2
ค�ำ น�ำ
“ขา่ วคืบหน้าของเสียงเรียกร้องเม่อื ๔๙ ปกี ่อน”
หอภาพยนตร์ (องคก์ ารมหาชน) กระทรวงวฒั นธรรม ก�ำหนดใหว้ นั ที่ ๔ ตุลาคม ของ
ทุกปี เป็นวันอนรุ กั ษภ์ าพยนตร์ไทย และเปน็ วันจดั กจิ กรรมพิธีการประกาศขน้ึ ทะเบยี นภาพยนตร์
เป็นมรดกของชาติ เปน็ กิจกรรมประจ�ำปี ทกุ ปี โดยเริม่ จัดต้งั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน็ ตน้ มา
เหตุผลในการเลือกวันท่ี ๔ ตุลาคม เพราะวันนี้เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นวันที่นับได้ว่า
มคี วามสำ� คญั วนั หนงึ่ ในประวตั ศิ าสตรก์ ารอนรุ กั ษภ์ าพยนตรข์ องชาติ คอื เปน็ วนั ทคี่ ณะอนกุ รรมการ
ดา้ นการสอ่ื สารมวลชน ในคณะกรรมการชาตวิ า่ ดว้ ยองคก์ ารการศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรม
แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ไดป้ ระชุมคณะอนุกรรมการตามภารกิจหนา้ ที่ปกติ ทีส่ ถานไี ทย
โทรทัศน์ ช่อง ๔ บางขุนพรหม และการประชุมในวาระส�ำคัญวาระหน่ึงในวันน้ัน ที่ประชุมมีมติ
เอกฉันท์ เรียกร้องให้หอสมุดแห่งชาติเปิดแผนกเก็บภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และ
วฒั นธรรม หวงั ใหเ้ ยาวชนรนุ่ หลงั ไดท้ ราบความเปน็ ไปในอดตี และตอ้ งการใหเ้ กดิ ความสะดวกสบาย
ในการค้นคว้า ดงั ปรากฏเป็นขา่ วในหนงั สอื พิมพ์รายวัน ไทยรัฐ ฉบบั วนั ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๙
ความว่า
“ท่ปี ระชุมไดล้ งมติเปน็ เอกฉนั ท์ เรยี กรอ้ งให้หอสมดุ แหง่ ชาติ เปดิ แผนกเก็บภาพยนตร์
ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมขึ้น โดยหวังให้เป็นสมบัติอีกอย่างหนึ่งของชาติ ซ่ึง
คณะกรรมการจะเป็นฝ่ายพิจารณาเลือกภาพยนตร์ที่มีคุณค่าจริง ๆ เข้ามารวบรวมไว้ในหอสมุด
และนอกจากจะต้องใช้งบประมาณของคณะกรรมการไปจัดสรรภาพยนตร์มาแล้ว ยังเปิดรับ
ภาพยนตรท์ มี่ ผี อู้ ทุ ศิ ใหด้ ว้ ย
อย่างไรก็ตาม ในอันดับแรกน้ีพระองค์เจ้าเปรมฯ ได้ทรงแจ้งความจ�ำนงว่าจะทรงมอบ
ภาพยนตร์เกย่ี วกบั พธิ ีบรมราชาภิเษกของรัชกาลท่ี ๗ ซง่ึ เป็นของพระองคเ์ จา้ เปรมฯ ใหเ้ ป็นอันดบั
แรก ขณะเดยี วกนั กม็ ผี เู้ สนอมาอกี หลายเรอ่ื ง อาทเิ ชน่ “นวิ้ เพชร” และภาพยนตรส์ ารคดที ม่ี คี ณุ คา่
ทางประวตั ศิ าสตร์อกี หลายเร่ือง คณะกรรมการชดุ น้จี ะมีการประชมุ อีกคร้ังหนงึ่ ข่าวคืบหนา้ จะนำ�
เสนอตอ่ ไป”
3
บคุ คลสำ� คญั ทส่ี ดุ ในคณะอนกุ รรมการนค้ี อื ประธานอนกุ รรมการ ซงึ่ ไดแ้ ก่ พระวรวงศเ์ ธอ
พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ซึ่งเช่ือว่าคงจะทรงเป็นต้นคิดของข้อเรียกร้องนี้ ส่วนอนุกรรมการท่าน
อนื่ ๆ ได้แก่ นายประสงค์ หงสนันทน์ นายจ�ำนง รังสกิ ลุ นายสงวน มทั วพันธุ์ นายรัตน์ เปสตนั ยี
พ.อ.ประสทิ ธิ์ ชนื่ บุญ คุณหญิงอมั พร มีสขุ
ขา่ วคบื หนา้ ทห่ี นงั สอื พมิ พไ์ ทยรฐั ไมเ่ คยเสนอกค็ อื เมอ่ื มกี ารจดั ตง้ั หอภาพยนตรแ์ หง่ ชาติ
ข้ึนเม่อื ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ หอภาพยนตร์แหง่ ชาตไิ ดส้ านต่อเจตนารมณ์ของคณะอนกุ รรมการนัน้ โดย
การได้รับมอบฟิล์มภาพยนตร์จ�ำนวนหนึ่งซึ่งหอสมุดแห่งชาติได้รับมอบเป็นก้นถุงมาจากคณะ
อนุกรรมการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ซ่ึงสองฟิล์มที่ได้รับมอบมา ได้แก่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
รชั กาลที่ ๗ และ น้ิวเพชร
ข่าวคืบหน้าต่อมาอกี คือ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ หอภาพยนตร์ (องคก์ ารมหาชน) ไดส้ �ำนกึ ถึง
คณุ ของวนั ท่ี ๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๐๙ และกำ� หนดใหเ้ ปน็ วันอนรุ ักษ์ภาพยนตร์ไทย และด�ำเนนิ การ
จดั ใหม้ กี ารประกาศขนึ้ ทะเบยี นภาพยนตรส์ ำ� คญั ทส่ี มควรเปน็ มรดกภาพยนตรข์ องชาติ เปน็ ประจำ�
ทกุ ปมี า
ส�ำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๘ นี้ เนื่องจากเป็นวาระส�ำคัญอย่างพิเศษ ด้วยเป็นปีที่ ๑๐๐ ปี
วนั ประสตู ขิ อง พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ เปรมบรุ ฉตั ร หอภาพยนตร์ (องคก์ ารมหาชน) จงึ ขอนอ้ ม
ร�ำลึกคุณูปการของพระองค์ท่ีทรงริเริ่มการอนุรักษ์ภาพยนตร์ข้ึนอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย
เพียงแต่ยังไม่ส�ำเร็จในทันที การด�ำเนินงานของหอภาพยนตร์จึงเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์และ
สานต่อส่ิงท่ีท่านได้ริเริ่มข้ึน การที่หอภาพยนตร์เก็บรักษาภาพยนตร์ จัดให้บริการสาธารณชนได้
เขา้ มาค้นควา้ ศึกษาอย่างสะดวก และจดั พธิ ีการขึน้ ทะเบยี นภาพยนตร์เปน็ มรดกของชาติ จึงนบั ว่า
เป็นการด�ำเนินการตามเจตนารมณ์ของพระองค์และของคณะอนุกรรมการดังกล่าวเมื่อปี พ.ศ.
๒๕๐๙ ไดส้ ำ� เร็จอย่างครบถว้ นสมบรู ณแ์ ลว้
ขออุทิศความดีงามของงานน้ีเป็นเคร่ืองบูชาเจตนารมณ์ของพระองค์และของคณะ
อนุกรรมการชุดดังกล่าวตลอดไป
หอภาพยนตร์ (องคก์ ารมหาชน)
๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
4
5
สารบญั ๒๐
๒๔
[ภารกจิ ทหารอาสาสยามในสงครามโลกครง้ั ที่ ๑] ๒๖
[เด็กซนสมัย ร. ๗] ๓๐
พันท้ายนรสงิ ห์ ๓๒
[ทหารไทยไปเกาหล]ี ๓๖
มรดกพระจอมเกล้า ๓๙
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวเสดจ็ ออกผนวช ๔๒
โฆษณาพระเครอื่ งฉลอง ๒๕ พทุ ธศตวรรษ ๔๖
ทะโมนไพร ๔๘
ยทุ ธนา – ศริ พิ ร ๕๐
การปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี พอื่ ประเทศชาตใิ นตำ� แหนง่ หวั หนา้ รฐั บาลและผนู้ ำ� ทาง ๕๔
ทหารจนถงึ ลม้ ป่วยและอสัญกรรมของ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ๕๗
สายเลอื ดเดยี วกัน ๖๐
ชู้ ๖๔
วัยตกกระ ๖๘
เงาะปา่ ๗๐
ประชาชนนอก ๗๔
เพ่ือน-แพง ๗๖
ดว้ ยเกลา้ ๘๐
บ้านผีปอบ 2 ๘๕
เร่อื งตลก 69 ๘๘
บางระจัน ๙๑
สรุ ิโยไท ๙๔
๑๕ คำ�่ เดือน ๑๑ ๙๖
องค์บาก
ชตั เตอร์ กดตดิ วญิ ญาณ
รักแห่งสยาม
6
หลกั เกณฑ์ที่ใช ในการพจิ ารณาคัดเลือกภาพยนตร์
ขนึ้ ทะเบยี นมรดกภาพยนตรข์ องชาติปที ี่ ๕
• คณุ ค่าทางประวัตศิ าสตร์และความทรงจำ�
เป็นภาพยนตร์ทถ่ี ่ายทอดเรอื่ งราวของ สถานท่ี กาลสมยั บุคคล เหตกุ ารณ์ ที่เก่ียวขอ้ งกบั
คนไทยและสังคมไทยในมติ ติ า่ ง ๆ เชน่ มานษุ ยวทิ ยา สังคมวทิ ยา เศรษฐกิจ การเมอื ง วฒั นธรรม
ท้ังในฐานะปัจเจกและกลุ่มหรือมวลชน สามารถท�ำให้ผู้ชมเข้าถึงและเข้าใจมิติเหล่าน้ันในเชิง
ประวตั ศิ าสตร์หรือความทรงจำ�
• คณุ ค่าทางศลิ ปะภาพยนตร์
เป็นผลงานภาพยนตร์ทสี่ รา้ งสรรค์ อนั แสดงถงึ ศลิ ปวิทยาทางดา้ นภาพยนตร์
• มคี วามโดดเดน่ เปน็ เอกลักษณ์
เปน็ ภาพยนตรท์ มี่ คี วามโดดเดน่ เปน็ พเิ ศษ มเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั เชน่ การนำ� เสนอภาพยนตร์
น้ัน ไม่ว่าการถ่ายท�ำ การแสดง การตัดต่อ ฯลฯ มีความคิดริเริ่ม ไม่เคยมีแบบอย่างมาก่อนใน
ภาพยนตร์อน่ื ๆ
• บรู ณภาพ
คอื ความสมบรู ณค์ รบถว้ นของผลงานภาพยนตรต์ รงตามตน้ ฉบบั ของผสู้ รา้ งสรรค์ ภาพยนตร์
ทอ่ี อกฉายแล้วอาจถูกตดั ทอน ถกู เสริมเติมแต่งเพม่ิ เตมิ ถกู ดัดแปลงไปดว้ ยเหตุต่าง ๆ
• ความเสย่ี งต่อการสญู เสยี หรอื ยากแก่การหาทดแทน
เปน็ ภาพยนตรท์ ยี่ งั มฟี ลิ ม์ ตน้ ฉบบั หรอื สำ� เนาในรปู แบบอนื่ ใดอยู่ แตต่ กอยใู่ นภาวะความเสย่ี ง
ที่จะสญู เสียภาพยนตร์นัน้ ไป ดว้ ยเหตปุ ัจจัยตา่ ง ๆ เช่น มตี น้ ฉบบั หรือส�ำเนาอยู่เพยี งชุดเดยี ว หรอื
ภาพยนตร์นัน้ ก�ำลังเส่ือมสภาพ หรอื สภาพการจัดเก็บไม่ปลอดภยั ไม่ได้มาตรฐาน เปน็ ต้น
• อทิ ธิพลตอ่ คนและสังคม
ภาพยนตร์ท่ีสามารถส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อปัจเจกชนและหรือต่อสังคม ไม่
ว่าทางด้านพฤติกรรม ความคิด ความเช่ือ อารมณ์ ฯลฯ อาจก่อให้เกิดกระแสสมัยนิยมเกิดการ
เปลย่ี นแปลง คา่ นยิ ม ขนบธรรมเนยี ม ไมว่ า่ ชว่ั ระยะเวลาสนั้ หรอื ยงั่ ยืนนาน
7
รายชือ่ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกภาพยนตร์
ขน้ึ ทะเบียนมรดกภาพยนตรข์ องชาตปิ ที ี่ ๕
นายศกั ดินา ฉตั รกุล ณ อยธุ ยา ประธานกรรมการ
กรรมการ
พลเอก บญั ชร ชวาลศิลป ์ กรรมการ
กรรมการ
นายเอนก นาวิกมูล กรรมการ
กรรมการ
นายศุภวฒั น์ จงศิริ กรรมการ
กรรมการ
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. เกษม เพญ็ ภนิ นั ท ์ กรรมการ
นางกฤตยิ า กาววี งศ ์
นายดวงฤทธ์ิ บุนนาค
นายมโนธรรม เทียมเทยี บรัตน ์
นายอตภิ พ ภทั รเดชไพศาล
8
สารจากกรรมการ
ศักดนิ า ฉัตรกลุ ณ อยุธยา
ประธานกรรมการ
หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้ ทกุ ทา่ นทใี่ หก้ ารสนบั สนนุ โครงการโดยรว่ มเสนอ
ดำ� เนนิ การขนึ้ ทะเบยี นภาพยนตรม์ รดกของชาติ ชื่อภาพยนตร์เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณา
ตอ่ เนอ่ื งมาทกุ ปนี บั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน็ ตน้ มา ขอบคุณหอภาพยนตร์และเจ้าหน้าท่ีทุกท่านท่ี
ปนี ี้เป็นปที ี่ ๕ แลว้ โดยแตล่ ะปจี ะมภี าพยนตร์ ไดต้ ระเตรยี มขอ้ มลู อยา่ งดเี ยยี่ มเพอ่ื ใหก้ รรมการ
ทงั้ ภาพยนตร์เร่ือง ภาพยนตร์สารคดี ข่าว รวม ใช้ประกอบในการตัดสินใจ ขอบคุณส่ือมวลชน
ไปถึงภาพยนตร์ท่ีถ่ายท�ำเพื่อเก็บไว้ดูกันเองใน ที่ให้ความสนใจ ใหก้ ารสนบั สนุน น�ำเสนอและ
ครอบครัวท่ีเรียกกันว่า “หนังบ้าน” ท่ีคณะ รายงานขา่ วโครงการนอ้ี ยา่ งตอ่ เนอ่ื งทกุ ปี ขอบคณุ
กรรมการได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์แล้วว่ามี กระทรวงวฒั นธรรม โดยเฉพาะอย่างย่งิ ฯพณฯ
ความส�ำคัญข้ึนทะเบียนเป็นภาพยนตร์มรดก รัฐมนตรีท่ีได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี
ของชาตปิ ลี ะ ๒๕ เรอื่ ง รวม ๕ ปี เรามภี าพยนตร์ ประกาศรายช่ือภาพยนตร์ที่ได้รับการข้ึน
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ๑๒๕ เร่ือง ทะเบยี นในทุกปี
