The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รำโนราบทสอนรำ ดวงฤทัย 15 เสร็จพร้อมส่ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ดวงฤทัย ยุทธไชย, 2022-12-08 12:52:30

รำโนราบทสอนรำ ดวงฤทัย 15 เสร็จพร้อมส่ง

รำโนราบทสอนรำ ดวงฤทัย 15 เสร็จพร้อมส่ง

มโนราห์บทสอนรำ

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

นางสาวกรกนก นุ่นแก้ว
นางสาวดวงฤทยั ยุทธไชย

สาขานาฏศิลป์ คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรธี รรมราช ปพี ทุ ธศกั ราช 2565



คำนำ

เอกสารประกอบการเรียนรำโนราบทสอนรำ ฉบบั น้ีจดั ทำข้ึนโดยมวี ัตถุประสงค์เพอ่ื ใช้
เป็นสือ่ การเรยี นการสอนการแสดงพ้ืนบา้ นโนราของนักเรยี น ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4
ตลอดทงั้ ผ้สู นใจเรียนรู้ทีต่ อ้ งการพฒั นาทักษการแสดงโนรา

สารระสำคัญของเอกสารประกอบด้วย ประวตั ิของการรำโนราบทสอนรำ
องคป์ ระกอบการแสดง ผู้แสดง ดนตรปี ระกอบการแสดง เครอ่ื งแตง่ กาย และ การอธิบายท่า
รำโนราบทสอนรำ

ขอขอบคุณผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรวฒั น์ ช่างสาน อาจารยป์ ระจำวิชาการแสดง
โนรา ที่ชแ้ี นะพฒั นาเอกสารจนสมบูรณ์เป็นสอ่ื ทีด่ มี ปี ระโยชน์ ขอบคุณศิลปนิ มโนราหก์ รอยใจ
ดาวรุ่ง ทีเ่ สยี สละเวลามาเปน็ วิทยากรแนะนำการพัฒนาสร้างผลสัมฤทธ์ทิ ่ดี ีของงานเอกสาร
ครัง้ น้ี จงึ ขอบคณุ มา ณ โอกาสนี้

คณะผจู้ ัดทำ



สารบญั
หนา้

คำนำ..................................................................................................................................... ก
สารบัญ.................................................................................................................................. ข
สารบญั ภาพ........................................................................................................................... ค
สาระสำคัญ............................................................................................................................ ง
แบบทดสอบก่อนเรยี น........................................................................................................... 6
กระดาษคำตอบ..................................................................................................................... 7
ประวัติความเป็นมา............................................................................................................... 9
ประวัตชิ ดุ การแสดง............................................................................................................... 11
ผ้แู สดง................................................................................................................................... 11
ดนตรแี ละเพลง...................................................................................................................... 12
เพลงประกอบการแสดง......................................................................................................... 13
เครอ่ื งแต่งกาย....................................................................................................................... 14-19
ทา่ รำ...................................................................................................................................... 25-49
คำถามทบทวน....................................................................................................................... 50
แบบทดสอบหลังเรยี น............................................................................................................ 51-52
กระดาษคำตอบ...................................................................................................................... 53
บรรณานกุ รม.......................................................................................................................... 54
ภาคผนวก............................................................................................................................... 5



ภาพที่ สารบัญภาพ
หนา้
ภาพที่ 1
ภาพท่ี 2 เทรดิ ................................................................................................................... 17
ภาพท่ี 3 บ่า....................................................................................................................... 18
ภาพท่ี 4 ปิ้งคอ.................................................................................................................. 18
ภาพที่ 5 รอบอก................................................................................................................. 18
ภาพท6ี่ ปีกนกแอน............................................................................................................ 18
ภาพท่ี 7 สร้อยคอ................................................................................................................ 19
ภาพที่ 8 หางหงส์................................................................................................................. 19
ภาพท่ี 9 ผา้ นุ่ง..................................................................................................................... . 20
ภาพที่ 10 หนา้ เพลา............................................................................................................... 20
ภาพท่ึ 11 ผา้ ห้อย................................................................................................................... 20
ภาพท่ี 12 กำไลแขน............................................................................................................... 20
ภาพที่ 13 เล็บ......................................................................................................................... 21
ภาพทิ่ 14 ท่านาฏศัพท์............................................................................................................ 22
ท่ารำ..................................................................................................................... 23-38

1

กระดาษคำตอบ

โรงเรียน......................................................................ปกี ารศึกษา...........................
ชื่อ..........................................................................ชั้น...................เลขท่.ี ...............
กลุม่ สาระการเรียนร.ู้ ....................วนั ท่ี..............เดอื น...................พ.ศ..................

ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง
16
27
38
49
5 10

ประเมินผล
เต็ม

ได้

คำช้ีแจงการใชเ้ อกสารประกอบการเรยี น

เรื่อง โนราบทครูสอน สำหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4

1. เอกสารเรื่องโนราบทปฐม เป็นเอกสารที่มคี วามสมบูรณใ์ นเล่ม นักเรียนต้องทำความเขา้ ใจกับคำ
ชี้แจง ตรวจสอบวัตถุประสงค์ ตรวจสอบสาระสำคัญ ทำแบบฝึกหัดก่อนเรียน แล้วจึงศึกษาสาระในเล่ม
ท้ังหมด อา่ นสรุป และทำคำถามทบทวนท่มี ีในเล่มทกุ ครง้ั ทำแบบทดสอบหลงั เรยี นอยา่ งมีสมาธแิ ละเข้าใจ

2. นักเรียนตอ้ งอา่ นหนงั สือทุกหน้าเพื่อทำความเขา้ ใจ หากมีขอ้ สงสัยใหถ้ ามครู

3. นักเรียนปฏิบัติตามกิจกรรมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน
นักเรียนจะต้องมคี วามซอ่ื สตั ยโ์ ดยจะต้องทำด้วยตนเองอยา่ งเคร่งครัด

4.เมื่อนักเรียนเรียนและทำกิจกรรมในเล่มเสร็จ จะต้องเก็บเอกสารประกอบการเรียนส่งครูเพื่อจะได้
บนั ทึกคะแนน

5. หากนักเรยี นอ่านคำถามในกิจกรรมไม่เขา้ ใจจะตอ้ งตรวจสอบกับคุณครูเทา่ นนั้ โดยไมถ่ ามเพ่อื น

2

มาตรฐานการเรยี นรู้

ศ 3.2 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ประวตั ศิ าสตร์และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คา่ ของนาฏศิลป์
ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมภมู ิปญั ญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล

ตัวชว้ี ัด

ศ 3.2 ม.4/1 เปรียบเทยี บการนำการแสดง ไปใช้ในโอกาสต่างๆ
ศ 3.2 ม.4/3 บรรยายววิ ฒั นาการของนาฏศลิ ปแ์ ละการละครไทย
ศ 3.2 ม.4/4 นำเสนอแนวคิดในการอนรุ ักษน์ าฏศิลป์ไทย

สาระการเรยี นรู้

1. ประวัตคิ วามเป็นมามโนราหบ์ ทสอนรำ
2. องคป์ ระกอบชุดการแสดงมโนราหบ์ ทสอนรำ
3. ผูแ้ สดงมโนราห์บทสอนรำ
4. คนตรปี ระกอบการแสดงมโนราหบ์ ทสอนรำ
5. เพลงประกอบการแสดงมโนราหบ์ ทสอนรำ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นักเรยี นบอกความหมายของบทร้องโนราหบ์ ทสอนรำได้ถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถร้อง และรับบทรอ้ งโนราหบ์ ทสอนรำได้ถกู ต้อง
3. นกั เรียนบอกทา่ รำโนราหบ์ ทสอนรำได้ถกู ต้อง
4. นกั เรยี นสามารถบอกเครอื่ งแตง่ กายของโนราห์บทสอนรำไดถ้ ูกตอ้ ง
5. รักและช่นื ชมการแสดงนาฏศิลปพ์ นื้ บ้านไทยโนราห์บทสอนรำในเชงิ อนุรักษ์

วิธสี อนและกิจกรรมการเรียนการสอน

1. วิธสี อน
วธิ สี อนมีการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใชว้ ิธกี ารสอนท่ีหลากหลายมีการจัดการเรียน

การสอนแบบอธิบาย อภิปรายและการฝึกปฏิบัติ การทำงานกลุ่ม ทำแบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน
และการทำแบบฝกึ หดั ท้ายบท

3

2. กิจกรรมการเรยี นการสอน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประจำบทนี้ผู้สอนต้องใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี

1-2 จากค่มู ือการใชน้ วตั กรรมเอกสารประกอบการเรียนรำโนราบทครสู อน

สอ่ื การเรียนการสอน

1. คู่มอื การใช้เอกสารประกอบการ
2. เอกสารประกอบการเรยี น

การวดั ผลและประเมินผล

กระบวนการวัดผลประเมนิ ผล
1. วธิ กี าร

1.1 สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
1.2 สงั เกตพฤติกรรมรายกลมุ่
1.3 ตรวจแบบฝึกหัด
1.4 ทดสอบกอ่ นเรยี น / หลังเรียน
2. เครื่องมอื
2.1 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล
2.2 แบบประเมนิ พฤติกรรมรายกล่มุ
2.3 แบบเฉลยแบบฝึกหัดทา้ ยบทท่ี 1
2.4 แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน
2.5 แบบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น / หลงั เรยี น
3. เกณฑ์การวดั ผลประเมนิ ผล
3.1 ทำแบบทดสอบผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 80
3.2 ทำแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80

