The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-Book ประกอบการจัดการเรียนรู้รายวิชา 341 161 วัฒนธรรมฝรั่งเศส คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sivasilp.siri, 2022-06-29 13:40:27

French Culture

E-Book ประกอบการจัดการเรียนรู้รายวิชา 341 161 วัฒนธรรมฝรั่งเศส คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

Keywords: French Culture

วัฒนธรรมฝรั่งเศส

French Culture

341 161

อาจารย์ ดร.ศิวศิลป์ สิริจักรเศรษฐ์

คณะโบราณคดี มหาวิทยาลั ยศิ ลปากร

โครงการพัฒนานวัตกรรม
เพื่อการศึกษา
คณะโบราณคดี

มหาวิทยาลัยศิลปากร

ป ร ะ จำ ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ 2 5 6 5

TABLE
OF CONTENTS

04 ข้อมู ลพื้ นฐาน 34 การเมืองการปกครอง

06 39สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตั วอั กษรย่อ

09 ภูมิศาสตร์ 41 เทศกาล

19 ปารีส 51 อาหารฝรั่งเศส

ข้ อ มู ล พื้ น ฐ า น

ชื่อประเทศ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
เมืองหลวง ปารีส (Paris)
ภาษาทางการ ภาษาฝรั่งเศส (français)
สัญชาติ พลเมืองฝรั่งเศส
คำขวัญ « Liberté, égalité, fraternité »
“เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ”
เพลงชาติ ลามาร์แซแยส (la Marseillaise)
การปกครอง รัฐเดี่ยว ระบบกึ่งประธานาธิบดี
ประธานาธิบดี เอมานุแอล มาครง
(Emmanuel Macron)
พื้นที่ 640,679 ตารางกิโลเมตร
ประชากร ประมาณ 67,413,000 คน
ขับรถด้าน ขวา
สกุลเงิน ยูโร €
รหัสโทรศัพท์ +33
โดเมนบนสุด .fr

สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง
ป ร ะ เ ท ศ ฝ รั่ง เ ศ ส

La Marseillaise

La Marseillaise คือชื่อเพลงชาติฝรั่งเศส (l’hymne national
français) Claude-Joseph Rouget de Lisle ได้ประพันธ์เพลงนี้
ขึ้นในคืนวันที่ 25-26 เมษายน ค.ศ. 1792 ที่เมืองซทรัสบูร์ โดยแรก
เริ่มนั้นให้ชื่อว่า « Chant de guerre pour l’armée du Rhin »
“เพลงรบของกองทัพแห่งลุ่มแม่น้ำแร็ง” ในปีเดียวกันนั้นกองทัพ
อาสาสมัครจากเมืองมาร์แซย์ ได้ร้องเพลงนี้เพื่อปลุกใจขณะเดิน
ทางเข้าสู่กรุงปารีส ต่อมาจึงได้เรียกชื่อเพลงนี้ว่า la Marseillaise

สภา Convention ได้ประกาศให้เพลงนี้เป็นเพลงชาติฝรั่งเศสใน
วันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1795 แต่หลังจากนั้นในช่วงรัชสมัยของ
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 คำสั่งนี้ก็ได้ถูกยกเลิกไป ต่อมาในปี 1879
(สมัยสาธารณรัฐที่ 3) la Marseillaise ได้รับเกียรติอีกครั้งให้เป็น
เพลงชาติฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการมาจนปัจจุบัน

คำร้องเพลง la Marseillaise มีลักษณะเป็นบทกวีที่มีความหมาย
ดุดันและสะเทือนใจปลุกระดมให้คนฝรั่งเศสลุกขึ้นจับอาวุธต่อสู้กับ
เหล่าทรราช และศัตรูซึ่งเป็นทหารที่มีใจโหดเหี้ยม

« La Marseillaise »
Allons enfants de la Patrie,
Le jour de gloire est arrivé !
Contre nous de la tyrannie,
L'étendard sanglant est levé, (bis)
Entendez-vous dans les campagnes
Mugir ces féroces soldats ?
Ils viennent jusque dans vos bras
Egorger vos fils, vos compagnes !

Refrain :
Aux armes, citoyens,
Formez vos bataillons,
Marchons, marchons !
Qu'un sang impur
Abreuve nos sillons !

มาเถิด ลูกๆ แห่งปิตุภูมินี้
วันแห่งเกียรติยศได้มาถึงแล้ว
เหล่าทรราชที่เป็นศัตรูของเรา
ได้ชักธงที่เปื้อนเลือดขึ้นแล้ว
พวกท่านได้ยินเสียงในทุ่งนานั้นไหม
เสียงร้องคำรามของทหารป่าเถื่อน
มันจะเข้ามาถึงอ้อมแขนของพวกท่าน
มาเชือดคอลูกเมียของท่าน

จับอาวุธขึ้นมา เพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย
สร้างกองทัพของพวกเรา
แล้วจงเดินไป เดินไป
ให้เลือดอันไม่บริสุทธิ์ของพวกมัน
ไหลท่วมท้นรอยไถของเรา

Marianne

Marianne คือประติมากรรมรูปหล่อครึ่งตัว (le buste) ของสตรีที่สวมหมวก phrygien รูปปั้นนี้เป็นสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐซึ่งจะปรากฏอยู่
ตามศาลาว่าการเทศบาล (la mairie) ทั่วทั้งประเทศฝรั่งเศสทั้งหมด 36,763 แห่ง สื่อความหมายถึงความมีเสรีภาพในหมู่ประชาชนคนสามัญ
โดยที่ชื่อ Marianne นั้นก็มาจากชื่อของหญิงชาวฝรั่งเศสธรรมดาสามัญ 2 ชื่อในสมัยศตวรรษที่ 18 คือ Marie กับ Anne ผสมกัน แสดงถึงการ
เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากพวกขุนนางที่กุมอำนาจมาเป็นของชนชั้นธรรมดาสามัญ

รูปปั้น Marianne นั้นมาจากแบบของผู้หญิงที่มีตัวตนจริง ๆ ซึ่งจะต้องเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของคนทั่วไป คนแรกที่ได้รับเกียรตินี้ในปี 1968 ก็
คือ Brigitte Bardot นักแสดงและผู้กำกับ คนต่อมาคือ Mireille Mathieu นักร้องสาวจาก Avignon ได้เป็นแบบในปี 1978 ถัดมาในปี 1985
Marianne คนที่ 3 ก็คือ Catherine Deneuve ดาราภาพยนตร์และนางแบบ คนต่อมาในปี 2000 ได้แก่ Laetitia Casta นางแบบสาววัย 22 ปี และ
Marianne คนล่าสุด คือคนที่ 5 สำหรับปี 2003 คณะกรรมการได้ตัดสินเลือก Évelyne Thomas พิธีกรรายการโทรทัศน์และผู้ประกาศข่าว

Le Drapeau Tricolore

ธงชาติฝรั่งเศสปัจจุบัน (le drapeau français) มี 3 สี คือ น้ำเงิน ขาว และแดง (bleu, blanc,
rouge)

จุดเริ่มต้นของการใช้ธงนี้เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิวัติ ปี ค.ศ.1789 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มี
พระประสงค์จะจัดตั้งเครื่องหมายสีธงชาติเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน เนื่องจากเป็นสีประจำของกอง
กำลังรักษากรุงปารีส (la Garde nationale de Paris) จากนั้นผู้บัญชาการกองทหารรักษา
ความสงบแห่งชาตินามว่า la Fayette ได้เติมแถบสีขาวเพิ่มเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1794 กฎหมายได้ประกาศอย่างชัดเจนให้ธง
สามสีเป็นธงประจำชาติ โดยให้แถบสีน้ำเงินอยู่ติดกับเสาธง

ธงสามสีนี้ได้ถูกยกเลิกและนำกลับมาใช้ใหม่อีกหลายครั้ง จนสุดท้ายได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์
แห่งชาติอย่างสมบูรณ์เมื่อมีการร่างลงรัฐธรรมนูญในปี 1946 และ 1958 (มาตราที่ 2)

La Devise

« Liberté Égalité Fraternité » คือคำขวัญประจำชาติฝรั่งเศส (la devise)
ประกาศให้ใช้อย่างเป็นทางการพร้อม ๆ กับการกำหนดให้เพลง la Marseillaise
เป็นเพลงชาติฝรั่งเศส และวันที่ 14 กรกฎาคม เป็นวันชาติฝรั่งเศส

Liberté เสรีภาพ คือ การเน้นในเสรีภาพของบุคคล หรือ ปัจเจกชนนิยม และได้
ขยายไปในเรื่องเสรีภาพในด้านความคิด ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาหาความรู้
การพิมพ์และเผยแพร่ข่าวสาร รวมทั้งเสรีภาพในทางการเมือง

