4.ตัวอย่างค าที่ประวิสรรชนีย์ กะทัดรัด, กะทันหัน ขะมักเขม้น ขะมุกขะมอม คะนึง, คะเน, คะม า ฉะนี้-ตะวัน ฉะนั้น-ทะวาย สะดือ-สะดึง คะนึง-ทะลาย กระฟูม-กระฟาย กระชาย-กระแชง ประมาท-ประมง กระแจะ-กระจง ประดง-ประแดง กระจิบ-กระจาบ ระนาบ-ระแนง จะแจ่ม-จะแจ้ง ชะแลง-ชะลอม ตะแบง-ตะแบก กระทบ-กระแทก พะรังพะรุง-กระบุง กระชอน กระแอก-กระออม กระแอม-กระอัก กระช้อย-กระชอม ประนีประนอม พะยอม-พะเยิบพะยาบ ฉะนั้น-ฉะนี้-พะงา ระกา-ระก า-ระคาย สะดุ้ง-สะดุด-สะเดาะ สะดุ้ง-สะดุด-สะเดาะ ละเมาะ-ชะนี-กระหาย ขะยุกขะยิก-สะพาย กระทาย-ตะเภา-สะพาน สะอาง-สะอึก-สะอื้น มะรืน-มะเรือง-ละหาน สะกด-สะกิด-ตระการ สะอ้าน-สะดึง-ชะลอม ละลอง-ละลาบ-ละล้วง มะม่วง-มะขาม-กระท่อม พะวัก-พะวง-พะยอม ละม่อม-ละโมบ-ละคร คะนอง-คะแนน คะนึง-บะหมี่ สะตาหมัน-จาระไน ระแนง-ระตู คะยั้นคะยอ-ฉะนี้-ฉะนั้น ชะง่อน-ทะเยอทะยาน สะพาน-ชะตา ทะมัดทะแมง-ชะแลงชะล่า ชะโงก-โหระพา-ชะพลู ตะปู-ละออง สะดุ้ง-สะเทือน สะท้าน-ประคอง สะดวก-สะดม ระทม-ตะไคร้ ชะลอม-มะม่วง ละมุนละไม-ทะลาย พะเน้าพะนอ-ชะนาง พะออม-กะหล่ า กระสุน-กระเส่า สะอาด-สะอาง ชะวาด-ชะแวง ชะโด-กระดี่ ชะเอม-ชะอม มะยม-ชะนี ปะการัง-ชะงัก-ระวัง การะเกด-กระเฉด กระฉอก-กระแฉก กระชับ-กระชัง กระทา-สะพรึบสะพรั่ง สะพาน-สะพาย สะเดา-สะเด็ด กระดังงา-พะว้าพะวัง ประดับประดาปะทะปะทัง ประทับประทา-ประทาน พร พะแนง-ละคร พะรังพะรุง-พะเนิน พะเนียง 5.ตัวอย่างค าที่ไม่ประวิสรรชนีย์ กบาล,กบี่ ขมุกขมัว ขมา,ขมีขมัน ขโมย ชนาง,ชนวน ชโลม,ชโลง ตลก,ตลิ่ง ทนาย,ทยอย,ทโมน สกัด,สบง,สไบ นวลลออ ศิลปวัฒนธรรม ศิลปวัฒนธรรม พลศึกษา สักการบูชา อารยธรรม ธรรมชาติ สัจธรรม มรณภาพ อิสรภาพ สบาย พเนจร อวตาร คณบดี อเนก ชนวน-ชนาง ชนก-ชบา ชมดชม้อย ชม้ายชไม ชนิด-ชนัก ชอุ่ม-ชอ่ า ชวา-ชโลง-ชโลม ทโมน-ทมอ-ทแยง ทเมิน-ทยอย-ทนาย ทบวง-ทลาย ทวาย-ทวอย พม่า-พนาย พนัก-พยาน พเยียบ-พยุง พยักพเยิด พยับ-พบู พนม-พนอม พนัน-พญา พนา-พยาบาล สบง-สไบ สราญ-สบาย-สดับ สบู่-สกัด สกาว-สกา-สด า ฉวัดเฉวียน ฉน า-ฉลู ฉลาก-ฉลวย ฉวี-ฉงน ฉกาจฉกรรจ์ ฉมัน-ฉมัง ฉลอมฉลาด ฉลัก-ฉลุ ฉมวก-ฉลาม ฉลอง-ฉงาย เฉนียน-ฉนวน-ฉบัง
6.ค าในพจนานุกรม ค า ค า ค า กกุธภัณฑ์ กฏุกผล กฐินกาล กฐินทาน กฐินัตถารกรรม กณิกนันต์ กตัญชลี กตาธิการ กตาภินิหาร กถามรรคเทศนา กถิกาจารย์ กนิฏฐภคินี กมลฑลาภิเษก กมลาสน์ กรกัติ กรชกาย กรรตุการก กรรมาชีพ กรณียกิจ กรรมชวาต กรรมาธิการ กรมธรรม์ กรรมวาจาจารย์ กระษาปณ์ กฤดาธิการ กษีรารณพ กัลปาวสาน กฤดายุค กเฬวราก กัลปนา กฤษฎีกา กักขฬะ กัลปพฤกษ์ กษัตราธิราช กัตติกมาส กัลยาณมิตร กษีณาศรพ กัปปิยภัณฑ์ กากณึก กามภพ กัมมันตภาพรังสี กากภาษา กามวิตถาร กุศลกรรมบถ กาญจนาภิเษก กามาพจร กุศโลบาย กามคุณ กาเมสุมิจฉาจาร กูรมาวตาร กามตัณหา กายทุจริต เกษตรศาสตร์ ขิปสัทโท กายวิภาคศาสตร์ โกฐเขมา ขุทกนิกาย กายาพยพ ขนิษฐา เขม็ดแขม่ การิตการก ขมีขมัน เขมาโกรย กาลเทศะ ขมุกขมัว ขะเย้อแขย่ง กาลกีณี ขยักขย่อน เขลง กาฬจักร ขยักขย้อน เข้าสมาธิ กาสาวพัตร ขยุกขยิก โขยกเขยก กาฬปักษ์ ขยุกขยุย โขลนทวาร กาฬโรค ขยุบขยิบ คคนางค์ กิตติกรรมประกาศ ขลุกขลัก คชลักษณ์ กิตติมศักดิ์ ขษีณาศรพ คชสีห์ กินนร ขะมักเขม้น คณาธิการ กินรี ขะเย้อแขย่ง คณาธิปไตย กิเลสมาร ขัณฑสกร คณิตศาสตร์ กุมภัณฑยักษ์ ขัณฑสีมา คนธรรพ์ กุลธิดา ขัดสมาธิ คนธรรพศาสตร์ กุลสตรี ขัตติยมานะ คมิกภัต
ค า ค า ค า ครรภธาตุ จาตุรงคสันนิบาต ชีวิตักษัย คมนาการ จิตกาธาน ชีวิตินทรีย์ คมิกภัต จิตตานุปัสสนา ชุษณปักษ์ ครีษมายัน จิรัฐิติกาล โชติรส ครุภัณฑ์ จุกผาม ไชยเภท ครุฑพาห์ จุกโรหิณี ฌาปนกิจ คฤโฆษ จุณณียบท ฌาปนสถาน คฤหปัตนี จุตูปปาตญาณ ญาณทัสนะ คัคนัมพร ๒๘.จุนสี ญาณวิทยา คันธรรพเวท จุรณมหาจุรณ ไญยธรรม คันธารราษฎร์ จุลกฐิน ฐานานุกรม คัมภีรภาพ จุลทรรศน์ ฐานานุรูป คาพยุต จุฬาราชมนตรี ดรรชนี คิลานปัจจัย โจทนา ดลภาค คุณประโยชน์ ฉกามาพจร ดามพวรรณ คุณวุฒิ ฉกษัตริย์ ดารดาษ คุณูปการ ฉทานศาลา ดาวดึงส์ ฆาตกร ฉศก ดุริยางคศิลป์ ฆาตกรรม ฉัตรมงคล ดุลยพินิจ ฆานประสาท ฉันทลักษณ์ ดุษฎีนิพนธ์ โฆรวิส ฉัพพรรณรังสี ดุษฎีบัณฑิต จตุโลกบาล ฉิมพลี ดุษณีภาพ จตุรงคเสนา เฉลิมพระชนมพรรษา เดียรดาษจตุรพักตร์ ชนกกรรม ตจปัญจกกรรมฐาน จตุรพิธพร ชนมพรรษา ตรรกวิทยา จตุราริยสัจ ชนมาพิธี ตรรกศาสตร์ จลนพลศาสตร์ ชลมารค ตราไปรษณียากร จักรราศี ชันษา ตรีโกณมิติ จักรวรรคินิยม ชัยเภรี ตรีมูรติ จัตุรงค์ ชาติภูมิ ตรีเอกานุภาพ จัตุรพักตร์ ชาติมาลา ตรียัมปวาย จันทรคติ ชาตินิยม ตฤณชาติ จันทรคราส ชาติพันธุ์วรรณนา ตาลปัตร จันทรุปราคา ชาติพันธุ์วิทยา ติณชาติ จากพราก ชามพูนท ติมิงคละ จาตุทสี ชิวหินทรีย์ ไตรสรณคมน์ จาตุมหาราชิกา ชีวประวัติ ไตรดายุค
ค า ค า ค า ถนิมพิมพาภรณ์ ทิศาปาโมกข์ ธาตุครรภ ถลกบาตร ทุกขลาภ ธาตุเจดีย์ ถววรวัตถุ ทุกขสมุทัย ธาตุสถูป ถูปารหบุคคล ทุกรกิริยา ธารก านัล เถกิง ทุคตะ ธุดงควัตร เถรวาท ทุปปัญญา ธุมเกตุ เถลิงศก ทุพพลภาพ ธุมชาล ไถง ทุพภิกขภัย ธูปบาตร ไถยจิต ทุรชน โธวนะ ทรมาทรกรรม ทูษก นขลิขิต ทรัพยากรธรณี เทพนม นเคศวร ทฤษฎีบท เทพพยากรณ์ นครวาสี ทวิชงค์ เทพสังหรณ์ นครโสเภณี ทศนิยม เทพพาโร นนทรี ทศพิธราชธรรม เทริด นปุงสกลิงค์ ทักขิณาวัฏ เทวนาครี นพปฎล ทักษิณาวรรต เทศกาล นภศูล ทักษิณานุประทาน เทศบัญญัติ นภสินธุ์ ทักษิโณทก เทศมนตรี นรเศรษฐ์ ทัณฑกรรม เทศนา นเรนทรสูร ทัณฑฆาต เทศนาโวหาร นรกานต์ ทัณฑสถาน เทียรฆชาติ นรกจกเปรต ทับสมิงคลา โทรมศัตราวุธ นฤปเวศม์ ทัศนคติ โทหฬินี นฤปัตนี ทัศนูปกรณ์ ไทยธรรม นฤคหิต ทัสนานุตริยะ ธตรฐ นฤโฆษ ทัฬหีกรรม ธไนศวรรย์ นฤตยศาลา ทานมัย ธนุรมารค นฤตยศาสตร์ ทารุณกรรม ธรณิศวร์ ๒๐.นวปฎล ทาสปัญญา ธรรมกถึก นวารหาทิคุณ ทิฐธรรม ธรรมปฏิสัมภิทา นวังคสัตถุศาสตร์ ทิฏฐานุคติ ธรรมสากัจฉา นวกภูมิ ทิฏฐุชุกรรม ธรรมาธิปไตย นักขัตฤกษ์ ทินกร ธรรมาธิษฐาน นั่งขัดสมาธิ ทิพโสต ธรรมาภิสมัย นัยนามพุ ทิพยจักษุ ธเรษตรีศวร นาคบริพันธ์ ทิพยญาณ ธาตุโขภ นาคบาศ
ค า ค า ค า นาคปัก บทภาชนีย์ (ป.) เบญจางคประดิษฐ์ นาควิถี บทจร (ป.) โบกขรพรรษ นาคสังวัจฉระ บทบงกช (ส.) โบกขรณี นาคาวโลก บทบงส์ (ป.) โบราณคดี นาฏกรรม บทมาลย์ โบราณวัตถุ นาฏดนตรี บทวลัญช์ (ป.) โบราณสถาน นาฏศิลป์ บพิตรพระราชสมภาร ปกติ นานัครส บรมบพิตร ปกรณัม นานัปการ บรมวงศานุวงศ์ ปกิณกะ นามสงเคราะห์ บรรจถรณ์ ปโกฏิ นามาภิไธย บรรณกุฎี (ส.) ปฏิคาหก นาวิกโยธิน บรรณารักษศาสตร์ ปฏิภาคนิมิต นิคหกรรม บรรพชา (ส.) ปฏิภาณกวี นิโครธ บรรลัยกัลป์ ปฐมฌาน นิตยทาน บริขารโจล (ป.) ปฐมเทศนา นิตยภัต บริคณห์สนธิ ปปัญจธรรม นิติเวชศาสตร์ บริเฉทกาล (ป.) ปรนัย นิปริยาย บริโภคเจดีย์ (ป.) ปรปักษ์ นิปัจการ บัญญัติไตรยางศ์ ปรโลก นิพัทธกุศล บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ปรวาที นิมมานรดี บัพพาชนียกรรม ปรหิตะ นิยัตินิยม บาทบงกช ปรกติ นิรโทษกรรม บาทมูล ปรตยักษ์ นิรัติศัย บาทยุคล ปรนิมิตวสวัตตี นิราศรพ บานโภชน์ ปรมาจารย์ นิราศรัย บุคคลสิทธิ ปรมาตมัน นิรุกติ บุคลาธิษฐาน ปรเมศวร์ นิรุตติ บุคลิกทาน ปรสิตวิทยา นิรุตติปฏิสัมภิทา บุญราศี ประวิสรรชนีย์ นิโรธสมาบัติ บุญญาภินิหาร ประกายพรึก นิโลตบล บุณฑริก ประกาศนียบัตร นิเวศวิทยา (ส.) บุพเปตพลี ประดิษฐกรรม นิสีทนสันถัต (ป.) บุรพทิศ ประดิษฐาน นิสีทนาการ (ป.) บูรพาจารย์ ประวัติการณ์ เนมิตกะ (ป.) บุริมพรรษา ประวัติศาสตร์ บงกชกร (ป.) เบญจกามคุณ ประสิทธิภาพ บทภาชน์ (ป.) เบญจเพส ประสูติกาล
ค า ค า ค า ปรัศนี พงศาวดาร พุทธปฏิมากร ปรากฏการณ์ พจนารถ พุทธมามกะ ปริกรรมนิมิต พนัสบดี พุทธาภิเษก ปริยัติธรรม พยาลมฤค พุทธุปบาทกาล ปัจจัตถรณ์ พยุหยาตรา แพทยศาสตร์ ปัจจันตคาม พยุหแสนยากร โพธิบัลลังก์ ปัจจุสมัย พรหมทัณฑ์ โพธิปักขิยธรรม ปัจเจกบุคคล พรหมลิขิต โพยม ปัจเจกโพธิ พราหมณี โพยมยาน ปัจฉิมพรรษา พฤกษศาสตร์ ไพชยนต์ ปัจฉิมลิขิต พฤฒาจารย์ ไพศาขบุรณมี ปัจฉิมวัย พฤหัสบดี ไพศาขมาส ปัจฉิมวาจา พลกาย ภมริน ปัจนึก พลการ ภยันตราย ปัญญาวิมุติ พลขันธ์ ภรตศาสตร์ ปัฐยาวัตร พลขับ ภวกษัย ปัณรสมสุรทิน พลความ ภัณฑาคาร ปัตตานุโมทนา พลรบ ภัณฑารักษ์ ปัตติทานมัย พลโลก ภัสดา ปัพพาชนียกรรม พลสิงห์ ภาคนิพนธ์ ปาฐกถา พลีกรรม ภาคเสธ ปารุสกวัน พลีชีพ ภารตวิทยา เปตพลี พสุนธรา ภาวนามัย ไปรษณียบัตร พักตรา ภาสกร ไปรษณียภัณฑ์ พัสถาน ภิยโยภาพ ไปรษณียวัตถุ พาณิชยกรรม ภีรุกชาติ ไปรษณียากร พาณิชยศาสตร์ ภุชงคประยาต ผรณาปีติ พาฬมฤค ภุมรัตน์ ผรุสวาท พิกเลนทรีย์ ภุมเทวดา ผลคุนีบูรพมาส พิฆเนศ ภูมิประเทศ ผลิกศิขรี พิฆเนศวร ภูมิภาค ผลิตกรรม พิพิธภัณฑ์ ภูมิรัฐศาสตร์ ผลิตผล พิพิธภัณฑสถาน ภูมิล าเนา ผลิตภัณฑ์ พิริยพฤนท์ ภูมิศาสตร์กายภาพ ผลีผลาม พิศดู ภูมิธรรม โผฏฐัพธรรม พิษฐาน ภูมิปัญญา ไผท พุฒิ ภูวไนย
ค า ค า ค า เภตรา มาตรการ ราชทัณฑ์ เภทภัย มาตรฐาน ราชทินนาม เภสัชกรรม มารวิชัย ราชลัญจกร เภสัชเคมี มารผจญ ราชวัติ เภสัชเพลา มิคสัญญี ราชสันตติวงศ์ เภสัชวิทยา มิจฉาทิฐิ ราชสาส์น เภสัชศาสตร์ มิสกวัน ราชองครักษ์ โภคทรัพย์ มุขปาฐะ ราชูปถัมภ์ โภคภัณฑ์ มุขมนตรี ราชพฤกษ์ โภคยทรัพย์ มุโขโลกนะ ราชินูปถัมภ์ โภชนากร มุจลินท์ ราพณาสูร โภชนาการ มูรธาภิเษก รามสูร โภชนาหาร มูลฐาน ริษยา มกุฎราชกุมาร มูลนิธิ รุกขมูลิกธุดงค์ มงคลจักร มูลภัณฑ์กันชน รูปฌาน มงคลสูตร มูลค่า รูปธรรม มณฑป เมรุ รูปพรรณ มณีราค เมรุมาศ รูปพรรณสัณฐาน มตกภัต โมฆกรรม รูปพรหม มธุปายาส โมฆียกรรม รูปสมบัติ มณฑิราลัย ยุทธวิธี โรคนิทาน มนสิการ ยุทโธปกรณ์ โรคาพยาธิ มนุษยธรรม ยุทธนาการ โรคาพาธ มนุษยสัมพันธ์ ยุรยาตร ราพณาสูร มโนทุจริต เยภุยสิกา รามสูร มรณกรรม เยาวมาลย์ ริษยา มรณบัตร โยธวาทิต รุกขมูลิกธุดงค์ มรรคนายก โยนิโสมนสิการ รูปฌาน มรรคผล รงควัตถุ รูปธรรม มรรยาท รชนีกร รูปพรรณ มฤคชาติ รสชาติ รูปพรรณสัณฐาน มฤคทายวัน รสนิยม รูปพรหม มฤตยู รโหฐาน รูปสมบัติ มหรณพ รังสฤษฏิ์ โรคนิทาน มหรรณพ รัชดาภิเษก โรคาพยาธิ มหัพภาค รัฐประศาสนศาสตร์ โรคาพาธ มหาภิเนษกรมณ์ รัฐวิสาหกิจ ฤกษณะ มไหศวรรย์ รัตนโกสินทรศก ฤคเวท มัคคุเทศก์ รัตนสิงหาสน์ ฤชากร
