ระเบยี บ
วา่ ดว้ ยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ
พ.ศ.๒๕๔๔
โดยท่ีเปน็ การสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยการรักษาความลบั ของทางราชการ
อาศยั อำนาจตามความในมาตรา ๑๖ และมาตรา ๒๖ วรรคห้าแหง่ พระราชบัญญตั ิ
ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ อันเป็นพระราชบญั ญัติท่ีมบี างประการเกยี่ วกบั การจำกดั สทิ ธิ
และเสรภี าพของบคุ คลในการรับรูข้ ้อมลู ข่าวสารของราชการ ซง่ึ มาตรา ๕๘ และมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนู
แหง่ ราชอาญาจกั รไทยบญั ญตั ใิ หก้ ระทำได้ โดยอาศัยอำเภอของกฎหมายคณะรัฐมนตรจี งึ มมี ตใิ หว้ างระเบยี บไว้
ดงั ตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ระเบยี บน้ีเรยี กวา่ “ระเบยี บว่าด้วยการรกั ษาความลยั ของราชการ พ.ศ.๒๕๔๔”
ขอ้ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บงั คบั เมอื่ พ้นกำหนดหน่ึงร้อยยีส่ ิยวนั นบั ตง้ั แต่วันประกาศในราชกิจจสนุ
เบกษา เป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ขอ้ บังคบั มตคิ ณะรัฐมนตรี และคำสงั่ อ่ืนใด ในส่วนทีก่ ำหนดไวแ้ ล้วใน
ระเบียบนี้ หรอื ซง่ึ ขัดหรือแยง้ กบั ระเบียบน้ี ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ใหน้ ายกรับมนตรรี ักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๔
ศาสตราจารย์เมธี งานงาม
(รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง)