หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ปรับปรุง2562

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้

และมี ด้านอารมณ์ จิตใจ 1. คุณธรรมจรยิ ธรรม
นผูอ้ ่นื ได้ ๑.๒.๓ คณุ ธรรม จริยธรรม - ความเมตตา กรุณา
(๒) การฟังนทิ านเก่ียวกับคุณธรรม 2. การพดู แสดงความคิด
จริยธรรม ความรู้สกึ มเี มตตา เหน็ อกเห็นใจ
(๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี น ผู้อื่น
ความคดิ เหน็ เชิงจริยธรรม
๑.๒.๖ การเห็นอกเห็นใจผู้อนื่ 1. คณุ ธรรมจริยธรรม
- การมนี ้ำใจ ช่วยเหลอื แบ่งปัน
(๑) การแสดงความยนิ ดเี มื่อผู้อื่นมี - ความกตญั ญู

ความสุข เหน็ ใจเมื่อผอู้ ื่นเศรา้ หรือ

เสยี ใจ และการชว่ ยเหลือปลอบโยน

เมือ่ ผอู้ ื่นได้รับบาดเจ็บ

๑.๓.๒ การดูแลรกั ษาธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอ้ ม
(๕) การเลี้ยงสัตว์
ด้านอารมณ์ จติ ใจ
๑.๒.๒ การเล่น
(๒) การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ย่อย
กลุม่ ใหญ่
(๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
(๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น
๑.๒.๓ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

พฒั นาการดา้ น อารมณ์ จิตใจ
มาตรฐานท่ี 5 มีคุณธรรม จริยธรรม และมจี ติ ใจท่ีดีงาม (ต่อ)

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

ตัวบ่งช้ี ชัน้ อนุบาลปีท่ี 2 ช้ันอนบุ าลปที ี่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

5.3 มีความเห็น ๕.๓.๑ แสดงสหี น้าหรือท่าทางรบั รู้ ๕.๓.๑ แสดงสหี น้าหรอื ท่าท

อกเห็นใจผู้อื่น ความรสู้ ึกผู้อนื่ ความรู้สกึ ผู้อืน่ อย่างสอดคลอ้

สถานการณ์

5.4 มีความ ๕.๔.๑ ทำงานท่ีได้รบั มอบหมายจน ๕.๔.๑ ทำงานที่ไดร้ ับมอบห
รับผดิ ชอบ
สำเร็จเมือ่ มีผ้ชู แ้ี นะ สำเร็จดว้ ยตนเอง

สาระการเรียนรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

ทางรับรู้ (๒) การฟังนทิ านเกีย่ วกับคุณธรรม 1. การแสดงความยนิ ดกี บั เพ่ือน
องกับ จริยธรรม เมื่อมีความสุข ในวาระต่าง ๆ
(๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยน 2.การแสดงความเหน็ อกเห็นใจ
หมายจน ความคิดเห็นเชิงจรยิ ธรรม เพอ่ื นหรือผ้อู ื่น เชน่ ชว่ ยเหลอื
ด้านอารมณ์ จติ ใจ ปลอบโยนเมือ่ เพ่ือน หรือผ้อู ่ืน
๑.๒.๖ การเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน เสียใจ
(๑) การแสดงความยนิ ดเี มื่อผู้อื่นมี
๑. ความรบั ผิดชอบ
ความสุข เหน็ ใจเมื่อผ้อู ื่นเศรา้ หรอื ๒. ความอดทน
๓. ความขยัน หมน่ั เพยี ร
เสยี ใจ และการช่วยเหลอื ปลอบโยน

เม่ือผ้อู นื่ ได้รับบาดเจ็บ

๑.๔.๑ การใช้ภาษา
(๔) การพูดแสดงความคดิ ความรสู้ กึ
และความต้องการ
ดา้ นร่างกาย
๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนอื้ เลก็
(๒) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี
(๓) การปั้น
(๔) ประดษิ ฐ์สงิ่ ตา่ งๆ ด้วย เศษวัสดุ
ด้านอารมณ์ จติ ใจ
๑.๒.๑ สนุ ทรียภาพ ดนตรี
(๕) การทำกิจกรรมศิลปะต่างๆ
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
(๕) การทำงานศลิ ปะ

พฒั นาการดา้ น อารมณ์ จิตใจ
มาตรฐานที่ 5 มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมีจติ ใจที่ดงี าม (ตอ่ )

สภาพที่พึงประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ช้นั อนบุ าลปีที่ 2 ชัน้ อนุบาลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

พฒั นาการดา้ น สงั คม
มาตรฐานที่ ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบตั ติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

ตวั บ่งช้ี ช้นั อนุบาลปีท่ี 2 ชั้นอนบุ าลปที ี่ ๓

6.1 ชว่ ยเหลือ อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ตนเองในการ
6.1.1 แต่งตัวด้วยตนเอง 6.1.1 แตง่ ตวั ด้วยตนเองได

คลอ่ งแคลว่

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรียนรู้

๑.๒.๕ การมีอตั ลกั ษณเ์ ฉพาะตนและ
เช่ือวา่ ตนเองมีความสามารถ
(๑) การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ตาม

สามารถของตนเอง

ด้านสังคม
๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มีวนิ ยั มี
สวนร่วม และบทบาทสมาชิกของ
สังคม
(๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัติ
กจิ กรรมต่าง ๆ
๑.๓.๕ การเล่นและทำงานแบบ
รว่ มมอื ร่วมใจ
(๒) การเลน่ และทำงานรว่ มกับผู้อ่นื
(๓) การทำศิลปะแบบร่วมมือ

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้

ดอ้ ย่าง ด้านสังคม 1.การช่วยเหลอื ตนเองใน

๑.๓.๑ การปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั ชีวิตประจำวนั การแตง่ ตัว

พฒั นาการด้าน สงั คม
มาตรฐานท่ี ๖ มีทกั ษะชีวติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ต่อ

สภาพที่พึงประสงค์

ตวั บ่งชี้ ชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 ช้ันอนุบาลปที ่ี ๓

ปฏิบตั ิกจิ วตั ร อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ประจำวัน

6.1.2 รับประทานอาหารด้วย 6.1.2 รบั ประทานอาหารดว้
ตนเอง อยา่ งถูกวิธี

6.1.3 ใชห้ ้องนำ้ หอ้ งส้วมดว้ ย 6.1.3 ใชห้ อ้ งนำ้ ห้องส้วมด้ว
ตนเอง อยา่ งถูกวิธี

อ)

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้

วยตนอง (๑) การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วัตร ล้างมอื อาบน้ำ
วยตนเอง ประจำวนั
ดา้ นสงั คม 1.การช่วยเหลอื ตนเองใน
๑.๓.๑ การปฏิบัติกิจวตั รประจำวัน ชวี ติ ประจำวนั การรบั ประทาน
(๑) การช่วยเหลอื ตนเองในกิจวตั ร อาหาร
ประจำวนั - การใช้ภาชนะในการรบั ประทาน
อาหารอยา่ งถูกวธิ ี
ด้านสังคม - มารยาทในการรบั ประทาน
๑.๓.๑การปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจำวัน อาหาร
(๑) การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวตั ร - การจบั ช้อน /สอ้ ม อย่างถูกวิธี
ประจำวนั 1. การช่วยเหลอื ตนเองในการใช้
๑.๓.๒ การดูแลรักษาธรรมชาติและ ห้องนำ้ หอ้ งสว้ ม
ส่งิ แวดล้อม ๒. การดแู ลทำความสะอาดหลงั
(๑) การมีสว่ นร่วมรับผดิ ชอบดแู ล ใชห้ ้องนำ้ หอ้ งสว้ ม
รกั ษาสิ่งแวดล้อมทง้ั ภายในและ
ภายนอกห้องเรียน
๑.๑.๓ การรักษาสุขภาพอนามัยทีด่ ี
ส่วนตน
(๑) การปฏิบตั ิตนตามสุขอนามยั สุข
นสิ ัยท่ดี ีในกจิ วัตรประจำวนั

