The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by KRU RAYA, 2020-12-01 00:07:54

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

Keywords: นารายณ์ปราบนนทก,รามเกียรติ์

เนื้อเรอื่ งยอ่

ตอน นารายณป์ ราบนนทก

รำตำมไปจนถึงท่ำรำท่ีใช้น้ิวเพชรชข้ี ำตนเอง นนทกจึงลม้ ลง

เนือ้ เรื่องย่อ

ตอน นารายณ์ปราบนนทก

ก่อนตำยนนทกเห็นนำงแปลงปรำกฏรำ่ งเปน็ พระนำรำยณ์ จึงต่อว่ำพระนำรำยณ์มีอำนำจ
มถี ึง ๔ กร เหตใุ ดจึงต้องทำอุบำยมหลอกลวงตน

เน้อื เรอื่ งยอ่

ตอน นารายณ์ปราบนนทก

พระนำรำยณ์จึงใหน้ นทกไปเกิดใหม่ใหม้ ถี ึง ๒๐ มือ แล้วพระองค์จะตำมไปเกิดเปน็ มนษุ ย์
มีเพยี ง ๒ มอื ลงไปสู้ดว้ ย

เนื้อเรอ่ื งย่อ

ตอน นารายณ์ปราบนนทก

นนทก ทศกัณฐ์ พระนำรำยณ์ พระรำม

ถอดความ

๏ มำจะกล่ำวบทไป ถึงนนทกนำ้ ใจกล้ำหำญ

ต้ังแต่พระสยมภวู ญำณ ประทำนให้ล้ำงเท้ำเทวำ

อยู่บันไดไกรลำสเปน็ นิจ สุรำฤทธ์ิตบหัวแล้วลูบหน้ำ

บ้ำงให้ตักนำ้ ล้ำงบำทำ บ้ำงถอนเส้นเกศำวุ่นไป

จนผมโกรน๋ โล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงำในนำ้ แล้วรอ้ งไห้

ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตำแดงด่ังแสงไฟฟำ้

เปน็ ชำยดูดู๋มำหม่นิ ชำย มติ ำยก็จะได้เห็นหน้ำ

คิดแล้วก็รบี เดินมำ เฝำ้ พระอิศรำธบิ ดี

ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ

๏ ครนั้ ถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรอื งศรี
วำ่ พระองค์เปน็ หลักธำตรี ยอ่ มเมตตำปรำณีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบำท ก็ประสำทท้ังพรแลยศศักด์ิ
ตัวข้ำก็มชี อบนัก ล้ำงเท้ำสรุ ำรกั ษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผทู้ รงศักดำเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้ำบทศรี
เวรกรรมส่ิงใดด่ังนี้ ทูลพลำงโศกีรำพัน

ฯ ๖ คำ ฯ โอด

๏ เม่ือน้ัน พระอิศวรบรมรงั สรรค์

เห็นนนทกโศกำจำบลั ย์ พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตำ

จ่ึงมเี ทวรำชบรรหำร เอ็งต้องกำรสงิ่ ไรจงเรง่ ว่ำ

ตัวกูจะให้ด่ังจินดำ อยำ่ แสนโศกำอำลัย

ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ

๏ บดั น้ัน นนทกผู้มีอัชฌำสัย

น้อมเศียรบังคลแล้วทูลไป จะขอพรเจ้ำไตรโลกำ

ให้น้ิวเปน็ เพชรฤทธี จะช้ีใครจงม้วยสงั ขำร์

จะได้รองเบ้ืองบำทำ ไปจนกวำ่ จะสิน้ ชีวี

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมอื่ นั้น พระสยมภวู ญำณเรอื งศรี
ได้ฟังนนทกพำที ภูมีน่ิงตรกึ นึกไป
อ้ำยน่ีมชี อบมำนำน จำจะประทำนพรให้
คิดแล้วก็ประสิทธ์ิพรชัย จงได้สำเรจ็ มโนรถ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บดั น้ัน นนทกผใู้ จสำหส

รบั พรพระศุลีมียศ บงั คมแล้วบทจรไป

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ ครนั้ ถึงบนั ไดไกรลำศ ขัดสมำธนิ ั่งยิม้ รมิ อ่ำงใหญ่

