คู่มือพน
ักงาน
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
หัวข้อ
TABLE OF CONTENTS
1
ข้อมูลทั่วไป
2
ประเภทตำแหน่งของพนักงานมหาวิทยาลัย
3
อัตราเงินเดือน
4
สัญญาจ้าง
5
การประเมินทดลองการปฏิบัติงาน
6
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ
7
การเพิ่มเงินเดือน
8
เส้นทางความก้าวหน้า
9
การพัฒนาบุคลากร
10
สวัสดิการและสิทธิประโยชน์
11
เครื่องแบบพนักงาน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ปรับปรุงเมื่อ 1 กันยายน 2564
1.ข้อมูลทั่วไป
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เปิดทำการเรียนการสอนครั้งแรกใน
ปีการศึกษา 2531 ภายใต้ชื่อ "วิทยาลัยอุบลราชธานี" โดยเปิด
ทำการสอนในสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มี
นักศึกษารุ่นแรกจำนวน 67 คน ซึ่งฝากเรียนไว้ที่มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น ต่อมาในปีการศึกษา 2533 วิทยาลัยอุบลราชธานีได้ยก
ฐานะมาเป็นมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม
2533 ได้ย้ายสถานที่จัดการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมา
ประจำ ณ สถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยบริเวณกิโลเมตรที่ 10 – 11
ถนนวารินเดชอุดม ตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัด
อุบลราชธานี บนเนื้อที่ประมาณ 5,228 ไร่ และเริ่มจัดการเรียน
การสอนให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของคณะเกษตรศาสตร์และคณะ
วิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งได้ถือเอาวันที่ 30 กรกฎาคมของทุกปีเป็น
วันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย
ประวัติมหาวิทยาลัย รายชื่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีตั้งแต่คนแรก
จนถึงปัจจุบันมีรายนามดังต่อไปนี้
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นมหาวิทยาลัย 1. รองศาสตราจารย์สมจิตต์ ยอดเศรณี
ที่ยกฐานะมาจาก วิทยาลัยอุบลราชธานี สังกัดมหาวิทยาลัย ดำรงตำแหน่งอธิการบดี พ.ศ. 2534 – 2541
ขอนแก่น ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2533 ในรัฐบาลของ 2. ศาสตราจารย์ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ
พลเอกชาติชาย ชุณหวัณ ด้วยความมุ่งหมายให้เป็นสถาบัน
อุดมศึกษาแห่งที่ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อจาก ดำรงตำแหน่งอธิการบดี พ.ศ. 2542 – 2543
มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการจัดการศึกษาเน้นหนักทางด้าน 3. ศาสตราจารย์ประกอบ วิโรจนกูฏ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการ
พัฒนากำลังคนของประเทศ ซึ่งกำลังมุ่งพัฒนาประเทศไปสู่ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี พ.ศ. 2544 – 2553
การเป็นประเทศกึ่งอุตสาหกรรม และเพื่อเป็นการกระจาย 4. รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข
โอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ ได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งให้ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี พ.ศ. 2554 – 2561
มหาวิทยาลัย เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการให้แก่ 5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุตินันท์ ประสิทธิ์ภูริปรีชา
ประชาชนในท้องถิ่น สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับปรุงการ
ประกอบวิชาชีพของตนเองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ดำรงตำแหน่งอธิการบดี พ.ศ. 2562 – ปัจจุบัน
ต่อไป
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 1
ปรัชญา
ส ร้า ง ส ติ แ ล ะ ปั ญ ญ า แ ก่ สั ง ค ม
บนพื้ นฐานความพอเพียง
วิสัยทัศน์
ม ห า วิ ท ย า ลั ย ชั้น นำ ใ น อ า เ ซี ย น
ที่ มุ่ ง เ น้ น ก า ร พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต
แ ล ะ น วั ต ก ร ร ม
(A LEADING UNIVERSITY IN ASEAN
FOCUSING ON TRANSFORMING
LIFE QUALITY AND INNOVATIONS)
อัตลักษณ์
สร้างสรรค์ สามัคคี
สำ นั ก ดี ต่ อ สั ง ค ม
เอกลักษณ์
ภู มิ ปั ญ ญ า แ ห่ ง ภู มิ ภ า ค ลุ่ ม น้ำ โ ข ง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 2
พันธกิจ
1. สร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ มาตรฐาน มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการและวิชาชีพ
2. สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่นำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตของประชาชนในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
3. บริการวิชาการอย่างมีส่วนร่วมเพื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนใน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ ภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
4. ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรม
ที่หลากหลายของภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัย
ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2563 – 2567)
1. ผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพอย่างโดดเด่นและพัฒนากำลังคนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ของโลก
2. สร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ท้องถิ่น และพัฒนาสู่ระดับสากล
3. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและยกระดับเศรษฐกิจของอีสานใต้ จากฐาน BCG
4. ยกระดับคุณภาพและสร้างมูลค่าให้แก่ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น
5. พัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล
6. มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยน่าอยู่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
7. บริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
8. มหาวิทยาลัยมีเสถียรภาพทางการเงินเพื่อการจัดการศึกษาสู่ความยั่งยืน
9. บริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 3
วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กร
ตราสัญลักษณ์
มหาวิทยาลัย
ลักษณะเป็นรูปเจดีย์แบบล้านช้าง ซึ่ง
หมายถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในมีดอก
บัวหลวงประดิษฐานอยู่บนแท่นรองรับของเส้น
3 เส้น และด้านล่างของฐานมี คำว่า
“มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” ดอกบัวมีสีกลีบบัว
หมายถึง สัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี
และเส้นที่เป็นฐานรองรับดอกบัว 3 เส้น หมาย
ถึง แม่น้ำสายสำคัญของภาคตะวันออกเฉียง
เหนือ คือ แม่น้ำโขง แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล
ลักษณะของดอกบัวเป็นประเภทบัวเหนือน้ำที่
พร้อมจะเบ่งบาน ให้ความดีงามแก่มหาชนได้
ชื่นชม ส่วนกลีบด้านล่างสองกลีบหมายถึง
คุณธรรมและปัญญาอันเปลือกหุ้มสถาบัน สีประจำมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สำหรับดอกบัวตูมสามกลีบ หมายถึง องค์พระ คือ " สีเหลือง "
รัตนตรัย สีน้ำเงินเป็นขอบเส้นของตรา คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 4
มหาวิทยาลัยนั้น หมายถึง ความมั่นคง แข็งแรง
และเส้นสีเหลืองสดที่เป็นพื้น หมายถึง สีประจำ
มหาวิทยาลัย
โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ
และส่วนงานภายใน
หมายเหตุ : * เป็นส่วนงานภายในที่จัดตั้งโดยสภามหาวิทยาลัย
: มติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2555 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2555
: มติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 :
จัดตั้งสำนักงานรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพบุคลากร
: มติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2559 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2559 :
เปลี่ยนชื่อคณะศิลปประยุกต์และการออกแบบ เป็น คณะศิลปะประยุกต์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
: มติสภามหาวิทยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 :
ยุบรวมสำนักงานพัฒนาคุณภาพการศึกษาและสำนักงานบริหารบัณฑิตศึกษาเข้ากับกองบริการการศึกษา
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 5
2. ประเภทตำแหน่งของพนักงานมหาวิทยาลัย
พนักงานมหาวิทยาลัย มี 4 ประเภท ดังนี้
1. ประเภทวิชาการ 2. ประเภทผู้บริหาร
1.1 อาจารย์ 2.1 ผู้อำนวยการกอง หรือ
1.2 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ
1.3 รองศาสตราจารย์ 2.2 ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี
1.4 ศาสตราจารย์
3. ประเภทวิชาชีพเฉพาะ 4. ประเภททั่วไป
หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ได้แก่ ตำแหน่งที่บรรจุด้วยวุฒิ
ที่ต่ำกว่าปริญญาตรี
ได้แก่ ตำแหน่งที่บรรจุด้วยวุฒิ
ปริญญาตรีขึ้นไป
ป ร ะ เ ภ ท ตำ แ ห น่ ง ข อ ง
พนักงานมหาวิทยาลัย
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 6
3. อัตราเงินเดือน
พนักงานมหาวิทยาลัยทุกประเภท จะได้รับเงินเดือนในอัตราตาม
คุณวุฒิแรกบรรจุตามคุณวุฒิ ดังนี้
อัตราเงินเดือน
คุณ วุ ฒิ ผู้ที่บรรจุตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป
สายวิชาการ
สายสนับสนุน
1.ปริญญาเอก หรือเทียบเท่า 33,600 29,400
2.ปริญญาโท หรือเทียบเท่าและปริญญาเภสัชศาสตร์บัณฑิต 28,000 24,500
(หลักสูตร 6 ปี)
3.ปริญญาตรีที่มีหลักสูตรกำหนดเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี 25,280 22,120
4.ปริญญาตรีที่มีหลักสูตรกำหนดเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 4 ปี 24,000 21,000
5.อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรที่มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อย
กว่า 3 ปี 6 เดือ นdodge omni glh - 16,580
6. eปรsะกeาศrนีvยบeัตsรวิ ชmาชีoพชrั้นeสูง r(ปeวสs.) pe - 16,100
c t - 15,180
d
7.ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)
8. ประกาศนียบัตรที่มีหลักสูตรกำหนดระยะเวลาศึกษาไม่น้อย - 13,470