พฒั นาการด้าน สังคม
มาตรฐานท่ี ๖ มที ักษะชีวิตและปฏิบตั ติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (ต่อ

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ช้ันอนบุ าลปีที่ 2 ชั้นอนบุ าลปีที่ ๓

6.2 มวี ินัยใน อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ตนเอง
6.2.1 เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ ท่ี 6.2.1 เก็บของเล่นของใชเ้ ข

ด้วยตนเอง เรยี บร้อยดว้ ยตนเอง

อ)

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้

ขา้ ท่อี ยา่ ง ด้านรา่ งกาย 1. การมสี ่วนรว่ มในการกำหนด
๑.๑.๔ การรกั ษาความปลอดภยั และจดั ทำข้อตกลงของห้องเรียน
(๑) การปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัยใน 2. การปฏิบัติตนตามข้อตกลงของ
กิจวัตรประจำวนั ห้องเรยี น
ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ 3. การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เขา้ ท่ี
๑.๒.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี เม่ือเลกิ เล่น เลิกใช้ ดแู ลความ
(๒) การเลน่ เคร่ืองดนตรปี ระกอบ สะอาด จัดใหเ้ ป็นระเบยี บ
จังหวะ เรยี บรอ้ ย
๑.๒.๒ การเลน่
(๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
ดา้ นสังคม
๑.๓.๑ การปฏิบัติกจิ วัตรประจำวนั
(๑) การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วัตร
ประจำวนั
๑.๓.๒ การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดลอ้ ม
(๑) การมีสว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดแู ล
รักษาสง่ิ แวดล้อมทัง้ ภายในและ
ภายนอกห้องเรียน
๑.๓.๔ การมปี ฏิสมั พันธ์ มวี นิ ยั มี
สวนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของ
สังคม

พฒั นาการด้าน สงั คม
มาตรฐานท่ี ๖ มีทกั ษะชีวติ และปฏิบัตติ นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ต่อ

สภาพที่พงึ ประสงค์

ตัวบ่งชี้ ชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2 ชนั้ อนบุ าลปีท่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

6.2.2 เขา้ แถวตามลำดบั ก่อนหลัง 6.2.2 เขา้ แถวตามลำดับกอ่

ได้ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง

6.3 ประหยัด ๖.๓.๑ ใชส้ ่งิ ของเคร่ืองใช้อย่าง ๖.๓.๑ ใชส้ ิง่ ของเคร่ืองใช้อย
และพอเพยี ง ประหยดั และพอเพียงเมื่อมผี ู้ช้แี นะ ประหยัดและพอเพียงดว้ ยตน

อ)

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้

(๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของ

หอ้ งเรยี น

(๔) การดูแลห้องเรยี นร่วมกนั

อนหลังได้ ดา้ นสังคม ๑. การเข้าแถวเคารพธงชาติ

๑.๓.๔ การมปี ฏิสัมพันธ์ มีวินยั มี ๒. การเขา้ แถวทำกจิ กรรมต่างๆ

สวนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของ

สงั คม

(๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของ

หอ้ งเรยี น

(๒) การปฏิบัติตนเปน็ สมาชทิ ี่ดขี อง

หอ้ งเรยี น

(๓) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิ

กจิ กรรมต่าง ๆ

ยา่ ง ดา้ นสังคม 1. การใช้สง่ิ ของเครื่องใช้อย่าง

นเอง ๑.๓.๑ การปฏิบตั ิกิจวัตรประจำวนั ประหยดั และพอเพียง

(๒) การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางหลัก 2. การนำวัสดุเหลือใช้มาสร้าง

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ชนิ้ งาน

๑.๓.๒ การดูแลรกั ษาธรรมชาติและ

สง่ิ แวดลอ้ ม

(๒) การใชว้ ัสดุและส่ิงของเคร่ืองใช้

อยา่ งคุ้มคา่

พฒั นาการด้าน สงั คม
มาตรฐานท่ี ๖ มที ักษะชีวติ และปฏิบัตติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (ต่อ

ตวั บง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์

ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 ชั้นอนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

มาตรฐานที่ 7 รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและความเปน็ ไทย

สภาพท่ีพึงประสงค์

ตัวบ่งช้ี ช้ันอนบุ าลปที ่ี 2 ชั้นอนุบาลปที ี่ ๓

7.1 ดูแลรกั ษา อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ธรรมชาตแิ ละ
สงิ่ แวดลอ้ ม 7.1.1 มสี ว่ นรว่ มดแู ลรกั ษา 7.1.1 มสี ว่ นรว่ มดูแลรกั ษา

ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม เมื่อมผี ู้ ธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมด้ว

ชี้แนะ

อ)

สาระการเรียนรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้

(๓) การทำงานศลิ ปะทนี่ ำวสั ดุหรือ
สงิ่ ของท่ใี ชแ้ ล้วมาใชซ้ ้ำหรอื แปรรูป
แล้วนำกลบั มาใชใ้ หม่

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้

วยตนเอง ดา้ นสังคม ๑. การปลูกต้นไม้
๑.๓.๒ การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละ ๒. การเจริญเติบโต และการดแู ล
สิง่ แวดลอ้ ม รักษาต้นไม้
(๑) การมีส่วนรว่ มรบั ผิดชอบดแู ล ๓. ประโยชน์ของต้นไม้
รักษาส่งิ แวดล้อมทัง้ ภายในและ ๔. การปลกู ไมด้ อกไมป้ ระดบั
ภายนอกหอ้ งเรียน ๕. ใชพ้ ลังงานอย่างรคู้ ่า
(๔) การเพาะปลูกและดูแลต้นไม้ ๖. วธิ ีประหยดั และอนรุ ักษ์
(๕) การเลย้ี งสัตว์ พลงั งาน
(๖) การสนทนาขา่ วและเหตุการณท์ ี่ ๗. ดแู ลรกั ษาแมน่ ้ำปา่ สัก
เกยี่ วกบั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมใน ๘. ใชน้ ้ำอย่างประหยัด
ชีวติ ประจำวนั ๙. รกั ษาอากาศให้สะอาด
๑.๓.๓ การปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้อง ๑๐. ดูแลรักษาตน้ ไม้
ถ่ินท่ีอาศัยและความเปน็ ไทย ๑๑. กำจดั ขยะอย่างเหมาะสม
(๔) การศึกษานอกสถานที่ ๑๒. ใช้ขยะใหเ้ กดิ ประโยชน์

มาตรฐานที่ 7 รักธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรมและความเป็นไทย (ตอ่ )

สภาพท่ีพงึ ประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 ชน้ั อนบุ าลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

