หน้า | 1
หน้า | 2 บันทึกการให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ประจำปีการศึกษา 2566 - 2570 ****************************** ตามความในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 9 (3) ให้มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาทุก ระดับ และมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา ประจำปี2566 - 2570 และถือว่าการประกันคุณภาพการศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้อง ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอ ต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาและเพื่อ รองรับการประเมินภายนอก อ้างถึง ประกาศคณะกรรมการประกันคุณภาพในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องกำหนด หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2554 คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อ ดำ ได้ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ประจำปีการศึกษา 2566– 2570 มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้โรงเรียน เสนอต่อหน่วยงาน ต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ เปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และมาตรฐานการศึกษา และเพื่อนำไป เป็นแผนปฏิบัติการ ของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2566 - 2570 ต่อไป (ลงชื่อ)......................................................... (ลงชื่อ)..................................................... ( นายธงชัย พันธุ) ( นายอำนวย จอมใจ ) ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ 10 พฤษภาคม 256๖ 10 พฤษภาคม 256๖
หน้า | 3 คำนำ ตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 ในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 2 เมษายน 2553 กำหนดไว้ในข้อ 14 (2) ว่า ให้สถานศึกษาจัดทำ แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำ แผนพัฒนาการศึกษาขั้น พื้นฐานโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2566 - 2570 กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “ภายในปี 2570 โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาส่งเสริม ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มีความปลอดภัย สอดคล้องหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” และมี กล ยุทธ์ระดับสถานศึกษาไว้ จำนวน 6 กลยุทธ์ โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ได้นำเสนอแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชน บ้านป่าก่อดำ ประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2566 - 2570 ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ในคราวประชุมครั้งที่ 2 / 2566 เมื่อวันที่ 10 เดือน พฤษภาคม พ.ศ 2566 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2566 - 2570 ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์เพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติ การประจำปีการศึกษา ระยะ 5 ปี และมี การดำเนินงาน กำกับ ติดตาม ประเมินผลและรายงานผลการ ดำเนินงานตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553 และ ประกาศคณะกรรมการประกันคุณภาพภายในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และแนว ปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2554 ต่อไป โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ พฤษภาคม 2566
หน้า | 4 สารบัญ หน้า บันทึกความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาฯ คำนำ สารบัญ ส่วนที่ 1 บทนำ 1 ประวัติความเป็นมาของสถานศึกษา 1 โครงสร้างการบริหาร 1 สภาพทั่วไป 2 ข้อมูลอัตรานักเรียน ย้อนหลัง - ก้าวหน้า 5 ปี 3 ข้อมูลบุคลากร 5 ข้อมูลอาคารเรียน อาคารประกอบ 6 ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา 8 ผลงานที่ประสบผลสำเร็จ 15 ผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก (SWOT Analysis) 19 ส่วนที่ 2 บริบทที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา 37 พระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา 37 กฎหมาย แผน ยุทธศาสตร์และนโยบายที่เกี่ยวข้อง 37 - แผนระดับที่ 1 28 - แผนระดับที่ 2 40 - แผนระดับที่ 3 48 - นโยบายที่เกี่ยวข้อง 55 ส่วนที่ 3 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน 66 วิสัยทัศน์/พันธกิจ/เป้าประสงค์/กลยุทธ์ ส่วนที่ 4 กลยุทธ์การพัฒนาการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566-2570 71 ส่วนที่ 5 โครงการ/กิจกรรม ระยะ 5 ปี 77 แผนงบประมาณตามกลยุทธ์การพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา 77 ประจำปีการศึกษา 2566-2570 ส่วนที่ 6 การบริหารแผนไปสู่การปฏิบัติ 81 ภาคผนวก
หน้า | 1 ส่วนที่ 1 บทนำ ประวัติความเป็นมาของสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ เดิมเป็นโรงเรียนราษฎร์ตั้งขึ้นที่หมู่บ้านป่าอ้อยเมื่อปีพ.ศ.2463 โดย นายปัญญา ปัญญาช่วยกำนันตำบลห้วยส้านเป็นผู้สร้างขึ้นด้วยเงินอุดหนุนของราษฎรที่นำบุตรหลานมาเข้า เรียน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2465 กระทรวงธรรมการได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. ประถมศึกษา จึงได้เปลี่ยนเป็น โรงเรียนประชาบาล ชื่อว่าโรงเรียนวัดอูปแก้ว พ.ศ. 2473 ได้ย้ายสถานที่ตั้งโรงเรียนไปทำการสอนที่วัดศรี ดอนมูล พ.ศ. 2477 ได้ย้ายจากวัดศรีดอนมูลไปสร้างโรงเรียนติดกับถนนพหลโยธิน พ.ศ. 2479 ได้ตั้งชื่อ ว่าโรงเรียนประชาบาลตำบลห้วยส้าน 1 (บ้านป่าก่อดำ) พ.ศ. 2481 ทางราชการได้ยุบตำบลห้วยส้านไป รวมกับตำบลบัวสลีเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็นโรงเรียนประชาบาลบัวสลี 2 (บ้านป่าก่อดำ) พ.ศ. 2504 แยก ออกจากตำบลบัวสลีมาเป็นตำบลป่าก่อดำ ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็นโรงเรียนบ้านป่าก่อดำ พ.ศ. 2510 ได้ ขยายจาก ป.4 เป็น ป.7 โดยเริ่มเปิด ป.5(ป.ปลาย) พ.ศ. 2520 เปลี่ยนชื่อจากป่าก่อดำเป็นโรงเรียนชุมชน บ้านป่าก่อดำ วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 นายอำนวย จอมใจ ย้ายจากโรงเรียนบ้านหนองเก้าห้อง มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนจนกระทั่งปัจจุบัน ปัจจุบันโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีครู ประจำการ 11 คน นักการภารโรง 1 คน ลูกจ้างชั่วคราว 1 คน โดยมีนายอำนวย จอมใจ เป็นผู้อำนวยการ โรงเรียน โครงสร้างการบริหาร โรงเรียน ได้แบ่งการบริหารงานดังนี้ แสดงเป็นแผนภูมิได้ ดังนี้ แผนภูมิที่ 1 แสดงโครงสร้างการบริหารโรงเรียน โครงสร้างการบริหารงาน สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มบริหารงาน วิชาการ กลุ่มบริหารงาน การเงินและ สินทรัพย์ กลุ่มบริหารงาน บุคคล กลุ่มบริหารงาน ทั่วไป
หน้า | 2 แผนภูมิที่ 2 แสดงโครงสร้างการบริหารคน โครงสร้างการบริหารคน สภาพทั่วไป ชื่อโรงเรียน ชุมชนบ้านป่าก่อดำ ที่ตั้ง 134 หมู่ที่ 10 ตำบล ป่าก่อดำ อำเภอ แม่ลาว จังหวัด เชียงราย สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน โทร 053-666187 โทรสาร- E-mail : [email protected] Website : http://www.pkd.ac..th เปิดสอนระดับชั้น อนุบาลปีที่ 2ถึงระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 เนื้อที่ 37 ไร่ 3 งาน 57 ตารางวาลักษณะทางภูมิศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ เขตพื้นที่บริการ หมู่ที่ 7 8 9 10 12 ตำบลป่าก่อดำ หมู่ที่ 3 ตำบลจอมหมอกแก้ว ตาราง 1 จำนวนประชากรชาย และประชากรหญิงในเขตพื้นที่บริการ จำแนกตามหมู่บ้าน หมู่บ้าน ประชากรชาย ประชากรหญิง รวม (คน) จอมหมอกแก้ว หมู่ที่ 3 367 380 747 คน ป่าก่อดำ หมู่ที่ 7 256 266 522 คน ป่าก่อดำ หมู่ที่ 8 314 343 657 คน ป่าก่อดำ หมู่ที่ 9 168 217 385 คน ป่าก่อดำ หมู่ที่ 10 315 352 667 คน ป่าก่อดำ หมู่ที่ 12 221 252 473 คน สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มบริหารงาน วิชาการ 1.นางประทินทิพย์ สลีสองสม 2. นางสาววาสนา อินต๊ะยศ 3. นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง 4. นางสาวกฤตพร กองบุญ กลุ่มบริหารงาน การเงินและสินทรัพย์ 1.นางพรรณพิราช บทมา 2.นายโยธิน แก้วก๋า 3. นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ 4. น.ส.กรรณิการ์ จอมแปง 5. นายภัทรดนัย สุศิวะ กลุ่มบริหาร งานบุคคล 1.นายอำนวย จอมใจ 2.นางนิศาสินี พาสอน กลุ่มบริหาร งานทั่วไป 1.นางปิยะลักษณ์ ริมทอง 2.นายโยธิน แก้วก๋า 3. นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ 4.นางสาววาสนา อินต๊ะยศ 5. นางศิรินรัตน์ ชัยสุวรรณ์ 6. นายภัทรดนัย สุศิวะ
หน้า | 3 ข้อมูลอัตรานักเรียน ย้อนหลัง - ก้าวหน้า 5 ปี มีข้อมูลดังนี้ ตาราง 2 จำนวนนักเรียน อัตราย้อนหลัง – ก้าวหน้า 5 ปี ประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2564 - 2568 ระดับชั้น จำนวนนักเรียน หมายเหตุ ปี ก.ศ. 64 ปี ก.ศ. 65 ปี ก.ศ. 66 ปี ก.ศ. 67 ปี ก.ศ. 68 อ.2 4 4 4 8 5 อ.3 7 4 5 4 8 รวมปฐมวัย 11 8 9 12 13 ป.1 7 5 7 5 4 ป.2 9 7 6 7 5 ป.3 15 6 7 6 7 ป.4 17 15 5 7 6 ป.5 13 18 15 5 7 ป.6 19 11 19 15 5 รวมประถม 80 68 59 45 34 ม.1 5 7 14 19 15 ม.2 11 6 9 14 19 ม.3 13 6 6 9 14 รวมมัธยมต้น 29 19 29 42 48 รวมทั้งหมด 120 93 97 99 95
หน้า | 4 ตาราง 3 จำนวนนักเรียน ปีการศึกษา พ.ศ. 2566 ชั้น โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ ครูประจำชั้น หมายเหตุ ชาย หญิง รวม อบ.๒ อบ.๓ 2 4 2 1 4 5 นางสาววาสนา อินต๊ะยศ นางสาววาสนา อินต๊ะย รวม 6 3 9 ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ 4 2 3 3 6 14 3 4 4 2 9 5 7 6 7 5 15 19 นางพรรณพิราช บทมา นางศิรินทร์รัตน์ ชัยสุวรรณ์ นางนิศาสินี พาสอน นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ นางสาวกฤตพร กองบุญ รวม 32 27 59 ม.๑ ม.๒ ม.๓ 6 7 3 8 2 3 14 9 6 นายภัทรดนัย สุศิวะ นางปิยะลักษณ์ ริมทอง นายโยธิน แก้วก๋า นางประทินทิพย์ สลีสองสม รวม 16 13 29 รวม ทั้งหมด 54 43 97 ตาราง 4 จำนวนนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ปีการศึกษา พ.ศ. 2566 จำแนกตามระดับชั้น และกลุ่มชาติ พันธุ์(ถ้ามี) ระดับชั้น จำนวนนักเรียนชนเผ่า (คน) หมายเหตุ ลาหู่ อาข่า ลีซอ ม้ง พื้นราบ อ.1 - - - - 4 อ.2 - - - - 5 ป.1 - 1 - - 6 ป.2 - 2 - - 6 ป.3 1 - - - 6 ป. 4 - 1 - - 4 ป.5 2 1 - - 12 ป.6 - 1 - - 18 ม.1 - 8 - - 6 ม.2 - 1 - - 8 ม.3 - - - - 6
หน้า | 5 ข้อมูลบุคลากร ในปีการศึกษา พ.ศ. 2566 โรงเรียนมีบุคลากรดังต่อไปนี้ ตาราง 5 จำนวนบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ที่ ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง วุฒิการศึกษา ดำรง ป.ตรี ป.โท/เอก ตำแหน่งเมื่อ 1 นายอำนวย จอมใจ ผู้อำนวยการ โรงเรียน คบ.ประถมศึกษา คม./บริหาร 12 มิถุนายน 2553 2 นายโยธิน แก้วก๋า ครูชำนาญการพิเศษ คบ.พลศึกษา 16 พฤษภาคม 2543 3 นางนิศาสินี พาสอน ครูชำนาญการพิเศษ ค.บ.เกษตรศาสตร์ 1 ตุลาคม 2564 4 นางประทินทิพย์ สลีสองสม ครูชำนาญการพิเศษ ศศบ.ภาษาอังกฤษ ศษ.ม. ภาษาอังกฤษ ศษ.ม.การบริหาร การศึกษา 4 เมษายน 2554 5 นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูชำนาญการพิเศษ ศษ.บ.วิทยาศาสตร์ 4 เมษายน 2554 6 นางพรรณพิราช บทมา ครูชำนาญการพิเศษ คบ.ปฐมวัย คม.หลักสูตรและ การสอน 1 พฤษภาคม 2555 7 นางสาววาสนา อินต๊ะยศ ครู คบ.ปฐมวัย 26 เมษายน 2560 8 นางศิรินทร์รัตน์ ชัยสุวรรณ์ ครูชำนาญการ บธ.บ.คอมพิวเตอร์ ธุรกิจ ศษ.ม.การบริหาร การศึกษา 2 พฤษภาคม 2555 9 นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ ครูชำนาญการ วท.บ.วิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ศษ.ม.การบริหาร การศึกษา 11พฤศจิกายน 2564 10 นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง ครู คบ.คอมพิวเตอร์ ศษ.ม.หลักสูตร และการสอน 1 ตุลาคม 2559 11 นายภัทรดนัย สุศิวะ ครู กศ.บ.สังคมศึกษา 1 ตุลาคม 2561 12 นางสาวกฤตพร กองบุญ ครู ศษ.บ.ภาษาไทย 13 นายพิสิษฐ์ ธรรมวงค์ ช่างไฟฟ้า 4 บริการ ปวช 24 กรกฎาคม 2535 14 นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ ค.บ.คอมพิวเตอร์ 16 พฤษภาคม 2560
หน้า | 6 ข้อมูลอาคารเรียน อาคารประกอบ แผนผังที่ 1 แสดงอาคารเรียน อาคารประกอบ -แสดง รูปภาพแผนผัง โรงเรียน แสดงอาคารเรียน อาคารประกอบ
หน้า | 7 ตาราง 6 จำนวนอาคารเรียน อาคารประกอบ ประจำปีการศึกษา 2566 ที่ รายการ แบบ จำนวน ห้อง/ชั้น การใช้งาน แหล่ง งบประมาณ สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. สภาพการใช้งาน ดี/พอใช้/ชำรุด 1 อาคารเรียน ป.1ก(ตึก) 4 อนุบาล องค์การ 2508 พอใช้ 2 อาคารเรียน ป.1ข (ไม้) 4 ชั้นป.1-3 องค์การ 2480 พอใช้ 3 อาคารเรียน ชร017/1 10 ชั้น ป4-6 และห้อง พิเศษ องค์การ 2513 ดี 4 อาคารเรียน ชร017/2 10 ห้องพิเศษ องค์การ 2519 ดี 5 อาคารเรียน 105ล/58(ข) 4 ม.1-3ห้อง พิเศษ สพฐ 2559 ดี 6 อาคารเรียน ไม้ไผ่ 5 ห้องพิเศษ หจก. เนาวรัตน์ พัฒนา 2559 ดี 7 อาคารเรียน ชั่วคราว/1 2 ห้องพิเศษ สพฐ 2557 ดี 8 อาคารเรียน ชั่วคราว/2 2 ห้องพิเศษ สพฐ 2557 ดี 9 อาคารเรียน ชั่วคราว/3 2 ห้องพิเศษ สพฐ 2557 ดี 10 อาคาร อเนกประสงค์ ชร07( องค์การ) 1 ห้อง ประชุม องค์การ 2516 พอใช้ 11 อาคารโรง อาหาร ชร 08 1 โรงอาหาร องค์การ 2523 พอใช้ 11 บ้านพักครู ชร 03/1 3 บ้านพัก สปช 2518 พอใช้ 12 บ้านพักครู ชร 03/2 3 บ้านพัก สปช 2519 พอใฃ้ 13 บ้านพักครู ชร 03/3 3 บ้านพัก สปช 2523 พอใฃ้ 14 บ้านพักภาร โรง สปช304/28 3 บ้านพัก สปช 2531 พอใช้ 15 ส้วม ชร06/1 5 องค์การ 2515 รอซ่อม 16 ส้วม ชร06 5 องค์การ 2523 พอใช้ 17 ส้วม ชร06 5 องค์การ 2525 พอใช้ 18 ส้วม สปช601/26 4 สปช 2542 ดี 19 ส้วม สปช601/26 4 สปช 2540 ดี
หน้า | 8 ตาราง 7 ข้อมูลความขาดแคลนอาคารเรียน อาคารประกอบ ประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2566 รายการ แบบ(ที่มี อยู่) ข้อมูลความขาดแคลน หมายเหตุ เกณฑ์ควรมี มีอยู่แล้ว ขาดแคลน 1 อาคารเรียน 5 5 5 0 2 อาคารอเนกประสงค์ 1 1 1 0 3 อาคารโรงอาหาร 1 1 1 0 4 บ้านพักครู 4 4 4 0 5 ส้วม 5 5 5 0 ตาราง 8 ข้อมูลหน่วยงานราชการ และเอกชนที่สำคัญ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บริการ ที่ หน่วยงาน ที่ตั้ง โทรศัพท์ 1 สถานีตำรวจส่วนแยกแม่ลาว หมู่ที่ 12 ต. ป่าก่อดำ 0-5377-8199 2 เทศบาลตำบลป่าก่อดำ หมู่ที่ 10 ต. ป่าก่อดำ 053-666-694 และ 053-666-764 3 โรงพยาบาลแม่ลาว หมู่ที่ 3 ต. จอมหมอกแก้ว 0-5360-3100 4 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ หมู่ที่ 10 ต.ป่าก่อดำ 0-5366-6588 5 ที่ว่าการอำเภอแม่ลาว หมู่ที่ 1 ต.ป่าก่อดำ 0-5377-8002 6 เกษตรอำเภอแม่ลาว หมู่ที่ 1 ต. ป่าก่อดำ 0-5377-8017 ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ด้านคุณภาพการจัดการศึกษา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในปีการศึกษา พ.ศ. 2565 ระดับก่อนประถมศึกษา ในปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นอนุบาล 3 ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 4ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยมีนักเรียนทั้งหมด จำนวน ...4.... คน มีผลการประเมินพัฒนาการอยู่ในระดับ..........ดี.... จำแนกเป็นราย ด้าน ดังนี้ 1) ด้านร่างกาย จำนวน .....4........ คน คิดเป็นร้อยละ ..100.......... 2) ด้านอารมณ์ จิตใจ จำนวน ......4........ คน คิดเป็นร้อยละ ...100......... 3) ด้านสังคม จำนวน ......4....... คน คิดเป็นร้อยละ ....100........ 4) ด้านสติปัญญา จำนวน ......4....... คน คิดเป็นร้อยละ ...100......... ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จากผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านออก ของผู้เรียน (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2565 ซึ่งทดสอบสมรรถนะ 2 ด้าน คือ ด้านการอ่าน ออกเสียง และด้านการอ่านรู้เรื่อง ปรากฏผล ดังนี้
หน้า | 9 ตาราง 9 เปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน (Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สมรรถนะ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ โรงเรียน สพป. จังหวัด ศธภ. สังกัด ประเทศ ด้านการอ่านออกเสียง 94.00 69.87 71.55 74.68 77.24 77.38 ด้านการอ่านรู้เรื่อง 99.20 71.75 74.05 75.14 77.19 77.19 เฉลี่ยร้อยละ 96.60 70.81 72.80 74.91 77.22 77.28 ตาราง 10 จำนวนนักเรียนและร้อยละนักเรียน จำแนกตามระดับคุณภาพผลการทดสอบ ความสามารถ ด้านการอ่านออกของผู้เรียน (Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สมรรถนะ จำนวนและร้อยละนักเรียน จำแนกตามระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อย ละ จำนวน ร้อย ละ ด้านการอ่านออกเสียง 5 100 - - - - - - ด้านการอ่านรู้เรื่อง 5 100 - - - - - - เฉลี่ยร้อยละ 5 100 - - - - - - ตาราง 11 เปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน(Reading Test : RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564 กับ ปีการศึกษา 2565 สมรรถนะ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ปีก.ศ.2564 ปีก.ศ.2565 ผลต่าง+/- ด้านการอ่านออกเสียง 76.00 94.00 +18.00 ด้านการอ่านรู้เรื่อง 81.14 99.20 +18.06 เฉลี่ยร้อยละ 78.57 96.60 +18.03 2) ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (National Test : NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปี การศึกษา 2564 กับ ปีการศึกษา 2565 ตาราง 12 เปรียบเทียบผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (National Test : NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 กับ ปีการศึกษา 2565 ความสามารถพื้นฐาน ค่าเฉลี่ยร้อยละ ปีก.ศ.2564 ปีก.ศ.2565 ผลต่าง+/- ด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) 53.20 73 +19.8 ด้านภาษาไทย (Thai Language) 48.15 74 +25.5 เฉลี่ยร้อยละ 50.67 73.5 +22.83
หน้า | 10 ตาราง 13 เปรียบเทียบผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน (National Test : NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ (ปีการศึกษา 2563-2565) 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Educational Test) ตาราง 14 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 (O-NET) เปรียบเทียบผลต่างระหว่าง ค่าเฉลี่ยของเขตพื้นที่และค่าเฉลี่ยระดับประเทศ O-NET วิชา ปีการศึกษา พ.ศ. 2564 ปีการศึกษา พ.ศ. 2565 เฉลี่ย ร.ร. เฉลี่ยเขต เฉลี่ยชาติ เฉลี่ย ร.ร. เฉลี่ยเขต เฉลี่ยชาติ ภาษาไทย 53.96 53.37 50.38 53.88 53.85 53.89 ภาษาอังกฤษ 32.54 36.91 39.22 24.91 33.20 37.62 คณิตศาสตร์ 37.33 37.30 36.83 34.28 27.02 28.06 วิทยาศาสตร์ 33.97 35.29 34.31 46.48 39.08 39.34 เฉลี่ยรวม 39.45 40.72 40.19 39.89 38.29 39.73 ตาราง 15 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 (O-NET) เปรียบเทียบผลต่างระหว่าง ค่าเฉลี่ยของเขตพื้นที่และค่าเฉลี่ยระดับประเทศ O-NET วิชา ปีการศึกษา พ.ศ. 2564 ปีการศึกษา พ.ศ. 2565 เฉลี่ย ร.ร. เฉลี่ยเขต เฉลี่ยชาติ เฉลี่ย ร.ร. เฉลี่ยเขต เฉลี่ยชาติ ภาษาไทย 49.78 55.26 51.19 60.97 57.14 52.95 ภาษาอังกฤษ 24.31 28.94 31.11 28.75 29.19 32.05 คณิตศาสตร์ 15.83 23.56 24.47 30.20 23.34 24.39 วิทยาศาสตร์ 29.11 31.82 31.45 28.75 32.99 33.32 เฉลี่ยรวม 29.76 34.90 34.56 37.17 35.67 35.68 ตาราง 16 ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา 2565 ความสามารถพื้นฐาน ปีการศึกษา 2563 ปีการศึกษา 2564 ปีการศึกษา 2565 ระดับ เขต ระดับ ประเทศ ระดับ เขต ระดับ ประเทศ ระดับ เขต ระดับ ประเทศ ด้านคณิตศาสตร์(Mathematics) 39.51 40.47 45.19 49.44 46.54 49.12 ด้านภาษาไทย (Thai Language) 44.47 47.46 52.12 56.14 52.77 55.86 เฉลี่ยร้อยละ 42.00 43.97 48.66 52.80 49.65 52.50
หน้า | 11 ผลมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย : ตารางที่ 17 ผลมาตรฐานการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน : ผลการประกันคุณภาพภายนอกรอบที่ 4 (พ.ศ.2559-2563) 1.การศึกษาปฐมวัย ตาราง 18 ผลการประเมินคุณภาพภายนอก จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์กรมหาชน) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ด้าน ระดับคุณภาพ 1. คุณภาพของเด็ก ดีมาก 2. กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีมาก 3. การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ดีมาก สรุปการประเมินด้านที่ 1 คุณภาพของเด็ก มีระดับคุณภาพ ดีมาก จุดเด่น 1.เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการตามวัยเต็มศักยภาพ มีร่างกายเจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี 2.เด็กปฐมวัยสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว มีทักษะการเคลื่อนไหวตามวัย มีการใช้มือและตา ประสานสัมพันธ์กันได้ดี 3.เด็กปฐมวัยมีสุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม 4.เด็กปฐมวัยมีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และอยู่ราวมกับผู้อื่นได้อย่างมี ความสุข 5.เด็กปฐมวัยมีวินัยรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ครูและญาติผู้ใหญ่ มีความชื่อ สัตย์สุจริต ช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่น มีความประหยัดและพอเพียง ประพฤติตนตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาที่นับ ถือ 6.เด็กปฐมวัยมีทักษะการคิด การใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นได้ สนทนาโต้ตอบ แสดงความคิดเห็นร่วมกันได้และ เล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจได้ สามารถตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัยได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน มีความสามารถ ในการคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย มาตรฐานการศึกษา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ดีมาก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีมาก มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ดีมาก มาตรฐานการศึกษา ระดับคุณภาพ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ดีมาก มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีมาก มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ดีมาก
หน้า | 12 ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี สถานศึกษาควรส่งเสริมให้ครูนำโครงการและกิจกรรมที่ดี เช่น โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โดย เด็กควรได้รับการจัดประสบการณ์ที่เน้นการคิด วิเคราะห์ เรียนจากง่ายไปยาก ฝึกให้เด็กลงมือปฏิบัติจริง ส่งเสริม ทักษะด้านการคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ เพราะเป็นทักษะการคิดที่เริ่มสู่ทักษะการคิดด้านอื่นๆ สรุปการประเมินด้านที่2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีระดับคุณภาพ ดีมาก จุดเด่น 1.ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ มีภาวะผู้นำ และวคามคิดริเริ่มที่เน้นการพัฒนาเด็กปฐมวัยโดยใช้หลักการบริหารแบบมี ส่วนร่วม ให้คำแนะนำคำปรึกษาทางวิชาการและเอาใจใส่การจัดการศึกษาปฐมวัยเต็มศักยภาพ มีการพัฒนาเด็ก ปฐมวัยตามวัยอย่างเหมาะสม รวมถึงระบบความปลอดภัยที่สอดคล้องกับวัยและสภาพบริบทของสถานศึกษา 2.ผู้บริหารมีความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศต่างๆในปัจจุบันสู่กรอบการพัฒนาเด็ก ปฐมวัย มีความสามารถในการริเริ่มวิธีการใหม่ๆ มาพัฒนาปรับปรุงและเผยแพร่ แนะนำให้บุคลากรในสถานศึกษา ให้นำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน 3.ผู้บริหารใช้หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงานอื่น ได้รับรู้และให้ข้อมูลสารสนเทศ ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เสนอและเลือกแนวทางประกอบการตัดสินใจ กำหนดนโยบายในการพัฒนาคุณภาพเด็ก ดำเนินงานติดตามตรวจสอบปรับปรุงพัฒนาและใช้ข้อมูลผลการ ประเมิน หรือผลการวิจัยมาใช้ในการบริหารจัดการศึกษาและส่งเสริมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพ 4.ผู้บริหารมีแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรม พัฒนาครูและบุคลากร ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถ และมีส่วนร่วมในการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีการนิเทศติดตาม ประเมินการดำเนินงาน มีการนำผล การประเมินไปพัฒนาและปรับปรุงศักยภาพครูและบุคลากรอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ผู้บริหารสามารถให้คำแนะนำ คำปรึกษาทางวิชาการทั้งการพัฒนาและการใช้หลักสูตร 5.ผู้บริหารส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ การสร้าง การพัฒนา และการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมิน พัฒนาการเด็ก การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และเอาใจใส่การจัดการศึกษาของสถานศึกษา โดยมีการติดตาม กำกับประเมินและนำผลการประเมินไปพัฒนาหรือปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามภารกิจอย่างเต็มความสามารถ 6.ผู้บริหารเปิดโอกาสให้ผุ้ปกครอง และชุมชน มีส่วนร่วมในการประเมินการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ด้าน งานบริหารวิชาการ งานบริหารงบประมาณ งานบริหารบุคคล งานบริหารทั่วไป โดยผู้ปกครอง มีความพึงพอใจต่อ ผลการบริหารและการจัดการศึกษา ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี สถานศึกษาควรใช้ข้อมูลการประเมินผลหรือการวิจัยเป็นฐานคิดทางด้านวิชาการในการบริหารจัด การศึกษาระดับปฐมวัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาคุณภาพ และควรสร้างการมีส่วนร่วม แสวงหาความ ร่วมมือกับผู้ปกครอง ชุมชนและท้องถิ่น จัดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหาร คณะ ครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อการพัฒนาการศึกษาร่วมกันทุกภาคส่วน ควรพัฒนาปรับปรุงการจัดระบบ ข้อมูลสารสนเทศในการบริหารจัดการ ติดตามตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สรุปการประเมินด้านที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีระดับคุณภาพ ดีมาก
หน้า | 13 จุดเด่น ครูได้จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน และจัดสภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศ ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ เช่น กิจกรรมวันสำคัญต่างๆ และครูมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและผู้ปกครอง ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี ครูได้จัดประสบการณ์สอดคล้องกับพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน และยังมีความพร้อมในด้านการจัดกิจกรรม เสริมประสบการณ์ เพื่อเป็นการพัฒนา ครูควรนำโครงการและกิจกรรมมาจัดทำเป็นงานวิจัย เพื่อส่งเสริมการจัด ประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญอย่างต่อเนื่องต่อไป 2.ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตาราง 19 ผลการประเมินคุณภาพภายนอก จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์กรมหาชน) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ด้าน ระดับคุณภาพ 1. คุณภาพของผู้เรียน ดีมาก 2. กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีมาก 3. การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ดีมาก สรุปการประเมินด้านที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน มีระดับคุณภาพ ดีมาก จุดเด่น ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมอันพึงประสงค์ สามารุทำงานร่วมกับผู้อื่นได้และมีเจตคติที่ดีต่อตนเอง บุคคลรอบข้าง และสังคม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา มีทักษะในการแสวงหาความรู้ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ผู้เรียนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและ น้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ มีระเบียบวินัย และมีความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานศึกษา จุดที่ควรพัฒนา การส่งเสริมการจัดโครงการและกิจกรรมที่ส่งผลให้ผู้เรียนรู้จักการเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ ข้อเสนอแนะ ผู้เรียนควรได้รับการฝึกให้ศึกษาค้นคว้าจากการอ่านหนังสือ การสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต โดยจัดให้มีจุด บริการผู้เรียนในการสืบค้นข้อมูล การจัดอุปกรณ์การพิมพ์ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของผู้เรียน เช่น ห้องสื่อ ห้องแนะแนว เป็นต้น กำหนดการดำเนินการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะภายใน 1 ปี (เริ่มดำเนินการ ปีการศึกษา 2564) ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการจัดพัฒนาสิ่งที่ได้เรียนรู้ ค้นคว้ามานำเสนออย่างเป็นระบบ เช่น การจัดทำโครงการ งานวิจัย ที่สามารถนำเสนอเป็นชิ้นงาน หรือนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดี สรุปการประเมินด้านที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มีระดับคุณภาพ ดีมาก
หน้า | 14 จุดเด่น ผู้บริหารมีความมุ่งมั่น มีหลักการบริหารและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการบริหารงาน สามารถเป็น แบบอย่างที่ดีในการทำงาน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนมีความตั้งใจและมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตาม บทบาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสถานศึกษาอย่างมีมาตรฐานและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับแนวทาง ปฏิรูปการศึกษา มีการกำกับติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีที่มุ่งเน้นคุณภาพตามมาตรฐาน จัดทำโครงการส่งเสริมศักยภาพของครูและ บุคลากรทางการศึกษา จัดโครงการหรือค่ายวิชาการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โครงการนิเทศการสอน ของครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทำการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน สรุปการประเมินด้านที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีระดับคุณภาพ ดีมาก จุดเด่น ครูผู้สอนมีความพร้อมและประสบการณ์ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน มีการจัดโครงการและ กิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้สามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้อย่างหลากหลาย และการใช้การเรียนการ สอนแบบ BBL มีสื่อและเทคโนโลยี มี WIFI มีการจัดการห้องเรียนเชิงบวก ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาสู่นวัตกรรม หรือแบบอย่างที่ดี ครูผู้สอนควรมีการปรับปรุง กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ปรับเปลี่ยน กระบวนการจัดการเรียนการสอน โดยใช้สื่อเทคโนโลยี ICT ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยครูผู้สอนต้องหมั่นศึกษา ค้นคว้า หาสิ่งแปลกใหม่ตามวิทยาการต่าง ๆ หมั่นฝึกฝนและพัฒนาตนเองในด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับด้าน วิชาการ ควรศึกษาวิธีการใช้สื่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ตารางที่ 20 ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสถานศึกษาออนไลน์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แนวทางการประเมิน เครื่องมือ คะแนนที่ได้ ส่วนที่ 1 การเก็บข้อมูลจากบุคลากรใน สถานศึกษา IIT 28.61 ส่วนที่ 2 การเก็บข้อมูลจากผู้รับบริการหรือผู้ มาติดต่อสถานศึกษา EIT 29.73 ส่วนที่ 3 การเปิดเผยข้อมูลทางเว็บไซต์ของ สถานศึกษา OIT 33.75 คะแนนรวม 92.09 ระดับการประเมิน A ผลงานที่ประสบผลสำเร็จ
หน้า | 15 ผลงานนักเรียน 1. นางสาวหมี่ก๋า มาเยอะ เหรียญทองรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ กาพย์ ยานี 11 (6 บท) ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 2. นายอพิจิตต์ สิงห์ทอง เหรียญทองรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ กาพย์ยานี 11 (6 บท) ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 3. นายภัทรชนนท์ ภัทรดำรง เข้าร่วม การแข่งขันคิดเลขเร็ว ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 4. นางสาวนันทิยา ลาเลาะ เหรียญทองแดง การแข่งขันเขียนภาพไทยประเพณี ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 5. เด็กหญิงมลทพร หงสะมัด เหรียญทอง การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ (Impromptu Speech) ป.4-ป. 6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 6. เด็กชายจิรายุทร จะหลุเหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 7. เด็กชายณัฐภัทร อินต๊ะรัตน์เหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 8. เด็กชายทัศไนย ชัยหนัด เหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเชียงรายเขต 2 9. เด็กชายนัชนนท์ ก๋องทอง เหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 10. เด็กหญิงภรณี นายลาง เหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 11. เด็กหญิงอรทัย ปอยูเหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ป.1-ป.3 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 12.เด็กชายณัฐนัย ไชยรัตน์เหรียญทองแดง การแข่งขันการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา 13. เด็กชายธีรภัทร ชัยสาน เหรียญทองแดง การแข่งขันการออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษา 14. เด็กหญิงณัฐพร มาเยอะ เหรียญทอง การแข่งขันประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ม.1-ม. 3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
หน้า | 16 15. เด็กหญิงนลิน เหล่าพิลัย เหรียญทอง การแข่งขันประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ม.1- ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 16.เด็กหญิงพรพรรณ กุเลา เหรียญทอง การแข่งขันประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ม.1-ม. 3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 17. เด็กชายณัฐพล ทองแสน เหรียญเงิน การแข่งขันการวาดภาพระบายสี ประเภทนักเรียนที่มีความ บกพร่องทางการเรียนรู้ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผลงานผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา 1. นายอำนวย จอมใจ ผู้ทรงคุณวุฒิของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 ประจำอำเภอแม่ลาว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 2. นายอำนวย จอมใจ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับดีเด่น สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 3. นางประทินทิพย์ สลีสองสม รางวัลครูต้นแบบการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต ระดับชาติ โครงการบูรณาการยกระดับคุณภาพ ประจำปี 2564สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ 4. นางประทินทิพย์ สลีสองสม ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง การแข่งขันเล่านิทาน ภาษาอังกฤษ Story telling ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 5. นางประทินทิพย์ สลีสองสม ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันพูด ภาษาอังกฤษ Impromptu Speech ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปี การศึกษา 2565 ระดับศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 6. นางประทินทิพย์ สลีสองสม ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันร้องเพลง สากล ประเภทชาย ระดับชั้น ป.1-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับ ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 7. นางประทินทิพย์ สลีสองสม ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน ได้รับรางวัลเหรียญทอง การแข่งขันพูดภาษาอังกฤษ Impromptu Speech ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ระดับศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 8. นายโยธิน แก้วก๋า ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ 2 การแข่งขัน การตอบปัญหาสุขศึกษาและพละศึกษา ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 9. นายโยธิน แก้วก๋า ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันการตอบปัญหาสุขศึกษา และพละศึกษา ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่าย พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 10. นายโยธิน แก้วก๋า ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและ โยนบอล ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 11. นางนิศาสินี พาสอน ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันประดิษฐ์ของใช้ จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2
หน้า | 17 12. นางนิศาสินี พาสอน ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทองแดง การแข่งขันการเขียน ภาพไทยประเพณี ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 13. นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน กิจกรรมการแข่งขันคิดเลขเร็ว ได้รางวัล เหรียญทอง ระดับชั้น ม.๑-๓ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 14. นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน กิจกรรมการแข่งขันอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์ ได้ รางวัล เหรียญเงิน ระดับชั้น ป.๔-๖ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 15. นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน กิจกรรมการแข่งขันการคิดเลขเร็ว ได้รางวัล เหรียญเงิน ระดับชั้น ป.๔-๖ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 16. นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน กิจกรรมการแข่งขันซูโดกุ ได้รางวัล เหรียญทองแดง ระดับชั้น ป.๔-๖ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 17. นางปิยะลักษณ์ ริมทอง ครูผู้ฝึกสอนนักเรียน กิจกรรมการแข่งขันคิดเลขเร็ว ได้รางวัล เข้าร่วม ระดับชั้น ม.๑-๓ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๒ 18. นางพรรณพิราช บทมา ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันการ ผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 19. นางพรรณพิราช บทมา ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 20. นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง รางวัลชนะเลิศการคัดเลือกผลงานดีเด่นด้าน “CODING ACHIEVEMENT AWARDS” ประเภท Unplugged ระดับประถมศึกษา ประจำปี 2565 สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 21. นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง ร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวดครูดีเด่น“CODING ACHIEVEMENT AWARDS” ประเภท Unplugged ระดับประถมศึกษา ประจำปี 2565 กระทรวงศึกษาธิการ 22. นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง เข้าร่วมการแข่งขันรอบที่ 2 ตัวแทนเขตพื้นที่ การแข่งขันกิจกรรม เสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 23.นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองแดง การแข่งขันการใช้ โปรแกรมนำเสนอ (Presentation) ป.4-ป.6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 24. นางสาวกรรณิการ์ จอมแปง ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองแดง การแข่งขันการ ออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2
หน้า | 18 25. นายภัทรดนัย สุศิวะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การ แข่งขันการประกวดเพลงคุณธรรม ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปี การศึกษา 2565ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 26. นายภัทรดนัย สุศิวะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันการประกวดมารยาท ไทย ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565ศูนย์เครือข่ายพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 27. นายภัทรดนัย สุศิวะ ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันประดิษฐ์ของใช้ จากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 28. นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับเหรียญทอง กิจกรรมการแข่งขันผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ระดับชั้น ป.1-3 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาอำเภอแม่ลาว 29. นายวุฒิพงษ์ ศรีจันทร์ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การแข่งขันการผูกเงื่อน เดินทรงตัวและโยนบอล ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 30. นางศิรินทร์รัตน์ ชัยสุวรรณ์ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง การประกวดมารยาท ไทย ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ระดับชั้น ป.1 – ป.6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับอำเภอ ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ ลาว 31. นางศิรินทร์รัตน์ ชัยสุวรรณ์ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันการประกวด มารยาทไทย ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 32. นางศิรินทร์รัตน์ ชัยสุวรรณ์ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันการประกวดมารยาทงามอย่างไทย ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1-ป. 6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาอำเภอแม่ลาว 33. นางสาวกฤตพร กองบุญ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 การ แข่งขันคัดลายมือสื่อภาษาไทย ระดับชั้น ป.4-6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 34. นางสาวกฤตพร กองบุญ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การ แข่งขันคัดลายมือสื่อภาษาไทย ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 35. นางสาวกฤตพร กองบุญ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับที่ 1 การ แข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ (กาพย์ยานี 11) ระดับชั้น ม.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 36. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันการแข่งขันนักอ่านข่าวรุ่นเยาว์ ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1-ป.6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา อำเภอแม่ลาว
หน้า | 19 37. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ 1 การ แข่งขันการประกวดมารยาทงามอย่างไทย ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1-ป.6 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาอำเภอแม่ลาว 38. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศอันดับ2 การ แข่งขันการแข่งขันการวาดภาพระบายสี ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1-ป.6 งาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา อำเภอแม่ลาว 39. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ การแข่งขันการแข่งขัน การวาดภาพระบายสี ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 40. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันการประกวดมารยาท ไทย ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่ายพัฒนา คุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 41. นางสาวศิริพร จันต๊ะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันการแข่งขันการวาด ภาพระบายสี ประเภทนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 42. นางสาวอภิสรา ไชยยะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันคัดลายมือสื่อ ภาษาไทย ระดับชั้น ป.1-3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่าย พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว 43. นางสาวอภิสรา ไชยยะ ครูผู้สอนนักเรียน ได้รับรางวัลระดับเหรียญเงิน การแข่งขันท่องอาขยาน ทำนองเสนาะ ป.1-ป.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 ประจำปีการศึกษา 2565 ศูนย์เครือข่าย พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาว ผลงานสถานศึกษา 1. โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ มีผลการประเมินคุณภาพภายนอก รอบสี่ (พ.ศ.2563-2567) การศึกษา ปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อยู่ในระดับคุณภาพดีมาก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) 2. รางวัลระดับดีเด่น ในกิจกรรม“สถานศึกษาปลอดภัย” ประจำปี 2565 ปีที่ 2 ติดต่อกัน กรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน จังหวัดเชียงราย 3. รางวัลผลงานการปฏิบัติที่เป็นเลิศ Best Practice จากการเข้าร่วมโครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียน พัฒนาหลักสูตรภัยพิบัติท้องถิ่นแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย อยู่ในระดับดีสำนักงานวิจัยแห่งชาติ(วช.) และคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร 4. รางวัลการเข้าร่วมการแข่งขันรอบที่ 1 การแข่งขันกิจกรรมเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาให้มีทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ด้านความปลอดภัย สพฐ.กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียน ได้ดำเนินการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกหน่วยงาน แบบ (STEP) วิเคราะห์ถึง ปัจจัยภายนอก ด้านโดยให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสีย ที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการ หน่วยงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ ดังนี้
หน้า | 20 ตาราง 21 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก แบบ STEP ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่เป็นโอกาส (Opportunities) ประเด็นที่เป็นอุปสรรค (Threats) 1. ด้านสังคมและวัฒนธรรม (Social – cultural :S) 1.1 สภาพที่ตั้ง ของชุมชน สภาพเศรษฐกิจ ของผู้มีส่วนร่วม ในการจัด การศึกษา 1. ผู้ปกครองและชุมชนมีขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ยั่งยืนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป สังคมมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีความ ผูกพันระหว่างครอบครัว ญาติ และเพื่อน บ้านเป็นอย่างดี 2. ชุมชนให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนใน ด้านต่าง ๆ เป็นอย่างดี 3.ชุมชนมีความขยันขันแข็งในการประกอบ อาชีพและเก็บออม 1. ผู้ปกครอง และชุมชนส่วนใหญ่ไปทำงานต่าง ถิ่น ทิ้งลูกหลานให้อยู่ตามลำพัง หรืออยู่กับ คนชราที่ขาดความรู้ 2. การคมนาคมสะดวกทำให้ผู้ปกครองนำ บุตรหลานไปเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงใน เมือง 1.2 พื้น ฐานความรู้ของ ผู้มีส่วนร่วมใน การจัด การศึกษา 1.ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และมีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของสถานศึกษา 1.การสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองไม่ ทั่วถึงทำให้การมีส่วนร่วมในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาน้อยลง 2. ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทำให้เข้า มามีส่วนร่วมน้อย 1.3 ประชากร กลุ่มเป้าหมาย 1.แนวโน้มประชากรวัยเรียนลดลงส่งผลให้ โรงเรียนมีนวัตกรรมการบริหารโดยใช้ โรงเรียนเป็นฐานแบบมีส่วนร่วม 1. การอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรวัยเรียน ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีการจัดการศึกษา ในระดับประถมศึกษา ทำให้ประชากรวัยเรียน ลดลง 1.4 คุณภาพ ชีวิตของคนใน ชุมชน 1.สังคมในเขตบริการเป็นสังคมการเกษตร ส่งผลให้โรงเรียนขยายแนวคิดการ ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงจากโรงเรียนสู่ชุมชนให้สอดคล้อง กับวิถีชีวิต 1. ผู้ปกครองมีฐานะยากจนเป็นอุปสรรคใน การจัดการศึกษา ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีอาชีพ เกษตรกรรม รับจ้างรายวัน รายได้น้อย ผลผลิตตกต่ำ ผู้ปกครองมีอัตราการว่างงาน ทำให้มีการสนับสนุนการศึกษาน้อยลง 2. ด้านเทคโนโลยี (Technological :T) 2.1 ความก้าวหน้า และความ เปลี่ยนแปลง ทางด้าน เทคโนโลยี 1. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านสื่อ สามารถ เรียนรู้ด้วยตนเองได้ตามความสนใจ 2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลให้ ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อ เทคโนโลยี 3. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลให้ โรงเรียนนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหาร ราชการโรงเรียน 1.ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถ สื่อสารได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นักเรียน เลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ 2. ระบบการสื่อสาร ระบบอินเตอร์เน็ต มือถือ Smart Phone ใหม่ ส่งผลให้การใช้ชีวิตที่โดด เดี่ยว ติดเกม และเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและ เยาวชน 3. การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตอย่างไม่เหมาะสม อาจ เป็นสาเหตุของภัยต่าง ๆ
หน้า | 21 ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่เป็นโอกาส (Opportunities) ประเด็นที่เป็นอุปสรรค (Threats) 4. หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานต้นสังกัด ให้ความสำคัญและมีนโยบายสนับสนุน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารทำ ให้ได้รับข้อมูลที่รวดเร็วและทั่วถึง 2.2 ภูมิปัญญา ท้องถิ่น 1. ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้านที่ หลากหลาย โรงเรียนสามารถใช้เป็นแหล่ง เรียนรู้ เป็นครูให้ความรู้เป็นแบบอย่างการ เรียนรู้ การดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับ ท้องถิ่นและความเป็นชาติไทย 1. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ส่งผลให้คนรุ่น ใหม่ให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาท้องถิ่นลดลง 3. ด้านเศรษฐกิจ (Economic: E) 3.1 สภาวะทาง เศรษฐกิจ 1.ได้น้อมนำแนวคิดหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน 2. โรงเรียนมีบริบทที่เหมาะสมในด้านการ จัดการศึกษา ส่งเสริมการเกษตร แบบ เศรษฐกิจพอเพียง และหนึ่งโรงเรียนหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมวัฒนธรรม ส่งผลให้ สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้แก่ นักเรียน เป็นการสร้างโอกาสให้กับเยาวชน ได้มีประสบการณ์ในการเรียนรู้และมีรายได้ ระหว่างเรียน 3.ผู้ปกครองที่มีฐานะดี ให้การสนับสนุนด้าน การศึกษาและส่งเสริมให้ลูกได้รับการศึกษา เป็นอย่างดี 1.สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของชุมชนในเขตบริการอยู่ ในเกณฑ์ต่ำ จึงเป็นอุปสรรคในการระดมทุนในการจัด การศึกษา 2.. ผู้ปกครองในเขตบริการมีการย้ายถิ่นฐานเพื่อหา งานทำ ยากจน รายได้ต่ำ จึงทำให้เด็กขาดปัจจัย สนับสนุนการจัดการศึกษา 3.. ภาพรวมของประเทศเกิดภาวะเงินเฟ้อจึงทำให้ ประชาชนมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่มีภาระหนี้สิน หนี้กองทุนเงิน ล้าน หนี้นอกระบบ 4.วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศทำให้ราคาสินค้า อุปโภคบริโภคมีราคาสูง แต่ประชากรรายได้ต่ำ 5.ผู้ปกครองมีอาชีพเกษตรกรรม รับจ้างรายวัน รายได้น้อย ผลผลิตตกต่ำ ผู้ปกครองมีอัตรา การว่างงานทำให้มีการสนับสนุนการศึกษา น้อยลง ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่เป็นโอกาส (Opportunities) ประเด็นที่เป็นอุปสรรค (Threats) 3.2. งบประมาณ/ การสนับสนุน งบประมาณ ของรัฐบาล 1. รัฐบาลเห็นประโยชน์ทางการศึกษา และให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการลงทุน ทางการศึกษา โดยเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัว แก่นักเรียน 1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมี กรอบงบประมาณประจำปีเป็นเงินเดือนกว่า ร้อย ละ 80 ส่งผลให้มีงบประมาณสำหรับพัฒนา คุณภาพน้อย 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตบริการจัด การศึกษาได้เองทำให้ความสามารถในการสนับสนุน โรงเรียนน้อยลง
หน้า | 22 ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่เป็นโอกาส (Opportunities) ประเด็นที่เป็นอุปสรรค (Threats) 4. ด้านการเมืองและกฎหมาย (Political and Legal: P) 4.1 นโยบาย การศึกษาของ รัฐบาล 1. รัฐบาลอุดหนุนงบประมาณเงินรายหัว เพิ่มขึ้นตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมี คุณภาพส่งผลให้ลดภาระค่าใช้จ่ายของ ผู้ปกครอง 2. นโยบายที่มุ่งเอื้อประโยชน์ต่อ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนอย่างทั่วถึง และชัดเจน 3.รัฐบาลมีนโยบายขยายโอกาสทาง การศึกษาทำให้นักเรียนได้ศึกษาต่อในระดับ ที่สูงขึ้น 1. ไม่สามารถนำนโยบายของรัฐบาลสู่การ ปฏิบัติได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงเนื่อง ด้วยสภาพบริบทที่แตกต่างทำให้การนำ นโยบายสู่การปฏิบัติที่แตกต่างกันบางแห่ง ไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ 2. นโยบายการศึกษาของรัฐบาลมีการ เปลี่ยนแปลงบ่อยไม่ต่อเนื่อง 3.กฎหมายให้สิทธิเสรีภาพ ทำให้นักเรียน เข้าใจคลาดเคลื่อน ใช้สิทธิในทางที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้นักเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 4.2 นโยบาย การศึกษาของ หน่วยงานต้น สังกัด 1 . น โ ย บ า ย CR2Q-Ed.Model ข อ ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงราย เขต 2 ช่วยให้การบริหาร โรงเรียนมีคุณภาพและประสิทธิภาพ 2.นโยบายปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษ ที่21 เพิ่มโอกาสให้คนไทยทุกคนมีโอกาส และสามารถเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระจายการจัด การศึกษาโดยการจัดตั้งโรงเรียนในเขตบริการ ของโรงเรียน ส่งผลให้โรงเรียนมีจำนวน นักเรียนลดลง การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน (Internal Environment) โรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ อำเภอ แม่ลาว จังหวัด..เชียงราย ได้ดำเนินการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายใน โดยวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของตัวแปรปัจจัย ที่เป็นจุดแข็ง (Strengths) และจุดอ่อน (Weaknesses) ที่หน่วยงาน สามารถควบคุม/บริหารจัดการได้และมีอิทธิพลโดยตรง ที่แสดงถึงศักยภาพของ หน่วยงาน ที่ส่งผลต่อการกำหนด กลยุทธ์ของหน่วยงาน โดยใช้หลักการวิเคราะห์ตามแนวคิดของ McKinsey. (2S4M) โดยมีผลที่ได้ ดังนี้ ตาราง 22 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน (2S4M) ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นที่จุดอ่อน (Weaknesses) 1. ด้านโครงสร้างและนโยบาย (Structure :S1)
หน้า | 23 ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นที่จุดอ่อน (Weaknesses) 1.1 การจัด โครงสร้าง การบริหาร หน่วยงาน 1.โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียน เป็นการบริการแบบ SBM การบริหารโดย ใช้โรงเรียนเป็นฐาน สามารถจัดการบริหาร ได้มาตรฐานเนื่องจากดำเนินงานตาม ระเบียบ กฎหมายกำหนด 2. โรงเรียนมีโครงสร้างด้านอาคารสถานที่ ที่เอื้อต่อการบริหารจัดการให้มี ประสิทธิภาพ 3.โรงเรียนมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ของ บุคลากรตรงตามความรู้ความสามารถ ส่งผลให้การปฏิบัติงานมีคุณภาพ 3.มีการแบ่งโครงสร้างตาม SBM กระจาย อำนาจแบ่งงานตามความถนัด ทำให้เกิด ความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน 1.นโยบายการจัดการศึกษาของรัฐมนตรีเปลี่ยน บ่อย ทำให้โรงเรียนมีความสับสนในการปฏิบัติ 1.2 การ กำหนด บทบาท หน้าที่ ความ รับผิดชอบ และ มาตรฐาน กล ยุทธ์ สถานศึกษา 1.โรงเรียนได้ดำเนินการกำหนดบทบาท หน้าที่ มอบหมายงานคณะครู บุคลากรทุก กลุ่มงานอย่างชัดเจน จัดคณะครู บุคลากร ให้ปฏิบัติงานได้ตรงกับความรู้ 2.โรงเรียนจัดแบ่งหน่วยงานภายใน 4 กลุ่ม งานเพื่อให้มีประสิทธิภาพการบริหาร โรงเรียนตามที่กฎหมายกำหนด 1. โรงเรียนไม่สามารถจัดคณะครูและบุคลากร ปฏิบัติตามมาตรฐานของโรงเรียนได้ครบ เนื่องจากมีคณะครู และบุคลากรไม่ครบตาม ขอบข่ายงานอัตรากำลังที่กำหนด 2. ด้านผลผลิตและการบริการ (Service :S2) 2.1 การ กำหนด ทิศทางของ หน่วยงาน 1. โรงเรียนกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของหน่วยงาน เนื่องจากใช้กระบวนการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายนอกและภายในด้วย เทคนิค SWOT ที่สอดคล้องกับบริบทและ สภาพจริงของโรงเรียน 1. โรงเรียนดำเนินการตามวิสัยทัศน์ พันธ์กิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด จากการวิเคราะห์ ยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ต้องปรับปรุงใน ปีการศึกษาต่อไป
หน้า | 24 ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นที่จุดอ่อน (Weaknesses) 2.2 การ กำหนด โครงการ 1. โรงเรียนมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์เป้าประสงค์และ บริบทของโรงเรียน รวมถึงหน่วยงานส่วน ท้องถิ่นเนื่องจากมีกระบวนการวางแผน อย่างเป็นระบบและการมีส่วนร่วม 1. โรงเรียนดำเนินการปรับแผนงาน/โครงการ/ กิจกรรมและงบประมาณเนื่องจากได้นำเสนอ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้แก้ไข ปรับปรุง 2.3 การ ถ่ายทอดกล ยุทธ์ไปสู่การ ปฏิบัติใน ระดับช่วงขั้น 1. โรงเรียนดำเนินการถ่ายทอดกลยุทธ์ไปสู่ การปฏิบัติในโรงเรียนได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากใช้กระบวนการวิธีการและ ช่องทางที่หลากหลาย 1. โรงเรียนนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติกับคณะครู และบุคลากรยังไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจาก กำหนดตัวชี้วัดไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ หน่วยงานบางส่วน 3. ด้านบุคลากร (Man :M1) 3.1 ระบบ ขั้นตอนการ ดำเนินงาน ภายใน หน่วยงาน 1.มีครูและบุคลากรครบทุกกลุ่มสาระ ส่งผล ให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ 2.ครูได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.ครูและบุคลากรทุกคนมีความรักความ สามัคคี เสียสละ อุทิศเวลาให้กับทาง ราชการ ส่งผลให้การพัฒนาโรงเรียนเป็นไป ได้อย่างรวดเร็ว 4.ครูมีความตื่นตัวและกระตือรือร้นในการ ทำงาน ส่งผลให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตาม ศักยภาพ 5.โรงเรียนจัดวิทยากรภายนอกที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านมาให้ความรู้แก่ นักเรียน 1.บางสาระการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้หลักไม่ เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในหลักสูตร สถานศึกษา 2. ครูขาดความรู้ในการใช้สื่อและเทคโนโลยีทำให้ ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 3. ครูมีภาระงานนอกจากการสอนมาก ส่งผลให้การ จัดการเรียนรู้ไม่เต็มที่ 3.2 บุคลากร มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ความสามารถ ตรงกับงานที่ ได้รับผิดชอบ หมั่นพัฒนา ตนเอง 1. บุคลากรในโรงเรียนได้รับการ มอบหมายงานอย่างครบถ้วนตามบทบาท หน้าที่ มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน มีระดับ คุณธรรมจริยธรรม ความรู้ความสามารถ เหมาะสมมีสมรรถนะสอดคล้องกับภาระ งาน/มาตรฐานวิชาชีพที่รับผิดชอบ รวมถึง พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 1. การปฏิบัติงานของบุคลากรที่ได้รับมอบหมาย ไม่ตรงกับความถนัด
หน้า | 25 ประเด็นการ วิเคราะห์ ประเด็นที่จุดแข็ง (Strengths) ประเด็นที่จุดอ่อน (Weaknesses) 4. ด้านประสิทธิภาพทางการเงิน (Money :M2) 4.1 ระบบด้าน งบประมาณ ระบบบัญชี การเงิน การ พัสดุ 1.โรงเรียนมีการปฏิบัติงานตามระเบียบ งานการเงิน และพัสดุอย่างเป็นระเบียบ และตรวจสอบได้และเป็นปัจจุบัน 2.โรงเรียนได้รับงบประมาณจากเงินรายหัว และเงินปัจจัยพื้นฐาน เงินเรียนฟรีตาม นโยบาย 15 ปี และนำมาสนับสนุนการจัด การศึกษา 1. โรงเรียนได้รับงบประมาณจากศิษย์เก่าและผู้มีอุป การคุณ ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาคุณภาพด้านต่าง ๆ 2.ค่าสาธารณูปโภค(ไฟฟ้า)สูงเกินสัดส่วนที่กำหนดไว้ ส่งผลให้งบประมาณสนับสนุนด้านอื่น ๆ ลดลง 5. ด้านวัสดุอุปกรณ์ (Material :M3) 5.1 ระบบ การพัฒนา อาคาร สถานที่ การ จัดเรียนการ สอน การ ผลิตสื่อการ สอน 1. สถานศึกษามีอาคารสถานที่ ห้องปฏิบัติการที่เพียงพอ 2.สถานศึกษามีวัสดุ ครุภัณฑ์ที่เพียงพอ 1. อาคารสถานที่มีความเสื่อม ชำรุด ส่งผลต่อการบริการการศึกษาไม่เต็มประสิทธิภาพ 2. วัสดุ ครุภัณฑ์มีความเสื่อม ใช้งานไม่ได้เต็ม ประสิทธิภาพ 6. ด้านการบริหารจัดการ (Management :M4) 6.1 การ กระจาย อำนาจ ตัดสินใจ ให้ บุคลากรได้ใช้ ศักยภาพที่มี อยู่ปฏิบัติงาน อย่างเต็มที่ 1.บริหารจัดการโดยยึดหลัก ธรรมาภิบาล และการบริหารแบบมีส่วนร่วมทำให้ได้รับ ความเชื่อมั่นความศรัทธาจากครูและบุคลากร ส่งผลให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล 2. สถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาครูและ บุคลากรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ครูและ บุคลากรเลื่อนวิทยฐานะเพิ่มขึ้น 1.การนิเทศติดตามไม่ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปฏิบัติขาด ความกระตือรือร้นท่าที่ควร การประเมินสถานภาพของหน่วยงาน ผลของการร่วมกันอภิปรายสรุปและทบทวน ให้คะแนนสภาพแวดล้อมภายนอก และ สภาพแวดล้อมภายในโดยการให้คะแนนในแต่ละด้าน มีเกณฑ์ในการกำหนดคะแนน ดังนี้ 5 คะแนน หมายถึง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานมากที่สุด 4 คะแนน หมายถึง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานมาก 3 คะแนน หมายถึง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานปานกลาง 2 คะแนน หมายถึง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานน้อย 1 คะแนน หมายถึง ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานน้อยที่สุด
หน้า | 26 ตาราง 23 การให้คะแนนสภาพแวดล้อมภายนอก ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอก : โอกาส (+) สภาพแวดล้อมภายนอก : อุปสรรค (-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน S: ด้านสังคม – วัฒนธรรม (Social – cultural Factors) 4 1. ผู้ปกครองและชุมชน มีขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ยั่งยืนเป็นที่ ยอมรับของคนทั่วไป สังคมมีความเอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน มีความ ผูกพันระหว่างครอบครัว ญาติ และเพื่อนบ้าน เป็นอย่างดี 2. ชุมชนให้ความร่วมมือ กับทางโรงเรียนในด้าน ต่าง ๆ เป็นอย่างดี 3.ชุมชนมีความขยัน ขันแข็งในการประกอบ อาชีพและเก็บออม 4.ผู้ปกครอง คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้น พื้นฐานมีส่วนร่วม ในการจัด การศึกษาและมี บทบาทในการ พัฒนาคุณภาพ การศึกษาของ สถานศึกษา 5.แนวโน้มประชากรวัย เรียนลดลงส่งผลให้ โรงเรียนมีนวัตกรรม การบริหารโดยใช้ โรงเรียนเป็นฐานแบบมี ส่วนร่วม 3 1. ผู้ปกครอง และชุมชนส่วน ใหญ่ไปทำงานต่างถิ่น ทิ้ง ลูกหลานให้อยู่ตามลำพัง หรืออยู่กับคนชราที่ขาด ความรู้ 2. การคมนาคมสะดวกทำ ให้ผู้ปกครองนำบุตรหลาน ไปเรียนในโรงเรียนที่มี ชื่อเสียงในเมือง 3.การสื่อสารระหว่าง โรงเรียนกับผู้ปกครองไม่ ทั่วถึงทำให้การมีส่วนร่วมใน การพัฒนาคุณภาพ การศึกษาน้อยลง 4. ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็น ผู้สูงอายุทำให้เข้ามามีส่วน ร่วมน้อย 5. การอพยพย้ายถิ่นฐาน ของประชากรวัยเรียนส่งผล ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 6.องค์การบริหารส่วน ท้องถิ่นมีการจัดการศึกษา ในระดับประถมศึกษา ทำให้ ประชากรวัยเรียนลดลง 7. ผู้ปกครองมีฐานะยากจน เป็นอุปสรรคในการจัด การศึกษา ผู้ปกครองส่วน ใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม รับจ้างรายวัน รายได้น้อย ผลผลิตตกต่ำ ผู้ปกครองมี อัตราการว่างงานทำให้มีการ สนับสนุนการศึกษาน้อยลง
หน้า | 27 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอก : โอกาส (+) สภาพแวดล้อมภายนอก : อุปสรรค (-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน 6 .สังคมในเขต บริการเป็นสังคม การเกษตร ส่งผล ให้โรงเรียนขยาย แนวคิดการ ดำรงชีวิตตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงจาก โรงเรียนสู่ชุมชน ให้สอดคล้องกับ วิถีชีวิต T: ด้าน เทคโนโลยี (Technologica l Factors) 4 1. ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีส่งผลให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ ผ่านสื่อ สามารถเรียนรู้ ด้วยตนเองได้ตาม ความสนใจ 2. ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีส่งผลให้ ครู จัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้สื่อเทคโนโลยี 3. ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีส่งผลให้ โรงเรียนนำมา ประยุกต์ใช้ในการ บริหารราชการ โรงเรียน 4. หน่วยงานภาครัฐและ หน่วยงานต้นสังกัดให้ ความสำคัญและมี นโยบายสนับสนุน ความก้าวหน้าทาง 4 1.ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีสามารถสื่อสารได้ อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ นักเรียนเลียนแบบ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ 2. ระบบการสื่อสาร ระบบ อินเตอร์เน็ต มือถือ Smart Phone ใหม่ ส่งผลให้การใช้ ชีวิตที่โดดเดี่ยว ติดเกม และ เป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและ เยาวชน 3. การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตอย่าง ไม่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุ ของภัยต่าง ๆ 4. การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ให้ ความสำคัญกับภูมิปัญญา ท้องถิ่นลดลง
หน้า | 28 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอก : โอกาส (+) สภาพแวดล้อมภายนอก : อุปสรรค (-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน เทคโนโลยีการสื่อสารทำ ให้ได้รับข้อมูลที่รวดเร็ว และทั่วถึง 5. ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้านที่ หลากหลาย โรงเรียน สามารถใช้เป็นแหล่ง เรียนรู้ เป็นครูให้ ความรู้เป็นแบบอย่าง การเรียนรู้ การ ดำรงชีวิตที่สอดคล้อง กับท้องถิ่นและความ เป็นชาติไทย E: ด้าน เศรษฐกิจ ( Economic Factors ) 3 1.ได้น้อมนำแนวคิดหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาปรับใช้ใน การดำเนิน ชีวิตประจำวัน 2. โรงเรียนมีบริบทที่ เหมาะสมในด้านการจัด การศึกษา ส่งเสริม การเกษตร แบบ เศรษฐกิจพอเพียง และ หนึ่งโรงเรียนหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ส่งเสริม วัฒนธรรม ส่งผลให้ สามารถสร้างรายได้ ระหว่างเรียนให้แก่ นักเรียน เป็นการสร้าง โอกาสให้กับเยาวชนได้มี ประสบการณ์ในการ เรียนรู้และมีรายได้ ระหว่างเรียน 4 1. สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของชุมชน ในเขตบริการอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงเป็น อุปสรรคในการระดมทุนในการจัด การศึกษา 2.. ผู้ปกครองในเขตบริการมีการย้าย ถิ่นฐานเพื่อหางานทำ ยากจน รายได้ต่ำ จึงทำให้เด็กขาดปัจจัยสนับสนุนการ จัดการศึกษา 3.. ภาพรวมของประเทศเกิดภาวะเงิน เฟ้อจึงทำให้ประชาชนมีค่าใช้จ่าย สูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่มีภาระ หนี้สิน หนี้กองทุนเงินล้าน หนี้ นอกระบบ 4.วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาสูง แต่ประชากรรายได้ ต่ำ 5.ผู้ปกครองมีอาชีพเกษตรกรรม รับจ้างรายวัน รายได้น้อย ผลผลิตตกต่ำ ผู้ปกครองมีอัตรา การว่างงานทำให้มีการสนับสนุน การศึกษาน้อยลง 6. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานมีกรอบงบประมาณ
หน้า | 29 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอก : โอกาส (+) สภาพแวดล้อมภายนอก : อุปสรรค (-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน 3.ผู้ปกครองที่มีฐานะดี ให้การสนับสนุนด้าน การศึกษาและส่งเสริมให้ ลูกได้รับการศึกษาเป็น อย่างดี 4. รัฐบาลเห็น ประโยชน์ทาง การศึกษา และให้ ความสำคัญกับการ เร่งรัดการลงทุนทาง การศึกษา โดยเพิ่มเงิน อุดหนุนรายหัวแก่ นักเรียน ประจำปีเป็นเงินเดือนกว่า ร้อยละ 80 ส่งผลให้มีงบประมาณสำหรับพัฒนา คุณภาพน้อย 7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต บริการจัดการศึกษาได้เองทำให้ ความสามารถในการสนับสนุนโรงเรียน น้อยลง P:ด้านการเมือง และกฎหมาย ( Political and Legal Factors) 4 1. รัฐบาลอุดหนุน งบประมาณเงินรายหัว เพิ่มขึ้นตามนโยบาย เรียนฟรี 15 ปีอย่างมี คุณภาพส่งผลให้ลด ภาระค่าใช้จ่ายของ ผู้ปกครอง 2. นโยบายที่มุ่งเอื้อ ประโยชน์ต่อ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนอย่างทั่วถึง และชัดเจน 3.รัฐบาลมีนโยบายขยาย โอกาสทางการศึกษาทำ ให้นักเรียนได้ศึกษาต่อ ในระดับที่สูงขึ้น 4. นโยบาย CR2QEd.Model ของ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ประถมศึกษาเชียงราย 3 1. ไม่สามารถนำนโยบาย ของรัฐบาลสู่การปฏิบัติได้ อย่างครอบคลุมและทั่วถึง เนื่องด้วยสภาพบริบทที่ แตกต่างทำให้การนำ นโยบายสู่การปฏิบัติที่ แตกต่างกันบางแห่งไม่บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ 2. นโยบายการศึกษาของ รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง บ่อยไม่ต่อเนื่อง 3.กฎหมายให้สิทธิเสรีภาพ ทำให้นักเรียนเข้าใจ คลาดเคลื่อน ใช้สิทธิในทางที่ ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้นักเรียนมี พฤติกรรมไม่เหมาะสม 4.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระจายการจัดการศึกษาโดย การจัดตั้งโรงเรียนในเขต บริการของโรงเรียน ส่งผลให้
หน้า | 30 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายนอก : โอกาส (+) สภาพแวดล้อมภายนอก : อุปสรรค (-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน เขต 2 ช่วยให้การ บริหารโรงเรียนมี คุณภาพและ ประสิทธิภาพ 5.นโยบายปฏิรูป การศึกษาในศตวรรษ ที่21 เพิ่มโอกาสให้คน ไทยทุกคนมีโอกาสและ สามารถเข้าถึง การศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนมีจำนวนนักเรียน ลดลง ค่าเฉลี่ย 3.75 3.50 ตาราง 24 การให้คะแนนสภาพแวดล้อมภายใน ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายใน : จุดแข็ง(+) สภาพแวดล้อมภายใน : จุดอ่อน(-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน 1. ด้าน โครงสร้างและ นโยบาย (Structure :S1) 4 1.โครงสร้างการบริหารงาน ของโรงเรียนเป็นการบริการ แบบ SBM การบริหารโดย ใช้โรงเรียนเป็นฐาน สามารถ จัดการบริหารได้มาตรฐาน เนื่องจากดำเนินงานตาม ระเบียบ กฎหมายกำหนด 2. โรงเรียนมีโครงสร้างด้าน อาคารสถานที่ที่เอื้อต่อการ บริหารจัดการให้มี ประสิทธิภาพ 3.โรงเรียนมีการกำหนด บทบาทหน้าที่ของบุคลากร ตรงตามความรู้ 3 1.นโยบายการจัด การศึกษาของรัฐมนตรี เปลี่ยนบ่อย ทำให้โรงเรียน มีความสับสนในการปฏิบัติ 2. โรงเรียนไม่สามารถจัด คณะครูและบุคลากร ปฏิบัติตามมาตรฐานของ โรงเรียนได้ครบเนื่องจากมี คณะครู และบุคลากรไม่ ครบตามขอบข่ายงาน อัตรากำลังที่กำหนด
หน้า | 31 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายใน : จุดแข็ง(+) สภาพแวดล้อมภายใน : จุดอ่อน(-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ความสามารถ ส่งผลให้การ ปฏิบัติงานมีคุณภาพ 4.มีการแบ่งโครงสร้างตาม SBM กระจายอำนาจแบ่ง งานตามความถนัด ทำให้ เกิดความคล่องตัวในการ ปฏิบัติงาน 5.โรงเรียนได้ดำเนินการ กำหนดบทบาทหน้าที่ มอบหมายงานคณะครู บุคลากรทุกกลุ่มงานอย่าง ชัดเจน จัดคณะครู บุคลากร ให้ปฏิบัติงานได้ตรงกับ ความรู้ 6.โรงเรียนจัดแบ่งหน่วยงาน ภายใน 4 กลุ่มงานเพื่อให้มี ประสิทธิภาพการบริหาร โรงเรียนตามที่กฎหมาย กำหนด 2. ด้านผลผลิต และการบริการ (Service :S2) 3 1. โรงเรียนกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กล ยุทธ์ ตัวชี้วัด ชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของ หน่วยงานเนื่องจากใช้ กระบวนการวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมภายนอกและ ภายในด้วยเทคนิค SWOT ที่สอดคล้องกับบริบทและ สภาพจริงของโรงเรียน 2. โรงเรียนมีแผนงาน/ โครงการ/กิจกรรม ที่ สอดคล้องกับกลยุทธ์ เป้าประสงค์และบริบทของ โรงเรียน รวมถึงหน่วยงาน 2 1. โรงเรียนดำเนินการตาม วิสัยทัศน์ พันธ์กิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ ตัวชี้วัด จากการวิเคราะห์ยังไม่บรรลุ เป้าหมายตามที่วางไว้ต้อง ปรับปรุงในปีการศึกษาต่อไป 2. โรงเรียนดำเนินการปรับ แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม และงบประมาณเนื่องจากได้ นำเสนอคณะกรรมการ สถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้แก้ไข ปรับปรุง 3. โรงเรียนนำกลยุทธ์ไปสู่การ ปฏิบัติกับคณะครูและบุคลากร ยังไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจาก กำหนดตัวชี้วัดไม่สอดคล้อง
หน้า | 32 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายใน : จุดแข็ง(+) สภาพแวดล้อมภายใน : จุดอ่อน(-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ส่วนท้องถิ่นเนื่องจากมี กระบวนการวางแผนอย่าง เป็นระบบและการมีส่วน ร่วม 3. โรงเรียนดำเนินการ ถ่ายทอดกลยุทธ์ไปสู่การ ปฏิบัติในโรงเรียนได้อย่าง ทั่วถึงเนื่องจากใช้ กระบวนการวิธีการและ ช่องทางที่หลากหลาย กับวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน บางส่วน 3. ด้านบุคลากร (Man :M1) 4 1.มีครูและบุคลากรครบทุก กลุ่มสาระ ส่งผลให้การ จัดการเรียนการสอนมี ประสิทธิภาพ 2.ครูได้รับการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถ ปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3.ครูและบุคลากรทุกคนมี ความรักความสามัคคี เสียสละ อุทิศเวลาให้กับทาง ราชการ ส่งผลให้การพัฒนา โรงเรียนเป็นไปได้อย่าง รวดเร็ว 4.ครูมีความตื่นตัวและ กระตือรือร้นในการทำงาน ส่งผลให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ 5.โรงเรียนจัดวิทยากร ภายนอกที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้านมาให้ ความรู้แก่นักเรียน 6. บุคลากรในโรงเรียนได้รับ การมอบหมายงานอย่าง ครบถ้วนตามบทบาทหน้าที่ มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน 3 1.บางสาระการเรียนรู้ใน สาระการเรียนรู้หลักไม่ เป็นไปตามเป้าหมายที่ กำหนดไว้ในหลักสูตร สถานศึกษา 2. ครูขาดความรู้ในการใช้ สื่อและเทคโนโลยี ทำให้ ผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นไปตาม เป้าหมาย 3. ครูมีภาระงานนอกจาก การสอนมาก ส่งผลให้การ จัดการเรียนรู้ไม่เต็มที่ 4. การปฏิบัติงานของ บุคลากรที่ได้รับมอบหมาย ไม่ตรงกับความถนัด
หน้า | 33 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายใน : จุดแข็ง(+) สภาพแวดล้อมภายใน : จุดอ่อน(-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน มีระดับคุณธรรมจริยธรรม ความรู้ความสามารถ เหมาะสมมีสมรรถนะ สอดคล้องกับภาระงาน/ มาตรฐานวิชาชีพที่ รับผิดชอบ รวมถึงพัฒนา ตนเองอย่างต่อเนื่อง 4. ด้าน ประสิทธิภาพ ทางการเงิน (Money :M2) 3 1.บริหารจัดการโดยยึดหลัก ธรรมา ภิบาล ทำให้ได้รับ ความเชื่อมั่นความศรัทธาจาก ครูและบุคลากร ส่งผลให้การ บริหารจัดการมีประสิทธิภาพ 2. สถานศึกษาได้ดำเนินการ พัฒนาครูและบุคลากรอย่าง ต่อเนื่อง ส่งผลให้ครูและบุคล กรเลื่อนวิทยฐานะเพิ่มขึ้น 2 1. โรงเรียนได้รับ งบประมาณจากศิษย์เก่า และผู้มีอุปการคุณ ไม่ เพียงพอต่อการพัฒนา คุณภาพด้านต่าง ๆ 2.ค่าสาธารณูปโภค(ไฟฟ้า) สูงเกินสัดส่วนที่กำหนดไว้ ส่งผลให้งบประมาณ สนับสนุนด้านอื่น ๆ ลดลง 5. ด้านวัสดุ อุปกรณ์ (Material :M3) 4 1. สถานศึกษามีอาคาร สถานที่ ห้องปฏิบัติการที่ เพียงพอ 2.สถานศึกษามีวัสดุ ครุภัณฑ์ ที่เพียงพอ 3 1. อาคารสถานที่มีความ เสื่อม ชำรุด ส่งผลต่อการบริการ การศึกษาไม่เต็ม ประสิทธิภาพ 2. วัสดุ ครุภัณฑ์มีความ เสื่อม ใช้งานไม่ได้เต็ม ประสิทธิภาพ 6. ด้านการ บริหารจัดการ (Management :M4) 4 1.บริหารจัดการโดยยึดหลัก ธรรมาภิบาล และการบริหาร แบบมีส่วนร่วมทำให้ได้รับ ความเชื่อมั่นความศรัทธาจาก ครูและบุคลากร ส่งผลให้การ บริหารจัดการมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล 2. สถานศึกษาได้ดำเนินการ พัฒนาครูและบุคลากรอย่าง ต่อเนื่อง ส่งผลให้ครูและ 3 1.การนิเทศติดตามไม่ ต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปฏิบัติขาด ความกระตือรือร้นท่าที่ ควร
หน้า | 34 ประเด็นสำคัญ สภาพแวดล้อมภายใน : จุดแข็ง(+) สภาพแวดล้อมภายใน : จุดอ่อน(-) ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน ค่าคะแนน เฉลี่ยจาก มติสมาชิก ข้อมูลสนับสนุน บุคลากรเลื่อนวิทยฐานะ เพิ่มขึ้น การกำหนดน้ำหนักความสำคัญของปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน ผลการกำหนดน้ำหนักความสำคัญของปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน โดยให้คะแนน เต็มเท่ากับ 1 แสดงผลได้ ดังนี้ ตาราง 25 การกำหนดน้ำหนักของสภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก ผลการพิจารณา น้ำหนัก S : ด้านสังคม – วัฒนธรรม (Social – cultural Factors) 0.20 T :ด้านเทคโนโลยี (Technological Factors) 0.40 E : ด้านเศรษฐกิจ ( Economic Factors ) 0.25 P : ด้านการเมืองและกฎหมาย ( Political and Legal Factors) 0.15 น้ำหนักคะแนนรวม 1.00 ตาราง 26 การกำหนดน้ำหนักของสภาพแวดล้อมภายใน ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายใน ผลการพิจารณา น้ำหนัก 1. ด้านโครงสร้างและนโยบาย (Structure :S1) 0.30 2. ด้านผลผลิตและการบริการ (Service :S2) 0.25 3. ด้านบุคลากร (Man :M1) 0.20 4. ด้านประสิทธิภาพทางการเงิน (Money :M2) 0.15 5. ด้านวัสดุอุปกรณ์ (Material :M3) 0.07 6. ด้านการบริหารจัดการ (Management :M4) 0.03 น้ำหนักคะแนนรวม 1.00
หน้า | 35 ตาราง 27 สรุปผลการวิเคราะห์สถานภาพของสภาพแวดล้อมภายนอก 1 รายการปัจจัย สภาพแวดล้อมภายนอก 2 น้ำหนัก 3 คะแนนเฉลี่ย 4 น้ำหนัก X คะแนน เฉลี่ย 5 สรุปผล โอกาส อุปสรรค โอกาส อุปสรรค S : สังคม – วัฒนธรรม (Social – cultural Factors) 0.20 4 3 0.8 0.60 0.20 T : เทคโนโลยี (Technological Factors) 0.40 4 4 1.60 1.60 0 E : เศรษฐกิจ (Economic Factors) 0.25 3 4 0.75 1.00 -0.25 P : การเมืองและกฎหมาย (Political and Legal Factors) 0.15 4 3 0.60 0.45 0.15 สรุปปัจจัยภายนอก 3.75 3.65 เฉลี่ยปัจจัยภายนอก 0.05 ตาราง 28 สรุปผลการวิเคราะห์สถานภาพของสภาพแวดล้อมภายใน 6 รายการปัจจัย สภาพแวดล้อมภายใน 7 น้ำหนัก 8 คะแนนเฉลี่ย 9 คะแนนเฉลี่ย X น้ำหนัก 10 สรุปผล จุดแข็ง จุดอ่อน จุดแข็ง จุดอ่อน 1. ด้านโครงสร้างและ นโยบาย (Structure :S1) 0.30 4 3 1.20 0.90 0.30 2. ด้านผลผลิตและการ บริการ (Service :S2) 0.25 3 2 0.75 0.50 0.25 3. ด้านบุคลากร (Man :M1) 0.20 4 3 0.80 0.60 0.20 4. ด้านประสิทธิภาพทาง การเงิน (Money :M2) 0.15 3 2 0.45 0.30 0.15 5. ด้านวัสดุอุปกรณ์ (Material :M3) 0.07 4 3 0.28 0.21 0.07 6. ด้านการบริหารจัดการ (Management :M4) 0.03 4 3 0.12 0.09 0.03 เฉลี่ยปัจจัยภายใน 3.60 2.60 สรุปปัจจัยภายใน +0.50
หน้า | 36 ผลการวิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อย จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก และสภาพแวดล้อมภายในขององค์กร เพื่อกำหนด สถานภาพปัจจุบันขององค์กร เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2 ปี พ.ศ. 2566-2570 มีผลดังนี้ โอกาส O S W จุดแข็ง จุดอ่อน T อุปสรรค กราฟแสดงสถานภาพของหน่วยงาน จากกราฟแสดงสถานภาพของโรงเรียนชุมชนบ้านป่าก่อดำ อยู่ในตำแหน่ง เอื้อและแข็ง โดยมี สภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นอุปสรรค ของโรงเรียน ประกอบด้วย เศรษฐกิจ (Economic Factors) และ สภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็นโอกาส ของโรงเรียน ประกอบด้วย สังคม – วัฒนธรรม (Social – cultural Factors)และ การเมืองและกฎหมาย (Political and Legal Factors) สภาพแวดล้อมภายในที่เป็นจุดแข็ง ของโรงเรียน ประกอบด้วย ด้านโครงสร้างและนโยบาย (Structure :S1) ด้านผลผลิตและการบริการ (Service :S2) ด้านบุคลากร (Man :M1) ด้านประสิทธิภาพทางการเงิน (Money :M2) ด้านวัสดุอุปกรณ์ (Material :M3) ด้านการบริหารจัดการ (Management :M4) และไม่มีสภาพแวดล้อมภายในที่เป็นจุดอ่อน ของโรงเรียน 3.60 3.75 2.60 3.65 0.05 0.50 เอื้อ และ แข็งแข็ง
หน้า | 37 ส่วนที่ 2 บริบทที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 10 ทรงมีพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาต้องมุ่งเน้นการสร้างพื้นฐาน ให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ดังนี้ 1. มีทัศนคติที่ดีและถูกต้อง มีความรู้ ความเข้าใจที่มีต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตนเอง 2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ชอบ/ชั่ว-ดี ปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว และช่วยกัน สร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง 3. มีงานทำ มีอาชีพ การเลี้ยงดูลูกหลานในครอบครัว หรือการฝึกฝนอบรมในสถานศึกษาต้องมุ่งให้เด็กและเยาวชน รักงาน สู้งาน ทำจนงานสำเร็จ การฝึกฝนอบรมทั้งในหลักสูตรและนอกหลักสูตร ต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียน ท ำ ง า น เ ป ็ น แ ล ะ ม ี ง า น ท ำ ใ น ท ี ่ ส ุ ด แ ล ะ ต ้ อ ง ส น ั บ ส น ุ น ผ ู ้ ส ำ เ ร ็ จ ห ล ั ก ส ู ต ร ม ี อ า ชี พ มีงานทำ จนสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว 4. เป็นพลเมืองดีมีระเบียบวินัย การเป็นพลเมืองดี เป็นหน้าที่ของทุกคน ครอบครัว สถานศึกษาและสถานประกอบการต้อง ส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี การเป็นพลเมืองดี คือ “เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ ก็ต้องทำ” เช่น งานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ งานสาธารณกุศลให้ทำด้วยความมีน้ำใจ และความ เอื้ออาทร กฎหมาย แผน ยุทธศาสตร์ และนโยบายที่เกี่ยวข้อง 1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ได้แก่ มาตรา 54 ที่บัญญัติให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัย เรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแล และพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการ ดำเนินการด้วย รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการศึกษา ตามความต้องการในระบบต่างๆ รวมทั้ง ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตและจัดให้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภาคเอกชนในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าที่ดำเนินการ กำกับ ส่งเสริมและสนับสนุนให้การจัด การศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ การดำเนินการและตรวจสอบการ
หน้า | 38 ดำเนินการ ให้เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติด้วย และการศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตนและมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติในการดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาตามวรรคสอง หรือให้ ประชาชนได้รับ การศึกษาตามวรรคสาม รัฐต้องดำเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนับสนุน ค่าใช้จ่ายในการศึกษา ตามความถนัดของตน 2. แผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศ แผนระดับที่ 1 ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ที่ใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศ ในระยะ 20 ปีโดยกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและยุทธศาสตร์ ดังนี้ วิสัยทัศน์“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน์ประจำชาติว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) มี 6 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3. ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จากการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (หลัก) 1.1 เป้าหมาย 1. คนไทยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 2. สังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อและสนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 1.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็น 4.1 การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม ประเด็น 4.2 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ประเด็น 4.3 ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ประเด็น 4.4 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย 1.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีวิสัยทัศน์คือการสร้างคุณภาพทุนมนุษย์ สู่สังคมอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ นอกจากนี้ยังพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนที่หลากหลาย ทั้งในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับก่อน ประถมศึกษา ระดับการศึกษาภาคบังคับ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้เรียนพิการ ผู้เรียนด้อยโอกาส ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ มีการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียน การสอน การวัดและประเมินผล การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพครู การยกระดับคุณภาพสถานศึกษาต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนได้เต็ม ตามศักยภาพ ทั้งความรู้ด้านวิชาการ ทักษะอาชีพ ทักษะชีวิต และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์
หน้า | 39 2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม (รอง) 2.1 เป้าหมาย สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ 2.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็น 4.1 การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในทุกมิติ 2.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ด้วยการ สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานในรายการพื้นฐาน 5 รายการ ได้แก่ 1) ค่าจัดการเรียนการสอน 2) ค่าหนังสือเรียน 3) ค่าอุปกรณ์การเรียน 4) ค่าเครื่องแบบนักเรียน 5) ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ซึ่งการสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการการศึกษา สำหรับผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ รวมทั้งการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษาในระดับพื้นที่พิเศษ ได้แก่ โรงเรียนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร โรงเรียนพื้นที่เกาะแก่ง และ โรงเรียนในพื้นที่ข้างเคียงโครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ และการพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา โดยการส่งเสริมการ จัดการศึกษาด้านเทคโนโลยีทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และเทคโนโลยีทางไกลผ่านเทคโนโลยี สารสนเทศ (DLIT) เพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มี คุณภาพ 3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง (รอง) 3.1 เป้าหมาย บ้านเมืองมีความมั่นคงในทุกมิติและทุกระดับ 3.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง 3.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีแผนการพัฒนาการศึกษา และแผนการ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพื่อสันติสุขในเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การจัดการศึกษาพื้นที่ ดังกล่าวสอดคล้องกับอัตลักษณ์วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาชีพให้เกิดความสมานฉันท์ และรู้รักสามัคคี มีความ เข้าใจซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้เรียนได้รับโอกาส ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง บุคลากรทางการศึกษามีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาเพื่อสร้าง ภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเด็ก และเยาวชน มิให้เป็นผู้เสพรายใหม่ พัฒนากระบวนการระบบติดตาม ดูแล ช่วยเหลือกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีปัญหายาเสพติด สร้าง และพัฒนาระบบรองรับสนับสนุนการคืนเด็กดี
หน้า | 40 สู่สังคม เสริมสร้างมาตรฐานในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาในกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทย มีความมั่นคงในระยะยาวต่อไป 4. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ (รอง) 4.1 เป้าหมาย 1. ภาครัฐมีวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม ตอบสนอง ความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส 2. ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ 4.2 ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และให้บริการ อย่างสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส 2. ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายและเชื่อมโยง การพัฒนาในทุกระดับ ทุกประเด็น ทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ 3. ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ 4.3 การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนในการบริหารจัดการศึกษาให้มี ประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล ทันสมัย มีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน มีการ พัฒนานวัตกรรมเทคนิคการเรียนการสอนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตสำหรับนักเรียน พัฒนาผู้นำ เยาวชนต่อต้านการทุจริต พัฒนานวัตกรรมการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมในการต่อต้าน การทุจริตและพัฒนาผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีการบริหารงานที่มีธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริตและป้องกันการทุจริตทุกรูปแบบ แผนระดับที่ 2 (เฉพาะที่เกี่ยวข้อง) 1.แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) 2.2.1.1 ประเด็นที่ 12 การพัฒนาการเรียนรู้ (หลัก) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท เป้าหมายที่ 1 คนไทยมีการศึกษาที่มีมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้น มีทักษะที่จำเป็นของโลกศตวรรษ ที่ 21 สามารถแก้ปัญหาปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เป้าหมายที่ 2 คนไทยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพตามความถนัดและความสามารถของ พหุปัญญาดีขึ้น การบรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึง การพัฒนาหลักสูตรกระบว นการเรียนก ารสอน การว ัดและประเมินผล ให้ผู้เรียน ทุกระดับและทุกกลุ่ม ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ที่พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบท ของพื้นที่ที่หลากหลาย รวมถึงแนวโน้มของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปและสอดคล้องกับการพัฒนา ของประเทศ การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพครู
หน้า | 41 เพื่อพัฒนาศักยภาพครูให้มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน สอดรับกับทักษะที่จำเป็น ในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาระบบการศึกษา ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ แผนย่อยการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 เป้าหมายของแผนย่อย คนไทยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานมีทักษะ การเรียนรู้ และมีทักษะที่จำเป็นของโลกศตวรรษที่ 21 สามารถเข้าถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตดี ขึ้น การบรรลุเป้าหมายแผนย่อย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนการ ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึง การพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล ใ ห ้ ผ ู ้ เ ร ี ย น ท ุ ก ร ะ ด ั บ แ ล ะ ท ุ ก ก ล ุ ่ ม ไ ด ้ ร ั บ ก า รศ ึ ก ษ า ท ี ่ ม ี ค ุ ณ ภ า พ แ ล ะ ม ี ม า ต ร ฐ า น เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพที่สอดคล้อง กับความต้องการของประเทศ การขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ที่พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่หลากหลาย รวมถึงแนวโน้มของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และสอดคล้องกับการพัฒนาของประเทศ การพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ และพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพครู เพื่อพัฒนาศักยภาพครูให้มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน สอดรับกับทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 การยกระดับคุณภาพโรงเรียน เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนเข้าถึง การศึกษาที่มีคุณภาพ ให้โรงเรียนมีความพร้อมในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มี สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ ด้วยการส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งอาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้ และวัสดุอุปกรณ์ ด้านจัดการศึกษา ทั้งบุคลากร หลักสูตรและกิจกรรม และด้านการมีส่วนร่วม ของเอกชน บ้าน วัด/ศาสนสถานอื่น ๆ รัฐ และโรงเรียน เพื่อผลิตผู้เรียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง และชุมชน ตลอดจนโรงเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน แนวทางการพัฒนา แผนย่อยการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 1. ปรับเปลี่ยนระบบการเรียนรู้สำหรับศตวรรษที่ 21 2. เปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ 3. เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท 4. พัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5. สร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ แผนย่อยการตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย เป้าหมาย ประเทศไทยมีระบบข้อมูลเพื่อการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา เพื่อ ประโยชน์ในการพัฒนาและการส่งต่อการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพเพิ่มขึ้น การบรรลุเป้าหมายแผนย่อย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนการ ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึง การมีแผนการพัฒนา /แนวทาง/ รูปแบบ / เครื่องมือ/ฐานข้อมูล ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการสำรวจแววนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษตามหลักพหุปัญญา แบบสอบถาม ความคิดเห็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ นักเรียนและพ่อ แม่ ผู้ปกครองนักเรียน ที่มีความสามารถพิเศษ การวิจัย และพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ผู้มีความสามารถพิเศษตามหลัก พหุปัญญา ติดตามเชิงลึก พร้อมทั้งให้คำปรึกษา แนะนำ และเป็นพี่เลี้ยง การพัฒนาหลักสูตรกระบวนการ เรียนการสอน การวัดและประเมินผล ให้ผู้เรียนทุกระดับและทุกกลุ่ม ทั้งได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
หน้า | 42 สอดคล้องกับศักยภาพ พร้อมทั้งมีทักษะและศักยภาพในการประกอบอาชีพที่เหมาะสมการส่งเสริม ให้มีการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ การพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษ ด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ การพัฒนาผู้มีความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์ นาฏศิลป์ ดนตรี และ กีฬา เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและนวัตกรคุณภาพ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ แนวทางการพัฒนา แผนย่อยการตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย 1. พัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา 2. สร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทำงาน และระบบสนับสนุนที่เหมาะสมสำหรับ ผู้มีความสามารถพิเศษ 2.2.2.2 ประเด็นที่ 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (รอง) เป้าหมายระดับประเด็นของแผนแม่บท เป้าหมาย คนไทยทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้รับการพัฒนาอย่างสมดุล ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา และคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 รักการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พัฒนาผู้เรียนตั้งแต่ระดับ ก่อนประถมศึกษา ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พัฒนาผู้เรียนตั้งแต่ระดับ ก่อนประถมศึกษา ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้เด็กนักเรียนทุกคนทุกช่วงวัยมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้รับ การพัฒนา อย่างสมดุล ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญาและคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ที่มีความรู้ และทักษะ ในศตวรรษที่ 21 รักการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต เป้าหมายของแผนย่อยการพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น เป้าหมาย วัยเรียน/วัยรุ่น มีความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 ครบถ้วน รู้จักคิด วิเคราะห์ รัก การเรียนรู้ มีสำนึกพลเมือง มีความกล้าหาญทางจริยธรรมมีความสามารถในการแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผลตลอดชีวิตดีขึ้น การบรรลุเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแผนการดำเนินการ ให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึง การส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายให้เอื้อ ต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การส่งเสริม การสอบแข่งขันทางวิชาการ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ให้กับนักเรียนทุกคนในสังกัด การส่งเสริมนิสัย รักการอ่าน การพัฒนาระบบการประเมินและการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา การขับเคลื่อนงานแนะแนวในสถานศึกษาและสร้างเสริมสมรรถนะผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการศึกษาต่อและการมีงานทำ แนวทางการพัฒนา แผนย่อยการพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น 1. การส่งเสริมการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับและมัธยมศึกษา ตอนปลาย 2. สร้างการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะด้านอาชีพ ดนตรี และกีฬา 3. พัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ ทักษะการสื่อสารด้านภาษาอังกฤษ 4. ส่งเสริมทักษะทางวิชาการ การสอบแข่งขันระดับ เขตพื้นที่ จังหวัด ระดับประเทศ ตลอดถึงระดับนานาชาติ
หน้า | 43 5. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษา เช่น ความปลอดภัยของ ผู้เรียน พัฒนาอาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาให้น่าเรียน 2. แผนการปฏิรูปประเทศ แผนการปฏิรูปประเทศ จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดกลไก วิธีการ และขั้นตอนการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ โดย การปฏิรูปประเทศต้องดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคี สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาส อันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ การปฏิรูปประเทศต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งแผนการปฏิรูปประเทศ ประกอบด้วย 13 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการเมือง 2) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3) ด้านกฎหมาย 4) ด้านกระบวนการยุติธรรม 5) ด้านเศรษฐกิจ 6) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7) ด้านสาธารณสุข 8) ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ 9) ด้านสังคม 10) ด้านพลังงาน 11) ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ 12) ด้านการศึกษา 13) ด้านวัฒนธรรม กีฬาแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา การปฏิรูปการศึกษายังเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศเพื่อสนับสนุนการบรรลุตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดไว้ในด้านต่าง ๆ เนื่องด้วยการศึกษาเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ ดังนั้นแผนปฏิรูป ประเทศด้านการศึกษาจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะสนับสนุนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ด้านความเท่าเทียมและความเสมอภาค ของ สังคม และด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ วัตถุประสงค์ของการปฏิรูปการศึกษา 1. ยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา (enhance quality of education)ครอบคลุม 1.1 ผลลัพธ์ทางการศึกษาและการเรียนรู้ (learning outcomes) ทั้งด้านความรู้ ทักษะ เจตคติที่ถูกต้อง และรู้จักดูแลสุขภาพ เพื่อการจัดการในเรื่องการดำรงชีวิตของตนเองและการใช้ชีวิต ร่วมกับผู้อื่นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 54 วรรค 4 1.2 ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ที่ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ครูมีจิตวิญญาณ ของความเป็นครู 1.3 หลักสูตรและกระบวนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ (educational core processes) ที่ยืดหยุ่น หลากหลาย ถูกต้อง ทันสมัย ทันเวลา และมุ่งเน้นการสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม ทางสังคมที่ถูกต้อง
หน้า | 44 1.4 สถานศึกษาและระบบสนับสนุน (educational institutions and support systems) ที่ตอบสนองต่อความต้องการของการจัดการศึกษา ตลอดจนทรัพยากรด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้แก่ งบประมาณและเทคโนโลยี 2. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (reduce disparity in education) เป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา (equity in education) ประกอบด้วย 2.1 โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเรียนรู้ (equity in access) 2.2 โอกาสในการได้รับทางเลือกในการศึกษาและการเรียนรู้พัฒนาที่เหมาะสม กับศักยภาพของผู้เรียน (equity in choosing Appropriate process in education) 2.3 โอกาสในการได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะในการประกอบ อาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพตามความถนัดของผู้เรียน (equity in benefiting from aptitude-based quality of education) ทั้งในและนอกระบบการศึกษา รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ 3. มุ่งความเป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (leverage excellence and competitiveness) หมายถึง การสร้างสมรรถนะและคุณลักษณะของผู้เรียนที่มี ศักยภาพสูง มีความเป็นผู้นำริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และการผลิตนักวิจัยและนักเทคโนโลยี ชั้นแนวหน้าให้สามารถต่อยอดงานวิจัยที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ การสร้างความร่วมมือ และเชื่อมต่อกับสถาบันวิจัยอื่น ๆ ทั่วโลก สอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สังคมและ สิ่งแวดล้อมของประเทศ อีกทั้งสถาบันการศึกษาของไทยและระบบการศึกษาไทยต้องได้รับการยอมรับ ว่าเทียบเคียงได้กับประเทศชั้นนำอื่น ๆ 4. ปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร เพิ่มความคล่องตัวใน การรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษา และสร้างเสริมธรรมาภิบาล (improve Efficiency, agility and good governance) โดยเฉพาะการส่งเสริมและสร้างสมดุลของความคุ้มค่า ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ คุณธรรมและจริยธรรม ทั้งนี้ ระบบการศึกษาของประเทศที่มีธรรมาภิบาลจะเอื้อต่อการบรรลุ ต่อวัตถุประสงค์ข้อ 1 - 3 ข้างต้นอย่างครอบคลุมและสมดุล (balanced and inclusive achievement) โดยแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษามีแผนงานเพื่อการปฏิรูป 7 เรื่อง ได้แก่ 1) ระบบ การศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ และกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง 2) การพัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 3) การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 4) กลไกและระบบการผลิต คัดกรอง และพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครู และอาจารย์ 5) การจัดการเรียนการ สอนเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 6) การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน และ 7) การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล และเพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามแผนปฏิรูปดังกล่าว ได้มีการประกาศ แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) สำหรับการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 ใน 5 เรื่อง ได้แก่ 1) การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย 2) การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 3) การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพมาตรฐาน 4) การจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีและระบบอื่น ๆ ที่เน้นการฝึกปฏิบัติ อย่างเต็มรูปแบบ นำไปสู่การจ้างงานและการสร้างงาน 5) การปฏิรูปบทบาทการวิจัยและระบบธรรมาภิบาล ของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางอย่างยั่งยืน ซึ่งภารกิจหลักของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้
หน้า | 45 ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และการปฏิรูปกลไกและระบบการผลิต และพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน 4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565-2569) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570) เป็น แผนระดับสอง ซึ่งเป็นพัฒนาที่จัดทำโดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายของรัฐบาล และ สภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและโลก รวมถึงมีความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย การ พัฒนาประเทศในระยะยาวที่จะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาประเทศได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน บน เป้าหมายร่วมที่ชัดเจน และยังเอื้อประโยชน์ต่อการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลความสำเร็จ ของแผน เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการและวิธีการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามที่มุ่งหวังได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ประกอบด้วย 13 หมุดหมาย ได้แก่ หมุดหมายที่ 1 ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 2 ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน หมุดหมายที่ 3 ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก หมุดหมายที่ 4 ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง หมุดหมายที่ 5 ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค หมุดหมายที่ 6 ไทยเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่สำคัญของโลก หมุดหมายที่ 7 ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และสามารถแข่งขันได้ หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคมที่ เพียงพอ เหมาะสม หมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน โดยหมุดหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานมากที่สุด นั่นคือ หมุดหมายที่ 12 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ หมุดหมายที่ 12ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่ง อนาคต หมุดหมายที่ 12 มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในประเด็นเป้าหมาย ประเทศไทยมีขีดความสามารถใน การแข่งขันสูงขึ้น 2. ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ในประเด็นเป้าหมาย คนไทยเป็นคนดี คน เก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และสังคมไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อ และสนับสนุนต่อการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต 14
หน้า | 46 3. ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ในประเด็นเป้าหมาย สร้างความ เป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นกำลังของการพัฒนาประเทศในทุกระดับ หมุดหมายที่ 12 มุ่งตอบสนองเป้าหมายหลักของแผน 2 เป้าหมาย ได้แก่ 1. การพัฒนาคนสำหรับยุคใหม่ โดยการพัฒนาคนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ การพัฒนา กำลังคนสมรรถนะสูงสอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลิต เป้าหมาย สามารถสร้างงานอนาคต และ สร้างผู้ประกอบการอัจฉริยะที่มีความสามารถในการสร้างและใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม 2. การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งการพัฒนา ระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเรียนใน ระบบการศึกษาปกติ โดยมีเป้าหมายระดับหมุดหมาย และตัวชี้วัด ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้ เป้าหมายที่ 1 คนไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในทุกช่วงวัย มีสมรรถนะที่จำเป็น สำหรับโลกยุคใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกัน ต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉมฉับพลันของโลก สามารถดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข ตัวชี้วัดที่ 1.1 ดัชนีพัฒนาการเด็กสมวัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 88 ณ สิ้นสุดแผนฯ ตัวชี้วัดที่ 1.2 ร้อยละของนักเรียนที่มีสมรรถนะไม่ถึงระดับพื้นฐานของทั้ง 3วิชา ในแต่ละกลุ่ม โรงเรียนลดลงร้อยละ 8 เมื่อสิ้นสุดแผนฯ ตัวชี้วัดที่ 1.3 ทุนชีวิตเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อสิ้นสุดแผนฯ เป้าหมายที่ 2 กำลังคนมีสมรรถนะสูง สอดคล้องกับความต้องการของภาคการผลิตเป้าหมาย และสามารถสร้างงานอนาคต ตัวชี้วัดที่ 2.1 ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Form: WEF) 6 ด้านทักษะ คะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อสิ้นสุดแผนฯ เป้าหมายที่ 3 ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตัวชี้วัดที่ 3.2 กลุ่มประชากรอายุ 15 – 24 ปี ที่ไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำงาน หรือไม่ได้ฝึกอบรม ไม่เกินร้อยละ 5 เมื่อสิ้นแผนฯ กลยุทธ์การพัฒนา (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาขั้นพื้นฐาน) กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยในทุกมิติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 พัฒนาเด็กช่วงตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัยให้มีพัฒนาการรอบด้าน มีอุปนิสัยที่ดี โดยการเตรียมความพร้อมพ่อแม่ผู้ปกครองและสร้างกลไกประสานความร่วมมือ เพื่อดูแลหญิงตั้งครรภ์ให้ ได้รับบริการที่มีคุณภาพ และดูแลเด็กให้มีพัฒนาการสมวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ – 6 ปี การพัฒนาครูและผู้ดูแลเด็กปฐมวัยให้มีความรู้และทักษะการดูแลที่เพียงพอ มีจิตวิทยาการพัฒนาการ ของเด็กปฐมวัย สามารถทางานร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็ก ปฐมวัยให้มีพัฒนาการสมวัยตามหลักการพัฒนาสมองและกระบวนการเรียนรู้แก่เด็ก ควบคู่กับการ พัฒนาการด้านร่างกาย สาธารณสุข และโภชนาการ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีอย่างรอบด้าน ก่อนเข้าสู่วัยเรียน การยกระดับสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้มาตรฐาน และจัดสรรทรัพยากรที่เพียงพอ สาหรับการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นกลไกการพัฒนาเด็กปฐมวัยรายพื้นที่ที่มีคุณภาพ การสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการดูแลปกป้องเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน สติปัญญา สมวัย โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม และ ภาคเอกชน รวมถึงพัฒนาระบบสารสนเทศเด็กรายบุคคลเพื่อการส่งต่อไปยังสถานศึกษาและ การพัฒนาที่ต่อเนื่อง