“ปีก” เหลาให้บางยาวกว่ากระดูกอก
“กระดูกอก” “ขากบ” ปลายอีกด้านเหลาให้กลม
เหลาปลายให้กลมบาง
เพ่ือใช้เป็นส่วนหัวของว่าว เหลาให้เล็กและบางกว่าส่วนอื่น และหนากว่าส่วนหัว
2 ความยาวของปีกท้ัง 2 ฝั่ง จะต้องเท่ากัน
จุดท่ีต้องท�ำสัญลักษณ์
ใช้ไม้บรรทัดวัดความยาว ระยะห่างของอกกับขากบต้องเท่ากัน
ของไม้ไผ่และทำ�สัญลักษณ์
ด้วยปากกาเมจิก 3
ดัด “ปีก” ให้เป็นครึ่งวงกลม
และดัด “ขากบ” ให้งอเล็กน้อย
100 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
4 ใช้เชือกไนลอนมัดจุดต่อทั้ง 7 จุดให้แน่น
จุดที่ 1 และ 2 อกกับปีก
จุดที่ 3 และ 4 ปีกกับปีก
จุดที่ 5 อกกับขากบ
จุดที่ 6 และ 7 ปีกกับขากบ
1 4
35
72 6
ตกแต่ง ตามสไตล์
1 ทากาวยางลงบนโครงว่าวจุฬาจนทั่ว
2แปะโครงว่าวลงบนถุงดำ�
ก่อนแปะโครงให้สอดกล่องนมไว้
ใต้ถุงดำ� เพื่อไม่ให้ตัวว่าวตึงเกินไป ไม่เช่นนั้นว่าวจะไม่ลอยขึ้นฟ้า
รอบรู้นันทนาการ 101
3 ตัดถุงดำ�โดยจะต้องเว้นระยะ
ห่างจากโครงว่าวประมาณ 1
เซนติเมตร
4 ทากาวลงบนโครงว่าว และพับ
ถุงดำ�ที่ตัดเกินไว้ แปะทับลงไป
บนไม้ไผ่
5ตกแต่งว่าวตามใจชอบ
ให้พร้อมสำ�หรับลงประกวด
ว่าว ร้องได้
อุปกรณ์เสริมที่ใส่ให้กับว่าว
ชาวบ้านเรียกกันว่า “ลูกร้อง”
ตามการเล่าขานบอกว่าในยุค
ราชวงศ์ “หลี่ เย่” มีการติด
สายดนตรีที่ปลายว่าว เวลา
ว่าวโยกตัวบนท้องฟ้าจะได้ยิน
โทนเสียงกลาง-ต่ำ�ดังกังวาล
คล้ายกู่เจิง
102 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
ขยายเครือข่าย เตรียมการสู่งานใหญ่
การเล่นว่าวนั้นขึ้นกับกระแสลมเป็นหลัก แต่กระแสลมที่พัดมายังตำ�บล
บ้านนา จังหวัดระยอง ยังไม่เหมาะสำ�หรับการขึ้นว่าวสักเท่าไรนัก ทำ�ให้สมาชิก
เครือข่ายไม่สนุกกับการเล่นว่าวเท่าที่ควร ดังนั้น ผู้นำ�อย่างลุงก่ำ�จึงไม่นิ่งเฉย
มองหาลานกวา้ งทีม่ ลี มดพี ดั ผา่ น จนไดม้ าจบั มอื กบั คนรกั วา่ วแหง่ บา้ นทะเลนอ้ ย
จัดกิจกรรมเล็กๆ ในพื้นที่ตำ�บลทะเลน้อย จังหวัดระยอง วันไหนลมทะเลพัดมา
ก็จะนัดรวมตัวชาวบ้าน 2 ตำ�บล เล่นว่าวด้วยกันอย่างสนุกสนาน
คุณลุงวริ ุฬ จรติ งาม
ประธานเครอื ข่ายนันทนาการว่าวไทย
อ�ำเภอแกลง จังหวัดระยอง
“ทุกกิจกรรมช่วยสร้างความรัก ความสามัคคี
ให้กับชาวบ้าน พวกเขาจะได้เจอหน้าคร่าตากัน
บ่อยข้ึน ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่”
รอบรู้นันทนาการ 103
CONTACTคนกว้างขวางอย่างลุงก่ำ�ยังคงติดต่อกับเครือข่ายอื่นๆ ในชุมชน ทำ�ให้มี