7.1.2 ทิ้งขยะได้ถูกท่ี 7.1.2 ทิง้ ขยะไดถ้ ูกที่

สาระการเรียนรู้

ประสบการณส์ ำคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้

๑.๓.๔ การมีปฏิสัมพนั ธ์ มวี ินยั มี

สวนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของ

สังคม

(๓) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิ

กจิ กรรมตา่ ง ๆ

(๔) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน

๑.๔.๑ การใช้ภาษา

(๑) การฟังเสียงต่างๆ ในส่ิงแวดลอ้ ม

ดา้ นสังคม ๑. คนเกง่ มีระเบยี บวินยั

๑.๓.๒ การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ ๒. ดแู ลรักษาแม่นำ้ ป่าสัก

สงิ่ แวดล้อม ๓. กำจัดขยะอย่างเหมาะสม

(๑) การมสี ่วนร่วมรับผดิ ชอบดูแล ๔. การคัดแยกขยะ

รกั ษาส่ิงแวดลอ้ มทัง้ ภายในและ ๕. ดแู ลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ มในชมุ ชน

ภายนอกหอ้ งเรยี น ให้นา่ อยู่

๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มีวนิ ยั มี

สวนรว่ ม และบทบาทสมาชิกของ

สังคม

(๓) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติ

กจิ กรรมต่าง ๆ

(๔) การดแู ลห้องเรียนรว่ มกนั

ด้านสตปิ ญั ญา

๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ

เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา

มาตรฐานท่ี 7 รักธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรมและความเปน็ ไทย (ต่อ)

สภาพทีพ่ ึงประสงค์

ตวั บ่งชี้ ช้ันอนุบาลปที ่ี 2 ชน้ั อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

7.2.1 ปฏิบัติตนตามมารยาทไทย 7.2.1 ปฏิบตั ติ นตามมารยา

ไดด้ ้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง

7.2.2 กลา่ วคำขอบคุณและขอ 7.2.2 กล่าวคำขอบคุณและ

โทษดว้ ยตนเอง ด้วยตนเอง

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้

าทไทยได้ (๑๐) การรวมและการแยกสง่ิ ต่างๆ ๑. คนเก่งมีมารยาท
ะขอโทษ ๒. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสมเมื่อไป
ด้านอารมณ์ จติ ใจ วัดพระพทุ ธบาทราชวรมหาวิหาร
๑.๒.๓ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ๓. เทดิ พระเกยี รติและการแสดง
(๑) การปฏบิ ตั ติ นตามหลักศาสนาที่ ความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ์
นับถอื ๔. ปฏิบตั ติ นเปน็ คนดีตามหลักคำ
(๓) การร่วมสนทนาและแลกเปลีย่ น สอนของศาสนา และการกราบ
ความคดิ เหน็ เชิงจรยิ ธรรม พระท่ีถกู วธิ ี
ด้านสงั คม ๕. ปฏิบัติตนเหมาะสมกบั ความ
๑.๓.๓ การปฏิบตั ติ ามวฒั นธรรมทอ้ ง เป็นไทย
ถิ่นทอี่ าศยั และความเปน็ ไทย ๖. มารยาทในการส่อื สาร
(๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ิ
ตนในความเป็นคนไทย 1.การปฏิบตั ติ นตามมารยาทและ
(๒) การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมทอ้ ง วัฒนธรรมไทย
ถิ่นที่อาศยั และประเพณีไทย - การพูดจาสุภาพ
(๓) การประกอบอาหารไทย 2.การศึกษานอกสถานที่
(๔) การศึกษานอกสถานท่ี ๓. ประเพณีลอยกระทง
(๕) การละเลน่ พ้ืนบ้านของไทย ๔. อวยพร มอบของขวัญปใี หม่

ด้านอารมณ์ จติ ใจ
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
(๑) การพูดสะท้อนความรูส้ ึกของ
ตนเองและผอู้ ืน่
ดา้ นสงั คม
๑.๓.๓ การปฏิบตั ิตามวฒั นธรรมท้อง
ถน่ิ ที่อาศัยและความเปน็ ไทย

มาตรฐานท่ี 7 รักธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรมและความเปน็ ไทย (ต่อ)

ตัวบ่งช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์

ชั้นอนุบาลปที ่ี 2 ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

7.2.3 หยดุ ยนื เมอ่ื ได้ยนิ เพลงชาติ 7.2.3 หยุดยืนเม่อื ได้ยินเพล
ไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ไทยและเพลงสรรเสริญพระบ

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้

(๑) การเลน่ บทบาทสมมติการปฏิบัติ

ตนในความเปน็ คนไทย

(๒) การปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมทอ้ ง

ถ่นิ ทีอ่ าศัยและประเพณีไทย

๑.๓.๖ การแก้ปญั หาความขัดแยง้

(๑) การมีสว่ นร่วมในการเลอื กวิธีการ

แก้ปญั หา

(๒) การมสี ว่ นร่วมในการแกป้ ัญหา

ความขดั แย้ง

ด้านสตปิ ญั ญา

๑.๔.๑ การใช้ภาษา

(๒) การฟังและปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ

(๔) การพูดแสดงความคดิ ความรสู้ ึก

และความต้องการ

(๗) การพูดอย่างสรา้ งสรรคใ์ นการ

เล่น และการกระทำต่างๆ

ลงชาติ ด้านสงั คม ๑. คนเกง่ มีมารยาท

บารมี ๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ติ ามวัฒนธรรมท้อง ๒. คนเก่งมีระเบียบวนิ ัย

ถิ่นทอ่ี าศัยและความเปน็ ไทย - ยืนตรงเมื่อไดย้ ินเพลงชาติ

(๑) การเลน่ บทบาทสมมติการปฏบิ ัติ ๓. เทดิ พระเกียรติและการแสดง

ตนในความเปน็ คนไทย ความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ์

(๒) การปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมท้อง ๔. เทิดพระเกยี รติและการแสดง

ถ่นิ ท่อี าศัยและประเพณีไทย ความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์

สมเด็จพระบรมราชชนนีพนั ปี

มาตรฐานท่ี 8 อยู่รว่ มกับผ้อู ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสขุ และปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกทด่ี ีของสังค

ตัวบ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

ชั้นอนบุ าลปที ี่ 2 ชน้ั อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

8.1 ยอมรับ 8.1.1 เล่นและทำกจิ กรรมร่วมกับ 8.1.1 เล่นและทำกิจกรรมร
ความเหมือนและ เด็กทีแ่ ตกต่างไปจากตน เดก็ ท่ีแตกตา่ งไปจากตน
ความแตกตา่ ง
ระหว่างบุคคล

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้

๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มวี ินยั มี หลวงในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา

สวนรว่ ม และบทบาทสมาชกิ ของ วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวราง

สงั คม กรู

(๓) การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ตั ิตนเหมาะสมกับความเปน็

