การเขยี นแผนการจัดการเรียนรู้
ฐานสมรรถนะ
เป้าหมายท่ีต้องช่วยกนั วนั นี้
หลกั สูตรฐานสมรรถนะ/ การออกแบบ , เขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
เคร่ืองมือท่ตี ้องเตรียม
•กระดาษ 1 แผ่น (ตีตาราง ขนาด 3 * 3)
•แผนการสอน
หลกั สูตรการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช
.... (หลกั สูตรฐานสมรรถนะ)
Competency - based Education
เกย่ี วกบั สมรรถนะ
สมรรถนะ (Competency)
•หมายถึง ความสามารถที่แสดงออกทางพฤติกรรมและ
การกระทาในการใช้ชีวิต การแก้ปัญหา และการ
ปฏิบัติงาน ให้ประสบความสาเร็จ โดยประยุกต์ใช้
ความรู้ (Knowledge) ทกั ษะ (Skills) เจตคติ (Attitudes)
และค่านิยม (Values) ใหเ้ หมาะสม สอดคลอ้ งกบั บริบท
ของสงั คมและวฒั นธรรม ในสถานการณ์ท่ีหลากหลาย
ร่าง หลกั สูตรการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
พทุ ธศักราช .... (หลกั สูตรฐานสมรรถนะ)
Competency - based Education
• การออกแบบหลกั สูตร การจดั การเรียนรู้ และการวดั และประเมินผล การ
เรียนรู้ ตาม (ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ….
จึงมีเป้าหมายในการพฒั นาสมรรถนะหลกั ของผเู้ รียนท่ีเหมาะสมตามช่วง
วยั
• จดั สภาพแวดลอ้ มและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathways) ที่
หลากหลาย
• จัดระบบสนับสนุนการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน
(Differentiated Learning)
• ใชก้ ระกระบวนการจดั การเรียนรู้เชิงรุก
• ใชส้ ่ือและสถานการณ์การเรียนรู้ที่ร่วมสมยั หลากหลายและยดื หยนุ่ ตาม
ความสนใจและความถนดั ของผเู้ รียน
วสิ ัยทศั น์
•“ ผเู้ รียนมีสมรรถนะหลกั ความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ เพ่อื
การเป็นผเู้ รียนรู้ ผรู้ ่วมสร้างสรรคน์ วตั กรรม และเป็น
พลเมืองท่ีเขม้ แขง็ ”
หลกั การสาคญั ของหลกั สูตรฐานสมรรถนะ
1. เป็ นหลักสูตรท่ีมีเป้าหมายในการพฒั นาสมรรถนะของผูเ้ รียนที่เหมาะสมตามช่วงวยั เน้นการพฒั นาผูเ้ รียนรายบุคคล
(Personalization) อยา่ งเป็นองคร์ วม (Holistic Development) เพ่ือการเป็นเจา้ ของ การเรียนรู้และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่ือง
(Life-Long Learning)
2. เป็นหลกั สูตรที่เช่ือมโยงระหวา่ งสมรรถนะหลกั และสมรรถนะเฉพาะในการกาหนดผลลพั ธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome)
เพ่ือการพฒั นาผเู้ รียนใหส้ ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ และการทางาน
3. เป็นหลกั สูตรท่ีจดั สภาพแวดลอ้ มและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathway) ที่หลากหลาย และระบบสนบั สนุนการเรียนรู้ท่ี
สอดคลอ้ งกบั พหุปัญญาและธรรมชาติของผเู้ รียน
4. เป็นหลกั สูตรที่มีกระบวนการจดั การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใชส้ ่ือและสถานการณ์การเรียนรู้ร่วมสมยั มีความ
หลากหลาย และยดื หยนุ่ ตามความสนใจ ความถนดั ของผเู้ รียน (Differentiated Instruction) บริบท จุดเนน้ ของสถานศึกษา และ
ชุมชนแวดลอ้ ม
5. เป็นหลกั สูตรท่ีมุ่งใชก้ ารประเมินเพ่ือการพฒั นาและสะทอ้ นสมรรถนะของผเู้ รียนตามเกณฑก์ ารปฏิบตั ิ (Performance) ท่ีเป็น
ธรรม เชื่อถือได้ เอ้ือต่อการถ่ายโยงการเรียนรู้และพฒั นาในระดบั ท่ีสูงข้ึนตามระดบั ความสามารถ
จุดหมาย
1. รู้จกั รัก เห็นคุณคา่ ในตนเองและผอู้ ่ืน จดั การอารมณ์และความเครียด ปัญหาและภาวะวกิ ฤต สามารถฟ้ื นคืน
สู่สภาวะสมดุล (Resilience) และมีสุขภาวะและมีสัมพนั ธภาพที่ดีกบั ผอู้ ่ืน
2. มีทกั ษะการคิดข้นั สูงอยา่ งมีคุณธรรม มีความสามารถในการนาและกากบั การเรียนรู้ของตนเองอยา่ งมี
เป้าหมาย
3. ส่ือสารอยา่ งฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลงั ดว้ ยความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม
4. จดั ระบบและกระบวนการทางานใหบ้ รรลุผลสาเร็จตามเป้าหมาย มีความเป็นผปู้ ระกอบการ ภาวะผูน้ า และ
จดั การความขดั แยง้ ภายใตส้ ถานการณ์ท่ีมีความซบั ซอ้ น
5. ปฏิบตั ิตนอยา่ งรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก
6. เขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกบั ปรากฏการณ์ของโลกและจกั รวาล เขา้ ถึงและรู้เท่าทนั วทิ ยาการเทคโนโลยเี พอ่ื การ
ดารงชีวติ และอยรู่ ่วมกบั ธรรมชาติอยา่ งยง่ั ยนื
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ เป็นคุณลกั ษณะท่ีแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีทศั นคติท่ีถูกตอ้ งต่อบา้ นเมือง
ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ เคารพสถาบนั พระมหากษตั ริย์ และยึดมนั่ ในวถิ ี
ชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ
2. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต เป็นคุณลกั ษณะที่แสดงออกถึงการยดึ มนั่ ในความถูกตอ้ ง ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อตนเองและ
ผอู้ ื่นท้งั ทางกาย วาจาและใจ ยดึ หลกั ความจริงและความถกู ตอ้ งในการดาเนินชีวติ มีความละอายและเกรงกลวั ต่อการ
กระทาผดิ
3. มีวนิ ยั เป็นคุณลกั ษณะท่ีแสดงออกถึงการยดึ มนั่ ในขอ้ ตกลง กฎเกณฑแ์ ละระเบียบขอ้ บงั คบั ท้งั ของตนเองครอบครัว
โรงเรียนและสงั คมเป็นปกติวสิ ยั และไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ ่ืน
4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง เป็นคุณลกั ษณะที่แสดงออกถึงการดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม อยู่
ร่วมกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความรับผดิ ชอบไม่เบียดเบียนผอู้ ื่น เห็นคุณคา่ ของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกนั ความเส่ียง
และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มีภูมิคุม้ กนั ในบุคคลท่ีดีและปรับตวั เพือ่ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
5. มีจิตสาธารณะ เป็นคุณลกั ษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ก่อใหเ้ กิดประโยชน์แก่
ผอู้ ื่น ชุมชน และสงั คม ดว้ ยความเตม็ ใจและกระตือรือร้นโดยไม่หวงั ผลตอบแทน
สมรรถนะหลกั 6 ด้าน
• สมรรถนะหลัก (Core Competencies) ตาม (ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช
…. หมายถึง สมรรถนะท่ีกาหนดให้เป็ นพื้นฐานท่ีนักเรียนทุกคนต้องได้รับการพัฒนาให้เป็ น
ความสามารถติดตัวเม่ือจบการศึกษา มีลกั ษณะเป็ นสมรรถนะขา้ มสาระการเรียนรู้หรือคร่อมวิชา
สามารถพฒั นาให้เกิดข้ึนแก่ผูเ้ รียนได้ในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่หลากหลาย หรือสามารถนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ รียนรู้สาระต่าง ๆ ไดด้ ีข้ึน
• เป็ นสมรรถนะที่มีลกั ษณะ “content – free” คือ ไม่ขนึ้ กบั เนื้อหาสาระของศาสตร์ใด ๆ อยา่ งไรก็ตาม
สมรรถนะหลกั โดยตวั มนั เองไม่ไดป้ ราศจากความรู้ แต่ความรู้ท่ีเป็นองคป์ ระกอบของสมรรถนะหลกั
จะเป็นองคค์ วามรู้เชิงกระบวนการ (Procedural Knowledge) ซ่ึงเป็นชุดของข้นั ตอนหรือการปฏิบตั ิ
เพื่อดาเนินการใหบ้ รรลุเป้าหมายของสมรรถนะน้นั ๆ เป็นไดท้ ้งั กระบวนการท่ีใชเ้ ฉพาะศาสตร์หรือ
บูรณาการขา้ มศาสตร์ เช่น ความรู้ที่เป็นองคป์ ระกอบของสมรรถนะการคิดข้นั สูงเป็นเป็นชุดความรู้ท่ี
เก่ียวขอ้ งกบั กระบวนการคิดประเภทต่าง ๆ เช่น การคิดวิเคราะห์ การคิดเชิงวิพากษ์ และการคิด
สร้างสรรค์
สมรรถนะการจดั การตนเอง
นิยาม
การรู้จกั รัก เห็นคุณค่าในตนเองและผูอ้ ื่น การพฒั นาปัญญา
ภายใน ต้งั เป้าหมายในชีวิตและกากบั ตนเองในการเรียนรู้และใชช้ ีวิต
การจดั การอารมณ์และความเครียด รวมถึงการจดั การปัญหาและภาวะ
วกิ ฤต สามารถฟ้ื นคืนสู่สภาวะสมดุล (Resilience) เพ่ือไปสู่ความสาเร็จ
ของเป้าหมายในชีวติ มีสุขภาวะท่ีดีและมีสมั พนั ธภาพกบั ผอู้ ื่นไดด้ ี
สมรรถนะการจัดการตนเอง
องค์ประกอบ
การเห็นคุณค่าในตนเอง : การรู้จกั รัก เห็นคุณค่าในตนเอง รู้จุดเด่น ขอ้ จากดั ความสนใจ
ความสามารถ ความถนดั และภาคภูมิใจในตนเอง มน่ั ใจในตนเอง เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติ
และเคารพสิทธิตนเองและผอู้ ื่น มีความรับผดิ ชอบในตนเอง
การมีเป้าหมายในชีวิต : การต้งั เป้าหมายในชีวิต มีวินยั ในตนเอง สามารถบริหารจดั การเวลา
ทรัพยากร สามารถพ่งึ พาและกากบั ตนเองใหไ้ ปสู่เป้าหมายในชีวติ และมีสุขภาวะที่ดี
การจัดการอารมณ์และความเครียด : การรับรู้ เขา้ ใจ รู้เท่าทนั อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด
และความเครียดที่เกิดข้ึนในชีวิตประจาวนั ของตนเอง เขา้ ใจสาเหตุและสามารถจัดการ
อารมณ์ ความรู้สึก และความคิดของตนเอง
การจัดการปัญหาและภาวะวิกฤต : การรู้เท่าทนั การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดจากปัญหาและภาวะ
วิกฤต สามารถฟ้ื นคืนสู่สภาวะสมดุลได้ สามารถเตรียมการ ป้องกนั และแกไ้ ข เพ่ือให้เกิด
ความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ ิน
สมรรถนะการคดิ ข้นั สูง
นิยาม
สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมีวิจารญาณบนหลกั
เหตุผลอย่างรอบด้าน โดยใช้คุณธรรมกากับการตัดสิ นใจได้อย่างมี
วิจารณญาณ มีความสามารถคิดอยา่ งเป็ นเหตุเป็ นผลดว้ ยความเขา้ ใจถงึ ความ
เช่ือมโยงของสรรพส่ิงท่ีอยูร่ ่วมกนั อยา่ งเป็ นระบบ ใชจ้ ินตนาการและความรู้
สร้างทางเลือกใหม่ เพือ่ แกป้ ัญหาที่ซบั ซอ้ นไดอ้ ยา่ งมีเป้าหมาย
สมรรถนะการคดิ ข้นั สูง
องค์ประกอบ
การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking : HOT-CTC) หมายถึง การคิดพิจารณาไตร่ตรองอยา่ งมี
เหตุผลท่ีมีจุดประสงคเ์ พอื่ ตดั สินวา่ ส่ิงใดควรเช่ือหรือควรกระทา โดยอาศยั การใชท้ กั ษะหรือกลยทุ ธ์ต่าง
ๆ เพ่ือเพ่ิมความเป็ นไปไดข้ องผลลพั ธ์จากการตดั สินใจท่ีดี เช่น ทกั ษะการตีความ ประเมิน วิเคราะห์
สรุปความ และอธิบาย ตามหลกั ฐาน แนวคิด วิธีการ กฎเกณฑ์ หรือบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวกบั ขอ้ มูลที่
รวบรวมหรือขอ้ มูลจากการสังเกต ประสบการณ์ การใชเ้ หตุผล การสะทอ้ นคิด การส่ือสาร และการ
โตแ้ ยง้
การคดิ เชิงระบบ (System Thinking : HOT-STM) หมายถึง การคิดที่แสดงใหเ้ ห็นโครงสร้างท้งั หมดท่ี
เชื่อมโยงสัมพนั ธ์กนั เป็ นหน่ึงเดียวกนั ภายใตบ้ ริบท/ปัจจยั ของสิ่งแวดลอ้ มท่ีเกิดปัญหาน้นั ๆ โดยมอง
ปัญหาให้ลึกลงไปกว่าเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน ให้เห็นถึงแบบแผนหรือรูปแบบพฤติกรรมทเ่ี กิดข้ึนให้เห็น
รากเหง้าของสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งกับสถานการณ์น้ัน ๆ จนเกิดความเขา้ ใจใน
สถานการณ์ของระบบน้นั อยา่ งลึกซ้ึง นาไปสู่การแกป้ ัญหาท่ีรากเหงา้ ของปัญหาอยา่ งแทจ้ ริง
สมรรถนะการคดิ ข้นั สูง
องค์ประกอบ
การคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking : HOT-CRT) หมายถึง การคิดที่หลากหลายริเร่ิม
ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดความคิด เพื่อการแก้ปัญหาหรื อสร้างทางเลือกท่ีมี
ประสิทธิภาพ การสร้างความกา้ วหน้าในความรู้ หรือการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยอาศยั
จินตนาการและทักษะพ้ืนฐานด้านการคิดริเริ่ม คิดคล่อง คิดยืดหยุ่น คิดละเอียดลออ คิด
หลากหลาย คิดวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อใหไ้ ดส้ ่ิงใหม่ที่ดีกวา่ แตกต่างไปจากเดิม มีประโยชน์
และมีคุณคา่ ต่อตนเอง ผอู้ ่ืน และสงั คมมากกวา่ เดิม
การคิดแก้ปัญหา (Problem Solving Thinking : HOT-PRB) หมายถึง การคิดของบุคคลในการ
ระบุปัญหา นิยามปัญหา รวบรวมขอ้ มูลเพอ่ื แกป้ ัญหา ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา เลอื กทางเลือกใน
การแกป้ ัญหาและดาเนินการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยมีเกณฑท์ ่ีชดั เจนและครอบคุ
ลมทุกมิติ
สมรรถนะการสื่อสาร
นิยาม
มีความสามารถรับรู้ รับฟัง ตีความ และส่งสารดว้ ยภาษาต่าง ๆ
ท้งั วจั นภาษาและอวจั นภาษา โดยใชก้ ระบวนการคิด ซ่ึงจะนาไปสู่การ
เรียนรู้ ความเขา้ ใจ ในระบบคุณค่า การแกป้ ัญหาร่วมกนั ผา่ นกลวธิ ีการ
ส่ือสาร อยา่ งฉลาดรู้ สร้างสรรค์ มีพลงั โดยคานึงถึงความรับผิดชอบ
ต่อสงั คม
สมรรถนะการสื่อสาร
องค์ประกอบ
ปกตลารรอะรดสับจาสนทาสสราัมอมผยาส่ัรางถใมนตีสีคกวตาาริแมรลสับะาสถราอแรดละตรสหลาัอสมดเาพจรื่อนถในสหาา้เสมกาาิดรรคมถวาตาใีคมชวพ้เขาฒั ม้านใสจาาตรหนทมเ่ีสอา่ยงงถมแึลงาไะกดสาท้งัรค้งัรมคับวสาามรคดิด้วยคคววาามมรใู้สสึก่ใเจจตผ่านนา
กทสธบแลรี่แนาาระรตรพมสสกร้ืนชาันตบกฐา่าเสลตาทง่นิ งศสหคส่ือมอวาสางายริ่งมคถบพ์คเึขงิมนวา้กพาใพามจส์ รื้นรใื่อรู้นัฐบปอบิเสารลรน่ะง็กิบสสคททาบวรรสกอาดังานมว้ ครยิกเมณวขสทิธ้์ า์ ผีี่มแกใ่าลาีคจนระวแทชสาลี่ห่มอื่อะคลงรคทิดาะกควแาหงนลาหละมโารวเดยือฒัคยสทานปื่้งอัรธรกทพาราศี่รมรใจมีคเนจาทวกรค่ีาแจควมตาวาตหกาม่อมตลรค่ขาาองิกดัดงหแทเหหย้ลงั ง้ใร็านตืนอยแ่าแรงทลละ้งัๆดกะสบัเวแปื่อัชลฒลบุมะี่ยนุครชนูค้เธนทขลร่อา้ชทรสมาื่นมัูตอลิ
กวภตัาาษรถเุปาลรตือะลกสอใงดชค้จ์กในนลกกวาาิธรรีกสส่ืาอื่อรสคสาวรื่อาหสมมาหรามยอาถยยึง่าผกง่าาเนหรสเมลื่อือาใกะนใสรชมูปว้ โแิธดีกบยาบรคตสา่า่ือนงสึงๆาถรึเงใพคน่ือวลบากั รมษรรณลับะุเปผต้า่าิดหงชมๆอาทบย้งัใตวน่อจั กสนาังภรคาสษม่ือาเสแพาลื่อระบอโดวรจยัรนมลีุ
ความรับผดิ ชอบ ต่อผลท่ีจะเกิดข้ึนในสงั คมและวฒั นธรรมท่ีแตกต่างท้งั ในระดบั ชุมชน ชาติ และสากล
สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเป็ นทมี
นิยาม
สามารถจดั ระบบและกระบวนการทางาน กิจการ และการประกอบการใด
ๆ ท้งั ของตนเอง และร่วมกบั ผูอ้ ่ืน โดยใชก้ ารรวมพลงั ทางานเป็ นทีม มีแผน
ข้ันตอน ให้บรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมาย มีภาวะผู้นา มีความโปร่งใส
ตรวจสอบได้ มีการประสานความคิดเห็นที่แตกต่างสู่การตัดสินใจและ
แกป้ ัญหาเป็ นทีม อยา่ งรับผิดชอบร่วมกนั สร้างความสัมพนั ธ์ทดี่ ีและจดั การ
ความขดั แยง้ ภายใตส้ ถานการณ์ท่ียงุ่ ยาก
สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเป็ นทมี
องค์ประกอบ
เป็ นสมาชิกทีมท่ีดีและมีภาวะผู้นา มีทกั ษะการทางานเป็นทีม รับผิดชอบในบทบาทหนา้ ท่ีของตนและของทีม มีความยืดหยุ่นในการทางาน
ร่วมกบั กลุ่มคนท่ีแตกต่าง นาจุดเด่นของตนและสมาชิกมาใช้ ในการทางานใหบ้ รรลุเป้าหมาย สะทอ้ นการทางานของตนเองและทีม ส่งเสริม
และพฒั นาศกั ยภาพของทีม สร้างแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเอง ให้เป็ นที่ยอมรับและไวว้ างใจ ประสานความร่วมมือภายในทีม และ
ระหวา่ งทีม สร้างค่านิยมใหม่ในการทางานร่วมกนั และการพฒั นาทีมท่ีเขม้ แขง็ สามารถเป็นตน้ แบบผสู้ ร้างการเปล่ียนแปลง
กระบวนการทางานแบบร่วมมือรวมพลังอย่างเป็ นระบบ สามารถจดั ระบบการทางานกิจการ และการประกอบการใด ๆ ท้งั ของตนเอง และ
ร่วมกบั ผูอ้ ื่น ร่วมกนั กาหนดเป้าหมาย แผนการทางาน ข้นั ตอน และกระบวนการทางานเป็ นทีม เห็นภาพความสาเร็จของทีม คานึงถึง
ประโยชน์ของทีมก่อนประโยชน์ส่วนตน แบ่งบทบาทหนา้ ที่ให้เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของสมาชิก รับผิดชอบตามบทบาทหนา้ ท่ีดว้ ยความใส่
ใจ มีความพยายามในการทางานและสนบั สนุนช่วยเหลือใหเ้ กิดความสาเร็จ เคารพ รับฟัง แลกเปลี่ยน และประสานความคิดเห็นที่แตกต่าง
ประยกุ ตใ์ ชท้ กั ษะการคิดข้นั สูงในการตดั สินใจเป็นทีมท่ีมีประสิทธิภาพ ประเมินและปรับปรุงกระบวนการทางานร่วมกนั อยา่ งเป็นระบบ ดว้ ย
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ร่วมรับผดิ และรับชอบต่อผลการตดั สินใจของทีม เห็นคุณค่าของการทางานแบบร่วมมือรวมพลงั
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการจัดการความขัดแย้ง มีทศั นคติเชิงบวกในการทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่น เห็นคุณค่าของสัมพนั ธภาพที่ดี สร้างและ
รักษาความสัมพนั ธ์อนั ดีในทีม ให้ความไวว้ างใจซ่ึงกนั และกนั ปฏิบตั ิต่อผูอ้ ื่นดว้ ยความจริงใจ เห็นอกเห็นใจในฐานะท่ีเป็ นมนุษยด์ ว้ ยกนั
เคารพและเห็นประโยชนข์ อง ความแตกต่างหลากหลาย มีทกั ษะและใชว้ ิธีการป้องกนั และจดั การความขดั แยง้ ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ
สมรรถนะการเป็ นพลเมืองที่เข้มแข็ง
นิยาม
การปฏิบตั ิตนอยา่ งรับผดิ ชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก รู้เคารพ
สิทธิเสรีภาพของตนเองและผอู้ ่ืน เคารพในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วม
ทางสังคมอยา่ งมีวิจารณญาณ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนท่ามกลางความหลากหลาย เห็น
คุณค่าของศกั ด์ิศรีความเป็ นมนุษย์ มีบทบาทในการตดั สินใจและสร้างการ
เปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยยึดมั่นในความเท่าเทียมเป็ นธรรม ค่านิยม
ประชาธิปไตย และสนั ติวธิ ี
สมรรถนะการเป็ นพลเมืองทเ่ี ข้มแข็ง
องค์ประกอบ
พลเมืองรู้เคารพสิทธิ เคารพสิทธิเสรีภาพของผูอ้ ื่น ตระหนักในสิทธิเสรีภาพของตนเอง
ช่วยเหลือ ให้เกียรติ และเห็นอกเห็นใจผูอ้ ่ืนบนพ้ืนฐานของการพ่ึงพาอาศยั กนั โดยปราศจาก
อคติ ไมเ่ ลือกปฏิบตั ิเพ่ือการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติ
พลเมืองรับผดิ ชอบต่อบทบาทหน้าที่ ปฏิบตั ิตนตามกฎ กติกา ขอ้ ตกลง กฎหมาย อยา่ งถูกตอ้ ง
และเหมาะสม รับผดิ ชอบบทบาทหนา้ ท่ีตนเองในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก
พลเมืองมีส่วนร่วมอย่างมีวจิ ารณญาณ ติดตามสถานการณ์และประเดน็ ปัญหาของสังคมอยา่ ง
มีวจิ ารณญาณ มีส่วนร่วมทางสงั คมดว้ ยจิตสาธารณะและสานึกสากล
พลเมืองผู้สร้างการเปลยี่ นแปลง มีความกระตือรือร้นในการสร้างการเปล่ียนแปลงเชิงบวกทาง
สงั คม บนพ้ืนฐานของความเท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยมประชาธิปไตย และสนั ติวธิ ี
สมรรถนะการอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละวทิ ยาการอย่างยง่ั ยืน
นิยาม
มี ค ว า ม เ ข้า ใ จ พ้ื น ฐ า น เ ก่ี ย ว กับ ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ข อ ง โ ล ก แ ล ะ เ อ ก ภ พ แ ล ะ
ความสัมพนั ธ์ของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และธรรมชาติในชีวิตประจาวนั
ใชแ้ ละรู้เท่าทนั วิทยาการเทคโนโลยี มีความอยากรู้ อยากเห็น ช่างสังเกต เห็น
คุณค่า สามารถแกป้ ัญหา หรือสร้างสรรคน์ วตั กรรมไดเ้ พื่อการดารงชีวิตและ
อยรู่ ่วมกบั ธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยนื
สมรรถนะการอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละวทิ ยาการอย่างยงั่ ยืน
องค์ประกอบ
การเข้าใจปรากฏการณ์ทเี่ กิดขึน้ บนโลกและในเอกภพ: สืบเสาะ ทาความเขา้ ใจขอ้ เทจ็ จริง สาเหตุ
กระบวนการ และผลกระทบท่ีเกิดข้ึนของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนบนโลก และในเอกภพ
การเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เพื่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่าง
ย่ังยืน: มองเห็นปัญหา เช่ือมโยงและประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพ่ือแกป้ ัญหา หรือสร้างสรรคน์ วตั กรรม เพื่อการดารงชีวิตและอยู่
ร่วมกบั ธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยนื
การสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการเทคโนโลยี: สร้างและใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างสรรค์ รู้เท่าทนั มีความฉลาดทางดิจิทลั คานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สิ่งแวดลอ้ ม และสงั คม
การมีคุณลักษณะทางคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ สาหรับการเข้ าใจระบบธรรมชาติและการอยู่
ร่วมกันอย่างย่ังยืน: มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกต เขา้ ใจระบบธรรมชาติ เห็นคุณค่าของ
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เพ่ือการดารงชีวิตและอยรู่ ่วมกบั ธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยนื
เทคนิคเขยี นแผนการจดั การเรียนรู้
มุ่งเน้นสมรรถนะ
แผนการจัดการเรียนรู้
•แผนการจดั การเรียนรู้ (learning plan) การจดั ทาแผนการ
จดั การเรียนรู้แบ่งได้เป็ น 2 ข้นั ตอน ข้นั ตอนแรก คือ การ
กาหนดการสอน ข้นั ตอนท่ีสอง คือ การทาแผนการจดั การ
เรียนรู้ การกาหนดการสอน ทาโดยวิเคราะห์สาระจาก
คาอธิบายรายวิชา แลว้ จึงกาหนดเน้ือหาสาระสาคญั จานวน
คาบ เวลา และสปั ดาห์ท่ีสอนไวต้ ลอดภาคเรียนหรือตลอดปี
• แผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีจะต้องประกอบ ไปด้วยส่วนส่วนสาคัญ
อย่างน้อย 3 ส่วนท่ีเรียกย่อๆ ว่า “OLE” ได้แก่ จุดประสงค์การ
เรียนรู้ (Objectives = O) กจิ กรรมการเรียนการสอน (Learning
and teaching activities = L) และการประเมินผล (Evaluation =
E) ซ่ึงรวมเรียกว่า “ไตรยางค์การสอน”
ส่วนประกอบของแผนการจดั การเรียนรู้
1. • สาระสาคัญหรือสังเขปหัวข้อ หมายถึง
สาระสาคญั บทสรุปของเน้ือหา เป็นบทสรุปท่ีส้ันท่ีสุด
หรือสังเขป ของ เน้ือหา คือหวั ใจของเร่ือง (main idea)
เป็ นการ เน้นถึงนิยาม ความหมายหรือ
หัวข้อ ความคิดรวบยอด เกี่ยวกบั เน้ือหาในเร่ืองท่ี
จดั การเรียนการสอน หลกั การทฤษฎี กฎ
ตลอดจนคติพจนห์ รือสจั พจน์
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
ระดบั ของจุดประสงค์การเรียนรู้ ในการกาหนดจุดประสงคก์ ารเรียนรู้โดยทว่ั ไปจะแบ่งเป็น 2
ระดบั คือ 1. จุดประสงคท์ ว่ั ไป หรือจุดประสงคป์ ลายทาง 2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมหรือ
จุดประสงคน์ าทาง หรือจุดประสงคเ์ ฉพาะ
จุดประสงค์ทว่ั ไปหรือจุดประสงค์ปลายทาง คือ จุดประสงคท์ ี่เป็นเป้าหมายสาคญั ท่ีมุ่งหวงั ให้
เกิดข้ึนกบั ผเู้ รียนในการเรียนรู้แต่ละเรื่องหรือแต่ละหน่วยการเรียนรู้
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมต้องสัมพนั ธ์กบั จุดประสงค์ทว่ั ไป ครบท้งั 3 ดา้ น สติปัญญา (พทุ ธิ
พสิ ยั ) ความรู้ความจา ความเขา้ ใจ การนาไปใช้ การวเิ คราะห์ การประเมินค่า การสร้างสรรค์
ทกั ษะ (ทกั ษะพสิ ยั ) แสดงไดถ้ ูกลกั ษณะ ปฏิบตั ิถูกตอ้ ง แสดงไดค้ ล่องแคล่ว ทางานไดร้ วดเร็ว
ถูกตอ้ ง เจตคติ (จิตพสิ ัย) การรับ การตอบสนอง การเห็นคุณคา่ การจดั ระเบียบ
ตัวอย่างของ การเขยี นจุดประสงค์ทวั่ ไปหรือจุดประสงค์ปลายทาง
ผลการเรียนรู้ด้าน ตวั อย่างการเขยี นจุดประสงค์ทว่ั ไป
พุทธิพสิ ัย
เพือ่ ใหน้ กั เรียนมีความรู้เกี่ยวกบั ..................
ทกั ษะพสิ ัย เพื่อใหน้ กั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ......................
จิตพสิ ัย เช่น เพื่อให้นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั การดูแลรักษาความสะอาดของ
ร่างกาย
เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถ...(กระทากิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึง)...ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ...
เช่น เพื่อให้นักเรียนสามารถปฏิบัติการแปรงฟันได้อย่างถูกต้อง
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตระหนกั ในความสาคญั ของการ...
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตระหนกั ในคุณคา่ ของ...
เพื่อใหน้ กั เรียนมีเจตคติท่ีดีต่อ...
เช่น เพ่ือให้นักเรียนตระหนักถึงความสาคญั ของการรักษาความสะอาดของร่างกาย
พทุ ธิพสิ ัย
•มุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนเกิด ความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหาสาระต่างๆ ซ่ึง
เน้ือหา สาระน้นั อาจอยู่ในรูปของขอ้ มูล ขอ้ เท็จจริง มโนทศั น์ หรือ
ความคิดรวบยอด ท้งั น้ีผูเ้ รียน อาจเกิดการเรียนรู้เพียงระดบั ใดระดบั
หน่ึงหรือ อาจเกิดการเรียนรู้ตามลาดบั ข้นั จนถึงข้นั สูงสุด ต้งั แต่ข้นั
ความรู้ความจาเขา้ ใจ นาไปใช้ วเิ คราะห์ ประเมินค่า และสร้างสรรค์
ความจา--ความสามารถในการจาเนื้อหาความรู้และระลกึ ได้เมื่อ
ต้องการนามาใช้
• จา...............(ความรู้ ความจา)
• ใหค้ วามหมาย....ได้
• บอกเรื่องราว....ได้
• ช้ี....ได้
• จบั คู่....ได้
• กล่าวเป็นขอ้ ความ/ถอ้ ยคา....ได้
• เลือก....ได้
• นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตไิ ด้
ความเข้าใจ--การเข้าใจความหมายของเนื้อหาสาระ ไม่ได้จาเพยี งอย่าง
เดยี ว สามารถแสดงพฤตกิ รรมความเข้าใจในรูปแบบของการแปล
ความหมายตคี วามสรุปความ
• แยกแยะ....ได้ ขยายความ...ได้
• อธิบาย....ได้ คาดคะเน...ได้
• แปลความ...ได้ ยอ่ ความ...ได้
•เปล่ียนขอ้ ความ...ได้ อา้ งอิง...ได้
• ใหเ้ หตุผล...ได้ ยกตวั อยา่ ง...ได้
• นักเรียนสามารถยกตวั อย่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตไิ ด้
การประยุกต์ใช้--การนาเอาเนื้อหาสาระ หลกั การ ความคดิ รวบยอดและ
ทฤษฎตี ่างๆไปใช้ได้ในรูปแบบใหม่
• ใช้ ...............(การประยกุ ต์ใช้)
• ปฏิบตั ิ...ได้
• คานวณ....ได้
• แสดง...ได้
• สาธิต...ได้
• สมั พนั ธ์เร่ือง...ได้
• ทาใหด้ ู...ได้
• นักเรียนสามารถเสนอความคดิ เห็นในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้
วิเคราะห์ -- ความสามารถในการแยกเนื้อหาให้เป็ นส่ วนย่อยเพื่อค้นหา
องค์ประกอบ โครงสร้าง หรือความสัมพนั ธ์ระหว่างส่วนย่อยน้ันซึ่งนักเรียน
จะสามารถวเิ คราะห์ได้กต็ ่อเม่ือนักเรียนเข้าใจ
• ว.ิ ...............(วเิ คราะห์) อา้ งอิง...ได้
• แยก...ได้ แสดงเป็ นแผนภาพ...ได้
• แยกแยะ...ได้ เปรียบเทียบ
• จาแนก...ได้ วเิ คราะห์...ได้
• แบ่งกลุ่ม...ได้
• นักเรียนสามารถจาแนกวธิ ีอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตเิ ป็ นประเภทได้
ประเมินค่า -- ความสามารถในการพจิ ารณาตดั สินคุณค่าของส่ิงต่างๆ
โดยทผี่ ู้ตดั สินกาหนดเกณฑ์ขนึ้ มาเอง
• ประ................(ประเมนิ ค่า)
• เกิดความพอใจ
• เห็นความแตกต่าง
• เปรียบเทียบ...ได้
• สรุปความ...ได้
• วจิ ารณ์...ได้
• แปลความ...ได้
• ทานาย...ได้
• นักเรียนสามารถบอกได้ว่าการกระทาเช่นใดผดิ พระราชบญั ญตั ิการคุ้มครองสัตว์ป่ า
สร้างสรรค์ -- ความสามารถในการสร้างพฒั นาชิ้นงานขนึ้ มาจากการนา
ความรู้ ทฤษฎี หลกั การ ทกั ษะการปฏบิ ตั ิ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์มาใช้
• ออกแบบ
• ประกอบ
• สร้าง
• พฒั นา
• คิดตารับ
• ผเู้ ขียน
• ประดิษฐ์
• นักเรียนสามารถประดษิ ฐ์อปุ กรณ์ไฟฟ้าจากส่ิงของเหลือใช้ได้
ผลการเรียนรู้ด้าน ตวั อย่างการเขียนจุดเชิง ตวั อย่างจุดประสงค์การเรียนรู้และ
พทุ ธิพสิ ัย พฤติกรรม จุด ประสงค์เชิงพฤติกรรม
ความรู้ความจา นกั ศึกษาสามารถ จุดประสงค์การเรียนรู้
ความเข้าใจ
การประยุกต์ใช้ 1. บอกความหมายของ...ได้ เพื่อใหน้ กั ศึกษามีความรู้ความเข้าใจ
วเิ คราะห์
ประเมินค่า 2. อธิบายวิธีการ...ที่ถูกวิธีได้ เกี่ยวกบั พฒั นาการเดก็ ตามวยั
สร้างสรรค์
3. บอกประโยชนข์ องการ...ได้
4. อธิบายข้นั ตอนของ...ได้ จุดเชิงพฤตกิ รรม นกั ศึกษาสามารถ
5. บรรยายลกั ษณะของ...ได้ 1. บอกถึงพฒั นาการของเดก็ ในวยั
6. วิเคราะห์ผลดีผลเสียของ...ได้ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
7. อภิปรายเก่ียวกบั ...ได้ 2. วเิ คราะห์ผลการตรวจวดั และ
ประเมิน พฒั นาการเดก็ ในกรณีศึกษา
ได้