1
บทท่ี 1
สภาพทวั่ ไปของโรงเรยี น
ส่วนที่ 1 สภาพท่ัวไปของโรงเรียน
1. ชือ่ โรงเรยี นอนบุ าลแสงมติ ร สงั กดั สำนักงานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชนกระทรวงศึกษาธิการ
ชอื่ เปน็ ภาษาองั กฤษ : Anubansangmit School
เปดิ สอนประเภท : สามญั ศึกษา
ระดบั ชน้ั : ปฐมวยั
ต้งั อยู่เลขที่ : 21 ถนนกำแพงเมือง ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จงั หวัดเพชรบรุ ี 76000
โทรศัพท์ : 032-426131
โทรสาร : 032-400653
E-mail : [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/sangmit.petchaburi
อกั ษรย่อ : ส.ม. ยอ่ มาจาก โรงเรียนอนบุ าลแสงมิตร
ตราของโรงเรยี น : ฟันเฟือง และ หนงั สือ
ปรชั ญาของโรงเรียน : “คณุ ธรรมดี มีวินัย พลานามัยสมบรู ณ์”
สีประจำโรงเรียน : สีเขียว – สีทอง
ธงประจำโรงเรยี น
2
2. ประวตั ิความเป็นมาของโรงเรยี น(โดยสังเขป)
โรงเรียนอนุบาลแสงมิตร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2522 ใบอนุญาตเลขที่ 1/2522
ลงวันที่ 3 เมษายน 2522 บนพื้นที่ 8 ไร่ 3 งาน 39 ตารางวา ในบริเวณวัดวัง (วัดร้าง) อำเภอเมือง
จังหวัดเพชรบุรี โดยการสนับสนุน ของคณะกรรมการมูลนิธิแสงมิตรส่งเสริมการศึกษา ซึ่งมูลนิธิเห็นว่า
โรงเรยี นประเภทอนบุ าลยังไม่เพียงพอต่อนักเรียนในจังหวัดเพชรบุรี และยงั ตอ้ งส่งเสริมใหเ้ ด็กได้พัฒนาตนเอง
ในทุกด้านเพื่อเตรยี มตัวให้ พร้อมก่อนไปเรยี นในชั้นประถมศึกษา โดยมุง่ เน้นใหเ้ รียนต่อใน โรงเรียนราษฎร์
วิทยาซึ่งเป็นโรงเรียนในเครือข่ายของมูลนิธิฯ โดยทางมูลนิธิฯ อุ ปถัมภ์อยู่ จึงได้ขออนุญาตจาก
กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น ให้ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนอนุบาลแสงมิตร” มีอักษรย่อ ส.ม.
โดยมูลนิธิแสงมิตรส่งเสริมการศึกษามอบหมายให้นายประสิทธิ์ ประสิทธิ์หิรัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ
บริหาร เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร โดยมี นายพุธ เลาหภักดี ดำรงตำแหน่งผู้รับ
ใบอนุญาตและมี นางยุพิน ทรัพย์เกิด เป็นผู้จัดการและครูใหญ่ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2525
นายพุธ ได้โอนกิจการให้มูลนิธิแสงมิตรฯ โดยมี นายอุทัย ช่อมาลี เป็นผู้ลงนามแทนในนามผู้รับใบอนุญาต
ถึงเดือนมิถุนายน 2550 ประธานและกรรมการบริหารมูลนิธิฯ ได้แต่งตั้ง นายธีรวัฒน์ ทิพย์พรวงษ์
เป็นผู้ลงนามแทน ตำแหน่งผู้รับใบอนุญาต มีนางยุพิน ทรัพย์เกิด เป็นผู้อำนวยการ โดยมีคณะกรรมการ
มลู นธิ แิ สงมิตรส่งเสรมิ การศึกษา รว่ มบรหิ ารงานเปน็ อยา่ งดี
ในปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร มี นายธีรวัฒน์ ทิพย์พรวงษ์ เป็นผู้ลงนามแทนมูลนิธิแสงมิตร
ส่งเสริมการศึกษา ในตำแหน่งผู้รับใบอนุญาต และมี นางยุพิน ทรัพย์เกิด เป็นผู้จัดการและผู้อำนวยการ
โรงเรียน ขึน้ ตรงตอ่ ต้นสังกัดระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน คือ สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบุรี
เขต ๑ และเปน็ โรงเรียนในสังกดั สำนกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
พ.ศ. 2537 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคจัดสรรงบประมาณก่อสร้าง “อาคารโชคอารีย์ชัย” สำหรับเด็กนอนพัก
ลางวัน ช้ัน 2 เปน็ ห้องประชุม จำนวน 1 หลัง งบประมาณกอ่ สร้าง 4,000,000 บาท
พ.ศ.2537 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคจัดสรรงบประมาณก่อสร้าง “สระว่ายน้ำและอาคารอารี ผาติกรวงษ์”
งบประมาณกอ่ สร้าง 2,800,000 บาท
พ.ศ. 2539 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคจัดสรรงบประมาณก่อสร้าง “หอประชุมชัยวัฒน์พันธ์” งบประมาณ
ก่อสรา้ ง 4,500,000 บาท
พ.ศ. 2557 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคจัดสรรงบประมาณก่อสร้าง “อาคารกตัญญุตา” งบประมาณก่อสร้าง
18,500,000 บาท
3
3. การบรหิ ารโรงเรียน
3.1 แผนภมู โิ ครงสร้างคณะผู้บรหิ ารโรงเรยี น
4
แผนที่
พอสังเขปแสดงเส้นทางสโู่ รงเรยี นอนุบาลแสงมิตร
ไปวัดใหญ่สุวรรณำราม เรอื นจำ ไปวัดกำแพงแลง โรงเรยี นอนุบาลแสงมติ ร
จงั หวดั
เพชรบุรี 21 ถนนกำแพงเมอื ง
ตำบลทา่ ราบ อำเภอเมอื ง
ถนนหน้ำเรอื นจำ จังหวัดเพชรบรุ ี 76000
ถนนกำแพงเมอื ง
ถนนพงษ์ ถนนพระทรง
สุริยำ
แมน่ ้ำเพชรบุรี ถนนมาตยา วดั พระทรง
วงษ์
ถนนมาตยา
จวนผูว้ า่ ราชการ วงษ์
จังหวัดเพชรบุรี
แม่น้ำเพชรบรุ ี
ถนนรำช
วิถี
5
3.2 ขอบขา่ ยการบริหารจัดการสถานศึกษา
1) การบริหารวชิ าการ
กำหนดให้ผบู้ ริหารสถานศกึ ษามีอำนาจในการบรหิ ารจัดการ โดยยดึ หลกั ธรรมาภบิ าล 6 ประการ คือ หลักนิติ
ธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ หลักแห่งความคุ้มค่า
และมกี ารบริหารจัดการ 4 ด้าน 41 ประการ โดยอยภู่ ายใต้การบรหิ ารงานของผู้ชว่ ยผ้อู ำนวยการท้ัง 2 ฝ่าย
และได้กำหนดให้เป็นตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทั้ง 4 ฝ่าย คือ 1) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ 2) หัวหน้าฝ่ายงบประมาณ
3) หัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคล 4) หัวหน้าฝ่ายการบริหารทั่วไป โดยผู้บริหารยึดหลักการบริหาร/เทคนิค
การบริหารแบบการพัฒนาตาม
2 การบริหารบคุ คลากร
6
3. ขอบข่ายการบริหารจดั การสถานศึกษา ให้กล่าวถงึ บทบาท หน้าท่แี ละแผนการ
ดำเนนิ งานการงบประมาณ (รับ-จ่าย)
รายรับ บาท รายจ่าย บาท
เงนิ งบประมาณ (เงินอุดหนุนรายหวั ) 6,215,478.51 งบดำเนินการ/เงนิ เดือน-ค่าจ้าง 11,717,709.64
เงินนอกงบประมาณ 8,001,716.00 งบพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษา 1,212,663.00
เงินอน่ื ๆ (ระบุ) 1,036,970.58 งบอื่นๆ (ระบ)ุ 2,239,391.59
รวมรายรับ 15,254,165.09 รวมรายจา่ ย 15,169,764.23
งบดำเนินการ/เงินเดอื น เงนิ ค่าจ้าง คิดเป็นร้อยละ 76.82 ของรายรับ
งบพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา คดิ เปน็ ร้อยละ 7.95 ของรายรบั
3.3 คณะกรรมการสถนศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
1) รายช่ือคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
ดว้ ยตามพระราชบญั ญตั ิโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 กำหนดใหโ้ รงเรียนมีคณะกรรมการบริหาร ซง่ึ
ประกอบดว้ ย บคุ คลดงั ต่อไปนี้
1. นายธรี วัฒน์ ทิพย์พรวงษ์ ผรู้ ับใบอนญุ าต ประธานกรรมการ
2. นางยพุ ิน ทรัพย์เกิด ผจู้ ดั การ รองประธานกรรมการ
3. นายติ้งควง คงเพชรสถติ ย ผทู้ รงคณุ วุฒิ กรรมการ
4. นายแสวง จวิ ะสุรตั น์ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ กรรมการ
5. นายเทยี นชยั ปิติพฒั นะโฆษิต ผ้ทู รงคุณวุฒิ กรรมการ
6. นายสนั ตชิ ยั ลินลาวรรณ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ กรรมการ
7. นายรัฐพล จรี ะดำรงธญั ญา ผ้แู ทนผู้ปกครอง กรรมการ
8. นางนิโลบล เพชราภริ ชั ต์ ผู้แทนชุมชน กรรมการ
9. น.ส.รัชนกี รี ติ อารยธรรม ผแู้ ทนครู กรรมการ
10. นายวรี วัฒน์ จนั ทรข์ าว ผแู้ ทนครู ผูช้ ่วยเลขานุการ
11. นางยพุ นิ ทรพั ย์เกิด ผู้อำนวยการโรงเรยี น กรรมการ/เลข
7
2) บทบาทของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในมาตราแห่ง
พระราชบญั ญัตโิ รงเรยี นเอกชน พ.ศ. 2525 รวม 3 ประการ ดงั นี้
1 .ควบคมุ ดูแลโรงเรยี นใหป้ ฏิบัตติ ามบทบัญญตั ิแห่งพระราชบญั ญัตนิ ้แี ละกฎหมายอ่ืน
2. พจิ ารณาวินิจฉยั คำรอ้ งทุกขข์ องครู นักเรยี นหรือผู้ปกครองของนักเรยี น
3. เสนอความเห็นและให้คำแนะนำแก่ผูร้ บั ใบอนุญาตเก่ยี วกบั นโยบายและการดำเนินงานของโรงเรยี น
ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการได้ว่างระเบียบว่าด้วยการอุดหนุนและส่งเสริมโรงเรียนและช่วยเหลือครู
โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2533 กำหนดให้คณะกรรมการบริหารโรงเรยี นมีอำนาจหน้าท่ีเป็นรายละเอียดเฉพาะ
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการขอรับเงินอุดหนุนของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องจัดเข้าระเบียบวาระการประชุมเสนอ
คณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน ดงั น้ี
1. พิจารณาอนุมัติงบประมาณการอุดหนุน บัญชีและงบดุลของโรงเรียน ซึ่งคณะกรรมการควรทราบและ
พิจารณาในเรอื่ ง
(1) การใช้เงินอุดหนนุ และหรอื เงนิ เพม่ิ พัฒนาของปกี ารศึกษาที่ผ่านมา
(2) ประมาณการของงบประมาณการจ่ายเงนิ อุดหนุนและเงนิ เพิ่มพัฒนาของปีการศี ึกษาถดั ไป
2. ควบคุมดแู ลการเงินและบญั ชีอ่ืนท่ีโดรงเรียนต้องจัดทำตามระเบียบที่กระทรวงศึกษาธกิ ารกำหนด
3. ให้ความเห็นชอบในสถติ ิจำนวนครแู ละนักเรยี น จำนวนห้องเรยี น จำนวนครู ตามหลกั เกณฑ์ท่ีสำนักงาน
กำหนด
4. ดูแลใหโ้ รงเรียนใชจ้ า่ ยเงนิ อุดหนุนเพอ่ื ใช้จา่ ยเป็นเงินเดอื นครแู ละพัฒนาการเรียนการสอน
หน้าทีข่ องคณะกรรมการบริหารสถานศกึ ษาเอกชน
คณะกรรมการบริหารสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐานของเอกชน มหี นา้ ทด่ี งั ต่อไปน้ี
1. ใหค้ วามเห็นชอบนโยบายแผนพฒั นาและแผนปฏิบัตกิ ารประจำปขี องสถานศึกษา
2 ให้คำแนะนำการบรหิ ารและการจดั การสถานศึกษาในดา้ นวิชาการ บคุ ลากร งบประมาณ อาคารสถานท่ี
กจิ กรรมนกั เรยี น และความสมั พนั ธก์ ับชุมชน
3. ให้ความเห็นชอบในการจัดทำสาระของหลักสูตรสถานศึกษาและมาตรฐานการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ
ความตอ้ งการของทอ้ งถน่ิ
8
4. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้มีการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษาและการเตรียมความพร้อมเพื่อการประเมิน
คุณภาพการศกึ ษา จากหนว่ ยงานภายนอกสถานศกึ ษา
5. พจิ ารณาแต่งต้งั ถอดถอนครูใหญ่
6. ให้คำปรึกษา แนะนำแก่ครูใหญ่ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา รวมทั้งให้ติดตามตรวจสอบและ
ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของครู
7. ใหค้ วามเห็นชอบในการกำหนดข้อบงั คบั และระเบยี บตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษา
8. ใหค้ วามเหน็ ชอบในการเปล่ยี นแปลงการดำเนินกิจการของสถานศกึ ษา
9. ใหค้ วามเหน็ ชอบในรายงานประจำปี และงบประมาณการเงินประจำปี รวมทั้งให้ความเหน็ ชอบการแต่งตั้ง
ผสู้ อบบญั ชีสถานศกึ ษา
10. พจิ ารณาวนิ จิ ฉัยคำร้องทุกขข์ องครู ผปู้ กครองและนักเรยี น
11. ดำเนินการอื่น ๆ ตามที่กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง กำหนดให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร
สถานศกึ ษา รวมท้ังตามที่ไดร้ บั มอบหมายจากหนว่ ยงานตน้ สังกดั ของสถานศึกษา
3) กิจกรรมและการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในการบริหารจัดการ
สถานศึกษา
- การมาประชมุ กันปกี ารศกึ ษาละ 2 คร้ัง เพือ่ เปน็ การแสดงความคิดเห็นกนั ในการปรบั ปรงุ สง่ เสรมิ
และแก้ไข
4. อาคารสถานทแี่ ละบรเิ วณ
4.1 โรงเรยี นมเี นอื้ ที่ทงั้ สิ้น 10 ไร่ 1 งาน 91
4.2 จำนวนอาคารเรียนทัง้ สิ้น 4 หลงั
4.3 อาคารประกอบ 6 หลัง
4.4 สนามกฬี า 1 สนาม
4.5 บรเิ วณพกั ผอ่ น 1 แห่ง
4.6 จำนวนห้องเรยี นทง้ั สนิ้ 23 ห้อง
4.7 จำนวนห้องสง่ เสริมวิชาการ 4 ห้อง
9
4.7.1 ห้องคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 หอ้ ง
4.7.2 หอ้ งเรียนภาษาอังกฤษ จำนวน 1 ห้อง
4.7.3 หอ้ งเรียนภาษาจนี จำนวน 1 ห้อง
4.7.4 ห้องเรยี นนาฏศลิ ป์ จำนวน 1 หอ้ ง
4.7.5 แหล่งการเรยี นร้ใู นโรงเรียน
แหลง่ เรียนรูภ้ ายในโรงเรยี น
สวนหยอ่ ม/สวนสขุ ภาพ
สวนสมุนไพร
สวนเกษตร
เรอื นเพาะชำ
สนามเดก็ เลน่
ลานกิจกรรม
ป้ายนเิ ทศ/บอรด์
มุมหนังสอื
โรงอาหาร
สระวา่ ยน้ำ
สหกรณ์ภายในโรงเรยี น
หอประชุม
สระว่ายนำ้
สนามพฒั นาการ
ห้องสมดุ
ห้องคอมพวิ เตอร์
10
รายละเอยี ดแผนผังแสดงบริเวณและอาคารของโรงเรยี น
หมายเหตุ แนวเขตโรงเรียนอนบุ าลแสงมิตร
1. อาคาร 1 6. อาคาร 6 (อาคารโชคอารชี ยั )
2. อาคาร 2 (อาคารสุรีย)์ 7. หอประชมุ ชัยวัฒนพนั ธ์
3. อาคาร 3 (อาคารอารี ผาตกิ รวงษ์) 8. โรงอาหาร
4. อาคาร 4 (หอ้ งสมุด) 9. หอ้ งพสั ดุ – อปุ กรณ์
5. อาคาร 5 (อาคารชยั รัชการ) 10. อาคารกตญั ญตุ า
11
5. ข้อมูลบุคลากรในโรงเรยี น
ประเภทบคุ ลากร เพศ (คน) ระดับการศึกษา (คน) อายุเฉลีย่ ประสบการณ์
ชาย หญงิ ตำ่ กวา่ ป.ตรี สงู กว่า (ป)ี ในตำแหน่ง
ผูร้ บั ใบอนุญาต ผูจ้ ดั การ และ ป.ตรี ป.ตรี (เฉลยี่ )
ผอู้ ำนวยการ --- --- --- (ปี)
ผรู้ ับใบอนุญาตและผูจ้ ดั การ --- --- ---
ผรู้ ับใบอนุญาตและผู้อำนวยการ
ผู้จดั การและผ้อู ำนวยการ --- --- --- --- --- --- 35
ผ้รู ับใบอนญุ าต --- --- --- --- --- --- 6
ผจู้ ัดการ --- 1 --- 1 --- 62 35
ผู้อำนวยการ 1 --- --- 1 --- 61 35
ผชู้ ่วยผู้อำนวยการ --- 1 --- 1 --- 62 31
ครู (บรรจ)ุ --- 1 --- 1 --- 62 16
ครูพเิ ศษ/ครผู ูช้ ่วย (ไม่บรรจุ) 1 1 --- 2 --- 56 3
ครตู ่างประเทศ 5 31 1 35 --- 46 2
พี่เลยี้ ง 2 --- --- 2 --- 24 3
บคุ ลากรทางการศึกษา --- 2 --- 2 --- 46 1
นกั การภารโรง --- 19 11 8 --- 31 10
คนขับรถ 1 --- --- 1 --- 24 8
ยามรักษาความปลอดภัย 3 8 11 --- --- 44 4
2 --- 2 --- --- 36
1 --- 1 --- --- 36
จำนวนครทู ่สี อนวิชาตรงเอก 13 คน คดิ เป็นร้อยละ 36.12
จำนวนครทู ีส่ อนตรงความถนัด 23 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 63.89
สาขาท่ีขาดแคลนครู ภาษาไทย……คน คณติ ศาสตร์……คน วทิ ยาศาสตร์……คน
สังคมศึกษา…….คน สขุ ศึกษา……....คน ศิลปศกึ ษา...…...คน
การอาชีพฯ.…...คน ภาษาต่างประเทศ.….คน คอมพิวเตอร์……คน
12
6. จำนวนนกั เรยี นตามระดับชน้ั ปกี ารศึกษา 2563
อนุบาล 1 นกั เรยี นชาย 74 คน
นักเรียนหญงิ 92 คน
รวม 166 คน
อนบุ าล 2 นักเรยี นชาย 88 คน
นกั เรียนหญิง 85 คน
รวม 173 คน
อนุบาล 3 นักเรียนชาย 117 คน
นักเรยี นหญิง 90 คน
รวม 207 คน
7. รปู แบบและจดุ เน้นในการบรหิ ารโรงเรียน ให้กล่าวถงึ แนวดำเนนิ การเพือ่ พัฒนาโรงเรียนตาม
วิสัยทศั น์ ภารกิจ และคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียนที่เป็นจุดเน้นในการพัฒนาดงั น้ี
7.1 การปฏริ ูปการเรียนการสอน
7.2 การปฏิรูปการบรหิ ารจดั การสถานศึกษา
7.3 การปฏิรปู บุคลากร
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา
เป้าหมายที่ ๑
เด็กมีพัฒนาการดี ทั้ง ๔ ดา้ น เหมาะสมกับวยั
ยุทธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการส่งเสรมิ พัฒนาการด้านร่างกาย
๑.๑ งานชั่งน้ำหนกั วัดสว่ นสูง
๑.๒ กิจกรรมออกกำลงั กายหนา้ เสาธง
๑.๓ กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย
๑.๔ กิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี
๑.๕ กจิ กรรมแปรงฟัน
๑.๖ กิจกรรมจดั บอรด์ ความรู้ดา้ นความปลอดภัย
๑.๗ งานข้อตกลงความปลอดภัย
๒. โครงการส่งเสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์ และจติ ใจ
๒.๑ กิจกรรมแข่งขนั ทักษะวิชาการ
๒.๒ งานแฟ้มผลงานนกั เรียน
13
๒.๓ งานจดั ทำโครงการ
๒.๔ กิจกรรมวนั เด็ก
๒.๕ กจิ กรรมทัศนศกึ ษา
๒.๖ กจิ กรรมหนูนอ้ ยคนเก่ง
๒.๗ กจิ กรรมประกวดวาดภาพระบายสี
๒.๘ กิจกรรมกีฬาสี
๓. โครงการสง่ เสริมพัฒนาการด้านสังคม
๓.๑ กจิ กรรมอบรมคุณธรรม ๘ ประการ
๓.๒ กิจกรรมอบรม และนงั่ สมาธทิ ุกวนั ศกุ ร์
๓.๓ กิจกรรมตกั บาตรวันสำคัญทางพุทธศาสนา
๓.๔ กจิ กรรมประกวดมารยาทไทย
๓.๕ น่งั สมาธกิ ่อนนอน
๓.๖ งานวิถีวัฒนธรรมไทย
๔. โครงการสง่ เสรมิ พฒั นาการด้านสตปิ ญั ญา
๔.๑ งานวดั ผลประเมินผล
๔.๒ งานการเรียนการสอนโดยเน้นเดก็ เปน็ สำคัญ
๔.๓ กจิ กรรมทดลอง-สาธติ
๔.๔ กิจกรรมทัศนศ์ กึ ษา
๔.๕ งานแฟม้ ผลงานนักเรียน
๔.๖ งานจัดทำโครงงาน
๔.๗ กิจกรรมรกั การอ่าน
๔.๘ กจิ กรรมยืมหนงั สือ
๔.๙ งานวดั และประเมนิ ผล
๔.๑๐ กิจกรรมประเมินความพร้อมดา้ นสาระท่คี วรเรยี นรู้
๔.๑๑ งานการเรียนการสอนที่เนน้ เดก็ เปน็ สำคัญ
๔.๑๒ กจิ กรรมหนนู ้อยคนเกง่
สภาพความสำเร็จ/ตวั ช้วี ดั
๑. รอ้ ยละของเดก็ ท่มี ีน้ำหนกั -ส่วนสงู ตามเกณฑ์ ของกรมอนามยั สามารถเล่นออกกำลังกายได้
อยา่ งต่อเน่ืองและเคลอ่ื นไหวร่างกายไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว
๒. รอ้ ยละของเด็กทส่ี ามารถดแู ลสุขภาพของตนเองใหม้ ีสขุ นิสยั ที่ดี ร้จู ักรักษาความปลอดภยั ของ
ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสมตามวัย
14
3. ร้อยละของเด็กที่มีความสดชื่นแจ่มใสสามารถควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงเปน็ ปกติมีมนุษย์สัมพันธ์
และปฏบิ ัติกิจกรรมร่วมกับผูอ้ น่ื ได้ตามวัย
4. ร้อยละของเด็กแสดงความสนใจชื่นชอบต่องานศิลปะ เสียงดนตรี กีฬา ท่าทางและจังหวะการ
เคลอื่ นไหว
5. รอ้ ยละของเด็กทมี่ ีนสิ ัยรกั ธรรมชาตแิ ละมีจติ สำนึกในการอนุรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม
6. ร้อยละของเด็กที่มรี ะเบียบวนิ ยั มีคณุ ธรรม จริยธรรม
7. ร้อยละของเด็กที่มีพฤติกรรมที่สามารถแสดงออกตามพัฒนาการด้านสังคมได้เหมาะสมกับวัย
ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บและปรับตวั ใหอ้ ยู่ร่วมกับผอู้ ืน่ ไดอ้ ย่างมีความสุขเหมาะสมกบั วัย
8. รอ้ ยละของเด็กที่ไหวส้ วย รำไทย การสวมใส่ ผ้าไทย และมจี ิตสำนกึ อนุรกั ษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย
9. ร้อยละของเด็กที่มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และรกั ความเป็นไทย
๑0. ร้อยละของเด็กที่สนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวผ่านกิจกรรมและสื่อที่หลากหลายรู้จักการตั้ง
คำถาม สำรวจ ทดลอง คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากหนังสือหรอื สิ่งตา่ งๆ ที่สนใจ
11. ร้อยละของเด็กที่สามารถจดจำและมีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดจาก
ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
๑2. ร้อยละของเด็กที่มีความเข้าใจและใช้ภาษาพูด ภาษา ท่าทางและสัญลักษณ์ในการสื่อสารมี
ทกั ษะการอา่ น การเขียนเพื่อสือ่ ความหมายไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสมกับวยั
13. รอ้ ยละของเดก็ ท่รี ักการอา่ นและสนใจใฝ่ร้กู ารเรยี นรู้ส่ิงต่างๆ รอบตัว มคี วามตอ้ งการ
ในการเรยี นร้เู รื่องทต่ี นสนใจ มุ่งมน่ั จะเรยี นรูอ้ ยา่ งเหมาะสมกับวัย
๑4. รอ้ ยละของเด็กทท่ี ำงานศลิ ปะตามความคิดของตนเองสามารถเลียนแบบเลน่ บทบาท
สมมตุ ริ ่วมกบั ผู้อ่นื โดยวธิ กี ารท่ีแตกต่างหลากหลาย เหมาะสมกับวยั
15. รอ้ ยละของเดก็ ท่ีมีทักษะพ้นื ฐานตามพฒั นาการทุกด้านและเหมาะสมตามวัย
16. รอ้ ยละของเด็กทีม่ ีความรู้พื้นฐานทจี่ ำเป็นเกีย่ วกับตนเองและเรื่องราวรอบตัว
เหมาะสมกับวยั
15
เปา้ หมายที่ ๒
เด็กรักการเรยี นรู้อยา่ งหลากหลายและเหมาะสมกบั วยั
ยุทธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการสง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา
๑.๑ กจิ กรรมรักการอา่ น
๑.๒ กจิ กรรมยืมหนงั สอื
๑.๓ งานวดั และประเมนิ ผล
๑.๔ กจิ กรรมประเมินความพร้อมด้านสาระท่ีควรเรยี นรู้
๑.๕ งานการเรียนการสอนทเี่ น้นเดก็ เป็นสำคญั
๑.๖ กจิ กรรมแข่งขันทักษะวิชาการ
สภาพความสำเร็จ/ตวั ชวี้ ดั
๑. ร้อยละของเด็กทีส่ ามารถจดจำและมีความคิดรวบยอดเกย่ี วกับสงิ่ ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดจาก
ประสบการณ์การเรียนรู้
2. รอ้ ยละของเด็กทม่ี ีความเข้าใจและใชภ้ าษาพูด ภาษาท่าทางและสญั ลกั ษณใ์ นการส่ือสารมีทักษะ
การอ่าน การเขียนเพอื่ ส่ือความหมายได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสมกบั วยั
3. ร้อยละของเด็กทร่ี กั การอ่านและสนใจใฝร่ ู้การเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั มคี วามตอ้ งการในการ
เรียนรู้เร่ืองทตี่ นสนใจ มุ่งมัน่ จะเรียนรู้ อยา่ งเหมาะสมกบั วัย
4. รอ้ ยละของเด็กท่ที ำงานศลิ ปะตามความคิดของตนเองสามารถเลียนแบบเลน่ บทบาทสมมุติ
ร่วมกบั ผู้อ่ืนโดยวิธีการทแ่ี ตกต่างหลากหลายเหมาะสมกับวัย
5. ร้อยละของเด็กท่ีมีทักษะพน้ื ฐานตามพฒั นาการทุกดา้ นและเหมาะสมตามวยั
6. รอ้ ยละของเด็กท่ีมีความรู้พืน้ ฐานที่จำเปน็ เก่ียวกับตนเองและเรอื่ งราวรอบตวั เหมาะสมกับวัย
เป้าหมายที่ ๓
เดก็ มีคุณธรรมและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้เหมาะสมตามวยั และอยูร่ ่วมกบั ผอู้ ื่นได้อย่างมีความสขุ
ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการส่งเสรมิ พฒั นาการดา้ นสงั คม
๑.๑ กจิ กรรมอบรมคุณธรรม ๘ ประการ
๑.๒ กจิ กรรมอบรมและน่งั สมาธทิ กุ วนั ศกุ ร์
๑.๓ กจิ กรรมตักบาตรวนั สำคัญทางพทุ ธศาสนา
16
๑.๔ กิจกรรมประกวดมารยาทไทย
๑.๕ น่ังสมาธิกอ่ นนอน
๑.๖ งานวิถีวัฒนธรรมไทย
๒. โครงการพัฒนาผู้เรียนสู่อัตลกั ษณ์ของนักเรยี น
๒.๑ งานจัดการเรียนการสอนโดยเนน้ เด็กเป็นสำคัญ
๒.๒ กิจกรรมอบรมคณุ ธรรม- จรยิ ธรรม ภายในหอ้ งเรยี น
๒.๓. กิจกรรมประกวดมารยาทไทย
๒.๔. กิจกรรมอบรมคณุ ธรรม-จริยธรรมหน้าเสาธง
๒.๕ กจิ กรรมส่งเสรมิ สงิ่ แวดลอ้ ม
๒.๖ กจิ กรรมเยี่ยมเด็ก
สภาพความสำเร็จ/ตวั ช้วี ดั
๑. รอ้ ยละของเด็กทีม่ ีระเบียบวนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม
๒. ร้อยละของเด็กทม่ี ีพฤติกรรมท่ีสามารถแสดงออกตามพฒั นาการด้านสังคมไดเ้ หมาะสมกับวัย
ปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บและปรับตัวให้อย่รู ่วมกบั ผู้อ่ืนได้อยา่ งมคี วามสขุ เหมาะสมกับวยั
๓. ร้อยละของเด็กที่ ไหว้สวย รำไทย การสวมใส่ผ้าไทยและมจี ติ สำนึกอรุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
๔. รอ้ ยละของเด็กที่มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรกั ความเป็นไทย
5. โรงเรียนนำคณุ ธรรม 8 ประการ มาบูรณาการในกจิ กรรมประจำวัน
6. รอ้ ยละของผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมส่งเสรมิ คุณธรรม- จริยธรรม
7. รอ้ ยละของเด็กทม่ี ีมารยาทงามตามวฒั นธรรมไทย
8. ร้อยละของผูป้ กครองและชุมชนมคี วามพงึ พอใจ
เปา้ หมายท่ี ๔
เด็กมีความภมู ใิ จในความเป็นไทย มีจิตสำนึกอนุรกั ษ์ ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณีไทย
ยุทธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการส่งเสรมิ พัฒนาการด้านสงั คม
๑.๑ กิจกรรมอบรมคุณธรรม 8 ประการ
๑.๒ กิจกรรมอบรมและนัง่ สมาธิทุกวันศุกร์
๑.๓ กิจกรรมตักบาตรวนั สำคญั ทางพุทธศาสนา
๑.๔ กิจกรรมประกวดมารยาทไทย
๑.๕ น่ังสมาธิก่อนนอน
๑.๖ งานวถิ วี ฒั นธรรมไทย
17
๒. โครงการส่งเสรมิ พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา
๒.๑ งานวดั ผลประเมนิ ผล
๒.๒ งานการเรียนการสอนโดยเน้นเด็กเปน็ สำคญั
๒.๓ กจิ กรรมทดลอง-สาธติ
๒.๔ กจิ กรรมทศั นศ์ ึกษา
๒.๕ งานแฟม้ ผลงานนกั เรียน
๒.๖ งานจดั ทำโครงงาน
๒.๗ กิจกรรมรกั การอ่าน
สภาพความสำเร็จ/ตวั ชว้ี ัด
๑. ร้อยละของเด็กที่มีระเบยี บวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม
๒. รอ้ ยละของเด็กท่มี พี ฤตกิ รรมท่ีสามารถแสดงออกตามพัฒนาการดา้ นสงั คมได้
เหมาะสมกับวัย ปฏิบัติตามกฎระเบยี บและปรับตัวให้อยูร่ ่วมกบั ผอู้ ื่นได้อย่างมีความสขุ เหมาะสมกบั วยั
๓. รอ้ ยละของเด็กที่ไหวส้ วย รำไทย การสวมใสผ่ ้าไทย และมจี ิตสำนกึ อนรุ ักษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมไทย
๔. ร้อยละของเด็กที่มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และรักความเป็นไทย
5. รอ้ ยละของเด็กท่สี นใจเรียนรสู้ ่งิ ต่างๆรอบตวั ผา่ นกิจกรรมและสื่อท่หี ลากหลายรู้จกั การตง้ั
คำถามสำรวจ ทดลอง คน้ คว้าขอ้ มูลจากหนังสอื หรือสง่ิ ต่างๆท่สี นใจ
6. รอ้ ยละของเด็กที่สามารถจดจำและมีความคิดรวบยอดเก่ียวกบั ส่งิ ต่างๆท่เี กิดจากประสบการณ์
การเรียนรู้
เปา้ หมายท่ี ๕
เดก็ มีความชนื่ ชอบดา้ นศลิ ปะ ดนตรี กฬี า การเคล่ือนไหว มีนิสัยรกั ธรรมชาติ และมีจติ สำนกึ ในการ
อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดล้อม
ยุทธศาสตร์/มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการส่งเสรมิ พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย
๑.๑ งานชง่ั นำ้ หนกั วดั สว่ นสูง
1.๒. กิจกรรมทัศนศ์ ึกษา
1.3. กจิ กรรมหนูน้อยคนเกง่
1.4.กจิ กรรมประกวดวาดภาพระบายสี
1.5 กิจกรรมกีฬาสี
สภาพความสำเรจ็ /ตวั ช้วี ัด
๑. ร้อยละของเด็กท่ีมีนำ้ หนัก-สว่ นสงู ตามเกณฑ์ของกรมอนามัยสามารถเล่นออกกำลังกาย
ได้อย่างต่อเนือ่ งและเคล่ือนไหวร่างกายได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว
18
๒. รอ้ ยละของเด็กทส่ี ามารถดแู ลสขุ ภาพของตนเอง ให้มีสุขนสิ ัยทดี่ ี รจู้ กั รกั ษาความ
ปลอดภยั ของตนเองได้อย่างเหมาะสมตามวยั
3. รอ้ ยละของเด็กที่มีความสดชื่นแจ่มใส สามารถควบคุมอารมณ์ใหม้ ัน่ คงเปน็ ปกติมี
มนษุ ย์สัมพนั ธแ์ ละปฏบิ ตั กิ ิจกรรมรว่ มกับผอู้ ื่นได้ตามวยั
4. รอ้ ยละของเด็กแสดงความสนใจ ช่นื ชอบต่องานศลิ ปะ เสยี งดนตรี กีฬา ท่าทางและ
จงั หวะการเคลือ่ นไหว
5. รอ้ ยละของเด็กที่มีนิสัยรกั ธรรมชาติและมีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดลอ้ ม
เป้าหมายที่ ๖
โรงเรียนมกี ารจัดสภาพแวดล้อมทีเ่ อ้ือตอ่ การเรียนรู้
ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการพัฒนาและสง่ เสริมใหส้ ถานศึกษาเปน็ สงั คมแห่งการเรยี นรู้
๑.๑ กจิ กรรมประชุมผู้ปกครอง
๑.๒ งานจัดการเรยี นการสอนโดยเน้นเดก็ เป็นสำคญั
๑.๓ กิจกรรมผใู้ หญใ่ จดี
๑.๔ กิจกรรมทัศนศ์ กึ ษา
สภาพความสำเรจ็ /ตวั ชวี้ ัด
๑. โรงเรียนนำภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ และผู้ปกครองทมี่ ีความรคู้ วามสามารถมารว่ มจดั การเรียนรภู้ าค
เรยี นละ ๑ คร้ัง/หอ้ งเรียน
๒. โรงเรยี นมกี ารใช้แหล่งเรยี นรูท้ งั้ ภายในและภายนอกอย่างน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครง้ั /ห้องเรยี น
เป้าหมายท่ี ๗
ครูมคี วามรูด้ า้ นจิตวทิ ยา และพฒั นาการเด็ก จดั การเรยี นการสอนโดยเน้นเดก็ เปน็ สำคัญ ผ้บู รหิ ารมีความรู้
ด้านการจัดการศึกษา มคี วามสามารถและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก
ยทุ ธศาสตร์/มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการสง่ เสริมประสิทธิภาพการปฏิบตั งิ านของครู
๑.๑ งานอบรมศึกษาดูงาน
๑.๒ งานหลกั สตู รสถานศึกษา
- กจิ กรรมจดั ทำกำหนดการสอน
- กจิ กรรมจดั ทำแผนการจัดประสบการณ์
- กิจกรรมนเิ ทศตดิ ตามงานประจำชั้น
- กิจกรรมส่งเสรมิ วนิ ยั เชงิ บวก
19
๑.๓. งานเสริมหลักสูตร
- กิจกรรมพลศึกษา
- กิจกรรมวา่ ยน้ำ
- กจิ กรรมคอมพวิ เตอร์
- กิจกรรมการเรยี นรู้ภาษาจีนกับครตู ่างชาติ
- กิจกรรมการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษกบั ครตู ่างชาติ
๑.๔. งานนเิ ทศภายใน
๑.๕. งานผลิตสอ่ื การเรยี นการสอน
๑.๖. งานคุณลักษณะที่พง่ึ ประสงค์
- กิจกรรมติดตามช่งั น้ำหนัก วัดส่วนสงู
๑.๗. งานประเมินผลพฒั นาการ ๔ ดา้ น
- กจิ กรรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย
- กิจกรรมประเมินความพร้อมด้านสาระท่ีควรเรยี นรู้
๑.๘. งานวจิ ัยในชัน้ เรยี น
สภาพความสำเรจ็ /ตวั ชว้ี ดั
๑. รอ้ ยละของครูที่ได้รบั การสนับสนนุ ใหก้ ารอบรมดา้ นการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั เปน็ ประจำทกุ ปี
2. มีการจัดทำแผนการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเปน็ สำคัญเหมาะสมกบั การเรยี นรแู้ ละพัฒนาเด็ก
ตามวัยอยา่ งเหมาะสมตามบริบทของท้องถน่ิ
3. ครูมกี ารตดิ ตามบนั ทึกประเมินพัฒนาการเดก็ อยา่ งสม่ำเสมอต่อเนื่องด้วยวิธกี ารท่หี ลากหลาย
4. ครูมรี ายงานการวิจยั ในช้นั เรียน ๑ เร่อื งต่อภาคเรียน
5. ครูจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ดา้ นสังคมและ
ดา้ นสตปิ ัญญาอย่างเหมาะสมกบั วัย
6. โรงเรียนมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา
7. โรงเรียนจดั ประชมุ คณะกรรมการบรหิ าร สถานศึกษาอย่างน้อยภาคเรยี นละ ๒ คร้งั
8. คณะกรรมการบริหารสถานศกึ ษาและบุคลากรในโรงเรียนเป็นผมู้ วี นิ ัยและให้ความ
ร่วมมือในการจัดการศึกษา
9. ผบู้ รหิ ารปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหนา้ ท่ีอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ทำใหโ้ รงเรียนบรรลุ
ตามจุดหมายของการจดั การศึกษาปฐมวัย
10. ผบู้ รหิ ารสง่ เสรมิ สนับสนนุ ครไู ดร้ ับการอบรมด้านการพัฒนาเดก็ ปฐมวัยเปน็ ประจำ
ทกุ ปี
20
เป้าหมายที่ ๘
โรงเรยี นมโี ครงสรา้ งการบริหาร และขอ้ มลู สารสนเทศ พฒั นาองค์กร เพ่ือการเรยี นรู้อย่างเป็นระบบ
ยทุ ธศาสตร์/มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการจัดระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา
๑.๑ งานจัดทำแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา/ตดิ ตามการประกนั คุณภาพภายใน
๑.๒ งานพิมพ์ขอ้ มลู ขา่ วสาร
๑.๓ งานจัดระบบพฒั นาสารสรเทศ
๑.๔ งานให้ความรู้บุคลากรด้านเทคโนโลยี
๑.๕ งานพัสดุ-ครุภัณฑ์
๑.๖ งานยานพาหนะ
๑.๗ งานการเงิน/จัดทำบญั ชี
๑.๘ งานประเมนิ โครงการ/ แผนงาน/งบประมาณประจำปี
๑.๙ งานตรวจสอบบญั ชี
สภาพความสำเรจ็ /ตวั ชี้วดั
๑. โรงเรียนมีการกำหนดมาตรฐานการศกึ ษา
2. โรงเรยี นมแี ผนภูมิ โครงสรา้ ง/คมู่ ือการปฏิบตั งิ านของโรงเรียน/จัดระบบบรหิ ารและ
สารสนเทศเพื่อพัฒนางาน
3. โรงเรียนมแี ผนพัฒนาการจัดการศึกษาท่ีม่งุ คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษาและมแี ผนปฏิบตั ิการประจำปี
4. โรงเรยี นมีการติดตามตรวจสอบประเมนิ คุณภาพภายในและจัดทำรายงานประจำปี
ตามมาตรฐานการศึกษา
5. โรงเรียนมแี บบประเมินผลการปฏิบตั งิ านและรายงานผลการติดตามการดำเนินโครงการ/ปี
6. มกี ารจดั ทำรายงานคณุ ภาพประจำปี
เปา้ หมายที่ ๙
ผ้มู ีส่วนเก่ียวข้องทุกฝา่ ยมสี ่วนร่วมในการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษาและมกี ารใชแ้ หล่งเรียนรู้พฒั นาคุณภาพ
ผูเ้ รียน
ยทุ ธศาสตร์/มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการพฒั นาหลักสูตรและการจัดการศกึ ษาของสถานศกึ ษา
๑.๑ งานปรับปรุงพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา
๑.๒ งานประชุมครู ประชุมกรรมการบริหารหลักสตู ร
๑.๓ กิจกรรมวิเคราะหส์ าระการเรียนรู้
๑.๔ จดั ทำกำหนดการสอน
21
๑.๕ กจิ กรรมทำแผนการจัดประสบการณ์
๑.๖ งานประชุมผปู้ กครองนักเรียน
๑.๗ งานสัมพนั ธช์ มุ ชน
- กจิ กรรมถวายเทียนพรรษา
- กจิ กรรมทำบญุ ตกั บาต
- กจิ กรรมกีฬาสี
- กจิ กรรมนทิ รรศการภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่
- การแขง่ ขันทักษะวิชาการกบั หนว่ ยงานเทศบาล
- ร่วมกิจกรรมตรษุ จนี กบั เทศบาลบ้านแหลมและเทศบาลเมอื ง
- วารสารแสงมติ ร
๒. โครงการพฒั นาและสง่ เสริมให้สถานศึกษาเป็นสังคมแห่งการเรยี นรู้
๒.๑ กิจกรรมประชุมผปู้ กครอง
๒.๒ งานจัดการเรยี นการสอนโดยเนน้ เดก็ เป็นสำคัญ
๒.๓ กิจกรรมผู้ใหญ่ใจดี
๒.๔ กิจกรรมทัศนศ์ ึกษา
สภาพความสำเรจ็ /ตวั ชว้ี ัด
๑. คณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและบุคลากรครเู ปน็ ผมู้ วี ินัยและให้ความรว่ มมือในการจัด
การศกึ ษา
2. โรงเรียนมีขอ้ มลู การร่วมกิจกรรมระหว่างโรงเรยี นชมุ ชน ผปู้ กครองอยา่ งสม่ำเสมอ
3. โรงเรียนมกี ารนำภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ และผ้ปู กครองที่มคี วามรู้ความสามารถมาร่วม
จัดการเรียนรู้
4. โรงเรยี นนำภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่นและผู้ปกครองที่มีความรู้ความสามารถมารว่ มจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนละ ๑ ครัง้ /ห้องเรยี น
5. โรงเรยี นมีการใชแ้ หล่งเรียนรทู้ ัง้ ภายในและภายนอกอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง/ห้องเรียน
เปา้ หมายที่ ๑๐
นกั เรยี นมอี ัตลักษณท์ ี่โดดเด่น
ยทุ ธศาสตร์/มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการพฒั นาผู้เรียนสอู่ ตั ลกั ษณ์ของนักเรยี น
๑.๑ งานจัดการเรยี นการสอนโดยเนน้ เดก็ เป็นสำคัญ
๑.๒ กจิ กรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรม ภายในห้องเรยี น
๑.๓ กจิ กรรมประกวดมารยาทไทย
๑.๔ กิจกรรมอบรมธรรมหน้าเสาธง
22
๑.๕ กิจกรรมส่งเสรมิ สง่ิ แวดล้อม
๑.๖ กจิ กรรมเยีย่ มเดก็
สภาพความสำเร็จ/ตัวชว้ี ดั
๑. โรงเรียนนำคณุ ธรรม ๘ ประการ มาบรู ณาการในกจิ กรรมประจำวัน
๒. รอ้ ยละของผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมสง่ เสริมคุณธรรม- จริยธรรม
๓. รอ้ ยละของเด็กที่มมี ารยาทงามตาม วัฒนธรรมไทย
๔. รอ้ ยละของผู้ปกครองและชมุ ชนมีความพึงพอใจ
เปา้ หมายท่ี ๑๑
มกี ารพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาตามแนวทางปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษท่สี อง (พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๖๑)
ยทุ ธศาสตร/์ มาตรการ/กลยุทธ์
๑. โครงการสง่ เสรมิ และพัฒนาการกระดับคุณภาพ “การจัดแหลง่ เรยี นรู้อยา่ งมคี ณุ ภาพ”
- กิจกรรมรกั การอา่ น
- งานจัดมมุ หนังสอื ในห้องเรียน
- งานจัดแหลง่ เรยี นรูภ้ ายนอกห้องเรียน
- งานจดั มมุ ประสบการณ์
- กิจกรรมพฒั นาปรับปรงุ และตกแต่งห้องน้ำ- สขุ า
๒. โครงการพฒั นากจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ีเน้นเด็กรักและภูมิใจในความเปน็ ท้องถิ่นของตนเอง
๒.๑ กจิ กรรมวันเด็ก
๒.๒ กจิ กรรมรบั บัณฑิตนอ้ ย
๒.๓ กจิ กรรมกีฬาสีภายใน
๒.๔ กิจกรรมนทิ รรศการภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน
๒.๕ กิจกรรมวนั แมแ่ หง่ ชาติ
๒.๖ กิจกรรมวนั พ่อแหง่ ชาติ
๓. โครงการศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกบั โครงการพระราชดำริ
๓.๑ งานจดั สรา้ งศนู ย์เรียนรู้
๓.๒ งานจดั ทำแบบบนั ทึกการเขา้ ใช้ศนู ย์ฯ
๓.๓ กิจกรรมการเรียนร้เู กษตรทฤษฎใี หม่และอนื่ ๆ ในโครงการพระราชดำริ
สภาพความสำเร็จ/ตัวชีว้ ดั
๑. นักเรียนโรงเรยี นอนุบาลแสงมติ รมีความสนใจใฝร่ ้แู ละรักการอ่าน
๒. โรงเรยี นมแี หล่งเรียนรทู้ ม่ี คี ณุ
๓. โรงเรียนมหี ้องน้ำ- สขุ าเพียงพอและมบี รรยากาศดีเป็นทช่ี ่ืนชมของผูป้ กครอง
23
4. ร้อยละของเด็กที่เข้าร่วมกจิ กรรมและมีการสรา้ งองค์ความรู้ตามพัฒนาการ ๔ ด้าน
และมีความรู้พ้ืนฐานทส่ี อดคล้องกบั วยั ความสนใจของเดก็
5. ร้อยละของเด็กท่รี ู้จกั โครงการพระราชดำริ
6. ร้อยละของเด็กท่ีมีมคี วามภูมิใจในโครงการพระราชดำริ
7.4 โครงการท่ีโรงเรยี นเข้าร่วมเพื่อสง่ เสรมิ และพฒั นาโรงเรยี นตาม
วิสยั ทศั น์ท่กี ำหนด เชน่ โครงการโรงเรยี นวิถีพุทธ โครงการโรงเรยี นในฝัน โครงการปฏิรปู การเรียนรูท้ ้งั
โรงเรยี น โครงการห้องเรียนสีเขยี ว เปน็ ตน้
ช่อื วัตถุประสงค์/เปา้ หมาย วิธีดำเนินการ ตัวบ่งชี้
งาน/โครงการ/กจิ กรรม ความสำเร็จ
(จำนวน/ร้อยละ)
กิจกรรมนทิ รรศการภูมิปัญญา
ท้องถน่ิ จงั หวัดเพชรบรุ ี ๑. เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมที่ -ประชุมวางแผน
จดั ใหเ้ ดก็ รักและภูมใิ จในตนเอง ดำเนินงาน
๒. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหม้ ี -คำสง่ั แตง่ ตัง้
กิจกรรมที่จัดให้เด็กรักและ ผู้รับผดิ ชอบ
ภูมใิ จในสถานศึกษาของตนเอง ดำเนนิ การ
๓. เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมท่ี -กำหนดวันจัด
จัดให้เด็กรักและภูมิใจใน นทิ รรศการ
ครอบครวั ตนเอง -ดำเนินการเชญิ ชวน
ผู้ปกครองและชมุ ชน
เขา่ ร่วมกจิ กรรม
-จัดสถานท่ี
-ประเมินความพงึ
พอใจ
-ประเมนิ ผล
24
8) รางวัลและเกียรติคณุ ทโี่ รงเรยี นได้รับ (5 ปีย้อนหลัง)
ประเภท ระดับรางวลั /ชื่อรางวัลท่ไี ดร้ ับ หนว่ ยงานที่มอบรางวัล
สถานศึกษา
ผบู้ รหิ าร(ระบุชือ่ ) --
๑. นางสาวรัชนี กรี ติอารยธรรม
-ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ประกอบ สำนกั งานครุ ุสภา
ครู(ระบุชอ่ื )
๑. นางจิระพนั ธ์ พุ่มบบุ ปา วิชาชีพ เข้ารับเครื่องหมายเชิดชู กระทรวงศึกษาธิการ
๒. นางสาวมีนา สบี หุ งา
๓. นางสายชล จิระวาณชิ กุล เกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี พ.ศ.
ประเภท
นักเรียน(ระบุชื่อ) ๒๕๕๖ ในงานวนั ครโู ลก
๑. เด็กชายเอกภัทร สภุ าพพนั ธ์
๒. เดก็ ชายกฤตภาส โรจนเบญจกุล -เกยี รตบิ ตั รหน่งึ แสนครูดี สนง.คุรสุ ภาอำเภอเมือง
๓. เด็กชายอาชนั อนิ ทปจั
๔. เดก็ ชายรฐั ภมู ิ จอมเพช็ ร -เกยี รติบัตรครูดีเดน่ ปี ๒๕๕๖ เพชรบรุ ี สพป.เพชรบรุ ี เขต ๑
๕. เด็กชายณัฐวฒั น์ แตงออ่ น
๖. เดก็ ชายไชยวัฒน์ สุริยากานนท์ -เกยี รติบตั รครูดีเด่น ปี ๒๕๕๖ มูลนิธแิ สงมิตรส่งเสริการศึกษา
๗. เดก็ ชายพชรพล บูรณารมณ์
๘. เดก็ ชายกิตติพัฒน์ ดีมี ระดับรางวัล/ชื่อรางวัลทีไ่ ด้รบั หนว่ ยงานทีม่ อบรางวลั
๙. เด็กชายเจษฎาพร เกดิ สนิ ธ์ุ -รางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอล สมาคมการศกึ ษาเอกชน
๑๐. เด็กชายอภิสทิ ธิ์ แทน่ นาค จตุรมิตรครั้งที่ ๑๒ ปีการศึกษา จงั หวดั เพชรบุรี
๑๑. เดก็ ชายชนพฒั น์ สวุ ลกั ษณ์ ๒๕๕๖
๑๒. เด็กชายธนบดี นิลแก้ว
๑๓. เดก็ ชายปณุ พันธ์ แตงจันทรา
๑๔. เดก็ ชายธญั เทพ น้ำผึง้
๑๕. เดก็ ชายศภุ กฤต อมริต
๑๖. เดก็ ชายปริญ เหล็กแท้
25
9. ข้อคดิ เห็นจากการศกึ ษาสงั เกตสภาพทัว่ ไปของโรงเรยี น
จากการทข่ี า้ พเจ้าได้สงั เกตและสำรวจสภาพทว่ั ไปของโรงเรียนอนบุ าลแสงมติ ร ทำใหข้าพเจ้าได้เรียนรู้
เกี่ยวกับข้อมูลต่าง ๆของทางโรงเรียนตั้งแต่ประวัติของโรงเรียนจนถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในโรงเรียน
และพบว่า สภาพทั่วไปของโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร บรรยากาศดี มีความร่มรื่นเป็นธรรมชาติ บริเวณรอบ
โรงเรยี นมคี วามสะอาด และมีระบบรักษาความปลอดภยั อยู่ในระดับท่ีดีต่อเด็ก ครู และผูป้ กครอง
26
บทที่ 2
หลกั สตู รสถานศึกษา
1. โรงเรยี นไดม้ กี ารกำหนดสง่ิ ต่อไปน้วี า่ อย่างไร
วสิ ยั ทศั น์ (Vision )
โรงเรยี นอนบุ าลแสงมิตร ม่งุ ส่งเสริมพัฒนาการท้ัง ๔ ดา้ น รักการเรียนรู้ ควบคู่คุณธรรม สบื สาน
วัฒนธรรมไทย
ปรชั ญา ( Philosophy )
คณุ ธรรมดี มีวนิ ยั พลานามยั สมบรู ณ์
เอกลกั ษณข์ องโรงเรียน
ส่ิงแวดลอ้ มดี
อัตลกั ษณ์ของโรงเรยี น
ไหว้สวย
พนั ธกิจ (Mission )
1. จดั กิจกรรมหลกั ๖ กจิ กรรม ตามแนวภาษาธรรมชาติ เตรยี มความพร้อมใหเ้ ด็กมี
พฒั นาการ ๔ ด้าน เหมาะสมกับวัย
2. จดั กจิ กรรมปลูกฝงั รกั การเรยี นรอู้ ยา่ งหลากหลาย
3. จัดกิจกรรมสง่ เสริมให้เด็กมีคณุ ธรรมเหมาะสมกับวัยและอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสุข
4. จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ ความเป็นไทย รจู้ กั รักษศ์ ลิ ปะ วัฒนธรรมและประเพณีไทย
5. จดั กิจกรรมสร้างเสรมิ นิสยั ช่นื ชอบศิลปะ ดนตรี กีฬา และการเคล่ือนไหว รกั ธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม
6. จัดสภาพแวดลอ้ ม อาคารเรยี น ห้องประกอบ ส่ือ วสั ดอุ ุปกรณ์ และเทคโนโลยที ี่เอ้ือต่อ
การเรียนรู้
7. พฒั นาผู้บริหาร ครู และบคุ ลากรใหม้ ีความรูด้ ้านจติ วทิ ยา และพัฒนาการเด็ก มี
ความสามารถและเทคนคิ การสอนที่หลากหลาย เน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั ใช้วิธกี ารประเมินท่เี หมาะสม
27
8. จดั โครงสร้างการบรหิ าร และขอ้ มลู สารสนเทศ พัฒนาองค์กรอยา่ งเป็นระบบ
9. สง่ เสรมิ ใหผ้ ้มู สี ว่ นรว่ มเก่ยี วขอ้ งทุกฝา่ ยมีสว่ นรว่ มในการศึกษาของสถานศึกษา
10. สง่ เสรมิ การสร้างอัตลักษณ์ของนักเรยี น และเอกลกั ษณข์ องโรงเรยี นใหโ้ ดดเดน่
11. พัฒนาคณุ ภาพของโรงเรียนตามแนวทางการปฏริ ปู การศกึ ษาในทศวรรษที่สอง
(พ.ศ. 2552 – 2561)
เป้าหมาย
1. เด็กมพี ัฒนาการดีท้ัง ๔ ด้าน เหมาะสมกับวัย
2. เด็กรักการเรยี นรู้อย่างหลากหลายและเหมาะสมกบั วัย
3. เด็กมีคณุ ธรรมและสามารถปฏิบตั ิไดเ้ หมาะสมตามวัย และอยรู่ ่วมกับผู้อืน่ ได้อยา่ งมี
ความสุข
4. เดก็ มคี วามภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย มีจิตสำนกึ อนุรกั ษ์ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณไี ทย
5. เดก็ มคี วามชืน่ ชอบดา้ นศิลปะ ดนตรี กีฬา การเคล่ือนไหว มีนิสัยรักธรรมชาติ และมี
จติ สำนึกในการอนุรักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม
6. โรงเรียนมีการจัดสภาพแวดลอ้ มทเี่ ออ้ื ต่อการเรียนรู้
7. ครูมคี วามรดู้ ้านจิตวทิ ยาและพัฒนาการเด็ก จดั การเรยี นการสอนโดยเนน้ เด็กเปน็ สำคัญ
ผ้บู ริหารมีความรดู้ ้านการจัดการศกึ ษา มีความสามารถละเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีแกค่ รแู ละเด็ก
8. โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารงาน และข้อมลู สารสนเทศ พฒั นาองค์กรเพ่ือการเรียนรู้
อย่างเปน็ ระบบ
9. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษาของสถานศึกษา และมีการใช้แหล่ง
เรียนรู้พัฒนาองค์กร
10. โรงเรียนมอี ตั ลักษณ์ของนกั เรยี น และเอกลักษณ์ของโรงเรยี นทโี่ ดดเดน่
11. มกี ารพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาตามแนวทางปฏริ ูปการศึกษาในทศวรรษทสี่ อง
(พ.ศ. ๒๕๕๒–๒๕๖๑)
28
2. โรงเรียนมกี ารจดั โครงสร้างหลกั สตู รสถานศึกษาใน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรหู้ รือหลักสตู รระดับปฐมวยั
และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นในแตล่ ะชว่ งช้ันอยา่ งไร
โครงสร้างหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2556
ช่วงอายุ สาระการเรียนรู้
ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
-ดา้ นร่างกาย -เรื่องราวเก่ียวกบั ตัวเรา
อายุ 3 – 5 ปี -ด้านอารมณ์ จติ ใจ -เรอ่ื งราวเกย่ี วกับบุคคล และ
-ดา้ นสงั คม สถานที่แวดลอ้ มเด็ก
-ธรรมชาติรอบตวั
-ดา้ นสติปญั ญา -สิง่ ตา่ ง ๆ รอบตวั เด็ก
ระยะเวลา ภาคเรยี นที่ 1 วันที่ 18 พฤษภาคม
ภาคเรยี นท่ี 2 วันที่ 1 ธันวาคม
ระยะเวลาเรยี นของโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร
โรงเรียนอนุบาลแสงมิตร ใช้เวลาในการจัดประสบการณ์ให้กบั เด็กอายุ 3-5 ปี โดยแบ่งเป็น 3 ระดบั
ชั้นอนุบาล 1 อายุ 3 ปี
ชั้นอนบุ าล 2 อายุ 4 ปี
ชนั้ อนุบาล 3 อายุ 5 ปี
จดั ประสบการณ์ปีการศึกษาละ 2 ภาคเรียน
ภาคเรยี นท่ี 1 ประมาณ 18 พฤษภาคม – 13 พฤศจิกายน
ภาคเรยี นท่ี 2 ประมาณ 1 ธนั วาคม – 31 มนี าคม
29
3. โรงเรยี นมีการดำเนนิ งานพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาในโรงเรียนอย่างไร ให้ยกตัวอยา่ งการดำเนินงาน
ในกล่มุ สาระการเรียนรใู้ ดกล่มุ สาระการเรยี นรหู้ นึง่ หรือการพฒั นาหลกั สตู รระดบั ปฐมวยั ท่ีนักศกึ ษาสนใจ
โรงเรยี นมีการดำเนนิ การในการนำหลักสูตรไปใช้ การพัฒนาและส่งเสริมการนำหลกั สูตรไปใช้อยา่ งไร
1.เด็กมพี ฒั นาการดที ัง้ ๔ ดา้ น เหมาะสมกบั วยั
2.เด็กรักการเรียนรู้อย่างหลากหลายและเหมาะสมกับวยั
3.เดก็ มีคุณธรรมและสามารถปฏบิ ัติได้เหมาะสมตามวยั และอยรู่ ว่ มกับผู้อนื่ ได้อย่างมคี วามสขุ
4.เดก็ มคี วามภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย มจี ิตสำนกึ อนรุ กั ษ์ศิลปะ วฒั นธรรมประเพณไี ทย
5.เด็กมีความช่นื ชอบดา้ นศลิ ปะ ดนตรี กฬี า การเคล่ือนไหว มนี สิ ัยรักธรรมชาติ และมจี ิตสำนกึ ในการ
อนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
6.โรงเรียนมีการจดั สภาพแวดลอ้ มทเ่ี อ้ือต่อการเรียนรู้
7.ครมู คี วามรูด้ ้านจติ วิทยาและพฒั นาการเด็ก จัดการเรียนการสอนโดยเนน้ เด็กเป็นสำคัญ ผู้บริหารมี
ความรดู้ ้านการจัดการศึกษา มีความสามารถและเป็นแบบอย่างท่ีดีแกค่ รูและเด็ก
8.โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารงาน และข้อมูลสารสนเทศ พัฒนาองค์กรเพื่อการเรียนรู้อย่างเป็น
ระบบ
9.ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา และมีการใช้แหล่งเรียนรู้
พฒั นาองคก์ ร
10.โรงเรยี นมีอัตลักษณ์ของนักเรียน และเอกลกั ษณ์ของโรงเรยี นท่ีโดดเดน่
11.มกี ารพฒั นาคุณภาพการศึกษาตามแนวทางปฏิรปู การศกึ ษาในทศวรรษทส่ี อง
(พ.ศ. ๒๕๕๒–๒๕๖๑)
4. โรงเรียนมีหลักเกณฑแ์ ละแนวทางในการวดั ประเมินผลต่อไปนอ้ี ย่างไร
4.1 การประเมนิ ระดบั ชั้นเรียน
การเป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและ
สม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอนใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต
การตรวจการบ้าน การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเ ป็นผู้
ประเมนิ เองหรือเปิดโอกาส ใหผ้ เู้ รียนประเมินตนเอง เพ่ือน ประเมนิ เพอื่ น ผปู้ กครองรว่ มประเมิน ในกรณีท่ีไม่
ผา่ นตัวชี้วดั ใหม้ ีการสอนซ่อมเสริมประเมนิ ในระดบั ชั้นเรียน
30
4.2 การประเมินในระดบั ชว่ งช้นั
-
4.3 การประเมินเมื่อจบการศกึ ษาบงั คบั
-
4.4 การประเมนิ เมอ่ื จบการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน
-
4.5 การเทียบโอนผลการเรยี น
-
5. สรปุ ความคดิ เห็นจากการศึกษาสงั เกต
จากการที่ข้าพเจ้าสังเกตข้อมูลที่ได้มา วิสัยทัศน์โรงเรียนอนุบาลแสงมิตรมุ่งส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4
ด้าน เด็กนักเรียนก็ได้ความรู้ทั้ง 4 ด้านอย่างครบถ้วน บรรยากาศในโรงเรียนสบายร่มรื่นมีที่พักผ่อน ทาง
โรงเรียนจะมีการจัดการเรียนการสอนที่หลายภาษา ทั้ง ไทย จีน อังกฤษ และอีกอย่างคือ อัตลักษณ์โรงเรียน
คือ ไหวส้ วย นักเรยี นทุกคนไหวส้ วย ออ่ นน้อมถอ่ มตน และเดก็ นกั เรียนมมี ารยาท
31
บทที่ 3
งานในหน้าทข่ี องครูและครูประจำชน้ั
ให้นักศึกษารวบรวมกจิ กรรมในหนา้ ท่ีครปู ระจำชั้นทนี่ ักศึกษามสี ่วนรว่ มปฏบิ ัติตามตารางตอ่ ไปน้ี
ท่ี รายการปฏิบัติ กิจกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ สงิ่ ที่นกั ศึกษาไดเ้ รยี นรู้
1 การดูแลควบคุมให้ -การเข้าแถว ผู้ชายต้องอยู่ข้างหน้า -ได้เรียนรู้วิธีการควบคุมเด็กในช้ัน
นักเรียนปฏิบัติตาม ผู้หญิง และยืนตามลำดับเลขที่ โดยมี เรียน
ระเบียบวินัย คุณครยู ืนคมุ้ แถวอย่จู นกว่าจะเข้าแถวทำ -เรียนรู้ระเบียบวินัยในการเข้าแถว
กิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จ ตลอดจนการ เคารพธงชาติและกิจกรรมต่าง ๆ
เขา้ แถวไปเรยี นวิชาต่าง ๆ เชน่ กัน เช่น ระเบียบวินัยในการเข้าแถว
-การเดินไปรับประทานอาหารกลางวัน และรับประทานอาการ
และอาหารวา่ ง นกั เรยี นตอ้ งมายืนรอเข้า
แถว 2 แถวเดินไปพร้อมกันเป็นแถว
เดียว ก่อนรับประทานเด็กนักเรียนต้อง
เดินไปล้างมือ ทำความสะอาดทุกคร้ัง
และนั่งรับประทานอาหารตามที่ประจำ
ของตัวเอง ก่อนรับประทานต้องท่องบท
สวดก่อนและคุณครูจะบอกรับประทาน
อาหารได้
-การดื่มนม เด็กนักเรียนทุกคนต้องรอ
คุณครูเรียกไปรับนมและเดินรับนมเป็น
แถว
-การรับสมุดแบบฝึกหัดและการส่งงาน
คุณครูให้นักเรียนออกไปหยิบสมุดเป็น
แถวตามโต๊ะเรียน เมื่อคนไหนทำเสร็จ
แล้ว ต้องส่งงานเป็นแถวและให้นักเรียน
ไปเก็บสมุดของตนบนชั้นวางข้างหลัง
ห้อง
32
2 ก า ร ติ ด ต า ม แ ล ะ -การเชค็ ชอื่ นักเรยี นทกุ วัน -ไ ด ้ เ ร ี ย น ร ู ้ เ อ า เ ป ็ น แ บ บ ค ว า ม รู้
ตรวจสอบการมา -การตดิ ตามนักเรยี นทขี่ าดเรยี นบอ่ ยครัง้ เพิ่มเตินในการฝึกประสบการณ์ใน
เรียน -สอบถามข้อมูลจากผู้ปกตรอง (ถ้า การตรวจสอบการมาเรียนและ
นักเรียนคนไหนไม่มาคุณครูก็จะโทรไป ติดตามผลของเด็กในห้อง และเม่ือ
ถามผู้ปกครอง) เด็กขาดเรียน จะมีวิธีการพูดคุย
สอบถามผู้ปกครองเกี่ยวกับการ
ขาดเรียนของเด็กตอ่ ไป
3 การทำหลักฐานการ -การถามตอบคำถาม การเข้าร่วม -ได้เรียนรู้การการทำและใช้
ป ร ะ เ ม ิ น ผ ล ก า ร กจิ กรรมตา่ ง ๆ กับเพ่อื น เครื่องมอื ในการประเมนิ เดก็
เรยี น -การทำผลงานต่าง ๆ -เรียนรู้วิธีการและขั้นตอนในการ
-สมุดประจำตวั นกั เรยี น ประเมินเด็ก ท่ีเราสามารถนำไปใช้
ในชีวติ จรงิ ได้ในอนาคต
4 การติดตามและ -ทุกเดือนจะมีการตรวจสุขภาพนักเรียน -ได้รูพ้ ัฒนาการเจริญเตบิ โตของเด็ก
สง่ เสริมดา้ นสุขภาพ เปน็ ประจำ ทั้ง 4 ดา้ น คอื ดา้ นร่างกาย อารมณ์
อนามัย -ทุกเช้าจะมีการตรวจสุขภาพร่างกาย สังคม และ สตปิ ัญญา
เช่น การตรวจเล็บมือ -ได้รู้จักการตรวจสุขภาพเด็กและ
ส า ม า ร ถ ท ี ่ จ ะ ไ ป พ ั ฒ น า ต ่ อ ไ ด้ ใ น
อนาคต
5 การปลกู ฝัง -ฝึกการสวดมนต์ แผ่เมตตา นัง่ สมาธิ ทุก -ได้เรยี นรวู้ ธิ ีการปลกู ฝังคณุ ธรรม
คุณธรรมและ เช้าและกอ่ นนอนกลางวนั ทกุ ครัง้ จริยธรรมให้แก่เด็ก ๆ เพราะเรื่อง
จรยิ ธรรม
-การกล่าวขอบคุณทุกครั้งที่ได้รับของ คุณธรรมเปน็ เร่ืองท่ีสำคัญและเราก็
และกลา่ วขอโทษเมือ่ ทำความผิด ได้รู้จักการปลูกฝังคุณธรรมและ
จรยิ ธรรมอีกมากด้วย
-ได้เรียนรูถ้ ึงการฝกึ ให้เด็กมคี วาม
นอบน้อมถ่อมตน รู้จักเคารพเพื่อน
ผู้ใหญ่พอ่ แม่ และคณุ ครู เปน็ ต้น
6 สาระสำคัญอื่น ๆ - -
เพิม่ เติม
33
สรปุ ความคดิ เหน็ จากการศกึ ษา สังเกตและมีส่วนร่วมในการปฏิบตั งิ านอช่วยครูประจำช้ัน
จากที่ข้าพเจ้าสังเกต พบว่าทางโรงเรียนอนุบาลแสงมิตรการวางแผนการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเป็น
ระบบ มีการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และความเหมาะสมของแผนการเรียนรู้นั้นคุณภาพ
พฤติกรรมการสอน ครมู กี ารจดั เตรียมการสอนไวเ้ ปน็ อย่างดี มีสอ่ื ประกอบการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เข้าใจ
ง่าย และสามารถดูแลเด็กนักเรียนได้อย่างทั่วถึง ให้ความสนใจในตัวผู้เรียนแต่ละคนได้ดี และได้เห็นการ
ปฏิบัติงานของครปู ระจำในด้านต่าง ๆมากมาย ทจี่ ำเปน็ แบบอยา่ งใหข้ ้าพเจ้าได้ในอนาคต
34
บทที่ 4
การวิเคราะห์ผเู้ รยี น
ให้นักศกึ ษาศกึ ษาวเิ คราะห์ผู้เรียนตามตางรางต่อไปนี้
รายการปฏิบัติ กจิ กรรมทปี่ ฏิบัติ สิ่งที่นักศกึ ษาไดเ้ รยี นรู้
1. สงั เกตพฤติกรรม
และการมีส่วนร่วมใน -การทำงานหรือแบบฝึกหัดต่าง ๆที่ครู -ได้เรียนรู้และเห็นถึงความต้ังใจและการ
กจิ กรรม
มอบหมายอยา่ งต้งั ใจ มคี วามรบั ผดิ ชอบของนกั เรียน
2. ศกึ ษาระเบียน
สะสม -การปฏิบัติตามกฎกติกาในชั้นเรียน หรือ -ได้รู้ถงึ ความสนใจในการทำกจิ กรรมต่าง
ในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ๆ
-การสนทนาโต้ตอบ ตอบตั้งคำถามและ -ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมในด้านต่าง ๆ
การตอบคำถามระหว่างการทำกิจกรรม ท่เี ดก็ ไดแ้ สดงออกมา การมีส่วนร่วมและ
การเรยี นการสอน เรียนรู้ในการทำกิจกรรมนั้น ๆ ซ่ึง
นักเรยี นใหค้ วามรว่ มมอื เป็นอย่างดี
-การกรอกข้อมดู า้ นสุขภาพ และการจัดทำ -ทำให้เรามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
สมุดพกของนักเรียน โดยการรวบรวม การเขียนระเบียนสะสมของนักเรียน
ข้อมลู ของเดก็ เช่น การมาเรียนของนักเรียน วิธีการ
และขั้นตอนในการบันทึกข้อมูลด้าน
สขุ ภาพของนกั เรียนแต่ละบุคคล
3. สมุดประจำตวั -การทำสมุดประจำตัวเด็กนักเรียน สมุด -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำสมุดจด
ผู้เรียน
การบา้ น การบ้านให้นักเรียน มีการอธิบายเพื่อให
4. ผลงานผู้เรยี น สาร
สมั พนั ธบ์ ้านโรงเรยี น เกิดความเข้าใจในการบ้านที่ครูสั่ง และ
ฝึกความรับผิดชอบของนกเรียนในการ
ท ำ ก า ร บ ้ า น ท ำ -ส ่ ง ก า ร บ ้ า น ท ี ่ ไ ด ้ รั บ
มอบหมาย
-แจกผลงานที่เด็กได้ทำ เพื่อให้เด็กและ -ได้เรียนรู้ที่จะทำให้เด็กนักเรียนและ
ผูป้ กครองของตนไดเ้ ห็น ชื่นชมผลงานของ ผู้ปกครองภูมิใจและชื่นชมในผลงานของ
นักเรยี น ตนเอง และทำให้เด็กเกิดกำลังใจในการ
-สร้างสัมพันธ์บ้านกับโรงเรียนให้กับเด็ก ทำงานครง้ั ต่อไปอกี ด้วย
โดยเพื่อให้ผู้ปกครองได้ทราบว่าสัปดาห์นี้ -ท ำ ใ ห ้ เ ห ็ น ถ ึ ง ค ว า ม ส ำ ค ั ญ ข อ ง
ลูกของท่านได้เรียนรู้อะไรไปบ้างพร้อมทั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียน
รายงานพัฒนาการทั้ง 4 ด้านของผู้เรียน ทำให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในผลงาน
ใหผ้ ู้ปกครองได้ทราบ ของเด็กและการเขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ
35
5. การทำสังคมมิติ -การทำกจิ กรรมรว่ มกบั เพ่ือน -ทำให้รู้ว่าเด็กแต่ละคนมีพฤติกรรมการ
6. การศึกษาเด็กเป็น -การเล่นของนักเรียน อยู่ร่วมกับคนอื่นเปน็ อย่างไร และสังเกต
รายคน
เพอื่ การแนะแนวหรือ ว่าเด็กคนไหนชอบเล่นคนเดียวหรือเล่น
แก้ปัญหา
7. สาระสำคัญอน่ื ๆ เป็นกลุ่ม ซง่ึ ครู
เพ่มิ เติม
สามารถช่วยแก้ไข หรือส่งเสริมได้อย่าง
ถูกต้องเช่น การให้เด็กที่ชอบเล่นคน
เดียวได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำ
กจิ กรรมแบบกลุ่มบอ่ ย ๆ จะ
เปน็ การฝกึ ให้เดก็ อยรู่ ่วมกับผู้อนื่
-ได้เรียนรู้การทำสังคมมิติมีความสำคัญ
มาก ทำให้ได้เห็นการทำงานของครูที่จะ
พัฒนาและแก้ไขปัญหานักเรียนไปใน
ทศิ ทางใด
-การสังเกตพฤติกรรมเด็กนักเรียนที่แสดง -ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมและพัฒนาการ
ออในช้ันเรยี น ของเด็กแต่ละคนว่าเป็นไปตามวัยหรือ
-การสอบถามพฤติกรรมเด็กนักเรียนจาก ผิดปกติอย่างไร เพื่อที่ครูและผู้ปกครอง
ผปู้ กครอง จะได้หาแนวทางการแก้ไขหรือส่งเสริม
- ใชว้ ิธีการสงั เกตและสอบถามหากเด็กคน พัฒนาการของเด็กใหเ้ ป็นไปตามวยั และ
ใดมีปญั หาหรอื ตอ้ งการความช่วยเหลอื จะ เมื่อร้ทู นั จะได้แก้ปญั หาโดยเรว็ ทส่ี ุด
ดำเนนิ การช่วยเหลือทันที
-เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และยึดผู้เรียนเป็น -ได้เห็นถึงความสำคัญของเด็ก โดยจัด
ศูนย์กลาง กิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึง
กิจกรรมให้เด็กนั้นจะให้เด็กเลือกทำตาม
ความสนใจ เพื่อให้เกิดเด็กมีความสุขใน
การเรยี น
สรปุ ความคดิ เหน็ จากการศึกษา สงั เกตและการวิเคราะห์ผเู้ รียน
จากที่ข้าพเจ้าสังเกต พบว่าทางโรงเรียนอนุบาลแสงมิตร การวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนครูจะต้อง
วิเคราะห์จากข้อมูลหลายๆ ส่วน ครูจะต้องมีการจัดเตรียมการสอนไว้เป็นอย่างดี มีสื่ออุปกรณ์ประกอบการ
สอนอย่างครบถ้วน และทำให้เด็กเข้าใจง่าย มีการสร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้มีความสนุกสนาน ทำให้
ผเู้ รียนมีความสนใจในการเรียนรู้มากขึน้ ทราบถึงพฤติกรรมของเด็กจากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กขณะทำ
กจิ กรรมตา่ ง ๆ และคอยสังเกตพฤตกิ รรมของเดก็ เพื่อทีจ่ ะหาสาเหตุและแกปัญหานั้น ๆ
36
บทที่ 5
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ให้นักศึกษาสงั เกตการสอนในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ท่ีตรงกับวชิ าเอกของนักศกึ ษา 1 กลมุ่ สาระและรวบรวมผล
การศกึ ษาและสังเกตการสอนทกุ ครง้ั ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้
เร่อื ง เทคโนลีและการส่ือสาร สงั เกตเมอ่ื วนั ที่ 17 เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 09.00-09.30 น.
รายการปฏิบัติ กิจกรรมที่ปฏบิ ตั ิ ส่ิงท่ีนักศึกษาไดเ้ รยี นรู้
1. สังเกตการณเ์ ตรียมการสอนของครู
1.1 การวิเคราะหห์ ลกั สตู ร -ทำการศึกษาและทำความเข้าใจใน -ได้เรียนรู้ว่าก่อนจะต้องศึกษาให้ดี
รายวิชา
หลักสูตรของสถานศึกษาก่อน เรื่องที่จะ ก่อนนำมาสอน และได้เรียนรู้
1.2 การจัดหน่วยการเรยี นรู้
สอนนั้นมีความสอดคลองกับจุดประสงค์ วิธีการวเิ คราะห์หลักสูตรรายวิชา มี
1.3 การกำหนดกิจกรรมการ
เรยี นรู้ ของหลกั สูตรหรอื ไม่ การทำความเข้าใจก่อนการสอน มี
-มีการนำหลักสูตรมาใช้ให้สอดคล้องกับ ความยืดหยุ่นของเนื้อหา และครู
แผนการจัดการเรียนรู้เด็กกล้าคิดกล้าทำ จะต้องเขียนแผนการสอนไว้
กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ มีความ ลว่ งหนา้ เสมอ
เชื่อมั่นในตนเองมีความพร้อมที่จะเรียนรู้
ในระดับต่อไป
-การจัดหน่วยการเรียนรูแ้ ต่ละหน่วย จะมี -ได้เรียนรู้ว่าการจัดหน่วยการ
การใช้เวลาที่แตกต่างกันไปตามเนื้อหา เรียนรู้เรื่องที่จะสอนหรือกิจกรรม
สาระของหน่วย ต้องวิเคราะห์ว่าแต่ละ ต ้ อ ง ม ี ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ
เน้ือหาสาระมมี ากนอ้ ยเพยี งใด จะต้อง สอดคล้องกับหลักสตู รของ
สอดคล้องกับมาตรฐานที่หลักสูตรกำหนด สถานศกึ ษา
และต้องจัดการเวลาให้เหมาะสม
-ครูได้กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ -ไดเ้ รยี นรู้ถึงการจดั กิจกรรมและนำ
เด็กได้ทำอย่างเหมาะสม และมีความตั้งใจ กิจกรรมมาบูรณาการในการเรียนรู้
สนใจกับกิจกรรม 6 กิจกรรม จัดกิจกรรม การให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติเองหรือ
ที่สามารถทำให้เด็กเกิดความสนใจและ ได้สัมผัสจะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้
สนุกสนานในการทำกิจกรรมนั้น ๆ มีการ มากกว่าการทเ่ี ด็กนง่ั ฟังเฉยๆ
จัดสถานที่และใช้เวลาในการทำกิจกรรม
การเรยี นรทู้ ี่เหมาสม
37
1.4 การกำหนดการวัดและ การกำหนดการวัดและประเมินผล ดังน้ี -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือการวัด
ประเมนิ ผล - ผลงานของเด็ก และประเมินผล รวมถึงวิธีการต่าง
- การตอบหรอื การตั้งคำถาม ๆที่ครูนำมาใช้ในการประเมินเด็ก
- การให้ความร่วมมือในการทำ แต่ละคนส่วนใหญ่ครูจะใช้การ
กจิ กรรม สังเกตพฤติกรรมของเด็กขณะทา
- การทำงานร่วมกบั เพื่อน ชิ้นงานและการทำกิจกรรมร่วมกับ
และประเมินตามเกณฑ์พัฒนาทั้ง 4 ด้าน เพือ่ นๆ
-ได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ
และตามวัยของเด็ก
ทำแผนการสอน ทำให้จัดการ
เรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนว่า
เรื่องที่เราจะสอนนั้น เราจะ
ดำเนนิ การสอนอยา่ งไร
1.5 การเขยี นแผนการจัดการ -ครูผู้สอนเขียนแผนจากหลักสูตรท่ี -ไดร้ ู้เก่ยี วกบั การเตรียมความพร้อม
เรยี นรู้ สถานศกึ ษากำหนด ของครู ในการเขียนแผนการสอน
ครูต้องเขียนไว้ล้วงหน้าเป็นประจ
เพื่อให้การสอนออกมาถูกต้องตาม
แบบแผนท่ีวางเอาไว
2. การดำเนนิ การสอน
2.1 พฤติกรรมการสอน -มกี ารถามเดก็ เกยี่ วกับเรอื่ งท่ีทส่ี อน -ได้สังเกตเห็นการใช้คำพูดของครู
2.2 ความหลากหลายของ เพอ่ื เป็นการดงึ ความสนใจของเด็ก เวลาที่ครูพูดคุยกับเด็ก ครูจะใช้คำ
กจิ กรรมการสอน
-มีการสอนแบบบูรณาการกับความคิด ที่ชัดเจนเข้าใจง่าย มีคำพูดและน้ำ
สรา้ งสรรค์ เสยี งท่ไี พเราะ
- ใช้คำพูดที่ไพเราะ และชัดเจน -ได้รู้เกี่ยวกับการสอนแบบบูรณา
การคิดของเดก็ ให้เด็กได้สร้างสรรค์
ผลงานออกมาตามจินตนาการของ
เดก็ เอง
-มีการจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการจัด
ทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการถาม-ตอบ กิจกรรมการเรียนการสอนให้มี
เกี่ยวกับเทคโนลีและการสื่อสาร ได้ฝึกใช้ ความน่าสนใจ การทำให้เด็กเกิด
ความคิดและจนิ ตนาการของตนเองในการ การเรียนรู้และสนุกสนานในการทำ
ระบายสีภาพที่ครูให้ด้วยอุปกรณ์ที่ กจิ กรรมที่ครูจดั ข้ึน
น่าสนใจคือ สำลีคัตเติ้ลบัต
38
2.3 พฤติกรรมนกั เรียน -นักเรียนมีความสนใจ และมีความ -ได้รู้ว่าเด็กจะสนใจและให้ความ
2.4 การสอดแทรกคณุ ธรรม กระตือรือร้นในการทำกจิ กรรม ร่วมมือในการทำกิจกรรมที่ครูจัดก็
2.5 การสอดแทรกการคิด -เด็กมคี วามสนใจให้ความร่วมมอื ในการทำ ต่อเมื่อเป็นสิ่งที่เด็กชอบ และมี
วเิ คราะห์
กิจกรรม ไม่เล่นในขณะที่ครูสอน และ ความสนกุ สนานในการทำกิจกรรม
ต้ังใจทำกิจกรรม ชอบต้ังคำถามและคอย
ตอบคำถามครเู สมอ
-สอดแทรกในการมีระเบียบวินัยในการทำ -ได้เรียนรู้วิธีการฝึกให้เด็กมี
กิจกรรม การรอคอยและเสียสละให้ผู้อื่น คณุ ธรรมและจริยธรรม ซง่ึ ครูจะฝึก
การมนี ำ้ ใจและรูจ้ กั การแบ่งปนั ให้เด็กทำบ่อย ๆ ทำ ทุก ๆวันจน
เด็กติดเป็นนิสัยเมื่อเด็กโตข้ึนก็จะ
ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อยา่ ง
มปี ระสทิ ธิภาพและมีความสุข
-มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีการ -ได้เรียนรู้ว่าการต้ังคำถามสำหรับ
สื่อสารในชีวิตประจำวนั ของเด็ก ใหเ้ ด็กคิด เด็กควรทจ่ี ะเปน็ คำถามปลายเปิดที่
และวิเคราะห์ ตอบคำถาม เพื่อกระตุ้น ไม่ยากเกินไป เพื่อให้เด็กได้ฝึกการ
ความคิดและกล้าพูดในสงิ่ ท่ตี นคิด คิดและกลา้ ทจ่ี ะตอบคำถาม
2.6 การบันทกึ หลงั สอน -ครูจะบันทึกพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน -ได้เรยี นรเู้ ก่ยี วกับวิธีการบนั ทึกผล
2.7 การแกป้ ญั หาระหวา่ ง เกี่ยวกับการทำกิจกรรมในช้ันเรียน หลังจากที่ครูสอนเสร็จ ว่าเด็กแต่
สอน
หลังจากท่ที ำการสอนเสร็จแล้ว ละคนมีพฤตกิ รรมอย่างไรระหว่างที่
ครูสอน และจะจดบนั ทึกทุกครั้ง
หลังทำการสอนเสร็จเพื่อดูว่าเด็กมี
พฤติกรรมเปล่ียนแปลงอย่างไร
-ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน -ได้เรียนรู้เทคนิคการเก็บเด็กและ
ขณะที่ครูกำลังสอนคือ เด็กชอบคุยเสียง วิธีการแก้ปญั หาของครูขณะจัดการ
ดัง ครูผู้สอนจึงมีวิธีการแก้ปัญหาโดยการ สอน เพื่อให้เด็กสนใจและต้ังใจ
ซุ่มเรียกชื่อเด็กที่คุยเล่นกับเพื่อนให้ตอบ เรยี น
คำถาม
สรปุ ความคิดเหน็ จากการศึกษา สังเกตและการวิเคราะหก์ ารจดั การเรยี นรู้
จากการทข่ี ้าพเจ้าไดส้ ังเกตการสอนทำให้ได้ทราบถึง ครจู ะตอ้ งเขียนแผนการสอนก่อนเขา้สอนทุกครั้ง
และแผนการสอนที่เขียนน้ัน เน้ือหาจะต้องสอดคล้องกับหลักสูตรของสถานศึกษาอีกด้วย เพื่อให้ผู้เรียนได้
ความรู้ตามที่มาตรฐานของหลักสูตรสถานศึกษากำหนดไว้ การจัดการสอนเด็กต้องลงมือปฏิบัติจริงและมี
ความสุขสนกุ สนาน เกดิ การเรียนรแู้ ละฝกึ การใช้ความคดิ จนิ ตนาการได้
39
บทท่ี 6
การเลือกและการใช้สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
ใหน้ ักศึกษาสังเกตปฏบิ ัติงานสอนของครูจากครูพ่ีเล้ียงในการเลือกสอื่ และการใชส้ ื่อและแหล่งการเรียนรู้
รายการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ ส่ิงท่ีนกั ศกึ ษาได้เรียนรู้
ความหลากหลายของ - ครูมีความหลากหลายในการเลือกใช้สื่อ - ได้รู้เกี่ยวกับการเลือกใช้สื่อในแต่ละ
สื่อทใ่ี ช้ ในการจัดการเรียนการสอน เช่นการใช้ กิจกรรม และการสอนที่มีคว าม
หนังสือ, เกม, สื่อที่ครูประดิษฐ์เอง, หลากหลาย แปลกใหม่ เพื่อให้เด็กเกิด
โทรทัศน์, เครื่องเคาะจังหวะหรือดนตรี การเรียนรู้และมีความสนใจในขณะที่ครู
โดยครูจะเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการ สอน
สอนแตล่ ะเรื่อง - ได้เรยี นรู้เกี่ยวกบั การทำสอ่ื การสอน
อย่างไรเพื่อนำมาใช้ไดห้ รือปรับปรงุ
แก้ไขได้
การใช้สอ่ื ประเภท -ครมู กี ารนำส่ือประเภทเทคโนโลยีเขา้ มามี -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นครูปฐมวัยที่ดี
เทคโนโลยี / ICT ส่วนรว่ มในการจัดการเรยี นการสอน เชน่ น้ันควรมีการพัฒนาความรู้ของตนเองให้
โทรทัศน์ เทปเสยี ง และแผ่น VCD ในการ มีความรู้ท่ีทันสมัย และรู้จักการนำ
ทำกจิ กรรมการเรยี นการ เทคโนโลยมี าประยุกตใ์ ช้ในการเรียนการ
สอน เพือ่ ชว่ ยใหเ้ ด็กเกดิ ความสนใจในการ สอน เพ่ือใหเ้ ด็กเกดิ การการเรียนรู้และ
เรยี นการสอนและเกิดการเรียนรูใ้ ห้มาก มีความสุข สนุกสนานและไม่เกิดความ
ท่ีสุด เบื่อหนา่ ยขณะทค่ี รูสอนและทำกิจกรรม
ประเภทของสอ่ื -มีสอ่ื จากแผน่ VCD, สื่อการเรียนรแู้ บบใช้ -ได้เรียนรู้การเลือกใช้สื่อในการสอนการ
ประสาทสมั ผสั และสื่อการสอนตา่ ง ๆ ใน ที่เด็กได้สัมผัสและเห็นสื่อที่เป็นของจริง
การใชส้ อื่ / แหลง่ แต่ละการสอนแตล่ ะเรอ่ื ง ทำให้เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้และ
การเรยี นร้นู อก สนุกสนาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการ
สถานที่ -บรเิ วณรอบ ๆ โรงเรียน ทำกิจกรรมตาม จัดการเรยี นการสอน
สถานท่แี ละบรเิ วณตา่ ง ๆ เช่น สนามบอล ไดร้ วู้ า่ การพาเดก็ ไปสมั ผัสกับสถานท่ีจริง
-แหล่งเรียนรขู้ องชมุ ชน นั้นทำให้เด็กสนใจและ จะทำให้เด็กเกิด
-แหล่งเรยี นรภู้ ายในจังหวัดเพชรบุรี การเรียนรู้ด้วยตนเอง ได้ใช้จินตนาการ
และไดส้ มั ผัสกบั สิง่ ใหม่ๆท่ีอยู่รอบตัวของ
เด็ก
40
การมสี ่วนร่วมในการ มีสว่ นรว่ มและวิชาหรือการสอนแต่ละเรื่อง -ได้เรียนรู้ว่าการที่ให้เด็กได้รับ
ใช้สื่อของผูเ้ รยี น
มีการให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสในด้าน ประสบการณ์ตรงและการได้ลงมือทำ
ตา่ ง ๆ เชน่ ใช้มอื ในการสัมผัส สงิ่ ของ โดย ด้วยตนเอง สามารถนำมาปรับปรุงแก้ไข
ใชป้ ระสาททัง้ 5 ในการสัมผัส และต่อยอดจากความรเู้ ดิมให้ดียงิ่ ขน้ึ
สรปุ ความคดิ เหน็ จากการศกึ ษา สงั เกตและวเิ คราะห์การเลอื กสือ่ และการใช้สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
จากการที่ข้าพเจ้าได้สังเกต ครูผู้สอนนั้นมีความสามารถและความหลากหลายในการเลือกใช้สื่อการ
เรียนการสอนและเลือกใช้สื่อได้หลากหลาย เช่น สื่อของจริง สื่อจำลอง สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อเทคโนโลยี เป็นต้น
เพ่อื กระตุ้นใหเด็กเกดิ การเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย มคี วามสนใจและกระตือรือร้นในการเรยี นมากขึ้น ส่ือท่ีนำมาใช้
ประกอบการเรียนรู้นั้นทำให้ผู้เรียนเข้าใจง่าย เกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เด็กนักเรียนเกิดกระบวนการ
เรยี นร้ใู หม่ มีความสุขในการเรียน
41
บทที่ 7
การวดั และการประเมินผลการเรยี นรู้
ให้นักศึกษาสังเกตการณ์ปฏิบัติงานสอนของครู จากครูพีเ่ ลี้ยงดา้ นการวัดและการประเมินผลและการจดั การ
เรียนการสอน
รายการปฏิบตั ิ กจิ กรรมทป่ี ฏิบตั ิ สิง่ ทน่ี ักศึกษาไดเ้ รยี นรู้
การประเมนิ ผลระหว่าง -ร ะ ห ว ่ า ง เ ร ี ย นค ร ู จะ ค อ ย ส ั ง เกต -ได้เรียนรู้การดูพัฒนาการก่อนและหลัง
เรยี นหลงั เรยี น ในแต่ พฤติกรรมในด้านต่าง ๆของเด็ก เช่น เรยี นว่านักเรียนมพี ฒั นาการเป็นอยา่ งไร
ละชัว่ โมง ความสนใจในการเรียนและการทา -ได้เรียนรู้และเห็นถึงความสำคัญในการ
กิจกรรม ความตั้งใจในการทำงานที่ครู ประเมนิ ผลและการประเมินผลจะทำให้ครู
มอบหมาย การทำงานร่วมกบั เพ่ือน การ มองเห็นปัญหา สาเหตุและแนวทางการ
ส่งการบ้าน หรือกาเก็บข้องเล่นหลังเลิก แก้ไขปัญหาทีต่ รงจุด
เล่นแล้ว เป็นตน้
-หลังเรยี นครูจะมีการสรุปและตั้งคำถาม
กบั เดก็ เกยี่ วกับเร่ืองทเ่ี รยี น เพ่อื ประเมิน
ว่าเด็กมีความเข้าใจมากน้อยเพียงได้
และครูจะนำผลงานของเด็กเก็บใส่แฟ้ม
สะสมผลงาน เพอ่ื เปน็ การประเมนิ วา่ เด็ก
แตล่ ะคน
เกณฑ์การประเมิน -การสังเกตและจดบันทึกว่าเด็กสามารถ -ไดร้ ู้การกำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ
ปฏิบัติได้ด้วยตนเองหรือไม่สามารถ -ไดเ้ รียนรหู้ ลักและวธิ ีการในการประเมนิ
ปฏิบัติได้หรือสามารถปฏิบัติได้โดยมีครู
แนะนำช่วยเหลอื
เครือ่ งมอื ประสาน -การที่เด็กไม่ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จะมีการ -ได้เรียนรู้ในการให้โอกาศนักเรียนได้มี
สอนเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเข้าใจกับ โอกาสในการทำความเข้าใจกับเน้ือหาและ
เนอื้ หาท่ีสอน พัฒนาตนเองได้ใหม่
การประเมินรายหนว่ ย -การประเมินผลรายหน่วย ครูจะมี -ได้เรียนรู้ในการประเมินรายหน่วย ทำให้
วิธีการและเครื่องมือต่าง ๆ เช่น การ เด็กได้ทราบถึงการสอนในรายวิชาหน่วย
สังเกตพฤติกรรมในห้องเรียน การทำ น้ัน ๆ ว่าเดก็ ไดเ้ กดิ การเรยี นร้แู ละมี
ชิน้ งานทีเ่ กีย่ วกับหน่วยน้ัน ๆ เปน็ ต้น
42
ความเขา้ ใจกับหน่วยการเรยี นน้ีมากน้อย
เพยี งใด
การประเมินรายวิชา -การประเมินรายวิชา ครผู ู้สอนจะมกี าร -ได้เห็นและได้เรียนรู้เทคนิควิธีการ
การวิเคราะหผ์ ลการ ประเมินผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ซึ้งการ ประเมินรายวิชาของครู
เรียนของผู้เรยี น
ประเมนิ รายวชิ านีจ้ ะประเปน็ การวดั และ -การประเมินรายวิชาทำให้เด็กได้ทราบถึง
ประเมินผลตอนสนิ้ เทอมหรือจบปี การสอนในรายวิชาหน่วยนั้น ๆ ว่าใน
การศกึ ษา หน่วยวิชาที่เราสอน เด็กมีความรู้ ความ
-ทำการประเมนิ รายหน่วยเพ่ือให้ทราบ เข้าใจอย่างไร และสามารถนำมาเป็น
ถงึ การเรียนรขู้ องเด็ก เกณฑ์ในการตัดสนิ ถงึ ผลสัมฤทธ์ิทางเรยี น
-หากเด็กไมผ่ า่ นเกณฑ์ทตี่ งั้ ไว้ จะมีการ -ได้รู้วิธีการกำหนดเกณฑ์เมื่อนเด็กไม่ผ่าน
สอนเพ่ิมเติมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเข้าใจกบั เกณฑ์การประเมิน เช่น หากเด็กทดสอบ
เนื้อหามากขนึ้ ไม่ผา่ นเกณฑ์ตอ้ งสอบใหม่
สรุปความคดิ เหน็ จากการศกึ ษา สงั เกตและการวิเคราะห์ด้านการวดั และการประเมินผลและการจัดการ
เรียนการสอน
จากการที่ข้าพเจ้าได้สังเกต พบว่า การสอนของครูผู้สอนหรือครูจะมีขั้นตอน เทคนิควิธีการในการ
วเิ คราะหแ์ ละประเมินผลของผู้เรยี น โดยการสงั เกตและการใช้เครอ่ื งมอื ต่าง ๆในการประเมิน เช่น แบบทดสอบ
หรือแบบฝกึ หดั ช้นิ งาน สมดุ การบา้ น เป็นต้น มีเกณฑก์ ารประเมนิ ทย่ี ุตธิ รรมและสามารถประเมินเด็กได้จริง
หากประเมินเด็กแลว้ พบวา่ เดก็ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ ครจู ะตอ้ งปรบั เปล่ยี นวธิ ีการหรือหาเทคนิควิธีการ
สอนกิจกรรมต่างให้เหมาะสม และทำความเข้าใจในระดับความยากง่ายของความรู้ที่จะมอบให้เด็ก ปรับปรงุ
การเรยี นการสอนคร้ังตอ่ ไป หากเด็กไม่ผ่านการประเมนิ ตามเกณฑ์ทไี่ ด้วางไว้
43
บทที่ 8
การบรหิ ารจัดการช้นั เรียน
ใหน้ ักศึกษาสงั เกตการณป์ ฏบิ ตั ิงานสอนของครู จากครูพี่เล้ยี ง ในการบริหารจัดการชั้นเรยี น
รายการปฏบิ ัติ กจิ กรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ สิ่งทนี่ ักศกึ ษาได้เรยี นรู้
1. บรรยากาศทางกายภาพ
1.1 การจดั โต๊ะเรียน -ทางโรงเรียนมีการจัดโต๊ะที่มี -ได้เรียนรู้ว่าการจัดโต๊ะเรียนต้องคำนึงถึง
ขนาดและความสูงเหมาะสมกับ ความปลอดภัย
เด็กมีการจัดโต๊ะเรียนแบบติดกัน -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดพื้นที่ในการเรียนให้
2 โต๊ะ 3 แถว โดยการนั่งจะสลบั เหมาะสมกับเด็ก เพื่อให้เด็กสามารถทำ
การนั่ง ชาย-หญิง หญิง-หญิง กิจกรรมการเรียนการสอนที่ครูจัดได้ง่ายและ
ชาย-ชาย เลือกนั่งตามความ สะดวกมากขนึ้
เหน็ ชอบของครู
1.2 การจัดโตะ๊ ครู -การจัดโต๊ะของครูจัดไว้มุมห้อง -ไดเ้ รียนร้ถู ึงการจดั อปุ กรณท์ ุกอย่างให้สะอาด
ทางด้านหน้าเพื่อความเป็น เรียบร้อยและเด็กสามารถเขา้ ถึงตัวครไู ด้
ระเบียบเรียบร้อย และเพื่อความ
สะดวกในการมองเดก็
1.3 แสงสวา่ ง -มีแสงสว่างที่เพียงพอและอากาศ -ได้เรียนรู้ถึงแสงสว่างมีความสำคัญและ
ถ่ายเทเพียงพอต่อการจัดการ สามารถช่วยในการจัดการเรียนการสอนให้
เรียนการสอน มีการเปิดไฟเพื่อ เด็กได้ดี ห้องเรียนที่ดีควรมีแสงสว่างท่ี
เพมิ่ แสงสวา่ งใหเ้ หมาะสม เพียงพอและเหมาะสมกับการเขียนการอ่าน
หนังสือ และช่วยให้ห้องเรียนมีบรรยากาศท่ี
น่าเรียนมากข้นึ
1.4 ปา้ ยนิเทศ สะกดคำได้ถูกต้องและตัวอักษร -ได้เรียนรู้ถึงการจัดป้ายนิเทศให้มีความ
ใหญ่เหน็ ได้ชดั เจน เช่น A-Z, ก-ฮ, หลากหลายและถูกต้อง เพื่อให้เด็กเกิด
สปั ดาห์ วนั , เดอื น, เลข, สัตว์ ปี ประโยชน์มากทีส่ ุดปา้ ยนิเทศภายในห้องเรียน
และ และบอร์ดทีจ่ ัดไว้เพ่ือโชว์ ของเด็กปฐมวัยควรมีสีสันสดใสสวยงาม
ผลงานเด็ก เปน็ ตน้ สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กและมี
เนอ้ื หาเหมาะสมกบั เดก็
44
1.5 การจัดตกแ ต่ ง -การจัดมุมต่าง ๆ ในการเรียนรู้ -ได้เรียนรู้ถึงเทคนิคและวิธีการจัดห้องเรียน
หอ้ งเรยี น โดยแบ่งเป็นมุม เช่น มุมบล็อก โดนแบ่งเป็นสัดส่วน เพื่ออำนวยความสะดวก
มุมหนังสือ มุมวิทยาศาสตร์ เป็น ใหแ้ ก่เด็ก
ตน้ -ควรเป็นห้องท่มี คี วามสวา่ งที่
-ภายในห้องมีการตกแต่งสีสัน เพียงพอ มีสีสันที่สดใส น่าอยู่ และที่สำคัญ
สดใสและน่าอยู่ ตอ้ งสะอาด อากาศถ่ายเท
สะดวก ดังน้ัน ครูประตอ้ งคอยทำ
ความสะอาดห้องใหส้ ะอาดและนา่ อยเู่ พื่อท่ีจะ
ทำให้เด็กสนใจและไม่เบื่อหน่ายกับการเรียน
ในห้องเรียน
1.6 มมุ ผลงานนักเรียน -มีบอร์ดไว้สำหรับติดผลงานเดก็ -ได้รู้ว่าควรจัดมุมเพื่อให้เด็กได้ชื่นชมผลงาน
-มกี ลอ่ งสำหรบั ใสผ่ ลงานของเด็ก ของตนเอง เพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่เด็กใน
และเดก็ สามารถเห็นไดช้ ัดเจน การทำผลงานตา่ ง ๆ
1.7 มมุ วชิ าการ -ครูได้จัดมุมวิชาการต่าง ๆ -ได้รู้เกี่ยวกับวิธีการจัดเรียงเอกสาร แยก
ภายในห้องประกอบไปด้วย ตามลำดับความสำคัญ เพื่อสะดวกเมื่อ
เอกสาร และหนังสือที่ใช้ในการ ต้องการใช้งาน
จัดการเรียนการสอน จัดได้ -ได้ทราบว่าการจัดมุมวิชาการสามารถทำให้
เรยี บรอ้ ยเป็นระเบียบ เด็กเกิดความรู้และสามารถทำให้ผู้ปกครองมี
-หน้าห้องเรียนครูได้มีการจัดมุม ส่วนร่วมในการรับรู้ข่าวสารต่าง ๆที่เกี่ยวกับ
วิชาการ หรือมุมผู้ปกครองและ เดก็ หรอื เกรด็ ความรทู้ ั่ว ๆไป
นำข่าวสารทางวิชาการมาติดไว้
เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองของเด็ก
นักเรียนได้ทราบข่าวสาร ของ
ฝ่ายวิชาการ หรือความรู้ต่าง ๆที่
เด็กและผปู้ กครองควรทราบ
2. บรรยากาศทางจติ วทิ ยา
2.1 บรรยากาศการ -ภายในห้องเรียนมีบรรยากาศที่ -ได้เรียนรู้ถึงการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจให้เด็ก
เรยี นรู้ อ บ อ ุ ่ น ส บ า ย ส ะ อ า ด แ ล ะ เป็นการช่วยกระตุ้นใหเด็กมีความสนใจมาก
ปลอดภัยเหมือนเด็กอยู่บ้าน การ ข้ึน
เรียนการสอนมีความสนุกสนาน
45
เด็กได้มีพื้นที่ที่ใช้ในการทำ -ได้เรียนรู้ว่าการจัดบรรยากาศภายใน
กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวได้สะดวก หอ้ งเรียนของเด็กปฐมวัยมี
-ครูมีความเมตตาและความรักให้ ความสำคัญ บรรยากาศในหอ้ งตอ้ ง
แกเด็ก เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กกระตุ้น ให้เด็กเกิด
-มีการจัดกิจกรรมทหี่ ลากหลาย การเรยี นรแู้ ละทำใหเ้ ด็กเกิดความอุน่ ใจ สบาย
-ให้เด็กเลือกทำกิจกรรมตามท่ี ใจ
สนใจและเดก็ ได้ความรู้ครบถ้วน
2.2 ปฏสิ มั พันธ์ -ครูมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กใน -ได้เรียนรู้ถึงการมีใจที่เป็นกลาง มีความรัก
ระหว่างครูกบั นักเรียน ห้องเรียนทุกคน ครูคอยให้ เด็ก และทำให้บรรยากาศในช้ันเรียนนา่ เรียน
คำแนะนำและดูแลเอาใจใส่เป็น -ได้เรียนรู้ถึงการพูดคุยกับเด็กอยู่เสมอ เพ่ือ
อยา่ งดี สรา้ งความคนุ้ เคยและความไววา้ งใจให้แก่เด็ก
-ครูกับเด็กมีรอยยิ้มและทักทาย ซึ้งจะทำให้เด็กมีความมั่นใจกล้าพูดกล้า
กันด้วยสีหน้าที่สดใส รวมไปถึง แสดงออก
การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ปกครอง
ของเด็กดว้ ย
2.3 การกระตือรือร้น -เด็กรู้จักหน้าที่ของตนเอง เมื่อ -ไดเ้ รียนรถู้ ึงวา่ ควรกระตุน้ ความสนใจของเด็ก
ของนกั เรียน มาถึงโรงเรียนก็จะนำกระเป๋าไป อยูเ่ สมอ
เก็บบนชั้น นำเงินฝากครู ส่ง -ได้เรียนรู้ว่าการที่เด็กมีความกระตือรือร้นที่
การบ้านตรงต่อเวลา และเด็กจะ จะเรียนหนังสือนั้น จะช่วยให้เด็กเกิดการ
ตื่นเต้นและกระตือรือร้นมากเม่ือ เรียนรู้ที่ดี และช่วยให้ครูผู้สอนจัดการเรียน
มีกิจกรรมที่มีเกม และดนตรี การสอนไดอ้ ย่างราบรน่ื
ป ร ะ ก อ บ ก า ร เ ร ี ย น เ ด ็ ก ไ ด้
เคลื่อนไหวและมีความสนุกสนาน
ในการทำกิจกรรมร่วมกับครูและ
เพอื่ น
3. บรรยากาศทางกจิ กรรมการเรียนการสอน
3.1 ความหลากหลาย -ครูมีการเลือกกิจกรรมที่มีความ -ได้รู้ว่าการสอนต้องมีความหลากหลายและ
ของกจิ กรรม หลากหลายมาสอนเด็กโดยให้เด็ก ควรให้เด็กเป็นคนเลือกเพื่อให้เด็กเกิดการ
เลอื กเรยี นตามความสนใจ เรยี นรมู้ ากท่สี ุด
46
-มีกิจกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น
กิจกรรมการเล่นกิจกรรมการ
เคลื่อนไหว เพลงนิทาน และใน
การเรียนการสอนทุกครั้งครูจะมี
การสอดแทรกคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
3.2 การมสี ่วนรว่ มของ -ครูผู้สอนจะมีการเรียกถาม หรือ -ได้เรยี นรถู้ ึงการมสี ่วนรว่ มของเด็กเป็นส่ิงที่ครู
นักเรยี น การคุยสนทนาโตต้ อบกบั นักเรียน สามารถสังเกตได้ว่า เด็กในห้องมีความสนใจ
เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการ กับเรื่องที่สอนมากน้อยเพียงใด เพื่อนำไป
เรียนการสอน และยังเป็นการดึง ปรบั ปรุงในการสอนครง้ั ตอ่ ไป
ความสนใจของเดก็ อกี ดว้ ย
- เด็กส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือใน
การแสดงความคิดเห็น มีการ
สนทนาโต้ตอบ มีส่วนร่วมในการ
ใช้ส่อื
3.3 ใช้ส่ือการเรยี นรู้ -การใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น ใบ -ไดเ้ รียนรวู้ า่ การเลอื กใชส้ ื่อทจ่ี ะนำมาสอนเด็ก
ความรู้, รปู ภาพ, บัตรคำ, วดิ ที ศั น์ นั้น ครูต้องเลือกให้หมาะสมกับ ช่วงอายุของ
เป็นต้น แล้วแต่กิจกรรมจัดในวัน เดก็ และส่ือนนั้ จะต้องมเี น้ือหาท่ตี รงกับ หนว่ ย
น้ัน การเรียน เพราะเด็กจะเกิดการเรียนรู้ที่ดี
ย่งิ ข้นึ
3.4 กิจกรรมการเรียน จัดกิจกรรมที่น่าสนใจและสามาถ -ได้เรียนรู้ถึงการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจจะชว่ ย
การสอน ดึงดูดความสนใจของเด็กไดด้ ที ส่ี ุด ให้เด็กเกิดการเรยี นรไู้ ดด้ มี ากข้ึน
-กจิ กรรมศลิ ปะ
-กจิ กรรมการเคลื่อนไหว
-กจิ กรรมกลางแจง้
สรปุ ความคิดเห็นจากการศกึ ษา สงั เกตและการวิเคราะห์การบริหารจดั การช้ันเรยี น
จากการที่ข้าพเจ้าได้สังเกต ครูมีการจัดแบ่งห้องเรียนให้เป็นสัดส่วน และมีการตบแต่งห้องเรียนท่ี
เรียบร้อย มีสีสันสดใสสวยงาม มีการจัดบอร์ดความรู้ต่าง ๆ มีการจัดบอร์ดโชว์ผลงานของเด็กทุกคน ภายใน-
ภายนอก ห้องเรียนมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อบอุ่นเหมือนบ้าน บรรยากาศในการเรียนการสอน บรรยากาศใน
ห้องเรียนก็มีความสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ส่วนนการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนนั้น ครูจะมีการเลือกกิจกรรมและสื่อการสอนที่มีความแปลกใหม่ เพื่อทำให้เด็กเกิดความ
สนใจและกระตอื รอื ร้นในการเรียน
47
บทท่ี 9
การจดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
ให้นักศึกษาสงั เกตและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ตามความสนใจ 1 กิจกรรมตามประเด็นต่อไปน้ี
และสรุปผลการดำเนนิ งานภายหลังการจดั กจิ กรรม
รายการปฏบิ ัติ กจิ กรรมทป่ี ฏิบัติ ส่ิงทน่ี ักศึกษาไดเ้ รียนรู้
ชอ่ื กิจกรรม “วันพ่อแหง่ ชาติ 2563”
หลักการและเหตผุ ล -การจัดกิจกรรมวันพ่อสำหรับเด็ก -ได้เรียนรู้ขั้นตอนและหลกั การในการ
ปฐมวัย ครูจะต้องให้เด็กได้มีการ ทำกิจกรรม
ประสบการณ์ และจัดตั้งเนื่องจากพ่อ -ได้รู้จักข้อเสนอแนะของหลักการทำ
เป็นบุคคลผู้มีพระคุณ และมีบทบาท โครงการอยา่ งถกู ตอ้ ง
สำคัญต่อครอบครัว ผู้เป็นลูกจะต้อง
เคารพและตอบแทนด้วยความกตัญญู
และเป็นวันพ่อที่สังคมและเด็ก ๆต้อง
รำลึกถึง คือ พ่อของแผนดิน ยึดมั่นใน
การเจรญิ ตามรอยเท้าของพ่อ
จดุ ม่งุ หมาย -ฝึกให้เด็กเกิดความเข้าใจและฝึก -ได้เรียนรู้ในการนำมาประยุกต์ใช้
เป้าหมายและความสำเร็จ
ประสบการณ์ในการเข้าร่วมกิจกรรม และในชีวิตประจำวันได้และนำมา
วันพ่อของโรงเรียนที่ ศกึ ษาต่อได้
-เพื่อให้เด็กได้แสดงความกตัญญู -ไดเ้ รยี นรเู้ กี่ยวกับวธิ กี ารคิด
กตเวทีตอ่ พ่อ จดุ มุ่งหมายทเ่ี ด็กจะได้รบั เกย่ี วกบั
-ฝึกให้เด็กยกย่องบทบาทของพ่อที่มี การปฏิบัติจกรรมที่ครจู ัดขั้นเพ่อื ให้
ต่อครอบครวั และสงั คม เดก็ สามารถทจ่ี ะได้ทำกิจกรรมและ
-ฝึกให้เด็กมคี วามกล้าแสดงออก เรียนรสู้ ิง่ ตา่ ง ๆทีเ่ กิดขนึ้ อย่างเป็น
ข้ันตอน
-เพื่อให้เด็ก และผู้ปกครองเกิดความ -ได้เรียนรู้ในการจัดกิจกรรมสำหรับ
ร่วมมือในการทำกิจกรรม และรำลึกถึง เด็ก
พอ่
48
เพื่อให้กิจกรรมเป็นไปตามข้ันตอนท่ี
ครูกำหนดไว้อย่างราบรื่น สามารถ
นำมาศึกษาต่อ และนำข้อแนะนำใน
การปรบั ปรุงต่อไป
วธิ ดี ำเนินการ/จกั จดั 1. เปดิ พิธี วันพอ่ แห่งชาติ ปี 2563 -ได้รู้ถึงการนำมาปรับใช้ได้ใน
กิจกรรม
2.พิธหี มอบเกียรตบิ ตั รแก่พอ่ ดีเด่นของ ชีวิตประจำวันของนักเรียนและ
ระยะเวลาดำเนนิ
นกั เรียน ตัวเองได้และยังสามารถนำมาใช้ใน
ทรพั ยากรที่ใช้
3.หมอบทุนการศกึ ษาใหก้ ับนักเรยี น การได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการและ
4.ตัวแทนคุณพ่อกล่าวขอบคุณ ขั้นตอนในการดำเนินกิจกรรมให้
5.ปิดพธิ ี วันพอ่ แห่งชาติ ปี 2563 เป็นไปอย่างราบร่นื
30 นาที -ได้รู้ถึงความเหมาะสมในการจัดการ
และกำหนดเวลาที่ชัดเจน ไม่น้อย
หรือมากเกินไปจนทำให้เด็กเบื่อใน
การทำกิจกรรม ครูจึงต้องคำนึงถึง
เวลาในการทำกิจกรรมเสมอ
-ดอกพุทธรักษาติดหน้าอก ที่ทำจาก -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์
กระดาษ ให้เหมาะสมกับการทำกิจกรรม ใน
การทำกิจกรรมแต่ละครั้งเราต้อง
เลือกสิ่งที่ดีและมีคุณภาพให้แก่เด็ก
และผปู้ กครอง
วิธีประเมินผล - สงั เกตการเข้าร่วมกิจกรรมของเดก็ -ไดร้ ูจ้ ักวธิ ีการประเมนิ ผลทชี่ ดั เจน
- สังเกตความร่วมมือของเด็กและ -ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือหรือ
ผปู้ กครอง วิธีการ ที่ครูใช้ในการประเมินเด็กแต่
-สงั เกตความกลา้ แสดงออกของเดก็ ละคน
ผลการเรียนรทู้ น่ี กั ศึกษาจะ -เด็กสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั เราสามารถนำมาใช้ต่อยอดได้และ
ไดร้ ับ ได้ นำมาปรับปรุงแกไ้ ขได้
-เด็กได้ฝกึ ความกล้าแสดงออก
49
ผลท่ีเกิดกับผเู้ รยี น -ด้านความรู้ -ไ ด ้ ร ู ้ จ ั ก ก า ร ท ำ แ ต ่ ล ะ อ ย ่ า ง แ ล ะ
- ด้านความรู้ เดก็ สามารถบอกและอธบิ ายถึง สามารถนำมาปรบั ปรุงได้
- ด้านทักษะ
- ด้านเจตคติ ความสำคัญของการจัดกิจกรรมวนั พ่อ -ได้เรียนรู้เกี่ยวการวางแผนการจัด
ปัญหารและอปุ สรรคที่พบ -ด้านทกั ษะ กิจกรรมที่ครูจัดขึ้น เด็กได้เกิดการ
ในการดำเนนิ การ
เด็กสามารถปฏิบัติกิจกรรมที่ครูได้จัด เรียนรู้ที่ด้านไหนบ้างและเกิดข้ึน
ขน้ึ อย่างไร เพื่อนำไปวัดและประเมินผล
-ด้านเจตคติ พฒั นาการของเดก็ แตล่ ะคน
เด็กไดเ้ ห็นถึงคุณค่าและความสาคัญของ
การจัดกิจกรรมวนั พ่อท่ีทางโรงเรียนไดจ้ ดั
ขนึ้
-เด็กบางคนไม่ยอมให้ความร่วมมือใน -ได้รู้จักการควบคุมเด็กนักเรียนและ
การทำกจิ กรรม นำมาใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้
50
บทท่ี 10
การศกึ ษาสภาพชุมชน
ให้นักศึกษาศึกษาและสังเกตลักษณะ ตามประเดน็ ต่อไปน้ี
สภาพทว่ั ไปของชุมชน
1. ชอ่ื ชุมชน / หมูบ่ า้ น ชุมชนวดั กำแพงแลง ตำบลทา่ ราบ อำเภอเมือง จงั หวดั เพชรบุรี
2. สภาพชมุ ชน
2.1 จำนวนครวั เรือนประมาณ 100 กว่าครัวเรอื น
2.2 การศกึ ษาของประชาชน ( สภาพสว่ นใหญ่หรอื ท่ัวไป )
การศกึ ษาของประชาชนสว่ นมากอย่รู ะดบั มัธยมศึกษา
2.3 การนบั ถอื ศาสนา ประเพณวี ัฒนธรรมของชุมชน
การนับถือศาสนาพทุ ธ นบั ถือศาสนาคริสตแ์ ละศาสนาอสิ ลาม ประเพณวี ฒั นธรรม
คอื การ แข่งเรือทีแ่ ม่น้ำเพชรจะจดั เปน็ ประจำทุกปี
2.4 การเมืองการปกครองท้องถน่ิ
การเมืองการปกครองท้องถ่ินเปน็ แบบประชาธปิ ไตย
2.5 กิจกรรมรวมกลมุ่ ทางสังคมของคนในชุมชน ( ใหย้ กตัวอยา่ ง )
ตกั บาตรเทโว ฟงั เทศน์มหาชาติ ทำบุญตกั บาตร แห่เทียนจำนำพรรษา ฯลฯ
2.6 อาชพี หลักของประชาชนสว่ นใหญ่ ( สภาพโดยทั่วไปหรือระบุสัดสว่ นชองอาชีพสำคัญ
ของประชาชนในชมุ ชน )
เนอ่ื งจากโรงเรยี นอนุบาลแสงมิตรอยูห่ ่างจากตลาดไมไ่ กลนักทำให้ประชาชนสว่ น
ใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย และรับจา้ ง และมีประชาชนจำนวนไมม่ ากนักรับราชการ
2.7 ฐานทางเศรษฐกจิ ส่วนใหญ่ ( อยู่ในระดับดี หรือปานกลาง หรอื ค่อนข้างยากจน )
มีฐานะทางเศรษฐกจิ สว่ นใหญอ่ ยู่ในระดบั ปานกลาง