The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaomchomc, 2024-04-25 03:01:08

ขนมไทย 4 ภาค

ขนมไทย 4 ภาค

ขนมไทย 4 ภาค


คำ นำ ห นั ง สื อ ดิ จิ ทั ล เ ล่ ม นี้ เ ป็ น ห นั ง สื อ ที่ นำ เ ส น อ เ กี่ ย ว กั บ ข น ม ไ ท ย 4 ภ า ค โ ด ย ใ น ห นั ง สื อ เ ล่ ม นี้ จ ะ ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด้ ว ย ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ข น ม ไ ท ย แ ล ะ ข น ม ต่ า ง ๆ ใ น แ ต่ ล ะ ภ า ค ห นั ง สื อ นี้ ไ ม่ เ พี ย ง แ ค่ นำ เ ส น อ เ ม นู ข น ม ห ว า น ใ น แ ต่ ล ะ ภ า ค แ ต่ ยั ง มี ก า ร อ ธิ บ า ย ถึ ง ที่ ม า ข อ ง ข น ม แ ต่ ล ะ ช นิ ด เ พื่ อ ใ ห้ ผู้ - อ่ า น ไ ด้ รู้ เ รื่ อ ง ร า ว ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ข น ม ไ ท ย ทั้ ง 4 ภ า ค นี้ ไ ด้ อ ย่ า ง ลึ ก ซึ้ ง


สารบัญ ประวัติศาสตร์ขนมไทย ขนมไทยภาคเหนือ ขนมไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขนมไทยภาคกลาง ขนมไทยภาคใต้



ประวัติศาสตร์ ขนมไทย


ขนมไทยเริ่มริ่แพร่หลายมากขึ้นขึ้ ในสมัยมัอยุธยา ดังดั ปรากฏ ข้อความในจดหมายเหตุหลายฉบับบับางฉบับบักล่าวถึงถึ “ย่านป่าขนม” หรือรื ตลาดขนม บางฉบับบักล่าวถึงถึ “บ้านหม้อม้ ” ที่มีที่กมีารปั้นปั้หม้อม้และรวม ไปถึงถึกระทะ ขนมเบื้อบื้ง เตาและรังรัขนมครก แสดงให้เห็น ห็ ว่าขนมครก และขนมเบื้อบื้งนั้นนั้คงจะแพร่หลายมากจนถึงถึขนาดมีกมีารปั้นปั้เตาและ กระทะขาย บางฉบับบักล่าวถึงถึขนมชะมด ขนมกงเกวียวีนหรือรืขนมกง ขนมครก ขนมเบื้อบื้ง ขนมลอดช่อช่ง จนถึงถึสมัยมัสมเด็จ ด็ พระนารายณ์มหาราช อันอัถือถื ได้ว่าเป็น ป็ ยุค ทองของการทำ ขนมไทย ดังดัที่จที่ดหมายเหตุฝรั่งรั่ โบราณได้มีกมีารบันบัทึกไว้ ว่า การทำ ขนมในสมัยมัสมเด็จ ด็ พระนารายณ์มหาราชนั้นนั้เจริญริรุ่งเรือรืงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยิ่เมื่อมื่ชาวโปรตุเกสอย่างท่านผู้หผู้ญิงญิวิชวิาเยนทร์หรือรื บรรดาศักศัดิ์ว่า “ท้าวทองกีบกีม้า” ผู้เป็น ป็ ต้นต้ เครื่อรื่งขนมหรือรืของหวานในวังวั ได้สอนให้สาวชาววังวัทำ ของหวานต่าง ๆ โดยเฉพาะได้นำด้ นำไข่ขาวและไข่ แดงมาเป็น ป็ ส่วนผสมสำ คัญคัอย่างที่ทที่างโปรตุเกสทำ กันกัขนมที่ท่ที่ ท่านท้าว ทองกีบกีม้าทำ ขึ้นขึ้และยังยัเป็น ป็ ที่นิที่นิยมจนถึงถึปัจปัจุบันบัก็ไก็ ด้แก่ ขนมทองหยิบยิ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหม้อม้แกง และรวมไปถึงถึขนมทองโปร่ง ขนมทองพลุ ขนมสำ ปันปันี ขนมไข่เต่า ฯลฯ ความเป็นว่าของคำ ว่า “ขนมไทย”


จนถึงถึสมัยมัรัตรันโกสินสิทร์ จดหมายเหตุความทรงจำ ของกรมหลวงนรินริทรเทวี ผู้ทผู้รงเป็น ป็ พระเจ้าน้องยาเธอในสมเด็จ ด็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กล่าวไว้ว่าในงานสมโภชพระแก้วมรกตและฉลองวัดวัพระศรีรัรีตรันศาสดาราม ได้มีเมีครื่อรื่งตั้งตั้สำ รับรัหวานสำ หรับรัพระสงฆ์ ๒,๐๐๐ รูป ประกอบด้วย ขนมไส้ไก่ ขนมฝอย ข้าวเหนียนีวแก้ว ขนมผิงผิกล้วยฉาบ ล่าเตียตีง หรุ่ม สังสัขยา ฝอยทอง และขนมตะไล ในกาพย์ห่อโคลงเห่เรือรื ชมเครื่อรื่งคาวหวาน บทพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จ ด็ พระพุทธเลิศลิหล้านภาลัยลั ได้กล่าวชมเครื่อรื่งหวานหรือรื ขนมไทยหลายชนิดด้วยกันกัอาทิ ข้าวเหนียนีวสังสัขยา ขนมลำ เจียจีก ขนมทองหยิบยิขนมทองหยอด ขนมผิงผิขนมรังรั ไร ขนมช่อช่ม่วม่ง ขนมบัวบัลอย ฯลฯ สมัยมัพระบาทสมเด็จ ด็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัยู่วหั ได้มีกมีารพิมพิพ์ ตำ ราอาหารออกเผยแพร่ การทำ ขนมไทยก็เ ก็ป็น ป็ หนึ่งนึ่ในตำ ราอาหารไทยนั้นนั้ จึงจึนับนั ได้ว่าการทำ ขนมไทยและวัฒวันธรรมขนมไทย เริ่มริ่มีกมีารบันบัทึกเป็น ป็- ลายลักลัษณ์อักอัษรอย่างมีรมี ะบบระเบียบีบในสมัยมัรัชรักาลที่ ๕ นี้เนี้อง แม่คม่รัวรั- หัวหั ป่าก์เป็น ป็ ตำ ราอาหารไทยเล่มล่แรก ประพันพั ธ์โดยท่านผู้หผู้ญิงญิเปลี่ยลี่น ภาสกรวงศ์ ในตำ ราอาหารไทยเล่มล่นี้ปนี้รากฏรายการสำ รับรัของหวานเลี้ยลี้ง พระอันอั ประกอบด้วย ขนมทองหยิบยิขนมฝอยทอง ขนมหม้อม้แกง ขนมหันหัตรา ขนมถ้วยฟู ข้าวเหนียนีวแก้ว ขนมลืมลืกลืนลืวุ้นวุ้ผลมะปราง ฯลฯ แสดงให้เห็น ห็ ว่าคนไทยนิยมทำ ขนมใช้ในงานบุญ ซึ่งซึ่ก็เ ก็ป็น ป็ แบบแผนต่อ เนื่อนื่งกันกัมาตั้งตั้แต่สมัยมัอยุธยา


