The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Penpak Sangkla, 2021-09-08 13:31:36

ภาษาอังกฤษ ป.5 หน่วยที่ 7

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 รหสั วิชา อ 15101
สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ภาคเรยี นที่ 2
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา ......... ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง Free time เวลา ........... ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง What do you do in your free time?

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้ีวดั ชัน้ ปี
สาระท่ี 1ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี

เหตุผล
ตัวชว้ี ดั 2.อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องหลกั การอ่าน

3. ระบ/ุ วาดภาพ สัญลักษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความสน้ั ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น
4. บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทานงา่ ยๆ
หรอื เร่อื งสนั้ ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรูส้ ึกและ
ความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ตัวชี้วัด 2. ใช้คำส่งั คำขอร้อง คำขออนุญาต และให้คำแนะนำงา่ ยๆ
4. พูด/เขียน เพ่ือขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่างสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขียน
ตวั ชวี้ ัด 1. พดู /เขียนใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรื่องใกล้ตวั
3. พดู แสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกยี่ วกบั เรือ่ งตา่ งๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้อยา่ ง
เหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วัด 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชวี้ ัด 1. บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้
เครอื่ งหมายวรรคตอนและการลำดับคำ (order) ตามโครงสรา้ งประโยคของ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวชีว้ ดั 1. ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่างๆ ท่เี กดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชพี และการแลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั สงั คมโลก
ตัวชีว้ ัด 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น และรวบรวมข้อมูลต่างๆ

2. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศัพท์เกย่ี วกับกิจกรรมสันทนาการในเวลาวา่ ง บทสนทนาถาม – ตอบ เกีย่ วกับ
กิจกรรมในเวลาวา่ ง การใชป้ ระโยคชกั ชวน (Persuasion) และการตอบรบั / ปฎิเสธ การออกเสียงคำทล่ี งท้าย
ด้วย s การอ่านจบั ใจความและการเขยี นเรยี งความ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพ่อื นำไปใชส้ ่อื สารใน
ชวี ติ ประจำวนั

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

- พดู ถาม – ตอบสนทนาเก่ียวกับกจิ กรรมสันทนาการในเวลาวา่ งได้
- ชักชวนผอู้ ่นื และตอบรบั /ปฏิเสธได้
- พูด และเขยี นคำศพั ท์ หมวดหมกู่ จิ กรรมสนั ทนาการได้
- อา่ นจบั ใจความได้
- เขยี นบรรยายขน้ั ตอนการทำอาหารได้
- เลน่ เกมตามที่กำหนดได้
- ออกเสยี งคำที่ขึ้นต้นด้วยอกั ษร s ได้

4. สาระการเรียนรู้

4.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- บทสนทนาที่ใช้ในการถาม – ตอบ เก่ียวกับสนั ทนาการในเวลาว่าง
e.g. A : What do you like doing in your free time?
B : I like playing football.
- คำศัพท์เกยี่ วกับสนั ทนาการในเวลาว่าง
- Grammar : 1. Let’s + V. 1
e.g. Let’s join the music club.
2. go + V. ing
e.g. She often goes swimming.
I always go shopping.
3. like + V.ing

e.g. They like playing football.
- Pronunciation : initial sound [s]
- การอ่านจบั ใจความ
- การเขียนเรยี งความ
- การใชภ้ าษาในการฟงั / พูด ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรยี น
- ความแตกตา่ งของเสียงตวั อักษรภาษาองั กฤษ และภาษาไทย
- มารยาททางสังคมที่ดแี ละวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
- การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เกยี่ วข้องใกลต้ วั จากสอ่ื และ

แหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ
4.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น

-

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทกั ษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

- ใฝ่เรยี นรู้
- อยู่อยา่ งพอเพยี ง
- มจี ติ สาธารณะ

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

 กจิ กรรมนำสกู่ ารเรียนรู้
1. ครูทบทวนคำศัพท์ และสิง่ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนไปใน Unit 5
2. ครสู ุ่มถามนักเรยี นว่า ทำอะไรในเวลาว่าง
Teacher : What do you do in your free time?
Samsri : I watch TV.

3. ครใู ห้นกั เรียนดรู ูปภาพในหนังสอื เรยี น หน้า 74 ข้อ 1 What can you see? และบอกนักเรียนว่า
ผูค้ นในภาพกำลังใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ นักเรยี นเห็นเขากำลังทำกจิ กรรมอะไรบ้าง นกั เรยี นต่าง
ตอบว่า วาดภาพ รดน้ำตน้ ไม้ ทำอาหาร เข้าชมรม ออกกำลังกาย ฯลฯ

4. ครใู ห้นักเรยี นฟัง CD/Track 67 เพื่อตอบคำถามตามภาพท่ีเห็น

Look at the picture.

Where are the children? What time is it?

What time is it? How many children can you see?

What sports are the children doing? How many bins are there in the picture?

How many bins are there in the picture? What animal can you see?

ถ้าเปดิ CD ครั้งแรกแลว้ นกั เรียนตามไม่ทัน ให้ครูเปดิ CD ประโยคคำถาม แล้วหยุดเพ่ือให้นกั เรียน
ช่วยกันแปล แลว้ ตอบจนครบท้งั หมด

5. ครบู อกนักเรยี นวา่ ใน Unit 6 นีน้ กั เรยี นจะเรยี นร้เู กี่ยวกบั การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์
พูดสนทนาการอ่าน และการเขยี นเก่ยี วกบั กจิ กรรมในยามว่าง

 กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้

1. ครูบอกนักเรยี นว่าในโรงเรยี นของเรามีชมรมตา่ งๆ ครพู ูดชื่อทลี ะชมรม แล้วให้นักเรียนท่ีเป็นสมาชกิ

ของแตล่ ะชมรมยกมือขึน้

ครู : ชมรมดนตรี, ชมรมภาษาองั กฤษ

ชมรมวา่ ยนำ้ , ชมรมฟตุ บอล นกั เรียนแตล่ ะชมรมยกมือขึ้น

ชมรมบาสเกตบอล

ครูถามนักเรยี นบางคนทไ่ี มย่ กมอื เลยว่าทำไมไมเ่ ข้าชมรม และแนะนำให้แกน่ ักเรยี นกลุ่มนอ้ ยนี้ใช้
เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ดังเช่นรปู ภาพในหนังสือเรยี น หนา้ 75 ข้อ 1 Listen, point and
repeat.
ครชู ้ีทีละภาพจากซ้ายไปขวา แลว้ ให้นกั เรียนตอบว่าบุคคลในภาพกำลังทำอะไร
ครเู ปดิ CD/Track 68 ให้นักเรยี นฟัง CD และชี้ตามทีละภาพ แลว้ พูดตามโดยดูจากตวั อักษรใต้ภาพ

go swimming collect stamps paint the picture water the plants

ride a bike band athletes

ครเู ปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟังและพดู ตามจนคล่อง จนครูมั่นใจจงึ ทดสอบโดยช้ีทลี ะภาพใหม่
ตอ่ เนอ่ื งกนั แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงโดยพร้อมเพรยี งกันตามภาพที่ครชู สี้ ลับไปมา

2. นักเรียนฟังบทความซ่ึงเปน็ กิจกรรมในเวลาว่างของเด็ก 5 คน ไดแ้ ก่ Pat, Tom, Sally, Kate และ
David แลว้ ลากเส้นเพอื่ จบั คู่ชื่อเด็กๆ ทั้ง 5 กับภาพกจิ กรรมตา่ งๆ ในหนังสือเรยี น หนา้ 75 ข้อ 2
Listen and draw lines to match the names with the pictures.

My friends have different hobbies. Jame likes painting the pictures.

She has ten pictures. Jack likes collecting stamps. He has hundreds of them.

His favourite stamps are room Spain. Paul likes riding a bike. He always rides
around the town. Cathy goes swimming with her sister. Mike like watering the
plants. He helps his mum in the garden.

ครูเปดิ CD/Track 69 ใหน้ ักเรียนฟงั 3 รอบ นักเรยี นจบั กลุ่มกับเพ่ือน กลุ่มละ 3 คน (Group work)
เพอ่ื ปรึกษาหารือกนั แล้วชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ ครูเขยี นเฉลยคำตอบบนกระดาน ดงั นี้

1. Mike 2. Paul 3. Jane
4. Jack 5. Cathy

3. นักเรยี นสำรวจดภู าพกจิ กรรมกฬี าต่าง ๆ ในหนังสือเรียน หนา้ 76 ข้อ 3 Listen and tick (✓ )
the sports you hear. ซึ่งมดี ว้ ยกนั ทัง้ หมด 5 ภาพ
- ครูเปิด CD ให้นักเรยี นฟัง เพื่อทำเครือ่ งหมาย (√ ) ใต้ภาพกีฬาตา่ งๆ ท่ีนกั เรยี นจะไดย้ นิ จาก
การสนทนาระหว่าง Tom และ Ben

Tom : I’m bored.
Ben : Let’s go swimming.
Tom : Oh, no. I don’t like swimming.
Ben : Well, let’s play a board game.
Tom : I don’t like board games.
Ben : Well, then let’s play football in the park.
Tom : That’s a good idea.