คอยหมู่เทวำสรุ ำลัย ด้วยใจกำเรบิ อหังกำร์

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เม่ือน้ัน เทวำสุรำฤทธ์ทิ ุกทิศำ

สบุ รรณคนธรรพ์วิทยำ ต่ำงมำเฝำ้ องค์พระศุลี

ฯ ๒ คำ ฯ เหำะ

๏ ครนั้ ถึงซึ่งเชิงไกรลำส คนธรรพ์เทวรำชฤๅษี

ก็ชวนกันยำ่ งเย้อื งจรลี เข้ำไปยังท่ีอัฒจันทร์

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ นนทกก็ล้ำงเท้ำให้ เมอ่ื จะไปก็จับหัวสั่น

สัพยอกหยอกเล่นเหมอื นทุกวนั สรวญสันต์เยำะเย้ยเฮฮำ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจำ

๏ บดั น้ัน นนทกนำ้ ใจแกล้วกล้ำ

กรวิ้ โกรธรอ้ งประกำศตวำดมำ อนิจจำข่มเหงเล่นทุกวนั

จนหัวไม่มผี มติด สุดคิดท่ีเรำจะอดกล้ัน

วันนี้จะได้เห็นกัน ขบฟันแล้วช้ีน้ิวไป

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ต้องสบุ รรณเทวำนำคี ด่ังพิษอสุนีไม่ทนได้

ล้มฟำดกลำดเกล่ือนเลื่อนลงทันใด บรรลัยไมท่ ันพรบิ ตำ

ฯ ๒ คำ ฯ โอด

๏ เมอ่ื นั้น หัสนัยเจ้ำตรยั ตรงึ ศำ

เห็นนนทกน้ันทำฤทธำ ชี้หมเู่ ทวำวำยปรำณ

ตกใจตะลึงรำพึงคิด ใครประสทิ ธใิ ห้มันสังหำร

คิดแล้วข้ึนเฝำ้ ประทรงญำณ ยงั พิมำณทิพยร์ ตั น์รูจี

ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ

๏ ครน้ั ถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรอื งศรี

วำ่ นนทกมันทำฤทธี ชี้หมู่เทวำบรรลัย

อันซึ่งน้ิวเพชรของมัน พระทรงธรรมป์ ระทำนฤๅไฉน

จึ่งทำอำจองทะนงใจ ไมเ่ กรงใต้เบื้องบำทำ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อน้ัน พระอิศวรบรมนำถำ

ได้ฟังองค์อัมรนิ ทรำ จ่ึงมีบัญชำตอบไป

อ้ำยนี่ทำชอบมำนำน เรำจึ่งประทำนพรให้

มันกลับทรยศกระบถใจ ทำกำรหยำบใหญถ่ ึงเพียงน้ี

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ตรสั แล้วจึ่งมบี ัญชำ ดูรำพระนำรำยณ์เรอื งศรี

ตัวเจ้ำผูม้ ฤี ทธี เปน็ ที่พึ่งแก่หม่เู ทวัญ

จงช่วยระงับดับเข็ญ ให้เยน็ ทั่วพิภพสรวงสรรค์

เชิญไปสงั หำรอ้ำยอำธรรม์ ให้มันส้ินชีพชีวำ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์นำรำยณ์นำถำ

รบั สัง่ ถวำยบังคมลำ ออกมำแปลงกำยด้วยฤทธี

ฯ ๒ คำ ฯ ตระ

๏ เปน็ โฉมนำงเทพอัปสร อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี

กรำยกรยำ่ งเย้ืองจรลี ไปอยู่ท่ีนนทกจะเดินมำ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เพลง

๏ บัดน้ัน นนทกผู้ใจแกล้วกล้ำ

สิ้นเวลำเฝำ้ เจ้ำโลกำ สำรำญกำยำแล้วเท่ียวไป

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

ชม๏โฉเมหลอื บเห็นสตรวี ไิ ลลักษณ์ พศิ พักตรผ์ อ่ งเพยี งแขไข

งำมโอษฐง์ ำมแก้มงำมจุไร งำมนัยน์เนตรงำมกร

งำนถันงำมกรรณงำมขนง งำมองคย์ ่ิงเทพอัปสร

งำมจรติ กรยิ ำงำมงอน งำมเอวงำมอ่อนทงั้ กำยำ

ถึงโฉมองค์อัครลกั ษมี พระสุรสั วดีเสน่หำ

สน้ิ ทั้งไตรภพจบโลกำ จะเอำมำเปรยี บไมเ่ ทยี บทนั

ดไู หนก็เพลินจำเรญิ รกั ในองค์เยำวลกั ษณ์สำวสวรรค์

ย่ิงพิศยิ่งคิดผกู พนั ก็เดินกระชนั้ เข้ำไป

ฯ ๘ คำ ฯ เข้ำม่ำน

ตรีเทวี ศรภี รรยา ตรมี รู ติ

(มหาเทวสี ูงสดุ ทัง้ สามองค์ในศาสนาฮินดู)

พระพรหม พระวษิ ณุ พระศวิ ะ

พระสรุ สั วดี พระลักษมี พระปารวตี

๏ โฉมเอยโฉมเฉลำ เสำวภำคย์แน่งน้อยพิสมัย
เจ้ำมำแต่สวรรค์ชั้นใด นำมกรช่ือไรนะเทวี
ประสงค์ส่ิงใดจะใครร่ ู้ ทำไมมำอยูท่ ่ีน่ี
ข้ำเห็นเปน็ น่ำปรำณี มำรศรจี งแจ้งกิจจำ
ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เม่อื น้ัน นำงนำรำยณ์เยำวลักษณ์เสน่หำ
ได้ฟงั ยิ่งทำมำรยำ
ทำไมมำล่วงไถ่ถำม ชำเลืองนัยนำแล้วตอบไป
ท่ำนน้ีไมม่ ีควำมเกรงใจ ลวนลำมบุกรุกเข้ำมำใกล้
พนักงำนฟ้อนรำระบำบัน เรำเปน็ ข้ำใช้เจ้ำโลกำ
มที ุกข์จ่ึงเท่ียวลงมำ ชื่อสวุ รรณอัปสรเสน่หำ
หวังว่ำจะให้คลำยรอ้ น
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ สุดเอยสุดสวำท โฉมประหลำดลำ้ เทพอัปสร
ทั้งวำจำจรติ ก็งำมงอน ควรเปน็ นำงฟอ้ นวิไลลักษณ์
อันซึ่งธุระของเจ้ำ หนักเบำจงแจ้งให้ประจักษ์
ถ้ำวำสนำเรำเคยบำรุงรกั ก็จะเปน็ ภักษ์ผลสบื ไป
ตัวพี่มิได้ลวนลำม จะถือควำมสง่ิ นี้น่ีมไิ ด้
สำวสรรค์ขวญั ฟำ้ ยำใจ พ่ีไรค้ ู่จะพึ่งแต่ไมตรี
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่ือน้ัน นำงเทพนิมติ โฉมศรี
ค้อนแล้วจึ่งตอบวำที ว่ำนี้ไพเรำะเปน็ พ้นไป
อันซึ่งจะฝำกไมตรขี ้ำ ข้อนั้นอยำ่ วำ่ หำรูไ้ ม่
เรำเปน็ นำงรำระบำใน จะมีมติ รใจท่ีผูกพัน
ใครมำรำเกรงเพลงฟ้อน
รำได้ก็มำรำตำมกัน จึ่งจะผ่อนดว้ ยควำมเกษมสนั ต์

น่ันแหละจะสมดั่งจินดำ
ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนทกผใู้ จแกล้วกล้ำ

ไมร่ ูว้ ่ำนำรำยณ์แปลงมำ ก็โสมนัสำพันทวี

ย้ิมแล้วจึ่งกล่ำวสนุ ทร ดูก่อนนำงฟำ้ เฉลิมศรี

เจ้ำจักปรำรมภ์ไปไยมี พ่ีเปน็ คนเก่ำพอเข้ำใจ

เชิญเจ้ำรำเถิดนะนำงฟ้ำ ให้สิน้ ท่ำที่นำงจำได้

ตัวพ่ีจะรำตำมไป มใิ ห้ผดิ เพลงนำงเทวี

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมอื่ น้ัน พระนำรำยณ์ทรงสวสั ด์ิรศั มี

เห็นนนทกหลงกลก็ยินดี ทำทีเยือ้ งกรำยให้ยวนยนิ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจำ

๏ เทพนมปฐมพรหมสห่ี น้ำ สอดสรอ้ ยมำลำเฉิดฉิน

ท้ังกวำงเดินดงหงสบ์ นิ กินรนิ เลียบถ้ำอำไพ

อีกช้ำนำงนอนภมรเคล้ำ ทั้งแขกเต้ำผำลำเพียงไหล่

เมฆลำโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร

ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต ทั้งพิสมัยเรยี งหมอน

ย้ำยท่ำมัจฉำชมสำคร พระส่ีกรคว้ำจักรฤทธิรงค์

ฝำ่ ยวำ่ นนทกก็รำตำม ด้วยควำมพิสมัยไหลหลง

ถึงท่ำนำคำม้วนหำงวง ชี้ตรงถกู เพลำทันใด

ฯ ๘ คำ ฯ เพลง

ตวั อยา่ งทา่ ราที่ปราปกฏในเร่อื ง

๏ ด้วยเดชน้ิวเพชรสิทธิศักด์ิ ขำหักล้มลงไม่ทนได้

นำงกลำยเปน็ องค์นำรำยณ์ไป เหยียบไวจ้ ะสงั หำรรำญรอน

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บดั น้ัน นนทกแกล้วหำญชำญสมร

เห็นพระองค์ทรงสังข์คทำธร เปน็ สก่ี รก็รูป้ ระจักษ์ใจ

วำ่ พระหรวิ งศ์ทรงฤทธิ์ ลวงล้ำงชีวิตก็เปน็ ได้

จึ่งมีวำจำถำมไป โทษข้ำปน็ ไฉนให้ว่ำมำ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมอ่ื นั้น นำรำยณ์บรมนำถำ

ได้ฟังจึ่งมีบัญชำ โทษำมงึ ใหญห่ ลวงนัก

ด้วยทำโอหังบังเหตุ ไมเ่ กรงเดชพระอิศวรทรงจักร

เอ็งฆ่ำเทวำสรุ ำรกั ษ์ โทษหนักถึงท่ีบรรลัย

ตัวกกู ็คิดเมตตำ แต่จะไวช้ ีวำมึงไม่ได้

ตรสั แล้วก็แกว่งตรเี กรยี งไกร แสงกระจำยพรำยไปดั่งไฟกำล

ฯ ๖ คำ ฯ

ไฟกาล

(ไฟประลยั กัลป์ ไฟลา้ งโลก)

๑ กลั ป์

(ชว่ั กัปช่วั กัลป์นานขนาดไหน ? )

๏ บัดนั้น นนทกผใู้ จแกล้วหำญ

ได้ฟังจึ่งตอบพจมำน ซ่ึงพระองค์จะผลำญชีวี

เหตุใดมิทำซึ่งหน้ำ มำรยำเปน็ หญงิ ไมบ่ ัดสี

หรอื วำ่ กลัวนิ้วเพชรน้ี จะช้ีพระองค์ให้บรรลัย

ตัวข้ำมมี อื แต่สองมือ ฤๅจะส้ทู ้ังส่ีกรได้

แม้นสม่ี อื เหมือนพระองค์ทรงชัย ท่ีไหนจะทำได้ดังนี้

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เม่ือนั้น พระนำรำยณ์ทรงสวัสดร์ิ ศั มี

ไดฟ้ ังจ่ึงตอบวำที กูน้ีแปลงเปน็ สตรมี ำ

เพรำะมึงจะถึงแก่ควำมตำย ฉิบหำยดว้ ยหลงเสน่หำ

ใชว่ ่ำจะกลวั ฤทธำ ศกั ดำน้ิวเพชรน้ันเมื่อไร

ชำติน้ีมึงมีแต่สองหตั ถ์ จงไปอุบัติเอำชำติใหม่

ให้สบิ เศยี รสบิ พกั ตรเ์ กรยี งไกร เหำะเหินเดินได้ในอัมพร

มมี อื ยี่สบิ ซำ้ ยขวำ ถือคทำอำวุธธนูศร

กจู ะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตำมไปรำญรอนชวี ี

ใหส้ ้นิ วงศพ์ งศม์ ึงอันศกั ดำ ประจักษ์แก่เทวำทกุ รำศี

ว่ำแล้วกวัดแกวง่ พระแสงตรี ภมู ีตัดเศยี รกระเด็นไป

ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด โอด

๏ ครน้ั ล้ำงนนทกมรณำ พระจักรำผมู้ ีอัชฌำสัย

เหำะระเห็จเตรด็ ฟ้ำด้วยวอ่ งไว ไปยงั กระเษียรวำรี

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมอ่ื น้ัน ฝำ่ ยนำงรชั ดำมเหสี

องค์ท้ำวลัสเตียนธบิ ดี เทวีมรี ำชบุตรำ

คือว่ำนนทกมำกำเนิด เกิดเปน็ พระโอรสำ

ช่ือทศกัณฐก์ ุมำรำ สิบเศียรสบิ หน้ำยส่ี บิ กร

อันน้องซึ่งถัดมำน้ัน ช่ือกุมภกรรณชำญสมร

องค์พระบติ เุ รศมำรดร มใิ ห้อนำทรสักนำที

ฯ ๖ ฯ คำ ฯ

ญาติวงศท์ ศกัณฑ์ (กรุงลงกา)

ท้าวสหบดพี รหม

ทา้ วอัชฎาพรหม นางมลิกา

นางศรีสนุ นั ทา นางจติ รมาลี ท้าวลสั เตียน นางวรประภา นางรัชดา
กุเรปัน ทัพนาสรู มารัน
สวุ รรณมาลยั
อัศธาดา

ทศกัณฐ์ กมุ ภกรรณ พิเภก ขร ทตู ตรเี ศยี ร นางสามนกั ขา
นางกาลอคั คี นางสนมพนั ตน นางสนมสบิ ตน
บรรลยั กลั ป์ นางมณโฑ นางช้าง นางปลา สหสั กุมาร
ไพอนนนิาาสงทุรสรยิ ชีดวติ างศ์ ททศศคครีรธีีวันร สพุ รรณมจั ฉา สบิ รถ

คณุ คา่ วรรณคดี

คณุ คา่ ด้านเน้อื หา

คณุ คา่ ดา้ นเนือ้ หา

ประโยชน์จากเน้อื เรื่องวรรณคดี

๑ สะท้อนคา่ นยิ ม และความเชื่อของสังคมไทย โดยมีแก่นเรอ่ื งคือ การผกู ใจเจบ็ แคน้
ไมย่ อมใหอ้ ภยั ยอ่ มนามาซ่ึงความเดอื ดร้อน

๒ สะทอ้ นสภาพความเป็นจรงิ ของสงั คมและมนษุ ย์ท่เี ต็มไปด้วยรัก โลภ โกรธ หลง ให้ข้อคดิ
ท่คี วรนามาพจิ ารณาเปรียบเทยี บกบั พฤตกิ รรมของคนในสังคมปจั จบุ ัน

คุณค่าดา้ นเน้ือหา

๓ ผอู้ า่ นได้รับความสนุกสนานเพลดิ เพลิน และสามารถนาข้อคดิ ทแี่ ฝงไวใ้ นบทประพันธม์ า
ประยกุ ตใ์ ช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันได้
วรรณคดีไมใ่ ช่เรือ่ งไกลตวั แมต้ วั ละคร/ฉากเป็นเรอ่ื งสมมติ แตพ่ ฤติกรรมของ

๔ ตวั ละครคล้ายคลงึ กับพฤติกรรมของมนษุ ยใ์ นสงั คม
วรรณคดมี ีคุณค่า เปน็ เครือ่ งมอื สะทอ้ นความจรงิ ทาใหผ้ ู้อา่ นได้เรียนรูป้ ญั หาและ
แนวทางการแกไ้ ขปญั หาผา่ นวรรณคดี

คุณคา่ ด้านเนือ้ หา

ประโยชนจ์ ากตัวละครในวรรณคดี

นนทก, นนทกุ
เป็นยกั ษ์ทท่ี ำหน้ำท่ลี ้ำงเทำ้ เทวดำอยูท่ ี่เชงิ เขำไกรลำส ถูกพวกเทวดำแกล้งตบหวั
บ้ำง ถอนผมบำ้ ง จนหัวโล้น นนทกมคี วำมแคน้ มำก จึงเข้ำเฝ้ำพระอิศวรทูลขอพรใหม้ ี
นิ้วเป็นเพชร สำมำรถชใ้ี ห้ผใู้ ดตำยก็ได้

จำกน้ันนนทกก็ใช้น้ิวเพชรช้ใี หเ้ หลำ่ เทวดำตำยเกลือ่ นกลำด พระนำรำยณ์จึงต้อง
ไปปรำบ ก่อนตำยนนทกต่อวำ่ พระนำรำยณ์ว่ำ ตนเองมีเพียงสองมือเทำ่ น้ันจะชนะ
พระนำรำยณ์ทม่ี ีถึงสีก่ รได้อยำ่ งไร พระนำรำยณ์จึงประทำนพรให้นนทุกไปเกิดเป็น
ยักษ์มีสิบหน้ำ ยีส่ บิ มอื แลว้ พระองค์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มเี พยี งสองมอื เพอ่ื ปรำบน
นทกในชำติใหม่ ให้หมดสิ้นท้งั วงศย์ ักษ์ นนทกจึงกลับชำติมำเกิดเป็นทศกัณฐ์

คุณค่าด้านเนือ้ หา

ประโยชน์จากตัวละครในวรรณคดี ดอกตะแบก

พระนารายณ์
หรือ พระวิษณุ เป็นเทพผู้พิทักษ์โลก เม่ือโลกเกิดยุคเข็ญ พระ
นำรำยณ์ก็จะอวตำร (แบ่งภำค) ลงมำเกิดเพื่อปรำบยุคเข็ญ

พระนำรำยณ์มีกำยสีดอกตะแบก มี ๔ กร ถืออำวุธต่ำง ๆ คือ
ตรี คฑำ จักร สังข์ บำงครง้ั ถือธนูและพระขรรค์ ทรงครุฑเป็นพำหนะ
ที่ประทับอยู่กลำงเกษียรสมุทรบนหลังพญำนำค ช่ือ อนันตนำครำช
พระมเหสีของพระองค์คือ พระลักษมี

คณุ คา่ ด้านเนอื้ หา

ประโยชน์จากตวั ละครในวรรณคดี

พระอศิ วร
หรอื พระศวิ ะ เป็นเทพท่มี อี ำนำจมำก มีรำ่ งกำยสขี ำว แต่พระศอ(คอ)
มีสีดำ(เพรำะเคยดื่มพิษพญำนำค) มีพระเนตรถึง ๓ ดวง ดวงที่ ๓ อยู่กลำง
พระนลำฏ(หน้ำผำก) ปกติจะหลับอยู่ เพรำะมีอำนุภำพรำ้ ยแรงมำก หำกลืม
ข้นึ เมื่อใดจะเผำผลำญทุกสิ่งทุกอยำ่ งใหม้ อดไหม้ลงหมด และยังมีพระจันทร์
อยู่ครง่ึ ซกี อยเู่ หนือดวงตำดวงท่ี ๓ ด้วย อำวุธประจำพระองค์ คือ ตรศี ลู ธนู
คทำ บำงทีก็ถือบ่วงบำศ บัณเฑำะว์ และสังข์ พำหนะประจำพระองค์ คือ
โคอุสภุ รำช มพี ระอุมำเป็นมเหสี ประทบั อย่บู นเขำผำเผอื ก หรอื เขำไกรลำส

พระอิศวร มีช่ือเรยี กหลำยช่ือ ได้แก่ พระศุลี พระศิวะ พระสยมภู
พระอิศรำ พระตรีเนตร พระสยมภูวญำณ พระมหำเทพ พระมเหศวร
เจ้ำภพไตร เป็นต้น

