การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ นางสาวกันติชา โพธิ์ศรี นางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์ นางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 3 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ ปีการศึกษา 2566
การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ นางสาวกันติชา โพธิ์ศรี นางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์ นางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 3 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ ปีการศึกษา 2566
บทคัดย่อ หัวข้อวิจัย : โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ดำเนินการวิจัย : นางสาวกันติชา โพธิ์ศรี นางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์ นางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก ที่ปรึกษา : นางเบญจพร อ่ำแจ้ง หน่วยงาน : สาขางานการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ สาขางาน : การบัญชี ปี พ.ศ. : 2566 บทคัดย่อ โครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 2. เพื่อศึกษาต้นทุน และผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มประชากร ได้แก่ นางสาววันวิสา กรรณิกา เป็นเจ้าของธุรกิจฟางอัดก้อน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม ผลการศึกษาพบว่า การลงทุนเริ่มแรกในการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน เป็นเงินลงทุน ซึ่งมี จำนวนเงินลงทุน 1,870,000 บาท โดยมีค่าเสื่อมราคา 46,950 บาทต่อ 3 เดือน การผลิตและจำหน่าย ฟางอัดก้อนธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ในระยะเวลา 3 เดือน มีต้นทุนการผลิต จำนวน 340,813.03 บาท ซึ่งถือว่าเหมาะสมและคุ้มค่า เมื่อเทียบกับรายได้ในการจำหน่ายสินค้า จำนวน 512,070 บาท เป็นกำไรขั้นต้น จำนวน 171,256.97 บาท หักด้วยค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 2,750 บาท คงเหลือเป็นกำไรสุทธิ จำนวน 168,506.97 บาท คิดเป็นร้อยละ 32.90 % และยังมีฟางอัดก้อนคง เหลืออยู่ในโกดังที่สามารถจำหน่ายเป็นรายได้และได้กำไรอีกในอนาคต
Abstract Research topic : Project to study the cost and return of the straw business of Mae Pikulthong Fang Cube Charoensap, Pa Sao Subdistrict, Mueang District, Uttaratit Province Research operator : Ms.Kanticha Phosri Ms. Chanchanaorn Sripanin Ms. Pattarawadee Lamkrathok Advisor : Mrs. Benjaporn Amjaeng Agency : Accounting Uttaradit Vocational College Field of work : Accounting Year Wed. Prof. : 2023 Abstract This project has the following objectives: 1. To study the general condition of the Mae Phikun Thong Fang Chon Charoensap business, house number 90, Village No. 7, Pa Sao Subdistrict, Mueang District, Uttaradit Province. 2.To study the costs and returns of the Mae Phikun Thong Straw Bale business. Phikun Thong Fang Kon Charoensap, house number 90, Village No. 7,Pa Sao Subdistrict, Mueang District, Uttaradit Province, populationgroup Including Miss Wanwisa Kannika, owner of a straw briquette business.The tools used in this study were interviews. The statistics used to analyze the data were gross profit margins. net profit margin Rate of return on investment Rate of return on total assetsThe results of the study found that Initial investment in the production and distribution of straw bales It's an investment. which has an investment amount of 1,870,000 baht with depreciation of 46,950 baht per 3 months. Production and distribution of straw briquettes, Mae Phikun Thong Fang Chon Charoen Sap business, in a period of 3 months has a production cost of 340,813.03 baht, which is considered appropriate and worthwhile.Compared with the income from product sales of 512,070 baht, it is a gross profit of 171,256.97 baht, deducted by selling expenses of 2,750 baht, remaining as net profit of 168,506.97 baht, or a percentage of 32.90%, and there is still straw bales remaining. It is in a warehouse where it can be sold for income and profit in the future.
กิตติกรรมประกาศ การศึกษาครั้งนี้ เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ในรายวิชา โครงการรหัสวิชา 30201 - 8501 ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงประจำปีการศึกษา 2563 รายงานโครงการฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งของ ครูเบญจพร อ่ำแจ้ง ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้แนะนำและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ของการศึกษามาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มจนสำเร็จ เรียบร้อย คณะผู้ศึกษาขอกราบขอบคุณด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณนางสาววันวิสา กรรณิกา ผู้ประกอบธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลและผลตอบแทนของ ธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือด้านข้อมูลที่ทำให้ การศึกษา รายงานโครงงานฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี คุณค่าอันพึงมีจากการศึกษาค้นคว้าด้วยอิสระครั้งนี้ คณะผู้ศึกษาขอมอบให้บิดา มารดา ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน และหากมีข้อผิดพลาดประการใดปรากฎในรายงานฉบับนี้ คณะผู้ ศึกษาขออภัย และขอน้อมรับไว้ นางสาวกันติชา โพธิ์ศรี นางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์ นางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก
สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ กิตติกรรมประกาศ บทที่ 1 บทนํา 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1 1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2 1.3 ขอบเขตของโครงการ 2 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 3 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 การศึกษาข้อมูลข้าวและฟางข้าว 4 2.2 แนวคิดทฤษฎีต้นทุนการผลิต 11 2.3 แนวคิดทฤษฎีผลตอบแทน 13 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 18 บทที่ 3 วิธีดำเนินโครงงาน 3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 21 3.2 ประชากรที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน 24 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน 24 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 32 3.5 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล 34 บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน 4.1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทอง 35 ฟางก้อนเจริญทรัพย์หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.2 ผลการศึกษาต้นทุนการผลิตของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน 43 เจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.3 ผลการศึกษาผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน 50 เจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผล 51 5.2 อภิปรายผล 53 5.3 ข้อเสนอแนะ 54 บรรณานุกรม ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบเสนอโครงการ ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรมข้อมูล ภาคผนวก ค เอกสารการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ ภาคผนวกง รูปประกอบ
สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 3.1 ตารางแสดงขั้นตอนการดำเนินงาน 22 3.2 ตารางแสดงรายละเอียดระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน 23 3.3 ตารางแบบบันทึกการเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน 29 3.4 ตารางแบบบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ในการผลิตฟางอัดก้อน 30 3.5 ตารางแสดงแบบบันทึกข้อมูลต้นทุนในการผลิตฟางอัดก้อน 31 4.1 ตารางแสดงรายละเอียดสินทรัพย์ 40 4.2 ตารางต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตในการผลิตฟางอัดก้อน 43 4.3 ตารางค่าแรงงานทางตรงในการผลิตฟางอัดก้อน 44 4.4 ตารางค่าใช้จ่ายในการผลิตฟางอัดก้อน 45 4.5 ตารางต้นทุนการผลิตต่อหน่วย 46 4.6 ตารางแสดงต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน 47 4.7 ตารางค่าใช้จ่ายในการขายฟางอัดก้อน 48
สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 2.1 รอยแกลบข้าวบนชั้นดิน อายุประมาณ 2,500 ปี บ้านโน้นชัย จังหวัดขอนแก่น 5 2.2 เครื่องมือการทำนาปัจจุบัน 8 2.3 เครื่องมือเกี่ยวข้าว 8 2.4 การกองฟางในที่โล่ง 10 2.5 การกองฟางในโรงเรือน 11 4.1 แสดงภาพสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อน 36 4.2 การจำหน่ายฟางอัดก้อน 41
1 บทนำ บทที่ 1 1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ข้าว (Rice) เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุดและเป็นสินค้าเกษตรที่ มีมูลค่าการส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก (สมาคมส่งออกข้าว, 2566) พื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่ของ ประเทศไทยสามารถทำนาได้ต่อเนื่องปีละ 2 ครั้ง (กรมประชาสัมพันธ์, 2565) ซึ่งหลังจากเกษตรกรเก็บ เกี่ยวเมล็ดข้าวแล้ว ฟางข้าวในนาที่เป็นส่วนของลำต้นข้าวที่เหลือหลังจากการเก็บเกี่ยว จะปล่อยตากแดด 2 - 3 วัน เพื่อให้ฟางแห้งและไม่เป็นเชื้อรา ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ แคลเซียม ฟางข้าวนี้ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ทันก่อนฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ เกษตรกรส่วน ใหญ่จึงนิยมกำจัดฟางข้าวด้วยการเผาทำลาย เนื่องจากฟางข้าวนี้เป็นอุปสรรคในการไถเตรียมแปลง เพาะปลูก โดยเฉพาะในฤดูฝนที่ชาวนาไม่สามารถเผาทำลายฟางข้าวได้ ฟางข้าวในแปลงจะติดสะสมกับ ใบผานไถ ขณะไถเตรียมแปลงเนื่องจากใบผานไม่สามารถตัดสับฟางข้าวได้ นอกจากนี้การเผาทำลายฟาง ข้าวยังก่อให้เกิดมลพิษและเป็นการทำลายความสมบูรณ์ของหน้าดินอีกด้วย ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่เหมาะสำหรับทำการเกษตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีการชลประทานไหลผ่าน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประกอบด้วย การทำไร่ ทำสวน และการทำนาข้าว ซึ่งในปัจจุบันเกษตรกรที่ทำนาข้าวส่วนใหญ่ นิยมใช้ รถเกี่ยวข้าวในการเก็บเกี่ยวข้าวในนา หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้วจะมีฟางเหลืออยู่ในนา และมี ผู้ประกอบการที่เห็นประโยชน์ของฟางข้าว จึงได้มีการนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น เป็น อาหารสัตว์ในช่วงหน้าแล้ง การเพาะเห็ด และการนำไปคลุมแปลงผัก เป็นต้น ซึ่งนางสาววันวิสา กรรณิกา เห็นประโยชน์ของฟางข้าว หลังจากที่ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว มาสร้างรายได้เป็นธุรกิจส่วนตัว จึงได้เกิด ธุรกิจเกี่ยวกับฟางอัดก้อนจำหน่าย ในชื่อแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์มาเป็นระยะเวลา 10 ปี ณ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ และในการอัดฟางแต่ล่ะครั้งจะอัดฟาง ในพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอตรอน อำเภอพิชัย จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น นางสาววันวิสา กรรณิกา ไม่มีการจดบันทึกข้อมูลทำให้ไม่ทราบต้นทุนและผลตอบแทนที่แท้จริงในการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน ในบางครั้งการตั้งราคาขายฟางอัดก้อนจึงไม่คุ้มค่ากับการลงทุน นำไปสู่การเสียโอกาสในการสร้างรายได้
