The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Hameed Bil, 2023-05-11 07:19:48

แผนหน่วยที่ 5 เงา อุปราคา และเทคโนโลยีอวกาศ

ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6

8. ทักษะกระบวนการคิด การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 9. เนื้อหาสาระ จันทรุปราคา (เรียกได้หลายอย่าง เช่น จันทรคราส, จันทรคาธ, ราหูอมจันทร์ หรือ กบกินเดือน) คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกันพอดี ลักษณะจันทรุปราคา ลักษณะจันทรุปราคา การเกิดจันทรุปราคา จันทรุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์โคจรเข้าไปในฐานเงามืดของโลกทั้งดวง คนบนโลกจะเห็นดวงจันทร์ มืดไปทั้งดวงและกลายเป็นสีอิฐ จันทรุปราคาบางส่วน ดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามืดของโลกบางส่วน คนบนโลกจะเห็นส่วนสว่างของ ดวงจันทร์เป็นเสี้ยวไม่เต็มดวง จันทรุปราคาในเงามัว เงามัวของโลกทอดไปยังดวงจันทร์ ดวงจันทร์จะได้รับแสงลดลง แต่จะมองเห็น ดวงจันทร์เต็มดวงสว่างลงเล็กน้อย


10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ • วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูขอตัวแทนอาสาสมัคร 2 คน เพื่อเล่นเกมวาดภาพแข่งขันการเกิดจันทรุปราคาหน้าชั้น เรียน โดยให้นักเรียนตัวแทนอาสาสมัครวาดภาพตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก ที่ทำให้เกิด ปรากฏการณ์จันทรุปราคาบนกระดาน นักเรียนคนใดวาดภาพเร็วและถูกต้องที่สุดจะเป็นผู้ชนะ 2) ครูให้สมาชิกในห้องร่วมกันตัดสินผลการแข่งขัน โดยตรวจสอบความถูกต้องของภาพการ เกิดจันทรุปราคา นอกจากนี้นักเรียนควรจะพิจารณาความเหมาะสมของขนาดของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และ โลก เพื่อหาผู้ชนะที่วาดแผนภาพได้ถูกต้องมากที่สุด 3) ครูให้นักเรียนร่วมกันตั้งสมมติฐานลักษณะของสุริยุปราคาเหมือนหรือแตกต่างกับลักษณะ ของจันทรุปราคาหรือไม่อย่างไร โดยครูเขียนสมมติฐานที่นักเรียนตั้งไว้บนกระดานเพื่อนำมาใช้อภิปรายร่วมกัน ท้ายชั่วโมง 4) ครูชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนให้แก่นักเรียนทราบ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อทำกิจกรรมการทดลองเรื่อง จันทรุปราคา เกิดขึ้นได้อย่างไร 6) ครูให้นักเรียนสร้างแบบจำลองการเกิดจันทรุปราคาโดยปั้นดินน้ำมันเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 เซนติเมตร และ 1 เซนติเมตร จากนั้นวางไฟฉาย ดินน้ำมันก้อนใหญ่และกระดาษแข็งเทาขาวให้ อยู่ในแนวเดียวกัน อภิปรายว่าไฟฉาย ดินน้ำมันก้อนใหญ่และก้อนเล็กใช้แทนสิ่งใดในปรากฏการณ์นี้ (แนวคำตอบ : ไฟฉายแทนดวงอาทิตย์ ดินน้ำมันก้อนเล็กแทนดวงจันทร์ และดินน้ำมันก้อนใหญ่แทนโลก) 7) เปิดไฟฉาย เลื่อนดินน้ำมันก้อนใหญ่ไปมาระหว่างไฟฉายกับกระดาษแข็งเทาขาวไม่ดิน น้ำมันบังแสงไฟฉายจนเกิดเงามืดและเงามัวอยู่บริเวณตรงกลางแผ่นกระดาษ 8) ค่อยๆเลื่อนดินน้ำมันก้อนเล็กเข้าไปในเงามัว และเงามืดของดินน้ำมันก้อนใหญ่ สังเกต ลักษณะของแสงที่ตกลงบนดินน้ำมันก้อนเล็ก เมื่ออยู่นอกบริเวณเงา และอยู่ในบริเวณเงา จนออกจากบริเวณ เงาอีกด้านหนึ่ง บันทึกผล 9) ร่วมกันอภิปรายรูปร่างของดวงจันทร์ที่คนบนโลกมองเห็นเมื่อดวงจันทร์อยู่ในบริเวณต่างๆ ของเงา พร้อมทั้งระบุชื่อจันทรุปราคาแต่ละแบบ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 10) ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมโดยการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียนในประเด็น ต่างๆ ดังต่อไปนี้ -ให้นักเรียนระบุตำแหน่งดวงดาวจากซ้ายไปขวาที่ทำให้เกิดจันทรุปราคา (แนวคำตอบ : ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์)


- รูปร่างของจันทรุปราคามีกี่แบบ อะไรบ้าง (แนวคำตอบ : 3 แบบ ได้แก่ จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และ จันทรุปราคาเงามัว) 11) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลอง โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการแสดง ความคิดเห็น (แนวคำตอบ : จันทรุปราคาเกิดจากการที่ดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับโลก และดวงอาทิตย์ ทำให้โลกบังแสงจากดวงอาทิตย์ และเงาของโลกทอดไปยังดวงจันทร์ โดยจันทรุปราคามี ทั้งหมด 3 ลักษณะ ได้แก่จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาบางส่วน และจันทรุปราคาเงามัว) ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 12) ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบการตั้งสมมติฐานบนกระดานเกี่ยวกับความเหมือนและ ความแตกต่างของสุริยุปราคาและจันทรุปราคา 13) ครูขยายความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปร่างการเกิดจันทรุปราคาในแต่ละลักษณะดังนี้ - จันทรุปราคาเต็มดวง เกิดจากดวงจันทร์ทั้งดวงโคจรเข้าไปในเงามืดของโลก - จันทรุปราคาบางส่วน เกิดจากดวงจันทร์บางส่วนโคจรเข้าไปในเงามืดของโลก - จันทรุปราคาเงามัว เกิดจากดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามัวเท่านั้น ทำให้มองเห็น ดวงจันทร์เต็มดวงแต่ไม่ชัดเจน 14) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับโอกาสในการพบปรากฏการณ์การเกิด จันทรุปราคาว่าคนบนโลกมีโอกาสเห็นจันทรุปราคาเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : แตกต่างกันโดยคนที่อยู่ในเขตเงามืดและเงามัวจึงจะมีโอกาสเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคา) 15) ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการสังเกตจันทรุปราคาว่าต้องมีการเตรียม อุปกรณ์ก่อนสังเกตเช่นกับสุริยุปราคาหรือไม่อย่างไร (แนวคำตอบ : ไม่ต้อง เพราะจันทรุปราคาเกิดในตอน กลางคืน ซึ่งไม่มีแสงที่เป็นอันตรายต่อดวงตา) ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 16) ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้ อย่างไร โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอสาระความรู้ และมีครูคอยเพิ่มเติมเนื้อหาให้ครบถ้วน 17) ครูตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในประเด็นต่างๆดังนี้ - หากดวงจันทร์ทั้งดวงโคจรเข้าไปในเขตเงามืดจะเกิดจันทรุปราคาลักษณะใด (แนวคำตอบ : จันทรุปราคาเต็มดวง) - เพราะเหตุใดคนบนโลกจึงมองเห็นจันทรุปราคาบางส่วนเท่านั้น (แนวคำตอบ : เกิดจากดวงจันทร์บางส่วนโคจรเข้าไปในเงามืดของโลก) 18) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจใบงานเรื่อง เรื่อง จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร และ การมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรียน


11. สื่อการเรียนรู้ 1) สื่อการเรียนรู้ 1.1) หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) ใบงานเรื่อง จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร 1.3) อุปกรณ์ในการสร้างแบบจำลองจันทรุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร 2) แหล่งการเรียนรู้ 2.1) ห้องเรียน 2.2) ห้องสมุด 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ตรวจสมุด แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


บันทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผู้สอน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ลำดับ เกณฑ์คุณภาพ คุณภาพ 3 2 1 1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคุมค่า 2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกับ KAP 3 สาระเรียนรู้ครอบคลุมเนื้อหา เนื้อหา กระบวนการ คุณลักษณะ 4 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นสมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน 6 ออกแบบการวัดประเมินจากชิ้นงานกลุ่ม/เดี่ยวของผู้เรียน 7 มีความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบข้อที่1-6 8 สื่อการเรียนรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนื้อหา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้ รวม เฉลี่ย กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี 1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง


ภาคผนวก ใบงานเรื่อง จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร


แบบประเมินการทำงานเรื่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ชื่อ – นามสกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (10) ผลการ ประเมิน ความ ถูกต้อง (5) ความ สวยงาม (3) ความตรง ต่อเวลา (2) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 9-10 ดีมาก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรับปรุง


เกณฑ์การให้คะแนนการทำงาน รายการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 5 4 3 2 1 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิด 1-2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิดมากกว่า 2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อ แต่ ถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อและ ถูกต้องบางส่วน ความสวยงาม - - ตกแต่งระบายสี สวยงาม สะอาด เรียบร้อย ตกแต่งระบายสี สวยงาม ตกแต่งระบายสี ใบงานไม่ สะอาด ความตรงต่อ เวลา - - - ส่งงานตาม ระยะเวลาที่ กำหนด ส่งงานช้ากว่า ระยะเวลาที่ กำหนด


แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่ พฤติกรรม ชื่อ-สกุล ความสนใจ การแสดง ความคิดเห็น การตอบคำถาม การยอมรับ ฟังคนอื่น ทำงานที่ได้รับ มอบหมาย สรุป 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคุยในชั้น ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรับปรุง = 1 เข้าชั้นเรียนแต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงต่อเวลา ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงต่อเวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่น ในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อม รวม ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เงา อุปราคา และเทคโนโลยีอวกาศ เวลา 11 ชั่วโมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 3. ตัวชี้วัด ว 3.1 ป.6/1 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ จันทรุปราคา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สุริยุปราคาเกิดในเวลากลางวัน โดยดวงจันทร์โคจรเข้ามาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก จันทรุปราคา เกิดในเวลากลางคืน โดยโลกโคจรเข้ามาอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา (K) 2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา (P) 3) รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะที่สำคัญ 1) ความสามารถในการคิด 1.1) ทักษะการสังเกต 1.2) ทักษะการให้เหตุผล 1.3) ทักษะการสรุปอ้างอิง 2) ความสามารถในการสื่อสาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


8. ทักษะกระบวนการคิด การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 9. เนื้อหาสาระ 1. สุริยุปราคา (Solar Eclipse หรือ Eclipses of sun) หรือเรียกว่า "สุริยคราส " เป็นปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ระหว่างดวง อาทิตย์กับโลก เงาของดวงจันทร์ จะทอดยาวมายังโลก ทำให้คนบนโลก (บริเวณที่มีเงาของดวงจันทร์) มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง หรือบางแห่งเห็นดวงอาทิตย์มืดหมดทั้งดวง 2. จันทรุปราคา (เรียกได้หลายอย่าง เช่น จันทรคราส, จันทรคาธ, ราหูอมจันทร์ หรือ กบกินเดือน) คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกันพอดี ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา รายการ อุปราคา สุริยุปราคา จันทรุปราคา ตำแหน่งของโลก ดวงจันทร์อยู่ด้านหน้าโลก ดวงจันทร์อยู่ด้านหลังโลก ช่วงเวลาที่เกิด ตอนกลางวัน ตอนกลางคืน 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ • วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูให้นักเรียนทำเล่นเกม อะไรเอ่ย คือสุริยุปราคาและจันทรุปราคา โดยใช้สื่อ power point เรื่อง ปรากฎการณ์ของโลก โดยกติกาในเกมครูจะมีภาพของสุริยุปราคาและจันทรุปราคาในลักษณะต่าง ๆ ให้นักเรียนบอกชื่อสุริยุปราคาและจันทรุปราคาให้ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด


2) ครูใช้สื่อ power point เรื่อง ปรากฎการณ์ของโลก ทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการเกิด และลักษณะของปรากฎการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา 3) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมือนและ ความแตกต่างของสุริยุปราคาและจันทรุปราคาตามความเข้าใจของนักเรียน 4) ครูชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนให้แก่นักเรียนทราบ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพื่อทำกิจกรรมการเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับกระดาษบรู๊ฟและปากกาเคมี เพื่อใช้ในการทำ กิจกรรม 6) ครูให้นักเรียนแบ่งกระดาษบรู๊ฟออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเพื่ออธิบายการเกิดสุริปยุปราคา และส่วนที่สองเพื่ออธิบายการเกิดจันทรุปราคา โดยนักเรียนสามารถค้นหาข้อมูลที่สนใจเพิ่มเติมในหนังสือ เรียนวิทยาศาสตร์ หรืออินเตอร์ 7) ในระหว่างที่นักเรียนทำกิจกรรมครูคอยดูแลอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำนักเรียน เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ โดยนักเรียนควรเขียนข้อมูลที่ใช้ในการเปรียบเทียบให้อยู่ในแนวเดียวกัน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 8) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สุริยุปราคาและจันทรุปราคา โดยให้นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและแสดงความคิดอื่น ๆ เพิ่มเติม 9) ครูให้นักเรียนนำผลงานการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและ จันทรุปราคาติดบนกระดานและจัดบรรยากาศในห้องเรียนเหมือนกับนิทรรศการ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ เดินชมผลงานของเพื่อน และร่วมกันให้คะแนนโหวตแก่กลุ่มที่ทำโครงการได้น่าสนใจ 10) หลังจากที่นักเรียนชมนิทรรศการ ครูสุ่มนักเรียนเพื่อให้อภิปรายความแตกต่างของ ผลงานของเพื่อนแต่ละกลุ่ม ร่วมไปถึงการแสดงเนื้อหาการเปรียบเทียบ จากนั้นครูสรุปผลการโหวตผลงานที่ น่าสนใจ และมอบรางวัลให้แก่กลุ่มที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด 11) ครูนำผลงานที่ได้รับการโหวตมากที่สุดมาใช้เป็นสื่อการสอนเพื่ออธิบายและเปรียบเทียบ ความแตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 12) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบความ แตกต่างระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคา เช่น ตำแหน่งของโลก ช่วงเวลาในการเกิด มีประโยชน์อย่างไร (แนวคำตอบ : สามารถใช้อธิบายปรากฎการณ์ในธรรมชาติได้อย่างชัดเจน)


13) ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดเพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียนโดยการตั้งคำถามลงใน สมุดของตนเอง ดังนี้ - สุริยุปราคาและจันทรุปราคาแบบเต็มดวง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร - เพราะเหตุใดจันทรุปราคาจึงไม่มีลักษณะแบบวงแหวน - สุริยุปราคาแบบเต็มดวงและสุริยุปราคาแบบบางส่วนแตกต่างกันอย่างไร 14) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามที่สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สุริยุปราคาและจันทรุปราคา (แนวคำตอบ : อิสระตามความสนใจของนักเรียน เช่น มุมที่ทำให้เกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคามีค่าเท่ากันหรือไม่อย่างไร) ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 15) ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในแบบฝึกหัด โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการ เสนอคำตอบ จากนั้นให้เพื่อน ๆ ในห้องร่วมกันตรวจคำตอบและแสดงความคิดเห็นในเชิงวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม 16) ให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม การเปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างสุริยุปราคาและจันทรุปราคาโดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอสาระความรู้ และมีครูคอย เพิ่มเติมเนื้อหาให้ครบถ้วน 17) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุด ผลงานการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง สุริยุปราคาและจันทรุปราคา การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรียน 11. สื่อการเรียนรู้ 1) สื่อการเรียนรู้ 1.1) หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) สื่อ power point เรื่อง ปรากฎการณ์ของโลก 1.3) กระดาษบรู๊ฟ 1.4) ปากกาเคมี 2) แหล่งการเรียนรู้ 2.1) ห้องเรียน 2.2) ห้องสมุด


12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ตรวจสมุด ตรวจกระดาษบรู๊ฟ แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ บันทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผู้สอน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ลำดับ เกณฑ์คุณภาพ คุณภาพ 3 2 1 1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคุมค่า 2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกับ KAP 3 สาระเรียนรู้ครอบคลุมเนื้อหา เนื้อหา กระบวนการ คุณลักษณะ 4 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นสมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน 6 ออกแบบการวัดประเมินจากชิ้นงานกลุ่ม/เดี่ยวของผู้เรียน 7 มีความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบข้อที่1-6 8 สื่อการเรียนรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนื้อหา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้ รวม เฉลี่ย กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี 1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินการทำงานเรื่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ชื่อ – นามสกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (10) ผลการ ประเมิน ความ ถูกต้อง (5) ความ สวยงาม (3) ความตรง ต่อเวลา (2) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 9-10 ดีมาก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรับปรุง


เกณฑ์การให้คะแนนการทำงาน รายการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 5 4 3 2 1 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิด 1-2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิดมากกว่า 2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อ แต่ ถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อและ ถูกต้องบางส่วน ความสวยงาม - - ตกแต่งระบายสี สวยงาม สะอาด เรียบร้อย ตกแต่งระบายสี สวยงาม ตกแต่งระบายสี ใบงานไม่ สะอาด ความตรงต่อ เวลา - - - ส่งงานตาม ระยะเวลาที่ กำหนด ส่งงานช้ากว่า ระยะเวลาที่ กำหนด


แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่ พฤติกรรม ชื่อ-สกุล ความสนใจ การแสดง ความคิดเห็น การตอบคำถาม การยอมรับ ฟังคนอื่น ทำงานที่ได้รับ มอบหมาย สรุป 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคุยในชั้น ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรับปรุง = 1 เข้าชั้นเรียนแต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงต่อเวลา ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงต่อเวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่น ในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อม รวม ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การสร้างแบบจำลองอธิบายการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เงา อุปราคา และเทคโนโลยีอวกาศ เวลา 11 ชั่วโมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 3. ตัวชี้วัด ว 3.1 ป.6/1 สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ จันทรุปราคา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สุริยุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก ส่วนจันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกันพอดี 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายลักษณะการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้(K) 2) สร้างแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ (P) 3) รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะที่สำคัญ 1) ความสามารถในการคิด 1.1) ทักษะการสังเกต 1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา 1.3) ทักษะการจำแนกประเภท 2) ความสามารถในการสื่อสาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


8. ทักษะกระบวนการคิด การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 9. เนื้อหาสาระ อุปราคา หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ดวงดาวโคจรเข้าไปในเงาของดาวดวงอื่นทำให้เกิดเงามืดชั่วคราว อุปราคาที่เรามองเห็นได้มี 2 แบบ 1.สุริยุปราคา (Solar Eclipse หรือ Eclipses of sun) หรือเรียกว่า "สุริยคราส " เป็น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อโลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลก เงาของดวงจันทร์ จะทอดยาวมายังโลก ทำให้คนบนโลก (บริเวณที่มีเงาของดวง จันทร์) มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง หรือบางแห่งเห็นดวงอาทิตย์มืดหมดทั้งดวง 2.จันทรุปราคา (เรียกได้หลายอย่าง เช่น จันทรคราส, จันทรคาธ, ราหูอมจันทร์ หรือ กบกิน เดือน) คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกันพอดี 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ • วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการสร้างแบบจำลองว่าเพราะเหตุใดจึงต้องมีการ สร้างแบบจำลองต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในทางวิทยาศาสตร์ (แนวคำตอบ : เพราะปรากฎการณ์ หรือเรื่องที่ต้องศึกษาไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ชัดเจน)


2) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับแบบจำลองอื่น ๆ ที่นักเรียนเคยได้ศึกษาว่ามีส่วน ช่วยในการอธิบายความรู้มากน้อยเพียงใด 3) ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับปรากฎการณ์การเกิดสุริยุปราคาและ จันทรุปราคาว่า ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ มีตำแหน่งอย่างไร 4) ครูชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนให้แก่นักเรียนทราบ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 5) ครูจับกลุ่มให้นักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน โดยคละความสามารถของผู้เรียนเก่ง กลาง อ่อน เพื่อทำกิจกรรมการสร้างแบบจำลองอธิบายการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา 6) ครูกำหนดเงื่อนไขการสร้างแบบจำลองอธิบายการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาคือ วัสดุที่ใช้เป็นวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือนำสิ่งของที่มีมาประยุกต์ใช้ให้มีค่าใช้จ่ายในการสร้างแบบจำลองน้อย ที่สุด โดยให้นักเรียนร่วมกันออกแบบแบบจำลองลงในกระดาษ 4A พร้อมทั้งระบุขั้นตอนการดำเนินการ 7) ในระหว่างที่นักเรียนทำกิจกรรมครูคอยอำนวยสะดวกและให้คำแนะนำนักเรียนเพิ่มเติม ในการเลือกวัสดุที่จะนำมาสร้างแบบจำลอง โดยต้องคำนึงถึงการสื่อความหมายเพื่ออธิบายการเกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคา 8) หลังจากที่นักเรียนออกแบบแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเรียบร้อย ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการออกแบบหน้าชั้นเรียน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นกับนักเรียนคนอื่น ๆ เพื่อดูความเหมาะสมของการเลือกวัสดุ ขั้นตอนการดำเนินการ และการสื่อ ความหมาย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแบบก่อนที่จะเริ่มสร้างแบบจำลอง 9) ครูนัดหมายนักเรียนในการเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับสร้างแบบจำลองในชั่วโมงต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 10) ครูตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์และความพร้อมของนักเรียนก่อนสร้างแบบจำลองการเกิด สุริยุปราคาและจันทรุปราคาและแนะนำขั้นตอนการใช้อุปกรณ์ที่อาจเกิดอันตราย เช่น กรรไกร คัตเตอร์ อุปกรณ์ที่มีคม หรือกาวร้อน เป็นต้น 11) ครูให้นักเรียนเริ่มสร้างแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาตามที่ได้วางแผน ออกแบบไว้ ในกรณีที่นักเรียนพบปัญหาระหว่างการสร้างแบบจำลองสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของ แบบจำลองได้ตามความเหมาะสม ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 12) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานแบบจำลองหน้าชั้นเรียนในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ - เหตุผลที่เลือกสิ่งของในแบบจำลองแทนส่วนประกอบต่างในการสร้างแบบจำลอง การเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา - ลักษณะการโคจรของโลกหรือดวงจันทร์


- ปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาในระหว่างที่สร้างแบบจำลอง 13) ครูและนักเรียนในห้องร่วมกันพิจารณาแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา แต่ละกลุ่มว่าเหมือนตามที่ออกแบบหรือไม่ และสามารถอธิบายการการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ ครอบคลุมหรือไม่อย่างไร 14) ครูให้นักเรียนร่วมกันโหวตให้คะแนนแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาที่ ชื่นชอบ โดยแต่ละกลุ่มจะตกลงร่วมกันภายในกลุ่มว่าจะให้คะแนนกับกลุ่มใด โดยจะต้องไม่ให้คะแนนกลุ่ม ตนเอง จากนั้นครูสรุปคะแนนและมอบรางวัลให้กับกลุ่มที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 15) ครูนำแบบจำลองหน้าที่ของการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาของกลุ่มที่ได้รับคะแนน โหวตมากที่สุดมาใช้เป็นสื่อการสอนในการอธิบายขยายความรู้ให้แก่นักเรียน 16) ครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาว่าเพราะเหตุการเกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาและ จันทรุปราคาจึงไม่ปรากฎให้เห็นบ่อยครั้ง (แนวคำตอบ : นอกจากดาวแต่ละดวงจะโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ยังต้องทำมุมที่พอเหมาะจึงจะเกิดปรากฏเหล่านี้) 17) ครูขยายความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลจากการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาที่มีต่อ สิ่งมีชีวิต เช่น สุริยุปราคาทำให้ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลดแสงลง เนื่องจากดวงจันทร์บังแสงดวงอาทิตย์ทำให้สัตว์ ต่างๆ พากันกลับรังเพราะนึกว่าถึงเวลากลางคืนเห็น) ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 18) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฎการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา 2 ข้อ ลงใน กระดาษ question from me แล้วนำกระดาษคำถามของนักเรียนให้เพื่อนที่ตนเองอยากถาม (ในกรณีสลับ กระดาษคำถามครูคอยกระจายกระดาษเพื่อให้นักเรียนได้กระดาษไม่ซ้ำกัน หรือได้รับมากกว่า 1 แผ่น) เมื่อ นักเรียนตอบคำถามเสร็จสิ้นให้ส่งกระดาษคืนเพื่อนคนเดิมเพื่อตรวจคำตอบ 19) ครูให้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง และนำเสนอผลการตรวจให้คะแนน จากนั้นให้ นักเรียนคนอื่น ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับความเหมาะสมของการตั้งคำถามหรือการ ตอบคำถาม 20) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา การ นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรียน 11. สื่อการเรียนรู้ 1) สื่อการเรียนรู้ 1.1) หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) อุปกรณ์ในการสร้างแบบจำลองการเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคา 1.3) กระดาษคำถาม Question from me


2) แหล่งการเรียนรู้ 2.1) ห้องเรียน 2.2) ห้องสมุด 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ตรวจชิ้นงาน แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ บันทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผู้สอน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ลำดับ เกณฑ์คุณภาพ คุณภาพ 3 2 1 1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคุมค่า 2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกับ KAP 3 สาระเรียนรู้ครอบคลุมเนื้อหา เนื้อหา กระบวนการ คุณลักษณะ 4 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นสมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน 6 ออกแบบการวัดประเมินจากชิ้นงานกลุ่ม/เดี่ยวของผู้เรียน 7 มีความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบข้อที่1-6 8 สื่อการเรียนรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนื้อหา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้ รวม เฉลี่ย กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี 1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง


ภาคผนวก กระดาษคำถาม Question from me Question from me ชื่อผู้ถาม……………………….………………………………………. 1)………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ตอบ ………..…………………….…………………………………… ………………………………………………………………………… 2)……………………………………….………………………………… ………………………………………………………………………… ตอบ ………..……………………………..…………………………… ………………………………………………………………………… ชื่อผู้ตอบ......................................................................... Question from me ชื่อผู้ถาม……………………….………………………………………. 1)………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ตอบ ………..…………………….…………………………………… ………………………………………………………………………… 2)……………………………………….………………………………… ………………………………………………………………………… ตอบ ………..……………………………..…………………………… ………………………………………………………………………… ชื่อผู้ตอบ......................................................................... Question from me ชื่อผู้ถาม……………………….………………………………………. 1)………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ตอบ ………..…………………….…………………………………… ………………………………………………………………………… 2)……………………………………….………………………………… ………………………………………………………………………… ตอบ ………..……………………………..…………………………… ………………………………………………………………………… ชื่อผู้ตอบ......................................................................... Question from me ชื่อผู้ถาม……………………….………………………………………. 1)………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… ตอบ ………..…………………….…………………………………… ………………………………………………………………………… 2)……………………………………….………………………………… ………………………………………………………………………… ตอบ ………..……………………………..…………………………… ………………………………………………………………………… ชื่อผู้ตอบ.........................................................................


แบบประเมินการทำงานเรื่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ชื่อ – นามสกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (10) ผลการ ประเมิน ความ ถูกต้อง (5) ความ สวยงาม (3) ความตรง ต่อเวลา (2) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 9-10 ดีมาก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรับปรุง


เกณฑ์การให้คะแนนการทำงาน รายการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 5 4 3 2 1 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิด 1-2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิดมากกว่า 2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อ แต่ ถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อและ ถูกต้องบางส่วน ความสวยงาม - - ตกแต่งระบายสี สวยงาม สะอาด เรียบร้อย ตกแต่งระบายสี สวยงาม ตกแต่งระบายสี ใบงานไม่ สะอาด ความตรงต่อ เวลา - - - ส่งงานตาม ระยะเวลาที่ กำหนด ส่งงานช้ากว่า ระยะเวลาที่ กำหนด


แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่ พฤติกรรม ชื่อ-สกุล ความสนใจ การแสดง ความคิดเห็น การตอบคำถาม การยอมรับ ฟังคนอื่น ทำงานที่ได้รับ มอบหมาย สรุป 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคุยในชั้น ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรับปรุง = 1 เข้าชั้นเรียนแต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงต่อเวลา ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงต่อเวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่น ในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อม รวม ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตจนถึงปัจจุบัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เงา อุปราคา และเทคโนโลยีอวกาศ เวลา 11 ชั่วโมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 3. ตัวชี้วัด ว 3.1 ป.6/2 อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ในอดีตมนุษย์สังเกตปรากฎการณ์ต่าง ๆ บนท้องฟ้าด้วยตาเปล่า ต่อมาได้มีการพัฒนากล้อง โทรทรรศน์ เพื่อศึกษาวัตถุบนท้องฟ้า และสามารถพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ออกไปสำรวจอวกาศได้สำเร็จ 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายความก้าวหน้าของเทคโนโลยอวกาศจากอดีตจนถึงปัจจุบันได้ (K) 2) เขียนแผนภาพลำดับเหตุการณ์ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศได้ (P) 3) รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะที่สำคัญ 1) ความสามารถในการคิด 1.1) ทักษะการสังเกต 1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา 1.3) ทักษะการจำแนกประเภท 2) ความสามารถในการสื่อสาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


8. ทักษะกระบวนการคิด การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 9. เนื้อหาสาระ มนุษย์มีความต้องการสำรวจอวกาศจึงเริ่มต้นจากการสำรวจวัตถุบนท้องฟ้าโดยใช้จากเปล่า ต่อมาเมื่อ นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ชื่อ กาลิเลโอ กาลิเลอี ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ได้สำเร็จ มนุษย์จึงสามารถอธิบาย ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอวกาศของมนุษย์ยังมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง มนุษย์จึงคิดวิธีการที่จะเดินทางออกไปสำรวจอวกาศ จนสามารถสร้างจรวด และยานอวกาศเพื่อใช้ในการ สำรวจอวกาศได้ 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ • วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูสำรวจความพื้นฐานของนักเรียนก่อนเรียน โดยให้นักเรียนตอบคำถามในหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ สสวท หน้า 119 2) ครูสนทนากับนักเรียนโดยสมมติให้นักเรียนเป็นนักบินอวกาศสำรวจดวงดาวนอกโลก นักเรียนจะเลือกสำรวจดาวดวงใดเพราะเหตุใด โดยในการออกไปสำรวจนอกโลกจำเป็นจะต้องมีเทคโนโลยี อวกาศที่ทันสมัยเพื่อใช้ในการสำรวจและเพื่อความปลอดภัยของนักบินอวกาศ 3) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีอวกาศเกิดขึ้นได้อย่างไร และใครเป็นผู้เริ่มต้น (แนวคำตอบ : กาลิเลโอ กาลิเลอี ที่ได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้) 4) ครูชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนให้แก่นักเรียนทราบ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 5) ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 3 - 4 คน คละตามความสามารถของผู้เรียน เก่ง กลาง อ่อน เพื่อทำกิจกรรมเรื่องเทคโนโลยีอวกาศมีการพัฒนาอย่างไร 6) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ และเขียนชื่อเทคโนโลยี อวกาศที่ตนเองรู้จักลงบนกระดาษ A4 ให้ได้มากที่สุด จากนั้นร่วมกันอภิปรายและเรียงลำดับเทคโนโลยีอวกาศ ที่เกิดขึ้นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และบันทึกผลลงในสมุดของตนเอง 7) ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่องความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตสู่ปัจจุบัน ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ สสวท และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 8) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและเรียงลำดับเทคโนโลยีอวกาศในข้อ 6 อีกครั้ง พร้อมทั้ง บันทึกชื่อเทคโนโลยีอวกาศอื่นที่สืบค้นได้เพิ่มเติม และระบุช่วงเวลาการเริ่มใช้งานลงในใบงาน เรื่อง ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตถึงปัจจุบัน


ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 9) ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการเรียงลำดับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อวกาศก่อนและหลังที่จะศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม 10) ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการ พัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยสังเกตอยู่บนโลก คือ กล้องโทรทรรศน์ > พัฒนาสู่อุปกรณ์ที่ส่งไปยังนอกโลก ดาวเทียม > ยานสำรวจอวกาศ > กล้องโทรทรรศน์อวกาศ > หุ่นยนต์สำรวจดาว เป็นต้น 11) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายสิ่งสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีอวกาศมีการพัฒนาจากอดีตถึง ปัจจุบันอย่างต่อเนื่องคืออะไร (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่น ความก้าวหน้าของ วิทยาศาสตร์ที่มีส่วนให้การพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีอวกาศ เป็นต้น) ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 12) ครูขยายความเข้าใจของนักเรียนโดยการยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึง พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ ดังนี้ - ปีพ.ศ. 2504 สหภาพโซเวียตส่งนักบินอวกาศคนแรกของโลก ชื่อยูริกาการิน ขึ้น ไปโคจรรอบโลกพร้อมกับยานวอสต็อก 1 - ปีพ.ศ. 2506 สหภาพโซเวียตส่งนักบินอวกาศหญิงคนแรกของโลก ชื่อวาเลนตินา เทเรซโควา ขึ้นไปในอวกาศพร้อมกับยานวอสต็อก 6 - ในปีพ.ศ. 2512 สหรัฐอเมริกาส่งนักบินอวกาศชื่อนิวอามสตรอง ไปกับยาน อะพอลโล 11 เพื่อสำรวจดวงจันทร์ 13) ครูให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าเพราะเหตุใดมนุษย์จึงสนใจที่จะ ศึกษาสิ่งที่นอกโลก (แนวคำตอบ : อิสระตามความคิดเห็นของนักเรียน เช่น ต้องการศึกษาวิวัฒนาการของ มนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ นอกเหนือจากบนโลก) ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 14) ให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อวกาศจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอสาระความรู้ และมีครูคอยเพิ่มเติม เนื้อหาให้ครบถ้วน 15) ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างเทคโนโลยีอวกาศที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมเรื่อง ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตถึงปัจจุบัน 1 ชนิด พร้อมทั้งให้เหตุผล 16) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุดเรื่อง การเกิดแรงไฟฟ้า การจำแนกวัสดุที่ทำให้เกิด แรงไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรียน


11. สื่อการเรียนรู้ 1) สื่อการเรียนรู้ 1.1) หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) ใบงาน เรื่อง ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตถึงปัจจุบัน 2) แหล่งการเรียนรู้ 2.1) ห้องเรียน 2.2) ห้องสมุด 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ตรวจใบงาน แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


บันทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผู้สอน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ลำดับ เกณฑ์คุณภาพ คุณภาพ 3 2 1 1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคุมค่า 2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกับ KAP 3 สาระเรียนรู้ครอบคลุมเนื้อหา เนื้อหา กระบวนการ คุณลักษณะ 4 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นสมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน 6 ออกแบบการวัดประเมินจากชิ้นงานกลุ่ม/เดี่ยวของผู้เรียน 7 มีความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบข้อที่1-6 8 สื่อการเรียนรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนื้อหา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้ รวม เฉลี่ย กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี 1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง


ภาคผนวก ใบงาน เรื่อง ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศจากอดีตถึงปัจจุบัน


แบบประเมินการทำงานเรื่อง ชั้นประถมศึกษาปีที่ เลขที่ ชื่อ – นามสกุล รายการประเมิน รวมคะแนน (10) ผลการ ประเมิน ความ ถูกต้อง (5) ความ สวยงาม (3) ความตรง ต่อเวลา (2) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 9-10 ดีมาก 7-8 ดี 5-6 พอใช้ 1-4 ต้องปรับปรุง


เกณฑ์การให้คะแนนการทำงาน รายการ ประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 5 4 3 2 1 ความถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิด 1-2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบทุกข้อ ครบถ้วนแต่ ถูกต้องบางส่วน (ผิดมากกว่า 2 จุด) ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อ แต่ ถูกต้อง ระบุหรืออธิบาย คำตอบไม่ครบ ทุกข้อและ ถูกต้องบางส่วน ความสวยงาม - - ตกแต่งระบายสี สวยงาม สะอาด เรียบร้อย ตกแต่งระบายสี สวยงาม ตกแต่งระบายสี ใบงานไม่ สะอาด ความตรงต่อ เวลา - - - ส่งงานตาม ระยะเวลาที่ กำหนด ส่งงานช้ากว่า ระยะเวลาที่ กำหนด


แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ที่ พฤติกรรม ชื่อ-สกุล ความสนใจ การแสดง ความคิดเห็น การตอบคำถาม การยอมรับ ฟังคนอื่น ทำงานที่ได้รับ มอบหมาย สรุป 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เกณฑ์การวัดผลให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 มีความสนใจ ไม่พูดคุยในชั้น ตอบคำถามถูกต้อง ทำงานส่งครบตรงเวลา ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50% ปรับปรุง = 1 เข้าชั้นเรียนแต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงต่อเวลา ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ มีความตรงต่อเวลา 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่าง พอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่น ในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อม รวม ลงชื่อ ผู้สังเกต ( ) วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 46 - 60 ดี 30 - 45 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้ในการสำรวจอวกาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เงา อุปราคา และเทคโนโลยีอวกาศ เวลา 11 ชั่วโมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ. เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ 3. ตัวชี้วัด ว 3.1 ป.6/2 อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน จากข้อมูลที่รวบรวมได้ 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้ในการสำรวจอวกาศได้แก่ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม จรวด และยานอวกาศ โดยเทคโนโลยีแต่ละชนิดมีหน้าที่ในการสำรวจอวกาศที่แตกต่างกัน 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ระบุเทคโนโลยีอวกาศที่ใช้ในการสำรวจอวกาศได้(K) 2) อธิบายหน้าที่ของเทคโนโลยีอวกาศที่ใช้ในการสำรวจอวกาศได้ 2) ออกแบบเทคโนโลยีอวกาศเพื่อใช้ในการสำรวจอวกาศได้ (P) 3) รับผิดชอบและมุ่งมั่นในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย (A) 6. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) มีวินัย 2) ใฝ่เรียนรู้ 3) มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะที่สำคัญ 1) ความสามารถในการคิด 1.1) ทักษะการสังเกต 1.2) ทักษะการสำรวจค้นหา 1.3) ทักษะการจำแนกประเภท 2) ความสามารถในการสื่อสาร 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


8. ทักษะกระบวนการคิด การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ 9. เนื้อหาสาระ เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้ในการสำรวจอวกาศ ได้แก่ 1. กล้องโทรทรรศน์ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้สังเกตวัตถุบนท้องฟ้าที่อยู่ไกล ๆ โดย ขยายภาพของวัตถุให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 2. ดาวเทียม เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเพื่อไปโคจรรอบโลก เพื่อใช้งานในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น สำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การติดต่อสื่อสาร การพยากรณ์อากาศ 3. จรวด เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการส่งยานอวกาศเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลก 4. ยานอวกาศ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ใช้ในการเดินทางเพื่อสำรวจอวกาศ 5. หุ่นยนต์สำรวจอวกาศ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการสำรวจอวกาศแทนมนุษย์ 10. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ • วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ Inquiry Method : 5E ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1) ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเทคโนโลยีอวกาศที่นักเรียนรู้จักจากชั่วโมงที่แล้ว โดยแบ่ง นักเรียนออกเป็น 2 ทีม เท่าๆ กัน โดยให้แต่ละทีมให้นักเรียนสลับออกมาเขียนเทคโนโลยีอวกาศบนกระดาน 1 คน /ครั้ง / ชิ้น และไม่ให้ส่งนักเรียนคนเดิม ภายในเวลา 2 นาที 2) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนารายการเทคโนโลยีอวกาศบนกระดานว่ามีสิ่งใดบ้างที่ จำเป็นต้องใช้ในการออกไปสำรวจอวกาศ โดยให้นักเรียนร่วมกันตั้งสมมติฐานถึงสิ่งที่คิดว่าสามารถนำไปใช้ใน การสำรวจอวกาศได้ จากนั้นครูเขียนรายการเทคโนโลยีอวกาศที่นักเรียนเลือกไว้บนกระดานเพื่อนำมาใช้ อภิปรายท้ายชั่วโมง 3) ครูชี้แจงจุดประสงค์ในการเรียนให้แก่นักเรียนทราบ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา 4) ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เพื่อทำกิจกรรมเทคโนโลยีอวกาศมี ประโยชน์อย่างไร โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับเลือกหัวข้อในการศึกษาแตกต่างกัน ดังนี้ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม จรวด ยานอวกาศ และหุ่นยนต์สำรวจอวกาศ 5) นักเรียนแต่ละกลุ่มและช่วยกันระดมความคิดในการศึกษาข้อมูลในหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ สสวท และค้นคว้าเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต ตามหัวข้อที่ต้องได้รับในประเด็นต่าง ๆ บันทึกข้อมูล ลงในใบงาน เรื่อง เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้สำรวจอวกาศ ต่อไปนี้ - ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ - ประเภทของเทคโนโลยีอวกาศ (ขึ้นอยู่กับหัวข้อที่ได้รับ) - ตัวอย่างเทคโนโลยีอวกาศ (ระบุเป็นชื่อ เช่น ดาวเทียมไทย เป็นต้น)


6) จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรวมกันใหม่อีกครั้ง โดยให้สมาชิกภายในกลุ่มมีเทคโนโลยี อวกาศในหัวข้อที่แตกต่างกันทั้ง 5 เรื่อง 7) ครูให้นักเรียนกลุ่มใหม่ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเทคโนโลยีอวกาศอื่น ๆ อีก 4 รายการ บันทึกข้อมูลลงในใบงานเรื่อง เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้สำรวจอวกาศ จนได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ 8) ครูสุ่มนักเรียนอธิบายความรู้เทคโนโลยีอวกาศในแต่ละรายการ โดยให้นักเรียนคนอื่น ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างสร้างสรรค์ 9) ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศทั้ง 5 รายการ ได้แก่ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม จรวด ยานอวกาศ และหุ่นยนต์สำรวจอวกาศ โดยให้นักเรียนชมวีดีทัศน์เทคโนโลยีอวกาศ 10) ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างกล้องโทรทรรศน์ที่ ใช้บนโลกและกล้องโทรทรรศน์ที่ใช้ในอวกาศ (แนวคำตอบ : กล้องโทรทรรศน์บนโลกใช้การสังเกตด้วยตาเปล่า โดยผู้สังเกตอยู่บนพื้นโลก ส่วนกล้องโทรทรรศน์อวกาศโคจรอยู่นอกโลกและส่งเป็นภาพถ่ายกลับมายัง ภาคพื้นดิน) 11) ครูยกตัวอย่างสถานการณ์ “นักสำรวจทางทะเลได้ค้นพบเกาะแห่งใหม่ หากต้องการ ทราบว่าเกาะดังกล่าวอยู่ตำแหน่งใดของโลก และมีลักษณะภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร จะต้อง ใช้เทคโนโลยีอวกาศใดเพราะเหตุใดขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ 12) ครูให้นักเรียนชมวีดีทัศน์เรื่อง 10 สิ่งที่คุณจะต้องเจอหากจะไปใช้ชีวิตบนอวกาศ เพื่อ เปรียบการใช้ชีวิตของมนุษย์บนพื้นโลกกับบนอวกาศ และการเตรียมความพร้อมก่อนออกไปสู่นอกอวกาศ จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายความสำคัญของอุปกรณ์ต่าง ๆ และการเตรียมความพร้อม 13) ครูให้นักเรียนออกแบบเทคโนโลยีอวกาศเพื่อใช้ในการสำรวจอวกาศ รวมไปถึงเขียน ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมของมนุษย์และอุปกรณ์ในการดำรงชีวิตในอวกาศที่สำคัญลงในสมุดของตนเอง 14) ครูให้นักเรียนตั้งคำถามที่สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ (แนวคำตอบ : มนุษย์ สามารถใช้เทคโนโลยีอวกาศอื่น ๆ ได้หรือไม่ในการส่งยานอวกาศออกนอกโลก ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล 15) ให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมเทคโนโลยีอวกาศที่ใช้สำรวจ อวกาศ โดยให้นักเรียนมีบทบาทสำคัญในการเสนอสาระความรู้ และมีครูคอยเพิ่มเติมเนื้อหาให้ครบถ้วน 16) ครูสุ่มนักเรียน 2 – 3 คน เพื่อให้นำเสนอการ 17) ครูประเมินนักเรียนจากการตรวจสมุดเรื่อง การเกิดแรงไฟฟ้า การจำแนกวัสดุที่ทำให้เกิด แรงไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในชั้นเรียน


11. สื่อการเรียนรู้ 1) สื่อการเรียนรู้ 1.1) หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ ป.6 1.2) ใบงานเรื่อง เทคโนโลยีอวกาศที่ใช้สำรวจอวกาศ 1.3) วีดีทัศน์ เรื่อง 10 สิ่งที่คุณจะต้องเจอหากจะไปใช้ชีวิตบนอวกาศ จาก https://www.youtube.com/watch?v=Zxn0EQXVk5M 1.3) วีดีทัศน์ เรื่อง เทคโนโลยีอวกาศ จาก https://www.youtube.com/watch?v=Hxk6U1nBjOM&list=PLvJJOUEAv7 m7PhSbGnJMuK0E_UglQ-My3&index=1 2) แหล่งการเรียนรู้ 2.1) ห้องเรียน 2.2) ห้องสมุด 12. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ที่ วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ 1 ตรวจสมุด ตรวจใบงาน แบบประเมินการทำงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2 สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3 สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


บันทึกการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะ/ แนวทางแก้ไข ลงชื่อ ผู้สอน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ.


แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ลำดับ เกณฑ์คุณภาพ คุณภาพ 3 2 1 1 เขียนสาระสำคัญครอบคลุมองค์ความรู้ แนวปฏิบัติคุมค่า 2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมสอดคล้องกับ KAP 3 สาระเรียนรู้ครอบคลุมเนื้อหา เนื้อหา กระบวนการ คุณลักษณะ 4 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นสมอง RL เกิด Active Learning 5 ออกแบบแต่ละกิจกรรมเหมาะสมกับผู้เรียน 6 ออกแบบการวัดประเมินจากชิ้นงานกลุ่ม/เดี่ยวของผู้เรียน 7 มีความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบข้อที่1-6 8 สื่อการเรียนรู้สอดคล้อง จุดประสงค์ ตรงเนื้อหา น่าสนใจ เหมาะสมกับวัย สะดวกใช้ รวม เฉลี่ย กิจกรรมเสนอแนะ (ถ้ามี) ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) ตำแหน่ง วันที่ เดือน พ.ศ. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 2.5 – 3 ระดับ 3 หมายถึง ดี 1.5 – 2.49 ระดับ 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 1.49 ระดับ 1 หมายถึง ปรับปรุง


Click to View FlipBook Version