The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สถานที่ท่องเที่ยว 15

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by No name Channel, 2020-02-20 00:24:56

สถานที่ท่องเที่ยว 15

สถานที่ท่องเที่ยว 15

50

อ่างเก็บน้าท่งุ แหลม

ดนิ เเดนภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือหรือภำคอีสำนของประเทศไทยน้นั เหมอื นวำ่ จะไมม่ ีไดม้ สี ถำนท่ี
ท่องเท่ียวอะไรมำกมำยนกั เเตข่ อบอกเลยวำ่ ดินเเดนท่ีรำบสูงเเห่งน้ีน้นั มีอะไรที่น่ำสนใจอยู่อยำ่ ง
มำกมำยเลยทีเดยี ว อยำ่ งที่จงั หวดั เลก็ ๆ ท่กี ำลงั มีช่ือเสียงอยำ่ งมำกอย่ำงจงั หวดั บรุ ีรมั ย์ ก็มีที่เทีย่ ว
จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ ที่น่ำสนใจหลำยตอ่ หลำยเเห่งดว้ ยกนั เเละมีนกั ท่องเท่ียวให้ควำมสนใจมำเที่ยวชมกนั
อย่ำงมำกมำยเลยทีเดยี วอยำ่ งที่ อ่ำงเก็บน้ำทุ่งแหลม อำ่ งเก็บน้ำทงุ่ แหลม-สวยงำม

สำหรบั อ่ำงเกบ็ น้ำทงุ่ แหลม เเลว้ นบั วำ่ เป็นอีกเเหล่งน้ำท่มี ีควำมสำคญั อยำ่ งมำกของจงั หวดั บุรีรมั ย์ จงึ
ทำใหท้ ่นี ี่เป็นทีพ่ กั ผอ่ นทม่ี ีควำมน่ำสนใจอยำ่ งมำกอีกเเหลง่ สำหรับคนบรุ ีรัมยเ์ เละนกั ทอ่ งเทีย่ วตำ่ งถ่นิ
โดยมนั ต้งั อยู่ห่ำงจำกตวั อำเภอนำงรองเป็นระยะทำงประมำณ 4 กโิ ลเมตรเทำ่ น้นั เอง นบั วำ่ เป็นอีก
หน่ึงในสถำนท่ีท่องเท่ียวทีม่ ีควำมน่ำสนใจเป็นอยำ่ งมำกเลยทีเดยี ว เเละหำกใครมำเทย่ี วบุรีรมั ยเ์ เลว้
ตอ้ งไมพ่ ลำดเเวะมำเที่ยวชมท่ีนี่ดซู กั คร้งั

อ่ำงเก็บน้ำทุง่ แหลม น้นั นบั ว่ำเป็นอ่ำงเก็บน้ำทม่ี ีขนำดเลก็ ที่มีกำรจดั สร้ำงข้นึ เพอ่ื เป็นเเหลง่ กกั เก็บน้ำ
ไวใ้ ชใ้ นกำรเกษตรในฤดูเเหง้ โดยทีน่ ี่เป็นเเหล่งที่มพี นั ธุป์ ลำนำนำชำติ โดยจะมชี ำวประมงมำหำปลำ
เป็นจำนวนมำก เเละบริเวณของสนั เข่อื นน้นั ก็มีควำมสวยงำมเป็นอย่ำงมำก เพรำะมีววิ ทวิ ทศั นท์ ี่
งดงำมอย่ำงมำก จึงกลำยเป็นสถำนท่ีทอ่ งเท่ยี วท่ีชำวนำงรองใหค้ วำมนิยมมำนงั่ ชมวิวทิวทศั นอ์ ยำ่ ง
มำกเลยทีเดียว และเป็นอกี จุดทน่ี กั ท่องเท่ยี วท่มี ำเยือนจงั หวดั บุรีรมั ยก์ ็ไม่พลำดจะมำชมทวิ ทศั น์ที่
งดงำมของวิวทิวทศั นท์ บี่ ริเวณแห่งน้ีเหมือนกนั

51

โดยปัจจบุ นั น้นั มกี ำรพฒั นำให้ อำ่ งเกบ็ น้ำทงุ่ แหลม เป็นเเหล่งทอ่ งเท่ียวที่มีควำมสำคญั อย่ำงมำกอยำ่ ง
มำก โดยนบั ว่ำเป็นเเหลง่ ทจี่ ะมนี กั ทอ่ งเทย่ี วเเละนกั เดนิ ทำงเเวะมำเป็นอย่ำงมำก เพรำะต้งั อยรู่ ิมถนน
อกี ดว้ ย โดยมีศำลำหลำยหลงั ท่ีให้คณุ ไดน้ งั่ เล่นชิลๆ รับลม นอกจำกน้ีเเลว้ ในฤดูเเลง้ กจ็ ะมีนกเป็ดน้ำ
จำนวนไมน่ ้อยที่จะมำอำศยั อยู่บริเวณน้ี ทำใหม้ ีนกั ท่องเท่ยี วนิยมเป็นอยำ่ งมำกเลยทเี ดยี ว พรอ้ มท้งั ท้่นี ่ี
ยงั เป็นบริเวณท่จี ดั กิจกรรมในกำรเเขง่ เรือยำวประจำปี อกี ดว้ ย นบั วำ่ เป็นอีกเเหลง่ ทอ่ งเทย่ี วท่ีน่ำสนใจ
อยำ่ งมำกเลยทเี ดียว