2 จากเหตุผลดังกล่าวคณะผู้ศึกษา จึงมีความสนใจที่จะศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟาง อัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อศึกษาต้นทุนและ ผลตอบแทนที่แท้จริงในการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน ตลอดจนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ในการพิจารณา วางแผน ตัดสินใจ หรือกำหนดนโยบายต่าง ๆ ในการบริหารกิจการต่อไปได้ 2. วัตถุประสงค์ของโครงงาน 2.1 เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 2.2 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 3. ขอบเขตของโครงงาน 3.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา ในการศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 3.2 ขอบเขตด้านประชากร ผู้ประกอบธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ มีสมาชิกจำนวน 7 คน ดังนี้ 1) นางสาววันวิสา กรรณิกา เจ้าของธุรกิจ 2) นายมงคลชัย มีนางัว ลูกจ้าง 3) นายรัชกฤษ ลำไย ลูกจ้าง 4) นายสุรเดช เมฆอินทร์ ลูกจ้าง 5) นายใกล้รุ่ง ขุนปรสิทธ์ ลูกจ้าง 6) นายพรรณวัฒน์ จ้อยผาจุก ลูกจ้าง 7) นายปกรณ์ ฉายสี ลูกจ้าง 3.3 ขอบเขตด้านระยะเวลา ระยะในการดำเนินงานตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือน มกราคม พ.ศ. 2567
3 3.4 ขอบเขตด้านสถานที่ 1) ธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 2) วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ เลขที่ 9 ถนนแปดวา ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากโครงงาน 4.1 ทราบถึงสภาพทั่วไปธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.2 ได้ทราบต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.3 สามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาธุรกิจนี้ไปเป็นแนวทางในการสร้างรายได้ในอนาคตได้ 5. นิยามศัพท์เฉพาะ 5.1 ฟางอัดก้อน หมายถึง ผลผลิตพลอยได้ชนิดหนึ่งจากเกษตรกรรม คือลำต้นแห้งของต้นข้าว หลังจากการเก็บเกี่ยวถูกบีบอัดเป็นก้อนสีเหลี่ยมผืนผ้าโดยเครื่องอัดฟาง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้าน ต่าง ๆ 5.2 เครื่องอัดฟางก้อน หมายถึง เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการอัดก้อนของฟางหรือ วัสดุที่มีลักษณะเป็นเส้นใยเล็กๆ 5.3 ต้นทุนการผลิต หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการแปรสภาพวัตถุดิบให้กลายเป็นสินค้า สำเร็จรูป เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในธุรกิจการผลิต การแบ่งประเภทของต้นทุนการผลิต ถ้าแบ่งตาม องค์ประกอบของต้นทุนจะสามารถแบ่งประเภทของต้นทุนออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต สูตรการคำนวณต้นทุนการผลิต ต้นทุนการผลิต = วัตถุดิบทางตรง + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต 5.4 ผลตอบแทน หมายถึง รายรับที่เกิดจากการประกอบกิจการและความสามารถของเงินทุนที่จะ ก่อให้เกิดรายได้คุ้มกับเงินลงทุนนั้น 5.5 ตอซังข้าวและฟางข้าว หมายถึง ก้านและใบของต้นข้าวที่หลงเหลือหลังจากออกรวงแล้ ทั้งตอ ซังและฟางข้าวมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย
4 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การศึกษาเรื่อง โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟาง ก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ที่จัดทำครั้งนี้ มีวัตถุประงสงค์เพื่อ 1. ศึกษา สภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์2. ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญ ทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยคณะผู้ศึกษาจึงได้ศึกษา เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 2.1 การศึกษาข้อมูลข้าวและฟางข้าว 2.2 แนวคิดทฤษฎีต้นทุนการผลิต 2.3 แนวคิดทฤษฎีผลตอบแทน 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 การศึกษาข้อมูลข้าวและฟางข้าว 2.1.1 ความเป็นมาของข้าว ข้าว เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของชีวิต และเป็นสิ่งที่คนเราขาดไม่ได้ ในสังคมไทยเป็นสังคม เกษตรกรรมที่ประชากรส่วนใหญ่นิยมเพาะปลูกข้าวเป็นหลักมาตั้งแต่โบราณ ข้าวจึงเป็นเหตุปัจจัยพื้นฐาน ที่กำหนดลักษณะทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมของไทย ในประเทศไทยนั้น การพบข้าวจากหลักฐานทางโบราณคดีไทยครั้งแรก มาจากการขุดค้นทาง โบราณคดีที่ถ้ำปุงฮุง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อปี พ.ศ.2515 โดย ดร.เชสเตอร์ กอร์มัน พบร่วมกับพืชชนิดอื่น คือ มะเกิ้น น้าเต้า และถั่ว ได้กาหนดอายุว่าอยู่ในช่วงประมาณ 2,900 – 1,100 ปีมาแล้ว ซึ่งจากผลการ วิเคราะห์ตัวอย่าง เรณูและเมล็ดข้าว พบว่าเป็นข้าวป่า ไม่ใช่ข้าวปลูก แสดงให้เห็นว่าคนโบราณที่อาศัยอยู่ ในถ้าแห่งนี้ ได้นาข้าวและพืชอื่น ๆ มาบริโภคแล้ว แต่ยังไม่รู้จักการเพาะปลูก และเริ่มมีการค้นพบ แกลบข้าวที่ เป็นหลักฐานซึ่งน่าจะเป็นข้าวปลูก ที่แหล่งวัฒนธรรมโลหกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย (มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2547) แสดงดังภาพที่ 2-1 ดังนี้
5 ภาพที่ 2-1 รอยแกลบข้าวบนชั้นดิน อายุประมาณ 2,500 ปี บ้านโน้นชัย จังหวัดขอนแก่น ที่มา : (มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2547) 2.1.2 การเจริญเติบโตของข้าว การเจริญเติบโตและพัฒนาของข้าวนั้น ตั้งแต่เมล็ดไปจนถึงเก็บเกี่ยว ได้แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ 2.1.2.1 ช่วงการเจริญเติบโตของใบและต้น ได้แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 1) ระยะเริ่มงอก (germination) เมื่อได้ทาการแช่เมล็ดข้าวไว้ 24 ชั่วโมง แล้วหุ้มไว้ อีก 48 ชั่วโมง ข้าวก็จะเริ่มงอกโดยจะเห็นรากอ่อนงอกออกมาก่อน และหลังจากนั้นใบแรกเกิดก็จะเจริญขึ้น 2) ระยะกล้า (seedling stage) เมื่อใบแรกเกิดเจริญขึ้นมา จนถึงระยะก่อน ที่หน่อ แรกเกิดขึ้น เมื่อข้าวมีอายุประมาณ 10 วัน แล้วควรจะมีใบ 3 ใบ ใบระยะที่ระบบรากฝอยจะพัฒนาขึ้น และรากแรกเกิดจะค่อยๆสลายไป ซึ่งในระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 18 วัน 3) ระยะแตกกอ (tillering stage) เป็นการกำเนิดจากตาของข้อที่อยู่ต่ำที่สุด หน่อปฐมภูมิ หน่อต่อ ๆ ไปจะเกิดจากตาขึ้นมาของต้นข้าวต้นเดิม (main culm) หน่อทุติยภูมิ (secondary tiilers) จะเกิดขึ้นจากตาทุติยภูมิและช่วงท้ายของระยะการเจริญเติบโตนี้ ความสูงจะยังคง เพิ่มขึ้น 4) ระยะย่างปล้อง (stem elongation stage) ต้นข้าวจะย่างปล้อง หลังจากที่แตก กอสูงสุดแล้ว การย่างปล้องนั้นจะเกิดขึ้นก่อนที่ข้าวจะสร้างช่อดอก ( panicle initiation) โดยอาจจะยึด ปล้องขึ้นมา 2-4 เซนติเมตร แล้วจึงสร้างจุดกำเนิดช่อดอก
6 2.1.2.2 ช่วงการเจริญเติบโตทางการเจริญพันธุ์ (reproductive phase) ได้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ 1) ระยะการสร้างรวงอ่อนหรือช่อดอก (panicle initiation) จากช่อดอกที่เกิดขึ้นที่ ปล้องสุดท้าย ซึ่งยังคงค้างคาอยู่ที่กาบใบ ถ้าฉีกกาบใบตรงข้อบนสุดออกหมด ที่ข้อสุดท้ายของลำต้นจะ เห็นรวงอ่อนที่พัฒนาขึ้นมาจากจุดกาเนิดช่อดอก ที่มีลักษณะคล้ายพู่ขนนก สีขาว ยาวประมาณ 1.0-1.5 มิลลิเมตร 2) ระยะการพัฒนาช่อดอก (panicle development) ยอดรวงอ่อน ซึ่งถูกห่อหุ้ม ด้วยกาบใบสุดท้ายจะพัฒนาเป็นรวงอ่อน ดอกเล็ก ๆ บนก้านรวงอ่อนก็จะพัฒนาตัวเอง โดยการเพิ่ม จำนวนขึ้น แต่ถ้าช่วงนี้ขาดน้ำและธาตุอาหารจะมีการส่งผลเสียต่อการสร้างจำนวนดอกซึ่งทำให้ผลผลิต ลดลงได้ 3) ระยะออกดอก-ดอกบาน (heading-flowering stage) ในระยะนี้ก้านช่อดอก ข้าวจะค่อย ๆส่งช่อดอกให้พ้นกาบใบธง ส่วนช่อดอกจะยังคงมีลักษณะตั้งตรง ดอกข้าวจะเริ่มบานจาก ปลายช่อลงมาจนถึงโคน นับจากวันที่เห็นตุ่มยอดรวงข้าวอ่อนได้ประมาณ 25 วัน ก็จะเห็นดอกข้าวเริ่มบาน 2.1.2.3 ช่วงการเจริญเติบของเมล็ด การเจริญเติบโตในช่วงนี้ของข้าว แบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1) ระยะน้ำนม (milk grain stage) ในระยะนี้รวงยังมีสีเขียว และใบยังตั้งตรง ภายในดอกข้าวเริ่มสร้างน้ำนมสีขาว จะสังเกตได้ว่าถ้าบีบเมล็ดอ่อนดู จะมีน้ำนมออกมา เมื่อน้ำนมเริ่มแข็ง แสดงว่าถึงระยะน้ำนมสิ้นสุดลง การที่ระยะน้ำนมสิ้นสุดลงนั้น จะสังเกตได้ว่า ปลายรวงจะเริ่มโน้มลงมา ในระดับที่ปลายรวงชี้ขนานกับพื้นดิน 2) ระยะแป้งอ่อน (dough stage) เมื่อน้ำนมในเมล็ดเริ่มที่จะแข็งตัวน้ำหนักของ เมล็ดย่อมเพิ่มตาม เริ่มที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมล็ดที่อยู่ปลายรวงจะเริ่มแก่ก่อน และเมล็ดที่อยู่ถัดไป จะเริ่มแก่ตาม 3) ระยะเมล็ดแก่ (mature grain stage) ในระยะนี้เมล็ดจะมีความแข็งและมีการ ขยายขนาดอย่างเต็มที่ เมล็ดทุกเมล็ดจะไม่มีสีเขียว ใบมีลักษณะแห้งอย่างรวดเร็ว หากนับตั้งแต่รวงโผล่ พ้นจากกาบใบจนถึงสิ้นสุดระยะนี้ จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ก็มีการเก็บเกี่ยวได้แต่ยังคงมีความชื้นอยู่ โดยเราต้องนำไปตากแดด หรือทำให้แห้งโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ให้ความชื้นในเมล็ดลดลง จึงนำไปเก็บรักษา หรือจำหน่ายได้
7 2.1.3 เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา เครื่องมือที่ใช้ในการทำนาจะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานประการหนึ่งของการทำนา จากหลักฐานต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่มีการพัฒนาเรื่อยมา จนถึงยุคปัจจุบัน ที่เริ่มมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายและรวดเร็ว ของมนุษย์ยิ่งขึ้น เครื่องมือการทำนาท้องถิ่นนั้นย่อมแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาค อาจมีชื่อเรียกหรือ รูปร่างลักษณะที่แตกต่างกัน ปัจจุบันสามารถพบเห็นในท้องถิ่นที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึงหรือชุมชน ได้มีการอนุรักษ์ไว้ โดยเครื่องมือดังกล่าวแบ่งได้เป็นดังนี้ 2.1.3.1 เครื่องมือปลูกข้าว ไถ เป็นเครื่องมือพรวนดินด้วยแรงสัตว์ รูปร่างโค้งสูงเสมอเข่า ประกอบด้วย คันไถ แอก หางยาม หัวหมู และผาล นาข้าว ที่เป็นดินทรายหรือดินร่วนซุยจะใช้ ไถนาเดียว ซึ่งทำจากไม้เล็กๆ และมีน้ำหนักเบา ส่วน ไถสองขา ทำจากไม้แก่น ใช้สาหรับนาข้าว ที่เป็นดินเหนียว ไถที่ใช้กันทั่วไปจำแนก ได้ 2 ชนิดคือ ไถเดี่ยว (ใช้ควายตัวเดียว) และ ไถคู่ (ใช้วัวไถ 2 ตัว) คราด เป็นเครื่องมือที่ทำจากไม้ขนาดใหญ่ เพื่อปรับดินที่ไถ และให้ก้อนดินแตกย่อย ลงไปอีกโดยใช้วัวหรือควายเทียม ทั้งยังช่วยสางต้นหญ้าให้หลุดออกจากดิน ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น คราดเหล็กใช้พ่วงกับรถแทรกเตอร์ ระหัด เป็นเครื่องชักน้ำเข้านาทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ลักษณะเป็นรางน้ำ ใช้มือหมุนหรือ เท้าถีบ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องสูบน้ำแทน โชงโลง เป็นภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ที่หนาและแข็งแรง ใช้สาหรับวิดน้ำเข้านา เมื่อน้ำ ในนาไม่พอเลี้ยงต้นข้าว ภาคอีสาน เรียกว่า คันโซ่ หรือ อุงพุ่ง จอบ เป็นเครื่องมือสำหรับดายหญ้า พรวนดิน และเตรียมดิน ทำด้วยเหล็กแบน ๆ ด้ามไม้ยามประมาณ 2 เมตร 2.1.3.2 เครื่องมือการทำนาปัจจุบัน เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงมนุษย์เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้ ชีวิตประจำวัน นวัตกรรมใหม่ ๆ ก็เริ่มเข้ามาในยุคปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ได้มีการนำเครื่องจักรกลการเกษตรต่าง ๆ มาใช้แทนเครื่องมือแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงานยิ่งขึ้น
8 แสดงดังภาพที่ 2-2 ดังนี้ ภาพที่ 2-2 เครื่องมือการทำนาปัจจุบัน (ที่มา : https://itp1.itopfile.com/ImageServer/d470d8876d08f5d2/) 2.1.3.3 เครื่องมือเกี่ยวข้าว เคียว เป็นเครื่องมือสำหรับเกี่ยวข้าว ทำด้วยเหล็กมีด้ามในตัว ใบเคียวแบนเรียวโค้ง เหมือนวงเดือนเสี้ยว ภาคใต้เรียก แกะหรือกรูด ซึ่งเคียวที่ใช้กันทั่วไปมี 2 ชนิด คือ เคียวนาสาว เป็นเคียว ลักษณะวงกว้าง ใช้เกี่ยวข้าวทั้งข้าวนาสวนและข้าวนาเมือง อีกชนิดหนึ่งคือ เคียวนาเมือง เป็นเคียววงแคบ ใช้เกี่ยวข้าวได้เฉพาะข้าวนาเมือง แสดงดังภาพที่ 2-3 ดังนี้ ภาพที่ 2-3 เครื่องมือเกี่ยวข้าว (ที่มา :https://newwebs2.ricethailand.go.th/webmain/rkb3/003-7.jpg )
9 2.1.4 เศษวัสดุที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว จากการทาการเกษตร ปกติเกษตรกรสามารถผลิตพืชผลทางการเกษตรได้หลายชนิดและ เป็นจำนวนมาก ทำให้มีผลพลอยได้ต่าง ๆ จากการเกษตรและเศษเหลือจากโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย ที่สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ซึ่งวัสดุเหลือใช้เหล่านี้บางชนิดมีคุณค่าทางโภชนาสูงสามารถที่จะ นำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้โดยตรงแต่บางชนิดอาจมีความจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการใช้ตลอดจน ปรับปรุงคุณภาพก่อน เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาให้สูงขึ้น ถ้าสามารถจัดหาวัสดุเหลือใช้เหล่านี้ได้ง่าย สะดวก และมีราคาถูกด้วย ก็จะเป็นการลดต้นทุนการผลิตสัตว์ที่ดีทางหนึ่ง ในที่นี้จะกล่าวถึงวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตรฟางข้าว ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก 2.1.5 ฟางข้าว คุณค่าของฟางข้าว ฟางข้าวเป็นส่วนลำต้นของข้าวที่ชาวนาได้ทำการเก็บเกี่ยวเมล็ดข้าว ออกไปแล้วเรียบร้อยแล้วโดยส่วนใหญ่หลังจากที่ชาวนาได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จก็จะเผาฟางข้าวทิ้ง ไปทันที ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสูญเสียทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์จึงทำให้เกิดแนวทางต่าง ๆ เพื่อ แก้ปัญหาการสูญเปล่าของทรัพยากร โดยมีแนวทางในการนำฟางข้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ฟางข้าวเป็น หัวปุ๋ยชั้นดี มีแคลเซียมฟอสฟอรัส และไนโตรเจน ใช้คลุมดินจะทำให้พืชผักเจริญเติบโตแข็งแรง ทนต่อ ศัตรูพืช คุณประโยชน์จากฟางจะช่วยปรับโครงสร้างของดินที่เป็นกรดหรือเป็นด่างให้เกิดความสมดุล รักษาความชื้นให้แก่ดิน สร้างดินให้มีชีวิตทำให้ประหยัดน้ำในการรดต้นพืช ดินที่คลุมด้วยฟางจะเป็น อาณาจักรของสัตว์ ที่เป็นมิตรกับต้นพืช อาทิ ไส้เดือน จิ้งหรีด เป็นต้น และการระบาดของแมลงศัตรูพืช จะค่อย ๆ หายไปโดยไม่ต้องใช้สารเคมีหากมีการใช้ประโยชน์จากฟางข้าวกับแปลงปลูกพืช 2.1.6 ชนิดของฟางข้าว ฟางข้าวประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ใบข้าว ปล้องข้าว และ รวงข้าว ส่วนฟางข้าวที่ได้จากการ เก็บด้วยด้วยตัดในแปลงนาจะมีส่วนประกอบของตอซังหรือกอข้าวรวมอยู่ด้วย โดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ฟางข้าวจากการเกี่ยวมือ และนวดมือ เป็นฟางข้าวที่ได้จากการเกี่ยวข้าว และนำเมล็ดข้าวออก ด้วยวิธีการเกี่ยวด้วยมือหรือใช้ รถเกี่ยวข้าว จะมีลักษณะเป็นระเบียบและมีความสมบูรณ์ไม่แตกเป็นเส้น ฟางข้าวที่ได้จากเครื่องแยกเมล็ด หรือรถสีข้าวจะมีการแตกขาดเป็นเส้นจากกการนำเมล็ดข้าวออก
10 2) ฟางข้าวจากการเกี่ยวมือ และนวดด้วยรถนวด ลักษณะฟางข้าวที่ได้จากการนวดเมล็ดด้วยวิธีนี้จะทำให้ฟางมีลักษณะแตกเป็นเส้นขนาดเล็ก ไม่มีการจัดเรียงตัวที่เป็นระเบียบ 3) ฟางข้าวจากรถอัด ฟางข้าวที่หล่นในแปลงนาหลังการเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยวข้าวจะเป็นมีการแตกขาดเป็นเส้น และฟางชนิดนี้จะถูกปล่อยทิ้งตามแปลงนา ต้องโกยรวมกันเป็นกองหรือใช้รถเก็บฟางรวบอัดเป็นก้อนฟาง 2.1.7 ประโยชน์จากฟางข้าว คุณสมบัติจากฟางข้าวที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป มีทั้งคุณสมบัติทางเคมีและ คุณสมบัติทางกายภาพ ในฟางข้าวมีสารตกค้างจาก ซิลิกอนไดร์ออกไซด์สูง (SiO2) หรือซิลิกา ที่เป็น สารช่วยในการดูดซับความชื้นสูง เป็นสารเพิ่มความเงา และยังเป็นสารที่ช่วยในเรื่องการเพิ่มความแข็งแรง ให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำมาเป็นวัสดุในการก่อสร้าง ถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติที่สามารถนำไป พัฒนาต่อได้ แต่ก็มักจะถูกเผาไหม้ทำลายในบริเวณที่โล่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอยู่เสมอ ในบาง กรณี ฟางข้าวจะรวมต้นในดินกลายในดินเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือใช้เป็นอาหารสัตว์ 2.1.8 การจัดเก็บฟางข้าว การกองในที่โล่ง การกองฟางให้เป็นกองสูงโดยควรเลือกกองบนพื้นที่ ที่เป็นเนินหรือ บริเวณที่สูงไม่เสี่ยงต่อน้ำท่วม ลักษณะของกองฟางจะมีรูปร่างคล้ายระฆังคว่ำ มีฐานกว้าง และค่อย ๆ เรียวลดขนาดลงการกองวิธีการนี้ มีโอกาสทำให้เน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะ ในช่วงฤดูฝนที่ฟางข้าวโดนฝน โดยตรง และหากดินมีความชื้นมาก โดยบริเวณฐานจะเน่าเสียได้ง่าย แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังสภาพดี โดยเฉพาะบริเวณส่วนกลางของกอง การกองฟางในที่โล่ง แสดงดังภาพที่ 2-4 ดังนี้ ภาพที่ 2-4 การกองฟางในที่โล่ง (ที่มา :https://www.pinterest.com/pin/832110468624088477/)
11 การกองในโรงเรือน เป็นวิธีการเก็บรักษาฟางข้าวที่ใช้ในเกษตรบางราย เช่น เกษตรที่มี อาชีพเพาะเห็ดฟาง เกษตรกรที่ต้องใช้ฟางคลุมแปลงเกษตร และเกษตรผู้เลี้ยงโคจำนวนมาก เป็นต้น วิธีการเก็บรักษาฟางวิธีนี้สามารถเก็บรักษาได้นานหลายปี เนื่องจากมีหลังคาป้องกันฝนได้ แต่มีค่าใช้จ่าย สูงมากเมื่อเทียบกับการกองในที่โล่ง การกองฟางในโรงเรือน แสดงดังภาพที่ 2-5 ดังนี้ ภาพที่ 2-5 การกองฟางในโรงเรือน (ที่มา : https://used-square-baler.blogspot.com/2009/11/blog-post_03.html) 2.2 แนวคิดทฤษฎีต้นทุนการผลิต 2.2.1 ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการผลิต หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการแปรสภาพวัตถุดิบให้กลายเป็นสินค้า สำเร็จรูป เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในธุรกิจการผลิต การแบ่งประเภทของต้นทุนการผลิต ถ้าแบ่งตาม องค์ประกอบของต้นทุนจะสามารถแบ่งประเภทของต้นทุนออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง และค่าใช้จ่ายการผลิต สูตรการคำนวณต้นทุนการผลิต ต้นทุนการผลิต = วัตถุดิบทางตรง + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต 1) วัตถุดิบ (Materials) หมายถึง วัตถุดิบเป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตสินค้าหรือ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยทั่วไป ซึ่งต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุติบในการผลิตสินค้า แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
12 1.1 วัตถุดิบทางตรง (Direct Materials) หมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตและ สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งในปริมาณและต้นทุนเท่าใดรวมทั้ง จัดเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินค้าชนิดนั้น ๆ เช่น ไม้แปรรูปจัดเป็นวัตถุดิบทางตรงของการ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยางดิบที่ใช้ในการผลิตยางรถยนต์ แร่เหล็กที่ใช้ใน อุตสาหกรรมถลุงเหล็ก กระดาษที่ใช้ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ 1.2 วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect Materials) หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดย ทางอ้อมกับการผลิตสินค้าแต่ไม่ใช่วัตถุดิบหลักหรีอวัตถุดิบส่วนใหญ่ เช่น ตะปู กาว กระใช้เป็น ส่วนประกอบของการทำเครื่องหนังหรือเฟอร์นิเจอร์ น้ำมันหล่อลื่นเครื่องจักร เส้นด้ายที่ใช้ในการตัดเย็บ เสื้อผ้า เป็นต้น โดยปกติแล้ว วัตถุติบทางอ้อมอาจจะถูกเรียกว่า "วัสดุโรงงาน" ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายการผลิต ชนิดหนึ่ง 2) ค่าแรงงาน (Labor) หมายถึง ค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำ หน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าโดยปกติแล้วค่าแรงงานถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ค่าแรงงานทางตรง (Direct Labor) และค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect Labor) 2.1 ค่าแรงงานทางตรง (Direct Labor) หมายถึง ค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่คนงาน หรือลูกจ้างที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าโดยตรง ค่าแรงทางตรง เป็นค่าแรงงานที่มีมูลค่าสูงมาก เมื่อเทียบกับค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect Labor) ในการผลิตสินค้าหน่วยหนึ่ง ๆ และจัดเป็นค่าแรงงาน ส่วนสำคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น คนงานที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุม เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตก็ควรถือเป็นแรงงานทางตรง หรือพนักงานในสาย เป็นต้น 2.2 ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect Labor) หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน เงินเดือนพนักงานทำความสะอาด เครื่องจักรและโรงงาน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบำรุงตลอดจนต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับคนงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกให้ลูกจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งค่าแรงงานทางอ้อมเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 3) ค่าใช้จ่ายในการผลิต (Manufacturing Overhead) หมายถึง แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง เช่น วัตถุดิบ ทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเสื่อมโรงงาน ค่าเสื่อม เครื่องจักร ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าประกันภัย ค่าภาษี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต้องเป็น ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดำเนินการผลิตในโรงงานเท่านั้น ค่าใช้จ่ายการผลิต ไม่รวมถึงเงินเดือน ค่าเช่า ค่า
13 ไฟฟ้า ค่าเสื่อมราคา ที่ เกิดขึ้นจากการดำเนินงานในสำนักงาน (Management cost) ค่าใช้จ่ายการผลิต จึงถือเป็นที่รวมของค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมต่าง ๆ (Cost of Indirect Manufacturing Costs) นอกจากนี้ ยังพบว่าในบางกรณีมีการเรียกค่าใช้จ่ายการผลิต ในชื่ออื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายโรงงาน (Factory Overhead) โสหุ้ยการผลิต (Manufacturing Burden) ต้นทุนผลิตทางอ้อม (Indirect Costs) เป็นต้น สูตรการคำนวณต้นทุนรวมต่อหน่วย ต้นทุนรวมสินค้าต่อหน่วย = ต้นทุนการผลิตทั้งหมด จำนวนหน่วยที่ผลิตได้ 2.3 แนวคิดทฤษฎีผลตอบแทน สิ่งที่ผู้ลงทุนมุ่งหวังจะได้จากการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในธุรกิจในหลักทรัพย์หรือใน อสังหาริมทรัพย์ ก็คือผลตอบแทนหรือตราผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งคำว่าอัตราผลตอบแทน มีความหมายกวางขวาง อาจหมายถึงอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน ระยะยาว อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ สรุปอัตราผลตอบแทนความหมายว่า อัตรา ผลตอบแทนจากโครงการลงทุนเฉพาะโครงการ ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีรูปแบบการวัดที่แตกต่างกัน และ การใช้ประโยชน์ ก็แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์เป็นสำคัญ อัตราส่วน ผลตอบแทนนอกจากใช้ประโยชน์ ในการประเมินผลของโครงการปฏิบัติงาน ยังใช้ประโยชน์ช่วยในการ ตัดสินใจในลงทุน วางแผน ควบคุม และปรับปรุงการดำเนินงาน (เพซรี ขุมทรัพย. 2554: 279) 2.3.1 อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน (Return on Investment หรือ ROI) เป็นเกณฑ์ในการวัดการ ปฏิบัติงานที่มีความสำคัญมาก เกณฑ์ในการวัดการปฏิบัติงานมีหลายอย่าง เช่น วัดจากการเปลี่ยนแปลง ในยอดขาย เปลี่ยนแปลงในกำไร หรือวัดจากผลิตผลที่ได้ การวัดแต่ละอย่างมิได้เป็นเกณฑ์วัดที่สมบูรณ์ ถ้ายอดขายเพิ่มแสดงว่าการปฏิบัติงาน ทำได้ดี แต่การเพิ่มขึ้นของยอดขายอาจเป็นผลให้เสียค่าใช้จ่ายสูง เช่น เสียส่วนลดสูง หรือเกิดจากการลดราคา ดังนั้น เกณฑ์การวัดที่ดีควรวัดจากกำไร ซึ่งเป็นปัญหาอีกว่า กำไรมากหรือน้อย เปรียบเทียบจากอะไร ทางหนึ่งที่ทำให้ทราบถึงภาวะในการหากำไร ก็คือ การเปรียบเทียบกำไรที่หาได้กับขนาดของเงินที่ลงทุน ดังนั้นวิธีการวัดการปฏิบัติงานของธุรกิจด้วยกำไร สุทธิต่อเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ จึงเป็นวิธีที่ใช้ได้ดีและใช้กันอย่างกว้างขวาง อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน ใช้ประโยชน์ในการเปรียบเทียบเลือกทางเลือกในการลงทุน
14 หากทางเลือกต่าง ๆ ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน แต่มีระดับความเสี่ยงที่เท่ากันเช่น การเลือกทางเลือกที่ ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนสูงที่สุด แต่ตามข้อเท็จจริงการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท อัตรา ผลตอบแทนที่ได้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในสินทรัพย์ลงทุนประเภทนั้น ๆ เช่น ลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาล อัตราผลตอบแทนจะต่ำ เนื่องจากความเสี่ยงอัตราน้อยมากหรือกล่าวได้ว่าไม่มีความเสี่ยง เลย ผิดกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ประเภทที่มีอายุการใช้งาน มากกว่าหนึ่งปี ความเสี่ยงจะสูงและอัตราผลตอบแทนที่ต้องการเพื่อให้คุ้มกับความเสี่ยงจึงสูงด้วย ดังนั้น อัตราผลตอบแทนจึงใช้ประโยชน์ในการประเมินผลการดำเนินงานว่าผลตอบแทนที่ได้เป็นไปตาม เป้าหมายที่ต้องการหรือไม่สูตรในการคำนวณ หาอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนมี ดังนี้ (เพซรี ขุมทรัพย์, 2554: 282) อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน = กำไรสุทธิ x 100 สินทรัพย์รวม เงินลงทุนในที่นี้มีได้หลายความหมาย การวัดผลตอบแทนจึงขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายในการวัด เป็นต้นว่า วัดผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม ผลตอบแทนจากเงินทุนระยะยาว (หนี้สินระยะยาว + ส่วนของผู้ถือหุ้น) หรือผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นต้น 1) สินทรัพย์รวม อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวมเป็นวิธีวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีที่สุด ของธุรกิจ เป็นการวัดผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีอยู่ในธุรกิจอย่างไรก็ตามการวัดผลตอบแทนนี้ ผู้วิเคราะห์อาจให้ความสนใจหรือเน้นวัดเงินทุนเฉพาะส่วน หรือคาดคะเนการดำเนินงาน สำหรับสินทรัพย์ รวมนั้นอาจมีสินทรัพย์บางส่วนที่มิได้ใช้ในการดำเนินงานตามปกติของธุรกิจ เช่น โรงงานที่ไม่ได้ใช้ ประโยชน์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ระหว่างก่อสร้างของคงเหลือที่มากเกินความจำเป็น เงินสดถือไว้ มากเกินความจำเป็น สินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน และรายจ่ายรอการตัดบัญชีตามแนวความคิดนี้ ในการคำนวณ จะใช้สินทรัพย์ดำเนินงาน จะไม่รวมสินทรัพย์ตามที่กล่าว ทั้งนี้โดยมีแนวคิดว่า ผู้บริหารไม่ควรต้อง รับผิดชอบในการหาผลตอบแทนให้กับสินทรัพย์ ส่วนที่มีได้นำมาใช้ประโยชน์เพื่อหารายได้โดยตรง แต่ แนวคิดอีกลักษณะหนึ่งกลับเห็นว่าสินค้าที่ลงทุนมากเกินความจำเป็น หรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมากเกิน ความจำเป็น ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้สินทรัพย์ขาดประสิทธิภาพ กรณีเช่นนี้ ควรที่จะนำสินทรัพย์ดังกล่าว รวมอยู่ในสินทรัพย์ดำเนินงานด้วยอย่างไรก็ตามมีสินทรัพย์บางรายการที่มิใช่การลงทุนเพื่อการดำเนินงาน ตามปกติของธุรกิจนั้น โดยตรงแต่ลงทุนไว้เนื่องจากมีเงินมากเกินความจำเป็นหรือเพื่อต้องการควบคุม
15 กิจการอื่นรายการเหล่านี้ได้แก่ เงินลงทุนระยะยาว อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดำเนินงาน จึงมิควร รวมสินทรัพย์ดังกล่าว ในแง่ของการใช้อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนเพื่อการบริหารภายใน ควรประเมิน การดำเนินงานด้วยสินทรัพย์ก่อนหักค่าเสื่อมราคาสะสมด้วยเหตุผลดังนี้ ก) สินทรัพย์เมื่อถูกใช้งานผ่านไป ยังคงสามารถใช้งานต่อไปได้ การคิดค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี เป็นเพียงการจัดสรรสินทรัพย์ถือเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อคำนวณกำไรเท่านั้น ข) ถ้าสินทรัพย์ที่ใช้เป็นสินทรัพย์สุทธิในปีต่อ ๆ ไป สินทรัพย์สุทธิจะลดลงทั้ง ๆ ที่กำไรปีต่อไป ยังคงเหมือนเดิม อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนสุทธินี้จะเพิ่มขึ้น ๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก กว่าเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ 2) เงินลงทุนระยะขาว (หนี้สินระยะยาว + ส่วนของผู้ถือหุ้น) อัตราผลตอบแทนจากเงินทุนระยะยาว ผู้ที่สนใจในอัตราผลตอบแทนนี้มีอยู่ 2 ฝ่าย ซึ่งต่างก็เป็นผู้ให้เงินทุนระยะยาว ได้แก่ เจ้าหนี้ระยะยาว และ ผู้ถือหุ้น 2.1 ส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งอัตราส่วนนี้ผู้ที่ใช้ประโยชน์ ก็คือผู้ถือหุ้น เป็นเครื่องวัดว่าผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนส่วนนี้เท่าไร 2.2 กำไรที่นำมาใช้ในการคำนวณควรเป็นกำไรจากการดำเนินงาน กำไรก่อนภาษี หรือ กำไรสุทธิ ซึ่งจะใช้กำไรตัวใดนั้นขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทนที่ต้องการคำนวณหา ซึ่งแบ่งเป็นกรณีดังนี้ ก) ถ้าต้องการคำนวณหาอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวมหรือเงินลงทุนระยะยาว กำไรที่ใช้ควรเป็นกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี ทั้งนี้มองในแง่ผลตอบแทนให้แก่เจ้าของเงินทุนคือ เจ้าหนี้ ส่วนเงินปันผลถือเป็นผลตอบแทนที่ให้แก่ทุนส่วนของผู้ถือหุ้น ข) การคำนวณอัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ กำไรที่จะต้องเป็นกำไรหลัง หักดอกเบี้ยและหลังหักภาษีเงินได้ นอกจากนี้นากเป็นบริษัทที่มีหุ้นบุริมสิทธิ์ เงินปันผล หุ้นบุริมสิทธิ์ จะต้องนำหักออกด้วย เพื่อหากำไรส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ 3) เป้าหมายในการใช้อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน การปฏิบัติงานอย่างประหยัด เป็นเป้าหมายแรกของธุรกิจที่จะต้องถือปฏิบัติประสิทธิภาพใน การปฏิบัติงานและคำเนินงานจะเป็นตัวกำหนดความอยู่รอดทางการเงินของธุรกิจนั้นจึงเป็นตัวดึงดูดใจ เจ้าของเงินทุนจากแหล่งต่าง ๆ และให้ผลตอบแทนแก่เจ้าของเงินลงทุนเหล่านั้นอย่างเพียงพอ อัตรา ผลตอบแทนจากเงินลงทุน จึงเป็นเครื่องวัดการดำเนินงานของธุรกิจและยังใช้ประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 2 ประการ คือ
16 ก) ใช้เป็นเครื่องมือชี้วัดความมีประสิทธิภาพในการบริหารงานของฝ่ายบริหารกำไรที่ได้เพียงพอ หรือมากกว่าค่าของทุนในเงินที่ จ่ายลงทุนในธุรกิจหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่มีอยู่ ความชำนาญความชื่อสัตย์ และแรงกระตุ้นจากฝ่ายบริหาร ดังนั้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนจากเงินลงทุน เป็นระยะเวลายาว เป็นสิ่งที่ผู้วิเคราะห์ต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญอย่างมาก จะต้องประมาณถึง ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจนั้นและตัวที่สำคัญก็คือ คุณภาพของฝ่ายบริหาร ข) ใช้เป็นเครื่องมือในการคาดคะเนกำไร หน้าที่ สำคัญประการที่สองของอัตราผลตอบแทน จากเงินลงทุน ก็คือ เป็นสื่อกลางในการคาดคะเนกำไร กรณีนี้จะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่าง กำไรกับเงินลงทุน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อเป็นตัวเชื่อมโยงหาอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนใน อนาคตได้ ตามวิธีนี้นอกจากใช้เป็นเครื่องมือเบื้องต้นในการคาดคะเนกำไรแล้ว ยังใช้เป็นเครื่องมือทดสอบ กำไรที่คาดคะเนได้จากวิธีอื่นอีกส่วนหนึ่ง 2.3.2 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (Return on Assets หรือ ROA) ในหมวดของการวัด ประสิทธิภาพในการบริหารงานของฝ่ายบริหาร เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อัตราความสามารถในการหากำไร (Earning Power) เป็นการวัดการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่ มีอยู่ว่าใช้ได้มากน้อยเพียงใดซึ่งคำนวณจาก สูตร ดังนี้ (เพชรี ขุมทรัพย์. 2554: 283) อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (ROA) = กำไรสุทธิ x 100 สินทรัพย์รวม
