เนื้อหาในบทที่ 3 รวมทังหมด 12 ประเด็น ้ สําหรับท่านที่กําลังตัดสินใจ ที่จะจดเป็นบริษัท ห้างหุ้นส่วน
50 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล เพิ่งเริ่ มทําธุรกิจ ควรจดบริษัททันที หรือลองเปิดขายไปก่อน ประเด็นที่ 9 เรื่องนี้ไม่มีคําตอบตายตัว ว่ารูปแบบไหน จะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รูปแบบธุรกิจ การลงทุน ยอดรายได้ และความเข้าใจในเรื่องของการวางแผนภาษี เริ่ มต้นขาย Online หาสินค้าจากเว็บไซต์ขายของจากจีน สั่ งสินค้าเข้ามาทดลองมาโพสต์ขายใน Facebook TikTok ทําคลิปขายของ และมีการ live สดขาย จับประเด็น : จากกรณีนี้ เริ่ มต้นด้วยยอดเงินหลักพัน ไม่มีการลงทุนหนัก เคสนี้เหมาะกับการเริ่ มขายไปก่อน คิดจดบริษัทภายหลัง เพราะลงทุนน้อย รายได้ยังไม่สูงมาก มีเวลาวางแผนภาษี แต่อย่าลืม ... ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย เคสที่ 1 สรุป
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 51 ขาย Online ทุกช่องทาง ทั้ งโพสต์ขายสินค้าและ Live สด ในโซเชียลมีเดีย Facebook, IG, TikTok รวมถึงการขายผ่าน แพลตฟอร์มร้านค้าโดยเฉพาะ Shopee, Lazada ปีนี้ 2567 สรรพากรสามารถรู้รายได้จากการขายผ่าน Shopee, Lazada หากท่านที่ขายผ่านช่องทางนี้ ต้องวางแผนเรื่องภาษีให้ดี จับประเด็น : ร้านค้า Online ที่ขายทุกช่องทาง เดือนละหลักแสน หลักล้าน บางรายยอดรายได้มากกว่า 10 ล้านต่อปี นั่ นหมายความว่า รายได้มาก และมีการลงทุนที่มากขึ้น ผู้ประกอบการค้าขาย Online ที่ผ่านจุดตั้ งต้นเข้าสู่จุดเติบโต ควรเตรียมตัวยื่นภาษีให้ถูกต้อง ควรจดบริษัท เมื่อก่อนขายในแพลตฟอร์ม สรรพากรไม่รู้ ตอนนี้สรรพากรเห็นยอดรายได้ของเราแล้ว จะขายแล้วเก็บกําไรไว้ใช้เงียบๆ คงจะไม่ได้ “ “ หมดยุค ขาย Online กําไรก้อนโต เพราะคู่แข่งมากขึ้น และสรรพากรตรวจจับได้ง่ายขึ้น เคสที่ 2 สรุป
52 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล “ “ ทําถูกวิธี แต่ผิดเวลา ก็ไม่ได้ผล จดบริษัทให้ทันเวลา จะประหยัดภาษี ลงทุนทําร้านอาหารชาบู 30 โต๊ะ มีการก่อสร้าง ตกแต่งร้าน ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท ใช้เงินตนเอง ในการลงทุน กิจการแบบนี้ถือว่าเป็นการลงทุนระดับกลาง จับประเด็น : การที่ลงทุนไป 5 ล้านบาท เจ้าของควรคิดให้รอบคอบ เงินที่เราจ่ายไป จริงๆแล้วหลายแหล่งมีใบเสร็จ/ใบกํากับ ถ้าเราตัดสินใจเก็บเอกสาร บันทึกการลงทุนเป็นสินทรัพย์ เก็บภาษีซื้อ เพื่อนํามาประหยัดภาษีมูลค่าเพิ่ ม ในอนาคต หลายร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านทําผม สปา ร้านนวด หน้าร้านขายของ ที่ต้องก่อสร้าง ตกแต่ง ซื้ออุปกรณ์ และอื่นๆ ด้วยยอดเงินหลายล้านบาท ควรจดเป็นบริษัททันทีเมื่อตัดสินใจทําธุรกิจ เราจะเก็บทุกยอดลงทุน นํามาเป็นเครื่องมือ ในการประหยัดภาษีในอนาคตได้ดีมากๆ เคสที่ 3 สรุป
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 53 คํานี้ทําให้คนเสียภาษีมากเกินไป มาหลายเคสแล้ว "ลองทําไปก่อน ถ้าขายดี ค่อยเปิดบริษัทที่หลัง" ทําในสิ่ งที่ถูก แต่ผิดเวลา เสียประโยชน์ทางภาษีมาก รายการภาษีหลายอย่าง ไม่สามารถบันทึกย้อนหลังได้ ภาษีซื้อที่เคยเกิดขึ้นตอนก่อสร้าง ตกแต่ง ซื้ออุปกรณ์ ไม่สามารถใช้ย้อนหลังได้ รวมถึงรายการทรัพย์สินต่างๆ จะถูกบันทึกเข้าบริษัทด้วยมูลค่า เป็นทรัพย์สินมือสอง จึงทําให้มูลค่าการลงทุนของบริษัทจะแสดงด้วยยอดที่ ไม่สะท้อนความเป็นจริง ไม่สามารถใช้ภาษีซื้อจากใบกํากับตอนเริ่ มต้นได้ มูลค่าสินทรัพย์จะถูกบันทึกในราคาที่ต�าไป ค่าเสื่อมราคาจากสินทรัพย์จะถูกบันทึกต�าไป ลงทุนหลักหลายล้าน คงไม่ได้ทําแค่เล่นๆ หรือลองทํา ลงทุนขนาดนี้ นั่ นคือความท้าทายที่ต้องเดินหน้าเต็มที่ ไม่เหมือนจากเคสที่ 1 ก่อนหน้านี้ หากเป็นแบบนั้ นคือ ของจริงที่บอกว่า "ลองทําเล่นๆ ดูก่อน ว่ารอดไหม" แต่ถ้าลงทุนหลักล้าน ไม่ได้ใช้คําว่าเล่นๆ ได้แล้ว "วางแผนภาษีล่วงหน้า ใช้สิทธิ์ ทางภาษีให้คุ้มค่า" แต่บางราย ติดที่หลักคิดที่ว่า ไม่อยากยุ่งยาก ตอนเปิด "ลองทําไปก่อน ถ้าขายดี ค่อยเปิดบริษัท" ไม่สามารถใช้ภาษีซื้อจากใบกํากับตอนเริ่ มต้นได้ มูลค่าสินทรัพย์จะถูกบันทึกในราคาที่ต�าไป ค่าเสื่อมราคาจากสินทรัพย์จะถูกบันทึกต�าไป
54 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 10 รายได้เท่าไหร่ ถึงต้องจดบริษัท เป็นคําถาม ที่ถามมามากที่สุดก็ว่าได้ เพราะหลายกิจการเปิดไปแล้ว ทําไปก่อน พอมีรายได้มากขึ้น และกังวลเรื่องภาษี ก็จะเปิดบริษัท สําหรับคําถามนี้ขอเล่าเป็นเรื่อง และยกเคสตัวอย่างดังนี้ ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่ได้วางแผนภาษีมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกิจการที่ต้องลงทุนเป็นมูลค่าสูง ทั้ งเงินตนเอง และการร่วมหุ้นกับนักลงทุนคนอื่นๆ เพราะเมื่อเริ่ มกิจการ มีการซื้อสินค้า ซื้อสินทรัพย์ การก่อสร้างอาคาร โรงงาน หากเป็นกิจการที่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ ม ควรจดเลยทันที เพื่อเก็บภาษีซื้อเป็นเครดิตเพื่อใช้ในอนาคต ซื้อสินค้า ซื้อสินทรัพย์ สร้างอาคาร สร้างโรงงาน เคสที่ 1 : จดบริษัทตั้งแต่ยังไม่มีรายได้
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 55 หากลงทุนกับผู้อื่น การลงทุนจะใช้เงินจํานวนมาก ซื้อสินค้า สร้างอาคาร ควรจดบริษัทตั้ งแต่แรก เพราะเป็นส่วนหนึ่ ง ในการวางแผนภาษีระยะยาว นั่ นหมายความว่า ไม่มีตัวเลขตายตัว ที่กําหนดว่า รายได้เท่าไหร่ถึงต้องจดบริษัท บางคนไม่มีรายได้ก็จด บางคนมีรายได้เกิน 10 ล้านบาท แล้วถึงจะเริ่ มมาจด จดเมื่อมีรายได้มาก และไม่อยากเสียภาษีบุคคล บางกิจการ ขายไปเรื่อยๆ แล้วสรรพากรมาทักว่า “ขายดีแบบนี้จดบริษัทได้แล้ว” ก็เริ่ มศึกษาและเริ่ มไปจดเป็นบริษัท บางกิจการ มีรายได้เกิน 5 ล้านบาท ยื่นภาษีบุคคลธรรมดา ปรากฏว่าต้องเสียภาษี สูงถึง 150,000 บาท ซึ่ งถือว่าเยอะมาก ถ้าหากเป็นบริษัท รายได้ 5 ล้านบาท ถือว่าเป็น SME จะได้การยกเว้นภาษีจากกําไร 3 แสนบาทแรก จะส่งผลให้ ไม่ต้องมีการเสียภาษีเงินได้ปลายปี ซึ่ งก็ต้องแลกมากับ ค่าทําบัญชีปีละ 5-6 หมื่นบาท เมื่อคํานวณโดยรวมแล้ว ก็ยังต�ากว่าเสียภาษีบุคคลธรรมดา มีรายได้เกิน 5 ล้านบาท ยื่นภาษีบุคคลธรรมดา ปรากฏว่าต้องเสียภาษี สูงถึง 150,000 บาท ซึ่ งถือว่าเยอะมาก สรุป เคสที่ 2 : จดบริษัทเมื่อมีรายได้มาก
56 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล จดบริษัท 2 คน VS จดห้างหุ้นส่วน 2 คน จดแบบไหนดีกว่ากัน ประเด็นที่ 11 ประกาศกฎหมายใหม่มีผลตั้ งแต่ 7 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป สามารถจดบริษัท 2 คนได้แล้ว ทําให้เริ่ มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องหาคนมาถือหุ้นให้ครบ 3 คน หรือ 7 คน แบบเมื่อก่อน จดบริษัท ดีกว่า ห้างหุ้นส่วน เพราะ... บริษัทจํากัด จะจํากัดจํานวนความรับผิดชอบเท่าทุนจดทะเบียน หุ้นส่วนแต่ละคน ถือหุ้นเท่าไหร่ ก็รับผิดชอบเท่านั้ น ห้างหุ้นส่วนจํากัด 1 ใน 2 คน ต้องมี 1 คนรับผิดชอบแบบ ไม่จํากัดจํานวน เรียกว่าหุ้นส่วนผู้จัดการ กรณีรับผิดชอบต่อหนี้สิน จะเป็นหนี้สินทางการค้า เช่นไปซื้อของ แล้วขอเครดิต จ่ายทีหลัง หากหนี้ก้อนนี้ชําระไม่ได้ ก็จะรับผิดชอบ เท่าทุนจดทะเบียน แบ่งตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น กรณีที่เป็นหนี้สินกับธนาคาร จะพิจารณาในการกู้เงินกับธนาคาร ต้องมีหลักทรัพย์ค�าประกัน มูลค่าต้องมากกว่าเงินกู้และตัวผู้ถือหุ้น ต้องเข้าไปเซ็นค�าประกัน แม้เงินกู้จะมากกว่าทุนจดทะเบียนก็ต้อง รับผิดชอบเงินกู้ตามสัญญา อัตราภาษีเท่ากัน บริษัท กับ ห้างหุ้นส่วน ไม่มีอะไรต่าง 1 2 3 4 5 + = นาย ก. นาง ข. บริษัท กข จํากัด
ถ้าทําธุรกิจเล็กๆ แถวบ้าน ทําในนาม “บุคคล” จะคล่องตัว ถ้าทําธุรกิจ Online เติบโตต่อเนือง่ ทําในนาม “บริษัท” จะดีกว่า ถ้าทําธุรกิจ ร่วมลงทุนกับคนอืนๆ่ ทําในนาม “บริษัท” จะดีกว่า วางรูปแบบธุรกิจ ให้เหมาะกับกิจการ เหลือกรูปแบบถูกต้อง จะประหยัดภาษี
58 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ทุนจดทะเบียนบริษัท ควรเท่าไหร่ ประเด็นที่ 12 1 2 3 4 5 ทุนจดทะเบียนบริษัท ต�าสุดที่ประเทศไทยรับได้ คือ 10 บาท จดบริษัทมีผู้ถือหุ้นน้อยสุดที่ 2 คน ลงทุนน้อยสุดคนละ 5 บาท ไม่จําเป็นต้องจด 1 ล้านบาท เหมือนที่เคยเข้าใจมาในอดีต ถ้าลงทุนจริง 3 แสนบาท ก็จด 3 แสนบาท เท่านั้ นพอ ครูอัสจดบริษัทใหม่ในปลายปี 2566 ที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 50,000 บาท ตัวเลขนี้เกิดจาก ลงเงินเท่านี้จริงๆ เป็นธุรกิจบริการ ใช้แรงเป็นทุน ไม่ต้องลงเงินก้อนใหญ่อะไรเยอะ เพื่อทดสอบว่า หากทําธุรกิจด้วยทุนเท่านี้จริง จะเป็นอย่างไร บริษัทไม่มีแผนในการกู้เงิน ดังนั้ นจึงไม่ต้องมีเงินทุนที่มาก และบริษัทไม่มีแผนซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อ ดังนั้ นทุนจดทะเบียน ไม่ต้องมาก เริ่ มธุรกิจด้วยเงินเท่านี้จริงๆก็จด 50,000 บาท ตอนจดบริษัท เราแจ้งว่ามีการชําระค่าหุ้น 100% เป็นเงินสด ซึ่ งในเงิน 50,000 บาท มีค่าธรรมเนียมการจดบริษัทที่ต้องจ่าย ให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 3,285 บาท เหลือ 4 หมื่นกว่าบาท เอาไว้หมุนจ่ายค่าโฆษณา และอื่นๆ บริษัทตั้ งไว้สําหรับรับงานบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษาธุรกิจร้านอาหาร ที่ปรึกษาวางระบบ และการตลาด ครูอัสทําร้านอาหารเกือบ 10 ปี พอเราทํามานานก็เริ่ มมีคนสอบถามและขอคําปรึกษา จึงรับรายได้ ในนามบริษัทดีกว่าในนามบุคคล ยอดลงทุน 50,000
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 59 6 7 8 ใช้อุปกรณ์ของเจ้าของทั้ งหมด ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ เครื่องปริ้ น ไม่ต้องซื้อ ถ้าจะซื้อใหม่ ซื้อในนามบริษัท ไม่มีการจ้างพนักงาน เพราะหุ้นส่วนทํากันเอง ไม่จ้างคนงาน ไม่ต้องขึ้นประกันสังคม ยังไม่จดภาษีมูลค่าเพิ่ ม (VAT) จนกว่ารายได้ในปีจะใกล้ถึง 1.8 ล้านบาท เพราะรายได้ประเภทของเราไม่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ ม ถ้าถึง 1.8 ล้านบาท ต้องจด VAT ประมาณการว่าหากรายได้ ถึง 1.7 ล้านบาท จะรีบดําเนินการจด VAT ทันที แม้ครูอัสเอง จะเป็นนักบัญชี แต่เราก็ยังต้องจ้างนักบัญชีทํา และผู้สอบบัญชีเป็นผู้ตรวจ ยังคงต้องทําตามกฎหมายกําหนด เจ้าของเป็นนักบัญชี เซ็นเป็นผู้ทํางบการเงินตนเองไม่ได้ ทุนบริษัทต�าสุดคือ 10 บาท ที่กฎหมายกําหนด ปัจจุบันในทุกๆเดือนจะมีคนจดบริษัทด้วยทุนต�าสุดคือ 1,000 บาท ถ้าคุณมีแผนต้องกู้เงิน และขอซื้อแบบเครดิต ต้องมีทุนจดทะเบียน ที่น่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะเริ่ มที่ 1 ล้านบาท ทุนจดทะเบียนสามารถเปลี่ยนแปลง เพิ่ ม-ลด ได้ เงินสดไม่ต้องมีเท่าเงินทุนจดทะเบียน กฏหมายให้ เรียกชําระที่ขั้ นต�า 25% ถ้าไม่วางแผนให้ดี จดทะเบียน 1 ล้านบาท ทําชําระค่าหุ้น ครบ 100% แต่ไม่มีเงินเข้าเลย สุดท้ายก็ต้องไปจัดแต่ง บัญชีเป็นเงินทุนที่ชําระมาแล้ว กรรมการกู้ยืมออกไป กลายเป็นลูกหนี้กรรมการ สรุป
60 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ใช้บ้านจดหลายบริษัท จะเป็นปัญหาหรือไม่ ประเด็นที่ 13 1 2 บ้าน 1 หลัง สามารถจดได้หลายบริษัท ไม่มีกฎหมายห้ามไว้ ไม่ว่าคุณจะใช้บ้านของตัวเอง บ้านของหุ้นส่วน บ้านเช่า อาคารพาณิชย์เช่า หรืออาคารสํานักงานเช่า ก็สามารถจด ได้มากกว่า 1 บริษัท ค่าเช่าบ้านตัวเองสามารถคิดได้ ต้องเหมาะสมใกล้เคียง กับราคาตลาด ถ้าแถวนั้ นเช่ากันอยู่หลังละ 20,000 บาท เราก็ตั้ งให้ใกล้เคียง บางที่สูงกว่าได้ ค่าเช่า 30,000 บาท เพราะรวมการตกแต่ง แอร์ ต่างๆ ครบมากกว่าบ้านเปล่า การแบ่งค่าเช่า ทําได้หลายแบบ เช่น แบ่งตามพื้นที่ใครใช้มากใช้น้อย แบ่งกันไป แต่ถ้าจะให้บริษัทที่มีรายได้เยอะจ่าย 30,000 บาท และบริษัทเล็กที่เพิ่ งจด ยังไม่ค่อยมีรายได้ ให้อยู่ฟรีก็สามารถทําได้ แค่เพียงเจ้าของต้องเซ็นยินยอมให้ใช้สถานที่ จดหลายบริษัท ในที่อยู่เดียวกัน บริษัท ก บริษัท ข บริษัท ค คําถาม : ถ้าจดหลายบริษัท จะคิดค่าเช่าอย่างไร ขอตอบว่า : ต้องเหมาะสม ตัวอย่างเช่น : เราคิดค่าเช่าหลังละ 30,000 บาท จด 2 บริษัท ก็จะคิด ค่าเช่าบริษัทละ 30,000 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท ไม่ได้ เพราะไม่เหมาะสม
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 61 3 4 5 ถ้าเช่าอาคารพาณิชย์ หรืออาคารสํานักงานแต่ละสถานที่มีข้อจํากัด โดย 1 ห้อง สามารถจดได้กี่บริษัท ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถานที่ ปกติเวลาทําสัญญาเช่า จะทําได้เพียง 1 องค์กร กับค่าเช่าที่ตกลงกัน และอีกบริษัทที่มาจดเพิ่ มต้องเซ็นยินยอมให้ใช้สถานที่แบบไม่มีค่าเช่า ค่าไฟ สรุปออกมาเป็น 3 วิธี คือ 4.1 เปลี่ยนชื่อหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นชื่อบริษัท 4.2 ทําหนังสือถึงการไฟฟ้า ว่าบริษัทขอเป็นผู้ชําระแทน แต่หม้อแปรงไฟ และบิลใบเสร็จยังเป็นชื่อบุคคลเจ้าของบ้าน เพียงแค่ในใบเสร็จมีแจ้งว่า บริษัทเป็นผู้ชําระ 4.3 หาแนวทางร่วมกับสํานักงานบัญชี ว่าบันทึกค่าไฟได้แค่ไหน เพราะต้องดูว่า มีการพักอาศัยส่วนตัวอยู่ที่อาคารนั้ นหรือไม่ ถ้ามีการพักอาศัย ร่วมกับสถานประกอบการ ต้องทําการเฉลี่ยค่าไฟ ค่าไฟ 3,000 บาท แบ่งตามสัดส่วนการใช้งานตามพื้นที่อาคาร กิจการใช้งานพื้นที่ชั้ น 1 - 2 และเจ้าของอาศัยอยู่ชั้ นที่ 3 ภาษีซื้อในค่าไฟ หากเป็นชื่อของบริษัท ข้อมูลใบกํากับถูกต้อง สามารถใช้ภาษีซื้อได้ แต่ถ้าบิลค่าไฟเป็นชื่อเจ้าของบ้าน แม้ว่า จะไม่มีการอาศัยในอาคารเลย ทั้ งอาคารจัดทําเป็นสํานักงาน ก็ใช้ภาษีซื้อไม่ได้ เพราะไม่ใช่ชื่อบริษัท ค่าไฟ 3,000 บาท ชั้น 3 เจ้าของอยู่อาศัย คํานวณแบ่งตามพื้นที่ 3,000 x 1 = 1,000 3 ชั้น 1 และ 2 เป็นบริษัท คํานวณแบ่งตามพื้นที่ 3,000 x 2 = 2,000 3 ตัวอย่าง