ภาพยนตร์เหล่าน้ีจะได้รับการดูแลอย่างดี
เป็นพิเศษ เพ่ือท่ีจะให้มั่นใจว่าจะอยู่คู่สังคม ภาพยนตร์ท่ีได้ขึ้นทะเบียนในแต่ละปี
ไทยไปชั่วกาลนาน มีส่วนอย่างส�ำคัญที่ท�ำให้ผู้คนได้ตระหนักถึง
ความสำ� คัญ มองเห็นคุณค่า และเข้าใจถงึ ความ
โ ค ร ง ก า ร ข้ึ น ท ะ เ บี ย น ภ า พ ย น ต ร ์ จ�ำเป็นท่ีจะต้องมีการอนุรักษ์ภาพยนตร์อย่าง
กระบวนการคัดสรรภาพยนตร์เพ่ือน�ำขึ้น จริง เพื่อการใช้ประโยชน์จากภาพยนตร์อย่าง
ทะเบียนของหอภาพยนตร์มรดกของชาติที่ ยงั่ ยืนตอ่ ไปในอนาคต
หอภาพยนตร์จัดท�ำขึ้นนับวันได้รับความสนใจ
และสนับสนุนจากหลากหลายฝ่าย ผมในฐานะ
ประธานคณะกรรมการ ตอ้ งขอขอบคณุ กรรมการ
ทุกท่านที่ได้เสียสละเวลามาท�ำหน้าท่ีอย่าง
แข็งขัน เอาจริงเอาจัง ขอขอบคุณประชาชน
9
พลเอก บญั ชร ชวาลศิลป์
กรรมการ
นอกเหนือจากคุณค่าทางศิลปะแล้ว
ภาพยนตร์ทุกเร่ืองไม่ว่าจะรังสรรค์ออกมาใน
ลกั ษณะใดก็ตาม ย่อมมสี ว่ นบนั ทึกความเป็นไป
ของบา้ นเมอื งทงั้ ทางตรงและทางออ้ มเสมอ มาก
หรือน้อย ตรงไปตรงมาหรือไม่ ไม่ส�ำคัญนัก
เพราะบ่อยคร้ังภาพซึ่งปรากฏบนจอเพียงไม่กี่
วินาทีได้จุดประกายความใคร่รู้หรือตั้งค�ำถาม
ให้น�ำไปสู่การศึกษาค้นคว้าจนได้ประเด็นของ
อดีตท่ีมีคุณค่ายิ่ง โดยเฉพาะในสังคมไทยที่มี
เสียงบ่นกันว่าคนไทยไม่ค่อยใส่ใจในประวัติ-
ศาสตรข์ องตนจนไมเ่ ขา้ ใจในรากเหงา้ แหง่ ความ
เปน็ ไทย ดงั นน้ั ความพยายามในการขนึ้ ทะเบยี น
มรดกภาพยนตร์ของชาติไว้มิให้สูญหายไป จึง
นับว่าเปน็ เร่อื งนา่ ชน่ื ชมเป็นอยา่ งยิ่ง
ขอขอบคุณหอภาพยนตร์ที่กรุณาให้
เกียรติและโอกาสแก่ผมได้มีส่วนร่วมในงาน
ส�ำคัญคร้งั นี้
10
เอนก นาวกิ มูล
กรรมการ
ท่ามกลางบรรยากาศอันมีมนตร์ขลังของ
หอภาพยนตร์ ถนนพทุ ธมณฑลสาย ๕ ศาลายา ซึ่ง
ประกอบด้วยอาคารและข้าวของย้อนอดีตต่าง ๆ
เชน่ โรงหนงั ศรกี รุง , โรงหนังอลงั การ, โรงถา่ ยหนัง
แบบเอดสิ นั , สถานรี ถไฟ, พระรูปกรมหลวงสรรพ-
สาตรศุภกิจ เจ้านายนักถ่ายหนัง, ประตูสามยอด
และตึกฝรั่ง ตึกไทยแบบคลาสสิกท้ังหลาย คณะ ยุค ๒๔๖๐ ซึ่งช่างกล้องฝร่ังถ่ายให้เห็นภาพนาย-
กรรมการจ�ำนวนหนึ่งได้ทยอยเดินเข้าไปในโรงหนัง ทหารใหญน่ อ้ ยในอากปั กริ ยิ าเคลอ่ื นไหวอยา่ งคมชดั
ศรศี าลายาทก่ี �ำลังรอแขกทกุ คนอยู่ และชาวสยามนอ้ ยคนจะไดเ้ คยเหน็ มากอ่ น, เดก็ ซน
สมยั ร.๗ ยคุ ๒๔๗๐ เล่นเกมตา่ ง ๆ, ยุทธนา-ศริ พิ ร
วนั พฤหสั และศกุ รท์ ี่ ๒๗-๒๘ สงิ หาคม พ.ศ. สองหนุ่มสาวที่พาเราวนดูกรุงเทพฯ ยุค ๒๕๐๐
๒๕๕๘ กรรมการทง้ั หลายมพี นั ธกจิ ทตี่ อ้ งกระทำ� คอื ขณะที่ตึกรามบ้านช่องและวิถีชีวิตของคนยุคน้ันยัง
ฟังการน�ำเสนอของหนังแต่ละเร่ืองจากตัวแทน ไมว่ นุ่ วายรกรงุ รงั เหมือนปัจจบุ นั
หอภาพยนตร์ ดูหนังทั้งแบบหนังเรื่อง และหนัง
สารคดี หนงั บา้ น รวม ๔๐ กวา่ เรอื่ ง ทฉี่ ายขนึ้ จอขา้ ง ภาพยนตรเ์ หลา่ นมี้ คี ณุ คา่ ทงั้ ทางศลิ ปะ และ
หนา้ แตล่ ะคนตอ้ งใหค้ ะแนนหนงั แตล่ ะเรอื่ ง แลว้ ทางประวัติศาสตร์ คือถ่ายได้สวย คิดเร่ืองได้ดี
ร่วมกันคัดเลือกหรือตัดสินว่าหนังเรื่องใดควรได้รับ ล�ำดับเรื่องได้ดี และกรณีหนังข่าว - หนังบ้าน ได้
การขน้ึ “ทะเบยี นมรดกภาพยนตรข์ องชาติ ครง้ั ที่ ๕ บันทึกบรรยากาศของบ้านเมืองแต่ละยุคอย่างน่า
พ.ศ. ๒๕๕๘” บา้ ง โดยขอใหค้ ดั หนงั ทง้ั สองประเภท ตดิ ตาม ชว่ ยใหค้ นรนุ่ หลงั นำ� ไปศกึ ษาเรอื่ งยอ้ นยคุ ได้
ใหเ้ หลอื เพียง ๒๕ เร่ืองเท่าน้ัน
กรรมการหลายคนมีความเห็นใกล้เคียงกัน
หนังท่ีน�ำเสนอเข้ามาปีนี้ มีหลายเรื่อง ท่ี การสรุปรายชื่อหนังที่ควรได้รับการประกาศเกียรติ
หลายคนเคยผา่ นตา เชน่ ชู,้ วัยตกกระ, ด้วยเกลา้ , ปี ๒๕๕๘ จึงจบลงในเวลาไม่นาน แล้วทุกคนก็
๑๕ คำ�่ เดอื น ๑๑ เพราะเปน็ หนงั ทนี่ ำ� ออกฉายทว่ั ไป ค่อย ๆ ทยอยกลับบ้าน พร้อมความประทบั ใจทไ่ี ด้
แตห่ นงั ขา่ วหรอื หนงั ส่วนตวั หลายเร่อื งยงั ไม่เคยได้ เห็นผลงานอันทรงพลังของนกั ถ่ายหนังทุกคน
ดกู นั บางเรอื่ งยงั ความรสู้ กึ ทงึ่ ใหแ้ กก่ รรมการไมน่ อ้ ย
เชน่ ภารกจิ ทหารอาสาสยามในสงครามโลกครง้ั ที่ ๑
11
“ศุภกั ษร” ศุภวัฒน์ จงศริ ิ
กรรมการ
ในแต่ละวันเราท�ำอะไรอยู่ มองดูฟ้า เลอื กครง้ั น้ี ทงั้ ในฐานะคนทำ� หนงั ไทย คนรกั หนงั
เปลี่ยนสี แล้วปล่อยตัวเองไปตามวิถีแห่งกาล ไทย และเป็นคนไทยที่อยากให้ “หนังไทยเป็น
เวลา มรดกที่มีลมหายใจ” ตลอดไป
แล้ววันหน่ึงก็รู้สึกมีค่า... เม่ือได้ถูกเชิญ
ไปเป็นคณะกรรมการคนหน่ึง
รบี ตอบรบั และรสู้ กึ ถงึ การรอคอยทจี่ ะได้
เจอกบั พโ่ี ดม สุขวงศ์ ร่นุ พนี่ เิ ทศศาสตร์ จฬุ าฯ
ซ่ึงในสมัยเรียนเหมือนพ่ีเขาอยู่ในโลกอีกใบนึง
แล้วเม่ือเรียนจบพ่ีโดมก็มุ่งมั่นอยู่กับโลกใบน้ัน
จนหลายคนคิดว่าพ่ีโดมบ้า... บ้าไปท�ำอะไรกับ
เศษฟิล์ม เศษขยะ ขดุ คุย้ ร้ือค้น ตามไปขอ ตาม
ไปเฝ้า พวกฟิล์มหนงั ไทยเกา่ ๆ
แต่เรารู้ เราเข้าใจ วา่ พี่เขามเี ป้าหมาย มี
เส้นทางของตัวเอง และเป็นนกั สื่อสารมวลชนที่
ชัดเจนในเป้าหมายน�ำสิ่งท่ีดีงามสู่สังคมชน จน
ไดร้ บั เกยี รตเิ ปน็ นกั นเิ ทศศาสตรด์ เี ดน่ และสงั คม
กย็ อมรบั ในสง่ิ ทพ่ี โี่ ดมทำ� จนกระทง่ั พฒั นากลาย
เปน็ สถาบนั ทท่ี รงคา่ ทางดา้ นความคดิ จติ วญิ ญาณ
ของภาคส่วนแห่งวัฒนธรรมไทย ที่เรียกว่า
“หนงั ไทย”
ยิ่งเมื่อได้ดูหนังแต่ละเรื่อง ท่ีท�ำการคัด
เลือกเขา้ มา เราย่งิ รู้สึกว่า เราได้มาเหน็ ส่งิ ท่ีมคี ่า
และได้ท�ำหน้าท่ีอย่างดีท่ีสุดในการพิจารณาคัด
12
ผศ. ดร. เกษม เพ็ญภินนั ท์
กรรมการ
ภาพยนตร์เป็นศิลปะแขนงหน่ึงท่ีถือ ภาพยนตรท์ ง้ั หมดลว้ นทรงคา่ ทง้ั สน้ิ ดงั นนั้ เกณฑ์
ก�ำเนิดขึ้นมาและอาจจะมีประวัติศาสตร์ที่ส้ัน ในการคดั เลอื กจงึ ไมไ่ ดจ้ ำ� กดั อยทู่ ค่ี ำ� วา่ ‘ด’ี หาก
ทส่ี ดุ เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ศลิ ปะแขนงอน่ื ๆ แมว้ า่ อยู่ท่ีคุณค่าในการเก็บบันทึกและฉายให้เห็นถึง
จะเกิดจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี แต่ภาพ- ลักษณะทางสังคมวัฒนธรรม อีกทั้งคุณค่าของ
ยนตร์ได้พัฒนาคุณค่าทางศิลปะข้ึนมาอย่าง การเปน็ หมดุ หมายของการสรา้ งสรรคท์ างศลิ ปะ
ทรงคุณค่าท้ังทางเนื้อหาสาระ สุนทรียะ และ ในลักษณะต่างๆ เช่น กลบทกับการเล่าเรื่อง
ความมหศั จรรย์แห่งมายาลักษณ์ เทคนิคกบั กบั การน�ำเสนอ เปน็ ตน้ รวมอยดู่ ้วย
การไดเ้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการยกยอ่ งเชดิ ชู ด้วยเกณฑ์ดังกล่าวน้ี ภาพยนตร์จึงเป็น
เกยี รตถิ อื วา่ เปน็ เกยี รตอิ ยา่ งยง่ิ ทผี่ มไดร้ บั เกยี รติ มากกว่าการเป็นส่ือที่ให้ความบันเทิง ความรู้
จากหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ที่เชิญมา และความประเทืองปัญญา หากเปรียบเสมือน
เป็นกรรมการพิจารณาคัดเลือกภาพยนตร์ข้ึน เชิงอรรถทางสังคมอย่างหนึ่งท่ีมีไว้ให้อ้างอิง
ทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ ๕ เชน่ ถึงความเป็นอยู่และความเป็นไปของยุคสมัย
เดียวกับคร้ังก่อน ๆ ท่ีผ่านมา ภาพยนตร์ท่ีขึ้น ผ่านสายตาของผู้ชมจากรุ่นหนึ่งถึงรุ่นหนึ่ง จน
ทะเบียนปีละ ๒๕ เรื่องน้ันมีความหลากหลาย ถือเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมของสังคม
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เร่ือง ภาพยนตร์สารคดี หน่งึ ๆ ในทีส่ ดุ
ภาพยนตร์ส่วนตัวที่ถ่ายท�ำ/บันทึกขึ้นเองหรือ
ภาพยนตรโ์ ฆษณากต็ าม ไมว่ า่ จะเปน็ ภาพยนตร์
ท่ีเป็นท่ีรู้จักอย่างแพร่หลายหรือเป็นที่รับรู้ใน
วงจ�ำกัดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ในอดีต
หรือรว่ มสมยั ก็ตาม ไมว่ า่ จะเปน็ ภาพยนตรท์ ีไ่ ด้
รับรางวัลหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
กต็ าม ไมว่ า่ จะเปน็ ภาพยนตรท์ สี่ รา้ งขนึ้ เพอื่ เปน็
ศลิ ปะบรสิ ทุ ธห์ิ รอื เพอ่ื การโฆษณาชวนเชอ่ื กต็ าม
13
กฤติยา กาววี งศ์
กรรมการ
ขอบคณุ หอภาพยนตร์ ที่ใหเ้ กยี รติเชิญ เบ้ืองหนา้ เบอื้ งหลงั และ ระหว่างบรรทดั ของ
มารว่ มเปน็ กรรมการคดั สรรภาพยนตรไ์ ทย เพอื่ หนังแต่ละชิ้นที่คัดเลือกมาเพื่อขึ้นทะเบียนฯ
ข้ึนทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ คร้ังท่ี ๕ หนังกลุ่มนี้จะให้อะไรมากกว่าความบันเทิง
ประทับใจกบั หนงั หลาย ๆ เรือ่ งทีเ่ ข้ารอบ ซึ่งมี แนน่ อน
ท้ังหนังเรื่อง หนงั สารคดี หนงั บ้าน รวมทง้ั หนัง
โฆษณาชวนเชื่อ หนังเหล่าน้ีได้กลายเป็นส่วน ขอแสดงความยนิ ดีกับหนังทั้ง ๒๕ เรอื่ ง
หนึ่งของประวัติศาสตร์สังคมไปโดยอัตโนมัติ ที่รับการคัดเลือก และขอบคุณหอภาพยนตร์ที่
ความสำ� คัญของหนงั น้ัน นอกจากจะเปน็ ศลิ ปะ ช่วยเกบ็ อนุรักษ์ และ รกั ษา สมบัติของมนุษย-
แขนงหน่ึงท่ีเป็นส่วนส�ำคัญในการสร้างตัวตน ชาตไิ วเ้ ป็นอยา่ งดี
ของเราแลว้ มนั กลายเปน็ สอ่ื ท่ีทรงอิทธิพล กอ่
ให้เกิดความทรงจ�ำร่วมกันในสังคม ที่เรา
สามารถแบ่งปันกันในทุกยุคทุกสมัย หนังเป็น
เครื่องมือหน่ึงช่วยให้เราได้เปิดโลกทัศน์ และ
เปน็ แรงบันดาลใจทำ� ให้เรากา้ วไปขา้ งหน้า
ผลงานภาพยนตรท์ ไี่ ดร้ บั การคดั สรรเขา้
มาในปนี ้ี แตล่ ะชน้ิ มคี ณุ คา่ ทางศลิ ปะภาพยนตร์
มคี วามโดดเดน่ ในตวั ของมนั เอง มอี ทิ ธพิ ลตอ่ คน
และสังคม และมันเป็นกรณีศึกษาท่ีท�ำให้เรา
สามารถทำ� ความเขา้ ใจกบั บรบิ ทสงั คมมากยง่ิ ขน้ึ
เพราะเบ้ืองหลังการผลิตผลงานแต่ละชิ้นในยุค
สมยั นน้ั มเี หตแุ ละปจั จยั ตา่ งกนั ตามบรบิ ทสงั คม
การเมอื ง เศรษฐกจิ และวฒั นธรรมในแตล่ ะหว้ ง
เวลา หากเราสามารถ “อ่าน” หนงั ทงั้ เรอ่ื งเล่า
14
ดวงฤทธ์ิ บุนนาค
กรรมการ
ในตอนแรกทไี่ ดร้ บั เชญิ มาเปน็ กรรมการ
ก็มีความกังวลครับ เพราะตนเองไม่ได้มีความรู้
ด้านภาพยนตร์มากนัก เมื่อเทียบกับกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิท่านอ่ืน ก็ยังโชคดีที่ได้คัดเลือก
เฉพาะในส่วนภาพยนตร์สารคดีซึ่งเป็นสิ่งท่ีมี
ความสนใจ มีความต่ืนตาตื่นใจตลอดเวลาที่ได้
ชมสารคดที กุ เรอื่ งทไ่ี ดร้ บั การคดั เลอื กครบั และ
ดีใจที่เป็นส่วนหน่ึงท่ีจะได้ช่วยกันผลักดันให้
ภาพยนตร์เหล่าน้ีจะได้ปรากฏกับสายตาของ
คนในยุคต่อไป ภาพยนตร์ทุกเรื่องคือประวัติ-
ศาสตร์ที่มีชีวิตของคนไทยและถ้าเราไม่รู้ที่ที่
เรามา มนั ก็ยากทจ่ี ะมองเห็นว่าก�ำลังจะไปไหน
กัน
15
มโนธรรม เทยี มเทยี บรตั น์
กรรมการ
สองส่ิง-สามส่ิงที่มักเข้าใจไม่ถูกต้อง รายชอื่ ในแตล่ ะรนุ่ /ปมี กั หนไี มพ่ น้ ขอ้ คำ� ถามจาก
ของการข้ึนทะเบียนภาพยนตร์ไทยเป็นมรดก สังคม ว่าท�ำไมเร่ืองนั้นไม่มี-เรื่องน้ีไม่มี?, หนัง
ของชาติ บางเรื่องมีการแตกช่อออกเป็นหลายเวอร์ชัน
แล้วท่ีเข้า ๆ ลิสต์ไปแล้วพิจารณาตามเวอร์ชั่น
๑. เหมือนเดินเลือกซื้อของโปรโมชั่น ไหน? (แม้ในการสร้างครัง้ เดียวกนั ฉบบั เดียวกนั
แบบหยบิ ไดค้ รบ ๒๔ (แลว้ ไดฟ้ รี “หนงึ่ ”) แรก ๆ เองแท้ ๆ)
จะรู้สกึ เมามนั มาก แต่พอถึงชนิ้ ทย่ี ส่ี ิบหา้ คณุ จะ
รู้สึกเสียดาย สุดท้ายก็ต้องเริ่มแพ็คเกจใหม่ สิ่งที่พอเป็นไปได้ในกรณีหลังก็คือ การ
จนกวา่ จะไดค้ รบ(อกี ) ๒๕ ของลอ็ ตถดั ไป (#ผดิ ) ประกาศเรอื่ งใดเรอ่ื งหนงึ่ ออกไปแลว้ นา่ จะสรา้ ง
อนสุ นธไิ ปยงั ‘สำ� เนา’ ตวั อน่ื ๆ ของเรอื่ งเดยี วกนั
๒. คือการประเมินคุณค่าและตัดสิน (ขออนญุ าตยกตวั อยา่ งในรายของ “สรุ โิ ยไท” ท่ี
รางวัลหนังแบบย้อนหลังขณะท่ีการให้รางวัล หนังหน่ึงเรื่องมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะออก
หนังโดยทั่วไปมักให้กับหนังที่ออกฉายในปี ถงึ สามฉบบั ดว้ ยความยาวทห่ี ลากหลายออกไป)
น้ัน ๆ (#นี่ก็ไมใ่ ชอ่ กี ) ที่ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดล้วนมีคุณค่าด้วย
ตัวของเขาเองและพงึ ได้รบั การยกยอ่ ง
๓. การคัดเลือกกระท�ำโดยบุคคลเพียง
ท่านเดยี วคอื คุณโดม สขุ วงศ์ (#ไมเ่ กีย่ วเลย) สิ่งที่เกิดข้ึนจริงอันเป็นบรรยากาศ
เบ้ืองหลังของการประชุมคือ การก้าวข้ามใน
ส่ิงท่ีน่าปลาบปลื้มกว่าเกิดข้ึนในทันทีท่ี ส่วนของการประเมินคุณค่าโดยอาศัยหลักการ
ทราบว่าหนังทุกเรื่อง (ราวห้าร้อยกว่าเรื่อง) ที่ และมาตรฐานท่ัวไปท่ีตั้งอยู่บนพื้นฐานของ
ผ่านการเสนอช่ือในรุ่นแรกล้วนเริ่มจากมติ
มหาชนโดยแท้จริงคือ คนดูทางบ้านส่งเข้ามา
เพื่อเข้ารับการพิจารณาท�ำให้มั่นใจว่าการขึ้น
ทะเบยี นของหนังเร่อื งยาวคอื สง่ิ ทถ่ี อื กำ� เนดิ มา
จากหัวใจและเป็นความต้องการของสังคมโดย
แทจ้ ริง
สง่ิ ทม่ี กั เกดิ ขน้ึ เสมอ ๆ ของการประกาศ
16
ความสมบรู ณใ์ นแงข่ ององคป์ ระกอบ หากแตเ่ กดิ รายชือ่ ในนามของผูช้ มทางบา้ นแทน) และสว่ น
ขึน้ โดยอาศัยมติ ิทางสงั คมเป็นบรรทดั ฐาน สำ� คญั อันท่ีขาดเสียมิได้ก็คอื หนงั อกี หลายเรือ่ ง
เม่ือเป็นเช่นนี้หนังทุกเร่ืองล้วนมีความ ท้ังที่รอเข้ารับการพิจารณาท้ังท่ีสร้างกันไปแล้ว
ชอบธรรมและศักยภาพพอที่จะได้รับการเสนอ ท้ังรุ่นคลาสสิกและร่วมสมัยรวมถึงเรื่องท่ีก�ำลัง
ช่ือและข้ึนทะเบียนโดยเท่าเทียมกันซ่ึงตรงกับ สร้างหรือท่ียังไม่ได้สร้างทว่าเป็นโครงการที่
คติความเชื่อท่วี ่า “หนังเมื่ีอสรา้ งเป็นของคนท�ำ ยงั อยใู่ นใจ
แต่ถ้าออกฉายเม่ือไหร่ หนังจะเป็นสมบัติของ เพราะหนังใหม่เกิดขึ้นทุกวันเท่า ๆ ที่
คนด”ู กิจกรรมการฉายและชมยังคงมีอยู่ในทุก ๆ
หนังทุกเร่ืองนอกจากจะมีคุณค่าใน วินาทอี ยา่ งไม่มสี ิ้นสุด
ตัวเองและพร้อมท่ีจะเป็นอมตะเมื่อวันเวลา
ผ่านไป เพราะสังคมยังคงมีความเปลี่ยนแปลง
อยเู่ สมอ
ตราบใดที่คนในสังคมยังคงดูหนัง (มาก
บ้าง-น้อยบ้าง) แต่ถึงอย่างไร หนังก็ยังคงเป็น
ส่วนหนึ่งของสังคม หากวันนี้ยังไม่มีใครแลเห็น
วันข้างหน้าก็คงน่าท่ีจะมีคนเล็งเห็นความ
ส�ำคญั แนน่ อน
ท้ายที่สุดคงไม่มีอะไรมากไปกว่าค�ำ
ลงท้ายสั้น ๆ ว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเล่น
อยู่ในวง ๆ เดียวกับทุกท่านครับ” และขอ
ฝากความหวังรวมทั้งภารกิจในหน้าท่ีไปยัง
กรรมการรนุ่ ทจ่ี ะตามมาในปหี นา้ และปตี อ่ ๆ ไป
(โดยตัวผมเองก็จะยินดีและขอเป็นฝ่ายร่วมส่ง
17
อติภพ ภทั รเดชไพศาล
กรรมการ
ภาพยนตร์เป็นสื่อที่มีคุณลักษณะหลาก
หลาย และคาบเก่ียวตั้งแต่วัฒนธรรมป๊อปไป
จนถึงความเป็นศิลปะช้ันสูงท่ีอาจเข้าถึงได้
เฉพาะกลมุ่ ครอบคลมุ ทงั้ การเปน็ สอ่ื สารมวลชน
และโฆษณาชวนเช่ือ จึงพูดได้ว่าภาพยนตร์มี
บทบาททั้งในแง่บวกและแง่ลบ แต่ทั้งหมดทั้ง
มวลล้วนเป็นข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ทีน่ า่ สนใจ โดยเฉพาะสารคดีหรือภาพข่าวเกา่ ที่
หาชมไดย้ าก ทง้ั ทีถ่ า่ ยทำ� อยา่ งเป็นทางการและ
ไม่เป็นทางการ อันอาจน�ำเราไปสู่ความเข้าใจ
เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในอดีตอย่างรอบดา้ นมากขึน้
ผมหวังว่าการขึ้นทะเบียนมรดกภาพ-
ยนตรแ์ หง่ ชาตคิ รงั้ นี้ จะเปน็ การกระตนุ้ ใหส้ งั คม
ไทยใส่ใจกบั ขอ้ มลู จากอดีตกาลมากขนึ้ และนำ�
ไปสู่การพิจารณาปัญหาต่าง ๆ อย่างรอบด้าน
ด้วยสติปัญญา และด้วยข้อมูล ท่ีเห็นได้ชัดว่า
ทางหอภาพยนตร์เพียรพยายามอย่างย่ิงในการ
เก็บรักษา
18
ทะเบยี นมรดกภาพยนตรข์ องชาติ
ครง้ั ท่ี ๕
19
[ภารกจิ ทหารอาสาสยามในสงครามโลก
ครั้งท่ี ๑]
[พ.ศ. ๒๔๖๑] ขอให้ติดตามให้มีการถ่ายให้ส�ำเร็จและให้ซ้ือ
ความยาว ๖๓.๒๖ นาที ฟิล์มส่งเข้ามาให้พระองค์ด้วย และต่อมาได้พบ
ฟลิ ม์ ๓๕ มม. / ขาว-ดำ� / เงยี บ หลักฐานจากรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
ผสู้ ร้าง รายวนั ในเวลานน้ั วา่ เมอ่ื เสรจ็ สงครามแลว้ และ
ทหารไทยเดินทางกลับสู่มาตุภูมิแล้ว ในช่วง
สยามประกาศเขา้ ร่วมสงครามโลก ครั้ง ปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๒ กรมหลวงพิษณุโลก
ท่ี ๑ เมื่อวนั ท่ี ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ โดย ประชานาถได้พระราชทานฟิล์มภาพยนตร์ ที่
เข้าร่วมกบั ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร (อังกฤษ - ฝรั่งเศส) บันทึกภารกิจของทหารไทยที่อาษาไปในงาน
เพื่อกระท�ำสงครามต่อฝ่ายมหาอ�ำนาจกลาง พระราชสงคราม จำ� นวน ๑๔ มว้ น ออกฉายตาม
(เยอรมัน - ออสเตรีย - ฮังการี) รัฐบาลได้ โรงภาพยนตรบ์ างโรง โดยใชช้ ื่อว่า “ทหารไทย
ประกาศรับสมัครทหารอาสา เพ่ือส่งไปร่วมรบ ที่อาษาปราบฮ่ัน” และมีการจัดฉายรอบพิเศษ
ในทวปี ยุโรป จ�ำนวน ๑,๒๓๓ คน ให้กองทหารไทยที่เดินทางกลับมาได้ดูด้วย แต่
ก่อนหน้านี้ คือในระยะเดือนมกราคม พ.ศ.
หอภาพยนตร์ได้พบหลักฐานเอกสารใน ๒๔๖๑ (หากนับปฏิทินปัจจุบันคือต้นปี พ.ศ.
หอจดหมายเหตุแห่งชาติว่า จอมพล สมเด็จ ๒๔๖๒) ในขณะทก่ี องทหารไทยยงั ไมไ่ ดเ้ ดนิ ทาง
พระเจา้ นอ้ งยาเธอ เจา้ ฟา้ จกั รพงษ์ภวู นาถ กรม กลบั มา ไดม้ ขี า่ วแจง้ ความในหนงั สอื พมิ พร์ ายวนั
หลวงพิษณุโลกประชานาถ เสนาธกิ ารทหารบก ว่า บริษัทภาพยนตร์พัฒนากร จะจัดฉาย
ซ่ึงทรงเป็นผู้อ�ำนวยการและบังคับบัญชากอง ภาพยนตรซ์ ง่ึ ใชช้ อื่ วา่ “ทหารอาษาของเรา” ซง่ึ
ทหารไทยในราชการสงครามนี้ ได้ทรงแจ้งให้ บริษัทได้ว่าจ้างเอเยนต์ของบริษัทที่ประเทศ
นายพนั ตรี หมอ่ มเจา้ อมรทตั กฤดากร ผชู้ ว่ ยทตู ฝรง่ั เศสถา่ ยมาใหเ้ ปน็ พเิ ศษ ยาว ๓ มว้ น กนิ เวลา
ในราชการทหารบก สถานทูตไทยในปารีส ฉายราว ๔๐ นาที
ฝร่ังเศส ทราบว่าทางฝร่ังเศสจะจัดการให้มีผู้
ถ่ายรูปซีเนมาโตกราฟในขณะที่กองทหารไทย แจ้งความในหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน
ไปถึงฝร่ังเศส รูปเช่นนี้พระบาทสมเด็จ ของบรษิ ัทพัฒนากร มคี วามบางตอนว่า
พระเจ้าอยู่หัวต้องพระราชประสงค์ย่ิงนัก ทรง
“ในระหวา่ ง ๔๐ นาทที เี่ รานงั่ ดอู ยนู่ น้ั ให้
20
รู้สึกใจคอตึกตักอย่างไรไม่รู้ ด้วยส่ิงที่ประจักษ์ การน�ำภาพยนตร์ทั้ง ๒ รายการน้ี
แจง้ แกต่ าเรานนั้ ลว้ นสะกดิ ใหเ้ รารสู้ กึ ภาคภมู ใิ จ ออกฉายให้สาธารณชนสยามดูในเวลาน้ัน
ในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของเรา...... ปรากฏเป็นท่ีตื่นเต้นและช่ืนชมยินดีกันทั่วไป
หนงั ๓ ม้วนนนั้ ฉายกระจา่ งจะแจง้ แลเหน็ รปู หอภาพยนตร์ได้พยายามสืบหาภาพยนตร์
โฉมของนายและพลทหารได้อย่างชัดเจน ไม่ ทั้งสองรายการน้ีตลอดมา แต่ไม่มีความหวังว่า
มืดมัว จ�ำหน้าผู้ท่ีเรารู้จักได้ทุกคน คงเป็นท่ี จะค้นพบ จนกระท่ังเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ซ่ึงเปน็
ปราบปล้มื ยนิ ดีของบรรดาวงษาคณาญาติ มติ ร วาระการฉลอง ๑๐๐ ปี มหาสงครามโลก ครงั้ ที่ ๑
สหายชาวเกลอของนายแลพลทหารนัน้ ท่ีจะได้ ซึ่งประเทศฝรั่งเศส ในฐานะผู้มีบทบาทส�ำคัญ
เห็นเขาเหล่านั้น ยังอยู่ดีกินดี ทุกคนหน้าตา และเป็นสนามรบส�ำคญั ในมหาสงครามนี้ ไดจ้ ัด
แช่มชนื่ ร่าเรงิ ยิม้ แยม้ แจ่มใส” งานเฉลมิ ฉลองและรำ� ลกึ อยา่ งเปน็ งานใหญข่ อง
ชาติ ไดม้ ีการรอ้ื ฟน้ื หลักฐานความทรงจ�ำตา่ ง ๆ
21
ของสงคราม และโดยไมค่ าดฝัน หอภาพยนตร์ และ “ทหารอาษาของเรา” ของบรษิ ทั พฒั นากร
จึงพบว่าทางการฝรั่งเศสได้จัดท�ำส�ำเนาภาพ- โดยเทียบจากเค้าเรื่องของ “ทหารอาษาของ
ยนตร์ที่บันทึกเก่ียวกับกองทหารอาสาสยาม เรา” ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์รายวัน
ในฝรั่งเศส ซ่ึงได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีใน ดงั นี้
หอจดหมายเหตุของกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส
และมีการจัดส่งเข้ามาเพ่ือเผยแพร่ในประเทศ ม้วน ๑
ไทยโดยสถานเอกอัครราชทูตฝร่ังเศส ประจ�ำ ๑. โรงทหารกาเทดราลท่ีเมืองมาร์แซย์
ประเทศไทย ซึ่งทหารไทยไปพักอยู่ กองทหารไทยไปรับ
ประทานอาหาร
ภาพยนตร์นี้เป็นการบันทึกกิจวัตร ๒. นายพลตรพี ระยาพไิ ชยชาญฤทธแิ์ ละ
ของกองทหารไทย ตามล�ำดับเวลานับตั้งแต่ คณะทูตทหารท่ีโรงทหารกาเทดราล ณ เมือง
เดินทางไปเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศส ไปจนการ มารแ์ ซย์
เดนิ ทางไปประจำ� การตามสถานทตี่ า่ ง ๆ การฝกึ ๓. โรงทหารแซงตช์ ารล์ ทมี่ ารแ์ ซย์ นาย-
อบรมหน้าท่ีตามภารกิจ เป็นการบันทึกอย่าง พลเลอกรังด์ และนายพลตรพี ระยาพิไชยชาญ-