4

แบบทดสอบก่อนเรียน

กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ สาระนาฏศิลป์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3

เร่อื ง โนราบทสอนรำ รหสั วิชา ศ31202 เวลา 10 นาที คะแนน 10

**********************************************************************************

คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถกู ท่ีสุดแลว้ ทำเครื่องหมาย (×) ลงในกระดาษคำตอบ

1. การแสดงโนราเปน็ ศิลปะการละเล่นของคนในแถบภาคใด

ก. ภาคเหนอื ข. ภาคกลาง

ค. ภาคอีสาน ง. ภาคใต้

จ.ภาคตะวันตก

2. ตามตำนานเช่ือวา่ โนราเกิดขึ้นทจ่ี ังหวดั ใด

ก. สงขลา ข. นครศรธี รรมราช

ค. ตรัง ง. พัทลุง

จ.กระบี่

3. ขอ้ ใดคือเครื่องดนตรีทใี่ ช้ในการแสดงมโนราท้ังหมด

ก. โหม่ง กรบั ป่ี

ข. ป่ี ขลยุ ทบั

ค. ทับ โหมง่ ป่ี

ง. โหมง่ แตระ ป่ี

จ. แตระ จะเข้ กลอง

5

4. ขอ้ ใดไม่ใชบ้ ทร้องท่ีอยใู่ นบทมโนราบทสอนรำ
ก. สอนเจ้าเอยสอนรำ
ข. นกแขกเต้าบินเขา้ รงั
ค. วาดไว้ฉายอก
ง. รำสงู เสมอหน้า
จ. ทำเป็นฤๅษีดาบด

5. “.............. วาดไว้ให้เป็นแล้วใหเ้ ปน็ หนา้ พรหม” ข้อความท่ีหายไปคือขอ้ ใด
ก. รำสงู เสมอหน้า
ข. สอนเจ้าเอยสอนรำ
ค. ทำเปน็ ฤๅษีดาบด
ง. ส่ีมมุ ปราสาท
จ. วาดไวฉ้ ายอก

6. ขอ้ ใดไม่ใช่เคร่ืองแต่งกายมโนรา
ก. ป้งิ คอ
ข. ปง้ิ บ่า
ค. หางหงส์
ง. กำไลแพง
จ. พานโครง

7. พระบิดาของนางนวลทองสำลชี ือ่ วา่ อะไร
ก. พระยาสายฟ้าฟาด
ข. ขนุ ศรีศรัทธา
ค. เดก็ ชายนอ้ ย
ง. ขนุ แผน
จ. พระยามาลา

6

8. ขุนศรีศรัทธามีชอื่ เดิมว่าอะไร
ก. เดก็ ชายใหญ่
ข. เดก็ ชายน้อย
ค. เดก็ ชายนดิ
ง. พลายงาม
จ. นายแดง

9. “ปลดปลงลงมาได้ ...............” ขอ้ ความทหี่ ายไปคอื ข้อใด
ก. ยกสูงเสมอหน้า
ข. ครูให้ขา้ รำเทียมพก
ค. วาดไว้ฉายอก
ง. นารายน้าวศร
จ. กนกโคมเวียน

10. “ทำรูปท้าวเทวา ...........” ข้อความทห่ี ายไปคอื ขอ้ ใด
ก. ยกสงู เสมอหน้า
ข. ครใู หข้ า้ รำเทียมพก
ค. ขี่แตม่ าชกั รถ
ง. สอนเจา้ เอยสอนรำ
จ. รำเทยี มพรก

7

รำโนราบทสอนรำ

เปน็ ทา่ รำสำหรับฝกึ หดั ในท่ายนื รำของการรำโนรา สาระของทา่ รำอธบิ ายรปู แบบการสอนมีการ
ผสมทา่ รำมากข้ึน บทร้องจะมีท้งั หมด 40 วรรค ทุกวรรคจะมีการร้องและการรับจังหวะของตวั ต้นเสียง
และมลี ูกคู่ร้องรับ ของน่าฟ้ง ในทำนองเพลงทบั เพลงโทน ท่ารำเปน็ การแนะนำให้รำในลักษณะตา่ ง ๆ เช่น
รำระดับหวั ไหล่ รำระดับชายพก การหมุนตัวในท่ารำ บางท่ารำสอนเรื่องพุทธศาสนา บางท่ารำนำเอา
พฤติกรรมการทำงานในชีวติ ประจำวัน บางท่ารำนำเสนอตวั ละครในวรรณคดี เช่น พระราม หนมุ าน ซึง่
ให้รายละเอยี ดท่ีเพม่ิ ขน้ึ ตามลำดบั

ประวตั ชิ ุดการแสดง

ตำนานทีเ่ ลา่ โดยขนุ อุปถัมภน์ รากร (โนราพมุ่ เทวา) อำเภอควนขนนุ จงั หวดั พัทลงุ ความว่าพระยา
สายฟ้าฟาดเป็นกษัตริย์ครองเมืองๆ หนึ่ง มีชายาชื่อนางศรีมาลา มีธิดาชื่อนางนวลทองสำลี วันหนึ่ง
นางนวลทองสำลีสุบินว่ามีเทพธิดามาร่ายรำให้ดู ท่ารำมี 12 ท่า มีดนตรีประโคม ได้แก่ กลอง ทับ โหม่ง
ฉง่ิ ปี่ และแตระ นางให้ทำเครอ่ื งดนตรีและหดั รำตามทสี่ ุบินเป็นท่คี รึกครื้นในปราสาท

อยู่มาวันหนึ่ง นางอยากเสวยเกสรบัวในสนะหน้าวัง ครั้นนางกำนัลเก็บถวายให้เสวย นางก็ทรง
ครรภ์ แต่ยังคงเล่นรำอยู่ตามปกติ วันหนึ่งพระยาสายฟ้าฟาดเสด็จมาทอดพระเนตรการรำของธิดา เห็น
นางทรงครรภ์ทรงซกั ไซ้เอาความจรงิ ได้ความเหตุเพราะเสวยเกสรบัว พระยาสายฟ้าฟาดทรงไม่เชือ่ และ
ทรงเห็นว่านางทรงทำให้อัปยศ จึงรับสั่งให้เอานางลอยแพ พร้อมด้วยสนมกำนัล 30 คน แพไปติดเกาะ
กะชัง นางจึงเอาเกาะนั้นเป็นที่อาศัย ต่อมาได้ประสูติโอรส ทรงสอนให้โอรสรำโนราได้ชำนาญ แล้วเล่า
เรือ่ งแต่หนหลงั ให้ทราบ

ต่อมากุมารน้อยซึ่งเป็นโอรสของนางนวลทองสำลีได้โดยสารเรือพ่อค้าไปเที่ยวรำโนราไปยังเมือง
พระอัยกา เรื่องเล่าลือไปถึงพระยาสายฟ้าฟาด ๆ ทรงปลอมพระองค์ไปดูโนรา เห็นกุมารน้อยมีหน้าตา
คล้ายพระธิดา จึงทรงสอบถามจนได้ความจริงว่าเป็นพระราชนัดดา จึงรับสั่งให้เข้าวัง และให้อำมาตย์ไป
รับนางนวลทองสำลีจากเกาะกะชัง แต่นางไม่ยอมกลับ พระยาสายฟ้าฟาดจึงกำชับให้จับมัดขึ้นเรือพามา
ครั้นเรือมาถึงปากน้ำ จะเข้าเมืองก็มีจระเข้ลอยขวางทางไว้ ลูกเรือจึงต้องปราบจระเข้ ครั้งนางเข้าเมือง
แล้ว พระยาสายฟ้าฟาดได้ทรงจัดพิธีรับขวญั ขึน้ และให้มีการรำโนราในงานนี้โดยประทานเคร่ืองต้น อันมี
เทริด กำไลแขน ปั้นเหนง่ สังวาลพาดเฉียง 2 ข้าง ปีกนกแอ่น หางหงส์ สนับเพลา ฯลฯ ซึ่งเป็นเครื่องทรง
ของกษัตริย์ให้เป็นเครื่องแต่งตัวโนรา และพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้แก่กุมารน้อยราชนัดดาเป็นขุนศรี
ศรทั ธา

8

เพลงประกอบการแสดง

เพลงประกอบการแสดงบทสอนรำ จะร้องในทำนองเพลงทับ เพลงโทน ประกอบด้วยผู้รอ้ งท่เี ป็น
ต้นเสียง และลูกครู่ อ้ งรับ ประกอบทำนองดนตรี

บทร้องสอนรำ เปน็ การร้องลกั ษณะเพลงทบั เพลงโทน ซึง่ ต้องประกอบดว้ ย ต้นเสียง และลูกคู่
ร้องรบั ก่อนฝึกการร้องควรเข้าใจเนือ้ หาของเพลงร้อง ดงั น้ี

สอนเอยสอนรำ ครใู หข้ ้ารำเทียมบ่า

ปลดปลงลงมาได้ ครูใหข้ า้ รำเทียมพก

วาดไวใ้ ห้ฉายอก ยกหนกเปน็ แผนผาหลา

รำท่าชสู ูงเสมอหนา้ เรียกช่อระย้าพวงดอกไม้

ทา่ น้ีปลดปลงลงมาได้ ครูใหท้ ่ารำท่ารำโคมเวยี น

รำทา่ กระหนกรูปวาด วาดไวใ้ หเ้ หมือนรปู เขยี น

รำท่ากระหนกโคมเวยี น รำท่ากระเชยี รปาดตาล

ฉันนนี้ ้องเอยเหวยนดุ พระพทุ ธิเจ้าหา้ มมาร

ฉันนน้ี งคราญ พระรามจะข้ามสมทุ ร

รำเลน่ ใหส้ ูงสดุ เรยี กวา่ ญาครุฑร่อนมา

ครุฑเหลยี วเหน็ นาค ครฑุ เหอมันราปกี ถา้

ทำรูปพระยาครุฑ ลงุ ยุดเอานาคนาคา

ครุฑเฉยี วเอานาคได้ พาร่อนสูด่ าวเวหา

ทำรปู หนมุ าน ทะยานไปเผากรงุ ลงกา

ทำรูปท้าวเทวา ขข่ี ี่แต่มาชักรถ

ทำรูปฤาษดี าบส ลลี าจะเข้าอาศรม

ส่ีมมุ ยอดปราสาท วาดไวใ้ ห้เปน็ หน้าพรหม

ฉนั นน่ี อ้ งเอวกลม เรียบเรียงนารายณ์นาวศร

ฉันนีบ่ วร พระรามจะวางศรไป

ศรออกไปจากแหล่ง ศรไปตกเขาใหญ่

9

วธิ กี ารร้อง
วิธีการร้องในบทรำหมู่น้ี ตอ้ งใชผ้ ้รู อ้ ง 2 ฝา่ ย คอื ต้นเสยี ง หมายถึงผู้ร้องนำขน้ึ เสียงร้อง ตามบทท่ี
กำหนด และลูกคู่ หมายถึงผ้รู อ้ งรบั ภายหลงั จากท่ผี ้รู ้องนำรอ้ งจบ ตามทำทองท่ีกำหนด ดังนี้
ตน้ เสียง สอนเอยสอนรำ
ลกู คู่ สอนเอยสอนรำ
ตน้ เสยี ง สอนแม่นะสอนรำ
ลูกคู่ สอนแม่นะสอนรำ
ต้นเสียง ครูใหข้ วัญเหอข้า ครใู ห้ขา้ รำข้ารำเทยี มบ่า
ลกู คู่ ครใู ห้ขา้ รำข้ารำเทยี มบา่ ครูใหข้ วัญเหอข้า ครูให้ข้ารำข้ารำเทยี มบ่า...
ต้นเสยี ง ปลดปลงลงมา
ลูกคู่ ปลดปลงลงมา
ต้นเสียง *ทา่ นปี้ ลดปลงลงมาได้
ลูกคู่ ทา่ นีป้ ลดปลงลงมาได้
ต้นเสียง วา่ ครูให้ขวญั เหอข้ารำ ครูให้ข้ารำข้ารำเทียมพก
ลูกคู่ ครูให้ข้ารำข้ารำเทยี มพก ครูใหข้ วญั เหอขา้ รำ ครใู ห้ขา้ รำขา้ รำเทียมพก…
ตน้ เสียง วาดไว้ใหฉ้ ายอก
ลูกคู่ วาดไว้ให้ฉายอก
ตน้ เสยี ง ท่านี้วาดไว้ใหฉ้ ายอก
ลูกคู่ ทา่ น้ีวาดไวใ้ หฉ้ ายอก
ตน้ เสียง วา่ ให้ยกขวญั เหอเปน็ แผน ให้ยกเป็นแผนผาหลา
ลูกคู่ ใหย้ กเป็นแพนเป็นแพนผาหลา ใหย้ กขวญั เอย่ เป็นแพนผาหลายกเป็นแพนผาหลา
ตน้ เสยี ง รำสูงเสมอหนา้
ลกู คู่ รำสูงเสมอหนา้
ตน้ เสยี ง ทา่ น้ีรำสูงเสมอหน้า
ลกู คู่ ท่านร้ี ำเสมอหน้า

10

ต้นเสยี ง เรียกชอ่ ขวญั เหอระยา้ เรยี กชอ่ ระย้าพวงดอกไม้
ลกู คู่ เรียกชอ่ ระยา้ ระยา้ ดอกไม้ เรียกชอ่ ขวญั เหอระยา้ ละยา้ ดอกไม้
ต้นเสยี ง ปลดปลงลงมาได้
ลกู คู่ ปลดปลงลงมาได้
ตน้ เสยี ง ทา่ นป้ี ลดปลงลงมาได้
ลูกคู่ ทา่ นป้ี ลดปลงลงมาได้
ตน้ เสียง ครูให้ขวญั เหอขา้ รำ ครใู ห้ข้ารำขา้ รำท่าโคมเวยี น
ลกู คู่ ครใู หข้ า้ รำขา้ รำโคมเวียน ครูใหข้ วญั เหอขา้ รำ ครูให้ข้ารำท่าโคมเวียน
ตน้ เสยี ง กระหนกรูปวาด
ลูกคู่ กระหนกรูปวาด
ตน้ เสียง ท่านี้กระหนกรูปวาด
ลูกคู่ ท่านี้กระหนกรูปวาด
ตน้ เสยี ง วาดไว้ขวัญเหอใหเ้ หมือนรูปเขียน วาดไว้ใหเ้ หมือนรูปเขียน
ลูกคู่ วาดไวใ้ หเ้ หมือนให้เหมือนรูปเขยี น วาดไวข้ วญั เหอใหเ้ หมอื นรูปเขียน วาดไว้ใหเ้ หมือน
รปู เขียน
ต้นเสยี ง ทา่ กระหนกโคมเวียน
ลกู คู่ แล้วท่ากระหนกโคมเวียน
ตน้ เสยี ง ท่านี้กระหนกโคมเวียน
ลกู คู่ ท่านีก้ ระหนกโคมเวียน
ต้นเสียง วา่ รำทา่ ขวัญเหอกระเชยี ร รำท่ากระเชยี รปาดตาล
ลกู คู่ รำทา่ กระเชียรกระเชยี รปาดตาล วา่ รำทา่ ขวัญเหอกระเชยี ร รำทา่ กระเชยี รปาดตาล
ตน้ เสยี ง ว่าฉนั นน้ี อ้ งเอยเหวยนุด
ลกู คู่ ฉนั นน้ี อ้ งเอยเหวยนุด
ต้นเสยี ง ฉันน้ีน้องเอยเหวยนดุ พระพุทธเิ จ้า พุทธิเจา้ ห้ามมาร
ลกู คู่ แล้ววา่ ฉนั นีน้ ้องเอ่ยเหวยนุด พระพทุ ธิเจา้ พุทธเิ จ้าห้ามมาร

11

ตน้ เสยี ง ฉนั นีน้ งคราญ
ลกู คู่ ไหนวา่
ตน้ เสียง ฉันนน้ี งคราญ พระรามจะข้าม พระรามจะขา้ มสมุทร
ลกู คู่ ฉนั นส้ี าวนงคราญ พระรามจะขา้ ม แลว้ จะขา้ มสมุทร
ตน้ เสยี ง รำเล่นให้สงู สดุ
ลูกคู่ ไหนวา่
ต้นเสยี ง รำเล่นใหส้ ูงสดุ เรยี กวา่ ญาครุฑ น้ญี าครฑุ ร่อนมา
ลกู คู่ แลตะรำเลน่ นอ้ งเหอสงู สุด เรียกวา่ ญาครฑุ ร่อนมา
ตน้ เสียง ครุฑมนั เหลียวนอ้ งเหอเห็นนาค
ลูกคู่ ไหนว่า
ตน้ เสียง ครุฑเหลียวเห็นนาค ครฑุ เหอมนั รา แลมนั ราปีกถา้
ลูกคู่ แลตะ่ ครุฑเหลยี วนอ้ งเอยเห็นนาค ครุฑเหอมันรา แลมนั ราปีกถา้
ตน้ เสยี ง มาทำใหเ้ ป็นน้องเหอรูปครุฑ
ลูกคู่ ไหนวา่
ตน้ เสียง ทำเป็นรปู ครุฑ ลงยดุ ลงนาคเหอเอานาคนาคา
ลูกคู่ แลตะ่ ทำเป็นน้องเหอนั้นรปู ครุฑ ลงยดุ ลงนาคเหอเอานาคนาคา
ตน้ เสยี ง ครุฑมนั เฉียวน้องเหอนาคได้
ลูกคู่ ไหนวา่
ตน้ เสียง ครฑุ เฉยี วนาคได้ พารอ่ นส่ดู าว สดู่ าวเวหา
ลูกคู่ ว่าแลตะ่ ครฑุ เฉียว สาวเหอเอานาคได้ พารอ่ นส่ดู าว สดู่ าวเวหา
ต้นเสยี ง มาทำเปน็ รปู นี้หนมุ าน
ลกู คู่ ไหนวา่
ตน้ เสยี ง เป็นรูปหนมุ าน ทะยานไปเผา ไปเผากรุงลงกา
ลูกคู่ แลตะ่ เป็นรปู น้องเหอ้ หนุมาน ทะยานไปเผา ไปเผากรงุ ลงกา
ต้นเสียง มาทำเปน็ รปู นี้ท้าวเทวา

12

ลูกคู่ ไหนวา่
ตน้ เสียง เป็นรูปท้าวเทวา ขี่แต่ม้าแตม่ ้าชักรถ
ลกู คู่ ออแลต่ะเปน็ รูปน้องเอยเทวา ขแ่ี ตม่ ้าแต่ม้าชกั รถ
ตน้ เสยี ง เปน็ รูปฤๅษดี าบส
ลูกคู่ ไหนว่า
ตน้ เสยี ง เป็นรปู ฤๅษดี าบส ลีลาจะเข้า แลจะเข้าอาศรม
ลูกคู่ แลถ้าเป็นรปู ฤษดี าบส ลลี าจะเข้า แลจะเข้าอาศรม
ตน้ เสยี ง สี่มมุ น้องเหอปราสาท
ลกู คู่ ไหนวา่
ต้นเสยี ง ส่มี มุ ปราสาท วาดไว้ใหเ้ ปน็ หนา้ พรหม
ลกู คู่ แลตะสี่มมุ น้องเหอปราสารท วาดไว้ใหเ้ ป็นแลว้ ให้หนา้ พรหม
ต้นเสียง ฉนั นนี้ อ้ งเหอเอวกลม
ลูกคู่ ไหนว่า
ตน้ เสยี ง ฉนั นน้ี ้องเหอเอวกลม เรียกองค์นารายณน์ ีน้ ารายณน์ ้าวศร
ลูกคู่ แลต่ะฉนั น้นี ้องเหอเอวกลม เรียกองค์นารายณ์นน้ี ารายณน์ า้ วศร
ต้นเสียง ฉันนี้นอ้ งเหอบวร
ลกู คู่ ไหนว่า
ต้นเสียง ฉันนี้น้องเหอบวร พระรามจะวาง จะวางศรไป
ลกู คู่ แลตะ่ ฉนั น้ีสาวเหอบวร พระรามจะวาง จะวางศรไป
ตน้ เสียง ศรออกน้องเหอจากแหลง่
ลกู คู่ ไหนวา่
ตน้ เสียง ศรออกจากแหลง่ ศรเหอไปต้อง ไปต้องเขาใหญ่
ลูกคู่ แลตะศร ออกน้องเหอจากแหล่ง ศรเหอไปต้อง ไปต้องเขาใหญ่
แลว้ วา่ หยุดกลอนร่อนรำรำไปหล่าวสาวเหอ

13

เคร่อื งแตง่ กาย
ราชบัณฑติ ยสภา, (2545) “เครอ่ื ง” คอื ส่ิงสำหรับประกอบกนั หรือ เปน็ พวกเดยี วกัน“แตง่ ” คือ

จดั ใหง้ าม “กาย”คือตัว ดงั นั้น “เคร่อื งแตง่ กาย” จึงหมายถึงส่งิ สำหรับประกนั จดั ให้งามที่เกีย่ วกับตวั ของ
นกั แสดง โนรา เชือ่ กันว่าเครื่องแต่งกายโนราเปน็ ส่งิ ของที่ขุนศรีศรทั ธาไดร้ ับพระราชทาน เป็นเคร่อื งต้น
อันมเี ทรดิ กำไลแขน ปนั้ เหน่งสงั วาลพาดเฉียง 2 ข้าง ปีกนกแอน่ หางหงส์ สนบั เพลา

ธรี วัฒน์ ชา่ งสาน. (2560). สรปุ เครื่องแตง่ กายโนราต้ังแตส่ มยั รัชกาลที่ 5 ถึงปัจจบุ ันมี 3 แบบ
คอื แบบเครอื่ งตน้ แบบทรงบัว และแบบเครื่องลกู ปดั 5 ชิ้นหรอื เครือ่ งเตม็
1. เทริด เป็นเครื่องประดับศีรษะของตวั นาย โรงหรือโนราใหญ่หรือตัวยืนเคร่อื ง
(โบราณไม่นยิ มใหน้ างรำใช)้ ทำเปน็ รปู มงกฎุ อยา่ งเตย้ี มกี รอบหน้า มี ด้ายมงคลประกอบ

ภาพที่ 1
1. เครอ่ื งลกู ปดั หมายถงึ
ชุดเสอื้ ผ้าเคร่อื งแต่งกายของตัวโนราโดยการนำเม็ดลูกปัดกระดูกตา่ ง ๆในยุคกอ่ นนิยมใช้สีเม็ดลูกปัดอย่าง
น้อย 5 สี ท่ตี ัดกนั
มาร้อยกบั เชือกตามลกั ษณะของภมู ปิ ัญญาของคนภาคใต้ ใหเ้ กดิ เปน็ ลวดลายต่าง ๆ ทัง้ ลายฟนั ปลา
ลายขา้ วหลามตดั ลายพิมพพ์ อง อย่างวิจิตรสวยงาม
นำมาหอ่ หมุ้ ร่างกายนกั แสดงโนราแทนเสอื้ ประกอบ ดว้ ยชิน้ ส่วนสำคัญ 5 ชิ้นคอื

14

2.1 บา่ สำหรบั สวมทบั บนบ่าซ้าย และขวา รวม 2 ชิน้

ภาพท่ี 2
2.2 ปง้ิ คอ สำหรับสวมห้อยคอดา้ นหน้าและด้านหลงั คล้ายกรองละครไทยรวม 2 ช้นิ

ภาพท่ี 3
2.3 พานอกหรือรอบอก เปน็ เทคนิคการร้อยลูกปดั เป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผา้ ใชพ้ นั รอบตวั นกั แสดง
เพ่อื ปกปิดหนา้ อก เคร่ืองแตง่ กายชน้ิ นี้บางถน่ิ เรยี กว่าพานโครงบางถ่นิ เรียกวา่ รอบอก

15

ภาพที่ 4
3. ปีกนกแอ่นหรอื ปีกเหนง่ หมายถงึ
เครื่องประดับทำด้วยแผ่นเงินเป็นรูปคล้ายนกนางแอ่นกำลังกางปีก ใช้สำหรับโนราใหญ่หรือตัวยืนเครื่อง
สวมติดกบั สังวาลอยูท่ ร่ี ะดบั เหนือสะเอว ดา้ นซ้ายและขวา คลา้ ยตาบทิศของละคร

ภาพที่ 5
4. ซบั ทรวงหรอื ทับทรวงหรือตาบ หมายถึง สรอ้ ยคอสำหรับสวมหอ้ ยไวต้ รงทรวงอกส่วนทเ่ี ป็น
สรอ้ ยคอจะร้อยด้วยเม็ดลูกปัดเปน็ เส้นลงมาผกู ตดิ ไวก้ ับแผ่นเงนิ เป็นรูปคล้ายขนมเปยี กปูนดุนลาย และ
อาจฝงั เพชรพลอยเป็นดอกดวงหรอื อาจ ร้อยดว้ ยลูกปัด นยิ มใชเ้ ฉพาะตัวโนราใหญ่หรือตัวยืนเครอื่ ง
ปัจจุบันตวั นางรำก็ใสไ่ ด้และบางคร้งั อาจร้อยเป็นเมด็ ลกู ปดั อยา่ งเดยี วไม่มแี ผน่ เงนิ กไ็ ด้

16

ภาพท่ี 6
5. ปีกหรอื หางหงส์ หมายถึง เครอ่ื งแต่งร่างกายสว่ นหลังระดับสะเอวของนักแสดงนิยมทำดว้ ยเขา
ควายหรอื โลหะ ปัจจุบนั สามารถทำด้วยแผ่นพวี ซี ีกม็ ี นำมาเกลาใหเ้ ป็นรปู คลา้ ยปีกนก 2 ชนิ้ นำมาประกบ
กนั ผกู ปลายใหแ้ น่นส่วน โคนจะแยกออกจากกนั ดึงไว้ด้วยผา้ ทเ่ี ยบ็ เปน็ เส้นปล่อยชายทั้ง 2 ข้างใหย้ าวไว้
สำหรับผกู มดั กับสะเอว ปลายปีกเชิดงอนขนึ้ และผูกรวมกันไว้ทำพู่จากไหมพรมติดไวเ้ หนือปลายปกี ใช้
ลูกปัดรอ้ ยห้อยเปน็ ดอกดวงรายตลอดทัง้ ข้างซ้าย และขวาให้ดคู ลา้ ยขนของนก ใช้สำหรับสวมคาดทบั
ผา้ นุง่ ตรงระดับสะเอว ปลอ่ ยปลายปกี ย่ืนไป ด้านหลังคล้ายหางกินรี

ภาพท่ี 7
6. ผา้ นงุ่ หมายถงึ ผา้ ยาวสีเ่ หล่ียมผืนผ้าอาจเป็นผ้าลายไทยหรือผ้าพ้นื ก็ไดน้ ำมานงุ่ ทับสนับเพลา
ให้ชาย รง้ั ไปเหนบ็ ไวข้ ้างหลงั ปลอ่ ยปลายชายให้หอ้ ยลงเช่นเดียวกบั หางกระเบน เรียกปลายชายทพี่ บั แล้ว
ห้อยลงนี้วา่ “หางหงส”์ การนุง่ ผ้ายาวเป็นหางหงสข์ องโนราน้ถี ือเป็นภมู ิปัญญาตามอตั ลักษณ์ของทาง

17

ภาคใตเ้ ทา่ น้นั มีขนั้ ตอนการนุ่งท่ีแยบยล ไม่ง่ายสำหรบั ผทู้ ไี่ มม่ ปี ระสบการณ์อย่างไรกต็ ามปจั จบุ นั ผ้ายาวท่ี
ใชน้ ุ่งน้ีนำมาเยบ็ เปน็ ผ้าสำเรจ็ รูปให้ง่ายต่อการแตง่ กาย

ภาพที่ 8
7. หนา้ เพลา หรอื เหนบ็ เพลา หนอื หนับเพลา หมายถงึ กางเกงยาวคร่ึงน่องสำหรับสวมใส่ของ
นกั แสดงโนราทงั้ ตัวพระและตัวนางรำนยิ มทำจากผา้ ยืดเพ่ือความยดื หยุ่นของการเคล่อื นไหวร่างกายสว่ น
ขาของนักแสดงปลายขาจะตกแตง่ ด้วยผ้าลาย เป็นแถบสเี พอ่ื ความสวยงาม สนบั ในอดตี สามารถทำได้ 2
แบบคอื แบบทน่ี ่งุ สวมเปน็ กางเกง และแบบที่ทำเฉพาะขาทั้งสองข้าง โคนขาผูกเชือกใหแ้ น่นแต่ปจั จบุ นั น้ี
คงเหลือแบบเดยี วคือท่ีนงุ่ เป็นกางเกง

ภาพท่ี 9

18

8. ผ้าหอ้ ย หมายถึง ผ้าสตี ่างๆท่คี าดใหช้ ายผ้าห้อยลงมาด้านลา่ งความยาพอคลุมเข่านักแสดง
โดยปกตจิ ะใชผ้ ้าสแี ผ่นบาง ๆอาจเปน็ ผา้ ชีฟอง หรอื ผ้าโทเรสีต่างๆ อัดจีบหรือพลสี หรอื จะเป็นผ้าโปร่งผ้า
บางสสี ดก็ได้ห้อยเคียงไว้ระหวา่ งหนา้ ผา้ ท้งั ด้านซา้ ยและดา้ นขวา

ภาพที่ 10
9. หนา้ ผา้ หมายถึง ผา้ เนื้อหนาปกลวดลายดว้ ยเลอ่ื มและลกู ปดั ตามทีน่ ิยมจะเป็นผา้ สผี นกั เช่น สี
ดำ สนี ้ำเงิน หน้าผ้ามี 3 ช้ิน ห้อยไว้ครงกลางลำตวั 1 ช้ิน และขา้ งขาด้านซา้ ยและขวาอกี ข้างละช้นิ

ภาพที่ 11
10. กำไลตน้ แขน หมายถึง กำไลท่ใี ช้หนีบไวท้ ่ตี น้ แขนของผแู้ สดงทัง้ 2 ขา้ งเพ่ือขบรัดกล้ามเนื้อให้
ดู ทะมัดทะแมงและเพิ่มความสงา่ งาม ของกล้ามเน้อื แขนขณะท่ีรา่ ยรำมากขึ้น อยา่ งไรก็ตามเขา้ ใจว่าต้น
แขนนา่ จะเปรียบได้กบั พาหรุ ัดของเครื่องแตง่ กายละครไทยน่นั เอง

19

ภาพที่ 12
11. กำไล หรือไหมล หมายถึง กำไลของโนรามักทำดว้ ยทองเหลือง ทำเปน็ วงแหวนใช้สวมมือทง้ั
2 ข้าง ๆ ละหลายๆ วง เช่น แขนแตล่ ะ ขา้ งอาจสวม 5-10 วงซ้อนกนั เพ่ือเวลาปรับเปลี่ยนทา่ จะไดม้ ีเสียง
ดัง เปน็ จงั หวะเร้าใจย่ิงขึน้

ภาพที่ 13
12. เลบ็ หมายถึง เครื่องสวมน้วิ มือใหโ้ คง้ งามคลา้ ย เล็บกินนรหรือกนิ รี ทำดว้ ยทองเหลอื งหรือ
เงิน อาจตอ่ ปลายดว้ ยหวายท่ีมี ลูกปดั รอ้ ยสอดสไี ว้พองาม นยิ มสวม มือละ 4 นิ้ว (ยกเวน้ หัวแมม่ อื )

ภาพท่ี 14

20

ทา่ รำบทสอนรำ
ทา่ รำโนราบทครูสอนสำหรบั ใชป้ ระกอบการฝึกรำในครง้ั นี้ จะให้รายละเอยี ดทส่ี ามารถปฏิบตั ทิ ่า

รำไดง้ ่ายขึน้ คอื นักศึกษาต้องเขา้ ใจและศึกษาศัพท์สำหรับใช้ส่อื สารการปฏบิ ัติทา่ รำและคอ่ ยฝกึ ทา่ รำ
ตามลำดับ ดังน้นั จะใหร้ ายละเอียด คือ นาฏยศัพทส์ ำคญั และข้ันตอนการปฏิบัตทิ ่ารำโนราบทครู
สอน ดงั นี้
นาฏยศพั ท์สําคญั
นาฏยศพั ทส์ ําคัญก่อนฝกึ รําโนราบทสอนรำ ผู้เรยี นจะต้องฝึกเพ่ือความเข้าใจของการปฏิบัติทา่ รํา มี
ดงั ต่อไปนี้
1. ท่องโรง หมายถึง “ทอ่ ง” ในภาษาใต้เปน็ คำกริยาทอนมาจากคำว่า “ท่องเท่ยี ว” ดังนัน้ คำว่า “ทอ่ ง
โรง” คือการเคลอ่ื นย้ายร่างกายไปดา้ นหนา้ รอบ ๆ เวทีแสดง
วธิ ปี ฏิบัติ คอื ซอยเท้าถี่ ๆ มือซา้ ยตงั้ วงหนา้ มือขวาจบี ควำ่ แขนตึงระดับไหล่ หนา้ ตรง ดงั ภาพ

ขน้ั ท่ี 1 ข้นั ที่ 2
ภาพที่ 1 ท่องโรง

2. เล่อื นเทา้ หมายถงึ การเคลอ่ื นยา้ ยรา่ งกายโดยกริ ยิ าของเทา้ ที่ไม่เก้าเดนิ แตใ่ ชว้ ธิ ีการขยับเท้า
วิธีปฏบิ ัติ คอื การยืนย่อเข่าใหเ้ ทา้ ชิดกัน จากน้ันเล่ือนปลายเท้าชนกัน สลับกบั ส้นเท้าชนกัน ขยบั ถี่ ๆ จะ
ทำใหส้ ามารถเลื่อนตัวเองไปด้านข้างได้ ทง้ั ขา้ งซ้ายและขา้ งขวา ดงั ภาพ

21

ภาพที่ 2 เลื่อนเท้า
3. สอดสร้อย หมายถงึ ท่ารำสำหรบั การเช่อื มต่อจากท่าหนึง่ ไปอีกทา่ หนง่ึ
วธิ ีปฏิบัติ คอื ปฏิบัตติ ามข้นั ตอน ดังนี้

ข้ันท1่ี ยนื พักเท้า โดยการชิดเท้าย่อเข่า มอื ทง้ั สองวางหน้าขา หนา้ ตรง

ขน้ั ท2ี่ กระดกเทา้ ซ้าย มือทั้งสองจีบแขนงอเขา้ หาใบหน้า หนา้ ตรง

22

ขัน้ ท3ี่ มือซา้ ยจบี ปรกหนา้ มือขวาสง่ จีบลงระดับสะโพก

ข้ันท4่ี วางเทา้ ซ้าย มอื ขวาต้งั วงบน

ขน้ั ท5ี่ กระทบจังหวะ จากนั้นหมนุ ตัวทางซา้ ย 1 รอบ ดังภาพ
4. ยกข้าง หมายถงึ ลักษณะการยกเท้าข้างใดข้างหน่ึงให้ลอยจากพื้นไปด้านข้าง
วิธีปฏิบตั ิ คอื การยืนดว้ ยขาข้างใดข้างหนง่ึ ยนื รบั น้ำหนักย่อเข่า ขาขา้ งท่ียกแบะขาไปดา้ นขา้ ง ส่วนของ
ขาพับตั้งแต่เข่าถงึ ขอ้ เท้า แบะออกขา้ ง

23

ภาพท่ี 4 ยกขา้ ง
5. ยกหน้า หมายถงึ ลักษณะการยกเท้าข้างใดข้างหน่ึงให้ลอยจากพืน้ ไปด้านหน้า
วิธีปฏบิ ตั ิ คอื การยนื ด้วยขาขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ยนื รบั นำ้ หนักย่อเข่า ขาข้างทีย่ กสง่ ส่วนของหัวเขา่ ไปด้านหน้า
ลักษณะเดยี วกับการยกหน้าตัวนางชองละครไทย ซ่งึ สามารถยกได้ทั้งข้างซา้ ยและขา้ งขวา

ภาพท่ี 5 ยกหน้า
6. พาดขา หมายถึง กิรยิ าของการยนื ดว้ ยขาข้างเดยี ว อีกขา้ งยกพาดข้อเท้าไว้บนเขา่ ของขาข้างที่ยืน
วธิ ปี ฏิบตั ิ คอื การยืนด้วยขาซ้าย แลว้ ใช้ขาขวาพาดบนข้าซ้าย ลำตวั ตรง หนา้ ตรง ดังภาพ

ภาพที่ 6 พาดขา

24

ทา่ รําบทสอนรำ
ท่าราํ บทครสู อน จะใหร้ ายละเอยี ดของเน้ือรอ้ ง และอธิบายท่ารำตามเนื้อรอ้ งท่นี ำเสนอ พรอ้ ม
ภาพประกอบ ดงั นี้
1. เนือ้ รอ้ ง สอนเอยสอนรำ
อธบิ ายท่ารํา
“สอนแมเ่ อยสอนรำ” ก้าวหน้าเท้าซ้าย มือขวาตัง้ วงหนา้ มือซ้ายจบี ต่อศอกขวา เอียงซา้ ย
“สอนแล้วแม่นาสอนรำ” กา้ วหนา้ เท้าขวา มือซ้ายต้ังวงหน้า มือขวาจีบต่อศอกซ้าย เอยี งขวา

ขน้ั ท่ี 1 ข้นั ท่ี 2
ภาพท่ี 7 สอนเอยสอนรำ สอนแล้วแม่นาสอนรำ
“ ครูให้ข้ารำเทียมบา่ ” ถอนเทา้ ขวา มอื ทงั้ สองม้วนจบี ปลอ่ ยเปน็ ต้งั วงกลาง เอยี งซ้าย
“ รอ้ งรบั ” หมุนตัวทางขวา 1 รอบ

ภาพที่ 8 ครูใหข้ า้ รำเทยี มบ่า
2. เนอื้ รอ้ ง ปลดปลงลงมา ครใู ห้ข้ารำเทียมพก

25

อธบิ ายท่ารํา
“ปลดปลงลงมา” กา้ วหนา้ เท้าซา้ ย ทรุดตัวลงนงั่ ตงั้ เขา่ มือซ้ายจบี หงายงอแขนระดบั สะเอว มอื ขวาตั้งวง
ลา่ ง เอียงซ้าย
“น่ีแหละปลดปลงลงมา” ก้าวหนา้ เทา้ ขวา ทรดุ ตวั ลงนง่ั ตัง้ เข่า มอื ขวาจีบหงายงอแขนระดบั สะเอว มือ
ซ้ายตั้งวงล่าง เอียงขวา
“เขียนหนงั สอื ” นง่ั ลกั ษณะเดิม มือซา้ ยแบหงายงอแขนระดับอก มือขวาจีบคว่ำวนมือ (ลักษณะเขียน
หนงั สือ) จังหวะสดุ ทา้ ยตวดั จบี ออก

ขั้นที่ 1 ข้ันท่ี 2
ภาพที่ 9 ปลดปลงลงมา น่ีแหละปลดปลงลงมา

“ครูใหข้ า้ รำเทยี มพก ” ถอนเทา้ ขวา มอื ทงั้ สองมว้ นจบี ปล่อยเปน็ ตงั้ วงล่าง เอยี งซ้าย
“ รอ้ งรับ ” หมุนตวั ทางขวา 1 รอบ

3. เนื้อร้อง วาดไวใ้ ห้ฉายอก ภาพท่ี 10 ครใู หข้ ้ารำเทียมพก
อธบิ ายท่ารํา ยกหนกเป็นแพนผาหลา

26

“วาดไว้” ยืนชดิ เทา้ มือซา้ ยแบไปขา้ งหนา้ มอื ขวาจีบควำ่ ม้วนมอื กลางฝ่ามือซา้ ย
“ฉายอก” ถอนเท้าขวา มือซ้ายแบมอื แตะหน้าอกซ้าย มือขวาตัง้ วงหน้า เอยี งซา้ ย

ข้ันท่ี 1 ขน้ั ที่ 2
วาดไว้ ฉายอก

ภาพที่ 11 วาดไว้ ฉายอก

“ยกหนก” ยนื ชิดเทา้ มือทงั้ สองปฏบิ ัตลิ กั ษณะคล้ายท่าพรหมสีห่ น้า หน้าตรง
“เป็นแพนผาหลา” ตบเทา้ ขวา ยกข้าง มือท้ังสองยกขนึ้ เป็นลักษณะวงบัวบาน หน้าตรง

ขั้นที่ 1 ข้นั ท่ี 2

ยกหนก เปน็ แพนผาลา

ภาพที่ 12 สอนขา้ ใหท้ รงกำไล

หมายเหตุ ช่วงร้องรบั ปฏบิ ัติทา่ เดิมจนร้องรบั หมด

4. เนือ้ รอ้ ง รำทา่ ยกสงู เสมอหนา้ เรียกช่อระย้าพวงดอกไม้

27

อธิบายทา่ รํา
“รำท่ายกสูงเสมอหน้า” ถอนเทา้ ขวา มือท้ังสองจีบควำ่ แขนงอระดับสะเอว จากนน้ั ม้วนมอื จีบปลอ่ ยแบ
ปลายน้วิ ไปด้นหน้า หนา้ ตรง
“ยกสงู เสมอหน้า” ปฏบิ ตั ิซ้ำทา่

ขั้นท่ี 1 ข้นั ท่ี 2
ยกสงู เสมอหนา้

ภาพที่ 13 รำท่ายกสงู เสมอหน้า
“เรียกชอ่ ขวญั เหอระย้า” ยนื ชิดเท้า มือท้ังสองยกจบี คว่ำซ้อนกนั ระดบั ใบหน้า หนา้ ตรง

“เรยี กชอ่ ระย้าพวงดอกไม้” ดึงมอื ท้ังสองลงมาข้างสะโพก จากนั้นถอนเทา้ ซ้าย พรอ้ มกับมอื ทัง้ สองจีบไขว้
ระดับใบหนา้ เอียงขวา

28

ข้ันที่ 1 ขน้ั ที่ 2
ภาพท่ี 14 เรยี กชอ่ ระยา้ พวงดอกไม้

หมายเหตุ ช่วงร้องรับหมุนตวั ทางซ้ายหน่ึงรอบปฏบิ ตั ิท่าเดิมจนร้องรับหมด
5. เนื้อร้อง ท่านป้ี ลดปลงลงมาใต้ ครใู หข้ า้ รำโคมเวียน
อธิบายทา่ รํา
“ทา่ น้ีปลดปลงลงมาใต้ ” ถอนเท้าซา้ ย มือซา้ ยจีบคว่ำระดับใบหนา้ มือขวาตงั้ วงบน เอยี งขวา หมุนตวั
ทางซ้าย 1 รอบ

“ทา่ นป้ี ลดปลงลงมาใต้ ” ถอนเทา้ ขวา มือขวาจีบคว่ำระดับใบหนา้ มือซ้ายตงั้ วงบน เอียงซ้าย หมนุ ตัว
ทางขวา 1 รอบ

29

ทา่ นีป่ ลดปลงลงมาใต้ นแี่ หละปลดปลงลงมาใต้

ภาพท่ี 15 ทา่ นป่ี ลดปลงลงมาใต้

“ครูให้ขา้ รำโคมเวียน” ถอนเท้าซ้าย มือทง้ั สองม้วนมือจีบแล้วปล่อยเป็นวงกลาง เอยี งขวา

ภาพที่ 16 ครูให้ขา้ รำโคมเวียน
หมายเหตุ ชว่ งร้องรบั หมุนตัวทางซา้ ยหนง่ึ รอบปฏิบตั ทิ า่ เดมิ จนร้องรับหมด
6. เนอ้ื รอ้ ง รำทา่ กระหนกรปู วาด วาดไวใ้ ห้เหมือนรปู เขียน
อธิบายท่ารํา
“รำท่ากระหนกรปู วาด” ยืนชิดเท้า มือซ้ายแบมือ มือขวาจบี คว่ำกลางฝ่ามือขวา หน้าตรง
“นแี่ หละกระหนกรูปวาด” ปฏบิ ตั ิซำ้ ท่าเดมิ

30

ภาพที่ 17 ราํ ท่ากระหนกรูปวาด
“วาดไว้ใหเ้ หมือนรปู เขยี น” ยืนพนมมือระดบั อก พอเนื้อเพลงร้อง “กบั รปู เขยี น” ยืนดว้ ยเทา้ ซา้ ย มือซ้าย
ตง้ั วงหน้า มือขวายกลกั ษณะบัวชูฝัก เอยี งขวา

