The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ป.4 เทอม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sulkiflee_085, 2022-05-18 22:53:35

โครงสร้างและแผนจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ป.4 เทอม 1

โครงสร้างและแผนจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ป.4 เทอม 1

Keywords: แผนการสอน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 13
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. แบ่งกล่มุ ผเู้ รยี น 4 กลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ 8-9 คนแยก-ชายหญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสขุ ภาพของผูเ้ รยี น
3. สารวจอุปกรณ์และการแตง่ กายและสุขภาพของนกั เรยี น
-เคร่อื งแต่งกาย
4. ครอู ธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
5. อบอ่นุ ร่างกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ ักเรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
รา่ งกายแบบอยกู่ บั ทว่ี ง่ิ รอบสระ 5 รอบ
ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวหน้ากระดาน 4 แถว แบง่ เป็นชาย 2 แถว หญงิ 2 แถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ งั ่ ลง

☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺ 
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายความสาคญั ของการจบั โฟมยาวเตะขาใหน้ กั เรยี นฟัง
3. ครอู ธบิ ายแบบฝึกการจบั โฟมยาวเตะขา พรอ้ มทงั้ ทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง

ขนั้ ท่ี 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ ตอน 4 แถว แบง่ เป็นชาย แถวที่ 1,2 หญงิ แถวที่ 3,4
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการจบั โฟมยาวเตะขาทแ่ี ถว เป็นจงั หวะตามสญั ญาณนกหวดี
3.ใหค้ รผู สู้ อนคอ่ ยแนะนาการปฏบิ ตั ขิ องนักเรยี น

☺ ☺ ☺ ☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺
☺☺ ☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น

ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้

1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ ตอน 4 แถว แบง่ เป็นชาย แถวท่ี 1,2 หญงิ แถวที่ 3,4
2.ใหแ้ ตแ่ ถวสง่ ตวั แทนมา แถวละ 2 คน
3.ทาการแขง่ ขนั การจบั โฟมยาวเตะขา แถวไหนไปถงึ ขอบสระอกี ฝัง่ กอ่ นกเ็ ป็นฝ่ายชนะ
4.นกั เรยี นทเี่ หลอื ของแตล่ ะแถว เป็นกองเชยี รส์ ามารถรอ้ งเพลงและเต้น

☺☺ ☺☺ ☺☺ ☺☺

☺ ☺ ☺ ☺

☺☺ ☺☺

☺☺ ☺☺

☺☺ ☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ ความรู้

1.ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง

2.ครใู หน้ ักเรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมยาวเตะขาไดถ้ ูกตอ้ งออกมาทาใหเ้ พ่อื นดู

3.ครูกล่าวสรุปร่วมกบั นักเรยี น

4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นักเรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกต้องและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ ม่ค่อยได้

5.ครูใหน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบุคคล/กลุม่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผา่ นเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบต่องานทส่ี งั ่ และส่ง พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้

1. สระว่ายน้า
2. สงิ่ ของทจี่ มน้า

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สัปดาหท์ ี่ 14

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / ……. ช่ือผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เพ่มิ พูนทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอื่ ง การทาท่าจรวด

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
ตวั ชี้วัดที่ ป. 4/ควบคุมตนเองเมอ่ื ใชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวในลักษณะผสมผสานได้ทงั้ แบบอยู่กับที่

เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอย่างสมำ่ เสมอ

มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ำ้ ใจนักกีฬา มจี ิตวิญญาณ ในการแขง่ ขันและชืน่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า
ตัวชวี้ ัดท่ี ป. 4/1ออกกำลงั กาย เลน่ เกม และกีฬา ท่ตี นเองชอบและมคี วามสามารถในการวิเคราะห์

ผลพฒั นาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏบิ ตั ิของผ้อู นื่

2. สาระสาคญั

การทาทา่ จรวด (การดาน้าเตะขา) เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการฝึกว่ายน้าทา่ ฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการ
ใชข้ าในน้าโดยไมใ่ ชอ้ ุปกรณ์ การทาทา่ จรวดไดไ้ กลสรา้ งความมนั ่ ใจในการว่ายน้าใหก้ บั ตวั เรา

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการทาท่าจรวดไดอ้ ย่างถกู ต้อง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณคา่ ของการออกกาลงั กาย และการเลน่ กฬี ายอมรบั ให้ความร่วมมอื เคารพในสทิ ธหิ น้าทข่ี องตนเอง
และผอู้ ่นื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนักเรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการทาทา่ จรวดไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง(P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สตู รขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.การทาทา่ จรวด
-ทกั ษะเบอ้ื งต้นของการทาท่าจรวด

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 14
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน
1. แบง่ กล่มุ ผเู้ รยี น 4 กลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนกั เรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสุขภาพของผเู้ รยี น
3. สารวจอุปกรณแ์ ละการแต่งกายและสขุ ภาพของนกั เรยี น
-เคร่อื งแตง่ กาย
4. ครอู ธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
5. อบอนุ่ รา่ งกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ กั เรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
รา่ งกายแบบอยู่กบั ทว่ี ง่ิ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
1.แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายทกั ษะการทาทา่ จรวดและทาใหด้ ูเป็นตวั อยา่ ง

ขนั้ ที่ 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการทาท่าจรวดทก่ี ลุ่ม
3.ครคู อ่ ยดูแลและแนะนานกั เรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกลุ่ม 4 กลมุ่ เทา่ ๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นแต่ละแถวสง่ ตวั แทนมากลมุ่ ละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเี่ ป็นตวั แทนแขง่ ขนั การทาท่าจรวด
4.นักเรยี นคนไหนไปไดไ้ กลทสี่ ดุ เป็นผชู้ นะ
5.การแขง่ ขนั ใหค้ รูสลบั นักเรยี นออกมาเล่นเร่อื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครใู หน้ ักเรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทาทา่ จรวดไดถ้ ูกตอ้ งออกมาทาใหเ้ พ่อื นดู
3.ครกู ล่าวสรุปร่วมกบั นกั เรยี น
4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ มค่ อ่ ยได้
5.ครูนัดหมายคาบต่อไป
6.ครใู หน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ขน้ึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
จุดประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7.อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้

1. สระว่ายน้า

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สัปดาหท์ ี่ 15

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / ……. ช่ือผ้สู อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เพ่มิ พูนทักษะการเคล่ือนไหว เรอื่ ง การทาท่าจรวด

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา
ตวั ชี้วัดที่ ป. 4/ควบคุมตนเองเมอ่ื ใชท้ กั ษะการเคลอ่ื นไหวในลักษณะผสมผสานได้ทงั้ แบบอยูก่ ับที่

เคลื่อนท่ี และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอย่างสมำ่ เสมอ

มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ำ้ ใจนักกีฬา มจี ิตวิญญาณ ในการแขง่ ขันและชืน่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า
ตัวชวี้ ัดท่ี ป. 4/1ออกกำลงั กาย เลน่ เกม และกีฬา ท่ตี นเองชอบและมคี วามสามารถในการวิเคราะห์

ผลพฒั นาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏบิ ตั ิของผ้อู นื่

2. สาระสาคญั

การทาทา่ จรวด (การดาน้าเตะขา) เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการฝึกว่ายน้าทา่ ฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการ
ใชข้ าในน้าโดยไมใ่ ชอ้ ุปกรณ์ การทาทา่ จรวดไดไ้ กลสรา้ งความมนั ่ ใจในการว่ายน้าใหก้ บั ตวั เรา

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการทาท่าจรวดไดอ้ ย่างถกู ต้อง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณคา่ ของการออกกาลงั กาย และการเลน่ กฬี ายอมรบั ให้ความร่วมมอื เคารพในสทิ ธหิ นา้ ทข่ี องตนเอง
และผอู้ ่นื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนักเรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการทาทา่ จรวดไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง(P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สตู รขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.การทาทา่ จรวด
-ทกั ษะเบอ้ื งต้นของการทาท่าจรวด

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 15
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน
1. แบง่ กล่มุ ผเู้ รยี น 4 กลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนกั เรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสุขภาพของผเู้ รยี น
3. สารวจอุปกรณแ์ ละการแต่งกายและสขุ ภาพของนกั เรยี น
-เคร่อื งแตง่ กาย
4. ครอู ธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
5. อบอนุ่ รา่ งกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ กั เรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
รา่ งกายแบบอยู่กบั ทว่ี ง่ิ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
1.แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายทกั ษะการทาทา่ จรวดและทาใหด้ ูเป็นตวั อยา่ ง

ขนั้ ที่ 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการทาท่าจรวดทก่ี ลุ่ม
3.ครคู อ่ ยดูแลและแนะนานกั เรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกลุ่ม 4 กลมุ่ เทา่ ๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นแต่ละแถวสง่ ตวั แทนมากลมุ่ ละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเี่ ป็นตวั แทนแขง่ ขนั การทาท่าจรวด
4.นักเรยี นคนไหนไปไดไ้ กลทสี่ ดุ เป็นผชู้ นะ
5.การแขง่ ขนั ใหค้ รูสลบั นักเรยี นออกมาเล่นเร่อื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครใู หน้ ักเรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทาทา่ จรวดไดถ้ ูกตอ้ งออกมาทาใหเ้ พ่อื นดู
3.ครูกล่าวสรุปร่วมกบั นกั เรยี น
4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ มค่ อ่ ยได้
5.ครูนัดหมายคาบต่อไป
6.ครใู หน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ขน้ึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
จุดประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7.อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้

1. สระว่ายน้า

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 16

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / …… ช่อื ผสู้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เพมิ่ พูนทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอื่ ง การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป. 4/1ควบคมุ ตนเองเมือ่ ใช้ทกั ษะการเคลือ่ นไหวในลกั ษณะผสมผสานได้ท้ังแบบอยูก่ ับที่ เคลอ่ื นท่ี

และใช้อุปกรณ์ประกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รกั การออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสมำ่ เสมอ มี

วนิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณ ในการแข่งขันและชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา
ตัวช้วี ัดท่ี ป. 4/1ออกกำลังกาย เลน่ เกม และกฬี า ทต่ี นเองชอบและมีความสามารถในการวเิ คราะหผ์ ล

พฒั นาการของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏิบัตขิ องผู้อนื่

2. สาระสาคญั

การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ (การจบั โฟมเตะขามอื เดยี วแลว้ บดิ หนา้ ) เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการฝึก
วา่ ยน้าท่าฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการกลนั่ หายใจในน้า และฝึกการบดิ หน้าหายใจเวลาวา่ ยน้าท่าฟรสี ไตล์

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณค่าของการออกกาลงั กาย และการเล่นกฬี ายอมรบั ให้ความร่วมมอื เคารพในสทิ ธหิ น้าทขี่ องตนเอง
และผอู้ น่ื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนกั เรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง(P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1.การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า
-ทกั ษะเบ้อื งตน้ ของการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 16
ขนั้ ท่ี 1 นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลุม่ กลุ่มละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสุขภาพของผูเ้ รยี น
3. สารวจอปุ กรณ์และการแต่งกายและสุขภาพของนักเรยี น
-เครอ่ื งแตง่ กาย
4. ครูอธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
5. อบอนุ่ รา่ งกาย แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ กั เรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
ร่างกายแบบอยูก่ บั ทว่ี งิ่ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
1.แบ่งกลุ่มผเู้ รยี น 4 กลมุ่ กลมุ่ ละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายทกั ษะการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ และทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง

ขนั้ ท่ี 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ ักเรยี นฝึกการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ ทลี่ ะกลมุ่
3.ครูคอ่ ยดแู ลและแนะนานกั เรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุม่ ออกเป็นกล่มุ 4 กลมุ่ เท่าๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ ัง่ ลง
2.ใหน้ กั เรยี นแต่ละสง่ ตวั แทนมากลุ่มละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเ่ี ป็นตวั แทนแข่งขนั การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า
4.นกั เรยี นคนไหนไปถงึ ขอบสระก่อนเป็นผชู้ นะ
5.การแข่งขนั ใหค้ รสู ลบั นกั เรยี นออกมาเล่นเร่อื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครูใหน้ กั เรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดถ้ กู ต้องออกมาทาใหเ้ พ่อื นดู
3.ครกู ลา่ วสรปุ ร่วมกบั นักเรยี นและเปิดโอกาศใหน้ กั เรยี นไดซ้ กั ถาม
4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นกั เรยี นทย่ี งั ปฏบิ ตั ไิ ม่ค่อยได้
5.ครูนัดหมายคาบตอ่ ไป
6.ครูใหน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ข้นึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลุ่ม และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สขุ ศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบต่องานทส่ี งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทกี่ าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้

1. สระว่ายน้า
2. แทง่ โฟม

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน ลงช่อื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 17

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1 / …… ช่อื ผสู้ อน นายซลุ กฟิ ลี ดือราโอะ
กลุ่มสาระ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เพมิ่ พูนทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอื่ ง การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตวั ช้ีวดั ที่ ป. 4/1ควบคมุ ตนเองเมือ่ ใช้ทกั ษะการเคลือ่ นไหวในลกั ษณะผสมผสานได้ท้ังแบบอยูก่ ับที่ เคลอ่ื นท่ี

และใช้อุปกรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รักการออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสมำ่ เสมอ มี

วนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีน้ำใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณ ในการแข่งขันและชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา
ตัวชว้ี ัดท่ี ป. 4/1ออกกำลังกาย เลน่ เกม และกฬี า ทต่ี นเองชอบและมีความสามารถในการวเิ คราะหผ์ ล

พฒั นาการของตนเองตามตวั อย่างและแบบปฏิบัตขิ องผู้อนื่

2. สาระสาคญั

การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ (การจบั โฟมเตะขามอื เดยี วแลว้ บดิ หนา้ ) เป็นทกั ษะการฝึกขนั้ พน้ื ฐานของการฝึก
วา่ ยน้าท่าฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการกลนั่ หายใจในน้า และฝึกการบดิ หน้าหายใจเวลาวา่ ยน้าท่าฟรสี ไตล์

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณคา่ ของการออกกาลงั กาย และการเล่นกฬี ายอมรบั ให้ความร่วมมอื เคารพในสทิ ธหิ น้าทขี่ องตนเอง
และผอู้ ่นื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนกั เรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง(P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
พจิ ารณาตามหลกั สตู รขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1.การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า
-ทกั ษะเบ้อื งตน้ ของการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 17
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. แบ่งกลุม่ ผเู้ รยี น 4 กล่มุ กลุ่มละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสุขภาพของผูเ้ รยี น
3. สารวจอุปกรณแ์ ละการแต่งกายและสุขภาพของนักเรยี น
-เคร่อื งแตง่ กาย
4. ครูอธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นทราบ
5. อบอนุ่ ร่างกาย แจง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ กั เรยี นอบอนุ่ ร่างกายเพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอุ่น
ร่างกายแบบอยูก่ บั ทวี่ งิ่ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้
1.แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลุม่ กลมุ่ ละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นักเรยี น
2. ครูอธบิ ายทกั ษะการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ และทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง

ขนั้ ท่ี 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ ักเรยี นฝึกการจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หนา้ ทลี่ ะกลมุ่
3.ครคู อ่ ยดแู ลและแนะนานกั เรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็นกล่มุ 4 กลมุ่ เท่าๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ ัง่ ลง
2.ใหน้ กั เรยี นแต่ละสง่ ตวั แทนมากลุ่มละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเ่ี ป็นตวั แทนแข่งขนั การจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้า
4.นกั เรยี นคนไหนไปถงึ ขอบสระก่อนเป็นผชู้ นะ
5.การแข่งขนั ใหค้ รูสลบั นักเรยี นออกมาเล่นเร่อื ยๆ

ขนั้ ที่ 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครูใหน้ กั เรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมมอื เดยี วบดิ หน้าไดถ้ กู ต้องออกมาทาใหเ้ พอ่ื นดู
3.ครกู ลา่ วสรปุ ร่วมกบั นักเรยี นและเปิดโอกาศใหน้ กั เรยี นไดซ้ กั ถาม
4.ครกู ล่าวชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นกั เรยี นทย่ี งั ปฏบิ ตั ไิ ม่ค่อยได้
5.ครูนัดหมายคาบตอ่ ไป
6.ครูใหน้ ักเรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ข้นึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลุ่ม และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สขุ ศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบต่องานทส่ี งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทกี่ าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้

1. สระว่ายน้า
2. แทง่ โฟม

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน ลงช่อื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สปั ดาห์ท่ี 18

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……. ชือ่ ผู้สอน นายซลุ กิฟลี ดือราโอะ

กลุ่มสาระ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เพม่ิ พนู ทักษะการเคลอ่ื นไหว เรอ่ื ง การจบั โฟมหมุนแขน

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน พ 3.1เข้าใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตัวชว้ี ดั ที่ ป. 4/1ควบคุมตนเองเม่ือใช้ทกั ษะการเคลื่อนไหวในลกั ษณะผสมผสานได้ทง้ั แบบอย่กู ับที่ เคลอ่ื นท่ี

และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รักการออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั เิ ปน็ ประจำอย่างสม่ำเสมอ มี

วินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ำ้ ใจนักกฬี า มีจติ วญิ ญาณ ในการแขง่ ขันและชน่ื ชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า
ตัวชว้ี ัดที่ ป. 4/1ออกกำลังกาย เลน่ เกม และกฬี า ที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการวิเคราะหผ์ ล

พฒั นาการของตนเองตามตัวอยา่ งและแบบปฏบิ ัติของผู้อน่ื

2. สาระสาคญั

การจบั โฟมหมนุ แขน (การฝึกวา่ ยท่าฟรสี ไตลแ์ บบใชอ้ ุปกรณ์) เป็นทกั ษะการฝึกทสี่ าคญั ของการฝกึ วา่ ยน้าท่า
ฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการหมนุ แขนและการบดิ หนา้ หายใจเพ่อื สรา้ งความมนั ่ ใจในการว่ายน้าทา่ ฟรสี ไตล์ใหก้ บั ตวั เราได้
มาก เชน่ มอื ขา ทางานพรอ้ มกนั กบั การบดิ หายใจ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการจบั โฟมหมนุ แขนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณค่าของการออกกาลงั กาย และการเล่นกฬี ายอมรบั ใหค้ วามรว่ มมอื เคารพในสทิ ธหิ น้าทข่ี องตนเอง
และผอู้ น่ื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนักเรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมหมนุ แขนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง(P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.การจบั โฟมหมุนแขน
-ทกั ษะเบ้อื งต้นของการจบั โฟมหมุนแขน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 18
ขนั้ ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน
1. แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี น 4 กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสขุ ภาพของผเู้ รยี น
3. สารวจอุปกรณ์และการแตง่ กายและสขุ ภาพของนักเรยี น
-เคร่อื งแต่งกาย
4. ครอู ธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
5. อบอุน่ ร่างกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ ักเรยี นอบอุน่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอนุ่
ร่างกายแบบอยู่กบั ทว่ี งิ่ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
1.แบ่งกลุม่ ผเู้ รยี น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
2. ครอู ธบิ ายทกั ษะการจบั โฟมหมนุ แขนและทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง

ขนั้ ที่ 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการจบั โฟมหมนุ แขนทลี ะกลมุ่
3.ครคู ่อยดูแลและแนะนานักเรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ กั เรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุม่ 4 กลุ่มเทา่ ๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ ัง่ ลง
2.ใหน้ ักเรยี นแต่ละส่งตวั แทนมากลุ่มละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเ่ี ป็นตวั แทนแข่งขนั การจบั โฟมหมุนแขน
4.นักเรยี นคนไหนถงึ ขอบสระก่อนเป็นผชู้ นะ
5.การแข่งขนั ใหค้ รูสลบั นกั เรยี นออกมาเลน่ เรอ่ื ยๆ

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครูใหน้ กั เรยี นทป่ี ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมหมนุ แขนไดถ้ กู ตอ้ งออกมาทาใหเ้ พอ่ื นดู
3.ครกู ลา่ วสรปุ ร่วมกบั นักเรยี นและเปิดโอกาศใหน้ ักเรยี นไดซ้ กั ถาม
4.ครกู ลา่ วชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ มค่ อ่ ยได้
5.ครูนดั หมายคาบตอ่ ไป
6.ครูใหน้ กั เรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ขน้ึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบต่องานทสี่ งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7. สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งการเรยี นรู้

1. สระว่ายน้า
2. คติ บอรด์

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงชอ่ื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)

สปั ดาห์ท่ี 19

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1 / ……. ชือ่ ผู้สอน นายซลุ กิฟลี ดอื ราโอะ

กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เพม่ิ พนู ทกั ษะการเคลื่อนไหว เรอ่ื ง การจบั โฟมหมุนแขน

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน พ 3.1เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา
ตัวชว้ี ัดที่ ป. 4/1ควบคุมตนเองเม่ือใช้ทกั ษะการเคลื่อนไหวในลกั ษณะผสมผสานได้ทัง้ แบบอย่กู ับที่ เคลอ่ื นท่ี

และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ
มาตรฐาน พ 3.2รักการออกกำลงั กาย การเล่นเกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอย่างสมำ่ เสมอ มี

วินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนักกฬี า มจี ติ วิญญาณ ในการแขง่ ขันและชน่ื ชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า
ตัวชวี้ ัดท่ี ป. 4/1ออกกำลังกาย เลน่ เกม และกฬี า ที่ตนเองชอบและมีความสามารถในการวิเคราะหผ์ ล

พฒั นาการของตนเองตามตัวอยา่ งและแบบปฏบิ ตั ิของผู้อน่ื

2. สาระสาคญั

การจบั โฟมหมนุ แขน (การฝึกวา่ ยท่าฟรสี ไตลแ์ บบใชอ้ ุปกรณ์) เป็นทกั ษะการฝึกทส่ี าคญั ของการฝึกวา่ ยน้าท่า
ฟรสี ไตล์ เพราะเป็นการฝึกการหมนุ แขนและการบดิ หนา้ หายใจเพ่อื สรา้ งความมนั ่ ใจในการว่ายน้าทา่ ฟรสี ไตล์ใหก้ บั ตวั เราได้
มาก เชน่ มอื ขา ทางานพรอ้ มกนั กบั การบดิ หายใจ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. สามารถบอกขนั้ ตอนการจบั โฟมหมนุ แขนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (K)
2. ตระหนักถงึ คุณค่าของการออกกาลงั กาย และการเล่นกฬี ายอมรบั ใหค้ วามรว่ มมอื เคารพในสทิ ธหิ น้าทข่ี องตนเอง
และผอู้ น่ื และปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ ตกลงดว้ ยความเตม็ ใจนักเรยี นมคี วามสนใจและตงั้ ใจฝึกฝนในการเรยี น (A)
3. สามารถปฏบิ ตั ทิ กั ษะการจบั โฟมหมนุ แขนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง(P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรขอองสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1.การจบั โฟมหมุนแขน
-ทกั ษะเบ้อื งต้นของการจบั โฟมหมุนแขน