กจิ กรรมตา่ ง ๆ ไทยประวตั ิศาสตร์ วัฒนธรรม

(๕) การรว่ มกิจกรรมวันสำคญั ประเพณีของไทย

ร่วมกับ ด้านอารมณ์ จิตใจ ๑. ประเพณีตักบาตรดอกไม้และ

๑.๒.๒ การเล่น งานเทศกาลนมัสการรอยพระพทุ ธ

(๒) การเลน่ รายบคุ คล กลุ่มย่อย บาท

กลุ่มใหญ่ ๒. การปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสม

๑.๒.๓ คณุ ธรรม จริยธรรม เม่อื ไปวัดพระพทุ ธบาทราช

(๑) การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาที่ วรมหาวหิ าร

นบั ถือ ๓. การปฏิบตั ิตนเปน็ คนดีตาม

ดา้ นสังคม หลักคำสอนของศาสนา และการ

๑.๓.๓ การปฏิบตั ิตามวัฒนธรรมทอ้ ง กราบพระท่ีถูกวิธี

ถิ่นทีอ่ าศยั และความเป็นไทย ๔. ประเทศไทยทีเ่ ราอยู่

(๕) การละเลน่ พน้ื บา้ นของไทย ๕. การอยรู่ ว่ มกนั กบั บุคคลชนชน

๑.๓.๕ การเล่นและทำงานแบบ ชาติอ่นื

ร่วมมอื ร่วมใจ ๖. ภาษาประจำชาตขิ องกลุ่ม

(๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลีย่ น อาเซียน

ความคดิ เห็น ๗. เครอื่ งแตง่ กายประจำชาตขิ อง

(๒) การเล่นและทำงานรว่ มกับผู้อนื่ กลุม่ อาเซียน

๑.๓.๗ การยอมรับในความเหมอื น ๘. การละเล่นพื้นบ้านของประเทศ

และความแตกต่างระหว่างบุคคล ในกลมุ่ อาเซยี น

มาตรฐานท่ี 8 อยรู่ ว่ มกับผูอ้ ื่นได้อย่างมีความสขุ และปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสังค

สภาพท่ีพงึ ประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชัน้ อนบุ าลปีท่ี 2 ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

8.2 มปี ฏิสมั พันธ์ 8.2.1 เล่นหรือทำงานรว่ มกับ 8.2.1 เลน่ หรอื ทำงานร่วมม
เพอื่ นอยา่ งมเี ป้าหมาย
ที่ดีกบั ผู้อืน่ เพอ่ื นเปน็ กลุ่ม

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข (ต่อ)

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรียนรู้

(๑) การเลน่ หรอื ทำกิจกรรมร่วมกบั

กลมุ่ เพ่ือน

มือกบั ด้านรา่ งกาย ๑. การเข้ารว่ มกจิ กรรมด้วยความ

๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเนอื้ ใหญ่ เต็มใจ ท้ังรายบุคคล กลมุ่ ย่อย

(๔) การเคลื่อนไหวท่ีใชก้ ารประสาน กล่มุ ใหญ่

สัมพันธ์ของการใช้กล้ามเนื้อใหญใ่ น - ประเพณีตักบาตรดอกไม้และ

การขว้าง การจับ การโยน การเตะ งานเทศกาลนมัสการรอยพระพทุ ธ

๑.๑.๒ การใช้กล้ามเน้ือเลก็ บาท

(๑) การเลน่ เครื่องเลน่ สมั ผัสและการ - ทดลองวิทยาศาสตร์

สมั ผัสและการสรา้ งจากแทง่ ไม้ 2. การเล่นตามมุมประสบการณ/์

บล็อก มุมตา่ ง ๆ

ด้านอารมณ์ จิตใจ 3. การทำงานร่วมกนั เป็นกล่มุ ให้

๑.๒.๑สนุ ทรียภาพ ดนตรี เสร็จตามเวลาท่ีกำหนด

(๒) การเลน่ เคร่ืองดนตรปี ระกอบ

จังหวะ

(๔) การเล่นบทบาทสมมติ

(๕) การทำกจิ กรรมศิลปะต่างๆ

๑.๒.๒ การเลน่

(๓) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์

(๔) การเล่นนอกหอ้ งเรียน

ด้านสงั คม

๑.๓.๒ การดูแลรกั ษาธรรมชาติและ

สง่ิ แวดล้อม

มาตรฐานที่ 8 อยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ และปฏิบัติตนเปน็ สมาชิกท่ีดีของสังค

สภาพที่พึงประสงค์

ตวั บ่งช้ี ชัน้ อนบุ าลปที ่ี 2 ชน้ั อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

8.2.2 ยิ้ม ทกั ทายหรือพดู คุยกบั 8.2.2 ยิ้ม ทกั ทายและพดู ค
ผู้ใหญ่และบคุ คลท่ีคนุ้ เคยได้ด้วย ผู้ใหญแ่ ละบคุ คลทค่ี นุ้ เคยได
ตนเอง เหมาะสมกบั สถานการณ์

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ (ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้

(๑) การมีส่วนร่วมรบั ผิดชอบดแู ล

รกั ษาสิง่ แวดล้อมทงั้ ภายในและ

ภายนอกหอ้ งเรียน

(๓) การทำงานศลิ ปะท่นี ำวสั ดหุ รอื

สง่ิ ของท่ีใชแ้ ลว้ มาใช้ซำ้ หรอื แปรรปู

แลว้ นำกลบั มาใช้ใหม่

๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบ

รว่ มมอื ร่วมใจ

(๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปล่ียน

ความคิดเหน็

(๒) การเลน่ และทำงานร่วมกับผู้อนื่

(๓) การทำศลิ ปะแบบรว่ มมือ

๑.๓.๖ การแก้ปญั หาความขดั แย้ง

(๒) การมสี ว่ นร่วมในการแกป้ ัญหา

ความขัดแย้ง

คุยกบั ด้านรา่ งกาย ๑. การมมี ารยาท

ด้ ๑.๑.๓ การรักษาสุขภาพอนามัยที่ดี - ยม้ิ ทกั ทาย และพดู คยุ กับผใู้ หญ่

ส่วนตน และบุคคลที่คุ้นเคย

(๒) การฟังนิทาน เร่ืองราว - ร้จู งั หวะในการทักทาย พูดคุย

เหตุการณ์ เกีย่ วกบั การป้องกันและ กบั ผู้ใหญ่และบุคคลท่ีคนุ้ เคย

รักษาความปลอดภยั - ให้ความเคารพผูใ้ หญ่ ปฏิบตั ติ น

ด้านอารมณ์ จิตใจ เตรยี มความพรอ้ มรบั สิ่งใหม่ และ

๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ ปฏบิ ตั ิตนที่ดกี บั สมาชิกใน

ครอบครัว

มาตรฐานที่ 8 อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ย่างมคี วามสุขและปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดีของสงั ค

สภาพท่พี งึ ประสงค์

ตัวบ่งช้ี ชัน้ อนบุ าลปที ่ี 2 ช้นั อนุบาลปที ี่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

8.3 ปฏบิ ัตติ น 8.3.1 มีสว่ นรว่ มสร้างข้อตกลง 8.3.1 มีสว่ นรว่ มสรา้ งขอ้ ตก
เบอื้ งตน้ ในการ และปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลงเมื่อมีผู้ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงด้วยตนเ
เปน็ สมาชิกทด่ี ี ช้แี นะ
ของสังคม

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข (ตอ่ )

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้

(๑) การพูดสะท้อนความรู้สกึ ของ ๒. การระมัดระวงั ภัยอนั ตรายต่าง

ตนเองและผอู้ ่นื ๆ ที่เกิดขึน้ กับตนเอง

ดา้ นสงั คม ๓. ความปลอดภยั ในบา้ นและนอก

๑.๓.๓ การปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้อง บา้ น

ถิ่นท่อี าศยั และความเป็นไทย ๔. ความปลอดภัยในโรงเรียนและ

(๒) การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมทอ้ ง นอกโรงเรยี น

ถ่ินท่อี าศัยและประเพณีไทย

ดา้ นสตปิ ัญญา

๑.๔.๑ การใชภ้ าษา

(๗) การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการ

เล่น และการกระทำต่างๆ

(๘) การรอจังหวะที่เหมาะสมในการ

พูด

กลงและ ดา้ นสงั คม 1. การปฏิบัตติ าม กฎ กติกา
เอง
๑.๓.๔ การมีปฏิสัมพันธ์ มวี นิ ยั มี ขอ้ ตกลงของห้องเรยี น และการทำ

สวนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของ กจิ กรรมตา่ งๆ เช่น

สงั คม - วิธีการเลือก และการใช้เครื่องมือ

(๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของ เครือ่ งใช้อยา่ งถูกวิธี

หอ้ งเรยี น - การเก็บ และดูแลรกั ษาเคร่ืองมือ

(๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชทิ ่ีดีของ เคร่ืองใช้

ห้องเรยี น - การประกอบอาหารท่มี ี

(๓) การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ ประโยชน์

กิจกรรมตา่ ง ๆ - มารยาทในการรับประทาน

อาหาร

มาตรฐานที่ 8 อย่รู ว่ มกับผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งมีความสขุ และปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดีของสงั ค

สภาพทพี่ งึ ประสงค์

ตวั บ่งชี้ ชั้นอนุบาลปที ่ี 2 ช้นั อนบุ าลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

8.3.2 ปฏิบตั ติ นเป็นผ้นู ำและผู้ 8.3.2 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้นู ำแล

ตามไดด้ ว้ ยตนเอง ไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์

8.3.3 ประนปี ระนอม แก้ไขปญั หา 8.3.3 ประนปี ระนอม แก้ไข

โดยปราศจากการใชค้ วามรุนแรง โดยปราศจากการใช้ความรนุ

เม่ือมีผู้ชแี้ นะ ตนเอง

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้

- การใช้น้ำอยา่ งประหยัด

- การดแู ลรักษาต้นไม้

2. การร่วมกันแสดงความคิดเหน็

และนำเสนอความคดิ และตัดสนิ ใจ

เลอื กแกป้ ัญหาเก่ียวกับเร่ืองราว

และเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ

ละผู้ตาม ดา้ นสังคม 1. การปฏิบัตติ าม กฎ กติกา

๑.๓.๔ การมีปฏิสมั พนั ธ์ มวี นิ ยั มี ข้อตกลงของหอ้ งเรียน

สวนร่วม และบทบาทสมาชิกของ 2. การรว่ มกันแสดงความคิดเหน็

สงั คม และนำเสนอความคดิ และตดั สินใจ

(๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของ เลือกแกป้ ัญหาเก่ียวกบั เรอื่ งราว

ห้องเรียน และเหตุการณ์ตา่ ง ๆ

(๒) การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชทิ ่ีดขี อง - การเปน็ ผู้นำ ผตู้ าม

หอ้ งเรยี น

(๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ตั ิ

กจิ กรรมตา่ ง ๆ

ขปญั หา ด้านสังคม 1. การร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น

นแรงด้วย ๑.๓.๖ การแกป้ ญั หาความขดั แยง้ และนำเสนอ ความคดิ และ

(๑) การมสี ่วนร่วมในการเลือกวิธกี าร ตดั สนิ ใจเลือกแกป้ ญั หาเก่ยี วกับ

แก้ปญั หา เรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ

(๒) การมีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหา - การสนทนาโตต้ อบ

ความขดั แย้ง - ความสามัคคี

- ปฏิบัติตนเป็นเดก็ ดมี คี ุณธรรม

มาตรฐานที่ 8 อยู่ร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของสงั ค

สภาพที่พึงประสงค์

ตัวบง่ ชี้ ชั้นอนุบาลปที ี่ 2 ชั้นอนบุ าลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

พฒั นาการดา้ น สติปัญญา
มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกบั วยั

สภาพที่พงึ ประสงค์

ตัวบ่งชี้ ชนั้ อนุบาลปีที่ 2 ช้ันอนบุ าลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

9.1 สนทนา 9.1.1ฟงั ผ้อู นื่ พดู จนจบ 9.1.1 ฟงั ผูอ้ ่นื พูดจนจบและ

โต้ตอบและเล่า และพดู โตต้ อบเกยี่ วกับเรื่องที่ฟงั โตต้ อบอยา่ งต่อเน่ือง เช่อื มโ

เรอ่ื งให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ เร่ืองที่ฟงั

คม ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ (ตอ่ )

สาระการเรียนรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้

2. การมสี ว่ นรว่ มกันในการ
นำเสนอความคดิ และตัดสินใจ
เลอื กแก้ปัญหาต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้น
อย่างสันติวธิ ใี นสถานการณ์ที่มี
ความขัดแย้ง
- อบุ ตั ิเหตุท่ีเกิดจากการเดินทาง

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้

ะสนทนา ด้านอารมณ์ จติ ใจ ๑. การฟงั นิทาน และสนทนา
โยงกบั ๑.๒.๓ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เก่ียวกเนือ้ หาในนิทาน
(๒) การฟังนิทานเก่ียวกบั คุณธรรม ๒. การฟังเพลง ร้องเพลง คำ
จริยธรรม คล้องจอง
(๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยน ๓. เรื่องราวเกี่ยวกบั โรงเรียน
ความคดิ เห็นเชงิ จรยิ ธรรม ๔. เร่อื งราวเกย่ี วกับรา่ งกาย
ด้านสังคม โรคภยั ตา่ งๆ
๑.๓.๒ การดูแลรกั ษาธรรมชาติและ ๕. ผลไม้นานาชนดิ รปู รา่ ง
สงิ่ แวดลอ้ ม ลกั ษณะ รสชาตขิ องผลไม้
(๖) การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ที่ ประโยชน์ของการรบั ประทาน

มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกบั วัย (ต่อ)

สภาพท่พี งึ ประสงค์

ตวั บง่ ช้ี ชั้นอนบุ าลปที ี่ 2 ชั้นอนบุ าลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้

เกีย่ วกบั ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมใน ผลไม้ วธิ รี บั ประทานผลไมแ้ ต่ละ

ชีวติ ประจำวัน ชนิด ประกอบอาหารจากผลไม้

๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบ ๖. พระราชประวัติและพระราช

ร่วมมอื ร่วมใจ กรณียกจิ ของพระมหากษตั รยิ ์

(๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี น ๗. ฤดูกาลต่างๆ

ความคดิ เหน็ ๘. ธรรมชาติ สิง่ แวดล้อมรอบตัว

ด้านสติปัญญา ๙. ประวตั ิและความเป็นมาของ

๑.๔.๑ การใชภ้ าษา จังหวัดสระบรุ ี

(๑) การฟังเสียงตา่ งๆ ในสิ่งแวดลอ้ ม ๑๐. เร่อื งราวเก่ยี วกับอาชพี ต่าง ๆ

(๒) การฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ ๑๑. เรือ่ งราวเก่ยี วกับ บคุ คล

(๓) การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจอง สำคัญในชมุ ชน วัฒนธรรม

บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราวต่าง ๆ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ของ