คำ ว่า “ขนม” เข้าใจว่ามาจากคำ สองคำ ที่มที่าผสมกันกัคือคื “ข้าวหนม” และ “ข้าวนม” เข้าใจว่าเป็น ป็ ข้าวผสมน้ำ อ้อย น้ำ ตาล โดย อนุโลมคำ ว่าหนม แปลว่า หวาน ข้าวหนม ก็แ ก็ ปลว่า ข้าวหวาน เรียรีกสั้นสั้ๆ เร็ว ร็ ๆ ก็ก ก็ ลายเป็น ป็ “ขนม” ไป ส่วนที่ว่ที่ ว่ ามาจากข้าวนม (ข้าวเคล้านม) นั้นนั้ดูจะเป็น ป็ ตำ นานแขก โบราณ อย่างข้าวมธุปายาส (ที่นที่างสุชาดาทำ ถวายพระพุทธเจ้าเมื่อมื่ตอน ตรัสรัรู้ก็ว่ ก็ ว่ าเป็น ป็ ข้าวหุงกับกันม) คำ ว่า ขนม มีใมี ช้มาหลายร้อยปียปีากจะสันสั นิฐานแน่นอนได้ เช่นช่ เดียดีวกับกั ไม่มีม่หมีลักลัฐานยืนยืยันยัแน่นอนว่า “ขนมไทย” เกิดกิขึ้นขึ้มาตั้งตั้แต่ สมัยมั ใดเป็น ป็ ครั้งรั้แรก แต่ตต่ ามประวัติวัศติาสตร์ไทยมีหมีลักลัฐานตอนหนึ่งนึ่ว่า มี-มี การจารึกรึชื่อชื่ขนมในแท่งท่ศิลศิาจารึกรึเป็น ป็ การจารึกรึแบบลายแทงสมัยมั โบราณ ขนมที่ปที่รากฏคือคื “ไข่กบ นกปล่อล่ย บัวบัลอย อ้ายตื้อตื้ ” ถามผู้ใหญ่ดูญ่ ดูถึงถึได้ รู้ว่า ไข่กบ หมายถึงถึเม็ด ม็ แมงลักลันกปล่อล่ย หมายถึงถึลอดช่อช่ง บัวบัลอย หมายถึงถึข้าวตอก อ้ายตื้อตื้หมายถึงถึข้าวเหนียนีว ขนมทั้งทั้สี่ใสี่ช้น้ำ กระสาย อย่างเดียดีวกันกัคือคื “น้ำ กะทิ” โดยใช้ถ้วยใส่ขนม ซึ่งซึ่เราเรียรีกการเลี้ยลี้งขนม 4 อย่างนี้ว่นี้ ว่ า “ประเพณี 4 ถ้วย” ความหมายขนมไทย


ขนมประเภทที่ใที่ช้ข้าว (แป้ง) น้ำ ตาล มะพร้าว คงจะมีมมีาตั้งตั้แต่ สมัยมัสุโขทัยทั และกรุงศรีอรียุธยาตอนต้นต้ เพราะมีกมีารติดติต่อกับกัต่างประเทศ กล่าวว่าในสมัยมัสมเด็จ ด็ พระนารายณ์มหาราช มีท่มี ท่านผู้หผู้ญิงญิของเจ้าพระยาวิชวิาเยนชร์บรรดาศักศัดิ์ “ท้าวทองกีบกีม้า” ทำ หน้าที่เที่ป็น ป็ ผู้กำผู้ กำกับกัชาวพนักนังานของหวาน ได้ปด้ ระดิษดิฐ์คิดคิค้นขนมตระกูลทองเพราะมีไมีข่ผสมคือคื ทองหยิบยิทองหยอด ทองพลุ ฝอยทอง ทองโปร่ง เป็น ป็ ต้นต้ ประเทศไทยได้รับรัเอาวัฒวันธรรมด้านอาหารของชาติต่ติ ต่ าง ๆ มา ดัดดัแปลงให้เหมาะสมกับกัสภาพท้องถิ่นถิ่วัตวัถุดิบดิที่หที่าได้ เครื่อรื่งมือมื เครื่อรื่งใช้ ตลอดจนการบริโริภคนิสัยสั แบบไทย ๆ จนทำ ให้คนรุ่นรุ่หลังลัๆ แยกไม่- ออกว่าอะไรคือคืขนมที่เที่ป็น ป็ ไทยแท้ ๆ และอะไรดัดดัแปลงมาจากวัฒวันธรรม ของชาติอื่ติ อื่นอื่ ประเทศอินอิเดียดี: ขนมไทยดั้งดั้เดิมดิที่ใที่ช้ข้าว แป้ง น้ำ ตาลและ มะพร้าว เป็น ป็ องค์ประกอบหลักลั โดยเฉพาะวิธีวิ ปธีรุงอย่างโบราณ คือคืการกวนและต้มน่าจะได้รับรัอิทอิ ธิพธิลมาจากอินอิเดียดีกะละแมไทยได้แบบมาจาก ขนมดึกดึดำ บรรพ์ของอินอิเดียดีชื่อชื่ฮูละวะ ทำ มาจากแป้ง นม น้ำ ตาล ขนมต้มได้รับรัอิทอิ ธิพธิลมาจากอินอิเดียดีเป็น ป็ ขนมโมทก ที่ชที่าวอินอิเดียดีนิยม ใช้บูชาพระพิฆพิ เนศ ประเทศโปรตุเกส : ทองหยอดและฝอยทอง มีต้มี นต้กำ เนิดจาก โดย “มารี กีมกีาร์” หรือรื “ท้าวทองกีบกีม้า”ภรรยาเชื้อชื้ ชาติญี่ติ ญี่ ปุ่ญี่ปุ่น สัญสั ชาติโติ ปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชวิเยนทร์ ผู้เป็น ป็ กงศุลประจำ ประเทศไทย ในสมัยมันั้นนั้ ขนมไทยที่ไที่ ด้รับรัอิทอิ ธิพลจากขนมของชาติอื่ติ อื่ น อื่