ภาพที่ 18 ทา่ วาดไวใ้ ห้หเหมือนกบั รูปเขียน
หมายเหตุ ช่วงรอ้ งรับหมนุ ตัวทางซา้ ยหน่งึ รอบปฏิบัตทิ า่ เดิมจนรอ้ งรบั หมด
7. เนอ้ื รอ้ ง รำท่ากระหนกโคมเวียน รำทา่ กระเชยี รปาดตาล
อธิบายท่าราํ
“รำท่ากระหนกโคมเวียน” ถอนเท้าซา้ ย มือทง้ั สองม้วนมือจีบแล้วปลอ่ ยเป็นวงกลาง เอียงขวา หมนุ รอบ
ตัวเองทางซา้ ย 1 รอบ
“นแ่ี หละกระหนกโคมเวยี น” ถอนเท้าขวา มือทั้งสองมว้ นมอื จีบแลว้ ปล่อยเป็นวงกลาง เอียง
ซว้ ย หมนุ รอบตัวเองทางขวา 1 รอบ

31

ขัน้ ที่ 1 ขั้นที่ 2
ภาพที่ 19 รำทา่ กระหนกโคมเวยี น น่แี หละกระหนกโคมเวยี น
“รำทา่ กระเชยี รปาดตาล” ยืนชิดเท้า พนมมือระดบั อก หน้าตรง
“ปาดตาล” วางสน้ เทา้ ขวาไปดา้ นหน้า มือขวาจบี คว่ำ มอื ซ้ายต้งั วงลา่ ง จากน้ันสลับเทา้ สลับมอื จนหมด
จงั หวะ

ข้ันท่ี 1 ขน้ั ท่ี 2
ภาพที่ 20 ทา่ รำท่ากระเชียรปาดตาล

หมายเหตุ ช่วงรอ้ งรบั ปฏิบตั ิมือเทา้ สลบั วางหน้าหลงั จนหมดจงั หวะ
8. เนื้อร้อง ฉนั น้ีน้องเอยเหวยนุด พระพุทธเิ จ้าห้ามมาร
อธบิ ายทา่ รํา
“ฉนั น้นี อ้ งเอยเหวยนดุ ” กา้ วหน้าเท้าขวา มือทงั้ สองชอ้ นมือประสานหน้าอก เอียงขวา
“ฉันนี้น้องเอยเหวยนุด” ก้าวหนา้ เท้าขวา มือทัง้ สองช้อนมือประสานหนา้ อก เอียงขวา

32

ภาพที่ 21 ฉนั นนี่ อ้ งเอยเหวยนดุ
“พระพทุ ธิเจ้า” ยนื ชิดเทา้ พนมมอื ระดับอก หนา้ ตรง
“พทุ ธเิ จา้ หา้ มมาร” มือขวาต้ังฝ่ามือขึ้นระดบั สะเอว มือซา้ ยแบมอื แตะขา้ งขา หนา้ ตรง

ขน้ั ท่ี 1 ข้ันท่ี 2
ภาพท่ี 22 พระพุทธเิ จ้าห้ามมาร

หมายเหตุ ชว่ งรอ้ งรับเดนิ วาดมอื สลบั ซ้ายขวาตามจงั หวะเพลง
9. เน้อื ร้อง ฉนั นน้ี งคราญ พระรามจะข้ามสมทุ ร
อธิบายทา่ ราํ
“ฉันน้นี องเอยนงคราญ” เดนิ วาดแขนมือเดียว มอื ขวาจับสะเอว
“ฉนั นีน้ ้องเอยนงคราญ” เดินวาดแขนมือเดยี ว จนหมดจังหวะ

33

ขั้นท่ี 1 ขัน้ ที่ 2
ภาพที่ 23 ฉนั น่ีน้องเอยนงคราญ

“พระรามจะข้ามจะข้ามสมทุ ร” ยืนพนมมือระดบั อก พอเน้อื เพลงร้อง “จะข้ามสมทุ ร” ยกหนา้ ขาขวา มือ
ซ้ายจบี ปรกข้าง มอื ขวาชี้นว้ิ มอื ไปดา้ นหน้า เอียงซ้าย

ภาพท่ี 24 พระรามจะขา้ มสมทุ ร
หมายเหตุ ชว่ งรอ้ งรับเดินวาดมอื สลับซา้ ยขวาตามจังหวะเพลง
10. เน้อื ร้อง รำเลน่ ใหส้ งู สดุ
อธบิ ายท่ารำ
“รำเลน่ ”เหยียบเทา้ ขวา มือท้ังสองจีบแชนตึงขา้ งสะโพก ลักคอซ้าย
“ให้สูงสดุ ”กา้ วหนา้ เทา้ ซา้ ย มือทง้ั สองปล่อยเปน็ วงบน(วงเขาควาย) ลักคอขวา

34

ขั้นท่ี 1 ขั้นท่ี 2
รำเล่น ให้สูงสุด

ภาพท่ี 25 รำเล่นให้สูงสุด
“เรียกว่าญาครุฑ” ยืนรวมเท้ามือทั้งสองจีบควำ่ ขา้ งขา หน้าตรง
“ญาครฑุ ร่อนมา” ยืนรวมเท้า มือทง้ั สองปล่อยจบี เป็นวงกลาง หน้าตรง

ขนั้ ที่ 1 ข้นั ท่ี 2

เรยี กว่าญาครฑุ ร่อนมา

ภาพท่ี 26 เรยี กว่าวา่ ญาครฑุ รอ่ นมา

หมายเหตุ ช่วงร้องรับเดินวาดมอื สลบั ซา้ ยขวาตามจังหวะเพลง

11. เนือ้ รอ้ ง ครุฑเหลียวเหน็ นาค

อธิบายทา่ รำ

“ครฑุ เหลยี ว” ยนื รวมเท้ามอื ทง้ั สองจีบควำ่ ขา้ งขา หนา้ ตรง

“เหน็ นาค” เดินมอื ทง้ั สองปล่อยจบี เปน็ วงกลาง หน้าตรง

35

ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั ที่ 2
ครุฑเหลียว เหน็ นาค

ภาพท่ี27 ครฑุ เหลยี วเห็นนาค

“ครุฑเหอมันรา” ยนื รวมเทา้ มอื ทง้ั สองต้ังวงกลาง ส่นั ไหล่ หนา้ ตรง

“มนั ราปกี ถา้ ” ยืนรวมเท้า มือท้งั สองจบี ขา้ งขาแล้วปล่อยเปน็ วงกลาง หนา้ ตรง

ขนั้ ท่ี 1
ครุฑเหอมนั รา

36

ขั้นท่ี 2 ขัน้ ท่ี 3
ปีกถา้

ภาพท่ี 28 ครุฑเหอมันราปกี ถา้
หมายเหตุ ช่วงรอ้ งรบั เดนิ วาดมอื สลบั ซา้ ยขวาตามจังหวะเพลง
12. เน้ือร้อง ทำเป็นรูปครฑุ
อธิบายท่ารำ
“ทำเป็น” ยนื รวมเท้าย่อเข่า มอื ท้งั สองจบี คว่ำขา้ งขา หนา้ ตรง
“รปู ครุฑ” จากนั้นเดินมือทัง้ สองปล่อยจีบเป็นวงกลาง หนา้ ตรง

ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ ที่ 2
ทำเป็น รูปครุฑ

ภาพที่ 29 ทำเปน็ รปู ครุฑ

37

“ลงยดุ เอานาค”
“เอานาคนาคา”

ข้ันท่ี 1 ขน้ั ที่ 2
ลงยุดเอานาค เอานาคนาคา

ภาพที่ 30 ลงยดุ เอานาคนาคา
หมายเหตุ ชว่ งร้องรับเดินวาดมือสลบั ซ้ายขวาตามจังหวะเพลง

13. เนอื้ ร้อง ครุฑเฉยี วเอานาคได้
อธิบายทา่ รำ
“ครฑุ เฉียว” ยนื ก้าวหน้าเทา้ ขวา วาดมือทั้งสองจับจีบควำ่ นะดบั สะเอว หนา้ ตรง
“เอานาคได้” ปฏบิ ัติเท้าเชน่ เดมิ จากนั้นสน่ั ปลายนว้ิ มอื ข้ึนมาระดบั ใบหน้า หน้าตรง

ขั้นที่ 1 ขั้นท่ี 2
ภาพที่ 31 ครุฑเฉียวเอานาคได้

38

“พาร่อนสดู่ ้าว” ก้าวหน้าเทา้ ขวา มือซา้ ยจบี ปรกข้าง มือขวาชีน้ ว้ิ ไปดา้ นหนา้ เอียงซ้าย
“สู่ดา้ วเวหา” ยนื ลักษณะเดิม เคาะนวิ้ ช้ีมือขวาตามจังหวะเพลง อีก 2 จังหวะ

ภาพที่ 32 พาร่อนสดู่ า้ วเวหา
หมายเหตุ ชว่ งรอ้ งรบั ปฏบิ ตั ิท่าเดนิ รำสองมือ โดย ย่ำเท้าขวา รำมอื ซ้ายต้ังวงบน มอื ขวาสง่ จีบหลงั เอยี ง
ขวา ยำ่ เทา้ ซา้ ยรำมือขวาต้ังวงบน มอื ซ้ายส่งจีบหลัง เอยี งซ้าย ตามจงั หวะเพลง

