The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือประวัติศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยว ศาลจ้าวพ่อหมอ งานประเพณี งานประจำปี
พิมพ์ครั้งที่ ๑

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sahatpr, 2022-09-30 00:18:20

หนังสือประวัติศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยว

หนังสือประวัติศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยว ศาลจ้าวพ่อหมอ งานประเพณี งานประจำปี
พิมพ์ครั้งที่ ๑

ÈÒŨéÒǾèÍËÁÍ

§Ò¹»ÃÐླÕ-§Ò¹»ÃШíÒ»Õ

ÈÒŨéÒǾèÍà¡éÒàÅÕéÂÇ





คาํ นํา

หนังสือประวัติศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวเล่มนี้ จัดทําขึ้นจากการดําริของ
นายวิวัฒน์ วลัญช์อารยะ ประธานศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวและคณะกรรมการ
เนื่องจากศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวยังไม่มีการบันทึกประวัติความเป็นมาเป็นลายลักษณ์
อักษร คณะกรรมการศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวจึงได้รวบรวมประวัติศาลจ้าวพ่อ
เก้าเลี้ยวจากบันทึกของอาจารย์สุรัตน์ ชัยมงคลศักดิ์ จากการสอบถามคําบอกเล่าต่อๆกัน
มา รูปภาพเก่าจาก Page , Website และจากบันทึกจดหมายเหตุ ปีพุทธศักราช ๒๔๔๙
สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ในการ
เสด็จประพาสต้น มณฑลนครสวรรค์ ณ บ้านเก้าเลี้ยวเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๔๙
ศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวมีอยู่คู่บ้านเก้าเลี้ยวมาช้านานจากหลักฐานการเสด็จประพาสต้นจนถึง
ปัจุบัน พ.ศ.๒๔๔๙ - ๒๕๖๕ ก็มีอายุ ๑๑๖ ปี ถ้าดูจากเอกสารการครอบครองที่ดิน สค.๑
เลขที่ ๓๐๕ ก็มีอายุไม่ต่ํากว่า ๑๓๗ ปี การจัดทําประวัติศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวแบ่งออกเป็น
๓ ตอน ดังนี้

๑. ประวัติศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว
๒. ประวัติศาลจ้าวพ่อหมอ
๓ งานประเพณี งานพิธีต่างๆของศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความเจ้าของภาพถ่ายทุกภาพ เจ้าของเวปไซด์ข้อมูลต่างๆ
ท่านผู้ใหญ่ทุกท่านที่ได้ให้ข้อมูลคําปรึกษาแนะนํา ตลอดจนทุกท่านทั้งที่ได้เอ่ยนามและ
ไม่ได้เอ่ยนามก็ดีที่ทําให้หนังสือเล่มนี้สําเร็จลุล่วงไปด้วยดี

อนึ่ง การจัดทําหนังสือเล่มนี้ ข้อมูลต่างๆ คงยังไม่สมบูรณ์ ท่านที่มีข้อมูลใดๆเกี่ยว
กับประวัติศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวสามารถติดต่อได้ที่คณะกรรมการศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่
เก้าเลี้ยวเพื่อจะได้นําข้อมูลแก้ไขและปรับปรุงในการพิมพ์ครั้งต่อไป

คณะกรรมการศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวปี ๒๕๖๕

สารบญั หนา

ประวตั ิศาลจา วพอ เกาเลย้ี ว ๑
ประวตั ิการกอสรางศาลจา วพอเกา เลย้ี วหลงั ท่ี ๑-๒-๓ ๑๐
ศาลจา วพอเกาเลีย้ ว หลงั ท่ี ๔ ๑๓
พิธีเบิกเนตร ลุยไฟ จาวพอเกาเลย้ี ว ป ๒๕๓๘ ๑๖
พธิ เี บิกเนตร ลุยไฟ ครั้งท่ี ๔ ป ๒๕๖๔ ๑๗
ประวตั ิศาลจาวพอหมอเกา เล้ยี ว ๓๒
กงหลว น ๔๐
งานประเพณงี านประจาํ ปศ าลจาวพอ จาวแมเกาเล้ยี ว ๔๔
งานสบื สานประเพณีแหจ าวพอจาวแมเ กาเลีย้ ว ๔๖
งานประเพณีลอยเรือสําเภา ๖๗
งานวันเทวสมภพจาวพอ กวนอู ๖๘
งานประเพณีทง้ิ กระจาด ๖๙
งานยอ นรอยเสดจ็ ประพาสตน ณ บานเกาเลยี้ ว ๗๔
งานเทศกาลไหวพ ระจนั ทร ๗๗
งานวันเทวสมภพจา วพอ หมอ ๘๐
เอกสารอางอิง ๘๒
บันทึกทา ยเลม ๘๓
ผูสนับสนุนหนังสอื ประวตั ศิ าลจา วพอเกา เลีย้ ว ๘๔

ศาลจาวพอ เกา เลี้ยว
X

ศาลจาวพอเกา เลยี้ ว

»ÃÐÇѵÔÈÒŨŒÒǾ‹ÍࡌÒàÅÕéÂÇ

ประวัติความเป็นมาของศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวในอดีตยังไม่เคยมีจดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จึงได้แต่เพียงอาศัยสืบค้นจากหลักฐานเอกสารต่างๆ จากคําบอกเล่าของคนรุ่นเก่าๆที่ได้บอก
เล่าให้แก่ลูกหลานสืบต่อๆกันมาให้พอที่จะจดบันทึกไว้เบื้องต้นเพื่อให้ลูกหลานคนรุ่นหลังๆได้
รับทราบต่อไป

ศาลจา้ วพ่อเก้าเลีย้ วต้งั อยู่ทางด้านทิศเหนือของสีแ่ ยกตลาดเก้าเลี้ยว ถนนเก้าเล้ียววิถี ชยั ภูมิ

ของศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวเป็นเสมือนท้องมังกรกล่าวคือศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวต้ังหันหน้าไปทางแม่นํ้า
ปิงซึ่งมีลักษณะของแม่น้ําท่ีไหลเข้าสู่ศาลจ้าวด้านขวามือแล้วจะโค้งวนออกไปทางซ้ายของศาลจ้าว
ไหลลงสู่ปากนาํ้ โพรวมกับแมน่ ้ํายมเปน็ แม่นา้ํ เจ้าพระยา

คาํ ขวัญ อําเภอเกŒาเลี้ยว

“เกŒาคงุŒ คดเคี้ยว
เกŒาเลย้ี วเลื่องลือ

มะลิ ฝรงั่ ขน้ึ ชอื่
นับถือหลวงพอ‹ เฮง”

1

ศาลจา วพอเกาเลีย้ ว

ªÁØ ª¹
ºÒŒ ¹à¡ŒÒàÅÂéÕ Ç

ผูค้ นที่มาจากตา่ งถ่ินมักจะ
พากันสงสัยว่าทําไมจึงเรียกว่า
บา้ นเกา้ เลีย้ ว จึงมักจะสอบถาม
ว่าคําว่าเก้าเล้ียวมีประวัติความ ภาพบรรยาการบริเวณสแี่ ยกตลาดเกา เลี้ยว ในสมัยกอนบรรดาพอ คา
เปน็ มาอยา่ งไร แลว้ ทาํ ไมจึงได้ชื่อ แมคาจะใชหาบสนิ คามาวางขายกนั บริเวณส่ีแยกเกาเล้ียว และจะมตี ลาดสด

วา่ "เกา้ เลีย้ ว" อยบู รเิ วณท่เี ปน หลงั คามงุ สังกะสี

จากคําบอกเลา่ ของผเู้ ฒา่ ผู้
แกไ่ ดบ้ อกเล่าตอ่ ๆ กันมาพอจะ
สรุปไดว้ า่ มีที่มาจาก ๒ ประการ
คือ
๑. เน่อื งมาจากการคมนาคม
ในการเดินทางจากบ้านเก้าเล้ียว
เพื่อเดินทางไปยังปากนํ้าโพใน
สมัยก่อนสามารถเดินทางได้ทั้ง
ทางบกและทางนํ้า แตว่ ิธที น่ี ยิ ม
ใช้กันมากท่ีสุดก็คือการเดินทาง
โดยทางนํ้าโดยใชเ้ รือ หรอื แพ ซึ่ง
สะดวกกว่าการเดินทางโดยทาง
บกเพราะถนนจะเป็นหลุมเป็น
บ่อ และฝุ่น
ดงั นน้ั เมือ่ ใชว้ ธิ ีเดินทาง
โดยทางแม่น้ําปิงล่องจากบ้าน
เก้าเลี้ยวไปจนถึงปากน้ําโพแม่ ภาพบริเวณสีแ่ ยกตลาดเกา เล้ยี ว ในปจ จุบันยงั คงเห็นพบเห็น

น้ําปิงซ่ึงมีลักษณะคุ้งน้ําที่คด ตลาดสดหลังคาสงั กะสีอยู แตร อบๆไดม ี การเปลี่ยนแปลงอาคารบา น
เค้ียวรวมแล้วมีเก้าคุ้งนํ้าด้วยกัน เรอื นไดมีการกอ สรางขนึ้ ใหมเปนตกึ แถวเพ่ิมข้นึ เปนหอ งแถวเพม่ิ มากข้ึน
จงึ เรยี กว่าบ้าน "เก้าเล้ียว" ตาม
จํานวนของค้งุ นํา้

1 สําเนยี งแตจ๋วิ ๒. ในอดีตพ่อค้า ขบวนเรือมาถึงนายท้าย
ชาวจีนได้ทําการขนส่ง เรือก็จะตะโกนบอกต่อๆ
สิ น ค้ า โ ด ย ก า ร ใ ช้ เ รื อ กันไปวา่ "เก่าเหล่ียว
สํา ปั้ น ใ น ก า ร บ ร ร ทุ ก เ ก่ า เ ห ลี่ ย ว " 1 ซึ่งเป็น
สินค้าลากจูงกันไปเป็น ภาษาจีนแปลว่า"ถึงแล้ว"
ขบวนยาวล่องขึ้นเหนือ- จึงเป็นข้อสัน นิ ษฐา น
ลงใต้ซึ่งใช้ระยะเวลาใน ทีม่ าของ "เก้าเล้ียว" อกี
การเดินทางยาวนาน ประการหน่งึ
และบ้านเก้าเลี้ยวก็เป็น
จุดแวะพักเพื่อการซื้อ
เสบยี งอาหาร แวะพัก
นอน แวะพักกินขา้ วเมือ่

2

ศาลจาวพอเกา เล้ยี ว

หลักฐานประวัติความเป็นมาของศาลจ้าวกว่า ๑๐๐ ปี

บันทึกกรมที่ดินการครอบครองที่ดิน
ศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว

หลักฐานของทางราชการ
เก่ียวกับการครอบครองที่ดิน
ของศาลจ้าวพอ่ เกา้ เล้ียว คอื ใบ
ส.ค.๑ ของกรมที่ดินซึง่ ได้บันทึก
ไว้ว่ามีผู้ยกท่ีดินให้เพ่ือใช้ในการ
ก่อสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียว
เมือ่ ประมาณ ๗๐ ปี ก่อนท่จี ะ
มีการทําใบ ส.ค.๑ ซึ่งใบ ส.ค.๑
ได้มีการทาํ ขนึ้ เม่ือวันท่ี ๒๘
พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๘ โดยมี
นายศักดศ์ิ ิลป์ สขุ ะจาติ ซึง่ เปน็
นายอําเภอบรรพตพิสยั (ใน
ขณะเวลานั้นอําเภอเก้าเลี้ยว
ยังมีสถานะเป็นตําบลเก้าเล้ียว
ขึ้นกบั อําเภอบรรพตพิสยั ) เปน็
ผู้แจ้งขอครอบครองท่ีดินของ
ศาลจา้ วซึ่งมขี นาดท่ดี ิน ๑ ไร่ ๓
งาน ๙๓ ตารางวา

พน้ื ท่ีติดข้างเคียง
ทิศเหนอื นายหมอ้
ทศิ ใต้ นางตะขาบ
ทศิ ตะวันออก ทางสาธารณะ
ทศิ ตะวันตก แม่นา้ํ ปิง

จ า ก บั น ทึ ก ข อ ง ก ร ม
ที่ดินดังกล่าวแสดงให้เห็นได้
ว่าศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวเมื่อนับ
ถงึ ปปี ัจจุบัน พ.ศ.๒๕๖๕ ได้รับ
มอบทดี่ นิ มาแล้ว ๖๗ ปี เมอื่
รวมกับมผี ้ยู กทด่ี นิ ให้เม่ือ ๗๐
กว่าปีก่อนศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียว
กน็ ่าจะมอี ายไุ มต่ าํ่ กวา่ ๑๔๐ ปี
สว่ นอายุจริง ๆของศาลจา้ วพ่อ
เก้าเลี้ยวยังไม่สามารถระบุได้
แนน่ อน

