The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

012.การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

012.การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม

012.การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม

แเกชหาิงลครง่พณุ เรฒัธยี รนนรมราู้ การพฒั นาแหลง่ เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม แเกชหาิงลคร่งพุณเรฒัธียรนนรมราู้
ศนู ย์คณุ ธรรม (องค์การมหาชน)
69/16-17 อาคารวทิ ยาลัยการจัดการ มหาลัยวิทยาลยั มหิดล
ถนนวภิ าวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร. 02 644 9900 โทรสาร 02 644 4901-3
Website: www.moralcenter.or.th

ขอ้ มลู หนังสอื

ISBN : 978-616-91809-7
ส่ิงพมิ พล์ �ำดับที่ 12/2557
การพฒั นาแหล่งเรียนรูเ้ ชิงคณุ ธรรม

พิมพค์ ร้ังท่ี 1 / 2557
จ�ำนวน 3,000 เลม่
ผ้จู ดั พมิ พ์และเผยแพร่
ศนู ยค์ ุณธรรม (องคก์ ารมหาชน)
69/16-17 อาคารวิทยาลยั การจัดการ มหาลยั วิทยาลยั มหดิ ล
ถนนวภิ าวดรี งั สิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
โทร. 02 644 9900 โทรสาร 02 644 4901-3
Website: www.moralcenter.or.th
สร้างสรรคแ์ ละออกแบบ
Creative TONE Publishing & Design Consultancy
www.creativetone.net

คำ� น�ำ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานท่ีมีบทบาทในการส่งเสริม
กระบวนการสร้างเสรมิ พลังเครือขา่ ยเพอ่ื ขบั เคลื่อนสังคมคุณธรรม โครงการส่งเสรมิ และ
พัฒนาเครือขา่ ยคณุ ธรรมความดี จงึ เปน็ โครงการหน่งึ ทม่ี ุง่ เนน้ การสง่ เสริมสนับสนนุ และ
ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการด�ำเนินการสร้างความเข้มแข็งใน
กระบวนการพัฒนาคุณธรรมความดีในรูปแบบต่างๆ จนเกิดนวัตกรรมการเรียนรู้เป็น
แหล่งเรียนรู้ในหลายพ้นื ท่ี

หนังสือเล่มนี้เป็นการถอดองค์ความรู้ “การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม”
จาก 9 พ้ืนที่ ในภาคต่างๆ เพื่อถ่ายทอดกระบวนการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม
โดยการศึกษา วเิ คราะห์ และสงั เคราะห์องคป์ ระกอบเงื่อนไขและปัจจยั ที่ท�ำให้เกดิ แหล่ง
เรียนรู้ พร้อมน�ำเสนอตัวอย่าง และให้ข้อเสนอแนะเชิงวิชาการ ส�ำหรับเผยแพร่เป็น
แนวทางในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ต้นแบบเชิงคุณธรรมแก่พื้นท่ีอื่นและบุคคลทั่วไปท่ี
สนใจ

ศนู ย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ขอขอบคณุ ผทู้ ีเ่ กย่ี วข้องทุกภาคส่วนทท่ี ุ่มเทแรง
กาย แรงใจให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ในการดำ� เนินงานพัฒนาคุณธรรมในองค์กรจนเกิดเป็น
แหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ท่ี
สนใจใช้ประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรมเพื่อขับเคล่ือน
คุณธรรมความดใี ห้เกดิ ในสังคมไทยต่อไป

(นางฉวรี ัตน์ เกษตรสนุ ทร)
ผู้อ�ำนวยการศนู ย์คุณธรรม

สารบญั แเกชหาิงลคร่งพณุ เรัฒธยี รนนรมราู้

8 ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเศรษฐกจิ พอเพยี ง วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้
ตำ� บลยง้ั เมนิ อำ� เภอสะเมงิ จงั หวดั เชยี งใหม่

20 ถอดบทเรยี นตน้ แบบศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ศรษฐกจิ ชมุ ชนเชงิ คณุ ธรรม
กจิ วจิ ยั เพอื่ พฒั นาทอ้ งถน่ิ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชยี งใหม่

32 ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั
เทศบาลนาโหนด อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั พทั ลงุ

40 ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม 46
ถนนจรญั สนทิ วงศ์ แขวงวดั ทา่ พระ เขตบางกอกใหญ่ กรงุ เทพมหานคร

48 การถอดบทเรยี นตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม
โรงเรยี นตน้ บากราษฎรบ์ ำ� รงุ อำ� เภอเมอื ง จ.ตรงั

56 โรงเรยี นตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม โรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี
ถนนจรญั สนทิ วงศ์ เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร

64 ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม โรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ หมทู่ ี่ 4
ตำ� บลวงั ขนาย อำ� เภอทา่ มว่ ง จ.กาญจนบรุ ี

72 ศนู ยก์ ารเรยี นโรงเรยี นตน้ แบบดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม (บางมลู นากโมเดล)
โรงเรยี นบางมลู นากภมู วิ ทิ ยา ตำ� บลบางมลู นาก อำ� เภอบางมลู นาก จงั หวดั พจิ ติ ร

78 ศนู ยเ์ รยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ นจบั ไม้
ตำ� บลเฝา้ ไร่ อำ� เภอเฝา้ ไร่ จงั หวดั หนองคาย

86 สงั เคราะห์ ประมวลภาพรวมความรกู้ ารเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม
ของศนู ยก์ ารเรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้ เชงิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม

ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเศรษฐกจิ พอเพยี ง
วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้ ตำ� บลยงั้ เมนิ
อำ� เภอสะเมงิ จงั หวดั เชยี งใหม่

ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทกุ ข์ ทสี่ รา้ งสขุ อยา่ งยงั่ ยนื โดยองคค์ วามรู้ ขับเคลื่อน จนกระทั่งท�ำให้เกิดการเชื่อม พุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่
วัดพระบรมธาตุดอยผาส้มเป็นต้นแบบ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ โยงกันเป็นเครือข่าย “ขบวนบุญ” และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาส
ของการสร้างความร่วมมือการอนุรักษ์ การพง่ึ ตนเอง การลดคา่ ใชจ้ า่ ย สรา้ งรายได้ พัฒนายกระดับสู่ “ธุรกิจเพื่อสังคม” พระชนมายุครบ 80 พรรษาในปี พ.ศ.
ฟืน้ ฟู และพฒั นาวัด ตลอดจนวัดเขา้ ไปมี โดยการรวมกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ ทำ� ใหเ้ กดิ พลงั คณุ ธรรม ความรกั ความสขุ 2550 โดยมีพิธีประดิษฐานพระบรม
บทบาทในการพัฒนาสังคม โดยการใช้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างคนกับธรรม- ความสามคั คี สรา้ งสำ� นกึ สาธารณะ รว่ มกนั สารีริกธาตุบนยอดมณฑป เมื่อปีพ.ศ.
หลักธรรมอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ ชาติ เมื่อคนดูแลธรรมชาติ ธรรมชาติจะ ของคนในชุมชนท้องถ่ินในการดูแล สบื สานยาวนาน ตำ� นาน 2549 ปัจจุบัน วดั พระบรมธาตุดอยผาส้ม
มรรค เป็นกระบวนการให้เกิดการเรียนรู้ ดูแลคนในชุมชน ใช้กลไก “บวร” บ้าน รักษาทรัพยากร ธรรมชาติ ดิน น้�ำ ป่า มีพระสรยุทธ ชยปัญโญ เป็นเจ้าอาวาส
ค้นหาตัวตนของตนเอง เพื่อหาทางดับ วัด โรงเรียน และชุมชนเป็นหลักในการ เพื่อสร้างรากฐานชีวติ ใหม้ นั่ คงตอ่ ไป

กลไกการขบั เคลอ่ื น กระบวนการ การแก้ไขปัญหา วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้ และมีการบูรณะฟื้นฟูวัดพระธาตุดอยผา
ส้มอย่างต่อเน่ือง โดยได้รับความร่วมมือ
บา้ น อริยสจั 4 ทุกข์ : มีภาระหนสี้ ิน หลักพทุ ธธรรมและแนวทาง ทั้งแรงกาย แรงใจ กำ� ลังทรัพย์ ชาวบ้าน
โรงเรยี น วดั ปัญหาสุขภาพ พระราชด�ำริเศรษฐกจิ พอเพียง มาท�ำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม จาก
สมุทัย: เกษตรเชิงเดียว
ใช้สารเคมีมาก ตน้ ทนุ สูง ดอยผาส้มหรือม่อนผาส้มนั้นมี และรถโดยสารประจ�ำทางจากจังหวัด ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงมาโดย
นิโรธ : ใช้แนวคิดเศรษฐกจิ ยอดอยู่สูงกว่าพ้ืนดินกว่ากิโลเมตร มี เชยี งใหม่ ใชเ้ สน้ ทางเดนิ รถสะเมงิ - ยงั้ เมนิ ตลอด
พอเพียง การจดั การ พัฒนาวถิ ีการ ลกั ษณะเปน็ ภเู ขาหนิ ขนาดใหญ่ ดอยแหง่ นี้ (ถนนหว้ ยทรายขาว) ผา่ นหมู่บ้านแม่สาบ ต�ำบลยั้งเมินและต�ำบลแม่สาบ
มรรค : ให้ความรู้-เปลี่ยนวิธี ทรพั ยากรธรรมชาติ พ่ึงตนเอง มีความส�ำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของ - แม่ขาน - หาดส้มป่อย - อมลอง ซึ่งเป็นพ้ืนทีต่ ิดต่อกบั วัดพระบรมธาตดุ อย
คิด สร้างโอกาสให้ลงมือท�ำ- ชาวบ้านเน่ืองจากมีป่าต้นน�้ำและมีตาน้�ำ หลงั จากนน้ั จงึ ถึงวดั พระธาตุดอยผาสม้ ผาส้ม ประชากรส่วนใหญ่ แต่เดิมพ้ืนท่ี
เปล่ยี นวิถสี คู่ วามพอเพยี ง และส่ิงแวดล้อม “ลดรายจ่าย สรา้ งรายได้ ท่ีมีน�้ำออกให้ชาวบ้านได้ใช้ดื่มกินและ วัดพระบรมธาตุดอยผาส้มเป็นท่ี ต�ำบลมีชาวไทยใหญ่ (ไต), ล้ัวะม้ง
“ฟื้นฟู อนุรักษ์ ธรรมชาติ กำ� ไรคือขบวนบุญ” ท�ำการเกษตรตลอดปี ที่ว่าได้ชื่อดอยผา ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ใน กะเหรี่ยงอาศัยอยู่ ปจั จบุ ันพ้ืนทีท่ ีช่ าวไทย
เพ่อื ธรรมชาติดูแลคน” ส้มนั้น เน่ืองจากน�้ำที่ไหลผ่านชั้นหินออก อ�ำเภอสะเมิงมาช้านานเมื่อครูบาศรีวิชัย ใหญ่และล้ัวะอาศัยอยู่ ได้มีคนเมือง
• ฐานคนมีน�ำ้ ยา จากตานำ้� มรี สชาตฝิ าดออกเปรย้ี ว ตานำ้� นี้ ได้จาริกมาท่ีสะเมิง ท่านได้ร่วมกับครูบา อพยพมาจากอ�ำเภอสันป่าตอง ประตู
ดนิ ปา่ (ผลติ ของใช้ในครัวเรือน เป็นส่ิงหน่ึงท่ีชาวบ้านได้เคารพบูชาและ อุปาระ สร้างพระสถูปใหม่ในท่ีเดิมเมื่อ สวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ และจาก
น�ำ้ • ฐานคนเอาถา่ น ถอื วา่ มีความศักดส์ิ ทิ ธิ์ เนื่องจากนำ้� ทอี่ อก ราวกว่า 70 ปีท่ีผ่านมา ต่อมาในปี พ.ศ. จังหวัดน่าน เข้ามาต้ังรกรากอาศัยเมื่อ
(ลดคา่ ใชจ้ า่ ยเรอ่ื งพลงั งาน) มาจากตาน้�ำน้ันสามารถใช้รักษาโรค 2548 คณะสงฆ์น�ำโดยพระพทุ ธพจนวรา- หลายร้อยปีมาแล้ว มีภูมิประเทศเป็น
ขบวนบญุ • ฐานพออยู่ พอกนิ ผิวหนังไม่ว่าจะเป็นกลาก เกลื้อน หูด ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ภูเขาสูง ประชากรส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือน
(พ่งึ ตนเองดา้ นอาหาร)
คนดูแลธรรมชาติ • ฐานเลย้ี งสตั ว์
ธรรมชาตดิ แู ลคน (ลดคา่ ใชจ้ ่ายดา้ นอาหาร)
• ฐานคนมีไฟ
(พลงั งานทดแทนไบโอดเี ซล)
• ฐานการทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์

หรือแผลพุพองต่างๆ ได้ อีกทั้งบนดอย ได้ร่วมกันบูรณะพุทธสถานแห่งน้ีให้มีชีวิต ตามเนินเขา หุบเขา และบนภูเขาสูง
ผาสม้ ปจั จบุ นั เปน็ ทตี่ งั้ ของวดั พระบรมธาตุ ชีวาข้ึนมาใหม่ โดยได้รับความศรัทธา วิถีชีวิตของชาวบ้านในต�ำบลยั้งเมินและ
คนในเมอื ง ประชาสมั พันธ์ รณรงค์ ดอยผาส้ม อยู่ในพ้ืนท่ีหมู่ 4 บ้านอังคาย จากชาวบ้านอมลอง อังคาย และย้ังเมิน ต�ำบลท่ีอยู่ใกล้เคียงส่วนใหญ่จึงประกอบ
ธุรกจิ เพอื่ สงั คม การพึ่งพาตนเอง รอยต่อต�ำบลแม่สาบและต�ำบลยั้งเมิน ท้ังยังมีศรัทธามาจากพุทธบริษัทจากท่ัว อาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก คือ
• ผู้บรโิ ภค ระบบสารสนเทศ (Website) อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ การเดิน- สารทิศ ร่วมกันสร้างพระมณฑปจัตุรมุข ปลูกสตรอเบอร์รี่ ปลูกดอกเก๊กฮวย และ
• คนในเมือง ประชาสมั พนั ธ์ รณรงค์ พฒั นาคน สรา้ งส�ำนึก ลดรายจ่าย สรา้ งรายได้
• ผู้บรโิ ภค ระบบสารสนเทศ (Website) สาธารณะ สรา้ งสุขให้ครอบครัว

8 ทางเขา้ สวู่ ดั สามารถเดนิ ทางโดยรถสว่ นตวั ครอบพระสถูปน้อมเกล้าฯ ถวายเป็น ปลูกพืชผักเมืองหนาว เพ่ือส่งขายตลาด
9

สรา้ งรายได้หลกั ใหก้ ับครอบครัว ลักษณะ บ้านเร่ิมเสื่อมโทรม ป่าไม้ที่ลดลง แหล่ง ผลผลิตข้ึนอยู่กับพ่อค้าคนกลาง เกิด บ้าน ทกุ ข์ : ค้นหาทุกข์
การท�ำการเกษตรปลูกพืชเชิงเดี่ยว มีการ น�้ำท่ีไม่เพียงต่อต่อการท�ำเกษตรกรรม ปัญหาหน้ีสินรุมเร้า ดังน้ันเพ่ือเป็นการ โรงเรยี น วดั ของตนเองให้เจอ
ใชส้ ารเคมีในปรมิ าณทส่ี งู มาก ตน้ ทุนการ เป็นปัญหาสะสมที่ เร่ิมส่งผลกระทบต่อ ผ่อนทุกข์ในชีวิตท่ีเกิดข้ึนจากหนักให้เบา อริยสัจ 4 สมุทยั : ค้นหาเหตุแห่งทกุ ข์
ว่าเกดิ จากอะไร
ผลิตที่นับวันจะสูงข้ึนเรื่อยๆ นับต้ังแต่ซื้อ การท�ำมาหากินของชาวบ้านเริ่มมีความ และเปน็ ท่พี ง่ึ ทางจติ ใจ จึงหากุศโลบายใน นโิ รธ : หาทางดบั ทกุ ข์
เมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ค่าจ้างแรงงาน ยากลำ� บากขนึ้ เร่ือยๆ การดึงให้ชาวบ้านออกจากทุกข์ โดย มรรค : แนวทางการปฏิบตั ิ
ในขณะท่ีราคาผลผลิตตกต�่ำ รายได้ไม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เป็นต้นมา น้อมน�ำแนวพระราชด�ำริของพระบาท ที่น�ำไปสเู่ หตุแหง่ ทุกข์
เพยี งพอกับค่าใชจ้ า่ ยในครอบครวั ทนี่ ับวนั พระธรรมคตุ หรอื พระสรยทุ ธ ชยปญั โญ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เรื่อง “บวร” ซึ่ง
จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ท้ังค่าใช้จ่ายใน และพระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ เป็น หมายถึง บ้าน วัด โรงเรียน มาใช้เป็น
ชวี ติ ประจ�ำวัน คา่ ใช้จ่ายเพื่อการศกึ ษาให้ เรี่ยวแรงส�ำคัญในการฟื้นฟูศาสนาและ หลักในการฟื้นฟูและพัฒนาชาวบ้านท่ีมา
กบั บตุ รหลาน คา่ ลงทนุ การเกษตร เหลา่ นี้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านท่ีอยู่ ทำ� บญุ ในวดั ทง้ั ไดอ้ าศยั แนวทางเศรษฐกจิ
ท�ำให้ต้องมีการกู้ยืมเงินทั้งจากกองทุน รอบๆ วัด กิจวัตรในการออกบิณฑบาต พอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
หมู่บ้าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและ ทุกเช้าท�ำให้ได้แลกเปล่ียนพูดคุยกับชาว โดยใช้หลักอริยสัจส่ีเป็นแนวทางในการ
สหกรณก์ ารเกษตร (ธกส.) ธนาคารพาณชิ ย์ บา้ นทที่ �ำบญุ ใสบ่ าตร พระอาจารยท์ ง้ั สอง แก้ไขปัญหาคือ ทุกข์ : ค้นหาทุกข์ของ อนุรักษป์ ่าต้นน�ำ้ การพงึ่ พาตนเอง การอนรุ กั ษ์พลังงาน การจัดการศกึ ษา
อนุรักษ์เหมืองฝาย ผลติ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ และพลงั งานทดแทน รูปแบบใหม่

เพ่ือเป็นเงินหมุนเวียนในการลงทุนเพ่ือ ได้รับรู้ความทุกข์ที่เป็นปัญหารวมๆ ของ ตนเองให้เจอ สมุทยั : คน้ หาเหตุแห่งทุกข์
การเกษตรและเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิต ชาวบ้าน ทั้งการท�ำมาหากิน เล้ียงปาก วา่ เกิดจากอะไร นิโรธ : หาทางดบั ทกุ ข์
ประจ�ำวัน ส่งผลให้เกิดปัญหาหน้ีสิน เลี้ยงท้อง และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของ มรรค : แนวทางการปฏิบัติที่น�ำไปสู่เหตุ แผนภาพแสดงการใช้ “บวร” กลไกการขบั เคลือ่ นเศรษฐกจิ พอเพียง
พอกพูนขึ้นทุกๆ ปีเป็นดินพอกหางหมู ชาวบา้ นทเ่ี กดิ จากการประกอบอาชพี เกษตร- แห่งทุกข์ และได้ท�ำกิจกรรมเพ่ือเร่ิมต้น
และกลายเป็นปัญหาร่วมของคนในชุมชน กรรม ท่ีส่วนใหญ่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดข้ึน 4 ด้าน ศนู ยค์ ณุ ธรรม : พลงั ภาคหี นนุ เสรมิ พลงั “บวร”
ในขณะทที่ รพั ยากรธรรมชาติ ดนิ นำ�้ ปา่ เป็นการท�ำเกษตรที่เน้นการใช้สารเคมี ดังนี้ ขบั เคลอ่ื นศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง
1 2 3ซึ่งเป็นฐานในการท�ำมาหากินของชาว พึ่งปัจจัยการผลิตจากภายนอก ราคา
4 การกา้ วเข้าสู่ยคุ ของการพัฒนาวัด วัดพระบรมธาตุดอยผาส้มในการท�ำ โรงเรียนสะเมิงพิทยาคม ซ่ึงฐานเรียนรู้
การอนรุ กั ษป์ า่ ตน้ นำ้� โดยรวมกนั การพ่ึงพาตนเองและใช้เป็น การอนุรักษ์พลังงานและ การจัดการศึกษารูปแบบใหม่ พระธาตุดอยผาส้ม เริ่มนับตั้งแต่ปี พ.ศ. โครงการศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจ ต่างๆ ในช่วงเริ่มต้นนั้นมีท้ังหมด 9 ฐาน
กับชาวบ้านอนุรักษ์ป่าไม้ แนวป้องกันไฟเปียก ในด้าน พลังงานทดแทน ผลิตไบโอ โดยการบรู ณาการ 8 สาระการ- 2548 โดยมีพระธรรมคุต และพระ พอเพียงสู่การสร้างเสริมคุณธรรมน�ำวิถี ไดแ้ ก่
ต้นน้�ำล�ำธาร ด�ำเนินการท�ำ เกษตรอินทรีย์ จัดท�ำน�้ำยา ดเี ซลจากเมลด็ ทานตะวนั สบดู่ ำ� เรียนรู้เข้าสู่บริบทชุมชนของ อาจารยส์ งั คม ธนปญั โญ เปน็ แกนนำ� หลกั ชวี ติ ชมุ ชน และการประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั พทุ ธ-
ฝายแฝก ได้รับการสนับสนุน อเนกประสงคโ์ ดยใชเ้ ทคโนโลยี โดยการสนับสนุนจากกลุ่มโรง ตนเอง ทัง้ ยงั น�ำหลักเศรษฐกจิ ในการท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนารวมทั้ง ธรรมและแนวทางพระราชด�ำริเศรษฐกิจ ฐานท่ี 1 ฐานรักษ์ป่า เป็นกิจกรรมการ
จากโครงการรณรงค์สร้างฝาย ชีวภาพและขยะวิทยา ได้ท�ำ น�้ำตาลไทยรุ่งเรื่อง โครงการ พอเพยี งและไอซที ี มาประยกุ ต์ การท�ำกิจกรรมอื่นๆ ด้านพัฒนาสิ่ง พอเพียง เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายคนดี จัดทำ� ธนาคารต้นไม้ การปลูกป่า 3 อย่าง
ต้นน�้ำ ล�ำธาร และแฝก ปุ๋ยหมัก น้�ำยาฮอร์โมนต่างๆ อนุรักษ์พลังงานในวัด ศูนย์- ใชอ้ ยา่ งเหมาะสม เพอ่ื ใหบ้ รรลุ แวดลอ้ ม พระภิกษทุ ้งั สองรูปไดต้ ระหนัก ในช่วงนั้นมีการท�ำกิจกรรมต่างๆ โดยมี ประโยชน์ 4 อยา่ ง คอื ไดป้ ระโยชน์จากปา่
อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ยาขบั ไลแ่ มลง และการจดั การ วิจัยพืชไร่นครราชสีมา วัด วัตถุประสงค์ของการศึกษา เห็นปัญหาร่วมของชาวบ้านจึงได้น�ำ กิจกรรมหลักคือการสร้างฐานเรียนรู้ให้ เปน็ รายวนั รายเดอื น หรอื รายปี เปน็ กองทนุ
และกองกำ� ลงั จากกองทพั ภาคท่ี 3 แยกขยะอยา่ งถูกวธิ ี โดยได้รับ พยัคฆาราม และมหาวทิ ยาลยั อย่างแท้จริง โดยได้รับการ แนวคิดเรื่องความพอเพียงแปลงเป็นวิธี คนในพ้ืนที่ใกล้เคียง 5 ต�ำบล ได้แก่ สะสมไว้ให้ลูกหลาน โดยพระอาจารย์
และอื่นๆ เพ่ืออนุรักษ์ต้นน�้ำ การสนบั สนนุ จากโครงการชวี ถิ ี นอร์ทเชียงใหม่ สนับสนุนจากส�ำนักพัฒนา การปฏิบัติใช้ในชีวิตประจ�ำวัน โดยช่วง ต�ำบลแมส่ าบ ตำ� บลสะเมิงใต้ ต�ำบลยั้ง สงั คมเป็นผู้ริเร่ิมให้ชาวบ้านได้เรียนรู้และ
และรักษาความชุม่ ชน้ื การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศ- นวัตกรรม ส�ำนักงานคณะ แรกเน้นการใหค้ วามรู้ เรอ่ื งใกล้ตวั ได้แก่ เมิน ต�ำบลบ่อแก้ว ต�ำบลสะเมิงเหนือ ปฏิบัติร่วมกันเป็นรูปธรรมในพ้ืนท่ีเกือบ
ไทย และชมรมเพอื่ นชว่ ยเพอ่ื น กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เร่ืองการอนุรักษ์ป่า ฟื้นดิน ลดการพึ่งพา และเยาวชนในโรงเรียน 9 แห่ง ได้แก่ 100 ไร่ ท่อี �ำเภอสะเมงิ จังหวดั เชยี งใหม่
วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ ภายนอก และเปลี่ยนแปลงค่านิยมทาง โรงเรยี นบา้ นอมลอง โรงเรียนบ้านปางขุม
และมหาวทิ ยาลยั นอรท์ เชยี งใหม่ ทนุ นิยม โรงเรยี นบา้ นแมย่ างหา้ โรงเรยี นบา้ นแมแ่ ว ฐานที่ 2 ฐานรักษ์น้�ำ เป็นการสร้างฝาย
10
ต่อมาปี พ.ศ.2551 ศูนย์คุณธรรม โรงเรียนบ้านบอ่ แก้ว โรงเรยี นบ้านแมข่ ะปู ชะลอนำ้� ไมใ่ หเ้ กดิ การพงั ทลายของหนา้ ดนิ
(องค์การมหาชน) ได้ให้การสนับสนุน โรงเรยี นบา้ นยงั้ เมนิ โรงเรยี นบา้ นแมต่ ะละ ลดการเกิดน�้ำท่วมจากน�้ำป่า สร้างการมี

11

ศนู ยก์ ารเรยี นรฯู้ เศรษฐกจิ พอเพยี ง : วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้ และเรียนไปด้วยกันโดยแบ่งการเรียนรู้
เป็น 3 ช่วง คือ “เปิดทางฝัน ”ซ่ึงจะน�ำ
เด็กๆ ไปดูงานที่ต่างๆ เพื่อค้นหาตัวเอง
การจัดการ พัฒนาวิถีการพ่งึ ตนเอง ช่วงท่ี 2 เป็น“การก่อร่างสร้างฐาน” คือ
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ “ลดรายจ่าย สรา้ งรายได้
สิ่งแวดลอ้ ม ก�ำไรคือขบวนบุญ” การน�ำความสนใจจากความรู้ต่างๆ มา
“ฟ้ืนฟู อนุรกั ษ์ธรรมชาติ หลอมรวมกบั จนิ ตนาการ
เพ่อื ธรรมชาติดแู ลคน”
สกู่ ารปฏบิ ตั กิ ารทดลองดว้ ยตนเอง
ศูนย์การเรียนรู้ Home School ช่วงแรก
นั้นมีทั้งแปลงพืชอินทรีย์เล็กๆ และเล้ียง
ฐาน ฐาน • ฐานคนมีน�ำ้ ยา หมูหลุม 3-4 ตัว ส่วนช่วงสุดท้ายคือ
รกั ษ์แม่ รกั ษ์ป่า (ผลติ ของใช้ในครวั เรอื น) “เชื่อมโยงสู่การเรียนรู้ ”เข้ากับสิ่งรอบตัว
• ฐานคนเอาถา่ น เป็นการประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงหลักสูตรน้ี
ฐาน (ลดคา่ ใชจ้ า่ ยเรอ่ื งพลงั งาน) ใช้มาตรฐานทาง ความรู้ ปณิธาน และ
รกั ษ์น้ำ� • ฐานพออยู่ พอกิน ต้องไปสอบวัดระดับความรู้ที่เขตการ
(พ่งึ ตนเองด้านอาหาร) ศึกษาจังหวัดเชียงใหม่เป็นระยะๆ
ส่วนร่วมทั้งคนนอกชุมชนและคนใน ก่ิงไม้มาเผาถ่าน น้�ำส้มควันไม้ท่ีได้น�ำไป ในการท�ำไบโอแก๊ส ใช้กับเคร่ืองจักรชนิด • ฐานเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ในตารางเรียนรอบสัปดาห์จะมี
(ลดค่าใชจ้ ่ายด้านอาหาร) สองวันเรียนวิชาสามัญเหมือนนักเรียนใน
• ฐานคนมีไฟ หลักสูตรปกติ ส่วนอีกสองวันเรียนเกษตร
(พลงั งานทดแทนไบโอดเี ซล) กับเข้าฐานปฏิบัติงาน และจะต้องมีวัน
• ฐานการทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์

ชุมชนมาร่วมกัน ปัจจุบันมีฝายเล็กๆ ใช้ในการไลแ่ มลงท่มี ากดั กนิ พืชที่ปลกู ได้ ต่างๆ เช่น เคร่อื งจกั รทางการเกษตร ซ่งึ หน่ึงเรียนกับพระอาจารย์ สำ� หรับสถานที่
ท่ีช่วยชะลอน�้ำอยู่ไม่น้อยกว่าพันฝาย ฐานน้ีก็จะเชื่อมโยงกับฐานคนเล้ียงสัตว์ เรียนนอกจากเรียนที่ศูนย์การเรียนรู้ใน
และมีฝายขนาดใหญ่ดาดปนู 6 ฝายซงึ่ จัด ฐานที่ 6 ฐานพออยพู่ อกิน เป็นกจิ กรรม คอื นำ� มลู สตั วม์ าทำ� เปน็ ไบโอแกส๊ ใชแ้ ทน แผนภาพแสดงความรู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงศูนย์การเรียนรู้ฯ ชมุ ชนทีช่ าวบา้ นเป็นผู้บริจาคทน่ี าให้ บาง
สร้างโดยมีวิศวกรออกแบบและช่วยกำ� กับ การปลูกพืชแบบผสมผสาน ร่วมกับการ ก๊าซหุงต้ม วัดพระบรมธาตุวดั ดอยผาส้ม ค รั้ ง ก็ ไ ป เ รี ย น ต า ม ร ่ ม ไ ม ้ แ ล ะ แ ม ่ น้� ำ

ดแู ล ปลูกพืชอินทรีย์ เพ่ือให้ชุมชนได้เห็น ปัจจุบันได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาขั้น
ว่าการปลูกผักกินเองเป็นเรื่องที่ไม่ยาก ฐานท่ี 9 ฐานนาอินทรีย์เป็นฐานเรียนรู้ ฐานเรียนรู้ต่างๆ ท่ีได้ด�ำเนิน พัฒนาตนเองและท้องถิ่น สามารถพึ่ง พ้ืนฐานในศูนย์การเรียนกับส�ำนักงานเขต
ฐานที่ 3 ฐานรกั ษ์แม่ เป็นกิจกรรมสร้าง ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความหลากหลาย การปลูกข้าวอินทรีย์ เพ่ือให้ชุมชนได้รู้ถึง กิจกรรมมีผู้มาเรียนรู้ท้ังในระยะสั้นและ ตนเอง และด�ำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจ พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
การเรียนรู้การท�ำน้�ำหมักชีวภาพและการ ของพืชท่ีปลูก ดินไม่เสียเหมือนกับการ ประโยชน์ของการปลูกข้าวอินทรีย์ ท่ีให้ ระยะยาวเนื่องจากทางวัดมีการฝึกอบรม พอเพียง สืบทอดอาชีพของบรรพบุรุษได้ เขต 2 ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนแห่งแรกใน
ทำ� เกษตรอินทรยี ์ ปลกู พชื เชงิ เดยี่ ว ระบบนิเวศเป็นผู้จัดการกับแมลงศัตรูพืช ให้กับผู้ท่ีสนใจในแนวทางเศรษฐกิจพอ ปัจจุบันเปลี่ยนจากช่ือ Home School ประเทศไทยปัจจุบัน มีเด็กนักเรียน
ตามห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ ท�ำให้ เพียงหลายรุ่น และนอกเหนือจากการฝึก เป็น “ศูนย์การเรียนรู้ฯ วัดพระบรมธาตุ ทั้งคนไทยและชนเผ่ารวม 13 คน
ฐานที่ 4 ฐานคนมีน�้ำยา เป็นกิจกรรม ฐานท่ี 7 ฐานคนเลีย้ งสัตว์ เป็นกจิ กรรม ประหยดั คา่ ใช้จา่ ย บรโิ ภคอย่างปลอดภยั อบรมจากฐานเรียนรู้แล้ววัดจึงมี Home ดอยผาส้ม ”เปิดสอนในระดับมัธยมต้น
สร้างการเรียนรู้เร่ืองการท�ำน้�ำยา การเลย้ี งหมหู ลุม ซึง่ เปน็ การเลีย้ งหมแู บบ School เพื่อลดการพ่ึงพิงระบบทุนนิยม และระดับมัธยมปลายกิจกรรมต่างๆ ทั้ง ขยายองคค์ วามรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง
อเนกประสงค์ต่างๆ เพ่ือใช้ในครัวเรือน ประหยัด เล้ียงด้วยเศษอาหารในครัว และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียนสูง 9 ฐาน มกี ารด�ำเนินการมาเร่อื ยๆ อาจจะ จากวัดสชู่ ุมชน
ได้แก่ น�้ำยาซักผ้า น�้ำยาล้างจาน น�้ำยา เรือน มูลหมูสามารถน�ำไปใช้เป็นปุ๋ยให้ วิชาท่ีเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้น�ำไปใช้จริงใน มีน�้ำหนักในแต่ละกิจกรรมไม่เท่ากันแล้ว ปี พ.ศ.2554 วดั พระบรมธาตุดอย
ปรบั ผา้ นมุ่ สบู่ เพอ่ื ใหช้ าวบา้ นลดคา่ ใชจ้ า่ ย กับพืช หรืออาจจะสามารถน�ำมาใช้เป็น ชีวิตประจ�ำวัน Home School จึงมี แต่สถานการณ์ของช่วงเวลาและความ ผาส้มได้รับการสนับสนุนจากศูนย์
ในครัวเรอื น กา๊ ซหุงต้มในกรณที ี่มีมาก วัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหลานในพ้ืนที่ได้ ต้องการเรียนรู้ของชุมชนและเยาวชน คุณธรรมภายใต้โครงการเสริมสร้างเครือ
เรียนรู้สิ่งดีๆ ในชุมชนและอยู่พัฒนา รวมทั้งความตอ้ งการของผทู้ ่ีจะมาเรยี นรู้ ขา่ ย (บวร) สู่การขบั เคลื่อนคณุ ธรรมตาม
ฐานท่ี 5 ฐานคนเอาถ่าน เป็นกิจกรรม ฐานที่ 8 ฐานคนมีไฟ เป็นฐานเรียนรู้ ชุมชนตนเองมากกว่าออกไปอยู่นอก เ ป ิ ด ส อ น นั ก เ รี ย น ใ น ร ะ ดั บ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด�ำเนินโครงการ
การเรียนรู้เร่ืองการเผาถ่านและเก็บ เกี่ยวกับการท�ำไบโอแก๊ส โดยให้ชาวบ้าน ชุมชน นักเรียนต้องค้นหาความรู้จากการ มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมปลาย โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเชื่อมโยงชุมชน 9
ผลผลิตเป็นน้�ำส้มควันไม้ โดยใช้ต้นไม้ น�ำน้�ำมันที่ใช้แล้วในครัวเรือนมาเป็นวัสดุ เรียนรู้และการปฏิบัติจริง น�ำความรู้มา กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบพี่สอนน้อง ชุมชน โดยวัดสนับสนุนงบประมาณกับ
12 13

แต่ละชุมชนเพื่อท�ำกิจกรรมในแนวทาง ยาสมุนไพรเป็นหลัก มีแพทย์ทางเลือกให้ เป็นเครือข่าย โดยอาศัยหลักปรัชญา เพ่ือน�ำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการผลิต ผักปลอดสาร ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ และ เพือ่ สังคม และเสรมิ หนนุ เครอื ข่ายเดมิ ให้
เศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ การท�ำปุ๋ย คนในชุมชนไดใ้ ช้บรกิ าร เศรษฐกิจพอเพียงข้ันพื้นฐาน และขั้น ใช้เองในชมุ ชน นำ้� ยาอเนกประสงค์ และถา่ ยทอดเจตนา เข้มแข็งและขยายเครือข่ายใหม่ให้
ชีวภาพ สหกรณ์ข้าวกับปกาเกอะญอ ก้าวหน้าในการด�ำเนินงาน พัฒนาความ ของคนต้นน�้ำในวงกว้าง เกิดการระดม สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ส�ำหรับ
ธนาคารชวี ติ นำ้� ยาอเนกประสงค์ การผลติ เช่ือมโยงเครือข่ายพหุชุมชนเช่ือม ย่ังยนื ในดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม คือ ดิน น้ำ� ปา่ เศรษฐกจิ ชมุ ชน : ในรปู แบบ “ขบวนบญุ ” กองบุญรักษาป่าและขยายตัวขบวนบุญ แนวคิดหลักในส่วนของขบวนบุญคือ
น้�ำมนั พชื ธนาคารขยะ การทำ� ปุย๋ อินทรีย์ โยงสู่การพ่ึงตนเอง สร้างรายได้ ด้านเศรษฐกิจชุมชน มิให้เงินไหลออก การผลิตของใช้ท่ีจ�ำเป็นในครอบครัว เชิญชวนคนในเมืองเข้ามาเป็นอาสา- ให้ชุมชนสามารถช่วยเหลือตนเองให้ได้
การท�ำกสิกรรมธรรมชาติ การปลูกป่า สร้างขบวนบญุ ดแู ลธรรมชาติ นอกระบบ และด้านสังคม คือความ ส่วนที่เหลือขายในราคาไม่แพงให้กับ สมัครช่วยสร้างฝายเกิดเป็นเครือข่ายคน มากทสี่ ดุ ใชแ้ ละกนิ ในสงิ่ ทส่ี ามารถทำ� ไดเ้ อง
ชุมชน 1 ไร่คุณธรรม แต่ละกิจกรรมมี ปี พ.ศ.2555 ศูนย์คุณธรรม สัมพันธ์รู้รักสามัคคีอุ้มชูกันภายในเครือ คนในชุมชนที่ไม่ได้ผลิตใช้เองเพ่ือลดราย ปลายน้�ำ (คนเมือง) ช่วยเหลือคนต้นน้�ำ ไม่ต้องพึ่งพาภายนอก ไม่เน้นการตลาด
การแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกัน และมี (องค์การมหาชน) สนับสนุนงบประมาณ ข่าย ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้กับชุมชน จ่ายให้กับคนในชุมชน โดยใช้รูปแบบ (คนชนบท) จึงเป็นท่ีมาของโครงการที่ หรือผลผลิตเชิงปริมาณหรือก�ำไรท่ีได้จาก
ผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนในการขับเคล่ือน ให้วัดพระบรมธาตุดอยผาส้มด�ำเนิน อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี และสร้างความเข้ม ธุรกิจท่ีเรียกว่า“ขบวนบุญสร้างรายได้ให้ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) สนบั สนนุ การร่วมบุญในขบวนบุญ ดังน้ันผลก�ำไรที่
กิจกรรมต่างๆ เหล่าน้ี ซึ่งปัจจุบันบาง โครงการแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง แข็งให้กับเครือข่าย จนถึงข้ันที่จะ ครอบครัวท่ีเหลือเผื่อแผ่กลับคืนสู่ วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้ ในปี พ.ศ. 2556 ได้จึงน�ำมาใช้เป็นกองทุนในการพัฒนา
กิจกรรมก็ยังมีการด�ำเนินการอยู่แต่บาง ขั้นก้าวหน้าระดับเครือข่ายพหุชุมชน สามารถพ่ึงตนเองได้อย่างย่ังยืน ในปีนี้ ธรรมชาติ” คือขายสินค้าชุมชนในราคา ผลิตภัณฑใ์ หม่ๆ โดยชุมชน นักเรียนของ
กิจกรรมก็มีการปรับเปล่ียนไปตามสภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ วัดได้สร้างการเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอ ต้นทุน ให้คนในเครือข่ายใช้สินค้า จากเศรษฐกจิ “ขบวนบุญ” พฒั นา ศูนย์การเรียนวัดดอยผาส้ม เป็นหลักใน
วิถีชีวิตของคนในชุมชน ส�ำหรับกิจกรรม เศรษฐกิจพอเพียงท่ีจะสามารถถอดองค์ เพียงขั้นก้าวหน้าให้ชาวบ้านในชุมชนต่าง คณุ ภาพดี ราคาประหยดั ใหก้ บั คนในชมุ ชน ส่กู ารเปน็ ธรุ กจิ เพอ่ื สงั คม การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากการเรียนรู้และ
ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน เช่น การท�ำข้าว ความรู้ในระดับพหุชุมชนที่เช่ือมร้อยกัน 5 เขต ได้แก่ 1) ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัตกิ ารจริง
อนิ ทรีย์ ธนาคารขยะรไี ซเคิล การปลกู ป่า วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม บ้านอมลอง ขบวนบุญดูแลคนและดูแลธรรมชาติ : วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม ดำ� เนินการมา เป้าหมายของการขายสินค้าของ
และท�ำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่า การ ต.แม่สาบ อ.สะเมงิ 2) ชมุ ชนบ้านแมย่ าง มีการจัดสรรเงินก�ำไรจากการจ�ำหน่าย ย่างเข้าปีท่ี 6 ศูนย์คุณธรรม (องค์การ ขบวนบุญ ไม่ได้อยู่ที่ปริมาณยอดขาย
สร้างฝายชะลอน้�ำ การท�ำปุ๋ยอินทรีย์ ห้า ชุมชนบ้านป่าเกี๊ยะนอก ร.ร. ตชด. สินค้าน�ำไปสบทบกองทุนเพื่ออนุรักษ์ มหาชน) สนับสนุนให้มีการพัฒนา หรือจ�ำนวนการผลิตที่มากมาย แต่เน้น
การท�ำน้�ำยาอเนกประสงค์ ส�ำหรับ รัปปาปอร์ต ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง ทรพั ยากรธรรมชาติ ใช้ในภารกจิ ปลูกปา่ ยกระดับจากการเช่ือมโยงเครือข่ายเป็น เร่ืองการท�ำเองใช้เอง และขยายแนวคิด
กิจกรรมท่ีมีการเพ่ิมเติมขึ้นเพ่ือปรับให้ ต.แม่แดดน้อย และต.บ้านจันทร์ สร้างฝายชะลอน�้ำ ท�ำแนวกันไฟป่า แต่ ขบวนบุญ ก้าวเข้าสู่พัฒนาธุรกิจเพ่ือ การท�ำเองใช้เองไปยังพื้นท่ีอื่นๆ ให้ได้ใช้
เข้ากับสภาพส่ิงแวดล้อมคือการปลูก อ.กัลยาณิวัฒนา 3) ชุมชนบ้านแม่เลย ปัญหาท่ีพบคือ สมาชิกคนในเครือข่าย สังคม ปี พ.ศ.2556 เพ่ือสร้างช่องทาง ของใช้ในชีวิตประจ�ำวันท่ีมีราคาไม่แพง
กล้วย เพ่ือน�ำมาท�ำกล้วยทอดกรอบเป็น ชุมชนบ้านนาฟาน ชุมชนบ้านแม่ปะ ยังนิยมซื้อสินค้าที่มียี่ห้อคุ้นเคย และเป็น การตลาดของสินค้าจากชุมชนสู่ส่ือและ และไม่ติดกับยี่ห้อซ่ึงเป็นระบบทุนนิยม
ผลิตภัณฑ์เด่นของพื้นท่ี และการสร้าง ต.สะเมิงเหนือ ชุมชนบ้านใหม่ต้นผึ้ง สินค้าอุตสาหกรรมท่ีผลิตจ�ำนวนมากได้ เว็ปไซค์โดยมีการพัฒนากิจกรรมจากฐาน ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ฉะน้นั
ศนู ยอ์ โรคยา บรเิ วณศนู ยเ์ รียนรูเ้ ดิม เพอ่ื ต.แมส่ าบ อ.สะเมิง 4) ชมุ ชนเทศบาลสะ ในราคาถูก โมเดลการใช้สินค้าเป็นสื่อให้ เรียนรู้ต่างๆ การผลิตสินค้าให้ชุมชนได้ การผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ
ช่วยเหลือคนในชุมชนด้านสุขภาพโดยใช้ เมิงใต้ร.ร.สะเมิงพิทยาคม ต.สะเมิงใต้ คนเกิดตระหนักถึงความส�ำคัญของ ใช้เองในราคาถูกออกสู่สังคมภายนอก ขบวนบุญ จึงไม่ไดว้ างแผนด้านการตลาด
อ.สะเมงิ 5) ชุมชนบ้านทุง่ หลวง ต.แมว่ ิน ธรรมชาติอย่าง “ขบวนบุญ” กลับไม่ได้ ภายใต้โครงการพัฒนาธุรกิจเพ่ือสังคม หรือเน้นการขาย แต่เน้นการประชา-
อ.แม่วางชุมชนบ้านป่าคานอกและห้วย รบั ความสนใจส�ำหรบั คนในพนื้ ที่คนตน้ น้�ำ คนบุญด้วยช่องทางสังคมออนไลน์ ซึ่ง สมั พนั ธแ์ นวคดิ วธิ กี าร ชอ่ งทางทจ่ี ะขยายผล
หญา้ ไทร ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมงิ ซึ่งเป็นคนอยู่ใกล้ป่าไม้แหล่งทรัพยากร โครงการน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้างแหล่ง เพื่อให้เกิดแนวคิดท�ำเองใช้เองมากขึ้น
ส�ำคัญของชวี ติ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงท้ังข้ันพื้นฐาน เนอ่ื งจาก “ขบวนบญุ ”เน้นเร่อื งการทำ� เอง
การพง่ึ ตนเอง : การทำ� กจิ กรรมหลกั รว่ มกนั ในขณะเดียวกันมีกลุ่มคนในเมือง และก้าวหน้าบนโลกไซเบอร์ คือเว็บไซต์ ใชเ้ อง เน้นการผลติ สิง่ ท่ีเปน็ ปจั จัย 4 ทใี่ ช้
ของเครือข่ายพหุชุมชนคือ การพัฒนา ได้รับรู้เรื่องราวโมเดลธุรกิจ “ขบวนบุญ” (Website) และสื่อสังคมออนไลน์ (Social ในชีวิตประจ�ำวัน เส้ือผ้า ท่ีใช้อยู่ปัจจุบัน
องคค์ วามรใู้ ห้กบั ชุมชนเรือ่ งการพ่งึ ตนเอง จากการบอกต่อและการมาร่วมกันท�ำ Media) เพ่ือการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ผลิตจากหม้อห้อมใช้เอง ปลูกผักกินเอง
ในการท�ำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ การปลูกพืช กิจกรรมสร้างฝายชะลอน�้ำและเกิดความ องค์ความรู้ กิจกรรม บทเรยี น และบคุ คล แบ่งปันกัน เหลือจึงจะขาย ผลิตภัณฑ์
ผักพ้ืนบ้านไว้กินเอง การผลิตน�้ำยา เข้าใจในวิถี “ขบวนบุญ” ที่ช่วยดูแล ต้นแบบ ในการเสริมสร้างเครือข่ายคน เด่นของขบวนบุญคือ กล้วยทอดกรอบ
อเนกประสงค์ สบู่ แชมพู การถ่ายทอด ทรัพยากรธรรมชาติและใช้ผลิตภัณฑ์ บญุ ใหข้ ยายเปน็ วงกวา้ งเกดิ การขบั เคลอื่ น แชมพู สบู่ กระเทยี ม สมุนไพร หรือข้าว
ความรู้ด้านสุขภาพโดยแพทย์ทางเลือก ธรรมชาติท่ีปลอดภัยส�ำหรับตนเอง แนวคิดและภาคปฏิบัติของขบวนบุญ อินทรีย์ มีรูปแบบในการด�ำเนินการโดย
รวมท้ังท�ำการเก็บข้อมูลการอุปโภค ครอบครัวและส่ิงแวดล้อม ส่งผลให้เกิด (Social Enterprise) ท่ีน�ำบุญและ การรวมกลุ่มกันตามความสนใจ ช่วยกัน
บรโิ ภคภายในพ้นื ท่ี เชน่ การใช้น้ำ� ยาล้าง “กิจกรรมบุญ” คือ คนในเมืองรับ คุณธรรมความกตัญญูต่อทรัพยากร- ระดมเงินหุ้นเพ่ือน�ำเงนิ มาเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยใน
จาน นำ�้ ยาซกั ผ้า ปยุ๋ หมักชีวภาพ เปน็ ตน้ จ�ำหน่ายสินค้าของคนต้นน้�ำ อย่างเช่น ธรรมชาติเป็นตัวตั้งในการด�ำเนินธุรกิจ การลงทนุ ทำ� ผลติ ภณั ฑ์
14 15

ปจั จบุ นั วดั พระบรมธาตดุ อยผาสม้ จัดสรรเงินก�ำไรท่ีได้จากการจ�ำหน่าย เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชด�ำริ ชุ่มชื้นมากขึ้นการซึมซับน้�ำของดินดีข้ึน
เป็นเครือข่ายกับศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ท่ีน�ำไปท�ำบุญกับวัดพระบรม (บวร.) และเครือข่าย บ-ว-ร ในพ้ืนท่ี ปริมาณ ของน�้ำในการใช้เพื่อการเกษตร
มาบเอื้อง ชลบุรี (มหาลัยคอกหม)ู ทีเ่ ปน็ ธาตุดอยผาส้ม เพื่อน�ำมาสร้างเป็นกอง ต่างๆ ซึ่งต�ำแหน่งต่างๆ ตามโครงสร้าง เริ่มเพียงพอในบางพื้นท่ีซึ่งเดิมน้ันไม่มีน้�ำ
ศูนย์เรียนรู้เน้นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทุนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อ ยังคงอยู่เช่นนีท้ ุกปี แต่รายช่อื คณะท�ำงาน เพียงพอ รวมทัง้ การเกดิ ไฟป่าในบางพืน้ ที่
เช่นเดียวกัน แต่ส�ำหรับในชุมชนของ ใช้ในการสร้างฝาย ท�ำแนวกันไฟและ ก็จะเปลี่ยนไปตามความถนัดของ น้อยลง เนื่อง จากป่ามีความชุ่มชื้น
ต�ำบลแม่สาบและต�ำบลย้ังเมินน้ันเร่ิมเกิด พัฒนาวัดด้านอ่ืนๆ ขณะเดียวกันขบวน กรรมการแต่ละคนในแต่ละปี แหลง่ อาหารในปา่ เพ่ิมขึ้น ยังประโยชน์ให้
ความเปล่ียนแปลงด้วยเช่นกันในทางดีขึ้น บุญก็เป็นเหมือนจุดรวมเงินที่จะให้ชาว ส�ำหรับกระบวนการทำ� งานจริงน้ัน กับคนรอบป่าได้อาศัยใช้ประโยชน์ได้
วดั มีเครอื ขา่ ยเพ่มิ ชุมชนกเ็ ร่มิ เปดิ ใจทจี่ ะ บ้านยืมเงินไปลงทุนในการท�ำกิจกรรม แตล่ ะคนกช็ ว่ ยเหลือกัน ท�ำงานเปน็ ทีมไม่ โดยไม่หวังแต่ใช้ประโยชน์จากป่าเพียง
เรียนรู้ร่วมกันมากขึ้น จนกลายเป็นความ ต่างๆ โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่มีการแบ่ง ได้ยึดติดในต�ำแหน่ง รวมทั้งเม่ือมี อยา่ งเดยี ว แตย่ งั รจู้ กั การอนรุ กั ษใ์ หป้ า่ คงอยู่
ภูมิใจของขบวนบุญเม่ือชาวบ้านเร่ิมเข้า ก�ำไรจากสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ หลังจาก กิจกรรมต่างๆ คนในชุมชนท่ีไม่ได้มี ไปยงั ลกู หลานตอ่ ไป
มาช่วยกิจกรรมในวัดมากข้ึน ช่วยเหลือ หักค่าใช้จ่ายแล้ว ก�ำไร 50 % จะคืนสู่ ต�ำแหน่งตามโครงสร้างก็จะมาช่วยกัน
งานต่างๆ ในวัดมากข้ึน แต่ส่ิงที่จะต้อง ขบวนบุญโดยการทำ� บุญ ส�ำหรับเงินท่ีคืน ท�ำงานด้วยเช่นกัน เม่ือมีการท�ำกิจกรรม ชุมชน : เป็นกลไกในการสร้างความ
ฝ่าฟันต่อไปคือ ปรับทัศนคติให้คนใน กลับไปสู่ขบวนบุญในรูปแบบของการ พระอาจารย์สรยุทธ ชยปัญโญ จะนัด สัมพันธ์ต่างๆ เพราะชุมชนเป็นผู้ขับ
ชมุ ชนเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั ใหม้ ากขนึ้ ท�ำบุญจะมีการตกลงกันระหว่างสมาชิก หมายผู้เกี่ยวข้องมาร่วมท�ำความเข้าใจใน เคลอื่ นกิจกรรมตา่ งๆ ใหเ้ กิดขนึ้ จากการ
บนความศรัทธาต่อค�ำสอนในหลัก แล้วโดยเป็นขอ้ ตกลงร่วมกนั การท�ำกิจกรรม เน่ืองจากวดั พระบรมธาตุ เข้าร่วมโครงการกับศูนย์คุณธรรม ท�ำให้
พระพุทธศาสนาและความศรัทธาต่อพระ ดอยผาส้มเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็น ชุมชนเข้ามาท�ำกิจกรรม 1 ไร่ คุณธรรม ชมรมจิตอาสารุ่งอรุณ ชมรมธุรกิจภาค ที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ร่วม
อาจารย์สรยุทธ ชยปัญโญ ท่ีคอยช้ีแนะ โครงสร้างชัดเจน บริหารเข้มแข็ง จุดรวมคน ถือเป็นทุนทางสังคมท่ีมีอยู่ ปลูกพืชผักสวนครัว โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เ ห นื อ ส ห พั น ธ ์ ช ม ร ม ภ า ค เ ห นื อ กันพัฒนาวัด ทำ� บุญ ท้ังในวันสำ� คัญและ
แนวทางท่ีสอดคล้องกับความเป็นจริง ของศูนย์การเรียนรู้วัดพระบรม- เดิม ดังน้ันการท�ำงานทุกอย่างไม่ว่าจะ มีการเลย้ี งปลา เลยี้ งหมู เล้ยี งไก่ รวมทั้ง มหาวิทยาลัยต่างๆ และอีกหลายๆ วันพระ เมื่อชาวบ้านได้มาวัด มีการพูด
รวมทงั้ เปน็ ทปี่ รกึ ษาดา้ นการบรหิ ารจดั การ ธาตุดอยผาสม้ เปน็ การสรา้ งฝาย ปลกู ตน้ ไม้ การท�ำแนว มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม กลุ่มท่ีเป็นกลุ่มจิตอาสาซ่ึงมีศรัทธากับ คุยกับพระอาจารย์ทั้งสอง เล่าสู่กันฟังถึง
การเงินท่ีได้จากการขายผลิตภัณฑ์สินค้า การบริหารจัดการโครงการตลอด กันไฟ การท�ำน้�ำยาอเนกประสงค์ ฯลฯ ภายในชุมชนด้วยการร่วมกันสร้างฝาย แนวทางการพัฒนาชุมชนของวัดพระบรม ปัญหาและวิถีการด�ำเนินชีวิต เมื่อ
ขบวนบุญ ซึ่งแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วน ระยะเวลาท่ีด�ำเนินโครงการกับศูนย์ ถือเป็นกิจกรรมท่ีช่วยสร้างกระบวนการมี รว่ มกันทำ� แนวกันไฟป่า รอบๆ บริเวณปา่ ธาตดุ อยผาสม้ พระอาจารย์ไดฟ้ ังปัญหาของชาวบา้ นและ
คือ ส่วนที่หนึ่งจะน�ำมาใช้ในการลงทุน คุณธรรม (องค์การมหาชน) นั้น ส่วนร่วมของคนในชุมชนให้เกิดความ ชุมชนในอ�ำเภอสะเมิง และส�ำหรับคน คิดวิเคราะห์ร่วมกัน พบปัญหารวมๆ คือ
ต่อยอดท�ำผลิตภัณฑ์เพ่ือจ�ำหน่าย ส่วนที่ วัดพระบรมธาตุดอยผาส้มมีการจัด สัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รวมทั้งสามารถดึง ชุมชนนั้น ไม่เพียงแค่เฉพาะคนในพื้นท่ี วัด : เป็นพ้ืนที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางในการ ปัญหาวิกฤติหนี้สินจากการท�ำเกษตร
สองเป็นเงินค่าตอบแทนในรูปแบบของค่า โครงสร้างการบริหารจัดการในรูปแบบ เครือข่ายจากภายนอกท่ีสนใจกิจกรรม สะเมิงเท่าน้ัน ยังมีจากชาติพันธุ์อื่น เช่น ด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ เป็นพื้นท่ีสร้างการ เชิงเด่ียวโดยใช้ปุ๋ยเคมี ปัญหาการแข่งขัน
จ้างและเงินปันผล ส่วนท่ีสามมีการ คณะท�ำงานซึ่งมาจากศูนย์ปฏิบัติการ ตา่ งๆ ของวดั เขา้ มาในชมุ ชนอกี ดว้ ย ปกาเกอะญอ ซ่ึงน�ำข้าวมาขายให้กับ เรียนร้ใู ห้กับชุมชน เยาวชน และรวมผคู้ น กันเพ่ือให้เป็นที่ยอมรับในสังคม และ
ขบวนบุญและมาช่วยใช้แรงงานในการ ที่มีจิตอาสาให้มาร่วมกันท�ำประโยชน์แก่ ปัญหาสุขภาพที่ได้รับจากการใช้ยา
วดั ชมุ ชน หนว่ ยงานและสงิ่ แวดลอ้ ม สรา้ งฝายชะลอนำ้� และการทำ� แนวกนั ไฟปา่ ชมุ ชน สงั คม เปน็ โรงเรียน เปน็ บา้ นหลัง ฆ่าแมลง เมื่อมีการวิเคราะห์และสรุป
เชอื่ มร้อยกันอยา่ งไร ท่ีสองส�ำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม อีก ปัญหาร่วมกันแล้วจึงช่วยกันคิดหา
หน่วยงานภายนอก : เป็นหน่วยงานท่ี ท้ังยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่ แนวทางการปรับเปล่ียนพฤติกรรมและวิถี
ประธาน คทณุ ่ีปศรธนู กึ รยษร์ าม กิจกรรมต่างๆ ท่ีได้ด�ำเนินการ เข้ามาร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในการทำ� พธิ ที างศาสนา มผี นู้ ำ� ทางความเชอื่ ชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
คณะทำ� งาน สามารถเช่ือมโยงหลายสิ่งหลายอย่างเข้า ของวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม ส่วนใหญ่ ความศรัทธา คือเจ้าอาวาส ท่ีคอยช่วย โดยใช้โครงการท่ีได้รับการสนับสนุนจาก
ด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ธรรมชาติ
วดั และคนนอกชุมชน เป็นหน่วยงานภาคเอกชนซ่ึงมักจะมาช่วย ดูแลทุกข์สุขของคนในชุมชนให้เป็นไป ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เป็น
สนับสนุนงบประมาณและก�ำลังคนในการ ตามวิถีพอเพียงตามแนวทางและบริบท เครื่องมือในการหลอมรวมชาวบ้านใน
สิ่งแวดล้อม : เช่ือมโยงชุมชน คน สร้างฝายชะลอน้�ำและการสร้างแนวกัน เดมิ ของชมุ ชน การท�ำกิจกรรมให้เป็นแกนน�ำ เป็น
ภายนอกชุมชน หน่วยงานท่ีสามารถ ไฟ เชน่ บรษิ ทั เทพผดงุ พรมะพรา้ ว จำ� กดั ตัวอย่างให้คนอ่ืนๆ ในชุมชนได้เห็นเป็น
ฝแ่าโลคยะรนบงโรกยิหาบารารย ผ้ปู ระสาน แฝล่าะปยรตะเดิ มตนิ าผมล สนับสนุนงบประมาณหลายๆ หน่วยงาน กล่มุ จิตอาสา VeryGood บริษัท Mektec ความส�ำเร็จท่ีเพียงพอกับชีวิตท่ี ตัวอย่าง เม่ือชาวบ้านได้มาท�ำกิจกรรม
โครงการ จากการท�ำกจิ กรรมการสรา้ งฝายชะลอน้�ำ Manufacturing สโมสรโรตารีค่ ลับ และ พอเพียง ต่างๆ ได้รับการเพ่ิมพูนความรู้จาก
น.ส.ธชาพร ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมๆ แล้ว โรตารี่จังหวัดเชียงใหม่ กองพันสัตว์ต่าง จากการเช่ือมโยงหลักค�ำสอนของ การพาไปศึกษาดูงานและอบรมเชิง
นับเป็นพันฝาย มีผู้คนซึ่งมีจิตอาสาสลับ-
ฝ่ายแผนงาน สบั เปลยี่ นกนั เขา้ มาชว่ ยสรา้ งฝายชะลอนำ้� (ค่ายตากสิน) กรมการสัตว์ทหารบก พุทธศาสนา น�ำหลกั ของอรยิ สัจ 4 มาเปน็ ปฏิบัติการในแหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ
แลพะกรจิ ะบกญุ รรม ไม่เคยขาดตลอดระยะเวลาต้ังแต่ปี 2548 คา่ ยกาวลิ ะ กรมทหารราบท่ี ๗ เชียงใหม่ แนวทางในการแก้ไปปัญหาและพัฒนา พอเพียงในท่ีต่างๆ และสามารถน�ำ
เป็นต้นมา ผลท่ีเกิดข้ึนจากการสร้างฝาย องค์การบริหารส่วนต�ำบลแม่สาบและ ตนเองของพระอาจารย์สรยุทธ ชยปัญโญ แนวคิดมาใช้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้ง
คือ ป่าไม้เพิ่มจ�ำนวนมากข้ึน ป่ามีความ ยั้งเมิน True Learning Center สถาบัน และพระอาจารย์สังคม ธนปัญโญ ซ่ึงมี การใชจ้ ่ายเงนิ ลดความฟมุ่ เฟอื ย ใชแ้ ละ
เทคโนโลยีไทย-ญ่ปี นุ่ กลุ่มแม่วงั ออฟโรด ความพยายามทจี่ ะพฒั นาชาวบา้ นในพนื้ ที่ กนิ ในสง่ิ ทที่ ำ� เองปลกู เอง เชน่ นำ้� ยาลา้ งจาน
16 17

ท�ำบัญชีครัวเรือนเพื่อรับรู้รายรับรายจ่าย สนับสนุนของศูนย์คุณธรรม (องค์การ กล้วยท่ีปลูกก็น�ำมาทอดขายเป็นสินค้าใน ลำ� บาก ไม่อยากให้พ่อแมไ่ ม่สบายใจเรื่อง
ของตนเอง เหล่าน้ีเป็นเรื่องยากที่จะสร้าง มหาชน) ในปี 2554 ตอนน้ันเริ่มปรับ ขบวนบญุ ท�ำปยุ๋ อินทรยี ์ ปัจจุบนั เหลอื หนี้ ค่าใช้จ่ายหากต้องไปเรียนนอกชุมชน ถ้า
วินัยในตนเอง ดังนั้นการขยายกลุ่มคนท่ี เปล่ียนการปลูกพืช เริ่มปลูกกล้วย ปลูก อยูป่ ระมาณ 1 แสนบาท การปรบั เปลยี่ น เรียนอยู่ท่ีนี่ก็จะลดค่าใช้จ่ายและช่วยงาน
จะมาเข้าสู่ขบวนบุญจึงเป็นเร่ืองยาก พืชอย่างอืน่ และปลูกสตรอว์เบอรร์ ่ีโดยใช้ วิถีชีวิตเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากความไม่ ท่ีบ้านได้ด้วย การเรียนจะเรียนเป็น
กุศโลบายในการแก้ไขปัญหาเหล่าน้ี คือ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ (มูลหม)ู ท่ไี ด้จากการเล้ียงหมู ยอมรับในวิถีชีวิตแบบพอเพียงว่าจะพอ โครงการของตนเอง อย่างเช่น การ
การประชาสัมพันธ์กิจกรรมไปยังหน่วย หลุมซ่ึงได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ กินหรือไม่ การที่จะปรับน้ันต้องอาศัยใจ แปรรูปข้าว ก็จะมีการทดลองท�ำไป
งานและคนนอกชมุ ชน ที่ต้องการแสวงหา คุณธรรม (องคก์ ารมหาชน) ปลกู แฝกเพื่อ เป็นหลกั ต้องมีใจที่หนกั แนน่ เพราะต้อง เรื่อยๆ
วถิ ชี วี ติ ทแ่ี ตกตา่ งไปจากเดมิ หรอื หาผกู้ ลา้ น�ำมาจักเป็นตับๆ ขายใช้มุงหลังคา อีก มาเก็บผกั ขายทีละ 10 บาท 20 บาท เคย ส่ิงที่แต่ละคนท�ำ คนในชุมชนไม่
หรือคนรุ่นใหม่ท่ีต้องการปรับเปล่ียน ท้ังหยุดกู้เงิน และปัจจุบันในปี 2556 นี้ เก็บสตอเบอรี่ขายกิโลละเป็นร้อยสองร้อย เห็น เนื่องจากยังไม่เปิดใจและไม่เข้าใจ
ตนเอง โดยมาใช้แนวคิดแนวปฏิบัติของ หน้ีสินท่ีมีก็หมดลงจากการปรับเปล่ียนวิถี ระยะเวลาที่จะท�ำใจในการเปล่ียนวิถีชีวิต ว่าปลูกแค่น้ี อยู่แบบนี้จะมีกินมีใช้ได้
วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม ในรูปแบบ ชีวิต แต่ก็ถือว่าได้รับโอกาสจากการปลูก ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี แต่ถ้า อย่างไร จะร่�ำรวยไดอ้ ย่างไร นี่คอื มมุ มอง
ต่างๆ เช่น เยาวชนในพื้นท่ีสามารถเข้า กระเทียมส่งโรงงานน�้ำพริกที่เข้ามาติดต่อ ความเป็นอยู่หรือถ้าจะเปลี่ยนชีวิตไปเลย ของคนในชมุ ชน แตส่ ำ� หรบั กจิ กรรมตา่ งๆ
น�้ำยาซกั ผ้า นำ�้ ยาปรบั ผ้านมุ่ ปลกู ผกั สวน การต่อสู้อะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าสู้กับ มาเรียนรู้แบบเรียนรู้ด้วยตนเอง ใน ให้ชาวบ้านปลูกกระเทียมเพ่ือส่งโรงงาน ประมาณ 5 ปี ที่ด�ำเนินการภายในชุมชนก็ยังคงด�ำเนิน
ครัวกินเอง เล้ียงหมู เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ใจตนเอง “ศูนย์การเรียนวัดพระบรมธาตุดอยผา และยังเป็นผู้รับผิดชอบหลักในเร่ืองของ ต่อไป มีการผลิตสินค้าต่างๆ ขายใน
เลี้ยงปลา ทำ� ป๋ยุ อนิ ทรีย์ใช้เองจากมูลสัตว์ การเปล่ียนแปลงแนวคิดและ ส้ม” ซึ่งเปิดให้เรียนรู้ในระดับมัธยมต้น การสขี ้าวที่เปน็ สนิ ค้าในขบวนบญุ พ่ีชนัตฎา สาธุจิตร : ก่อนเข้าร่วม ขบวนบุญ โดยมีคนภายนอกเข้ามาช่วย
ที่เลยี้ ง ชวี ิตกเ็ กิดความเปลย่ี นแปลงไปใน เปลยี่ นแปลงวถิ ชี วี ติ เปน็ สง่ิ ทยี่ ากหากใจไม่ และมธั ยมปลาย และในปี 2556 ได้มีการ โครงการ 1 ไร่คุณธรรม เป็นคนกลางรับ เหลอื สนบั สนนุ สนิ คา้ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ แชมพู
ทางที่ดีข้ึน หนี้สินที่สะสมก็ลดลงโดยใช้ กลา้ พอ หรอื ไมม่ แี รงบนั ดาลใจอนั แรงกลา้ เผยแพร่กิจกรรมต่างๆ ผ่านส่ือในสังคม แม่อมร : แม่อมรเคยปลูกดอกเก๊กฮวย ซ้ือสตรอว์เบอร์ร่ีจากชาวบ้านไปขายต่อ สบู่ ขา้ วอนิ ทรยี ์ กล้วยทอด และสตอเบ
เวลาไม่มาก รวมทั้งชุมชนได้โอกาสจาก ที่ต้องการจะเปลี่ยนชีวิต จากแนวทางใน ออนไลนไ์ ปยงั คนกลมุ่ ตา่ งๆ ทห่ี ลากหลาย แต่ก็เลิกเน่ืองจากพ้ืนที่การปลูกดอก ตอนนั้นเป็นหนี้ประมาณล้านกว่าบาท อร่ีตามฤดูกาล สินค้าเหล่าน้ี สมาชิกใน
โรงงานน�้ำพริกในพื้นที่จ้างคนในพ้ืนท่ี แบบทุนนิยมมาเป็นแนวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นจักรกลหน่ึงในการร่วมกันขับ เกก๊ ฮวยน้นั ตอ้ งถางป่า เป็นการท�ำลายป่า โดยกู้เงินมารับซื้อสตรอว์เบอร์ร่ีและปลูก ขบวนบุญจะใช้เงินลงทุนส่วนหน่ึงจากเงิน
ปลูกกระเทียมส่งวัตถุดิบให้กับโรงงาน พอเพียง ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิม เคล่ือนขบวนบุญ และขบวนบุญจะขับ ต่อมาปลูกหญ้าหวาน สตรอว์เบอร์ร่ีก็เคย สตรอว์เบอร์รี่ ช่วงปี 2553 มีการอบรม หุ้นที่สมาชิกร่วมกันลงหุ้น เม่ือขายได้
ผลิตน�้ำพริก จึงท�ำ ให้ชุมชนมีอาชีพท่ี ในสมยั รนุ่ ปู่ ยา่ ตายาย แตด่ อยผาสม้ กย็ งั มี เคล่ือนไปถึงไหนอย่างไรก็ต้องข้ึนอยู่กับ ปลูกเหมือนพ่อจันสี แต่ก็เลิกแล้วเพราะ โครงการต้นกล้าอาชีพท่ีวัดพระบรมธาตุ ก�ำไรเท่าใดก็จะแบ่งกลับมาท่ีขบวนบุญ
สรา้ งรายไดท้ ม่ี นั่ คงอกี ทาง คนกล้าท่ีเป็นแกนน�ำมาจากชุมชนต่างๆ ศรทั ธาบญุ ที่จะเกิดข้นึ เปน็ หนเี้ หมอื นกนั ตอนนกี้ ป็ ลกู ขา้ ว ปลกู ผกั ดอยผาส้ม เลยได้เข้ามารู้จักโครงการ 1 เป็นการท�ำบุญคร่ึงหนึ่งของก�ำไร ส่วนที่
ผลสำ� เรจ็ ทเ่ี หน็ ชดั เจน คอื ชาวบา้ น ที่ต้องการจะปรับเปล่ียนวิถีชีวิต ไม่น้อย สมยั ทย่ี งั ไมไ่ ดเ้ ขา้ โครงการ 1 ไร่ คณุ ธรรม ไร่คุณธรรม ปัจจุบันท�ำเรื่องขยะรีไซเคิล เหลืออีกครึ่งก็จะกลับสู่ระบบการผลิตต่อ
แกนน�ำในชุมชนสามารถปรับเปล่ียน กว่า 15 ชุมชนในอ�ำเภอสะเมิง แม้จะ พ่อจันสี : เดิมเคยปลูกสตรอว์เบอร์ร่ี ตอนนั้นก็เป็นหนี้อยู่ แต่ปัจจุบันน้ีหนี้สิน และปลูกผกั กินเอง ปลกู แฝกขาย ปจั จบุ นั ไป ซึ่งระบบนี้ก็เป็นระบบท่ีช่วยสร้าง
พฤติกรรม ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ หนี้สิน ไม่ใช่ทั้งหมดของคนในชุมชน แต่ก็ถือได้ เพราะเป็นอาชีพเดิมของคนในหมู่บ้าน ก็ไม่มีแล้ว รวมท้ังหยุดกู้ธนาคารเพื่อ หนเ้ี หลือ ประมาณ 5 แสนบาท เน่อื งจาก ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบให้กับ
ลดลง มีสุขภาพท่ีดีอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ว่าแกนน�ำเหล่านี้เป็นผู้กล้าหาญ และ ช่วงแรกปลูกราคาดี แต่พอปลกู มาเรอ่ื ยๆ การเกษตรและสหกรณ์ฯ (ธกส.) หยุดกู้ หยดุ กู้เพม่ิ และค่อยๆ ใช้หนี้ไปตามกำ� ลงั สมาชิกด้วยเช่นกัน สิ่งหน่ึงท่ีชุมชนอาจ
เกดิ ความรว่ มมือกนั ในชมุ ชน จากการท�ำ ต้องการจะออกจากระบบทุนนิยม และ โดยใช้ปุ๋ยเคมี สภาพของดินก็เสื่อมโทรม เงินในหมู่บ้าน ตอนน้ีมาเข้าขบวนบุญ ก็ เนื่องจากกู้ภายในหมู่บ้าน เช่น เงินใน จะไม่รู้ตัวว่าก�ำลังร่วมกับขบวนบุญ คือ
กจิ กรรมส่วนรวม เช่นการสรา้ งฝายชะลอ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจนสามารถฝ่าฟัน ลงจนผลผลิตเริ่มไม่มีคุณภาพและได้ เรมิ่ เขา้ มาหาสมนุ ไพรในปา่ ปลกู สมนุ ไพร กองทนุ หมบู่ า้ น การที่ขบวนบุญรับซื้อผลผลิตต่างๆ
น้�ำ การสร้างแนวกันไฟ เพื่อช่วยอนุรักษ์ ความล�ำบาก ความยากจนไปได้ อยู่บน ปริมาณไม่มากพอ ปลูกสตรอว์เบอร์ร่ีมา ในบริเวณบ้าน ปลูกแฝก เข้ามาร่วมใน ในชุมชนของชาวบ้าน เช่น ข้าว กล้วย
สิ่งแวดล้อมและป่าไม้ไว้ให้ลูกหลานและ แนวทางของความพอเพียง ส�ำหรับคนท่ี เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยปลูกตามเพ่ือน โครงการ 1 ไร่คุณธรรม เน่อื งจากต้องการ นักเรียน Home School รุ่น 1 : ได้มี กระเทียม กลุ่มขบวนบุญก็มีรายได้จาก
คนปลายน้�ำที่ต้องใช้ประโยชน์ พื้นท่ีเกิด ประสบความสำ� เร็จแล้ว ตอ้ งการขยายผล บ้านเนื่องจากราคาดี แต่ปลูกไปเร่ือยหนี้ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ตอนน้ันเล้ียงหมูกับ โอกาสข้นึ มาท่วี ดั ตอนท่เี ปน็ เด็ก ขน้ึ มากับ การขายปุ๋ยให้กับชาวบ้านทปี่ ลกู กระเทยี ม
ภาคีเครือข่ายจากภายนอก ทั้งในส่วน ไปสูค่ นอื่นๆ ในชมุ ชน การบอกเล่าความ สินก็ยิ่งเพ่ิมพูนข้ึนเรื่อยๆ เนื่องจากความ เลี้ยงวัว เลี้ยงเพ่ือเอาลูกไว้และให้แม่พันธุ์ ป้าๆ ได้มาเจอกับหลวงพ่อ ท่านก็สอน นอกจากกิจกรรมเดิมท่ีได้ท�ำแล้ว
ของรัฐและเอกชน ที่เข้ามาช่วยสนับสนุน ส�ำเร็จของตนเองให้กับเพ่ือนฟังเป็นเร่ือง โลภ ขยายพื้นที่ปลูกโดยการกู้เงินมาปุ๋ย กบั คนอ่นื ๆ ทจ่ี ะเล้ียงต่อไป ท�ำนั่นท�ำน่ีหลายอย่าง พาไปท�ำปุ๋ย ไป ในปัจจุบันยังมีการเพิ่มเติมเรื่องกิจกรรม
ท้ังเงินและแรงงานในการสร้างฝาย ยาก การสร้างการยอมรับซ่ึงกันและกัน ซื้อยา จ้างคนมาชว่ ย แต่เม่อื ปลูกมากข้ึน ปลกู สตรอวเ์ บอร์ร่ี หลังจากจบชัน้ ประถม เพื่อสุขภาพช่ือว่า บ้านอโรคยา ซึ่งเปิด
สร้างแนวกันไฟ และสนับสนุนสินค้า โดยท่ีไม่ได้เป็นผู้นำ� ทางความคิดในชุมชน ผลผลิตกลับลดลง ต้นไม่โต เริ่มเป็นหนี้ พี่อานง พุทธโส : ก่อนท่ีจะเข้าร่วม ศึกษาปีท่ี 6 หลวงพ่อก็ชวนมาเรียนใน บริการการดูแลสุขภาพทางเลือกแบบใหม่
ต่างๆ ในขบวนบุญ โดยทั้งหมดนี้มีวัด น้ัน ย่ิงเป็นเร่ืองยาก ดังนั้นการท�ำ จากการกู้สหกรณ์การเกษตร กู้กองทุน โครงการ 1 ไร่ คณุ ธรรมน้นั เป็นคนกลาง หลักสูตร Home School เราอยากเรียน ใหบ้ รกิ ารนวดผอ่ นคลาย กดจดุ ครอบแกว้
พระบรมธาตุดอยผาส้มเป็นจุดศูนย์รวม กิจกรรมในชุมชนจะไม่มีการบังคับ ใคร ต่างๆภายในหมู่บ้าน เป็นหนี้ประมาณ 3 ในการรบั สนิ คา้ ในชมุ ชนไปขาย โดยเฉพาะ อะไรก็ได้เรียน จบมาเราก็ท�ำงานได้สิ่งท่ี ยาสมุนไพรต่างๆ เช่น หญ้าหวาน เม็ด
และเป็นทั้งเบ้ืองหน้าและเบื้องหลังใน สนใจเข้าร่วมได้ตามสมัครใจ ไม่มีการ แสนบาท เม่ือเป็นหน้ีเป็นสินมากขึ้น แต่ สตรอว์เบอร์รี่ ตอนน้ันเป็นหนี้อยู่ เรียนก็ช่วยเหลือพ่อแม่และช่วยเหลือทาง มะรุมแห้ง ยาเขียวส�ำหรับนวด น้�ำหมัก
ความส�ำเร็จของโครงการและหลายๆ แบ่งหรือกีดกัน แต่เน่ืองจากการด�ำเนิน ก็ได้มาช่วยงานที่วัด ได้พูดคุยกับพระ ประมาณ 5 แสน เนื่องจากไปกู้เงินมาให้ บ้านเราได้ ก็คิดว่าน่าจะสนุกดี ก็ชวน ลูกยอ ท�ำลูกประคบ ผู้ให้บริการก็ได้รับ
กิจกรรม จนสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้เชิง ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงเป็นส่ิงที่ อาจารย์สรยุทธ ถึงปัญหาหน้ีสินที่เกิดขึ้น ลูกสวนใช้ก่อน เมื่อเป็นหน้ีสะสมมากข้ึน เพ่ือนๆ มาเรียน พ่อแม่ ก็เข้าใจ การสอนจากที่ต่างๆ ให้สามารถให้
คณุ ธรรม ท่มี ผี ูส้ นใจในแนวทางเศรษฐกจิ เห็นผลช้า อีกท้ังยังต้องปรับเปล่ียนวิถี และหาทางออกไม่ได้ พระอาจารย์จึงได้ ก็ได้มีการพูดคุยกับพระอาจารย์สรยุทธ สนับสนุน เน่ืองจากมีประสบการณ์จากพี่ บริการไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งปลอดภยั
พอเพียงไปศึกษาดูงานและฝึกอบรมอย่าง ชีวิตจากง่ายๆ เช่น อยากกินก็ซ้ือกิน ชักชวนให้มาร่วมโครงการ 1 ไร่คุณธรรม ก็หยุดทุกอย่าง และเข้าเป็นสมาชิก 1 ไร่ ชายท่ไี ปเรยี นนอกชุมชน ทุกเดือนกจ็ ะมา
ตอ่ เน่ือง มาเป็นกินในส่ิงท่ีปลูกและปลูกในส่ิงที่กิน ในปี 2553 ซ่ึงเป็นโครงการท่ีได้รับการ คุณธรรม ปัจจุบันปลูกกล้วย เล้ียงหมู ขอเงินพ่อแม่ใช้ ซึ่งเป็นช่วงที่ครอบครัว
18 19