ค า ค า ค า ลัคนา วีรสตรี สวรรคาลัย ลัญจกร เวทางคศาสตร์ สวัสดิมงคล ลิขสิทธิ์ ไวยาวัจกร สวามิภักดิ์ โลกเชษฐ์ ไวยาวัจมัย สวิญญาณกทรัพย์ โลกธรรม ไวษณพ สหธรรมิก โลกธาตุ ศยามล สหัสนัยน์ โลกวิทู ศฤงคาร สักกายทิฐิ โลกุตระ ศัลยกรรม สังขตธรรม โลกัตถจริยา ศัตราวุธ สังขารโลก โลกานุวัตร ศาสตราจารย์ สังคมศึกษา โลกาภิวัตน์ ศิลปกรรม สังฆเภท โลกุตรธรรม ศีลธรรม สังฆานุสติ โลมชาติ ศิวลึงค์ สังวัธยาย โลหกุมภี ศิษยานุศิษย์ สังเวชนียสถาน วจีทุจริต ศุกลปักษ์ สังสารวัฏ วชิรปาณี ศุภนิมิต สัจพจน์ วชิราวุธ ศุภมัสดุ สัญชาตญาณ วณิพก เศวตฉัตร สัญญาวิปลาส วนอุทยาน สกทาคามิผล สัญประกาศ วนาศรม สกรรมกริยา สัตตาหกรณียะ วโนทยาน สดับปกรณ์ สัตบริภัณฑ์ วรรณพฤติ สติปัฏฐาน สัตมวาร วสันตฤดู สติวิปลาส สัตยวาที วสันตดิลก สติสัมปชัญญะ สัตยาเคราะห์ ว้ชรอาสน์ สถลมารค สัตวแพทย์ วัฏสงสาร สถานธนานุบาล สัทธิวิหาริก วันทนาการ สถาปัตยกรรม สันถวไมตรี วิกฤตการณ์ สมณสาสน์ สัมปชัญญะ วิกฤตกาล สมบูรณาญาสิทธิราชย์ สัมมนา วิกาลโภชน์ สมรรถภาพ สัมมาทิฐิ วิจิตรศิลป์ สมรรถนะ สัมฤทธิศก วิตถาร สมุจเฉทปหาน สาทิสลักษณ์ วิเทโศบาย สรณคมน์ สาธารณูปโภค วินาศกรรม สรรพากร สามีจิกรรม วิปริต สรรพางค์ สารกรมธรรม์ วิพิธทัศนา สรัสวดี สารัตถประโยชน์ วิสัญญีแพทย์ สรีรางคาร สารีริกธาตุ วิสุงคามสีมา สวรรคต สิทธิการิยะ
ค า ค า ค า สีหบัญชร องคาพยพ อรหัตผล สีหไสยาสน์ อจินไตย อรัญวาสี สืบราชสันตติวงศ์ อดิเรกลาภ อรูปภูมิ สุขนาฏกรรม อดีตชาติ อลักเอลื่อ สุขศาลา อติชาตบุตร อวชาตบุตร สุขุมาลชาติ อติเรกจีวร อวิญญาณกทรัพย์ สุคนธชาติ อถรรพเวท อสังหาริมทรัพย์ สุตตนิบาต อาถรรพเวท อสัญแดหวา สุตตันตปิฎก อธิกมาส อสัตถพฤกษ์ สุพรรณบัฏ อธิกสุรทิน อสีตยานุพยัญชนะ สุรสีหนาท อธิษฐาน อสุภกรรมฐาน สุรางคนางค์ อธิมุตติ อเสขบุคคล สุรัสวดี อนธการ อหิวาตกโรค สุริยคราส อนรรถ อเหตุกทิฐิ สูตินรีเวช อนัญสาธารณ์ อักขรวิบัติ เสขบุคคล อนันตริยกรรม อัครชายา เสถียรภาพ อนารยธรรม อัจกลับ เสาวภาคย์ อนิฏฐารมณ์ อัชฌาสัย โสดาปัตติมรรค อนุชาตบุตร อัญเดียรถีย์ โสตทัศนวัสดุ อนุญาโตตุลาการ อัฏฐังคิกมรรค โสมนัส อนุปสัมบัน อัฐรส ไสยเวท อนุรักษนิยม อัฒมณฑล ไสยศาสตร์ อนุศาสนาจารย์ อัตโนบท ไสยาสน์ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ อัธยาศัย หงสบาท อเนกวิธ อันตรวาสก หัตถกรรม อเนกอนันต์ อันตรายิกธรรม หัตถบาส อเนจอนาถ อัปราชัย หัตถาจารย์ อบายภูมิ อัพภูตธรรม หัสดีลิงค์ อปาจยนธรรม อัษฎางคิกมรรค หิตประโยชน์ อัปมงคล อัสดงคต หิรัญบัฎ อัปราชัย อาคันตุกภัต หิริโอตตัปปะ อุปโลกน์ อาจริยวัตร โหราศาสตร์ อภิเนษกรมณ์ อานาปานัสสติ อกตเวทิตา อภิลักขิตสมัย อายุรกรรม อกตัญญุตา อภิสัมโพธิญาณ อาสาฬหบูชา อกรรมกริยา อมรโคยานทวีป อินทขีล อกัปปิยวัตถุ อมฤตรส อินทรธนู อกุศลกรรมบถ อรรถปฏิสัมภิทา อุณหภูมิ
7.ค าที่มักเขียนผิด กงสุล กฎ กฎหมาย กบ (เต็ม,แน่น) กบฏ กรรไกร กรรเชียง กรรโชก กรรไตร กรรมบถ กรรมพันธุ์ กรรมสิทธิ์ กรวดน้ า กร่อน กระจิริด กระเชอ (ภาชนะสาน กระตือรือร้น กระเทือน กระบวนการยุติธรรม กระเบียดกระเสียร กระปรี้กระเปร่า กระเพาะ กระสัน กระแสน้ า กระหนก(ลายไทย) กระหืดกระหอบ กริยา ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า กเฬวราก ก๊อก กอปร ก้อร่อก้อติก กะทัดรัด กะทันหัน กะทิ กะเทาะ กะปริบกะปรอย กะโปโล กะพง กะเพรา กะลา กะเล่อกะล่า กะหรี่ปั๊บ กะโหลก กักขฬะ กังวาน กังสดาล กัญชา กันดาร(อัตคัด) กัป กัลป์ กากบาท กามารมณ์ การบูร กาลเทศะ ก้าวร้าว ก าเนิด กิจจะลักษณะ กิตติกรรมประกาศ กิตติมศักดิ์ กิริยา (มารยาท) กุฏฐัง เกร็ดความรู้ เกร็ดพงศาวดาร เกล็ดปลา เกศา เกษียณอายุ เกษียนหนังสือ เกษียรสมุทร เกสร เกินดุล โกฏิ (๑๐ ล้าน) โกศ (ที่ใส่ศพ) ข้นแค้น ขบถ ขบวน ข่มเหงคะเนงร้าย ขมีขมัน ขโมย ขริบ ขลิบ ขะมักเขม้น ขะมุกขะมอม ขะเย้อแขย่ง ขัณฑสกร ขัดสมาธิ ขันชะเนาะ ขากรรไกร ขากรรไตร ขาดดุล ข้าวกบหม้อ ข้าวของ ข้าวโพด ข้าวราดแกง ขีดคั่น ขี้เถ้า ขี้ราดโทษล่อง ขึ้นฉ่าย เข็ญใจ เข็มควัก เขม็ดแขม่ เขยก เขยิน เข้าฌาน เข้ารีต โขยกเขยก ไข่มุก ไข้สันนิบาต คณนา คทา คนโท ครรลอง ครอก ครองแครง ครองราชย์ ครอบคลุม คริสตกาล คริสตจักร คริสต์ศตวรรษ คริสต์ศาสนา คริสต์ศาสนิกชน ครุฑ ครุภัณฑ์ คฤหัสถ์ คฤหาสน์ คลอก คลาคล่ า คลางแคลง คลินิก คลื่นเหียน คลุมเครือ ควั่น ควั่นจุก ควั่นอ้อย ควินิน ค้อน คอนกรีต ค่อนขอด คอนแวนต์ คอนเสิร์ต นะคะ ขอบคุณค่ะ คะนอง คะนึง คะม า คะยั้นคะยอ คั่น คันดาล คัมภีร์ คารวะ ค านวณ คุกกี้ คู่กรณี เค้ก เครื่องยนต์ เครื่องราง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เครื่องส าอาง เคหสงเคราะห์ เคี่ยวเข็ญ แค็ตตาล็อก แคลอรี โคตร โครงการ โควตา งบดุล งึมง า งูสวัด เงินทดรอง เงินรองจ่าย โง่เง่า จงกลนี จตุสดมภ์ จัตุสดมภ์ จระเข้ จลาจล จะละเม็ด จะละหวั่น จ้าละหวั่น จักจั่น จักร จักรพรรดิ จักรวรรดิ จักรวาล จัณฑาล จัดสรร จัตุรมุข จัตุรัส จันทน์กะพ้อ จันทน์เทศ จันทน์ผา จันอับ จับฉ่าย จาระไน จ านง จิตกาธาน จุณ,จุรณ จุดไต้ต าตอ จุมพิต จุลทรรศน์ เจ๊ก เจดีย์ทิศ เจดียสถาน เจตจ านง เจตนารมณ์ เจตภูต เจียระไน โจทก์จ าเลย โจทย์เลข โจษจัน ฉกษัตริย์ ฉกาจ ฉบับ ฉะนั้น ฉะนี้ ฉะอ้อน ฉัททันต์ ฉันญาติ ฉัพพรรณรังสี ชนวน ชนัก ชนิด ชบา ชมดชม้อย ชมพู ชม้าย ชโลม ช้อนส้อม ชอ่ า ชอุ่ม ชะนี ชะมด ชะมัด ชะรอย ชะลอ ชะลูด ชัชวาล ชีวประวัติ เชาว์ เชาวน์ เชิ้ต โชคชะตา โชห่วย ซวดเซ ซักไซ้ ซาก ซาบซ่าน ซาบซึ้ง ซาลาเปา ซ่าหริ่ม เซ็นชื่อ เซนติเมตร ฌาน ฌาปนกิจ ฌาปนสถาน ญาณ ดอกจัน ดอกไม้จันทน์ ดาดฟ้า ดารดาษ ดาวคะนอง ดาวดึงส์ ดาษดื่น ด ารง ดุล ดุลการค้า ดุลการช าระเงิน ดุลอ านาจ ดุษณี เดินเหิน เดียดฉันท์ เดียรดาษ ได้ญาณ ได้ดุล ตกล่องปล่องชิ้น ตงิด ต้นจันทน์ ต้นฉบับ ต้มโคล้ง ตระเวน ตลบ ตลบตะแลง ตะกรุมตะกราม ตะกละตะกลาม ตะเฆ่ ตะราง ตะล่อม ตะวัน ตั้งศูนย์ ต่าง ๆ นานา ตาตาราง ตานขโมย ตารางสอน ตาลโตนด ตาลปัตร ต ารับต ารา เต็นท์ ถนนลาดยาง ถนัดถนี่ ถมปัด ถ่วงดุล ถั่วพู ถึงแก่พิราลัย แถลงการณ์ ทนทายาด ทโมน ทยอย ทแยง ทรมาทรกรรม ทรราช ทรวดทรง ทระนง ทรัพยสิทธิ ทลาย (หัก) ทะลาย (ช่อหมาก) ทวาย
ทราวดี ทะนง ทะนุบ ารุง ทะลวง ทะลึ่ง ทะเลสาบ ทะวาย ทักษิณาวรรต ทัศนศิลป์ ทาส ท าบุญสุนทาน ทีฆายุโก ทุพภิกขภัย ทุรกันดาร ทูต ทูนหัว ทูลกระหม่อม ทูลเกล้าฯ เทคนิค เทเวศร์ เท้าความ เทิด เทิดทูน เทิดพระเกียรติ แท็กซี่ แทรกแซง โทรทรรศน์ โทรมหญิง โทสจริต ธัญพืช ธ ามะรงค์ ธ ารง ธุดงค์ ธุรการ ธุรกิจ ธนบัตร ธรรมเจดีย์ ธรรมาสน์ ธาตุเจดีย์ ธารก านัล นกพิราบ นงพะงา นนทรี นพปฏล นวัตกรรม นภดล นัยน์ตา นาที นานัปการ น้ ามันก๊าด น้ ามันจันทน์ นิเทศ นิมิต นิรมิต นิวรณ์ นิเวศวิทยา เนรมิต เนืองนิตย์ โน้ต ไนต์คลับ บรรจบ บรรทัด บรรทุก บรรเทา บรรลุ บรรเลง บล็อก บ่วงบาศ บอระเพ็ด บังกะโล บังสุกุล บังเอิญ บัญญัติไตรยางศ์ บันดาล บันได บันทึก บันเทิง บันลือ บาดทะยัก บาตร บาทบงสุ์ บาทหลวง บานทะโรค บ าเหน็จ บิณฑบาต บิดพลิ้ว บุคลากร บุคลิกภาพ บุคลิกลักษณะ บุษราคัม บูรณปฏิสังขรณ์ เบญจเพส เบรก เบียดเบียน แบ่งสันปันส่วน แบหลา ปฏิกิริยา ปฏิสันถาร ปฐมนิเทศ ปรนนิบัติวัตถาก ประกายพรึก ประกาศิต ประจัญบาน ประจันหน้า ประจันห้อง ประณต ประณาม ประณิธาน ประณีต ประดิดประดอย ประติมากรรม ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ประนีประนอม ประปา ประพาส (เที่ยว) ประภาส (สว่าง) ประพิมพ์ประพาย ประภัสสร ประโยชน์โพดผล ประสบ ประสบการณ์ ประสีประสา ประสูติ ประสูติการ ประสูติกาล ประหลาด ประหัตประหาร ปรักหักพัง ปรัมปรา ปรัศนี ปรากฏ ปราดเปรื่อง ปรานี (เอ็นดู) ปราณี (ผู้มีชีวิต) ปราบดาภิเษก ปรามาส ปรารถนา ปรารมภ์ ปราศรัย ปริตร ปริทรรศน์ ปริทัศน์ ปรีดิ์เปรม ปล้นสะดม ปลาวาฬ ปลาสเตอร์ ปลาสนาการ ปะการัง ปะแล่ม ปาฏิหาริย์ ปิกนิก เปรมปรีดิ์ เปอร์เซ็นต์ แปล้ ปุนภพ เปตพลี ไปรษณียบัตร ไปรษณียภัณฑ์ ไปรษณียวัตถุ
ผรุสวาท ผลกรรม ผลผลิต ผลิต ผลิตกรรม ผลิตผล ผลิตภัณฑ์ ผลีผลาม ผลึก ผดุง ผลลัพธ์ ผล็อย ผลัดเปลี่ยน ผลัดผ้า ผลัดเวร ผลานิสงส์ ผอบ ผัดไทย ผัดผ่อน ผัดวันประกันพรุ่ง ผัดเวลา ผัดศาล ผัดหนี้ ผ้าขาวม้า ผาสุก ผุดลุกผุดนั่ง ผูกพัน เผยิบผยาบ เผล้ เผอเรอ เผอิญ เผ่าพันธุ์ แผ่ซ่าน แผนการ แผ่หลา ไผท ฝรั่งเศส ฝีดาษ ฯพณฯ พยักพเยิด พยาน พยุง พเยีย พรรณนา พร้อมสรรพ พระสงฆ์องคเจ้า พราก พราง พรางตา พฤติการณ์ พลศึกษา พลอดรัก พละก าลัง พลัดพราก พลาง พลิ้ว พหูสูต พะงา พะงาบ ๆ พะนอ พะเน้าพะนอ พะเนียง พะแนง พะยอม พะเยิบพะยาบ พะวง พังทลาย พันทาง พัศดี พัสดุ พาณิช (พ่อค้า) พาณิชย์ (การค้า) พาณิชยศิลป์ พาน (เกือบจะ) พาล (โง่) พิธีรีตอง พิราลัย พิลาป พิลิปดา พิศวง พิศวาส พิสดาร พิสมัย พึมพ า พุดตาน พุทธชาด พู่กัน พู่ระหง เพชฌฆาต เพนียด เพริศพริ้ง เพลิงกัลป์ เพิ่มพูน เพียบพร้อม โพธิญาณ โพนทะนา โพยม โพสพ พิษฐาน พสกนิกร ฟั่น ฟั่นเชือก ฟั่นเทียน ไฟบรรลัยกัลป์ ภวังค์ ภัสดา ภาคภูมิ ภาพยนตร์ ภารกิจ ภารธุระ ภาวการณ์ ภูตผี ภูมิใจ เภทภัย ภัณฑาคาร ภารต มกุฎราชกุมาร มงกุฎ มณฑป มนิลา (เชือก) มนุษยศาสตร์ มโนสาเร่ มรณกรรม มรณภาพ มลทิน มลายู มหรสพ มหาบพิตร มหาละลวย มหาหิงคุ์ มหิงส์ มเหสี มโหระทึก มไหศวรรย์ ม่อต้อ มอเตอร์ไซค์ ม่อห้อม ม่อฮ่อม หม้อห้อม มะงุมมะงาหรา มักกะสัน มัคคุเทศก์ มังสวิรัติ มัณฑนา มัธยัสถ์ มัสมั่น มาดหมาย มาตรการ มาตรฐาน มาตรแม้น มาตรว่า มานพ (คน) มาณพ (หนุ่ม) มานุษยวิทยา ม่าเหมียว มืดมน มุก (รัตนชาติ) มุกตลก มุขเด็จ มุ่งมาด