การแบ่งบ่ ประเภทของขนมไทยแบ่งบ่ตามวิธีวิกธีารทำ ให้สุกได้ดัด้งดันี้ - ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการกวน ส่วนมากใช้กระทะทอง กวนตั้งตั้แต่เป็น ป็ น้ำ เหลวใสจนงวด แล้วเทใส่พิส่มพิพ์หรือรืถาดเมื่อมื่เย็น ย็ จึงจึตัดตัเป็น ป็- ชิ้นชิ้เช่นช่ตะโก้ ขนมลืมลืกลืนลืขนมเปียปีกปูน ขนมศิลศิาอ่ออ่น และผลไม้- กวนต่าง ๆ รวมถึงถึข้าวเหนียนีวแดง ข้าวเหนียนีวแก้ว และกะละแม - ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งนึ่ ใช้ลังลัถึงถึบางชนิดเทส่วนผสมใส่- ถ้วยตะไลแล้วนึ่งนึ่บางชนิดใส่ถาดหรือรืพิมพิพ์ บางชนิดห่อด้วยใบตองหรือรื ใบมะพร้าว เช่นช่ช่อช่ม่วม่ง ขนมชั้นชั้ข้าวต้มผัดผั สาลี่อ่ลี่ออ่น สังสัขยา ขนมกล้วย ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ขนมเทียที น ขนมน้ำ ดอกไม้ - ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการเชื่อชื่ม เป็น ป็ การใส่ส่วนผสมลงในน้ำ - เชื่อชื่มที่กำที่กำลังลัเดือดืดจนสุก ได้แก่ ทองหยอด ทองหยิบยิ ฝอยทอง เม็ด ม็- ขนุน กล้วยเชื่อชื่ม จาวตาลเชื่อชื่ม ประเภทขนมไทย


- ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการทอด เป็น ป็ การใส่ส่วนผสมลงในกระทะที่มีที่น้ำมี น้ำ มันมัร้อน ๆ จนสุก เช่นช่กล้วยทอด ข้าวเม่าม่ทอด ขนมกง ขนมค้างคาว ขนมฝักฝับัวบัขนมนางเล็ด ล็ ขนมไข่เต่า - ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการนึ่งนึ่หรือรื อบ ได้แก่ ขนมหม้อม้แกง ขนมหน้านวล ขนมกลีบลีลำ ดวน ขนมทองม้วน สาลี่แลี่ข็ง ข็ ขนมจ่ามงกุฏ นอกจากนี้ อาจรวม ขนมครก ขนมเบื้อบื้ง ขนมดอกลำ เจียจีกที่ใที่ช้ความร้อนบนเตาไว้ในกลุ่มลุ่นี้ด้นี้ ด้วย - ขนมที่ทำที่ทำให้สุกด้วยการต้ม ขนมประเภทนี้จนี้ะใช้หม้อม้หรือรื กระทะต้มน้ำ ให้เดือดืด ใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักตัขึ้นขึ้นำ มาคลุกหรือรื โรยมะพร้าว ได้แก่ ขนมถั่วถั่แปบ ขนมต้ม ขนมเหนียนีว ขนมเรไร นอกจากนี้ ยังยัรวมขนมประเภทน้ำ ที่นิที่นิยมนำ มาต้มกับกักะทิ หรือรื ใส่แส่ ป้งผสมเป็น ป็ ขนม เปียปีก และขนมที่กิที่นกิกับกัน้ำ เชื่อชื่และน้ำ กะทิ เช่นช่กล้วยบวชชี มันมั แกงบวด สาคูเปียปีก ลอดช่อช่ง ซ่าหริ่มริ่



ขนมไทย ภาคเหนือ


ส่วนใหญ่จะทำ จากข้าวเหนียนีว และส่วนใหญ่จะใช้วิธีวิกธีารต้ม เช่นช่ขนมเทียที น ขนมวง ข้าวต้มหัวหัหงอก มักมัทำ กันกั ในเทศกาลสำ คัญคั เช่นช่ เข้าพรรษา สงกรานต์ ขนมที่นิที่นิยมทำ ในงานบุญเกือกืบทุกเทศกาลคือคื ขนมใส่ไส้หรือรืขนมจ๊อก ขนมที่หที่าซื้อซื้ ได้ทั่ด้ ทั่วทั่ ไปคือคืขนมปาดซึ่งซึ่คล้ายขนม ศิลศิาอ่ออ่น ข้าวอีตูอีตูหรือรืข้าวเหนียนีวแดง ข้าวแตนหรือรืข้าวแต๋น ขนมเกลือลื ขนมที่มีที่รัมีบรั ประทานเฉพาะฤดูหนาว ได้แก่ ข้าวหนุกงา ซึ่งซึ่เป็น ป็ งาคั่วคั่ตำ กับกัข้าวเหนียนีว ถ้าใส่น้ำส่ น้ำ อ้อยด้วยเรียรีกงาตำ อ้อย ข้าวแคบหรือรืข้าวเกรียรีบ ว่าว ลูกก่อ ถั่วถั่แปะยี ถั่วถั่แระ ลูกลานต้ม ในจังจัหวัดวัแม่ฮ่ม่อฮ่งสอน ขนม พื้นพื้บ้านได้แก่ ขนมอาละหว่า ซึ่งซึ่คล้ายขนมหม้อม้แกง ขนมเปงม้ง ซึ่งซึ่ คล้ายขนมอาละหว่าแต่มีกมีารหมักมัแป้งให้ฟูก่อน ขนมส่วยทะมินมิทำ จาก ข้าวเหนียนีวนึ่งนึ่น้ำ ตาลอ้อยและกะทิ ในช่วงที่มีที่น้ำมี น้ำ ตาลอ้อยมากจะนิยม ทำ ขนมอีกอี 2 ชนิดคือคืงาโบ๋ ทำ จากน้ำ ตาลอ้อยเคี่ยคี่วให้เหนียนีวคล้าย ตังตัเมแล้วคลุกงา กับกัแปโหย่ ทำ จากน้ำ ตาลอ้อยและถั่วถั่แปยี มีลัมีกลัษณะ คล้ายถั่วถั่ตัดตั ขนมไทยภาคเหนือ


ขนมศิลาอ่อ อ่ น ขนมศิลศิาอ่ออ่น คือคืขนมไทยทางภาคเหนือนืมีลัมีกลัษณะงหน้าตาสี และรสชาติใติกล้เคียคีงกับกั “ขนมเปียปีกปูน” แต่จะมีคมีวามแตกต่างกันกัที่ เครื่อรื่งโรยหน้าขนม โดยขนมเปียปีกปูนจะใช้มะพร้าวโรยหน้า ส่วนขนม ศิลศิาอ่ออ่นจะใช้ถั่วถั่ โรยหน้าขนม และจุดแตกต่างที่เที่ห็น ห็ ได้ยัด้งยัชัดชัเจนเลย คือคืส่วนผสมที่ใที่ช้โดยขนมศิลศิาอ่ออ่นจะมีส่มี ส่วนผสมของน้ำ กะทิอยู่ ส่วนขนม เปียปีกปูนไม่มีม่จึมีงจึต้องโรยด้วยมะพร้าวเพื่อพื่เพิ่มพิ่ความหอมมันมั เท่านั้นนั้ค่ะ ขนมศิลศิาอ่ออ่น ทำ มาจากแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียนีว แป้งถั่วถั่มาผสมกันกั รวมถึงถึส่วนผสมของน้ำ เชื่อชื่มและกะทิ บางพื้นพื้ที่เที่รียรีกว่า “ขนมสะละ อ่ออ่น” หรือรืบ้างเรียรีก “ขนมสาลาอ่ออ่น” บางที่ก็ที่เ ก็ รียรีกง่าย ๆ ว่า “ขนม ถาด”


ขนมเกลือ ลื นมเกลือลืหรือรื เข้าหนมเกลือลื (อ่านว่า เข้าหนมเกื๋อกื๋) บ้าง เรียรีกว่า ขนมขาว เป็น ป็ ขนมชนิดหนึ่งนึ่ที่ทำที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า ส่วนผสม หลักลัมีแมี ป้งและเกลือลืถ้าชอบหวาน ให้ใส่น้ำส่ น้ำ ตาล ถ้าชอบกะทิ ก็ใก็ ส่ ไปด้วยก็ไก็ ด้ หรือรื อาจโรยงาดำ ลงไปด้วย มีคำมี คำพูดว่า เข้าหนมเกลือลื เบื่อบื่บ่าว เป็น ป็ คำ พูดเชิงชิสัพสัยอกว่า หากไม่ชม่อบหนุ่มคนใด ถ้าเขามา พูดเกี้ยกี้ว ก็ใก็ ห้สาวนั้นนั้เอาเข้าหนมเกลือลื ให้บ่าวหรือรื ชายหนุ่มผู้นั้ผู้ นั้นั้กินกิ เพราะขนมเกลือลืมีแมี ต่แป้ง กินกิมากจะแน่นท้อง จนอาจจะพูดอะไรไม่ ออก และอาจกลับลับ้านไปเลย


ขนมเทียน ขนมเทียที น ขนมไทยภาคเหนือนืขนมไทยยอดนิยมที่ อร่อยถูกใจ โดยมีสูมีสูตรขนมเทียที นและวิธีวิทำธี ทำขนมเทียที นที่ไที่ม่ซัม่บซั ซ้อน เข้าใจง่าย ไม่ว่ม่ ว่ าใครก็ส ก็ ามารถทำ อาหารไทยได้ขนมเทียที น หรือรื ขนมนมสาว ทางภาคเหนือนืเรียรีกว่า ขนมจ็อ จ็ ก ซึ่งซึ่เป็น ป็ ขนมที่นิที่นิยม ใช้ในงานบุญ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ แต่เดิมดิมีไมีส้มะพร้าว และไส้ถั่วถั่เขียขีว แต่ในปัจปัจุบันบัมีกมีารดัดดัแปลงไส้ออกไปหลากหลาย มากชาวจีนจี ใช้ขนมเทียที นในการไหว้บว้ รรพบุรุษช่วงวันวัตรุษและวันวั- สารท ไส้เป็น ป็ ถั่วถั่เขียขีวกวนบด ถ้าแบบเค็ม ค็ จะใส่พส่ริกริ ไทยและเกลือลื แบบหวานใส่มะพร้าวและน้ำ ตาลลงไปเพิ่มพิ่ถ้าตัวตัแป้งทำ ด้วยแป้งถั่วถั่เรียรีกขนมเทียที นแก้ว


ขนมข้าวต้มหัวหัหงอก ข้าวต้มหัวหัหงอก เป็น ป็ ขนมชนิดหนึ่งนึ่ที่เที่ป็น ป็ อัตอัลักลัษณ์ของ ชุมชนบ้านโพน อำ เภอท่าอุเทน จังจัหวัดวันครพนม ซึ่งซึ่เป็น ป็ ขนมที่ใที่ช้ ต้อนรับรัแขกบ้านแขกเมือมืงที่มที่าเยี่ยยี่มเยือยืนชุมชนบ้านโพน โดยข้าวต้ม หัวหัหงอกทำ ด้วย ใช้ข้าวเหนียนีวดิบดิมาห่อ ปรุงรสด้วยเกลือลืนิดหน่อย ใส่ถั่วถั่ลิสลิงต้มสุกเคล้าให้เข้ากันกัแล้วจึงจึห่อเป็น ป็ มัดมั ใส่ไส้กล้วย เอาไปต้ม ให้สุก ถ้าเป็น ป็ แบบผัดผั จะผัดผัข้าวเหนียนีวกับกักะทิก่อนแล้วจึงจึห่อใส่ไส้ กล้วย แล้วต้มให้สุก ถ้าต้องการหวานจะเอามาจิ้มจิ้น้ำ ตาล ทั้งทั้ นี้ข้นี้ ข้ าวต้ม หัวหัหงอกชุมชนบ้านโพน นิยมนำ ข้าวต้มมัดมัที่สุที่สุกแล้วมาหั่นหั่เป็น ป็ ชิ้นชิ้ๆ คลุกกับกัมะพร้าวขูด โรยน้ำ ตาลทราย แล้วจัดจัเสิร์สิ ร์ฟ


ข้าวแต๋นต๋ ข้าวแต๋น อาหารสูตรดั้งดั้เดิมดิของคนในภาคเหนือนืที่มีที่ข้มี ข้ าวเหนียนีวนึ่งนึ่เป็น ป็ ส่วนประกอบหลักลัเป็น ป็ อาหารที่เที่ป็น ป็ เอกลักลัษณ์ของภาคเหนือนืที่ภที่าคอื่นอื่ๆ รู้จักจัคุ้นเคยไม่ว่ม่ ว่ าจะเป็น ป็ ของกินกิสำ หรับรัต้อนรับรัแขก ผู้มาเยือยืนเป็น ป็ ขนมที่สำที่สำคัญคั ในงานทำ บุญใหญ่หญ่รือรื เรียรีกว่าบุญหลวงล้านนา (วันวัพระสำ คัญคัทางพระพุทธศาสนา) หรือรืของฝากประทับทั ใจ คนรับรัอันอัเลื่อลื่งชื่อชื่มาช้านาน


ขนมวง ขนมวง เป็น ป็ ขนมไทยชนิดหนึ่งนึ่ตัวตัขนมรูปวงกลมมีรูมีรู ตรงกลางคล้ายกับกักำ ไล หรือรื โดนัทนัทำ จากแป้งข้าวเหนียนีวผสมกับกั กะทิ น้ำ ตาลปี๊บปี๊นวดจนเป็น ป็ เนื้อนื้เดียดีวกันกัแล้วปั้นปั้เป็น ป็ วงกลม ก่อนนำ ไปทอดในน้ำ มันมั (ในอดีตดี ใช้น้ำ มันมั ปลา) จนตัวตัขนมมีสีมี สี เหลือลืงทอง บางสูตรใช้แป้งข้าวเหนียนีวผสมถั่วถั่เหลือลืง ทอดด้วยเตา ถ่าน แล้วเคลือลืบตัวตัขนมด้วย น้ำ ตาลโตนด โดยชื่อชื่"หีคหีวาย" มา จากการนำ ตอกมาร้อยขนมให้เป็น ป็ พวง จนตัวตัขนมมีรูมีรูปเป็น ป็ วงรี คล้ายกับกัอวัยวัวะเพศของควายตัวตัเมียมี จึงจึได้ชื่อชื่นี้มนี้า ส่วนชุมชนชาว อยุธยาในพม่าม่ซึ่งซึ่อาศัยศัอยู่ใยู่นภาคมัณมัฑะเลย์มีขมี นมเรียรีกว่ามงรัดรัเกล้า ซึ่งซึ่มีลัมีกลัษณะเดียดีวกันกักับกัขนมวง รับรั ประทานคู่กับกัน้ำ จิ้มจิ้รส หวาน


ขนมปาด “ขนมปาด หรือรืข้าวหนมปาด” ขนมแห่งชีวิชีตวิและ วัฒวันธรรม เป็น ป็ ขนมพื้นพื้บ้านของชาวล้านนา นิยมทำ ในประเพณี งานบวช งานบุญ มีปมีระวัติวัยติาวนานมากกว่า 60 ปี พิธีพิกธีวนขนม ปาดหรือรืการคนขนมปาดนั้นนั้เป็น ป็ ประเพณีในท้องถิ่นถิ่ที่สำที่สำคัญคัของ ชาวล้านนา เป็น ป็ กุศโลบายเพื่อพื่การรวมลูกหลานหรือรืคนในท้องถิ่นถิ่ เพราะการทำ ขนมปาดนั้นนั้ต้องอาศัยศักำ ลังลัคนและอาศัยศัระยะเวลา ในการทำ ส่วนผสมของขนมปาดนั้นนั้ ประกอบด้วยข้าวเจ้า น้ำ อ้อย มะพร้าวทึนทึก



ขนมไทย ภาคตะวันออก เฉียงเหนือง


ขนมไทยภาคอีสอีาน เป็น ป็ ขนมที่ทำที่ทำกันกัง่าย ๆ ไม่พิม่ถีพิพิถีถัพินถัมาก เหมือมื นขนมภาคอื่นอื่ขนมพื้นพื้บ้านอีสอีานได้แก่ ข้าวจี่ บายมะขามหรือรื มะขามบ่ายข้าว ข้าวโป่ง นอกจากนั้นนั้มักมัเป็น ป็ ขนมในงานบุญพิธีพิ ธีที่เที่รียรีก ว่า ข้าวประดับดัดินดิ โดยชาวบ้านนำ ข้าวที่ห่ที่ ห่อใบตอง มัดมัด้วยตอกแบบ ข้าวต้มมัดมักระยาสารท ข้าวทิพย์ ข้าวยาคู ขนมพื้นพื้บ้านของจังจัหวัดวัเลย มักมัเป็น ป็ ขนมง่าย ๆ เช่นช่ข้าวเหนียนีวนึ่งนึ่จิ้มจิ้น้ำ ผึ้งผึ้ข้าวบ่ายเกลือลืคือคืข้าว เหนียนีวปั้นปั้เป็น ป็ ก้อนจิ้มจิ้เกลือลื ให้พอมีรมีสเค็ม ค็ ถ้ามีมมี ะขามจะเอามาใส่เป็น ป็ ไส้เรียรีกมะขามบ่ายข้าว น้ำ อ้อยกะทิ ทำ ด้วยน้ำ อ้อยที่เที่คี่ยคี่วจนเหนียนีว ใส่ถั่วถั่ลิสลิงคั่วคั่และมะพร้าวซอย ข้าวพองทำ มาจากข้าวตากคั่วคั่ ใส่มะพร้าว หั่นหั่เป็น ป็ ชิ้นชิ้ๆ และถั่วถั่ลิสลิงคั่วคั่กวนกับกัน้ำ อ้อยจนเหนียนีวเทใส่ถาด ใน งานบุญต่าง ๆ จะนิยมทำ ขนมปาด (คล้ายขนมเปียปีกปูนของภาคกลาง) ลอดช่อช่ง และขนมหมก (แป้งข้าวเหนียนีวโม่ ปั้นปั้เป็น ป็ ก้อนกลมใส่ไส้ กระฉีกฉีห่อเป็น ป็ สามเหลี่ยลี่มคล้ายขนมเทียที น นำ ไปนึ่งนึ่) ขนมไทยภาคตะวันวัออกเฉียงเหนือ


ขนมข้าวจี่ ข้าวจี่ เป็น ป็ ขนมพื้นพื้บ้านของภาคอีสอีาน ทำ จากข้าวเหนียนีว นึ่งนึ่ทาเกลือลื ปั้นปั้เป็น ป็ รูปกลมหรือรืรีเรีสียสีบไม้นำม้ นำไปย่างบนเตาถ่าน ไฟอ่ออ่นพอเกรียรีมนำ มาชุบไข่ แล้วนำ ไปย่างใหม่จม่นเหลือลืง ดึงดึไม้ที่ม้ ที่เที่สียสีบไว้ ออก ยัดยัน้ำ ตาลอ้อยเข้าไปแทน น้ำ ตาลจะละลายเป็น ป็ ไส้ และนิยมทำ กันกัมากในช่วงเดือดืนสามของทุกปี ซึ่งซึ่จะมีกมีารทำ ข้าวจี่ไจี่ปทำ บุญในงานประเพณีบุญข้าวจี่ อาจเป็น ป็ เพราะข้าวเหนียนีวจะเสียสี เร็ว ร็ในตอนกลางวันวั สมัยมัก่อนข้าวเหนียนีวจึงจึถูกทำ เป็น ป็ ข้าวจี่แจี่ล้วห่อใบตองไปกินกิเป็น ป็ อาหาร ตอนทำ นาหรือรื เดินดิทางไกล เพราะสามารถเก็บ ก็ ได้นด้ านขึ้นขึ้


ขนมข้าวเหนียวปิ้ง ข้าวเหนียนีวปิ้ง เป็น ป็ ชื่อชื่ขนมที่ทำที่ทำด้วยข้าวเหนียนีว ผัดผักับกั กะทิน้ำ ตาล เกลือลืเหมือมื นข้าวต้มผัดผั แต่นำต่ นำข้าวเหนียนีวมาห่อใบตอง เป็น ป็ รูปสามเหลี่ยลี่มหรือรืห่อยาว ๆ ใส่ไส้กล้วยหรือรื ไส้เผือผืกกวนน้ำ ตาล บางคนใส่ไส้อย่างอื่นอื่ๆ เช่นช่กุ้งผัดผักับกัมะพร้าวขูดอย่างเดียดีวกับกั ไส้ ขนมเบื้อบื้งหรือรืหน้ากุ้งที่ใที่ส่กัส่บกัข้าวเหนียนีวมูน หรือรื ไส้มะพร้าวอย่างหน้า กระฉีกฉีห่อแล้วปิ้งให้สุก


ขนมข้าวต้มมัดมั “ข้าวต้มมัดมั ” หรือรื เรียรีกอีกอีอย่างว่า “ข้าวต้มผัดผั ” เป็น ป็ ขนม พื้นพื้บ้านชนิดหนึ่งนึ่ที่รู้ที่รู้จักจักันกั โดยทั่วทั่ ไป และมีแมีทบทุกพื้นพื้ที่ขที่องประเทศ นอกจากเป็น ป็ ขนมหรือรืของกินกิเล่นล่แล้ว หลังลัวันวัออกพรรษา 1 วันวัที่มีที่ มี การตักตับาตรเทโว ข้าวตัมตัมัดมัก็จั ก็ ดจัเป็น ป็ เครื่อรื่งไทยทานถวายพระสงฆ์ อีกอีด้วย


มะขามบ่า บ่ ยข้าว การทำ บายมะขามก็เ ก็ อาข้าวเหนียนีวที่นึ่ที่งนึ่มาใหม่ ๆ ร้อน ๆ ผสมกับกัมะขามหวาน หรือรืบางคนก็เ ก็ อามะขามไปนึ่งนึ่ก่อนให้นุ่ม แล้วเอา มาบายกับกัข้าวเหนียนีว ถ้าชอบหวานมาก ๆ แล้วมะขามไม่หม่วานพอก็มี ก็ มี บ้างที่เที่อาน้ำ อ้อยก้อนประกบเข้าไปด้วย


กระยาสารท กระยาสารท เป็น ป็ ขนมไทย ทำ จากถั่วถั่งา ข้าวคั่วคั่และ น้ำ ตาล มักมัทำ กันกัมากในช่วงสารทไทย แรม 15 ค่ำ ปลายเดือดืน 10 และบางท้องถิ่นถิ่นิยมรับรั ประทานกับกักล้วยไข่ มีกมีล่าวถึงถึใน นิราศ เดือดืน ว่าขนมกระยาสารทเป็น ป็ ขนมโบราณ มีคมีวามพิเพิ ศษตรงที่เที่ป็น ป็ ขนมสำ หรับรังานบุญประเพณีของไทย เรียรีกได้ว่าเป็น ป็ ขนมที่มีที่ปมีระเพณี และวันวัเวลาเป็น ป็ ของตัวตัเองชัดชัเจนมากเลยทีเที ดียดีว จนอาจจะทำ ให้ หลายคนนึกนึสงสัยสัขึ้นขึ้มาได้ ว่าทำ ไมขนมกระยาสาทรหอมหวานที่เที่ป็น ป็ แพเหนียนีว ๆ นี้ จึงจึมีคมีวามสำ คัญคัมากเสียสี จนต้องจัดจัพิธีพิทำธี ทำบุญด้วยขนม กระยาสารท



ขนมไทย ภาคกลาง


ขนมไทยภาคกลาง ส่วนใหญ่ทำญ่ ทำมาจากข้าวเจ้า เช่นช่ข้าวตังตั นางเล็ด ล็ ข้าวเหนียนีวมูน และมีขมี นมที่หที่ลุดลอดมาจากรั้วรั้วังวัจนแพร่หลาย สู่สามัญมั ชนทั่วทั่ ไป เช่นช่ลูกชุบ หม้อม้ข้าวหม้อม้แกง ฝอยทอง ทองหยิบยิ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือผืก เป็น ป็ ต้นต้ ขนมไทยเป็น ป็ เอกลักลัษณ์ด้าน วัฒวันธรรมประจำ ชาติไติทยอย่างหนึ่งนึ่ที่เที่ป็น ป็ ที่รู้ที่รู้จักจักันกัดี เพราะเป็น ป็ สิ่งสิ่ที่ แสดงให้ เห็น ห็ ถึงถึความละเอียอีดอ่ออ่นประณีตในการทำ ตั้งตั้แต่วัตวัถุดิบดิ วิธีวิกธีารทำ ที่กที่ลมกลืนลืพิถีพิพิถีถัพินถั ในเรื่อรื่งรสชาติ สีสัสี นสัความสวยงาม กลิ่นลิ่หอม รูปลักลัษณะชวนรับรั ประทาน ขนมไทยภาคกลาง


ขนมลูกชุบ ลูกชุบ เป็น ป็ ขนมไทยชนิดหนึ่งนึ่ทำ ด้วย ถั่วถั่เขียขีว บดกวน ปั้นปั้เป็น ป็ รูปร่างต่าง ๆ ระบายสี แล้วนำ ไปชุบวุ้นวุ้ ให้สวยงาม สีที่สี ที่ใที่ช้ทำ ลูกชุบนั้นนั้นอกจากระบายลงบนถั่วถั่เขียขีวกวนที่ปั้ที่ ปั้นปั้แล้ว ยังยั ใส่สีลสีงในถั่วถั่ กวนโดยตรงได้อีด้กอี


ขนมทองหยิบ ยิ ทองหยิบยิเป็น ป็ ขนมโปรตุเกสที่เที่ผยแพร่ในประเทศไทย ในสมัยมักรุงศรีอรียุธยาโดยท้าวทองกีบกีม้า จนเป็น ป็ ที่แที่พร่หลายมา จนถึงถึปัจปัจุบันบัทำ จากไข่แดงตีใตีห้จนฟู ก่อนนำ ไปหยอดลงในน้ำ เชื่อชื่มเดือดืดเพื่อพื่ทำ ให้สุก เมื่อมื่สุกแล้วจึงจึนำ มาจับจัจีบจี ใส่ถ้วยตะไล ปัจปัจุบันบัมักมั ใช้เป็น ป็ ของหวานในงานมงคลต่าง ๆ เช่นช่ งานมงคลสมรส งานขึ้นขึ้บ้านใหม่ ฯลฯ


ขนมชั้น ชั้ ขนมชั้นชั้เป็น ป็ ขนมไทยโบราณที่ไที่ม่ปม่รากฏหลักลัฐาน แน่ชัดชัว่าเกิดกิขึ้นขึ้ ในยุคสมัยมั ใด แต่เชื่อชื่กันกัว่ามีมมีาตั้งตั้แต่สมัยมั- สุโขทัยทัที่มีที่ปมีระเทศไทยมีกมีารติดติต่อซื้อซื้ขายกับกัต่างประเทศ และ ได้มีกมีารแลกเปลี่ยลี่นวัฒวันธรรมด้านอาหารการกินกิรวมถึงถึการนำ ขนมต่างชาติมติาดัดดัแปลงให้กลายเป็น ป็ ของหวานไทย เพื่อพื่ ให้ สามารถทำ ได้ง่าย และถูกปากคนไทยมากขึ้นขึ้ซึ่งซึ่ขนมชนิดนี้ก็นี้ ก็ สามารถพบเห็น ห็ ได้ในประเทศต่าง ๆ เช่นช่มาเลเซียซีเรียรีกกันกั ว่า KUEH LAPIS มีรูมีรูปร่างหน้าตาที่คที่ล้ายกันกักับกัขนมของไทย จึงจึถือถื เป็น ป็ ขนมที่ไที่ด้รับรัอิทอิ ธิพธิลมาจากต่างประเทศ


ขนมเม็ด ม็ ขนุน เม็ด ม็ ขนุน เป็น ป็ ขนมที่ถืที่อถื เป็น ป็ ยอดขนม ในสมัยมั โบราณ ชนิดหนึ่งนึ่ใช้สำ หรับรัเลี้ยลี้ง พระหรือรื เลี้ยลี้งแขกโดยในสมัยมั โบราณจะ ใช้เม็ด ม็ ขนุนต้มให้สุกแล้วบดละเอียอีดนำ ไปกวนแล้วปั้นปั้ ให้เหมือมื น เม็ด ม็ ขนุนจริงริๆ จึงจึเรียรีกว่าเม็ด ม็ ขนุนในปัจปัจุบันบั ใช้วัสวัดุ หลายอย่าง เช่นช่แห้ว เผือผืก สาเก และถั่วถั่เขียขีว แต่ที่ต่ ที่ไที่ด้รับรัความนิยมจะเป็น ป็ เม็ด ม็ ขนุนถั่วถั่และเผือผืก


ขนมฝอยทอง "ฝอยทอง" ขนมมงคลของไทย ที่มีที่ปมีระวัติวัอัตินอัยาวนาน ตั้งตั้แต่รัชรัสมัยมัสมเด็จ ด็ พระนารายณ์มหาราช โดยแท้จริงริแล้ว ฝอยทอง มีต้มี นต้กำ เนิดมาจากประเทศโปรตุเกส เป็น ป็ สูตรขนมที่ชที่าวโปรตุเกส นำ มาเผยแพร่ในประเทศไทย พร้อมกับกัทองหยิบยิและทองหยอด จนได้รับรัความนิยมอย่างมากในภายหลังลัและกลายเป็น ป็ เอกลักลัษณ์ ของไทยไปแล้ว


ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียนีวมูน เป็น ป็ ขนมไทยภาคกลาง ขนมส่วนใหญ่จะทำ มาจากข้าวเจ้า ข้าวเหนียนีวมูนเป็น ป็ อาหารที่คที่นไทยนิยมรับรั ประทานกันกั มานานแล้ว แต่จะทำ อย่างไรให้ข้าวเหนียนีวมูนนั้นนั้มีรมีสชาติอติร่อย จะมี เทคนิคการทำ ที่แที่ตกต่างกันกั ไป หากหัวหั ใจสำ คัญคัของการทำ ข้าวเหนียนีว มูน คือคืต้องมีรมีสชาติเติข้มข้นข้ทั้งทั้หวาน มันมั และหอม


ขนมหม้อ ม้ แกง ขนมหม้อม้แกง หรือรืขนมกุมภมาศ เป็น ป็ ขนมไทยชนิดหนึ่งนึ่สร้างสรรโดย ท้าวทองกีบกีม้า หรือรืมารี กีมกีาร์ ส่วนประกอบ ในการทําคือคื ไข่ แป้ง และกะทิ เป็น ป็ ส่วนประกอบสําคัญคันำ ผสม กันกั ในถาดตามสัดสัส่วน ปัจปัจุบันบัมีกมีารใส่ ถั่วถั่เขียขีว และหอมเจียจีวมา ผสม


ขนมกล้วย ขนมกล้วยเป็น ป็ ขนมไทยห่อใบตองอีกอีชนิดที่คที่นไทยนิยมกินกิพบเจอและหาซื้อซื้ง่าย ความอร่อยไม่เป็น ป็ สองรองข้าวต้ม มัดมั และมักมัจะวางขายอยู่คู่ยู่ คู่กับกัขนมฟักฟัทอง วิธีวิทำธี ทำขนมกล้วยให้- อร่อยจะต้องเนื้อนื้เหนียนีว รสชาติหติวานกำ ลังลัดี และหอมกลิ่นลิ่กล้วย