- ครถู ามนักเรยี นว่า สรุป Ben และ Tom เลน่ กีฬาอะไร นกั เรยี นตอบวา่ ฟตุ บอล ครเู ขยี นเฉลย
บนกระดานอีกครงั้

a. ✓ b. - c. ✓ d. - e. ✓

4. ครูบอกนักเรยี นวา่ การท่ีเราจะถามคนอ่ืนว่า ชอบทำอะไรในเวลาวา่ ง เราใชร้ ูปแบบของประโยค
คำถามเป็น Present Simple Tense ดังน้ี

A : What do you like doing in your free time?

B : I like ………….V+ ing.
เชน่ A : What do you like doing in your free time?

B : I like paying the guitar.

การชกั ชวน ส่วนการชักชวนใหผ้ อู้ ื่นไปทำกจิ กรรมกับเรานั้น เราสามารถใช้โครงสร้างประโยคดังน้ี

Let’s + V.1….. รปู เตม็ คือ “Let us”

เชน่ Let’s go shopping. (เราไปซอ้ื ของกันเถอะ)
คำตอบ ตอบรบั เราสามารถพดู ว่า

- That’s a good idea.
- It sounds great. (หรอื good ก็ได้)
- I agree with you.
- I’m OK. (กนั เอง)

ตอบปฏเิ สธ ควรบอกเหตุผลด้วย
- I’m afraid I can’t go.
- Thank you but I don’t finish my homework.
- I would like to go but I don’t have enough money.
(หากมีคำวา่ afraid หรือ but แสดงวา่ ปฏิเสธ)

ครใู หน้ กั เรียนดูรูปแบบการสนทนาในหนังสอื เรยี น หนา้ 76 ขอ้ 4 Ask and answer with your
partner. ครูแบง่ นักเรยี นในหอ้ งออกเปน็ 2 ฝ่าย เพ่ืออ่านบทสนทนาโตต้ อบกัน จากน้ันให้ทง้ั 2 ฝา่ ย
เปลยี่ นบทบาทกนั แลว้ อ่านออกเสียงบทสนทนาอีกคร้ัง

นกั เรยี นจับคู่กนั (Pair work ) เพอ่ื ฝึกบทสนทนา โดยใชข้ ้อมลู จรงิ ในชวี ิตประจำวนั และชักชวนคู่
สนทนาใหเ้ ข้าร่วมชมรมกบั ตน

Michael : What do you like doing in your free time?
Debby : I like playing the piano.
Michael : Let’s join the music club.
Debby : I’m OK.

ครูสุ่มนกั เรียน 3 คู่ ให้ออกมาสนทนาหน้าช้นั เรยี น

 กจิ กรรมรวบยอด

1. ครูเปดิ CD/Track 77 3 รอบ ใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ชีภ้ าพกิจกรรมตา่ งๆ โดยรอบแรกครูชใ้ี ห้
นกั เรียนดูก่อน รอบหลงั ให้นักเรยี นช้ภี าพตาม CD ดว้ ยตนเอง

1. It’s seven o’clock.
2. The children are playing badminton.
3. There are three bins in front of the club.
4. A girl is drawing the picture.
5. Two boys are playing football.

1. นกั เรียนดูภาพเดิมข้างต้น แลว้ นำตัวเลือกท่ีกำหนดใหใ้ นแบบฝึกหัด หน้า 54 ขอ้ 2 Look at the
picture. Then complete the sentences. เติมลงในช่องวา่ ง 5 ขอ้ แต่ก่อนอ่นื ครูใหน้ กั เรยี น
อา่ นตวั เลือกในตารางพร้อมๆ กนั ดังๆ แล้วจงึ ทำแบบฝกึ หัด ครูอนญุ าตใหน้ ักเรยี นเดินไปถามหรอื
ปรกึ ษากับเพื่อนๆ เม่ือทำแบบฝกึ หดั เสรจ็ แล้ว จงึ ช่วยกันเฉลย

1. English club 2. under 3. badminton
4. football 5. bins

ครใู หน้ กั เรยี น 5 คน ยืนขนึ้ อา่ นคนละ 1 ประโยค

2. นักเรียนดูภาพกิจกรรม แลว้ ชว่ ยกนั บอกครูว่า แตล่ ะภาพสื่อความหมายอะไรบ้าง
- นกั เรยี นจับคกู่ ับเพื่อนขา้ งเคียง (pair work) เพ่ือเขยี นคำศัพท์ลงในช่องว่างดว้ ยตัวอกั ษร
ทีก่ ำหนดให้ แต่ตวั อกั ษรเหล่านไ้ี มไ่ ด้เรยี งกนั เปน็ ความหมายที่สมบรู ณ์
- ครสู มุ่ นกั เรียน 5 คู่ ใหย้ นื ขนึ้ อ่าน คนละ 1 ข้อ

1. go swimming 4. water the plant

2. collect stamps 5. ride a bike

3. paint a picture
- หวั หนา้ หอ้ งแสดงความเปน็ ผนู้ ำโดยออกมาเขียนคำศัพท์ท่ีถกู ต้องบนกระดาน นกั เรียนต่างตรวจ

งานของตนและแก้ไข
3. นักเรยี นฝกึ แตง่ ประโยค What’s he / she like doing in his / her free time? กอ่ นอ่ืนครูให้

นกั เรยี นดวู ่า ใครทำกจิ กรรมอะไร แล้วให้นักเรยี นแตง่ ประโยคลงในสมุดของตนเอง ซง่ึ นักเรียนอาจ
ปรกึ ษากับเพื่อนๆ ครูคอยเดินสงั เกตการณ์และชว่ ยเหลือนักเรยี น

- ครูเรยี กนักเรยี นให้ยืนขึน้ อา่ นคนละ 1 ประโยค แล้วออกมาเขียนบนกระดาน นักเรียนที่เหลอื ตา่ ง
ตรวจงานของตน และแกไ้ ข

1. Pat likes collecting stamps in her free time.
2. Tony likes riding a bike in his free time.
3. Kate likes reading in her free time.
4. David likes painting the picture in his free time.
5. May likes singing a song in he free time.

- ครูใหน้ กั เรยี นระวงั การใช้ free time (Present Simple Tense) และ his / her (possessive
adjective)

5. นักเรียนฟงั CD/Track 78 แล้วตรวจคำตอบ

A : What do you like doing in your free time?
B : I like playing football. How about you?
A : I like playing the guitar.
B : I also like it.
A : Really? Then let’s join the music club.
ครสู ุ่มนักเรียน 2 คน ใหB้ยนื ข้ึน: อ่านThคaรt’ูเsขียaนgเoฉoลdยiบdeนaก!ระดาน ใหน้ ักเรยี นแก้ไขงานของตน นกั เรยี น

อา่ นบทสนทนาพร้อมๆ กัน แลว้ ชว่ ยกันแปล
- นกั เรยี นแถวหน้า เดนิ ไปจับคู่กับนักเรยี นแถวหลัง (pair work) เพ่ือฝกึ บทสนทนาดังกลา่ ว โดยใช้
ขอ้ มูลจริงของตน ครูให้นักเรียนฝกึ พดู กับเพ่ือน 2-3 คน จนคลอ่ งแลว้ สุ่มตัวอย่าง 3 คู่ ให้ออกมา
สนทนาหนา้ ช้นั เรยี น และทำท่าทางประกอบคำพูดด้วย

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 5
2. Audio CD Smile ป. 5
3. บตั รภาพ บตั รคำ และแถบประโยค
4. เกมวงกลมมหาภยั (Dangerous circle game)

9. การวัดและประเมินผล

วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจชนิ้ งาน/ใบงาน ช้ินงาน/ใบงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล รายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

สังเกตการใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ทำงาน

English Pre – Test

Choose the correct answer.

1. They are painting………..now.

a. swimming b. pictures c. rides d. stamps

2. It is very hot so she goes……………..

a. swimming b. pictures c. rides d. stamps

3. He collects …………… in his free time. c. rides d.
a. milk and bread b. hamburgers
stamps d. runs
d. runs
4. He ……………a bike in his free time. d. back

a. travels b. drinks c. rides d. water
d. water
5. Son and Sri like playing………..games. d. water

a. travels b. drinks c. rides

6. The……………..are running.

a. horse b. bike c. band

7. I want to join the music…………… .

a. authentic b. athletes c. audit

8. It is raining so he doesn’t……………. .

a. borrow b. drink c. band

9. Let’s join the Sport Club.

a. borrow b. drink c. book

10. What do you like doing in your free time?
a. It closes on Saturdays and Sundays.
b. That sounds great.
c. I like dancing.
d. We can sing, dance and have a barbecue party.

แบบประเมินทักษะทางภาษา

วิชา ………………………………….………...........................….. ชัน้ …………………………………...………..