กว่า 1 ปี 6 เดือน ต่อจากวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษา
ตอนปลายหรือเทียบเท่า
9.ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) - 13,160
หมายเหตุ :
ลำดับที่ 1 – 9 นำเสนอเฉพาะวุฒิคุณวุฒิหลัก สำหรับรายละเอียดคุณวุฒิศึกษาได้จากประกาศ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เรื่อง การกำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2564
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 7
4. สัญญาจ้าง
ในการจ้างพนักงานมหาวิทยาลัยจ้างแบบมีสัญญาจ้าง โดยสัญญาจ้างมีระยะเวลาการจ้าง
1 : 2 : 5 : 5 : เกษียณอายุราชการ
1 (ก) ประเภทวิชาการ กำหนดระยะเวลาในสัญญาการทดลองปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า
6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ มีระยะเวลาการสอนไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา
สัญญาจ้างระยะที่ 1
(ข) ประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภททั่วไป กำหนดระยะเวลาใน
ได้แก่ สัญญาการทดลองปฏิบัติงานโดย สัญญาการทดลองปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ รวมระยะ
กำหนดระยะเวลาในสัญญาการทดลอง เวลาขยายการ ทดลองปฏิบัติงาน (ถ้ามี)
ปฏิบัติงาน ดังนี้
2 (ก) ประเภทวิชาการ วิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ และทั่วไป หากผ่านการประเมิน
การทดลองปฏิบัติงาน ให้จัดทำสัญญาจ้าง มีระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ ทั้งนี้ จะต่อ
สัญญาจ้างระยะที่ 2 สัญญาจ้างระยะเวลา 5 ปี ได้ จะต้องมีผลการประเมินการปฏิบัติงานในระดับดีขึ้นไป
(ข) ผู้มีภาระผูกพันต้องปฏิบัติงานชดใช้ทุน หากผ่านการประเมินการทดลองปฏิบัติงาน
ให้จัดทำสัญญาจ้างตามระยะเวลาชดใช้ทุน โดยให้สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 กันยายน
ของปีที่ครบระยะเวลาชดใช้ทุน
5 กำหนดระยะเวลาจัดทำสัญญาจ้างมีระยะเวลาสัญญาละ 5 ปีงบประมาณ ทั้งนี้
จะต่อสัญญาจ้างระยะเวลา 5 ปีงบประมาณได้ จะต้องมีผลการประเมินการ
สัญญาจ้างระยะที่ 3 ปฏิบัติงานในระดับดีขึ้นไป
5 กำหนดระยะเวลาจัดทำสัญญาจ้างมีระยะเวลาสัญญาละ 5 ปีงบประมาณ ทั้งนี้
จะต่อสัญญาจ้างจนถึงวันครบเกษียณอายุราชการ จะต้องมีผลการประเมิน
สัญญาจ้างระยะที่ 4 การปฏิบัติงานในระดับดีขึ้นไป
เกษียณอายุราชการ จ้างต่อจนถึงวันครบเกษียณอายุราชการ กำหนดให้สิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่
30 กันยายนของปี ที่ครบเกษียณอายุราชการ
สัญญาจ้างระยะที่ 5
กรณีพนักงานมหาวิทยาลัยประเภทวิชาการ หากได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์) ให้จัดทำสัญญาจ้าง ดังนี้
1. ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ให้จัดทำสัญญาจ้างต่อระยะที่ 4 คือ ต่อสัญญาจ้างระยะเวลา 5 ปี
2. ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ให้จัดทำสัญญาจ้างจนถึงวันครบเกษียณอายุราชการ
กรณีบรรจุและแต่งตั้งพนักงานมหาวิทยาลัยรายใหม่และมีตำแหน่งทางวิชาการ ให้จ้างสัญญาจ้างระยะที่ 2 และ
จ้างจนถึงเกษียณอายุราชการ
" หากปรากฏว่าไม่ผ่านการประเมินผลทดลองปฏิบัติงาน อธิการบดีสามารถสั่งให้ออกจากงานได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบสัญญาจ้าง "
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 8
5. การประเมินผลการทดลองปฏิบัติงาน
5.1 องค์ประกอบของการประเมินผลการทดลองปฏิบัติงาน
1. ผลสัมฤทธิ์ของการทดลองปฏิบัติงาน 2. พฤติกรรมของผู้ทดลองปฏิบัติงาน
(50 คะแนน) (50 คะแนน)
- ความสามารถในการเรียนรู้งาน - การมุ่งผลสัมฤทธิ์
- ความสามารถในการปรับใช้ความรู้ - การบริการที่ดี
- การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ
กับงานในหน้าที่ - การยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม
- ความสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมาย - การทำงานเป็นทีม
5.2 เกณฑ์การประเมิน ต้องได้คะแนนในแต่ละส่วนไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 60
5.3 การรายงานผล
รายงานผลการประเมินตามแบบ ป.4 ต่ออธิการบดีหรือผู้อธิการบดีมอบหมาย
ภายใน 15 วัน
5.4 ระยะเวลาในการประเมินทดลองปฏิบัติงาน
1. ประเภทวิชาการ ประเมินทดลองปฏิบัติงานไม่
น้อยกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี โดยให้มีเวลาทำการ
สอนไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา กรณีไม่สามารถ
ประเมินได้ทันตามกำหนด ขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง รวม
ระยะเวลาทดลองปฏิบัติงาน และเวลาที่ขยายแล้วต้อง
ไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน
2. ประเภทผู้บริหาร / วิชาชีพเฉพาะ / เชี่ยวชาญ
เฉพาะ / ทั่วไป ประเมินทดลองปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า
6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี กรณีไม่สามารถประเมินได้ทัน
ตามกำหนดขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง รวมระยะเวลา
ทดลองปฏิบัติงานและเวลาที่ขยายแล้วต้องไม่เกิน 1
ปี
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 9
6. การประเมินผลการปฏิบัติราชการ
6.1 การประเมินผลการปฏิบัติราชการ
ดำเนินการปีละ 2 รอบ คือ
- รอบที่ 1 ประเมินผลการปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม
- รอบที่ 2 ประเมินผลการปฏิบัติราชการระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน
6.2 องค์ประกอบในการประเมิน
- องค์ประกอบที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ของงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 คะแนน
- องค์ประกอบที่ 2 พฤติกรรมการปฏิบัติราชการ ประเมินจากสมรรถนะหลัก
5 ด้าน ได้แก่ } ไม่เกินร้อยละ
การบริการที่ดี 30 คะแนน
การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ
การมุ่งผลสัมฤทธิ์
การทำงานเป็นทีม
การยึดมั่นความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม
** กรณีพนักงานอยู่ระหว่างการทดลองปฏิบัติงาน ให้มีสัดส่วนคะแนนผลสัมฤทธิ์
ของงาน ร้อยละ 50 และพฤติกรรมการปฏิบัติงาน ร้อยละ 50
6.3 ช่วงคะแนนและระดับผลการประเมิน
คะแนนระหว่าง 90 – 100 คะแนน ระดับดีเด่น
คะแนนระหว่าง
คะแนนระหว่าง 80 – 89 คะแนน ระดับดีมาก
คะแนนระหว่าง 70 – 79 คะแนน ระดับดี
คะแนนต่ำกว่า 60 – 69 คะแนน ระดับพอใช้
60 คะแนน ระดับต้องปรับปรุง
6.4 การขอทบทวนผลการประเมิน
ผู้รับการประเมินยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมหลักฐานแสดงข้อโต้แย้งกับผู้ประเมิน
ภายใน 7 วัน นับจากวันลงนามรับทราบผลการประเมินหรือวันที่แจ้งผลการประเมิน หากไม่สามารถ
ยุติภายในหน่วยงานให้ผู้รับการประเมินยื่นเรื่องพร้อมหลักฐานต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยภายใน 7
วันนับจากวันที่รับทราบผลการพิจารณาทบทวนครั้งสุดท้ายของหน่วยงาน
กองการเจ้าหน้าที่นำเสนอคณะกรรมการบริหารงานบุคคลเพื่อพิจารณากลั่นกรองผลการประเมิน
การปฏิบัติราชการ พิจารณามาตรฐาน และความเป็นธรรมของการประเมินการปฏิบัติราชการของ
บุคลากร แล้วแจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบและดำเนินการตามมติต่อไป
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 10
7. การเพิ่มเงินเดือน
7.1 พนักงานมหาวิทยาลัยมีการเพิ่มเงินเดือน ดำเนินการปีละ 2 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 ณ 1 เมษายน
- ครั้งที่ 2 ณ 1 ตุลาคม
ทั้งนี้พนักงานมหาวิทยาลัยรายนั้น ต้องมีระยะเวลาการปฏิบัติงานในแต่ละรอบ
การประเมินไม่น้อยกว่า 4 เดือน โดยไม่มีวันลากิจและลาป่วยเกิน 23 วัน และ
ต้องมีผลการประเมินการปฏิบัติราชการ ไม่ต่ำกว่า 60 คะแนน หรือต้องไม่อยู่ใน
ระดับต้องปรับปรุง และหลักเกณฑ์อื่นตามที่กำหนดในประกาศมหาวิทยาลัย
7.2 การขอทบทวนการงดเพิ่มเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย
ให้ดำเนินการดังนี้
1. ยื่นหนังสือขอทบทวนเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแสดงข้อโต้แย้ง
รายละเอียดและเอกสารหลักฐานต่อผู้บังคับบัญชาหรือส่วนราชการภายใน
ภายในเจ็ดวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง
2. ผู้บังคับบัญชาหรือส่วนราชการภายในดำเนินการทบทวนให้เสร็จสิ้นก่อนที่
จะส่งผลการเลื่ อนเงินเดือนหรือเพิ่มเงินเดือนให้มหาวิทยาลัย
3. หากผลการพิจารณาตามข้อ 2 ไม่เป็นที่ยุติภายในส่วนราชการภายใน
ให้บุคลากรผู้นั้น ยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมกับแสดงข้อโต้แย้ง
รายละเอียด และเอกสารหลักฐานต่อมหาวิทยาลัย ภายในเจ็ดวันนับตั้งแต่
วันที่ได้รับทราบผลการทบทวนครั้งสุดท้ายจากส่วนราชการภายใน
4. หากพ้นกำหนดเวลาตามข้อ 1 และ 3 ให้ถือว่าบุคลากรผู้นั้นรับทราบผลการ
เลื่ อนเงินเดือนหรือเพิ่มเงินเดือนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 11
8. เส้นทางความก้าวหน้า
8.1 ประเภทวิชาการ
อาจารย์ ผู้ช่วย รอง ศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์
8.1.1 วิธีการยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ
1) วิธีปกติ หมายถึง การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
วิธีการที่ ก.พ.อ. และมหาวิทยาลัยกำหนดทุกประการ
2) วิธีพิเศษ หมายถึง การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์
หรือรองศาสตราจารย์ซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ต่างไปจากที่กำหนดไว้ใน
มาตรฐานกำหนดตำแหน่งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นก็ได้ เช่น การเสนอแต่งตั้งผู้ช่วย
ศาสตราจารย์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งยังไม่ครบระยะเวลาที่กำหนดให้ดำรงตำแหน่งรอง
ศาสตราจารย์หรือการเสนอแต่งตั้งอาจารย์ประจำให้ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์โดยที่
ผู้นั้นมิได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์มาก่อน
8.1.2 การกำหนดสาขาวิชา
พิจารณาจาก
- ภาระงานสอน
- ผลงานทางวิชาการที่ใช้ประกอบการเสนอขอกำหนดตำแหน่ง
- กำหนดชื่อสาขาวิชาในการเสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตามประกาศ ก.พ.อ.
