ท่ี นร 1006/ว 10 สาํ นักงาน ก.พ.
ถนนพิษณโุ ลก กทม.10300
15 กันยายน 2548
เร่ือง การประเมินบุคคลเพื่อแตงตั้งใหดํารงตําแหนงสําหรับผูปฏิบัติงานท่ีมีประสบการณ (ตําแหนง
ประเภทท่ัวไป) และตําแหนง ประเภทวิชาชพี เฉพาะ ตาํ แหนง ระดบั 8 ลงมา
เรียน (กระทรวง กรม จงั หวดั )
อา งถงึ 1. หนังสอื สาํ นกั งาน ก.พ. ที่ นร 0708.4/ว 16 ลงวนั ที่ 29 กนั ยายน 2538
2. หนงั สือสํานกั งาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 11 ลงวนั ท่ี 21 พฤศจกิ ายน 2546
3. หนงั สือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 6 ลงวันท่ี 9 เมษายน 2547
สิง่ ทส่ี งมาดวย 1. หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารคัดเลือกบคุ คลท่ีจะเขา รับการประเมินผลงาน
2. หลกั เกณฑและวธิ กี ารประเมินผลงานเพอ่ื เลื่อนขนึ้ แตง ตั้งใหดาํ รงตําแหนง ในระดบั
ทส่ี งู ขึน้
3. หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารประเมนิ ผลงานเพอ่ื ยา ย โอนหรอื บรรจกุ ลบั
4. คณุ สมบตั ิของบคุ คลทจี่ ะไดรับแตง ต้ัง
ตามหนงั สอื ทอี่ า งถึง 1 ก.พ. ไดก ําหนดหลักเกณฑและวิธกี ารประเมนิ บุคคลเพอื่ แตง ต้ัง
ใหด าํ รงตาํ แหนง สาํ หรบั ผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ (ตาํ แหนง ประเภททว่ั ไป) ตาํ แหนง ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ
และตําแหนงประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยมอบใหกรมเจาสังกัดเปนผูดําเนินการประเมินบุคคลสาํ หรับ
ตาํ แหนง ระดบั 8 ลงมา และตามหนังสอื ทอ่ี างถึง 2 และ 3 แจงมติ ก.พ. เกยี่ วกบั การมอบอาํ นาจ
การพจิ ารณาคณุ สมบัติของบุคคลเพอ่ื แตงตงั้ ใหดํารงตําแหนงดังกลาวระดับ 8 ลงมา ในกรณตี าง ๆ
ความแจง แลว นน้ั
บดั นี้ ก.พ. พจิ ารณาเหน็ วา เพอ่ื ใหก ารประเมนิ บุคคลดาํ เนนิ การไดอยางเปนระบบ มคี วาม
โปรงใส เปนธรรมและตรวจสอบไดในทุกข้ันตอน สามารถคัดสรรผูท่ีมีความรู ความสามารถ
ความชาํ นาญงานและมคี วามเหมาะสมกับตาํ แหนง ท่ีไดร บั แตงตั้ง ซ่งึ จะกอใหเกดิ ประโยชนต อ หนวยงาน
และระบบราชการโดยรวมมากย่ิงข้ึน ก.พ. จึงมีมติใหยกเลิกหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารประเมนิ บุคคลเพ่อื
แตงต้ังใหดาํ รงตาํ แหนง สาํ หรับผปู ฏิบัติงานท่ีมีประสบการณ (ตําแหนงประเภทท่ัวไป) และตําแหนง
ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ ตาํ แหนง ระดับ 8 ลงมา ตามหนงั สือทอ่ี า งถึง 1 รวมทัง้ ใหยกเลกิ มติ ก.พ.
ตามหนังสอื ที่อางถงึ 2 และ 3 และมมี ตมิ อบให อ.ก.พ.กรมและผมู ีอาํ นาจสงั่ บรรจุตามมาตรา 52 แหง
พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ดําเนินการตามหลักเกณฑและวิธีการประเมิน
บุคคลเพื่อแตงต้ังใหด าํ รงตําแหนง สาํ หรับผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ (ตาํ แหนงประเภททัว่ ไป) และ
ตาํ แหนง ประเภทวิชาชีพเฉพาะ ตาํ แหนง ระดบั 8 ลงมา ดังนี้
2
1. ใหม ีการพิจารณาคดั เลือกบุคคลทีม่ ีความเหมาะสมกอ นทจ่ี ะใหส ง ผลงานประเมนิ และให
ประกาศผลการพจิ ารณาอยา งเปด เผย โปรง ใส รวมท้ังเปด โอกาสใหม ีการทักทว งไดภ ายในเวลา 30 วนั
นบั ตง้ั แตว นั ประกาศผล โดยใหดําเนินการตามหลักเกณฑแ ละวิธกี ารตามสิ่งทส่ี งมาดวย 1
2. การสงผลงานและการประเมินผลงานเพ่ือเล่ือนขึ้นแตงตั้งใหดํารงตําแหนงในระดับ
ทสี่ งู ขน้ึ ใหดาํ เนนิ การตามหลกั เกณฑแ ละวิธีการตามสงิ่ ที่สงมาดวย 2
3. การประเมนิ ผลงานเพอื่ ยา ย โอน หรอื บรรจุกลบั ใหด าํ เนนิ การตามหลักเกณฑและวธิ กี าร
ตามส่งิ ท่ีสง มาดวย 3
4. ผไู ดร บั แตง ตง้ั ตอ งมคี ณุ สมบตั คิ รบถว นตามทก่ี าํ หนดตามสงิ่ ทสี่ ง มาดว ย 4
5. เมอ่ื ผขู อรบั การประเมนิ ผา นการประเมนิ บคุ คลแลว ใหผ มู อี าํ นาจสงั่ บรรจตุ ามมาตรา 52
แหง พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา ราชการพลเรอื น พ.ศ.2535 แตง ตง้ั ใหด าํ รงตาํ แหนง ทข่ี อรบั การประเมนิ ได
ทงั้ น้ี จะแตง ตงั้ ไดไ มก อ นวนั ทกี่ รมเจาสงั กดั ไดร ับผลงานทม่ี เี อกสารหลกั ฐานครบถว นสมบูรณ สามารถ
นําไปประกอบการพิจารณาไดทันที โดยไมตองแกไขเพิ่มเติมในสวนท่ีเปนสาระสําคัญของผลงาน
และไมกอนวันท่ีผูน้ันมีคุณสมบัติครบถวนตามหลักเกณฑที่กําหนด รวมทั้งตองเปนไปตามหนังสือ
สาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว 255 ลงวันท่ี 27 พฤศจกิ ายน 2524 และหนงั สือสาํ นักงาน
ก.พ. ท่ี สร 0711/ว 9 ลงวันท่ี 22 สิงหาคม 2523 ดว ย
6. โดยท่ี ก.พ. กาํ หนดให อ.ก.พ.กรม มีอาํ นาจหนาท่แี ตง ตั้งคณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คล
คณะกรรมการประเมินผลงาน รวมทั้งพิจารณากําหนดหลักเกณฑและวิธีการเก่ียวกับการพิจารณา
คดั เลอื กบคุ คล การประเมินผลงาน การพจิ ารณาคณุ สมบัติเกยี่ วกับระยะเวลาข้นั ต่ําในการดาํ รงตาํ แหนง
และอน่ื ๆ เพม่ิ เตมิ จากหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารที่ ก.พ. กาํ หนดได ดงั นน้ั จงึ ขอใหส ว นราชการรบี ดาํ เนนิ การ
ให อ.ก.พ.กรมดําเนินการตามอํานาจหนาท่ีดังกลาวโดยเร็ว เพื่อสวนราชการจะไดมีหลักปฏิบัติและ
สามารถดําเนินการประเมินบุคคลเพื่อแตงต้ังขาราชการใหดํารงตําแหนงตาง ๆ ไดอยางตอเน่ือง
มปี ระสิทธิภาพและเกิดประสิทธผิ ล
7. หลกั เกณฑแ ละวธิ ีการท่ี ก.พ. กาํ หนดตามหนงั สือฉบบั น้ีใหใ ชต งั้ แตว ันที่ 1 ตุลาคม
2548 เปนตนไป
8. การประเมนิ บคุ คลตาํ แหนง ระดบั 8 ลงมา ทอ่ี ยรู ะหวา งการดาํ เนนิ การของกรมเจา สงั กดั กอ น
วนั ทหี่ ลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารตามหนงั สอื ฉบบั นมี้ ผี ลใชบ งั คบั กใ็ หด าํ เนนิ การตามหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารท่ี ก.พ.