ละเอียด โดยเฉพาะอาจกล่าวได้ว่าสามารถ ฤทธ์ิตรวจพลสวนสนาม
บั น ทึ ก ท ห า ร อ า ส า ส ย า ม ทุ ก ค น ร ว ม ไ ว ้ ใ น ๔. นายพลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์
ภาพยนตรน์ ้ี ต้อนรบั กองทหารไทย
๕. กองทหารไทยเดินแถวผ่านนายพล
หอภาพยนตร์ได้ตรวจสอบเนื้อหา เลอกรังด์และนายพลตรพี ระยาพิไชยชาญฤทธิ์
เรื่องราวในภาพยนตร์นี้แล้ว เช่ือว่าน่าจะเป็น ๖. กองทหารไทยโห่รอ้ งไชโยให้แกน่ าย
เนื้อหาท่ีตรงกับภาพยนตร์ “ทหารไทยท่ีอาษา พลท้งั สอง
ปราบฮั่น” ของกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
22
๗. ทูตสยามที่ปารีสและโรมเย่ียมท่ีพัก พ่ีน้องเมื่อก่อนหน้าจะเข้าไปเคียงไหล่ช่วยกัน
ทหารไทย รบศกึ ทแี่ นวรบ
๘. นายพันเอกพระเฉลิมอากาศอ่าน ภาพยนตร์ชุดนี้ นับว่ามีค่าเป็นเอกสาร
ค�ำปฏิสันถารของพระองค์เจ้าจรูญฯ ให้กอง ประวตั ศิ าสตรบ์ นั ทกึ กจิ กรรมวตั รปฏบิ ตั ขิ องกอง
ทหารไทยฟงั ทหารไทยในสงครามโลกครงั้ ที่ ๑ ไดอ้ ยา่ งดี เปน็
บันทึกภาพจ�ำของเหล่าพลทหารและนายทหาร
๙. พระองคเ์ จา้ จรญู ฯ แจกของทรี่ ฦกแก่ ทั้งปวงไวอ้ ยา่ งสมบูรณ์ น่าเสยี ดายท่ีภาพยนตร์
ทหารไทยในการที่ได้มาสู่ประเทศฝรั่งเศส ต่อ ชุดน้ีถูกเก็บง�ำไว้ตลอดเกือบร้อยปีท่ีผ่านมา ใน
หน้าพระยาพิพัฒน์โกษา อรรคราชทูตสยาม ขณะทมี่ กี ารจดั งานรำ� ลกึ สงครามโลกครง้ั ท่ี ๑ ท่ี
ประจ�ำกรุงโรมและต่อหน้าพระยาพิไชยชาญ- เรยี กวา่ วนั ทหารผา่ นศกึ ในวนั ที่ ๑๑ พฤศจกิ ายน
ฤทธิ์ ทกุ ปี ซง่ึ เปน็ วนั ยตุ สิ งครามโลกคร้ังท่ี ๑ และจะ
มีทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ท่ียังมี
มว้ น ๒ ชวี ติ อยมู่ ารว่ มงานทกุ ปี ในขณะทแ่ี ตล่ ะปี ทหาร
• ทหารไทยไปดูภาพยนตรท์ ีม่ าร์แซย์ ผ่านศึกที่มีชีวิตอยู่เหลือน้อยลงไปทุกปี จน
• ทหารนกั บนิ ไทยไปถงึ สถานอี ศิ เตอรด์ ทหารผ่านศึกคนสุดท้ายเสียชีวิตไปแล้วหลายปี
• ไปยังสนามเครื่องบิน เราจึงพบภาพยนตร์น้ี อย่างน้อยภาพยนตร์น้ี
• ไปถึงสนามเคร่อื งบิน จะเป็นภาพอันมีชีวิตชีวาแทนตัวทหารผ่าน
• ผู้บังคับการเดอะมาลอรบ์ และครู ศึกท้ังหลายเหล่าน้ันตลอดไป จึงสมควรที่
นกั บนิ ฝร่ังเศสกับนายทหารนกั บินไทย ณ ทีพ่ กั ภาพยนตร์นี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดก
เครือ่ งบนิ ภาพยนตรช์ ้นิ หนงึ่ ของชาติ
• พระยาพิไชยชาญฤทธิ์กับกองเสนา-
ธิการและนายทหารฝรั่งเศสดูการซ้อมวิชาขับ
รถยนต์
มว้ น ๓
• พระยาพิไชยชาญฤทธ์ิ ตรวจพล
ทหารไทยทโี่ รงเรยี นเครอ่ื งยนตก์ อ่ นหนา้ ทที่ หาร
เขา้ สแู่ นวรบ
• การเดินรถยนต์
• ความเป็นไปต่าง ๆ ที่โรงเรียน
เครอื่ งยนตท์ หารฝรง่ั เศสและไทยปะปนกนั อยา่ ง
23
[เด็กซนสมัย ร. ๗]
[พ.ศ. ๒๔๗๐-๒๔๗๕] ตั้งใจให้เด็ก ๆ ชายหญงิ อายรุ าว ๓ - ๔ ขวบ ถึง
[ความยาว ๗ นาที] ๑๐ ขวบ กลมุ่ หนง่ึ ซง่ึ ดเู หมอื นจะเปน็ ญาตพิ นี่ อ้ ง
ฟิล์ม ๑๖ มม. / ขาว-ดำ� / เงยี บ ในครอบครัวเดียวกัน มาแสดงโชว์การเล่นและ
ผู้สร้าง โชว์ความสามารถในการแสดง เช่น เล่นมอญ
ซ่อนผ้า เล่นกระโดดข้ามตัวที่ต่อให้สูงขึ้นเป็น
ภาพยนตร์ม้วนนี้ เป็นหนึ่งในฟิล์ม ขนั้ ๆ การแสดงทา่ เตน้ ระบ�ำจากหนงั ฝรั่ง การ
ภาพยนตร์ ๑๖ มม. จำ� นวนสม่ี ว้ นทนี่ ายสขุ เกษม แสดงทา่ ชกตอ่ ยแบบหนงั ฝรง่ั การแสดงทา่ ตลก
อุยโต ค้นพบในกุฏิหลังหนึ่งในวัดสัมพันธวงศ์ จ�ำอวดจากหนังฝร่ัง เน้ือหาในภาพยนตร์ทั้งส่ี
กรุงเทพ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยไม่ทราบว่ามี ม้วนนี้ ไม่มีอะไรที่บ่งบอกวา่ มคี วามเกี่ยวพนั กนั
ความเป็นมาอย่างไร แต่จากการตรวจสอบ เลย นอกจากพบอยู่ด้วยกัน และอยู่ในยุคสมัย
เน้ือหาในฟลิ ์มภาพยนตรท์ ่ีพบนี้ ปรากฏวา่ เป็น เดียวกนั
ภาพยนตร์ท่ีถ่ายท�ำในราวปี พ.ศ. ๒๔๗๐ -
๒๔๗๕ และเน่ืองจากไม่มีหลักฐานบันทึกบน เฉพาะฟิล์มม้วนท่ีเป็นเรื่องเด็ก ๆ เล่น
กลอ่ งบรรจฟุ ลิ ม์ และในเนอื้ หาภาพยนตรเ์ ลย จงึ โชว์หน้ากล้องถ่ายภาพยนตร์นี้ นับว่ามีความ
ไม่ทราบว่าเป็นภาพยนตรข์ องใคร ฟลิ ์มสีม่ ว้ นนี้ น่าสนใจย่ิง ในการบันทึกให้เห็นพฤติกรรมการ
พบว่าม้วนหน่ึงเป็นการบันทึกพิธีการรับเสด็จ เล่นและการแสดงออกของเด็กไทยในสังคม
(หรือส่งเสด็จ?) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เมอื งสมัยรชั กาลท่ี ๗ โดยเฉพาะการสะท้อนให้
และพระราชินี เสด็จฯ ประพาสทางเรือที่ท่า เห็นได้ว่าภาพยนตร์มีอิทธิพลอย่างใดและ
ราชวรดิฐ ม้วนหนึ่งเป็นภาพยนตร์บันทึกการ เพยี งไรตอ่ วถิ ีชวี ิตของคนและสงั คมในสมยั นัน้
เดนิ ทางไปเทยี่ วของครอบครวั (ซงึ่ ดเู หมอื นเปน็
ครอบครัวชนชั้นขุนนาง) ตามหัวเมืองรอบ ๆ ในตอนตน้ ของภาพยนตรม์ ว้ นนี้ เรม่ิ ดว้ ย
พระนคร มว้ นหนง่ึ เปน็ ภาพยนตรบ์ นั ทกึ งานพธิ ี ภาพของรถยนต์เก๋งเปิดประทุนคันหนึ่งแล่น
มงคลฉลองวันเกิดหรือฉลองอะไรสักอย่างของ เข้ามาที่ลานสนามแห่งหน่ึง มีชายหนุ่มคนหนึ่ง
สุภาพบุรุษสูงวัยท่านหนึ่ง ที่บ้านริมแม่น้�ำ ซึ่งแต่งกายชุดสูทฝร่ังและเขียนหน้าคล้าย
เจา้ พระยา และอกี มว้ นหนง่ึ เปน็ การบนั ทกึ อยา่ ง ตวั ตลกโจก๊ เกอรล์ งมาจากรถ แลว้ ถกู เดก็ ๆ ราว
สบิ คนชว่ ยกนั จบั ตวั เขาวง่ิ หนเี ดก็ ไปมาจนตกลง
ไปในบอ่ นำ้� จากน้นั จึงเปน็ การแสดงของเด็ก ๆ
24
ภาพยนตรม์ ว้ นนจี้ งึ เปน็ ตวั อยา่ งอนั หาได้ เป็นมรดกภาพยนตรข์ องชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘
ยากยิง่ ของภาพยนตรท์ บี่ ันทกึ ใหเ้ หน็ พฤติกรรม นี้ จงึ ตกลงใหใ้ ชช้ อ่ื ในการขน้ึ ทะเบยี นวา่ [เดก็ ซน
การเลน่ ซนหรอื การเลน่ อวดของเดก็ ไทยในสมยั สมัย ร.๗] โดยมีวงเล็บซึ่งเป็นเคร่ืองหมายใน
รัชกาลท่ี ๗ และกริยาอาการหรอื ท่าทางเหล่านี้ ระบบทะเบียนภาพยนตร์ของหอภาพยนตร์ว่า
ไมอ่ าจบรรยายใหเ้ หน็ ไดเ้ ลยด้วยภาษาพดู เขยี น หมายถึงช่ือที่ต้ังขึ้นเองเพราะไม่ทราบชื่อจริง
หรือภาพนงิ่ นอกจากภาพเคลือ่ นไหวจากกล้อง หรอื ไม่มชี ือ่ มาแต่เดิม
ถา่ ยภาพยนตรเ์ ท่าน้ัน
หอภาพยนตร์ได้ตั้งชื่อภาพยนตร์ม้วนนี้
เป็นการล�ำลองไว้สองสามชอื่ เชน่ เด็กยุค ร.๗
โชว์ เดก็ ซนสมยั ร.๗ และ การละเลน่ ของเดก็
ยุค ร.๗ แตเ่ มอ่ื ฟิลม์ ม้วนนไ้ี ด้รบั การขึน้ ทะเบยี น
25
พนั ทา้ ยนรสิงห์
วนั แรกฉาย ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ ไปในทางทผ่ี ดิ ทง้ั เพอื่ ตรวจดทู กุ ขส์ ขุ ของราษฎร
ความยาว ๙๘ นาที ด้วยพระองค์เอง และทรงได้พบกับนายสิน
ฟิล์ม ๑๖ มม. / สี / พากย์ พนั ทา้ ยเรอื ของพระยาพชิ ยั ขนุ นางในราชสำ� นกั
สถานท่ีฉายครั้งแรก ศาลาเฉลมิ กรุง และรู้สึกพอพระทัยในความสามารถด้านการ
บริษัทสรา้ ง อศั วินภาพยนตร์ ต่อยมวยและน�้ำจิตน�้ำใจของนายสิน ทั้งสอง
ผู้อ�ำนวยการสรา้ ง พระเจ้าวรวงศ์เธอพระ- จงึ เป็นสหายกนั กระท่ังพระเจ้าเสือทรงเปดิ เผย
องค์เจา้ ภาณพุ นั ธ์ุยคุ ล พระองคแ์ ละทรงแต่งตงั้ ให้นายสินเป็น พนั ทา้ ย
ผกู้ ำ� กับการแสดง มารตุ นรสิงห์ คมุ เรอื พระท่นี ง่ั
ผเู้ ขยี นเร่ือง พระเจ้าวรวงศ์เธอพระ-
องคเ์ จ้าภาณุพนั ธ์ุยุคล วนั หนงึ่ พนั ทา้ ยนรสงิ หท์ ราบวา่ พระยา-
ผถู้ า่ ยภาพ รตั น์ เปสตันยี พิชัย เจ้านายเก่าคิดจะลอบปลงพระชนม์
ผแู้ สดงน�ำ ชชู ยั พระขรรคช์ ยั ,สพุ รรณ พระเจ้าเสือขณะเสด็จประพาสต้นทางเรือ
บรู ณะพมิ พ,์ ถนอม อคั รเศรณ,ี ช. แสงเพญ็ , แชน พระที่น่ัง ครั้นจะเพ็ดทูลความแด่พระเจ้าเสือ
เชิดพงษ์, อบ บญุ ติด, สิน, สมพงษ์ พงษม์ ิตร, หรือก็กลวั อนั ตรายจะถึงเจา้ นายเกา่ พนั ทา้ ยจงึ
ทัต เอกทัต, อดุ ม ปติ วิ รรณ, ทวสี นิ ถนอมทพั , ให้ นวล ภรรยาไปวิงวอนให้พระยาพิชัยเลิก
จมุ พล ปทั มนิ ทร,์ มงคล จันทนบุปผา, อดิเรก คดิ การเสีย เพราะฝา่ ยหน่ึงคือเจ้านายเก่า ส่วน
จนั ทรเ์ รือง อีกฝ่ายก็เป็นเจ้านายใหม่ท่ีตนให้ความเคารพ
ทงั้ คู่ ฝา่ ยนวลเมอ่ื เดนิ ทางไปถงึ กส็ ามารถวงิ วอน
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคพระเจ้าเสือ พระยาพิชัยส�ำเร็จ แต่มาเกิดเหตุกลางทางท�ำ
ขุนนางคิดคดทรยศต่อพระเจ้าเสือ น�ำชื่อของ ให้ไม่สามารถน�ำความส�ำเร็จไปบอกสามีได้ทัน
พระองคไ์ ปแอบอา้ งในทางเสยี หายทำ� ใหร้ าษฎร ท�ำให้สินซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีพันท้ายเรือพระท่ีน่ัง
รจู้ กั พระองคใ์ นทางเลวรา้ ย ไมว่ า่ ในดา้ นราชการ ตัดสินใจแสร้งบังคับให้หัวเรือชนเข้ากับกิ่งไม้
หรอื ส่วนพระองค์ จนราษฎรเกลยี ดกลัวไมก่ ล้า จนหัวเรือหักเพื่อหยุดการเสด็จประพาสกลาง
พบพระพกั ตร์ พระองคจ์ งึ ตอ้ งปลอมตวั ไปสบื หา ครัน สินทูลขอให้พระเจ้าเสือประหารตนเพ่ือ
ความชวั่ ของพวกขนุ นางทท่ี ำ� ใหพ้ ระองคถ์ กู มอง รักษาจารีตตามกฎมณเฑียรบาล และเพื่อคงไว้
ซ่ึงความศักด์ิสิทธ์ิของกฎหมาย ด้วยความรัก
26
27
28
และเมตตา พระเจา้ เสอื ทรงอภัยโทษให้ แต่สิน นวลก�ำลังจะมีลูกท�ำให้มีรสชาติของความรัก
กลับยนื ยนั ให้ทรงรักษากฎ และแม้พระเจา้ เสือ และกลายเปน็ โศกนาฏกรรมแหง่ ความรกั ความ
มพี ระราชดำ� รใิ หท้ ำ� รปู ปน้ั สนิ และประหารรปู ปน้ั เสียสละรกั และความกล้าหาญเพอ่ื รักษาความ
แทน สินก็ไมย่ อม ที่สดุ พระองคจ์ งึ จ�ำพระทัยให้ ดี ความถูกต้องเป็นอุดมคติ สร้างอารมณ์ให้
ทหารตัดศีรษะพันท้ายนรสิงห์ผู้ภักดีและสหาย ฮกึ เหมิ พอ ๆ กับหดหเู่ วทนา
รักด้วยความสุดแสนโทมนัส และยิ่งทวีความ
โทมนัสเมื่อนวลมาถงึ แตไ่ ม่ทันการณ์เสยี แลว้ เม่ือเป็นภาพยนตร์คร้ังแรกน้ี ก็ปรากฏ
ได้รับความนิยมจากประชาชนผู้ชมทั่วประเทศ
เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องหน่ึงท่ีประสบ เพลงเอกเพลงหนึ่งในภาพยนตร์ คือ น�้ำตา
ความส�ำเร็จอย่างสูง ในยุคท่ีเริ่มมีการสร้าง แสงใต้ ทพี่ ระเอกร้องร่�ำอาลยั ลาเมีย กลายเป็น
ภาพยนตร์ไทยขึ้นอีกหลังสถานการณ์สงคราม เพลงอมตะเพลงหนึง่ ของชาติ ฉากเรือพระที่นั่ง
โลกคร้ังที่ ๒ ท�ำจากบทละครเวทีของพระเจ้า เม่อื เสดจ็ ไปในคลองโคกขามและเกิดเหตุ กเ็ ป็น
วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ซ่ึงเมื่อ ฉากหนึ่งท่ีติดตรึงตาตรึงใจและอยู่ในความ
เปน็ ละครเวทที ม่ี กี ารแสดงระหวา่ งสงครามและ ทรงจำ� ของผูช้ มภาพยนตร์
หลังสงครามใหม่ ๆ กป็ รากฏว่าไดร้ ับความนยิ ม
อย่างสูงจากประชาชน เป็นเรื่องท่ีแต่งขึ้นจาก พันท้ายนรสิงห์ จึงเป็นภาพยนตร์ที่
เรื่องเกร็ดในพงศาวดารและประวัติศาสตร์สมัย ตวั มนั เองเปน็ ประวตั กิ ารณใ์ นสงั คมไทยในชว่ งปี
รชั กาลพระเจ้าเสือ กรุงศรีอยธุ ยาตอนปลาย ซง่ึ ทอี่ อกฉาย เปน็ ภาพยนตรท์ ม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ อารมณ์
เกร็ดในประวัตศิ าสตรน์ ้ันกล่าวแต่ว่า เหตุที่เรอื และความเชื่อของผู้คนทั่วไปในสังคมไทย ซ่ึง
พระที่นัง่ ชนฝ่งั หกั ล่มเพราะล�ำนำ�้ คลองโคกขาม แยกแยะไม่ออกว่าเรื่องราวและตัวละครใน
นั้นคดเค้ียวมาก จนพันท้ายไม่สามารถคัดท้าย ภาพยนตร์เปน็ จริงหรือแต่งเติม และภาพยนตร์
เรือได้ แต่พันท้ายกลับยอมรับผิดไม่โทษเหตุ นี้คงจะมีส่วนท�ำให้พันท้ายนรสิงห์เป็นตัวแทน
สดุ วสิ ัย ยอมถูกประหารเพอ่ื รกั ษากฎ จงึ กินใจ ในอดุ มคตขิ องความจงรกั ภกั ดี ความซอื่ สตั ยต์ อ่
ผู้คนในความจงรักภักดีประเภทยอมตายถวาย สถาบันตลอดกาลในสงั คมไทย
ชีวีต่อเจ้าเหนือหัวและความกล้าหาญเสียสละ
ชีวิตเพ่ือรักษาระเบียบประเพณี เร่ืองของ
พนั ทา้ ยนรสงิ หเ์ ปน็ ตำ� นานของผซู้ อ่ื สตั ยซ์ ง่ึ ไดร้ บั
การบูชาดุจเทพเจ้า ผู้แต่งบทละครได้แต่งเพ่ิม
ตวั ละครภรรยาของพนั ทา้ ยนรสงิ ห์ คอื นวล และ
29
[ทหารไทยไปเกาหล]ี
[พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๕] เกาหลีท่ีถูกกองทัพคอมมิวนิสต์รุกราน ต้อง
ฟิลม์ ๑๖ มม. / ขาว-ด�ำ / เสียง พลดั พรากจากที่อยู่ อดอยาก บาดเจ็บ ลม้ ตาย
ความยาว ๗.๔๒ นาที แล้วแสดงให้เห็นกองทหารไทยที่เดินทางไป
ผสู้ รา้ ง ส�ำนักข่าวสารอเมรกิ นั กรงุ เทพ รว่ มกับกองทพั สหประชาชาตอิ นื่ ๆ ต่อสูข้ บั ไล่
กองทัพคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีศีลธรรม มีความ
เป็นภาพยนตร์โฆษณาชวนเชือ่ ท่สี �ำนกั ละโมบคิดการรา้ ยจะยดึ ครองโลก
ข่าวสารอเมริกัน กรุงเทพ ให้ผลิตขึ้นส�ำหรับ
เผยแพรส่ ่ปู ระชาชนไทย ในช่วงเวลาทีก่ ำ� ลังเกดิ ในตอนท้าย ภาพยนตร์ได้โฆษณาโน้ม-
สงครามเกาหลี และประเทศไทยส่งกองก�ำลัง นา้ วใหผ้ ชู้ มชาวไทยเหน็ ภยั ของลทั ธคิ อมมวิ นสิ ต์
อาสาสมัครเข้าร่วมสงคราม เพื่อแสดงให้เห็น ให้ช่วยกันสอดส่อง ระวังพวกคอมมิวนิสต์ที่
เหตุผลการเข้าร่วมสงครามเกาหลีของประเทศ คอยเขา้ มาแทรกซมึ ยยุ ง ขออยา่ ไดห้ ลงเชอื่ และ
ไทย ในฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ช่วยกันขับไล่ออกไป มีภาพที่จัดฉากแสดง ใช้
ภาพยนตร์ใช้วิธีให้ผู้บัญชาการกองทหารไทย ดารานกั แสดงละครและภาพยนตร์ไทย คือ ทตั
พล.ต ม.จ. พิสษิ ฐ์ดศิ พงษ์ ดิศกุล เป็นผนู้ �ำเสนอ เอกทตั แสดงเป็นคอมมิวนิสต์ทเ่ี ข้ามายยุ ง และ
เร่ืองราวเน้ือหาในภาพยนตร์ โดยทรงปรากฏ ในบรรดาผแู้ สดงเปน็ ไทยมงุ ทย่ี นื ลอ้ มฟงั การยยุ ง
องค์เป็นผู้บรรยายเร่ืองราวด้วยพระองค์เอง นัน้ คนหน่งึ คือ อำ� นวย กลสั นมิ ิ หรอื ครเู นรมิต
ท่านได้เล่าถึงสภาพความทุกข์ยากของชาว ผสู้ รา้ ง - ผูก้ �ำกับภาพยนตรไ์ ทยทีม่ ชี ื่อเสียงและ
บทบาทส�ำคญั คนหนึ่ง
30
ภาพยนตรน์ ้ี เปน็ ตวั อยา่ งของภาพยนตร์ เนอ่ื งจากฟลิ ม์ ภาพยนตรท์ ห่ี อภาพยนตร์
โฆษณาชวนเชอ่ื ในยุคสงครามเย็นของโลก เป็น ไดร้ บั มอบมา เปน็ กอ๊ ปปท้ี ผี่ า่ นการจดั ฉายจนอยู่
เอกสารหรือหลักฐานประวัติศาสตร์ไทยกับ ในสภาพช�ำรุด และไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะต้น
สงครามเกาหลีที่มีค่าในการศึกษาชิ้นหนึ่ง โดย ม้วนขาดหายไป จึงไม่ทราบชื่อเร่ืองที่แท้จริง
เฉพาะการศึกษาถึงอารมณ์การรับรู้ข้อมูล แต่เดิม หอภาพยนตร์ได้ตั้งชื่อเองข้ึนใหม่ว่า
ข่าวสารของสังคมไทยในเวลาน้ัน เป็นความ [ทหารไทยไปเกาหล]ี
ทรงจ�ำของสังคมไทยในทศวรรษของปี พ.ศ.
๒๔๙๐ สงครามเกาหลีด�ำเนินไปเป็นเวลาราว
๓ ปี (พ.ศ. ๒๔๙๓-๒๔๙๖) ยตุ เิ ม่ือมีการตกลง
ท�ำสัญญาสงบศึก แบ่งประเทศเกาหลีเป็นสอง
ประเทศ เหนอื และใต้เสน้ ขนานที่ ๓๘
31
มรดกพระจอมเกลา้
HERITAGE FROM KING MONGKUJ
พ.ศ. ๒๔๙๗ พากย์สดเมื่อน�ำออกฉาย และประสบความ
ความยาว ๖๐ นาที ส�ำเร็จเป็นอย่างมาก เมื่อสหรัฐฯ คิดจะสร้าง
ฟลิ ม์ ๑๖ มม. / สี / เสียง จำ� นวน ๓ มว้ น ภาพยนตรเ์ พอ่ื เชดิ ชคู ณุ งามความดขี องประเทศ
อ�ำนวยการสรา้ ง สำ� นักขา่ วสารอเมริกัน ตนทมี่ ตี อ่ ประเทศไทย จงึ ไดช้ กั ชวน “ทา่ นขาว”
ผสู้ รา้ ง ปรเมรภุ าพยนตร์ มาร่วมงาน
หลังจากที่ส�ำนักข่าวสารอเมริกันได้เข้า ภาพยนตร์เรอ่ื ง “มรดกพระจอมเกลา้ ”
มาตง้ั สำ� นกั งานในประเทศไทย บทบาททส่ี ำ� คญั เป็นผลงานเร่ืองส�ำคัญของส�ำนักข่าวสาร
หนง่ึ คอื การโหมประชาสมั พนั ธเ์ กยี่ วกบั ประเทศ อเมริกัน ทางส�ำนักงานคงคิดอย่างดีแล้วว่าจะ
สหรัฐอเมริกาให้คนไทยรู้จัก และได้เชิญชวน ท�ำเรื่องอะไรดี ก็คงมาสรุปว่าเอาเรื่องที่แสดง
นักสร้างหนังไทยมืออาชีพมาสร้างภาพยนตร์ที่ ความสมั พนั ธอ์ นั ดตี ง้ั แตเ่ ริ่มต้นระหวา่ งอเมรกิ นั
เรียกว่าภาพยนตร์โฆษณาชวนเช่ือให้ส�ำนัก กับไทย ซึ่งก็คือเรื่องที่คนอเมริกันเข้ามาสยาม
ขา่ วสารอเมรกิ นั และท�ำประโยชน์ให้ชาวสยาม มีตัวละครท่ี
คนไทยรจู้ กั กนั ดี อยใู่ นเรอื่ งดว้ ย ไดแ้ กด่ อกเตอร์
ม.จ. ศกุ รวรรณดศิ ดศิ กุล หรือที่คนใน แดน แบรดลีย์ หรือที่คนไทยเรียกหมอปรัดเล
วงการหนงั ไทยเรยี กกนั วา่ “ทา่ นขาว” พระโอรส หมอสอนศาสนาซ่ึงเป็นนายแพทย์ด้วย เป็น
ของกรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ เป็นหน่ึงท่าน ตวั เอกฝา่ ยอเมรกิ นั ตวั เอกฝา่ ยไทย คอื พระบาท
ทไี่ ดร้ บั การสนบั สนนุ จากสำ� นกั ขา่ วสารอเมรกิ นั สมเด็จพระจอมเกล้าฯ และมรดกของพระองค์
ท่านได้ฝากฝีไม้ลายมือการก�ำกับภาพยนตร์มา คอื พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ ฯ
แลว้ ตั้งแตส่ มัยก่อนสงครามโลกครั้งท่ี ๒ และ
สรา้ งชอ่ื อกี ครงั้ เมอ่ื สรา้ งภาพยนตรเ์ รอ่ื ง “สภุ าพ- สำ� นกั ขา่ วสารอเมรกิ นั ไดจ้ า้ งผสู้ รา้ งหนงั
บุรษุ เสือไทย” รว่ มกับ แท้ ประกาศวฒุ ิสาร ใน จากฮอลลวี ดู้ เขา้ มาเปน็ ผสู้ รา้ ง แตค่ งดว้ ยเหตผุ ล
นามของบริษัทปรเมรุภาพยนตร์ ซึ่งเป็น ความเหมาะสมบางอย่าง จึงให้หม่อมเจ้าศุกร-
ภาพยนตร์เรื่องส�ำคัญท่ีท�ำให้เกิดการสร้าง วรรณดิศ เป็นผู้ร่วมด�ำเนนิ งานด้วย ภาพยนตร์
ภาพยนตร์ด้วยฟิล์มขนาด ๑๖ มม. ใช้การ นี้ผู้สร้างเดิมคือส�ำนักข่าวสารอเมริกัน ตั้งใจให้
เป็นภาพยนตร์โฆษณาชวนเช่ือให้สหรัฐอเมริกา
32
แตเ่ มอื่ มีคนไทยเขา้ ไปรว่ มทำ� ดว้ ย จงึ มีความคิด ขาว” ไปตั้งกองถ่ายท�ำภาพยนตร์ให้อเมริกัน
ของไทยเข้าไปผสมปนด้วย และน่าสังเกตว่ามี ที่วังท่าพระ จึงไปเย่ียมชม เวลานั้นกองถ่ายยัง
ตัวละครอกี ตัวหน่งึ ของฝา่ ยไทย คอื กรมพระยา หาคนแสดงบทพระจอมเกล้าไม่ได้ เม่ือนาย
ดำ� รงราชานภุ าพ ทคี่ อ่ ย ๆ แสดงบทบาทอยหู่ ลงั Arnold Belgard ผแู้ ต่งเรอื่ ง “มรดกพระจอม-
ฉากแต่เอาเข้าจริงดูเหมือนว่าเป็นมรดกพระ- เกล้า” เห็นรูปร่างหน้าตาท่าทีของสันตสิริ ว่า
จอมเกล้าทีห่ นังไม่ได้เจตนาชวนเชือ่ มาก่อน เล่นเป็น ร.๔ ได้ จึงปรึกษาหารือท่านขาวให้
ชักชวนมารับบทน้ี ส่วนหมอบรัดเลน้ันกเ็ อาคน
ถึงแม้จะใช้ผู้สร้างมืออาชีพมาจาก วงใน คือ Daniel Moore เจา้ หน้าที่ช้นั ผู้ใหญ่
ฮอลลวี ดู้ แตก่ องถา่ ยมไิ ดใ้ ชน้ กั แสดงอาชพี หาก ของส�ำนักข่าวสารอเมริกันที่เชียงใหม่มาแสดง
ใช้ผแู้ สดงสมคั รเล่นหรอื กติ ตมิ ศกั ด์ิ เชน่ ผู้แสดง สันตสิริเล่าเกร็ดเคร่ืองแต่งกายของตัวแสดง
เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ซ่ึงมีบท หมอบรัดเลว่า ใส่ชุดแต่งกายเป็นฝรั่งอเมริกัน
ต้ังแต่เมื่อเป็นพระภิกษุ ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ สมัยอับราฮมั ลนิ คอลน์ ราวกบั จะแข่งกับ เรก็ ซ์
จนขึ้นครองราชย์ ก็ได้ “สันตสิริ” หรือ สงบ แฮรสิ นั ในภาพยนตรเ์ รอ่ื ง Anna and the King
สวนสิริ นกั ประพันธ์นักหนังสือพมิ พม์ าเล่น ซ่ึง of Siam และให้ไว้ผมต่อจอนยาวยิ่งกว่าจอน
ท่านได้เขียนเล่าที่มาว่า ที่ได้จับพลัดจับผลูไป ของ “อิงอร” นักเขยี นท่านหนึ่งเสยี อีก
แสดงภาพยนตรม์ าจากวนั หนึ่งไดข้ า่ วว่า “ท่าน
33
มรดกพระจอมเกล้า ด�ำเนินเร่ืองตั้งแต่ หมอบรัดเล ด้วยหน้าตาท่ีผิดแผกไปจากคน
คร้ังเจ้าฟ้ามงกุฎยังทรงผนวชในรัชกาลท่ี ๓ ธรรมดา อกี ทง้ั รปู รา่ งทใ่ี หญโ่ ต เมอ่ื ทำ� การตรวจ
ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าสมเด็จพระทรงมี รักษาโรคก็มีเครอ่ื งมืออนั แปลกประหลาด อาทิ
พระสหายเปน็ หมอสอนศาสนาชาวอเมรกิ นั คอื หฟู ังทางการแพทย์ เด็ก ๆ มักจะหวาดกลวั คดิ
หมอบรัดเล ซึ่งทรงคุ้นเคยและเรียนรู้เร่ืองราว ว่าเป็นงูแฝดก็ไม่ยอมให้หมอตรวจร่างกาย
ทางวิทยาการสมัยใหม่จากพระสหายท่านนี้ มี สมเด็จพระซึ่งเสด็จผ่านมาจึงทรงอธิบายให้
ฉากท่ีแสดงให้เห็นบทบาทส�ำคัญของหมอ เดก็ ได้เขา้ ใจว่าเป็นเครือ่ งมือทางการแพทย์
บรดั เล เชน่ คร้ังหนง่ึ ในงานฉลองสมโภชท่วี ัด
ประยรุ วงศาวาส ซงึ่ สมเดจ็ พระเสดจ็ ฯ อยใู่ นงาน ต่อมาเมื่อสิ้นรัชกาลท่ี ๓ สมเด็จพระ
ดว้ ย มกี ารยงิ สลดุ แลว้ เกดิ อบุ ตั เิ หตรุ ะเบดิ ขน้ึ มี เสดจ็ ข้ึนครองราชย์ ทรงมกี ระแสพระราชด�ำรัส
พระภิกษุรูปหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดอาการสาหัส ประกาศว่า ในรัชสมัยของพระองค์ทรงมีความ
สมเด็จพระให้ตามหมอบรัดเลมารักษา อันเป็น นิยมและไม่มีความระแวงสงสัยคนอเมริกันใน
มูลเหตุให้มีการรักษาโดยการผ่าตัดสมัยใหม่ข้ึน ทกุ กรณี ทรงมพี ระราชสาสน์ ไปถงึ ประธานาธบิ ดี
เป็นรายแรกในสยาม ท�ำให้สมเด็จพระทรงมี ลินคอล์น ในเวลาท่ีก�ำลังมีสงครามกลางเมือง
