แผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วิชา 20105-2008 วิชา เครอ่ื งเสยี ง
หลกั สูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชพี
ประเภทวชิ า ช่างอตุ สาหกรรม
สาขาวิชา อิเล็กทรอนิกส์ สาขางาน อิเล็กทรอนกิ ส์
จัดทำโดย
นายสุชาติ กลนิ่ เขยี ว
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว
อำเภอบางแก้ว จังหวัดพทั ลุง
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ข
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเครื่องเสียง รหัสวิชา 20105 – 2008
ระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศักราช 2562 กลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะสาขาวิชา
ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ผู้จัดทำได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชานี้ตรงกับ
จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวิชาทก่ี ำหนดไว้ในหลักสูตร
ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
การแบ่งหน่วยการเรียนรู้แบ่งเป็น 12 บท ได้แก่ สัญญาณเสียงและหลักการ
บันทึกเสียง เครื่องเสียงและคลาสการขยายเสียง แหล่งจ่ายกำลงั ไฟฟ้า การขยาย
แรงดันไฟฟ้าและกลับเฟสสัญญาณ การขยายกำลังคลื่นเสียงด้วยทรานซิสเตอร์ การ
ขยายกำลังคล่ืนเสียงด้วยมอสเฟต และไอซี การเชื่อมต่อโดยตรง ลิมิตเตอร์ และการ
ป้อนกลับ การควบคุมเสียงทุ้มแหลม และกราฟิกอิควาไลเซอร์ การขยายเสียงภาค
แรก และการผสมสัญญาณเสยี ง เครื่องขยายเสยี งโมโน และสเตริโอ การแยกเสียง
ทมุ้ แหลม และการปอ้ งกันลำโพง และอุปกรณป์ ระกอบเครอ่ื งขยายเสยี ง
แผนการจดั การเรียนรู้เล่มน้ี ผจู้ ัดทำหวังเป็นอยา่ งยิง่ ว่าจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การ
จัดการเรียนการสอน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำยินดีน้อมรับไว้ด้วยความ
ขอบคุณย่งิ
ลงชือ่ ………………………………………. ครผู ้สู อน
(นายสุชาติ กลิน่ เขยี ว)
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พทั ลงุ
สารบญั ค
คำนำ หน้า
สารบัญ ข
ลกั ษณะรายวชิ า ค
ตารางวิเคราะหก์ ารเรยี นรู้ ง
ตารางกำหนดการสอน จ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 สญั ญาณเสยี งและหลักการบนั ทึกเสยี ง ฉ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เครือ่ งเสียงและคลาสการขยายเสียง 1
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 แหลง่ จา่ ยกำลังไฟฟ้า 7
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 การขยายแรงดนั ไฟฟา้ และกลับเฟสสญั ญาณ 13
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 การขยายกำลังคลน่ื เสียงด้วยทรานซิสเตอร์ 19
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 การขยายกำลงั คลนื่ เสียงด้วยมอสเฟต และไอซี 25
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 7 การเช่ือมต่อโดยตรง ลิมิตเตอร์ และการปอ้ นกลบั 31
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 การควบคุมเสียงทมุ้ แหลม และกราฟิกอิควาไลเซอร์ 37
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 การขยายเสียงภาคแรก และการผสมสัญญาณเสียง 43
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 เครือ่ งขยายเสียงโมโน และสเตรโิ อ 49
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 การแยกเสียงท้มุ แหลม และการป้องกันลำโพง 55
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 อปุ กรณป์ ระกอบเคร่ืองขยายเสยี ง 61
67
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวัดพทั ลุง
ง
ลกั ษณะรายวชิ า
รหสั วิชา 20105-2008 ชื่อวชิ า เครอื่ งเสยี ง
หนว่ ยกติ 2 หนว่ ยกิต เวลาเรยี น 4 ชัว่ โมงตอ่ สัปดาห์
_________________________________
จดุ ประสงคร์ ายวิชา
1. เข้าใจการทำงานของวงจรภาคต่างๆ ในเครื่องขยายเสียง
2. มีทกั ษะเกยี่ วกบั การประกอบวงจรเครอื่ งขยายเสยี งแบบต่างๆ
3. มที กั ษะในการใช้เครือ่ งมอื วัด และทดสอบคุณสมบตั ขิ องเครอื่ งขยายเสียง
4. มเี จตคติทีด่ ตี ่อวชิ าชพี มกี จิ นสิ ยั ในการค้นคว้าเพม่ิ เตมิ ปฏบิ ัติงานด้วยความละเอยี ด
รอบคอบ คำนงึ ถงึ ความถูกต้องและปลอดภัย
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความร้เู กี่ยวกับการใช้งานเคร่ืองขยายเสียง
2. ประกอบ ทดสอบ ปรบั แต่ง และใช้งานวงจรเคร่ืองเสียง
คำอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั สญั ญาณเสียง บลอ็ กไดอะแกรมของเครอื่ งขยายเสียง วงจร
ขยายเสยี งคลาส A, AB, B, C และ D วงจรเพาเวอรซ์ พั พลาย วงจรขยายแรงดนั ไฟฟ้า และ
วงจรกลับเฟส วงจรขยายกำลังแบบ OT, OTL OCL การคบั ปลงิ วงจรลมิ ิตเตอร์ วงจร
ปอ้ นกลับ โทนคอนโทรล ปรแี อมปลฟิ ายเออร์ มิกเซอร์ วงจรเคร่อื งขยายเสียงแบบโมโน
สเตรโิ อ วงจรครอสโอเวอรเ์ น็ตเวริ ์ค วงจรปอ้ งกนั ลำโพง อุปกรณ์ประกอบเครอ่ื งขยายเสยี ง
ลำโพง ไมโครโฟน สายสญั ญาณ แมตชงิ แบบ Balance และแบบ Unbalance ปล๊ัก แจ๊ค การ
ประกอบ ทดสอบ และปรบั แต่งวงจรเคร่อื งขยายเสียง การใช้เครอ่ื งมือวดั และทดสอบ
คุณสมบัติของวงจรและอปุ กรณเ์ ครือ่ งเสียง หลักการบันทึกเสยี งบนสื่อบนั ทกึ ข้อมูล แถบเทป
และ CD เพื่อหาคณุ ลักษณะการตอบสนองความถี่ กำลังวตั ต์ ค่าอมิ พีแดนซ์และค่าอ่ืนๆ การต่อ
เคร่อื งขยายเสยี งกบั ระบบอน่ื ๆ
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวดั พัทลงุ
จ
ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร
รหัสวชิ า 20105-2008 ชื่อวชิ า เครื่องเสียง หนว่ ยกติ 2 หนว่ ยกติ
ระดบั ชั้น ปวช.2 สาขาวชิ า / กลุม่ วิชา อิเล็กทรอนกิ ส์
พฤติกรรม พุทธิพสิ ยั
ชอื่ หนว่ ย ความรู้
ความเข้าใจ
การนำไปใ ้ช
วิเคราะ ์ห/ ัสงเคราะห์
ประเ ิมน ่คา
สร้างสรร ์ค
ัทกษะพิ ัสย
ิจตพิ ัสย
ลำ ัดบความสำ ัคญ
จำนวนคาบ
1. สัญญาณเสยี งและหลกั การบันทึกเสยี ง 1211- - -234
2. เครือ่ งเสียงและคลาสการขยายเสยี ง 1111- - -228
3. แหลง่ จา่ ยกำลงั ไฟฟ้า 1211 1228
4. การขยายแรงดันไฟฟา้ และกลบั เฟสสัญญาณ 1 1 1 1 - - 1 2 1 8
5. การขยายกำลังคล่นื เสยี งด้วยทรานซสิ เตอร์ 2 1 1 1 - - 1 2 1 8
6. การขยายกำลังคลื่นเสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี 2 2 1 1 - - 1 2 1 4
7. การเชอื่ มต่อโดยตรง ลมิ ติ เตอร์ และการ 2111- -1218
ปอ้ นกลบั
8. การควบคุมเสยี งทมุ้ แหลม และกราฟิกอคิ วาไล 2 2 1 1 - - 1 2 1 4
เซอร์
9. การขยายเสยี งภาคแรก และการผสม 2212- -11 4
สญั ญาณเสียง
10. เครื่องขยายเสียงโมโน และสเตรโิ อ 2212- -11 4
11. การแยกเสียงทมุ้ แหลม และการปอ้ งกนั ลำโพง 2 2 1 2 - - 1 1 4
12. อุปกรณป์ ระกอบเครือ่ งขยายเสียง 2212- -11 4
สอบปลายภาค 2212- - - - 4
สัดสว่ น 70 10 20 72
รวม 100
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลุง
ฉ
กำหนดการสอน
ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สัปดาห์ ชวั่ โมงที่
ท่ี 1–4
รายการสอน เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน 1
1. สัญญาณเสียงและหลกั การบันทึกเสียง สมรรถนะ
สญั ญาณเสยี ง 1. แสดงการบนั ทึกเสียง
1. โครงสร้างสัญญาญเสียงกิจกรรม 2. แสดงพฤติกรรม ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
เกย่ี วกบั การผลิต รับผดิ ชอบ ความซือ่ สัตย์
2. ความดงั สัญญาณเสียง เกณฑ์การปฏิบัติงาน
3. อันตรายจากความดังเสยี ง 1. ปฏบิ ัติงานด้วยความถูกต้องและรอบคอบ
4. หลักการบนั ทกึ เสยี งบนแถบเทป 2. มคี วามสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผิดชอบ ความ
5. หลักการบันทกึ เสยี งบนแผ่น CD ซอื่ สัตย์
3. นอ้ มนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
ในการปฏิบัตงิ าน
2. เครื่องเสียงและคลาสการขยายเสยี ง สมรรถนะ 2-3 5 – 12
1. อปุ กรณร์ บั เสียงและอปุ กรณก์ ำเนดิ 1. แสดงการใชอ้ ปุ กรณเ์ ครือ่ งเสียงระบบไฮไฟ
เสียง 2. แสดงพฤติกรรม ความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์
2. เครอ่ื งเสยี งระบบไฮไฟ ความรกั สามัคคี การมวี ินัย
3. อปุ กรณใ์ ชง้ านในเครอ่ื งเสียงระบบ เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน
ไฮไฟ 1. ปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
4. คลาสการขยายสัญญาณเสยี ง 2. มคี วามคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ ความรักสามัคคี
5. บล็อคไดอะแกรมโครงสร้างเครื่อง การมีวินยั
ขยายเสยี ง 3. นอ้ มนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใช้ในการปฏิบัตงิ าน
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ
ช
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สปั ดาห์ ชัว่ โมงท่ี
รายการสอน เกณฑก์ ารปฏบิ ัตงิ าน ท่ี 13 – 20
3. แหลง่ จา่ ยกำลังไฟฟา้ สมรรถนะ 4–5 21 – 28
1. แหลง่ กำเนดิ กำลงั ไฟฟา้ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับแหลง่ จ่ายกำลงั ไฟฟา้
2. แหลง่ จา่ ยกำลงั ชนิดเชิงเส้น 2. แสดงพฤติกรรม ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 6-7 29 – 36
3. แหล่งจ่ายกำลังชนิดเชิงเส้นเพิ่มวงจร ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง การตรงต่อเวลา
เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน 8–9
ปรับระดบั แรงดันไฟฟ้าคงท่ี 1. ปฏบิ ัติงานดว้ ยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
4. แหล่งจ่ายกำลังชนิดสวติ ชิง 2. มีความมีมนษุ ยสมั พันธ์ ความเชอื่ มัน่ ใน
5. วงจรแหลง่ จ่ายกำลงั ที่ผลติ มาใช้งาน ตนเอง การตรงตอ่ เวลา
3. น้อมนำหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
4. การขยายแรงดันไฟฟา้ และกลบั เฟส ในการปฏิบัตงิ าน
สญั ญาณ สมรรถนะ
1. การขยายสญั ญาณไฟฟา้ 1. แสดงการขยายแรงดันไฟฟ้า และกลับเฟส
2. วงจรขยายแรงดนั ไฟฟา้ สัญญาณ
3. วงจรกลับเฟสสัญญาณไฟฟา้ 2. แสดงพฤตกิ รรม การอดทนอดกล้ัน ความ
4. วงจรขยายแรงดันไฟฟ้าและกลับเฟส สนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ
เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน
สัญญาณทผี่ ลิตมาใช้งาน 1. ปฏิบัตงิ านด้วยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
2. มีการอดทนอดกล้นั ความสนใจใฝ่รู้ ความ
5. การขยายกำลงั คล่นื เสยี งดว้ ย รบั ผดิ ชอบ
ทรานซสิ เตอร์ 3. น้อมนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
1. การเพิ่มความดังเสียง ในการปฏิบตั งิ าน
2. วงจรขยายเสยี งแบบพชุ -พุล สมรรถนะ
3. วงจรขยายเสยี งแบบคอมพลีเมนตารี 1. แสดงการขยายกำลงั คล่นื เสยี งด้วย
ทรานซิสเตอร์ได้
2. แสดงพฤติกรรม ความซื่อสัตย์ ความคดิ
รเิ ริ่มสร้างสรรค์ ความรักสามัคคี
