The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 124 ณัฏชนน เล็งไทสงค์, 2024-02-05 22:56:30

แผน 2 สมบูรณ์

แผน 2 สม

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. เตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) สามารถแบ่งได้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังนี้ 1. หัวข้อที่อยู่ในความสนใจในช่วงนั้น ๆ 2. How To 3. รายงานผล 4. การเปรียบเทียบ 5. การเปลี่ยนแปลงของเวลา 6. การให้ความรู้เชิงวิชาการ 7. สรุปภาพรวม 8. การประชาสัมพันธ์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายลักษณะของข้อมูลที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ (K) 2. เลือกข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้(P) 3. เห็นความสำคัญของการเลือกเนื้อหาเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) 2. ตัวอย่างเนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8


5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรมนำเสนอ 2. ใบงานที่ 10 เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เช่น “นักเรียนคิดว่าเนื้อหาแบบไหนที่ เหมาะสมในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic)” ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน


2. ผู้สอนอธิบายว่า เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) สามารถแบ่งได้ตามวัตถุประสงค์ ของการใช้งาน ได้ดังนี้ 1. หัวข้อที่อยู่ในความสนใจในช่วงนั้น ๆ 2. How To 3. รายงานผล 4. การเปรียบเทียบ 5. การเปลี่ยนแปลงของเวลา 6. การให้ความรู้เชิงวิชาการ 7. สรุปภาพรวม 8. การประชาสัมพันธ์ 3. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น 8 กลุ่ม เพื่อทำกิจกรรมนำเสนอ โดยมอบหมายให้แต่ละกลุ่มหาข้อมูล และ ตัวอย่าง เกี่ยวกับ เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิกแต่ละประเภทตามที่กลุ่มนั้น ๆ ได้รับ มอบหมาย 4. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 5. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อได้เนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับนำมาจัดทำอินโฟกราฟิก (Infographic) ขั้นตอนต่อไป ควรกำหนด Layout เพื่อวางโครงร่างในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) 1. 1. ผู้สอนให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน พร้อมกับแจกใบงานที่ 10 เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟ กราฟิก (Infographic) เพื่อให้แต่ละกลุ่มสรุปเนื้อหาของกลุ่มอื่น ๆ ลงในใบงาน 2. ผู้สอนให้แต่ละกลุ่มนำเสนอ โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม 3. แต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปราย สรุปสิ่งที่ได้จากการนำเสนอของกลุ่มอื่น ๆ จากใบงานที่ 10 เนื้อหาที่ เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) 4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2


1. หัวข้อที่อยู่ในความสนใจในช่วงนั้น ๆ เนื้อหาประเภทนี้มักเป็นเรื่องราวที่เป็นประเด็นสำคัญ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งซึ่งผู้คนให้ความสนใจกันมาก อาจเป็นข่าว หรือสถานการณ์ที่กำลังเป็น ประเด็นร้อนแรงในขณะนั้น เช่น การแข่งขันโอลิมปิก การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี 2. How To หรือ วิธีการใช้งานต่าง ๆ คือเนื้อหาที่ตอบคำถามที่ว่า “ทำอย่างไร?” มีวิธีการใช้ งานหรือขั้นตอนการใช้งานอย่างไร 3. รายงานผล เนื้อหาประเภทนี้มักจะเป็นการรายงานผลเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการ อธิบายผลสำรวจ สถิติ การจัดอันดับข้อมูล หรือการถ่ายทอดงานวิจัย เช่น รายงานผลการใช้สินค้า หรือบริการ อันดับหนังทำรายได้สูงสุดแห่งปี 4. การเปรียบเทียบ จะเป็นการเปรียบเทียบของสองสิ่งขึ้นไป เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง เช่น การเปรียบเทียบแนวคิดระหว่างพรรคการเมือง การเปรียบเทียบบริการของ Facebook กับ Google+ การเปรียบเทียบกาแฟกับชา 5. การเปลี่ยนแปลงของเวลา เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ตามลำดับเวลามักเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมา หรือวิวัฒนาการเพื่อให้เห็นภาพ ลำดับเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจง่าย 6. การให้ความรู้เชิงวิชาการ เป็นอินโฟกราฟิกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเฉพาะทางหรือวงการใด วงการหนึ่ง หรือเนื้อหาประเภทบทความงานเขียนเฉพาะทางที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเขียนเพื่อสร้างความ น่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น บทวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ระบบพลังงานนิวเคลียร์ 7. สรุปภาพรวม เป็นเนื้อหาความรู้ที่สรุปเกี่ยวกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งซึ่งเป็นเนื้อหาที่รวบรวมเอา แต่ประเด็นที่สำคัญมาย่อรวมความไว้ เช่น รวมประเทศที่น่าเที่ยว สรุปการเลือกตั้ง 8. การประชาสัมพันธ์ เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ ต่าง ๆ ที่เป็นการให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการ ที่อธิบายรายละเอียดข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ อธิบาย สรรพคุณ อธิบายส่วนประกอบ ข้อดี หรือจุดแตกต่างของสินค้า หรือบริการนั้น ๆ เช่น ทำความรู้จัก โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง กาแล็คซี่ โน๊ต 8 บริการอัตโนมัติของธนาคาร ขั้นสรุป


5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า เนื้อหาที่เหมาะสำหรับงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จะเป็นเรื่อง ใดก็ได้ โดยส่วนมากเป็นเรื่องราวที่อยู่รอบ ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาด้านวิชาการหรือบันเทิง เช่น การเมือง ธุรกิจ อาหาร ปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ เทคโนโลยี กีฬา ดนตรี ภาพยนตร์ 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. กิจกรรมนำเสนอ 2. ใบงานที่ 10 เนื้อหาที่เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 10 เนื้อหาที่ เหมาะสมกับอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินผลงาน จากการทำกิจกรรมนำเสนอ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการทำกิจกรรมนำเสนอ แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การเตรียมเนื้อหา เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. เตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ขั้นตอนการเตรียมข้อมูลที่ใช้ในอินโฟกราฟิก มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 2 การอ่าน และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ขั้นตอนที่ 3 การปรับปรุงข้อมูลและคัดสิ่งที่ไม่ต้องการออก ขั้นตอนที่ 4 การจัดลำดับและออกแบบโครงสร้างของข้อมูล 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายได้ว่าขั้นตอนการเตรียมข้อมูลที่ใช้ในอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ (K) 2. เลือกข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้(P) 3. เห็นความสำคัญของการเตรียมข้อมูลเนื้อหาเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. หลักการสำคัญของการเตรียมข้อมูลสำหรับทำอินโฟกราฟิก 2. ขั้นตอนการเตรียมข้อมูลที่ใช้ในอินโฟกราฟิก 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9


4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 11 5W1H 2. ใบงานที่ 12 การเตรียมข้อมูล 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน และเพื่อทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน เช่น “นักเรียนคิดว่าข้อมูลที่นำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก ควรมีลักษณะอย่างไร” แนวคำตอบ 1. ข้อมูลต้องถูกต้อง 2. ข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน


2. ผู้สอนอธิบายว่า หัวใจของการเตรียมข้อมูลหรือเนื้อหาสำหรับทำอินโฟกราฟิก มี 4 ข้อ คือ 1. ข้อมูลต้องถูกต้อง ทันสมัย มาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 2. ข้อมูลต้องตรงประเด็น สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา สั้น และกระชับที่สุด 3. เลือกใช้คำศัพท์ทั่วไป ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย 4. มีความกลมกลืนเหมาะสมกับบริบท ตรงต่อรสนิยมของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ 3. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอการเตรียมเนื้อหาสำหรับอินโฟกราฟิก จากลิงค์https://www.youtube.com/watch?v=2cwWPRjSy8g&t=133s 4. ผู้สอนแจกใบงานที่ 11 5W1H พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียนกำหนดหัวข้อที่จะ นำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก โดยใช้หลักการ 5W1H 5. ผู้สอนยกตัวอย่าง การใช้หลักการ 5W1H 6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 7. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมานำเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอนร่วมกันเสนอแนะแสดง ความคิดเห็น 1. ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2


1. ผู้สอนแจก ใบงานที่ 12 เตรียมข้อมูล พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียนทำตามขั้นตอน การเตรียมข้อมูลที่ใช้ในอินโฟกราฟิก (Infographic) ซึ่ง มี 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 2 การอ่าน และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ขั้นตอนที่ 3 การปรับปรุงข้อมูลและคัดสิ่งที่ไม่ต้องการออก ขั้นตอนที่ 4 การจัดลำดับและออกแบบโครงสร้างของข้อมูล 2. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวมข้อมูล จะต้องรวบรวมข้อมูลแบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจาก โซเชียลมีเดีย สถิติ งานวิจัย เอกสารตำรา บทความ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ และข้อมูลสาธารณะ จากเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อให้เห็นถึงมุมมองที่หลากหลาย และมีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ ขั้นตอนที่ 2 การอ่าน และตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด เมื่อรวบรวมข้อมูลมาแล้วควรทำการอ่าน ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพราะจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของประเด็นสำคัญและต้องทำการ ตรวจสอบข้อมูลว่าข้อมูลที่ได้มา ถูกต้องตรงประเด็น ไม่ล้าสมัย ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลว่าเป็น แหล่งที่น่าเชื่อถือได้ รวมถึงการตรวจพิสูจน์อักษรให้ถูกต้องเสมอ ขั้นตอนที่ 3 การปรับปรุงข้อมูลและคัดสิ่งที่ไม่ต้องการออก ต้องมีมุมมองและเห็นคุณค่าใน รายละเอียดของข้อมูลที่ชัดเจนหากพิจารณาแล้วว่าข้อมูลส่วนไหนไม่จำเป็นให้ตัดออก ได้แก่ 1. การตัดคำฟุ่มเฟือยหรือคำที่มีความหมายซ้ำซ้อนทิ้ง 2. การตัดการยกตัวอย่างที่ไม่จำเป็น ขั้นตอนที่ 4 การจัดลำดับและออกแบบโครงสร้างของข้อมูล เป็นการจัดระเบียบและเรียบเรียง ข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของโครงสร้างการนำเสนอข้อมูลเป็นลำดับชั้น โดยนำข้อมูลที่สำคัญและภาพที่ สื่อความหมายมานำเสนอตามลำดับขั้นตอนที่ออกแบบไว้ 3. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 4. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมานำเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะ แสดง ความคิดเห็น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำข้อเสนอแนะไปพัฒนาปรับปรุงเนื้อหา ให้มีประสิทธิภาพพร้อมที่จะนำไปจัดทำอินโฟกราฟิก (Infographic)


