45 วิรัตน์ ทองตาล่วง (2545) ได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์และแรงจูงใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบที จี ที โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมการ เรียนแบบ ที จี ที ศึกษาแรงจูงใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการ สอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบ ที จี ที และศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ที่มีต่อการ สอนวิชาวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบ ที จี ที กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนงาเมืองวิทยาคม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2544 จำนวน 40 คน ผล การศึกษาพบวา่ นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบ ที จี ทีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอ ยางมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบ ที จี ที อยู่ในระดับมาก โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.241 และนักเรียนมีความคิดเห็นต่อการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบ ที จี ที อยู่ในระดับดี โดยบทบาทของครูมีค่าเฉลี่ย เท่ากบ ั 4.345 ผลการเรียน ของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.234 และค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.029 ศิริรัตน์ พันพลสิทธิ์ (2548) ได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ในการเขียนค าที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 ที่เรียนโดยวิธีการแข่งขันเป็นทีมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ในการเขียนค าที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดย วิธีการแข่งขันเป็นทีมและศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยวิธีการแข่งขันเป็น ทีมประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแม่นาจาง อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 20 คน ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ ตรงตามมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนโดยวิธีการแข่งขันเป็นทีมสูงกว่าก่อนเรียน และ ความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนโดยวิธีการแข่งขันเป็นทีม มีค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นโดยรวมอยูใน ระดับเห็นด้วย อย่างยิ่ง
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยา 5 เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ผู้วิจัยดำเนินการวิจัยตาม กรอบของหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 1. ระเบียบวิธีวิจัย 2. กลุ่มเป้าหมาย 3. เครื่องมือการวิจัย 4. การดำเนินการรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 6. สถิติที่ใช้มนการวิเคราะห์ข้อมูล 1. ระเบียบวิธีวิจัย ดำเนินการวิจัยโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experiment Research) ร่วมกับวิจัยเชิง ปฏิบัติการ (Action Research) วิเคราะห์ข้อมูลจากข้อมูลเชิงปริมาณ (Qualitative Data) ร่วมกับข้อมูลเชิง คุณภาพ (Quantitative Data) 2. กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 ห้องเรียนที่ 3 จำนวน 44 คน ซึ่งเป็นจำนวนนักเรียนทั้งชั้นเรียน 3. เครื่องมือการวิจัย 1. นวัตกรรมการเรียนรู้ 1.1 เครื่องมือที่เป็นนวัตกรรม นวัตกรรมที่สร้างสำหรับทดลองจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผล การเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษปีที่ 6 คือ การสร้างเกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) 1.2) วิธีการสร้างและหาประสิทธิภาพ ดำเนินการสร้างและหาประสิทธิภาพทั้งเชิงเหตุผล (Rational Approach) และเชิงประจักษ์ (Empirical Approach) ตามแนวคิดของ เผชิญ กิจระการ (2544) ดังนี้
47 1.2.1 การสร้างและหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล ดำเนินการตามลำดับขั้นประกอบด้วย 1. ทำการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการที่ เกี่ยวกับการสร้างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อสำหรับการวิจัยนี้จะ สร้างโดยอ้างอิงตามแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2540) ได้ ให้นิยามการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเป็นวิธีการเรียนที่เน้นการจัดสภาพแวดล้อมทางการเรียนให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ละกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกที่มีความรู้ ความสามารถที่แตกต่างกันแต่ละคน จึงต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการเรียนรู้และความสำเร็จ และแนวคิดของฐปนนท์ สุวรรณกนิษฐ์ (2560) ได้ กล่าวถึง เกม Wordwall ว่าเป็นเว็บไซต์หนึ่งที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้ร่วมเล่น หรือแข่งขันกันได้ ซึ่งมี ความหลากหลายของแม่แบบให้ผู้สร้างได้เลือกใช้ สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนการ เรียนรู้จากหนังสือหรือใบกิจกรรม ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมผ่านทางเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งในแต่ละเกมผู้สอนจะอธิบายวิธีการเล่นและรายละเอียดต่าง ๆ นักเรียนสามารถทราบผล คะแนนทันที การเรียนรู้ผ่านเกมออนไลน์จะมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากเนื้อหาความรู้ยังมี รูปภาพและเสียงประกอบในการเล่น สามารถกำหนดเวลาในการเล่นของแต่ละเกมเพื่อเพิ่มความท้าทาย ทำให้ ผู้เรียนไม่เกิดความเบื่อหน่ายและสนุกสนานจากการทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้ผ่านเกมเป็นวิธีการหนึ่ง ในการเรียนรู้ที่มีจุดเด่น คือ การสร้างความสนุกสนานรวมเข้ากับการเรียนรู้ ผู้เรียนอยู่ในสภาวะผ่อนคลายต่าง กับการเรียนรู้ทั่วไปที่สร้างความเครียดให้กับสมองส่งผลต่อการปิดกั้นทางการรับรู้และมีผลต่อสภาพจิตใจเป็น สำคัญ การลดความเครียด ส่งเสริมการโต้ตอบ ส่งเสริมการเรียนรู้และความจำ เสริมสร้างแรงจูงใจ ป้องกัน ภาวะผิดปกติทางจิตใจ 2. สร้างฉบับร่างการสร้างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อม ไร้ท่อ โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้อ 1 ก่อนหน้า 3. สร้างแบบประเมินความเหมาะสมของการสร้างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินประสิทธิภาพเชิงเหตุผล แบบประเมินความเหมาะสมที่ สร้างแสดงแล้วในภาคผนวกที่ ค 4. สร้างแบบประเมินค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item – Objective Congruence: IOC) ของแบบประเมินความเหมาะสมเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินค่าความเที่ยงตรงเชิง เนื้อหา (Content Validity) ของแต่ละข้อคำถาม (Item) ของแต่ละประเด็น แบบประเมินค่า IOC ที่สร้าง แสดงแล้วในภาคผนวกที่ ง 5. นำแบบประเมินค่า IOC ของแบบประเมินความเหมาะสมการสร้างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ด้านเทคโนโลยี และด้านการ วิจัยหรือการวัดประเมินผลด้านละ 1 คน ทำการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแต่ละข้อคำถามของแต่
48 ละประเด็น แต่ละข้อคำถามที่ประเมินต้องค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 0.67 หรือผู้เชี่ยวชาญจำนวน 2 ใน 3 เห็นว่ามีค วาตรง จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามนั้นมีความเที่ยงตรง ผลการประเมินพบว่า แต่ละข้อคำถามของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม การเรียนรู้มีค่า IOC ระหว่าง 0.67 ถึง 1 จึงลงข้อสรุปว่า แบบสอบถามเพื่อวัดความเหมาะสมของนวัตกรรมมี ความเที่ยงตรง แบบประเมินค่า IOC ของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรมการเรียนรู้ที่สร้างแสดง แล้วในภาคผนวกที่ข ……… 6. นำเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ที่สร้างฉบับร่างแล้วไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีการศึกษา ด้านภาษา และด้านการวิจัยหรือการวัดประเมินผลด้านละ 1 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 3 คน ทำการประเมินความเหมาะสมด้วยแบบประเมิน แต่ละข้อคำถามของแต่ละประเด็นที่ประเมินต้องมี ค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 3.50 จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามที่ประเมินมีความเหมาะสม 7. นำฉบับร่างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ที่ผ่านการประเมินดังกล่าว ข้อ 6 มาแก้ไขปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 8. จัดทำฉบับร่างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ที่ผ่านการสร้างและหา คุณภาพเชิงเหตุผลแล้ว 1.2.2 การสร้างหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ดำเนินการต่อจากผลการหาประสิทธิภาพเชิง เหตุผล 1. นำเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จัดทำเป็นฉบับร่างแล้วมาทดลองใช้ เพื่อหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัด อุตรดิตถ์ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มเป้าหมายการวิจัย การหาประสิทธิภาพดังกล่าวจะใช้วิธีการเทียบกับเกณฑ์ E1/E2 = 80/80 เมื่อ E1 หมายถึง ร้อยละของคะแนนรวมทั้งหมดจากการทำกิจกรรม และการทดสอบ ย่อยระหว่างการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเกณฑ์ประเมินผ่านคือ ร้อยละ 80 E2 หมายถึง ร้อยละของคะแนนรวมทั้งหมดจากการทำแบบทดสอบภายหลังสิ้นสุด การทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเกณฑ์ประเมินผ่านคือ ร้อยละ 80 การตัดสินประสิทธิภาพเชิงประจักษ์จากการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) สร้างจะใช้เทียบกับเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนดขึ้นว่า ถ้าค่าร้อยละของคะแนนที่คำนวณของ E1= อยู่ ระหว่าง 80 ± 2.55 แสดงว่า ประสิทธิภาพของ E1 เป็นไปตามเกณฑ์ร้อยละ 80 แต่ถ้ามากกว่าหรือน้อยกว่า 80 ± 2.5 แสดงว่า ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของ E1 สูงกว่า หรือ น้อยกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ต้องปรับ นวัตกรรมการเรียนรู้ที่สร้างให้เท่ากับเกณฑ์ประสิทธิภาพที่ตั้งคือ 80 ส่วนการตัดสินประสิทธิภาพของ E2 ทำ