สื่อโทรทัศน์ช่องต่างๆ มาพลิกโฉมกิจกรรมว่าวไทยที่จัด ณ ตำ�บลทะเลน้อย
จนกลายเปน็ งานประกวดวา่ วประจ�ำ ปที ีเ่ ริม่ มาตัง้ แตป่ ี พ.ศ.2547 โดยมเี จา้ ภาพ
4 จังหวัด นั่นคือ ระยอง ตราด จันทบุรี และปราจีนบุรี ทุกๆ ปี 1 ใน 4 จังหวัดนี้
จะถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ปีใดบ้านนาได้รับเลือก งานครั้งนั้นก็จะถูกจัด
อย่างยิ่งใหญ่ 2 วัน 2 คืนเต็ม ในช่วงเดือนมีนาคม ที่สนามกีฬาตำ�บลบ้านนา
จังหวัดระยอง ช่วงเช้าจะมีการทำ�บุญตักบาตร เอาฤกษ์ เอาชัย ช่วงสายๆ
จะมกี ารแขง่ วา่ วและกจิ กรรมอนื่ ๆ เสยี งเชยี รร์ อบดา้ นคอ่ ยๆ ดงั ขนึ้ ทกุ โซนกจิ กรรม
ไม่ว่าจะเป็น การขี่เกวียน ขับรถแข่ง โรยขนมจีน รำ�วงย้อนยุค แต่เสียงเชียร์
ที่ดังที่สุดคงมาจากโซนแข่งขันว่าวไทย ไฮไลท์สำ�คัญของงาน
ทุกปีที่โซนแข่งขันว่าวไทย จะมีการเชิญกรรมการ 3 ท่าน นั่งประจำ�ที่
ผู้ลงแข่งทั้ง 5 ทีม จะถือว่าวออกมากลางลานกว้าง ให้ชาวบ้านได้ชมความงาม
เมอ่ื ลมพดั มา เสยี งนกหวดี จะดงั ขน้ึ พรอ้ มเสยี งเชยี รด์ งั เฮ้ เฮ้ ผลู้ งแขง่ จะวง่ิ ทวนลม
และส่งว่าวลอยขึ้นฟ้า สายตากรรมการจับจ้องบนฟ้า ในมือก็เขียนคะแนน
บนกระดาษตามเกณฑ์ 3 ข้อ ที่วางไว้ นั่นคือ
เกณฑ์ข้อท่ี 1 ว่าวสามารถลอยขน้ึ บนท้องฟ้าได้หรือไม่
เกณฑ์ข้อท่ี 2 ว่าวมีสีสันสวยงามเพยี งใด
เกณฑ์ข้อที่ 3 เสียงร้องจากลูกร้องไพเราะแค่ไหน
ข้อมูลติดต่อ
เครือข่ายนันทนาการว่าวไทย อ�ำเภอแกลง จังหวัดระยอง
130 หมู่ 5 ต�ำบลบ้านนา
อ�ำเภอแกลง จังหวัดระยอง 21110
081-0038360
104 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
เครือข่ายนันทนาการ
หน�ำ
เทพศิลป์
สืบสานวัฒนธรรมแดนใต้
"การรกั ษามรดกทางวฒั นธรรมคอื การรกั ษาชาต"ิ แรงบนั ดาลใจจาก
พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ทำ�ให้คุณเทพสิน ผ่องแก้ว เดินหน้าสืบสานศิลปะ
การแสดงบา้ นเกดิ ซง่ึ เปน็ เอกลกั ษณข์ องชาวใต้ นน่ั คอื หนงั ตะลงุ และมโนราห์
ด้วยความตั้งใจของคุณเทพสิน
"หนำ�เทพศิลป์" จึงถูกก่อตั้งเมื่อ
วันที่ 2 เมษายน 2547 เพื่อเป็น
แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมให้
แก่เยาวชน ในภาษาใต้ “หนำ�” เป็น
คำ�พูดสั้นๆ ย่อมาจากคำ�ว่า “ขนำ�”
ซึ่งหมายถึงกระท่อม หรือบ้านพัก
หลงั เลก็ ๆ ในสวน แตใ่ นความเปน็ จรงิ
"หน�ำ เทพศลิ ป"์ กลบั เปน็ บา้ นหลงั ใหญ่
ที่เต็มไปด้วยลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียน
มาไม่ขาด ถือเป็นครอบครัวใหญ่ที่
อบอุ่นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ
วัฒนธรรมทางใต้อย่างแท้จริง
อยากให้ทุกภาคส่วนเกิดการอนรุ ักษ์
สืบสาน ด้วยความต้ังใจจริง
เห็นความส�ำคัญของศิลปิน ที่จะท�ำให้
ศิลปะการแสดงเหล่านส้ี ืบทอดต่อไปได้
นายเทพสิน ผ่องแก้ว
ประธานชมรมหน�ำเทพศิลป์
106 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
หากยอ้ นไปยงั จดุ เรม่ิ ตน้ คงเปน็ เรอ่ื งทน่ี า่ ประหลาดใจอยไู่ มน่ อ้ ย ทผ่ี ชู้ ายคนหนง่ึ
ซึ่งไม่ได้มีเชื้อสายเป็นศิลปินมาก่อน กลับหลงใหลในศิลปวัฒนธรรมและ
ขวนขวายหาความรู้ พฒั นาตนเองจนมวี ชิ าและสามารถถา่ ยทอดใหค้ นรนุ่ หลงั ได้
"พ่อแม่เป็นหมอพื้นบ้าน แต่มีแนวคิดกว้างไกลและเห็นความสำ�คัญของ
การศกึ ษา สว่ นตวั ผมมคี วามชอบ เรมิ่ จากครพู กั ลกั จ�ำ ดแู ละฟงั บอ่ ยๆ ตอ่ มาจงึ
ได้ไปครอบครูกับพ่อศรีพัฒน์ เกื้อสกุล และบอกกับพ่อศรีพัฒน์ไว้ว่าจะสานต่อ
สิ่งที่พ่อทำ� ตอนนั้นเห็นแล้วว่าศิลปะเหล่านี้เริ่มหายไป ก็คิดไว้ในใจว่าต้องทำ�
เมื่อมีโอกาส มีงานทำ�มั่นคง จึงเริ่มเก็บหอมรอมริบ และสร้างขนำ�นี้ขึ้นมา"
คุณเทพสินกล่าว
รอบรู้นันทนาการ 107
การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแขนงนี้ให้คงอยู่ คุณเทพสินกล่าวไว้ว่าจะต้อง
"สร้างลูกคู่ ชูคนชม อบรมคนเชิด เทิดคนช่วย"
สร้างลูกคู่ คือการสร้างนักแสดง นักดนตรี ดังนั้น ไม่ว่าจะไปแสดงที่ไหนก็จะ
เอาดนตรีสดไป ไม่เปิดแผ่น เพราะทุกคนคือนักแสดง
ชูคนชม คือการสร้างคนดูให้ได้ อย่างน้อยทุกคนต้องรู้ว่ามโนราห์และหนังตะลุง
คืออะไร เป็นการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม สร้างการรับรู้ให้กับคน
อบรมคนเชดิ คอื การฝกึ ตวั ศลิ ปนิ ใหม้ มี าตรฐาน ในขณะเดยี วกนั กต็ อ้ งไมล่ บหลู่
ดูแคลนครู แต่สามารถประยุกต์ให้เข้ายุคสมัยได้ เป็นการสร้างอัตลักษณ์ แต่ต้อง
รักษาเอกลักษณ์ เพราะหนังตะลุงและมโนราห์ มีความเชื่อเรื่องครูหมอ ครูคือ
คุณค่า คุณค่าคือครู เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
เทิดคนช่วย ในที่นี้ คนช่วย คือ ผู้สนับสนุนทั้งหลายที่เข้ามาช่วยสืบสาน
ให้กำ�ลังใจ รักษาวัฒนธรรม เขาเหล่านั้นมีส่วนสำ�คัญในการอนุรักษ์ศิลปะ
แขนงนี้ให้คงอยู่
108 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
ขยายเครือข่าย กระจายเมล็ดพันธุ์
คุณเทพสินพูดเสมอว่า "การศึกษา
เป็นเรื่องที่น่าลงทุน" การสนับสนุนด้าน
การศึกษาสำ�หรับเด็กๆ จึงเป็นสิ่งที่ตัวเขา
ให้ความสำ�คัญ การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม
ก็เป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนตั้งแต่เด็กๆ เช่นกัน
ปัจจุบัน คุณเทพสินเป็นทั้งกรรมการ
สภาวฒั นธรรมจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี กรรมการ
สำ�นักศิลปะและวัฒนธรรมมหาวิทยาลัย
ราชภัฏสุราษฎร์ธานี ครูภูมิปัญญารุ่นที่ 8
ของส�ำ นกั เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา และเป็น
กรรมการโรงเรยี นเทศบาล 3 รวมทงั้ ประธาน
คณะกรรมการโรงเรียนบ้านไสขามด้วย
เขาจึงใช้โอกาสนี้สอดแทรกศาสตร์ศิลปิน
เข้าไปให้กับเด็กประถม เช่น การเปิดเพลง
หนังตะลุง มโนราห์ ในโรงเรียน เพื่อให้เด็กๆ
ซึมซับวิถีพื้นถิ่นของตนเอง อีกทั้งยังมี
แนวคิดว่า การเชิญชวนให้เยาวชนเข้ามา
เรยี นรู้ จ�ำ เปน็ ตอ้ งใหพ้ วกเขามใี จรกั เสยี กอ่ น
จะไม่สอนแกมบงั คบั เพราะเด็กจะไม่ได้อะไร
ควรให้เขาค่อยๆ เรียนรู้ไป เช่น อาจจะให้
เข้ามาร่วมวง มาช่วยยกของ จัดของ
แล้วเริ่มจับเครื่องดนตรีง่ายๆ เช่น ฉิ่ง
จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาต่อไป
รอบรู้นันทนาการ 109
การสอนศิษย์รุ่นแรกของหนำ�เทพศิลป์ คุณเทพสินสอนร่วมกับครูผู้เฒ่า ผู้แก่
เมือ่ ศษิ ยร์ ุน่ แรกร่�ำ เรยี นจนส�ำ เรจ็ แลว้ จงึ ใชว้ ธิ กี าร "พีส่ อนนอ้ ง" เพิม่ เตมิ ขึน้ มา
เพือ่ ใหร้ ุน่ พีฝ่ กึ ถา่ ยทอดวชิ า ท�ำ ใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดแี ละความเปน็ หนึง่ เดยี ว
การสอนเป็นไปแบบนี้รุ่นแล้วรุ่นเล่า ศิษย์รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์แล้วก็แตกหน่อ
ออกไปสร้างงาน สร้างอาชีพ มีคณะเป็นของตนเอง ในขณะที่ก็ยังกลับเข้ามา
บม่ เพาะรนุ่ นอ้ งๆ อยเู่ สมอ ซง่ึ ถงึ แมจ้ ะแยกไปอยกู่ นั คนละคณะ แตม่ กี ารชว่ ยเหลอื กนั
อย่างแน่นแฟ้น เช่น วันใดที่รุ่นพี่มีงานแสดง รุ่นน้องก็จะไปเล่นดนตรีให้ ไม่มี
การแบ่งฝ่ายใดๆ เพราะทุกคนระลึกเสมอว่าเป็นศิษย์จากสำ�นักเดียวกัน นั่นก็คือ
หนำ�เทพศิลป์ ทำ�ให้ลูกศิษย์ที่เรียนจากที่นี่ เรียกตัวเองว่า ศ.เทพศิลป์
ซึ่งย่อมากจาก ศิษย์เทพศิลป์ นั่นเอง
หนำ�เทพศิลป์ ไม่ได้หยุดการพัฒนาเพียงเท่านี้ เพราะคุณเทพสินยังมี
โครงการต่อยอดกลุ่มเครือข่ายเป็นกลุ่ม “เมล็ดพันธุ์บันเทิง” โดยต้องการ
