสามารถปฏิบตั ิได้จรงิ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.สามารถอธิบายและเข้าใจการชว่ ยชวี ิตคนตกน้ำอย่างถกู ต้องได้(K)
2. สนใจเข้าร่วมปฏิบัตกิ ิจกรรมการเรยี นร้เู กีย่ วกับการชว่ ยชีวติ คนตกน้ำ(A)
3. สามารถปฏิบัติทกั ษะการช่วยชวี ิตคนตกน้ำไดถ้ ูกต้อง (P)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ
1.ประวัติความเปน็ มาและทกั ษะการช่วยชีวติ คน พิจารณาตามหลกั สตู รขอองสถานศกึ ษา
ตกน้ำ
2.ทกั ษะเบ้อื งตน้ ของการช่วยชีวติ คนตกน้ำ
5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบท่ี 11
ขน้ั ที่ 1 นำเข้าสู่บทเรยี น
1. แบง่ กลุ่มผู้เรียน 4 กลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ 8-9 คนแยก-ชายหญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญิง 2 แถว เรียงตามลำดบั
ไหล่
2. สำรวจจำนวนนกั เรียนการเข้าแถว ความพร้อมและสุขภาพของผเู้ รยี น
3. สำรวจอุปกรณ์และการแตง่ กายและสขุ ภาพของนกั เรียน
-เคร่อื งแต่งกาย
4. ครูอธิบายสาระการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
5. อบอนุ่ ร่างกาย แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ และใหน้ กั เรียนอบอุ่นรา่ งกายเพ่ือเตรียมความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
รา่ งกายแบบอยกู่ ับทว่ี งิ่ รอบสระ 5 รอบ
ขั้นท่ี 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.ให้นกั เรียนเขา้ แถวหนา้ กระดาน 4 แถว แบ่งเปน็ ชาย 2 แถว หญิง 2 แถว จัดแถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ ั่งลง
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
= ครู ☺ = นกั เรียน
2. ครูอธิบายความสำคัญของการชว่ ยชวี ติ คนตกนำ้ ให้นกั เรยี นฟัง
3. ครอู ธิบายแบบฝึกการชว่ ยชวี ติ คนตกน้ำ พรอ้ มทั้งทำใหด้ เู ปน็ ตัวอยา่ ง
- การชว่ ยคนตกน้ำแบบโยนอปุ กรณ์
- การชว่ ยคนตกน้ำแบบยืนอุปกรณ์
ข้ันท่ี 3 ฝกึ ฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ให้นักเรียนเขา้ ตอน 4 แถว แบ่งเปน็ ชาย แถวที่ 1,2 หญงิ แถวท่ี 3,4
2.ใหน้ ักเรยี นฝกึ การช่วยชีวติ คนตกนำ้ ทลี่ ะแถว เปน็ จังหวะตามสัญญาณนกหวีด
3.ใหค้ รผู ู้สอนคอ่ ยแนะนำการปฏบิ ัติของนกั เรียน
☺ ☺ ☺ ☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
= ครู ☺ = นกั เรียน
ขน้ั ท่ี 4 การ นำไปใช้
1.ให้นกั เรียนเขา้ ตอน 4 แถว แบ่งเปน็ ชาย แถวท่ี 1,2 หญิงแถวท่ี 3,4
2.ใหแ้ ตแ่ ถวสง่ ตัวแทนมา แถวละ 2 คน
3.ทำการแขง่ ขนั การชว่ ยชีวิตคนตกนำ้ แถวไหนชว่ ยได้ก่อนก็เปน็ ฝา่ ยชนะ
4.นักเรยี นทเี่ หลือของแต่ละแถว เปน็ ผู้ชว่ ยบอกวธิ กี ารช่วยให้กบั เพอื่ นที่เปน็ ตวั แทน
☺☺ ☺☺ ☺☺ ☺☺
☺ ☺ ☺ ☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขัน้ ที่ 5 สรุปความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นั่งลง
2.ครใู หน้ ักเรยี นที่ปฏิบตั กิ ารชว่ ยชวี ติ คนตกน้ำ ไดถ้ ูกต้องออกมาทำใหเ้ พือ่ นดู
3.ครกู ลา่ วสรุปร่วมกับนกั เรียน
4.ครกู ล่าวชมเชยสำหรบั นักเรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ด้ถกู ตอ้ งและให้กำลังใจสำหรับนกั เรียนที่ยงั ปฏบิ ตั ิไมค่ ่อยได้
5.ครใู หน้ ักเรยี นไปอาบน้ำล้างตวั
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
6. การวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ าร
การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
ความรู้ความเขา้ ใจ (K)
- ตรวจกิจกรรมฝึกทักษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขึ้นไป ถือว่า
ทักษะ/กระบวนการ (P)
-ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัด ผ่านเกณฑ์การ
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A)
ประเมิน
-สงั เกตพฤตกิ รรม การ - แบบประเมิน 80% ขึ้นไป ถอื ว่า
ทำงานรายบคุ คล/กลุม่ ทกั ษะและ ผ่านเกณฑก์ าร
กระบวนการทางสุข ประเมิน
ศึกษาและพลศกึ ษา
1. สังเกตจากการเรยี นมี 1. แบบสังเกต 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ความรับผดิ ชอบตอ่ งานท่สี ั่ง พฤติกรรม ผา่ นเกณฑก์ าร
และสง่ งานได้ทันตามที่ ประเมิน
กำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่
เรียนรู้
3. สังเกตจากการม่งุ ม่นั ใน
การทำงาน
7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. สระวา่ ยนำ้
2. สิ่งของทีจ่ มน้ำ
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .................................................ผสู้ อน ลงช่อื ...............................................ฝา่ ยวิชาการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงช่ือ...........................................ผู้อำนวยการ
(.................................................................)
สปั ดาห์ที่ 12
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1 / ……. ช่ือผู้สอน นายซลุ กฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เพิ่มพนู ทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอ่ื ง การจบั โฟมยาวเตะขา
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า
ตัวช้ีวัดที่ ป. 4/1ควบคมุ ตนเองเมื่อใช้ทกั ษะการเคลือ่ นไหวในลักษณะผสมผสานไดท้ ั้งแบบอยู่กับที่
เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัตเิ ป็นประจำอยา่ งสม่ำเสมอ
มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนักกฬี า มีจติ วิญญาณ ในการแข่งขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า
ตัวช้ีวดั ท่ี ป. 4/1ออกกำลงั กาย เล่นเกม และกฬี า ท่ตี นเองชอบและมคี วามสามารถในการวเิ คราะห์
ผลพัฒนาการของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏิบตั ิของผอู้ ่ืน
2. สาระสาคญั
การจบั โฟมยาวเตะขา เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการเล่นกฬี าวา่ ยน้าทา่ ฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกทเี่ น้นจงั หวะ
การเตะขา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเคยชนิ กบั การอยู่ในน้า การดาขน้ึ ลงในน้าทาใหอ้ วยั วะส่วนตา่ งๆของร่างกายทางานสมั พนั ธก์ นั
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.สามารถอธบิ ายและเขา้ ใจการจบั โฟมยาวเตะขาอยา่ งถูกต้องได(้ K)
2. สนใจเขา้ ร่วมปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั การจบั โฟมยาวเตะขา(A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมยาวเตะขาไดถ้ กู ตอ้ ง (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.ประวตั คิ วามเป็นมาและทกั ษะการจบั โฟมยาว
เตะขา
-ทกั ษะเบ้อื งต้นของการจบั โฟมยาวเตะขา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 12
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ 8-9 คนแยก-ชายหญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสขุ ภาพของผูเ้ รยี น
3. สารวจอุปกรณ์และการแตง่ กายและสุขภาพของนกั เรยี น
-เคร่อื งแต่งกาย
4. ครอู ธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
5. อบอนุ่ รา่ งกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ ักเรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
รา่ งกายแบบอยกู่ บั ทว่ี ง่ิ รอบสระ 5 รอบ
ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวหน้ากระดาน 4 แถว แบง่ เป็นชาย 2 แถว หญงิ 2 แถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ งั ่ ลง
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายความสาคญั ของการจบั โฟมยาวเตะขาใหน้ กั เรยี นฟัง
3. ครอู ธบิ ายแบบฝึกการจบั โฟมยาวเตะขา พรอ้ มทงั้ ทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง
ขนั้ ท่ี 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ ตอน 4 แถว แบง่ เป็นชาย แถวที่ 1,2 หญงิ แถวที่ 3,4