คุณค่าดา้ นเนือ้ หา

ประโยชนจ์ ากตวั ละครในวรรณคดี

พระอินทร์
คอื เทวดำผูเ้ ป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดำวดึงส์ กำยสีเขียว มีพระเนตรถึง
พันดวง ใช้วัชระ(สำยฟ้ำ) เป็นอำวุธ มีช้ำงเอรำวัณเป็นพำหนะ พระองค์มี
มเหสี ๔ องค์ คือ สุจิตรำ สุธรรมำ สุนันทำ และสุชำดำ พระอินทร์เป็น
ผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษยโลก ยำมใดที่มีเรื่องเดือดรอ้ นข้ึนบนโลกมนุษย์
อำสนะของพระองค์ท่เี คยอ่อนนุ่มก็จะแข็งกระด้ำง หรอื บำงครงั้ ก็รอ้ นจนไม่
สำมำรถประทบั อยู่ได้

ช้นั ท่ี ๖ ปรนิมมติ วสวตั ตี ช้นั ที่ ๓ ยำมำ
ชัน้ ที่ ๕ นิมมำนรตภี มู ิ ชน้ั ท่ี ๒ ดำวดึงส์
ชนั้ ท่ี ๔ ดุสิต ชน้ั แรก จตุมหำรำชิกำ

สวรรค์ในวรรณคดี

สวรรคช์ ั้นท่ี ๒ ดาวดึงส์

ท่ีมำ : หนังสือไตรภูมิกถำ ฉบบั รชั กำลท่ี ๙

คุณคา่ ดา้ นเนอื้ หา

ประโยชนจ์ ากตวั ละครในวรรณคดี

เหล่าเทวดา นางฟา้

ชำวสวรรคท์ เ่ี ป็นโอปปำติกะ มกี ำยทิพย์ ตำทิพย์ หทู พิ ย์ และ
กินอำหำรทิพย์ และเสวยสุขในสรวงสวรรค์ช้ันต่ำง ๆ ซึ่งถือว่ำเป็น
ภพภูมิท่ดี ี เทวดำผู้หญงิ เรยี กว่ำ เทวี หรอื "เทพี" หรอื นำงฟ้ำ

เหลำ่ เทวดำนำงฟ้ำทจ่ี ะขึ้นไปเฝ้ำพระอิศวร มักจะชอบกล่ัน
แกล้ง ตบศรี ษะ ถอนเส้นผมนนทก จนนนทกเก็บควำมแค้นไว้ แล้ว
ใช้นิ้วเพชรชสี้ ังหำรเทวดำนำงฟ้ำเหลำ่ น้ัน

คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์

คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์
รสวรรณคดี
โวหารภาพพจน์
การใชถ้ อ้ ยคา

คุณค่าด้านวรรณศิลป์
รสวรรณคดี

เสาวรจนี นารปี ราโมทย์

พโิ รธวาทัง สัลลาปังคพิสัย

คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์
รสวรรณคดี

เสาวรจนี

เป็นกำรชมควำมงำม ชมโฉมตัวละคร พร่ำพรรณนำควำมงำมของ

สถำนที่/ธรรมชำติ เชน่ บรรยำยถึงควำมงำมแห่งนำงนำรำยณ์แปลง

เหลือบเห็นสตรวี ไิ ลลักษณ์ พิศพักตรผ์ ่องเพียงแขไข
งำมโอษฐง์ ำมแก้มงำมจุไร งำมนัยน์เนตรงำมกร
งำมถันงำมกรรณงำมขนง งำมองค์ยิ่งเทพอัปสร
งำมจรติ กิรยิ ำงำมงอน งำมเอวงำมอ่อนท้ังกำยำ

คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์
รสวรรณคดี

นารปี ราโมทย์

คอื กำรทำให้ “นำร”ี นั้น ปลื้ม “ปรำโมทย์” คือ กำรแสดงควำมรกั ต้ังแต่
ช่นื ชม ชน่ื ชอบ รกั ใคร่ เปน็ บทเกี้ยวพำรำสขี องตัวละคร ดังตัวอยำ่ ง

๏ โฉมเอยโฉมเฉลำ เสำวภำคยแ์ น่งน้อยพิสมยั
เจ้ำมำแต่สวรรค์ชั้นใด นำมกรชื่อไรนะเทวี
ประสงค์สงิ่ ใดจะใครร่ ู้ ทำไมมำอยู่ที่น่ี
ข้ำเห็นเปน็ น่ำปรำณี มำรศรจี งแจ้งกิจจำ


Click to View FlipBook Version