62 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 14 เมื่อเปิดบริษัท ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง 1 2 3 4 เปิดบัญชีธนาคาร เตรียมเอกสารให้พร้อม ทั้ งหลักฐานในการจดจัดตั้ ง รายงานการประชุม ว่าเราจะเปิดธนาคารอะไร สาขาไหน มีระบบ Online ไหม OTP เข้าเบอร์ไหน มี SMS แจ้งเตือนไหม เตรียมให้พร้อม ควรต้องรีบทํา เพราะในบางครั้ งการจ่ายเงิน ที่ไม่มีใบเสร็จ ใช้หลักฐานการโอนเงินจากบัญชีธนาคารบริษัทได้ ออกแบบเอกสาร ด้านรายได้ รายได้บริษัท ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ใบลดหนี้ ใบเพิ่ มหนี้ ใบรับเงินมัดจํา ใบกํากับภาษี ฯลฯ เราต้องเลือกเครื่องมือไม่ว่าจะเป็น Excel เพื่อออกเอกสาร หรือโปรแกรมต่างๆ ที่มาเป็นเครื่องมือให้เรา ออกแบบการจ่าย ให้เป็นระบบ การตั้ งระบบเงินสดย่อย เรียนรู้เรื่องการเบิก การเก็บเอกสาร การตั้ งระบบการจ่าย กิจการจะจ่ายด้วยระบบเช็ค โอนเงินผ่าน App ธนาคารของบริษัท แบบไหน และจะจ่ายทุกวันที่เท่าไหร่ มีการตรวจเอกสารก่อน เบิกจ่ายไหม เรียนรู้เรื่องระบบประกันสังคม เปิดกิจการ ก็จะตามมาด้วยการมีพนักงาน ต้องมีการเรียนรู้ อะไรที่ต้องทําเมื่อเราขึ้นทะเบียนนายจ้าง คิดเงินเดือนอย่างไร หักประกันสังคมอย่างไร เบี้ยขยัน เงินพิเศษ ค่าคอม และภาษี หัก ณ ที่จ่าย ฯลฯ BANK $
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 63 5 เรียนรู้เรื่องการทํา หัก ณ ที่จ่าย เมื่อเราจดเป็นนิติบุคคลแล้ว เวลาจ่ายค่าบริการ กฎหมายภาษี ฝากให้เรากระทําการแทน โดยการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามอัตรา ที่กําหนดและนําภาษีนั้ น ส่งกรมสรรพากร กิจการต้องเรียนรู้ การทําหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย และการเลือกอัตราภาษีว่า จะหักที่อัตราภาษีเท่าไหร่ ในแต่ละค่าบริการ 6 เรียนรู้ด้าน ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการที่สรรพากรกําหนดไว้ ถ้ารายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ ม ต้องเรียนรู้ ราคารวม VAT ออกใบกํากับภาษีขาย เก็บใบกํากับภาษีซื้อ เข้าใจเรื่องระบบ VAT โดยเฉพาะภาษีซื้อต้องห้าม นั่ นหมายถึง เราจ่ายค่าใช้จ่ายได้ใบกํากับมาแต่ใช้ภาษีซื้อไม่ได้ และต้องฝึกทําใจยอมรับเวลาเรานําส่งภาษี 7 เรียนรู้การวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีนี้จะคิดจากกําไรปลายปี ถ้าเป็น SME กําไร 300,000 บาท ไม่เสียภาษี ส่วนที่เกิน 300,000 บาท เสีย 15% แต่อัตราปกติ กิจการที่ไม่ใช่ SME จะเสียอยู่ที่ 20% เรื่องนี้ต้องวางแผนว่า ปลายปีมีกําไรเท่าไหร่ จะเสียภาษีอย่างไร 8 เรียนรู้ภาษีอื่นๆ ภาษี มีหลายรายการที่สรรพากรเก็บ และมีส่วนงานอื่นๆ เรียกเก็บ เช่น อากรแสตมป์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีป้าย ภาษีที่ดินและสิ่ งปลูกสร้าง มีอีกเยอะที่เวลาทําธุรกิจเราจะมีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง “ หากท่านเริ่ มทําธุรกิจ และเปิดบริษัท จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ งานเอกสาร งานภาษีทําให้ถูกต้อง เพราะถ้าผิดพลาดมาแล้ว คงต้องใช้เงินพอสมควร ในการแก้ไข ”
64 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 15 จดบริษัท แล้วต้องทํางานด้านบัญชี อะไรบ้าง นี่คือ 29 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนจดบริษัท เพราะเมื่อเปลี่ยนธุรกิจเป็นนิติบุคคล การทําการค้าจะต้องมีนักบัญชีจดบันทึก ซึ่ งสื่อกลางในการบันทึกบัญชี คือ เอกสาร ดังนั้ น งานระบบ งานเอกสารต่างๆ จําเป็นต้องทํา ออกบิลใบเสร็จทุกครั้ งที่รับเงิน จด VAT เมื่อมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ออกใบกํากับภาษี เมื่อกิจการเรา จด VAT ทํารายงานการประชุมเมื่อเปิดบัญชีธนาคาร เบิกถอนเงินธนาคาร กรรมการต้องเซ็น ทําหัก ณ ที่จ่ายทุกครั้ งที่จ่ายค่าบริการ ขึ้นทะเบียนนายจ้าง ทําประกันสังคม คํานวณเงินเดือนพนักงาน นําส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายในเดือนที่มีรายการ นําส่งภาษีมูลค่าเพิ่ มทุกเดือน เอกสารสําคัญของบริษัท กรรมการต้องเซ็นเอง ธุรกรรมต่างๆ ถ้าไปเองไม่ได้ต้องมอบอํานาจ มีตราประทับบริษัทติดตัวเสมอ เผื่อถอนเงิน หรือทําหัก ณ ที่จ่าย ออกเอกสารการขาย ให้ถูกต้อง ใบเสนอราคา ใบวางบิล ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ใบกํากับภาษี บันทึกรายได้ให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี แม้ยังไม่ได้รับเงิน ค่าสินค้าก็ต้องรับรู้รายได้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 65 ติดตามทวงถามเงินจากลูกค้า และบันทึกตัดบัญชีลูกหนี้ให้ถูกต้อง รับรายได้ ควรผ่านบัญชีบริษัทเท่านั้ น ไม่ควรผ่านบัญชีเจ้าของ หากซื้อสินค้า หรือจ่ายค่าใช้จ่ายต้องมีบิลหลักฐานให้ครบ และข้อมูลถูกต้อง หากจ่ายค่าใช้จ่าย แล้วไม่มีบิลหลักฐาน ต้องกลับมาเขียน เอกสารใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน การจ่ายเงินค่าสินค้า หรือบริการต่างๆ ควรจ่ายจากบัญชีบริษัท หากมีการซื้อขายสินค้า ควรต้องบันทึกการเคลื่อนไหว ของสินค้าคงเหลือเสมอ จ้างนักบัญชียื่นภาษีรายเดือน จ้างนักบัญชีทํางบการเงินส่งภาครัฐ ประจําปี จ้างผู้สอบบัญชีตรวจสอบงบประจําปี ต้องประสานงาน กับสํานักงานบัญชีสม�าเสมอและส่งเอกสาร ให้ทันต่อการทําภาษี หากกิจการติดป้ายหน้าร้าน เตรียมเงินจ่ายภาษีป้าย เตรียมเงินจ่ายภาษีอื่นๆ เช่น อากรแสตมป์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ ในทุกปี จะต้องเตรียมเงินจ่ายภาษีที่ดินและสิ่ งปลูกสร้าง ต้องเตรียมเงินจ่ายภาษีรายเดือน และประกันสังคม 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 เมื่อทําธุรกิจ ย่อมต้องมีเรื่อง ภาษี เมื่อทําธุรกิจ ย่อมหนีไม่พ้น งานเอกสาร “ “
66 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 16 แยกเงินบริษัทออกจาก บัญชีส่วนตัวให้ชัดเจน 1 2 3 เมื่อคุณจดบริษัท คุณจะมีหน่วยธุรกิจเพิ่ มขึ้นใหม่ และจะมี เลขประจําตัวผู้เสียภาษีใหม่ นั่ นหมายความว่าหลังจากนี้ รายได้และเงินจะเป็นของบริษัท ไม่ใช่ของเจ้าของโดยตรง คุณต้องทําใจยอมรับเรื่องนี้ก่อน กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน เมื่อจดนิติบุคคล บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ต้องมีการจัดทําบัญชี ส่งสรรพากรและกระทรวงพาณิชย์ ต้องจ้าง นักบัญชี เซ็นทําและผู้สอบบัญชีเซ็นตรวจ จะต้องมีการจัดทํางาน เอกสาร ทํา Stock ต้องมีพนักงานแอดมิน หรือพนักงานบัญชี ประจําออฟฟิศคอยจัดการงานเอกสาร การเงิน ต้องแยกให้ชัดเจน รายได้ทั้ งหมดเป็นของบริษัท ถ้าเจ้าของจะใช้เงินส่วนตัว ต้องมาตั้ งเบิกกับบริษัท และอธิบายให้ได้ว่านี่คือการเบิกค่าอะไร เงินเดือน ค่าที่ปรึกษา ค่าเช่า ผลตอบแทนกรรมการตามนโยบาย หากเจ้าของจําเป็น ต้องใช้เงินรายเดือน ควรวางแผนผลตอบแทนจากบริษัทให้ดี มีรายได้ = ก็ต้องออกเอกสาร มีรายจ่าย = ก็ต้องเก็บเอกสาร