49 เช่นเดียวกับ E1 และถ้าร้อยละของคะแนนระหว่าง E1 และ E2 ต่างกันมากกว่าร้อยละ 5 แสดงว่า ประสิทธิภาพของเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ที่สร้างมีประสิทธิภาพไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ต้องทำการปรับปรุงใหม่ ผลการหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) พบว่า ภายหลังนำนวัตกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวมาทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์กับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัยจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มเป้าหมายการวิจัย E1 จากการทดลองมีคะแนนรวมร้อยละ 78.6 และ E2 ร้อยละ 80 เมื่อเทียบเกณฑ์ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ที่ กำหนด E1/E2 = จึงสรุปว่า เกม Wordwall ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) มี ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ตามเกณฑ์ที่กำหนด 2. จัดทำฉบับร่างเกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) พร้อมสำหรับการนำไป ทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป้าหมายการวิจัย 2. เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล 2.1 ชนิดของเครื่องมือ เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล มีดังนี้ 2.1.1 แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ ท่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 แผน ได้แก่ 1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ต่อมไร้ท่อ 2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ฮอร์โมนและการทำงานของฮอร์โมน 3. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การรักษาสมดุลของฮอร์โมน 4. แผนการจัดการเรียนที่ 4 เรื่อง ฟีโนโมน 2.1.2 แบบทดสอบผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ 2.1.3 แบบสอบถามระดับความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จำนวน 10 ข้อ 2.2 วิธีการสร้างและหาประสิทธิภาพ ดำเนินการสร้างและหาประสิทธิภาพทั้งเชิงเหตุผลและเชิง ประจักษ์ ดังนี้ การสร้างและหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล ดำเนินการตามลำดับขั้น ดังนี้ ทำการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการที่ เกี่ยวข้องการสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิดจะสร้างตามแนวคิด ทฤษฎี หลักการ วิธีการต่าง ๆ ดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้
50 1.1 ผู้วิจัยได้ศึกษาจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) โดยศึกษาสาระและมาตรฐาน/ผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเนื้อหา สาระการเรียนรู้แกนกลาง จุดประสงค์การเรียนรู้ และเวลาที่ ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ดังตารางที่ 3.1 ตารางที่ 3.1 ความสัมพันธ์ของเนื้อหา สาระการเรียนรู้แกนกลาง จุดประสงค์การเรียนรู้ และเวลาที่ใช้ในการ จัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบน่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) แผนการจัดการ เรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง จุดประสงค์การเรียนรู้ เวลาที่ใช้สอน (ชั่วโมง) ต่อมไร้ท่อ • ฮอร์โมนเป็นสารที่ควบคุม สมดุลต่าง ๆ ของร่างกายโดย ผลิตจากต่อมไร้ท่อหรือเนื้อเยื่อ โดยต่อมไร้ท่อนี้จะกระจายอยู่ ตามตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วร่างกาย • ต่อมไร้ท่อที่สร้างหรือหลั่ง ฮอร์โมน ไม่มีท่อในการลำเลียง ฮอร์โมนออกจากต่อมจึงถูก ลำเลียงโดยระบบหมุนเวียน เลือดไปยังอวัยวะเป้าหมายที่ จำเพาะเจาะจง 1. อธิบายการทำงานของ ต่อมไร้ท่อและต่อมไร้ท่อ ของมนุษย์ (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับต่อมไร้ ท่อ (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน (A) 2 ฮอร์โมนและ การทำงานของ ฮอร์โมน • ต่อมไพเนียลสร้างเมลาโทนิน ซึ่งยับยั้งการเจริญเติบโตของ อวัยวะสืบพันธุ์ช่วงก่อนวัยเจริญ พันธุ์และตอบสนองต่อการ เปลี่ยนแปลงของแสงในรอบวัน • ต่อมใต้สมองส่วนหน้าสร้าง และหลั่งโกรทฮอร์โมน โพรแลก ทิน ACTH TSH FSH LH เอนดอร์ฟิน ซึ่งทำหน้าที่ แตกต่างกัน 1. อธิบายเกี่ยวกับประเภท แ ล ะ ห น ้ า ท ี ่ ส ำ ค ั ญ ใ น ร่างกายที่ทำหน้าที่สร้าง ฮอร์โมน (K) 2. จัดกระทำรายงานจาก ก า ร ส ื บ ค้น เ กี่ย ว กั บ ฮอร์โมนและการทำงาน ของฮอร์โมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน (A) 2
51 แผนการจัดการ เรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง จุดประสงค์การเรียนรู้ เวลาที่ใช้สอน (ชั่วโมง) • ต่อมใต้สมองส่วนหลังหลั่ง ฮอร์โมนซึ่งสร้างจาก ไฮโพทา ลามัส คือ ADH และออกซิโท ซิน ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างกัน • ต่อมไทรอยด์สร้างไทรอกซิ นซึ่งควบคุมอัตรา เมแทบอลิ ซึมของร่างกาย และสร้างแคลซิ โ ท นิน ซึ่ง ค ว บ ค ุ ม ร ะ ดั บ แคลเซียมในเลือดให้ปกติ • ต่อมพาราไทรอยด์สร้างพารา ทอร์โ มนซึ่งคว บคุมระดับ แคลเซียมในเลือดให้ปกติ • ตับอ่อนมีกลุ่มเซลล์ที่สร้าง อินซูลินและกลูคากอนซึ่ง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ ปกติ • ต่อมหมวกไตส่วนนอกสร้าง กลูโคคอร์ติคอยด์ มิเนราโลคอร์ ติคอยด์ และฮอร์โมนเพศ ซึ่งมี หน้าที่แตกต่างกัน ส่วนต่อม หมวกไตส่วนในสร้างเอพิเนฟริน และนอร์เอพิเนฟริน ซึ่งมีหน้าที่ เหมือนกัน • อัณฑะมีกลุ่มเซลล์สร้างเทสโท สเทอโรน ส่วน รังไข่มีกลุ่มเซลล์ ที่สร้างอีสโทรเจน และโพรเจส เทอโรนซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกัน
52 แผนการจัดการ เรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง จุดประสงค์การเรียนรู้ เวลาที่ใช้สอน (ชั่วโมง) • เนื้อเยื่อบางบริเวณของอวัยวะ เช่น รก ไทมัส กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก สามารถสร้าง ฮอร์โมนได้หลายชนิด ซึ่งมี หน้าที่แตกต่างกัน การรักษาสมดุล ของฮอร์โมน • การควบคุมการหลั่งฮอร์โมน จากต่อมไร้ท่อ มีทั้งการควบคุม แบบป้อนกลับยับยั้ง และการ ควบคุมแบบป้อนกลับกระตุ้น เพื่อรักษาดุลยภาพของร่างกาย 1. อธิบายการทำงาน ร่วมกันของฮอร์โมนหลาย ชนิดในการรักษาดุลยภาพ ของร่างกาย (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับการ รักษาสมดุลของฮอร์โมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน (A) 2 ฟีโรโมน • ฟีโรโมนเป็นสารเคมีที่ผลิตจาก ต่อมมีท่อของสัตว์ซึ่งส่งผลต่อ สัตว์ตัวอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน 1. เปรียบเทียบความ เ ห ม ื อ น แ ล ะ แ ต ก ต ่ า ง ระหว่างฮอร์โมนกับฟีโร โมน (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับฟีโรโมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน (A) 2 1.2 ดำเนินการเขียนฉบับร่างแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จำนวน 4 แผน 8 ชั่วโมง โดยจัดทำให้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ การเรียนรู้ และเนื้อหา ซึ่งภายในแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 1.2.1 ผลการเรียนรู้
53 1.2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.2.3 สาระสำคัญ 1.2.4 สาระการเรียนรู้ 1.2.5 ทักษะกระบวนการคิด 1.2.6 สมรรถนะผู้เรียน 1.2.7 บูรณาการ 1.2.8 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.2.9 แหล่งเรียนรู้/สื่อการสอน/วัสดุอุปกรณ์ 1.2.10 ผลงานและนวัตกรรมนักเรียน 1.2.11 เครื่องมือและวิธีการวัดผลประเมินผล 1.2.13 เกณฑ์การประเมินผล (รูบริคส์) 1.2.14 บันทึกหลังแผน 1.3 สร้างฉบับร่างแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้โดยอ้างอิงผลการศึกษาเอกสารและ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 1.4 สร้างแบบประเมินค่า IOC เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินความเที่ยงตรงเนื้อหา แต่ ละข้อคำถามของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินค่า IOC ของแบบประเมินแผนการจัดการ เรียนรู้กล่าวแล้วในภาคผนวกที่ ง 1.5 นำแบบประเมินค่า IOC ของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน ภาษา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา และด้านการวิจัยหรือการวัดประเมินผลด้านละ 1 คน จำนวน 3 ท่าน ทำการ ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแต่ละข้อคำถามของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ แต่ละข้อคำถาม ของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่ประเมินต้องมีค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 0.5 หรือ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 2 ใน 3 คน เห็นว่ามีความตรง จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามนั้นมีความเที่ยงตรง ผลการประเมินพบว่า ข้อคำถามนั้นมี ความเที่ยงตรง และถ้าหากผู้เชี่ยวชาญมีข้อเสนอแนะใดเพื่อปรับปรุงนำเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิด แก้ไขปรับปรุงเครื่องมือการวิจัยดังกล่าวตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 1.6 นำข้อเสนอแนะจากแบบประเมินค่า IOC ของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้มา ปรับปรุงข้อบกพร่องของแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ 1.7 นำแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ที่ได้รับการปรับปรุงแล้วพร้อมแผนการจัดการ เรียนรู้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา และด้านการวิจัยหรือการวัดประเมินผลด้านละ 1 คน ทำการประเมินความสอดคล้องระหว่างเนื้อหาของแต่ละข้อคำถามของแผนการจัดการเรียนรู้ แต่ละข้อ คำถามของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ประเมินต้องมีระดับผลวิเคราะห์เฉลี่ยอย่างน้อย 0.5 หรือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 2 ใน 3 คน เห็นว่ามีความตรง จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามนั้นมีความเที่ยงตรง
54 1.8 นำแบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้มาแก้ไขปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ตาม คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 2. แบบทดสอบผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน แบบทดสอบผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 แบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ต้องการใช้จริง 15 ข้อ มีขั้นตอนในการดำเนินการสร้าง ดังนี้ 2.1 ผู้วิจัยได้ศึกษาวิธีการสร้างแบบทดสอบผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนแบบ ปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จาก อาจารย์ทรงเกียรติ จันทราภรณ์ 2.2 ผู้วิจัยได้ศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหา สาระการเรียนรู้แกนกลาง และจุดประสงค์การ เรียนรู้ จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) ดังตารางที่ 3.2 ตารางที่ 3.2 กำหนดจำนวนข้อสอบที่ต้องการให้สอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้ จากการจัด กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เนื้อหา จุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวนข้อสอบที่ ออก จำนวนข้อสอบที่ ใช้จริง 1. ต่อมไร้ท่อ 1. อธิบายการทำงานของต่อม ไร้ท่อและต่อมไร้ท่อของมนุษย์ (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน (A) 8 4 2. ฮอร์โมนและการ ทำงานของฮอร์โมน 1. อธิบายเกี่ยวกับประเภท และหน้าที่สำคัญในร่างกายที่ ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน (K) 2. จัดกระทำรายงานจากการ สืบค้นเกี่ยวกับฮอร์โมนและ การทำงานของฮอร์โมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน (A) 8 4
55 เนื้อหา จุดประสงค์การเรียนรู้ จำนวนข้อสอบที่ ออก จำนวนข้อสอบที่ ใช้จริง 3. การรักษาสมดุลของ ฮอร์โมน 1. อธิบายการทำงานร่วมกัน ของฮอร์โมนหลายชนิดในการ รักษาดุลยภาพของร่างกาย (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับการรักษา สมดุลของฮอร์โมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน (A) 5 4 4. ฟีโรโมน 1. เปรียบเทียบความเหมือน และแตกต่างระหว่างฮอร์โมน กับฟีโรโมน (K) 2. สืบค้นเกี่ยวกับฟีโรโมน (P) 3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน (A) 4 3 2.3 ดำเนินการเขียนฉบับร่างแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนให้สอดคล้องกับ เนื้อหา สาระการเรียนรู้แกนกลาง และจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้ 2.4 สร้างแบบประเมินค่า IOC เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา แต่ละข้อคำถามของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียน ให้มีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบและ จุดประสงค์การเรียนรู้ โดยแบบประเมินค่า IOC ของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนกล่าวแล้วใน ภาคผนวกที่ ง 2.5 นำแบบประเมินค่า IOC ของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนพร้อมกับ แบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา และด้านการวิจัย หรือการวัดประเมินผลด้านละ 1 คน จำนวน 3 ท่าน โดยมีเกณฑ์การประเมิน ดังนี้ +1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามจุดประสงค์ 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามจุดประสงค์ -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดไม่ตรงตามจุดประสงค์ ทำการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาความสอดคล้องระหว่างข้อสอบและจุดประสงค์การเรียนรู้ ของแต่ละข้อคำถาม แต่ละข้อคำถามของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนที่ประเมินต้องมีค่าเฉลี่ยอย่าง น้อย 0.5 หรือ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 2 ใน 3 คน เห็นว่ามีความตรง จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามนั้นมีความเที่ยงตรง
56 2.6 นำผลการประเมินค่า IOC ของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียนที่ได้มา วิเคราะห์เพื่อหาความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ความเรียนรู้ โดยคัดเลือกข้อสอบที่มีค่าดัชนี ตั้งแต่ 0.5 ถึง 1.00 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ความเที่ยงตรง 2.7 นำข้อสอบที่ผ่านการคัดเลือกมาพิมพ์เป็นแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียน เพื่อ นำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ของโรงเรียนพิชัย อำเภอ พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ที่ไม่ใช่เป็นกลุ่มเป้าหมาย จำนวนนักเรียน 44 คน 2.8 นำกระดาษคำตอบมาตรวจให้คะแนนและวิเคราะห์แบบทดสอบผลการเรียนรู้หลัง เรียนแบบอิงเกณฑ์เพื่อหาค่าความยาก (P) ข้อคำถามที่ดีของแบบทดสอบประเภท 4 ตัวเลือกจะมีค่าความยาก ง่ายระหว่าง 0.20 – 0.80 (สุมาลี จันทร์ชะลอ, 2542) และค่าอำนาจจำแนก แล้วคัดเลือกข้อสอบที่มีค่าความ ยากและค่าอำนาจจำแนกตามเกณฑ์จำนวน 15 ข้อ มาวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ โดยใช้วิธีของโลเวท (Lovett Method) 2.9 นำแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังเรียน ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาจัดทำเป็น แบบทดสอบผลการเรียนรู้ฉบับสมบูรณ์และนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายต่อไป 3. แบบสอบถามระดับความพึงพอใจ แบบสอบถามระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต่อการใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ในด้านต่าง ๆ อาทิเช่น ด้าน เนื้อหา ด้านบทบาทของครูผู้สอน ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านการวัดและประเมินผล และด้าน ระยะเวลาและสถานที่ มีขั้นในการดำเนินการสร้าง ดังนี้ 3.1 ผู้วิจัยได้ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามระดับความพึงพอใจ 3.2 ดำเนินการสร้างฉบับร่างแบบสอบถามระดับความพึงพอใจโดยจัดทำให้สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ด้านต่าง ๆ โดยกำหนดเป็น 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 แบบสอบถามระดับความพึงพอใจ ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ 3.3 สร้างแบบประเมินค่า IOC เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา แต่ละข้อคำถามของแบบสอบถามระดับความพึงพอใจ ให้มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านต่าง ๆ โดย แบบประเมินค่า IOC ของแบบสอบถามระดับความพึงพอใจกล่าวแล้วในภาคผนวกที่ ง 3.4 นำแบบประเมินค่า IOC ของแบบสอบถามระดับความพึงพอใจกับแบบสอบถามระดับ ความพึงพอใจไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา ด้านเทคโนโลยีการศึกษา และด้านการวิจัยหรือการวัดประเมินผล ด้านละ 1 คน จำนวน 3 ท่าน โดยมีเกณฑ์การประเมิน ดังนี้ +1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามจุดประสงค์
57 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้ตรงตามจุดประสงค์ -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดไม่ตรงตามจุดประสงค์ ทำการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาความสอดคล้องระหว่างข้อสอบและจุดประสงค์การเรียนรู้ ของแต่ละข้อคำถาม แต่ละข้อคำถามของแบบสอบถามระดับความพึงพอใจที่ประเมินต้องมีค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 0.5 หรือ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 2 ใน 3 คน เห็นว่ามีความตรง จึงจะตัดสินว่า ข้อคำถามนั้นมีความเที่ยงตรง 3.5 นำผลการประเมินค่า IOC ของแบบสอบถามระดับความพึงพอใจที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อ หาความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านต่าง ๆ โดยคัดเลือกข้อที่มีค่าดัชนีตั้งแต่ 0.5 ถึง 1.00 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ ความเที่ยงตรง 3.6 นำแบบสอบถามระดับความพึงพอใจที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาจัดทำเป็น แบบทดสอบผลการเรียนรู้ฉบับสมบูรณ์และนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างต่อไป การหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ดำเนินการต่อจากผลการหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล 1. นำเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิดที่จัดทำเป็นรูปเล่มแล้วมาหาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) โดยทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นคนละ กลุ่มกับกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการวิจัย การหาค่าความเชื่อมั่นใช้วิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) โดยมีเกณฑ์ประเมินผ่านทั้งฉบับที่ 0.7 ถ้าน้อยกว่าต้องทำการปรับปรุง เครื่องมือใหม่ 2. ปรับปรุงเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิดหากพบว่า ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาต่ำกว่า 0.7 ผลการประเมินพบว่า เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient).........(ระบุผลการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคที่คำนวณ) แบบทดสอบความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีค่า สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient)......... และแผนการจัดการเรียนรู้ มีค่า สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient)......... จึงสรุปว่า เครื่องมือรวบรวม ข้อมูลแต่ละชนิดมีความเชื่อมั่น 3. ยกเว้นแบบทดสอบ จัดทำรูปเล่มเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิด พร้อมสำหรับการนำไปทดลอง ใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้องเรียนที่ 3 โรงเรียนพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย การวิจัย สำหรับแบบทดสอบนั้น เมื่อทำการประเมินความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่นแล้ว ก่อนนำไป ทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้องเรียนที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป้าหมายการวิจัย ต้องดำเนินการ ต่อจากข้อ 3 เพื่อหาค่าความยากง่าย และค่าอำนาจ การจำแนกต่อ ดังนี้