17 2.3.3 การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทน 1) การวิเคราะห์ต้นทุน การวิเคราะห์พฤติกรรมต้นทุน (Cost bchavior analysis) เป็นการวิเคราะห์ผลที่ต้นทุน ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงปริมาณกิจกรรมการผลิต ณ ระดับต่าง ๆ เนื่องจากต้นทุนต่อหน่วยจะมี การผันแปรไปได้เมื่อปริมาณการผลิตเปลี่ยนแปลง เพราะต้นทุนบางส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่ ไม่ว่าปริมาณ การผลิตจะมากหรือน้อยเพียงใด ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยเปลี่ยนแปลงไปต้องพิจารณาที่ต้นทุนผันแปร ต้นทุนคงที่ และต้นทุนกึ่งคงที่ (อดิศรเลาหวณิช, 2552: 77) ก) ต้นทุนผันแปร (Variable cost) หมายถึง ต้นทุนที่แปรเปลี่ยนโดยตรงหรือเกือบโดยตรงกับ ระดับการผลิตที่แปรเปลี่ยนไป ในกิจการที่ผลิตสินค้า ต้นทุนผันแปร ได้แก่ วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง เพราะปริมาณการใช้วัตถุดิบทางตรง และค่าแรงทางตรงจะผันแปร ตามปริมาณการผลิตอย่างแน่นอน สำหรับในกิจการที่ซื้อสินค้ามาจำหน่ายต้นทุนผันแปร ได้แก่ ต้นทุนขาย ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับต้นทุนของ สินค้าที่กิจการขายออกไป ข) ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) หมายถึง ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามยอดผลิตโดยตรงไม่ว่า ปริมาณการผลิตจะมากหรือน้อย เช่น การที่ กิจการเช่าโรงงานและต้องเสียค่าเช่าการผลิตจะมากหรือ น้อยกิจการก็ต้องเสียค่าเช่าเท่าเดิม ดังนั้น ยิ่งผลิตสินค้ามากเท่าใด ต้นทุนคงที่ของสินค้าต่อหน่วยก็จะ ต่ำลง ในทางตรงกันข้าม ถ้าผลิตน้อยลงต้นทุนต่อหน่วยก็จะยิ่งสูงขึ้น ค) ต้นทุนกึ่งคงที่ (Semi-fixed cost) ต้นทุนคงที่ นั้น แม้จะไม่ผันแปรตามปริมาณการผลิต แต่ก็ เพียงระดับการผลิตช่วงหนึ่งเท่านั้น ถ้ากิจการต้องเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น กิจการอาจต้องเช่าโรงงาน เพิ่ม มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยที่ปริมาณการผลิตในโรงงานแห่งที่สองอาจไม่มากนักทำให้ต้นทุนต่อหน่วย เพิ่มขึ้นได้ ง) ต้นทุนรวม (Total cost) หมายถึง ต้นทุนผันแปรกับต้นทุนคงที่เป็นต้นทุนทั้งหมด ที่เกิดขึ้นจริง
18 2.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง นางสาว มินตรา นันทราช (2561) โครงการศึกษาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรประเภทฟางข้าว เพื่อประยุกต์การออกแบบผลิตภัณฑ์ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ : รองศาสตราจารย์ ดร. รัฐไท พรเจริญ การวิจัยครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จากฟางข้าวเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการทำ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับฟางข้าวที่ยังคงไว้ด้วยทักษะภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งชาวบ้านสามารถเป็นส่วนหนึ่งใ น กระบวนการผลิตและขยายกลุ่มตลาดจากเดิม โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ศึกษาคุณสมบัติของฟางข้าว ทักษะ ภูมิปัญญาทาการทดลอง ทดสอบวัสดุเพื่อนามาประยุกต์สาหรับการออกแบบเก้าอี้นั่งเล่นเข้ากับทักษะภูมิ ปัญญาท้องถิ่น และศึกษาผลความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ต้นแบบผลของการศึกษาวิจัยนี้ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงทดลองได้ดำเนินการโดยการสัมภาษณ์ผู้ผลิตจากกกลุ่มชุมชน ทั้ง 2 กลุ่ม ได้ทราบถึงข้อจากัดของวัสดุการขึ้นรูปโดยผู้วิจัยได้นาผลสรุปข้อมูลมาออกแบบ 3 แนวทาง และให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการออกแบบพิจารณาเหลือเพียง 1 แนวทาง จากนั้นผู้วิจัยได้นามาพัฒนาปรับปรุงและสร้างต้นแบบ เพื่อนาไปศึกษาความความพึงพอใจจากกลุ่มผู้บริโภค 50 คน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อย ละผลการพิจารณารูปแบบเก้าอี้จากฟางข้าผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 3 ท่านได้คัดเลือกแนวทางที่ 3 ที่มีคะแนนมาก ที่สุดโดยแนวความคิด คือผืนท้องนาซึ่งมีรูปร่างและรูปทรงธรรมชาติ และมีรูปร่างและรูปทรงเรขาคณิต อย่างชัดเจน มาประยุกต์ให้เกิดความทันสมัยและมีศิลปะท้องถิ่นการจักรสานเข้ามา ซึ่งได้ค่าเฉลี่ยระดับดี มากเท่ากับ 4.89 (S.D.=0.19) จึงพัฒนาปรับปรุงรูปแบบแล้วนาไปประเมินความพึงพอใจจากผู้ตอบ แบบสอบถาม 50 คน พบว่าผู้บริโภคมีความพึงพอใจในระดับดีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 (S.D.=0.37) ผลการ ออกแบบครั้งนี้ทาให้ทราบว่าฟางข้าวเป็นวัสดุค่อนข้างมีขอจำกัดเรื่องของการรับน้าหนัก จาเป็นต้องมีวัสดุ เข้ามาเสริมในเรื่องของโครงสร้าง คือสเตนเลสเพื่อที่จะรับน้าหนักของมนุษย์ได้ โดยประยุกต์เข้ากับทักษะ ภูมิปัญญาการจักรสานและการเย็บอีกทั้งผลิตภัณฑ์สามารถถอดประกอบได้ช่วยในเรื่องของการขนส่งและ ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ศิรดา นวลประดิษฐ์ (2561) การพัฒนาระบบการจัดทำบัญชีและการคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ และบริการของวิสาหกิจชุมชนข้าวสังข์หยด : กรณีศึกษาบ้านเขากลาง อำเภอควรขนุน จังหวัดพัทลุง โดย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการจัดทำบัญชีและการคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ และบริการของวิสาหกิจชุมชนข้าวสังข์หยดบ้านเขากลาง การวิจัย เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมถูก นำมาใช้ในการศึกษา วิธีการวิจัยอาศัยการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียรวมถึงนักวิจัย ผู้นำกลุ่ม สมาชิก กลุ่ม และเอกสารทางการเงินในการเก็บข้อมูลผลการวิจัยจะนำไปสู่การออกแบบและพัฒนาตัวแบบสมุด บัญชีสำหรับโรงสีข้าวชุมชนจำนวน 6 เล่ม ตัวแบบสำหรับการคำนวณและจัดสรรต้นทนผลิตภัณฑ์และ บริการ และตัวแบบสำหรับงบกำไรขาดทุนแบบหลายขั้น ผลการพัฒนาระบบทำให้กลุ่มได้รับความรู้และ แนวทาง 1) การคำนวณต้นทุนต่อหน่วยสำหรับแป้งข้าว จมูกข้าว การรับจ้างสีข้าว และการรับจ้าง บรรจุข้าว
19 ซึ่งสินค้าและบริการเหล่านี้ยังขาดระบบการคิดต้นทุน และการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยที่ถูกต้องมากขึ้น สำหรับข้าวสาร และ2) การจัดทำบัญชีและออกงบกำไรขาดทุนที่ถูกต้อง แพทย์อุดม (2562) การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการปลูกพริกไทย แบบอินทรีย์เพื่อการค้า โดยใช้อัตราส่วนทางการเงินในการวัดผล ประกอบด้วย อัตรากำไรขั้นต้น อัตรา ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ และอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน กลุ่มตัวอย่างในการศึกษานี้ คือเกษตรกร ในพื้นที่อำเภอนายายอาม อำเภอท่าใหม่ อำเภอแก่งหางแมว อำเภอเขาคิชฌกูฎ และอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีที่มีองค์ความและประสบการณ์ด้านการปลูกพริกไทยตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โดยใช้วิธีเลือกแบบ เฉพาะเจาะจง จำนวน 10 ราย ซึ่งผู้ศึกษาใช้แบบสอบถามเป็น เครื่องมือในการสัมภาษณ์แบบกึ่งมี โครงสร้างจากการศึกษาพบว่า เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยของปี 2558 ถึง ปี 2562 เท่ากับ 144,194.87 บาท 146,062.32 บาท 144,624.73 บาท 141,727.19 บาท และ126,569.40 บาท ตามลำดับมี ผลตอบแทนเฉลี่ยของปี 2558 ถึงปี 2562 เท่ากับ 608,386.00 บาท571,283.00 บาท 541,662.00 บาท 215,800.50 บาท และ 193,610.00 บาท ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์โดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน พบว่า อัตราส่วนกำไรขั้นต้นปี 2558 ถึงปี2562 เท่ากับ76.30% 74.43% 73.30% 34.32% และ 34.63% ตามลำดับ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมปี2558 ถึงปี 2562 เท่ากับ 58.24% 54.14% 51.43% 9.81% และ 9.08%ตามลำดับ อัตรา จากเงินลทุนปี 2558 ถึงปี 2562 เท่ากับ 380.51% 330.60% 310.45%560.65% ตามลำดับ สำหรับต้นทุนการผลิตค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดในกระบวนการผลิต และ ราคาขายผลผลิตที่ลดลงมีสาระสำคัญต่อผลตอบแทนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในอัตราส่วนทางการเงินจากการ คำนวณหาผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ มีผลตอบแทนสูงสุดปี 2558 ทั้ง 3 อัตราส่วน ซึ่งเป็นผลมาจาก ราคาขายผลผลิตที่สูงสุดในปีดังกล่าว อรุณี นุสิทธิ์และคณะ. (2562) การวิเคราะห์ต้นทุนและโครงสร้างต้นทุนการแปรรูปมะข้ามของ วิสาหกิจชุมขน กลุ่มมะขามแปรรูปไร่บุญคง ตำบลวังชุมพู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาต้นทุนและโครงสร้างต้นทุนการแปรรูปมะขามของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมะขาม แปรรูปไรบุญคง ตำบลวังชุมพู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการศึกษาครั้งนี้ใช้การจำแนกประเภท ต้นทุนตามลักษณะกิจการผู้ผลิต โดยจำแนกเป็นต้นทุนการผลิต และต้นทุนที่ไม่เกี่ยวกับการผลิต และใช้ แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากประธานและสมาชิก กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ระหว่างเดือน มกราคม-มีนาคม พ.ศ 2561 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละ และค่าเฉลีย ผลการศึกษา พบว่า สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำการผลิตผลิตภัณฑ์ 4 ชนิด คือมะขามปรุงรสเปรี้ยวแซ่บ มะขาวคลุกบัวย