Égalité เสมอภาค คือ ความเท่าเทียมกันตามกฎหมายของปัจเจกชน ความเสมอ
ภาค ขึ้นอยู่กับหลักความเที่ยงธรรม ความเท่าเทียมกันในเรื่องสิทธิและหน้าที่ เช่น
ความเท่าเทียมในด้านการเสียภาษี การรับใช้ชาติโดยการเป็นทหาร และสิทธิในการ
ออกเสียงเลือกตั้ง

Fraternité ภราดรภาพ คือ ความเป็นพี่เป็นน้องกัน มนุษย์ทุกคนจะต้องมีความ
เท่าเทียมกันและปฏิบัติต่อกันดุจพี่น้อง ความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบ
ให้มนุษย์ คือ การไม่เน้นผิวพรรณ หรือ เผ่าพันธุ์

Le Coq Gaulois

Le coq คือสัญลักษณ์รูปไก่ ปรากฏอยู่บนเหรียญมาตั้งแต่อาณาจักร la Gaule ต่อ
มาในยุคกลาง (le Moyen Âge) สัญลักษณ์รูปไก่ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทาง
ศาสนจักรในฐานะตัวแทนของความหวังและศรัทธา ในพระคัมภีร์ไบเบิล ไก่เป็นสัตว์ที่
กล้าหาญและคอยเฝ้าระวังระไวเสมือนพระเจ้าที่คอยดูแลคริสตศาสนิกชน เสียงไก่
เปรียบเหมือนเสียงขับไล่ภูตผีปีศาจยามค่ำคืน ดังนั้นจึงมีรูปไก่อยู่บนยอดหอระฆัง
โบสถ์ทุกแห่ง และนับจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (la Renaissance) เป็นต้นมา le
coq ก็ค่อยๆ พัฒนาจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำชาติฝรั่งเศส โดยมี
ความหมายในด้านความทรนง ความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ และความสมบูรณ์
ปัจจุบันสามารถพบสัญลักษณ์นี้ได้ทั่วไปในประเทศฝรั่งเศส ที่สำคัญก็คือที่ประตู
เหล็กของ Palais de l’Élysée บนเหรียญทอง แสตมป์ และบนชุดนักฟุตบอลทีมชาติ
ฝรั่งเศส

ภู มิ ศ า ส ต ร์

ที่ตั้ง

ประเทศฝรั่งเศส (France) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฝรั่งเศส
(République française) ประกอบไปด้วยประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ หรือประเทศ
ฝรั่งเศสภาคพื้นทวีป (Métropole หรือ France métropolitaine) ซึ่งอยู่ในภูมิภาค
ยุโรปตะวันตก และดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีป ประเทศฝรั่งเศสแผนดินใหญ่ทอดตัว
ตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางภาคใต้จนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือทางภาค
เหนือ และจากแม่น้ำไรน์ทางภาคตะวันออกจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติกทางภาค
ตะวันตก ด้วยรูปทรงทางกายภาพของประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่มีลักษณะคล้าย
รูปหกเหลี่ยม จึงมีคำที่นิยมใช้เรียกประเทศฝรั่งเศสอีกคำหนึ่งว่า Hexagone ซึ่ง
หมายถึงรูปหกเหลี่ยม เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือกรุงปารีส และยังมีเมือง
สำคัญอื่น ๆ เช่น ลียง (Lyon) มาร์แซย์ (Marseille) ตูลูซ (Toulouse) บอร์โด
(Bordeaux) ลีล (Lille) และนีซ (Nice) เป็นต้น

พรมแดน

ประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศต่าง ๆ ดังนี้

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก
ทิศตะวันออก : เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : อิตาลี โมนาโก
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : สเปน อันดอร์รา

ชายฝั่ งทะเล

ประเทศฝรั่งเศสมีความยาวของชายฝั่งติดทะเลรอบประเทศประมาณ 5,500 กิโลเมตร โดยมีพรมแดนติด
ทะเลดังนี้

ทิศเหนือ : ทะเลเหนือ (la mer du Nord)
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : ช่องแคบอังกฤษ (la Manche)
ทิศใต้ : ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (la mer Méditerranée)
ทิศตะวันตก : มหาสมุทรแอตแลนติก (l’océan Atlantique)

เทือกเขาที่สำคัญ

1. เทือกเขาแอลป์ (les Alpes) (พรมแดน
ธรรมชาติระหว่างประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี)
เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ
ประเทศฝรั่งเศส เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรป
ครอบคลุมบริเวณตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
จนถึงกรุงเวียนนาในออสเตรีย เทือกเขาแอลป์
พาดผ่านเยอรมนีตะวันตก ออสเตรีย ฝรั่งเศส
อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และยูโกสลาเวีย ยอดเขาที่
สูงที่สุดคือมงบล็อง (le mont Blanc) มีความสูง
4,810.45 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมืองที่อยู่ในเขต
เทือกเขาแอลป์ในประเทศฝรั่งเศสเป็นศูนย์การ
ท่องเที่ยวและเป็นสถานีกีฬาฤดูหนาวที่สำคัญ

2. เทือกเขาฌูว์รา (le Jura) (พรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศ
ฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์) เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตะวันออก
ของประเทศฝรั่งเศส พาดผ่านเขตสวิตเซอร์แลนด์ และ
เยอรมนีตะวันตก บริเวณนี้เป็นเขตอุตสาหกรรมเกี่ยวกับป่าไม้
มีป่าสนและทุ่งหญ้า มีอุตสาหกรรมการผลิตเนยแข็ง การท่อง
เที่ยว การทำนาฬิกา แว่นตา ของใช้ที่เป็นไม้และพลาสติก

3. เทือกเขาปีเรเน (les Pyrénées) (พรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศฝรั่งเศสและ
สเปน) เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศฝรั่งเศส

4. เทือกเขามาซิฟ ซ็องทราล (le Massif central) เป็นบริเวณที่อุดมไปด้วยกลุ่ม
ภูเขารุ่นเก่าและเป็นแหล่งภูเขาไฟ (le volcan) เป็นเทือกเขาที่มีพื้นที่กว้างใหญ่
มาก อยู่ทางภาคกลางค่อนมาทางภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส เมือง
อุตสาหกรรมของภูมิภาคนี้ได้แก่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand)
และเมือง ลีมอฌ (Limoges) ส่วนเมืองที่ทำรายได้ด้านอุตสาหกรรมการท่อง
เที่ยวคือเมืองวีชี (Vichy) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส

5. เทือกเขาโวฌ (les Vosges) เป็นกลุ่มภูเขารุ่นเก่าทางตะวันออกเฉียงเหนือของ
ประเทศฝรั่งเศส ด้านหนึ่งของภูเขาลาดลงสู่แคว้นลอแรน (Lorraine) ส่วนอีก
ด้านหนึ่งเป็นแคว้นอาลซัส (Alsace) มีพรมแดนติดต่อกับป่าดำ (la Forêt-
Noire) ของเยอรมนี

แม่น้ำที่สำคัญ

1. แม่น้ำแซน (la Seine) (มีความยาว 777
กิโลเมตร) อยู่ในบริเวณที่เรียกว่าแอ่งปารีส (le
Bassin parisien) ไหลผ่านเมืองสำคัญ เช่น ทรัว
(Troyes) ปารีส (Paris) รูอ็อง (Rouen) และ
เลออาฟวร์ (Le Havre) และไหลลงสู่ทะเลที่
ช่องแคบอังกฤษ (la Manche) เป็นแม่น้ำที่มี
ความสำคัญมากในทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส
เรือแล่นได้ทุกฤดู สะดวกในการขนส่ง

2. เแม่น้ำลัวร์ (la Loire) (มีความยาวประมาณ 1,012 กิโลเมตร) เป็นแม่น้ำสายที่ยาว
ที่สุดของฝรั่งเศส มีต้นกำเนิดในเทือกเขามาซิฟ ซ็องทราล (le Massif central)
และไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก บริเวณลุ่มแม่น้ำลัวร์นี้เป็นที่ตั้งของปราสาท
ในยุคฟื้นฟู ศิลปวิทยา (la Renaissance) จำนวนมาก จึงนับเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส

3. เแม่น้ำการอน (la Garonne) (มีความยาว 647 กิโลเมตร) อยู่ทางทิศตะวันตก
เฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีต้นกำเนิดในประเทศสเปน ไหลผ่านเทือกเขาปีเรเน
(les Pyrénées) และไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม่น้ำสายนี้เป็นแหล่งผลิต
กำลังไฟฟ้าที่สำคัญของฝรั่งเศส

4. แม่น้ำโรน (le Rhône) (มีความยาว 812 กิโลเมตร) มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขา
แอลป์ในเขตประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไหลลงสู่ทะเลสาบเลม็อง (le lac Léman)
ในเมืองเจนีวา ก่อนจะเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส แล้วไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

5. แม่น้ำแร็ง (le Rhin) (มีความยาว 1,233 กิโลเมตร) เป็นแม่น้ำที่ใช้กั้นพรมแดน
ระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับเยอรมนี แต่ส่วนที่อยู่ในชายแดนฝรั่งเศสมีเพียง
195 กิโลเมตรเท่านั้น ต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ และไหลลงทะเลเหนือในประเทศเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันเป็นเส้น
ทางคมนาคมที่สำคัญทั้งของฝรั่งเศสและเยอรมนี และยังใช้เป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อ
การผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญอีกด้วย

การแบ่งเขตการปกครอง

ตามรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสฉบับแก้ไขเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2003
ประเทศฝรั่งเศสแบ่งเขตการปกครองออกเป็น « collectivités
territoriales » ซึ่งแยกย่อยออกได้เป็น

- แคว้น (région) มีทั้งหมด 18 แคว้น (13 แคว้นบนแผ่นดินใหญ่
และ 5 แคว้นโพ้นทะเล)

- จังหวัด (département)
- เทศบาล (commune)
- เขตปกครองพิเศษ (collectivité à statut particulier) มีดังนี้

Paris (นับว่าเป็น département ด้วย) Lyon และ Marseille
la collectivité territoriale de Corse
- อาณานิคมโพ้นทะเล (collectivité d’outre-mer)

ทั้งนี้อาจแบ่งประเทศฝรั่งเศสออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ประเทศ
ฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่และประเทศฝรั่งเศสโพ้นทะเล

ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่
ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ หรือประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีป
(Métropole หรือ France métropolitaine หรือ France hexagonale
หรือ Hexagone) สามารถแบ่งเขตการปกครองได้เป็น 3 ระดับ คือ
แคว้น (région) จังหวัด (département) และเทศบาล (commune)

แคว้น (région)
แต่เดิมประเทศฝรั่งเศสแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 27 แคว้น ประกอบไปด้วย 22 แคว้นบนแผ่น
ดินใหญ่ และ 5 แคว้นโพ้นทะเล ต่อมาในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2014-2015 ได้มีการดำเนินการแบ่งเขต
การปกครองในระดับแคว้นใหม่โดยการยุบรวมแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ส่งผลให้นับตั้งแต่วันที่ 1
มกราคม ค.ศ. 2016 ประเทศฝรั่งเศสแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 18 แคว้น ซึ่งประกอบไปด้วย 13
แคว้นบนแผ่นดินใหญ่ และ 5 แคว้นโพ้นทะเล

การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ประกอบไปด้วย 13 แคว้น โดยรวม la
collectivité territoriale de Corse เป็นหนึ่งใน 13 แคว้นนี้ด้วย
การบริหารงานทำโดย un conseil régional ซึ่งได้มาจากการ
เลือกตั้ง ดำรงตำแหน่งวาระละ 6 ปี รายชื่อแคว้นทั้ง 13 แคว้นมี
ดังนี้

โอแวร์ญ-โรนาลป์ Auvergne-Rhône-Alpes
บูร์กอญ-ฟร็องช์-กงเต Bourgogne-Franche-Comté
เบรอตาญ Bretagne
ซ็องทร์-วาลเดอลัวร์ Centre-Val de Loire
กอร์ส Corse
กร็องแต็สต์ Grand Est
โอด-ฟร็องส์ Hauts-de-France
อีล-เดอ-ฟร็องส์ Île-de-France
นอร์ม็องดี Normandie
นูแวลากีแตน Nouvelle-Aquitaine
อ็อกซีตานี Occitanie
เปอีเดอลาลัวร์ Pays de la Loire
พรอว็องซาลป์-โกตดาซูร์ Provence-Alpes-Côte d’Azur

จังหวัด (département)
ประเทศฝรั่งเศสแบ่งเขตการปกครองในระดับจังหวัดออกได้เป็น 101 จังหวัด ประกอบไปด้วย 96
จังหวัดบนแผ่นดินใหญ่ และ 5 จังหวัดโพ้นทะเล
จากจำนวน 13 แคว้นของประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 96 จังหวัด
ทั้งนี้ตัวเลขจะสิ้นสุดลงที่ 95 เนื่องจากในส่วนของ Corse ได้แบ่งย่อยออกเป็นอีก 2 จังหวัด คือ 2A
(Corse-du-Sud) และ 2B (Haute-Corse) การบริหารงานระดับจังหวัดทำโดย un conseil
général โดยสมาชิกได้มาจากการเลือกตั้งของแต่ละ canton



ป า รี ส

ปารีส

ในอดีตชาวโรมันเรียกนครแห่งนี้ว่า Lutèce แต่แล้วก็ได้
เปลี่ยนมาเรียกตามชื่อของกลุ่มคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่
เป็นกลุ่มแรกซึ่งก็คือพวก les Parisii

ปารีสเป็นเมืองที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ฝรั่งเศสมาโดยตลอด ได้รับการจัดวางผังเมืองอย่างเป็น
ระบบในสมัยพระเจ้าอองรีที่ 4 (Henri IV) (1589-1610) จาก
นั้นในสมัยจักรวรรดิที่ 2 Georges Eugène Haussmann
ข้าราชการคู่พระทัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ซึ่งได้รับ
ตำแหน่ง Préfet de la Seine (เทียบได้กับตำแหน่งเจ้า
เมือง) ก็ได้ปรับปรุงภาพลักษณ์และภูมิทัศน์ของกรุงปารีส
โดยการเพิ่มพื้นที่ว่างทำให้สามารถมองเห็นสถานที่สำคัญ
ต่าง ๆ ได้จากระยะไกล มีการรื้อถอนบ้านเรือนที่บดบัง
ภูมิประเทศหรือความงดงามของสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของ
กรุงปารีสออกให้หมด มีการตัดถนนสายสำคัญ ๆ ให้มี
ขนาดกว้างใหญ่ ทำให้กรุงปารีสมีความทันสมัย สวยงาม
และลงตัวอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

กรุงปารีสมีแม่น้ำแซน (la Seine) ไหลผ่าน ทำให้มหานคร
แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง เรียกว่า ฝั่งขวา (rive droite)
และ ฝั่งซ้าย (rive gauche) โดยยึดเอาทิศทางการไหลของ
น้ำเป็นเกณฑ์ ทางฝั่งซ้ายเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทาง
ราชการ กระทรวงต่าง ๆ ย่านมหาวิทยาลัย (le Quartier
latin) และร้านหนังสือขนาดใหญ่ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นย่าน
ธุรกิจการค้าที่หรูหราและทันสมัย และตรงกลางกรุงปารีส
แม่น้ำแซนได้ไหลแยกออกเป็น 2 สาย แล้วย้อนกลับมา
บรรจบกันอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เกิดเกาะ 2 เกาะตรงกลางเรียก
ว่า L’île de la Cité และ L’île Saint-Louis ในแม่น้ำแซนนี้มี
เรือโดยสารที่เรียกว่า Batobus ให้บริการสำหรับการเดิน
ทางโดยทั่วไป และ Bateaux Mouches ให้บริการสำหรับนัก
ท่องเที่ยวเพื่อชมทิวทัศน์ของสองฝั่ งแม่น้ำแซน

ณ วันนี้ กรุงปารีสคือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส และ
ยังเป็นเมืองหลวงของแคว้น Île de France อีกด้วย ปารีส
มีความสำคัญต่อประชาคมโลกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากรุง
ลอนดอน มหานครนิวยอร์ก หรือกรุงโตเกียว และยังถือได้
ว่าเป็นศูนย์กลางของทวีปยุโรป ทั้งในด้านเศรษฐกิจการค้า
การลงทุน การเมืองการปกครอง วัฒนธรรม การศึกษา
วิทยาการต่าง ๆ รวมไปถึงด้านการสื่อสารมวลชน

LA TOUR EIFFEL

หอไอเฟล ด้วยความสูงกว่า 300 เมตร และน้ำหนักกว่า 7,175 ตัน ทำให้สถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญ
นี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส และของประเทศฝรั่งเศสไปโดยปริยาย ผู้คนจากทั่วทุกมุม
โลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือนหอคอยแห่งนี้ ดังนั้นหอไอเฟลจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมา
เยือนมากที่สุดในโลก

หอไอเฟลได้รับการออกแบบโดยวิศวกรนามว่า Gustave Eiffel เพื่อใช้ในการเปิดงาน
Exposition universelle de Paris en 1889 เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติใหญ่
ฝรั่งเศส โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 1889 รวมใช้เวลาก่อสร้าง
ทั้งสิ้น 2 ปีกับอีก 3 เดือน (ค.ศ. 1887-1889) และใช้แรงงานกว่า 300 คน

หอไอเฟลตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซน มีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านขาย
ของที่ระลึก ภัตตาคาร และจุดชมวิว นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการถาวรชีวประวัติของ Gustave
Eiffel บนยอดสุดเป็นที่ตั้งของเสารับส่งสัญญาณของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงมีอุปกรณ์
สำหรับการพยากรณ์อากาศอีกด้วย

L’ARC DE TRIOMPHE

ประตูชัยแห่งจัตุรัสเอตวล จักรพรรดิ Napoléon 1er โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่ง
ชัยชนะในการทำสงครามของพระองค์ ผู้ออกแบบคือ Chalgrin เริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 1806 มา
เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1836 ในรัชสมัยของพระเจ้า Louis-Philippe

ที่เสาแต่ละด้านมีภาพสลักนูนสูงที่มีความงดงามและมีชื่อเสียงมาก แสดงชัยชนะในการทำ
สงครามในสมัยจักรวรรดิที่ 1 ผนังด้านในมีการสลักชื่อของนายทหาร 128 ชื่อ และ นายพลอีก
660 ชื่อที่เสียชีวิตในสงคราม นอกจากนี้ที่ใต้โค้งประตูก็เป็นที่ฝังศพของเหล่าทหารนิรนาม (la
tombe du soldat inconnu) ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 บนหลุมฝังศพจะมีเปลวไฟลุกอยู่
ตลอดเวลาไม่มีวันดับ

ประตูชัยตั้งอยู่ที่จัตุรัสที่มีชื่อว่า Place de l’Étoile เนื่องจากเป็นอนุสาวรีย์ที่มีถนนมาบรรจบกัน
โดยรอบถึง 12 สาย มองดูคล้ายดวงดาว แต่ปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Place
Charles-de-Gaulle เพื่อเป็นเกียรติแก่นายพลชาร์ล เดอ โกล อดีตประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ของ
ฝรั่งเศส ประตูชัยแห่งนี้มีความสูง 49.5 เมตร กว้าง 45 เมตร และลึก 22เมตร เป็นประตูชัยที่ใหญ่
เป็นอันดับที่ 2 ของโลกที่ปรากฏในปัจจุบัน

BEAUBOURG

Le Centre national d’art et de culture Georges-Pompidou “ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมแห่งชาติ
จอร์จ ปงปิดู” หรือที่รู้จักกันในนามว่า « Beaubourg » นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ที่มีชื่อเสียงไป
ทั่วโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1969 ในสมัยที่ Georges Pompidou เป็นประธานาธิบดี และมีพิธีเปิดอย่างเป็น
ทางการเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 1977

ด้วยการออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตาที่มีการนำโครงสร้างภายในออกมาสู่ภายนอก มองเห็น
เป็นท่อเหล็กและแท่งแก้วสีสันฉูดฉาด ทำให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนในแต่ละปีไม่ยิ่ง
หย่อนไปกว่าหอไอเฟลเลย ภายในศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ใช้เป็นที่ตั้งขององค์กรที่สำคัญๆ ดังนี้

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติศิลปะสมัยใหม่ Le Musée National d’Art Moderne (MNAM) เป็นพิพิธภัณฑ์
ศิลปะสมัยใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงผลงานที่ทำให้เห็นวิวัฒนาการของรูปแบบศิลปะต่างๆ
เช่น ศิลปะ Fauvisme ศิลปะ Cubisme เป็นต้น
ห้องสมุด La Bibliothèque Publique d’Information (BPI) เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่กินพื้นที่ 3 ชั้น
สามารถรองรับผู้อ่านได้วันละกว่า 14,000 คน สามารถไปนั่งดูสไลด์ วีดีทัศน์ ฝึกภาษาด้วยการฟัง
เทปเพื่อแก้ไขการออกเสียงภาษาฝรั่งเศสที่ยังบกพร่องของชาวต่างชาติ หรือฝึกภาษาต่างประเทศ
อื่น ๆ สำหรับคนฝรั่งเศส
ห้องฉายภาพยนตร์ Le Cinémathèque มีการฉายภาพยนตร์อย่างสม่ำเสมอ
และยังเป็นสถาบันวิจัยและความร่วมมือทางด้าน acoustique-musique อีกด้วย

L’ARCHE DE LA DÉFENSE

La Défense เป็นย่านธุรกิจการค้าใหม่หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า « le Manhattan français » มีสิ่งก่อสร้างที่
สำคัญรู้จักกันในนาม la Grande Arche หรือ l’Arche de la Défense ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ประตูใหญ่
แห่งภราดรภาพ” (La Grande Arche de la Fraternité) เป็นอาคารขนาดใหญ่รูปทรงลูกบาศก์สูงถึง 110 เมตร
กว้าง 108 เมตร และลึก 112 เมตรและมีพื้นที่ใช้สอยถึง 87,000 ตารางเมตร พื้นผิวภายนอกเป็นกระจกหนา 5
เซนติเมตร มีการป้องกันการเสียหายของกระจกโดยเฉพาะและสามารถต้านทางแรงลมได้ ออกแบบก่อสร้างโดย
สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ชื่อ Johan Otto von Spreckelsen (สร้างเลียนแบบ l’Arc de Triomphe de l’Étoile ซึ่งมี
ความสูงเพียง 50 เมตร) โดยมีแนวคิดเพื่อให้เป็นประตูชัยฝรั่งเศสในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 20 อันเป็นอนุสาวรีย์ที่
ออกแบบเพื่อมวลมนุษยชนและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษยชาติ ไม่ใช่อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะอีกต่อไป

ประตูชัยแห่งนี้สร้างบนแกนตะวันออก – ตะวันตกของกรุงปารีส บนแนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์ (L’Axe
historique ou voie royale) ซึ่งสามารถมองเห็นมาได้จาก L’Arc de triomphe de l’Étoile และ Le Jardin des
Tuileries ภายในเป็นที่ตั้งของบริษัทเอกชน สำนักงานของหน่วยงานสำคัญต่างๆ เช่น la Fondation
Internationale pour les Droits de l’Homme และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ

la Grande Arche ได้รับการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1989 ในโอกาสครบรอบ 200 ปี
ของการปฏิวัติครั้งใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นปีที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพการประชุม G7 : Le
Groupe des sept อีกด้วย

LES CHAMPS-ÉLYSÉES

Les Champs-Élysées คือถนนสายที่มีความสำคัญมาก และถือเป็นถนนที่สวยที่สุดของกรุง
ปารีส เริ่มต้นที่จัตุรัส Concorde ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสา Obélisque ทอดตัวยาวเป็นระยะทาง 1,950
เมตร มาสิ้นสุดที่จัตุรัส Charles-de-Gaulle ซึ่งตรงกลางเป็นที่ตั้งของประตูชัย L’Arc de
triomphe de l’Étoile ออกแบบโดย le Nôtre ในศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ
เหล่าขุนนางและพวกผู้ดีในสมัยนั้น แต่ในปัจจุบันตลอดระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรนี้เป็นที่ตั้งของ
โรงภาพยนตร์ โรงละคร ภัตตาคารหรู ร้านขายสินค้ายี่ห้อดัง รวมไปถึงบริษัทการบิน ธนาคาร

L’avenue des Champs-Élysées ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติฝรั่งเศสอีกแห่งหนึ่ง ทุกๆ ปี ใน
วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันชาติฝรั่งเศส บนถนนสายนี้จะมีการเดินสวนสนามของกองทัพ
ฝรั่งเศสซึ่งประกอบไปด้วยกองทหารทั้ง 3 เหล่าทัพและตำรวจ โดยมีทั้งการสวนสนามทางบก
และทางอากาศ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเส้นทางในช่วงสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยของการแข่งขัน
จักรยานทางไกล Tour de France อีกด้วย และ Les Champs-Élysées นี้เองที่เป็นต้นแบบของ
ถนนราชดำเนินในประเทศไทย

LES INVALIDES

Les Invalides หรือ L’Hôtel des Invalides สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเป็น
โรงพยาบาลรักษาและพักฟื้นของเหล่าทหารที่บาดเจ็บและพิการจากการทำสงคราม มีข้อความ
ระบุใน l'édit royal de 1670 ความว่า « ceux qui ont exposé leur vie et prodigué leur sang
pour la défense de la monarchie (...) passent le reste de leur jours dans la tranquillité.
» เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1671 โดย Libéral Bruant ต่อมาในปี ค.ศ. 1677 Jules Hardouin-
Mansart ได้ออกแบบก่อสร้าง l’église Saint-Louis ซึ่งเป็นส่วนของอาคารที่มียอดเป็นโดมใน
รูปแบบ jésuite

ปัจจุบัน Les Invalides อยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหม ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ทหาร (Musée
de l’Armée) ส่วนที่เป็นยอดโดมสีทองอร่ามนั้น เป็นที่ตั้งหลุมฝังพระศพของพระเจ้านโปเลียนที่
1 ล้อมรอบด้วยประติมากรรมรูปบุคคล 12 ชิ้น อันเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของพระเจ้า
นโปเลียนในสมรภูมิรบต่างๆ

LE PANTHÉON

ป็องเตอง เริ่มก่อสร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 โดยพระองค์ทรงวางศิลาฤกษ์เองในปี
ค.ศ.1764 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1812 สถาปนิกผู้ออกแบบคือ Soufflot ตัวอาคารยาว 110 เมตร
กว้าง 82 เมตร ยอดโดมสูง 80 เมตร

ใช้เป็นที่เก็บศพหรือกระดูกของรัฐบุรุษและบุคคลสำคัญๆ ของชาติ ภายในประดับด้วยภาพวาด
ฝาผนังที่มีความสวยงาม ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือภาพวาดของ Puvis de Chavannes

ศพของนักเขียนคนสำคัญของฝรั่งเศสที่ได้รับการฝังไว้ที่นี่ เช่น Victor Hugo, Emile Zola,
Voltaire, Rousseau, Mirabeau etc. ด้านหน้ามีคำจารึกเขียนไว้ว่า « Aux grands hommes, la
patrie reconnaissante » “แด่รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ประเทศชาติรำลึกถึงท่านเสมอ”

NOTRE-DAME DE PARIS

Notre-Dame เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะแบบ Gothique ตั้งอยู่บน l’île de la Cité ริม
แม่น้ำ Seine เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1163 ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 และเสร็จ
สมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1245 ออกแบบโดย Maurice de Sully, Jean de Chelles และ Pierre
de Montreuil ได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1845-1864 นำโดย Eugène
Viollet-le-Duc พื้นที่ภายในใหญ่โตมาก ยาว 130 เมตร กว้าง 48 เมตร และสูงถึง 35
เมตร หอคอยภายนอกสูง 69 เมตร ส่วนยอดแหลมสูง 90 เมตร สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็น
ที่จัดงานพิธีใหญ่ๆ เช่น พิธีราชาภิเษกของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 (Henri VI) แห่งอังกฤษใน
ช่วงสงคราม 100 ปี และพระเจ้านโปเลียนที่ 1 (Napoléon Ier) ใน ค.ศ. 1804 ปัจจุบันมหา
วิหารก็ยังใช้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นที่นั่งของอัครบาทหลวงแห่งปารีส

ณ สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่ประกอบพิธีสวดมิสซาเที่ยงคืน (la messe de minuit) ในคืนวัน
ที่ 24 ธันวาคมทุกปี และสามารถบรรจุคริสต์ศาสนิกชนได้มากถึง 9,000 คน ได้รับการ
ยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้างแบบ Gothique ที่ใหญ่โตที่สุด สูงที่สุด ได้รับการประดับประดา
มากที่สุด และกลมกลืนมากที่สุดแห่งหนึ่ง (…le plus imposant, le plus haut, le plus
orné et le plus harmonieux…) เมื่อขึ้นบันไดบนยอดหอคอยจะมองเห็นวิวอันงดงาม
ของกรุงปารีส แม่น้ำแซน หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟว์ เป็นต้น

Notre-Dame de Paris ยังเป็นฉากสำคัญในผลงานเขียนของกวีชื่อดังของฝรั่งเศส
นามว่า Victor Hugo ผู้รังสรรค์งานวรรณกรรมแนวฆาตรกรรมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
กล่าวถึงชายหลังค่อมคนหนึ่งที่เข้าไปหลบอยู่ในโบสถ์เพื่อฆาตรกรรมมนุษย์ เรื่องนี้มีชื่อ
ว่า « Notre-Dame de Paris » ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า « The Hunchback of Notre
Dame » ผู้ที่มาเยี่มชมมหาวิหารแห่งนี้จะได้พบกับ les gargouilles ซึ่งเป็นสหายของ
ตัวเอกในเรื่องนี้ ตัว gargouille หรือตัวกึ่งปีศาจ ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ว่าจะใช้เป็น
ที่ระบายน้ำฝนให้ตกลงไปบนพื้นข้างล่าง

ที่หอสูงด้านทิศใต้ มีระฆัง (la cloche หรือ le bourdon) ขนาดใหญ่มากมีชื่อว่า
« Emmanuel » หนักถึง 13 ตัน ที่ตีระฆังหนัก 500 กิโลกรัม ระฆังถูกหล่อขึ้นใหม่เมื่อต้น
คริสต์ศตวรรษที่ 17 เล่ากันว่าทั้งหญิงสูงศักดิ์และหญิงชาวบ้านต่างทำบุญด้วยการโยน
ทองและเงินลงไปในเบ้าหล่อ ทำให้ระฆังใบนี้มีเสียงกังวานใสบริสุทธิ์ยิ่งนัก ระฆังใบนี้จะ
ถูกตีทุกครั้งที่มีงานฉลองใหญ่ หรือในวันสำคัญทางศาสนาของประเทศฝรั่งเศส

ที่บริเวณลานหินด้านหน้าของมหาวิหารหรือที่เรียกว่า la Place du Parvis มีแผ่นหิน
บอกกิโลเมตรที่ 0 (Point zéro หรือ kilomètre zéro) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนับระยะ
ทางเป็นกิโลเมตรของถนนทุกสายที่ออกจากกรุงปารีสในแผนที่ของฝรั่งเศส

NOTRE-DAME
DE PARIS

LE SACRÉ-CŒUR

Le Sacré-Cœur หรือ La basilique du ตั ว โ บ ส ถ์ มี สี ข า ว ส ว ย เ ด่ น ส ะ ดุ ด ต า ตั้ ง อ ยู่ บ น เ นิ น เ ข า
Sacré-Cœur เป็นโบสถ์ในศิลปะโรมัน-ไบเซน Montmartre หินอ่อนที่นำมาสร้างโบสถ์แห่งนี้มี
ไทน์ romano-byzantin สร้างขึ้นในปี คุ ณ ส ม บั ติ พิ เ ศ ษ คื อ ยิ่ ง ถู ก น้ำ ฝ น ก็ จ ะ ทำ ใ ห้ เ นื้ อ หิ น ก ล า ย เ ป็ น
ค.ศ.1876 โดยสถาปนิกนามว่า Paul Abadie สีขาวยิ่งขึ้น ทำให้เรามองเห็นโบสถ์แห่งนี้เป็นสีขาวสว่าง
คำว่า cœur นี้หมายถึง Cœur de Jésus อยู่ตลอดเวลา บนยอดโดมซึ่งมีความสูงกว่า 83 เมตร
Christ ดังนั้น « Le Sacré-Cœur » จึงหมาย เป็นที่ตั้งของระฆังที่มีชื่อว่า la Savoyarde ซึ่งเป็นหนึ่ง
ถึง “หัวใจที่ควรค่าแก่การบูชายิ่งของพระ ใ น ร ะ ฆั ง ที่ ใ ห ญ่ ที่ สุ ด เ ท่ า ที่ ยั ง ค ง ป ร า ก ฏ อ ยู่ โ ด ย มี น้ำ ห นั ก ก ว่ า
ค ริส ต์ ” 19 ตัน จากยอดโดมของโบสถ์จะมองเห็นวิวที่สวยงาม
ข อ ง ก รุ ง ป า รีส ไ ด้ ทั่ ว
โ บ ส ถ์ แ ห่ ง นี้ เ ป็ น ส ถ า น ที่ ที่ มี ผู้ ไ ป จ า ริก แ ส ว ง บุ ญ
มากแห่งหนึ่ง บ้างก็ผลัดเวรกันไปสวดมนต์ ที่บริเวณเนินเขา Montmartre นี้ถือเป็นเนินแห่งความ
ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เป็นการสวดมนต์ ฝันของศิลปินทั้งหลาย เพราะเป็นแหล่งที่นัดพบของ
ติ ด ต่ อ กั น โ ด ย ไ ม่ ห ยุ ด เ ล ย ซึ่ ง นั บ เ ป็ น เ ว ล า ก ว่ า ร้ อ ย ศิลปินมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ผลงานศิลปะมากมาย
ปี ม า แ ล้ ว ได้รับการรังสรรค์จากที่นี่ แม้กาลเวลาจะผ่านมากว่า 200
ปีแล้วก็ตาม ที่ Montmartre แห่งนี้ก็ยังคงเป็นดินแดนที่
ผู้ที่มีใจรักในงานศิลปะใฝ่ฝันที่จะมาเยือน ปัจจุบันบริเวณ
ที่เรียกว่า la Place du Tertre จะมีศิลปิน จิตรกรมานั่ง
รับจ้างวาดรูป วาดภาพเหมือน หรือภาพตลกล้อเลียน (la
caricature) มีการรับจ้างตัดกระดาษเป็นรูปด้านข้าง
หรือที่เรียกว่า le profil ด้วย

