10. สวัสดิการและสิทธิประโยชน์
10.1 ด้านสุขภาพ ได้แก่
1) ประกันสังคม
กองทุนประกันสังคม เป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่ม
ของสมาชิกที่มีรายได้ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิด
ชอบเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ
ตาย สงเคราะห์ ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และ
มีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่องโดยผู้ประกันตน คือ ลูกจ้างที่มีอายุไม่ต่ำ
กว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันเข้าทำงาน และทำงานอยู่ใน
สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
ผู้ที่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ได้แก่ รัฐบาล นายจ้าง
ลูกจ้าง โดยนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน โดยคำนวณจากค่าจ้างที่
ลูกจ้างได้รับ ในอัตราร้อยละ 5 ซึ่งฐานค่าจ้างที่จะนำมาคำนวณต่ำสุดเดือนละ
1,650 บาท และสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15 ,000 บาท (เงินสมทบขั้นต่ำเดือน
ละ 83 บาท และไม่เกินเดือนละ 750 บาท) ทั้งนี้รัฐบาลจะออกเงินสมทบเข้า
กองทุนอีกส่วนหนึ่ง
การขึ้นทะเบียนประกันสังคม
1.สำหรับผู้ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนประกันสังคม : ให้ยื่นแบบ สปส 1-03
โดยกรอกรายละเอียดการเลือกโรงพยาบาล (ที่ไม่เต็ม) เรียงลำดับ 1-3
ให้ครบถ้วน
2.สำหรับผู้ที่เคยขึ้นทะเบียนประกันสังคม : ให้ยื่นแบบ สปส 1-03 โดย
กรอกรายละเอียดระบุว่าจะใช้โรงพยาบาลเดิมหรือไม่ การเลือกโรง
พยาบาล (ที่ไม่เต็ม) เรียงลำดับ 1-3 ให้ครบถ้วน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 48
การตรวจสอบข้อมูลประกันสังคม
ผู้ประกันตนไม่ต้องพกบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล และตรวจสอบ
สิทธิรักษาด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ ทั้ง www.sso.go.th ,
Mobile Application (SSO Connect) , SSO NEWS , MY SSO
หรือ "โทรสายด่วน 1506" รวมถึงการใช้บัตรประชาชนแบบ Smart
Card มาใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ทันที
การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม
1.ยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม ต้องใช้แบบฟอร์ม สปส. 9-02
และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2.ยื่นผ่านระบบออนไลน์ สามารถเปลี่ยนเองได้โดยไม่ต้องยื่นเอกสาร
ผู้ประกันตนที่ยื่นเปลี่ยนโรงพยาบาลใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลใหม่ได้หลังจาก
ยื่นเรื่องแล้ว เราสามารถใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ตาม
เงื่อนไข ดังนี้
1.กรณีสำนักงานประกันสังคม รับเอกสารขอเปลี่ยนโรงพยาบาล ระหว่าง
วันที่ 1 ถึง 15 (ก่อน 16.30 น.ของวันที่ 15) สามารถเข้ารับบริการ
ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งใหม่ได้ในวันที่ 16 ของเดือนนั้น
2.กรณีสำนักงานประกันสังคม รับเอกสารขอเปลี่ยนโรงพยาบาล ระหว่าง
วันที่ 16 ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือน (ก่อน 16.30 น.ของวัน
สุดท้ายของเดือน) สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ของโรง
พยาบาลแห่งใหม่ได้ในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป
3.กรณีต้องการใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลเดิม หากต้องการใช้สิทธิประกัน
สังคมที่โรงพยาบาลเดิม ไม่ต้องการย้ายโรงพยาบาลเราสามารถใช้สิทธิ์
ต่อเนื่องได้เลย โดยไม่ต้องทำเรื่องขอเปลี่ยนโรงพยาบาลแต่อย่างใด
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 49
กรณีไม่ได้สิทธิ์โรงพยาบาลที่เลือกไว้ อาจเป็นเพราะโรงพยาบาลที่เราเลือกไว้
นั้นรับผู้ประกันตนครบเต็มจำนวนแล้ว สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงาน
ประกันสังคม หรือโทร. 1506
สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตน : ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตน 7 กรณี
กรณีที่ 1 กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ไม่เกี่ยวกับการทำงาน
1.1 กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
1.2 กรณีเจ็บป่วยทั่วๆ ไป
1.3 กรณีทันตกรรม (ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และใส่ฟันเทียม)
1.4 กรณีการรักษาโรคมะเร็ง 7 ชนิด
กรณีที่ 2 กรณีคลอดบุตร
2.1 ผู้ประกันตนหญิง มีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตรา
15,000 บาทต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง และเงินสงเคราะห์การ
หยุดงานเพื่อการคลอดบุตรในอัตราร้อยละ 50% ของค่าจ้าง
เฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
2.2 ผู้ประกันตนชาย (ใช้สิทธิเบิกค่าคลอดให้ภรรยา) มีสิทธิได้รับ
ค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตรา 15,000 บาทต่อการคลอด
บุตร 1 ครั้ง
กรณีที่ 3 กรณีทุพพลภาพ
หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า
3 เดือนภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันที่คณะกรรมการแพทย์
กำหนดให้เป็นทุพพลภาพ โดยจะได้รับ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 50
1.ค่ารักษาพยาบาล เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท
2.เงินทดแทนการขาดรายได้ ได้รับในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็น
รายเดือนตลอดชีวิต ค่าอวัยวะเทียม / อุปกรณ์ / อุปกรณ์ในการ
บำบัดรักษาโรค
3. ค่าทำศพ
กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตาย ผู้จัดการศพมีสิทธิ
ได้รับค่าทำศพ 40,000 บาทเงินสงเคราะห์
กรณีผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงแก่ความตายผู้มีสิทธิได้รับดังนี้
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง
10 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยหนึ่งเดือนครึ่ง
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปจะได้รับ
เงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยห้าเดือน
กรณีที่ 4 กรณีเสียชีวิต
หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ จ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีตาย
มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือนภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนวันถึงแก่ความ
ตาย โดยจะได้รับ
1.ผู้จัดการศพ มีสิทธิได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท
2.ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย ดังนี้
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 10 ปี
จะได้รับเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยหนึ่งเดือนครึ่ง
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน
สงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ยห้าเดือน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 51
กรณีที่ 5 กรณีสงเคราะห์บุตร
หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ จ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีสงเคราะห์
บุตรมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือนก่อนเดือน ที่มี
สิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนและเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา
39 โดยให้ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่ง
คน ตามเงื่อนไข ดังนี้
1.เงินสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปี
บริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 2 คน (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายดัง
กล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของ
บุคคลอื่ น)
2. ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับ
บุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพ
หรือถึงแก่ความตายในขณะที่บุตรมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้
รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
3.ในกรณีที่ผู้ประกันตนชายไม่ได้จดทะเบียนสมรส บุตรจึงมิใช่บุตรชอบ
ด้วยกฎหมายของผู้ประกันตนชายสามารถดำเนินการให้บุตรเป็นบุตรชอบ
ด้วยกฎหมายได้ 3 วิธีคือ
จดทะเบียนสมรสกับมารดาของบุตร
จดทะเบียนรับรองบุตร
ยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบุตร
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 52