วดั ภูมำ่ นฟ้ำ เป็นวดั เกำ่ ในเขตเทศบำลเมอื งนำงรอง ซ่ึงสร้ำงข้ึนในสมยั กรุงศรีอยุธยำ มีประวตั ศิ ำสตร์
ยำวนำน สำมำรถศึกษำสถำปัตยกรรม ประวตั ศิ ำสตร์ได้ เพรำะเมืองนำงรองเป็นเมืองเก่ำแก่ที่สุดอีก
แห่งในประเทศ อำทิ วดั กลำงนำงรอง วดั ขุนกอ้ ง วดั ร่องมนั เทศ

52

ปราสาทวดั โคกงวิ้

ปรำสำทโคกงิว้ ต้งั อยู่ตำบลปะคำ ดำ้ นหลงั วดั โคกงวิ้ เป็นศำสนสถำนในศำสนำพทุ ธลทั ธิมหำยำน ก่อ
ดว้ ยศิลำแลง และหินทรำย แผนผงั เป็นรูปสี่เหลีย่ มผนื ผำ้ หนั หนำ้ ไปทำงทศิ ตะวนั ออก ประกอบดว้ ย
ปรำสำทประธำน วหิ ำร กำแพงแกว้ ซุม้ ประตู สระน้ำ โบรำณสถำนแห่งน้ีสันนิษฐำนวำ่ เป็นอโรคยำ
ศำลหรือโรงพยำบำลในจำนวน 102 แห่งทส่ี รำ้ งข้นึ ตำมพระรำชดำริของพระเจำ้ ชยั วรมนั ที่ 7 ในช่วง
พทุ ธศตวรรษที่ 18 กำรเดินทำง ตำมทำงหลวงหมำยเลข 348 (นำงรอง-ปะคำ) กอ่ นถึงอำเภอปะคำ 3
กิโลเมตร ปรำสำทโคกง้วิ

ปราสาทตาดา

เสน้ ทำงสู่ปรำสำทหนองตำสี เป็นทำงลูกรงั ครบั ไปลำบำกมำกไม่มีป้ำยบอก สถำนที่ต้งั อยูน่ อก
หมู่บำ้ น ม.4 บำ้ นโนนสมบูรณ์ ตำบลไทยเจริญ อำเภอปะคำ ปรำสำทหนองตำสีมีสภำพทพี่ งั ทลำยยงั
ไมไ่ ดร้ บั กำรบรู ณะจำกกรมศิลปำกร ปรำงคส์ ร้ำงดว้ ยศิลำแลง ในอดตี เป็นศำสนสถำน ปัจจบุ นั เป็น
แหลง่ โบรำณสถำน ปรำงคป์ ระธำนก่อดว้ ยศิลำแลงแผนผงั เป็นรูปส่ีเหลีย่ มจตั รุ สั ย่อมุม ฐำนมีขนำด

53

3*3 ม. ประตมู ี3 ดำ้ น เป็นประตหู ลอก กรอบประตูเป็นหินทรำย กำแพงแกว้ ก่อดว้ ยศิลำแลงมขี นำด
19*22 ม. ซุม้ ประตูอยู่ดำ้ นทิศตะวนั ออก จำกกำรสำรวจโดยกรมศิลปำกรพบชิ้นส่วนทบั หลงั จำหลกั
ภำพบุคคลยนื ลกั ษณะกำรนุ่งผำ้ คลำ้ ยกบั ประติมำกรรมหินทรำยรูปบุคคลยนื ทพ่ี บท่ีปรำสำทหินบำ้ น
ถนนหัก อ.โชคชยั จ.นครรำชสีมำ อยู่ ในเขตบำ้ นโนนสมบรู ณ์ ต.ไทยเจริญ อ.ปะคำ ส่ิงก่อสรำ้ งของ
ปรำสำทแห่งน้ีประกอบดว้ ย ปรำงคป์ ระธำนกอ่ ศลิ ำแลง เสำกรอบประตูเป็นหินทรำย หันหนำ้ ไป
ทำงทิศตะวนั ออก ยอดพงั ทลำยลงเหลือเพียงส่วนลำ่ ง มซี ุม้ ประตูทำงเขำ้ ดำ้ นตะวนั ออก ดำ้ นอน่ื ๆ
เป็นประตหู ลอก สลกั ลวดลำยงดงำมอยูใ่ นวงลอ้ มของกำแพงศลิ ำแลง ซ่ึงทำงดำ้ นใตม้ สี ่ิงก่อสร้ำง
คลำ้ ยหอ้ ง ถดั จำกกำแพงออกไปมีแนวลำคูลอ้ มรอบแนวกำแพง 3 ดำ้ น เวน้ แต่ดำ้ นตะวนั ออกซ่ึงเป็น
ดำ้ นทำงเขำ้ ชิน้ ส่วนของปรำสำทถกู โจรกรรมไปมำก ทำให้ไมท่ รำบวำ่ เป็นศำสนสถำนใดลทั ธิ
ศำสนำใด แต่จำกลวดลำยกำ้ นตอ่ ดอกและรูปบคุ คล ลวดลำยกำรแต่งกำย สนั นิษฐำนวำ่ น่ำจะสร้ำง
ในรำวพุทธศตวรรษที่ 16 โดยไดร้ ับอิทธิพลศิลปะแบบบำปวน

เม่อื ไดร้ บั กำรเชิญชวนจำกรุ่นพ่ที ่ีทำวิจยั เกย่ี วกบั เรื่องปรำสำท ผมซ่งึ ช่ืนชอบเร่ืองกำรสสำรวจแหล่ง
โบรำณสถำนอยูแ่ ลว้ จงึ ไม่ผลำดกำรเชิญชวนคร้งั น้ีแน่นอนครบั โดยกำรสำรวจแหล่งโบรำณสถำน
คร้งั น้ีมขี อบเขตกำรสำรวจคอื อำเภอปะคำ จงั หวดั บุรีรัมย์ ผมจงึ ไดห้ ำขอ้ มูลเพิม่ เติมและร่ำงแผนท่ี
เตรียมตวั เดนิ ทำงครบั ซ่ึงเสน้ ทำงกไ็ ม่ไกลจำกทผ่ี มพกั อยเู่ ท่ำไหร่ครบั ใชเ้ วลำในกำรเดนิ ทำงชว่ั โมง
กวำ่ ๆเองครับ

เชำ้ วนั ต่อมำต่ืนเชำ้ เดินทำงจุดหมำยปลำยทำงคือ อำเภอปะคำ จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ รุ่นพี่มำรบั ท่ี บขส อำเภอ
นำงรอง ต่อดว้ ยรถยนตเ์ ขำ้ ไปถงึ โรงเรียนไทยเจริญวิทยำเพือ่ หำไกดน์ ำทำงครับ ชื่อ อำจำรยไ์ พฑูรย์
ครูสอนคณิตศำสตร์ท่ีโรงเรียนไทยเจริญวิทยำ และกไ็ ม่ผดิ หวงั ครบั ครูไพฑูรย์ นำทำงไปสู่จุดหมำยท่ี
แห่งแรกคอื ปรำสำทหนองตำสี(ตำดำ)

ปรำงคป์ ระธำน ก่อดว้ ยศลิ ำแลงมแี ผนผงั เป็นรูปส่ีเหลย่ี มจตั รุ สั ยอ่ มุม ฐำนมขี นำดประมำณ 3 x 3 เมตร
มีประตูอยู่ทำงดำ้ นทิศตะวนั ออกอีกสำมดำ้ นเป็นประตหู ลอก กรอบประตูเป็นหินทรำย กำรเขำ้ กรอบ
ประตเู ลียน แบบเครื่องไม้ กำแพงแกว้ และซุ้มประตู กอ่ ดว้ ยศิลำแลงแผนผงั เป็นรูปส่ีเหลี่ยมผืนผำ้ มี
ขนำด 19 x 22 เมตร มี ซุม้ ประตูอยทู่ ำงดำ้ นทศิ ตะวนั ออก มลี กั ษณะดงั น้ี คอื มปี ี กท้งั 2 ขำ้ ง เจำะช่อง
หน้ำตำ่ งและทต่ี วั กำแพงแกว้ ดำ้ นทิศใต้ มหี อ้ ง 1 ห้อง ดำ้ นทิศเหนือของหอ้ งมีประตเู ขำ้ ไปภำยในศำ
สนสถำน ผนงั ดำ้ นอื่นปิ ดทึบ ลกั ษณะ คลำ้ ยวหิ ำรคด จำกกำรสำรวจของกรมศิลปำกร เมอ่ื พ.ศ. 2502
พบชิน้ ส่วนทบั หลงั จำหลกั ภำพบุคคลยืน ลกั ษณะกำรนุ่งผำ้ คลำ้ ยกบั ประติมำกรรมหินทรำย อำยุ

