46 เฉลยแบบทดสอบ ใบงาน และแบบฝึกหัด เอกสารประกอบชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่องการกำหนดราคา
47 คำตอบของแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 5 จำนวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ค เป็นส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ 2. ง การจัดสรรทรัพยากรในการผลิต 3 ข เพื่อตัดราคาคู่แข่งขัน 4. ก เพื่อเพิ่มส่วนครองตลาด 5. ค นโยบายของกิจการ 6. ก ศึกษาตลาดเป้าหมาย 7. ก การตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost plus Pricing) 8. ค 273 บาท 9. ก นโยบายราคาเดียว 10. ข กลยุทธ์ราคาเหยื่อล่อ นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา
48 เฉลยใบงานที่ 5.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา ชุดการส เรื่อง ปัจจัยภายในที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา คำชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อความที่ครูผู้สอนกำหนดให้โดยตอบคำถามให้ถูกต้อง แนวทางการตอบ ในฐานะผู้บริหารกิจการเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้บริโภคมีการใช้สอยอย่างประหยัดซื้อสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตเท่านั้น อุปกรณ์เครื่องใช้ฟ้ามี ความสำคัญและความจำเป็นการดำรงชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เนื ่องจากต้องการความ สะดวกสบายในการดำรงชีวิต โดยใช้ปัจจัยภายในที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. วัตถุประสงค์ทางการตลาด เป็นการกำหนดราคาเพื ่อตอบสนองวัตถุประสงค์ทาง การตลาดของกิจการ ได้แก่ เพื่อความอยู่รอด เพื่อรักษาคุณภาพ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด 2. นโยบายของกิจการ เป็นการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับนโยบายของกิจการเมื่อ กิจการต้องการให้สินค้าอยู่ระดับใด ต้องกำหนดราคาเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย 3. ต้นทุนสินค้า ในการผลิตสินค้าของกิจการต้องคำนึงต้นทุนของสินค้าเป็นหลักโดยเพิ่ม กำไรที่ต้องการเข้าไป 4. ส่วนประสมทางการตลาด ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดจำหน ่ายและ การส่งเสริมการตลาด โดยกำหนดให้สอดคล้องกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายของกิจการ ดังนี้ 4.1 ผลิตภัณฑ์ พิจารณาเกี่ยวกับต้นทุนต่าง ๆ ในการผลิตสินค้าและค่าใช้จ่ายใน การดำเนินงานช่วงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ 4.2 ราคา มีการกำหนดราคาให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้ให้แก่ กิจการ 4.3 การจัดจำหน่าย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสถานที่ที่ต่างกันทำให้การกำหนด ราคาขายของผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกัน 4.4 การส่งเสริมการตลาด กิจกรรมการส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์ควรให้ สอดคล้องกับนโยบายของกิจการ เพื่อให้การดำเนินของกิจการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
49 เรื่อง การกำหนดราคาของผลิตภัณฑ์ คำชี้แจง : จากรูปภาพให้นักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปนี้ 1. วัตถุประสงค์ในการกำหนดราคา : เป็นวัตถุประสงค์การกำหนดราคามุ่งรายได้จากการขาย การกำหนดราคามุ่งกำไร การกำหนดราคามุ่งยอดขาย และการกำหนดราคามุ่งการแข่งขัน 2. วิธีกำหนดราคา : วิธีตั้งราคาจากราคาขายสินค้า (Mark up on Selling Pricing) เป็น การบวกส่วนเพิ่ม โดยใช้ Mark up on Selling Price หรือ Mark up คือ การกำหนดเป็นร้อยละจาก ราคาขายวิธีนี้ใช้มากในธุรกิจค้าปลีกและค่าส่ง โดยมีพื้นฐานการคำนวณมาจากต้นทุน 3. การใช้นโยบายราคา : ใช้นโยบายราคาเดียว (One Price Policy) เป็นการกำหนดราคา ขายสำหรับผู้ซื้อที่มีเงื่อนไขและปริมาณซื้อระดับเดียวกัน โดยไม่ยอมให้ลูกค้าต่อรองราคา นโยบายนี้ นิยมใช้กับราคาปลีกสมัยใหม่ นโยบายราคาเดียวทำให้กิจการสะดวกในการควบคุมทางการเงิน 4. กลยุทธ์การตั้งราคาของผลิตภัณฑ์ : โดยใช้กลยุทธ์ราคาเหยื่อล่อ (Bait Pricing) เป็น การกำหนดราคาสินค้าต่ำกว่าปกติหรือต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาที่ร้าน เมื่อลูกค้ามาซื้อ สินค้าที่ตั้งราคาล่อใจไว้ลูกค้าจะซื้อสินค้าอื่นในร้านด้วย ซึ่งสินค้าอื่นในร้านจำหน่ายในราคาปกติ เฉลยใบงานที่ 5.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา
50 1. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ✓ 1. ราคา หมายถึง สิ่งที่แสดงมูลค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นที่ยอมรับในการแลกเปลี่ยน ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ✓ 2.การตั้งราคาเพื่อสร้างรายได้ต้องกำหนดราคาสินค้าให้เกิดรายได้ต่อกิจการสูงสุด 3. ความสำคัญของราคาที่มีต่อระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวม ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและมีผลกำไร 4. การกำหนดราคาเพื่อเผชิญกับการแข่งขัน เนื่องจากกิจการไม่ต้องการเผชิญสงครามด้าน ราคากับคู่แข่งขันจึงกำหนดราคาให้ท่ากับคู่แข่งขัน ✓ 5. ปัจจัยภายในที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา ได้แก่ วัตถุประสงค์ทางการตลาด นโยบายของกิจการ ต้นทุนสินค้า และส่วนประสมทางการตลาด 6.การดำเนินธุรกิจปัจจุบันไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม กิจการสามารถ กำหนดราคาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว 2. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (4 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของราคา ตอบ ราคา (Price) หมายถึงสิ่งที่แสดงมูลค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นที่ยอมรับใน การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ราคาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้อและเป็นสิ่งที่สร้าง รายได้ให้กับกิจการ 2. จงบอกความสำคัญของราคา ตอบ การกำหนดราคาสินค้าหรือบริการมีความสำคัญต่อการดำเนินของกิจการ ดังนี้ 1) ความสำคัญของราคาที่มีต่อธุรกิจ ทำให้กิจการอยู่รอด ก่อให้เกิดรายได้ 2) ความสำคัญของราคาที่มีต่อระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวมในการจัดสรรทรัพยากรใน การผลิตให้มีประสิทธิภาพ เฉลยแบบฝึกหัดที่ 5.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา
51 3. จงบอกวัตถุประสงค์ของการกำหนดราคา ตอบ วัตถุประสงค์ในการกำหนดราคาที่สำคัญมี ดังนี้ 1) การกำหนดราคามุ่งรายได้จากการขาย 2) การกำหนดราคามุ่งกำไร 3) การกำหนดราคามุ่งยอดขาย 4) การกำหนดราคามุ่งการแข่งขัน 5) การกำหนดราคาเพื่อสังคม 4. จงบอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา ตอบ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกกิจการที่มีผลต่อการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการ ปัจจัยภายในที่มีผลต่อการกำหนดราคา เป็นปัจจัยที่เกิดจากภายในกิจการและมีผลต่อ การกำหนดราคาสินค้าหรือบริการ ได้แก่ วัตถุประสงค์ทางการตลาด นโยบายของกิจการ ต้นทุนสินค้า ส่วนประสมทางการตลาด ปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา เป็นปัจจัยภายนอกกิจการที่ไม่สามารถ ควบคุมได้ ได้แก่ การแข่งขัน ผู้จำหน่ายวัตถุดิบ ผู้จำหน่ายต่อหรือคนกลาง สภาพเศรษฐกิจ รัฐบาล จริยธรรมทางธุรกิจ นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 5.1
52 1 จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………ช........1. กำหนดราคาจากต้นทุน ก. Target Pricing ……….ก.......2. กำหนดราคาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย ข. Pricing Policies and Strategies ………ญ.......3. การกำหนดเป็นร้อยละจากราคาทุน ค. One Price Policy ………ซ........4. กำหนดราคาจากอุปสงค์ ง. Quantity Discount ………ข........5. นโยบายและกลยุทธ์ราคา จ. Odd Pricing ………ค........6. นโยบายราคาเดียว ฉ. Pricing Strategies) ………ฉ........7. กลยุทธ์การตั้งราคา ช. Cost Based Pricing ………ง........8. ส่วนลดปริมาณ ซ. Demand Based Pricing ………ฌ.......9. ส่วนลดตามฤดูกาล ฌ.Seasonal Discount ………จ......10. การกำหนดราคาเลขคี่ ญ. Mark up on Cost ฎ. Flexible Level of Price ฏ. Cost Plus Pricing เฉลยแบบฝึกหัดที่ 5.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา
53 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ✓ 1. ส่วนลดเงินสด เป็นส่วนลดที่ให้แก่ผู้ซื้อที่ชำระเงินค่าสินค้าเป็นเงินสดเท่านั้น ✓ 2. การลดราคา การให้ส่วนลด เป็นการเพิ่มยอดขายของกิจการให้สูงขึ้น ✓ 3. กิจการกำหนดราคาขายสินค้าให้ต่ำเพื่อให้ลูกค้าเก่าจงรักภักดีต่อตราสินค้าของกิจการ 4. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณความต้องการกับราคา เป็นขั้นตอนแรกของการ กำหนดราคาสินค้าหรือบริการ 5.กลยุทธ์ราคาล่อเหยื่อ เป็นกลยุทธ์ราคาของผู้ค้าปลีกในการกำหนดราคาสินค้าบางชนิดใน ร้านต่ำกว่าต้นทุน และเพื่อจูงใจลูกค้าให้มาซื้อสินค้าในมากขึ้น ✓ 6. กิจการที่แสวงหาผลกำไรสูงสุดต้องการคืนทุนอย่างรวดเร็ว เป็นการมุ่งหวังผลในระยะยาว 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (24 คะแนน) 1. จงอธิบายขั้นตอนในการกำหนดราคา ตอบ การกำหนดราคา ประกอบด้วยการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ศึกษาตลาดเป้าหมาย ธุรกิจต้องศึกษาและกำหนดว ่าผู้บริโภคหรือผู้ใช้และ กลุ่มเป้าหมายคือใคร ต้องการอะไรจากการซื้อสินค้าหรือบริการ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณความต้องการกับราคา เพื่อหาแนวทางการกำหนด ราคาที่ตลาดเป้าหมายยอมรับ 3) พิจารณาการกำหนดราคาของคู่แข่งขัน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดราคา สินค้าของธุรกิจ 4) ศึกษาต้นทุนในการผลิตสินค้าและต้นทุนทางการ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน การกำหนดราคาของสินค้าหรือบริการ 5) การกำหนดระดับราคาที่เหมาะสม เป็นการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับนโยบายของ กิจการเพื่อให้กิจการอยู่รอด 2. วิธีการกำหนดราคาที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีกี่วิธี ตอบ การกำหนดราคาสามารถกำหนดได้ ดังนี้ 1) กำหนดราคาจากต้นทุน (Cost Based Pricing) โดยใช้ต้นทุนต่อหน่วยมาเป็นพื้นฐาน ได้แก่ 1.1 วิธีตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost Plus Pricing) 1.2 วิธีตั้งราคาจากราคาขายสินค้า (Mark up on Selling Pricing) 1.3 วิธีกำหนดราคาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย (Target Pricing)
54 2) กำหนดราคาจากอุปสงค์ (Demand Based Pricing) เป็นการกำหนดราคาโดยคำนึงถึง ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง 3. จงอธิบายนโยบายราคา ตอบ นโยบายระดับความยืนหยุ่นของราคา สามารถแบ่งเป็นนโยบายหลัก 2 ประเภท คือ 1) นโยบายราคาเดียว เป็นการกำหนดราคาขายราคาเดียว สำหรับผู้ซื้อที่มีเงื่อนไขและ ปริมาณซื้อระดับเดียวกัน 2) นโยบายราคายืดหยุ่นได้ เป็นการกำหนดราคาโดยผู้ขายสามารถใช้ดุลยพินิจของตนใน การปรับเปลี่ยนราคาที่แจ้งและขายกับลูกค้า โดยปรับเปลี่ยนตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ 4. จงอธิบายกลยุทธ์การตั้งราคา ตอบ กลยุทธ์การตั้งราคาเป็นวิธีการที่ใช้กำหนดราคาสินค้าตามนโยบายของกิจการเพื่อให้ผู้ซื้อ ยอมรับราคาที่กำหนดขึ้น ซึ่งมีกลยุทธ์ดังต่อไปนี้ 1) กลยุทธ์ราคาสำหรับการเข้าสู่ตลาด เป็นกลยุทธ์ราคาที่นักการตลาดนำมาใช้ในช่วง แนะนำสินค้าออกสู่ตลาด 2) กลยุทธ์การให้ส่วนลดและส่วนสนับสนุน เป็นกลยุทธ์เสริมโดยใช้ร่วมกับกลยุทธ์ราคา แบบอื่น ๆ 3) กลยุทธ์การกำหนดราคาจากภาระค่าขนส่งตามภูมิศาสตร์ ในการกำหนดราคาสินค้ามี ต้นทุนค่าขนส่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้า ซึ่งทำให้ราคาสินค้าในเขตพื้นที่ต่างกัน 4) กลยุทธ์ราคาตามหลักจิตวิทยา เป็นกลยุทธ์การตั้งราคาโดยอาศัยหลักด้านจิตวิทยาเพื่อ จูงใจผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ 5. ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าวัยรุ่นแห่งหนึ่ง ต้องการกำไรจากการขายร้อยละ 40 ของต้นทุนต่อหน่วย โดยซื้อเสื้อมาตัวละ 150 บาท ให้กำหนดวิธีตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost Plus Pricing) วิธีทำ สมการ ราคาขาย = กำไรต่อหน่วยที่ต้องการ + ต้นทุนต่อหน่วย แทนค่า กำไรที่ต้องการ = 40% = 0.4 บาท ต้นทุนต่อหน่วย = 150 บาท ดังนั้น กำไรที่ต้องการของต้นทุนต่อหน่วยเท่ากับ 60 บาท (0.4150) จากสมการ ราคาขาย = กำไรต่อหน่วยที่ต้องการ + ต้นทุนต่อหน่วย แทนค่า ราคาขาย = 60 + 150 กิจการจะต้องกำหนดราคาขาย = 210 บาท
55 6. ร้านจำหน่ายกระเป๋าแฟชั่น มีต้นทุนของกระเป๋าใบละ 200 บาท และต้องการส่วนบวกเพิ่ม 60% ต้องกำหนดราคาขายเท่าไหร่ 6.1 ให้นักเรียนใช้วิธีการคำนวณแบบ Mark up on Cost (กำหนดเป็นร้อยละจากราคาทุน) วิธีทำ สมการ Price = Cost + Mark up หรือ ราคาขาย = ต้นทุนสินค้าขาย + ส่วนบวกเพิ่ม แทนค่า 160 = 100 + 60 เทียบบัญญัติไตรยางศ์ ทุน 100 บาท ส่วนบวกเพิ่ม = 60 บาท ทุน 200 บาท ส่วนบวกเพิ่ม = 60200 100 กิจการบวกเพิ่มจากราคาทุน = 120 บาท ดังนั้นราคาขายกระเป๋าเป็นเงิน = 120 + 200 บาท = 320 บาท 6.2 ให้นักเรียนใช้วิธีการคำนวณแบบ Mark up on Selling (กำหนดเป็นร้อยละจากราคา ขาย) วิธีทำ สมการ Price = Cost + Mark up หรือ ราคาขาย = ต้นทุนสินค้าขาย + ส่วนบวกเพิ่ม แทนค่า 100 = 40 + 60 เทียบบัญญัติไตรยางศ์ ทุน 100 บาท ส่วนบวกเพิ่ม = 60 บาท ทุน 200 บาท ส่วนบวกเพิ่ม = 60200 40 กิจการบวกเพิ่มจากราคาทุน = 300 บาท ดังนั้นราคาขายกระเป๋าเป็นเงิน = 300 + 200 บาท = 500 บาท
56 7. ร้านดวงดาวได้ลงทุนผลิตชาน้ำผึ้งมะนาว 300,000 บาท ผลิตได้ 15,000 ขวด มีต้นทุนต่อ หน่วย 10 บาท กิจการต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน 30% กิจการต้องกำหนดราคาขายเท่าไหร่ โดยใช้วิธีการกำหนดราคาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย (Target Pricing) (5 คะแนน) วิธีทำ สมการ ราคาขาย = ต้นทุนต่อหน่วย + อัตราผลตอบแทน × เงินลงทุน จำนวนสินค้าที่ขายได้ แทนค่า ราคา = 10 + 0.33000,000 15,000 = 10 + 90,000 15,000 = 10 + 6 ดังนั้นผู้ผลิตจะต้องกำหนดราคาขาย = 16 บาท นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 36-40 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 30-35 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 24-29 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 24 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 5.2
57 คำตอบของแบบทดสอบหลังเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 5 จำนวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ข เป็นส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ 2. ก การจัดสรรทรัพยากรในการผลิต 3 ค เพื่อตัดราคาคู่แข่งขัน 4. ง เพื่อเพิ่มส่วนครองตลาด 5. ข นโยบายของกิจการ 6. ง ศึกษาตลาดเป้าหมาย 7. ง การตั้งราคาบวกจากต้นทุน (Cost plus Pricing) 8. ข 273 บาท 9. ง นโยบายราคาเดียว 10. ค กลยุทธ์ราคาเหยื่อล่อ นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบหลังเรียน แบบเฉลยทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 5 เรื่อง การกำหนดราคา
58 เฉลยแบบทดสอบ ใบงาน และแบบฝึกหัด เอกสารประกอบชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่องการจัดจำหน่าย
59 คำตอบของแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 6 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ข เปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้าไปยังผู้ขาย 2. ง เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ 3 ง การคลังสินค้า 4. ก นมสด ผลไม้ 5. ข ผู้ค้าปลีก 6. ค คนกลาง 7. ง คนกลางในระดับค้าปลีก 8. ค การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง 9. ข ลักษณะของตลาด 10. ข ผู้จัดจำหน่ายในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้น นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
60 เรื่อง ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า คำชี้แจง : จงเติมข้อความลงในช่องว่างที่กำหนดให้เกี่ยวกับโครงสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ให้ถูกต้อง ดังต่อไปนี้ 1. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค มีดังนี้แนวทางการตอบ 1) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ อาหารสดที่ต้องบริโภคทันที หรือสินค้าที่มีราคาแพง มีเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น บัตรเครดิต ประกันชีวิต เป็นต้น 2) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าที่มีความเสียหายง่าย หรือสินค้าที่เสื่อมคุณภาพเร็วหรือ เป็นสินค้าที่มีราคาสูงต้องใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อ เช่น รองเท้า นาฬิกา ทีวี ตู้เย็น เป็นต้น 3) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีผู้ค้าปลีก) ของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าหรือบริการที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เป็นสินค้าเสื่อม คุณภาพช้า ไม่ใช่สินค้าแฟชั่น หรือสินค้าสะดวกซื้อ 4) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าเปรียบเทียบซื้อ หรือสินค้าเจาะจงซื้อ เช่น กระเป๋า รถยนต์ น้ำหอม เป็นต้น เฉลยใบงานที่ 6.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ผลิต
61 5) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสามระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าเลือกซื้อ สินค้าสะดวกซื้อ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น 2. ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม มีดังนี้แนวทางการตอบ 1) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ เครื่องจักรที่มีราคาสูงหรือสินค้าที่ต้องได้รับการแนะนำใช้งาน และการบำรุงรักษาจากผู้ผลิต เป็นต้น 2) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีผู้ค้าส่ง) ของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องมือเครื่องใช้ในการดำเนินงาน เช่น รถยก วัสดุประเภทก่อสร้าง เครื่องทำความสะอาด เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น 3) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่มีความยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย และเหมาะสำหรับผู้ผลิตที่มีเงินทุนน้อยและไม่มีความชำนาญในการจัดจำหน่าย 4) แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ สินค้าที่มีขนาดเล็ก ราคาไม่สูงมากนัก ประเภทเครื่องมือประกอบ เช่น อะไหล่ วัสดุสิ้นเปลือง เป็นต้น ผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ผลิต ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ผู้ค้าส่ง ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม
62 เรื่อง กรณีศึกษาร้านตำสนั่น ครกกระเด็น แนวทางการตอบ จากกรณีศึกษาดังกล่าวให้วิเคราะห์ข้อมูลดังต่อไปนี้ 1. ลักษณะของตลาด ร้านตั้งอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร ซึ่งแหล่งชุมชน แต่ไม่ใช่เป็นร้านของตนเองทำให้ต้องจ่ายค่าเช่าร้านแพง 2. ลักษณะสินค้าและบริการ เป็นร้านที ่จำหน ่ายส้มตำที ่มีหลากหลายรสชาติและ หลากหลายเมนูให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อตามความต้องการของผู้บริโภค และจำหน่ายในราคาย่อมเยา 3. ลักษณะของธุรกิจ เป็นร้านที่มีเงินทุนน้อย ร้านเปิดใหม ่ยังไม่ชื ่อเสียง แต่ผู้ผลิตและ จัดจำหน่ายมีความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญในการทำส้มตำ และจบการศึกษาด้านอาหารและ โภชนาการมาโดยตรง 4. ลักษณะของสภาพแวดล้อม คือ มีคู่แข่งขันในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจาก คนขายเป็นที่มีอัธยาศัยดีและมีน้ำใจ จึงสามารถแข่งขันกับคู่แข่งขันได้ 5. ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย คือ ค่าเช่าร้านแพง เนื่องจากไม่มีอาคารเป็นของ ตนเอง และรสชาติของส้มตำไม่สม่ำเสมอเนื่องจากมีคนทำหลายคน มา ชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านกรณีศึกษาร้านตำสนั่น ครกกระเด็น โดยนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดหน่าย เฉลยใบงานที่ 6.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
63 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………ซ…… 1. การจัดจำหน่าย ก. Market Share ………ฌ…… 2. นายหน้า ข. Form Utility ………จ…… 3. ตัวแทนผู้ผลิต ค. Wholesaler ………ช…… 4. ผู้ค้าปลีก ง. Possession Utility ………ก…… 5. ส่วนแบ่งทางการตลาด จ. Manufacturer Agent ………ฉ…… 6. ผู้ค้าส่ง ฉ. Wholesaler ………ฏ…… 7. เวลาที่ต้องการ ช. Retailer ………ข…… 8. รูปแบบที่ต้องการ ซ. Place ………ฎ…… 9. สถานที่ต้องการ ฌ. Broker ………ญ…… 10. วัตถุประสงค์ในการจัดจำหน่าย ญ. Distribution Objectives) ฎ. Place Utility ฏ. Time Utility เฉลยแบบฝึกหัดที่ 6.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
64 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (4 คะแนน) 1. Possession Utility คือ การจัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ ✓ 2. ช่องทางการจัดจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังตัวแทนจำหน่ายและไปยังผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องมือ เครื่องจักรที่มีความยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย ✓ 3. ช่องทางการจัดจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย เป็นช่องทางที่ไม่ผ่าน คนกลางเพราะผู้ผลิตทำหน้าที่เป็นคนกลางเอง 4. ผู้ค้าส่ง คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้านั้นต่อไปยังผู้บริโภค 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (6 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของช่องทางการจัดจำหน่าย ตอบ การจัดจำหน ่าย (Place or Distribution) หมายถึง กิจกรรมทางการตลาดใน การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค โดยผ่านกิจกรรมทางการตลาดและคนกลางเพื่อให้สินค้า ถึงมือผู้บริโภคด้วยความพึงพอใจในเวลาและสถานที่ที่ถูกต้อง 2. จงบอกความสำคัญของช่องทางการจัดจำหน่าย ตอบ ช่องทางการจัดจำหน่ายมีความสำคัญในการดำเนินงานของกิจการ ดังต่อไปนี้ 1) การจัดจำหน่ายที่ดี สามารถลดต้นทุนและความเสี่ยงของกิจการ 2) ทำให้สินค้าและบริการถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น 3) เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจและผู้บริโภค 4) ทำให้เกิดช่องทางการเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นสินค้าและบริการ 5) ทำให้จัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ 6) ทำให้สินค้าหรือบริการเปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้า 3. จงบอกวัตถุประสงค์ของการจัดจำหน่าย ตอบ การกำหนดกลยุทธ์ด้านช่องทางการจำหน่าย มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ 2) เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 3) เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ 4. จงบอกหน้าที่ของการจัดจำหน่าย ตอบ การจัดจำหน่ายแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1) ช่องทางการจัดจำหน่าย ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือบริการจาก แหล่งผลิตให้แก่ผู้บริโภคคนสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ
65 2) การกระจายสินค้า ทำหน้าที ่เกี ่ยวกับการเคลื ่อนย้ายสินค้าจากแหล ่งผลิตไปยัง กลุ่มเป้าหมาย การตัดสินใจด้านการขนส่งเพื่อให้ทันเวลา และตามสถานที่ที่ผู้ซื้อต้องการซื้อสินค้า 5. จงอธิบายประเภทของช่องทางการจัดจำหน่าย ตอบ ช่องทางการจัดจำหน่ายมี 2 ประเภท ดังนี้ 1) ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเส้นทางในการลำเลียงสินค้าหรือ บริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย 2) ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม เป็นเส้นทางในการลำเลียงสินค้าจาก ผู้ผลิตไปสู่ผู้ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม 6. จงอธิบายบุคคลและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่าย ตอบ บุคคลและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย 1) พ่อค้าคนกลางหรือผู้ขายต่อ 2) ตัวแทนคนกลาง ได้แก่ นายหน้า ตัวแทนผู้ผลิต 3) สถาบันอำนวยความสะดวกทางการตลาด นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 18-20 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 15-17 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 12-14 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 12 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 6.1
66 1. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ✓ 1. ร้านสะดวกซื้อ เป็นร้านค้าที่มีวิวัฒนาการมาจากร้านขายของชำ 2. อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือ คอมพิวเตอร์ ใช้การจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง ✓ 3. ร้านโชห่วย เป็นคนกลางในรูปแบบของการค้าปลีก ✓ 4. ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่ายส่วนใหญ่เกิดจากผู้จัดจำหน่ายที่เป็นคนกลาง ✓ 5. ตัวแทนจัดจำหน่าย คือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนของผู้ผลิตในการดำเนินงาน การด้านจัดจำหน่ายแทนบริษัท 6. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายขึ้นอยู่แนวความคิดของผู้บริหาร กิจการเท่านั้น 2. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (4 คะแนน) 1. คนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ตอบ ประเภทของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย 1) คนกลางในระดับค้าส่ง คนกลางในระดับค้าส่งทำหน้าที่ในการรับสินค้าจากผู้ผลิตไป จัดจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าปลีก ได้แก่ ตัวแทนจัดจำหน่าย ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าอิสระ 2) คนกลางในระดับค้าปลีก ผู้ค้าปลีก คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ค้าส่งและจำหน่ายสินค้า นั้นไปยังผู้บริโภคคนสุดท้ายด้วยวิธีการซื้อผ ่านคนกลางประเภทต ่าง ๆ ได้แก ่ ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และซูเปอร์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าและ ร้านขายสินค้าเฉพาะอย่าง 2. การกำหนดความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายมีกี่ระดับ ตอบ การกำหนดความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย กำหนดได้ 3 ระดับ 1) การจัดจำหน่ายแบบหนาแน่นสูง เป็นการกระจายผลิตภัณฑ์ผ่านคนกลางแบบไม่ จำกัดจำนวนคนกลาง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีการจำหน ่ายอย ่างทั่วถึง ทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกใน การหาซื้อสินค้า 2) การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง เป็นการจัดจำหน่ายที่มีการคัดเลือกคนกลาง ที่เหมาะสมในเขตพื้นที่หนึ่ง ๆ เพื่อป้องกันมิให้การแข่งขันระหว่างคนกลางของกิจการสูงเกินไป 3) การจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง เป็นการจัดจำหน่ายที่ผู้ผลิตเลือกคนกลาง เพียงคนเดียวในเขตพื้นที่หนึ่ง ๆ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง เฉลยแบบฝึกหัดที่ 6.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
67 3. จงบอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย ตอบ 1) ลักษณะของตลาด 2) ลักษณะของสินค้าและบริการ 3) ลักษณะของธุรกิจหรือองค์กรการผลิต 4) ลักษณะคู่แข่ง 5) ลักษณะของคนกลาง 6) ลักษณะของสภาพแวดล้อม 4. จงบอกปัญหาของช่องทางการจำหน่าย ตอบ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากผู้จัดจำหน่ายที่เป็นคนกลาง ดังนี้ 1) ผู้จัดจำหน่ายมักจะเลือกจำหน่ายสินค้าที่กำไรสูงสุด 2) ผู้จัดจำหน่ายไม่ให้ความสนใจให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าแก่ผู้บริโภค 3) ผู้จัดจำหน่ายที่ทำหน้าที่มานาน เป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการจัดจำหน่าย 4) ผู้จัดจำหน่ายประเภทต่าง ๆ ที่ไม่มีความรู้ในสินค้าและบริการ 5) ผู้จัดจำหน่ายมีปัญหาด้านการเงิน นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 6.2
68 คำตอบของแบบทดสอบหลังเรียนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 6 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ค เปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้าไปยังผู้ขาย 2. ก เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ 3 ก การคลังสินค้า 4. ง นมสด ผลไม้ 5. ค ผู้ค้าปลีก 6. ข คนกลาง 7. ก คนกลางในระดับค้าปลีก 8. ข การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง 9. ค ลักษณะของตลาด 10. ค ผู้จัดจำหน่ายในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้น นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
69 เฉลยแบบทดสอบ ใบงาน และแบบฝึกหัด เอกสารประกอบชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด
70 คำตอบของแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 7 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ง การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ 2. ง กระตุ้นผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าและเพิ่มยอดขายให้กับกิจการ 3 ค เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการและโน้มน้าวให้ ตัดสินใจซื้อ 4. ค สิ่งรบกวน 5. ก Advertising 6. ง บุคลิกภาพ สินค้า อุปกรณ์ ความรู้เกี ่ยวกับลูกค้า กิจการและ คู่แข่งขัน 7. ข การจัดแถลงข่าว 8. ก ขั้นแนะนำ 9. ค ซื้อยาสีฟัน 2 กล่อง แถมฟรีแก้วน้ำ 1 ใบ 10. ค การเลื ่อนตำแหน ่งให้พนักงานขาย เนื ่องจากทำยอดขายได้ตาม เป้าหมาย นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบก่อนเรียน เฉลยทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด เการตลาด
71 เฉลยใบงานที่ 7.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด เรื่อง กระบวนการติดต่อสื่อสารของธุรกิจ คำชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการติดต่อสื่อสารของธุรกิจกลุ่มละ 1 ประเภท เพื่อเขียนขั้นตอนของกระบวนการติดต่อสื่อสาร เมื่อธุรกิจต้องการส่งข่าวสารไปยังผู้รับสาร แนวทางการตอบ (ตัวอย่างธุรกิจน้ำผักและผลไม้ตรามาลี) กระบวนการติดต่อสื่อสารของธุรกิจน้ำผักและผลไม้ตรามาลี ซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1. ผู้ส่งสาร (Source) คือ บริษัทมาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ส่งสารไปยังผู้ รับสารหรือลูกค้าเป้าหมาย 2. การใส่รหัส (Encoding) คือ บริษัทมุ่งมั่นที่ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ น้ำผลไม้ยูเอชทีพาสเจอร์ไรส์ ผลไม้กระป๋อง และเครื ่องดื ่มเพื ่อสุขภาพอื ่น ๆ ภายใต้ตราสินค้า “มาลี” ที่มุ่งเน้นตอบกระแสความต้องการด้านสุขภาพ 3. ข่าวสาร (Message) คือ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนอย่างยั่งยืน 4. สื่อ (Media) ข่าวสารถูกส่งผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ พนักงาน จดหมายข่าว สื่ออินเทอร์เน็ต หรือสื่ออื่น ๆ เพื่อทำให้ผู้รับสารจดจำข่าวสารได้ดียิ่งขึ้น 5. การถอดรหัส (Decoding) คือ ผู้รับสารมีความเข้าใจในข่าวสารมากขึ้น ทำให้เกิดทัศนคติ และการรับรู้ที่ดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ 6. ผู้รับสาร (Receivers) เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชอบดื่มน้ำผัก น้ำผลไม้ และกลุ่มลูกค้าที่ รักสุขภาพ 7. การตอบสนอง (Response) เป็นปฏิกิริยาที่ผู้รับสารมีต่อข่าวสารที่ส่งไป เช่น การชื่นชอบ โฆษณาหรือการสอบถามพนักงานขายเกี่ยวกับสินค้า เป็นต้น 8. ผลสะท้อนกลับ (Feedback) คือ ยอดขายของสินค้าสูงขึ้น ส่วนแบ่งทางการตลาดของ ธุรกิจเพิ่มขึ้น 9. สิ่งรบกวน (Noise) เป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ทำให้เกิดความ คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ส่งข่าวสารกับผู้รับข่าวสาร เช่น เสียงดังรบกวนทางสื่อโฆษณา คุณภาพของ การพิมพ์ของสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นต้น
72 เรื่อง การส่งเสริมการตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภค คำชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละคนค้นหารูปภาพของสินค้าอุปโภคบริโภคที่นักเรียนมีความสนใจมาคนละ 2 ภาพ เพื่อทำการส่งเสริมการตลาดของสินค้าให้เป็นที่รู้จักแก่กลุ่มลูกค้า แนวทางการตอบ 1. วิธีการส่งเสริมการตลาด สินค้าจักจั่นทะเลแซ่บซี๊ด มีวิธีการส่งเสริมการตลาดโดยประชาสัมพันธ์ ธุรกิจผ่าน Facebook เพจจักจั่นทะเลแซ่บซี๊ด เพื่อแนะนำสินค้าและเป็นช่องทางในการจัดจำหน ่าย จัดกิจกรรมการส ่งเสริมการขายโดยให้ส ่วนลด 20% สำหรับการขายฝาก และจัดโปรโมชั ่นใน การแนะนำสินค้าเมื่อซื้อจักจั่นทะเลแซ่บซี๊ด 5 กระป๋อง จากราคา 325 บาท เหลือ 300 บาท 2. วิธีการส่งเสริมการตลาด สินค้าน้ำพริกมันกุ้งเห็ดแครงผัดฉ ่า มีวิธีการส ่งเสริมการตลาดโดย การประชาสัมพันธ์ธุรกิจผ่าน Facebook เพจน้ำพริกมันกุ้งเห็ดแครงผัดฉ่าเพื่อแนะนำสินค้าและเป็น ช่องทางในการจัดจำหน่าย มีการออกบูทจัดนิทรรศการตามงานต่างทั้งในและนอกจังหวัด จัดกิจกรรม การส่งเสริมการขายโดยให้ส่วนลด 20% สำหรับการขายฝาก มีบริการรับจัดชุดกระเช้าน้ำพริกเพื่อ เป็นของที่ระลึก และบริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศเมื่อมีการสั่งซื้อน้ำพริกมันกุ้งเห็ดแครงผัดฉ่า ครบ 10 กระปุกขึ้นไป เฉลยใบงานที่ 7.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด
73 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………ฌ......1. การใส่รหัส ก. Promotion ………ง……..2. ผู้รับสาร ข. Communication Process ………ฉ…….3. ผู้ส่งสาร ค. Prospect Customer ………ซ…….4. สื่อ ง. Receivers ………ญ……5. ผลสะท้อนกลับ จ. Noise ………จ…….6. สิ่งรบกวน ฉ. Source ………ข…….7. กระบวนการติดต่อสื่อสาร ช. Trade Promotion ………ค…….8. ลูกค้าที่คาดหวัง ซ. Media …..….ฎ…….9. สินค้าประเภทคงทนถาวร ฌ.Encoding ……….ก……10. การส่งเสริมการตลาด ญ. Feedback ฎ. Durable Goods ฏ. Decoding เฉลยแบบฝึกหัดที่ 7.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด
74 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ✓ 1. ข่าวสาร (Message) เป็นเนื้อหาหรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผู้ส่งสารต้องการให้ผู้รับสาร ได้ทราบข้อมูล ✓ 2. สิ่งรบกวน (Noise) เป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ทำให้เกิดความ คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ส่งข่าวสารกับผู้รับข่าวสาร ✓ 3. วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาด เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารและให้บริการด้าน ความรู้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเท่านั้น 4. การติดต่อสื่อสารที่ดีควรเป็นการติดต่อสื่อสารแบบทางเดียว (One Way Communication) 5. การใส่รหัส เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการติดต่อสื่อสาร ✓ 6. Feedback เป็นข้อมูลหรือผลที่สะท้อนกลับไปยังผู้ส่งสารจากการติดต่อสื่อสาร ซึ่งผลสะท้อนกลับเป็นข้อมูลที่ผู้ส่งสารต้องนำไปใช้ปรับปรุงการสื่อสารครั้งต่อไป 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (4 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของการส่งเสริมการตลาด ตอบ การส่งเสริมการตลาด (Promotion) หมายถึง กระบวนการด้านการสื่อสารข้อมูลของ ผู้ขายหรือผู้ผลิตส่งไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อกระตุ้น จูงใจ โน้มน้าวจิตใจของลูกค้าให้เกิดความ เข้าใจในตัวสินค้าหรือบริการให้ลูกค้ามีความต้องการและตัดสินใจซื้อในที่สุด 2. จงบอกความสำคัญของการส่งเสริมการตลาด ตอบ ความสำคัญของการส่งเสริมการตลาด มีดังนี้ 1) กระตุ้นผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าและเพิ่มยอดขายให้กับกิจการ 2) ทำให้ผู้ผลิตสามารถสื่อสารกับผู้บริโภคและก่อให้เกิดการซื้อในที่สุด 3) ทำให้คนกลางนำสินค้ากระจายไปยังผู้บริโภคอย่างทั่วถึง 4) สร้างความจดจำให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง 3. จงบอกวัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาด ตอบ วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาด มีดังนี้ 1) เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่งทั้งสายผลิตภัณฑ์ 2) เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนครองตลาด 3) เพื่อเตือนความทรงจำ 4) เพื่อสร้างบรรยากาศการขายในอนาคต 5) เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารและให้บริการความรู้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
75 6) เพื่อสร้างความแตกต่างทางการแข่งขัน 7) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการส่งเสริมการตลาด 4. จงอธิบายกระบวนการติดต่อสื่อสาร ตอบ กระบวนการติดต่อสื่อสาร ซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1) ผู้ส ่งสาร กระบวนการติดต ่อสื ่อสารเริ ่มต้นจากผู้ส ่งสาร ได้แก ่ เจ้าของผลิตภัณฑ์ ผู้จัด จำหน่าย หรือบริษัทตัวแทนโฆษณา เป็นต้น ซึ่งเป็นผู้เลือกข่าวสารที่ต้องการส่งไปยังผู้รับสาร 2) การใส่รหัส เป็นการนำข้อมูลข่าวสารมาสื่อความหมาย เพื่อให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจใน ข่าวสารที่ผู้ส่งสารส่งข้อมูลมา โดยผู้ส่งสารใช้สื่อในรูปแบบของคำพูด ตัวอักษร สัญลักษณ์ สี น้ำเสียง 3) ข่าวสาร เป็นเนื้อหาหรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่ผู้ส่งสารต้องการให้ผู้รับสารทราบข้อมูล 4) สื่อ ในการส่งข่าวสารนั้น ข่าวสารถูกส่งผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ พนักงานขาย จดหมาย หรือสื่ออื่น ๆ 5) การถอดรหัส เป็นการแปลข่าวสารของผู้รับสารที ่เป็นกลุ ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งผู้รับสาร มีความเข้าใจในข่าวสารมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับทัศนคติ ความเชื่อ การเรียนรู้ และการรับรู้ 6) ผู้รับสาร เป็นบุคคลหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่ผู้ส่งสารต้องการส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ สินค้าหรือบริการเพื่อให้เกิดความเข้าใจในข่าวสารของกิจการ 7) การตอบสนอง เป็นปฏิกิริยาที่ผู้รับสารมีต่อข่าวสารที่ส่งไป เช่น เมื่อชมโฆษณาแล้วพยัก หน้าหรือยิ้มแสดงว ่าเข้าใจและชอบโฆษณานั้น หรือซักถามพนักงานขายเพื ่อให้อธิบายเกี ่ยวกับ คุณสมบัติของสินค้า แสดงว่าผู้รับสารให้ความสนใจในสินค้านั้น 8) ผลสะท้อนกลับ เป็นข้อมูลหรือผลที่สะท้อนกลับไปยังผู้ส่งสารจากการติดต่อสื่อสาร 9) สิ่งรบกวน เป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นในระหว่างการติดต่อสื่อสารที่ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ระหว่างผู้ส่งข่าวสารกับผู้รับข่าวสาร ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 18-20 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 15-17 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 12- 14 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 12 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 7.1
76 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………ฏ.......1. การเตรียมตัวก่อนการเข้าพบ ก. Direct Marketing ………ฌ…… 2. การเผชิญข้อโต้แย้ง ข. Meeting Objections ………จ……..3. การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่พนักงานขาย ค. Presentation and Demonstration ………ก……..4. การตลาดทางตรง ง. Budget Funds ………ซ……..5. ประเภทของลูกค้า จ. Sales forces Promotion ………ฎ……..6. ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ฉ. Source ………ข……..7. การเผชิญข้อโต้แย้ง ช. Trade Promotion ………ง………8. งบประมาณ ซ. Type of Customer …..….ค……..9. การเสนอขายและการสาธิต ฌ. Meeting Objections ………ช..……10. การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่คนกลาง ญ. Personal Selling ฎ. Nature of Product ฏ. Pre - Approach เฉลยแบบฝึกหัดที่ 7.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด
77 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (7 คะแนน) 1. การโฆษณา เป็นวิธีการสื่อสารที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุด ✓ 2. ขั้นถดถอย (Decline Stage) เป็นช่วงที่กิจการมียอดขายและกำไรลดลง 3. วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์ เพื่อนำเสนอขายสินค้าหรือบริการให้ได้มากที่สุด ✓ 4. สื่อโทรทัศน์ เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการสื่อสารมากที่สุดเนื่องจากเป็นสื่อที่มีความ ครอบคลุมสูง เป็นสื่อที่มีทั้งภาพ เสียง และการเคลื่อนไหว ✓ 5. ส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาด (Promotion Mix) เป็นเครื่องมือสื่อสารทาง การตลาดเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสาร จูงใจ กระตุ้นผู้บริโภค สร้างทัศนคติ และก่อให้เกิด พฤติกรรมการซื้อ 6. กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์คือ กลยุทธ์ดึง กลยุทธ์ผลัก กลยุทธ์ผสม และกลยุทธ์รวม 7. ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกส่วนประสมการส่งเสริมการตลาด ได้แก่ งบประมาณ และขั้นตอนของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (3 คะแนน) 1. จงอธิบายส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาด ตอบ ส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาด ประกอบด้วย 1) การโฆษณา (Advertising) หมายถึง การสื ่อสารเพื ่อโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคเกิดการ ตอบสนองตามที่ผู้โฆษณาต้องการเป็นการส่งเสริมแนวความคิดของสินค้าหรือบริการ แต่ทั้งนี้ต้องมี การชำระเงินและผ่านสื่อที่มิใช่ตัวบุคคล 2) การประชาสัมพันธ์ (Public Relation) หมายถึง การสื่อสารที่วางแผนการดำเนินงานอย่าง เป็นระบบเพื่อสร้างความรับรู้ ความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกิจการกับผู้ที่มีส่วนได้เสีย ต่าง ๆ 3) การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) หมายถึง การสื่อสารต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวจูงใจให้ ผู้บริโภค คนกลาง หรือพนักงานขายเกิดการตอบสนองในการตัดสินใจซื้อหรือสนับสนุนการขายสินค้า หรือบริการในระยะเวลาอันสั้น 4) การขายโดยใช้พนักงานขายหรือการขายโดยบุคคล (Personal Selling) การสื่อสารโดยใช้ บุคคลในการส่งข้อมูลข่าวสารของสินค้าหรือบริการไปยังผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมาย 5) การตลาดทางตรง (Direct Marketing) เป็นการสื่อสารทางการตลาดจากผู้ผลิตสินค้ามุ่ง ตรงไปสู ่ผู้บริโภคที ่เป็นรายบุคคลหรือกลุ ่มใหญ ่ เพื ่อส ่งข ่าวสารเกี ่ยวกับสินค้าหรือบริการไปยัง กลุ่มเป้าหมายให้เกิดการตอบสนองมีการโต้ตอบอย่างรวดเร็ว
78 2. จงบอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกส่วนประสมการส่งเสริมการตลาด ตอบ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกส่วนประสมการส่งเสริมการตลาด มีดังนี้ 1) งบประมาณ 2) ขั้นตอนของวัฏจักรวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ 3) ลักษณะของการตลาดเป้าหมายในการส่งเสริมการตลาด 4) ลักษณะของผลิตภัณฑ์ 3. จงอธิบายกลยุทธ์ของการส่งเสริมการตลาด ตอบ กลยุทธ์ของการส่งเสริมการตลาด มี 3 กลยุทธ์ ดังนี้ 1) กลยุทธ์ดึง (Pull Strategy) เป็นการจัดกิจกรรมทางการตลาดโดยการโฆษณาและ การส่งเสริมการขาย เช่น การจัดแสดงสินค้า การแลกซื้อ การแจกของตัวอย่าง เป็นต้น ซึ่งมุ่งสู่ผู้บริโภค คนสุดท้ายเพื่อให้เกิดความสนใจและต้องการสินค้า 2) กลยุทธ์ผลัก (Push Strategy) เป็นการผลักสินค้าของผู้ผลิตไปสู ่คนกลางโดยอาศัย พนักงานขายให้เป็นผู้ผลักดันสินค้าไปตามช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นการกระตุ้นพนักงานขายโดย เสนอผลตอบแทนต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานขายเกิดความพยายามในการขายสินค้าให้มาก 3) กลยุทธ์ผสม (Push and Pull Strategy) เป็นการใช้กลยุทธ์ผลักและกลยุทธ์ดึงรวมกัน ซึ่งใช้การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภคร่วมกับการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่คนกลางและพนักงานขาย นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 18-20 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 15-17 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 12- 14 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 12 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 7.2
79 คำตอบของแบบทดสอบหลังเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 7 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ก การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ 2. ก กระตุ้นผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าและเพิ่มยอดขายให้กับกิจการ 3 ข เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการและโน้มน้าวให้ ตัดสินใจซื้อ 4. ข สิ่งรบกวน 5. ง Advertising 6. ก บุคลิกภาพ สินค้า อุปกรณ์ ความรู้เกี ่ยวกับลูกค้า กิจการและ คู่แข่งขัน 7. ค การจัดแถลงข่าว 8. ง ขั้นแนะนำ 9. ข ซื้อยาสีฟัน 2 กล่อง แถมฟรีแก้วน้ำ 1 ใบ 10. ข การเลื ่อนตำแหน ่งให้พนักงานขาย เนื ่องจากทำยอดขายได้ตาม เป้าหมาย นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนที่หน่วย 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด
80 เฉลยแบบทดสอบ ใบงาน และแบบฝึกหัด เอกสารประกอบชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่องจรรยาบรรณนักการตลาด
81 คำตอบของแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 8 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ง แนวทางการประพฤติที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรมของบุคคลในแต่ละ อาชีพ 2. ง ควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพของนักการตลาด 3 ค ปฏิบัติเกี่ยวกับกฎหมายและค่านิยมที่ดีของสังคม 4. ก ไม่ผูกขาดช่องทางการจัดจำหน่าย 5. ง ใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย ่างประหยัดและมี ประสิทธิภาพ 6. ข ประชาชนที ่ได้รับการศึกษาสูงและมีแนวคิดที ่ผิด ๆ กลายเป็น ปัญหาของสังคม 7. ค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 8. ข การเพิ่มมูลค่า 9. ข การสร้างพันธมิตรทางการค้า 10. ง การสร้างความภักดี มีส่วนร่วมและขวัญกำลังใจให้กับพนักงานและ ผู้บริโภค นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่อง จรรยาบรรณนักการตลาด
82 คำชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับแนวความคิดของธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) หรือ CSP โดยให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลของธุรกิจที่มีการจัดทำ CSR จากอินเทอร์เน็ต เฉลยใบงานที่ 8 ชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่อง จรรยาบรรณนักการตลาด เรื่อง ธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม แนวทางการตอบ (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพีในการจัดทำ CSR) 1. กิจการมีแนวทางในการทำ CSR อย่างไรบ้าง ตอบ บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพีมีแนวทางในการทำ CSR ดังนี้ 1) 1) แบบบริจาค ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางเครือซีพีได้บริจาคเงินสนับสนุนและ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และเงินสด จำนวน 100 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิต หน้ากากอนามัยมอบให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่าง ๆ สำหรับใช้ต่อสู้กับโควิด-19 2) 2) แบบเฉพาะกิจ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ จัดทำโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ในการส่งมอบสิ่งของที่จำเป็นชุดอุปโภคบริโภคกับผู้ได้ที่ รับผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ เป็นต้น 3) แบบ CSR ร่วมกับการทำธุรกิจ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กับโครงการ“เลี้ยงไก่ไข่” ที่ดำเนินกิจกรรมเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กและ เยาวชนทั ่วประเทศเข้าถึงการบริโภคไข ่ไก ่อย ่างเพียงพอ เพื ่อเป็นแหล ่งเรียนรู้ที่ดีให้กับเด็กและ เยาวชนไทยสามารถนำประสบการณ์การเรียนรู้เลี้ยงไก่ไข่ไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต
83 เฉลยใบงานที่ 8 (ต่อ) ชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่อง จรรยาบรรณนักการตลาด เรื่อง ธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม แนวทางการตอบ (ต่อ) (บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพีในการจัดทำ CSR) 2. ในการทำ CSR กิจการจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะเหตุใด ตอบ ในการทำ CSR ธุรกิจจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวคิดพื้นฐานของ CSR คือ การทำให้ธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการที่ธุรกิจทำ CSR ธุรกิจต้องมี ความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นในการบริหารกิจการให้มีผลกำไร และบริหารการจัดการขององค์การ ธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับของสาธารณชน สามารถขยายกิจการให้เจริญเติบโตในสังคมและชุมชนที่ ธุรกิจดำเนินอยู่ได้อย่างยั่งยืน 3. กิจการมีจรรยาบรรณเกี่ยวกับนักการตลาดอย่างไร ตอบ กิจการมีจรรยาบรรณเกี่ยวกับนักการตลาด โดยดำเนินงานทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับ การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยนำแนวคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้ในกิจกรรมกิจกรรมทางการตลาดให้เหมาะสมกับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายและนำ รายได้ส่วนหนึ่งของกิจการไปช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ สังคมและประเทศชาติโดยรวม
84 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………ข.........1. ความรับผิดชอบต่อสังคม ก. Contractive Model ………ง……….2. การตลาดสัมพันธภาพ ข. Customer Relationship Management ………ฉ….…..3. การจัดกิจกรรม ค. Corporate Social Responsibility ………ฌ……..4. การประชาสัมพันธ์ ง. Market Relationship ………ข….…..5. การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า จ. Direct Marketing ………ซ….…..6. ตราสินค้า ฉ. Event ………ญ……..7. รางวัล ช. Education Model ………ก……...8. เงื่อนไขสัญญา ซ. Brand ………ฏ.……..9. การเพิ่มมูลค่า ฌ.Public Relation ………ช.……10. การให้ความรู้เฉพาะด้าน ญ. Reward Model ฎ. Personal Selling ฏ. Value Added Model เฉลยแบบฝึกหัดที่ 8 ชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่อง จรรยาบรรณนักการตลาด
85 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (12 คะแนน) ✓ 1. จรรยาบรรณนักการตลาด เป็นแนวทางหรือหลักการปฏิบัติของนักการตลาดที่กำหนดขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างและรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของอาชีพนักการตลาด 2. ความสำคัญของจรรยาบรรณนักการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับกิจการ 3. การส่งเสริมการตลาดเป็นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับคู่ค้า ✓ 4.“ละเว้นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือบกพร่องไม่สมบูรณ์”เป็นข้อพึงปฏิบัติด้านการวิจัยตลาด ✓ 5. CSR หมายถึง การดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการใส่ใจและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ✓ 6. การตลาดสัมพันธภาพ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า 2. การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับคู่ค้า 7. แนวทางในการทำ CSR แบบเฉพาะกิจเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดสำหรับการให้ผู้บริโภค ทั่วไปได้มีส่วนร่วม ✓ 8. แนวทางในการทำ CSR ร่วมกับการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม ✓ 9. Public Relation เป็นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า 10. ปัญหาของการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเนื่องจากมีคู่แข่งขันทางการตลาด เพิ่มมากขึ้น ✓ 11. ประโยชน์ความรับผิดชอบต่อสังคมของนักการตลาด สร้างความสัมพันธ์และมุมมองใหม่ ๆ กับผู้บริโภคและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 12. แรงผลักดันจากภายในและภายนอกทำให้องค์การธุรกิจต้องใช้แนวคิด CSR ในการดำเนิน งานทางการตลาดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (8 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของจรรยาบรรณของนักการตลาด ตอบ จรรยาบรรณของนักการตลาด คือ แนวทางหรือหลักการปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ของนักการตลาดที ่กำหนดขึ้นเพื ่อเป็นการเสริมสร้าง และรักษาชื ่อเสียงเกียรติยศของอาชีพ นักการตลาด 2. จงบอกความสำคัญของจรรยาบรรณของนักการตลาด ตอบ ความสำคัญของจรรยาบรรณนักการตลาด มีดังนี้ 1) ควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพของนักการตลาด 2) ควบคุมจรรยาบรรณของนักการตลาด 3) ส่งเสริมมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพของนักการตลาด
86 4) ลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระทำของนักการตลาด 5) ส่งเสริมจรรยาบรรณความรับผิดชอบของนักการตลาด 3. จรรยาบรรณนักการตลาดกำหนดข้อพึงปฏิบัติและความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ตอบ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยได้จัดทำจรรยาบรรณนักการตลาด เพื่อเป็นแนวทาง ปฏิบัติสำหรับบุคคลในวงธุรกิจและการตลาด โดยกำหนดหลักการ ข้อพึงปฏิบัติ และความรับผิดชอบ ไว้ดังนี้ 1) หลักการทั่วไปของจรรยาบรรณนักการตลาด 2) ข้อพึงปฏิบัติต่อกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานทางการตลาด 3) ข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับสัมพันธภาพองค์กร 4) ข้อพึงปฏิบัติเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม 4. จงบอกอุปสรรคต่อจรรยาบรรณ ตอบ อุปสรรคต่อจรรยาบรรณ มีดังนี้ 1) ประชากรที่เพิ่มขึ้น 2) ความสะดวกสบายและความเจริญของการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว 3) ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ 4) สิ่งที่ผิดกฎหมาย 5. จงอธิบายความรับผิดชอบต่อสังคม ตอบ ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) คือ การดำเนินธุรกิจควบคู ่ไปกับการใส่ใจและดูแล รักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักจริยธรรม การกำกับดูแลกิจกรรมที่ดี และนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาบูรณาการเพื่อนำไปสู่การดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน 6. จงบอกความหมายของการตลาดสัมพันธภาพ ตอบ การตลาดสัมพันธภาพ คือ แนวคิดที่เน้นการสร้างและการเก็บรักษาความสัมพันธ์ใน ระยะยาวกับลูกค้าและคู่ค้าเพื่อให้ลูกค้าและคู่ค้ามีความภักดีกับองค์การตลอดไป 7. จงบอกประโยชน์ความรับผิดชอบต่อสังคมของนักการตลาด ตอบ ประโยชน์ความรับผิดชอบต่อสังคมของนักการตลาด มีดังนี้ 1) เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและการสร้างผลกำไรที่ดีที่สุด 2) สร้างความสัมพันธ์และมุมมองใหม่ ๆ กับผู้บริโภค 3) สร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดี 4) ปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง 5) เพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นธรรมของธุรกรรมต่าง ๆ อย่างรับผิดชอบ 6) ส่งเสริมให้เกิดการตัดสินใจเกี่ยวกับความคาดหวังของผู้บริโภคบนพื้นฐานของความเข้าใจ
87 7) เพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคม 8) ทำให้เกิดนวัตกรรมและความเจริญเติบโตควบคู่กับผลกำไรที่สูงขึ้น 9) ช่วยสร้างความประหยัดแก่ระบบการผลิต 10) เป็นแนวทางป้องกันหรือลดความขัดแย้งเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค 11) สร้างความภักดี การมีส่วนร่วม และขวัญกำลังใจให้กับพนักงานและผู้บริโภค 12) ส่งผลในการจูงใจและรักษาพนักงาน 8. จงบอกปัญหาของธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม ตอบ ปัญหาของธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม มีดังนี้ 1) องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ไม่เข้าถึงแก่นความเข้าใจของการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม 2) ปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีผลต่อการประกอบธุรกิจ 3) องค์กรที่มีความเสี่ยงในด้านการประกอบธุรกิจ 4) ปัญหาวิกฤตการเงินเพื่อการพัฒนากิจกรรม CSR 5) กลุ่มองค์กรธุรกิจใช้กิจกรรม CSR เป็นการปิดบังปัญหาที่ซ่อนเร้นที่ภาคธุรกิจก่อไว้ นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 26-30 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 22-25 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี (3) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ 18-21 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้ (2) นักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ ต่ำกว่า 18 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบฝึกหัดได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลแบบฝึกหัดที่ 8
88 คำตอบของแบบทดสอบหลังเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 8 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ก แนวทางการประพฤติที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรมของบุคคลในแต่ละ อาชีพ 2. ก ควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพของนักการตลาด 3 ข ปฏิบัติเกี่ยวกับกฎหมายและค่านิยมที่ดีของสังคม 4. ง ไม่ผูกขาดช่องทางการจัดจำหน่าย 5. ก ใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย ่างประหยัดและมี ประสิทธิภาพ 6. ค ประชาชนที ่ได้รับการศึกษาสูงและมีแนวคิดที ่ผิด ๆ กลายเป็น ปัญหาของสังคม 7. ข การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 8. ค การเพิ่มมูลค่า 9. ค การสร้างพันธมิตรทางการค้า 10. ก การสร้างความภักดี มีส่วนร่วมและขวัญกำลังใจให้กับพนักงานและ ผู้บริโภค นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 8 เรื่อง จรรยาบรรณนักการตลาด
89 เฉลยแบบทดสอบ ใบงาน และแบบฝึกหัด เอกสารประกอบชุดการสอนหน่วยที่ 9 เรื่องเทคโนโลยีการตลาดตามสถานการณ์
90 คำตอบของแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 9 จำนวน 10 ข้อ 10 คะแนน ข้อที่ เฉลย คำตอบ 1. ง โปรแกรมจัดการลูกค้าสัมพันธ์ 2. ก ออนไลน์แค็ตตาล็อก 3 ค ทำให้กิจการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4. ง การประกาศ 5. ข การแบ่งปันเนื้อหา 6. ง Facebook 7. ก การตลาดระยะยาว 8. ง เข้าถึงเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่รู้จักอินเทอร์เน็ตเท่านั้น 9. ค Product to Experience 10. ก Price to Exchange นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 9-10 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 7-8 คะแนน ระดับคุณภาพ ดี(3) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 5-6 คะแนน ระดับคุณภาพ พอใช้(2) นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ต่ำกว่า 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป หมายเหตุ ถ้านักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนได้ในระดับคุณภาพ ปรับปรุง (1) ผู้สอนควรสอนซ่อมเสริมและมอบหมายงานให้ปฏิบัติเพิ่มเติม เกณฑ์การประเมินผลการทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 9 เรื่อง เทคโนโลยีการตลาดตามสถานการณ์
91 เรื่อง Application บนสื่อสังคมออนไลน์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณา Application ที่กำหนดให้โดยให้อธิบายรายละเอียดการให้บริการ ของ Application ดังกล่าว แนวทางการตอบ เฉลยใบงานที่ 9.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 9 เรื่อง เทคโนโลยีการตลาดตามสถานการณ์ Application รายละเอียดการให้บริการ Grad Food เป็น Application ส าหรับให้บริการซื้ออาหาร จากร้านต่าง ๆ ผู้บริโภคที่ใช้บริการต้องดาวน์โหลด Application ลงใน Smartphone เปิดใช้บริการโดยกรอก ข้อมูลตามที่ก าหนด เมื่อกรอกเสร็จ สามารถใช้บริการได้ทันที Shopee เป็น Application ส าหรับให้บริการซื้อสินค้า ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายจากผู้ขายหลายราย ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลด Application กรอกข้อมูล ที่ก าหนด และใช้บริการได้ทันที NETFLIX เป็น Application สำหรับให้บริการชม รายการทีวีและภาพยนตร์ ผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียน เป็นสมาชิกที่ www.netflix.com เมื่อสมัครเป็นสมาชิก สามารถเลือกแพ็กเกจที่ต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดและ ราคาที่แตกต่างกันออกไป Banking เป็น Application สำหรับการทำธุรกรรมกับ ธนาคารโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การฝากเงิน ถอนเงิน เป็นต้น
92 เรื่อง การตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์แนวทางการตอบ คำชี้แจง : ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลของสินค้าหรือบริการที่ทำการตลาดทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Marketing) มากลุ่มละ 3 ประเภท แนวทางการตอบ ประเภทที่ 1 บนสื่อสังคมออนไลน์ Facebook ประเภทที่ 2 บนสื่อสังคมออนไลน์ YouTube ข้อดี 1. YouTube เป็นการสื่อสารกับผู้บริโภค โดยผ่านวีดีโอทำให้ลูกค้าเกิดความ ประทับใจและสร้างความพึงพอใจ 2. เป็นสื่อที่สร้างความน่าเชื่อถือและความ น่าสนใจมากกว่าสื่ออื่น ๆ โดยมีทั้งภาพและ เสียง ข้อเสีย 1. YouTube มีการจำกัดสำหรับการสร้าง เนื้อหา ทำให้ธุรกิจเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งขัน 2. เป็นสื่อที่มีความยุ่งยากในการจัดทำ วิดีโอ เฉลยใบงานที่ 9.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 9 เรื่อง เทคโนโลยีการตลาดตามสถานการณ์ ข้อดี 1. Facebook เป็นสื ่อสังคมออนไลน์ที ่มี ผู้ใช้มากที่สุด 2. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและชัดเจน 3. มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน 4. สามารถลงสื่อเป็นบทความ ภาพ วีดีโอ หรือการถ่ายทอดสดได้ ข้อเสีย 1. ใช้งานได้ง่าย ทำให้มีการแข่งขันสูง 2. เสี ่ยงต ่อการติดไวรัส และการถูกเจาะ ระบบข้อมูลของธุรกิจ
93 ประเภทที่ 3 บนสื่อสังคมออนไลน์Twitter ข้อดี 1. Twitter เป็นการสื่อสารกับลูกค้าและกลุ่มที่ ติดตามบริษัทหรือตัวสินค้าได้เป็นอย่างดี 2. เป็นสื่อมีความสะดวกและรวดเร็วในการ สื่อสารทางการตลาด 3. อัพเดตสถานการณ์ต่าง ๆ แบบนาทีต่อนาที ข้อเสีย 1. มีการบรรจุเนื้อหาข้อความในการขายสินค้า ที่สั้น 2. ข้อมูลข่าวสารมีกระจายอย่างรวดเร็วทำให้ ขาดความน่าเชื่อถือ
94 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) ………จ........1. เทคโนโลยีทางการตลาด ก. New Digital Product ………ช……..2. ออนไลน์แค็ตตาล็อก ข. E - Tailing ………ฌ…….3. ตลาดใหม่ ค. Logistics Service ………ค……..4. ผู้ให้บริการขนส่ง ง. New Normal ………ซ……..5. กระทู้สนทนา จ. Marketing Technology ………ก……..6. ผลิตภัณฑ์ใหม่ ฉ. Customer Satisfaction ………ฎ........7. ตลาดกลางซื้อสินค้าขายแลกเปลี่ยน ช. Online Catalogue ………ข……..8. ร้านค้าปลีกออนไลน์ ซ. Web Board ………ญ…….9. กระบวนการทำงานรูปแบบใหม่ ฌ. New Market ………ฎ..….10. การประมูลออนไลน์ ญ. New Business Process ฎ. E - Marketplace ฏ. Auction Online เฉลยแบบฝึกหัดที่ 9.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 9 เรื่อง เทคโนโลยีการตลาดสถานการณ์
95 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ✓ 1. เทคโนโลยีทางการตลาด หมายถึง เครื่องมือและระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านกิจกรรมทางการตลาด ✓ 2. โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการตลาด ประกอบด้วย โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการขายโปรแกรม จัดการลูกค้าสัมพันธ์ และโปรแกรมบริหารการขนส่ง 3. Kiosk เป็นการจัดหาเครื่องกราดตรวจรหัสแท่งแบบมือถือไร้สายภายในร้าน 4. ออนไลน์แค็ตตาล็อก (Online Catalogue) เป็นร้านค้าบนอินเทอร์เน็ตที่จำหน่ายสินค้า ให้แก่ผู้บริโภคได้โดยตรง ✓ 5. ตลาดรูปแบบใหม่ผู้ผลิตสินค้าสามารถจำหน่ายสินค้าของตนเองได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องอาศัย พ่อค้าคนกลางในตลาด ✓ 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยควบคุมการทำงาน ทำให้เกิดกระบวนการทำงาน รูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากการทำงานให้รูปแบบเดิม 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (4 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของเทคโนโลยีทางการตลาด ตอบ เทคโนโลยีทางการตลาด หมายถึง เครื ่องมือและระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ พัฒนาขึ้นเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านกิจกรรมทางการตลาดที่เป็นกระบวนการในการจัดกิจกรรม ทางการตลาดการสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ และมีการวัดผลได้แม่นยำขึ้น 2. จงบอกประเภทของเทคโนโลยีทางการตลาด ตอบ เทคโนโลยีทางการตลาดที่ธุรกิจนิยมนำมาใช้งานร่วมกับสารสนเทศทางการตลาดมีดังนี้ 1) โปรแกรมสำเร็จรูปด้านการตลาด 2) นวัตกรรมร้านค้าปลีก 3) หน่วยขายอัตโนมัติ 4) การใช้งานอินทราเน็ต 5) การใช้งานอินเทอร์เน็ต 6) การทำข้อมูลทางการตลาด 3. จงบอกรูปแบบธุรกิจในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ตอบ ประเทศไทยมีรูปแบบธุรกิจในตลาดอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท ดังนี้ 1) ออนไลน์แค็ตตาล็อก (Online Catalogue) 2) ร้านค้าปลีกออนไลน์ (E - Tailing) 3) การประมูลออนไลน์ (Auction Online)