กรณีที่ 6 กรณีชราภาพ
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำนาญชราภาพ ดังนี้
1.จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือนไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือน
จะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
2.มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
3. ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
1.กรณีจ่ายเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงิน
บำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย
60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็น
ผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
2.กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญ
ชราภาพตาม ข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงิน
สมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180
เดือน
กำหนดเวลาการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน
ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิจะต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี
นับแต่วันที่มีสิทธิขอรับประโยชน์ทดแทน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 53
กรณีที่ 7 กรณีว่างงาน
หลักเกณฑ์ที่จะทำให้ท่านมีสิทธิ คือ จ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีว่างงาน
มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน โดย
มีเงื่อนไข ดังนี้
1. ต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ
2.มีความสามารถในการทำงาน และพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมตามที่
จัดหาให้
3. ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน
4.ต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางาน ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
5.ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณีทุจริตต่อหน้าที่ กระทำผิด
อาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบ
ด้วยกฎหมายใน กรณีร้ายแรงละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อ
กัน โดยไม่มีเหตุอันควร ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความ
เสียหายอย่างร้ายแรง ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
6. ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
7.มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 นับแต่วันว่างงานจากการ
ทำงานกับนายจ้างรายสุดท้าย
8.ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39
สิทธิที่ท่านจะได้รับประโยชน์ทดแทน
กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน
180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างโดยคำนวณจากฐานเงินสมทบ
สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 54
กรณีสมัครใจลาออก ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่
เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง โดยคำนวณจากฐานเงิน
สมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท หากใน 1 ปีปฏิทินมีการยื่นขอรับเงิน
ทดแทนระหว่างการว่างงานเกินกว่า 1 ครั้ง ให้นับระยะเวลาการรับเงิน
ทดแทนระหว่างการว่างงานรวมกันไม่เกิน 180 วัน การจ่ายเงิน
ทดแทนการขาดรายได้จะจ่ายเป็นงวดเดือน โดยโอนเงินผ่านบัญชี
ธนาคารตามที่ผู้ประกันตนแจ้ง
หมายเหตุ :
สามารถติดต่อหลักฐานประกอบการขอรับเงินสิทธิประโยชน์ได้ที่ กองการ
เจ้าหน้าที่ หรือสำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วไป และเว็บไซต์กองการเจ้า
หน้าที่/เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม http://www.sso.go.th
2) ตรวจสุขภาพประจำปี
มหาวิทยาลัยจัดให้มีโครงการตรวจสุขภาพประจำสำหรับบุคลากร เพื่อให้
บุคลากรที่เข้าร่วมโครงการได้รับการตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคหากมีภาวะ
เสี่ยง แพทย์จะได้ให้คำแนะนำและป้องกันโรค ซึ่งจะส่งผลให้บุคลากรสุขภาพดี
และปฏิบัติงานอย่างมีความสุข โดยจัดเป็นปีงบประมาณ สำหรับโรงพยาบาล
ที่อยู่ในโครงการตรวจสุขภาพประจำปี ได้แก่
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 55