54

ประมำณ พุทธศตวรรษที่ 16กำรกำหนดอำยุของปรำสำทวเิ ครำะหจ์ ำกเสำประดบั กรอบประตซู ่ึงอำจ
ตรงกบั ศิลปะแบบบนั ทำยศรี เสำประดบั กรอบประตูดงั กลำ่ วมีลกั ษณะเป็นเสำแปดเหล่ียม ซ่ึงคงมลี ำย
วงแหวนอยูเ่ ฉพำะทีก่ ่ึงกลำงเสำ และทเี่ ส้ียวของเสำ ลำยใบไมท้ ่ีประดบั อยู่เหนือและใตว้ งแหวนมี
ขนำดเท่ำกนั ทุกใบ และระหว่ำงใบไมแ้ ตล่ ะใบมีลำยอุบะแทรกอยเู่ ป็นระยะก่งึ เส้ียวของเสำไดห้ ำยไป
เหลือเพียงช่องว่ำงระหวำ่ งลำย ดว้ ยเหตทุ ี่วำ่ เสำประดบั กรอบประตใู นศิลปะร่วมแบบบนั ทำยศรีนิยม
เลยี นแบบเสำในศลิ ปะร่วมแบบเขมร ต้งั แต่สมยั ร่วมแบบไพรกเมงในชว่ งแรกๆซ่ึงไมป่ รำกฏก่ึงเส้ียว
ของเสำแตอ่ ย่ำงใด ลกั ษณะพวกอบุ ะท่ีแทรกระหวำ่ งลำยใบไมน้ ้ีอำจถอื เป็นเอกลกั ษณ์ของลวดลำยบน
เสำประดบั กรอบประตใู นศิลปะร่วมแบบบนั ทำยศรีไดแ้ มว้ ่ำลำยอุบะน้ีไดค้ งอยูต่ ่อมำในศิลปะร่วม
แบบเขมรในประเทศไทยเป็นเวลำนำนกวำ่ ศิลปะเขมรในประเทศกมั พูชำก็ตำม นอกจำกน้ีลกั ษณะกำร
เขำ้ ประตขู องปรำสำทบำ้ นใหมไ่ ทยเจริญน้ีอำจนำไปศึกษำเทยี บเคียงไดก้ บั ปรำสำทเสคตำตุย ใน
ศลิ ปะเขมรในประเทศกมั พชู ำ ซ่ึงสรำ้ งข้นึ ในรชั กำลของพระเจำ้ ชยั วรมนั ท่ี 5 อนั เป็นสมยั ที่เจิญข้นึ
ของศลิ ปะแบบบนั ทำยศรีน้ีเอง ปัจจุบนั โบรำรสถำนแห่งน้ีเป็นทีต่ ้งั ของโบสถใ์ นศำสนำคริสต์นิกำย
โรมนั คำทอลิค โดยสร้ำงศำลำหลงั คำมุงสังกะสีคลมุ เสำกรอบประตูปรำงคท์ ้งั 4 ดำ้ นไว้ เพ่ือเป็นท่ี
ประดิษฐำนรูปพระแม่มำรี

ปรำสำทหลงั ทส่ี ำมในทริปคร้ังน้ีคอื ปรำสำทบำ้ นโคกปรำสำทครบั ครูไพฑูรย์ บอกว่ำเสียดำยปรำสำท
หลงั น้ีมำกครบั เพรำะยงั ไม่มีภำคส่วนใดเขำ้ ไปสำรวจปลอ่ ยให้ทง้ิ รำ้ งกลำงป่ ำหลงั จำกออกจำก
ปรำสำทบำ้ นใหมไ่ ทยเจริญมำไมไ่ กลครบั ขบั รถมำถงึ บำ้ นโคกปรำสำทครบั ขบั รถไปตำมถนนลกู รัง
อกี แลว้ ครับ ฮฮุ ุ สนุกดีครบั ขบั เขำ้ ไปตำมไร่นำครบั ครูไพฑรู ยน์ ำทำงเขำ้ ไปในสวนครบั สวนมนั
สำปะหลงั เดินฝ่ ำเขำ้ ไป แดดรอ้ นมำกครับเหง่อื โทรมกำยเลยครับแต่เพรำะปรำสำทหลงั น้ียงั ไม่มีคน
เขำ้ มำสำรวจจงึ ตอ้ งไปเก็บขอ้ มลู ให้ได้ ครูไพฑรู ยเ์ ดินนำทำงไปเป็ นเวลำนำนครับแกบอกว่ำสงสยั คง
จำผิดทฮี่ ำ่ ๆๆ สรุปคอื ตอ้ งพำกนั ฝ่ ำป่ ำมนั สำปะหลงั ออกมำอกี ครับ กำรคน้ หำปรำสำทหลงั น้ีสนุกละ
ต่นื เตน้ ดีครบั เหมอื นละครทีต่ อ้ งตำมหำปรำสำททสี่ ำบสูญเลยครับ หลงั จำกท่ีมำผิดทเี่ ลยตำมต่อไมอ่ ีก
ไม่ไกลครบั สอบถำมชำวบำ้ นมำเรื่อยๆและก็ไดข้ อ้ มลู ครบั ปรำสำทหลงั น้ีปัจจบุ นั เป็นพืน้ ทีก่ รรมสิทธ์ิ
ของรำษฏร์ครบั ถ้ำเป็ดทอง ศิลำจำรึกถ้ำเป็ดทอง เป็นจำรึกบริเวณผนงั ถ้ำดำ้ นนอกและดำ้ นในของถ้ำ
(ปัจจบุ นั น้ำท่วมปิ ดถ้ำแลว้ ) ถ้ำเป็ดทอง อยู่ในเทอื กเขำเต้ียๆ บำ้ นหนิ โคนใหญ่ ต. ปะคำ อ. ปะคำ จ.
บุรีรัมย์ ระหวำ่ งเทือกเขำ มีรอยหักน้ำไหลผ่ำนได้ บริเวณถ้ำมรี อยน้ำเซำะ เป็นซอกหินขำดเป็นตอนๆ
รูปคลำ้ ยเรือ บริเวณอกั ษรจำรึกมรี อยขุดหินผนงั ถ้ำลึก 5 มลิ ลิเมตร ใหผ้ นงั เรียบเป็นหนำ้ สมดุ แลว้ จงึ
จำรึกตวั อกั ษร มีผเู้ ลำ่ ว่ำภำยในถ้ำน้ีแตเ่ ดิมมเี สำหินค้ำเพดำนถ้ำอยดู่ ว้ ย แต่ปัจจุบนั เสำน้นั ไม่มแี ลว้ คงมี

55

แตห่ ลมุ เปลำ่ บริเวณผนงั ถ้ำเป็ดทองมอี กั ษรจำรึก 3 ตอนอยภู่ ำยใน ถ้ำตอนหน่ึง เรียกชื่อวำ่ ศิลำจำรึก
ถ้ำเป็ดทองดำ้ นใน บร.3 อีกตอนหน่ึง อยู่บริเวณผนงั ถ้ำดำ้ นนอก เรียกช่ือว่ำ ศิลำจำรึกถ้ำเป็ดทองดำ้ น
นอก บร.4 อีกตอนหน่ึงซ่ึงเป็นตอนที่ 3 อย่บู ริเวณผนงั ถ้ำดำ้ นนอกเช่นเดียวกนั เรียกชื่อวำ่ ศลิ ำจำรึก
ผนงั ถ้ำเป็ดทอง บร.5 ขอ้ ควำมในจำรึกบริเวณผนงั ดำ้ นนอกถ้ำกล่ำวถงึ พระเจำ้ จติ รเสน กษตั ริยผ์ ูเ้ รือง
อำนำจแห่งกมั พชู ำประเทศ ส่วนขอ้ ควำมในจำรึกบริเวณผนงั ดำ้ นในถ้ำกลำ่ วถึงกำรบูชำพระผเู้ ป็นเจำ้
จำรึกถ้ำเป็ดทอง อกั ษรปัลลวะ ภำษำสนั สกฤต ทำข้นึ รำวหลงั พ.ศ. 1100 (พุทธศตวรรษท่ี 12)
อำเภอโนนดนิ แดง
เขอ่ื นลำนำงรอง เป็นเขอ่ื นดินฐำนคอนกรีตขนำดใหญ่ จนุ ้ำไดป้ ระมำณ 150 ลำ้ นลูกบำศกเ์ มตร มี
ถนนลำดยำงบนสันเขือ่ นเชื่อมตอ่ ไปยงั หมบู่ ำ้ นตวั อยำ่ ง หมู่บำ้ นพฒั นำหนองตำเยำว์ และหนองหวำ้
ซ่ึงอย่ใู กลช้ ำยแดนเพียง 20 กวำ่ กโิ ลเมตรเทำ่ กนั ทส่ี ันเขอื่ นมีหินลอย (หินภเู ขำไฟอกี ชนิดหน่ึง) เป็น
กอ้ นและแผ่นสีสนั แบง่ กนั เป็นช้นั สวยงำม ซ่ึงไดน้ ำไปกองก้นั น้ำเซำะสันเขื่อน นอกจำกน้ี ยงั เป็นที่
เทย่ี วท่มี ีช่ือเสียงในอำเภอโนนดนิ แดง บรรยำกำศสวยงำม

อนุสาวรีย์เราสู้

รายละเอียด อนุสำวรียเ์ รำสู้ สรำ้ งเพือ่ เป็นอนุสรณ์รำลึกถงึ เกียรติประวตั ิ และสดุดีวรี กรรมประชำชน
เจำ้ หน้ำท่ีท้งั ฝ่ ำยพลเรือน ตำรวจ ทหำร ทีไ่ ดผ้ นึกกำลงั เขำ้ ร่วมตอ่ สูก้ บั ผกู้ ่อกำรร้ำยคอมมวิ นิสต์ ท่ดี กั
ซุ่มโจมตีขดั ขวำงกำรกอ่ สร้ำงถนนสำยละหำนทรำย-ตำพระยำ และดว้ ยควำมกลำ้ หำญ ควำมรกั
สำมคั คีเป็นน้ำหน่ึงใจเดียวกนั