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการจบั โฟมยาวเตะขาทแ่ี ถว เป็นจงั หวะตามสญั ญาณนกหวดี
3.ใหค้ รผู สู้ อนคอ่ ยแนะนาการปฏบิ ตั ขิ องนักเรยี น
☺ ☺ ☺ ☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ ตอน 4 แถว แบง่ เป็นชาย แถวท่ี 1,2 หญงิ แถวที่ 3,4
2.ใหแ้ ตแ่ ถวสง่ ตวั แทนมา แถวละ 2 คน
3.ทาการแขง่ ขนั การจบั โฟมยาวเตะขา แถวไหนไปถงึ ขอบสระอกี ฝัง่ กอ่ นกเ็ ป็นฝ่ายชนะ
4.นกั เรยี นทเี่ หลอื ของแตล่ ะแถว เป็นกองเชยี รส์ ามารถรอ้ งเพลงและเต้น
☺☺ ☺☺ ☺☺ ☺☺
☺ ☺ ☺ ☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
ขนั้ ท่ี 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครใู หน้ ักเรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมยาวเตะขาไดถ้ ูกตอ้ งออกมาทาใหเ้ พ่อื นดู
3.ครูกล่าวสรุปร่วมกบั นักเรยี น
4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นักเรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกต้องและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ ม่ค่อยได้
5.ครูใหน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลุม่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผา่ นเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ
1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทส่ี งั ่ และส่ง พฤตกิ รรม
งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่
เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน
การทางาน
7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้
1. สระว่ายน้า
2. สงิ่ ของทจี่ มน้า
8. กิจกรรมเสนอแนะ
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
ลงชอ่ื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)
ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)
สปั ดาห์ที่ 13
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1 / ……. ชอื่ ผู้สอน นายซุลกฟิ ลี ดอื ราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชั้น ประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เพิ่มพนู ทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอ่ื ง การจบั โฟมยาวเตะขา
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า
ตัวช้ีวัดที่ ป. 4/1ควบคุมตนเองเมื่อใช้ทักษะการเคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสานไดท้ ั้งแบบอยู่กับที่
เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบัตเิ ป็นประจำอยา่ งสม่ำเสมอ
มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนักกฬี า มีจติ วิญญาณ ในการแข่งขนั และช่นื ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า
ตัวช้ีวดั ท่ี ป. 4/1ออกกำลงั กาย เล่นเกม และกฬี า ที่ตนเองชอบและมคี วามสามารถในการวเิ คราะห์
ผลพัฒนาการของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏิบตั ิของผอู้ ่ืน
2. สาระสาคญั
การจบั โฟมยาวเตะขา เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการเลน่ กฬี าวา่ ยน้าท่าฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกทเี่ น้นจงั หวะ
การเตะขา เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเคยชนิ กบั การอยู่ในน้า การดาขน้ึ ลงในน้าทาใหอ้ วยั วะส่วนต่างๆของร่างกายทางานสมั พนั ธก์ นั
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.สามารถอธบิ ายและเขา้ ใจการจบั โฟมยาวเตะขาอยา่ งถูกต้องได(้ K)
2. สนใจเขา้ ร่วมปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั การจบั โฟมยาวเตะขา(A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมยาวเตะขาไดถ้ กู ตอ้ ง (P)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.ประวตั คิ วามเป็นมาและทกั ษะการจบั โฟมยาว
เตะขา
-ทกั ษะเบ้อื งต้นของการจบั โฟมยาวเตะขา