กาํ หนดไวเดมิ ตามหนังสอื ท่อี า งถงึ 1-3 ตอ ไปจนแลวเสร็จ
อนง่ึ สาํ หรบั การประเมนิ บคุ คลเพอื่ แตง ตงั้ ใหด าํ รงตาํ แหนง ตง้ั แตร ะดบั 9 ขนึ้ ไป ยงั คงใช
หลกั เกณฑและวธิ กี ารประเมนิ บคุ คลตามที่ ก.พ. กาํ หนดไวเดมิ ในหนงั สือท่อี างถึง 1 ทงั้ น้ี เฉพาะวิธีการ
ประเมินบคุ คลสาํ หรบั ตาํ แหนง ประเภทวชิ าชพี เฉพาะตง้ั แตร ะดบั 9 ขน้ึ ไป ใหใ ชว ิธีการประเมินบคุ คล
ทง้ั 4 ขน้ั ตอนเชน เดียวกับตาํ แหนง ประเภทเช่ียวชาญเฉพาะ
3
จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและถอื ปฏิบตั ติ อ ไป ท้งั น้ี ไดแจง ใหกรมและจงั หวดั ตา ง ๆ
ทราบดว ยแลว
ขอแสดงความนับถอื
(นายสมี า สีมานันท)
เลขาธิการ ก.พ.
สํานกั ตรวจสอบและประเมินผลกําลงั คน
โทร. 0 2281 0977
โทรสาร 0 2282 7316
สงิ่ ทส่ี งมาดวย 1
หลักเกณฑแ ละวธิ ีการคัดเลอื กบุคคลท่ีจะเขารับการประเมินผลงาน
1. กรณีการคดั เลือกบคุ คลท่ีจะเขา รับการประเมินผลงานเพื่อเลือ่ นข้ึนแตง ตง้ั
ใหด าํ รงตําแหนงในระดบั ทสี่ งู ขึ้น
1.1 ใหคัดเลือกเพื่อเลื่อนข้ึนแตงตั้งใหดํารงตําแหนงในระดับท่ีสูงกวาระดับ
ตําแหนง ท่ผี นู ้นั ดํารงอยูไดไมเกิน 1 ระดับ
1.2 ใหม ีการคัดเลอื กบคุ คลอยา งเปน ระบบ มคี วามโปรงใส เปน ธรรม และ
ตรวจสอบได เพื่อใหไดบุคคลท่ีมีความรูความสามารถ มีความเหมาะสมท่ีจะใหสงผลงาน
ประเมิน และใหม ีการประกาศผลการคดั เลอื กอยา งเปดเผย รวมทงั้ เปด โอกาสใหม กี ารทกั ทว ง
ไดภ ายในเวลาทกี่ าํ หนด
1.3 การคดั เลือกบุคคลทจี่ ะเขารับการประเมนิ ผลงาน แบงเปน 2 กรณี คือ
1.3.1 กรณีการคัดเลือกบคุ คลเพื่อแตง ตัง้ ใหดํารงตาํ แหนงท่ี ก.พ. หรือ
ผูที่ไดรบั มอบหมาย กําหนดเปนตําแหนง ท่ีปรับระดับสงู ขนึ้ ไดจ ากระดับเรม่ิ ตนของสายงาน
และมีผูค รองตําแหนง อยแู ลว เชน ตาํ แหนงพยาบาลวิชาชพี 3-5 หรือ 6 ว หรือ 7 วช.
ตาํ แหนง บคุ ลากร 3-5 หรอื 6 ว หรอื ตาํ แหนง นายแพทย 4-6 หรอื 7 วช. หรอื 8 วช. เปน ตน
ใหผ มู อี าํ นาจสงั่ บรรจตุ ามมาตรา 52 เปน ผพู จิ ารณาคดั เลอื ก ตามหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารที่
อ.ก.พ.กรมกาํ หนด โดยคาํ นงึ ถงึ ความรูความสามารถของบคุ คล ความเหมาะสม ประโยชนท่ี
ทางราชการจะไดรับ และใหระบเุ หตุผลในการพจิ ารณาไวเ ปนลายลกั ษณอ กั ษรดว ย ทง้ั นี้
หากสวนราชการไดมอบอํานาจใหจังหวัดเปนผูดําเนินการประเมินบุคคล ก็ใหผูวาราชการ
จังหวัดเปนผูพิจารณาคัดเลือก โดยใหระบุเหตุผลในการพิจารณาไวเปนลายลักษณอักษร
ทํานองเดยี วกัน
1.3.2 กรณกี ารคัดเลือกบคุ คลเพื่อแตง ตง้ั ใหด าํ รงตาํ แหนง ทไี่ มใ ชต าํ แหนง
ตามขอ 1.3.1 เชน ตาํ แหนง นกั วชิ าการพสั ดุ 7 ว ตาํ แหนง นกั วทิ ยาศาสตรก ารแพทย 8 ว
หรอื ตาํ แหนง เจา หนา ทวี่ ิเคราะหนโยบายและแผน 7 ว หรอื 8 ว เปนตน และกรณกี ารแตงตัง้
ใหดาํ รงตําแหนงวา งทกุ กรณี เชน ตําแหนงพยาบาลวชิ าชพี 3-5 หรือ 6 ว หรือ 7 วช.
ที่วางลง ให อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลท่ี อ.ก.พ.กรมแตงต้ังเปน
ผพู ิจารณาคดั เลอื ก ตามหลักเกณฑแ ละวธิ ีการท่ี อ.ก.พ.กรมกําหนด โดยคาํ นงึ ถึงความรู
ความสามารถของบุคคล ความเหมาะสม ความเปนธรรม และประโยชนที่ทางราชการ
จะไดรับ ท้ังนี้ ให อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลระบุเหตผุ ลในการพิจารณา
ไวเ ปนลายลกั ษณอ ักษรดวย
2
1.4 ในการคัดเลอื กบคุ คลให อ.ก.พ.กรม มอี าํ นาจหนา ท่ีดงั นี้
1.4.1 กาํ หนดหลกั เกณฑเก่ียวกบั คณุ สมบัตขิ องผทู ่ีจะเขารับการคัดเลอื ก
เชน ผูทจ่ี ะเขารับการคดั เลือกตอ งมคี ณุ สมบัตคิ รบถว นแลว หรอื กาํ หนดใหเ ขา รบั การคดั เลอื ก
กอนมีคุณสมบัติครบถวน แตท้งั นตี้ อ งมคี ุณสมบัติครบถวนภายในระยะเวลาที่ อ.ก.พ.กรม
กาํ หนด และกาํ หนดองคป ระกอบอน่ื ทจ่ี ะตอ งเสนอในเบอ้ื งตน เชน ผลการปฏบิ ตั ิงานยอ นหลงั
3 ป ผลงานท่จี ะสง ประเมนิ ท้ัง 2 สว นเปนตน
1.4.2 กําหนดหลักเกณฑและวิธีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลโดยตองมี
องคป ระกอบตา ง ๆ เหลา น้ี ไดแ ก คณุ สมบตั ขิ องบคุ คล คณุ ลกั ษณะของบคุ คล ผลการปฏบิ ตั งิ าน
ยอ นหลงั 3 ป ช่อื ผลงานที่จะสงประเมนิ พรอมท้งั เคา โครงเร่ือง สดั สวนของผลงานในสวนที่
ตนเองปฏิบตั ิและรายช่ือผรู วมจดั ทาํ ผลงาน (ถา ม)ี ขอเสนอแนวคิดเพอ่ื พฒั นางาน รวมท้งั
กําหนดเกณฑก ารตดั สนิ และอน่ื ๆ ตามที่เหน็ สมควร
1.4.3 กําหนดใหมีการประกาศรายชื่อผูไดรับการคัดเลือกตําแหนงละ
1 คน รวมทง้ั ชอื่ ผลงานทจี่ ะสงประเมนิ พรอมท้ังเคา โครงเรอื่ ง สดั สวนของผลงานในสว นที่
ตนเองปฏิบัติและรายช่ือผูรวมจัดทําผลงาน (ถามี) โดยประกาศอยางเปดเผย เชน
ปด ประกาศ ลง Intranet หรอื ลง Web-site เปน ตน และกาํ หนดเวลาใหม กี ารทกั ทว งไดภ ายใน
30 วนั นับตั้งแตว ันประกาศ
1.4.4 ประกาศหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารในขอ 1.4.1–1.4.3 ใหข า ราชการ
ในสังกัดไดทราบท่ัวกัน
1.4.5 พิจารณาคุณสมบัติของบุคคลในเร่ืองระยะเวลาขั้นตํ่าในการดํารง
ตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงในสายงานที่จะแตงตั้งหรือสายงานอ่ืนท่ีเก่ียวของหรือเก้ือกูล
กบั สายงานทจี่ ะแตง ต้งั
1.4.6 พจิ ารณาคดั เลือกบคุ คลท่ีจะเขารับการประเมินผลงาน ตาํ แหนงละ
1 คน สําหรับตําแหนง ตามขอ 1.3.2
1.4.7 วนิ จิ ฉยั กรณมี ปี ญ หาเกยี่ วกบั คณุ สมบตั ขิ องบคุ คลในเรอ่ื งระยะเวลา
ขั้นตํ่าในการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงในสายงานที่จะแตงตั้งหรือสายงานอื่น
ทเ่ี กี่ยวขอ งหรือเกื้อกูลกับสายงานที่จะแตง ตั้ง
1.4.8 รายงานผลการพจิ ารณาคดั เลอื ก ตามขอ 1.4.6 พรอ มทงั้ เหตผุ ลใน
การพจิ ารณาตอ ผมู อี าํ นาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา 52 เพอ่ื พจิ ารณาใหค วามเหน็ ชอบ หากมปี ญ หา
ใหผ มู อี าํ นาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา 52 เปน ผพู จิ ารณาชข้ี าด
3
1.4.9 ตรวจสอบขอ มูลกรณีมผี ูทักทวง โดยใหตรวจสอบขอ มูลเบ้ืองตน
โดยเร็ว หากพบวาขอทกั ทวงมีมูลใหรายงานผูมีอาํ นาจส่ังบรรจุตามมาตรา 52 เพือ่ ดาํ เนนิ การ
ตามหนงั สือสํานักงาน ก.พ. ท่ี นร 0707.3/ว 5 ลงวนั ที่ 12 เมษายน 2542 ตอ ไป แตถ า
ตรวจสอบแลวมีหลักฐานวาขอทักทวงนั้นเปนการกล่ันแกลงหรือไมสุจริต ใหรายงาน
ผมู อี าํ นาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา 52 ดาํ เนนิ การสอบสวนผทู กั ทว งเพอ่ื หาขอ เทจ็ จรงิ แลว ดาํ เนนิ การ
ตามท่เี หน็ สมควรตอ ไปดวย
ทงั้ นี้ อ.ก.พ.กรม อาจแตง ตงั้ คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลเพอื่ ทําหนา ที่
ในขอ 1.4.5, 1.4.6, 1.4.8 และ 1.4.9 แทนกไ็ ด โดยใหแ ตง ตง้ั ตามความเหมาะสมของแตล ะ
สายงาน และอาจแตง ตง้ั ไดห ลายคณะตามความจาํ เปน
1.5 ข้นั ตอนการดําเนนิ การคัดเลือกบุคคล
1.5.1 กรณกี ารคัดเลอื กบุคคลเพ่อื แตงตั้งใหดํารงตําแหนง ที่ ก.พ. หรอื
ผูที่ไดรับมอบหมาย กําหนดเปนตําแหนงที่ปรับระดบั สงู ขนึ้ ไดจ ากระดบั เรม่ิ ตนของสายงาน
และมีผูครองตําแหนงอยูแลว ใหหนวยงานการเจาหนาท่ีหรือหนวยงานท่ีปฏิบัติงาน
การเจา หนา ทด่ี าํ เนนิ การดังนี้
(1) สาํ รวจขอ มลู ผทู ม่ี คี ณุ สมบตั คิ รบถว นตามที่ อ.ก.พ.กรม กาํ หนด
(2) แจงใหผูบังคับบัญชาระดับกองหรือสํานักหรือเทียบเทาของ
ผูนั้น ดําเนินการประเมินคุณลักษณะของบุคคล ตามองคประกอบที่ อ.ก.พ.กรมกาํ หนด
พรอ มทงั้ เหตผุ ลในการประเมนิ คณุ ลกั ษณะดงั กลา ว
(3) แจง ใหผทู ม่ี คี ณุ สมบตั ดิ งั กลา วสง เอกสารประกอบการคดั เลอื ก
ตามท่ี อ.ก.พ.กรมกําหนด เชน ผลการปฏิบัตงิ านยอ นหลงั 3 ป ช่ือผลงานท่จี ะสง ประเมิน
พรอ มทงั้ เคา โครงเรอื่ ง สดั สว นของผลงานในสว นทต่ี นเองปฏบิ ตั แิ ละรายชอื่ ผรู ว มจดั ทาํ ผลงาน
(ถา ม)ี และอนื่ ๆ
(4) รวบรวมขอ มูลทงั้ หมดเสนอผูม ีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52
หรือผูวาราชการจังหวัดที่ไดรับมอบอาํ นาจ แลวแตกรณี เปนผูพ ิจารณาคัดเลอื กบุคคลทจี่ ะ
เขา รบั การประเมนิ ผลงาน ตามหลกั เกณฑท ่ี อ.ก.พ.กรมกาํ หนด
(5) แจงผูไดรับการคัดเลือกทราบและใหสงผลงานตามจํานวน
และเงือ่ นไขท่ีคณะกรรมการประเมินผลงานกาํ หนด
(6) ประกาศรายชื่อผูไดรับการคัดเลือกอยางเปดเผย เพื่อเปด
โอกาสใหม กี ารทักทวงไดภายในเวลา 30 วนั นบั ตง้ั แตวันประกาศ
4
หากมีกรณีตองพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลในเรื่องระยะเวลา
ขน้ั ตา่ํ ในการดาํ รงตาํ แหนง หรอื เคยดาํ รงตาํ แหนง ในสายงานทจ่ี ะแตง ตง้ั หรอื สายงานอน่ื ทเ่ี กยี่ วขอ ง
หรอื เก้อื กูลกบั สายงานที่จะแตง ต้ัง ใหเ สนอ อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคัดเลอื กบุคคลใน
สายงานท่จี ะประเมินหรอื สายงานท่ีเกี่ยวขอ ง เปนผดู ําเนินการตามขอ 1.4.5 หรอื หากกรณมี ี
ผูทักทวงการคัดเลือกบุคคลน้นั ให อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลในสายงาน
ทจี่ ะประเมนิ หรอื สายงานทเ่ี กย่ี วขอ งเปน ผดู าํ เนนิ การตามขอ 1.4.9
1.5.2 กรณีการคัดเลือกบุคคลเพื่อแตงต้ังใหดํารงตําแหนงท่ีไมใช
ตําแหนงตามขอ 1.5.1 และกรณีการแตงต้ังใหดํารงตําแหนงวางทุกกรณี ใหหนวยงาน
การเจา หนา ทห่ี รอื หนว ยงานทป่ี ฏบิ ตั งิ านการเจา หนา ทดี่ าํ เนนิ การในขน้ั ตอนที่ (1)-(4) และ
คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลดาํ เนนิ การในขนั้ ตอนที่ (5)-(7) โดยใหด าํ เนนิ การดงั น้ี
(1) สาํ รวจขอมลู ผูทมี่ ีคณุ สมบตั ิตามที่ อ.ก.พ.กรมกาํ หนด
(2) แจงผูบังคับบัญชาระดับกองหรือสํานักหรือเทยี บเทาของผนู น้ั
ดาํ เนินการประเมินคุณลักษณะของบคุ คล ตามองคป ระกอบท่อี .ก.พ.กรมกาํ หนด พรอ มทงั้
เหตผุ ลในการประเมนิ คณุ ลกั ษณะดงั กลา ว
(3) แจง ใหผ ทู ม่ี คี ณุ สมบตั ดิ งั กลา วสง เอกสารประกอบการคัดเลือก
ตามที่ อ.ก.พ.กรมกาํ หนด เชน ผลการปฏิบัตงิ านยอนหลัง 3 ป ชือ่ ผลงานทีจ่ ะสงประเมิน
พรอ มทง้ั เคา โครงเรอื่ ง สดั สว นของผลงานในสว นทตี่ นเองปฏบิ ตั แิ ละรายชอื่ ผรู ว มจดั ทาํ ผลงาน
(ถา ม)ี และอน่ื ๆ
(4) รวบรวมขอ มลู ทงั้ หมดเสนอให อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการ
คดั เลอื กบคุ คลท่ี อ.ก.พ.กรมแตง ตงั้ เปน ผพู จิ ารณาคดั เลอื กบคุ คลทจี่ ะเขา รบั การประเมนิ ผลงาน
(5) รายงานผลการพิจารณาคัดเลือกพรอมทั้งเหตุผลในการ
พิจารณาตอ ผูมอี ํานาจส่งั บรรจุตามมาตรา 52 เพือ่ พิจารณาใหค วามเห็นชอบ
(6) แจงผูไดรับการคัดเลือกทราบและใหสงผลงานตามจํานวน
และเง่อื นไขทีค่ ณะกรรมการประเมินผลงานกาํ หนด
(7) ประกาศรายช่ือผูไดรับการคัดเลือกอยางเปดเผย เพ่ือเปด
โอกาสใหมกี ารทกั ทวงไดภ ายในเวลา 30 วนั นบั ตัง้ แตวันประกาศ
5
หากมีกรณีตองพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลในเร่ืองระยะเวลา
ขั้นต่ําในการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงในสายงานที่จะแตงตั้งหรือสายงานอื่นที่
เกย่ี วขอ งหรอื เกือ้ กลู กับสายงานท่จี ะแตงตง้ั ให อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คล
เปน ผดู าํ เนนิ การตามขอ 1.4.5 หรอื หากกรณมี ผี ทู กั ทว งการคดั เลอื กบคุ คลนน้ั ให อ.ก.พ.กรม
หรือคณะกรรมการคดั เลือกบุคคลเปน ผูดําเนินการตามขอ 1.4.9
2. กรณีการคัดเลือกบุคคลท่ีจะเขารบั การประเมินผลงานเพ่ือยาย โอนหรือ
บรรจกุ ลับเพอ่ื แตงต้งั ใหด าํ รงตําแหนงในระดับทไ่ี มส งู กวาเดิม
อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลจะกาํ หนดใหม กี ารคดั เลอื กบคุ คล
ทํานองเดียวกับกรณีการคัดเลือกบุคคลที่จะเขารับการประเมินผลงานเพ่ือเลื่อนข้ึนแตงต้ัง
ใหด าํ รงตาํ แหนง ในระดบั ทสี่ งู ขน้ึ หรอื จะกาํ หนดวธิ กี ารอนื่ ๆ ตามความเหมาะสมกไ็ ด
**************************
ส่งิ ท่สี ง มาดว ย 2
หลักเกณฑและวิธีการประเมินผลงานเพื่อเล่ือนขึ้นแตงต้ังใหดํ ารงตํ าแหนง
ในระดับท่สี งู ข้ึน
1. ผลงานทส่ี ง ประเมนิ
1.1 ผทู ไ่ี ดร บั การคดั เลอื กจาก อ.ก.พ.กรม หรอื คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลที่
อ.ก.พ.กรมแตง ตงั้ และผมู อี าํ นาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา 52 เหน็ ชอบแลว หรอื ผทู ไี่ ดรับการ
คดั เลอื กจากผมู อี าํ นาจสง่ั บรรจตุ ามมาตรา 52 หรือผูวาราชการจังหวัดแลวแตกรณี ใหสง
ผลงานประเมนิ ตามหวั ขอ เรอ่ื งทไี่ ดเสนอไวใ นขั้นตอนการคดั เลอื กบคุ คล
1.2 ผลงานท่ีสงประเมินจะตองประกอบดวยผลงานที่เกิดจากงานในหนาที่
ความรับผิดชอบและขอเสนอแนวคิดเพือ่ พฒั นางาน ดงั นี้
1.2.1 ผลงานทเ่ี ปน ผลการดาํ เนนิ งานทผ่ี า นมาทเ่ี ปน ผลสาํ เรจ็ ของงานท่ี
เกดิ จากการปฏบิ ตั งิ านในตาํ แหนง หนา ทคี่ วามรับผิดชอบของผนู น้ั ซง่ึ อาจไมจ าํ เปนตองมีการ
จัดทาํ ผลงานขึ้นใหมเพื่อใชในการประเมินโดยเฉพาะ โดยใหนาํ เสนอในรูปแบบของการสรปุ
วิเคราะหถึงผลที่เกิดข้ึน แสดงถึงความรู ความสามารถ และความชํานาญงานของบุคคล
สามารถระบผุ ลสาํ เรจ็ ของงาน หรอื ประโยชนท เ่ี กดิ จากผลงานดงั กลา ว หรอื การนาํ ผลงานไปใช
เพอ่ื แกไ ขปญ หางานหรอื ใชเ สรมิ ยทุ ธศาสตรข องหนว ยงาน โดยมใิ ชเ ปน เพยี งการรวบรวมผลงาน
ยอนหลัง ซึ่งรูปแบบการนําเสนออาจใชรูปแบบการเสนอผลงานตามตัวอยางท่ี 1 ตาม
เอกสารแนบทาย 2.1 ทั้งนี้ คณะกรรมการประเมินผลงานอาจกําหนดเพ่ิมเติมใหมีความ
เหมาะสมกบั สายงานและลกั ษณะงานของหนว ยงานกไ็ ด และ
1.2.2 ขอ เสนอแนวคดิ วิธกี าร เพื่อพฒั นางานหรือปรบั ปรงุ งานใหมี
ประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ควรเปน แนวคดิ วสิ ยั ทศั นห รอื แผนงานทจี่ ะทาํ ในอนาคต เพอ่ื พฒั นางาน
ในตําแหนงท่ีจะไดรับการแตงต้ังและสอดคลองกับแผนยุทธศาสตรของหนวยงาน รวมท้ัง
ควรเปน แนวคดิ หรอื แผนงานทสี่ ามารถนาํ ไปปฏบิ ตั ไิ ดจ รงิ และใหม กี ารตดิ ตามผลภายหลงั การ
แตงต้ังแลวดวย ซึ่งรูปแบบการนําเสนออาจใชรูปแบบการเสนอตามตัวอยางที่ 2 ตาม
เอกสารแนบทาย 2.1 ทั้งน้ี คณะกรรมการประเมินผลงานอาจกําหนดเพ่ิมเติมใหมีความ
เหมาะสมกบั สายงานและลกั ษณะงานของหนวยงานกไ็ ด
1.3 ผลงานท่ีสงประเมินจะตองอยูในเง่ือนไขและลักษณะของผลงานของ
ตาํ แหนง ในแตล ะระดบั และแตล ะสายงาน ตามเอกสารแนบทา ย 2.2 และตามทคี่ ณะกรรมการ
ประเมนิ ผลงานกาํ หนดเพม่ิ เตมิ (ถามี)
2
1.4 ใหมีการเปดเผยผลงานตอสาธารณะ เพ่ือประโยชนในการศึกษาหรือ
ใชอางองิ และปอ งกนั การลอกเลยี นผลงาน เชน นาํ ลงใน Intranet หรอื ลง Web-site เปน ตน
2. คณะกรรมการประเมินผลงาน
2.1 ให อ.ก.พ.กรมแตง ตง้ั คณะกรรมการประเมนิ ผลงานโดยแตง ตง้ั ตามสายงาน
ของตาํ แหนง ทจี่ ะประเมนิ เปน จาํ นวนหลายคณะกไ็ ด ตามความเหมาะสมและความจาํ เปน ของ
แตล ะกรม มีวาระการดํารงตําแหนง คราวละไมเ กนิ 2 ป โดยมีองคประกอบดังน้ี
2.1.1 กรณีการแตงตง้ั ใหด ํารงตาํ แหนงระดบั 6
(1) ประธาน ใหแตง ตง้ั จาก
- ขาราชการหรือผูเคยเปนขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงหรอื
เคยดํารงตาํ แหนงตัง้ แตระดบั 8 หรอื เทยี บเทาขึน้ ไป ในสายงานท่จี ะประเมิน หรือในสายงาน
ทเ่ี กีย่ วขอ งตามทกี่ รมเจา สงั กดั ไดจ ดั กลมุ ไว โดยความเหน็ ชอบของ ก.พ. หรอื
- ผูทรงคุณวุฒิเฉพาะดานท่ีมีความชาํ นาญในสายงานน้ันๆ
ซึง่ ไมเ คยเปน ขา ราชการมากอ น หรอื
- รองอธบิ ดหี รอื ผอู าํ นวยการสาํ นกั หรอื ผอู าํ นวยการกองหรือ