3

ศาลจาวพอ เกา เล้ียว

หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์
อีกอย่างหน่ึงที่สามารถบอกได้
ว่าศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวมีอายุมา
แลว้ ไม่ตํ่ากว่า ๑๐๐ ปี คือจาก
บั น ทึ ก จ ด ห ม า ย เ ห ตุ ก า ร เ ส ด็ จ
ประพาสต้นของพระบาทสมเด็จ
พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั รัชกาล
ท่ี ๕ ทไ่ี ดจ้ ดบนั ทึกไว้เมอื่ วนั ท่ี ๑๖
สิงหาคม ร.ศ.๑๒๕ (พ.ศ.๒๔๔๙)
ท ร ง บั น ทึ ก มี ใ จ ค ว า ม ต อ น ห นึ่ ง
วา่ "ถึงบา้ นเก้าเลีย้ ว แวะเขา้
กินข้าวดุ๊กได้รับหน้าท่ีเป็นพระ
ราชา แต่ทาํ ท่าไม่สนทิ เพราะ
แกกลัวอัปปลชิ ทักทายปราศรัย
ก็ ต้ อ ง ส อ น กั น ม า ข้ อ ท่ี เ กิ ด
ความน้ันเห็นจะเป็นด้วยเมีย
ตากํานันเป็นผู้รับฉันทานุมัติ
ข องพ ว กจีน แ คะ เจ้า ขอ งไร่
อ้อยหลายร้อยเถ้าแก่ด้วยกัน
มาเชิญเสด็จไปที่เรือนเขาทํา
ไ ว้ ถ ว า ย ต ก ล ง เ ร า ย อ ม ไ ป เ ร า
กลับเป็นพระราชาตามเดิมมี
ผ้คู นมาก มีพิณพาทย์ไทย พณิ
พ า ท ย์ จี น แ ล ะ ม้ า ล่ อ เ ป็ น อั น
มาก มีธปู เทียนมาเชญิ ใหข้ น้ึ บก
ได้ขน้ึ ไปบนเรอื น ต้ังโต๊ะเคร่ือง
บูชา มีโตะ๊ เกา้ อีห้ ุ้มแพร เตียง
น อ น มุ้ ง แ พ ร อ ย่ า ง จี น ทั้ ง นั้ น
อุทิศถวายไว้ให้เป็นท่ีสําหรับ
พักข้าหลวงไปมาต่อไปจีนเม่
งก่ยุ เปน็ หัวหนา้ " จากข้อความ
ในบันทึกจดหมายเหตุดังกล่าว
เ ม่ือ นับ ตั้ ง แ ต่ ปี พ. ศ. ๒๔ ๔ ๙
ท่ี พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ
จุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั รัชกาล
ที่ ๕ ไดเ้ สดจ็ มายังบ้านเกา้ เลีย้ ว
จนถงึ พ.ศ.๒๕๖๕ ก็รวมเปน็

4

ศาลจา วพอเกา เลย้ี ว

ระฆังศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว

1 สาํ เนียงแตจ ๋ิว 5

ศาลจาวพอเกาเลย้ี ว

á·¹‹ ¾ÔÁ¾ Ό٠(Âѹµ)

ÈÒŨŒÒǾ‹ÍࡌÒàÅÂÕé Ç - ÈÒŨҌ Ǿ‹ÍËÁÍà¡ÒŒ àÅÂéÕ Ç

นอกจากนี้แลว้ ยงั มีแท่นพิมพ์ยันต์ หรือ ฮู้ ของจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว และ ของจา้ วพอ่ หว่ากวาง
(จ่้าวพอ่ หมอ) ทม่ี ีอายุมากกวา่ ๑๐๐ ปี แทน่ พมิ พฮ์ ู้ไม้น้จี ากร่องรอยการสกึ กร่อนของเนอื้ ไมแ้ ล้วจะ

เห็นได้วา่ ผา่ นการใช้งานมาเป็นเวลานานมากแลว้ ไม่ทราบ
ว่ามมี าพรอ้ มกบั การตั้งศาลจ้าวหรอื ไม่ กรอบแท่นพิมพ์
ชํารุดไปตามกาลเวลาปัจจุบันน้แี ท่นพมิ พฮ์ ยู้ งั คงนํามาใช้
ในการพิมพ์ฮู้แจกจ่ายใหก้ ับลูกหลานของจา้ วพอ่ ซึ่งลกู
หลานจ้าวพ่อจะนําฮขู้ องจา้ วพอ่ เกา้ เล้ยี วและจ้าวพอ่ หมอ
ตดิ ไว้ท่บี ้านเพ่อื ความเปน็ ศิรมิ งคล โดยชาวบ้านเกา้ เลยี้ ว
จะนําฮู้ของจ้าวพ่อเปลีย่ นใหม่ในวันตรษุ จนี ของทกุ ปี

ความหมายของยนั ต์จา้ วพอ่

เก้าเลยี้ ว(บนุ้ ถา่ วกง)

จ้าวพ่อเกา้ เลยี้ ว จ้าวพอ่ หมอ

社耀高

àµè ËÂèÒÇ à¡Ò

(จา วพอเกา เลี้ยว)

灵 àËŋ§ 本 ºŒ¹Ø 四 µÕè
符 àºÒŽ 頭 ˋÒÇ 季 ¡Â‹Ø
進 à¨èÂÕ ¹ 保 âºè

家 à¡ 媽公 ÁÒ ¡§ 平 ༧‹

堂 â´ 神福 安 ͹Ñ
àµÂÕè ¹ ¾¡

แปลวา่ แปลว่า

ยันต์ 宅鎮 à¨ç¡ എ¹ ค้มุ ครอง

ศักดิส์ ทิ ธิ์ แปลวา่ ใหอ้ ยเู่ ย็น

จ้าวพ่อบนุ้ หา่ วกง จ้าว

จาวพอ จาวแมเ กา เลย้ี วและ เข้ามา แม่บุ้นหา่ วมาและเทพทั้ง เปน็ สุขท้ัง
สิ่งศักดิส์ ทิ ธ์ิทงั้ หลายคุม ครองให
ในบ้าน หลาย ประทบั ณ ทีน่ ้ี ส่ีฤดู (ทั้งป)ี
บานน้ีอยเู ยน็ เปนสุขตลอดป

6

ศาลจา วพอ เกา เล้ยี ว

ความหมายของยันต์จ้าวพอ่ หวา่ กวาง(จา้ วพอ่ หมอ)

社耀高

àµè ËÂèÒÇ ¡ÒÇ

จา้ วพ่อเก้าเล้ยี ว)

(社耀高 ในที่นเ้ี ป็นช่อื ศาลจา้ วเก้าเลี้ยว ในยนั ตน์ ใ้ี ช้คาํ วา่ 社 คือ

ศาลจา้ วชั่วคราวเวลามงี านจึงเชิญจา้ วพ่อมาประทับที่ “เต”่ ทจ่ี ัดงาน

หลังงานกเ็ ชญิ จ้าวพ่อกลับกาวหยา่ วเต่ในยนั ตเ์ ปน็ ชื่อเกา่ ท่เี รียก
ในสมัยน้นั ในปจั จบุ นั ต้องเขียนว่า 高耀本頭公媽)

家 à¡ 五 顯 â褂 àËÕÂè ¹ 符 à»Ò

祖 師 âµŒÇ à«

華 ËÇҋ

光 ¡ÇÒ§

安 Íѹ 大 䴋 鎮 à´èÂÕ ¹
แปลวา แปลวา
บาน 帝 ´Õè ยนั ต

แปลวา
ชอ่ื จาวพอหวา งกวางกง

จ้าวพ่อหว่ากวางกงประทานพร เรือน โหงว เหี่ยน โตว เซ ประทบั
ให้บ้านนีอ้ ยูเ่ ย็นเป็นสุข สงบสุข หวา กวาง ได ด่ี อยู

µÃÒ»ÃзѺ ͧ¤¨ Ҍ Ǿ‹Í¨ŒÒÇáÁà‹ ¡ŒÒàÅÕÂé Ç

µÃÒ»ÃзѺ µÃÒ»ÃзºÑ

¨ŒÒǾ‹Íà¡ÒŒ àÅÂÕé Ç ¨ÒŒ Ǿ‹ÍËÁÍ

ºÇŒ ¹ ËÇҋ 䴋

à¶Ò‹ ¡ÇÒ§ ´Õè

¡§

µÃÒ»ÃзºÑ µÃÒ»ÃзѺ¨ŒÒÇáÁ‹
¨ÒŒ Ǿ͋ ¡Ç¹ÍÙ
¡Ç¹ µÕè à·ÂÕ ¹ µÂ‹Ø ䷌
àʧ‹ ¡¹Ø âËÇ ºÇŒ  ÇÒ
൧ ൧ ൧
7 ËÁ‹Ò à˹Ö§ à˹ÂÕ §

ศาลจาวพอเกาเลย้ี ว

เมื่อเขา้ มาภายในศาลจา้ วพ่อเก้าเลยี้ วจะพบเห็นมีปา้ ยไมต้ า่ งๆมากมายแขวนอยู่ภายในตวั
อาคารของศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวมีอยู่ป้ายหนึ่งซ่ึงจะเห็นได้สะดุดตาจะเป็นแผ่นป้ายไม้พ้ืนสนี ํ้าเงินมี
ตวั อักษรสีทองตัวใหญ่ๆอยู่ส่ีตัว จากการสอบถามอกั ษรสีตัวน้ีอา่ นว่า “เตียม ยู่ เจ็ก โพ่ว”1 ซง่ึ แปล
ว่า “พระมหากรณุ าธิคณุ แผ่ไพศาล” แผน่ ปา้ ยนี้คาดว่าไดจ้ ดั ทําขึ้นเมอื่ ครง้ั ที่ พระบาทสมเดจ็ พระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รชั กาลท่ี ๕ ไดเ้ สด็จประพาสตน้ มายงั บ้านเกา้ เลี้ยว ซง่ึ ผู้ทแ่ี ปลอกั ษรบน
แผ่นป้ายไดบ้ อกวา่ บนแผ่นป้ายไดเ้ ขียนไว้ว่า แผน่ ปา้ ยน้ไี ด้จัดทาํ ถวายในรชั กาลพระเจ้ากวงสูแห่ง
ราชวงศช์ งิ ซึ่งตรงกบั รชั กาลท่ี ๕ ของไทยนอกจากน้ยี ังมีแผ่นป้ายไม้อืน่ ๆอีกหลายปา้ ยทีค่ าดวา่ น่า
จะมอี ายไุ มต่ ่ํากว่า ๑๐๐ ปี เชน่ กัน

กาว เดก ไต พก2 อู ขิ่ว เซก เอง 2

“ คนดีมีคุณธรรม โชควาสนายอมตามมา ” “ หากมากราบไหวข อพร กจ็ ะไดร บั พรน้ัน

1 สาํ เนยี งแตจวิ๋ สองแผน ปายนเี้ ขียนเหมือนกนั เอียน จาํ ฮวา โหงว 2
2 สาํ เนยี งไหหลาํ “ จาวพอ ประทาน ความอดุ มสมบูรณ ”

8

ศาลจา วพอ เกา เล้ยี ว

ขอขอบคณุ ภาพโดย คุณตอ้ ม ศรสี วุ รรณ

9

ศาลจาวพอเกาเล้ียว

ประวัตกิ ารก่อสร้าง

จากบนั ทกึ ท่อี าจารยส์ ุรัตน์ ขณะนน้ั เปน็ เรือนไม้หลังเลก็ ๆ ชาํ รุดทรดุ โทรมไปตามกาลเวลา
ชัยมงคลศักดิ์ ไดเ้ คยบนั ทึกไว้ ต้งั อยูต่ ิดรมิ แม่นํา้ ปงิ (บรเิ วณ จงึ ไดม้ ีการบูรณะกอ่ สรา้ งศาล
จากคาํ บอกเล่าจากอากงของ ศาลาแปดเหล่ียมในปัจจบุ ัน) จา้ วพอ่ เกา้ เลยี้ วขึ้นใหม่เป็นหลัง
ท่านเอาไว้วา่ แรกเริ่มเดมิ ทบี ิดา และได้อัญเชิญจ้าวพอ่ จากบ้าน ท๒่ี โดยสรา้ งให้มีขนาดใหญข่ ้นึ
ของนายดี แซโ่ ลว้ ได้อัญเชญิ หาดเสลามาประทบั ศาลจา้ วที่ กวา่ เดมิ แตเ่ มื่อกาลเวลาผา่ นไป
จ้าวพอ่ มาจากเมอื งจีนมณฑล สร้างขน้ึ ใหม่และให้ช่ือว่า “ศาล ศาลจา้ วพ่อเก้าเล้ียวหลงั ที่ ๒ ก็
ไหหลําและได้สร้างศาลบชู า จ้าวพ่อเกา้ เลีย้ ว” ซง่ึ ศาลจ้าว เกิดการชํารุดทรุดโทรมลงอีก
จ้าวพอ่ ที่อัญเชิญมาไว้ท่ีบา้ น พอ่ เก้าเลี้ยวในขณะน้นั สรา้ ง เนอื่ งจากการก่อสรา้ งเมือ่ กอ่ น
หาดเสลา ผ่ังตรงข้ามกบั บ้าน อยู่ใกลร้ ิมแม่นาํ้ ปงิ มากกวา่ นใี้ ช้วัสดตุ ามธรรมชาตเิ ท่าทจี่ ะ
เกา้ เล้ียว ตอ่ มาบดิ าของนาย ปจั จุบันน้มี าก ต่อมาเมื่อมีการ พอหาได้ ศาลจา้ วทก่ี ่อสรา้ ง
ดี แซ่โล้ว เห็นวา่ บา้ นเก้าเลยี้ ว บูรณะก่อสรา้ งศาลจา้ วหลงั ใหม่ ขน้ึ จงึ มีลกั ษณะเปน็ อาคารที่
มชี าวจีนท่เี ดนิ ทางมาอาศัยอยู่ จึงมกี ารขยบั ถอยร่นออกมาจาก ไม่มคี วามคงทนถาวร จึงทาํ ให้
มากมาย จึงได้ร่วมกนั สร้างศาล รมิ แมน่ ํา้ จนถึงที่ตงั้ ในปจั จบุ ัน อาคารศาลจ้าวพอ่ เกา้ เลี้ยวหลงั
จา้ วข้ึนเพือ่ เป็นทป่ี ระดิษฐาน เมือ่ กาลเวลาผ่านไปไมช่ ้านาน ที๒่ ชาํ รดุ ทรุดโทรมลง
จ้าวพ่อ ซึง่ ศาลจ้าวทีส่ ร้างข้ึนใน ศาลจา้ วพอ่ เก้าเลีย้ วหลงั แรกก็

ศาลจา วพอเกา เล้ียวหลงั ที่ ๒

ภาพภายในศาลจา้ วพอ่
เก้าเลยี้ วหลังที่ ๒ กอ่ นทจ่ี ะมี
การบรูณะก่อสร้างศาลจ้าวพอ่
เกา้ เล้ียวหลังที่ ๓ ภายในภาพจะ
เหน็ พระมหาปราสาทซงึ่ เป็นหลัง
เดียวกันกับหลังปจั จุบันน้ี

พระมหาปราสาทน้ีใช้เพือ่ เป็น
ท่ีประทับองคจ์ า้ วพ่อ-จา้ วแมท่ ุก
พระองค์ ปัจจุบันไดท้ ําการบูรณะ
ตกแตง่ ใหม่เปน็ มหาปราสาทสีทอง
สวยงามเปน็ อยา่ งยิง่

ภายในภาพยังจะคงเหน็ องค์
กงหลว่ นอยู่สองพระองค์ด้าน
ซ้ายและดา้ นขวาของภาพเปน็
กงหลว่ นองค์เดมิ ซ่งึ คาดว่าจะได้มี
การอญั เชิญมาจากเมอื งจนี และยัง
คงอยทู่ ่ศี าลจา้ วพ่อหมอ

10

ศาลจา วพอเกา เล้ียว

¡ÒáÍèÈÊÒÅÃÒ駨ÒéǾÍèà¡ÒéàÅéÂÕÇ ËŧѷèÕ๓

เม่อื ศาลจ้าวพอ่ เก้าเล้ียว ใหม่เป็นหลังที่ ๓ โดยสร้างใหม้ ี ด้วยไม้ผนังไม้ทาด้วยสีแดง
หลังท่ี ๒ ได้ชาํ รดุ ทรดุ โทรมลง ขนาดใหญ่กว่าเดิมและมีความ ด้านหน้าของศาลเจ้าตั้งแท่น
เป็นอันมากคณะกรรมการศาล คงทนแข็งแรงกว่าเดมิ โดยสร้าง กราบไหว้ฟ้าดินและเสาทีกง
จ้าวพ่อเก้าเลี้ยวและชาวบ้าน เป็นอาคารก่ึงไม้ก่ึงคอนกรีต ด้านข้างแท่นกราบไหว้ฟ้าดินมี
เก้าเล้ียวจึงได้ร่วมกันบูรณะ ชั้นเดียว พื้นเทด้วยคอนกรตี เตาเผากระดาษทาด้วยสีแดง
สร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวข้ึน หลังคามุงดว้ ยสังกะสี ฝ้าทํา

“องคส์ รภาณมธรุ ส” พิธีลุยไฟ

บา๋ วเองิ แหง่ วดั สมณานมั วรวหิ าร (วดั ญวนสะพานขาว) สะพาน
ขาว กรงุ เทพมหานคร ผทู้ าํ พธิ เี บกิ เนตรลยุ ไฟ ศาลจา้ วพอ่
เกา้ เลย้ี วหลงั ท่ี ๓

11

ศาลจาวพอเกา เลยี้ ว

ภายหลงั การกอ่ สรา้ งศาลจา้ ว

พอ่ เกา้ เลี้ยวหลงั ท่ี ๓ เสร็จเรยี บร้อย

แล้ว จึงได้มีการทําพิธีเบิกเนตร

ลุยไฟข้ึนโดยได้มีการเชิญ“องค์สร

ภาณมธุรส” บา๋ วเองิ แหง่ วัดสมณา

นัมวรวิหาร(วัดญวนสะพานขาว)

สะพานขาว กรุงเทพมหานคร เป็นผู้

ทําพิธีในการเบิกเนตรลยุ ไฟซ่ึงนับได้

ว่าอาจเป็นครั้งแรกของศาลจ้าวพ่อ

เก้าเลี้ยวท่ีได้มีการทําพิธีเบิกเนตร

ลยุ ไฟ ภายหลงั ศาลจา้ วพ่อเกา้ เล้ียว

หลงั ท่ี ๓ ไดใ้ ช้มาเปน็ เวลาหลายสบิ ปี

ก็เร่ิมมีการชํารุดทรุดโทรมเนื่องจาก

ตัวอาคารเป็นไม้ทําให้ปลวกเข้ามา

กัดกินไม้ทําให้ผนังท่ีทําด้วยไม้เริ่มผุ ใหม่ข้ึนแต่ก็ยังไม่สามารถทําได้เน่ืองจากต้องใช้

หลังคารวั่ ฝา้ ทีท่ ําดว้ ยไม้ก็ผรุ ว่ งหล่นลงมา คณะ ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างศาลจ้าวหลังใหม่เป็น
กรรมการศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวในขณะนั้นจึง จํานวนมากจึงได้แต่ซ่อมแซมบริเวณท่ีสึกหรอไป
มีความคิดท่ีจะสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวหลัง พรางก่อน

12

ศาลจาวพอ เกาเล้ยี ว

๔ÈÒŨÒé ǾèÍà¡Òé àÅéÂÕ Ç ËÅ§Ñ ·ี่

ภายหลงั ศาลจา้ วพ่อเกา้ เลีย้ วหลังท่ี ๓ ได้

ชาํ รดุ ทรดุ โทรมเป็นอันมาก คณะกรรมการ

ศ า ล จ้ า ว พ่ อ เ ก้ า เ ล้ี ย ว ใ น ข ณ ะ น้ั น ป ร ะ ชุ ม

ปรึกษาหารือกันมีมติกราบเรียนเชิญหลวง

พ่อเกษม คตุ ตฺ สโี ล เปน็ ประธานในการบูรณะ

กอ่ สรา้ งศาลจา้ วพ่อเก้าเลีย้ วหลังใหม่

เม่อื หลวงพอ่ เกษม คุตตฺ สโี ล ได้รับเป็น

ประธานในการบูรณะก่อสร้างศาลจ้าวพ่อ

เก้าเลยี้ ว ในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ จงึ ไดเ้ รมิ่ มกี าร

ดําเนินการก่อสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวข้ีน

โดยหลวงพอ่ เกษม คุตฺตสโี ลไดบ้ อกบญุ ไปยงั

บรรดาญาติสัมมาปฏิบัติที่เป็นลูกศิษย์ของ

ท่านและชาวบ้านเก้าเลี้ยวรวมทั้งชาวบ้าน

เก้าเลี้ยวที่ได้ไปทํามาหากินอยู่ที่อ่ืนเพื่อจะได้

มารว่ มกนั บรู ณะก่อสรา้ งศาลจ้าวพ่อหลงั ใหม่

โดยสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก๑

ชั้น ยกพ้ืนสูงข้นึ จากพ้ืนดนิ ประมาณ ๑.๒๐

เมตร บนหลังคาป้นั ปูนเป็นรปู มงั กร 2 องค์

พ้ืนหลังคาทําด้วยซีเมนต์ด้านหน้าศาลจ้าว

ประกอบไปด้วยแท่นบูชาฟ้าดินมีเสาตะเกียง

ฟ้าดิน(ทีกง)ขนาดใหญส่ งู เด่นรอบเสาพนั ดว้ ย

มังกรทองและมีเตาเผากระดาษไหว้ขนาด

ใ ห ญ่ อ ยู่ ข้ า ง ๆ แ ท่ น บู ช า ฟ้ า ดิ น เ ป็ น รู ป แ ป ด

เหลีย่ มสวยงาม

เรม่ิ ดาํ เนนิ การกอ่ สรา้ งขน้ึ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๙

สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ และแลว้ เสร็จเม่อื วนั ของหลวงพอ่ เกษม คตุ ตฺ สโี ล ท้ังสองท่านเปน็ ผู้
ท่ี ๓ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๓๘ โดยใช้ระยะเวลาใน ที่ฝักใฝ่ในการทําบุญอีกทั้งครอบครัวของท่านมี
การดําเนินการกอ่ สรา้ งเปน็ เวลา ๑๑ เดือน ๑๔ ความเคารพนบั ถือจา้ วพ่อเก้าเลย้ี วเป็นอันมาก
วนั จึงแล้วเสร็จ โดยใช้งบประมาณในการบูรณะ
ก่อสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวหลังใหม่นี้เป็นเงิน หลวงพ่อเกษม คุตฺตสีโล เม่อื ทา่ นได้
จํานวนทั้งสน้ิ ๔,๕๙๗,๙๐๐.๐๐ บาท (สี่ลา้ นห้า บรรพชาท่านได้ไปจําวัดอยู่ท่ีวัดเขาหน่อซ่ึงตั้ง
แสนเกา้ หมนื่ เจ็ดพันเกา้ รอ้ ยบาทถว้ น) อยู่ในเขตอาํ เภอบรรพตพสิ ัย จ.นครสวรรค์ ภาย
หลังท่านไดไ้ ปจาํ วดั อยู่ท่ีวดั เขาวงพระจนั ทร์ ตัง้
ประวัติของหลวงพ่อเกษม คุตตฺ สโี ล โดย อย่ทู ี่ อาํ เภอโคกสาํ โรง จังหวัดลพบุรี ซงึ่ หลวง
สังเขป หลวงพ่อเกษม คตุ ฺตสีโล ทา่ นเป็นชาว พ่อเกษม คตุ ตฺ สีโล ท่านเปน็ พระผปู้ ฏบิ ัตดิ ี ปฏิบตั ิ
เก้าเลี้ยวโดยกําเนิดโยมบิดาของหลวงพ่อเกษม ชอบเป็นที่เคารพรักของศิษยานุศิษย์และญาติ
คุตฺตสีโลท่านเป็นชาวจีนท่ีได้มาต้ังถ่ินฐานทําการ สัมมาปฏบิ ตั ิ และชาวบา้ นเก้าเลีย้ วเปน็ อนั มาก
คา้ ขายทีบ่ า้ นเกา้ เลีย้ ว ส่วนโยมมารดาของหลวง

พ่อเกษม คุตตฺ สีโล เปน็ คนไทยซึง่ โยมบดิ ามารดา

13

ศาลจาวพอเกา เลย้ี ว

ดานหลังเปนอาคารสํานักงานลูกเสือ มหาปราสาทที่ประทับองค์
จ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยว
ชาวบาน ชั่วคราว
ภาพองคจ์ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี ว - จา้ วแมท่ บั ทมิ ทไ่ี ดท้ าํ การเปลย่ี นเครอ่ื ง
ขณะที่มีการดําเนินการก่อสร้าง ทรงใหมเ่ มอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๓๘
ศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวหลังใหม่ได้มีการ
อญั เชญิ องค์จา้ วพ่อเก้าเลยี้ ว จา้ วแม่ จิวซัง จา วพอ กวนเพง จา วพอ ๑๐๘
เกา้ เล้ียว และปราสาททปี่ ระทับองคจ์ ้าว (จวิ ฉอง) กวนอู (กวนเปง )
พ่อเก้าเล้ียวมาประทับอยู่ที่สํานักงาน
ชั่วคราวลกู เสือชาวบ้านเก้าเลี้ยว ซ่งึ มา ขณะนั้นศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวมอี งค์จา้ วพ่อ-จา้ วแม่ ดงั น้ี
ขอใช้อาคารของศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยว ๑. องค์จา้ วพ่อปุนเถา่ กง คือจ้าวพอ่ เก้าเล้ียว
ตั้งเป็นสํานักงานลูกเสือชาวบ้านอยู่ ๒. องค์จา้ วพ่อกวนอู และองครกั ษ์ของทา่ นอีก ๒ องคค์ ือ
ในขณะนน้ั และไดม้ กี ารทําพธิ เี ปลย่ี น กวนเพ่ง (กวนเป้ง) และจิวซงั (จวิ ฉอง)
เคร่อื งทรงใหก้ บั จา้ วพ่อเกา้ เลย้ี ว จา้ ว ๓. องค์จา้ วแม่ทับทมิ ต้ยุ บ้วยเต็งเนยี ง
แม่ทบั ทมิ จา้ วพ่อกวนอู จ้าวพอ่ ๑๐๘ ๔. องคจ์ ้าวพ่อ ๑๐๘
และองครกั ษท์ ุกพระองค์ โดยเชิญช่างมี
ฝมี อื จากเยาวราช กรงุ เทพมหานคร มา
เป็นผู้ตกแต่งและเปลี่ยนเคร่ืองทรงใน
คร้งั น้ี่ ซ่ึงในการเปลย่ี นเครอ่ื งทรงให้กบั
จ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเล้ียวทุกพระองค์ใน
ครั้งน้ีจะต้องมีการล้างทําความสะอาด
องค์จา้ วพอ่ ทุกพระองค์ เพือ่ ทาํ การ
ลอกสีเคร่ืองทรงเก่าออกให้หมดก่อน
จงึ จะทาํ การแต่งเคร่อื งทรงใหมไ่ ด้ ซึง่
ในการนี้ก็ต้องมีการทําพิธีก่อนเช่นกัน
โดยมีการนําน้าํ จากกลางแม่น้ําหน้าศาล
จา้ วพอ่ เกา้ เล้ยี ว นาํ้ จากบอ่ น้าํ บาดาล
ในบา้ นเกา้ เลย้ี ว และนา้ํ จากสระน้าํ มา
ใส่รวมกนั ในโอ่งมังกร รวม ๔ ใบ แลว้
นําองค์จ้าวพ่อทุกพระองค์ลงแช่ไว้เพ่ือ
เป็นการลอกสีเคร่อื งทรงเก่าออก เพ่ือ
ทําการแต่งเครื่องทรงใหม่ให้กับจ้าวพ่อ
ทุกพระองค์ และไดม้ กี ารแต่งปราสาท
ท่ีประทับองค์จ้าวพ่อใหม่โดยการลงสี
ปดิ ทองทั้งหลงั ให้มคี วามสวยงาม เม่ือ
การก่อสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวหลัง
ใหม่แล้วเสร็จจึงได้อัญเชิญปราสาท
และองคจ์ ้าวพ่อเกา้ เลยี้ ว และจ้าวพอ่
ทุกๆพระองค์เสด็จขึ้นประทับบนมหา
ปราสาทภายในศาลจา้ วหลงั ใหม่

14

ศาลจาวพอเกา เลย้ี ว

¾Ô¸Õà»Ô´ÈÒŨéÒǾèÍ à¡éÒàÅÕéÂÇ

»Õ ๒๕๓๘

ภายหลังการดําเนินการบูรณะการก่อสร้างศาลจ้าวพ่อเก้าเลี้ยวหลังใหม่ใกล้เสร็จเรียบร้อย
พระเดชพระคณุ หลวงพอ่ เกษม คุตฺตสีโล จงึ ไดก้ าํ หนดให้มกี ารทาํ พิธเี ปิดศาลจา้ วพ่อเกา้ เลี้ยวหลัง
ใหม่ขึ้นโดยกาํ หนดใหจ้ ัดงานขึน้ เป็นเวลา ๓ วัน วันท่ี ๑๙ - ๒๑ มกราคม ๒๕๓๘ ดงั นี้

๑. วนั ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๘ จดั ให้มกี ารจดั งานแห่กลางคืนเพ่อื เป็นการเฉลมิ ฉลองศาลจ้าว
หลงั ใหม่

๒. วนั ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๘ ใหม้ กี ารประกอบพธิ เี ปดิ ศาลจ้าวพอ่ หลังใหมแ่ ละพิธเี บกิ เนตร
ลยุ ไฟ

๓. วนั ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๓๘ พธิ ีจินเบ้ยี ว สวดอาํ นวยพร ถวายฎีกาเง็กเซียนฮอ่ งเต้
สําหรับผู้ท่ีเข้าร่วมในพิธีและผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะต้องถือศีลกินเจเป็นเวลา๑๔วันโดย

ห ล ว ง พ่ อ เ ก ษ ม คุ ตฺ ต สี โ ล
ค ณ ะ ญ า ติ สั ม ม า ป ฏิ บั ติ
ศิ ษ ย า นุ ศิ ษ ย์ แ ล ะ ช า ว บ้ า น
เ ก้ า เ ล้ี ย ว ไ ด้ ร่ ว ม กั น ต้ั ง โ ร ง
ท า น อ า ห า ร เ จ ข้ึ น ภ า ย ใ น
ศ า ล จ้ า ว พ่ อ เ ก้ า เ ลี้ ย ว เ พ่ื อ
ป ร ะ ก อ บ อ า ห า ร เ จ ใ ห้ กั บ ผู้
ที่ เ ข้ า ร่ ว ม พิ ธี ต ล อ ด จ น ช า ว
บ้านเก้าเล้ียวที่ต้องการกินเจ
ตลอดระยะเวลาการจัดงาน
การจัดงานได้เริ่มข้ึนในวัน
ท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๓๘ เปน็
วันแรกในวันน้ีจะเป็นการจัด
งานแห่กลางคืนเพ่ือเป็นการ
เ ฉ ลิ ม ฉ ล อ ง ศ า ล จ้ า ว พ่ อ
เก้าเล้ียวหลังใหม่โดยมีการ
จัดขบวนแห่เหมือนกับงาน
แห่จ้าวพ่อเก้าเล้ียวประจํา
ปี โดยในขบวนแห่ประกอบ
ไปดว้ ยขบวนกงหล่วน ขบวน
อ ง ค์ ส ม ม ติ จ้ า ว แ ม่ ก ว น อิ ม
ขบวนนางฟ้าคณะเสือไหหนาํ
คณะสงิ โต ฯลฯ มชี าวบ้าน
เก้าเลี้ยวและใกล้เคียงได้มา
ร่วมเฉลิมฉลองและร่วมรับ
ชมการแสดงของคณะต่างๆ
ส ร้ า ง ค ว า ม ค รึ ก ค รื้ น ใ ห้ กั บ
บา้ นเก้าเลี้ยว

15

ศาลจาวพอเกา เล้ยี ว

¾Ô¸‚àºÔ¡à¹µÃ ÅØÂä¿

¨ŒÒǾ‹Íà¡ÒŒ àÅéÕÂÇ

๒๕๓๘»‚

วันท่ี ๒๐ มกราคม ๒๕๓๘ พธิ ี หลวงพ่อเกษมคุตตฺสโี ลประธานในพิธีเบิกเนตร
ลยุ ไฟศาลจา้ วพ่อเกา้ เลีย้ วเมือ่ ปี ๒๕๓๘
เบกิ เนตรลยุ ไฟไดเ้ รม่ิ ขน้ึ ตง้ั แตเ่ วลา
เชา้ โดยจา้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วไดท้ าํ พธิ กี ด จา้ วพ่อเกา้ เลีย้ วได้ประทับรา่ งทรงเพือ่ ทาํ พิธี
ปมุ่ เปดิ ผา้ แพรเปดิ ปา้ ยศาลจา้ วพอ่ เบิกเนตรลยุ ไฟ

เกา้ เลย้ี วหลงั ใหมแ่ ลว้ คณะไตเ่ บไ้ ดท้ าํ ในวนั รงุ่ ขึน้ วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๓๘ ภาคเช้าได้มีการ
พธิ บี วงสรวงสง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธภ์ิ ายในศาล ทํา พธิ ีสวดถวายฏีกาแด่องคเ์ ง็กเซยี นฮ่องเต้ (พธิ จี นิ เบี้ยว)
จา้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วและทาํ พธิ อี ญั เชญิ พิธสี วดขอพรใหก้ ับคณะกรรมการศาลจ้าวพ่อเก้าเลยี้ ว
และชาวบ้านเกา้ เล้ียว
องคเ์ งก็ เซยี นฮอ่ งเตโ้ ดยมพี ระเดช
พระคณุ เจา้ หลวงพอ่ เกษม คตุ ตสฺ โี ล ภาคบา่ ยได้มกี ารทาํ พธิ ไี หว้อาหารชอหรือการไหว้ดว้ ย
เปน็ ประธานในพธิ หี ลงั จากนน้ั ไตเ่ บจ้ งึ อาหารทีท่ ําดว้ ยเน้อื สัตวเ์ พื่อเป็นการออกจากพิธกี ินเจ

เรม่ิ ทาํ พธิ ภี ายในศาลจา้ วพอ่ เกา้ เลย้ี ว ในภาคคํ่า ได้มีการจัดงานประมูลของมงคลต่างๆของ
มคี ณะกรรมการศาลจา้ วพอ่ เกา้ เลย้ี ว ศาลจา้ วพอ่ เกา้ เลี้ยว จึงเป็นอนั เสร็จสิน้ งานเปดิ ศาลจ้าวพอ่
ในขณะนน้ั เขา้ รว่ มในพธิ โี ดยพรอ้ ม เก้าเลี้ยว พธิ ีเบิกเนตรลยุ ไฟ ปี๒๕๓๘ โดยบริบรู ณ์

เพรยี งกนั และไดม้ กี ารนาํ ไมฟ้ นื มาก
กองสมุ รวมกนั เพอ่ื ทาํ พธิ กี อ่ กองไฟให้
เปน็ ถา่ นเพอ่ื ใชใ้ นพธิ ลี ยุ ไฟ หลงั จาก

นน้ั จงึ มกี ารแหจ่ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วไปรอบ
ตลาดเกา้ เลย้ี วโดยมชี าวบา้ นรา้ นคา้
ในตลาดเกา้ เลย้ี วตง้ั โตะ๊ บชู ารบั ขบวน

แหจ่ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วเพอ่ื ความเปน็
ศริ มิ งคล

ในภาคบา่ ยภายหลงั จากขบวน

แหจ่ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วกลบั มาสศู่ าลจา้ ว
แลว้ ไตเ่ บจ้ งึ ไดท้ าํ พธิ เี บกิ เนตรองคจ์ า้ ว
พอ่ -จา้ วแมเ่ กา้ เลย้ี วทกุ พระองคเ์ พอ่ื

เตรยี มเขา้ สพู่ ธิ ลี ยุ ไฟ เมอ่ื ไดเ้ วลาอนั
เปน็ มงคลแลว้ องคจ์ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี ว
ไดป้ ระทบั ทรงและไดเ้ รม่ิ พธิ ลี ยุ ไฟ

โดยมตี วั แทนคณะกรรมการศาลจา้ ว
พอ่ เกา้ เลย้ี วทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็
ตวั แทนอญั เชญิ องคจ์ า้ วพอ่ เกา้ เลย้ี ว

จา้ วแมท่ บั ทมิ จา้ วพอ่ กวนอู จา้ วพอ่
รอ้ ยแปดและองครกั ษจ์ า้ วพอ่ ทกุ
พระองคก์ งหลว่ น ทกุ พระองคเ์ ดนิ วน

รอบกองไฟ ๓ รอบ เสรจ็ แลว้ จงึ เรม่ิ
ทาํ พธิ ลี ยุ ไฟ เมอ่ื จา้ วพอ่ ทกุ พระองค์
ผา่ นการลยุ ไฟเสรจ็ แลว้ จงึ อญั เชญิ

องคจ์ า้ วพอ่ -จา้ วแมท่ กุ พระองคก์ ลบั
ขน้ึ ยงั ทป่ี ระทบั บนศาลจา้ วหลงั ใหมจ่ งึ
เปน็ อนั เสรจ็ พธิ เี บกิ เนตรลยุ ไฟ

16

๒๕๖๔ ศาลจา วพอ เกาเล้ียว



นบั ต้งั แตศ่ าลจา้ วพ่อเกา้ เลี้ยวไดท้ าํ พธิ ีเบิกเนตร ลุยไฟ เมอื่ ปี ๒๕๓๘ แลว้ ศาลจ้าวพอ่ เก้าเลี้ยว
ก็มิได้มีการจัดพิธีการแต่งเครื่องทรงจ้าวพ่อใหม่แต่ประการใดจนเม่ือร่างทรงจ้าวพ่อเก้าเล้ียวได้
ปรารภว่า อยากให้คณะกรรมการเปล่ยี นเคร่อื งทรงให้กบั
จา้ วพ่อสักทหี น่งึ เพราะเครอื่ งทรงเดมิ น้นั เก่ามากแลว้ ใช้
มานานหลายปีแลว้ นับต้งั แตป่ ี ๒๕๓๘ จนถงึ ปี ๒๕๖๔
รวม ๒๖ ปแี ล้ว

ดงั นัน้ คณะกรรมการศาลจ้าวพอ่ จ้าวแมเ่ ก้าเลีย้ ว โดย
นายวิวฒั น์ วลัญชอ์ ารยะจงึ ไดป้ ระชมุ ปรึกษาร่วมกันกับคณะ
กรรมการศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวโดยกําหนดให้มีพิธี
เปล่ียนเครอื่ งทรงจา้ วพ่อจ้าวแม่เก้าเลย้ี วขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๔
และใหจ้ ัดทาํ วตั ถมุ งคลศาลจา้ วพ่อเกา้ เลีย้ วข้ึนเพอ่ื เปน็ ท่ีระลึก
เนื่องในงานพธิ เี ปลี่ยนเครอ่ื งทรง เบิกเนตร ลยุ ไฟ จา้ วพ่อ
จา้ วแม่เกา้ เลย้ี ว ปี ๒๕๖๔ และในครง้ั นไ้ี ดม้ กี ารอญั เชญิ
จ้าวแม่สวรรค์ จา้ วแม่ไท้วา พรอ้ มดว้ ยองครักษ์มาประดิษฐาน
ที่ศาลจา้ วพอ่ -จา้ วแม่เกา้ เลย้ี วดว้ ย โดยในการกําหนดวนั ใน
การจัดพธิ สี รงน้ําและพธิ เี บกิ เนตร ลุยไฟไตเ่ บ้จะเปน็ ผู้กาํ หนด
วันโดยนําวันเดือนปีเกิดของประธานศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่
เก้าเลย้ี วไปตรวจดวู นั เพื่อให้ไดว้ ันมงคล จึงได้มีกําหนดวันใน
การจดั พธิ ีเปลยี่ นเครอ่ื งทรง เบกิ เนตร ลุยไฟ ดังน้ี

๑. พิธีสรงน้ําจา้ วพอ่ -จ้าวแมเ่ กา้ เล้ียว วันที่ ๑๖
พฤศจิกายน ๒๕๖๓

๒. พธิ ีก่งฮกุ หรอื พิธีถวายพุทธบูชา วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓
๓. พธิ พี ราหมณ์ พิธีบวงสรวงส่ิงศกั ดส์ิ ิทธเ์ิ ทพยดา วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓
๔. พธิ มี ังคลาภิเษก นัง่ ปรกอธฐิ านจติ วัตถมุ งคล วนั ที่ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๖๓
๕. พิธีเบกิ เนตร ลยุ ไฟ วันท่ี ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔
๖. พธิ ีจินเบ้ียว สวดอาํ นวยพร ถวายฏีกาเง็กเซียนฮ่องเต้ วันท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๖๔
นับได้ว่าในการทําพธิ เี ปลย่ี นเครื่องทรง เบกิ เนตร ลยุ ไฟ และพิธพี ุทธาภเิ ษกวัตถมุ งคลของจา้ ว
พอ่ -จา้ วแม่เกา้ เล้ยี วในคร้งั น้ี ไดม้ กี ารจัดพธิ ีทั้งพธิ ที างจนี พิธที างพทุ ธ และพธิ ที างพราหมณ์ ซงึ่ หา
ได้ยากนกั ท่จี ะมีการทําพิธไี ดค้ รบทัง้ ๓ พธิ ี

โอง่ นา้ ทใ่ี ชใ้ นพธิ สี รงนาํ้ ชาวบา้ นเกา้ เลย้ี วรว่ มงานพธิ สี รงนาํ้
จา้ วพอ่ จา้ วแมเ่ กา้ เลย้ี ว วนั ท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓ จา้ วพอ่ จา้ วแมเ่ กา้ เลย้ี ว วนั ท่ี ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓

17

ศาลจาวพอ เกาเล้ยี ว

๑. ¾Ô¸ÕÊç¹éíÒ¨éÒǾèͨéÒÇáÁèà¡éÒàÅÕéÂÇ

วนั ท่ี ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

พธิ สี รงน้าํ องค์จ้าวพ่อเก้าเลีย้ ว คอื การประกอบพิธใี นการลอกสเี ครือ่ งทรงเกา่ ทอ่ี งค์จา้ วพอ่
ออก โดยจะมไี ตเ่ บ้เป็นผู้มาทําพิธใี นการสรงนา้ํ โดยไต่เบจ้ ะเป็นผ้อู ่านโองการอญั เชิญดวงพระ
วิญญาณจา้ วพอ่ ทุกพระองคข์ ้ึนสูเ่ บ้ืองบนและจ้าวพอ่
หมอได้ประทบั รา่ งทรงเพ่ือให้การทาํ พธิ ีสรงนํ้าออก
มาไดถ้ กู ต้องสมบูรณ์ ซึ่งคณะกรรมการศาลจ้าวพอ่
เกา้ เลีย้ วได้จัดพธิ ไี ด้อยา่ งเป็นระเบยี บและสวยงาม

คณะกรรมการศาลจาวพอเกาเลี้ยว ลูกศิษย
จาวพอเกาเลี้ยว ได้ทําพิธีสรงน้ําให้กับจาวพอจ้าว
แม่เกาเลี้ยว ทุกพระองค์ โดยในพิธีสรงนํ้านจี้ า้ วพ่อ
เก้าเลย้ี วไดกําหนดไวใหนาํ นาํ้ จาก ๓ แหง ดว ยกัน คอื

๑. นํ้าจากแมน ํ้าปง หนาศาลจาวพอ เกา เล้ยี วและ
น้ําจากแมน า้ํ เจา พระยาหนาศาลเจา เทพารักษปากน้าํ โพ

๒. นาํ้ จากบอ นํา้ บาดาล ในเขตตําบลเกา เลย้ี ว
๓. นาํ้ จากใจกลางบงึ บอระเพด็ (สะดอื บงึ บอระเพด็ )
โดยจะนาํ น้ําจากท้ัง ๓ แหง น้ีมาบรรจุในโอ่งนํ้า
มงั กรจาํ นวน ๓ ใบเพื่อใชในการแชอ งคจ าวพอ เกา เลยี้ ว
ภายหลังจากเสร็จสน้ิ พธิ ีสรงนา้ํ แลว้ และเมื่อเสร็จสิ้น
พธิ ีแต่งเครอื่ งทรง เบกิ เนตร ลยุ ไฟ แล้ว คณะกรรมการ
ศาลจ้าวพ่อเกา้ เล้ียวไดน้ ําโอง่ นาํ้ ทีใ่ ชใ้ นพธิ จี ํานวน ๒ ใบ
ออกประมลู ส่วนโอง่ น้ํามงั กรใบสแี ดงได้เกบ็ ไวท้ ีศ่ าลจา้ ว
พ่อเกา้ เล้ียวเพ่ือไวใ้ ชบ้ รรจุนํา้ มนตข์ องจ้าวพอ่

18

ศาลจาวพอ เกา เลี้ยว

เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ จากพธิ สี รงนํา้ แลว้ จงึ นาํ
องคจ์ ้าวพอ่ จา้ วแมเ่ เก้าเล้ยี วทกุ พระองค์
แช่ไว้ในโอง่ นํา้ มงั กรปดิ ฝาไวห้ นงึ่ คนื ในวัน
รงุ่ ขน้ึ จงึ ใหช้ ่างผมู้ ีความชาํ นาญทาํ การลอก
สเี คร่อื งทรงองคเ ก่าจนเหลอื เปน สขี อง
เนอ้ื ไมแ ลว จงึ ทาํ การขดั สตี กแตง องคใ หส ม
บูรณเ รียบรอยแลว จึงเรม่ิ ทาํ การตกแตง
เขียนลวดลายลงสที ่ตี วั องคใ หมใ หส วยงาม
โดยมชี างผทู ไ่ี ด้รับหนา้ ทใ่ี นการทาํ การ
แตง องคจ า วพอ จา วแมเกา เลย้ี วใหส วยงาม
คอื คุณสมพล สุขพงษไ์ ท (อาเจ็กหวงั )และ
คณุ กมลชัย สขุ พงษไ ท (เฮยี มล)สองพอ ลกู
ซง่ึ ไดร บั หน้าทใ่ี นการทาํ การแตง เครอ่ื งทรง
ใหก้ บั องคจ า วพอ จา วแมเ กา้ เลยี้ วทกุ พระ
องคจ นแลว เสรจ็

เมอ่ื ไดท าํ การแตง องคจ า วพอ จา วแมท กุ พระองคจ นแลว
เสร็จจึงนาํ กระดาษแดง(หรือผา แดง)คลมุ องคไ วจนกวา ถึง
คณุ สมพล และ คณุ กมลชัย สขุ พงษไ์ ทย เปน็ ผ้รู ับ วันประกอบพิธีเบิกเนตรลุยไฟตามท่ที างคณะกรรมการ
หน้าทแี่ ตง่ เครื่องทรงใหก้ ับจา้ วพ่อ-จา้ วแม่เก้าเลยี้ ว ศาลจา วพอ เกา เลย้ี วไดก าํ หนดวนั ไวค อื วนั ท่ี ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔

19

ศาลจาวพอ เกา เล้ียว กง่ ฮกุ หรือการถวายพุทธบูชา เปน็

๒.พิธีพทุ ธาเทวามังคลาภิเษก พิธีกรรมหนึ่งในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
ดว้ ยหลักคิดท่วี า่ การปรนิ ิพพานหรือนิพพาน
วนั ท่ี ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ มไิ ด้ทาํ ให้ พระพุทธเจ้า พระโพธสิ ัตว์เจ้าและ
ผบู้ รรลพุ ทุ ธธรรมทั้งปวง หายสาบสูญไปจาก
พธิ พี ทุ ธาเทวามงั คลาภเิ ษก คอื พธิ ที จ่ี ดั ทําขึ้นเพอ่ื โลกธาตุท้ังปวงเพียงแต่ท่านได้ไปสร้างโลก
ทําพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลท่ีระลึกพิธีเปล่ียนเคร่ือง ธาตุส่วนตัวของท่านซ่ึงเป็นโลกุตรโลกธาตุ
ทรง เบกิ เนตร ลุยไฟ จา วพอ จ้าวแมเ่ กาเลย้ี ว ซึ่ง เรียกวา่ "ดนิ แดนพุทธเกษตร" แตกต่างไปจาก
ในสวนของพธิ ใี นคร้งั นไี้ ดจดั ขนึ้ ๓ พิธีดว ยกนั เพือ่ โลกยี โลกธาตุทีเ่ ราอยูน่ ้ี
ใหวัตถุมงคลของจาวพอเกาเลี้ยวมีความศักด์ิสิทธ์ิ
พุทธฝา ยมหายาน มีแนวคดิ วา ในฐานะท่ี
มาก๑ขึน้. จพงึ จิธดั ีกใหง มฮที กุ ั้งพหธิ รที อื าพงจิธีนีถวพายราพหทุ มธณบูช แาลเะปพน ทุพธธิ ี เราชาวพุทธเปนพทุ ธบุตรการถวายภัตตาหาร
แดพุทธบิดาจึงเปน เรื่องจาํ เปนในความศรัทธา
ทางจีนโดยคณะวิหารแดนสุขาวดีพระอมิตาภะ กตัญู รูค ุณ ราํ ลกึ ถงึ และยดึ ถือทา นเปน
พทุ ธเจา พระแมกวนอิมพนั มอื บา นดอนเปรง็ สรณะ
หนองเบน จ.นครสวรรคไ ดม้ าทําพิธีสวดในชว่ งเชา้

20

ศาลจา วพอ เกา เลีย้ ว

๒. พิธพี ราหมณ์

เสร็จสิ้นพิธีสวดก่งฮุกพิธีทางจีนแล้วในช่วงกลางวันจึงได้มีพิธี“พุทธาเทวามังคลาภิเษก”
ซงึ่ ในการจดั พิธีพทุ ธาเทวามงั คลาภิเษกในครั้งนไ้ี ดรับความเมตตาจากหลวงพอ่ พระครูนิวิฐสังฆกจิ
(จเร หาสจิตฺโต) เจาอาวาสวดั เกา เลย้ี ว เจา คณะอําเภอเกา เลยี้ วเปน ธุระและจดั การการดาํ เนินงาน
ทั้งพิธีพราหมณและพิธีพุทธาภิเษกใหเปนไปดวยความถูกตองตามระเบียบประเพณีเพ่ือบวงสรวง
เทพยดาและส่งิ ศกั ดิส์ ทิ ธ์ภิ ายในศาลจา้ วพอ่ -จา้ วแมเ่ กา้ เลย้ี ว “พธิ ีพทุ ธามังคลาเทวาภิเษก” วัตถมุ งคล
จา วพอเกาเลีย้ ว รนุ แรก ได้จดั ให้มีการทาํ พิธที างพราหมณ์ดว้ ยเพอ่ื เป็นการบวงสรวงบอกกลา่ วตอ่
สงิ่ ศกั ดิส์ ิทธท์ิ งั้ หลาย โดยมีอาจารยเจริญชัย นาคพนั ธ (พราหมณหนอ ย) มาเป็นผู้ทาํ พิธี

21

ศาลจาวพอ เกา เลีย้ ว

๓. พิธพี ทุ ธาเทวามงั คลาภเิ ษก

พธิ พี ทุ ธาเทวามงั คลาภิเษก นง่ั ปรกอธษิ ฐานจติ
เน่ืองในงานเปลย่ี นเครอ่ื งทรงจา้ วพอ่ เกา้ เลย้ี วมพี ระ
เกจิอาจารย์ ๑๐ รปู น่งั ปรกอธษิ ฐานจติ โดยมี พระ
ราชมงคลวชั ราจารยห์ รือหลวงพอ่ พฒั น์ ปญุ ญกาโม
ทปี่ รกึ ษาเจา้ คณะจังหวดั นครสวรรค์ เจา้ อาวาสวัด
ธารทหาร หรือวดั หว้ ยดว้ น ตาํ บลธารทหาร อาํ เภอ
หนองบวั จงั หวดั นครสวรรค์ เมตตาเปน็ ประธานจุด
เทยี นชยั พธิ พี ทุ ธามงั คลาภเิ ษกวตั ถมุ งคลศาลจา้ ว
พอ่ เกา้ เลย้ี ว

22

ศาลจา วพอ เกา เลีย้ ว

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีในการน่ังปรกอธิษฐานจิตแล้วหลวง
พอ่ เจ้าคุณพระนิโรธรักขติ (สุนทร ขนตฺ โิ ก) เจา้ อาวาสวดั
ท่าพระเจริญพรต (วัดบ้านมะเกลอื ) อ.เมอื ง จ.นครสวรรค์
เมตตาเป็นประธานในการดับเทียนชัยพิธีพุทธามังคลา
ภิเษก