Lesson ………………………………………………..………….. กิจกรรม ……………………..………………

คำชแ้ี จง : ใหค้ รผู ู้สอน สังเกตการใชท้ ักษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขยี นระดบั คะแนน

ลงในตาราง ให้ตรงกับความสามารถของผูเ้ รียน

เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรงุ

เลขท่ี ช่ือ-สกุล ูพดสนทนาเ ี่กยวกับวิชาท่ีเรียน สรปุ ผล
ิกจ ัวตร ่ีทโรงเ ีรยน และวิธีการเ ิดนทาง การประเมิน
ไอปอโกรเงเสีรียงยนสะกดคำ และบอก
ความหมายคำ ัศพท์เ ่ีกยวกับ ิวชาที่ รวม
เรียน และยานพาหนะ ่ทีใ ้ชในการ คะแน
เ ูพดิดน/ทเางีขยนประโยคด้วย Present
Simple Tense ได้ รวม ้ทังสามารถใช้ น ผ่าน ไมผ่ า่ น
Question Words กับประโยคคำถาม
่อาน ัจบใจความได้
เขียนเ ีรยงความง่ายๆ เก่ียวกับตนเอง
และ ิกจวัตรประจำวันได้

ลงชือ่ ..................................................................... ผปู้ ระเมนิ
การประเมิน : นกั เรียนท่ีได้คะแนน 10 คะแนนขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเตม็ 20)

แบบประเมินช้นิ งาน
คำชีแ้ จง : ให้ครผู ้สู อน ตรวจช้ินงานของนกั เรยี น โดยเขยี นระดบั คะแนนลงในตาราง ใหต้ รงกบั

ความสามารถของผเู้ รยี น
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ต้องปรับปรงุ

การนำเสนอผลงาน (ในภาพรวม) สรปุ ผล
การเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอ การประเมิน
(หรือความสามัค ีคในการทำงาน)
เลข ชอื่ -สกุล ความ ูถก ้ตองของชิ้นงาน รวม
ที่ ความเรียบร้อยสวยงาม
ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ คะแนน ไม่
ผา่ น
ผา่ น

ลงชือ่ ..................................................................... ผ้ปู ระเมิน
การประเมนิ : นักเรียนทไ่ี ด้คะแนน 10 คะแนนข้นึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)

ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน

คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น ในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี
 ลงในชอ่ งว่าง

ให้ตรงกับระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้
4 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนมาก และบอ่ ยคร้ัง สม่ำเสมอ
3 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสม่ำเสมอ
2 = พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยคร้ัง
1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้ัง

คณุ ลักษณะอัน ระดับคะแนน
4 32 1
พึงประสงค์ รายการประเมิน

ดา้ น

1. รักชาติ 1.1 มคี วามรัก และภูมิใจในความเป็นชาติ

ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของศาสนา

กษัตรยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษตั ริย์

2. ซ่ือสัตย์ 2.1 ปฏิบัตติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน

สุจรติ 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง

2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อน่ื

3. มีวินยั 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา

3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของหอ้ ง

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั

พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน

6. มุ่งม่นั ในการ 6.1 มีความตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรค เพือ่ ให้งานสำเร็จ

7. รกั ความเป็น 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

ไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจติ 8.1 รู้จกั การให้เพื่อสว่ นรวม และเพื่อผู้อ่นื

สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผ้อู ื่น

8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................

นักเรียนนีไ่ มผ่ า่ น มีดงั น้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

สรปุ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K)  รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตริย์  อยอู่ ย่างพอเพยี ง
..........................................................................................  ซือ่ สตั ย์สจุ รติ  มุง่ ม่ันในการทำงาน
..........................................................................................  มวี นิ ยั  รกั ความเปน็ ไทย
..........................................................................................  ใฝ่เรียนรู้  มีจติ เปน็ สาธารณะ
1.3 นกั เรียนมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P)
.......................................................................................... สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
..........................................................................................
..........................................................................................  การสอ่ื สาร
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A)  การคดิ
..........................................................................................  การแก้ปญั หา
..........................................................................................  การใชท้ กั ษะชวี ิต
.........................................................................................  การใชเ้ ทคโนโลยี

2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................
(นางสาวเพ็ญพักตร์ แสงกลา้ )

ตำแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรยี นวัดชนิ วราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)

ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง นางสาวเพ็ญพักตร์ แสงกล้า แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
 นำไปใชไ้ ด้จริง
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................... .....................

ลงช่อื .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )

ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม)์

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2

สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ 15101

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 เร่อื ง Free time เวลา ......... ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง What do you like doing in your free time? เวลา ........... ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชีว้ ัดชัน้ ปี
สาระท่ี 1ภาษาเพ่ือการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี

เหตผุ ล
ตวั ชว้ี ัด 2.อา่ นออกเสยี งประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องหลกั การอ่าน

3. ระบุ/วาดภาพ สัญลักษณห์ รือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ข้อความส้ันๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
4. บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆ
หรอื เร่ืองส้ันๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู กึ และ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชี้วัด 2. ใช้คำสัง่ คำขอร้อง คำขออนญุ าต และให้คำแนะนำง่ายๆ
4. พูด/เขียน เพ่ือขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ ัว
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ งสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขียน
ตัวช้ีวัด 1. พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเร่อื งใกลต้ วั
3. พดู แสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกีย่ วกับเรื่องตา่ งๆ ใกล้ตัว
สาระท่ี 2ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อยา่ ง
เหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด 3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วดั 1. บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ การใช้
เครื่องหมายวรรคตอนและการลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชว้ี ดั 1. ฟงั พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆ ท่เี กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับสงั คมโลก
ตวั ชว้ี ัด 1. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ

2. สาระสำคัญ

การเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับกิจกรรมสนั ทนาการในเวลาวา่ ง บทสนทนาถาม – ตอบ เกย่ี วกบั
กจิ กรรมในเวลาว่าง การใช้ประโยคชกั ชวน (Persuasion) และการตอบรบั / ปฎิเสธ การออกเสียงคำทล่ี งท้าย
ดว้ ย s การอา่ นจบั ใจความและการเขยี นเรยี งความ ซ่งึ เป็นการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้สอื่ สารใน
ชวี ิตประจำวนั

3. ตวั ช้วี ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- พูดถาม – ตอบสนทนาเก่ยี วกับกิจกรรมสันทนาการในเวลาวา่ งได้
- ชกั ชวนผู้อื่น และตอบรบั /ปฏิเสธได้
- พูด และเขยี นคำศพั ท์ หมวดหมกู่ จิ กรรมสนั ทนาการได้
- อ่านจับใจความได้
- เขียนบรรยายข้นั ตอนการทำอาหารได้
- เลน่ เกมตามท่ีกำหนดได้
- ออกเสยี งคำทข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ยอกั ษร s ได้

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- บทสนทนาทีใ่ ชใ้ นการถาม – ตอบ เกี่ยวกับสันทนาการในเวลาวา่ ง
e.g. A : What do you like doing in your free time?
B : I like playing football.
- คำศัพทเ์ ก่ียวกับสันทนาการในเวลาวา่ ง
- Grammar : 1. Let’s + V. 1
e.g. Let’s join the music club.
2. go + V. ing
e.g. She often goes swimming.
I always go shopping.
3. like + V.ing

e.g. They like playing football.
- Pronunciation : initial sound [s]
- การอ่านจับใจความ
- การเขียนเรียงความ
- การใช้ภาษาในการฟัง / พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกดิ ขนึ้ ในโรงเรยี น
- ความแตกต่างของเสยี งตวั อักษรภาษาองั กฤษ และภาษาไทย
- มารยาททางสงั คมท่ีดีและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศพั ท์ที่เกยี่ วข้องใกล้ตัว จากสือ่ และ

แหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ
4.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่

-
5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
- ทกั ษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

- ใฝ่เรียนรู้
- อยอู่ ย่างพอเพียง
- มจี ติ สาธารณะ

7. กิจกรรมการเรียนรู้

 กจิ กรรมนำสกู่ ารเรยี นรู้
1. นกั เรียนทบทวนคำศพั ท์ และโครงสรา้ งประโยคตามท่ไี ด้เรยี นในช่วั โมงที่ 1-2 แลว้ ครชู ภู าพ
กจิ กรรมสนั ทนาการในเวลาว่างทีละภาพ เพ่ือใหน้ ักเรียนแต่งประโยค
2. ครบู อกนักเรยี นว่า ในชั่วโมงนี้ นักเรียนจะได้เรียนรเู้ กย่ี วกบั กิจกรรมสันทนาการ และฝึกทกั ษะ
ด้านการอ่าน และการเขียน

 กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้

1. ให้นกั เรียนแลน่ เกม Dangerous Circle (วงกลมมหาภยั ) เพ่ือฝึกบทสนทนา โดยมวี ิธเี ล่นเกม ดังน้ี

1. ครูใช้ชอล์กลากเส้นเป็นวงกลมบนพน้ื ขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางให้เหมาะสมกบั จำนวน

ผูเ้ ล่น เรียกวงกลมนี้วา่ Dangerous Circle

2. นักเรียนจบั มอื กันเปน็ วงกลม ล้อมรอบวงกลมดงั กลา่ ว

3. ครเู ปดิ CD เพลง นักเรียนจบั มือกนั แล้วเดนิ หมุนไปรอบๆ วงกลม

4. เมือ่ ครูปิด CD เพลง นักเรยี นพยายามดึงคนอ่ืนๆ ใหเ้ ขา้ ไปเหยียบเส้น หรือเขา้ ไปภายใน

วงกลมมหาภยั ให้ได้

5. ผทู้ ่เี ข้าไปเหยยี บเส้นวงกลม ต่างจับคู่กนั เพอื่ ฝึกสนทนา ตามรูปแบบในหนังสือเรยี น

หนา้ 76 ข้อ 4

เชน่ Samsri : What do you like doing in your free time?