14. เนอื้ รอ้ ง ทำรูปหนุมาน
อธบิ ายท่ารำ
“ทำรูป” ก้าวขา้ งเท้าขวา มือขวากำมือหงายข้อมือระดบั สะเอว มือซ้ายกำมือควำ่ ข้อมือระดับสะเอว
“หนมุ าน” จากนนั้ ทิ้งนำ้ หนักตวั มาทางซา้ ย พลกิ ข้อมือขวาเป็นกำมือคว่ำลักษะวงลา่ ง มือซ้ายพลกิ หงาย
เปน็ กำข้อมือหงาย ลกั คอซ้าย

ข้นั ที่ 1 ขน้ั ท่ี 2
ทำรปู หนุมาน

ภาพที่ 33 ทำรูปหนมุ าน

39

“ทะยานไปเผา” กระทบื เทา้ ขวาแลว้ เกบ็ เท้า มือทัง้ สองกำมือไวเ้ หนือศรี ษะ หน้าตรง
“ไปเผากรุงลงกา” กระทืบเท้าขวา แล้วยกขา้ ง มือซ้ายกำมือไว้เหนอื ศีรษะ มือขวาชนี้ วิ้ ไปดา้ นหน้า แขน
ตงึ เอยี งซา้ ย

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ ท่ี 2

ทะยานไปเผา กรุงลงกา

ภาพท่ี 34 ทะยานไปเผากรงุ ลงกา

หมายเหตุ ชว่ งรอ้ งรบั ปฏบิ ัติท่าไปเผากรุงลงกาจนหมดจงั หวะ

15. เนื้อร้อง ทำรูปทา้ วเทวา

อธิบายทา่ รำ

“ทำรปู ” ยนื รวมเท้าพนมมือไหวร้ ะดับอก หน้าตรง

“ทา้ วเทวา”จากนน้ั ยกขาขวาพาด มือขวาบวั ชฝู กั มือซ้ายลักษณะวงลา่ งวางหน้าขาซ้าย หน้าตรง

ข้นั ที่ 1 ขนั้ ท่ี 2
ทำรปู ท้าวเทวา

ภาพท่ี 35 ทำรูปทา้ วเทวา

40

“ขแี่ ตม่ ้า”ยนื พาดขาขวา มือขวาแบลาดระดับสะเอวปลายน้ิวตก มือซา้ ยกำมือปล่อยน้วิ ช้ีและนิ้วก้อย ควำ่
แขนงอระดบั อก หนา้ ตรง
“แตม่ ้าชักรถ”เท้าขวาวางหลัง มอื ซ้ายดึงมือมาไว้ระดับสะเอวมือขวาจบี หงายรวมกับมือซา้ ย ลักคอ
ซา้ ย จากน้นั เท้าขวาวางส้นด้านหน้า พร้อมกบั ดงึ มอื ทง้ั สองไปกลางลำตัวดา้ นหน้า ลกั คอ
ขวา

ข้นั ที่ 1 ข้นั ท่ี 2
ขแ่ี ต่ม้า แตม่ า้ ชักรถ

ภาพท่ี 36 แตม่ า้ ขแ่ี ตม่ ้าชกั รถ
หมายเหตุ ช่วงรอ้ งรบั ปฏบิ ตั ิท่าไปเผากรุงลงกาจนหมดจงั หวะ
16. เนอื้ ร้อง ทำรปู ฤๅษดี าบส
อธบิ ายท่ารำ
“ทำรูป”เบ่ยี งตัวทางขวา ก้าวขา้ งเท้าขวา มอื ขวากำมือ(ลักษะกำไม้เท้า) มือซา้ ยไขว้หลัง
ลักคอขวา
“ฤๅษีดาบส” ทิง้ นำ้ หนักตวั ทางซ้าย มือขวากำมือยกมาทางซา้ ย(ลกั ษณะกำไมเ้ ท้า) ลักคอซ้าย

41

ขั้นที่ 1 ขนั้ ที่ 2
ทำรูป ฤๅษดี าบส

ภาพท่ี 37 ทำรูปฤาษีดาบส
เนอ้ื ร้อง ลลี าจะเขา้ จะเข้าอาศรม
อธบิ ายท่ารำ
“ลีลาจะเข้า” กา้ วข้างเท้าขวา มือขวากำมอื (ลกั ษะกำไมเ้ ทา้ ) มอื ซา้ ยไขว้หลงั ลักคอขวา (ท่าทำรูป)
“จะเข้าอาศรม”ยนื รวมเทา้ หน้าตรงกบั เวที มือท้งั สองแตะปลายนิ้ว แยกข้อมอื ออกจากกนั ระดับ
อก หน้าตรง

ภาพที่ 38 ลีลาจะเขา้ อาศรม
17. เนื้อร้อง สี่มมุ ยอดปราสาท
อธิบายท่ารำ
“สีม่ ุม” ยนื รวมเทา้ ทิง้ น้ำหนักตัวทางขวา มือทง้ั สองกำมือเหลอื เพียงนิ้วชก้ี ับนว้ิ กลาง ให้ปลายนิ้วทัง้ สอง
ข้างชนกันระดบั อกลักคอขวา

42

“ปราสาท” ถ่ายน้ำหนักตวั มาทางซา้ ย มือทั้งสองแบมือ ให้ปลายนว้ิ ทง้ั สองขา้ งชนกนั ระดับหนา้ ลกั คอ
ซา้ ย
“ส่มี ุมยอดปราสาท” ปฏบิ ัติซำ้ ท่าอีกคร้ัง

ขั้นที่ 1 ขั้นท่ี 2
สี่มุม ยอดปราสาท
ภาพที่ 39 สี่มุมยอดปราสาท

เนอื้ ร้อง วาดไวใ้ หเ้ ป็นหน้าพรหม
อธิบายท่ารำ
“วาดไว้ใหเ้ ป็นหนา้ พรหม” ยืนรวมเท้า พนมมอื หน้าตรง

ภาพที่ 40 วาดใหเ้ ปน็ หนา้ พรหม

หมายเหตุ ชว่ งรอ้ งรับปฏิบตั ิทา่ ลงฉากใหญพ่ นมมือระดบั อกหนา้ ตรง ครั้งท่ี1 หนั หน้าเข้าในวง ครั้งท2่ี
หนั หน้าออกนอกวง ครั้งท3่ี หันหนา้ ในวงครงั้ ท่ี4 หันหน้าออกนอกวง แลว้ คอ่ ยซอยเท้ากลับมาหน้าตรง
ตามจงั หวะเพลง

43

ขั้นท่ี 1 ขั้นที่ 2

ลงฉากใหญ่หนั หนา้ เขา้ ในวง ลงฉากใหญห่ นั หน้าออกนอกวง

ภาพท่ี 41 ท่าหมายเหตวาดให้เป็นหนา้ พรม

18. เน้ือรอ้ ง ฉนั นเ่ี อวกลม

อธิบายทา่ รำ

“ฉันน่ี”ย่ำเท้าขวา มือขวาจับสะเอว มอื ซ้ายต้ังวงหน้า จากนัน้ ย่ำเทา้ ซ้าย มือซ้ายส่งจีบหลัง (ทา่ รำมือ
เดยี ว)

“ฉนั น่ีเอวกลม” ปฏิบตั ซิ ำ้ ทา่ อกี คร้ัง

ข้ันท่ี 1 ข้ันท่ี 2
ฉนั น่ี เอวกลม

ภาพท่ี 42 ฉันนี่เอวกลม

44

เนื้อรอ้ ง เรยี บองค์นารายณน์ ้าวศร
อธิบายทา่ รำ
“เรียบองค์นารายณ์” ยนื รวมเท้า พนมมือ หนา้ ตรง
“นารายณ์นา้ วศร” ยืนดว้ ยเท้าซา้ ย กระทบื เท้าขวา ยกข้าง มือซา้ ยจีบควำ่ ระดับวงล่าง มือขวาจบี คว่ำ
แขนตึงระดับไหล่ เอยี งขวา

ขั้นท่ี 1 ข้นั ท่ี 2
ภาพที่ 43 นารายณ์น้าวศร

หมายเหตุ ช่วงร้องรับปฏิบตั ิท่าเดนิ รำสองมอื โดย ย่ำเท้าขวา รำมอื ซ้ายต้ังวงบน มอื ขวาสง่ จีบหลัง เอียง
ขวา ยำ่ เทา้ ซ้ายรำมือขวาตั้งวงบน มือซา้ ยส่งจีบหลงั เอียงซ้าย ตามจังหวะเพลง
19. เนอ้ื รอ้ ง ฉนั นี่บวร
อธิบายทา่ รำ
“ฉันนี่” ย่ำเทา้ ขวา มอื ทง้ั สองปฏิบตั ทิ า่ ขัดจางนาง ลกั คอขวา
“บวร” ยำ่ เทา้ ซา้ ย พลิกมือทั้งสองเปน็ ประสานกนั ระดบั อก (ท่ารกั ) ลกั คอซา้ ย
“ฉันนี่บวร” ปฏิบตั ิซำ้ ท่าอีกคร้ัง


Click to View FlipBook Version