มุตกิต แมงกะพรุน แม้นมาตร โมฆกรรม โมฆียกรรม ไมยราบ โมหันธ์ โมหาคติ ยรรยง ยศถาบรรดาศักดิ์ ย่อมเยา ยาเกร็ด ยุงก้นปล่อง ยุติธรรม เยาว์วัย รกชัฏ รง (ยางไม้) รงค์ (สี) รถยนต์ รนหาที่ รยางค์ ร่วง รสชาติ รหัส ระเห็จ รักษาการ รักษาการณ์ รังสรรค์ รังสฤษฎ์ รังสี รัชดาภิเษก รากเหง้า ราคาเยา ร้างรา ราญรอน ราดยางถนน ราศี ร่ าลือ ริบราชบาตร รื่นรมย์ รุบรู่ รุ่มร่าม รุ่ยร่าย รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รูปการณ์ เราะราย เรี่ยไร ฤกษ์พานาที ลาดราวาศอก ลมปราณ ลมหวน ล่วง ล่องชาด ลองไน ลออ ละมุนละไม ละโมบ ละล่ าละลัก ละออง ละเอียดลออ ลัดปิดลักเปิด ลังถึง ลาดตระเวน ลายเซ็น ลาสิกขา ล าไย ล าไส้ เลิ่กลัก ลิขสิทธิ์ ลิดรอน ลิปดา ลุกะโทษ ลุกลี้ลุกลน ลุ่ย ลูกกบคอ ลูกเกด ลูกนิมิต ลูกบาศก์ ลูกป้ด เลขผา เล่นพิเรนทร์ เล้าโลม เลิกรา เลือกสรร เลือดกบปาก เลือนราง โล่ โลกาภิวัตน์ โลกียวิสัย ไล่เลี่ย วัชพืช วันทยหัตถ์ วาณิช (พ่อค้า) วาณิชย์ (ค้าขาย) วาตภัย วาทยกร วาทศิลป์ วายุภักษ์ วารดิถี วิกฤตการณ์ วิกฤติการณ์ วิกฤตกาล วิกฤติกาล วิ่งเปี้ยว วิ่งผลัด วิญญาณ วิตถาร วิทยฐานะ วิธีการ วินาที วิปลาส วิปัสสนา วิพากษ์วิจารณ์ วิริยอุตสาหะ วิไล วิหารคด วีดิทัศน์ วีรกรรม เวนคืน เวรกรรม ศักยภาพ ศัพท์ ศิลปกรรม ศิลปลักษณะ ศิลปวัฒนธรรม ศิลปวัตถุ ศิลปวิจารณ์ ศิลปศึกษา ศิลปหัตถกรรม ศิลปะ ศิลปะการแสดง ศิลปะปฏิบัติ ศิลปะประดิษฐ์ ศิลปะประยุกต์ ศิลปะและฒนธรรม ศิลปะสถาปัตยกรรม ศิลปะสากล ศิลปะอุตสาหกรรม ศึกษานิเทศก์ ศูนย์หน้า โศกเศร้า ษมา สกัด สกา
สกาว สดมภ์ สดับ สถานการณ์ สถิต สถูป สนุกเกอร์ สบง สบาย สบู่ สไบ สภาวการณ์ สภาวธรรม สมดุล สมุห์บัญชี สยิว สร้างสรรค์ สล้าง สวมกอด สอบเชาวน์ สะกด สะกิด สะคราญ สะดวก สะท้อน สะเทินน้ าสะเทินบก สะบัก สะบัด สะพรึงกลัว สะพาน สะอาด สะอิ้ง สักการบูชา สักหลาด สังเกต สังเกตการณ์ สังเขป สังฆทาน สังฆเภท สังวร สังวาล สังสรรค์ สัจพจน์ สัญประกาศ สัญลักษณ์ สัณฐาน สัตตบงกช สัตตบรรณ สัตตบุษย์ สันดาป สันโดษ สันตะปาปา สันถวไมตรี สันนิษฐาน สับปลับ สับปะรด สับปะรังเค สัปคับ สัปหงก สัพยอก สัมปทาน สัมฤทธิ์,ส าริด สัมมนา สากกะเบือ สาทิสลักษณ์ สาธารณชน สาธารณประโยชน์ สาธารณสถาน สาธารณสุข สาธารณูปการ สานุศิษย์ สาบสูญ สาปแช่ง สายสิญจน์ สารท สารทุกข์สุกดิบ สารประโยชน์ สารพัด สาระบันเทิง สาระสังเขป สาระส าคัญ สารัตถประโยชน์ สารัตถะส าคัญ สาลิกา ส าปะหลัง ส ามะโนครัว ส าหรวด ส ารวจ ส าอาง สิงโต สินเธาว์ สินบริคณห์ สิริมงคล สีทันดร สีสัน สีสันวรรณะ สุกใส สุญญากาศ สุดสวาท สุพรรณบัฎ สุหนัต เสกสรร เส้นจันท์ เสถียร เสนียด เสบียง เสลด เสาวนีย์ เสียศูนย์ เสื้อเชิ้ต แสตมป์ แสบสัน หงส์ หญ้าฝรั่น หญ้าลิเภา หน้ากล้อ หน้าปัด หม้อห้อม หมาไน หมูหย็อง หย็องแหย็ง หยักศก หยากไย่ หยากไย่ หลงไหล หลักการ หลับไหล หลุดลุ่ย หลุมพราง หวนคะนึง หอมหวน หอยแครง หอยแมลงภู่ หัวป่า หัวมังกุท้ายมังกร หินชนวน หินดินดาน เหง้า เหงื่อกาฬ เหตุการณ์ เหม็นสาบ เหล็กไน เหล็กวิลาด เหล็กวิลาศ
เหลวไหล เหลือเข็ญ แหลกลาญ โหยหวน ไหลตาย ไหม้ โหราศาสตร์ โหราจารย์ อนิจกรรม อนิจจา อนุญาต อนุมัติ อนุสาวรีย์ อเนก อเนจอนาถ อโนดาต อภิชาต อภิรมย์ อภิเษก อรหันต์ อรหัน อลังการ อวสาน อเวจี อสัญกรรม อหังการ ออกซิเจน อ้อยควั่น อะลุ่มอล่วย อะลุ้มอล่วย อะไหล่ อัตคัด อัตชีวประวัติ อัธยาศัย อัปภาคย์ อัประมาณ อาเจียน อาชาไนย อาเซีย อานิสงส์ อาพาธ อาเพศ อารมณ์ อาลัยอาวรณ์ อาวรณ์ อาสน์สงฆ์ อาสนะสงฆ์ อ านาจบาตรใหญ่ อ ามหิต อินทรธนู อินทรี (นก) อินทรีย์ (ร่างกาย) อินทรียวัตถุ อินังขังขอบ อิริยาบถ อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กโทน อิสรภาพ อิสรเสรี อิสริยยศ อิสริยาภรณ์ อุดมการณ์ อุตพิด อุตสาหพยายาม อุบัติการณ์ อุปการคุณ อุปาทาน อุปโลกน์ อุโมงค์ เอเชีย โอกาส ไอศกรีม ฮวงซุ้ย ฮอร์โมน ฮัจญ์ ฮิจเราะห์ ฮิปโปโปเตมัส ฮิสทีเรีย เฮโมโกลบิน เฮลิคอปเตอร์ เฮอริเคน เฮิรตซ์ แฮ่กึ๊น โฮลเมียม ไฮโกรมิเตอร์ ไฮดรา ไฮโดรคาร์บอน ไฮโดรเจนซัลไฟล์
1.2การใช้ค าตรงความหมาย 1.ค าที่มีความหมายคล้ายกัน 1.กระฉับกระเฉง-กระปรี้กระเปร่า •พนักงานในบริษัทท างานอย่าง กระฉับกระเฉง •ผู้สูงอายุดื่มน้ าผึ้งแล้วจะรู้สึก กระปรี้กระเปร่า 2.ไกล่เกลี่ย-เกลี้ยกล่อม •ต ารวจ ไกล่เกลี่ย ข้อพิพาทระหว่างชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน •เจ้าหน้าที่ต ารวจ เกลี้ยกล่อม คนร้ายให้ยอมมอบตัว 3.แก้แค้น-แก้เผ็ด •เขาท าไปเพื่อ แก้แค้น ผู้ที่ฆ่าบิดาของเขา •พวกเขาอยาก แก้เผ็ด ความปากมากของมัน แค่นั้นเอง 4.กฎเกณฑ์-กฎหมาย •การท างานต้องเป็นไปตาม กฎเกณฑ์ที่บริษัทก าหนด •สภาผู้แทนราษฎรเตรียมตรากฎหมาย เกี่ยวกับการปลูกสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัยใหม่ 5.กระโจน-กระโดด •เสือด า กระโจน จากหน้าผา •เธอร้อนมากจนอยาก กระโดด ลงไปในน้ า 6.กักขัง-กักกัน •กรมราชทัณฑ์กักขัง นักโทษประหารชีวิตไว้ในแดนห้า •มีค าสั่งมาให้กักกัน การแพร่กระจายเชื้อโรคภายใน 24 ชั่วโมง 7.เกี่ยวข้อง-เกี่ยวพัน •อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง กับชุมสายโทรศัพท์เป็น ส่วนใหญ่ •ไวรัสระบาดตัวนี้ มัน เกี่ยวพัน กับเครือข่ายก่อการร้าย 8.กิจวัตร-กิจกรรม •การวิ่งรอบสนามหญ้าถือเป็น กิจวัตร ประจ าวันของเขา •ปัจจุบันนักศึกษาตื่นตัวกันมากในเรื่องกิจกรรมการเมือง 9.แก้ตัว-แก้มือ •ครูให้โอกาสนักเรียน แก้ตัว ในการสอบอีกครั้ง •หลังจากพ่ายแพ้ครั้งนั้นแล้ว เขาก็พยายามหาทางแก้มือกับเขาอีก ครั้ง 10.กระเซ็น-กระเด็น •โคลนกระเซ็นขึ้นมาถึงข้างรถ •ก้อนหินกระเด็นจากข้างทางมาโดนกระจกรถ 11.กีดขวาง-กีดกัน •การจอดรถยนต์ขนาบข้างรถยนต์คันอื่น เป็นการ กีดขวางทางจราจร •นักกีฬาเก่ง ๆ บางคนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมทีม 12.เกียรติบัตร-วุฒิบัตรประกาศนียบัตร •นักเรียนได้รับเกียรติบัตรกิจกรรมท าความดีจากคุณครู •บุคลากรที่เข้าอบรมหลักสูตรนี้จะได้รับวุฒิบัตรทุกคน •เขาเรียนจบระดับปวส.โดยมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ 13.ข่มขี่-ข่มขู่-ข่มเหง-ข่มขวัญ-ข่มขืน •การท าพิธีไสยศาสตร์เพื่อข่มขี่อ านาจฝ่ายตรงกันข้ามให้ยอมสยบ •นักเลงชอบข่มขู่คนที่อ่อนแอกว่า •ผมสาบานว่าจะต้องไม่ยอมให้มีการข่มเหงกันแบบนี้อีก •ก่อนชักดาบทุกครั้ง ข่มขวัญคู่ต่อสู้ให้ได้ก่อน •โจรข่มขืนหญิงสาวกลางป่า
14.ขัดขืน-ขัดใจ-ขัดเคือง-ขัดคอขัดตา-ขัดบท-ขัดหู- ขัดขวาง-ขัดข้องขัดแย้ง •ผู้ร้ายขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ต ารวจ •แม่จ าเป็นต้องขัดใจลูกสาวที่ร้องไห้จะเอาของเล่น •วิภาขัดเคืองเจ้านายเธอมากที่ไม่ให้สองขั้น •เขาชอบขัดคอคนอื่นอยู่เสมอจนไม่มีใครอยากคบหาแล้ว •กิริยาของเขาขัดตาผู้ใหญ่หัวโบราณมาก •ลูกอย่าเพิ่งขัดบทได้ไหม แม่ยังพูดไม่จบเลย •หัวหน้าพูดจาขัดหูคนฟังแบบนี้ใครจะชอบ •เพื่อน ๆ ช่วยกันขัดขวางเขาไม่ให้ฆ่าตัวตาย •เครื่องจักรเกิดขัดข้องจึงไม่สามารถผลิตสินค้าได้ •ฝ่ายค้าขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลเรื่องงบประมาณ 15.แข็งแกร่ง-แข็งขัน-แข็งแรงแข็งข้อ-แข็งขืน •ผู้ที่จะประสบความส าเร็จได้ต้องมีจิตใจแข็งแกร่ง •เขาเป็นคนแข็งขัน เจ้านายจึงเอ็นดูเป็นพิเศษ •ลูกชายของเขาแข็งแรงขึ้น หลังจากออกก าลังกายทุกวัน •คนงานแข็งข้อต่อนายจ้าง เพราะไม่เห็นกับความอยุติธรรม •ประชาชนหลายกลุ่มแข็งขืนไม่ท าตามใบสั่งของผู้มีอ านาจ 16.ควั่น-ฟั่น •การควั่นอ้อยเป็นงานที่เกษตรกรถนัดที่สุด •ลูกเรือฟั่นเกลียวเหนียวแน่นเพื่อใช้ยึดหลักให้มั่นคง 17.จุกจิก-จุบจิบ •อาจารย์จุกจิกเรื่องการไว้ผมของนักเรียนให้ถูกต้อง •คนที่จะลดความอ้วน ควรกินข้าวพอควร ให้เลิกกินจุบจิบ 18.ฉลาก-สลาก •ผู้สูงอายุอ่านฉลากยาผิด จึงทานยาผิดเมื่อวานนี้ •ครูท าสลากให้นักเรียนจับเพื่อรับของขวัญ 19.โซม-โทรม •เด็ก ๆ วิ่งเล่นจนเหงื่อโซมตัว •บ้านโทรม ๆ หลังนั้นเป็นบ้านของฉันเอง 20.ตก-หล่น •ช่างก่อสร้างตกนั่งร้าน เหตุเพราะเหยียบพลาด •ลูกไม้ มักจะหล่นไม่ไกลต้น 21.ไต่สวน-สอบสวน-สืบสวน- สืบสาว-สืบเสาะ •ต ารวจก าลังไต่สวนผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้า •ต ารวจสอบสวนผู้ต้องหา •ต ารวจก าลังสืบสวนคดีความจากผู้ต้องสงสัยอยู่ •สุนทรภู่บ้านช่องอยู่ที่ไหน เราไม่สามารถจะสืบสาวได้ •เขาก าลังสืบเสาะเรื่องราวของแฝดสยาม 22.ทดรอง-ทดลอง •ระหว่างรอเงินงบประมาณ เขาใช้เงินส่วนตัวทดรองจ่าย ค่าจ้างคนงานไปก่อน •นักวิทยาศาสตร์ทดลองเซรุ่มจากงูฉีดเข้าไปในกระต่าย 23.เจือปน-ปลอมปน •ความสุขของเธอเจือปนไปด้วยความทุกข์ •ประชาชนทุกคนควรระวังเชื้อโรคที่ปลอมปนมากับน้ าดื่ม 24.ผลัด-ผัด •เราต้องผลัดเวรกันเฝ้าตู้เก็บเงิน •เขาผัดให้พวกหนังสือพิมพ์พบเขาพรุ่งนี้ 25.เผยแพร่-เผยแผ่ •ฉันเกิดมาในโลกนี้เพื่อเผยแพร่ข้อความแห่งสันติ •การเผยแผ่ศาสนาเป็นศาสนกิจของสงฆ์ 26.เรี่ยราย-เรี่ยไร •กินข้าวหกเรี่ยรายไปทั่วห้อง •ชาวบ้านได้เรี่ยไรเงินจากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อถวายให้วัด
27.อนุญาต-อนุมัติ •พนักงานขออนุญาตลาหยุดในวันออกพรรษา •สหรัฐฯได้อนุมัติเงินจ านวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ 28.ตรวจสอบ-ตรวจทาน •เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานที่ได้มา •เขาตรวจทานข้อมูลมากกว่าร้อยครั้ง 29.ประสิทธิภาพ-ประสิทธิผล •เครื่องจักรไอน้ ามีประสิทธิภาพน้อยกว่าเครื่องจักรดีเซล •เขาท างานเพื่อหวังประสิทธิผลสูงสุดเท่านั้น 30.สมรรถภาพ-สมรรถนะ •สมรรถภาพทางกายของเขาลดลงเรื่อย ๆ •รถยนต์แบบนี้มีสมรรถนะดีเยี่ยมเหมาะส าหรับเดินทางไกล 31.ผูก-มัด •เอาม้าผูกไว้กับเสา •ลูกน้องมัดหญ้าคาเป็นท่อน ๆ 32.รุกราน-รุกล้ า-รุกไล่ •การที่อิรักรุกรานคูเวต ท าให้แผนการตะวันตกล้มลง •พ.ศ.2437 ฝรั่งเศสได้รุกล้ําอธิปไตยของประเทศสยาม •กองยานถูกรุกไล่ขณะสงครามลุกลามไปทั่ว 33.เร่งด่วน-เร่งรีบ-เร่งรัด-เร่งเร้า- รบเร้า •งานนี้ต้องท าอย่างเร่งด่วนให้เสร็จภายใน 12 ชั่วโมง •ประเทศไทยต้องเร่งรีบเตรียมพร้อมเพื่อรับกับ โควิด-19 •พวกเขาเร่งรัดเรื่องการยกเว้นภาษีเงินบริจาค •ลูกชายเร่งเร้าให้พ่อแม่ส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอผู้หญิงให้ •ถ้าพี่ของเธอรบเร้ามาก ๆ เธอคิดว่าควรท าอย่างไร 34.เย็นฉ่ า-เย็นเฉียบ-เย็นชา-เย็นชืด เย็นเยือก-เย็นวาบ •ฉันจะกลับไปบ้าน อาบน้ านอนแช่ตัวให้เย็นฉ่ํา •โอ! มือฉันเย็นเฉียบเลย •เธอมักจะเย็นชาเก็บตัวและไม่แสดงความรู้สึก •เขานอนตายตัวเย็นชืด •หน้าหนาวอากาศบนภูเขาเย็นเยือก •ลมพัดกระโชกเข้ามารู้สึกเย็นวาบ 35.ผ่อนผัน-ผ่อนปรน •เจ้าของหอคนนี้ใจดี ยอมให้ผู้เช่าผ่อนผันค่าเช่าห้องไปอีก •ตัวแทนบริษัทยอมผ่อนปรนตอบรับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม 36.คลี่คลาย-ผ่อนคลาย •สถานการณ์บ้านเมืองตึงเครียดจะคลี่คลายลงด้วยดี •หมอต้องการให้เขาผ่อนคลายความวิตกกังวลลงบ้าง 37.แน่นหนา-หนาแน่น •เขาใส่กุญแจอย่างแน่นหนา เพราะจะไม่อยู่บ้านหลายวัน •คืนนี้ผู้คนหนาแน่นคึกคักมากเป็นพิเศษ 38.ยืนกราน-ยืนยัน-ยืนพื้น-ยืนหยัด- ยืนยง •สามียืนกรานอย่างแข็งขันว่าเขาไม่ได้โกหก •เขายืนยันว่าเขาเห็นขโมยแน่ •กับข้าวไทยมีน้ าพริกยืนพื้น •ผู้น าไม่สามารถจะยืนหยัดอยู่ได้โดยที่ขัดแย้งกับประชาชน •ทุกสิ่งมลายหายไป แต่ความรักของพ่อแม่ยังยืนยงอยู่ต่อไป 39.จัดสรร-เลือกสรร-คัดสรร •นายหน้าพยายามจัดสรรที่ดินแถวนี้ให้มีราคาสูงขึ้น •ส านักพิมพ์เลือกสรรงานเขียนที่มีคุณภาพมาจัดพิมพ์ •นักเรียนคัดสรรบทเพลงในการร้องในวันปัจฉิมนิเทศ
40.สงเคราะห์-อนุเคราะห์ •ลุงอยากให้เขาสอบได้ หนูช่วยสงเคราะห์ทีเถอะ •เขามีสปอนเซอร์รายใหญ่อนุเคราะห์เครื่องแต่งกาย 41.ต่อเติม-แต่งเติม-ตกแต่ง •พ่อแม่ต่อเติมบ้านหลังเดิมเพื่อพอกับสมาชิกครอบครัว •นักเรียนช่วยกันแต่งเติมสีสันให้กับต้นคริสต์มาส •บ้านหลังนี้ตกแต่งภายในด้วยมัณฑนากรชื่อดัง 42.สงบ-สงัด •คนเราควรสงบใจไว้บ้าง ถ้าคิดมากก็ยิ่งทุกข์มาก •ฉันกลับไปบ้าน เจอห้องที่เงียบสงัด 43.สดชื่น-สดใส •การไปล่องแก่ง ท าให้ชีวิตสดชื่นขึ้น •หลังจากพักมา 2 อาทิตย์ ดูเขาสดใสอย่างเห็นได้ชัด 44.เกื้อหนุน-เกื้อกูล •ระบบที่เกื้อหนุนชีวิตทั้งหมดบนโลกก าลังเสื่อมถอย •ทุกคนจ าเป็นต้องเกื้อกูลกันและกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวม 45.ชักจูง-ชักใย •สิ่งแวดล้อมปัจจุบันชักจูงเด็กวัยรุ่นไปในทางที่ผิดได้ง่าย •ต ารวจพบว่าคดีนี้มีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง 46.ประชากร-ประชาชน •ประชากรของไทยเพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก •วิถีการด าเนินชีวิตของประชาชนในเมืองเปลี่ยนแปลงไป 47.สิงสู่-สมสู่ •ต้องมีสถานที่ที่แม่มดเข้าสิงสู่ •แม่เขาเจ็บใจที่เขาไปสมสู่กับผู้หญิงหากิน 48.ผสม-ประสม •แม่ใช้ผลมะเกลือผสมน้ าแล้วย้อมจะได้ผ้าสีด า •พอถูกหัวหน้าต าหนิ คนอื่นก็พลอยประสมโรงด้วย 49.เสด็จฯ,เสด็จ •พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด าเนินโดยรถยนต์ พระที่นั่ง •สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์เสด็จโดยสาย การบินสวิสแอร์ฯ 50.อาสน์สงฆ์/อาสนะสงฆ์ •ชาวบ้านเตรียมอาสน์สงฆ์ไว้ในปะร าพิธี •มรรคนายกปูอาสนะสงฆ์บนอาสน์สงฆ์เรียบร้อยแล้ว 51.เมตตา,กรุณา,สงสาร,สมเพช •เราจะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกได้เพราะมีเมตตาต่อกัน •เราควรกรุณาต่อผู้ที่ร่างกายพิการ. •เห็นเด็ก ๆ อดอยาก ก็รู้สึกสงสาร. •เห็นคนอนาถาแล้ว อดสมเพชไม่ได้. 52.เจริญ,รุ่งเรือง,งอกงาม •พระพุทธศาสนาเคยเจริญถึงขีดสุดในอินเดีย. •โคมไฟรุ่งเรืองแสงจับท้องฟ้า. •ต้นหญ้างอกงามบนแผ่นดินแห่งนี้. 53.อวดดี,อวดเก่ง •เขาเป็นคนอวดดี จึงมีแต่คนหมั่นไส้. •หมอนั่น ชอบท าตัวอวดเก่งรู้ทุกเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วโง่จะตาย. 54.หมกมุ่น,มัวเมา,มอมเมา •เธอหมกมุ่นอยู่กับงานมากเกินไป. •เขามัวเมาอยู่กับการหาความส าราญ. •เด็กที่ขาดความอบอุ่น มักจะถูกมอมเมาได้ง่าย.
2.การใช้ค าให้ถูกความหมาย ค า ความหมาย ประโยค กักกัน ก. ไม่ให้ล่วงพ้นเขตที่ก าหนดไว้, ก าหนเขตให้อยู่, กัก ก็ว่า. •แม่กักกันลูกไม่ให้หนีออกไปท าความผิดนอกบ้าน กักตัว ก. ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป. ต ารวจ กักตัว ผู้ต้องสงสัย กักขัง ก. บังคับให้อยู่ในสถานที่อันจ ากัด, เก็บตัวไว้ในสถานที่อันจ ากัด. •กรมราชทัณฑ์กักขัง นักโทษประหารชีวิตไว้ใน แดนห้า กีดกัน ก. กันไม่ให้ท าได้โดยสะดวก. •นักกีฬาเก่ง ๆ บางคนถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมทีม กีดขวาง ก. ขวางกั้นไว้, ขวางเกะกะ. •โขดหินกีดขวางทางน ้า กระฉับกระเฉง ว. คล่องแคล่ว, ทะมัดทะแมง. •นักข่าวควรเป็นคนกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า ว. แคล่วคล่องว่องไว เพราะมีก าลัง วังชา •เขามีท่าทางกระปรี้กระเปร่าคงพร้อมที่จะท างาน กระชุ่มกระชวย ว. มีอาการกระปรี้กระเปร่า. •แม้จะอายุ ๗๐ แล้วคุณปู่ก็ยังกระชุ่มกระชวยอยู่ ขะมักเขม้น ก. ตั้งใจท าอย่างรีบเร่งเพื่อให้แล้ว เสร็จไป •นักวิทยาศาสตร์ขะมักเขม้นค้นคว้าหาสิ่งแปลก ใหม่กว่าที่เป็นอยู่ กิจกรรม น. การที่ผู้เรียนปฏิบัติการอย่างใด อย่างหนึ่งเพื่อการเรียนรู้ •นักศึกษาตื่นตัวกันมากในเรื่องกิจกรรมการเมือง กิจการ น. การงานที่ประกอบ, ธุระ. •ทุกคนมุ่งหวังที่จะมีกิจการเป็นของตัวเอง กิจวัตร น. กิจที่ท าเป็นประจ า. •กิจวัตรของแต่ละคนจะแตกต่างกัน เกี่ยวข้อง ก. ติดต่อผูกพัน, แตะต้อง, ยุ่งเกี่ยว , ข้องแวะ •อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ ชุมสายโทรศัพท์ เกี่ยวดอง ว. นับเป็นญาติกันทางเขยหรือ สะใภ้ •คนบ้านอื่นเกี่ยวดองเป็นที่รู้จักมักคุ้นมาก่อน เกี่ยวโยง ก. ต่อเนื่องไปถึง.เชื่อมโยง •การปฏิบัติงานระดับชาติด้านใดนั้นย่อมจะ เกี่ยวโยงถึงกันและกัน คุณค่า น. สิ่งที่มีประโยชน์หรือมีมูลค่าสูง. •ครูอธิบายให้เห็นคุณค่าของการอ่านหนังสือ คุณภาพ น. ลักษณะที่ดีเด่นของบุคคลหรือ สิ่งของ •บริษัทรถยนต์ต่างๆ มีการปรับปรุงคุณภาพและ การบริการให้ดีขึ้น ชดเชย ก. ใช้แทนสิ่งที่เสียไป •อาจารย์จะชดเชยชั่วโมงสอนให้นักเรียนในตอน เย็นของวันศุกร์ ชดใช้ ก. ใช้ค่าใช้จ่ายที่ทดรองจ่ายไปก่อน แล้ว, ให้ทดแทนสิ่งที่ใช้หรือเสียไป •หากเกิดอุบัติเหตุกับรถ บริษัทยินดีจะชดใช้ ค่าเสียหายให้แก่เจ้าของรถ ทดแทน ก. ตอบแทน •นายจ้างจะทดแทนค่าเสียหายให้ลูกจ้างทุกคน ซาบซึ้ง ว. อาการที่รู้สึกจับใจอย่างลึกซึ้ง, อาการที่รู้สึกปีติปลาบปลื้มมาก. •ฉันซาบซึ้งในสิ่งที่ท่านท าเพื่อฉันมาก ดื่มด่ า ว. ซาบซึ้ง. •คู่แต่งงานใหม่รู้สึกดื่มด่ ากับบรรยากาศชายทะเลที่ งดงาม
ดื่มด่ า ว. ซาบซึ้ง. •คู่แต่งงานใหม่รู้สึกดื่มด่ ากับบรรยากาศ ชายทะเลที่งดงาม ตรวจตรา ก. พิจารณาดูให้รอบคอบถี่ถ้วน. ทหารตรวจตราชายแดนตามหน้าที่ ตรวจทาน ก. ตรวจทบทวนความถูกต้อง เรียบร้อย •ครูฝรั่งตรวจทานเอกสารการสอน ภาษาอังกฤษ ตรวจสอบ ก.ตรวจเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง •ต ารวจไปตรวจสอบหาหลักฐานใน สถานที่เกิดเหตุ. ตกแต่ง ก. ประดับ, ปรุงจัดให้ดี, ท าให้งาม •บ้านนี้ตกแต่งภายในด้วยมัณฑนากร ชื่อดัง ตบแต่ง ก. จัดให้ลูกสาวมีเรือนตาม ประเพณี •พ่อแม่จัดการให้เธอตบแต่งกับเพื่อน ชายที่ดูใจกันมาหลายปี ปกป้อง ก. คุ้มครองป้องกัน •แม่ทุกคนย่อมปกป้องลูกตัวเอง ปิดป้อง ก.บังเพื่อกักหรือกั้นไว้ •ความมืดมิดได้ปิดป้องท้องฟ้าจนไม่ เหลือแสงสว่างแล้ว ปิดบัง ก. ไม่เปิดเผย •ความผิดพลาดมิใช่เรื่องต้องปิดบังแต่ อย่างใด ปิดกั้น ก.ห้าม, ขวาง, กีดกัน, ขัดขวาง •ประชาชนถูกปิดกั้นทางเสรีภาพอย่าง มาก ผ่อนผัน ก. ลดหย่อนตาม, ลดหย่อนให้. •รัฐมนตรีไม่จะผ่อนผันให้แรงงานต่าง ด้าวได้ท างานในเมืองไทยอีก ผ่อนปรน ก. แบ่งหนักให้เป็นเบา, เอาไปทีละ น้อย, ขยับขยายให้เบาบางลง. •ตัวแทนบริษัทยอมผ่อนปรนตอบรับข้อ เรียกร้องของผู้ชุมนุม เผยแผ่ ก. ท าให้ขยายออกไป, ขยาย ออกไป •พระธรรมทูตเผยแผ่พระศาสนา ในยุโรป เผยแพร่ ก. โฆษณาให้แพร่หลาย •เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยแพร่ความรู้ ให้แก่ประชาชน ยกย่อง ก. เชิดชู. •นักอ่านยกย่องกวีซีไรท์ เทิดทูน ก. ยกย่อง, เชิดชูไว้เป็นที่เคารพ. •ประชาชาติไทยเทิดทูนพระองค์ท่าน เป็นวีรกษัตริย์ อนุญาต ก. ยินยอม, ยอมให้, ตกลง. •พวกเขาก าลังได้รับอนุญาตให้พกอาวุธ ปืน อนุมัติ ก. ให้อ านาจกระท าการตาม ระเบียบที่ก าหนดไว้. •คืนนี้เราจะอนุมัติเงินทุนให้พวกเขา อนุโลม ก. ใช้แทนกันได้ตามความ เหมาะสม, คล้อยตาม •ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการก็ ตามแต่ก็ได้อนุโลมให้ใช้ภาษาอังกฤษได้ ในบางกรณี
หน่วงเหนี่ยว ก. รั้งตัวไว้, ดึงถ่วงไว้, กักไว้ •เขาถูกฟ้องฐานะที่หน่วงเหนี่ยวกักขัง ผู้อื่น. ยึดเหนี่ยว ก. อาศัยเป็นที่พึ่ง. •ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ของมนุษย์ เหนี่ยวรั้ง ก. ดึงไว้, ประวิงไว้, ชะลอไว้. •ค าพูดของเขามีน้ าหนักเหนี่ยวรั้งการ ตัดสินใจของฉันไว้ หนาแน่น ว. คับคั่ง, แออัด, •กรุงเทพฯ มีประชากรหนาแน่นมาก. แน่นหนา ว. มั่นคง •ประตูหน้าต่างแน่นหนา สอดแนม ก.ลอบเข้าไปสืบความลับ •ทหารหน่วยนี้มีหน้าที่สอดแนม กองก าลัง ต่างชาติ สอดส่อง ก.ตรวจดูทั่วไป,เอาใจใส่ดูแล •เจ้าหน้าที่สอดส่องดูความปลอดภัย สอดส่าย ก.มองกราดไปทั่ว •เขาสอดส่ายสายตามองหาคนที่นัดไว้ สูจิบัตร น.ใบแสดงรายการ •การแข่งขันกีฬาต้องมีสูจิบัตรแจกให้ ทราบ สูติบัตร น.เอกสารแสดงชาติก าเนิด •ผู้มีอายุ ๑๕ ปี เมื่อท าบัตรประชาชน ต้อง น าสูติบ้ตรไปด้วย กรีฑา น.กีฬาอย่างหนึ่ง. •การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมีการแข่งขัน กีฬา น.การเล่นที่มีกฎกติกาก าหนด. กรีฑารวมอยู่ด้วย. บรรพชา น.การบวชเป็นสามเณร. •โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อุปสมบท น.การบวชเป็นพระภิกษุ. •ท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวานนี้. ถวาย ก.ให้,มอบให้ •ผมตื่นแต่เช้าช่วยแม่เตรียมอาหารถวาย พระ ประเคน ก.ถวายของพระโดยวิธียกส่งให้ •เขาประเคนอาหารแด่พระสงฆ์. อาราธนา ก.เชื้อเชิญ •มรรคนายกอาราธนาพระอาจารย์ มาจ าพรรษาที่วัดบ้านพลับ. นิมนต์ ก.เชิญ,เชื้อเชิญ •นิมนต์กลับได้แล้วค่ะ. พลี(พะลี) น.การบวงสรวง •เทวตาพลีเป็นการท าบุญอุทิศให้เทวดา พลี (พฺลี) ก.เสียสละ •ทหารพลีชีพเพื่อชาติ เกษียน ก.ข้อความที่เขียนแทรกไว้ •เขาเกษียนข้อความไว้ที่หัวค าสั่ง. เกษียร น.น้ านม •เกษียรสมุทรเป็นที่ประทับพระนารายณ์ เกษียณ ก.สิ้นไป •ปีหน้าอาจารย์แพทย์เกษียณอายุ 10 คน โจทย์ น.ข้อปัญหา •เขาเสียเวลาท าโจทย์ข้อนี้หลายชั่วโมง. โจทก์ น.บุคคลผู้ฟ้องคดีต่อศาล •ศาลวินิจฉัยข้อคัดค้านของโจทก์. โจษ ก.โจษจัน,ลือ,เลื่องลือ •เขาโจษกันว่าผู้น าก าลังป่วยหนัก.
4.3 ประโยคก ากวม 1.ประโยคก ากวม (มีความหมายได้ 2 อย่าง) ภาษาก ากวม มีสาเหตุ ดังต่อไปนี้ 1.การใช้ค าพ้องรูปพ้องเสียง เช่น ผมยุ่งนะ •ความหมาย 1 ผม (ตัวผู้พูด) ก าลังยุ่งกับงาน •ความหมาย 2 ผม (เส้นผม) ยุ่งไม่เป็นระเบียบ 2.การใช้ค าที่แปลได้ 2 ความหมาย เช่น นายสิบซ้อมทหารเดินแถว •ความหมาย 1 นายสิบฝึกซ้อมทหารเดินแถว •ความหมาย 2 นายสิบซ้อม (ท าร้ายร่างกาย) ทหารที่เดินแถว 3.การเว้นวรรคตอนที่แตกต่างกัน เช่น การช าเราควรท าใต้ต้นไม้เพราะอากาศเย็นดี •ความหมาย 1 การช า/เราควรท าใต้ต้นไม้เพราะอากาศเย็นดี •ความหมาย 2 การช าเรา/ควรท าใต้ต้นไม้เพราะอากาศเย็นดี ๔.การใช้ค ากริยา “ตาย” ในข้อความ เช่น รถชนควายตาย •ความหมาย 1 รถชนควายจนตาย •ความหมาย 2 รถชนควายที่ตาย 5.การใช้ค าที่ขยายได้มากกว่า 1 แห่ง เช่น วันเด็กผู้ใหญ่แจกของเด็กมากมาย •ความหมาย 1 วันเด็กผู้ใหญ่แจกของเด็กมากมาย (ของเด็กมากมาย) •ความหมาย 2 วันเด็กผู้ใหญ่แจกของเด็กมากมาย (เด็กมากมาย) 6.การใช้โครงสร้างประโยค (นาม+ไม่+กริยา+เหมือน+นาม) เช่น เขาไม่หล่อเหมือนพ่อ •ความหมายที่ 1 (ไม่หล่อเหมือนพ่อ ที่หล่อ) •ความหมายที่ 2 (ไม่หล่อเหมือนกับพ่อที่ไม่หล่อ) 7.การใช้โครงสร้างประโยค (นาม+ไม่ได้+ขับรถ+ไป+สถานที่) เช่น พ่อไม่ได้ขับรถไปหัวหิน •ความหมาย 1 พ่อไม่ได้ขับรถไปหัวหิน (คนอื่นขับ) •ความหมาย 2 พ่อไม่ได้ขับรถไปหัวหิน (แต่ไปที่อื่น) 8.การละค าบุรพบท เช่น ค าไว้อาลัยภรรยา •ความหมายที่ 1 ค าไว้อาลัย(แก่)ภรรยา. (สามีเขียน) •ความหมายที่ 2 ค าไว้อาลัยของภรรยา (ภรรยาเขียน)
4.3 ประโยคบกพร่อง 1.ความหมายประโยคบกพร่อง ประโยคบกพร่อง หมายถึง ประโยคที่มีเนื้อความหรือไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ภาษาไทย ซึ่งอาจจะเป็นที่การใช้ค าหรือประโยคก็ได้ 2.ลักษณะประโยคบกพร่อง 2.1 การใช้ภาษาผิด เช่น การใช้ค าผิดความหมาย ผิดหน้าที่ ผิดบริบท 2.1.1 การใช้ค าผิดความหมาย เช่น •พ่อแม่เสี้ยมสอนให้เขาเอื้ออารีแก่ผู้อื่น •ต ารวจรัวกระสุนปืนใส่ผู้ร้ายหนึ่งนัด 2.1.2 ใช้กลุ่มค าและส านวนผิดความหมาย เช่น •ลืมหน้าอ้าปาก ต้องใช้ ลืมตาอ้าปาก •ปัญญาเท่าฝาหอย ต้องใช้ ปัญญาแค่หางอึ่ง 2.1.3 การเรียงค าหรือกลุ่มค าผิดล าดับ เช่น -ในเรื่องนิกกับพิม มีการกล่าวถึงมนุษย์ในทัศนะของสุนัขต่าง ๆ กัน (…มีการ กล่าวถึงมนุษย์ในทัศนะต่าง ๆ กันของสุนัข) •เขาแลเห็นเด็กน้อยไร้เดียงสาข้างหญิงสาวก าลังกระโดดเต้น (เขาแลเห็นเด็กน้อยไร้เดียงสาก าลังกระโดดโลดเต้นข้างหญิงสาว) 2.2 การใช้ภาษาไม่เหมาะสม การใช้ภาษาผิดระดับ 2.2.1 ใช้ภาษาพูดในการเขียนทางวิชาการ เช่น • ยังไง (อย่างไร)- นิดหน่อย (เล็กน้อย) 2.2.2 ใช้ภาษาต่างประเทศโดยไม่จ าเป็นในภาษาเขียน เช่น • แอร์(เครื่องปรับอากาศ)- รถเมล์(รถโดยสารประจ าทาง) 2.2.3 ใช้ภาษาต่างระดับในบริบทเดียวกัน เช่น • มารดาของข้าพเจ้าเสียชีวิตตั้งแต่ข้าพเจ้ายังเล็ก ๆ คุณพ่อจึงมีภรรยาใหม่ • กระผมขอเรียนว่า กระผมไม่ได้เกงานเมียกระผมออกลูกเมื่อวานนี้กระผมเลยต้องหยุด งาน 2.2.4 ใช้ภาษาไม่เหมาะสมกับโวหาร เช่น •เธอสวมเสื้อบางจนดูตัวเปล่าเล่าเปลือย
2.3. การใช้ภาษาไม่กระจ่าง 2.3.1 ใช้ค าไม่ชัดเจน เช่น •เรื่องนี้ผู้แต่งมีจินตนาการที่ดี (ค าว่าดีความหมายก้วางเกินไป) • มีอะไร ๆ อีกหลายประการที่เธอยังเขียนคลาดเคลื่อน จากความเป็นจริง (ควรให้ ข้อเท็จจริง) 2.3.2 ใช้ภาษาก ากวม คือตีความได้หลายอย่าง เช่น •ไหล่เขาลาดดีจริง •คนที่จับเชือกควรจะเป็นคนสาว •รถบรรทุกของไปตั้งแต่เช้า 2.4 การใช้ภาษาไม่สละสลวย 2.4.1 ใช้ภาษาฟุ่มเฟือย เช่น•ในอดีตที่ผ่านมา•การจราจรติดขัด ถนนแออัดด้วยรถ 2.4.2 ล าดับค าไม่เหมาะสม เช่น•ลีลาของชีวิตเธอเปลี่ยนแปลง• เขาเป็นคนดีถ้าเขาไม่ดื่มเหล้า 2.5 การใช้ส านวนแบบภาษาต่างประเทศ •ใช้ชีวิต/- จะน ามาซึ่ง…./- พบตัวเอง/- ง่ายต่อการท าความเข้าใจ/- มาในเพลง/ หกโรคร้าย (ขาดลักษณนาม)/ มาในชุด/ ส าหรับ, มัน (ไว้ต้นประโยค)/ ภายใต้การน า/ ต้องอบอุ่นร่างกาย/ ภายใต้การ ควบคุม/พร้อมด้วย/ ปราศจาก 2.6 การใช้ประโยคไม่จบความ •ลักษณะการใช้ประโยคไม่จบความ มักจะหลอกโดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของประโยคที่ท าหน้าที่ขยาย (ประโยคความซ้อน) แต่ขาดใจความหลักของประโยค เช่น • เด็กที่เดินอยู่บนถนน •บ้านซึ่งใกล้จะพังแล้วนั้น
4.4 ประโยคสมบูรณ์ 1.ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ประโยค คือ หน่วยทางภาษาที่ประกอบด้วยค าหรือค าหลายค าเรียงต่อกัน กรณีที่เป็นค าหลายค าเรียง ต่อกัน ค าเหล่านั้นต้องมีความสัมพันธ์ทางไวยากรณ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง ประโยค เป็นหน่วยทางภาษาที่สามารถสื่อความได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรืออะไรมีสภาพเป็นอย่างไร โดยทั่วไปประโยคประกอบด้วยส่วนส าคัญ 2 ส่วน คือ นามวลี กับ กริยาวลี ทั้งนี้ ประโยคอาจมีเพียง กริยาวลี ก็ได้ แต่จะมีเพียงนามวลีไม่ได้ 1.ตัวอย่างข้อความที่ไม่เป็นประโยค (เพราะมีเพียงนามวลี ไม่มีกริยาวลี) •พวกเรานักเรียนโรงเรียนบ้านไร่ทั้ง 6 คน 2.ตัวอย่างข้อความที่เป็นประโยค เพราะประกอบด้วยกริยาวลีเพียงล าพัง หรือ ประกอบด้วยนามวลีกับ กริยาวลี •รู้สึกพะอืดพะอมมาตั้งแต่เช้าแล้ว (มีเพียงกริยาวลี) •พวกเรานักเรียนโรงเรียนบ้านไร่ทั้ง 6 คน อย่ายอมแพ้เป็นอันขาด (มีนามวลี กับ กริยาวลี) 2.ส่วนประกอบของประโยค ประโยคประกอบด้วยส่วนส าคัญ 2 ส่วน คือ นามวลี ท าหน้าที่ “ประธาน” กับ กริยาวลี ท าหน้าที่ ภาค แสดง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ นามวลี กริยาวลี ประธาน ภาคแสดง คนไทยรุ่นใหม่ ควรมีวินัยในการใช้จ่าย
4.5 ระดับภาษา 1.ความหมายระดับภาษา ระดับของภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยค าและการเรียบเรียงถ้อยค าที่ใช้โดยพิจารณาตาม โอกาส หรือ กาลเทศะ ความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลที่เป็นผู้สื่อสาร 2. การแบ่งระดับภาษา การแบ่งระดับตามเนื้อหาที่สื่อสารการศึกษา มี 5 ระดับ คือ 1. ระดับพิธีการ ใช้สื่อสารในที่ประชุมที่เป็นพิธีการ 2. ระดับทางการ ใช้บรรยายหรืออภิปรายอย่างเป็นทางการ หรือใช้ในการเขียนข้อความให้ปรากฏต่อ สาธารณชน 3. ระดับกึ่งทางการ ใช้ภาษาที่ลดความเป็นการเป็นงานลงบ้างเพื่อความใกล้ชิดกัน เช่น การประชุมกลุ่ม หรืออภิปรายเป็นกลุ่มเล็ก หรือบทความในหนังสือพิมพ์ 4. ระดับไม่เป็นทางการ ใช้สนทนาของบุคคลหรือกลุ่มคน 4 -5 คน หรือการเขียนจดหมายระหว่างเพื่อน 5. ระดับกันเอง ใช้สื่อสารกันในวงจ า กัด เช่น ในครอบครัว เพื่อนสนิทในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว ระดับภาษาทั้ง 5 ระดับนี้ แบ่งเป็น 2 ระดับใหญ่ คือ ภาษาแบบเป็นทางการ และ ภาษาแบบไม่เป็นทางการ 1.ภาษาแบบเป็นทางการ ภาษาที่ใช้อย่างเป็นทางการมีลักษณะเป็นพิธีการ ถูกต้องตามแบบแผนของ ภาษาเขียน แบ่งออกเป็น 1.1 ภาษาระดับพิธีการ เป็นภาษาที่สมบูรณ์แบบ รูปประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความ ประณีต งดงาม อาจใช้ประโยคที่ซับซ้อนและใช้ค าระดับสูง ภาษาระดับนี้จะใช้ในโอกาส ส าคัญ ๆ เช่น งานราช พิธี วรรณกรรมชั้นสูง เป็นต้น 1.2 ภาษาระดับมาตรฐานราชการ หรือ อาจเรียกว่า ภาษาทางการ / ภาษาราชการ เป็นภาษาที่ สมบูรณ์แบบ รูปประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เน้นความชัดเจน ตรงประเด็นเป็นส าคัญ ใช้ในโอกาส ส าคัญ ที่เป็นทางการ เช่นหนังสือราชการวิทยานิพนธ์ รายงานทางวิชาการ การกล่าวปราศรัย การกล่าวเปิดงานส าคัญ ๆ เป็นต้น 2. ภาษาแบบไม่เป็นทางการ ภาษาที่ไม่เคร่งครัดตามแบบแผน มักใช้ในการสื่อสารทั่วไปใน ชีวิตประจ าวัน หรือ โอกาสทั่วๆ ไปที่ไม่เป็นทางการ แบ่งเป็น 2.1 ภาษาระดับกึ่งทางการ เป็นภาษาที่ยังคงความสุภาพแต่ไม่เคร่งครัดแบบภาษาทางการ บางครั้งอาจใช้ภาษาระดับสนทนามาปนอยู่ด้วย มันใช้ในการติดต่อธุรกิจการงาน หรือใช้สื่อสารกับบุคคลที่ไม่ คุ้นเคย หรือ มีคุณวุฒิ และ วัยวุฒิสูงกว่า หรือการบรรยาย การประชุมต่างๆ รวมทั้งใช้ในงานเขียนที่ไม่เป็น ทางการเพื่อให้งานเขียนนั้นดูไม่เครียดจนเกินไป เช่น สารคดี บทวิจารณ์ เกี่ยวกับบันเทิงคดีต่างๆ เป็นต้น 2.2 ภาษาไม่เป็นทางการ (ภาษาระดับสนทนา) เป็นภาษาที่ใช้สนทนาโต้ตอบกับบุคคลที่รู้จักใน สถานที่หรือเวลาที่ไม่เป็นการส่วนตัว หรือสนทนากับบุคคลที่ยังไม่คุ้นเคย รวมทั้งใช้เจรจาซื้อขายทั่วไป และ การประชุมที่ไม่เป็นทางการ ภาษาที่ใช้มักมีรูปประโยคง่ายๆ ที่สามารถเข้าใจทันที แต่ยังคงความสุภาพ เช่น ภาษาที่ใช้ในการรายงานข่าวโทรทัศน์ การเจรจาในเชิงธุระทั่วไป เป็นต้น 2.3 ภาษาระดับกันเองหรือภาษาปาก เป็นภาษาพูดที่ใช้สนทนากับบุคคลที่สนิทคุ้นเคยมักใช้ สถานที่ส่วนตัว หรือ ในโอกาสที่ต้องการความสนุกสนานครื้นเครง หรือ การทะเลาะวิวาท ภาษาที่ใช้เป็นภาษา พูดที่ไม่เคร่งครัด อาจมีค าตัด ค าสแลง ค าต่ า ค าหยาบปะปน โดยทั่วไปไม่นิยมใช้ในภาษาเขียน ยกเว้นงานเขียน ประเภท เช่น เรื่องสั้น นวนิยาย ภาษาข่าวหนังสือพิมพ์ การเขียนบทละคร ฯ
ภาษาระดับทางการ ภาษาระดับไม่ทางการ เท่าที่พบการท างานส่งครูของนักเรียน แย่มาก จริงๆ เจ้านายยังไม่เกษียนหนังสือ ให้ฉันตั้งแต่เมื่อ วาน นายยังไม่แทงเรื่องลงมา ให้ฉันตั้งแต่เมื่อวานนี้ ชอบท าอะไรไม่น่าดูอยู่บ่อยครั้ง ชอบทําอะไรเฟอะฟะอยู่เรื่อย 3.รูปแบบการแบ่งระดับภาษา 1. แบ่งเป็น 2 ระดับได้แก่ ระดับที่เป็นแบบแผน ระดับที่ไม่เป็นแบบแผน 2. แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับพิธีการ ระดับกึ่งพิธีการ ระดับไม่เป็นพิธีการ 3. แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ •ระดับพิธีการ -• ระดับทางการ -•ระดับกึ่งทางการ -• ระดับไม่เป็นทางการ -• ระดับกันเอง สรุปได้ว่า ภาษาจ าแนกเป็น 2 ระดับ คือ 1.ภาษาแบบเป็นทางการ ได้แก่ •ระดับพิธีการ - •ระดับทางการ 2.ภาษาแบบไม่เป็นทางการ ได้แก่ •ภาษาระดับกึ่งทางการ - •ภาษาระดับสนทนา –•ภาษาระดับกันเอง 1. ภาษาระดับพิธีการ เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันในการประชุมที่เป็นพิธีการ อาทิ การเปิดประชุมรัฐสภา การกล่าวค าปราศรัย การกล่าวสดุดี ฯลฯ 2. ภาษาระดับทางการ เป็นภาษาที่ใช้การในที่ประชุม หรือใช้เขียนข้อความต่อสาธารณชนอย่างเป็นการ หรือหนังสือราชการหรือวงการธุรกิจ อาทิ ผลงานทางวิชาการ เรียงความ บทความทางวิชาการ หนังสือ ราชการ ฯลฯ 3. ภาษาระดับกึ่งทางการ เป็นภาษาที่ใช้ในการประชุมเล็ก ๆ ที่ลดความเป็นการ อาทิ การอภิปรายกลุ่ม การบรรยายในห้องเรียน การเล่าเรื่อง ชีวประวัติ ข่าวและบทความในหนังสือพิมพ์ ฯลฯ 4. ภาษาระดับสนทนา (ไม่เป็นทางการ) เป็นภาษาที่ใช้ในการสนทนาระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนที่ไม่เกิน 4-5 คน ถ้อยค าที่ใช้อยู่ในระดับที่มีค าสแลง ค าตัด ค าย่อ ปะปนอยู่ อาทิ การรายงานข่าว การเขียนจด หมายถึงเพื่อน การเขียนนวนิยาย บทภาพยนตร์ เป็นต้น 5. ภาษาระดับกันเอง เป็นภาษา ใช้สนทนาส าหรับผู้ที่สนิทสนมคุ้นเคยกัน เช่น ในหมู่เพื่อนฝูง หรือใน ครอบครัว มักใช้พูดกันในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น บทละคร ข่าวกีฬา เป็นต้น 4.ข้อแตกต่างระหว่างระดับภาษาทางการ และระดับไม่เป็นทางการ ระดับที่เป็นทางการ (แบบแผน ) ระดับไม่เป็นทางการใช้ภาษาพูด 1.ค าสรรพนาม : กระผม ผม ดิฉัน ข้าพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้า ท่าน ท่านทั้งหลาย 1.ค าสรรพนาม : ผม ฉัน ดิฉัน เดี้ยน กัน เรา หนู คุณ พวกคุณ พี่ป้าน้าอา พ่อแม่พี่น้อง ฯลฯ 2.ค านาม : ใช้ค าสุภาพ ศัพท์บัญญัติ ศัพท์วิชาการ เช่น สถานีต ารวจ โรงภาพยนตร์ กระบือ สุกร 2.ค านาม :โรงพัก รถเมล์ โรงหนัง ควาย หมู 3.ค ากริยา : รับประทาน ถึงแก่กรรม บริโภค 3.ค ากริยา : กิน แดก ทาน ตาย 4.ค าวิเศษณ์ : เปรี้ยว เย็น มาก 4.ค าวิเศษณ์ :เปรี้ยวจี๊ด เย็นเจี๊ยบ วิ่งเต็มเหยียด ฟาดเต็ม เหนี่ยว เยอะแยะ มากมายก่ายกอง ขมปี๋ อ้วนฉุ ยิ้มแฉ่ง 5.ค าลงท้ายประโยค :คะ ครับ ซิ นะ เถอะ 6.ค าสแลง :ชักดาบ พลิกล็อค โดดร่ม วัยโจ๋ มั่วนิ่ม 7.ค าซ้ า ค าซ้อน : ดี๊ดี เก๊าเก่า ต่าง ๆ นานา เดินเหิน 8.ใช้ค ายืม:เว่อร์ (Over) จอย (Enjoy) 9.ใช้ค าอุทานเสริมบท:กินหยูกกินยา อาบน้ าอาบท่า 10.ชื่อย่อต่าง ๆ : ส.ส. ผู้ว่าฯ
4.6 การใช้ส านวนถูกต้องตามความหมาย 1.กงกรรมกงเกวียน •เวรตามสนองผู้กระท า เช่น นายกล้านักเลงเก่าคนบ้านกุ่มที่ชอบคุมพวกปล้น ควายเขานะ ตอนนี้ได้ข่าวว่า ถูกมือดีเล่นเสียม่องเท่งเลย นี่แหละเขาว่า กง กรรมกงเกวียน 2.กงเกวียนก าเกวียน •เวรตามสนองผู้กระท า เช่น ท าแก่เขาอย่างไร เขาก็ท าแก่ตนอย่างนั้น เป็น กงเกวียนกําเกวียน 3.ก้นกุฏิ •ลูกศิษย์ที่ได้รับความไว้วางใจ เช่น เธอเป็นศิษย์ ก้นกุฏิดูแลรักษาข้าวของ อย่างไรถึงปล่อยให้ขโมยมาลักข้าวของไปอย่างง่ายดาย 4.กบในกะลาครอบ •คนไม่ค่อยมีประสบการณ์ เช่น ไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้างซิ อย่าท าเป็น กบในกะลาครอบไปหน่อยเลย เดี๋ยวจะไม่ทันคน 5.กรวดน้ าคว่ าขัน •ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย เช่น นายสันต์เป็นคนเจ้าชู้เกินไป จนภริยาทน ไม่ได้ ต้องถึงกับ กรวดน้ําคว่ําขันกันไปเลย 6.กระดี่ได้น้ า •อาการแสดงความดีอกดีใจตื่นเต้นจนตัวสั่น เช่น แหม!พอแฟนมาหาละก็ท า เป็น กระดี่ได้น้ําเลยนะ 7.กระต่ายขาเดียว •ยืนยันเด็ดขาดเป็นอย่างเดียว เช่น ใครจะว่าอย่างไร เขาก็ยังยืน กระต่ายขาเดียวอยู่นั่นแหละ 8.กระต่ายตื่นตูม •อาการที่ตกใจง่ายโดยไม่ทันส ารวจให้ถ่องแท้ก่อน เช่น อย่าท าเป็นกระต่าย ตื่นตูม ไปหน่อยเลยดูเสียก่อนว่าเป็นเรื่องอะไร 9.กระโถนท้องพระโรง •ผู้ที่ใคร ๆ ก็พากันมารุมใช้อยู่คนเดียว เช่น นายเป็นโฆษกรัฐบาลก็อย่างนี้ แหละ เขาใช้ให้แถลงอะไรก็ต้องแถลง ผิดถูกอย่างไรก็อยู่ที่โฆษก ช่วยไม่ได้ ก็ นายอยากเป็น กระโถนท้องพระโรง 10.กลมเป็นลูกมะนาว •หลบหลีกไปได้คล่องจนจับไม่ได้ เช่น นายมันกลมเป็นลูกมะนาวอย่างนี้ คน เขาจึงเกลียดกัน 11.กล้านักมักบิ่น •กล้าเกินไปมักจะเป็นอันตราย เช่น ท าอะไรควรมีสติไว้บ้าง อย่ากล้าหาญ เกินไปหาไม่แล้วอาจได้รับความเดือดร้อน อย่างที่โบราณท่านว่า กล้านักมัก บิ่น ยังไงล่ะ 12.กลืนน้ าลายตัวเอง •กลับค า เช่น เขาเคยบอกว่าจะเลิกเหล้าเสียที แต่แล้วเขาก็กลับ กลืนน้ําลายตัวเอง หันมาดื่มหนักขึ้นอีก 13.กลืนไม่เข้าคายไม่ออก •ไม่รู้จะท าอย่างไรดี เช่น พ่อกับพ่อทะเลาะกันแต่ลูกของทั้งสองฝ่ายกลับเป็น เพื่อนกันเสียนี่ จึงท าให้สองครอบครัวตกอยู่ในสภาพ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก 14.กวนน้ าให้ขุ่น •ท าเรื่องราวที่สงบอยู่แล้วให้วุ่นวายขึ้นมา เช่น เรื่องมันเงียบหายไปแล้ว เอ็ง ก็อย่ากวนน้ําให้ขุ่นขึ้นมาอีก ควรจะนิ่งเสีย
15.กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ •ไม่ทันท่วงที เช่น ถ้ารัฐบาลช่วยร้านค้าปลีกของคนไทยก็ต้องรีบช่วย ถ้าช้า อาจไม่ทันการ จะเข้าข่ายกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ 16.กัดก้อนเกลือกิน •มีชีวิตเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น เช่น ตอนนี้ฉันจนถึงขนาดกัดก้อนเกลือกินแล้ว 17.กาคาบพริก •ลักษณะคนผิวด าแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง เช่น นางน้อยแต่งตัวไม่รู้จักมอง สารรูปตัวเองเสียบ้างเลยมีอย่างที่ไหนตัวเองด ามิดหมียังจะใส่เสื้อสีแดงอย่าง กับ กาคาบพริก 18.ก าปั้นทุบดิน •พูดกว้าง ๆ เช่น แนวคิดทางการเมืองของท่านพุทธทาสอยู่ที่ไหน ถ้าพูดอย่าง กําปั้นทุบดินละก็ อยู่ที่ธรรมะของท่าน 19.กิ่งทองใบหยก •เหมาะสมกันมาก เช่น รู้ไหมที่รัก เธอกับพี่มีคนเขาบอกกันว่า ถ้าได้แต่งงาน กัน จะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก 20.กินข้าวร้อนนอนตื่นสาย •คนมั่งมีนึกจะกินก็ได้กิน จะนอนตื่นเมื่อใดก็ได้ เช่น ถ้านายไม่ขยันเดี๋ยวได้อด ตาย กินข้าวร้อนนอนตื่นสายเหมือนเศรษฐีเขาไม่ได้หรอก 21. ปลาข้องเดียวกัน •ลูกน้องคุณนี่มันปลาข้องเดียวกันจริง ๆ พากันเที่ยวจนเสียงานเสียการทุกคน 22. ปิดทองหลังพระ •เขาจะไม่ได้อะไรเลยถ้ายังปิดทองหลังพระอยู่อย่างนี้ 23.พายเรือทวนน้ า •การท าความดีจึงเหมือนการพายเรือทวนน้ า ต้องใช้ก าลังความอดทน 24.เสือนอนกิน •บิลล์เกตส์ร่ ารวยมหาศาลเป็นเสือนอนกินเนื่องจากมีสิทธิ์ผูกขาดในเรื่อง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 25.เส้นผมบังภูเขา •เส้นผมบังภูเขาจริงๆเลย จอห์น นายก็เห็นมันแล้ว แต่นายไม่สังเกตเอง
2.ตัวอย่างการใช้ส านวนไทย ส านวน ความหมาย ตัวอย่างประโยค 1.ก้นกุฏิ สนิทสนมเป็นที่วางใจได้ •เด็กคนนี้เก่งสมค าล่ าลือจริง ๆ ที่ว่าเขาเป็นศิษย์ ก้นกุฏิของอาจารย์ 2.กระดี่ได้น้ า อาการดีอกดีใจตื่นเต้นจนตัว สั่น •นายนี่ดีใจเหมือนปลากระดี่ได้น้ าจริงๆ 3.กระหม่อมบาง เจ็บป่วยง่าย •กระหม่อมบางจริง ๆนะ โดนแค่ฝนนิดเดียว ถึงกับจับไข้ 4.กวนน้ าให้ขุ่น ท าเรื่องราวที่สงบอยู่แล้วให้ เกิดเป็นปัญหาขึ้นมา •อย่ากวนน้ าให้ขุ่น ตอนใกล้สงบศึก 5.กอดเก้าอี้ ยึดต าแหน่ง, ไม่ยอมละ ต าแหน่ง •ไม่ว่างานของเขาจะล้มเหลวเพียงใด เขาก็กอดเก้าอี้แน่น 6.ก่อหวอด เริ่มจับกลุ่มเพื่อท าการอย่าง ใดอย่างหนึ่ง •พนักงานได้ก่อหวอดประท้วงขึ้นตามจุดต่างๆ, 7.กาหลงรัง ผู้เร่ร่อนไปไม่มีที่พักพิงเป็น หลักแหล่ง •บ้านช่องไม่ยอมกลับ จะเป็น กาหลงรัง ไปถึงไหน 8.กาฝาก ผู้อาศัยเกาะคนอื่นกิน •ประชาชนก าลังถูกเบียดเบียน จากกาฝากของสังคม 9.กินข้าวแดง จ าคุก, ติดคุก •กินข้าวแดงยาว ฎีกาพิพากษากลับจ าคุกมือปืน ป๊อปคอร์น ๓๗ ปี ๔ เดือน 10.กินตามน้ า รับของสมนาคุณที่เขาเอา มาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง •คุณท างานอยู่ที่นี่ก็ต้องกินตามน้ าแบบนี้แหละ 11.กินเส้น เข้ากันได้ •เขารู้สึกกินเส้นกับเธอทันทีที่พบ 12.เกลือจิ้มเกลือ ว. ไม่ยอมเสียเปรียบกัน, แก้เผ็ดให้สาสมกัน •ก็คุณไปเอาเปรียบเขาก่อน พอเขาเกลือจิ้มเกลือ คุณกลับมาร้องเรียน ว่ากล่าวเขา 13.แก่แดด ท าเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ •เธอแค่เป็นเด็กแก่แดดหกขวบที่ก าลังตกหลุมรัก 14.แก้เผ็ด ท าตอบแก่ผู้ที่เคยท าความ เจ็บปวดให้แก่ตัวไว้เพื่อให้ สาสมกัน •เขาพยายามจะแก้เผ็ดศัตรูของเขาอยู่ 15.แกะด า คนที่ท าอะไรผิดเพื่อนผิดฝูง ในกลุ่มนั้น ๆ •คุณเป็นแกะด า คุณไม่เหมาะกับที่นี่ 16.ไก่อ่อน ผู้มีประสบการณ์น้อยยังไม่ รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคน •เป็นเรื่องธรรมดาส าหรับไก่อ่อนผู้ไร้ประสบการณ์เช่นเธอ 17.ขมิ้นกับปูน ชอบทะเลาะกันอยู่เสมอเมื่อ อยู่ใกล้กัน, ไม่ถูกกัน •เด็กสองคนนี้มีเรื่องทะเลาะกันไม่ได้หยุด เป็น ขมิ้นกับปูนทีเดียว 18.ขุนไม่ขึ้น เลี้ยงไม่เชื่อง มีแต่เนรคุณ •ไอ้นิดมันชุบเลี้ยงมาแต่เด็ก ขุนไม่ขึ้น เสียจริง 19.คมในฝัก มีความรู้ความสามารถแต่ เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ไม่แสดง ออกมาให้ปรากฏ •พนักงานคนนี้ ฉลาดนะ แต่เขามักที่จะท าตัวเป็น คมในฝัก