Narong : I like playing the violin.

Samsri : Let’s join the music club.

Narong : That’s a good idea. เป็นต้น

6. ถ้าขนาดของวงกลมเล็ก ใหผ้ ูเ้ ลน่ เกมเข้าไปอยู่ในวง และพยายามดึงเพ่ือนใหเ้ หยยี บ

เสน้ วงกลม

7. นกั เรียนค่ทู เ่ี หลือในวงกลมสุดทา้ ย คือ ผู้ชนะ จะไดร้ บั รางวัลจากครู แตก่ ่อนรบั รางวลั

ต้องพูดสนทนาดังกล่าว ถ้าไม่มคี ู่ ครเู ป็นคูส่ นทนา

2. นักเรียนอ่านประกาศเก่ียวกับชมรมยวุ ชนยมิ้ (Smile youth club) ในหนงั สือเรยี น หน้า 77 ข้อ 5
Read the notice and answer the questions. แต่ก่อนอนื่ ครูขอใหน้ ักเรยี นอา่ นคำถามทัง้ 5
ใต้ใบประกาศดังๆ แลว้ ชว่ ยกนั แปล เพือ่ จะได้มจี ดุ มงุ่ หมายในการอ่าน
- ครกู ำหนดเวลาใหน้ ักเรียนอ่านประกาศใน 10 นาที เพ่ือตอบคำถาม 5 ข้อ จากนั้นจึงช่วยกันเฉลย
ครูสมุ่ นักเรียน 5 คน ให้ออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน

1. It’s about the summer programmer.
2. No, it isn’t.
3. No, I can’t.
4. I can play games of baseball, ping-pong and much more learn to
- play
- the guitar, learn to paint pictures.

- ครูให้นักเรีย5น.อ่าIนt’ขs้อoคnวSาaมtuในrdปaรyะJกuาnศeท2ีล1sะtบaรnรdทJดั ulแy1ล9้วtชhว่. ยกนั แปล

Background Information

1. The + เครือ่ งหมายดนตรี เชน่ She is playing the piano.

They are playing the violins.

แต่ไม่ใชก้ บั การเล่นกฬี า เชน่ We are playing football.

He is playing ping-pong.

2. P.M. ยอ่ มาจาก Post meridiem ใช้กบั ช่วงเวลาเทีย่ งวนั ถงึ เท่ยี งคืน

A.M. ย่อมาจาก Ante meridiem ใชก้ บั ช่วงเวลาเท่ียงคืนถึงเท่ียงวนั

3. นักเรียนเขทยี นงั้ ใaบ.mปร. ะแกลาะศpด.m้วย.ตใชนก้เอบั งตโวั ดเยลใขช้ค1-ำ1ท2ี่กเำทห่านนดนั้ ในเชหน่นงับสา่ ือยเร1ียโนมขงอ้= 61 pหmนา้ ไม7่ใ7ช่C1o3mpmplete
the notice. Use the phrases in the box to help you. นกั เรยี นสามารถดูตัวอยา่ งการ

เขียนได้จากประกาศขา้ งต้น จากนั้นจึงนำมาสง่ ครู ครคู ัดเลือกผลงาน 3 ชิ้น แล้วให้เจา้ ของผลงาน

ออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น

ENGLISH CLUB
SUMMER PROGRAMME
Open Mondays to Saturdays: 1 pm to 6 pm
Closed on Saturdays and Sundays

Things we do
Play board games, watch English films, listen to English songs
Singing English songs, practice dialogues, play scrabble and much more

Special activities
Monday November 25th : speaking contest
Tuesday November 26th : scrabble contest
Wednesday November 27th : singing contest

Background Information

ครูให้ความรู้เพ่มิ เติมแก่นักเรยี น ดงั น้ี

1. ชอ่ื วนั มี S ขา้ งท้าย แปลว่า ทุกๆ วนั

เชน่ on Saturdays = every Saturday

Sundays = every Sunday

2. board games ไดแ้ ก่ เกมท่เี ลน่ บนแผน่ กระดาน มผี ้เู ลน่ อย่างน้อย 2 คน
ได้แก่

4. ใหน้ กั เรยี นเปดิ หนังสหือมเารกียรนุกหหนม้าาก7ฮ7อLสisหtมeาnกaลอ้nมdโตs๊aะyฯ.ลฯหัวข้อ English sounds ใหน้ กั เรียนฟงั
CD/Track 71 แ3ล.ว้ “ฝdกึ iaอlอoกguเสe”ียงคือ[s]“fCinoanlvseorsuantidonท”า้ ยคำกรยิ า ดงั น้ี

4. คwาaวlk่าs“barbecue” นนั้ ชาliวvตe่าsงชาติมกั เขียนตวั ย่อว่า “BBQ”
puts joins

takes plays
- ถา้ นกั เรียนออกเสยี งไม่ถูกตอ้ ง ครใู ห้นกั เรียนดปู ากครู แลว้ พูดตาม
- ครูใหน้ ักเรยี นฝกึ พดู ตาม CD อกี หลายครั้งจนคลอ่ ง แล้วพูดพร้อมๆ กัน ครูสมุ่ นักเรียนแถวหลงั 3

คน ใหย้ ืนขนึ้ อ่าน 1 คน อา่ นท้งั 6 คำ
- ครูกล่าวตักเตือนนักเรียนบางคนทีท่ านทอฟฟี่มากจนฟันผุ ทำใหอ้ อกเสียง [s] final sound ไม่ดี

เทา่ ท่คี วร ท้ัง ๆ ที่ครูเคยสอนเรอ่ื ง Healthy food ไปแลว้

 กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนอ่านบทความเพือ่ ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ผู้คนมาเทยี่ วท่ี The Wild Resort โดยดูภาพประกอบ
ครเู สนอแนะให้นกั เรยี นอา่ นคำถามทั้ง 3 ขอ้ ทอ่ี ยใู่ ต้ข้อความกอ่ น เพอ่ื จะไดม้ ีจุดมุ่งหมายในการอ่าน
ครูอนุญาตให้นักเรียนปรึกษากับเพื่อนๆ ได้

- ครถู ามคำถามแล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันตอบ ครูสุ่มตัวอย่างนักเรยี น 3 คน ใหอ้ อกมาเขยี นคำตอบ
บนกระดาน ครูตรวจและแกไ้ ขอกี คร้งั

1. It is for children 9-14 years old.
2. There are four activities.
3. I can check at the website : www.wildresort .com

2. นกั เรยี นทบทวนการออกเสยี ง [s] ท้ายคำ (final sound) และครูบอกนักเรียนว่า ในประโยค
Present Simple Tense น้ัน ถา้ ประธานของประโยคเปน็ เอกพจน์ กรยิ าจะเติม s เชน่ คำกรยิ าที่
นกั เรยี นจะไดฟ้ ังจาก CD ครูใหน้ กั เรียนดคู ำศัพทท์ จ่ี ะฟงั และพดู ตาม. หัวขอ้ English sounds

talks gives

gets say

paint water

- ครูเปิด CD/Track 79 ให้นกั เรียนฟัง และพดู ตาม 3 รอบ จนนักเรียนอ่านออกเสยี งตามได้คล่อง
จากนั้นให้นกั เรียนอ่านออกเสียงโดยพร้อมเพรยี งกัน

3. ครูใหน้ กั เรยี นทำใบงาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน Smile ป. 5
2. Audio CD Smile ป. 5
3. บัตรภาพ บตั รคำ และแถบประโยค
4. เกมวงกลมมหาภยั (Dangerous circle game)

9. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจชิน้ งาน/ใบงาน ช้ินงาน/ใบงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล รายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

สังเกตการใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ทำงาน

Worksheet : Unit 6 free time

Name…………………………………………..……………………………………………………………………………….class……….……..No…………....

Nickname…………………………………. Date…………………………………… Teacher………………………………………….

( วิชาภาษาองั กฤษ อ 15101 ) กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

Correct the misspelled words and draw lines to match the
correct pictures.

1. og swiming
2. do atheetics
3. collect satamps
4. piant a pigture
5. wator the pants
6. riae a bike
7. pay in a band
8. take pothos
9. playing footboll
10. og shopping

What do you like doing in your free time?

____________________________________________________

แบบประเมินทักษะทางภาษา

วชิ า ………………………………….………...........................….. ชั้น …………………………………...………..