58 4. นำแบทดสอบแต่ละข้อมาวิเคราะห์ความยากง่ายด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป ข้อคำถามที่ดี ของแบบทดสอบประเภท 4 ตัวเลือกจะมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.20 – 0.80 (สุมาลี จันทร์ชะลอ. 2542) ถ้าเป็นประเภทแบบถูก – ผิด จะมีค่าความยากง่ายระหว่าง 0.60 – 0.95 (Nunnally.1967; อ้างถึงใน เยาวดี รางชัยกุลวิบูลย์ศรี. 2552) 5. นำแบบทดสอบแต่ละข้อมาวิเคราะห์ค่าอำนาจการจำแนกโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป 6. จัดทำรูปเล่มของแบบทดสอบ พร้อมสำหรับการนำไปทดลองใช้กับนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 ห้องเรียนที่ 3 โรงเรียนพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายการวิจัย ข้อตกลง เนื่องด้วยปัจจัยจำกัดบางประการเช่นเดียวกับดังกล่าวแล้วในหัวข้อ “วิธีการสร้างและหา คุณภาพของนวัตกรรม” จึงสร้างข้อตกลงว่า การวิจัยครั้งนี้จะละเว้นการหาประสิทธิภาพ เชิงประจักษ์ซึ่ง ประกอบด้วย การหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือรวบรวมข้อมูลทุกชนิด การหาค่าความยากง่าย และค่า อำนาจการจำแนกซึ่งเฉพาะสำหรับแบบทดสอบ 4. การดำเนินการรวบรวมข้อมูล 1. ทำหนังสือถึงคณบดีคณะครุศาสตร์เพื่อร้องขอให้ออกหนังสือราชการถึงผู้อำนวยการโรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขออนุญาตที่จะทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. ประชุม ชี้แจง และสร้างข้อตกลงกับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกี่ยวการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ 3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) 4. ทำการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภายหลังการจัด กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) 5. ให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตอบแบบสอบถามวัดระดับความพึงพอใจจากการจัด กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT)
59 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาคุณภาพและประสิทธิภาพของเครื่องมือการวิจัย 1.1 ความเหมาะสมของเกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีม แข่งขัน (TGT) วิเคราะห์ด้วยค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำเร็จรูป 1.2 ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของเกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) วิเคราะห์ด้วยเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำเร็จรูป 1.3 ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิด วิเคราะห์ด้วยค่าดรรชนีความ สอดคล้องหรือ IOC วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป 1.4 ความเชื่อมั่นของเครื่องมือรวบรวมข้อมูลแต่ละชนิด วิเคราะห์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ของครอนบาค วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป 1.5 ความยากง่ายของแบบทดสอบแต่ละข้อ วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป 1.6 ค่าอำนาจการจำแนกของแบบทดสอบแต่ละข้อ วิธีการวิเคราะห์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำเร็จรูป 2. การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย 2.1 ผลการเรียนรู้ของนักเรียน วิเคราะห์ด้วยค่าคะแนนเฉลี่ย (x̅)และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 2.2 ระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียน วิเคราะห์โดยการเปรียบเทียบร้อยละของค่าคะแนนเฉลี่ยกับ ระดับผลการเรียนรู้ตามเกณฑ์ร้อยละ 80 2.3 ผลการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีม แข่งขัน (TGT) วิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติ t- Test แบบ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ α 0.05 2.4 ผลการทดลองใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับการเรียนรู้ร่วมกัน แบบนิทรรศการวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางสถิติ t- Test แบบ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ α 0.05 2.5 เกณฑ์ประเมินระดับความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ด้วยช่วงระดับค่าเฉลี่ยตามเกณฑ์ของ บุญชม ศรีสะอาด 3. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 3.1 สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพเครื่องมือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียน และแบบสอบถามระดับความ พึงพอใจ
60 1. การหาค่าความเที่ยงตรง (Validity) ของแผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบผลการเรียนรู้ หลังการเรียน และแบบสอบถามระดับความพึงพอใจ โดยใช้สูตร ดังนี้ (ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) = ∑ เมื่อ IOC แทน ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์ X แทน ค่าระดับความแม่นตรง N แทน ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์ แปลความหมายได้แปลความหมายของค่า IOC ถ้า x มีค่า 0 ข้อคำถามไม่ตรงวัตถุประสงค์ ถ้า x มีค่า 1 ข้อคำถามตรงตามวัตถุประสงค์ ข้อคำถามที่ใช้ได้ต้องมีค่า IOC ≥ 0.70 2. การหาค่าความยาก (P) ของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียน โดยใช้สูตร ดังนี้ (ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) = ∑ เมื่อ P แทน ค่าความยากง่ายของแต่ละข้อ X แทน คะแนนข้อคำถามแต่ละข้อคำถาม แต่ละข้อแบบ 0,1 N แทน ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 3. การหาค่าอำนาจจำแนก (Discrimination) ของแบบทดสอบผลการเรียนรู้หลังการเรียน โดยใช้สูตร ดังนี้ (ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) = () เมื่อ r แทน ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้อ cov (I X) แทน ความแปรปรวนร่วมของ I และ X I แทน คะแนนข้อคำถาม X แทน คะแนนรวมที่ไม่รวมข้อคำถามที่มีเคราะห์ SI แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ I SX แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ X
61 เกณฑ์พิจารณาค่าอำนาจจำแนกของข้อคำถามที่มีค่าอำนาจ จำแนกใช้ได้ต้องมีค่าตั้งแต่ 0.2 ขึ้นไป 4. หาค่าสถิติพื้นฐานค่าเฉลี่ย (x̅)ค่าส่วนเบนเบนมาตรฐาน (S.D.) เพื่อวิเคราะห์ระดับความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ดังนี้ 4.1 ค่าเฉลี่ย (x̅) (Arithmetic Mean) ใช้สูตร ดังนี้ (ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) x̅ = ∑ x n เมื่อ x̅ แทน ค่าเฉลี่ย แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด n แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดแทนขนาดกลุ่มตัวอย่าง 4.3 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตร ดังนี้(ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) .. = √ ∑( − 2) เมื่อ S.D แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนน N แทน จำนวนคนทั้งหมด แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด ยกกำลังสอง มาแปลความหมายว่า ระดับความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นอยู่ใน ระดับน้อยที่สุด น้อย พอสมควร มาก หรือมากที่สุด โดยเปรียบเทียบตามเกณฑ์ (ระพินทร์ โพธิ์ศรี, 2549) ช่วงระดับค่าเฉลี่ย ระดับความพึงพอใจ คะแนนเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง มากที่สุด คะแนนเฉลี่ย 3.51 – 4.50 หมายถึง มาก คะแนนเฉลี่ย 2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง คะแนนเฉลี่ย 1.51 – 2.50 หมายถึง น้อย คะแนนเฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง น้อยที่สุด
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยา 5 เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ผู้วิจัยเสนอผลการวิเคราะห์ ข้อมูลตามประเด็นของวัตถุประสงค์การวิจัย ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาการใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกระบวนการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. เพื่อการศึกษาผลการทดลองใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกระบวนการคิด วิเคราะห์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3. เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการทดลองใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีแข่งขัน (TGT) จัด กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกระบวนการคิดวิเคราะห์ ผลการพัฒนาเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ วิชาชีววิทยา 5 ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ ร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) 1. นวัตกรรมการเรียนรู้ที่สร้าง ประกอบด้วย - แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 แผน ได้แก่ แผนที่ 1 เรื่อง ต่อมไร้ท่อ จำนวน 2 ชั่วโมง แผนที่ 2 เรื่อง ฮอร์โมนและการทำงานของฮอร์โมน จำนวน 2 ชั่วโมง แผนที่ 3 เรื่อง การรักษาสมดุลของฮอร์โมน จำนวน 2 ชั่วโมง แผนที่ 4 เรื่อง ฟีโรโมน จำนวน 2 ชั่วโมง - เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ได้แก่ เกมที่ 1 เกมจับคู่ เรื่อง ต่อมไร้ท่อ เกมที่ 2 เกมค้นหาคำ เรื่อง ฮอร์โมนและการทำงานของฮอร์โมน เกมที่ 3 เกมตอบคำถาม เรื่อง การรักษาสมดุลของฮอร์โมน เกมที่ 4 เกมหาคู่ เรื่อง ฟีโรโมน
63 2. การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนรู้ 2.1 การหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล (Rational Approach) ของแผนการจัดการเรียนรู้เมื่อ ประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 ด้วยแบบประเมินความเหมาะสมของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ผลการประเมินแสดงดังตารางที่ 1 ตารางที่ 1 : แสดงผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการ จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน x̅ Sd. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.58 ภาษาที่ใช้ชัดเจน เข้าใจง่าย 5 0.00 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 5 0.00 ระบุพฤติกรรมที่สามารถวัดและประเมินได้ 4.33 1.15 ด้านสาระสำคัญ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5 0.00 มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน 4.67 0.58 เหมาะสมกับวัยผู้เรียน 5 0.00 ด้านสาระการเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 5 0.00 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.58 มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน 4.67 0.58 น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน 4.67 0.58 ด้านการจัดกระบวนการ เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.58 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.58 เหมาะสมกับเวลาที่ใช้จัดกิจกรรม 4.33 1.15 เร้าความสนใจให้ผู้เรียนกระตือรือร้นที่จะ เรียนรู้และเข้าร่วมกิจกรรม 5 0.00 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามลำดับ 4.67 0.58 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม 4.67 0.58
64 ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน x̅ Sd. ด้านวัสดุ อุปกรณ์ สื่อการ สอน แหล่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.58 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้และกิจกรรม 4.67 0.58 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้และกิจกรรม 4.67 0.58 เร้าความสนใจของผู้เรียน 5 0.00 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้ 5 0.00 เหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน 5 0.00 ด้านการวัดและประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.58 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.58 การวัดและประเมินได้ 4.33 1.15 ใช้เครื่องมือได้เหมาะสม 4.33 1.15 จากตารางที่ 1 พบว่า แต่ละรายการที่ประเมินของแต่ละประเด็นมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.33 ซึ่งผ่านเกณฑ์ ประเมินผ่านขั้นต่ำคือ 3.50 ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการ จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความเหมาะสม 2.2 การหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล (Rational Approach) ของเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อม ไร้ท่อ เมื่อประเมินความเหมาะสมของเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยแบบประเมินความเหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ผลการประเมินแสดงดังตารางที่ 2 ตารางที่ 2 : แสดงผลการประเมินความเหมาะสมของเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน x̅ Sd. ด้านคำชี้แจงวิธีการใช้ องค์ประกอบครบถ้วน ชัดเจน 5 0.00 ครอบคลุมสาระการเรียนรู้ 5 0.00 ด้านคำชี้แจงวิธีการใช้ มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และสาระการเรียนรู้ 5 0.00 ข้อปฏิบัติในการใช้มีความเข้าใจง่าย ชัดเจน 5 0.00
65 ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน x̅ Sd. ด้านแผนการจัดการ เรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และสาระการ เรียนรู้ตรงตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 4.67 0.58 มีความสอดคล้องระหว่างจุดระสงค์การเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ 4.67 0.58 เหมาะสมกับเวลาที่ใช้จัดกิจกรรม 5 0.00 ความหลากหลายของกิจกรรมการเรียนรู้ 5 0.00 ด้านสื่อการเรียนรู้ คำแนะนำมีความชัดเจน เข้าใจง่าย 5 0.00 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 4.67 0.58 กระตุ้นให้นักเรียนเกิดการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 4.67 0.58 เหมาะสมกับวัยของนักเรียน 4.67 0.58 ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการพัฒนาด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5 0.00 ด้านการวัดและ ประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5 0.00 วิธีการวัดผลของแต่ละจุดประสงค์การเรียนรู้มี ความเหมาะสม 4.67 0.58 การกำหนดเกณ์ประเมินระดับผลการเรียน รายบุคคลรู้มีความเหมาะสม 4.33 1.15 การกำหนดเกณ์ประเมินระดับผลการเรียน ระดับชั้นเรียนรู้มีความเหมาะสม 4.33 1.15 จากตารางที่ 2 พบว่า แต่ละรายการที่ประเมินของแต่ละประเด็นมีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.33 ซึ่งผ่านเกณฑ์ ประเมินขั้นต่ำคือ 3.50 ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 มีความเหมาะสม 2.3 การหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ วิธีการหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ จะใช้วิธีการเทียบกับเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 = 80/80 โดยนำเกม Wordwall เรื่อง ระบบ ต่อมไร้ท่อ ที่หาประสิทธิภาพเชิงเหตุผลแล้วไปทดลองกับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย
66 อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 25 คน นักเรียนกลุ่มดังกล่าวเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่ม ตัวอย่างหรือกลุ่มเป้าหมายการวิจัย ผลการหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์พบว่า เกม Wordwall เรื่อง ระบบ ต่อมไร้ท่อ มีประสิทธิภาพของ E1/E2 = 78.6/80 และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ประสิทธิภาพเชิง ประจักษ์ที่กำหนดคือ E1/E2 = 80/80 พบว่า เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีประสิทธิภาพเชิง ประจักษ์ตามเกณฑ์ที่กำหนด การพัฒนาผลการเรียนรู้ 1. คะแนนผลการเรียนรู้ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยา 5 เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยการใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2566 จำนวน 44 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยทดลองใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ คะแนนผลการเรียนรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวแสดงดังตารางที่ 3 ตารางที่ 3 : แสดงคะแนนผลการเรียนรู้ เรื่อง การหายใจระดับเซลล์ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall กับกลุ่มเป้าหมาย คะแนนต็มเท่ากับ 15 คะแนน นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 1 13 86.67 2 12 80.00 3 12 86.67 4 13 86.67 5 14 93.33 6 10 66.67 7 12 80.00 8 13 86.67 9 14 93.33 10 12 80.00 11 13 86.67 12 11 73.33 13 10 66.67
67 นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 14 13 86.67 15 12 80.00 16 11 73.33 17 10 66.67 18 12 80.00 19 12 80.00 20 13 86.67 21 14 93.33 22 15 100 23 12 80.00 24 13 86.67 25 14 93.33 26 15 100 27 13 86.67 28 13 86.67 29 13 86.67 30 14 93.33 31 15 100 32 12 80.00 33 11 73.33 34 10 66.67 35 11 73.33 36 12 80.00 37 12 80.00 38 14 93.33 39 13 86.67 40 12 80.00 41 14 93.33 42 13 86.67
68 นักเรียน (คน) คะแนน คิดเป็นร้อยละ 43 13 86.67 44 14 93.33 รวม จำนวน 44 คน รวมค่าคะแนนทั้งหมด = 544 รวมร้อยละค่าคะแนน = 3700.02 ค่าคะแนนเฉลี่ย = 12.59 S.D. = 1.34 ค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ = 84.09 S.D. = 8.89 จากตารางที่ 3 ภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยทดลองใช้เกม Wordwall กับกลุ่มเป้าหมายพบว่า มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 12.59 คะแนน และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.34 คิดเป็นค่าคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 84.09 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 8.89 2. การเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เมื่อใช้ร้อยละค่าคะแนนเฉลี่ยผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบ ต่อมไร้ท่อ โดยทดลองใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเน้นผู้สอนเป็นศูนย์กลาง (การสอนแบบ บรรยาย) และการทดลองใช้เกม Wordwall ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบแสดงดังตารางที่ 4 ตารางที่ 4 : แสดงผลและระดับผลการเรียนรู้ของกลุ่มตัวอย่างจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) (2550) ที่ กำหนดเป็นเกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียน เกณฑ์ประเมินผ่านระดับชั้นเรียนของเกณฑ์ที่ ใช้เทียบ ร้อยละค่าคะแนนเฉลี่ยและระดับผลการเรียนรู้ จากนวัตกรรมการเรียนรู้ ร้อยละค่าคะแนน ระดับผลการเรียนรู้ ร้อยละค่าคะแนน เฉลี่ย ระดับผลการเรียนรู้ 80 ดีมาก 84.09 ดีมาก จากตารางที่ 4 พบว่า 1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยทดลองใช้เกม Wordwall นั้น กลุ่มเป้าหมาย มีค่าคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 84.09 ซึ่งสูงกว่าค่าคะแนนผลการเรียนรู้ที่กำหนดเป็นเกณฑ์ประเมินผ่าน ระดับชั้นเรียนตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) (2550) คือร้อยละ 80 จึง
69 อธิบายว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยทดลองใช้เกม Wordwall ทำให้มีผลต่อการ พัฒนาผลการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย 2. เมื่อเปรียบเทียบระดับผลการเรียนรู้พบว่า ระดับผลการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายจากการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยทดลองใช้เกม Wordwall สูงกว่าระดับผลการเรียนรู้ที่กำหนด เป็นเกณฑ์ประเมินผ่านตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) (2550) คือที่ระดับ ดีมาก จากผลการวิเคราะห์ตารางที่ 4 จึงสรุปว่า เมื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ระหว่างการจัดการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยเน้นผู้สอนเป็น ศูนย์กลาง (สอนแบบบรรยาย) กับการจัดการเรียนเรื่องเดียวกันโดยทดลองใช้เกม Wordwall ทำให้นักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 4.09 รวมถึงมีผลต่อการพัฒนาระดับผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นดังกล่าว ระดับความพึงพอใจ จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้านกระบวนการคิด วิเคราะห์ ตามเป้าหมายการวิจัยตามตัวชี้วัด โดยการทดลองใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ กับ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 44 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ผู้วิจัยต้องการศึกษาระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อ การทดลองใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว ผลการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจแสดงดังตารางที่ 5 ตารางที่ 5 : แสดงระดับความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อการทดลองใช้เกม Wordwall จัด กิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกระบวนการคิดวิเคราะห์ตามเป้าหมาย การวิจัยตามตัวชี้วัด ประเด็นและรายการที่ประเมิน x̅ Sd. ระดับ ความพึงพอใจ 1. ด้านเนื้อหา 1.1 เนื้อหามีความถูกต้องและครบถ้วน 4.83 0.46 มากที่สุด 1.2 ใช้ภาษาที่มีความชัดเจน เข้าใจได้ง่าย 4.80 0.41 มากที่สุด 1.3 เนื้อหาสอดคล้องจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.97 0.18 มากที่สุด 1.4 เนื้อหาเหมาะสมกับระดับความรู้ของผู้เรียน 4.97 0.18 มากที่สุด รวม 4.89 0.15 มากที่สุด 2. ด้านบทบาทของครูผู้สอน
70 ประเด็นและรายการที่ประเมิน x̅ Sd. ระดับ ความพึงพอใจ 2.1 กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจในการจัดกิจกรรม ได้ 4.83 0.46 มากที่สุด 2.2 ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือเมื่อเกิดข้อสงสัย 4.97 0.18 มากที่สุด 2.3 เปิดโอกาสให้ได้ซักถาม 4.83 0.46 มากที่สุด 2.4 มีปฏิสัมพันธ์และเอาใจใส่นักเรียน 4.83 0.46 มากที่สุด รวม 4.86 0.14 มากที่สุด 3. ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 4.77 0.50 มากที่สุด 3.2 มีข้อปฏิบัติในการทำกิจกรรมชัดเจน 4.80 0.41 มากที่สุด 3.3 กิจกรรมการเรียนรู้กระตุ้นผู้เรียนได้ดีน่าสนใจ 4.77 0.50 มากที่สุด 3.4 กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย 4.77 0.50 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับระดับความรู้ของผู้เรียน 4.90 0.31 มากที่สุด 3.6 เหมาะสมกับระยะเวลา 4.97 0.18 มากที่สุด รวม 4.83 0.13 มากที่สุด 4. ด้านการวัดและประเมินผล 4.1 ใช้วิธีการวัดและประเมินผลหลากหลาย 4.97 0.18 มากที่สุด 4.2 ใช้วิธีการวัดและประเมินผลได้เหมาะสม 4.97 0.18 มากที่สุด 4.3 วิธีการวัดและประเมินผลมีความชัดเจนและ สอดคล้องกับเนื้อหา 4.80 0.41 มากที่สุด 4.4 เกณฑ์การวัดผลประเมินผลมีความชัดเจน เหมาะสม 4.80 0.41 มากที่สุด รวม 4.88 0.13 มากที่สุด 5. ด้านระยะเวลาและสถานที่ 5.1 ระยะเวลามีความเหมาะสม 4.97 0.18 มากที่สุด 5.2 ห้องเรียนมีบรรยากาศที่ดี เหมาะแก่การเรียนรู้ 4.97 0.18 มากที่สุด รวม 4.97 0.00 มากที่สุด รวมทั้งหมด 4.87 0.06 มากที่สุด
71 จากตารางที่ 5 พบว่า เมื่อวิเคราะห์โดยภาพรวมกลุ่มเป้าหมาย มีความพึงพอใจต่อการทดลองใช้เกม Wordwall จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกระบวนการการคิด วิเคราะห์ตามเป้าหมายการวิจัยตามตัวชี้วัด ที่ระดับมากที่สุด (x̅= 4.87 , S.D. = 0.06) แต่เมื่อวิเคราะห์เป็น รายด้านโดยเรียงลำดับระดับค่าเฉลี่ยจากระดับมากสุดไปน้อยสุด 3 ลำดับ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อ ด้านระยะเวลาและสถานที่ (x̅= 4.97 , S.D. = 0.00) สูงสุดมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้าน เนื้อหา (x̅= 4.89 , S.D. = 0.15) มีความพึงพอใจระดับมากที่สุด และลำดับสุดท้ายคือด้านการวัดและ ประเมินผล (x̅= 4.88 , S.D. = 0.13) มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
บทที่ 5 สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะผลการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยา 5 เรื่อง ระบบ ต่อมไร้ท่อ โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย ผู้วิจัยได้ดำเนินตามลำดับ ดังนี้ 1. สรุปผล 2. อภิปรายผล 3. ข้อเสนอแนะ สรุปผล 1. การพัฒนาเกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคทีม แข่งขัน (TGT) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนย่อย ได้แก่ 1) ขั้นตอนการกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นตอนการสืบค้นและอภิปราย 3) ขั้นตอนการจัดกลุ่ม 4) ขั้นตอนการแข่งขัน 5) ขั้นตอนการสรุปผลและให้รางวัล โดยได้ทำการหาค่าประสิทธิภาพเชิงเหตุผล ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.33 ซึ่งผ่านเกณฑ์ประเมินขั้นต่ำคือ 3.50 ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความเหมาะสม 2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้ เทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็น กลุ่มเป้าหมาย มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 84.09 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประเมินผ่าน ชั้นเรียนที่ร้อยละ 80 3. เมื่อทำการประเมินระดับความพึงพอใจซึ่งกำหนดเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้าน เนื้อหา 2) ด้านบทบาทของครูผู้สอน 3) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) ด้านการวัดและประเมินผล 5) ด้านระยะเวลาและสถานที่ พบว่า เมื่อวิเคราะห์โดยภาพรวม กลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อการ จัดกิจกรรมโดยภาพรวมทุกด้านที่ระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจเฉพาะต่อการใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ที่ระดับมากที่สุด จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวข้อ 1 – 3 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยทดลองใช้เกม Wordwall มีผลต่อการพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
73 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 และนักเรียนมีความพึง พอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวโดยภาพรวมที่ระดับมากที่สุด อภิปรายผล จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวในบทที่ 4 ประเด็นที่มาสู่การอภิปรายผลการวิจัย ประกอบด้วย ผลการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน และระดับความพึงพอใจของนักเรียนแต่ละ ประเด็นดังกล่าว นำมาอภิปราย ดังนี้ 1. ผลการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียน จากการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า ผลการพัฒนาผลการเรียนรู้ของนักเรียนต่อการ ทดลองใช้เกม Wordwall จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีประสิทธิภาพ 78.6/84.09 แสดงว่าการใช้นวัตกรรม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ (80/80 ± 2.5) ซึ่งผลดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิด ทฤษฏี หลักการ วิธีการ ของ ฐปนนท์ สุวรรณกนิษฐ์ (2560) ได้ให้ ความหมายของเกม Wordwall เป็นเว็บไซต์หนึ่งที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้ร่วมเล่น หรือแข่งขัน กันได้ ซึ่งมีความหลากหลายของแม่แบบให้ผู้สร้างได้เลือกใช้ สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งสามารถ นำมาใช้แทนการเรียนรู้จากหนังสือหรือใบกิจกรรม ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมผ่านทาง เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งในแต่ละเกมผู้สอนจะอธิบายวิธีการเล่นและ รายละเอียดต่าง ๆ นักเรียนสามารถทราบผลคะแนนทันที การเรียนรู้ผ่านเกมออนไลน์จะมีความ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากเนื้อหาความรู้ยังมีรูปภาพและเสียงประกอบในการเล่น สามารถ กำหนดเวลาในการเล่นของแต่ละเกมเพื่อเพิ่มความท้าทาย ทำให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบื่อหน่ายและ สนุกสนานจากการทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้ผ่านเกมเป็นวิธีการหนึ่งในการเรียนรู้ที่มีจุดเด่น คือ การสร้างความสนุกสนานรวมเข้ากับการเรียนรู้ ผู้เรียนอยู่ในสภาวะผ่อนคลายต่างกับการเรียนรู้ ทั่วไปที่สร้างความเครียดให้กับสมองส่งผลต่อการปิดกั้นทางการรับรู้และมีผลต่อสภาพจิตใจเป็นสำคัญ การลดความเครียด ส่งเสริมการโต้ตอบ ส่งเสริมการเรียนรู้และความจำ เสริมสร้างแรงจูงใจ ป้องกัน ภาวะผิดปกติทางจิตใจ นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของสิริธร ลาพรม และคณะ (2565) ได้ทำการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมที่สร้างจาก Wordwall เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลาดยาววิทยาคม มีผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนในเรื่อง ทฤษฎีบทพี ทาโกรัส หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) ความพึ
74 พอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมที่สร้างขึ้นจาก Wordwall เรื่อง ทฤษฎีบทพี ทาโกรัส โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.43 2. ระดับความพึงพอใจของนักเรียน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการทดลองใช้เกม Wordwall ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ที่ระดับมากที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เกม Wordwall เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่มีความ แปลกใหม่ น่าสนใจ ส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นพบความรู้ด้วยตนเอง โดยครูต้องเตรียมสภาพแวดล้อมใน การเรียนรู้ให้เหมาะสม และทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้ ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ให้กับนักเรียน และการเรียนโดยใช้เกม Wordwall เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยในการเรียนการสอนของครูโดย สามารถสร้างเกมการเรียนรู้สำหรับวัดความรู้ ความสามาถ และความเข้าใจของนักเรียน ในรูปแบบ เกมต่าง ๆ อาทิ เกมจับคู่ เกมหาคำปริศนา เกมตอบคำถาม เป็นต้น และยังสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล ได้ง่าย ไม่ว่าที่ไหน เวลาใด ก็สามารถเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ทำให้นักเรียนเกิดความพึงพอใจใน ระดับมากที่สุด นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชนิศวรา บรรณกิจ (2564) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลักษณะเฉพาะรำวงมาตรฐาน ในรายวิชานาฏศิลป์ โดยใช้สื่อเกมออนไลน์ (Wordwall) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 จำนวน 17 คน โรงเรียน อนุบาลเดิมบางนาบวช (วัดท่าช้าง) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลักษณะเฉพาะรำวงมาตรฐาน ระหว่างเรียนและหลังเรียนด้วยสื่อเกมออนไลน์ (Worawall) พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 จำนวน 17 คน พบว่า จากการทดลองการเรียนรู้ด้วยสื่อเกมออนไลน์ (Wordwall) มีประสิทธิภาพของกระบวนการและมีผลลัพธ์เท่ากับ 80.78/85.95 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ที่กำหนด ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะการใช้ประโยชน์ผลการวิจัย 1. ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบทีมแข่งขัน เพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติกิจกรรม ครู จะต้องอธิบายให้ชัดเจน 2. การจัดการเรียนรู้ในแต่ละกิจกรรม ครูจะต้องกำหนดเวลาให้เหมาะสม และต้องกระตุ้น นักเรียนเพื่อให้ปฏิบัติกิจกรรมให้ทันเวลา
75 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กรมวิชาการ. (2545). ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: องค์กรรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. กรมวิชาการ. (2545). ขั้นตอนการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: องค์กรรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. กชกร เป้าสุวรรณ และคณะ. (2550). รายงานการวิจัยเรื่อง ความคาดหวังและความพึงพอใจต่อ การมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์พิษณุโลก. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. เกียรติสุดา ศรีสุข. (2559). ขั้นตอนการสร้างแบบวัดความพึงพอใจ. (พิมพ์ครั้งที่3).เชียงใหม่:ครอง ช่างพริ้นติ้ง. จินตนา สระทองขาว. ณัฐวุฒิ กิจรุ่งเรือง และคณะ. (2545). ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: เยลโล่การพิมพ์. ถวัลย์ มาศจรัส. (2546). ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: เซ็นจูรี่. สำลี รักสุทธี. (2546). ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: พัฒนาการศึกษา. สุวิมล สุวรรณจันดี. (2554). ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: พัฒนาการศึกษา. สง่า ภู่ณรงค์. (2540). ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้ สึกที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับผลสาเร็จตามความมุ่ง หมายหรือเป็นความรู้ สึกขั้นสุดท้ายที่ได้รับผลสำเร็จ. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ: เอ็นแอนด์จี กราฟฟิค. สมชาติ จันทา และคณะ. (2549). ความหมายของความพึงพอใจ. กรุงเทพฯ: เซ็นจูรี่ ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2541). ทฤษฎีความพึงพอใจ. สาขาวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บุญเรียง ขจรศิลป์. (2549). การวัดความพึงพอใจ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์. บุญชม ศรีสะอาด. (2535). ระดับคุณภาพของความพึงพอใจ. พิมพครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน.
76 บรรณานุกรม (ต่อ) ธนาภรณ์ โรจนโรวรรณ. (2564). การใช้นวัตกรรมสื่อการจัดการเรียนรู้สร้างขึ้นจาก Office Mix และ Wordwall เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อปรับพื้นฐานความ เข้าใจของ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง Verb to be. ค้นคว้าเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 :http://www.filesthaischool0.com/files/uppic/ 67100685/news/67100685_1_20211019-185922.pdf. สิริธร ลาพรม และคณะ. (2565). ความพึงพอใจของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ เกมที่สร้างจาก Wordwall เรื่อง ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ วิรัตน์ ทองตาล่วง. (2545). ผลสัมฤทธิ์และแรงจูงใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนแบบที จี ที. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศิริรัตน์ พันพลสิทธิ์. (2548). ผลสัมฤทธิ์ในการเขียนคำาที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยวิธีการแข่งขันเป็นทีม. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
77 ภาคผนวก
78 ภาคผนวก ก ตารางการวิเคราะห์ผล ตารางที่ 3.1 ผลการประเมินค่าของคำถามในแบบประเมินความเหมาะสมของเกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปล ความ 1 2 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ภาษาที่ใช้ชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระบุด้าน K P A ที่วัดและประเมินผลได้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สาระสำคัญ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระบุการนำไปใช้ได้จริง 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ ภาระ/ชิ้นงาน มีคำชี้แจงชัดเจน เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กิจกรรมเป็นไปตามขั้นตอน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีการสร้างความสนใจให้ผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้
79 รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปล ความ 1 2 3 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้งาน 0 +1 +1 1 ใช้ได้ เครื่องมือวัดและประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เกณฑ์การวัดและประเมินผลมีความ ชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ วัดและประเมินผลตามที่ระบุไว้ได้จริง +1 +1 +1 1 ใช้ได้
80 ตารางที่ 3.2 ผลการประเมินค่าของแบบประเมินความเหมาะสมของเกม Wordwall เรื่อง ระบบ ต่อมไร้ท่อ รายการประเมิน ระดับผลการประเมิน คนที่ รวม เฉลี่ย แปลผล 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก ภาษาที่ใช้ชัดเจน เข้าใจง่าย 5 5 5 15 5 ดีมาก เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 5 5 5 15 5 ดีมาก ระบุพฤติกรรมที่สามารถวัด และประเมินได้ 3 5 5 13 4.33 ดี ด้านสาระสำคัญ สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 5 5 5 15 5 ดีมาก มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน 4 5 5 14 4.67 ดีมาก เหมาะสมกับวัยผู้เรียน 5 5 5 15 5 ดีมาก ด้านสาระการเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 5 5 5 5 5 ดีมาก สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ชั้นเรียน 4 5 5 14 4.67 ดีมาก น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อ ผู้เรียน 4 5 5 14 4.67 ดีมาก ด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก เหมาะสมกับเวลาที่ใช้จัด กิจกรรม 3 5 5 13 4.33 ดี
81 รายการประเมิน ระดับผลการประเมิน คนที่ รวม เฉลี่ย แปลผล 1 คนที่ 2 คนที่ 3 เร้าความสนใจให้ผู้เรียน กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และ เข้าร่วมกิจกรรม 5 5 5 15 5 ดีมาก กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไป ตามลำดับ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม 4 5 5 14 4.67 ดีมาก ด้านวัสดุอุปกรณ์ สื่อการสอน แหล่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ และกิจกรรม 4 5 5 14 4.67 ดีมาก เร้าความสนใจของผู้เรียน 5 5 5 15 5 ดีมาก ผู้เรียนมีมีส่วนร่วมในการใช้ 5 5 5 15 5 ดีมาก เหมาะสมกับวัยและความ สนใจของผู้เรียน 5 5 5 15 5 ดีมาก ด้านการวัดและประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4 5 5 14 4.67 ดีมาก การวัดที่ระบุไว้สามารถ ประเมินได้ 3 5 5 13 4.33 ดี ใช้เครื่องมือได้เหมาะสม 3 5 5 13 4.33 ดี