56

ลักษณะเด่น

เพอ่ื เป็นกำรรำลึกถงึ กำรเสียสละอนั ยิ่งใหญแ่ ละสดุดีวีรกรรมของผูก้ ลำ้ ถงึ บรรพบุรุษของไทยต้ังแต่
อดตี ที่ผำ่ นมำ ไมว่ ่ำจะเป็นผหู้ ญงิ หรือผูช้ ำย ที่ไดย้ อมเสียสละเลอื ดเน้ือและชีวิต เพ่ือปกป้องรกั ษำผนื
แผน่ ดินไทยเอำไว้ ใหเ้ ป็นมรดกตกทอดถงึ ลกู หลำน จนพวกเรำทกุ คนไดอ้ ย่กู ันอย่ำงร่มเยน็ เป็นสุขสืบ
ต่อมำ กำรท่คี นในรุ่นต่อๆกนั มำจะแสดงออกไดถ้ ึงกำรสำนึกในบญุ คณุ และเทิดทูนวรี กรรมดงั กล่ำวน้ี
กค็ อื กำรสร้ำงอนุสรณ์สถำนเพอ่ื เป็นเครื่องเตือนใจดงั เชน่ “อนุสำวรียเ์ รำสู้” เป็นควำมภำคภูมใิ จใน
สำยเลือดผูก้ ลำ้ ของลกู หลำนชำวบุรีรมั ย์ และตำ่ งให้คำมนั่ สญั ญำที่จะสืบสำนปณิธำนเพ่ือรกั ษำ
แผ่นดนิ ไทยให้คงอยคู่ ู่นิรันดร์

ประวตั ิอนุสาวรีย์เราสู้

เป็นอีกอนุสำวรียห์ น่ึงทสี่ ร้ำงข้นึ เพอื่ ระลกึ ถงึ ชำวบำ้ น ตำรวจ ทหำร และผูท้ เ่ี สียสละทช่ี ว่ ยกนั ปกป้อง
ตอ่ สู้จำกผกู้ ่อกำรร้ำย ท่ีเกิดข้นึ เมือ่ คร่ึงทศวรรษทผ่ี ำ่ นมำ ตอ้ งขอยกยอ่ ง ชมเชยและเชิดชเู หลำ่ ผู้
เสียสละ ผูก้ ลำ้ ถึงวรี กรรมจึงทำใหเ้ กิดอนุสำวรียเ์ รำสู้น้ีข้ึนมำ เร่ืองรำวเกดิ ข้นึ ก่อนปี พ.ศ.2508 ในห้วง
เวลำทีเ่ กดิ ควำมขดั แยง้ ทำงดำ้ นอดุ มกำรณท์ ำงกำรเมืองอย่ำงรุนแรง จนถงึ ข้นั ใชก้ ำลงั เขำ้ ตดั สินปัญหำ
ไดม้ กี ำรยุยงปลุกป่ันรำษฎรให้เล่ือมใสในลทั ธิคอมมิวนิสต์ เพอื่ ตอ่ ตำ้ นรฐั บำล ไดม้ กี ำรสะสมกอง
กำลงั ขนำดใหญข่ ้นึ เร่ือยๆ และมกี ำรกอ่ กำรรำ้ ยเป็นระยะๆ จนเมอ่ื วนั ที่ 24 กนั ยำยน 2513 เม่อื รฐั บำล
ไดเ้ ริ่มโครงกำรก่อสร้ำงเส้นทำงสำยยุทธศำสตร์ สำยละหำนทรำย-ตำพระยำ (ทำงหลวงหมำยเลข
348) เชื่อมระหวำ่ งหลกั กโิ ลเมตรที่ 61 อ.ละหำนทรำย จ.บรุ ีรมั ย์ กบั หลกั กิโลเมตรที่ 118 อ.ตำพระยำ
จ.สระแกว้ ในปัจจุบนั เป็นระยะทำง 57 กิโลเมตร ซ่ึงกำรท่ที ำงรฐั บำลไดม้ กี ำรก่อสรำ้ งเสน้ ทำงสำย
ยุทธศำสตร์บุรีรัมยน์ ้ี ก็เพรำะวำ่ มคี วำมสำคญั ตอ่ ควำมมน่ั คงของประเทศดำ้ นชำยแดนไทย-กมั พชู ำ
โดยตอ้ งตดั ผ่ำนเขตอิทธิพลของ ผกู้ อ่ กำรรำ้ ยคอมมวิ นิสต์ (ผกค.) ทำให้ฝ่ ำย ผกู้ ่อกำรร้ำยคอมมวิ นิสต์
ตอ่ ตำ้ นขดั ขวำงกำรก่อสรำ้ งสำยน้ีทกุ วิถที ำง ดว้ ยกำรวำงทนุ่ ระเบิดอยำ่ งหนำแน่น ท้งั ดกั ซุ่มยิง ดกั ซุ่ม
โจมตที ่ีต้ังกำลงั ทหำรทีค่ ุ้มกนั กำรก่อสรำ้ ง เหตกุ ำรณไ์ ดถ้ งึ จุดรุนแรงทส่ี ุดในปี พ.ศ.2521 เป็นเหตุให้
เกิดควำมสูญเสียท้งั เจำ้ หน้ำทพี่ ลเรือน ตำรวจ ทหำร อำสำสมคั รรกั ษำดนิ แดน (อส.) และไทยอำสำ
ป้องกนั ชำติ (ทสปช.) ทำใหร้ ำษฎรในพ้ืนท่พี ำกนั รวบรวมกำลงั พลดว้ ยควำมกลำ้ หำญ ควำมรกั
สำมคั คเี ป็นน้ำหน่ึงใจเดยี วกนั ตอ่ สู้กบั ผูก้ อ่ กำรรำ้ ยคอมมวิ นิสตอ์ ย่ำงห้ำวหำญเสน้ ทำงสำยน้จี ึงสำเร็จ
ลงได้ แตก่ ็ตอ้ งสูญเสียชีวติ ของเหลำ่ ผกู้ ลำ้ ถงึ 108 คน บำดเจบ็ 222 คน ในจำนวนน้ีทพุ พลภำพ 25 คน
และ สูญเสียยำนพำหนะ เคร่ืองมอื อปุ กรณก์ ่อสร้ำงรวม 23 คนั รวมระยะเวลำในกำรก่อสรำ้ งนำนถงึ 5

57

ปี 8 เดอื น สิ้นงบประมำณไปท้งั สิ้นถงึ 72,010,053 บำท เพอ่ื รำลึกถึงวรี กรรมของประชำชน ตำรวจ
ทหำร ทเี่ สียชีวิตจำกกำรตอ่ สู้กบั ผกู้ อ่ กำรรำ้ ยท่ขี ดั ขวำงกำรสรำ้ งเสน้ ทำงยทุ ธศำสตร์น้ี จึงไดม้ กี ำร
สร้ำง “อนุสำวรียเ์ รำสู้” ข้ึนมำโดย ฯพณฯ พล.อ.เปรม ตณิ สูลำนนท์ รัฐมนตรีว่ำกำร
กระทรวงมหำดไทย ในขณะน้นั ไดเ้ ป็นประธำนในพิธีวำงศลิ ำฤกษส์ ร้ำง “อนุสำวรียเ์ รำสู้” ข้นึ แห่งน้ี
ใชเ้ วลำกอ่ สร้ำงนำน 1 ปี ระหวำ่ งวนั ท่ี 27 สิงหำคม 2522 ถึง 26 สิงหำคม 2523 สรำ้ งในสมยั นำย
บำรุง สุขบษุ ย์ ดำรงตำแหน่งผวู้ ่ำรำชกำรจงั หวดั บุรีรัมย์ โดย กอ.รมน.จงั หวดั บรุ ีรมั ย์ ไดร้ ่วมกบั
ขำ้ รำชกำรและประชำชนชำวบุรีรมั ยร์ ่วมกนั จดั สร้ำงข้นึ ณ ริมทำงหลวงสำยละหำนทรำย-ตำพระยำ ท่ี
บำ้ นโนนดินแดง ต.โนนดินแดง อ.โนนดนิ แดง จ.บรุ ีรมั ย์ ห่ำงจำกศำลำกลำงจงั หวดั บุรีรัมย์ 103
กโิ ลเมตร คำว่ำ “เรำสู้” เป็นช่ือที่ พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยู่หวั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงมพี ระบรมรำ
ชำนุญำตให้ใช้ช่ือเพลงพระรำชนิพนธ์ “เรำสู้” มำใช้ โดยมพี ิธีเปิ ดอนุสำวรียไ์ ปเม่ือวนั ท่ี 26 สิงหำคม
2523 และไดถ้ อื เอำวนั ที่ 27 สิงหำคม ของทุกปี เป็นวนั รำลึกถงึ อนุสำวรียเ์ รำสู้ ซ่ึงทำงจงั หวดั และกอง
อำนวยกำรรกั ษำควำมมนั่ คงภำยในจงั หวดั บุรีรมั ย์ ไดจ้ ดั พธิ ีบำเพญ็ กศุ ล และวำงพวงมำลำ เพ่ือเป็น
เครื่องเตอื นใจใหค้ นไทยรำลึกถงึ วรี กรรมผกู้ ลำ้ เป็นประจำทกุ ปี