Lesson ………………………………………………..………….. กจิ กรรม ……………………..………………

คำชีแ้ จง : ใหค้ รูผู้สอน สงั เกตการใชท้ ักษะทางภาษาในขณะปฏบิ ัติกิจกรรม โดยเขียนระดับคะแนน

ลงในตาราง ให้ตรงกบั ความสามารถของผู้เรยี น

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง

เลขที่ ชอื่ -สกุล ูพดสนทนาเ ี่กยวกับวิชาท่ีเรียน สรุปผล
ิกจ ัวตร ่ีทโรงเ ีรยน และวิธีการเ ิดนทาง การประเมิน
ไอปอโกรเงเสีรียงยนสะกดคำ และบอก
ความหมายคำ ัศพท์เ ่ีกยวกับ ิวชาที่ รวม
เรียน และยานพาหนะ ่ทีใ ้ชในการ คะแน
เ ูพดิดน/ทเางีขยนประโยคด้วย Present
Simple Tense ได้ รวม ้ทังสามารถใช้ น ผา่ น ไมผ่ ่าน
Question Words กับประโยคคำถาม
่อาน ัจบใจความได้
เขียนเ ีรยงความง่ายๆ เก่ียวกับตนเอง
และ ิกจวัตรประจำวันได้

ลงชื่อ ..................................................................... ผ้ปู ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรียนที่ได้คะแนน 10 คะแนนขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเต็ม 20)

แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
คำชแี้ จง : ใหค้ รผู สู้ อน ตรวจช้ินงานของนกั เรยี น โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตาราง ใหต้ รงกบั

ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรบั ปรงุ

การนำเสนอผลงาน (ในภาพรวม) สรปุ ผล
การเตรียมความพร้อมก่อนนำเสนอ การประเมนิ
(หรือความสามัค ีคในการทำงาน)
เลข ชอ่ื -สกุล ความ ูถก ้ตองของชิ้นงาน รวม
ท่ี ความเรียบร้อยสวยงาม
ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ คะแนน ไม่
ผา่ น
ผ่าน

ลงชอ่ื ..................................................................... ผ้ปู ระเมิน
การประเมิน: นกั เรยี นที่ได้คะแนน 10 คะแนนขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเต็ม 20)

ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน

คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น ในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี
 ลงในชอ่ งว่าง

ให้ตรงกับระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้
4 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนมาก และบอ่ ยคร้ัง สม่ำเสมอ
3 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสม่ำเสมอ
2 = พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยคร้ัง
1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้ัง

คณุ ลักษณะอัน ระดับคะแนน
4 32 1
พึงประสงค์ รายการประเมิน

ดา้ น

1. รักชาติ 1.1 มคี วามรัก และภูมิใจในความเป็นชาติ

ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของศาสนา

กษัตรยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษตั ริย์

2. ซ่ือสัตย์ 2.1 ปฏิบัตติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน

สุจรติ 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง

2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อน่ื

3. มีวินยั 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา

3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของหอ้ ง

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั

พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน

6. มุ่งม่นั ในการ 6.1 มีความตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรค เพือ่ ให้งานสำเร็จ

7. รกั ความเป็น 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

ไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจติ 8.1 รู้จกั การให้เพื่อสว่ นรวม และเพื่อผู้อ่นื

สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผ้อู ื่น

8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ..................

นักเรียนนีไ่ มผ่ า่ น มีดงั น้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

สรปุ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K)  รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตริย์  อยอู่ ย่างพอเพยี ง
..........................................................................................  ซือ่ สตั ย์สจุ รติ  มุง่ ม่ันในการทำงาน
..........................................................................................  มวี นิ ยั  รกั ความเปน็ ไทย
..........................................................................................  ใฝ่เรียนรู้  มีจติ เปน็ สาธารณะ
1.3 นกั เรียนมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P)
.......................................................................................... สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
..........................................................................................
..........................................................................................  การสอ่ื สาร
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A)  การคดิ
..........................................................................................  การแก้ปญั หา
..........................................................................................  การใชท้ กั ษะชวี ิต
.........................................................................................  การใชเ้ ทคโนโลยี

2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................
(นางสาวเพ็ญพักตร์ แสงกลา้ )

ตำแหน่ง ครู คศ.1 โรงเรยี นวัดชนิ วราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม์)

ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง นางสาวเพ็ญพักตร์ แสงกล้า แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
 ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่
 นำไปใชไ้ ด้จริง
 ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................... .....................

ลงช่อื .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )

ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม)์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รหัสวิชา อ 15101
สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รายวิชา ภาษาองั กฤษ ภาคเรียนที่ 2
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 เวลา ......... ชั่วโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 เรือ่ ง Free time เวลา ........... ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วดั ช้ันปี
สาระท่ี 1ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอื่ งทีฟ่ ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี

เหตุผล
ตัวช้วี ดั 2.อ่านออกเสยี งประโยค ข้อความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องหลักการอ่าน

3. ระบุ/วาดภาพ สญั ลกั ษณห์ รอื เคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ข้อความสน้ั ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
4. บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา และนิทานง่ายๆ
หรอื เรอ่ื งสนั้ ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและ
ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชวี้ ดั 2. ใช้คำสง่ั คำขอร้อง คำขออนญุ าต และให้คำแนะนำง่ายๆ
4. พดู /เขยี น เพื่อขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ งสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่างๆ โดยการพดู และ
การเขยี น
ตวั ชี้วัด 1. พูด/เขียนใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเองและเร่อื งใกลต้ ัว
3. พดู แสดงความคดิ เห็นงา่ ยๆ เกี่ยวกบั เรื่องต่างๆ ใกล้ตวั
สาระที่ 2ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใชไ้ ด้อย่าง
เหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชว้ี ดั 3. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตวั ชว้ี ัด 1. บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้
เคร่อื งหมายวรรคตอนและการลำดบั คำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ ับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตัวชว้ี ดั 1. ฟัง พดู และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ต่างๆ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเปน็ เคร่ืองมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชพี และการแลกเปล่ียนเรียนร้กู บั สังคมโลก
ตัวชีว้ ัด 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ
2. สาระสำคญั

การเรยี นร้คู ำศัพท์เก่ยี วกับกิจกรรมสันทนาการในเวลาวา่ ง บทสนทนาถาม-ตอบ เกีย่ วกับ
กจิ กรรมในเวลาว่าง การใช้ประโยค be + going to + V.1 เพ่ือบอกเหตุการณ์ท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต การออก
เสยี งคำที่ขึ้นต้นดว้ ย w การอ่านจบั ใจความ และการเขียนเรยี งความ เป็นการเรียนรู้ภาษา เพือ่ นำไปใช้สื่อสาร
ในชีวิตประจำวนั

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

- พูดถาม – ตอบ สนทนาเก่ียวกับกิจกรรมสนั ทนาการในเวลาว่างได้
- ชกั ชวนผอู้ ืน่ และตอบรับ / ปฏิเสธได้
- พูด และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ และประโยคตา่ งๆ ในบทน้ไี ด้
- ใชป้ ระโยค be + going to + V.1 ได้
- อา่ นจับใจความได้
- เขียนเรียงความได้
- เลน่ เกมและร้องเพลงตามท่ีกำหนดได้
- ออกเสียงคำขึน้ ต้นด้วยอักษร w ได้

4. สาระการเรียนรู้

4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- บทสนทนาถาม – ตอบ เก่ียวกับกจิ กรรมสันทนาการในเวลาว่าง
e.g. A : Is Sara going to take photos?
B : No, she isn’t.
A : What is he going to do?
B : She’s going to play tennis.
- คำศัพทเ์ ก่ยี วกบั สันทนาการ
- Grammar : be + going to + v.1
e.g. We are going to join the English club.
- Pronunciation : initial sound [s]

- การอา่ นจับใจความ
- การเขยี นเรียงความ
- การใช้ภาษาในการฟัง / พูด ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกดิ ขึ้นในโรงเรียน
- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
- มารยาททางสงั คมที่ดีและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
- การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องใกลต้ วั จากส่ือและ

แหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ
4.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน

-

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทักษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

- ใฝ่เรยี นรู้
- อย่อู ย่างพอเพยี ง
- มจี ติ สาธารณะ

7. กิจกรรมการเรียนรู้

 กจิ กรรมนำสู่การเรียน
1. ครทู บทวนคำศัพทแ์ ละเนื้อหาวชิ าท่เี รียนในบทเรยี นทผี่ า่ นมา
2. ครบู อกจุดม่งุ หมายในการเรยี นว่าในบทน้ี นกั เรียนจะเรยี นร้กู ารใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชนต์ ่อการ
บอกเหตุการณ์ในอนาคต Verb to be + going to + V.1 การอา่ นจับใจความ และการเขียน

 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. นักเรียนดูภาพท้ัง 7 และกลุ่มคำใต้ภาพในหนังสือเรียน หน้า 78 Listen, point and repeat. ครู
เปิด CD/Track 72 ใหน้ ักเรียนฟัง 1 รอบ พดู ตาม โดยชไี้ ปทลี ะภาพใหต้ รงตามเสียงทไี่ ด้ยนิ จาก CD

put on a show take photos have a barbecue go shopping
decorate invitation blow up balloon

- ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันแปลความหมาย
- ครเู ปดิ CD อีก 2 รอบ ให้นักเรยี นฟงั และพูดตามจนคลอ่ ง จากนน้ั ครูให้นักเรยี นพูดพร้อมๆ กนั

โดยไมฟ่ ัง CD

2. ครูช้ที ่ีภาพใบหนา้ ของเด็ก 5 คน ในหนงั สือเรยี น หนา้ 78 ข้อ 2 Listen and match the
names with the pictures. ครถู ามวา่ เด็กท้งั 5 ภาพ คือใคร นักเรียนตอบวา่ Mike, Jack, Cathy,
Jane, Paul

- ครูให้นกั เรียนดูภาพกจิ กรรมทั้ง 10 ชนิด ใตภ้ าพ และถามว่ามีกิจกรรมอะไรบา้ ง นักเรียนช่วยกนั
โดยเรยี งจากขอ้ a- h

- ครูเปดิ CD/Track 73 ใหน้ ักเรยี นฟัง 2 รอบ เพื่อจบั คกู่ จิ กรรมให้ถูกต้องกับบุคคล บคุ คลหนึ่งอาจ
ทำกิจกรรมมากกว่า 1 ชนิดก็ได้ จากนน้ั ให้นักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ

Paul : Hello, Cathy. What’s your plan? What are you going
to do at the party on Saturday night?
Cathy : I like wearing fashionable clothes. I’m going to put on
a fashion show and send the invitations.
Paul : That’s great! Who is going to play the guitar?
Cathy : Jack. He’s going to play with the school band.
David : Good. Jack can play the guitar very well. And what
about the food?

Cathy : Jane is going to have barbecue. She’s going shopping
with Mike.
Paul : Who is going to decorate the room?
Cathy : Mike is going to decorate the room with the balloons.
Paul : And who’s going to blow the balloons?
Cathy : Jack.
Paul : Great!
Cathy : And what are you going to do, Paul?
Paul : I’m going to take photos. I’m going to put them on the
wall in the club.

Mike b,e Jane b,c Jack f,g Paul a Cathy b,e

- ครูแจก CD script ให้นักเรยี นดแู ละฟัง CD ประกอบอีกครงั้ เมื่อนักเรยี นฟงั CD จบ จงึ ช่วยกัน
แปลตาม script

3. ครูสอน Grammar be + going to + V.1 โดยครูบอกนักเรยี นว่า การท่เี ราจะแต่งประโยคเพ่ือบอก
อนาคตอันสน้ั เราสามารถใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั นี้

Verb to “be” + going to + V.1 แปลวา่ กำลงั จะ.....(กรยิ า)....

Verb to “be” ไดแ้ ก่ “is, am, are” มีรปู แบบการใชแ้ ตกตา่ งกันตามประธานของประโยค ดงั นี้

I am go shopping.

He is cook dinner.

She is feed the dog.

It is going to sing a song.

We are study English.

You are go to school.

They are take a bath.

ประโยคปฏเิ สธ เราสามารถเปลี่ยนประโยคบอกเลา่ ให้เปน็ ประโยคปฏเิ สธ โดยการเติม not หลัง
Verb to “be” เชน่

บอกเล่า She is going to take a bath.
ปฏเิ สธ She is not going to take a bath.
บอกเลา่ I am going to travel to England.
ปฏิเสธ I am not going to travel to England.
บอกเลา่ They are going to pass the exam.
ปฏิเสธ They are not going to pass the exam.

รูปย่อ
is not isn’t

are not aren’t

am not ไม่มีรูปยอ่ แต่

สามารถใช้ I’m not แทนได้
ประโยคคำถาม ประโยคบอกเล่าสามารถเปลีย่ นเป็นประโยคคำถามไดโ้ ดยการนำ Verb to “be”
มาวางไวห้ นา้ ประโยค เรียงสว่ นทเ่ี หลอื เหมือนเดิม และเติมเคร่ืองหมายคำถาม Question Mark
ทา้ ยประโยค เชน่

บอกเลา่ He is going to see a movie.
Is he going to see a movie?
ตอบ Yes, he is. หรอื No, he isn’t.
บอกเลา่ They are going to buy a car.
คำถาม Are they going to buy a car?
ตอบ Yes, they are. หรอื No, they aren’t.
บอกเลา่ I am going to pass the test.
คำถาม Am I going to pass the test?
ตอบ Yes, they are. หรือ No, you aren’t.

ประโยคคำถาม Wh -Question เราใช้ Wh- Question วางไวบ้ นประโยคคำถาม เมือ่ ตอ้ งการ
คำตอบอนื่ ๆ ที่ไมใ่ ช่ Yes หรอื NO

ประโยคคำถาม Is she going to do?
ถามถงึ สิ่งของ What is she going to do? ตอบ She’s going to (กริยา).

ถามถงึ สถานที่ Where is she going to do? ตอบ She’s going to go (สถานท่ี).
ถามถงึ เวลา When is she going to do? ตอบ She’s going to do at (เวลา).
ถามถงึ วิธกี าร How is she going to do? ตอบ She’s going to do (วธิ ีการ).
ถามถงึ เหตผุ ล Why is she going to do? ตอบ She’s going to do because

(บอกเหตผุ ล).
การออกเสยี งประโยคคำถาม

o ประโยคคำถามท่ีตอ้ งการคำตอบ เช่น Yes หรือ No เราจะขน้ึ เสียงสงู ท้ายประโยค
เชน่ Are you going play football?
Is she going to go to the party?

o ประโยค Wh- Question ให้ลงเสียงต่ำท้ายประโยค
เชน่ Where is he going to sing?
How are they going to go to London?

4. นักเรยี นดภู าพของ Lisa, Ben, Harry and May ในหนงั สอื เรียน หน้า 79 Look and say what
they are going to do tomorrow. ภาพเดก็ ทัง้ 5 นไ้ี ด้โยงเสน้ ไปยังภาพอุปกรณ์ต่างๆ ซงึ่ สือ่
กิจกรรมของแตล่ ะคน ครูให้นักเรยี นอ่านประโยคตวั อยา่ งในหนงั สือเรยี นเพ่ือเป็นแนวทางในการพดู
เชน่
Students : Anna is going to go shopping tomorrow.
- นักเรียนแต่งประโยคที่เหลอื โดยเขียนลงในสมดุ ครูใหเ้ ติม “tomorrow” ซง่ึ แปลว่า “พรงุ่ น้ี”
ไว้ทา้ ยประโยค
เช่น - Ben is going to take photos tomorrow.
- Anna is going to write the imitator tomorrow.
- Harry is going to have barbecue tomorrow.
- May is going to put on a fashion show tomorrow.

- เม่ือนกั เรยี นแตง่ ประโยคเสรจ็ แลว้ จงึ นำมาส่งครู เม่ือครตู รวจให้แลว้ นำกลับมาฝกึ พูด
- ครูสุ่มนักเรียน 4 คน ให้ยนื ข้ึนพูดคนละ 1 ประโยค

5. ครใู ห้นกั เรียนดรู ูปภาพหนา้ 79 ขอ้ 3 อีกครั้ง เพื่อจบั คู่กับเพอ่ื นข้างเคยี งและฝึกสนทนาใหน้ กั เรยี นดู
รปู แบบประโยคสนทนาได้ในหนังสือเรียน หน้า 79 ขอ้ 4 Look at 3 again. Then ask and
answer with your partner.
- ครูแบ่งนกั เรียนในห้องออกเป็น 2 ฝา่ ย คือ ผถู้ ามและผตู้ อบ เพื่ออา่ นบทสนทนาทลี ะฝ่าย
พรอ้ มกนั

- ครทู ำฉลากรายชือ่ นักเรียน ใหจ้ ับคนละ 1 ใบ เพ่ือฝึกสนทนากับเพ่ือนคนอื่นบา้ ง โดยดูรูปแบบ
การสนทนาในหนงั สือเรยี น

- ครูสุ่มตวั อยา่ งนักเรียน 2 คู่ ให้ออกมาพดู หนา้ ช้ันเรียน ใหเ้ น้นการออกเสยี งสูงหรือตำ่ ท้ายคำถาม
เช่น
เชน่ Suda : Is Ben going to have barbecue tomorrow?
Malee : No, he isn’t.
Suda : What is he going to do?
Malee : He’s going to take photos.

 กิจกรรมรวบยอด
1. นกั เรยี นหาคำศัพท์ท่ซี ่อนอยใู่ นตาราง ใครหาพบก่อนเปน็ คนแรก คือ ผชู้ นะ เสร็จแลว้ ครูเฉลยให้

นักเรียนฟัง

barbecue decorate take a photo water

game plant ride show shopping

2. ครูให้นักเรยี นแต่งประโยคตามภาพท้งั หมด 6 ภาพ ดว้ ยโครงสร้างประโยค

Verb to be + going to + V.1 นกั เรยี นสามารถปรึกษากนั ได้

- ครสู มุ่ นกั เรียน 6 คน ให้อา่ นประโยคที่ตนแต่ง แลว้ ออกมาเขียนบนกระดาน

1. He’s going to take a photo.
2. They’re going to go shopping.
3. She’s going to decorate the board.
4. He’s going to have a barbecue.
5. They’re going to put on a show.
6. She’s going to blow the balloon.