3) ศูนย์กีฬา
มหาวิทยาลัยจัดให้มีห้องส่งเสริมสุขภาพและสมรรถนะ สนามกีฬาแบบ
ลู่ยางสงเคราะห์ และมีสระว่ายน้ำให้บริการบุคลากรและนักศึกษา
10.2 ด้านการเงิน ได้แก่
1) เงินชดเชยกรณีมีคำสั่งให้ออกจากงานหรือสั่งเลิกจ้าง
พนักงานมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยมีคำสั่งให้ออกจากงานหรือสั่งเลิกจ้าง
ด้วยเหตุดังต่อไปนี้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยจากมหาวิทยาลัย
(1) เจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้สม่ำเสมอ
(2) มีการยุบหรือยกเลิกตำแหน่งหรือยุบหน่วยงานที่พนักงาน
มหาวิทยาลัยปฏิบัติหน้าที่อยู่
(3) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 9 (ข) (1) (2) (3) แห่งข้อบังคับ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วย การบริหารงานบุคคลสำหรับ
พนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2554 ซึ่งได้เกิดขึ้นภายหลังจาก
การแต่งตั้งเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
โดยให้มหาวิทยาลัยจ่ายเงินชดเชยแก่พนักงานมหาวิทยาลัยที่ถูกสั่ง
ให้ออกหรือสั่งเลิกจ้างด้วยเหตุตามกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้
(1) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 6 เดือน แต่ไม่ครบ
1 ปี ให้จ่ายเงินชดเชยจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราเงินเดือนซึ่ง
ได้รับในเดือนสุดท้ายก่อนวันถูกสั่งให้ออกหรือสั่งเลิกจ้าง
(2) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี
ให้จ่ายเงินชดเชยจำนวนไม่น้อยกว่าสามเท่าของเงินเดือนซึ่งได้รับใน
เดือนสุดท้ายก่อนวันถูกสั่งให้ออกหรือสั่งเลิกจ้าง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 56
(3) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี
ให้จ่ายเงินชดเชยจำนวนไม่น้อยกว่าหกเท่าของเงินเดือนซึ่งได้รับในเดือน
สุดท้ายก่อนวันถูกสั่งให้ออกหรือสั่งเลิกจ้าง
(4) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ
10 ปี ให้จ่ายเงินชดเชยจำนวนไม่น้อยกว่าแปดเท่าของเงินเดือนซึ่งได้รับ
ในเดือนสุดท้ายก่อนวันถูกสั่งให้ออกหรือสั่งเลิกจ้าง
(5) พนักงานมหาวิทยาลัยที่ได้ปฏิบัติงานติดต่อกันครบ 10 ปีขึ้นไป ให้จ่าย
เงินชดเชยจำนวนไม่น้อยกว่าสิบเท่าของเงินเดือนซึ่งได้รับในเดือน
สุดท้ายก่อนวันถูกสั่งให้ออกหรือสั่งเลิกจ้าง
2) เงินช่วยพิเศษกรณีถึงแก่กรรม
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้ออกประกาศมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเรื่อง
การจ่ายเงินช่วยพิเศษกรณีพนักงานมหาวิทยาลัยถึงแก่ความตาย พ.ศ. 2555
โดยพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ใดถึงแก่ความตายในระหว่างเป็นพนักงาน
มหาวิทยาลัย ให้จ่ายเงินช่วยพิเศษจำนวนสามเท่าของเงินเดือนเต็มเดือนที่
พนักงานมหาวิทยาลัยผู้นั้นมีสิทธิได้รับในเดือนที่ถึงแก่ความตาย
เงินช่วยพิเศษในกรณีนี้จะจ่ายให้แก่บุคคล ซึ่งพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ตาย
แสดงเจตนาโดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อหน่วยงานต้นสังกัดตามแบบฟอร์มที่
กำหนดแนบท้ายประกาศ ถ้าพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ตายมิได้ระบุชื่อผู้รับเงิน
เอาไว้ หรือบุคคลที่ระบุชื่อเอาไว้ถึงแก่ความตายก่อนพนักงานมหาวิทยาลัยผู้
ตายหรือก่อนมีการจ่ายเงิน ก็ให้จ่ายแก่บุคคลตามลำดับ ดังนี้
(1) คู่สมรส
(2) บุตร
(3) บิดามารดา
อนึ่งการขอรับเงินช่วยพิเศษให้กระทำภายในเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่พนักงาน
มหาวิทยาลัยผู้ซึ่งมีสิทธิรับเงินเดือนถึงแก่ความตายตามแบบขอรับเงินช่วย
พิเศษที่แนบท้ายประกาศ
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 57
3) สหกรณ์ออมทรัพย์
มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้บุคลากรรู้จักการประหยัดรู้จักการออมทรัพย์ และ
สามารถบริการเงินกู้ให้แก่สมาชิก เพื่อนำไปใช้จ่ายเมื่อเกิดจำเป็น โดยพนักงาน
มหาวิทยาลัย สามารถสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ประเภทสามัญได้
10.3 สิทธิการลา ได้แก่
ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.