จาวพอเกา เลย้ี วกไ็ ดประทบั รา งทรงและ
ไดท ําพธิ เี สริมมงคล ใหกบั วตั ถุมงคลศาล
จ้าวพอ เกา เลยี้ วอีกดวย ดงั นน้ั นบั ไดว าวตั ถุ
มงคลของศาลจาวพอ เกา เลยี้ วผานพิธีในการ
ปลกุ เสกไดอ ยา งครบถว น ทง้ั พิธีทางจีน พธิ ี
พราหมณ์ และพิธีพทุ ธ

23

ศาลจา วพอเกาเลย้ี ว

๒๙-๓๐ ๒๕๖๔
๓. พธิ เี บกิ เนตร - ลยุ ไฟ
พธิ เี บกิ เนตร ลยุ ไฟ พธิ จี นิ เบย้ี ว เปน พธิ กี รรมตามประเพณโี บราณซง่ึ จะกระทาํ ขน้ึ ภายหลงั จาก
ทม่ี เี ปลย่ี นเครอ่ื งทรงองคจ า วพอ ใหมเ รยี บรอ ยแลว ซง่ึ ในพธิ กี รรมนต้ี อ้ งมไี ตเ่ บเ้ ปน็ ผปู้ ระกอบพธิ ี

พธิ เี บกิ เนตรลยุ ไฟของศาลจา วพอ จา้ วแมเ่ กา้ เลย้ี วไดเ รม่ิ ขน้ึ ในวนั ท่ี ๒๙ มกราคม ๒๕๖๔ โดยมี
คณุ สวุ ฒั น ภสู่ มบรู ณไ พศาล (โกวฒั น) เปน ผใู หค าํ แนะ
นําและใหค าํ ปรึกษารวมท้งั ติดตอ ไตเบอาจารยพังเคียว
แซห วงั ซง่ึ ทา นอาจารย เปน ชาวจนี เกดิ ทบ่ี า นหนาํ่ โพ
ตาํ บลโบโ ล อาํ เภอบญุ เสย่ี ว จงั หวดั ไหหลาํ ประเทศจนี
เปนผูทําพิธีเบิกเนตรลุยไฟให้กับศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียว
ทา่ นอาจารยพ์ งั เคยี ว แซห่ วงั ทา่ นเปน็ ไตเ่ บท้ ท่ี าํ พธิ ใี น
การเบิกเนตรลุยไฟให้กับศาลเจ้าต่างๆในประเทศไทย
มากมาย

ผูท่ีจะเขารวมในพิธีเบิกเนตรลุยไฟทุกทาน
จะตองกินเจเพ่ือความสะอาดบริสุทธิ์ท้ังกายและ
ใจในชวงเวลาเชาไตเบไดทําพิธีทํานํ้ามนตเพ่ือใชใน
การปดรังคว านส่ิงไม่เป็นมงคลส่ิงสกปรก ภาย
ในศาลจาว กอนจึงเร่ิมทําพิธีอัญเชิญเง็กเซียน
ฮ  อ ง เ ต  แ ล ะ อั ญ เ ชิ ญ เ ท พ ย ด า ฟ  า ดิ น จ า ก น้ั น ค ณ ะ
ก ร ร ม ก า ร ศ า ล จ  า ว พ  อ จ  า ว แ ม  เ ก  า เ ล้ี ย ว ทุ ก ท  า น ก็
จะเขารวมในพิธีมีไตเบเปนผูทําพิธีโดยบนโตะพิธีจะมี
องคจ าวพอจาวแมเกาเล้ยี วพรอ มดวยองครกั ษท กุ พระ
องคท ไ่ี ดท าํ การเปลย่ี นเครอ่ื งทรงใหมแ ลว

(ซง่ึ ตอ ไปขออนญุ าตเรยี กองคเ จา พอ จา วแมเ กา เลย้ี ว
รวมท้ังองครักษท่ีทําพิธีเบิกเนตรลุยไฟน้ีวา“กิมซ้ิน”
จนกวาจะผานพนพิธีลุยไฟแลว)โดยท่ีกิมซ้ินทุกพระ
องคจ ะถกู คลมุ ไวด ว ยกระดาษแดงเพอ่ื รอไตเ บท าํ พธิ เี บกิ เนตร

24

ศาลจาวพอเกาเล้ยี ว

ไตเบไดทาํ พิธีสวดเพื่อทําพธิ ฝี ง หัวใจไฟหรือทเ่ี รยี กวา “ฮวยเตา ”โดยหวั ใจไฟคอื
โถทห่ี อไวดว ยผา แดงภายในบรรจเุ มลด็ ธัญ พืช ๕ ชนดิ เชนขา วเปลือก ถว่ั ชนดิ ตา งๆ แปงขา วหมาก
เกลอื ฯลฯ ไว้ เพือ่ นําไปบรรจุทีบ่ ริเวณมณฑลพธิ ีลยุ ไฟมีประธานกรรมการศาลจา้ วพอ่ จา้ วพอ่
จา้ วแม่เกา้ เล้ยี ว นายวิวัฒน วลัญชอารยะ (กู๋เช็ง) เปนผนู ําฮวยเตาไปท่มี ณฑลพิธีลุยไฟโดยไตเ บจะ

ทาํ พิธีไหวสง่ิ ศกั ดิ์สิทธิ์บริเวณมณฑลพิธีลยุ ไฟ
ท้งั สที่ ศิ แลว ประธานกรรมการศาลจา้ วพอจ้าวแม่
เกาเล้ียวเปนผูบรรจุฮวยเตาหัวใจไฟท่ีหลุมซึ่ง
ไดขุดเตรียมไวท่ีบริเวณกลางมณฑลพิธีลุยไฟ
แลวกลบฝงฮวยเตาไวโดยเช่ือวาฮวยเตานี้จะ
ทําใหผูที่เขา รวมพิธีลุยไฟจะไมไดร ับอนั ตรายจาก
ไฟและทําใหผูท่ีลุยไฟมีแตความสุขความเจริญ
และมีความเชื่อวาผูท่ีมีฮวยเตาไวในบานหรือโรง
งานจะปองกนั อคั คภี ัยได หลังจากนั้นคณะกรรม
การและผูที่มารวมในพิธีก็จะชวยกันขนไมฟนที่
จะใชในการเผาใหเปนถานโดย ใชไม “สะแกนา”
ที่เจาหนาที่ไดจัดเตรียมไวกอนแลวมาสุมลอม
รอบฮวยเตาไวเปนเหมือนกระโจมโดยจะเวนชอ ง
เลก็ ๆไวเ พื่อใชในการจดุ ไฟ

เม่อื นําไมสะแกนามาสุมกองไฟเสร็จแลว
ประธานกรรมการศาลจา วพอเกา เลย้ี วเปนผจู ดุ ไฟ
จากนั้นผูชวยไตเบจะทําพิธีกรีดเลือดที่หงอน
ไกแลวนําเลือดที่หงอนไกแตะไมฟนที่สุมไวเปน
จํานวน๓รอบเสร็จแลวก็โยนไกขา มกองไฟทสี่ ุมไว
และรอใหฟืนทีก่ อ ไฟไวใหกลายเปน ถา นเพื่อใชลุย
ไฟในภาคบา ย จงึ เสรจ็ พธิ ใี นภาคเชา

25

ศาลจา วพอ เกาเล้ยี ว

ภาคบายเริ่มเวลาบายโมงไตเบก็เริ่มทําพิธีเบิกเนตรกิมซิ้นทุกพระองค์โดยไต่เบ้จะทําพิธี
เส่ียงทายท่ีโต๊ะบูชาเง็กเซียนฮ่องเต้ด้วยการเส่ียงทายโยนไม้ป่ัวะปวยจนผ่านแล้วไต่เบ้จึงเร่ิมทําพิธี
ไต่เบ้ให้คณะกรรมการศาลจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเล้ียว
เป็นผู้เปิดกระดาษแดงที่คลุมองค์กิมซิ้นไว้ออก
แลวนํากระดาษแดงนั้นไปเผาจากน้ันไตเบจะทํา
พิธีสวดและนํากิ่งไมเล็กๆยาวประมาณ๑เมตร
จุมลงในถวยใบเล็กภายในมีหมึกสีแดงๆซึ่งใน
พิธีกรรมน้ีมักนิยมใชเลือดจากหงอนไกนํามาแตม
แตะจุดสัญญาณชีพ เชน หู ตา จมูก ปาก มือ ท้อง
และเทาของกมิ ซนิ้ จนครบทกุ พระองค เปนการ
ปลุกกิมซ้ินซึ่งการแตะสัญญาณชีพนี้จะทําเปน
รอบไปเชนรอบท่ีหนึ่งแตะสัญญาณชีพท่ีหูก็จะ
ทาํ การแตะทห่ี กู มิ ซ้นิ จนครบทกุ พระองค รอบที่
สองแตะท่ีตาก็จะแตะที่ตาก้ิมซ้ินทุกพระองคจะทําไปเชนนี้จนครบทุกสัญญาณชีพซ่ึงในระหวางน้ี

คณะกรรมการที่จะเปนผูอัญเชิญกิมซ้ินจะน่ังเรียงเปน
แถวครึ่งวงกลมโดยแตละทานจะถือกระจกประจําตัวกิม
ซน้ิ ของแต่ละองค์ไว้

26

ศาลจา วพอเกา เล้ยี ว

ภายหลงั จากเสรจ็ พธิ ีการแตะสญั ญาณชพี แลว ไตเ บจ ะนาํ กมิ ซน้ิ ใหผ ทู ไ่ี ดร บั การคดั เลอื กในการท่ี
จะเปน ผอู ญั เชญิ องคก มิ ซน้ิ ไวเ พอ่ื เปน การอญั เชญิ องคจ า วพอ ประทบั กลบั ทก่ี มิ ซน้ิ โดยในเวลานจ้ี ะมกี าร
ตปี ระโคมทง้ั กลอง ผา ง เสยี งออ้ื องึ
ไปท้ังศาลจาวคร้ันเม่ือมีสัญญาณ
วา องคท า นเสดจ็ กลบั มาประทบั สกู มิ
ซน้ิ แลว โดยดจู ากอาการรา งกายของ
ผูอัญเชิญองคกิมซ้นิ น้นั จะมีอาการ
ส่ันเท้ิมดวยอาการแปลกๆก็แสดง
วา องคท า นไดเ สดจ็ ผา นรา งกายผถู อื
กิมซ้ินมาแลวและจะมีผูดูแลคอย
รับองคกิมซ้ินไปเม่ือการอัญเชิญ
จาวพอจาวแมครบทุกพระองคจึง
ถอื วา พธิ เี บกิ เนตรเสรจ็ สน้ิ ลงแลว

27

ศาลจา วพอเกาเลี้ยว

¾Ô¸ÕÅØÂä¿

ภายหลังจาก
เสรจ็ พิธีเบิกเนตร
แล้วจงึ มาถงึ พธิ ีลยุ
ไฟซึ่งพธิ ลี ุยไฟน้ี
เปน พิธกี รรมเพอ่ื
เปน การชําระลาง
สง่ิ ทไ่ี มด ไี มส่ ะอาดท่ี
องคจ า วพอ จา้ วแมท่ กุ
พระองคพ์ รอ มดว ย
องครกั ษ เ พ่อื เพิ่ม
พลังความศกั ดิส์ ิทธิ์
ใหกับจา วพอจา ว
แมเ ก้าเลยี้ วดวย
โดยพธิ ีลยุ ไฟจะเริม่
จากจาวแมทบั ทิม
จะประทับรางทรง
โดยทานจะทาํ เปน็
ผู้ทําพิธตี า งๆภาย
ในศาลจาวจนเปนที่
เรยี บรอ ยจากจ้าว
แม่ทบั ทมิ ทา นก็เสด็จ
กลับแลวองคจาวพอ
หว่ากวางกงจงึ เสด็จ
ลงมาประทับรางทรง
แทนและองคจา วพอ
เกา เล้ยี วและองค์
จ้าวพอ่ ๑๐๘ กเ็ สดจ็
ลงมาประทบั รา งทรง
เพอ่ื รว่ มทาํ พธิ ลี ยุ ไฟท่ี
มณฑลพธิ ดี ว ยเชน กนั

เมื่อการลุยไฟของกิมซิ้นทุกพระองค์เสร็จ
แลวจาวพอเกาเลี้ยวก็นํากงหลวนลุยไฟจนครบ
ทุกพระองค กิมซิ้นเมื่อผานการลุยไฟแลวจะ
อัญเชิญกลับเขาสูภายในศาลจาว และไดมีการนํา
วัตถุมงคลของจ้าวพ่อจ้าวแม่เก้าเลี้ยวที่ผานพิธี
พุ ท ธ า เ ท ว า มั ง ค ล า ภิ เ ษ ก เ รี ย บ ร้ อ ย แ ล  ว ม า ลุ ย
ไฟดวยเพื่อเพิ่มพลังความศักดิ์สิทธิ์ใหกับวัตถุ
มงคลของจาวพอจ้าวแม่เกาเลี้ยวเมื่อเสร็จพิธี
ต่างๆแล้วจึงไดทําการอัญเชิญจาวพอจาวแมทุก
พระองคกลับมหาปราสาทที่ประทับเปนเสร็จพิธี
ลุยไฟ