3. ครูใหน้ กั เรียนทำใบงาน

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 5
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 5
3. Audio CD Smile ป. 5
4. บัตรภาพ บัตรคำ และแถบประโยค
5. เกมบันไดงู

9. การวดั และประเมนิ ผล

วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจชน้ิ งาน/ใบงาน ชิน้ งาน/ใบงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล รายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

สังเกตการใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันในการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ทำงาน

Worksheet : Unit 6 free time

Name…………………………………………..……………………………………………………………………………….class……….……..No…………....

Excellent Good FairNickname…………………………………. Date…………………………………… Teacher………………………………………….

( วิชาภาษาอังกฤษ อ 15101 ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

Look at the pictures and write the sentences.

12 3 4
5

67 8

1. They like riding bike.
2. He likes ________________________________
3. ________________________________________
4. ________________________________________
5. ________________________________________
6. ________________________________________
7. ________________________________________
8. ________________________________________

Excellent Good Fair

แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา

วิชา ………………………………….………...........................….. ช้ัน …………………………………...………..

Lesson ………………………………………………..………….. กิจกรรม ……………………..………………

คำชแี้ จง : ให้ครผู ูส้ อน สงั เกตการใช้ทักษะทางภาษาในขณะปฏบิ ัติกิจกรรม โดยเขยี นระดับคะแนน

ลงในตาราง ให้ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรงุ

เลขที่ ช่อื -สกุล ูพดสนทนาเ ี่กยวกับวิชาท่ีเรียน สรุปผล
ิกจ ัวตร ่ีทโรงเ ีรยน และวิธีการเ ิดนทาง การประเมิน
ไอปอโกรเงเสีรียงยนสะกดคำ และบอก
ความหมายคำ ัศพท์เ ่ีกยวกับ ิวชาที่ รวม
เรียน และยานพาหนะ ่ทีใ ้ชในการ คะแน
เ ูพดิดน/ทเางีขยนประโยคด้วย Present
Simple Tense ได้ รวม ้ทังสามารถใช้ น ผา่ น ไม่ผา่ น
Question Words กับประโยคคำถาม
่อาน ัจบใจความได้
เขียนเ ีรยงความง่ายๆ เก่ียวกับตนเอง
และ ิกจวัตรประจำวันได้

ลงชื่อ ..................................................................... ผู้ประเมิน
การประเมิน : นักเรยี นที่ได้คะแนน 10 คะแนนขน้ึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเต็ม 20)

แบบประเมนิ ชน้ิ งาน
คำชแี้ จง : ใหค้ รผู สู้ อน ตรวจช้ินงานของนกั เรยี น โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตาราง ใหต้ รงกบั

ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ตอ้ งปรบั ปรงุ

การนำเสนอผลงาน (ในภาพรวม) สรปุ ผล
การเต ีรยมความพร้อมก่อนนำเสนอ การประเมนิ
(หรือความสามัค ีคในการทำงาน)
เลข ชอ่ื -สกุล ความ ูถก ้ตองของชิ้นงาน รวม
ท่ี ความเรียบร้อยสวยงาม
ความคิด ิรเ ่ริมสร้างสรร ์ค คะแนน ไม่
ผา่ น
ผ่าน

ลงชอ่ื ..................................................................... ผูป้ ระเมิน
การประเมิน: นกั เรยี นที่ได้คะแนน 10 คะแนนขน้ึ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเต็ม 20)

ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ด้าน

คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น ในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี
 ลงในชอ่ งว่าง

ให้ตรงกับระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนน ดังนี้
4 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติชดั เจนมาก และบอ่ ยคร้ัง สม่ำเสมอ
3 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและสม่ำเสมอ
2 = พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยคร้ัง
1 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางคร้ัง

คณุ ลักษณะอัน ระดับคะแนน
4 32 1
พึงประสงค์ รายการประเมิน

ดา้ น

1. รักชาติ 1.1 มคี วามรัก และภูมิใจในความเป็นชาติ

ศาสน์ 1.2 ปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของศาสนา

กษัตรยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษตั ริย์

2. ซ่ือสัตย์ 2.1 ปฏิบัตติ ามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบ้าน

สุจรติ 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ตอ่ ตนเอง

2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจริงต่อผู้อน่ื

3. มีวินยั 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา

3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของหอ้ ง

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ

4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตุผล

5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั

พอเพียง 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน

6. มุ่งม่นั ในการ 6.1 มีความตัง้ ใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย

ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรค เพือ่ ให้งานสำเร็จ

7. รกั ความเป็น 7.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย

ไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย

8. มีจติ 8.1 รู้จกั การให้เพื่อสว่ นรวม และเพื่อผู้อ่นื

สาธารณะ 8.2 แสดงออกถงึ การมีน้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผ้อู ื่น

8.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญตนเพอื่ ส่วนรวมเม่ือมโี อกาส

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้

1 สรุปผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ..................

ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..................

นักเรียนนีไ่ มผ่ า่ น มีดงั น้ี

1............................................................ 2............................................................

3............................................................ 4............................................................

5............................................................ 6............................................................

สรปุ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K)  รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................  ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ  ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
..........................................................................................  มวี นิ ัย  รักความเป็นไทย
..........................................................................................  ใฝเ่ รยี นรู้  มีจิตเป็นสาธารณะ
1.3 นกั เรียนมีความรเู้ กดิ ทักษะ (P)
.......................................................................................... สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
..........................................................................................
..........................................................................................  การสือ่ สาร
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ คา่ นิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A)  การคดิ
..........................................................................................  การแก้ปญั หา
..........................................................................................  การใชท้ กั ษะชีวิต
.........................................................................................  การใช้เทคโนโลยี

2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. ข้อเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................
(นางสาวเพญ็ พักตร์ แสงกลา้ )

ตำแหนง่ ครู คศ.1 โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวทิ ยาเวศม)์

ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผูท้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ของ นางสาวเพ็ญพักตร์ แสงกล้า แล้วมีความเห็นดังน้ี
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่
 ดมี าก
 ดี
 พอใช้
 ควรปรับปรงุ
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เน้นผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
 ยังไม่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี
 นำไปใชไ้ ด้จริง
 ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................... ...........................................

ลงช่อื .........................................................
( นางฉฐั อติพา แชม่ ชมดาว )

ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 รหัสวิชา อ 15101
สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ภาคเรยี นที่ 2
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา ......... ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง Free time เวลา ........... ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง What are you going to do this weekend?

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ช้วี ดั ชน้ั ปี
สาระท่ี 1ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี

เหตผุ ล
ตวั ชวี้ ัด 2.อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องหลกั การอ่าน

3. ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ข้อความสนั้ ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
4. บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทานงา่ ยๆ
หรอื เร่อื งส้นั ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความร้สู ึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ
ตวั ชี้วัด 2. ใชค้ ำสั่ง คำขอร้อง คำขออนญุ าต และให้คำแนะนำงา่ ยๆ
4. พดู /เขยี น เพ่ือขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่างสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องตา่ งๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ตวั ชี้วัด 1. พูด/เขยี นให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั
3. พดู แสดงความคิดเห็นงา่ ยๆ เกยี่ วกับเรอ่ื งต่างๆ ใกลต้ วั
สาระท่ี 2ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้อยา่ ง
เหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วดั 3. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วดั 1. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้
เครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลำดบั คำ (order) ตามโครงสร้างประโยคของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทั้งในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั 1. ฟัง พดู และอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ
อาชพี และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ชวี้ ดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ

2. สาระสำคญั

การเรียนรคู้ ำศัพทเ์ กยี่ วกับกจิ กรรมสนั ทนาการในเวลาวา่ ง บทสนทนาถาม-ตอบ เก่ยี วกับ
กจิ กรรมในเวลาว่าง การใช้ประโยค be + going to + V.1 เพ่ือบอกเหตกุ ารณท์ ่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคต การออก
เสียงคำที่ขน้ึ ตน้ ดว้ ย w การอ่านจับใจความ และการเขียนเรียงความ เปน็ การเรียนรู้ภาษา เพือ่ นำไปใชส้ อื่ สาร
ในชวี ิตประจำวนั

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

- พดู ถาม – ตอบ สนทนาเกย่ี วกับกิจกรรมสันทนาการในเวลาว่างได้
- ชักชวนผอู้ ืน่ และตอบรบั / ปฏิเสธได้
- พดู และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ และประโยคต่างๆ ในบทนไ้ี ด้
- ใช้ประโยค be + going to + V.1 ได้
- อ่านจบั ใจความได้
- เขยี นเรียงความได้
- เลน่ เกมและร้องเพลงตามทีก่ ำหนดได้
- ออกเสยี งคำขน้ึ ต้นดว้ ยอักษร w ได้