เรื่องการกำหนดชื่อสาขาวิชาสำหรับการเสนอขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ
และการเทียบเคียงสาขาวิชาที่เคยกำหนดไปแล้ว พ.ศ. 2562
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 12
8.1.3 ประเภทของผลงาน
จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่ม 1 งานวิจัย
กลุ่ม 2 ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
ผลงานวิชาการเพื่ออุตสาหกรรม
ผลงานวิชาการเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
และการเรียนรู้
ผลงานวิชาการเพื่อพัฒนานโยบายสาธารณะ
กรณีศึกษา (Case Study)
งานแปล
พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม
และงานวิชาการในลักษณะเดียวกัน
ผลงานสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผลงานสร้างสรรค์ด้านสุนทรียะ ศิลปะ
สิทธิบัตร
ซอฟต์แวร์
กลุ่ม 3 ผลงานวิชาการรับใช้สังคม
กลุ่ม 4 ได้แก่
ตำรา
หนังสือ
บทความทางวิชาการ
8.1.4 หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่ งตั้ง
การพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งวิชาการต้องเป็นไปตามวิธีการและเงื่ อนไข
ที่ ก.พ.อ. และมหาวิทยาลัยกำหนดซึ่งพิจารณาจากคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลการ
สอน ผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ ดังนี้
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 13
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
ผลการสอนและเอกสารหลักฐาน
ที่ใช้ในการประเมินผลการสอน วุฒิปริญญาตรี ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ไม่น้อยกว่า 6 ปี หรือ
วุฒิปริญญาโท ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ไม่น้อยกว่า 4 ปี หรือ
วุฒิปริญญาเอก ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ไม่น้อยกว่า 1 ปี และพ้นระยะ
ทดลองปฏิบัติงาน
มีชั่วโมงสอนประจำวิชาใดวิชาหนึ่งที่กำหนดไว้ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย
ซึ่งเทียบค่าไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิตระบบทวิภาคและมีความชำนาญ
ในการสอน
เสนอเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการประเมินผลการสอนที่ผลิตขึ้นตามภาระงาน
สอน ซึ่งได้ใช้ประกอบการสอนมาแล้ว และมีคุณภาพดีมีการอ้างอิง
แหล่งที่มา
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ ผลงานซึ่งมีคุณภาพดี ผลงานซึ่งมีคุณภาพระดับ B
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง และมีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ และมีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
1. งานวิจัย 2 เรื่อง หรือ
2. งานวิจัย 1 เรื่อง และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น 1 รายการ หรือ
3. งานวิจัย 1 เรื่อง และผลงานวิชาการรับใช้สังคม 1 เรื่อง หรือ
4. งานวิจัย 1 เรื่อง และตำรา หรือ หนังสือ 1 เล่ม
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของ
งานวิจัยอย่างน้อย 1 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 14
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
(สาขาวิชาทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
ผู้ขออาจใช้ผลงานทางวิชาการใน ผู้ขออาจใช้ผลงานทางวิชาการใน
ลักษณะอื่ น ลักษณะอื่ น
- (คุณภาพดี) หรือ ผลงานวิชาการ
รับใช้สังคม (คุณภาพระดับ B) หรือผลงาน
-(คุณภาพดี) หรือบทความทางวิชาการ วิชาการรับใช้สังคม
- (คุณภาพดีมาก) แทนงานวิจัย (คุณภาพระดับ B) หรือ บทความ
ตามข้อ 2 - 4 ได้ ทางวิชาการ
(คุณภาพระดับ B+) แทนงาน
วิจัยตามข้อ 2 - 4 ได้
ผู้ขอต้องเป็น First author ของ
ผลงานอย่างน้อย 1 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 15
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
(มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี
ผลการสอนและเอกสารหลักฐาน มีชั่วโมงสอนประจำวิชาใดวิชาหนึ่งที่กำหนดไว้ในหลักสูตรของ
ที่ใช้ในการประเมินผลการสอน มหาวิทยาลัย ซึ่งเทียบค่าไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิตระบบทวิภาคและมีความ
ชำนาญพิเศษในการสอน
เสนอเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการประเมินผลการสอน ที่ผลิตขึ้นตามภาระ
งานสอน ซึ่งได้ใช้ประกอบการสอนมาแล้ว และมีคุณภาพดี มีการอ้างอิง
แหล่งที่มา
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ เสนอผลงานทางวิชาการ ได้ 2 วิธี เสนอผลงานทางวิชาการ ได้ 3 วิธี
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง
วิธีที่ 1 ผลงานซึ่งมีคุณภาพดี และ วิธีที่ 1 ผลงานที่มีคุณภาพระดับ B+
มีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ และมีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
1. งานวิจัย 2 เรื่อง หรือ
2. งานวิจัย 1 เรื่อง และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น 1 รายการ หรือ
3. งานวิจัย 1 เรื่อง และผลงานวิชาการรับใช้สังคม 1 เรื่อง
และ
4. ตำรา หรือ หนังสือ 1 เล่ม
งานวิจัยต้องเผยแพร่ในฐานข้อมูล
ระดับนานาชาติ หรือ TCI กลุ่ม 1
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของงาน
วิจัยอย่างน้อย 1 เรื่อง
ผู้ขอต้องเป็น First author ของ
ตำรา หรือหนังสือ อย่างน้อย 1 เล่ม
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 16
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 2 ผลงานที่มีคุณภาพ และมี
วิธีที่ 2 ผลงานซึ่งมีคุณภาพ และมี ปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
ปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
1.งานวิจัยอย่างน้อย 3 เรื่อง ซึ่งมี 1.งานวิจัย อย่างน้อย 3 เรื่อง มีคุณภาพ
คุณภาพดีมาก อย่างน้อย 2 เรื่อง ระดับ A อย่างน้อย 2 เรื่องและมี
และคุณภาพดี 1 เรื่อง หรือ คุณภาพระดับ B+ อย่างน้อย 1 เรื่อง
หรือ
2.งานวิจัย ซึ่งมีคุณภาพดีมาก อย่าง
น้อย2 เรื่องและผลงานทางวิชาการ 2. งานวิจัย อย่างน้อย 2 เรื่อง
ในลักษณะอื่นซึ่งมีคุณภาพดี หรือ มีคุณภาพระดับ A และผลงานทาง
วิชาการในลักษณะอื่นอย่างน้อย 1 เรื่อง
3.งานวิจัยซึ่งมีคุณภาพดีมาก อย่าง มีคุณภาพระดับ B+ หรือ
น้อย 2 เรื่อง และผลงานวิชาการ
รับใช้สังคมซึ่งมีคุณภาพดี 3. งานวิจัย อย่างน้อย 2 เรื่อง
มีคุณภาพระดับ A และผลงานวิชาการ
รับใช้สังคมอย่างน้อย 1 เรื่อง มีคุณภาพ
ระดับ B+
งานวิจัยต้องเผยแพร่ในฐานข้อมูล
ระดับนานาชาติ หรือ TCI กลุ่ม 1
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของงาน
วิจัยที่มีคุณภาพระดับ A อย่างน้อย
2 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 17
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์
(สาขาวิชาทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
ผู้ขอเสนอโดยใช้วิธีที่ 2 และอาจใช้ ผู้ขอเสนอโดยใช้วิธีที่ 2 และอาจใช้
ตำรา/หนังสือที่มีคุณภาพดีมาก อย่าง ตำรา/หนังสือที่มีคุณภาพระดับ A
น้อย 2 เล่ม และคุณภาพดี 1 เล่ม อย่างน้อย 2 เล่ม (ผู้ขอต้องเป็น
แทนผลงานตามข้อ 1 - 3 ได้ First author) และคุณภาพระดับ
B+ อย่างน้อย 1 เล่ม แทนผลงาน
ตามข้อ 1 - 3 ได้
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 18
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 3 สำหรับสาขาวิชาทาง
- วิทยาศาสตรเทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตร์
แพทยศาสตร์
1. งานวิจัยอย่างน้อย 10 เรื่อง (หลังจากที่
เป็น ผศ.) ที่เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐาน
ข้อมูล Q 1 และ Q 2 ของ Scopus โดยผู้
ขอต้องเป็น First author หรือเป็น
Corresponding author อย่างน้อย 5
เรื่อง และ
2. มีงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงจาก Scopus
โดยรวม (Life-time Citation) อย่างน้อย
500 รายการ โดยไม่นับงานวิจัยที่อ้างอิง
ตนเอง และ
3. มีค่า Life-time h-index (Scopus) ไม่
น้อยกว่า 8 และ
4. เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (Principal
investigator) ที่ได้รับทุนจากแหล่งทุน
ภายนอกสถาบัน อย่างน้อย 5 โครงการ
(Life-time)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 19
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 3 สำหรับสาขาวิชาทาง
- บริหารธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์
1. งานวิจัยอย่างน้อย 5 เรื่อง (หลังจากที่เป็น
ผศ.) ที่เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล
Scopus โดยผู้ขอต้องเป็น First author
หรือเป็น Corresponding author อย่าง
น้อย 3 เรื่อง และ
2. มีงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงจาก Scopus
โดยรวม (Life-time Citation) อย่างน้อย
150 รายการ โดยไม่นับงานวิจัยที่อ้างอิง
ตนเอง และ
3. มีค่า Life-time h-index (Scopus) ไม่
น้อยกว่า 4 และ
4. เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (Principal
investigator) ที่ได้รับทุนจากแหล่งทุน
ภายนอกสถาบัน อย่างน้อย 5 โครงการ
(Life-time)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 20
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
ผลการสอน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี
มีชั่วโมงสอนประจำวิชาใดวิชาหนึ่งที่กำหนดไว้ในหลักสูตรของ
มหาวิทยาลัย
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ เสนอผลงานทางวิชาการ ได้ 2 วิธี เสนอผลงานทางวิชาการ ได้ 3 วิธี
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง
วิธีที่ 1 ผลงานซึ่งมีคุณภาพดีมาก วิธีที่ 1 ผลงานที่มีคุณภาพระดับ A
และมีปริมาณอย่างน้อยดังต่อไปนี้ และมีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
1. งานวิจัย อย่างน้อย 5 เรื่อง (เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ) หรือ
2. งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง (เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ) และ
ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น (เผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามที่ ก.พ.อ. กำหนด)
หรือ ผลงานวิชาการรับใช้สังคม รวมกันทั้งหมด อย่างน้อย 5 เรื่อง
และ
3. ตำรา หรือ หนังสือ อย่างน้อย 1 เล่ม
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของ
ผลงานตามข้อ 1 – 2 อย่างน้อย
2 เรื่อง
ผู้ขอต้องเป็น First author ของ
ตำรา/หนังสือ อย่างน้อย 1 เล่ม
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 21
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 2 ผลงานที่มีคุณภาพ และมี
วิธีที่ 2 ผลงานซึ่งมีคุณภาพดีเด่น ปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
และมีปริมาณอย่างน้อยดังต่อไปนี้
1.งานวิจัย 5 เรื่อง (เผยแพร่ในวารสาร 1.งานวิจัย อย่างน้อย 5 เรื่อง (เผยแพร่ใน
ที่อยู่ในฐานข้อมูล ระดับนานาชาติ) หรือ วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
2. งานวิจัย 1 เรื่อง (เผยแพร่ในวารสาร คุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 2 เรื่อง
ที่อยู่ในฐานข้อมูล ระดับนานาชาติ) และ คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 3 เรื่อง หรือ
ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
(เผยแพร่ในระดับนานาชาติ) หรือ 2. งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง (เผยแพร่ใน
ผลงานวิชาการรับใช้สังคม รวมกัน วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
ทั้งหมดอย่างน้อย 5 เรื่อง และ ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น (เผย
แพร่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ) หรือ ผล
งานวิชาการรับใช้สังคมรวมกันทั้งหมด
อย่างน้อย 5 เรื่อง
คุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 2 เรื่อง
คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 3 เรื่อง หรือ
3. งานวิจัย อย่างน้อย 10 เรื่อง
(เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับ
นานาชาติ) มี คุณภาพระดับ A
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ Corresponding
authorของผลงานตามข้อ1–2โดยผลงานต้อง
มีคุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 2 เรื่อง และมี
คุณภาพ ระดับ A อย่างน้อย1เรื่อง
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ Corresponding
author ของผลงานตามข้อ 3 โดยผลงานต้องมี
คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 6 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 22
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์
(สาขาวิชาทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 1 ผลงานที่มีคุณภาพระดับ A
วิธีที่ 1 ผลงานซึ่งมีคุณภาพดีมาก และมีปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
และมีปริมาณอย่างน้อยดังต่อไปนี้
1. ผลงานวิจัย 2 เรื่อง 1. งานวิจัย อย่างน้อย 3 เรื่อง (เผยแพร่ใน
(เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
ระดับนานาชาติ) หรือ หรือ
2. ผลงานวิจัย 1 เรื่อง 2.งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง (เผยแพร่ใน
(เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
ระดับนานาชาติ หรือ TCI กลุ่ม 1) และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น
และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น หรือผลงานวิชาการรับใช้สังคมรวมกัน
หรือผลงานวิชาการรับใช้สังคม รวม ทั้งหมด อย่างน้อย 3 เรื่อง
กันทั้งหมด อย่างน้อย 2 เรื่อง และ
และ 3. ตำรา/หนังสือ อย่างน้อย 2 เล่ม
3. ตำรา/หนังสือ 2 เล่ม
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของผล
งานตามข้อ 1 – 2 อย่างน้อย
2 เรื่อง และเป็น First author ของ
ตำรา/หนังสือ อย่างน้อย 1 เล่ม
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 22
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์
(สาขาวิชาทางสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ) (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 2 ผลงานซึ่งมีคุณภาพดีเด่น วิธีที่ 2 ผลงานที่มีคุณภาพ และมี
และมีปริมาณอย่างน้อยดังต่อไปนี้ ปริมาณอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
1. ผลงานวิจัย 3 เรื่อง 1.งานวิจัย อย่างน้อย 5 เรื่อง (เผยแพร่ใน
(เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
ระดับนานาชาติ หรือ ฐานข้อมูล TCI คุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 2 เรื่อง
กลุ่ม 1) หรือ
คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 3 เรื่อง หรือ
2. ผลงานวิจัย 1 เรื่อง 2. งานวิจัย อย่างน้อย 1 เรื่อง (เผยแพร่ใน
(เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐานข้อมูล วารสารที่อยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติ)
ระดับนานาชาติ หรือ ฐานข้อมูล TCI และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่นหรือ
กลุ่ม 1) หรือ ตำรา/หนังสือ 1 เล่ม ผลงานวิชาการรับใช้สังคมรวมกันทั้งหมด
และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น อย่างน้อย 5 เรื่อง
หรือผลงานวิชาการรับใช้สังคมรวมกัน คุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 2 เรื่อง
คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 3 เรื่อง หรือ
ทั้งหมด อย่างน้อย 3 เรื่อง หรือ
3. ตำรา/หนังสือ อย่างน้อย 3 เล่ม ที่มี
3. ตำรา/หนังสือ 3 เล่ม คุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย 1 เล่ม และ
คุณภาพระดับ A อย่างน้อย 2 เล่ม
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ
Corresponding author ของผลงาน
ตามข้อ 1 – 2 ที่มีคุณภาพระดับ A+
อย่างน้อย 2 เรื่อง และคุณภาพระดับ A
อย่างน้อย 1 เรื่อง
ผู้ขอต้องเป็น First author ของตำรา/
หนังสือมีคุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย
2 เรื่อง และคุณภาพ ระดับ A อย่าง
น้อย 1 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 23
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 3 สำหรับสาขาวิชาทาง
- เทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตร์
แพทยศาสตร์
1.งานวิจัยอย่างน้อย 10 เรื่อง (หลังจากที่
เป็น รศ.)ที่เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐาน
ข้อมูล Q 1 และ Q 2 ของ Scopus โดย
ผู้ขอต้องเป็น First author หรือ เป็น
Corresponding author และ
2.มีงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงจาก
Scopus โดยรวม (Life-time Citation)
อย่างน้อย 1,000 รายการ โดยไม่นับงาน
วิจัยที่อ้างอิงตนเอง และ
3.มีค่า Life-time h-index (Scopus) ไม่
น้อยกว่า 18 และ
4.เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (Principal
investigator)ที่ได้รับทุนจากแหล่งทุน
ภายนอกสถาบัน อย่างน้อย10 โครงการ
(Life-time)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 24
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
ศาสตราจารย์ (ต่อ)
คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผลงานทางวิชาการที่ใช้ (มีผลบังคับใช้ (มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 63)
เสนอขอกำหนดตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 61 - 23 มิ.ย. 65)
วิธีที่ 3 สำหรับสาขาวิชาทาง
- บริหารธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์
1.งานวิจัยอย่างน้อย 10 เรื่อง (หลังจากที่
เป็น รศ.)ที่เผยแพร่ในวารสารที่อยู่ในฐาน
ข้อมูล Scopus โดยผู้ขอต้องเป็น
First author หรือเป็น Corresponding
author และ
2. มีงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงจาก Scopus
โดยรวม (Life-time Citation) โดยไม่นับ
งานวิจัยที่อ้างอิงตนเอง
สาขาวิชาทางบริหารธุรกิจ
อย่างน้อย 500 รายการ
สาขาวิชาทางเศรษฐศาสตร์
อย่างน้อย 200 รายการ
3. มีค่า Life-time h-index (Scopus)
ไม่น้อยกว่า 8 และ
4.เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (Principal
investigator)ที่ได้รับทุนจากแหล่งทุน
ภายนอกสถาบันอย่างน้อย10 โครงการ
(Life-time)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 25
ทั้งนี้ ประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคล
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์
(ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2564 ให้ "ยกเลิก"ข้อกำหนดการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ที่ต้องได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูล TCI และกำหนดให้
ผลงานทางวิชาการต้องได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับชาติ
ซึ่งวารสารวิชาการระดับชาติต้องเป็นวารสารวิชาการที่มีคุณภาพและเป็นที่
ยอมรับในวงวิชาการในสาขาวิชานั้นๆ หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง โดยวารสาร
วิชาการนั้นต้องมีการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลาอย่างน้อย
3 ปี และมีการตรวจสอบคุณภาพของบทความ โดยผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบ
บทความ (PEER REVIEW) ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจากหลากหลายสถาบัน
อย่างน้อย 3 คน ทั้งนี้ วารสารวิชาการนั้นอาจเผยแพร่เป็นรูปเล่มสิ่งพิมพ์ หรือ
เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่มีกำหนดการเผยแพร่อย่างแน่นอนชัดเจน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 26
8.1.5 จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ
การพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและจรรยาบรรณ
ทางวิชาการ ดังนี้
(1) ต้องมีความซื่อสัตย์ทางวิชาการ ไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตนและไม่ลอก
เลียนผลงานของผู้อื่น ไม่นำผลงานของตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการ
มากกว่าหนึ่งฉบับ รวมถึงไม่คัดลอกข้อความใด ๆ จากผลงานเดิมของตน โดยไม่อ้างอิงผล
งานเดิมตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ ในลักษณะที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่
(2) ต้องอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้ในผลงานทางวิชาการของ
ตนเองเพื่ อแสดงหลักฐานของการค้นคว้า
(3) ต้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการจนละเลยหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของ
ผู้อื่ นหรือสิทธิมนุษยชน
(4) ผลงานทางวิชาการต้องได้มาจากการศึกษาโดยใช้หลักวิชาการเป็นเกณฑ์ ปราศจากอคติ
และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไม่จงใจเบี่ยงเบนผลการศึกษาหรือวิจัย โดยหวังผล
ประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเสนอผลงานตามความเป็นจริง
ไม่ขยายข้อค้นพบ โดยปราศจากการตรวจสอบยืนยันในทางวิชาการ
(5) ต้องนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
(6) หากผลงานทางวิชาการมีการใช้ข้อมูลจากการทำการวิจัยในคนหรือสัตว์ผู้ขอตำแหน่ง
จะต้องยื่นหลักฐานแสดงการอนุญาตจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของสถาบันที่มี
การดำเนินการ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 27
8.1.6 ลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ 2021
ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
1.ผลงานทางวิชาการที่เสนอเพื่อประกอบการ 1.ผลงานทางวิชาการที่เสนอเพื่อประกอบการ
พิจารณาต้องเป็นงานที่ผู้ขอต้องเป็นเจ้าของ พิจารณาต้องเป็นงานที่ผู้ขอต้องเป็นผู้
และเป็น ผู้ดำเนินการเอง ประพันธ์ อันดับแรก (First author) หรือผู้มี
2.ถ้าเป็นงานที่ผู้ขอมีส่วนร่วมในผลงานทาง ส่วนสำคัญทางปัญญา(Essentially
วิชาการ ต้องมีลักษณะดังนี้ intellectual contributor) หรือ ผู้ประพันธ์
2.1 ผลงานทางวิชาการที่มิใช่ผลงานวิจัยผู้ขอจะ บรรณกิจ (Corresponding author)
ต้องมีส่วนร่วมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และต้อง ผู้ประพันธ์อันดับแรก (First author) หมาย
เป็นผู้ดำเนินการหลักในเรื่องนั้น ถึง ผู้ที่มีชื่อในผลงานวิชาการเป็นชื่อแรก รับ
2.2 สำหรับการมีส่วนร่วมในผลงานวิจัย ต้องมี ผิดชอบการทำผลงานวิชาการและเขียน
ลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ ต้นฉบับ (Manuscript) ชิ้นนั้นด้วยตนเอง
(1) ผู้ขอมีส่วนร่วมในผลงานวิจัยไม่น้อยกว่า ผู้มีส่วนสำคัญทางปัญญา (Essentially
ร้อยละ 50 intellectual contributor) หมายถึง บุคคลที่
(2) ผู้ขอเป็นผู้ดำเนินการหลัก และมีผลงาน มีบทบาท มีส่วนสำคัญทางปัญญา
วิจัยเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกันซึ่งแสดง (Essentially intellectual contribution)
ปริมาณผลงานวิจัยรวมกันแล้วเทียบได้ไม่น้อย ด้วยความเชี่ยวชาญจำเพาะในสาขาวิชา ของ
กว่าร้อยละ 50 ของผลงานวิจัย 1 เรื่อง ตนเอง และความรับผิดชอบสำคัญในการ
(3) ในกรณีผลงานวิจัยที่เป็นชุดโครงการ ออกแบบการวิจัย (Research Design) หรือ
RESEARCH PROGRAM ผู้ขอจะต้องเป็น การออกแบบงานวิชาการ นั้นๆ รวมทั้ง
ผู้ดำเนินการหลักในบางโครงการ(ของชุด วิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) สรุปผล
โครงการนั้น) อย่างน้อย 1 เรื่อง และมีปริมาณ และให้ข้อเสนอแนะ
ผลงาน รวมแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ผู้ประพันธ์บรรณกิจ (Corresponding
author) หมายถึง บุคคลที่มีบทบาทและ
(4) ในกรณีงานวิจัยที่ดำเนินการเป็นชุดต่อ ความรับผิดชอบในการเผยแพร่ผลงานวิจัย
เนื่องกัน ผู้ขอจะต้องเป็นผู้ดำเนินการหลักและ หรือผลงานทางวิชาการ ให้เกิดการถ่ายทอด
มีปริมาณผลงานรวมแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ เป็นเรื่องราว แสดงให้เห็นถึงคุณค่าทาง
50 วิชาการที่ประกอบด้วย การแสดงข้อมูล หลัก
ฐาน ข้อคิดเห็น และประสบการณ์รวมทั้งทำ
หน้าที่รับผิดชอบติดต่อกับบรรณาธิการ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 28
8.1.6 ลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ (ต่อ) 2021
ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
ผู้ดำเนินการหลัก (Corresponding author) 2. ถ้าเป็นงานที่ผู้ขอมีส่วนร่วมในผลงานทาง
หมายถึง บุคคลที่มีบทบาท และความรับผิดชอบ วิชาการต้องมีลักษณะดังนี้
สำคัญในการ 2.1 กรณีงานวิจัย ผู้ขอจะต้องเป็นผู้
ออกแบบการวิจัย (Research Design) ประพันธ์อันดับแรก (First author) หรือผู้มี
การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) ส่วนสำคัญทางปัญญา (Essentially
และการสรุปผลการวิจัยและให้ข้อเสนอแนะ intellectual contributor) หรือผู้ประพันธ์
(Research Summary and Recommendation) บรรณกิจ (Corresponding author) ในเรื่อง
รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินการหลักในการเผยแพร่ผลงาน นั้น
ดังกล่าว ทั้งนี้ ผลงานวิจัยแต่ละเรื่องควรมีผู้ดำเนิน
การหลัก (Corresponding author) ได้เพียง 2.2 กรณีผลงานทางวิชาการกลุ่มอื่นที่มิใช่
คนเดียว เว้นแต่กรณีอื่นตามที่ ก.พ.อ. กำหนด งานวิจัย ผู้ขอจะต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก
(First author) หรือผู้มีส่วนสำคัญทาง
2.3 การลงนามรับรองการมีส่วนร่วมในผลงาน ปัญญา (Essentially intellectual
ทางวิชาการ หากมีการเสนอผลงานทางวิชาการที่มี
ผู้ร่วมงานหลายคนจะต้องให้ผู้ร่วมงานทุกคนลง contributor) ในเรื่องนั้น
นามรับรองว่า แต่ละคนมีส่วนร่วมในผลงานเรื่อง 3. ผู้ขอกำหนดตำแหน่งจะต้องยื่นแบบแสดง
นั้น ร้อยละเท่าใด รวมทั้งระบุบทบาทหน้าที่และ หลักฐานการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ
ความรับผิดชอบในผลงานนั้น ทั้งนี้ หากไม่สามารถ สำหรับผลงานทางวิชาการทุกผลงาน
ติดต่อ ผู้ร่วมงานให้ลงนามรับรองได้ครบทุกคนให้ 4. การลงนามรับรองการมีส่วนร่วมในผลงาน
ดำเนินการดังนี้ ทางวิชาการต้องมีการลงนามโดยผู้ขอ ผู้
ประพันธ์อันดับแรก (First author) และผู้
(1) กรณีที่ไม่สามารถติดต่อผู้ร่วมงานทุกคนให้ ประพันธ์บรรณกิจ (Corresponding author)
ลงนามรับรองได้ให้ระบุจำนวนผู้ร่วมงานทุกคน เพื่อรับรองบทบาทหน้าที่การปฏิบัติงานและ
และให้ถือว่าผู้ร่วมงานทุกคนมีส่วนร่วมในผล ความรับผิดชอบในการสร้างสรรค์ผลงานของ
งานทางวิชาการเท่าเทียมกัน ผู้ร่วมงานทุกคนว่าทำในส่วนไหนอย่างไร
(2) กรณีผู้ร่วมงานบางคนไม่สามารถลงนาม การลงนามรับรองการมีส่วนร่วมในผลงาน
รับรองการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการได้
ให้มีการลงนามรับรองโดยหัวหน้าภาควิชาหรือ แต่ละเรื่องเมื่อได้ลงนามรับรองแล้วจะ
คณบดี และผู้ขอเป็นอย่างน้อย พร้อมทั้ง เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นที่ผู้นั้นไม่สามารถลง
นามได้ หรือเหตุผลที่ไม่สามารถระบุการมีส่วน คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 29
ร่วมของผู้นั้นให้ชัดเจน
8.1.6 ลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ (ต่อ) 2021
ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2560 ประกาศ ก.พ.อ.ฯ พ.ศ. 2563
เพื่อประกอบการพิจารณาด้วยทั้งนี้ให้คณะ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ขอกำหนด
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทำหน้าที่ประเมินผล ตำแหน่งระบุการมีส่วนร่วมไม่ตรงกับความเป็น
งานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณ จริง จะถือว่าการกระทำของผู้นั้นเข้าข่ายผิด
ทางวิชาการเป็นผู้พิจารณาเหตุผลความจำเป็น จริยธรรมไม่เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณา
ดังกล่าว แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ โดยให้
การลงนามรับรองการมีส่วนร่วมในผลงานแต่ละ สถาบันอุดมศึกษาสอบหาข้อเท็จจริงและดำเนิน
เรื่องเมื่อได้ลงนามรับรองแล้วจะเปลี่ยน แปลง การทางวินัยต่อไป
ไม่ได้หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ขอกำหนด
ตำแหน่งระบุการมีส่วนร่วมไม่ตรงกับความเป็น
จริงจะถือว่าการกระทำของผู้นั้นเข้าข่ายผิด
จริยธรรมไม่เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาแต่ง
ตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการโดยให้สถาบัน
อุดมศึกษาสอบหาข้อเท็จจริงและดำเนินการทาง
วินัยต่อไป
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 30
8.1.7 การลงโทษ
1.กรณีที่ตรวจพบว่าผู้ขอระบุการมีส่วนร่วมในผลงานไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือมี
พฤติการณ์ส่อว่ามีการลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่น หรือนำผลงานทางวิชาการ
ของผู้อื่นไปใช้ในการเสนอขอตำแหน่งทางวิชาการโดยอ้างว่าเป็นผลงานทางวิชาการของ
ตนเอง หรือนำผลงานของตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการมากกว่า
หนึ่งฉบับ หรือคัดลอกข้อความใด ๆ จากผลงานเดิมของตนโดยไม่อ้างอิงผลงานเดิมตาม
หลักวิชาการ ทั้งนี้ ในลักษณะที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่ หรือละเลยหรือละเมิด
สิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นหรือสิทธิมนุษยชน เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและกระทำ
การใด ๆ ที่เบี่ยงเบนผลการศึกษาหรือวิจัยและไม่เสนอผลงานตามความเป็นจริง
มาตรการลงโทษ ให้สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติให้งดการพิจารณาการขอตำแหน่งทางวิชาการใน
ครั้งนั้น และดำเนินการทางวินัยตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดเป็นกรณี ๆ ไป
และห้ามผู้กระทำผิดนั้นเสนอขอตำแหน่งทางวิชาการมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี
นับตั้งแต่วันที่สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติ
2. กรณีที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการไปแล้ว หากภายหลังตรวจ
สอบพบหรือทราบว่า ผลงานทางวิชาการที่ใช้ในการเสนอขอตำแหน่งทางวิชาการครั้งนั้น
เป็นการลอกเลียนผลงานของผู้อื่นหรือนำเอาผลงานของผู้อื่นไปใช้ โดยอ้างว่าเป็นผลงาน
ของตนเองหรือนำผลงานของตนเองในเรื่องเดียวกัน ไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการมาก
กว่าหนึ่งฉบับหรือคัดลอกข้อความใดๆ จากผลงานเดิมของตน โดยไม่อ้างอิงผลงานเดิม
ตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ในลักษณะที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่ หรือละเลยหรือละเมิด
สิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นหรือสิทธิมนุษยชน เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และกระทำ
การใด ๆ ที่เบี่ยงเบนผลการศึกษาหรือวิจัยและไม่เสนอผลงานตามความเป็นจริง
มาตรการลงโทษ ให้สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติถอดถอนตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และรอง
ศาสตราจารย์ สำหรับตำแหน่งศาสตราจารย์ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาเสนอความเห็นต่อ
ก.พ.อ. เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถอดถอน และดำเนินการทาง
วินัยตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดเป็นกรณีๆไป และห้ามผู้กระทำผิดนั้นเสนอ
ขอตำแหน่งทางวิชาการมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี แต่ไม่เกินสิบปี นับตั้งแต่วันที่สภาสถาบัน
อุดมศึกษามีมติให้ถอดถอนหรือนับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถอดถอน แล้วแต่กรณี
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 31
8.2 ประเภทผู้บริหาร
ผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการ
หรือหัวหน้าสำนักงานเลขานุการ สำนักงานอธิการบดี
*** อยู่ระหว่างการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการเข้าสู่ตำแหน่ง ***
8.3 ประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะและ
ประเภททั่วไปประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ
ปฏิบัติการ ชำนาญการ ชำนาญการ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญ
พิเศษ พิเศษ
ประเภททั่วไป ชำนาญงาน ชำนาญงาน
พิเศษ
ปฏิบัติงาน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 32
8.3.1 องค์ประกอบการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น
พิจารณา ดังนี้
1 กรอบตำแหน่ง
2 การประเมินค่างาน
3 การประเมินบุคคล
และผลงาน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 33
1) กรอบตำแหน่ง
การกำหนดกรอบตำแหน่งของทุกหน่วยงาน ควรมีระดับใด จำนวนเท่าใด ต้องยึด
หลักการวิเคราะห์ภารกิจของหน่วยงาน และประเมินค่างานเพื่อวัดคุณภาพของ
ตำแหน่งตามลักษณะงาน หน้าที่ และความรับผิดชอบ คุณภาพ และความยุ่งยาก
ของงาน ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่ต้องการในการปฏิบัติงานตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ ก.พ.อ. และมหาวิทยาลัยกำหนด ดังนี้
โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งประกาศเป็นส่วนราชการตาม
กฎหมาย รวมถึงการแบ่งส่วนงานภายในตามมติสภามหาวิทยาลัย
ต้องสอดคล้องกับกรอบของตำแหน่งและแผนพัฒนากำลังคนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
การกำหนดระดับตำแหน่งใดให้สูงขึ้น ตำแหน่งนั้นจะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบ
คุณภาพ และความยุ่งยากของานในตำแหน่งเพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ
ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตรงตามมาตรฐานภาระงานของ
ตำแหน่งและระดับตำแหน่งที่ ก.พ.อ.และมหาวิทยาลัยกำหนด
2) การประเมินค่างาน
ก. องค์ประกอบหลักการประเมินค่างาน
1. ระดับชำนาญงาน และชำนาญงานพิเศษ ระดับชำนาญการ
และชำนาญการพิเศษ
(1) หน้าที่และความรับผิดชอบ
(2) ความยุ่งยากของงาน
(3) การกำกับตรวจสอบ
(4) การตัดสินใจ
ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงาน เพิ่มองค์ประกอบด้าน “การบริหารจัดการ”
2. ระดับเชี่ยวชาญและระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
(1) ความรู้และทักษะที่จำเป็นในงาน
- ความรู้และความชำนาญงาน
- การบริหารจัดการ
- การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์
(2) ความสามารถในการตัดสินใจและแก้ปัญหา
- กรอบแนวความคิดในการแก้ปัญหา
- อิสระในการคิด
- ความท้าทายในงาน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 34
2) การประเมินค่างาน (ต่อ)
(3) ด้านภาระงานที่รับผิดชอบ
- การวิเคราะห์ข้อมูล
- อิสระในการปฏิบัติงาน
- ผลกระทบจากการปฏิบัติงาน
- ลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่ง
ข. แบบประเมินค่างาน
กำหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายข้อบังคับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วย การกำหนดระดับตำแหน่ง
และการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น พ.ศ. 2559 ดังนี้
เอกสารแนบ 1 : หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินค่างานสำหรับตำแหน่งประเภททั่วไป
ระดับชำนาญงาน และระดับชำนาญงานพิเศษ
เอกสารแนบ 2 : หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินค่างานสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ระดับชำนาญการ และระดับชำนาญการพิเศษ
เอกสารแนบ 3 : หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินค่างานสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
เอกสารแนบ 4 : หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินค่างานสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ
หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ และระดับเชี่ยวชาญ กรณี
ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยงานที่มีลักษณะใช้วิชาชีพและไม่ได้ใช้วิชาชีพ
ค. การพิจารณาแต่งตั้ง
การพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงระดับตำแหน่งสูงขึ้น ประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน
ระดับชำนาญงานพิเศษ ประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ระดับชำนาญการ ระดับ
ชำนาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับเชี่ยวชาญพิเศษ สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย
ให้คณะกรรมการประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้ดำเนินการ
ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.อ. และสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีกำหนด
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 35
3) การประเมินบุคคลและผลงาน
ก. หลักเกณฑ์
1. การประเมินค่างาน มีผลการประเมินค่างานผ่านเกณฑ์และได้รับอนุมัติแล้วตามหลัก
เกณฑ์และวิธีการมหาวิทยาลัยกำหนด
2. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ด้านคุณวุฒิ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง และอัตราเงินเดือน
ไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของระดับตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง
3. ผลสัมฤทธิ์ของงานตามตัวชี้วัดของตำแหน่งที่ครองอยู่
4. ความรู้ ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่จะประเมิน
5. ผลงานที่แสดงความเป็นผู้ชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ ชำนาญการ ชำนาญการ
พิเศษ เชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ
6. จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาชีพ
7. การใช้ความรู้ความสามารถในงานสนับสนุนงานบริการวิชาการหรืองานวิชาชีพบริการ
ต่อสังคม
8. ความเป็นที่ยอมรับในงานด้านนั้น ๆ หรือในวงวิชาการหรือวิชาชีพ
หมายเหตุ :
ข้อ 1 - 6 ระดับชำนาญงาน ชำนาญงานพิเศษ ชำนาญการและระดับชำนาญการพิเศษ
ข้อ 1 – 7 ระดับเชี่ยวชาญ
ข้อ 1 – 8 ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 36
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ข. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งและผลงาน
ประเภททั่วไป
ระดับตำแหน่งเดิม-ใหม่ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลงาน
เดิม -> ปฏิบัติงาน (1) มีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิ คู่มือปฏิบัติงานหลัก
ใหม่ -> ชำนาญงาน อย่างอื่นที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้และต้องดำรง อย่างน้อย 1 เล่ม
ตำแหน่งในระดับปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า
6 ปี หรือ
(2) มีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค หรือ
คุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ และต้อง
ดำรงตำแหน่งในระดับปฏิบัติงานมาแล้วไม่
น้อยกว่า 5 ปี หรือ
(3) มีวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ
คุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้ และต้อง
ดำรงตำแหน่งในระดับปฏิบัติงานมาแล้วไม่
น้อยกว่า 4 ปี
เดิม -> ชำนาญงาน (1) ต้องดำรงตำแหน่งระดับชำนาญงาน คู่มือปฏิบัติงานหลักอย่าง
ใหม่ -> ชำนาญงาน มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี น้อย 1 เล่ม และผลงานเชิง
วิเคราะห์ ซึ่งแสดงให้เห็น
พิเศษ (2) ต้องได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำ ถึงการพัฒนางานในหน้าที่
ของตำแหน่งระดับชำนาญงานพิเศษ อย่างน้อย 1 เรื่อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 37
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ประเภทวิชาชีพเฉพาะ และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ
ระดับตำแหน่งเดิม-ใหม่ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลงาน
เดิม-> ปฏิบัติการ (1) ได้รับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่ คู่มือปฏิบัติงานหลัก
ใหม่ -> ชำนาญการ เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้และต้องดำรงตำแหน่ง อย่างน้อย 1 เล่ม และ
ระดับปฏิบัติการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี ผลงานเชิงวิเคราะห์
(2) ได้รับปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่ หรือ สังเคราะห์ หรืองาน
เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้และต้องดำรงตำแหน่ง วิจัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึง
ระดับปฏิบัติการมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี การพัฒนางานในหน้าที่
(3) ได้รับปริญญาเอก หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่ อย่างน้อย 1 เรื่อง
เทียบได้ไม่ต่ำกว่านี้และต้องดำรงตำแหน่ง
ระดับปฏิบัติการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
เดิม -> ชำนาญการ (1) ต้องดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการ ผลงานเชิงวิเคราะห์ หรือ
ใหม่ -> ชำนาญการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สังเคราะห์ซึ่งแสดงให้เห็น
ถึงการพัฒนางานของ
พิเศษ (2) ต้องได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำ หน่วยงาน อย่างน้อย 1
ของตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ เรื่อง และ งานวิจัยหรือ
ผลงานลักษณะอื่นที่
ประโยชน์ต่อหน่วยงาน
อย่างน้อย 1 เรื่อง/
รายการ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 38
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ประเภทวิชาชีพเฉพาะ และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ (ต่อ)
ระดับตำแหน่งเดิม-ใหม่ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลงาน
เดิม-> ชำนาญการ (1) ต้องดำรงตำแหน่งระดับชำนาญการพิเศษ ผลงานเชิงวิเคราะห์ หรือ
พิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี สังเคราะห์หรือผลงาน
ลักษณะอื่น ซึ่งแสดงให้
ใหม่ -> เชี่ยวชาญ (2) ต้องได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำ เห็นถึง การพัฒนางาน
ของตำแหน่งระดับเชี่ยวชาญ ของสถาบันอุดมศึกษา
อย่างน้อย 1 เรื่อง/
รายการ และ งานวิจัย ตี
พิมพ์เผยแพร่ระดับชาติ
หรือนานาชาติ อย่างน้อย
1 เรื่อง
การใช้ความรู้ความ
สามารถในงานสนับสนุน
งานบริการวิชาการหรือ
งานวิชาชีพบริการต่อ
สังคม : เช่น
- การให้ความเห็น คำ
แนะนำ หรือเสนอแนะการ
ให้คำปรึกษาแนะนำ
- การอบรมและเผยแพร่
ความรู้เกี่ยวกับหลักการ
แนวทาง ระบบ รูปแบบ
เทคนิคและวิธีการในการ
แก้ไขปัญหาหรือ
- การพัฒนางานสนับสนุน
งานบริการวิชาการหรือ
งานวิชาชีพนั้นๆ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 39
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ประเภทวิชาชีพเฉพาะ และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ (ต่อ)
ระดับตำแหน่งเดิม-ใหม่ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลงาน
เดิม-> เชี่ยวชาญ (1) ต้องดำรงตำแหน่งระดับเชี่ยวชาญ ผลงานเชิงวิเคราะห์
ใหม่ -> เชี่ยวชาญ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือสังเคราะห์หรือผล
งานลักษณะอื่นซึ่งแสดง
พิเศษ (2) ต้องได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำ ให้เห็นถึงการพัฒนางาน
ของตำแหน่งระดับเชี่ยวชาญพิเศษ ของสถาบันอุดมศึกษา
อย่างน้อย 1 เรื่อง
/รายการ และ งานวิจัย
ตีพิมพ์เผยแพร่ระดับ
ชาติหรือนานาชาติ
อย่างน้อย 1 เรื่อง
การใช้ความรู้ความ
สามารถในงานสนับสนุน
งานบริการวิชาการหรือ
งานวิชาชีพบริการต่อ
สังคม : เช่น
-การให้ความเห็นคำแนะ
นำหรือเสนอแนะ
-การให้คำปรึกษาแนะนำ
-การอบรมและเผยแพร่
ความรู้เกี่ยวกับหลักการ
แนวทาง ระบบ รูปแบบ
เทคนิคและวิธีการในการ
แก้ไขปัญหาหรือ
-การพัฒนางานสนับ สนุน
งานบริการวิชาการหรือ
งานวิชาชีพนั้นๆ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 40
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ประเภทวิชาชีพเฉพาะ และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ (ต่อ)