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวัดพัทลงุ
ซ
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สัปดาห์ ช่ัวโมงท่ี
37 - 40
รายการสอน เกณฑ์การปฏบิ ัตงิ าน ที่ 41 – 48
4. การทำงานของวงจรขยายเสียงแบบ เกณฑก์ ารปฏบิ ตั งิ าน
คอมพลีเมนตารีชนดิ OCL 1. ปฏิบัติงานด้วยความถกู ต้องและรอบคอบ
5. การขยายแบบดาร์ลิงตัน 2. มีความซื่อสัตย์ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์
6. ภาคขยายกำลังเสียงแบบคอมพลีเมน ความรกั สามคั คี
ตารีบรสิ ทุ ธิช์ นิด OTL 3. นอ้ มนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไป
7. ภาคขยายกำลังเสยี งแบบคลา้ ยคอมพลี ใชใ้ นการปฏิบัตงิ าน
เมนตารีชนดิ OTL
6. การขยายกำลงั คลืน่ เสียงดว้ ยมอสเฟต สมรรถนะ 10
และไอซี 1. แสดงการขยายกำลังคลื่นเสียงด้วยมอสเฟต
1. วงจรขยายเสียงคอมพลีเมนตารีชนิด และไอซีได้
OTL ด้วยมอสเฟตกำลัง 2. แสดงพฤติกรรม การมีวนิ ยั ความมมี นษุ ย
2. วงจรขยายเสียงคอมพลีเมนตารีชนิด สมั พนั ธ์ ความเช่อื ม่ันในตนเอง
OCL ด้วยมอสเฟตกำลงั เกณฑก์ ารปฏิบัตงิ าน
3. วงจรขยายเสยี งดว้ ยไอซกี ำลงั 1. ปฏิบตั งิ านด้วยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
4. เครือ่ งขยายเสยี งคลาส D 2. มีการมีวินยั ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ ความ
5. วงจรขยายเสยี งคลาส D เช่ือมนั่ ในตนเอง
3. นอ้ มนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้
ในการปฏิบตั ิงาน
7. การเชือ่ มตอ่ โดยตรง ลิมิตเตอร์ และ สมรรถนะ 11 – 12
การปอ้ นกลับ 1. แสดงการเชื่อมต่อโดยตรงลิมิตเตอร์ และ
1. การตอ่ แบบคาสเคด ป้อนกลบั ได้
2. การเช่อื มต่อโดยตรง 2. แสดงพฤติกรรม การตรงต่อเวลา การ
3. ลิมิตเตอร์ อดทนอดกลัน้ ความสนใจใฝร่ ู้
4. การปอ้ นกลบั เกณฑก์ ารปฏิบัตงิ าน
5. การป้อนกลับแบบลบ 1. ปฏบิ ัตงิ านด้วยความถกู ต้องและรอบคอบ
2. มกี ารตรงต่อเวลา การอดทนอดกลั้น
ความสนใจใฝร่ ู้
3. น้อมนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใชใ้ นการปฏิบัตงิ าน
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พทั ลุง
ฌ
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สัปดาห์ ชั่วโมงท่ี
49 – 52
รายการสอน เกณฑ์การปฏิบตั ิงาน ท่ี
53 – 56
8. การควบคุมเสยี งทมุ้ แหลม และกราฟกิ สมรรถนะ 13
อคิ วาไลเซอร์ 1. แสดงการควบคุมเสียงทุ้มแหลมและกราฟกิ
1. การปรบั เร่งลดความดงั เสยี ง อควาไลเซอรไ์ ด้
2. การควบคุมเสียงทุ้มแหลมแบบกรอง 2. แสดงพฤติกรรม ความรับผิดชอบ ความ
ผ่าน ซ่ือสัตย์ ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์
3. การควบคุมเสียงทุ้มแหลมแบบมีการ เกณฑ์การปฏิบตั งิ าน
ขยาย 1. ปฏบิ ัติงานดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
4. การควบคุมเสียงทุ้มกลางแหลมแบบมี 2. มคี วามรับผดิ ชอบ ความซื่อสตั ย์ ความคดิ
รเิ รมิ่ สร้างสรรค์
การขยาย
5. วงจรกรองความถี่เสยี งแบบปรบั ค่าได้ 3. น้อมนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
6. วงจรกรองความถี่เสียงแบบปรับค่าได้ ใช้ในการปฏบิ ัติงาน
หลายความถี่
7. วงจรไจเรเตอร์
8. วงจรกราฟิกอิควาไลเซอร์ปรับหลาย
ยา่ นความถ่ี
9. การขยายเสยี งภาคแรก และการผสม สมรรถนะ 14
สัญญาณเสียง 1. แสดงการขยายเสียงภาคแรก และผสม
1. การขยายเสยี งภาคต้น สัญญาณเสยี งได้
2. วงจรขยายภาคต้น 2. มีความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ ความ
3. การผสมสัญญาณเสียง ซอ่ื สตั ย์
4. วงจรมิกเซอร์ชนิดมีภาคขยายแยกเป็น เกณฑ์การปฏิบัตงิ าน
ชุด 1. ปฏิบัติงานดว้ ยความถูกต้องและรอบคอบ
2. มีความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผิดชอบ ความ
ซื่อสตั ย์
3. น้อมนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป
ใชใ้ นการปฏิบัติงาน
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จังหวัดพัทลงุ
ญ
ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สัปดาห์ ชั่วโมงท่ี
ท่ี 57 – 60
รายการสอน เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน 15
10. เครื่องขยายเสยี งโมโน และสเตริโอ สมรรถนะ
1. ระบบเสียงโมโนและสเตริโอ 1. แสดงการเครอ่ื งขยายเสยี งโมโน และสเตริโอ
2. เครื่องขยายเสยี งระบบโมโนและสเตรโิ อ ได้
3. การบนั ทึกเสยี งและการฟังเสียงในระบบ 2. แสดงพฤตกิ รรม ความสนใจใฝร่ ู้ ความ
สเตริโอ รบั ผดิ ชอบ ความซ่อื สัตย์
4. ระบบเครื่องขยายเสียงทำงานในแบบ เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน
สเตรโิ อ 1. ปฏบิ ัติงานด้วยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
5. ระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 2. มคี วามสนใจใฝร่ ู้ ความรับผิดชอบ ความ
ซ่ือสตั ย์
3. นอ้ มนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป
ใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน
11. การแยกเสยี งท้มุ แหลม และการ สมรรถนะ 16 61 – 64
ป้องกันลำโพง 1. แสดงการแยกเสียงทุ้มแหลมและป้องกัน
1. การแยกเสยี งทมุ้ แหลมให้ลำโพง ลำโพงได้
2. วงจรแยกเสียงทมุ้ แหลมให้ลำโพง 2. แสดงพฤติกรรม ความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์
3. การหาค่า L และ C ใชใ้ นวงจรแยกเสียง ความรกั สามัคคี การมวี ินยั
ทุ้มแหลม เกณฑก์ ารปฏิบัติงาน
4. โครงสร้างวงจรแยกเสียงทุ้มแหลมชนิด 1. ปฏบิ ัติงานดว้ ยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
2 ทางและ 3 ทาง 2. มคี วามคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ความรักสามัคคี
5. วงจรป้องกันลำโพงชำรุดเสยี หาย การมวี ินยั
3. น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป
ใช้ในการปฏบิ ัตงิ าน
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลงุ
ฎ
ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / สมรรถนะประจำหน่วย / สปั ดาห์ ชัว่ โมงท่ี
รายการสอน 65 – 68
เกณฑ์การปฏบิ ัตงิ าน ที่
12. อุปกรณป์ ระกอบเครอื่ งขยายเสียง
1. ไมโครโฟน สมรรถนะ 17
2. ลำโพง
3. สายสัญญาณใชใ้ นระบบเสยี ง 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับใช้อุปกรณ์ประกอบ
4. แมตชงิ แบบ Balance และ
Unbalance เครอ่ื งขยายเสยี งได้
5. แมตชงิ แบบต่อลำโพงระยะไกล
6. ปลั๊ก แจ็ค และหัวต่อ 2. แสดงพฤติกรรม ความมีมนษุ ยสัมพนั ธ์
ความเช่อื มน่ั ในตนเอง การตรงต่อเวลา
เกณฑ์การปฏิบัตงิ าน
1. ปฏิบัติงานด้วยความถกู ตอ้ งและรอบคอบ
2. มีความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความเชอื่ มน่ั ใน
ตนเอง การตรงตอ่ เวลา
3. น้อมนำหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้
ในการปฏบิ ตั งิ าน
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จังหวดั พทั ลงุ
แผนการเรียนรู้ท่ี 1
หนว่ ยท่ี 1 จำนวน 4 ช่ัวโมง สัปดาห์ท่ี 1
ชือ่ วิชา เครอ่ื งเสียง รหัส 20105 - 2008
ช่ือหนว่ ย สญั ญาณเสยี งและหลกั การบันทึกเสยี ง
1. สาระสำคญั
คลื่นเสยี ง คือพลังงานชนดิ หน่ึง อยูใ่ นรูปของพลังงานกล เกิดข้ึนจากการสน่ั สะเทือนของวัตถุท่ีเป็น
แหล่งกำเนิดเสียง สัญญาณเสียงมีย่านความถ่ีประมาณ 20 - 20,000 Hz เป็นสัญญาณท่ีหคู นสามารถรบั รู้
ได้ โครงสร้างคลน่ื เสยี งประกอบไปดว้ ย รอบคล่นื ความยาวคล่นื ความแรง ความถ่ี ความเรว็ และเฟส
ความดงั เสยี ง คือระดับแรงกดดนั ของเสียงทเ่ี คล่ือนท่ีผ่านไปในอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศส่ัน
ส่งตอ่ ไปเขา้ หูคน เย้ือแกว้ หูเกิดการสั่น ประสาทเกิดการรบั รแู้ ละไดย้ ินสัญญาณเสยี งนน้ั แรงกดดันของเสียง
มีผลตอ่ การไดย้ นิ เสียงเบาหรอื ดัง
การบันทึกเสียงลงบนแถบเทป เป็นการเก็บสัญญาณเสียงไว้ในเทปทึกเสียง โดยการใช้
สนามแม่เหล็กที่เกิดขึน้ บนหัวเทปบันทึกเสียง ส่งไปเหนี่ยวนำลงบนสารเฟอร์โรแมกเนติกที่ฉาบไว้บนเน้ือ
เทป ให้เกดิ การชักนำเป็นแทง่ แมเ่ หลก็ ขนาดเล็กบนเนอ้ื เทป จดั เรยี งตวั อยา่ งเปน็ ระเบียบ
การบนั ทกึ เสยี งลงบนแผ่น CD เปน็ การเก็บสัญญาณเสยี งไว้ในแผน่ CD ในรปู หลุมรหสั สัญญาณ
แบบดิจิทลั หลุมสญั ญาณเสียงถกู แบง่ เปน็ แทรกที่เรยี งต่อกันไปเป็นวงกลมคล้ายก้นหอย
2. สมรรถนะประจำหน่วย
1. แสดงการบันทึกเสยี งได้
2. แสดงพฤติกรรม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความซอ่ื สตั ย์
3. นำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป ใช้ในการปฏิบตั ิงาน
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อใหม้ คี วามร้แู ละความเข้าใจเก่ียวกบั สญั ญาณเสียงและหลักการบนั ทึกเสียง
2. เพอื่ ให้มที ักษะในการบนั ทึกเสียงบนแถบเทปและบนแผ่น CD
3. เพอ่ื ใหม้ ีเจตคตทิ ี่ดใี นการเห็นความสำคัญของสญั ญาณเสียงและการบันทึกเสยี ง
จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. บอกคุณลกั ษณะสญั ญาณเสยี งได้
2. อธิบายโครงสรา้ งสว่ นตา่ งๆ ของสญั ญาณเสยี งได้
3. คำนวณหาคา่ ความเร็วของคลืน่ เสียงในอากาศได้
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลงุ
2
4. บอกลัษณะความดังของสัญญาณเสยี งและหนว่ ยวดั ได้
5. บนั ทกึ เสียงบนแถบเทปได้
6. บนั ทึกเสยี งบนแผน่ CD ได้
7. ช้ใี หเ้ ห็นถึงอนั ตรายทเ่ี กดิ จากความดงั เสยี งได้
8. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงคท์ สี่ ามารถสังเกตเหน็ ไดใ้ นดา้ นความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความซอ่ื สตั ย์
4. สาระการเรยี นรู้
1. โครงสร้างสัญญาญเสยี งกิจกรรมเกย่ี วกบั การผลติ
2. ความดงั สญั ญาณเสียง
3. อนั ตรายจากความดงั เสยี ง
4. หลักการบันทึกเสียงบนแถบเทป
5. หลกั การบนั ทึกเสยี งบนแผ่น CD
5. กิจกรรมการเรียนรู้
สอนครง้ั ที่ 1 ชั่วโมงท่ี 1 – 4
ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูเรียกชื่อ สำรวจการแต่งกายของผู้เรียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทึกลงใน
แบบประเมินผลคณุ ธรรมและจริยธรรม
2. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นรแู้ ละความสำคัญของเนอ้ื หาในหนว่ ยการเรียนรู้
3. ผ้เู รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครูผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นเตรียมอุปกรณ์การเรียน
ขน้ั สอน
5. ครผู สู้ อนใชส้ อื่ จากเอกสารที่ใช้ในการเรยี นวิชาเครื่องเสยี ง
6. ครูผ้สู อนให้ผู้เรียนศกึ ษาจากใบความรู้เรอื่ งสญั ญาณเสียงและหลักการบันทึกเสยี ง
ข้นั สรุป
7. ครูผู้สอนสรปุ ทบทวนหวั ข้อตา่ ง ๆ ในใบความรทู้ ี่ 1 และตอบคำถามทผ่ี เู้ รยี นถาม
8. ครผู สู้ อนเน้นย้ำผเู้ รยี นตระหนักถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นิยมหลักของคนไทย 12
ประการ ในสว่ นของความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความซ่อื สัตย์ ของการปฏบิ ตั งิ าน
6. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
1. PowerPoint เอกสารสญั ญาณเสียงและหลักการบนั ทกึ เสียง
2. หนังสือเครอื่ งเสียง
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลงุ
3
3. ใบความรเู้ รอ่ื งสัญญาณเสยี งและหลกั การบันทกึ เสียง
4. แบบฝึกหดั เร่ืองสญั ญาณเสยี งและหลกั การบันทึกเสียง
5. แบบทดสอบเรื่องสญั ญาณเสียงและหลักการบันทกึ เสียง
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝกึ หดั
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏิบัตงิ าน
1. แบบฝึกหัดเรือ่ งสัญญาณเสียงและหลกั การบันทึกเสยี ง
2. แบบทดสอบเรอ่ื งสญั ญาณเสยี งและหลกั การบันทึกเสียง
8. การวัดผลประเมินผล
วธิ ีวัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบกจิ กรรม
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกิจกรรม
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน
รว่ มกนั ประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบทา้ ยบท เกณฑ์ผา่ น 60% ขึ้นไป
2. แบบประเมนิ กจิ กรรม
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจรงิ
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลุง
4
9. บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรุปหลงั การจัดการเรยี นรู้
2 ปัญหาทพ่ี บ
3 แนวทางแกป้ ญั หา
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวดั พัทลงุ
5
ผลทจ่ี ะเกิดข้ึนกับนักศึกษาจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่บรู ณาการหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง
1. นักศกึ ษาจะได้ฝึกคิดและฝกึ ปฏิบัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม
ความรทู้ ีผ่ ู้เรยี นต้องมีกอ่ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผูเ้ รยี นมีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับสัญญาณเสยี ง ผเู้ รียนมีความสนใจใฝ่รู้ ความรับผดิ ชอบ ความซอื่ สตั ย์
- ผูเ้ รียนมคี วามรแู้ ละเขา้ ใจหลกั การบนั ทึกเสียง ในการปฏบิ ตั งิ าน การบูรณาการกบั คา่ นยิ มหลักของคน
ไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี ูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดี
1. ผเู้ รยี นเตรยี มเครอื่ งมอื อปุ กรณอ์ ยา่ ง 3. ผ้เู รียนอธบิ ายสัญญาณเสยี ง 5. ผ้เู รียนปฏบิ ตั งิ านด้วยความไมป่ ระมาท
เหมาะสมกบั การทำงานดว้ ยความ 4. ผเู้ รียนอธิบายหลกั การ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ปลอดภัย บันทึกเสียง บุคคลอนื่
2.ผเู้ รียนเลือกใชอ้ ุปกรณ์ทีน่ ำมาทดสอบ
กับวงจรดิจิตอลไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2. ผ้เู รียนจะได้เรยี นรู้การใชช้ วี ิตที่สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ยี นแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง
จุดมุ่งหมาย สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพทุ ธิ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเครอ่ื งมือ 1. ผเู้ รยี นเตรยี ม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พสิ ยั (K) อปุ กรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกบั เครื่องมืออปุ กรณอ์ ย่าง ดว้ ยความไม่ประมาท ด้วยความไมป่ ระมาท
การทำงานดว้ ยความ เหมาะสมกับการ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผู้เรยี นใชว้ าจาและ
ปลอดภยั ทำงานดว้ ยความ กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล กิริยาที่สุภาพ ต่อ
2.ผ้เู รียนเลือกใช้อุปกรณท์ ่ี ปลอดภัย อื่น บุคคลอ่ืน
นำมาทดสอบกบั เคร่อื งเสยี ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ด้วยความไมป่ ระมาท
3. ผเู้ รยี นอธบิ าย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
สัญญาณเสยี ง กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
4. ผเู้ รียนอธบิ ายหลักการ อื่น
บนั ทกึ เสียง
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จังหวัดพัทลุง
6
จดุ มงุ่ หมาย สมดุลและพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ดา้ นส่ิงแวดล้อม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นทกั ษะ 1. ผู้เรยี นเตรยี มเครอ่ื งมือ 1. ผู้เรยี นเตรยี ม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พิสัย (P) อุปกรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกบั เคร่อื งมืออปุ กรณ์อยา่ ง ดว้ ยความไม่ประมาท ด้วยความไม่ประมาท
การทำงานด้วยความ เหมาะสมกบั การ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผ้เู รยี นใช้วาจาและ
ปลอดภัย ทำงานดว้ ยความ กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล กิริยาที่สุภาพ ต่อ
2.ผเู้ รียนเลอื กใช้อุปกรณ์ที่ ปลอดภัย อื่น บคุ คลอื่น
นำมาทดสอบกบั เครือ่ งเสียง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
ไดอ้ ย่างถูกต้อง ดว้ ยความไมป่ ระมาท
3. ผเู้ รยี นอธบิ าย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
สญั ญาณเสียง กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
4. ผู้เรยี นอธบิ ายหลกั การ อื่น
บนั ทกึ เสียง
ด้านจติ 1. ผเู้ รียนเตรียมเครือ่ งมอื 1. ผู้เรยี นเตรียม 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
พิสัย อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกบั เคร่อื งมอื อปุ กรณ์อย่าง ดว้ ยความไม่ประมาท ดว้ ยความไมป่ ระมาท
(A) การทำงานดว้ ยความ เหมาะสมกับการ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ 2. ผ้เู รียนใช้วาจาและ
ปลอดภยั ทำงานดว้ ยความ กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล กิริยาที่สุภาพ ต่อ
2.ผเู้ รียนเลอื กใช้อุปกรณ์ท่ี ปลอดภยั อื่น บุคคลอน่ื
นำมาทดสอบกบั เครือ่ งเสยี ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงาน
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ด้วยความไม่ประมาท
3. ผูเ้ รยี นอธิบาย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
สัญญาณเสยี ง กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายหลกั การ อื่น
บนั ทกึ เสยี ง
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
แผนการเรยี นรู้ท่ี 2
หนว่ ยท่ี 2 จำนวน 8 ชั่วโมง สปั ดาห์ท่ี 2 - 3
ช่อื วชิ า เคร่อื งเสยี ง รหสั 20105 - 2008
ช่ือหน่วย เครือ่ งเสียงและคลาสการขายเสยี ง
1. สาระสำคญั
เสียงสามารถเกดิ ขึน้ ได้จากแหล่งกำเนิดเสียงหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะให้กำเนิดเสียงออกมาใน
ยา่ นความถ่เี สียงแตกต่างกันไป ทำนองเดียวกนั อุปกรณ์รับสญั ญาณเสียงก็มีหลายรูปแบบแตกต่างกัน ส่วน
สำคัญของการรบั รู้สัญญาณเสยี งของคนคอื หู ทำใหร้ ะบบส่อื สารทางเสียงของคนครบสมบูรณ์ การรบั รู้คล่ืน
เสยี งของคนเป็นขบวนการท่มี ีความซบั ซ้อน
เครือ่ งเสียงระบบไฮไฟ เปน็ เครือ่ งเสียงมคี ุณภาพดี ตอบสนองไดค้ รอบคลมุ ย่านความถี่เสียงท้งั หมด
โดยสามารถถ่ายทอดสัญญาณเสียงออกมาได้เหมือนกับสัญญาณเสียงที่ป้อนเข้าไปทุกประการโดยไม่
ผิดเพี้ยน ไมม่ ีเสยี งแปลกปลอมใดๆ และไมเ่ กดิ เสียงรบกวนออกมา อปุ กรณใ์ ช้งานในเคร่อื งเสียงระบบไฮไฟ
มีมากมายหลายชนิดหลายหน้าที่การทำงาน การใช้งานจะต้องนำอุปกรณ์เหล่านี้มาประกอบรว่ มกัน การ
เลือกอุปกรณ์ที่มีคุณภาพดี มีความเหมาะสมมาใช้งาน ย่อมจะส่งผลให้เครื่องเสียงที่ได้ออกมาเป็นระบบ
ไฮไฟทส่ี มบูรณ์แบบ
เคร่อื งขยายเสยี งที่ผลิตขน้ึ มาใชง้ าน ในแตล่ ะเคร่อื งจะประกอบขึ้นด้วยวงจรสว่ นต่างๆ หลายส่วน
ต่อวงจรเข้าด้วยกัน ในแต่ละส่วนมีหน้าที่ในการทำงานแตกต่างกันไป ช่วยส่งเสริมให้เครื่องขยายเสียงมี
คณุ ภาพและประสทิ ธิภาพของสัญญาณเสียงดียง่ิ ขน้ึ สามารถทำงานตอบสนองความตอ้ งการของผใู้ ช้ได้
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงการใชอ้ ปุ กรณเ์ ครอื่ งเสียงระบบไฮไฟ
2. แสดงพฤตกิ รรม ความคดิ ริเริม่ สร้างสรรค์ ความรกั สามคั คี การมวี ินยั
3. นำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไป ใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ท่ัวไป
1. เพ่ือให้มีความรูแ้ ละความเข้าใจเกีย่ วกับเครอื่ งเสยี งและคลาสการขยายเสียง
2. เพ่ือใหม้ ที ักษะการอปุ กรณ์ใช้งานในเครอ่ื งเสียงระบบไฮไฟ
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกชนิดของอปุ กรณ์รบั เสียงและอุปกรณก์ ำเนดิ เสียงได้
2. บอกคณุ สมบตั เิ ครื่องเสียงระบบไฮไฟได้
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
8
3. อธบิ ายลักษณะอปุ กรณ์แต่ละชนิดใช้งานในเคร่ืองเสียงระบบไฮไฟได้
4. บอกชนดิ ของคลาสการขยายสญั ญาณเสยี งได้
5. อธิบายบลอ็ กไดอะแกรมโครงสรา้ งเครื่องขยายเสียงได้
6. ใช้งานอุปกรณ์เครอ่ื งเสยี งระบบไฮไฟได้
7. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคุณลักษณะอัน
พงึ ประสงคท์ ่ีสามารถสงั เกตเหน็ ได้ในด้านความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ ความรกั สามคั คี การมีวินยั
4. สาระการเรียนรู้
1. อุปกรณร์ ับเสยี งและอปุ กรณ์กำเนดิ เสยี ง
2. เครื่องเสียงระบบไฮไฟ
3. อุปกรณใ์ ช้งานในเครอื่ งเสยี งระบบไฮไฟ
4. คลาสการขยายสญั ญาณเสยี ง
5. บล็อคไดอะแกรมโครงสร้างเครอื่ งขยายเสียง
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
สอนครง้ั ท่ี 2 – 3 ช่ัวโมงที่ 5 – 12
ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูเรียกชื่อ สำรวจการแต่งกายของผู้เรียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทึกลงใน
แบบประเมนิ ผลคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
2. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูแ้ ละความสำคัญของเนอื้ หาในหนว่ ยการเรียนรู้
3. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครผู สู้ อนให้ผู้เรยี นเตรยี มอุปกรณก์ ารเรียน
ขน้ั สอน
5. ครูผู้สอนใชส้ ่ือจากเอกสารท่ใี ช้ในการเรียนวิชาเครื่องเสยี ง
6. ครผู ้สู อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาจากใบความรู้เร่ืองเครือ่ งเสียงและคลาสการขยายเสียง
ขนั้ สรุป
7. ครผู ูส้ อนสรปุ ทบทวนหวั ขอ้ ตา่ ง ๆ ในใบความรทู้ ี่ 1 ใบความรู้ท่ี 2 และตอบคำถามท่ีผ้เู รียนถาม
8. ครูผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงานที่ 2 เครื่องเสียงและคลาสการขยายเสียง และแบบฝึกหัดเคร่ืองเสียง
และคลาสการขยายเสยี ง และ แบบทดสอบเครือ่ งเสยี งและคลาสการขยายเสยี ง
9. ครูผสู้ อนตรวจและเก็บคะแนนจากใบงานท่ีและแบบฝึกหัด
10. ครผู สู้ อนเน้นย้ำผเู้ รียนตระหนักถงึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคา่ นยิ มหลักของคนไทย
12 ประการ ในส่วนของความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ความรกั สามคั คี การมวี นิ ยั ของการปฏบิ ตั ิงาน
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลงุ
9
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. PowerPoint เคร่ืองเสียงและคลาสการขยายเสยี ง
2. หนงั สือวงจรดิจิตอล
3. ใบความรเู้ ร่อื งเครือ่ งเสยี งและคลาสการขยายเสียง
4. แบบฝึกหัดเรือ่ งเคร่ืองเสียงและคลาสการขยายเสยี ง
5. แบบทดสอบเรอื่ งเครอ่ื งเสยี งและคลาสการขยายเสยี ง
7. หลักฐานการเรียนรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม
หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. ใบงานท่ี 2 เครอื่ งเสียงและคลาสการขยายเสยี ง
2. แบบฝึกหัด เครื่องเสียงและคลาสการขยายเสยี ง
3. แบบทดสอบ เคร่อื งเสียงและคลาสการขยายเสียง
8. การวัดผลประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ ่าน 60% ข้ึนไป
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
10
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรยี นรู้
2 ปญั หาท่ีพบ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พทั ลงุ
11
ผลที่จะเกิดขึ้นกับนกั ศกึ ษาจากการจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ่ีบรู ณาการหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
1. นักศึกษาจะไดฝ้ ึกคิดและฝึกปฏบิ ัตติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม
ความรูท้ ่ีผ้เู รียนต้องมีก่อนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนกั เรียนในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ผเู้ รยี นมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกับเครื่องเสียง ผู้เรียนมีความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ความรกั สามัคคี การมี
- ผ้เู รยี นมคี วามรแู้ ละเข้าใจคลาสการขยายเสยี ง วนิ ยั ในการปฏบิ ัติงาน การบูรณาการกับ ค่านิยมหลกั ของ
คนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความมีภูมิคมุ้ กันในตวั ท่ดี ี
1. ผู้เรียนเตรียมเครื่องมืออปุ กรณ์ 3. ผเู้ รียนอธิบายเครอ่ื งเสียง 5. ผเู้ รยี นปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความไม่ประมาท
อย่างเหมาะสมกับการทำงานดว้ ย 4. ผเู้ รยี นอธิบายคลาสการขยาย 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ความปลอดภัย เสยี ง บคุ คลอืน่
2.ผเู้ รียนเลอื กใชอ้ ุปกรณท์ น่ี ำมา
ทดสอบกับเครื่องเสยี งไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2. ผเู้ รียนจะได้เรยี นรกู้ ารใช้ชวี ิตท่ีสมดุลและพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลง 4 มิติตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จุดมุ่งหมาย สมดุลและพร้อมรับการเปล่ยี นแปลง
การเรียนรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ดา้ นส่งิ แวดล้อม ดา้ นวัฒนธรรม
ด้านพุทธิ 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครื่องมือ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเครือ่ งมือ 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียน
พิสัย (K) อปุ กรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ อุปกรณอ์ ย่างเหมาะสมกับ ดว้ ยความไมป่ ระมาท ปฏิบัติงานดว้ ย
การทำงานดว้ ยความ การทำงานดว้ ยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไมป่ ระมาท
ปลอดภัย ปลอดภัย กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล 2. ผเู้ รียนใช้วาจา
2.ผ้เู รยี นเลือกใชอ้ ุปกรณท์ ่ี 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อื่น และกริ ิยาท่ีสภุ าพ
นำมาทดสอบกบั เครอื่ ง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บุคคลอนื่
เสียงไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
3. ผู้เรยี นอธบิ ายเคร่ือง กิรยิ าทส่ี ภุ าพตอ่ บคุ คลอน่ื
เสยี ง
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายคลาสการ
ขยายเสยี ง
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวัดพทั ลุง
12
จุดมงุ่ หมาย สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม ด้านส่ิงแวดล้อม ดา้ นวัฒนธรรม
ดา้ นทักษะ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเคร่อื งมอื 1. ผูเ้ รียนเตรยี มเครอื่ งมือ 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผูเ้ รียน
พิสยั (P) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับ อปุ กรณ์อย่างเหมาะสมกบั ด้วยความไมป่ ระมาท ปฏิบัตงิ านด้วย
การทำงานด้วยความ การทำงานด้วยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไม่ประมาท
ปลอดภยั ปลอดภยั กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล 2. ผเู้ รยี นใชว้ าจา
2.ผเู้ รียนเลอื กใชอ้ ุปกรณท์ ี่ 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อื่น และกิริยาทสี่ ภุ าพ
นำมาทดสอบกบั เคร่ือง ความไมป่ ระมาท ต่อบคุ คลอื่น
เสียงไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
3. ผเู้ รียนอธิบายเครอ่ื ง กริ ยิ าทีส่ ภุ าพตอ่ บุคคลอ่ืน
เสียง
4. ผ้เู รียนอธิบายคลาสการ
ขยายเสยี ง
ดา้ นจติ 1. ผเู้ รียนเตรยี มเครื่องมอื 1. ผเู้ รยี นเตรยี มเคร่ืองมอื 1. ผู้เรียนปฏิบัติงาน 1. ผู้เรียน
พสิ ัย อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับ อปุ กรณ์อย่างเหมาะสมกบั ดว้ ยความไม่ประมาท ปฏบิ ัติงานดว้ ย
(A) การทำงานดว้ ยความ การทำงานดว้ ยความ 2. ผู้เรียนใช้วาจาและ ความไม่ประมาท
ปลอดภัย ปลอดภยั กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล 2. ผู้เรียนใช้วาจา
2.ผ้เู รยี นเลือกใช้อุปกรณ์ที่ 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย อื่น และกริ ิยาท่ีสุภาพ
นำมาทดสอบกบั เครือ่ ง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บุคคลอ่ืน
เสียงไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
3. ผเู้ รียนอธิบายเครอ่ื ง กิริยาทสี่ ภุ าพต่อบุคคลอ่นื
เสียง
4. ผเู้ รียนอธิบายคลาสการ
ขยายเสยี ง
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวดั พัทลงุ
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 3
หน่วยท่ี 3 จำนวน 8 ชั่วโมง สัปดาห์ที่ 4-5
ช่ือวชิ า เครื่องเสียง รหัส 20105 - 2008
ช่ือหน่วย แหลง่ จา่ ยกำลงั ไฟฟ้า
1. สาระสำคญั
หน้าทก่ี ารทำงานของแหลง่ จา่ ยกำลัง คอื แปลงแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลับ ให้เป็นแรงดัน ไฟฟ้ากระแสตรง
แหล่งจา่ ยกำลังที่ผลิตมาใชง้ านแบ่งออกได้เปน็ 2 แบบ ได้แก่ ใชค้ วามถ่ไี ฟฟ้ากระแสสลับทปี่ ้อน หรือชนิด
พ้ืนฐาน เรียกไดอ้ ีกช่ือวา่ แหล่งจา่ ยกำลงั ชนดิ เชงิ เส้น เป็นการผลติ กำลังไฟฟ้าออกมาแบบพืน้ ฐาน ถูกผลิต
มาใช้งานตั้งแต่สมัยเริ่มแรกเป็นแบบพื้นฐานที่ผลิตมาใช้งานตั้งแต่สมัยเริ่มแรก โดยใช้ความถี่เดิมของ
แรงดันไฟสลับท่ีใช้งาน และแบบที่สองใชว้ ธิ ีการสวิตช์ หรือชนิดสวติ ชิง คือแหล่งจ่ายกำลังใช้วิธีการสวติ ช์
(SMPS) เปน็ วิธีการผลิตกำลงั ไฟฟา้ มาใชง้ านแบบใหม่ เปน็ แบบท่นี ยิ มใชง้ านกนั มากในปจั จุบนั วธิ ีการผลิต
โดยการนำสัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับคลน่ื ไซน์ทีป่ อ้ นเข้ามา ไปทำการเปลีย่ นแปลงรปู ร่างสัญญาณเป็นคล่ืน
สเี่ หลี่ยมความถ่สี ูง ก่อนจะแปลงกลับออกมาเป็นแรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับแหล่งจ่ายกำลังไฟฟา้
2. แสดงพฤติกรรม ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความเช่อื มัน่ ในตนเอง การตรงตอ่ เวลา
3. นำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงาน
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. เพื่อใหม้ ีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกบั แหลง่ จ่ายกำลงั ไฟฟ้า
2. เพือ่ ใหม้ ที ักษะในใชง้ านแหล่งจ่ายอย่างถกู วธิ แี ละเหมาะสม
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. บอกชนิดของแหล่งกำเนิดกำลงั ไฟฟ้าได้
2. อธบิ ายการทำงานของแหล่งจ่ายกำลังชนดิ เชิงเส้นได้
3. อธบิ ายการทำงานของแหล่งจ่ายกำลังชนดิ เชิงเส้นเพ่มิ วงจรปรับระดบั แรงดนั ไฟฟา้ คงทไี่ ด้
4. เขยี นวงจรแหล่งจา่ ยกำลังที่ผลติ มาใช้งานได้
5. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ทีส่ ามารถสงั เกตเหน็ ไดใ้ นด้านความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ ความรักสามัคคี การมีวนิ ัย
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลุง
14
4. สาระการเรียนรู้
1. แหลง่ กำเนดิ กำลังไฟฟา้
2. แหล่งจ่ายกำลังชนิดเชิงเส้น
3. แหลง่ จ่ายกำลงั ชนิดเชิงเส้นเพ่ิมวงจรปรับระดบั แรงดันไฟฟ้าคงท่ี
4. แหล่งจา่ ยกำลังชนดิ สวิตชงิ
5. วงจรแหลง่ จา่ ยกำลังทผ่ี ลิตมาใช้งาน
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
สอนคร้งั ท่ี 4 – 5 ชว่ั โมงท่ี 13 – 20
ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครเู รยี กชื่อ สำรวจการแต่งกายของผเู้ รียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทกึ ลงใน
แบบประเมนิ ผลคุณธรรมและจริยธรรม
2. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้และความสำคัญของเนือ้ หาในหน่วยการเรียนรู้
3. ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ครูผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นเตรียมอปุ กรณก์ ารเรียน
ขน้ั สอน
5. ครผู ู้สอนใช้สือ่ จากเอกสารทใ่ี ชใ้ นการเรียนวชิ าเคร่อื งเสียง
6. ครูผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนศกึ ษาจากใบความรเู้ รอื่ งแหลง่ จ่ายกำลังไฟฟ้า
ในใบความรทู้ ่ี 3 (ปฏิบตั ิใบงานการทดลองที่ 3 ) แบบฝึกหัดแหลง่ จา่ ยกำลงั ไฟฟ้า และแบบทดสอบ
แหลง่ จ่ายกำลงั ไฟฟา้
ขนั้ สรปุ
7. ครูผ้สู อนสรปุ ทบทวนหัวขอ้ ตา่ ง ๆ ในใบความรู้ท่ี 3 และตอบคำถามทผ่ี เู้ รยี นถาม
8. ครผู ู้สอนเน้นยำ้ ผ้เู รียนตระหนกั ถงึ หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและค่านิยมหลักของคน
ไทย 12 ประการ ในส่วนของการความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ ความเช่อื ม่ันในตนเอง การตรงตอ่ เวลา
ของการปฏิบัตงิ าน
6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. PowerPoint แหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้า
2. หนงั สอื เครอ่ื งเสียง
3. ใบความรู้เรื่องแหลง่ จ่ายกำลังไฟฟา้
4. แบบฝกึ หดั เรอื่ งแหล่งจา่ ยกำลังไฟฟา้
5. แบบทดสอบเร่อื งแหลง่ จา่ ยกำลงั ไฟฟ้า
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พทั ลุง
15
6. ใบงานการทดลองท่ี 3. แหล่งจา่ ยกำลงั ไฟฟา้
7. หลกั ฐานการเรียนรู้
หลักฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
หลักฐานการปฏิบัตงิ าน
1. ใบงานที่ 3 แหลง่ จ่ายกำลังไฟฟ้า
2. แบบฝกึ หัดแหล่งจา่ ยกำลงั ไฟฟา้
3. แบบทดสอบแหลง่ จ่ายกำลังไฟฟา้
8. การวดั ผลประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรียน
รว่ มกนั ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. แบบประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ ่าน 60% ขน้ึ ไป
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจรงิ
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
16
9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแกป้ ญั หา
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
17
ผลท่จี ะเกดิ ขนึ้ กบั นักศึกษาจากการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ทู ีบ่ ูรณาการหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
1. นักศึกษาจะได้ฝึกคิดและฝกึ ปฏิบัตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เงื่อนไขความรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม
ความรทู้ ่ผี ู้เรยี นต้องมีกอ่ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนักเรียนในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
- ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งจ่าย ผเู้ รยี นมีความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
กำลังไฟฟา้ การตรงต่อเวลา ในการปฏิบัตงิ าน การบูรณาการกบั ค่านิยม
หลักของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความมภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี
1. ผ้เู รียนเตรียมเครื่องมอื อุปกรณอ์ ย่าง 3. ผู้เรียนอธิบายแหลง่ จ่าย 5. ผ้เู รยี นปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความไมป่ ระมาท
เหมาะสมกับการทำงานดว้ ยความ กำลังไฟฟา้ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ปลอดภยั บคุ คลอน่ื
2.ผเู้ รียนเลือกใช้อุปกรณท์ น่ี ำมาทดสอบ
กับเครอ่ื งเสยี งได้อย่างถูกต้อง
2. ผเู้ รยี นจะได้เรยี นรกู้ ารใชช้ ีวิตท่สี มดุลและพร้อมรับการเปลยี่ นแปลง 4 มติ ิตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
จดุ ม่งุ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านส่ิงแวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพทุ ธิ 1. ผเู้ รียนเตรียมเครอ่ื งมืออุปกรณ์ 1. ผเู้ รียนเตรียมเคร่อื งมอื 1. ผ้เู รยี น 1. ผ้เู รยี น
พิสยั (K) อยา่ งเหมาะสมกบั การทำงานดว้ ย อุปกรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกับ ปฏบิ ัตงิ านดว้ ย ปฏบิ ัติงานด้วย
ความปลอดภัย การทำงานด้วยความ ความไม่ประมาท ความไม่
2.ผูเ้ รยี นเลือกใช้อุปกรณท์ ่นี ำมา ปลอดภยั 2. ผเู้ รียนใชว้ าจา ประมาท
ทดสอบกับเครอื่ งเสียงไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกริ ยิ าที่สภุ าพ 2. ผเู้ รียนใช้
3. ผ้เู รยี นอธบิ ายแหลง่ จ่ายกำลงั ไฟฟา้ ความไมป่ ระมาท ตอ่ บุคคลอน่ื วาจาและกิรยิ า
3. ผู้เรียนใช้วาจาและ ที่สภุ าพต่อ
กริ ยิ าทส่ี ภุ าพต่อบุคคลอืน่ บุคคลอน่ื
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลุง
18
จดุ มุ่งหมาย สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นทักษะ 1. ผเู้ รยี นเตรยี มเครอื่ งมืออปุ กรณ์ 1. ผู้เรียนเตรยี มเครื่องมือ 1. ผเู้ รียน 1. ผูเ้ รียน
พิสัย (P) อยา่ งเหมาะสมกบั การทำงานดว้ ย อุปกรณอ์ ย่างเหมาะสมกับ ปฏิบัตงิ านด้วย ปฏิบัติงานด้วย
ความปลอดภัย การทำงานดว้ ยความ ความไมป่ ระมาท ความไม่
2.ผู้เรยี นเลอื กใช้อุปกรณท์ น่ี ำมา ปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา ประมาท
ทดสอบกบั เครื่องเสยี งไดอ้ ย่างถูกต้อง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกริ ิยาทส่ี ุภาพ 2. ผเู้ รยี นใช้
3. ผ้เู รียนอธบิ ายแหลง่ จ่ายกำลังไฟฟา้ ความไมป่ ระมาท ตอ่ บคุ คลอ่นื วาจาและกริ ิยา
3. ผู้เรียนใชว้ าจาและ ที่สุภาพต่อ
กิริยาทส่ี ภุ าพตอ่ บุคคลอ่นื บุคคลอ่ืน
ด้านจติ 1. ผู้เรียนเตรยี มเครื่องมอื อุปกรณ์ 1. ผเู้ รยี นเตรียมเคร่อื งมือ 1. ผเู้ รียน 1. ผู้เรยี น
พิสยั อยา่ งเหมาะสมกับการทำงานดว้ ย อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั ปฏบิ ัตงิ านด้วย ปฏบิ ัตงิ านด้วย
(A) ความปลอดภยั การทำงานดว้ ยความ ความไม่ประมาท ความไม่
2.ผู้เรยี นเลอื กใช้อุปกรณท์ ีน่ ำมา ปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา ประมาท
ทดสอบกบั เครอ่ื งเสยี งได้อยา่ งถูกตอ้ ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกริ ยิ าทส่ี ภุ าพ 2. ผู้เรยี นใช้
3. ผ้เู รยี นอธบิ ายแหลง่ จ่ายกำลงั ไฟฟา้ ความไม่ประมาท ต่อบุคคลอนื่ วาจาและกริ ิยา
3. ผู้เรียนใชว้ าจาและ ทส่ี ุภาพต่อ
กริ ิยาทสี่ ุภาพต่อบุคคลอ่ืน บคุ คลอื่น
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลงุ
แผนการเรียนรทู้ ่ี 4
หน่วยท่ี 4 จำนวน 8 ช่วั โมง สปั ดาห์ที่ 6 - 7
ชอ่ื วชิ า เครือ่ งเสยี ง รหสั 20105 - 2008
ชื่อหน่วย การขยายแรงดนั ไฟฟา้ และกลับเฟสสัญญาณ
1. สาระสำคญั
ความแรงของสญั ญาณไฟฟา้ แสดงไว้ในรูปแรงดันไฟฟ้า การนำไปใช้งานจำเป็นต้องนำไปขยายให้
แรงขึ้น การนำแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลับไปใชง้ าน ขนาดของแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับมีความสำคญั ต่อการ
ทำงานมาก จึงทำให้วงจรขยายแรงดันไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานและการใช้งาน เพื่อให้ได้ค่า
ความแรงของสัญญาณไฟฟ้ามากพอท่ีจะนำไปใชง้ าน วงจรขยายแรงดันไฟฟ้าจึงเปน็ วงจรที่สำคัญต่อการ
ทำงาน นอกจากนั้นในบางครั้งการป้อนสัญญาณไฟฟ้าเข้าวงจรเพื่อนำไปใช้งาน เฟสสัญญาณไฟฟ้าที่ถูก
ปอ้ นเข้ามาจำเป็นต้องใหถ้ ูกต้องเหมาะสมต่อความต้องการใช้งาน
วงจรขยายสัญญาณแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำหลาย
ชนิดได้แก่ ทรานซิสเตอร์ เฟต ไอซีออปแอมป์ วงจรสามารถกำหนดอัตราขยายที่แตกต่างกันได้ และ
สามารถกำหนดเฟสแรงดนั ไฟฟา้ กระแสสลับทจ่ี า่ ยออกมาได้ โดยข้ึนอย่กู ับการจดั วงจร
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงการขยายแรงดันไฟฟา้ และกลบั เฟสสัญญาณ
2. แสดงพฤตกิ รรม การอดทนอดกลน้ั ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผิดชอบ
3. นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไป ใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
จุดประสงคท์ ั่วไป
1. อธิบายวงจรขยายแรงดันไฟฟ้าแต่ละชนดิ อยา่ งละเอยี ดถกู ต้อง
2. อธิบายวงจรกลับเฟสสัญญาณไฟฟา้ แตล่ ะชนดิ อย่างถูกต้องชดั เจน
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม
1. บอกส่วนประกอบของการขยายสัญญาณไฟฟ้าได้
2. อธิบายวงจรขยายแรงดันไฟฟา้ แบบต่าง ๆ ได้
3. อธิบายวงงจรกลับเฟสสญั ญาณไฟฟา้ แบบต่าง ๆ ได้
4. เขยี นวงจรขยายแรงดนั ไฟฟา้ และกลับเฟสสัญญาณท่ผี ลติ มาใช้งานได้
5. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลกั ษณะอันพงึ
ประสงคท์ ่สี ามารถสังเกตเห็นได้ในดา้ นการอดทนอดกลัน้ ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผิดชอบ
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพทั ลงุ
20
4. สาระการเรยี นรู้
1. การขยายสัญญาณไฟฟ้า
2. วงจรขยายแรงดันไฟฟา้
3. วงจรกลับเฟสสญั ญาณไฟฟา้
4. วงจรขยายแรงดนั ไฟฟา้ และกลับเฟสสญั ญาณทีผ่ ลิตมาใช้งาน
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
สอนครง้ั ท่ี 6 - 7 ชัว่ โมงที่ 21 – 28
ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูเรียกชื่อ สำรวจการแต่งกายของผู้เรียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทึกลงใน
แบบประเมินผลคณุ ธรรมและจริยธรรม
2. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และความสำคัญของเนือ้ หาในหน่วยการเรยี นรู้
3. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครผู สู้ อนใหผ้ ู้เรียนเตรยี มอปุ กรณ์การเรียน
ข้ันสอน
5. ครูผูส้ อนใช้สื่อจากเอกสารทใ่ี ชใ้ นการเรยี นวิชาเคร่อื งเสียง
6. ครูผู้สอนให้ผ้เู รยี นศกึ ษาจากใบความร้เู รอ่ื งการขยายแรงดันไฟฟา้ และกลบั เฟสสัญญาณ
ในใบความรู้ท่ี 4 ปฏิบตั ใิ บงานการทดลองท่ี 4 วงจรขยายผลต่างใชเ้ ฟต แบบฝึกหดั การขยาย
แรงดันไฟฟ้าและกลบั เฟสสัญญาณ และแบบทดสอบการขยายแรงดันไฟฟ้าและกลับเฟสสัญญาณ
ขน้ั สรุป
7. ครูผ้สู อนสรุปทบทวนหวั ขอ้ ตา่ ง ๆ ในใบความรู้ที่ 4 และตอบคำถามทผ่ี ้เู รียนถาม
8. ครูผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำใบงานที่ 4 วงจรขยายผลตา่ งใช้เฟต แบบฝึกหัดการขยายแรงดันไฟฟ้า
และกลับเฟสสัญญาณ และแบบทดสอบการขยายแรงดนั ไฟฟ้าและกลบั เฟสสัญญาณ
9. ครผู ู้สอนตรวจและเก็บคะแนนจากใบงานที่ แบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ
10. ครูผู้สอนเนน้ ยำ้ ผูเ้ รยี นตระหนักถึงหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นิยมของคนไทย
12 ประการ ในสว่ นของความซอ่ื สตั ย์ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ความรกั สามคั คี ของการ
ปฏบิ ัติงาน
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. PowerPoint การขยายแรงดนั ไฟฟา้ และกลับเฟสสญั ญาณ
2. หนังสือเครอื่ งเสียง
3. ใบความรูเ้ รอื่ งการขยายแรงดันไฟฟ้าและกลบั เฟสสัญญาณ
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลุง
21
4. แบบฝึกหัดเร่ืองการขยายแรงดนั ไฟฟ้าและกลบั เฟสสญั ญาณ
5. แบบทดสอบเรือ่ งการขยายแรงดนั ไฟฟ้าและกลับเฟสสญั ญาณ
6. ใบงานการทดลองท่ี 4
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏิบตั งิ าน
1. ใบงานการทดลองท่ี 4 วงจรขยายผลต่างใช้เฟต
2. แบบฝกึ หัดการขยายแรงดันไฟฟ้าและกลับเฟสสญั ญาณ
3. แบบทดสอบการขยายแรงดนั ไฟฟ้าและกลบั เฟสสัญญาณ
8. การวัดผลประเมินผล
วิธวี ดั ผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรมคา่ นิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
เคร่อื งมือวัดผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและนักเรียน
ร่วมกันประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบท้ายบท เกณฑ์ผา่ น 60% ขน้ึ ไป
2. แบบประเมนิ กิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจริง
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พัทลุง
22
9. บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้
2 ปญั หาท่พี บ
3 แนวทางแกป้ ญั หา
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
23
ผลที่จะเกดิ ขึ้นกับนักศกึ ษาจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ีบ่ ูรณาการหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
1. นกั ศกึ ษาจะไดฝ้ ึกคิดและฝึกปฏิบตั ิตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เงอื่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม
ความรู้ท่ีผูเ้ รียนตอ้ งมีกอ่ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนกั เรียนในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขยาย ผู้เรียนมีการอดทนอดกล้นั ความสนใจใฝ่รู้ ความ
แรงดันไฟฟา้ รับผิดชอบ ในการปฏิบตั งิ าน การบูรณาการกับ ค่านิยม
- ผเู้ รยี นมคี วามรู้และเข้าใจการกลับเฟสสญั ญาณ หลักของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความมีภูมิคมุ้ กันในตวั ท่ดี ี
1. ผู้เรยี นเตรียมเครอ่ื งมืออุปกรณ์อยา่ ง 3. ผเู้ รียนอธบิ ายการขยาย 5. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิงานด้วยความไมป่ ระมาท
เหมาะสมกบั การทำงานดว้ ยความ แรงดันไฟฟ้า 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ปลอดภยั 4. ผเู้ รียนอธบิ ายการกลับเฟส บคุ คลอนื่
2.ผู้เรยี นเลอื กใช้อุปกรณท์ ่ีนำมาทดสอบ สญั ญาณ
กบั เคร่ืองเสยี งได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
2. ผ้เู รียนจะได้เรียนรกู้ ารใชช้ ีวิตท่สี มดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มุ่งหมาย สมดุลและพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลง
การเรียนรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวัฒนธรรม
ด้านพุทธิ 1. ผ้เู รียนเตรยี มเครอื่ งมืออุปกรณ์ 1. ผู้เรียนเตรียมเครือ่ งมือ 1. ผู้เรียน 1. ผ้เู รียน
พสิ ัย (K) อย่างเหมาะสมกบั การทำงานด้วย อปุ กรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั ปฏิบัติงานด้วย ปฏิบตั ิงานดว้ ย
ความปลอดภัย การทำงานดว้ ยความ ความไม่ประมาท ความไม่ประมาท
2.ผู้เรียนเลือกใช้อุปกรณท์ ีน่ ำมา ปลอดภยั 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบกับเคร่ืองเสยี งไดอ้ ย่าง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาทีส่ ุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถูกตอ้ ง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอ่ืน ต่อบคุ คลอ่นื
3. ผเู้ รียนอธิบายการขยาย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
แรงดันไฟฟ้า กริ ิยาทส่ี ภุ าพตอ่ บคุ คลอน่ื
4. ผู้เรยี นอธบิ ายการกลบั เฟส
สัญญาณ
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
24
จดุ ม่งุ หมาย สมดุลและพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ดา้ นส่ิงแวดล้อม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นทกั ษะ 1. ผเู้ รยี นเตรียมเครือ่ งมืออุปกรณ์ 1. ผู้เรยี นเตรยี มเครอ่ื งมือ 1. ผู้เรียน 1. ผู้เรยี น
พสิ ยั (P) อยา่ งเหมาะสมกบั การทำงานดว้ ย อปุ กรณอ์ ย่างเหมาะสมกับ ปฏบิ ัตงิ านด้วย ปฏิบัติงานดว้ ย
ความปลอดภัย การทำงานด้วยความ ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผ้เู รียนเลือกใช้อุปกรณท์ นี่ ำมา ปลอดภยั 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบกบั เคร่อื งเสยี งไดอ้ ยา่ ง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถูกตอ้ ง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอน่ื ต่อบุคคลอน่ื
3. ผู้เรยี นอธบิ ายการขยาย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
แรงดนั ไฟฟา้ กิริยาทส่ี ภุ าพต่อบุคคลอนื่
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายการกลบั เฟส
สญั ญาณ
ดา้ นจติ พิสยั 1. ผเู้ รยี นเตรียมเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ 1. ผ้เู รยี นเตรยี มเคร่ืองมือ 1. ผู้เรียน 1. ผ้เู รียน
(A) อยา่ งเหมาะสมกบั การทำงานด้วย อปุ กรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกับ ปฏิบตั ิงานดว้ ย ปฏบิ ัติงานด้วย
ความปลอดภัย การทำงานดว้ ยความ ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผเู้ รยี นเลือกใชอ้ ุปกรณท์ น่ี ำมา ปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา 2. ผูเ้ รียนใชว้ าจา
ทดสอบกบั เคร่อื งเสยี งได้อย่าง 2. ผู้เรียนปฏิบัติงานด้วย และกิรยิ าท่สี ภุ าพ และกริ ยิ าที่สภุ าพ
ถูกตอ้ ง ความไม่ประมาท ต่อบคุ คลอนื่ ตอ่ บคุ คลอน่ื
3. ผู้เรียนอธิบายการขยาย 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
แรงดนั ไฟฟา้ กิริยาที่สุภาพต่อบคุ คลอ่นื
4. ผเู้ รียนอธิบายการกลบั เฟส
สัญญาณ
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวดั พทั ลงุ
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 5
หนว่ ยที่ 5 จำนวน 8 ช่ัวโมง สปั ดาห์ท่ี 8 - 9
ชอ่ื วิชา เคร่ืองเสียง รหัส 20105 - 2008
ชอื่ หนว่ ย การขยายกำลงั คลื่นเสยี งดว้ ยทรานซิสเตอร์
1. สาระสำคญั
วงจรขยายกำลงั สญั ญาณเสยี ง เป็นวงจรขยายสัญญาณเสียงใหม้ อี ัตราการขยายสงู ท่ีสุด ทำหน้าท่ี
ขยายสัญญาณเสียงที่ระดับความดังน้อย ให้มีระดับความดังเพิ่มมากขึ้นถึงค่าสูงสุด และมีสัญญาณเสียง
ส่งออกเอาต์พุตเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน การจัดวงจรขยายกำลังสัญญาณเสียงจัดในลักษณะการขยาย
สัญญาณเสียงคลาส AB โดยจัดวงจรขยายออกเป็นสองส่วน ขยายสัญญาณ เสียงซีกบวกหนึ่งส่วน และ
ขยายสัญญาณเสียงซีกลบอกี หน่งึ สว่ น
วงจรขยายกำลังสัญญาณเสียงมีส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ภาค คือ ภาคขับกำลัง และภาค ขยาย
กำลัง ทำหน้าที่ขยายสัญญาณเสียงให้มีความแรงมากที่สุดโดยรูปสัญญาณไม่ผิดเพี้ยน วงจร ขยายกำลัง
สัญญาณเสียงนิยมจัดวงจรขยายแบบพุช – พุล จัดวงจรได้ 3 ชนิด คือชนิดใช้หม้อแปลงที่เอาต์พุต (OT)
ชนิดไมม่ ีหม้อแปลงที่เอาตพ์ ุต (OTL) และชนดิ ไม่มตี วั เก็บประจุท่ีเอาตพ์ ุต (OCL) การเพ่ิมกำลังขยายเสียง
นยิ มตอ่ วงจรภาคขบั กำลังเข้ากับวงจรภาคขยายกำลังด้วยการตอ่ วงจรแบบดารล์ ิงตัน
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงการขยายกำลงั คลื่นเสียงด้วยทรานซิสเตอร์ได้
2. แสดงพฤตกิ รรม ความซื่อสัตย์ ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ความรักสามคั คี
3. นำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป ใชใ้ นการปฏิบตั งิ าน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์ทั่วไป
1. บอกหลกั การทำงานของวงจรขยายเสียงแบบพุช – พลุ อยา่ งถูกต้องเป็นลำดับ
2. อธิบายการทำงานของวงจรขยายเสยี งแบบคอมพลีเมนตารชี นิด OTL และ OCL อยา่ งถูกตอ้ ง
ชดั เจน
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. บอกหลักการเพิ่มความดงั เสียงได้
2. บอกหลักการทำงานของวงจรขยายเสยี งแบบ พุช – พลุ ได้
3. บอกหลกั การทำงานของวงจรขยายเสียงแบบ คอมพลเี มนตารีได้
4. อธิบายการทำงานของวงจรขยายเสยี งแบบ คอมพลเี มนตารชี นดิ OTL ได้
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวัดพัทลงุ
26
5. อธิบายการทำงานของวงจรขยายเสียงแบบ คอมพลเี มนตารีชนดิ OCL ได้
6. บอกลกั ษณะวงจรแบบดารล์ งิ ตันได้
7. อธิบายภาคขยายกำลงั เสยี งแบบคอมพลีเมนตารีบริสุทธิ์ชนดิ OTL ได้
8. อธบิ ายภาคขยายกำลงั เสยี งแบบคลา้ ยคอมพลีเมนตารีชนดิ OTL ได้
9. ขยายกำลังคลืน่ เสียงทรานซิสเตอร์ได้
5. มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงคท์ ่ีสามารถสังเกตเห็นไดใ้ นด้านความซื่อสัตย์ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ความรกั สามัคคี
4. สาระการเรียนรู้
1. การเพ่ิมความดังเสียง
2. วงจรขยายเสียงแบบพุช-พลุ
3. วงจรขยายเสียงแบบคอมพลีเมนตารี
4. การทำงานของวงจรขยายเสียงแบบคอมพลเี มนตารีชนดิ OCL
5. การขยายแบบดารล์ งิ ตัน
6. ภาคขยายกำลงั เสยี งแบบคอมพลีเมนตารีบริสทุ ธิ์ชนิด OTL
7. ภาคขยายกำลังเสียงแบบคล้ายคอมพลเี มนตารชี นิด OTL
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
สอนครงั้ ท่ี 8 - 9 ชวั่ โมงที่ 29 - 36
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูเรียกชื่อ สำรวจการแต่งกายของผู้เรียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทึกลงใน
แบบประเมินผลคุณธรรมและจริยธรรม
2. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรแู้ ละความสำคัญของเนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรู้
3. ผู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครูผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนเตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี น
ขั้นสอน
5. ครูผสู้ อนใช้ส่อื จากเอกสารท่ีใชใ้ นการเรยี นวชิ าเคร่ืองเสยี ง
6. ครูผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาจากใบความรู้เรื่องการขยายกำลังคลื่นเสียงด้วยทรานซิสเตอร์ในใบ
ความรู้ที่ 5 ปฏิบัติใบงานการทดลองที่ 5 วงจรขยายเสยี งคอมพลีเมนตารีดว้ ยทรานซิสเตอรค์ ลาส AB
ชนิด OTL แบบฝึกหดั และแบบทดสอบ การขยายกำลังคลนื่ เสยี งดว้ ยทรานซิสเตอร์
ข้นั สรปุ
7. ครูผู้สอนสรุปทบทวนหัวขอ้ ตา่ ง ๆ ในใบความรทู้ ี่ 5 และตอบคำถามทผ่ี ู้เรียนถาม
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพัทลุง
27
8. ครูผสู้ อนเน้นย้ำผเู้ รียนตระหนกั ถึงหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและ คา่ นยิ มของคนไทย
12 ประการ ในส่วนของความซอ่ื สตั ย์ ความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ ความรักสามัคคีของการ
ปฏบิ ัตงิ าน
6. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
1. PowerPoint การขยายกำลงั คล่นื เสยี งด้วยทรานซิสเตอร์
2. หนงั สอื เคร่ืองเสียง
3. ใบความรเู้ ร่ืองการขยายกำลงั คลืน่ เสียงดว้ ยทรานซิสเตอร์
4. แบบฝึกหัดเร่ืองการขยายกำลังคลนื่ เสียงด้วยทรานซิสเตอร์
5. แบบทดสอบเร่อื งการขยายกำลังคลืน่ เสียงด้วยทรานซิสเตอร์
6. ใบงานการทดลองที่ 5 วงจรขยายเสียงคอมพลเี มนตารดี ว้ ยทรานซิสเตอรค์ ลาส AB ชนดิ OTL
7. หลักฐานการเรยี นรู้
หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. ใบงานการทดลองท่ี 5 วงจรขยายเสียงคอมพลีเมนตารดี ว้ ยทรานซสิ เตอร์คลาส AB ชนดิ OTL
2. แบบฝกึ หัดเร่อื งการขยายกำลงั คล่นื เสียงด้วยทรานซสิ เตอร์
3. แบบทดสอบเรอ่ื งการขยายกำลังคลื่นเสยี งด้วยทรานซสิ เตอร์
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
วธิ วี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครอื่ งมอื วดั ผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบทา้ ยบท
2. แบบประเมนิ กิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรียน
รว่ มกันประเมนิ
วิทยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
28
เกณฑ์การประเมินผล
1. แบบประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบท้ายบท เกณฑ์ผา่ น 60% ข้นึ ไป
2. แบบประเมนิ กจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
9. บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1 ข้อสรปุ หลงั การจัดการเรยี นรู้
2 ปญั หาทพ่ี บ
3 แนวทางแกป้ ญั หา
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพทั ลุง
29
ผลทจ่ี ะเกิดข้นึ กับนักศึกษาจากการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ บี่ ูรณาการหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
1. นกั ศึกษาจะไดฝ้ ึกคดิ และฝึกปฏิบัติตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เง่ือนไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม
ความรทู้ ีผ่ เู้ รียนต้องมีกอ่ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของนกั เรยี นในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ผูเ้ รยี นมคี วามรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขยายกำลงั ผู้เรยี นมีความซ่อื สตั ย์ ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ความรกั
คล่นื เสยี งดว้ ยทรานซสิ เตอร์ สามคั คีในการปฏิบัติงาน การบูรณาการกบั ค่านยิ มหลกั
ของคนไทย 12 ประการ
ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล ความมภี ูมิคมุ้ กันในตวั ทด่ี ี
1. ผูเ้ รียนเตรยี มเครือ่ งมืออุปกรณ์อย่าง 3. ผู้เรยี นอธบิ ายการขยายกำลงั 5. ผ้เู รียนปฏบิ ตั งิ านด้วยความไมป่ ระมาท
เหมาะสมกับการทำงานดว้ ยความ คล่นื เสยี งด้วยทรานซิสเตอร์ 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ปลอดภัย บคุ คลอน่ื
2.ผ้เู รียนเลือกใช้อุปกรณท์ น่ี ำมาทดสอบ
กบั เครื่องเสยี งไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2. ผเู้ รยี นจะได้เรียนรู้การใชช้ วี ิตท่ีสมดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 4 มติ ิตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
จุดมงุ่ หมาย สมดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ดา้ นวัฒนธรรม
ด้านพุทธิ 1. ผ้เู รยี นเตรียมเครอื่ งมอื 1. ผู้เรียนเตรยี ม 1. ผ้เู รยี น 1. ผู้เรยี น
พิสัย (K) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกบั การ เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์อยา่ ง ปฏิบัตงิ านดว้ ย ปฏบิ ตั ิงานดว้ ย
ทำงานด้วยความปลอดภัย เหมาะสมกบั การทำงาน ความไม่ประมาท ความไม่ประมาท
2.ผเู้ รียนเลอื กใชอ้ ุปกรณท์ น่ี ำมา ดว้ ยความปลอดภยั 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบกับเคร่ืองเสยี งไดอ้ ยา่ ง 2. ผเู้ รยี นปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถกู ตอ้ ง ความไมป่ ระมาท ต่อบุคคลอ่นื ตอ่ บุคคลอื่น
3. ผู้เรียนอธิบายการขยายกำลัง
คลนื่ เสียงด้วยทรานซิสเตอร์
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวดั พัทลุง
30
จดุ มุง่ หมาย สมดุลและพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านส่งิ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นทักษะ 1. ผู้เรียนเตรยี มเครอ่ื งมือ 1. ผู้เรยี นเตรียม 1. ผเู้ รยี น 1. ผเู้ รียน
พสิ ัย (P) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับการ เครื่องมืออุปกรณ์อย่าง ปฏิบัตงิ านด้วย ปฏบิ ตั ิงานด้วย
ทำงานดว้ ยความปลอดภัย เหมาะสมกับการทำงาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
2.ผเู้ รียนเลือกใชอ้ ุปกรณ์ที่นำมา ดว้ ยความปลอดภัย 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
ทดสอบกบั เครือ่ งเสียงไดอ้ ยา่ ง 2. ผเู้ รียนปฏบิ ัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ถูกตอ้ ง ความไม่ประมาท ตอ่ บคุ คลอืน่ ตอ่ บคุ คลอ่นื
3. ผเู้ รียนอธบิ ายการขยายกำลงั 3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
คลื่นเสยี งดว้ ยทรานซิสเตอร์ กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
อื่น
ดา้ นจติ พิสยั 1. ผู้เรยี นเตรยี มเครื่องมือ 1. ผ้เู รียนเตรียม 1. ผูเ้ รียน 1. ผเู้ รียน
(A) อุปกรณ์อย่างเหมาะสมกับการ
เครื่องมอื อุปกรณอ์ ยา่ ง ปฏิบตั ิงานดว้ ย ปฏบิ ัติงานด้วย
ทำงานด้วยความปลอดภยั
2.ผู้เรียนเลอื กใชอ้ ุปกรณท์ ีน่ ำมา เหมาะสมกบั การทำงาน ความไม่ประมาท ความไมป่ ระมาท
ทดสอบกบั เครื่องเสียงไดอ้ ยา่ ง
ถกู ต้อง ด้วยความปลอดภยั 2. ผู้เรียนใช้วาจา 2. ผู้เรียนใช้วาจา
3. ผู้เรียนอธบิ ายการขยายกำลัง
คลน่ื เสยี งด้วยทรานซสิ เตอร์ 2. ผูเ้ รยี นปฏิบัติงานด้วย และกิริยาที่สุภาพ และกิริยาที่สุภาพ
ความไมป่ ระมาท ต่อบคุ คลอื่น ตอ่ บุคคลอ่ืน
3. ผู้เรียนใช้วาจาและ
กิริยาที่สุภาพต่อบุคคล
อื่น
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พทั ลุง
แผนการเรยี นรู้ที่ 6
หน่วยที่ 6 จำนวน 4 ชวั่ โมง สปั ดาห์ที่ 10
ช่ือวิชา เครื่องเสยี ง รหสั 20105 - 2008
ชอ่ื หนว่ ย . การขยายกำลังคล่นื เสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี
1. สาระสำคญั
วงจรขยายเสียงถูกสร้างมาใช้งานต่อเนื่องเรื่อยมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ทำให้วงจรที่สร้างใช้งานมี
ความหลายหลาย ทั้งวงจรและตวั อุปกรณ์ที่นำมาใช้งาน วงจรขยายเสียงด้วยตวั มอสเฟต กำลังและตัวไอซี
ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้งานมากขึ้น ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะด้วยคุณสมบัติที่ดีหลาย
ประการของอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด รวมถึงเกิดความสะดวกในการสร้างมาใช้งาน และได้อัตราขยาย
สญั ญาณเสยี งสง่ ออกเอาต์พุตมคี วามดงั เพ่มิ ข้นึ
วงจรขยายเสียงคลาส D ได้ถูกพัฒนาขนึ้ มาใช้งาน โดยใชห้ ลกั การทำงานทางด้านดิจิทัลเขา้ มา
ทดแทนหลกั การแบบแอนะลอก ทำใหส้ ามารถเพ่ิมอัตราขยายกำลงั ของเครื่องได้สูงเพ่ิมขน้ึ โดยใช้อุปกรณ์
สารก่ึงตัวนำที่ใช้ในการขยายเสยี งถูกผลติ ใสไ่ วใ้ นรปู ของตวั IC ทรี่ วมอุปกรณ์หลายชนิดไว้ภายใน ส่งผลให้
ใชอ้ ุปกรณใ์ นการทำงานไมม่ าก ง่ายและสะดวกในการประกอบวงจรใชง้ าน ในปจั จบุ นั บรษิ ทั ผู้ผลติ มอสเฟต
และไอซไี ดพ้ ฒั นาอุปกรณ์สารกึ่งตวั นำทใ่ี ชง้ านในด้านการขยายเสยี งออกมาให้ใช้งานเพิม่ มากขึน้ เกดิ ความ
สะดวกตอ่ การเลือกใช้งาน
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงการขยายกำลังคลนื่ เสียงด้วยมอสเฟต และไอซไี ด้
2. แสดงพฤติกรรม การมีวินัย ความมมี นุษยสัมพันธ์ ความเชอื่ ม่นั ในตนเอง
3. นำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. อธิบายการทำงานวงจรขยายเสียงด้วยมอสเฟตกำลังอย่างถกู ตอ้ งชัดเจน
2. อธบิ ายการทำงานวงจรขยายเสยี งดว้ ยไอซีกำลงั อยา่ งเปน็ ลำดบั ถกู ต้องชดั เจน
จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
1. อธบิ ายการทำงานวงจรขยายเสยี งคอมพลเี มนตารชี นิด OTL ด้วยมอสเฟตกำลงั ได้
2. อธิบายการทำงานวงจรขยายเสียงคอมพลีเมนตารีชนิด OCL ด้วยมอสเฟตกำลงั ได้
3. อธิบายการทำงานวงจรขยายเสียงด้วยไอซกี ำลังได้
วิทยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวัดพัทลงุ
32
4. บอกหลกั การทำงานเคร่อื งขยายเสียงคลาส D ได้
5. อธิบายการทำงานวงจรขยายเสียงคลาส D ได้
6. เขียนวงจรการขยายเสยี งคลาส D แบบตา่ ง ๆ ได้
7. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และคุณลักษณะอนั พงึ
ประสงคท์ ่สี ามารถสังเกตเห็นไดใ้ นด้านการมวี นิ ยั ความมีมนุษยสัมพันธ์ ความเช่ือมัน่ ในตนเอง
4. สาระการเรยี นรู้
1. วงจรขยายเสียงคอมพลเี มนตารชี นิด OTL ด้วยมอสเฟตกำลงั
2. วงจรขยายเสียงคอมพลีเมนตารชี นดิ OCL ดว้ ยมอสเฟตกำลัง
3. วงจรขยายเสยี งด้วยไอซกี ำลัง
4. เครือ่ งขยายเสียงคลาส D
5. วงจรขยายเสยี งคลาส D
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
สอนคร้ังที่ 10 ชว่ั โมงที่ 37 - 40
ขัน้ นำเข้าส่บุ ทเรียน
1. ครูเรียกชื่อ สำรวจการแต่งกายของผู้เรียน การเตรียมอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทึกลงใน
แบบประเมินผลคุณธรรมและจริยธรรม
2. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้และความสำคัญของเน้ือหาในหนว่ ยการเรยี นรู้
3. ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น
4. ครูผู้สอนให้ผูเ้ รียนเตรียมอปุ กรณ์การเรยี น
ขั้นสอน
5. ครผู ู้สอนใช้ส่อื จากเอกสารทใี่ ช้ในการเรยี นวิชาเครือ่ งเสยี ง
6. ครผู ู้สอนใหผ้ เู้ รียนศึกษาจากใบความรู้เรอื่ งการขยายกำลังคลื่นเสียงด้วยมอสเฟต และไอซี
ในใบความรู้ที่ 6 ปฏิบัติใบงานการทดลองที่ 6 วงจรขยายเสียงด้วย IC กำลัง แบบฝึกหัด และ
แบบทดสอบเร่ืองการขยายกำลังคลน่ื เสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี
ขน้ั สรปุ
7. ครูผสู้ อนสรปุ ทบทวนหวั ขอ้ ต่าง ๆ ในใบความรู้ที่ 6 และตอบคำถามทีผ่ ู้เรยี นถาม
8. ครูผู้สอนเนน้ ยำ้ ผู้เรยี นตระหนักถึงหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและคา่ นิยมของคนไทย 12
ประการ ในส่วนของการมีวินยั ความมมี นุษยสัมพันธ์ ความเชื่อมั่นในตนเอง ของการ
ปฏบิ ัติงาน
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พัทลุง
33
6. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. PowerPoint การขยายกำลังคล่นื เสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี
2. หนังสือเครื่องเสียง
3. ใบความรู้เร่ืองการขยายกำลงั คล่ืนเสียงด้วยมอสเฟต และไอซี
4. แบบฝึกหัดเรอื่ งการขยายกำลงั คลน่ื เสียงดว้ ยมอสเฟต และไอซี
5. แบบทดสอบเรื่องการขยายกำลงั คลืน่ เสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี
6. ใบงานการทดลองที่ 6 วงจรขยายเสยี งดว้ ย IC กำลงั
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
หลักฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน
1. ใบงานการทดลองที่ 6. วงจรขยายเสยี งดว้ ย IC กำลงั
2. แบบฝกึ หัดเรือ่ งการขยายกำลงั คลนื่ เสยี งด้วยมอสเฟต และไอซี
3. แบบทดสอบเรือ่ งการขยายกำลังคล่นื เสยี งดว้ ยมอสเฟต และไอซี
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครือ่ งมอื วัดผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมินกจิ กรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี น