4. สาระการเรียนรู้

4.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- บทสนทนาถาม – ตอบ เกีย่ วกบั กิจกรรมสันทนาการในเวลาว่าง
e.g. A : Is Sara going to take photos?
B : No, she isn’t.
A : What is he going to do?
B : She’s going to play tennis.
- คำศัพทเ์ กย่ี วกับสนั ทนาการ
- Grammar : be + going to + v.1
e.g. We are going to join the English club.
- Pronunciation : initial sound [s]

- การอ่านจับใจความ
- การเขยี นเรียงความ
- การใชภ้ าษาในการฟัง / พูด ในสถานการณ์ง่ายๆ ท่เี กิดขนึ้ ในโรงเรียน
- ความแตกตา่ งของเสยี งตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ และภาษาไทย
- มารยาททางสงั คมทดี่ แี ละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศพั ท์ท่เี กีย่ วข้องใกล้ตวั จากส่ือและ

แหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ
4.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

-

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการคิดอยา่ งสร้างสรรค์

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝเ่ รียนรู้
- อย่อู ย่างพอเพียง
- มีจติ สาธารณะ

7. กิจกรรมการเรียนรู้

 กิจกรรมนำสู่การเรยี น
1. นักเรยี นทบทวนคำศพั ทท์ ่ีไดเ้ รียนมาในสัปดาห์ก่อน โดยชูบตั รภาพ เพื่อให้นักเรียนออกเสยี งคำศัพท์
2. ครบู อกจุดมุ่งหมายในการเรยี นร้ขู องชัว่ โมงน้วี า่ นักเรียนจะไดเ้ รียนรูก้ ารใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
ต่อจากชัว่ โมงทแ่ี ล้ว โดยการพูดสนทนา การอา่ น และการเขยี น

 กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้
1. ครใู หน้ ักเรยี นทบทวนการใช้ประโยค Present Simple Tense อกี ครงั้ โดยให้นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ
ดงั นี้

Present Simple Tense ใชก้ บั เหตกุ ารณท์ เี่ กิดขนึ้ เป็นประจำ สมำ่ เสมอ หรือเป็นนิสยั
ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาเตมิ s
ถ้าประธานเปน็ พหูพจน์ กริยาไมเ่ ติม s (I ไมเ่ ตมิ s)

ในประโยค Present Simple Tense มกั มีคำบอกความถี่ในการกระทำ ได้แก่ always, often,
usually, every day, sometimes

- ครูใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบระหวา่ ง Present Simple Tense และ Future Simple Tense

Verb to be + going to + V.1

will (shall) + V.1

โดยใหน้ กั เรียนช่วยกันคดิ และตอบครูวา่ Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ทเ่ี กิดขึน้ จรงิ ใน
ปจั จบุ นั แต่ใช้กบั เหตกุ ารณท์ ่ีกำลงั จะเกดิ ข้ึนในอนาคต

- ครูถามนักเรียนต่อไปวา่ แลว้ Verb to “be” going to + V.1 ซ่งึ แสดงถงึ เหตุการณ์ทีก่ ำลงั จะ
เกดิ ขนึ้ ในอนาคตแตกต่างจากการใช้ will หรือ shall + V.1 อยา่ งไร ให้นักเรียนช่วยกันตอบ
จากนั้นครูจึงเฉลยว่า
1. Will (shall) + V.1 บอกถงึ ความแนน่ อนของเหตุการณจ์ ะเกดิ ข้นึ ในอนาคต เช่น
I will be twelve years old next year.
We will go to Pattaya in summer.
2. Verb to be + going to + V.1 บอกเหตกุ ารณท์ ีจ่ ะเกดิ ข้ึนในอนาคต แตไ่ ม่

แนน่ อนเท่า will (shall) + V.1 เช่น
She’s going to go shopping tomorrow.
They are going to see a movie.

2. นกั เรยี นฝึกบทสนทนากับเพ่อื นร่วมช้นั ด้วยคำกริยาที่กำหนดไว้ในหนังสือเรียน หนา้ 80 ข้อ 5 Ask
and answer with your partner. Use the words in the box. โดยใหท้ ำกิจกรรม ดังน้ี
- ครูใหน้ กั เรียนอา่ นกลุ่มคำท่ีอยใู่ นตารางพร้อมๆ กนั แล้วแปลความหมาย
- ครแู บ่งนักเรยี นในชน้ั ออกเปน็ 2 ฝ่าย เพื่ออา่ นบทสนทนาในหนงั สือพร้อมๆ กัน เช่น
Boys : What do you do in your free time?
Girls : I collect coins.
Boys : What are you going to do this weekend?
Girls : I’m going to paint the picture.

- ครใู หน้ กั เรียนพิจารณาเปรยี บเทยี บคำถามและคำตอบท่ี 1 กับคำถามและคำตอบท่ี 2 ว่าแตกตา่ ง
กนั อยา่ งไร และใช้ Tense อะไร นกั เรียนพิจารณาและเปรียบเทียบ แล้วจงึ บอกครูว่า คำถาม-
คำตอบขอ้ ท่ี 1 ใช้ Present Simple Tense บอกเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขน้ึ เปน็ ประจำบอ่ ยๆ เสมอๆ
และคำถาม- คำตอบ ข้อท่ี 2 ใช้ Verb to be + going to + V.1 แสดงถึงเหตุการณ์ท่ีกำลงั จะ
เกดิ ขึ้นในอนาคต

- นักเรยี นฝกึ พูดสนทนากับเพ่ือน ด้วยขอ้ มลู ที่กำหนดในตาราง และดวู ธิ ีการพดู ในหนังสอื เรียน
- ครูสุ่มนกั เรียน 3 คู่ ให้ออกมาพดู สนทนาหนา้ ชนั้ เรียน โดยให้ครรู ะวงั การใช้ Tense และการออก

เสียงสูงหรอื ต่ำ ท้ายประโยคคำถาม เช่น
Punlya : What do you do in your free time?
Mall : I watch TV.
Punlya : What are you going to do this weekend?
Mall : I’m going to go cycling.

- นักเรยี นอาจเปล่ียนจาก “this weekend” เปน็ tomorrow, next week กไ็ ด้

3. นกั เรยี นอา่ นประโยคท้งั 8 ขอ้ ในหนังสือเรียน หนา้ 80 ข้อ 6 Read and choose the correct
answers. แล้ววงรอบคำกริยาที่ถกู ต้อง โดยในแต่ละข้อจะมีตวั เลอื ก 2 ตัวเลือก จากน้ันครเู รยี ก
นกั เรยี นใหย้ ืนขนึ้ พูดเฉลยคำตอบคนละ 1 ข้อ

1. waters 5. going to have
2. is going to water 6. sometimes play
3. always put 7. never join
4. is going to take 8. is going to fly

4. นกั เรียนอา่ น e-mail แล้วตอบคำถามในหนงั สือเรียน หนา้ 81 Read e-mail and answer the
questions. โดยกอ่ นอื่นให้นกั เรียนอา่ นคำถามพร้อมๆ กันและแปล เพ่ือจะไดม้ ีเป้าหมายของ
คำตอบในการอา่ น e-mail ดังน้ี
- ครูกำหนดเวลาใหน้ กั เรียนอ่านและหาคำตอบ 10 นาที
- นกั เรยี นอา่ นคำถามทลี ะขอ้ แล้วตอบพรอ้ มๆ กนั ครูเขียนคำตอบสัน้ ๆ บนกระดาน

1. Harry
2. Saturday, June 10 at 5 pm
3. At Harry’s house
4. Paul
5. Pat

5. นักเรยี นเขยี น e-mail เชญิ เพื่อนมางานวนั เกิดของตน โดยใช้รูปแบบ e-mail ของ Harry ข้างตน้
นกั เรยี นอาจเขยี นลงในหนังสือเรียน หนา้ 81 ขอ้ 8 Write your e-mail to invite your friend
to your birthday party. Use Harry’s e-mail as a model. หรือเขียนลงในกระดาษถ้า
เนอ้ื หาในหนังสือเรยี นไม่พอ เสร็จแลว้ ให้หวั หนา้ รวบรวมนำงานมาส่งครู

(ตวั อย่าง)

Hi George,
I’m going to have my birthday party and I want you to come. The party is on
Sunday, November 24, at my apartment. I hope you can come.
See you,
Patchara
6. ครูสอนนกั เรียนออกเสยี ง [w] แลว้ ครใู ห้รวบรวมคำศัพท์ท้ังหมดทีไ่ ด้เรียนใน Lesson 1 และ
Lesson 2 เขียนลงใน Your word book พร้อมวาดภาพประกอบใหส้ วยงาม

กจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนตอบคำถามเก่ยี วกับตนเอง ตามความเป็นจรงิ โดยนกั เรียนทกุ คนอ่านประโยคคำถามท้ัง
4 ข้อ พร้อมกนั ดงั ๆ และชว่ ยกันแปล

1. I’m going to have hamburgers for dinner.
2. I’m going to go shopping at the Mall.
3. I’m going to swim in the river.
4. I’m going to go to the party.

2. ครใู ห้นักเรยี นทำใบงาน


Click to View FlipBook Version