20 มะซามแซ่อิ่ม และกล้วยไส้มะขาม มีต้นทุนการผลิตทั้งหมดเฉลี่ยต่อไตรมาส 396.,438.65 บาท โครงสร้าง ต้นทุนการแปรรูปมะขามประกอบด้วย ต้นทุนวัตถุดิบค่าแรงงาน คำาใช้จ่ายการผลิตคงที่ ค่าใช้จ่ายการ ผลิตผันแปร และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร การศึกษาครั้งนี้ใช้การปันส่วนคำใช้จ่ายการผลิตจาก เกณฑ์หน่วยผลิต (กิโลกรัม) จึงอาจส่งผลต่อการปันส่วนคำาใช้จ่ายการผลิตบางรายการ ดังนั้น การ วิเคราะห์ต้นทุนและโครงสร้างต้นทุนในการศึกษาครั้งต่อไปควรใช้เกณฑ์ฐาน เพื่อให้ค่าใช้จ่ายการผลิตแต่ ละรายการสอดคล้องกับระดับกิจกรรมที่เกิดขึ้น เกียรติคุณ จินตวร, สมศักดิ์ตันตาศนี,คณะผู้วิจัย (2565) การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนใน การลงทุนปลูกบัว การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลต้นทุนและผลตอบแทนใน การลงทุนปลูกบัวและ เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนของเกษตรกรในจังหวัดชลบุรี ระเบียบวิธีการ ศึกษาใช้วิธีวิจัยเชิงพรรณนา โดยใช้เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ประชากรโดยใช้เกษตรกรที่ปลูก บัวใน อำเภอพนัสนิคม จำนวน 124,125 ราย และเลือกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 ราย วิธีการการสุ่มตัว ชั้นภูมิ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า ในการปลูกบัวนั้นมีต้นทุนรวมเฉลี่ย 8.175 บาทต่อไร่ มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 9,749 บาทต่อ ไร่ อัตรากำไรสุทธิ์ ต่อต้นทุน 1.312 เท่า อัตรากำไรต่อยอดขาย 0.62 เท่า อัตราผลตอบแทนจากการ ลงทุน (ROI) 0.93 เท่า และ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) 3.352 เท่า และมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 38 กำ ต้นทุนการทำนาบัวประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ต้นทุนค่าวัตถุดิบร้อยละ 1.95 ต้นทุนค่าแรงงานร้อยละ 38.03 และต้นทุนค่าใช้จ่ายการผลิตร้อยละ 67.07 ผลการทดสอบหาความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัย คุณลักษณะของประชากรกับการวิเคราะห์การลงทุนและ ผลตอบแทนในการปลูกบัวของเกษตรกร พบว่า มีความแตกต่างกันในที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
21 บทที่ 3 วิธีการดำเนินโครงงาน การศึกษาเรื่อง โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟาง ก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ที่จัดทำครั้งนี้ มีวัตถุประงสงค์เพื่อ 1. ศึกษา สภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์2. ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ คณะผู้ศึกษาได้ดำเนินงาน ตามระเบียบวิธีวิจัยอย่างเป็นระบบ โดยมีวิธีการดำเนินโครงงาน ดังนี้ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 3.2 ประชากรที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินโครงงาน 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.5 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน 3.1.1 วางแผนงานและแสดงความคิดเห็นกับสมาชิก 3.1.2 การขออนุมัติโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 1) เสนอข้อมูล หัวข้อโครงงานที่คณะผู้ศึกษาสนใจและสรุปหัวข้อโครงงาน 2) เขียนโครงร่างโครงงาน ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษามีเนื้อหา เกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด 3.1.1 ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือน มกราคม พ.ศ. 2567 โดยมี ขั้นตอนการดำเนินโครงงาน แสดงดังตาราง 3.1 ดังนี้
22 ตารางที่ 3-1 แสดงขั้นตอนการดำเนินโครงงาน จากตารางที่ 3-1 แสดงขั้นตอนการดำเนินโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัด ก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ คณะผู้ศึกษาได้ วางแผนการดำเนินงานไว้ 3 ส่วนหลัก โดยส่วนที่ 1 เป็นการศึกษาสภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่ พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์และ เริ่มต้น ศึกษาข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์และออกแบบเครื่องมือที่ใช้ดำเนินโครงงาน ทดสอบ/ปรับปรุง ประเมิน ไม่ผ่าน เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์/สรุปโครงงาน จัดทำรูปเล่มโครงงาน สิ้นสุด
23 การดำเนินงานของกิจการ ส่วนที่ 2 เป็นการแสดงในส่วนการดำเนินโครงงานที่นำแนวคิดและทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนและผลตอบแทน ศึกษาการเขียนหัวข้อการดำเนินโครงงานเพื่อดำเนินการศึกษา สภาพปัญหา สำรวจข้อมูลพื้นฐาน และการสร้างเครื่องมือแบบสัมภาษณ์พร้อมทั้งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ เครื่องมือ ส่วนที่3 เป็นการแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และสรุปผล การดำเนินโครงงาน ระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน การดำเนินงาน รายละเอียดการดำเนินงาน พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. 1. วางแผนงาน 2. เสนอโครงร่างโครงงาน 3. ลงพื้นที่ธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ 4. เขียนโครงร่างโครงงาน 5. เสนอโครงงาน 6. อนุมัติโครงงาน 7. เขียนรายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ 8. ลงพื้นที่สำรวจธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ 9. สรุปและประเมินผลโครงงาน ตารางที่ 3-2 แสดงรายละเอียดระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน จากตารางที่ 3-2 แสดงรายละเอียดระยะเวลาในการดำเนินโครงงานของคณะผู้ศึกษาตามขั้นตอน การดำเนินโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
24 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ผู้ประกอบธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีสมาชิกจำนวน 7 คน ดังนี้ 3.2.1 นางสาววันวิสา กรรณิกา (เจ้าของกิจการ 3.2.2 นายมงคลชัย มีนางัก ลูกจ้าง 3.2.3 นายรัชกฤษ ลำไย ลูกจ้าง 3.2.4 นายสุรเคช เมฆอินทร์ ลูกจ้าง 3.2.5 นายใกล้รุ่ง ขุนปรสิทธ์ ลูกจ้าง 3.2.6 นายพรรณวัฒน์ จ้อยผาจุก ลูกจ้าง 3.2.7 นายปกรณ์ ฉายสี ลูกจ้าง 3.3 เครื่องมือที่ใช้ดำเนินโครงงาน การศึกษาโครงงานครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ระยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 เพื่อให้โครงงานสำเร็จลุล่วงตามแผนที่วางไว้ คณะผู้ศึกษาได้ใช้เครื่องในการดำเนินโครงงาน ดังนี้ 3.3.1 แบบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปและการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่าย ฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ แบบการสัมภาษณ์ แบบการสัมภาษณ์เพื่อการศึกษา/เพื่อการจัดทำโครงงาน เรื่อง โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ คำชี้แจง 1.1 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1.1.1 เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
25 1.1.2 เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 1.2 รายละเอียดของโครงงาน 1.2.1 โครงงานนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์และเป็นกระบวนการ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. 2563 ในรายวิชาโครงงาน รหัสวิชา 30201- 8501 ประจำภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 1.2.2 ข้อตกลงของโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ในการให้ข้อมูล จะไม่มีผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ให้ข้อมูลและหน่วยงานในทุก ๆ ด้าน 1.3 รายละเอียดของแบบสัมภาษณ์ แบบสัมภาษณ์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 รายละเอียดข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสัมภาษณ์ ส่วนที่ 2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของกิจการ ส่วนที่ 3 ข้อมูลด้านการบริหารจัดการและการเงินของกิจการ ส่วนที่ 4 ปัญหาและข้อเสนอแนะ ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล ณ โอกาสนี้ นางสาวกันติชา โพธิ์ศรีนางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์และนางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) สาขาวิชาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์
26 แบบสัมภาษณ์เพื่อการศึกษา โครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนที่ 1 รายละเอียดข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ 1.ชื่อ.........................................................นามสกุล....................................................................... 1.2 ชื่อกิจการ.................................................................................................................................. 1.3 เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 1.4 อายุ..........................................ปี 1.5 สัมภาษณ์เมื่อวันที่.......................................เดือน....................................พ.ศ........................... 1.6 สถานที่สัมภาษณ์...................................................................................................................... 1.7 ผู้สัมภาษณ์................................................................................................................................ ส่วนที่ 2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของกิจการ 1.1 ชื่อเจ้าของกิจการ............................................................................................................................. 1.2 ชื่อกิจการ.................................................................................................................................. 1.3 ลักษณะของธุรกิจ..................................................................................................................... 1.4 สถานที่ดำเนินธุรกิจ................................................................................................................. 1.5 ระยะเวลาดำเนินกิจการ........................................................................................................... 1.6 ผลิตภัณฑ์.................................................................................................................................. 1.7 ช่องทาง/สถานที่จำหน่าย......................................................................................................... 1.8 ราคาสินค้าที่จัดจำหน่าย........................................................................................................... 1.9 จำนวนพนักงาน........................................................................................................................ 1.10 แนวคิดในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ........................................................................................ 1.11 กลยุทธ์หรือเทคนิควิธีการประกอบธุรกิจ................................................................................ 1.12 อื่น ๆ ....................................................................................................................................
27 ส่วนที่ 3 ข้อมูลด้านการบริหารจัดการและการเงินของกิจการ รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 1 ข้อมูลการลงทุน 1.1 เงินลงทุนหมุนเวียน 1.1.1 เงินสด 1.1.2 เงินฝากธนาคาร 1.1.3 วัสดุสำนักงาน/วัสดุสิ้นเปลือง 1.1.4 อื่น ๆ 1.2 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 1.2.1 ที่ดิน 1.2.2 อาคาร 1.2.3 อุปกรณ์ 1.2.4 รถยนต์ 1.3 แหล่งเงินทุนอื่น ๆ 1.3.1 เงินกู้ธนาคาร 1.3.2 เงินกู้สหกรณ์ 1.3.3 เงินกู้นอกระบบ 1.3.4 อื่น ๆ 2. ข้อมูลด้านการจำหน่าย 2.1 สินค้า 2.1.1 ปริมาณ 2.1.2 ราคาขาย 2.2 สินค้า 2.2.1 ปริมาณ 2.2.2 ราคาขาย 2.3 สินค้า 2.3.1 ปริมาณ 2.3.2 ราคาขาย
28 รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 2.4 สินค้า 2.4.1 ปริมาณ 2.4.2 ราคาขาย 2.5 สินค้า 2.5.1 ปริมาณ 2.5.2 ราคาขาย 3. ข้อมูลปริมาณการผลิต (หน่วยผลิต) 3.1 สินค้า 3.1.1 ต่อเดือน 3.1.2 ต่อสัปดาห์ 3.1.3 ต่อวัน 3.2 สินค้า 3.2.1 ต่อเดือน 3.2.2 ต่อสัปดาห์ 3.2.3 ต่อวัน 3.3 สินค้า 3.3.1 ต่อเดือน 3.3.2 ต่อสัปดาห์ 3.3.3 ต่อวัน 4. ข้อมูลต้นทุนการผลิต(DM + DL + MOH) 4.1 วัตถุดิบทางตรง 4.1.1 4.2 ค่าแรงทางตรง 4.2.1 4.2.2 4.2.3 4.2.3
29 4.2.4 4.2.5 รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 4.3 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 4.3.1 วัตถุดิบทางอ้อม 4.3.2 ค่าแรงงานทางอ้อม 4.3.3 ค่าใช้จ่ายในการผลิตอื่น ๆ 4.3.4 4.3.5 5. ข้อมูลต้นงวดเวลา (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน) 5.1 ค่าใช้จ่ายในการขาย 5.1.1 5.1.2 5.2 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 5.2.1 5.2.2 6. ข้อมูลด้านการเก็บรักษาและบริการ 6.1 สถานที่จัดเก็บ 6.2 ปริมาณสูงสุด 6.3 ปริมาณต่ำสุด 6.4 ต้นทุนการเก็บรักษา 7. ข้อมูลด้านอื่น ๆ 7.1 7.2 7.3 ตารางที่3-3 แบบบันทึกการเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของ แม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2567
30 จากตารางที่ 3-3 แสดงแบบบันทึกการเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน ธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือน มกราคม พ.ศ.2567 คณะผู้ศึกษาได้สังเกตการณ์และบันทึกข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนการผลิต และ ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับตันทุนในการผลิต และนำข้อมูลจากการสังเกตมาบันทึกลงในแบบ บันทึกการเก็บรวบรวมข้อมูลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ โดยจำแนกข้อมูลเป็นรายเดือน 1.3.1 แบบบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ในการผลิตฟางอัดก้อน รายการ จำนวน หน่วย นับ ราคาต่อ หน่วย ต้นทุนรวม อายุการ ใช้งาน ตารางที่ 3-4 แบบบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ในการผลิตฟางอัดก้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 จากตารางที่ 3-4 แสดงแบบบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ในการผลิตฟางอัดก้อนของธุรกิจฟางอัดก้อน ของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ.2567 ซึ่งประกอบด้วย เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต คือ เครื่องอัดฟาง, รถไถ (คูโบต้า) L36, รถ 6 ล้อ รถเทนเลอร์, รถไทยแลนด์
31 1.3.2 แบบบันทึกข้อมูลต้นทุนในการผลิตฟางอัดก้อน รายการ จำนวน หน่วยนับ ราคาทุน/หน่วย ค่าวัตถุดิบทางตรง ฟาง ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าแรงคนขับรถอัดฟาง ค่าแรงคนเก็บฟาง ค่านายหน้าขายฟาง ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเชือกมัดฟาง ค่าซ่อมบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา อื่น ๆ ตารางที่ 3-5 แสดงแบบบันทึกข้อมูลต้นทุนในการผลิตฟางอัดก้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2567 จากตารางที่ 3-5 แสดงแบบบันทึกข้อมูลต้นทุนในการผลิตฟางอัดก้อนของธุรกิจฟางอัดก้อน ของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ.2567 ซึ่งประกอบด้วย ค่าใช้จ่าย 3 ชนิด คือ 1) ค่าวัตถุดิบทางตรง ฟาง 2) ค่าแรงงานทางอ้อม คือ ค่าแรง คนขับรถอัดฟาง ค่าแรงคนเก็บฟาง ค่านายหน้าขายฟาง 3) ค่าใช้จ่ายในการผลิต คือ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเชือกมัดฟาง ค่าซ่อมบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา อื่น ๆ
32 1.3.4 คอมพิวเตอร์ใช้ในการศึกษาคันคว้าข้อมูล แนวคิดและทฤษฎี เอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เกี่ยวกับการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน ใช้ในการเรียบเรียงข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นหาข้อมูล การ ทำแบบสัมภาษณ์ แบบประเมินความพึงพอใจ เพื่อนำมาจัดทำรูปเล่มโครงงานการศึกษาต้นทุนและ ผลตอบแทนธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 1.3.5 โปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Excel, Microsoft Word 1) โปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Excel เป็นโปรแกรมทางด้านตารางคำนวณ เป็น เครื่องมือที่กลุ่มผู้จัดทำใช้ในการสร้างเอกสารที่ต้องมีการคำนวณ เชื่อมโยงสูตร สร้างรายงานสรุปผลใน มุมมองต่าง ๆ เช่น ตารางสรุปข้อมูลด้านรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการ สรุปงบแสดงฐานะทางการเงิน สรุปงบกำไรขาดทุนของกิจการ เป็นต้น 2) โปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft word เป็นโปรแกรมประมวลผลคำแบบพิเศษช่วยให้ สร้างเอกสารแบบมืออาชีพอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา เป็นเครื่องมือที่สำคัญของกลุ่มผู้วิจัยที่ ใช้ในการจัดทำรูปเล่มโครงงาน 3) โทรศัพท์มือถือใช้ติดต่อสื่อสารกับเจ้าของกิจการ สมาชิกในกลุ่มเพื่อนัดหมายการ ทำงาน ค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน และใช้ถ่ายภาพ อัดคลิปวีดีโอใน การสัมภาษณ์ในการลงพื้นที่ 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4.1 ลักษณะของข้อมูล 1) ข้อมูลเชิงคุณภาพ การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยกลุ่มคณะผู้ศึกษา ได้ทำแบบสัมภาษณ์เพื่อนำ สัมภาษณ์นางสาววันวิสา กรรณิกา เจ้าของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ และ ข้อมูลที่ได้จะอยู่ในส่วนข้อมูลของกิจการ 2) ข้อมูลเชิงปริมาณ การเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มคณะผู้ศึกษาทำได้ทำการลงพื้นที่ สำรวจ ต้นทุนและผลตอบแทน การผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน ของธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อเก็บข้อมูลด้านรายได้และค่าใช้จ่าย ในการดำเนินกิจการธุรกิจฟางอัดก้อน ของนางสาววันวิสา กรรณิกา บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์โดยใช้แบบสัมภาษณ์ในการเก็บข้อมูลและใช้แบบประเมินความพึงพอใจเพื่อ วัดผลออกมาเป็นสถิติ
33 3.4.2 แหล่งที่มาของข้อมูล 1) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) คือ คณะศึกษาได้ลงพื้นที่ ศึกษาเก็บข้อมูลตั้งแต่กระบวนการ จัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และกระบวนการจำหน่าย โดยใช้การบันทึกภาพและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้คณะศึกษาได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องจากนางสาววันวิสา กรรณิกา เจ้าของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยใช้วิธีการสอบถาม และใช้แบบสัมภาษณ์จากเจ้าของกิจการ เพื่อหาข้อมูลด้านต้นทุน และผลตอบแทน 2) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) คือ ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่กลุ่มผู้วิจัยได้ศึกษาหา ความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง 1 เช่น ข้อมูลแนวความคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง วารสารทางวิชาการ บทความ วิทยานิพนธ์ หนังสือในห้องสมุดวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุตรดิตถ์ ห้องอินเทอร์เน็ต เป็นต้น 3.5 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล 3.5.1 การคำนวณต้นทุนการผลิต การคำนวณต้นทุนเป็นส่วนหนึ่งของระบบบัญชีและการเงินของกิจการ เป็นการบันทึก การวัดผลและรายงานข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนของสินค้าของกิจการ โดยทั่วไปการคำนวณต้นทุนจะใช้เวลา และลงรายละเอียดมากในกิจการที่ผลิตสินค้า แต่ไม่ได้หมายความว่ากิจการประเภทอื่น เช่น กิจการขายส่ง ขายปลีก ร้านอาหารหรือบริการต่าง ๆ ไม่มีความสำคัญในการที่ต้องคำนวณต้นทุนสามารถ นำไปใช้ได้ในทุกกิจการ เพราะมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการธุรกิจ ต้นทุนการผลิต มีสูตรการคำนวณ ดังนี้ ต้นทุนการผลิต = วัตถุดิบทางตรง + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต ต้นทุนรวมต่อหน่วย มีสูตรการคำนวณ ดังนี้ ต้นทุนรวมสินค้าต่อหน่วย = ต้นทุนการผลิตทั้งหมด จำนวนหน่วยที่ผลิตได้ กำไรขั้นต้น มีสูตรการคำนวณ ดังนี้ กำไรขั้นต้น = รายได้จากการขาย – ต้นทุนขายและบริหาร อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย ดังนี้ อัตราส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขาย = กำไรขั้นต้น x 100 ยอดขาย
34 อัตรากำไรสุทธิต่อยอดขาย ดังนี้ อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อยอดขาย = กำไรสุทธิ x 100 ยอดขาย อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน ดังนี้ อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน = กำไรสุทธิ x 100 สินทรัพย์รวม อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (Return on Assets หรือ ROA ) ดังนี้ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (ROA) = กำไรสุทธิ x 100 สินทรัพย์รวม