อยูร่ ิมทำงหลวงในเขต ต.โนนดนิ แดง อ.โนนดนิ แดง จ.บรุ ีรัมย์ ชำวบุรีรัมยร์ ่วมสร้ำงข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2522
เพ่ือรำลึกถงึ วีรกรรมของประชำชน, ตำรวจ และทหำร ทเ่ี สียชีวติ จำกกำรตอ่ สู้กบั ผกู้ ่อกำรรำ้ ย
คอมมวิ นิสต์ ซ่ึงขดั ขวำงกำรกอ่ สร้ำง ถนนสำยละหำนทรำย - ตำพระยำ

เขตรักษำพนั ธุ์สตั วป์ ่ ำดงใหญ่ ป่ ำที่อุดมสมบูรณท์ ำงตอนใตข้ องจงั หวดั บรุ ีรมั ย์ ห่ำงจำกอำเภอโนนดิน
แดง 5 กิโลเมตร เป็นแหลง่ ตน้ น้ำสำคญั ทำใหเ้ กิดพชื พนั ธุ์ สัตวป์ ่ ำทห่ี ลำกหลำย

58

วดั โพธ์ทิ รายทอง

เป็นวดั ของหลวงป่ ศู ขุ เกจิอำจำรยด์ งั แห่งอสี ำนใต้
วดั ป่ ำละหำนทรำย ภำยในวดั มีพระอโุ บสถศลิ ปะลำ้ นนำผสมลำ้ นชำ้ ง ประดิษฐำนต้งั อยกู่ ลำงน้ำ มี
ควำมงดงำม นอกจำกน้นั ยงั มีพระพุทธรูปศกั ด์สิ ิทธ์ิประดษิ ฐำนหลำยองคป์ ระวตั หิ ลวงป่ สู ุข ธมฺมโช
โต วดั โพธ์ิทรำยทอง

หินหลมุ เป็นกลุม่ หินหลุมกมุ ภลกั ษ์ เป็นสถำนทีเ่ รียนรู้ดำ้ นธรณีวิทยำ

59

หมบู่ ำ้ นโฮมสเตยโ์ คกเมอื ง

ต้งั อย่ทู ่ีบำ้ นโคกเมอื ง ตำบลจรเขม้ ำก เป็นหม่บู ำ้ นโฮมสเตยท์ ไี่ ดร้ ับรำงวลั ระดับประเทศมำกมำย มี
กจิ กรรมใหเ้ รียนรู้ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ินมำกมำย อำทิ เรียนรูก้ ำรปลกู ขำ้ วหอมมะลิภูเขำไฟ, กำรทอเส่ือกก,
กำรทอผำ้ ไหม, กำรเรียนรูเ้ กษตรวิถพี อเพียง เป็นตน้

อำ่ งเก็บน้ำสนำมบนิ อดตี เป็นสนำมบินเพื่อใชใ้ นกำรส่งเสบียง สมยั สงครำมโลกคร้ังท่ี 2 เมอื่ สงครำม
ยตุ ิ จึงไดส้ รำ้ งอ่ำงเกบ็ น้ำก้นั ลำหว้ ยระเวยี เพ่อื กกั เกบ็ น้ำใชใ้ นกำรอปุ โภคบริโภคภำยในเขตเทศบำล
ตำบลประโคนชยั ปัจจบุ นั ไดร้ ับกำรประกำศเป็นเขตหำ้ มล่ำสตั วป์ ่ ำอำ่ งเกบ็ น้ำ

60

น้ำตกเขำพนมรุ้ง

ปรำสำทหนองกง
ห่ำงจำกเชิงพนมรุง้ ไปทำงทิศใต้ 2.8 กโิ ลเมตร

61

น้ำตกเขำพระองั คำร

ป่ ำเขำองั คำร คอื มรดกล้ำค่ำ กำลงั จะถกู ทำลำย ป่ ำเขำองั คำร ป่ำดิบแลง้ รอยตอ่ เขตอำเภอนำงรอง-
เฉลมิ พระเกียรติ บรุ ีรัมย์ ภูเขำอนั เกดิ จำกกำรระเบิดของภเู ขำไฟเมือ่ หลำยแสนปี มำแลว้ มนี ้ำตก
สวยงำมหลำยแห่ง มีหลำยช้นั น่ำเที่ยวมำ แตน่ ่ำเสียดำยท่ียงั ไม่มีหน่วยงำนใดเขำ้ ไปดูแลรกั ษำ

แหล่งหินตดั

แหล่งหินตดั จงั หวดั บุรีรมั ยห์ ่ำงจำกตวั อำเภอบำ้ นกรวด 7 กม. เป็นลำนหินกวำ้ งเกอื บ 2,000 ไร่ ใกลช้ ำยแดนตดิ กบั
รำชอำณำจกั รกมั พูชำ มรี ่องรอยกำรตดั หิน เพ่ือนำไปสรำ้ งปรำสำทหินตำ่ ง ๆ ในเขตอสี ำนใต้ รวมท้งั ปรำสำทพนมรุง้
และปรำสำทเมอื งต


Click to View FlipBook Version