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 67 4 การทําธุรกิจ เน้นยอดขายให้โต วางระบบหลังบ้านให้ดี “ “ หากเจ้าของถอนเงินออกมาใช้ส่วนตัว แบบไม่วางแผน ไม่ผ่านระบบภาษีที่ถูกต้อง แน่นอนว่า สามารถทําได้ แต่ทางบัญชีจะบันทึกดังนี้ Dr. ลูกหนี้กรรมการ Cr. เงินสด/เงินฝากธนาคาร อ่านว่า มีการถอนเงินออกจากบริษัท เพราะว่าเจ้าของ ยืมเงิน เจ้าของจึงอยู่ในสถานะลูกหนี้กรรมการ ผลเสียคือ : ลูกหนี้กรรมการ ถ้ายอดเริ่ มมากขึ้น จะเป็นที่สังเกต ของสรรพากรว่าเจ้าของกิจการดึงออกไปแบบไม่ผ่าน ระบบภาษี อาจจะถูกประเมินภาษีย้อนหลังได้ ลูกหนี้กรรมการ เกิดเพราะบริษัทให้ยืมเงิน ดังนั้ น บริษัทจึงควรคิดดอกเบี้ย เมื่อบริษัทมีดอกเบี้ยก็ต้อง เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องมีการนําส่งภาษี 3.3% จากดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากกรรมการ
68 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 17 บริษัทเปิดง่าย แต่ปิดยาก และจ่ายแพง 1 2 3 เคลียร์ยอดค้าง ขายทรัพย์ออก การ "เปิด" บริษัทใช้เงินประมาณ 15,000 บาท ก็มากพอที่จะใช้ จดจัดตั้ งเองได้ และจ่ายค่าธรรมเนียมให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประมาณ 7,000 บาท แต่ถ้าจ้างสํานักงานบัญชี และเริ่ มต้นที่ 8,000 - 15,000 บาท ปกติใช้เวลา 3-7 วัน ทําการ การปิดบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน มีการดําเนินการหลายขั้ นตอน ยื่นเรื่องแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ และทําชําระบัญชี “ชําระบัญชี = เคลียร์ยอดที่ค้างในงบการเงินของบริษัท” มีเจ้าหนี้ ลูกหนี้ไหม --> ก็ต้องเคลียร์ชําระให้จบ มีสินค้าไหม --> ต้องขายออก ราคาถูกหน่อยก็ได้ เพื่อดึงเงินเข้าบริษัท มีสินทรัพย์ไหม รถ เครื่องจักร เครื่องใช้สํานักงาน ถ้ามี --> ขายออก จากข้อ 2 คุณจะเห็นว่าต้องมีการขายสินค้า สินทรัพย์ออก และนี้คือ จุดหนึ่ งที่ทําให้การปิดบัญชี ใช้เงินมาก! เพราะบางครั้ งไม่ได้ขายจริง แค่ตัดออกทําเหมือนขาย และในการขายของเหล่านี้ มีภาษีขาย 7% ถ้ามีสินค้ามูลค่า 1 ล้านบาท ยอมขายเท่าต้นทุน อาจจะมีภาษีขาย 7% = 70,000 บาท ถ้ามีเครื่องใช้สํานักงาน/เครื่องจักร ขายในราคา 2 ล้านบาท มีภาษีขาย 7% = 140,000 บาท สรุป ต้องนําเงินชําระภาษีมูลค่าเพิ่ ม 210,000 (70,000+140,000)
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 69 4 5 มีกําไรสะสมไหม ถ้าเปิดบริษัทมานานและมีกําไรสะสมก็ต้องชําระ เงินออก โดยการจ่ายเงินปันผลต้องนําส่งหัก ณ ที่จ่าย 10% มีกําไรสะสม 5 ล้านบาท ต้องจ่ายเงินปันผล และนําส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย จํานวน 5 แสนบาท ถ้าบริษัทมีเงิน ต้องนําเงินจ่ายปันผล และนําส่งหัก ณ ที่จ่าย 10% ถ้าบริษัทไม่มีเงิน...ให้ปรึกษาสํานักงานบัญชี เพื่อหาทางออก ค่าบริการปิดบริษัท ชําระบัญชี สํานักงานบัญชีจะคิดค่าบริการ โดยประมาณ 18,000 - 50,000 บาท แล้วแต่ขนาดของกิจการ และภาระรายการต่างๆ “จากข้อ 3 และ ข้อ 4 จะเห็นว่า การใช้เงินเพื่อเคลียร์ตัวเลข จะทําให้ใช้เงินในปริมาณที่สูง” การปิดบริษัท ต้องเตรียมเงินไว้พอสมควร ต้องตรวจรายการบัญชีต่างๆ ในงบบริษัท ว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่ต้องตัดจําหน่าย ไล่ลําดับคืนดังนี้ เมื่อขายทรัพย์แล้วให้นําเงินไปชําระเจ้าหนี้ก่อน การขายทรัพย์สิน ถ้าไม่ได้ขายออกจริง ไม่ได้เงินจริง แต่ต้องนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่ มจริง ยอดกําไรสะสม หากก้อนใหญ่ จะต้องใช้เงินในการนําส่งภาษีสูงเช่นกัน ตัวอย่าง สรุป การปิดบริษัท ต้องเตรียมเงินไว้พอสมควร ต้องตรวจรายการบัญชีต่างๆ ในงบบริษัท ไล่ลําดับคืนดังนี้ เมื่อขายทรัพย์แล้วให้นําเงินไปชําระเจ้าหนี้ก่อน การขายทรัพย์สิน ถ้าไม่ได้ขายออกจริง ไม่ได้เงินจริง ยอดกําไรสะสม หากก้อนใหญ่
70 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 18 จดบริษัท ห้างหุ้นส่วน แล้วเสียภาษีน้อยกว่าบุคคล จริงหรือไม่ 1 2 อัตราภาษีเงินได้ของ บุคคลธรรมดาเป็นขั้ นบันได รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ลดหย่อย = เงินได้สุทธิ การคํานวณจะนําเงินได้สุทธิไปคํานวณภาษี คือ อัตราภาษีเงินได้ของนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบริษัท/ห้างหุ้นส่วน วิธีคิด คือ รายได้ - ต้นทุน - ค่าใช้จ่าย = กําไรก่อนภาษี การนํากําไรไปคํานวณภาษีตามที่สรรพากรกําหนด เงินได้สุทธิ (บาท) 1 - 150,000 150,001 - 300,000 300,001 - 500,000 500,001 - 750,000 750,001 - 1,000,000 1,000,001 - 2,000,000 2,000,001 - 5,000,000 5,000,001 ขึ้นไป ยกเว้น 5% 10% 15% 20% 25% 30% 35% - 7,500 20,000 37,500 50,000 250,000 900,000 - อัตราภาษี เสียภาษีสูงสุด อัตรา ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท รายได้ตลอดทั้ งปีไม่เกิน 30 ล้านบาท กําไร 300,000 บาทแรก ไม่เสียภาษี 300,001 - 3,000,000 เสียภาษี 15% กําไรส่วนที่เกิน 3,000,001 เสียภาษี 20% เสียภาษีในอัตรา 20% จากกําไร SME Non SME
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 71 4 3 5 หากทําในรูปแบบของบุคคล ทางภาษีจะใช้หลักเกณฑ์เงินสด ยึดทุกอย่างด้วยระบบการรับรู้เงินสด การรับเงินจะเป็นรายได้ การจ่ายเงินจะเป็นค่าใช้จ่าย ด้วยระบบที่รับรู้แบบ Cash Basis ถ้าเป็นบริษัทจะบันทึกบัญชี ด้วยเกณฑ์คงค้าง Accrual Basis เป็นหลักการจัดทําบัญชี ที่เป็นมาตรฐานที่นักบัญชีทั่ วโลกใช้ เช่น บางรายจ่ายที่ยังไม่ได้จ่าย สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้ ลงทุนในสินทรัพย์ นํามาตัดเป็นค่าใช้จ่ายเรียกว่าค่าเสื่อมราคา รายจ่ายนี้ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีการจ่ายเป็นเงินสดในปีนั้ นๆ บางคนคิดว่า จดบริษัทต้องเสียค่าจ้างทําบัญชี ค่าสอบบัญชี เราเป็นกิจการเล็กๆ ต้องเสียค่าทําบัญชีต่อปีเป็นแสน ไม่คุ้ม ให้คุณอ่านข้อ 2 ได้ยกเว้นกําไร 300,000 บาทแรก ไม่คิดภาษี สําหรับธุรกิจ SME เพื่อช่วยเหลือเรื่องของค่าใช้จ่าย ซึ่ งมากกว่า ค่าจ้างสํานักงานบัญชี ตลอดทั้ งปี ถ้าใครที่ยังอยู่นอกระบบ การหลบภาษี ก็จะไม่เสียอะไรอยู่แล้ว ไม่จดบริษัท ไม่ทําเอกสาร ไม่ทํางบการเงิน หลบภาษีบุคคล หากมีรายได้ปีหนึ่ ง 100 ล้านบาท และยื่นภาษีด้วยรายได้ เพียง 1 ล้านบาท แต่ก็ยังมีความเสี่ยงภาษีย้อนหลังอยู่มาก ต้องระวังเงินเข้าบัญชีจะเกิน ระวังแพลตฟอร์มนําส่งข้อมูล ระวังถูกล่อซื้อ ต้องค้าขายบนความระวังมากๆ การยื่นภาษีบุคคล การยื่นภาษีนิติบุคคล อัตราภาษีสูงถึง 35% อัตรภาษีสูงสุด 20% = = การหลบภาษี การหลบภาษี อาจจะไม่เสียเงินสักบาท ถ้าถูกตรวจเจออาจจะต้องจ่ายเงินหลักล้านบาท = =