ขยายเครอื ขา่ ยออกไปยงั จงั หวดั อืน่ ๆ ในภาคใต้ เชน่ จงั หวดั สงขลา จงั หวดั พทั ลงุ
จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร เป็นต้น เพื่อปลูกฝังให้เด็กและ
เยาวชนหันมาสนใจ เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นกำ�ลังของชาติต่อไปในอนาคต
110 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
มโนราห์ เสน่ห์แห่งการร่ายรำ�
มโนราห์ หรือที่ชาวใต้เรียก หางหงส์ เทริด
สนั้ ๆ วา่ "โนรา" มคี วามหมายวา่ เล็บ
“ใจ” เป็นการแสดงยอดนิยมที่ ปิ้งคอ
บ่า
สบื ทอดมานาน ทง้ั เครอ่ื งแตง่ กาย รอบอก
และทา่ ร�ำ ลว้ นมเี สนห่ ด์ งึ ดดู สายตา
ได้เป็นอย่างดี หัวใจของมโนราห์ ก�ำไล
นั่นคือ ท่ารำ�ที่อ่อนช้อย แต่แฝง
ไปด้วยความแข็งแรง ผู้แสดง หน้าผ้า
ต้องมีการร่ำ�เรียนและฝึกฝน
อย่างหนัก เพราะท่ารำ�แต่ละท่า
ไม่ได้ง่ายเลย อีกทั้งยังมีบทร้อง
ซึ่ ง ผู้ แ ส ด ง ยั ง ต้ อ ง ส า ม า ร ถ
ด้นกลอนสดได้ด้วย มโนราห์
จึงถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่ควรค่า
แก่การอนุรักษ์
โชว์ความอ่อนตัวของร่างกาย นายพราน หรอื ตัวโจ๊ก เป็นตัวตลก
ประจ�ำคณะมโนราห์
รอบรู้นันทนาการ 111
รำ� 12 ท่า
ท่าท่ี 1 เทพพนม ท่าที่ 2 พรหมส่ีหน้า ท่าท่ี 3 แม่ลายกนก
ท่าท่ี 4 สอดสร้อยมาลา ท่าท่ี 5 ผาหลาเพียงใหล่ ท่าท่ี 6 บัวตูม
112 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
ท่าที่ 7 บัวแย้ม ท่าที่ 8 บัวบาน ท่าที่ 9 แมงมุมชักใย
ท่าท่ี 10 พสิ มัยเคียงหมอน ท่าที่ 11 เขาควาย ท่าที่ 12 ขห้ี นอน
รอบรู้นันทนาการ 113
สนุกสนานเฮฮาไปกับ หนังตะลุง
มีหนังตะลุงที่ไหนก็ต้องมีเสียงหัวเราะที่นั่น ดูเหมือนว่าเสียงหัวเราะจะอยู่คู่
กับหนังตะลุงไปเสียแล้ว ยิ่งถ้าถูกแสดงในพื้นที่ภาคใต้ เสียงหัวเราะจะดังมาก
เพราะคนส่วนใหญ่ฟังภาษาใต้ออก แต่หากไปแสดงต่างถิ่น นับว่าภาษาเป็น
อุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำ�ให้คนภาคอื่นเข้าถึงหนังตะลุงได้ยากสักหน่อย ภาษาจึง
เป็นทั้งเสน่ห์และข้อจำ�กัดในเวลาเดียวกัน
เคร่อื งดนตรีท่ีใช้ท้ังหนังตะลุงและมโนราห์
กลองตุ้ง โหม่ง ทับ
ฉิง่
ปี่
114 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
นายหนังก�ำลังพากษ์อย่างสนุก หยวกกล้วย ใช้เป็นท่ีปักตัวหนัง
ผู้เชิด หรือที่เรียกว่า "นายหนัง" มีส่วนสำ�คัญที่ทำ�ให้การแสดงสนุก ผู้เชิด
ต้องเรียนรู้ศิลปะในการเชิด เพราะตัวละครแต่ละตัวมีชีวิตอยู่จริงในอดีต ดังนั้น
การแสดงหนังตะลุง จึงต้องแสดงตามขนบธรรมเนียมเดิม เช่น เสียงลุงเท่งเป็น
แบบไหนก็ต้องพากษ์แบบนั้น ดังนั้นผู้เชิดต้องเรียนรู้ตัวละคร บุคลิก น้ำ�เสียง
ยิ่งถ้าเล่นได้เหมือน จะเรียกว่า "กินรูป" คนดูจะชอบมาก แต่ในกรณีที่เป็น
การเล่นต่างถิ่น อาจพูดภาษากลางบ้าง เป็นการปรับตัวให้เข้าสถานการณ์
แต่ยังต้องรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมไว้
มีการสอนให้ท�ำตัวหนังตะลุง
ใช้เองด้วย
รอบรู้นันทนาการ 115
CONTACTหนำ�แห่งความรู้ และความสุข
จุดมุ่งหมายในการก่อตั้ง "หนำ�เทพศิลป์" คือต้องการให้ที่แห่งนี้เป็น
"คลงั สมอง" ท�ำ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ หน�ำ เทพศลิ ปจ์ งึ ไมไ่ ดม้ แี คเ่ รอื่ งศลิ ปวฒั นธรรม
เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของกีฬา และเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย
เดก็ ๆ ทีเ่ ขา้ มาเปน็ ศษิ ยเ์ ทพศลิ ป์ สว่ นหนึง่ เปน็ เดก็ ทีข่ าดโอกาส ซึง่ คณุ เทพสนิ
อุปการะไว้ แต่อีกส่วนหนึ่งพ่อแม่ก็อยากให้เข้ามาเรียนรู้ เพราะเห็นประโยชน์
คุณเทพสินจึงคิดว่า หากเด็กบางคนไม่ชอบเรื่องศิลปวัฒนธรรมหรือไม่มี
ความสามารถดา้ นนี้กค็ วรไปสนนั สนนุ ดา้ นอนื่ เชน่ ดา้ นกฬี าซงึ่ ไดป้ ระโยชนเ์ ชน่ กนั
นอกจากนี้ เนื่องจากเด็กๆ ยังต้องกินต้องใช้ อีกทั้งหนำ�เทพศิลป์นั้นล้อมรอบ
ไปด้วยสวนผลไม้ จึงยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ โดยให้เด็กๆ เรียนรู้
ไปด้วย เช่น การนำ�เศษอาหารไปทำ�ปุ๋ย และเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ มีแปลงผัก
ซงึ่ คณุ เทพสนิ เรยี กวา่ "แปลงดดั สนั ดาน" ใหเ้ ดก็ ๆท�ำ การเกษตรโดยหากใครออกแรง
ทำ�งานก็จะได้ค่าแรงเป็นการจูงใจ และยังต่อยอดไปถึงเร่อื งการรักษาส่งิ แวดล้อม
การรกั ษาความสะอาดในชมุ ชน มกี ารเกบ็ ขยะ คดั แยกแลว้ น�ำ ไปขาย ท�ำ ใหช้ าวบา้ น
คนอื่นๆ หันมาช่วยกัน สร้างสังคมอนุรักษ์ในท้องถิ่นได้อีกทางหนึ่ง
ข้อมูลติดต่อ
เครือข่ายนันทนาการหน�ำเทพศิลป์
บ้านไสขาม หมู่ที่ 2 ต.ช้างซ้าย
อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี 84160
นายเทพสิน ผ่องแก้ว 083-172-0666
[email protected]
LINE kai-tat
116 เครือข่ายนันทนาการกรมพลศึกษา
บรรณานุกรม
กรมพลศึกษา. (2562). แผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.