(๔) การพูดแสดงความคดิ ความรู้สึก ชมุ ชน

และความต้องการ ๑๒. ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ในชุมชน

(๕) การพูดกับผู้อ่นื เก่ียวกับ ๑๓. เร่อื งราวของการส่อื สาร การ

ประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเลา่ คมนาคม

เร่ืองราวเก่ียวกบั ตนเอง ๑๔. เรือ่ งราวของการรวมกลุ่มของ

(๖) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับสง่ิ ของ ประเทศอาเซียน

เหตุการณ์ และความสมั พันธ์ของสง่ิ

ตา่ งๆ

(๗) การพูดอยา่ งสร้างสรรคใ์ นการ

เล่น และการกระทำตา่ งๆ

(๘) การรอจังหวะทเี่ หมาะสมในการ

พูด

มาตรฐานท่ี 9 ใชภ้ าษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวยั (ต่อ)

สภาพทีพ่ งึ ประสงค์

ตัวบง่ ช้ี ชน้ั อนุบาลปีท่ี 2 ช้ันอนุบาลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

9.1.2 เล่าเร่ืองเป็นประโยคอยา่ ง 9.1.2 เลา่ เป็นเร่ืองราวต่อเน

ต่อเนือ่ ง

สาระการเรียนรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้

น่ืองได้ ด้านสงั คม ๑. การเล่าเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ตนเอง

๑.๓.๒ การดูแลรักษาธรรมชาติและ ๒. ภัยอนั ตรายต่าง ๆ และความ

ส่ิงแวดล้อม ปลอดภยั

(๖) การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ท่ี ๓. เรื่องราวเกยี่ วกบั บา้ นครอบครัว

เกย่ี วกบั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมใน ๔. พระราชประวัตแิ ละพระราช

ชวี ติ ประจำวนั กรณียกจิ ของพระมหากษัตริย์

๑.๓.๓ การปฏิบัตติ ามวัฒนธรรมท้อง ๕. กิจกรรมตามโครงการบา้ น

ถ่ินท่อี าศัยและความเป็นไทย นกั วทิ ยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย

(๕) การละเล่นพนื้ บ้านของไทย ๖. เรอ่ื งราวเกย่ี วกับสัตว์ตา่ งๆ

๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบ ๗. เรอื่ งราวของพลังงาน วิธี

รว่ มมอื รว่ มใจ ประหยัด และอนรุ กั ษ์พลงั งาน

(๑) การรว่ มสนทนาและแลกเปล่ียน ๘. หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ความคดิ เหน็ ๙. เรอ่ื งราวของการสอ่ื สาร การ

ดา้ นสติปัญญา คมนาคม

๑.๔.๑ การใช้ภาษา ๑๐. เรื่องราวของเวลา กลางวนั

(๔) การพูดแสดงความคดิ ความรู้สึก กลางคืน

และความต้องการ ๑๑. เรื่องราวเกี่ยวกับขา้ ว

(๕) การพูดกับผู้อ่ืนเกย่ี วกบั

ประสบการณ์ของตนเอง หรอื พูดเล่า

เร่อื งราวเกี่ยวกับตนเอง

(๖) การพูดอธิบายเกี่ยวกบั สิง่ ของ

เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธ์ของส่ิง

ตา่ งๆ

(๗) การพูดอยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการ

มาตรฐานท่ี 9 ใชภ้ าษาส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับวัย (ต่อ)

สภาพที่พงึ ประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชนั้ อนุบาลปที ี่ 2 ช้ันอนบุ าลปที ่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

9.2 อา่ น เขียน 9.2.1 อ่านภาพ สญั ลักษณ์ คำ 9.2.1 อ่านภาพ สญั ลักษณ์
การช้ีหรือวาดภาพของจดุ เร่ิ
ภาพ และ พรอ้ มทั้งช้ีหรอื วาดภาพของ จดุ จบของขอ้ ความ

สัญลกั ษณ์ได้ ข้อความตามบรรทัด

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้

เลน่ และการกระทำตา่ งๆ

(๘) การรอจังหวะทเ่ี หมาะสมในการ

พดู

(๙) การพูดเรียงลำดับเพ่อื ใช้ในการ

สื่อสาร

๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ

เหตุผล การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา

(๓) การบอกและแสดงตำแหนง่

ทิศทาง และระยะทางของสิง่ ต่างๆ

ดว้ ยการกระทำ ภาพวาด ภาพถ่าย

และรูปภาพ

คำ ดว้ ย ด้านสตปิ ัญญา ๑. อา่ นเครื่องหมายประจำตวั เดก็

มตน้ และ ๑.๔.๑ การใชภ้ าษา ๒. อ่านหนังสอื นทิ าน อ่านหนังสือ

(๑๐) การอ่านหนังสือภาพ นิทาน ประเภทตา่ งๆ

หลากหลายประเภท/รปู แบบ ๓. อา่ นคำ ข้อความสนั้ ๆต่างๆท่ี

(๑๑) การอ่านอิสระตามลำพงั การ พบเหน็

อ่านรว่ มกัน การอ่านโดยมผี ้ชู ้ีแนะ ๔. อา่ นตราสญั ลักษณ์ ของ

(๑๒) การเห็นแบบอยา่ งของการอา่ น พระมหากษัตริย์

ที่ถกู ต้อง ๕. อา่ นช่ือตนเอง บตั รภาพต่างๆ

(๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่าน - อ่านสัญลกั ษณ์ ปา้ ย เครือ่ งหมาย

ตวั อกั ษร คำ และข้อความ จราจร

(๑๔) การอา่ นและช้ีข้อความ โดย ๖. อ่านตวั เลข

กวาดสายตาตามบรรทดั จากซ้ายไป ๗. อ่านภาพ สัญลกั ษณ์ คำ ในเกม

ขวา จากบนลงลา่ ง การศกึ ษา

มาตรฐานที่ 9 ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับวัย (ต่อ)

สภาพท่พี ึงประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชั้นอนุบาลปที ่ี 2 ชัน้ อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

9.2.2 เขียนคลา้ ยตวั อกั ษร 9.2.2 เขยี นช่ือของตนเองต
เขยี นข้อความด้วยวิธีทคี่ ิดข้นึ

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้

(๑๕) การสังเกตตัวอักษรในช่ือของ

ตน หรือคำคนุ้ เคย

(๑๖) การสงั เกตตัวอักษรทปี่ ระกอบ

เปน็ คำผ่านการอา่ นหรือเขียนของ

ผู้ใหญ่

(๑๗) การคาดเดาคำ วลี หรอื

ประโยคเพลง คำคล้องจอง

(๑๘) การเลน่ เกมทางภาษา

๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิง

เหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา

(๘) การนบั และแสดงจำนวนของสง่ิ

ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวนั

(๑๕) การใช้ภาษาทางคณติ ศาสตร์

กบั เหตุการณใ์ นชีวติ ประจำวัน

ตามแบบ ดา้ นสติปญั ญา ๑. การเขียนช่อื ตนเองตามแบบ
นเอง
๑.๔.๑ การใชภ้ าษา ๒. การเขยี นคำ ขอ้ ความสน้ั ๆ

(๑๕) การสงั เกตตัวอกั ษรในชื่อของ ตามแบบหรอื คิดขน้ึ เอง

ตน หรือคำคนุ้ เคย

(๑๙) การเห็นแบบอย่างของการ

เขยี นทถ่ี ูกต้อง

๒๐.การเขยี นร่วมกนั ตามโอกาส และ

การเขียนอิสระ

๒๑.การเขียนคำท่ีมคี วามหมายกับตัว

เดก็ /คำคุน้ เคย

มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับวยั (ต่อ)

สภาพทีพ่ ึงประสงค์

ตวั บง่ ช้ี ชน้ั อนบุ าลปีที่ 2 ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคดิ ที่เป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้

สภาพท่พี ึงประสงค์

ตวั บ่งช้ี ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ชน้ั อนบุ าลปที ่ี ๓

๑๐.๑ มี อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ความสามารถใน
การคดิ รวบยอด 10.1.1 บอกลักษณะและ 10.1.1 บอกลกั ษณะและ

สว่ นประกอบของสิง่ ต่างๆ จากการ สว่ นประกอบการเปลี่ยนแปล

สังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส ความสัมพนั ธข์ องสิง่ ต่างๆ จ

สังเกตโดยใช้ประสาทสัมผสั

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้

๒๒.การคิดสะกดคำและเขยี นเพอ่ื ส่ือ
ความหมายดว้ ยตนเองอย่างอิสระ

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้

ด้านสติปญั ญา ๑. การใชประสาทสมั ผัสในการ

ลงหรอื ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ สังเกตและบอกลักษณะหรือ
จากการ
เหตผุ ล การตดั สินใจและแก้ปัญหา สวนประกอบของสง่ิ ตา่ งๆ เชน

(๑) การสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ รา่ งกายของตนเอง สัตว พชื

การเปลี่ยนแปลง และความสัมพนั ธ์ สงิ่ ของเครอ่ื งใช ดนิ น้ำ ทองฟา

ของส่ิงต่างๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส บรเิ วณตา่ งๆ

อยา่ งเหมาะสม ๒. การสังเกตและบอกการ

(๒) การสงั เกตส่ิงตา่ งๆ และสถานที่ เปลย่ี นแปลงของสงิ่ ตางๆ เชน

จากมมุ มองทีต่ า่ งกัน การเปลยี่ นแปลงของร่างกาย

(๓) การบอกและแสดงตำแหน่ง มนษุ ย์ สตั ว พืช เม่ือเจรญิ เตบิ โต

ทศิ ทาง และระยะทางของสง่ิ ตา่ งๆ ๓. การเปล่ียนแปลงของลม ฟ้า

ด้วยการกระทำ ภาพวาด ภาพถา่ ย อากาศ

และรปู ภาพ ๔. การเปล่ียนแปลงของวัตถุและ

(๔) การเล่นกับส่ือตา่ งๆท่ีเปน็ ทรง ส่ิงของเครื่องใช

กลม ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก ๕. การสงั เกตและบอก

ทรงกระบอก กรวย ความสมั พนั ธ์ของส่ิงตางๆ เชน

มาตรฐานที่ 10 มคี วามสามารถในการคดิ ท่ีเปน็ พืน้ ฐานในการเรยี นรู้ (ต่อ)

สภาพทพ่ี ึงประสงค์

ตวั บง่ ช้ี ชัน้ อนบุ าลปีที่ 2 ชน้ั อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

10.1.2 จับคหู่ รอื และเปรยี บเทยี บ 10.1.2 จับคู่หรือและเปรียบ

ความแตกตา่ งหรอื ความเหมือน ความแตกตา่ งความเหมอื นข

ของสิ่งตา่ งๆ โดยใชล้ ักษณะที่ ตา่ งๆ โดยใชล้ กั ษณะที่สงั เกต

สงั เกตพบเพยี งลักษณะเดยี ว ลักษณะ ขน้ึ ไป

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

๑.๔.๔ เจตคติทด่ี ีต่อการเรยี นรแู้ ละ การนำสิง่ ตางๆ มาใชประโยชน

การแสวงหาความรู้ ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง

(๑) การสำรวจสิ่งต่างๆ และแหลง่ การกระทำบางอยา่ งกับผลที่

เรยี นรรู้ อบตัว เกดิ ข้นึ เชน ถารับประทาน

(๓) การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือคน้ หา อาหารแลว้ ไม่แปรงฟนั ฟนั จะผุ

คำตอบของข้อสงสยั ต่างๆ

บเทียบ ด้านสตปิ ญั ญา ๑. เปรยี บเทยี บจำนวนของส่ิง
ของส่งิ
ตพบ 2 ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ ต่างๆ เชน จำนวนเดก็ ชายกับ

เหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา เด็กหญงิ จำนวนขนมกบั จำนวน

(๓) การบอกและแสดงตำแหนง่ เดก็ จำนวนเดก็ กบั จำนวนเก้าอี้

ทิศทาง และระยะทางของส่งิ ตา่ งๆ หรอื จำนวนแกวกบั จำนวนแปรง

ดว้ ยการกระทำ ภาพวาด ภาพถา่ ย สีฟน โดยใชการจับคกู นั และ

และรปู ภาพ สงั เกตวาเทากนั หรือไมเ่ ทากัน

(๔) การเล่นกับสื่อตา่ งๆที่เป็นทรง มากกว่า หรอื นอยกวา

กลม ทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก ๒. เปรยี บเทียบความยาวหรอื

ทรงกระบอก กรวย ความสูงของสงิ่ ของสองสง่ิ ท่มี ี

(๙) การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดับ ความยาวหรือความสูงแตกต่างกนั

จำนวนของสิง่ ต่างๆ ชดั เจน

(๑๒) การช่งั ตวง วดั ส่งิ ตา่ งๆโดยใช้ ๓. เปรยี บเทียบสิ่งของสองชิน้ ที่มี

เครือ่ งมือและหนว่ ยทไ่ี มใ่ ชห่ น่วย น้ำหนักแตกต่างกนั อย่างชัดเจน

มาตรฐาน เช่น ลูกฟุตบอลกับลูกเทนนสิ ขวด

(๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และ ท่ใี สน้ำเต็มขวดกบั ขวดเปลา โดย

การเรยี งลำดบั สง่ิ ต่างๆ ตามลกั ษณะ ลองยกดว้ ยมือแล้วบอกวาส่งิ ของ

ความยาว/ความสงู นำ้ หนกั ปรมิ าตร ชน้ิ ใดหนักกวาหรือเบากวา

มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคดิ ทีเ่ ป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้ (ตอ่ )

สภาพท่ีพงึ ประสงค์

ตวั บ่งชี้ ช้นั อนบุ าลปีที่ 2 ชน้ั อนุบาลปที ี่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