ความเลื่อมใสหมอฝรง่ั คนนมี้ ากข้ึน ทรงแสดงพระราชประสงค์จะส่งช้างไปช่วยใน
การรบ นับว่าความสัมพันธ์ระหว่างสยามกับ
ตอ่ มาไดเ้ กดิ โรคไขท้ รพษิ ระบาด ราษฎร สหรัฐอเมริกาเป็นไปดว้ ยดอี ย่างยง่ิ
ล้มตายกันมาก สมเด็จพระทรงกลัดกลุ้มพระ-
ราชหฤทัยท่ีราษฎรของพระองค์ต้องเสียชีวิตลง นบั แตน่ นั้ มา ความเจรญิ ทางดา้ นตา่ ง ๆ
เพราะโรคร้ายมากมาย ทรงทราบข่าวว่าหมอ ก็หล่ังไหลเข้ามาสู่ประเทศสยามอย่างรวดเร็ว
บรัดเลก�ำลังทดลองเพาะเช้ือเซร่ัมหรือเชื้อโรค เช่น แท่นพิมพ์ เคร่ืองท�ำเหรียญกษาปณ์ การ
ใส่เข้าไปในรา่ งกายคนเพือ่ ไมใ่ หต้ ดิ โรคนี้ นั่นคือ ปกครองแผนใหม่ การเรยี นการสอน โดยเฉพาะ
วธิ ีการปลกู ฝี โดยยอมทดลองทำ� กบั ลูกสาวของ ทรงโปรดฯ ให้แหม่มภริยาของมิชช่ันนารี
หมอเองก่อน เม่ือทรงเห็นความอุตสาหะของ อเมริกันเป็นครูสอนภาษาอังกฤษแก่สตรีใน
หมอบรดั เล จงึ ทรงคลายความกังวล อกี ทั้งเมอ่ื ราชส�ำนักเพ่ือจะได้ไปสอนสามีของตนต่ออีกที
ปรากฏวา่ เซรม่ั นน้ั ใชไ้ ดผ้ ลดจี รงิ จงึ ทรงใหม้ กี าร หนงึ่ (แนน่ อน เรอื่ งนจี้ งึ ไมม่ คี รแู หมม่ แอนนาชาว
ปลูกฝีให้ราษฎร ท�ำให้ราษฎรของพระองค์ อังกฤษ)
รอดพน้ จากการระบาดของโรครา้ ยได้ในทีส่ ุด
ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่า พระบาท
แรก ๆ ชาวบ้านจะยังไม่ไว้เนื้อเช่ือใจ สมเดจ็ พระจอมเกลา้ ฯ ทรงเปน็ นกั วทิ ยาศาสตร์
และทรงศึกษาค้นคว้าปรากฏการณ์ทางดารา-
34
ศาสตรอ์ ยา่ งมงุ่ มน่ั ทรงตรากตรำ� ในการคำ� นวณ น้ีออกฉายเผยแพร่ทั้งในโรงภาพยนตร์และ
การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอ และเสด็จ หน่วยฉายหนังกลางแปลงท่ัวประเทศ โดย
ไปทอดพระเนตรท่ีนั่น เป็นเหตุให้ทรงประชวร เฉพาะการส่งไปฉายในเด็กนักเรียนดูกันถึงใน
และเสดจ็ สวรรคตอย่างปจั จบุ นั โรงเรียน ก่อนท่ีส�ำนักข่าวสารอเมริกันนี้จะมี
บทบาทในการสร้างความรู้สึกนิยมชมชื่นใน
เจ้าฟ้าชายจุฬาลงกรณ์ พระราชโอรส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นมหามิตรใหม่
ได้ทรงสืบราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระ ของคนไทย เปน็ เพ่ือนที่หยบิ ย่ืนความช่วยเหลอื
จลุ จอมเกลา้ ฯ ทรงเปน็ กษตั รยิ ห์ นมุ่ ทตี่ ง้ั พระทยั นานาชนดิ มาใหค้ นไทย เพอื่ ปกปอ้ งมใิ หป้ ระเทศ
จะพัฒนาประเทศและท�ำนุบ�ำรุงให้ราษฎรอยู่ดี ไทยอันแสนน่าอยู่ต้องตกไปเป็นสมุนหรือข้ีข้า
กินดีขึ้น ได้เสด็จฯ ทรงเย่ียมราษฎรอย่างเป็น ของลทั ธิคอมมิวนิสต์ทค่ี ดิ ครองโลก
การสว่ นพระองคท์ เี่ รยี กวา่ ประพาสตน้ เสมอ ซงึ่
ภาพยนตร์ได้แสดงฉากจากเหตุการณ์ประพาส มรดกพระจอมเกล้า ในปัจจุบันจึงมีค่า
ต้นท่ีคนไทยรู้จักกันดี คือเสด็จฯ บ้านเจ๊กฮวด เปน็ เอกสารหลกั ฐานการสรา้ งอทิ ธพิ ลของสหรฐั
ที่สมทุ รสงคราม อเมริกาต่อประเทศไทย ผ่านการท�ำสงคราม
จติ วทิ ยา ซงึ่ กลายเปน็ สงครามเยน็ ทค่ี รอบงำ� โลก
อยมู่ าวันหนง่ึ ได้เกิดอหิวาตกโรคระบาด ในยคุ ทศวรรษของปี พ.ศ. ๒๔๙๐ – ๒๕๑๐ เปน็
ใหญ่อีก คราวน้ี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืน บันทึกความทรงจ�ำของยุคสมัยท่ีสังคมไทยเริ่ม
ด�ำรงราชานุภาพทรงแนะน�ำให้ในหลวงก่อตั้ง ผูกพันอันดีกับอเมริกันได้เป็นอย่างดี ซ่ึงไม่อาจ
โรงเรียนแพทย์เพ่ือให้ประเทศสยามสามารถ จะสมั ผัสไดจ้ ากคำ� บอกเลา่
ผลติ หมอรกั ษาโรคระบาดไดเ้ อง แลว้ แนะนำ� ฝรง่ั
ชาวอเมริกนั ชอื่ ยอรจ์ แมคคาแลน ซง่ึ เปน็ หมอ
ท�ำฟนั ฝีมอื ดีและรกั เมอื งไทยพอ ๆ กบั อเมรกิ า
ให้เป็นอาจารย์สอนนักเรียนแพทย์ เป็นอันว่า
สยามจึงมีโรงเรียนสอนการแพทย์ข้ึนเป็นแห่ง
แรกดว้ ยความชว่ ยเหลอื จากคนอเมรกิ นั จากนน้ั
กรมด�ำรงฯ ยังได้ทรงท�ำหน้าที่ถวายค�ำแนะน�ำ
และค�ำปรึกษาเมื่อในหลวงทรงปรึกษาในเร่ือง
ต่างเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ ท�ำให้ประเทศ
สยามมีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมากมาย
สำ� นกั ขา่ วสารอเมริกัน ไดน้ �ำภาพยนตร์
35
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว
เสด็จออกผนวช
[พ.ศ. ๒๔๙๙] พร้อมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพ่ือพระราช-
ความยาว ๑๓.๔๒ นาที ทานพระราชด�ำรัสแก่พสกนิกรที่มารอรับ
ฟลิ ม์ ๑๖ มม. / ขาว-ดำ� / เสยี ง จำ� นวน ๑ มว้ น เสด็จอย่างเนืองแน่น จากน้ันตอนบ่ายจึงเสด็จ
อำ� นวยการสร้าง ส�ำนักขา่ วสารอเมริกนั พระราชด�ำเนินไปวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ผูส้ รา้ ง พิฆเนศภาพยนตร์ เพ่ือเข้าพธิ ีผนวช ทา่ มกลางพระบรมวงศานวุ งศ์
และขา้ ราชการเขา้ รว่ มพธิ ภี ายในพระอโุ บสถวดั
หลงั จากทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระศรรี ตั นศาสดาราม พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ -
เสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวรในปี พ.ศ. อยู่หัวทรงได้รับพระสมญานามจากพระราช
๒๔๙๓ และทรงโปรดเกลา้ ฯ ให้จดั พระราชพิธี อุปัชฌาจารย์ ว่า “ภูมิพโล ภิกขุ” เมื่อทรง
บรมราชาภิเษกตามแบบโบราณราชประเพณี ประกอบพิธีส�ำเร็จเสร็จสิ้น พระภิกษุพระบาท
เป็นท่ีเรียบร้อย ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ จึงทรงมี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�ำเนินไป
พระราชประสงค์ท่ีจะทรงผนวช ส�ำนักข่าวสาร ประทบั ท่ีวดั บวรนิเวศราชวรวหิ าร ตลอดทางท่ี
อเมริกันได้บันทึกเหตุการณ์ส�ำคัญในครั้งน้ัน รถยนต์พระที่น่ังเสด็จฯ ผ่านมีประชาชนมาเข้า
เปน็ ภาพยนตร์สารคดีเชงิ ข่าว บนั ทกึ เหตุการณ์ เฝ้ารอชมพระบารมีอยู่ไม่ขาดสาย บ้างต้ังโต๊ะ
เม่ือครั้งท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ ถวายพระพรไว้ทห่ี น้าบา้ น
ออกผนวช ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๙๙
จนกระทงั่ ลาผนวชในวนั ท่ี ๕ พฤศจิกายน ในปี ตลอดระยะเวลา ๑๕ วันที่ทรงผนวช
เดียวกันน้ันเอง เพ่ือเผยแพร่พระราชจริยวัตร พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง
ในขณะที่ทรงผนวชให้ประชาชนชาวไทยได้มี บ�ำเพ็ญพระองค์โดยเคร่งครัดเช่นเดียวกับ
โอกาสชนื่ ชมพระบารมี โดยนำ� ออกฉายเผยแพร่ พระภิกษุอ่ืน ๆ เมื่อเสด็จลงพระอุโบสถเพื่อ
ทั่วประเทศ ทำ� วตั รเชา้ และเยน็ จะมปี ระชาชนมาเขา้ เฝา้ เพอื่
รอถวายดอกไม้และธูปเทียนเป็นจ�ำนวนมาก
ภาพยนตร์บันทึกภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ จ น ท า ง วั ด ต ้ อ ง น� ำ ด อ ก ไ ม ้ แ ล ะ ธู ป เ ที ย น ท่ี
วันท่ี ๒๒ ตลุ าคม เมอื่ พระบาทสมเด็จพระเจ้า- ประชาชนน�ำมาถวายไปแจกจา่ ยแก่วัดอื่น ๆ ใน
อยู่หัวได้เสด็จฯ ไปยังพระที่น่ังพุทไธสวรรย์ ภาพยนตรเ์ ราจะได้เห็น ม.ร.ว. คกึ ฤทธ์ิ ปราโมช
36
ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของพระภิกษุพระบาทสมเด็จ ต�ำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
พระเจ้าอยหู่ ัวน�ำเสด็จอยเู่ สมอ และภาพสมเด็จ ตักบาตร ตอ่ มาในวนั ที่ ๑ พฤศจกิ ายน ไดเ้ สด็จ
พระวนั รตั (ปลด กติ ̣ตฺ โิ สภโณ) ซึง่ เป็นพระอน-ุ ไปสกั การะพระปฐมเจดยี ์ ซง่ึ นบั เปน็ ปฐมบทแหง่
ศาสนาจารยไ์ วด้ ้วย ศาสนาพทุ ธในประเทศไทย
นอกจากนยี้ งั ไดบ้ นั ทกึ พระราชกรณยี กจิ ในระหวา่ งทท่ี รงผนวชนน้ั ทรงแตง่ ตง้ั ให้
ในขณะท่ีทรงผนวช เชน่ ในวันท่ี ๓๑ ตุลาคม ได้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงเป็นผู้
เสด็จพระราชด�ำเนินไปยังท�ำเนียบรัฐบาลเพ่ือ ส�ำเร็จราชการแทน และได้ทรงปฏิบัติพระราช
ทรงรับบิณฑบาตจากพระบรมวงศานุวงศ์และ กรณียกิจในการถวายผ้าพระกฐินหลวงที่วัด
คณะรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีและภริยาเป็นผู้ บวรนิเวศราชวรวิหาร และเสด็จฯไปในงาน
ถวายอาหารบิณฑบาต ในภาพยนตร์จะได้เห็น พระราชทานเพลงิ ศพหมอ่ มเจา้ หญงิ ประสงคส์ ม
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซ่ึงในขณะนั้นด�ำรง บรพิ ตั ร ทว่ี ดั เทพศริ นิ ทร์ โดยพระภกิ ษพุ ระบาท
37
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชด�ำเนิน ทั่วประเทศ และตามหน่วยฉายภาพยนตร์
ดว้ ย กลางแปลงท่วั ประเทศ
ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ประเทศไทยเพงิ่ มกี จิ การ
โทรทศั น์ คอื ของบรษิ ทั ไทยโทรทศั น์ ชอ่ ง ๔ บาง
ขุนพรหม แต่การแพร่ภาพยังมีรัศมีจ�ำกัด
เฉพาะในพระนครและจังหวัดรอบ ๆ และ
จ�ำนวนเคร่ืองรับยังมีเพียงเล็กน้อย เข้าใจว่ายัง
ไม่มีการถ่ายทอดสดพระราชพิธี และการเผย
แพร่ในรายการของสถานีก็คงมีจ�ำนวนผู้ชมได้
เพียงเลก็ นอ้ ย ดังน้นั ภาพยนตรจ์ ึงยงั มีบทบาท
ส�ำคัญในการเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ
ภาพยนตร์นี้จึงถูกส่งไปฉายตามโรงภาพยนตร์
38
โฆษณาพระเคร่ือง
ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ
[พ.ศ. ๒๕๐๐] โดยแฝงเจตนาให้เป็นด่านกีดขวางการบุกของ
ความยาว ๔.๕๒ นาที ทหารฝ่ายสัมพันธมิตร เป็นการใช้ศาสนาเป็น
ฟลิ ม์ ๑๖ มม. / ขาว-ดำ� / เสยี ง จำ� นวน ๑ มว้ น กุศโลบายในการป้องกนั ภยั รา้ ย เรยี กง่าย ๆ วา่
อ�ำนวยการสร้าง [กระทรวงมหาดไทย] เปน็ การ “เอาพระเขา้ ชว่ ย” แตค่ วามคดิ ดงั กลา่ ว
ผูส้ ร้าง สำ� นกั งานโฆษณาสรรพสริ ิ เปน็ อันตกไปเสียก่อน
การร้ือฟื้นการสร้างศูนย์กลางทางพุทธ
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ อนั เปน็ ปที พี่ ทุ ธศาสนา ศาสนาคราวนี้ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการเอา
ไดป้ ระดษิ ฐานครบรอบ ๒๕ พทุ ธศตวรรษ หรอื พระเขา้ ชว่ ยอกี ครงั้ เนอ่ื งจากในขณะนน้ั รฐั บาล
ก่ึงพุทธกาล หมายถึงมาถึงครึ่งทางของอายุ ของ จอมพล ป. พิบลู สงคราม กำ� ลังส่นั คลอน
พทุ ธศาสนาตามพทุ ธทำ� นายวา่ จะอยถู่ งึ ๕ พนั ปี อย่างหนกั เพราะคนสนทิ ท้งั สองฝ่ายขดั แยง้ กัน
บรรดาประเทศซง่ึ นบั ถอื ศาสนาพทุ ธเปน็ ศาสนา อยา่ งรนุ แรง สง่ ผลใหส้ ถานภาพของจอมพล ป.