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 19
ขนั้ ที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น
1. แบ่งกลุ่มผเู้ รยี น 4 กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่
2. สารวจจานวนนักเรยี นการเขา้ แถว ความพรอ้ มและสขุ ภาพของผเู้ รยี น
3. สารวจอุปกรณ์และการแตง่ กายและสขุ ภาพของนักเรยี น
-เคร่อื งแต่งกาย
4. ครูอธบิ ายสาระการเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
5. อบอุ่นร่างกาย แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ และใหน้ ักเรยี นอบอุน่ ร่างกายเพ่อื เตรยี มความพรอ้ มโดยการอบอนุ่
ร่างกายแบบอย่กู บั ทว่ี ง่ิ รอบสนาม 5 รอบ

ขนั้ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้
1.แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกนั แยก-ชาย,หญงิ จะไดช้ าย 2 แถวหญงิ 2 แถว เรยี งตามลาดบั ไหล่แลว้
นัง่ ลง


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
2. ครูอธบิ ายทกั ษะการจบั โฟมหมนุ แขนและทาใหด้ ูเป็นตวั อย่าง

ขนั้ ท่ี 3 ฝึ กฝนทกั ษะและประสบการณ์
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลุ่มละ 5 คน แลว้ นัง่ เป็นแถว
2.ใหน้ กั เรยี นฝึกการจบั โฟมหมนุ แขนทลี ะกลมุ่
3.ครูคอ่ ยดูแลและแนะนานักเรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ


☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺
☺☺☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น
ขนั้ ท่ี 4 การ นาไปใช้
1.ใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็นกลุม่ 4 กลุ่มเทา่ ๆกนั แลว้ นัง่ เป็นแถว จดั แถวเสรจ็ แลว้ ใหน้ ัง่ ลง
2.ใหน้ กั เรยี นแต่ละส่งตวั แทนมากลุ่มละ 2 คน
3.ใหน้ ักเรยี นทเ่ี ป็นตวั แทนแข่งขนั การจบั โฟมหมุนแขน
4.นักเรยี นคนไหนถงึ ขอบสระก่อนเป็นผชู้ นะ
5.การแขง่ ขนั ใหค้ รูสลบั นกั เรยี นออกมาเลน่ เรอ่ื ยๆ

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ ความรู้
1.ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอน 4 แถว แลว้ นัง่ ลง
2.ครูใหน้ กั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั กิ ารจบั โฟมหมนุ แขนไดถ้ กู ตอ้ งออกมาทาใหเ้ พอ่ื นดู
3.ครกู ลา่ วสรปุ ร่วมกบั นักเรยี นและเปิดโอกาศใหน้ ักเรยี นไดซ้ กั ถาม
4.ครกู ลา่ วชมเชยสาหรบั นกั เรยี นทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ งและใหก้ าลงั ใจสาหรบั นักเรยี นทยี่ งั ปฏบิ ตั ไิ มค่ อ่ ยได้
5.ครูนดั หมายคาบตอ่ ไป
6.ครูใหน้ กั เรยี นไปอาบน้าลา้ งตวั แลว้ ขน้ึ หอ้ งเรยี น


☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺
☺☺☺☺

= ครู ☺ = นกั เรยี น

6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมินผล
การวดั และประเมินผล - ตรวจกจิ กรรมฝึกทกั ษะ -กจิ กรรมฝึกทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
จดุ ประสงค์ -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑก์ าร
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประเมนิ
-สงั เกตพฤตกิ รรม การทางาน - แบบประเมนิ ทกั ษะ 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านเกณฑก์ าร
รายบคุ คล/กลมุ่ และกระบวนการทาง ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A)
สุขศกึ ษาและพล 80% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ศกึ ษา ประเมนิ

1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต

รบั ผดิ ชอบต่องานทส่ี งั ่ และสง่ พฤตกิ รรม

งานไดท้ นั ตามทก่ี าหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่

เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมนั ่ ใน

การทางาน

7. สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งการเรยี นรู้

1. สระว่ายน้า
2. คติ บอรด์

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................

ลงช่อื ...........................................ผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................ฝ่ายวชิ าการ
(.................................................................) (.................................................................)

ลงช่อื ...........................................ผอู้ านวยการ
(.................................................................)


Click to View FlipBook Version