2560 – 2564). กรุงเทพมหานคร: บริษัท ธรรมสาร จำ�กัด.
กรมพลศกึ ษา. ดา้ นกจิ กรรมนนั ทนาการ [เวบ็ ไซต]์ . สบื คน้ จาก https:// public.
tableau.com/profile/dpe2476#!/vizhome/shared/D5DG4S87X
กรมพลศึกษา สำ�นักนันทนาการ. (2560). สุดยอดเครือข่ายนันทนาการ.
กรุงเทพมหานคร: บริษัท ซัน แพคเกจจิ้ง (2014) จำ�กัด.
กรมพลศึกษา สำ�นักนันทนาการ. (2561). นันทนาการอย่างสร้างสรรค์.
กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ ซัน แพคเกจจิ้ง (2014) จำ�กัด.
ก�ำ โชค เผอื กสวุ รรณ. (2559). ผนู้ �ำ นนั ทนาการ. กรงุ เทพมหานคร: ส�ำ นกั พมิ พ์
แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เทพประสิทธิ์ กุลธวัชวิชัย. (2554). การนันทนาการ. กรุงเทพมหานคร:
สำ�นักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมบัติ กาญจนกิจ. (2557). นันทนาการและอุตสาหกรรมท่องเที่ยว.
กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รอบรู้นันทนาการ 117
คณะผู้จัดทำ�
ที่ปรึกษา อธิบดีกรมพลศึกษา
รองอธิบดีกรมพลศึกษา
นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำ�นวยการสำ�นักนันทนาการ
นายนิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนันทนาการ
นายพัชระ ตั้งพานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านนันทนาการ
รองศาสตราจารย์ชัชชัย โกมารทัต
ดร.วณัฐพงศ์ เบญจพงศ์
ผู้จัดทำ�และเรียบเรียง
นางสาวเลอลกั ษณ์ แสงอมั พร นักพัฒนาการกีฬาชำ�นาญการ
บรรณาธิการ ผอู้ �ำ นวยการกลมุ่ นนั ทนาการสมั พนั ธ์
นักพัฒนาการกีฬาชำ�นาญการ
นางจิดาภา เจตนิพิฐอาภา นักพัฒนาการกีฬาปฏิบัติการ
นายอดิศัย ใจกาวัง นักพัฒนาการกีฬาปฏิบัติการ
นายธนากร หานะกูล
นายณัฐพงษ์ ชัยวัฒน์สิทธิกุล
118
ส่วนที่ ๒ การสำ�รวจความพึงพอใจของผู้รับหนังสือรอบรู้นันทนาการ
คำ�ชี้แจง : โปรดทำ�เครื่องหมาย √ ลงใน ที่ตรงกับความเป็นจริง
ประเด็นความพึงพอใจ/ไม่พึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ ไม่พึงพอใจ
มากที่สุด มาก น้อย น้อยที่สุด
๒.๑ รูปแบบสื่อ
๒.๒ ความเหมาะสมของประเภทสื่อที่ผลิต
๒.๓ ความสะดวกในการใช้สื่อ
๒.๔ เนื้อหาสาระ
๒.๕ ตรงกับความต้องการ
๒.๖ ความน่าสนใจ
๒.๗ เข้าใจง่าย
ภาพรวมความพึงพอใจต่อสื่อ
๒.๘ ท่านนำ�ข้อมูลในหนังสือรอบรู้นันทนาการไปใช้ประโยชน์ด้านใดบ้าง
(สามารถระบุได้มากกว่า ๑ ข้อ)
ใช้ในการเรียนการสอน/อบรม ใช้ในชีวิตประจำ�วัน
ใช้ในการประกอบอาชีพ ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการ
ใช้ในการอื่น ๆ ระบุ…………………..............................................................................................
ไมไ่ ดใ้ ช้ เนือ่ งจาก........................................................................................................................
๒.๙ สิ่งที่ท่านอยากให้เพิ่มเติมในหนังสือรอบรู้นันทนาการ
.....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
ส่วนที่ ๓ หากท่านประสงค์รับหรือให้ข้อมูลกับกรมพลศึกษา โปรดระบุช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม
กับท่าน (เลือก ๓ อันดับแรก)
ช่องทาง ระบุและเรียงลำ�ดับ ๑ - ๓
ขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
๑. ติดต่อด้วยตัวเอง สำ�นักนันทนาการ กรมพลศึกษา
๒. เว็บไซต์ www.dpe.go.th / เว็บบอร์ดกรมพลศึกษา
๓. บอร์ดประชาสัมพันธ์
๔. วารสาร
๕. รายงานประจำ�ปี
๖. หนังสือพิมพ์
๗. Call Center , โทรศัพท์
๘. อื่นๆ………...............................................………
สำ�นักนันทนาการ
กรมพลศึกษา
เลขที่ 154 ถนนพระราม 1
แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
กรุงเทพฯ
10330
บริการธุรกิจตอบรับ
ใบอนุญาตเลขที่ 10330-C271 ปณศ.รองเมือง
ถ้าฝากส่งในประเทศไม่ต้องผนึกตราไปรษณียากร
กรมพลศกึ ษา
แบบสำ�รวจความพึงพอใจที่มีต่อสื่อนันทนาการ เรื่อง รอบรู้นันทนาการ
คำ�อธิบาย : แบบสำ�รวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อสื่อนันทนาการ เรื่อง รอบรู้นันทนาการ
ของกรมพลศึกษา และข้อมูลบางส่วนจะนำ�ไปปรับปรุง เพื่อสนองต่อความพึงพอใจให้มากที่สุด ซึ่งคำ�ตอบ
ของท่านทุกข้อมีความสำ�คัญอย่างยิ่งต่อการสำ�รวจคร้ังน้ี จึงขอความกรุณาท่านตอบคำ�ถามตามความเป็นจริง
และความคดิ เหน็ ทแ่ี ทจ้ รงิ ขอขอบคณุ ทใ่ี หค้ วามรว่ มมอื
ส่วนที่ ๑ ข้อมูลส่วนบุคคล
คำ�ชี้แจง : โปรดทำ�เครื่องหมาย √ ลงใน ที่ตรงกับความเป็นจริง
๑. เพศ ชาย หญิง
๒. อายุ ...............ปี ๓. อาชีพ .......................................................................
๔. ระดับการศึกษา ต�่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี
๕. ประเภทองค์กรที่ได้รับสื่อนี้ โปรดระบุชื่อองค์กร..........................................................................................
ส่วนราชการ/สถานศึกษา ภาคเอกชน
ประชาชนทั่วไป รัฐวิสาหกิจ/องค์กรมหาชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่าย ด้าน……………................................................
อื่นๆ (ระบุ) ............................................................