ประจำ� ชาตติ ่างจดั งานเฉลมิ ฉลอง ประเทศไทย ไมส่ ้ดู ีนัก อีกทง้ั เมื่อจอมพล ป. จัดให้มีการเลอื ก
ซ่ึงในขณะน้ันตรงกับรัฐบาลของ จอมพล ป. ตั้งเพื่อเป็นการล้างมลทิน กลับกลายเป็นการ
พิบูลสงคราม ได้มีการวางแผนจัดงาน ตั้งแต่ปี เลือกต้ังท่ีได้ช่ือว่าสกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์
พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยมีโครงการจดั สร้างสง่ิ กอ่ สรา้ ง เน่ืองจากก่อนการเลือกตั้งได้มีการใช้สารพัดวิธี
เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการเฉลิมฉลองในวาระ เพอื่ กำ� จดั ฝา่ ยตรงขา้ ม มหิ นำ� ซำ้� ในวนั เลอื กตงั้ ยงั
ดังกล่าว ท่ีส�ำคัญคือการด�ำริให้จัดสร้างเมืองท่ี มีการใหค้ นมาเวียนลงคะแนนเสียง เปน็ ตน้ เหตุ
ชื่อ พุทธมณฑล บนเน้ือท่ีกว่า ๒,๕๐๐ ไร่ ท่ี ใหจ้ อมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อา้ งความชอบธรรม
จังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นศูนย์กลางทางพุทธ ในการท�ำรัฐประหารรฐั บาลของ จอมพล ป. ใน
ศาสนา ท�ำนองเดยี วกบั ทีว่ าตกิ ันเป็นศนู ยก์ ลาง อกี ไม่กเ่ี ดือนถัดมา
ศาสนาครสิ ต์ อนั ทจ่ี รงิ จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม โครงการจดั สรา้ งพทุ ธสถานขนาดใหญน่ ้ี
เคยมีความคิดที่จะสร้างเมืองศูนย์กลางพุทธ- จ�ำเป็นต้องมีการระดมทุนจากหลายภาคส่วน
ศาสนาขนาดใหญม่ าแลว้ ในชว่ งปลายสงครามโลก จึงได้มีการจัดสร้างพระเครื่องฉลอง ๒๕ พุทธ-
คร้ังที่ ๒ ช่ือว่า พุทธบรุ มี ณฑล ที่จงั หวัดสระบรุ ี ศตวรรษ โดยมี พลต�ำรวจเอก เผา่ ศรยี านนท์
39
เป็นประธานในการจัดสร้าง เพื่อน�ำรายได้จาก มากส�ำหรับภาพยนตร์โฆษณา ถ่ายท�ำโดยใช้
การให้เช่าพระเครื่องไปสมทบทุนสร้างพุทธ- เทคนิคการ์ตูนหรือแอนิเมช่ันตัดสลับกับภาพ
มณฑล และเพ่ือโฆษณาเชิญชวนให้พุทธ- คนแสดงจรงิ เปน็ ชายคนหนึ่งแตง่ กายชดุ ทหาร
ศาสนกิ ชนชาวไทยไดม้ สี ว่ นรว่ มในการสมทบทนุ โบราณ สวมหมวกประพาส ก�ำลังหยิบดาบข้ึน
ครงั้ นี้ กระทรวงมหาดไทย จงึ จดั สรา้ งภาพยนตร์ คล้องล�ำตัว จากนั้นหยิบพระเคร่ืองขึ้นพนมมือ
“โฆษณาพระเคร่ืองฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ในขณะที่เสียงบรรยายความว่า ชาติไทยน้ัน
ข้ึน เพ่ือเชิญชวนให้ประชาชนเช่าพระเครื่อง สามารถยืนยงมาได้ก็ด้วยบรรพบุรุษไทยที่กล้า
ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ หาญรบทัพจับศึก ชายชาติทหารมักจะมีเคร่ือง
รางของขลังประจ�ำตนเพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก่
ภาพยนตร์โฆษณาชิน้ น้ีถา่ ยทำ� ด้วยฟลิ ์ม ตน สว่ นพทุ ธศาสนกิ ชนทว่ั ไปกน็ ยิ มมพี ระเครอ่ื ง
ขนาด ๑๖ มม. เสียงในฟิล์ม โดยส�ำนักงาน บูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ชายชาติทหารน้ันก้ม
โฆษณาสรรพสิริ เสียงบรรยายโดย สรรพสิริ กราบพระพุทธรูปโดยมีพระเคร่ืองฉลอง ๒๕
วิรยศิริ มคี วามยาวถงึ ๔ นาทกี วา่ ซงึ่ นับวา่ ยาว
40
กมุ ภาพนั ธ์ ในขณะทกี่ ำ� ลงั หลอ่ โลหะอนั เปน็ มวล
สารที่คณาจารย์มอบให้ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น
คือมีตะกรุดเงินและแผ่นเงินลงยันตร์ไม่หลอม
ละลาย แม้ช่างจะพยายามสุมไฟนานกว่า ๓
ชว่ั โมง อกี ทง้ั ในเทยี่ งวนั รงุ่ ขน้ึ ไดเ้ กดิ ฝนตกลงมา
อยา่ งหนกั ผรู้ ่วมพธิ ีตา่ งนบั ว่าเป็นศุภนมิ ติ ทส่ี ดุ
ภาพยนตร์ลงท้ายส�ำทับหนักแน่นว่าประชาชน
ควรจะมพี ระเครอื่ งไวบ้ ชู าเพอ่ื เปน็ กศุ ล อกี ทง้ั ยงั
พุทธศตวรรษอยู่ในมือ มีเสียงบรรยายต่อไปว่า เปน็ การช่วยท�ำนุบำ� รุงศาสนาพุทธอีกด้วย
พระเครื่องน้ันจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า เข้าใจว่าภาพยนตร์โฆษณาน้ี จัดท�ำขึ้น
ท�ำพิธีปลุกเสกตามประเพณีโบราณมากน้อย ภายหลังท่ีมีการจัดสร้างพระเคร่ืองฉลอง ๒๕
เพียงใด จากนั้นจึงบรรยายสรรพคุณของพระ พุทธศตวรรษเสร็จแล้ว ท้ังน้ี เพื่อกระตุ้นให้
เคร่ืองฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ว่าเป็นหนึ่งใน ประชาชนแหก่ นั ออกมาหาเชา่ พระเครอื่ ง เพราะ
พระเคร่ืองที่ข้ึนชื่อว่าขลังนัก เพราะจัดพิธีปลุก จดั สรา้ งเปน็ จำ� นวนมากหลายลา้ นองค ์ ภายหลงั
เสกอย่างยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมีมาก่อน จึงมกี ารจัดสง่ ไปยงั หน่วยงานราชการตา่ ง ๆ ทั่ว
แล้วตัดสลับกับภาพเหตุการณ์จริงในพิธีปลุก ราชอาณาจักรเพอื่ เรี่ยไรเงนิ จากผ้มู ีจิตศรัทธา
เสก ซ่งึ มขี น้ึ ระหวา่ งวนั ท่ี ๙ - ๑๒ กมุ ภาพนั ธ์ ภาพยนตร์ โฆษณาพระเครอื่ งฉลอง ๒๕
พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว พุทธศตวรรษน้ี ไม่เพียงท�ำหน้าท่ีบอกบุญแก่
ได้เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงประกอบพิธีเท ราษฎรไทยในยุคก่ึงพุทธกาล ให้มีส่วนร่วมกับ
ทองและพมิ พพ์ ระเครอ่ื งทว่ี ดั สทุ ศั นเทพวราราม รฐั บาลในการสรา้ งพทุ ธมณฑลเปน็ พทุ ธบชู าและ
ราชวรมหาวหิ าร จากนนั้ พระเกจอิ าจารยช์ อื่ ดงั เป็นถาวรสถานใหญ่เพ่ือเป็นหลักหมายของก่ึง
จากทัว่ ราชอาณาจกั ร จำ� นวน ๑๐๘ รปู รว่ มกนั พุทธกาล ภาพยนตร์น้ียังเป็นเอกสารหลักฐาน
ประกอบพิธีปลุกเสกพระเครื่องน้ีซ่ึงมีทั้งแบบ ชนิ้ หนง่ึ ในการวดั ระดบั ความเลอ่ื มใสศรทั ธาและ
เนอ้ื ชนิ เนือ้ ทองค�ำ และแบบพระผง เท่าน้ีอาจ ระดบั การเขา้ ถงึ พระธรรมคำ� สอนของพระสมั มา
จะยังดูไมน่ ่าตนื่ ตาตื่นใจพอ หรอื ดูไมข่ ลงั พอ จึง สัมพุทธเจ้าของสงั คมไทย
ไดเ้ พม่ิ อทิ ธฤิ ทธปิ์ าฏหิ ารยิ ใ์ นตอนทา้ ยวา่ ไดเ้ กดิ
อทิ ธฤิ ทธป์ิ าฏหิ ารยิ ข์ น้ึ ระหวา่ งประกอบพธิ ปี ลกุ
เสก ดังเช่นเม่ือตอนพลบค่�ำในวันท่ี ๑๐
41
ทะโมนไพร
[พ.ศ. ๒๕๐๒] คอื การปน้ั ประตมิ ากรรมนางเงอื กทองทปี่ ระดบั
[ความยาวเหลือ ๔๒ นาท]ี หาดสมิหลา จังหวัดสงขลา นายธ�ำรงมีผลงาน
ฟิล์ม ๑๖ มม. / สี / พากย์ ถ่ายภาพยนตร์ประเภทขา่ วสาร สารคดี บนั ทกึ
ผู้สรา้ ง ธ�ำรง รุจนพันธุ์ เหตกุ ารณใ์ นจงั หวดั นราธวิ าสและใกลเ้ คยี ง และ
ผูก้ ำ� กบั ภาพยนตร์ บุญรัตน์ ชยั วิเศษ มีความสามารถพิเศษในการถ่ายภาพยนตร์
ผู้เขยี นบท รังษติ รงั บนั ทึกเสียงด้วยกล้องออรคิ อน
ผถู้ ่ายภาพและล�ำดบั ภาพ ธ�ำรง รุจนพนั ธ์ุ
ผแู้ สดง ทา่ นไดส้ รา้ งภาพยนตรป์ ระเภทเดนิ เรอื่ ง
เชษฐ์ ภูธร เป็น วิเชษฐ์ ขึ้นสองสามเรื่อง โดยใช้ฉากสถานท่ีในท้องถิ่น
โรส มารยี า เป็น ตนั หยง และเพอ่ื นฝงู ญาตมิ ติ รเปน็ ผแู้ สดง เปน็ ภาพยนตร์
รามนิ รายา เป็น รามนิ ไทยระบบ ๑๖ มม. พากย์ และน�ำออกฉายตาม
ลาเซ็ง อับดลุ ลา เปน็ อับดุล โรงภาพยนตร์ในจังหวัดนราธิวาสและจังหวัด
มะ จำ� ปาเทศ เป็น มะ ใกล้เคียง จึงนับเป็นภาพยนตร์ส�ำหรับท้องถ่ิน
ยี จำ� ปาเทศ เปน็ ยี โดยแท้ มีผู้บันทึกไว้ว่า ภาพยนตร์เรื่องที่นาย
ยอด ชลวารี เป็น กำ� นัน ธ�ำรง รุจนพันธุ์ สร้างได้แก่ จอมโจรปูรูยามา
ประพันธ์ กรแก้ว เป็น คิงคอง ทะโมนไพร และ หาดเพชฌฆาต
เปน็ ภาพยนตรไ์ ทยทสี่ รา้ งโดยคนทอ้ งถนิ่ ปัจจุบันได้มีการค้นพบฟิล์มภาพยนตร์
จงั หวดั นราธวิ าส ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ผสู้ รา้ ง เรื่อง “ทะโมนไพร” แต่สันนษิ ฐานว่า เป็นฉบับ
คอื นายธำ� รง รจุ นพนั ธ ์ ชาวลำ� ปางซง่ึ ไปแตง่ งาน ที่ได้รับการตัดต่อใหม่ให้ส้ันลงเหลือเพียงม้วน
กับสาวชาวนราธิวาสและตั้งรกรากอยู่ใน เดียวจบ ความยาวประมาณ ๔๒ นาที ใน
นราธิวาส ประกอบอาชีพร้านถ่ายรูป “ไทย ขณะที่มีอีกม้วนหน่ึงแต่สภาพฟิล์มช�ำรุด จึง
อาร์ต” นอกจากถ่ายรูป ยังมีความสามารถใน สันนิษฐานว่าเป็นส่วนท่ีถูกตัดออกไป ซึ่งหาก
การถา่ ยภาพยนตร์ การเขยี นรปู สนี ำ�้ มนั การปน้ั เป็นดังนี้ภาพยนตร์ตามต้นฉบับเดิมอาจยาว
การสตัฟฟ์สัตว์ ผลงานช้ินหน่ึงท่ีไม่ค่อยมีใครรู้ ประมาณ ๕๐ นาที
จดุ เดน่ ของภาพยนตรค์ อื ตวั ละครทเี่ ปน็
คิงคอง ซึ่งนายธ�ำรง ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้ความ
42
สามารถในการสตัฟฟ์สัตว์ ท�ำหุ่นคิงคองข้ึนให้ เกอื บเอาชีวติ ไม่รอด ดวี า่ ชาวบ้านมาชว่ ยไวท้ ัน
ใชค้ นสวมใส่แสดง ต่อมาปลัดหนุ่มจึงได้รับการบอกเล่าจากก�ำนัน
เรอื่ งราวของภาพยนตร ์ แมว้ า่ จะถา่ ยทำ� ว่า คิงคองซึ่งอาศัยอยู่หลังเขาน้�ำตกบนเกาะน้ี
ในจังหวัดนราธิวาส แต่เนื้อเร่อื งใน ทะโมนไพร เมอ่ื เลก็ ๆ มนั ไมด่ รุ า้ ย เปน็ ทรี่ กั ของเดก็ ๆ ทช่ี อบ
แต่งเป็นเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้นที่เกาะลันตา จังหวัด มาเล่นกับมัน มันชอบเด็ก แต่ท่ีมันกลายเป็น
กระบี่ เล่าเรื่องโดย เชษฐ์ ภูธร ซึ่งแสดงเป็น คิงคองดุร้ายก็เพราะเมื่อปีกลายน้ีเอง มีโจรก๊ก
ตัวละครช่ือ วิเชษฐ์ ข้าราชการหนุ่มต�ำแหน่ง หนงึ่ หลบหนีเจา้ หนา้ ทีม่ าจากตานี แลว้ ใช้อาวธุ
ปลัดพัฒนากร ซ่ึงได้รับค�ำสั่งให้ไปประจ�ำที่ ปนื ยงิ ถกู คงิ คองทขี่ า้ งชายโครง ในขณะทคี่ งิ คอง
อำ� เภอเกาะลนั ตา เม่ือเดนิ ทางมาถงึ เกาะ ปลัด ก็บบี คอพวกโจรตายไปหลายคน พวกโจรจึงหนี
ก็ได้เผชิญภัยจากเจ้าลิงคิงคองที่ดุร้ายทันที ไปจากเกาะ คงเหลอื อยคู่ นเดยี วคอื รามนิ เพราะ
43
รามินมาติดพัน ตันหยง ลูกสาวของก�ำนัน แต่ ให้เกาะของเรา ขอให้เชื่อใจว่าเธอรักอับดุล
เธอไม่เล่นด้วยและมีคนรักอยู่แล้ว คือ อับดุล คนหาปลาคนเดียว
หนมุ่ ชาวประมงในเกาะซงึ่ เปน็ เพอื่ นกนั มาตงั้ แต่
เด็ก ๆ และจะมีพิธีการแต่งงานกันในอีกสอง วันน้ันเจ้ารามินมาดักพบตันหยงเพ่ือ
อาทิตย์ขา้ งหน้านี้ ขอโทษทีเ่ คยลวนลาม และตือ้ ขอให้รกั และยอม
แตง่ งานกบั เขา แตต่ นั หยงกลบั หลกี หนไี ป ทำ� ให้
ระหวา่ งนนั้ กม็ กี ารพบศพชายชาวเกาะ เจา้ รามนิ แคน้ ใจ ประกาศจะลม้ การแตง่ งานของ
ถูกคงิ คองทำ� รา้ ยตายอีกคนหนงึ่ ตันหยงกับอับดลุ ให้ได้
ปลดั วเิ ชษฐไ์ ดร้ จู้ กั กบั ตนั หยง ซงึ่ ตนั หยง วันงานพิธีแต่งงาน ซ่ึงชาวเกาะต่างมา
ตอ้ นรบั เขาอยา่ งดี ทำ� ใหอ้ บั ดลุ ระแวงวา่ ตนั หยง รว่ มยนิ ดกี ันมาก มีการกนิ เล้ยี ง และมรี ำ� รองเงง็
ปันใจให้ปลัดหนุ่มซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลาและ ทันใดเจ้ารามินได้บุกเข้ามาท�ำลายงานแต่งงาน
มีการศึกษาสูงกว่าตัว แต่ตันหยงก็ยืนยันว่าที่ มันต่อยอับดุลท่ีก�ำลังร�ำรองเง็งล้มลง ก�ำนัน
ตอ้ นรบั ขบั สปู้ ลดั กเ็ พราะเขามาสรา้ งความเจรญิ คว้าปืนออกมาขัดขวางแต่ถูกเจ้ารามินยิงล้มลง
44
รามนิ ถอื โอกาสฉดุ ตนั หยงออกไปทนั ที อบั ดลุ กบั เกาะใชค้ บไฟปราบคงิ คอง เพราะมนั กลวั ไฟ และ
ชาวเกาะที่มาร่วมงานจึงออกติดตามไป รามิน ใหข้ ดุ หลมุ ดกั แลว้ ไปตอ้ นใหม้ นั มาตกหลมุ ทส่ี ดุ
ฉดุ ตนั หยงเขา้ ไปในปา่ มงุ่ ไปทางนำ้� ตก ทนั ใดนนั้ ปลัดหนมุ่ ได้เผชิญหน้ากับคิงคองอกี ครั้งบนเนิน
