ลษา คงกระเรียน
ผลงานออกแบบหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในวิชา2122424 โครงการพิเศษออกแบบ กราฟิกและอินโฟร์สาขาออกแบบกราฟิกและอินโฟร์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัย ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สาขาวิชาออกแบบกราฟิกและอินโฟกราฟิก โดยมีเนื้อหาคือข้อเท็จจริงเรื่อง ความเชื่อเกี่ยวกับการบริโภคแบบผิดๆ ที่สามารถท�ำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจ ในเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับ การบริโภคได้ดีมากขึ้น และช่วยเสริมสร้างความรู้ที่อาจจะเคยเข้าใจผิดในเรื่องของการบริโภคอาหาร หนังสือเล่มนี้สําเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาจากอาจารย์พชรมน เกิดสุวรรณ อาจาร์ยที่ปรึกษา โครงการพิเศษออกแบบกราฟิกและอินโฟร์ที่ได้ให้คําแนะน�ำ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องมาโดย ตลอดจนเสร็จสมบรูณ์ผู้ศึกษาจึงขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอกราบขอบพระคุณเพื่อนๆ ทุกคน ที่ให้คําปรึกษา รวมทั้งคุณพ่อ และคุณแม่เป็นกําลังใจที่ดีเสมอมา ลษา คงกระเรียน กันยายน 2566 เรียบเรียบและภาพประกอบโดย ลษา คงกระเรียน รหัสนักศึกษา 6321355012 สาขาวิชาออกแบบกราฟิกและอินโฟร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
คำ�นำ� ในทุกๆ วันคนเรานั้นต้องบริโภคอาหารเพื่อเสริมโภชนาการให้แก่ร่างกาย หรือการบริโภคอาจจะ เพื่อเพลิดเพลินไปกับรสชาติการบริโภคอาหารจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอกันในชีวิตประจ�ำวัน หลายคน อาจจะเคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ ของอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ทั้งจากการได้ยิน ได้รับรู้รับฟังมาหรือการรับชมจากสื่อต่างๆ ประโยคที่มักจะเจอเลยก็คือ “เขาว่ากันว่า” จนสุดท้ายก็ท�ำตามต่อกันมา ซึ่งความเชื่อบางอย่างที่บอกว่าถูกก็มีสิทธิ์ผิดได้ ยังคงมีผู้คนมากมายที่ยังคงมีความเชื่อ หรือความเข้าใจต่างๆ ในเรื่องของการรับสารหรือสื่อ ในเรื่องของการบริโภคอาหาร ซึ่งอาจจะเป็นสารหรือข้อมูลที่ได้รับมาซึ่งส่งต่อมากันแบบผิดๆ ท�ำให้เกิด ความเข้าใจผิดในการเลือกบริโภคอาหาร หนังสือเล่มนี้จึงอยากจะน�ำเสนอข้อเท็จจริง ในเรื่องที่ควรที่จะ ทราบถึงข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับอาหาร ที่บางครั้งอาจจะหักล้างกับสิ่งที่เคยได้ยินหรือได้ฟังมา
สารบัญ บทที่ 1 : 06 ความสำ�คัญของอาหาร และที่มาของความเชื่อการบริโภคอาหารแบบผิดๆ บทที่ 2 : 14 ความเชื่อเรื่องการบริโภคแบบผิดๆ ที่ถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนาน น�้ำอุ่นดีกว่าน�้ำเย็น น�้ำเย็นดีกว่าน�้ำอุ่น กินช็อกโกแลต ท�ำให้เป็นสิว กินผงชูรสมาก ท�ำให้ผมร่วง อาหารกระป๋องอันตราย กินอาหารอุ่นไมโครเวฟบ่อยๆ เสี่ยงอันตราย อาหารสดดีกว่าอาหารแช่แข็ง
บทที่ 3 : 42 ความเชื่อเรื่องการบริโภคแบบผิดๆ เกี่ยวกับการลดน�้ำหนัก งดคาร์โบไฮเดรต แล้วจะผอม ไม่ควรกินไขมัน ในช่วงลดน�้ำหนัก กินมื้อดึกท�ำให้อ้วน บทที่ 4 : 58 ความเชื่อเรื่องการบริโภคแบบผิดๆ ของผู้ป่วย ฟ้าทะลายโจร ป้องกันโควิด-19 ป่วยมะเร็ง ห้ามกินเนื้อสัตว์ เป็นเบาหวานห้ามกินอาหารที่มีรสหวานเด็ดขาด
ความสำคัญของอาหาร และ ที่มาของความเชื่อการบริโภคอาหารแบบผิดๆ 1
8
“อาหารสำคัญอย่างไร?” การบริโภคจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอกันในชีวิตประจ�ำวัน ไม่ว่าจะเป็น มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น อาหารจึงเป็นส่วนส�ำคัญในชีวิต ทุกๆ วันคนเรานั้นต้องบริโภคอาหาร เพื่อเสริมโภชนาการให้ร่างกาย ให้ได้รับพลังงาน สารอาหารมีพลังงาน ช่วยให้มนุษย์ใช้ในการ ท�ำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจ�ำวัน สารอาหารมีความส�ำคัญในการปกป้องร่างกาย จากโรคและความผิดปกติต่างๆ ช่วยสร้าง ความสมดุลให้แก่ร่างกาย 9
“เขาว่ากันว่า” หรือ “บ้างก็ว่ากินแบบนั้นดี กินแบบนี้ไม่ดี” ซึ่งประโยคที่มักจะเจอก็คือ... 10
หลายคนอาจเคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องบางอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ ของอาหาร ผ่านการล้อมวงทานอาหาร หรือจากการฟังจากที่อื่น แล้วมาเล่าสู่กันฟัง ความเชื่อเกี่ยวกับอาหารเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ทั้งจากการได้รับรู้รับฟังสิ่งที่เล่าต่อกันมา หรือในยุคปัจจุบันโลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ผู้คนที่รับอิทธิจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ อาจจะอ่านข่าวหรือพบเจอ ความเชื่อเกี่ยวกับการบริโภคอาหาร ผ่านโลกออนไลน์ 11
อาจพบว่ามีการโต้เถียง โดยไม่ทราบถึงข้อมูล ที่เป็นข้อเท็จจริง หรือข้อมูลที่เชื่อถือได้ จนสุดท้ายก็ทำ�ตามต่อกันมา กลายเป็นความเข้าใจในเรื่องของการบริโภคอาหารแบบผิดๆ เช่นเดียวกับการบริโภคอาหารที่เหมาะสมก็จ�ำเป็น เพราะอาหารที่ บริโภคแบบไม่ถูกต้องอาจเป็นผลเสียได้ 12
“หากเรามีความรู้ในเรื่อง ของอาหาร ชนิดใด มีความส�ำคัญหรือมีประโยชน์ ผู้บริโภคจะสามารถน�ำความรู้นั้นไปใช้ จนเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ อาจจะส่งต่อ ไปยังลูกหลานได้อีกด้วย“ 13
ความเชื่อเรื่องการบริโภคแบบผิดๆ ที่ถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนาน 2
น้ำ�อุ่นดีกว่าน้ำ�เย็น น้ำ�เย็นดีกว่าน้ำ�อุ่น น�้ำ ถือได้ว่าเป็นสิ่งส�ำคัญที่สุดต่อร่างกายของมนุษย์ หลายคนมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับอุณหภูมิของน�้ำ บ้างก็เชื่อว่าน�้ำเย็นนั้นมีผลเสียต่อสุขภาพ บ้างก็บอกว่าดื่มน�้ำอุ่นไม่ดีเท่าน�้ำเย็น “น�้ำอุ่นและน�้ำเย็นล้วนมีประโยชน์ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพร่างกายในขณะนั้น” คุณหมอเนฮา เซนวัลกา กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนศาสตร์ โรงพยาบาลเจฮางจีร์ ประเทศอินเดีย 16
น�้ำอุ่น ช่วยส่งเสริมให้ระบย่อยอาหาร ท�ำงานง่ายขึ้น เพราะมีอุณหภูมิ ใกล้เคียงกับร่างกายของคนเรา โดยปกติแล้ว เวลารับประทานอาหารหรือดื่มน�้ำเข้าไป สิ่งหนึ่งที่จ�ำเป็นคือระบบต่างๆ ในตัวของคนเราจะช่วยกันปรับอุณหภูมิของอาหารและน�้ำดื่มให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิ ของร่างกายมากที่สุด เพื่อที่การย่อยและดูดซึมจะเป็นได้โดยสะดวก การดื่มน�้ำอุ่นหรือดื่มน�้ำเย็นจึงส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกัน น�้ำเย็น มีประโยชน์มากส�ำหรับ คนที่เป็นลมแดด เพราะช่วยลด อุณหภูมิของร่างกายที่สูง ให้กลับลงมาเป็นปกติ โดยอย่างรวดเร็ว ในงานวิจัยคุณหมอเนฮาพบว่า... 17
ข้อดีของการดื่มน�้ำเย็น ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้ร้อนจนเกินไป ช่วยเพิ่มความสดชื่น คืนความสดชื่นให้กับร่างกาย หลังจากการออกก�ำลังกาย ช่วยในเรื่องของการลดน�้ำหนัก เพราะน�้ำเย็นจะท�ำให้ระบบเผาผลาญท�ำงานได้ดี (แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่า น�้ำเย็นกระตุ้นให้ร่างกายมีกระบวนการ metabolism หรือเผาผลาญสารอาหารมากขึ้น “เหมาะสำ�หรับ คนที่ออกกำ�ลังกาย หรือ นักกีฬา” 18
ข้อดีของการดื่มน�้ำอุ่น เหมาะส�ำหรับผู้ที่มีไข้หวัด เมื่อดื่มน�้ำอุ่นตอนมีไข้หวัด น�้ำอุ่นจะช่วยเพิ่มระดับ อุณหภูมิของร่างกายให้กลับมาอยู่ในระดับที่ปกติ เพราะช่วงนี้การรักษาอุณหภูมิของร่างกายจะไม่ค่อยดี ลดอาการปวดเมื่อย หรืออาการอ่อนล้า เพราะน�้ำอุ่นช่วยให้หลอดเลือดต่างๆ ในร่างกายขยาย ตัว ท�ำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ท�ำให้ระบบย่อยอาหารท�ำงานได้ดีขึ้น ดื่มน�้ำอุ่นวันละ 1 แก้วในตอนเช้าที่ตื่นนอน อุณหภูมิของ น�้ำจะเข้าไปกระตุ้นประสิทธิภาพ การท�ำงานของระบบ ทางเดินอาหารและสามารถป้องกันท้องผูกได้ “เหมาะสำ�หรับผู้ป่วย” 19
สิวเป็นปัญหาส�ำคัญที่พบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น ซึ่งหลายๆ คนมักจะเจอบ่อย ในประเด็นเรื่องสิวกับช็อกโกแลต ซึ่งมีความเชื่อว่าช็อกโกแลตนั้นท�ำให้เป็นสิว บางบทความก็อ้างว่าช็อกโกแลตท�ำให้สิวขึ้น กินช็อกโกแลต ทำ�ให้เป็นสิว Dr. Albert Kligman จาก University of Pennsylvania ในงานวิจัยของได้ท�ำการทดลองคน2 กลุ่ม คือกลุ ่มที่รับประทานขนมที่ท�ำจาก ช็อคโกแลตจริง กับกลุ่มที่รับประทานขนม ที่ท�ำกลิ่นและรสชาติเลียนแบบช็อคโกแลต ซึ่งผลการทดสอบปรากฏว่า ทั้ง 2 กลุ่มมี อัตราการเกิดสิวไม่ต่างกัน 20
สรุปได้ว่าช็อกโกแลตไม่ได้เป็นสาเหตุ ของการเกิดสิวโดยตรง แต่อาจเกิดจากส่วนผสมต่างๆ ในช็อกโกแลต เช่น เนย นม น�้ำตาล หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่อยู่ในช็อคโกแลตนั่นเอง สารปรุงแต่งนี้ไปกระตุ้นฮอร์โมน และก่อให้เกิดการอักเสบของสิว ท�ำให้มีผลกระตุ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนได้มากกว่า และเกิดการอักเสบมากขึ้นเมื่อรับประทาน โดยเฉพาะคนที่มีประวัติเป็นสิวอยู่แล้ว 21
ดาร์กช็อกโกแลต เป็นช็อกโกแลตที่ไม่ก่อให้เกิดสิว เมื่อเทียบกับช็อกโกแลตนมและ ช็อกโกแลตขาวที่จะมีผลิตภัณฑ์จากนมน�้ำตาลและสารปรุงแต่ง มากกว่าดาร์กช็อกโกแลต 22
มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่า ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยปกป้อง เซลล์ร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิว มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ มีผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดในร่างกาย เพราะส่วนประกอบของดาร์คช็อกโกแลต ได้แก่ flavonoid, catechin, procyanidin ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดไขมันสะสม 23
ผงชูรสนั้นอยู่คู่กับครัวไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะท�ำอาหารแบบไหน ก็ล้วนแต่ปรุงรสด้วยผงชูรส เกือบทุกคนคงเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันมา ตั้งแต่เด็กๆ ว่ากินผงชูรสมากท�ำให้ผมร่วง กินผงชูรสมาก ทำ�ให้ผมร่วง ผงชูรส มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) ซึ่งเป็นสารปรุงแต่งที่ช่วยให้อาหารมี รสชาติกลมกล่อม ผงชูรสมีลักษณะเป็นผลึกแข็ง สีขาว ไม่มีกลิ่น สารปรุงแต่งที่ช่วยให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม กำ�เนิดผงชูรส 24
อ้อยและมันส�ำปะหลัง กากน�้ำตาลจากวัตถุดิบธรรมชาติ กรดกลูตามิก ผ่านกระบวนการหมัก กลายเป็นผงชูรส สู่ขั้นตอนการตกผลึก ผงชูรสจัดว่าเป็นเครื่องปรุงรสที่อยู่ในหมวดหมู่ความปลอดภัยสูงสุด โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนในอาหาร องค์การอนามัยโลก ขณะที่ส�ำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USFDA) จัดให้ผงชูรสอยู่ในกลุ่มเดียวกับเครื่องปรุงรสที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ว่าปลอดภัยเช่น เกลือ พริกไทย และน�้ำส้มสายชู 25
มารู้ค�ำตอบไขข้อสงสัยเรื่องผงชูรส จาก rama channel ที่ได้ติดต ่อไปยัง ผศ. นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ หัวหน้าสาขาวิชาเภสัชวิทยาและพิษวิทยาคลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ข้อมูลทางการแพทย์มียังไม่มีข้อพิสูจน์ว่ากินผงชูรสแล้วผมร่วง ซึ่งความเชื่อก็เหมือนเป็นความเชื่อที่บอกกันต่อมา ดังนั้นความเชื่อว่ากินผงชูรสแล้วจะผมร่วงนั้น ยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่สามารถพิสูจน์ได้ ว่ามีความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดอาการผมร่วง 26
ผงชูรสมีส่วนผสมเกลือโซเดียม ดังนั้นควรลดปริมาณเครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูง หากกินโซเดียมเยอะในปริมาณมาก อาจก่อให้ เกิดความดันโลหิตสูง และไตจะทำหนักขึ้น โดยทั่วไปจึงแนะนำว่า ให้บริโภคโซเดียมให้น้อยกว่า 2 กรัมต่อวัน “ฉะนั้นหากมีอาการผมร่วงเกิดขึ้นขอให้ไปพบแพทย์” “สาเหตุหลักๆ ของอาการผมร่วง” กรรมพันธุ์ ความเครียด โรคทางผิวหนัง หรือ โรคเฉพาะทางต่างๆ “ในแต่ละวันควรบริโภคผงชูรส 3-6 กรัม” แนะนำโดย ผศ. นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ 27
อาหารกระป๋อง คืออาหารส�ำเร็จรูป เป็นอาหารที่ ผ่านการถนอมอาหาร โดยการผ่าน กรรมวิธีให้ความร้อนเพื่อท�ำลายหรือ ยับยั้งการขยายพันธุ์เชื้อจุลินทรีย์ สามารถเก็บรักษาได้นาน ประมาณ 6 เดือน ถึง 3 ปีที่อุณหภูมิ ห้องโดยอาหารไม่เสีย วิธีการผลิตและกระบวนการ ท�ำให้สามารถเก็บรักษาอาหารกระป๋อง ได้นานกว่าอาหารสด อาหารกระป๋องนั้นมีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ในเรื่องของการรับประทานอาหารกระป๋องเป็นอันตรายต่อร่างกาย อาหารกระป๋องอันตราย 28
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และ ส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ด�ำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยได้ตรวจสอบข้อมูลและ กล่าวได้ว่าการรับประทานอาหารกระป๋องไม่เป็นอันตราย อย ่างไรก็ตามอาหารกระป๋องก็คือ อาหารส�ำเร็จรูปชนิดหนึ่งที่จะมี โซเดียมเป็นส่วนประกอบ คุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่า อาหารปรุงสด จึงไม ่ควรรับประทาน มากเกินไป หรือบ่อยเกินไป 29
วิธีการเลือกอาหารกระป๋อง 3โดยส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1ซื้ออาหารกระป๋องที่ สภาพภาชนะสมบูรณ์ ไม่มีสนิม ฝาปิดสนิท ไม่บุบหรือรั่ว และยังไม่หมดอายุ 2 เลือกซื้ออาหารกระป๋องที่ผ่านการ รับรองที่เป็นมาตรฐาน จากส�ำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) 3พิจารณาคุณค่าทางโภชนาการ ควรพิจารณาคุณค่าทางโภชนาการก่อนเลือกซื้อ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อวัน 30
รอยบุบ สนิม ฝาเปิด หมดอายุ 31
ในช่วงเวลาที่โควิด-19 ก�ำลังระบาดอย่างหนักนี้ หลายคนต้องท�ำงาน หรือต้องกักตัวอยู่กับบ้าน บางคนก็ไม่อยากออกจากบ้าน เพราะกลัวติดเชื้อ และชีวิตประจ�ำวันจ�ำเป็นต้องพึ่งอาหารส�ำเร็จรูป หรืออาหารแช่แข็งจาก ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ การปรุงหรืออุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ จึงเป็นสิ่งที่สะดวก และประหยัดเวลา กินอาหารอุ่นไมโครเวฟบ่อยๆ เสี่ยงอันตราย 32
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กล่าวว่าประเด็นเรื่อง ไมโครเวฟปล่อยคลื่นวิทยุออก มาขณะอุ่นอาหารท�ำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ด�ำเนินการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ Timothy Jorgensen ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Georgetown สหรัฐอเมริกา พบว่ารังสีไมโครเวฟมีพลังงานไม่เพียงพอ ที่จะท�ำลายพันธะเคมีในสารอินทรีย์ต่างๆ จึงไม่เป็นอันตรายต ่อเซลล์หรือ DNA ของ มนุษย์ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์และไม่ก่อให้ เกิดมะเร็ง รังสีไมโครเวฟจะไม่สะสมในอาหาร จึงไม่มีรังสีตกค้าง ปะปนมาในอาหาร 33
ข้อควรระวังในการอุ่นอาหาร จากบทความในเว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหิดล บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน แนะน�ำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.จิรภรณ์ อังวิทยาธร ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 34
ระวังอาหารที่มีของเหลวอยู่ภายใน เช่น ไข่ไก่ทั้งฟอง เพราะจะเกิดความร้อนที่ไม่สม�่ำเสมอ อาหารอาจเกิดประทุ ท�ำให้กระเด็น จึงไม่ควรยื่นหน้า เข้าไปใกล้อาหารที่เพิ่งน�ำออกจากเตา 1 พลาสติกชนิดที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรใช้ภาชนะที่ไม่ได้ท�ำขึ้นมาใช้ส�ำหรับเตาไมโครเวฟ 2เพราะพลาสติกอาจละลายได้เมื่อได้รับความร้อน ไม่ควรใช้ภาชนะนั้นซ�้ำๆ เป็นเวลานาน แม้ว่าจะป็นภาชนะที่สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ ควรตั้งค่าความร้อนและเวลาที่ใช้ให้เหมาะสม กับชนิดของอาหาร 3 35
พ่อบ้าน แม่บ้าน หรือผู้ที่รักในการท�ำอาหารหลายคน อาจเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า อาหารสดนั้นดีกว่าอาหารแช่แข็ง เพราะเชื่อว่าอาหารแช่แข็งที่ผ่านวิธีการถนอมอาหาร มีสารอาหารน้อยกว่าอาหารสด อาหารสดดีกว่า อาหารแช่แข็ง 36
อาหารแช่แข็ง คืออาหารที่ผ่านกรรมวิธีการแปรรูปเพื่อการถนอมอาหาร โดยใช้เทคโนโลยี เครื่องแช่เยือกแข็งที่ช่วยลดอุณหภูมิอาหารให้ต�่ำกว่า-18 องศาเซลเซียส ท�ำให้อาหารคงความสดและรักษาคุณภาพอาหารได้ดีกว ่าการถนอม อาหารด้วยวิธีอื่น 37
ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรืออาหารแช่แข็ง อาหารทุกชนิดล้วนมีการสูญเสียวิตามินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดจากการโดนแสง หรือความร้อน กว่าจะมาถึงมือผู้บริโภค สารอาหารเหล่านั้นก็อาจจะลดน้อยลงไปตามระยะเวลา อาหารสดดีกว่าอาหารแช่แข็ง “ไม่เป็นความจริง” ไม่ว่าจะอาหารแช่แข็ง หรืออาหารสดล้วนมีสารอาหารที่ดี เพียงแค่เลือกซื้อจากร้านค้าหรือผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และมีสุขอนามัยที่ดีหากต้องการซื้ออาหาร มาเก็บในปริมาณมาก แนะน�ำให้ซื้ออาหารแช่แข็ง 38
การแช่แข็งจะชะลอ การสูญเสียวิตามินในทันที มีงานวิจัยพบว่า ผลไม้แช่แข็ง มีวิตามินมากกว่าผลไม้สดที่ตั้งขายไว้นาน ซึ่งโดยปกติวิตามินหลายๆ ตัว เช่น วิตามินซี วิตามินบีจะสลายตัวเมื่อโดนความร้อน และหากยิ่งโดนความร้อนเป็นเวลานาน ด้วยแล้ว จะยิ่งท�ำให้วิตามินลดลง 39
ความเชื่อเรื่องการบริโภคแบบผิดๆ เกี่ยวกับการลดน�้ำหนัก 3
ทุกคนรู้กันดีว ่า คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตก็จะท�ำการ เปลี่ยนให้กลายเป็นน�้ำตาลในเลือด หากร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ก็จะท�ำให้เกิดการสะสมเป็นไขมัน ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีความเชื่อเกี่ยวกับการลดน�้ำหนักหลายวิธี หนึ่งในความเชื่อที่หลายๆ คนเชื่อว่าจะท�ำสิ่งนี้แล้วท�ำให้ผอมคือ การงดกินอาหารจ�ำพวกคาร์โบไฮเดรตจะช่วยลดน�้ำหนัก และท�ำให้รูปร่างดีและผอมได้ งดคาร์โบไฮเดรต แล้วจะผอม 44
“น�้ำหนักตัวลดลง แต่ร่างกายจะขาดพลังงาน และเริ่มนําไขมันมาเผาพลาญ จนเกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งมีผลข้างเคียง เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะคลื่นไส้ ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว มีไข้” จึงไม่ควรงดกินคาร์โบไฮเดรต เพราะในระยะยาว จะท�ำให้ระบบการท�ำงานของร่างกาย อย่างอินซูลินนั้นเสียหาย ท�ำให้ระบบการควบคุมน�้ำตาลในเลือดผิดปกติฉะนั้น ร่างกายต้องรับคาร์โบไฮเดรตเข้าไปเพื่อให้อินซูลินท�ำงานปกติ การงดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต ผลที่ได้ก็คือ.... 45
งดไม่ได้ให้เลือกกินคาร์โบไฮเดรตประเภทเชิงซ้อน ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช ขนมปังโฮลวีต เผือก มัน ข้าวโพด ฟักทอง 46
คาร์โบไฮเดรตที่ดีนี้จะย่อยและดูดซึมนาน ช่วยให้ระดับน�้ำตาลในเลือดคงที่สม�่ำเสมอท�ำให้ร่างกายได้รับพลังงาน อีกทั้งท�ำให้อิ่มนานและไม่หิวบ่อย มีวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารสูง หรือแม้กระทั่งมีไขมันและโปรตีน 47
ร่างกายยังจ�ำเป็นต้องใช้สารอาหารจากไขมัน ดังนั้นหากอยากจะลดน�้ำหนักไม่ควรเลิกกินอาหารที่มีไขมัน ควรเลือกกินอาหารที่มีไขมันดี ในปริมาณที่เหมาะสม จะท�ำให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย หลายคนมักหาวิธีท�ำให้ไขมันในร่างกายหายไป เพื่อลดน�้ำหนัก โดยอาหารที่มีไขมันจะมีคอเลสเตอรอลสูง เป็นตัวการให้เกิดโรคอ้วน ท�ำให้มีความเชื่อในการลดน�้ำหนักว่า ไม่ควรกินไขมัน ในช่วงลดน�้ำหนัก ไม่ควรกินไขมัน ในช่วงลดน้ำ�หนัก “ไขมันกับความอ้วน เป็นของคู่กัน” 48