72 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 19 จด VAT ต้องระวังอะไรบ้าง 1 2 3 4 กิจการที่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ ม VAT จะต้องมีการจัดทําใบกํากับภาษี และส่งให้กับลูกค้าทุกครั้ ง หากต้องทําการขอ ชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ และเลขประจําตัวผู้เสียภาษี จากลูกค้าทุกรายก็คงจะไม่สะดวก สามารถออกใบกํากับภาษีอย่างย่อ ออกใบกํากับภาษีอย่างย่อ ไม่ต้องขอข้อมูลใดๆ ของลูกค้า ทําให้สะดวก กับกิจการค้าปลีก ที่ผู้ซื้อไม่ได้ต้องการใบกํากับไปใช้ภาษีซื้อ ในกรณีที่เรามีความตั้ งใจดี อยากทําถูกต้อง แต่งานระบบหลังบ้าน ทั้ งระบบโปรแกรม และคน ยังทําไม่ทัน ออกบิลใบเสร็จใบกํากับภาษี ส่งทุกรายการให้ลูกค้าไม่ทันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ งกลุ่มขาย Online ให้คุณยึดมั่ นที่แนวคิดทําถูกต้อง และให้ยื่นรายได้จริงทุกบาท ทุกทาง นําส่งภาษีมูลค่าเพิ่ ม เอาจริงๆ สรรพากรเขาจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ ม จากรายได้ที่เราขาย ไม่ได้อยากได้บิลเอกสาร ดีที่สุดคือ ออกบิลให้ทัน และยื่นภาษีให้ครบ แม้ในช่วงแรกกิจการ กําลังวางระบบอยู่ กระบวนการต่างๆยังไม่ทัน และยังไม่เรียบร้อย ขอเพียงคุณนําส่งภาษีให้ครบ และรีบพัฒนาระบบให้สมบูรณ์ สรรพากรพอจะอนุโลมให้ ในระยะเวลาตั้ งต้นระบบ
ถ้าทําให้ทุกบิล ทีเกี่ยวข้องกับกิจการ่ บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้... เมือจดบริษัท จด VAT่ ต้องทํางานเอกสาร บัญชี ให้ละเอียดและปราณีต ก็ไม่ต้องไปวุ่นวาย สร้างค่าใช้จ่ายอันเป็นเท็จ แบบเสี่ยงๆ
74 บทที่ 3 : ก้าวเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล ประเด็นที่ 20 ค่าจ้างสํานักงานบัญชี ควรจ่ายเท่าไหร่ และประเมินจากอะไร บางกิจการเพิ่ งเปิดธุรกิจ รายได้ยังไม่มี แต่ค่าทําบัญชีเดือนละ 5,000 บาท บางกิจการเปิดมานานแล้วรายได้ 100 ล้าน ค่าทําบัญชีเดือนละ 5,000 บาท กิจการที่ 1 กิจการที่ 2 เป็นกิจการโรงแรม บันทึกรายการก่อสร้างอาคาร ซื้อสินทรัพย์หลายรายการ มีรายละเอียดมาก ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 2 ปี ซึ่ งยังไม่มีรายได้ ค่าบริการเดือนละ 5,000 บาท อันนี้ถือว่าปกติ รายได้ 100 ล้านต่อปี ค่าทําบัญชีเดือนละ 5,000 บาท เห็นอยู่ทั่ วไปเป็นกิจการซื้อมาขายไป อยู่ตามต่างจังหวัด มีหน้าร้าน ทั้ งขายปลีก ขายส่ง รายได้ต่อเดือน 8-10 ล้าน จ้างนักบัญชีแถวบ้านมารับเอกสาร นําไปยื่นภาษีรายเดือน และทํางบการเงินประจําปี ค่าบริการรายเดือน ราคานี้รวมอะไรบ้าง ค่าบริการรายปี บางสํานักงานมีการเรียกเก็บเพิ่ ม แต่บางสํานักงานไม่มีเก็บเพิ่ ม เพราะเขาเฉลี่ยเข้ามาในรายเดือน แต่เดี๋ยวก่อน ต้องตรวจสอบว่าค่าทําบัญชีรายเดือน 5,000 บาทนั้ น ได้รวมค่าใช้จ่ายในการปิดงบการเงินประจําปีไปแล้วหรือไม่ เพราะการจ้าง สํานักงานบัญชี ต้องคุยกันให้ชัดเจน 2 เรื่อง MILK MILK MILK MILK MILK MILK MILK MILK
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 75 สํานักงานบัญชี A คิดค่าบริการ 3,000 บาท แต่สิ้ นปีเรียกเก็บค่าทําบัญชี อีก 50,000 บาท คํานวณรวม 3,000 x 12 = 36,000 บาท บวกค่าทําปลายปี 36,000 + 50,000 = 86,000 บาท สํานักงานบัญชี B คิดค่าทําบัญชีเดือนละ 5,000 บาท สิ้ นปีไม่มีการเก็บค่าทําบัญชีเพิ่ ม คํานวณรวม 5,000 x 12 = 60,000 บาท ค่าบริการดังกล่าวยังไม่รวมกับค่าสอบบัญชี ซึ่ งสามารถให้ สํานักงานบัญชีประมาณการได้ จากตัวอย่างข้างต้น มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา แต่หากถามว่า แล้วส่วนใหญ่ เขาคิดจากหลักการอะไรบ้าง ครูอัส ขอสรุปให้ดังนี้ ประเภทของธุรกิจ ส่งผลถึงความซับซ้อนของกิจการ จํานวนเอกสาร รายงานรายเดือน ที่เจ้าของต้องการเป็นพิเศษ 1 2 3 ข้อควรระวัง หากคุณเห็นโฆษณาค่าทําบัญชี เริ่ มต้นที่ 500 บาท ในตลาดบริการงานบัญชี มีการตัดราคากันเหมือนตลาดอื่นๆ ก็อยากให้คุณเลือกให้ดี คุยรายละเอียดให้ครบถ้วน เขาเคยทําบัญชีให้กิจการที่เหมือนกับที่เราทําไหม เขาชํานาญในเรื่องภาษี เกี่ยวกับกิจการเราไหม เขาเชื่อถือได้ มีหลักแหล่ง มีออฟฟิศ มีพนักงานไหม เขาทํางานแบบดูมีมาตรฐานการทํางานที่ดีไหม เขายินดีอธิบาย สอนบัญชี ภาษีให้เราไหม ตัวอย่าง
ตอนเริมต้น ่ ค่าทําบัญชีจะเบาๆ พอเติบโต ยอดขายใกล้ 100 ล้าน ควรมีแผนกบัญชีเป็นของตนเอง ควรมีงบการเงินรายเดือน
เริ่ มต้น เติบโต ยั่งยืน ปิดงบการเงิน จากทีมบัญชีภายในองค์กร พนักงานบัญชี ทําบัญชีภายใน สํานักงานบัญชี ทําภาษี ปิดงบการเงิน สํานักงานบัญชี ทําภาษี ปิดงบการเงิน ส่งเอกสารทั้งหมด ผู้จัดการ ทีมบัญชี
บทที ่ 4 ภาษีเงินได้ นิติบุคคล
เนื้อหาในบทที่ 4 รวมทังหมด 10 ประเด็น ้ สําหรับท่านที่จดเป็นนิติบุคคล
80 ประเด็นที่ 21 บริษัทยังไม่สามารถกู้เงินเองได้ เพราะเปิดใหม่ หรือ ผลประกอบการไม่สวยงาม ยังไม่ผ่านเงื่อนไขตามที่ ธนาคารกําหนดไว้ เมื่อบริษัทกู้ไม่ได้ ให้กรรมการกู้แทน กรรมการกู้แทน เพราะกรรมการมีประวัติการเงินที่แข็งแรงกว่า หลักทรัพย์ที่นํามาค�าประกันก็เป็นชื่อกรรมการ หากเป็นแบบนี้ ให้กรรมการกู้แทนได้จะง่ายและรวดเร็วกว่า ต้องจัดทําเอกสาร สําคัญดังนี้ 3.1 รายงานการประชุม ให้กรรมการกู้เงินแทน ใส่เหตุผลในการใช้เงิน ยอดเงิน ข้อมูลหลักทรัพย์ค�าประกัน และเหตุผลที่บริษัทกู้เองไม่ได้ 3.2 ทําสัญญาเงินกู้ ระหว่างกรรมการกับบริษัท เมื่อกรรมการได้รับเงินกู้จากทางธนาคารแล้ว ให้จัดทําสัญญาอย่างละเอียด ตามยอดที่ธนาคารอนุมัติ พร้อมทั้ งระบุอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกําหนด แสดงเส้นทางการเงิน เมื่อเงินเข้าบัญชีเจ้าของกิจการแล้ว ให้โอนเงินทั้ งจํานวน เข้าบัญชีธนาคารของบริษัท “ยํ้ าอีกครั้ง ควรโอนเงินทั้งหมดเข้าบริษัททันที” เพราะถ้าเก็บไว้ในบัญชีตนเองใช้จ่ายทั้ งของบริษัท และส่วนตัว ถูกตีความว่ากู้มาเพื่อส่วนบุคคล จะไม่สามารถโอนเป็นภาระให้บริษัทได้ เมื่อถึงเวลาผ่อน ให้บริษัทเป็นผู้ชําระผ่อนแทนได้ ดอกเบี้ย สามารถนํามาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ บริษัทผ่อนแทน ไม่ถือเป็นรายได้ของเจ้าของกิจการ แค่เพียงทําเอกสาร และเส้นทางการเงินให้ชัดเจน 1 2 3 4 5 6 กิจการ กู้เงินไม่ได้ ให้กรรมการ กู้แทน ให้บริษัทผ่อนแทน และดอกเบี้ยบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้ บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เรืองบัญชี-ภาษี่ เป็นเรืองต้องค่อยๆวางแผน่ "คุณต้องเลือก" จะหลบ เก็บกําไรกินแบบเงียบๆ อยู่แบบเสี่ยงโดนเรียกย้อนหลัง หรือ จะสู้ ลุกขึ้นมาวางระบบ ค่อยๆเริ่ มต้นอย่างถูกต้อง