ระดับตำแหน่งเดิม-ใหม่ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ผลงาน
เดิม-> เชี่ยวชาญ ความเป็นที่ยอมรับใน
ใหม่ -> เชี่ยวชาญ งานด้านนั้นๆ หรือในวง
วิชาการหรือวิชาชีพ
พิเศษ หมายถึง ผลงานได้รับ
การยอมรับยกย่อง
หรือได้รับรางวัลในระดับ
ชาติ หรือผลการปฏิบัติ
งานสนับสนุนงานบริการ
วิชาการหรืองานวิชาชีพ
หรือในงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่าง
กว้างขวางในระดับชาติ
หรือระดับนานาชาติ
เงื่อนไขผลงาน
1. ไม่เป็นส่วนของการศึกษาและการฝึกอบรม
2. ไม่ใช่ผลงานเดิมที่เคยใช้ในการประเมินมาแล้ว
3. กรณีเป็นผลงานร่วม ต้องระบุการมีส่วนร่วม
และคำรับรองจากผู้มีส่วนร่วมทุกคน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 41
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ค. ผลสัมฤทธิ์ของงานตามตัวชี้วัดของตำแหน่งที่ครองอยู่
ระดับตำแหน่ง
ระดับชำนาญงาน
ระดับชำนาญงานพิเศษ
ระดับชำนาญการ
ระดับชำนาญการพิเศษ
ผลสัมฤทธิ์ของงาน
ต้องมีผลการประเมินผลการปฏิบัติราชการ
องค์ประกอบที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ของงาน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม
(กำหนดคะแนนเต็ม 70 คิดเป็น 56 คะแนน) หรือ (กำหนดคะแนนเต็ม 80 คิดเป็น 64 คะแนน)
จำนวน 2 (สอง) รอบการประเมินติดต่อกันก่อนวันยื่น
ระดับตำแหน่ง
ระดับเชี่ยวชาญ
ระดับเชี่ยวชาญพิเศษ
ผลสัมฤทธิ์ของงาน
ต้องมีผลการประเมินผลการปฏิบัติราชการ
องค์ประกอบที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ของงาน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของคะแนนเต็ม
(กำหนดคะแนนเต็ม 70 คิดเป็น 63 คะแนน) หรือ (กำหนดคะแนนเต็ม 80 คิดเป็น
72 คะแนน) จำนวน 2 (สอง) รอบการประเมินติดต่อกันก่อนวันยื่น
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 42
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
ง. ความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่ประเมิน
1. ความรู้ความสามารถ ทักษะ ได้แก่
1. ความรู้ความสามารถที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน
2. ความรู้เรื่องกฎหมายและกฎระเบียบราชการ
3. ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
4. ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ
5. ทักษะการคำนวณ
6. ทักษะการจัดการข้อมูล
ทั้งนี้ผู้ขอกำหนดตำแหน่ง – ต้องผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด โดยมีผลการ
ประเมินไม่ต่ำกว่าระดับที่คาดหวังที่มหาวิทยาลัยกำหนดพร้อมจัดส่งเอกสารหลัก
ฐานอ้างอิงประกอบการยื่นขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้น มหาวิทยาลัยกำหนดให้มี
การประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ โดยคณะกรรมการจัดการทดสอบฯ
2. สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งที่ประเมิน
สมรรถเฉพาะตามลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามแต่ละประเภทตำแหน่งและระดับ
ตำแหน่งตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด (ซึ่งจะไม่เหมือนกัน) อย่างน้อยมี 3 ด้านขึ้นไป
ทั้งนี้ ผู้ขอกำหนดตำแหน่ง – ต้องผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด โดยมีผลการ
ประเมินไม่ต่ำกว่าระดับที่คาดหวังที่มหาวิทยาลัยกำหนด พร้อมจัดส่งเอกสารหลัก
ฐานอ้างอิงประกอบการยื่นขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้น โดยที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้
ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ประเมิน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 43
3) การประเมินบุคคลและผลงาน (ต่อ)
จ. จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
กำหนดดังนี้
1. ต้องมีความซื่อสัตย์ทางวิชาชีพ ไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงาน
ของตน และไม่ลอกเลียนผลงานของผู้อื่น รวมทั้งไม่นำผลงานของ
ตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการหรือวิชาชีพ
มากกว่าหนึ่งฉบับในลักษณะที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่
2. ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้ใน
ผลงานทางวิชาชีพของตนเองและแสดงหลักฐานของการค้นคว้า
3. ต้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาชีพจนละเลยหรือละเมิดสิทธิส่วน
บุคคลของผู้อื่ นและสิทธิมนุษยชน
4. ผลงานทางวิชาชีพต้องได้มาจากการศึกษาโดยใช้หลักวิชาชีพเป็น
เกณฑ์ไม่มีอคติมาเกี่ยวข้อง และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไม่
จงใจเบี่ยงเบนผลการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือวิจัย โดยหวังผล
ประโยชน์ส่วนตัว หรือต้องการสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่นและเสนอ
ผลงานตามความเป็นจริงไม่ขยายข้อค้นพบโดยปราศจากการตรวจ
สอบยืนยันในทางวิชาชีพ
5. ต้องนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
6. ได้ปฏิบัติตามจรรยาบรรณทางวิชาชีพที่องค์กรวิชาชีพนั้น ๆ กำหนด
" ทั้งนี้จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพนี้ ใช้ประเมินทุกประเภท
และระดับตำแหน่ง "
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 44
มาตรการและบทลงโทษ
สภามหาวิทยาลัย กำหนดตามมาตรการป้องกันและลงโทษผู้ขอกำหนด
ตำแหน่งอันส่อให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณ อันเกี่ยว
ข้องกับผลงานทางวิชาชีพและเป็นผู้มีความประพฤติไม่เหมาะสมที่จะได้รับการ
พิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาชีพตามที่ ก.พ.อ. กำหนด 2 กรณีคือ
กรณีที่ 1 ยังไม่ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หากพบว่าการมีส่วนร่วมไม่
ตรงกับความเป็นจริง หรือพฤติการณ์ส่อว่าลอกเลียนผลงานของผู้อื่นหรือ
นำผลงานของผู้อื่ นมาใช้ขอตำแหน่งโดยอ้างว่าเป็นผลงานของตน
มาตรการลงโทษ :
ให้สภามหาวิทยาลัยมีมติให้งดการพิจารณาในครั้งนั้นและดำเนินการทางวินัย
ตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดเป็นกรณี ๆ ไป และห้าม
เสนอขอตำแหน่งสูงขึ้น มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่สภา
มหาวิทยาลัยมีมติ
กรณีที่ 2 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแล้ว หากภายหลังตรวจสอบ
พบหรือทราบว่า ผลงานที่ใช้ขอตำแหน่งครั้งนั้น เป็นการลอกเลียนผลงาน
ของผู้อื่น หรือนำผลงานผู้อื่นไปใช้โดยอ้างว่า เป็นผลงานของตน
มาตรการลงโทษ :
ให้สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอนตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง และดำเนินการทาง
วินัยตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดเป็นกรณี ๆ ไป และห้าม
เสนอขอตำแหน่งสูงขึ้นมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ วันที่สภา
มหาวิทยาลัยมีมติ สำหรับกรณีตำแหน่งเชี่ยวชาญพิเศษให้สภามหาวิทยาลัย
เสนอความเห็นต่อ ก.พ.อ. เพื่อนำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรด
เกล้าฯถอดถอน และดำเนินการทางวินัยและห้ามขอตำแหน่ง 5 ปี นับตั้งแต่วันที่
สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอนหรือนับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ถอดถอนแล้วแต่กรณี
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 45
การยื่นขอทบทวน
ผลการพิจารณาผลงานทางวิชาชีพ
ผู้เสนอขอกำหนดตำแหน่งสูงขึ้นเสนอขอทบทวนผลการพิจารณาต่อ
สภามหาวิทยาลัย " ภายใน 90 วัน ตั้งแต่วันที่ทราบมติ " และสามารถ
เสนอ ขอทบทวนผลการพิจารณาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง โดยแสดงเหตุผล
ทางวิชาชีพสนับสนุนการขอทบทวนดังกล่าว
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 46
9. การพพััฒฒนนาาบบุุคคลลาากกรร
9.1 พัฒนาสมรรถนะบุคลากร
พนักงานมหาวิทยาลัยจะได้รับการพัฒนาสมรรถนะตามประเภท
ตำแหน่ง ได้แก่ สายวิชาการ สายสนับสนุน (ประเภทวิชาชีพเฉพาะ
หรือเชี่ยวชาญเฉพาะ หรือทั่วไป) และผู้บริหาร เพื่อให้เป็นไปตาม
แผนพัฒนาสมรรถนะของมหาวิทยาลัย ซึ่งแผนพัฒนาสมรรถนะ
บุคลากร แบ่งเป็น 4 แผน ดังนี้
1. แผนพัฒนาสมรรถนะบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์
2. แผนพัฒนาสมรรถนะบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานประจำ
3. แผนพัฒนาสมรรถนะผู้บริหาร
4. แผนพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล
9.2 พัฒนาคุณวุฒิบุคลากร
มหาวิทยาลัยจัดตั้งกองทุนพัฒนาบุคลากร โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อจัดสรรทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมบุคลากรให้มีคุณวุฒิสูงขึ้น ทั้งใน
ระดับปริญญาโท และปริญญาเอก
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 47