สถาบนั การแพทยฉกุ เฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
(๓) ในทางรืว่ มทางแยก หรืือในรืะยะสิบุเมติรืจากทางรืว่ มทางแยก
(๔) ในทางขำา้ ม หรือื ในรืะยะสามเมติรืจากทางขำา้ ม
(๕) ในเขำติทีม� ีเคำรืือ� งหมายจรืาจรืหา้ มจอดรืถ
(๖) ในรืะยะสามเมติรืจากท่อนา�ำ ดบั ุเพลังิ
(๗) ในรืะยะสิบุเมติรืจากทต�ี ิดิ ติ�ังสญั ญาณุจรืาจรื
(๘) ในรืะยะสบิ ุหา้ เมติรืจากทางรืถไฟผู้า่ น
(๙) ซ้อนกนั กบั ุรืถอื�นท�จี อดอย่กอ่ นแลัว้
(๑๐) ติรืงปากทางเขำา้ ออกขำองอาคำารืหรืือทางเดินรืถ หรืือในรืะยะหา้ เมติรืจากปากทางเดินรืถ
(๑๑) รืะหว่างเขำติปลัอดภยั กบั ุขำอบุทาง หรืือในรืะยะสิบุเมติรืนบั ุจากปลัายสุดขำองเขำติปลัอดภัยท�ังสองขำา้ ง
(๑๒) ในท�คี ำับุขำนั
(๑๓) ในรืะยะสบิ ุหา้ เมติรืกอ่ นถง่ เคำรืื�องหมายหยุดรืถปรืะจำาทางแลัะเลัยเคำรือ�ื งหมายไปอกี สามเมติรื
(๑๔) ในรืะยะสามเมติรืจากติ้่ไปรืษณุยี ์
(๑๕) ในลัักษณุะกดี ขำวางการืจรืาจรื
มาตรั้า ๕๘ การืจอดรืถในทางเดินรืถที�ผู้่้ขำับุขำ�ีไม่อาจอย่คำวบุคำุมรืถนั�น ผู้่้ขำับุขำี�ติ้องหยุดเคำรืื�องยนติ์แลัะห้ามลั้อ
รืถนน�ั ไวก้ ารืจอดรืถในทางเดนิ รืถทเี� ปน็ ทางลัาดหรืือชััน ผู้่ข้ ำบั ุขำี�ติอ้ งหันลั้อหนา้ ขำองรืถเขำ้าขำอบุทาง
มาตรั้า ๕๙ เจ้าพนักงานจรืาจรืหรืือพนักงานเจ้าหน้าท�ีมีอาำ นาจสั�งให้ผู้่้ขำับุขำี�เคำลัื�อนย้ายรืถที�หยุดหรืือจอดอย่
อนั เปน็ การืฝึ�าฝึนื บุทแหง่ พรืะรืาชับุญั ญัตินิ ี�ได้
เจ้าพนักงานจรืาจรืหรืือพนักงานเจ้าหน้าท�ีมีอาำ นาจเคำลั�ือนย้ายรืถที�หยุดหรืือจอดอย่อันเป็นการืฝึ�าฝึืนบุทแห่ง
พรืะรืาชับุัญญตั ิิน�ี หรืือใชั้เคำรืือ� งมอื บุงั คำบั ุไม่ให้เคำลั�อื นยา้ ยรืถดังกลั่าวได้
มาตรั้า ๖๐ การืหยุดรืถหรืือการืจอดรืถในทางเดินรืถนอกเขำติเทศบุาลั ผู้้่ขำับุขำี�ติ้องหยุดรืถหรืือจอดรืถ ณุ ที�ซ่�ง
ผู้ข้่ ำับุขำซ�ี ่ง� ขำบั ุรืถอน�ื จะเห็นไดใ้ นรืะยะไม่น้อยกว่าหน่�งรือ้ ยห้าสิบุเมติรื
มาตรั้า ๖๑ ในเวลัาทมี� แี สงสวา่ งไมเ่ พยี งพอทผี� ู้ข้่ ำบั ุขำจี� ะมองเหน็ รืถทจี� อดในทางเดนิ รืถไดโ้ ดยชัดั แจง้ ในรืะยะไมน่ อ้ ย
กวา่ หนง่� รือ้ ยหา้ สบิ ุเมติรื ผู้ข้่ ำบั ุขำซ�ี ง่� จอดรืถในทางเดนิ รืถหรือื ไหลัท่ างติอ้ งเปดิ ไฟหรือื ใชัแ้ สงสวา่ งติามปรืะเภท ลักั ษณุะ แลัะ
เงื�อนไขำทกี� าำ หนดในกฎกรืะทรืวง
การึจัอดรึถ
กรืณุีจอดรืถบุนชั่องทางเดินรืถ คำวรืจอดรืถบุรืิเวณุด้านซ้ายขำองทางเดินรืถ โดยให้ด้านซ้ายขำองรืถชัิดแลัะขำนาน
กับุขำอบุหรือื ไหลั่ทางในรืะยะไม่เกนิ ๒๕ เซนติิเมติรื ในลัักษณุะท�ไี มก่ ีดขำวางชั่องทางจรืาจรื ไม่จอดรืถในบุรืิเวณุท�หี า้ มจอด
เชั่น บุนทางเท้า บุนสะพาน ในอุโมงคำ์ บุรืิเวณุทางรื่วมทางแยก เพรืาะนอกจากจะเสี�ยงติ่อการืเกิดอุบุัติิเหติุแลั้ว ยังผู้ิด
กฎหมายอีกกรืณุรี ืถจอดเสยี บุนทาง คำวรืใหส้ ัญญาณุจอดโดยเปิดไฟฉกุ เฉิน นำากรืวย ปา้ ยสะท้อนแสง ก�ิงไม้ หรืือวสั ดุอ�นื
มาวางหา่ งจากรืถไมต่ ิ�าำ กวา่ ๕๐ เมติรื เติือนให้รืถคำนั อ�นื ทรืาบุว่ามีรืถจอดเสยี จะไดร้ ืะมดั รืะวงั แลัะเปลัย�ี นชั่องทางไดท้ นั
จอดใหช้ ัดิ รืมิ ไหลัท่ างไมก่ ดี ขำวางชัอ่ งจรืาจรื จากนน�ั ใหพ้ ยายามนำารืถออกใหพ้ น้ ชัอ่ งทางเดนิ รืถโดยเรืว็ สดุ ปอ้ งกนั อบุ ุตั ิเิ หติุ
จำอดรั้ถ” กับ้ “หยุดรั้ถ”
๑. จำอดรั้ถ (park) พ.รื.บุ.จรืาจรืทางบุก พ.ศ.๒๕๒๒ ไม่ไดใ้ ห้คำาำ นิยามไวว้ า่ การืจอดรืถคำอื อะไรื แติ่การืจอดรืถ
กำาหนดไว้ใน หมวด ๔ ว่าด้วยการืจอดรืถแลัะหยุดรืถ มาตรั้า ๕๔ วรั้รั้คสอง ว่า ผู้่้ขำับุขำี�ติ้องจอดรืถทางด้านซ้ายขำอง
94
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
ทางเดนิ รืถ แลัะจอดรืถใหด้ า้ นซา้ ยขำองรืถขำนานชัดิ กบั ุขำอบุทางหรือื ไหลัท่ างในรืะยะหา่ งไมเ่ กนิ ยส�ี บิ ุหา้ เซนติเิ มติรื หรือื จอด
รืถติามทิศทางหรือื ด้านหน�่งด้านใดขำองทางเดนิ รืถที�เจ้าพนักงานจรืาจรืกาำ หนดไว้ แติ่ในกรืณุีท�ีมชี ั่องเดนิ รืถปรืะจำาทางอย่
ทางดา้ นซา้ ยสดุ ขำองทางเดนิ รืถ หา้ มมใิ หผ้ ู้ข้่ ำบั ุขำจี� อดรืถในลักั ษณุะดงั กลัา่ วในเวลัาทก�ี ำาหนดใหใ้ ชัช้ ัอ่ งเดนิ รืถปรืะจำาทางนน�ั ”
มาตรั้า ๕๗ เว้นแติ่จะได้มีบุทบุัญญัติิ กฎ หรืือขำ้อบุังคำับุติามพรืะรืาชับุัญญัติินี�กำาหนดไว้เป็นอย่างอ�ืน ห้ามมิให้
ผู้้ข่ ำับุขำี�จอดรืถ (๓) ในทางรื่วมทางแยก หรืือในรืะยะสิบุเมติรืจากทางรืว่ มทางแยก นน�ั หมายคำวามว่า ถา้ ทา่ นไปจอดรืถติรืง
สี�แยก ท่านผู้ิดติามมาติรืา ๕๗ แติถ่ า้ ท่านติิดไฟแดง อันนั�นท่านหยดุ รืถคำรืับุ
หยดุ รั้ถ (stop) พ.รื.บุ .จรืาจรืทางบุก ก็ไมไ่ ดใ้ หค้ ำาำ นิยามการืหยดุ รืถไว้คำรืับุ แติ่ในส่วนที�เกีย� วกบั ุสัญญาณุจรืาจรื
มบี ุญั ญัติไิ วใ้ น มาติรืา ๒๒
มาตรั้า ๒๒ ผู้้่ขำับุขำต�ี ิอ้ งปฏิิบุัติติ ิามสัญญาณุจรืาจรืหรืือเคำรือื� งหมายจรืาจรืทป�ี รืากฏิขำ้างหนา้ ในกรืณุีติอ่ ไปนี�
(๑) สญั ญาณุจรืาจรืไฟสเี หลัอื งอาำ พัน ใหผ้ ู้่้ขำบั ุขำเี� ติรืียมหยุดรืถหลัังเส้นใหร้ ืถหยุดเพ�ือเติรืยี มปฏิบิ ุัติิติามสัญญาณุท�ี
จะปรืากฏิติ่อไปดงั กลั่าวใน (๒) เว้นแติ่ผู้่้ขำับุขำ�ีท�ีไดเ้ ลัยเสน้ ใหร้ ืถหยดุ ไปแลั้วใหเ้ ลัยไปได้
(๒) สัญญาณุจรืาจรืไฟสแี ดงหรืือเคำรืือ� งหมายจรืาจรืสแี ดงท�ีมีคำำาวา่ หยดุ ให้ผู้่้ขำบั ุขำ�หี ยุดรืถหลัังเส้นใหร้ ืถหยดุ
มาตรั้า ๕๕ ห้ามมใิ ห้ผู้้่ขำับุขำหี� ยดุ รืถ
(๑) ในชั่องเดนิ รืถ เว้นแติ่หยดุ ชัิดขำอบุทางดา้ นซา้ ยขำองทางเดนิ รืถในกรืณุีท�ไี มม่ ชี ั่องเดินรืถปรืะจำาทาง
(๒) บุนทางเท้า
(๓) บุนสะพานหรืือในอุโมงคำ์
(๔) ในทางรืว่ มทางแยก
(๕) ในเขำติท�มี ีเคำรื�อื งหมายจรืาจรืห้ามหยดุ รืถ
(๖) ติรืงปากทางเขำา้ ออกขำองอาคำารืหรืือทางเดนิ รืถ
(๗) ในเขำติปลัอดภยั
(๘) ในลัักษณุะกดี ขำวางการืจรืาจรื
วธิ จ่ ำอดรั้ถที่่ป� ่ล่อดภัย้ เพิ่อ� เป่น็ กัารั้ป่อ้ งกัน้ อุบ้ติเหตซุ �าำ ซ้อน
บุ่อยคำรืั�งนะคำรืับุที�มักเกิดอุบุัติิเหติุจากการืจอดรืถรืิมขำ้างทาง กีดขำวางส้นทางจรืาจรื ผู้้่ขำับุขำี�ไม่เปิดสัญญาณุไฟ
ทำาให้ผู้่้ขำบั ุรืถมาติามหลังั ติอ้ งเปลั�ยี นชัอ่ งทางเดินรืถ กรืะทันหนั ส่งผู้ลัใหเ้ กดิ อบุ ุตั ิเิ หติุ เพอื� เปน็ การืปอ้ งกันอบุ ุตั ิเิ หติซุ �าำ ซอ้ น
ท�อี าจเกดิ ขำ่น� ดงั น�ี
๑. หลักี เลั�ียงการืจอดรืถในพ�นื ที�เส�ยี ง เชั่น รืิมขำ้างทางโดยเฉพาะบุรืิเวณุทางขำ่น� ลังสะพาน ถนนท�ีมีไหลัท่ างแคำบุ
หรืือมีลัักษณุะเป็นคำอขำวด ทางแยก ทางม้าลัาย ทางรืถไฟ แลัะปากซอยทางเขำา้ ทางออกอยา่ งเดด็ ขำาดหากรืถเสียปรืะสบุ
อบุ ุตั ิเิ หติหุ รือื จำาเปน็ ติอ้ งจอดรืถในพนื� ทเี� สยี� งคำวรืจอดรืถใหช้ ัดิ ไหลัท่ างใหม้ ากทสี� ดุ พรือ้ มเปดิ สญั ญาณุไฟฉกุ เฉนิ แลัะนาำ ปา้ ย
เติือนหรืือวัติถุอ�ืนๆเชั่นกรืวยสามเหลั�ียมก�ิงไม้หรืือผู้้าท�ีมีลัักษณุะสะท้อนแสงมาวางไว้ด้านหลัังให้ห่างจากจุดท�ีรืถจอด
ในรืะยะไม่ติา�ำ กว่า ๕๐ เมติรืแลัะให้ผู้่้ขำับุรืถติามหลัังมาสามารืถมองเห็นได้อย่างน้อยไม่ติ�าำ กว่า ๑๕๐ เมติรื (อย่างน้อย)
เพื�อให้ผู้้ข่ ำับุขำร�ี ืถคำันอื�นมองเห็นไดอ้ ยา่ งชััดเจนแลัะเพ�มิ คำวามรืะมดั รืะวงั ซ�่งจะชัว่ ยปอ้ งกนั อบุ ุตั ิเิ หติซุ �าำ ซอ้ นได้
๒. หลัีกเลัี�ยงการืจอดรืถถ่ายภาพหรืือชัมทิวทัศน์ขำ้างทางติามแหลั่งท่องเที�ยว โดยเฉพาะติามเส้นทางขำ่�นเขำา
ลังเขำา เพรืาะมคี ำวามเส�ียงติอ่ การืเกิดอุบุตั ิเิ หติสุ ง่ คำวรืจอดทีช� ัมววิ หรืือถา่ ยภาพบุรืเิ วณุจุดชัมวิวเทา่ นน�ั ในการืปฏิบิ ุตั ิิการื
จอดรืถอย่างปลัอดภัยบุนพ�ืนท�ีลัาดเอียง เชั่น ทางขำ�่น – ลังสะพาน หรืือทางเขำ้าออกบุ้านท�ีมีรืะดับุส่งกว่ารืะดับุพ�ืนถนน
คำวรืเพิม� คำวามรืะมดั รืะวงั โดยปฏิบิ ุัติดิ ังนี�
คมู ือหลักสตู ร 95
การขบั รถบริการการแพทยฉ ุกเฉินและรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉ ุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
รึถฉุุกเฉุนิ
มาตรั้า ๗๕ ในขำณุะท�ีผู้ข้่ ำับุขำีข� ำับุรืถฉกุ เฉินไปปฏิบิ ุัติหิ นา้ ท�ี ผู้่ข้ ำบั ุขำีม� สี ิทธิดังนี�
๑. ใชั้ไฟสญั ญาณุแสงวบั ุวาบุ ใชั้เสียงสญั ญาณุไซเรืน หรือื เสียงสญั ญาณุอย่างอ�นื ติามทีอ� ธิบุดกี ำาหนดไว้
๒. หยุดรืถหรือื จอดรืถ ณุ ท�หี ้ามจอด
๓. ขำบั ุรืถเกินอตั ิรืาคำวามเรืว็ ทกี� ำาหนดไว้
๔. ขำับุรืถผู้่านสัญญาณุจรืาจรืหรืือเคำรืื�องหมายจรืาจรืใดๆ ที�ให้รืถหยุด แติ่ติ้องลัดคำวามเรื็วขำองรืถให้ชั้าลัง
ติามสมคำวรื
๕. ไมต่ ิ้องปฏิิบุัติติ ิามบุทแห่งพรืะรืาชับุัญญตั ิินีห� รืือขำ้อบุังคำบั ุการืจรืาจรืเกย�ี วกบั ุชั่องเดนิ รืถ ทศิ ทางขำองการืขำบั ุรืถ
หรืือการืเลัี�ยวรืถทีก� าำ หนดไว้
ถอดบที่เรั้่ยนจำากัภัาพิรั้วมข้องกัารั้เกัิดอุบ้ติเหตุจำากัรั้ถฉุุกัเฉุิน EMS ๑๖๖๙ จากการืขำับุ / การืจอดรืถ /
การืชั่วยเหลัอื ก่ภ้ ยั / กช่้ ัีพ ออกปฏิิบุตั ิกิ ารืในหลัายสถานการืณุ์ มักเกิดอุบุัติิเหติใุ ห้เหน็ เป็นปรืะจาำ
หลััก ขอ� ยกเว�น การึปฏิิบตั ิ/ผู้ลั
๑. ข้บ้ รั้ถฝ่า - ติอ้ งชัะลัอคำวามเรื็วลัง ติง�ั แติ่เหน็ - รืถฉกุ เฉิน ฝึ�าฝึนื - ปัจจุบุัน สธ./สพฉ. ไม่
ส้ญญาณ์ไฟแดง/ ไฟสเี หลัืองอำาพนั แลัะเติรืียมหยดุ สัญญาณุไฟแดงได้ อนุญาติใหฝ้ ึา� ฝึนื สญั ญาณุไฟ
แดง กัรั้ะพิรั้บิ / หลัังเสน้ ให้หยดุ (เส้นทางขำ้าม แติ่ติ้องใชัค้ ำวาม แดงแลัว้ เพรืาะเกดิ เหติุมาก
เหล่อ่ งอำาพิน้ ม้าลัาย) ติาม ม.๒๑ (๑) (๒) รืะมัดรืะวงั เพิ�มขำ�่นอกี ทสี� ุด/ส่ญเสยี บุคุ ำลัากรืทาง
- สัญญาณุไฟแดงกรืะพรืิบุ ให้ ติามคำวรืแก่กรืณุี การืแพทย์/ปชัชั.
หยดุ รืถหลัังเสน้ ให้หยดุ เมอ�ื เหน็ วา่ ติาม ม.๗๕ (๔) - มคี ำดีคำวามอาญา/แพ่งขำ�น่ สศ่ าลั
ปลัอดภยั แลัว้ จง่ ขำับุรืถออกไป (๕) - สว่ นมากจะไมค่ ำ่อยรืะมัดรืะวัง
- สญั ญาณุไฟเหลัืองกรืะพรืบิ ุ จะขำบั ุผู้า่ นไปแลัะเกดิ อุบุตั ิิเหติุ
ใหล้ ัดคำวามเรื็วลังแลัะผู้า่ นไปดว้ ย
คำวามรืะมดั รืะวัง (๖)
๒. ชังิ เข้า้ ที่างรั้่วม - ใหร้ ืถที�อย่ในทางรืว่ มทางแยกไป - เวน้ แติแ่ ยกน�ันเป็นเส้น ฝึ�ายใดปรืะมาทฝึา� ฝึนื กฎจรืาจรื
ที่างแยกัไม่ล่ด กอ่ น ม.๗๑ ทางเอก ติดั กบั ุ ทางโท ติอ้ งรืบั ุผู้ดิ ติามสถานการืณุ์
ความเรั้ว็ /ไม่ให้ที่าง - ถา้ ถง่ พรื้อมกัน ให้รืถทางซา้ ย ใหส้ ิทธริ ืถในทางเอก แลัะแมจ้ ะมสี ิทธิไปกอ่ น แติ่
ไปกอ่ น ไปก่อน หากปรืะมาทรืว่ มด้วยแลัว้
อาจติ้องรืับุผู้ดิ ไดเ้ ชั่นกัน
๓. เสย่ หล่ก้ ัชัน - สภาพรื่างกายไม่พรื้อม - ห้ามขำับุรืถเม�อื ปจั จยั เขำ้าขำา่ ยกรืะทาำ โดยปรืะมาท
ตน้ ไม้/เสาไฟฟา้ อ่อนลัา้ งว่ งนอน หลัับุใน กินยา ติ่างๆ ไม่พรือ้ ม เปน็ เหติุให้ทรืัพยส์ ินผู้อ้่ นื�
ข้า้ งที่าง / ตอม่อ / แกไ้ อ แก้ไขำ้ แกห้ วดั หรืือ ยาบุาง - ศ่กษาสภาพเส้นทาง เสียหาย มีผู้อ้่ ืน� ไดร้ ืบั ุบุาดเจบ็ ุ/
กัารั้ด์ เรั้ล่ / แบรั้เิ ออรั้์ ชันิดทม�ี ผี ู้ลัติ่อการืงว่ งซ่ม ลัว่ งหน้า เจบ็ ุสาหสั / ติาย
96
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
คูมือหลกั สตู ร
การขบั รถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉินและรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
สถาบนั การแพทยฉ กุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
ความสง่ ที่้าย
หล่ก้ ั ๖S ล่าำ ด้บคิดแห่งความป่ล่อดภั้ย
SAFE ส้งคม - ภาพลัักษณุโ์ ดยรืวมติอ่ การืแพทย์ฉุกเฉิน/การืก้่ชัีพ/การืกภ่้ ยั
SAFE งบป่รั้ะมาณ์แผู้่นดิน - ปรืะหยัดการืส่ญเสีย ในการืบุรืิหารืงาน ๔M
SAFE องค์กัรั้ - ภาพลัักษณุ์การืทำางานการืแพทย์ฉกุ เฉิน/การืกช้่ ัพี /การืกภ้่ ัย
SAFE เพิอ�่ นรั้ว่ มที่างบนถนน - ไมร่ ื่้อโิ หน่ อิเหน่ ส่ญเสียด้วย/เสยี คำวามรื่้สก่ /รืงั เกียจ EMS ๑๖๖๙
SAFE ตนเองแล่ะที่่มงาน - ติ้องอย่รือดปลัอดภัย/ไรื้คำวามคำดี/พ้นจากคำวามรืับุผู้ดิ ทางแพง่
SAFE ผู้้ป่ว่ ย - คำาำ น่งถง่ สภาพอาการืบุาดเจบ็ ุ/การืปฐ์มพยาบุาลั ณุ จุดออกเหติุ แลัะ ในรืถฉุกเฉิน/คำวามจำาเปน็ เรื่งดว่ น
ทจ�ี ะติอ้ งใชัข้ ำ้อยกเวน้ ติาม ม.๗๕ พ.รื.บุ.จรืาจรืทางบุก
คูมือหลกั สูตร 103
การขับรถบรกิ ารการแพทยฉ ุกเฉินและรถพยาบาล
ภัาคผู้นวก
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
คำส่ังสถำบนั กำรแพทย์ฉกุ เฉินแห่งชำติ
ท่ี ๒๕ / ๒๕๖๔
เร่ือง แต่งตงั้ คณะกรรมกำรจัดทำหลักสตู รฝกึ อบรมพนักงำนขบั รถปฏบิ ตั ิกำรฉกุ เฉนิ กำรแพทย์และรถพยำบำล
โดยท่ีเป็นการสมควรให้มีคณะกรรมการจัดทาหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานขับรถปฏิบตั ิการฉกุ เฉนิ
การแพทย์และรถพยาบาล ตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติการเฉพาะทางด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติการและเพิ่มสมรรถนะความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
ท้ังในพื้นที่ปกติและพ้ืนท่ีพิเศษ ทั้งเพ่ือให้การจัดทาหลักสูตรพนักงานขับรถปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ และ
รถพยาบาล เปน็ ไปด้วยความเรียบร้อย
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ เลขาธกิ ารสถาบันการแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชาติ จงึ ออกคาส่ังไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทาหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานขับรถปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์
และรถพยาบาล ประกอบดว้ ย
(๑) เรอื อากาศเอก อจั ฉรยิ ะ แพงมา ทปี่ รึกษา
(๒) นายไพโรจน์ บุญศริ ิคาชัย ทปี่ รกึ ษา
(๓) นายพงศ์ธร เกียรตดิ ารงวงศ์ ทปี่ รกึ ษา
(๔) นางสาวศศดศิ ชชู นม์ ทป่ี รึกษา
(๕) นายพิเชษฐ์ หนองช้าง ประธาน
(๖) ผู้อานวยการกองสาธารณสขุ ฉกุ เฉนิ หรือผู้แทน กรรมการ
(๗) ผูบ้ ังคบั การตารวจจราจร หรอื ผู้แทน กรรมการ
(๘) ผแู้ ทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรรมการ
(๙) ผู้อานวยการสานักประสานการแพทย์ฉกุ เฉิน กรรมการ
(๑๐) ผู้อานวยการสานักสนบั สนุนการปฏบิ ตั ิการฉุกเฉิน กรรมการ
(๑๑) ผู้อานวยการสานักรับรองและกากบั มาตรฐาน กรรมการ
(๑๒) ผู้แทนกรมการขนส่งทางบก กรรมการ
(๑๓) นางสมจินตนา เอี่ยมสรรพางค์ กรรมการ
(๑๔) นางสาวศุภลักษณ์ ชาลีพดั กรรมการ
(๑๕) นายสมบตั ิ พทุ ธสัมฤทธิ์ กรรมการ
(๑๖) นายนนท์ ภูปรัสสานนทท์ กรรมการ
(๑๗) นายเฉลิมชัย หุ่นนาครนิ ทร์ทร กรรมการ
(๑๘) นายคมสันต์ ทรพั ยเ์ อนกนันต์ กรรมการ
(๑๙) นายอดุ มศักดิ์ มชี ยั กรรมการ
(๒๐) นายศริ ิชยั น่ิมมา กรรมการ
(๒๑) นายกิตติเดช ศรสี ุวรรณ กรรมการ
คูมอื หลักสูตร 107
การขบั รถบริการการแพทยฉ กุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
(๒๒) นายพงษพ์ ษิ ณุ ศรธี รรมานุสาร -๒- กรรมการและเลขานกุ าร
(๒๓) เรอื เอก สมัคร ใจแสน กรรมการและผู้ช่วยเลขานกุ าร
(๒๔) นางสาวเปรมสิณี คาใบสี ผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร
ขอ้ ๒ ใหค้ ณะกรรมการ ตามข้อ ๑ มหี น้าที่และอานาจ ดงั น้ี
(๑) จดั ทาหลักสูตรฝกึ อบรมพนักงานขับรถปฏิบตั กิ ารฉกุ เฉนิ การแพทยแ์ ละรถพยาบาล
(๒) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานขับรถปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์และรถพยาบาล
การกากับติดตาม การประเมินผลการฝึกอบรม และให้ข้อเสนอแนะแนวทางการดาเนินการฝึกอบรมพนักงาน
ขับรถปฏิบัตกิ ารฉกุ เฉินการแพทยแ์ ละรถพยาบาล
(๓) ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ตามทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
ทั้งนต้ี งั้ แต่บัดน้ี เปน็ ตน้ ไป
ส่งั ณ วนั ที่
เรืออากาศเอก
(อัจฉรยิ ะ แพงมา)
เลขำธกิ ำรสถำบันกำรแพทยฉ์ ุกเฉินแห่งชำติ
108
สถาบันการแพทยฉุกเฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
ประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหง ชาติ
เร่อื ง หลกั สตู รการขับรถบริการการแพทยฉ์ ุกเฉนิ และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course)
________________
โดยที่เปนการสมควรให้มีหลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course) ตามท่ีคณะกรรมการจัดทาหลักสูตรฝกอบรมพนักงานขับรถ
ปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์และรถพยาบาล ได้จัดทาขึ้นเพื่อให้บุคลากรผู้มีหน้าที่ดูแลควบคุมหรือ
ขับรถพยาบาล และรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินได้มีโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาทักษะในการปฏิบัติหน้าท่ี
ตลอดจนการสรา้ งทศั นคติ และวฒั นธรรมความปลอดภัย
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๕ (๕) มาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๔ แหงพระราชบัญญัติ
การแพทย์ฉกุ เฉนิ พ.ศ.๒๕๕๑ เลขาธิการสถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉินแหงชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังตอไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกวา “ประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ เรื่อง หลักสูตรการขับรถ
บรกิ ารการแพทย์ฉกุ เฉนิ และรถพยาบาล (Emergency Vehicle Operation Course)
ข้อ ๒ ประกาศฉบบั น้ี ให้ใชบ้ ังคับตั้งแตว นั ประกาศเปนต้นไป
ขอ้ ๓ ให้การฝก อบรมหลักสูตรการขับรถบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล (Emergency
Vehicle Operation Course) เปน ไปตามรายละเอยี ดแนบท้ายประกาศน้ี
ประกาศ ณ วันที่ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
เรืออากาศเอก
(อัจฉริยะ แพงมา)
เลขาธกิ ารสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉนิ แหง ชาติ
คูมือหลักสตู ร 109
การขบั รถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉินและรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
เอกสารแนบท้ายประกาศประกาศสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉนิ แหง่ ชาติ
เร่ือง หลกั สตู รการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course)
_____________________
๑. ชอื่ หลักสูตรท่รี บั รอง
หลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ และรถพยาบาล (Emergency Vehicle Operation
Course : EVOC )
2. ชือ่ คุณวฒุ ทิ ร่ี ับรอง
ใบรับรองการผ่านการอบรมหลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course) ท้งั นี้ ใบรบั รองมีอายุ ๓ ปี นับแตว่ นั ที่ผ่านการอบรม
3. ปรชั ญาของการฝกึ อบรม
บุคลากรทางการแพทย์ ท่ีปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Service)
และระบบส่งต่อผู้ปวย (Referral System) เปนทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าและมีความสําคัญย่ิงในการช่วยเหลือ
ผู้เจ็บปวยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุและการส่งต่อผู้ปวยไปยังโรงพยาบาลท่ีมีศักยภาพเหมาะสมเพ่ือมุ่งช่วยให้ผู้ปวย
พน้ ภาวะวิกฤติ บุคลากรเหลา่ น้ีนอกจากปฏบิ ัติงานด้วยความยากลําบากในการดูแลผปู้ วยฉุกเฉินวิกฤติในรถบริการ
การแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล (Ambulance) แล้ว ยังต้องรับความเส่ียงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่าง
การเดินทางอีกด้วย ดังน้ันพนักงานขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล เปนบุคลากรท่ีสําคัญที่สุด
ในการออกปฏิบัติการแต่ละคร้ัง จึงมีความจําเปนต้องมีทักษะในการขับรถและการปฏิบัติงาน เพื่อดูแล
ความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติการ ซึ่งจะส่งผลต่อการช่วยเหลือผู้เจ็บปวยฉุกเฉินให้พ้นภาวะวิกฤติและ
มีความปลอดภยั
๔. วัตถปุ ระสงคข องหลักสตู ร
(๑) เพื่อให้มีทัศนคติและจิตสํานึกท่ีดี ในการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และรถพยาบาล
อยา่ งปลอดภัย
(๒) เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการเตรียมความพร้อมของรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และ
รถพยาบาล และการเตรยี มความพรอ้ มของสภาพร่างกายและจติ ใจ
(๓) เพ่ือให้มีความรู้และทักษะในการปฏิบัติการ (Operation) ในการขับขี่รถบริการการแพทย์
ฉุกเฉนิ และรถพยาบาล อยา่ งถูกต้องและปลอดภยั
(๔) เพอื่ ให้มีความรแู้ ละทักษะในการประเมนิ ควบคุม บรหิ ารจดั การความเหนอื่ ยลา้ การวางแผน
และบรหิ ารจดั การความเสีย่ ง ในการปองกันอบุ ตั เิ หตุ และแก้ไขสถานการณ์ฉกุ เฉนิ
๕. กิจกรรมการเรยี นการสอน
การฝึกอบรมโดยยึดผู้เข้ารับการอบรมเปนศูนย์กลางและใช้ปญหาเปนฐานการเรียนรู้ (Trainee -
centered และ Problem-based Training)
(๑) การบรรยายในรูปแบบหอ้ งเรียน หรือการบรรยาย ออนไลน์
(๒) การฝึกปฏิบตั ิในสถานการณจ์ ําลองและสถานการณ์จริง
(๓) การมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
110
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
-2-
๖.รรนะะอ้ยยยะะเกเว๘ววลลา่.าาก๖รกาึาะรชัยรฝมอกึะ.บเอวรบลมรัามพ๒ิกั วกนั ่อ(นจาํเรนึ�มิวนเว1รึ8ขอชง่ัวบโมคุ งล3ัา0กนรึาอทน่� )ี
+๒
ปฏบิ ตั ิการ ตา๗ม.กฎค๘คม(ำ๑ณุะาหช)กแมัสมกนพาม.วยนนบ่าวักตัพา่ ๖งดิผนาว้เู้ชนกัขยัมงข้ากา.ับรานับรรขแกถำบัพาบุครทรำฝนิยกึกทฉ์าอุกรี� ๑บกเฉราินมรแอพงคท์กยร์ฉเุกอกเฉชินนทแไี่ ลมะ่แรสถวพงหยาากบาํ าไลร +๑
สว่ นทอ้ งถ่นิ และปคำระะแชนานชนพทนี่สกั นงใาจนขำบั ุคำนที� ๒ ของสถานพยาบาลหร+ือ ๐หน่วย
(มลู นิธ/ิ สมาคม) องคก์ รปกครอง
ค(ำ๒ะ)แอนานยุ พ๑น๘กั -๕งา๕นปขำับี ุแคลำนะทมี�ใ๓บอนุญาตขบั ขร่ี ถยนต์สว่ นบุคคล หรือใบขบั ข่รี ถสาธารณะ
(๓) หากอายุมากกว่า ๕๕ ปี จะต้องมีหนังสือรับรองสุขภาพ หรือผลการตรวจสุขภาพท่ีออกจาก
สถานพยาบาลมายื่นประกอบด้วย
(๔) ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟนเฟอนไม่สมประกอบ และไม่เป็นโรคต้องห้ามตามที่กรมขนส่ง
ทางบก กาํ หนด
๘. จานวนผู้เขา้ รบั การอบรม
รุน่ ละไม่เกนิ ๕๐ คน และอัตราสว่ นครูในการฝึกปฏิบตั ติ ่อผู้เรยี น ไมเ่ กนิ ๑:๘
๙. โครงสรา้ งเนื้อหาหลกั สตู ร (Core Content)
เนื้อหาสาระ เวลาในการอบรม
บทท่ี 1 หลักการเคล่อื นยา้ ยผ้ปู วยอยางปลอดภยั ด้วยรถพยาบาลและรถบรกิ าร ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
การแพทยฉ์ กุ เฉนิ 3 ชม.
(๑) เปา หมายในการเคล่อื นย้ายผู้ปว ย
(๒) ความเส่ียงในการเคล่ือนย้ายผ้ปู วย ปจจัยท่ีมีผลต่อความเสีย่ ง และการบริหาร
จัดการความเสี่ยง
ความเสีย่ งต่ออุบัตเิ หตุจราจร
สถานการณ์อุบตั ิเหตุ และภาพลกั ษณข์ องประเทศไทย
สาเหตขุ องการเกิดอุบตั เิ หตุ
ปจ จยั ท่ีส่งผลตอ่ การเกิดอบุ ตั ิเหตุ และการจัดการเชงิ ระบบ
ความเสีย่ งต่อการบาดเจ็บของบุคลากร และผปู้ ว ยขณะปฏิบัตงิ าน
บนรถบริการการแพทยฉ์ กุ เฉิน และรถพยาบาล ณ ทเี่ กิดเหตุ
ความเสี่ยงของผู้ปวยจากความล่าช้า หรือความไม่พร้อมในการดูแลรักษาขณะ
เคลอ่ื นย้าย
(๓) ปรชั ญา แนวคิดและทศั นคตใิ นการขบั รถปลอดภัย
เพิ่มการวิเคราะห์ให้เป็น/วิดีโอสถานการณ์ ให้สามารถคิดเป็น คิดได้ /ปจจัยที่ส่งผลให้เกิด
อุบัตเิ หตุ
(๔) บทบาทของพนักงานขับรถพยาบาล และรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินต่อความ
ปลอดภัยในการเคลอื่ นย้ายผู้ปว ย
คมู อื หลกั สูตร 111
การขับรถบริการการแพทยฉ กุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
-3-
เนอ้ื หาสาระ เวลาในการอบรม
บทที่ 2 การเตรียมความพร้อมดา้ นสภาพรางกายและจิตใจ และการบริหาร ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
ความเหน่อื ยล้า 30 นาที 30 นาที
30 นาที 30 นาที
(๑) สมาธิและความพร้อมของร่างกาย-จติ ใจ
(๒) การตรวจสภาพความพรอ้ มของรา่ งกาย (Physical Fitness Test) 1 ชม. 5 ชม.