2554 กำหนดประเภทการลาสำหรับพนักงานมหาวิทยาลัยไว้ 12 ประเภท
ดังนี้
1.ลาป่วย พักรักษาตัวเป็นเวลานานไม่เกิน 120 วัน (เกินไม่ได้รับเงินเดือน)
2.ลาคลอดบุตร ไม่เกิน 90 วัน (นับต่อเนื่อง)
3.ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร ลาติดต่อกันครั้งหนึ่งไม่เกิน 15 วัน
ทำการ ทั้งนี้เป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายและภายใน 90 วันนับแต่วัน
ที่คลอดบุตร
4.ลากิจส่วนตัว ไม่เกิน 45 วันทำการต่อปี
5.ลาพักผ่อน 10 วัน หลังผ่านประเมินทดลองแล้ว ปฏิบัติงานครบ 10 ปี
สะสมได้ไม่เกิน 20 วัน
6.ลาอุปสมบท หรือลาเพื่อไปประกอบพิธีฮัจย์
7.ลาเข้ารับการตรวจเลือก หรือเข้ารับการเตรียมพล
8.ลาไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงานหรือปฏิบัติการวิจัย (ดำเนินการหลักเกณฑ์
และวิธีการที่กำหนด)
9. ลาไปปฏิบัติงานองค์การระหว่างประเทศ
10. ลาติดตามคู่สมรส
11.ลาไปฟื้ นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ ครั้งหนึ่งไม่เกิน 12 เดือน
12. ลาตามกฎหมายอื่ นที่เกี่ยวข้อง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 58
10.4 ด้านที่พักอาศัย
1) หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรห้องพักในอาคารที่พักอาศัย
หลังที่ 1-4
1. จัดสรรให้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพนักงาน
มหาวิทยาลัยหรือลูกจ้างในสังกัดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ที่ยื่นคำขอรับการจัดสรรที่พักอาศัยทั้งนี้ได้มีการสำรองห้องพัก สำหรับ
จัด สรรให้นักเรียนทุนตามความต้องการของมหาวิทยาลัยในกรณี
สำเร็จการศึกษากลับมา รวมถึงสำรองห้องพักสำหรับจัดสรรให้กับ
บุคลากรที่พิการหรือทุพพลภาพอันเกิดจากการปฏิบัติงานให้
มหาวิทยาลัย รวมถึงบุคลากรที่มีความจำเป็นหรือเดือดร้อนอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับที่พักอาศัย เช่น เหตุอุทกภัย เหตุอัคคีภัย หรือวาตภัย หรือ
ภาวะสงครามหรือการจลาจล
2.พิจารณาโดยกำหนดเป็นค่าคะแนน ดังนี้
2.1 ประเภท
สายวิชาการ 5 คะแนน
สายสนับสนุน 3 คะแนน
2.2 สิทธิการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ
ผู้ไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ 5 คะแนน
2.3 อายุการทำงานในมหาวิทยาลัย
ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยไม่เกิน 2 ปี ได้ 1 คะแนน
ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย เกิน 2 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี ได้ 2 คะแนน
ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย เกิน 4 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ได้ 3 คะแนน
ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย เกิน 6 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปี ได้ 4 คะแนน
ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัย เกิน 8 ปีขึ้นไป ได้ 5 คะแนน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 59
2.4 ภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านมาถึงมหาวิทยาลัย
อยู่ในรัศมี 11-20 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัย ได้ 1 คะแนน
อยู่ในรัศมี 21-40 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัย ได้ 2 คะแนน
อยู่ในรัศมี 41-60 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัย ได้ 3 คะแนน
อยู่ในรัศมี 61-100 กิโลเมตร จากมหาวิทยาลัย ได้ 4 คะแนน
อยู่ในรัศมีเกิน 100 กิโลเมตร ขึ้นไป ได้ 5 คะแนน
2.5 ด้านสถานภาพครอบครัว
โสด หรือสมรสและไม่มีคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 1 คะแนน
โสด หรือสมรสและไม่มีคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย แต่มีบิดาหรือ
มารดา มาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 2 คะแนน
สมรสและคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย หรือสมรสและคู่สมรสไม่ได้
มาพักอาศัยอยู่ด้วยแต่มีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วย หรือโสดแต่มีบุตร
มาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 3 คะแนน
สมรสและคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วยและมีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วย
ได้ 4 คะแนน
สมรสและมีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วยรวมถึงมีบิดาหรือมารดามาพัก
อาศัยด้วย หรือสมรสและคู่สมรสเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย
ได้ 5 คะแนน
" การพิจารณาหลักเกณฑ์สถานภาพครอบครัวนี้ ให้พิจารณาจาก
ข้อเท็จจริงที่มีอยู่ก่อนวันที่บุคลากรยื่นขอรับการจัดสรร "
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 60
2) หลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรห้องพักในอาคารที่พักอาศัย
หลังที่ 5
1. จัดสรรให้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพนักงาน
มหาวิทยาลัยหรือลูกจ้างในสังกัดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ที่เป็นผู้พักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยหลังที่ 1-4 เท่านั้น
2.พิจารณาโดยกำหนดเป็นค่าคะแนน ดังนี้
2.1 ประเภท
สายวิชาการ 5 คะแนน
สายสนับสนุน 3 คะแนน
2.2 อายุการพักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยหลังที่ 1-4
พักอาศัยมาแล้ว ไม่เกิน 2 ปี ได้ 1 คะแนน
พักอาศัยมาแล้ว เกิน 2 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปีได้ 2 คะแนน
พักอาศัยมาแล้ว เกิน 4 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปีได้ 3 คะแนน
พักอาศัยมาแล้ว เกิน 6 ปี แต่ไม่เกิน 8 ปีได้ 4 คะแนน
พักอาศัยมาแล้ว เกิน 8 ปีขึ้นไป ได้ 5 คะแนน
2.5 ด้านสถานภาพครอบครัว
โสด หรือสมรสและไม่มีคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 1 คะแนน
โสด หรือสมรสและไม่มีคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย แต่มีบิดาหรือ
มารดา มาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 2 คะแนน
สมรสและคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วย หรือสมรสและคู่สมรสไม่ได้
มาพักอาศัยอยู่ด้วยแต่มีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วย หรือโสดแต่มีบุตร
มาพักอาศัยอยู่ด้วย ได้ 3 คะแนน
สมรสและคู่สมรสมาพักอาศัยอยู่ด้วยและมีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วย
ได้ 4 คะแนน
สมรสและมีบุตรมาพักอาศัยอยู่ด้วยรวมถึงมีบิดาหรือมารดามาพัก
อาศัยด้วย หรือสมรสและคู่สมรสเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย
ได้ 5 คะแนน
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 61
" การพิจารณาหลักเกณฑ์สถานภาพครอบครัวนี้ ให้พิจารณาจาก
ข้อเท็จจริงที่มีอยู่ก่อนวันที่บุคลากรยื่นขอรับการจัดสรรอาคาร
ที่พักอาศัยหลังที่ 5 "
3) หลักฐานประกอบการพิจารณา
1.บัตรประจำตัวข้าราชการ / พนักงานของรัฐ / หรือบัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
4.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
5.สำเนาหลักฐานการมีบุตร (ถ้ามี)
6.สำเนาสัญญาเช่าหอพักหรือบ้านพัก (ถ้ามี)
4) ยื่นคำขอและหลักฐาน
ยื่นคำขอรับการจัดสรรและเอกสาร รวมถึงติดตามผลการจัดสรร และลำดับ
การจัดสรร ได้ที่ระบบบริหารจัดการสวัสดิการที่พักอาศัยของบุคลากร ซึ่ง
เข้าถึงได้จาก http://flat.ubu.ac.th/
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 62
5) อัตราค่าบำรุงที่พักอาศัย
1.ห้องเดี่ยว อาคารชุดที่พัก หลังที่ 1 - 4 อัตรา 400 บาทต่อเดือน
2.ห้องครอบครัว อาคารชุดที่พัก หลังที่ 1 - 4อัตรา 500 บาทต่อเดือน
3.ห้องครอบครัว อาคารชุดที่พัก หลังที่ 5 อัตรา 1,000 บาทต่อเดือน
4.ห้องพักพิเศษ (ห้องเดี่ยว) อาคารชุดที่พัก หลังที่ 3-4 อัตรา 700 บาท
ต่อเดือน
5.ห้องพักพิเศษ (ห้องครอบครัว) อาคารชุดที่พัก หลังที่ 3-4 อัตรา
1,000 บาทต่อเดือน
ประเภทห้องพักที่ 1.-3. ก่อนเข้าพัก ชำระค่าประกันของเสียหาย จำนวน
1,700 บาท ที่งานเงินรายได้ กองคลัง ส่งสำเนาใบเสร็จรับเงิน ให้กอง