L ouvre

บริเวณด้านหน้า (la cour Napoléon) เป็นที่ตั้ง
ของปิรามิดแก้วซึ่งใช้เป็นทางเข้าพิพิธภัณฑ์ เป็น
ผลงานชิ้นเอกของ Ieoh Ming Pei สถาปนิกชาว
อเมริกันเชื้อสายจีน ประธานาธิบดี François
Mitterand อนุมัติงบประมาณและเริ่มก่อสร้าง
ในปี ค.ศ. 1983 จนเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1989

LE LOUVRE

พระราชวังลูฟว์ หรือในปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ คืออดีตพระราชวังอันยิ่งใหญ่

ของกษัตริย์ฝรั่งเศส (le Palais du Louvre) เริ่มก่อสร้างราว ค.ศ. 1200

ในรัชสมัยพระเจ้า Philippe Auguste ผ่านกาลเวลาได้รับการต่อเติม ปรับปรุง

ซ่อมแซมจากกษัตริย์หลายพระองค์ต่อมาอีกกว่า 7 ศตวรรษ จนมีคำเรียกว่า

« Une œuvre de sept siècles... » ปัจจุบัน Louvre คือพิพิธภัณฑ์ (le Musée

du Louvre) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเยี่ยมของโลก

มากมายหลายชิ้น ที่มีชื่อเสียงมากเช่น ภาพวาดโมนาลิซา (la Joconde), The

และ ของVirgin and Child with St. Anne
Madonna of the Rocks

เลโอนาร์โด ดาวินชี (Léonard de Vinci) หรือประติมากรรม la Vénus de Milo

ของ Alexandros of Antioch เป็นต้น

LE LOUVRE

LE CHÂTEAU DE VERSAILLES

เริ่มต้นที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงโปรดการล่าสัตว์มาก จึงเลือกพื้นที่ในตำบลแวร์ซายส์เพื่อสร้าง
Pavillon de chasse ขึ้นในปี ค.ศ. 1623 เพื่อใช้เป็นที่ประทับขณะเสด็จมาล่าสัตว์ โดยในช่วงแรกเป็นเพียง
กระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น

ครั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงขึ้นครองราชย์และโปรดให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่นอกกรุงปารีสเพื่อเป็น
ศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ Pavillon de chasse ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งนี้จึงได้รับการ
เนรมิตให้กลายเป็นพระราชวังอันยิ่งใหญ่อลังการ โดยมี Le Vau เป็นผู้ออกแบบแปลนพระราชวัง Le
Brun เป็นผู้ตกแต่งภายใน และ Le Nôtre ออกแบบสวน ใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1688
ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภายในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้อง
บรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ส่วนห้องที่มีชื่อเสียงที่สุดคือห้องกระจก (Galerie des Glaces) ทุก
ห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง

พระราชวังแวร์ซายในปัจจุบันนับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีค่ายิ่งของชาวฝรั่งเศส เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทาง
ประวัติศาสตร์ช่วงสำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช

ก า ร เ มื อ ง
การปกครอง

หลักการ
ปกครอง

สาธารณรัฐฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แบบ
สาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐ
ฝรั่งเศส (ฉบับที่ 15 ของประเทศฝรั่งเศส) ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่
28 กันยายน 1958 โดยผ่านการลงประชามติ

แบ่งอำนาจออกเป็น 3 ส่วน คือ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ
และอำนาจตุลาการ

อำนาจบริหาร

อำนาจฝ่ายบริหารนั้นถูกแบ่งออกและมีหัวหน้า 2 คน คือ
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ และนายกรัฐมนตรี

ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ (Le Président de la
République) เป็นตำแหน่งประมุขของสาธารณรัฐฝรั่งเศส มีวาระ
การดำรงตำแหน่ง 5 ปี (ตามประชามติเมื่อวันที่ 24 กันยายน
2000 โดยลดลงจาก 7 ปี เหลือ 5 ปี) มีตำแหน่งเป็นประมุขแห่งรัฐ
และหัวหน้าอำนาจบริหาร ประธานาธิบดีมีอำนาจในการบริหาร
สูงสุด และเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี

อำนาจนิติบัญญัติ

รัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎร และ วุฒิสภา (สภาสูง)) เป็นสถาบัน
ฝ่ายนิติบัญญัติในระบบการปกครองของประเทศฝรั่งเศส เป็นผู้
ใช้อำนาจ และยังทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของรัฐบาล
ให้เป็นไปตามที่เสนอไว้ต่อสภา ทั้งยังมีอำนาจลงมติไม่ไว้วางใจ
คณะรัฐบาล ถอดถอนนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงให้เห็นว่านายก
รัฐมนตรีจะต้องผ่านการสนับสนุนโดยเสียงส่วนมากของสภาฯ
แต่ขณะเดียวกันประธานาธิบดีก็มีอำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎรได้
เช่นกัน

อำนาจตุลาการ

ศาลมีอำนาจตุลาการและแยกเป็นอิสระจากอำนาจทุกฝ่าย ระบบ
ตุลาการแบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ศาลแพ่งและอาญา (ดูแลคดีแพ่ง
และอาญา) และศาลปกครอง (ดูแลเรื่องการใช้อำนาจรัฐ)

1. ศาลแพ่งและอาญา (ดูแลคดีแพ่งและอาญา) มีศาลสูงสุด คือ
ศาลยุติธรรมสูงสุด (ศาลฎีกา) สำหรับคดีความทางแพ่งและ
อาญา

2. ศาลปกครอง (ดูแลเรื่องการใช้อำนาจรัฐ) มีศาลสูงสุด คือ ศาล
ปกครองสูงสุด (ประเทศฝรั่งเศส) สำหรับคดีด้านปกครอง

EMMANUEL MACRON

แอมานุแอล มาครง เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1977 เป็นนักการเมืองชาวฝรั่งเศส
เป็นอดีตข้าราชการพลเรือนระดับสูง และอดีตวาณิชธนกรชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันดำรง
ตำ แ ห น่ ง ป ร ะ ธ า น า ธิ บ ดี ฝ รั่ ง เ ศ ส แ ล ะ เ จ้ า ผู้ ร่ ว ม ค ร อ ง อั น ด อ ร์ ร า

มาครงเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560
ผลจากการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 23 เมษายน ปรากฏว่า เขามีคะแนนนำมาเป็น
อันดับหนึ่ง ตามมาด้วยมารีน เลอ แปน ที่มีคะแนนตามมาเป็นอันดับสอง มาครงได้ลง
แข่งขันกับเลอ แปน ในการเลือกตั้งรอบที่สองเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม และได้รับชัยชนะ
อย่างขาดลอย ในวัย 39 ปี มาครงกลายเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุน้อยที่สุดใน
ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ฝ รั่ ง เ ศ ส แ ล ะ ก ล า ย เ ป็ น ป ร ะ มุ ข แ ห่ ง รั ฐ ฝ รั่ ง เ ศ ส ที่ มี อ า ยุ น้ อ ย ที่ สุ ด นั บ ตั้ ง แ ต่ ส มั ย
น โ ป เ ลี ย น

มาครงได้รับเลือกตั้งอีกครั้งเป็นสมัยที่สอง หลังจากมีชัยชนะในการเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2565 ส่งผลทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ได้
รับเลือกตั้งครั้งใหม่ในรอบ 20 ปีนับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฌัก ชีรัก ที่มีชัยชนะเลือกตั้ง
ครั้งใหม่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส พ.ศ. 2545

ส ถ า น ที่ สำ คั ญ ใ น ก า ร บ ริห า ร

PALAIS DE L’ÉLYSÉE

ทำเนียบประธานาธิบดี (la Residence du President de la
Republique) หรือ ปาแลเดอเลลีเซ (Palais de l'Élysée) ใช้เป็น
ที่ทำการและที่พำนักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี ตั้งแต่สมัย
สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2 ตั้งอยู่ใกล้กับช็องเซลีเซ กรุงปารีส
นอกจากนี้คำว่า เอลีเซ ภาษาฝรั่งเศสมักจะเรียกอย่างสั้น ๆ ในภาษาพูด
หรือภาษาเขียนโดยสื่อมวลชนเพื่อต้องการสื่อถึง ประธานาธิบดี

PALAIS DU LUXEMBOURG

พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Palais du Luxembourg) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่
ทางตอนเหนือของสวนลุกซ็องบูร์ในกรุงปารีส ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของ

วุฒิสภา (le Sénat)

HÔTEL DE MATIGNON

ทำเนียบมาตีญง หรือ ออแตลเดอมาตีญง (L'hôtel de
Matignon) เป็นที่ทำการของรัฐบาล (ทำเนียบรัฐบาล)
และเป็นที่พักหรือทำเนียบนายกรัฐมนตรี (la Résidence
du Premier ministre) นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐ
ฝรั่งเศสใช้ที่นี่เป็นที่ทำงานตั้งแต่ ค.ศ. 1935 เป็นต้นมา
นอกจากนี้คำว่า มาตีญง มักจะเรียกอย่างสั้น ๆ ในภาษา
พูดหรือภาษาเขียนโดยสื่อมวลชนเพื่อต้องการสื่อถึงนายก
รัฐมนตรี

อั ก ษ ร ย่ อ

อักษรย่อ

SNCF - SOCIÉTÉ NATIONALE DES
CHEMINS DE FER FRANÇAIS

การรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม
ค.ศ. 1938 เป็นผู้ให้บริการรถไฟความเร็วสูง TGV มา
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978

TGV - TRAIN À GRANDE VITESSE

รถไฟความเร็วสูง เป็นรถไฟที่วิ่งได้เร็วที่สุดของฝรั่งเศส
ด้วยความเร็วมากกว่า 500 กม./ชม.

RATP - RÉGIE AUTONOME DES
TRANSPORTS PARISIENS

องค์การขนส่งอิสระแห่งปารีส ดูแลการให้บริการรถไฟใต้ดิน
(le métro) รวมถึงรถด่วนประจำถิ่น

RER - RÉSEAU EXPRESS
RÉGIONAL D'ÎLE-DE-FRANCE

เครือข่ายรถไฟด่วนประจำภูมิภาค รถด่วนประจำถิ่นสำหรับ
ชาวปารีสที่ต้องการเดินทางไป-กลับระหว่างปารีสกับย่าน
ชานเมือง

LES SIGLES

AFP - AGENCE FRANCE-PRESSE

สำนักข่าวฝรั่งเศส จัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของสำนักข่าว
หลักสำคัญของโลกรองจาก AP และ Reuters

ANPE - AGENCE NATIONALE POUR
L’EMPLOI

สำนักงานจัดหางานแห่งชาติ

EDF - ÉLECTRICITÉ DE FRANCE

การไฟฟ้าฝรั่งเศส

GDF - GAZ DE FRANCE

ก๊าซแห่งฝรั่งเศส

เทศกาล

Jour de l’an Épiphanie

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่ที่ถือปฏิบัติกันเป็นสากล 6 มกราคม Épiphanie (la fête des rois ) หรือ
ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม (la veille du jour de l’an) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Théophanie เป็นเทศกาลทาง
ซึ่งจะมีการรับประทานอาหารโต้รุ่ง (le réveillon)
นั้น เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวมกอดกันโดย ศาสนาคริสต์ จัดขึ้นในวันอาทิตย์แรกหลังจากวัน
อวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกัน ปู่ย่าตายายจะให้ของ
ขวัญ “les étrennes” แก่ลูกหลาน ขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์การเข้า
เฝ้าพระเยซูของเหล่ากษัตริย์ที่เรียกว่า des rois
สำหรับวันขึ้นปีใหม่นี้ในประเทศฝรั่งเศสจะมีความ mages ในวันนี้ชาวฝรั่งเศสจะเฉลิมฉลองด้วย
สำคัญน้อยกว่าในเมืองไทย เพราะชาวฝรั่งเศสเพิ่ง กิจกรรมที่เรียกว่า « tirer les rois » โดยการทำ
ฉลองเทศกาลที่สำคัญมากกว่าไปแล้วคือวัน ขนม une galette ซึ่งจะซ่อนตุ๊กตาตัวเล็กๆ เป็น
คริสต์มาส อีกทั้งตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ถึงวันที่
4 มกราคม เป็นช่วงวันหยุดยาวที่เรียกว่า ตัวแทนของกษัตริย์หรือราชินีเอาไว้ภายในเรียกว่า
Vacances de Noël หรือ Vacances de neige une fève ตุ๊กตานี้เมื่อก่อนทำจากกระเบื้องเคลือบ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะออกเดินทางไปเที่ยวไกลๆ แต่ในปัจจุบันทำมาจากพลาสติก ขนม galette นี้

จะวางขายพร้อมกับมงกุฎที่ทำจากกระดาษสีทอง
หรือสีเงิน ใครก็ตามที่หยิบขนมมากินแล้วพบ une
fève หรือตุ๊กตาตัวเล็กๆ ที่ซ่อนไว้นั้นก็จะได้เป็น
roi หรือ reine ของวันนั้น

la galette des Rois เป็นขนมเค้กชนิดหนึ่งทำ

ด้วยแป้ง เนย และไข่ ชาวฝรั่งเศสจะรับประทานกัน
ในช่วงเทศกาล l’Épiphanie

Chandeleur Poisson d’avril

2 กุมภาพันธ์ Chandeleur มาจากภาษาลาตินว่า 1 เมษายน Poisson d’avril (le jour des farces)
« festum candelorum » (fête des หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า April Fool’s Day
ตรงกับวันที่ 1 เมษายนของทุกปี เป็นวันที่ทุกคนจะ
chandelles) เป็นเทศกาลทางศาสนาคริสต์ จัดขึ้น พูดจาล้อเล่น (plaisanter) หลอกกัน โกหกกัน
ในราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีประเพณีที่ปฏิบัติกัน อย่างสนุกสนานโดยไม่มีใครโกรธใครเลย ในหน้า
อย่างแพร่หลายคือการทำขนมเครป (des หนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้ หรือตามข่าวโทรทัศน์
crêpes) โดยการเอาเหรียญสตางค์ 1 เหรียญ และวิทยุอาจมีเหตุการณ์น่าตกใจ ตื่นเต้นเป็นหัวข้อ
กำไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับกระทะ ข่าว แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นต่อมาจึงได้เฉลยว่าข่าวที่
แล้วโยนขนมให้ไปกลับด้านกลางอากาศแล้ว ลงไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด บ้างเชื่อกันว่า
พยายามรับลงกระทะให้ได้ หากใครรับได้เชื่อว่าคน เทศกาลนี้เริ่มขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสและเป็นที่นิยม
นั้นจะโชคดีและมั่งมีตลอดปี กันไปทั่วโลก

Pâques Fête du travail

วันอีสเตอร์ จัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน (เริ่ม 1 พฤษภาคม วันนี้เป็นวันแรงงานแห่งชาติ บรรดา
ฉลองในวันอาทิตย์แรกหลังคืนวันเพ็ญแรกของฤดู ผู้ใช้แรงงานจะไปร่วมเดินขบวนกับสหภาพ (defi
ใบไม้ผลิ) เป็นวันที่ชาวคริสต์เฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึง les syndicaux) และเป็นธรรมเนียมที่จะให้กิ่งดอก
การฟื้ นคืนพระชนม์ชีพของพระเยซู (la résurrection มูเกต์ (un brin de muguet) ซึ่งเป็นดอกไม้สีขาว
du Christ) หลังจากที่ถูกตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์
ได้สามวัน ตามตำนานเล่าว่าในระหว่าง jeudi saint และ ทรงระฆังมีกลิ่นหอมแก่ผู้ที่เรารักใคร่โดยถือว่าเป็น
samedi saint ซึ่งเป็นวันก่อนเทศกาลอีสเตอร์ ระฆัง ดอกไม้นำโชค

ตามโบสถ์ต่างๆ จะเงียบสนิทเนื่องจากบินไปรับพร

ศักดิ์สิทธิ์ที่กรุงโรม และเมื่อบินกลับมาในวันอาทิตย์
ก็ได้พาสิ่งมงคลมาด้วย

สำหรับชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่เมื่อถึงเทศกาลนี้ก็จะถือ
เป็นวันเริ่มต้นงานฉลอง แต่ละครอบครัวจะมารับ
ประทานอาหารร่วมกัน และกิจกรรมสำคัญที่เด็กๆ

ตั้งตารอคอยก็คือการออกค้นหาช็อกโกแลตรูปไข่
(des œufs en chocolat) ที่พ่อแม่ซ่อนเอาไว้ตามที่
ต่างๆ ทั้งในบ้านและในสวนอย่างสนุกสนาน (บางร้านจะ
มีการทำช็อกโกแลตเป็นรูปอื่นด้วย เช่น ระฆัง แม่ไก่
กระต่าย ปลา เป็นต้น) สำหรับเทศกาลนี้มีวันหยุดให้
นักเรียน นักศึกษาประมาณ 10 วัน เรียกว่า
Vacances de Pâques

Jour de la Victoire 1945 Ascension et la
Pentecôte
8 พฤษภาคม วันชัยในทวีปยุโรป เป็นวันฉลอง
ชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ของกองทัพ Ascension (วันพระเยซูขึ้นสวรรค์) นั้นตรงกับวัน
สัมพันธมิตรเหนือเยอรมนี ภายใต้การนำของ พฤหัสบดีสัปดาห์ที่ 6 ถัดจากวันอีสเตอร์ เป็นวัน
ฮิตเลอร์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1945 ฉลองการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเยซูหลังจาก
การฟื้ นคืนพระชนม์ชีพ ส่วน la Pentecôte (วัน
ฉลองพระจิต) ตรงกับวันจันทร์สัปดาห์ที่ 8 ถัดจาก
วันอีสเตอร์ เป็นการเฉลิมฉลองการที่พระจิตเสด็จ
ลงมาโปรดนักบุญผู้เผยแพร่คำสอน

Fête nationale Assomption

วันชาติฝรั่งเศส ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคมของทุก 15 สิงหาคม วันนี้เป็นการเฉลิมฉลองของพวกที่
ปี เป็นการเฉลิมฉลองที่ระลึกถึงวันครบรอบที่ชาว
กรุงปารีสบุกเข้ายึดคุกบาสตีย์ (la prise de la นับถือนิกายโรมันคาทอลิกโดยเฉพาะ ซึ่งกล่าวได้
Bastille) ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 การทำลาย ว่าเป็น fête de la Vierge Marie เป็นวันที่
คุกของรัฐแห่งนี้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์เท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นของ พระแม่มารีเสด็จขึ้นสู่สรวงสวรรค์ สำหรับงาน
การสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ ฉลองนี้ซึ่งอยู่ในช่วง vacances d’été ผู้คนบาง
ส่วนจะเริ่มเดินทางกลับจากการไปพักผ่อน จึง
ในงานฉลองวันชาติที่กรุงปารีสจะมีการเดินสวน ทำให้การจราจรบนทางหลวงของฝรั่งเศสคับคั่ง
สนามของทหารจากกองทัพ (le défilé militaire) มาก
ที่ avenue des Champs-Élysées และมีการจุด
ดอกไม้ไฟ (les feux d’artifice) เพื่อเป็นการเฉลิม
ฉลองอย่างสวยงาม

Toussaint Armistice

1 พฤศจิกายน วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย จัดเป็น 11 พฤศจิกายน วันครบรอบวันสงบศึก
วันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นวันเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นวันฉลองที่ระลึกถึงการที่
เสียชีวิตไปแล้ว มีดอกเบญจมาศ (le เยอรมนียอมเซ็นสัญญาสงบศึกในสงครามโลก
chrysanthème) เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของวัน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 ในวันนี้
นี้ ประธานาธิบดีจะเดินทางมาวางหรีดที่หลุมศพของ

เทศกาล la Toussaint เป็นการเฉลิมฉลองให้กับ ทหารนิรนามที่บริเวณประตูชัย
นักบุญทั้งหลาย ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 2 พฤศจิกายน
จะเป็นวันสำหรับการเคารพคารวะบุคคลที่ล่วงลับ
ไปแล้วที่สุสานหรือหลุมฝังศพ ซึ่งบรรดาลูกหลาน
จะไปทำความสะอาดหลุมศพกันแต่เช้าพร้อมกับ
ประดับประดาด้วยดอกไม้

Noël

Noël หรือวันคริสต์มาส ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงการ
ประสูติของพระเยซู จึงถือเป็นงานฉลองทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของชาวคริสต์
ในช่วงนี้สถานศึกษาหรือบริษัท ห้าง ร้านส่วนใหญ่จะหยุดทำการเป็นเวลา 15 วัน

มีการสร้าง la crèche คือฉากจำลองเหตุการณ์ที่ประกอบด้วยคอกสัตว์หรือถ้ำ
พระแม่มารี นักบุญโจเซฟ พระกุมารเยซู ลาและวัว la crèche นี้จะพบเห็นได้ทั้ง
ตามโบสถ์และบ้านเรือน และถือเป็นส่วนหนึ่งของการประดับประดาเนื่องในโอกาส
สำคัญนี้เช่นเดียวกับต้นสน

ตามธรรมเนียมในคืนวันที่ 24 ธันวาคม (la veille de Noël) จะมีการเตรียมอาหาร
มื้อพิเศษซึ่งเรียกว่า réveillon โดยอาจจะมีตับบด ปลาแซลมอนรมควัน คาเวียร์
หอยนางรม ไก่งวงยัดไส้เกาลัค พร้อมไวน์หรือแชมเปญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานะทาง
เศรษฐกิจและความนิยม สำหรับของหวานนั้นจะรับประทาน la bûche de Noël
ซึ่งเป็นขนมเค้กม้วนให้มีรูปร่างเหมือนท่อนฟืน พวกคาทอลิกนั้นจะรับประทาน
อาหารมื้อนี้หลังพิธีสวดมิซซาตอนเที่ยงคืน (la messe de minuit) ช้ากว่าพวก
อื่นๆ ส่วนเด็กๆ จะรีบเข้านอนและเอาถุงเท้าไปแขวนไว้ที่ sapin de Noël โดยเชื่อ
ว่า Père noël จะลงมาทางปล่องไฟและแวะเอาของขวัญมาใส่ไว้ในถุงเท้าให้เด็กๆ

Mardi Gras Fête des mères

Mardi gras เป็นเทศกาลทางศาสนาคริสต์ เทศกาลวันแม่ (la fête des mères) อยู่ในช่วง

คาทอลิก จัดขึ้นในราวเดือนกุมภาพันธ์ในวันก่อน ปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน
หน้าวันถือศีลอด (le Carême) เทศกาลนี้จึงถือ เทศกาลนี้เริ่มเป็นที่นิยมมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 6
ที่กรุงโรม ในปี ค.ศ. 1806 นโปเลียนได้รื้อฟื้ น
เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นการถือศีลอด โดย
ในวันนี้ชาวคริสต์จะจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองกัน เทศกาลนี้กลับขึ้นมาอีกครั้ง และมีการประกาศให้
เป็นวันสำคัญอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1929
อย่างสนุกสนานและรับประทานอาหารกันอย่างอิ่ม ส่วนเทศกาลวันพ่อ (la fête des pères) เริ่มมีขึ้น
หนำสำราญ (เป็นที่มาของการเรียกชื่อเทศกาลว่า ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1952 จัดในราวปลายเดือน
gras ซึ่งแปลว่าเต็มไปด้วยไขมัน) ก่อนที่จะเข้าสู่
มิถุนายน
ช่วงเวลาแห่งการอดอาหารในวันรุ่งขึ้นเป็นเวลา
ติดต่อกัน 40 วันยกเว้นวันอาทิตย์ การจัดเทศกาล
Mardi gras นี้ประกอบไปด้วยขบวนแห่ซึ่งผู้คนทั้ง
เด็กและผู้ใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดแฟนซี และใส่

หน้ากาก

Fête de la Musique

หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า World Music Day งานเทศกาลดนตรีนี้ได้วางแนวคิดไว้ง่ายๆ คือ เปิด
(Journée Mondiale de la Musique) ในปี ค.ศ. 1982 โอกาสให้ทุกคนได้ร้องรำทำเพลงกันอย่างเต็มที่ตาม
นาย Jack LANG รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมในขณะ ถนนหนทางโดยไม่ต้องกังวลว่าจะผิดกฎหมายว่าด้วย
การทำเสียงดังหรือเกะกะกีดขวางการจราจร ทั้งใน
นั้น ได้ริเริ่มให้มีการจัดงานเทศกาลดนตรีขึ้น โดยงานนี้จัด เมืองใหญ่และเมืองเล็ก นักดนตรีจะออกมาเล่นดนตรี
เป็นประจำทุกปีในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้น กันอย่างสนุกสนานตามท้องถนน สวนสาธารณะ หรือ
ของฤดูร้อน ด้วยความลงตัวอย่างบังเอิญของช่วงเวลา แม้กระทั่งหน้าบ้าน ในงานนี้นักดนตรีที่ไม่มีชื่อเสียงก็จะ
ได้กลายเป็นดาราและได้รับเสียงปรบมือ ตามถนนจะ
การจัดงาน ทำให้งานเทศกาลดนตรีนี้ได้รับความนิยม เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินผ่านวงดนตรีและหยุดฟังไป
เรื่อยๆ ก่อนที่จะเริ่มออกท่าทางเต้นรำกัน
อย่างแพร่หลายและรวดเร็ว


Click to View FlipBook Version