(๓) การตรวจความพรอ้ มกอ่ นปฏิบัติงาน 30 นาที
(๔) การบรหิ ารจัดการความเหน่ือยลา้ (ให้ผสู้ อนยกตัวอย่างเคส)
(5) แนวทางปฏบิ ัตเิ มอ่ื ได้รับบาดเจบ็ หรือเจบ็ ปวย
บทท่ี 3 การเตรียมความพร้อมรถบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ และรถพยาบาล
1. การตรวจสภาพรถพยาบาลกอนใช้งาน (Check Before Driving)
(1) ตรวจเช็คระบบเบรก และคลัตช
(2) ตรวจเชค็ ระบบไฟฟา
(3) ตรวจเชค็ ระดบั นํา้ ในหมอ้ นาํ้ และหม้อพกั
(4) ตรวจเชค็ ยางและแรงดันลมยาง
(5) ตรวจเช็คระบบนา้ํ มันเชอ้ื เพลิง
(6) ตรวจน้ํามนั หล่อลืน่
(7) ตรวจเสยี งดงั ตามจดุ ตา่ งๆ
2. ระบบการบริหารการตรวจเชค็ รถประจําวนั
(1) การตรวจสอบความพร้อมของพาหนะ
(2) การตรวจสอบความพร้อมของสญั ญาณไฟฉุกเฉนิ และอปุ กรณใ นรถพยาบาล
บทท่ี 4 พน้ื ฐานการควบคมุ และขบั ข่รี ถบรกิ ารการแพทย์ฉกุ เฉินและรถพยาบาล
ในสถานการณป์ กติ
(๑) การเตรียมพรอ้ มก่อนการออกรถ 8 ขน้ั ตอน
(๒) การขับรถดว้ ยเทคนคิ ระบบเสยี งนําสมอง
(๓) การใช้อปุ กรณในการควบคุมรถ
(๔) ท่านง่ั ขับรถ
(๕) การคาดเขม็ ขดั นริ ภยั
(๖) การสตารท เคร่อื งยนต
(๗) เทคนคิ การมองท่ีปลอดภยั
(๘) การใช้สายตามองขณะขบั ข่ี
(๙) การปรบั มุมกระจก
(๑๐) เทคนิคการมองกระจก
(๑๑) การตรวจสอบการจราจร
(๑๒) การออกรถทป่ี ลอดภยั
(๑๓) การใชพ้ วงมาลัย ดึงดัน และแบบไขวแ้ ขน
(๑๔) การจอดและหยุดรถ
(๑๕) การจอดรถรมิ ทาง
(๑๖) การเบรก
(๑๗) ระยะตามรถ
112
สถาบนั การแพทยฉุกเฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
-4- เวลาในการอบรม
ทฤษฎี ปฏิบัติ
เนื้อหาสาระ 1 ชม. 5 ชม.
(๑๘) เทคนิคการขบั รถเขา้ โคง้ หรือวงเล้ียว
(๑๙) การขบั รถเข้าทางโคง้
(๒๐) การขับรถทางลาดชนั
(๒๑) การแซงที่ปลอดภัย
(๒๒) การใช้ถนนทางรว มทางแยก
(๒๓) การควบคมุ รถพยาบาลข้ันพืน้ ฐาน
ทงั้ น้ี เมอื่ รวมบทที่ ๔ และบทที่ ๕ แลว้ จะตอ้ งมรี ะยะเวลาไม่นอ้ ยกว่า 4 ชั่วโมง
บทท่ี 5 การประเมนิ ควบคุม และแก้ไขสถานการณไ ม่ปกติ และการปฏิบัติการรถบริการ
การแพทยฉกุ เฉนิ การแพทย และรถพยาบาลในสถานการณฉกุ เฉนิ
1. การปฏบิ ัตกิ ารรถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉินและรถพยาบาลในสถานการณฉุกเฉนิ
(1) การขบั รถในภาวะฉกุ เฉนิ วิกฤตทางการแพทย
(2) การขบั รถผา น ทางรวม ทางแยก
(3) การปฏบิ ัติการการแพทยฉ ุกเฉิน ณ จดุ เกดิ เหตุทีม่ ีการจราจร
2. การประเมนิ ควบคุม และแก้ไขสถานการณไ มป่ กติ
(1) การขบั รถถอยหลงั จากที่แออดั
(2) การขบั รถขณะฝนตกหนัก
(3) การขับข่หี ลงั ฝนหยดุ ตก
(4) การขบั รถเวลากลางคืน
(5) การขบั รถเมื่อมีสัญญาณน้าปา ไหลบา ถนน
(6) การขบั รถบนถนนทีม่ สี ภาพเปน ดินหรอื ลูกรงั
(7) การขับรถบนถนนทข่ี รุขระ
(8) การขบั รถทตี่ อ้ งเผชิญกับลมแรงจัด
(9) การขับรถฝา พายุฝุนและกลมุ ควันไฟ
(10) การขับรถในชว งฤดหู นาว มหี มอกลงจดั
(11) การขบั รถในชวงนา้ ทว มขงั
(12) การขับรถถอยหลงั ในทางตรง
3. การประเมนิ ควบคุม และแก้ไขสถานการณฉุกเฉิน
(1) ทักษะการจดั การอุบัติเหตขุ องรถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉิน
(2) เบรกแตก
(3) เบรกค้าง
(4) สายคลทั ธขาด
(5) รถตกนา้
(6) รถล่นื ไถล
(7) ยางแบนขณะวง่ิ
(8) ยางระเบิด
(9) กระจกหนา้ รถแตก
คมู ือหลกั สตู ร 113
การขับรถบริการการแพทยฉ กุ เฉินและรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉ กุ เฉนิ แหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
-5- -5-
เนือ้ หเานส้อื าหราะสาระ 3ท0ฤนษเาฎว3ทีลท0ี าฤในษนเาฎกวทาีล3รี าปอ0ใฏบนนบิรกมาตัาท3ิรปีอ0ฏบนบิรมาตั ทิ ี
บรถทพทบรยถี่ท6าพทบยกี่า6าฎลบหกามฎลาหยมแาลยะแถลอะดถบอทดเรบยี ทนเอรุบยี นัตเิอหุบตัตุทเิ ่เีหกติดุทจ่ีเากกดิ รจถาบกรรกิ ถาบรกราิกราแรพกทารยแฉ์ พุกเทฉยนิ ์ฉแุกลเะฉินและ
7 ช1ม87ชชม11ม.183ช0มช.นม13า.10ท3ชี 0นมา.นท3าี 0ที นาที
รวม รวม
๑๐.๑ก((๐๑๒า).ร) เกก(ก(ต๑-------๒าาารร)โfเเคเรร)คอกlียตปออเอกiกpกา้มรตัวรบ------บมาาอ่อือcสเกรรรโfเเคเรพจรhเี้งยาคอกlียาปมอรมอคอiขิวรaาpรก้ามรียใรบภบเเมยปrงสนอ่อืcตตสเนกtรเาาพรจรอh้ีเหงอออาาคมยแรมะคขมิวนรaก้อรรรปยีเใลกภเเยปโีสr์์สแสงนตตนะฏตแtอแาาเยีารลอหออรละลบิบคยแรงะmะมนยีอ้รรระะกใปเัตลกสนโีแส์์อนแจงaาิะฏตแอแl่อืลเียงอกrลรaรละลบkบิเกะงบmราsะขียeระะากไัตeับรรสยีนแมอrจรaตาrิรภslนือ่ลโงสอrรaรยpคาkเกะบอรวsาขจพoeราไeับจนยรียัดโมriรnเrรฟภsนรชโสยtpะนคาค็eอาจยพoรรrนยัดะโiถnฟหรพtะนาeยงยrาเะหบหมาาลางะเหสหรมมือาระถสบมริการการแพทยฉ์ ุกเฉิน
- รถพ- ยตาัวบอายลาทงี่ผเอู้เขกา้ สราบั รอใบนรกมาใรชตง้ ราวนจพเชร็ค้อรมถเตพยี งาผบ้ปู าวลยหรือรถบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉิน
- สถ-านรถทพฝ่ี ึกยขาบั ราถลพทย่ีผาู้เขบ้ารลบั อบรมใชง้ าน พรอ้ มเตียงผปู้ วย
- อุป-กรสณถา์ Rนoทad่ีฝกึ Sขafบั eรtyถ:พกยราวบยจารลาจร 3-4 อนั เสอื้ สะทอ้ นแสง กระบองไฟ ถังดบั เพลิง 5 ปอนด์
- ไมค-์ อแุปลกะรเคณร์อื่RงoขaยdาSยaเสfeยี tงy : กรวยจราจร 3-4 อนั เสอ้ื สะทอ้ นแสง กระบองไฟ ถงั ดับเพลิง 5 ปอนด์
๑๑. การประเม-ินไมผคล์กแาลระฝเึกคอรบอ่ื รงขมยายเสยี ง
๑(๑). การทปดรสะอเมบินคผวาลมกราู้กรอฝนกึ แอลบะรหมลังการอบรมของผู้เข้ารบั การอบรม
(๒) ก(๑าร) ทกดาสรทอบดทสอักบษคะปวาฏมบิ รัตกู้ ิขอ อนงแผลู้เขะ้าหรลับังกกาารรออบบรรมมของผู้เข้ารบั การอบรม
(๓) ก(๒าร) ปกราะรเทมดนิ สผอลบคทวากั มษพะึงปพฏอิบใจัตใิขนอกงาผรู้เฝขึก้าอรบั รกมารอบรม
๑๒. เกณ(ฑ๓์ก)ากราวรดั ปผรละผเมผู้ นิ า่ ผนลกคารวอามบพรมึงพอใจในการฝกึ อบรม
๑((๒๒๑)). เมผเ((วก๒๑าคี ลณน))ะากผมแใฑนานาคี ก์รนกนะทาากแกรดรานาวอสรรนัดบอททกผบรดดามลภสสรผาออทรคู้ผบบอ้ดปา่ยคภสนฏลวาอาบิะกคบมัตาป๑ครริ ฏวหู้๐ทอาิบลุก๐บมตัังทรรกขิกัม้หูทาอษรลกุงะอเังทวบกลักราาษมรใะอนไบกมรานรม้ออยไบมกรวนมา ้อทรยงั้้อกหยวมลาดะรอ้๗ย๐ละ
(๓) ๗๐
๑๓. สถา(น๓ท)่ีใเนวกลารในฝกึ อารบอรบมรม ร้อยละ ๑๐๐ ของเวลาในการอบรมทง้ั หมด
๑((๓๑๒)). มมมส((๑๒ีสหีีพถ))ภอ้าืน้ มมานงทพฝีหีพทีฝ่ ึกพ้อนื้ึกใี่ อื้นนงทปบฝทก่ีฝฏรกึ ่ีาแกึบิมอรลปัตสบฝะฏขิาํ อรกึ หับบิมุปอรรตัสกบบัถิขํารรกหับณไมามรรร์พนบัถบร้อกร้อไยารมมกรยนตวบาอ้าอยรยกร5กาย0รวาฝายxึก5ป60ฏ0ิบxเัตม6ิทต0รุกทเมักตษระและทุกสถานการณ์ที่กําหนดไว้ใน
หลักสูตร (๓)
หลกั สูตร (๓) มีสภาพพ้ืนที่และอุปกรณ์พร้อมตอการฝึกปฏิบัติทุกทักษะและทุกสถานการณ์ท่ีกําหนดไว้ใน
114
สถาบันการแพทยฉกุ เฉินแหง ชาติ
-6- National Institute for Emergency Medicine
๑๔. กฎระเบยี บในการอบรม
(๑) ผเู้ ข้ารบั การอบรมจะตอ้ งทาการทดสอบความรกู้ ่อนเข้ามาเรยี น
(๒) ผู้เรียนจะต้องมารับการฝก อบรมตรงเวลา หากมาหลังเวลาเริม่ อบรมเกินกวา่ ๑๕ นาที ไม่อนุญาต
ให้เขา้ รับการอบรม
(๓) การแตง่ กายให้ใส่เคร่ืองแบบของหน่วยงาน หรือแต่งกายสุภาพและไม่อนญุ าตใหใ้ ส่เสอื้ แขนกุด
กางเกงขาสน้ั กางเกงยีนส์ หรือรองเท้าแตะ หรือมีลกั ษณะอนั เป็นอุปสรรคตอ่ การปฏบิ ตั ิฝก อบรม
(๔) ไมอ่ นุญาตใหใ้ ชอ้ ปุ กรณโ์ ทรศพั ท์หรืออุปกรณส์ ื่อสารในห้องเรียน
๑๕. คุณสมบตั ิและสัดสวนของวทิ ยากร
(๑) เป็นครผู ูส้ อนท่ีผ่านการรบั รองจากกรมการขนส่งทางบก หรือ
(๒) เป็นผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรครูผู้สอนหรือวิทยากร (Instructor) หรือข้ึนทะเบียนเป็น
ครูผูส้ อนหรือวทิ ยากร (Instructor) ของสถาบันการแพทย์ฉกุ เฉนิ แห่งชาติ หรือ
(๓) เป็นครูผู้สอนหรือวิทยากร (Instructor) ตามประกาศหรือคาส่ังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน
แหง่ ชาติ
(๔) ควรเป็นมคี วามรแู้ ละประสบการณ์ความเชย่ี วชาญในหัวข้อทีส่ อน
(๕) กรณีจาเป็นอาจเชิญวิทยากรพิเศษจากหน่วยงานภายนอก ที่มีความรู้และประสบการณ์
ความเชย่ี วชาญ มารว่ มสอนในวิชาดงั กลา่ วตามตามจาเปน็ กไ็ ด้
(๖) สดั ส่วนของวทิ ยากรตอ่ ผู้เขา้ รบั การฝก อบรมภาคปฏิบัติ ไม่เกนิ 1 : ๘
๑๖. เครอ่ื งหมายตราสัญลักษณป ระจําหลกั สูตร
เครื่องหมายตราสญั ลักษณ์
ประจาหลักสตู รการขับรถบริการการแพทย์ฉกุ เฉนิ และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course)
คูม ือหลักสูตร 115
การขบั รถบริการการแพทยฉ ุกเฉนิ และรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉ ุกเฉนิ แหง ชาติ -7-
National Institute for Emergency Medicine
๑๗. ใบรับรองผู้ผา่ นการฝกึ อบรม
(โลโก้ สพฉ.) (โลโก้ หลกั สตู ร)
สถาบันการแพทย์ฉกุ เฉนิ แห่งชาติ
ขอรบั รองวา่
………………………………………………………………………………..
ไดผ้ ่านการอบรม
หลักสูตรการขบั รถบริการการแพทยฉ์ กุ เฉิน และรถพยาบาล
(Emergency Vehicle Operation Course : EVOC )
สถานท่ฝี กึ อบรม...........................
ระหว่างวนั ที่…………………เดอื น……………………………..พ.ศ……………………….
เรืออากาศเอก (อจั ฉริยะ แพงมา)
วันออกบัตร.......... เลขาธกิ ารสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหง่ ชาติ
วันหมดอายุ..........
ID:…………………………...
๑๘. เกณฑ์การขอร่วมจัดฝึกอบรมหลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและรถพยาบาล
กบั สถาบนั การแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชาติ
องค์กร/หน่วยงานใดที่มีความประสงค์จะขอร่วมจัดฝึกอบรมหลักสูตรการขับรถบริการ
การแพทย์ฉุกเฉินและรถพยาบาล จะต้องยื่นคาขออนุมัติจัดฝึกอบรมต่อสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
และสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชาตจิ ะประเมนิ ความพรอ้ มในการจัดการฝึกอบรม ตามเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) องค์กร/หน่วยงานร่วมจัดที่ร่วมฝึกอบรมหลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและ
รถพยาบาล ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานและการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก และกระทรวงศึกษาธิการ
(๒) กาหนดให้ใช้หลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและรถพยาบาล ตามประกาศของ
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉนิ แหง่ ชาติ
(๓) ครูผู้สอนหรือวิทยากรต้องผ่านการอบรมหลักสูตรครูผู้สอนหรือวิทยากร (Instructor) หรือ
ข้ึนทะเบียนเปน็ ครูผู้สอนหรือวิทยากร (Instructor) ตามประกาศสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉินแหง่ ชาติ และมคี รผู ู้สอน
หรอื วิทยากรจะต้องเป็นไปตามสัดสว่ นทสี่ ถาบันการแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชาตกิ าหนด
(๔) มีสถานท่ีในการฝึกอบรมและฝึกปฏิบัติ เป็นไปตามประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน
แหง่ ชาติ
(๕) เม่ือผ่านการประเมินให้เข้าร่วมจัดอบรมหลักสูตรการขับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินและ
รถพยาบาล สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจะรับรองในการเปน็ องค์กร/หน่วยงานร่วมจัดฝึกอบรมหลักสูตรการ
ขับรถบรกิ ารการแพทย์ฉกุ เฉินและรถพยาบาล
(๖) ในระหว่างการจัดอบรมทุกรุ่น องค์กร/หน่วยงานร่วมจัดต้องยินยอมให้สถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาติตรวจประเมนิ คณุ ภาพการอบรมตลอดระยะเวลาการอบรมหลกั สูตรในครง้ั น้ัน ๆ
116
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
1
ประกาศสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉนิ แหงชาติ
เรอ่ื ง เกณฑ์ วธิ กี าร และแนวทางการรับรองมาตรฐานรถบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉนิ
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เปนการสมควรกําหนดเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์
ฉกุ เฉนิ เพื่อให้เปน ไปตามมาตรฐานและหลกั เกณฑ์เก่ยี วกับระบบการแพทย์ฉกุ เฉินที่คณะกรรมการการแพทยฉ์ ุกเฉิน
มีมติในการประชุมคร้ังท่ี ๑/๒๕๕๓ เม่ือวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ และใช้สําหรับการรับรองมาตรฐานรถบริการ
การแพทย์ฉุกเฉินตามประกาศสํานักงานตํารวจแหงชาติ เร่ือง กําหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณ
วบั วาบและเสยี งสัญญาณ ลงวนั ที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ (๒) และ (๙) แหงพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ สถาบันการแพทยฉ์ ุกเฉนิ แหงชาติ จึงออกประกาศไว้ ดังตอไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศน้ี เรียกวา “ประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ เรื่อง เกณฑ์ วิธีการ และ
แนวทางการรบั รองมาตรฐานรถบรกิ ารการแพทยฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้มีผลใชบ้ งั คบั ตงั้ แตวันท่ี 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เปน ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกบรรดา กฎ คําส่ัง หรือคูมือแนวทางปฏิบัติท่ีเก่ียวกับรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
อน่ื ๆ ในสวนท่ีกาํ หนดไว้แล้วในประกาศนี้ หรอื ซง่ึ แย้งกบั ความในประกาศน้ี
ขอ้ ๔ ในประกาศนี้
“รถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน” หมายความวา รถหรือยานพาหนะทางบกทุกชนิดยกเว้นรถไฟหรือ
รถราง ทปี่ ฏิบตั ิการฉกุ เฉนิ นับแตการรบั รถู้ ึงภาวะการเจบ็ ปว ยฉุกเฉนิ จนถึงการดาํ เนินการใหผ้ ู้ปวยฉุกเฉนิ ได้รับการ
บาํ บดั รกั ษาให้พ้นภาวะฉุกเฉิน ซ่ึงรวมถงึ การประเมนิ การจัดการ การประสานงาน การควบคุม ดูแล การติดตอส่ือสาร
การลําเลียงหรือขนสง การตรวจวินิจฉัย และการบําบัดรักษาพยาบาลผู้ปวยฉุกเฉินท้ังนอกสถานพยาบาล
และในสถานพยาบาล
“สพฉ.” หมายความวา สถาบันการแพทยฉ์ กุ เฉนิ แหงชาติ
ขอ้ ๕ รถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ท่ี สพฉ. จะรบั รองมาตรฐาน เพือ่ ใชป้ ระกอบการพจิ ารณาอนุญาต
ใหใ้ ช้ไฟสญั ญาณวับวาบและเสยี งสญั ญาณตามกฎหมายวา ดว้ ยการจราจรทางบก แบงออกเปน ๒ ประเภท
(๑) ประเภทลําเลียงผู้ปวย ซ่ึงเปนรถท่ีมีเตียงและมีพ้ืนท่ใี นการปฏบิ ัตกิ ารแพทยส์ ําหรับผู้ปว ยฉุกเฉนิ
ซึ่งมีลกั ษณะ อุปกรณ์ และเครอื่ งมือ ตามภาคผนวก ๑ แนบท้ายประกาศน้ี
(๒) ประเภทไมลําเลียงผู้ปวย ซ่ึงเปนรถท่ีไมมีเตียงสําหรับผู้ปวยฉุกเฉิน แตสามารถปฏิบัติการแพทย์
และปฏิบตั กิ ารอาํ นวยการหรือลําเลียงอวยั วะ ยา เวชภัณฑ์ เคร่ืองมอื ทางการแพทย์ เคร่ืองมือสอื่ สาร หรอื บุคลากร
ทางการแพทย์ สําหรับให้บริการผู้ปวยฉุกเฉิน ซึ่งมีลักษณะ อุปกรณ์ และเครื่องมือ ตามภาคผนวก ๒ แนบท้าย
ประกาศน้ี
คมู ือหลักสูตร 117
การขบั รถบริการการแพทยฉ กุ เฉินและรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉกุ เฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
2
ข้อ ๖ หน่วยปฏิบัติการ สถานพยาบาล หรือหน่วยงานหรือองค์กรอ่ืน ท่ีประสงค์จะขอรับการรับรอง
มาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ต้องขึ้นทะเบียนปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน หรือผ่านการรับรอง
ตามเกณฑท์ ่ี สพฉ. กําหนด
ข้อ ๗ รถที่จะขอรับการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ต้องมีลักษณะหรือได้รับ
การจดทะเบียน ดงั น้ี
(๑) จดทะเบียนในนามหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคล หรือผู้ปฏิบัติการท่ีมีบันทึกข้อตกลง
หรือสญั ญาร่วมปฏบิ ตั กิ ารกับหน่วยงานของรัฐ หรือนติ ิบคุ คล
(๒) จดทะเบียน ต่อทะเบียน ชําระภาษีรถยนต์ และภาษสี รรพสามติ ถูกตอ้ งครบถว้ น
(๓) ในกรณีเป็นรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินประเภทลําเลียงผู้ปวยต้องจดทะเบียนเป็นรถพยาบาล
ตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบญั ญัตริ ถยนต์ พ.ศ. 2522
(๔) การขอรับรองเป็นรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินครั้งแรก รถต้องมีอายุไม่เกิน ๗ ปี นับจากวันที่
จดทะเบยี น
(๕) จัดให้มีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจโดยมีความคุ้มครองตามกรมธรรมรถยนต์ตามภาคผนวก ๑
แนบท้ายประกาศนี้
กรณีในพื้นที่พิเศษ พื้นท่ีห่างไกล พ้ืนที่ขาดแคลน พื้นท่ีที่เข้าถึงได้ยาก ต้องการจัดให้มีรถบริการ
การแพทย์ฉุกเฉินแต่ไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
ให้ดําเนินการพิจารณาผ่านคณะกรรมการท่ีกํากับดูแลด้านการแพทย์ฉุกเฉินระดับจังหวัด และส่งเรื่องให้ สพฉ.
พิจารณาเป็นกรณีไป
ขอ้ ๘ รถบรกิ ารการแพทยฉ์ กุ เฉนิ ท่ี สพฉ. ออกหนงั สือรับรองมาตรฐานแลว้ ให้ระยะเวลา การรับรอง
มีผลคราวละ ๓ ปี
ทั้งนี้รถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่จะขอต่ออายุการรับรองมาตรฐาน ต้องมีอายุรถไม่เกิน ๑๒ ปี
นับแต่วันทจี่ ดทะเบียน เว้นแต่รถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีความจําเปน็ ตาม ข้อ ๗ วรรคสอง
ข้อ ๙ ให้รถท่ีผ่านการรับรองมาตรฐานและได้รับการอนุญาตเป็นรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน มีสิทธิ
ใช้ไฟสัญญาณวับวาบและเสียงสัญญาณไซเรนได้ตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก โดยให้ติดต้ังไฟสัญญาณ
วับวาบไว้บนหลังคารถ โดยวางตําแหน่งไฟสัญญาณวับวาบแสงแดงไว้ท่ีด้านขวาเหนือผู้ขับขี่แสงน้ําเงินอยู่ฝงซ้าย
เหนือศีรษะของผู้ขับข่ี
ข้อ ๑๐ กรณีดังต่อไปน้ี เป็นเหตุท่ี สพฉ. ใช้ในการยกเลิกการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์
ฉุกเฉิน
(๑) หน่วยปฏิบัติการ สถานพยาบาล หรือหน่วยงานหรอื องค์กรอ่ืนทีไ่ มเ่ ป็นไปตามข้อ ๖
(๒) หน่วยปฏิบัติการ สถานพยาบาล หรือหน่วยงานหรือองค์กรอ่ืนได้ส้ินสภาพ หรือยุบ
หรือยกเลิกหรอื มกี ารควบรวมเข้าด้วยกัน
(๓) ใชร้ ถบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ ในการทาํ ความผดิ ต่อกฎหมายอาญาอยา่ งร้ายแรง
(๔) ฝา ฝนหรือกระทําการผิดกฎจราจร จนเป็นเหตุใหม้ ผี ู้อ่นื ไดร้ ับบาดเจบ็ สาหัส
118
สถาบนั การแพทยฉ กุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
3
(๕) หนวยปฏิบัติการ สถานพยาบาล หรือหนวยงาน หรือองค์กรอื่นตามข้อ ๖ ซึ่งถูกจํากัดสิทธิตาม
มาตรา ๒๙ วรรคสาม และไมดําเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่ กพฉ. หรือ สพฉ. สั่งการและการนั้นกระทบตอการ
มาตรฐานการดาํ เนนิ การ หรอื ความปลอดภยั ในการปฏบิ ัตกิ ารฉกุ เฉนิ
(๖) ผู้ปฏิบัติการซ่ึงเปนเจ้าของกรรมสิทธ์ิ หรือผู้ครอบครองรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีบันทึก
ข้อตกลง หรือสัญญารวมปฏิบัติการตามข้อ ๗ (๑) พ้นสภาพจากการเปนผู้ปฏิบัติการของหนวยปฏิบัติการ
สถานพยาบาล หรือหนวยงานหรือองค์กรอ่ืนตามข้อ ๖ ไมวากรณีใด ๆ และไมสามารถหาสังกัดใหมได้ ภายใน
๙๐ วนั นบั แตวันทพ่ี ้นจากสภาพดังกลา ว
(๗) มีการร้องเรียนหรือตรวจพบหรือความปรากฏวารถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ไมมีลักษณะท่ีเปน
สาระสําคัญตามภาคผนวก ๑ หรอื ภาคผนวก ๒ แนบทา้ ยประกาศน้ี
เม่ือความปรากฏหรือมีการร้องเรียนเหตุตามวรรคหนึ่ง หรือเหตุฝาฝนตามมาตรา ๒๙ (๓)
แหงพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๕๑ ให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง และหากพบวามีมูลกระทําผิด
ให้ สพฉ. มีหนังสือตักเตือนหรือยกเลิก และให้ใช้หนังสือตักเตือนประกอบการพิจารณาตออายุการรับรองด้วย
หากมกี ารตกั เตอื นแลว้ ไมปรับปรงุ แก้ไข ให้ สพฉ.ประกาศยกเลกิ การรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
ข้อ ๑๑ วิธีการขอรับการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สพฉ. อาจมอบหมายให้บุคคล
หรือหนวยงานอ่ืนตรวจสภาพหรือเอกสารหลักฐานเบื้องต้น หรือให้เปนไปตามขั้นตอนการรับรองมาตรฐานรถ
บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ สพฉ. กําหนด ซึ่งอาจกําหนดให้ย่ืนและแสดงรายละเอียดในระบบสารสนเทศ
ตามภาคผนวก ๓ แนบท้ายประกาศนี้
แบบหนงั สอื รับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ หรือตราสัญลกั ษณ์ของรถบริการการแพทย์
ฉุกเฉินท่ีได้ผา นการรับรองมาตรฐานแลว้ ให้เปนไปตามภาคผนวก ๔ แนบท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๒ ให้ถือวารถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
จาก สพฉ. ให้ไว้แล้วกอนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ เปนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินท่ีได้รับการรับรองมาตรฐาน
ตามประกาศน้ีไปจนถึงวันหมดอายุเดิม กรณีท่ีมีการเปล่ียนผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือเปล่ียนผู้ครอบครองรถบริการ
การแพทย์ฉุกเฉิน ให้เปนหน้าท่ีของผู้ขอรับรองท่ีต้องแจ้งการเปล่ียนผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือเปล่ียนผู้ครอบครอง
กรณีท่ีผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรายใหมไมผานการประเมินตามข้อ ๖ และข้อ ๗ ให้ถือวา
การรบั รองมาตรฐานรถบริการการแพทย์ฉุกเฉนิ ส้นิ สดุ ลง
ข้อ ๑๓ ให้เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ เปนผู้รักษาการตามประกาศนี้ กรณีที่มี
ปญหาต้องวินิจฉัยเก่ียวกับการปฏิบัติตามประกาศน้ี หรือมีเหตุอันสมควรให้ยกเว้นหรือผอนผันการปฏิบัติ
ตามประกาศนี้ ให้สํานักรับรองและกํากับมาตรฐาน หรือหนวยงานใน สพฉ. ท่ีได้รับมอบหมาย เสนอความเห็น
เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาของเลขาธกิ ารสถาบนั การแพทย์ฉกุ เฉนิ แหงชาตเิ ปนกรณีไป
ประกาศ ณ วันท่ี มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔
เรืออากาศเอก
(อจั ฉริยะ แพงมา)
เลขาธกิ ารสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ
คมู อื หลักสูตร 119
การขบั รถบริการการแพทยฉ กุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
4
ภาคผนวก แนบท้ายประกาศสถาบันการแพทยฉ์ กุ เฉินแหงชาติ
เรอื่ ง เกณฑ์ วธิ กี าร และแนวทางการรับรองมาตรฐานรถบรกิ ารการแพทย์ฉกุ เฉนิ
พ.ศ. ๒๕๖๔
ภาคผนวก 1
เกณฑ์การรบั รองรถบริการการแพทย์ประเภทลาเลยี งผปู้ วย
_________________________________
สว นที่ ๑
เคร่อื งมือและอุปกรณก์ ารแพทย์
ระดับปฏิบัติการแพทย์ข้ันพ้ืนฐาน หมายถึง รถบริการการแพทย์ฉุกเฉินซึ่งดําเนินกิจการปฏิบัติ
การแพทย์ข้ันพน้ื ฐานตามการอาํ นวยการ ให้แกผ่ ูป้ ว ยฉุกเฉนิ ท่มี คี วามเสย่ี งตํ่าต่อการเสยี ชีวติ หรือการรนุ แรงข้ึนของ
การบาดเจบ็ หรอื อาการปว ยน้ันในหว้ งเวลาขณะทําการปฏบิ ตั ิการฉกุ เฉินน้นั
เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์การแพทยท์ ่จี าเปน็ ต้องมี
๑. เตียงเคลื่อนย้ายผู้ปวย มีล้อเข็น มีเข็มขัดนิรภัยรัดผู้ปวย ไม่น้อยกว่า ๓ จุด และสามารถปรับนั่งได้
ล้อรถเข็นหมุนได้รอบ 360 องศาอย่างน้อย ๒ ล้อ มีกลไกสําหรับช่วยเข็นขึ้นรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถ
รองรับน้ําหนักทั้งหมดได้ไม่น้อยกว่า 150 กิโลกรัม เป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตท่ีได้รับการรับรองคุณภาพ
มาตรฐานสากล (EN ๑๗๘๙) ผ่านการรับรองมาตรฐานการทดสอบการชนด้วยแรงไม่น้อยกว่า ๑๐ G ตามมาตรฐาน
(EN 1865) หรือมาตรฐานอ่ืนหรือการทดสอบอ่ืนที่เทียบเท่าพร้อมแนบเอกสาร หรือตามท่ี สพฉ. ประกาศ เพ่ิมเติม
มีเบาะรองนอนตลอดตามยาวของเตียง สามารถถอดล้างทําความสะอาดได้ มีช่องสําหรับเสียบเสานํ้าเกลือ
ท้ังด้านซ้ายและขวา พร้อมเสาน้ําเกลือจํานวน 1 ต้น สามารถปรับระดับสูงตํ่าได้ และยึดติดกับโครงเตียงได้อย่าง
มัน่ คง
๒. มีระบบป้องกันการกระดกของเตียงเม่ือผู้ปวยน่ังบริเวณปลายเตียง ส่วนท้ายเตียงจะต้องมีความ
มน่ั คงไมก่ ระดกล้ม
๓. มีกลไกในการพับขาเตียงให้พับไปกับฐานเตียงโดยแยกบงั คับให้ขาเตียงพับข้ึนทีละขา และเมื่อดึง
เตียงลงจากรถล้อคู่หลังและคู่หน้าจะกางออกเองโดยอัตโนมัติ (Automatic Loading Stretcher) มีราวป้องกัน
ผ้ปู ว ยตกเตยี งทัง้ สองข้าง สามารถพบั เก็บไปดา้ นลา่ งได้
๔. มีกลไกในการยึดตรึงผู้ปวยเพื่อป้องกันการเล่ือนหลุดไปด้านหน้าหรือด้านหลังระหว่างการ
เคลอื่ นยา้ ย โดยอาจเป็นเขม็ ขัดนริ ภยั รดั ผู้ปวยไม่นอ้ ยกว่า ๓ จุด หรือกลไกอ่ืนเพ่มิ เตมิ
๕. ฐานเตียง มีกลไกในการยึดตรึงระหว่างฐานเตียงและเตียงเคลื่อนย้ายผู้ปวย เพื่อป้องกันไมใ่ ห้เตียง
หลุดออกจากฐานเตียงขณะเคลื่อนย้าย ผ่านการรับรองมาตรฐานการทดสอบการชนด้วยแรงไม่น้อยกว่า ๑๐ G ตาม
มาตรฐาน (EN 1865) หรอื ตามท่ี สพฉ. ประกาศ เพม่ิ เติม
๖. ฐานเตียงสําหรับติดต้ังบนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน มีความมั่นคงปลอดภัย โดยฐานเตียงได้รับ
การทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐาน (EN ๑๗๘๙) หรือ (EN 1865) หรือตามที่ สพฉ. ประกาศ เพิ่มเตมิ
120
สถาบันการแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
5
๗. มี Long Spinal Board พรอ้ มสายรัดตรึง ทย่ี ึดตรึงศีรษะ (Head Immobilizer) สามารถใช้ล็อคศีรษะ
ผู้ปวย/ผู้บาดเจ็บกับแผ่นกระดานรองหลังได้อย่างมั่นคง โดยมีกลไกสําหรับประคองศีรษะผู้ปวย/ผู้บาดเจ็บและมี
ฐานรองสําหรับยึดติดกับแผ่นกระดานรองหลัง ได้รับการทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐาน (EN ๑๗๘๙) หรือ
(EN 1865) หรือตามที่ สพฉ. ประกาศ เพิ่มเติม
๘. มอี ปุ กรณใ์ นการยึดตรงึ แขนขาในกรณีผูป้ วยมีแขนขาผดิ รูป ไม่น้อยกวา่ ๓ ขนาด
๙. มีเฝือกคอชนิดแข็ง (Hard Collar) ไมน่ ้อยกวา่ 3 ขนาด
๑๐. มีเฝอื กดาม แขน ขา
๑๑. มแี หลง่ กาํ เนิดออกซิเจน พร้อมระบบจา่ ยกาซ ชดุ Regulator (ชุดลดแรงดนั ) ทใี่ ช้งานไดด้ /ี ปลอดเช้อื
๑๑.๑. มกี ลไกยดึ ตรึง ไมใ่ หห้ ลดุ ออกจากจุดยดึ ในกรณีท่เี กิดอุบัตเิ หตุ
๑๑.๒. มีกลไกในการปรับอัตราการไหลของออกซิเจน สามารถปรับอัตราการไหล 0 - 15 ลิตร/นาที
หรือมกี ลไกทส่ี ามารถให้ออกซเิ จนกับผปู้ วยได้เพียงพอกับความต้องการ
12. มีแหล่งกําเนิดออกซิเจนแบบพกพาน้ําหนักรวมไม่เกิน 5 กิโลกรัมสําหรับเคล่ือนย้ายได้สะดวก
พร้อมกระเป๋าหิ้วพร้อมชุดยึดบนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ไดม้ าตรฐาน (EN 1789) หรือตามที่ สพฉ. ประกาศ
เพ่ิมเตมิ
13. มีอุปกรณ์เพื่อใช้ในการวัดและติดตามสัญญาณชีพซ่ึงได้แก่ อุณหภูมิร่างกาย ชีพจร
ความดนั โลหติ และความอิม่ ตัวของออกซิเจนในฮีโมโกลบินจากชีพจร (Pulse Oximetry)
14. มีกระเป๋าปฐมพยาบาลพร้อมอุปกรณ์พื้นฐาน ได้แก่ ถุงมือปราศจากเช้ือ สําลี ไม้พันสําลี
ผ้ากอซชนิดบางและหนา Elastic Bandage ขนาด ๔ และ ๖ น้ิว พลาสเตอร์เหนียว กรรไกร แอลกอฮอล์ น้ําเกลือ
สําหรับลา้ งแผล อปุ กรณ์ล้างตา
15. มีอุปกรณ์สําหรับดูดเสมหะ และมีกลไกการยึดตรึงอุปกรณ์ดูดเสมหะ ไม่มีส่วนประกอบที่อาจ
จะแตกได้เมือ่ เกิดอบุ ตั ิเหตุ
16. มีชดุ สําหรับหนบี สายสะดอื
17. มเี ครือ่ งมอื ตรวจวัดระดับนํา้ ตาลในเลอื ด
18. อาจมีเคร่ืองฟืนคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟาชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator) และ
มกี ลไกในการยึดตรงึ เคร่อื งดังกลา่ วประจาํ ยานพาหนะ/สามารถเคล่ือนย้ายไปใช้นอกยานพาหนะได้
19. มีอุปกรณ์และกระเปา๋ สําหรบั เกบ็ อปุ กรณ์ตามมาตรฐาน BLS, PHTLS
20. มีอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการเปิดทางเดินหายใจและช่วยเหลือการหายใจเบื้องต้น เช่น Pocket Mask
Oro Pharyngeal Airway
21. มี Self Inflating Bag สําหรับช่วยหายใจ ผ้ใู หญ่ เด็ก และเด็กแรกเกิด
๒๒. มเี กา้ อีพ้ รอ้ มลอ้ เขน็ สําหรับเคลื่อนยา้ ยผู้ปว ยข้นึ ลงบนั ได (Stair chair)