ถอดบทเรียนต้นแบบศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ มีการขยายผลอย่างต่อเน่ือง ระหว่างปี โครงการพัฒนาศักยภาพเพ่ือการบริหาร สนใจทั่วไปได้เรียนรู้ และฝึกปฏิบัติได้
ชุมชนเชงิ คณุ ธรรม กจิ วจิ ยั เพอื่ พฒั นาทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2553-2554 คณะทำ� งานของกิจวิจยั จัดการศูนย์ฯ สู่ความย่ังยืน ประจ�ำศูนย์ อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถส่งผล
มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชยี งใหม่ เพ่ือการพัฒนาท้องถิ่นได้น�ำองค์ความรู้ การเรียนรู้เชิงคุณธรรมต้นแบบ จังหวัด ให้เกิดการเปล่ียนแปลงเชิงพฤติกรรม
และผลการดำ� เนินงานของศูนย์การเรียนรู้ เชียงใหม่ (The Potential Development การพัฒนาศูนยเ์ รยี นรู้เชิงคณุ ธรรมของกิจ
แต่ละแห่งมาเผยแพร่ผ่านเครือข่ายระบบ to Manage the Best Practice of วิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น มีกระบวนการ
สารสนเทศ (Website) ของศูนย์คณุ ธรรม Chang Mai Moral Study Center to be ส่งเสริม ดังน้ี 1) การลงพื้นที่เยี่ยม
(องค์การมหาชน) ซึ่งได้มีการจัดการ Sustainable : PDCA Moral project) กลุ่มต่างๆ เพ่ือค้นหาศักยภาพในการ
ข้อมูลสารสนเทศเศรษฐกิจชุมชนเชิง โดยแต่ละศูนย์ผ่านกระบวนการคัดเลือก พัฒนาต่อยอดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ 2)
คุณธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพฐานข้อมูลใน ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมต้นแบบ ประสานงานกับแกนน�ำเพ่ือให้สมัครเข้า
จากข้างบนลงสู่ล่างเท่าน้ัน จึงท�ำให้รัฐ มินิไซต์ (Minisite) ทำ� ให้เกิดการเผยแพร่ เฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ 4 แห่ง ร่วมโครงการฯ 3) การให้ค�ำแนะน�ำ
ไม่เคยมองเห็นตัวตนท่ีแท้จริงของชุมชน องค์ความรู้และข้อมูลของศูนย์การเรียนรู้ ประกอบด้วย ปรึกษาและให้ก�ำลังใจกับผู้น�ำในการ
ฉะน้ัน สิ่งที่จะมาเช่ือมระหว่างภาครัฐ มีผู้เข้ามาสืบค้นหาข้อมูลอย่างต่อเน่ือง 1. ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ ด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายในกลุ่ม
และชุมชนก็คือ ผู้ท่ีเข้าใจในงานด้านการ จนเกิดการเผยแพร่องค์ความรู้ในการ ต�ำบลบ้านกลาง อ�ำเภอสนั ปา่ ตอง 4) การพาผนู้ �ำไปศึกษาดงู าน แลกเปลยี่ น
ปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้นกิจวิจัยเพ่ือ ด�ำเนินธุรกิจชุมชนเคียงคู่คุณธรรมให้กับ 2. ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ ประสบการณ์ 5) การอบรมใหค้ วามรเู้ พ่มิ
พัฒนาท้องถ่ิน มหาวิทยาลัยราชภัฏ ผู้ท่ีสนใจสามารถสืบค้นได้อย่างสะดวก ต�ำบลสนั ผกั หวาน อ�ำเภอหางดง เติม 6) การจัดระบบโครงสร้างการ
เชียงใหม่ (OKRD) จึงได้ท�ำการวิจัยเพื่อ รวดเร็ว และข้อมูลมีความถูกต้องต่อ 3. ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ ท�ำงาน และการบริหารจัดการศูนย์การ
ให้เกิดการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นได้อย่าง การน�ำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมตาม ต�ำบลบ้านเป้า อ�ำเภอแม่แตง เรียนรู้ 7) การจัดประกวดศูนย์การเรียนรู้
สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความ สภาพบริบทของชุมชนน้ันๆ ท�ำให้เว็บ- 4. ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ 8) การจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู ของศนู ยก์ ารเรยี นรู้
ต้องการของชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการ ไซต์ของ Minisite ได้รับความนิยมโดยมี ตำ� บลบา้ นหลวง อำ� เภอแมอ่ าย เชงิ คณุ ธรรมเพอื่ การเผยแพรท่ าง Website
บูรณาการกับกระบวนการเรียนการสอน ผู้เข้ามาใช้บรกิ าร เพ่ือให้เป็นแหล่งการเรียนรู้การ
ให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยท่ีมีโอกาสได้ ในช่วงปี พ.ศ. 2555 จงึ มีการยก ประกอบอาชีพที่เคียงคู่คุณธรรมตามหลัก
เรียนรู้จากการลงพ้ืนที่ร่วมกันกับอาจารย์ ระดับการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับเด็กและ
ในการท�ำวจิ ัย ชุมชนเชิงคุณธรรมด้วยการจัดท�ำ เยาวชนในชุมชน รวมทั้งประชาชนท่ี
การด�ำเนินงานของกิจวิจัยเพ่ือ
กิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่นกับการ ผศ.ทวีศักด์ิ ป่ินทอง ผศ.กมลทิพย์ ค�ำใจ พัฒนาท้องถ่ิน มีการประสานงานและ
พัฒนาศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนเชิง ดร.กาญจนา สุระ และทีมงานดูแล สร้างความร่วมมือกับศูนย์คุณธรรม
คุณธรรม โครงการ จงึ ถอื วา่ เป็นหนว่ ยงานหนึ่งท่ีอยู่ (องค์การมหาชน) ในการส่งเสริม ประสานงาน/ลงพืน้ ที่
กิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน เป็น ภายใต้โครงสร้างของสถาบันวิจัยของ สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณธรรมใน พบปะ/ตดิ ตามผลกบั
ศูนยก์ ารเรียนรตู้ ่างๆ

ส่วนหนึ่งของสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎมี ผศ.วีระศักดิ์ ชุมชน และการสร้างหลักธรรมาภิบาลใน การจัดการฐานขอ้ มลู ประสานงานกบั ผนู้ �ำ
ราชภัฎเชียงใหม่ ก่อนที่จะมีการจัดตั้ง สมยานะ ด�ำรงต�ำแหน่งผ้อู �ำนวยการศูนย์ การดูแลธุรกิจของชุมชน โดยอาศัยหลัก เพือ่ การเผยแพร่ เชญิ ชวนเขา้ รว่ ม
เป็นที่ช่วยประสานงานและ เจ้าหน้าที่ มีภารกิจหลักคือ ด�ำเนินการวิจัยเชิงการ ของความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด และมี Website
โครงการ

ประจ�ำในแต่ละโครงการท่ีกิจวิจัยฯ จัดการโดยการน�ำศาสตร์ของหลัก วนิ ยั ระหวา่ งสมาชกิ ในชมุ ชน ความสภุ าพ
ดำ� เนินงาน เศรษฐศาสตร์ หลักของบัญชี หลักของ สามัคคี และมีวินัยต่อส่วนรวม รวมถึง
กิ จ วิ จั ย เ พื่ อ พั ฒ น า ท ้ อ ง ถ่ิ น การบริหารจัดการ และหลักนิเทศศาสตร์ ความกตัญญูตอ่ ผมู้ ีพระคุณในทอ้ งถิน่ การพัฒนา/จัดระบบ ใหค้ ำ� แนะนำ�
มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ (OKRD) มาปรับประยุกต์ใช้ หรือที่เรียกว่า R&D ปี พ.ศ. 2552 เกิดการจัดท�ำ โครงสร้างและการ ปรกึ ษา
จัดตัง้ ขนึ้ เม่อื ปี พ.ศ. 2552 ตามคำ� สงั่ แตง่ (Research and Development) โครงการจัดต้ังศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ บริหารจัดการศูนย์
ต้ังคณะกรรมการศูนย์วิจัย ในอดีตกิจ การมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของ ชุมชนเชิงคุณธรรม (MEC) จ�ำนวน 32 และใหก้ ำ� ลังใจ
วิจยั เพ่ือพฒั นาท้องถ่นิ เกดิ จากการทำ� งาน ชุมชนเป็นปัจจัยท่ีส�ำคัญต่อการพัฒนา ศูนย์ และมีการขยายผลการด�ำเนินงาน อบรมใหค้ วามรู้ ศกึ ษาดงู านและ
ด้านงานวิจัยของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ท้องถ่ิน โครงการของภาครัฐมีมากมาย ของเครอื ขา่ ยการเรยี นรเู้ศรษฐกจิ เชงิ คณุ ธรรม เพมิ่ เติม
แลกเปลย่ี น
ประสบการณ์

ราชภัฎเชียงใหม่ มีเป้าหมายการวิจัยเพื่อ หลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นการ สู่จังหวัดที่ใกล้เคียง 4 จังหวัดภาคเหนือ
พัฒนาชุมชนท้องถ่ิน มีผู้วิจัยหลัก แก้ไขปัญหาท่ีไม่ตรงจุด เพราะแต่ละ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัด
ประกอบด้วย ผศ.วีระศักดิ์ สมยานะ โครงการจะเป็นไปในรูปแบบของนโยบาย พะเยา จังหวัดล�ำพูน และจังหวัดล�ำปาง ภาพแสดงการด�ำเนนิ งานโครงการสรรค์สรา้ งศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกิจชมุ ชนเชิงคณุ ธรรม
20 21

พัฒนายกระดับศูนย์การเรียนรู้เชิง โดยมีเป้าหมายเพ่ือพัฒนาและต่อยอด แผนหลักสูตรการถ่ายทอดคุณธรรมและ ได้เช่นกัน หากแต่จะต้องช่วยเหลือกัน พอเพียงและเป็นพ้ืนที่ส�ำหรับให้คนใน หัตถกรรมปั้นดิน ผู้เข้ามาศึกษาดูงานจะ
คุณธรรม หลักสูตรการถ่ายทอด การด�ำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้เชิง จริยธรรมผ่านศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรม พัฒนาชุมชนของตนเองให้มีความน่าอยู่ พื้นที่มีอาชีพท่ีย่ังยืนโดยไม่ต้องออกไปหา ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปั้นดิน วิธีการปั้น
คุณธรรมและจริยธรรมผ่านศูนย์ คณุ ธรรมตน้ แบบ จังหวัดเชยี งใหม่ ตน้ แบบ จังหวัดเชียงใหมไ่ ปสู่เด็กนกั เรยี น และเกดิ วถิ ชี ีวิตแห่งความสขุ ให้ได้ จนเกิด รายได้จากภายนอกชุมชน อีกทั้งยัง ซึ่งเป็นการสืบทอดภูมิปัญญา และในเชิง
การเรยี นรเู้ ชงิ คุณธรรมตน้ แบบ ในบทบาทของแหล่งเรียนรู้ในการ พร้อมกับการน�ำไปสู่การทดลองใช้ เป็นเครือข่ายความร่วมมือในชุมชนสู่ สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนทั้งใน เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจการค�ำนวณรายได้
ปี พ.ศ. 2556 คณะท�ำงานของ ประกอบอาชีพที่เคียงคู่คุณธรรมตามหลัก หลักสูตรในพื้นท่ีจริง ซึ่งจะทำ� ให้โรงเรียน ภายนอกชุมชน เกิดการพ่งึ พาอาศัยซึง่ กัน และนอกชุมชนอีกด้วย องค์ความรู้ที่ศูนย์ จากการปั้นตุ๊กตาขายเม่ือเปรียบเทียบกับ
กิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถ่ินได้ตระหนักเห็น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงร่วมกับ เหล่าน้ันเกิดแนวทางและกระบวนการใน และกันทั้งในเร่อื งของวตั ถแุ ละจิตใจ เรียนรู้เชิงคุณธรรมต้นแบบน�ำเสนอความ อาชีพอ่นื ๆ รวมทัง้ เวลาท่สี อนการป้ันก็จะ
ความส�ำคัญของการต่อยอดการด�ำเนิน เครือข่ายโรงเรียนในชุมชนของศูนย์การ การขับเคล่ือนการพัฒนาระดับความคิด ปัจจุบัน ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ รู้ให้กับผู้ที่มาศึกษาดูงาน มีความหลาก สอนเร่ืองคุณธรรม ความอดทน ความ
งานโครงการ การพัฒนาศักยภาพเพ่ือ เรียนรู้ฯ ทั้ง 4 แห่ง จ�ำนวน 4 โรงเรียน และคุณธรรมในจิตใจของเด็กนักเรียน ชุมชนเชิงคุณธรรม มีเครือข่ายในจังหวัด หลายตามบริบทของแต่ละพ้ืนที่ เช่น ซ่ือสัตย์ งานเก่ียวกับการปั้นท�ำให้มีสมาธิ
การบริหารจัดการศูนย์ฯ สู่ความย่ังยืน ไดแ้ ก่ (1) โรงเรียนวัดสามหลงั ตำ� บลบ้าน ด้วยวิถีการประกอบธุรกิจชุมชนเชิง เชียงใหม่ ทั้งสิ้น 32 ศูนย์ฯ ในเขตพ้ืนท่ี องคค์ วามรกู้ ารประกอบอาชพี องคค์ วามรู้ ถ้าท�ำด้วยใจรักจะท�ำให้ท�ำด้วยความสุข
ประจ�ำศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรม กลาง อำ� เภอสนั ป่าตอง จังหวดั เชยี งใหม่ คุณธรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ 16 อ�ำเภอ โดยได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านภูมิปัญญา และองค์ความรู้ด้าน และสรา้ งงาน สร้างอาชพี ได้
ต้นแบบ จังหวัดเชียงใหม่ จากปี พ.ศ. (2) โรงเรียนบ้านป่าตาล ต�ำบลสัน พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และแหล่งสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน เศรษฐกจิ ชมุ ชน ดังตวั อย่างตอ่ ไปนี้
2555 จึงได้จัดท�ำโครงการ “การพัฒนา ผักหวานอ�ำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ อันจะท�ำให้เด็กนักเรียนเติบโตเป็น และภายนอกชุมชน ของจังหวัดเชียงใหม่ • ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ
ศักยภาพเครือข่ายการบริหารจัดการ (3) โรงเรียนบ้านป่าแดง ตำ� บลบา้ นหลวง อนาคตของชาติอย่างมีความรู้ควบคู่กับ อีกท้ังยังพร้อมที่จะขยายเครือข่ายไปยัง • ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนเชิง ต�ำบลบ้านเป้า กลุ่มแม่โจ้บ้านดินเป็น
ศูนย์ฯ สู่ความย่ังยืนประจ�ำศูนย์การเรียน อ�ำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และ คุณธรรม Happy Work Place หน่ึงปัจจยั เขตพืน้ ท่ภี าคเหนือตอนบน ซึ่งจะเปน็ การ คุณธรรมบ้านกลาง เป็นกลุ่มท่ีพัฒนา กลุ่มที่ท�ำกิจกรรมเก่ียวการปลูกพืชผัก
รเู้ ชงิ คณุ ธรรมต้นแบบ จังหวดั เชียงใหม่ (4) โรงเรียนบ้านป่าจ้ีวังแดงวิทยา ต�ำบล ความส�ำเร็จของกจิ วจิ ยั เพ่อื พฒั นาท้องถ่นิ ขยายเครือข่ายธุรกิจชุมชนเชิงคุณธรรม ขึ้นมาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มี อินทรีย์ การท�ำธุรกิจชุมชนด้านแหล่ง
ปีท่ี 2 (The Potential Develop- อินทขิล อ�ำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมจึงเป็นแหล่ง ให้มีวงกว้างมากย่ิงข้ึน และในอนาคต ประสบการณ์ด้านการประกอบอาชีพ ท่องเท่ียวเชิงนิเวศ มีโฮมสเตย์บ้านดิน
ment to Manage the Network of the และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในพนื้ ทอี่ กี เรียนรู้ของธุรกิจชุมชนควบคู่กับคุณธรรม อาจจะไปสู่ระดับประเทศ การดำ� เนินงาน เชน่ การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ ผู้ทม่ี าศึกษาดู บริการนกั ทอ่ งเที่ยว เป็นกลมุ่ ทมี่ ีศักยภาพ
Best Practice of Chiang Mai Moral 1 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนต�ำบล โดยจะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่าง เหล่าน้ีจะน�ำมาซึ่งความคาดหวังสูงสุด งานจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแปรรูป ในการถ่ายทอดประสบการณ์และองค์
Study Center to be Sustainable: บ้านกลาง อ�ำเภอสันป่าตอง จังหวัด มหาศาล และสร้างค่านิยมให้คนใน ของคนไทย คือ “การพัฒนาเศรษฐกิจ กลว้ ยชนิดต่างๆ ลำ� ไยอบแหง้ การทำ� น้�ำ ความรู้เก่ียวกับการพ่ึงตนเองและการใช้
PDCA Moral project Phase 2: PDCA เชยี งใหม่ กับการบริการชุมชน โดยมีผล ชุมชนเกิดความตระหนักถึงคุณค่าของ และสังคมของท้องถ่ินยั่งยืน”บนพ้ืนฐาน ล�ำไย การท�ำข้าวแต๋น การท�ำข้าวเกรียบ ชีวิตพอเพียงจากการท�ำเกษตรอินทรีย์
Phase II)” ด้วยกระบวนการพัฒนา สัมฤทธ์ิของโครงการคือ ให้โรงเรียน ชุมชนพร้อมกับการส�ำนึกรักบ้านเกิด ของคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ธัญพืช ท่ีสามารถสร้างอาชีพให้กับคนใน และการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ท่ีเน้น
โครงการตามรูปแบบการพัฒนาแบบครบ ในเขตพ้ืนที่ของศูนย์การเรียนรู้ฯ สุดท้ายทุกคนก็จะรู้ว่า การท�ำงานอยู่ใน ชุมชนได้โดยใช้ส่ิงท่ีมีอยู่ในชุมชนมา เรื่องสภาพแวดล้อมดี ความเงียบสงบ
วงจร (Plan, Do, Check and Action) ในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถจัดท�ำร่าง ชุมชนนั้นเป็นสิ่งท่ีสามารถสร้างความสุข ความหมายของ “เศรษฐกจิ ชมุ ชนเชงิ แปรรูป สร้างผลิตภัณฑ์ ในกระบวนการ อาหารดีมีความปลอดภัย รวมท้ังสอน
คณุ ธรรม” หลกั ธรรมาภบิ าลในการ ผลิตและการขายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม เร่ืองคุณธรรม ความซื่อสัตย์ที่จะต้อง
บริหารจัดการ ความขยัน ซ่ือสัตย์ แทรกเรื่องของคุณธรรมด้านความรับผิด ปฏิบัติต่อลูกค้า ซ่ึงหากมีความซื่อสัตย์
โรงเรียน ประหยัด มีวินัยระหว่างสมาชิกใน ชอบ ความอดทน ภูมิปัญญาท้องถ่ินใน แล้วก็จะน�ำมาซ่ึงความเชื่อใจของลูกค้า
บา้ นวดั สามหลงั ชุมชน ความสุภาพ สามัคคีและมี การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และความซ่ือสัตย์ และรายไดข้ องกลุม่ เชน่ กนั

ศนู ย์การเรียนรู้ วนิ ยั ตอ่ สว่ นรวม เนื่องจากความซ่ือสัตย์เป็นคุณธรรม
เชิงคณุ ธรรม จากการประมวลภาพรวมของ ส�ำคัญที่ท�ำให้ลูกค้ามีความเช่ือมั่นกับ • ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ
ตำ� บลบา้ นกลาง ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมต้นแบบ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มซ่ึงจะส่งผลต่อรายได้ ต�ำบลบ้านหลวง ซ่ึงเป็นต้นแบบแหล่ง

จังหวัดเชียงใหม่ 4 แห่ง ประกอบด้วย ของกลุ่มทเี่ พ่มิ มากขน้ึ อกี ด้วย เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ต�ำบล
1) ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ บา้ นหลวง เปน็ กลมุ่ ทมี่ อี งคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั
ศูนยก์ ารเรยี นรู้ การถ่ายทอด ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ต�ำบลบ้านกลาง อ�ำเภอสันป่าตอง • ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำ การใช้ชีวิตท่ีเน้นเร่ืองความพอเพียงที่มี
เชงิ คณุ ธรรม คุณธรรม จริยธรรม เชิงคุณธรรม จังหวัดเชียงใหม่ 2) ศูนย์การเรียนรู้เชิง ต�ำบลสันผักหวาน ในอดีตชาวบ้านมี รูปธรรมค่อนข้างชัดเจน ผู้ท่ีมาศึกษาดู
ตำ� บลบ้านหลวง ตำ� บลสันผกั หวาน คุณธรรมประจ�ำต�ำบลสันผักหวาน การรวมกลุ่มศิลปกรรมดินเผาบ้าน งานจะไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งเศรษฐกจิ พอเพยี ง เชน่
ด้านธรุ กิจชมุ ชน อำ� เภอหางดง จงั หวดั เชยี งใหม่ 3) ศูนย์ ป่าตาล มภี ูมิปญั ญา องคค์ วามรู้ เกยี่ วกับ การเล้ียงหมูหลุม การเพาะเห็ดหอม
โรงเรียน โรงเรียน การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำต�ำบลบ้าน การปั้นอิฐมอญ ปั้นคนโท หม้อน้�ำ ซง่ึ เปน็ เศรษฐกิจชุมชนที่สามารถสร้างราย
บ้านป่าแดง ศูนยก์ ารเรียนรู้ บา้ นปา่ ตาล เป้า อ�ำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 4) กระปุกออมสิน แจกัน แต่ต่อมามีการ ได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างดี อีกทั้งยัง
เชิงคณุ ธรรม
ตำ� บลบ้านเปา้ ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมประจ�ำต�ำบล ปรับรูปแบบการผลิตให้ตรงกับความ สอดแทรกเรอื่ งของคุณธรรมความซื่อสัตย์

บา้ นหลวง อำ� เภอแมอ่ าย จงั หวดั เชยี งใหม่ ต้องการของตลาด จึงมีการปรับรูปแบบ และการรักษาคุณภาพของสินค้าเพื่อให้
พบว่าศนู ย์เรียนรู้เชงิ คณุ ธรรมทั้ง 4 แห่งนี้ การผลิตมาเป็นการปั้นตุ๊กตาดินรูปแบบ ลกู คา้ เกดิ ความเชอื่ มนั่ และเชอ่ื ถอื ในสนิ คา้
โรงเรยี น มีวัตถุประสงค์หลักคือการสืบทอด ต่างๆ ท�ำให้มีองค์ความรู้เก่ียวกับ
บา้ นปา่ จี้วังแดงวทิ ยา ภูมิปัญญาท้องถ่ินตามแนวทางเศรษฐกิจ หัตถกรรมโดยกลุ่มดินย้ิมหรือกลุ่ม
23
22

กจิ วจิ ัยเพ่อื พฒั นาทอ้ งถิ่นกับการพฒั นาศนู ยเ์ รยี นรเู้ ศรษฐกิจชมุ ชนเชงิ คุณธรรม

องค์ความรู้ • การแปรรปู ผลิตภณั ฑ์ เปา้ หมาย กระบวนการ ศูนยเ์ รียนรเู้ ชิงคุณธรรม
เศรษฐกิจชุมชน • การปั้นดนิ
• การทอ่ งเที่ยวเชิงนเิ วศเกษตรอินทรีย์ ศูนย์การเรียนรเู้ ศรษฐกจิ กจิ วิจัยเพือ่
ชุมชนเชงิ คุณธรรม พฒั นาทอ้ งถิ่น
คุณธรรม • ธรรมมาภบิ าลในการบริหารจัดการ บูรณาการ
จริยธรรม • ขยัน ซือ่ สัตย์ รับผดิ ชอบ มีวนิ ยั สามารถใชห้ ลกั ธรรมาภบิ าลในการ การวจิ ยั และพัฒนา การเรียนการสอนสนู่ กั เรยี น
สามัคคี ดแู ลธรุ กจิ ของชุมชน ยดึ หลักของ (R&D) ด้านคณุ ธรรมจริยธรรม

ความขยนั ซือ่ สัตย์ ประหยัด อบรมใหค้ วามรู้ พัฒนาหลกั สูตรการถ่ายทอด
และมวี นิ ัย ระหวา่ งสมาชกิ ในชมุ ชน จัดเวทแี ลกเปล่ยี น คณุ ธรรม จริยธรรมในโรงเรยี น
ความสุภาพ สามคั คี และมวี ินยั ต่อ
ส่วนรวม รวมถงึ ความกตญั ญตู ่อ เรียนรู้ พฒั นาระบบบริหารจัดการ
การศกึ ษาดงู าน
ผ้มู ีพระคณุ ในท้องถ่นิ จัดทำ� ฐานข้อมูล • จดั โครงสรา้ งและการบรหิ าร
ศนู ย์การเรยี นรู้ จัดการกลุ่ม
ปัจจัยที่ท�ำให้กิจวิจัยเพื่อพัฒนา โอกาสมาบริหารโครงการ ใช้ระบบการ งานด้านความรู้ความสามารถทาง • การจัดสรรผลประโยชน์
ทอ้ งถน่ิ สคู่ วามสำ� เรจ็ พฒั นาศกั ยภาพ บริหารจัดการให้เจ้าหน้าที่แต่ละโครงการ วิชาการและการประสานความร่วมมือกับ • การทำ� กจิ กรรมและการตลาด
ทมี งานและการเชอ่ื มรอ้ ยหนว่ ยงาน มีอ�ำนาจในการตัดสินใจและวางแผน ชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น จนเป็นท่ี
ประสานเครอื ขา่ ย จัดการโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน ยอมรับในพื้นทภี่ าคเหนอื พฒั นาระบบฐานข้อมลู
สถาบนั วจิ ยั และ พฒั นามหาวทิ ยาลยั และมีการประชุมร่วมกันเพ่ือรายงาน นอกจากน้ีการท�ำงานของกิจวิจัย
การประชาสัมพนั ธผ์ า่ น
“Website OKRD และ Mini site”

ราชภัฎเชียงใหม่ ก่อตั้งข้ึนตั้งแต่ปี พ.ศ. ความคืบหน้าประมาณเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อพัฒนาท้องถ่ิน มุ่งให้ความส�ำคัญกับ ตวั อยา่ งรปู ธรรม
2542 นับเป็นเวลายาวนานกว่าทศวรรษ หรอื ตามความเหมาะสม การเช่ือมร้อยหน่วยงานประสานเครือข่าย
มีการด�ำเนินงานโครงการต่างๆ จน โครงการต่างๆ ที่กิจวิจัยฯ ได้รับ เพ่ือให้เกิดการท�ำงานร่วมในระดับต่างๆ
กระทงั่ มกี ารตอ่ ตงั้ กจิ วจิ ยั เพอื่ พฒั นาทอ้ งถนิ่ ทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ อย่าง เป็นพลังในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้
ซ่ึงมีทีมงานท่ีมีศักยภาพ โดยยึดหลักใน ต่อเน่ืองเพราะหน่วยงานไว้วางใจ เช่ือม่ัน เศรษฐกิจชุมชนเชิงคุณธรรม ท้ังด้าน ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรมตน้ แบบ
การท�ำงานคือ การเปิดโอกาสให้คนรุ่น ผลการวิจัยหรือผลการด�ำเนินโครงการท่ี การวิจัยและพัฒนา การอบรมให้ความรู้
ใหม่ซึ่งเป็นนิสิตในมหาวิทยาลัยราชภัฎ ผ่านมาของกิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน การสนบั สนนุ งบประมาณหลายหนว่ ยงาน เชน่ 1 ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม กลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้าน บริโภค ข้าวสาร และท�ำพริกลาบกับดอง
เชียงใหม่ ที่มีความสนใจในงานวิจัยได้มี เชื่อมั่นใน ผศ.วรี ะศักด์ิ สมยานะ และทมี 1. สถาบันอุดมศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภฎั ประจำ� ตำ� บลบา้ นกลางอำ� เภอ สันกอเก็ต “นางศรีนวล มะโนปัญญา” กระเทยี มขาย แต่ท�ำได้ระยะหน่ึงตอ้ งเลิก
เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ มหาวทิ ยาลยั สนั ปา่ ตอง จงั หวดั เชยี งใหม ่   เป็นผู้จัดการศูนย์ฯ ท�ำหน้าที่ในการ ท�ำเพราะขาดทุน ในปี พ.ศ. 2542
พะเยามหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ มหาวทิ ยาลยั
พายัพ การก่อเกิด : ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ บริหารจัดการงานและควบคุมการดำ� เนิน คณะกรรมการและสมาชิกร่วมกันคิดว่า
2. หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ชุมชนเชิงคุณธรรมบ้านกลาง : เปิดใช้ งานของศูนย์ฯ พร้อมท้ังบูรณาการการ จะสามารถท�ำอะไรเองได้บ้างตามท่ีถนัด
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคท่ี 1 อยา่ งเปน็ ทางการเม่ือวันที่ 7 พฤศจกิ ายน ท�ำงานรว่ มกันกับชุมชนในรูปแบบตา่ งๆ จึงปรับเปล่ียนมาผลิตข้าวแต๋นเป็น
จังหวัดเชียงใหม่ ส�ำนักงานส่งเสริม พ.ศ.2552 มีคณะกรรมการทั้งหมด ผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่ม และเน่ืองจากใน
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จ�ำนวน 16 คนต้งั อยู่ทีก่ ล่มุ แปรรูปผลผลติ พัฒนาการ...ความก้าวหน้า : กลุ่มเริ่ม ชุมชนมีสวนล�ำไย กลุ่มจึงหันมาท�ำน�้ำ
(SMEs) สำ� นักงานเกษตรจังหวดั เชียงใหม่ ทางการเกษตรบ้านสันกอเกต็ เลขที่ 65/4 ก่อตั้งเม่ือปี พ.ศ. 2540 โดยเริ่มต้นจาก ล�ำไยและขายดีข้ึน ต่อมาปี พ.ศ. 2545
สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ส�ำนักงาน บ้านสันกอเก็ต หมู่ 10 ต�ำบลบ้านกลาง กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีเงินแรก กลุ่มเร่ิมมีตลาดท่ีมั่นคงมากขึ้น คนเร่ิม
เศรษฐกิจการเกษตร ส�ำนักงานพัฒนา อ�ำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์ เร่ิมประมาณ 5 พันบาท จากนั้น ติดใจในรสชาติของผลิตภัณฑ์ จึงมีการ
ชุมชน ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ติดต่อ 053-481052 มีค�ำขวัญ/ มาเปลี่ยนเป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ผลิตเพมิ่ ขน้ึ ปี พ.ศ. 2546 กล่มุ เรมิ่ ไดร้ บั
ส�ำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน หอการค้า สโลแกนประจ�ำศูนย์ฯ คือ “บ้านกลาง มีสมาชิกประมาณ 40 คน และมีการ การสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น
จงั หวัดเชยี งใหม่และจงั หวัดเชยี งราย ข้าวแต๋นน�้ำล�ำไย สมุนไพรธรรมชาติ” ออมทรัพย์ร่วมกันของสมาชิก ต้ังแต่น้ัน กรมส่งเสริมการเกษตร ช่วยให้ความรู้
และมีคุณธรรมประจำ� ศูนย์ฯ คือ “ชุมชน เปน็ ตน้ มา การทำ� กจิ กรรมของกลมุ่ ชว่ งแรก และสง่ เสรมิ การทำ� ลำ� ไยอบแหง้ สนบั สนนุ
เกื้อหนุน ส�ำนึกบุญคุณท้องถน่ิ ” ประธาน คือ ท�ำร้านค้าชุมชน ขายสินค้าอุปโภค การสร้างอาคารและอุปกรณ์ต่างๆ
24 25

ในการผลิต การศึกษานอกโรงเรียน คุยให้ความรู้ จัดเวทเี รือ่ งจะอย่อู ย่างไรให้ ซื่อสัตย์กับงานและคนท่ีเราทำ� งานด้วย มี ปู่ย่าตายาย ซ่ึงการท�ำเกษตรในแนวทาง ประมาณปลายปี พ.ศ. 2552- และอากาศที่ดีเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันชาว
(กศน.) สนับสนุนเร่ืองการอบรมให้ความ มีคุณธรรมและมีความพอเพียง ภายใต้ ความขยัน มีความอดทน และสิ่งท่ีกลุ่ม นั้นก็สามารถดำ� รงชีวิตอยู่ได้ แต่พอเม่ือมี เข้าสูป่ ี 2553 กลมุ่ วิสาหกจิ ของบา้ นแม่โจ้ บ้านก็เร่ิมมีการปรับเปล่ียนมาสู่วิถีเกษตร
รู้เรื่องการแปรรูป กรมส่งเสริมสหกรณ์ โครงการท่ีท�ำร่วมกับองค์การบริหารส่วน จะท�ำต่อไปในอนาคตคือ การพัฒนา การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปใช้เกษตรแบบ ได้รับคัดเลือกให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน อินทรีย์ ประมาณ 30 ครัวเรือนจากร้อย
สนับสนุนเรื่องการพัฒนามาตรฐานของ ต�ำบลและขอดูกิจกรรมต่างๆ ในหมู่บ้าน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน เคมีมากขึ้น เกิดปัญหาร่วมของชุมชนคือ เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมต้นแบบ จากน้ัน กว่าครัวเรือนในหมู่บ้าน ผลท่ีได้จากการ
ผลิตภัณฑ์ ส�ำนักงานพัฒนาชุมชน สันกอเก็ต จากน้ันมีการจัดเวทีพูดคุย พัฒนาระบบการตลาดให้ดีข้ึน และ ชาวบ้านเริ่มเป็นหนี้มากขึ้น จึงร่วมกัน กลมุ่ กห็ าจุดเด่นของตนเอง ร่วมกนั หาทนุ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต คือ สุขภาพท่ีดีขึ้น
สนับสนุนเรื่องการท�ำกิจกรรมในหมู่บ้าน เก่ียวกับการแลกเปลี่ยนแนวคิด ให้ พัฒนาทีมงานให้มีความรู้มากข้ึน ซึ่งจะ ทบทวนปัญหาและชักชวนกันมาปรับ ดา้ นต่างๆ ท่ีมอี ยู่ในชุมชน เช่น เรื่องการ เน่ืองจากเป็นผักปลอดสาร ประหยัด
พัฒนาบรรจุภัณฑ์ ส่งเสริมการท�ำ แนวคิดเร่ืองความพอเพียง เมื่อมีการท�ำ เนน้ เรอื่ งการพัฒนาคนเป็นหลกั ซึ่งกลมุ่ ก็ เปลี่ยนวิถีชีวิต ตั้งกลุ่มข้ึนมาแรกเร่ิมมี แกะสลัก การเพ่ิมพูนความรู้เร่ืองป่า สามารถปลูกพืชผักทุกอย่างที่กินได้และ
กิจกรรมของกลุ่ม การจดทะเบียนกลุ่ม กิจกรรม อีกทั้งบ้านสันก่อเก็ต หมู่ 10 พยายามจะช่วยเหลือตนเองให้มากท่ีสุด สมาชิก 12 คน มีการระดมหุ้น แต่ เร่ืองการจักสาน มีการสนับสนุนโดยการ กินในสิ่งตนเองปลูก แผนการประชา-
และส่งคัดสรรผลติ ภัณฑ์เปน็ สินคา้ OTOP ยังได้รับการคัดเลือกจากองค์การบริหาร ไม่รอหน่วยงานมาช่วย แต่หากหน่วยงาน สมาชิกหลายคนก็มองแต่ผลตอบแทนท่ี ให้ชาวบ้านไปอบรมเพ่ิมพูนความรู้เร่ือง สัมพันธ์กิจกรรมต่อไปหากมีผู้มาศึกษาดู
ครงั้ แรกได้ในมาตรฐานระดับ 3 ดาว และ ส่วนต�ำบล ให้เป็นหมู่บ้านท่ีมีความ ใดมีการสนับสนุนก็จะเขียนโครงการ จะได้รับ พอไม่ได้เงินก็ถอนหุ้นออก จาก ต่างๆ มีการพาชาวบ้านไปอบรมบ่อยๆ งานก็จะพาไปดูบ้านต้นแบบท่ีปรับเปล่ียน
กลุ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเรื่อยๆจน สามคั คี ภายหลงั จงึ ไดเ้ ขา้ รว่ มเปน็ เครอื ขา่ ย เข้าไปขอรับการสนับสนุนในการพัฒนา น้ันกิจกรรมของกลุ่มก็ล้มลุกมาเร่ือยๆ ชาวบ้านดีใจที่บ้านของตนเองจะได้เป็น วิถีชีวิต และแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้กับ
ได้เป็นสินค้า OTOP มาตรฐานระดับ ของ OKRD (กิจวิจัยฯ) ผลจากกิจกรรม ด้านต่างๆ แรงบันดาลใจส�ำคัญของกลุ่ม จนกระท่ังมาจดทะเบียนกลุ่มเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นต้นแบบที่มี แตล่ ะบา้ น นอกจากจะไดเ้ งนิ สว่ นแบง่ แลว้
4 ดาว ส�ำนักงานสาธารณสุขสนับสนุน พูดคุยในเวที ป้านวล แกนน�ำกลุ่ม ที่มีความส�ำเร็จในวันน้ี ปัจจัยแรกคือ วิสาหกิจชุมชน มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานเพ่ือเปิดตัวหมู่บ้าน และเริ่มมี ยงั ไดข้ ายผกั ไดพ้ ฒั นาตนเองเปน็ วทิ ยากร
เร่ืองการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เริ่มคิดว่ากิจกรรมที่ท�ำอยู่ซึ่งเป็นวิสาหกิจ ผศ.ดร.วีระศักดิ์ สมยานะ ซ่ึงเป็นคนท่ี การสอนมวยไทย การปลูกผักอินทรีย์ การฟื้นฟูด�ำเนินการกลุ่มแม่โจ้บ้านดิน เกิดอาชีพเสริม และหมู่บ้านเกิดภาพ
และมาตรฐานโรงเรือน องค์การบริหาร ชมุ ชนนั้นสามารถสรา้ งรายได้และมอี าชีพ สร้างแรงบันดาลใจและให้ก�ำลังใจกับ การท�ำโฮมสเตย์วันนี้กลุ่มยังเหลือสมาชิก แบบโฮมสเตย์ โดยเร่ิมที่บ้านของคุณ ลักษณ์ที่ดี มีการสนับสนุนจากหน่วยงาน
ส่วนต�ำบลสนับสนุนการสร้างอาคารเพื่อ โดยได้อยู่ที่บ้านแต่ตนเองจะสามารถ ป้านวลซึ่งเป็นแกนน�ำกลุ่ม ท�ำสิ่งดีๆ อยู่ประมาณ 10 คน จึงมีการปรับเปล่ียน ทองใบ เล็กนามณรงค์ โฮมสเตย์ของท่ีน่ี ภายนอก เช่น งบประมาณไทยเข้มแข็ง
การผลิต ให้งบอุดหนุนกลุ่มเป็นเงินปีละ สืบทอดไปสู่เด็กและเยาวชนได้อย่างไร รวมท้ังเป็นที่ปรึกษาในเวลาที่รู้สึกว่ามี ระเบียนการเป็นสมาชิกใหม่ โดยไม่มกี าร มี 2 รูปแบบให้นักท่องเท่ียวที่ต้องการ จัดสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้�ำของหมู่บ้าน มี
10,000 บาท เมื่อมีค�ำถามเช่นนี้ จึงมีการเร่ิมฟื้นฟู ปญั หาทีแ่ กไ้ ขไมไ่ ด้ ระดมหุ้นเป็นเงินเพื่อป้องกันการถอนเข้า ความสงบเลือกคือ รูปแบบบ้านดิน และ คลองชลประทานในสมเด็จพระเทพฯ
2ฉาบ การท�ำงานร่วมกันของสมาชิกจะมี สอนฟ้อนดาบ ท�ำสมุนไพรพ้ืนบ้าน และ ถอนออก แต่สมาชิกต้องมีการออมเงิน รูปแบบบ้านท่ีอยู่อาศัยตามวิถีชีวิตของ พระราชทาน มีอ่างเก็บน้�ำในหมู่บ้าน สิ่ง
ณ วันนี้ ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผลิต ภูมิปัญญาท่ีมีในชุมชนให้เกิดการ ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม และมีการน�ำเงินออมไปใช้ประโยชน์ ชาวบา้ น ต่างๆ ล้วนมาจากผลของการได้รับคัด
เพื่อจ�ำหน่าย ได้แก่ ข้าวเกรียบธัญพืช ถา่ ยทอดสเู่ ยาวชน โดยตงั้ กลมุ่ กจิ กรรมวา่ “
ข้าวแต๋นกล้วยทอดกรอบรสต่างๆ กล้วย กลุ่มยายสอนหลาน ”สอนท�ำกิจกรรม ประจำ� ตำ� บลบา้ นเปา้ อำ� เภอ น�ำผลก�ำไรมาแบ่งกัน เช่น เรื่องการรับ เลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบ ความภาค
แมแ่ ตง จังหวัดเชยี งใหม่ ลูกค้าโฮมสเตย์ จากบ้านของแต่ละคน ปัญหาอุปสรรค : สิ่งท่ีสมาชิกส่วนใหญ่ ภูมิใจของกลุ่มคือ แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ
การตั้งกติการ่วมกันไว้ในกลุ่ม คือ จะ การพูดภาษาพ้ืนเมือง โดยใช้ปราชญ์ชาว กา้ วแรกของศนู ยเ์ รยี นรู้ : ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ และการมาชว่ ยงานในศนู ยฯ์ หากมลี ูกค้า มองวา่ เปน็ ปญั หาใหญข่ องกลมุ่ คอื ความ ท่ีรวมตัวกัน แต่สามารถท�ำให้เกิดหลาย
ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ขยัน ไม่เอาเปรียบซ่ึง บ้านสอน เยาวชนในชุมชนจะเลือกเรียน เชิงคุณธรรมประจำ� ต�ำบลบา้ นเปา้ อ�ำเภอ มาพัก เช่น การบริการเคร่ืองเสียง หรือ ไม่เข้าใจระบบการบริหารจัดการของกลุ่ม ส่ิงหลายอย่างในทางท่ีพัฒนาขึ้นในชุมชน
กันและกัน ประหยัด อดทน กตัญญู กจิ รรมทตี่ วั เองสนใจ ปจั จบุ ัน มคี นสนใจ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดอย่างเป็น การทำ� อาหาร การแบ่งปนั ผลกำ� ไร ซ่ึงบางครงั้ ไม่ไดอ้ อก “กลมุ่ โฮมสเตย์แม่โจบ้ า้ นดิน”
การตัดสินว่าใครมีคุณธรรมเร่ืองใด เพ่ิมขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็มีเด็กจากต่าง ทางการ เม่ือวันท่ี 10 พฤศจิกายน พ.ศ. ปี พ.ศ. 2551-2552 กลุม่ เสนอชื่อ มาในรูปแบบของเงิน อีกท้ังความไม่
สามารถดูได้ท่ีพฤติกรรมของสมาชิกใน อ�ำเภอมาเรียนรู้ในกลุ่มบ่อยๆ โดยใช้ 2552 โดยมีคุณทองใบ เล็กนามณรงค์  หมู่บ้านแม่โจ้ เข้าร่วมกิจกรรมที่ท�ำเรื่อง เข้าใจแนวคิดของกลุ่มในการด�ำเนินงาน ก้าวเข้ามาในวิถีของกลุ่ม : กิจวิจัยเพื่อ
กลุ่ม เช่น มีอะไรก็แบ่งปันกันกิน การไป เวลาศึกษาดูงานประมาณ 1 วัน มีการ เป็นผู้จัดการศูนย์ฯ ก่อนที่จะพัฒนาเป็น วิสาหกิจชุมชนกับโครงการขององค์การ เร่ืองวิถีเกษตรอินทรีย์ การท�ำโฮมสเตย์ พฒั นาทอ้ งถนิ่ โดย ผศ.ดร.วรี ะศกั ดิ์ สมยานะ
โรงทานด้วยกัน เสียสละเวลา งาน สอดแทรกเรื่องคุณธรรมในการสอนเด็กๆ ศูนย์การเรียนรู้แม่โจ้บ้านดิน กลุ่มมีการ บริหารส่วนต�ำบล (อบต.) ซ่ึงมี ผศ.ดร. เน่ืองจากยังไม่เห็นความจ�ำเป็นที่จะต้อง เป็นผู้ที่ท�ำให้กลุ่มและคุณทองใบเล็ก
เทศกาลปีใหม่ก็จะซื้อของไปเยี่ยมเยียน ทม่ี าดงู านเชิงปฏิบัติการทก่ี ล่มุ เช่น เวลา ทำ� กิจกรรมตา่ งๆ เช่น กลุ่มแม่บ้าน กลุม่ วีระศกั ดิ์ สมยานะ เป็นผดู้ �ำเนนิ โครงการ ปรับเปล่ียนวิถีชีวิตไปเป็นแบบด้ังเดิม รามณรงค์ มีความเชื่อม่ัน และมีแรง
คนท่ีเคารพนับถือ เป็นต้น ปี พ.ศ. 2553 ท่ีจะสอนเด็กในแต่ละขั้นตอนก็จะสอด ออมทรัพย์ กลมุ่ จักสาน แรกเร่ิมมีการตงั้ แต่โครงการเกิดความไม่ต่อเน่ืองเพราะ ปัจจุบันคนในชุมชนก็ยังไม่ม่ันใจเร่ืองการ บันดาลใจการท�ำงานอย่างต่อเน่ือง แม้
เริ่มจดทะเบียนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการ แทรกเร่ืองคุณธรรมให้เกิดความเข้าใจ กลุ่มรวบรวมสมาชิกได้ 12 คน มีการ นายก อบต. คนเกา่ หมดวาระ แต่กลุม่ ยัง ท�ำบ้านดินหรือการท�ำโฮมสเตย์ คนใน เวลาท่ีมีปัญหาท้อถอย ผศ.ดร.วีระศักด์ิ
ผลิตเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูป หากท�ำขา้ วแตน๋ ต้องใช้ความขยนั ความ ปรึกษาหารือกันว่าควรจะพัฒนาชุมชน คงตดิ ตอ่ ประสานขอคำ� ปรกึ ษาจากอาจารย์ ชุมชนก็ยังใช้เงินเป็นท่ีต้ังส�ำหรับการ สมยานะ และทีมงานของกิจวิจัยฯ ก็ยัง
ผลผลิตทางเกษตรบ้านสันกอเก็ต อดทน ต้องซ่ือสัตย์กับลูกค้า ไม่เอาส่ิง ของตนเองอย่างไร และได้ข้อสรุปร่วมกัน อย่างต่อเนื่อง ต่อมา ต้นปี พ.ศ. 2552 ประสานงานกับท้องถิ่นก็ยังเป็นอุปสรรค เป็นที่ปรึกษา ให้ก�ำลังใจกับกลุ่มและคุณ
ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่ม 124 คน มีการ ปลอมปนอะไรมาใส่ หรือหลังจากหัดท�ำ ว่าควรท�ำเรื่องเกษตรอินทรีย์ ปลูกผัก กิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน มีการด�ำเนิน เนื่องจาก นายกอบต.คนปัจจุบันไม่ ทองใบตลอดมา ส่ิงที่กิจวิจัยเพื่อพัฒนา
ประชาสัมพันธ์กลุ่มผ่านทางอินเตอร์เน็ต ขนมแล้ว ก็จะให้เด็กน�ำขนมไปให้ ปลอดสาร เพราะมีความเหมาะสมกับวิถี โครงการสร้างศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ สนบั สนุนกจิ กรรมของกล่มุ มากนกั ทอ้ งถนิ่ มองเหน็ ศกั ยภาพ คอื เปน็ กลมุ่ เลก็ ๆ
โดยหนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้องตา่ งๆ ทำ� ใหย้ อด ผู้ปกครอง และสอนว่าการท่ีเด็กน�ำไป ชีวิตเดิมท่ีเคยท�ำการเกษตร นอกจากน้ี ชุมชนเชิงคุณธรรม บ้านแม่โจ้จึงเข้าร่วม ทีม่ คี วามเขม้ แขง็ สามารถรวมตวั กนั ผลัก
ขายของกลมุ่ เพม่ิ ขน้ึ ทกุ ปี ของไปให้ผู้ปกครองน้ันเป็นการแสดง ในบริเวณบ้านแม่โจ้มีต้นแบบบ้านดิน และได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบ โอกาสส�ำคัญ : โอกาสดีของบ้านแม่โจ้ ดันเร่ืองโฮมสเตย์ให้เกิดขึ้นท้ังหมู่บ้านได้
ความรกั ความกตญั ญู กตเวที ของคณุ โจน จนั ได ทมี่ าใชช้ วี ติ แบบพอเพยี ง จนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ให้ บ้านดิน คือ คนภายนอกส่วนใหญ่รู้จัก จึงพัฒนาแนวคิดเรื่องคุณธรรมในการท�ำ
เข้าสู่เส้นทางศูนย์การเรียนรู้ : เม่ือปี ที่บ้าน เป้าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และกลุ่ม เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศและมี บ้านดินของคุณโจน จันได จึงติดต่อเข้า วิสาหกิจชุมชน (โฮมสเตย์) ให้มีความรับ
2550 ผศ.ดร.วีระศักดิ์ สมยานะ (กิจวิจัย ความส�ำเร็จในมุมมองของตัวเอง : ใน ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคุณโจนและน�ำมา ความหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนงบ มาพักและได้รู้จักกับบ้านแม่โจ้ แต่ใน ผิดชอบ มีความซ่ือสัตย์ ความสามัคคี
เพ่ือพัฒนาท้องถิ่น) ได้พานักศึกษามาดู ด้านของเศรษฐกิจคือ ยอดขายท่ีเพ่ิมข้ึน ปรับใช้ เช่น การท่องเท่ียวเชิงนิเวศหรือ ประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง อนาคตถ้าบ้านแม่โจ้มีการปรับเปล่ียนเป็น ความมีน้�ำใจ ความขยัน ความประหยัด
งานและได้มารู้จักกลุ่มเป็นครั้งแรก ทุกปี รวมทั้งการปลูกฝังคุณธรรมให้กับ การท�ำโฮมสเตย์ จ�ำนวน 2 ล้านบาท แต่การทำ� กิจกรรมมี วิถีเกษตรอินทรีย์ มีอากาศดี อาหารดี และอดทนระหว่างกันในชุมชน ต่อมา
ซึ่งหมู่บ้านบ้านสันกอเก็ต เป็นหมู่บ้านท่ี เด็กในการประกอบอาชพี โดยสอนให้รวู้ า่ ช่วงแรกสมาชิกร่วมกันท�ำเกษตร การหยุดชะงักลงเนื่องจากไม่ได้รับงบ จะสามารถสร้างเป็นจุดแข็งให้กับบ้านแม่ ปลายปี พ.ศ. 2554 กิจวิจัยเพ่ือพัฒนา
ได้รับรางวัลความพอเพียง จึงมีการพูด ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ตามต้อง อินทรีย์ เน่ืองจากเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมสมัย ประมาณ ชาวบา้ นเรม่ิ ทอ้ และหมดกำ� ลงั ใจ โจ้ได้ เนื่องจากคนเมืองต้องการอาหาร ท้องถิ่น เข้ามาชักชวนเข้าร่วมโครงการ
26 27

ของวิสาหกิจชุมชน โดยให้เลือกแนวทาง แลกเปลี่ยนกันระหว่างความรู้เชิงวิชาการ เงินเดือนก็เหมือนเป็นทาสของคนอ่ืน 3 ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม มาขอพันธุ์หมูไปเลี้ยง ส�ำหรับการเล้ียง โพธิ์งาม อบต.พยายามจะสนับสนุนให้มี
การพัฒนาว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือ และความรู้ด้านภูมิปัญญาของคนใน เพราะนายจ้างมกั จะเห็นลกู จ้างไม่สู้ ไม่มี ประจำ� ตำ� บลบา้ นหลวงอำ� เภอ หมูหลุม ในหมูบ่ ้านหากมคี นตอ้ งการเปน็ หมบู่ า้ นละ 1 กลมุ่ ตามบรบิ ทของหมบู่ า้ น
เป็นศูนย์เรียนรู้ กลุ่มตกลงเลือกเป็นศูนย์ ชมุ ชน ทางไป เขาก็จะกดคนท�ำงานอย่างเดียว แมอ่ ายจงั หวดั เชยี งใหม่ สมาชกิ ตอ้ งมาเขา้ เงอื่ นไขการออม ขายหมไู ป จุดเด่นของบ้านป่าก๊อคือ มีความสามัคคี
เรียนรู้ของชุมชน โดยเปิดพ้ืนที่ของกลุ่ม จึงคิดว่ากลับมาอยู่ที่บ้านมาพัฒนาบ้าน ก้าวแรกของศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ แล้วต้องซ้ือหมูมาเล้ียงอีก หากไม่มีการ เป็นอันหนึ่งเดียวกัน ส่ิงที่ยังต้องพัฒนา
เป็นโรงเรียนรองรับชุมชนและเด็กๆ จุดเด่น....เห็นได้ชัด : ทางกลุ่ม เห็นว่า เราดีกว่า ถึงการก้าวย่างน้ันจะช้า แต่สัก 2 แห่ง แห่งบ้านหลวงแม่อาย : เปิดใช้ ฝากแต่กต็ อ้ งมกี ารออมอยา่ งน้อยเดอื นละ ต่อคือ การพัฒนาศักยภาพคน เพิ่มพูน
มาเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ จุดเด่นที่บ่งบอกตัวตนของชุมชนคือ วันหน่ึงมันก็ต้องมีอะไรที่ดีข้ึน และดีกว่า อย่างเป็นทางการเม่ือวันท่ี 11 ตุลาคม 100 บาท เป็นกองทุนหมหู ลุม ผ้เู ลยี้ งหมู ความรู้และประสบการณ์ ให้สามารถเป็น
เป้าหมายที่แท้จริงคือ ต้องการให้คนใน บ้านดิน ส�ำหรบั เกษตรอนิ ทรีย์กค็ งต้องรอ ที่จะไม่มีการเร่ิมต้น ลองเส้นทางใหม่ดี พ.ศ.2552 มคี ณะกรรมการทง้ั หมด 27 คน หลุมจะต้องมีเงินฝาก ต้องมาดูวิธีการทำ� วิทยากรในชุมชนได้
พื้นที่รู้จักตัวตนของตนเอง รู้จักถ่ินฐาน เวลาการขยายผลระยะหน่ึงก่อนเพราะยัง กว่าที่จะเดินบนทางสายเดิม ซึ่งมองเห็น เป็นตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำ� บล คอกหมู ท�ำอาหารหมู ท�ำอย่างไรไม่ให้
ของตัวเอง มุ่งเป้าถ่ายทอดความรู้ไปยัง ไม่เป็นเกษตรอินทรีย์เต็มพื้นท่ี แต่ก�ำลัง ทุนเดิมท่ีมีอยู่ในชุมชนคือโฮมสเตย์ บ้านหลวง ตัวแทนจากอ�ำเภอแม่อาย คอกหมูมีกล่ิน และอีกหน่ึงอาชีพคือการ ภาคที ่ีดี...ทีช่ ว่ ยเสริมหนนุ : หนว่ ยงานท่ี
โรงเรียนในพ้ืนที่เพ่ือให้เด็กมาสืบทอด ปรับเปล่ียนให้จุดเด่นเร่ืองบ้านดินลดลง และคิดว่าน่าจะน�ำความรู้ที่มีมาประยุกต์ กลุ่มคนในชุมชนบ้านป่าก๊อ (หมู่บ้าน เก็บใบตองตึงมาท�ำหลังคาเพ่ือขายให้ เข้ามาสนับสนุนศูนย์ฯ ที่ชัดเจนคือ
ภูมิปัญญา โดยใช้ศูนย์เรียนรู้บ้านดินเป็น เน้นเร่ืองเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาพมาก ใชแ้ ละพฒั นาตอ่ ยอดไปได้ ถงึ แม้วา่ ยงั จะ เศรษฐกิจพอเพียง) และกลุ่มเพาะ คนในชุมชน เป็นกิจกรรมท่ีสร้างรายได้ องค์การบริหารส่วนต�ำบลบ้านหลวง
พื้นที่เรียนรู้ผลที่เกิดขึ้นจากการทดลอง ข้ึน โดยอาจจะท�ำงานเป็นเครือข่ายกับ ไม่เห็นค�ำตอบที่ชัดเจน อย่างน้อยสิ่งที่ท�ำ เห็ดหอมของต�ำบลบ้านหลวง (หมู่บ้าน อีกทางของคนในชมุ ชน ในการสนับสนุนโรงเรือนสีข้าว ซื้อเครื่อง
ฝึกปฏิบัติกับเด็กในชุมชน คือ เด็กมี ศีรษะอโศก สร้างหลักสูตรการล้างพิษ กท็ �ำให้ตวั เองมคี วามสุข ทั้งยังมคี วามเชื่อ เห็ดหอม) ผลิตภัณฑ์ของศูนย์ฯ คือ สีข้าว เป็นพ่ีเล้ียงที่ช่วยดูแลกลุ่ม
ความสนใจท่ีจะมาท�ำกิจกรรมและมี เช่นเดียวกับศีรษะอโศก รับลูกค้าที่ ท่ีว่าทุกอย่างจะดีข้ึน ตอนน้ีมีการเริ่มต้น ผลผลิตทางการเกษตร รจู้ กั กนั กับกจิ วิจยั ฯ : เนื่องจากศูนย์การ สนับสนุนเรื่องการพาไปศึกษาที่ต่างๆ
ความสุขที่ได้ร่วมกันท�ำกิจกรรม แต่ก็มี ต้องการดูแลสุขภาพโดยเช่ือมโยงกันเป็น กิจกรรมวัยโจ๋ แม่โจ้บ้านดิน โดยชวน เรยี นรู้ถกู คดั เลือกใหไ้ ด้รับรางวลั ด้านศนู ย์ เช่น แม่แตง ห้วยฮ่องไคร้ และมีพัฒนา
ปัญหาเรอ่ื งเงนิ งบประมาณ คา่ อาหาร ค่า เครือข่าย เพราะธุรกิจกับชุมชนต้องเดิน เดก็ ๆ ในหมบู่ า้ นมาทำ� กจิ กรรมอนรุ กั ษป์ า่ 1. บ้านป่าก๊อ เดิมก่อนท่ีจะพัฒนาเป็น การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในจังหวัด ชุมชนอ�ำเภอแม่อายเป็นหน่วยงานที่พา
เดินทางของเด็กๆ ที่มาร่วมกิจกรรม ไปด้วยกัน ความมุ่งมั่นและความต้ังใจ ท�ำกิจกรรมบ�ำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ศูนย์การเรียนรู้ พ้ืนท่ีตรงน้ีเปิดเป็นโรง เชียงใหม่ ประมาณปี 2551 ตอนนั้นมี คนในพ้ืนท่ีอื่นๆ มาศึกษาดูงานเร่ือง
เนื่องจากเป็นกลุ่มเด็กทั่วไปในชุมชน เป็นจุดเด่นของผู้น�ำในกลุ่ม คือ คุณ กิจกรรมผ้าป่าด้วยฝ่าเท้า ท�ำโรงไฟฟ้า สขี า้ วมากอ่ น ในปี พ.ศ. 2549 ได้รบั การ ศูนย์การเรียนรู้ได้รับรางวัลท้ังหมด 32 เศรษฐกิจพอเพียงของบ้านป่าก๊อ
ไม่มีหน่วยงานหรอื โรงเรยี นสนับสนุน ทองใบ เป็นคนท่ีจริงจังในการสร้างและ ให้หมบู่ ้าน ฟื้นฟฝู ายชะลอนำ�้ สนับสนุนจาก อบต.เป็นงบประมาณใน ศูนย์ หลังจากท่ีได้รับรางวัลก็เร่ิมการ พฒั นากรจากอำ� เภอเชยี งดาว อำ� เภอแมแ่ ตง
พัฒนาอาชีพในชุมชน จุดเด่นอีกด้านคือ โครงการ SML เพอ่ื ซอ้ื เครอื่ งสขี า้ ว ดำ� เนนิ - พัฒนา/ปรับปรุงศูนย์การเรียนรู้ ให้มี อ�ำเภอแม่ริม ส�ำนักงานพัฒนาสังคมฯ
หนว่ ยงานภาคีทีม่ าช่วยเสรมิ แรง : กลมุ่ เป็นหมู่บ้านที่สะอาด ปลอดภัย มีน้�ำใจ คณุ ทองใบ เลก็ รามณรงค์ : ความในใจ การในกิจการโรงสีข้าวมาเร่ือยๆ จนถึง กิจกรรมที่หลากหลายและสอดคล้องกับ จังหวัดก็พาเครือข่ายอ่ืนๆ มาดูงาน
แม่โจ้บ้านดินได้รับการสนับสนุนจาก และมีความสามัคคี และจุดเด่นด้าน ที่อยากบอกกับหน่วยงานภายนอกคือ ปัจจุบัน กลุ่มมีรายได้จากแกลบกับร�ำ วิถีชีวิตในชุมชน และมีคนเริ่มเข้ามาดู ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ฯ
หลายๆ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น อาหาร คือ เม่ยี งบ้านดิน น้ำ� สลัดบา้ นดนิ หากมีหน่วยงานมาสนับสนนุ เรา อยากให้ ใช้ร�ำ เพ่ือเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ ในการบริหาร งานมากขน้ึ เนอื่ งจากมกี ารประชาสมั พนั ธ์ (ธกส.) และหน่วยงานภาคีที่ส�ำคัญคือ
ส�ำนักงานพัฒนาชุมชนให้การสนับสนุน ที่เป็นอาหารเด่นของบ้านดินที่คนมาพัก มาเดินเป็นเพื่อนเราก่อนแล้วค่อยทิ้งเรา จัดการโรงสีข้าวนั้น ใช้ระบบการประมูล ข้อมูลในเว็บไซต์ของ OKRD ท�ำให้ สสส. เน่ืองจากบ้านป่าก๊อได้รับคัดเลือก
ผ่านโครงการไทยเข้มแข็งในการเป็น บอกตอ่ กนั แบบปากตอ่ ปาก ถงึ ความอรอ่ ย ไป ช่วยประคับประคองเราไปก่อนสักพัก ก�ำไรส่วนหน่ึงแบ่งเข้าเป็นรายได้ของ เริ่มมีหน่วยงานจากพื้นท่ีในภาคอื่นๆ จากอ�ำเภอแม่อาย สนับสนุนงบประมาณ
หมู่บ้านต้นแบบ กระทรวงเกษตรและ และเป็นอาหารเพ่ือสุขภาพ อีกทั้งยังมีคน หนึ่งก่อน เช่น เร่ืองการท�ำกิจกรรมของ หมู่บ้าน มีการขยายกิจกรรมเพิ่มข้ึนใน มาดงู าน เช่น กศน.นนทบุรี หน่วยงาน ในการพัฒนากลุ่ม เน้นการอบรมให้
สหกรณ์สนับสนุนเรื่องการจดทะเบียน มาเรียนรู้การทำ� เม่ยี งบ้านดนิ อกี ดว้ ย เยาวชน หน่วยงานต่างๆ จะมาน�ำพาพ่ี แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่การ ของทหาร ความรู้ โดยมเี กษตรอำ� เภอใหค้ วามรดู้ า้ น
เป็นวิสาหกิจชุมชน บริษัทไทยออยล์และ เ ดิ น ไ ป กั บ ก ลุ ่ ม เ ย า ว ช น ไ ด ้ อ ย ่ า ง ไ ร เล้ยี งหมหู ลุม เล้ยี งเปด็ เลยี้ งปลา ปลกู การเกษตร และปศุสัตว์มาช่วยเร่ืองการ
กระทรวงพลังงานสนับสนุนการสร้างโรง ความภาคภูมิใจ : แม่โจ้บ้านดิน เป็นชื่อ ท�ำอย่างไรจะมัดรอยต่อให้แน่น ความ ผัก ทำ� ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ และพฒั นาให้สามารถ ครูโรงเรียนบ้านป่าแดง : เร่ืองคุณธรรม เลยี้ งหมู เล้ยี งโค
ไฟฟ้าพลังน้�ำในชุมชนผลิตกระแสไฟฟ้า เรียกท่ีติดปากและเป็นที่รู้จักมากข้ึน คน ม่ันคงของรุ่นต่อรุ่นท่ีจะท�ำกิจกรรมอย่าง เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบให้พ้ืนท่ีอ่ืนๆ จริยธรรม เด็กจะเรียนรู้จากกิจกรรมที่ทำ�
ขายให้กับการไฟฟ้า โรงพยาบาลส่งเสริม บ้านแม่โจ้ไปอยู่ที่ไหนก็บอกใครๆ ได้ว่า ตอ่ เนื่อง ไม่จำ� เปน็ ทต่ี อ้ งมาใหเ้ งิน อาจจะ มาดงู านได้ ภายในศนู ยฯ์ มคี ณะกรรมการ อยใู่ นชวี ติ ประจำ� วนั เชน่ เรอื่ งความรบั ผดิ - การบริหารจัดการกลุ่ม การด�ำเนินงาน
สุขภาพต�ำบลโดยการเจาะเลือดตรวจสาร อยู่ที่บ้านแม่โจ้ และที่บ้านแม่โจ้มีบ้านดิน มาช่วยเป็นพ่ีเลี้ยง เช่น มาท�ำงานวิจัยที่ ดแู ล ในสว่ นของหมบู่ า้ นกจ็ ะมกี ารบริหาร ชอบในการปลูกผักสวนครัว และบูรณา- ของศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยี งนี้ มกี าร
ตกค้าง กิจวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น ท่ีเป็นโฮมสเตย์เพื่อให้ผู้ท่ีต้องการความ ชมุ ชนของเรา กไ็ ด้ จัดการการเงินของตนเอง คือ สถาบัน การรายวชิ าอนื่ ๆ ด้วยเม่อื เด็กได้มาดงู าน ด�ำเนินการท่ีมีโครงสร้างชัดเจนตาม
เป็นเครือข่ายท�ำโครงการศูนย์การเรียนรู้ เงียบสงบและวิถีชีวิตแบบพอเพียงมา การเงินชุมชน ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ แต่การศึกษาจะเน้นเรื่องของแนวทางการ โครงสร้างคณะกรรมการหมู่บ้าน และมี
เศรษฐกจิ ชมุ ชนเชงิ คณุ ธรรม มหาวทิ ยาลยั เรียนรู้วิถีชีวิต เด็กในชุมชนเกิดจิตส�ำนึก ชมุ ชนเชงิ คณุ ธรรมประจ�ำตำ� บลบา้ นหลวง ดำ� เนินชวี ิตดา้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ความเก่ียวข้องกับการบริหารจัดการ
ราชมงคลล้านนาช่วยท�ำป้ายบอกทางเข้า รักบา้ นเกดิ ถิน่ เกดิ ของตนเอง อีกทง้ั ยังมี อ�ำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ทุกรูป กจิ กรรมตา่ งๆ ของหมบู่ า้ น คณะกรรมการ
มายังกลุ่ม มหาวิทยาลัยราชภัฎพายัพ หมู่บ้านอื่นในต�ำบลเร่ิมท�ำบ้านดินเช่น แบบ ในส่วนของคุณธรรมคือการสอด ตัวแทนองค์การบริหารส่วนต�ำบล ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน
และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้น�ำความรู้ต่างๆ เดียวกัน รวมทั้งมีการปลูกผักแบบเกษตร แทรกเรื่องคุณธรรมให้กับเด็กๆ เวลามี บ้านหลวง : การสนับสนนุ ชาวบา้ น นั้น กรรมการ เลขาฯ เหรญั ญกิ การบรหิ าร
มาแลกเปล่ียนกันเพื่อประโยชน์ในการ อินทรยี ์ แตย่ ังไม่ได้มาเป็นเครอื ข่ายกนั เด็กมาศึกษาดูงาน ให้ความรู้เร่ืองความ จะต้องมีความเห็นจากชาวบ้านเป็นหลัก จัดการคนแบ่งหน้าที่กันตามความถนัด
พัฒนาท้องถ่ิน และพัฒนากิจกรรมของ พอเพยี ง สรา้ งแรงจงู ใจโดยแสดงรายได้ท่ี สิ่งที่เป็นจุดเด่นของกลุ่มนี้คือ มีความ สำ� หรับเร่ืองการเงิน เมอ่ื มีการท�ำกิจกรรม
ศูนย์ ได้แก่ เทคนิคการปั้นดิน เทคนิค เยาวชนในชมุ ชน : เยาวชนในชมุ ชนบางคน มาจากการประกอบอาชีพตามแนวทาง พยายามท่ีจะท�ำงานให้เป็นรูปเป็นร่าง ต่างๆ ในกลุ่ม หากมีก�ำไรก็จะแบ่งส่วน
การสร้างฐานรากของบ้านดิน การ เคยท�ำงานนอกชุมชน แต่เม่ือมองเห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียง เช่น การขายลูกหมู มีความตั้งใจจริง อยากทำ� โรงสี อยากท�ำ หนึ่งเข้าไปสู่เงินกองกลางของหมู่บ้าน
ออกแบบลายบนเส้ือสกรีนมาเรียนรู้เรื่อง ชุมชนของตนเองสามารถพัฒนาได้เพราะ เม่ือเด็กค�ำนวณรายได้ก็จะกลับไปเล่าให้ วิสาหกิจชุมชนที่ก่อประโยชน์ให้กับคนใน เพ่ือใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้านโดย
การย้อมผ้าจากสีธรรมชาติจากชาวบ้าน มีศักยภาพที่ดี จึงตัดสินใจลาออกจาก พอ่ แม่ ผู้ปกครองฟงั บางครอบครวั พาพ่อ หมู่บ้าน กลุ่มที่ อบต.สนับสนุนอยู่ก็จะมี ไม่ต้องให้ชาวบ้านมาเดือดร้อนในการ
ในส่วนของสถาบันการศึกษาน้ันเป็นการ งาน เนื่องจากการท�ำงานเป็นมนุษย์ แม่มาดูงานที่กลุ่มอีกคร้ัง มาดูเร่ืองหมู กลุม่ เหด็ หอม และกล่มุ ปา่ ชุมชนบา้ นใหม่ บริจาคเงินอีกคร้ัง เช่น กลุ่มเล้ียงห2ม9ู
28

สมาชกิ ทไ่ี ดร้ บั พนั ธห์ุ มไู ปเลยี้ งเมอ่ื ไดล้ กู แลว้ แผนต่อไปในการสร้างความเข้มแข็ง จะมเี ห็ดส่งมาขายไม่มาก และส่วนใหญม่ ี กลุม่ กไ็ ด้รับประโยชน์ ไดร้ บั การพฒั นาตวั เมื่อมีคนมาศึกษาดูงานท่ีกลุ่ม ก็จะได้รับ มาประยุกต์ใช้และประกอบอาชีพสร้าง
ขายลูกหมูไปแล้วต้องใช้ทุนหมุนเวียนเอา ชุมชน คนรุ่นแรกในชุมชนที่เป็นแกนน�ำ การประกอบอาชีพหลักอยู่แล้ว ท�ำให้ เอง เป็นทรี่ ู้จักมากข้ึน ค่าวิทยากรและได้ขายสินค้า การดูแล รายได้เล้ียงตนเอง และพัฒนามาเป็น
ไปซ้ือหมูมาเล้ียงอีกคร้ังและหมุนเวียน ในการด�ำเนินการอยู่น้ัน มีความต้องการ สินค้ายังไม่พอกับความต้องการของ สมาชิกคือ น�ำรายได้มาซ้ือของส่วนรวม หลักสูตรท้องถ่ินของโรงเรียนบ้านป่าตาล
พันธุ์หมูให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ต่อไปเพื่อ ที่จะสร้างคนรุ่นต่อไปเพ่ือให้มาช่วยใน ตลาด แผนการด�ำเนินการต่อ คือ การพัฒนา ในการพัฒนาศูนย์ฯ เงินของกลุ่มส่วน มาหลายปีเพ่ือน�ำมาเผยแพร่และสืบทอด
สร้างรายได้ กลุ่มโรงสีข้าว รับจ้างสีข้าว การถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ท่ีมีใน คนรุ่นต่อไปข้ึนมาช่วยท�ำงาน แต่ส�ำหรับ ใหญ่จะหมุนเวียนภายในกลุ่มปั้นตุ๊กตา ภูมิปัญญา มีโรงเรียนมงฟอร์ด เชียงใหม่
ให้กับคนในหมู่บ้าน เม่ือได้ก�ำไรก็จะส่ง ชุมชน เพ่ือให้ความรู้ที่มีอยู่สามารถเป็น เข้าสู่วิสาหกิจชุมชนเชิงคุณธรรม : เร่ืองการขยายสมาชิกก็ยังไม่มีแผนเร่ืองนี้ แต่หากเป็นเงินหมุนเวียนที่ช่วยเหลือ มาดงู านทีก่ ลมุ่ ฯ ทกุ ปี เพ่ือเรยี นร้เู รอื่ งราว
ไปเข้าเงินกองกลางของหมบู่ ้านทกุ ปี ประโยชน์แกค่ นทจ่ี ะมาเรียนรู้ ปลายปี 2551 ผศ.ดร.วีระศักดิ์ สมยานะ เพราะต้องการคนท่ีมีใจมากๆ มาท�ำงาน สมาชิกก็จะเป็นเงินของกลุ่มออมทรพั ย์ซ่ึง วถิ ชี วี ิตของคนในชุมชน
และทีมงานได้เข้ามาร่วมท�ำงานกับกลุ่ม จริงๆ คือต้องเป็นคนที่มีความเสียสละ มีคณะกรรมการบริหารคนเดียวกันกับ ความรู้สึกของเด็กท่ีได้เรียนรู้
ความสำ� เรจ็ ทเ่ี หน็ เปน็ รปู ธรรมชดั เจน คอื 2. กลุ่มเพาะเห็ดบ้านหลวง กลุ่มเพาะ พากลุ่มไปออกงานต่างพื้นท่ีบ่อยๆ และ มีความรับผิดชอบ และมีความเข้าใจ กลมุ่ ปัน้ ดิน มีผทู้ มี่ าศึกษาดงู านเฉล่ยี ปีละ กิจกรรมปั้นดิน คือ เกิดความสนุกสนาน
เด็กในโรงเรียนท่ีมาดูกิจกรรมของกลุ่ม เห็ด เริ่มต้น เมื่อปี พ.ศ. 2542 มาจาก ช่วยการสร้างแนวคิด การท�ำงานพัฒนา ในการด�ำเนินงาน ท้ังเรื่องการเงินและ ประมาณ 10 คร้ัง หากเป็นนักเรียน ได้ฝึกศิลปะการปั้น ได้ฝึกสมาธิและฝึก
มกี ารนำ� ความร้ทู ไ่ี ด้ไปขยายผลทีบ่ า้ นของ อ้ายสรุ ินทร์ มสี มาชกิ 11 คน และไดไ้ ปดู ศักยภาพให้เป็นผู้ประกอบการที่แข็งแรง การบริหารจัดการ จึงจะด�ำเนินการตาม นักศึกษาก็จะมาดูวิธีการท�ำ รูปแบบ ความมีน้�ำใจโดยการแบ่งอุปกรณ์ให้เพื่อน
ตนเองโดยเฉพาะเด็กชาวเขา เช่น การ งานการทำ� เหด็ จากโครงการหลวง เมือ่ มา เพ่ือสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พาไป แนวทางเดิม แต่ก็จะให้ความรู้กับผู้ที่ การตลาด หากเป็นหน่วยงานเช่น เมื่อตอ้ งทำ� งานร่วมกนั
ปลกู ผกั สวนครัวในบา้ น การเล้ยี งหมหู ลุม รวมกลุม่ กัน อบต.ก็ให้ทนุ มาชว่ ย จำ� นวน ศกึ ษาดงู านกบั ศนู ย์เรียนรู้ต่างๆ ทีท่ ำ� งาน สนใจ และการเผยแพร่องค์ความรู้ของ องค์การบริหารส่วนทอ้ งถิ่นต่างๆ ก็จะมา
เพอื่ ขายหมูและขายมลู หมู เด็กเป็นสอื่ ที่ดี 20,000 บาท และกลมุ่ เพาะเหด็ คณุ ตวงพร กับกิจวิจัย จ�ำนวน 32 ศูนย์ และให้ไป 4กลุ่มต่อไป ดแู หลง่ ผลติ ภาคี : กรมวิทยาศาสตร์การบริการมาให้
มากในการสอื่ สารเรอื่ งดๆี ไปยงั ผปู้ กครอง โปธิ ก็แยกมารวมกลุ่มกันเองในปี 2550 เป็นวิทยากร ประสานงานต่างๆ ในพ้ืนท่ี ความช่วยเหลือเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์
เพราะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการ เน่ืองจากอ้ายสุรินทร์ได้แยกตัวไปท�ำสวน เด็กและเยาวชนในพื้นที่ ลูกหลานใน ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ กิจวิจัยฯ...พาสู่เวทีจังหวัด : ทางกลุ่ม พัฒนาชุมชน ได้แนะน�ำให้ตั้งกลุ่มเพื่อ
เล้ียงหมูจากการเลี้ยงปล่อยให้หากินเอง สม้ ปจั จบุ นั มสี มาชิก 10 คน การบรหิ าร หมู่บ้านได้รับความรู้และเพิ่มทักษะใน ชุมชนเชิงคุณธรรมประจ�ำ ไดร้ ว่ มทำ� งานกบั กจิ วจิ ยั เพอ่ื พฒั นาทอ้ งถน่ิ รวมตัวกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่วยเหลือ
มาเลี้ยงในคอกแทน และในการดูงานจะ จัดการกลุ่ม ประกอบด้วยประธานคือ การท�ำก้อนเห็ดขาย อีกท้ังยังได้เรียนรู้ ตำ� บลสนั ผกั หวาน อำ� เภอ โดยเริ่มจากการเข้าประกวดกลุ่มวิสาหกิจ กัน เทศบาลต�ำบลสนั ผกั หวาน องคก์ าร
มีการแทรกเรื่องคุณธรรมไปสู่เด็ก คือ คุณตวงพร โปธิ มีรองประธาน กรรมการ เร่ืองของความรับผิดชอบ การอดออม หางดงจงั หวดั เชยี งใหม่ ชุมชน โดยมีผศ.ดร.วีระศักด์ิ สมยานะ บริหารสว่ นจังหวัดเชียงใหม่ และการท่อง
หลังจากที่ได้พาไปดูงานแล้ว ก็จะให้ เลขาฯ และเหรัญญิก มีการประชุมเดือน การสร้างรายได้ การไม่เอาเปรียบลูกค้า ก้าวแรกของศูนย์การเรียนรู้ฯ : ศูนย์ เป็นคณะกรรมการ จนกระทั่ง กลุ่มเริ่ม เที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่
นักเรียนเขียนรายงานว่าได้รับความรู้เรื่อง ละ 1 คร้ัง นอกจากมีโครงการหรือมีคน ตอ้ งทำ� สนิ ค้าอย่างมีคุณภาพ การเรียนรู้ฯ เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เป็นท่ีรู้จักก็มีเด็กมาเรียนรู้จ�ำนวนมาก ไดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ งานเปดิ บา้ นมหศั จรรย์
ใดบ้าง ได้รับคุณธรรมเร่ืองใดบ้าง หาก จะมาดูงานก็จะประชุมกันเพ่ิมเติม ใน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 มีคณะ บางคร้ังประมาณ 200 คน ท�ำให้ไม่ ดินย้ิม และกรมส่งเสริมบัญชีสหกรณ์ได้
ต้องประกอบอาชีพแบบในลักษณะแบบ กลุ่มมกี ารกูเ้ งิน ธกส.มาเปน็ เงินกองกลาง ความส�ำเร็จ กลุ่มเห็ดมีการท�ำก้อนเห็ด กรรมการท้ังหมดจ�ำนวน 21 คน เป็น สามารถให้ความรู้ได้อย่างท่ัวถึง อย่างไร เข้ามาช่วยใหค้ วามร้เู ร่อื งการทำ� บัญชี
น้ีจะต้องมีคุณธรรมอะไรบ้าง เช่น ความ ในการท�ำเห็ด ปัจจุบันเน้นการท�ำก้อน ขาย โดยการจ่ายค่าตอบแทนให้กับเด็ก ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนต�ำบลสัน ก็ตาม ทางกลุ่มก็ได้สอนเด็กได้เรียนรู้ถึง
รับผิดชอบ อดออม การลดรายจ่าย เห็ดขายกับตลาดภายนอก และเป็น ในชุมชนการเรียนรู้การท�ำก้อนเห็ดน้ัน ผักหวาน ตัวแทนจากสถานศึกษาใน ภูมิปัญญาที่ได้เคยท�ำมา สอนความ จุดด้อยท่ีต้องพัฒนาต่อ : เรื่องรูปแบบ
สร้างรายได้ และจากแนวทางเศรษฐกิจ คนกลางในการรับซ้ือดอกเห็ดมาขายเพ่ือ ท�ำให้เด็กรู้จักการท�ำงาน สร้างรายได้ ชุมชน หน่วยงานภาครัฐในเขตพ้ืนท่ี อดทน สอนความเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ สอน ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่มีรูป
พอเพยี ง ทีต่ ้องปลกู ผักกินกนั สง่ิ ทีส่ งั เกต สร้างรายได้ รวมทั้งยังสร้างกิจกรรมใช้ เกิดความขยัน รบั ผดิ ชอบ ไดม้ ารวมกล่มุ อ�ำเภอหางดง และกลุ่มประติมากรรมดิน ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า แบบซ้�ำๆ เก่าๆ การบริหารจัดการกลุ่ม
ได้คือ คนอายุยืนขึ้น การตายน้อยลง เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ให้กับเด็กๆ กัน มีแรงจูงใจในการท�ำงาน อีกทั้งยังได้ เผาบ้านปา่ ตาล ในการท�ำตุ๊กตาขาย และความกตัญญู ท้ังด้านการประสานงานในการให้คนนอก
คนในชุมชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในชุมชนมาท�ำก้อนเห็ดในช่วงเสาร์ ออกรายการทีวีสู้เพ่ือฝัน ท�ำให้กลุ่มเป็นที่ ก่อนท่ีจะมาเป็นศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์การเรียนรู้สอนให้คนมีความอดทน มาศกึ ษาดูงาน และเรื่องวัสดอุ ุปกรณใ์ ห้มี
ปรับเปล่ียนวิถีชีวิตมาสู่วิถีชีวิตเดิมมาก อาทิตยแ์ ละชว่ งปิดเทอม รู้จักของคนทั่วไปมากยิ่งข้ึน จากเดิมท่ี ตอนนั้นย้อนไปประมาณ 80-90 ปี ใน และมคี วามเผ่อื แผ่ให้เพื่อนบา้ น ความทันสมัยขึ้น เช่น เร่ืองเตาเผาตุ๊กตา
ขึ้น และมีการขยายผลไปยังหมู่บ้านอ่ืนๆ รู้จักผา่ นสือ่ ของ OKRD ชุมชนเป็นหมู่บ้านท่ีปั้นอิฐมอญ ปั้นคนโท ที่ควรมขี นาดใหญข่ ึน้
แต่ก็ยังไม่เต็มพ้ืนทีท่ ้งั ต�ำบล ปัญหาท่ีส�ำคัญ การขยายสมาชิก ถ้า หม้อน�้ำ กระปุกออมสิน แจกัน ท�ำเป็น ความภูมิใจ : งานปั้นดินน้ันเป็นงานท่ี
สมาชิกมีมากเกินไปก็จะมีปัญหาด้าน จุดเด่น การเพาะเหด็ เปน็ อาชพี ทีส่ ามารถ อาชีพสืบทอดกันมา จนกระท่ังปี 2542- ต้องมีใจรักและมีความคิดสร้างสรรค์
ปัญหาอุปสรรค เป็นสิ่งที่มีอยู่ในการ ความคิด จึงไม่ได้คิดจะขยายสมาชิก เป็นอาชีพหลกั ได้ มีความจริงใจกบั ลูกคา้ 2543 มีการเร่ิมต้นตั้งกลุ่มศิลปกรรม สามารถฝึกสมาธิ คลายเครียดและคลาย
ทำ� งานทกุ อยา่ ง เริ่มจากความไม่ลงตวั กนั ท�ำงานกบั คนท่ีเข้าใจ ปัญหาทีพ่ บอกี เร่อื ง และผู้มาศึกษาดูงาน ไม่หวงความรู้ ดินเผาบ้านป่าตาล ก็ปรับเปล่ียนมาปั้น วิตกกังวลได้ หมู่บ้านป่าตาลสามารถเป็น
ระหว่างชาวบ้านและท้องถิ่น ซึ่งเป็น คือ สมาชิกน�ำเห็ดของตนเองไปขายนอก สินค้ามีคุณภาพ เห็ดสดและเหี่ยวช้า ปฏิมากรรมเปน็ ตุ๊กตารูปต่างๆ เป็นอาชีพ ศูนย์เรียนรู้ทางด้านภูมิปัญญาท้องถ่ิน
ความวิตกกังวลของชาวบ้านบ้านป่าก๊อ กลุ่ม เพราะต้องการก�ำไรต่อกิโลมากกว่า เก็บไว้ได้นานกว่า มีหน่วยงานท่ีมาช่วย เสริมต่อมาจนกระทั่งปี 2547-2548 เร่ิม หัตถกรรมการปั้นดินเผาแห่งหนึ่งใน
เนื่องจากปกติจะได้รับการสนับสนุนจา และนำ� ส่วนทเ่ี หลอื มาขายให้กบั กล่มุ คร้ัง สนบั สนนุ พฒั นาสงั คม มาชว่ ยเรอ่ื งสรา้ ง จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและส่งผล เชียงใหม่ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเท่ียวแห่ง
กอบต.มาเปน็ ระยะเวลาทต่ี อ่ เนอ่ื ง แตห่ าก ละคร่ึงกิโล หรือ 1 กิโล เป็นปัญหาของ ห้องน้�ำท่ีถูกสุขลักษณะ วิสาหกิจชุมชน งานของหมู่บ้านเข้าประกวด OTOP ในปี หน่ึงในเชียงใหม่ เนื่องจากมีการจัดงาน
มีการเปล่ียนแปลงผู้บริหารอบต. การ กลมุ่ ทที่ ำ� ใหค้ นทำ� งานตอ้ งแกไ้ ขและบนั่ ทอน มาจดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มธนาคารเพื่อ 2551 แรกเร่ิมจัดต้ังมีสมาชิกประมาณ มหัศจรรย์ดินย้ิม ในรูปแบบถนนคนเดิน
สนบั สนนุ อาจจะมกี ารเปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ ก�ำลังใจ ผลที่ตามมาคือ เห็ดมีคุณภาพ การเกษตรและสหกรณ์ฯ (ธกส.) และ 70 คน การรับสมาชิกใหม่ จะมีการคิด ซึ่งจัดต่อเนื่องมาต้ังแต่ปี 2555 เป็นงานที่
แต่กลุ่มก็จะต้องยืนอยู่ด้วยตนเองให้ได้ ลดลง ปริมาณไม่เพียงพอ ร่วมถึงการไม่ องค์การบริหารส่วนต�ำบล (อบต.) ให้ ค่าสมัคร 100 บาท กลุ่มมีโครงสร้างการ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหาร
เพราะกลุ่มก็มีความเข้มแข็งในระดับหนึ่ง เข้าร่วมกิจกรรมและความพร้อมเพรียง งบประมาณสนับสนุน และอบต.ต่างๆ บรหิ าร คอื ประธาน รองประธาน เลขาฯ ส่วนจังหวัดและการท่องเท่ียวจังหวัด
อีกทั้งยังเป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบดา้ นความ ของสมาชิกลดน้อยลง บางส่วนมีหนี้ส้ิน ในละแวกใกล้เคียง เชิญไปเป็นวิทยากร เหรัญญิก และกรรมการ ปัจจุบันมี เชียงใหม่ อีกทั้งยังได้สอนเด็กให้รู้จัก
พอเพยี งในพน้ื ทจ่ี งั หวดั เชยี งใหม่ อยู่ แต่ต้นทุนการผลิตเพ่ิมสูงข้ึน สมาชิก ในพื้นท่ี เมื่อหน่วยงานต่างๆ เข้ามา ประมาณ 11 คน ผลประโยชนท์ ไ่ี ด้รับคอื ภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชนที่สามารถน�ำ
30 31

ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม
ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั
เทศบาลนาโหนด อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั พทั ลงุ

สภาพทวั่ ไปของ“บา้ นเกาะทงั ” เพิ่มข้ึนเรื่อยๆ มีอาณาเขตดังน้ี เกษตรกรรม ได้แก่ ท�ำนา ท�ำสวนยาง พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2546 พ.ศ2.5255049- พ.ศ. 2549 พ.ศ2.5255453- พ.ศ. 2555 พ.ศ. 2556
บ้านเกาะทัง หมู่ 5 ต�ำบล ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านวังปริง หมู่ 8 สวนผลไม้รับจ้าง ค้าขาย โดยการท�ำ ผ้นู ำ� การ ค่ายเรยี นรู้ สบื คน้ คนทำ� ดี ศาสนา- ห้องสมุด พื้นที่น้.ี ..ดจี งั พัทลุงยิม้
นาโหนด อ�ำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เป็น ต.นาโหนด อ.เมอื ง จ.พทั ลงุ อาชีพเกษตรกรรมอาศัยน้�ำฝนจาก เปลี่ยนแปลง วิถชี วี ิตและ แผนท่ีคนดี สมั พนั ธ์ ใตถ้ นุ /
ชุมชนเก่าแก่ที่ประชาชนส่วนใหญ่อพยพ ทิศใต้ ติดต่อกับบ้านโคกว่าว หมู่ 7 ธรรมชาติ ลักษณะภูมิอากาศ มี 2 คุณเตอื นใจ วิถชี มุ ชน เช่อื มโยงคน โครงการ
มาจากต�ำบลกงหรา อ�ำเภอเมือง จังหวดั ต.นาโหนด อ.เมอื ง จ.พทั ลุง ฤ ดู ก า ล คื อ ฤ ดู ร ้ อ น กั บ ฤ ดู ฝ น สิทธิบุรี 3วยั 3ศาสนา สายใยรกั

พัทลุง ซึ่งต่อมาต�ำบลกงหราหลายก ทิศตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กบั บ้านบว่ งชา้ ง หมู่ ส่วนวิถีการด�ำเนินชีวิตมีพ้ืนฐานมาจาก
ฐานะเป็นอ�ำเภอกงหราในปัจจุบัน 9 ต.นาโหนด อ.เมอื ง จ.พทั ลุง   ศ า ส น า ช า ว บ ้ า น เ ก า ะ ทั ง นั บ ถื อ
ย้อนอดีตไปประมาณแปดสิบปีที่ผ่านมา ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กับบา้ นทุง่ วาด หมู่ 3 ศาสนา  3  ศาสนา ประกอบดว้ ยศาสนา ประสบการณ์ จดั สรรเงนิ ปนั ผล
ครอบครวั ของนายเอียด  ชอู ักษร เปน็ รุ่น ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลงุ พทุ ธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต ์   ก า ร ท� ำ ง า น กลุ่มออมทรัพย์ ศูนย์คุณธรรม/ สถาบนั สอ่ื เดก็ และ หนว่ ยงานพฒั นา
องค์กรพัฒนา เ พ่ื อ ก า ร ผ ลิ ต ศนู ย์คณุ ธรรม สสส. โครงการสายใย เยาวชน : (สสย.) ท้ังภาครัฐและ
เอกชน ท�ำงาน จัดสวัสดิ การ รกั ในครอบครัว และ สสส. เอกชน
แรกท่ีเข้ามาบุกเบิกต้ังถิ่นฐานจับจองที่ดิน ปัจจุบันมีจ�ำนวนประชากรเพศ ด้านการพัฒนา ใ ห ้ กั บ เ ด็ ก แ ล ะ
ท�ำกนิ นับตัง้ แตป่ ี พ.ศ. 2474 ท่านเป็นบุค ชาย 352 คน เพศหญิง 350 คนจ�ำนวน ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวนสร้างสุขบ้าน ด้านสื่อสิ่งแวด- เยาวชน
ลอ้ ม

คลท่ีมีความรู้เรื่องการใช้สมุนไพร ครัวเรือน 195 ครัวเรือน เน่ืองจาก เกาะทงั
ไสยศาสตร์ และพิธีกรรม ชาวบ้านรู้จัก หมู่บ้านมีลักษณะเป็นพ้ืนท่ีราบลุ่ม ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวนสร้างสุข
เรยี กวา่ แพทยเ์ อยี ด หลงั จากนนั้ ไมน่ าน กไ็ ด้ ลักษณะลาดเอียงไปทางทิศตะวันออก บ้านเกาะทัง เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ต้ังอยู่ ประสานความ กระบวนการเรยี น สรา้ งเสรมิ กระตนุ้ สรา้ งความเขา้ ใจ พ้ืนที่สีขาว และ อนุรักษ์ เรียนรู้ เชื่อมโยงเครือ-
มกี ารชวนเพอื่ นบา้ น คอื ตระกลู จนั ทรเ์ ทพ ดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนเหมาะแก่การ ในสวนยางพาราเล็กๆ มีแกนน�ำคือ ร่วมมือระหว่าง รู้ประวัติศาสตร์ ใหก้ ำ� ลงั ใจ สรา้ ง ความเช่ือและวิถี กิจกรรมสร้าง- วถิ ชี วี ติ วถิ ชี มุ ชน ข ่ า ย ก า ร จั ด
ชุมชน ภาครัฐ วถิ ชี วี ติ วถิ ชี มุ ชน คนตน้ แบบในการ ปฎิบัติ “ความ สรรคเ์ดก็ เยาวชน และภูมิปัญญา กิจกรรมระดับ
เอกชน หนว่ ยงาน สร้างความสัม- ท�ำความดีของ แตกต่าง” เพื่อ ตน้ แบบโครงการ ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ จังหวัดเป็นพลัง
ตา่ งๆ พนั ธร์ ะหวา่ งเดก็ ชุ ม ช น ท ้ อ ง ถ่ิ น การอยู่ร่วมกัน สานสายใยรกั 3 ในการสรา้ งสขุ
มาต้ังรกรากเป็นเพ่ือนบ้านกันอยู่กัน 2 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประชากร คุณเตือนใจ สิทธิบุรี (ลูกสาวของผู้ท่ีมา ครอบครวั ชมุ ชน บรรจแุ ผนปฏบิ ตั -ิ อยา่ งสนั ตสิ ขุ วั ย ข ย า ย ผ ล
ครอบครัว และต่อมาก็มีคนอพยพเข้ามา ส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพทางด้าน บุกเบิกบ้านเกาะทังครั้งแรก) มีเน้ือท่ี ความรกั ครอบ- การประจำ� ปขี อง ระดบั ประเทศ
ครวั อบอนุ่ จงั หวดั พทั ลงุ
ประมาณ 7 ไร่ มีลักษณะเป็นบ้านไม้
ใต้ถุนสูง ฝาก้นั ดว้ ยไมไ้ ผข่ ัดแตะ ใช้พื้นท่ี
ใตถ้ นุ บา้ นเปน็ หอ้ งสมดุ ทมี่ หี นงั สอื หลากหลาย เรียน กนิ เล่น เปน็ การสรา้ งสุข
และเปิดโอกาสให้เด็กมาอ่านหนังสือและ เปิดพน้ื ทีท่ ำ� กจิ กรรม เรียนรู้ สรา้ งสรรค์ โดยการเช่ือมโยง
ท�ำกิจกรรมเรียนรู้ร่วมกันเสริมสร้างนิสัย เดก็ ครอบครัว ชุมชน และหน่วยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชนเป็นพลงั หนนุ เสรมิ
การอ่านให้กับเยาวชนตำ� บลนาโหนด อีก
ทั้งยังเปิดโอกาสให้เด็กๆ เยาวชน ท�ำ ห้องสมุดใตถ้ ุน พืน้ ทนี่ ้ี ดีจัง... สวนยางยิม้ พัทลุงยมิ้

กิจกรรมต่างๆ ตามความสนใจ และมี แผนภาพแสดงจงั หวะกา้ วศนู ยเ์ รยี นรู้ ท่ีได้ชักชวนให้คุณเตือนใจ สิทธิบุรี หรือ ต้องการฟื้นฟูกลุ่มออมทรัพย์ น�ำคณะ
การเรียนรู้วิถีชีวิต วิถีชุมชน ภูมิปัญญา
ท้องถ่ิน มีเป้าหมายเพ่ือให้เด็กและ ชมุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั ปา้ ปอ้ มของเดก็ ๆ ในชมุ ชนไดม้ โี อกาสเขา้ กรรมการกลุ่มออมทรัพย์บ้านเกาะทังเข้า
เยาวชนห่างไกลจากปัญหายาเสพติด ประมาณปี พ.ศ. 2543 จังหวัด ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้น�ำชุมชน ร่วมอบรม ในระหว่างการอบรมมีการคุย
ติดเกม เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีดี มีคุณภาพ พัทลุงมีโครงการพัฒนาศักยภาพผู้น�ำ นับเป็นย่างก้าวแรกที่เข้ามาในงานพัฒนา กับแกนน�ำแต่ละคนคิดหาแนวทางในการ
บนพื้นฐานความคิดที่ว่า “เรียน กิน เล่น ชุมชน ซ่ึงได้รับงบประมาณจากโครงการ ชมุ ชนบา้ นเกดิ ของตนเอง ซง่ึ เปน็ ชว่ งเวลา ฟื้นฟูกลุ่มและจะต้องกลับมาพัฒนาบ้าน
เป็นการสรา้ งสุข” ของประเทศออสเตรเลยี คณุ ววิ ฒั น์ หนมู าก เดียวกันกับกลุ่มออมทรัพย์ของบ้านเกาะ ของตนเองใหไ้ ด้
แกนนำ� งานพฒั นาทตี่ ำ� บลคหู าใต้ เครอื ขา่ ย ทังประสบปัญหาต้องยุบเลิกกลุ่มพอดี จึง
เกา่ แกเ่ ครอื ขา่ ยหนงึ่ ในจงั หวดั พทั ลงุ เปน็ ผู้ เกิดความคิดร่วมกันกับคนในชุมชนท่ี
32 33

คา่ ยเดก็ เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ และวถิ ชี มุ ชน... เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ของชมุ ชน และศกั ยภาพของ หมู่บ้านจะร่วมกันส�ำรวจผักพื้นบ้านใน ผลให้เกิดคนดีท่ัวท้ังจังหวัดพัทลุง โดย รว่ มกันวา่ จะนำ� เงินปันผลทีป่ กตจิ ะแบง่ ให้ สมุดให้มีหนังสือท่ีหลากหลายให้เด็กได้
เชื่อมโยงพลังครอบครัว โรงเรียน ชมุ ชน การเขา้ คา่ ยเดก็ มคี รขู องศนู ยเ์ ดก็ เลก็ ชุมชน และมีหมอสมุนไพรเป็นผู้ให้ข้อมูล บรรจุเข้าเป็นแผนปฏิบัติการประจ�ำปีใน แก่สมาชิกเป็นจ�ำนวนเงินเท่าๆ กันนั้นไป อา่ น จงึ มกี ารประสานกบั กศน. ท�ำใหไ้ ด้
ชมุ ชน เปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ทชี่ ว่ ยดแู ล มผี ปู้ กครองทม่ี ี เกยี่ วกบั ประโยชนแ์ ละสรรพคณุ ของพชื ผกั ระดบั จงั หวดั สร้างกิจกรรมการจัดค่ายเด็กและเยาวชน รับการสนับสนุนหนังสือเข้าห้องสมุด
ปี พ.ศ. 2546 คณะกรรมการกลมุ่ รถทำ� หนา้ ทร่ี บั สง่ พาเดก็ ไปเขา้ คา่ ย และได้ แตล่ ะชนดิ วา่ สามารถทำ� อาหารอะไรไดบ้ า้ ง ต่อมามีสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนใน ในพน้ื ทแ่ี ทน เพอื่ สรา้ งการเรยี นรแู้ ละสรา้ ง นอกจากนี้ยังมกี ารประสานงาน หารือกับ
ออมทรพั ย์ รว่ มกนั ถอดบทเรยี น วเิ คราะห์ รบั ความรว่ มมอื จากตำ� รวจตระเวนชายแดน รว่ มกนั ประเมนิ วา่ เปน็ ผกั หายากของชมุ ชน ชุมชน เร่ืองปัญหาการแบ่งแยกศาสนา ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคน 3 วัย 3 ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และจัด
จดุ ออ่ น จดุ แขง็ อปุ สรรค โอกาส ของกลมุ่ สนับสนุนท่ีพัก ให้เด็กพักค้างคืนที่ศูนย์ หรือไม่ จากนั้นน�ำผักแต่ละชนิดมาสรุป พุทธกับมุสลิมในชุมชน ในขณะนั้นศูนย์ ศาสนา ในชุมชนจึงกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ ท�ำโครงการห้องสมุดใต้ถุน การด�ำเนิน
ออมทรพั ย์ เพอ่ื นำ� ขอ้ มลู มาใชใ้ นการพฒั นา ปฏิบัติธรรมพรุหารบัว มีเด็กเข้าร่วม ร่วมกันว่าสามารถท�ำเป็นเมนูอาหารได้ก่ี คณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) กำ� ลงั ทำ� งาน ชมุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั ”  โครงการหอ้ งสมดุ ใตถ้ นุ ไดร้ บั การสนบั สนนุ
กลมุ่ ออมทรพั ย์ และใชข้ อ้ มลู ตา่ งๆ มาพดู กิจกรรมประมาณ 300 คน กิจกรรมท่ี ชนิด ผลการส�ำรวจพบผักประมาณ 200 เรอ่ื งศาสนกิ สมั พนั ธ์ คณุ เตอื นใจ สทิ ธบิ รุ ี ในช่วงปี พ.ศ. 2553-2554 มีการ จากศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)
คุยกับชาวบ้านที่สนใจท�ำกลุ่มออมทรัพย์ ส�ำคัญในการเข้าค่ายคือ พาเด็กลงศึกษา กวา่ ชนดิ และนำ� ขอ้ มลู มาเผยแพรใ่ นชมุ ชน รับทราบข้อมูลและเห็นตัวอย่างการท�ำ ขยายกจิ กรรมศาสนกิ สมั พนั ธส์ ู่ “หอ้ งสมดุ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของเด็กโดย
ให้มารวมกลุ่มกันอีกคร้ัง กระท่ังเกิดกลุ่ม วถิ ชี มุ ชนเพอื่ ใหไ้ ดเ้ รยี นรเู้ รอ่ื งราวดๆี ของ ถึงประโยชน์ที่ได้รับจากพืชผักต่างๆ กจิ กรรม จงึ ประยกุ ตน์ ำ� เอาความรจู้ ากการ ใต้ถุนบ้าน” เนื่องจากในช่วงท�ำกิจกรรม ต้องมีการพาเด็กไปศึกษาดูงานและเพิ่ม
ออมทรัพย์หมู่ 11 บ้านต้นไทร กับกลุ่ม แต่ละหมู่บ้าน หลังจากเรียนรู้แล้วแต่ละ ในชุมชนจากน้ันชาวบ้านเกิดการเปลี่ยน ทำ� โครงการศาสนสมั พนั ธส์ รา้ งสขุ ในชมุ ชน ต่างๆ ตามโครงการศาสนสัมพันธ์ใช้ เติมความรู้เก่ียวกับการจัดท�ำห้องสมุด
ออมทรัพยห์ มู่ 5 บา้ นเกาะทงั สองกล่มุ นี้ หมู่บ้านก็จะจัดอาหารมาเลี้ยงเด็กๆ พฤตกิ รรม คอื การปลกู ผกั จะลดการใชป้ ยุ๋ เชอื่ มกบั โรงเรยี นสอนศาสนา (ปอเนาะ) ใช้ กุศโลบายชวนเด็กมาเล่นท่ีบ้าน เม่ือถึง โดยไปพกั คา้ งทท่ี ะเลนอ้ ยประมาณ 200 คน
ท�ำงานต่อเนื่องมา 2 ปี โดยท่ีคนท�ำงาน ผลจากการเขา้ คา่ ยทำ� ใหเ้ ดก็ เกดิ การเรยี นรู้ เคมีลง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพ่ิมข้ึน คนเริ่มปลูก กจิ กรรมเชอื่ มความสมั พนั ธจ์ ากการบรโิ ภค เวลาเรียนก็ไปเรียนที่โบสถ์ ที่วัด ท่ีมัสยิด กิจกรรมท่ีทำ� คือเชิญวิทยากรมาให้ความรู้
ไม่มีค่าตอบแทน ไม่มีเงินปันผลให้กับ ทจ่ี ะพฒั นาชมุ ชนของตนเอง โดยเรมิ่ ทจี่ ะ ผักเพิ่มข้ึนเปลี่ยนพฤติกรรมมากินผักมาก เรื่องการละเล่นพ้ืนบ้าน และกิจกรรมที่ เมื่อถึงเวลาเล่นก็มาเล่นท่ีบ้านในสวนยาง เร่ืองการอ่าน ให้เด็กเขียนห้องสมุดในฝัน
สมาชกิ ตอ่ มาปที ่ี 3 คณะกรรมการมกี าร ร่วมกันพัฒนาพรุหารบัว เด็กและผู้ ขึ้น จนกระท่ังความส�ำเร็จท่ีเห็นเป็นรูป สร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ร่วมกัน และ เมื่อเล่นที่บ้านก็จะมีหนังสือให้อ่าน เด็ก เพื่อวางแผนร่วมกันสร้างห้องสมุด มี
พูดคุยกันว่า เงินผลประโยชน์จากการท�ำ ปกครองตื่นตัวและเห็นความส�ำคัญของ ธรรมคือ โรงพยาบาลส่ังซื้อผักจากชุมชน การใหค้ วามรเู้ รอื่ งของศาสนาแตล่ ะศาสนา สนใจอา่ นหนงั สอื ทมี่ อี ยเู่ พม่ิ ขน้ึ ในระยะตอ่ กิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้โดยให้เด็ก
กลุ่มออมทรัพย์ถ้าจะน�ำมาปันผลให้กับ การจัดค่ายเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้วิถี ไปใช้เป็นวัตถุดิบให้กับผู้ป่วยในโรง เบอ้ื งตน้ เรยี นรพู้ ธิ กี รรม วถิ ชี วี ติ ของแตล่ ะ มาจึงมีความคิดว่าควรจะมีการท�ำห้อง เลือกหนังสือท่ีตนเองอยากอ่านตาม
สมาชิกจะได้น้อย ดังน้ันคณะกรรมการ ชุมชน จากจุดเร่ิมต้นของการจัดท�ำค่าย พยาบาล อกี ทงั้ ยงั สามารถเชอื่ มโยงความ ศาสนา เนน้ “เรยี น กนิ เลน่ เปน็ การสรา้ ง รายการชอ่ื หนงั สอื เมอื่ เดก็ อา่ นหนงั สอื จะ
กลุ่มจงึ ตกลงรว่ มกันวา่ จะน�ำเงินปันผลมา เดก็ เพอื่ เชอื่ มโยงคน 3 วยั 3 ศาสนาในการ สัมพันธ์ท่ีดีระหว่างเด็กและผู้สูงอายุใน สุข” ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการ ตอ้ งมบี นั ทกึ หลงั การอา่ น ใหผ้ ปู้ กครองลง
เปน็ สวสั ดกิ ารชมุ ชน นำ� ไปสรา้ งกจิ กรรมที่ สร้างแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ชมุ ชน สนับสนุนจาก สสส. ในช่วงแรกของการ ลายมือช่ือรับทราบ ให้เด็กอ่านและสรุป
มีประโยชน์กับเยาวชนในชุมชน เร่ิมต้น ท�ำให้เกิดเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวนสร้าง ตอ่ มาปี พ.ศ. 2550 ศนู ยเ์ รยี นรู้ ด�ำเนินงานใช้พื้นที่ของศูนย์เด็กเล็กบ้าน การเรียนรู้ว่าอ่านแล้วได้อะไร ห้องสมุด
จากการจัดค่ายเด็กและเยาวชนในพื้นท่ี สขุ บา้ นเกาะทงั ชุมชนสวนสร้างสุขบ้านเกาะทัง ท�ำงาน เกาะทัง เป็นศูนย์ประสานงานและจัด ใต้ถุนบ้านจึงเสมือนเป็นห้องสมุดมีชีวิต
เพื่อสร้างการเรียนรู้ และสร้างความ ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การใหาชน) กจิ กรรมตา่ งๆ ใชก้ จิ กรรมทเี่ ปน็ เครอ่ื งมอื เด็กๆ ได้อ่านหนังสือท่ีสอดคล้องกับวัย
สมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งคน 3 วยั 3 ศาสนา ประสานเช่ือมโยงกับหน่วยงาน เรอื่ งของแผนทค่ี นดี เพอ่ื สบื คน้ ความดี 80 ในการเช่ือมโยงสู่ความเข้าใจและอยู่ร่วม และความต้องการ อ่านแล้วออกไปเป็น
ในชมุ ชน ดงั นน้ั จงึ เกดิ คา่ ยใหก้ บั เดก็ ชอื่ วา่ ภายนอก...เชอ่ื มโยงคน 3 วยั 3 ศาสนา คน 80 ความดี โดยมภี าคพี ฒั นาทำ� รว่ ม กนั ของชาวพทุ ธและมสุ ลมิ เชน่ กจิ กรรม หอ้ งสมดุ เคลอ่ื นท่ี บรกิ ารผสู้ งู อายุ หรอื คน
“ค่ายเรียนรู้วิถีชีวิตตนเอง” โดยใช้ระยะ สรา้ งกจิ กรรมศาสนสมั พนั ธ์ สปู่ ที ่ี 3 กันคือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ� บล ผกั พน้ื บา้ น กจิ กรรมศาสนสมั พนั ธก์ ารเผย ดอ้ ยโอกาสในชมุ ชน
เวลาภายในวนั เดยี ว มกี ารพาเดก็ ไปยงั จดุ ประมาณ พ.ศ. 2549 มกี ารพฒั นา และกศน. มีคน 3 วัยในชุมชนมาร่วมกัน แพร่สร้างความเข้าใจท้ังศาสนาพุทธและ
เรยี นรตู้ า่ งๆ ในชมุ ชน เชน่ สวนสมนุ ไพร ยกระดบั กจิ กรรมเพอ่ื ใหเ้ ดก็ และเยาวชนท�ำ ทำ� กจิ กรรม ไดแ้ ก่ เดก็ อสม. และผสู้ งู อายุ ศาสนาอสิ ลาม
สวนสมรมย์ วัด การท�ำกิจกรรมในปีแรก กจิ กรรมรว่ มกนั คอื “กจิ กรรมสบื คน้ คนทำ� ดี รว่ มกนั กำ� หนดเงอ่ื นไขของคนดที จ่ี ะสบื คน้
ตง้ั เปา้ หมายไว้ 60 คน แตม่ เี ดก็ มาเขา้ รว่ ม แผนทคี่ นด”ี การทำ� กจิ กรรมครงั้ นศี้ นู ยก์ าร ในชมุ ชน เชน่ เปน็ คนทม่ี จี ติ อาสา มคี วาม หอ้ งสมดุ ใตถ้ นุ บา้ น....หอ้ งสมดุ มชี วี ติ
กิจกรรม 162 คน มีครูด�ำ ซ่ึงเป็นคนมา เรยี นรไู้ ดร้ บั งบประมาณจากศนู ยค์ ณุ ธรรม รู้เรื่องสมุนไพร เป็นครูนอกระบบหรือครู กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงจากเดก็
ชว่ ยดแู ลในชว่ งนนั้ (องคก์ ารมหาชน) ในการทำ� กจิ กรรมครง้ั น้ี ภูมิปัญญา มีแนวทางการใช้ชีวิตแบบ สผู่ สู้ งู อายุ
ปีต่อมากลุ่มออมทรัพย์เพ่ือการ มกี ารขยายกลมุ่ เปา้ หมายเขา้ รว่ มกจิ กรรม เศรษฐกจิ พอเพยี ง เมอ่ื กำ� หนดเงอ่ื นไขแลว้ คุณเตือนใจ สิทธิบุรี : “การท�ำกิจกรรม
ผลติ ไดม้ กี ารจดั สรรผลกำ� ไรมาเปน็ การจดั ท�ำให้เกิดเครือข่ายท�ำกิจกรรมร่วมกัน 5 จึงด�ำเนินการสืบค้นคนดี เมื่อสืบค้น ตา่ งๆ ตอนนน้ั กไ็ ปใชใ้ ตถ้ นุ อนามยั ใชล้ าน
สวัสดิการสร้างการเรียนรู้ให้กับเยาวชน ต�ำบลได้แก่ ต�ำบลเกาะหมาก ต�ำบล แลว้ เสรจ็ กจ็ ดั งานเชดิ ชคู นดแี ละเชญิ ผวู้ า่ วัดท�ำกิจกรรม แต่งานมันเยอะก็เลยปรับ
บา้ นเกาะทงั และตำ� บลนาโหนด ปรบั การ ต�ำนาน ต�ำบลศรีนรินทร์ ต�ำบลนาโหนด ราชการจังหวัดมามอบประกาศนียบัตร มาท�ำที่บ้านที่เป็นสวนยาง เพราะพ้ืนที่
จดั คา่ ยแบบวนั เดยี วเปน็ แบบคา้ งคนื เพอ่ื ให้ และตำ� บลล�ำสินธ์ุ พรอ้ มกบั เกิดการขยาย ยกย่องคนดี สถานที่ใช้จัดกิจกรรมที่ กวา้ ง ใชใ้ ตถ้ นุ บา้ นนล่ี ะ่ เปน็ ลานเลน่ ใหก้ บั
เด็กเรยี นรู้วิถชี ุมชนตามคำ� ขวัญของต�ำบล งานการทำ� กจิ กรรมรว่ มกบั กลมุ่ อาสาสมคั ร พรหุ ารบวั มผี เู้ ขา้ รว่ มงานประมาณ 3,000 เด็กๆ ทท่ี ำ� กจิ กรรม แล้วกเ็ ริม่ มาจบั เร่ือง
คือ “เห็ดทอดนาโหนด รุ่งโรจน์ยางพารา สาธารณสขุ (อสม.) ซง่ึ มที งั้ หมด 91 คน คน ซึ่งกิจกรรมน้ีเกิดการขยายผลไปใน เด็กเป็นหลัก รวมทั้งหลังช่วงการปันผล
หานบวั ตระการตา เลือ่ งลือชาขา้ วเลบ็ นก ในการขบั เคลอ่ื นงานเรอื่ ง “อาหารสขุ ภาพ ระดบั จงั หวดั เนอ่ื งจากผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ประจ�ำปีของกลุ่มออมทรัพย์ท่ีป้าป้อมร่วม
มรดกเขาหลักโค” เพื่อให้เด็กท่ีเข้าค่าย ในชุมชน” วิธีการคือ กลุ่มอสม.แต่ละ เหน็ วา่ เปน็ เรอ่ื งทด่ี ี นา่ สนใจและควรขยาย ดำ� เนนิ งานอยนู่ นั้ ไดแ้ ลกเปลยี่ นและตกลง
34 35

 หนงั สอื และสอื่ ตา่ งๆ ในหอ้ งสมดุ การแกะสลักหยวกกล้วย เทคนิคการร้อย ต�ำบลนาโหนด คือ “บ้านป้าป้อม” หมนู อ้ ยวา่ หนงั สอื เลม่ ไหนวางอยตู่ รงไหน สขุ บา้ นเกาะทงั ในการจดั กจิ กรรม สำ� หรบั คุณเตือนใจ สิทธิบุรี เล่าว่า
ใตถ้ นุ บา้ น ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วยั และความ ลูกปัด การแกะรูปหนังตะลุง หรือความรู้ ถึงแม้ว่าบางคร้ังเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน ทำ� ไมเขาหาเจอ เขาอา่ นไมไ่ ดแ้ ตเ่ ขาอาศยั รูปแบบของพ้ืนท่ีน้ีดีจังที่ผ่านมาน้ัน “ตอนแรกที่จะท�ำในเมืองก็กังวลบ้าง
ต้องการ อ่านแล้วเด็กๆ สามารถออกไป อื่นๆ น�ำมาให้เด็กและเยาวชนได้ช่วยกัน เด็กๆ ก็สามารถท่ีจะแวะเวียนมายังบ้าน ความจำ� สงิ่ ทเี่ ขาทำ� ไดด้ คี อื วาดรปู ไดส้ วย เปน็ การจดั งานโดยมกี ารจดั กจิ กรรมตา่ งๆ เพราะใช้พลังเยอะและมีเงื่อนไขไม่น้อยที
เป็นห้องสมุดเคล่ือนที่หรือห้องสมุดมีชีวิต ดำ� เนนิ การ สบื คน้ เสาะหา เรยี นรู้ ทดลอง ป้าป้อมได้ตลอดเวลา จุดเด่นท่ีส�ำคัญคือ มาก เขาไปดหู นงั ตำ� นานสมเดจ็ พระนเรศวรฯ เชน่ สอนใหเ้ ดก็ ทำ� ขนมพนื้ บา้ น กจิ กรรม เดียว แต่ก็อุ่นใจเพราะเรามีเครือข่าย
แก่ชุมชนได้ ท้ังน้ี ยังให้บริการผู้สูงอายุ และปฏิบัติจริง จัดท�ำเป็นสื่อเคลื่อนไหว เดก็ ไดร้ บั ความรกั และกำ� ลงั ใจจากเจา้ ของ เขากลบั มาวาดรปู ใหป้ า้ ปอ้ มดู ปา้ ปอ้ มกใ็ ห้ กลางแจ้ง เช่น ม้าก้านกล้วย เดินกะลา พนื้ ท.ี่ ..นด้ี จี งั ในตำ� บลตา่ งๆ ทเ่ี ราไปรว่ ม
หรือคนด้อยโอกาสในชุมชน ทุกอย่างท่ีมี ภาพนง่ิ หนงั สอื ทำ� มอื หนงั สน้ั ฯลฯ จากนนั้ บ้าน ได้แสดงออกตามความต้องการของ กำ� ลงั ใจชมวา่ วาดรปู ไดส้ วย” ปดิ ตาตหี มอ้ การระบายสภี าพ การฉกี ปะ ทำ� กจิ กรรมไวแ้ ลว้ พอเรม่ิ ลงมอื ทำ� กม็ กี าร
ใตถ้ นุ บา้ น รอบใตถ้ นุ บา้ น สามารถใชเ้ ปน็ ใหเ้ ดก็ ๆ นำ� ผลงานทผ่ี ลติ ไดม้ าแลกเปลย่ี น ตนเอง มอี สิ ระในการคดิ และไดท้ ำ� ในสงิ่ ท่ี คุณวิวัฒน์ หนูมาก : “เราจะตอบแทน กระดาษร่วมกับผู้ปกครอง เป็นพ้ืนท่ีท่ีให้ ขยายกลุ่ม ท้ังคนร่วมจัด คนที่มาร่วม
สอ่ื เพอ่ื การเรยี นรู้ นอกจากนม้ี กี ารฟน้ื ฟสู อ่ื กนั โดยมผี รู้ มู้ าชว่ ยเตมิ เตม็ เรอื่ งราวทผี่ า่ น ตนเองคิดท�ำให้ใต้ถุนบ้านแห่งน้ีเป็นท่ีที่มี เด็กนะ คือ เจ้าของบ้านมีความโอบอ้อม เด็ก ผู้ปกครอง และครูได้ร่วมกันท�ำ เรียนรู้ มีทั้งโรง เรียน ชุมชน ท่ีส�ำคัญก็
พนื้ บา้ น “มโนราห”์ ใหก้ ลบั มามชี วี ติ อกี ครงั้ การบอกเล่าของเด็กๆ ซ่ึงสื่อเหล่านี้ จะ ความสุขและเป็นที่ที่เด็กๆ รู้จักกันทั้งนา อารี มีน�้ำใจ เป็นกันเอง ไม่หยาบกับเด็ก กิจกรรมอย่างมีความสุข และร่วมสร้าง คือคนขาดพื้นท่ีแบบนี้ ไม่เคยมีกิจกรรม
รวมทั้งฟื้นฟูการท�ำขนมพื้นบ้าน อาหาร กลายเปน็ ชดุ องคค์ วามร ู้ ทจี่ ะคงอยใู่ นหอ้ ง โหนดอีกทั้งเป็นพ้ืนท่ีสีขาวที่ผู้ปกครอง คอื พดู ดี อยา่ งลกู ผมนถี่ า้ ปอ้ มพดู เขาจะฟงั ความผูกพันระหว่างชุมชน ผู้ปกครอง ให้เด็กๆ และครอบครัวได้ทำ� ร่วมกัน พอ
ทอ้ งถนิ่ การละเลน่ ถนิ่ ไทยใต้ ใหค้ งอยกู่ บั สมดุ ใตถ้ นุ ตอ่ ไป ให้การสนับสนุนท่ีลูกของตนเองจะมาท�ำ แตถ่ า้ ผมพดู เขาจะตอ้ งคดิ กอ่ น ปอ้ มนเี่ ขา ชมุ ชนกบั โรงเรยี นศนู ยเ์ ดก็ เลก็ แตล่ ะพน้ื ทม่ี ี เข้ามาร่วมกิจกรรมกับเราแล้วคำ� ตอบคือ
ชุมชนต่อไป ต่อมาปีที่ 2 มีการเชื่อมโยง ปัจจุบันบริเวณใต้ถุนบ้านของคุณ กิจกรรมท่ีน่ี และพร้อมที่จะมาร่วมท�ำ จะมเี สนห่ ก์ บั เดก็ อยา่ งเดก็ บา้ นผมนเี่ ขายงั การท�ำกิจกรรมในโครงการพื้นท่ี...นี้ดีจัง มนั ใชส่ ง่ิ ทเ่ี ขาคน้ หาอย”ู่
การท�ำกิจกรรมของห้องสมุดใต้ถุน ไปที่ เตอื นใจ สทิ ธบิ รุ ี เปน็ หอ้ งสมดุ ของชมุ ชนที่ กิจกรรมกับลูกหากมีเวลาว่าง ท�ำให้ห้อง นึกถึงป้าป้อม อยากจะมาบ้านป้าป้อมอีก ทุกศูนย์ แต่กิจกรรมท่ีด�ำเนินการกับเด็ก ภาครี ว่ มจดั งานครง้ั นม้ี ที งั้ ศนู ยก์ าร
โรงเรียน ชวนโรงเรียนวางแผนเร่ืองการ มีชีวิต เป็นแหล่งเรียนรู้ และท�ำกิจกรรม สมุดใต้ถุนบ้านไม่เป็นแค่พ้ืนที่ของเด็กแต่ คอื ปอ้ มเขาเขา้ ใจเดก็ กจิ กรรมหลกั ของทน่ี ่ี อาจตา่ งกนั ไปตามความตอ้ งการของแตล่ ะ ศึกษานอกโรงเรียนเมือง ศูนย์การศึกษา
สร้างนิสัยรักการอ่านและท�ำโครงการ ยามวา่ งของเดก็ เยาวชน และคนในชมุ ชน เป็นพ้ืนท่ีของครอบครัวอีกด้วย ความ คือ การท�ำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ผ่อนคลาย ศูนย์ อาจจะเป็นการละเล่นท่ีเป็นการ นอกโรงเรยี นต�ำบล สถาบนั ครอบครวั เขม้
ย่อยๆ เพ่ือไปจัดการตัวเองในการพัฒนา การด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนทั้ง สำ� เรจ็ ของหอ้ งสมดุ ใตถ้ นุ บา้ นนนั้ คอื ความ สำ� หรบั เดก็ ๆ เนอ่ื งจากเดก็ มาจะไดเ้ ลน่ จะ สบื สานประเพณี เชน่ การรำ� มโนราห์ การ แข็งพัทลุง และทีมงานชุมทางเขียนด้วย
หอ้ งสมดุ ของตนเอง รว่ มกนั เปน็ เครอื ขา่ ย โครงการปดิ เทอม เปดิ ตา เปดิ ใจ กบั การ สขุ ของเดก็ ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชน แตผ่ ลตอ่ ไดก้ นิ มอี ปุ กรณไ์ วใ้ หท้ �ำกบั ขา้ วกนิ มขี อง เชิดหนังตะลุง และจากการท�ำกิจกรรมนี้ แสง และเพอื่ นเครอื ขา่ ยชมุ ชน ภายในงาน
รกั การอา่ น กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ การอา่ น เชน่ ละเล่นพ้ืนฐานลานสร้างสุข โครงการปิด เน่ืองท่ีเป็นความส�ำเร็จในระดับสังคมนั้น เล่น มีหนังสือให้อ่าน มีภาพให้ระบายสี มีเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองของเด็กว่า มกี ารแสดงและการละเลน่ ตา่ งๆ เชน่   ลเิ ก
กิจกรรมเล่านิทานและทายปัญหาในช่วง เทอม เปิดตา เปิดใจ กับขนมพื้นบ้าน คอื พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ศรรี ศั ม์ิ สุดท้ายก่อนไปจากท่ีบ้านก็มีการกอดกัน ควรมีการท�ำกิจกรรมอย่างน้ีในช่วงเวลา ฮูลู จ.พัทลุง  ละครใบ้ จากกลุ่มมาหยา
เวลาพักเท่ียง พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ อาหารทอ้ งถิ่น โครงการศาสนสมั พนั ธ์กบั พระวรชายาฯ ได้ทรงลงพ้ืนท่ีมาดูเร่ือง ขยายผลจากห้องสมุดใต้ถุนบ้านมาสู่ ของวันเด็กด้วยเพราะเป็นกิจกรรมท่ี จ.กระบี่ Orchestra โรงเรียนสตรีพัทลุง
เดก็ วา่ หากตอบปญั หาชงิ รางวลั ถกู กจ็ ะได้ การสร้างสุขในชุมชน โครงการมโนราห์ อาหารพื้นบ้านในโครงการของสายใยรัก ชมุ ชน” สามารถสรา้ งความสขุ ใหก้ บั เดก็ ได้ ละครสรา้ งสรรค์ จากกลมุ่ ขา้ วย�ำละครเร ่
รับใบประกาศและรางวัล นอกจากน้ียังมี เรยี น รอ้ ง รอ้ ย รำ� สอ่ื สรา้ งสขุ ฯลฯ โดย และรัฐมนตรีก็ยังลงพ้ืนที่มาดูห้องสมุด จ.ปัตตานี หุ่นเงา กลุ่มลูกขุนน�้ำ
ห้องสมุดตู้เย็นที่โรงเรียนบ้านต้นไทร เน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของคนใน ใตถ้ นุ บา้ น” “พน้ื ทนี่ ด้ี จี งั ... เรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญาทอ้ ง- พนื้ ท.ี่ ..นดี้ จี งั จากสวนยางยม้ิ ขยาย จ.นครศรธี รรมราช วงดนตรี วงโฮป แฟมลิ ่ี
เนอื่ งจากคนในชมุ ชนนำ� ตเู้ ยน็ ทเ่ี สยี แลว้ มา ชมุ ชน เชอ่ื มโยงคน 3 วยั ทง้ั เดก็ เยาวชน “เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดหัวหมอน ถน่ิ สรา้ งความสขุ รว่ มกนั ระหวา่ งเดก็ ผู้ ผลสพู่ ทั ลงุ ยม้ิ ซุ้มกิจกรรมตามรอยขนมพื้นบ้าน อาหาร
ให้โรงเรียน โรงเรียนจึงนำ� มาท�ำห้องสมุด และผู้ใหญ่ มาร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ เป็นเด็กมัธยม ค่อนข้างเกเร ภาพลักษณ์ ปกครอง ชมุ ชน” หลังจากที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวน ทอ้ งถนิ่ จ.พทั ลงุ ถงุ ผา้ เกบ็ รกั  เขม็ กลดั ชนิ้
ตเู้ ยน็ ตดิ ปา้ ยวา่ ตปู้ ญั ญา และมมี มุ หนงั สอื สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เพ่ือสร้าง เด็กเป็นอย่างน้ันแต่เด็ก เม่ือมาอยู่กับเรา จากการที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวน สรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั เขา้ รว่ มเปน็ สว่ นหนงึ่ เดยี วในโลก ผา้ มดั ยอ้ มเกบ็ สขุ เพน้ ทส์ กี อ้ น
ร่วมด้วย เด็กนักเรียนชอบมาก จึงขยาย ความรักความอบอุ่นในชุมชน เพ่ือเป็น ตรงน้ีเขาจะเปลี่ยนไปเลย อย่างเช่น เจ้า สรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั เปน็ พน้ื ทส่ี ขี าว ทเี่ ปดิ ของภาคพี นื้ ทสี่ รา้ งสรรค ์ หรอื ทเี่ รยี กกนั วา่ หนิ -ผา้ บาตกิ กงั หนั ความรู้ วา่ วไทย ทชิ ชู่
จากโรงเรียนมาสู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าน เกราะปอ้ งกนั ปญั หาสงั คมตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ตูม เป็นเด็กเกเรมากเลยนะ แต่ท�ำไมตูม โอกาสใหเ้ ดก็ ๆ ครอบครวั ชมุ ชน มารว่ ม “พนื้ ทนี่ .ี้ ..ดจี งั ” คณุ เตอื นใจ สทิ ธบิ รุ ี กท็ ำ� มหศั จรรย ์ ศลิ ปะชใู จ ตกุ๊ ตาปนู ปลาสเตอร์
ตน้ ไทร มหี อ้ งสมดุ ตเู้ ยน็ มกี ารน�ำหนงั สอื และค่อยๆ กลายเป็น “สวนยางย้ิม” ใน มาอยู่ที่นี่ มานอนกับเพ่ือน มาวาดรูป กันท�ำกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. กจิ กรรมรว่ มกบั โรงเรยี น วดั อนามยั หลงั ชวนนอ้ งกนิ ผกั โปสการด์ เดนิ ทางของกลมุ่
การต์ นู หนงั สอื นทิ านมาไวใ้ นตเู้ ยน็ พอเดก็ ทสี่ ดุ น้องเพชร ตัวขนาดตึกมานอนคว่�ำอยู่ที่น่ี 2555 จึงมีการเช่ือมโยงประสานงานกับ จากนนั้ กข็ ยายแนวคดิ การสรา้ งพน้ื ทส่ี รา้ ง- ศลิ ปนิ เขยี นดว้ ยแสง การรอ้ ยลกู ปดั หลากสี
วา่ งวางกระเปา๋ ไดก้ ร็ บี เปดิ ตเู้ ยน็ หยบิ หนงั สอื คุณเตือนใจ สิทธิบุรี ได้กล่าวว่า แม่เขามาเห็นร้องไห้เลยนะ มาเห็นเพชร สถาบันส่ือเด็กและเยาวชน สสย. ภายใต้ สรรค์สู่หมู่บ้าน อ�ำเภอ และจังหวัดใกล้ โมบายดนิ เผา มกี ารสง่ เสรมิ การอา่ น การ
มาอ่าน เป็นการท�ำให้เด็กสนใจการอ่าน “หอ้ งสมดุ ใตถ้ นุ บา้ นนนั้ กลายเปน็ พน้ื ทเ่ี สรี นอนวาดรปู ทนี่ ี่ ถามเขาวา่ รอ้ งไหท้ ำ� ไม เขา การสนับสนุนของ สสส. ร่วมกันจัดท�ำ เคียง จากแนวคิดท่ีจะขยายงาน จึงเกิด เล่านิทานพื้นเมือง นิทานทุ่งซ่า ของเล่น
เพม่ิ มากขน้ึ ท่ีเด็กๆ อยากจะท�ำกิจกรรมอะไรก็มาใช้ บอกว่าไม่คิดว่าลูกจะมาอยู่ท่ีน่ีแล้วดูมี โครงการ “พนื้ ทนี่ .ี้ ..ดจี งั ” ซง่ึ บา้ นเกาะทงั งานระดบั จงั หวดั “พทั ลงุ ยม้ิ ” ขน้ึ เมอ่ื วนั ท่ี เดนิ ทาง นวดแลกเลา่ นทิ านมชี วี ติ ฯลฯ
ในอนาคตทางศูนย์ฯ จะขยาย พนื้ ทนี่ รี้ ว่ มกนั ไมว่ า่ จะเปน็ การวาดรปู การ ความสขุ เดก็ เกเรเมอ่ื อยขู่ า้ งนอกจะเปลย่ี น ได้ด�ำเนินการโครงการ โดยมีศูนย์พัฒนา 24 สงิ หาคม พ.ศ. 2556 ณ สวนสาธารณะ นอกจากนี้ คุณเตือนใจ สิทธิบุรี
กิจกรรมเพ่ิมเติม โดยการน�ำเอาความรู้ อ่านหนังสือ การเล่นเกม หรืออาหารการ บทบาทเลยถา้ มาอยทู่ น่ี ่ี อยา่ งเชน่ หมนู อ้ ย เดก็ เลก็ ในพน้ื ทเ่ี ปน็ ผดู้ �ำเนนิ การหลกั และ เฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา พทั ลงุ เปน็ เวที ยงั ไดก้ ลา่ วเสรมิ วา่ “เราไดค้ ยุ กบั เพอ่ื นใหม่
จากชุมชนที่มีอย่างหลากหลาย อาทิ กินต่างๆ ท่ีมีให้ จุดศูนย์รวมของเด็กใน เป็นเด็กบกพร่องทางการอ่าน แต่ถ้าถาม มาใช้พ้ืนที่ของศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวนสร้าง ใหค้ นทม่ี แี นวคดิ คลา้ ยกนั มาพบกนั ส่ิงท่ีเราได้รับกลับมามันเป็นบวกท�ำให้คน
36 37

ท�ำให้ในงานมีความหลากหลายทั้งบนเวที ใครวา่ งกม็ าชว่ ยกนั ทำ� งาน สว่ นอกี ทมี แบบ กนั ไดท้ งั้ ในรปู แบบของกจิ กรรม คน และ ซ่ึงได้มีการหารือเบ้ืองต้นท่ีจะด�ำเนินการ ต่างๆ ของกลุ่มที่แสดงถึงความเป็นกลุ่ม
และในลานเลน่ ลานแบง่ ปนั ” ทส่ี อง คอื ทมี เครอื ขา่ ย หนว่ ยงานตา่ งๆ งบประมาณ โดยมีภาคีเครือข่ายต่างๆ ต่อในเรื่อง หนังตะลุง และจะมีการเชื่อม หรือการเป็นนิติบุคคล เช่น ใบรับรอง
ทท่ี ำ� งานรว่ มกนั การทำ� งานของทน่ี ค่ี อื คยุ ภายในพน้ื ที่ อนั ไดแ้ ก่ โรงเรยี นและชมุ ชน โยงงานกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มาตรฐานในการจัดท�ำห้องสมุด เม่ือเป็น
ศูนย์เรียนรู้ชุมชนสวนสร้างสุขบ้าน กนั ไดท้ กุ เรอ่ื งไมใ่ ชค่ ยุ กนั แตเ่ รอื่ งงานเพยี ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงพยาบาลส่ง วทิ ยาเขตปตั ตานี ห้องสมุดต้องมีบรรณารักษ์ ต้องมีองค์
เกาะทงั :บรหิ ารจดั การตามวถิ ชี มุ ชน อย่างเดียว คนท�ำงานมีความเป็นกันเอง เสริมสุขภาพต�ำบลนาโหนด ศูนย์การ ประกอบของห้องสมุดอ่ืนๆ เพราะ
การบริหารจัดการ วิธีการท�ำงาน ทุกคนในแต่ละเครือข่ายมีความเต็มใจ ศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดพัทลุง (กศน.) ความภมู ใิ จในบา้ นของเรา เน่ืองจากกลุ่มเป็นกลุ่มท่ีไม่เป็นทางการ
ใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ ม องิ วถิ ชี วี ติ ประจำ� วนั ท่ีจะท�ำงานร่วมกัน เพ่ือนศูนย์เด็กเล็กก็ หนว่ ยงานภาคที อ้ งถน่ิ อบจ./อบต. ดงั นน้ั • สามารถเปน็ ตน้ แบบให้กับพืน้ ท่ี ไม่ได้จดทะเบียน แต่ในอนาคตก็อาจจะดี
พดู คยุ กนั กนิ ขา้ วดว้ ยกนั พบปะพดู คยุ กนั เช่นเดียวกัน มาช่วยงานทุกคร้ัง มาก่อน การน�ำไปสู่การแก้ไขปัญหาภาพรวมของ อนื่ ๆ ส�ำหรบั โครงการในรปู แบบคลา้ ยกนั ขึ้นเพราะหน่วยงานต่างๆ เริ่มปรับตัวมา
ตามสถานที่ต่างๆ คนท�ำงานไม่มีการจัด กลบั ทหี ลงั ทกุ คนเตม็ ใจทจ่ี ะทำ� งานเพอ่ื ให้ ชุมชนมักจะมีทางออกเสมอ อีกทั้งยังมี เป็นพื้นท่ีสร้างสรรค์ท่ีสามารถเชื่อมกับ ทำ� งานทเี่ ปน็ อสิ ระมากขนึ้ เชน่ กศน.เรม่ิ มี
โครงสรา้ งทเ่ี ปน็ ทางการแตเ่ ปน็ การท�ำงาน ชุมชนและเด็กๆ ในชุมชนมีความสุข หน่วยงานองคก์ รอน่ื ๆ ท่ชี ่วยสนับสนุนงบ พนื้ ทอี่ น่ื ๆได้ โครงการบา้ นอจั ฉรยิ ะ ซงึ่ เปน็ โครงการทจี่ ดั
ในรูปแบบของทีมงาน การท�ำกิจกรรม มกี ลไกทไี่ มผ่ กู มดั ใครเปน็ พเิ ศษ ประมาณ เชน่ สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ • เด็กในชุมชนมีความกล้า ท�ำขึ้นโดยใช้แนวคิดเดียวกับห้องสมุด
แต่ละครั้งจะมีการคิดและระดมสมอง การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) แผนงานสอื่ แสดงออกและมีความเป็นผู้น�ำมากขึ้น ใตถ้ นุ บา้ น
ร่วมก�ำหนดจัดทีมท�ำงานในการแบ่ง เยาวชนพัฒนา ชุมชนร่มเย็น เน้น สร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) ศูนย์ เชน่ นอ้ งหมแู ดง นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นหวั
บทบาทหนา้ ทท่ี ำ� งาน การกจิ กรรมไมไ่ ดม้ ี ความยงั่ ยนื คุณธรรม (องค์การมหาชน) เป็นต้น หมอน มาท�ำกิจกรรมกับห้องสมุดใต้ถุน ตน้ กำ� เนดิ ...เกดิ งานประสานภาคี
การวางแผนตามปีงบประมาณเหมอื นเชน่ การเปลย่ี นแปลงของเยาวชนทเ่ี กดิ จดุ แขง็ ของทน่ี ค่ี อื การมที มี ทเ่ี ขม้ แขง็ และ บ้านตั้งแต่ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 จน จากโครงการต่างๆ ที่ศูนย์เรียนรู้
งานราชการหรอื หนว่ ยงานอนื่ ๆ แตท่ �ำกนั ขน้ึ หลงั จากทไี่ ดเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ มคี วามถนดั ทส่ี ามารถตอ่ ยอดความส�ำเรจ็ ปัจจุบันเรียนในระดับอุดมศึกษาที่ ได้ด�ำเนินการมาอย่างยาวนาน ไม่ว่า
ไปคิดกันไปตามสภาพปัญหาท่ีเจอหรือ กิจกรรมศาสนสัมพันธ์ที่แก้ไขปัญหา ได้ มีเครือข่ายต่างๆ และมีทุนทางสังคม มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ตอนนี้น้อง จะเป็น แผนท่ีคนดี ห้องสมุดใต้ถุนบ้าน
ท�ำงานได้คิดได้วางแผนต่อว่าจะท�ำอะไร ตามสถานการณใ์ นชว่ งนนั้ ๆ การทำ� งาน ระหว่างเด็กไทย พุทธ มุสลิม ส่งผลให้ อนื่ ๆ ทม่ี คี า่ มากกวา่ เงนิ เปน็ เบอื้ งหลงั ของ สามารถเปน็ ทมี วทิ ยากรกระบวนการในการ หรอื กจิ กรรมอนื่ ๆ กต็ ามแต่ มกี ารตอ่ ยอด
ต่อ แล้วในงานนี้ท�ำให้เราได้เพื่อนใหม่ ในชมุ ชนจะไมม่ วี ธิ กี ารหรอื การก�ำหนดกฎ เยาวชนในพน้ื ทไ่ี ดร้ จู้ กั กนั มากขนึ้ มคี วาม ความส�ำเร็จที่ส�ำคัญ ผลส�ำเร็จที่ท�ำให้ทุก จดั กจิ กรรมเดก็ จดั กจิ กรรมสนั ทนาการให้ แตกกงิ่ ขยายผลออกมาเปน็ กจิ กรรมใหญๆ่
ทง้ั นกั พฒั นารนุ่ ใหม่ เครอื ขา่ ยศลิ ปนิ เมอ่ื กตกิ าหลกั เกณฑท์ แี่ นน่ อน แตเ่ ปน็ การรว่ ม สัมพันธ์ท่ีดีต่อกัน มีความเป็นเพ่ือน เกิด ภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องเกิดความภาคภูมิใจ เดก็ รว่ มกบั หนว่ ยงานตา่ งๆ เชน่ ปนู ซเี มนต์ ท้ังในระดับชุมชน จังหวัด และระดับ
ถึงเวลาท่ีเราจะต้องคุยกัน จะร่วมกันท�ำ ท�ำงานด้วยกันอย่างเต็มใจและสมัครใจ ความเขา้ ใจซงึ่ กนั และกนั มากขน้ึ เกดิ การ คือ เด็กและผู้ปกครองมีความสุข การท�ำ ตอนปี 2555 จนไดร้ บั รางวลั คนดแี ทนคณุ ประเทศ ในระดับชุมชนน้ัน ได้แก่
เรอ่ื งดๆี เหลา่ นต้ี อ่ เขากจ็ ะแสวงหาเพอื่ น  โดยใช้วิธีการการส่ือสารสร้างความเข้าใจ เปล่ียนแปลงพฤติกรรม เกิดการยอมรับ กจิ กรรมทกุ ครง้ั ทง้ั ศนู ยเ์ ดก็ เลก็ บคุ ลากร แผ่นดิน ตัวแทนของภาคใต้ ของหนังสือ โครงการบ้านอัจฉริยะ ท่ีน�ำหลักคิดจาก
เราเองก็ต้องการเพ่ือน มันจึงลงตัวพอด ี กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น เสียงตามสาย ความคิดเห็นและยอมรับงานของผู้อื่น ในโรงเรยี น มาอยดู่ ว้ ยชว่ ยงานกนั ตง้ั แตเ่ รมิ่ เครอื เนชน่ั ห้องสมุดใต้ถุนบ้านมาใช้ หลักสูตรศาสน
พอเขาเห็นกิจกรรมท่ีเราท�ำ เขาก็อยาก โทรศพั ท์ ท�ำหนงั สอื เชญิ หรอื บอกเลา่ กนั เดก็ ในชมุ ชนตอ้ งการพน้ื ทท่ี สี่ รา้ งความสขุ งานจนจบงาน นี่คือสิ่งที่เป็นก�ำลังใจท่ี • เกิดพ้ืนที่ดีน้ี...ดีจังในทุกพ้ืนที่ สัมพันธ์ที่เกิดจากการเข้าค่ายแลกเปล่ียน
ทำ� งานกบั เรา ถา้ ใครจะท�ำงานกบั พนี่ ดั มา ดว้ ยปากตอ่ ปาก จากความสำ� เรจ็ ของเกาะ ให้กับตนเองตามวัยและต้องการความรัก ท�ำให้ทีมงานสามารถท�ำงานต่อไปได้ ทม่ี คี วามพรอ้ มสามารถจดั กจิ กรรมใหเ้ ดก็ เรยี นรใู้ นชมุ ชน นำ� เดก็ ตา่ งศาสนามาเรยี น
เลย ไม่ต้องคอยหลายวัน นัดแล้วลงมือ ทงั ทคี่ ณุ เตอื นใจเรยี กวา่ เกาะทงั โมเดลนนั้ และการสัมผัสจากคนที่เขาคิดว่าเขาไว้ใจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบลไม่มีทุน มคี วามสขุ ผปู้ กครองมคี วามสขุ รรู้ ว่ มกนั ประสบความสำ� เรจ็ สามารถนำ� ไป
ทำ� งานรว่ มกนั เลย” มีการขยายผลวิธีการไปใช้ยังหมู่บ้าน ไดแ้ ละมคี วามรกั ใหเ้ ขา อาจจะแสดงออก สนบั สนนุ แตม่ คี วามคดิ ทเ่ี ปน็ ระบบ และมี • แกนน�ำในพ้ืนที่คือคุณเตือนใจ ใช้เป็นหลักสูตรในโรงเรียน รวมไปถึง
 “การจัดงานคร้ังน้ีได้มากกว่าเป้า สายใยรกั แหง่ ครอบครวั ทน่ี าปะขอ อำ� เภอ โดยการกอดหรอื พดู ใหก้ ำ� ลงั ใจ ซงึ่ บางครงั้ กำ� ลงั หลกั คอื ทมี อสม. ทมี่ คี วามเขม้ แขง็ เป็นคนที่รู้จักการให้ เป็นผู้ให้ เสียสละ โครงการพนื้ ทน่ี .ี้ ..ดจี งั ระดบั จงั หวดั ไดแ้ ก่
ท่ีเราต้ังไว้มาก มากกว่าที่เราคิดไว้อีก เมือง จังหวัดพัทลุง และต่อไปห้องสมุด เดก็ ไมไ่ ดร้ บั จากผปู้ กครองของตนเอง สิ่งที่ศูนย์ฯ จะท�ำต่อไปในอนาคต เป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ท�ำให้คนในพ้ืนที่เกิด โครงการคนดีศรีพัทลุง ซ่ึงพัฒนามาจาก
เป้าหมายงานในครั้งนี้ที่ตั้งไว้เดิมแค่ชวน ใต้ถุนบ้าน หรือหมู่บ้านสายใยรักของ ระยะแรกศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน ความศรัทธา พร้อมที่จะร่วมท�ำงานไป โครงการ 80 คนดี โดยผวู้ า่ ราชการจงั หวดั
เพื่อนเครือข่ายย้ิมในพัทลุงท่ีเราเคยย้ิม เกาะทังซ่ึงจะไม่ได้มีอยู่ที่เกาะทังที่เดียว สานเครอื ขา่ ยสรา้ งสงั คมยงั่ ยนื จะด�ำเนินงานต่อเน่ืองกับศูนย์คุณธรรม ด้วยกัน พัทลุงได้น�ำเรื่องน้ีไปเป็นแผนจังหวัด
สัญจรไปด้วยกัน มาพบ มารวมกัน มา รูปแบบน้ีจะไปเกิดที่อ่ืนด้วยทั่วประเทศ ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ น โดยการเชื่อมในส่วนของเนื้อหากิจกรรม ด�ำเนินการเร่ืองการคัดสรรคนดีประจ�ำ
แลกเปล่ียนกัน โดยจะชวนกลุ่มเรียนรู้ใน เนอื่ งจากโครงการนสี้ นใจความเปน็ เกาะทงั เกาะทงั มกี ารทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ ทมี่ คี วาม และขอการสนับสนุนงบประมาณจากทาง ปญั หาใหญท่ ยี่ งั แกไ้ ขไมล่ งตวั จังหวัดพัทลุงทุกปี และในระดับประเทศ
พน้ื ทย่ี มิ้ สญั จรมาเรยี นรรู้ ว่ มกนั เทา่ นนั้   แต่ ความเป็นห้องสมุดใต้ถุนบ้าน และสนใจ หลากหลาย และมีการท�ำงานร่วมกับ สสส. ด�ำเนินการแผนสื่อสร้างสุขภาวะ เมอ่ื ชมุ ชนเปน็ คนทำ� งาน กลมุ่ คนที่ ได้แก่ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวที่
เมอื่ ถึงเวลาที่จะจดั งานจรงิ ๆ ทางทมี งาน กจิ กรรมศาสนสมั พนั ธ์ หลายๆ หน่วยงานทั้งในพื้นที่และกับ เยาวชน ทม่ี ภี ารกจิ งานในประเดน็ ของเดก็ ทำ� งานไมไ่ ดม้ กี ารจดั โครงสรา้ งการทำ� งาน นำ� รปู แบบของบา้ นเกาะทงั ไปใชใ้ นพน้ื ทอ่ี น่ื ๆ
มาคยุ กนั เพอื่ เตรยี มงาน เราชวนเพอื่ นกลมุ่ ทมี งานทที่ ำ� งานดว้ ยกนั มี 2 แบบ องค์กรหน่วยงานท่ีช่วยสนับสนุนงบ และเยาวชน มีกลุ่มเป้าหมายเป็นศูนย์ ที่เป็นทางการ ดังน้ันปัญหาใหญ่ท่ีมักจะ
ใหม่มาด้วย ก็เกิดการเพ่ือนชวนเพื่อน  คอื เพอ่ื นในชมุ ชน เปน็ ทมี ทช่ี ว่ ยกนั ทำ� งาน ประมาณ กจิ กรรมตา่ งๆ สามารถเชอื่ มโยง พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนบ้านต้นไทร เจอเสมอ คือ การขอเอกสารประกอบ
38 39

ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม เปา้ หมาย กระบวนการ การพฒั นายกระดบั
วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม 46 ถนนจรญั สนทิ วงศ์
แขวงวดั ทา่ พระ เขตบางกอกใหญ่ กรงุ เทพมหานคร ความรู้ บรกิ ารชุมชน แคลวะาขมยยาย่งั ยผืนล โครงการอาชวี ะ
ภาคทฤษฎี และบำ� เพ็ญประโยชน์ จติ อาสา
เทคโนโลยีสยามเป็นกลจักรความรู้สู่การ นกั ศกึ ษา ความรู้ ขยายผลสู่โรงเรยี นเครอื ขา่ ย 12 โรงเรยี น
พัฒนาประเทศไทย มีปณิธาน มุ่งม่ันจัด ภาคปฏิบัติ • ซ่อมเครอื่ งใช้ไฟฟ้า บรกิ ารชมุ ชนสู่สังคม
การศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิต ให้มีคุณธรรม • บริการซ่อมรถมอเตอร์ไซค์
จริยธรรม ความรู้ และความสามารถ • การจดั กจิ กรรมสนั ทนาการ • ระบบพ่ีสอนน้อง
ทงั้ ภาคทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั • ออกคา่ ยจติ อาสา
ความต้องการของตลาดแรงงานในการ • ช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภัยพบิ ัติ
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มหาอทุ กภัย
สสู่ ากล และเปน็ กลจกั รแหง่ ความรสู้ ทู่ กั ษะ
อาชีพอย่างครบวงจร ปัจจุบันมีนักศึกษา ส่งเสริมให้นักศึกษามีคุณธรรมและจริยธรรมในการช่วยเหลือ ศนู ย์ D-Club
จำ� นวน 4,267 คน มผี บู้ รหิ าร ครู อาจารย์ ผู้อ่ืนและเป็นผู้ให้ด้วยจิตสาธารณะ เกิดความภูมิใจในตนเอง พฒั นาเครือข่าย
รวม 315 คน และเป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง รวมท้ังมีการเผย
แพรค่ วามรูส้ ู่สังคมต่อไป เพอื่ พฒั นาชมุ ชน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว และสังคม
วิทยาลัยได้ใช้กลยุทธ์เพ่ือสร้างการเรียนรู้
ประสบการณ์ ความชำ� นาญใหก้ บั นกั ศกึ ษา • จดั โครงสรา้ งระบบการท�ำงาน
โดยใช้การบริการชุมชนเพื่อให้นักศึกษา ฝา่ ยจดั หา ฝ่ายบริการ
เกิดการเรียนรู้ เกิดทักษะท่ีมาจากการ ฝา่ ยสนั ทนาการ
ลงมอื ปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั กบั ชมุ ชนบรเิ วณรอบๆ • การสร้างความรว่ มมือกบั หน่วย
วิทยาลัย จากการบริการชุมชน เพ่ือ งานภาคี (ศนู ยค์ ุณธรรม)
บำ� เพญ็ ประโยชน์ เขา้ สกู่ ระบวนการพฒั นา • การขยายการจดั ตงั้ ชมรม D-
จิตอาสาเพ่ือช่วยเหลือสังคมและการสร้าง Club ในโรงเรยี นทม่ี คี วามพรอ้ ม
วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามตั้งอยู่ นักศึกษามีท้ังทักษะทางด้านวิชาการและ เครอื ขา่ ยทำ� ใหเ้ กดิ การจดั ตงั้ ศนู ย์ D-Club
ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขต วิชาชีพ ก้าวทันเทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลง พัฒนาเครือข่ายเพื่อพัฒนาชุมชนและ แผนภาพแสดงกระบวนการดำ� เนนิ กิจรรมของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็น อยา่ งรวดเรว็ มคี ณุ สมบตั ทิ พี่ งึ ประสงคต์ รง สังคม มีภารกิจเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามี
สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน สงั กดั สำ� นกั งาน ตามความต้องการของตลาดแรงงานและ คุณธรรมและจริยธรรมในการช่วยเหลือ โรงเรียนช่างกลสยาม โรงเรียน การสอนขับรถยนต์ ธุรกิจการน�ำเข้ายาน เรยี นการสอนวชิ าชพี 3 แผนก คอื แผนก
คณะกรรมการอดุ มศกึ ษา เพอ่ื ผลติ บณั ฑติ เป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ผู้อื่น และเป็นผู้ให้ด้วยจิตสาธารณะ อาชีวศึกษาเอกชนแห่งแรกของ ยนตจ์ ากตา่ งประเทศเขา้ มาในประเทศไทย ชา่ งเครอื่ งยนตแ์ ละดเี ซล แผนกชา่ งไฟฟา้
ด้านวิชาชีพข้ันสูงในระดับปริญญาตรีและ และสังคมของประเทศ โดยเฉพาะในยุค เกิดความภูมิใจในตนเองและเป็นแบบ ประเทศไทย สู่สถาบันอุดมศึกษา การทำ� ธรุ กจิ ดงั กลา่ วเรม่ิ ประสบปญั หาการ และแผนกชา่ งวทิ ย-ุ โทรคมนาคม ใชเ้ วลา
ระดับบัณฑิตศึกษาท่ีมีความรู้ความ อตุ สาหกรรม (Industrialization) ตอ้ งการ อย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง รวมทั้ง เอกชน ขาดแคลนแรงงานท่ีมีคุณภาพและทักษะ เรียนตามหลักสูตร 3 ปี ในช่วงปี พ.ศ.
สามารถท้ังภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติใน บคุ คลกรทม่ี คี วามรคู้ วามสามารถในทกั ษะ การเผยแพรค่ วามรสู้ สู่ งั คมตอ่ ไป เ ป ้ า ห ม า ย ข อ ง ก า ร พั ฒ น า ในตลาดแรงงาน 2524 มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียน
หลากหลายสาขาวิชา โดยมุ่งหวังให้ วิชาชีพขั้นสูง บนปรัชญา วิทยาลัย ประเทศไทยคือก้าวสู่การเป็นประเทศ ปัญหาดังกล่าวท�ำให้เกิดการจุด เทคโนโลยสี ยาม (ชา่ งกล)” เพอื่ ใหม้ คี วาม
40 อุตสาหกรรม มีการน�ำเข้าความรู้และ ประกายความคดิ ในเรอื่ งการจดั ตง้ั โรงเรยี น เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั หลกั สตู ร โดย
เทคโนโลยจี ากตา่ งประเทศเขา้ มาสปู่ ระเทศ เพ่ือพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ เพมิ่ สาขาวชิ าดา้ นพาณชิ ยกรรมและมกี าร
อยา่ งตอ่ เนอื่ ง แตย่ งั ขาดแคลนบคุ ลากรทมี่ ี ดงั นน้ั จงึ ไดม้ กี ารหารอื กบั กระทรวงศกึ ษาฯ ขยายเน้ือที่เพ่ิม และมีการสร้างอาคาร
คณุ ภาพ มคี วามรู้ และทกั ษะทพ่ี รอ้ มสำ� หรบั เพือ่ ตง้ั โรงเรยี นชา่ งกลเอกชนขนึ้ มาเพอ่ื ให้ เรียนเพิ่มเติมเพ่ือให้เพียงต่อการเพ่ิมขึ้น
การขับเคล่ือนประเทศของเราสู่เส้นทาง เด็กท่ีไม่มีโอกาสได้เรียนช่างกลของ ของจำ� นวนนกั ศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
อตุ สาหกรรมทมี่ งุ่ หวงั จากปญั หาดงั กลา่ ว โรงเรยี นภาครฐั เปน็ การใหโ้ อกาสคนทำ� ให้ ต่อมาปี พ.ศ. 2548 มีการจัดตั้ง
ดร.ณรงค์ มงคลวนชิ ผอู้ ำ� นวยการวทิ ยาลยั เกิดการพัฒนาและสร้างอาชีพ มากกว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม” ซ่ึงมีพื้นที่ติด
เทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) เป็นผู้ท่ีได้ การทำ� ธรุ กจิ การศกึ ษา จงึ ไดก้ อ่ ตง้ั สถาบนั กับโรงเรียนเทคโนโลยีสยามโดยแยกพื้นท่ี
ประสบปัญหาดังกล่าว และตระหนักเห็น อาชวี ศกึ ษาเอกชน ทใี่ หบ้ รกิ ารความรทู้ าง ท้ังสองสถาบันอย่างเป็นสัดส่วน เพ่ือจัด
ความส�ำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น ท้ังนี้สืบ ด้านช่างอุตสาหกรรม แห่งแรกของ การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื งสำ� หรบั นกั เรยี นทจี่ บการ
เนอื่ งมาจากในชว่ งปี พ.ศ. 2500 ผกู้ อ่ ตง้ั ได้ ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2508 โดยใช้ชื่อ ศึกษาจากทางโรงเรียนเทคโนโลยีสยาม
ทำ� ธรุ กจิ เรอื่ งยานยนต์ ทางดา้ นการซอ่ มรถ วา่  “โรงเรียนช่างกลสยาม” จัดให้มีการ- โดยเปิดหลักสูตรปริญญาตรีทางด้าน
41

เทคโนโลยีและบริหารธุรกิจท่ีรองรับทุก จัดให้นักศึกษามีการฝึกปฏิบัติจริง ดังนั้น เรอ่ื ยๆ ตามความสนใจของสมาชกิ ชมรม Com(WpeIStiEtWivMeISoWEdoerlkfoforrce) อาชีวะสูโ่ มเดลรูปแบบใหม่
หลักสูตรที่เปิดสอนในโรงเรียนเทคโนโลยี ในช่วงสิบปีท่ีผ่านมา นักศึกษาจาก จติ อาสา จนกระทง่ั นกั ศกึ ษาในแผนกอน่ื ๆ (CWoomrkp-Werteelantceyd)
สยาม แล้วจึงขยายสาขาวิชาที่เป็นท่ี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามจึงมีการจัด ก็มาเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมจิต ต่อมา สมรรถนะทางวชิ าชีพ
ต้องการของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม บรกิ ารชมุ ชนในเขตธนบรุ ี ซงึ่ มพี นื้ ฐานของ วทิ ยาลยั เทคนคิ สยาม ไดเ้ ขา้ รว่ มเปน็ เครอื T(IencfohrnmIoalotigoyn) รวมทงั้ ประสบการณ์ทักษะและการ
ไทยเพมิ่ เตมิ โดยมงุ่ เนน้ จดั การศกึ ษาใหม้ ี การเป็นผู้ให้และผู้รับ จิตอาสา มีการทำ� ข่ายของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) (aSnodcDiailsSSceiprlvinicee)
ความตอ่ เนอ่ื งและเทา่ เทยี มกนั ตอ่ มาในปี กจิ กรรมบรกิ ารซอ่ มรถยนต์ ซอ่ มเครอื่ งใช้ ท�ำให้เกิดการท�ำกิจกรรมร่วมกันของ La(EnnggulaisgEheaSnkdill) ผา่ นทดสอบทางวชิ าชีพ
พ.ศ. 2554 มีพระราชบัญญัติโรงเรียน ไฟฟ้า บริการซ่อมมอเตอร์ไซค์ ซึ่งให้ สมาชิกในชุมชมอย่างต่อเน่ือง รูปธรรมที่ ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์
เอกชน 2554 (ฉบบั แกไ้ ข) ประกาศราชกจิ นักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ เกิดข้ึนจากการท�ำกิจกรรมจิตอาสามา
จานเุ บกษา ลงวนั ท่ี 9 มถิ นุ ายน 2554 จงึ สร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง ตลอดระยะเวลา 3 ปี คือ การจัดต้ัง และระบบสารสนเทศไดอ้ ยา่ ง
มีการเปล่ียนชื่อเป็น “วิทยาลัยเทคโนโลยี ในขณะท่ีชุมชนได้รับประโยชน์จากการ ธนาคารออมสินในวิทยาลัย เพ่ือส่งเสริม มปี ระสทิ ธิภาพ
(สยามเทค)” เปน็ สถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน บรกิ ารของนกั ศกึ ษาในสาขาวชิ าชพี ตา่ งๆ การออมของนกั ศกึ ษา ทง้ั นอ้ี นั เนอ่ื งมาจาก
สังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา นอกจากน้ียังมีการจัดกิจกรรม สภาพและสถานะของนักศึกษาในระดับ สมรรถนะด้านคุณธรรม
เพอ่ื ผลติ บณั ฑติ ดา้ นวชิ าชพี ขน้ั สงู ในระดบั เสริมเพ่ือให้นักศึกษาเรียนรู้ด้านการ ปวช.และปวส. ที่ยังเป็นเยาวชนยังมี วินยั และการบริการ
ปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา เปิด บำ� เพญ็ ประโยชน์ โดยการใชก้ จิ กรรมของ พฤติกรรมใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายเกิน
บริการทางการศึกษาในสาขาวิชาที่หลาก ลกู เสอื เปน็ เครอ่ื งมอื ใหเ้ กดิ กจิ กรรมบำ� เพญ็ ความจำ� เปน็ ตามสภาพของสงั คม และการ สมรรถนะด้านภาษาองั กฤษ
หลาย โดยคำ� นงึ ถงึ ความตอ้ งการทแี่ ทจ้ รงิ ประโยชน์ สรา้ งจติ อาสา จนกระทง่ั ท�ำให้ มีคุณธรรมและจริยธรรมในการช่วยเหลือ และการสือ่ สาร
ของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม และเป็นการ เกิดการรวมตัวกันของนักศึกษาแผนก สงั คมยงั นอ้ ยมาก ทางวทิ ยาลยั เทคโนโลยี
เช่ือมต่อโลกแห่งการศึกษาและโลกแห่ง ยานยนต์ ต้ังชมรมอาสาพัฒนายานยนต์ สยามได้ตระหนักถึงปัญหาสังคมท่ีเป็นอยู่ นอกจากการเสริมสร้างความรู้ Discipline เป็นสมรรถนะด้านคุณธรรม บคุ ลากรใหไ้ ดต้ ามโมเดล W I S E ในแตล่ ะ
งานทแี่ ทจ้ รงิ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการที่ ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2542 โดยนกั ศกึ ษาจะรว่ มกนั จึงได้มีการจัดต้ังธนาคารโรงเรียนขึ้นใน ประสบการณ์ให้นักเรียนนักศึกษาจาก วินัย และการบริการ และ E คือ English สาขาวชิ า
หลากหลายยิ่งข้ึนของสังคม มีการขยาย ทำ� โครงการ กจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ การแขง่ ปีพ.ศ.2553 เพ่ือสนับสนุนการออมแก่ โดยการใช้บริการชุมชนเป็นเครื่องมือดังที่ and Language Skil เปน็ สมรรถนะดา้ น
พ้ืนท่ีเพ่ิมปัจจุบันมีพ้ืนที่ท้ังหมด 13 ไร่ แรลร่ี ทำ� คาราวานปลกู ปา่ การตง้ั กลอ่ งรบั นักศึกษา แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจาก กล่าวถึงข้างต้น ในช่วงปี พ.ศ. 2552 ภาษาองั กฤษและการสอ่ื สาร โดยสามารถ ก้าวสู่งานพัฒนาอาชีวะจิตอาสาท่ี
250 ตร.ว. และมกี ารกอ่ สรา้ งอาคารเรยี นเพมิ่ บริจาคและน�ำเงินไปช่วยสาธารณะ นกั ศกึ ษามากนกั ทำ� ใหค้ ณะผบู้ รหิ ารวทิ ยา- วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามไดน้ �ำแนวอาชีวะ ใช้ภาษาสากลและการส่ือสารได้อย่างมี มองความยง่ั ยนื
เพ่ือรองรับการพัฒนาตามแผนงานของ ประโยชน์ในโครงการเพือ่ นพ่งึ (ภาฯ) ยาม ลัยฯ เห็นว่า จะต้องมีการสนับสนุนให้ สู่โมเดลรูปแบบใหม่ท่ีสร้างสรรค์มาจาก ประสทิ ธภิ าพ การให้บริการชุมชนในเขตธนบุรี
โรงเรยี น อาคารอเนกประสงคน์ เี้ ปน็ อาคาร ยาก หลังจากน้ันกิจกรรมก็ปรับปรุงไป นกั ศกึ ษาเหน็ คณุ คา่ ของการออม ความคิดของ ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช อาชีวะโมเดลหรืออาชีวะสายพันธุ์ มีการด�ำเนินมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสิบท่ี
15 ชั้น ที่มีความทันสมัย ประกอบด้วย ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนเทคโนโลยีสยาม ใหม่ เกดิ จากการศกึ ษา คดิ คน้ และพฒั นา ผา่ นมา รวมทงั้ มกี ารทำ� กจิ กรรมของชมรม
หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร และสำ� นกั งาน มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับโลก โดยดร.จอมพงศ์ มงคลวนชิ ผอู้ ำ� นวยการ อาสาพัฒนายานยนต์ ซึ่งการท�ำกิจกรรม
อาชีวะสายพันธุ์ใหม่ สร้างความรู้ โลกาภวิ ตั นใ์ นปจั จบุ นั อกี ทงั้ ภาวะถดถอย วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม ซงึ่ เปน็ ความรว่ ม เปน็ การทำ� เปน็ ครงั้ ๆ ไป ยงั ไมเ่ ปน็ รปู ธรรม
ทกั ษะ ประสบการณ์ จากการบำ� เพญ็ ทางเศรษฐกจิ และปญั หาแรงงาน ทจ่ี ะตอ้ ง มือวิจัยทางด้านการศึกษากับทางมหา- มากนกั จนกระทง่ั ในปี พ.ศ. 2554 มกี าร
ประโยชน์รว่ มกับชุมชนและสงั คม พัฒนาบุคคลให้มีความรู้ความสามารถ วิทยาลัยฮาร์วาร์ดครั้งเม่ือเรียนอยู่ท่ีนั่นได้ ประสานความร่วมมือและได้รับการ
และมสี มรรถนะใหส้ อดคลอ้ งตรงกบั ความ น�ำแนวคิดนี้มาต่อยอด เพื่อท่ีจะพัฒนาผู้ สนับสนุนจากศูนย์คุณธรรม (องค์การ
ปณิธานของวิทยาลัยเทคโนโลยี ต้องการของตลาดวิชาชีพในยุคปัจจุบัน ประกอบวชิ าชพี การพฒั นานกั ศกึ ษาในการ มหาชน) ท�ำให้เปล่ียนมุมมองของการทำ�
สยามคือ มุ่งมั่นจัดการศึกษาเพ่ือผลิต พร้อมกับสามารถไปแข่งขันภายนอก แขง่ ขนั สรู่ ะดบั สากล โดยหลกั สตู รจะสอน กิจกรรมเพ่ือการบริการชุมชนท่ีคิดถึง
บัณฑิต ให้มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ประเทศได้ ซึ่งแนว “อาชีวะสู่โมเดลรูป แบบบรู ณาการ คอื มงุ่ เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นทงั้ ความยงั่ ยนื โครงการ กจิ กรรม ใครกท็ ำ� ได้
และความสามารถทั้งภาคทฤษฎีและ แบบใหม”่ “อาชวี ะสายพนั ธใ์ุ หม”่ มโี มเดล ทฤษฎีและปฏิบัติควบคู่กันไป ทั้งการ แตท่ ม่ี ากกวา่ นนั้ คอื จะทำ� อะไรแลว้ ใหเ้ กดิ
ปฏบิ ตั ิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของ อยู่ 4 สมรรถนะ ได้แก่ W I S E (WISE ฝึกงานนอกสถานที่ กิจกรรมเสริม ความยงั่ ยนื และทำ� อยา่ งไรทที่ ง้ั หมดไมไ่ ด้
ตลาดแรงงานในการพฒั นาเศรษฐกจิ และ Model for Competitive Workforce) หลกั สตู ร และการทดสอบสมรรถนะตา่ งๆ เกิดจากผู้บริหารหรือคณาจารย์เป็นคนท�ำ
สังคมของประเทศสู่สากลและเป็นกลจักร แบง่ เปน็ W (Work-related Competency) จากมาตรฐานฝมี อื แรงงาน เพอื่ สรา้ งความ เพยี งฝา่ ยเดยี ว แตต่ อ้ งเกดิ จากความรว่ มมอื
แหง่ ความรสู้ ทู่ กั ษะอาชพี ครบวงจร ดงั นนั้ คือ สมรรถนะทางวิชาชีพ รวมท้ัง เขม้ แขง็ และความเปน็ ผนู้ ำ� ทางวชิ าชพี ทผี่ ู้ ร่วมใจระหว่างโรงเรียน ชุมชน และ
หลกั สตู รการเรยี นการสอนจงึ เปน็ การเรยี น ประสบการณ์ทักษะ และการผ่านทดสอบ เรียนสามารถจะน�ำไปประยุกต์ใช้เพื่อ นักศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยหลักท่ีท�ำให้
รู้แบบบูรณาการท่ีมุ่งเน้นการเรียนรู้จาก ทางวชิ าชพี , I คอื Information Technology ศึกษาต่อในระดับสูงต่อไปได้ หรือจะไป เกดิ ความยง่ั ยนื อนั เกดิ จากการมสี ว่ นรว่ ม
ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ตั คิ วบคกู่ นั มกี าร เปน็ สมรรถนะสารสนเทศ รวมทง้ั การคน้ พบ เป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ ของทกุ ภาคสว่ นทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
42 และความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ การพัฒนาบุคลากรก็จะต้อง
แ ล ะ ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ไ ด ้ อ ย ่ า ง มี เป็นไปตามแผน W I S E เหมือนกัน
ประสทิ ธภิ าพ, S คอื Social Service and ซ่ึงโมเดลจะต้องใช้ระยะเวลาท่ีจะผลิต
43

จนกระท่ังเกิดแกนน�ำนักศึกษาเร่ืองจิต สอนรายช่ัวโมง กลุ่มอาชีวะจิตอาสาฯ กเ็ กดิ ความภาคภมู ใิ จในตวั ของนกั ศกึ ษาที่ และคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ สอื่ ทสี่ ามารถกระจาย
อาสาของวทิ ยาลยั ในการทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ D-Club กจ็ ดั คนไปรว่ มและลงพน้ื ทต่ี าม เป็นเด็กท่ีมีจิตอาสา และเป็นผู้ท่ีมี ได้เร็ว ทางแผนกคอมพิวเตอร์จึงมีความ
ในชว่ งปี พ.ศ. 2554 เกดิ ภยั พบิ ตั ิ โรงเรยี นเครอื ขา่ ย สอนนอ้ งหลายๆ ชน้ั ปี ศักยภาพในการท�ำงานสามารถแก้ไข คดิ และความมงุ่ หวงั วา่ ถา้ เรามเี นอื้ หาดๆี
ในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตพ้ืนท่ี ยกเวน้ ม.3 และ ม.6 เนอื่ งจากแกไ้ ขปญั หา ปญั หาใหผ้ อู้ นื่ ได้ มีการส่งเสริมเรื่องท่ีเยาวชนไปท�ำเร่ือง
ชมุ ชน กรงุ เทพ และปรมิ ณฑลไดก้ ลาย เปน็ พน้ื ที่ ภาพลักษณ์การดึงตัวนักเรียนมาเรียนท่ี อาจารย์ : “ส�ำหรับวิชาคอมพิว- จติ อาสา กจ็ ะทำ� ใหส้ งั คมรบั รใู้ นวงกวา้ งขนึ้
ประสบมหาอทุ กภยั ตดิ ตอ่ กนั เปน็ เวลานาน สยามเทค หรือการหาลูกค้าเข้าโรงเรียน เตอร์ ไมร่ วู้ า่ จะออกไปบรกิ ารชมุ ชนอยา่ งไร แผนกคอมพิวเตอร์มองว่าการท�ำความดี
หลายเดือน ชุมชนส่วนใหญ่ประสบกับ นอกจากน้ียังมีการตักบาตรหนังสือดีๆ ชุมชนเองก็ไม่ใช่ว่ามีคอมพิวเตอร์ทุกบ้าน นนั้ เปน็ เรอื่ งปกติ เปน็ ทรี่ บั รกู้ นั ในวงทก่ี วา้ ง
ปัญหาด้านท่ีอยู่อาศัย บ้านเรือน และ เพอ่ื นำ� หนงั สอื ไปบรจิ าคใหก้ บั โรงเรยี นตา่ งๆ เราก็มองว่าคนทุกคนมีเร่ืองศีล คือความ อยแู่ ลว้ นอกจากนที้ างแผนกยงั ใหน้ กั ศกึ ษา
ข้าวของเคร่ืองใช้เสียหาย ขาดแคลนน้�ำ ในการลงพน้ื ทเี่ พอ่ื ทำ� กจิ กรรมจะมี เป็นปกติ คนท่ีไม่ใส่เส้ือผ้าคือคนผิดปกติ ทำ� เวบ็ ไซต์ เพอื่ เผยแพรค่ วามดี ทำ� สารคดี
เพื่อการอุปโภคบริโภค จากสถานการณ์ คณะทำ� งานของกลมุ่ D-Club ทำ� หนา้ ทใ่ี น ฉะน้ันเราจึงคิดว่า จะท�ำให้อย่างไรให้ ความดปี ระกวดกนั อกี ดว้ ย”
โรงเรียน นักศกึ ษา ภัยพิบัติท่ีเกิดขึ้นท�ำให้คณาจารย์และ การกล่ันกรองคนเพื่อลงพื้นที่ท�ำกิจกรรม คนในสังคมมองเห็นว่าคนท่ีทำ� ความดีคือ นักศึกษาคอมพิวเตอร์กราฟิก :
นกั ศกึ ษาทมี่ จี ติ อาสารว่ มกนั ออกพน้ื ทเี่ พอ่ื ซึ่งในการกล่ันกรองจะมีการพิจารณาจาก การท�ำเรื่องปกติ คนท่ีไม่ท�ำความดีต่าง “ส�ำหรับโครงการการประกวดสื่อความดี
ช่วยเหลือและบริการประชาชนในชุมชน พฤตกิ รรม ความตง้ั ใจ และความขยนั ใน หากคือ คนท่ีผิดปกติ ฉะน้ันการที่เราจะ (Smart Digital Media Award) เปน็ การ
ตา่ งๆ ในเขตธนบรุ ี และมกี ารทำ� โครงการ การทำ� กจิ กรรม ไมเ่ อาเปรยี บเพอ่ื น และใช้ เสนอข้อมูลตรงน้ีท�ำให้สังคมเกิดความ ประกวดจากผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนทั่ว
“อาชีวะจิตอาสาบริการชุมชนสู่สังคม” ปริมาณงานที่จะลงไปท�ำงานเป็นตัวต้ังว่า ตระหนกั ทำ� ใหส้ งั คมเหน็ วา่ การทำ� ความดี ประเทศ ซง่ึ หนมู องวา่ ในอนิ เตอรเ์ นต็ มสี อื่
หรือเรียนว่า อาชีวะจิตอาสาฯ D-Club ต้องการคนก่ีคนท่ีจะลงไปท�ำงาน อีกท้ัง การท�ำจิตอาสาเป็นค่านิยมที่ถูกต้อง มากมายหลายอย่าง มีข้อมูลแย่ๆ และ
เป็นการรวมกลุ่มของทางคณาจารย์และ เด็กช่างมีความถนัดต่างกัน ต้องดูความ ดา้ นลบมากมาย ถา้ เราใชส้ อื่ เปน็ เครอื่ งมอื
รูปภาพแสดงการบูรณาการพลัง นิสัยรักการออม ความพอเพียง และส่ง นักศึกษาท่ีมีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ถนดั ของแตล่ ะคนดว้ ย การท�ำกจิ กรรมใน ในการเผยแพร่ความดี โดยใช้เน้ือหาของ
จติ อาสา เสริมให้นักศึกษามีจิตอาสา ในการช่วย รวมพลังเป็นชมรม เพื่อให้คณาจารย์และ การออกคา่ ยคอื การสอนเรอ่ื งการแกะสลกั ทางวทิ ยาลยั ใหเ้ ดก็ วยั รนุ่ ไทยไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ ง
โดยในช่วงแรกของการก้าวเข้ามา เหลือผู้อื่นและการเป็นผู้ให้ด้วยจิต นักศกึ ษาท่ีมจี ิตอาสาไดน้ �ำเอาความรดู้ ้าน การจดั ชอ่ ดอกไมใ้ นงานตา่ งๆ ซอ่ มเครอื่ ง ความดีโดยการประกาศความดีให้ใน
เป็นเครือข่ายเสริมสร้างจิตอาสาร่วมกับ สาธารณะ วชิ าชพี ทเี่ รยี นมาออกหนว่ ยเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผู้ ปรบั อากาศ ซงึ่ ความสำ� เรจ็ ทเี่ หน็ ไดช้ ดั เกดิ โรงเรยี นไดท้ ราบโดยทว่ั กนั กอ่ น และแผนก
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ในปี ประสบอุกทกภัย โดยการบริการซ่อม จากปัจจัยส�ำคัญคือความร่วมมือระหว่าง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ ยั ง มี ก า ร ล ง พ้ื น ที่ ส อ น
พ.ศ. 2554 ในการส่งเสริมจิตอาสาให้กับ อาชีวะจิตอาสาฯ “D-Club” รวม อปุ กรณเ์ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และ ภาครัฐ ซ่ึงหมายถึง ศูนย์คุณธรรม คอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนเครือข่ายอีก
นักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามได้ พลงั จติ อาสาสรา้ งสรรคก์ จิ กรรมเพอ่ื การซอ่ มเครอื่ งยนต์ นอกจากนยี้ งั มกี ารจดั (องค์การมหาชน) กระทรวงวัฒนธรรม ดว้ ยคะ่ ”
พยายามสรา้ งความตระหนกั ใหน้ กั ศกึ ษามี บรกิ ารโรงเรยี นและชมุ ชน ทำ� ถงุ ยงั ชพี เพอื่ แจกจา่ ยใหก้ บั ชมุ ชนตา่ งๆ ภาคชุมชนและโรงเรียนเครือข่ายต่างๆ นักศึกษาคอมพิวเตอร์กราฟิก :
จติ สำ� นกึ ในการเปน็ ผใู้ หเ้ พอื่ ทจ่ี ะลดปญั หา ดังที่กล่าวถึงข้างต้นว่ารูปแบบการ รวมถึงการร่วมกับชุมชนท�ำความสะอาด ร่วมถึงวิทยาลัยสยามเทคโนโลยี ซึ่งเป็น “หลงั จากทปี่ ระกวดสารคดแี ลว้ ไดร้ างวลั
เรื่องของการทะเลาะวิวาทด้วย แต่ปัญหา เรยี นรขู้ องนกั ศกึ ษาใหค้ วามส�ำคญั ของการ โรงเรยี น วดั และพนื้ ทนี่ ำ้� ทว่ มอนื่ ๆ แกนน�ำและเป็นผู้ประสาน การได้ท�ำ
อาชีวะในกรุงเทพมหานครน้ันเป็นต�ำนาน ฝึกทักษะจากการลงมือปฏิบัติจริงให้กับ อ า ชี ว ะ จิ ต อ า ส า ฯ D - C l u b กจิ กรรมทต่ี อ่ เนอื่ งและเปน็ รปู ธรรม ท�ำให้
มายาวนาน เราไมต่ เี ขา เขากต็ เี รา ฉะนน้ั นกั ศกึ ษา ดงั นน้ั จงึ มนี โยบายทใ่ี หน้ กั ศกึ ษา เป็นการรวมกลุ่มของนักเรียนท่ีมีความ นักเรียนเร่ิมมีความตื่นตัวและขยายวง
การท่ีสยามเทคจะน�ำนักเรียนไปท�ำงาน ออกใหบ้ รกิ ารชมุ ชนตา่ งๆ ทอ่ี ยบู่ รเิ วณรอบ สนใจในการทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ และเปน็ ผทู้ ี่ กว้างในกลุ่มท่ีจะไปร่วมท�ำกิจกรรม
เรื่องจิตอาสาท้ังโรงเรียนเป็นเร่ืองท่ียาก วทิ ยาลยั เปน็ เวลาตอ่ เนอื่ งกนั มานานนบั 10 มีจิตอาสานักเรียนมีความสุขในการท�ำ จากการทำ� โครงการอาชวี ะจติ อาสาบรกิ าร
ล�ำบาก ค่อนข้างมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง ปี โดยการลงพื้นที่ของนักศึกษาเป็นการ กจิ กรรม เชน่ การลงพน้ื ทท่ี ำ� กจิ กรรมชว่ ย ชุมชนสู่สังคม ท�ำให้มีการจัดตั้งศูนย์
วทิ ยาลยั จงึ ไดพ้ ยายามทจี่ ะเปลย่ี นพลงั ของ บริการชุมชนและการบ�ำเพ็ญประโยชน์ใน เหลือผู้ประสบภัยน�้ำท่วม การช่วยซ่อม D-Club เพอื่ การพฒั นาเครอื ขา่ ยจติ อาสา
เด็กที่จะไปบู๊ ทะเลาะวิวาทกัน ให้มา ชุมชนต่างๆ อาทิ ซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ เคร่ืองไฟฟ้าที่ถูกน้�ำท่วม ท�ำลวดหนาม (ดงั จะกลา่ วในรายละเอยี ดตอ่ ไป)
เปน็ การบงู๊ านทเี่ กดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมแทน ไฟฟา้ รถมอเตอรไ์ ซค์ และอปุ กรณเ์ ครอื่ ง ล้อมพื้นท่ี กิจกรรมเหล่านี้นักศึกษาจะได้ การทำ� กจิ กรรมดงั กลา่ วนกั ศกึ ษาที่
จึงท�ำให้เกิดการจัดต้ังศูนย์คุณธรรม ใช้ไฟฟ้าอื่นๆ และได้รับความร่วมมือกับ เรียนรู้และฝึกทักษะตนเองจากการได้ เขา้ มาอยใู่ นชมรมและไดท้ ำ� กจิ กรรมตา่ งๆ
อาชวี ะจติ อาสา “D-Club” และปจั จบุ นั ได้ ชุมชนเป็นอย่างดี เช่น ชุมชนปกอรุณ บรกิ ารและการชว่ ยเหลอื สงั คม ไดท้ งั้ ความ ชว่ ยเหลอื ชมุ ชน และไปสอนนอ้ งทโี่ รงเรยี น
ท�ำโครงการร่วมกันภายใต้ โครงการส่ง- ชุมชนโคกกระเทียม ส�ำนักงานเขต รู้ ความสขุ และเพอ่ื น ทำ� ใหน้ กั ศกึ ษาชอบ เครือข่าย ต่างเกิดความภาคภูมิใจในตัว
เสริมคุณธรรมโครงการส่งเสริมคุณธรรม บางกอกนอ้ ย บางกอกใหญ่ นอกจากนยี้ งั กิจกรรมดังกล่าว ิส่วนกิจกรรมหลักของ เองและภาคภูมิใจในตัวของของวิทยาลัย
สร้างอาชีวะจิตอาสาเพ่ือพัฒนาชุมชนสู่ เกดิ ประสบการณ์ในการทำ� งานรว่ มกบั โรง กลุ่ม D-Club คือจิตอาสาสอนตาม ทตี่ นเองสามารถไปทำ� ประโยชนใ์ หก้ บั ผอู้ น่ื
สงั คม เพอื่ สง่ เสรมิ และปลกู จติ สำ� นกึ สรา้ ง เรียนอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีบางกะปิ โรงเรยี นตา่ งๆ ทเ่ี ครอื ขา่ ยเสนอมาเปน็ การ ได้ รวมท้ังครู และอาจารย์ในวิทยาลัย
44 45

นอ้ งๆ กม็ าคยุ ดว้ ยและบอกวา่ อยากท�ำได้ ในโรงเรียนต่างๆ เช่น การแก้เครื่องยนต์ อาสาร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ ซ่อมอุปกรณ์ ซ่ึงต้องเสียสละเพราะต้อง ความไม่ต่อเนื่องในการท�ำกิจกรรมได้เช่น หวังจะเห็นเด็กท่ีท�ำกิจกรรมร่วมกันกับ
เหมือนพ่ีๆ บ้างจัง ถ้าน้องไปเรียนตามท่ี การซอ่ มเครอื่ งไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การแกะ องค์ความรู้ของศูนย์ร่วมกับโรงเรียน แลกกบั การเสยี โอกาสในการเรยี นบางวชิ า” กนั วิทยาลัยสามารถเป็นแกนน�ำในโรงเรียน
เรยี นเอกชนจะเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยเยอะ ผมกเ็ ลย สลัก หลังจากท่ีมีการตั้งกลุ่มอาชีวะจิต เครือข่ายในงานสมัชชาคุณธรรมร่วมกับ ความคาดหวังต่อศูนย์คุณธรรม ของเขาได้ในเร่ืองของจิตอาสา เพราะ
คยุ กบั เพอื่ นๆ วา่ ใครจะมาชว่ ยกนั สอนนอ้ ง อาสา D-Club ยงั คงมกี ารทำ� กจิ กรรมและ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ปญั หาทยี่ งั แกไ้ ขไมไ่ ด้ (องคก์ ารมหาชน) คอื เขา้ ไปสรา้ งความรู้ ความแตกต่างของระบบการศึกษา
บา้ งกม็ เี พอื่ นๆ มาชว่ ยเยอะ ผมกป็ ระกาศ ความสมั พนั ธก์ บั เครอื ขา่ ยเดมิ เชอ่ื มโยงกนั เม่ือนักศึกษาได้รับการเพาะบ่ม ความเขา้ ใจบทบาทการเสรมิ หนนุ เครอื ขา่ ย สยามเทคมงุ่ หวงั เรอื่ งการสอนใหเ้ ดก็ ทำ� เปน็
ผ่าน เฟซบุ๊ก ชักชวนรุ่นน้องท่ีสนใจมา เรอ่ื ยมา มรี ะบบพส่ี อนนอ้ งเพอ่ื ใหเ้ กดิ การ อาชวี ะจติ อาสา เพอ่ื พฒั นาตนเอง เร่ืองจิตอาสามาเป็นระยะเวลานานและ ของศนู ยค์ ณุ ธรรมใหโ้ รงเรยี นเครอื ขา่ ยของ แตร่ ะบบการศกึ ษาแบบสามญั มงุ่ เนน้ ไปใน
เรยี น” เรยี นรู้ มพี นื้ ฐานทกั ษะอาชพี กลมุ่ D-Club การเสริมสร้างให้นักศึกษาเกิดจิต เมื่อได้ลงมือท�ำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับ สยามเทคไดเ้ กดิ ความรคู้ วามขา้ ใจมากขนึ้ แต่ละรายวิชา แต่สิ่งที่ไม่มีคือ ครูช่างใน
นกั ศึกษาการโรงแรม : “ดใี จทไ่ี ด้ จะส่งสมาชิกในกลุ่มไปท�ำหน้าที่สอนตาม อาสาของวทิ ยาลยั สยามเทคโนโลยเี ปน็ วสิ ยั ชมุ ชน และรวมทงั้ โรงเรยี นเครอื ขา่ ยอยา่ ง เน่ืองจากบางโรงเรียนอาจจะสามารถ โรงเรยี นของลกู ขา่ ย เมอื่ สยามเทคไปสอน
มีโอกาสไปสอนน้องโรงเรียนเครือข่ายใน ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ของแตล่ ะโรงเรยี น ทำ� หนา้ ที่ ทัศน์ของวิทยาลัย เพ่ือแสดงให้เห็นถึง ต่อเน่ือง จะท�ำให้เกิดความรับผิดชอบ มี พัฒนาศักยภาพตนเองและมีศักยภาพใน และถอยออกมา เด็กท่ีเราไปฝึกให้เป็น
การจดั ดอกไม้ และแกะสลกั ผกั ผลไม”้ ให้ความรู้ น�ำอุปกรณ์ เครื่องมือไปให้ฝึก อุดมการณ์และปณิธานของการสร้างเด็ก ความเปน็ ผใู้ หม้ ากขนึ้ และมคี วามตอ้ งการ การด�ำเนินกิจกรรมด้านคุณธรรมได้ด้วย แกนน�ำไว้ขาดที่ปรึกษา และไมได้เรียนรู้
ปฏบิ ตั เิ พอ่ื เพมิ่ พนู ความรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ อาชีวะให้รู้จักการเป็นผู้ให้และมีคุณธรรม ที่จะลงพื้นท่ีท�ำประโยชน์เพ่ิมมากข้ึน แต่ ตนเอง เน่ืองจากสยามเทคก็อาจจะไม่ อย่างต่อเน่ือง นี่คืออีกปัญหาและจะเป็น
สร้างเครือข่ายขยายพลังอาชีวะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 มีการสาน และควรจะเป็นเงื่อนไขในการเรียนการ การพานกั ศกึ ษาไปลงพนื้ ทนี่ น้ั เปน็ เรอื่ งยาก สามารถไปท�ำงานกบั แต่ละโรงเรียนตลอด ปัญหาต่อเนื่องไปในอนาคต ส่วนปัจจัยท่ี
จติ อาสารว่ มกบั ศนู ยค์ ณุ ธรรม ตอ่ การทำ� กจิ กรรมของศนู ย์ D-Club ทำ� ให้ สอนของเดก็ เพอื่ ฝกึ และสรา้ งเรอ่ื งจติ อาสา การคัดเลือกนักศึกษาท่ีจะไปท�ำกิจกรรม ไปได้ ท�ำให้ประสบความส�ำเร็จอีกเรื่องในการ
ดงั ทกี่ ลา่ วถงึ ขา้ งตน้ วา่ จากการทำ� เกิดการท�ำโครงการต่อยอดจากโครงการ ให้เกิดความตระหนักในใจและกลายเป็น รวมถึงการรักษาความปลอดภัยนักเรียน รวมทั้งเรื่องเวลาในการลงพ้ืนท่ีท�ำ ทำ� งานคอื ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น หรอื ผอู้ �ำนวย
โครงการอาชีวะจิตอาสาบริการชุมชนสู่ ศนู ย์ D-Club เพอ่ื การพฒั นาเครอื ขา่ ยจติ วิถีปฏิบัติ เป็นแบบแผนท่ีดีงาม อีกท้ังยัง เนื่องบริบทของโรงเรียนอาชีวะแถวหน้าท่ี กิจกรรมซึ่งบางคร้ังตรงกับเวลาท่ีเป็นการ การโรงเรยี น หากผบู้ รหิ ารเหน็ ดว้ ย งานก็
สังคม เพ่ือให้เกิดความต่อเนื่องจึงมีการ อาสา มาเป็นโครงการศูนย์ D-Club เปน็ การแสดงภาพลกั ษณท์ ดี่ ขี องนกั ศกึ ษา มชี อ่ื เสยี ง ทำ� ใหเ้ วลาจะไปไหนมาไหนตอ้ ง เรียนการสอนปกติ ของนักเรียนบางคน จะสามารถเดินไปได้อย่างราบร่ืนและเกิด
ประสานความร่วมมือและได้รับการ เพื่อพัฒนาเครือข่ายจิตอาสาเพ่ือพัฒนา อาชวี ะ ระวังตัว การไปลงพื้นที่นอกรั้วโรงเรียน บางคนกเ็ ลอื กทจี่ ะไปทำ� กจิ กรรมและมาหา ความสำ� เรจ็ ไดง้ า่ ยขน้ึ ”
สนบั สนนุ จากศนู ยค์ ณุ ธรรม ในการดำ� เนนิ ชมุ ชนสสู่ งั คม เปน็ การขยายผลการจดั ตงั้ การที่นักเรียนลงพ้ืนที่ท�ำกิจกรรม จำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะตอ้ งรกั ษาความปลอดภยั อาจารยเ์ พม่ิ เตมิ ทหี ลงั สำ� หรบั เดก็ ทม่ี คี วาม
การจัดต้ังศูนย์ D-Club เพื่อการพัฒนา ชมรม D-Club ในโรงเรียนเครือข่ายที่มี บ�ำเพ็ญประโยชน์ตามชุมชนต่างๆ ส่ิงท่ี ทงั้ เดก็ และครู เครอ่ื งแบบหรอื ชดุ นกั ศกึ ษา ต้ังใจในการท�ำทั้งกิจกรรมและการเรียน แผนงานตอ่ ไปในแนวทางจติ อาสา
เครือข่ายจิตอาสา และเป็นศูนย์กลางใน ความพร้อม 6 โรงเรียน โดยการจัด เหน็ ไดช้ ดั คอื ชมุ ชนใหค้ วามรว่ มมอื ในการ หรืออะไรก็ตามท่ีบ่งบอกถึงสถาบันต้อง แตเ่ ดก็ บางคนเลอื กทจี่ ะออกไปทำ� กจิ กรรม การท�ำกิจกรรมที่ผ่านมา ครูคิด
การขับเคล่ือนคุณธรรมความดี ร่วมกับ โครงการท�ำงานอย่างเป็นระบบ ประกอบ ลงพื้นที่มาก เช่น การท�ำอาหารมาเล้ียง เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา และไม่ไปรถของ แล้วไม่สนใจการเรียน อย่างไรก็ตามเด็ก กจิ กรรมใหเ้ ดก็ เปน็ หลกั เนอ่ื งจากมคี วาม
โรงเรยี นในเครอื ขา่ ยจำ� นวน 12 โรงเรยี น ดว้ ยฝา่ ยผลติ ฝา่ ยจดั หา ฝา่ ยสนั ทนาการ หรือการอ�ำนวยความสะดวกต่างๆ และ โรงเรยี น บางคนก็ สามาถรแก้ไขปัญหาได้โดยการ คิดว่า เด็กควรได้รับการปลูกฝังเร่ืองจิต
โดยการทำ� บนั ทกึ ความเขา้ ใจ (MOU) โดยมี เพื่อเป็นหน่วยอาสาของนักเรียนนักศึกษา เมอ่ื ลงพนื้ ทไ่ี ปอกี ครงั้ ชมุ ชนกม็ คี วามรสู้ กึ ท่ี ส�ำหรับปัญหาอีกเร่ืองที่เกิดขึ้นคือ ขอเล่ือนการท�ำกิจกรรม เช่น ขอไปร่วม อาสา เมื่อจบออกไปจากสถาบันเด็กก็ได้
รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวฒั นธรรมมาเปน็ ผู้มีจิตอาสาสนใจในการบริการสังคมให้ ดีกับนักศึกษามากข้ึน และนักศึกษาก็มี ความเขา้ ใจผดิ ระหวา่ งโรงเรยี นลกู ขา่ ยและ กิจกรรมในคร้ังต่อไป ส�ำหรับการแก้ไข รับประสบการณ์เร่ืองนี้ติดตัวออกไปด้วย
ประธานในพิธีเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 เกิดข้ึนในโรงเรียนเครือข่าย โดยมีภารกิจ ความรสู้ กึ ทดี่ กี บั ชมุ ชนรอบขา้ งดว้ ย ทงั้ ยงั วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม ในการลงพนื้ ทไ่ี ป ปัญหาในเบ้ืองต้นคือ การเวียนเด็กไปท�ำ เม่ือคณะครูเห็นปัญหาเรื่องน้ี จึงมีความ
ในด้านการขยายพลังอาชีวะจิตอาสา คือ การบริการตรวจสภาพกระแสไฟฟ้า ได้ประโยชน์เพ่ือพัฒนาตนเองอีกด้วย ให้ความรู้น้องๆ ในโรงเรียนท่ีเป็นสมาชิก กจิ กรรมเพอื่ ไมใ่ หเ้ ดก็ ตอ้ งขาดเรยี นในวชิ า เหน็ รว่ มกนั วา่ ควรจะใหเ้ ดก็ เสนอโครงการ
มีโรงเรียนเครือข่าย 12 โรงเรียน ได้แก่ ภายในอาคารบ้านเรือน การซ่อมแซม เน่ืองจากได้ลงไปเห็นปัญหาจริงในพื้นท่ี เครอื ขา่ ย มคี วามเขา้ ใจวา่ เปน็ เรอื่ งของการ หลกั บอ่ ย ขึ้นมาเองผ่านทางกลุ่ม D-Club โดยมี
โรงเรยี นวดั ราชบพธิ โรงเรยี นทปี งั กรวทิ ยา อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ซอ่ มจกั รยานยนต์ จรงิ รอบโรงเรยี น สามารถเปลย่ี นความคดิ แย่งชิงเด็กไปเรียนในโรงเรียนในระดับสูง นักศึกษา : “การปลูกฝังเร่ืองจิต เดก็ ๆ ในแตล่ ะแผนกเปน็ คนชว่ ยกนั คดิ ให้
พัฒน์ (ทวีวัฒนา) ในพระราชูปถัมภ์ฯ สอนการทำ� บัญชีครัวเรือน การจัดดอกไม้ ของทั้งตัวนักศึกษาเอง และความคิดของ ต่อไป โรงเรียนบางแห่งหรืออาจารย์ อาสาควรทำ� เรอื่ งนใ้ี หเ้ ปน็ เรอื่ งสนกุ และนา่ เปน็ โครงการใหญๆ่ ซงึ่ เกดิ จากตวั ของเดก็
โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม โรงเรียน แกะสลัก การท�ำอาหารเพ่ือส่งเสริมให้ ชมุ ชนทม่ี ตี อ่ นกั ศกึ ษารวมทงั้ ตอ่ โรงเรยี น บางคนในโรงเรียนยังเข้าใจว่า สิ่งที่ท�ำ สนใจ อาจารยก์ เ็ หมอื นเพอื่ นเหมอื นพน่ี อ้ ง เอง เดก็ นา่ จะเปน็ แกนนำ� ไดแ้ ลว้ ครกู น็ า่ จะ
ฤทธิณรงค์รอน โรงเรียนวัดพุทธบูชา นักศึกษามีคุณธรรมและจริยธรรมในการ นักศึกษา : “การท�ำกิจกรรมนี้ เปน็ การโฆษณา ประชาสมั พนั ธว์ ทิ ยาลยั ให้ ทจ่ี ะชว่ ยคดิ ชว่ ยทำ� ไมใ่ ชว่ า่ ฉนั เปน็ อาจารย์ เป็นท่ีปรึกษาเต็มตัวได้แล้ว นี่คือส่ิงที่เรา
โรงเรียนวัดอินทาราม โรงเรียนจันทร์ ช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นผู้ให้ด้วยจิต เป็นการดูภายนอกโรงเรียนว่าเขามีปัญหา นกั เรยี นในโรงเรยี นเครอื ขา่ ยไดม้ ที างเลอื ก นะเธอก็มีหน้าท่ีท�ำไป อันนี้จะไม่ใช่เป็น อยากจะทำ� ใหอ้ นาคต
ประดิษฐารามวิทยาคม โรงเรียนกสิณธร สาธารณะ เกดิ ความภมู ใิ จในตนเอง และ อะไร เราช่วยอะไรได้บ้าง เป็นการเพ่ิม ในการเรียน แนวทางการแก้ไขปัญหาดัง เรื่องจิตอาสา การท�ำงานถ้าท�ำด้วยความ ส�ำหรับการขยายความรู้จากเด็ก
อนุสรณ์ โรงเรียนสวนอนันต์ โรงเรียนวัด เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง ประสบการณ์ตนเอง เช่น การซ่อมเครอื่ ง กล่าวคือ ใช้วิธีการให้ความรู้กับเด็ก สนกุ ทำ� ดว้ ยความเตม็ ใจ กด็ กี วา่ ทจ่ี ะตอ้ ง แกนนำ� ในโรงเรยี นเครอื ขา่ ยเมอื่ เราไปสอน
นวลนรดิศ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้สู่สังคม โดยมี มือต่างๆ บางกรณีไม่เคยเจอก็จะไปถาม นกั เรยี นในระดบั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1,2 และ 4 บงั คบั เดก็ ใหไ้ ปท�ำกจิ กรรม เพราะจะไมม่ ี วชิ าชา่ งตา่ งๆ แลว้ นน้ั จะทำ� อยา่ งไรใหเ้ ดก็
โรงเรยี นราชวนิ ติ บางแคปานขำ� กระบวนการคือ มีการอบรมให้ความรู้แก่ อาจารย์ว่าอาการเป็นอย่างน้ีจะต้องท�ำ เพอื่ ปอ้ งกนั ความเขา้ ใจผดิ และไมก่ ระทบ ใครชอบ ไม่มีใครสนุก ส�ำหรับกิจกรรม นักเรียนแกนน�ำในโรงเรียนเครือข่าย
โรงเรียนเครือข่ายที่กล่าวถึงเป็น อาจารย์ นกั เรยี น นกั ศกึ ษาของโรงเรยี นใน อยา่ งไร เปลย่ี นตวั ไหนบา้ ง ซอ่ มตวั ไหนบา้ ง กับกิจกรรมหลักของโรงเรียน รวมท้ังการ ลูกเสือสามัญของโรงเรียนก็เป็นกิจกรรม สามารถขยายผลในโรงเรยี นของตนเองได้
เครอื ขา่ ยทมี่ กี ารทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั มากอ่ น เครือข่าย การจัดตั้งชมรม D-Club ใน รวมทง้ั การจดั เตรยี มอปุ กรณต์ า่ งๆ เวลาท่ี ประสานงานระหว่างผู้ประสานงานของ หนงึ่ ทสี่ ามารถสอนใหเ้ ดก็ ทำ� กจิ กรรมอยา่ ง ซง่ึ อาจจะเปน็ รปู แบบของการตง้ั เปน็ ชมรม
ที่จะมาขับเคล่ือนงานด้านคุณธรรม โรงเรียนเครือข่ายท่ีมีความพร้อม มีการ ลงพนื้ ทใี่ นชมุ ชนหรอื โรงเรยี นเครอื ขา่ ย สงิ่ โรงเรียนลูกข่าย ส่วนใหญ่โรงเรียนจะมีผู้ มคี วามสขุ ได”้ ถือเป็นเรื่องที่วิทยาลัยต้องคิดต่อว่าจะ
โดยวิทยาลัยสยามเทคโนโลยีได้มีการส่ง เสริมสร้างคุณธรรมด้านวิชาชีพให้กับ ท่ีได้จากการลงพื้นท่ี คือ “ได้รอยย้ิมของ ประสานงานเพยี งคนเดยี ว ทำ� ใหเ้ กดิ ความ ครู : “ส�ำหรับการท�ำงานกับโรง- วางแผนเรอื่ งนต้ี อ่ ไปอยา่ งไร
อาจารย์ และนกั ศกึ ษาไปชว่ ยสอนวชิ าชพี นักเรียนแกนนำ� จิตอาสา การออกค่ายจิต ชุมชน” ได้ประสบการณ์ต่างๆ จากการ ผดิ พลาดขนึ้ ไดใ้ นบางครงั้ และอาจจะเกดิ เรียนเครือข่ายนั้น สยามเทค มีความมุ่ง
46 47

เสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมพน้ื ฐาน กระบวนการ ปจั จยั สู่ความส�ำเร็จ
ความ ถอดรองเทา้ • การบูรณาการกับการ
รบั ผดิ ชอบ วางรองเทา้ เรียนการสอน
เข้าแถวรบั ประทาน • สร้างทมี แบ่งบทบาทหนา้ ท่ี
ออมเงนิ ขยัน อาหาร • ตดิ ตามความก้าวหนา้
ทำ� ความสะอาด • แก้ปญั หาอย่างทนั ทว่ งที
มวี ินัย ประหยดั ห้องเรียน/โรงเรียน • บริหารจัดการโปร่งใส
เรียนรเู้ ศรษฐกิจ • ได้รับการสนับสนุนจาก
อดทน พอเพยี ง หน่วยงานท้องถ่ินและภาคี
สร้างครอบครัว พัฒนาอนื่ ๆ
อบอุน่ • การเข้าร่วมกิจกรรมกับ
ศนู ยค์ ุณธรรม
• ขยายเครือข่ายโรงเรียน
คณุ ธรรม

รปู ภาพแสดงการเสริมสร้างคุณธรรมพนื้ ฐาน “กระบวนการสรา้ งคณุ ธรรมพนื้ ฐานและปจั จยั ส่คู วามส�ำเรจ็ ”

การถอดบทเรยี นตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม โรงเรยี นต้นบากราษฎรบ์ �ำรงุ พฒั นาจงั หวดั สรา้ งอาคารเรยี น จำ� นวน 4 น อ ก จ า ก นี้ ยั ง มี น า ย ท วี ศั ก ดิ์
โรงเรยี นตน้ บากราษฎรบ์ ำ� รงุ อำ� เภอเมอื ง จ.ตรงั โรงเรยี นตน้ บากราษฎรบ์ ำ� รงุ ตงั้ อยู่ หอ้ งเรยี น ชนั้ ลา่ งใชส้ ำ� หรบั เปน็ หอ้ งประชมุ สงชู นายกอบต.นาพละ องคก์ รปกครอง
หมู่ 7 ต�ำบลนาพละ อ�ำเภอเมืองตรัง นับตั้งแต่ก่อต้ังโรงเรียนมามีผู้บริหาร สว่ นทอ้ งถนิ่ ไดเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มชว่ ยเหลอื
โรงเรียนต้นบากราษฎร์บ�ำรุงเป็น บ�ำรุงมีจังหวะก้าวของการเริ่มต้นจากการ ลดคา่ ใชจ้ า่ ย การเรยี นรคู้ ณุ ธรรมดา้ นการ จังหวัดตรัง เดิมช่ือโรงเรียนบ้านต้นบาก โรงเรียนมาแล้ว 8 คน ปัจจุบันเปิดสอน โรงเรียนศึกษาต้นบากราษฎร์บ�ำรุง ส่วน
โรงเรียนเล็กๆ ท่ีมีอายุเก่าแก่นานกว่า ปลูกฝังให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อ การออมเงิน การท�ำปุ๋ยอินทรีย์ ชีวภาพ เป็นโรงเรียนที่ต้ังมานานนับคร่ึงศตวรรษ นกั เรยี นชน้ั อนบุ าล 1 - ชน้ั ประถมปที ่ี 6 มี ใหญ่จะเป็นการใช้สถานท่ีของโรงเรียนจัด
50 ปี แต่ละปีหล่อหลอมชีวิตน้อยๆ กว่า ตนเองและต่อผู้อ่ืน ความมีวินัย จากการ การเรยี นรคู้ ณุ ธรรมจากการสรา้ งครอบครวั สรา้ งครง้ั แรกเมอื่ พ.ศ. 2503 เรม่ิ จากโรง ครผู สู้ อนรวมทงั้ สน้ิ 14 คน มนี กั เรยี นในปี กิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวันเด็ก
150 คน และในชว่ ง 6 ปที ผี่ า่ นมามกี ารขบั ท�ำกิจกรรมการถอดและวางรองเท้า อบอุ่น จนกระทั่งท�ำให้โรงเรียนต้นบาก เรียนเล็กๆ เปิดสอนนักเรียนช้ันประถม การศกึ ษา 2555 จำ� นวน 149 คน เปน็ ผชู้ าย กจ็ ะมกี จิ กรรมตา่ งๆ เปน็ ซมุ้ อาหาร มเี วที
เคลื่อนสร้างคุณธรรม จริยธรรม ร่วมกับ การเขา้ แถว การทำ� ความสะอาดโรงเรยี น ราษฎร์บ�ำรุงสามารถพัฒนาเป็นศูนย์การ ศกึ ษาปที ี่ 1 และชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 มี 73 คน หญงิ 76 คน มวี สิ ยั ทศั นข์ อง รำ� วง เปน็ งานทร่ี วมคนในชมุ ชนทง้ั เดก็ และ
ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) เพอื่ ให้ หลกั ในการดำ� เนนิ งานคอื วนิ ยั ทท่ี ำ� เรียนรู้ ขยายผลองค์ความรู้ทางด้านการ นกั เรยี น 61 คน ครู 2 คน ตอ่ มาในปมี กี าร โรงเรยี น คอื กา้ วทนั เทคโนโลยี มคี ณุ ธรรม ผปู้ กครองใหม้ ารวมกนั ทโี่ รงเรยี น เปน็ การ
บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ดว้ ยใจคอื วนิ ยั ทถ่ี าวรและยงั่ ยนื ในจงั หวะ สร้างระเบียบวินัย ความรับผิดชอบให้กับ กอ่ สรา้ งอาคารเรยี นเพม่ิ เตมิ ในชว่ งปี พ.ศ. จรยิ ธรรม อนรุ กั ษค์ วามเปน็ ไทย และพฒั นา สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบ้าน
“กา้ วทนั เทคโนโลยี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม กา้ วตอ่ ๆ มา ของการปลกู ฝงั คณุ ธรรมคอื นักเรียน โดยมีการเชื่อมโยงบูรณาการกับ 2525 มกี ารขยายพนื้ ทขี่ องโรงเรยี นเพมิ่ ขนึ้ ส่ิงแวดล้อม ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน โรงเรียน และท้องถิ่น นอกจากน้ียังมี
อนุรักษ์ความเป็นไทย และพัฒนาสิ่ง การเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ อาทิ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการสร้าง โดยชาวบ้านในหมู่บ้านร่วมกันซ้ือท่ีดิน ดำ� รงตนอยใู่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ดงั นน้ั กจิ กรรมอนื่ ๆ อกี เชน่ กจิ กรรมการรณรงค์
แวดล้อม ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นด�ำรง การเรยี นรคู้ ณุ ธรรมในการดำ� เนนิ ชวี ติ ขยนั ครอบครวั อบอนุ่ ดงั สรปุ ภาพรวมดงั นี้ บรจิ าคใหโ้ รงเรยี น จำ� นวน 2 ไร่ 3 งาน 33 ในช่วงท่ีผ่านมาโรงเรียนต้นบากราษฎร์ เรอื่ งไขเ้ ลอื ดออกเปน็ ตน้
ตนอยใู่ นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ” การเสรมิ - ประหยัด อดทน มีวินัย จากการลงมือ ตารางวา จากน้ันโรงเรียน ก็เริ่มขยาย บำ� รงุ จงึ มกี ารดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ เพอ่ื ให้
สร้างคุณธรรมของโรงเรียนต้นบากราษฎร์ ปฏิบัติตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีการสร้างอาคารเรียนเพ่ิม สร้างสนาม บรรลเุ ปา้ หมาย อาทิ โรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ และ
48 ฟตุ บอล และสนามวอลเลยบ์ อลในบรเิ วณ การท�ำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับ อบต. วัด
โรงเรยี น ในพ.ศ. 2534 ไดร้ บั งบประมาณ ชมุ ชน มาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
49

อกี ทง้ั โรงเรยี นของเรากไ็ ดร้ บั การสนบั สนนุ จากการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน สามารถทำ� ได้ เปน็ เรอ่ื งปกตขิ องเดก็ อยแู่ ลว้ จนเกดิ เปน็ นสิ ยั ทเ่ี ปลยี่ นแปลงและน�ำไปใช้
ด้านต่างๆ จากชุมชนด้วย เนื่องจาก พบข้อแตกต่างระหว่างนักเรียนไทยและ แมว้ า่ จะเปน็ เรอ่ื งเลก็ ๆ แตก่ เ็ ปน็ เรอ่ื งทจ่ี ะ ในชีวิตจริงได้ ส�ำหรับระยะเวลาในการ
กิจกรรมบางกิจกรรมชุมชนก็มาใช้พ้ืนท่ี นักเรียนไต้หวัน คือที่ไต้หวันจะถอด น�ำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม เดก็ บางคนใชเ้ วลา
โรงเรียนในการท�ำกิจกรรม เช่น นายก รองเทา้ แลว้ วางรองเทา้ ใหท้ างสน้ เทา้ ตดิ กบั ได้ เพราะการถอดรองเทา้ จะตอ้ งมขี นั้ ตอน ในการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมไมน่ าน เนอ่ื ง
อ ง ค ์ ก า ร บ ริ ห า ร ส ่ ว น ต� ำ บ ล น า พ ล ะ ผนัง แต่นักเรียนไทยจะถอดรองเท้าและ ของการถอด การหยิบไปวาง และให้ส้น จากเปน็ เดก็ หวั ออ่ น เชอ่ื งา่ ย แตบ่ างสว่ นก็
ซง่ึ ใหก้ ารสนบั สนนุ ตลอดมาในขณะทด่ี ำ� รง เดินเข้าห้องวางระเกะระกะ อีกทั้งยัง รองเทา้ หนั ไปหาผนงั ซงึ่ เปลยี่ นแปลงจาก ยังมีที่ทางโรงเรียนต้องดูแลตักเตือน ต้อง
ต�ำแหน่ง ซึ่งกิจกรรมท่ีสนับสนุน ได้แก่ เหยียบรองเท้าของเพ่ือน ไม่เป็นระเบียบ นิสัยเดิมของเด็ก แต่ก่อนอาจจะถอดติด จดพฤติกรรม แอบดูพฤติกรรมเด็ก
การพานกั เรยี นไปปลกู ตน้ ไม้ การเกบ็ ขยะ เรียบร้อย ทางโรงเรียนจึงปรับพฤติกรรม ผนงั เหมอื นกนั คอื เอามอื คำ้� ผนงั และถอด เนอื่ งจากเหลา่ คณาจารยร์ อู้ ยแู่ ลว้ วา่ เดก็ คน
ในชมุ ชน การรณรงคป์ อ้ งกนั การเกดิ โรคไข้ นกั เรยี น คอื เมอื่ นกั เรยี นถอดรองเทา้ แลว้ แลว้ กไ็ ปเลย ตรงนไ้ี มไ่ ดเ้ กดิ วนิ ยั จงึ ทำ� ให้ ไหนท่ีไม่อยากท�ำตาม แต่ก็ต้องค่อยๆ
เลอื ดออก การหยิบรองเท้าวางจะต้องให้ส้นรองเท้า โรงเรียนอยากที่จะฝึกเด็ก เม่ือเราฝึกเด็ก เตือนกันไป จนกระท่ังท�ำจนเป็นนิสัย
จากการเข้าร่วมโครงการในครั้งน้ี หนั เขา้ หาผนงั และวางใหเ้ ปน็ ที่ เมอื่ จะสวม ทกุ วนั ๆ เดก็ กจ็ ะเกดิ ความเคยชนิ เปลยี่ น- ใชเ้ วลาประมาณ 5-6 เดอื น จากนนั้ มนี กั เรยี น
ท�ำให้อาจารย์สุรพล ได้รับคัดเลือกให้ไป รองเท้า จะต้องหยิบรองเท้าน่ังสวมให้ แปลงพฤติกรรม มีระเบียบวินัยมากข้ึน เขา้ รว่ มมากขนึ้ และพฤตกิ รรมของเดก็ กด็ ขี นึ้
ศึกษาดูงาน ณ มูลนิธิพุทธฉือจี้ประเทศ เรยี บรอ้ ย รวมทง้ั วางรองเทา้ ใหเ้ ปน็ ที่ เรอ่ื ง ส�ำหรับเรื่องเข้าแถว เม่ือก่อนก็มีการเข้า นอกจากนี้ยังมีการเสริมสร้างวินัย
ไต้หวัน การไปศึกษาดูงานในครั้งน้ันถือ ของวนิ ยั รองเทา้ เปน็ 1 ในหลายๆ กจิ กรรม แถวอยแู่ ลว้ แตม่ กี ารวางมอื ทไ่ี หลเ่ พอ่ื น จงึ ในการรบั ประทานอาหาร อาจารยส์ ะอา้ น
เป็นจุดเร่ิมต้นที่จุดประกายความคิดเรื่อง เสรมิ สรา้ งวนิ ยั ในโรงเรยี น จดั ใหมใ่ หเ้ ดก็ ไมต่ อ้ งวางมอื แตจ่ ะตอ้ งจดั ศนิ ารกั ษ์ กลา่ ววา่ การรบั ประทานอาหาร
ของการสร้างความรับผิดชอบ การมี อาจารย์สะอ้าน ศินารักษ์ ได้ ให้ตรงกับเพื่อน ตรงนี้บางทีเป็นจุดเล็กๆ เปน็ อกี เรอ่ื งทสี่ รา้ งนสิ ยั ไดย้ ากมาก เพราะ
ระเบยี บวนิ ยั การตรงตอ่ เวลา ในระหวา่ งท่ี อธบิ ายวา่ ทที่ างโรงเรยี นเลอื กใชว้ นิ ยั ในการ ที่มองไม่เห็นว่าเป็นการเปล่ียนแปลง เวลาเด็กกินข้าวเด็กจะยังติดคุยอยู่บ้าง
ศกึ ษาดงู านทำ� ใหเ้ กดิ คำ� ถามวา่ มลู นธิ พิ ทุ ธ วางรองเท้าเนื่องจากคิดว่าการวางรองเทา้ พฤตกิ รรมเดก็ จนเดก็ มวี นิ ยั ไดโ้ ดยทเ่ี ขาไมร่ ู้ รับประทานอาหารไม่หมดจาน กินเหลือ
ฉอื จ้ี ฝกึ คนในเรอื่ งเหลา่ นอ้ี ยา่ งไร แตเ่ มอื่ เปน็ วถิ ชี วี ติ ของนกั เรยี น ทจ่ี ะทำ� ใหเ้ กดิ เปน็ ตวั ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงเลก็ ๆ ทเี่ ขาไดใ้ ห้ การสรา้ งวนิ ยั จากการรบั ประทานอาหารมี
ไดเ้ ขา้ ไปศกึ ษาดงู านในสถานทต่ี า่ งๆ แลว้ พฤติกรรมใหม่ได้ โดยการพัฒนา กับเราไว้โดยที่เด็กมองไม่ออกว่าเป็นกฎ การกำ� หนดกตกิ าเอาไวว้ า่ การรบั ประทาน
ท�ำให้ค้นพบด้วยตนเองระหว่างท่ีศึกษาดู พฤติกรรมเด็กนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการดู กติกามารยาท ตรงนี้คือเกร็ดความรู้หาก อาหารของนกั เรยี น คอื ไมด่ งั ไมห่ ก และ
งาน ตอ้ งถอดรองเทา้ ใสถ่ งุ ผา้ และเดนิ ถอื งานที่มูลนิธิพุทธฉือจ้ี ประเทศไต้หวัน ใครจะนำ� ไปใชเ้ ปน็ เรอ่ื งสำ� คญั และตอ้ งดแู ล ไมเ่ หลอื เวลาเขา้ แถวรบั ประทานอาหารจะ
ไปยงั ทต่ี า่ งๆ จงึ คดิ ไดว้ า่ นคี่ อื วธิ กี ารหนง่ึ ท่ี กิจกรรมน้ีเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่เด็ก เดก็ อยา่ งใกลช้ ดิ ใหค้ ำ� แนะนำ� ชมเดก็ บา้ ง ตอ้ งไมเ่ สยี งดงั และตอ้ งมรี ะเบยี บ กจิ กรรมน้ี
เครือข่ายกิจกรรม : ต้นทางสู่การ โครงการเพชรในตมทโี่ รงเรยี นบา้ นเขาหลกั จะฝกึ ใหค้ นเกดิ ความรบั ผดิ ชอบ อยา่ งนอ้ ย ตอ้ งใชร้ ะยะเวลาประมาณเกอื บ 1 ปี จากปี
เสริมสร้างคุณธรรมความมีวินัย จงั หวดั ตรงั นกั ศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลยั เขา้ ก็ต่อตนเอง ท่ีจะต้องรับผิดชอบดูแล 2550 มาถึงปี 2551 พฤติกรรมท่ี
และรับผิดชอบในโรงเรียน พลิกมุม มาท�ำกิจกรรมกับโรงเรียนบ้านเขาหลัก รองเทา้ ของตนเอง การถอดและ เปลี่ยนแปลงนั้นจะดีข้ึนในระยะเวลาหน่ึง
มองเกี่ยวกับวินัย จากกฎระเบียบ หลงั จากท่ี อาจารยส์ รุ พล มสุ กิ พนั ธ์ ยา้ ย ดังนั้นเม่ือกลับมาถึงเมืองไทย วางรองเทา้ แตพ่ อมาถงึ ระยะเวลาหนงึ่ พฤตกิ รรมทไี่ มด่ ี
บังคับให้ท�ำมาสู่วินัยที่ท�ำด้วยใจคือ มาเปน็ ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นตน้ บากราษฎร์ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ไดม้ กี าร ให้เป็นระเบียบ ก็จะเกิดข้ึนมาใหม่ ดังน้ันครูจึงต้องคอย

วนิ ัยทีถ่ าวรและยงั่ ยืน บ�ำรุง ก็ได้มีการการประสานงานใน จัดประชุมเพื่อสรุปผลการศึกษาดูงาน สังเกตโดยให้หัวหน้าชั้นเป็นผู้ตักเตือน
พ.ศ. 2550 มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ - โครงการ ท�ำให้โรงเรียนต้นบากราษฎร์ อาจารยส์ รุ พล มสุ กิ พนั ธ์ จงึ นำ� เอาแนวคดิ โดยใชก้ จิ กรรมจติ อาสาพด่ี แู ลนอ้ ง
ทรวิโรฒ โดยอาจารย์สมปอง ใจดีเฉย บ�ำรุงมีโอกาสเข้าร่วมโครงการพัฒนา ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการเสริมสร้าง กิจกรรมที่เสริมสร้างวินัยให้เกิด
คณะศกึ ษาศาสตร์ ไดป้ ระสานความรว่ มมอื ศักยภาพแกนน�ำเครือข่ายองค์กรชุมชน ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบใน ดา้ นอน่ื ๆ อาทิ วนิ ยั ในการเรยี น ความรบั
กบั กบั ศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั แผน่ ดนิ ดา้ นจติ อาสา โรงเรยี นของตนเอง หลงั จากทปี่ ระชมุ สรปุ การทำ� ความ พ้นื ฐานตอ่ มารยาท ผดิ ชอบในหน้าที่ วินยั ในการใช้ดแู ลรักษา
สะอาดโรงเรียน ความรบั ผดิ ชอบ ในการรบั ประทาน สง่ิ ทเี่ ปน็ สาธารณะหรอื สว่ นรวม การเสรมิ
เชงิ คณุ ธรรม สำ� นกั งานบรหิ ารและพฒั นา อาจารย์ลัดดาวัลย์ พรศิริวงศ์ งานกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) อาหาร
ตอ่ ตนเอง

องค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จัดท�ำ โรงเรียนต้นบากราษฎร์บ�ำรุง กล่าวถึง อาจารย์สุรพล มุสิกพันธ์จึง ได้มีการจัด สร้างการมวี นิ ัยในครอบครวั (พอ่ แมเ่ ปน็ ผู้
โครงการพัฒนาศักยภาพแกนน�ำองค์กร สาเหตทุ อี่ าจารยส์ มปองเลอื กโรงเรยี นนใี้ น ประชุมกับบุคลากรครู ในโรงเรียนเพื่อ ขบั เคลอื่ นดแู ลวนิ ยั ในบา้ น) สรา้ งเสรมิ วนิ ยั
เครือข่ายคุณธรรมด้านจิตอาสา ซ่ึงมีการ การท�ำโครงการเน่ืองจากผู้น�ำเป็นหลัก ถ่ายทอดความรู้ เรื่องราว ประสบการณ์ ในบ้าน (วินัยต่อตนเองและสมาชิกใน
ก�ำหนดพ้ืนท่ีน�ำร่องในการจัดท�ำโครงการ ถา้ ผนู้ �ำโรงเรยี นยนิ ดรี ว่ มโครงการ กถ็ อื วา่ ข้อคิดจากการศึกษาดูงานมูลนิธิพุทธฉือจ้ี ครอบครัว) และเมื่อมีการสร้างเสริมวินัย
ครอบคลมุ พน้ื ที่ 4 ภาค ประกอบดว้ ย ภาค สามารถไปได้ ตอนน้ันอาจารย์สมปองได้ ท�ำให้คณาจารย์มีมติร่วมกันว่าจะสร้าง ดา้ นตา่ งๆ แลว้ กม็ กี ารเยย่ี มเยอื นครอบครวั
การเขา้ แถว
เหนอื ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื น�ำนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศรีนคริน- คณุ ธรรมพนื้ ฐานเกยี่ วกบั เรอื่ งความรบั ผดิ ชอบ และการจดั แถว เสริมสร้างเด็กดีมีวินัย เพื่อค้นหาต้นแบบ

ภาคใต้ และภาคตะวันออก โรงเรียนต้น ทรวิโรฒไปท�ำกิจกรรมท่ีโรงเรียนบ้านเขา โดยใชก้ ารถอดรองเทา้ และการวางรองเทา้ ครอบครวั เสรมิ สรา้ งเดก็ ดมี วี นิ ยั สง่ เสรมิ ให้
บากราษฎร์บ�ำรุง น�ำโดยอาจารย์สุรพล หลกั หลงั จากนนั้ ทา่ นกห็ าโรงเรยี นทจ่ี ะเขา้ เปน็ เครอ่ื งเมอื่ ในการสรา้ งคณุ ธรรมดงั กลา่ ว เด็กรู้จักการแก้ปัญหาขาดวินัยในโรงเรียน
มสุ กิ พนั ธ์ เปน็ โรงเรยี นทไี่ ดร้ บั การคดั เลอื ก ศูนย์ในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมใน มกี ารตดิ ตามพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการ รปู ภาพแสดงการเสรมิ สร้างคณุ ธรรมพืน้ ฐาน โดยการทำ� โครงงาน เสรมิ สรา้ งวนิ ยั การออม
ใหเ้ ปน็ พนื้ ทน่ี ำ� รอ่ งจากภาคใต้ เนอื่ งมาจาก กลุ่มเยาวชน ท่านจึงมาเลือกโรงเรียนเรา ถอดรองเทา้ และวางรองเทา้ ในโรงเรยี น “จงั หวะก้าวแรกสรา้ งความรับผดิ ชอบต่อตนเองและผ้อู นื่ ๆ” และสง่ เสรมิ เรอื่ งจติ อาสา พด่ี แู ลนอ้ ง
50 51

เสริมสร้างการเรียนรู้คุณธรรม 30 ครอบครวั และเกดิ การพฒั นาฐานการ
ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้ต่างๆ เช่น ฐานเศรษฐกิจพอเพียง
จากโรงเรียนสู่ครอบครัว ความ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ ฐานโครงงาน เปน็ ตน้
ขยนั ประหยัด อดทน มีวนิ ัย ความขยนั
ต่อมาปี 2556 โครงการพัฒนา
ตอ่ มาปี พ.ศ. 2551 โรงเรยี นไดย้ ก ศักยภาพการเรียนรู้ต้นแบบด้านการเสริม
ระดับการท�ำกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม ครอบครวั ต้นแบบ สรา้ งเดก็ ดมี วี นิ ยั ไดเ้ นน้ เรอื่ งสง่ เสรมิ มวี นิ ยั

ด้านความรับผิดชอบสู่การเรียนรู้การ และมสี ว่ นรว่ มไมว่ า่ จะเปน็ ภายในบา้ น วดั
ดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง จากพน้ื ฐานของ และโรงเรยี น ในการเสรมิ สรา้ งเพอื่ พฒั นา
คุณธรรม ความขยัน ประหยัด อดทน วนิ ัยทางการเงนิ เยาวชนให้เป็นเด็กดีมีวินัย มีความรับผิด
มีวินัย โดยการเชื่อมโยงการท�ำกิจกรรม ชอบ มคี วามซอ่ื สตั ย์ ทง้ั ทบ่ี า้ น ในโรงเรยี น
จากโรงเรียนสู่ครอบครวั และชมุ ชน เพือ่ คุณธรรมท่เี กิดจากการเรียนรู้ ครอบครวั สร้าง (ออมเงิน)
ใหเ้ กดิ การเรยี นรรู้ ว่ มกนั โรงเรยี นจงึ มกี าร การด�ำเนนิ ชวี ิตพอเพียง อบอุน่ และในชุมชน ใช้คุณธรรมและจริยธรรม
จัดท�ำโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อกินอยู่ เรยี นรภู้ ูมิปญั ญา เป็นฐาน โดยผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ
ประหยัด ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง อดทน มีวินัย ทอ้ งถนิ่ โดยทางโรงเรียนมีเครือข่ายท่ีมาร่วมงาน
อยา่ งพอเพยี ง ทง้ั นไี้ ดร้ บั การสนบั สนนุ จาก ปลูกผัก เลีย้ งปลา ปลูกต้นไม้ ดา้ นคณุ ธรรมอยดู่ ว้ ยกนั หลายโรงเรยี นเชน่
ท�ำน�ำ้ ยาล้างจาน ทำ� ปุย๋ อนิ ทรยี ์
ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) การดำ� เนนิ โรงเรยี นวดั โพธทิ์ อง จงั หวดั นครศรธี รรมราช
งานโครงการดงั กลา่ วเนน้ กระบวนสรา้ งการ โรงเรียนกันตังรัษฎา โรงเรียนย่านตาขาว
เรยี นรกู้ ารดำ� เนนิ ชวี ติ ตามแนวเศรษฐกจิ พอ รูปภาพแสดงคุณธรรมทเี่ กดิ จากการเรียนรกู้ ารด�ำเนนิ ชีวิตพอเพยี ง จิตอาสา โรงเรยี นบา้ นหนองมวง โรงเรยี นบา้ นหนอง
เพยี งใหก้ บั แกนนำ� นกั เรยี น ผปู้ กครอง และ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง เจด็ บาท โรงเรยี นบา้ นหนองยวน โรงเรยี น

