98
คาอธบิ ายรายวิชา ทช11003 ศิลปศกึ ษา จานวน 2 หนว่ ยกติ
ระดับประถมศกึ ษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
รู้ เข้าใจ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ชื่นชม เห็นคณุ คา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม ทาง
ทศั นศิลป์ดนตรี และนาฏศิลป์พื้นบา้ น สามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ศกึ ษาและฟกิ ทกั ษะเกี่ยวกบั เรอ่ื งดงั ตอ่ ไปน้ี
ทัศนศิลปพ์ ืน้ บ้าน ความหมาย ความสาคญั ความเป็นมา ทัศนศิลป์ในการดาเนนิ ชีวิต ทศั นศลิ ป์ที่
เก่ยี วขอ้ งกบั ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มที่เปน็ ด้นกาเนิดของงานทัศนศลิ ป์พ้นื บา้ น การวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์
การอนุรักษ์ ภมู ปิ ัญญา ดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถานของทัศนศิลป์ท้องถ่ิน
ดนตรีพนื้ บ้าน ความหมาย ความสาคญั ความเปน็ มา วิวฒั นาการของดนตรปี ระเภทตา่ ง ๆ คณุ ค่า ความงาม
ความไพเราะของดนตรีพ้นื บา้ น การวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ การอนรุ กั ษภ์ ูมปิ ัญญา วัฒนธรรม ประเพณี
ทางด้านดนตรขี องท้องถิน่
นาฏศลิ ป์พนื้ บา้ น ความหมาย ความสาคญั ความเปน็ มา วิวัฒนาการ คุณคา่ ความงามของนาฏศิลป์
พ้ืนบ้าน การวเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ การอนุรักษภ์ มู ปิ ัญญา วัฒนธรรม ประเพณขี องบอ้ งถน่ิ
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
ศึกษาจากเอกสาร จากธรรมชาติ สอื่ ทกุ ประเภท และแหลง่ เรยี นรู้ ฟิกจินตนาการ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์
วิจารณ์ สร้างสรรค์ ฟกิ ปฏบิ ตั ิ ทศั นศึกษา กิจกรรมค่าย ฯลฯ ใหเ้ หน็ คุณคา่ และชนื่ ชมความงามของทศั นศิลป์
ดนตรี นาฏศลิ ป์ และการอนรุ ักษ์ภูมปิ ญั ญา วัฒนธรรม ประเพณี ส่งิ แวดลอ้ ม ของทศั นศิลป์พ้ืนบ้าน
การวดั และประเมินผล
ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความคดิ เหน็ ช้ินงาน ผลงาน โดยวิธีการทดสอบ สงั เกต สัมภาษณ์
99
รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชา ทช11003 ศลิ ปศกึ ษา จานวน 2 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
รู้ เข้าใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม ช่นื ชม เหน็ คณุ คา่ ความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม ทาง
ทศั นศลิ ป์ ดนตรี และนาฏศิลป์พน้ื บา้ น สามารถวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณไ์ ด้อย่างเหมาะสม
ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา จานวน
(ชวั่ โมง)
1 ทัศนศลิ ป์พน้ื บา้ น 1.อธบิ ายความหมาย ความ 1.ความหมาย ความสาคัญ ความ 30
สาคญั ความเปน็ มาของ เปน็ มาของทัศนศิลปพ์ ืน้ บา้ น
ทศั นศิลป์พื้นบ้าน 2.รปู แบบและวิธีการนา จดุ เส้น สี
2.อธิบายรปู แบบในการนา จดุ แสง - เงา รูปร่างและรูปทรง มา
เส้น สี แสง - เงา รูปรา่ ง และ จินตนาการสร้างสรรค์ ประกอบให้
รูปทรงมาจินตนาการ เป็นงานทัศนศลิ ป์ พ้ืนบ้าน
สรา้ งสรรค์ ประกอบให้ เปน็ 3.รูปแบบและววิ ัฒนาการของ งาน
งานทัศนศิลป์พืน้ บา้ น ทัศนศิลป์พื้นบา้ นในด้าน
3.อธบิ ายรูปแบบและ -จิตรกรรม
ววิ ัฒนาการ ในเรอ่ื งของ งาน -ประติมากรรม
ทัศนศลิ ป์พน้ื บ้าน ตา่ ง ๆ -สถาปัตยกรรม
4.อธิบาย วิเคราะห์ วิพากษ์ -ภาพพิมพ์
วิจารณ์รปู แบบและความงาม 4.รปู แบบและความงามของ
ของงานทศั นศลิ ป์พืน้ บา้ น ที่ ทศั นศิลป์พนื้ บา้ นกับความงาม ตาม
เกิดจากความงามตาม ธรรมชาติทีเ่ กี่ยวกับรูปร่าง รูปทรง
ธรรมชาติ เสน้ สี แสง-เงาและ จุดของต้นไม้
สามารถจนิ ตนาการ และ ดอกไม้ กง่ิ ไม้ ใบไม้ เปลอื กไม้ ตอไม้
อธบิ ายวิธีการนาความงาม จาก ทะเล แม่นา ลาธาร ภเู ขา กรวด หิน
ธรรมชาตใิ หอ้ อกมา ดิน
ความงามและความซาบซึง้ ของ งาน
ทศั นศิลป์พื้นบ้านท่เี กิดจาก เส้น สี
จดุ แสงเงา รูปรา่ ง และ
100
ท่ี หวั เร่อื ง ตวั ช้ีวดั เน้อื หา จานวน
(ช่ัวโมง)
เป็นความงามทางทศั นศิลป์ รปู ทรง ท่เี กิดจากการเลียนแบบ ลอก
พนื้ บ้านอยา่ งงา่ ย ๆ แบบมาจากธรรมชาติ
5.อธบิ าย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ 5.รปู แบบและความงามของงาน
วิจารณ์รูปแบบและคณุ ค่า ของ ทัศนศลิ ป์พน้ื บ้านทเ่ี กดิ จาก
งานทศั นศลิ ป์พนื้ บ้าน ในเร่อื ง ความคดิ สรา้ งสรรค์ของ มนุษยท์ ี่นา
ต่าง ๆ วัตถุหรือวัสดุ สิง่ ของต่าง ๆ เข้ามา
6.ความงามทีเ่ กดิ จาก ความคดิ เสริมแต่ง รา่ งกายมนษุ ย์
สร้างสรรค์ ของมนุษยท์ ีน่ าวัตถุ 6.ความคิดสร้างสรรค์ทน่ี าวตั ถุ หรือ
หรือสง่ิ ของตา่ ง ๆ เขา้ มาเสรมิ วัสดุส่ิงของต่าง ๆ มา ตกแตง่ ทีอ่ ยู่
แตง่ ร่างกาย มนุษย์ อาศยั สถานท่ี และสงิ่ แวดล้อม
ความงามของท่อี ยอู่ าศัย 7.คุณคา่ ความสาคัญของความดี งาม
และสถานทสี่ ่งิ แวดล้อม ทน่ี า ทางวัฒนธรรม ประเพณี และความ
วัตถุ หรือวสั ดุ สวยงามของโบราณ วัตถแุ ละ
ส่ิงของตา่ ง ๆ เขา้ มาตกแตง่ โบราณสถานในท้องถ่ิน ทเี่ ราเกดิ
7.อธบิ ายคณุ คา่ ความสาคญั
ความดงี ามของวัฒนธรรม
ประเพณแี ละความสวยงาม
ของโบราณวัตถุ และ
โบราณสถานของทอ้ งถิ่น
2 ดนตรพี ้ืนบ้าน 1.อธิบายความหมาย 1.ความหมาย ความสาคัญ ความ 20
ความสาคัญ ประวตั ิ ความ เป็นมาและวิวฒั นาการ ของเคร่อื ง
เปน็ มาและววิ ัฒนาการ ของ ดนตรีพนื้ บา้ น ประเภทตา่ ง ๆ
เครื่องดนตรีพ้ืนบ้าน ชนิดต่าง 2.ลักษณะและประเภทของ เคร่อื ง
ๆ ดนตรีพืน้ บ้านประเภท ตา่ ง ๆ
2.อธิบายลักษณะและประเภท
ของเครื่องดนตรีพน้ื บ้าน
ประเภทต่าง ๆ
101
ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวดั เนอื้ หา จานวน
3 นาฏศลิ ป์พ้นื บ้าน (ชัว่ โมง)
3.อธิบาย วิเคราะห์ วิพากษ์ 3.คุณคา่ ของความงามและความ
วจิ ารณ์คณุ ค่าของความงาม ไพเราะของเครอ่ื งดนตรีและ เพลง
และความไพเราะของ ดนตรี พนื้ บา้ น
และเพลงพ้นื บ้าน 4.ประวตั ิความเป็นมาของ ภูมปิ ัญญา
4.อธบิ าย ประวตั ิ ความ เป็นมา ทางดนตรแี ละเพลง พื้นบ้าน
ของภูมปิ ญั ญาทาง ดนตรีและ 5.คณุ คา่ ความรกั หวงแหนและ
เพลงพ้ืนบ้าน ตวั อยา่ งภมู ปิ ัญญาตลอดจน การรว่ ม
5.อธิบาย วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ กจิ กรรมถา่ ยทอดของ ภูมิปญั ญาทาง
วิจารณค์ ุณคา่ ของความรัก และ ดนตรแี ละเพลง พื้นบา้ น
ความหวงแหน ตลอดจนร่วม
สืบสาน การถ่ายทอดของภูมิ
ปญั ญา บอ้ งถิน่ ทางดนตรี
พื้นบ้าน
1.อธิบายความหมาย ความ 1.ความหมาย ความสาคญั 30
สาคัญ ความเปน็ มาและ ความเปน็ มา และววิ ฒั นาการ ของ
ววิ ฒั นาการของการแสดง นาฏศิลป์พืน้ บ้านภาค ต่าง ๆ
นาฏศิลป์พ้นื บา้ นของ ภาคตา่ ง 2.ความคิดเห็นและความรสู้ ึก
ๆ เกย่ี วกับการแสดงนาฏคิลป์ พืน้ บา้ น
แสดงความคิดเห็นและ ประเภทต่าง ๆ
ความร้สู ึกเกย่ี วกับการ แสดง 3.วิธเี ลอื กชมการแสดงนาฏคลิ ป์
พ้นื บ้านประเภท ต่าง ๆ พ้นื บ้าน เพื่อสร้างความสขุ
2.อธิบายวิธกี ารเลือกชม การ และประโยชนต์ อ่ ตนเอง
แสดงนาฏศิลป์พ้นื บา้ น ทต่ี น 4.ความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกบั ลกั ษณะ
สนใจ เพ่ือสรา้ ง ความสขุ และ และการแสดงของนาฏคิลป์ พ้ืนบ้าน
ประโยชน์ ในชวี ิตได้อยา่ ง
เหมาะสม
3.อธบิ าย วเิ คราะห์ วพิ ากษ์
วจิ ารณ์ลกั ษณะและการ แสดง
ของนาฏศลิ ป์พน้ื บ้าน เบือ้ งตน้
102
ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เน้ือหา จานวน
(ช่ัวโมง)
4.ฝึกปฏิบตั ิขั้นพื้นฐานใน การ 5.ภาษา ทา่ ทาง และนาฏยศัพท์
นาภาษาทา่ ทางและ นาฏย คุณค่าความสาคญั ของนาฏศิลป์
ศพั ท์ไปประยุกต์ ใช้ในการ พื้นบา้ นของภาคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ
พฒั นาตนเอง วัฒนธรรมประเพณี
5.อธบิ าย วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ 6.การอนรุ กั ษน์ าฏศลิ ป์พ้ืนบา้ น ของ
วิจารณค์ ณุ คา่ ความสาคญั ของ ภมู ปิ ัญญาบอ้ งถ่ิน
นาฏศลิ ป์พ้นื บ้าน ของภาคต่าง ศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี
ๆ ทเ่ี ก่ยี วกบั วฒั นธรรม
ประเพณี
6.อธิบายแนวทางการ อนุรกั ษ์
นาฏศิลป์พื้นบา้ น วฒั นธรรม
ประเพณี และภูมปิ ัญญาบ้อง
ถ่ิน
103
สาระการพฒั นาสงั คม
สาระการพฒั นาสงั คม เป็นสาระเก่ียวกบั ภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การ
ปกครอง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี หน้าท่พี ลเมอื ง และการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม
สาระการพัฒนาสงั คม ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดงั นี้
มาตรฐานที่ 5.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนกั ถงึ ความสาคญั เก่ยี วกบั ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนามาปรบั ใชใ้ นการดารงชวี ิต
มาตรฐานที่ 5.2 มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพอ่ื การ
อย่รู ่วมกัน อย่างสันติสุข
มาตรฐานที่ 5.3 ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย มีจติ สาธารณะ เพ่ือความสงบสุขของ
สงั คม
มาตรฐานท่ี 5.4 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสาคญั ของหลกั การพฒั นา และสามารถพฒั นาตนเอง
ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม
มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั และผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั ในแตล่ ะมาตรฐาน
มาตรฐานท่ี 5.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั ถึงความสาคญั เกย่ี วกบั ภูมศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์
การเมอื งการปกครอง สามารถนามาปรับใช้ในการดารงชีวติ
มาตรฐาน การ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การ
เรียนรรู้ ะดบั ปกครองในท้องถิ่นประเทศและนามาปรบั ใชใ้ นการดาเนินชีวิตเพื่อความม่นั คงของชาติ
ผลการเรียนรู้ ที่ 1.อธบิ ายข้อมูลเกย่ี วกบั ภมู ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง ที่
คาดหวงั เก่ยี วขอ้ งกับตนเอง ชมุ ชน ท้องถิ่น และประเทศไทย
2.ระบสุ ภาพความเปลย่ี นแปลงดา้ นภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การ
ปกครอง และกฎหมายทมี่ ผี ลกระทบตอ่ วถิ ชี ุมชนทอ้ งถน่ิ ชีวติ ของตน สังคม และ ประเทศไทย
เกดิ ความตระหนัก และสามารถนาความรู้ทางด้านภมู ศิ าสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์
การเมอื ง การปกครอง และกฎหมายไปประยุกต์ใชใ้ หท้ นั ต่อการ เปลยี่ นแปลงกบั สภาพชมุ ชน
สงั คม เพอ่ื ความม่นั คงของชาติ
104
มาตรฐานท่ี 5.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าและสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี เพ่ือการอยู,รว่ มกนั
อยา่ งมคี วามสุข
มาตรฐาน การ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ของทอ้ งถนิ่ และ
เรยี นรู้ระดบั ประเทศไทย
ผลการเรยี นรู้ ท่ี 1.อธบิ ายประวตั ิ หลักคาสอนและการปฏบิ ตั ติ นตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือ
คาดหวัง เหน็ ความสาคัญของวฒั นธรรม ประเพณี และมีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิตนตาม วฒั นธรรม
ประเพณีท้องถน่ิ
2.ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมทางศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี
ยอมรบั และปฏิบัตติ น เพือ่ การอยู,รว่ มกันอย่างสันตสิ ขุ ในสงั คม ท่มี คี วามหลากหลาย ทาง
ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
มาตรฐานที่ 5.3 ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดตี ามวิถปี ระชาธปิ ไตยมีจิตสาธารณะเพ่ือความสงบสุขของสงั คม
มาตรฐาน การ มีความรู้ ความเข้าใจ ดาเนนิ ชวี ติ ตามวิถีประชาธปิ ไตย กฎหมายเบ้อื งต้น กฎระเบยี บของ
เรยี นรูร้ ะดับ ชมุ ชน สังคม และประเทศ
ผลการเรยี นรู้ ที่ 1.บอกสทิ ธิเสรภี าพ บทบาท และหน้าทต่ี ามกฎหมายของการเปน็ พลเมืองดตี ามระบอบ
คาดหวงั ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข
2.เห็นคณุ คา่ ของการปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งดีตามกฎหมาย
3.มสี ว่ นร่วมในการปกครองส่วนทอ้ งถ่ินในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็น
ประมขุ
มาตรฐานท่ี 5.4 มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ ความสาคัญของหลักการพัฒนา และสามารถพัฒนาตนเอง
ครอบครัว ชุมชน/สงั คม
มาตรฐาน การ มีความรู้ ความเข้าใจ หลกั การพฒั นาชมุ ชน สังคม และวิเคราะหข์ ้อมลู ในการพฒั นา ตนเอง
เรยี นรู้ระดับ ครอบครวั ชุมชน สังคม
ผลการเรยี นรู้ ที่ 1.มีความรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพฒั นาชมุ ชน สังคม
คาดหวัง 2.มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและเห็นความสาคญั ของข้อมูล ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม
วิเคราะห์ขอ้ มูล ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม เพ่ือใช้ในการจดั ทาแผนชีวติ และ ชุมชน
สังคม
3.เกิดความตระหนัก และมสี ่วนรว่ มในการชัดทาประชาคมของชมุ ชน
4.นาผลที่ไตจ้ ากการประชาคมไปเพือ่ ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
มาตรฐานท่ี สาระการพัฒนาสงั คม 105
รายวชิ าบงั คบั
ระดบั ประถมศึกษา หน่วยกิต
3
สาระ รหัสรายวิชา รายวิชาบงั คับ 2
1
5.1 สค11001 สังคมศึกษา 6
5.2 - 5.3 การพฒั นาสงั คม สค11002 ศาสนา และหนา้ ที่พลเมอื ง
5.4 สค11003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
รวม
รายวชิ าเลือก
มาตรฐานท่ี ระดับประถมศกึ ษา
5.1
สาระ รหัสรายวิชา รายวิชาเลอื ก หนว่ ยกติ
การพัฒนาสังคม 1
สค12010 ประชาธปิ ไตยในชุมชน 1
รวม
106
คาอธบิ ายรายวิชาบงั คับ
และรายละเอียดคาอธิบายรายวิชาบงั คบั
107
คาอธิบายรายวิชา สค11001 สงั คมศกึ ษา จานวน 3 หน่วยกิต
ระดับประถมศกึ ษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกย่ี วกับภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การ
ปกครองในท้องถิ่น ประเทศ และนามาปรับใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ เพอ่ื ความม่นั คงของชาติ
ศกึ ษาและศกึ ษาทกั ษะเกย่ี วกบั เรอื่ งดงั ตอ่ ไปน้ี
ลักษณะทางภูมศิ าสตร์กายภาพ และผลกระทบของภูมิศาสตร์ภายภาพต่อวิถชี ีวิต ความเปน็ อยู่ใน
ชมุ ชน ทอ้ งถิ่น ของประเทศไทย
ความหมาย ความสาคญั และผลกระทบทางประวตั ศิ าสตร์ ที่มตี อ่ ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และ ประเทศ
ความหมาย ความสาคญั ของเศรษฐศาสตรร์ ะดับครอบครัว ชมุ ชน
ความหมาย ความสาคญั และการมีสว่ นรว่ มทางการเมอื งการปกครองในระดบั ท้องถิ่น และ ประเทศ
การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
จดั ใหม้ กี ารสารวจสภาพภมู ิศาสตร์กายภาพ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ของ
ชุมชน ชดั กลุ่มอภปิ รายแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ สบื คน้ ขอ้ มลู ทางกายภาพ จากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญา ฯลฯ และ
สรุปผลการเรียนรู้ นาเสนอในรูปแบบตา่ ง ๆจดั ให้มีการศกึ ษาจากสอื่ การเรยี นรู้ เช่น เอกสาร ตารา CD แหลง่
การเรยี นรู้ ภมู ิปัญญา สถานทสี่ าคญั
จดั ใหม้ กี ารสบื ค้นรวบรวมข้อมูล โดยวิธกี ารตา่ ง ๆ เชน่ การศกึ ษาดูงาน การเกบ็ ข้อมลู จากองค์กร ปังการ
บรรยายจากผูร้ ู้ ชดั กลุ่มอภปิ ราย การวิเคราะห์ เสนอแนวคดิ ทางเลอื ก จัดกจิ กรรมการศกึ ษาจากสภาพจริง
การเลา่ ประสบการณ์ การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ การคน้ ควา้ จากผู้รู้ แหล่งการเรยี นรู้ สือ่ เทคโนโลยี ส่ือเอกสาร
การจาลองเหตุการณ์ การอภิปราย การวเิ คราะห์ สรุปผลการเรียนรู้ และนาเสนอ ในรปู แบบทห่ี ลากหลาย
การวดั และประเมินผล
ประเมนิ จากการทดสอบ การสงั เกต การประเมนิ การมีส่วนร่วมในการทากิจกรรมและการตรวจ
ผลงาน ฯลฯ
108
รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา สค11001 สังคมศกึ ษา จานวน 3 หน่วยกิต
ระดบั ประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนกั เกยี่ วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การ
ปกครองในทอ้ งถ่นิ ประเทศ และนามาปรบั ใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ เพอื่ ความมน่ั คงของชาติ
ที่ หวั เร่ือง ตวั ช้ีวดั เนอื้ หา จานวน
(ชั่วโมง)
1 ภมู ิศาสตร์กายภาพ ประเทศ 1.มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ เกยี่ วกับ 1.ลกั ษณะทางภมู ิศาสตร์ 40
ไทย ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพ ชุมชน กายภาพของ ชมุ ชน ท้องถนิ่
ทอ้ งถ่นิ และภูมศิ าสตร์ กายภาพ -ท่ีตั้ง อาณาเขต
ประเทศไทย -ภมู ปิ ระเทศ
2.ตระหนักในความสาคัญ -ภูมอิ ากาศ
เกี่ยวกบั ภมู ิศาสตรก์ ายภาพ 2.ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์
ชมุ ชน ท้องถิน่ และ ภูมศิ าสตร์ กายภาพของประเทศไทย
กายภาพ ประเทศไทย -ท่ีตั้ง อาณาเขต
3.สามารถนาความรเู้ กยี่ วกบั -ภูมิประเทศของภาคตา่ ง ๆ
ภมู ิศาสตรก์ ายภาพ ชุมชน -ภมู อิ ากาศของภาคต่าง ๆ
ทอ้ งถนิ่ ตนเอง และของ ประเทศ 3.การใช้ขอ้ มลู ภมู ศิ าสตร์
ไทยมาปรับใช้ใน การดารงชีวติ กายภาพชุมชน ท้องถน่ิ และ
เพอื่ ความมัน่ คง ของชาติ ประเทศ เพ่อื ใชใ้ น การ
4.ตระหนกั ถึงความสาคญั ใน การ ดารงชีวิต และความ มนั่ คงของ
อนรุ ักษท์ รัพยากร ธรรมชาติใน ชาติ
ชุมชน ท้องถนิ่ ของตน และของ 4.การเลอื กทอ่ี ยู่ และ การ
ประเทศ ประกอบอาชพี
การปอ้ งกันตนเองจาก
ภัยพบิ ตั ิ
การรักษาอาณาเขตของ
ประเทศ
4.1 ทรพั ยากรธรรมชาติใน
ชุมชน
ดนิ หนิ แร,ธาตุ
ปา่ ไม้ ภูเขา
109
ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เน้อื หา จานวน
2 ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย (ช่ัวโมง)
1.อธบิ ายความเป็นมาของ -แม่นา้ หนอง คลอง บึง
ประวตั ศิ าสตร์ ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ ทะเล 30
และประเทศไทยได้ -ชายฝ่ัง
2.ระบเุ หตกุ ารณ์ความ -สัตวป์ า่
เปลี่ยนแปลง ในประวัติศาสตร์ -สตั ว์ทะเล สัตว์นา้ จดื
ของ ประเทศไทย -เปลือกหอย ปะการัง
อนื่ ๆ
4.2ทรพั ยากรธรรมชาติ ของ
ประเทศไทย
-ภาคเหนอื
-ภาคกลาง
-ภาคตะวันออก
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
-ภาคใต้
4.3กรณตี วั อย่างความสูญเสยี
เกดิ จากการไม,อนรุ ักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ
วธิ กี ารอนุรักษ์ทรพั ยากร
ธรรมชาติ
กรณีตัวอย่างการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ
1.ความหมาย ความสาคญั ของ
ประวตั ศิ าสตร์
ขอ้ มูล หลกั ฐานทาง
ประวตั ศิ าสตร์
2.วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์
ประวตั ิความเป็นมา ของชน
ชาติไทย
-กอ่ นสุโขทยั
-สุโขทยั
-อยธุ ยา
110
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวช้วี ัด เน้อื หา จานวน
3 เศรษฐศาสตร์ (ช่วั โมง)
3. ตระหนัก และสามารถนา -ธนบรุ ี
ความรทู้ ีไ่ ด้จากการศึกษา -รัตนโกสินทร์
ประวตั ศิ าสตร์ ชุมชน และ ของ 3.การศึกษาประวัติศาสตร์
ไทย มาเปน็ กรอบใน การ ชมุ ชนโดยใชว้ ิธกี าร ทาง
วเิ คราะห์เหตุการณ์ ปจั จุบนั และ ประวตั ศิ าสตร์
เสนอทางเลือก ทเ่ี ปน็ ทางออก ศกึ ษาเหตุการณ์สาคัญ ของ
ของวิกฤติสงั คม ในแตล่ ะช่วง ประวัตศิ าสตร์ ชุมชนในแต่ละ
ชว่ งที่ แสดงถงึ ทางเลอื กท่ี เป็น
ทางออกของวิกฤติ สงั คม
รแู้ ละเขา้ ใจ ความหมาย 1. ความหมาย ความสาคัญ 30
ความสาคญั ของเศรษฐศาสตร์ ของเศรษฐศาสตร์
นาหลกั การทางเศรษฐศาสตร์ ไป 2.เศรษฐศาสตร์ใน ครอบครัว
ใชใ้ นครอบครวั และ ชุมชนได้ และชุมชน
เข้าใจ และเหน็ ความสาคญั ของ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค ใน
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่มตี อ่ ครอบครวั
ตนเอง ชมุ ชน
3. กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ตระหนักในผลกระทบทเี่ กดิ จาก -การผลิต
กจิ กรรมทางดา้ นการผลิต การ -การบริโภค
บรโิ ภค การแลกเปล่ียน และการ -การแลกเปลย่ี น
กระจายรายได้ ท่ีมี ตอ่ ประชากร -การกระจายรายได้
ในชุมชนเหน็ ความสาคญั ของการ -ปัจจัยการผลติ
นา คุณธรรมมาใชใ้ นการบริหาร -ทนุ
การจดั การทรัพยากรใหเ้ กิด -ท่ีดนิ
ประโยชน์สงู สดุ
-แรงงาน
ใชข้ อ้ มลู ในท้องถ่ินและชุมชน ใน -ผู้ประกอบการ
การจดั การทรัพยากรการผลติ 4.การบริโภค การแลกเปล่ียน
และการกระจายรายได้
4.1ผลกระทบท่ีเกิดจากการ
ผลิต การบรโิ ภค
111
ท่ี หวั เรอ่ื ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน
4 การเมืองการปกครอง (ช่วั โมง)
และการกระจายรายได้ (กรณี
ตัวอยา่ ง) 20
5. มีคุณธรรมของ
-ผ้ผู ลิต
-ผ้บู รโิ ภค
-การแลกเปล่ยี น
-การกระจายรายได้
(กรณศี กึ ษาคุณธรรมของ
กจิ กรรมเศรษฐกิจ)
6.ทรัพยากรธรรมชาติ และ
สิ่งแวดล้อมใน ทอ้ งถนิ่ และ
ชุมชน
แหล่งทนุ ในหมู,บา้ น และ
ชุมชน เช่น กองทุน หมบู่ ้าน
สหกรณใ์ นชุมชน
1.รแู้ ละเข้าใจความหมาย 1. ความหมาย ความสาคัญ
ความสาคัญของการเมือง การ ของการเมืองการปกครอง
ปกครอง อานาจอธปิ ไตย
2.รแู้ ละเขา้ ใจ การปกครอง 2.โครงสร้างการบริหาร
ระบอบประชาธปิ ไตย ราชการแผน่ ดนิ ส่วนกลาง ส่วน
3.เข้าใจและสามารถวิเคราะห์ ภมู ภิ าค สว่ นทอ้ งถ่ิน
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งอานาจ นิติ 3.ความสมั พันธ์ระหวา่ ง อานาจ
บัญญัติ กับอานาจบรหิ าร และ นิตบิ ญั ญัติ อานาจ บริหาร
อานาจตุลาการ อานาจตลุ าการ
4.มีสว่ นรว่ มในการเมืองการ 4.การมสี ว่ นรว่ มทางการ เมอื ง
ปกครองในระดับท้องถิ่น และ การปกครองใน ระดบั ท้องถน่ิ
ระดบั ประเทศ และระดบั ประเทศ
112
คาอธบิ ายรายวชิ า สค11002 ศาสนาและหนา้ ทีพลเมอื ง จานวน 2 หน่วยกติ
ระดับประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณค่า และสืบทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ทอ้ งถิน่ และประเทศไทย
มีความรู้ ความเขา้ ใจดาเนนิ ชีวติ ตามวิถปี ระชาธิปไตยกฎหมายเบื้องตน้ กฎระเบยี บของชุมชน สงั คม และ
ประเทศ
ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกยี่ วกบั เรอ่ื งดงั ตอ่ ไปน้ี
1.ความหมาย ความสาคัญของศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
2.พุทธประวตั ิ และประวัติศาสดาของศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย
3.หลกั ธรรม และการปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมของแตล่ ะศาสนา
4.บคุ คลตวั อย่างที่ใชห้ ลกั ธรรมทางศาสนาในการดาเนนิ ชีวติ
5.วฒั นธรรมประเพณี คา่ นยิ มทพี่ งึ ประสงคข์ องชมุ ชน สงั คมในท้องถน่ิ และสังคมไทย
6.สทิ ธิเสรีภาพ บทบาทหน้าทีข่ องพลเมืองในสงั คมประชาธิปไตย
7.ปัญหาและสถานการณ์การเมือง การปกครองท่ีเกิดขน้ึ ในชมุ ชน
8.การมีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย
9.กฎหมายในชวี ิตประจาวนั
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
จัดใหม้ ีการคน้ คว้าหาความรู้ จากสอ่ื เอกสาร ตารา สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ ภูมปิ ัญญา ผรู้ ู้ สถาบนั ทาง
ศาสนา การฟิกปฏบิ ัติ การทาโครงงาน การชดั กลุม่ อภปิ รายแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ การวเิ คราะห์ สถานการณ์
จาลอง การสรปุ ผลการเรยี นรู้ และนาเสนอในรปู แบบตา่ งๆ
การวดั และประเมินผล
ประเมินจากการทดสอบ การสงั เกต การประเมนิ การมสี ่วนร่วมในการทากิจกรรมและการตรวจ
ผลงาน ฯลฯ
113
รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า สค11002 ศาสนาและหนา้ ทีพลเมอื ง จานวน 2 หนว่ ยกิต
ระดับประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณที อ้ งถ่ินและประเทศไทย
มคี วามรู้ความเข้าใจดาเนนิ ชีวิตตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตยกฎหมายเบื้องตน้ กฎระเบยี บของชุมชน สังคม และ
ประเทศ
ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน
(ช่ัวโมง)
1 ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี 1.มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั 1.ความหมายความสาคัญ ของ 20
ความหมายความสาคัญของ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี ใน พทุ ธประวตั ิ และประวัติ
ประเทศไทย ศาสดาของศาสนาตา่ ง ๆ ใน
2.มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ ประเทศไทย
พทุ ธประวตั ิ และประวตั ิ ศาสดา -ประวัติพระเยซู
ของศาสนาต่าง ๆ -ประวตั พิ ระมูฮัมมัด
3.มีความรู้ ความเขา้ ใจใน ฯลฯ
หลักธรรม และการปฏิบตั ิ ธรรม 2.หลกั ธรรมสาคัญของ ศาสนา
แต่ละศาสนา พุทธ
ตระหนกั ถงึ คุณค่า และ เหน็ เบญจศลี เบญจธรรม
ความสาคัญในการนา หลกั ธรรม ฆราวาสธรรม
มาใชใ้ นการ ดารงชีวิต พรหมวิหาร 4
4. มที กั ษะในการปฏิบตั ิตน ตาม 3.หลักธรรมสาคัญของศาสนา
หลกั ศาสนาทตี่ นนับถือ ครสิ ต์ ศาสนาอสิ ลาม ศาสนา
ฮนิ ดู
4.การปฏบิ ตั ิตนตามหลัก
ศาสนา
-พุทธ
-ครสิ ต์
-อิสลาม
-ฮินดู
114
ที่ หัวเรอื่ ง ตวั ชี้วัด เน้ือหา จานวน
(ชว่ั โมง)
สามารถอยูร่ ่วมกับบคุ คลที่ ตา่ ง 4.2 บุคคลตวั อย่างที่ใช้ 20
ความเชือ่ ทางศาสนาใน สงั คมได้ หลักธรรมทางศาสนา ในการ
อย่างสันติสขุ ดาเนนิ ชวี ิต
มีความรู้ ความเข้าใจใน การแก้ปญั หาความ แตกแยก
วัฒนธรรมประเพณีของ ชุมชน ของบุคคล สงั คม ชมุ ชน เพราะ
ทอ้ งถ่นิ และของ ประเทศ ความแตกตา่ งความเช่ือ ศาสนา
ตระหนกั ถึงความสาคัญ ของ และสังคมด้วย สันตวิ ิธี (กรณี
วฒั นธรรมประเพณี ของชุมชน ตัวอย่าง)
ทอ้ งถ่นิ และ ของประเทศ จากพุทธประวตั ิ
มสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ติ น ตาม จากประสบการณ์ของ ผ้เู รยี น
วัฒนธรรมประเพณี ของทอ้ งถนิ่ วัฒนธรรมประเพณใี น ชมุ ชน
นาคา่ นิยมท่พี งึ ประสงค์ของ ท้องถ่ิน ภาคต่าง ๆ ของ
สงั คม ชุมชน มาประพฤติ ปฏบิ ัติ ประเทศไทย
จนเปน็ นิสัย ภาษา การแตง่ กาย อาหาร
ฯลฯ ของภาคตา่ ง ๆ
ประเพณีของแต่ละชุมชน
ท้องถิ่น ภาค เช่น แห,เทียน
พรรษา,บญุ เดอื นสบิ , ลอย
กระทง,ประเพณี วิง่ ควาย,ยีเ่ ปง็
การอนุรักษ์ และสืบสาน
วฒั นธรรมประเพณขี อง ภาค
ต่าง ๆ (กรณตี วั อยา่ ง)
การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตน เพอื่
การอนุรกั ษ์ และ สืบสาน
วัฒนธรรมประเพณี ค่านยิ มที่
พงึ ประสงค์ของ ชมุ ชน
สังคมไทยการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
ตน ตามค่านยิ มของชุมชน
สังคมไทยที่พงึ ประสงค์ (กรณี
ตัวอย่าง)
115
ท่ี หวั เร่ือง ตัวชีว้ ัด เนือ้ หา จานวน
2 หนา้ ท่พี ลเมือง (ชว่ั โมง)
รู้และเข้าใจในเรื่อง ความหมายของ ประชาธปิ ไตย
40
สิทธิ เสรภี าพ บทบาท หนา้ ท่แี ละสทิ ธิ เสรีภาพบทบาท หนา้ ท่ี
คณุ ค่าของความ เปน็ พลเมอื งดี ของพลเมอื งใน วถิ ี
ตามแนวทาง ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย
ตระหนักในคุณคา่ ของการ ปฏบิ ัติ การมสี ว่ นรว่ มในการ ปฏบิ ตั ติ น
ตนเปน็ พลเมืองดี ตามวถิ ี ตามกฎหมาย
ประชาธปิ ไตย ปญั หา และสถานการณ์
แยกแยะปญั หา และสถานการณ์ การเมืองการปกครองท่ี เกดิ ข้นึ
การเมอื งการปกครองทเ่ี กดิ ขึน้ ในในชุมชน (กรณี ตวั อยา่ ง)
ชุมชน กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับ ตนเอง
รู้และเขา้ ใจสาระทั่วไป เกีย่ วกบั และครอบครวั
กฎหมาย กฎหมายท่เี กี่ยวข้องกับ ชุมชน
นาความรู้กฎหมายท่ีเก่ียวข้อง กฎหมายอ่ืนๆ เช่น กฎหมาย
กับตนเอง ครอบครวั ชุมชน และ แรงงานและ สวสั ดกิ าร
ประเทศชาตไิ ปใช้ใน กฎหมายวา่ ดว้ ย สทิ ธิเด็กและ
ชีวติ ประจาวันได้ สตรี
เหน็ คณุ ค่า และประโยชน์ ของ
การปฏบิ ัตติ นตาม กฎหมาย
116
คาอธิบายรายวชิ า สค11003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม จานวน 1 หน่วยกิต
ระดับประถมศึกษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
มีความรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพฒั นาชมุ ชน สงั คม และวิเคราะห์ขอ้ มลู ในการพฒั นาตนเอง ครอบครวั
ชมุ ชนสังคม
ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกับเรอื่ งดงั ต่อไปน้ี
1.ความหมาย ความสาคัญ ประโยชน์ ของการพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม
2.วธิ กี ารจดั เกบ็ ข้อมลู การวเิ คราะห์ข้อมลู ชมุ ชนอยา่ งง่าย
3.การมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม
4.การนาผลทไ่ี ด้จากการวางแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั
การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
จดั ให้ผู้เรียนฟิกทักษะการชัดเก็บข้อมลู การวิเคราะห์ขอ้ มูล การชัดแผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม
โดยการเข้าร่วมสังเกตการณ์ สรา้ งสถานการณจ์ าลอง ชดั ทาเวทปี ระชาคม และการศกึ ษาดูงาน
การวดั และประเมินผล
ผลงาน และมสี ่วนรว่ มในขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ของการชดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม
117
รายละเอียดคาอธบิ ายรายวชิ า สดท003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม จานวน 1 หนว่ ยกติ
ระดบั ประถมศกึ ษา
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
มีความรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพฒั นาชุมชน สงั คม และวเิ คราะหข์ อ้ มูลในการพฒั นาตนเอง ครอบครวั
ชมุ ชน สงั คม
ที่ หัวเร่อื ง ตวั ช้วี ัด เนือ้ หา จานวน
1 พฒั นาตนเอง (ชัว่ โมง)
1.มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลกั การ 1.หลักการพฒั นาตนเอง ชุมชน
40
พัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม สงั คม
2.มีความรู้ ความเขา้ ใจ และ เห็น 2.ความหมาย ความสาคัญ
ความสาคัญของขอ้ มูล ตนเอง ประโยชน์ ของขอ้ มลู ด้าน
ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม -ภูมศิ าสตร์
3.วเิ คราะห์และอธบิ ายข้อมูล -ประวตั ิศาสตร์
เกิดความตระหนัก และมี ส่วน -เศรษฐศาสตร์
รว่ มในการจดั ทาแผน พัฒนา -การเมอื ง การปกครอง
ชุมชน สงั คม -ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี
4.นาแนวทางการพฒั นา ชุมชน 3.หน้าทีพ่ ลเมือง
สงั คม ไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ตนเอง ทรัพยากร สงิ่ แวดล้อม
และครอบครัว สาธารณสุข
การศกึ ษา
วิ4.ธีการชัดเกบ็ วิเคราะห์
ข้อมูลอยา่ งง่าย และเผยแพร่
ขอ้ มูล
การมสี ่วนร่วมในการ วางแผน
พัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน
สังคม
การนาผลทไ่ี ดจ้ ากการ วางแผน
ไปประยุกตใ์ ช้ ใน
ชวี ิตประจาวัน
118
เอกสารและสิงอา้ งอิง
กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศกึ ษาธิการ. 2546. แนวทางการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา
สาหรับ กลุ่มเปา้ หมายการศกึ ษานอกระบบ. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรสุ ภาลาดพร้าว.
ใจทิพย์ เชอื้ รัตนพงษ.์ 2539. การพฒั นาหลกั สตู ร: หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โรง
พมิ พ์ อลีน เพลส.
ธารง บัวศรี. 2531. ทฤษฎหี ลักสูตร: การออกแบบและพฒั นา. กรุงเทพมหานคร: เอราวัณการพิมพ์
ราชกิจจานเุ บกษา. 2550. รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2550. กรุงเทพฯ: มปท. วชิ ัย ดิส
สระ. 2535. การพฒั นาหลักสูตรและการสอน. กรุงเทพมหานคร: สวุ ีรยิ าสาส์น.
ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอปลาปาก. 2553. บรบิ ทพ้ืนฐาน. (อัด
สาเนา)
สมนกึ ธาตทุ อง และนชุ นาถ ธาตุทอง. 2545. การชดั ทาหลกั สตู รสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร:
เพชรเกษม การพมิ พ.์
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ. ม.ป.ป. พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
และ ทแ่ี กไขเพิ่มเดมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟคิ .
สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั . 2551. พระราชบัญญตั สิ ่งเสริม
การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551. กรงุ เทพฯ : มปท.
2552. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ :
มปท.
2553 ก. ค่มู ือการดาเนินงาน. (พมิ พ์ครง้ั ที่ 1). กรุงเทพฯ: พับบลิค เอ็ดดูเคชั่น.
2553 ข. แนวทางการชดั การเรยี นรู.้ (พมิ พค์ ร้งั ที่ 1). กรงุ เทพฯ: พบั บลคิ เอ็ดลูเคชนั่ .
2553 ค. แนวทางการเทยี บโอนผลการเรยี น. (พิมพ์ครั้งท่ี 1). กรุงเทพฯ : พับบลิค เอ็ดลูเคชน่ั .
2553 ง. แนวทางการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา. (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1). กรงุ เทพฯ : พับบลคิ เอ็ดลเู คชนั่ .
2553 จ. มาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือการประอนั คุณภาพ
การศึกษา.
กรุงเทพฯ : รงั ษกี ารพิมพ์
2553 ฉ. สาระการประกอบอาชีพ. (พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1). กรุงเทพฯ: พับบลิค เอ็ดลเู คชน่ั .
2553 ช. สาระการพัฒนาสังคม. (พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1). กรุงเทพฯ: พับบลิค เอ็ดลเู คชน่ั .
2553 ซ. สาระความรูพ้ นื้ ฐาน. (พิมพค์ รง้ั ท่ี 1). กรุงเทพฯ: พับบลิค เอด็ ลูเคช่ัน.
2553 ณ. สาระทกั ษะการดาเนินชีวิต. (พิมพ์ครง้ั ท่ี 1). กรุงเทพฯ: พับบลคิ เอด็ ลเู คชั่น.
2553 ญ. สาระทักษะการเรยี นร.ู้ (พมิ พค์ ร้งั ที่ 1). กรุงเทพฯ: พบั บลคิ เอด็ ลูเคช่ัน.
เสาวพร เมอื งแกว้ . 2538. การพัฒนาหลักสตู รคหกรรมศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร: หจก. พี. เอ็นท.์
การพมิ พ์ อาภา บญุ ชว่ ย. 2537. การบรหิ ารงานวิชาการในโรงเรยี น. กรงุ เทพมหานคร: โอเตียนสโตร์.
119
เอกสารและสิงอ้างองิ (ตอ่ )
อทุ ัย บญุ ประเสริฐ. 2543. การศึกษาแนวทางการบริหารและการชัดการศึกษาของสถานศึกษาใน
รูปแบบการ บรหิ ารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรงุ เทพมหานคร: ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว.
2545. การบรหิ ารชัดการสถานศกึ ษาโดยใชโ้ รงเรียนเปน็ ฐาน. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.