ขนมตาล ขนมตาล เป็น ป็ ขนมไทยดั้งดั้เดิมดิเนื้อนื้ขนมมีลัมีกลัษณะเป็น ป็ แป้งสีเสีหลือลืงเข้ม นุ่ม ฟู มีกมีลิ่นลิ่ตาลหอมหวาน ขนมตาลทำ จากเนื้อนื้ ตาลจากผลตาลที่สุที่สุกงอม แป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำ ตาลผสมกันกัตาม กรรมวิธีวิ ใธีส่กส่ระทงใบตอง โรยมะพร้าวขูด และนำ ไปนึ่งนึ่จนสุก เนื้อนื้ ลูกตาลยีที่ยี ที่เที่ป็น ป็ ส่วนผสมในการทำ ขนมตาล ได้จากการนำ ผลตาล ที่ สุกจนเหลือลืงดำ เนื้อนื้ข้างในมีสีมี เสีหลือลืง มีกมีลิ่นลิ่แรง ซึ่งซึ่ส่วนมากจะ หล่นล่จากต้นต้ เอง มาปอกเปลือลืกออก นำ มายีกัยีบกัน้ำ สะอาดให้หมดสี เหลือลืง นำ น้ำ ที่ยีที่แยีล้วใส่ถุงผ้า ผูกไว้ให้น้ำ ตกเหลือลืแต่เนื้อนื้ลูกตาล



ขนมไทย ภาคใต้


ชาวใต้มีคมีวามเชื่อชื่ ในเทศกาลวันวัสารท เดือดืนสิบสิ จะทำ บุญ ด้วยขนมที่มีที่เมี ฉพาะในท้องถิ่นถิ่ภาคใต้เท่านั้นนั้เช่นช่ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือรืขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำดี ซำหรือรื เมซำ ขนมเจาะหูหรือรื เจาะรู ขนมไข่ปข่ลา ขนมแดง เป็น ป็ ต้นต้ ขนมไทยภาคใต้


ขนมหน้าไข่ ขนมหน้าไข่ เป็น ป็ ขนมหวานชนิดหนึ่งนึ่ของชาวสทิงพระ มีลัมีกลัษณะเป็น ป็ ชิ้นชิ้สี่เสี่หลี่ยลี่มทำ ด้วยแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำ ตาลแล้วนำ มา นึ่งนึ่หน้าขนมทำ ด้วยไข่ไก่ผสมหัวหักะทิ น้ำ ตาลทราย เกลือลืจึงจึ เรียรีกว่าขนมหน้าไข่ ใช้รับรั ประทานทั่วทั่ ไป


ขนมฆีมั ฆี นมั ไม้ ขนมฆีมัฆีนมั ไม้ เป็น ป็ ขนมของชาวไทยมุสลิมลิทำ จากมันมั- สำ ปะหลังลันำ ไปต้มให้สุก โรยด้วยแป้งข้าวหมาก เก็บ ก็ ไว้ 1 คืนคื 1 วันวัจึงจึนำ มารับรั ประทาน เป็น ป็ ขนมไทยที่อที่ร่อยมากในยุคโบ ราณเเละยุคปัจปัจุบันบั


ขนมจู้จุน จู้จุน หรือรืขนมฝักฝับัวบัเป็น ป็ ขนมพื้นพื้ถิ่นถิ่ภาคใต้ ประเทศไทย ลักลัษณะแบนกลม คล้ายไข่ดข่ าวทำ ด้วยแป้ง ขอบกรอบเด้งขึ้นขึ้มา โดยที่ตที่รงกลางนูนและนุ่ม รสหวาน ภายในขนมเป็น ป็ ใยเหมือมื นสายบัวบั


ขนมคอเป็ด ‘ขนมคอเป็ด ป็ ’ ภาษาไทยถิ่นถิ่ ใต้ออกเสียสีงว่า ‘หนมคอ แป็ด ป็ ’ เป็น ป็ ขนมแป้งทอดที่มีที่รูมีรูปร่างเฉพาะตัวตัเคลือลืบด้วยน้ำ ตาล ในบริบริทวิถีวิชีถีวิชีตวิคนแขกลุ่มลุ่ทะเลสาบสงขลานั้นนั้มักมัทำ ในช่วงงาน บุญประเพณีต่าง ๆ ซึ่งซึ่มีอมียู่ด้ยู่ ด้วยกันกัหลายประเพณี


ขนมศิลาอ่อ อ่ น ขนมกอและ เป็น ป็ ขนมหวานชนิดหนึ่งนึ่ซึ่งซึ่นิยมรับรั ประทาน กันกั ในท้องถิ่นถิ่อำ เภอสทิงพระ มีลัมีกลัษณะเป็น ป็ ชิ้นชิ้สี่เสี่หลี่ยลี่ม มีสีมีขสีาว โรยหน้าด้วยถั่วถั่เขียขีวซีกซีและต้นต้หอมหั่นหั่ทำ โดยนำ แป้งข้าวเจ้า ละลายกับกัน้ำ กะทิแล้วแล้วนำ มากวนด้วยไฟแรง แล้วยกลงจากเตาไฟ เทใส่ถาด ตัดตัเป็น ป็ ชิ้นชิ้สี่เสี่หลี่ยลี่ม แล้วโรยหน้าด้วยเมล็ด ล็ ถั่วถั่เขียขีวซึกซึ และต้นต้หอมหั่นหั่ ใช้รับรั ประทานคู่กับกัเครื่อรื่งโรยหน้ามีมมี ะพร้าวคั่วคั่ กุ้งแห้งบด และน้ำ ตายทรายละเอียอีด


ขนมเจาะหู ขนมเจาะหู บางท้องถิ่นถิ่เรียรีกว่า "ขนมเบซำ ” "ขนมเมซำ ” หรือรื "ขนมดีซำดี ซำ” เป็น ป็ ขนมที่ใที่ช้ในประเพณี ทำ บุญเดือดืนสิบสิ เชื่อชื่ว่า เป็น ป็ สัญสัลักลัษณ์แทนเงินงิเบี้ยบี้ ให้ผู้ล่วงลับลั ไปแล้วใช้สอย บางท้องถิ่นถิ่เชื่อชื่ ว่าเป็น ป็ เครื่อรื่งประดับดั ใช้เป็น ป็ ตุ้มหู ส่วนประกอบ แป้งข้าวเจ้า น้ำ ตาล น้ำ มันมัพืชพื


Click to View FlipBook Version