ชมุ ชน เพอื่ ปลกู ฝงั คณุ ธรรมดา้ นความขยนั บ้านหนองเร้ีย โรงเรียนบ้านหนองหมอ
ประหยัด มีวินัยในการด�ำเนินชีวิต เป็น โครงการร้อยรัดดวงใจสายใย ประสานรกั พอ่ แมล่ กู ปลกู กระเจย๊ี บ รว่ ม ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบด้านการ เครือข่าย จ�ำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรยี นมติ รภาพที่ 31 “วดั ทงุ่ หวงั ” และ
แหลง่ เรยี นรู้ การลดรายจา่ ย เชน่ การปลกู ครอบครัวอบอุ่น เรียนรู้การท�ำ คิดร่วมท�ำน้�ำยาอเนกประสงค์ การเลี้ยง เสริมสร้างเด็กดีมีวินัย โรงเรียน โรงเรียนบ้านหนองเรี้ยและโรงเรียนบ้าน อกี หลายๆ โรงเรยี น ในจงั หวดั ตรงั การท่ี
ผัก/เล้ียงปลา เพื่อการบริโภค ปลูกฝัง กจิ กรรมพงึ่ ตนเองรว่ มกนั พอ่ แม่ ลกู ปลาหางนกยูงชะลอการแพร่ยุงลาย การ ตน้ บากราษฎร์บ�ำรงุ ขยายผลการ หนองหมอ โดยใหน้ กั เรยี นในเครอื ขา่ ยเขา้ โรงเรยี นเหลา่ นไี้ ดเ้ ขา้ มารว่ มเปน็ เครอื ขา่ ย
ความรู้เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง การพาเดก็ ปี พ.ศ. 2552 ทศิ ทางการสง่ เสรมิ ปลูกไม้ประดับประทับใจ การปลูกผักผัก เ ส ริ ม ส ร ้ า ง พั ฒ น า คุ ณ ธ ร ร ม มาศกึ ษาดงู านและแลกเปลย่ี นท�ำกจิ กรรม ท�ำงานคุณธรรมร่วมกัน ก่อให้เกิดการ
นกั เรยี นไปดงู านเศรษฐกจิ พอเพยี ง ณ บา้ น คุณธรรมของโรงเรียนให้ความสำ� คัญของ สวนครัว และ จิตอาสาครอบครัวอบอุ่น จริยธรรมด้านวินัยความรับผิด กับนักเรียนโรงเรียนต้นบางราษฎร์บ�ำรุง เชอ่ื มโยง ขยายความรดู้ งั ตอ่ ไปนี้
หนำ� ควาย ตำ� บลนาทา่ มเหนอื จงั หวดั ตรงั การสรา้ งครอบครวั อบอนุ่ จงึ มกี ารดำ� เนนิ นักเรียนร่วมท�ำกิจกรรมอาสาพัฒนาร่วม ชอบและความซื่อสตั ย์ โรงเรยี นมนี บรุ ี และโรงเรยี นวดั บำ� เพญ็ เหนอื • โรงเรียนมติ รภาพท่ี 31 “วดั ทงุ่
และกลับมาท�ำกิจกรรมลงมือปฏิบัติเอง โครงการร้อยรัดดวงใจสายใยครอบครัว กบั ครอบครวั อนื่ เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธท์ ี่ จากประสบการณ์การท�ำโครงการ ในช่วง ปี พ.ศ. 2554 โรงเรียน หวัง” : เปน็ เครอื ขา่ ยของโรงเรยี นตน้ บาก
เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง อาทิ อบอนุ่ ซง่ึ เนน้ เรอ่ื งการเสรมิ สรา้ งกจิ กรรม ดีต่อกัน ความส�ำเร็จท่ีเกิดจากโครงการ ตา่ งๆ ตลอดระยะเวลาในชว่ ง 3 ปที ผ่ี า่ นมา ดำ� เนนิ โครงการพฒั นาศกั ยภาพ “ศนู ยก์ าร ราษฎร์บ�ำรุงมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 เน่ือง-
การปลูกต้นไม้ ปลูกผักและท�ำปุ๋ย ให้ ครอบครัวอบอุ่นและปลูกฝังคุณธรรม ร้อยรัดดวงใจคือ นักเรียนสามารถเป็น ทำ� ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ ความรเู้ กยี่ วกบั การ เรียนรู้ต้นแบบด้านการเสริมสร้างเด็กดีมี จากผู้อ�ำนวยการคนปัจจุบันเคยร่วมงาน
ชมุ ชนมาเรยี นรกู้ ารทำ� นำ้� ยาลา้ งจาน นำ�้ ยา จริยธรรมกับลูกรัก โดยมสี ่วนรว่ มจากพ่อ วทิ ยากรไดใ้ นเวลาทม่ี คี นมาศกึ ษาดงู านใน เสริมสร้างคุณธรรม ดังนั้นปี พ.ศ. 2553 วินัย ”เน้นการพัฒนาศักยภาพองค์ กบั อาจารยส์ รุ พล มสุ กิ พนั ธ์ ตง้ั แตอ่ าจารย์
อเนกประสงค์ ปลูกต้นไม้เคล่ือนท่ี มีผู้ แม่ผู้ปกครอง ครู ปฏิบัติตนตามหลัก โรงเรียน เด็กสามารถพูดได้ทุกเรื่อง จนกระทง่ั ถงึ ปจั จบุ นั (พ.ศ. 2556) โรงเรยี น ประกอบต่างๆ ของศูนย์เรียนรู้ ได้แก่ สุรพล เป็นผู้อ�ำนวยการอยู่ที่โรงเรียนบ้าน
ปกครองมาเรยี นรทู้ โ่ี รงเรยี นและนำ� ไปผลติ ศาสนธรรม เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ใี นการดำ� รง โรงเรียนได้เป็นโรงเรียนต้นแบบครอบครัว ต้นบากบ�ำรุงราษฎร์ ได้พัฒนายกระดับ คน้ หาครอบครวั ตน้ แบบ สรา้ งหลกั สตู รใน เขาหลกั จงึ ไดต้ ดิ ตามมาเยย่ี มโรงเรยี นตน้
ใชท้ ค่ี รวั เรอื นตนเอง และนำ� ผลผลติ มาจำ� หนา่ ย ชีวิตและสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่าง อบอนุ่ ไดร้ บั โลจ่ ากทา่ นนายกรฐั มนตรี ตอ่ การท�ำกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างคุณธรรม การเสริมสร้างเด็กดีมีวินัย สร้างความ บากราษฎร์บ�ำรุง และได้เห็นการท�ำ
เชน่ เครอื่ งดมื่ สมนุ ไพร ซงึ่ การขายผลผลติ สมาชิกในครอบครัว อันจะส่งผลให้เกิด มาในปี พ.ศ. 2556 จากการที่เด็กๆ มาสู่การจัดท�ำโครงการศูนย์การเรียนรู้ เข้าใจในเร่ืองการเสริมสร้างวินัยที่ กจิ กรรมของโรงเรยี นเหน็ การเปลยี่ นแปลง
เปน็ วธิ กี ารทท่ี ำ� ใหน้ กั เรยี นเรยี นรู้ และสรา้ ง สายใยรักครอบครัวอบอุ่น โดยมีกิจกรรม สามารถปลกู ผกั เองได้ เดก็ เกดิ ความรบั ผดิ ต้นแบบด้านการเสริมสร้างเด็กดีมีวินัย บ้านสร้างแหล่งเรียนรู้ให้ได้มาตรฐาน ของโรงเรียนมากขึ้น จึงส่งบุคคลากรใน
รายได้ น�ำเงินมาเป็นทุนหมุนเวียน ซงึ่ ผล ต่างๆ เช่น บันทึกพฤติกรรมหน้าท่ีของ ชอบในการดแู ลแปลงผกั ของตนเอง หนว่ ย เพอื่ การพฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นวนิ ยั สร้างความเช่ือม่ันให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม โรงเรยี นมาเขา้ รว่ มกจิ กรรมกบั โรงเรยี นตน้
ทเี่ กดิ ขน้ึ จากการทำ� กจิ กรรมคอื เกดิ นกั เรยี น นกั เรยี น มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ หนา้ ทร่ี บั งานภายนอกก็เห็นถึงศักยภาพของ ความรับผิดชอบและความซ่ือสัตย์ของ บคุ ลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ งมคี วามสามารถในการ บากฯ โรงเรยี นไดเ้ ข้ารว่ มและน�ำความรทู้ ่ี
แกนนำ� เกดิ ผปู้ กครองและครอบครวั ตน้ แบบ ผดิ ชอบ ยกยอ่ งครอบครวั อบอนุ่ สรา้ งวนิ ยั โรงเรยี นมากขน้ึ นักเรียน เน้นการปลูกฝังวินัยความรับผิด ถา่ ยทอดความรแู้ กผ่ เู้ ยยี่ มชมศนู ยก์ ารเรยี น ได้มาขยายผลให้สอดคล้องกับบริบทของ
เรอ่ื งเศรษฐกจิ พอเพยี งและจติ อาสา โรงเรยี น ทางการเงนิ พอ่ แมเ่ ปน็ แบบอยา่ ง นกั เรยี น ชอบ และความซอ่ื สตั ยต์ อ่ ตนเอง สรา้ งการ รู้ เพ่ิมองค์ความรู้แก่บุคลากรพัฒนาฐาน โรงเรยี น เชน่ การวางรองเทา้ การท�ำเรอ่ื ง
สามารถเปน็ แหลง่ เรยี นรเู้ รื่องเศรษฐกิจพอ ได้รู้คุณค่าของเงิน การเรียนรู้ภูมิปัญญา มสี ว่ นรว่ มทบี่ า้ น วดั โรงเรยี น ขยายผลก การเรียนรู้ให้สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ได้ เศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรยี นสามารถฝกึ เดก็
เพยี ง ชมุ ชนสามารถเปน็ วิทยากร และครวั ทอ้ งถน่ิ เชน่ การทำ� ผา้ บาตกิ การเลยี้ งปลา ระบวนการสร้างเสริมเด็กดีมีวินัยของ อย่างต่อเน่ืองและย่ังยืน ผลจากการท�ำ ให้อยู่ในระเบียบวินัยได้ อีกเรื่องคือวินัย
เรอื นสามารถผลิตของใชเ้ องได้ เลยี้ งกบ การทำ� ปยุ๋ หมกั การปลกู ผกั หวาน โรงเรียนต้นบากราษฎร์บำ� รุงไปสู่โรงเรียน กจิ กรรม คอื ไดค้ รอบครวั ตน้ แบบ จำ� นวน การออมทรพั ย์ วนั ละ 1 บาท เปน็ การสรา้ ง
52 53

วินัย และออมเพื่อประหยัด เพื่อเก็บเงิน ต้นบากราษฎร์บ�ำรุงมีวินัยในการถอด อาจารย์สะอ้าน ซึ่งเป็นอาจารย์ ปัจจยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความส�ำเรจ็ การเปน็ ผปู้ ระสานงานโครงการสลบั สบั เปลย่ี น มาร่วมด้วยทุกคร้ัง เช่น การจัดกิจกรรม
จนกระท่ังในปี 2555 ศูนย์คุณธรรม รองเทา้ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ รองเทา้ ของ ประจ�ำโรงเรียนได้กล่าวว่า จากเสียง การที่โรงเรียนต้นบากราษฎร์บำ� รุง กันไปเพื่อสร้างการเรียนรู้ และสร้าง วันเด็ก การศึกษาดูงานในโรงเรียน
(องค์การมหาชน) มีความเห็นว่าโรงเรียน ตนเอง และรองเท้าของผู้อน่ื ทีว่ างอยู่กอ่ น สะทอ้ นของผปู้ กครองทวี่ า่ ลกู มพี ฤตกิ รรมที่ สามารถสร้างกระบวนการเสริมสร้างและ กระบวนการมีส่วนร่วมในการท�ำกิจกรรม มีส�ำนักงานพลังงานจังหวัดเข้ามาสนับ
วัดทุ่งหวังสามารถที่จะด�ำเนินงานได้ด้วย จนกลายเป็นการปฏิบัติท่ีเป็นพฤติกรรม ดขี น้ึ นนั้ เนอื่ งจากโรงเรยี นไดป้ ลกู ฝงั และฝกึ การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมให้กับ โดยการสรา้ งความเขา้ ใจ พดู คยุ หาวธิ กี าร สนุนเร่ืองเตาเผาขยะ ท�ำให้ได้รับรางวัล
ตนเอง จึงไดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ โครงการกับ ปกตทิ ม่ี วี นิ ยั ในชวี ติ ประจำ� วนั ซง่ึ การปรบั ให้เกิดการท�ำบ่อยๆ คอยดูแลตักเตือน นักเรียนตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา แก้ไขปัญหา มีข้อตกลง มีกติการ่วมกัน แชมปน์ ำ้� สม้ ควนั ไมจ้ ากภาคใต้ และขยาย
ทางโรงเรยี นโดยตรง เนน้ เรอ่ื งเศรษฐกจิ พอ เปลย่ี นพฤตกิ รรมนกั เรยี นนน้ั ไมใ่ ชเ่ พยี งแค่ การท�ำกิจกรรมต่างๆ ท�ำให้เด็กได้ซึมซับ เนอื่ งจากครใู นโรงเรยี นมคี วามเปน็ หนงึ่ เดยี ว ดึงผู้ปกครองเข้ามาร่วมด้วย โดยนัด ไปในระดับประเทศ ได้เหรียญทอง
เพยี ง การปลกู ผกั เลยี้ งไก่ เลย้ี งปลา เพอ่ื การถอดรองเทา้ แตร่ วมไปถงึ การเขา้ แถว เรอ่ื งดๆี และสามารถนำ� ไปใชท้ บี่ า้ นได้ ฟงั เปน็ ทมี งานทเี่ ขม้ แขง็ มคี วามสามคั คี ถงึ ประชมุ ผปู้ กครองนกั เรยี นเพอ่ื ชแ้ี จงการทำ� มีส�ำนักงานพัฒนาท่ีดินมาให้ความรู้และ
สร้างทักษะชีวิตและสร้างทางเลือกให้กับ ในการรับประทานอาหาร และกิจกรรม เสยี งสะทอ้ นของผปู้ กครองทกุ ปๆี หลงั จาก แมว้ า่ บางครง้ั การดำ� เนนิ โครงการตา่ งๆ จะมี กิจกรรม ชี้แจงบทบาทของผู้ปกครอง รณรงค์ให้นักเรียนรู้จักใช้และท�ำน้�ำหมัก
นกั เรยี นในอนาคต ปจั จบุ นั มโี รงเรยี นใกล้ อนื่ ๆ เชน่ เรอ่ื งการปลกู ฝงั เรอื่ งเศรษฐกจิ ทเี่ รม่ิ ทำ� โครงการ ตวั อาจารยส์ ะอา้ นกแ็ อบ กจิ กรรมทห่ี ลากหลาย แตค่ รแู ละบคุ คลากร บทบาทของโรงเรียน บทบาทของเด็กท่ีมี ชวี ภาพ บรษิ ทั เซฟรอน สนบั สนนุ กจิ กรรม
เคยี งสนใจและเขา้ มาเรยี นรทู้ โ่ี รงเรยี นมาก พอเพยี ง การประหยดั อดออม ปล้ืมอยู่ เพราะที่ครูทุกคนช่วยกันนั้นเกิด ในโรงเรียนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นภาระหรือเป็น ต่อการท�ำกิจกรรมต่างๆ เพ่ือสร้างการ ทเ่ี กย่ี วกบั สงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ การลดการใช้
ข้ึนอีกท้ังยังสนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายกับ โรงเรียนต้นบากราษฎร์บ�ำรุง ผลขนึ้ ทตี่ วั เดก็ ในทางทด่ี ขี นึ้ งานทเ่ี พม่ิ เขา้ มา เนอ่ื งจากสว่ นหนงึ่ เปน็ การ เปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมในเดก็ ใหเ้ ปน็ ไปใน พลังงานการท�ำปุ๋ยหมัก การคัดแยกขยะ
โรงเรยี นอกี ดว้ ย สง่ิ หนงึ่ ทเ่ี หน็ คอื โรงเรยี น ดำ� เนนิ โครงการกบั ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ าร น้องจ๊ะจ๋า : นักเรียนของทาง บูรณาการในกระบวนการเรียนการสอน แนวทางทดี่ ขี น้ึ การใช้น้�ำยาอเนกประสงค์ และการร่วม
เครือข่ายมีความเติบโต ได้รับการพัฒนา มหาชน) มาอยา่ งตอ่ เนอื่ งและมจี ดุ ยนื เนน้ โรงเรียนได้เล่าว่า จากการท�ำกิจกรรมที่ และสามารถนำ� เอาผลงานไปตอบการประกนั 2. การติดตามการด�ำเนินงาน กจิ กรรมกบั ชมุ ชน การปลกู ปา่ ปลกู ตน้ ไม้
จากทั้งโรงเรียนแม่ข่ายและศูนย์คุณธรรม เรอ่ื งของการสรา้ งความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ผ่านมา ส่ิงที่แม่ได้เล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริง คุณภาพการศึกษา การท�ำกิจกรรมต่างๆ สม�่ำเสมอ โดยจัดประชุมสรุปงานร่วมกัน 4. การเข้าร่วมกิจกรรมกับศูนย์
(องคก์ ารมหาชน) ชอบ และความพอเพยี งใหก้ บั เดก็ อยา่ งตอ่ น้องจ๊ะจ๋าได้ปฏิบัติตามค�ำท่ีคุณครูสอน เป็นการทำ� งานทีส่ อดแทรกอยู่ในการเรยี น เพอื่ ใหบ้ คุ ลากรทกุ ทา่ นไดร้ บั ทราบถงึ ความ คุณธรรม (องค์การมหาชน) การจัด
• โรงเรียนบ้านหนองยวน : เร่ิม เน่ือง ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงกิจกรรมไปใน เม่ือกลับไปท่ีบ้าน พ่อแม่ก็ได้สั่งสอน การสอน โดยจะตอ้ งมกี ารสอดแทรกเรอื่ ง กา้ วหนา้ ของแตล่ ะกจิ กรรม มกี ารคดิ ระดม กจิ กรรมคาราวานและเปดิ บา้ นคณุ ธรรมใน
รจู้ กั ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) และ รปู แบบใดกต็ ามแตเ่ มอ่ื ดำ� เนนิ กจิ กรรมแลว้ เช่นเดียวกันว่า ถ้าอยู่บ้านต้องช่วยท�ำ ของคณุ ธรรมพนื้ ฐาน 8 ประการ บรู ณาการ สมองรว่ มกนั ในการแกป้ ญั หาทพี่ บระหวา่ ง ปตี า่ งๆ ซง่ึ นอกจากจะทำ� ใหห้ นว่ ยงานได้
โรงเรยี นตน้ บากฯ มาหลายปี เนอื่ งจากเปน็ ก็จะมีการสรุปพร้อมท้ังสอนให้เด็กรู้ว่า กับข้าวช่วยท�ำอาหาร สิ่งที่น้องจ๊ะจ๋าชอบ กบั วชิ าปกติ เชน่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ สอน ทางในการทำ� กจิ กรรม ใกลช้ ดิ โรงเรยี นแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้
ทีมท�ำงานเดียวกันกับอาจารย์สุรพล ใน กิจกรรมที่ตนเองได้ท�ำนั้นสร้างเสริม มากท่ีสุดซ่ึงครูได้สอนคือ เรื่องเศรษฐกิจ การปลกู ตน้ ไม้ กจ็ ะมกี ารใหแ้ สง ใหป้ ยุ๋ นำ� 3. การได้รับการสนับสนุนจาก และแลกเปล่ียนประสบการณ์ใหม่ๆ
ชว่ งทอ่ี ยโู่ รงเรยี นเขาหลกั และเมอื่ อาจารย์ คณุ ธรรมเรอื่ งการสรา้ งวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ พอเพียง เลี้ยงปลาดุก ทำ� น้�ำมันมะพร้าว สองกระถางมาเปรียบเทียบกัน และสอด หนว่ ยงานตา่ งๆ ทง้ั ภายในและนอกชมุ ชน จากโรงเรยี น รวมถงึ ไดเ้ ผยแพรอ่ งคค์ วามรู้
สุรพล ย้ายไปเป็นผู้อ�ำนวยการโรงเรียน และความพอเพียงได้อย่างไร เมื่อท�ำไป จากน้ันน�ำไปขายในตลาดและโรงเรียน แทรกเรื่องคุณธรรมไปด้วย อีกท้ังยังมี การทำ� กจิ กรรมแตล่ ะครงั้ จะมสี ว่ นรว่ มของ ของโรงเรยี นไปสสู่ าธารณะ
กไ็ ดน้ ำ� เรอื่ งราวดๆี มาเลา่ ใหฟ้ งั ทำ� ใหท้ าง แล้วเกิดผลดีหรือผลเสียต่อตนเองอย่างไร ทำ� ใหต้ อนนนี้ อ้ งจะ๊ จา๋ สามาถรเกบ็ เงนิ ออม กิจกรรมการเยี่ยมบ้านครอบครัวต้นแบบ ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น เช่น นายกองค์การ
โรงเรียนบ้านหนองยวนรับทราบข้อมูล และสามารถน�ำไปปรับใช้ในอนาคตข้าง ได้ 12,000 บาทแลว้ รวมทง้ั ชอบเรอ่ื งการ เพื่อดูแลกัน เรียนรู้ เร่ืองต่างๆ ร่วมกัน บริหารส่วนต�ำบลนาพละ ผู้ใหญ่บ้าน
ความเคลอ่ื นไหว และเขา้ รว่ มเปน็ เครอื ขา่ ย หนา้ ไดอ้ ยา่ งไร อกี ทงั้ ยงั สามารถยกระดบั สรา้ งวนิ ยั วางรองเทา้ ดว้ ย เช่น การท�ำผ้าบาติก รวมไปถึงมีการให้ คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผปู้ กครอง
ของโรงเรียนต้นบากฯ โดยมีวัตถุประสงค์ โรงเรยี นใหเ้ ปน็ ตน้ แบบการเรยี นรดู้ า้ นวนิ ยั น้องวิศนี สงชู กเ็ ปน็ นกั เรยี นอกี นกั เรยี นไปเยย่ี มบา้ นกนั เองและดแู ลกนั เอง
เพ่ือแก้ไขปัญหา เร่ืองการพูดที่ไม่ไพเราะ ความรับผิดชอบ และความพอเพียง คนหน่ึงท่ีได้ท�ำกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง เช่น พี่สอนน้อง โดยมีครูคอยดูแลอีกขั้น
เร่ืองระเบียบวินัย การเดินแถวไม่เป็น สามารถเปน็ ตน้ แบบทขี่ ยายผลไปสโู่ รงเรยี น ปลกู ตน้ ไม้ 1 คน 1 ตน้ 1 กระถาง นอ้ งวศิ นี หนงึ่ ดว้ ย เพอ่ื ทจ่ี ะสงั่ สอนใหน้ กั เรยี นยงั อยู่
ระเบียบ การวางรองเท้า ความซ่ือสัตย์ เครอื ขา่ ยตา่ งๆ ในพน้ื ทภี่ าคใต้ ทมี่ คี วามสนใจ เล่าว่า ตนเองชอบเร่ืองการวางรองเท้า ในกรอบของคุณธรรมท่ีต้องการให้เรียนรู้
และความรับผิดชอบ โดยพาเด็กๆ มาดู ในการขบั เคลอื่ นเรอื่ งคณุ ธรรมไปดว้ ยกนั เพราะทำ� ใหด้ มู วี นิ ยั มรี ะเบยี บ และมคี วาม ผลพลอยได้จากการเยี่ยมบ้านอีกเรื่องคือ
งานท่ีโรงเรียนต้นบากฯ และวางแผนน�ำ นางอารี จันทร์แก้ว ผู้ปกครอง เรียบร้อย และยังได้บอกอีกว่า คุณครูได้ การสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีของครอบครัว
ความรู้ที่ได้จากโรงเรียนต้นบากฯ ไปปรับ นกั เรยี น ไดเ้ ลา่ วา่ ลกู นำ� เรอ่ื งการจดั รองเทา้ สอนเรื่องการพูดจาสุภาพไพเราะ สอนให้ ต้นแบบ และการสอนสอดแทรกเร่ืองการ
ใชใ้ นโรงเรยี น ไปท�ำท่ีบ้าน และลูกพูดเพราะมากขึ้น ชว่ ยเหลอื งานบา้ นและงานโรงเรยี น บันทึกส่ิงที่ได้เรียนรู้จากการเย่ียมบ้านคือ
มีความกตัญญูมากข้ึน สามารถดูแลคน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นอีกหนึ่งคนท่ีมี การนำ� มาเขยี นเรยี งความ นอกจากนยี้ งั มี
ความส�ำเร็จท่ีเกิดขึ้นกับนักเรียน เฒา่ คนแกท่ บ่ี า้ นตนเองได้ และมใี จรกั การ บทบาทส�ำคัญได้กล่าวชมเชยว่าโรงเรียน ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสำ� เรจ็ อนื่ ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้
ผู้ปกครอง ชุมชน ออมมากขนึ้ ตน้ บากฯ มนี กั เรยี นทม่ี สี มั มาคาราวะ ไม่ 1. การสร้างทีมงานและการแบ่ง
ระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาของการ ผูป้ กครองนกั เรยี น ลกู มคี วามรบั ว่าจะเจอท่ีไหนก็จะยกมือไหว้ เร่ืองของ บทบาทหนา้ ทก่ี ารบรหิ ารจดั การ และวธิ กี าร
เสริมสร้างคุณธรรมพ้ืนฐานในการใช้ชีวิต ผิดชอบมากขึ้น มีวินัยมากขึ้น มีความ ความมีวินัยก็มีความเคร่งครัด เด็กส่วน ท�ำงานของโรงเรียน ต้นบากราษฎร์บ�ำรุง
ของนักเรียนโรงเรียนต้นบากราษฎร์บ�ำรุง เปลยี่ นแปลงเยอะ ชว่ ยแบง่ เบาภาระพอ่ แม่ ใหญม่ คี วามซอื่ สตั ยแ์ ละเปน็ เดก็ ดี น้ัน อาจารย์สุรพล มุสิกพันธ์ มีการแบ่ง
ด�ำเนินการฝึกนักเรียนตั้งแต่ช้ันอนุบาล ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจากครอบครัวท่ีอบอุ่น บทบาทหน้าที่ให้บุคลากรแต่ละคนใน
จนถงึ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 มผี ลทเ่ี กดิ ขน้ึ และเป็นผลจากโรงเรียนท่ีสอนลูกให้รู้จัก โรงเรียนดูแลกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ
อยา่ งเปน็ รปู ธรรมคอื นกั เรยี นของโรงเรยี น หนา้ ทข่ี องตนเอง และแตล่ ะปกี จ็ ะแบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ
54 55

โรงเรยี นตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรม ถงึ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 การกอ่ ตงั้ โรงเรยี นมี
โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ เป้าหมายเพ่ือพัฒนาเยาวชนของชาติตาม
เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร ความเช่ือของคริสต์ศาสนานิกายโรมัน
คาทอลกิ โรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี เกดิ ขนึ้
ปรชั ญาหลกั ในการพฒั นาคณุ ภาพ ครั้งแรกในช่ือว่า นฤมลทิน ซ่ึงมาจาก
การศกึ ษาของโรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี คอื พระนามของแมพ่ ระองคอ์ ปุ ถมั ภท์ างศาสนา
พฒั นาภมู ปิ ญั ญา บนพนื้ ฐานของคณุ ธรรม ครสิ ต์ มคี วามหมายวา่ ผปู้ ราศจากมลทนิ
“Intelectual Development on the Basis ในภาษาองั กฤษใชค้ ำ� เตม็ วา่ Our Lady of
of Morality” จากหลกั ปรชั ญาดงั กลา่ วไดน้ ำ� Immaculate ผู้ก่อต้ังโรงเรียนนฤมลทิน
ไปสู่การจัดการศึกษาท่ีมุ่งพัฒนาให้ ธนบุรี (พ.ศ. 2473-2544) คือ นายมสาร
นักเรียนเกิดการเรียนรู้ มีความคิดริเร่ิม วงศภ์ กั ดี ซงึ่ สำ� เรจ็ การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญา-
สรา้ งสรรค์ รกั การเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเอง ตรี Bachelor of Commerce จาก Univer-
สามารถนำ� ความรมู้ าใชใ้ นการคดิ และการ sity of Ottawa ประเทศแคนาดา พ.ศ.
วิเคราะห์แก้ไขปัญหา ประเมินทางเลือก 2494
และเลือกปฏิบัติในทางท่ีถูกต้องโดยยึด เดิมโรงเรียนตั้งอยู่ฝั่งพระนคร ซอ เป็นผู้รับใบอนุญาต และนางวันทนา ระดับอนุบาลเน้นการเรียนรู้โดยผ่าน
หลักคุณธรรม จริยธรรม กริยามารยาท ยมติ ตคาม ถนนสามเสนใน เขตดสุ ติ บน วงศ์ภักดี เป็นผู้จัดการและครูใหญ่ พ.ศ. กระบวนการเล่นอย่างสร้างสรรค์ สอด
สภุ าพเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั ความเปน็ ไทย พนื้ ท่ี 200 ตารางวา จดั การเรยี นการสอน 2524 ได้มีการปรับปรุงขยายพ้ืนที่อาคาร แทรกวิชาการโดยอาศัยนวัตกรรมท่ีหลาก
เพื่อด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความ ชน้ั อนบุ าลถงึ ชน้ั ประถม 7 เปดิ สอนตงั้ แตป่ ี เรยี นหอ้ ง-เรยี นใหม้ ากขนึ้ สามารถรองรบั หลาย เชน่ Hi/Scope, Cooperative Art.
สขุ โดยมกี ระบวนการคอื มงุ่ สรา้ งเดก็ และ พ.ศ. 2506 มคี รทู งั้ หมด 14 คน นกั เรยี น นกั เรยี นไดเ้ พม่ิ เปน็ 1,395 คน ตอ่ มาในปี Project Approach เปน็ ตน้ สว่ นในระดบั
เยาวชนท่ีมีคุณภาพ โดยการบูรณาการ 450 คน โดยตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2532 ได้ท�ำการก่อสร้างอาคาร ประถมศึกษา ได้มีการจัดการเรียนการ
คุณธรรมและจริยธรรมในระบบการเรียน โรงเรียนได้พัฒนาคุณภาพการเรียนการ คอนกรตี เสรมิ เหลก็ 5 ชนั้ แทนอาคารครง่ึ สอนแบบบูรณาการ เน้นการลงมือปฏิบัติ
การสอนปกติ และมีการเข้าร่วมโครงการ สอนจนท�ำให้เป็นท่ีรู้จัก และไว้วางใจของ ตึกครึ่งไม้ของอนุบาลเดิม และได้ปรับ วางพน้ื ฐานทเี่ พยี บพรอ้ มในดา้ นการเรยี นรู้
พฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม กบั ศนู ยส์ ง่ เสรมิ คนทวั่ ไปเปน็ อยา่ งดี ตอ่ มาไดข้ ยายกจิ การ ขยายอัตราความจุการรับนักเรียนเป็น และทกั ษะชวี ติ ทส่ี ำ� คญั เพอื่ กา้ วสกู่ ารศกึ ษา
และพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับและเพ่ิมระดับการ 1,975 คน ในปี 2556 ปัจจุบันมีอาจารย์ ต่อในช้ันมัธยมศึกษา หลักสูตรท่ีหลาก
(ศูนย์คุณธรรม) ส�ำนักงานบริหารและ ศึกษาขึ้นไปถึงชั้นมัธยมศึกษา ในปี พ.ศ. มาณวิกา สงวนวงศ์ เป็นผู้อ�ำนวยการ หลายตามความตอ้ งการของชมุ ชน ไดแ้ ก่
พฒั นาองคค์ วามรู้ (องคก์ ารมหาชน) เพอ่ื 2512 มกี อ่ สรา้ งโรงเรยี นนฤมลทนิ แหง่ ท่ี 2 โรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี หลกั สตู รสามญั (Standard Programme)
ให้เกิดการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ขน้ึ ในเขตพ้ืนที่ฝง่ั ธนบุรี ถอื เป็นต้นกำ� เนิด และหลักสูตรภาษาอังกฤษ (English
อย่างต่อเน่ืองและยั่งยืน โดยการปลูกฝัง ของโรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี บนเนอื้ ที่ 3 เส้นทางก้าวสู่โครงการพัฒนา Programme) หรือท่ีรู้จักกันในอีกชื่อว่า
คุณธรรมน้ันจะท�ำโดยการผ่านกระบวน- ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา จดั การศกึ ษาตง้ั แต่ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เรมิ่ จากปยิ วาจา หลกั สตู รสองภาษา (Bilingual Programme)
การปฏิบัติกิจกรรมสู่การเรียนรู้จริง ชั้นอนุบาลปีท่ี 1-มัธยมศึกษาปีท่ี 3 มี เช่ือมโยงสู่การพัฒนาด้านท่ีหลาก นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมเสริม
และสร้างแบบอย่างที่ดีปรากฏให้เห็น นักเรียนประมาณ 475 คน ครู 21 คน หลาย กบั ศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั หลักสูตรส�ำหรับนักเรียนทุกคน เช่น
บนพนื้ ฐานความเชอ่ื ทว่ี า่ “ตวั อยา่ งทด่ี มี คี า่ อาคารเรียนที่เปิดใช้ในสมัยน้ันเป็นอาคาร แผน่ ดนิ เชงิ คณุ ธรรม(ศนู ยค์ ณุ ธรรม) คอมพวิ เตอร์ วา่ ยน�้ำ เทควนั โด คยี บ์ อรด์
กวา่ คำ� สอน” คอนกรตี เสรมิ เหลก็ 3 ชนั้ 1 หลงั และโรง โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี มีการ บลั เลต่ ์ นาฏศลิ ป์ ศลิ ปะ เปน็ ตน้ ผลผลติ ท่ี
กา้ วยา่ ง 40 ปี โรงเรยี นฤมลทนิ ธนบรุ ี อาหาร อกี 1 หลงั รองรบั นกั เรยี น 990 คน จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับเตรียม คาดหวงั จากการจดั การเรยี นการสอนตาม
บริหารงานโดยมีนายมสาร วงศ์ภักดี อนุบาล-ประถมศึกษาปีท่ี 6 การสอนใน หลักสูตรดังกล่าวข้างต้นคือ การผลิต
โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี เป็น 57
โรงเรียนเอกชน ท่ีสังกัดสำ� นักบริหารงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
เปิดท�ำการสอนระดับการศึกษาปฐมวัย
56

เยาวชนไทย ในช่ือโครงการ “เด็กดีศรี น้อมน�ำคุณธรรมสู่ชีวิตที่พอเพียง และ เปน็ การทำ� ความดี มกี ารนำ� เศษอาหารมา ท�ำความสะอาดบริเวณเขื่อนริมนำ้� หน้าวัด
นฤ.ธ” มกี ารทำ� กจิ กรรมปยิ วาจา เพอื่ แกไ้ ข โครงการนฤมลทินร้อยดวงใจ ใฝ่กตัญญู ทำ� เปน็ ปยุ๋ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ คอื เดก็ สามารถรบั ส่วนนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี
ปัญหาเด็กพูดไม่มีหางเสียง ติดการ์ตูน รรู้ กั สามคั คี สวู่ ถิ ไี ทย มกี ารดำ� เนนิ กจิ กรรม ผดิ ชอบการรบั ประทานอาหารของตนเองได้ 4-6 ออกไปพัฒนาพ้ืนท่ีบริเวณลานวัด
ญปี่ นุ่ ตดิ หนงั เกาหลี โดยมกี ลมุ่ เปา้ หมาย ที่ภาคภูมิใจที่สุดคือ “ข้าวหมดจานหนู ไมเ่ หลอื เปน็ เศษอาหาร เดก็ ทานอาหารได้ บางเสาธง ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วน
เป็นนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4-6 ทำ� ได”้ มวี ธิ กี ารคอื ใหน้ กั เรยี นชนั้ ประถม เยอะขน้ึ และมคี วามสขุ ในการรบั ประทาน รว่ มสรา้ งชมุ ชนนา่ อยู่
นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 เป็นกลุ่ม ศึกษาปีท่ี 4 และนักเรียนท่ีมีจิตอาสา อาหาร เป็นการสร้างความรับผิดชอบ การยกระดับการท�ำกิจกรรมใน
เปา้ หมายหลกั ครใู นโรงเรยี นจงึ ไดร้ ว่ มกนั จัดท�ำโครงการรณรงค์ให้นักเรียนใน ความมีวินัยต่อตนเอง และเป็นการคิดถึง ลำ� ดบั ตอ่ มาคอื การทำ� โครงการนฤมลทนิ
คิดกิจกรรมให้นักเรียนต้ังเป็นชมรม เด็ก โรงเรียนรับประทานอาหารให้หมดจาน ผอู้ นื่ นอกจากนย้ี งั เปน็ การลดจำ� นวนปรมิ าณ สานสมั พนั ธส์ ายใยรกั ครอบครวั อบอนุ่ ตาม
จะต้องรณรงค์กันเอง โดยให้เด็กเลือกครู เปน็ การสรา้ งวนิ ยั ในการรบั ประทานอาหาร เศษอาหารจากวนั ละประมาณ 100 กโิ ลกรมั แนวคดิ วถิ ไี ทย และโครงการนฤมลทนิ พอ
เปน็ ทปี่ รกึ ษา ส�ำหรบั กจิ กรรมทท่ี �ำ เดก็ ๆ ให้พอดี มีการใช้สัญลักษณ์การยกนิ้วมือ ใหเ้ หลอื เพยี ง 20-30 กโิ ลกรมั เพยี งเพอื่ พอ่ “บม่ เพาะคณุ ธรรมสสู่ งั คมไทย”
กจ็ ะรว่ มกนั คดิ เชน่ การเขยี นบตั รคำ� ซงึ่ นวิ้ โปง้ หมายถงึ มาก ถา้ ชสู องนวิ้ นวิ้ โปง้ กบั นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมจิต จากรูปธรรมของการเสริมสร้าง
เปน็ คำ� ทไ่ี พเราะ ทำ� เปน็ ทคี่ นั่ หนงั สอื ใหเ้ ดก็ นว้ิ ชแี้ สดงวา่ ตอ้ งการขา้ วปานกลาง และถา้ อาสา เพ่ือเป็นการสร้างอัตลักษณ์ในตัวผู้ คุณธรรม จริยธรรมให้กับนักเรียน ท�ำให้
เดินแจกเด็กด้วยกัน หรือการท�ำละครเชิง ชนู วิ้ กอ้ ยแสดงวา่ ตอ้ งการขา้ วนอ้ ย และเมอ่ื เรียนให้มีจิตอ่อนโยนพร้อมแบ่งปันนำ้� ใจสู่ โรงเรียนได้รับโล่เชิดชูเกียรติระดับดีเยี่ยม
นักเรียนที่เรียนดี มีระเบียบ เพียบพร้อม นฤมลทิน ธนบุรี เป็นกลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ คณุ ธรรมมานำ� เสนอในชว่ งพกั รบั ประทาน นักเรียนเลือกว่าต้องการข้าวเท่าใดแล้ว บคุ คลผดู้ อ้ ยโอกาสกวา่ ในสงั คม กจิ กรรม “รางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์”
คุณธรรม ตามคติพจน์ท่ีโรงเรียนยึดถือ เกบ็ ขอ้ มลู โดยจะมนี สิ ติ ปรญิ ญาโทมาเกบ็ อาหารกลางวนั ครูก็จะสอนว่า เม่ือเลือกแล้วต้องรับผิด จิตอาสาถือเป็นกิจกรรมหลักของโรงเรียน ในโครงการเชดิ ชเู กยี รตสิ ถานศกึ ษาทสี่ รา้ ง
เปน็ แนวทางส�ำคญั นอกจากนท้ี างโรงเรยี น ข้อมูล ท�ำให้มีโอกาสในการพูดคุยแลก จากการเข้าร่วมโครงการกับศูนย์ ชอบสิ่งท่ีตนเองเลือกให้ได้ คือต้องรับ นฤมลทินธนบุรี มีกิจกรรมที่ส�ำคัญ อาทิ คนดีให้สังคม ด้วยการส่งเสริมคุณธรรม
ยังมุ่งผลิตนักเรียนให้เป็นนักคณิตศาสตร์ เปล่ียนประสบการณ์และมีการชักชวนให้ คุณธรรม ท�ำให้โรงเรียนได้รู้จักกับค�ำว่า ประทานอาหารใหห้ มดจานเพอ่ื ไมใ่ หเ้ หลอื การบำ� เพญ็ ประโยชนท์ งั้ ในและนอกโรงเรยี น จรยิ ธรรมดเี ดน่ ปี 2552 ของมลู นธิ ธิ ารนำ้� ใจ
ทสี่ ามารถใชภ้ าษาและเทคโนโลยี เพอ่ื การ ทางโรงเรยี นเขา้ รว่ มโครงการ ซงึ่ นบั วา่ เปน็ สมัชชา และ ปฏิญญา เกิดการเล็งเห็น เศษอาหารทงิ้ ในกจิ กรรมนไ้ี ดม้ กี ารบรู ณา โดยให้นักเรียนในระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปี นอกจากน้ียังได้รับรางวัลสถานศึกษา
สอ่ื สารไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามคดิ โอกาสดี เพราะโรงเรียนกำ� ลังหาแนวทาง ความสำ� คญั ของคำ� วา่ คนดมี ากกวา่ คนเกง่ การกบั เนอ้ื หาหลกั สตู รในวชิ าคณติ ศาสตร์ ท่ี 1-6 ที่มีจิตอาสา ดูแลทำ� ความสะอาด ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ครอบครัวอบอุ่นปี
ริเริ่มสร้างสรรค์ รักการเรียนรู้และพัฒนา การเชื่อมโยงการท�ำงานกับหน่วยงาน ในชว่ งแรกของการทำ� โครงการทางโรงเรยี น มีการจดบันทึกสถิติจ�ำนวนปริมาณเศษ บริเวณท่ีตนเองรับผิดชอบตลอดปีการ 2552 ของศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลงั แผน่ -
ตนเอง ตลอดจนเป็นคนดีมีคุณธรรม ภายนอกสสู่ งั คมทก่ี วา้ งขนึ้ จะมีการติดตามประเมินผล และมีการ อาหารที่เหลือทุกวัน และมีการท�ำ ศกึ ษา ท�ำใหส้ ถานทใี่ นโรงเรียนสะอาดนา่ ดินเชิงคุณธรรม ร่วมกับ ส�ำนักงานคณะ
จรยิ ธรรม โดยทางโรงเรยี นมกี ารบรู ณาการ หลังจากน้ันอาจารย์ตัวแทนจาก สนบั สนนุ ใหม้ พี เ่ี ลยี้ ง ทำ� ใหพ้ บวา่ โรงเรยี น แบบสอบถามว่าเหตุใดจึงรับประทาน อยู่ และสวยงาม นักเรียนในระดับชั้น กรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
ในระบบการเรียนการสอนปกติเร่ือยมา โรงเรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มการประชมุ ทจี่ ฬุ าลงกรณ-์ สามารถท�ำงานร่วมกันได้ทั้งโรงเรียน มีผู้ อาหารไม่หมด รวมถึงมีการให้รางวัลแก่ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2-3 มกี ารออกไปพฒั นา ครูในโรงเรียนยังได้รับการอบรม
อีกทั้งยังเน้นกริยามารยาทท่ีเรียบร้อย มหาวทิ ยาลยั และไดม้ กี ารชกั นำ� ใหร้ จู้ กั กบั ปกครองเปน็ สว่ นรว่ ม และไดร้ บั การยกยอ่ ง นกั เรยี นทร่ี บั ประทานอาหารหมด ซง่ึ ถอื วา่ พนื้ ทบ่ี รเิ วณวดั บางเสาธง โดยจดั เกบ็ กวาด และพัฒนาด้านต่างๆ จากการท�ำงานกับ
เหมาะสมกับความเป็นไทย เชื่อมั่นใน ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิง ใหเ้ ปน็ 1 ใน 5 ของตวั อยา่ งทดี่ ี ในดา้ นการ
ตนเอง กลา้ แสดงออก มบี คุ ลกิ ภาพทดี่ ี รกั คุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) ในการประชุม พัฒนาบุคลากรโรงเรียน และได้รับการ
การออกกำ� ลงั กาย รวมถงึ มสี ขุ ภาพอนามยั เพ่ือชี้แจงบทบาทหน้าที่ของโรงเรียน สนับสนุนจากศูนย์คุณธรรม (องค์การ
และสขุ นสิ ยั ทดี่ ี หากเข้าร่วมโครงการวิจัยในการยกระดับ มหาชน) ใหค้ รใู นโรงเรยี นเปน็ ตวั แทนเพอ่ื
จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2548 เปน็ ตน้ มา คุณภาพเยาวชนไทย จึงท�ำให้ผู้บริหาร ไปเรียนรู้ดูงานศึกษาแนวทางต่างๆ ท่ีมูล
โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี ได้เข้าร่วม โรงเรียนเกิดแรงบันดาลใจ และเห็น นธิ พิ ทุ ธฉอื จี้ ประเทศไตห้ วนั จำ� นวน 2 คน
โครงการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมกับ แนวทางในการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ทำ� ใหท้ างโรงเรยี นไดท้ ราบวา่ แนวทางตา่ งๆ
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิง ในโรงเรยี น จงึ เขา้ รว่ มโครงการดงั กลา่ ว มงุ่ นน้ั ไมต่ า่ งกนั กบั หลกั คำ� สอนของคาทอลกิ
คุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) ส�ำนักงาน เน้นการด�ำเนินโครงการคือ การปลูกฝัง จงึ สามารถนำ� เรอ่ื งทไี่ ปเรยี นรมู้ าปรบั ใชไ้ ด้
บริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การ คณุ ธรรมผา่ นกระบวนการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสู่ หลายเรอ่ื ง และไดจ้ ดั ใหเ้ รยี นรกู้ ารถอดองค์
มหาชน) ทั้งนี้เกิดจากการชักชวนของ การเรยี นรจู้ รงิ “การพฒั นาตนสกู่ ารพฒั นา ความรู้ และไดเ้ ปน็ เขา้ รว่ มเปน็ สมาชกิ เครอื
อาจารย์มนัส ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาโท สงั คม” ซงึ่ มจี งั หวะกา้ วดงั ตอ่ ไปน้ี ข่ายโรงเรียนคุณธรรมกับโรงเรียนประชา
ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท�ำให้รู้จัก กา้ วแรก เรมิ่ จากการเรยี นรู้ มกี าร นเิ วศน์
กบั ดร.สวุ มิ ล ซงึ่ ทำ� งานวจิ ยั ชอื่ “เรง่ สรา้ ง จัดท�ำโครงการวิจัย เริ่มเสริมสร้างคุณ- หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้ดำ� เนิน
คุณลักษณะท่ีดีในเยาวชนไทย” โรงเรียน ลักษณะของเยาวชนท่ีพึงประสงค์ของ โครงการนฤมลทนิ รว่ มใจ เทดิ ไทอ้ งคร์ าชนั
58 59

ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เช่น การปฏิบัติโดยเน้นกระบวนการสอนแบบ โรงเรยี นนฤมลทนิ ธนบรุ ี เชน่ กจิ กรรมกนิ
การทำ� เอกสารรายงานและการจดั การการ Inductive Method ทเี่ รม่ิ จากการนำ� เสนอ ข้าวหมดจาน ย้ิมไหว้พูดจาอ่อนหวาน
เงนิ ในโครงการ การบรหิ ารจดั การโครงการ แบบ เพ่ือให้นักเรียนค้นหาตนเอง และ ไพเราะ หรือการท�ำกิจกรรมสร้างเสริม
การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนใน การผลิตความรู้รวบยอดในรูปแบบต่างๆ ทักษะชีวิตที่บูรณาการกับหลักสูตรการ
สว่ นของการท�ำกจิ กรรมและการเงนิ ตา่ งๆ ในการดำ� เนนิ โครงการพฒั นาทักษะชีวิตท่ี เรยี นการสอน กระบวนการพฒั นาเดก็ ของ
มีกระบวนการ วิธีการเรียนการสอนท่ี ใชต้ วั ยอ่ วา่ “LVR” โรงเรียนมีหลากหลาย ประกอบกับ
สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก L : การพฒั นาองคร์ วมเพอื่ เตรยี ม โรงเรียนมีเครือข่ายโรงเรียนเอกชนท่ี
และสามารถตอ่ ยอดไปในชน้ั เรยี นตอ่ ไปได้ ความพรอ้ มสสู่ งั คมแหง่ ปญั ญา เขม้ แขง็ ดงั นน้ั จงึ มกี ารชกั ชวนใหโ้ รงเรยี น
เกิดกัลยาณมิตรเพ่ิมขึ้น มีเครือข่าย v : การบ่มเพาะด้านคุณธรรม เครือข่าย จ�ำนวน 7 โรงเรียน ได้แก่
โรงเรยี นเพมิ่ ขนึ้ จรยิ ธรรม ความซอ่ื สตั ย์ ความรบั ผดิ ชอบ โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ โรงเรียนเศรษฐ
พอเพยี ง รกั และรบั ใช้ บุตรอุปถัมภ์ โรงเรียนสมาคมสตรีไทย
จากคณุ ธรรมพน้ื ฐานสกู่ ารพฒั นา R : การสร้างทักษะในด้านการ โรงเรียนอุดมวิทยา โรงเรียนรุจิเสรี
ยกระดับการพัฒนาทักษะชีวิต ไตรต่ รอง (Reflection) โรงเรียนจินดารัตน์ และโรงเรียนอนุบาล
“Life Skills in 21st Century” องค์ความรู้ท่ีส�ำคัญในการสร้าง สดุ ารตั น์ ใชเ้ ปน็ ตน้ แบบในการจดั กจิ กรรม
จากการเสริมสร้างคุณธรรมพ้ืน ทกั ษะชวี ติ ประกอบดว้ ย ทกั ษะการคดิ เชงิ ของแต่ละโรงเรียนในส่วนของการพัฒนา ผ่านกระบวนการการท�ำงานร่วมกัน มอง มคี วามสขุ ในการรบั ประทานทานอาหาร เกดิ ความสมั พนั ธท์ ดี่ ตี อ่ กนั เนอื่ งจากมกี าร
ฐานเรม่ิ จากการคดิ ดี พดู ดี และมคี วามรบั สรา้ งสรรค์ ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ ทักษะชีวิต เพ่ือให้เด็กเกิดการเรียนรู้จาก เหน็ สงิ่ ดๆี ความคดิ ดๆี ของเดก็ วา่ มคี วาม ค�ำแนะน�ำของทางโรงเรียนที่ ทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั สง่ ผลใหโ้ รงเรยี นและผู้
ผดิ ชอบ เพอื่ เปน็ การปลกู ฝงั ใหเ้ ยาวชนเปน็ ทักษะการตระหนักรู้ในตนเอง ทักษะการ ประสบการณต์ รงและจากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ หลากหลาย และมคี วามแตกตา่ งบางครง้ั ดี ต้องการบอกให้พื้นท่ีอ่ืนๆ ท�ำงานให้เกิด ปกครองเกิดปฏิสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันมากขึ้น
เด็กรักดี หรือรักที่จะเป็นคนดีและมี ตัดสินใจ ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะ จริง รวมถึงให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพ่ือ กว่าความคิดของครูอีกด้วย ส�ำหรับผู้ ความสำ� เรจ็ เหมอื นกนั คอื อนั ดบั แรกตอ้ ง โรงเรียนเปิดกว้างรับผู้ปกครองมาให้ร่วม
คุณภาพให้นักเรียน “เก่ง ดี มีความสุข” การจัดการกับอารมณ์ ทักษะการจัดการ สรา้ งความเขา้ ใจในการเรยี นรขู้ องเดก็ บรหิ าร หลงั จากทท่ี �ำโครงการแลว้ กม็ กี าร ทำ� ใหบ้ คุ ลากรเกดิ ความเปน็ หนงึ่ เดยี ว มอง ท�ำกิจกรรมในโรงเรียนมากขึ้น กิจกรรมที่
ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่ร่วมกันกับศูนย์คุณธรรม กบั ความเครยี ด และทกั ษะการเขา้ ใจผอู้ น่ื เปิดโอกาสให้ครู นักเรียน ได้แสดงความ เหน็ เปา้ หมายเดยี วกนั ดบู รบิ ทของตนเอง ประสบความส�ำเร็จมากที่สุดที่ท�ำมาคือ
(องค์การมหาชน) เมื่อเกิดรูปธรรมความ ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ปจั จยั สคู่ วามสำ� เรจ็ ของแหลง่ เรยี นรู้ คิดเห็นและคิดค้นวิธีการท�ำงานมากข้ึน ดูพื้นฐานของตนเองว่าเป็นอย่างไร กจิ กรรมครอบครวั อบอนุ่ ”
ส�ำเร็จให้เห็นจากจากการได้รับรางวัลซึ่ง ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง การสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม เพอ่ื แล้ว จึงวางบทบาทจากผู้ด�ำเนินโครงการ ต้องการแก้ปัญหาด้านไหน มีวิธีการท่ีจะ
เปน็ กำ� ลงั ใจใหท้ างโรงเรยี น ในชว่ งปี พ.ศ. บคุ คล ปลกู ฝงั คนดี เกง่ และมคี วามสขุ มาเป็นที่ปรึกษาแทน หลังจากท่ีได้ให้ ดำ� เนนิ การอยา่ งไร จากนน้ั จงึ รว่ มกนั ลงมอื ความภมู ใิ จจากใจผปู้ กครอง
2556 โรงเรยี นจงึ เกดิ แนวคดิ การพฒั นายก การดำ� เนนิ โครงการดงั กลา่ วมรี ปู แบบ ปจั จยั ความสำ� เรจ็ ทแี่ ทจ้ รงิ คอื เดก็ นโยบายการท�ำงานไปแล้ว คนท�ำงานก็มี ทำ� งาน สรปุ ผล และปรบั ปรงุ พฒั นางานไป นายจมุ พต วนิ ยวรพล : ผมเปน็
ระดบั ตอ่ ยอดการทำ� กจิ กรรมรว่ มกบั ศนู ย์ กระบวนการหลักๆ 3 ส่วนประกอบด้วย และผปู้ กครอง ทง้ั คณุ ภาพในตวั เดก็ สงิ่ ที่ ความสุข เพราะยอมรับฟังความคิดเห็น เรอื่ ยๆ ผู้ปกครองของ ด.ญ.มณธิรา วินยวรพล
คณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) เปน็ โครงการ 1) การพัฒนาครูในโรงเรียน ท้ังการด้าน เกิดข้ึนกับตัวเด็ก วิธีการคิดและวิธีการ ของคนท�ำงาน ท่านอื่นๆ คุยกันแบบพ่ีๆ ครู : “การด�ำเนินโครงการต่างๆ นอ้ งมน และนางสาวเมลานี วนิ ยวรพล ซงึ่
พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของนกั เรยี นใหม้ ที กั ษะ การพัฒนาทักษะเติมเต็มความรู้ การ ปฏิบัติของเด็ก ทั้งหมดน้ีมีความเปล่ียน- นอ้ งๆ ซง่ึ กอ่ นหนา้ ทจี่ ะมาทำ� โครงการรว่ ม ผู้อ�ำนวยการจะเป็นคนให้หัวข้อในการท�ำ ทงั้ 2 คนเปน็ ศษิ ยเ์ กา่ ของทน่ี ่ี ตลอดระยะ
การเรียนรู้ หรือท่ีเรียกว่า “พัฒนาทักษะ พฒั นาแผนการสอนแบบองคร์ วม และการ แปลงในทางท่ีดีข้ึน ไม่ว่า สมศ. มา กับศูนย์คุณธรรม ครูที่โรงเรียนนั้นยังไม่มี กจิ กรรม แตล่ ะกลมุ่ กจิ กรรมกจ็ ะรว่ มกนั คดิ เวลาทผ่ี า่ นมาตงั้ แตท่ ล่ี กู สาวทงั้ 2 คนของ
ชีวิตเพ่ือสร้างศิษย์สู่ศตวรรษท่ี 21” (Life ค้นหาครูต้นแบบ “ Smart Teachers” ประเมินภายใน หรือ สทศ. มาประเมิน ความกล้าแสดงออกเท่ากับปัจจุบันน้ี ว่าจะท�ำอย่างไร เช่น การพูดจาไม่สุภาพ ผมไดร้ บั การศกึ ษาทโี่ รงเรยี นแหง่ น้ี ผมตอ้ ง
Skills in 21st Century) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 2) การพัฒนานักเรียน เน้นการจัดค่าย ภายนอกกก็ ลา่ วเปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่ เดก็ มี กิจกรรมท่ีทางโรงเรียนภาคภูมิใจที่สุดคือ ก็ช่วยกันคิดว่าค�ำไหนที่ไม่สุภาพและ ขอขอบพระคุณทางคณะผู้บริหาร คุณครู
เพอ่ื สรา้ งการเรยี นรทู้ กั ษะชวี ติ และวฒั น- กิจกรรมเพ่ือปลูกจิตส�ำนึก และมีการ ความกล้าท่ีจะตอบค�ำถาม กล้าที่จะคิด การสร้างวินัยในการรับประทานอาหารให้ เปลยี่ นเปน็ คำ� สภุ าพวา่ อยา่ งไร และรว่ มกนั และบุคลากรทุกท่านที่ดูแลเอาใจใส่ให้
ธรรมความซ่ือสัตย์ รับผิดขอบ พอเพียง ยกย่องส่งเสริมนักเรียนต้นแบบ “Smart กล้าแสดงความคิดเห็น อย่างเหมาะสม พอดี โดยใช้สัญลักษณ์การยกน้ิวมือดัง ณรงคก์ ารใชค้ ำ� สภุ าพในโรงเรยี น พอคนทท่ี ำ� ความรู้ อบรมบม่ นสิ ยั ใหล้ กู สาวทงั้ สองเปน็
รกั และรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ขนึ้ ในสถานศกึ ษา รวม Kids” 3) การขยายเครือข่ายสร้างแหล่ง ตามวยั มรี ะบบมรี ะเบยี บมากขน้ึ คดิ เปน็ ความหมายท่ีกล่าวไปข้างต้น และเมื่อ คดิ เอง กจิ กรรมทท่ี ำ� กจ็ ะราบรนื่ แตถ่ า้ หาก คนดี มีความรู้คู่คุณธรรมสมกับกับ
ท้ังการสร้างเครือข่ายพัฒนาให้เป็นแหล่ง เรียนรู้เชิงบูรณาการ “ทักษะชีวิต” เพ่ือ และสามารถบรหิ ารจดั การไดม้ ากขนึ้ รจู้ กั นกั เรยี นเลอื กวา่ ตอ้ งการขา้ วเทา่ ใดแลว้ ครู ผู้บริหารบังคับก็จะมีสะดุด เพราะคน เจตนารมณ์ของทางโรงเรียนลูกๆ ได้รับ
เรียนรู้เชิงบูรณาการ Life Skills in 21st ทำ� ใหเ้ กดิ การเตมิ เตมิ ความรู้ และการแลก ทจ่ี ะออกมาหนา้ หอ้ งและเปน็ ตวั แทนแสดง ก็จะสอนว่า เม่ือเลือกแล้วต้องรับผิดชอบ ทำ� งานจะตอ้ งรอคำ� สง่ั ตอ่ การใหโ้ จทยแ์ ละไป ความอบอุ่นจากสังคมในโรงเรียนร้ัวฟ้า-
Century เป็นโดยการสร้างกระบวนการ เปลย่ี นประสบการณส์ งู่ านสมชั ชาคณุ ธรรม ความคดิ เหน็ ของหอ้ งตนเอง สำ� หรบั ความ ในสิ่งท่ีตนเองเลือกให้ได้ ผลท่ีเกิดข้ึนคือ คดิ วธิ กี ารเองกจ็ ะสามารถทำ� งานไดส้ บายใจ” ขาวไดร้ บั การดแู ลจากทางโรงเรยี นเสมอื น
เรยี นรหู้ รอื การบม่ เพาะคณุ ธรรมจากความ ในลำ� ดบั ตอ่ ไป เปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึน คือ มีการเปิดรับ เด็กสามารถรับผิดชอบการรับประทาน ครู : “ความสำ� เรจ็ ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั จาก ครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวที่ใหญ่
แก่นแท้ของความเข้าใจ (Head) เพ่ือให้ จากกระบวนการต่างๆ ที่ปรับ ความคดิ เหน็ ของคนอนื่ และยอมรบั ความ อาหารของตนเองได้ ไม่เหลือเป็นเศษ การท�ำงานอย่างต่อเนื่องกับศูนย์คุณธรรม และอบอุ่นมากๆ นอกจากนี้ทางโรงเรียน
เกิดการการยอมรับ (Heart) และนำ� ไปสู่ เปล่ียนจนสามารถกลายเป็นวิถีของ คดิ เหน็ ของเพอื่ นรว่ มงานมากขนึ้ เนอื่ งจาก อาหาร รบั ประทานอาหารไดเ้ ยอะขนึ้ และ (องคก์ ารมหาชน) คอื ผปู้ กครองนกั เรยี น ได้วางรากฐานทางการศึกษาท่ีมีความ
60 61

มน่ั คงมากใหก้ บั ลกู สาวทงั้ 2 ของผม ทำ� ให้ แตน่ นั้ กเ็ พอื่ หวงั ใหน้ กั เรยี นทกุ คนมรี ะเบยี บ นำ้� ใจ สมาคมอนบุ าลศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย เกนิ กำ� ลงั ของครผู สู้ อน ซงึ่ การดำ� เนนิ การท่ี กิจกรรมภายใน หรือกิจกรรมภายนอก ความสำ� เรจ็ จากเดก็ การเพาะบม่ คณุ ธรรม
ลูกๆ ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับชั้น และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ขอ สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ผ่านมาคือการบูรณาการกิจกรรมลงไปใน เชน่ การเขยี นเรยี งความหรอื บทความสน้ั ๆ ทเี่ ดน่ ชดั ของโรงเรยี น คอื เรอื่ งวนิ ยั ทงั้ ของ
มัธยมศึกษาท่ีโรงเรียนช้ันน�ำของประเทศ ชมเชยเจา้ หนา้ ทที่ ค่ี อยใหบ้ รกิ ารทางจราจร ฝ่ายการศึกษาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ แผนการสอนและแผนกิจกรรมหลักสูตรที่ ของเดก็ ซงึ่ สงั เกตไดว้ า่ เดก็ มพี ฒั นาการใช้ ครูและนักเรียน โดยครูมีทั้งความรับผิด
สดุ ทา้ ยนผี้ มและครอบครวั ขอขอบพระคณุ มคี วามตง้ั ใจในการทำ� งานมากคะ่ ยม้ิ แยม้ สมาคมโรงเรียนเอกชนท่ีใช้ภาษาอังกฤษ ตอ้ งทำ� เปน็ การสรา้ งและพฒั นาทกั ษะให้ ภาษาเขยี นของตนเอง แผนการทำ� งานตอ่ ชอบและมีวินัย วิธีคิดของครูได้ถูก
ทางโรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี คณะผู้ ตลอดเวลาแม้ว่าจะเหนื่อยสักแค่ไหน เปน็ สอื่ การสอน มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทร- เดก็ เกดิ ท้ังความเก่งและความดี กระบวน ไปคือ การพัฒนากิจกรรมให้มีกระบวน ถา่ ยทอดลงสเู่ ดก็ เดก็ ๆ ทำ� ใหเ้ กดิ กจิ กรรม
บริหาร คุณครู และบุคลากรทุกท่านอีก สุดท้ายต้องขอกราบขอบพระคุณคณะ วิโรฒ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา การบูรณาการกิจกรรมเข้าสู่การเรียนการ การท่ีส้ันและง่ายมากข้ึน เด็กสามารถจัด ดๆี ทส่ี ามารถพฒั นาเดก็ ได้ ซงึ่ โรงเรยี นก็
ครั้ง แม้ว่าลูกสาวท้ัง 2 คนจะสำ� เร็จการ ผู้บริหาร คณะครู และบุคลากรทุกท่านที่ กรุงเทพมหานคร เขต 1 โรงพยาบาล สอนถือว่าโรงเรียนสามารถท�ำได้และ ระบบและจัดกระบวนการทางความคิดได้ จะยงั คงด�ำเนนิ การ และพฒั นาใหด้ ยี งิ่ ขน้ึ
ศึกษาจากท่ีน่ีไปแล้วก็ตาม แต่ผมและ คอยดูแลนักเรียนทุกคน ดิฉันหวังว่าทาง ศริ ริ าช โรงพยาบาลเจา้ พระยา ประสบความส�ำเร็จ การต่อยอดความ ความภมู ใิ จอกี เรอื่ งหนงึ่ กค็ อื คำ� ถามจากผู้ กิจกรรมที่ส่งผลกับนักเรียนน้อยทาง
ครอบครัวก็จะจดจ�ำโรงเรียนนี้ตลอดไป โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี จะยังคงมุ่งมั่น ส�ำเร็จจะน�ำปัญหาที่พบมาร่วมกันหาทาง ท่ีมาดูงานที่โรงเรียน ท่ีถามว่า “ครูที่น่ี โรงเรยี น กจ็ ะปรบั เปลย่ี นใหม้ คี วามเหมาะ
เนื่องจากเป็นความประทับใจซึ่งเกิดข้ึน รักษาคุณภาพทางการศึกษาเพ่ือผลิต ปญั หาอปุ สรรคทม่ี กั มาเยอื น แกไ้ ข และประเมนิ วธิ กี ารแกไ้ ขวา่ สามารถ ทำ� ไม super จงั สามารถทำ� อะไรตอ่ มอิ ะไร สมตอ่ ไป
ต้ังแต่วันแรกที่ได้เข้ามา ถึงตลอดจน นักเรยี นทด่ี ีสสู่ ังคมตลอดไป” ระหวา่ งทางในการท�ำงานทผี่ า่ นมา แกไ้ ขไดจ้ รงิ หรอื ไม่ เดก็ กเ็ ปน็ สง่ิ ทโ่ี รงเรยี น ได้เยอะแยะ” ซ่ึงค�ำตอบของทางโรงเรียน
วนั สดุ ทา้ ยทลี่ กู ๆ เรยี นจบ สง่ิ ตา่ งๆ เหลา่ น้ี ปญั หาตา่ งๆ ยอ่ มเกดิ ขนึ้ โดยปญั หาใหญ่ ภูมิใจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการท�ำ คือ ครูมีใจในการท�ำงาน เน่ืองจากเห็น
จะคงอยใู่ นความทรงจำ� ของครอบครวั วนิ ย รว่ มดว้ ยชว่ ยกนั สรา้ งสรรคค์ ณุ ธรรม คอื เรอ่ื งของการไมเ่ คยทำ� ไมเ่ คยรู้ ลองผดิ
วรพลตลอดไป” การบริหารจัดการ และวิธีการ ลองถกู กนั แตก่ ส็ ามารถแกป้ ญั หาได้ โดยผู้ พ.ศ.2549 พ.ศ.2550 พ.ศ.2551 พ.ศ.2552 พ.ศ.2553 พ.ศ.2554 พ.ศ.2555 พ.ศ.2556 พ.ศ.2557

คณุ แมเ่ ดก็ หญงิ พมิ พศิ า แตงมณี : ทำ� งาน จะใชก้ ระบวนการมสี ว่ นรว่ ม มกี าร บรหิ ารไดน้ ำ� วทิ ยากรมาใหค้ วามรใู้ นการทำ� เดก็ ดี เด็กดี นฤมลทิน นฤมลทิน นฤมลทิน นฤมลทิน นฤมลทนิ นฤมลทิน นฤมลทิน
“กอ่ นทจ่ี ะตดั สนิ ใจใหล้ กู ไดเ้ รยี นทโ่ี รงเรยี น ส่ือสารสร้างความเข้าใจกับผู้ที่เก่ียวข้อง กจิ กรรมตา่ งๆ เพมิ่ พนู ความรแู้ ละมาชว่ ย ศรนี ฤ.ธ ศรนี ฤ.ธ เทิดไทอ้ งค์ ร้อยดวงใจ สานสมั พนั ธ์ พอเพยี ง แหล่งเรยี นรู้ แหล่ง แหล่ง
ใฝก่ ตญั ญู สายใยรกั เพ่ือพ่อ วถิ ีพอเพยี ง
ราชนั ร้รู กั สามัคคี ครอบครวั บ่มเพาะ เรียนรูเ้ ชงิ เรียนรเู้ ชิง
นฤมลทนิ ธนบรุ ี ดฉิ นั และครอบครวั ไดย้ นิ โดยมกี ารประชมุ ทำ� ความเขา้ ใจกบั คณะครู สรา้ งแรงบนั ดาลใจ สำ� หรบั ปญั หาอกี เรอื่ ง นอ้ มนำ� ส่วู ิถีไทย คุณธรรม บูรณาการ บูรณาการ
คุณธรรม อบอ่นุ สูส่ งั คมไทย
ชื่อเสียงของโรงเรียนมานานจากค�ำบอก และบุคลากรที่เกี่ยวข้องภายในโรงเรียน ที่เกิดข้ึนในช่วงแรกคือ ผู้ปกครองรู้สึก สู่ชวี ติ ตามแนวคดิ
เลา่ ของคนรอบขา้ ง รวมทงั้ ไดร้ บั คำ� แนะนำ� ก่อนที่จะมีการท�ำกิจกรรมต่างๆ ครูเป็น วา่ การเขยี นรายงานมบี อ่ ยเกนิ ไป แตม่ าใน พอเพยี ง
วถิ ีไทย

จากคณุ อาจว๋ิ ซงึ่ เปน็ ทา่ นอาจารยใ์ หญข่ อง ปัจจัยส�ำคัญที่ท�ำให้กิจกรรม โครงการ ระยะหลังก็เริ่มรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีและได้
โรงเรยี นอนบุ าลบา้ นสวนวา่ “โรงเรยี นแหง่ นี้ ตา่ งๆ เกดิ ความสำ� เรจ็ เนอื่ งจากไดม้ กี าร เรยี นรรู้ ว่ มกนั กบั ลกู ซง่ึ ปญั หาตา่ งๆ ทเ่ี กดิ
มีความเอาใจใส่ในด้านวิชาการควบคู่กับ ปรับความคิดให้ตรงกัน มีเป้าหมายเป้า ข้ึนก็สามารถผ่านพ้นไปได้จากการแก้ไข “ปิยวาจา” เดก็ ทป่ี ระพฤติ ปลูกฝังให้ “ความกตญั ญู ปฏสิ มั พันธ์ อบรมบ่มเพาะ นักเรยี น ให้ความร้แู ละ พัฒนา
คณุ ธรรม” ถงึ แมว้ า่ จะเปน็ โรงเรยี นศาสนา เดียวกันและเดินไปพร้อมๆ กัน มีการ ปญั หาทีพ่ บในระหวา่ งทาง สำ� หรบั ปญั หา การพดู จาดว้ ย ปฏิบตั ิตนตาม เยาวชนรู้จัก กตเวที คอื ระหว่างครู ใหเ้ ด็กๆ พัฒนา แนวทาง แผนการสอน
ความไพเราะ “สมบตั ผิ ูด้ ”ี เคร่อื งหมาย นักเรยี นและ กระบวนการ
อ่อนหวาน พูด รกั ผอู้ ืน่ ของคนด”ี ผู้ปกครอง สามารถดำ� รง คดิ และสามารถ พัฒนา“ทกั ษะ สรา้ งครู
ครสิ ต์ แตท่ างโรงเรยี นกใ็ หค้ วามส�ำคญั กบั ประเมนิ การทำ� งานกนั เปน็ ระยะในระหวา่ ง ดา้ นเอกสารหรอื ภาระงานทเี่ พม่ิ มากขน้ึ คอื รักษ์โลก สร้างความ รว่ มทำ� กจิ กรรม ชีวิตอย่าง นำ� ความรู้ไป ชีวติ กบั การ ต้นแบบ
กจิ กรรมทางพทุ ธศาสนาดว้ ย ดว้ ยเหตผุ ลน้ี คนท�ำงานด้วยกันเอง เพื่อหาปัญหาและ ข้อมูลเชิงสถิติต่างๆ ที่เก็บจากการท�ำ ด้วยความ ตามแนวพระ ตระหนักด้าน สัมพันธ์ใน สมดุลทาง ประยุกต์ใช้ เรยี นรู้ใน นกั เรยี น
จึงท�ำให้ดิฉันตัดสินใจเลือกโรงเรียนนี้เป็น รว่ มกนั หาแนวทางแกไ้ ข กิจกรรมของนักเรียน มีเพ่ิมมากข้ึนตาม จริงใจ ไม่พดู ราชดำ� รัส ความกตัญญู โรงเรยี น ทำ� ให้ เศรษฐกิจ ตามหลกั ศตวรรษที่ 21” ต้นแบบ ผา่ น
หยาบก้าวร้าว “วถิ ชี ีวิตแหง่ ต่อผมู้ ี เด็กเกิดเจตคติ สงั คม ปรชั ญา ผ่านกิจกรรม กระบวนการ
พดู ในสงิ่ ทีเ่ ป็น การด�ำรง คุณความดี สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสอดแทรก พฒั นาทกั ษะ
ประโยชน์ ทสี่ มบรู ณ์ ผมู้ ี ทด่ี ี พอเพยี ง และครู คณุ ธรรม ชวี ติ ผา่ น
ยดึ ทาง อปุ กระคุณ กระตอื รือร้น และวัฒนธรรม สามารถสอด จรยิ ธรรม กจิ กรรม และ
สถานศึกษาของลูกตลอดระยะเวลาท่ีน้อง ระยะเวลาทด่ี ำ� เนนิ กิจกรรม ดังน้นั จงึ ได้มี สายกลาง และกตัญญู ตอ่ การเรียน น�ำความรู้ไป แทรกเทคนคิ ไป ท่ีไดร้ บั ผา่ น ขยายกิจกรรม
พิมเรียนอยู่ท่ีโรงเรียนแห่งนี้ น้องพิมมี โรงเรียนดีมีคุณธรรมนำ� หน่วยงาน การแกป้ ญั หาโดยสรา้ งเครอ่ื งมอื ในการเกบ็ ต่อสว่ นร่วม ถ่ายทอดใน ในการเรียน กจิ กรรม ตน้ แบบลงสู่
มากขนึ้ ครอบครวั การสอน โรงเรียน
เครือข่าย
ความรู้ความสามารถ และมีความรับผิด ประสานใจ ข้อมูลท่ีส�ำคัญส�ำหรับครูและนักเรียนไว้
ชอบในการเรยี น รวมทงั้ หนา้ ทที่ ไ่ี ดร้ บั มอบ ทางโรงเรียนได้รับการศนับสนุน ตามช่วงเวลาท่ีท�ำงาน ท้ังเชิงสถิติ และ
หมายจากทางบา้ น กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทที่ าง จากหน่วยงานต่างๆ มากมาย อาทิ เอกสารส�ำคัญต่างๆ เพื่อให้เกิดความ กจิ กรรม กิจกรรม กิจกรรม กิจกรรม Family Project กจิ กรรมการมสี ว่ น กิจกรรม บรู ณาการ ขยายสู่
โรงเรียนได้จัดข้ึนโดยเฉพาะกิจกรรม เครือข่ายสนับสนุนและร่วมมือพัฒนาการ สะดวกในการคน้ หา เปดิ กรขุ องเก่า หนง่ึ เหรียญ การบา้ น SPA และ กิจกรรมคลินิกเตมิ ฝันปนั รกั รว่ มของผปู้ กครอง จิตอาสาสู่ คุณธรรม เครือข่าย 7
กจิ กรรมแสง เพอื่ โลกสวย กิจกรรมสาน กจิ กรรม Parents as Teachers พฒั นาการเรยี นรลู้ กู สงั คมภายนอก ในแผนการ โรงเรยี น
ธรรมน�ำชีวิต กิจกรรม และ กจิ กรรม Classroom Visit กจิ กรรมครอบครวั เรียนการสอน
บรู ณาการ สามารถทำ� ใหเ้ ดก็ ๆ นำ� ความรู้ ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สำ� นกั งานเขต หนงึ่ มอื น้อย สายใยรัก สขุ สนั ตช์ วนกนั ไปวดั
ไปใช้กับสังคมปัจจุบันได้ดี อีกทั้งคณะผู้ บางกอกน้อย กองทัพเรือส�ำนักงานคณะ ความภมู ใิ จและกา้ วตอ่ ไปของนฤมลทนิ สรา้ งโลกสดใส กจิ กรรมหนู และกจิ กรรมคนคอ
ทำ� ได้ “กินขา้ ว
หมดจาน” เดยี วกนั

บรหิ าร และครทู กุ ทา่ นกค็ อยดแู ลเอาใจใส่ กรรมการการศึกษาเอกชนศูนย์คุณธรรม การทำ� งานดา้ นคณุ ธรรมจะตอ้ งท�ำ
ใหค้ ำ� ปรกึ ษาื และมคี วามเปน็ กนั เอง ดฉิ นั (องค์การมหาชน) คณะครุศาสตร์ ต่อเนื่องและตอกย�้ำเด็กอยู่ตลอดเวลา
คดิ วา่ ผปู้ กครองทา่ นอน่ื กม็ คี วามประทบั ใจ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สมาคมสภาการ โดยที่กิจกรรมที่ท�ำสามารถปรับเปลี่ยน
เชน่ เดยี วกนั ถงึ แมค้ รบู างทา่ นอาจเขม้ งวด ศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย มูลนิธิธาร พฤติกรรมของเด็กและไม่เป็นภาระงานที่ แผนภาพแสดงกระบวนการสรา้ งการเดก็ ดีศรีนฤมลทนิ
62 63

ตน้ แบบแหลง่ เรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม
โรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ หมทู่ ี่ 4
ตำ� บลวงั ขนาย อำ� เภอทา่ มว่ ง จ.กาญจนบรุ ี

ผอ.ววิ รรธน์ วรรณศริ ิ : “การปลกู กิจกรรมต่างๆ โดยไม่หวังส่ิงตอบแทน ประสาน 4 พลงั สรา้ งสรรคจ์ ติ อาสาเขา้ ดว้ ย
ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใหเ้ ดก็ ท�ำไดห้ ลาย ยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ กนั คอื บา้ น วดั โรงเรยี น ชมุ ชน โดยให้
วิธี แต่เราเลือกใช้วิธีจิตอาสา เพราะ ส่วนตน ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ท่ีเด็กได้ฝึก เดก็ นกั เรยี นเรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ
ต้องการสอนให้เด็กรู้จักการให้โดยไม่หวัง ปฏิบัติ ส่ิงนี้จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีย่ิงให้กับ ทำ� ซำ้� อยา่ งสมำ�่ เสมอ เปน็ กระบวนการหลอ่
สิ่งตอบแทน เมื่อเขาได้เรียนรู้จากการ ตัวเองตลอดไป ไม่ด�ำรงชีวิตแบบขาดสติ หลอมใหเ้ ดก็ เกดิ การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรม
ปฏบิ ตั จิ รงิ เขาสามารถซมึ ซบั ไดเ้ อง ทำ� ให้ รู้จักคิด รู้จักให้ ซึ่งจะท�ำให้สังคมอยู่ร่วม โดยไมต่ อ้ งมกี ารบงั คบั กจิ กรรมสรา้ งสรรค์
จิตใจดี มีเมตตา เอื้อเฟื้อ กิจกรรมจิต กนั อยา่ งสงบสขุ ตอ่ ไป” ยงิ่ ให.้ ..ยง่ิ ได.้ ..ยงิ่ จิตอาสาจึงประกอบด้วย ครูจิตอาสา
อาสาสร้างความเป็นมนุษย์ที่อ่อนโยน เพมิ่ พลงั ...สรา้ งการใหอ้ ยา่ งยง่ั ยนื ยุวชนจิตอาสา และชุมชนจิตอาสา โรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ ....โรงเรยี น ศิษย์เก่าเช่ือมโยงพลังค่ายอาสา หลังจากนั้นก็มีนักศึกษาเข้ามาจัด
เออื้ เฟอ้ื ตอ่ สรรพสงิ่ ดว้ ยใจทเี่ มตตา กรณุ า การสรา้ งจติ สำ� นกึ ปลกู ฝงั คณุ ธรรม เพื่อท�ำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความดีเจริญ เลก็ ๆ แตง่ ดงาม พฒั นาโรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ ค่ายเฉล่ียปีละ 3-4 คร้ัง ในการจัดค่าย
การเรยี นรนู้ อกหอ้ งเรยี นโดยการสมั ผสั จรงิ เพอื่ ใหเ้ ดก็ เปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม งอกงาม เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตอาสา โรงเรียนบ้านหนองตาบ่งเป็น ปี พ.ศ. 2544 ศษิ ยเ์ กา่ โรงเรยี นบา้ น แต่ละคร้ังชาวบ้านจะเข้ามามีส่วนร่วมกับ
สง่ ผลใหเ้ ดก็ นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นหนองตา ทางโรงเรียนได้ใช้ “จิตอาสาเพ่ือสังคม” งอกงามตามวัย เป็นสังคมแห่งความดูแล โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดส�ำนักงานคณะ หนองตาบ่ง ได้เข้าศึกษาต่อในระดับ โรงเรียน ท�ำกิจกรรมกับนักศึกษาทุกครั้ง
บ่งเปล่ียนแปลงพฤติกรรม ฝึกกระท�ำ เป็นเครื่องมือในการลงมือปฏิบัติ โดย ชว่ ยเหลอื เออ้ื อาทรซง่ึ กนั และกนั กรรมการการประถมศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ตง้ั อดุ มศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั - เนื่องจากเห็นประโยชน์ที่โรงเรียนและ
อยหู่ มทู่ ี่ 4 ตำ� บลวงั ขนาย อำ� เภอทา่ มว่ ง ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ และเรยี นวชิ าการพฒั นา นักเรียนได้รับจากการเข้าค่าย ดังนั้น
จังหวัดกาญจนบุรี โรงเรียนแห่งน้ีได้สอน สงั คมกบั อาจารยส์ มปอง ใจดเี ฉย อาจารย์ ทุกครั้งที่โรงเรียนมีกิจกรรมต่างๆ คนใน
นักเรียนบ้านหนองตาบ่งและหมู่บ้านใกล้ ประจ�ำภาควิชาศึกษาศาสตร์ ของทาง ชุมชนจะให้ความร่วมมือร่วมใจ และให้
เคียงมานานกว่า 75 ปี ตั้งแต่วันท่ี 22 มหาวทิ ยาลยั ขณะเดียวกันอาจารย์สมปอง ความชว่ ยเหลอื เทา่ ทจ่ี ะชว่ ยได้ เชน่ รว่ มกนั
กนั ยายน พ.ศ. 2481 เปน็ ตน้ มา ชว่ งแรก ใจดีเฉย ก็ได้ท�ำงานร่วมกับศูนย์คุณธรรม ทำ� อาหารเลยี้ งนกั ศกึ ษาทม่ี าเขา้ คา่ ย และ
ของการก่อตั้งโรงเรียนอาศัยที่ดินบริจาค (องค์การมหาชน) และมกี ิจกรรมเกย่ี วกบั รว่ มทำ� กจิ กรรมกบั นกั ศกึ ษา
ของผใู้ หญบ่ ญุ หลวง ธรรมชาติ บนพน้ื ท่ี 90 ค่ายอาสา โดยมีเงื่อนไขว่านักศึกษาหาก การท่ีโรงเรียนบ้านหนองตาบ่งมี
ไร่ มีนายข�ำ บุญชู เป็นครูใหญ่คนแรก เรยี นจบมธั ยมจากทไี่ หนใหไ้ ปจดั คา่ ยอาสา นักศึกษามาจัดค่ายบ่อยครั้ง ส่งผลให้
ต่อมาถูกเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางรถไฟ พัฒนาที่นั่น เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนา โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการท�ำกิจกรรม
และขดุ คลองส่งน�้ำตามโครงการของเข่อื น กิจกรรมและพัฒนาโรงเรียน ดังนั้นจึงมี ตา่ งๆ อาทิ คา่ ยวทิ ยาศาสตร์ คา่ ยภาษา
แม่กลอง ท�ำให้ปัจจุบันพื้นท่ีของโรงเรียน การจัดค่ายอาสาในโรงเรียนบ้านหนองตา อังกฤษ มีกิจกรรมหลักคือ กิจกรรมค่าย
เหลอื ประมาณ 27 ไร่ เปดิ ทำ� การสอนตงั้ แต่ บง่ ขนึ้ คร้ังแรก มนี ักศกึ ษาจากคณะต่างๆ อาสาของมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ แตเ่ นอ่ื งจาก
ระดับก่อนประถมศึกษาถึงช้ันประถม ของมหาวทิ ยาลยั มาเขา้ คา่ ยจำ� นวน 60 คน โรงเรียนมีนักเรียนจ�ำนวนไม่มาก จึงได้
ศกึ ษาปที ี่ 6 มนี กั เรยี นประมาณ 117 คน โดยพกั คา้ งคนื ในโรงเรยี น ซง่ึ ขณะนนั้ เปน็ ชกั ชวนโรงเรยี นเครอื ขา่ ยเขา้ มารว่ มกจิ กรรม
ผู้บริหาร 1 คน ครูผู้สอน 7 คน นักการ เร่ืองใหญ่มากท่ีโรงเรียนขนาดเล็กจะจัด ด้วย เม่ือมกี จิ กรรมมากข้นึ โรงเรยี นบ้าน
ภารโรง 1 คน คำ� ขวญั ประจำ� โรงเรยี นคอื ทพี่ กั ใหก้ บั คน 60 คน แตช่ าวบา้ นกร็ ว่ มกนั หนองตาบง่ กเ็ รม่ิ เปน็ ทรี่ จู้ กั มากขนึ้
“รเู้ วลา รหู้ นา้ ที่ มคี วามสามคั ค”ี ปจั จบุ นั จดั เตรยี มสถานท่ี และชว่ ยพฒั นาโรง-เรยี น
มนี ายววิ รรธน์ วรรณศริ ิ เปน็ ผอู้ ำ� นวยการ เพอื่ รบั รองนกั ศกึ ษาทจ่ี ะมาเขา้ คา่ ย ท�ำให้ เส้นทางสู่การพัฒนาจิตอาสาเพ่ือ
ท�ำหน้าท่ีบริหารโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2543 นักเรียนในโรงเรียนได้มีโอกาสพูดคุยกับ สงั คม
ปจั จบุ นั โรงเรยี นมกี ารพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง พๆ่ี ซง่ึ เปน็ ศษิ ยเ์ กา่ ทำ� ใหน้ กั เรยี นซง่ึ เปน็ ในปี พ.ศ. 2549 โรงเรียนบ้าน
โดยไดร้ บั ความรว่ มมอื จากโรงเรยี น ชมุ ชน รนุ่ นอ้ งเกดิ แรงบนั ดาลใจในการเรยี น เนอื่ ง หนองตาบ่งได้มีการจัดกิจกรรมวันเด็ก มี
และหนว่ ยงานภาคพี ฒั นาภายนอก จากอยากทำ� กจิ กรรมเหมอื นรนุ่ พท่ี มี่ าเขา้ คา่ ย อาจารยส์ มปอง ใจดเี ฉย และผอู้ �ำนวยการ
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ในสมัย
64 65

การเร่มิ ต้นเป็นการต่อยอดจากทนุ กเ็ ปน็ ครอู าสา ครสู ว่ นใหญเ่ ปน็ ครใู นทอ้ ง- ความกตัญญูกตเวที และการสร้างความ ร่วมงานในวัด โดยการเดินทางไปวัดจะมี
เดิมท่ีทางโรงเรียนมีอยู่คือ ในช่วงปี พ.ศ. ถ่ิน ผมเองก็อยู่บ้านพัก สามารถท�ำงาน สมั พนั ธอ์ นั ดงี ามกบั ผสู้ งู อายุ ลงุ เปย๊ี ก (ปจั จบุ นั เสยี ชวี ติ แลว้ ) ซงึ่ เปน็ ชาว
2548-2549 กอ่ นทจ่ี ะไดเ้ ดนิ ทางไปศกึ ษาดู หลังเวลาเลิกเรียนได้ เราท�ำกันไม่มีค่า ยุวชนจิตอาสา คือนักเรียนที่ท�ำ บ้านที่มีใจอาสามาช่วยอ�ำนวยความ
งานที่ประเทศไต้หวัน โรงเรียนมีกิจกรรม ตอบแทน ทำ� ดว้ ยใจ บางทเี ดก็ หวิ ไอตมิ เรา กิจกรรมเก็บขยะในชุมชน ซ่ึงผลของการ สะดวก จัดหาและขับรถพาเด็กๆ ไปท�ำ
ส่งเสริมให้นักเรียนอ่านหนังสือตอนเย็น ก็ควักเงินซ้ือให้กิน มีเด็กคนหนึ่งชื่อแอน ท�ำกิจกรรมนี้ท�ำให้ปริมาณขยะในชุมชน กิจกรรมท่ีวัด ส่วนผู้ปกครองช่วยกันท�ำ
เพอ่ื แกป้ ญั หาเดก็ ตดิ เกม ทไี่ ปเลน่ รา้ นเกม ยังจ�ำได้เลย น่ังอยู่ที่สนามเด็กเล่น เราก็ และริมทางรถไฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด กับข้าวให้เด็กไปกินระหว่างการไปท�ำ
ในตลาด มีวิธีการสร้างแรงจูงใจกิจกรรม ถาม ว่าแอนอยากกินอะไร? เด็กบอกว่า ชาวบ้านเกิดความละอายมากข้ึนท่ีเด็กจะ กจิ กรรม นกั เรยี นทผ่ี า่ นโครงการจติ อาสา
คอื หากใครอา่ นหนงั สอื กจ็ ะไดร้ บั ประทานขนม ไม่มีเงิน เราก็บอกว่า อยากกินอะไรหยิบ ตอ้ งมาชว่ ยเกบ็ ขยะทต่ี นเองทง้ิ และชว่ ยทำ� มาแล้วเป็นเวลาประมาณ 3-4 ปี ทาง
มีน�้ำหวานให้ด่ืม ไม่อ่านก็จะไม่ได้ดังนั้น เอา เขากไ็ ปหยบิ อนั ละ 25 บาท เรากใ็ หก้ นิ กิจกรรมพัฒนาวัดต่างๆ ส่งผลให้เกิด โรงเรยี นพบวา่ เดก็ มพี ฤตกิ รรมไปในทางที่
เด็กอยากรับประทานขนมก็จะมาอ่าน นะเพราะเดก็ กอ็ ยากกนิ ครกู เ็ สยี เงนิ ใหท้ กุ ความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งชมุ ชน เดก็ และ ดีข้ึน เช่น ช่วยพ่อแม่ท�ำงานบ้านมากขึ้น
หนงั สอื นอกจากนย้ี งั มกี ารสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ วนั แหละ” (หวั เราะอยา่ งมคี วามสขุ ) วดั กจิ กรรมสว่ นใหญท่ ไ่ี ปชว่ ยงานวดั คอื มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองมากขึ้น
กจิ กรรมครอู าสา โดยจดั กลมุ่ ครทู มี่ คี วาม ชว่ งทว่ี ดั มงี านกฐนิ ผา้ ปา่ เดก็ กจ็ ะไปชว่ ย กล้าแสดงออก รู้จักการแบ่งปัน เสียสละ
ถนดั ในแตล่ ะเรอ่ื งไปสอนเดก็ ๆ เชน่ ครทู ม่ี ี กา้ วทสี่ องเสรมิ สรา้ งยวุ ชนจติ อาสา : กันท�ำความสะอาด เสิร์ฟน�้ำให้แขกที่มา แต่หากออกจากโรงเรียนไปแล้ว 1-2 ปี
ความสามารถในการวาดภาพ จดั ดอกไมส้ ด จติ อาสาจากการปฏบิ ตั จิ รงิ
นั้นอย่าง นางสาวนราทิพย์ พุ่มทรัพย์ การสร้างคุณธรรมให้แก่เด็กนักเรียนผ่าน รอ้ ยมาลยั ทำ� ดอกไมแ้ หง้ ประดษิ ฐต์ น้ เงนิ การส่งต่อพลังจิตอาสาจากครูสู่
มาเข้าร่วมงาน ท�ำให้เห็นภาพการท�ำงาน กิจกรรมต่างๆ โดยที่ศูนย์คุณธรรม ตน้ ทอง สอนทำ� อาหารเปน็ ตน้ และในชว่ ง ลูกศิษย์ท�ำให้นักเรียนได้เรียนรู้ท้ังการจัด
รว่ มกนั ระหวา่ งโรงเรยี นและชมุ ชนทช่ี ดั เจน ได้สนับสนุนงบประมาณผ่าน ทางมหา- เวลาเดยี วกนั นี้ โรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ ได้ ดอกไม้ การวาดภาพ การเรยี นรทู้ กั ษะการ
ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2550 โรงเรยี นบา้ นหนอง วทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒให้เป็นผู้บริหาร เข้าร่วมโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตาม อ่าน เพื่อให้เกิดการขยายผลจิตอาสาเพื่อ
ตาบง่ ไดร้ บั การคดั เลอื กใหไ้ ปศกึ ษาดงู านท่ี จัดการ โดยมีอาจารย์สมปองเป็นผู้ นโยบายของส�ำนักคณะกรรมการการ สังคมที่เน้นกระบวนการปลูกฝังคุณธรรม
มูลนิธิพุทธฉือจี้ ประเทศไต้หวัน รุ่นท่ี 2 ประสานงานโครงการ เรม่ิ จากการพฒั นา ศึกษาข้ันพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ จากการปฏิบัติ คณะครูจึงมีการปรึกษา
ตามหลักสูตรของศนู ยค์ ณุ ธรรม (องค์การ โรงเรยี นทงั้ 4 ภาค ใหเ้ ปน็ โรงเรยี นตน้ แบบ (สพฐ.) กาญจนบรุ ี เขต 1 และทำ� กจิ กรรม หารือกันว่า เม่ือครูมีการท�ำกิจกรรมจิต
มหาชน) โดยไดส้ ง่ ตวั แทนเขา้ รว่ มศกึ ษาดู 4 แหง่ ประกอบดว้ ย ภาคใต้ : โรงเรยี น ต่างๆ ในโรงเรียนตามแนวทางวิถีพุทธ อาสา ดังนั้นนักเรียนก็ควรได้รับการปลูก
งานจำ� นวน 2 คน ความประทบั ใจในความ ต้นบากราษฎร์บ�ำรุง (ตรัง) ภาคเหนือ : เดยี วเชน่ เดยี วกนั ฝังเรื่องจิตอาสากลับไปยังชุมชนเช่น
เป็นพุทธของมูลนิธิพุทธฉือจ้ี ท่ีแม้กระทั่ง โรงเรียนห้วยโผ (แม่ฮ่องสอน) ภาคตะวัน ครทู กุ คนในโรงเรยี นจะรว่ มกนั เปน็ เดยี วกนั โดยทำ� กจิ กรรมงา่ ยๆ เพอ่ื รว่ มกนั
โรงพยาบาลก็ยังมีความเป็นพุทธ รวมไป ออก : โรงเรยี นอนบุ าลตราด (ตราด) และ ครูจิตอาสา ท�ำกิจกรรมทุกเย็น ตั้งแต่ พัฒนาชุมชน เช่น การเก็บขยะในชุมชน
ถึงกระบวนการการศึกษาท่ีมีการบ่มเพาะ ภาคตะวันตก : โรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง 16.30-17.30 น. โดยจดั กลมุ่ กจิ กรรมตา่ งๆ และตามทางรถไฟ การบ�ำเพ็ญประโยชน์
เร่ืองของจิตอาสามาต้ังแต่ระดับประถม (กาญจนบรุ )ี ทง้ั หมด 4 โรงเรยี น เพ่ือสอนนักเรียน เช่น สอนวาดภาพ วดั ตา่ งๆ ในพนื้ ที่ ไดแ้ ก่ วดั ทงุ่ ทอง วดั วงั
จนถึงระดับมหาวิทยาลัย ได้เห็นว่าอาสา ผอ.ววิ รรธน์ วรรณศริ ิ : “จบั เปน็ พ่ี ท�ำดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้สด สอนท�ำ ขนาย วดั หว้ ยนาคราช และวดั มโนธรรมา
สมัครทั้งความเป็นกันเองให้เกียรติผู้อ่ืน น้องกันเลย เดินพร้อมกัน ศูนย์คุณธรรม อาหาร สอนการบ้าน สอนภาษาอังกฤษ ราม (วัดนางโน) สิ่งที่เกิดข้ึนอย่างเห็นได้
ยกยอ่ งผอู้ นื่ เสมอ (องค์การมหาชน) ให้เขียนแผนงาน แต่ละกลุ่มก็จะมีนักเรียนที่สนใจประมาณ ชดั คือ ขยะในชุมชนลดลง ความสมั พันธ์
หลงั จากทตี่ วั แทนโรงเรยี นกลบั มา โครงการ เรากเ็ ขยี นโครงการประมาณจัด กลุ่มละ 15-20 คน บางคร้ังนักเรียนท�ำ ของโรงเรียนกับชุมชนดีขึ้น อีกทั้งขยะที่
จากศึกษาดูงาน ก็ได้น�ำเอาความรู้มา ค่ายพุทธศาสนา เม่ือถึงเวลาพัฒนา เสรจ็ ไมท่ นั แลว้ มผี ปู้ กครองมารบั ผปู้ กครอง เก็บมาก็น�ำมาขาย เพ่ือเป็นการสอนให้
ถ่ายทอดให้กับครู นักเรียน ผู้ปกครอง โครงการ ผู้ทรงคุณวุฒิได้เห็นกิจกรรมก็ ก็จะมาช่วยท�ำ เป็นการสร้างความอบอุ่น นักเรียนได้เรียนรู้เร่ืองการท�ำธุรกิจเพ่ือ
โดยมกี ารจดั เวทปี ระชมุ ผปู้ กครอง เลา่ เรอื่ ง สงั่ ใหห้ ยดุ เลย ใหก้ ลบั ไปบา้ นใหม่ เพราะ ในครอบครัว นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง สงั คม นอกจากนย้ี งั มกี ารทำ� อาหารเลยี้ งผู้
ราวดีๆ ท่ีได้รับจากการไปศึกษาดูงาน คิดได้ไม่พอทางเราก็เก็บโครงการมาคิด ความสัมพันธ์ท่ีดีให้กับครอบครัวได้ด้วย สูงอายุ เด็กๆ จะได้ป้อนอาหารให้กับผู้
และใหด้ ู VTR ของมลู นธิ พิ ทุ ธฉอื จ้ี ใหเ้ หน็ ใหม”่ เชน่ วนั แมก่ จ็ ะมกี ารใหเ้ ดก็ ๆ รอ้ ยมะลแิ ละ ปว่ ยทเ่ี ปน็ อมั พฤกษ์ อมั พาต โดยกจิ กรรม
ถงึ ความเปน็ พทุ ธทแ่ี ทจ้ รงิ เนน้ การพฒั นา ใชไ้ หว้แม่ ซึง่ ปัจจุบันก็ยงั มีครจู ติ อาสาท�ำ นจี้ ะมใี บงานใหน้ กั เรยี นไดส้ อบถามพดู คยุ
จิตใจจากการปฏิบัติและการท�ำงาน ก้าวแรกเร่ิมต้นต่อยอดจากทุนเดิม กจิ กรรมเหลา่ นอี้ ยอู่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง กบั ผปู้ ว่ ย ทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรเู้ รอื่ งการดแู ล
โรงเรยี นจงึ เรมิ่ คดิ แผนงานโครงการเกยี่ วกบั สรา้ งพลงั ครอู าสา อาจารยน์ กุ ลู : “การทำ� งานของเรา ชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ สรา้ งความตระหนกั ในเรอื่ ง
66 67

เด็กก็อาจจะปรับพฤติกรรมไปตามสภาพ สังคม การสร้างจิตอาสาเพ่ือสังคมของ ผู้ปกครองหลายคนมาร่วมกิจกรรมของ หม่บู ้าน (อสม.) เป็นคณะกรรมการสถาน ประมาณ 20 กวา่ คน การดแู ลกจ็ ะดแู ลกนั ฝากเขาเราก็แทรกเร่ืองการแบ่งปัน ว่าให้
แวดล้อม ซ่ึงทางโรงเรียนก็ไม่สามารถ โรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง มีการขยายจาก โรงเรียนตามคุณสมบัติท่ีดีของพ่อแม่ ศกึ ษา หรอื คณะกรรมการชดุ อนื่ ๆ ซงึ่ ลว้ น ไปจนเดก็ จบการศกึ ษา และตอ่ เนอื่ งกนั ไป เอาไปฝากนอ้ งทบี่ า้ นดว้ ย ใหแ้ บง่ กบั เพอื่ น
ควบคมุ ไดน้ ค่ี อื สงิ่ ทนี่ า่ เปน็ หว่ ง ครจู ติ อาสาสยู่ วุ ชนจติ อาสา และจากยวุ ชน อุปถัมภ์ มาช่วยเหลือโรงเรียนและช่วย แตเ่ ปน็ คนเดยี วกนั ทส่ี มคั รใจมาเปน็ พอ่ แม่ แล้วแต่ความประสงค์ของพ่อแม่อุปถัมภ์ ในหอ้ ง แตเ่ ดก็ บางคนกต็ อ้ งการแคก่ อด”
จิตอาสาสู่ชุมชนอาสา และพลังชุมชน เหลอื เดก็ เปน็ ผทู้ มี่ คี วามพรอ้ มทจี่ ะแบง่ ปนั อปุ ถมั ภ์ ตวั เดก็ เอง และผปู้ กครองทแ่ี ทจ้ รงิ ปจั จบุ นั ปา้ ตนุ่ : “บางทีเราก็ไปดูเขาที่บ้าน
เสยี งจากนอ้ งๆ อาสากลับคืนมาสู่โรงเรียน อีกทั้งยัง ทง้ั ความรกั เงนิ ทอง และความอบอนุ่ แต่ พอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภบ์ า้ นหนองตาบง่ เรม่ิ จำ� นวนพอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภล์ ดลงเนอื่ งจากปญั หา บา้ ง ครอบครวั ทปี่ า้ ดแู ล พอ่ เขาไปมแี ฟน
นอ้ งแบม: “หนไู ปชว่ ยกวาดลานวดั ไปชว่ ย ท�ำโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ ซึ่งได้ ปัญหาของการท�ำโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ ด�ำเนินการรุ่นแรก ในปี พ.ศ. 2552 มี ปากทอ้ ง เวลาการทำ� งานทต่ี อ้ งเพม่ิ มากขน้ึ ใหม่ แม่เป็นมะเร็งเสียชีวิต บางครั้งเราก็
เลย้ี งอาหารผปู้ ว่ ยคะ่ ” แรงบันดาลใจมาจากการศึกษาดูงานเร่ือง สว่ นใหญ่ ครอบครวั ทแ่ี ทจ้ รงิ ของเดก็ จะไม่ ผู้ปกครองสนใจและเข้าร่วมเป็นพ่อแม่ รวมถงึ มคี า่ ใชจ้ า่ ยทเ่ี พม่ิ ขนึ้ และเวลาวา่ งท่ี ชว่ ยเรอื่ งเงนิ แตเ่ ขาไมค่ อ่ ยจะยอมรบั หรอก
นอ้ งออม : “ไปถงึ วดั หนชู อบกวาดพนื้ ลาน ครอบครัวอบอุ่นที่ประเทศนิวซีแลนด์ เปดิ ใจกบั จงึ เนน้ เดก็ ทไ่ี มม่ พี อ่ แม่ ส�ำหรบั อุปถัมภ์กว่า 30 คน เช่น ป้าตุ่น กุ้ง ไมต่ รงกนั ก็คอยถามข่าวคราวความเป็นอยู่เรื่อยๆ
วดั กวาดถนน เชด็ ถลู า้ งหอ้ งนำ้� ทำ� ความ โดยเริ่มท�ำโครงการพลังจิตอาสาพา ในครอบครัวของผู้ที่จะมาเป็นพ่อแม่ พเี่ หนาะ เปน็ 3 คนในอกี หลายๆ คนทรี บั พเ่ี หนาะ : “กจิ กรรมพอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภ์ เดก็ ทด่ี แู ลอยอู่ กี คนชอื่ นอ้ งกบิ๊ แมม่ ารบั ไป
สะอาดวดั และชอบทำ� บญุ คะ่ ” ครอบครัวอบอุ่น ครั้งน้ันมีการใช้ อุปถัมภ์ ทางโรงเรียนจะมีการสร้างความ สมัครเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ โดยโครงการมี ดีนะ เพราะว่าเด็กบางคนขาด อะไรบาง แล้ว อกี คนหน่ึงผูช้ ายชื่อน้องไอซ์ ยงั บวช
นอ้ งแอน : “หนูชอบไปให้ก�ำลังใจผู้ ดูแล กระบวนการท�ำประชาคม เชิญผ้ปู กครอง เข้าใจให้กับภายในครอบครัวก่อนที่จะไป สดั สว่ นการดแู ลแบบ พอ่ แม่ 1 : นกั เรยี น 2 อย่างเราก็สามารถไปเติมให้เขาได้ เช่น เณรอยู่ การเลี้ยงลูกเราก็เล้ียงเหมือนกับ
คนปว่ ย และไปแสดงลำ� ตดั ใหค้ นปว่ ยดคู ะ่ ” มาร่วมกันพูดคุยสร้างความเข้าใจ มีผู้ รบั เดก็ มาเปน็ ลกู อปุ ถมั ภ์ คน การดูแลเด็กจะดูแลพบปะกันที่ ขาดพอ่ แม่ ขาดความอบอนุ่ ” เลยี้ งลกู ของเรา สงั่ สอนเรอ่ื งราวดๆี ใหก้ บั
การมกี จิ กรรมตา่ งๆ ดา้ นจติ อาสา ปกครองเข้าร่วมเวทีประมาณ 500 คน การจบั คเู่ ดก็ กบั พอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภ์ ทาง โรงเรียน มาคุยเพื่อรับฟังปัญหาของเด็ก พ่ีกุ้ง : “เด็กเหล่านี้มีปัญหา เดก็ ”
ใหเ้ ดก็ ไดป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ น้ี ทำ� ใหเ้ ดก็ ซมึ ซบั เรอ่ื ง ประกอบดว้ ย กำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น เทศบาล โรงเรียนจะดูความถนัดของเด็กกับพ่อแม่ แทนพอ่ แมท่ แี่ ทจ้ รงิ ซง่ึ บางเรอ่ื งเขาตดิ ตอ่ ครอบครวั หากเราสามารถเตมิ ใหเ้ ขาได้ เชน่
คุณธรรม ความกตัญญู โดยอัตโนมัติ ผู้ปกครอง เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการ อุปถัมภ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น โดยจะยก พดู คยุ ปรกึ ษากบั พอ่ แมผ่ ปู้ กครองทแี่ ทจ้ รงิ ความรกั ทเ่ี ราสามารถใหเ้ ขาได้ เวลาเดก็
ซึ่งสิ่งเหล่าน้ีเราไม่สามารถสอนได้ที่ ดำ� เนนิ โครงการพอ่ แม่ อปุ ถมั ภ์ หลงั จากที่ ตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนคือ เด็กคนไหน ไม่ได้ ทางโครงการมีพ่อแม่อุปถัมภ์ เจอเราก็อยากกอด อยากพูดคยุ กบั คนท่ี
โรงเรยี น เดก็ ตอ้ งไดส้ มั ผสั กบั ของจรงิ ดว้ ย มกี ารปรกึ ษาหารอื กนั แลว้ จงึ ไดม้ กี ารเปดิ เลน่ ฟตุ บอลเกง่ พอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภก์ จ็ ะเปน็ คน ประมาณ 10 กวา่ คน รบั ผดิ ชอบดแู ลเดก็ เลย้ี งเขามาเขาไมก่ ลา้ การทเ่ี ราเอาขนมมา
ตวั เอง ท�ำใหพ้ ฤตกิ รรมเปลย่ี นแปลงอยา่ ง รับสมัครพ่อแม่อุปถัมภ์ คัดกรองเด็กท่ีมี ทถี่ นดั ในเรอื่ งของกฬี า คนทม่ี ลี กู ผชู้ ายกใ็ ห้
เหน็ ไดช้ ดั บางคนชวนพอ่ แมไ่ ปเยย่ี มผปู้ ว่ ย ปญั หาครอบครวั จบั คกู่ นั กบั พอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภ์ มลี กู อปุ ถมั ภผ์ หู้ ญงิ เพอื่ ใหพ้ อ่ แมอ่ ปุ ถมั ภไ์ ด้
เอง อีกทั้งยังให้ความส�ำคัญกับการออก โดยดูความถนัดว่าพ่อแม่อุปถัมภ์คนไหน มีลูกเพ่ิมเข้ามา ท้ังหมดน้ีคืการดูลักษณะ
ก�ำลังกาย เพราะรู้ว่าสาเหตุหน่ึงของการ ถนดั เรอ่ื งอะไร กจ็ ะใหล้ กู ทถี่ นดั ดา้ นนน้ั ๆ เดน่ ของเดก็ และพอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภแ์ ลว้ มาจบั คู่ โรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง ครูจติ อาสา สอนทำ� วาดรปู ทกั ษะ
“จติ อาสาเพือ่ สังคม” ดอกไม้สด การอา่ น
เจ็บป่วย คือไม่ออกก�ำลังกาย อย่างไร ไปอยดู่ ว้ ย กนั โรงเรยี นจะมกี ารสำ� รวจขอ้ มลู เดก็ ทจี่ ะ
ก็ตามนอกจากฝึกให้เด็กมีจิตใจอ่อนโยน วิธีการชักชวนคนท่ีมาเป็นพ่อแม่ เขา้ โครงการเบอ้ื งตน้ กอ่ น โดยครปู ระจำ� ชนั้
มคี วามเออื้ เฟอ้ื เผอื่ แผต่ อ่ ผอู้ น่ื แลว้ ยงั ชว่ ย อปุ ถมั ภ์ ใชเ้ วทชี มุ ชนในการทำ� ความเขา้ ใจ จะดูว่าเด็กคนไหนเป็นอย่างไร ขาดส่วน
ลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาลให้ เปดิ รบั สมคั รและพดู คยุ กนั เปน็ การสว่ นตวั ไหนตอ้ งเตมิ สว่ นไหน เดก็ คนไหนชอบกฬี า
กบั ภาครฐั ไดอ้ กี ทางหนง่ึ ดว้ ย มกี ารกำ� หนดเกณฑห์ ลกั ๆ คอื ตอ้ งเปน็ คน เด็กคนไหนชอบวาดภาพ และจับคู่กับพ่อ ปลกู ฝงั คณุ ธรรม ยวุ ชน ขยะแรลล่ี ดูแล
จากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ จิตอาสา ผูส้ ูงอายุ
มเี มตตา มคี วามพรอ้ ม ตอ้ งการชว่ ยเหลอื แม่อุปถัมภ์ให้ตรงกัน เมื่อจับคู่แล้วก็จะมี
กา้ วทสี่ ามพลงั ชมุ ชนจติ อาสา : พอ่ แม่ สังคม กิจกรรมน้ีศูนย์คุณธรรม (องค์การ การพบปะเจอกนั เดอื นละ 1 ครง้ั ทโ่ี รงเรยี น
อุปถัมภ์ดูแลเด็กนักเรียน เติมเต็ม มหาชน) ไดจ้ ดั ทำ� สารคดี 3 นาที เพอื่ เผย ในวนั ท่ี 8 ของทกุ เดอื น ตอ่ มาปรบั เปน็ วนั ที่
ความรกั ความอบอนุ่ แพร่ความดีความงามของโครงการ หลัง 6 ของทกุ เดอื นเพราะเปน็ วนั ฝากสจั จะออม
ปี พ.ศ. 2552 โรงเรยี นบา้ นหนอง จากสารคดีเผยแพร่ออกไป คนท่ีได้ดู ทรพั ย์ ซง่ึ มพี อ่ แมอ่ ปุ ถมั ภท์ จี่ ะมาท�ำงานใน ธุรกจิ เพื่อ
ตาบ่งท�ำโครงการร่วมกับศูนย์คุณธรรม สารคดโี ทรมาทโ่ี รงเรยี น และตอ้ งการจะมา สำ� นกั งานของกลมุ่ ออมทรพั ยอ์ ยทู่ โ่ี รงเรยี น สังคม

(องค์การมหาชน) ภายใต้ประเด็นครอบ- สมคั รเปน็ พอ่ แมอ่ ปุ ถมั ภโ์ ดยชว่ ยสนบั สนนุ ด้วย หรืออาจจะมาวันอ่ืนๆ ท่ีตนเอง
ครวั อบอนุ่ โดยการสนบั สนนุ ใหส้ ง่ ตวั แทน เงิน แต่ทางโรงเรียนได้ชี้แจงว่าพ่อแม่ สะดวกก็ได้ ซ่ึงจุดเด่นอีกเรื่องของท่ีนี่คือ
ครูในโรงเรียนไปศึกษาดูงานท่ีประเทศ อปุ ถมั ภน์ ค้ี อื การชว่ ยเหลอื โดยการใหค้ วาม ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นคนที่มีจิตอาสา
นวิ ซแี ลนด์ หลงั จากกลบั มาจากการศกึ ษา รกั และเวลาทจี่ ะเขา้ มาชว่ ยดแู ลเดก็ พดู คยุ มใี จทจ่ี ะชว่ ยงาน ทำ� งานเพอ่ื สว่ นรวม เชน่ ชมุ ชนจิต พอ่ แม่ กจิ กรรม
ดูงาน ทีมงานครูจึงเริ่มพัฒนาโครงการ ใหก้ ำ� ลงั ใจเดก็ และคนคอยแนะนำ� สงิ่ ทถี่ กู เปน็ คณะกรรมการของกลมุ่ ออมทรพั ยข์ อง อาสา บญุ ธรรม ในโรงเรียน

กจิ กรรม ขยายผลการสง่ เสรมิ จติ อาสาเพอ่ื ต้องในการด�ำเนินชีวิตให้กับเด็ก มี หมบู่ า้ น เปน็ อาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำ� 69
68

ศนู ยเ์ รยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ น ค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนส่วนใหญ่ คณะที่มาดู ศนู ยร์ วมจติ ใจ : บา้ น วดั โรงเรยี น การแกไ้ ขปญั หานี้ อกี ทงั้ ไดร้ บั การชกั ชวน เรียนท่ีดีข้ึน จากท่ีผลการเรียนไม่ดีนัก คุณธรรมช้ันน�ำ โรงเรียนสีขาว (เกี่ยวกับ
หนองตาบ่ง : ค่ายเพ่ือการเรียนรู้ งานกจ็ ะใสซ่ องเพอ่ื ชว่ ยสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ า่ ย เมื่อครั้งท่ี ผอ.วิวรรธน์ วรรณศิริ จากผอ.วิวรรธน์ วรรณศิริ ซ่ึงเป็นพ่ีชาย กลบั ดขี นึ้ เรอื่ ยๆ ผลการสอบ O-Net กส็ งู การป้องกันยาเสพติด) โครงการกิจกรรม
ปลกู ฝงั คณุ ธรรม เปน็ คา่ อาหาร อาหารวา่ ง แตโ่ รงเรยี นบา้ น มาเปน็ อาจารยใ์ หญ่ เมอื่ โรงเรยี นถงึ ชว่ งจดั ให้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายปลูกต้นกล้าจิต ขึ้น และสามารถเป็นวิทยากรให้ข้อมูลแก่ การแขง่ ขนั กฬี ากลมุ่ เครอื ขา่ ยชาววงั (กฬี า
การปลูกฝังให้เกิดครูจิตอาสา หนองตาบ่งไม่ได้ติดตามการขยายผลว่า วันเด็ก อาจารย์นุกูล อาจารย์ในโรงเรียน อาสาเพ่ือขยายผลเรื่องจิตอาสาและสร้าง ผทู้ ม่ี าดงู านไดอ้ กี ดว้ ย โรงเรยี นทำ� งานมา 5 สามคั ค)ี โครงการกจิ กรรมเขา้ คา่ ยลกู เสอื
เยาวชนจิตอาสา และชุมชนจิตอาสา แต่ละแห่งท่ีมาศึกษาดูงานมีการน�ำ และคณะกรรมการสถานศึกษาจะช่วยเรี่ย แกนนำ� ใหก้ บั โรงเรยี นเครอื ขา่ ยน�ำไปขยาย ปี นักเรียนก็ดีข้ึน พูดกันรู้เรื่องมากขึ้น เนตรนารี
เป็นกระบวนการหล่อหลอมให้เกิด “จติ แนวทางการทำ� กจิ กรรมใดไปใชบ้ า้ ง เพยี ง ไรเงนิ ตามบา้ นผปู้ กครอง แตล่ ะครง้ั จะได้ ผลนั้น มีการด�ำเนินการร่วมกันมา แกป้ ญั หาเรอื่ งเดก็ ทะเลาะกนั ได้ ใชห้ นงั สอื มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อาสาเพอ่ื สงั คม” จากการปฏิบัติท่ีมีการ แตไ่ ดพ้ ดู คยุ กนั เชน่ ทภ่ี เู กต็ ไดพ้ ดู คยุ ถงึ เงินประมาณ 1,000-2,000 บาท เพ่ือมา ประมาณ 1 ปี กจิ กรรมทโี่ รงเรยี นเครอื ขา่ ย เพม่ิ ขน้ึ มจี ติ อาสาเพม่ิ ขน้ึ สามารถพฒั นา น�ำโดยอาจารย์สมปอง ใจดีเฉย รวมทั้ง
สั่งสมประสบการณ์ ท�ำให้โรงเรียนบ้าน ความคบื หนา้ กบั อาจารยท์ ม่ี าดงู าน แลว้ ได้ เล้ียงเด็ก ซื้อของให้เด็กบ้าง ส�ำหรับวัน ดำ� เนนิ การ ไดแ้ ก่ การทำ� ความสะอาดวดั จติ ใจไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ทเี่ ปน็ จดุ
หนองตาบง่ เปน็ ตวั อยา่ งของโรงเรยี นเลก็ ๆ แนวคดิ ทจ่ี ะไปทำ� ตอ่ โดยใหอ้ บต. ภเู กต็ ไป สำ� คญั ทางศาสนาตา่ งๆ เชน่ วนั เขา้ พรรษา และเย่ียมบ้าน การนวด ป้อนข้าว กวาด ดา้ นชมุ ชนมกี ารประยกุ ตเ์ อาความ เรม่ิ ตน้ ทสี่ ำ� คญั ของกจิ กรรมตา่ งๆ ตอ่ เนอื่ ง
ท่ีงดงามในด้านการปลูกฝังคุณธรรมด้าน ดงู านทไี่ ตห้ วนั ทางอำ� เภอบา้ นไร่ จงั หวดั วันออกพรรษา คนในชุมชนก็จะมาใช้ พื้นบ้าน-ลานบ้านให้ผู้สูงอายุในหมู่บ้าน รู้ไปใช้ได้อย่างเหมาะสม เน่ืองจากทุกคน จนเกดิ ความสำ� เรจ็ ในปจั จบุ นั โดยโรงเรยี น
จติ อาสา มกี ารทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั ระหวา่ ง เพชรบุรี เขต 2 ก็เป็นอีกหน่ึงหน่วยงาน สถานท่ีของโรงเรียนแทนศาลาวัด ในการ ของตนเอง โดยใชเ้ วลาในวนั เสาร์ ซงึ่ ผสู้ งู มาชว่ ยกนั พฒั นาชมุ ชน โรงเรยี น สามารถ ท�ำโครงการเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
โรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครองนักเรียนมา ทมี่ าศกึ ษาดงู านและน�ำแนวทางทไ่ี ดไ้ ปท�ำ ทำ� กจิ กรรมทางศาสนา โดยนมิ นตพ์ ระจาก อายทุ จ่ี ะไปชว่ ยดแู ล นน้ั เปน็ คนทไี่ มม่ ญี าติ น�ำเอาคุณธรรมความดีมาใช้ในระบบการ ต่อเน่ืองมาเป็นระยะเวลา 5 ปี จนกลาย
อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถเป็น เร่ืองจิตอาสาต่อ เสนอไปยังพื้นที่เขตการ หมู่บ้านอ่ืนมาเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม พ่ีน้องดูแล นักเรียนจะน�ำของจากบ้าน บริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านของชุมชน เปน็ ตน้ แบบดา้ นจติ อาสาทส่ี ำ� คญั
ตวั อยา่ งทดี่ ี มโี รงเรยี นและหนว่ ยงานตา่ งๆ ศึกษาจนพื้นที่เขตการศึกษาต้องจัด วันสงกรานต์ก็จะเชิญผู้สูงอายุมารดน�้ำ ตนเองไปเยี่ยม โดยมีครูพาไป แบ่งเป็น เพม่ิ เตมิ ดว้ ย ส�ำหรบั ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั คนใน
มาศึกษาดูงาน และมีการพฒั นายกระดับ หลักสูตรศึกษาดูงานที่โรงเรียนบ้านหนอง ดำ� หวั วนั แม่ วนั พอ่ จดั งานเชญิ พอ่ แมม่ า กลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ 10 กวา่ คน สาเหตุ ชมุ ชนคอื สามารถเปน็ วทิ ยากรกระบวนการ ก้าวต่อไปของศูนย์โรงเรียนต้นแบบ
ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้และเป็นสถานท่ีจัด ตาบง่ อกี ครง้ั รว่ มงาน มอบพวงมาลยั ซงึ่ กจิ กรรมเหลา่ น้ี ที่เลือกกิจกรรมผู้สูงอายุเนื่องจากเป็นการ แลกเปลย่ี นความรใู้ หก้ บั ผทู้ มี่ าศกึ ษาดงู าน จติ อาสา
ค่ายกิจกรรมต่างๆ เพ่ือพัฒนานักเรียน ในด้านการบริหารจัดการศูนย์การ จะถูกจัดขึ้นท่ีโรงเรียน สืบต่อกันเร่ือยมา บำ� เพญ็ ประโยชน์ สำ� หรบั ครอู าสากม็ ชี ว่ ง ได้ สามารถแนะนำ� บอกเลา่ ในประเดน็ พอ่ การมีส่วนร่วมเป็นปัจจัยส�ำคัญ
เชน่ คา่ ยเดก็ ดสี รา้ งได้ 2 ครงั้ คา่ ยกองทนุ เรียนรู้ได้มีการประสานงาน และท�ำงาน เปน็ ระยะเวลายาวนาน เวลาสอนนักเรียน ในส่วนของชุมชนก็ไป แม่อุปถัมภ์ว่า ทางโรงเรียนและตนเองทำ� ปจั จยั แรกทท่ี ำ� ใหโ้ รงเรยี นบา้ นหนองตาบง่
การศกึ ษา 3 ครงั้ เปน็ การจดั คา่ ยในระดบั ร่วมกันระหว่างโรงเรียนและชุมชน ผอ. โรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ มที นุ ทาง ท�ำความสะอาดชุมชน จึงเพิ่มเติมเรื่อง อะไรบา้ ง รวมทง้ั มี VTR ใหด้ ู และแนะน�ำ ไดร้ บั การยอมรบั จากทต่ี า่ งๆ และสามารถ
ประถม และค่ายอ่ืนๆ อีกกว่า 10 คร้ัง วิวรรธน์ วรรณศิริ ได้ปรึกษากับคณะ สงั คมทต่ี า่ งจากโรงเรยี นอนื่ ๆ เนอื่ งจากใน การดแู ลผสู้ งู อายุ โดยตกลงกนั ระหวา่ งครู วธิ กี ารรายละเอยี ดตา่ งๆได้ พัฒนาข้ึนมาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านจิตอาสา
เปน็ แหลง่ ศกึ ษาดงู านเกย่ี วกบั เยาวชนผนู้ ำ� กรรมการสถานศกึ ษา ผปู้ กครองและครใู น หมู่ 4 ต�ำบลวังขนาย ไม่มีวัดซึ่งเป็นศูนย์ และเดก็ ทั้งหมดน้ีเกิดจากความร่วมมือร่วมใจใน
จิตอาสา และเปน็ แหล่งศกึ ษาดงู านให้กบั โรงเรยี น เรอ่ื งการแบง่ บทบาทหนา้ ทใี่ นการ รวมจติ ใจของคนในชมุ ชน และไมม่ ศี าลา ครพู จนา : “หลงั จากทน่ี กั เรยี นเขา้ รว่ มดว้ ยชว่ ยกนั พลงั ภาคี สรา้ งคน การทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ มกี ารประชมุ รว่ มกนั
หน่วยงานต่างๆ ด้านจิตอาสา ในระยะ ท�ำกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงเรียน เช่น อเนกประสงค์ในหมู่บ้านซึ่งใช้ท�ำกิจกรรม รว่ มกจิ กรรม พบวา่ เดก็ เราเกดิ นะ เพราะ พฒั นาโรงเรยี น เป็นประจ�ำอย่างต่อเนื่อง รวมท้ังมีการ
เวลาต่อเน่ืองประมาณ 5 ปี โดยเฉลี่ยมี การจดั คา่ ย หรอื การเตรยี มการกอ่ นทจี่ ะมี ดังน้ันจึงมาใช้พื้นท่ีของโรงเรียนในการทำ� วา่ เมอื่ กลบั มา คนกจ็ ะพดู กนั วา่ เนย่ี จติ อา โรงเรียนบ้านหนองตาบ่งเป็นโรง ส่ือสารสองทาง มีการประกาศเสียงตาม
คณะต่างๆ มาศึกษาดูงานประมาณปีละ หน่วยงานอ่ืนๆ มาศึกษาดูงาน และยก กจิ กรรม เปน็ ศนู ยก์ ลางในการทำ� กจิ กรรม สาๆ มีนักเรียนจิตอาสาในโรงเรียน เรียนเล็กๆ มักจะได้สิ่งของมาจากการ สาย ถือได้ว่าโรงเรียนเป็นศูนย์กลางของ
20 กว่าคณะ เช่น โรงเรียนบางมูลนากฯ ระดับโรงเรียนข้ึนเป็น “ศูนย์โรงเรียน ของชุมชน เช่น ใช้เป็นที่ท�ำการของกลุ่ม ประมาณ 34 คน มาเข้าค่ายกับโรงเรียน สนับสนุนจากหน่วยงานเอกชนต่างๆ ที่มี ชมุ ชน ทกุ คนเปน็ เจา้ ของโรงเรยี น เปน็ เจา้
การไฟฟ้า อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำ ต้นแบบจิตอาสา ”มีโครงสร้างและแบ่ง สัจจะออมทรัพย์เพื่อการผลิต กองทุน บา้ นหนองตาบง่ ไดร้ บั ความสนกุ สนาน ได้ การทำ� กจิ กรรมเพอ่ื สงั คม (CSR) เชน่ การ ภาพในการจัดกิจกรรมต่างๆ อีกท้ัง
หมบู่ า้ น (อสม.) ส�ำนกั งานคณะกรรมการ บทบาทหน้าที่ต่างๆ ได้แก่ ประธาน หมู่บ้าน เป็นต้น การท�ำกิจกรรมต่างๆ เพอ่ื นใหม่ เมอ่ื กลบั ไปกไ็ ปทำ� กจิ กรรมโดย สร้างห้องน�้ำ การบริจาคคอมพิวเตอร์ นักเรียนที่ได้เข้าร่วมเป็นแกนน�ำจิตอาสา
ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ศูนย์กรรมการที่ปรึกษา ฝ่ายวิชาการ ของโรงเรยี นทผ่ี า่ นมา ไมว่ า่ จะเปน็ กจิ กรรม การไปเย่ียมผู้สูงอายุ สิ่งที่ได้จากการไป และเม่ือโรงเรียนได้รับส่ิงของเหล่านี้ สามารถเรียนรู้เร่ืองราวต่างๆ จากการทำ�
และโรงเรยี นอกี หลายๆ แหง่ รปู แบบของ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายปฏิคม ฝ่ายงบ ค่าย หรือกิจกรรมอ่ืนๆ ของโรงเรียน บำ� เพญ็ ประโยชนค์ อื นกั เรยี นเกดิ ความภาค คุณครูก็จะบอกเล่าเรื่องราวการได้มาของ กจิ กรรมทงั้ หลาย และนำ� มาปรบั ใชใ้ นชวี ติ
การจัดสถานที่ในการศึกษาดูงานคือ จัด ประมาณ ฝา่ ยอบรม ฝา่ ยสถานที่ และฝา่ ย คณะกรรมการสถานศึกษา รวมท้ังผู้ ภมู ใิ จ เขาอยบู่ า้ นเขาไมม่ ใี ครนวดให้ พอมี ของแต่ละช้ิน แต่ละอย่าง ให้นักเรียนได้ ประจำ� วนั ได้ เชน่ การชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ ความ
เปน็ ฐานการเรยี นรู้ จำ� นวน 3 ฐาน ไดแ้ ก่ ประเมินผล โดยมีทีมงานในแต่ละฝ่าย ปกครอง ครู และนักเรียนจะเป็นกลุ่มท่ีมี เด็นนักเรียนไปนวดให้เขาเขาก็ดีใจ ตอน ทราบและใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำคญั และความ เสียสละ มีน�้ำใจ การแบ่งปันให้เพื่อน
พ่อแม่อุปถัมภ์ ยุวชนจิตอาสา ครูอาสา ประมาณทมี ละ 3-6 คน แลว้ แตค่ วามถนดั สว่ นรว่ มสงู ท�ำใหโ้ รงเรยี นไดร้ บั ความรว่ ม ไปเย่ียมที่บ้านเขาก็ดีใจที่มีเด็กนักเรียนไป ยากล�ำบากของการได้มา เช่น ปี 2553 ฉะน้ันการปลูกฝังเรื่องคุณธรรมจริยธรรม
และกิจกรรมเข้าค่ายอบรม 4 ฐาน ได้แก่ และความส�ำคัญของงาน และจะมีโครง- มอื รว่ มแรง และรว่ มใจทกุ ครง้ั เย่ียม เราได้ท�ำประโยชน์ให้ผู้อื่น ใช้เวลา บรษิ ทั ทปิ โก้ มาสำ� รวจและจดั สรา้ งหอ้ งนำ�้ ต้องปลูกฝังท่ีเด็ก และต้องปลูกฝังอย่าง
ความดที หี่ นสู ามารถทำ� ได้ การใหพ้ ลงั รกั ท่ี สร้างอีกส่วนในการจัดการงานต่างๆ วา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ไมต่ อ้ งใหใ้ ครมาบอก หลงั ใหมใ่ หโ้ รงเรยี น องคก์ ารบรหิ ารสว่ น ต่อเน่ือง เพ่ือสร้างคุณธรรมความดีสืบต่อ
ย่ิงใหญ่ การเป็นเด็กดีมีจิตอาสา และจิต ของโรงเรยี น ไดแ้ ก่ วนั สำ� คญั เชน่ วนั พอ่ สรา้ งเครอื ขา่ ยขยายจติ อาสา ท�ำเองได้เลย ทำ� ให้คนอ่ืนโดยท่ีไม่หวังส่ิง จังหวัดกาญจนบุรีสนับสนุนระบบน�้ำ ไป สำ� หรบั เรอื่ งกจิ กรรมนนั้ ทางโรงเรยี นได้
อาสาเพอ่ื สงั คม ฐานเหลา่ นไ้ี ดแ้ นวคดิ จาก วนั แม่ วนั เดก็ วนั สงกรานต์ เปน็ ตน้ เรม่ิ มี โรงเรยี นเครอื ขา่ ยของโรงเรยี นบา้ น ตอบแทน” ประปาของโรงเรียน ทุนอาหารกลางวัน จัดท�ำเป็นปกติจนกระท่ังกลายเป็นวิถี
คณุ เมตตา (อาสาสมคั รจากมลู นธิ พทุ ธฉิ อื จ้ี การจัดโครงสร้างเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี หนองตาบ่งที่สนใจเรื่องการบ่มเพาะจิต ปัญหาอุปสรรคส�ำคัญในการท�ำ นมโรงเรยี น ปี 2554 บรษิ ทั ทรบี อนด์ มา ส�ำหรับส่ิงท่ีทางโรงเรียนต้องการอยากจะ
ประเทศไทย) เป็นการจดั ทำ� โดยมีฐานคิด เมอ่ื มคี นชว่ ยกนั ทำ� งาน ทำ� ใหง้ านสำ� เรจ็ ไป อาสาให้กับเด็กในโรงเรียนมีโรงเรียนบ้าน กิจกรรมคือ การพาเด็กออกนอกโรงเรียน ช่วยสร้างโครงหลังคาเหล็กกันความร้อน พัฒนาต่อหรือเข้ามาช่วยเสริมคือ ด้าน
ให้มองความจริงที่ใกล้ตัว ง่าย และ อย่างรวดเร็ว ไม่มีการเกี่ยงกันท�ำงาน หนองหวาย เปน็ โรงเรยี นประถมขนาดเลก็ เพราะตอ้ งรบั ผดิ ชอบเรอ่ื งความปลอดภยั ทาสีโรงอาหาร ทาสีบนหลังคา และ วิชาการหรือ องค์ความรู้ด้านการบริหาร
สามารถท�ำได้จริง เช่น การท�ำความ หรือยึดติดในโครงสร้างท่ีได้แต่งต้ังขึ้น มนี กั เรยี นประมาณ 90 คน ครู 4 คน ตงั้ อยทู่ ี่ ผลกระทบจากการที่เด็กเข้าร่วม สำ� นกั งานพนื้ ทเี่ ขตการศกึ ษาที่ 1 กาญจนบรุ ี จดั การ และอาจจะพฒั นาหลกั สตู รการจดั
สะอาดสถานท่ี กวาดบา้ น ถบู า้ น พบั ผา้ เน่ืองจากการจดั โครงสรา้ งถกู ออกแบบขึ้น อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เดิมเด็กใน โครงการหรือการได้รับการหล่อหลอมให้ ท่ีสนับสนุนงบประมาณท�ำโครงการต่อ ค่ายจิตอาสาให้มีความเข้มข้นมากข้ึนต่อ
ลา้ งจาน เพ่ือให้เกิดแกนหลักในการด�ำเนินการ โรงเรยี นมปี ญั หาเรอื่ งกรยิ ามารยาท ทคี่ อ่ น เป็นแกนนำ� จิตอาสาในโรงเรยี นบ้านหนอง เนอ่ื งทกุ ปตี ามนโยบายของ สำ� นกั งานคณะ ไป เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านจิตอาสาท่ี
การขอเข้าศึกษาดูงานแต่ละครั้ง แต่ละฝ่ายและมีการแบ่งบทบาทหน้าที่กัน ขา้ งแขง็ กระดา้ ง ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นทา่ น ตาบ่งน้ัน นอกจากจะไม่กระทบกับการ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ เป็นทีร่ จู้ กั มากยิง่ ขนึ้
ส่วนใหญ่จะเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ อยา่ งชดั เจน เดมิ (ปจั จบุ นั เสยี ชวี ติ แลว้ ) เหน็ วา่ ควรจะมี เรียนการสอนแล้ว นักเรียนยังมีผลการ โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียน
70 71

ศูนย์การเรียนโรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม
จรยิ ธรรม (บางมลู นากโมเดล) โรงเรยี นบางมลู นาก
ภมู วิ ทิ ยา ตำ� บลบางมลู นาก อำ� เภอบางมลู นาก
จงั หวดั พจิ ติ ร

มัธยมศึกษาปีท่ี 3 นับต้ังแต่ปีการศึกษา ยาวนานนับ 9 ทศวรรษ โดยมีเป้าหมาย ท่ีท�ำให้ครูในโรงเรียนเกิดการพูดคุยหารือ มาเป็นแนวทางในการก�ำหนดยุทธศาสตร์
2496 หลกั คอื การพฒั นานกั เรยี นใหม้ ผี ลสมั ฤทธ์ิ ถงึ สภาพปญั หาและการแกไ้ ขปญั หา ทำ� ให้ ด�ำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ตอ่ มาเมอื่ ปี พ.ศ. 2497 นายเยยี น ทางการเรียนคุณภาพทางด้านวิชาการให้ แนวทางการแกไ้ ขดงั กลา่ ว โดยมฐี านคดิ ใน โดยประกอบดว้ ย 3 ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ 1)
โพธสิ วุ รรณ นายอำ� เภอบางมลู นาก ดำ� รทิ ่ี อยู่ในระดับสูง ซึ่งพบว่าผลการเรียนของ การแก้ปัญหาคือ “การปลูกฝังคุณธรรม ยุทธศาสตร์การพัฒนาครู 2) ยุทธศาสตร์
จะสร้างโรงเรียนข้ึนใหม่ ณ ฝั่งตะวันตก นักเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี นักเรียนท่ีเรียนจบ จรยิ ธรรม เพอ่ื สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ใหน้ กั เรยี นมี การพัฒนานักเรียน 3) ยุทธศาสตร์การ
ของแม่น�้ำน่าน บริเวณท่ีตั้งอ�ำเภอเก่า สามารถสอบเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หลักชีวิตท่ีม่ันคงในจิตใจ พ่ึงตนเอง จิต พัฒนาสภาพแวดล้อม รวมถึงได้มีการ
(สถานท่ีต้ังโรงเรียนปัจจุบัน) เพราะท่ีต้ัง และสายอาชีพ ได้ในระดับท่ีน่าพอใจ อาสา ชว่ ยเหลอื สงั คม” กำ� หนดเปา้ หมาย ก�ำหนดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม เพื่อให้
เดิมมพี น้ื ทจี่ ำ� กดั ไม่สามารถขยายโรงเรยี น อย่างไรก็ตาม พบว่าในปัจจุบันนักเรียนมี ในการสร้างคุณธรรมจริยธรรมหลักท่ีจะ เกิดการสร้างรูปธรรมของการสร้าง
ได้ จึงมีการตั้งคณะกรรมการด�ำเนินการ การแสดงออกพฤตกิ รรมทางดา้ นคณุ ธรรม เกิดขึ้นกับครูและนักเรียน 3 ประการคือ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ไดแ้ ก่ การเสรมิ สรา้ ง
โดยมกี ารเรยี่ ไร รบั บรจิ าคเงนิ เพอื่ รว่ มกนั และจรยิ ธรรมไมเ่ หมาะสม จากการประชมุ “ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบ และ ระเบียบวินัย การเสริมสร้างความดี การ
สรา้ งโรงเรยี น ไดเ้ งนิ ทงั้ สนิ้ 400,000 บาท หารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการสถาน ความพอเพียง” โดยให้ทุกภาคส่วนท่ี เสรมิ สรา้ งความกตญั ญกู ตเวที การพฒั นา
ท�ำการก่อสร้างอาคารเรียนเรือนไม้ 2 ช้ัน ศกึ ษา ครู ผปู้ กครอง ศษิ ยเ์ กา่ นกั เรยี น มี เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วม ท้ังคณะกรรมการ จรยิ ธรรม การสง่ เสรมิ จติ อาสา การพฒั นา
12 หอ้ งเรยี น และไดร้ บั เงนิ สนบั สนนุ จาก ความเหน็ ตรงกนั วา่ พฤตกิ รรมทไี่ มเ่ หมาะ การศึกษา ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน โรงเรียนสีขาว โดยภาพรวมเรียกว่า
รฐั บาล 1,000,000 บาท สมทบสรา้ ง จงึ ได้ สมซ่ึงนักเรียนได้แสดงออกน้ันมีอยู่หลาย เพอ่ื รว่ มกนั วเิ คราะหป์ ญั หา สาเหตุ เพอ่ื นำ� “ยทุ ธศาสตร์ 3-6-3”
ต่อเติมอาคารเรียน บ้านพักครู บ้านพัก ประการ เชน่ การพดู จาไมส่ ภุ าพ สบู บหุ ร่ี
ภารโรง และห้องน�้ำ เปิดใช้เม่ือวันที่ 17 มเี พศสมั พนั ธก์ อ่ นวยั อนั ควร ทะเลาะววิ าท
 ยอ้ นรอยความเปน็ มาโรงเรยี นบาง บอ่ นเกา่ ซง่ึ เปน็ อาคารของแผนกสขุ าภบิ าล พฤษภาคม 2499 เปน็ ตน้ มา ลอกการบา้ น ทจุ รติ ในการสอบ ไมท่ ง้ิ ขยะ
มลู นากภมู วิ ทิ ยาคม ห้องแถวเชิงสะพานสุทธิรักษ์สโมสร ที่พัก ปัจจุบันโรงเรียนมีพ้ืนที่ขนาด 32 ลงในถังขยะ ไม่เข้าแถวซ้ืออาหาร มา หนว่ ยงาน • สำ� นักงานตรวจ
 โรงเรยี นบางมลู นากภมู วิ ทิ ยาคมเ ของขา้ ราชการทจ่ี ะไปมาจงั หวดั เพชรบรู ณ์ ไร่ เปดิ สอนนกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี โรงเรียนสาย แต่งกายไม่เรียบร้อย ไม่มี ภาคี งานแผนั ดิน
ป็นโรงเรียนมัธยมประจ�ำอ�ำเภอท่ีเก่าแก่ และท่ีตลาดสดของแผนกสุขาภิบาล ที่ 1-6 มีจ�ำนวนนักเรียน 2,132 คน สมั มาคารวะ ไมม่ จี ติ อาสา ไมด่ แู ลรกั ษา • ศูนยค์ ณุ ธรรม
ทรพั ยากรสว่ นรวม ใชจ้ า่ ยฟมุ่ เฟอื ย เปน็ ตน้ สนบั สนนุ (องค์การมหาชน)

เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนระดับช้ันมัธยม บางมูลนากตามล�ำดับ โดยเปิดสอนถึง จำ� นวนหอ้ งเรยี น 54 หอ้ ง มคี รรู วมทงั้ หมด
ศึกษาแห่งที่ 3 ของจังหวัดพิจิตร เดิมช่ือ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 มกี ารตอ่ เตมิ 96 คน มีวิสัยทัศน์ของทางโรงเรียนคือ ในชว่ งปี พ.ศ. 2553 โรงเรยี นบาง
โรงเรยี นประจำ� อำ� เภอบางมลู นาก ตง้ั ขน้ึ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่เพ่ิมเติม “ระบบดี มีคุณธรรม น�ำความรู้ มูลนากฯ ได้รับการหนุนเสริมจาก
ราว พ.ศ.2464 โดยต้ังอยู่ ณ ศาลาการ (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนอนุบาลบางมูลนาก) มุ่งพัฒนาการศึกษาสู่มาตรฐานสากล” ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และศูนย์ ครูและเครอื ข่าย
เปรียญ (เก่า) ของวัดบางมูลนาก เป็น เมอ่ื พ.ศ. 2476 ดว้ ยเงนิ รายไดจ้ าการแสดง ผู้อ�ำนวยการคนปัจจุบันคือ นายมานพ คณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ในการด�ำเนนิ นักเรียน ผู้ปกครอง
โรงเรยี นแบบสหศกึ ษา เปดิ สอนชน้ั ประถม ละครเงินเรี่ยไร เงินบริจาคและเงินงบ เกตเุ มฆ โครงการสร้างโรงเรียนต้นแบบด้าน
ศกึ ษาปที ่ี 1-3 รวม 6 หอ้ งเรยี น มนี กั เรยี น ประมาณ เปดิ สอนระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เพอ่ื นำ� ไปเปน็ ตน้ แบบ จติ อาสา
แรกตง้ั 80 คน มนี ายแกว้ อม่ิ วทิ ยา เปน็ ท่ี 1-4 ในช่วงแรกของการเปิดสอนระดับ เสน้ ทางสศู่ นู ยก์ ารเรยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรม ในการขยายผล ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั ความเหน็
ครูใหญ่คนแรก ต่อมาเม่ือวันท่ี 1 มธั ยมเปดิ รบั เฉพาะนกั เรยี นชาย ในปี พ.ศ. จรยิ ธรรม (บางมลู นากโมเดล) ของคณะกรรมการการศกึ ษา ครู และศษิ ย์
พฤษภาคม 2466 ยา้ ยมาทำ� การสอนทห่ี อ้ ง 2494 จงึ เปดิ สอนระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาเป็น เก่าต่างได้เล็งเห็นว่าปัญหาดังกล่าวมีแนว
แถวในตลาด ต่อมาย้ายไปท�ำการสอนท่ี 1-6 มนี กั เรยี นสตรเี ขา้ มาเรยี นในระดบั ชนั้ โรงเรียนมัธยมประจ�ำอ�ำเภอท่ีเปิดสอนมา โน้มท่ีจะเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้น แผนภาพแสดงบางมูลนากโมเดล
72 73

ภกราะพบแวสนดกงากรลสไรกา้กงาครุณขบั ธเรครลมอ่ื นจรบิยาธงมรูลรมนาบกาโงมมเดูลลนากโมเดล กระบวนการเรยี นรู้ การเชอื่ มโยงความรทู้ ี่ และสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน ประชมุ สรปุ บทเรยี นรว่ มกบั คณะกรรมการ
เก่ียวข้องกับการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ กำ� หนดยทุ ธศาสตร์ และกจิ กรรมเพอื่ บรรลุ การศึกษาและทีมงานครูในโรงเรียน เป็น
พฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรมของครู จรพยิ ธัฒรนรมาคขอุณงธนรักรเรมยี น สภกาาพรพแจวฒั รดยินลธาอ้ รคมรุณทม่สี ธง่รเรสมรมิ จากภายนอกใหค้ รขู องโรงเรยี นบางมลู นากฯ สเู่ ปา้ หมาย เรยี กวา่ “ยทุ ธศาสตร์ 3-6-3” กำ� ลงั ในการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมในโรงเรยี น
เกิดการเรียนรู้กระบวนการสร้างโรงเรียน (รายละเอยี ดตามตาราง) และในครอบครวั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความตอ่ เนอ่ื ง
“พัฒนาครู ครรู ่วมคดิ ร่วมท�ำ ตัวชี้วดั “นักเรียนต้นแบบ” “อตั ลกั ษณส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและนอก ต้นแบบ การร่วมกันสร้างเป้าหมาย • อัตลักษณ์ครูและผู้บริหาร : ไม่ • การบูรณาการงานโครงการกับ
น้อมนำ� ความสำ� เรจ็ นเิ ทศก์ตดิ ตามผล” โรงเรยี น โดยมสี ว่ นรว่ มกบั ชมุ ชน”

ตวั ชี้วดั “ครูต้นแบบ” • ภายในโรงเรยี นสะอาดเป็น
ระเบยี บ เรียบร้อยและสวยงาม
ความ ความ พอเพยี ง ความ ความ ความ • มแี หลง่ เรียนรูท้ หี่ ลากหลายและ อัตลักษณ์ (ตัวบ่งชี้ความส�ำเร็จของการ เบียดเบียนเวลาราชการ ไม่แสวงหาผล ภารกจิ หลกั และงานประจำ� โดยการบรู ณา-
ซอ่ื สตั ย์ รบั ผดิ ชอบ ซือ่ สตั ย์ รับผิดชอบ รับผิดชอบ พอเพยี ง ดำ� เนนิ โครงการ) ขนั้ ตอนวธิ กี ารดำ� เนนิ การ ประโยชนจ์ ากนกั เรยี นและโรงเรยี น ตรงตอ่ การกบั กระบวนการเรยี นการสอน 8 กลมุ่
• ประหยดั • มีความรว่ มมือกับชมุ ชนในการ ติดตามสรุปบทเรียน เพื่อพัฒนาปรับปรุง เวลา รบั ผดิ ชอบในหนา้ ท่ี มจี ติ อาสา และ สาระ การปรบั ปรงุ งานวนิ ยั นกั เรยี นทง้ั ทาง
• ไมเ่ บยี ดเบียน • ตรงต่อเวลา ทรัพยากรของ • ไมพ่ ูด • การเดินแถว/ • มีน้�ำใจ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา การดำ� เนนิ งาน ประหยดั ทรพั ยากรของโรงเรยี น ตรงและทางอ้อม งานประกันคุณภาพ
เวลาราชการ • แต่งกาย โรงเรียน คำ� หยาบ เข้าแถว เสียสละ ชว่ ย และส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ด้านกระบวนการในการด�ำเนิน • อตั ลกั ษณข์ องนกั เรยี น : ปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมพเิ ศษของโรงเรยี น และการพฒั นา
• ไมแ่ สวงหาผล ถกู ระเบยี บของ • เสียสละ วาจาสภุ าพ • การวาง เหลอื ผอู้ น่ื โดย โครงการสร้างโรงเรียนต้นแบบด้าน ตามกฎระเบยี บของโรงเรียน ไมเ่ กีย่ วขอ้ ง หลักสูตรโครงงานคุณธรรม คือ การส่ง-
ประโยชนจ์ าก โรงเรียนและ แบ่งปัน ตอ่ • ห่างไกล รองเท้า ไม่หวงั ผล กลไกการดำ� เนินงาน คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในการสงั เคราะหค์ รง้ั กบั อบายมขุ ดำ� รงชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง มจี ติ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะระดบั ชน้ั มกี ารจดั ทำ�
โรงเรียนและ ทางราชการ นักเรียนและ ยาเสพติด • กจิ กรรม ตอบแทน น้ี ไดแ้ บง่ ออกเปน็ 3 ระยะไดแ้ ก่ 1) การเต อาสา และจติ สำ� นกึ สาธารณะ โครงงานคณุ ธรรม งานวนิ ยั นกั เรยี น และ
นกั เรยี น • จิตอาสา เพ่ือนรว่ มงาน • ไมท่ ะเลาะววิ าท หนา้ เสาธง • มีความ ครู นกั เรียน และเครอื ข่าย
• ไมโ่ กหก รบั ผดิ ชอบต่อ • รกั นวล • ระเบยี บของ พอเพยี ง ผ้ปู กครองจิตอาสา
และมสี จั จะ หนา้ ทท่ี ่ีได้รับ สงวนตวั โรงเรียน ประหยดั กระบวนการ ปรับสภาพแวดล้อม รยี มความพรอ้ ม 2) การลงมอื ปฎบิ ตั กิ าร • สภาพแวดลอ้ มโรงเรยี น สะอาด กิจกรรมจิตอาสา โดยใช้กระบวนการ
• ไมส่ รา้ งความ มอบหมาย • ไมเ่ ลน่ การพนนั • ยมิ้ ไหว้ • ประหยัด ท้ังภายในและนอกโรงเรียน การมี เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม 3) การ รม่ รนื่ สวยงาม และชมุ ชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม วเิ คราะหต์ วั เองอยา่ งเปน็ วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื
แตกแยกในหมู่ • ยิ้ม ไหว้ • ไม่ลกั ขโมย ไม่ ทกั ทาย การใช้ ส่วนร่วม จากหน่วยงานภายนอก
คณะ ทักทาย กรรโชกทรัพย์ • มสี มั มาคารวะ ทรพั ยากร เชน่ เครอื ขา่ ยผูป้ กครองจติ อาสา
(ออ่ นน้อมถอ่ ม ของโรงเรยี น
ตน) ตดิ ตามประเมนิ ผลและการสงั เคราะหอ์ งค์ ในการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของ การสบื คน้ ปญั หา สาเหตุ และหาแนวทาง
• ช่วยเหลอื ความรู้ ซง่ึ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ นกั เรยี น ในการแก้ไข ท้ังในรูปปัญหาท่ีอยากแก้ไข
ผปู้ กครอง ข้นั ท่ี 1 เตรยี มความพร้อม “ครู พัฒนาปรับปรุง และความดีท่ีอยากท�ำ
• ตอบแทนผู้มี และเครือข่ายผู้ปกครองจิตอาสา” โดยใช้ ขน้ั ท่ี 2 ลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารเสรมิ สรา้ ง โดยเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นมกี ารจดั ท�ำโครง
พระคุณ ยุทธศาสตร์การพัฒนาครูให้เกิดความรู้ คุณธรรม จริยธรรม เพ่ือเสริมสร้าง งานคุณธรรมในทุกระดับช้ัน อย่างหลาก
• เชือ่ ฟังพ่อแม่ ความเข้าใจ และทักษะที่จ�ำเป็นในการ คุณธรรม จริยธรรม ตามอัตลักษณ์ของ หลายและสรา้ งสรรค์ เรยี นรกู้ ารท�ำความดี
ผู้ปกครอง ด�ำเนินงานเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม นกั เรยี น คอื ความซอ่ื สตั ย์ ความรบั ผดิ ชอบ อย่างมีความสุข โครงงานคุณธรรมของ
• ขยนั อดทน เพื่อให้ครูเป็นต้นแบบด้านคุณธรรม และพอเพยี ง มกี ระบวนการดงั ตอ่ ไปน้ี บางมูลนากโมเดล มีจ�ำนวนมากถึง 108
เอาใจใส่
การเรยี น
• แตง่ กาย
ถูกระเบยี บ

กลไกการดำ� เนนิ งาน กลไกการดำ� เนนิ งาน จริยธรรม และเปน็ กลไกในการขับเคลอื่ น • การจดั โครงสรา้ งการทำ� งานรว่ มกนั โครงงาน (เฉลี่ย 2 โครงงานห้อง) ดัง
โดยเฉพาะการเติมเต็มความรู้โดยใช้ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารโรงเรียน ฝ่ายกิจการ ตวั อยา่ งแยกรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้
ครู นักวิชาการ คณะกรรมการการศึกษา เครือข่าย นักเรียนปฏิบัติผ่านกระบวนการเรียนการสอนจัดท�ำ หลักสูตรการเรียนรู้จากศูนย์คุณธรรม นกั เรยี น หวั หนา้ ระดบั ครปู ระจำ� ชนั้ และ • โครงงานด้านการเสริมสร้าง
ผู้ปกครองจิตอาสา ท่ีปรึกษา ส�ำนักงานการตรวจเงิน โครงงานคุณธรรม การบูรณาการการเรียนการสอน
แผ่นดิน และศูนย์คุณธรรม (องคก์ ารมหาชน) 8 กลมุ่ สาระ งานวินยั นักเรียนท้งั ทางตรงและทางอ้อม

กระบวนการ กระบวนการอบรม/ประชุมสัมมนาและ กระบวนการ ใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้จากการ (องค์การมหาชน) ได้แก่ หลักสูตร Ma- ครูทุกคนในโรงเรียน คณะกรรมการ ระเบยี บวนิ ยั ไดแ้ ก่ โครงงานไหวส้ วยยม้ิ ใส
การศึกษาดูงาน ก�ำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ ปฏิบัติจริง และใช้ “โครงงานคุณธรรม” เป็นเคร่ืองมือ naging SR School หลกั สตู รผนู้ ำ� เยาวชน นกั เรยี น คณะกรรมการสถานศกึ ษา เครอื และโครงงานความดีน้ันท�ำได้ วินัยนั้น
แผนงาน โครงการกิจกรรมท่ีชัดเจน การนิเทศกก์ �ำกับ หลักในการขับเคล่ือน โดยนักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมใน จติ อาสา หลกั สตู รสง่ เสรมิ คณุ ธรรมความดี ข่ายผู้ปกครองจิตอาสา เพ่ือเป็นกลไกใน มน่ั คง
ติดตามและเสริมแรงอย่างต่อเน่ือง นอกจากนี้ยังมีทีม ทุกกระบวนการ สนับสนุนให้ครูสอดแทรกคุณธรรม หลกั สตู รโครงงานคณุ ธรรม การพฒั นาการ การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมใน • โครงงานดา้ นการใสใ่ จเสรมิ สรา้ ง
นักวิชาการร่วมวิจัยเชิงปฏิบัติการและให้ค�ำแนะน�ำ จริยธรรมในกลุ่มสาระการเรียนรู้ บูรณาการใน คดิ เชงิ ระบบ การศกึ ษาดงู าน/แลกเปลยี่ น โรงเรยี น โดยทกุ ภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ ม ความดี ได้แก่ โครงงานร่วมด้วยช่วยกัน
ปรึกษา และติดตามประเมินผลการดำ� เนินงาน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี นในชว่ั โมงชุมนุม

ก้าวแรกกระตุกต่อมคิด กระตุ้นจิต องค์ความรู้ กระบวนการสร้างโรงเรียน ความรู้ ประสบการณใ์ หมๆ่ ดว้ ยการศกึ ษา เรยี นรู้ การสมั มนาเพอื่ ประเมนิ ตนเองและ • การสรา้ งเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ท�ำความดี โครงงานบ้านเด็กดี โครงงาน
วิญญาณความเป็นครู : แม่พิมพ์ ต้นแบบทางด้านของคุณธรรม จริยธรรม ดูงานตัวอย่างที่ดี เพ่ือให้ครูเป็นกลไก สื่อสารเชิงลึก รวมท้ังสร้างพลังร่วม และ กบั กรรมการสถานศกึ ษา ผปู้ กครอง ชมุ ชน วาดมอื สอ่ื ใจ และโครงงานกระปกุ ออมบญุ
สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรมสนู่ กั เรยี น บางมูลนากโมเดล กล่าวว่า ก้าวแรกของ ส�ำคัญ ท�ำหน้าที่เพาะบ่มต้นกล้าเยาวชน การพาผู้ท่ีเกี่ยวข้องในการด�ำเนินงานไป ซง่ึ ในการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมตาม • โครงงานดา้ นความกตญั ญู ไดแ้ ก่
ศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนต้นแบบด้าน บางมูลนากโมเดลนั้นมีการสร้างเครือข่าย โครงงานมารยาทดีศรีภูมิ และโครงงา
การขับเคลื่อนเสริมสร้างคุณธรรม ของการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวคือ คนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใหเ้ ตบิ โตงอกงาม คุณธรรมจริยธรรม การส่ือสารเชิงลึก ผปู้ กครองจติ อาสาเขา้ รว่ มการท�ำกจิ กรรม นภ.ว.นด้ี เี พราะมคี วามกตญั ญู
จรยิ ธรรม ของบางมลู นากโมเดล ใหค้ วาม การกระตุกต่อมคิด กระตุ้นจิตวิญญาณ แขง็ แรงพรอ้ มกบั ภมู คิ มุ้ กนั ภายในองค์กร และการเสริมสร้างความ เช่น การให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมใน • โครงงานด้านความพร้อม
ส�ำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ที่ ของความเป็นครู “พฒั นาครู ครรู ว่ มคดิ ผทู้ มี่ บี ทบาทในการกระตกุ ตอ่ มคดิ เขา้ ใจแก่คณะครูและนักเรียนท้งั แบบกลุ่ม การก�ำหนดยุทธศาสตร์การด�ำเนินงาน มจี รยิ ธรรม ไดแ้ ก่ โครงงาน Morality ทำ� ดี
เกย่ี วขอ้ งทกุ ระดบั นบั ตง้ั แต่ ครู นกั เรยี น รว่ มทำ� นอ้ มนำ� ความสำ� เรจ็ นเิทศกต์ ดิ ตาม และกระตุ้นจิตวิญญาณความเป็นครูคือ ยอ่ ยและรายบคุ คล การศึกษาดูงาน ผู้ปกครองมายืนรับ 6 กจิ กรรม
ผปู้ กครอง สำ� นกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ผล” เพอื่ ใหเ้ กดิ ครตู น้ แบบ โดยการสอ่ื สาร ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และนัก กระบวนการเตรียมคน เป็นการ นกั เรยี นเขา้ โรงเรยี นในตอนเชา้ มารบั ไหว้ • โครงงานด้านการน้อมน�ำจิต
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และนัก กับครูและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความ วิชาการโดยการวิจัยเชิงปฎิบัติการเพ่ือ เตรยี มความพรอ้ มของครแู ละผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง เดก็ นกั เรยี น “ยมิ้ ไหว้ ทกั ทาย” เปน็ การ อาสา ได้แก่ โครงงานปันรัก ปันน้�ำใจ
วิชาการให้ค�ำปรึกษา รวมท้ังการพัฒนา เข้าใจท่ีชัดเจนร่วมกันของทุกฝ่าย และ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม หลงั จากนน้ั จะเขา้ สขู่ น้ั ตอนการเตรยี มงาน เรียนรู้เร่ืองมารยาทไทย การแสดงความ โครงงานแบ่งปันรอยยิ้มให้น้อง โครงงาน
สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี นทเี่ ออื้ อำ� นวย พัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบ คิดเพ่ือ จริยธรรม โดยคณะศึกษาศาสตร์ โดยสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่ อ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน หลังจากนั้น ร้อยด้วยรัก ถักด้วยใจ มอบให้น้อง และ
ให้เกดิ การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของ แกไ้ ขปญั หา คดิ สรา้ งสรรค์ การสอ่ื สารเชงิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยใช้ เกย่ี วขอ้ ง รว่ มกนั กำ� หนดอตั ลกั ษณ์ หรอื ตวั เครือข่ายผู้ปกครองจิตอาสาจะเดินตรวจ โครงงานจติ อาสานำ� พาแสงสวา่ ง
นกั เรยี นและครู จากรายงานการสงั เคราะห์ ลึกในองค์กร และเปิดโลกทัศน์ เติมเต็ม กระบวนการให้ค�ำปรึกษาและการจัด บ่งช้ีความส�ำเร็จ การพัฒนาครู นักเรียน ความเรยี บรอ้ ยภายในโรงเรยี น รวมทง้ั การ
74 75

• โครงงานดา้ นการพฒั นาโรงเรยี น ขน้ั ที่ 3 สรปุ บทเรยี น ตดิ ตาม ประ เมนิ และติดตามอย่างสม่�ำเสมอ รวมถึงมีการ คุณธรรมและจริยธรรมที่เกิดข้ึน ผู้ปกครองท�ำงานบ้าน การท�ำโครงงาน โดยการมีส่วนร่วมในลักษณะการรับฟัง
สีขาว ได้แก่ โครงงานเพื่อนช่วยเพื่อน ผล และสงั เคราะหอ์ งคค์ วามรู้ จดั การประชาสมั พนั ธเ์ ผยแพรก่ ระบวนการ จากการด�ำเนินโครงการ “บางมูล คุณธรรม คุณธรรมด้านความซ่ือสัตย์ ความเห็นจากล่างข้ึนบน (Bottom-up)
โครงงาน Non-Smoking School และ การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม นากโมเดล” นักเรียนมีการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมกัน จากผู้ปฏิบัติสู่ผู้บริหาร และเด็กร่วมคิด
โครงงานพลงั จว๋ิ รกั ษโ์ ลก ของบางมลู นากโมเดล เปน็ การดำ� เนนิ งาน จริยธรรม (บางมูลนากโมเดล) ออก ความซอ่ื สตั ย์ รบั ผดิ ชอบ พอเพยี ง เปน็ จากการลอกการบา้ นมาเปน็ การชว่ ยเหลอื ร่วมท�ำ ร่วมน�ำเสนอ และร่วมรับความ
นอกจากน้ียังมีการบูรณาการกับ ควบคกู่ บั การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร สงั เคราะห์ สสู่ าธารณะ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อัตลักษณ์ท่ีบ่งชี้ถึงความส�ำเร็จของการ กันติวให้ความรู้ เพื่อนสอนเพ่ือน พ่ีสอน สำ� เรจ็ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ โดยมคี รเู ปน็ ผู้
การทำ� กจิ กรรมของชมรมตา่ งๆ การจดั ฐาน องค์ความรู้ กระบวนการสร้างโรงเรียน ดำ� เนนิ โครงการ สรา้ งโรงเรยี นตน้ แบบดา้ น น้อง ท�ำให้เกิดความรักและความสามัคคี เสรมิ หนนุ อำ� นวยความสะดวก และเชอ่ื ม
การเรยี นรคู้ า่ ยลกู เสอื เนตรนารี ยวุ กาชาด ต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยทีม คุณธรรม จริยธรรม (บางมูลนากโมเดล) กนั ในหมคู่ ณะ อนั นำ� ไปสกู่ ารเกดิ สมั พนั ธ- ประสาน
และผบู้ ำ� เพญ็ ประโยชน์ กจิ กรรมปฐมนเิ ทศ นกั วชิ าการคณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ผลจากการดำ� เนนิ โครงการพบวา่ ภายหลงั ภาพของนกั เรยี นในโรงเรยี นทด่ี ขี นึ้ ปญั หา • มีการบูรณาการการดำ� เนินงาน
นกั เรยี นใหม่ การจดั การคา่ ยเรยี นรคู้ ณุ ธรรม ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ในการดำ� เนนิ งานในครงั้ การดำ� เนนิ โครงการ ทง้ั ครู นกั เรยี น และ การทะเลาะวิวาทลดลง นักเรียนมีจิต ของโครงการกับภารกิจหลักของโรงเรียน
• การพัฒนาสภาพแวดล้อม น้ีจึงมีนักวิชาการท�ำหน้าที่ในการพัฒนา สภาพแวดลอ้ มมกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งเหน็ อาสา/จติ สาธารณะเพมิ่ ขนึ้ อาทิ บูรณาการกับกระบวนการเรียนการ
ภายในโรงเรียนสะอาดเป็นระเบียบ ให้ค�ำปรึกษา การสังเคราะห์องค์ความรู้ ไดช้ ดั เมอ่ื เทยี บกบั กอ่ นการดำ� เนนิ โครงการ • สภาพแวดล้อมของโรงเรียน สอน 8 กลุ่มสาระ การทำ� กิจกรรมชมรม
เรียบร้อยและสวยงาม มีแหล่งเรียนรู้ท่ี จากการด�ำเนินงาน โดยการน�ำคณะครู ดงั ตอ่ ไปนี้ รม่ รน่ื และนา่ อยู่ เกดิ จากการมสี ว่ นรว่ มของ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน งานวินัยนักเรียน
หลากหลายและพอเพียง มีความร่วมมือ และผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องไปสัมมนา เชิง • เกดิ พลังความรว่ มมอื และการมี นกั เรยี นในดา้ นตา่ งๆ อาทิ นกั เรยี นมกี าร กิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ โครงงาน
กับชุมชนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปฏิบัติการเพื่อน�ำเสนอความก้าวหน้าและ ส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการด�ำเนิน จัดเวรรักษาความสะอาดห้องเรียน และ คณุ ธรรม และงานประกนั คณุ ภาพ
และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม โดยมี การสรุปบทเรียนของการด�ำเนินโครงการ โครงการ ท�ำให้เกิดความรัก สามัคคีของ บรเิ วณรอบๆ โรงเรยี น การเกบ็ ขยะ เกบ็ • มีผู้น�ำและครูที่ดีท้ังในด้านการ
กจิ กรรมทที่ ำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรคู้ อื หลงั จาก ร่วมกันวิเคราะห์ SWOT ร่วมกันคิดแก้ไข ครู นกั เรยี น เครอื ขา่ ยผปู้ กครองจติ อาสา ใบไม้น�ำมาท�ำปุ๋ยชีวภาพ และการมีส่วน ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง ความมุ่งมั่น
เขา้ แถวเคารพธงชาตนิ กั เรยี นจะมกี ารแบง่ ปัญหาและวิธีการท่ีจะน�ำไปสู่การด�ำเนิน และเกิดการเรียนรู้ เติมเต็มความรู้ใหม่ๆ รว่ มของเครอื ขา่ ยผปู้ กครองจติ อาสาในการ และตงั้ ใจจรงิ ความสามคั คเี ปน็ นำ้� หนงึ่ ใจ
เวรกันท�ำความสะอาดบริเวณรอบๆ งานท่ีมีประสิทธิภาพ การนิเทศก์ ก�ำกับ ให้กับครูในโรงเรียน และเรียนรู้ประสบ- รกั ษาความสะอาดบรเิ วณรอบๆ โรงเรยี น เดียวกัน ความเสียสละและการมีจิต
โรงเรียน เก็บขยะ กระดาษ น�ำวัสดุมา การณ์การท�ำงานร่วมกับหน่วยงานภาคี วิญญาณความเป็นครูโดยแท้ การพัฒนา
รไี ซเคลิ และมาทำ� ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ชวี ภาพ ปยุ๋ ภายนอก เช่น ส�ำนักงานการตรวจเงิน ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสำ� เรจ็ ปรับปรุงตนเองและวิธีการท�ำงานให้มี
ท่ีได้จะน�ำไปใช้รดผักที่ปลูกไว้เป็นอาหาร แผ่นดนิ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ความส�ำเร็จที่เกิดขึ้นจากกระบวน ประสิทธิภาพ การเปิดใจยอมรับการ
กลางวนั ในโรงเรยี น นอกจากนย้ี งั มกี ารจดั ตารางแสดงบทบาทของสว่ นตา่ งๆ และนกั วชิ าการทใ่ี หค้ ำ� แนะนำ� ปรกึ ษา การสร้างโรงเรียนต้นแบบคุณธรรม เปลย่ี นแปลง
ระเบียบวินัยในช้ันเรียน เช่น การวาง ทีเ่ กยี่ วข้องกบั การขบั เคลื่อนบางมลู นากโมเดล • เกิดครูต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม (บางมูลนากโมเดล) เกิดจาก • มีระบบการนิเทศก์ก�ำกับ และ

กระเปา๋ รองเทา้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย บทบาทของ ปฏบิ ัติการเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ใี หก้ บั นกั เรยี น ปจั จยั ทส่ี ำ� คญั ดงั ตอ่ ไปนี้ ติดตามงานอย่างสม�่ำเสมอ ในขณะที่
ก่อนเข้าชั้นเรียน และการเดินแถวเพ่ือข้ึน ส่วนตา่ งๆ จริยธรรม บางมลู นากโมเดล ทง้ั ในดา้ นของความสามคั คี รว่ มมอื รว่ มใจ • มกี ระบวนการพฒั นาและเตรยี ม นักเรียนส่วนมากก็มีทุนทางสังคมและทุน
ชนั้ เรยี น ทำ� ใหน้ กั เรยี นเรยี นรเู้ รอ่ื งการสรา้ ง ท่เี กยี่ วข้อง
ในการด�ำเนินโครงการ อีกท้ังเป็นแบบ ความพรอ้ ม “ตดิ อาวธุ ทางปญั ญา” ใหก้ บั ทางปัญญาท่ีดี กล่าวคือ มีความมุ่งมั่น
ความมรี ะเบยี บวนิ ยั ในชวี ติ ประจำ� วนั อยา่ งในดา้ นคณุ ธรรมของความรบั ผดิ ชอบ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง โดยมีหน่วยงาน มานะพยายามท่ีจะร่วมเป็นฟันเฟือง/
• การนิเทศก์ ติดตาม สรุปบท โรงเรียน • งานวนิ ยั นกั เรยี นทง้ั ทางตรงและทางอ้อม ซง่ึ เปน็ การสะทอ้ นความเหน็ ของนกั เรยี นวา่ ภายนอก เช่น ศูนย์คุณธรรม (องค์การ เคร่ืองจักรในการขับเคล่ือนโครงการนี้
• แต่งตงั้ คณะกรรมการนักเรยี น/นักเรยี นแกนนำ�
เรียน การสร้างขวัญและก�ำลังใจ เสริม • สอดแทรกการเรยี นการสอน 8 กล่มุ สาระ ครเู ขา้ สอนตรงเวลา มาทำ� งานตรงเวลา ไม่ มหาชน) และนักวิชาการให้ค�ำแนะน�ำ ถึงแม้จะมีปัญหาอุปสรรคในระหว่างการ
หนนุ แกไ้ ข พฒั นาเชอ่ื มประสานอยา่ งตอ่ • กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น/ชุมนุม/คา่ ยลูกเสอื เบยี ดเบยี นเวลาราชการ มจี ติ อาสารว่ มทำ� ปรกึ ษา รว่ มทำ� กจิ กรรมและนเิ ทศกต์ ดิ ตาม ดำ� เนนิ งาน กจิ กรรมและโครงงานคณุ ธรรม
เนอื่ งโดยนกั วชิ าการ • ครูที่ปรึกษา/ครเู วรประจำ� วัน/ระดบั ช้นั กิจกรรมกับนักเรียน ประหยัดการใช้ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการหนุนเสริมความรู้ ของนักเรียนมีความหลากหลายและ
• การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ • ผู้บรหิ าร/ผู้รับผิดชอบโครงการ/ครูทกุ คน
• กรรมการสถานศึกษา/ผู้ปกครอง/ชมุ ชน
• การจดั กจิ กรรม/การเสรมิ สร้างกำ� ลงั ใจ ทรพั ยากรของโรงเรยี น เปน็ ตน้ เปดิ โลกทศั น์ ประสบการณใ์ หมๆ่ ใหก้ บั ครู สร้างสรรค์ สร้างกระแสการท�ำความดีได้
• การตดิ ตาม/เสรมิ หนุน/แก้ไข/พฒั นา/เช่อื มประสานอย่างต่อเนอ่ื งโดย
กระบวนการสร้างโรงเรียนต้นแบบด้าน นักวิชาการ • นักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลง และนักเรียน และงบประมาณในการเอื้อ ทั้งในโรงเรียนและชุมชนอย่างกว้างขวาง

คุณธรรมจริยธรรม (บางมูลนากโมเดล) นกั วิชาการ • การอบรมพัฒนาศักยภาพครู พฤติกรรมไปในทางท่ีดีขึ้น โดยเฉพาะ อำ� นวยการทำ� กจิ กรรม โดยเฉพาะกิจกรรมด้านจิตอาสาและ
สู่สาธารณะ เช่น การเข้าร่วมสมัชชา • การอบรมพัฒนาศักยภาพนกั เรยี น คุณธรรมด้านความรับผิดชอบ การมี • มีการใช้การวิจัยเชิงปฏิบัติการ สาธารณะประโยชน์ จนกระท่ังเกิดการ
• การประชุมสรา้ งความเขา้ ใจแกผ่ ปู้ กครอง
คุณธรรมแห่งชาติ คร้ังท่ี 5 โดยมีการน�ำ • การจดั ค่ายคุณธรรมเดก็ ดสี ร้างได้ ระเบยี บวนิ ยั ความสามคั คี ความออ่ นนอ้ ม เป็นเคร่ืองมือให้เกิดการสร้างและพัฒนา ขยายผลความร่วมมือต่อไปยังชุมชนและ
เสนอกระบวนการสร้างโรงเรียนต้นแบบ • การจัดกจิ กรรมเสริมทั้งทางตรงและทางอ้อม ถอ่ มตน ยม้ิ ไหว้ ทกั ทาย มสี มั มาคารวะ องค์ความรู้ในการขับเคลื่อนการสร้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ มี
ด้านคุณธรรม จริยธรรม บางมูลนาก • การสรา้ งแกนนำ� /เครือขา่ ย/แนวรว่ มเพมิ่ เตมิ โดยมีรูปธรรมคุณธรรมด้านต่างๆ อาทิ โรงเรียนต้นแบบคุณธรรม จริยธรรม คณะกรรมการสถานศกึ ษาทเ่ี ขม้ แขง็ อกี ดว้ ย
• การพัฒนาการคดิ เชงิ ระบบ
• การพฒั นาการส่ือสารภายในองคก์ ร
โมเดล นอกจากนย้ี งั มกี ารผลติ สอ่ื วดิ ที ศั น์ • การใหค้ ำ� ปรกึ ษา/ชว่ ยเหลือ/แก้ไขปญั หา ความมีระเบียบวินัย ได้แก่ การเข้าแถว (บางมลู นากโมเดล) • เครือข่ายผู้ปกครองจิตอาสา
ดอกไมบ้ านสอ่ื สารความดี รวมทงั้ เอกสาร • การนเิ ทศก์ กำ� กับ ติดตาม สรา้ งขวัญ/ก�ำลงั ใจ หนา้ เสาธง การเขา้ แถวซอื้ อาหาร การเดนิ • พลงั ความรว่ มมอื และการมสี ว่ น และพอ่ คา้ แมค่ า้ ในโรงเรยี นเขา้ มารว่ มผนกึ
การจดั เวทใี หม้ กี ารแลกเปลย่ี นประสบการณ์ ศนู ยค์ ณุ ธรรม • หลักสูตร Managing SR School แถวเขา้ โรงเรยี นและกลบั บา้ น การเดนิ แถว ร่วมของทุกภาคส่วน ท้ังครู ผู้ปกครอง กำ� ลงั เพอื่ ชว่ ยขบั เคลอ่ื น บางมลู นากโมเดล
และการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยระหวา่ งโรงเรยี น (องคก์ าร • หลักสตู รผนู้ �ำเยาวชนจิตอาสา ขณะเปลย่ี นชนั้ เรยี น การจดั วางรองเทา้ ให้ นักเรียน ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รวมท้ังการสื่อสารเชิงลึก นิเทศก์ติดตาม
ท�ำให้เกิดการเรียนรู้และการขยายผลสู่ มหาชน) • หลกั สูตรสง่ เสริมคณุ ธรรมความดี เป็นระเบียบ มารยาทและกาลเทศะ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และนัก ใหก้ ำ� ลงั ใจ เปน็ ทปี่ รกึ ษา ชว่ ยแกไ้ ขปญั หา
• หลักสูตรโครงงานคุณธรรม
• การศึกษาดูงาน/แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
• การสมั มนาเพื่อประเมนิ ตนเองและสื่อสารเชิงลกึ รวมทั้งสรา้ งพลงั ร่วม
โรงเรยี นใกลเ้ คยี ง คณุ ธรรมดา้ นความรบั ผดิ ชอบ ชว่ ยพอ่ แม่ วชิ าการจากมหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ
76 77

ศนู ยเ์ รยี นรเู้ชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ นจบั ไม้
ตำ� บลเฝา้ ไร่ อำ� เภอเฝา้ ไร่ จงั หวดั หนองคาย

“ศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียน พอเพียงร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การ ขา้ วเหนยี วและการทอเสอื่ เปน็ เครอ่ื งมอื ให้ กจิ กรรมคา่ ยรว่ มกบั โรงเรยี นหลายคา่ ยดว้ ย
บา้ นจบั ไมม้ ที นุ เดมิ คอื มชี มุ ชนเปน็ พลงั จติ มหาชน) น้ันเร่ิมต้ังแต่ปี พ.ศ. 2550 เกิดการสร้างการคุณธรรมพื้นฐานให้กับ กัน เช่น ชุมนุมอาสาพัฒนาชุมชน
อาสาที่ส�ำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพ้ืน เป็นต้นมา เป้าหมายท่ีส�ำคัญก็เพ่ือให้ เยาวชนด้วยการเรียนรู้จากครูภูมิปัญญา มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ กอ่ สรา้ งอาคาร
ฐานรว่ มกบั โรงเรยี นมายาวนานเกอื บ 50 ปี นักเรียนในโรงเรียนเกิดการเรียนรู้ และ ท้องถ่ิน ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ความพอ ธรรมประชานุสรณ์ใช้เป็นห้องสมุดใน
และเป็นโรงเรียนวิถีพุทธท่ีเน้นการพัฒนา หลอ่ หลอมตนเองใหเ้ ปน็ ผทู้ ม่ี จี ติ อาสา รจู้ กั เพยี ง พง่ึ ตนเอง ระหวา่ งลกู หลานเยาวชน โรงเรยี น ชมุ นมุ อสี าน มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล
ให้นักเรียนเป็น เด็กดีมีคุณภาพ ยิ้มง่าย การใชช้ ีวติ อย่างพอเพยี งในชวี ติ ประจ�ำวนั คนรุ่นใหม่กับครูภูมิปัญญาท้องถ่ิน และชมุ นมุ วัฒนธรรมอีสาน มหาวทิ ยาลยั
ไหว้สวย ซ่ึงเป็นท่ียอมรับจากชุมชนใกล้ โดยการใชก้ ระบวนการเชอื่ มโยงใหเ้ กดิ การ โดยการเรียนรู้จากการลงมือปฎิบัติจริง เทคโนโลยีมหานครสร้างอาคารประกอบ
เคียง การเข้าสู่เส้นทางการพัฒนาด้าน ท�ำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารสรา้ งอตั ลกั ษณข์ องนกั เรยี น (อาคารมหิดลเทคโนโลยีมหานคร-อาคาร
คุณธรรม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอ โรงเรียน ครอบครัว และชุมชน มี โรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ คอื ซอ่ื สตั ย์ รบั ผดิ ชอบ รวมนำ้� ใจ)
เพยี ง โดยการบรู ณาการจติ อาสาและความ ภูมิปัญญาท้องถ่ินเรื่องการจักสานกระติ๊บ มวี ถิ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง” ใช้อาคารท�ำเป็นโรงอาหารและได้
แผนภาพเสน้ ทางสู่ศนู ย์การเรียนรเู้ ชิงคณุ ธรรมโรงเรียนบ้านจับไม้ รับความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า
ประชาชนในจังหวัดหนองคายร่วมสมทบ
ทุน การก่อสร้าง มีการสร้างห้องน้�ำเด็ก
ศูนย์เรียนรเู้ ชิงคณุ ธรรมบา้ นจับไม้ อนุบาล ร่วมสร้างเตาเผาขยะใช้จัดการ

จุดเริม่ ตน้ ความสำ� เร็จทอ่ี ยากเห็น จังหวะก้าว กระบวนการ ขยะในโรงเรยี น นอกจากนย้ี งั มมี ลู นธิ กิ ลมุ่

ค่ายอาสาสรา้ ง จติ อาสาใชช้ วี ติ • การสรา้ งความเขา้ ใจเกย่ี วกับ แสงเทียนได้เข้ามาจัดค่ายอาสาพัฒนา
จิตอาสาชมุ ชน อยา่ งพอเพียง การด�ำเนนิ งานกบั ผูท้ ี่เกี่ยวข้อง คา่ ยอาสาสรา้ งพลงั จติ อาสาชมุ ชน โรงเรียนโดยการกั้นฝารอบนอกและในตัว ชนบท ก่อสร้างห้องน�้ำ ถมปรับพ้ืนที่
รว่ มแรง รว่ มใจ โรงเรียน ชมุ ชนดี • การพฒั นาเติมเต็มความรู้ : กอ่ เกดิ โรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ อาคารเรียน สร้างบ้านพักครู ก่อสร้าง กอ่ สรา้ งหอ้ งนำ�้ จดั ทำ� สนามเดก็ เลน่ มอบ
พัฒนาโรงเรยี น มวี ินยั สร้างสรรค์ ดว้ ยการศกึ ษาดงู าน แลกเปลย่ี น ประชากรส่วนใหญ่ของชุมชนบ้าน อาคารเรียนเพ่ิมเติม และสร้างอาคาร พระพทุ ธรปู 2 องคใ์ หญ่ พรอ้ มแทน่ เครอ่ื งป้ั
โรงเรียนวิถีพทุ ธ สงั คมจบั ไม้ ประสบการณ์ กบั พื้นท่ีตน้ แบบ จับไม้อพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี อเนกประสงค์ เวลานนั้ มนี กั เรยี นเพม่ิ ขน้ึ มนำ้� ใหก้ บั โรงเรยี น การพฒั นาโรงเรยี นใน
เดก็ ดี มคี ุณภาพ พัฒนาจิตอาสา ให้รูร้ ักพอเพยี ง • การวางแผนปฏบิ ตั ิการ ภายใต้การน�ำของหลวงปู่ค�ำดี มาต้ัง ตามล�ำดับ ท�ำให้ขาดแคลนห้องเรียน ชว่ ง 10 ทผ่ี า่ นมา โรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ ได้
ย้ิมง่าย ไหว้สวย ซือ่ สัตย์ รับผิดชอบ ครอบครัวอบอนุ่ • ลงมือท�ำกจิ กรรมปฏบิ ัติการ ถิ่นฐานอยู่ท่ีต�ำบลเฝ้าไร่ อ�ำเภอเฝ้าไร่ โรงเรยี นไดร้ บั ความอนเุ คราะหง์ บประมาณ ก่อสร้างอาคาร ปรับปรุง ซ่อมแซม การ
มีวิถีการดำ� เนนิ ชมุ ชนเขม้ แขง็ กิจกรรมในโรงเรยี นปลกู ผกั จ.หนองคาย มีหลวงปู่ค�ำดีเป็นศูนย์รวม จากมหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย ตอ่ เตมิ ชน้ั พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และปรับปรุง
ชีวิตอย่างพอเพียง เชอื่ มโยงเครอื ข่าย เลี้ยงปลาเปน็ อาหารกลางวัน
พัฒนาหลักสูตรทอ้ งถิน่
โรงเรียน การปลูกตน้ คล้าและทอเส่ือ จิตใจของคนในชุมชนต้ังแต่อดีตจนถึง ล่างของอาคารเรียน การพัฒนาปรับปรุง สภาพภมู ทิ ศั นข์ องโรงเรยี นใหเ้ ปน็ โรงเรยี น
• การติดตามประเมนิ ผล ปัจจุบันเนื่องด้วยท่านเป็นพระท่ีศักด์ิสิทธิ์ ตอ่ เตมิ โรงเรยี น มกี ารดำ� เนนิ งานอยา่ งตอ่ ทมี่ สี ภาพแวดลอ้ มรม่ รน่ื นา่ เรยี น
ทบทวน สรุปบทเรียน มาก และเป็นบุคคลท่ีชาวบ้านเคารพ เนอื่ ง โดยสว่ นหนงึ่ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จาก นอกจากการพัฒนาปรับปรุงภูมิ-
• การปรับแผนงาน กิจกรรม นับถือกันสืบต่อมาโรงเรียนบ้านจับไม้เป็น ชาวบา้ น และองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลเฝา้ ทัศน์และสภาพแวดล้อมของโรงเรียนแล้ว
ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของ โรงเรียนเก่าแก่มีอายุเกือบ 6 ทศวรรษ ไร่ ท้ังอาคารเรียนและการก่อสร้างสนาม ยังมีการเข้าค่ายอาสาจากมหาวิทยาลัย
พ้ืนที่ ตงั้ อยใู่ นบรเิ วณวดั บปุ ผาราม ซงึ่ เปดิ ทำ� การ กฬี าวอลเลยบ์ อลและสนามตะกรอ้ ในการ ต่างๆ มีนักศึกษามาท�ำงานจิตอาสา
• การประสานเช่ือมโยง สอนระดับประถมศึกษาตอนต้นเมื่อวันท่ี ด�ำเนินงานก่อสร้างอาคารและสนามกีฬา ประกอบด้วยนักศึกษาแพทย์ พยาบาล
เครอื ข่ายระหวา่ งโรงเรียน 21 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2497 มนี กั เรยี น 29 ของโรงเรยี นจะมชี าวบา้ นเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ มาช่วย
• พฒั นาศนู ยเ์ รียนรู้เชิง คน นายประเสริฐ มงคลสวัสด์ิ เป็นครู และเป็นแรงงานหลักในการท�ำงานโดย ก่อสร้างอาคาร ถือเป็นจุดเร่ิมต้นท�ำให้มี
คุณธรรมเพ่อื การขยายผล

พฒั นาศนู ยเ์ รยี นรู้ ใหญค่ นแรก ทตี่ งั้ ของโรงเรยี นไดร้ บั บรจิ าค ตลอด ชาวบา้ นมาชว่ ยกนั ทำ� งานเพม่ิ มากขนึ้ การ
เชิงคุณธรรม ทด่ี นิ จากชาวบา้ น จำ� นวน 6 ไร่ และชาว ในอดีตสภาพของโรงเรียนบ้านจับ จดั คา่ ยอาสาแตล่ ะครง้ั ชาวบา้ นกจ็ ะมาชว่ ย
บ้านช่วยกันบริจาควัสดุ อุปกรณ์ และงบ ไม้ทเ่ี ป็นโรงเรยี นขนาดเล็ก เก่าแก่ และมี กันลงแรง เตรียมสถานที่เพื่อรองรับ
ประมาณเพ่ือสร้างอาคารเรียนหลังแรกให้ ปัญหาขาดแคลนห้องเรียน วัสดุอุปกรณ์ นักศึกษาที่มาจัดค่าย ช่วยดูแลอ�ำนวย
กับลูกหลานในชุมชนได้เรียนเล่าเรียน สื่อการเรียนการสอน ขาดแคลนอุปกรณ์ ความสะดวกใหก้ บั นกั ศกึ ษาดว้ ยความยนิ ดี
หาความรฝู้ กึ ฝนตนเอง ตอ่ มาชาวบา้ นรว่ ม กฬี า จากสภาพดงั กลา่ วทำ� ใหโ้ รงเรยี นบา้ น และเตม็ ใจ การทำ� งานคา่ ยอาสาแตล่ ะครงั้
โรงเรียน ครอบครวั ชมุ ชน เครือขา่ ย กันซื้อทดี่ นิ เพิ่มเพ่อื ขยายพนื้ ทอ่ี กี 3 ไร่ จบั ไมม้ กั จะไดร้ บั การแนะนำ� จากสำ� นกั งาน จะทำ� งานรว่ มกนั อยา่ งนอ้ ย 15 วนั ชมุ ชน

ศูนยค์ ณุ ธรรมสนบั สนนุ งบประมาณ ความรู้ การส่ือสารเผยแพรร่ ูปธรรมความสำ� เร็จ ตอ่ มาปี พ.ศ. 2519 โรงเรยี นไดร้ บั เขตพื้นท่ีการศึกษาให้กับมหาวิทยาลัย และนกั ศกึ ษาชว่ ยกนั ทำ� งานผลดั เปลยี่ นกนั
78 งบประมาณจากทางราชการ จึงปรับปรุง ต่างๆ ท่ีต้องการจัดค่ายอาสา มีการท�ำ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทำ� ใหน้ กั ศกึ ษาและชาวบา้ น
79

เกิดความผูกพันกันปัจจุบันบางคนยัง ชำ� นาญการพเิ ศษของสพป.หนองคาย เขต เรียนรู้ จนถึงกระบวนการเรียนการสอน คือให้เด็กเข้าใจหลักของการปฏิบัติตาม กิจกรรม คือ วาทะธรรมส่องน�ำชีวิต มหาชน) โดยผู้น�ำชุมชนร่วมกันสมทบค่า
ติดต่อกัน เสมือนเป็นญาติพ่ีน้อง การทำ� 2 จังหวัดหนองคาย หลักการพัฒนา ด้านบรรยากาศและปฏิสัมพันธ์ในการ แนวทางของศาสนาพทุ ธ จติ อาสาพลงั แหง่ คณุ ธรรม เปน็ การนำ� เรอื่ ง ใช้จ่ายบางส่วนเพ่ือเป็นค่าใช้จ่ายในการ
ค่ายอาสาจึงเป็นเหมือนสะพานท�ำหน้าที่ โรงเรียนวิถีพุทธ คือ การน�ำหลักธรรม ปฏิบัติต่อกันระหว่างครูกับนักเรียน คณุ อนชุ ติ บวั พฒุ : “ในฐานะท่ี จติ อาสามาปรบั ใชใ้ นโรงเรยี น หนนุ นำ� โลก ศกึ ษาดงู าน
เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน และชุมชนให้มี พระพุทธศาสนามาใช้ เน้นกรอบการ นักเรียนกับนักเรียน หรือครูกับครู เคยดแู ลระดบั มธั ยม บอกไดเ้ ลยวา่ เดก็ ของ ดว้ ยการจดั การขยะ ทำ� เพอื่ สาธารณะดว้ ย การเรียนรู้รูปธรรมความพอเพียง
ส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียน ช่วยท�ำ พัฒนา กระบวนการเรียนการสอน ตาม และด้านการบริหารจัดการตั้งแต่การ โรงเรียนบ้านจับไม้ทุกคนที่ออกไปจาก การออม น้อมนำ� ชีวติ ส่คู วามพอเพียงโดย ในครั้งน้ันชุมชนมีการแบ่งงานกันเพื่อเก็บ
กจิ กรรมตา่ งๆ ทกุ ครงั้ ทโี่ รงเรยี นมงี านชาว หลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา กำ� หนดวสิ ยั ทศั น์ จดุ เนน้ การกำ� หนดแผน โรงเรียนไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นน้ันดี น�ำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท ข้อมูล มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยน
บ้านก็จะมาช่วยกันแบ่งหน้าที่ในการดูแล อย่างบูรณาการ ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการ ปฏบิ ตั กิ าร การสนบั สนนุ ตดิ ตาม ประเมนิ ทกุ คน สามารถไปเปน็ แกนนำ� ในเรอื่ งตา่ งๆ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ปฏิบัติใน ประสบการณ์ นบั เปน็ การสรา้ งแรงบนั ดาล-
ต้อนรับ และร่วมท�ำงานเรื่อยมาตลอด พัฒนา “การกิน อยู่ ดู ฟัง” ซึ่ง การทำ� ผล และพฒั นาตอ่ เนอ่ื ง ซง่ึ การจดั สภาพใน เชน่ ชว่ ยเหลอื ครู ทกั ทาย นำ� พาเพอื่ นทำ� โรงเรียน 5 เรื่องน้ี ผู้บริหารของทั้ง 8 ใจอย่างดีให้กับผู้น�ำชุมชน หลังจากกลับ
จนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2552 กิจกรรมของโรงเรียนวิถีพุทธรวมถึงมีการ แต่ละด้านจะมุ่งพัฒนานักเรียนตามระบบ กจิ กรรมตา่ งๆ ได”้ โรงเรียนร่วมกำ� หนดหัวข้อด้วยกัน โดยใช้ มาจากการศึกษาดูงาน ผู้น�ำชุมชนใน
ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) สนบั สนนุ จัดสภาพของโรงเรียนวิถีพุทธ ประกอบ ไตรสกิ ขาไดอ้ ยา่ งชดั เจนและมปี ระสทิ ธภิ าพ ครโู รงเรยี นบา้ นจบั ไม้ : “เด็กของ แนวคดิ จากการไปศกึ ษาดงู านทม่ี ลู นธิ พิ ทุ ธ ชุมชนต่ืนเต้นและอยากลงมือท�ำส่ิงท่ี
งบประมาณปรับปรุงอาคารอเนกประสงค์ ด้วยด้านกายภาพคือ อาคารสถานที่ โรงเรยี นวิถีพุทธบ้านจับไม้ มเี ปา้ - โรงเรียนเรามีจุดเด่นท่ีต่างจากโรงเรียน ฉอื จี้ วตั ถปุ ระสงคข์ องทงั้ 5 เรอื่ งนม้ี เี ปา้ ตนเองไปดงู าน
ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรม ห้องเรียน แหล่งเรียนรู้ สภาพแวดล้อม หมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้นักเรียน อื่นๆ คือ มีความแตกต่างด้านกริยา หมายคือ เด็กต้องมีจิตอาสา สามารถน�ำ คณุ ครเูงนิ : “กลบั มากไ็ ดล้ งมอื ทำ�
ก่อสร้างอาคารห้องสมุดจิตอาสาหนึ่ง ด้านกิจกรรม ปรับพื้นฐานวิถีชีวิต เช่น เปน็ เดก็ ดี มคี ณุ ภาพ ยมิ้ งา่ ย ไหวส้ วย มี มารยาท ผ้ปู กครองบ้านอืน่ ก็บอกว่า เด็ก หลักปรัชญาด้านความพอเพียงมาใช้ได้ เร่ืองของปุ๋ยชีวภาพน�ำมาใช้รดผักใน
เดียวกันโดยอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์ กิจกรรมประจ�ำวัน กิจกรรมวันส�ำคัญ การออกแบบกิจกรรมเพื่อสร้างความ นักเรียนโรงเรียนบ้านจับไม้เป็นเด็กท่ีมี (เรอ่ื งการจดั การขยะ) ชว่ ยเหลอื สงั คมโดย โรงเรียน มีกิจกรรมในโรงเรียนสอนให้
มหาวิทยาลัย และได้รับงบประมาณจาก กิจกรรมนักเรียน ด้านการเรียนการสอน ตระหนกั เรอ่ื งของระเบยี บวนิ ยั และแนวทาง มารยาทด”ี การออมทรพั ยแ์ ละน�ำเงนิ ทไี่ ดไ้ ปซอื้ สง่ิ ของ นักเรียนปลูกเห็ด ปลูกพืชผักสวนครัว
สพฐ. ปรับปรุงอาคารเรียนและประปา เรมิ่ ตงั้ แตก่ ารกำ� หนดหลกั สตู รสถานศกึ ษา วิถีพุทธโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมใน การสอนให้นักเรียนเห็นความ ให้ผู้สูงอายุ คนป่วยในชุมชน การทำ� งาน เลย้ี งปลา รวมทง้ั เกดิ กลมุ่ จกั สานและกลมุ่
โรงเรียนต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้รับงบ การจัดหน่วยการเรียน แผนการจัดการ การคิดกิจกรรม อีกทั้งยังมีวัฒนธรรม สำ� คญั ในเรอ่ื งการทำ� บญุ ไหวพ้ ระของคนใน ชว่ งแรกการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนยงั ไมม่ าก ทอเสอื่ ”
ประมาณจัดซ้ือสื่อศูนย์การเรียนรู้ส�ำหรับ ดง้ั เดมิ ทนี่ บั ถอื หลวงปคู่ ำ� ดี ทส่ี งั่ สมคำ� สอน ชุมชนบ้านจับไม้ท่ีจะต้องละเว้นการฆ่า นกั เนอื่ งจากเนน้ การทำ� กจิ กรรมในโรงเรยี น ผปู้ กครองนกั เรยี น : “ได้ความรู้ที่
โรงเรยี นขนาดเลก็ จากสพฐ. และไดร้ บั การ ที่ดี เช่น น้องไหว้พี่ การจัดเขตบริการ สัตว์ตัดชีวิตในวันพระ ทุกวันพระ ลูก และใหเ้ ดก็ นกั เรยี นเปน็ หลกั แปลกใหม่ เรอ่ื งของการจกั สานในรปู แบบ
สนบั สนนุ งบประมาณจากบรษิ ทั เทพผดงุ กจิ กรรมประจำ� วนั เพอื่ ทำ� ความสะอาดดแู ล หลานของชุมชนก็ต้องปฏิบัติตาม กลาย ทไ่ี มเ่ คยเหน็ มากอ่ น เชน่ ไดร้ จู้ กั การท�ำปยุ๋
พรมะพร้าว จ�ำกัด และบริษัท อ�ำพลฟู้ด พนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบใหเ้ กดิ ความเรยี บรอ้ ย สง่ - เป็นจารีตของชุมชนท่ีได้ปฏิบัติต่อกันมา รวมพลังชุมชน โรงเรียน : พัฒนา ชีวภาพ และการพึ่งตนเองบนวิถีความ
จ�ำกัด จ�ำนวน 200,000 บาท ในการ เสรมิ วฒั นธรรมประเพณขี องชมุ ชน ครนู ำ� ช่ือเสียงของโรงเรียนด้านวิถีพุทธส่งผลให้ จติ อาสาวถิ พี อเพยี งดว้ ยภมู ปิ ญั ญา พอเพียง ลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ให้กับ
ก่อสร้างรั้วโรงเรียนและปรับปรุงภูมิทัศน์ เด็กไปร่วมงานประเพณีในชุมชน ไปให้ พระอาจารยช์ ติ สรุ ชิ โย ชกั นำ� ใหโ้ รงเรยี น ทอ้ งถนิ่ ครอบครวั ”
แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ปัจจุบัน บรกิ ารตา่ งๆ ในงาน รวมถงึ การพานกั เรยี น บ้านจับไม้ท�ำความรู้จักกับศูนย์คุณธรรม เส้นทางเข้าสู่การเสริมสร้าง ในชว่ งปแี รกของการสรา้ งคณุ ธรรม
โรงเรียนบ้านจับไม้ เปิดสอนระดับช้ัน ไปทำ� บญุ ไหวพ้ ระทกุ วนั พระ รวมทง้ั จดั ให้ (องคก์ ารมหาชน) เนอ่ื งจากทา่ นมาจดั คา่ ย คุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กในโรงเรียน ความซ่ือสัตย์ รับผิดชอบ รวมถึงวิถีการ
อนุบาล 1-ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 มีประธานกรรมการสถานศึกษาที่ร่วมกับ ทโ่ี รงเรยี นบา้ นหนองหลวง ซง่ึ ผอู้ ำ� นวยการ การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำ� เนนิ ชวี ติ พอเพยี งของโรงเรยี นบา้ นจบั ไม้
การพัฒนาโรงเรียนบ้านจับไม้ให้ความ โรงเรยี นพาเดก็ ไปวดั ทง้ั หมดนเี้ ปน็ กจิ กรรม โรงเรยี นไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการทำ� งานกบั ศนู ย์ โดยการด�ำเนินกิจกรรมต่างๆ นับต้ังแต่ เริ่มต้นจากการพ่ึงตนเองในการทำ� อาหาร
ส�ำคัญกับการพัฒนาทางด้านคุณภาพการ คณุ ธรรมอยกู่ อ่ นหนา้ น้ี จงึ ไดก้ ารชกั ชวน การท�ำความเข้าใจกับผู้ท่ีเก่ียวข้องในการ กลางวนั ใหเ้ ดก็ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปี
ศึกษาเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์เพื่อให้ และได้รับคัดเลือกให้เข้าโครงการท�ำงาน ด�ำเนินโครงการฯ ระหว่างโรงเรียนกับ ที่ 5 และ 6 แบง่ บทบาทหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ
เตบิ โตเปน็ เยาวชนทมี่ คี ณุ ภาพ เปน็ เครอื ขา่ ยกบั ศนู ยค์ ณุ ธรรม เรมิ่ จากเขา้ ชมุ ชน คอื การท�ำประชาคมเชญิ ชาวบา้ น ชอบช่วยกันปลูกพืชผักปลอดสารพิษ
รว่ มอบรมการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ วา่ ดว้ ย ในชุมชน มาประชุมท�ำความเข้าใจกับ เลย้ี งปลา เพอ่ื นำ� มาปรงุ อาหารกลางวนั ให้
โรงเรียนวิถีพุทธ....จุดเริ่มต้นของ แนวทางการด�ำเนินชีวิตตามปรัชญา โครงการ แผนงาน กจิ กรรม และผลทจี่ ะ นกั เรยี นในโรงเรยี นไดร้ บั ประทานอาหารที่
การสร้างคุณธรรมให้กับครูและ เศรษฐกิจพอเพียง และน�ำคุณธรรมมา เกิดขึ้นจากการท�ำโครงการ ให้ความรู้ สะอาดและปลอดภัย นอกจากปลูกผักใน
นกั เรยี น เช่ือมโยง ณ โรงเรียนผู้น�ำ จังหวัด ประสบการณ์ เก่ียวกับวิถีชีวิตและ โรงเรียนแล้ว ทางโรงเรียนยังได้สนับสนุน
กาญจนบุรี ในปี 2549 จึงเป็นจุดเริ่มต้น เศรษฐกิจพอเพียงแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาค ให้นักเรียนขยายผลสู่ครอบครัวด้วยการ
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ และศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) กส็ ง่ ใหเ้ หน็ ตวั อยา่ งรปู ธรรม เรม่ิ ตน้ จากการพา ปลูกพืชผักสวนครัวร้ัวกินได้ในบ้านของ
โรงเรยี นบา้ นจบั ไมน้ บั ตง้ั แต่ ปี พ.ศ. 2547 เสริมให้เกิดการเรียนรู้ดูงานที่มูลนิธิพุทธ ผู้น�ำชุมชน จ�ำนวน 130 คน เดินทางไป ตนเอง
เป็นต้นมา เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ฉอื จ้ี ประเทศไตห้ วนั ศกึ ษาดงู านทศี่ นู ยเ์ ศรษฐกจิ พอเพยี งทศี่ นู ย์ หลังจากที่มีการท�ำกิจกรรมการ
พัฒนาทักษะการใช้ชีวิตโดยมีคุณธรรม ปี พ.ศ. 2550 เร่ิมท�ำโครงการกับ เรียนรู้เรไรอโศก จังหวัดเลย เพื่อให้ผู้น�ำ สรา้ งเสริมวิถพี อเพยี งไดห้ นึ่งปเี ต็ม ตอ่ มา
ช้ีน�ำทางชีวิตให้กับนักเรียน จากการท�ำ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) เรอื่ งศนู ย์ ชมุ ชนเกดิ การเรยี นรจู้ ากรปู ธรรมความพอ ในปี พ.ศ. 2551 จงึ ไดส้ รปุ บทเรยี นวา่ การ
โครงการตามนโยบายโรงเรียนน�ำร่องของ การเรยี นรบู้ รู ณาการจติ อาสาและความพอ เพยี ง อนั จะนำ� ไปสกู่ ารปรบั เปลยี่ นวธิ คี ดิ ให้ ขับเคลื่อนงานที่ผ่านมา เป็นการท�ำงาน
สพฐ. ตามโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ เพยี งรว่ มกนั มที ง้ั หมด 8 โรงเรยี น ไดแ้ ก่ กบั ผนู้ ำ� ชมุ ชนสเู่ รอ่ื งความพอเพยี ง ในการ ของโรงเรียนและท�ำภายในโรงเรียนเป็น
โรงเรียนที่สนใจ จึงได้รับการสนับสนุน ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3 โรงเรยี น ภาค ศกึ ษาดงู านในครงั้ นไี้ ดร้ บั การสนบั สนนุ งบ หลกั จงึ คดิ ไปถงึ การตอ่ ยอดกจิ กรรมเดมิ ท่ี
ช่วยเหลือและได้รับค�ำแนะน�ำจาก เหนือ 5 โรงเรียน ประเด็นที่ท�ำมี 5 ประมาณจากศูนย์คุณธรรม (องค์การ เปน็ การทำ� งานเชงิ รกุ เขา้ สชู่ มุ ชนใหม้ ากขนึ้
คุณอนุชิต บัวพุฒ ซึ่งเป็นศึกษานิเทศก์ 81
80

จงึ มแี นวคดิ การท�ำกจิ กรรมเพอ่ื ใหเ้ กดิ การ โดยนำ� เรอ่ื งจกั สานมาเชอื่ มตอ่ เปน็ กจิ กรรม ตนเอง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เดก็ สามารถจกั สานไดป้ ระมาณรอ้ ยละ 80 คละเด็กตั้งแต่อนุบาลจนถึงช้ันประถม ระหว่างนักเรียนโรงเรียนบ้านจับไม้และ
เช่ือมโยงกันระหว่างศิษย์เก่ารุ่นพ่ีท่ีออก ในโครงการของโรงเรยี น เสรมิ สรา้ งกจิ กรรม และสรา้ งความอบอนุ่ ในครอบครวั จากการ และพบว่าวัตถุดิบที่ใช้ในจักสานไม่พอ ศึกษาปีท่ี 6 มีพ่อครู แม่ครูเป็นที่ปรึกษา โรงเรียนเครือข่าย 4 โรงเรียน ได้แก่
จากโรงเรียนไปแล้วท้ังหมดกับนักเรียนรุ่น ที่ท�ำให้เกิดการท�ำงานร่วมกันระหว่าง ทำ� งานรว่ มกนั เพียง ต้นคล้าที่ใช้เพ่ือสานกระต๊ิบยังต้อง เปน็ การแบ่งกลมุ่ เพอ่ื สอดแทรกเรอื่ งความ โรงเรยี นคำ� โคนสวา่ ง โรงเรยี นบา้ นหนองยาง
นอ้ งในโรงเรยี น กลบั มาจดั คา่ ยทำ� กจิ กรร คนในครอบครัว อันจะน�ำไปสู่ความรัก วธิ กี ารในการพฒั นาหลกั สตู รทอ้ ง- ซอื้ จากนอกชมุ ชน รวมทง้ั ยงั ตอ้ งใชต้ น้ ลาน ซอ่ื สตั ยล์ งมาทต่ี วั เดก็ ถา้ เดก็ ไมท่ ำ� งานคอื โรงเรยี นบา้ นหนองววั ชมุ และโรงเรยี นรสรนิ
รมร่วมกัน เพื่อให้พี่ดูแลนักเรียนน้องต่อ ความผูกพัน ครอบครัวอบอุ่น และปี ถิน่ เร่ืองการจกั สานกระตบ๊ิ ข้าวเหนียวจาก มาเปน็ วสั ดดุ ว้ ย จงึ มกี ารใหค้ วามรแู้ ละสง่ ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อร่วมกันพัฒนากิจกรรมธรรมมนูญ
โดยอาศัยผู้น�ำชุมชนเป็นหัวหน้าชุดจิต เดยี วกนั นเ้ี องชมุ ชนไดร้ บั รางวลั กองทนุ แม่ ต้นคล้าและการทอเสื่อ คณะครูโรงเรียน เสริมการปลูกต้นคล้า และต้นกก เพื่อใช้ ผลจากการท�ำกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้ ครอบครัว เป็นการสร้างระบบการดูแล
อาสา เป็นตัวเช่ือมระหว่างโรงเรียนกับ ของแผ่นดิน เป็นกองทุนในชุมชนที่มีเป้า บ้านจับไม้ได้จัดท�ำคู่มือการจักสาน โดย เปน็ วตั ถดุ บิ ในการผลติ ภายในชมุ ชน โรงเรียนผ่านการประเมิน ยกระดับ ชว่ ยเหลอื เดก็ ในชมุ ชนโดยการพฒั นาผนู้ �ำ
ชมุ ชน จงึ มกี ารจดั กจิ กรรมเปดิ เวทใี หเ้ กดิ หมายการสร้างครอบครัวอบอุ่นเช่น อาจารย์พิสมัยเป็นผู้มีบทบาทหลักในการ สง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการจดั ทำ� หลกั สตู ร โรงเรยี นเปน็ โรงเรยี นตน้ แบบความพอเพยี ง ครอบครัว สร้างผู้น�ำครอบครัวเข้มแข็ง
การเช่ือมโยงประสบการณ์การเรียนรู้ เดยี วกนั ซง่ึ มีความสอดคลอ้ งกับนโยบาย ทำ� คมู่ อื โดยมกี ารสมั ภาษณจ์ ากคณุ ทองใบ ท้องถิ่น นอกจากการมีกระบวนการ และโรงเรียนต้นแบบจิตอาสาของสพฐ. เนน้ ครอบครวั ละ 1 คน มาอบรมใหค้ วามรู้
แลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่างรุ่นพี่กับ ของศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ทสี่ ง่ ซ่ึงเป็นครูภูมิปัญญา โดยศึกษาแนวทาง ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิน่ ให้กับลกู หลาน โดยการประเมนิ ของสพฐ. นน้ั เนน้ เรอ่ื งของ เรอ่ื งหนา้ ทขี่ องผนู้ ำ� ครอบครวั หนา้ ทเี่ ดก็ มี
รุ่นน้อง มีการจัดเวทีคนดีคนเก่งคนกล้า เสรมิ เรอื่ งครอบครวั อบอนุ่ การจัดท�ำคู่มือจากโรงเรียนบ้านหนอง ในชุมชนให้เป็นผู้สืบทอดความรู้รุ่นต่อไป จติ อาสา การมสี ว่ นรว่ มกบั ชมุ ชนโรงเรยี น ศึกษานิเทศก์และผู้บริหารโรงเรียนใกล้
เปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ ไดแ้ สดงออก ใหร้ นุ่ พท่ี จ่ี บ หลังจากน้ันจึงมีการประชุมเพ่ือ พันทา อ�ำเภอโซ่พิสัย เป็นโรงเรียนท่ีสอน แล้วเพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างงาน มีส่วนร่วมอย่างไรในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เคียงมาเป็นวิทยากร ส่ิงที่เกิดข้ึนคือ
จากโรงเรยี นบา้ นจบั ไมก้ ลบั มาเลา่ เรอื่ งราว ปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับ เรื่องการจักสานท�ำเรื่องหัตถกรรมในครัว สร้างอาชีพ และรายได้เล้ียงครอบครัวใน และพฤติกรรมเด็กเปลี่ยนไปจริงหรือไม่ ได้ครอบครัวต้นแบบและได้มีการเผยแพร่
ตา่ งๆ ใหร้ นุ่ นอ้ งฟงั และทำ� เรอ่ื งจติ อาสา ผนู้ ำ� ชมุ ชนบา้ นจบั ไม้ เพอื่ พจิ ารณารว่ มกนั เรือน เป็น OTOP ของชุมชน และเป็น อนาคต ส่ิงส�ำคัญที่เกิดจากกระบวนการ โครงการน้ีโรงเรียนบ้านจับไม้อาสาเป็น ผลการท�ำกิจกรรมผ่านสารคดีสั้น 3 นาที
พาน้องไปวัดวันเสาร์ พาน้องไปท�ำความ ว่าจะท�ำกิจกรรมอะไรที่สามารถเชื่อมกับ หลกั สตู รทอ้ งถนิ่ ทใ่ี ชจ้ รงิ ในโรงเรยี น ในชว่ ง เรียนรู้ของนักเรียนคือ ในการสอน โรงเรียนน�ำร่องเร่ืองจิตอาสา ซ่ึงถูกเสนอ โดยการสนับสนุนจากศูนย์คุณธรรม
สะอาดตามบรเิ วณบา้ น และจะมพี อ่ี กี กลมุ่ เร่ืองครอบครัวอบอุ่น ในท่ีประชุมมีความ แรกของการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การสรา้ งกระบวนเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ โดยส�ำนักงานพ้ืนท่ีเขต ส่งผลให้มีการ (องค์การมหาชน) และจากการเช่ือมโยง
สอนพเิ ศษใหน้ อ้ ง สดุ ทา้ ยคอื กจิ กรรมการ เหน็ รว่ มกนั วา่ “ครอบครวั จะอบอนุ่ ได้ เรอ่ื ง หลักสูตรท้องถิ่นเรื่องการจักสานกระต๊ิบ รวมถึงเรื่องของ ความรับผิดชอบ ความ ขยายความรู้ มคี นมาศกึ ษาดงู าน เรมิ่ จาก เครือข่ายระหว่างโรงเรียนท�ำให้เกิดการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนและ เศรษฐกจิ มนั ตอ้ งดี จติ ใจกต็ อ้ งเปน็ คนทมี่ ี ข้าวเหนียวจากต้นคล้านั้นได้มีการเชิญครู ซ่ือสัตย์ และความพอเพียง ความรับผิด ภายในพื้นท่ีเขตการศึกษาหนองคาย เรียนรู้และการขยายกิจกรรมของโรงเรียน
ชุมชนโดยอาศัยผู้ปกครอง การด�ำเนิน จติ ใจงาม ผปู้ กครองตอ้ งเขม้ แขง็ เดก็ เรา ภูมิปัญญามาสอนในโรงเรียน ใช้งบ ชอบคือ ให้เด็กปลูกต้นกกและต้นคล้าใน ตอ่ ดว้ ยทอี่ ดุ รธานี ขอนแกน่ และมหาสาร- ในเครอื ขา่ ย ตวั อยา่ งเชน่ โรงเรยี นคำ� โคน
กิจกรรมของโรงเรียนในปี พ.ศ. 2551 มี เราต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี ค้นหา ประมาณจากส�ำนักงานเขตพื้นที่จ่ายค่า โรงเรียน มอบหน้าที่ให้เด็กช่วยกันดูแล คาม ทงั้ หมดเปน็ พนื้ ทเ่ี ขตทอ่ี ยใู่ กลเ้ คยี งกบั สว่าง โรงเรียนหนองยาง โรงเรียนบ้าน
กิจกรรมท่ีทำ� ให้เกิดการสร้างจิตอาสาการ ครอบครวั ทจี่ ะมาเปน็ ตน้ แบบได้ และมาทำ� วทิ ยากรทอ้ งถน่ิ และใหว้ ทิ ยากรจากพนื้ ท่ี นักเรียนได้เล่าว่า กิจกรรมนี้สอนให้เกิด โรงเรียนบ้านจับไม้ จนท้ายท่ีสุดทางสพฐ. หนองววั ชมุ มกี ารทำ� กจิ กรรมสง่ เสรมิ เรอื่ ง
ช่วยเหลือดูกันแลระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง กจิ กรรมทเี่ ปน็ วถิ ขี องชมุ ชน ”จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ อื่นมาช่วยสอนในวันอังคาร และวัน ความรบั ผดิ ชอบ เชอื่ มโยงไปสรู่ ะเบยี บวนิ ยั ได้มีโครงการให้โรงเรียนท้งั 4 ภูมภิ าคมา การจกั สานในโรงเรยี น โรงเรยี นรสรนิ มกี าร
ทงั้ หมด 8 กจิ กรรม การสรปุ บทเรยี นและ ข้อสรุปร่วมกันว่า โรงเรียนและชุมชนจะ พฤหสั บดี เวลา 15.00 -16.00 น. เมอื่ มกี าร เร่ืองการวางรองเท้า การท�ำความสะอาด แลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อขยายผลการท�ำ ทำ� กจิ กรรม สง่ เสรมิ เรอ่ื งการทำ� ไมก้ วาด
ประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานพบวา่ มกี ารท�ำ ร่วมกันโครงการ “โรงเรียนส่งเสริม ดำ� เนนิ การไประยะหนง่ึ จงึ ไดม้ กี ารประชมุ หนา้ หอ้ งตนเอง ฝกึ ปฏบิ ตั โิ ดยการแบง่ กลมุ่ กิจกรรมสรา้ งจิตอาสาท่มี ีการเชื่อมโยงกบั
กิจกรรมท่ีอยู่ในระดับดี เน่ืองจากมีการ ครอบครวั อบอนุ่ ชมุ ชนเขม้ แขง็ แหลง่ เรยี น สรุปร่วมกันระหว่างชุมชนและโรงเรียน นักเรียนออกเป็น 5 กลุ่มหมู่บ้าน ได้แก่ ชมุ ชนอยา่ งเปน็ รปู ธรรม จากเชื่อมโยงเครือข่ายโรงเรียน
พฒั นากจิ กรรมใหมๆ่ ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การสรา้ ง รู้เชิงคุณธรรม” เป้าหมายเพ่ือให้เกิด จะไม่ใช้งบจากส�ำนักงานพื้นที่เขตในการ หมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง หมบู่ า้ นกตญั ญู ในช่วงเดียวกันนี้เองครูโรงเรียน ร.ู้ ......สกู่ ารพฒั นาศนู ยเ์ รยี นรเู้ ชงิ
จติ อาสารว่ มกนั ของนกั เรยี นอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง กิจกรรมการท�ำความดีตามวิถีแม่ของ จา้ งวทิ ยากร กอ่ ใหเ้ กดิ วทิ ยากรจติ อาสาขนึ้ รู้คุณ หมู่บ้านคุณธรรมน�ำสุข หมู่บ้าน บา้ นจบั ไมไ้ ดม้ โี อกาสเขา้ คา่ ยตามหลกั สตู ร คณุ ธรรม
ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2552 การสรา้ ง แผ่นดิน ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ เรียกว่ากลุ่มจิตอาสาภูมิปัญญาท้องถ่ิน กัลยาณมิตร และหมู่บ้านจิตอาสา แบ่ง ของ สพฐ. ทำ� ใหเ้ กดิ การเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ย ปี พ.ศ. 2553 โรงเรียนบ้านบ้าน
จิตอาสาของโรงเรียนบ้านจับไม้เริ่มมีการ กิจกรรมจักสานเป็นเคร่ืองมือสร้างความ เป็นครูภูมิปัญญากลุ่มทอเส่ือและกลุ่ม จบั ไมไ้ ดส้ ง่ ตวั แทนไปอบรมทโ่ี รงเรยี นผนู้ ำ�
เชอื่ มโยงกบั กจิ กรรมภายในชมุ ชนทมี่ ากยงิ่ อบอุ่นในครอบครัว เนื่องจากในชุมชนมี จกั สาน ชว่ งนน้ั ไดร้ บั งบประมาณจากพนื้ ท่ี เพอื่ ทำ� ความเขา้ ใจเรอ่ื งแหลง่ เรยี นรรู้ ว่ มกบั
ข้ึนโดยอาจารย์สมปอง ใจดีเฉย อาจารย์ กลมุ่ จกั สานอยเู่ ดมิ แลว้ นำ� โดยคณุ ทองใบ เขตการศึกษา โรงเรียนมีการต่อยอดจาก ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) แล้วนำ�
จากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย และคณุ บปุ ผา ซง่ึ เปน็ ครภู มู ปิ ญั ญา และมี ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) สง่ ผลให้ กลับมาทบทวนตนเองว่าการด�ำเนินงาน
ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ ซงึ่ เปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ขิ อง ผู้ใหญ่บ้านท่ีเป็นแกนหลักเรื่องนี้ วัตถุ- เกิดจิตเหล่าอาสาท่ีจะมาสอนเร่ืองการ ของโรงเรยี นบา้ นจบั ไมม้ อี งคป์ ระกอบอะไร
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ลงพน้ื ที่ ประสงค์เพ่ือส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา จกั สานประมาณ 10 กวา่ คน และกลมุ่ ทอ บ้างท่ีสามารถเป็นฐานการเรียนรู้ได้
ใชเ้ วทกี ารตดิ ตามประเมนิ ผล สรปุ บทเรยี น ผลติ ภณั ฑ์ 1 ครอบครวั 1 ผลติ ภณั ฑ์ ดงั เสื่ออีก 10 กว่าคน ซ่ึงท้ังหมดมีเวลาและ โดยมีกระบวนการท�ำความเข้าใจเร่ือง
ร่วมกันระหว่างผู้น�ำชุมชนและเด็กๆ ใน น้ันจึงมีการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถ่ิน โดย สามารถมาสอนนักเรียนที่โรงเรียนได้ จึง แหลง่ เรยี นรู้ วเิ คราะหต์ นเอง นน้ั จะทำ� ให้
หมู่บ้าน มีการพูดคุย ทบทวนการท�ำ การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น ท�ำให้เด็กได้ เปดิ เวทเี พอ่ื ทบทวนระบบการเรยี นการสอน กิจกรรมมีความเข้มข้นมากข้ึนกว่าเดิม
กจิ กรรม ในระหวา่ งทม่ี กี ารประชมุ นนั้ ชาว เรียนรู้และฝึกฝนอาชีพภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้ความสะดวกแก่ครูภูมิปัญญา รวม โดยค้นหาตัวตนที่เป็นวิถีชีวิตว่าคืออะไร
บา้ นทเ่ี ขา้ รว่ มประชมุ นำ� กระตบิ๊ ขา้ วเหนยี ว เรื่องจักสานกระติ๊บใส่ข้าวเหนียวจากต้น ถงึ มกี ารจดั การสอนโดยใหน้ กั เรยี นไปเรยี น ซึ่งทางโรงเรียนได้พบว่าเป็นเร่ืองของ
มานั่งสานในระหว่างท่ีฟังการประชุม คล้า การทอเสื่อ และการทอผ้าเป็นการ ในชมุ ชน มเี ดก็ ในระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปี การพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ินโดยการมีส่วน
ท�ำให้เกิดความคิดว่า การท�ำกิจกรรมใน เรียนรู้แบบครบวงจรการผลิตจากคนเฒ่า ที่ 4-6 เขา้ รว่ มกจิ กรรม เดก็ สามารถเลอื ก รว่ มของคนในชมุ ชน เรอื่ งของการจกั สาน
ชว่ งตอ่ ไป ควรมกี ารน�ำเอาภมู ปิ ญั ญาทอ้ ง คนแก่ในชุมชน โดยมีการเชิญครูภูมิ- ตามความสมัครใจว่าต้องการจะเรียนทอ และการทอเสื่อซึ่งใช้เป็นเคร่ืองมือในการ
ถนิ่ มาเปน็ เครอ่ื งมอื สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การทำ� ปัญญาท้องถ่ินมาสอนในโรงเรียน เพื่อให้ เส่ือ หรือจะเรียนจักสาน ใช้ศาลากลาง สรา้ งจติ อาสาสวู่ ถิ พี อเพยี งได้
กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างครอบครัวอบอุ่น เด็กท�ำเองได้ สามารถสร้างรายได้ให้กับ บา้ นเปน็ หอ้ งเรยี น ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการสอน
82 83

ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2554 โรงเรยี นบา้ น ซ่ึงทางโรงเรียนบ้านหนองวัวชุมมีอยู่ ครูภูมิปัญญาเปิดเวลาสอนในเวลาที่ไม่ โครงสร้างศูนยก์ ารเรียนร้เู ชงิ คุณธรรมโรงเรียนบ้านจับไม้

จับไม้ได้มีการจัดท�ำโครงการพัฒนา ประมาณ 30 คน เข้าร่วมกันจัดเวรรับผิด ตรงกัน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเลือก คณะที่ปรึกษา

ศกั ยภาพศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ตามองคป์ ระกอบ ชอบ ท�ำหน้าที่เป็นครูภูมิปัญญาจิตอาสา เรยี นไดเ้ พมิ่ ขนึ้ ชดุ เดิม ชดุ ใหม่
ผูบ้ รหิ ารศนู ยส์ ง่ เสรมิ และพฒั นาพลังแผน่ ดนิ
ของแหลง่ เรยี นรู้ 8 ขอ้ คอื ตอ้ งมสี ถานที่ ถ่ายทอดความรู้ด้านการจักสานให้กับ เชงิ คณุ ธรรม ผู้บริหารศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน)

มีองค์ความรู้ที่จะเกิดข้ึนจากการปฏิบัติ นกั เรยี นในโรงเรยี น ทำ� ใหน้ กั เรยี นเกดิ การ เบื้องหลังความส�ำเร็จต้นแบบ ผู้อ�ำนวยการสำ� นักงานพ้นื ทเี่ ขตการศกึ ษา / ผู้อำ� นวยการสำ� นกั งานพ้นื ท่เี ขตการศึกษา /
ตอ้ งมผี ดู้ แู ลศนู ย์ มคี รภู มู ปิ ญั ญา มผี ทู้ จ่ี ะ เรียนรู้คุณธรรมจริยธรรม เห็นคุณค่า คณุ ธรรม รองผู้อ�ำนวยการสำ� นักงานพื้นท่เี ขตการศกึ ษา รองผู้อำ� นวยการสำ� นักงานพืน้ ท่ีเขตการศกึ ษา

มาเรยี นรู้ มคี นมาศกึ ษาดงู าน มเี ครอื ขา่ ย สืบสานภูมิปัญญาท้องถ่ิน และคุณธรรม โรงเรียนบ้านจับไม้มีการด�ำเนิน ศึกษานิเทศก์ผ้รู ับผิดชอบด้านคณุ ธรรม ศกึ ษานเิ ทศกผ์ ูร้ ับผิดชอบด้านคณุ ธรรม

ความดีความงามท่ีเกิดขึ้น และมีการเผย ดา้ นความรบั ผดิ ชอบ ความมรี ะเบยี บวนิ ยั งานในเส้นทางสายคุณธรรมมาอย่างต่อ นายอำ� เภอเฝ้าไร่ นายอำ� เภอเฝา้ ไร่

แพร่ผลงานระดับอ�ำเภอเป็นตัวแทนของ ใหก้ บั นกั เรยี นในโรงเรยี น เนอื่ งจนกระทง่ั มกี ารจดั ตง้ั ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ นายกเทศมนตรีต�ำบลเฝา้ ไร่ นายกเทศมนตรตี ำ� บลเฝา้ ไร่

เขต ในเรอ่ื งเศรษฐกจิ พอเพยี งทางโรงเรยี น โรงเรียนบ้านหนองยาง กิจกรรม เชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ ภายใน คณะกรรมการบริหารศูนยก์ ารเรียนรู้
บ้านจับได้รับหน้าท่ีไม้เป็นศูนย์การอบรม ประจำ� วนั ทม่ี กี ารทำ� อยแู่ ลว้ ไดแ้ ก่ การทำ� ศูนย์มีการแบ่งบทบาทหน้าที่เป็นการ ชดุ เดมิ ชุดใหม่

โครงงานคณุ ธรรม โดยครพู สิ มยั ไดร้ บั งบ ความสะอาดเขตรับผิดชอบ การท�ำการ บรหิ ารจดั การดว้ ยโครงสรา้ งทจ่ี ดั การรว่ มกนั ผู้บรหิ ารโรงเรียนบ้านจับไม้ นายไกรสร พิมพป์ ระชา ผู้บรหิ ารโรงเรียนบา้ นจับไม้ นายไกรสร พมิ พป์ ระชา

ประมาณจากสพฐ. โดยบุคลากรของทาง เกษตรในโรงเรยี น ปลกู ผกั เลยี้ งไกพ่ น้ื เมอื ง โดยมีส่วนผสมของคณะกรรมการอัน ครโู รงเรียนบ้านจบั ไมท้ กุ คน ครูโรงเรยี นบา้ นจับไม้ทกุ คน

โรงเรยี นบา้ นจบั ไมน้ นั้ เปน็ วทิ ยากรอบรม แต่ยังไม่ได้ร่วมโครงการกับโครงการ ประกอบด้วย คณะที่ปรึกษา ได้แก่ ครภู ูมปิ ัญญาดา้ นการจักสาน ครูภูมปิ ญั ญาด้านการจกั สาน
ครูเรื่องการท�ำจิตอาสาที่ใช้กระบวนการมี คุณธรรม เม่ือได้มีโอกาสเข้าร่วมอีกทั้งใน ผู้บริหารศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) นายเคน ทารถม, นายสายทอง พมิ พันธ์ นายเคน ทารถม, นายสายทอง พิมพันธ์
นางสร้อยสอางค์ พมิ พพ์ ันธ์, นางเยน็ ทารถ นางสร้อยสอางค์ พมิ พพ์ ันธ,์ นางเย็น ทารถ
นายพรม ปักภยั , นางทองใบ พิมพ์พันธ์ นายพรม ปักภัย, นางทองใบ พมิ พพ์ นั ธ์

ส่วนร่วม ซึ่งจะต้องไปเป็นวิทยากรปีละ ชุมชนบ้านหนองยางมีทุนด้านการทอเส่ือ ผอู้ ำ� นวยการหรอื รองผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งาน ครภู มู ิปัญญาด้านการทอเสอื่ ครภู มู ปิ ัญญาด้านการทอเสอ่ื
นายชาตรี พมิ พนั ธ์, นายมงคลเกียรติ พมิ พนั ธ์ นายชาตรี พมิ พนั ธ์, นายมงคลเกยี รติ พิมพันธ์
ประมาณ 10 ครั้ง และยังเป็นทีมที่ไปให้ กกอยู่แล้ว จึงมีกลุ่มแม่บ้านเป็นวิทยากร พื้นที่เขตการศึกษา ศึกษานิเทศก์ นางบวั ลา ชนชนะกุล, นางรักษณิ า บุญอินทร์ นางบัวลา ชนชนะกุล, นางรักษณิ า บุญอนิ ทร์ ในโรงเรียนเครือข่าย ได้แก่ โรงเรียนบ้าน
ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้กับสพม. ประมาณ 30 คน เรม่ิ โดยการปลกู ตน้ คลา้ นายอำ� เภอเฝา้ ไรแ่ ละเทศมนตรตี ำ� บลเฝา้ ไร่ นางรัศมี พิมพันธ์, นางสหวี ดีสัมพนั ธ์ นางรัศมี พมิ พันธ์, นางสหวี ดสี ัมพันธ์ หนองววั ชมุ โรงเรยี นบา้ นหนองยาง และมี
อกี ดว้ ย ในโรงเรยี น และแบง่ ใหเ้ ดก็ ดแู ลแปลงของ และคณะกรรมการบริหารศูนย์ได้แก่ นางสมเพยี ร ประสมพชื นางสมเพยี ร ประสมพชื การจัดท�ำโครงการพัฒนาขยายผลศูนย์
ปี พ.ศ.2555 มีการขยายท�ำ ตนเอง พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นโดยให้ครู ผอ.โรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ ครโู รงเรยี นบา้ นจบั คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศกึ ษา การเรียนรู้เชิงคุณธรรมบ้านจับไม้ โดยมี
โครงการพฒั นาศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ครอื ขา่ ยไป ภูมิปัญญาในชุมชนมาเป็นผู้ท่ีท�ำหน้าที่ ไมท้ กุ คน ครภู มู ปิ ญั ญา ดา้ นการจกั สาน/ นายบัญชา ชนชนะกลุ นายบัญชา ชนชนะกุล วัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาการด�ำเนิน
ยงั โรงเรยี นบา้ นหนองยางและโรงเรยี นบา้ น ถา่ ยทอดความรู้ ความภมู ใิ จหนงึ่ ของบา้ น ทอเสอ่ื และคณะกรรมการสถานศกึ ษา นายเคน ทารถ นายเคน ทารถ โรงเรียนเครือข่ายในด้านองค์ความรู้
นายสรเพชร พมิ พ์พันธ์ นายสรเพชร พมิ พพ์ นั ธ์
นายเบิด พมิ พนั ธ์ นายเบิด พิมพนั ธ์

หนองววั ชมุ โดยการชกั ชวนมาท�ำกจิ กรรม หนองยางคอื สามารถดงึ ครภู มู ปิ ญั ญาเขา้ ปัจจัยความส�ำเร็จ ที่เป็นทุนเดิม แนวทางในการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้
ร่วมกัน ทางโรงเรียนลูกข่ายจึงมีการไป มาชว่ ยงานไดโ้ ดยไมม่ คี า่ จา้ งไมม่ คี า่ ตอบแทน ก่อนท่ีจะด�ำเนินการจนมาถึงทุกวันน้ีคือ การพัฒนาแหล่งเรียนรู้สู่มาตรฐานและมี
หารือกับชุมชนว่าจะท�ำกิจกรรมคล้ายกับ บางคนไมม่ บี ตุ รหลานกม็ าชว่ ย การเรมิ่ ตน้ ชุมชนที่เข้มแข็ง มีความเสียสละ มีจิต สนับสนุนด้วยนโยบายสร้างสายใย และกจิ กรรมคา่ ยพระ ครู ดแู ลชว่ ยเหลอื คณุ ภาพ โดยมกี ระบวนการคอื การพฒั นา
โรงเรียนบ้านจับไม้หรือไม่เมื่อทาง ชุมชน สร้างการเรียนรู้คือ การสร้างเสริมให้เด็ก อาสา เด็กนักเรียนท่ีดี ทุนครูภูมิปัญญา กบั ภาคี เดก็ นกั เรยี น หลักสูตรท้องถ่ินเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้
เห็นด้วยจึงเริ่มด�ำเนินการคู่กัน ตอนน้ัน นักเรียน และครูภูมิปัญญาชุมชนมาเข้า แตส่ ง่ิ ทยี่ งั ขาดอยกู่ ค็ อื วตั ถดุ บิ หากมองใน • โครงการน้�ำใสดุจน�้ำพระทัย • โครงการโรงเรียนแบบอย่าง ให้กับเด็กนักเรียนเป็นหลักสูตรรายวิชา
โรงเรียนบ้านจับไม้ซึ่งเป็นแม่ข่ายได้ช่วย คา่ ยเพอ่ื เรยี นรรู้ ว่ มกนั จากโรงเรยี นบา้ นจบั แง่ของการค้า แต่ในส่วนของการเรียนรู้ พระราชินี : เป็นโครงการที่จัดการด้าน สถานศึกษาพอเพียง : เป็นโรงเรียนท่ีขับ เพ่ิมเติม รวมถึงจัดหลักสูตรการจักสาน
สนับสนุนงบประมาณเพื่อให้เกิดการ ไม้ เพอื่ นำ� เอาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ ถอื วา่ ไมข่ าดแคลน และถงึ แมง้ บประมาณ สง่ิ แวดลอ้ มลำ� หว้ ยคำ� มดิ สายนำ�้ หลกั ของ เคล่ือนคุณธรรมผ่านกิจกรรมด้วยหลักคิด และการทอเสอื่ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการ
ท�ำงานโรงเรียนละ 27,400 บาท โดยงบ โครงการปี 2556 จะต้องยกระดับ ในการท�ำงานยังขาดอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีทุน บ้านจับไม้และดูแลรักษาความสะอาด ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 พัฒนาพฤติกรรมนักเรียนตามวิถีโรงเรียน
ประมาณท่ีสนับสนุนให้เป็นค่าใช้จ่ายใน โดยเปดิ หอ้ งเรยี นในชมุ ชน จดั กลมุ่ นกั เรยี น จากแหลง่ ทนุ อน่ื เชน่ SML อยา่ งไรกต็ าม หนองฝาบาท พื้นท่ีสาธารณะท่ีได้รับงบ เงอื่ นไข 4 มติ ิ : ของทางหนว่ ยงานส�ำนกั และวิถีชุมชน นอกจานน้ีการจัดเวทีแลก
การปรับปรุงพ้ืนที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ ซ้ือ ไปเรียนกับครูภูมิปัญญาท่ีบ้าน พอเรียน แม้วิถีชีวิตของชาวบ้านในปัจจุบันจะ ประมาณจากสพฐ. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เปลย่ี นเรยี นรู้ การถอดองคค์ วามรรู้ ว่ มกนั
เครื่องมือท่ีจะมาใช้ในการท�ำกิจกรรมทอ แล้วได้จัดให้มีกิจกรรมต่อยอด โดยให้ เปล่ียนไป เร่ิมมีการปลูกพืชเศรษฐกิจตัว • โครงการโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธเนน้ จติ ระหวา่ งโรงเรยี นในเครอื ขา่ ย โดยมกี ารทำ�
เสอ่ื สานกระตบ๊ิ นกั เรยี นไดเ้ รยี นกบั ครภู มู ปิ ญั ญาคนเดมิ ไป ใหม่คือยางพารา แต่ทางชุมชนก็ยังไม่ทิ้ง อาสา : เป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณ กา้ วตอ่ ไปสรา้ งเครอื ขา่ ยคณุ ธรรม กจิ กรรมเพอื่ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายดงั กลา่ ว จงึ
โรงเรียนบ้านหนองวัวชุม ท�ำ จนกระทง่ั จบหลกั สตู ร หลงั จากนน้ั ใหเ้ ดก็ วิถีชีวิตเดิมที่มีการทอเส่ือสานกระติ๊บ จากสพฐ. น�ำกระบวนการบริหารจัดการ การท�ำงานของโรงเรียนบ้านจับไม้ มกี ารพฒั นาศกั ยภาพครู ผนู้ �ำชมุ ชน และ
กิจกรรมเดียวกันเป็นการพัฒนาโรงเรียน มีการประกวดแข่งขัน เพ่ือฝึกเด็กให้เกิด เนื่องจากยังมีการสั่งซ้ือกระติ๊บข้าวเหนียว และการพัฒนาบุคคลให้มีความตระหนัก มีความต่อเน่ืองยาวนาน ลองผิดลองถูก นักเรียนแกนน�ำเพื่อร่วมกันออกแบบกิจ-
เครือข่ายโดยใช้หลักสูตรเดียวกันกับ ความรับผิดชอบและการเปล่ียนแปลง จากบา้ นจบั ไม้ ร่วมที่จะสร้างคุณลักษณะความเสียสละ เรื่อยมา แต่ไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะมีทั้ง กรรม และการตดิ ตามเยยี่ มเยอื นโรงเรยี น
โรงเรียนบ้านจับไม้ในการปลูกต้นกก พฤติกรรม และในระหว่างนั้น ครู มจี ติ อาสาใหเ้ กดิ ขนึ้ ในโรงเรยี นและชมุ ชน ชุมชน นักเรียน ครู ภาคีเครือข่ายต่างๆ ในเครอื ขา่ ย จดั เวทแี ลกเปลยี่ นเรยี นรู้ โดย
ต้นคล้า เพ่ือเป็นการเรียนรู้ในการทอเส่ือ ภมู ปิ ญั ญาไดม้ านง่ั ในเวทแี ละคยุ กนั เพอ่ื หา • โครงการพัฒนาคุณธรรมสำ� นึก ท่ีพร้อมจะก้าวและพัฒนาไปด้วยกัน เปิด การเปดิ บา้ นคนดี แลกเปลยี่ นเรยี นรคู้ นเกง่
และจักสาน มีครูภูมิปัญญาในชุมชนมา แนวทางการพัฒนาการเรียนด้วยกัน ความเป็นไทยเพื่อพัฒนาเด็กไทยอย่าง เป็นต้นแบบเพ่ือให้พื้นท่ีอื่นๆ ได้สามารถ คนกล้า เพื่อเป็นการน�ำเสนอองค์ความรู้
ช่วยสอนการทอเสื่อ ซึ่งครูภูมิปัญญานั้น ครภู มู ปิ ญั ญาจะเปน็ ผปู้ ระเมนิ เดก็ โรงเรยี น ยั่งยืน : เป็นโครงการท่ีได้รับงบประมาณ เข้ามาแลกเปล่ียนเรียนรู้ เติมเต็มด้วยกัน และการให้ก�ำลังใจแก่ผู้ที่สร้างคุณธรรม
เปน็ ทนุ เดมิ ทม่ี ใี นพนื้ ทอ่ี ยแู่ ลว้ กระบวนการ สร้างเคร่ืองมือให้ครูประจ�ำช้ันไปประเมิน จากสพฐ. มกี จิ กรรมหลกั 3 กจิ กรรม คอื ได้ อีกท้ังยงั มกี ารสรา้ งเครอื ข่ายคุณธรรม และความดี “ซอื่ สตั ย์ รบั ผดิ ชอบ มวี ถิ กี าร
คอื ใหค้ รภู มู ปิ ญั ญาไดม้ าแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ผล และไดผ้ ลพลอยไดค้ อื ครกู บั ผปู้ กครอง ศูนย์การเรียนรู้พุทธศาสนาสร้างจิตอาสา ความดไี ปยงั โรงเรยี นอนื่ ๆ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การ ดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง”
กับครูภูมิปัญญาท่ีโรงเรียนบ้านจับไม้ ได้รู้จักกันมากข้ึน อีกทั้งยังได้มีการจัดให้ ชมุ ชน กจิ กรรมโครงงานคณุ ธรรมส�ำนกึ ดี ขยายผลการเสริมสรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
84 85

สงั เคราะห์ ประมวลภาพรวมความรกู้ ารเสรมิ สรา้ ง รวมของศูนย์การเรียนรู้ ได้แก่ ข้อมูลพื้น ด�ำเนินงาน 4) กระบวนการเสริมสร้าง จรยิ ธรรมพนื้ ฐานใหก้ บั เดก็ และเยาวชน 2)
คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ของศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ฐานทว่ั ไปของศนู ยก์ ารเรยี นรู้ ความเปน็ มา คุณธรรมจริยธรรม 5) ปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม คา่ นยิ ม
แหลง่ เรยี นรู้เชงิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ของการเป็นศูนย์การเรียนรู้และเข้าสู่ (ตามแผนภาพกรอบการสงั เคราะห์ ประมวล พื้นฐานในการด�ำเนินชีวิตระดับบุคคล3)
กระบวนการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความรู้การเสริมสร้างคุณธรรม และ การเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมระดับ
การด�ำเนินกิจกรรมเพื่อปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรมของศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ ละแหลง่ การ กลมุ่ และชมุ ชน (กลมุ่ ธรุ กจิ ชมุ ชน) ดงั ราย
และจรยิ ธรรมผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ปญั หาอปุ สรรค เรยี นร)ู้ ละเอยี ดทจี่ ะกลา่ วถงึ ตอ่ ไปนี้
และบทบาทของหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ผลจากการสังเคราะห์ ประมวล
การกำ� หนดกรอบในการสงั เคราะห์ ภาพรวมการเสริมสร้างคุณธรรม และ
ภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุน ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาแหลง่ บรกิ าร จริยธรรม ในคร้ังนี้เป็นภาพรวมจากศูนย์ ประมวลภาพรวมการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมของศูนย์การเรียนรู้และแหล่ง
ของศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) ความรกู้ ระตนุ้ ความคดิ และการสรา้ งสรรค์ การเรียนรู้ และแหล่งการเรียนรู้เชิง จริยธรรมของศูนย์การเรียนรู้และแหล่ง เรียนรู้ พบว่า ในการเสริมสร้างคุณธรรม
ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ทศั นคตกิ ารเรยี นรขู้ องประชาชน เปน็ 1 ใน คุณธรรม และจริยธรรม จ�ำนวน 9 แห่ง เรยี นรู้ ประกอบดว้ ย 5 ประเดน็ หลกั ไดแ้ ก่ และจรยิ ธรรมของศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ ละแหลง่
เป็นหน่วยงานของรัฐท่ีถูกจัดต้ังข้ึนตาม 3 ยุทธศาสตร์ ซึ่งมีแผนงานโครงการส่ง- ประกอบด้วย 1) ศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม 1) ระดับของการเสริมสร้างคุณธรรม เรียนรู้ ภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุน
แนวคดิ ในการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ยข์ อง เสริมพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรมแบบ โรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ ตำ� บลเฝา้ ไร่ อำ� เภอเฝา้ จริยธรรม 2) ลักษณะของคุณธรรมที่พึง ของ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) มี 3
ชาตใิ หเ้ ปน็ พลเมอื งดี เพอื่ ใหเ้ ปน็ พลงั หลกั บูรณาการ และมีกิจกรรมในการพัฒนา ไร่ จังหวัดหนองคาย 2) ศูนย์การเรียน ประสงค์ในแต่ละระดับ 3) กลไกการ ระดับ คือ 1) การเสริมสร้างคุณธรรม
ของแผน่ ดนิ อนั จะทำ� ใหก้ อ่ เกดิ การพฒั นา สร้างสรรค์แหล่งเรียนรู้คุณธรรมแบบ โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม
ที่มีคุณภาพและความย่ังยืน ดังวิสัยทัศน์ บรู ณาการ สง่ เสรมิ กระบวนการธรรมาภบิ าล (บางมูลนากโมเดล) โรงเรียนบางมูลนาก
ของหน่วยงาน “ศูนย์คุณธรรมเป็นแหล่ง ในองคก์ รภาคสว่ นตา่ งๆ สง่ เสรมิ เครอื ขา่ ย ภูมิวิทยา ต�ำบลบางมูลนาก อ�ำเภอ
กลางพัฒนาความรู้และนวัตกรรมด้าน พัฒนารูปแบบแหล่งเรียนรู้ สร้างสรรค์ส่ือ บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร 3) ศูนย์การ แผนภาพแสดงระดบั ของการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของแหล่งเรียนรู้

คุณธรรม รวมท้ังสร้างเสริมพลังเครือข่าย ความดีเพ่ือการเผยแพร่ ดังน้ันจึงมีการ เรียนรู้เชิงคุณธรรมด้านเศรษฐกิจพอเพียง กรอบการสังเคราะห์ ประมวลความรูก้ ารเสริมสร้างคณุ ธรรม
เพอ่ื ขบั เคลอื่ นสงั คมคณุ ธรรม” โดยมพี นั ธ สงั เคราะห์ ประมวลความรกู้ ารเสรมิ สรา้ ง วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม ต�ำบลย้ังเมิน และจรยิ ธรรม ของศูนยก์ ารเรียนร้แู ละแหลง่ การเรยี นรู้
กจิ หลกั คอื  การจดั ประชมุ สมชั ชาคณุ ธรรม คณุ ธรรมจรยิ ธรรมของศนู ยก์ ารเรยี นรแู้ ละ อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ 4) ศูนย์
และพัฒนาองค์ความรู้ด้านคุณธรรม แหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม ภายใต้การส่ง- เรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียนนฤมลทิน ระดบั การเสริมสร้าง ลักษณะคณุ ธรรม กระบวนการ
จรยิ ธรรมดว้ ยกระบวนการจดั หาความรรู้ ปู เสริมและสนับสนุนของศูนย์คุณธรรม ธนบรุ ี ถนนจรญั สนทิ วงศ์ เขตบางกอกนอ้ ย คุณธรรม ท่ีพึงประสงค์ เสรมิ สร้างคุณธรรม ปจั จัยทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

แบบตา่ งๆ และการสง่ เสรมิ สนบั สนนุ เครอื (องคก์ ารมหาชน) กรุงเทพมหานคร 5) ศูนย์เรียนรู้เชิง และกลไกการด�ำเนนิ งาน

ข่ายองค์กรภาคีท่ีเก่ียวข้องให้มีความเข้ม คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ นหนองตาบง่ หมทู่ ่ี 4 1. การเสรมิ สรา้ ง คณุ ธรรมพ้นื ฐาน พฒั นาครู หนว่ ยงานภาคี
แข็งทางวิชาการและนวัตกรรม และการ สงั เคราะห์ ประมวลความรกู้ ารเสรมิ ตำ� บลวงั ขนาย อำ� เภอทา่ มว่ ง จ.กาญจนบรุ ี คุณธรรมจริยธรรม พฒั นาจติ อาสา ซ่อื สัตย์ พัฒนานักเรยี น ท่ีเกยี่ วขอ้ ง
ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ของศนู ย์ 6) ศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรมวิทยาลัย พน้ื ฐานให้กับเดก็ และ เชือ่ มโยงเครือขา่ ย
เกย่ี วขอ้ งในการรวมพลงั ของกลมุ่ หรอื เครอื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ เรยี นรู้ เทคโนโลยีสยาม 46 ถนนจรัญสนิทวงศ์ รบั ผิดชอบ พอเพียง พฒั นาหลักสตู รคณุ ธรรม
ขา่ ยทางสงั คมเพ่อื พัฒนาคณุ ธรรมความดี การสังเคราะห์ ประมวลความรู้ แขวงวดั ทา่ พระ เขตบางกอกใหญ่ กรงุ เทพ- เยาวชน ความมรี ะเบยี บวินยั ความ จรยิ ธรรม บรู ณาการกับ
ที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยทุก การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ของศนู ย์ มหานคร 7) ศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรมกิจ ชุมชน เรโรียงน คครรอวั บ สามคั คี มารยาทอนั ดงี าม การเรยี นการสอน
พดู จาไพเราะ ดูแลชว่ ย จดั ท�ำส่อื เผยแพร่ Website
เหลือผทู้ ี่ได้รับความเดือด การประกวด ให้รางวัล
ร้อน ดแู ลรักษาสิ่งแวดลอ้ ม
ชมเชย
ขยนั ประหยัด อดทน

ระดับ ตั้งแต่ คุณธรรม จริยธรรม การเรียนรู้โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม วิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่
การดำ� เนนิ ชวี ติ ในครอบครวั ชมุ ชน องคก์ ร จริยธรรม ภายใต้การส่งเสริมและสนับ- มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ 8) ศูนย์
และในสงั คมไทย โดยการใช้กระบวนการ สนุนของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นตน้ บากราษฎร์ 2. การเสริมสรา้ ง การพ่ึงตนเอง อรยิ สจั 4 ความสำ� เรจ็ และปญั หา
“ขับเคลื่อนคุณธรรม” เป็นหลักในการส่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสังเคราะห์รูป บ�ำรุง อ�ำเภอเมือง จังหวัดตรัง และ 9) คณุ ธรรม คา่ นยิ มพน้ื - ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ทกุ ข์ : คน้ หาทกุ ขข์ องตนเองให้ อปุ สรรคทเ่ี กดิ ขน้ึ
ฐานในการดำ� เนนิ ชีวติ สรา้ งสขุ ใหค้ รอบครัว
เสริมคุณธรรมความดีในสังคม เพ่ือให้ แบบการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของ ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนสวนสรา้ งสขุ บา้ นเกาะทงั ขยนั ซือ่ สัตย์ รับผิดชอบ พบ
ระดบั บุคคล สมุทยั : คน้ หาเหตแุ หง่ ทุกข์
ชบมุา้ นชน/ วัด เรโรยี งน มีวนิ ัย สามคั คี
นโิ รธ : หาทางดบั ทุกข์
บรรลุสู่เป้าหมายดังกล่าวจึงได้มีการ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ของต้นแบบ เทศบาลนาโหนด อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั พทั ลงุ มรรค : แนวทางการปฏบิ ัติ

เพอ่ื ดบั ทุกข์

กำ� หนดยทุ ธศาสตร์ 3 ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นำ� มาประยกุ ตใ์ ช้ วธิ กี ารสงั เคราะห์ ประมวลความรู้
ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาแหลง่ บรกิ ารความรู้ เป็นแนวทางในการเผยแพร่ขยายผลและ การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม และจรยิ ธรรมของ
กระตุ้นความคิดและการสร้างสรรค์ การพัฒนายกระดับศูนย์การเรียนรู้เชิง ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนต้นแบบด้าน
ทัศนคติการเรียนรู้ของประชาชน 2) คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นา คุณธรรมจริยธรรม ในครั้งน้ีใช้วิธีการ 3. การเสรมิ สรา้ ง ธรุ กจิ เพอื่ สงั คม การเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยผผู้ ลติ แนวทางการพฒั นา
ยทุ ธศาสตรก์ ารสรา้ งตน้ แบบ (Prototype) รูปแบบ กระบวนการถ่ายทอด และการ ศึกษาจากเอกสารข้อมูลการด�ำเนินงาน คณุ ธรรมระดบั กลุ่ม พฒั นาคน สรา้ งสำ� นกึ และผบู้ รโิ ภค ยกระดบั และการขยายผล
และพฒั นาภาคเี ครอื ขา่ ย (Network) เพอ่ื เรยี นรกู้ ารสรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรมไดอ้ ยา่ ง ของศนู ยก์ ารเรยี นรู้ แหลง่ เรยี นรู้ เสรมิ สรา้ ง สาธารณะ สรา้ งธรรมาภบิ าล
การขยายผล 3) ยุทธศาสตร์การบ่มเพาะ มปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ความยง่ั ยนื คุณธรรมและจริยธรรมภายใต้การ และชุมชน ในการบรกิ ารจดั การพฒั นา วจิ ยั เพอื่ พฒั นาทอ้ งถนิ่ 87
(Incubation) คนรนุ่ ใหมท่ จี่ ะเปน็ กำ� ลงั ใน ในการสงั เคราะห์ ประมวลความรู้ สนับสนุนของศูนย์คุณธรรม จ�ำนวน 9 (กลมุ่ ธรุ กิจชุมชน) ระบบบรหิ ารจดั การ พฒั นาระบบฐานขอ้ มลู การ
การสรา้ งเศรษฐกจิ ฐานความคดิ สรา้ งสรรค์ การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ของศนู ย์ แห่ง ซ่ึงมีประเด็นในการศึกษาเพื่อน�ำมา กลุ่ม หน่วยงาน ขบวนบญุ (เชอื่ มโยงเครอื ขา่ ย)
องค์กร ภาคี คนดแู ลธรรมชาติ ธรรมชาติ ประชาสมั พนั ธจ์ ดั ทำ�
ชมุ ชน พัฒนา ดแู ลคน ขยายเครอื ขา่ ยดว้ ย Website
ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนผา่ น
จดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
สอื่ อนไลน์ และสงิ่ แวดลอ้ ม

“ฟน้ื ฟู อนรุ กั ษ์ ธรรมชาตเิ พอื่
ธรรมชาตดิ แู ลคน”

ใหเ้ ตบิ โตตอ่ ไป การเรียนรู้โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม เป็นฐานในการสังเคราะห์ ประมวลภาพ
86

1. การเสริมสร้างคุณธรรม การพัฒนาศักยภาพเติมเต็มความรู้ใหม่ วิชาการให้ค�ำปรึกษา รวมทั้งการพัฒนา เตมิ เตม็ ความรู้ ประสบการณใ์ หมๆ่ ดว้ ย มีการสร้างเครือข่ายผู้ปกครอง จิตอาสา
จริยธรรมพ้ืนฐานให้แก่เด็กและ ประสบการณใ์ หมใ่ หก้ บั ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งในการ สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี นทเี่ ออื้ อำ� นวย การศกึ ษาดงู านตวั อยา่ งทดี่ ี เพอื่ ใหค้ รเู ปน็ เข้าร่วมการท�ำกิจกรรม เช่น การให้ผู้
เยาวชน ขบั เคลอ่ื นงาน การจดั โครงสรา้ งและการ ใหเ้ กดิ การพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ของ กลไกส�ำคัญ ท�ำหน้าท่ีเพาะบ่มต้นกล้า ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการก�ำหนด
1.1 ตัวชี้วัด คุณลักษณะของคุณธรรม เสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม แบง่ บทบาทหนา้ ท่ี การประสานการทำ� งาน นกั เรยี นและครู จากรายงานการสงั เคราะห์ เยาวชนคนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใหเ้ ตบิ โต ยุทธศาสตร์การด�ำเนินงาน การศึกษาดู
จรยิ ธรรมทพี่ งึ ประสงคข์ องเดก็ และเยาวชน จรยิ ธรรมดา้ นจติ ใจ ร่วมกันเพื่อให้กระบวนการเสริมสร้าง องค์ความรู้ กระบวนการสร้างโรงเรียน งอกงาม แขง็ แรงพรอ้ มกบั ภมู คิ มุ้ กนั งาน ผู้ปกครองมายืนรับนักเรียนเข้า
คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมแกเ่ ดก็ และเยาวชน ต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม นอกจากนี้ยังมีการจัดโครงสร้าง โรงเรยี นในตอนเชา้ มารบั ไหวเ้ ดก็ นกั เรยี น
จากการศึกษาทบทวนเอกสารการ และทศั นคติ มีการปลูกฝังท้ังในโรงเรียน ครอบครัว บางมูลนากโมเดล กล่าวว่า ก้าวแรกของ การท�ำงานร่วมกันตั้งแต่ระดับผู้บริหาร “ยิ้ม ไหว้ ทักทาย” เป็นการเรียนรู้เร่ือง
ถอดองคอ์ งคค์ วามรขู้ องตน้ แบบศนู ยเ์ รยี นรู้ และสภาพแวดลอ้ มภายในชมุ ชน โดยมนี กั ของการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวคือ โรงเรยี น ฝา่ ยกจิ การนกั เรยี น หวั หนา้ ระดบั มารยาทไทย การแสดงความอ่อนโยน
เชิงคุณธรรมโรงเรียนบ้านจับไม้ ศูนย์การ
เรยี นโรงเรยี นตน้ แบบดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม วิชาการ หน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐ การกระตุกต่อมคิด และกระตุ้นจิต ครูประจ�ำชั้น และครูทุกคนในโรงเรียน อ่อนน้อมถ่อมตน หลังจากน้ันเครือข่าย
(บางมูลนากโมเดล) ศูนย์เรียนรู้โรงเรียน และเอกชน เขา้ มาหนนุ เสรมิ ในดา้ นความรู้ วญิ ญาณของความเปน็ ครู “พฒั นาครู ครู คณะกรรมการนักเรียน คณะกรรมการ ผู้ปกครองจิตอาสา จะเดินตรวจความ
ต้นแบบแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียน งบประมาณ และการขยายผลองคค์ วามรู้ รว่ มคดิ รว่ มทำ� นอ้ มนำ� ความสำ� เรจ็ นเิ ทศก์ สถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครองจิตอาสา เรียบร้อยภายในโรงเรียน รวมทั้งการ
นฤมลทินธนบุรี ศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม ตัวอย่างเช่น ศูนย์เรียนรู้เชิง ตดิ ตามผล” เพอ่ื ใหเ้ กดิ ครตู น้ แบบ โดยการ เพ่ือเป็นกลไกในการเสริมสร้างคุณธรรม ประชมุ สรปุ บทเรยี นรว่ มกนั คณะกรรมการ
โรงเรียนบ้านหนองตาบ่ง ศูนย์เรียนรู้เชิง คณุ ธรรมโรงเรยี นบา้ นจบั ไม้ เสน้ ทางเขา้ สู่ สอ่ื สารกบั คณาจารยแ์ ละผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื จริยธรรม ในโรงเรียนโดยการมีส่วนร่วม การศึกษาและทีมงานครูในโรงเรียน เป็น
คุณธรรมวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศูนย์ เสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม ศูนย์คุณธรรมเริ่มต้นจากการท�ำความ ให้เกิดความเขา้ ใจทชี่ ดั เจนร่วมกนั ของทกุ ของทุกภาคส่วน และการสร้างเครือข่าย กำ� ลงั ในการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมในโรงเรยี น
เรยี นรเู้ ชงิ คณุ ธรรมโรงเรยี นตน้ บากราษฎร์ จรยิ ธรรม เข้าใจกับผู้ท่ีเก่ียวข้องในการด�ำเนินโครง ฝ่าย และพัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบ ความร่วมมือกับกรรมการสถานศึกษา ผู้ และในครอบครวั เพอื่ ใหเ้ กดิ ความตอ่ เนอ่ื ง
บ�ำรุงพบว่า การเสริมสร้างคุณธรรม ดา้ นพฤตกิ รรม การฯ ระหว่างโรงเรียนกับผู้ชุมชนคือการ คิดเพื่อแก้ไขปัญหา คิดสร้างสรรค์ การ ปกครอง ชุมชน ซึ่งในการเสริมสร้าง
จริยธรรมในโรงเรียนเป็นการพัฒนา ท�ำประชาคม เชิญชาวบ้านในชุมชนมา สอ่ื สารเชงิ ลกึ ในองคก์ ร รวมถงึ เปดิ โลกทศั น์ คุณธรรมจริยธรรมตามบางมูลนากโมเดล 1.3 กระบวนการเสริมสร้างคุณธรรม
คุณธรรม จริยธรรมพนื้ ฐานใหแ้ กเ่ ดก็ และ การแสดงออก ประชุมท�ำความเข้าใจโครงการ แผนงาน จรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชนในโรงเรยี น

เยาวชน กลมุ่ เปา้ หมายหลกั ในการเสรมิ สรา้ ง กิจกรรม และผลที่จะเกิดขึ้นจากการท�ำ 1. พัฒนาครู จากการศึกษาทบทวนเอกสารของ
คุณธรรมจริยธรรม คือกลุ่มเด็กและ โครงการ เพอ่ื ใหผ้ นู้ ำ� ชมุ ชนเหน็ ตวั อยา่ งรปู ประสบการณ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม
เยาวชนต้ังแต่ระดับอนุบาล ประถมศกึ ษา 1.2 กลไกการขบั เคลอื่ นคณุ ธรรม ธรรม จึงมีการเสริมสร้างประสบการณ์ ความรู้จดั ระบบการ พบวา่ กระบวนการทแี่ ตล่ ะโรงเรยี นด�ำเนนิ
มธั ยมศกึ ษา และระดบั ปวช. ปวส. โดยมี กลไกขับเคลื่อนเสริมคุณธรรม เกี่ยวกับการท�ำงานโดยการพาผู้น�ำชุมชน ทำ� งานแผนงาน งานเพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมให้
เป้าหมายของการเสริมคุณ ธรรมจริย จรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชนใหเ้ ปน็ ผทู้ มี่ ี จำ� นวน 130 คน เดนิ ทางไปศกึ ษาดงู านท่ี การตดิ ตาม กบั เดก็ และเยาวชนนน้ั มสี ง่ิ ส�ำคญั คอื การ

ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชนคอื “คนดี เกง่ คุณสมบัติ “คนดี เก่ง และมีความสุข” ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ศูนย์เรียนรู้เรไร 6. การสือ่ สาร 2. พัฒนานกั เรียน ใช้กิจกรรม โครงงานของนักเรียน เป็น
และมคี วามสขุ ” คณุ ลกั ษณะหรอื ตัวช้ีวัดที่ ประกอบดว้ ย อโศก จังหวัดเลย เพื่อให้ผู้น�ำชุมชนเกิด ประชาสมั พนั ธ์ และ โครงงาน เครื่องมือในการเสริมสร้างคุณธรรม
จะใหเ้ กดิ ขนึ้ ในแตล่ ะระดบั ไดแ้ ก่ • โรงเรยี น ไดแ้ ก่ ครู นกั เรยี น การเรียนรู้จากรูปธรรมความพอเพียง การจัดท�ำ Website จริยธรรมให้กับเด็กและเยาวชน อย่างไร
กจิ กรรมการจดั ค่าย

• การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม และจรยิ - • ครอบครัว ชุมชน ได้แก่ อันจะน�ำไปสู่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้กับ กระบวนการเสรมิ ก็ตามพบว่าในกระบวนการด�ำเนินงานดัง
ธรรมด้านจิตใจและทัศนคติของนักเรียน ผปู้ กครอง คณะกรรมการศกึ ษา หนว่ ยงาน ผู้น�ำชุมชนสู่เรื่องความพอเพียง ในการ สรา้ งคณุ ธรรมและ กล่าวมีส่วนต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องในการขับ
ตวั ชว้ี ดั คอื เกดิ จติ อาสาชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ เสยี - ทอ้ งถน่ิ ศกึ ษาดงู านในครงั้ นไี้ ดร้ บั การสนบั สนนุ งบ จรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ เคล่ือนคุณธรรมในโรงเรียน ดังน้ันในการ
สละเพอื่ สว่ นรวม ความสามคั คี ทำ� งานรว่ ม • หน่วยงานภาคีที่เก่ียวข้องใน ประมาณจากศนู ยค์ ณุ ธรรม โดยผนู้ ำ� ชมุ ชน ด�ำเนินงานดังกล่าวจึงมีกระบวนการท่ี
และเยาวชน

กนั เปน็ ทมี ใหอ้ ภยั ความอดทน ความกตญั ญู พน้ื ที่ เชน่ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ ารมหาชน) รว่ มกนั สมทบคา่ ใชจ้ า่ ยบางสว่ นเพอ่ื เปน็ คา่ 5. การเชอื่ มโยง 3. พัฒนาสภาพ ส�ำคัญคือ การพัฒนาครู การพัฒนา
• การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม และจรยิ - นักวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรา ใชจ้ า่ ยในการศกึ ษาดงู าน เครือขา่ ย แวดล้อมในโรงเรยี น นักเรียน การพัฒนาสภาพแวดล้อมใน

ธรรมดา้ นพฤตกิ รรมการแสดงออกของนกั เรยี น วิโรฒ ส�ำนักงานตรวจงานแผ่นดิน สพฐ. การขบั เคลอื่ นเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม โรงเรียนเพ่ือเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม
ตวั ชวี้ ดั คอื กรยิ ามารยาทเรยี บรอ้ ย พดู จา หนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน จริยธรรม ของโรงเรียนบางมูลนากภูมิ การบูรณาการกับการเรียนการสอน การ
สภุ าพเรยี บรอ้ ย การไหว้ ทกั ทายผใู้ หญ่ ความ พลังในการขับเคลื่อนดังกล่าวจะ วทิ ยา ใหค้ วามสำ� คญั ในเรอ่ื งของการสรา้ ง 4. การบูรณาการ เชื่อมโยงเครือข่าย และการสื่อสาร
มรี ะเบยี บวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ขยนั ประหยดั ตอ้ งมกี ระบวนการสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ การมีส่วนร่วมของผู้ท่ีเก่ียวข้องทุกระดับ กบั การเรียนการสอน ประชาสมั พนั ธ์ Website
ประหยดั อดออม ความสามคั คแี ละความรว่ ม กำ� หนดเปา้ หมายแผนงาน โครงการ ตวั ช้ี นับต้ังแต่ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และการจัดคุณภาพ

การศึกษา

มอื ลดการทะเลาะววิ าท การดแู ลรกั ษาความ วัดความส�ำเร็จ หรือคุณคุณธรรมที่พึง ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ศูนย์ ภาพแสดงกระบวนการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชน
สะอาด และรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ประสงค์ การตดิ ตามประเมนิ ผล รวมทงั้ มี คุณธรรม (องค์การมหาชน) และนัก
88 89

1.3.1 การพฒั นาครู : กลไกหลกั ในการ • การพัฒนาเติมเต็มความรู้ด้วย สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมพน้ื ฐานส�ำหรบั เดก็
ขบั เคลอื่ นคณุ ธรรมในโรงเรยี น การศกึ ษาดงู าน แลกเปลยี่ นประสบการณ์ และเยาวชนในโรงเรียน มี 2 ระดับคือ
การขับเคลื่อนคุณธรรมจริยธรรม กบั พนื้ ทตี่ น้ แบบ
1) การเสริมสร้างคุณธรรมจรยิ ธรรมดา้ น การจดั ทำ� โครงงาน
ให้กบั เด็กและเยาวชนในโรงเรียน มกี ลไก • การวางแผนปฏิบัติการและการ จติ ใจและทศั นคตขิ องนกั เรยี น ตัวช้ีวัดคือ คณุ ธรรม การจดั กจิ กรรม
หลักในการด�ำเนินงานคือครูในโรงเรียน กำ� หนดตวั ชว้ี ดั ความสำ� เรจ็ เกิดจิตอาสาช่วยเหลือผู้อ่ืน เสียสละเพ่ือ การเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยและ พฒั นา ผเู้ รยี นในชว่ั โมง
และทีมบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งจะต้องมี • ปฏิบัติกิจกรรมโดยการบูรณา สว่ นรวม ความสามคั คี ทำ� งานรว่ มกนั เปน็ การสอื่ สารประชาสมั พนั ธ์ การจดั กจิ กรรมพฒั นา
ความรู้ความเข้าใจในเป้าหมาย แผนงาน การกบั การเรยี นการสอนกบั หลกั สตู รตา่ งๆ ทีม ให้อภัย ความอดทน ความกตัญญู ผา่ นสอื่ ตา่ งๆ และ Website
โครงการ ตัวช้ีวัดความส�ำเร็จของการ • การตดิ ตามประเมนิ ผล ทบทวน ความพอเพยี ง ความภาคภมู ใิ จและเรยี นรู้ การกระตนุ้ สรา้ งแรงบนั ดาลใจ จติ อาสา การจดั คา่ ย
ดำ� เนนิ งานคอื ทมี งานมคี วามชดั เจน และ สรปุ บทเรยี น ภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) การเสริมสร้าง จดั การประกวดและการให้ พกฒัาจรรนคยิ าณุ ธนรกัธรรเรมรยี มน บำ� เพญ็ ประโยชน์
เป็นพลังส�ำคัญในการขับเคลื่อนคุณธรรม • การปรับแผนงาน กิจกรรม คุณธรรมจริยธรรมด้านพฤติกรรมการ รางวลั แกน่ กั เรยี นตน้ แบบดา้ น การบรู ณาการกบั
จากการประมวลภาพรวมการด�ำเนินงาน ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของพนื้ ท่ี แสดงออกของนักเรียน ตัวชี้วัดคือ กริยา
ของศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมพบว่า • การประสานเช่ือมโยงเครือข่าย มารยาทเรียบร้อย พูดจาสุภาพเรียบร้อย คณุ ธรรมจรยิ ธรรม งานวนิ ยั นกั เรยี นทง้ั ทางตรง
การด�ำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้เร่ิมต้น ระหวา่ งโรงเรยี น การไหว้ ทักทายผู้ใหญ่ ความมีระเบียบ และทางออ้ ม
จากการพัฒนาครูให้เป็นต้นแบบของการ • พัฒนาศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม วินัย ความรับผิดชอบ ขยัน ประหยัด
เสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม เปน็ ตน้ แบบทด่ี ใี หก้ บั เพอ่ื การขยายผล อดออม ความสามคั คแี ละความรว่ มมอื ลด
นกั เรยี น ดงั ตวั อยา่ งรปู ธรรมทชี่ ดั เจนจาก ในกระบวนการพัฒนาครู ได้รับ การทะเลาะวิวาท การดูแลรักษาความ
โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม การสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนา สะอาด และรักษาส่ิงแวดล้อมในโรงเรียน
บางมลู นากโมเดล มกี ระบวนการการกระ พลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) กระบวนการในการเสริมสร้างคุณธรรม
ตุกต่อมคิด และกระตุ้นจิตวิญญาณของ คอื การอบรมตามหลกั สตู รการเรยี นรจู้ าก จรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชนในโรงเรยี น
ความเปน็ ครู “พฒั นาครู ครรู ว่ มคดิ รว่ มทำ� ศนู ยค์ ณุ ธรรม ไดแ้ ก่ หลกั สตู ร Managing ดังที่กล่าวถึงข้างต้น ให้ความส�ำคัญของ
น้อมน�ำความส�ำเร็จ นิเทศก์ติดตามผล” SR School หลกั สตู รผนู้ ำ� เยาวชนจติ อาสา การสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกส่วนท่ี
เพื่อให้เกิดครูต้นแบบ โดยการส่ือสารกับ หลักสูตรส่งเสริมคุณธรรมความดี เกย่ี วขอ้ งทง้ั ครู ผปู้ กครอง คณะกรรมการ ภาพแสดงการเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมพฒั นานกั เรยี น
คณาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิด หลกั สตู รโครงงานคณุ ธรรม การพฒั นาการ การศึกษา ในบางโรงเรียนมีการแต่งตั้ง ตวั อยา่ งรปู ธรรมของการเสรมิ สรา้ ง คนเฒ่าคนแก่ในชุมชน โดยการเชิญครู พอเพียง โรงเรียนจึงมีการจัดทำ� โครงการ
ความเข้าใจท่ีชัดเจนร่วมกันของทุกฝ่าย คดิ เชงิ ระบบ การศกึ ษาดงู าน/แลกเปลยี่ น คณะกรรมการนักเรียน นักเรียนแกนน�ำ คุณธรรมจริยธรรมพัฒนานักเรียน ศูนย์ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ มาสอนในโรงเรยี นเพอ่ื ให้ เดินตามรอยเท้าพ่อกินอยู่อย่างพอเพียง
และพฒั นาทกั ษะการคดิ เชงิ ระบบ คดิ เพอื่ เรยี นรู้ การสมั มนาเพอ่ื ประเมนิ ตนเองและ เพื่อให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน เรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียนบ้านจับไม้ เดก็ ทำ� เปน็ สรา้ งรายได้ สรา้ งความอบอนุ่ เพื่อสร้างการเรียนรู้ การด�ำเนินชีวิตตาม
แกไ้ ขปญั หา คดิ สรา้ งสรรค์ การสอ่ื สารเชงิ สื่อสารเชิงลึกรวมท้ังสร้างพลังร่วม และ คณุ ธรรมในโรงเรยี นรว่ มกบั ครู ผปู้ กครอง ในชว่ งปแี รกเปน็ การสรา้ งคณุ ธรรม ซอ่ื สตั ย์ ในครอบครวั จากการทำ� งานรว่ มกนั แนวเศรษฐกิจพอเพียงให้กับแกนน�ำ
ลึกในองค์กร และเปิดโลกทัศน์ เติมเต็ม การพาผู้ที่เกี่ยวข้องในการด�ำเนินงานไป นอกจากน้ียังให้ความส�ำคัญกับ รับผิดชอบ มีวิถีการด�ำเนินชีวิตพอเพียง แหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียน นกั เรยี น ผปู้ กครอง และชมุ ชน และปลกู
ความรู้ ประสบการณใ์ หมๆ่ ดว้ ยการศกึ ษา ศกึ ษาดงู านทง้ั ในและตา่ งประเทศ รวมถงึ การใชก้ จิ กรรมทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรจู้ ากการ นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นจบั ไมเ้ รมิ่ ตน้ จากการ ต้นบากราษฎร์บ�ำรุง เร่ิมจากการสร้าง ฝังคุณธรรมด้านความขยัน ประหยัด
ดูงานตัวอย่างท่ีดี เพื่อให้ครูเป็นกลไก โรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม จริยธรรม ลงมือปฏิบัติจริง และใช้ “โครงงาน พ่ึงตนเองในการท�ำอาหารกลางวัน โดย คุณธรรมพื้นฐานในการใช้ชีวิตในด้าน มีวินัยในการด�ำเนินชีวิต การลดรายจ่าย
ส�ำคัญ ท�ำหน้าที่เพาะบ่มต้นกล้าเยาวชน หลักสูตรการส่ือสารเชิงลึกภายในองค์กร คุณธรรม” เป็นเครื่องมือหลักในการขับ การใหเ้ ดก็ นกั เรยี นชน้ั ประถมปที ี่ 5 และ 6 ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ โดยการพลกิ เชน่ การปลกู ผกั /เลยี้ งปลา เพอื่ การบรโิ ภค
คนคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใหเ้ ตบิ โตงอกงาม และการเสริมสร้างความเข้าใจแก่คณะครู เคลอื่ นคณุ ธรรม สนบั สนนุ ใหค้ รสู อดแทรก แบง่ บทบาทหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบชว่ ยกนั มุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาสร้างระเบียบ ปลกู ฝงั ความรเู้ รอื่ งเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดย
แขง็ แรงพรอ้ มกบั ภมู คิ มุ้ กนั โดยกระบวนการ และนักเรียนท้ังแบบกลุ่มย่อยและราย คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ปลกู พชื ผกั ปลอดสารพษิ เลยี้ งปลา เพอื่ นำ� วินัย ความรับผิดชอบให้กับเด็กนักเรียน การพาเด็กนักเรียนไปดูงานเศรษฐกิจพอ
ในการพัฒนาครูคือ การอบรม/ ประชุม บุคคล เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมข้องผู้ที่ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ การบูรณาการใน มาปรุงอาหารกลางวันท่ีสะอาดปลอยภัย จากเดิมที่มีกฎระเบียบบังคับให้ท�ำมาสู่ เพียง ณ บ้านหน�ำควาย ต�ำบลนาท่าม
สมั มนาและการศกึ ษาดงู าน กำ� หนดเปา้ หมาย เกยี่ วขอ้ งทกุ ระดบั ทงั้ ครู ผปู้ กครอง คณะ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นในชว่ั โมง เชน่ การ ใหน้ กั เรยี นในโรงเรยี นไดร้ บั ประทานอาหาร วินัยท่ีท�ำด้วยใจคือวินัยท่ีถาวร และย่ังยืน เหนอื จงั หวดั ตรงั และกลบั มาทำ� กจิ กรรม
ยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการกิจกรรม กรรมการการศกึ ษา จัดค่ายลูกเสือ การจัดตั้งชุมนุม ชมรม รับประทาน นอกจากปลูกผักในโรงเรียน ซงึ่ มกี จิ กรรมทส่ี ำ� คญั คอื การถอดและการ ลงมือปฏิบัติเอง เป็นการเรียนรู้จากการ
การก�ำหนดตัวช้ีวัดคุณธรรม จริยธรรมท่ี การจดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น การจดั คา่ ย แล้ว ยังสนับสนุนให้นักเรียนขยายผลสู่ วางรองเทา้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ การรบั ประทาน ปฏบิ ตั จิ รงิ อาทเิ ชน่ การปลกู ตน้ ไม้ ปลกู
เกิดขึ้น การนิเทศก์ ก�ำกับ ติดตามและ 1.3.2 พัฒนานักเรียน : เสริมสร้าง บ�ำเพ็ญประโยชน์ การจัดค่ายจิตอาสา ครอบครัวด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวรั้ว อาหารใหห้ มดจานไมเ่ หลอื ทงิ้ การเขา้ แถว ผักและท�ำปุ๋ย ให้ชุมชนมาเรียนรู้การท�ำ
เสรมิ แรงอยา่ งตอ่ เนอื่ ง นอกจากนยี้ งั มที มี คุณธรรมจริยธรรมพื้นฐานส�ำหรับเด็ก การบรู ณาการกบั งานบรกิ ารวชิ าการชมุ ชน กินได้ในบ้านของตนเอง นอกจากน้ียังมี และการจัดแถว การท�ำความสะอาด น�้ำยาล้างจาน น�้ำยาอเนกประสงค์ ปลูก
นักวิชาการร่วมวิจัยเชิงปฏิบัติการและให้ และเยาวชนในโรงเรยี น การบูรณาการกับงานวินัยนักเรียนท้ังทาง การพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ิน ท�ำให้เด็กได้ โรงเรยี นรว่ มกนั ของนกั เรยี น นอกจากนยี้ งั ต้นไม้เคล่ือนท่ี ผู้ปกครองมาเรียนรู้ท่ี
คำ� แนะนำ� ปรกึ ษา และตดิ ตามประเมนิ ผล เด็กและเยาวชนในโรงเรียนเป็น ตรงและทางออ้ ม การจดั การประกวดและ เรียนรู้และฝึกฝนอาชีพภูมิปัญญาท้องถ่ิน มกี ารเชอื่ มโยงการทำ� กจิ กรรมจากโรงเรยี น โรงเรยี นและนำ� ไปผลติ ใชท้ คี่ รวั เรอื นตนเอง
การด�ำเนินงาน และสรุปภาพรวมของ กลุ่มเป้าหมายหลักในการเสริมสร้าง การให้รางวัลแก่นักเรียนต้นแบบด้าน อาทิ เรอ่ื งจกั สานกระตบิ๊ ใสข่ า้ วเหนยี วจาก สู่ครอบครัว และชุมชน เพื่อให้เกิดการ
กระบวนการพฒั นาครู เพอ่ื เปน็ กลไกการขบั คณุ ธรรมจรยิ ธรรมพนื้ ฐานในการดำ� เนนิ ชวี ติ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ต้นคล้า การทอเสื่อ และการทอผ้า เรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักเรียนและผู้
เคลอ่ื นคณุ ธรรมจรยิ ธรรมในโรงเรยี น ดงั น้ี จากการศึกษาทบททวนเอกสารการถอด เป็นการเรียนรู้แบบครบวงจรการผลิตจาก ปกครอง ในการเรยี นรกู้ ารดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ ง
• การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ องค์ความรู้ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้
การดำ� เนนิ งานกบั ผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ ง เชิงคุณธรรมจริยธรรมพบว่า ในการเสริม 91
90

1.3.3 พฒั นาสภาพแวดลอ้ มในโรงเรยี น และการจดั กจิ กรรมจติ อาสา เพอ่ื เปน็ การ สอบถามพูดคุยกับผู้ป่วย ท�ำให้เกิดการ ดงั กรณตี วั อยา่ ง โรงเรยี นบางมลู นาก 1.3.4 การเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยการเรยี นรู้ คน้ หาครอบครวั ตน้ แบบ สรา้ งหลกั สตู รใน
และชุมชน เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม สรา้ งอตั ลกั ษณใ์ นตวั ผเู้ รยี นใหไ้ ดม้ จี ติ ออ่ น เรียนรู้เร่ืองการดูแลช่วยเหลือผู้อื่น และ ภมู วิ ทิ ยา จงั หวดั พจิ ติ ร การบรู ณาการงาน ขยายผล และเครอื ขา่ ยรว่ มกบั หนว่ ยงาน การเสริมสร้างเด็กดีมีวินัย สร้างความ
จรยิ ธรรม โยนพร้อมแบ่งปันน�้ำใจสู่บุคคลผู้ด้อย เรยี นรเู้ รอื่ งความกตญั ญกู ตเวที และการ โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมกับ ภาคี เข้าใจในเร่ืองการเสริมสร้างวินัยที่บ้าน
การเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม โอกาสกว่าในสังคม กิจกรรมจิตอาสาถือ สรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดงี ามกบั ผสู้ งู อายุ ภารกจิ หลกั และงานประจ�ำของอาจารยใ์ น รูปแบบการเช่ือมโยงเครือข่ายของ สร้างแหล่งเรียนรู้ให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้
ใหก้ บั เดก็ และเยาวชนในโรงเรยี น ปจั จยั ท่ี เป็นกิจกรรมหลักของโรงเรียนนฤมลทิน โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยา มี โรงเรียน โดยบูรณาการกับกระบวนการ ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมพบว่า มีการ เกิดการขยายผลองค์ความรู้การพัฒนา
สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การพฒั นาคณุ ธรรมตามเปา้ ธนบรุ ี มกี จิ กรรมทส่ี ำ� คญั อาทิ การบำ� เพญ็ กิจกรรมเพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อม เรียนการสอน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมตัวกันเป็นเครือข่าย 2 ลักษณะคือ คุณธรรมจริยธรรมด้านวินัย ความรับผิด
หมายคือ การพัฒนาสภาพแวดล้อมใน ประโยชน์ในและนอกโรงเรียน โดยให้ ภายในโรงเรียนสะอาด เป็นระเบียบ การปรับปรุงงานวินัยนักเรียนท้ังทางตรง 1) การเชื่อมโยงเครือข่ายภายในท้องถิ่น ชอบและความซอื่ สตั ยข์ องนกั เรยี น ใหก้ บั
โรงเรยี นและชมุ ชนใหส้ ะอาด เปน็ ระเบยี บ นกั เรยี นในระดบั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-6 ทม่ี ี เรียบร้อย และสวยงาม มีแหล่งเรียนรู้ท่ี และทางอ้อม งานประกันคุณภาพการ เช่น เครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชน และ โรงเรียนต่างๆ ที่รวมตัวกันเป็นเครือข่าย
เรยี บรอ้ ย การมกี ารกำ� หนดระเบยี บ กตกิ า จิตอาสาดูแลท�ำความสะอาดบริเวณท่ี หลากหลายและพอเพียง มีความร่วมมือ ศกึ ษา กจิ กรรมพเิ ศษของโรงเรยี น และการ โรงเรียนในท้องถ่ิน เพื่อร่วมกับขับเคล่ือน ท�ำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการ
การอยู่ร่วมกันในโรงเรียน เป็นกิจกรรม ตนเองรบั ผดิ ชอบ ตลอดปกี ารศกึ ษาทำ� ให้ กับชุมชนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาหลักสูตรโครงงานคุณธรรมคือ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมใหเ้ กดิ การขยายผลเตม็ ขยายผลไปยังโรงเรียนต่างๆ จึงเกิดการ
หนึ่งที่ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมใช้เป็น สถานท่ีในโรงเรียนสะอาดน่าอยู่ และมี และส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม โดยมี การส่งเสริมให้นักเรียนแต่ละระดับช้ันมี พ้ืนที่ 2) การเช่ือมโยงเครือข่ายกับหน่วย รวมตัวกันเป็นเครือข่าย เช่น โรงเรียนวัด
เครอื่ งมอื ในการเสรมิ สรา้ งจติ อาสา ความ ความสวยงาม นกั เรยี นในระดบั ชนั้ ประถม กจิ กรรมทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรคู้ อื หลงั จาก การจัดท�ำโครงงานคุณธรรม งานวินัย งานภาคีภายนอก เช่น นักวิชาการ ศูนย์ โพธ์ิทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช
รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี และการทำ� งานรว่ ม ศึกษาปีท่ี 2-3 ออกไปพัฒนาพื้นท่ีบริเวณ เขา้ แถวเคารพธงชาตนิ กั เรยี นจะมกี ารแบง่ นักเรียน และกิจกรรมจิตอาสา โดยใช้ คุณธรรม ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โรงเรียนกันตังรัษฎา โรงเรียนย่านตาขาว
กบั ผอู้ น่ื ตวั อยา่ งเชน่ ใหน้ กั เรยี นท�ำความ วัดบางเสาธง โดยจัดเก็บกวาดท�ำความ เวรกันท�ำความสะอาดบริเวณรอบๆ กระบวนการวิเคราะห์ตัวเอง อย่างเป็น บริษัทเอกชน เพื่อการพัฒนายกระดับ โรงเรยี นบา้ นหนองมวง โรงเรยี นบา้ นหนอง
สะอาดในโรงเรียน และสภาพแวดล้อม สะอาดบริเวณเขื่อนริมน้�ำหน้าวัด ส่วน โรงเรียน เก็บขยะ กระดาษ น�ำวัสดุมา วทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ การสบื คน้ ปญั หา สาเหตุ ศักยภาพศูนย์เรียนรู้เชิงคุณธรรม ทั้งด้าน เจด็ บาท โรงเรยี นบา้ นหนองยวน โรงเรยี น
บรเิ วณรอบๆ โรงเรยี น เชน่ หมบู่ ้าน วัด นักเรียนในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 4-6 รไี ซเคลิ และมาทำ� ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ชวี ภาพ และ และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ความรู้ ประสบการณ์ และงบประมาณ บ้านหนองเร้ีย โรงเรียนบ้านหนองหมอ
พนื้ ทสี่ าธารณะ นกั เรยี นจะทำ� ความสะอาด ได้ออกไปพัฒนาพ้ืนท่ีบริเวณลานวัด น�ำปุ๋ยไปใช้รดผกั ทป่ี ลกู ไวเ้ ปน็ อาหารกลาง ท้ังในรูปปัญหาท่ีอยากแก้ไข พัฒนา รูปธรรมตัวอย่างแหล่งเรียนรู้เชิง โรงเรยี นมติ รภาพที่ 31 “วดั ทงุ่ หวงั ” และ
เก็บขยะ คัดแยกขยะ และมีการจัดท�ำ บางเสาธง ท้ังนี้เพ่ือให้นักเรียนได้มีส่วน วันในโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีการจัด ปรับปรุง และความดีที่อยากทำ� โดยเปิด คุณธรรมโรงเรียนต้นบากราษฎร์บ�ำรุงมี อกี หลายๆ โรงเรยี น ในจงั หวดั ตรงั ทม่ี าเขา้
ธนาคารขยะ น�ำรายได้ที่เกิดจากการขาย รว่ มสรา้ งชมุ ชนนา่ อยู่ ระเบียบวินัยในช้ันเรียน เช่น การวาง โอกาสให้นักเรียนมีการจัดท�ำโครงงาน การพฒั นายกระดบั ใหเ้ ปน็ “ศนู ยก์ ารเรยี น ร่วมเป็นเครือข่ายท�ำงานคุณธรรมร่วมกัน
ขยะไปชว่ ยเหลอื ทำ� อาหารเลย้ี งผพู้ กิ ารและ ส่วนรูปธรรมการด�ำเนินงานของ กระเปา๋ รองเทา้ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย คุณธรรมในทุกระดับชั้นอย่างหลากหลาย รู้ต้นแบบด้านการเสริมสร้างเด็กดีมีวินัย ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงประสบการณ์และ
ผสู้ งู อายุ ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมโรงเรียนบ้าน ก่อนเข้าชั้นเรียน และการเดินแถวเพ่ือช้ัน และสรา้ งสรรค์ เรยี นรกู้ ารทำ� ความดอี ยา่ ง และซ่ือสัตย์” โดยการมีส่วนร่วมของบ้าน การขยายความรู้
นอกจากการดูแลรักษาความ หนองตาบง่ จงั หวดั กาญจนบรุ ี การสง่ ตอ่ เรยี น ทำ� ใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งการสรา้ ง มีความสุข โครงงานคุณธรรมของ วดั โรงเรยี น ซงึ่ มกี จิ กรรมทส่ี ำ� คญั คอื การ
สะอาดภายในและบริเวณรอบๆ โรงเรียน พลังจิตอาสาจากครูสู่ลูกศิษย์ได้เรียนรู้ทั้ง ความมรี ะเบยี บ วนิ ยั ในชวี ติ ประจำ� วนั บางมูลนากโมเดล มีจ�ำนวนมากถึง 108
ยังมีการสร้างบรรยากาศในการอยู่ร่วมกัน การจัดดอกไม้ การวาดภาพ การเรียนรู้ โครงงาน (เฉลี่ย 2 โครงงานห้อง)
ในโรงเรียนและชุมชนด้วยความเป็นมิตร ทักษะการอ่านเพื่อให้เกิดการขยายผล ระบบประกัน นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการกับการท�ำ เชอ่ื มโยงเครอื ข่าย
เคารพผสู้ งู อายุ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ดงั ตวั อยา่ ง พลงั จติ อาสาเพอ่ื สงั คม ทเ่ี นน้ กระบวนการ คุณภาพ กิจกรรมของชุมรมต่างๆ การจัดฐานการ ภายในท้องถิน่ ครูผู้ปกครอง
โรงเรียนต้นแบบแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม ปลกู ฝงั คณุ ธรรมจากการปฏบิ ตั ิ คณาจารย์ การศกึ ษา คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ชมุ ชน โรงเรยี น

โรงเรียนนฤมลทิน ธนบุรี มีการจัดท�ำ จึงมีการปรึกษาหารือกันว่าครูมีการท�ำ เรียนรู้ค่ายลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด
และผบู้ ำ� เพญ็ ประโยชน ก์ จิ กรรมปฐมนเิ ทศ
โครงการวิจัย เริ่มเสริมสร้างคุณลักษณะ กจิ กรรมจติ อาสา ดงั นน้ั นกั เรยี นควรจะคนื นักเรียนใหม่ การจัดการค่ายเรียนรู้
ของเยาวชนที่พึงประสงค์ของเยาวชนไทย เรื่องจิตอาสากลับไปยังชุมชน และคิดต่อ บูรณาการกับ คณุ ธรรม
ในชื่อโครงการ “เด็กดศี รี นฤ.ธ” ท่มี กี าร ไปว่าจะท�ำอย่างไร เมื่อร่วมกันคิดจึงได้ การเรยี น ตัวอย่างแหล่งเรียนรู้เชิงคุณธรรม
ท�ำกิจกรรมปิยวาจา เพื่อแก้ไขปัญหาเด็ก กิจกรรมง่ายๆ เพื่อร่วมกันท�ำเพื่อชุมชน การสอน วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม มกี ารรวมตวั กนั
ของนักศึกษากลุ่มอาชีวะจิตอาสาฯ
พดู ไมม่ หี างเสยี ง ตดิ การต์ นู ญปี่ นุ่ ตดิ หนงั คือ การเก็บขยะในชุมชนและตาม เครอื ข่ายขบั เคลอ่ื น
เกาหลี โดยมกี ล่มุ เปา้ หมายเป็นนกั เรียน ทางรถไฟ การบำ� เพญ็ ประโยชน์ วดั ตา่ งๆ หรือท่ีเรียกว่า “กลุ่ม D-Club” รวมพลัง คณุ ธรรมจรยิ ธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษา ปที ี่ 4-6 โดยมนี กั เรยี นชนั้ ในพน้ื ท่ี ไดแ้ ก่ วดั ทงุ่ ทอง วดั วงั ขนาย วดั กิจกรรมพัฒนา นกั ศกึ ษาจติ อาสาสรา้ งสรรค์ เปน็ กจิ กรรม
ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 เปน็ กลมุ่ เปา้ หมายหลกั ห้วยนาคราช และวัดมโนธรรมาราม (วัด ผู้เรยี นในชว่ั โมง เพอ่ื บรกิ ารโรงเรยี นและชมุ ชน ซงึ่ ทำ� ใหเ้ กดิ

คณาจารย์ในโรงเรียนจึงได้ร่วมกันคิด นางโน) สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ คอื ขยะในชมุ ชนลด การฝึกทักษะจากการลงมือปฏิบัติจริงให้
กิจกรรมให้นักเรียนต้ังเป็นชมรม เด็กจะ ลง ความสมั พนั ธข์ องโรงเรยี นกบั ชมุ ชนดี กับนักศึกษา โดยให้นักศึกษาออกให้
ตอ้ งรณรงคก์ นั เองโดยใหเ้ ดก็ เลอื กครเู ปน็ ท่ี ขน้ึ อกี ทง้ั ขยะทเ่ี กบ็ มากน็ ำ� มาขาย ตอ่ ยอด บรกิ ารชมุ ชนเพอ่ื เปน็ การบ�ำเพญ็ ประโยชน์
ปรึกษา กิจกรรมท่ีท�ำเด็กก็จะร่วมกันคิด ให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องการท�ำธุรกิจเพื่อ 8 กล่มุ สาระ นอกจากชุมชนจะได้รับประโยชน์จากการ เชอ่ื มโยงเครือข่ายกับ นักวชิ าการ
การเรียนรู้ บรกิ ารแลว้ นกั ศกึ ษาทเี่ ขา้ รว่ มชมรมยงั ได้ หน่วยงานภาคี ศนู ยค์ ณุ ธรรม
ภายนอก หนว่ ยงานภาครัฐ
เช่น การเขียนบัตรค�ำที่เป็นค�ำไพเราะ สงั คม นอกจากนยี้ งั มกี ารทำ� อาหารเลย้ี งผู้ ภาคเอกชน
น�ำมาเป็นท่ีค่ันหนังสือให้เด็กเดินแจกเด็ก สูงอายุ เด็กจะป้อนอาหารให้กับผู้ป่วยท่ี มปี ระสบการณท์ กั ษะ ความช�ำนาญ และ
ด้วยกัน หรือการท�ำละครเชิงคุณธรรมมา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ในการน�ำเอา กเภสาารรพิมเรแสยีสรนด้ากงงกาคราุณสรอบธนูรรณรมาจกราิยรธโครรรงมกกาับร ฝึกการท�ำงานร่วมกับโรงเรียนอ่ืนๆ เพ่ิม
นำ� เสนอในชว่ งพกั รบั ประทานอาหารกลางวนั อาหารไปเลย้ี งจะมใี บงานใหน้ กั เรยี นมกี าร เตมิ อกี ดว้ ย ภาพแสดงการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยเพอื่ ขบั เคลอื่ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
92 93

โรงเรยี นบางมลู นากภมู วิ ทิ ยา เกดิ คุณธรรมในปีต่างๆ นอกจากหน่วยงานที่ ประกอบที่หลากหลาย มีการแบ่งบทบาท ชุมชนให้ความร่วมมือ สนับสนุนการท�ำ ใกลช้ ดิ โรงเรยี นแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ ชวี ติ คอื ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง
การรวมตวั กนั ของผปู้ กครองนกั เรยี น เรยี ก ใกลช้ ดิ โรงเรยี นแลว้ ยงั ทำ� ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ หน้าท่ีในการบริหารจัดการและการท�ำ กิจกรรมภายในโรงเรียนและชุมชนทั้งทาง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ จาก วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม ต�ำบลยั้งเมิน
วา่ เครอื ขา่ ยผปู้ กครองจติ อาสา และพอ่ คา้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ จาก กิจกรรมชัดเจน และสร้างการมีส่วนร่วม ดา้ นแรงงาน วสั ดอุ ปุ กรณ์ และงบประมาณ โรงเรยี นตา่ งๆ และไดเ้ ผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
แม่ค้าในโรงเรียนได้เข้ามาร่วมผนึกก�ำลัง โรงเรยี นตา่ งๆ รวมถงึ ไดเ้ ผยแพรอ่ งคค์ วาม ของทกุ สว่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในการทำ� กจิ กรรม • การติดตามการด�ำเนินงาน ของโรงเรยี นสสู่ าธารณะ แบบของการสรา้ งความรว่ มมอื การอนรุ กั ษ์
เพอ่ื ขบั เคลอื่ นคณุ ธรรมจรยิ ธรรม นอกจาก รขู้ องโรงเรยี นสสู่ าธารณะ ผา่ นทางโทรทศั น์ โดยการสรา้ งความเขา้ ใจ พดู คยุ หาวธิ กี าร สม�่ำเสมอ โดยจัดประชุมสรุปงานร่วมกัน • มีการบูรณาการการดำ� เนินงาน ฟน้ื ฟู และพฒั นาวดั ตลอดจนวดั เขา้ ไปมี
น้ียังมีการเช่ือมโยงเป็นเครือข่ายการ และทาง Website แกไ้ ขปญั หา มขี อ้ ตกลง มกี ตกิ า เพื่อให้บุคลากรทุกท่านได้รับทราบความ ของโครงการกับภารกิจหลักของโรงเรียน บทบาทในการพัฒนาสังคม โดยการใช้
ทำ� งานรว่ มกบั นกั วชิ าการจากมหาวทิ ยาลยั ดังตัวอย่างเช่น ศูนย์คุณธรรม • มกี ระบวนการพฒั นาและเตรยี ม กา้ วหนา้ ของแตล่ ะกจิ กรรม มกี ารคดิ ระดม อาทิ บูรณาการกับกระบวนการเรียนการ หลักธรรมอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
ศรีนครินทรวิโรฒ ในการศึกษาวิจัยและ สนับสนุนให้โรงเรียนบางมูลนากภูมิ ความพรอ้ ม “ตดิ อาวธุ ทางปญั ญา” ใหก้ บั สมองรว่ มกนั ในการแกป้ ญั หาทพี่ บระหวา่ ง สอน 8 กลุ่มสาระ การทำ� กิจกรรมชมรม มรรค เป็นกระบวนการให้เกิดการเรียนรู้
พัฒนาการท�ำกิจกรรมของโรงเรียน วิทยาคม มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง โดยมีหน่วยงาน ทางในการทำ� กจิ กรรม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน งานวินัยนักเรียน คน้ หาตวั ตนของตนเอง เพอื่ หาทางดบั ทกุ ข์
การเช่ือมโยงกับศูนย์คุณธรรม (องค์การ กระบวนการสร้างโรงเรียนต้นแบบด้าน ภายนอก เช่น ศูนย์คุณธรรม (องค์การ • มกี ารสรา้ งพลงั ความรว่ มมอื และ กิจกรรมเพ่ือสาธารณประโยชน์ โครงงาน ที่สร้างสุขอย่างยั่งยืน โดยใช้องค์ความรู้
มหาชน) ท�ำให้มีโอกาสในการพัฒนา คุณธรรมจริยธรรม(บางมูลนากโมเดล) มหาชน) และมีนักวิชาการให้ค�ำแนะน�ำ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งครู คณุ ธรรม และงานประกนั คณุ ภาพ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ
ศักยภาพของครูท่ีเป็นแกนน�ำ ทั้งการ สสู่ าธารณะ อาทิ โดยเผยแพรท่ างโทรทศั น์ ปรกึ ษา รว่ มทำ� กจิ กรรมและนเิ ทศกต์ ดิ ตาม นักเรียน ผู้ปกครอง และส�ำนักงานการ • มีผู้น�ำและครูท่ีดีทั้งในด้านการ การพง่ึ ตนเอง การลดคา่ ใชจ้ า่ ย สรา้ งราย
ศกึ ษาดงู าน การอบรม นอกจากนกี้ ารเขา้ นอกจากนย้ี งั มกี ารเขา้ รว่ มสมชั ชาคณุ ธรรม อยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยมกี ารหนนุ เสรมิ ทง้ั ความ ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ศนู ยค์ ณุ ธรรม (องคก์ าร ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง ความมุ่งมั่น ได้ โดยการรวมกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์
รว่ มกบั สมชั ชาคณุ ธรรม ทำ� ใหเ้ กดิ การแลก แห่งชาติ ครั้งท่ี 5 โดยมีการน�ำเสนอ รู้ เปดิ โลกทศั น์ ประสบการณใ์ หมๆ่ ใหก้ บั มหาชน) และนกั วชิ าการจากมหาวทิ ยาลยั และตง้ั ใจจรงิ ความสามคั คเี ปน็ นำ้� หนงึ่ ใจ และช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างคนกับ
เปล่ียนเรียนรู้การท�ำงานกับโรงเรียนและ กระบวนการสร้างโรงเรียนต้นแบบด้าน ครแู ละนกั เรยี น รว่ มทง้ั การหนนุ เสรมิ และ ศรีนครินทรวิโรฒ โดยการมีส่วนร่วมใน เดียวกัน ความเสียสละและการมีจิต ธรรมชาติ เมอื่ คนดแู ลธรรมชาติ ธรรมชาติ
หนว่ ยงานตา่ งๆ รวมทงั้ ไดร้ บั การสนบั สนนุ คุณธรรม จริยธรรมบางมูลนากโมเดล การพฒั นาความรู้ การเสรมิ สรา้ งประสบ- ลกั ษณะการรบั ฟงั ความเหน็ จากลา่ งขน้ึ บน วิญญาณความเป็นครูโดยแท้ การพัฒนา จะดแู ลคนในชมุ ชน ใชก้ ลไก “บวร” บา้ น
งบประมาณเพอ่ื ดำ� เนนิ กจิ กรรมเสรมิ สรา้ ง รวมทั้งมีการผลิตส่ือวีดีทัศน์ดอกไม้บาน การณแ์ ละแรงจงู ใจ ใหก้ บั กลไกการทำ� งาน (Bottom-up) จากผปู้ ฏบิ ตั สิ ผู่ บู้ รหิ าร และ ปรบั ปรงุ ตนเองและวธิ กี ารทำ� งานใหม้ ปี ระ- วดั โรงเรยี น และชมุ ชนเปน็ หลกั ในการขบั
คณุ ธรรมจรยิ ธรรมในโรงเรยี น สอ่ื สารความดี รวมทง้ั เอกสาร การจดั เวที ทง้ั ในโรงเรยี นและชมุ ชน เชน่ การศกึ ษาดู เดก็ รว่ มคดิ รว่ มทำ� รว่ มนำ� เสนอ และรว่ ม สทิ ธภิ าพ การเปดิ ใจยอมรบั การเปลยี่ นแปลง เคล่ือน จนกระทั่งท�ำให้เกิดการเช่ือมโยง
ใหม้ กี ารแลกเปลย่ี นประสบการณ์ และการ งานแลกเปลย่ี นประสบการณพ์ นื้ ทตี่ น้ แบบ รบั ความสำ� เรจ็ ดว้ ย ความภาคภมู ใิ จ โดยมี • มีระบบการนิเทศก์ก�ำกับ และ กนั เปน็ เครอื ขา่ ย “ขบวนบญุ ” และพฒั นา
1.3.5 การสอ่ื สาร ประชาสมั พนั ธ์ และการ เชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างโรงเรียนท�ำให้ การอบรมเพิ่มทักษะในการท�ำงาน การ ครูเป็นผู้เสริมหนุน อ�ำนวยความสะดวก ติดตามงานอย่างสม่�ำเสมอ การติดตาม ยกระดับสู่ “ธุรกิจเพื่อสังคม” ท�ำให้เกิด
จดั ทำ� Website เกิดการเรียนรู้และการขยายผลสู่โรงเรียน ติดตามประเมินผล การพัฒนายกระดับ และเชื่อมประสาน รวมทั้งการได้รับการ การดำ� เนนิ งาน โดยการจดั ประชมุ สรปุ งาน พลังคุณธรรม ความรัก ความสุข ความ
ศูนย์การเรียนรู้เชิงคุณธรรมเป็น ใกลเ้ คยี ง เปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ สนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ท้ังภายใน รว่ มกนั เพอ่ื ให้บคุ ลากรทุกท่านไดร้ บั ทราบ สามคั คี สรา้ งสำ� นกึ สาธารณะ รว่ มกนั ของ
พน้ื ทต่ี น้ แบบทม่ี รี ปู ธรรมของการเสรมิ สรา้ ง • การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และนอกชมุ ชน เชน่ นายกองคก์ ารบรหิ าร ความกา้ วหนา้ ของแตล่ ะกจิ กรรม มกี ารคดิ คนในชุมชนท้องถิ่นในการดูแลรักษา
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั เดก็ และเยาวชน 1.4 ปจั จยั ของความสำ� เรจ็ มีกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจ ส่วนต�ำบลนาพละ ผู้ใหญ่บ้าน คณะ ระดมสมองร่วมกันในการแก้ปัญหาที่พบ ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้�ำ ป่า ซึ่งจาก
ในโรงเรียนต่างๆ มีการดำ� เนินกิจกรรมท่ี การด�ำเนินงานเพ่ือขับเคลื่อน ให้กับผู้ปกครองเข้ามาร่วมท�ำกิจกรรม กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง ระหวา่ งทางในการทำ� กจิ กรรม หลักดงั กล่าวนำ� ไปสูก่ ารสรา้ งรูปธรรมของ
เป็นรูปธรรม มีแนวทางการขยายผลการ คุณธรรม เสริมสร้างให้เกิดคุณธรรม ทงั้ ในโรงเรยี น และในครอบครวั ของตนเอง ส�ำนักงานพลังงานจังหวัด ส�ำนักงาน การเสรมิ สรา้ งคา่ นยิ มพนื้ ฐานในการดำ� เนนิ
ทำ� งานผา่ นการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยการเรยี น จริยธรรมพื้นฐานในการด�ำเนินชีวิตและ มกี ารชแี้ จงบทบาทของผปู้ กครอง บทบาท พฒั นาที่ดิน บริษัทเซฟรอน 2. การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ชวี ติ คอื
รู้ และการสอื่ สารประชาสมั พนั ธ์ เผยแพร่ การเตรยี มความพรอ้ มของเดก็ และเยาวชน ของโรงเรยี น บทบาทของเดก็ ทม่ี ตี อ่ การท�ำ • การเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยการเรยี นรู้ คา่ นยิ มพนื้ ฐานในการดำ� เนนิ ชวี ติ • ครอบครัวพอเพียงพึ่งตนเอง
ความรู้ผ่านช่องทางท่ีหลากหลาย อาทิ ให้เป็นคนเก่ง ดี มีความสุข มีปัจจัยที่ กจิ กรรมตา่ งๆ ในการรว่ มสรา้ งการเปลย่ี น- และการเข้าร่วมกิจกรรมกับศูนย์คุณธรรม รูปธรรมของศูนย์การเรียนรู้เชิง คนในชุมชนจะต้องมีคุณลักษณะคือ พึ่ง
การเข้าร่วมกิจกรรมกับศูนย์คุณธรรมการ เกยี่ วขอ้ ง ดงั ตอ่ ไปนี้ แปลงพฤตกิ รรมของเดก็ การจัดกิจกรรมคาราวานและเปิดบ้าน คณุ ธรรมทมี่ กี ารเสรมิ สรา้ งใหเ้ กดิ คณุ ธรรม ตนเอง ประหยัด อดออม ลดพฤติกรรม
จัดกิจกรรมคาราวานและเปิดบ้าน • มีกลไกการท�ำงานท่ีมีองค์- • การมีส่วนร่วมของชุมชน ผู้น�ำ คุณธรรมในปีต่างๆ นอกจากหน่วยงานที่ จริยธรรม ค่านิยมพื้นฐานในการด�ำเนิน ฟมุ่ เฟอื ย ลดปญั หาหนสี้ นิ
94 95

• ชุมชนพอเพียง ลักษณะของ ใกล้ป่าไม้แหล่งทรัพยากรส�ำคัญของชีวิต กระบวนการการเตมิ เตม็ ใหค้ วามรู้ ศกึ ษาดู
ชุมชนพอเพียงคือ เกิดการรวมกลุ่มเพื่อ เท่าที่ควร ซ่ึงคนต้นน้�ำ เป็นคนที่สร้าง งานแลกเปล่ียนประสบการณ์ และการ
ช่วยเหลือซึ่งกันและร่วมกันดูแลรักษา เศรษฐกจิ คนปลายนำ�้ เปน็ คนสนบั สนนุ คน เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจากฐานการ ลงพน้ื ทพ่ี บปะกบั
ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น�้ำ ป่า ซึ่งเป็น ตน้ นำ้� เรยี นรสู้ รา้ งพนื้ ทส่ี าธติ โดยฐานการเรยี นรู้ กลุม่ ต่างๆ
ในแต่ละตำ� บล

ฐานที่ส�ำคัญในการด�ำเนินชีวิต เรียกว่า การเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คือ วัดพระธาตุดอยผาส้ม และการรวม การจัดท�ำฐานขอ้ มูล ประสานงานกบั ผ้นู �ำ
ขบวนบญุ ครอบครัวพอเพียงและชุมชนพอเพียง กลมุ่ จดั ตงั้ องคก์ รชมุ ชน เพอ่ื ท�ำกจิ กรรม เพอื่ การเผยแพร่ ชวนเข้ารว่ ม
การพงึ่ ตนเอง : การทำ� กจิ กรรมหลกั รว่ มกนั ใหค้ วามสำ� คญั ของการปรบั เปลย่ี นทศั นคติ สาธารณะร่วมกัน สร้างขวัญและกำ� ลังใจ โครงการ
WebSite

ของเครอื ขา่ ยพหชุ มุ ชนคอื การพฒั นาองค์ การด�ำเนินชีวิต วิเคราะห์ทบทวนตนเอง ใหก้ บั ตนเอง และครอบครวั
ความรใู้ หก้ บั ชมุ ชนเรอ่ื งการพงึ่ ตนเองเรอื่ ง เพ่ือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยใช้
การท�ำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ การปลูกพืชผัก
พื้นบ้านไว้กินเอง และการผลิตน�้ำยา
อเนกประสงค์ สบู่ แชมพู การถ่ายทอด การจัดระบบ ให้ค�ำปรึกษา
ความรู้ด้านสุขภาพโดยแพทย์ทางเลือก บา้ น โครงสร้างและ และใหก้ ำ� ลังใจ
รวมทั้งท�ำการเก็บข้อมูลการอุปโภค การบรหิ าร
จัดการศนู ย์

บรโิ ภคภายในพน้ื ท่ี เชน่ การใชน้ ้�ำยาลา้ ง
จาน นำ�้ ยาซกั ผา้ ปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ เปน็ ตน้
เพอ่ื นำ� ขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าวางแผนการผลติ ใชเ้ อง วดั โรงเรียน อบรมใหค้ วามรู้ ศกึ ษาดงู าน
เพ่ิมเตมิ และแลกเปลี่ยน
ในชมุ ชน ประสบการณ์

เศรษฐกจิ ชมุ ชน : ในรูปแบบของ “ขบวน
บญุ ” การผลติ ของใชท้ จ่ี ำ� เปน็ ในครอบครวั
สว่ นทเ่ี หลอื ขายในราคาไมแ่ พงใหก้ บั คนใน ภกลามพุ่ แแลสะดชงมุ ตชัวนอขยอ่างศงขนู อยงเ์ รกยี รนะบรเู้วศนรกษาฐรกเจิสชรมุ ิมชสนรเช้างงิ คคณุุณธธรรรรมมจจงั รหิยวธดั รเชรยีมงรใหะดมับ่
ชุมชน เพ่ือลดรายจ่ายให้กับคนในชุมชน อนรุ กั ษ์ป่าต้นนำ�้ การพงึ่ พาตนเอง การอนรุ ักษ์พลังงาน การจดั การศกึ ษา
โดยใช้โมเดลธุรกิจแบบ “ขบวนบุญสร้าง อนุรกั ษ์เหมืองฝาย ผลติ ป๋ยุ อินทรีย์ และพลังงานทดแทน รปู แบบใหม่ 3. การเสริมสร้างคุณธรรม ดำ� เนนิ งานพฒั นาคณุ ภาพผลติ ภณั ฑ์ การ ต้องการให้เกิดความสามัคคี ร่วมแรง

รายไดใ้ หค้ รอบครวั ทเ่ี หลอื เผอ่ื แผก่ ลบั คนื สู่ จริยธรรมระดับกลุ่มและชุมชน พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การ และการใช้ ร่วมใจ เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ธรรมชาติ” กล่าวคือ ขายสินค้าชุมชนใน (ธรุ กจิ ชมุ ชน) เทคโนโลยเี พอื่ เชอ่ื มโยงกบั ระบบการตลาด เกิดการรวมกลุ่ม ร่วมมือ สร้างพลังใน
ราคาต้นทุน ให้คนในเครือข่ายใช้สินค้า ครอบครัวพอเพยี ง ชมุ ชนพอเพียง รูปธรรมของการเสริมสร้างคุณ- Website และการจัดท�ำฐานข้อมูล ซึ่งมี ชุมชน ขยายกิจกรรมเพื่อดูแลสาธารณ
พึ่งตนเอง

คุณภาพดี ราคาประหยัดให้กับคนใน ธรรมจริยธรรมระดับกลุ่มและชุมชนคือ เปา้ หมายเพอื่ ใหเ้ กดิ “เศรษฐกจิ ชมุ ชนเชงิ ประโยชนเ์ พอ่ื สว่ นรวม โดยมกี ระบวนการ
ชมุ ชน ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจชุมชนเชิงคุณธรรม คุณธรรม” มีหลักธรรมาภิบาลในการ ในการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของ
ขบวนบญุ ดแู ลคนและดแู ลธรรมชาติ : มี ขบวนบญุ จังหวัดเชียงใหม่ โดยกิจวิจัยเพื่อพัฒนา บริหารจัดการ ความขยัน ซื่อสัตย์ กลมุ่ ดงั นี้
การจดั สรรเงนิ กำ� ไรจากการจำ� หนา่ ยสนิ คา้ (ต้นน�ำ้ ) ทอ้ งถน่ิ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชยี งใหม่ และ ประหยัด มีวินัยระหว่างสมาชิกในชุมชน • พัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็ง

นำ� ไปสบทบกองทนุ เพอื่ อนรุ กั ษท์ รพั ยากร- เศรษฐกจิ ชมุ ชน ในรปู แบบของ “ขบวนบญุ ” ความสภุ าพ สามคั คี และมวี นิ ยั ตอ่ สว่ นรวม ใหก้ ลมุ่ องคก์ รชมุ ชน
ธรรมชาติ เพ่อื ใชใ้ นภารกิจปลูกปา่ สรา้ ง ของศูนย์การเรียนรู้วัดพระธาตุดอยผาส้ม กอ่ เกดิ Model ธรุ กจิ ชมุ ชน หรอื เศรษฐกจิ • ด�ำเนินกิจกรรมสาธารณะ
ฝายชะลอนำ�้ ทำ� แนวกนั ไฟปา่ แตป่ ญั หาท่ี จังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงศูนย์การเรียนรู้เชิง ชมุ ชนทมี่ คี ณุ ภาพและมคี ณุ ธรรม มรี ะบบ ประโยชนร์ ว่ มกนั เพอ่ื สรา้ งความสามคั คี
พบ คอื สมาชกิ คนในเครอื ขา่ ยยงั นยิ มซอ้ื คณุ ธรรมทง้ั สองแหง่ สะทอ้ นใหเ้ หน็ บทบาท การบรหิ ารจดั การทม่ี ธี รรมาภบิ าล โปรง่ ใส • พัฒนารูปแบบและคุณภาพของ
สินค้ามีย่ีห้อท่ีคุ้นเคย และเป็นสินค้า ของนักวิชาการและวัด ในการเข้าไปมี และมีการด�ำเนินงานสอดคล้องกับบริบท ผลติ ภณั ฑส์ นิ คา้ ชมุ ชน
อตุ สาหกรรมทผี่ ลติ จ�ำนวนมากไดร้ าคาถกู คนปลายน้�ำ บทบาทในการเสริมจุดอ่อน ของกลุ่ม ของชมุ ชน ทรพั ยากร ความรู้ ของชมุ ชน • พัฒนาระบบการจัดการให้น่า

โมเดลการใช้สินค้าเป็นสื่อให้คนเกิด องค์กรเศรษฐกิจชุมชน รวมท้ังพัฒนา ท้องถิ่น มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค เชอื่ ถอื และโปรง่ ใส
ตระหนักถึงความส�ำคัญของธรรมชาติ ความเข้มแข็งและการวางรากฐานการท�ำ ผลติ สนิ ค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด เปน็ • จดั เกบ็ ขอ้ มลู จดั ทำ� ฐานขอ้ มลู
อย่าง “ขบวนบุญ” กลับไม่ได้รับความ กิจกรรมของกลุ่มอาชีพ กลุ่มองค์กรการ ธรรมไมเ่ อาเปรียบ Model ขบวนบญุ ของ • พฒั นา Website เพือ่ สรา้ งการ
สนใจสำ� หรบั คนในพน้ื ท่ี คนตน้ น้�ำ คนอยู่ แรผะดนบั ภชามุพชแนสดงความสมั พนั ธข์ องบา้ น วดั โรงเรยี น ในการทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั เงิน และกลุ่มด้านต่างๆ ท้ังทางด้านการ ศูนย์การเรียนรู้วัดพระธาตุดอยผาส้ม ยัง เรยี นรใู้ นระดบั เครอื ขา่ ย
96 97

คณะกรรมการบรหิ ารศนู ยค์ ณุ ธรรม ประธานกรรมการ
ศาสตราจารยก์ ติ ตคิ ณุ ดร.เทยี นฉาย กรี ะนนั ท ์ กรรมการ
ปลดั กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย ์ กรรมการ
ปลดั กระทรวงวฒั นธรรม กรรมการ
เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กรรมการ
พลโทนวิ ฒั ิ บรู ณะกลุ กรรมการ
ศาสตรจารย์ ดร.ชาตชิ าย ณ เชยี งใหม ่ กรรมการ
นางสาวนราทพิ ย์ พมุ่ ทรพั ย ์ กรรมการ
นายสนิ สอื่ สวน กรรมการ
ดร.วชั รมงคล เบญจธนะฉตั ร ์ กรรมการ
นางฑฆิ มั พร กองสอน กรรมการ
ผอู้ ำ� นวยการศนู ยค์ ณุ ธรรม ผอู้ ำ� นวยการศนู ยค์ ณุ ธรรม
ทป่ี รกึ ษา รองผอู้ ำ� นวยการศนู ยค์ ณุ ธรรม
ดร.ฉวรี ตั น์ เกษตรสนุ ทร ผจู้ ดั การฝา่ ยยทุ ธศาสตร์
นายสทุ ธพิ งษ์ ชาญชญานนท ์ หวั หนาั กลมุ่ งานพฒั นาเครอื ขา่ ย
คณะทำ� งาน หวั หนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารทวั่ ไป
ดร.วรวฒุ ิ แสงเฟอื ง นกั วชิ าการ
นางสาวสขุ มุ าล มลวิ ลั ย ์ นกั วชิ าการ
นางสาวศรวี ไิ ล นวลขาว บรหิ ารทวั่ ไป
นางสาวพลั ลภา ฉตั รทอง
นางสาวเนตรรภา ปานมน
นางสาวสารณิ ี ถกู จติ ร


Click to View FlipBook Version