ระดับปฏิบัติการแพทยข้ันสูงและขั้นเฉพาะทาง หมายถึง รถบริการการแพทย์ฉุกเฉินซึ่งได้
ดําเนินกิจการปฏิบัติการการแพทย์ข้ันสูงตามการอํานวยการ ให้แก่ผู้ปวยฉุกเฉินท่ีมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต
หรือการรุนแรงข้ึนในห้วงเวลาขณะทําการปฏิบตั ิการฉุกเฉิน และดําเนินกิจการจัดการปฏิบัติการแพทย์เฉพาะทาง
ให้แก่ผู้ปวยฉกุ เฉินที่มีความเสี่ยงสูงยงิ่ ต่อการเสียชวี ิต การเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือการรุนแรงข้ึนของการบาดเจบ็
หรืออาการปวยนั้นอย่างรวดเร็วในห้องเวลาขณะทาํ การปฏบิ ตั ิการปฏิบตั ิการฉุกเฉิน นัน้
คมู อื หลักสตู ร 121
การขับรถบริการการแพทยฉุกเฉนิ และรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
6
เครอ่ื งมอื และอุปกรณก์ ารแพทย์ที่จาเป็นตอ้ งมี
๑. เตียงเคลื่อนย้ายผู้ปวย มีล้อเข็น มีเข็มขัดนิรภัยรัดผู้ปวย ไม่น้อยกว่า ๓ จุด และสามารถปรับน่ังได้
ล้อรถเข็นหมุนได้รอบ 360 องศาอย่างน้อย ๒ ล้อ มีกลไกสําหรับช่วยเข็นข้ึนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน สามารถ
รองรับน้ําหนักท้ังหมดได้ไม่น้อยกว่า 150 กิโลกรัม เป็นผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองคุณภาพ
มาตรฐานสากล (EN ๑๗๘๙) ผ่านการรับรองมาตรฐานการทดสอบการชนด้วยแรงไม่น้อยกว่า ๑๐ G ตามมาตรฐาน
(EN 1865) หรือมาตรฐานอื่นหรือการทดสอบอ่ืนท่ีเทียบเท่าพร้อมแนบเอกสาร หรือตามที่ สพฉ. ประกาศ เพ่ิมเติม
มีเบาะรองนอนตลอดตามยาวของเตียง สามารถถอดล้างทําความสะอาดได้ มีช่องสําหรับเสียบเสาน้ําเกลือ
ทัง้ ดา้ นซ้ายและขวา พร้อมเสาน้ําเกลือจํานวน 1 ตน้ สามารถปรบั ระดับสงู ต่ําได้ และยดึ ติดกับโครงเตียงได้อย่างม่ันคง
๒. มีระบบป้องกันการกระดกของเตียงเมื่อผู้ปวยน่ังบริเวณปลายเตียง ส่วนท้ายเตียงจะต้องมีความ
มัน่ คงไม่กระดกล้ม
๓. มีกลไกในการพับขาเตียงให้พับไปกับฐานเตียงโดยแยกบังคับให้ขาเตียงพับข้ึนทีละขา
และเมื่อดึงเตียงลงจากรถล้อคู่หลังและคู่หน้าจะกางออกเองโดยอัตโนมัติ (Automatic Loading Stretcher)
มรี าวป้องกนั ผู้ปว ยตกเตยี งทง้ั สองขา้ ง สามารถพับเกบ็ ไปด้านลา่ งได้
๔. มีกลไกในการยึดตรึงผู้ปวยเพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดไปด้านหน้าหรือด้านหลังระหว่างการ
เคลื่อนยา้ ย โดยอาจเปน็ เข็มขดั นิรภัยรัดผู้ปว ยไม่นอ้ ยกวา่ ๓ จดุ หรือกลไกอื่นเพมิ่ เติม
๕. ฐานเตียง มีกลไกในการยึดตรึงระหว่างฐานเตียงและเตียงเคลื่อนยา้ ยผู้ปวย เพ่ือป้องกันไม่ให้เตียง
หลุดออกจากฐานเตียงขณะเคลื่อนย้าย ผ่านการรับรองมาตรฐานการทดสอบการชนด้วยแรงไม่น้อยกว่า ๑๐ G ตาม
มาตรฐาน (EN 1865) หรือตามท่ี สพฉ. ประกาศ เพ่ิมเตมิ
๖. ฐานเตียงสําหรับติดต้ังบนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน มีความมั่นคงปลอดภัย โดยฐานเตียงได้รับ
การทดสอบความปลอดภยั ตามมาตรฐาน (EN ๑๗๘๙) หรือ (EN 1865) หรอื ตามที่ สพฉ. ประกาศ เพ่มิ เตมิ
๗. มี Long Spinal Board พร้อมสายรัดตรึง ทย่ี ึดตรงึ ศีรษะ (Head Immobilizer) สามารถใช้ล็อคศีรษะ
ผู้ปวย/ผู้บาดเจ็บกับแผ่นกระดานรองหลังได้อย่างม่ันคง โดยมีกลไกสําหรับประคองศีรษะผู้ปวย/ผู้บาดเจ็บ
และมีฐานรองสําหรับยึดติดกับแผ่นกระดานรองหลัง ได้รับการทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐาน (EN ๑๗๘๙)
หรอื (EN 1865) หรือตามที่ สพฉ. ประกาศ เพมิ่ เตมิ
๘. มอี ปุ กรณ์ในการยดึ ตรึงแขนขาในกรณีผูป้ ว ยมีแขนขาผิดรปู ไมน่ ้อยกว่า ๓ ขนาด
๙. มเี ฝือกคอชนดิ แข็ง (Hard Collar) ไม่นอ้ ยกวา่ 3 ขนาด
๑๐. มเี ฝือกดาม แขน ขา
๑๑. มีแหล่งกําเนิดออกซิเจน พร้อมระบบจ่ายกาซ ชุด Regulator (ชุดลดแรงดัน) ที่ใช้งาน
ได้ดี/ปลอดเช้ือ
๑1.๑ มกี ลไกยดึ ตรงึ ไม่ให้หลุดออกจากจดุ ยึดในกรณีท่เี กิดอุบตั เิ หตุ
๑1.๒ มีกลไกในการปรับอัตราการไหลของออกซิเจน สามารถปรับอัตราการไหล 0 - 15 ลิตร/นาที
หรือมีกลไกท่ีสามารถให้ออกซิเจนกับผูป้ ว ยได้เพยี งพอกบั ความต้องการ
12. มีแหล่งกําเนิดออกซิเจนแบบพกพาน้ําหนักรวมไม่เกิน 5 กิโลกรัมสําหรับเคล่ือนย้ายได้สะดวก
พร้อมกระเปาหิ้วพร้อมชดุ ยึดบนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินท่ีไดม้ าตรฐาน (EN 1789) หรือตามท่ี สพฉ. ประกาศ
เพิ่มเตมิ
122
สถาบันการแพทยฉ ุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
7
13. มีอุปกรณ์เพ่ือใช้ในการวัดและติดตามสัญญาณชีพซ่ึงได้แก่ อุณหภูมิร่างกา ย ชีพจร
ความดันโลหิต อัตราการหายใจ และความอิ่มตวั ของออกซิเจนในฮีโมโกลบนิ จากชีพจร (Pulse Oximetry) หรอื อืน่ ๆ
ทจี่ ําเป็นตอ่ ผปู้ วย
14 มีกระเป๋าปฐมพยาบาลพร้อมอุปกรณ์พ้ืนฐาน ได้แก่ ถุงมือปราศจากเช้ือ สําลี ไม้พันสําลี ผ้าก๊อซ
ชนิดบางและหนา Elastic Bandage ขนาด ๔ และ ๖ น้ิว พลาสเตอร์เหนียว กรรไกร แอลกอฮอล์ นํ้าเกลือสําหรับ
ลา้ งแผล อปุ กรณ์ลา้ งตา
15. มีอุปกรณ์สําหรับดูดเสมหะ และมีกลไกการยึดตรึงอุปกรณ์ดูดเสมหะ ไม่มีส่วนประกอบท่ีอาจ
จะแตกไดเ้ ม่ือเกิดอุบัตเิ หตุ
16. มีอปุ กรณ์ท่ีจําเป็นสาํ หรบั การชว่ ยเหลือการคลอดฉกุ เฉนิ
17. มีเครือ่ งมือตรวจวัดระดบั นํา้ ตาลในเลือด
18. มีเคร่ืองฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Defibrillator หรือ Automated External Defibrillator) และมี
กลไกในการยดึ ตรงึ เครอื่ งดังกล่าวประจาํ ยานพาหนะ /สามารถเคลอ่ื นย้ายไปใช้นอกยานพาหนะได้
19. มีอุปกรณ์และกระเปา๋ สาํ หรับเกบ็ อุปกรณ์ตามมาตรฐาน ACLS ATLS หรอื PHTLS
20. มีอุปกรณ์ท่ีใช้เพ่ือการเปดทางเดินหายใจและช่วยเหลือการหายใจเบื้องต้นและขั้นสูง
เชน่ Pocket Mask, Oro Pharyngeal Airway, Endotracheal Tube, Supraglottic Airway With Gastric Access เปน็ ต้น
21. มี Self Inflating Bag สาํ หรับชว่ ยหายใจ ผใู้ หญ่ เดก็ และเดก็ แรกเกดิ
22. มี Portable Respirator ซ่งึ มีความสามารถในการช่วยหายใจในเด็กและผู้ใหญส่ ามารถทํา Low
Flow Ventilation และสามารถทํา PEEP (Positive End Expiration Pressure)
23. ยาและเวชภณั ฑ์ ตามรายละเอียดท่ีกําหนด และมีคณุ ภาพสําหรบั ใช้กับผู้ปว ย จาํ นวน/ปรมิ าณตาม
ความจาํ เปน็ อยา่ งน้อยเท่ากบั มาตรฐาน ACLS ATLS PHTLS
๒๔. มเี ก้าอพี้ ร้อมล้อเข็น สาํ หรบั เคล่ือนย้ายผู้ปว ยขึ้นลงบนั ได (Stair chair)
สว นท่ี ๒
เคร่ืองมอื และอุปกรณส์ นับสนนุ การปฏิบตั ิการฉุกเฉินของรถบริการการการแพทยฉ์ ุกเฉิน
1. ติดต้ังไฟสญั ญาณวับวาบ แสงแดง - นํา้ เงิน โดยไฟสัญญาณวบั วาบแสงแดงจะต้องอยฝู่ งขวาเหนือ
ศรี ษะของผ้ขู ับข่ีแสงนาํ้ เงินอยฝู่ งซา้ ยเหนือศรี ษะของผู้ขบั ขี่ และเสียงสัญญาณพรอ้ มอปุ กรณ์ โดยการตดิ ตง้ั ดงั กล่าว
ต้องดําเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามประกาศสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เร่ือง กําหนดหลักเกณฑ์การขอ
อนุญาตใชไ้ ฟสญั ญาณวับวาบและเสยี งสัญญาณ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓
2. มีสัญลักษณ์หน่วยงานสังกัดขนาดชัดเจน ชื่อหน่วยงานสังกัดมีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า ๑๐
เซนตเิ มตร
3. มีเคร่ืองขยายเสียงขนาดไม่น้อยกว่า 100 วัตต์ พร้อมลําโพง ใช้กับไฟกระแสตรง 12 โวลต์
พร้อมใชง้ าน
4. มีชุดอุปกรณ์ท่ีมีกลไกในการแปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่มีแรงดัน 12 โวลต์ เป็นไฟฟ้า
กระแสสลับที่มีแรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ขนาดไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ วัตต์ (เป็นแบบ Pure Sine
Wave) พรอ้ มปลก๊ั ไฟฟา้ 220 โวลต์ จํานวนไมน่ ้อยกวา่ 2 จดุ และมีปลกั๊ ไฟฟ้าแบบท่ี USB อย่างนอ้ ย 1 จดุ และมี
ชดุ สายพว่ งตอ่ แบบมว้ นสําหรบั ใชไ้ ฟฟา้ 220 โวลต์
คูมอื หลกั สูตร 123
การขับรถบริการการแพทยฉ ุกเฉินและรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉ ุกเฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
8
5. มีสวิทซต์ ัดไฟฟา (Circuit Breaker) สาํ หรับหอ้ งปฏิบัติการซง่ึ ตดิ ตัง้ อยใู่ นห้องคนขบั
6. มเี ครื่องวทิ ยคุ มนาคม กรณียน่ื ขอรบั รองครัง้ แรกให้ดาํ เนนิ การตามระเบยี บสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉิน
แห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุมการใช้เคร่ืองวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ (Synthesizer) พ.ศ. 2562 และ
เปนไปตามการอนญุ าตของสาํ นักงานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี งกิจการโทรทศั น์และกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติกําหนด
ในกรณีต่ออายุรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินต้องมีหนังสืออนุญาตจาก สํานักงานคณะกรรมการ
กิจการกระจายเสียงกจิ การโทรทศั น์และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ
7. อปุ กรณ์ควบคมุ สถานการณ์
- กรวยยาง - กระบองไฟกระพรบิ
- ไฟฉายสอ่ งสว่าง - เทปจราจร
- เสอ้ื สะท้อนแสง - นกหวีด
8. มีกล้องบันทึกภาพภายในรถและการจราจร สามารถบันทึกภาพได้ตลอดระยะเวลาปฏิบัติภารกิจ
และสามารถเชื่อมตอ่ กบั ศนู ยค์ วบคุมรถพยาบาลได้
9. มรี ะบบติดตามและระบุตาํ แหน่งรถยนต์ ท่สี ามารถเชื่อมกบั ระบบที่ สพฉ. กาํ หนด
10. มีเครื่องดับเพลิงแบบยกห้ิว มีมาตรฐาน มอก. สามารถดับเพลิงได้ ตาม Class A B C ได้ระยะเวลา
ไมน่ ้อยกว่าถังดบั เพลงิ ชนดิ เหลวระเหยชนิดไม่มีสาร CFC ขนาดไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ ปอนด์พร้อมติดตั้ง ๑ ชดุ
11. มีอุปกรณ์ปองกันและควบคุมการติดเช้ือท่ีเพียงพอกับจํานวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
ไดแ้ ก่ ถุงมือ Mask ถงุ ขยะตดิ เช้ือ ผ้ากนั เปือ้ น รองเท้าบูต นาํ้ ยาทาํ ความสะอาดพน้ื ผิวภายในรถ นาํ้ ยาลา้ งมือแบบแห้ง
สว นที่ ๓
สว นประกอบดา้ นรถหรือยานพาหนะ (ด้านโครงสรา้ งความปลอดภัย)
๑. เปนรถหรือพาหนะสําหรับการบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามประกาศสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ที่มีมิติ
ขนาดและอุปกรณ์ ส่วนควบเปนไปตามกฎหมายวา่ ด้วยพระราชบญั ญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ตัวถังสีขาวและมีแถบสี
เหลืองฉุกเฉินการแพทย์ Sulphur Yellow รหัสสี RAL 1016 เปนหลัก (แถบสีเหลืองอาจเปนสติกเกอร์หรือสีทา
รถ) คาดรอบรถหรอื พาหนะ มขี นาดความกวา้ งไมน่ ้อยกวา่ ๑๐ เซนติเมตร
2. ติดฟิล์มกรองแสงชนิดมาตรฐาน เพ่ือความเปนส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ปวย เม่ือวัด
การผ่านของแสงแลว้ ตอ้ งผา่ นทัง้ กระจกและฟลิ ์มกรองแสงทม่ี แี สงผ่านได้ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 40
3. ห้องคนขับมีผนังกั้นแยกออกจากช่วงหลังซึ่งจัดเปนห้องปฏิบัติการ มีวัสดุกั้นแบ่งและมีกลไก
ในการส่ือสารถึงกันได้ โดยห้องคนขับและห้องปฏิบัติการ ชุดผนังต้องออกแบบให้มีความแข็งแรง ปลอดภัยกับ