28

ศาลจา วพอเกา เล้ียว

๖. พิธีจนิ เบ้ียว

พธิ จี นิ เบี้ยว คือพิธีสวดอํานวยพรถวายฏกี าเง็กเซยี นฮองเต พิธนี จี้ ัดขึน้ ในตอน
เชาวันรงุ ขึ้นภายหลังจากผา นการทําพิธีเบกิ เนตร ลุยไฟแลว โดยในเวลาเชาคณะ
กรรมการศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวจะมาเขารวมในพิธีโดยมีไตเบเปนผูทําพิธีจะทําการ
สวดและจะมีเคร่ืองดนตรีจีนมาบรรเลงประกอบระหวางการทําพิธีสวดคณะ
กรรมการศาลจ้าวพอ่ เก้าเล้ยี วโดยนายกติ ติวัฒน์ เลิศพรตสมบตั ิ รองประธาน
กรรมการศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวเป็นผู้อ่านรายช่ือคณะกรรมการฯถวายรายงานต่อ
องค์เง็กเซยี นฮ่องเต้ ในระหวางการสวดทําพธิ ีไตเ บจะมีถาดใบหนง่ึ ทาํ ทา แบกหรือ
วางไวบ นหลังไตเ บซ่ึงในถาดน้ีจะใสเมล็ดธญั พชื เทียนไข ไมข ดี ภายหลงั จากการ
สวดมาเปนระยะเวลาพอประมาณแลวในชวงทายของพิธีไตเบจะใหคณะกรรม
การศาลจาวพอจาวแมเกาเลี้ยวและผูที่มารวมพิธีนั่งท่ีเกาอี้และใหถือซองสีชมพู
ไวแ ลวไตเ บจ ะทาํ พิธสี วด และจะนําเมลด็ ธัญพชื เหรยี ญบาท เทียน ไมข ดี ไฟ เดนิ
หยอดใสในซองสีชมพูท่ีเขารวมพิธีถือไวจนครบทุกคนและคณะกรรมการทุกท่าน
ก็จะนํากลับไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลนําความเจริญรุ่งเรืองความ
รํ่ารวย โชคดี อยู่เย็นเปน็ สขุ ให้กบั คณะกรรมการและผทู้ ไ่ี ด้เขา้ ร่วมงานพิธใี นครง้ั นี้

29

ศาลจาวพอเกาเลี้ยว

ภายหลงั จากเสรจ็ สิ้นพิธกี าร
เ บิ ก เ น ต ร ลุ ย ไ ฟ เ รี ย บ ร อ ย แ ล ว
ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ศ า ล จ า ว พ อ จ า ว
แมเกาเล้ียวไดจัดงานเฉลิมฉลอง
สมโภชนพิธีเบิกเนตรลุยไฟจาวพอ
จ า ว แ ม เ ก า เ ลี้ ย ว ข้ึ น ใ น เ ว ล า ก ล า ง
คนื วันท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๖๔ โดย
มีนายรฐั พล ธรุ ะพนั ธ นายอาํ เภอ
เกาเลยี้ วไดใหเกียรติมาเปนประธาน
ในพิธีโดยจัดใหมีการแสดงแสงสี
เสียงและการแสดงของคณะลอโกว
คณะดนตรีจีนไหหนาํ คณะรําถว ย
จนี ไหหนาํ คณะรําของนางฟาทัง้ ๗
คณะเสอื ไหหนาํ คณะสิงโต คณะ
มังกรทอง และการเปดตวั ขององค
สมมตุ กิ วนอิมประจาํ ป ๒๕๖๔ ทีย่ งิ่
ใหญตระการตา

30

ศาลจา วพอ เกาเลีย้ ว

ภาพถา ยงานเฉลมิ ฉลองพธิ เี บิกเนตร ลยุ ไฟ
คณะการแสดงตางๆของศาลจาวพอจา วแมเ กาเลีย้ ว

31

ศาลจาวพอ เกา เลีย้ ว

ประวตั ิ
ÈÒŨҌ Ǿ͋ ËÁÍ

32

ศาลจาวพอเกาเล้ียว

๑. ประวตั ศิ าลจาวพอหมอเกาเลี้ยว

ศาลจา วพอ หมอเกา เลี้ยว ต้ังอยบู รเิ วณตลาดเกา เล้ียว เดิมศาลจาว พอหมอเกา เลีย้ วมชี ่ือ
วา “ศาลจาวหมอ”เดมิ เปนศาลจาวหลังเลก็ ๆ
สรางดวยไมหลงั คามุงสงั กะสี ตอมาภาย
หลังไดมีการ บูรณะกอ สรางศาลจาวหลงั
ใหมเ ปนอาคารคอนกรีตท่มี คี วามแขง็ แรง
โดยมหี ลวงพอ เกษม คุตสฺ ีโลเปน ประธาน
การบูรณะกอ สรา งจนแลว เสรจ็ จงึ ไดเปล่ยี น
ชอื่ เปน "ศาลจา้ วพอหมอเกาเล้ยี ว" ยงั ไมมี
บนั ทกึ เปนหลักฐานไว้ จึงไดด้ ูจากบันทีกการ
ครอบครองทด่ี นิ และจากการบอกเลา่ รนุ่ สรู่ นุ่
ตอ่ กนั มา

บันทกึ หนังสอื การครอบครองท่ดี ิน
หนงั สือ สค.๑ไดล้ งบันทึกไวเ้ ม่อื วนั ที่ ๑๙
พฤษภาคม ๒๔๙๘ วา่ มีผยู้ กใหเ้ มอ่ื ประมาณ
๓๐ ปีเศษ กแ็ สดงว่ามผี ยู้ กให้เม่อื ประมาณ ปี ๒๔๖๘ แตจ่ ากการบอกเลา่ ของเจ้าพ่อหมอผา่ นรา่ ง
ทรงเมอื่ ครัง้ วันพิธเี ปลี่ยนเครอื่ งทรง เบกิ เนตรลยุ ไฟ ปี ๒๕๖๔ ไดก้ ลา่ วไว้วา่ "ศาลจ้าวพ่อหมอได้
ก่อสรา้ งกอ่ นศาลจา้ วพอ่ เกา้ เลี้ยวนานมาก เดิมทีศาลจา้ วพ่อหมอเปน็ ศาลเจ้าไม้มีขนาดเล็กๆ
ศาลจ้าวหมอมอี ายุมากว่า ๒๐๐ ปี

หนังสอื แจง การครอบครองที่ดิน สค.๑ ภาพภายในศาลจา วพอหมอในอดีต
ของศาลจา วพอ หมอ

33

ศาลจาวพอ เกา เลี้ยว

ศาลจาวพอ หมอเกาเล้ียวในปจ จบุ ัน

ศาลจ้าวพอ่ หมอเกา้ เลยี้ วหลงั เดมิ
ก่อนท่ีจะมีการบูรณะก่อสร้างหลัง
ใหม่น้นั เป็นศาลจา้ วหลงั เลก็ ๆช้นั เดยี ว
สร้างด้วยไม้หลังคามุงด้วยสังกะสีต่อ
มาเม่ือศาลจ้าวพ่อเก้าเล้ียวหลังใหญ่
มี ก า ร บู ร ณ ะ ก่ อ ส ร้ า ง ห ลั ง ใ ห ม่ โ ด ย
หลวงพ่อเกษม คุตตสฺ โี ล เมอ่ื ปี พ.ศ.
๒๕๓๗ - ๒๕๓๘ จงึ ไดม้ กี ารบรู ณะ
ก่อสร้างศาลจ้าวพ่อหมอเก้าเล้ียวไป
ดว้ ยพรอ้ มกนั

ศาลจา้ วพอ่ หมอ หลงั ใหมก่ อ่ สรา้ ง
เป็นอาคารคอนกรีตช้ันเดียวยกสูง
จากพน้ื ประมาณ ๑ เมตร บนหลงั คา
มีมังกรคู่มีความสวยงามเป็นอันมาก
ด้านหน้าของศาลจ้าวพ่อหมอจะมี
เสาทตี แี่ ปบ่ อ้ 天地父母 เป็นเสา
ปนู พนั ดว้ ยมงั กรสที องสวยงาม และ
จะมีเตาเผากระดาษไหว้อย่ดู ้านขา้ งๆ
เสาทตี แ่ี ปบ่ อ้ สว่ นด้านหนา้ สดุ ของ
ศาลจ้าวจะมีศาลาทรงจีนแปดเหล่ียม
ขนาดใหญใ่ ชเ้ ปน็ ทส่ี าํ หรบั น่งั พกั ผอ่ น

34

ศาลจาวพอเกาเลย้ี ว
35

ศาลจาวพอ เกา เลี้ยว
36

ศาลจา วพอ เกา เลย้ี ว

ภายในศาลจาวพอ หมอเกา เล้ียว เมอ่ื มองเขามาทผี่ นังดา นบนจะมภี าพ
ใหญๆอยูส ามภาพดวยกันโดยภาพทางดานซา ยมอื จะเปน ภาพของหงสคู
ภาพตรงกลางจะเปน ภาพวาดโปยเซยี น และภาพดา นขวาสุดจะเปน ภาพ
มงั กรคู

ถดั ลงมาจากภาพทง้ั สามตรงกลางจะเปน ปายพระนามของจาวพอ หมอ
เกา เลย้ี วและแทน บชู าซึง่ ไดจ ัดวางกงหลวนไวจาํ นวน ๕ พระองค สวนทาง
ดานขวามือจะมตี กู ระจกตั้งวางโตะ หมบู ูชาไวภายในตจู ะมรี ปู ภาพของหลวง
พอ เกษม คตุ ตสฺ โี ล และทางดา นซายมือ จะมปี ายชอ่ื ของศาลจา วพอ หมอ
หลงั เดมิ ติดไวสว นใตป า ยช่ือจาวพอ หมอจะมีโตะบูชาซงึ่ วางองคก งหลว นทจ่ี ดั
สรางใหมซ่งึ องคกงหลว นน้ีทาสีแดงจํานวน ๕ พระองค วางเรียงกนั อยู

สว นกึ่งกลางศาลจาวจะจัดใหม โี ตะไวส ําหรับใหผ ทู มี่ ากราบไหวจัดวาง
เครื่องถวายเครื่องบูชาไว ช่วงวันตรษุ จนี ชาวบา้ นเก้าเลย้ี วจะนาํ เครอ่ื งสัก
การะบชู า ซาแซ โหงว้ แซ พรอ้ มทง้ั ผลไมม้ ากราบไหวบ้ ูชาขอพรเนือ่ งในวัน
ปีใหมข่ องชาวจนี ในวนั นี้ชาวบา้ นเก้าเลยี้ วพร้อมท้งั ลูกหลานจะแต่งตัวให้
สวยงาม และจะมาไหว้สักการะจา้ วพอ่ -จา้ วแม่เกา้ เลีย้ วกันตงั้ แต่ในชว่ งเช้า
ทําให้ศาลจา้ วมคี วามคึกคักเป็นอย่างยงิ่

ซง่ึ ในการไหว้น้ีเน่อื งจากศาลจ้าวเกา้ เลีย้ วมีดว้ ยกนั สองศาลจา้ วคอื ศาล
จ้าวพอ่ หมอเก้าเล้ยี ว และศาลจา้ วพอ่ เก้าเลีย้ ว ดงั นน้ั ในวนั ตรุษจนี ชาวบา้ น
เกา้ เลย้ี วจึงไหวท้ ัง้ สองศาลจา้ ว ด้วยกัน

37

ศาลจาวพอเกาเล้ียว

แผน่ ปา้ ยตดิ อยูเ่ หนอื ป้ายพระนามของ
องคจ์ ้าวพอ่ หมออ่านวา่
"ดูฮพี ู" หรือ "โตวเทยี งฮ้"ู

ใตแ้ ผน่ ป้ายดฮู ีพจู ะมีตุย้ เลยี้ ง
(คาํ สรรเสรญิ จา้ วพอ่ ) อ่านว่า
"โบห๋ วา่ ลเี หมนิ " หรอื "เปาอว้ั ล่ีม้ิง"

เมอ่ื เดนิ เขา มาภายในศาลจา วพอ หมอเกา เลย้ี วสง่ิ ทเ่ี หน็ เปน อนั ดบั แรกคอื ปา ยไมใ หญๆ มสี ดี าํ มี

ลกั ษณะเปน กรอบไมส เ่ี หลย่ี มผนื ผา กวา งประมาณ ๑ เมตรสงู ประมาณ ๒ เมตรโดยประมาณดา นบนจะ

มแี ผน ปา ยไมพ น้ื จะมสี แี ดงและจะเขยี นอกั ษรไวด ว ยหมกึ สดี าํ ซง่ึ เขยี นอกั ษรภาษจนี ไวส ามตวั คอื

ซง่ึ อกั ษรทง้ั สามคาํ นภ้ี าษาไหหลาํ อา นวา ดฮู พี ู ภาษาแตจ ว๋ิ อา นวา โตวเทยี งฮู หมายถงึ ทป่ี ระทบั ตาํ หนกั หรอื

ราชวงั ดงั นน้ั ปา ยไมท เ่ี หน็ นก้ี ค็ อื ปา ยทบ่ี อกวา แผน ปา ยไมน ค้ี อื “ทป่ี ระทบั ของจา วพอ หวา กวาง” นน่ั เอง สว นท่ี

อยตู าํ่ ลงมาจากปา้ ย "ดฮู พี "ู เหนอื ปา ยพระนามจา วพอ หมอ (หวา่ กวาง) จะมอี กั ษรภาษาจนี เขยี น

ไวส ต่ี วั อกั ษร ภาษาไหหลาํ อา นวา “โบห วา ลเี หมนิ ” ภาษาแตจ ว๋ิ อา นวา "เปาอว้ั ลม่ี ง้ิ " จากการ

สอบถามทา นผรู จู งึ ทราบไดว า ปา ยนก้ี ค็ อื ตยุ้ เลย้ี งเปน็ ปา ยกระดาษสรรเสรญิ จา วพอ หมอ(หวา กวางกง)

คมุ ครองดแู ลลกู หลานของพระองคท า นทช่ี าวบา นเกา เลย้ี วไดท าํ ถวายเพอ่ื ขอบคณุ จา วพอ หวา กวางกง

ทไ่ี ดค อยดแู ลคมุ ครองชาวบา นเกา เลย้ี วซง่ึ เปน ลกู หลานของทา นสว นบรเิ วณภายในปา ยทป่ี ระทบั จา วพอ

หวา กวางกงนจ้ี ะมรี อยสคี ลาํ้ ๆทบ่ี ง บอก ถงึ ความเกา แกข องแผน ปา ยนอ้ี งคจ า วพอ หวา กวางกงเปน ประธาน

ใหญของส่งิ ศักด์สิ ิทธิท้งั หลายภายในศาลจาวพอหมอแหงน้ีซ่งึ จากการสอบถามจาวพอผานรางทรงจึง

ไดร วู า จา วพอ หวา กวางทา น มพี น่ี อ ง ๕ พระองค ดงั น้ี
๑. องคที่ ๑ พระนาม โหงว เยี่ยน ได ดี่ ตน โห บน ซี เซ ล่ี โผว ซา

๒. องคที่ ๒ พระนาม โหงว เย่ยี น ย่ี ได ด่ี ตน โห ซัง ไบ ตน เจ

๓. องคท ่ี ๓ พระนาม โหงว เย่ียน ตา ได ดี่ ตน โห อยุ โห โผว ซา

๔. องคท่ี ๔ พระนาม โหงว เยียน ต่ี ได ด่ี ตน โห หวา กวาง เทียน กวง

๕. องคท่ี ๕ พระนาม โหงว เย่ยี น โหงว ได ด่ี ตน โห เม ยิว เตย่ี น

38

ศาลจาวพอ เกาเลยี้ ว

และเม่อื มองลงมาทฐ่ี านตัง้ ของ
ป้ายพระนามจาวพอหวากวางกงก็
จะเห็นมีไมท่ีมีลักษณะคลายเกี้ยว
ของคนจีนวางเรียงอยูบนแทนบูชา
สง่ิ นค้ี อื “หลว น”หรอื ทช่ี าวบา นเกา เลย้ี ว
เรยี กกนั วา “กงหลว น”หลายทา นอาจจะ
สงสยั วากงหลวนคอื อะไร กงหลว น
คือไมที่มีลักษณะคลายเกี้ยวคานหาม
ของคนจีนในสมัยกอนหรือเปรียบ
ไดเสมือนกับบัลลังก์หรือท่ีประทับ
ขององคเทพเจาแตไ มมีหลังคามีขนาด
เลก็ ตองถือ ๒ คน ถือคนละขา งซึ่งจะ
พบเห็นกงหลวนน้ีไดตามศาลเจาของ
ชาวจนี ไหหลํา แตในท่ีนจี้ ะขอกลาว
ถึงกงหลวนของศาลจาวพอหมอเกา
เล้ยี วเทาน้นั เดิมศาลจา วพอ หมอเกาเล้ียว มกี งหลว นอยู ๒ พระองคเ ท่านัน้ ตอ มาเม่ือคราวท่ีมี
การบรู ณะก่อสรา้ งศาลจ้าวพอ่ เก้าเลย้ี หลงั ใหมห่ ลวงพอ เกษม คตุ สโี ลไดกาํ หนด ใหสรา งกงหล่
วนดว ยไมต ะเคียนทองเพิม่ ขนึ้ อีก ๓ พระองคร วมเปน ๕ พระองค และนายต้งี ู แซเหยา (เดโงว )
ไดส รา งถวายเพมิ่ อกี ๕ พระองค ซง่ึ ๕ พระองคท ่เี ดโง้วสรา้ งน้ีจะทาดว้ ยสแี ดง รวมแลวศาลจ้าว
พ่อหมอเก้าเล้ยี วมีองค์กงหลวนรวมทงั้ สน้ิ ๑๐ พระองค์

กงหล่วนตั้งประทับยืนขาเดียวบนถ้วยน้ํา

39

ศาลจาวพอเกา เลี้ยว

¡§ËÅèǹ

กงหลว น ของศาลจา วพอ หมอเกา เลี้ยวจะใชทุกคร้ังเมือ่ มกี ารอัญเชิญจา วพอ เสด็จ

ออกจากศาลจาวโดยจะทําพิธีเพ่ืออัญเชิญจ้าวพ่อเสด็จประทับบนกงหล่วนเพื่ออัญเชิญทานไปยัง
ศาลจา วพอ เกาเล้ยี ว (ศาลใหญ) เพื่อรวมประกอบงานพิธี และงานประเพณีตางๆของศาลจาวพอเกา
เลย้ี ว โดยในการเชิญจาวพอในแตล ะครงั้ ผูด ูแลศาลจาวจะทาํ พิธี “กัว่ องั่ ” คอื การเชือดคอไกแ ลวนํา
เลือดไกทาลงบนแผนปายพระนามทปี่ ระทับขององคจ าวพอ(เดมิ พิธีก่วั อ่ังจะใชวธิ เี ชือดคอไก แตใน
ปจจุบนั นี้ใชวธิ ใี นการกรีดท่หี งอนไกแ ลว ใชเลอื ดเพยี งเล็กนอยเทา น้ัน) ซ่ึงพิธกี รรมนเ้ี ปน พธิ กี รรมใน
การเชิญจาวพอภายหลังจากมีการก่ัวอั่งแลวจาวพอก็จะประทับรางทรงจากนั้นก็จะมีการอัญเชิญ
จาวพอทุกพระองคเสด็จประทับท่ีกงหลวนในการอัญเชิญกงหล่วนจะมีผูถือกงหลวนสองคนตอกง
หลวนหนึ่งพระองคเมื่อทําพิธีอัญเชิญจาวพอประทับกงหลวนแลวกงหลวนจะกระดกไปมาโดย
มีผูถือสองคนเปน ผูคอยถอื ประคองไว

ซ่ึงในบางคร้ังเม่อื จาวพอไดป ระทับรา งทรงแลวรา งทรงจะเชญิ กงหลว นต้ังบนกนถว ยขนาด
ใบเล็กๆหรือตั้งอยูบนถวยนํ้าชาดวยขาขางเดียวตั้งอยูอยางน้ันเปนเวลานานๆทําใหเปนท่ีอัศจรรย
ใจแกผูที่พบเห็นเปนอยางมากกงหลวนศาลจาวพอหมอเกาเลี้ยวถือวาเปนส่ิงศักดิ์สิทธิ์และเปนท่ี
เคารพนับถือขอชาวบานเกา เลี้ยวเปนอยา งมาก

ความศกั ดส์ิ ิทธขิ์ องจา วพอ หมอเกา เลี้ยวเคยมผี ูเลา สบื ตอกันมาวา ในสมยั กอ นการแพทย
การรักษายังไมเจริญเมื่อมีชาวบานมากราบไหว้ขอใหทานชวยรักษาก็จะมีการเชิญองคทานประทับ
กงหลวนแลวกงหลวนจะไปชี้สมุนไพรใหชาวบานเก็บมาตมทําเปนยาในการรักษาโรคจึงทําให้เป็นท่ี
ศรทั ธาตอ่ ชาวบ้านเก้าเล้ียวเปน็ อันมาก

ในปจ จุบนั น้ยี ังคงจะไดเ ห็นลกู ศิษยของจา วพอหมอเม่ือมีโอกาสไดเ ดินทางมากราบสักการะ
บูชาจ้าวพ่อจา้ วแมเ่ ก้าเล้ียว ตามวาระและโอกาสในงานตา งๆของศาลจา วพอ จา้ วแมเ่ กา เลย้ี วกจ็ ะนํา
นาํ้ มันจากตะเกียงภายในศาลจา วเกา เลยี้ วไปถนู วดเพ่อื บรรเทาอาการปวดตามบรเิ วณแขนขา หรือ
เมื่องานแหจาวพอเกาเลี้ยวมีเด็กที่อยูในคณะสิงโตไดรับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ามีอาการบวม
เมอื่ จาวพอ เหน็ ก็ไดนํานาํ้ มันมาทาใหโ ดยใชบกั ปค(พกู ันที่ใชเขียนอักษรจีน) จุ่มทน่ี ้ํามนั แลว้ นํามาเขียน
บนหวั เข่าของเดก็ คนน้ันสักพกั หน่ึงอาการหวั เขา่ ท่ีบวมอยูกค็ อ ยๆยุบลงไป เปนตน

40

ศาลจาวพอเกาเลย้ี ว

นอกจากนี้แลวทางดาน
ขวามือของศาลจาวพอ หมอ
จะเห็นมตี ูท่ภี ายในมรี ูปพระ
สงฆอ ยูองคหน่ึงกค็ อื รปู ของ
หลวงพอ เกษม คุตตฺสโี ล
ซึ่งทานเปนชาวเกา เลีย้ วโดย
กาํ เนดิ ภายหลงั จากทท่ี านได
ออกบรรพชาแลว ทานไดไ ป
จําวดั อยทู ว่ี ดั เขาวงพระ
จันทร จังหวดั ลพบรุ ี หล
วงพอ เกษมคตุ ตฺสีโลทานเปน ท่ี
เคารพนบั ถือของชาวเกา เลี้ยว
และทา น
มลี ูกศษิ ย มากมาย หลวงพอ
เกษม คุตฺตฺสโี ล ทานไดร้ ับ
เป็นประธานในการบรู ณะ
การกอสรา งศาลจาวพอ
เกาเลย้ี วและศาลจาวพอหมอ
หลงั ใหมทั้งสองแหง จนแลว
เสร็จเมื่อป พ.ศ.๒๕๓๘ ซง่ึ
เปนศาลเจา หลงั ใหมท่ ี่ไดเหน็
กนั อยใู นปจจุบนั นีแ้ ละเพอ่ื
เปนการระลกึ ถึงพระคณุ ของ
หลวงพอ เกษม คตุ ตฺสโี ล ใน
งานประจําปีประเพณีแหจ าว
พอจา วแมเกา เลยี้ วซงึ่ จดั ขึ้นใน
วนั ที่ ๑๓ - ๑๕ เดือน ๑ ตาม
ปฏทิ ินจีนเปน ประจําทุกๆปี จะ
มกี ารอัญเชิญรปู ของหลวงพอ
เกษม คุตฺสีโล รว มไปในขบวน
แห่จา้ วพอ่ จ้าวแมเ่ กา้ เลยี้ วดว ย
ทุกครงั้ ประวัติความเป็นมาของศาลจ้าวพอ่ หมอ(หวา่ กวางกงหรอื จา้ วพ่อสามตา)กพ็ อจะสรุปไดพ้ อ

อัญเชิญเกีย้ วหลวงพอ่ เกษม คตุ ฺตสโี ล
ร่วมขบวนแหง่ านประเพณีแหจ่ า้ วพ่อจา้ วแม่เกา้ เลย้ี ว

41

ศาลจาวพอ เกา เลี้ยว
42

ศาลจาวพอเกาเลย้ี ว
43

ศาลจา วพอเกาเลีย้ ว

งานประเพณ-ี งานประจําปศาล

จา วพอ -จา วแมเกา เลีย้ ว
ในปหนึ่งๆศาลจา วพอ จา ว

แมเกาเลยี้ ว จะมีการจัดงานประเพณี
ตางๆ และในประเพณตี างๆนัน้ จะมี
การจดั กจิ กรรมเพอ่ื เปนการอนรุ ักษ
วฒั นธรรมและประเพณีทสี่ าํ คัญของ
บา นเกา เลี้ยวไวและไดมกี ารพัฒนา
กจิ กรรมตางๆใหมีความสวยงาม มี
ความทันสมยั เพม่ิ ขนึ้ แตจ ะยังคงไว
ซ่ึงแกน แทข องประเพณีเดมิ ๆไวดว ย
งานประเพณี ประจาํ ปของศาลจาว
พอ จา วแมเกาเลยี้ วท่ีสาํ คญั มี ๗ งาน
ประเพณดี ว ยกันคือ

๑. งานสบื สานประเพณแี หจาว
พอ-จาวแมเ กา เลยี้ ว

๒. งานลอยเรือสําเภา
๓. วันเทวสมภพ จาวพอกวนอู
๔. งานเหวีย่ งติว้ ทิง้ กระจาด
ซโิ กว หรอื ตโี กว
๕. งานยอ นรอยเสด็จประพาส
ตน ณ บา นเกาเล้ยี ว
๖. งานไหวพ ระจนั ทร คัดเลอื ก
องคสมมติกวนอิม
๗. วนั เทวสมภพ จา วพอ หมอ
(หวากวางกง)

44


Click to View FlipBook Version