10.1.3 จำแนกและจดั กลมุ่ สือ่ 10.1.3 จำแนกและจดั กลุ่ม

ต่างๆ โดยใชอ้ ย่างน้อย 1 ลกั ษณะ โดยใช้ตงั้ แต่ 2 ลกั ษณะขึ้นไ

เปน็ เกณฑ์ เกณฑ์

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้

๔. เล่นเกมเกยี่ วกับมติ สิ มั พันธ์

เช่น วางสิง่ ของในตาํ แหนง

ทก่ี ำหนด บอกชือ่ ส่ิงของที่อยู่ในตาํ

แหนงทก่ี ำหนด บอกตาํ แหนง

ทศิ ทาง หรือระยะทางของส่ิงของ

ทก่ี ำหนด

มสื่อต่างๆ ด้านสตปิ ญั ญา ๑. คัดแยก จําแนก จัดกลมุ่ สงิ่

ไปเป็น ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ รูปร่าง

เหตุผล การตัดสินใจและแกป้ ัญหา รปู ทรง หรอื ตามเกณฑตางๆ ที่

(๕) การคดั แยก การจัดกลุม่ และการ กำหนด เชน สัตว ผลไม้ ใบไม้

จำแนกสง่ิ ต่างๆตามลกั ษณะและ ดอกไม้ ดนิ หิน ของเลน่ สิง่ ของ

รูปรา่ ง รูปทรง เคร่อื งใชรอบตัว

(๖) การต่อของชนิ้ เลก็ เติมในชิ้นใหญ่ ๒. เล่นตอ หรอื ประกอบชิน้ สวน

ให้สมบูรณ์ และการแยกช้นิ ส่วน ของของเลน่ ชิน้ เลก็ ใหเป็นช้นิ ใหญ่

(๑๐) การรวมและการแยกสงิ่ ตา่ ง ๆ ทส่ี มบูรณตามเง่อื นไขท่ีกำหนด

หรือตามจนิ ตนาการ

๓. ประดษิ ฐ์ช้ินงานจากวสั ดตุ างๆ

ทเ่ี ป็นชิน้ เล็กใหเป็นชนิ้ ใหญ่

๔. นําสิง่ ตางๆ สองกลุมมารวม

เข้าดว้ ยกนั แล้วบอกจำนวนท่ีเกดิ

จากการรวมของสงิ่ นั้น เชน รวม

คนสองกลุ่มเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ นบั

และบอกจนวนทงั้ หมด

มาตรฐานที่ 10 มคี วามสามารถในการคดิ ทเ่ี ปน็ พื้นฐานในการเรยี นรู้ (ตอ่ )

สภาพท่ีพึงประสงค์

ตัวบ่งช้ี ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ช้นั อนุบาลปีที่ ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

10.1.4 เรียงลำดับส่ิงของหรือ 10.1.4 เรียงลำดบั สิ่งของห

เหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย 4 ลำดับ เหตุการณ์อย่างน้อย 5 ลำด

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้

หรือ ด้านสตปิ ัญญา ๑. เรยี งลำดบั จำนวนของสิง่ ตางๆ

ดบั ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคิดเชิง เชน่ วางบลอ็ กแตล่ ะชนิดเรยี งเป็น

เหตุผล การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา แถวเพ่ือเรียงลำดบั

(๗) การทำซ้ำ การต่อเตมิ และการ ๒. เก็บดอกไมห้ รือใบไมช้ นิดตางๆ

สรา้ งแบบรูป มาเรยี งลำดบั จำนวน

(๘) การนบั และแสดงจำนวนของส่งิ ๓. บอกอันดับท่ีของตนเองหรอื

ตา่ งๆในชวี ิตประจำวัน เพ่ือนทย่ี นื อยู่ในแถว

(๙) การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ ๔. ช้ี หยิบ หรอื วางสง่ิ ของตาม

จำนวนของสงิ่ ต่างๆ อนั ดับทท่ี ่ีกำหนด

(๑๑) การบอกและแสดงอนั ดับท่ีของ ๕. เรยี งลำดับความยาวหรือความ

สิง่ ต่างๆ สูง น้ำหนัก หรือปรมิ าตร ของ

(๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และ ส่งิ ของตละชนิดต้ังแต่ ๓ สง่ิ ข้ึนไป

การเรียงลำดบั ส่งิ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะ เชน่ เรยี งลำดับความสงู ของเดก็ ๓

ความยาว/ความสงู นำ้ หนกั ปริมาตร คน เรียงลำดบั น้ำหนักของผลไม้ ๓

(๑๔) การบอกและเรียงลำดบั ชนดิ เรยี งลำดับปรมิ าตรของน้ำที่

กิจกรรมหรือเหตกุ ารณต์ ามช่วงเวลา อยู่ในภาชนะ ๓ ใบ

(๑๕) การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์ ๖. เชอ่ื มโยงชวงเวลากับการ

กบั เหตุการณใ์ นชีวติ ประจำวัน กระทำ และเหตุการณตางๆ เชน

ทบทวนกิจวัตรประจำวัน และ

กจิ กรรมประจำวันตามลำดบั เวลา

เล่นเกมเรยี งลำดับเหตุการณตาม

ชว่ งเวลา เชน กลางวนั กลางคนื ก

อน หลงั เชา บ่าย เย็น เม่อื วานนี้

วนั น้ี พรุงน้ี

มาตรฐานท่ี 10 มคี วามสามารถในการคดิ ทีเ่ ป็นพืน้ ฐานในการเรียนรู้ (ต่อ)

สภาพท่ีพงึ ประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชั้นอนุบาลปีท่ี 2 ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๓

10.2 มี อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี
ความสามารถ
ในการคิดเชงิ 10.2.1 ระบุสาเหตหุ รอื ผลท่ี 10.2.1 อธิบายเช่ือมโยงแล
เหตุผล
เกดิ ขนึ้ ในเหตุการณห์ รือการกระทำ เกดิ ข้ึนในเหตุการณห์ รือการ

เมอ่ื มผี ชู้ ้ีแนะ ดว้ ยตนเอง

สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้

ละผลท่ี ด้านสตปิ ญั ญา ๑. สาํ รวจเหตกุ ารณใน
รกระทำ
๑.๔.๑ การใช้ภาษา ชีวิตประจำวนั และสนทนา

(๑) การฟังเสยี งต่างๆ ในส่งิ แวดลอ้ ม เกย่ี วกบั สาเหตุและผลทเ่ี กดิ ขึ้น

๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิง - กนิ อาหารแลวไม่แปรงฟน

เหตผุ ล การตัดสินใจและแก้ปัญหา จะทำใหฟนผุ

(๑๖) การอธบิ ายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละ - ถาตากฝนอาจจะทำใหเปน็ หวัด

ผลที่เกดิ ขน้ึ ในเหตุการณ์หรือการ - การทิง้ ขยะไมถ่ ูกทีจ่ ะทำให

กระทำ บริเวณน้ันสกปรก

๒. สงั เกต สํารวจ หรอื ทดลอง

อย่างงา่ ยเก่ยี วกับสงิ่ ตางๆรอบตัว

แล้วอธบิ ายสาเหตุและผลที่เกิดขนึ้

- ลองใสน่ ำ้ ตาลลงไปในน้ำ สงั เกต

แลว้ บอกได้ว่าน้ำตาลสามารถ

ละลายในนำ้ ได้

- ฟงั และเปรยี บเทยี บเสยี งของ

ส่ิงตางๆ แลว้ บอกได้ว่าสง่ิ ของที่

แตกต่างกนั ทำใหเกดิ เสียงต่างกนั

- ทอดไขแลวสังเกตการ

เปลย่ี นแปลง แล้วบอกได้วา่ ความ

รอ้ นทำใหไขสุกรบั ประทานได้

- เลน่ โยน หรือเตะลูกบอล โดย

ออกแรงแตกตา่ งกนั แล้วบอกได้

วา่ ออกแรงมาก ลกู บอลจะไปไกล

มาตรฐานท่ี 10 มีความสามารถในการคดิ ทีเ่ ปน็ พน้ื ฐานในการเรียนรู้ (ต่อ)

สภาพทพ่ี ึงประสงค์

ตวั บง่ ชี้ ชัน้ อนบุ าลปีที่ 2 ช้นั อนบุ าลปีท่ี ๓

อายุ 4-5 ปี อายุ ๕-๖ ปี

10.2.2 คาดเดา หรอื คาดคะเนส่ิง 10.2.2 คาดคะเนสง่ิ ท่อี าจจ

ท่อี าจจะเกิดขึ้นหรอื มสี ว่ นร่วมใน และมสี ่วนร่วมในการลงควา

การลงความเห็นจากข้อมูล จากข้อมลู อยา่ งมีเหตุผล