ผู้โดยสารและผู้ขับเม่ือเกิดการชน (เช่น UN-ECE R66 หรือตามมาตรฐานต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการชน หรือการ
ทดสอบอ่นื ที่เทยี บเทา่ หรอื ดีกว่า หรอื ตามที่ สพฉ. กาํ หนดเพ่มิ เตมิ ) พร้อมเอกสารยืนยนั
4. มีระบบปรบั อากาศ มีคณุ สมบตั ิดงั น้ี
4.1 ติดต้ังพัดลมไฟฟาระบายอากาศ จํานวน 1 เคร่ือง โดยมีสวิทซ์ปิด – เปิด อยู่ในชุดควบคุม
เดียวกันท่ีแผงท้ังหมด โดยที่ติดตั้งด้านบนของห้องปฏิบัติการรอยต่อจะต้องเชื่อมด้วยวัสดุถาวรกันนํ้าอย่างดี โดย
ฝาครอบดา้ นนอกตัวรถและในตวั รถท่สี ามารถกันนาํ้ อยา่ งดี
124
สถาบันการแพทยฉ ุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
9
4.2 ในห้องคนขับและห้องปฏิบัติการ ติดต้ังระบบปรับอากาศตามมาตรฐาน ผู้ผลิตและติดตั้ง
ระบบกรองอากาศฆ่าเชื้อโรค (มรี ะบบเครื่องปรับอากาศท่ีมกี ารตดิ ตั้ง Filter หรือ ระบบท่ฆี า่ เชื้อและกรองฝ่นุ ละออง
ได้) โดยอาจแยกระบบปรับอากาศของห้องคนขับออกจากห้องปฏิบัติการได้ และติดต้ังพัดลมไฟฟาหรือเคร่ือง
ระบายอากาศในห้องปฏบิ ัตกิ าร
4.3 ในกรณีที่รถมีระบบปรับอากาศเดียวไม่สามารถแยกระบบปรับอากาศของห้องคนขับออก
จากห้องปฏิบตั ิการ จะตอ้ งมีกลไกในการปอ งกันมใิ ห้อากาศในห้องปฏบิ ตั ิการกลบั เข้าไปสหู่ ้องคนขบั ได้
5. ในห้องคนขับมีวิทยุพร้อมชุดแสดงภาพจากกล้องส่องหลังและแผนที่ดาวเทียมเพื่อช่วยในการหา
เสน้ ทางมีวิทยุพร้อมลําโพง และมีสญั ญาณแจง้ เตอื นการคาดเข็มขัดนิรภยั ทกุ ทีน่ งั่
6. ห้องคนขบั มปี ระตู ปดิ - เปดิ ท้ังดา้ นซา้ ยและด้านขวาทมี่ กี ุญแจลอ็ ค
7. ห้องปฏบิ ัตกิ าร
7.1 มีกลไกในการเข้าถึงส่วนของห้องปฏิบัติการ โดยมีระบบล็อคปองกันการเหว่ียงของประตู
เมือ่ เปดิ ใช้งาน
7.2 มีขนาดความสูงที่เหมาะสมในการปฏิบัติการช่วยชีวิต วัดจากพื้น เตียงของผู้ป่วย
ในห้องปฏิบัติการถึงด้านบนสุดของห้องปฏิบัติการ โดยมีความสูงไม่น้อยกว่า 900 มิลลิเมตร หรือมีความสูง
ที่เพียงพอท่ีสามารถปฏิบัติการฉุกเฉินได้อย่างสะดวก หรือมีเคร่ืองช่วยกระบวนการปมและฟนคืนชีพผู้ป่วย
(Auto CPR)
8. มีแผน่ บังแสงแดดกระจกดา้ นหน้าซา้ ย - ขวา ขา้ งละ 1 อนั
9. มชี ้นั สาํ หรบั เกบ็ เอกสารทางการแพทย์ เปนแบบล็อคไดม้ ฝี าปิดทแ่ี น่นหนา
10. มีเครอื่ งประจไุ ฟแบตเตอรี่ (Battery Charger)
11. มีชุดแปลงไฟฟาจากกระแสตรง ๑๒ โวลต์ เปนกระแสสลับ ๒๒๐ โวลต์ ๕๐ เฮิรตซ์
เพอ่ื ใช้กับเคร่อื งมือแพทย์
12. มชี ดุ ควบคุมระบบไฟฟา , ไฟฟาแสงสว่าง (Cut Out) ของห้องปฏบิ ัติการ อยูใ่ นห้องคนขบั
13. ในห้องคนขับและห้องปฏิบัติการ ติดตัง้ ระบบปรับอากาศ แยกควบคุมแอรท์ ั้งสองห้อง สามารถปรับ
ทศิ ทาง – ระดบั ความเยน็ ได้
14. สว่ นท่ีใช้เพื่อการบําบัดรักษาท่ีอยู่ด้านหลังของส่วนผู้ขับขี่จดั เปนห้องปฏิบัติการให้มีพ้ืนท่ีเพียงพอ
สําหรับการจัดวางเตียงพร้อมผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะนอนราบ มีประตูปิดด้านท้าย ปิดล็อคสนิทเม่ือมีการลําเลียง
หรือขนย้ายผู้ป่วย และต้องมีพื้นท่ีสําหรับผู้ปฏิบัติการในการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างเพียงพอ ดังน้ี
(เฉพาะรถบรกิ ารการแพทยฉ์ ุกเฉนิ ขนั้ สงู และขน้ั เฉพาะทาง)
14.1 ดา้ นหวั เตยี ง จดั ใหม้ รี ะยะหา่ งระหวา่ งขอบเตียงดา้ นหวั หา่ งขอบ ผนงั กนั้ ส่วนของคนขับให้
เพยี งพอกบั การปฏบิ ตั ิการดูแล ระบบ ทางเดนิ หายใจจากด้านหัวเตียง
14.2 ความสูงของสว่ นที่ใชเ้ พื่อการปฏิบัติการฉุกเฉินเพยี งพอในการปฏิบัติการ เช่น การช่วยฟน คนื ชีพ (CPR)
14.3 จัดให้มีท่ีน่ังพร้อมเข็มขัดนิรภัยทุกท่ีนั่งสําหรับผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน ท่ี สามารถให้การดูแล
ผูป้ ว่ ยฉุกเฉินได้อย่างสะดวก
14.4 ห้องปฏิบัติการด้านซ้ายมีประตู ปิด – เปิด ด้านหลังมีประตูปิด – เปิด ได้สะดวก สําหรับยก
เตียงผู้ป่วยเขา้ – ออกจากรถบริการการแพทยฉ์ ุกเฉิน
14.5 ห้องปฏิบตั ิการ มีไฟฟาให้แสงสว่างเพียงพอ
คมู อื หลกั สูตร 125
การขับรถบรกิ ารการแพทยฉ กุ เฉินและรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
10
15. ผนังและฝาเพดานภายในห้องปฏิบัติการทําด้วยวัสดุที่ไมกอให้เกิดอันตรายในกรณีอุบัติเหตุ
และไมปลดปลอยควันพิษในกรณีที่เกิดไฟไหม้ มีไฟให้แสงสวาง เปนไฟ LED แบบสําหรับใช้ทางการแพทย์ ติดตั้ง
ตามตําแหนง ท่เี หมาะสมจํานวน 4 ชดุ แยกสวทิ ซ์ปดิ – เปดิ แตล ะชดุ ใหม้ ีความสวา งเพียงพอ
16. พื้นผวิ พาหนะภายในสวนห้องปฏบิ ตั ิการมีพื้นผวิ เรียบไมล ่ืน ทนตอ สารเคมีเพ่ือทําความสะอาด
17. ในห้องปฏิบัติการฝงประตูด้านข้างสามารถรองรับผู้โดยสารได้ ๒ ท่ีน่ัง และมีกลไกในการปรับ
เบาะเพื่อให้มี Clearance ชองทางเดินไมน้อยกวา ๒๐ เซนติเมตร มีชุดเก้าอี้น่ังเด่ียว 2 ที่น่ัง ปรับเอนนอนได้
ติดต้ังบนฐานเก้าอ้ียึดล็อคกับพื้นรถตามมาตรฐานการรองรับการกระแทก 10 G (พร้อมแนบเอกสารรับรอง)
หรือการทดสอบอ่ืนท่ีได้มาตรฐานเทียบเทา พรอ้ มเขม็ ขัดนริ ภยั แบบดงึ ร้งั สี่จุดปลดล็อคเดียวติดตั้งกบั เก้าอ้ีทกุ ตัวยึด
ตดิ กบั โครงสร้างรถอยางม่ันคงตามมาตรฐาน UN-ECE R 14, UN-ECE R16 หรอื ตามท่ี สพฉ. ประกาศ เพม่ิ เติม
18. ภายในห้องปฏิบัติการสวนท้ายสุดด้านบนติดต้ังโคมไฟสปอร์ตไลท์ชนิดปรับได้ มีสวิทช์ควบคุม
ชนดิ 2 ทาง สามารถควบคมุ การเปดิ – ปิด ได้ จากห้องคนขบั และสวนทา้ ยของห้องปฏบิ ตั กิ าร
19. มีท่ีจัดเก็บอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อื่นท่ีจําเปนอยางเปนสัดสวน เปนระเบียบ
และมีความปลอดภยั จากการหลดุ รวงปลิวออกจากท่จี ัดเกบ็ ในกรณีท่มี ีการชนหรือกระแทกหรอื พลกิ คว่าํ ของรถ
20. บนเพดานรถมีที่แขวนภาชนะใสน้ําเกลือ/เลือด สามารถแขวนพร้อมกันได้ เพดานด้านใน
มีที่แขวนภาชนะใสน้ําเกลือหรือเลือดแบบกลองเปิดเม่ือไมได้ใช้งานจะไมมีสวนหนึ่งสวน ใดยื่นออกมาจากเพดาน
เมื่อดึงออกมาใช้งานสามารถแขวนภาชนะพร้อมกันได้ 2 ท่ี และมีที่รัดภาชนะทั้ง 2 แบบสามารถปรับขนาดได้
(สําหรบั รถบรกิ ารบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉินทางบกระดบั ปฏิบัติการแพทยข์ ัน้ สงู และระดับเฉพาะทาง)
21. มีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยมีความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไมต่ํากวา
ประเภท ๕ (แบบประกัน 2 บวก แบบประกนั 3 บวก)
126
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
11
ภาคผนวก ๒
เกณฑก์ ารรับรองรถบรกิ ารการแพทย์ประเภทไมล าเลียงผู้ปว ย
รถบริการการแพทย์ฉุกเฉินประเภทไม่ลําเลียงผู้ปวย คือ เป็นรถที่ไม่มีเตียงสําหรับผู้ปวยฉุกเฉิน
แต่และสามารถปฏิบัติการอํานวยการหรือลําเลียง ยาเวชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องมือส่ือสาร หรือ
บุคลากรทางการแพทย์ สาํ หรับให้บริการผปู้ วยฉุกเฉิน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. ประเภทสนับสนุนการปฏบิ ัติการอานวยการ
1.1 รถสนบั สนนุ การส่ือสารในสถานการณฉ์ กุ เฉิน
1.2 รถสนบั สนนุ การ รบั – ส่ง สญั ญาณดาวเทียม
1.3 รถบญั ชาการในสถานการณฉ์ ุกเฉนิ
เครอื่ งมือและอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัตกิ ารฉุกเฉินของรถหรือพาหนะจาเป็นต้องมี
ก. ติดตั้งไฟสัญญาณวับวาบ แสงแดง - น้ําเงิน โดยไฟสัญญาณวับวาบแสงแดงจะต้องอยู่ฝงขวา
เหนือศีรษะของผู้ขับข่ีแสงน้ําเงินอยู่ฝงซ้ายเหนือศีรษะของผู้ขับขี่ และเสียงสัญญาณพร้อมอุปกรณ์ โดยการติดตั้ง
ดังกล่าวต้องดําเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามประกาศและข้อกําหนดของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
เรอ่ื ง กาํ หนดหลกั เกณฑก์ ารขออนญุ าตใชไ้ ฟสัญญาณไฟวับวาบและเสยี งสัญญาณ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข. มีเครื่องขยายเสียงขนาดไม่น้อยกว่า 100 วัตต์ พร้อมลําโพง ใช้กับไฟกระแสตรง 12 โวลต์
พร้อมใชง้ าน
ค. มีชุดอุปกรณ์ที่มีกลไกในการแปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่มีแรงดัน 12 โวลต์ เป็นไฟฟ้า
กระแสสลับที่มีแรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ขนาดไม่ น้อยกว่า 1,000 วัตต์ (เป็นแบบ Pure Sine
Wave) พร้อมปลั๊กไฟฟ้า 220 โวลต์ จํานวนไม่น้อยกว่า 2 จุดและมีปลั๊กไฟฟ้าแบบที่ USB อย่างน้อย 1 จุด
และมีชุดสายพ่วงต่อแบบม้วนสาํ หรับใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์
ง. มีเคร่ืองวิทยุคมนาคม ในกรณียื่นขอรับรองคร้ังแรกให้ดําเนินการตามระเบียบสถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุมการใช้เคร่ืองวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถ่ี (Synthesizer) พ.ศ. 2562
แล ะเป็น ไปตาม กา ร อนุ ญ าต ข องสํ านั กง าน คณ ะ กร ร ม การ กิจ กา ร ก ร ะจ าย เสี ย งกิ จ ก าร โ ทร ทั ศน์ แล ะ กิ จ ก า ร
โทรคมนาคมแห่งชาติกาํ หนด
ในกรณีต่ออายุรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้มีหนังสืออนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการกิจการ
กระจายเสยี งกจิ การโทรทัศนแ์ ละกิจการโทรคมนาคมแหง่ ชาติ
จ. อปุ กรณค์ วบคมุ สถานการณ์
- ขวาน - เชือกคล้องตัวพรอ้ มอปุ กรณย์ ดึ เหนี่ยว
- กรวยยาง - กระบองไฟกระพริบ
- กรรไกรตัดเหล็ก - ไฟฉายส่องสวา่ ง
- เทปจราจร - เสื้อสะท้อนแสง
- รองเท้าบู๊ต - นกหวีด
- อุปกรณ์ตดั ถ่างโลหะแบบใชม้ อื (ถ้าม)ี
คูมือหลักสูตร 127
การขับรถบริการการแพทยฉุกเฉนิ และรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉ ุกเฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
12
ฉ. กลอ้ งบันทกึ ภาพภายในรถและการจราจร สามารถบนั ทึกภาพไดต้ ลอดระยะเวลาปฏิบตั ภิ ารกิจ
ช. มีระบบติดตามและระบุตาํ แหนง่ รถยนต์ท่สี ามารถเช่อื มกับระบบที่ สพฉ. กาํ หนดได้
ซ. มีเคร่ืองดับเพลิงแบบยกห้ิว มีมาตรฐาน มอก. สามารถดับเพลิงได้ ตาม Class A B C ได้ระยะเวลา
ไมน่ ้อยกว่าถังดับเพลิงชนิดเหลวระเหยชนดิ ไมม่ สี าร CFC ขนาดไม่นอ้ ยกว่า ๕ ปอนด์พร้อมติดต้ัง ๑ ชดุ
ฌ. มีอุปกรณ์ปองกันและควบคุมการติดเช้ือที่เพียงพอกับจํานวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ได้แก่ ถุงมือ
Mask ถงุ ขยะติดเช้ือ ผา้ กันเปือ้ น รองเท้าบูต นํา้ ยาทําความสะอาดพืน้ ผวิ ภายในรถ น้ํายาลา้ งมือแบบแหง้
ญ. มีชดุ ปฐมพยาบาลและทาํ แผลเบื้องต้น
ฎ. มีศักยภาพในการรับส่งสัญญาณหรือเป็นแม่ข่ายในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือสถานการณ์ภัยพิบัติ
ระดบั จงั หวดั ระดบั เขตหรอื ระดับประเทศได้
สวนประกอบดานรถหรือยานพาหนะ (ดา นโครงสรางความปลอดภัย)
๑. เป็นรถหรือพาหนะสําหรับการบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามประกาศสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
ท่ีมีมิติขนาดและอุปกรณ์ ส่วนควบเป็นไปตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ตัวถังสีขาวและมีแถบสีเหลือง
ฉุกเฉินการแพทย์ Sulphur Yellow รหัสสี RAL 1016 เป็นหลัก (แถบสีเหลืองอาจเป็นสติกเกอร์หรือสีทารถ)
คาดรอบรถหรือพาหนะ มีขนาดกวา้ งไม่น้อยกว่า ๑๐ ซม.