82 ตารางที่ 3.3 ผลการประเมินค่า IOC ของข้อคำถามในแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการ จัดการเรียนรู้ รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปล ความ 1 2 3 จุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ภาษาที่ใช้ชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระบุด้าน K P A ที่วัดและประเมินผลได้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สาระสำคัญ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระบุการนำไปใช้ได้จริง 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ ภาระ/ชิ้นงาน มีคำชี้แจงชัดเจน เข้าใจง่าย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กิจกรรมเป็นไปตามขั้นตอน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีการสร้างความสนใจให้ผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้งาน 0 +1 +1 1 ใช้ได้ เครื่องมือวัดและประเมินผล
83 รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปล ความ 1 2 3 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เกณฑ์การวัดและประเมินผลมีความ ชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ วัดและประเมินผลตามที่ระบุไว้ได้จริง +1 +1 +1 1 ใช้ได้
84 ตารางที่ 3.4 ผลการประเมินค่า IOC ของข้อคำถามในแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการใช้เกม Wordwall เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ร่วมกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค ทีมแข่งขัน (TGT) ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามระดับความพึงพอใจ รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปลความ 1 2 3 เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ ระดับชั้น ( ) มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ( ) มัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ( ) มัธยมศึกษาปีที่ 6/3 +1 +1 +1 ตำแหน่ง ( ) ครู ( ) นักเรียน +1 +1 +1 ตอนที่ 2 แบบสอบถามระดับความพึงพอใจ รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปลความ 1 2 3 ด้านเนื้อหา เนื้อหามีความถูกต้องและครบถ้วน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ใช้ภาษาที่มีความชัดเจน เข้าใจได้ง่าย +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เนื้อหาสอดคล้องจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เนื้อหาเหมาะสมกับระดับความรู้ของ ผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ด้านบทบาทครูผู้สอน
85 รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปลความ 1 2 3 กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจในการ จัดกิจกรรมได้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือเมื่อเกิดข้อ สงสัย 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ เปิดโอกาสให้ได้ซักถาม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีปฏิสัมพันธ์และเอาใจใส่นักเรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้ มีข้อปฏิบัติในการทำกิจกรรมชัดเจน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ กิจกรรมการเรียนรู้กระตุ้นผู้เรียนได้ดี น่าสนใจ 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ กิจกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย 0 +1 +1 1 ใช้ได้ เหมาะสมกับระดับความรู้ของผู้เรียน +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เหมาะสมกับระยะเวลา +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ด้านการวัดและประเมินผล ใช้วิธีการวัดและประเมินผลหลากหลาย 0 +1 +1 0.67 ใช้ได้ ใช้วิธีการวัดและประเมินผลได้ เหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ วิธีการวัดและประเมินผลมีความชัดเจน และสอดคล้องกับเนื้อหา +1 +1 +1 1 ใช้ได้ เกณฑ์การวัดผลประเมินผลมีความ ชัดเจน เหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้ ด้านระยะเวลาและสถานที่ ระยะเวลามีความเหมาะสม +1 +1 +1 1 ใช้ได้
86 รายการที่ทำการประเมินระดับความ เที่ยงตรง ระดับคะแนนของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC แปลความ 1 2 3 ห้องเรียนมีบรรยากาศที่ดี เหมาะแก่การ เรียนรู้ +1 +1 +1 1 ใช้ได้
87 ภาคผนวก ข แบบประเมินความเหมาะสมของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
88 แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นใช้สำหรับประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 2. วัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม (Rational Approach) ของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนที่นวัตกรรมดังกล่าวจะถูกนำมาหา ประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ (Empirical Approach) โดยเทียบกับเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนด ภายหลัง 3. แต่ละข้อคำถาม (Item) ของการประเมินแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับ คือ ระดับ 5 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้าง เหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปาน กลาง ระดับ 2 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างไม่ เหมาะสม ระดับ 1 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด 4. วิธีการประเมิน ให้ท่านวิเคราะห์แต่ละด้านของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามแต่ละข้อคำถามที่กำหนด ประเมินความเหมาะสมตามดุลพินิจของท่าน
89 ตาราง : แสดงรายการประเมินความเหมาะสมแต่ละด้านของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน ระดับคุณภาพ 1 2 3 4 5 ด้านจุดประสงค์การ เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ ภาษาที่ใช้ชัดเจน เข้าใจง่าย เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ระบุพฤติกรรมที่สามารถวัดและ ประเมินได้ ด้านสาระสำคัญ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน เหมาะสมกับวัยผู้เรียน ด้านสาระการเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้น เรียน น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อ ผู้เรียน ด้านการจัดกระบวนการ เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ เหมาะสมกับเวลาที่ใช้จัดกิจกรรม เ ร ้ า ค ว า ม ส น ใ จ ใ ห ้ ผ ู ้ เ ร ี ย น กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรม ก ิ จ ก ร ร ม ก า ร เร ี ย น ร ู ้ เ ป ็ น ไ ป ตามลำดับ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
90 ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมิน ระดับคุณภาพ 1 2 3 4 5 ด้านวัสดุอุปกรณ์ สื่อการ สอน แหล่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้และ กิจกรรม เร้าความสนใจของผู้เรียน ผู้เรียนมีมีส่วนร่วมในการใช้ เหมาะสมกับวัยและความสนใจของ ผู้เรียน ด ้ า น ก า ร ว ั ด แ ล ะ ประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ การวัดที่ระบุไว้สามารถประเมินได้ ใช้เครื่องมือได้เหมาะสม ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………….. ลงชื่อ………………………………………………….ผู้ประเมิน (………………………………………………...) …………./………………./……………
91 ภาคผนวก ค แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา
92 แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ของแบบประเมินความเหมาะสม แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับผู้เชี่ยวชาญ คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบ ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อพัฒนาผล การเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอพิชัย จังหวัด อุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินของแต่ละข้อคำถาม (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน ม ี ร ะ ดั บ คะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน ม ี ร ะ ดั บ คะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องแต่ละรายการประเมินของแต่ละด้านตามความเห็น ของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไขขอความ อนุเคราะห์โปรดให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
93 ตาราง แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกม Wordwall ร่วมกับเทคนิคทีมแข่งขัน (TGT) เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพิชัย อำเภอ พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการเรียนรู้ หมายเหตุ +1 0 - 1 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 1.2 ภาษาที่ใช้ชัดเจน 1.3 ระบุด้าน K P A ที่วัดและประเมินผลได้ 2 สาระสำคัญ 2.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 2.2 มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 2.3 ระบุการนำไปใช้ได้จริง 3 ภาระ/ชิ้นงาน 3.1 มีคำชี้แจงชัดเจน เข้าใจง่าย 3.2 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 3.3 มีความยากง่ายเหมาะสมกับผู้เรียน 4 กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.2 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4.3 กิจกรรมเป็นไปตามขั้นตอน 4.4 กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน 4.5 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ 5 วัสดุ อุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 5.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.3 มีการสร้างความสนใจให้ผู้เรียน 5.4 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้งาน
94 ที่ รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการเรียนรู้ หมายเหตุ +1 0 - 1 6 เครื่องมือวัดและประเมินผล 6.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผลมีความชัดเจน 6.4 ใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 6.5 วัดและประเมินผลตามที่ระบุไว้ได้จริง ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………….. ล ง ช ื ่ อ ผู้ ประเมิน…………………………………………….. (……………………………………………………..) วันที่………เดือน……………….. พ.ศ…………