82 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 22 ประเด็นแรก ใช้เงินที่ไหนซื้อ ใช้เงินที่ไหนผ่อน ถ้าเงินมาจากกิจการ ควรซื้อในนามบริษัท/ห้างหุ้นส่วน รถที่ใช้เงินบริษัทจ่ายควรเป็นกรรมสิทธิ์ ของบริษัท เจ้าของจะซื้อรถยนต์เอาไว้ใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว และใช้เงินส่วนตัว จ่ายชําระเองก็สามารถนํารถที่ซื้อนั้ นมาให้บริษัทเช่า รับรายได้ ค่าเช่า และเบิกค่าใช้จ่ายได้ ถ้ารถนั้ นใช้เพื่อกิจการ 100% จากข้อมูลข้อที่ 2 บริษัทต้องการซื้อรถกระบะบรรทุก แต่ไม่สามารถ ทําเรื่องขอยื่นกู้ธนาคารได้ เนื่องด้วยคุณสมบัติไม่ผ่านเงื่อนไขตามธนาคาร กําหนด แม้ว่าอยากกู้ซื้อในนามบริษัท แต่ก็ไม่สามารถทําได้ จึงจําเป็นต้อง ให้เจ้าของเป็นผู้กู้ซื้อรถคันนี้แทน ค่าใช้จ่ายของรถ บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการได้หรือไม่ ขอตอบว่า “สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้” ถ้ารถอยู่ในความครอบครองของบริษัท ซื้อในนามบริษัท หรือทําสัญญาเช่ารถจากเจ้าของก็จะใช้ค่าใช้จ่ายได้ เบิกเป็นค่าใช้จ่ายทั้ งหมดได้เลยหรือไม่ ขอตอบว่า "เบิกได้ไม่หมด ให้พิจารณาตามความเหมาะสม" ต้องคํานึงบนหลักคิดที่ว่า “จ่ายตามจริง ใช้เพื่อกิจการเท่านั้ น” ไม่มีความเป็นส่วนตัวปนอยู่ เพราะจะต้องระวังเอาไว้ว่า ในบางครั้ ง เราขับรถไปกินข้าว ไปเที่ยว จะมาเบิกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทไม่ได้ 1 2 3 4 5 ควรซื้อรถ ในนามบริษัท ดีกว่าซื้อในนามเจ้าของ
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 83 6 ค่าใช้จ่าย กับ ภาษีซื้อ เป็นคนละรายการ เริ่ มจากการแยกประเภทรถ ถ้าอยู่ในกลุ่มรถส่วนบุคคล ไม่เกิน 10 ที่นั่ ง ไม่ว่าจะซื้อในนามบริษัท หรือเจ้าของ ภาษีซื้อไม่สามารถใช้ได้ ประเภทรถเป็นสิ่ งที่จําเป็นต้องรู้ แยกเป็นกลุ่ม คือ 6.1 รถกลุ่มที่ใช้สําหรับธุรกิจโดยตรง ใช้เบิกได้ทั้ งหมด นั้ นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย ภาษีซื้อ และที่สําคัญ ไม่สนใจว่ามูลค่าจะเท่าไหร่ สามารถนํามาคิดค่าเสื่อมได้ทั้ งหมด รถกลุ่มนี้ เช่น รถตู้ที่เกิน 10 ที่นั่ ง เพื่อนํามาขนส่งคน รถกระบะ 2 ประตู รถบรรทุกขนาดต่างๆ รถขุด รถยก รถไถ เป็นต้น 6.2 รถยนต์ส่วนบุคคลที่นั่ งไม่เกิน 10 ที่นั่ ง รถเก๋ง รถตู้ VIP ต่างๆ รถยนต์ในกลุ่มนี้สรรพากรห้ามค่ะ ห้ามทุกอย่าง.. ห้ามไปหมด.. ถ้าซื้อเกิน 1 ล้านบาท สามารถ ตัดค่าเสื่อมทางภาษีได้แค่ 1 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่เกิดจาก รถกลุ่มนี้ไม่สามารถใช้เป็นภาษีซื้อได้ รถกระบะ 2 ประตู รถตู้ 12 ที่นั่ง ค่าใช้จ่าย ภาษี รถตู้ VIP ค่าใช้จ่าย ภาษี รถยนต์นั่งสบาย ค่าใช้จ่าย ภาษี ค่าใช้จ่าย ภาษี
84 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล หากเจ้าของจะซื้อรถดีๆ ใช้สักคัน ราคา 2-5 ล้านบาท ให้ยึดที่ข้อ 1-2 ว่าใช้เงินจากใครจ่าย ถ้าต้องการจะดึงเงินบริษัทไปจ่าย ควรซื้อในนามบริษัท ส่วนทางบัญชี-ภาษี จะบันทึกค่าเสื่อมได้ แค่ 1 ล้านบาท ก็ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ แค่ยอมรับ เพราะเห็นหลายเคสไปอ่าน หรือฟังมาเพียงบางมุม ว่าซื้อในนามบริษัท ใช้เป็นค่าเสื่อมได้แค่ 1 ล้านบาท ก็หนีไปซื้อในนามบุคคล แต่สุดท้ายก็มา ดึงเงินจากบริษัทไปผ่อน แบบที่ดึงไปเฉยๆเลย ไม่ผ่านผลตอบแทนกรรมการ ที่ถูกต้องแบบนี้ก็ก่อปัญหาอยู่ดี แถมค่าใช้จ่ายก็บันทึกไม่ได้ แต่ถ้าจะซื้อรถที่ใช้เชิงพาณิชย์ต่างๆ ควรซื้อในนามบริษัท จะดีที่สุด สรุป
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 85 ประเด็นที่ 23 หากบริษัทต้องเช่ารถจากเจ้าของ มีการทําสัญญาเช่า มีการจ่ายค่าเช่า นั้ นหมายความว่า กรรมสิทธิ์ ในการใช้ ก็จะเป็นของบริษัท รายจ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นสิทธิ์ ของบริษัทที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าของรับรายได้ค่าเช่าจากบริษัท มีผลให้ต้องเสียภาษีบุคคล หลายคนพอรู้ว่าตนเองต้องเสียภาษี อาจตกใจและคิดว่าไม่คุ้มค่า อยากให้ท่านอ่านประเด็นที่ 22 เพราะถ้าเราซื้อรถในนามตนเอง และอยากเบิกค่าใช้จ่ายจากบริษัทได้ เราต้องยอมรับเรื่องภาษีบุคคล 1 2 เอารถเจ้าของมาใช้ ในกิจการ เบิกค่านํ้ ามัน ทางด่วน ได้หรือไม่ ค่าน�ามัน ทางด่วน ประกัน ซ่อมแซม ตลอดทั้ งปี 200,000 บาท รายจ่ายนี้สามารถประหยัดภาษีให้บริษัทได้ 20% = 40,000 บาท แต่... เจ้าของกิจการรับค่าเช่ารถเดือนละ 30,000 บาท ตลอดทั้ งปี 360,000 บาท ในรายจ่ายนี้ถูกหัก ณ ที่จ่าย 5% นั่ นหมายความว่ารายได้นี้ได้จ่ายภาษีไปแล้ว 18,000 บาท หากเจ้าของมีรายได้ทางอื่น นํามาคํานวณภาษีเงินได้บุคคล รวมกันกับค่าเช่ารถที่ได้รับ หลังจากคํานวณแล้วอาจทําให้ เสียภาษีบุคคลโดยประมาณ 15,000 บาท จ่ายภาษีบุคคลของเจ้าของ 15,000 บาท ประหยัดภาษีให้บริษัทได้ 40,000 บาท “ “ ตัวอย่าง
86 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 24 ไปทําอะไร การเดินทางไป ต่างประเทศ มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับกิจการบ้างไหม ถ้าไม่มี ให้ตัดทิ้ งได้เลย เป็นรายจ่ายส่วนตัวไม่ควรมาเบิกกับบริษัท แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับกิจการ สามารถทําเบิกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ เช่น ไปดูงานเพื่อนํากลับมาพัฒนากิจการ, ไปดูโรงงานที่เราสั่ งซื้อ หรือสั่ งผลิตสินค้า, ไปดูทําเล เพราะวางแผนจะขยายสาขา, ไปประชุม ไปสัมมนา, ไปงานแฟร์ เป็นต้น ใครเป็นคนเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นกรรมการผู้บริหาร หรือ พนักงาน สามารถนํามาเบิก เป็นค่าใช้จ่ายได้ บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ต้องระวังเรื่องผู้ติดตาม เช่น คุณผู้ชายเป็นเจ้าของบริษัท เป็นกรรมการ เดินทางไปดูงาน ที่จีน เพื่อไปดูโรงงาน แต่พาภรรยาและลูกไปด้วย!! อันนี้ไม่ค่อย จะดีเท่าไหร่ แต่พอให้เหตุผลทําเบิกได้ ถ้ามีการระบุเรื่องผลตอบแทน กรรมการไว้ได้ดี แต่ถ้าไม่ใช่ระดับภรรยา ยังไม่ได้สมรสกัน หรือ เรียกว่า พาแฟนไปด้วย แบบนี้แนะนําว่า ให้แยกบิลเรื่องตั๋ วเครื่องบิน จองตั๋ วแยกเบิกเฉพาะกรรมการบริษัท 1 2 เทคนิค เบิกค่าใช้จ่าย เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 87 หลักฐาน ไปทําอะไร ก็ต้องมีหลักฐานประกอบ ให้คิดเสมือนว่าออกเงินให้พนักงานไป ในมุมมองเจ้าของต้องการรู้อะไร สรรพากรก็จะมองในมุมเดียวกัน 3.1 ไปประชุม, ไปงานแฟร์, ไปงานสัมมนา ควรมีจดหมายเชิญ, จดหมายหรืออีเมล์ตอบรับนัดเข้าพบ และบัตรเข้างานแฟร์ ครูอัสพาคณะผู้บริหารสํานักงานบัญชี 12 สาขา ไปดูงานและสร้างพันธมิตร กับสํานักงานบัญชีที่ประเทศมาเลเซีย เรามีจดหมายตอบรับการไปดูงานทั้ งหมด 3 วัน 3.2 ไปดูงาน ไปดูสินค้า ไปดูทําเลเพื่อขยายสาขา แบบนี้ควรจะมี รายงานสรุปผลการดูงาน ให้คุณคิดเสมอว่าเมื่อส่งพนักงานไป พอกลับมาต้องทํารายงานส่งทางผู้บริหาร เพื่อบอกว่าไปดูอะไร ได้อะไร และมีผลต่อกิจการอย่างไร แล้วถ้าเจ้าของไปล่ะ ใช่ค่ะ ต้องทํา เพราะจะได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ หรือพนักงานไป สามารถเบิกได้ด้วยระบบเอกสารเดียวกัน 3.3 บิลใบเสร็จต่างๆ เช่น ใบเสร็จค่าตั๋ ว ค่าที่พัก ค่าเช่ารถ ค่าโดยสาร บิลค่าอาหาร เก็บมาให้หมด เก็บให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ แต่ภาษีซื้อ ใช้ไม่ได้ เพราะว่า ตั๋ วเครื่องบินข้ามประเทศไม่มี VAT ค่าที่พัก ค่าเช่ารถ ค่าอาหาร ต่อให้มี VAT ในประเทศที่เราไป ก็ไม่สามารถนํามาใช้ในประเทศไทยได้ เกี่ยวข้องกับกิจการ เอกสารชัดเจน บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ “ “ 3 ตัวอย่าง
88 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 25 ส่งบิลค่าใช้จ่ายให้สํานักงานบัญชี แต่สํานักงานบัญชีไม่คีย์เข้าโปรแกรม ดึงออกเพราะพิจารณาว่าบิลนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ คิดว่าบิลนี้ไม่ถูกต้อง หากคีย์เป็นค่าใช้จ่ายไปแล้ว สุดท้ายกลายเป็นรายการค่าใช้จ่ายบวกกลับ จึงตัดสินใจไม่บันทึกรายการ ผลลัพธ์คือ ทําให้เสียภาษีเงินได้สูงไป เพราะเมื่อกิจการมีค่าใช้จ่าย นําเงินบริษัทไปจ่าย แต่ไม่ได้คีย์ข้อมูลทําให้ ค่าใช้จ่ายไม่ถูกบันทึก ส่งผลให้กําไรสูงขึ้น เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงขึ้น สํานักงานบัญชี คือ หน่วยงานภายนอกที่คุณจ้างเพื่อทําบัญชียื่นภาษี เป็นทีมงานที่ไม่ได้นั่ งในออฟฟิศของคุณ จะไม่รู้เหตุผลของรายการต่างๆ คุณจ่ายไปในตอนนั้ นเพราะอะไร จะเห็นรายการค้า ผ่านทางเอกสารเท่านั้ น เราสื่อสาร เขียนรายละเอียดทําเอกสารได้ชัดเจนหรือไม่ ว่ารายการต่างๆ ที่จ่ายไปเป็นค่าอะไรบ้าง ถ้าส่งแต่บิลเอกสารแล้วไม่บอกรายละเอียดเลย สํานักงานบัญชีจะไม่เข้าใจ วิธีการตรวจสอบ คือ ภายในกิจการต้องมีการบันทึกรายการต่างๆ ด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบกับ รายงานของสํานักงานบัญชี หากตรวจเจอผลต่างที่ไม่ตรงกัน ให้นัดพูดคุยอธิบายรายการที่สํานักงานบัญชีตัดออก คุณจะได้คําตอบว่าบางครั้ ง เราทําเอกสารไม่ครบถ้วน หรือบางครั้ งสํานักงานบัญชีเข้าใจผิด หากเป็นแบบนั้ น ให้ปรึกษา และวางแผนร่วมกับสํานักงานบัญชี ว่าในครั้ งต่อไปควรจัดทําเอกสาร แบบไหนให้ละเอียดมากพอ เพื่อสํานักงานบัญชีจะได้เข้าใจ 1 2 3 อย่ายอม ให้สํานักงานบัญชี ดึงบิลค่าใช้จ่ายออกไม่บันทึกบัญชี เสียภาษีสูง เพราะอะไร ทําไมถึง ดึงบิลค่าใช้จ่ายออก จากเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ความผิดสํานักงานบัญชี
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 89 มองในมุมของสํานักงานบัญชี ก็ต้องลุ้นว่าผู้ประกอบการ มีความเข้าใจ เรื่องงานเอกสารมากแค่ไหน มีการนําบิลค่าใช้จ่ายผิดๆ ส่งมาให้หรือไม่ เช่น ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับกิจการ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวกรรมการ ถ้าเป็นแบบนั้ น แม้เป็นสํานักงานบัญชีของครูอัส เราก็จะแจ้งลูกค้าเพื่อสอบถาม และชี้แจง ว่าไม่ถูกต้อง ขอไม่นํามาบันทึก บางคนคิดว่า จ่ายจริงๆ แต่ได้บิลเงินสดมา บางทีไม่มีเอกสารอะไรเลย จะทําอย่างไร ขอแจ้งเลยว่า สรรพากรทําคู่มือมาให้เราใช้ตั้ งแต่ ปี 2559 โดยการนําใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน ใบสําคัญรับเงิน มาเป็นเอกสาร แทนบิลเงินสด และรายการที่ไม่มีบิล ขอแค่ทําเป็นก็สามารถเบิกได้หมด และอีกอย่างคือ ควรรู้วิธีการเขียนรายละเอียด ว่าค่าใช้จ่ายนี้จ่ายไปทําไม เดินทางไปไหน ไปทําอะไร ค่าอาหารเลี้ยงใคร ซื้อสิ่ งนี้เพื่ออะไร 4 5 ดาวโหลดคู่มือ การจัดการค่าใช้จ่าย โดยกรมสรรพากร หากเป็นค่าใช้จ่ายจริงๆของกิจการควรบันทึกได้ ถ้าเอาเงินกิจการจ่าย แล้วไม่บันทึกค่าใช้จ่ายจะถูก นําไปบันทึกว่าเงินที่ออกนั้ นกรรมการเป็นคนนําไป ใช้ กลายเป็นลูกหนี้กรรมการ ปล่อยปละละเลยไม่ดู ไม่มีการแก้ไข ไม่ตรวจสอบ จะทําให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงเกินไป สรุป
90 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 26 การจดบริษัทคือการ "แยก" หน่วยธุรกิจออกจากกันอย่างชัดเจน จะได้เลขประจําตัวผู้เสียภาษีของบริษัท แยกออกจากเจ้าของ เจ้าของกิจการ มีรายได้หรือไม่ แล้วมีรายได้จากทางไหน ถ้ารับรายได้มาจากบริษัท ต้องคํานึงถึง 2 ด้าน คือ ด้านบริษัท ถือว่ามีค่าใช้จ่าย ลดภาษีนิติบุคคลได้ 20% ด้านเจ้าของ ถือว่าเป็นรายได้ นําไปคํานวณภาษีเงินได้ 5 - 35% 1 2 บริษัท "เสียภาษีแล้ว" เจ้าของ "ยังต้องเสียอีก" เป็นเรื่องปกติ ถ้าบริษัทจ่ายเงินเดือน และผลตอบแทนให้เจ้าของกิจการ ปีหนึ่ งรวมๆ 1,000,000 บาท ซึ่ งสามารถเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ ประหยัดภาษีได้ 20% = 200,000 บาท เจ้าของกิจการ รับรายได้จากบริษัทรวม 1,000,000 บาทต่อปี รับเป็นรายได้ประเภทไหน เงินเดือน ค่าที่ปรึกษา ค่าเช่า อื่นๆ ให้วางแผนภาษี บริหารค่าลดหย่อนในแต่ละปี เจ้าของบางท่าน เสียภาษีบุคคล 20,500 บาท บริษัทมีค่าใช้จ่าย ประหยัดภาษีได้ 200,000 บาท เจ้าของรับรายได้จ่ายภาษี 20,500 บาท ลองมองดีๆ ถือว่าคุ้มมาก ตัวอย่าง
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 91 วางแผนผลตอบแทนกรรมการดีๆ ผันค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ และบางรายการไม่ถือเป็นรายได้กรรมการ แต่บางรายการต้องยอมรับมาเป็นรายได้ และนําส่งภาษี สรุป หากทุกอย่างถูกวางแผนไว้ดีแล้ว เราจะเสียภาษีในระดับที่ตํ่ าที่สุด “ “
92 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 27 เจ้าของกิจการ ไม่จบสายตรงบัญชี จะบริหารตัวเลขอย่างไร “เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ ไม่จบสายตรงบัญชี ซึ่ งก็ถือเป็นเรื่องปกติทั่ วไป ไม่ต้องกังวล เพียงแค่เข้าใจบัญชี-ภาษี เพื่องานบริหาร อ่านผลประกอบการกําไรขาดทุน ฐานะการเงิน” คือ เมื่อได้งบกําไรขาดทุนมา เจ้าของกิจการอ่านแล้วรู้สึกใช่เลย เข้าใจตัวเลขต่างๆในงบกําไรขาดทุน งบแสดงฐานะการเงิน ที่บัญชีทํามา ผลลัพธ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับกิจการที่ไม่ซับซ้อน เช่น ธุรกิจบริการ งบการเงินจะอ่านง่าย ไม่มีสินค้าคงเหลือ ไม่มีลูกหนี้ เคสนี้จะเกิดขึ้นกับกิจการที่กําลังขยาย หรือมีโครงสร้างธุรกิจ ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น มีการผลิต, มีการซื้อเชื่อ, มีการขายเชื่อ, มีการซื้อสินค้าเข้ามาเก็บไว้มากขึ้น เจ้าของกิจการจะต้องเข้าใจในเรื่องของหลักการบันทึกบัญชี ว่าหลักมาตรฐานการบัญชีจะใช้หลักเกณฑ์คงค้าง ไม่ยึดตาม เงินสดที่เข้าออก เจ้าของกิจการที่ไม่จบสายตรงบัญชี จะมีระบบความคิดโดยยึด หลักเกณฑ์เงินสด ดูเพียงเงินสด/ธนาคาร เท่านั้ น ซึ่ งไม่ใช่เรื่องผิด แค่เพียงต้องเข้าใจว่าใช้หลักการมาตรฐานคนละอย่าง โดยผลของการอ่านรายงานอาจจะออกมาได้ 2 เคส เคสที่ 1 : เข้าใจตรงกัน เคสที่ 2 : ไม่เข้าใจสิ่ งที่นักบัญชีทํามา