35 บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน การศึกษาเรื่อง โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟาง ก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่จัดทำครั้งนี้ มีวัตถุประงสงค์เพื่อ 1. ศึกษา สภาพทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์2. ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ คณะผู้ศึกษาได้ดำเนิน โครงงานตามระเบียบวิธีวิจัยอย่างเป็นระบบ โดยมีการดำเนินโครงงาน ดังนี้ 4.1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญ ทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.2 ผลการศึกษาต้นทุนการผลิตของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.3 ผลการศึกษาผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 4.1.1 ข้อมูลทั่วไปของกิจการ จากการสัมภาษณ์นางสาววันวิสา กรรณิกา ได้ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตและ จำหน่ายฟางอัดก้อนของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พบว่า นางสาววันวิสา กรรณิกา เป็นผู้ประกอบ รายหนึ่งที่ทำกิจการเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ซึ่ง มองเห็นถึงประโยชน์ของฟาง และมีความสนใจ ในการทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้ลงทุนและจำหน่ายฟางอัด ก้อน ในชื่อธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจแม่พิกุลทอง ฟางก้อนเจริญทรัพย์มีผู้ประกอบการและพนักงานกิจการ การผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อน มีสมาชิก จำนวน 7 คน ดังนี้
36 1. นางสาววันวิสา กรรณิกา เจ้าของธุรกิจ 2. นายมงคลชัย มีนางัว ลูกจ้าง 3. นายรัชกฤษ ลำไย ลูกจ้าง 4. นายสุรเดช เมฆอินทร์ ลูกจ้าง 5. นายใกล้รุ่ง ขุนปรสิทธ์ ลูกจ้าง 6. นายพรรณวัฒน์ จ้อยผาจุก ลูกจ้าง 7. นายปกรณ์ ฉายสี ลูกจ้าง แบบสัมภาษณ์เพื่อการศึกษาโครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่ พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์และการสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไป ของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ แสดงดังภาพที่ 4-1 ดังนี้ ภาพที่ 4-1 แสดงภาพสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ จากภาพที่ 4-1 แสดงภาพสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไปของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ พบว่า เจ้าของธุรกิจฟางอัดก้อน คือ นางสาววันวิสา กรรณิกา บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์มีจุดเริ่มต้นมาจากมองเห็นถึงประโยชน์ของฟางข้าว และมีความสนใจ ในการทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้ลงทุนและจำหน่ายฟางอัดก้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน
37 แบบสัมภาษณ์เพื่อการศึกษา โครงงาน การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนธุรกิจฟางอัดก้อนของแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนที่ 1 รายละเอียดข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ 1.1 ชื่อ นางสาววันวิสา นามสกุล กรรณิกา 1.2 ชื่อกิจการ แม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ 1.3 เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 1.4 อายุ36 ปี 1.5 สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 1.6 สถานที่สัมภาษณ์ ธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 1.7 ผู้สัมภาษณ์ นางสาวกันติชา โพธิ์ศรี นางสาวชัญชนาอรณ์ ศรีปานอินทร์ นางสาวภัทรวดี ล่ามกระโทก ส่วนที่ 2 ข้อมูลสภาพทั่วไปของกิจการ 1.1 ชื่อเจ้าของกิจการ นางสาววันวิสา กรรณิกา 1.2 ชื่อกิจการ แม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ 1.3 ลักษณะของธุรกิจ เจ้าของคนเดียว 1.4 สถานที่ดำเนินธุรกิจ บ้านเลขที่ 90 หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ 1.5 ระยะเวลาดำเนินกิจการ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 - ปัจจุบัน 1.6 ผลิตภัณฑ์ ฟางอัดก้อน 1.7 ช่องทาง/สถานที่จำหน่าย การขายผ่านผู้ค้าส่ง 1.8 ราคาสินค้าที่จัดจำหน่าย ราคาขายส่ง 20, 22และ 25 บาท 1.9 จำนวนพนักงาน 7 คน 1. นางสาววันวิสา กรรณิกา 2. นายมงคลชัย มีนางัก 3. นายรัชกฤษ ลำไย 4. นายสุรเคช เมฆอินทร์ 5. นายใกล้รุ่ง ขุนปรสิทธ์ 6. นายพรรณวัฒน์ จ้อยผาจุก 7. นายปกรณ์ ฉายสี
38 1.10 แนวคิดในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ มีจุดเริ่มต้นมาจากมองเห็นถึงประโยชน์ของฟาง และ มีความสนใจ ในการทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้ลงทุนและจำหน่ายฟางอัดก้อน ในชื่อธุรกิจแม่พิกุลทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน 1.11 กลยุทธ์หรือเทคนิควิธีการประกอบธุรกิจ สินค้าที่มีประโยชน์ ในราคาที่ถูก 1.12 อื่น ๆ ................................................................................................................ .................... ส่วนที่ 3 ข้อมูลด้านการบริหารจัดการและการเงินของกิจการ รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 1 ข้อมูลการลงทุน 1.1 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 1.1.1 เครื่องอัดฟาง Massey 230,000.- 1.1.2 เครื่องอัดฟาง Vicon 170,000.- 1.1.3 รถไถ (คูโบต้า) L36 440,000.- 1.1.4 รถ 6 ล้อ (Hino) 850,000.- 1.1.5 รถเทนเลอร์ 40,000.- 1.1.6 รถไทยแลนด์ 140,000.- 1.2 แหล่งเงินทุนอื่น ๆ 1.2.1 เงินกู้ธนาคาร - 1.2.2 อื่น ๆ - 2. ข้อมูลต้นทุนการผลิต(DM + DL + MOH) 2.1 วัตถุดิบทางตรง 2.1.1 ฟาง 21,573 ก้อน 512,070.00 2.1.2 เชือกมัดฟาง 150 ม้วน 57,000.00 รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 2.2 ค่าแรงทางตรง 2.2.1 นางสาววันวิสา กรรณิกา - 2.2.2 นายมงคลชัย มีนางัก 20,261.00 2.2.3 นายรัชกฤษ ลำไย 17,669.00
39 รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 2.2.4 นายสุรเคช เมฆอินทร์ 19,384.00 2.2.5 นายใกล้รุ่ง ขุนปรสิทธ์ 19,411.00 2.2.6 นายพรรณวัฒน์ จ้อยผาจุก 19,073.00 2.2.7 นายปกรณ์ ฉายสี 18,978.00 รายการ รายละเอียด จำนวนเงิน หมายเหตุ 2.3 ค่าใช้จ่ายในการผลิต 2.3.1 ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา 36,972.00 2.3.2 ค่าน้ำมัน 47,850.00 2.3.3 ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 12,688.00 2.3.4ค่าเสื่อมราคา-เครื่องอัดฟาง Massey 5,750.01 2.3.5 ค่าเสื่อมราคา - เครื่องอัดฟาง Vicon 4,250.01 2.3.6 ค่าเสื่อมราคา - รถไถ (คูโบต้า) L36 11,000.01 2.3.7 ค่าเสื่อมราคา - รถ 6 ล้อ (Hino) 21,249.99 2.3.8 ค่าเสื่อมราคา - รถเทนเลอร์ 1,250.01 2.3.9 ค่าเสื่อมราคา - รถไทยแลนด์ 3,450.00 3. ข้อมูลด้านการเก็บรักษาและบริการ 3.1 สถานที่จัดเก็บ - 3.2 ปริมาณสูงสุด - 3.3 ปริมาณต่ำสุด - 3.4 ต้นทุนการเก็บรักษา - 4. ข้อมูลด้านอื่น ๆ 4.1 .................................................... 4.2 .................................................... 4.3 ....................................................
40 4.1.2 ข้อมูลการลงทุน ค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มแรกในการผลิตและจำหน่ายฟางอัดก้อนของธุรกิจฟางอัดก้อน แม่พิกุลทองฟางก้อนเจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นเงินลงทุน ซึ่งมี จำนวนเงินลงทุน 1,870,000 บาท โดยมีค่าเสื่อมราคา 46,950 บาทต่อ 3 เดือน เครื่องอัดฟาง Massey เครื่องอัดฟาง Vicon และอุปกรณ์ในการผลิตฟางอัดก้อน คำนวณแสดงตามตาราง 4-1 ได้ดังนี้ ตารางที่ 4-1 ตารางแสดงรายละเอียดสินทรัพย์ รายการ จำนวน ราคาต่อ หน่วย (บาท) รวม (บาท) อายุการ ใช้งาน (ปี) ค่าเสื่อม ราคา (ปี) ค่าเสื่อม ราคา / 3เดือน เครื่องจักร - เครื่องอัดฟาง Massey 1 230,000.- 230,000.- 10 23,000.- 5,750.- - เครื่องอัดฟาง Vicon 1 170,000.- 170,000.- 10 17,000.- 4,250.- - รถไถ (คูโบต้า) L36 1 440,000.- 440,000.- 10 44,000.- 11,000.- - รถ 6 ล้อ (Hino) 1 850,000.- 850,000.- 10 85,000.- 21,250.- - รถเทนเลอร์ 2 40,000.- 40,000.- 8 5,000.- 1,250.- - รถไทยแลนด์ 2 140,000.- 140,000.- 10 14,000.- 3,450.- รวม 1,870,000.- 188,000.- 46,950.- จากตารางที่ 4-1 ตารางแสดงรายละเอียดสินทรัพย์เริ่มลงทุนครั้งแรกของธุรกิจฟางอัดก้อนแม่พิกุล ทองฟางก้อน เจริญทรัพย์ หมู่ 7 ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ประกอบด้วย เครื่องอัดฟาง Massey 1 เครื่อง 230,000 บาท อายุการใช้งาน 10 ปี ค่าเสื่อมราคา 1 ปี 23,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 5,750 บาท เครื่องอัดฟาง Vicon 1 เครื่อง 170,000 บาท อายุการใช้งาน 10 ปีค่าเสื่อมราคา 1 ปี 17,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 4,250 บาท รถไถ (คูโบต้า) L36 1 คัน 440,000 บาท อายุการใช้งาน10 ปี ค่าเสื่อมราคา 1 ปี 44,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 11,000 บาท รถ 6 ล้อ (Hino) 1 คัน 850,000 อายุการใช้งาน 10 ปีค่าเสื่อมราคา 1 ปี 85,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 21,250 บาท รถเทนเลอร์ 2 คัน 40,000 บาท อายุการใช้งาน 8 ปีค่าเสื่อมราคา 1 ปี 5,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 1,250 บาท รถไทยแลนด์ 2 คัน 140,000 บาท อายุการใช้งาน 10 ปี ค่าเสื่อมราคา 1 ปี 14,000 บาท ค่าเสื่อมราคา 3 เดือน 3,450 บาท