คงิ คองไดป้ รากฏรา่ งขนึ้ รามนิ เขา้ ตอ่ สกู้ บั คงิ คอง หินสงู และไดต้ ่อส้หู ลอกลอ่ คิงคอง จนท่สี ุดมัน
ตันหยงจึงฉวยโอกาสหลบออกไป รามินสู้กับ กระโจนใส่ปลัดแต่พลาดไปโขกผาหินและเลย
คงิ คองสกั พกั กถ็ อยหนไี ปได้ ในขณะทอ่ี บั ดลุ ตาม กระเด็นตกหน้าผาลงไปตาย ท่ามกลางความ
มาถงึ พอดี จงึ ฉวยกง่ิ ไมเ้ ขา้ ตอ่ กรกบั คงิ คอง และ ยินดีของชาวเกาะท่ีมาเหน็
เสียทีสะดุดก้อนหินล้มลงจึงถูกเจ้าคิงคอง
ยกก้อนหินน้ันเป็นอาวุธทุ่มใส่อับดุลอย่างจัง ฉากสุดท้าย ปลัดหนุ่มกับตันหยงน่ังกัน
ตันหยงโผลม่ าเห็นภาพพอดกี ต็ กใจทรดุ ลม้ สลบ อยู่ท่ีป่าช้าฝังศพ ปลัดขอให้พระอาหล่ามารับ
ไป คิงคองเข้าไปอุ้มตันหยงจะพาไปท่ีถ้�ำใน ดวงวญิ ญาณของอบั ดลุ ไปสสู่ คุ ติ และขอตนั หยง
สภาพทผ่ี า้ ผอ่ นขาดวนิ่ แตข่ ณะผา่ นทหี่ นา้ นำ้� ตก แก่ตัวเขาเองด้วย ตันหยงยกมือปิดปากปลัด
มนั วางร่างตนั หยงลงบนโขดหนิ ตันหยงฟืน้ ข้นึ แลว้ ทั้งคู่เดินออกไป
มา เหน็ คงิ คองกส็ ลบไปอกี ทนั ใดนนั้ ปลดั วเิ ชษฐ์
ซ่ึงตามมาเช่นกัน เห็นเหตุเข้าก็เล็งปืนยิงไปท่ี ทะโมนไพร เปน็ ตวั อยา่ งอนั หาไดย้ ากยงิ่
คิงคอง มันจึงตกใจหนีไป ปลัดวิเชษฐ์เข้าไปที่ ของภาพยนตร์ท้องถิน่ ของประเทศไทย ซงึ่ จาก
ตันหยงซึ่งฟนื้ ข้ึนมาเหน็ ปลัดก็ดีใจ บอกใหป้ ลัด การส�ำรวจพบว่า ในแทบทุกจังหวัดมักมีผู้ที่
รีบพาเธอหนีออกไปจากท่ีนั้น แต่ท้ังคู่เดินไป สนใจถ่ายท�ำภาพยนตร์ทั้งเป็นงานอดิเรกและ
สักพักก็พบร่างของอับดุลซึ่งถูกทุ่มด้วยหินนอน เป็นอาชีพ โดยเฉพาะการรับถ่ายภาพยนตร์
ตายอยู่ ตนั หยงเสยี ใจมากแตป่ ลดั บอกวา่ ชว่ ยให้ บันทึกงานพิธีกรรมต่าง ๆ ในวิถีชีวิต และใน
ฟืน้ ไม่ไดแ้ ล้ว ชว่ ยกนั หาทางปราบเจา้ คงิ คองให้ จำ� นวนนี้ จะมีผนู้ ิยมถ่ายภาพยนตร์เหลา่ น้ันคิด
ไดด้ กี วา่ แลว้ พากนั กลบั ไปทบ่ี า้ น กพ็ บศพกำ� นนั และจัดการถ่ายท�ำเป็นภาพยนตร์เรื่องแล้วน�ำ
นอนตายอยู่หน้าบ้าน ตันหยงตกใจและเสียใจ ออกฉายดูกันในจังหวัดตนและจังหวัดใกล้เคียง
แทบจะวายชีวีเมอื่ เห็นว่าพ่อตายเสยี แลว้ ปลัด ทำ� นองเดยี วกับภาพยนตร์เรอ่ื ง ทะโมนไพร
แบกศพกำ� นนั เขา้ บา้ น แลว้ รบี ออกไปสมทบชาว
เกาะเพอื่ ตามลา่ คงิ คองตอ่ ไป ซง่ึ ขณะนน้ั คงิ คอง
ก�ำลังต่อสู้อยู่กับรามินที่หนีไป คิงคองฆ่ารามิน
โดยบีบคอตายไปอีกรายหน่ึง ปลัดเสนอให้ชาว
45
ยทุ ธนา - ศิรพิ ร
YUTHANA UND SIRIPON
MONCH AUF ZEIT
[พ.ศ. ๒๕๐๖] ในการส�ำรวจสถานที่ถ่ายท�ำภาพยนตร์
ความยาว ๔๔.๕๔ นาที ครั้งน้ันเอง ฮันส์ เบอร์เทล ซึ่งศึกษาเรื่องราว
ฟลิ ม์ ๑๖ มม. / ขาว-ดำ� / เสยี ง จำ� นวน ๑ มว้ น เก่ียวกับประเทศไทยมาพอสมควรโดยเฉพาะ
อ�ำนวยการสรา้ ง Hans Berthel ชาวเขาทางภาคเหนอื จงึ เกดิ ความคดิ วา่ จะถา่ ย
ภาพยนตร์ก่ึงสารคดีสักเร่ืองหนึ่งเกี่ยวกับชีวิต
ภาพยนตร์ขาวด�ำพูดเสียงเยอรมันเรื่อง ความเป็นอยู่ของชาวเขา และการปราบปราม
นี้ สร้างโดย ฮันส์ เบอรเ์ ทล ผูก้ ำ� กับภาพยนตร์ ยาเสพติดทางภาคเหนือของไทย โดยให้ แท้
สารคดีชาวเยอรมัน บันทึกภาพชีวิตและความ ประกาศวฒุ ิสาร เป็นผูช้ ว่ ยประสานงาน จนการ
เป็นอย่ขู องคนไทยชนชั้นกลางในเมืองกรุง สมัย ถา่ ยท�ำส�ำเร็จ ด้วยด ี ความสามารถในการช่วย
ราวปี พ.ศ. ๒๕๐๖ เดินเร่ืองผ่านตัวละครคู่รัก ประสานงานให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติ
ชายหนมุ่ หญงิ สาว คอื ยทุ ธนา และ ศริ พิ ร แรก เช่นน้ี เป็นมูลเหตุที่ท�ำให้แท้ได้ร่วมงานกับกอง
เรม่ิ เดิมทีนัน้ ฮนั ส์ เบอรเ์ ทล เข้ามาในเมอื งไทย ถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติอีกหลายคณะในเวลา
กด็ ว้ ย ราปดิ ฟลิ ม์ บรษิ ทั สรา้ งภาพยนตรส์ ญั ชาติ ต่อมา
เยอรมันจ้างให้ฮันส์มาส�ำรวจสถานที่ถ่ายท�ำ
ภาพยนตร์ในประเทศไทย ในครัง้ นน้ั เอง เขาได้ ภาพยนตรส์ ารคดเี กย่ี วกบั ชาวเขาท่ี ฮนั ส์
รับการแนะน�ำให้รู้จักกับ แท้ ประกาศวุฒิสาร เบอร์เทล ถ่ายท�ำส�ำเร็จไปนั้นคงจะประสบผล
เจ้าของไทยไตรมิตรภาพยนตร์ซึ่งได้สร้างภาพ- ส�ำเร็จดี เขาจึงกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อ
ยนตรไ์ ทยพากย์ ขนาด ๑๖ มม. ประสบความ ถ่ายภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับไทยอีกเรื่องหนึ่ง
สำ� เรจ็ หลายเรอื่ งตดิ กนั เขาจงึ ชกั ชวนใหแ้ ทเ้ ปน็ โดยได้ แท้ ประกาศวุฒิสาร เป็นผู้ร่วมงานอีก
ผู้ร่วมอ�ำนวยการสร้างฝ่ายไทยสำ� หรับโครงการ และไดช้ ว่ ยคดิ แนวเรอ่ื งให้ เปน็ สารคดที จี่ ะแสดง
ภาพยนตร์เรื่อง THE BLACK PANTHER OF ให้เห็นวิถีชีวิตประจ�ำวันของครอบครัวชนชั้น
RATANA ซงึ่ แทไ้ ด้ตง้ั ชื่อว่า “มือเสอื ” เม่ือออก กลางธรรมดาในกรงุ เทพ ใชว้ ธิ เี ดนิ เรอ่ื งดว้ ยชวี ติ
ฉายในประเทศไทย ประจ�ำวันของคู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คือ ยุทธนา
กับ ศิรพิ ร แสดงให้เห็นว่า วันหนงึ่ ๆ หนุ่มสาว
46
ทำ� อะไรบา้ ง เริ่มจากหนมุ่ พาสาวไปเท่ยี ว ซอ้ น พระอย่างละเอยี ด และให้เห็นกิจกรรมของพระ
รถสกตู เตอรไ์ ปตามยา่ นทน่ี า่ ดตู า่ ง ๆ ในกรงุ เทพ บา้ ง เชน่ ไปเยยี่ มโยมพอ่ แมท่ บ่ี า้ น ทส่ี ดุ มาถงึ วนั
เปิดฉากที่หน้าโรงภาพยนตร์โอเดียนสถานที่ ทย่ี ทุ ธนาลาสิกขาบท ศิริพรไปรับเขาดว้ ยความ
ยอดฮิตของวัยรุ่นในสมัยนั้น ซึ่งก�ำลังฉาย ยนิ ดี เพราะตอ่ ไปคอื วนั แตง่ งานทจี่ ะมาถงึ และ
ภาพยนตร์เร่ืองดังของ คลิฟฟ์ ริชาร์ด เรื่อง ภาพยนตรจ์ บเพยี งนี้
SUMMER HOLIDAY ศิริพรเองก็แต่งกายตาม
สมัยนิยม ใส่กางเกงยีนส์เอวสูง เม่ือดูหนังจบ ฮนั ส์ เบอร์เทล ไดน้ �ำ ยทุ ธนา - ศิริพร
ยุทธนาพาศิริพรซ้อนสกูตเตอร์ไปรอบกรุง เรา ออกฉายทางโทรทัศน์ของเยอรมัน และได้ส่ง
จะได้เห็น อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภูเขาทอง ฟิลม์ ก๊อปป้หี น่งึ ใหแ้ ท้ ประกาศวุฒิสาร ในฐานะ
ถนนราชด�ำเนินนอกไปจนถึงท�ำเนียบรัฐบาล ผู้ร่วมงาน ซ่ึงภายหลังแท้ได้มอบฟิล์มนี้แก่หอ
เสาชงิ ชา้ วดั พระแกว้ จากนนั้ ทง้ั สองแวะเขา้ ไป ภาพยนตร ์
พักผ่อนในสนามหลวงหน้าวัดพระแก้ว เราได้
เหน็ ผคู้ นมาชมุ นมุ เลน่ วา่ วรปู แบบตา่ ง ๆ สดุ ทา้ ย แม้วา่ ยทุ ธนา - ศิริพร จะเป็นการมอง
คู่รักท้ังสองไปงานปาร์ต้ีชุมนุมวัยรุ่น ซ่ึงมักจะ วถิ ชี วี ติ คนไทยผา่ นสายตาฝรงั่ แตภ่ าพยนตรน์ ม้ี ี
สังสรรค์กันตามบ้าน เล่นดนตรีหรือเปิดแผ่น- คณุ คา่ เปน็ ภาพสะทอ้ นความนา่ สนใจ และเสนห่ ์
เสียงเพลงฮิตเพ่ือเต้นร�ำ โดยขณะน้ันจังหวะ ทค่ี นตา่ งชาตมิ องคนไทยและวถิ ไี ทย และเมอื่ วนั
ทวิสต์ก�ำลังฮิตอยูท่ ัว่ โลก เวลาผ่านไปกว่าคร่ึงศตวรรษ ยุทธนา - ศิริพร
จึงเปน็ ความทรงจำ� ที่มีชวี ิตชีวาของยุคสมัยหน่ึง
วันต่อมายุทธนาพาศิริพรไปเท่ียวบ้าน ซงึ่ ไม่อาจหวนคืนมาได้อีกแลว้
ตน ผู้ชมจึงได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ในบ้าน
คนไทย ซึ่งบ้านนี้อยู่ริมคลอง แม่ของยุทธนา
ตักบาตรพระที่พายเรือผ่านบ้านยามเช้า แล้ว
พายเรือไปตลาด ซื้อของจากตลาดน้�ำมาท�ำ
อาหาร จนถึงเวลาที่ครอบครัวทานอาหารกัน
พรอ้ มหน้า
ตอ่ มายทุ ธนา ซงึ่ อายยุ สี่ บิ เศษแลว้ ไดเ้ ขา้
พิธีบวชเป็นพระ ตามประเพณีที่ชายไทยเกือบ
ทุกคนก่อนจะแต่งงานมีเรือนจะต้องบวชเป็น
พระระยะเวลาหนง่ึ หนงั แสดงใหเ้ หน็ พธิ กี ารบวช
47
การปฏิบัติหนา้ ทเี่ พอ่ื ประเทศชาติ
ในต�ำแหน่งหวั หนา้ รฐั บาลและผนู้ �ำทางทหาร
จนถึงล้มป่วยและอสญั กรรมของ
ฯพณฯ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์
[พ.ศ. ๒๕๐๖] ตวั ภาพยนตรแ์ สดงใหเ้ หน็ ฯพณฯ พกั รักษาตวั
ความยาว ๒๕.๑๕ นาที ที่บ้านพกั ชายทะเล แหลมแท่น บางแสน และ
ฟลิ ์ม ๑๖ มม. / ขาว-ด�ำ / เสยี ง เหตกุ ารณส์ ำ� คญั เมอื่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย-ู่
ผ้สู ร้าง กองอ�ำนวยการกลางรักษาความ หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ปลอดภัยแห่งชาติ (กรป.กลาง) ได้เสด็จพระราชด�ำเนินโดยรถยนต์พระท่ีน่ัง
ซึง่ พระเจา้ อยูห่ ัวทรงขบั ดว้ ยพระองคเ์ องไปทรง
เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นหลังจากการ เยี่ยม ฯพณฯ ซึง่ ก�ำลังปว่ ยหนัก ต้องนอนอยบู่ น
อสัญกรรมของ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรชั ต์ นายก เตียง มีภาพขณะที่ ฯพณฯ ยกพระหัตถ์ของ
รฐั มนตรี เมอื่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ไม่นาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นทูนไว้เหนือ
นัก เพ่ือเผยแพร่เกียรติคุณงามความดีของ หัวตน ซ่ึงเป็นภาพที่เคยออกอากาศเป็นข่าวใน
ฯพณฯ ในขณะดำ� รงตำ� แหนง่ นายกรฐั มนตรี ซง่ึ ราชส�ำนักทางโทรทัศน์ในขณะนั้น และน่าจะ
ภาพยนตรไ์ ดแ้ สดงดว้ ยภาพและเสยี งบรรยายให้ เปน็ ภาพจำ� สำ� คญั ภาพหนงึ่ ในประวตั ศิ าสตรช์ าติ
เห็นวา่ ฯพณฯ ได้ท�ำหน้าท่นี ายกรัฐมนตรอี ย่าง หลงั จากนน้ั ภาพยนตรไ์ ดแ้ สดงใหเ้ หน็ วา่ ฯพณฯ
เข้มแข็ง เพอื่ บำ� บัดทุกขบ์ ำ� รงุ สุขของราษฎร ได้ ปว่ ยหนกั จนตอ้ งนำ� สง่ ทางเฮลคิ อปเตอรไ์ ปรกั ษา
เดนิ ทางไปเยย่ี มเยยี นและดแู ลทกุ ขส์ ขุ ความเปน็ ทโี่ รงพยาบาลในพระนคร ตามด้วยภาพการเข้า
อยขู่ องราษฎรในจงั หวดั ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะในภาค เยย่ี มดว้ ยความเปน็ หว่ งของผคู้ นสำ� คญั ในวงการ
อีสานซึ่งราษฎรมีความเป็นอยู่ยากแค้นที่สุด ต่าง ๆ และภาพของคณะแพทย์ผู้รักษาซึ่งมี
ส่วนในเมืองกรุง ก็ดูแลเต็มท่ี แม้ไม่ใช่หน้าท่ี แพทย์ฝร่ังจากสหรัฐอเมริกามาร่วมการรักษา
โดยตรง เชน่ ดแู ลเรอื่ งความสะอาดของบา้ นเมอื ง ด้วย ภาพทีน่ ่าสนใจคอื สภาพของ ฯพณฯ บน
ฯพณฯ ทำ� งานหนกั จนลม้ ปว่ ย และตอ้ งพกั รกั ษา เตียงในห้องพยาบาลท่ีแวดล้อมอยู่บนพ้ืนด้วย
48
นายทหารทใี่ กลช้ ดิ ปรากฏวา่ ฯพณฯ จะตดิ ตาม ประชาชนทกุ หมเู่ หลา่ ตลอดจนผแู้ ทนนานาชาติ
ดขู ่าวทางโทรทศั นพ์ ร้อมกนั ๒ เคร่ือง ซง่ึ เวลา ตา่ งไปรว่ มงานศพและไว้อาลัยจ�ำนวนมาก
นนั้ มอี ยู่ ๒ ช่อง คือ ไทยโทรทศั นช์ ่อง ๔ และ
โทรทศั นก์ องทัพบกช่อง ๗ และท่สี ุดภาพยนตร์ ภาพยนตร์เร่ืองน้ี นับเป็นงานบันทึก
ก็น�ำเสนอวาระสุดท้ายของ ฯพณฯ ด้วยความ อารมณ์ท่ีมีกระแสสูงที่สุดคร้ังหนึ่งในประวัติ-
เศรา้ อยา่ งสดุ ซง้ึ ถงึ การจากไป ซงึ่ ในวนั อสญั กรรม ศาสตร์ชาติ และเป็นเอกสารแห่งความทรงจ�ำ
รัฐบาลประกาศให้เป็นวาระไว้ทุกข์ท่ัวประเทศ ท่ีไม่อาจบันทึกด้วยส่ืออ่ืน ๆ ให้รู้สึกได้ดีเท่า
ใหง้ ดการมหรสพท้ังปวงเปน็ เวลาหลายวนั วทิ ยุ ภาพยนตร์
และโทรทัศน์งดจัดรายการบนั เทิง แต่เสนอการ
ถา่ ยทอดงานศพแทน ทง้ั ชาตจิ งึ ตกอยใู่ นอารมณ์
เศร้า ภาพยนตร์แสดงภาพบันทึกในงานต้ังศพ
สวดอภิธรรม ซ่ึงเป็นรัฐพิธีของชาติ ให้เห็นว่า
49