หัวหนา สวนราชการประจาํ จังหวดั ต้ังแตระดับ 8 หรือเทียบเทาข้นึ ไป ทก่ี าํ กบั ดแู ลสายงานที่
จะประเมิน
(2) กรรมการจาํ นวน 2-5 คน ใหแ ตงตง้ั จาก
- ขาราชการหรือผูเคยเปนขาราชการซึ่งดํารงตําแหนงหรอื
เคยดาํ รงตําแหนงตง้ั แตร ะดับ 7 หรอื เทยี บเทา ขนึ้ ไป ในสายงานทจี่ ะประเมนิ หรือในสายงาน
ทเ่ี กยี่ วขอ งตามทกี่ รมเจาสังกัดไดจ ัดกลมุ ไว โดยความเหน็ ชอบของ ก.พ. ซงึ่ ผนู น้ั ตองมผี ลงาน
เปนท่ีประจกั ษใ นความสามารถแลว หรอื
- ผทู รงคณุ วฒุ เิ ฉพาะดา นทม่ี คี วามชาํ นาญในสายงานนน้ั ๆ
ซงึ่ ไมเ คยเปนขา ราชการมากอ น
ทั้งนี้ มีบุคลากรหรือผูปฏิบัติงานการเจาหนาที่ ซึ่งดํารง
ตําแหนงไมต ่ํากวาระดบั 6 เปน เลขานุการ
3
2.1.2 กรณีการแตง ต้งั ใหด าํ รงตาํ แหนง ระดับ 7 และระดบั 8
(1) ประธาน ใหแ ตง ต้ังจาก
- ขา ราชการหรอื ผเู คยเปน ขา ราชการซงึ่ ดาํ รงตาํ แหนง หรอื เคย
ดาํ รงตําแหนงต้ังแตระดับ 9 หรือเทียบเทาขึ้นไปในสายงานท่ีจะประเมินหรือในสายงาน
ทเี่ กย่ี วขอ งตามทกี่ รมเจา สงั กดั ไดจดั กลุม ไว โดยความเหน็ ชอบของ ก.พ. หรอื
- ผูทรงคุณวุฒิเฉพาะดานที่มีความชํานาญในสายงานนั้น ๆ
ซึ่งไมเ คยเปน ขา ราชการมากอ น หรือ
- รองอธิบดีหรือผูอํานวยการสํานักตั้งแตระดับ 9 หรือ
เทียบเทา ขน้ึ ไป ท่ีกาํ กบั ดูแลสายงานท่ีจะประเมนิ
(2) กรรมการ จํานวน 2-5 คน ใหแตงตั้งจาก
- ขาราชการหรือผูเคยเปนขาราชการซ่ึงดํารงตําแหนงหรือ
เคยดาํ รงตาํ แหนง ตง้ั แตร ะดบั 8 หรอื เทยี บเทาข้ึนไปในสายงานท่ีจะประเมินหรอื ในสายงาน
ทเ่ี กย่ี วขอ งตามทก่ี รมเจา สงั กดั ไดจ ดั กลมุ ไว โดยความเหน็ ชอบของ ก.พ. ซงึ่ ผนู ั้นตองมีผลงาน
เปนท่ปี ระจกั ษในความสามารถแลว หรือ
- ผูทรงคุณวุฒิเฉพาะดานท่ีมีความชํานาญในสายงานนั้น ๆ
ซงึ่ ไมเ คยเปน ขา ราชการมากอน
ท้ังน้ี มีบคุ ลากรหรอื ผปู ฏบิ ตั ิงานการเจาหนาที่ ซึง่ ดํารงตําแหนง
ไมต่าํ กวา ระดบั 6 เปนเลขานุการ
2.2 คณะกรรมการประเมินผลงาน มอี าํ นาจหนาที่ดังน้ี
2.2.1 กําหนดเงื่อนไข ขอบเขต มาตรฐานของผลงานแตล ะสายงานและ
แตละระดับเพ่ิมเติมจากเงื่อนไขและลักษณะของผลงานตามเอกสารแนบทาย 2.2 ตามที่
เห็นสมควร เชน เปน ผลงานท่จี ัดทําขึ้นในระหวา งท่ดี าํ รงตําแหนงในระดบั ทต่ี า่ํ กวาระดับทจ่ี ะ
ประเมนิ 2 ระดบั เปน ตน ท้ังนี้ ใหกําหนดสําหรับกรณกี ารเลอ่ื น ยา ย โอน หรอื บรรจกุ ลบั ดวย
โดยใหกําหนดตามความเหมาะสมกับลักษณะงานของแตละหนวยงาน เพ่ือใหผลงานนั้น
เกิดประโยชนคมุ คา และสามารถใชเ สริมยุทธศาสตรข องหนวยงานไดเ ปนอยา งดี
2.2.2 กําหนดจาํ นวนของผลงานทีจ่ ะใหสงประเมิน ทงั้ น้ี ตอ งเปน ผลงาน
ทเี่ ปน ผลการดาํ เนนิ งานทผี่ า นมาจาํ นวนอยา งนอ ย 1 เรอื่ ง และขอ เสนอแนวคดิ เพอื่ พฒั นางาน
จํานวนอยา งนอ ย 1 เรื่อง
4
2.2.3 กําหนดเกณฑการตัดสนิ คุณภาพของผลงานและพิจารณาประเมนิ
คณุ ภาพของผลงาน ทัง้ นี้ อาจใชวิธีการสมั ภาษณเ พมิ่ เติมประกอบการพจิ ารณากไ็ ด
2.2.4 ตรวจสอบขอมูลกรณีมีผูทักทวงในเร่ืองผลงานซํ้าซอนหรือการ
ลอกเลยี นผลงาน โดยใหดําเนินการโดยเร็ว หากพบวาขอทักทวงมีมูลใหรายงานผูมีอาํ นาจ
สงั่ บรรจตุ ามมาตรา 52 เพอื่ ดาํ เนนิ การตามหนงั สอื สาํ นกั งาน ก.พ. ที่ นร 0707.3/ว 5 ลงวนั ที่
12 เมษายน 2542 ตอ ไป แตถาตรวจสอบแลวมหี ลักฐานวา ขอ ทกั ทวงนัน้ เปน การกลัน่ แกลง
หรือไมสุจริตใหรายงานผูมีอํานาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52 ดําเนินการสอบสวนผูทักทวง
เพ่ือหาขอ เท็จจรงิ แลวดําเนินการตามท่เี ห็นสมควรตอ ไป
2.2.5 วนิ ิจฉัยกรณมี ปี ญ หาเกย่ี วกบั คณุ ภาพของผลงาน ผลการพจิ ารณาของ
คณะกรรมการประเมินผลงานถือเปน ที่สดุ
2.2.6 รายงานผลการประเมินผลงานตอ ผมู ีอาํ นาจสั่งบรรจตุ ามมาตรา 52
และในกรณีทผี่ ลงานของผูนน้ั ไมผา นการประเมิน ใหแ จง ผูขอรับการประเมนิ ทราบดวย
2.2.7 หนา ทอ่ี น่ื ๆ ตามท่ี อ.ก.พ.กรมมอบหมาย
*****************************
5
เอกสารแนบทา ย 2.1
รูปแบบการเสนอผลงาน
1. ผลงานท่เี ปนผลการดําเนินงานทผ่ี านมา
ใหส รุปสาระสําคัญของผลงาน ข้ันตอนที่ไดป ฏิบตั ิ ความรูค วามสามารถที่ใชใ น
การปฏิบตั งิ าน หรอื แนวคดิ ทางวชิ าการ หรอื ขอ กฎหมายทใี่ ชในการปฏิบัติงาน วิเคราะห
ถึงผลที่เกิดข้ึน หรือประโยชนท่ีเกิดจากผลงานดังกลาว หรือการนําผลงานไปใชเพ่ือแกไข
ปญ หาในงานทีป่ ฏิบัติ หรือของหนวยงาน หรอื เพ่ือพฒั นางาน/ปรบั ปรงุ งาน ปญหา อปุ สรรค
ที่เกิดขึ้น และขอ เสนอแนะเพิ่มเติมตัวอยางรปู แบบการนาํ เสนอตามตัวอยางท่ี 1
2. ขอ เสนอแนวคิด/วิธีการเพือ่ พัฒนางานหรือปรับปรุงงานใหมปี ระสิทธภิ าพ
มากขน้ึ
ใหนําเสนอในรูปของงาน/โครงการหรือกิจกรรมท่ีจะดําเนินการ และกําหนด
ตัวช้ีวัดความสาํ เรจ็ ไวด วยตวั อยา งรปู แบบการนาํ เสนอตามตวั อยางที่ 2
ทั้งน้ี อาจปรับรายละเอียด รูปแบบการนําเสนอผลงานใหม ีหวั ขอ ครอบคลุม
ตามความตองการของแตล ะสายงาน
6
ตวั อยา งท่ี 1
ผลงานที่เปนผลการดาํ เนนิ งานท่ีผา นมา
1. ชอื่ ผลงาน..............................……………………………………………………………………………………………………………….
2. ระยะเวลาที่ดาํ เนินการ…………………………………………………………………………………...…………………………………………
3. ความรทู างวิชาการหรือแนวความคิดท่ใี ชในการดาํ เนินการ
1………………………………………………………………………………………………………..………...…………………………………………
2………………………………………………………………………………………………………..………...………………………………………..
3………………………………………………………………………………………………………..………...………………………………………..
4………………………………………………………………………………………………………..………...……………………………………….
4. สรปุ สาระและขัน้ ตอนการดําเนินการ……………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
5. ผรู วมดําเนินการ (ถาม)ี 1…………………………………………………สัดสวนของผลงาน.........……………….
2…………………………………………………สดั สวนของผลงาน.........……………..
3…………………………………………………สดั สวนของผลงาน.........……………..
6. สว นของงานทผ่ี เู สนอเปน ผปู ฏบิ ตั ิ (ระบรุ ายละเอยี ดของผลงานพรอ มทงั้ สดั สว นของผลงาน)
………………………………………………………………………………………………………….………...…………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
7. ผลสําเร็จของงาน (เชงิ ปริมาณ/คณุ ภาพ)……………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
8. การนาํ ไปใชป ระโยชน ……………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...…………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….………...……………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………..
7
9. ความยุงยากในการดําเนินการ/ปญหา/อุปสรรค……………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………….………...…………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………..…………………
10. ขอ เสนอแนะ…………………………………………………………………………………………….………...…………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...…………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………….………...………………………………………….
ขอรบั รองวาผลงานดังกลา วขา งตนเปน ความจริงทกุ ประการ
ลงชื่อ …………………………………
(………………………….………)
ผเู สนอผลงาน
.……../……….…/………..
ขอรบั รองวา สดั สว นหรอื ลกั ษณะงานในการดาํ เนนิ การของผเู สนอขา งตน ถกู ตอ งตรงกบั
ความเปนจริงทกุ ประการ
ลงช่อื ……………………………… ลงช่ือ ……………………………
(……………………………) (.……………….…………)
ผูร ว มดําเนนิ การ ผูรว มดําเนินการ
………/…………./……….. ………/…………./……….
ลงช่ือ ……………………………… ลงชือ่ ……………………………
(……………………………) (.……………….…………)
ผรู ว มดําเนินการ ผูรวมดําเนนิ การ
………/…………./……….. ………/…………./……….
ไดตรวจสอบแลวขอรับรองวา ผลงานดังกลาวขางตนถูกตองตรงกับความเปนจริง
ทกุ ประการ
ลงช่ือ ……………………………… ลงช่ือ ……………………………
(……………………………) (.……………….…………)
ตาํ แหนง................................... ผอู าํ นวยการสํานกั /กอง........................
………/…………./……….. ………/…………./……….
(ผบู งั คบั บัญชาทคี่ วบคมุ ดูแลการดําเนินการ)
หมายเหตุ หากผลงานมลี ักษณะเฉพาะ เชน แผนพบั หนงั สอื แถบบันทึกเสยี ง ฯลฯ ผเู สนอผลงาน
อาจสง ผลงานจรงิ ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการก็ได
8 ตัวอยา งที่ 2
ขอเสนอแนวความคดิ /วธิ ีการเพื่อพฒั นางานหรือปรบั ปรงุ งานใหมปี ระสิทธิภาพมากข้ึน
ของ…………………………………………………
เพอ่ื ประกอบการแตง ตั้งใหด ํารงตําแหนง ……………………………………………………………ตาํ แหนงเลขท่ี…….....……….
สาํ นกั /กอง…………………………………………………………
เร่ือง………….............................…………………………………………………………………………………………………………………….
หลกั การและเหตผุ ล…………………………………………………………………………..……………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
บทวเิ คราะห/ แนวความคดิ /ขอ เสนอ….……………………………………………………..…………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
ผลทคี่ าดวา จะไดรบั …………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
ตวั ช้วี ดั ความสําเรจ็ ……………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
ลงช่อื …………………………………
(..………………………………)
ผเู สนอแนวคิด
........./.........../..........
9
เอกสารแนบทา ย 2.2
ผลงานท่ีจะนาํ มาประเมนิ จะตอ งอยใู นเง่ือนไข ดงั นี้
1. เปนผลงานที่จัดทําข้ึนในระหวางที่ดํารงตําแหนงในระดับที่ตํ่ากวาระดับท่ีจะประเมิน
1 ระดับ เวนแตคณะกรรมการประเมินผลงานจะกําหนดเปนอยางอื่น แตอยางนอยจะตองมีผลงาน
ทตี่ าํ่ กวา 1 ระดบั อยูดว ย
2. ไมใ ชผ ลงานวจิ ยั หรือวทิ ยานพิ นธท่เี ปน สวนหนง่ึ ของการศึกษาเพ่ือขอรบั ปริญญา หรอื
ประกาศนยี บัตร หรอื เปนสวนหนึ่งของการฝก อบรม
3. กรณีท่ีเปนผลงานรวมกันของบุคคลหลายคน จะตองแสดงใหเห็นวาผูเสนอผลงาน
ประเมนิ ไดม สี ว นรวมในการจดั ทํา หรอื ผลติ ผลงานในสวนใด หรือเปนสัดสวนเทาใด และมคี าํ รับรองจาก
ผมู สี ว นรว มในผลงานนั้น และจากผูบ ังคบั บัญชาดว ย
4. ผลงานทนี่ าํ มาใชป ระเมนิ เพอื่ เลอ่ื นขน้ึ แตง ตง้ั ใหด าํ รงตาํ แหนง ในระดบั ทส่ี งู ขนึ้ แลว จะนาํ มา
เสนอใหป ระเมินเพือ่ เล่ือนขนึ้ แตง ต้ังในระดบั ท่ีสงู ข้ึนอกี ไมได
5. แนวคิดเพื่อการพัฒนางานใหมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตองเปนแนวคิดที่จะพัฒนางาน
ในตาํ แหนง ทจ่ี ะไดร บั การแตง ตง้ั และมกี ารกาํ หนดตวั ชว้ี ดั ความสาํ เรจ็ ของระยะเวลาของการดาํ เนนิ งานไวด ว ย
6. จํานวนผลงานและขอเสนอแนวคิดเพ่ือพัฒนางานใหสงตามจํานวนที่คณะกรรมการ
ประเมนิ ผลงานในแตล ะสายงานจะกําหนด
7. อ่นื ๆ ตามทีเ่ หน็ สมควร
ลกั ษณะของผลงาน
1. ตาํ แหนง สาํ หรบั ผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ (ตาํ แหนง ประเภททว่ั ไป) ตาํ แหนง ระดบั 6
1.1 ขอบเขตของผลงาน
เปน ผลการปฏบิ ตั งิ านและหรอื ผลสาํ เรจ็ ของงานทเ่ี กดิ จากงานในหนา ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ
ของตาํ แหนง และแนวคดิ หรอื แผนงานทจ่ี ะดาํ เนนิ การในอนาคต ทเี่ ปน การพฒั นางานในตาํ แหนง ทจ่ี ะไดร บั
การแตงต้งั
1.2 คณุ ภาพของผลงาน
มคี ณุ ภาพของผลงานทเ่ี ช่อื ถือได
1.3 ความยงุ ยากซบั ซอ นของผลงาน
ใชหลักวิชาการเฉพาะทางในการปฏิบัติงานที่มีความยงุ ยากมาก จาํ เปนตองมกี าร
ตดั สนิ ใจ หรอื แกป ญ หาในงานท่ีปฏบิ ตั ิดว ยตนเองได
1.4 ประโยชนของผลงาน
เปนประโยชนตอทางราชการหรือประชาชน หรือตอความกาวหนาทางราชการ
หรอื การปฏิบัตงิ านท่ีเกยี่ วของ สามารถชว ยเสรมิ ยทุ ธศาสตรข องหนวยงานไดเ ปน อยา งดี
1.5 ความรูค วามชํานาญงานและประสบการณ
มคี วามรู ความชาํ นาญงาน และประสบการณท สี่ ามารถปฏบิ ตั งิ านในความรบั ผดิ ชอบ
ดว ยตนเองได เปนท่ียอมรบั ในงานนน้ั ๆ
10
2. ตาํ แหนง สาํ หรบั ผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ (ตาํ แหนง ประเภททวั่ ไป) และตาํ แหนง
ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ ตาํ แหนง ระดบั 7
2.1 ขอบเขตของผลงาน
เปน ผลการปฏบิ ตั งิ านและหรอื ผลสาํ เรจ็ ของงานทเ่ี กดิ จากงานในหนา ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ
ของตาํ แหนง และแนวคดิ หรอื แผนงานทจี่ ะดาํ เนนิ การในอนาคต ทเี่ ปน การพฒั นางานในตาํ แหนง ทจ่ี ะไดร บั
การแตง ต้ัง
2.2 คณุ ภาพของผลงาน
มคี ณุ ภาพของผลงานดี
2.3 ความยุงยากซับซอ นของผลงาน
ใชห ลกั วชิ าการเฉพาะทางหรอื หลกั วชิ าชพี เฉพาะดา นในการปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี วามยงุ ยาก
เปน พเิ ศษ จาํ เปนตอ งมีการตดั สินใจ หรอื แกปญหาในงานที่ปฏิบัติมาก
2.4 ประโยชนข องผลงาน
เปน ประโยชนตอ ทางราชการ หรอื ประชาชน หรอื ประเทศชาติ หรือตอ กาวหนา
ทางวชิ าการ หรอื ในงานวชิ าชพี ในระดับสงู หรอื การพัฒนาการปฏบิ ตั งิ านในระดับสูง
2.5 ความรคู วามชํานาญงานและประสบการณ
มคี วามรู ความชาํ นาญงาน และประสบการณส งู มาก เปนที่ยอมรบั ในระดับกอง
หรือวงการวชิ าการหรอื วิชาชีพดา นนัน้ ๆ
3. ตาํ แหนง สาํ หรบั ผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ (ตาํ แหนง ประเภททว่ั ไป) และตาํ แหนง
ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ ตาํ แหนง ระดบั 8
3.1 ขอบเขตของผลงาน
เปน ผลการปฏบิ ตั งิ านและหรอื ผลสาํ เรจ็ ของงานทเ่ี กดิ จากงานในหนา ทคี่ วามรบั ผดิ ชอบ
ของตาํ แหนง และแนวคดิ หรอื แผนงานทจี่ ะดาํ เนนิ การในอนาคต ทเี่ ปน การพฒั นางานในตาํ แหนง ทจ่ี ะไดร บั
การแตงตง้ั
3.2 คุณภาพของผลงาน
มคี ณุ ภาพของผลงานดมี าก
3.3 ความยงุ ยากซบั ซอ นของผลงาน
ใชห ลกั วชิ าการเฉพาะทางหรอื หลกั วชิ าชพี เฉพาะดา นในการปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี วามยงุ ยาก
มากเปน พเิ ศษ จาํ เปน ตองมกี ารตดั สินใจ หรอื แกปญหาในงานที่ปฏบิ ัติเปนประจํา
11
3.4 ประโยชนของผลงาน
เปน ประโยชนต อ ทางราชการหรอื ประชาชน หรอื ประเทศชาติ หรอื ตอ ความกา วหนา
ทางวชิ าการ หรือในงานวชิ าชีพในระดบั สงู มาก หรอื การพฒั นาการปฏบิ ตั งิ านในระดบั สงู มาก
3.5 ความรูความชาํ นาญงานและประสบการณ
มคี วามรู ความชาํ นาญงาน และประสบการณส ูงมากเปน พิเศษ เปน ท่ยี อมรบั
ในระดับกองหรอื ระดบั กรม หรอื วงการวชิ าการหรือวชิ าชพี ดา นนัน้ ๆ
********************************
สิง่ ทส่ี งมาดวย 3
หลักเกณฑแ ละวธิ ีการประเมนิ ผลงานเพ่ือยา ย โอนหรือบรรจุกลับ
1. กรณีผูที่ไมเคยดาํ รงตาํ แหนง สาํ หรับผปู ฏิบัตงิ านทมี่ ปี ระสบการณ (ตาํ แหนง
ประเภททว่ั ไป) หรอื ตาํ แหนง ประเภทวชิ าชพี เฉพาะ เมอ่ื ผา นการพจิ ารณาคดั เลอื กตามวธิ กี าร
ท่ี อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคดั เลือกบคุ คลกาํ หนดแลว ใหส ง ผลงานเพือ่ ประเมนิ ตาม
หลกั เกณฑแ ละเงอื่ นไขทค่ี ณะกรรมการประเมนิ ผลงานกาํ หนด
2. กรณผี ทู ด่ี าํ รงตาํ แหนง หรอื เคยดาํ รงตาํ แหนง สาํ หรบั ผปู ฏบิ ตั งิ านทม่ี ปี ระสบการณ
(ตาํ แหนง ประเภททว่ั ไป) หรอื ตาํ แหนง ประเภทวชิ าชพี เฉพาะในระดบั เดยี วกนั กบั ตําแหนง ทีจ่ ะ
แตง ต้งั และจดั อยใู นกลมุ ตาํ แหนงเดียวกนั ตามทีก่ รมเจาสงั กัดไดจ ัดกลุมไวโดยความเหน็ ชอบ
ของ ก.พ. เมอื่ ผา นการพจิ ารณาคดั เลอื กตามวธิ กี ารที่ อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการคดั เลอื ก
บคุ คลกําหนดแลว ใหแตง ตง้ั ไดโดยไมต องมีการประเมินผลงาน
3. กรณีท่ีนอกเหนือจากขอ 1 และ 2 เชน การแตงตง้ั ผทู ดี่ าํ รงตาํ แหนง หรอื เคย
ดาํ รงตาํ แหนง สาํ หรับผูป ฏบิ ัติงานที่มปี ระสบการณ (ตาํ แหนงประเภทท่ัวไป) หรือตาํ แหนง
ประเภทวชิ าชพี เฉพาะในระดบั เดยี วกนั กบั ตาํ แหนง ที่จะแตงตั้ง แตไ มไ ดจ ดั อยใู นกลมุ ตาํ แหนง
เดยี วกนั หรอื กรณเี ปน พนกั งานหรอื ขา ราชการตามกฎหมายอน่ื ที่ ก.พ. กําหนดในหนังสือ
สาํ นกั งาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันท่ี 30 กนั ยายน 2546 หรือทจี่ ะกําหนดตอ ไป
ซึ่งเปนผูดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงสําหรับผูปฏิบัติงานท่ีมีประสบการณหรือ
ตาํ แหนง ประเภทวชิ าชพี เฉพาะในระดับเดยี วกันจากหนว ยงานอน่ื มาแลว ให อ.ก.พ.กรมหรอื
คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลพิจารณาคัดเลือกและประเมินบุคคล โดยพิจารณาจากขอมูล
บุคคลและผลงานหรือผลการปฏิบัติงานที่ผานมาและพิจารณาจากลักษณะงานท่ีปฏิบัติ
รวมทง้ั ประโยชนทที่ างราชการจะไดร ับ ตามรูปแบบที่ อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคดั เลอื ก
บุคคลกําหนด โดยอาจไมตองจัดทําผลงานขึ้นใหม ท้ังน้ี อ.ก.พ.กรมอาจมอบให
คณะกรรมการประเมินผลงานรวมพิจารณาผลงานท่ีผานมาหรือผลการปฏิบัติงานของผูนั้น
ดวยก็ได แตหากพิจารณาแลวเห็นวาควรจะตองใหจัดทําผลงานข้ึนใหม เพ่ือท่ีจะแสดงถึง
ศักยภาพและความรูความสามารถของบุคคลนั้น ก็อาจส่ังใหสงผลงานเพ่ือประเมินตาม
หลกั เกณฑการสงผลงานเชนเดยี วกบั ขอ 1
*****************************
ส่ิงท่ีสงมาดวย 4
คุณสมบตั ขิ องบคุ คลทจ่ี ะไดรับแตง ตง้ั
1. เปน ผูผ า นการประเมนิ บคุ คล
2. มคี ณุ สมบตั ติ รงตามคณุ สมบตั เิ ฉพาะสาํ หรบั ตาํ แหนง ตามทก่ี าํ หนดไวใ นมาตรฐาน
กําหนดตําแหนง หรอื ไดรับยกเวนจาก ก.พ. แลว
3. มีคณุ สมบตั ใิ นเร่อื งเกย่ี วกับใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพของสายงานตาง ๆ และ
หรือคณุ วุฒเิ พมิ่ เตมิ ครบถว นตามที่ ก.พ. กําหนด หรือไดร ับยกเวนจาก ก.พ. แลว
4. มีระยะเวลาขน้ั ต่ําในการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงในสายงานที่จะ
แตงตงั้ ตามคุณวฒุ ิของบุคคลและระดับตาํ แหนงทจ่ี ะแตง ต้ัง ดงั นี้
ระดับ 678
คุณวฒุ ิ
ปริญญาตรี หรอื เทยี บเทา 6 ป 7 ป 8 ป
ปริญญาโท หรือเทยี บเทา 4 ป 5 ป 6 ป
ปรญิ ญาเอก หรอื เทียบเทา 2 ป 3 ป 4 ป
ทัง้ น้ี
(1) บุคคลดังกลา วจะตองไดดํารงตําแหนงในสายงานที่จะแตงต้ัง
หรือไดปฏบิ ัตหิ นา ทใี่ นสายงานทจ่ี ะแตง ตั้งมาแลว ไมนอ ยกวา 1 ป
(2) ในกรณีทรี่ ะยะเวลาการดํารงตําแหนงตามขอ (1) ไมค รบ
1 ป อาจพิจารณานาํ ระยะเวลาการดาํ รงตาํ แหนงหรือเคยดาํ รงตาํ แหนง ในสายงานอนื่ ซึ่งมี
ลกั ษณะงานเชงิ วชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเี่ กยี่ วขอ งหรอื เกอ้ื กลู กบั สายงานทจี่ ะแตง ตงั้ หรอื ระยะเวลา
การปฏบิ ตั หิ นา ทใี่ นสายงานทจ่ี ะแตง ตงั้ มานบั รวมเปน ระยะเวลาดาํ รงตาํ แหนงในสายงานท่ีจะ
แตง ตงั้ ใหค รบ 1 ป ได โดยใหน บั ไดเ ฉพาะการดาํ รงตาํ แหนง หรอื เคยดาํ รงตาํ แหนง หรอื ปฏบิ ตั ิ
หนา ทใี่ นสายงานทเี่ รมิ่ ตน จากระดบั 3 หรอื ระดบั 4 หรอื สายงานทเ่ี ทยี บเทา กรณเี ปน ขา ราชการ
ตามกฎหมายอ่ืนและขณะนาํ เวลาดงั กลาวมานับผูน ้นั ตอ งมีคณุ สมบตั ติ รงตามคณุ สมบตั ิเฉพาะ
สาํ หรบั ตาํ แหนง และขอ กาํ หนดอน่ื ทกี่ าํ หนดไวใ นมาตรฐานกาํ หนดตาํ แหนง ทจี่ ะแตง ตงั้
2
(3) การพิจารณานําระยะเวลาการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารง
ตําแหนงในสายงานอื่นซ่ึงมีลักษณะงานเชงิ วชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเี่ กยี่ วขอ งหรอื เกอื้ กลู มานบั รวม
เปนระยะเวลาขั้นตํ่า ในการดาํ รงตาํ แหนงในสายงานท่ีจะแตงต้ัง ใหพิจารณาระยะเวลาทไี่ ด
ปฏบิ ตั งิ านในชว งท่ีผูน นั้ มคี ณุ สมบตั ิตรงตามคุณสมบัตเิ ฉพาะสาํ หรบั ตาํ แหนง และขอ กาํ หนด
อื่นท่ีกําหนดไวในมาตรฐานกําหนดตําแหนงท่ีจะแตงต้ังและดาํ รงตาํ แหนงไมตํ่ากวาระดับ 3
หรือเทียบเทา โดยใหพิจารณาตามลักษณะงานที่ปฏิบัติจริงของขาราชการแตละราย และ
ประโยชนที่ทางราชการจะไดรับและใหนับเปนระยะเวลาข้ันต่ําในการดํารงตําแหนงในสายงาน
ท่ีจะแตงต้ังไดตามขอเท็จจริงตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ เวนแตการนับระยะเวลาการดํารง
ตําแหนง ของสายงานท่ีเริม่ ตน จากระดับ 1 และ 2 หรอื สายงานทเ่ี ทยี บเทากรณีเปนขาราชการ
ตามกฎหมายอ่นื ใหนับไดไ มเ กินคร่งึ หนึง่ ของระยะเวลาการปฏบิ ตั ิงานท่นี ํามานบั
(4) กรณกี ารนบั ระยะเวลาปฏบิ ตั หิ นา ทใี่ นตาํ แหนง ในสายงานที่จะ
แตงตั้ง จะตองมีคําสั่งรักษาราชการแทน/รักษาการในตําแหนง หรือคําส่ังมอบหมายให
ปฏิบัตหิ นา ทีด่ งั กลาวอยา งชัดเจน รวมทัง้ ตอ งมีการปฏบิ ตั งิ านจรงิ ดวย
(5) การพจิ ารณานบั ระยะเวลาขน้ั ตา่ํ ในการดาํ รงตาํ แหนง ในสายงานที่
จะแตงตั้งตามขอ (2)-(4) ให อ.ก.พ.กรมหรือคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเปน
ผูพจิ ารณา
(6) กรณีการยา ย โอนหรือบรรจุกลบั เพอื่ แตงตง้ั ใหดาํ รงตําแหนง
สําหรับผูปฏิบัติงานที่มีประสบการณ (ตําแหนงประเภททั่วไป) และตําแหนงประเภท
วชิ าชพี เฉพาะตําแหนงระดบั 8 ลงมา ให อ.ก.พ.กรมหรอื คณะกรรมการคดั เลอื กบคุ คลเปน
ผูพิจารณาคุณสมบัติเก่ียวกับระยะเวลาขั้นตํ่าในการดํารงตําแหนงหรือเคยดํารงตําแหนงใน
สายงานที่จะแตงต้ังตามคุณวุฒิของบุคคลและระดับตําแหนงที่จะแตงตั้งตามความเหมาะสม
และประโยชนท ท่ี างราชการจะไดร บั ซ่งึ อาจไมเ ปน ไปตามหลกั เกณฑข า งตน กไ็ ด อยา งไรกต็ าม
ตองคํานึงถึงกรณีการจะเล่ือนบุคคลดังกลาวขึ้นแตงต้ังใหดํารงตําแหนงในระดับที่สูงขึ้น
ซงึ่ บคุ คลนัน้ จะตองมคี ณุ สมบัติทกุ ประการครบถวนตามท่ีกาํ หนดดว ย
*****************************