ร่วมกันประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. แบบประเมนิ ผลการทำแบบทดสอบท้ายบท เกณฑผ์ ่าน 60% ขนึ้ ไป
2. แบบประเมินกิจกรรมและใบงานการทดลอง
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ
34
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรยี นรู้
2 ปญั หาท่ีพบ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวดั พทั ลงุ
35
ผลทีจ่ ะเกิดข้ึนกบั นกั ศกึ ษาจากการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ทู บ่ี ูรณาการหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
1. นักศกึ ษาจะได้ฝึกคดิ และฝึกปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
เงอ่ื นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม
ความรู้ท่ีผเู้ รยี นตอ้ งมีก่อนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนกั เรยี นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขยาย ผูเ้ รียนมีการมวี ินยั ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความเช่อื ม่ัน
กำลังคลนื่ เสียงดว้ ยมอสเฟต ในตนเอง ในการปฏิบตั ิงาน การบรู ณาการกบั คา่ นยิ มหลกั
- ผู้เรียนมีความรู้และเข้าใจการขยายกำลังคลื่น ของคนไทย 12 ประการ
เสียงดว้ ยไอซี
ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ความมภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี
1. ผู้เรียนเตรียมเครือ่ งมืออุปกรณ์
อยา่ งเหมาะสมกบั การทำงานด้วย 3. ผู้เรียนอธิบายการขยายกำลัง 5. ผเู้ รยี นปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความไมป่ ระมาท
ความปลอดภัย
2.ผู้เรยี นเลือกใช้อุปกรณ์ท่ีนำมา คลน่ื เสียงด้วยมอสเฟต 6. ผู้เรียนใช้วาจาและกิริยาที่สุภาพต่อ
ทดสอบกบั เครื่องเสียงได้อย่างถูกต้อง
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายการขยายกำลัง บุคคลอื่น
คลน่ื เสยี งด้วยไอซี
2. ผูเ้ รยี นจะได้เรยี นรูก้ ารใชช้ ีวิตท่ีสมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง 4 มิติตามหลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
จุดมุง่ หมาย สมดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ดา้ นวัฒนธรรม
ดา้ นพทุ ธิ 1. ผู้เรียนเตรียมเคร่ืองมอื 1. ผู้เรยี นเตรียม 1. ผู้เรยี น 1. ผูเ้ รียน
พิสยั (K) อุปกรณ์อยา่ งเหมาะสมกับการ เคร่อื งมืออุปกรณ์อย่าง ปฏิบตั งิ านด้วย ปฏบิ ตั ิงานดว้ ย
ทำงานด้วยความปลอดภัย เหมาะสมกบั การทำงาน ความไมป่ ระมาท ความไม่ประมาท
2.ผู้เรียนเลือกใช้อุปกรณ์ท่ีนำมา ด้วยความปลอดภยั 2. ผเู้ รยี นใช้วาจา 2. ผ้เู รียนใชว้ าจา
ทดสอบกับเครื่องเสียงได้อย่าง 2. ผ้เู รียนปฏบิ ตั ิงานด้วย และกิริยาท่ีสภุ าพ และกริ ิยาท่ีสุภาพ
ถูกตอ้ ง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บคุ คลอ่นื ต่อบุคคลอ่นื
3. ผู้เรียนอธิบายการขยายกำลงั 3. ผ้เู รียนใชว้ าจาและ
คล่ืนเสยี งดว้ ยมอสเฟต กริ ิยาทสี่ ภุ าพตอ่ บุคคล
4. ผเู้ รียนอธิบายการขยายกำลัง อื่น
คลนื่ เสียงดว้ ยไอซี
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแกว้ จังหวดั พัทลุง
36
จุดมุ่งหมาย สมดุลและพรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสังคม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวัฒนธรรม
1. ผูเ้ รียน
ดา้ นทักษะ 1. ผ้เู รยี นเตรียมเครอ่ื งมอื 1. ผเู้ รียนเตรยี ม 1. ผเู้ รียน ปฏิบัตงิ านด้วย
ความไม่ประมาท
พิสยั (P) อปุ กรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกบั การ เครื่องมืออุปกรณ์อย่าง ปฏบิ ัตงิ านดว้ ย 2. ผเู้ รยี นใชว้ าจา
และกริ ิยาทสี่ ภุ าพ
ทำงานดว้ ยความปลอดภัย เหมาะสมกับการทำงาน ความไมป่ ระมาท ต่อบคุ คลอื่น
2.ผู้เรียนเลือกใช้อุปกรณ์ที่นำมา ด้วยความปลอดภัย 2. ผูเ้ รียนใชว้ าจา 1. ผู้เรยี น
ปฏบิ ัติงานดว้ ย
ทดสอบกับเครื่องเสียงได้อย่าง 2. ผู้เรียนปฏบิ ัตงิ านด้วย และกิรยิ าทีส่ ภุ าพ ความไม่ประมาท
2. ผู้เรียนใช้วาจา
ถกู ต้อง ความไม่ประมาท ตอ่ บุคคลอ่นื และกิริยาท่ีสุภาพ
ตอ่ บุคคลอ่ืน
3. ผู้เรียนอธิบายการขยายกำลัง 3. ผู้เรียนใชว้ าจาและ
คลนื่ เสยี งดว้ ยมอสเฟต กิริยาทส่ี ุภาพตอ่ บุคคล
4. ผ้เู รียนอธบิ ายการขยายกำลัง อื่น
คลื่นเสยี งดว้ ยไอซี
ดา้ นจิต 1. ผู้เรยี นเตรียมเครือ่ งมอื 1. ผ้เู รียนเตรยี ม 1. ผู้เรยี น
พสิ ยั อุปกรณอ์ ยา่ งเหมาะสมกบั การ เครื่องมืออปุ กรณอ์ ยา่ ง ปฏบิ ตั งิ านด้วย
(A) ทำงานด้วยความปลอดภัย เหมาะสมกับการทำงาน ความไมป่ ระมาท
2.ผู้เรียนเลือกใช้อุปกรณ์ท่ีนำมา ดว้ ยความปลอดภัย 2. ผู้เรยี นใชว้ าจา
ทดสอบกับเครื่องเสียงได้อย่าง 2. ผ้เู รียนปฏิบตั งิ านด้วย และกิริยาทส่ี ุภาพ
ถกู ตอ้ ง ความไมป่ ระมาท ตอ่ บุคคลอ่ืน
3. ผู้เรียนอธิบายการขยายกำลัง 3. ผูเ้ รยี นใชว้ าจาและ
คลน่ื เสียงดว้ ยมอสเฟต กริ ยิ าท่สี ุภาพต่อบุคคล
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายการขยายกำลัง อื่น
คลน่ื เสียงดว้ ยไอซี
วิทยาลัยการอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พัทลงุ
แผนการเรยี นรู้ท่ี 7
หนว่ ยท่ี 7 จำนวน 8 ชั่วโมง สปั ดาห์ท่ี 11-12
ชื่อวชิ า เคร่ืองเสยี ง รหสั 20105 - 2008
ชอื่ หน่วย การเชอื่ มต่อโดยตรง ลิมติ เตอร์ และการป้อนกลับ
1. สาระสำคัญ
การเชื่อมต่อโดยตรง เป็นวิธีการต่อเชื่อมวงจรขยายเสียงเข้าด้วยกัน โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ มากีด
ขวางการเชื่อมต่อ ด้วยการนำเอาต์พุตของวงจรขยายเสียงที่ 1 ต่อเข้าอินพุตของวงจรขยายเสียงที่ 2
โดยตรง ข้อดีของวงจร คือสัญญาณเสียงทุกความถี่สามารถส่งผ่านไปได้ทั้งหมด ไม่เกิดการลดทอนขณะ
ส่งผ่านไป ข้อเสียของวงจร คือจุดเชื่อมต่ออาจไม่เหมาะสมกันเป็นสาเหตุของการสูญเสียสัญญาณในการ
ส่งผ่านได้ง่าย จุดเชื่อมต่อไม่มีเสถียรภาพ การเชื่อมต่อโดยตรงสามารถจัดรูปแบบวงจรทำงานได้หลาย
รูปแบบ และสามารถนำอปุ กรณส์ ารกงึ่ ตัวนำหลายชนิดมาใช้งานในการเชอ่ื มตอ่ โดยตรงได้
ลิมิตเตอรเ์ ปน็ ตวั จำกดั ความแรงสัญญาณ สรา้ งขน้ึ มาใชง้ านในรปู วงจรจำกัด หรอื เรยี กได้อกี ชื่อว่า
วงจรคอมเพรสเซอร์ โดยเป็นตัวกำหนดขนาดความแรงของสัญญาณที่ส่งเข้ามา ให้มีความแรงไม่เกินค่าที่
กำหนดส่งออกเอาต์พตุ ช่วยป้องกันสัญญาณขนาดใหญ่ปอ้ นเข้ามา มีผลต่อการชำรุดเสียหายของอุปกรณ์
หรอื วงจรทำงานได้
การป้อนกลับแบบลบ คือการนำสัญญาณเอาต์พุตบางส่วนป้อนกลับมาเข้าอินพุต ในลักษณะ
สัญญาณที่มีเฟสตรงข้ามกับสัญญาณอินพุต นำไปรวมเข้ากับสัญญาณอินพุตที่ป้อนเข้ามา ทำให้เกิดการ
หักล้างกันได้สัญญาณออกเอาต์พุตมีระดับความแรงลดลง มีผลต่ออัตราขยายสัญญาณทั้งหมดของ
วงจรขยายลดลงตามไปดว้ ย เปน็ การช่วยลดทอนอตั ราขยายสญั ญาณของวงจรให้ต่ำลง วงจรทำงานมคี วาม
คงทีส่ ม่ำเสมอ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงการเช่ือมตอ่ โดยตรงลิมิตเตอร์ และป้อนกลับได้
2. แสดงพฤตกิ รรม การตรงต่อเวลา การอดทนอดกลั้น ความสนใจใฝ่รู้
3. นำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไป ใชใ้ นการปฏบิ ัติงาน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
จดุ ประสงคท์ ั่วไป
1. บอกวธิ กี ารเชอ่ื มตอ่ โดยตรงแต่ละแบบอย่างละเอยี ดถูกตอ้ ง
2. อธิบายการทำงานของวงจรลมิ ิตเตอร์แตล่ ะชนิดอยา่ งถูกตอ้ งชดั เจน
วิทยาลยั การอาชพี บางแกว้ จงั หวัดพัทลงุ
38
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. บอกหลักการตอ่ แบบคาสเคดได้
2. บอกวธิ ีการเชือ่ มตอ่ โดยตรงได้
3. อธิบายการทำงานของวงจรลมิ ติ เตอรไ์ ด้
4. บอกชนดิ ของการป้อนกลบั ได้
5. อธิบายการทำงานของวงจรการปอ้ นกลบั แบบลบได้
6. เขยี นวงจรการเชอื่ มตอ่ แบบตา่ ง ๆ ได้
7. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และคุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์ท่ีสามารถสังเกตเหน็ ได้ในด้านการตรงตอ่ เวลา การอดทนอดกลน้ั ความสนใจใฝ่รู้
4. สาระการเรยี นรู้
1. การตอ่ แบบคาสเคด
2. การเช่ือมตอ่ โดยตรง
3. ลิมติ เตอร์
4. การปอ้ นกลับ
5. การป้อนกลบั แบบลบ
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
สอนคร้งั ท่ี 11 - 12 ช่วั โมงที่ 41 – 48
ขัน้ นำเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครเู รยี กช่ือ สำรวจการแต่งกายของผ้เู รยี น การเตรยี มอุปกรณ์การเรียน พร้อมบันทกึ ลงใน
แบบประเมินผลคณุ ธรรมและจริยธรรม
2. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละความสำคัญของเน้อื หาในหน่วยการเรียนรู้
3. ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ครูผูส้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นเตรยี มอปุ กรณก์ ารเรยี น
ข้ันสอน
5. ครผู ้สู อนใช้สอื่ จากเอกสารทใ่ี ช้ในการเรยี นวชิ าเคร่ืองเสียง
6. ครูผ้สู อนให้ผู้เรยี นศึกษาจากใบความรู้เรื่องการเช่ือมต่อโดยตรงลมิ ิตเตอร์ และปอ้ นกลบั ในใบ
ความรู้ท่ี 7 ปฏิบัติใบงานการทดลองท่ี 7 วงจรป้อนกลับแบบลบชนดิ ป้อนกลับแรงดนั ไฟฟ้าแบบอนุกรม
ทำแบบฝึกหดั และแบบทดสอบ การเชื่อมตอ่ โดยตรงลมิ ติ เตอร์ และปอ้ นกลบั
ข้ันสรุป
7. ครผู ูส้ อนสรปุ ทบทวนหัวขอ้ ต่าง ๆ ในใบความรทู้ ี่ 7 และตอบคำถามทผี่ เู้ รยี นถาม
วทิ ยาลัยการอาชพี บางแก้ว จังหวัดพทั ลุง
39
8. ครผู ู้สอนเนน้ ย้ำผ้เู รยี นตระหนกั ถงึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและ ค่านยิ มของคนไทย
12 ประการ ในสว่ นของการตรงตอ่ เวลา การอดทนอดกลั้น ความสนใจใฝ่รู้ ของการ ปฏิบัตงิ าน
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. PowerPoint การเชื่อมต่อโดยตรงลิมติ เตอร์ และปอ้ นกลบั
2. หนังสอื เครื่องเสยี ง
3. ใบความรู้เรอื่ งการเชอ่ื มต่อโดยตรงลิมิตเตอร์ และปอ้ นกลับ
4. แบบฝกึ หัดเรอ่ื งการเชอ่ื มต่อโดยตรงลมิ ติ เตอร์ และป้อนกลับ
5. แบบทดสอบเรอื่ งการเชอื่ มต่อโดยตรงลมิ ิตเตอร์ และปอ้ นกลบั
6. ใบงานการทดลองที่ 7 วงจรปอ้ นกลบั แบบลบชนดิ ปอ้ นกลบั แรงดนั ไฟฟ้าแบบอนุกรม
7. หลักฐานการเรยี นรู้
หลักฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
หลกั ฐานการปฏบิ ัติงาน
1. ใบงานการทดลองที่ 7 วงจรปอ้ นกลับแบบลบชนดิ ป้อนกลับแรงดนั ไฟฟ้าแบบอนกุ รม
2. แบบฝึกหัดเรอ่ื งการเช่ือมต่อโดยตรงลมิ ิตเตอร์ และป้อนกลบั
3. แบบทดสอบเรื่องการเชอื่ มต่อโดยตรงลมิ ติ เตอร์ และปอ้ นกลบั
8. การวัดผลประเมินผล
วิธวี ัดผล
1. ตรวจแบบทดสอบทา้ ยบท
2. ตรวจใบงานการทดลอง
3. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เครื่องมอื วัดผล
1. แบบประเมินผลการทำแบบทดสอบท้ายบท
2. แบบประเมนิ กิจกรรมและใบงานการทดลอง
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น
ร่วมกนั ประเมิน
วทิ ยาลยั การอาชพี บางแก้ว จงั หวดั พทั ลงุ