The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศึกษาและเขียนแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้นใช้งานเบื้องต้น
โดยใช้การแก้ปัญหาอย่างง่ายตามขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น
เพื่อให้ผู้เขียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นแสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pornpun Thonglum, 2022-09-25 10:56:23

แผนการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ประถมศึกษาปีที่ 2

ศึกษาและเขียนแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้นใช้งานเบื้องต้น
โดยใช้การแก้ปัญหาอย่างง่ายตามขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น
เพื่อให้ผู้เขียนมีความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นแสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้,วิทยาการคำนวณ ป.2

7. คำถามสำคญั
หากจะเขียนโปรแกรม นักเรียนคดิ วา่ สงิ่ แรกท่ีจะต้องทำก่อนการเขียนโปรแกรมคืออะไร

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นสังเกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)

1. นกั เรยี นร่วมกันสนทนาเก่ยี วกับการเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย
2. นักเรยี นร่วมกนั ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มลู เกย่ี วกับการเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย จากแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ

อยา่ งหลากหลาย เชน่ การสอบถามจากครหู รือผู้ปกครอง และห้องสมุด
ข้ันคดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing)

3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ภาพการใช้บัตร
คำสั่งให้หุ่นยนตเ์ ดิน แลว้ เขยี นเป็นอลั กอรทิ ึม

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ภาพบัตรคำสั่งที่เป็นของโปรแกรมและบัตรคำสั่งการ
เขยี นโปรแกรม แล้วจบั คู่บตั รคำสัง่ ให้สมั พนั ธ์กนั

5. นกั เรียนรว่ มกันสงั เกตและวิเคราะหภ์ าพเก่ียวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกบั การใช้ชวี ิตประจำวนั
6. นักเรียนรว่ มกันสังเกตและวเิ คราะหภ์ าพและบัตรคำเกย่ี วกับวธิ กี ารแกป้ ญั หาการอ่านหนังสือไม่คล่อง

บนกระดาน จากน้นั จับค่ภู าพและบัตรคำให้สัมพนั ธก์ นั
7. นกั เรยี นรว่ มกันสงั เกตและวิเคราะหเ์ กี่ยวกับการเขียนโปรแกรมให้แมวเดินทางไปกนิ ปลา
8. นักเรยี นร่วมกนั คิดวเิ คราะห์
9. นักเรียนรว่ มกนั สรุปความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย
9. สื่อการเรียนร้/ู แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 ของ

สถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพการใชบ้ ัตรคำส่งั ให้หุ่นยนตเ์ ดิน
3. ภาพภาษาของโปรแกรม และบัตรคำส่งั การเขยี นโปรแกรม
4. ภาพส่ิงทเี่ กย่ี วข้องกับการใชช้ วี ิตประจำวัน
5. ภาพและบัตรคำการใช้คำสั่งให้ตัวละครเคลื่อนที่
6. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
10. การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง การคน้ พบปญั หา (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 47

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชีแ้ จง มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง และไมม่ ีการชี้แจง

เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ัติงานร่วมกัน

รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมิน

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 48

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6
เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้บัตรคำสงั่

รหสั วชิ า ว21101 รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2
เวลา 6 ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การเขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้น เวลา 1 ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 การเขยี นโปรแกรมโดยใช้บตั รคำสั่ง ผสู้ อน นางพรพรรณ นมัสไธสง
โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนคร้ังที่ วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม

2. ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือสื่อ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเก่ยี วกบั การเขยี นโปรแกรมโดยใช้บตั รคำสัง่ (K)
2. เขียนโปรแกรมพาหุ่นยนต์ออกจากเขาวงกตโดยใชบ้ ตั รคำส่ัง และเขยี นแสดงข้นั ตอนการทำงานเปน็

อลั กอริทึม (P)
3. มคี วามกระตอื รือร้นในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี นรู้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
การเขียนโปรแกรมมีเครื่องมือในการเขียนโปรแกรมหลายรูปแบบ เช่น เขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่งของ

ภาษาโปรแกรมตามที่ออกแบบไว้ หรือเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ัตรคำสง่ั ท่อี อกแบบไวใ้ หห้ ุ่นยนต์เข้าใจ

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุง่ มั่นในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 49

7. คำถามสำคัญ
นกั เรยี นมีวิธกี ารแก้ปัญหาอย่างไรใหเ้ รว็ ที่สุด

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ ปฏิบัติและสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)

8. นกั เรียนนักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนัน้ ร่วมกันปฏิบัติกจิ กรรมท่ี 2.1 หนุ่ ยนตแ์ มวเดินไป
กนิ ปลา โดยใชบ้ ัตรคำสงั่ 4 คำสง่ั ในการเขยี นโปรแกรมได้

9. นักเรยี นนักเรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันปฏิบัตกิ จิ กรรมที่ 2.2 พาหุน่ ยนต์ออกจากเขาวงกต แล้วคดิ
แกป้ ัญหาโดยเขยี นลูกศรจากตำแหน่งเริ่มต้นไปยังตำแหนง่ ประตทู างออกว่าจะทำอย่างไรให้หุ่นยนต์
เดนิ โดยผ่านจำนวนบลอ็ กนอ้ ยทสี่ ดุ แล้วแสดงข้ันตอนการทำงานของห่นุ ยนต์เป็นอัลกอริทึม

10. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ท่เี ข้าใจเป็นความรู้
ขั้นสอื่ สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

11. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สังเกตและวเิ คราะหภ์ าพบัตรคำส่ังทเี่ ปน็ ของโปรแกรมและบตั รคำสัง่ การ
เขียนโปรแกรม แลว้ จบั คบู่ ตั รคำส่งั ใหส้ มั พันธ์กนั

12. นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายแลกเปล่ียนความคดิ เห็นโดยตอบคำถาม
13. นกั เรยี นร่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกับวิธีการทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวิธกี ารทำงานที่มแี บบ

แผน
ข้ันประเมินเพอ่ื เพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)

14. นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมโดยใช้บล็อกคำสั่ง และการออกแบบการทำงาน โดย
เขยี นเป็นอัลกอรทิ มึ ไปบอกต่อเพอ่ื น ๆ และรนุ่ นอ้ ง ใหส้ ามารถนำไปใช้ในการเรียนได้อย่างเขา้ ใจ

15. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม
9. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 ของ
สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แหลง่ การเรยี นรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น
10. การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมโดยใชบ้ ตั รคำสั่ง (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 50

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชีแ้ จง มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง และไมม่ ีการชี้แจง

เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ัติงานร่วมกัน

รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมิน

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 51

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7
เรื่อง สนุกกับการเขียนโปรแกรม

รหสั วชิ า ว21101 รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
เวลา 6 ชวั่ โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเขยี นโปรแกรมเบือ้ งต้น เวลา 1 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 สนุกกบั การเขียนโปรแกรม ผสู้ อน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรยี นวัดสว่างอารมณ์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนครง้ั ท่ี วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม

2. ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือสื่อ และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การเขยี นโปรแกรม (K)
2. เขยี นโปรแกรมโดยเลอื กบทเรยี นที่ 6 เขาวงกต: ลปู ที่เว็บไซต์ https://code.org (P)
3. มคี วามกระตอื รือร้นในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
แหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมที่น่าสนใจในปัจจุบันมีอยู่มากมาย เช่น เว็บไซต์

https://code.org จะมบี ทเรียนให้เลือกเรยี นหรือฝกึ เขยี นโปรแกรมมากมาย

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 52

7. คำถามสำคญั
ถ้าตำแหนง่ ของหมูขยับขึ้นไปด้านบนอกี 3 บล็อก นักเรยี นจะตอ้ งกำหนดการทำซ้ำเป็นเทา่ ไร

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันสังเกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)

1. นักเรยี น นกั เรยี นรว่ มกนั สังเกตหนา้ เว็บไซต์ https://code.org
2. นักเรียนร่วมกันศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลเกยี่ วกบั สนุกกบั การเขยี นโปรแกรม จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ

อยา่ งหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครหู รอื ผ้ปู กครอง และหอ้ งสมดุ
ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing)

3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เกีย่ วกบั การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ https://code.org

4. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันวเิ คราะห์และอภิปรายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นการเขียนโปรแกรม โดยใช้
https://code.org ท่ีมคี วามซับซ้อนมากขึน้

5. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับสนกุ กับการเขียนโปรแกรม
ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)

6. นักเรียนจับคูห่ รือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเครือ่ งคอมพิวเตอร์ โดยให้มีนักเรียน 1 คน
ที่มีประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากนั้นร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมที่ 2.3 เขาวงกต: ลูป โดย
เข้าไปที่เว็บไซต์ https://code.org แล้วเขา้ สู่บทเรยี นที่ 6 เขาวงกต: ลูป โดยปฏบิ ัตติ ามขั้นตอน เม่อื
เขยี นโปรแกรมเสรจ็ นกั เรยี นทำการประเมนิ ตนเองลงในแบบประเมินช้ินงานที่ 4 เรือ่ ง เขาวงกตมหาสนุก

7. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั
ขน้ั ส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลการเขียนโปรแกรมเขาวงกตมหาสนุก ของกลุ่มตนเองหนา้ ชน้ั
เรยี น เพ่ือแลกเปล่ียนเรยี นรกู้ ัน

9. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเก่ยี วกบั วิธีการทำงานให้เหน็ การคดิ เชิงระบบและวธิ กี ารทำงานที่มแี บบ
แผน

ขั้นประเมินเพอ่ื เพ่ิมคณุ ค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating)
10. นกั เรียนนำความรเู้ ก่ยี วกบั การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เวบ็ ไซต์ https://code.org ไปบอกเลา่ ใหเ้ พอื่ นที่
ยงั ไมเ่ ข้าใจ และรุ่นน้องให้สามารถเขยี นโปรแกรมไดอ้ ย่างถูกต้อง
11. นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความร้สู ึกหลังการเรียนและหลังการทำกจิ กรรม

9. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ของ
สถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. หนา้ เว็บไซต์ https://code.org
3. ภาพการเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ ว็บไซต์ https://code.org
4. ภาพการเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ วบ็ ไซต์ https://code.org ทม่ี คี วามซบั ซ้อนมากข้ึน
5. ห้องคอมพิวเตอรท์ เี่ ช่อื มต่อเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็
6. แหลง่ การเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 53

10. การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เรื่อง สนุกกับการเขียนโปรแกรม (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินชนิ้ งาน เรอ่ื ง เขาวงกตมหาสนกุ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่นั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกลมุ่ มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชิกชัดเจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชกิ

และมกี ารชี้แจง มีการช้ีแจงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง

เป้าหมาย อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน อยา่ งชดั เจน ตา่ งคนต่างทำงาน

มกี ารปฏบิ ัตงิ าน แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏิบตั งิ านร่วมกัน

ร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ

พร้อมกบั การประเมิน

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 54

แบบประเมินชนิ้ งานท่ี 4 เรอื่ ง เขาวงกตมหาสนกุ

รายการการ ระดับคณุ ภาพ

ประเมนิ 4 3 2 1

การเขยี นโปรแกรม เขา้ ใช้งานเวบ็ ไซต์ เขา้ ใช้งานเว็บไซต์ เข้าใช้งานเว็บไซต์ เข้าใช้งานเวบ็ ไซต์

โดยเขา้ ใช้งาน https://code.org https://code.org https://code.org https://code.org

ทเ่ี ว็บไซต์ เลอื กคอร์สและบทเรยี นเลอื กคอรส์ และ เลือกคอร์สและ เลือกคอรส์ และ

https://code.org ทใ่ี ชใ้ นการเขยี น บทเรียนท่ีใช้ในการ บทเรียนทใ่ี ช้ในการ บทเรียนทใ่ี ช้ในการ

บทเรียนท่ี 6 โปรแกรมได้ เขยี นโปรแกรมได้อย่าง เขยี นโปรแกรมไดอ้ ย่าง เขยี นโปรแกรมได้
เขาวงกต: ลูป
ถกู ต้อง ถูกต้อง เขยี น และเขียนโปรแกรม
อยา่ งคล่องแคลว่ เขยี นโปรแกรม
และถูกตอ้ ง โปรแกรม ใหต้ ัวละครเดนิ ไปจบั
ใหต้ วั ละครเดินไปจบั ใหต้ ัวละครเดินไปจับ หมู
แม่นยำ เขยี นโปรแกรมหมูได้สำเรจ็ หน้าจอ หมไู ดส้ ำเร็จ หน้าจอ ไดส้ ำเรจ็ หน้าจอแสดง
แสดงข้อความยนิ ดี ข้อความยินดี
ใหต้ ัวละครเดินไปจบั แสดงข้อความยนิ ดี เมือ่ เขียนโปรแกรม เมอ่ื เขยี นโปรแกรม
หมู เมอ่ื เขียนโปรแกรม เสรจ็ เกิดปญั หาในการ เสรจ็
ไดส้ ำเรจ็ หน้าจอแสดง เสรจ็ ทำงานแตส่ ามารถแก้ โดยมเี พื่อนคอย
ข้อความยินดี ไมเ่ กิดปญั หา เองได้ แนะนำทุกขน้ั ตอน
เมอื่ เขียนโปรแกรม ในการทำงาน ใช้เวลามากกว่า
เสร็จ ใช้เวลามากกว่า

ไม่เกิดปัญหา

ในการทำงาน

ใช้เวลาน้อย

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 55

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8
เรื่อง การตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม

รหัสวชิ า ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
เวลา 6 ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เวลา 1 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 เร่อื ง การตรวจสอบความผดิ พลาดของโปรแกรม ผสู้ อน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนครง้ั ที่ วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

2. ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
ว 4.2 ป.2/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายเกี่ยวกบั การตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม (K)
2. ตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดของโปรแกรม (P)
3. เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม (A)

4. สาระการเรยี นรู้
การเขียนโปรแกรมบางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น เช่น การเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งแล้วเราสะกดผิด

หรอื เขยี นคำสง่ั ท่ีโปรแกรมไม่เข้าใจ หากตรวจสอบทลี ะคำส่งั แลว้ แก้ไขให้ถกู ต้อง โปรแกรมกจ็ ะสามารถทำงาน
ตอ่ ไปได้
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 56

7. คำถามสำคัญ
1. ถา้ ต้องการให้ตัวละครเดินไปข้างหน้าอีก 4 บลอ็ ก โดยแตล่ ะบลอ็ กจะต้องหันซ้าย 1 ครง้ั นักเรียนจะ
เขียนโปรแกรมโดยใช้บลอ็ กคำส่งั อยา่ งไร
2. การตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรมมีประโยชน์อย่างไร

8. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั สังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)

1. นกั เรียนรว่ มกันสังเกตภาพผชู้ ายกำลังซ่อมคอมพิวเตอร์ แล้วตอบคำถาม
2. นกั เรยี นนกั เรียนรว่ มกันศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูลเกยี่ วกับการตรวจสอบความผดิ พลาดของโปรแกรม จาก

แหล่งการเรียนรตู้ า่ ง ๆ อยา่ งหลากหลาย เชน่ การสอบถามจากครูหรือผู้ปกครอง และห้องสมุด
ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)

3. นักเรียนนักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ภาพ
อัลกอรทิ มึ แสดงการทำงานและผลการทำงานของการเขยี นโปรแกรมให้หนุ่ ยนตเ์ ดนิ ทางไปพบจรวด

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันสังเกตและวเิ คราะห์ภาพบตั รคำสั่งทเ่ี ปน็ ของโปรแกรมและบัตรคำสั่งการ
เขียนโปรแกรม แล้วจับค่บู ัตรคำสั่งให้สัมพนั ธ์กนั

5. นักเรียนร่วมกันคดิ วิเคราะห์ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด
6. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความคดิ รวบยอดเก่ียวกับการตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม
ข้นั ปฏิบตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมพาหุ่นยนต์ไปเติมพลังงานว่าผิดพลาด

อยา่ งไร แล้วแก้ไขการทำงานใหถ้ กู ต้อง โดยเขยี นเป็นผงั งานลงในช้นิ งานที่ 5 เร่อื ง การตรวจสอบและ
แก้ไขความผิดพลาดของโปรแกรม
8. นักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งท่ีเข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกนั
ข้นั สอ่ื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
9. นักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอ การตรวจสอบและการแก้ไขความผดิ พลาดของโปรแกรมของกลมุ่
ตนเองหน้าชั้นเรียน เพ่ือแลกเปลีย่ นเรียนร้กู ัน
10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็น
11. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชงิ ระบบและวธิ ีการทำงานท่มี แี บบ
แผน
ขน้ั ประเมนิ เพอื่ เพิ่มคณุ คา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating)
12. นักเรยี นนำความร้ทู ี่ได้ไปอธิบายวธิ ีการและบอกประโยชน์ของการตรวจสอบความผิดพลาดของ
โปรแกรมให้เพ่ือน ๆ หรอื ร่นุ นอ้ งเขา้ ใจ ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้อยา่ งถูกต้อง
13. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทำกจิ กรรม
9. สือ่ การเรยี นร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 ของ
สถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพผชู้ ายกำลงั ซอ่ มคอมพิวเตอร์
3. ภาพการทำงานของโปรแกรมใหห้ ุน่ ยนต์เดินทางไปพบจรวด

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 57

4. ภาพการทำงานของโปรแกรมท่ีใหต้ วั ละครเคล่อื นท่จี ากตำแหน่ง A ไปถึงตำแหนง่ C
5. แหลง่ การเรียนรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน

10. การประเมนิ การเรยี นรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง การตรวจสอบความผิดพลาดของโปรแกรม (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมนิ ชิ้นงาน เร่อื ง การตรวจสอบและแก้ไขความผดิ พลาดของโปรแกรม (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกลมุ่ มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชีแ้ จง มีการชี้แจงเปา้ หมาย ไมม่ ีการช้แี จง และไมม่ ีการชแ้ี จง

เป้าหมาย อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั งิ าน แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏิบัติงานรว่ มกนั

ร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน

อย่างรว่ มมือรว่ มใจ

พร้อมกับการประเมนิ

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 58

แบบประเมินชน้ิ งานที่ 5 เรือ่ ง การตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดของโปรแกรม

รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
4 32 1
การตรวจสอบและ
แก้ไขความ วิเคราะหต์ รวจสอบ วิเคราะหต์ รวจสอบ วิเคราะหต์ รวจสอบ วเิ คราะห์ตรวจสอบ
ผิดพลาด หาความผิดพลาด หาความผิดพลาด
ในการทำงาน ในการทำงาน หาความผดิ พลาด หาความผดิ พลาด ในการทำงาน
ของโปรแกรม ของโปรแกรม ของโปรแกรม
พาหนุ่ ยนต์ ทใ่ี หห้ ุ่นยนต์ ในการทำงาน ในการทำงาน ที่ใหห้ ่นุ ยนต์
ไปเตมิ พลงั งาน ไปเตมิ พลังงาน ไปเติมพลังงาน
ทีละข้ันตอนไดด้ ี ของโปรแกรม ของโปรแกรม ทีละขัน้ ตอน
สามารถวิเคราะห์ สามารถวเิ คราะห์
แกไ้ ขความผดิ พลาด ท่ใี หห้ นุ่ ยนต์ ท่ีให้ห่นุ ยนต์ แกไ้ ขความผิดพลาด
โดยให้หนุ่ ยนต์เดนิ ไป โดยให้หุ่นยนต์เดนิ ไป
เตมิ พลงั งานตาม ไปเตมิ พลังงาน ไปเติมพลังงาน เตมิ พลังงานตาม
คำส่งั ของโปรแกรม คำสั่งของโปรแกรม
ได้อยา่ งแม่นยำและ ทีละข้นั ตอนได้ ทีละข้นั ตอน ไดอ้ ย่างถูกต้อง โดยมี
ถกู ต้อง เพ่อื น
ไม่เกิดปัญหา สามารถวเิ คราะห์ สามารถวิเคราะห์ คอยแนะนำทุก
ในการทำงาน ขัน้ ตอน
และใชเ้ วลาน้อย แก้ไขความผดิ พลาด แกไ้ ขความผิดพลาด เกดิ ปัญหาในการ
ทำงาน
โดยให้หุ่นยนต์เดนิ ไป โดยให้ห่นุ ยนตเ์ ดินไป ใชเ้ วลามากกวา่

เติมพลงั งานตาม เตมิ พลังงานตาม

คำสง่ั ของโปรแกรม คำสง่ั ของโปรแกรม

ได้อย่างถกู ตอ้ ง ไม่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง โดยมี

เกดิ ปัญหา เพ่ือน

ในการทำงาน คอยแนะนำ เกิด

แต่ใช้เวลามากกว่า ปัญหา

ในการทำงาน

ใช้เวลามากกวา่

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 59

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9
เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch

รหสั วชิ า ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2
เวลา 6 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การเขียนโปรแกรมเบ้อื งต้น เวลา 1 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 การเขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch ผู้สอน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรียนวดั สวา่ งอารมณ์
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนครั้งท่ี วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

2. ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื สอ่ื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมด้วย Scratch (K)
2. เขียนโปรแกรมใหแ้ มวเดินเป็นรปู สเ่ี หลยี่ มจัตรุ ัส (P)
3. มีความกระตอื รือรน้ ในการปฏบิ ัติกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
Scratch เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถเขียนได้หลายรูปแบบ

โดยการเขยี นโปรแกรมบนเวบ็ ไซตห์ รอื ตดิ ตัง้ ไวใ้ นเครอ่ื งเลยก็ได้

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุ่งม่ันในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 60

7. คำถามสำคัญ
การเขยี นโปรแกรม Scratch สามารถเขา้ ใช้งานได้กี่แบบ อะไรบ้าง

8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นสงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)

1. นักเรียนร่วมกนั สงั เกตสัญลักษณ์เกี่ยวกับโปรแกรม Scratch
2. นักเรียนร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าข้อมลู เก่ยี วกับการเขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่าง

ๆ อย่างหลากหลาย เช่น การสอบถามจากครหู รือผู้ปกครอง และหอ้ งสมดุ
ขั้นคดิ วิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing)

3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ภาพหน้าต่าง
โปรแกรม Scratch วา่ มสี ่วนประกอบอะไรบ้าง

4. นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตและวิเคราะหภ์ าพแมวเดนิ เป็นรูปส่เี หลยี่ มจัตุรัสบนกระดาน แลว้ ออกแบบ
ขัน้ ตอนการทำงานของโปรแกรม

5. นักเรียนรว่ มกันคดิ วิเคราะห์ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด
6. นักเรยี นร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกย่ี วกบั การเขียนโปรแกรมด้วย Scratch
ขนั้ ปฏิบัติและสรปุ ความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
7. นักเรียน จับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยให้มีนักเรียน 1

คนที่มีประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากนั้นแต่ละคู่หรือแต่ละกลุม่ ร่วมกันปฏิบตั ิกิจกรรม
ที่ 2.4 การเขียนโปรแกรมให้แมวเดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยนำการออกแบบการทำงานของ
โปรแกรมที่นักเรียนได้ออกแบบไว้ในข้อ 4 มาเขียนโปรแกรมตามขั้นตอน แล้วบันทึกผลลงในแบบ
บันทึกชน้ิ งานท่ี 6 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมให้แมวเดนิ เปน็ รูปสีเ่ หลีย่ มจตั รุ สั
8. นกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทเี่ ข้าใจเป็นความร้รู ว่ มกัน
ขนั้ ส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
9. นักเรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอ การเขยี นโปรแกรมใหแ้ มวเดนิ เป็นรูปส่ีเหลี่ยมจตั รุ สั หน้าชัน้ เรียน
เพอ่ื แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั
10. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ เก่ียวกับวธิ ีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวธิ ีการทำงานท่ีมีแบบ
แผน

9. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ของ
สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. ภาพแมว
3. ภาพหน้าต่างโปรแกรม Scratch
4. ภาพแมวเดนิ เปน็ รูปส่ีเหลี่ยมจัตรุ สั
5. ห้องคอมพิวเตอร์ท่ีเชอื่ มต่อเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต
6. แหล่งการเรยี นร้ทู ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 61

10. การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมด้วย Scratch (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมินชน้ิ งาน เร่ือง การเขียนโปรแกรมให้แมวเดนิ เปน็ รูปสเี่ หลยี่ มจัตรุ ัส (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกล่มุ มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชกิ ชัดเจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชิก

และมีการช้ีแจง มีการช้ีแจงเปา้ หมาย ไม่มีการช้แี จง และไม่มีการช้แี จง

เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏิบตั ิงานรว่ มกัน อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน

มีการปฏิบัติงาน แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน

ร่วมกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน

อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมิน

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 62

แบบประเมนิ ชิ้นงานที่ 6 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมให้แมวเดนิ เปน็ รูปสเ่ี หลีย่ มจตั ุรสั

รายการการ ระดบั คุณภาพ

ประเมนิ 4 3 2 1

การเขยี นโปรแกรม เข้าใชง้ านโปรแกรม เขา้ ใช้งานโปรแกรม เข้าใชง้ านโปรแกรม เข้าใช้งานโปรแกรม

Scratch ใหแ้ มวเดนิ ได้อยา่ งถกู ต้อง ได้อย่างถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ได้อย่างถกู ตอ้ ง

เป็นรูปส่เี หลยี่ ม ลากบล็อกคำส่ังมาวาง ลากบลอ็ กคำส่ังมาวาง เกิดปัญหาในการลาก เกดิ ปญั หาในการลาก

จัตรุ สั ในพ้ืนท่ีทำงานได้ ในพนื้ ท่ีทำงานได้ บล็อกคำสัง่ มาวาง บลอ็ กคำสั่งมาวาง

ทุกบลอ็ กคำสั่ง ทุกบล็อกคำส่งั บางสว่ น และการกำหนดคา่

กำหนดคา่ ของ เกิดปัญหา และการกำหนดคา่ ของบล็อกคำสงั่

การเคลือ่ นที่ การหมุน ในการกำหนดค่า ของบล็อกคำสง่ั บาง บางสว่ นไม่ถูกต้อง แต่

การหนว่ งเวลา และ ของบล็อกคำส่ัง อนั สามารถเขยี น

ทำซ้ำในการทำงานได้ บางส่วนแต่สามารถ ไม่ถูกต้อง แตส่ ามารถ โปรแกรม

ทกุ บล็อกคำสง่ั แกป้ ัญหาได้เองเขยี น เขียนโปรแกรม ใหแ้ มวเดนิ ลากเส้น

อย่างถูกต้อง โปรแกรมได้สำเรจ็ ใหแ้ มวเดนิ ลากเส้น เปน็ รูปสเ่ี หล่ียมจัตุรัส

และแมน่ ยำ โดยแสดงผลแมวเดิน เป็นรปู ส่เี หลีย่ มจัตุรสั ได้สำเร็จ โดยมีเพ่ือน

เขียนโปรแกรมได้ ลากเส้นเป็นรปู ไดส้ ำเรจ็ โดยมีเพ่ือน คอยแนะนำทุกขัน้ ตอน

สำเร็จโดยแสดงผล สีเ่ หลี่ยมจตั ุรสั คอยแนะนำ

แมวเดินลากเสน้ เปน็ ในบางขั้นตอน

รูปส่ีเหลี่ยมจัตรุ สั

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 63

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10
เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรม Scratch ให้แมวเดินลากเสน้ เปน็ รปู แปดเหลีย่ ม

รหัสวชิ า ว21101 รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เวลา 6 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 การเขยี นโปรแกรม Scratch ใหแ้ มวเดนิ ลากเสน้ เปน็ รูปแปดเหล่ยี ม เวลา 1 ชัว่ โมง

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ผู้สอน นางพรพรรณ นมัสไธสง

สอนครง้ั ท่ี วัน เดอื น พ.ศ. . โรงเรยี นวัดสวา่ งอารมณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม

2. ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือสอ่ื และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเกี่ยวกับการเขยี นโปรแกรม Scratch ให้แมวเดินลากเสน้ เป็นรปู แปดเหล่ียม (K)
2. เขียนโปรแกรม Scratch ให้แมวเดินลากเส้นเปน็ รปู แปดเหลย่ี ม (P)
3. เห็นประโยชน์และแนวทางในการนำความรู้ไปต่อยอด (A)

4. สาระการเรียนรู้
การเขียนโปรแกรม Scartch เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฝึกเขียนโปรแกรมได้เป็นอย่างดี และการเขียน

โปรแกรมให้แมวเดินลากเส้นเป็นรูปแปดเหลี่ยมก็เป็นอีกการทำงานหนึ่งที่จะช่วยให้เราใช้ฝึกทักษะการเขียน
โปรแกรมใหเ้ กดิ ความชำนาญ

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 64

7. คำถามสำคญั
การฝกึ เขียนโปรแกรม Scratch มปี ระโยชนอ์ ย่างไร

8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ ปฏิบตั ิและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge)

1. นักเรียนนักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยให้มี
นกั เรยี น 1 คนท่มี ีประสบการณใ์ นการใช้งานคอมพวิ เตอร์ จากน้นั แต่ละคู่หรือแต่ละกลุ่มร่วมกันเขียน
โปรแกรม ให้แมวเดินลากเสน้ เปน็ รปู แปดเหล่ยี ม

2. นกั เรียนรว่ มกันสรุปสงิ่ ทีเ่ ข้าใจเปน็ ความร้รู ว่ มกนั
ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

3. นักนักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั จากนนั้ แต่ละกลุ่มร่วมกันสงั เกตและวิเคราะห์ภาพการใช้บัตร
คำสั่งให้หนุ่ ยนตเ์ ดิน แล้วเขยี นเป็นอลั กอรทิ มึ โดยเขียนบนั ทึกคำตอบของนกั เรียนบนกระดาน

4. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายแลกเปลยี่ นความคดิ เห็น
5. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเก่ียวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงานที่มีแบบ

แผน
ขน้ั ประเมนิ เพอ่ื เพ่ิมคุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)

6. นกั เรียนนำความรูเ้ กี่ยวกับการเขยี นโปรแกรมดว้ ย Scratch ไปบอกต่อเพ่ือน ๆ หรือร่นุ น้อง
ใหเ้ ข้าใจ จนสามารถเขยี นโปรแกรมได้

7. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความร้สู กึ หลงั การเรยี นและหลังการทำกิจกรรม
9. สอื่ การเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 ของ
สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. ห้องคอมพวิ เตอรท์ ่เี ชื่อมต่อเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต
3. แหลง่ การเรยี นรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
10. การประเมนิ การเรยี นรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง การเขยี นโปรแกรม Scratch ใหแ้ มวเดนิ ลากเส้นเป็นรปู แปดเหลี่ยม (K) ดว้ ย
แบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 65

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชีแ้ จง มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง และไมม่ ีการชี้แจง

เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ัติงานร่วมกัน

รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมิน

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 66

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
เรอ่ื ง การใชซ้ อฟตแ์ วร์ในการทำงาน

รหัสวชิ า ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2

เวลา 7 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ผู้สอน นางพรพรรณ นมัสไธสง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ัญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม

ตัวช้วี ัด ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรียกใชข้ ้อมูล
ว 4.2 ป.2/3 ตามวตั ถปุ ระสงค์

2. สาระสำคญั
1. โปรแกรมประมวลคำ เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการพิมพ์งานด้านเอกสาร ซึ่งมีอยู่หลายโปรแกรม เช่น
โปรแกรมโน้ตแพด โปรแกรมเวริ ด์ แพด และโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ์ด ซ่ึงเป็นท่ีได้รับความ
นิยม เพราะมคี วามสามารถในการทำงานได้อย่างหลากหลาย
2. โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิร์ดมีความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของงานด้านการจัดทำเอกสาร
และอีกความสามารถหนึ่ง คือ การทำเอกสารในรูปแบบแผ่นพับที่ใช้ในการนำเสนอเอกสารให้
นา่ สนใจ เช่น แผน่ พับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
3. โปรแกรมกราฟกิ เปน็ โปรแกรมสำหรบั การวาดภาพระบายสี เช่น โปรแกรมระบายสี (Paint) ซึ่งจะมี
เครื่องมือในการวาดภาพระบายสีและจัดการกับภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพลิกหรือหมุนภาพ
การย่อขนาดภาพ และการเอยี งภาพ
4. โปรแกรมนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรูปแบบและความสามารถที่แตกต่างกัน
ออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ ที่
สามารถนำเสนอขอ้ มูลได้หลายรปู แบบ เชน่ ภาพ ขอ้ ความ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง
5. เครื่องคอมพิวเตอร์มีการเก็บข้อมูลในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการใช้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ สร้างขึ้นมา
จนเกิดเป็นไฟล์ และมีการคัดแยกไฟล์ตามหมวดหมู่ โดยมีการจัดเรียงให้เป็นระเบียบ เรียกว่า
โฟลเดอร์

3. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
11. ความสามารถในการสื่อสาร
12. ความสามารถในการคดิ
13. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 67

14. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
15. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5. ใฝเ่ รียนรู้
6. มุ่งม่ันในการทำงาน
5. คำถามสำคญั
1. นกั เรียนเคยใชซ้ อฟต์แวรอ์ ะไรบา้ งในการเรยี น
2. นักเรยี นคิดว่าโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เวริ ด์ สามารถทำแผน่ พบั ได้หรอื ไม่
3. นักเรียนจะนำความรู้เกย่ี วกบั กราฟิกไปใชใ้ นการเรยี นวชิ าอ่ืน ๆ ได้อย่างไร
4. การวาดภาพดว้ ยมือและการวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint) แบบใดสวยกว่ากันเพราะเหตุใด
5. เหตใุ ดในการนำเสนองานหรือชน้ิ งานต่าง ๆ จงึ ตอ้ งใชโ้ ปรแกรมนำเสนอ
6. หากนกั เรยี นต้องการนำเสนอเร่ืองราวเก่ียวกับตนเอง นักเรียนจะออกแบบการนำเสนออยา่ งไร

สคริปตแ์ ต่ละหน้าจะมีอะไรบ้าง
7. การนำเสนอข้อมูลแบบมัลติมิเดียมีลกั ษณะอย่างไร
8. ทำไมจึงตอ้ งจดั การไฟลข์ ้อมลู
9. นกั เรียนคดิ ว่าการเรียกใช้ไฟล์งานเกา่ ขน้ึ มาแก้ไขมีวิธีการอื่นอีกหรือไม่ อย่างไร
6. ภาระงาน : ช้ินงาน/การแสดงออกของผเู้ รียน
▪ ชนิ้ งานที่ 7 เรื่อง การสร้างเอกสารการ์ตูนท่ีฉันชอบ
▪ ชน้ิ งานท่ี 8 เร่ือง การสรา้ งภาพตวั ต่อ
▪ ชิ้นงานที่ 9 เรื่อง การใช้งานโปรแกรมนำเสนอ
▪ ชิ้นงานท่ี 10 เรอ่ื ง การสร้างกล่องจัดเกบ็ ไฟล์ของฉนั
▪ ชิ้นงานที่ 11 เรื่อง การคัดลอกและย้ายไฟล์
▪ ชนิ้ งานท่ี 12 เร่ือง การแก้ไขไฟล์
7. การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การใช้ซอฟต์แวรใ์ นการทำงาน (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ช้ินงาน เรือ่ ง การสร้างเอกสารการ์ตูนที่ฉนั ชอบ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมนิ ชน้ิ งาน เร่ือง การสรา้ งภาพตัวตอ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
5. ประเมินชนิ้ งาน เร่ือง การใชง้ านโปรแกรมนำเสนอ (P) ด้วยแบบประเมนิ
6. ประเมินชนิ้ งาน เรอื่ ง การสรา้ งกล่องจัดเก็บไฟลข์ องฉัน (P) ด้วยแบบประเมนิ
7. ประเมินชิน้ งาน เรือ่ ง การคัดลอกและย้ายไฟล์ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
8. ประเมินชนิ้ งาน เรื่อง การแก้ไขไฟล์ (P) ด้วยแบบประเมนิ
9. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 68

8. แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชิก

และมกี ารชีแ้ จง มกี ารชแี้ จงเปา้ หมาย ไม่มีการชแี้ จง และไมม่ ีการชแ้ี จง

เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏบิ ัติงานรว่ มกัน อย่างชัดเจน ต่างคนต่างทำงาน

มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน

รว่ มกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน

อยา่ งร่วมมือร่วมใจ

พรอ้ มกับการประเมิน

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 69

แบบประเมินชิน้ งานท่ี 7 เรอื่ ง การสรา้ งเอกสารการต์ ูนท่ีฉันชอบ

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4 321
การสร้างเอกสาร
เกยี่ วกบั การ์ตูน เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เข้าใชง้ านโปรแกรม เข้าใช้งานโปรแกรม
ทน่ี ักเรยี นชอบ ไดอ้ ย่างถกู ต้องและ
โดยใช้โปรแกรม แม่นยำ สามารถ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ได้อยา่ งถูกต้อง เลือก ได้อยา่ งถูกต้อง เลือก
ไมโครซอฟต์ เลือกการตง้ั คา่
ออฟฟิศเวิรด์ หน้ากระดาษได้ สามารถเลอื กการตั้ง การ การ
ตามท่ีกำหนด พมิ พ์
ข้อความได้อยา่ ง คา่ หน้ากระดาษได้ ตงั้ คา่ หน้ากระดาษได้ ตงั้ ค่าหนา้ กระดาษได้
ถูกต้องทุกคำ แทรก
ภาพทตี่ ้องการ ตามที่กำหนด พมิ พ์ ตามที่กำหนด มีบาง ตามท่ีกำหนด มีบาง
ลงบนหนา้ กระดาษ
ไดด้ สี ามารถเลอื ก ข้อความ คำ คำ
แบบและขนาดของ
ตัวอกั ษรไดด้ ี ได้อย่างถกู ตอ้ งทุกคำ ทพี่ ิมพข์ ้อความผดิ ทพี่ มิ พ์ข้อความผิด
เหมาะสม และมี
ความนา่ สนใจ แทรกภาพท่ตี อ้ งการ แทรกภาพทต่ี ้องการ แทรกภาพทต่ี อ้ งการ
สามารถตง้ั ชอื่ และ
บนั ทกึ ไฟล์งานได้ ลงบนหนา้ กระดาษ ลงบนหนา้ กระดาษ ลงบนหนา้ กระดาษ
สำเรจ็
ได้ดี สามารถเลือก ได้ สามารถเลือก ได้ สามารถเลือก

แบบและขนาดของ แบบและขนาดของ แบบและขนาดของ

ตัวอกั ษรได้ดี ตวั อักษรได้ สามารถ ตวั อกั ษรไดส้ ามารถ

สามารถตงั้ ช่อื และ ตั้งชื่อและบนั ทกึ ไฟล์ ต้ังช่ือและบันทกึ ไฟล์

บันทกึ ไฟล์งานได้ งานไดส้ ำเรจ็ งานได้สำเรจ็

สำเร็จ โดยมเี พ่ือนคอย

แนะนำ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 70

แบบประเมินชนิ้ งานท่ี 8 เรือ่ ง การสร้างภาพตัวตอ่

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ

ประเมนิ 4 32 1

การสร้างภาพตัว เข้าใช้งานโดยเปดิ เขา้ ใช้งานโปรแกรม เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เข้าใช้งานโปรแกรม
ระบายสีได้ เลอื ก
ตอ่ โดยใชโ้ ปรแกรม โปรแกรมระบายสี ระบายสไี ด้ดี ระบายสีได้ สามารถ รปู ส่ีเหลี่ยมแลว้ นำมา
วาดลงบนพ้ืนท่ีงาน
ระบายสี (Paint) ได้อยา่ งคล่องแคล่ว สามารถเลอื กรูป เลอื กรูปสีเ่ หลีย่ ม เลือกเสน้ ตรงแล้ว
นำมาวาดโดยลากเส้น
สามารถเลือกรปู สเ่ี หลย่ี ม แลว้ นำมาวาดลงบน ใหเ้ ป็นจุดตัดกับมมุ
จนเกดิ เปน็ ตัวต่อ
สีเ่ หลย่ี มแล้วนำมา แลว้ นำมาวาดลงบน พืน้ ทีง่ านได้ เลอื ก เลอื กและเทสลี งใน
ตวั ต่อจนปรากฏสใี น
วาดลงบน พน้ื ทีง่ านได้ เลอื ก เสน้ ตรงแลว้ นำมา ช่องของตวั ตอ่ โดยมี
เพ่ือน
พ้นื ทงี่ านได้ เลือก เส้นตรงแล้วนำมา วาดโดยลากเสน้ ให้ คอยแนะนำ

เส้นตรงแลว้ นำมา วาดโดยลากเสน้ ให้ เปน็ จดุ ตัดกับมุมจน

วาดโดยลากเสน้ ให้ เปน็ จุดตัดกบั มุมของ เกดิ เป็นตวั ต่อได้ดี

เป็น รูปสีเ่ หล่ยี ม พอสมควร

จุดตัดได้พอดีกบั มุม จนเกิดเปน็ ตัวตอ่ ไดด้ ี เลอื กและเทสลี งใน

ของรปู สเี่ หล่ียม เลอื กและเทสลี งในตวั ตวั ต่อจนปรากฏสีใน

จนเกดิ เป็นตัวต่อ ตอ่ จนปรากฏสใี น ช่องของ

ไดอ้ ยา่ งสวยงาม ช่องของตัวตอ่ ได้ ตัวตอ่ ได้

เลอื กและเทสี อย่างสวยงาม

ลงในตวั ต่อ จน

ปรากฏ

สใี นช่องของตัวตอ่

ไดอ้ ยา่ งสวยงาม

และนา่ สนใจ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 71

แบบประเมินชิ้นงานที่ 9 เร่ือง การใชง้ านโปรแกรมนำเสนอ

รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน
4 32 1
การใชง้ าน
โปรแกรม เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เข้าใชง้ านโปรแกรม เข้าใชง้ านโปรแกรม
ไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ
ออฟฟิศเพาเวอร์ เพาเวอร์พอยต์ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เพาเวอร์พอยต์ได้
พอยต์ในการ ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ พมิ พข์ ้อความและ
นำเสนอข้อมูล พมิ พ์ข้อความและ เพาเวอร์พอยต์ได้ เพาเวอร์พอยต์ได้ กำหนดรูปแบบ
กำหนดรูปแบบ ตวั อกั ษรได้
ตัวอกั ษร พมิ พข์ ้อความและ พิมพ์ข้อความและ พิมพ์ผิดมากกวา่ 3
ได้อย่างถกู ตอ้ งทุกคำ คำ
และสวยงาม กำหนดรปู แบบ กำหนดรูปแบบ เพิม่ ภาพน่ิงในการ
นา่ สนใจสามารถเพ่ิม ทำงานได้ โดยมเี พอื่ น
ภาพน่ิง ตวั อกั ษร ตวั อกั ษรได้ คอยแนะนำ
ในการทำงานได้ กดนำเสนองานได้
กดนำเสนองานได้ ได้อยา่ งถกู ตอ้ งทกุ คำ พมิ พผ์ ิดไม่เกิน 3 คำ สำเร็จและนำเสนอ
สำเร็จ ผลงานได้
และนำเสนอผลงาน และสวยงาม สามารถเพ่ิมภาพน่งิ
ได้ดี นา่ สนใจ
น่าสนใจ สามารถเพิ่ม ในการทำงานได้

ภาพนงิ่ กดนำเสนองานได้

ในการทำงานได้ สำเร็จและนำเสนอ

กดนำเสนองานได้ ผลงานไดด้ พี อสมควร

สำเรจ็ และนำเสนอ

ผลงานไดด้ ี

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 72

แบบประเมนิ ชน้ิ งานที่ 10 เร่ือง การสร้างกล่องจัดเก็บไฟล์ของฉัน

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ

ประเมิน 4 3 2 1

การสรา้ งโฟลเดอร์ สามารถสร้าง สามารถสร้าง สร้างโฟลเดอรต์ าม สรา้ งโฟลเดอร์ตาม

ให้เปน็ กล่องจดั เกบ็ โฟลเดอร์ตามข้ันตอน โฟลเดอรต์ ามข้นั ตอน ขน้ั ตอนได้ เปลย่ี นชอื่ ขัน้ ตอนได้ เปลย่ี นชอ่ื

ไฟล์ ได้อย่างถูกต้องและ ไดอ้ ย่างถูกต้อง โฟลเดอร์ได้ดี โฟลเดอรไ์ ด้ สรา้ ง

แมน่ ยำ เปลีย่ นชื่อ เปลี่ยนชอ่ื โฟลเดอร์ พอสมควร สามารถ โฟลเดอรไ์ ด้สำเรจ็

โฟลเดอร์ได้อย่าง ได้อยา่ งเหมาะสม สรา้ งโฟลเดอรไ์ ด้ โดยมีเพื่อนคอย

เหมาะสม สามารถ สามารถสรา้ ง สำเร็จ พบปญั หา แนะนำ พบปญั หาใน

สรา้ งโฟลเดอรไ์ ด้ โฟลเดอร์ไดส้ ำเร็จ ในระหวา่ งการทำงาน ระหว่างการทำงาน

สำเรจ็ ไมพ่ บปัญหา ไมพ่ บปัญหาใน แตส่ ามารถแกป้ ัญหา

ในระหวา่ งการทำงาน ระหว่างการทำงาน ได้เอง

แบบประเมนิ ชนิ้ งานที่ 11 เรื่อง การคัดลอกหรอื ย้ายไฟล์

รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมนิ
432 1
การคัดลอกไฟล์
และยา้ ยไฟลไ์ ปยัง ค้นหาไฟล์ทต่ี อ้ งการ ค้นหาไฟลท์ ตี่ อ้ งการ ค้นหาไฟล์ท่ีต้องการ คน้ หาไฟล์ที่ตอ้ งการ
โฟลเดอรอ์ ืน่ คดั ลอกและยา้ ยไฟล์
คัดลอกและย้ายไฟล์ คัดลอกและยา้ ยไฟล์ คัดลอกและย้ายไฟล์ และโฟลเดอร์ที่
นกั เรยี นสร้างไว้ได้
และโฟลเดอร์ท่ี และโฟลเ์ ดอร์ท่ี และโฟลเดอร์ท่ี สามารถคัดลอกและ
ยา้ ยไฟล์
นกั เรียนสร้างไว้ได้ นกั เรียนสร้างไว้ได้ นักเรียนสร้างไว้ได้ ทีต่ อ้ งการได้สำเรจ็
โดยมีเพ่อื นคอย
อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างถูกต้อง สามารถคดั ลอกและ แนะนำ
พบปัญหาในระหวา่ ง
และรวดเร็วสามารถ สามารถคัดลอกและ ยา้ ยไฟล์ การทำงาน

คดั ลอกและ ยา้ ยไฟลท์ ่ีต้องการ ท่ีต้องการไดส้ ำเรจ็

ยา้ ยไฟลท์ ี่ตอ้ งการ ไดส้ ำเรจ็ ไม่พบ พบปญั หาในระหวา่ ง

ไดส้ ำเรจ็ ไม่พบ ปัญหาในระหวา่ งการ การทำงาน แต่

ปญั หาในระหว่างการ ทำงาน สามารถแก้ปัญหาได้

ทำงาน เอง

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 73

แบบประเมนิ ช้ินงานท่ี 12 เรื่อง การแก้ไขไฟล์

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
การเรียกไฟลง์ าน
เดิมขึน้ มาแก้ไข ค้นหาและเปิดไฟล์ ค้นหาและเปิดไฟล์ ค้นหาและเปิดไฟล์ ค้นหาและเปดิ ไฟล์ท่ี

ทีต่ อ้ งการแก้ได้อยา่ ง ท่ตี ้องการแกไ้ ด้อยา่ ง ที่ตอ้ งการแก้ได้ ตอ้ งการแก้ได้

ถกู ต้อง แมน่ ยำ และ ถกู ต้อง แมน่ ยำ สามารถแก้ไขไฟล์ สามารถแก้ไขไฟล์

รวดเรว็ สามารถ สามารถแก้ไขไฟล์ งานไดต้ ามทตี่ ้องการ งานได้

แก้ไขไฟลง์ านได้ตามที่ งานได้ตามที่ต้องการ พบปญั หา โดยมเี พอ่ื นคอย

ตอ้ งการ ไมพ่ บปัญหา ไม่พบปญั หาใน ในระหวา่ งการทำงาน แนะนำ

ในระหว่างการทำงาน ระหวา่ งการทำงาน แตส่ ามารถแก้ปัญหา พบปัญหาในระหว่าง

เองได้ การทำงาน

9. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

9.1 ใฝ่เรยี นรู้
ตวั ช้ีวัดที่ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผา่ น (0)
ไมต่ ง้ั ใจเรียน
4.1.1 ต้ังใจเรียน ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจ เอาใจใส่
ในการเรียน
4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมีความเพยี ร

และมคี วามเพยี ร พยายาม พยายาม

พยายามในการเรียนรู้ ในการเรยี นรู้ เข้าร่วม ในการเรยี น

4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรมการเรยี นรู้ ต่าง ๆ

ตา่ ง ๆ

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 74

ตวั ช้วี ัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้
สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั ได้

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ ่าน (0)

4.2.1 ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาค้นควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นควา้ ไม่ศึกษาคน้ คว้า

หาความรจู้ ากหนงั สือ หาความรู้จากหนงั สือ หาความรจู้ ากหนังสือ หาความรจู้ ากหนังสือ หาความรู้

เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ เอกสาร สิง่ พิมพ์

สอ่ื เทคโนโลยตี า่ ง ๆ ส่ือเทคโนโลยี สือ่ เทคโนโลยี สอื่ เทคโนโลยี

แหล่งเรียนรู้ ท้ังภายใน แหล่งเรยี นรู้อ่นื แหล่งเรียนรอู้ ่นื หรอื จากแหล่งเรยี นรู้

และภายนอกโรงเรยี น มีการบันทึกความรู้ มกี ารบนั ทึกความรู้ อ่ืน

และเลือกใช้สื่อ แลกเปลีย่ นความรู้

ไดอ้ ย่างเหมาะสม กับผอู้ ่ืน

4.2.2 บนั ทกึ ความรู้

วเิ คราะห์ ตรวจสอบ

จากสิ่งทเ่ี รยี นรู้

สรุปเป็นองค์ความรู้

4.2.3 แลกเปล่ยี น

เรยี นรู้

ดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ

และนำไปใช้

ในชวี ิตประจำวนั

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 75

9.2 มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ตัวชีว้ ดั ท่ี 6.1 ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่กี ารงาน

พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0)

6.1.1 เอาใจใสต่ ่อ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบ ต้ังใจและรับผดิ ชอบ เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติ ไมต่ ้งั ใจปฏบิ ัติ
การปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ หน้าท่ีที่ไดร้ บั มอบหมายหน้าท่ีการงาน
ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ที่ได้รับมอบหมาย ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
6.1.2 ต้งั ใจและ ใหส้ ำเร็จ มกี าร ใหส้ ำเร็จ
รับผิดชอบ ปรบั ปรุงการทำงานให้
ในการทำงานให้ ดขี ึน้
สำเรจ็
6.1.3 ปรบั ปรงุ
และพฒั นาการ
ทำงาน
ดว้ ยตนเอง

ตวั ชี้วดั ท่ี 6.2 ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ ่าน (0)

6.2.1 ทุม่ เททำงาน ทำงานด้วยความขยัน ทำงานดว้ ยความขยัน ทำงานดว้ ยความขยนั ไมข่ ยนั อดทน

อดทน ไม่ย่อท้อต่อ อดทน พยายาม พยายามให้งานสำเรจ็ เพ่อื ใหง้ านเสรจ็ ในการทำงาน

ปัญหาและอุปสรรค ใหง้ านสำเร็จ ตามเป้าหมาย ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย

ในการทำงาน ตามเป้าหมาย

6.2.2 พยายาม ชื่นชมผลงาน

แก้ปญั หาและ ด้วยความภาคภมู ใิ จ

อุปสรรคในการ

ทำงานให้สำเร็จ

6.2.3 ชน่ื ชมผลงาน

ดว้ ยความภาคภมู ิใจ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 76

10. สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี
2 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. ห้องคอมพิวเตอรท์ เี่ ชอื่ มต่อเครือข่ายอินเทอร์เนต็
3. สญั ลกั ษณ์โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ด์
4. ภาพและบตั รคำโปรแกรมประมวลคำ
5. ภาพโปรแกรมท่ใี ชแ้ ละไม่ใชใ้ นการพิมพเ์ อกสาร
6. หน้าตา่ งโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ด์
7. แผน่ พับสถานทท่ี ่องเท่ยี ว
8. ภาพข้นั ตอนการทำแผน่ พับ
9. สญั ลักษณโ์ ปรแกรมระบายสี (Paint)
10. หนา้ ตา่ งโปรแกรมระบายสี (Paint)
11. ภาพทว่ี าดดว้ ยมอื และภาพท่วี าดดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)
12. สัญลักษณโ์ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอรพ์ อยต์
13. ภาพและบัตรคำความสามารถของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์
14. สญั ลกั ษณโ์ ปรแกรมท่เี ป็นการนำเสนอ และโปรแกรมท่ไี ม่เปน็ การนำเสนอ
15. หน้าต่างโปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟศิ เพาเวอร์พอยต์
16. ภาพโฟลเดอร์ และไฟล์งาน
17. บัตรคำทเ่ี กยี่ วกับไฟล์งาน
18. ภาพเกีย่ วกับไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
19. แหลง่ การเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน

แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 77

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 11
เรอื่ ง การสร้างเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ

รหสั วิชา ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2
เวลา 7 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 การใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน เวลา 1 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 การสร้างเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ ผสู้ อน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรยี นวดั สว่างอารมณ์
กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนครง้ั ท่ี วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

2. ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จดั เก็บ เรียกใชข้ ้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายเก่ยี วกบั การสรา้ งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ (K)
2. สรา้ งเอกสารการ์ตนู ท่ฉี ันชอบ (P)
3. มีความกระตือรือรน้ ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรียนรู้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
โปรแกรมประมวลคำ เปน็ โปรแกรมท่ใี ช้ในการพมิ พง์ านดา้ นเอกสาร ซ่ึงมีอยหู่ ลายโปรแกรม เชน่ โปรแกรม

โน้ตแพด โปรแกรมเวิร์ดแพด และโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิร์ด ซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยม เพราะมี
ความสามารถในการทำงานไดอ้ ยา่ งหลากหลาย

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 78

7. คำถามสำคญั
นกั เรยี นเคยใช้ซอฟต์แวร์อะไรบ้างในการเรยี น

8. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันสงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)

1. นักเรยี นร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับโปรแกรมประมวลคำ
2. นักเรยี นร่วมกันสงั เกตสัญลักษณโ์ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ์ด
3. นักเรียนนักเรียนร่วมกนั ศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเกี่ยวกับการสรา้ งเอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคำ จาก

แหล่งการเรียนร้ตู า่ ง ๆ อยา่ งหลากหลาย เชน่ การสอบถามจากครูหรือผปู้ กครอง และห้องสมดุ
ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing)

4. นกั เรยี นแบง่ กลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆ กนั จากนนั้ แต่ละกลุม่ ร่วมกันสงั เกตและวเิ คราะห์บตั รภาพกับบัตรคำ
เก่ียวกับโปรแกรมประมวลคำ

5. นักเรียนร่วมกันสังเกตและวิเคราะห์ภาพว่าโปรแกรมใดบ้างที่ใช้ในการพิมพ์เอกสาร และโปรแกรม
ใดบา้ งทไ่ี ม่ใช้ในการพมิ พเ์ อกสาร

6. นกั เรยี นรว่ มกนั สังเกตและวเิ คราะหภ์ าพส่วนประกอบของโปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟศิ เวริ ์ด
7. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเก่ยี วกบั การสรา้ งเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลคำ
ข้ันปฏิบตั ิและสรุปความร้หู ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge)
8. นกั เรียนจบั คหู่ รือแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์
9. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ที่เขา้ ใจเปน็ ความร้รู ่วมกัน
ข้นั สอื่ สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
10. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอการสรา้ งเอกสารการต์ ูนที่ฉันชอบ หนา้ ชัน้ เรยี นเพื่อแลกเปล่ียน

เรยี นรกู้ นั อาจใช้ PowerPoint ในการนำเสนอเพ่ือให้เหน็ ขอ้ มูลไดช้ ัดเจน
11. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกยี่ วกับวธิ กี ารทำงานใหเ้ ห็นการคิดเชิงระบบและวิธกี ารทำงานที่มีแบบแผน
ขั้นประเมินเพอ่ื เพ่มิ คุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)
12. นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับการสร้างเอกสารโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิร์ด

ไปบอกตอ่ เพ่ือน ๆ ทย่ี งั ไม่เข้าใจ หรือรุน่ นอ้ งใหส้ ามารถสร้างเอกสารได้อยา่ งถูกต้อง
13. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง
9. ส่ือการเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 ของ

สถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. สญั ลกั ษณโ์ ปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟศิ เวิรด์
3. ภาพและบตั รคำโปรแกรมประมวลคำ
4. ภาพโปรแกรมทีใ่ ชแ้ ละไมใ่ ช้ในการพิมพ์เอกสาร
5. หน้าต่างโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิรด์
6. ห้องคอมพวิ เตอร์ที่เชอ่ื มต่อเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต
7. แหล่งการเรียนร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น

แผนการจดั การเรียนร้รู ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 79

10. การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การสรา้ งเอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคำ (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ชน้ิ งาน เรื่อง การสรา้ งเอกสารการ์ตูนท่ฉี นั ชอบ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
4. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

11. แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกล่มุ มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชกิ ชัดเจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชิก

และมกี ารช้แี จง มกี ารช้แี จงเปา้ หมาย ไม่มีการชแี้ จง และไมม่ ีการช้แี จง

เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏิบตั ิงานรว่ มกัน อยา่ งชดั เจน ต่างคนต่างทำงาน

มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ปฏิบตั งิ านรว่ มกัน

ร่วมกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน

อย่างรว่ มมือร่วมใจ

พร้อมกบั การประเมนิ

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 80

แบบประเมินชนิ้ งานที่ 7 เรอ่ื ง การสร้างเอกสารการต์ ูนท่ีฉันชอบ

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
4321
การสร้างเอกสาร
เกย่ี วกบั การต์ นู เขา้ ใชง้ านโปรแกรมได้ เขา้ ใชง้ านโปรแกรมได้ เข้าใชง้ านโปรแกรมได้ เข้าใช้งานโปรแกรมได้
ทนี่ กั เรียนชอบ
โดยใช้โปรแกรม อยา่ งถูกต้องและ อยา่ งถูกต้อง สามารถ อยา่ งถูกต้อง เลือกการ อย่างถูกต้อง เลือกการ
ไมโครซอฟต์-
ออฟฟิศเวริ ์ด แม่นยำ สามารถเลือก เลอื กการตง้ั คา่ ตั้งค่าหน้ากระดาษได้ ตัง้ ค่าหน้ากระดาษได้

การตง้ั คา่ หนา้ กระดาษ หนา้ กระดาษได้ตามท่ี ตามที่กำหนด มบี างคำ ตามทีก่ ำหนด มีบางคำ

ไดต้ ามทกี่ ำหนด พิมพ์ กำหนด พมิ พข์ ้อความ ทีพ่ ิมพข์ ้อความผิด ที่พิมพ์ข้อความผดิ

ขอ้ ความ ไดอ้ ย่างถูกต้องทกุ คำ แทรกภาพทต่ี อ้ งการ แทรกภาพทีต่ ้องการ

ไดอ้ ย่างถูกต้องทุกคำ แทรกภาพท่ตี ้องการ ลงบนหนา้ กระดาษได้ ลงบนหน้ากระดาษได้

แทรกภาพท่ีตอ้ งการ ลงบนหนา้ กระดาษได้ สามารถเลือกแบบและ สามารถเลอื กแบบและ

ลงบนหน้ากระดาษได้ ดี สามารถเลือกแบบ ขนาดของตัวอักษรได้ ขนาดของตัวอักษรได้

ดีสามารถเลอื กแบบ และขนาดของ สามารถตัง้ ช่ือและ สามารถตงั้ ช่อื และ

และขนาดของ ตัวอกั ษรไดด้ ี สามารถ บนั ทกึ ไฟลง์ านได้ บนั ทึกไฟลง์ านได้

ตัวอกั ษรได้ดีเหมาะสม ตั้งช่ือและบนั ทกึ ไฟล์ สำเร็จ สำเรจ็

และมคี วามนา่ สนใจ งานได้สำเร็จ โดยมเี พอื่ นคอย

สามารถต้ังชอื่ และ แนะนำ

บนั ทกึ ไฟล์งานได้

สำเร็จ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 81

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12
เรื่อง การสรา้ งแผน่ พับโดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ด์

รหสั วิชา ว21101 รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การใช้ซอฟตแ์ วร์ในการทำงาน เวลา 7 ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 การสรา้ งแผ่นพบั โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟิศเวิรด์ เวลา 1 ชั่วโมง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้สอน นางพรพรรณ นมสั ไธสง

สอนคร้ังที่ วัน เดอื น พ.ศ. . โรงเรยี นวดั สว่างอารมณ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม

2. ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/3 ใช้เทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวตั ถุประสงค์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเก่ยี วกบั การสรา้ งเอกสารแบบแผ่นพับ (K)
2. สร้างแผน่ พบั เก่ยี วกับสถานทท่ี อ่ งเทีย่ วของจงั หวดั (P)
3. เห็นประโยชนข์ องการใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เวริ ์ด (A)

4. สาระการเรียนรู้
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ด์ มีความสามารถทโ่ี ดดเด่นในเรอ่ื งของงานด้านการจัดทำเอกสารและอีก

ความสามารถหนึ่ง คือ การทำเอกสารในรูปแบบแผ่นพับที่ใช้ในการนำเสนอเอกสารให้น่าสนใจ เช่น แผ่นพับ
แนะนำสถานทท่ี อ่ งเทยี่ ว

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุง่ มนั่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 82

7. คำถามสำคัญ
นักเรียนคิดวา่ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิรด์ สามารถทำแผน่ พับได้หรอื ไม่

8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)

1. นักเรยี นร่วมกันสังเกตแผ่นพับสถานที่ท่องเทย่ี ว
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาค้นควา้ ข้อมลู เก่ยี วกบั การสรา้ งเอกสารแบบแผ่นพับ จากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ ง ๆ

อยา่ งหลากหลาย เชน่ การสอบถามจากครหู รอื ผู้ปกครอง และห้องสมุด
ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing)

3. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน จากนน้ั ร่วมกันคิดวเิ คราะห์และอภิปรายเก่ยี วกับการสรา้ งแผ่น
พบั ดว้ ยโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวิรด์

4. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับการสรา้ งแผน่ พบั โดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟิศ
เวริ ด์

ข้ันปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรู้หลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
5. นักเรียนจับคหู่ รอื แบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ โดยใหม้ ีนักเรียน
1 คน ทีม่ ีประสบการณ์ในการใช้งานคอมพวิ เตอร์ จากนั้นแตล่ ะคู่หรอื แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันเลือกจังหวดั
ในประเทศไทย 1 จงั หวัดหรือประเทศในประชาคมอาเซียนมา 1 ประเทศ
6. นักเรียนร่วมกันสรปุ ส่ิงที่เขา้ ใจเปน็ ความรู้รว่ มกนั

ขั้นส่ือสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
7. นกั เรียน แตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผน่ พบั ของกล่มุ ตนเองหนา้ ชั้นเรยี น
8. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเก่ียวกบั วธิ ีการทำงานให้เห็นการคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน
ทม่ี ีแบบแผน

ขั้นประเมนิ เพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating)
9. นักเรยี นนำความรเู้ ก่ยี วกบั การทำแผ่นพับไปอธบิ ายให้เพื่อนท่ยี ังทำแผ่นพบั ได้ไม่คลอ่ งให้สามารถทำ
แผน่ พับได้อย่างคลอ่ งแคลว่ และถกู ต้อง
10. นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรยี นและหลงั การทำกจิ กรรม

9. ส่ือการเรียนรู/้ แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 ของ
สถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. แผน่ พบั สถานทท่ี ่องเท่ียว
3. ภาพข้นั ตอนการทำแผน่ พับ
4. ห้องคอมพิวเตอรท์ ่เี ช่ือมต่ออนิ เทอรเ์ น็ต
5. แหล่งการเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

10. การประเมนิ การเรยี นรู้
1. ประเมินความรู้ เรื่อง การสรา้ งแผน่ พับโดยใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเวริ ์ด (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 83

2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่

รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชิก

และมกี ารชีแ้ จง มีการชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ ีการชแี้ จง และไมม่ ีการช้แี จง

เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏิบัตงิ านร่วมกัน อย่างชัดเจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน

มีการปฏิบัติงาน แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ปฏิบัตงิ านร่วมกัน

ร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน

อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ

พรอ้ มกับการประเมิน

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรียนรูร้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 84

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 13
เรือ่ ง โปรแกรมกราฟิก

รหัสวิชา ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2
เวลา 7 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน เวลา 1 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 โปรแกรมกราฟิก ผู้สอน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรียนวดั สว่างอารมณ์
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนครั้งท่ี วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม
2. ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้

ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้าง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จดั เกบ็ เรียกใชข้ ้อมูลตามวัตถปุ ระสงค์
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายเก่ียวกับโปรแกรมกราฟิก (K)
2. ออกแบบและสรา้ งภาพตวั ตอ่ โดยใช้โปรแกรมระบายสี (Paint) (P)
3. เหน็ ประโยชน์ของการใช้โปรแกรมกราฟิก (A)
4. สาระการเรยี นรู้
โปรแกรมกราฟิก เป็นโปรแกรมสำหรับการวาดภาพระบายสี เช่น โปรแกรมระบายสี (Paint) ซึ่งจะมี
เครื่องมือในการวาดภาพระบายสีและจัดการกับภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพลิกหรือหมุนภาพ การย่อขนาด
ภาพ และการเอยี งภาพ
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 85

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

7. คำถามสำคัญ
นักเรียนจะนำความร้เู กย่ี วกบั โปรแกรมกราฟิกไปใช้ในการเรยี นวชิ าอ่ืน ๆ ไดอ้ ยา่ งไร

8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering)

1. นกั เรยี นร่วมกนั สงั เกตสัญลกั ษณ์โปรแกรมระบายสี (Paint)
2. นักเรียนร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมกราฟิก จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่าง

หลากหลาย เช่น การสอบถามจากครหู รือผูป้ กครอง และหอ้ งสมดุ
ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing)

3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน จากนัน้ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสังเกตและวเิ คราะหภ์ าพส่วนประกอบ
ของโปรแกรมระบายสี (Paint)

4. นักเรยี นรว่ มกนั สังเกตและวเิ คราะห์ภาพเกย่ี วกบั การวาดภาพด้วยมอื กับการวาดภาพด้วยโปรแกรม
ระบายสี (Paint)

5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะห์เก่ียวกบั ประโยชน์ของโปรแกรมระบายสี (Paint)
6. นกั เรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเกีย่ วกบั โปรแกรมกราฟกิ
ขนั้ ปฏิบัตแิ ละสรุปความรู้หลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)
7. นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยใหม้ ีนักเรียน 1 คน

ที่มีประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากนั้นนักเรียนแต่ละคู่หรือแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบัติ
กิจกรรมที่ 3.2 ภาพตัวต่อของฉัน แล้วฝึกใช้โปรแกรมระบายสี โดยออกแบบตัวต่อแล้วนำตัวต่อที่
ออกแบบไว้มาสร้างเป็นภาพตัวต่อตามขั้นตอน แล้วบันทึกผลลงในแบบบันทึก ในชิ้นงานที่ 8 เรื่อง
การสรา้ งภาพตัวต่อ
8. นกั เรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน
ขั้นส่อื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)
9. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอการสรา้ งภาพตัวต่อของกลมุ่ ตนเองหน้าชน้ั เรยี น
10. นักเรยี นร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
11. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน
ท่มี ีแบบแผน

9. ส่ือการเรียนร้/ู แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 ของ
สถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. สัญลกั ษณ์โปรแกรมระบายสี (Paint)
3. หนา้ ต่างโปรแกรมระบายสี (Paint)
4. ภาพทีว่ าดด้วยมือและภาพทีว่ าดดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)

แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 86

5. ห้องคอมพวิ เตอรท์ เี่ ช่ือมต่อเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็
6. แหล่งการเรยี นรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน

10. การประเมนิ การเรยี นรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง โปรแกรมกราฟิก (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินช้ินงาน เรอ่ื ง การสรา้ งภาพตัวตอ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุม่ มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชกิ ชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชี้แจง มีการชแี้ จงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้แี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง

เป้าหมาย อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏิบตั งิ านร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนต่างทำงาน

มีการปฏบิ ัตงิ าน แต่ไม่มีการประเมิน ปฏิบตั ิงานร่วมกัน

รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน

อย่างร่วมมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมนิ

เป็นระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 87

แบบประเมินชิ้นงานท่ี 8 เรอื่ ง การสร้างภาพตัวต่อ

รายการการ ระดบั คุณภาพ

ประเมิน 4 3 2 1

การสร้างภาพตวั ต่อ เข้าใช้งานโดยเปิด เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เข้าใช้งานโปรแกรม เขา้ ใช้งานโปรแกรม

โดยใชโ้ ปรแกรม โปรแกรมระบายสี ระบายสไี ด้ดี สามารถ ระบายสไี ด้ สามารถ ระบายสีได้ เลอื ก

ระบายสี (Paint) ได้อย่างคล่องแคล่ว เลอื กรูปสเ่ี หลย่ี ม เลือกรูปส่เี หลย่ี ม รูปส่ีเหลี่ยมแลว้ นำมา

สามารถเลอื กรปู แลว้ นำมาวาดลงบน แล้วนำมาวาดลงบน วาด

สเ่ี หลีย่ มแล้วนำมาวาด พืน้ ทง่ี านได้ เลอื ก พืน้ ท่งี านได้ เลอื ก ลงบนพ้นื ท่งี าน เลือก

ลงบน เสน้ ตรงแล้วนำมาวาด เสน้ ตรงแล้วนำมาวาด เสน้ ตรงแลว้ นำมาวาด

พ้ืนที่งานได้ เลอื ก โดยลากเสน้ ให้เป็น โดยลากเส้นใหเ้ ปน็ โดยลากเสน้ ใหเ้ ปน็

เส้นตรง แลว้ นำมาวาด จุดตัดกับมุมของรูป จดุ ตดั กับมุมจนเกิด จดุ ตัดกับมุมจนเกดิ

โดยลากเส้นใหเ้ ป็น สเ่ี หล่ยี ม เป็นตวั ตอ่ ได้ดี เปน็ ตวั ต่อ เลอื กและ

จดุ ตดั ได้พอดีกบั มุม จนเกิดเป็นตัวตอ่ ไดด้ ี พอสมควร เทสีลงในตัวตอ่ จน

ของรูปส่เี หลย่ี ม เลอื กและเทสีลงในตัว เลือกและเทสีลงในตัว ปรากฏสีในช่องของตัว

จนเกดิ เป็นตวั ต่อ ตอ่ จนปรากฏสีในชอ่ ง ต่อจนปรากฏสใี นช่อง ตอ่ โดยมีเพื่อนคอย

ได้อย่างสวยงาม ของตัวต่อได้อยา่ ง ของ แนะนำ

เลือกและเทสี สวยงาม ตวั ต่อได้

ลงในตวั ต่อจนปรากฏ

สใี นช่องของตัวต่อ

ไดอ้ ย่างสวยงาม

และน่าสนใจ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 88

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 14
เรอ่ื ง การวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint)

รหสั วิชา ว21101 รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2
เวลา 7 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การใช้ซอฟต์แวรใ์ นการทำงาน เวลา 1 ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 14 การวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี (Paint) ผู้สอน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรยี นวดั สวา่ งอารมณ์
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สอนครั้งท่ี วัน เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม

2. ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ เรียกใช้ข้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเกย่ี วกบั การวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint) (K)
2. วาดภาพด้วยมือและวาดภาพดว้ ยโปรแกรมระบายสี (Paint) (P)
3. มีความกระตือรือร้นในการปฏบิ ัติกิจกรรมการเรยี นรู้ (A)

4. สาระการเรียนรู้
โปรแกรมระบายสี (Paint) เปน็ อกี หน่ึงโปรแกรมทีม่ คี วามสามารถในด้านการวาดภาพระบายสี เนือ่ งจากมี

เคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ อย่างมากมายในการจัดการภาพ

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 89

7. คำถามสำคัญ
การวาดภาพด้วยมือและการวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี (Paint) แบบใดสวยกวา่ กนั เพราะเหตุใด

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั สังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering)

1. นักเรยี น จับค่หู รือแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพวิ เตอร์ โดยให้มนี กั เรียน 1 คน
ทม่ี ีประสบการณ์ในการใชง้ านคอมพิวเตอร์

2. นักเรียนรว่ มกันสรุปส่ิงท่ีเข้าใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดงั น้ี
ขน้ั ส่อื สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

3. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอการวาดภาพด้วยมือและการวาดภาพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ โดยใช้
โปรแกรมระบายสี (Paint)

4. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็
5. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกย่ี วกบั วธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงานท่มี แี บบ

แผน
ขน้ั ประเมินเพอื่ เพิ่มคุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating)

6. นักเรียนนำความรู้เก่ียวกับการวาดภาพด้วยโปรแกรมกราฟิกไปอธิบายหรือบอกต่อเพอ่ื นหรอื
รุ่นน้องให้สามารถวาดภาพโดยใช้โปรแกรมกราฟกิ ได้

7. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลงั การทำกจิ กรรม
9. ส่ือการเรยี นร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ของ
สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

2. ห้องคอมพวิ เตอรท์ ่เี ชอื่ มต่อเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต
3. แหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
10. การประเมินการเรยี นรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การวาดภาพด้วยโปรแกรมระบายสี (Paint)(K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 90

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด

สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ

และมีการชีแ้ จง มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้แี จง และไมม่ ีการชี้แจง

เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชิก

การทำงาน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน

มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มกี ารประเมนิ ปฏบิ ัติงานร่วมกัน

รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน

อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ

พรอ้ มกบั การประเมิน

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 91

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15
เรอ่ื ง โปรแกรมนำเสนอ

รหัสวชิ า ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2
เวลา 7 ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การใช้ซอฟตแ์ วร์ในการทำงาน เวลา 1 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 โปรแกรมนำเสนอ ผ้สู อน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรียนวัดสวา่ งอารมณ์
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนครั้งท่ี วนั เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม

2. ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้
ว 4.2 ป.2/3 ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเกบ็ เรยี กใช้ขอ้ มลู ตามวตั ถุประสงค์

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายเก่ยี วกับโปรแกรมนำเสนอ (K)
2. ใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟตอ์ อฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ (P)
3. เหน็ ประโยชน์ของการใช้โปรแกรมนำเสนอในการนำเสนองาน (A)

4. สาระการเรียนรู้
โปรแกรมการนำเสนอมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรูปแบบและความสามารถที่แตกต่างกัน

ออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ ที่สามารถนำเสนอ
ข้อมลู ไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ ภาพ ข้อความ ภาพเคล่อื นไหว และเสียง

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 92

7. คำถามสำคญั
1. เหตใุ ดในการนำเสนองานหรอื ชน้ิ งานต่าง ๆ จงึ ต้องใชโ้ ปรแกรมนำเสนอ
2. หากนักเรียนต้องการนำเสนอเรือ่ งราวเก่ียวกบั ตนเอง นักเรียนจะออกแบบการนำเสนออย่างไร สคริปต์
แต่ละหนา้ จะมีอะไรบา้ ง

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั สังเกต รวบรวมขอ้ มลู (Gathering)

1. นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตสญั ลักษณโ์ ปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู เกี่ยวกับโปรแกรมนำเสนอ จากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ อยา่ ง

หลากหลาย เช่น การสอบถามจากครูหรือผู้ปกครอง และห้องสมดุ
ขัน้ คิดวเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing)

3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั จากน้ันแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสังเกตและวิเคราะห์บตั รภาพและบัตร
คำเก่ยี วกับความสามารถในการนำเสนอของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เพาเวอร์พอยต์

4. นักเรยี นรว่ มกนั สงั เกตและวเิ คราะหส์ ญั ลกั ษณ์เกี่ยวกบั โปรแกรมนำเสนอ และไม่ใช่โปรแกรมนำเสนอ
จากนั้นเลือกภาพทีเ่ ปน็ โปรแกรมนำเสนอออกมา

5. นักเรียนรว่ มกนั สังเกตและวเิ คราะห์ภาพส่วนประกอบของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์
พอยต์ แลว้ นำตวั เลขไปเตมิ ลงในหน้าคำทเ่ี ป็นส่วนประกอบของโปรแกรม

6. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั โปรแกรมนำเสนอ
ขั้นปฏบิ ตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge)

7. นักเรยี นจับคู่หรือแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพวิ เตอร์ โดยใหม้ นี ักเรียน 1 คน
ที่มีประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมที่ 3.3 นำเสนอ
ข้อมูลของฉัน แล้วฝึกใช้โปรแกรมนำเสนอโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์ แล้ว
บันทกึ ผลการใช้โปรแกรมลงในแบบบันทึกในช้ินงานที่ 9 เร่ือง การใชง้ านโปรแกรมนำเสนอ

8. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งทเ่ี ข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน
ขน้ั สอื่ สารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill)

9. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอเกยี่ วกับการใช้งานโปรแกรมนำเสนอข้อมลู ของกลุ่มตนเองหน้าชนั้
เรียน เพอื่ แลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ัน โดยใช้ PowerPoint ในการนำเสนอ เพ่ือใหเ้ หน็ ข้อมลู ได้ชดั เจน
และน่าสนใจ

10. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายแลกเปลยี่ นความคิดเห็น
11. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับวิธกี ารทำงานให้เหน็ การคดิ เชิงระบบและวิธีการทำงานท่ีมีแบบ

แผน
9. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้

1. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 ของ
สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. สัญลกั ษณ์โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เพาเวอร์พอยต์
3. ภาพและบัตรคำความสามารถของโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศเพาเวอร์พอยต์
4. สญั ลกั ษณโ์ ปรแกรมท่ีเป็นการนำเสนอและโปรแกรมทีไ่ ม่เป็นการนำเสนอ

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.2 93

5. หนา้ ตา่ งโปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟศิ เพาเวอร์พอยต์
6. หอ้ งคอมพิวเตอรท์ ีเ่ ชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
7. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

10. การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง โปรแกรมนำเสนอ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ช้ินงาน เรอ่ื ง การใชง้ านโปรแกรมนำเสนอ (P) ด้วยแบบประเมนิ
4. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

11. แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม

รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ
4321
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด

สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชิก

และมกี ารชแี้ จง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มีการช้ีแจง และไม่มีการช้แี จง

เปา้ หมาย อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชกิ

การทำงาน ปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อย่างชัดเจน ตา่ งคนต่างทำงาน

มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แต่ไม่มีการประเมิน ปฏิบตั งิ านรว่ มกัน

รว่ มกนั เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน

อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ

พร้อมกบั การประเมนิ

เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 94

แบบประเมินชิน้ งานท่ี 9 เรอ่ื ง การใชง้ านโปรแกรมนำเสนอ

รายการการ ระดบั คณุ ภาพ

ประเมนิ 4 3 2 1

การใช้งานโปรแกรม เขา้ ใช้งานโปรแกรม เขา้ ใชง้ านโปรแกรม เขา้ ใจงานโปรแกรม เขา้ ใช้งานโปรแกรม

ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ไมโครซอฟต์ออฟฟศิ ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ

เพาเวอร์พอยต์ใน เพาเวอร์พอยต์ เพาเวอร์พอยต์ได้ เพาเวอร์พอยต์ได้ เพาเวอร์พอยต์ได้

การนำเสนอข้อมลู ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ พมิ พข์ ้อความและ พมิ พ์ข้อความและ พิมพข์ ้อความและ

พิมพข์ ้อความและ กำหนดรปู แบบ กำหนดรูปแบบ กำหนดรูปแบบ

กำหนดรูปแบบ ตัวอักษรไดอ้ ย่าง ตัวอกั ษรได้ ตัวอักษรได้

ตัวอักษรได้อย่าง ถกู ต้องทุกคำ และ พมิ พผ์ ิดไม่เกิน 3 คำ พมิ พผ์ ดิ มากกว่า 3 คำ

ถกู ต้องทุกคำ สวยงาม น่าสนใจ สามารถเพิ่มภาพนิ่ง เพิ่มภาพน่ิงในการทำงาน

และสวยงาม นา่ สนใจ สามารถเพิ่มภาพนิ่ง ในการทำงานได้ ได้ โดยมเี พื่อนคอย

สามารถเพ่ิมภาพน่ิง ในการทำงานได้ กดนำเสนองานได้ แนะนำ

ในการทำงานได้ กดนำเสนองานได้ สำเร็จ และนำเสนอ กดนำเสนองานได้

กดนำเสนองานได้ สำเร็จ และนำเสนอ ผลงานไดด้ พี อสมควร สำเร็จและนำเสนอ

สำเร็จ และนำเสนอ ผลงานไดด้ ี ผลงานได้

ผลงานไดด้ ี น่าสนใจ

แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 95

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16
เรื่อง การนำเสนอขอ้ มลู แบบมลั ตมิ ีเดีย

รหัสวิชา ว21101 รายวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2
เวลา 7 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 การใช้ซอฟต์แวรใ์ นการทำงาน เวลา 1 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 16 การนำเสนอข้อมลู แบบมลั ติมีเดีย ผู้สอน นางพรพรรณ นมสั ไธสง
โรงเรียนวดั สวา่ งอารมณ์
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สอนครั้งที่ วนั เดอื น พ.ศ. .

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และ

เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม

2. ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้
ว 4.2 ป.2/3 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ เรียกใชข้ ้อมลู ตามวตั ถุประสงค์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเกย่ี วกับการนำเสนอข้อมูลแบบมลั ติมเี ดยี (K)
2. นำเสนอข้อมลู แบบมัลติมีเดีย (P)
3. มคี วามกระตือรือร้นในการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนรู้ (A))

4. สาระการเรียนรู้
โปรแกรมไมโครซอฟต์ออฟฟิศมีความสามารถที่หลากหลายในการนำเสนอ โดยสามารถนำเสนอใน

รูปแบบมัลตมิ ีเดยี ได้ เช่น ภาพนงิ่ ภาพเคล่อื นไหว ขอ้ ความ วดิ โี อ และเสียง

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.2 96


Click to View FlipBook Version