อุปกรณ์พน้ื ฐานสา� หรับเรม่ิ ตน้ ดูดาว
ในการเร่ิมต้นดูดาว สามารถเริ่มต้นจากอุปกรณ์ง่าย ๆ เช่น แผนท่ีดาวแบบกระดาษ
แอปพลิเคชันแผนที่ดาวในโทรศัพท์มือถือ กล้องสองตา หรือเลเซอร์สีเขียวส�าหรับการดูดาว
เป็นหมู่คณะ หากต้องการสังเกตวัตถุให้มีขนาดใหญ่และเห็นรายละเอียดมากข้ึน สามารถใช้
กล้องโทรทรรศน์ที่มีคุณสมบัติในการรวมแสงและเพิ่มก�าลังขยาย โดยอุปกรณ์พ้ืนฐานส�าหรับการ
เริ่มต้นดูดาวมีดังนี้
1. แผนท่ีดาวและแอปพลเิ คชนั ดูดาว
แผนท่ีดาวเป็นอุปกรณ์ส�าคัญที่สามารถใช้บอกต�าแหน่งของวัตถุ
ทอ้ งฟา้ ไดแ้ ทบทุกอย่าง มีหลากหลายรูปแบบทัง้ แบบกระดาษไปจนถงึ
แอปพลิเคชันในคอมพิวเตอร์และในโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้การดูดาว
เปน็ เรอ่ื งที่งา่ ยและเพลดิ เพลินมากย่ิงขึ้น
ตวั อยา่ งแอปพลิเคชนั ดดู าว ดาวนโ์ หลดแผนท่ีดาวแบบ DIY
คอมพิวเตอร์ : Stellarium
สมาร์ทโฟน : Starchart, Star Walk
50 ค่มู ือนักดูดาว
2. ไฟฉายแสงสแี ดง
ในเวลากลางคืนดวงตาของเราจะ
ปรับขนาดรูม่านตาให้ขยายใหญ่
ข้ึนเพ่ือให้สามารถมองเห็นในที่มืด
ได้ดีข้ึน ดังน้ัน หากจ�าเป็นต้องใช้
แสงสว่างระหว่างการดูดาว ให้ใช้
ไฟฉายแสงสีแดง เน่ืองจากแสงสี
แดงเป็นแสงที่รบกวนสายตาน้อย
ที่สุด เพียงน�ากระดาษแก้วสีแดงปิด
ที่หน้าไฟฉาย ก็สามารถน�าไปใช้
งานได้แล้ว
3. กล้องสองตา หรอื กลอ้ งส่องทางไกล
ขนาดหนา้ กล้อง (มม.)
กา� ลงั ขยาย (เทา่ )
กล้องสองตาเป็นอุปกรณ์ท่ีช่วยให้เราเห็นวัตถุท้องฟ้าได้ชัดและมีขนาดใหญ่ข้ึน ใช้งานง่าย
เหมาะกับใช้สังเกตการณ์วัตถุที่มีขนาดปรากฏเชิงมุมใหญ่ เช่น ดวงจันทร์ เนบิวลา กาแล็กซี
กระจุกดาว ดาวหาง หรือแม้แต่ดาวเคราะห์ท่ีมีขนาดใหญ่ เช่น ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีก็
สามารถใช้สังเกตการณ์ได้ ควรเลือกกล้องที่มีขนาดหน้าเลนส์ไม่น้อยกว่า 50 มิลลิเมตร และใช้
ก�าลังขยายในช่วง 7-10 เท่าก็เพียงพอในการใช้สังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าได้แล้ว
A GUIDE TO STARGAZING 51
4. เลเซอร์ชดี้ าว
เลเซอร์ชี้ดาวเป็นอีกหน่ึงอุปกรณ์ท่ีช่วยระบุ
ต�าแหน่งของกลุ่มดาวและวัตถุท้องฟ้าในการบรรยาย
การดดู าวได้พร้อมกนั หลายคน
ควรเลือกใช้เลเซอร์ที่มีสีเขียว เนื่องจากตามนุษย์
ตอบสนองต่อแสงสีเขียวได้ดี ควรเลือกเลเซอร์ที่มี
ก�าลังต้ังแต่ 100 มลิ ลิวตั ต์ (mW) ขน้ึ ไป จะมีกา� ลัง
สอ่ งสว่างท่เี พยี งพอในการชว้ี ัตถทุ อ้ งฟ้า
ขอ้ ควรระวงั !
เลเซอร์สเี ขยี วท่ีมคี วามเขม้ แสงมาก หากส่องเข้าตาโดยตรงจะทา� ให้
ระคายเคืองต่อดวงตา และอาจเกิดความเสียหายต่อดวงตาอยา่ งถาวร
52 คมู่ ือนกั ดูดาว
5. กลอ้ งโทรทรรศน์
กล้องโทรทรรศน์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ขยายภาพวัตถุท้องฟ้าโดยอาศัยการรวมแสงและการเพิ่ม
ก�าลังขยาย ช่วยให้เห็นรายละเอียดของวัตถุได้สว่างและชัดเจนมากขึ้น
ประเภทของกล้องโทรทรรศน์
กลอ้ งโทรทรรศนแ์ บบหักเหแสง (Refracting Telescope)
กล้องโทรทรรศน์แบบหักเหแสงใช้เลนส์นูนใน ในกรณีที่ใช้เลนส์ท่ีมีคุณภาพต่�า อาจเกิด
การรวมแสง จะให้ภาพที่คมชัดและสว่าง ความคลาดสี (Chromatic Aberration) ท�าให้
ท่ีสุด เน่ืองจากไม่มีส่วนประกอบใดก้ันทาง ภาพที่มองเห็นมีสีเพี้ยนบริเวณขอบ และหาก
เดินแสง แสงจะผ่านตัวกล้องได้มากกว่า เทียบกับกล้องประเภทอ่ืนที่มีขนาดหน้ากล้อง
เท่ากัน กล้องประเภทน้ีจะมีราคาค่อนข้างสูง
99 เปอรเ์ ซ็นต์ นกั ดาราศาสตร์สมัครเล่นจึงนิยม เน่ืองจากในการผลิตช้ินเลนส์มีข้ันตอนที่
น�าไปใช้ในการถา่ ยภาพวัตถทุ ้องฟ้า ค่อนข้างซับซ้อน กล้องโทรทรรศน์หักเหแสง
ส ่ ว น ใหญ่ ใ น ท ้ อ ง ต ล า ด จึ ง มั ก มี ข น า ด ห น ้ า
กล้องไม่เกิน 4-5 นิว้ เท่านนั้
กล้องหลกั
เลนส์วัตถุ กลอ้ งเลง็
เลนสต์ า
ตุม้ ถว่ งนา้� หนัก จดุ ปรบั โฟกัส
กา้ นปรบั ต�าแหนง่ กลอ้ ง
A GUIDE TO STARGAZING 53
กลอ้ งโทรทรรศน์แบบสะทอ้ นแสง (Reflecting Telescope)
กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงใช้ ข้อเสียของกล้องแบบสะท้อนแสง คือ จะมี
กระจกเว้าทรงพาราโบลาในการรวมแสงมี
ข้อดีท่ีจะไม่ท�าให้เกิดปัญหาความคลาดสี กระจกทุติยภูมิอยู่ในตัวกล้องซ่ึงจะขวางทาง
รวมทั้งสามารถผลิตให้มีขนาดใหญ่ได้ใน เดินแสงบางส่วน และการสะท้อนแสงของ
ราคาท่ีถูกกว่ากล้องโทรทรรศน์แบบหักเห กระจกมกั จะสะทอ้ นได้รอ้ ยละ 85-90 ของแสง
แสงมาก เหมาะกับการสังเกตวัตถุท้องฟ้าที่มี ทตี่ กกระทบ แตก่ ็สามารถชดเชยดว้ ยการท�าให้
ความสวา่ งน้อย เช่นกาแล็กซี เนบวิ ลา กลอ้ งมีขนาดทใ่ี หญ่ข้ึนได้
กลอ้ งเลง็
กล้องหลัก
เลนส์ตา
จดุ ปรบั โฟกสั
ก้านปรบั ต�าแหน่งกล้อง ก้านปรบั ตา� แหนง่ กลอ้ ง
ต้มุ ถว่ งนา้� หนัก
54 คูม่ อื นักดูดาว
กล้องโทรทรรศนแ์ บบผสม (Catadioptric Telescope)
กล้องโทรทรรศน์แบบผสมใช้ท้ังกระจกเว้า ก ล ้ อ ง โ ท ร ท ร ร ศ น ์ ช นิ ด นี้ น อ ก จ า ก จ ะ ใ ห ้
และเลนส์ในการรวมแสง ประเภทที่นิยมใช้กัน ความยาวโฟกัสสูงแล้ว ยังมีความคมชัดใน
มาก คือ แบบชมิดท์-แคสสิเกรน (Schmidt- ระดับที่เทียบเท่ากับกล้องโทรทรรศน์แบบ
Cassegrain) ลักษณะเด่นคือมีกระจกทุติย- หักเหแสง มักใช้กับการสังเกตดาวเคราะห์
วัตถุที่มีขนาดเชิงมุมเล็ก และวัตถุท่ีต้องการ
ภูมเิ ป็นกระจกโค้งทา� ใหไ้ ด้กล้องโทรทรรศน์ท่ี ความคมชัดสูง แต่จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่า
มีความยาวโฟกัสสูง แต่มีขนาดท่ีส้ันกะทัดรัด กล้องแบบสะท้อนแสงทั่วไป
กลอ้ งหลกั
กล้องเล็ง
ตมุ้ ถ่วงนา้� หนกั เลนส์ตา
รโี มตควบคุมกล้อง
A GUIDE TO STARGAZING 55
การหาก�าลังขยายของกล้องโทรทรรศน์
แผน่ ป้ายบอกคุณสมบตั ขิ องกล้องโทรทรรศน์ เลนสต์ ากลอ้ งโทรทรรศน์ (Eyepiece)
D คอื เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางหน้ากลอ้ ง F คือ ความยาวโฟกสั ตวั เลขบง่ บอกคา่ ความยาวโฟกสั ของเลนสต์ า
ก�าลังขยายของกล้องโทรทรรศน์ = ความยาวโฟกัสของเลนส์วัตถุ
ความยาวโฟกัสของเลนส์ตา
ตวั อยา่ ง กล้องโทรทรรศน์ที่มีความยาวโฟกัส 1,200 มิลลิเมตร สามารถค�านวณก�าลังขยายได้ดังน้ี
หากใชเ้ ลนสต์ า 24 มิลลิเมตร จะไดก้ า� ลังขยายที่ 1200/24 = 50 เท่า
หากใช้เลนสต์ า 12 มลิ ลเิ มตร จะได้กา� ลงั ขยายที่ 1200/12 = 100 เทา่
ขีดจ�ากัดกา� ลงั ขยายของกล้องโทรทรรศน์
ก�าลังขยายสูงสุดของกล้องโทรทรรศน์ = 25 x ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้ากล้อง (หน่วยเป็นนิ้ว)
เช่น กล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 น้ิว จะมีก�าลังขยายสูงสุดท่ีเหมาะสมไม่เกิน
25 x 4 = 100 เทา่ การใชก้ า� ลังขยายท่สี งู มากเกินคา่ ดงั กลา่ ว จะทา� ให้ได้ภาพท่มี ดื มวั และสน่ั ไหวเนื่องจาก
ขณะท่เี ราขยายภาพดาว ก็จะเปน็ การขยายความพร่ามวั ของบรรยากาศโลกตามไปด้วย
ในการเลือกซอื้ กลอ้ งดูดาว นอกจากจะตอ้ งคา� นงึ ถึงประเภทของกล้องและกา� ลงั ขยายแลว้ ยงั ควรพจิ ารณา
ขาต้ังกล้องและระบบแกนหมุนของกล้องด้วยว่าเป็นระบบพิกัดขอบฟ้าหรือระบบพิกัดศูนย์สูตร ซ่ึงจะมี
ข้อดี-ข้อเสียและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงยังมีกล้องโทรทรรศน์ท่ีสามารถติดตามและค้นหาวัตถุ
ทอ้ งฟ้าได้เองแบบอัตโนมตั อิ ีกด้วย ดงั นั้น ควรศึกษาวิธีการใช้งานอยา่ งถีถ่ ว้ นก่อนจะตดั สนิ ใจซ้อื กล้องดูดาว
56 คมู่ ือนกั ดูดาว
A GUIDE TO STARGAZING 57
เทคนิคและขอ้ ควรรู้ก่อนเรมิ่ ดูดาว
1. ปรับสายตากอ่ นเรมิ่ ดดู าว
แสงสว่างมาก แสงสว่างนอ้ ย
รูม่านตาของมนุษย์จะหด-ขยายตัวตามความสว่างของสภาพแวดล้อม เมื่อมีแสงจ้ารูม่านตาหด
ตัวลงเพื่อลดปริมาณแสงท่ีเข้าสู่ดวงตา หากเป็นบริเวณท่ีมีแสงสว่างน้อย รูม่านตาจะขยายตัว
ดวงตาจะสามารถรับแสงได้มากข้ึน จึงมองเห็นในท่ีมืดได้ดีย่ิงข้ึน ดังนั้น ควรปรับสายตาในท่ีมืด
สนทิ ประมาณ 5 ถึง 10 นาที ก่อนเริม่ ตน้ ดดู าว
2. เทคนิคการมองวัตถทุ ี่ไม่สว่าง วตั ถุ
มองปกติ
การมองเยื้องไปจากวัตถุท่ีเราต้องการดูเล็กน้อยจะ
ท�าให้มองเห็นวัตถุนั้นสว่างมากขึ้น เนื่องจากจะท�าให้ วัตถุ
แสงจากวัตถุเป้าหมายตกกระทบบริเวณรอบ ๆ จอ
ประสาทตา (Retina) ซ่ึงบริเวณดังกล่าวมีเซลล์รูปแท่ง
(Rod Cell) อยู่อย่างหนาแน่น มีความไวแสงสูง แต่ไม่
สามารถจ�าแนกสีได้ (เห็นเป็นภาพขาวด�า) ทา� ใหม้ องเห็น
ภาพวัตถุท้องฟ้าท่ีมีความสว่างน้อยได้ดีขึ้น
ขณะท่ีการมองปกติจะท�าให้แสงจากวัตถุเป้าหมาย
ตกท่ีก่ึงกลางจอประสาทตา ซึ่งมีเซลล์รูปกรวย (Cone
Cell) อยู่หนาแน่น เป็นเซลล์ที่แยกสีได้ แต่ไม่ไวต่อแสง
58 ค่มู ือนักดูดาว มองเยอ้ื ง
3. ปรับอปุ กรณจ์ อแสดงภาพทุกชนดิ
ใหอ้ ยู่ในโหมดกลางคืน
หากมีความจ�าเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่ก�าลังดูดาว ควรปรับให้อุปกรณ์เป็นโหมดกลางคืน
(Night Mode) หน้าจอแอปพลิเคชันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ดังภาพ จะช่วยลดการรบกวนสายตา
4. ภาพท่เี หน็ ด้วยตา vs ภาพถา่ ย ภาพทีต่ ามองเหน็
ภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ท่ีเราเห็นส่วนใหญ่มักจะ
มีสีสันและรูปทรงท่ีสวยงามชัดเจน แต่ในความ
เป็นจริงแล้ว ภาพเหล่าน้ันเกิดจากการบันทึกโดย
การใช้กล้องถ่ายภาพท่ีสามารถเปิดหน้ากล้องได้
เป็นเวลานาน จึงสามารถรวบรวมแสงสว่างที่ริบหร่ี
ของวัตถุท้องฟ้าได้ แตกต่างจากตาของมนุษย์ท่ีไม่
สามารถเปิดรับแสงนาน ๆ ได้ ภาพที่เห็นด้วยตา
จงึ แตกตา่ งจากภาพถา่ ย
ภาพถ่าย
5. เทคนิคเลเซอร์เขียว
กับกลอ้ งโทรทรรศน์
ปัญหาท่ีผู้ใช้งานกล้องโทรทรรศน์จะ
ต้องเจอ คือ “ตอนน้ีกล้องก�าลังส่องไป
ที่ไหน ?” แมว้ ่ากล้องโทรทรรศนจ์ ะมีกล้องเลง็ ติดต้ังมาใหแ้ ล้วกต็ าม ปัญหานีส้ ามารถแก้ไขไดง้ ่าย ๆ
เพียงแค่ใช้เลเซอร์สีเขียวส่องผ่านเลนส์ตาของกล้องโทรทรรศน์ แสงเลเซอร์จะเดินทางออกจาก
หนา้ กลอ้ งและช้ไี ปยงั ต�าแหนง่ ท่ีกล้องก�าลังสอ่ งอยู่
A GUIDE TO STARGAZING 59
3บทที่
เร่ิมตน้ ดดู าว
(Stargazing)
60 ค่มู ือนักดูดาว
A GUIDE TO STARGAZING 61
A GUIDE TO STARGAZING 63
A GUIDE TO STARGAZING 65 ในช่วงเดอื นธนั วาคม - กมุ ภาพนั ธ์ ถอื เป็นชว่ งท่เี หมาะแก่การดดู าวมาก ผ่านดาวบีเทลจุสหรือหัวไหล่อีกข้างของนายพราน ก็จะช่วยช้ีน�าไปยัง
ที่สุด เนื่องจากภูมิภาคส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะมีสภาพอากาศ กลมุ่ ดาวสิงโต ซึ่งเปน็ กลมุ่ ดาวเด่นของช่วงฤดใู บไม้ผลิไดอ้ ีกดว้ ย
ปลอดโปร่ง มีเมฆน้อย กลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน อีกทั้งกลุ่มดาว ดาวอลั ดบี าแรน คนไทยมกั เรยี กวา่ “ดาวตาววั ” หรอื “ดาวโรหณิ ”ี ทม่ี าจาก
ท่ีปรากฏบนท้องฟ้าเป็นกลุ่มดาวท่ีมีดาวสว่างโดดเด่น สังเกตการณ์ ภาษาฮินดู มีความหมายว่า “สิ่งท่ีมีสีแดง” ตรงกับลักษณะปรากฏ
ได้ง่าย โดยมีกลุ่มดาวค้างคาว หรือกลุ่มดาวแคสซิโอเปีย ท่ีสามารถใช้ ของดาวอัลดีบาแรนท่ีเป็นดาวฤกษ์สีแดง นับเป็นดาวฤกษ์ท่ีสว่างที่สุด
น�าทางไปยังดาวเหนือได้ต้ังแต่ช่วงหัวค่�า ล�าดบั ท่ี 15 ในท้องฟ้าตอนกลางคืน
กลุ่มดาวนายพราน มีเอกลักษณ์อยู่ที่ดาวสว่าง 3 ดวงเรียงตัวกัน เราสามารถลากเส้นเชื่อมต่อกันระหว่าง ดาวซิริอุสในกลุ่มดาวหมาใหญ่
เป็นเส้นตรง เรียกว่า เข็มขัดนายพราน ซ่ึงกลุ่มดาวนี้สามารถสังเกต ดาวบีเทลจุสในกลุ่มดาวนายพราน และดาวโพรซิออนในกลุ่มดาว
เห็นได้ทุกพื้นที่ท่ัวโลก เนื่องจากกลางล�าตัวของนายพรานถูกแบ่ง หมาเล็ก กจ็ ะไดร้ ูปสามเหล่ียมบนทอ้ งฟ้า เรยี กวา่ “สามเหลย่ี มฤดูหนาว
ด้วยเส้นศูนย์สูตรฟ้าพอดี โดยบริเวณหัวไหล่ของนายพรานมีดาวสี (Winter Triangle)”
แดงสว่างโดดเด่น คือ ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse) และมีดาวสว่าง นอกจากนั้นหากลากเส้นเช่ือมต่อกันระหว่างดาวฤกษ์สว่าง 6 ดวง จาก
สีฟ้าเป็นบริเวณขา คือ ดาวไรเจล (Rigel) รวมถงึ มวี ัตถุในหว้ งอวกาศ 6 กลุ่มดาว ได้แก่ ดาวซิริอุส ในกลุ่มดาวหมาใหญ่ ดาวไรเจล (Rigel)
ลึกทนี่ ่าสนใจคือ เนบวิ ลานายพราน (Orion Nebula) หรอื M42 ในกลุ่มดาวนายพราน ดาวอัลดีบาแรน ในกลุ่มดาววัว ดาวคาเพลลา
เราสามารถใช้ดาวฤกษ์สว่างในกลุ่มดาวนี้ชี้น�าทางไปยังวัตถุท้องฟ้า (Capella) ในกลุ่มดาวสารถี ดาวพอลลักซ์ (Pollux) ในกลุ่มดาวคนคู่
หรือกลุ่มดาวอ่ืน ๆ ได้ หากลากเส้นสมมติผ่านดาวท้ังสามดวงบน และดาวโพรซิออน (Procyon) ในกลุ่มดาวหมาเล็ก จะได้รูปหกเหลี่ยม
เข็มขัดของกลุ่มดาวนายพรานไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะชี้น�าไปยัง บนท้องฟ้า เรียกว่า “หกเหลี่ยมฤดูหนาว (Winter Hexagon)” ซึ่งท้ัง
ดาวซิริอุส (Sirius) ซ่ึงเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้ายามค่�าคืน อยู่ สามเหล่ียมฤดูหนาวและหกเหล่ียมฤดูหนาวจะปรากฏให้เห็นได้ตลอดคืน
ในกลมุ่ ดาวหมาใหญ่ ในชว่ งฤดูหนาว
เม่ือลากเส้นตรงจากดาวเบลลาทริกซ์ (Bellatrix) บริเวณหัวไหล่ซ้าย ดวงดาวบนทอ้ งฟา้ ทีเ่ ราเหน็ สว่ นใหญจ่ ะมีสอี อกไปทางขาว แตด่ าวฤกษ์
ของนายพราน ผ่านดาวอลั ดีบาแรน (Aldebaran) ดาวฤกษส์ ีแดงในกลมุ่ ในกลุ่มดาวฤดูหนาวถือว่ามีสีสันหลากหลายเลยทีเดียว ยกตัวอย่าง
ดาวววั กจ็ ะพบกบั กระจกุ ดาวลูกไก่ (Pleiades) หรือ M45 หากท้องฟ้า เช่น สีแดงของดาวบีเทลจุส สีส้มของดาวอัลดีบาแรน และสีขาวอม
ไร้แสงรบกวน เราจะสามารถมองเห็นดาวฤกษ์ในกระจุกดาวน้ีด้วย น้�าเงินของดาวไรเจล เปน็ ตน้ สขี องดาวฤกษ์ทแ่ี ตกตา่ งกนั เหล่านี้บ่งช้ีว่า
ตาเปล่าได้ 6 - 7 ดวง นอกจากน้ัน หากเราลากเส้นจากดาวเบลลาทริกซ์ ดาวฤกษม์ ีอณุ หภมู พิ นื้ ผวิ แตกต่างกัน
66 คู่มือนักดูดาว วตั ถใุ นหว้ งอวกาศลึกท่ีนา่ สนใจในฤดูหนาว
ช่ือวตั ถุ : เนบวิ ลานายพราน (Orion Nebula) หรอื M42 ชอื่ วัตถุ : กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades) หรอื M45
กลุ่มดาว : นายพราน (Orion) กล่มุ ดาว : ววั (Taurus)
ชนดิ วัตถุ : เนบิวลา ชนิดวตั ถุ : กระจุกดาวเปิด
อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 4 อนั ดับความสว่างปรากฏ : 1.2
ขนาดเชิงมุม : 1o 30 ’ x 1o 00’ ขนาดเชงิ มุม : 1o 50’
RA : 5h 35m 17.31s RA : 3h 47m 0.00s
DEC : -5o 23’ 28.0’’ DEC : +24o 7’ 1.2’’
ระยะห่าง : 1,343.9 58.7 ปแี สง ระยะหา่ ง : 444.3 3.9 ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 67 ชือ่ วัตถุ : M41 ชื่อวตั ถุ : เนบิวลาดอกกหุ ลาบ (Rosette Nebula) หรอื NGC 2244
กลุ่มดาว : หมาใหญ่ (Canis Major) กลุ่มดาว : ยนู คิ อร์น (Monoceros)
ชนิดวัตถุ : กระจกุ ดาวเปิด ชนดิ วตั ถุ : เนบิวลา
อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 4.5 อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 4.8
ขนาดเชงิ มมุ : 0o 39’ ขนาดเชงิ มมุ : 0.48o
RA : 6h 46m 00.96s RA : 6h 31m 55.0s
DEC : -20o 45’ 25.2’’ DEC : +4o 56’ 31.2’’
ระยะหา่ ง : 2,316.0 ปีแสง ระยะหา่ ง : 9,109.3 ปีแสง
68 คู่มือนักดูดาว วตั ถุในหว้ งอวกาศลกึ ทีน่ า่ สนใจในฤดูหนาว
ชอื่ วตั ถุ : Pinwheel Cluster (M36) ชือ่ วตั ถุ : M37
กลมุ่ ดาว : สารถี (Auriga) กลุ่มดาว : สารถี (Auriga)
ชนิดวัตถุ : กระจกุ ดาวเปดิ ชนดิ วัตถุ : กระจุกดาวเปดิ
อันดับความสว่างปรากฏ : 6.0 อันดับความสวา่ งปรากฏ : 5.6
ขนาดเชงิ มุม : 0o 10’ ขนาดเชิงมมุ : 0o 15’
RA : 5h 36m 18.00s RA :5h 52m 18.0s
DEC : +34o 8’ 24.0’’ DEC : +32o 33’ 10.8’’
ระยะหา่ ง : 4,240.6 ปีแสง ระยะหา่ ง : 4,511.3 ปีแสง
A GUIDE TO STARGAZING 69 ชือ่ วัตถุ : กระจุกดาวคู่ (Double Cluster) ชอื่ วัตถุ : Starfish Cluster หรือ M38
กลุ่มดาว : เพอร์ซีอสุ (Perseus) กลมุ่ ดาว : สารถี (Auriga)
ชนดิ วัตถุ : กระจุกดาวเปิด ชนิดวัตถุ : กระจุกดาวเปิด
อันดับความสว่างปรากฏ : 3.8 อนั ดับความสว่างปรากฏ : 6.4
ขนาดเชิงมมุ : 0o 30’ ขนาดเชงิ มมุ : 0o 15’
RA : 2h 19m 0s RA : 5h 28m 42.96s
DEC : +57o 07’ 40’’ DEC : +35o 51’ 18.0’’
ระยะห่าง : 6,781.7 ปีแสง ระยะหา่ ง : 4,240.6 ปแี สง
70 คู่มือนักดูดาว วตั ถใุ นห้วงอวกาศลึกทีน่ า่ สนใจในฤดหู นาว
ชื่อวัตถุ : Southern Pinwheel Galaxy (NGC 300) ช่ือวัตถุ : Sculpture Galaxy (NGC 253)
กล่มุ ดาว : ชา่ งแกะสลกั (Sculptor) กลมุ่ ดาว : ชา่ งแกะสลกั (Sculptor)
ชนดิ วตั ถุ : กาแลก็ ซี ชนิดวตั ถุ : กาแลก็ ซี
อันดับความสวา่ งปรากฏ : 8.1 อนั ดับความสว่างปรากฏ : 8.0
ขนาดเชิงมุม : 0o 21’ 54.00’’ x 0o 15’ 30.00’’ ขนาดเชิงมุม : 0o 27’ 30’’ x 0o 06’ 48’’
RA : 0h 54m 53.48s RA : 0h 47m 33.14s
DEC : -37o 41’ 03.8’’ DEC : -25o 17’ 19.7’’
ระยะห่าง : 6.459 0.196 ลา้ นปแี สง ระยะห่าง : 11.613 0.261 ล้านปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 71 ชอื่ วตั ถุ : String of Pearls (NGC 55) ชื่อวัตถุ : ดาวอลั กอล (Algol) หรือดาวดวงของตาเมดูซา
กลุ่มดาว : กลมุ่ ดาวช่างแกะสลัก (Sculptor) กลุม่ ดาว : เพอรซ์ อี สุ (Perseus)
ชนดิ วตั ถุ : กาแล็กซี ชนิดวตั ถุ : ระบบดาวฤกษ์หลายดวง
อันดบั ความสว่างปรากฏ : 7.9 อนั ดับความสวา่ งปรากฏ : เปล่ียนแปลงระหว่าง 2.1 ถึง 3.4
ขนาดเชงิ มมุ : 0o 32’ 24’’ x 0o 05’ 36’’ RA : 3h 8m 10.14s
RA : 0h 14m 53.61s DEC : +40o 57’ 20.3’’
DEC : -39o 11’ 47.9’’ ระยะห่าง : 89.92 3.34 ปีแสง
ระยะหา่ ง : 6.4910.196 ลา้ นปแี สง หมายเหตุ : หากสงั เกตการณด์ าวอลั กอลประมาณ 3 คนื ตดิ ตอ่ กนั จะเหน็ ความสว่าง
ของดาวดวงน้ีเปลี่ยนไปเน่ืองจากดาวฤกษ์ในระบบจะโคจรมาบังหน้ากันและกัน
A GUIDE TO STARGAZING 73
A GUIDE TO STARGAZING 75 กลุ่มดาวเด่นในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม มีหลายกลุ่ม หากลองพิจารณาดูเฉพาะบริเวณตัวของสิงโต จะเห็นเป็นรูป
ดาวด้วยกัน เร่ิมจาก กลุ่มดาวหมีใหญ่ หรือหากมองเป็นดาวเรียง ส่ีเหลี่ยมคางหมู เรียกว่า “ส่ีเหล่ียมคางหมูฤดูใบไม้ผลิ (Spring
เด่นจะเห็นเป็นรูปกระบวยตักน�้า (Big Dipper) หากลากเส้นสมมติ Trapezium)” และเม่อื ลากเสน้ สมมตจิ ากหลังสิงโตผ่านดาวเดเนโบลา
จากดาวเมอแรก (Merak) ผ่านดาวดูเบ (Dubhe) ดาวฤกษ์ท่ีอยู่ (Denebola) ก็จะชีไ้ ปยังดาวรวงข้าว หรอื ดาวสไปกา (Spica) ดาวฤกษ์
บริเวณปากกระบวยตกั นา้� กจ็ ะช้ีนา� ทางไปยังดาวเหนือได้ ดวงสว่างสดุ ในกลุ่มดาวหญิงสาว ซ่ึงเรามองเห็นกลุ่มดาวน้เี ป็นรปู ร่าง
ได้ค่อนข้างยาก เน่ืองจากดาวฤกษ์สมาชิกดวงอื่น ๆ มีความสว่าง
ถัดมาเป็นกลุ่มดาวสิงโต 1 ใน 12 กลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวท่ี ไม่มากนัก จัดเป็นกลุ่มดาวจักรราศเี ชน่ เดยี วกบั กลุ่มดาวสงิ โต
โดดเด่นที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ บางวัฒนธรรมมองเห็นกลุ่มดาวนี้เรียง
ตัวเป็นรูปเคียวเกี่ยวข้าว เราสามารถหาต�าแหน่งของกลุ่มดาวสิงโต อีกกลุ่มดาวที่โดดเด่นในฤดูใบไม้ผลิ คือ กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์
ได้โดยใช้กลุ่มดาวหมีใหญ่น�าทาง ลากเส้นผ่านดาวเมเกรซ (Megrez) (Boötes) เป็นกลุ่มดาวที่มีลักษณะคล้ายว่าว หรือเน็กไท มีดาวฤกษ์
และดาวเฟคดา (Phecda) ของกลุ่มดาวหมีใหญ่ จะพบกับดาวฤกษ์ สวา่ งท่ีสุด คือ ดาวดวงแกว้ หรือดาวอาร์คตรุ ุส (Arcturus) ดาวฤกษท์ ี่
สว่างหนึ่งดวงบริเวณคอของสิงโต หากยังคงลากเส้นสมมติต่อ สวา่ งท่สี ดุ เป็นอนั ดบั ที่ 4 ในตอนกลางคนื เราสามารถหาต�าแหนง่ ของ
ไปเรื่อย ๆ ผ่านดาวเรกูลัส (Regulus) ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในกลุ่ม ดาวอาร์คตุรุสได้ จากการลากเส้นจากดาวปลายหางของหมีใหญ่ท้ัง
ดาวสิงโต ก็จะช้ีน�าไปยังดาวอัลฟาร์ด (Alphard) ดาวฤกษ์ที่สว่าง 2 ดวง จะได้เส้นที่โคง้ ไปยังดาวอาร์คตุรุสพอดี และหากยงั คงลากเส้น
ที่สุดในกลุ่มดาวงูไฮดรา กลุ่มดาวท่ีกินอาณาบริเวณกว้างสุดบน โคง้ ต่อไป กจ็ ะน�าทางไปยงั ดาวสไปกาได้เช่นกัน
ทอ้ งฟ้าจากท้งั หมด 88 กลมุ่ ดาว หากสว่ นหวั ของงูไฮดราอยตู่ �าแหน่ง
สูงสุดบนท้องฟ้า ส่วนหางก็จะอยูบ่ ริเวณขอบฟา้ พอดี เราสามารถลากเส้นเชื่อมระหว่างดาวสว่าง 3 ดวง ได้แก่ ดาวเรกูลัส
ในกลุ่มดาวสิงโต ดาวอาร์คตุรสุ ในกลุ่มดาวคนเล้ียงสตั ว์ และดาวสไปกา
ดาวเรกูลัสในกลุ่มดาวสิงโตเป็นดาวอีกหนึ่งดวงท่ีอยู่ใกล้กับแนวเส้น ในกลุ่มดาวหญิงสาว จะเห็นเป็นรูปสามเหล่ียมบนท้องฟ้า เรียกว่า
สุริยวิถี จึงเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์และดาวเคราะห์เคียงดาว “สามเหลีย่ มฤดูใบไม้ผลิ (Spring Triangle)”
เรกูลัสบ่อยคร้ัง และเม่ือใดก็ตามท่ีดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏอยู่ใกล้
ดาวเรกูลสั จะตรงกบั วนั ข้นึ 15 ค่�าเดอื น 3 หรือวนั มาฆบูชา คนไทยจงึ
เรียกดาวเรกูลัสว่าดาวมาฆะ
76 คู่มือนักดูดาว วตั ถุในหว้ งอวกาศลกึ ที่นา่ สนใจในฤดใู บไมผ้ ลิ
ชือ่ วัตถุ : M3
กลุม่ ดาว : หมาล่าเน้ือ (Canes Venatici)
ชนิดวัตถุ : กระจกุ ดาวทรงกลม
อันดบั ความสว่างปรากฏ : 6.2
ขนาดเชิงมุม : 0o 18’
RA : 13h 42m 11s
DEC : +28o 22’ 38’’
ระยะหา่ ง : 33,924.8 ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 77 ช่ือวตั ถุ : กระจุกดาวรวงผึ้ง (Beehive Cluster) หรอื M44 ช่ือวัตถุ : ดาวไมซาร์ (Mizar) และดาวอลั กอร์ (Alcor)
กลมุ่ ดาว : ปู (Cancer) กลมุ่ ดาว : หมีใหญ่ (Ursa Major)
ชนดิ วตั ถุ : กระจกุ ดาวเปิด ชนดิ วัตถุ : ดาวคู่
อนั ดบั ความสว่างปรากฏ : 3.10 อนั ดับความสวา่ งปรากฏ : 2.20
ขนาดเชิงมุม : +1o 10’ RA : 13h 23m 55.87s
RA : 8h 40m 24.01s DEC : +54o 55’ 31.5”
DEC : +19o 40’ 01.2” ระยะห่าง : 78.16 ปแี สง
ระยะหา่ ง : 577.4 ปีแสง
78 คู่มือนักดูดาว วตั ถุในห้วงอวกาศลกึ ทน่ี า่ สนใจในฤดูใบไมผ้ ลิ
ชือ่ วตั ถุ : เนบิวลากระดกู งูเรอื (Eta Carinae Nebula) หรอื NGC 3372 ช่ือวัตถุ : กาแล็กซนี �า้ วน (Whirlpool Galaxy) หรอื M51
กล่มุ ดาว : กระดูกงูเรอื (Carina) กลุ่มดาว : หมาล่าเนื้อ (Canes Venatici)
ชนิดวตั ถุ : เนบวิ ลา ชนดิ วัตถุ : กาแล็กซี
อนั ดับความสวา่ งปรากฏ : 1.0 อันดบั ความสวา่ งปรากฏ : 8.1
ขนาดเชิงมุม : 2o ขนาดเชิงมมุ : 0o 11’ 12” x 0o 6’ 54”
RA : 10h 44m 19s RA : 13h 29m 52s
DEC : -59o 53’ 21’’ DEC : +47o 11’ 42”
ระยะหา่ ง : 6,524 ปีแสง ระยะห่าง : 23.16 3.91 ลา้ น ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 79 ชื่อวตั ถุ : กาแลก็ ซขี องโบด (Bode’s Galaxy) หรือ M81 ชอ่ื วตั ถุ : พินวีลกาแล็กซี (Pinwheel Galaxy) หรือ M101
กลมุ่ ดาว : หมใี หญ่ (Ursa Major) กลุม่ ดาว : หมีใหญ่ (Ursa Major)
ชนดิ วัตถุ : กาแลก็ ซี ชนิดวัตถุ : กาแล็กซี
อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 6.9 อันดับความสว่างปรากฏ : 7.8
ขนาดเชิงมมุ : 0o 26’ 54” x 0o 14’ 06” ขนาดเชงิ มุม : 0o 28’ 48” x 0o 26’ 54”
RA : 9h 55m 33.18s RA : 14h 03m 12.59s
DEC : +69o 03’ 55.1” DEC : +54o 20’ 55.5”
ระยะห่าง : 11.808 0.391 ล้าน ปแี สง ระยะห่าง : 20.877 1.631 ลา้ น ปแี สง
M65
M66
80 คู่มือนักดูดาว
NGC 3628
A GUIDE TO STARGAZING 81 ช่อื วัตถุ : Leo Triplet
หรอื กล่มุ กาแลก็ ซี M65 M66 และ NGC 3628
กลมุ่ ดาว : สงิ โต (Leo)
ชนิดวัตถุ : กาแลก็ ซี
อันดับความสวา่ งปรากฏ :
M65 = 10.2
M66 = 8.9
NGC 3628 = 9.5
ขนาดเชงิ มมุ : ประมาณ 40 ลิปดา
RA : 11h 17m
DEC : +13o 25’
ระยะหา่ ง : ประมาณ 35 ล้านปีแสง
82 คู่มือนักดูดาว
A GUIDE TO STARGAZING 83 ชอื่ วตั ถุ : M46 ชือ่ วัตถุ : NGC 2438 ชือ่ วตั ถุ : M47
กลุ่มดาว : ทา้ ยเรือ (Puppis) กลุ่มดาว : ท้ายเรอื (Puppis) กลุม่ ดาว : ท้ายเรือ (Puppis)
ชนดิ วัตถุ : กระจกุ ดาวเปิด ชนดิ วัตถุ : เนบิวลาดาวเคราะห์ ชนิดวตั ถุ : กระจุกดาวเปิด
อนั ดบั ความสว่างปรากฏ : 6.10 อันดับความสวา่ งปรากฏ : 11.70 อันดับความสว่างปรากฏ : 4.40
ขนาดเชงิ มุม : +0o 20’ 00” ขนาดเชิงมมุ : 0o 01’ 10” ขนาดเชงิ มมุ : 0o 25’
RA : 07h 41m 46.08s RA : 07h 41m 50.51s RA : 07h 36m 35.05s
DEC : -14o 48’ 36.0” DEC : -14o 44’ 07.7” DEC : -14o 28’ 58.8”
ระยะห่าง : 5,545.4 ปีแสง ระยะหา่ ง : 1,370 ปีแสง ระยะห่าง : 1,598.4 ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 85
A GUIDE TO STARGAZING 87 ในช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม เป็นช่วงท่ีดวงอาทิตย์ปัดไปทาง คนแบกงู ซึ่งเป็นกลุ่มดาวท่ีมีรูปร่างคล้ายบ้าน โดยมีดาวราซัลฮัก
ทศิ เหนอื ดวงอาทติ ยจ์ ะขน้ึ เรว็ และตกชา้ สง่ ผลใหก้ ลางวนั ยาวนานกว่า (Rasalhague) ดาวฤกษ์สว่างที่สุดในกลุ่มนี้อยู่ท่ีปลายจัว่ ของหลงั คา
กลางคืน โดยทางทิศเหนือจะมีกลุ่มดาวหมีใหญ่ สว่างโดดเด่น บ้านหากยังคงลากเสน้ ตอ่ ออกไปเร่อื ย ๆ จะพบกบั ดาวปาริชาต หรือ
ช่วยน�าทางไปยังดาวเหนือได้ต้ังแต่ช่วงหัวค�่า ดาวแอนทาเรส (Antares) ดาวฤกษ์สว่างในกลุ่มดาวแมงป่อง
ดาวฤกษ์ 3 ดวงทสี่ วา่ งโดดเด่นทีส่ ดุ ในช่วงน้ี ได้แก่ ดาวเดเนบ (Deneb) ซึ่งมีสีแดงอย่างชัดเจนและเป็นที่มาของช่ือดาวที่มาจากภาษากรีก
ในกลุ่มดาวหงส์ ดาวเวกา (Vega) ในกลุ่มดาวพิณและดาวอัลแทร์ โบราณ แปลวา่ “คแู่ ข่งดาวอังคาร”
(Altair) ในกลุ่มดาวนกอินทรี เรียงตัวกันเป็นรูปสามเหล่ียม เรียกว่า นอกจากน้ี หากยังคงเริ่มต้นจากดาวศัดร์แล้วลากเส้นผ่านปีก
“สามเหลี่ยมฤดูร้อน (Summer Triangle)” โดยมีกลุ่มดาวหงส์และ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็จะเจอส่วนหัวของกลุ่มดาวมังกร แต่ถ้า
กลุ่มดาวนกอินทรีโบยบินอยู่บนท้องฟ้าตามแนวทางช้างเผือก ลากเส้นจากดาวศัดร์ผ่านดาวเวกาก็จะช้ีไปยังต�าแหน่งของกลุ่มดาว
หากสภาพท้องฟ้ามืดสนิทจะเห็นแถบมืดปรากฏอยู่ระหว่างสองกลุ่ม เฮอร์คิวลีส และถ้าลากเส้นย้อนกลับไปในทิศทางตรงข้ามกับดาวเวกา
ดาวนี้ บริเวณดังกล่าวเป็นส่วนหน่ึงของระนาบทางช้างเผือกท่ีมีฝุ่น กจ็ ะสามารถชน้ี �าทางไปยังสีเ่ หลี่ยมใหญใ่ นกลุม่ ดาวม้าปกี
หนาทึบ บดบังแสงดาวฤกษ์ท่ีอยู่ด้านหลัง เรียกแถบมืดบริเวณน้ีว่า แม้กลุ่มดาวนกอินทรีจะดูไม่ค่อยโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่มดาวหงส์
“The Great Rift” แต่ถ้าเราลากเส้นเชื่อมระหว่างดาวฤกษแ์ ตล่ ะดวงในกล่มุ ดาวน้ี จะเหน็
แวบแรกท่ีมองไปยังกลุ่มดาวหงส์ จะเห็นดาวสว่างเพียงไม่ก่ีดวงเรียง เปน็ รปู เพชรขนาดใหญท่ ี่ประดบั อยูบ่ นท้องฟ้าได้
ตัวกันคลา้ ยรูปไม้กางเขน นกั ดาราศาสตร์จึงนา� ไปเปรียบกบั กลมุ่ ดาว นอกจากนี้เรายังสามารถหาต�าแหน่งของกลุ่มดาวแพะทะเล ซึ่งเป็น
กางเขนใต้ (Crux หรือ Southern Cross) และต้ังชือ่ ดาวเรยี งเดน่ เหล่า หนึ่งในกลุ่มดาวจักรราศี ได้โดยลากเส้นสมมติจากดาวเวกาในกลุ่ม
น้ีวา่ “กางเขนเหนือ (Northern Cross)” ดาวพิณ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ผ่านดาวอัลแทร์ ดาวฤกษ์สว่าง
กลุ่มดาวหงส์สามารถช้ีไปยังต�าแหน่งของกลุ่มดาวอ่ืน ๆ ได้ โดยเร่ิม ที่สดุ ในกลุ่มดาวนกอินทรี
จากลากเส้นสมมติจากดาวศัดร์ (Sadr) บริเวณกลางล�าตัวหงส์ผ่าน
ดาวอัลบิเรโอ (Albireo) ซ่ึงอยู่บริเวณหัวหงส์ ไปยังทิศตะวันตกเฉียง
ใต้ จะพบกับ ดาวซาบิก (Sabik) ดาวฤกษ์สวา่ งดวงหนง่ึ ในกล่มุ ดาว
88 คู่มือนักดูดาว วตั ถุในห้วงอวกาศลึกทน่ี ่าสนใจในฤดูร้อน
ชอ่ื วัตถุ : เนบิวลาวงแหวน (Ring Nebula) หรือ M57 ชอ่ื วตั ถุ : Rho Ophiuchi Nebula (IC 4604)
กลุ่มดาว : พณิ (Lyra) กลมุ่ ดาว : คนแบกงู (Ophiuchus)
ชนิดวตั ถุ : เนบิวลา ชนิดวตั ถุ : เนบิวลา
อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 8.8 อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 4.6
ขนาดเชงิ มมุ : 0o 03’ 48” x 0o 02’ 24” ขนาดเชิงมุม : 1o 00’ x 0o 25’
RA : 18h 53m 35s RA : 16h 26m 0s
DEC : +33o 01’ 45’’ DEC : -23o 24’ 0’’
ระยะหา่ ง : 2,870.6 199.0 ปแี สง ระยะหา่ ง : 521.9 ปีแสง
A GUIDE TO STARGAZING 89 ช่อื วตั ถุ : ไม้แขวนเสอื้ (Coathanger) หรือ Brocchi’s Cluster ช่ือวัตถุ : เนบวิ ลาดมั บ์เบลล์ (Dumbbell Nebula) หรอื M27
กลุม่ ดาว : หมาจงิ้ จอก (Vulpecula) กลุ่มดาว : หมาจง้ิ จอก (Vulpecula)
ชนิดวัตถุ : ดาวเรยี งเดน่ ชนิดวัตถุ : เนบวิ ลาดาวเคราะห์
อนั ดับความสว่างปรากฏ : 3.6 อันดบั ความสวา่ งปรากฏ : 7.4
ขนาดเชิงมมุ : 1o ขนาดเชิงมุม : 0o 08’ 00” x 0o 05’ 36”
RA : 19h 25m 24s RA : 19h 59m 36s
DEC : +20o 11’ 0’’ DEC : +22o 43’ 15’’
ระยะหา่ ง : 861.2 163.1 ปีแสง
90 คู่มือนักดูดาว วตั ถใุ นห้วงอวกาศลึกทน่ี ่าสนใจในฤดรู อ้ น
ชือ่ วตั ถุ : กาแลก็ ซซี ิการ์ (Cigar Galaxy) หรือ M82 ชอ่ื วัตถุ : M4
กล่มุ ดาว : หมใี หญ่ (Ursa Major) กลุ่มดาว : แมงปอ่ ง (Scorpius)
ชนิดวตั ถุ : กาแล็กซี ชนดิ วัตถุ : กระจกุ ดาวทรงกลม
อันดบั ความสว่างปรากฏ : 8.4 อนั ดบั ความสว่างปรากฏ : 5.9
ขนาดเชิงมมุ : 0o 11’ 12” x 0o 04’ 18” ขนาดเชิงมมุ : 0o 26’
RA : 9h 55m 52.44s RA DEC : 16h 23m 35s
DEC : +69o 40’ 46.9” DEC : -26o 31’ 32’’
ระยะห่าง : 12.069 ลา้ น ปแี สง ระยะหา่ ง : 7,176 ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 91 ชื่อวัตถุ : เนบวิ ลาทะเลสาบ (Lagoon Nebula) หรือ M8 ช่ือวตั ถุ : เนบิวลาสามแฉก (Trifid Nebula) หรอื M20
กลุม่ ดาว : คนยงิ ธนู (Sagittarius) กลุม่ ดาว : คนยงิ ธนู (Sagittarius)
ชนดิ วัตถุ : เนบวิ ลา ชนิดวตั ถุ : เนบวิ ลา
อันดบั ความสว่างปรากฏ : 6.0 อนั ดบั ความสวา่ งปรากฏ : 6.3
ขนาดเชิงมุม : 1o 30’ x 0o 40’ ขนาดเชิงมมุ : 0o 20’
RA : 18h 3m 36.96s RA : 18h 2m 42.00s
DEC : -24o 22’ 40.8’’ DEC : -22o 58’ 19.2’’
ระยะห่าง : 4,077.5 ปแี สง ระยะห่าง : 5,219.2 ปีแสง
92 คู่มือนักดูดาว วัตถุในห้วงอวกาศลึกท่นี ่าสนใจในฤดูรอ้ น
ช่อื วตั ถุ : เนบิวลาอนิ ทรี (Eagle Nebula) หรอื M16 ชอื่ วัตถุ : เนบิวลาหงส์ (Swan Nebula) หรอื M17
กล่มุ ดาว : งู (Serpent) กลมุ่ ดาว : คนยงิ ธนู (Sagittarius)
ชนดิ วตั ถุ : เนบวิ ลา ชนิดวัตถุ : เนบวิ ลา
อันดับความสวา่ งปรากฏ : 6.0 อันดับความสวา่ งปรากฏ : 6.0
ขนาดเชงิ มมุ : 2o 00’ x 0o 25’ ขนาดเชิงมุม : 0o 40’ x 0o 30’
RA : 18h 18m 48s RA : 18h 20m 47s
DEC : -13o 48’ 25’’ DEC : -16o 10’ 19’’
ระยะห่าง : 7,000 ปีแสง ระยะหา่ ง : 5,499.7 499.1 ปีแสง
A GUIDE TO STARGAZING 93 ชอ่ื วัตถุ : M5 ชื่อวตั ถุ : Omega Centauri (NGC 5139)
กลมุ่ ดาว : งู (Serpent) กล่มุ ดาว : คนครง่ึ ม้า (Centaur)
ชนิดวตั ถุ : กระจุกดาวทรงกลม ชนิดวัตถุ : กระจุกดาวทรงกลม
อันดับความสว่างปรากฏ : 6.6 อันดบั ความสว่างปรากฏ : 5.3
ขนาดเชงิ มมุ : 0o 23’ ขนาดเชงิ มุม : 0o 55’
RA : 15h 18m 33s RA : 13h 26m 47s
DEC : +2o 04’ 51’’ DEC : -47o 28’ 46’’
ระยะหา่ ง : 24,465.0 ปแี สง ระยะห่าง : 15,788.1 1,109.1 ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 95
A GUIDE TO STARGAZING 97 ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายน เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวของ โคจรรอบกันและกนั โดยจะมีช่วงที่ดาวในระบบโคจรมาบงั หน้ากันทา� ให้มี
ประเทศไทย หากคืนไหนท้องฟ้าปลอดโปร่ง เราจะเห็นดาวฤกษ์เรียง ระดบั ความสว่างท่ีเปลี่ยนแปลงเปน็ คาบทุก ๆ 2.86 วนั เรียกว่า ระบบดาวคู่
ตัวกันเปน็ รูปสี่เหลยี่ มจัตรุ ัสอย่บู นทอ้ งฟา้ อย่างชัดเจน ส่เี หลี่ยมนม้ี ชี ่อื วา่ แบบอุปราคา แตถ่ า้ ลากเส้นไปตามแนวโคง้ ของกลุ่มดาวเพอร์ซีอสุ ลงไป
“สี่เหล่ียมใหญ่ในกลุ่มดาวม้าปีก (Great Square of Pegasus)” ทางใต้ จะชไ้ี ปยังต�าแหนง่ ของกระจุกดาวลูกไก่ หรอื M45 ซง่ึ เป็นกระจุก
ซ่ึงส่ีเหล่ียมนี้เป็นส่วนล�าตัวของกลุ่มดาวม้าปีก ประกอบด้วยดาวฤกษ์ ดาวเปิดท่ีอยู่ในกลมุ่ ดาววัว
สวา่ ง 4 ดวง คือ ดาวอัลฟีรัตซ์ (Alpheratz) ดาวซีอัต (Scheat)
ดาวมาร์แคบ (Markab) และ ดาวอัลเจนิบ (Algenib) อย่างไรก็ตาม อกี มมุ หน่งึ ของสีเ่ หลยี่ มใหญ่ สามารถลากเส้นสมมติจากดาวซีอัตผ่านดาว
ถึงจะได้ช่ือว่าสี่เหลี่ยมใหญ่ในกลุ่มดาวม้าปีก แต่ดาวอัลฟีรัตซ์ท่ีอยู่มุม มาทาร์ (Matar) ขาหน้าของกลุ่มดาวม้าปีกสามารถช้ีไปยังกลุ่มดาวหงส์
หน่งึ ของส่เี หลี่ยมน้ี กลบั เป็นสมาชกิ ของกลุม่ ดาวแอนโดรเมดา กลุ่มดาวที่ หนึง่ ในกลมุ่ ดาวสว่างประจ�าชว่ งฤดูร้อน
ดูผิวเผินคลา้ ยกับว่าเปน็ ขาหลงั ของม้าปีก
หากเราลากเส้นต่อจากแต่ละด้านของส่ีเหล่ียมใหญ่ในกลุ่มดาวม้าปีก
บริเวณกลุ่มดาวแอนโดรเมดามีวัตถุในห้วงอวกาศลึกที่น่าสนใจ นั่นคือ ออกไป เช่น ลากเส้นตอ่ จากดา้ นทอี่ ยู่ฝงั่ ตะวนั ตก (ดาวซีอตั และดาวมาร-์
กาแล็กซีแอนโดรเมดา (Andromeda Galaxy) หรอื M31 ท่อี ยหู่ า่ งออกไป แคบ) ไปยงั ทิศใต้ จะพบกับดาวโฟมลั ฮอต (Fomalhaut) ดาวฤกษส์ วา่ ง
จากโลกประมาณ 2.5 ลา้ นปแี สง มคี า่ อันดบั ความสวา่ งปรากฏประมาณ ในกล่มุ ดาวปลาใต้ หากลากเส้นตอ่ จากดา้ นที่อยู่ฝง่ั ทิศใต้ (ดาวมาร์แคบ
3.4 มีขนาดเชงิ มมุ ประมาณ 3 องศา หากท้องฟ้ามืดเพยี งพอจะสามารถ และดาวอัลเจนบิ ) ไปยงั ทิศตะวันออก จะพบกบั ดาวฤกษ์ 5 ดวงเรยี งกัน
สงั เกตเห็นไดด้ ว้ ยตาเปลา่ นบั เป็นกาแลก็ ซขี นาดใหญท่ ่อี ยู่ใกลโ้ ลกของเรา เป็นวงกลมบริเวณส่วนหัวของกลุ่มดาวเซตุส มีดาวเมงคาร์ (Menkar)
มากท่ีสดุ ดาวฤกษส์ ว่างอันดับสองในกล่มุ ดาวเซตสุ รวมอยูด่ ว้ ย
หากเราลากเส้นเช่ือมต่อกันไปตามแนวของกลุ่มดาวแอนโดรเมดา จะ นอกจากน้ัน หากลากเส้นต่อจากด้านฝั่งทิศตะวันออก (ดาวอัลเจนิบ
ชี้น�าทางไปยังดาวเมอร์แฟก (Mirfak) ดาวสว่างในกลุ่มดาวเพอร์ซีอุส และดาวอัลฟีรัตซ์) ไปยังทิศเหนือ สามารถชี้ไปยังกลุ่มดาวค้างคาว
จากนั้นขยับสายตาลงไปทางใต้อีกเล็กน้อยจะพบกับดาวอัลกอล หรือกลุ่มดาวแคสซิโอเปีย ในขณะท่ีลากเส้นไปยังทิศใต้ จะพบกับดาว
(Algol) ดวงตาของเมดซู า เป็นดาวแปรแสงท่ไี ด้สมญานามว่า “ดาวปศี าจ ดิฟดา (Diphda) ดาวฤกษ์สว่างท่ีสุดในกลุ่มดาวเซตุส
(Demon Star)” เน่ืองจากดาวดวงน้ีมีความสว่างเปล่ียนแปลงมากใน
ระดับที่สามารถเห็นมองได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากเป็นระบบดาวฤกษ์ที่
98 คู่มือนักดูดาว วตั ถใุ นหว้ งอวกาศลกึ ทนี่ า่ สนใจในฤดใู บไม้ร่วง
ช่อื วัตถุ : เนบวิ ลารปู เกลยี ว (Helix Nebula หรอื NGC 7293) ชอ่ื วัตถุ : กาแล็กซีสามเหล่ียม (Triangulum Galaxy) หรือ M33
กลมุ่ ดาว : คนแบกหม้อน�้า (Aquarius) กลุ่มดาว : สามเหลย่ี ม (Triangulum)
ชนิดวัตถุ : เนบิวลา ชนิดวัตถุ : กาแล็กซี
อันดบั ความสวา่ งปรากฏ : 7.6 อนั ดบั ความสว่างปรากฏ : 5.7
ขนาดเชิงมุม : 0o 25’ 0’’ x 0o 13’ 24’’ ขนาดเชงิ มมุ : 1o 8’ 42’’ x 0o 41’ 36’’
RA : 22h 29m 38s RA : 1h 33m 50s
DEC : -20° 50’ 13’’ DEC : +30o 39’ 35’’
ระยะห่างจากโลก : 518.7 ปีแสง ระยะหา่ งจากโลก : 2.724 0.036 ลา้ นปแี สง
ชื่อวัตถุ : กาแล็กซีแอนโดรเมดา (Andromeda Galaxy) หรอื M31
กลมุ่ ดาว : แอนโดรเมดา (Andromeda)
ชนดิ วตั ถุ : กาแลก็ ซี
อนั ดับความสวา่ งปรากฏ : 3.4
ขนาดเชิงมมุ : 3o 9’ 6’’ x 1o 1’ 42’’
RA : 0h 42m 44s
DEC : +41o 16’ 7’’
ระยะห่างจากโลก : 2.538 0.108 ล้าน ปแี สง
A GUIDE TO STARGAZING 99