20.คลื่นใต้น้ า เหตุการณ์ที่กรุ่นอยู่ภายใน แต่ภายนอกดูเสมือนสงบ เรียบร้อย •นายกฯ เตือนสติคนไทยระวัง คลื่นใต้น้ า ให้รู้รักสามัคคี 21.คว่ าบาตร ไม่ยอมคบค้าสมาคมด้วย •พวกมันไม่ขอบคุณฉัน แถมยังคว่ าบาตรฉันอีก 22.คิดบัญชี แก้แค้น, ตอบโต้สิ่งที่ผู้อื่น ท าไว้กับตนหรือพวกของตน •เราต้องไปคิดบัญชีพวกที่ท าร้ายเราเมื่อวันก่อน 23.ฆ้องปากแตก ปากโป้ง, เก็บความลับไม่ อยู่, •ท าไมแกถึงเป็นฆ้องปากแตกแต่เช้า 24.งอมพระราม มีความทุกข์ยากล าบาก เต็มที่ •ถนนสายนี้เคยมีต ารวจจราจรถูกรถยนต์ชนเสีย งอมพระรามไปแล้วหลายคน 25.จมไม่ลง เคยท าตัวใหญ่มาแล้วท าให้ เล็กลงไม่ได้ •ถ้ายังจมไม่ลงอยู่แบบนี้ ต่อไปเธอจะล าบากนะ 26.จมูกมด ที่ไวหรือรู้ทันเหตุการณ์ •ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนจมูกมด มักจะรู้เรื่องราวทุกอย่างใน หมู่บ้านตลอดเวลา 27.แจงสี่เบี้ย อธิบายละเอียดชัดแจ้ง •ผมแจงสี่เบี้ยให้เขาฟังถึงความรับผิดชอบของข้าราชการ 28.ชนักติดหลัง ความชั่วหรือความผิดที่ยัง ติดตัวอยู่ •ผมไปไหนไม่ได้หรอกมีชนักติดหลังอยู่นี่ 29.ชักใบให้เรือ เสีย พูดหรือท าขวาง ๆ ให้การ สนทนาหรือการงานเขว ออกนอกเรื่องไป •คนเขาจะรีบวางแผนท างานกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ มา ชักใบให้เรือเสียซะแล้ว 30.ชักใย บงการอยู่เบื้องหลัง •คดีนี้มีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง 31.ชุบมือเปิบ ฉวยประโยชน์จากคนอื่น โดยที่ตนเองไม่ได้ลงทุนลง แรง •ผมได้เตรียมงานไว้ทุกสิ่งทุกอย่างเขาเพียงแต่มา ชุบมือเปิบเท่านั้น 32.เชื่อขนมกินได้ มั่นใจได้, เชื่อใจได้, ส าเร็จ แน่นอน •ถ้าพนันกัน ยังไงก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ทีมชาติไทยชนะ ทีมชาติเขมรแน่นอน 33.ดาบสองคม มีทั้งคุณและโทษ, อาจดี อาจเสียก็ได้ •ความเจริญทางวิทยาศาสตร์นั้นเป็นเหมือน ดาบสองคมที่ทั้งสร้างสรรค์และท าลายความเจริญ 34.ดีดลูกคิด ค านวณผลได้ผลเสียหรือ ก าไรขาดทุนอย่างละเอียด •เรื่องนี้ผม ดีดลูกคิด ดูแล้วยังไงเราก็ได้ไม่คุ้มเสีย 35.เด็ดบัวไม่ไว้ใย ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตร กันเด็ดขาด •พอสิ้นบุญผู้ใหญ่ ญาติพี่น้องต่าง ทะเลาะกันจนถึงขั้น เด็ดบัวไม่ไว้ใยกันเลย 36.ได้ทีขี่แพะไล่ ซ้ าเติมเมื่อผู้อื่นเพลี่ยงพล้ า ลง •ผมไม่น่าพลาดเลยจริงๆ คนที่เป็นคู่แข่งคอยหาโอกาส ได้ทีขี่แพะไล่ 37. ตกม้าตาย แพ้, เสียเชิง •ถ้าเตรียมตัวไม่ดี ถูกกรรมการซักเข้าหน่อยก็คง ตกม้าตาย
38.ตบหัวลูบหลัง ท าหรือพูดให้ กระทบกระเทือนใจในตอน แรก แล้วกลับท าหรือพูด เป็นการปลอบใจในตอน หลัง •อย่าตบหัวแล้วลูบหลังกันด้วยค าขอโทษแบบไร้มารยาท! 39.ต้อนหมูเข้า เล้า บังคับคนที่ไม่มีทางสู้ •ใครคือมือเซียนที่วางแผน “ต้อนหมูเข้าเล้า” 40.ตัดหางปล่อย วัด ตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง ไม่เอา เป็นธุระอีกต่อไป •นายสองคนจะตัดหางปล่อยวัดเราแล้วหนีเหรอ 41.ตัวเป็นเกลียว อาการที่ท างานอย่างขยัน ขันแข็งมากจนไม่มีเวลาได้ พักผ่อน •เด็กสามคนท ามาหากินช่วยเหลือครอบครัว ตัวเป็นเกลียวท าให้พวกเขาไม่ได้เรียนหนังสือ 42.ติเรือทั้งโกลน ต าหนิสิ่งที่ยังท าไม่เสร็จ หรือที่ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็น อะไร •ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่งจะเริ่มได้เพียง 2 ตอน อย่าเพิ่ง ติเรือทั้งโกลนซิเธอ. 43.ตีตนก่อนไข้ กังวลทุกข์ร้อนหรือ หวาดกลัวในเรื่องที่ยังไม่ เกิดขึ้น •ต ารวจแค่เรียกตัวคุณไปสอบสวน เป็นพยาน อย่าเพิ่งไปตี ตนก่อนไข้เลย 44.ตีวัวกระทบ คราด โกรธคนหนึ่งแต่ท าอะไรเขา ไม่ได้ ไพล่ไปรังควานอีกคน หนึ่งที่เกี่ยวข้อง และตน สามารถท าได้ •เราไม่ควรสร้างนิสัย ตีวัวกระทบคราด ไม่พอใจใครก็ไป ระบายกับอีกคน 45.ถอยหลังเข้า คลอง หวนกลับไปหาแบบเดิม •หากเรายังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะท าให้ ประเทศถอยหลังเข้าคลอง 46.เถรส่องบาตร คนที่ท าอะไรตามเขาทั้ง ๆ ที่ ไม่รู้เรื่องราว •แฟนชวนไป เห็นเขาไหว้ กูก็ไหว้ตาม อย่างนี้เรียกว่า “เถร ส่องบาตร” 47.ทนายหน้าหอ หัวหน้าคนรับใช้ที่ใช้ออก หน้าออกตา ผู้รับหน้าแทน นาย •ผู้บริหารต่างๆก็เก็บตัวเงียบ มีแต่ทนายหน้าหอออกโรง มาบอกว่าไม่เป็นความจริง 48.ทุบหม้อข้าว ตัดอาชีพ, ท าลายอาชีพ •มันยอมทนหิว และกล้าทุบหม้อข้าวตัวเอง 49.น้ าซึมบ่อทราย หามาได้เรื่อย ๆ •ฉันวางแผนว่าจะสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่า เพราะรายได้ จากค่าเช่าอพาร์ตเมนท์ก็เหมือนน้ าซึมบ่อทราย 50.เบี้ยบ้ายราย ทาง เงินที่จะต้องใช้จ่ายหรือเสีย ไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ในขณะท าธุรกิจอย่างใด อย่างหนึ่งให้ส าเร็จ •ในวงการผู้รับเหมานั้นทุกคนรู้ดีว่า การประมูลงานแต่ละ ครั้ง ต้องจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางอีกมากมาย
4.7 ชนิดของประโยคตามเจตนา 1.ความหมาย เจตนาของผู้ส่งสาร คือ ความตั้งใจ ความจงใจ หรือความมุ่งหมาย ของผู้ส่งสารที่ปรากฏในสาร โดยผู้รับ สารต้องตีความสารเพื่อให้เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของผู้ส่งสาร เจตนาในการส่งสาร ในการส่งสารตามปกติผู้ส่งสารมักเลือกใช้ประโยคชนิดต่างๆ ให้ตรงกับเจตนาในการ ส่งสาร เช่น ใช้ประโยคบอกเล่าในการบอกหรือแจ้งเรื่องต่างๆ ใช้ประโยคค าถามเมื่อต้องการถาม ใช้ประโยค ปฏิเสธ เมื่อตอบปฏิเสธ แต่ในบางครั้งจะสังเกตเห็นว่า ผู้ส่งสารใช้ประโยคไม่ตรงกับเจตนาในการส่งสาร ผู้รับ สาร จึงต้องอาศัยการตีความ เพื่อให้สื่อสารได้เข้าใจตรงกัน 2. ชนิดประโยคที่แบ่งตามเจตนา ชนิดของประโยคที่แบ่ง ตามเจตนา (สถาบันภาษาไทย, 2552) ซึ่งจ าแนกชนิดของประโยคที่แบ่งตาม เจตนา ๙ ชนิด ได้แก่ -•บอกให้ทราบ- •เสนอแนะ -•สั่ง -•ห้าม -• ชักชวน -•ขู่ -•ขอร้อง -• คาดคะเน -•ถาม 3.วิธีวิเคราะห์เจตนาของผู้ส่งสาร สรุปสาระส าคัญของสาร แล้วผู้รับสารตั้งค าถามกับตนเองว่า "ผู้ส่งสารต้องการอะไร" "เขียนหรือพูดเพื่อ อะไร" หรือ "อยากบอกอะไรแก่ผู้รับสาร" 4.ตัวอย่างการวิเคราะห์เจตนาของผู้ส่งสาร "การให้ลูกได้ฟังเรื่องดี ๆ ของแม่จากปากพ่อ หรือได้ยินได้ฟังเรื่องดีๆ ของพ่อจากปากแม่ จะท าให้ลูกเกิด ความประทับใจในตัวพ่อแม่ เพราะเด็ก ๆ นั้นเหมือนผ้าขาวที่พร้อมซึมซับเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาสัมผัสเข้าไว้ และพร้อมที่จะท าตาม ไม่ช้าลูกก็จะมีความประพฤติดี รักและกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่" จากข้อความข้างต้น ผู้ส่งสารต้องการ "แนะน าผู้ที่เป็นพ่อและแม่ให้พูดเรื่องที่ดีของกันและกันให้ลูกฟัง" (แนะน าให้ปฏิบัติ) = เจตนาของผู้ส่งสาร
4.8 ค าที่มีความหมายตรง / อุปมา ค า/ความหมายโดยนัย ค า/ความหมายโดยนัย 1.หงส์ ผู้ดี, ผู้มีศักดิ์ศรี,ความสูงส่ง 2.ผู้ใหญ่ ผู้มีประสบการณ์ 3.ดอกฟ้า หญิงผู้สูงศักดิ์ 4.ดวงใจ สิ่งที่ส าคัญที่สุด 5.เทพธิดา คนดี,คนที่สวยที่สุด 6.มือขวา คนใกล้ชิด,คนที่ไว้ใจได้ 7.มือแข็ง ไม่ค่อยไหว้คนง่าย 8.มือสะอาด ซื่อสัตย์สุจริต 9.มืออ่อน นอบน้อม,มีความสามารถน้อย 10.มือสกปรก คนที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องชั่วร้าย 11.มือเบา ประณีตบรรจง 12.มือร้อน คนที่ปลูกต้นไม้ไม่ขึ้น 13.มือใหม่ ยังไม่มีความช านาญ 14.มือผี ขาไพ่ที่เข้ามาเล่นให้ครบส ารับ 15.มือเก่า มีความช านาญ 16.ดาว บุคคลที่เด่นทางใดทางหนึ่ง 17.เก้าอี้ ต าแหน่ง 18.เพชร บุคคลที่มีค่า 19.นกขมิ้น คนเร่ร่อน 20.กา ความต่ าต้อย 21.ตอไม้ อุปสรรค 22.งูเห่า ผู้มีอ านาจ ผู้ทรยศ 23.ทะเล ความอ้างว้าง 24.สีด า สิ่งไม่ดี,อัปมงคล 25.สีขาว ความบริสุทธิ์ 26.แกะด า แปลกแตกต่างจากคนอื่น 27.ดับ ตาย 28.ทรพี ลูกอกตัญญู 29.ไฟเขียว เห็นชอบ,อนุมัติ 30.เสียงแตก มีความเห็นแตกต่างกัน 31.ชุดด า โจร,ผู้ร้าย 32.หมู,กล้วย ง่าย 33.หิน ยาก 34.ยื่นซองขาว ไล่ออกจากงาน 35.สุนัขจิ้งจอก คนเจ้าเล่ห์ 36.นกพิราบ สันติภาพ 37.ถังแตก เงินหมดตัว 38.ถังข้าวสาร ครอบครัวฐานะร่ ารวย 39.ควาย โง่ 40.เต่า ช้า 41.ไดโนเสาร์ ล้าสมัย 42.เสือซ่อนเล็บ คนที่มีเล่ห์เหลี่ยม 43.หนอนหนังสือ คนชอบอ่านหนังสือ 44.หมูสนาม คนที่มีฝีมือด้อย 45.แพะ ผู้ที่รับโทษแทนคนอื่น 46.ลิง ซุกซน 47.ผีเสื้อราตรี หญิงโสเภณี 48.น้ าใต้ศอก เป็นรอง 49.เรือจ้าง,แม่พิมพ์ ครู 50.ตีนแมว ขโมย 51.ชักใย ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง 52.ขี้ริ้ว หม่นหมอง 53.ฉีกหน้า ท าให้ได้รับความอับอาย 54.รสเด็ด รสชาติดีมาก 55.เค็ม ไม่ยอมเสียเปรียบใคร 56.ปากตลาด ปากจัด,พูดมาก 57.ตาขาว แสดงอาการหวาดกลัว 58.คนกลาง ผู้ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 59.ฉีกหน้า ท าให้ได้รับความอับอาย 60.ไม้บรรทัด คนที่มีความเที่ยงตรงตามกฎหมาย 61.จับกบ หกล้ม 62.ผีเสื้อราตรี นักเที่ยวกลางคืน 63.จี้เส้น ท าให้ขบขัน 64.เตะตา สะดุดตา 65.ชักดาบ ไม่ยอมจ่ายเงิน 66.ปากหวาน พูดจาสุภาพ 67.อาบน้ าร้อน มีประสบการณ์มาก่อน 68.ตีนผี ผู้ที่ขับรถเร็ว 69.จนมุม หมดทางหนี 70.หัวกะทิ คนสมองดี
4.9 ค าทับศัพท์ภาษาอังกฤษ 1.ค าทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ ค าทับศัพท์หมายถึง ค าที่ถ่ายเสียงมาจากรูปค าในภาษาอื่น และน ามาเขียนในรูปแบบของภาษาไทย เพื่อให้คนที่ใช้ภาษาสามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง 2.ตัวอย่างค าทับศัพท์ acre = เอเคอร์ alcohol = แอลกอฮอล์ algorithm = อัลกอริทึม alkaline = แอลคาไลน์ almond = อัลมอนด์ alpha = แอลฟา aluminium = อะลูมิเนียม ameba = อะมีบา ampere = แอมแปร์ analog = แอนะล็อก antibody = แอนติบอดี apple = แอปเปิ้ล arabic = อารบิก art = อาร์ต artwork = อาร์ตเวิร์ก asphalt = แอสฟัลต์ Atlantic = แอตแลนติก bacteria = แบคทีเรีย badminton = แบดมินตัน ball = บอล ballet = บัลเลต์ balloon = บอลลูน bar = บาร์ basketball = บาสเก็ตบอล barrel = บาร์เรล battery = แบตเตอรี่ bearing = แบริง block = บล็อก brake = เบรก cable = เคเบิล caffeine = คาเฟอีน cake = เค้ก calcium = แคลเซียม calculus = แคลคูลัส calorie = แคลอรี capsule = แคปซูล carbon = คาร์บอน carbon dioxide = คาร์บอนไดออกไซด์ cartoon = การ์ตูน catalog = แค็ตตาล็อก Catholic = คาทอลิก cell = เซลล์ celluloid = เซลลูลอยด์ celsius = เซลเซียส cement = ซีเมนต์ chlorine = คลอรีน chlorophyll = คลอโรฟิลล์ chocolate = ช็อกโกแลต chord = คอร์ด chromosome = โครโมโซม classic = คลาสสิก clinic = คลินิก clone = โคลน club = คลับ cocktail = ค็อกเทล column = คอลัมน์ commando = คอมมานโด computer = คอมพิวเตอร์ concert = คอนเสิร์ต concrete = คอนกรีต cookie = คุกกี้ cyclone = ไซโคลน Hurricane = เฮอริเคน Ham = แฮม hydrogen=ไฮโดรเจน hydrometer=ไฮโดรมิเตอร์