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 93 จากเคสที่ 2 ทําให้ความเข้าใจของเจ้าของ จะไม่ตรงกันกับ หลักการที่นักบัญชีทํา จึงทําให้อ่านรายงานต่างๆของนักบัญชีแล้วทําให้เกิดคําถาม เช่น คําถาม : ขายได้เยอะ ทําไมรายงานบอกว่าขาดทุน คําตอบ : เมื่อขายสินค้าบัญชีจะรับรู้เป็นรายได้ เมื่อส่งมอบ ไม่ยึดที่ลูกค้าเซ็นใบเสนอราคา ลูกค้าจ่ายมัดจํา กระบวนการเหล่านั้ น ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ของบริษัท อีกมุมหนึ่ ง นั่ นคือเรื่องของค่าใช้จ่าย ต้องศึกษาลงลึก ว่าหลักการบัญชีจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ ไม่จ่ายเป็นเงินสด เช่น ค่าเสื่อมราคา คําถาม : ขายได้เพิ่ มขึ้น แต่ทําไมเงินสดในบัญชีลดลง คําตอบ : บางกิจการขายแบบให้เครดิต 30-60 วัน แม้วันนี้จะขาย ได้ในปริมาณที่มากก็ยังไม่สามารถเก็บเงินได้ แต่กิจการ ต้องจ่ายเงินสดซื้อสินค้า จ่ายค่าแรง และรายจ่ายต่างๆ บางครั้งเจ้าของกิจการ มีความรู้สึกว่า คุยกับนักบัญชีไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เรื่องผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ละฝ่ายใช้หลักการคิดที่ต่างกัน ต้องเรียนรู้ความต่างของ เกณฑ์เงินสด VS เกณฑ์คงค้าง และการทํางานร่วมกันจะราบรื่นขึ้น
94 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล 1 2 ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับบัญชี ที่บันทึกรายการจากอดีต (แค่เมื่อวานก็ถือว่าเป็นอดีตแล้ว) ส่วนนี้ไม่ต้องไปลงลึกขนาดที่ว่าต้องทําเองเป็น แต่เพียงให้รู้ว่า แต่ละส่วนคืออะไร แล้วเชื่อมโยง กันอย่างไร ใช้งานอย่างไร โดยเฉพาะจุดรับรู้ภาษี และเกณฑ์คงค้าง ว่าบัญชีไม่ได้บันทึกตามเงินสด รวมถึงรายการที่ไม่ใช่เงินสด เช่น ค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ความรู้ด้านข้อมูลเชิงบริหาร ที่ประมาณการตัวเลขอนาคต ตัวเลขอนาคต คือ ตัวเลขสถิติจากอดีต + ทิศทาง และเป้าหมายของบริษัท เช่น ผู้บริหารมีแผนงานสําหรับไตรมาสหน้าอย่างไร กิจการเติบโตเท่าไหร่ เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน สูงขึ้นหรือไม่ ถ้าสูงขึ้นกี่เท่า กี่เปอร์เซ็น % แล้วอัตราต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆนั้ น เติบโตในทิศทางเดียวกันหรือไม่ สุดท้าย เรื่องของงบประมาณทางการเงิน ยอดขายที่ได้เกิดจาก การขายสด เงินเข้าทันที แต่หากขายเงินเชื่อต้องวางแผนการใช้เงิน การหาแหล่งเงินทุน หรือกิจการต้องนําเงินไปซื้อสินค้ามาเพิ่ ม เนื่องจากยอดขายที่เพิ่ มขึ้น หากมีคนถามว่า แล้วเจ้าของควรต้องรู้บัญชี ภาษีอะไรบ้าง ครูอัสจึงขอตอบว่า ต้องรู้ 2 มุม อดีต และ อนาคต “ “
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 95 นักบัญชีมืออาชีพส่วนใหญ่ สามารถจัดทําภาษีรายเดือนรายปี ที่เป็นการเก็บข้อมูลจากอดีต มาสรุปเป็นงบการเงินต่างๆได้ แต่หากผู้บริหารต้องการตัวเลขที่เป็นประมาณการ คุณต้องหานักบัญชีที่สามารถจัดทํางบประมาณต่างๆ ที่สําคัญผู้บริหารต้องให้ข้อมูลอัตราการเติบโตของบริษัท และประมาณเงินทุนที่จะต้องนํามาเพิ่ มในการขยายธุรกิจ สรุป
96 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล ประเด็นที่ 28 1 จ่ายชําระภาษี 120,000 บาท/เดือน กําไรถึงเจ้าของ 100,000 บาท ทําไมถึงจ่ายภาษีมากกว่ากําไร มีอยู่จริง การจ่ายภาษี หมายถึง การที่ต้องนําเงินส่งให้กรมสรรพากร โดยทั่ วไปคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า การจ่ายภาษี = ค่าใช้จ่าย แต่ในทางเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ ซึ่ งต้องแยกประเภทภาษีออกเป็น 2 ประเด็น ดังนี้ 1. หนี้สิน คือการนําส่งเงินให้สรรพากรด้วยความหมายที่ว่า เรามีสรรพากรเป็นเจ้าหนี้ ต้องชําระหนี้ให้สรรพากรทุกเดือน เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ ม VAT สําหรับผู้ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ ม ต้องยื่นแบบภาษี ภ.พ.30 ทุกเดือน เงินที่นําส่งให้สรรพากร ถือเป็นการชําระหนี้ เมื่อมีรายได้ จะเกิดภาษีขาย ภาษีขาย = หนี้สิน ที่ต้องทําส่งให้สรรพากร เมื่อมีค่าใช้จ่าย จะเกิดภาษีซื้อ ภาษีซื้อ = สินทรัพย์ ที่เราสามารถมีสิทธิ์ ใช้ได้ เมื่อภาษีขาย มากกว่าภาษีซื้อ ต้องนําเงินชําระหนี้ให้สรรพากร การจ่ายนี้ไม่ถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 2. ค่าใช้จ่าย คือการจ่ายเงินสําหรับการชําระค่าภาษี ค่าภาษีป้าย ภาษีที่ดินและสิ่ งปลูกสร้าง อากรแสตมป์ ภาษีเงินได้นิติบุคคลประจําปี รายการภาษีที่จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย โดยส่วนใหญ่ จะจ่ายเป็นรายปี หรือตามรายการที่เกิดขึ้น
บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ 97 2 ข้อสังเกต ภาษีที่เราจ่ายรายเดือน จะถูกบันทึกเป็นการจ่ายชําระหนี้ ให้กรมสรรพากร คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ ม (ตามรายละเอียดในข้อที่ 1) และการนําส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ดังนี้ ภ.ง.ด. 1 คือ แบบยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย เมื่อเราหักภาษี จากเงินเดือนของพนักงาน ภ.ง.ด. 3 คือ แบบยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย เมื่อเราหักจาก การจ่ายจ้างงานกับบุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 53 คือ แบบยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย เมื่อเราหักจาก การจ่ายจ้างงานกับนิติบุคคล A กิจการมีรายได้ 2,000,000 บาท ภาษีขาย 140,000 ภาษีซื้อ 40,000 นําส่งภาษี 100,000 นําส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย 20,000 ชําระภาษี (ในสถานะชําระหนี้) 120,000 กิจการมีรายได้ 2,000,000 บาท มีกําไรสุทธิประมาณ 5% จากยอดขาย ดังนั้ นกิจการจะมีกําไรต่อเดือน 100,000 ข้อแนะนําว่า ไม่ควรนําจุด A และ B มาเปรียบเทียบกัน เพราะเหตุผลนั้ นต่าง ภาษีคือชําระหนี้ กําไรคือส่วนของเรา B ตัวอย่าง
98 บทที่ 4 : ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นไปได้ที่ในกิจการจะมีการจ่ายเงินชําระภาษี มากกว่ากําไรสุทธิที่เจ้าของกิจการจะได้รับ เนื่องด้วยกลไกของภาษี ได้มีการจัดวาง ว่าภาษีที่เกิดจากรายได้ คือภาษีมูลค่าเพิ่ ม โดยไม่สนใจว่าจะมีกําไรหรือไม่ ต่อให้กิจการ จะมีการขาดทุน แต่ถ้ามีภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อ ก็ต้องจ่ายเงินนําส่งให้กรมสรรพากร กลไกภาษี ที่เกิดจากการหัก ณ ที่จ่าย งานบริการ จุดตรงนี้เงินที่นําส่งต้องถือว่าไม่ใช่เงินของเราแล้ว เพียงแค่ทําหน้าที่แทนสรรพากรในการหักภาษีของผู้ที่รับเงิน หากคุณบวกภาระภาษีเข้าไปในราคาขายได้ การนําเงินไปชําระภาษีจะไม่กัดกินส่วนที่เป็นกําไรของคุณ การนําเงินไปชําระภาษี จะไม่กัดกินส่วนที่เป็นกําไรของคุณ หาความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาษีให้มากขึ้น ดูเครื่องมือหาช่องทาง ที่สามารถจะประหยัดภาษีได้ ภาษีมีหลายรายการ ทั้ งภาษีรายเดือน และภาษีรายปีในฐานะเจ้าของกิจการ คุณต้องทราบข้อมูลเหล่านี้จะไว้วางใจ 100% ให้สํานักงานบัญชีทําโดยที่คุณไม่ทราบรายละเอียดเลยไม่ได้!! ข้อแนะนำ สรุป