2. มีสัญลักษณ์หน่วยงานสังกัดขนาดชัดเจน ชื่อหน่วยงานสังกัดมีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า ๑๐
เซนติเมตร
3. ติดฟล์มกรองแสงชนิดมาตรฐาน เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ปวย เมื่อวัดการ
ผา่ นของแสงแลว้ ต้องผ่านท้งั กระจกและฟลม์ กรองแสงทม่ี ีแสงผา่ นได้ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 40
4. ในห้องคนขับมีวิทยุพร้อมชุดแสดงภาพจากกล้องส่องหลังและแผนท่ีดาวเทียมเพ่ือช่วยในการหา
เสน้ ทางมวี ทิ ยพุ รอ้ มลาํ โพง และมสี ัญญาณแจ้งเตอื นการคาดเข็มขัดนิรภยั ทุกที่นัง่ มรี ะบบกล้องบันทึกภาพหน้ารถท่ี
สามารถบันทกึ ภาพได้ตลอดระยะเวลาปฏิบตั ภิ ารกิจและสามารถเช่ือมต่อกบั ศนู ยค์ วบคุมรถพยาบาลได้
2. ประเภทสนับสนนุ การปฏบิ ัติการแพทย์
2.๑ ประเภทรถจักรยานยนต์ (Motorlance)
เป็นหน่วยปฏิบัติการประเภทปฏิบัติการแพทย์ระดับพ้ืนฐานข้ึนไป หรือหน่วยปฏิบัติการ
ประเภทอาํ นวยการระดบั พื้นฐานขนึ้ ไป
เครอื่ งมือและอปุ กรณ์สนบั สนุนการปฏิบตั ิการฉุกเฉนิ ของรถหรือพาหนะจาํ เปน ตองมี
ก. มีชุดปฐมพยาบาล และอปุ กรณ์ปฐมพยาบาลและทําแผลพื้นฐาน
ข. มสี ัญลักษณ์ระบุสังกัดหน่วยงานไดอ้ ย่างชัดเจน
ค. ติดตั้งไฟสัญญาณวับวาบ แสงแดง - น้ําเงิน โดยไฟสัญญาณวับวาบแสงแดงจะต้องอยู่ฝงขวา
มือของผู้ขับข่ีแสงนํ้าเงินอยู่ฝงซ้ายมือของผู้ขับข่ี และเสียงสัญญาณพร้อมอุปกรณ์ โดยการติดตั้งดังกล่าวต้อง
ดําเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามประกาศและข้อกําหนดของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เรื่อง กําหนด
หลกั เกณฑ์การขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณไฟวบั วาบและเสยี งสัญญาณ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓
ง. มเี ครอื่ งขยายพร้อมลาํ โพง ทพี่ ร้อมใชง้ าน
128
สถาบนั การแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
13
สว นประกอบดา้ นยานรถหรือพาหนะ (ด้านโครงสรา้ งความปลอดภยั )
๑. มมี าตรฐานและผา่ นการรับรองจากผู้ผลิต
๒. เปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยพระราชบญั ญัติรถยนต์ พ.ศ.2522
2.๒ ประเภทรถยนต์
๒.๒.1. รถลาํ เลียงยา เวชภณั ฑ์ เคร่ืองมือทางการแพทย์ ผู้ปฏบิ ตั ิการ หรืออวยั วะสาํ คัญ
๒.๒.๒ รถแพทย์ฉุกเฉิน ( Doctor Car)
เครื่องมือและอุปกรณส์ นับสนุนการปฏบิ ตั ิการฉกุ เฉนิ ของรถหรือพาหนะจําเปน็ ต้องมี
ก. ติดตั้งไฟสัญญาณวับวาบ แสงแดง-นํ้าเงิน โดยไฟสัญญาณวับวาบแสงแดงจะต้องอยู่ฝงขวา
เหนือศีรษะของผู้ขับขี่แสงน้ําเงินอยู่ฝงซ้ายเหนือศีรษะของผู้ขับข่ี และเสียงสัญญาณพร้อมอุปกรณ์ โดยการติดต้ัง
ดังกล่าวต้องดําเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามประกาศสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เร่ือง กําหนดหลักเกณฑ์
การขออนญุ าตใช้ไฟสัญญาณวบั วาบและเสียงสัญญาณ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓
ข. มเี คร่ืองขยายเสียงขนาดไมน่ อ้ ยกว่า 100 วัตต์ พร้อมลําโพง ใช้กบั ไฟกระแสตรง 12 โวลต์ พรอ้ มใช้งาน
ค. มีชุดอุปกรณ์ท่ีมีกลไกในการแปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงท่ีมีแรงดัน 12 โวลต์ เป็นไฟฟ้า
กระแสสลับท่ีมีแรงดัน 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ขนาดไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ วัตต์ (เป็นแบบ Pure Sine
Wave) พร้อมปล๊ักไฟฟ้า 220 โวลต์ จํานวนไม่น้อยกว่า 2 จุดและมีปล๊ักไฟฟ้าแบบท่ี USB อย่างน้อย 1 จุด และ
มีชดุ สายพ่วงตอ่ แบบม้วนสําหรับใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์
ง. มีเคร่ืองวิทยุคมนาคมในกรณีขอรับรองคร้ังแรกให้ดําเนินการตามระเบียบสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน
แห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมแบบสังเคราะห์ความถี่ (Synthesizer) พ.ศ. 2562 และ
เป็นไปตามการอนุญาตของสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม
แหง่ ชาติกําหนด
ในกรณีต่ออายุรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินให้มีหนังสืออนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการกิจการ
กระจายเสยี งกิจการโทรทัศน์และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ
จ. อปุ กรณ์ควบคมุ สถานการณ์
- ขวาน - เชอื กคลอ้ งตวั พรอ้ มอุปกรณ์ยึดเหน่ยี ว
- กรวยยาง - กระบองไฟกระพรบิ
- กรรไกรตัดเหล็ก - ไฟฉายสอ่ งสวา่ ง
- เทปจราจร - เส้ือสะท้อนแสง
- รองเทา้ บู๊ต - นกหวีด
ฉ. มีระบบบันทึกภาพภายในรถและการจราจร สามารถบนั ทึกภาพต่อเน่ืองได้ตลอดระยะเวลาปฏิบัติการ
ช. มรี ะบบติดตามและระบุตําแหนง่ รถยนต์ที่สามารถเช่ือมกับระบบท่ี สพฉ. กําหนดได้
ซ. มีเครื่องดับเพลิงแบบยกหิ้ว มีมาตรฐาน มอก. สามารถดับเพลิงได้ ตาม Class A B C ได้ระยะเวลาไม่
น้อยกวา่ ถังดบั เพลิงชนิดเหลวระเหยชนิดไม่มีสาร CFC ขนาดไม่น้อยกวา่ ๕ ปอนดพ์ ร้อมติดต้ัง ๑ ชุด
ฌ. มีอุปกรณ์ป้องกันและควบคุมการติดเช้ือที่เพียงพอกับจํานวนเจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงาน ได้แก่ ถุงมือ
Mask ถุงขยะติดเชอื้ ผ้ากันเปื้อน รองเท้าบ๊ตู นาํ้ ยาทาํ ความสะอาดพื้นผิวภายในรถ นา้ํ ยาล้างมอื แบบแห้ง
ญ. มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและทาํ แผลพ้ืนฐาน
ฎ. มีอุปกรณก์ ารแพทย์ตามวตั ถุประสงคข์ องการใช้รถยนต์
คมู อื หลักสูตร 129
การขบั รถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉินและรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
14
สวนประกอบดานรถหรอื ยานพาหนะ (ดานโครงสรา งความปลอดภัย)
๑. เป็นรถหรือพาหนะสําหรับการบริการการแพทย์ฉุกเฉินตามประกาศสํานักงานตํารวจแหงชาติ
ที่มีมิตขิ นาดและอุปกรณ์ สวนควบเป็นไปตามพระราชบญั ญัติรถยนต์ พ.ศ.2522
2. มีสัญลักษณ์หนวยงานสังกัดขนาดชัดเจน ช่ือหนวยงานสังกัดมีขนาดความสูงไมนอยกวา ๑๐
เซนติเมตร
3. ในหองคนขับมีวิทยุพรอมชุดแสดงภาพจากกลองสองหลังและแผนท่ีดาวเทียมเพื่อชวยในการหา
เสน ทางมวี ทิ ยุพรอ มลําโพง และมสี ัญญาณแจงเตือนการคาดเขม็ ขัดนิรภัยทุกทีน่ ่ังมี
๔. มีสญั ลักษณ์ระบุสังกัดหนวยงานที่ใหชดั เจน
๕. มีท่ีจัดเก็บอุปกรณ์การแพทย์และอุปกรณ์อื่นท่ีจําเป็นอยางเป็นสัดสวน เป็นระเบียบและมีความ
ปลอดภัยจากการหลุดรวง ปลิวออกจากท่ีจัดเก็บในกรณีที่มีการชนหรือกระแทกหรือพลิกคว่ําของรถบริการ
การแพทยฉ์ ุกเฉิน
130
สถาบันการแพทยฉุกเฉนิ แหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
15
ภาคผนวก 3
ขน้ั ตอนการรับรองรถบรกิ ารการแพทยฉ์ ุกเฉิน
30 5
.
.
คูมือหลักสูตร 131
การขับรถบริการการแพทยฉ กุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
16
วธิ ีการขอการรับรอง
1. หนว่ ยปฏบิ ัตกิ ารย่ืนคําขอรับรองผ่านระบบสารสนเทศรบั รองพาหนะบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
2. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด สํานักการแพทย์กรุงเทพมหานคร
องค์การบริหารส่วนจังหวัดท่ีดําเนินการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตรวจสอบความถูกต้อง ตามประกาศสถาบันการแพทย์
ฉกุ เฉินแหง่ ชาติ เรื่อง เกณฑ์ วธิ กี าร และแนวทาการรบั รองมาตรฐานรถบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉนิ พ.ศ. 256๔
2.1 กรณีข้อมูลถูกต้องตามประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติให้ดําเนินการตาม
ขอ้ ถดั ไป
2.2 กรณีไมถ่ กู ต้องแจ้งกลบั ไปยงั หนว่ ยปฏบิ ัตกิ ารทขี่ อรบั รอง
3. สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ให้การรับรองผ่านระบบสารสนเทศรับรองพาหนะบริการ
การแพทยฉ์ กุ เฉนิ
4. แจ้งผลการรับรองไปยังหน่วยปฏิบัติการหรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดท่ีขอรับรอง
ในรปู แบบไปรษณีย์อิเลค็ ทรอนิกส์ผา่ นระบบสารสนเทศรบั รองพาหนะบรกิ ารการแพทย์ฉุกเฉนิ
5. หน่วยปฏิบัติการหรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด ยื่นขออนุญาตใช้ไฟสัญญาณวับวาบ โดยใช้
หนังสือรับรองและให้ความเห็นชอบฯ พร้อมเอกสารแนบตามที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติกําหนดยื่นประกอบ
การขออนญุ าต ดงั นี้
5.1 กรงุ เทพมหานครยืน่ คาํ ขอที่ กองบงั คับการตาํ รวจจราจร
5.2 ต่างจงั หวดั ยืน่ คําขอท่ี กองบังคบั การตาํ รวจภูธรจังหวดั
6. อนญุ าตใหใ้ ชไ้ ฟสญั ญาณวบั วาบ
6.1 กรุงเทพมหานครอนุญาตโดยผู้บัญชาการตาํ รวจนครบาล
6.2 ต่างจงั หวัดอนุญาตโดยผวู้ า่ ราชการจงั หวัด
7. หน่วยปฏิบัติการที่ได้รับการอนุญาตใช้ไฟสัญญาณวับวาบ ให้ดําเนินการแจ้งผลการได้รับ
การอนุญาตผ่านระบบสารสนเทศรับรองพาหนะบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
132
สถาบนั การแพทยฉ ุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
17 17
หนังสือรบั หรน_องั _งส_ือ_หร_รบั _ภอื ร__สอา__งัญค___หผ_ล_ร_นกั _ภือ_ษว_สา__ณกัญค___ผ_์ใล4_น_นกั __กษว__าณก__ร_์ใ_ใ4_น_ห_กก_าา_ร_รใ_หรบัก ารรอรงับรอง
1. หนังสอื 1รบั. รหอนงั แสอืลระับใหรอค งวแาลมะเใหน็ควชาอมบเหร็นถชบอรบกิ ราถรบกรากิราแรพกทารยแ์ฉพุกทเฉยฉ์นิ ุกฯเฉิน ฯ
คมู ือหลกั สูตร 133
การขับรถบริการการแพทยฉกุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉ ุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
18
2. สัญลกั ษณใ นการใหการรบั รอง
ตัวอยา งสัญลกั ษณแบบที่ 1
XXXXX
ตวั อยางสัญลกั ษณแ บบท่ี 2
60 ซม.
10 ซม.
Logo TEMSA ภ -ภ ฤ QR Code
134
สถาบันการแพทยฉ กุ เฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
ตัวั อย่�งก�รประเมนิ ิคำว�มเสย่� งกอ่ นิก�รเคำลื่อ�่ นิย�้ ยผู้้ป่วยด้้วยรถพย�บั�ลื่
(ที่ม�่ � Mayo Clinic Pre-transport Risk assessment)
คำำานวนคำะแนนรืวมคำวามเสี�ยงทั�งหมด กรืณุีท�ีคำะแนนมากกว่า ๓๐ คำะแนนคำวรืปรื่กษาแพทย์อาำ นวยการื หรืือ
หัวหนา้ หนว่ ยงานกอ่ นเคำลัื�อนย้าย หากเลัี�ยงการืเดนิ ทางไดค้ ำวรืเลั�ียง
๑. ปรึะสบการึณข์ บั รึถพิยาบาลั +๕
+๒
นอ้ ยกวา่ ๑ ปี +๑
๑-๒ ปี ๐
๒-๕ ปี
มากกว่า ๕ ปี
คำะแนน
๒.สภัาพิถนน + ๑๕
+ ๑๐
Off road ดนิ โคำลันแฉะ โคำ้งแคำบุชััน ไม่คำวรืใชั้ทาง +๐
พ�นื ผู้ิวลัืน� ยาวติ่อเนอ�ื ง
สภาพดี
คำะแนน
๓.ปรึะเภัที่ถนน +๔
+๓
๒ เลันเปน็ ส่วนใหญ่ +๐
๒ เลันสลัับุ ๔ เลัน
๔ เลัน
คำะแนน
๔. ที่ัศนวศิ ัย +๕
+๕
กลัางวันมองเห็นไม่ชัดั +๓
กลัางคำนื มองเหน็ ไมช่ ัดั +๐
กลัางคำนื มองเห็นชััด
กลัางวนั มองเหน็ ชัดั
คำะแนน
คมู อื หลักสตู ร 135
การขบั รถบรกิ ารการแพทยฉ ุกเฉินและรถพยาบาล
๘. รึะยะเวลัาพิกั กอ่ นเรึ�ิมเวรึของบคุ ลัากรึอ่�น สถาบันการแพทยฉ กุ เฉนิ แหง ชาติ
น้อยกวา่ ๖ ชัม. National Institute for Emergency Medicine
มากกว่า ๖ ชัม.
๘ ชัม. +๒
คำะแนน พนักงานขำบั ุคำนที� ๑ +๑
คำะแนน พนกั งานขำับุคำนที� ๒ +๐
คำะแนน พนกั งานขำับุคำนที� ๓
ตวั อยำ่ งแบบฟอรเ์ ช็ครถ ตัวั อย�่ งแบับัฟอร์เช็็คำรถ
แบบฟอรม์ การตรวจเชค็ สภาพรถก่อนใชง้ าน ประจาวนั Check Before Driving on Ambulance
ทะเบยี น ย่ีหอ้ รุ่น จดทะเบยี น ว/ด/ป
กม.ท่ี
ผูต้ รวจเช็ค วนั ท่ี
ชื่อ นามสกุล เวลา
ลำดบั รำยกำรตรวจเชค็ ผลกำรตรวจเช็ค
ปกติ ไมป่ กติ ปรบั ปรุงแกไ้ ข
1. ระบบเบรก B-Break ☐ เติมนา้ มนั เบรกอยูใ่ นระดบั
☐ เปลยี่ นนา้ มนั เบรก
ระดบั นา้ มนั เบรกในกระปกุ ระหวา่ ง min-max ปกติ ตา่ กว่าระดบั ☐ เติมนา้ มนั คลทั ชอ์ ยู่ในระดบั
เช็ค ☐ สายนา้ มนั เบรก
ตรวจดูสภาพของนา้ มนั เบรก สใี ส สดี า ☐ ลอยรวั่ ลูกยางปมั๊ เบรกทุกลอ้
ตรวจเช็คระดบั นา้ มนั คลทั ซ์ (รถรุ่นเก่า) ปกติ ตา่ กว่าระดบั ใหเ้ตมิ นา้ กลนั่ อยู่ในระดบั
*ถา้ พบนา้ มนั เบรกยบุ ลงมากผดิ ปกติ -- รอยรวั่ ซมึ
ทงั้ เบรก และ คลตั ซ์
2. ระบบไฟ E- Electric system ปกติ ตา่ กว่าระดบั
ตรวจระดบั นา้ กลนั่ ในแบตเตอรีใ่ หอ้ ยู่ในระดบั
คมู ือหลักสตู ร 137
การขบั รถบริการการแพทยฉ กุ เฉนิ และรถพยาบาล
สถาบันการแพทยฉกุ เฉนิ แหง ชาติ ห น้ า ท่ี | 104
National Institute for Emergency Medicine ปรบั ปรุงแกไ้ ข
ใหล้ า้ งทาความสะอาดดว้ ยนา้ อุ่น และ
ลำดบั รำยกำรตรวจเชค็ ผลกำรตรวจเชค็ ไม่ปกติ ทาวาสลนิ หรือ ไขปลาวาฬ
ตรวจทาความสะอาดขว้ั แบตเตอร่ี ปกติ มขี ้เี กลอื ใหข้ นั สกรูยึดใหแ้ น่น
เช็คฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟหนา้
ปกติ
เชค็ ฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
ตรวจเช็คเหลก็ รดั แบตเตอรี่ ปกติ หลวม
เชค็ ฟิวล์ หรอื เปลยี่ นหลอดไฟ
ตรวจเชค็ ไฟหนา้ ซา้ ย – ขวา ตดิ ทุกดวง ไม่ตดิ ซา้ ย
ไม่ตดิ ขวา เช็คฟิวล์ หรอื เปลยี่ นหลอดไฟ
ตรวจเช็คไฟสูง ซา้ ย – ขวา ตดิ ทกุ ดวง ไมต่ ิดซา้ ย เชค็ ฟิวล์ หรือเปลยี่ นหลอดไฟ
ไม่ตดิ ขวา
เชค็ ฟิวล์ หรอื เปลยี่ นหลอดไฟ
ตรวจเชค็ ไฟหรหี นา้ ซา้ ย – ขวา ตดิ ทุก ไมต่ ิดซา้ ย
ดวง ไม่ตดิ ขวา เชค็ ฟิวล์ หรอื เปลยี่ นหลอดไฟ
ตรวจเชค็ ไฟเล้ยี วหนา้ ซา้ ย – ขวา ติดทุกดวง ไม่ตดิ ซา้ ย เช็คฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
ไมต่ ิดขวา
เช็คฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
ตรวจเชค็ ไฟหร่หี ลงั ซา้ ย – ขวา ตดิ ทกุ ดวง ไมต่ ิดซา้ ย เชค็ ฟิวล์ และ ออด
ไมต่ ดิ ขวา เชค็ ฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
เช็คสวติ ซ์ หรือ รเี ลย์
ตรวจเช็คไฟทา้ ย ซา้ ย – ขวา ตดิ ทุกดวง ไม่ติดซา้ ย เช็คฟิวล์ หรือเปลยี่ นหลอดไฟ
ไม่ตดิ ขวา เชค็ ฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
เชค็ มอรเ์ ตอร์
ตรวจเชค็ ไฟเบรก ซา้ ย – ขวา ตดิ ทุกดวง ไมต่ ิดซา้ ย เช็คฟิวล์ หรอื เปลยี่ นหลอดไฟ
ไม่ติดขวา
เช็คฟิวล์ หรือ รเี ลย์
ตรวจเชค็ ไฟเล้ยี วหลงั ซา้ ย – ขวา ติดทกุ ดวง ไมต่ ดิ ซา้ ย
ไมต่ ิดขวา เช็คฟิวล์ หรอื รเี ลย์
ตรวจเช็คไฟถอยหลงั ติดปกติ ไม่ตดิ ใหเ้ ชค็ แผงวงจรไฟวบั วาบ
ตรวจเชค็ เสยี งออด-ถอยหลงั (ถา้ ม)ี มเี สยี ง ไมม่ เี สยี ง เช็คฟิวล์ หรือเปลย่ี นหลอดไฟ
ตรวจเช็คไฟส่องป้ายทะเบยี น ตดิ ไม่ตดิ เปลย่ี นยางปดั นา้ ฝนใหม่
เตมิ นา้ ถงึ ระดบั
ตรวจเชค็ ไฟฉกุ เฉนิ Hazard กระพริบ ไม่กระพรบิ
เติมนา้ ใหเ้ ตม็
ตรวจเช็คไฟสปอตไลทส์ นาม( ถา้ ม)ี ติด ไมต่ ดิ
ตรวจเชค็ ไฟวบั วาบ หนา้ แสงครบ แสงไมค่ รบ
หมนุ ปกติ คา้ งไมห่ มนุ
ตรวจเช็คไฟวบั วาบ หลงั แสงครบ แสงไมค่ รบ
หมนุ ปกติ คา้ งไม่หมนุ
ตรวจเช็คไฟแฟลซ(Flash) ซา้ ย แสง แสงไม่
กระพรบิ ปกติ กระพรบิ
ตรวจเช็คไฟแฟลซ(Flash) ขวา แสง แสงไม่
กระพริบปกติ กระพริบ
(ถา้ ) ไฟวบั วาบใช้ หลอด LED แสงครบ แสงไม่ครบ
กระพริบปกติ ไมก่ ระพรบิ
ตรวจเชค็ ไฟตดั หมอก หนา้ -หลงั ซา้ ย – ขวา ติดทกุ ดวง ไมต่ ิดซา้ ย
หนา้ หลงั ไมต่ ดิ ขวา
3. ระบบน้ำหล่อเย็น และน้ำฉีดกระจก W -Water ปาดเรียบ ปาดไม่เรยี บ
ตรวจเชค็ ยางปดั นา้ ฝน
ตรวจเช็คกระปุกฉีดนา้ ปดั นา้ ฝน อยู่ระดบั อยูต่ า่ กว่า
ขดี สูงสุด ระดบั สูงสุด
ตรวจเช็คระดบั นา้ ในหมอ้ นา้ (รุ่นเก่า) เปิดฝาปิด พอดี ขาด
หมอ้ นา้ ดู
138
ลำดบั รำยกำรตรวจเช็ค ผลกำรตรวจเช็ค Nสaถtioาnบaนัl Iกnsาtiรtuแtพe fทorยEฉmุกerเgหฉenนินcyแ้ าMหeทงd่ีชic|าin1ตe0ิ 5
ปกติ ไมป่ กติ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข
เตมิ นา้ ถงึ ระดบั
ตรวจเชค็ ระดบั นา้ ในหมอ้ พกั นา้ พอดี ขาด ควรเปลย่ี นฝาปิดหมอ้ นา้
เปลย่ี นท่อยางใหม่
ตรวจเชค็ คราบนา้ บรเิ วณฝาปิดหมอ้ นา้ ไมม่ คี ราบ มคี ราบ
ควรเปลยี่ น
ตรวจเช็ครอยแตกรา้ ว-ความยดื หยนุ่ ของท่อ สภาพดี แขง็ รวั่ บน ใชล้ มเป่าทาความสะอาด
ยางหมอ้ นา้ แขง็ รวั่ ล่าง เติมลม หรอื ปล่อยลมท้งิ
4. สภำพยำง และลมยำง A – Air ปกติ ครีบลม้ เตมิ ลม หรอื ปล่อยลมท้งิ
ตรวจเชค็ ครบี กระดาษกรองอากาศ เติมลม หรือ ปลอ่ ยลมท้งิ
ตรวจเช็คไสก้ รองอากาศ สะอาด สกปรก เติมลม หรือ ปลอ่ ยลมท้งิ
ตรวจเชค็ แรงดนั ลมยางหนา้ มาตรฐาน ไม่เป็นไป เปลย่ี นยาง
(รถไม่ไดบ้ รรทกุ ) 28-33 Psi ตามเกณฑ์ ใหร้ ะวงั หนา้ ยาง มรี อยแตกลายงา
ตรวจเชค็ แรงดนั ลมยางหนา้ มาตรฐาน ไม่เป็นไปตาม เปลยี่ นยาง
(รถบรรทุก – รถ Ambulance) 30-35 Psi เกณฑ์
ควรจดั หาใส่
ตรวจเชค็ แรงดนั ลมยางหลงั มาตรฐาน ไมเ่ ป็นไป ควรไขลูกศรใหแ้ น่นข้นึ
(รถไมไ่ ดบ้ รรทกุ ) 28-30 Psi ตามเกณฑ์
ควรเตมิ ลมยางอะไหล่
ตรวจเชค็ แรงดนั ลมยางหลงั มาตรฐาน ไมเ่ ป็นไป ควรตดิ ตง้ั ใหแ้ น่นหนา
(รถบรรทุก – รถ Ambulance) 30-50 Psi ตามเกณฑ์
เขา้ ศูนยบ์ รกิ าร
ตรวจเช็ครอยฉกี แกม้ ยาง ดอกยาง สภาพดี มรี อยฉีก ตอ้ งถ่าย เดรนนา้ ท้งิ
ตรวจเช็คสปั ดาห์ / ปีคศ. ผลติ ยาง ไมเ่ กนิ 3 ปี เกนิ 3 ปี เติมนา้ มนั เครื่อง
........../......... เทยี บกบั ปีปจั จบุ นั ........................
เตมิ ใหอ้ ยูใ่ นระดบั
ตรวจเช็คร่องลึกของดอกยาง กบั หมดุ กลางร่อง ใ ช้ง า น ไ ด้ สกึ หรอยาง
ดอกยาง ยางสูงกวา่ หมดุ เสมอหมดุ ตอ้ งเปลยี่ นนา้ มนั เพาเวอร์
ตรวจเช็ค ฝาครอบจุกเติมลมยาง มคี รบ ไม่ครบ เติมนา้ มนั เกียรอ์ อโตเพม่ิ
ตรวจรอยรวั่ ซมึ ของจปุ๊ ยาง ใหน้ า้ แฟ๊ บหรือนา้ ยาท่มี ี สภาพดี มรี วั่ ซมึ
ฟอง ไมม่ ฟี อง มฟี อง
ตรวจเชค็ ลมยางอะไหล่ ใชเ้ คาะฟงั เสยี ง ปกติ ไมม่ ลี มยาง
ตรวจเช็คทย่ี ึดยางอะไหล่ แน่น หลวม
5. ระบบน้ำมนั เช้อื เพลงิ Fule ปกติ คา้ ง
ตรวจเช็คเกยว์ ดั ปริมาณนา้ มนั
ตรวจ เดรนนา้ กรองดกั นา้ ( รถดเี ซล) ปกตไิ มม่ นี า้ มนี า้
6. น้ำมนั หล่อลื่น O - Oil
วดั ระดบั นา้ มนั เครอ่ื งตามขีดระดบั ท่กี า้ นวดั ใหอ้ ยู่ ปกติ ข า ด ต่า กว่า
ระหว่างขดี บน - ขดี ลา่ ง ขดี ล่าง
วดั ระดบั นา้ มนั เพาเวอร์ อยู่ระหว่างขดี บน-ขดี ล่าง ปกติ ข า ด ต่า กว่า
ขดี ลา่ ง
ตรวจเช็คสภาพสขี องนา้ มนั เพาเวอร์ สแี ดง สแี ดงขนุ่
สถาพปกติ ผดิ ปกติ
วดั ระดบั นา้ มนั เกยี รอ์ อโต ปกติ ขาด
-ขณะเครือ่ งเย็น ดูท่กี า้ นวดั ตอ้ งอยู่ระหว่างกลาง
ของระดบั Cool
-ขณะเคร่ืองรอ้ นดูท่กี า้ นวดั ตอ้ งอยู่ ระหว่างกลาง
ของระดบั Hot
7. เสยี งดงั N - NOISE
คูมอื หลักสูตร 139
การขบั รถบริการการแพทยฉกุ เฉินและรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉกุ เฉินแหงชาติ ห น้ า ท่ี | 106
National Institute for Emergency Medicine ปรบั ปรงุ แกไ้ ข
ตรวจเชค็ ฟิวล์ และ รีเรย์
ลำดบั รำยกำรตรวจเช็ค ผลกำรตรวจเชค็ แกไ้ ข
ถา้ มแี จง้ บรเิ วณเสยี งทด่ี งั
ปกติ ไม่ปกติ
ควรเช็คสวทิ ยพ์ ดั ลม
ตรวจเช็คแตร ดงั ไม่ดงั
เชค็ นา้ ยาแอร์
ตรวจเสยี งสญั ญาณไซเรน ดงั ไม่ดงั มฟี องนา้ ยาแอรข์ าด ควรเติม
ควรปรบั ตงั้ มูลเลย่ ส์ ายพาน
ตรวจเชค็ เสยี งดงั ตา่ ง ๆ c มี ไม่มี
ควร แกใ้ ข หรอื เปลย่ี น
น้ำมนั หลอ่ ล่ืน O - Oil
แกไ้ ข
8. ระบบควำมเย็น - เครื่องปรบั อำกำศ Air-condition ตอ้ งปรบั ตงั้ สายเคเบ้ลิ ใหม่
สญั ญลกั ษ์ของไฟสญั ญาณท่ีติดคา้ ง
ตรวจเช็คสวทิ ยท์ ุกจงั หวะของพดั ลมแอร์ ปกติ ไม่ปกติ ลม ..............................................
ลมออก ออกไมค่ รบ เชค็ ฟิวล์ เปลยี่ นหลอดไฟ
ครบทกุ เชค็ ฟิวล์ เปลย่ี นหลอดไฟ
จงั หวะ
จดั หาสารอง
ตรวจเช็คระบบความเยน็ เย็น ไม่เยน็ เปลยี่ นถงั ดบั เพลงิ
ควรจดั เตรยี มไวใ้ นรถ
ตรวจเช็คตาแมว ทท่ี อ่ นา้ ยาแอร์ ใส มฟี อง
ควรจดั เตรียมไวใ้ นรถ
ตรวจเชค็ สายพานพดั ลม มาตรฐานกดดว้ ยน้วิ ลงได้ ปกติ ตึง เกิน
ครงึ่ ซม. ไมเ่ กิน 1 ซม. หยอ่ นเกิน
9. ตรวจเชค็ ภำยในหอ้ งคนขบั
ตรวจเช็คการทางาน เซฟต้เี บลท์ ลอ๊ ค ไมล่ อ๊ ค
โดยกระชาด-กระตุก
ตรวจเช็คสวทิ ยป์ รบั กระจก มองขา้ ง ซา้ ย -ขวา ทางาน เสยี
ตรวจเช็คการทางานของ Parking Brake ลอ๊ คอยู่ ลอ๊ คไม่อยู่
ต ร ว จ เ ช็ ค ไ ฟ ส ัญ ญ า ณ เ ตื อ น ต่ า ง ๆ เ ม่ื อ ส ต า ร์ท ปกติ ตดิ คา้ ง
เคร่ืองยนต์
ตรวจเชค็ ไฟสอ่ งสวา่ งในหอ้ งคนขบั .ใชง้ านได้ เสยี
ตรวจเชค็ ไฟสอ่ งสวา่ งในหอ้ งผโู้ ดยสาร ใชง้ านได้ เสยี
10. อปุ กรณท์ ่จี ำเป็ นในกำรขบั รถ
ตรวจเชค็ มฟี ิวลส์ ารอง มเี พยี งพอ ขาด
ตรวจเชค็ เขม็ วดั แรงดนั ถงั ดบั เพลงิ ปกติ ไม่ข้นึ
ตรวจเช็คเครอ่ื งมอื ประจารถ มี ไม่มี
(แมแ่ รง บอ๊ คขนั ลอ้ ไขควง ประแจ)
ตรวจเช็ค ป้ ายสามเหล่ียม หรือกรวยจราจร มี ไมม่ ี
สะทอ้ นแสง
11. เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ปฐมพยำบำล
ตรวจเช็คสภาพถงั ออกซเิ จน และหวั เกย์ สภาพดี บกพร่อง
ปรบั แรงดนั
ตรวจเช็ค ปรมิ าณกา๊ ซออกซเิ จน สภาพดี บกพรอ่ ง
ตรวจเช็คฐานตวั ลอ๊ คเปล สภาพดี บกพร่อง
ตรวจเช็คเครื่องดูดเสมหะ สภาพดี บกพรอ่ ง
ตรวจเชค็ Spinal สภาพดี บกพรอ่ ง
ตรวจเช็ค Board / Belt / Head สภาพดี บกพรอ่ ง
ตรวจเชค็ Immobilizer สภาพดี บกพร่อง
ตรวจเช็ค Stair Chair สภาพดี บกพร่อง
ตรวจเชค็ ปลก็ ไฟสารอง สภาพดี บกพร่อง
12. วสั ดใุ นกำรปฐมพยำบำลเบ้อื งตน้
140
Nสaถtioาnบaันl Iกnsาtiรtuแtพe fทorยEฉmกุerเgหฉenินนcyแ้ าMหทeง d่ีชic|าin1ตe0ิ 7
ลำดบั รำยกำรตรวจเชค็ ผลกำรตรวจเช็ค
ปกติ ไมป่ กติ ปรบั ปรงุ แกไ้ ข
ถงุ มอื M/L มเี พยี งพอ ขาด
หนา้ กากอนามยั Urinal/bedpan มเี พยี งพอ ขาด
แอลกอฮอล์ ลา้ งมอื มเี พยี งพอ ขาด
กระดาษทชิ ชู มเี พยี งพอ ขาด
ชามรูปไต มเี พยี งพอ ขาด
ถงุ ขยะแดง ขาว มเี พยี งพอ ขาด
นา้ ดืม่ และหลอดดูด มเี พยี งพอ ขาด
แอมบู และหนา้ กาก มเี พยี งพอ ขาด
อุปกรณ์ PPE มเี พยี งพอ ขาด
ชดุ ผปู้ ่วย มเี พยี งพอ ขาด
แผ่นรองซงั มเี พยี งพอ ขาด
แพมเพสิ M/L มเี พยี งพอ ขาด
ลอ็ ครถ เก็บกุญแจในทๆ่ี กาหนดไว้ นาเอกสารเกบ็ ใส่แฟ้ม และติดป้ายพรอ้ มใชห้ ลงั เสรจ็ ส้นิ การตรวจสอบ กรณีไมพ่ รอ้ มใชใ้ หต้ ิด
ป้ายไม่พรอ้ มใช้ และแจง้ หวั หนา้ เวรเพอ่ื ดาเนินการต่อใหพ้ รอ้ มใช้
ใบเช็ครถหลงั ใช้
คมู อื หลกั สตู ร 141
การขบั รถบรกิ ารการแพทยฉุกเฉนิ และรถพยาบาล
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหง ชาติ
National Institute for Emergency Medicine
บัรรณ�นิุกรม
รืายงานอบุ ุตั ิิเหติจุ รืาจรืทางหลัวงแผู้น่ ดินปี 2550. กรืมทางหลัวง [อินเทอรื์เน็ติ]. 2550
[เขำา้ ถง่ เมือ� 30 ก.คำ. 2557]. เขำา้ ถ่งไดจ้ าก: http://saraban.doh.go.th.
สาำ นักสาธารืณุสุขำฉุกเฉนิ กรืะทรืวงสาธารืณุสุขำ. หลัักสต่ ิรืฝึกึ อบุรืมพนักงานขำบั ุรืถพยาบุาลั Thai Emergency
Ambulance Driving Course (TEAm) ฉบุบั ุปรืบั ุปรืงุ คำรืงั� ที� 1. กรืงุ เทพฯ: สำานกั งานกจิ การืโรืงพมิ พส์ งเคำรืาะห์
องคำ์การืทหารืผู้า่ นศ่ก; 2557.
ศาสติรืาจารืยพ์ ลัติำารืวจโทหญงิ ดรื.นยั นา เกิดวชิ ัยั ขำอ้ กฎหมายเกีย� วกับุรืถฉกุ เฉนิ พรืะรืาชับุญั ญัติจิ รืาจรืทางบุก พ.ศ. ๒๕๒๒
เขำ้าถง่ ได้จาก: https://www.tgia.org/upload/file_group/9/download_1383.pdf
รืายงานสรืปุ ผู้ลัโคำรืงการือบุรืมเชัิงปฏิบิ ุตั ิิการืเพือ� พัฒนาศกั ยภาพผู้่้ขำบั ุรืถพยาบุาลัในรืะบุบุปฏิิบุตั ิิการืฉุกเฉนิ แลัะรืะบุบุ
สง่ ติอ่ ปี 2557. โรืงพยาบุาลัขำอนแก่น. 2557. (อัดสำาเนา)
เทคำนคิ ำการืขำับุรืถปลัอดภยั เชังิ ปอ้ งกนั อุบุตั ิิเหติุ. โรืงเรืยี นทกั ษะพพิ ัฒน.์ 2557. (อัดสำาเนา)
คำวามรืุนแรืงขำองอุบุัติเิ หติทุ เ�ี กีย� วขำอ้ งกบั ุคำวามเรื็ว. ศ่นยว์ จิ ยั อบุ ุตั ิเิ หติแุ หง่ ปรืะเทศไทย [อินเทอรืเ์ น็ติ]. 2550
[เขำ้าถง่ เมื�อ 2 ส.คำ. 2557]. เขำา้ ถง่ ได้จาก: http://www.tarc.ait.ac.th/th/speed.php.
รืายงานสรืุปสถติ ิกิ ารืเกิดอุบุัติิเหติขุ ำองรืถพยาบุาลั. สถาบุนั การืแพทยฉ์ ุกเฉนิ แห่งชัาติิ. 2557. (อัดสาำ เนา)
สาเหติุการืเกิดอุบุตั ิเิ หติุ. สำานักงานติำารืวจแหง่ ชัาติิ [อนิ เทอรื์เนต็ ิ]. 2549 [เขำา้ ถ่งเมอ�ื 2 ส.คำ. 2557].
เขำา้ ถง่ ได้จาก: http://www.tarc.ait.ac.th/th/speed.php.
ศาสติรืาจารืย์เกียรืติิคำุณุ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรืพิบุ่ลัย์. เหนอ�ื ยลัา้ อ่อนลัา้ ออ่ นเพลัยี (Fatigue)
แหลัง่ ทม�ี า http://haamor.com/th/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%
B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2/ สืบุคำน้ เม�อื 20 มถิ นุ ายน 2564
(Mackie, R.R. & Miller, J.C. (1978) Effects of hours of service, regularity of schedules and cargo loading
on truck and bus driver fatigue. DOT-HS-5-01142, Human Factors Research Inc )
Connor J, Whitlock G, Norton R, Jackson R. The role of driver sleepiness in car crashes: a systematic
review of epidemiological studies. Accid Anal Prev. 2001 Jan;33(1):31-41. doi: 10.1016/s0001-
4575(00)00013-0. PMID: 11189120.
Andrea Abbas MS.NRP. EMS Fatigue Mitigation and Safety แหลัง่ ที�มา. https://mcrh.msu.edu/programs/
EMS%20Faituge%20Mitigation%20and%20Safety%20BETP.pdf สืบุคำ้นเม�อื 02 มนี าคำม 2564
Dr Michelle Millar, Technical Officer (Human Performance), ICAO. Measuring Fatigue.2012.
แหลัง่ ทม�ี าhttps://www.icao.int/safety/fatiguemanagement/FRMSBangkok/4.%20Measuring%20
Fatigue.pdf. สบื ุคำ้นเมือ� 02 มีนาคำม 2564
Emergency Vehicle Operation Course (Ambulance) National Curricurum . 1995.
แหลั่งท�ีมา : https://www.ems.gov/pdf/education/Other/EVOC_Participant_Guide.pdf.
สืบุคำ้นเมอ�ื 02 มีนาคำม, 2564
142
สถาบนั การแพทยฉุกเฉินแหงชาติ
National Institute for Emergency Medicine
Platzer, G., "The Geometry of Automotive Rearview Mirrors - Why Blind Zones Exist and Strategies
to Overcome Them," SAE Technical Paper 950601, 1995,
แหลัง่ ทีม� า https://doi.org/10.4271/950601. สืบุคำ้นเมอ�ื 05 มนี าคำม 2564
Lights and Siren Use by Emergency Medical Services (EMS): Above All Do No Harm, U. S. Department
of Transportation National Highway Traffic Safety Administration Office of Emergency Medical
Services, page 45-50 (EMS) แหลั่งทม�ี าhttps://www.ems.gov/pdf/Lights_and_Sirens_Use_by_
EMS_May_2017.pdf. สืบุคำน้ เม�ือ 10 เมษายน 2564
EMS safety program guide National EMS SAFETY COUNCIL.2015.
แหลั่งทม�ี า http://www.naemt.org/docs/default-source/ems-health-and-safety-documents/
nemssc/ems-safety-program-guide-10-11-17.pdf?status=Temp&sfvrsn=0.13715842522823762.
สบื ุคำน้ เมื�อ 10 เมษายน 2564.
คูมอื หลกั สตู ร 143
การขับรถบริการการแพทยฉ กุ เฉินและรถพยาบาล