3.ศัพท์บัญญัติ ศัพท์บัญญัติคือ ค าที่บัญญัติขึ้นใหม่ในภาษาไทย โดยราชบัณฑิตยสถานเป็นผู้รับรอง เพื่อรองรับศัพท์ ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตามเทคโนโลยีและความก้าวหน้าด้านต่างๆของโลก หรือ ค าที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนค า ต่างประเทศ หลักการบัญญัติศัพท์มี 2 ประการ ดังนี้ 1. การคิดค าศัพท์ไทยให้ตรงกับความหมายเดิมของค านั้นๆให้มากที่สุด เช่น ศัพท์บัญญัติ ภาษาอังกฤษ น้ าค้างแข็ง Frost ตลาดมืด Black market ค่าผ่านทาง Toll เครือข่าย Network ปีแสง Light year พัดลม Fan โลกเสรี Free world เรือด าน้ า Submarine ไม้ขีดไฟ Match ลูกเสือ Boy scout ไฟฟ้า electricity 2. ถ้าหาค าไทยได้ไม่เหมาะสม ให้สร้างค าใหม่โดยใช้คาภาษาบาลีและสันสกฤต ซึ่งต้องเป็นค าที่มีใช้มา ก่อนและสามารถออกเสียงได้ง่าย ศัพท์บัญญัติ ภาษาอังกฤษ ทฤษฎี theory วัฒนธรรม culture ปรัชญา philosophy กิจกรรม activity มลพิษ pollution มหาวิทยาลัย university วิทยาศาสตร์ science ยานอวกาศ spacecraft โทรทัศน์ television
4.10 ราชาศัพท์ 1.การใช้ค าราชาศัพท์ที่ส าคัญ 1. เกิด ค าราชาศัพท์ ใช้กับล าดับที่ •ทรงพระราชสมภพ •มีพระบรมราชสมภพ •เสด็จพระราชสมภพ 1.พระมหากษัตริย์ 2.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประสูติ 3-4-5สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 2.อายุ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ พระชนมายุ 1.พระมหากษัตริย์ 2-3.พระราชินี, พระบรมราชชนนี, พระยุพราช, พระบรมราชกุมาร, พระบรมราชกุมารี, สมเด็จเจ้าฟ้า พระชันษา 4. พระองค์เจ้า, พระสังฆราช ชันษา 5.หม่อมเจ้า 3. ลงชื่อ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ ลงพระปรมาภิไธย 1.พระมหากษัตริย์ ลงพระนามาภิไธย 2.-3พระราชินี, พระบรมราชชนนี, พระยุพราช, พระบรมราชกุมาร, พระบรมราชกุมารี, สมเด็จเจ้าฟ้า ลงพระนาม 4.พระองค์เจ้า, พระสังฆราช ลงนาม (พระอนุวงศ์) 5.หม่อมเจ้า 4. ป่วย ค าราชาศัพท์ ใช้กับ ทรงพระประชวร 1.พระมหากษัตริย์, สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, 2. สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประชวร 3-4-5สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า อาพาธ พระ, สามเณร
5. ตาย ค าราชาศัพท์ ใช้กับ สวรรคต, เสด็จสวรรคต 1.พระเจ้าอยู่หัว, พระราชินี, พระบรมราชชนนี, 2.พระยุพราช, พระบรมราชกุมาร, พระบรมราชกุมารี, พระบรมราชวงศ์ที่ได้รับพระราชทานฉัตร ๗ ชั้น ทิวงคต 2.พระยุพราช, เจ้าฟ้าที่ได้รับเฉลิมพระยศพิเศษ, พระราชาต่างประเทศ สิ้นพระชนม์ 3-4สมเด็จเจ้าฟ้า, พระองค์เจ้า, สมเด็จพระสังฆราช สิ้นชีพิตักษัย, ถึงชีพิตักษัย 5.หม่อมเจ้า ถึงแก่พิราลัย, ถึงพิราลัย เจ้าประเทศราช, สมเด็จเจ้าพระยา ถึงแก่มรณภาพ, มรณภาพ พระ, เณร ถึงแก่อสัญกรรม องคมนตรี, ประธานองคมนตรี, รัฐมนตรี, นายกรัฐมนตรี, ประธานสภา, เจ้าพระยา, ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า, ประธานาธิบดีต่างประเทศ ถึงแก่อนิจกรรม พระยา, ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นปถมาภรณ์มงกุฎไทย/ทุติยจุลจอมเกล้า, ผู้ได้รับเป็นกรณีพิเศษ ถึงแก่กรรม, สิ้นชีวิต, เสียชีวิต, มรณะ สุภาพชน 6. ค าพูด ค าราชาศัพท์ ใช้กับ พระราชด ารัส, พระราชกระแส 1.พระราชา รับสั่ง พระราชวงศ์, พระอนุวงศ์ 7. พูด ค าราชาศัพท์ ใช้กับ มีพระราชด ารัส, มีพระราชกระแส, มีกระแสพระราชด ารัส 1.-2พระมหากษัตริย์, สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จ พระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราช กุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) มีพระด ารัส, ด ารัส, มีรับสั่ง 3-4 สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า รับสั่ง, มีรับสั่ง 5. หม่อมเจ้า
8. ให้ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ พระราชทาน 1.-2พระมหากษัตริย์, สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จ พระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราช กุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทาน 3 พระบรมราชวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า ประทาน 4-5พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 9. ค าสอน ค าราชาศัพท์ ใช้กับ พระบรมราโชวาท 1.พระราชา พระโอวาท 2.เจ้านาย พระราชวงศ์ 10. สอน ค าราชาศัพท์ ใช้กับ มีพระบรมราโชวาท 1.พระราชา มีพระโอวาท 2.เจ้านาย พระราชวงศ์ 11. โอวาท ค าราชาศัพท์ ใช้กับ พระบรมราโชวาท 1-พระมหากษัตริย์ พระราโชวาท 2-สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระโอวาท 3-4-5สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 12. ให้โอวาท ค าราชาศัพท์ ใช้กับ มีพระบรมราโชวาท, พระราชทานพระบรมราโชวาท 1-พระมหากษัตริย์ พระราโชวาท, พระราชทานพระ ราโชวาท 2-สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระโอวาท, พระราชทานพระ โอวาท, ประทานพระโอวาท 3-สมเด็จเจ้าฟ้า มีพระโอวาท, ประทานพระโอวาท 4-พระองค์เจ้า พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า 5-หม่อมเจ้า
13. การใช้ค า “เป็น ,มี” ค า ใช้กับ มี น าหน้าค าที่ค ากริยาราชาศัพท์ เช่น มีพระบรมราชโองการ มีพระราชเสาวนีย์ ทรงมี น าหน้าค าที่เป็นค านามราชาศัพท์ เช่น ทรงมีกล้องถ่ายรูป ทรงมีแสตมป์ เป็น น าหน้าค าที่เป็นค านามราชาศัพท์ เช่น เป็นพระราชโอรส เป็นพระราชนัดดา ทรงเป็น น าหน้าค านามสามัญ เช่น ทรงเป็นครู ทรงเป็นนักปราชญ์ 14. การใช้ค า “เดินทางไปเป็นประธาน”, “เดินทางไปเปิดงาน” ค าราชาศัพท์ ใช้กับ เสด็จฯไปทรงเป็นประธาน 1-พระมหากษัตริย์, 2- สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงเปิดงาน เสด็จไปทรงเป็นประธาน 3-4-5สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า เสด็จไปทรงเปิดงาน 15. เดินทางไปหรือมาโดยยานพาหนะ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ เสด็จฯ , เสด็จพระราชด าเนิน (ขึ้น,ลง,เข้า,ออก,ไป,กลับ) 1-พระมหากษัตริย์ 2-สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ 3-4-5 สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 16. เดิน ค าราชาศัพท์ ใช้กับ ทรงพระด าเนิน 1-พระมหากษัตริย์ 2-สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3-สมเด็จเจ้าฟ้า 4-พระองค์เจ้า ด าเนิน 5-หม่อมเจ้า
16. อนุเคราะห์ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมราชานุเคราะห์ 2.พระราชานุเคราะห์ 1.พระมหากษัตริย์ 2.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.พระอนุเคราะห์ 3-4-5 สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 17. อนุสาวรีย์ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมราชานุสาวรีย์ 2.พระราชานุสาวรีย์ 1-.พระมหากษัตริย์ 2-.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.พระอนุสาวรีย์ 3-4สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า 4.อนุสาวรีย์ 5.-หม่อมเจ้า 18. ขอบใจ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.รู้สึกเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้น เกล้าล้น กระหม่อม 2.รู้สึกเป็นพระเดชพระคุณล้นเกล้าฯ รู้สึกเป็นพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ 1.พระมหากษัตริย์ 2.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.ขอบพระทัย 3-4-5 สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 19. รูปเขียนเหมือนบุคคลจริง ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมรูปเขียน ,พระบรมฉายา สาทิสลักษณ์, พระบรมสาทิสลักษณ์ 2. พระรูปเขียน, พระฉายา สาทิสลักษณ์, พระสาทิสลักษณ์ 1.พระมหากษัตริย์ 2.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.พระรูป 3-4-5สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า
20. รูปถ่าย ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมฉายาลักษณ์ 2.พระฉายาลักษณ์, พระรูป 1.พระมหากษัตริย์ 2.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3.พระรูป 3-4-5 สมเด็จเจ้าฟ้า-พระองค์เจ้า-หม่อมเจ้า 21. รูปปั้น ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมรูปปั้น 1.-พระมหากษัตริย์ 2.พระรูปปั้น 2-.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมุฏราชกุมาร, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3-สมเด็จเจ้าฟ้า4-พระองค์เจ้า5-หม่อมเจ้า 21. รูปหล่อ ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระบรมรูปหล่อ 1-.พระมหากษัตริย์ 2.พระรูปหล่อ 2-.สมเด็จพระบรมราชินีนาถ 3-สมเด็จเจ้าฟ้า4-พระองค์เจ้า5-หม่อมเจ้า 22. อายุ.....ปี ค าราชาศัพท์ ใช้กับ 1.พระชนมพรรษา.....พรรษา 1-.พระมหากษัตริย์ 2.พระชนมายุ.....พรรษา” 2-.สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยาม บรมราชกุมารี 3.พระชันษา.............ปี 3-สมเด็จเจ้าฟ้า-4-พระองค์เจ้า-5-หม่อมเจ้า
เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1 1.-2 2.-4 3.-1 4.-5 5.-2 6.-4 7.-4 8.-4 9.-4 10.-2 11.-2 12.-1 13.-4 14.-2 15.-3 16.-3 17.-3 18.-1 19.-5 20.-2 21.-3 22.-4 23.-1 24.-1 25.-1 26.-4 27.-3 28.-3 29.-3 30.-1 31.-3 32.-3 33.-4 34.-4 35.-1 36.-5 37.-1 38.-3 39.-2 40.-4 41.-3 42.-5 43.-2 44.-4 45.-1 46.-1 47.-3 48.-5 49.4 50.3 เฉลยแบบฝึกหัดที่ 2 1.-2 2.-4 3.-4 4.-2 5.-2 6.-3 7.-1 8.-4 9.-4 10.-4 11.-4 12.-3 13.-5 14.-5 15.-2 16.-3 17.-1 18.-3 19.-5 20.-2 21.-2 22.-4 23.-5 24.-5 25.-1 26.-2 27.-3 28.-3 29.-1 30.-2 31.-5 32.-5 33.-4 34.-3 35.-3 36.-1 37.-3 38.-1 39.-3 40.-4 41.-1 42.-1 43.-5 44.-2 45.-5 46.-4 47.-1 48.-3 49.4 50.-2
หนังสือเปิดอ่านได้ สุขี พูนเพิ่มวิชามี ไป่แสร้ง ช านาสสื่อสารดี มากยิ่ง นักแล เกิดก่อวิจารณ์แจ้ง ถ่องแท้นิรันดร์ ฯ สิงห์ค า สอนแปง ๒๒ มกราคม ๒๕๖๗