การเจ้าหน้าที่
ประเภทห้องพักที่ 4.-5. ก่อนเข้าพัก ชำระค่าประกันของเสียหาย จำนวน
2,700บาท ที่งานเงินรายได้ กองคลังส่งสำเนาใบเสร็จรับเงินให้ กอง
การเจ้าหน้าที่
หมายเหตุ :
ค่าประกันของเสียหาย จะได้รับคืนเต็มจำนวนเมื่อย้ายออกจากห้องพักและ
กรรมการประจำที่พักอาคารที่พักได้ให้การรับรองแล้ว ว่าห้องและวัสดุ ครุภัณฑ์
ในห้องมีสภาพดี
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 63
10.4 ด้านเชิดชูเกียรติ ได้แก่
1) บุคลากรดีเด่น
มหาวิทยาลัยมีการพิจารณาคัดเลือกบุคลากรเป็นบุคลากรดีเด่น
2) เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พนักงานมหาวิทยาลัยที่จ้างด้วยเงินงบประมาณมีสิทธิได้รับพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เช่นเดียวกับข้าราชการ โดยใช้บัญชี 18 (ต้องปฏิบัติ
งานติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีบริบูรณ์ นับแต่วันเริ่มจ้าง
จนถึงวันก่อนวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาที่จะขอพระราชทานไม่
น้อยกว่า 60 วัน)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 64
ตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ขอพระราชทาน
ประจำแผนก หรือตำแหน่งเทียบเท่า* เริ่มต้นขอ เลื่อนได้ถึง
หัวหน้าแผนก หรือตำแหน่งเทียบเท่า เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรืออาจารย์ (บ.ม.) (จ.ช.)
ผู้ช่วยอธิการบดี รองคณบดี จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย
รองผู้อำนวยการศูนย์
รองผู้อำนวยการสถาบัน (จ.ม.) (ต.ม.)
หัวหน้าภาควิชา หรือตำแหน่ง จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
เทียบเท่า
(จ.ช.) (ท.ม.)
รองศาสตราจารย์
ตริตาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย
รองอธิการบดี คณบดี (ต.ม.) (ท.ม.)
ผู้อำนวยการสถาบัน ผู้อำนวยการศูนย์
ตริตาภรณ์มงกุฎไทย ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
หรือตำแหน่งเทียบเท่า
(ต.ม.) (ป.ม.)
ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
(ท.ม.) (ท.ช.)
ศาสตราจารย์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ประถมาภรณ์ช้างเผือก
(ท.ม.) (ป.ช.)
อธิการบดี หรือตำแหน่งเทียบเท่า ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
(ท.ม.) (ป.ม.)
นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหรือรับราชการจนถึง
วันก่อนวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของปีที่จะขอพระราชทานไม่น้อยกว่า 60 วัน
ให้นับระยะเวลาถึงวันที่ 29 พฤษภาคม ของปีที่จะเสนอขอ
(เดิมนับถึงวันที่ 6 ตุลาคม ของปีที่จะเสนอขอ)
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 65
หมายเหตุ :
ตำแหน่งประจำแผนก หมายถึง ตำแหน่งที่บรรจุจากผู้ที่เริ่มเป็นพนักงาน
มหาวิทยาลัยโดยใช้คุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป
ตำแหน่งเทียบเท่า หมายถึง ตำแหน่งที่มีระดับหรือขั้นเงินเดือนเทียบ
เท่ากับตำแหน่งดังกล่าว
: อ้างถึง หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0207/4965
ลว.22 มีนาคม 2545
คูคู่ม่มืืออพพนนัักกงงาานนมมหหาาววิทิทยยาาลลััยยออุุบบลลรราาชชธธาานนีี| |6661
11. เครื่องแบบพนักงาน
สวมชุดปกติขาวได้เช่นเดียวกับข้าราชการ โดยมีกระดุม อินทรธนู
และหน้าหมวก ตามที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด
รูปที่ 1 ดุมตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
รูปที่ 2 หน้าหมวก
รูปที่ 3 อินทรธนู
รูปที่ 4 เครื่องแบบปกติขาวของ
พนักงานในสถาบันอุดมศึกษา
หากได้รับเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์สามารถประดับได้เช่นเดียวกับข้าราชการ
สามารถประดับแพรแถบหรือแพรแถบย่อของเหรียญราชอิสริยาภรณ์ที่
ระลึกได้ ทั้งนี้ต้องเกิดก่อนปีที่จัดสร้าง
คู่มือพนักงานมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี | 67
UBON RATCHATHANI UNIVERSITY
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี