The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by I ' Toey Sittipong Traivong, 2020-03-21 08:23:19

รายงานบันทึก 20 กิจกรรม โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ปีการศึกษา 2562

รายงานผล 20 กิจกรรม ปีการศึกษา 2562

คำนำ

การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรูว้ ิทยาศาสตรเ์ ป็นการเปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ ไดม้ สี ่วนร่วมในการทากจิ กรรม
โดยใชป้ ระสบการณต์ รง เดก็ ได้ลงมือปฏิบัติจรงิ โดยมีครูเปน็ ผคู้ อยกระตุ้นเพอื่ ให้เดก็ เกิดความสนใจการเรียนรู้
มากข้ึน การทดลองวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการแสวงหาความร้แู ละค้นควา้ หาคาตอบในสิ่งทเ่ี ดก็ เกดิ ความ
อยากรหู้ รอื สงสยั ดว้ ยการหาคาตอบด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ โดยธรรมชาตขิ องเด็กปฐมวัย มคี วามอยากรู้ อยากเห็น
มคี วามคดิ และการกระทาเป็นของตนเอง ครูควรจดั ประสบการณใ์ หเ้ ด็กไดค้ ดิ ได้สังเกต ไดส้ มั ผัส ไดท้ ดลอง
เพอ่ื ตอบสนองธรรมชาตขิ องเด็ก ช่วยใหเ้ ด็กเจรญิ งอกงามทางปญั ญา การได้คดิ ได้สงั เกต ได้สารวจ ค้นควา้
ทดลองและปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จะชว่ ยใหเ้ ดก็ เกดิ การเรยี นรู้ มีความเขา้ ใจในระยาวมากยิง่ ขึน้

ขอขอบคุณทา่ นผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค คณุ ครูผทู้ รงคณุ วุฒิ ศึกษานิเทศก์
สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาชลบุรี เขต ๑ และคณุ ครูทกุ ทา่ นในระดบั ชั้นปฐมวัย ท่ีไดใ้ ห้
คาปรกึ ษา ใหข้ ้อแนะนาในการวางแผนการทางานรว่ มกนั รวมถงึ การจดั กจิ กรรมบ้านนกั วทิ ยาศาสตร์นอ้ ยใน
ครัง้ น้ี ทาใหร้ ายงานการสรุป ๒๐ กจิ กรรมบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ยเล่มนไี้ ด้พฒั นาและจดั ตั้งข้นึ อยา่ งสาเรจ็
ลลุ ่วงไปไดด้ ว้ ยดี

ครูระดบั ช้นั ปฐมวัย
โรงเรยี นบ้านปากคลองโรงนาค

คณะผจู้ ดั ทำ

สำรบญั หนำ้

เรอื่ ง ๔
กจิ กรรมท่ี ๑ ป๊ัมขวด และลิฟทเ์ ทยี น ๗
กิจกรรมที่ ๒ ภูเขาไฟระเบดิ ๑๐
กจิ กรรมท่ี ๓ ความลับของสีดา ๑๓
กิจกรรมท่ี ๔ หมดุ ลอยน้า ๑๖
กจิ กรรมที่ ๕ เนนิ นา้ ๑๙
กิจกรรมที่ ๖ น้า ทราย และนา้ มัน ๒๒
กิจกรรมท่ี ๗ เมล็ดพชื เต้นระบา ๒๖
กจิ กรรมที่ ๘ สนกุ กบั ฟองสบู่ ๒๙
กจิ กรรมท่ี ๙ ทอร์นาโดในขวดนา้ ๓๒
กิจกรรมท่ี ๑๐ หลอดดานา้ ๓๕
กิจกรรมที่ ๑๑ ไหลแรงหรอื คอ่ ย ๓๘
กิจกรรมที่ ๑๒ ลกู โปง่ พองโต และขวบบุบเองได้ ๔๑
กจิ กรรมท่ี ๑๓ กกั น้าไวไ้ ด้ ๔๔
กจิ กรรมท่ี ๑๔ ตัวทาละลาย ๔๗
กิจกรรมที่ ๑๕ การละลายของนา้ ตาล ๕๐
กิจกรรมท่ี ๑๖ ระฆงั ดาน้าจากขวดและเครอ่ื งเป่าฟองสบู่ ๕๓
กจิ กรรมที่ ๑๗ งเู ตน้ ระบา ๕๖
กจิ กรรมที่ ๑๘ สนุกกับไฟฟา้ สถติ ๕๙
กิจกรรมท่ี ๑๙ ลมออ่ น ๆ พัดผ่านหอ้ ง ๖๒
กิจกรรมท่ี ๒๐ ติดหนึบโดยไม่ตอ้ งใชก้ าว ๖๕
กจิ กรรมที่ ๒๑ ภาพพิกเซล (สรา้ งรูปภาพของเรา)
กิจกรรมที่ ๒๒ เรือแบบใดบรรทุกน้าหนักได้มากทสี่ ุด



กจิ กรรมท่ี ๑ เรื่อง ปั๊มขวด และลฟิ ต์เทยี น

จุดประสงค์
๑. เพื่อให้เดก็ ไดเ้ รียนรู้เรือ่ งอากาศ ณ อณุ หภูมติ ่าง ๆ
๒. เพ่อื ให้เดก็ อธบิ ายวธิ กี ารปม๊ั น้าด้วยขวดและการเกิดลฟิ ตเ์ ทียนได้
๓. เพอ่ื ให้เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผัสทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพ่อื ให้เด็กสามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม
๑. เดก็ น่ังเป็นรปู ตวั ยู ( U ) หรอื ครง่ึ วงกลมให้เรียบรอ้ ย
๒. เด็กและครูร่วมกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมร่วมกนั โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะท่คี รูพดู หรอื เพอื่ นทไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ดู กาลังพูดเดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถา้ เดก็ ๆ ต้องการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. สอบถามประสบการณเ์ ดมิ ของเดก็ เกีย่ วกบั การทดลอง โดยใชค้ าถาม ดังนี้
๓.๑ เดก็ ๆ เคยสังเกตหรอื ไมว่ า่ เมือ่ แก้วโดนน้าร้อน และนาไปคว่าไวบ้ นโตะ๊ มเี สียงอะไรเกดิ ข้ึน
๔. เดก็ แบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ น่ังเป็นวงกลมให้เรียบร้อย
๕. เด็กและครูรว่ มกนั จดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทดลอง พรอ้ มกับสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกับการ
ทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๕.๑ เดก็ ๆ เหน็ วสั ดอุ ปุ กรณอ์ ะไรบา้ ง
๕.๒ จากวัสดุอปุ กรณท์ เ่ี หน็ เดก็ ๆ คิดว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ เมอื่ นาขวดแก้วที่อุ่นควา่ ปากขวดลงบนจานทม่ี ีนา้ สที ันที เด็ก ๆ คดิ วา่ จะเกดิ อะไรขน้ึ
เพราะเหตุใดจงึ เปน็ เช่นนนั้
๕.๔ เม่ือนาแกว้ น้าครอบเทียนถว้ ยบนจานท่มี ีนา้ สี เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกดิ อะไรขึ้น เพราะเหตุใดจงึ
เปน็ เชน่ นนั้
๖. ขออาสาสมคั รออกมาทาการทดลอง โดยการนาจานใสน่ ้าที่ผสมสี น้าร้อนใสข่ วดทเ่ี ตรยี มไว้ ปิดฝา
และเขย่าให้ความร้อนกระจายทัว่ ขวด เทนารอ้ นทง้ิ นาขวดควา่ ลงในจานท่เี ตรยี มไว้ และสงั เกตสิ่งท่ี
เกดิ ข้นึ
๗. ขออาสาสมัครออกมาทาการทดลอง โดยการนานา้ ใส่จาน วางเทยี นถ้วยในจาน จดุ เทียนและนาแก้ว
ครอบเทียนถว้ ย และสังเกตสิ่งทเ่ี กิดขนึ้
๘. ขอตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมาหยิบวสั ดุอุปกรณข์ องกล่มุ ตนเอง
๙. ให้เดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตสิ่งทีเ่ กดิ ข้นึ โดยครูใชค้ าถามกระตนุ้ ดังนี้
๙.๑ เดก็ ๆ สังเกตเห็นอะไรทเ่ี กดิ ข้ึนบา้ ง เพราะเหตุใดจงึ เป็นเช่นนนั้
๙.๒ เดก็ ๆ น้าเคลื่อนท่ีอยา่ งไร



๙.๓ เดก็ ๆ ไส้เทยี นทอ่ี ยใู่ นแกว้ นา้ เปน็ อยา่ งไร
๑๐.เด็กจดบนั ทึกผลการทดลองของกลุ่มตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๑๑.เด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากสง่ิ ท่สี งั เกตเหน็
๑๒.เด็กและครูรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั ผลการทดลองเรอ่ื ง ปั๊มขวดและลฟิ ต์เทยี น พบว่า เม่ือเรานาขวดแกว้ ท่ี

มีความรอ้ นคว่าลงในจานทีม่ ีนา้ สี จะสังเกตเหน็ วา่ นา้ ถูกดดู เขา้ ไปในขวด ทาให้ระดบั นา้ ภายในขวด
เพ่ิมข้ึนเรื่อย ๆ แต่เอามอื แตะขวดจะรสู้ กึ ว่าอุณหภูมิในขวดลดลงตลอดเวลา สว่ นการนาแก้วครอบลง
บนเทยี นถ้วย จะเห็นได้ว่า เทยี นถ้วยดับลง ทาใหร้ ะดบั น้าในแกว้ สงู ขึน้ เร่ือย ๆ เนื่องจากเทยี นถว้ ยมี
น้าหนักเบา จึงลอยอย่เู หนือผิวนา้ ได้

ภำพกำรดำเนนิ กิจกรรมกำรทดลองเรอ่ื ง ป๊ัมขวดและลฟิ ตเ์ ทียน

ภำพวสั ดุอุปกรณใ์ นกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ัติกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนท่ีสำเร็จของเดก็



ผลท่ีเกดิ กับเด็ก
๑. ผลทเ่ี กดิ ขึ้นตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เด็กไดเ้ รยี นรู้เรือ่ งอากาศ ณ อุณหภมู ิตา่ ง ๆ อากาศร้อนขยายตัวจงึ ต้องการที่อยเู่ พิม่ ขึ้น
อากาศเย็นหดตวั จึงตอ้ งการทีอ่ ยู่นอ้ ยลง
๑.๒ เด็กอธิบายวิธกี ารปมั๊ น้าดว้ ยขวดและการเกดิ ลฟิ ตเ์ ทยี นได้ วา่ เมื่อเรานาขวดแก้วท่ีมี
ความรอ้ นคว่าลงในจานทมี่ ีน้าสี จะสังเกตเหน็ ว่า น้าถกู ดดู เขา้ ไปในขวด ทาให้ระดบั นา้
ภายในขวดเพ่มิ ขึ้นเรอื่ ย ๆ แต่เอามอื แตะขวดจะรสู้ ึกวา่ อุณหภมู ใิ นขวดลดลงตลอดเวลา ส่วน
การนาแกว้ ครอบลงบนเทยี นถ้วย จะเหน็ ได้ว่า เทยี นถว้ ยดับลง ทาให้ระดบั นา้ ในแกว้ สูงขน้ึ
เรอื่ ย ๆ เน่ืองจากเทียนถว้ ยมีนา้ หนักเบา จงึ ลอยอยู่เหนือผิวนา้ ได้
๑.๓ เดก็ ใช้ประสาทสมั ผัสทัง้ ห้าในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๔ เดก็ บันทกึ ผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพือ่ นฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพ้นื ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ด้ำนภำษำ / ดำ้ นสติปัญญำ
- เด็กได้เรยี นรเู้ กย่ี วกบั เรื่องอากาศ ณ อณุ หภมู ติ า่ ง ๆ อากาศร้อนขยายตวั จงึ ต้องการ
ที่อยเู่ พิ่มขึ้น อากาศเยน็ หดตัว จึงต้องการท่ีอย่นู อ้ ยลง
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรือเล่าเรือ่ งราวตา่ ง ๆ เกีย่ วกบั ส่ิงที่เกิดขนึ้ จากการ
ทดลอง
- เด็กมคี วามมัน่ ใจในตนเอง กลา้ คดิ กล้าแสดงออก มีการแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองร่วมกบั ผอู้ นื่ การตอบคาถาม การซักถามในส่งิ ทีเ่ ปน็ ขอ้ สงสัย
- เด็กใช้ประสาทสมั ผัสทง้ั ห้าในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ ักษะทางดา้ นการคดิ การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การต้งั สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ด้ำนสังคม
- เดก็ ได้เรยี นรู้ในการทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงรว่ มกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเป็นกลุม่ การรอคอย การแบง่ ปนั การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น การ
วางแผน ตดั สินใจเลอื ก และลงมอื ปฏิบัตดิ ้วยตนเอง มกี ารแกป้ ญั หาระหวา่ งทา
กิจกรรม
๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เริง แจ่มใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมือ
ปฏบิ ัติกิจกรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มีการทากจิ กรรมเป็นกลุม่
๒.๔ ดำ้ นเคล่อื นไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เดก็ ใชก้ ล้ามเน้ือมือในการหยิบจับวสั ดุอุปกรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคล่อง และใช้
ประสาทสัมผัสท้ังห้าในการหาคาตอบได้



กิจกรรมที่ ๒ เรือ่ ง ภเู ขำไฟระเบิด

จดุ ประสงค์
๑. เพอื่ ใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรู้เร่อื งคุณสมบตั ิของกรดมะนาวและเบกก้ิงโซดา
๒. เพอ่ื ให้เด็กอธิบายการเกดิ ของภูเขาไฟระเบดิ ได้
๓. เพื่อใหเ้ ด็กมที ักษะการสงั เกต เปรยี บเทยี บ และคาดคะเนการเกดิ ภูเขาไฟระเบิด
๔. เพือ่ ให้เด็กใช้ประสาทสมั ผสั ทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้
๕. เพื่อให้เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. ใหเ้ ดก็ นง่ั เป็นรปู ตัวยู ( U ) หรอื คร่ึงวงกลมให้เรยี บรอ้ ย
๒. เดก็ และครรู ่วมกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมร่วมกนั โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะที่ครูพูดหรอื เพอื่ นทไี่ ดร้ บั อนญุ าตใหพ้ ดู กาลังพดู เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถา้ เด็ก ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดิมของเด็ก เก่ียวกบั การทดลอง โดยใช้คาถาม ดังนี้
๓.๑ เดก็ ๆ ภเู ขาไฟระเบดิ ได้อยา่ งไร
๓.๒ เมอ่ื ภูเขาไฟระเบิดออกมาจะเกิดอะไรขนึ้ บา้ ง
๔. ใหเ้ ดก็ แบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แล้วนงั่ เปน็ วงกลมใหเ้ รียบรอ้ ย
๕. เด็กและครรู ่วมกันจดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการทดลอง พรอ้ มกบั สนทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั การ
ทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๕.๑ เด็ก ๆ เหน็ วัสดอุ ปุ กรณอ์ ะไรบา้ ง
๕.๒ จากวัสดุอุปกรณท์ เ่ี ห็น เด็ก ๆ คดิ ว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ เดก็ ๆ คดิ วา่ ถ้าคุณครจู ะทาภูเขาไฟระเบดิ และมีอุปกรณท์ ่มี ีอยเู่ ด็กๆ จะมีวธิ ที าอยา่ งไร
จะใสอ่ ะไร ก่อน – หลัง เพราะเหตุใด
๕.๔ เม่อื นานา้ มะนาวใสล่ งไป เด็ก ๆ คิดว่า จะเกิดอะไรขึน้ เพราะเหตุใดจึงเปน็ เชน่ นนั้
๖. เด็กแตล่ ะกลุ่มคาดคะเนการทดลองภเู ขาไฟระเบิด วธิ กี ารในการทาภเู ขาไฟระเบิด
๗. เดก็ แต่ละกล่มุ ร่วมกันทดลองทากจิ กรรมตามวิธขี องกลุ่มตนเอง ให้ทาทลี ะกลมุ่ และสังเกตเปรียบเทียบ
ผลของการทดลองของแตล่ ะกลมุ่ ว่าเปน็ อยา่ งไร เพราะเหตุใดจงึ เป็นเชน่ น้ัน
๘. ขอตัวแทนของแต่ละกลมุ่ ออกมาหยบิ วสั ดอุ ปุ กรณข์ องกลมุ่ ตนเอง
๙. ให้เดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตส่งิ ทเี่ กิดขึ้น โดยครใู ช้คาถามกระต้นุ ดงั น้ี
๙.๑ เดก็ ๆ สงั เกตเหน็ อะไรทเ่ี กดิ ขน้ึ บา้ ง เพราะเหตุใดจงึ เป็นเชน่ นั้น
๙.๒ ทาไมภูเขาไฟถงึ ระเบิดออกมา
๙.๓ เดก็ ๆ เปรียบเทยี บการเกิดขึน้ ของภูเขาไฟแตล่ ะกลมุ่ เป็นอย่างไร เพราะเหตุใดจึงเปน็ เชน่ นั้น



๑๐.เด็กจดบันทกึ ผลการทดลองของกลุม่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๑.เด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากสิ่งทส่ี งั เกตเหน็
๑๒.เดก็ และครรู ว่ มกนั สรุปเก่ยี วกับผลการทดลองเร่ือง ภูเขาไฟระเบดิ ได้วา่ เม่ือเรานาเบกกิง้ โซดา และสี

ผสมอาหารใส่ลงภเู ขาไฟจาลองแลว้ ใสน่ ้าผลไม้ทมี่ รี สเปร้ยี วเขา้ ไป จะสงั เกตเห็นวา่ จะเกิดฟองพุ่ง
ออกมาจากปล่องภูเขาไฟจาลองเปน็ จานวนมาก หรอื เกดิ กา๊ ซคาร์บอนไดอ้ อกไซด์เกิดขึน้

ภำพกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรทดลองเร่ือง ภเู ขำไฟระเบดิ

ภำพวสั ดุอปุ กรณ์ในกำรทำกจิ กรรม ภำพเดก็ ปฏิบัติกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนทสี่ ำเรจ็ ของเดก็

ผลท่ีเกดิ กับเดก็
๑. ผลท่ีเกดิ ขน้ึ ตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ไดเ้ รียนรู้เรื่องคณุ สมบัตขิ องเบกกิ้งโซดา กับกรดมะนาวจะมรี ถเปรย้ี ว เมอ่ื ผสมกบั น้า
จะเกิดฟองซ่ึงเปน็ กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์



๑.๒ เด็กอธิบายการเกิดของภเู ขาไฟระเบิด ว่า เมอื่ เรานาเบกกิง้ โซดา และสผี สมอาหารใสล่ งภูเขา
ไฟจาลองแลว้ ใสน่ า้ ผลไมท้ ่ีมรี สเปรย้ี วเข้าไป จะสงั เกตเหน็ ว่า จะเกิดฟองพงุ่ ออกมาจากปล่อง
ภเู ขาไฟจาลองเปน็ จานวนมาก หรอื เกดิ กา๊ ซคารบ์ อนไดอ้ อกไซด์เกดิ ขน้ึ

๑.๓ เดก็ มที กั ษะการสงั เกต เปรยี บเทยี บ และคาดคะเนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบิด
๑.๔ เดก็ ใชป้ ระสาทสมั ผัสทง้ั หา้ ในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้
๑.๕ เดก็ บนั ทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพือ่ นฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ดำ้ นภำษำ / ดำ้ นสตปิ ญั ญำ

- เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ กีย่ วกับคณุ สมบตั ิของเบกกิ้งโซดา กบั กรดมะนาวจะมรี ถเปรยี้ ว เมื่อ
ผสมกับน้าจะเกดิ ฟองซึ่งเป็นก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์

- เดก็ สามารถสนทนาโตต้ อบ หรือเลา่ เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ เก่ียวกบั สิ่งทีเ่ กิดขึ้นจากการ
ทดลอง

- เดก็ มีความม่ันใจในตนเอง กล้าคดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองร่วมกบั ผู้อนื่ การตอบคาถาม การซักถามในสง่ิ ที่เป็นข้อสงสยั

- เดก็ ใช้ประสาทสัมผสั ทงั้ หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นการคิด การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การตงั้ สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรียบเทียบ
และการทาทดลอง

๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เด็กไดเ้ รยี นรู้ในการทางานร่วมกบั ผู้อื่น ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงรว่ มกันได้ ร้จู กั การ
ทางานเป็นกลมุ่ การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื การ
วางแผน ตดั สินใจเลือก และลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง มกี ารแก้ปัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม

๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเริง แจ่มใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมือ
ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเป็นกลุ่ม

๒.๔ ดำ้ นเคลื่อนไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เด็กใช้กลา้ มเน้อื มอื ในการหยบิ จับวสั ดอุ ปุ กรณก์ ารทดลองไดอ้ ย่างคล่อง และใช้
ประสาทสัมผสั ท้ังหา้ ในการหาคาตอบได้



กิจกรรมที่ ๓ เรื่อง ควำมลบั ของสดี ำ

จดุ ประสงค์
๑. เพือ่ ให้เด็กไดเ้ รียนรู้วา่ สดี าของปากกาเมจจิ ะผสมด้วยสีอะไรบ้าง
๒. เพื่อให้เดก็ อธิบายไดว้ ่าเม่อื หยดนา้ ลงบนกระดาษกรองจะเกดิ การเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร
๓. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ใชป้ ระสาทสมั ผสั ทัง้ หา้ ในการหาคาตอบได้
๔. เพ่ือให้เดก็ สามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขัน้ ตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. เดก็ น่งั เป็นรูปตัวยู ( U ) หรือคร่งึ วงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๒. เด็กและครูรว่ มกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกนั โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะท่ีครพู ูดหรอื เพอ่ื นทไ่ี ด้รับอนญุ าตใหพ้ ูดกาลังพดู เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถา้ เดก็ ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากจิ กรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดิมของเดก็ เกี่ยวกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๓.๑ เดก็ ๆ คดิ วา่ “สีดา” น่าจะมีอะไรผสมอย่บู ้างหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ “สดี า” เกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร
๔. ใหเ้ ดก็ นาสนี า้ มาวาดภาพตามจินตนาการโดยใชพ้ กู่ ัน เม่อื วาดเสร็จแลว้ ใหน้ าพ่กู ันท่จี ่มุ สีตา่ ง ๆ ลงไป
ลา้ งในแก้วใบเดียวกัน และสงั เกตการณ์เปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึน
๕. เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวนา้ ท่ีใชล้ ้างพูก่ ัน โดยใช้คาถาม ดังนี้
๕.๑ นา้ ในแก้วที่ใชล้ า้ งพู่กนั เป็นอย่างไร เพราะเหตใุ ด
๕.๒ น้าทีใ่ ชล้ ้างพูก่ ันมีสใี ดบา้ ง
๖. เด็กและครรู ว่ มกันจัดเตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง พร้อมกบั สนทนารว่ มกนั เกย่ี วกบั การ
ทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๖.๑ เด็ก ๆ เหน็ วัสดอุ ุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
๖.๒ จากวสั ดอุ ปุ กรณ์ทเี่ หน็ เดก็ ๆ คิดว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๖.๓ เด็กๆ คิดวา่ ถ้าเรานาปากกาเมจิกสีดาวาดภาพบนกระดาษกรองและหยดนา้ ลงบนภาพวาด
จะเกิดอะไรข้นึ ทาไมจงึ เป็นเชน่ น้ัน
๗. เด็กแต่ละคนรว่ มกันทดลองทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตเปรียบเทยี บผลของการทดลองของวา่
เปน็ อย่างไร เพราะเหตใุ ดจงึ เป็นเชน่ นั้น
๘. ใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมอย่างอสิ ระ และสังเกตสง่ิ ท่เี กิดขึน้ โดยครูใช้คาถามกระตุ้น ดังนี้
๘.๑ เด็ก ๆ สังเกตเห็นอะไรทเ่ี กิดข้ึนบ้าง เพราะเหตใุ ดจึงเป็นเช่นนั้น
๘.๒ ทาไมกระดาษกรองท่วี าดภาพไวโ้ ดนนา้ แล้วจึงเปน็ เชน่ นน้ั เพราะเหตใุ ด
๘.๓ เด็ก ๆ สดี าเกิดขน้ึ ได้อยา่ งไร



๙. เดก็ จดบนั ทึกผลการทดลองของกลุม่ ตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๑๐.เดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากสิง่ ท่สี ังเกตเหน็
๑๑.เด็กและครูรว่ มกนั สรุปเกยี่ วกับผลการทดลองเรื่อง ความลับของสีดา ไดว้ า่ เมอ่ื เราวาดภาพลงบน

กระดาษกรองดว้ ยปากกาเมจิสดี า แล้วหยดนา้ ลงไป จะสังเกตเหน็ วา่ สีดาเกดิ จากการรวมตวั ของสี
หลายสี ซ่ึงมีนา้ เป็นตัวละลายและถูกดูดซับด้วย กระดาษกรองสามารถแบง่ สเี ป็นสีต่างๆ สีใดละลาย
นา้ ได้ไม่ดจี ะแพร่กระจายอยูบ่ รเิ วณตรงกลาง ดงั น้ันสีดาของสีเมจกิ เกิดจากการผสมของสีหลายสี ซ่ึง
ปากกาเมจิกย่หี อ้ ตา่ งๆเกดิ จากการผสมของสใี ดบา้ ง พบวา่ มสี ชี มพู สฟี า้ สเี หลือง และสเี ขียวซ่อนอยู่
ในสดี า

ภำพกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรทดลองเร่ือง ควำมลับของสดี ำ

ภำพวัสดอุ ุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเด็กปฏิบัติกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนท่สี ำเรจ็ ของเดก็



ผลทเี่ กดิ กบั เดก็
๑. ผลทีเ่ กดิ ขึน้ ตำมจุดประสงค์
๑.๑ เดก็ ไดเ้ รียนรู้วา่ สดี าของสเี มจกิ เกิดจากการผสมของสหี ลายสี ซึง่ ปากกาเมจกิ ยหี่ ้อต่าง ๆ เกดิ
จากการผสมของสใี ดบา้ ง พบวา่ มีสีชมพู สีฟา้ สีเหลือง และสีเขยี วซ่อนอยู่ในสดี า
๑.๒ เด็กอธิบายไดว้ า่ สีดาเกิดจากการรวมตวั ของสหี ลายสี ซง่ึ มีน้าเป็นตัวละลายและถกู ดูดซับด้วย
กระดาษกรองสามารถแบง่ สเี ป็นสีต่าง ๆ สใี ดละลายนา้ ไดไ้ มด่ ีจะแพรก่ ระจายอยบู่ รเิ วณตรง
กลาง
๑.๓ เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสท้ังหา้ ในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๔ เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พ่อื นฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพนื้ ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นรู้ / ดำ้ นภำษำ / ด้ำนสติปญั ญำ
- เดก็ ได้เรียนรู้วา่ สีดาของสีเมจกิ เกดิ จากการผสมของสหี ลายสี ซ่งึ ปากกาเมจกิ ยห่ี อ้
ตา่ งๆเกิดจากการผสมของสีใดบ้าง พบวา่ มีสชี มพู สีฟา้ สเี หลอื ง และสีเขียวซ่อนอยู่
ในสดี า
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรอื เลา่ เร่อื งราวตา่ ง ๆ เกย่ี วกบั ส่ิงทีเ่ กดิ ขึ้นจากการ
ทดลอง
- เด็กมีความมัน่ ใจในตนเอง กล้าคดิ กล้าแสดงออก มีการแสดงความคดิ เห็นของ
ตนเองรว่ มกบั ผู้อนื่ การตอบคาถาม การซักถามในสงิ่ ทเ่ี ป็นข้อสงสยั
- เดก็ ใช้ประสาทสมั ผัสท้งั หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทักษะทางดา้ นการคิด การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การตั้งสมมตุ ิฐานในการทดลอง การเปรียบเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสงั คม
- เด็กไดเ้ รยี นร้ใู นการทางานร่วมกบั ผู้อน่ื ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงร่วมกันได้ รจู้ กั การ
ทางานเป็นกลุ่ม การรอคอย การแบง่ ปัน การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ ่นื การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง มีการแก้ปัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เรงิ แจ่มใส มีความสขุ และสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏิบัติกจิ กรรมการทดลองด้วยตนเอง มีการทากจิ กรรมเป็นกลุ่ม
๒.๔ ดำ้ นเคลื่อนไหว / ด้ำนร่ำงกำย

- เดก็ ใชก้ ลา้ มเน้ือมือในการหยิบจับวัสดอุ ุปกรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสมั ผัสทัง้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๑๐

กิจกรรมที่ ๔ เรอื่ ง หมดุ ลอยนำ้

จุดประสงค์
๑. เพอื่ ใหเ้ ดก็ ได้เรียนรู้เร่ืองแรงยึดเหนี่ยวของผิวนา้ หรือแรงตงึ ผวิ
๒. เพ่อื ให้เดก็ อธิบายการลอยของหมดุ หรอื ลวดเสยี บกระดาษได้
๓. เพือ่ ให้เดก็ ใช้ประสาทสัมผสั ทง้ั ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพือ่ ให้เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้ันตอนกำรจดั กจิ กรรม
๑. เดก็ นั่งเปน็ รปู ตัวยู ( U ) หรอื ครึ่งวงกลมให้เรยี บร้อย
๒. เด็กและครูร่วมกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมร่วมกนั โดยใชค้ าถาม ดังนี้
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะทคี่ รูพดู หรือเพอ่ื นทไ่ี ด้รับอนญุ าตใหพ้ ดู กาลังพดู เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถ้าเดก็ ๆ ต้องการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากิจกรรม
๓. สอบถามประสบการณเ์ ดมิ ของเดก็ เกีย่ วกับการทดลอง โดยใช้คาถาม ดังนี้
๓.๑ เดก็ ๆ เคยพบเหน็ อะไรลอยในนา้ ได้บา้ ง
๓.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมเรือถงึ ลอยในน้าได้
๔. ใหเ้ ดก็ แบง่ กลมุ่ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ น่งั เป็นวงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๕. เดก็ และครูร่วมกนั จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลอง พร้อมกับสนทนาร่วมกนั เกยี่ วกับการ
ทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๕.๑ เดก็ ๆ เห็นวัสดุอุปกรณอ์ ะไรบ้าง
๕.๒ จากวสั ดอุ ปุ กรณท์ ่เี ห็น เดก็ ๆ คดิ ว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ ถา้ เรานาหมุด หรอื ลวดเสียบกระดาษมาวางบนผวิ น้า เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกดิ อะไรขนึ้
๕.๔ เดก็ ๆ คดิ วา่ เราจะมีวธิ กี ารน้าหมดุ หรือลวดเสียบกระดาษมาวางบนนา้ อย่างไรจงึ จะไม่จม
๖. ให้เดก็ แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันหาวธิ ที ที่ าท่จี ะทาให้หมุดหรอื ลวดเสียบกระดาษลอยในน้าได้ พร้อมกบั ครจู ด
บนั ทกึ คาตอบของเดก็ แต่ละกลมุ่
๗. ให้ตัวแทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมาหยิบวสั ดุอุปกรณข์ องกลุม่ ตนเอง
๘. ใหเ้ ด็กทากิจกรรมอยา่ งอสิ ระ และสงั เกตสงิ่ ท่ีเกดิ ขน้ึ โดยครใู ชค้ าถามกระตุน้ ดงั น้ี
๘.๑ เมือ่ เด็ก ๆ วางหมุดหรือลวดเสยี บกระดาษลงบนนา้ เปน็ อย่างไร
๘.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมเพือ่ น ๆ บางคนวางเข็มหมุดหรอื ลวดเสยี บกระดาษแล้วถงึ ลอยนา้ และ
ทาไมบางคนถงึ จม เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนัน้
๘.๓ เดก็ ๆ ผวิ น้าบริเวณรอบหมดุ หรอื ลวดเสียบกระดาษ จะเปน็ อย่างไร
๙. เด็กจดบันทกึ ผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๐.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากสิ่งท่ีสงั เกตเห็น

๑๑

๑๑.เดก็ และครรู ว่ มกนั สรุปเก่ยี วกบั ผลการทดลองเร่ือง หมุดลอยนา้ วา่ เมือ่ วางลวดเสยี บกระดาษบนน้า
เบา ๆ ลวดเสียบจะลอยนา้ ได้ และพบวา่ ผิวน้าเปน็ รอยเว้าลกึ บริเวณรอบลวดเสยี บ แตเ่ มื่อวางแรง
ลวดเสยี บกระดาษจะจมนา้

ภำพกำรดำเนินกิจกรรมกำรทดลองเรื่อง หมดุ ลอยน้ำ

ภำพวัสดุอุปกรณใ์ นกำรทำกจิ กรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนทส่ี ำเร็จของเด็ก

ผลที่เกิดกับเด็ก
๑. ผลทเ่ี กิดขึ้นตำมจุดประสงค์
๑.๑ เด็กได้เรยี นรูว้ า่ น้ามีแรงยึดเหนี่ยวท่ผี วิ นา้ เรียกวา่ แรงตึงผวิ ซ่งึ แรงตงึ ผวิ ทาใหว้ ัตถุท่ีมีนา้ หนกั
เบา ๆ สามารถลอยน้าได้
๑.๒ เด็กอธิบายการลอยของหมุดหรอื ลวดเสยี บกระดาษได้ วา่ เม่อื วางลวดเสียบเบา ๆ จะลอยนา้
และพบวา่ ผิวนา้ เปน็ รอยเว้าลึกขึน้ บรเิ วณรอบ ๆ ลวดเสียบ
๑.๓ เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสทั้งห้าในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๔ เดก็ บันทึกผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พ่ือนฟังได้

๑๒

๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ดำ้ นภำษำ / ด้ำนสตปิ ัญญำ
- เด็กได้เรียนรเู้ ก่ียวกบั เรื่องแรงตึงผวิ ของน้า เม่ือเวลาเราวางหมดุ หรือลวดเสยี บบนผิว
นา้ อยา่ งเบามอื หมุดหรอื ลวดเสยี บก็จะลอยน้าได้ แต่เมอื่ แรงตึงผวิ รบั นา้ หนักของ
วตั ถไุ ม่ แรงตงึ ผวิ จะแตกออกจากกนั ทาใหห้ มุดหรือลวดเสียบจมน้าได้
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรือเล่าเร่อื งราวตา่ ง ๆ เก่ียวกับสงิ่ ท่ีเกิดข้นึ จากการ
ทดลอง
- เดก็ มีความม่นั ใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองรว่ มกับผู้อื่น การตอบคาถาม การซักถามในส่งิ ท่ีเป็นขอ้ สงสัย
- เด็กใช้ประสาทสมั ผสั ทง้ั หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นการคดิ การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การต้งั สมมตุ ิฐานในการทดลอง การเปรยี บเทียบ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสังคม
- เดก็ ได้เรยี นรูใ้ นการทางานร่วมกับผอู้ ืน่ ปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันได้ รจู้ กั การ
ทางานเปน็ กลุ่ม การรอคอย การแบง่ ปัน การยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมอื ปฏบิ ัติด้วยตนเอง มีการแก้ปญั หาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เริง แจม่ ใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมอื
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลองด้วยตนเอง มีการทากจิ กรรมเปน็ กล่มุ
๒.๔ ดำ้ นเคลื่อนไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เดก็ ใชก้ ลา้ มเนอื้ มือในการหยิบจบั วัสดุอุปกรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคล่อง และใช้
ประสาทสัมผสั ท้งั ห้าในการหาคาตอบได้

๑๓

กจิ กรรมท่ี ๕ เรอ่ื ง เนนิ นำ้

จุดประสงค์
๑. เพือ่ ให้เดก็ ได้เรยี นรู้เรื่องแรงตึงผวิ ของน้า
๒. เพ่ือให้เดก็ อธิบายการเกดิ เนินน้าได้
๓. เพ่ือให้เดก็ อธิบายสว่ นประกอบของน้าได้
๔. เพอ่ื ให้เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผัสทัง้ หา้ ในการหาคาตอบได้
๕. เพื่อให้เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนกำรจัดกิจกรรม
๑. เดก็ นงั่ เป็นรูปตัวยู ( U ) หรือครึง่ วงกลมให้เรียบร้อย
๒. เดก็ และครูร่วมกันสร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมร่วมกัน โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะท่ีครพู ดู หรือเพอื่ นทไี่ ดร้ บั อนญุ าตใหพ้ ูดกาลงั พดู เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถ้าเดก็ ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอย่างไรกอ่ นจะทากจิ กรรม
๓. เดก็ และครูร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับประสบการณเ์ ดิม โดยใช้คาถาม ดังนี้
๓.๑ เด็ก ๆ เคยสังเกตหรือไมว่ ่า บ่อนา้ อา่ งน้ามีสตั ว์ หรือแมลงชนิดใดเดินอยบู่ นน้าไดบ้ ้าง
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ ทาไมแมลงเหล่านัน้ ถึงไม่จมน้า
๔. ใหเ้ ดก็ แบ่งกลมุ่ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ น่งั เปน็ วงกลมใหเ้ รียบร้อย
๕. เดก็ และครูร่วมกันจัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทดลอง
๖. ใหต้ วั แทนของแต่ละกลุ่มออกมาหยิบวัสดุอปุ กรณข์ องกลมุ่ ตนเอง
๗. ให้เด็กลองใชห้ ลอดหยดดดู นา้ และสงั เกตสงิ่ ที่เกิดขน้ึ โดยใช้คาถามกระตุ้น ดงั นี้
๗.๑ ขณะทบ่ี บี นา้ เข้าไปภายในหลอดหยด เด็ก ๆ สงั เกตเหน็ อะไรเกดิ ขน้ึ
๘. ใหเ้ ดก็ แต่ละกลุ่มเทน้าเตม็ ภาชนะและเทน้าออกจากปากภาชนะประมาณ 1 เซนตเิ มตร และผลดั กนั
ใช้หลอดหยดดดู นา้ แลว้ หยดทลี ะหยดลงในภาชนะ โดยใช้คาถามกระตนุ้ ดงั น้ี
๘.๑ ขณะทห่ี ยดนา้ ลงไปในภาชนะ เดก็ ๆ สังเกตเหน็ อะไร
๗.๒ ขณะท่ีหยดน้าไปเรอ่ื ยจนนา้ สูงถึงขอบภาชนะแลว้ เด็ก ๆ สงั เกตเหน็ อะไร
๗.๓ ถา้ เราหยดน้าตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกิดอะไรข้นึ
๙. ใหเ้ ด็กทากิจกรรมอย่างอสิ ระ และสงั เกตสง่ิ ท่เี กดิ ขึน้ โดยครูใช้คาถามกระตุ้น ดังนี้
๙.๑ ขณะที่นา้ เตม็ ภาชนะแล้ว เราหยดนา้ ตอ่ ไปเรอื่ ย ๆ เด็ก ๆ สังเกตเหน็ อะไรเกดิ ข้ึน
๙.๒ เด็ก ๆ ทาไมน้าถงึ ล้นออกจากภาชนะได้
๙.๓ เมอ่ื เราหยดนา้ ยาล้างจานลงไปในน้า เดก็ ๆ สังเกตเห็นอะไรเกดิ ขึ้น
๑๐.เดก็ จดบนั ทกึ ผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๑.ใหเ้ ด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากสิ่งที่สงั เกตเหน็

๑๔

๑๒.เด็กและครูรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกับผลการทดลองเรื่อง เนนิ นา้ พบว่า ว่า เม่อื หยดน้าใส่ลงไปภาชนะ
เร่อื ยๆ จะทาให้เนนิ น้าสงู ขนึ้ ทาใหแ้ รงยดึ เหนย่ี วกม็ ไี มเ่ พียงพอทาให้นา้ ลน้ ออกมา และเม่อื เราหยด
นา้ ยาลา้ งจานทาให้แรงยึดเหนี่ยวลดลง เนนิ นา้ จงึ แยกจากกัน เพราะนา้ ยาลา้ งจานมสี ารลดแรงตงึ ผวิ

ภำพกำรดำเนนิ กิจกรรมกำรทดลองเรือ่ ง เนินน้ำ

ภำพวสั ดอุ ุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมกำรทดลอง

ภำพเดก็ นำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเด็ก

ผลท่เี กดิ กบั เดก็

๑. ผลที่เกิดขน้ึ ตำมจดุ ประสงค์

๑.๑ เด็กได้เรียนร้เู รอ่ื งแรงตึงผวิ ของน้า นา้ มีแรงยึดเหนี่ยวกันแนน่ โดยเฉพาะทผ่ี ิวน้า เรยี กว่า

แรงตึงผิว ทสี่ ามารถทาใหน้ ้าเกาะกันเป็นหยด หรือรับน้าหนักวัตถุเบา ๆ ได้

๑.๒ เดก็ อธบิ ายการเกิดเนนิ น้าได้ วา่ เมื่อหยดน้าใส่ลงไปภาชนะเร่ือย ๆ จะทาให้เนนิ น้าสูงขน้ึ

ทาให้แรงยดึ เหนย่ี วก็มีไมเ่ พียงพอทาให้นา้ ล้นออกมา และเมือ่ เราหยดนา้ ยาล้างจานทาให้

แรงยึดเหนี่ยวลดลง เนนิ นา้ จงึ แยกจากกนั เพราะนา้ ยาล้างจานมีสารลดแรงตึงผวิ

๑.๓ เด็กอธิบายส่วนประกอบของน้าได้ วา่ น้าประกอบดว้ ยโมเมกลุ เลก็ ๆ ทจี่ บั ตัวกนั แนน่

๑.๔ เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผสั ทงั้ หา้ ในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้

๑.๕ เดก็ บันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพือ่ นฟังได้

๑๕

๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู/้ ดำ้ นภำษำ/สตปิ ญั ญำ
- เด็กไดเ้ รยี นรู้เกยี่ วกบั เรื่องแรงตงึ ผิวของน้า พบว่า แรงตงึ ผิวของน้า เกดิ จากโมเลกลุ
เลก็ ๆ จับตัวกันแนน่ แตห่ ยดนา้ ใส่ลงไปภาชนะเรอื่ ย ๆ จะทาใหเ้ นินน้าสูงข้นึ ทาให้
แรงยดึ เหนยี่ วก็มีไม่เพียงพอทาให้น้าล้นออกมา
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบหรอื เลา่ เร่ืองราวตา่ ง ๆ สิ่งที่เกิดขน้ึ จากการทดลอง
- เด็กมคี วามม่นั ใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ ของตนเอง
ร่วมกบั ผอู้ ่นื การตอบคาถาม การซกั ถามในสิง่ ที่เปน็ ข้อสงสยั
- เด็กใชป้ ระสาทสัมผสั ท้ังหา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทักษะทางดา้ นการคดิ การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การตงั้ สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เด็กไดเ้ รียนรู้ในการทางานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงร่วมกันได้ รู้จกั การ
ทางานเปน็ กลมุ่ การรอคอย การแบง่ ปัน การยอมรับฟังความคิดเห็นของผ้อู ่นื การ
วางแผน ตดั สินใจเลือก และลงมอื ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง มกี ารแกป้ ัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เรงิ แจม่ ใส มีความสขุ และสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเปน็ กลมุ่
๒.๔ ดำ้ นเคล่ือนไหว/รำ่ งกำย
- เดก็ ใชก้ ล้ามเนอื้ มัดเลก็ ในการหยิบจบั วสั ดอุ ปุ กรณ์การทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสัมผัสทัง้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๑๖

กจิ กรรมท่ี ๖ เรื่อง น้ำ ทรำย และนำ้ มนั

จุดประสงค์
๑. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ได้เรียนรเู้ รื่อง การจมและลอย
๒. เพอื่ ให้เด็กอธบิ ายการจมและลอยของทรายกับนา้ มนั ได้
๓. เพอ่ื เดก็ เปรยี บเทียบการจมและลอยของทราย และน้ามนั ได้
๔. เพอ่ื ให้เด็กใชป้ ระสาทสมั ผสั ท้งั หา้ ในการหาคาตอบได้
๕. เพ่อื ให้เด็กสามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนกำรจัดกจิ กรรม
๑. เด็กน่ังเป็นรปู ตวั ยู ( U ) หรอื คร่งึ วงกลมใหเ้ รียบร้อย
๒. เด็กและครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกนั โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหว่างการทากิจกรรม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะทคี่ รพู ูดหรอื เพอ่ื นทไี่ ด้รับอนญุ าตใหพ้ ดู กาลังพดู เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถา้ เด็ก ๆ ต้องการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากิจกรรม
๓. นาวตั ถตุ ่าง ๆ มาใหเ้ ด็กดู และขออาสาสมคั รออกมาทดลองการลอยของวัตถุ (เชน่ ชา กาแฟ แป้ง
พริกไทย ข้เี ลื่อย เมล็ดทานตะวนั )
๔. สอบถามประสบการณ์เดิมของเดก็ เกีย่ วกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๓.๑ เดก็ ๆ วัตถุชน้ิ ใดจมลงดา้ นล่างบ้าง เพราะอะไรจงึ เปน็ เชน่ นน้ั
๓.๒ เดก็ ๆ วัตถุชิ้นใดลอยขึ้นด้านบนบ้าง เพราะอะไรจงึ เปน็ เช่นนนั้
๓.๓ เดก็ ๆ เคยพบเห็นวตั ถอุ ะไรท่จี มหรอื ลอยในน้าบา้ ง
๕. เดก็ และครูรว่ มกนั จดั เตรยี มวัสดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง
๖. ให้เดก็ แบง่ กลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ นงั่ เป็นวงกลมให้เรยี บร้อย
๗. ใหเ้ ดก็ แต่ละกลุ่มชว่ ยกันคิดวางแผนหาวธิ กี ารท่ที ดลองเกี่ยวกับการจมและลอยระหว่างทราย กับ
น้ามัน พรอ้ มกับครูจดบันทกึ คาตอบของเด็ก
๘. ใหต้ ัวแทนของแต่ละกลมุ่ ออกมาหยิบวัสดุอปุ กรณข์ องกลุม่ ตนเอง
๙. ให้เดก็ ทากิจกรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตสิง่ ท่ีเกดิ ขน้ึ โดยครูใช้คาถามกระตนุ้ ดังน้ี
๙.๑ เดก็ ๆ สงั เกตเห็นอะไรเกดิ ขึ้นบ้างภายในขวดทมี่ นี ้า ทราย และน้ามันอยดู่ ้วยกนั
๙.๒ เด็ก ๆ ทาไมนา้ มันพชื ลอยอยดู่ า้ นบนผวิ น้า และทรายจมอยใู่ ต้นา้
๙.๓ นอกจากนี้ เดก็ ๆ คดิ ว่า มีวัตถุอะไรบา้ งทล่ี อยได้เหมือนน้ามัน และจมเหมือนทรายได้บ้าง
๑๐.เด็กจดบันทกึ ผลการทดลองของกลุม่ ตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๑๑.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากสิ่งท่สี งั เกตเหน็

๑๗

๑๒.เดก็ และครูร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั ผลการทดลองเร่อื ง น้า ทราย และน้ามัน พบวา่ เมื่อนาทรายและ
นา้ มนั ใสล่ งไปในขวดน้า สังเกตไดว้ า่ ทรายไม่ละลายน้า แตจ่ มอยู่กน้ ขวด ส่วนน้ากับนา้ มนั จะไมผ่ สม
เป็นเนอ้ื เดยี วกนั แตน่ ้ามนั ลอยขน้ึ แยกตวั ออกจากนา้

ภำพกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรทดลองเร่อื ง น้ำ ทรำย และน้ำมัน

ภำพวสั ดอุ ปุ กรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏิบตั ิกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพกำรนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนทส่ี ำเร็จของเด็ก

ผลท่ีเกดิ กบั เด็ก
๑. ผลที่เกดิ ขึน้ ตำมจุดประสงค์
๑.๑ เด็กไดเ้ รียนร้เู รอ่ื ง การจมและลอย วัตถทุ ีจ่ ะสามารถลอยน้าไดต้ อ้ งมีนา้ หนักน้อยกว่า
หรือเทา่ กบั น้า ถ้าวตั ถหุ นักมากวา่ นา้ จงึ จม
๑.๒ เดก็ อธิบายการจมและลอยของทรายกบั นา้ มนั ได้ วา่ เมอื่ นาทรายและนา้ มนั ใส่ลงไปในขวด
น้า สงั เกตไดว้ า่ ทรายไมล่ ะลายน้า แตจ่ มอยู่กน้ ขวด สว่ นนา้ กบั น้ามันจะไม่ผสมเปน็ เน้อื
เดียวกัน แต่นา้ มันลอยขนึ้ แยกตวั ออกจากนา้
๑.๓ เดก็ เปรยี บเทยี บการละลายของนา้ ตาลในนา้ กบั น้ามันได้ วา่ ทรายจม เพราะทรายหนักกวา่
น้า และน้ามันลอย เพราะนา้ มันเบากว่านา้ น้ามนั จะแยกช้ันกนั เสมอ น้ามนั จะอยดู่ า้ นบน
และน้าอยู่ด้านลา่ ง
๑.๔ เด็กใช้ประสาทสัมผัสทง้ั ห้าในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้

๑๘

๑.๕ เดก็ บันทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพอื่ นฟังได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพฒั นำกำรของเด็กปฐมวยั

๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นรู้ / ด้ำนภำษำ / ด้ำนสตปิ ญั ญำ
- เดก็ ได้เรยี นรเู้ ก่ียวกับเรอื่ ง ลักษณะของการละลายของนา้ ตาล นา้ ตาลละลายได้ดใี น
นา้ แต่ละไมล่ ะลายในน้ามัน
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรือเลา่ เร่อื งราวตา่ ง ๆ เก่ยี วกบั ส่ิงท่เี กดิ ข้ึนจากการ
ทดลอง
- เดก็ มคี วามม่นั ใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มีการแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองร่วมกบั ผู้อืน่ การตอบคาถาม การซกั ถามในสงิ่ ทีเ่ ป็นข้อสงสัย
- เดก็ ใช้ประสาทสมั ผสั ทัง้ ห้าในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นการคิด การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การต้ังสมมตุ ิฐานในการทดลอง การเปรียบเทยี บ

๒.๒ ด้ำนสังคม
- เดก็ ได้เรียนรใู้ นการทางานรว่ มกับผอู้ ืน่ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงรว่ มกนั ได้ รู้จกั การ
ทางานเปน็ กล่มุ การรอคอย การแบง่ ปนั การยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ืน่ การ
วางแผน ตดั สินใจเลอื ก และลงมอื ปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง มกี ารแก้ปัญหาระหวา่ งทา
กิจกรรม

๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เรงิ แจม่ ใส มีความสขุ และสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเปน็ กลมุ่

๒.๔ ดำ้ นเคล่ือนไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เด็กใชก้ ลา้ มเนอ้ื มือในการหยบิ จบั วสั ดอุ ุปกรณ์การทดลองไดอ้ ย่างคล่อง และใช้

ประสาทสมั ผสั ทงั้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๑๙

กิจกรรมท่ี ๗ เร่อื ง เมลด็ พชื เตน้ ระบำ

จดุ ประสงค์
๑. เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เรื่อง คณุ สมบัติกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซต์
๒. เพื่อให้เดก็ อธบิ ายการเคล่ือนทีเ่ มล็ดพืชทอี่ ย่ใู นนา้ โซดาได้
๓. เพอ่ื ให้เดก็ เปรยี บเทยี บการเคลื่อนท่ขี องเมล็ดพชื ในนา้ เปล่ากบั น้าโซดาได้
๔. เพอ่ื ใหเ้ ด็กใชป้ ระสาทสัมผัสท้งั ห้าในการหาคาตอบได้
๕. เพ่อื ให้เด็กสามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนกำรจัดกิจกรรม
๑. เดก็ น่งั เปน็ รูปตวั ยู ( U ) หรอื ครงึ่ วงกลมให้เรียบรอ้ ย
๒. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมร่วมกัน โดยใชค้ าถาม ดังน้ี
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะทค่ี รพู ดู หรอื เพอื่ นทไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ูดกาลังพูดเดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถา้ เด็ก ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากจิ กรรม
๓. นานา้ อัดลมมาให้เด็กดู พร้อมกับสนทนารว่ มกันเก่ียวกับประสบการณเ์ ดมิ โดยใชค้ าถาม ดังน้ี
๓.๑ เด็ก ๆ สิง่ ท่เี ห็นคอื อะไร
๓.๒ เด็ก ๆ ในนา้ อดั ลมมอี ะไรอยบู่ ้าง
๓.๓ ถา้ เราเขยา่ ขวดนา้ อัดลม เด็ก ๆ คดิ ว่าจะเป็นอย่างไร
๔. ขออาสามสมคั รออกมาทดลองเขย่าขวดน้าอัดลม และสังเกตสง่ิ ทเ่ี กดิ ขึน้
๕. นาขวดน้าอัดลมเมอื่ เขยา่ ขวดจะมฟี อง เพราะมีกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์
๖. ใหเ้ ด็กแบง่ กลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แล้วนง่ั เปน็ วงกลมให้เรยี บรอ้ ย
๗. เดก็ และครูร่วมกันจัดเตรยี มวัสดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง พรอ้ มกับสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั การ
ทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๗.๑ เด็ก ๆ เห็นวัสดุอุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
๗.๒ จากวัสดอุ ุปกรณท์ ี่เห็น เดก็ ๆ คิดวา่ เราจะทาการทดลองอะไร
๗.๓ ถา้ เรานาเมลด็ พืชใสล่ งไปในนา้ โซดา เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกิดอะไรข้นึ
๗.๔ ถา้ เรานาเมลด็ พืชใสล่ งในน้าเปลา่ กบั น้าโซดา เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเหมือนกันหรือแตกตา่ งกัน
อยา่ งไร
๘. ขออาสาสมคั รออกมาทาการทดลอง ด้วยการนาแกว้ สองใบใส่น้า โดยใบท่ี ๑ ใสน่ า้ เปล่าและใบท่ี ๒
ใสน่ า้ โซดา จากน้ันใหน้ าเมล็ดพืชท่เี ตรียมไว้ใส่ลงไปในแกว้ ทัง้ สองพรอ้ มกนั และสังเกตสิง่ ท่ีเกดิ ขึ้น
๙. ให้ตวั แทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมาหยิบวสั ดอุ ปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทดลอง
๑๐.ให้เด็กทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสงั เกตส่ิงที่เกดิ ข้นึ โดยครใู ชค้ าถามกระตุ้น ดงั น้ี
๘.๑ เดก็ ๆ สงั เกตเห็นเมล็ดพชื ที่อยใู่ นน้าโซดาเปน็ อย่างไร เพราะอะไรจงึ เป็นเช่นนัน้

๒๐

๘.๒ เด็ก ๆ สังเกตเหน็ เมลด็ พชื ท่ีอย่ใู นน้าเปลา่ เปน็ อย่างไร เพราะอะไรจึงเป็นเช่นน้นั
๘.๓ เดก็ ๆ สังเกตเหน็ ว่าระหวา่ งเมล็ดพืชทอ่ี ยู่ในน้าเปลา่ กับน้าโซดา เหมือนหรอื แตกต่างกัน

อย่างไร
๑๑.เดก็ จดบนั ทึกผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๒.ให้เดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่ิงที่สงั เกตเห็น
๑๓.เด็กและครูร่วมกันสรุปเกย่ี วกบั ผลการทดลองเรือ่ ง เมลด็ พชื เตน้ ระบา พบวา่ เม่ือใส่เมล็ดพืชลงไปใน

แก้วทีม่ ีนา้ โซดา จะเหน็ ได้ว่าเมลด็ พืชลอยขนึ้ – ลง เคล่ือนไหวไปมาอยา่ งรวดเร็ว โดยจะเหน็ วา่ ฟอง
ดันเมล็ดถ่วั เขยี วลอยบนผวิ นา้ เมอ่ื ฟองแตกเมลด็ พืชก็จะตกลงมาก้นแกว้ ส่วนเมล็ดพืชทอ่ี ยูใ่ นนา้ จะ
ลอยและจมลงกน้ แกว้ ไม่มกี ารเคล่อื นไหวไปมา และไม่ฟองอากาศ

ภำพกำรดำเนินกิจกรรมกำรทดลองเร่อื ง เมล็ดพชื เต้นระบำ

ภำพวัสดุอุปกรณ์ในกำรทำกจิ กรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพเดก็ นำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนที่สำเร็จของเด็ก

ผลที่เกดิ กับเดก็
๑. ผลทีเ่ กิดขึ้นตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ได้เรยี นรู้เร่ือง คุณสมบัตกิ า๊ ซคาร์บอนไดออกไซต์ ว่า กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์จะมี
น้าหนักเบากวา่ นา้ จงึ เหน็ ฟองลอยข้ึนบนผิวนา้ ในฟองที่มกี ๊าซคาร์บอนไดออไซด์นา้ หนักเบา
กวา่ น้าจึงลอยข้ึนบนผิวนา้ ได้

๒๑

๑.๒ เดก็ อธิบายเคลอ่ื นที่เมล็ดพชื ท่อี ยใู่ นนา้ โซดาได้ วา่ เมื่อใส่เมลด็ พืชลงไปในแก้วทีม่ นี ้าโซดา
จะเหน็ ได้วา่ เมลด็ พชื ลอยขนึ้ – ลง เคลื่อนไหวไปมาอยา่ งรวดเรว็ โดยจะเห็นว่าฟองดันเมล็ด
ถัว่ เขียวลอยบนผิวน้า เม่ือฟองแตกเมล็ดพชื ก็จะตกลงมาก้นแกว้

๑.๓ เดก็ เปรยี บเทยี บการเคลอ่ื นที่ของเมลด็ พชื ในนา้ เปลา่ กบั น้าโซดาได้ ว่า เมล็ดพชื ในน้าโซดา
ลอยขน้ึ – ลง เคลอื่ นไหวไปมาอยา่ งรวดเรว็ โดยจะเห็นว่าฟองดันเมล็ดถั่วเขยี วลอยบนผิวนา้
เมื่อฟองแตกเมล็ดพืชกจ็ ะตกลงมากน้ แกว้ สว่ นเมลด็ พชื ท่ีอยใู่ นน้าจะลอยและจมลงกน้ แก้ว
ไมม่ ีการเคล่ือนไหวไปมา และไม่ฟองอากาศ

๑.๔ เด็กใชป้ ระสาทสัมผัสทงั้ หา้ ในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้
๑.๕ เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พื่อนฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพนื้ ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ด้ำนภำษำ / ด้ำนสติปัญญำ

- เดก็ ไดเ้ รียนรู้เกย่ี วกับเร่ือง เม่ือเทเมล็ดถว่ั เขียวลงในแก้วน้าทมี่ ีโซดา จะพบว่าเมลด็
ถ่ัวเขยี วลอยขน้ึ ลง เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว โดยจะเหน็ ว่าฟองดนั เมลด็ ถ่ัวเขียว
ลอยบนผิวนา้ เมื่อฟองแตกเมล็ดพชื กต็ กลงมากน้ แกว้

- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรอื เลา่ เร่ืองราวตา่ ง ๆ เกีย่ วกบั ส่งิ ที่เกดิ ขน้ึ จากการ
ทดลอง

- เด็กมีความมนั่ ใจในตนเอง กล้าคดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองรว่ มกับผอู้ ่นื การตอบคาถาม การซกั ถามในส่งิ ที่เปน็ ขอ้ สงสัย

- เด็กใชป้ ระสาทสัมผัสทงั้ ห้าในการคน้ หาคาตอบ โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นการคิด การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การตงั้ สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทียบ
และการทาทดลอง

๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เด็กไดเ้ รยี นรู้ในการทางานร่วมกับผอู้ นื่ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงรว่ มกนั ได้ รจู้ กั การ
ทางานเปน็ กลุ่ม การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลือก และลงมอื ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง มีการแกป้ ญั หาระหวา่ งทา
กิจกรรม

๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เริง แจม่ ใส มีความสุขและสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏิบัติกจิ กรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเป็นกลุ่ม

๒.๔ ด้ำนเคลอื่ นไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เดก็ ใช้กล้ามเน้ือมือในการหยบิ จบั วสั ดุอุปกรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้

ประสาทสัมผสั ทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้

๒๒

กิจกรรมที่ ๘ เร่อื ง สนกุ กับฟองสบู่

จุดประสงค์
๑. เพื่อให้เดก็ ไดเ้ รียนรู้เก่ยี วกับเรอ่ื งแรงตึงผิว
๒. เพือ่ ใหเ้ ด็กอธิบายวธิ ีการท่ีทาใหเ้ กดิ ฟองสบู่ และสังเกตสิ่งท่เี กดิ ขึ้นได้
๓. เพ่อื ใหเ้ ด็กเปรียบเทียบลักษณะและเกิดฟองของน้าเปลา่ น้ายาล้างจาน สบู่ และผงซักฟอกได้
๔. เพื่อใหเ้ ด็กใชป้ ระสาทสมั ผสั ทั้งหา้ ในการหาคาตอบได้
๕. เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้ันตอนกำรจัดกจิ กรรม
๑. เดก็ น่ังเป็นรูปตวั ยู ( U ) หรอื คร่งึ วงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๒. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกัน โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะท่ีครพู ูดหรอื เพอื่ นทไี่ ด้รบั อนญุ าตใหพ้ ดู กาลังพูดเด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถ้าเด็ก ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอย่างไรก่อนจะทากิจกรรม
๓. เด็กและครูรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกบั ประสบการณ์เดิม โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๓.๑ เดก็ ๆ เคยช่วยคุณพอ่ คณุ แมล่ ้างจาน ซักผ้าหรือไม่
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ เราเวลาล้างจาน หรอื ซกั ผ้ามอี ะไรเกดิ ขน้ึ บา้ ง และเพราะอะไรจงึ เป็นเชน่ น้นั
๓.๓ เด็ก ๆ มวี ธิ กี ารอยา่ งไรทท่ี าใหเ้ กิดฟองสบู่
๔. เด็กและครูร่วมกนั จดั เตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ใี่ ช้ในการทดลอง พร้อมกบั สนทนารว่ มกันเกย่ี วกับการ
ทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๔.๑ เดก็ ๆ เห็นวสั ดอุ ุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
๔.๒ จากวัสดุอุปกรณ์ท่ีเห็น เดก็ ๆ คดิ วา่ เราจะทาการทดลองอะไร
๔.๓ เด็ก ๆ คดิ วา่ นา้ เปลา่ นา้ ยาลา้ งจาน สบู่ ผงซักฟอก อะไรทาใหเ้ กิดฟองได้
๔.๔ เดก็ ๆ คดิ วา่ เราจะมวี ธิ กี ารอยา่ งไรทาใหเ้ กดิ ฟองสบมู่ ากทสี่ ดุ
๕. ให้เด็กแบง่ กล่มุ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แล้วน่ังเปน็ วงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๖. ให้เดก็ แตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั วางแผนในการเลอื กใชว้ สั ดุอุปกรณ์ และวธิ ที ี่จะทาใหเ้ กดิ ฟองสบู่มากทส่ี ดุ ได้
พร้อมกับครจู ดบันทึกคาตอบของเดก็ แตล่ ะกลมุ่
๗. ให้ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมาหยิบวสั ดุอุปกรณท์ ่กี ลมุ่ ของตนเองตามท่วี างแผนไว้
๘. ให้เด็กทากิจกรรมอย่างอสิ ระ และสังเกตสิง่ ท่ีเกิดขน้ึ โดยครูใชค้ าถามกระตนุ้ ดงั นี้
๘.๑ เดก็ ๆ ลกั ษณะของฟองสบทู่ ี่เกิดข้นึ เปน็ อยา่ งไร
๘.๒ เด็ก ๆ สงั เกตเห็นอะไรบ้างภายในฟองสบู่
๘.๓ ถ้าเราเปา่ ลมส้ันๆ แต่แรง กับค่อยเป่า เบา ๆ เดก็ ๆ คดิ วา่ ฟองสบทู่ ่ีเกดิ ขึน้ จะเหมือนหรือ
ต่างกนั อยา่ งไร

๒๓

๘.๔ เดก็ ๆ มวี สั ดุอุปกรณ์อะไรอีกบา้ งทีส่ ามารถนามาใชเ้ ปา่ ฟองสบไู่ ด้
๙. เด็กจดบันทกึ ผลการทดลองของกลุ่มตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๑๐.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากสงิ่ ท่ีสังเกตเห็น
๑๑.เดก็ และครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกบั ผลการทดลองเร่ือง สนุกกับฟองสบู่ พบวา่ เมื่อนานา้ ผสมกบั นา้ ยาล้าง

จาน หรอื สบู่ หรือผงซกั ฟอกลงไป เม่ือเปา่ จะทาใหเ้ กิดฟองลอยในอากาศได้ ฟองสบเู่ ป็นทรงกลมซอ้ น
กนั เหมือนพวงองุ่น และเมอ่ื แสงส่องผา่ นฟองสบ่จู ะมองเหน็ ฟองสบู่เปน็ สีรุ้ง แต่เมื่อนามา
เปรียบเทียบกนั ระหวา่ ง น้าเปล่า นา้ ยาลา้ งจาน สบู่ และผงซักฟอกนัน้ จะเหน็ ไดว้ า่ นา้ เกดิ ฟอง แต่
พอหยดุ เปา่ ฟองกห็ าย ส่วนน้ายาลา้ งจาน สบู่ และผงซกั ฟอก จะเหน็ ไดว้ า่ เกดิ ฟองทมี่ ลี ักษณะรูปร่าง
สี และขนาดแตกตา่ งกันออกไป

ภำพกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรทดลองเรื่อง สนกุ กับฟองสบู่

ภำพวสั ดุอุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเด็กปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกำรทดลอง

ภำพเด็กนำเสนอผลงำน ภำพผลงำนที่สำเร็จของเด็ก

๒๔

ผลท่ีเกดิ กับเดก็
๑. ผลทเ่ี กิดขึ้นตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เด็กได้เรยี นรเู้ กยี่ วกับเรือ่ งแรงตงึ ผิวของน้า ซึง่ นา้ มแี รงยดึ เหนี่ยวกนั แนน่ โดยเฉพาะทผ่ี ิวน้า
เรยี กวา่ แรงตึงผวิ ทสี่ ามารถทาใหน้ ้าเกาะกนั เปน็ หยด หรอื รับนา้ หนักวตั ถุเบา ๆ ได้เมื่อนา
สารลดแรงตงึ ผวิ (เช่น น้ายาลา้ งจาน สบู่ ผงซักฟอก)ใสล่ งในน้าสามารถทาให้เด็ก ๆ เป่าน้า
เปน็ ฟองลอยในอากาศได้
๑.๒ เด็กอธบิ ายวิธกี ารที่ทาใหเ้ กิดฟองสบู่ และลักษณะของฟองสบู่สงิ่ ทเ่ี กิดขึ้นได้ วา่ เม่ือนานา้
ผสมนา้ ยาลา้ งจาน หรือสบู่ หรอื ผงซกั ฟอกลงไป เมอ่ื เป่าจะทาใหเ้ กดิ ฟองลอยในอากาศได้
ฟองสบเู่ ปน็ ทรงกลมซ้อนกัน เหมือนพวงองุ่น และเม่อื แสงสอ่ งผ่านฟองสบจู่ ะมองเหน็ ฟอง
สบู่เป็นสรี ุ้ง
๑.๓ เด็กเปรยี บเทียบลักษณะและเกิดฟองของนา้ เปลา่ นา้ ยาลา้ งจาน สบู่ และผงซักฟอกได้ วา่
นา้ เกิดฟอง แตพ่ อหยดุ เป่าฟองกห็ าย สว่ นน้ายาลา้ งจาน สบู่ และผงซกั ฟอก จะเห็นได้ว่า
เกิดฟองที่มลี กั ษณะ และขนาดแตกตา่ งกนั
๑.๔ เด็กใช้ประสาทสมั ผสั ทงั้ หา้ ในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๕ เดก็ บนั ทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พอ่ื นฟังได้
๒. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพน้ื ฐำน และพฒั นำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นรู/้ ดำ้ นภำษำ/สตปิ ัญญำ
- เดก็ ไดเ้ รียนรเู้ กี่ยวกับเร่อื งแรงตงึ ผิวของนา้ ว่า นา้ มแี รงยดึ เหนีย่ วกนั แนน่ โดย
เฉพาะทีผ่ ิวน้า เรยี กว่า แรงตึงผวิ ท่สี ามารถทาให้น้าเกาะกันเป็นหยด หรอื รับ
น้าหนักวัตถุเบา ๆ ไดเ้ มอ่ื นาสารลดแรงตึงผวิ (เชน่ นา้ ยาลา้ งจาน สบู่ ผงซักฟอก)ใส่
ลงในนา้ สามารถทาใหเ้ ดก็ ๆ เป่านา้ เปน็ ฟองลอยในอากาศได้
- เด็กสามารถสนทนาโตต้ อบหรือเลา่ เร่ืองราวตา่ ง ๆ สิ่งทเ่ี กิดข้ึนจากการทดลอง
- เดก็ มคี วามม่ันใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ ของตนเอง
ร่วมกับผ้อู ื่น การตอบคาถาม การซกั ถามในสิง่ ท่เี ป็นขอ้ สงสัย
- เดก็ ใช้ประสาทสมั ผสั ทัง้ หา้ ในการคน้ หาคาตอบ โดยใช้ทกั ษะทางดา้ นการคดิ การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การตัง้ สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทียบ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสังคม
- เดก็ ได้เรียนรใู้ นการทางานร่วมกบั ผ้อู ืน่ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงร่วมกันได้ รู้จกั การ
ทางานเป็นกลมุ่ การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผ้อู ื่น การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมือปฏิบตั ดิ ้วยตนเอง มกี ารแกป้ ัญหาระหวา่ งทา
กิจกรรม

๒๕

๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เรงิ แจม่ ใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมือ
ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองด้วยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเปน็ กลุ่ม

๒.๔ ด้ำนเคลือ่ นไหว/ร่ำงกำย
- เด็กใช้กลา้ มเนื้อมดั เล็กในการหยบิ จับวสั ดุอุปกรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสัมผสั ทัง้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๒๖

กจิ กรรมที่ ๙ เรือ่ ง ทอรน์ ำโดในขวดนำ้

จุดประสงค์
๑. เพ่ือให้เดก็ ไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งอากาศมตี วั ตน
๒. เพอ่ื ให้เด็กอธิบายการเกดิ พายทุ อรน์ าโดในขวดได้
๓. เพอ่ื ให้เด็กใชป้ ระสาทสัมผสั ทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพ่ือให้เดก็ สามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขัน้ ตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. เด็กนัง่ เป็นรูปตวั ยู ( U ) หรือคร่ึงวงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๒. เด็กและครูรว่ มกันสร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกนั โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะท่คี รูพดู หรือเพอ่ื นทไี่ ด้รบั อนญุ าตใหพ้ ูดกาลังพูดเดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถา้ เดก็ ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. นาลูกโป่งรปู ร่างตา่ ง ๆ ทเ่ี ป่าลมแลว้ ให้เดก็ ดู พรอ้ มกับสนทนาร่วมกนั ถงึ ประสบการณ์เดิมของเด็ก
เกยี่ วกบั การทดลอง โดยใชค้ าถาม ดังนี้
๓.๑ เด็ก ๆ ลกู โป่งมลี กั ษณะอย่างไร
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ ขา้ งในลูกโปง่ มอี ะไรอยู่
๓.๓ เด็ก ๆ คดิ วา่ อากาศมีลกั ษณะอยา่ งไร
๓.๔ เดก็ ๆ เคยเหน็ ปรากฏการณธ์ รรมชาตอิ ะไรบา้ งท่ีเกดิ จากอากาศหรือลม
๔. ใหเ้ ด็กแบง่ กลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ น่งั เป็นวงกลมให้เรยี บรอ้ ย
๕. เด็กและครูรว่ มกนั จดั เตรยี มวสั ดุอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง พร้อมกบั สนทนารว่ มกันเกีย่ วกับการ
ทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๕.๑ เดก็ ๆ เหน็ วัสดุอปุ กรณอ์ ะไรบ้าง
๕.๒ จากวสั ดอุ ุปกรณท์ ีเ่ หน็ เดก็ ๆ คิดว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ เด็ก ๆ เคยให้พายทุ อร์นาโดหรือไม่ และถา้ เคย ๆ เหน็ ที่ไหน
๕.๔ เด็ก ๆ คดิ วา่ พายุทอรน์ าโดมลี ักษณะอยา่ งไร และเกดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร
๖. ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุ่มช่วยกนั คิดวางแผนหาวธิ ีการท่สี ร้างพายทุ อรน์ าโดในขวด และวธิ กี ารทาให้เกดิ พายุ
ทอรน์ าโดในขวดนา้ พรอ้ มกับครจู ดบันทกึ คาตอบของเด็ก
๗. ใหต้ ัวแทนของแตล่ ะกลุ่มออกมาหยบิ วสั ดอุ ปุ กรณข์ องกลมุ่ ตนเอง
๘. ให้เดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตสิ่งท่เี กดิ ข้นึ โดยครใู ช้คาถามกระต้นุ ดังนี้
๘.๑ เดก็ ๆ คดิ วา่ จะใสป่ รมิ าณนา้ ในขวดเท่าไหร่ เพราะอะไร
๘.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ พายทุ อร์นาโดในขวดเกดิ ขนึ้ ไดอ้ ย่างไร เพราะอะไรจงึ เปน็ เช่นนั้น
๘.๓ เด็ก ๆ สงั เกตเห็นพายทุ อรน์ าโดมีลกั ษณะเป็นอย่าไร

๒๗

๙. เด็กจดบนั ทึกผลการทดลองของกลุ่มตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๐.ให้เด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากสง่ิ ทส่ี ังเกตเหน็
๑๑.เด็กและครูร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั ผลการทดลองเรอ่ื ง ทอร์นาโดในขวด พบวา่ วา่ เม่อื บีบขวดน้าดา้ นบน

นา้ จะพ่งุ เปน็ สายลงมาดา้ นล่าง แตถ่ ้าเราหมนุ ขวด จะทาให้เกิดสมดลุ ของนา้ และอากาศข้ึนพรอ้ ม ๆ
กัน อากาศจะเคล่ือนตวั ผ่าน “ ตา ” ของนา้ วนข้ึนสู่ดา้ นบนน้าท่ีหมนุ จะไหลผา่ นผวิ ด้านในขวดไปยงั
ด้านลา่ ง การหมนุ นจ้ี ะเกดิ ข้ึนจนกระทั่งขวดบนว่างเปลา่

ภำพกำรดำเนนิ กิจกรรมกำรทดลองเร่ือง ทอรน์ ำโดในขวด

ภำพวสั ดุอุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏิบตั ิกจิ กรรมกำรทดลอง

ภำพเด็กปฏิบัติกิจกรรมกำรทดลอง ภำพผลงำนท่ีสำเร็จของเด็ก

ผลท่เี กดิ กบั เด็ก
๑. ผลทเ่ี กิดขึน้ ตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ได้เรยี นรู้เรือ่ งอากาศมีตวั ตน อากาศตอ้ งการทีอ่ ยู่ และของทัง้ สองสงิ่ (นา้ กบั อากาศ) มา
สามารถอยู่ในที่เดียวกันได้ ณ เวลาเดยี วกนั
๑.๒ เด็กอธบิ ายการเกิดพายุทอร์นาโดในขวดได้ ว่า เมอื่ บบี ขวดน้าด้านบน น้าจะพุง่ เปน็ สายลงมา
ดา้ นลา่ ง แต่ถา้ เราหมุนขวด จะทาใหเ้ กดิ สมดุลของนา้ และอากาศขน้ึ พรอ้ ม ๆ กัน อากาศจะ

๒๘

เคลอื่ นตวั ผา่ น “ ตา ” ของน้าวนข้ึนสดู่ ้านบนนา้ ทหี่ มุนจะไหลผา่ นผวิ ดา้ นในขวดไปยงั
ด้านล่าง การหมนุ นจ้ี ะเกิดขึน้ จนกระทง่ั ขวดบนวา่ งเปลา่
๑.๓ เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผสั ทง้ั หา้ ในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๔ เดก็ บันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พอ่ื นฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพ้ืนฐำน และพฒั นำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นร/ู้ ดำ้ นภำษำ/สติปัญญำ

- เดก็ ได้เรียนรู้เก่ยี วกบั เร่ืองแรงดนั น้า พบวา่ อากาศมตี ัวตน อากาศต้องการท่อี ยู่ และ
ของท้ังสองส่ิง (น้ากบั อากาศ) มาสามารถอย่ใู นทีเ่ ดยี วกนั ได้ ณ เวลาเดยี วกันได้

- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบหรือเล่าเรื่องราวตา่ ง ๆ สิ่งท่ีเกิดขึน้ จากการทดลอง
- เด็กมีความม่ันใจในตนเอง กลา้ คดิ กล้าแสดงออก มีการแสดงความคดิ ของตนเอง

รว่ มกับผอู้ ืน่ การตอบคาถาม การซักถามในสง่ิ ที่เป็นขอ้ สงสัย
- เดก็ ใชป้ ระสาทสัมผสั ทัง้ หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ ักษะทางดา้ นการคิด การ

สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การต้งั สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรียบเทียบ
และการทาทดลอง
๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เดก็ ไดเ้ รยี นร้ใู นการทางานร่วมกับผอู้ ืน่ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงรว่ มกนั ได้ รู้จกั การ
ทางานเป็นกลมุ่ การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ื่น การ
วางแผน ตดั สินใจเลอื ก และลงมือปฏบิ ัตดิ ้วยตนเอง มีการแก้ปัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเริง แจม่ ใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมือ
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลองด้วยตนเอง มีการทากจิ กรรมเปน็ กลมุ่
๒.๔ ด้ำนเคล่ือนไหว/ร่ำงกำย
- เด็กใช้กล้ามเน้ือมดั เล็กในการหยบิ จับวัสดอุ ุปกรณ์การทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้

ประสาทสัมผสั ทั้งห้าในการหาคาตอบได้

๒๙

กจิ กรรมท่ี ๑๐ เร่อื ง หลอดดำน้ำ

จดุ ประสงค์
๑. เพือ่ ใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ ร่อื งคุณสมบตั กิ ารจมการลอย
๒. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ได้ฝกึ ทกั ษะการสงั เกตเรื่องการจมและการลอยของวตั ถไุ ด้
๓. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ใช้ประสาทสัมผัสท้ังหา้ ในการหาคาตอบได้
๔. เพื่อให้เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. เดก็ น่ังเป็นรูปตัวยู ( U ) หรอื ครึ่งวงกลมให้เรียบร้อย
๒. เด็กและครูรว่ มกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกนั โดยใชค้ าถาม ดังนี้
๒.๑ ระหว่างการทากิจกรรม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะท่คี รูพดู หรือเพอื่ นทไ่ี ด้รับอนญุ าตใหพ้ ดู กาลงั พดู เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถ้าเดก็ ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากิจกรรม
๓. สอบถามประสบการณเ์ ดิมของเดก็ เกยี่ วกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๓.๑ เด็ก ๆ เคยพบเหน็ แหล่งน้าท่ไี หนบา้ ง
๓.๒ เดก็ ๆ เคยพบเห็นอะไรท่สี ามารถลอยอยู่ในนา้ ได้ โดยท่ไี ม่จมลงไป
๔. ให้เดก็ สงั เกตดูวตั ถุสิง่ ของตา่ ง ๆ ในห้องเรยี นว่าถา้ นามาใสใ่ นน้า วัตถนุ ้นั จะจมหรอื ลอย โดยให้เด็ก
เลือกหยบิ มาคนล่ะ ๑ อย่าง โดยครูเตรยี มตปู้ ลาที่ใส่น้าให้เด็กไดน้ าวัตถมุ าทดลอง พรอ้ มสนทนา
ร่วมกันเก่ียวกับการทดลอง โดยใชค้ าถามกระตุ้น ดังน้ี
๔.๑ เด็ก ๆ สังเกตเหน็ วา่ มวี ัตถชุ ิ้นใดจม และวัสดชุ ิน้ ใดลอยบา้ ง
๕. ใหเ้ ดก็ แบ่งกลมุ่ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ น่งั เป็นวงกลมใหเ้ รียบร้อย
๖. เด็กและครูร่วมกันจัดเตรยี มวสั ดุอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง พรอ้ มกับสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั การ
ทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๖.๑ เด็ก ๆ เห็นวสั ดุอุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
๖.๒ จากวัสดุอปุ กรณท์ ีเ่ หน็ เดก็ ๆ คิดว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๖.๓ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาอยา่ งไรหลอดดาน้าได้ โดยไมจ่ มลงไป
๗. ใหเ้ ดก็ แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั คดิ วางแผนหาวธิ ีการสรา้ งหลอดดานา้ ของกลมุ่ ตนเองใหล้ อยในนา้ โดยไมจ่ ม
ได้นานทีส่ ุด พร้อมกบั ครจู ดบนั ทกึ คาตอบของเดก็
๘. ใหต้ วั แทนของแตล่ ะกล่มุ ออกมาหยิบวสั ดอุ ุปกรณข์ องกล่มุ ตนเอง
๙. ให้เดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตส่ิงทเี่ กดิ ขน้ึ โดยครูใช้คาถามกระตุน้ ดังนี้
๙.๑ เด็ก ๆ เลือกใชว้ สั ดุอปุ กรณ์อะไรบ้าง เพราะอะไร
๙.๒ เดก็ ๆ มวี ธิ กี ารอยา่ งไรทาให้หลอดไมจ่ ม

๓๐

๑๐.ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุม่ นาหลอดดานา้ ท่ีเสรจ็ แลว้ มาทดลองดใู นตูป้ ลาวา่ จมหรือลอย ถ้าจมใหเ้ ดก็ แกไ้ ข
หลอดดานา้ ได้ตามตอ้ งการ เพ่อื ให้หลอดสามารถลอยอยู่ในน้าได้

๑๑.ใหเ้ ดก็ แตล่ ะกลมุ่ นาหลอดดานา้ ท่ีลอยน้าได้ใส่ลงในขวดพลาสตกิ ท่บี รรจนุ า้ เต็มขวด จากนัน้ ปดิ ฝาให้
แน่น และใหเ้ ดก็ จับขวดดา้ นล่างแลว้ ออกแรงบีบค้างไว้ และสงั เกตสิ่งทเี่ กดิ ขึน้

๑๒.เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกยี่ วกับการทดลอง โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๑๒.๑ เมอื่ เราออกแรงบบี ขวด เดก็ ๆ คิดว่า ทาไมหลอดถึงจมลงไปดา้ นลา่ งของขวด
๑๒.๒ เมื่อคลายแรงบบี ขวด เด็ก ๆ คดิ วา่ ทาไมหลอดถงึ ลอยขนึ้ มาดา้ นบน

๑๓.เดก็ จดบันทึกผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๔.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากสง่ิ ทีส่ งั เกตเหน็
๑๕.เดก็ และครูรว่ มกันสรุปเกยี่ วกับผลการทดลองเร่ือง หลอดดานา้ พบว่า เมือ่ ขวดถูกบบี หลอดจะจมลง

เน่ืองจากหลอดมนี ้าหนักมากถูกถ่วงด้วยดนิ นา้ มัน หลอดจงึ จมลงอยกู่ น้ ขวดแต่เมอ่ื คลายแรงบบี ขวด
ความดนั ในขวดลดลงอากาศภายในลดลงและดันนา้ ออกจากหลอด หลอดจึงนา้ หนกั ลงลงและลอยตวั
ขึ้นมา

ภำพกำรดำเนินกจิ กรรมกำรทดลองเรอ่ื ง หลอดดำน้ำ

ภำพวสั ดอุ ุปกรณใ์ นกำรทำกจิ กรรม ภำพเด็กปฏบิ ัติกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก

๓๑

ผลท่ีเกิดกับเด็ก
๑. ผลที่เกิดขน้ึ ตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เด็กได้เรียนรู้เร่อื ง คณุ สมบัตกิ ารจมการลอย ซึ่งการจมและการลอยของวัตถขุ น้ึ อยกู่ บั ขนาด
และน้าหนกั ของวตั ถชุ นิดน้นั
๑.๒ เด็กได้ฝึกทกั ษะการสงั เกตเร่อื งการจมและการลอยของวัตถุ วา่ วัตถุช้ินใดจมหรอื ลอยได้
๑.๓ เดก็ ใช้ประสาทสัมผัสทัง้ หา้ ในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๔ เดก็ บันทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพือ่ นฟังได้
๒. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพืน้ ฐำน และพฒั นำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นรู้ / ดำ้ นภำษำ / ดำ้ นสติปญั ญำ
- เดก็ ได้เรียนร้เู กย่ี วกับเร่อื งคณุ สมบตั กิ ารจมการลอย ซง่ึ การจมและการลอยของวตั ถุ
ข้นึ อยู่กบั ขนาดและน้าหนักของวัตถุชนดิ น้นั
- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรือเล่าเร่อื งราวตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั สิง่ ทเี่ กิดขึ้นจากการ
ทดลอง
- เดก็ มีความมั่นใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มีการแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองร่วมกบั ผ้อู น่ื การตอบคาถาม การซกั ถามในส่งิ ที่เปน็ ข้อสงสยั
- เดก็ ใชป้ ระสาทสมั ผสั ท้งั หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ กั ษะทางดา้ นการคดิ การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การตัง้ สมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรียบเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสังคม
- เดก็ ไดเ้ รยี นรู้ในการทางานร่วมกับผู้อื่น ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงร่วมกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเป็นกลุม่ การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ่นื การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมือปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง มกี ารแกป้ ญั หาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เริง แจม่ ใส มีความสขุ และสนุกสนานในการลงมือ
ปฏิบัติกิจกรรมการทดลองด้วยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเปน็ กลมุ่
๒.๔ ด้ำนเคลอ่ื นไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เด็กใช้กล้ามเนื้อมอื ในการหยบิ จับวสั ดุอปุ กรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสมั ผัสทง้ั ห้าในการหาคาตอบได้

๓๒

กิจกรรมท่ี ๑๑ เรือ่ ง ไหลแรงหรอื คอ่ ย

จดุ ประสงค์
๑. เพือ่ ใหเ้ ดก็ ได้เรยี นรู้เร่ืองแรงดันน้า
๒. เพอ่ื ให้เดก็ อธบิ ายการไหลของนา้ ได้
๓. เพื่อใหเ้ ดก็ ใช้ประสาทสัมผสั ท้งั ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนกำรจัดกจิ กรรม
๑. ใหเ้ ดก็ นั่งเปน็ รปู ตัวยู ( U ) หรอื ครง่ึ วงกลมใหเ้ รยี บรอ้ ย
๒. เด็กและครูร่วมกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมรว่ มกนั โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะทคี่ รพู ดู หรอื เพอ่ื นทไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ูดกาลงั พูดเดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถ้าเด็ก ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากิจกรรม
๓. พาเด็กสารวจก๊อกนา้ และถงั เกบ็ น้าภายในโรงเรียน พรอ้ มกบั สนทนารว่ มกันเกย่ี วกบั ประสบการณ์
เดิม โดยใชค้ าถาม ดังน้ี
๓.๑ เดก็ ๆ คดิ วา่ น้าทีเ่ ราใชม้ าจากไหน
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ นา้ ไหลมาตามทต่ี า่ ง ๆ ในโรงเรยี นไดอ้ ย่างไร
๓.๓ ถา้ เราเปดิ น้าลา้ งมอื นา้ นน้ั นา้ ทีไ่ หลบางครัง้ แรง บางครงั้ เบา เดก็ ๆ คดิ วา่ เป็นเพราะอะไร
๔. ใหเ้ ดก็ แบง่ กล่มุ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ นงั่ เปน็ วงกลมให้เรยี บรอ้ ย
๕. เดก็ และครูรว่ มกันจัดเตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการทดลอง พรอ้ มกบั สนทนารว่ มกันเกย่ี วกบั การ
ทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๕.๑ เด็ก ๆ เห็นวสั ดอุ ุปกรณอ์ ะไรบ้าง
๕.๒ จากวัสดุอุปกรณ์ที่เหน็ เดก็ ๆ คดิ ว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ ถา้ เราต้องให้น้าที่อยใู่ นขวดนา้ ออกมา โดยไม่เปดิ ฝา เดก็ ๆ คดิ วา่ จะตอ้ งทาอยา่ งไร
๕.๔ ถา้ ต้องการเจาะรูขวดน้า เดก็ ๆ คดิ วา่ ต้องเจาะกร่ี ู เจาะตาแหนง่ ใดบ้าง เพราะเหตใุ ด
๖. ให้เด็กแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันหาวธิ ีการเจาะรูขวดน้าอยา่ งไร ให้นา้ ไหลแรงท่ีสดุ พร้อมกบั ครจู ดบนั ทึก
คาตอบของเด็กแตล่ ะกลมุ่
๗. ให้ตัวแทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมาหยิบวสั ดุอุปกรณข์ องกลมุ่ ตนเอง
๘. ให้เดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตสง่ิ ทีเ่ กดิ ขนึ้ โดยครใู ช้คาถามกระตุ้น ดังน้ี
๘.๑ ถา้ เจาะรขู วดนา้ แล้วดงึ หมดุ ออก เดก็ ๆ คดิ วา่ นา้ จะในขวดจะเป็นอยา่ งไร
๘.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ นา้ รใู ดจะไหลแรงทส่ี ุด เพราะเหตใุ ด
๘.๓ เด็ก ๆ คดิ วา่ นา้ รูใดไหลช้าท่สี ุด เพราะเหตใุ ด
๘.๔ ถ้าเราปดิ ฝาขวดน้า แลว้ ดึงหมุดออก เดก็ ๆ คิดวา่ จะเป็นอยา่ งไร

๓๓

๙. เดก็ จดบันทกึ ผลการทดลองของกลุ่มตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๐.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่งิ ทส่ี ังเกตเหน็
๑๑.เด็กและครรู ว่ มกันสรุปเก่ยี วกับผลการทดลองเร่ือง ไหลแรงหรอื ค่อย พบวา่ นา้ ท่ไี หลจากดา้ นบนสู่

ดา้ นล่าง นา้ ที่ดา้ นลา่ งจะยง่ิ หนักมากยงิ่ ข้ึน จึงทาให้นา้ รลู า่ งไหลแรงมากกวา่ และจะเกิดฟองภายใน
ขวดนา้ ซง่ึ ฟองทีเ่ หน็ ในขวดเกิดจากอากาศเข้าไปแทนท่ีนา้ ในขวด ทาใหด้ นั น้าให้ไหลออกมาตรงท่ี
เจาะรู แตถ่ า้ ปิดรูอากาศเข้าไม่ได้นา้ จงึ ไม่ไหลออกมา

ภำพกำรดำเนินกิจกรรมกำรทดลองเรอื่ ง ไหลแรงหรอื คอ่ ย

ภำพวัสดุอปุ กรณใ์ นกำรทำกิจกรรม ภำพเด็กปฏิบตั ิกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนท่สี ำเร็จของเด็ก

ผลทเี่ กิดกับเด็ก
๑. ผลท่ีเกดิ ขึ้นตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ไดเ้ รียนรเู้ รอ่ื งแรงดนั น้า นา้ ทอี่ ยดู่ ้านล่างหรอื ลกึ กวา่ จะมแี รงดนั มากกว่านา้ ท่อี ยดู่ ้านบน
หรอื น้าตน้ื ทาใหก้ ารไหลของนา้ จะเกิดขึน้ ไดจ้ ะตอ้ งมีอากาศเขา้ ไปแทนที่
๑.๒ เด็กอธิบายการไหลของน้าได้ วา่ นา้ ทไ่ี หลจากดา้ นบนสู่ดา้ นล่าง น้าทด่ี า้ นล่างจะยิ่งหนักมาก
ย่ิงข้ึน จงึ ทาให้น้ารลู า่ งไหลแรงมากกวา่

๓๔

๑.๓ เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสท้ังห้าในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้
๑.๔ เด็กบนั ทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พอ่ื นฟงั ได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพื้นฐำน และพัฒนำกำรของเดก็ ปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นร้/ู ด้ำนภำษำ/สตปิ ัญญำ

- เดก็ ไดเ้ รียนรู้เกีย่ วกับเร่อื งแรงดันน้า พบวา่ นา้ ท่ไี หลจากดา้ นบนสู่ดา้ นลา่ ง นา้ ท่ี
ดา้ นล่างจะยิ่งหนักมากยง่ิ ขน้ึ จงึ ทาใหน้ ้ารูลา่ งไหลแรงมากกวา่ และจะเกดิ ฟอง
ภายในขวดนา้ ซงึ่ ฟองท่ีเห็นในขวดเกิด จากอากาศเข้าไปแทนทีน่ ้าในขวด ทาใหด้ ัน
นา้ ให้ไหลออกมาตรงท่เี จาะรู แต่ถา้ ปดิ รอู ากาศเขา้ ไมไ่ ดน้ ้าจึงไม่ไหลออกมา

- เดก็ สามารถสนทนาโตต้ อบหรอื เลา่ เรื่องราวตา่ ง ๆ สิ่งทเ่ี กิดข้นึ จากการทดลอง
- เด็กมีความมัน่ ใจในตนเอง กลา้ คดิ กล้าแสดงออก มีการแสดงความคดิ ของตนเอง

รว่ มกับผอู้ ื่น การตอบคาถาม การซักถามในส่งิ ทเ่ี ปน็ ข้อสงสยั
- เดก็ ใช้ประสาทสัมผสั ทงั้ หา้ ในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ ักษะทางดา้ นการคดิ การ

สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การต้ังสมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสังคม
- เดก็ ได้เรยี นรู้ในการทางานร่วมกับผูอ้ ่ืน ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงรว่ มกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเปน็ กลมุ่ การรอคอย การแบ่งปัน การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผูอ้ ่นื การ
วางแผน ตดั สินใจเลอื ก และลงมือปฏบิ ัติดว้ ยตนเอง มีการแกป้ ัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเริง แจม่ ใส มีความสขุ และสนุกสนานในการลงมือ
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเป็นกลุ่ม
๒.๔ ดำ้ นเคลื่อนไหว/ร่ำงกำย
- เด็กใช้กลา้ มเน้ือมัดเล็กในการหยบิ จบั วัสดุอุปกรณ์การทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสัมผสั ทงั้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๓๕

กิจกรรมท่ี ๑๒ เรอ่ื ง ลูกโปง่ พองโต และขวบบบุ เองได้

จดุ ประสงค์
๑. เพอ่ื ให้เดก็ ได้เรียนรูเ้ ร่อื งอากาศ ณ อณุ หภมู ติ ่าง ๆ
๒. เพ่ือให้เดก็ อธิบายการพองตวั ของลกู โปง่ และการบบุ ของขวดได้
๓. เพอ่ื ให้เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสทง้ั หา้ ในการหาคาตอบได้
๔. เพื่อให้เดก็ สามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนกำรจัดกิจกรรม
๑. เดก็ น่งั เป็นรปู ตวั ยู ( U ) หรอื คร่ึงวงกลมใหเ้ รียบร้อย
๒. เดก็ และครูร่วมกันสร้างขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมร่วมกนั โดยใช้คาถาม ดังน้ี
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะท่ีครูพูดหรอื เพอื่ นทไี่ ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ูดกาลังพูดเด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถา้ เด็ก ๆ ต้องการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากิจกรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดิมของเด็ก เกย่ี วกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๓.๑ เด็ก ๆ เคยสังเกตเหน็ หรอื ไม่ หลงั จากต้มไข่เสรจ็ ใหม่ ๆ กอ่ นปอกเปลอื กคุณพอ่ คณุ แมน่ าไข่
ไปแช่นา้ เยน็ ก่อนปอกหรือไม่ เพราะอะไร
๓.๒ เด็ก ๆ คดิ วา่ ทาไมกอ่ นปอกเปลือกคณุ พ่อคุณแม่นาไข่ไปแชน่ ้าเย็น เพราะอะไรจงึ ทาเช่นนั้น
๔. เด็กและครูรว่ มกนั จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง
๕. ขออาสาสมัคร ๑ คนออกมาเปา่ ลกู โป่งเพือ่ ใหย้ ืดหย่นุ ได้ดแี ล้วปลอ่ ยลมออก สวมทปี่ ากขวด นาขวดไป
ใสใ่ นบีกเกอร์ท่ีใส่นา้ รอ้ นแล้วสงั เกตการเปล่ยี นแปลงทีล่ ูกโปง่ หลังจากนัน้ นาลูกโป่งพองแล้วนา้ ขวดใน
ออกจากนา้ ร้อน แลว้ ไปใส่น้าเยน็ แล้วสงั เกตการเปล่ยี นแปลงทีล่ ูกโป่ง
๖. เดก็ และครูร่วมกันสนทนาเก่ยี วกับการทดลอง โดยใช้คาถาม ดังน้ี
๖.๑ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมเมอื่ นา้ ขวดท่มี ีลกู โป่งใส่ภาชนะทมี่ นี ้ารอ้ นแลว้ ลูกโปง่ พองโตได้
๖.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมเมือ่ น้าขวดทล่ี ูกโปง่ พองโตใส่ภาชนะนา้ เย็นลกู โป่งจึงยุบตัวได้
๗. ขออาสาสมัคร ๒ คนออกมาทาการทดลอง โดยนานา้ ร้อนมาใสข่ วดพลาสติกประมาณครง่ึ ขวดปิดฝา
ใหแ้ นน่ แล้วเขยา่ ขวด เพ่อื ให้น้ารอ้ นทวั่ ขวดแล้วเทนา้ รอ้ นออก ปิดฝาวาง ให้เดก็ สงั เกตการ
เปลี่ยนแปลง พร้อมกบั สนทนาเกยี่ วกบั การทดลอง โดยใชค้ าถามกระตุ้น ดงั น้ี
๗.๑ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมขวดนา้ ถึงบบุ เองได้
๗.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ ถ้านาขวดบุบใส่นานา้ เยน็ มาใสข่ วดพลาสตกิ ประมาณครงึ่ ขวดปดิ ฝาใหแ้ นน่
แล้วเขยา่ ขวด เพอ่ื ให้นา้ เยน็ ทั่วขวดแลว้ เทน้าเย็นออก ปดิ ฝาวางจะเป็นอยา่ งไร
๘. เด็กจดบนั ทกึ ผลการทดลองของกล่มุ ตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๙. ใหเ้ ด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่ิงทีส่ งั เกตเหน็

๓๖

๑๐.เดก็ และครรู ว่ มกันสรปุ เกย่ี วกบั ผลการทดลองเรื่อง หมุดลอยน้า ว่า เมอื่ วางลวดเสียบกระดาษบนนา้
เบา ๆ ลวดเสยี บจะลอยนา้ ได้ และพบวา่ ผิวน้าเปน็ รอยเว้าลกึ บริเวณรอบลวดเสียบ แต่เม่ือวางแรง
ลวดเสียบกระดาษจะจมนา้

ภำพกำรดำเนินกิจกรรมกำรทดลองเรือ่ ง ลูกโปง่ พองโตและขวดบุบเองได้

ภำพวัสดอุ ุปกรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมกำรทดลอง

ภำพเดก็ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมกำรทดลอง ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเด็ก

ผลที่เกดิ กบั เด็ก
๑. ผลท่เี กดิ ขน้ึ ตำมจุดประสงค์
๑.๑ เดก็ ไดเ้ รยี นรเู้ รอ่ื งอากาศ ณ อุณหภมู ิตา่ ง ๆ อากาศรอ้ นขยายตัว และอากาศเย็นหดตวั
อากาศร้อนเคลื่อนทีเ่ รว็ ทาให้แรงดันอากาศมาก และอากาศเย็นเคลอ่ื นท่ชี ้าทาใหแ้ รงดัน
อากาศลดลง
๑.๒ เด็กอธิบายการพองตัวของลูกโป่งและการบบุ ของขวดได้ วา่ เม่อื ขวดที่ไดร้ บั ความรอ้ นทาให้
อากาศเคลื่อนทส่ี ู่ที่สูงทาให้ลูกโปง่ พองตวั ขึ้น ส่วนขวดทไ่ี ดร้ บั ความเยน็ ลงลูกโป่งจะเล็กลง
และเม่ือขวดท่ไี ด้รับความร้อนแล้วรอจนเย็นลงขวดจะบุบ
๑.๓ เดก็ ใช้ประสาทสมั ผสั ทัง้ ห้าในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้
๑.๔ เด็กบนั ทกึ ผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพื่อนฟงั ได้

๓๗

๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพื้นฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู/้ ด้ำนภำษำ/สตปิ ญั ญำ
- เด็กไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั เรอ่ื ง อากาศ ณ อุณหภมู ติ า่ ง ๆ อากาศร้อนขยายตวั และ
อากาศเย็นหดตวั อากาศร้อนเคล่ือนท่ีเร็วทาใหแ้ รงดันอากาศมาก และอากาศเยน็
เคลอื่ นทชี่ ้าทาให้แรงดันอากาศลดลง
- เดก็ สามารถสนทนาโต้ตอบหรอื เลา่ เรือ่ งราวตา่ ง ๆ สิ่งที่เกดิ ข้ึนจากการทดลอง
- เด็กมีความมั่นใจในตนเอง กลา้ คดิ กล้าแสดงออก มีการแสดงความคดิ ของตนเอง
ร่วมกับผ้อู นื่ การตอบคาถาม การซกั ถามในส่ิงทีเ่ ปน็ ข้อสงสัย
- เดก็ ใช้ประสาทสัมผัสท้งั ห้าในการค้นหาคาตอบ โดยใช้ทักษะทางดา้ นการคิด การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การตงั้ สมมตุ ิฐานในการทดลอง การเปรยี บเทยี บ
และการทาทดลอง
๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เดก็ ได้เรียนรใู้ นการทางานร่วมกบั ผูอ้ ่ืน ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงร่วมกันได้ ร้จู กั การ
ทางานเป็นกล่มุ การรอคอย การแบ่งปนั การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมือปฏิบัตดิ ว้ ยตนเอง มกี ารแก้ปญั หาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ดำ้ นอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง รา่ เริง แจ่มใส มีความสขุ และสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏิบตั ิกิจกรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเปน็ กลุ่ม
๒.๔ ด้ำนเคล่ือนไหว/ร่ำงกำย
- เด็กใช้กล้ามเนอื้ มัดเล็กในการหยิบจับวัสดุอปุ กรณก์ ารทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสมั ผัสทงั้ หา้ ในการหาคาตอบได้

๓๘

กจิ กรรมท่ี ๑๓ เร่ือง กักน้ำไวไ้ ด้

จุดประสงค์
๑. เพื่อใหเ้ ด็กได้เรยี นร้เู รื่องแรงดันอากาศ
๒. เพือ่ ใหเ้ ด็กอธิบายวธิ ีการกกั นา้ ได้
๓. เพ่ือให้เดก็ เปรยี บเทียบวัสดุทใ่ี ช้ไนการกกั น้าได้
๔. เพื่อใหเ้ ด็กใช้ประสาทสมั ผสั ท้ังหา้ ในการหาคาตอบได้
๕. เพือ่ ให้เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนกำรจัดกิจกรรม
๑. เดก็ นั่งเปน็ รปู ตวั ยู ( U ) หรือครง่ึ วงกลมให้เรยี บรอ้ ย
๒. เดก็ และครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมรว่ มกนั โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะทค่ี รูพูดหรือเพอื่ นทไี่ ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ูดกาลงั พูดเดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถ้าเด็ก ๆ ตอ้ งการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรกอ่ นจะทากิจกรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดมิ ของเด็ก เก่ียวกบั การทดลอง โดยใช้คาถาม ดังนี้
๓.๑ เม่ือเราข้ึนไปอย่ทู ่สี ูงมาก เดก็ ๆ มอี าการหรือความร้สู ึกอยา่ งไร
๓.๒ เดก็ ๆ คดิ วา่ ทาไมเราถงึ หูออ้ื เมื่ออย่ทู ่สี ูง ๆ
๔. ให้เดก็ แบง่ กลมุ่ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แล้วน่ังเปน็ วงกลมให้เรยี บร้อย
๕. เด็กและครูร่วมกนั จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการทดลอง พรอ้ มกับสนทนารว่ มกนั เก่ียวกบั การ
ทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั นี้
๕.๑ เด็ก ๆ เหน็ วสั ดอุ ุปกรณอ์ ะไรบ้าง
๕.๒ จากวัสดุอปุ กรณ์ทเ่ี ห็น เด็ก ๆ คดิ ว่า เราจะทาการทดลองอะไร
๕.๓ ถา้ เรานากระดาษปิดปากแก้วท่มี นี ้า เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกิดอะไรขึ้น
๕.๔ ถ้าเรานาหลอดจ่มุ ลงในแกว้ นา้ แล้วใช้น้ิวปิดหลอดยกขึ้น เดก็ ๆ คดิ ว่าจะเปน็ อย่างไร
๖. ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั คิดวางแผนหาวธิ ีการที่จะทาใหน้ า้ ในแก้วไม่หกออกมา เมือ่ เวลาควา่ แกว้ ลง
พร้อมกบั ครจู ดบันทึกคาตอบของเดก็
๗. ใหต้ ัวแทนของแต่ละกลมุ่ ออกมาหยิบวัสดอุ ปุ กรณข์ องกลุ่มตนเอง
๘. ให้เด็กทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสังเกตสง่ิ ทีเ่ กิดข้นึ โดยครใู ชค้ าถามกระต้นุ ดังน้ี
๘.๑ เม่ือเวลาคว่าแกว้ นา้ ลง เดก็ ๆ คิดวา่ ทาไมนา้ ถงึ ไมไ่ หลออก
๘.๒ เด็ก ๆ แกว้ นา้ ของกลุ่นไหนอยู่ได้นานท่ีสดุ
๙. ให้เดก็ แต่ละกลุ่มทดลองใช้ฝาปิดทที่ าจากวสั ดุอ่นื ๆ (เช่น แผ่นใส ฝาพลาสตกิ ) และสงั เกตการ
เปลยี่ นแปลงที่เกดิ ข้ึน ว่าฝาท่ีทาจากวัสดปุ ระเภทใดเหมาะสมกับการกกั นา้ ไว้ทส่ี ดุ
๑๐.เดก็ จดบันทกึ ผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี

๓๙

๑๑.ใหเ้ ด็กออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่ิงทีส่ ังเกตเห็น
๑๒.เดก็ และครูรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับผลการทดลองเรื่องแรงดันอากาศ พบว่า เม่อื คว่าแก้วลงนา้ ไม่ไหลออก

จากแก้ว เพราะมีแรงดันอากาศดนั กระดาษซงึ่ ปดิ ปากแก้วไว้แน่นน้าจงึ ไมไ่ หลออกมา และเมื่อใช้นิว้
ปดิ หลอดอยนู่ ้าจะไมไ่ หลออกมาจากหลอด และวสั ดทุ ก่ี นั น้า เช่น พลาสตกิ แผ่นใส จะสามารถกักน้า
ไวไ้ ด้นานกวา่ กระดาษ

ภำพกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรทดลองเร่ือง กักน้ำไว้ได้

ภำพวัสดอุ ุปกรณใ์ นกำรทำกจิ กรรม ภำพเดก็ ปฏิบตั ิกจิ กรรมกำรทดลอง

ภำพกำรนำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนท่ีสำเรจ็ ของเดก็

ผลทเ่ี กดิ กับเดก็
๑. ผลท่เี กดิ ขนึ้ ตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ได้เรยี นรูเ้ รือ่ งแรงดนั อากาศ อากาศมนี า้ หนกั และอากาศมแี รงดนั เมื่อเวลาอยบู่ นทสี่ ูงจะ
มีแรงดันอากาศน้อยกวา่ บนพนื้ ดิน
๑.๒ เดก็ อธิบายวธิ กี ารกักนา้ ได้ วา่ เมือ่ เรานากระดาษปดิ ฝาแกง้ น้าใหส้ นทิ แลว้ คว่าแกว้ ลงนา้ จะ
ไม่ไหลออกจากแก้ว เพราะมีแรงดันอากาศดันกระดาษซงึ่ ปดิ ปากแก้วไว้แนน่ น้าจึงไม่ไหล
ออกมา และเมือ่ ใช้น้ิวปิดหลอดอยนู่ ้าจะไมไ่ หลออกมาจากหลอด

๔๐

๑.๓ เดก็ เปรยี บเทยี บวสั ดทุ ่ีใชไ้ นการกักนา้ ได้ พบว่า เมื่อนาวสั ดตุ ่าง ๆ มาทดลอง จะสังเกตไดว้ ่า
วัสดุท่กี นั นา้ เชน่ พลาสติก แผน่ ใส จะสามารถกกั น้าไวไ้ ดน้ านกว่ากระดาษ

๑.๔ เด็กใชป้ ระสาทสัมผสั ท้ังหา้ ในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๕ เดก็ บนั ทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พือ่ นฟังได้
๒. พฒั นำกำรควำมสำมำรถพ้นื ฐำน และพฒั นำกำรของเดก็ ปฐมวยั
๒.๑ ด้ำนกำรเรยี นรู้/ด้ำนภำษำ/สติปญั ญำ

- เดก็ ได้เรยี นรเู้ ก่ยี วกบั เรือ่ งอากาศมีนา้ หนกั และอากาศมแี รงดัน เมอื่ เวลาอย่บู นทีส่ งู
จะมแี รงดนั อากาศนอ้ ยกวา่ บนพื้นดิน

- เด็กสามารถสนทนาโตต้ อบหรือเลา่ เรื่องราวต่าง ๆ สิ่งทเ่ี กดิ ขึน้ จากการทดลอง
- เดก็ มคี วามมั่นใจในตนเอง กล้าคดิ กล้าแสดงออก มกี ารแสดงความคดิ ของตนเอง

ร่วมกบั ผูอ้ นื่ การตอบคาถาม การซกั ถามในสิง่ ที่เปน็ ขอ้ สงสัย
- เด็กใชป้ ระสาทสัมผัสทั้งห้าในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ กั ษะทางดา้ นการคดิ การ

สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การตั้งสมมตุ ิฐานในการทดลอง การเปรียบเทียบ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสังคม
- เดก็ ได้เรยี นร้ใู นการทางานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงร่วมกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเป็นกลมุ่ การรอคอย การแบ่งปัน การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผูอ้ น่ื การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลือก และลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง มีการแกป้ ัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม
๒.๓ ด้ำนอำรมณ์-จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเรงิ แจม่ ใส มีความสุขและสนกุ สนานในการลงมือ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลองด้วยตนเอง มกี ารทากจิ กรรมเป็นกลมุ่
๒.๔ ดำ้ นเคลอ่ื นไหว/รำ่ งกำย

- เด็กใช้กลา้ มเน้อื มัดเลก็ ในการหยบิ จับวัสดุอปุ กรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้

ประสาทสัมผสั ทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้

๔๑

กิจกรรมท่ี ๑๔ เรอ่ื ง ตัวทำละลำย

จุดประสงค์
๑. เพอ่ื ใหเ้ ด็กอธิบายคุณสมบตั ขิ องตัวทาละลายได้
๒. เพ่ือเดก็ เปรียบเทยี บการละลายของทราย น้าตาลและเกลอื ในน้าได้
๓. เพอ่ื ให้เดก็ ใช้ประสาทสัมผัสทัง้ ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพ่อื ให้เด็กสามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ข้ันตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. เด็กนั่งเป็นรปู ตัวยู ( U ) หรือคร่งึ วงกลมให้เรียบรอ้ ย
๒. เด็กและครูร่วมกันสร้างขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมร่วมกัน โดยใช้คาถาม ดงั นี้
๒.๑ ระหว่างการทากจิ กรรม เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะท่คี รพู ูดหรอื เพอื่ นทไ่ี ด้รบั อนญุ าตใหพ้ ดู กาลังพดู เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๓ ถา้ เด็ก ๆ ต้องการตอบคาถาม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดิมของเด็ก เกีย่ วกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๓.๑ เดก็ ๆ เคยพบเห็นอะไรทลี่ ะลายในน้าไดบ้ ้าง
๓.๒ ถา้ นาเกลอื หรือนา้ ตาลมาละลายในน้า เดก็ ๆ คิด วา่ จะเปน็ อยา่ งไร
๔. ใหเ้ ด็กแบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แลว้ นัง่ เปน็ วงกลมให้เรียบรอ้ ย
๕. เดก็ และครูรว่ มกนั จัดเตรยี มวัสดุอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการทดลอง
๖. ขออาสาสมัครออกมาทาการทดลอง โดยนาแก้วนา้ ท้งั สามใบท่ที าสัญลักษณไ์ ว้ ดงั น้ี แกว้ ใบท่ี ๑
ทราย ใบที่ ๒ นา้ ตาล และใบที่ ๓ เกลือ เทน้าลงไปในแก้ว หลงั จากใสท่ ราย นา้ ตาล และเกลือในแก้ว
แต่ละใบท่จี ดั เตรียมไว้ และสังเกตสงิ่ ท่เี กดิ ข้นึ
๗. เดก็ และครูร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกับการทดลองท่ีสงั เกตเห็น โดยครูใช้คาถามกระตนุ้ ดังน้ี
๗.๑ เด็ก ๆ สงั เกตเหน็ อะไรในแก้วนา้ ท้ังสามใบทีใ่ สท่ ราย นา้ ตาล และเกลอื บา้ ง
๗.๒ เด็ก ๆ ระดบั น้าภายในแก้วแต่ละใบเป็นอย่างไร
๗.๓ เดก็ ๆ แกว้ ใบใดมรี ะดบั น้าเพ่มิ ข้นึ เพราะอะไร
๗.๔ นอกจากน้าตาลกับเกลอื แล้ว เดก็ ๆ คิดว่า มีอะไรท่ีละลายในนา้ ไดอ้ ีกบา้ ง
๘. นาเกลือละลายน้า และนามาลนไฟไปเร่อื ย ๆ และสงั เกตสง่ิ ทเ่ี กดิ ขนึ้
๙. เดก็ และครูรว่ มกันสนทนาเกีย่ วกบั การทดลอง โดยใชค้ าถาม ดังน้ี
๙.๑ เด็ก ๆ สงั เกตเห็นอะไรเกดิ ขึ้นบ้าง
๙.๒ ถ้านานา้ ตาลท่ลี ะลายน้ามาลนไฟ เด็ก ๆ คดิ วา่ จะเป็นอย่างไร
๑๐.เด็กจดบันทึกผลการทดลองของกลมุ่ ตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๑.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่ิงทีส่ ังเกตเห็น

๔๒

๑๒.เด็กและครูรว่ มกันสรุปเกี่ยวกบั ผลการทดลองเร่อื ง ตวั ทาละลาย พบวา่ ทรายไม่ละลายในนา้ ส่วน
น้าตาลกับเกลอื ละลายในน้าไดด้ ี จะเห็นไดว้ า่ ตวั ทาละลายทค่ี นุ้ เคยมากที่สดุ และใช้ในชีวติ ประจาวัน
คอื น้า

ภำพกำรดำเนนิ กิจกรรมกำรทดลองเร่ือง ตวั ทำละลำย

ภำพวัสดุอุปกรณ์ในกำรทำกจิ กรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ัติกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพนำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเด็ก

ผลที่เกิดกับเดก็
๑. ผลที่เกิดข้นึ ตำมจุดประสงค์
๑.๑ เดก็ อธบิ ายคุณสมบตั ิของตัวทาละลายได้ วา่ ตวั ตวั ทาละลาย เปน็ ของเหลวท่ีสามารถละลาย
ตัวถกู ละลาย ท่ีเป็นของแข็ง ของเหลว หรือกา๊ ซไดเ้ ป็น สารละลาย ตัวทาละลายท่คี นุ้ เคย
มากที่สุดและใชใ้ นชีวติ ประจาวันคือนา้
๑.๒ เดก็ เปรยี บเทยี บการละลายของทราย นา้ ตาลและเกลือในนา้ ได้ วา่ ทรายไม่ละลายในน้า
สว่ นน้าตาลกบั เกลอื ละลายในน้าไดด้ ี
๑.๓ เด็กใชป้ ระสาทสัมผัสทัง้ หา้ ในการหาคาตอบในการทากิจกรรมได้
๑.๔ เดก็ บันทกึ ผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองใหเ้ พ่อื นฟงั ได้

๔๓

๒. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพนื้ ฐำน และพัฒนำกำรของเด็กปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ด้ำนภำษำ / ดำ้ นสติปัญญำ
- เดก็ ไดเ้ รียนรเู้ กี่ยวกับเร่ือง คุณสมบตั ขิ องตัวทาละลายได้ วา่ ตัวตวั ทาละลาย เปน็
ของเหลวท่ีสามารถละลาย ตัวถูกละลาย ท่เี ป็นของแขง็ ของเหลว หรือก๊าซไดเ้ ปน็
สารละลาย ตวั ทาละลายท่ีคนุ้ เคยมากท่สี ุดและใชใ้ นชวี ติ ประจาวันคือน้า
- เดก็ สามารถสนทนาโตต้ อบ หรือเลา่ เร่อื งราวตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั สง่ิ ท่ีเกดิ ขน้ึ จากการ
ทดลอง
- เดก็ มีความม่ันใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มีการแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองรว่ มกับผู้อนื่ การตอบคาถาม การซักถามในสิ่งทีเ่ ปน็ ขอ้ สงสัย
- เด็กใชป้ ระสาทสมั ผัสทง้ั ห้าในการค้นหาคาตอบ โดยใชท้ ักษะทางดา้ นการคดิ การ
สังเกต การวางแผน การคาดคะเน การตั้งสมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรียบเทียบ
และการทาทดลอง
๒.๒ ดำ้ นสงั คม
- เด็กได้เรยี นรู้ในการทางานรว่ มกับผู้อื่น ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงรว่ มกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเปน็ กลมุ่ การรอคอย การแบง่ ปนั การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื การ
วางแผน ตดั สนิ ใจเลอื ก และลงมือปฏบิ ตั ิดว้ ยตนเอง มีการแก้ปญั หาระหวา่ งทา
กิจกรรม
๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จิตใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเริง แจม่ ใส มีความสุขและสนุกสนานในการลงมือ
ปฏิบัติกจิ กรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มีการทากจิ กรรมเปน็ กลุม่
๒.๔ ด้ำนเคลื่อนไหว / ดำ้ นร่ำงกำย
- เดก็ ใชก้ ล้ามเนื้อมอื ในการหยิบจบั วัสดอุ ุปกรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสัมผัสท้งั ห้าในการหาคาตอบได้

๔๔

กิจกรรมท่ี ๑๕ เรือ่ ง กำรละลำยของน้ำตำล

จุดประสงค์
๑. เพื่อให้เดก็ ได้เรยี นรเู้ ร่อื ง ลักษณะของการละลายของนา้ ตาล
๒. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ อธิบายการเปลีย่ นแปลงของนา้ ตาลได้
๓. เพอ่ื เด็กเปรียบเทียบการละลายของน้าตาลในน้ากบั นา้ มนั ได้
๔. เพื่อใหเ้ ด็กใชป้ ระสาทสัมผสั ท้ังห้าในการหาคาตอบได้
๕. เพือ่ ให้เด็กสามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนกำรจัดกจิ กรรม
๑. เด็กน่งั เป็นรปู ตัวยู ( U ) หรือครงึ่ วงกลมใหเ้ รียบรอ้ ย
๒. เด็กและครูร่วมกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการทากิจกรรมรว่ มกัน โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๒ ขณะทค่ี รูพูดหรอื เพอ่ื นทไี่ ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ดู กาลงั พดู เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถ้าเดก็ ๆ ต้องการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. สอบถามประสบการณ์เดิมของเด็ก เก่ียวกับการทดลอง โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๓.๑ เด็ก ๆ นา้ เชอ่ื มทามาจากอะไร เพราะอะไรจึงเปน็ เชน่ นั้น
๓.๒ ถา้ นานา้ ตาลละลายในนา้ เด็ก ๆ คดิ วา่ จะเปน็ อยา่ งไร
๓.๓ ถ้านานา้ ตาลละลายในนา้ เดก็ ๆ คดิ วา่ ระดบั น้าจะเป็นอยา่ งไร
๔. เดก็ และครูรว่ มกันจดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการทดลอง
๕. ขออาสาสมัครออกมาทาการทดลอง โดยการนานา้ ตาลใสล่ งบนจาน หลังจากน้นั ให้นาสผี สมอาหาร
(สีเขียวและสีแดง) ละลายนา้ แลว้ ใช้หลอดหยดดดู สีแดงและสีเขียวหยดลงบนนา้ ตาลกอ้ นอย่างละ ๑
กอ้ น และนานา้ หยดลงบนนา้ ตาลกอ้ น และสังเกตส่ิงท่ีเกดิ ขน้ึ
๖. ครูและเดก็ ร่วมกันสนทนาเกี่ยวกบั การทดลอง โดยใช้คาถาม ดังนี้
๖.๑ เมื่อนาน้าหยดลงบนน้าตาลกอ้ น เดก็ ๆ สงั เกตเห็นอะไรเกิดขน้ึ บ้าง
๖.๒ ถา้ นา้ ตาลก้อนสแี ดงและสเี ขยี วละลายนา้ เดก็ ๆ คดิ ว่า สังเกตเห็นอะไรเกิดขนึ้ บา้ ง
๖.๓ ถ้านานา้ ตาลกอ้ นใสล่ งบนจานทน่ี ้า กับน้ามนั เดก็ ๆ คดิ วา่ อะไรทาใหน้ ้าตาลเรว็ ท่ีสุด เพราะ
อะไรจงึ เปน็ เชน่ นัน้
๗. ใหเ้ ดก็ แบ่งกลุ่ม ๆ ละ ๔ - ๕ คน แล้วนง่ั เป็นวงกลมให้เรียบรอ้ ย
๘. ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันคดิ วางแผนหาวธิ กี ารท่ีการทดลองการละลายของนา้ ตาลก้อนในน้ากับนา้ มัน
พร้อมกบั ครจู ดบนั ทึกคาตอบของเดก็
๙. ให้ตัวแทนของแต่ละกล่มุ ออกมาหยิบวัสดุอปุ กรณข์ องกล่มุ ตนเอง
๑๐.ใหเ้ ด็กทากจิ กรรมอย่างอสิ ระ และสงั เกตสงิ่ ที่เกดิ ขนึ้ โดยครใู ชค้ าถามกระตุ้น ดงั นี้
๑๐.๑ เด็ก ๆ สังเกตเหน็ อะไรเกิดขน้ึ บ้างจากการละลายของนา้ ตาลก้อนในนา้ กับนา้ มัน

๔๕

๑๐.๒ เดก็ ๆ สังเกตเห็นหรอื ไม่ วา่ การละลายของน้าตาลก้อนในนา้ กับน้ามัน อะไรละลายไดด้ ีกวา่
กนั เพราะอะไรจงึ เปน็ เชน่ นน้ั

๑๑.เดก็ จดบันทึกผลการทดลองของกลุ่มตนเองด้วยการวาดภาพระบายสี
๑๒.ใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่ิงท่ีสงั เกตเห็น
๑๓.เดก็ และครูรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกบั ผลการทดลองเรื่อง นา้ ตาลที่หยดสผี สมอาหารลงไป แลว้ หยดน้าลงบน

น้าตาลก้อน จะทาใหก้ อ้ นนา้ ตาลจะละลาย และสจี ะมกี ารแพร่กระจายออกไป แตถ่ า้ นาน้าตาลกอ้ น
หยดสีผสมอาหารลงไปมาวางคกู่ นั แล้วหยดน้าลงบนนา้ ตาลก้อน จะทาใหก้ ้อนนา้ ตาลจะละลาย และ
การสแี พรก่ ระจายของสที ง้ั สองกอ้ นแยกออกจากกันอยา่ งชดั เจน นา้ ตาลกอ้ นละลายในนา้ ไดด้ ี แต่จะ
ไม่ละลายในนา้ มนั

ภำพกำรดำเนินกิจกรรมกำรทดลองเร่ือง กำรละลำยของน้ำตำล

ภำพวสั ดุอปุ กรณ์ในกำรทำกิจกรรม ภำพเดก็ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมกำรทดลอง

ภำพกำรนำเสนอผลกำรทดลอง ภำพผลงำนที่สำเรจ็ ของเดก็

ผลที่เกิดกับเด็ก
๑. ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ ตำมจดุ ประสงค์
๑.๑ เดก็ ไดเ้ รยี นรู้เรือ่ ง ลกั ษณะของการละลายของนา้ ตาล น้าตาลละลายไดด้ ใี นน้า แตจ่ ะไม่
ละลายในนา้ มนั

๔๖

๑.๒ เด็กอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงของนา้ ตาลได้ วา่ นา้ ตาลทห่ี ยดสีผสมอาหารลงไป แลว้ หยดนา้
ลงบนนา้ ตาลกอ้ น จะทาใหก้ อ้ นนา้ ตาลจะละลาย และสีจะมกี ารแพรก่ ระจายออกไป แต่ถ้า
นาน้าตาลก้อนหยดสผี สมอาหารลงไปมาวางคูก่ นั แล้วหยดน้าลงบนนา้ ตาลก้อน จะทาให้
กอ้ นน้าตาลจะละลาย และการสแี พร่กระจายของสีทั้งสองกอ้ นแยกออกจากกันอยา่ งชดั เจน

๑.๓ เด็กเปรียบเทียบการละลายของนา้ ตาลในน้า กับน้ามนั ได้ วา่ นา้ ตาลกอ้ นละลายในนา้ ไดด้ ี
แตจ่ ะไม่ละลายในน้ามัน

๑.๔ เด็กใชป้ ระสาทสัมผัสท้งั ห้าในการหาคาตอบในการทากจิ กรรมได้
๑.๕ เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสี และนาเสนอผลการทดลองให้เพอื่ นฟังได้
๒. พัฒนำกำรควำมสำมำรถพน้ื ฐำน และพัฒนำกำรของเดก็ ปฐมวยั
๒.๑ ดำ้ นกำรเรยี นรู้ / ด้ำนภำษำ / ดำ้ นสตปิ ัญญำ

- เด็กไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกับเร่อื ง ลกั ษณะของการละลายของนา้ ตาล นา้ ตาลละลายได้ดใี น
นา้ แต่ละไม่ละลายในน้ามนั

- เด็กสามารถสนทนาโต้ตอบ หรอื เลา่ เรื่องราวตา่ ง ๆ เกย่ี วกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการ
ทดลอง

- เด็กมคี วามม่ันใจในตนเอง กลา้ คดิ กลา้ แสดงออก มกี ารแสดงความคดิ เหน็ ของ
ตนเองร่วมกับผ้อู ่ืน การตอบคาถาม การซกั ถามในสงิ่ ทเ่ี ปน็ ขอ้ สงสยั

- เดก็ ใช้ประสาทสมั ผัสทัง้ หา้ ในการคน้ หาคาตอบ โดยใชท้ กั ษะทางดา้ นการคิด การ
สงั เกต การวางแผน การคาดคะเน การตั้งสมมตุ ฐิ านในการทดลอง การเปรยี บเทยี บ
และการทาทดลอง

๒.๒ ด้ำนสงั คม
- เด็กได้เรียนรใู้ นการทางานรว่ มกับผอู้ ่นื ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลงร่วมกนั ได้ รูจ้ กั การ
ทางานเปน็ กลุ่ม การรอคอย การแบง่ ปนั การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ ืน่ การ
วางแผน ตดั สินใจเลือก และลงมอื ปฏิบัติดว้ ยตนเอง มกี ารแกป้ ัญหาระหวา่ งทา
กจิ กรรม

๒.๓ ด้ำนอำรมณ์ - จติ ใจ
- สนใจทากจิ กรรมการทดลอง ร่าเรงิ แจ่มใส มีความสขุ และสนุกสนานในการลงมือ
ปฏิบตั ิกิจกรรมการทดลองดว้ ยตนเอง มีการทากจิ กรรมเป็นกลมุ่

๒.๔ ด้ำนเคลือ่ นไหว / ด้ำนร่ำงกำย
- เด็กใชก้ ล้ามเนือ้ มอื ในการหยบิ จับวัสดุอปุ กรณก์ ารทดลองได้อยา่ งคลอ่ ง และใช้
ประสาทสัมผสั ทง้ั ห้าในการหาคาตอบได้

๔๗

กจิ กรรมท่ี ๑๖ เรอ่ื ง ระฆังดำนำ้ จำกขวดและเครอ่ื งเป่ำฟองสบู่

จดุ ประสงค์
๑. เพ่อื ใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรู้เรื่อง อากาศมตี วั ตนต้องการทอ่ี ยู่
๒. เพื่อให้เด็กอธิบายการเปล่ยี นแปลงของระฆงั ดาน้าได้
๓. เพ่ือใหเ้ ดก็ ใช้ประสาทสัมผัสท้งั ห้าในการหาคาตอบได้
๔. เพื่อให้เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนาเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนกำรจดั กิจกรรม
๑. เด็กน่ังเป็นรปู ตัวยู ( U ) หรือคร่ึงวงกลมใหเ้ รยี บร้อย
๒. เดก็ และครูร่วมกนั สร้างขอ้ ตกลงในการทากจิ กรรมร่วมกัน โดยใชค้ าถาม ดังนี้
๒.๑ ระหวา่ งการทากจิ กรรม เดก็ ๆ ควรทาอยา่ งไร
๒.๒ ขณะทีค่ รูพดู หรือเพอื่ นทไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหพ้ ดู กาลงั พดู เด็ก ๆ ควรทาอย่างไร
๒.๓ ถา้ เดก็ ๆ ต้องการตอบคาถาม เด็ก ๆ ควรทาอยา่ งไรก่อนจะทากจิ กรรม
๓. เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกับประสบการณเ์ ดมิ โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๓.๑ เด็ก ๆ เคยสังเกตหรือไม่ วา่ ถา้ ทอ้ งเรือมีรรู ัว่ จะเปน็ อยา่ งไร เพราะเหตุใดจงึ เปน็ เชน่ นัน้
๔. เด็กและครูรว่ มกนั จัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณท์ ีใ่ ช้ในการทดลอง
๕. ขออาสามสมคั รออกมาทดลอง โดยการนานา้ ใสล่ งในต้ปู ลา ขวดตัดกน้ ออกปดิ ฝาใหแ้ นน่ นาขวดคว่า
ลงอย่ใู นแนวตง้ั กดลงในตปู้ ลา และสังเกตส่งิ ท่เี กดิ ข้นึ
๖. ขออาสามสมคั รออกมาชว่ ยเจาะรบู นฝาขวดน้า หลงั จากนน้ั ทาทดลองโดยการนานา้ ยาลา้ งจานหยด
ลงบนฝาขวดกดลงนา้ ในแนวตงั้ และสังเกตสิ่งที่เกดิ ข้ึน
๗. ใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระ และสงั เกตส่ิงทเี่ กดิ ขนึ้ โดยครใู ช้คาถามกระต้นุ ดังนี้
๗.๑ เดก็ ๆ สงั เกตเห็นขวดน้าทีอ่ ยใู่ นน้าเปน็ อยา่ งไร เพราะอะไรจงึ เปน็ เช่นนัน้
๗.๒ เด็ก ๆ สงั เกตเห็นขวดน้าที่เจาะรูบนฝาทีอ่ ยู่ในน้าเป็นอยา่ งไร เพราะอะไรจงึ เป็นเชน่ น้นั
๗.๓ เด็ก ๆ เม่อื ใสน่ า้ ยาล้างจานลงในขวดทเ่ี จาะรู้ จะเกดิ อะไรข้นึ
๘. เด็กจดบันทกึ ผลการทดลองของกลุ่มตนเองดว้ ยการวาดภาพระบายสี
๙. ให้เดก็ ออกมานาเสนอผลการทดลองจากส่งิ ท่สี ังเกตเห็น
๑๐.เด็กและครูรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั ผลการทดลองเรือ่ ง ระฆังดานา้ จากขวด พบวา่ เม่อื คว่าขวดแลว้ กดลง
ในน้าตรง ๆ จะมแี รงต้านต้องใช้แรงกด หยดนา้ ยาล้างจานลงไป กดขวดลงนา้ ในลักษณะแนวตง้ั จะ
เกิดฟองบนฝาขวด เมอ่ื กดลงเร่อื ย ๆ ฟองสบู่จะโตขนึ้ เมือ่ คอ่ ย ๆ ดึงขวดขนึ้ ฟองสบจู่ ะเล็กลง


Click to View FlipBook Version