5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า ข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการทำอินโฟกราฟิก (Infographic) จะต้อง ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ และสังเคราะห์ตามขั้นตอนการเตรียมข้อมูลที่ใช้ในอินโฟกราฟิก (Infographic) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะนำไปจัดทำอินโฟกราฟิก (Infographic) 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ การเตรียมเนื้อหาสำหรับอินโฟกราฟิก จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=2cwWPRjSy8g&t=133s 2. ใบงานที่ 11 5W1H 3. ใบงานที่ 12 เตรียมข้อมูล 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 11 5W1H แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 12 เตรียมข้อมูล แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการทำกิจกรรมในห้องเรียน แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ขั้นสรุป


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 DRAFT เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด Draft Infographic คือ อินโฟกราฟิก (Infographic) ฉบับร่าง เป็นการลำดับเรื่องราว กำหนด Layout รูปแบบการจัดวางข้อความ รวมไปถึงการกำหนดว่าจะให้มีไอคอนอะไร มีรูปอะไรวางลงไปในงานบ้าง ซึ่งการ Draft จะมีทั้งแบบวาดมือ หรือการใช้โปรแกรมเพื่อช่วยในการ Draft ขั้นตอนในการ Draft Infographic ประกอบด้วย 1. กำหนด Layout 2. กำหนดขนาด และรูปแบบฟ้อนต์ (Font) 3. วาดโครงร่างของภาพ 4. กำกับข้อความ อธิบายสิ่งที่ต้องการ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายได้ว่าการ Draft Infographic คืออะไร (K) 2. Draft Infographic เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้(P) 3. เห็นความสำคัญของการ Draft Infographic ก่อนการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. Draft Infographic 2. ขั้นตอนการ Draft Infographic 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10


1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรม DRAFT 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน เช่น “Layout ที่ใช้ในการออกแบบอินโฟ กราฟิก (Infographic) มีกี่แบบ และมีแบบใดบ้าง?” แนวคำตอบ : การออกแบบอินโฟกราฟิก ให้ดูน่าสนใจ สามารถออกแบบได้ด้วย เทคนิค 9 Layout ประกอบด้วย แบบที่ 1 Visualized Article Layout แบบที่ 2 Listed Layout แบบที่ 3 Comparison Layout ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน


แบบที่ 4 Structure Layout แบบที่ 5 Timeline Layout แบบที่ 6 Flowchart Layout แบบที่ 7 Roadmap Layout แบบที่ 8 Useful Bait Layout แบบที่ 9 NumberPorn Layout 2. ผู้สอนอธิบายว่า Draft Infographic คือ อินโฟกราฟิก (Infographic) ฉบับร่าง ซึ่งจะมีการลดทอน รายละเอียด ไม่ได้เน้นการวาดเสมือนจริง หรือการลงสี เป็นการลำดับเรื่องราว กำหนด Layout รูปแบบการจัดวางข้อความ รวมไปถึงการกำหนดว่าจะให้มีไอคอนอะไร มีรูปอะไรวางลงไปในงานบ้าง ซึ่งการ Draft จะมีทั้งแบบวาดมือ หรือการใช้โปรแกรมเพื่อช่วยในการ Draft ขั้นสอน


ตัวอย่างการ Draft Infographic หัวข้อ Work Focus Infographic 3. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอน ขั้นตอนในการ Draft Infographic พร้อมอธิบาย ขั้นตอนในการ Draft Infographic ประกอบด้วย 1. กำหนด Layout : เลือก Layout ที่เหมาะสมกับเนื้อหา


ตัวอย่าง การกำหนด Layout แบบ Timeline Layout 2. กำหนดขนาด และรูปแบบของตัวอักษร : ต้องกำหนดขนาด และรูปแบบของตัวอักษรให้ชัดเจน ยิ่งตัวใหญ่ สายตาของคนอ่านก็จะเห็นตรงส่วนนั้น ๆ ได้ก่อน เช่น เลขและหัวข้อแต่ละข้อ จะมี ขนาดใหญ่กว่าเนื้อหา เพื่อเป็นตัวกำหนดการเล่าเรื่อง 3. วาดโครงร่างของภาพ : วาดโครงร่างของภาพที่ต้องการใช้เป็นภาพประกอบ โดยไม่ต้องลง รายละเอียดของภาพ เพียงแค่วาดภาพเพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจได้ว่า คือภาพของอะไร ภาพ ของใคร และกำลังทำอะไรอยู่


ตัวอย่าง วาดโคร่างภาพของ สตีป จ็อบส์ กำลัง CHECK LIST SHOULD BE DO 4. กำกับข้อความ อธิบายสิ่งที่ต้องการ : หากมีส่วนของไอคอนต่าง ๆ จะวาดเป็นวงกลม หรือ สี่เหลี่ยม และเขียนข้อความกำกับไว้ด้านในว่าต้องการไอคอนลักษณะไหน 4. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำกิจกรรม DRAFT พร้อมอธิบายวิธีการทำกิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนนำเนื้อหาที่เตรียม ไว้จากใบงานที่ 12 การเตรียมข้อมูล มา Draft Infographic ตามขั้นตอนการ Draft Infographic 5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า การ Draft Infographic จะวาดมือ หรือใช้โปรแกรมเพื่อช่วยในการ Draft ก็ ได้ ซึ่งอาจใช้โปรแกรมที่ถนัดและเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ช่วยในการ Draft เช่น โปรแกรม Microsoft word โปรแกรม Microsoft PowerPoint


1. 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนออกมานำเสนอผลงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกัน เสนอแนะแสดงความคิดเห็น และนำข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ไปพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ 2. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ในขั้นตอนการ Draft Infographic สามารถใส่ไอเดียเพื่อดึงดูดความสนใจ ของผู้อ่านได้อย่างเต็มที่ และควรพิจารณาชิ้นงานอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะนำไปออกแบบในขั้นตอนต่อไป ซึ่ง ควรพิจารณาทั้งในด้านของข้อมูล และการออกแบบ • ด้านของข้อมูล (Content/Information) การเลือกข้อมูลเพื่อนำมาจัดทำอินโฟกราฟิก จะต้องคำถึงประเด็นที่สำคัญต่อไปนี้ 1. Useful: ต้องเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางที่ดีขึ้น 2. Insightful: ต้องมีคุณภาพ เนื้อหาต้องแน่น รู้ลึกและรู้จริง 3. Interesting: ต้องสดใหม่ ทันกระแส และมีความแปลกใหม่ 4. Reliable: ข้อมูลนั้น ๆ ต้องมีความน่าเชื่อถือมีที่มาที่ไป มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน • ด้านการออกแบบ (Design/Graphic) การออกแบบต้องมีรูปแบบ แบบแผน โครงสร้าง หน้าที่การทำงาน และความสวยงาม โดยออกแบบให้เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย และใช้ได้จริง 2. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า การ Draft Infographic ช่วยให้สามารถออกแบบอินโฟกราฟิกได้รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเมื่อวาดโครงร่าง จะเห็นข้อบกพร่องของชิ้นงาน และสามารถแก้ไขปรับปรุงได้ เป็นการตรวจสอบภาพรวมทั้งหมดก่อนออกแบบจริง 3. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. Slide สื่อการสอน ขั้นตอนในการ Draft Infographic ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสรุป


2. กิจกรรม DRAFT 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ผลงาน จากการทำ กิจกรรม DRAFT แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการทำกิจกรรม DRAFT แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ คือ เว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน ที่สามารถออกแบบและแก้ไขงานได้จากคอมพิวเตอร์ Tablet หรือแม้แต่ Smartphone ที่มีการเชื่อมต่อกับ อินเทอร์เน็ต เช่น 1. www.edrawsoft.com 2. www.easel.ly 3. www.infogram.com 4. www.piktochart.com 5. www.venngage.com 6. www.canva.com 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ได้ (K) 2. ออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) โดยใช้เครื่องมือแบบออนไลน์ได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 2. ตัวอย่าง เว็บไซต์ที่ให้บริการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11


1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 13 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 2. กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน เช่น “นักเรียนเคยใช้โปรแกรมอะไรในการ ทำงานนำเสนอบ้าง?” 2. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอEaselly เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=O-J7qjsNJ_4 ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน


3. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบ ออนไลน์ พร้อมอธิบายว่า เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ คือ เว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชัน ที่สามารถออกแบบและแก้ไขงานได้จากคอมพิวเตอร์ Tablet หรือ แม้แต่ Smartphone ที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น 1. www.edrawsoft.com 2. www.easel.ly 3. www.infogram.com 4. www.piktochart.com 5. www.venngage.com 6. www.canva.com 4. ผู้สอนแจกใบงานที่ 13 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเว็บไซต์ ที่ให้บริการ ออกแบบอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์โดยเลือกเว็บไซต์ที่นักเรียนสนใจ 5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม 6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) หรือ สื่อนำเสนออื่น ๆ ในรูปแบบออนไลน์ เพราะมีจุดเด่น คือ สะดวก และช่วยประหยัดเวลาในการ ทำงาน มีรูปภาพประกอบและเทมเพลต (Template) ให้เลือกใช้งาน และสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ลากและวาง (Drag and Drop) 7. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมานำเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น 8. ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย ถึง ข้อดี และข้อจำกัด ของการใช้เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟ กราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ ซึ่งข้อจำกัดที่ชัดเจนที่สุดของการใช้เครื่องมือในการสร้างงาน อินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ คือ หากไม่มีอินเทอร์เน็ตจะไม่สามารถใช้งานได้ 1. ชั่วโมงที่ 2


1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน เพื่อทำกิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์พร้อม อธิบายวิธีการทำกิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบอินโฟกราฟิก ใน หัวข้อ “Covid-19” โดยเลือกใช้เครื่องมือในการออกแบบอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ที่เหมาะสม 2. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ คือ สามารถใช้งานร่วมกันได้แบบ Real-time แม้จะอยู่คนละสถานที่ 3. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 4. ผู้สอนให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน และบอกอุปสรรคที่พบ ในการใช้เครื่องมือในการสร้างงาน อินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 9. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า การใช้เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบ ออนไลน์ มีข้อดี คือ สามารถทำงานร่วมกันแบบ Real-time ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งในทางเดียวกัน ข้อจำกัดของการใช้เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบ ออนไลน์ ก็คือ อินเทอร์เน็ต เพราะหากไม่มีอินเทอร์เน็ต เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ทันที 10. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ Easelly จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=O-J7qjsNJ_4 2. Slide สื่อการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 3. ใบงานที่ 13 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 4. กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ ขั้นสอน (ต่อ) ขั้นสรุป


10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 13 เครื่องมือที่ใช้ ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ตรวจ ผลงาน จากการทำ กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิก แบบออนไลน์ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการทำกิจกรรม สร้างงาน อินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ คือ โปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน ที่ต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ Tablet หรือ Smartphone ก่อน ถึงจะใช้งานได้ เช่น 1. โปรแกรม Photoshop 2. โปรแกรม illustrator 3. โปรแกรม PowerPoint 4. แอปพลิเคชัน Procreate 5. แอปพลิเคชัน ibispaint x 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ได้ (K) 2. ออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) โดยใช้เครื่องมือแบบออฟไลน์ได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้เครื่องมือออฟไลน์ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ 2. ตัวอย่าง โปรแกรมที่ใช้สร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12


2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 14 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ 2. กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน เช่น “นักเรียนเคยใช้งานโปรแกรมสำหรับ งานกราฟิกบ้างหรือไม่?” 2. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอPhotoshop Tutorials เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ชั ่วโมงที่ 1 ขนั้น าเขา้ส่บูทเรียน ขั้นสอน


3. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบ ออฟไลน์ พร้อมอธิบายว่า เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ คือ โปรแกรม หรือแอปพลิเคชัน ที่ต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ Tablet หรือ Smartphone ก่อน ถึง จะใช้งานได้ เช่น 1. โปรแกรม Photoshop 2. โปรแกรม illustrator 3. โปรแกรม PowerPoint 4. แอปพลิเคชัน Procreate 5. แอปพลิเคชัน ibispaint x 4. ผู้สอนแจกใบงานที่ 14 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานโปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน ที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ 5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม 6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันมีการพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ในงานกราฟิก 7. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมานำเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น และนำความรู้ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไปใช้ประโยชน์ต่อไป 1. 1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน เพื่อทำกิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์พร้อม อธิบายวิธีการทำกิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบอินโฟกราฟิก เพื่ออธิบายส่วนประกอบ ของพืช หรือ สัตว์ ที่นักเรียนสนใจ โดยเลือกใช้เครื่องมือในการออกแบบอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ ที่เหมาะสม ซึ่งขณะออกแบบให้แต่ละกลุ่มบันทึกหน้าจอ เพื่อนำมาตัดต่อเป็นคลิปวิดีโอที่เร่งความเร็ว ของวิดีโอ ให้อยู่ในระดับที่เร็วพอประมาณ ซึ่งจะได้เป็นชิ้นงานตามตัวอย่าง ตัวอย่าง https://www.youtube.com/watch?v=H-8P8XXoJqM ขั้นสอน (ต่อ) ชั ่วโมงที่ 2


2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 3. เมื่อครบกำหนดเวลาผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอของแต่ละกลุ่ม และให้ผู้เรียนกลุ่ม อื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น 4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า Offline เป็นระบบที่ถูกออกแบบมาโดยให้ตัวโปรแกรมและข้อมูลในการใช้ งานต่าง ๆ ถูกเก็บอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้งาน โดยเน้นการใช้งานบนเครื่อง คอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่มีการเข้าใช้งานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือสามารถเข้าใช้งานได้เพียงบาง ฟังก์ชันที่ถูกจำกัดไว้เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกันแบบ Real-Time เหมือนกับการใช้ เครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ 5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า การใช้งานเครื่องมือในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) ทั้งแบบแบบออฟไลน์ (Offline) และแบบออนไลน์ (Online) ต่างมีข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ออกไป นักเรียนสามารถพิจารณา และเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ Photoshop Tutorials 2. Slide สื่อการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ 3. ใบงานที่ 14 เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ 4. กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ 10. การวัดและประเมินผล ขั้นสรุป


วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 14 เครื่องมือที่ใช้ ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออฟไลน์ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ตรวจ ผลงาน จากการทำ กิจกรรม สร้างงานอินโฟกราฟิก แบบออฟไลน์ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการทำกิจกรรม สร้างงาน อินโฟกราฟิกแบบออฟไลน์ แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้งาน Canva ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 การสมัครใช้งาน Canva เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเกี่ยวกับการใช้งาน และประโยชน์ของโปรแกรม Canva ได้ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด Canva คือ แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิก (Graphic) ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานเพื่อใช้ลง Social Media, Presentation, งานสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงภาพเคลื่อนไหว เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ สามารถสมัครใช้งานด้วยบัญชีผู้ใช้ Facebook, Google mail (G-mail) หรือสมัครด้วยอีเมล์อื่น ๆ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกประโยชน์ของ Canva ได้ (K) 2. สมัครใช้งาน Canva ได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้Canva ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. Canva คือ แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิก (Graphic) 2. การสมัครใช้งาน Canva 3. ประโยชน์และข้อจำกัดของของ Canva 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13


4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรม สมัครใช้งาน Canva 2. ใบงานที่ 15 ประโยชน์และข้อจำกัดของ Canva 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอสรุป เส้นทางของ Canva เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=IscHLKJWres 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม เช่น “นักเรียนเคยใช้งาน Canva บ้างหรือไม่ ถ้าเคย ใช้ เคยใช้ทำอะไร” ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน


3. ผู้สอนอธิบายว่า Canva คือ แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิก (Graphic) ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานเพื่อ ใช้ลง Social Media, Presentation, งานสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงภาพเคลื่อนไหว เป็นเครื่องมือที่ใช้ ในการออกแบบงานอินโฟกราฟิก (Infographic) แบบออนไลน์ สามารถสมัครใช้งานด้วยบัญชีผู้ใช้ Facebook, Google mail (G-mail) หรือสมัครด้วยอีเมล์อื่น ๆ 4. ผู้สอนเปิด คลิปวิดีโอ การสมัครใช้งาน Canva พร้อมอธิบาย 1. เปิดเว็บไซต์ https://www.canva.com 2. เลือกสมัครใช้งาน 3. เลือกช่องทางการลงชื่อเข้าใช้ บัญชี Google บัญชี Facebook หรือ E-mail 1 3 2


5. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำกิจกรรม สมัครใช้งาน Canva พร้อมอธิบายวิธีการทำกิจกรรม คือ ให้ผู้เรียน สมัครใช้งาน Canva ตามขั้นตอนที่ผู้สอนแนะนำ 6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 7. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า Canva มีทั้งแบบฟรี และแบบมีค่าใช้จ่าย และมีการให้บริการสำหรับ บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียน หากเข้าใช้งานครั้งแรก Canva จะปรากฏหน้าต่าง ขึ้นมาให้ ทำตามขั้นตอน ดังนี้ เพื่อเข้าใช้งานสำหรับนักเรียน 1. เลือกใช้งาน สำหรับนักเรียน (Student) 2. เลือกระดับชั้นที่กำลังศึกษา 1 2


8. เมื่อสมัครการใช้งานสำเร็จ ผู้สอนให้ผู้เรียนลองสำรวจ Templates ต่าง ๆ บน Canva โดยที่ผู้สอน แนะนำว่า Canva มี Templates ให้เลือกกว่า 400,000 แบบ จากนักออกแบบมืออาชีพ 1. 1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน พร้อมกับแจกใบงานที่ 15 ประโยชน์และข้อจำกัดของ Canva พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้แต่ละกลุ่มช่วยกัน ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ประโยชน์ และข้อจำกัด ของ Canva โดยให้เวลา 20 นาที เมื่อครบกำหนดเวลา กลุ่มใดเขียนได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 3. เมื่อครบกำหนดเวลาผู้สอนให้ผู้เรียนกลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุดออกมานำเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียน กลุ่มอื่น ๆ ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น 4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า Canva มีข้อดีและจุดเด่น คือ มี Template ให้เลือกกว่า 60,000 แบบ ช่วยให้ชิ้นงานออกแบบมีคุณภาพเหมือนมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Social Post, Infographic, Resume, Presentation, Logo และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์ Tablet หรือ Smartphone และยัง รองรับภาษาไทย ในส่วนของข้อจำกัด ที่ชัดเจน คือ อินเทอร์เน็ต เนื่องจากการสร้างชิ้นงานบน Canva เป็นการทำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ทันทีและ มีค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้งานในบางฟังก์ชัน เช่น ภาพประกอบ รูปแบบของไฟล์ และอื่น ๆ ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสรุป


5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า Canva เป็นแพลตฟอร์มออกแบบกราฟิก (Graphic) ที่ช่วยให้การ ออกแบบเป็นเรื่องง่าย ใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถทำงานร่วมกันได้แบบ Real-Time มีการให้บริการทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าใช้จ่าย สามารถสมัครใช้งานด้วยบัญชีผู้ใช้ Facebook, Google mail (G-mail) หรือสมัครด้วยอีเมล์อื่น ๆ 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ สรุป เส้นทางของ Canva จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=IscHLKJWres 2. คลิปวิดีโอ การสมัครใช้งาน Canva 3. กิจกรรม สมัครใช้งาน Canva 4. ใบงานที่ 15 ประโยชน์และข้อจำกัดของ Canva 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 15 ประโยชน์ และข้อจำกัดของ Canva แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


ประเมินผลงาน จากการทำ กิจกรรม สมัครใช้งาน Canva แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการทำใบงานที่ 15 ประโยชน์และข้อจำกัดของ Canva แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคคล จากการทำใบงานที่ 15 ประโยชน์และข้อจำกัดของ Canva แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้งาน Canva ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 ส่วนประกอบหน้าต่างของ Canva เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกวิธีใช้งานเครื่องมือในโปรแกรม Canva ได้อย่างถูกต้อง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด หน้าต่างของ Canva ประกอบด้วยหน้าต่างการทำงานหลัก และหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงาน ออกแบบ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva ได้ (K) 2. เรียกใช้เมนูต่าง ๆ ในโปรแกรม Canva ได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้Canva ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva 2. ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 16 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva 2. ใบงานที่ 17 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนแนะนำว่า ในการเริ่มต้นการใช้งาน Canva ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้วิธีการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง จากลิงค์ https://www.canva.com/designschool/tutorials/getting-started/ โดยสามารถเลือกให้วิดีโอมีการแสดงข้อความบรรยายเป็นภาษาไทยได้ โดยไปที่ การตั้งค่า ที่มุม ด้านล่างขวามือของวิดีโอ เลือกคำบรรยาย เลือกแปลอัติโนมัติ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน


2. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ แนะนำส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva 3. ผู้สอนแจกใบงานที่ 16 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva พร้อมอธิบาย วิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียน บอกส่วนประกอบในหน้าต่างหลักของ Canva และอธิบายว่า แต่ละส่วนทำหน้าที่อะไรบ้าง 4. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 5. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่าอง Canva มี Template สำเร็จรูปไว้ให้พร้อม และครอบคลุมงานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Presentation, Resume, Report, Poster, Banner, แผ่นพับ, การ์ด, นามบัตร และ อื่น ๆ อีกมากมาย โดย Canva ได้สร้าง Template ใหม่ ๆ ออกมาอยู่ทุกวัน มากกว่า 400,000 แบบ 6. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมาอธิบายส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva พร้อมกับให้ผู้เรียน คนอื่น ๆ ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น 1. 1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ แนะนำส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva 2. ผู้สอนแจกใบงานที่ 17 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงาน คือ ให้ผู้เรียน บอกส่วนประกอบในหน้าต่างการทำงานย่อย ของ Canva และอธิบายว่าแต่ละส่วนทำหน้าที่อะไรบ้าง 3. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม ขั้นสอน (ต่อ) ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 2


4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่าหลักการใช้งานของ Canva คือการทำงานรูปแบบ “Drag-and-Drop” โดยให้ผู้ใช้สร้างหรือเลือก Template มาเป็นแบบ จากนั้น ใส่ข้อความ, ลากรูปภาพ หรือ Vector ที่ ต้องการมาใส่, เปลี่ยนสีให้เข้ากับงานของตน, และจัด Layout ต่าง ๆ ผ่านการลากเมาส์ไปมา และไม่จำเป็นต้องเซฟงาน ชิ้นงานจะถูกเซฟลงระบบโดยอัตโนมัติ เมื่อต้องการเรียกดูชิ้นงานที่เคยทำ หรือต้องการแก้ไข สามารถดูได้จากหน้าแรก (Home) ในส่วนของ “งานออกแบบของคุณ” 5. ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมาอธิบายส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบ ของ Canva พร้อมกับให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น 6. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า หน้าต่างของ Canva ประกอบด้วยหน้าต่างการทำงานหลัก และหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบ โดยแบ่งเมนูออกเป็นสัดส่วน จัดกลุ่มเมนู ที่ง่ายต่อการใช้งาน หลักการใช้งานของ Canva คือการทำงานรูปแบบ “Drag-and-Drop” โดยเลือกประเภทของงานออกและ และTemplate มาเป็นแบบ และปรับแก้ไขให้เหมาะสม กับงานออกแบบของตนเองได้ 7. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. https://www.canva.com/designschool/tutorials/getting-started/ 2. คลิปวิดีโอ แนะนำส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva 3. ใบงานที่ 16 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานหลักของ Canva 4. คลิปวิดีโอ แนะนำส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva 5. ใบงานที่ 17 ส่วนประกอบหน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva 10. การวัดและประเมินผล ขั้นสรุป


วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 16 ส่วนประกอบหน้าต่าง การทำงานหลักของ Canva แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 17 ส่วนประกอบ หน้าต่างการทำงานย่อยในการ สร้างงานออกแบบของ Canva แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคคล จากการทำกิจกรรมในห้องเรียน แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้งาน Canva ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 Templates เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกวิธีใช้งานเครื่องมือในโปรแกรม Canva ได้อย่างถูกต้อง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด Templates เป็นเมนูตัวเลือกสำหรับสร้างรูปแบบ สามารถค้นหา Template ที่เหมาะสมเพื่อนำใปใช้ ในงานออกแบบได้และยังสามารถปรับแต่ง แก้ไข เพิ่มเติมได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกได้ว่าTemplates คืออะไร (K) 2. เลือก Templates ที่เหมาะสมกับงานออกแบบได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้Canva ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้งาน Templates 2. การค้นหา Template 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15


6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรม Design Resume 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน เช่น “นักเรียนเคยทำประวัติส่วนตัวเป็น ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ หากเคยทำ นักเรียนใช้โปรแกรมใดในการทำ” 2. ผู้สอนเปิด คลิปวิดีโอ ทริค (ไม่ลับ) ปั้น Resume ให้ปัง! จบได้ใน Canva! เพื่อเป็นการกระตุ้น ความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=2KolM-5SNVs&t=397s 3. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ Template เพื่ออธิบายวิธีการใช้งาน Templates บน Canva 4. ผู้สอนให้ผู้เรียน Login Canva เพื่อทำกิจกรรม Design Resume พร้อมอธิบายวิธีการทำกิจกรรม คือ ให้ผู้เรียน ออกแบบ Resume ของตนเอง โดยเลือก Template ที่ต้องการ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน


5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทำกิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คำแนะนำ เพิ่มเติม 6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า การออกแบบ Resume ให้ผู้เรียนไปที่หน้าหลักของ Canva จากนั้น ในช่องค้นหาให้พิมพ์คำว่า Resume และเลือก ดูทั้งหมด เพื่อเลือก Template ที่ต้องการ จะปรากฎหน้าต่างให้เลือก Templates โดยให้สังเกต หาก Template ใด มีสัญลักษณ์รูปมงกุฎ จะต้องเป็นสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่ายเท่านั้น จึงจะสามารถใช้งานได้ 1. 1. ผู้สอนอธิบายว่า เมื่อได้ Templates ที่ต้องการแล้ว หากต้องการเปลี่ยน เมื่อเข้ามาที่หน้าต่างการ ทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบของ Canva ที่เมนูซ้ายมือ จะมีเมนู Templates ให้เลือก เมื่อคลิกเลือก Templates จะปรากฎหน้าต่าง ถามว่า แทนที่หน้าปัจจุบัน หรือ เพิ่มในหน้าใหม่และ ยังสามารถเปลี่ยนสีของ templates ที่เลือกแล้วได้ โดยทำตามขั้นตอน ดังนี้ ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2 พิมพ์คำว่า Resume เลือก ดูทั้งหมด สัญลักษณ์รูปมงกุฎ


1. ไปที่ส่วนที่ต้องการเปลี่ยนสี 2. คลิกเลือกจานสี 3. เลือกสีที่ต้องการเปลี่ยน เลือกแทนที่หน้าปัจจุบัน หรือ เพิ่มในหน้าใหม่ 1. คลิกเพื่อเปลี่ยนสี 2. คลิกจานสี 3. เลือกสีที่ต้องการเปลี่ยน


2. เมื่อครบกำหนดเวลา ผู้สอนให้ผู้เรียนบันทึกไฟล์ผลงาน เป็น รูปแบบของรูปภาพ โดยเลือกประเภท ไฟล์เป็น PNG โดยมีขั้นตอนการบันทึกไฟล์ ดังนี้ 4. ไปที่เมนูแชร์ 5. เลือกดาวน์โหลด 6. เลือกรูปแบบไฟล์ PNG 1. เลือกเมนูแชร์ 2. เลือกดาวน์โหลด 2. เลือกดาวน์โหลด 3. เลือกรูปแบบไฟล์


3. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนออกมานำเสนอผลงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอนร่วมกันเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น 4. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่าTemplates เป็นเมนูตัวเลือกสำหรับสร้างรูปแบบ เป็นรูปแบบของ งานออกแบบ ที่มีการออกแบบไว้อยู่แล้ว สามารถค้นหา Template ที่เหมาะสมเพื่อนำใปใช้ในงาน ออกแบบได้และยังสามารถปรับแต่ง แก้ไข เพิ่มเติมได้ 5. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ คลิปวิดีโอ ทริค (ไม่ลับ) ปั้น Resume ให้ปัง! จบได้ใน Canva! จากลิงค์https://www.youtube.com/watch?v=2KolM-5SNVs&t=397s 2. คลิปวิดีโอ Template 3. กิจกรรม Design Resume 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ขั้นสรุป


ประเมินผลงานจากการทำ กิจกรรม Design Resume แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคคล จากการทำกิจกรรม Design Resume แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์


กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม การออกแบบ Infographic ด้วย Canva ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใช้งาน Canva ในการสร้างงานอินโฟกราฟิก (Infographic) จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 Elements เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. บอกวิธีใช้งานเครื่องมือในโปรแกรม Canva ได้อย่างถูกต้อง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด Elements หรือองค์ประกอบ บน Canva คือ เส้น รูปทรง กรอบ แผนภูมิ เส้นกริด และ อื่น ๆ ใช้สำหรับตกแต่งงานออกแบบ โดยมีวิธีการใช้งานคือ 1. คลิกด้านซ้ายมือ “องค์ประกอบ (Elements)” 2. คลิกเลือกองค์ประกอบที่เราต้องการ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกได้ว่าElements คืออะไร (K) 2. เลือก Elements ที่เหมาะสมกับงานออกแบบได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้Canva ในการออกแบบอินโฟกราฟิก (Infographic) (A) 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้งาน Elements 2. การค้นหา Elements 3. ลิขสิทธิ์ในการใช้งาน Canva 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16


Click to View FlipBook Version